Part 70
..นัดติว...
.
.
.
.
วันนี้ผ่านมาแล้วสี่วัน กูกับไอ้พี่โต๋หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว
จนโดนมันทำกิจกรรมเข้าจังหวะเป็นที่เรียบร้อย เรามีแต่ติวอ่านหนังสือเตรียมสอบ
กูมีหน้าที่ติวเข้มให้ท๊อปไฟน์ของชั้นโดยปริยาย เพราะโดนบังคับ
ก่อนนอนยังต้องโดนจับทำกิจกรรมเข้าจังหวะอีกตะหาก
พักนี้โรคติดเซ็กส์ห่าไรของมัน..ท่าจะกำเริบหนัก
เพราะมันเล่นทำกิจกรรมรักษาโรคติดเซ็กส์ทุกวันก่อนนอน เผลอ ๆ มีต่ออีกรอบตอนเช้า
เล่นเอากูมีแต่รอยคริสมาร์กเต็มตัวไปหมด ไม่กล้าถอดเสื้อเด็ดขาด ยิ่งเสื้อแขนกุดที่ชอบใส่
หรือเสื้อคอวีด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าสามารถหยิบมาใส่ได้
เพราะมันจะโชว์ผลงานประจานให้เห็นแน่ ๆ ไม่อยากให้พ่อสิงห์แม่อร หรือแม้แต่ไอ้พี่เต้ผิดสังเกตุ
ที่นี้ล่ะมึงเอ้ย....งานเข้าไม่อยากจะคิด
“ตะเกียง...พวกไอ้รัน มันนัดติวที่บ้านเชี้ยบอมย์กันพรุ่งนี้
มันขอให้ตะเกียงช่วยติวฟิสิกซ์เคมีให้หน่อย ตกลงว่าไง” จู่ ๆไอ้พี่โต๋มันก็พูดขึ้นมา
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ คงเป็นพวกไอ้พี่รันโทรมาชวน พรุ่งนี้เหร่อ?..วันพฤหัสแล้วนี่
วันจันทร์ก็เริ่มสอบวันแรกแล้ว สอบเสร็จวันพุธหน้า
“แล้วพวกเค้านัดกันกี่โมง” กูถามไปล่ะ
“สิบโมงเช้า ติวเสร็จราวสี่โมงเย็น เห็นพวกมันบอกจะไปเดินเล่นหาไรกิน
แถวสยามคลายเครียดด้วย ตกลงตะเกียงเอาไง พี่จะได้โทรบอกพวกมันไป”
“มีใครมาติวมั้งอ่ะ?...”
“ก็เฉพาะพวกเราในกลุ่มแหล่ะ ไม่มีคนนอก”
“ตกลงตามนั้น ไม่มีไรทำอยู่แล้วนี้ ดีเหมือนกันไม่ได้เจอพวกพี่เค้ามาเกือบห้าวันแล้ว
ตั้งแต่งานกีฬาสี..รวมกลุ่มบ้างก็ดี พี่โทรบอกไปเลยว่าตะเกียงตกลง” กูตอบมันไปแหล่ะ มันยิ้มรับ
ก่อนจะกดโทรศัพท์ไปบอกไอ้พี่รันมันทันที ติวบ้านไอ้พี่บอมย์ก็ดีเหมือนกัน
คืนนั้นไปรับมันค้างบ้านไอ้พี่บอยไม่ได้เข้าไปในบ้าน ไปถึงก็รับมันขึ้นรถออกมากันเลย
เดี๋ยวพรุ่งนี้ได้ชมบ้านมันหน่อย ใหญ่โตมโหราฬ
