วันนี้มาต่อรอบดึกให้อีกตอน พรุ่งนี้ติดงานด่วนอาจมาต่อให้ไม่ได้ อย่าว่าละกัน
ขอบคุณกำลังใจทุกรีฯ ที่มีให้ด้วยดีตลอดมา สำหรับคุณ
'อาบใจ ด้วยไอรัก' ต้องบอกว่า
สไตล์การเขียนของคุณ มีเอกลักษ์เป็นของตัวเอง ภาษาที่ใช้ของพระเอก..แมนโครต ๆพอ ๆ กับน้อง
เบบี้ ที่เขียนเรียก 'รักแรก รักสุดท้าย' อ่านะ ดูง่ายกระชับ น่าติดตามเช่นกัน ขอบคุณที่ให้
กำลังใจมาตลอดเหมือนกันค่ะ แฟนคลับทุกคนของตะเกียง เรื่องนี้จบที่ 100 ตอน นะค่ะ
บวกตอนพิเศษอีก 4 ตอน แต่จะโพสแค่ 2 ตอน ตอนแรกโพสไปแล้ว อีกสองตอนจะ
ใส่ในเล่มหนังสือ คาดว่าต้นเดือนหน้าคงได้เห็นปก และของแถม เดือน พฤษภาคม ทุกอย่าง
คงเรียบร้อย ใครจะเก็บเงินก็เริ่มเก็บได้แล้วนะค่ะ รอเล้าแจ้งรายละเอียดอีกที นิยายคงโพสจบ
ประมาณพฤษภาเหมือนกันค่ะ
Luk.
Part 46
แผนร้าย..อุบายเลว.
.
.
.
.
หลังจากฮาขี้แตกขี้แตน สุขเกษมสำราญกันถ้วนทั่วแล้ว ก็ได้ฤกษ์ลงสนามเปลี่ยนฝั่ง เข้าสู่สมรภูมิรบ
ทางเกมส์กีฬากันต่ออีกสามสิบนาที ตอนนี้สกอร์สีแดง 47 สีน้ำเงิน 52 คะแนน สีกูตามอยู่ห้าแต้ม
เริ่มต้นมา..เกมส์ยังคงสนุกสนานเอามันกันสุด ๆ โดยมีเสียงเชียร์ทั้งสองสี โห่ร้องเชียร์กันสนั่น..
ไม่มีใครยอมใคร ขืนเป็นอย่างงี้ทุกวัน มีหวังวันแข่งจริง..กูว่ากองเชียร์สองสีนี้..คงไม่มีเสียงไป
ตะเบ่งแข่งสีอื่นแม่งหรอก..คอแตกตั้งกะวันซ้อมชัวร์
จนถึงนาทีสุดท้ายพวกกูสีแดง..ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ให้สีน้ำเงินไปแบบไม่มีข้อกังขา
ด้วยสกอร์ 78 ต่อ 96 คะแนน ยังมองเห็นหลังไวไว..ดีกว่าห่างมองไม่เห็นฝุ่น พูดกันแบบนักกีฬา
วันนี้เราสู้ไม่ได้จริง ๆ คงเพราะเราเพิ่งซ้อมกันวันแรก มีจุดอ่อนในทีมให้แก้ไขอีกมาก
เล่นยังไม่เข้าขากันเท่าไหร่..เพราะเพิ่งซ้อมทีม วิเคราะห์ด้วยสมองอัจฉริยะของกูแล้ว..ทีมสีน้ำเงิน
เรามีทางเอาชนะได้ไม่ยาก..ไว้ซ้อมกันดีดี..และวางแผนการเล่นให้รัดกุมกว่านี้ คงได้เจอกัน
รอบชิงแน่ ๆ อย่างน้อยยังมีเวลาซ้อมอีก 14 วัน สองอาทิตย์ เพราะอาทิตย์ที่สามก็เริ่มแข่ง
กีฬาทุกประเภทแล้ว โดยกีฬาทยอยแข่งตั้งกะวันจันทร์ ยกเว้นประเภทลาน..พวกกรีฑา..พุ่งเหลน
กระโดดไกล..วิ่งข้ามรั้ว..รวมทั้งประกวดลีด..ขบวนพาเหรดเปิดและปิดสนามวันศุกร์
ตัดสินกันวันเดียว..พร้อมมอบถ้วยกีฬาแต่ละชนิด..ถ้วยขบวนพาเหรด ลีดและกองเชียร์และ
ถ้วยกีฬารวม ซึ่งแต่ละรางวัล..คือเป้าหมายหลักของพี่ ๆ สต๊าฟ..ที่ต่างคาดหวังคว้าเอามาเป็น
ของตนเองกันแทบทุกสี ขึ้นอยู่กับสีใดทำได้ดีกว่ากัน วัดความสามารถทักษะด้านความคิด
การวางแผนงาน..การทำงานเป็นทีม..และสุดท้ายพรสวรรค์ทางกีฬา องค์ประกอบที่ดีพร้อมสมบูรณ์
จึงจะทำให้ก้าวสู่ความสำเร็จ เป็นแชมป์ในกีฬา ‘
จ้าวแห่งสปอร์ตเกมส์’ ในที่สุด
วอร์มอบอุ่มรางกายก่อนแยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า..เพื่อเตรียมตัวกลับ ดูเวลาห้าโมงกว่า ๆ แล้ว
ไอ้พี่โต๋บอกลุงพีมารับห้าโมงตรง ปานนี้คงจอดรถรอที่ประจำแล้วแน่ ๆ กูกับมันพากันมาเอากระเป๋า
กับชุดนักเรียน..ในตู้ล๊อคเกอร์ห้องพักนักกีฬา
ไอ้พี่บอมย์กับไอ้พี่กาน..รออยู่ข้างนอก ส่วนคนอื่น ๆ แยกย้ายกันไปล้างหน้าล้างตัว เหงื่อโซกบิดน้ำ
ได้เป็นขันกันแล้วมั้ง มาถึงล๊อคเกอร์กูเอากุญแจไข..จังหวะเปิดประตูอ้าออกเท่านั้น...