แล้ววันนี้..กูกะไอ้พี่โต๋ก็มายืนหัวโด่หน้าบ้านไอ้พี่บอมย์มันตามนัด
หลังจากลุงพีส่งพวกกูแล้วแกก็ขับรถกลับไปทันที ไอ้พี่โต๋บอกไม่ต้องห่วง
ขากลับจะนั่งแท็กซี่กลับกันเอง เพราะไปเดินเล่นสยามกันต่ออยู่แล้ว
ไอ้พี่บอมย์เดินออกมาหาพวกกูหน้ากระไดเข้าปราสาทมันอ่ะแหล่ะ
“เห้ย!..มา..เข้ามาเลย พวกเหี้ยมาครบแล้ว รอมึงสองคนอยู่” ตกลงกูมาติวให้เหี้ยหรือนี้
แล้วกูต้องใช้ภาษาเหี้ยคุยกะแม่งด้วยหรือเปล่า เพราะกูจาบอกว่ากูพูดภาษาเหี้ยไม่เป็น..กร๊ากกกกๆๆๆๆ
“คิดไรตะเกียง ทำหน้าอมยิ้ม อย่าบอกคิดทะลึ่งอยู่ล่ะ” ไอ้พี่บอมย์มันหันมาเห็นหน้ากูเข้า
คงเดาจากที่กูอมยิ้ม เพราะกำลังนึกถึงภาษาเหี้ยอยู่พอดี
“ป่าว!!!!...ไม่ได้คิดไร กำลังนึกว่าบ้านพี่บอมย์หลังเบ่อเร่อเลยเน่อะ” กูรีบปฏิเสธหัวสั่น
ก่อนจะเฉเปลี่ยนเรื่องถามมันไปซะ..ก่อนจะโดนมันต้อนให้บอก
“อืม...ชอบป่าว...ถ้าชอบจะมาอยู่ก็ได้นะ บ้านพี่ยินดีต้อนรับตะเกียงเสมอ” มีหยอดกูอีก
แถมยกคิ้วให้ด้วย
“อะ..แฮ่ม!..น้อย ๆ หน่อยมึง...สัด” น้าน!..โดนไปหนึ่งดอก ไอ้พี่โต๋ตวัดตาเข้าให้
เล่นเอาไอ้พี่บอมย์คอย่นแก้มป่อง...ก่อนจะบ่นงุงงิ๊งของมันพอให้ได้ยิน
“แหม..ๆ ล้อเล่นหน่อยเดียว...ทำเหวี่ยงน๊ามึง...หวงชิบ”
“เอ่อ!..กูหวง..ของ..กู.” น้านนน!..มันพูดเน้น ๆ เอาซะชัดเลยนะมึงไอ้พี่โต๋
ไม่ออกอากาศแม่งเลยล่ะ..จะได้รู้กันทั่วประเทศ บ๊ะ!..เล่นเอากูหน้าร้อนฉ่าทันทีเลย
พอกันทั้งคู่..นึกถึงหน้ากูบ้าง ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่หัวเผือกหัวมันสักหน่อย
พูดข้ามไปข้ามมายังกะเรื่องที่พูดไม่เกี่ยวกะกูสักนิดนิ
“พอ..พอ..เล่นกันเป็นเด็กไปได้ ป่ะ!..เข้าไปกันเถอะ เดี๋ยวคนอื่นเค้ารอ” ไอ้ตะเกียงเลยตัดบท
เดินหนีแม่งทั้งคู่เข้ามาก่อนเลย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำต้องไปทางไหน เพียงแต่หาจังหวะชิ่งทำใจสักแป๊ป
อยากจะบอกว่า...กูอาย....อร๊ายยยยยๆๆๆเขิลสาดดดด.......
แล้วไอ้พี่บอมย์ก็พาพวกกูมาที่ห้องหนังสือบ้านมัน แม่งยังกะหอสมุด..ใหญ่ใช่เล่น
เข้ามาถึง..พวกเหี้ยก็พากันทักขึ้นทันที
“อ้าว!..กว่าจะเสด็จได้นะพวกมึง เจ้าฟ้าเจ้านางน้อย เล่นเอาพวกกูจะหลับรอกันแหล่ะ”
ปากไอ้พี่โทนี่ พอเห็นพวกกูมันก็กวนทันที
“บ้าน่า!..นัดไว้สิบโมง ตะเกียงไม่ได้เรทสักกะหน่อย พี่ก็พูดซะแรง” กูเหวมันไปอะล่ะ
นั่นดิไม่มาเรทสักหน่อย ดูนาฬิกาติดผนังเพิ่งสิบโมงพอดี
“เอ่อ ๆ...สำหรับตะเกียงไม่เรทก็ได้คร๊าบบบบๆๆๆ...แต่เพราะพี่ทนรอเห็นหน้าตะเกียงไม่ไหว
เลยนอยด์นิดหน่อยน่ะ ก็นะ..เกือบอาทิตย์แล้วไม่ได้เจอ คิดถึงมากรู้ไหม?” อ่าห่ะ!...มันปรับ
เข้าสู่โหมดเลี่ยนจนได้ ....เวรจริง ๆ
“เชี้ย....เพิ่งผ่านไปห้าวัน..เว่อร์เป็นอาทิตย์ เดี๋ยวกูโบกเลย สัดโทนี่” ไอ้พี่โต๋ครับ
มันเบรคขึ้นมาซะงั้น เล่นเอาไอ้พี่โทนี่หน้าเหว่อไปเลยเหมือนกัน
“ห่ะ..ห่ะ..ห่ะ!...มึงไม่ต้องหยอดเลยโทนี่ เดี๋ยวพ่อของตะเกียงมันเหวี่ยงมึงเข้าให้
กูเพิ่งโดนมามาด ๆ ตะกี้นี้เอง” ไอ้พี่บอมย์ครับ บอกไอ้พี่โทนี่มัน
เล่นเอาทั้งห้องพากันหัวเราะเป็นที่หนุกหนาน แต่กูอยากมุดพื้นปาร์เก้ดำดินหนีแม่งไปซะเลย
ไอ้พี่โต๋มันกลับหน้านิ่ง..ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธสักนิด เวง....แต่เอ๊ะ!..ไอ้พี่พรต..มาได้ไงกันนี้
“หวัดีครับพี่พรต มาได้ไงเนี๊ยะ?” นั่นดิ..มันยืนยิ้มแป้นแล่นให้กู...ทำตาวิ้ง ๆอีกตะหาก
เพิ่งจะเห็นมันเข้าเนี๊ยะ เมื่อกี้ไม่ทันสังเกตุ เล่นเอางงเลยกู ไอ้พี่พรตมาโผล่บ้านไอ้พี่บอมย์ได้ยังไง
ไหนบอกมีแต่กลุ่มสิงห์โตดำ แล้วที่ยืนหัวโด่อยู่นี้มันใครหว่า?
“ดีครับน้องตะเกียง พี่ไม่ได้อยากมาหรอก โดนหมาบ้าแถวนี้ลากมาด้วย” แกพูด..พร้อมกับ
ทำปากยื่นตะหาก..น่ารักตายเลยล่ะพี่ ตัวยังกะยักษ์ทำแก้มป่องปากยื่น หน้าไม่หล่อดูไม่จืดเลยนะนี้
กูพยายามนึก..ใครว้า?..หมาบ้าลากแกมา อ่าห่ะ!..เจ้าภาพโผล่หัวจากโซฟาขึ้นมาล่ะ
นั่งหันหลังให้..กูเลยไม่รู้ว่าใครนั่งตรงนั้น
“ปากดีดีหน่อย เดี๊ยะ..จะเจอไม่น้อย...ว่าใครหมาบ้า...อยากให้กูจัดหนักให้อีกป่าว!...
ไม่เข็ดไม่เข็ด..เดี๋ยวเด็ดปีกเหยี่ยวโชว์ซะนี้” ไอ้พี่รัน..แม่งทำตาขมึงทึงใส่ไอ้พี่พรต
กูว่าแม่งชักยังไง ๆ กะมึงสองคนแล้วล่ะเว้ยเห้ย!..ตั้งกะอิตอนกีฬาสีแล้วแหล่ะ
เห็นแง้ว ๆ กันตลอดสองคนมึงอ่ะ
“ไรเล่า..ก็มึงอ่ะ..ลากกูมาจริงนิ...กูจำได้ว่าเรียนอยู่ม.5 เห่อะ..เสือกเอากูมาติวเชี้ยไรม.4
กูต้องอ่านสือสอบของกูเหมือนกัน บอกจะไปติวกับพวกไอ้วินมึงก็ไม่ให้กูไป กูพูดผิดตรงไหนว่ะ!”