เสียงขู่จากในตู้ดังขึ้นทันที
“ฟู่..ฟู่..ฟ่อ..ออซซ!!..” งูเห่า...แผ่แม่เบี้ยตั้งตระหง่าน ลำตัวดำมะเมื่อมขนาดเท่าแขนเด็ก..กำลัง
ตั้งท่าเตรียมฉก..ระยะห่างศอกหนึ่งพอได้ กูนิ่งจ้องตาไม่กระพริบ..หลบตามันไม่ได้เด็ดขาด
สมาธิต้องนิ่ง..ขยับนิดเป็นชีวิตดับ ตัวขนาดนี้ไม่ต้องบอกพิษจะขนาดไหน เหมือนยืนอยู่บน
ปากพญามัจจุราช เสียงกระซิบเบา ๆ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลหลังกู
“อยู่นิ่ง ๆ อย่าขยับ..กำหนดลมหายใจลึก ๆ ตั้งสมาธิปิดการรับรู้ทางหู..ให้ได้มากที่สุด” พูดจบ
กูรีบทำตามที่มันบอก ยังไม่ถึงสามสิบวิ
“โฮกกกกซซซซซซ!!!!!!!!!!!!.” ดั่งสนั่นหวั่นไหว...แก้วหูลั่นเปรี๊ยะ!..ขนาดกูใช้พลังลมไทเก็กบังคับ
ปิดจุดไว้แล้วหูยังแทบแตก พญามัจจุราชที่จ้องกูตรงหน้า..หัวระเบิดกระจาย เศษชิ้นส่วนเละเต็มตู้
ประตูล๊อคเกอร์บุบหงอบูบี้ไม่เหลือสภาพ ไม่น่าเชื่อ!..รุนแรงขนาดนี้เชียว อ๊าฟเตอร์ช๊อคยังสะท้อน
ก้องอยู่ในแก้วหู ทำให้หูอื้อไม่ได้ยินอะไรเลยตอนนี้ กูหันไปมองหน้ามัน..มันยืนนิ่งจ้องกูอยู่
ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ พร้อมกับจับไหล่กูยึดไว้
“กรซซซซซๆๆๆ!!!!!!.” เสียงแหลมสูงทำให้กู..แก้วหูโปร่งกลับมาได้ยินชัดเหมือนเดิมทันที สมคำร่ำลือ
อย่างที่พ่อเกริกบอกไว้จริง ๆ
“นี่สิน่ะ.. ‘พลังสิงห์โตคำราม’ ..” กูถามมันเพื่อต้องการยืนยันอีกครั้ง
“อืม..พี่ใช้เพียงแปดสิบเปอร์เซ็น เพราะตะเกียงยืนขั้นตรงกลาง อันตรายมากหากควบคุมพลัง
พุ่งผ่านไม่ได้ ตะเกียงต้องบาดเจ็บสาหัส..ถึงตายได้ พี่ไม่กล้าเสี่ยงใช้ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์...ขนาดแค่นี้
ยังต้องใช้เคล็ดผนวกกลับ..แก้ไขแก้วหูบอดของตะเกียงคืนอีก..ไม่เช่นนั้นหูจะหนวกไม่ได้ยินไปถาวร
การแก้ต้องไม่ช้ากว่าห้านาที ช้ากว่านั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้ มันจำเป็นต้องใช้วิธีนี้..เพราะไม่มี
ทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว คงไม่โกรธพี่นะ..พี่ยอมเสี่ยงดีกว่า..จะทนเห็นตะเกียงเป็นอะไรไป
โดยทำอะไรไม่ได้ ” พูดจบรวบตัวกูเข้าไปกอดซะงั้น..กูก็ปล่อยมันกอดอ่านะ..มันเพิ่งช่วยชีวิตกูหยก ๆ