ไอ้พี่พรตมันเหวใส่ไอ้พี่รันขึ้นมา เล่นเอาพวกกูมองตากันไป ๆมา ๆล่ะ
ตกลงนี่กูตกข่าวไรไปหรือเปล่า รู้สึกจะไม่รู้ไรกะเค้าเลยนะเนี๊ยะ ในขณะที่คนอื่น ๆ
กลับอมยิ้มกันหมด ไม่มีใครพูดไรออกมาสักคำ
“มึงอยากไปกะพวกมัน..ว่างั้น” ไอ้พี่รัน..คิ้วขมวดผูกโบว์ล่ะมัน
หน้าตาจริงจังเหมือนไม่ค่อยพอใจซะงั้น ดูไม่ล้อเล่นเลยทีนี้
เล่นเอาไอ้พี่พรตจากเสียงดังตะกี้ เริ่มหน้าเจื่อนเสียงอ่อยลงทันที
“ก็พวกมันเพื่อนกู เรียนห้องเดียวกัน สอบพร้อมกันด้วย กูก็อยากไปติวของกูดิ”
มันยังบ่นง่องแง๊งของมันไป แม้น้ำเสียงจะดูไม่แรงอย่างตะกี้แล้วก็ตาม
“ระหว่างกูกับเพื่อน มึงเลือกใคร” บ๊ะ!..มันพูดหน้านิ่ง จ้องไอ้พี่พรตไม่วางตา
โหมดนี้ไอ้พี่รันกูเพิ่งจะเห็น เล่นเอาสยองเหมือนกัน..หน้ากลัวชะมัด
แปลงร่างก็ได้เน่อะไอ้กุนซือเทพ ไอ้พี่พรตหน้าเหว่อเข้าให้..ทำไรไม่เป็นอึกๆอักๆขึ้นมาทันที
แล้วเสียงสวรรค์ห้ามศึกก็ดังขึ้นมา..ช่วยไอ้พี่พรตไว้ได้ทันเวลาพอดี
“ไม่เอาน่าเหี้ยรัน มึงก็ไปถามไรไอ้พรตมันแบบนั้นว้า? หรือมึงอยากได้ยินมันพูดขึ้นมาจริง ๆ
เกิดคำตอบไม่ใช่อย่างที่มึงต้องการ แน่ใจว่ามึงรับได้?” อา..ไอ้พี่กานครับ ห้ามขั้นเทพขึ้นมาซะก่อน
ไอ้พี่พรตเผลอถอนหายใจเฮือกเข้าให้ หลุดบรรยากาศกดดันออกมาได้ทันท่วงทีเลยนะมึง
“ใช่ว่าเพื่อนกูช่วยไว้ แล้วมึงจะรอด..คุยกันแล้วนะพรต อย่าให้กูต้องรุนแรงกับมึงลืมแล้วดิ..
หรือต้องให้ทบทวนความจำให้ใหม่” แน่ะ!..มันยังไม่หยุดแห่ะ..ไอ้พี่นี่
ปกติกูเห็นมันควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อน ถึงได้ฉายากุนซือของกลุ่ม
เพิ่งเห็นวันนี้แหล่ะ...อารมณ์ปรี๊ดง่ายจริง ที่น่าสงสัย..คนที่มีอิทธิพลทำให้กุนซือรมณ์ร้อน
ดันเป็นไอ้พี่พรตคู่ปรับตลอดการซะงั้น ที่สำคัญยังเรียกซะสนิท ‘พรต’
ไม่มีสรรพนามบุรุษที่สามนำหน้าชื่อ เมื่อก่อนไม่ ‘มึง’ ก็ 'ไอ้พรต'
แต่ตอนนี้พรตซะง้านนนๆๆ...บ๊ะ!..เห็นทีกูต้องหาโอกาสเคลียร์กะไอ้พี่โต๋มันยาวเลยล่ะงานนี้
เล่นมุบมิบมีไรไม่บอกกู ปล่อยให้กูรู้ทีหลังเพื่อน...ไอ้ตะเกียงรับม่ายด่ายยยยๆๆๆ............
ตอนหน้าสิงห์รัน จะมาคุยค๊า....ใครอยากรู้ความเป็นไปของสองหน่อนี้
ยกมือเรียงคิวเข้ามากัน
Luk.