ยังหวาด ๆ อยู่เลย มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ..ที่งูเห่าตัวเท่าแขน..จะมาอยู่ในตู้ล๊อคเกอร์ที่สูงจากพื้น
กว่าเมตรเจ็ดสิบ ท่าทางพร้อมจะฉกผู้บุกรุกทันที ดูจากการแผ่แม่เบี้ยผงกหัว..แสดงว่างูตัวนี้ถูกทำให้
หงุดหงิดมาก่อน..มันถึงตกใจง่าย สัญชาตญาณของงู..ต่อให้มันตกใจ แต่จะไม่แสดงอาการทันที
แบบที่เจอหรอก..อย่างมากมันก็ขดตัวซุกเหมือนเราเห็นในสวนสัตว์ นี่คงมีการวางแผน
ล่วงหน้ามาแล้ว ถ้าไม่มีไอ้พี่โต๋..กูอาจไม่รอด ถึงจะรอดก็คงบาดเจ็บปางตาย
อย่าคิดว่าไอ้ตะเกียงเก่ง ทำไมถึงจัดการกับงูตัวเดียวไม่ได้ กูเก่ง..แต่ต้องดูสมรภูมิด้วย งูตั้งท่าเตรียม
ฉกขู่ฟ่อ ๆ อยู่ปลายจมูก..ห่างไม่ถึงช่วงแขนหน้ากูพอดี ซ้ำอยู่ในล๊อคเกอร์มีผนังคุ้มตัว
มันอีกทั้งสามด้าน กูไม่ใช่ซุปเปอร์แมน..จะได้ยื่นมือไปจับมันออกมา..โดยที่มันไม่ฉก หรือฉกแล้ว
กูไม่ตาย..แค่ขยับ..อย่าหวังว่าจะทันยื่นมือเลยด้วยซ้ำ คงโดนมันฉกกลางหน้าผากเข้าให้
รู้จักงูเห่าน้อยไปซะแล้ว มันไม่ได้โง่นะงูน่ะ..รูอยู่ไหนยังมุดลงถูกเลย ที่นี้เข้าใจหรือยัง
“อำนาจทำลายล้าง มันแรงขนาดนี้เลยหรือพี่” กูยังคลางแคลงใจ..พลังสิงห์โตคำราม..ของมันไม่หาย
ถามให้ได้ความกระจ่างดีกว่า
“ใช่..ถ้าสำเร็จขั้นสูง เหมือนพี่ทำเมื่อกี้ เราสามารถกำหนดเป้าหมาย..ให้พลังกระแทกวัตถุโดยตรงได้
แต่ประเภททะลุผ่านตัวกลางมีชีวิต..ไปทำลายอีกฝั่งหนึ่ง โดยคนกลางไม่ได้รับบาดเจ็บ พี่ไม่เคย
ฝึกมาก่อน..และไม่แน่ใจว่าจะทำได้ พ่อเคยพูดว่ากว่า 100 ปีก่อน บรรพบุรุษของพี่ฝึกสำเร็จ
เพียงท่านเดียว..เพิ่งรู้ว่าพี่ก็ทำได้..แถมใช้พลังเพียงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ตะหาก แทบไม่อยากเชื่อ
ตัวเองเลย..ว่าพี่จะสามารถ.” บ้าไปแหล่ะ!..เพิ่งรู้ว่ากูกลายเป็นหนูทดลองมึงไปโดยไม่รู้ตัวซะงั้น
หลงดีใจไปชั่ววูบ
“ตกลง ตะเกียงกลายเป็นหนูทดลองว่างั้น” พูดเสียงสะบัดใส่มันแหล่ะ!..หมั่นไส้หน้าตาลันล้าสุด ๆ
“เอ้ย!..ไม่ใช่น๊า..ที่พี่ดีใจ..มันเป็นผลพลอยได้ตะหาก..สงสัยแรงบันดาลใจที่ทำให้พี่สามารถบังคับพลัง
ผ่านตะเกียงไปได้ โดยตะเกียงไม่ได้รับบาดเจ็บ คงมาจากพลังแห่งความรักแน่นอน ถึงทำให้พี่
ควบคุมพลังไว้ได้ ไม่ทำร้ายคนรัก..แต่ทำอันตรายศรัตรูแทน” เอ่อ!..ไปไม่เป็นเลยกู
คุยเครียดอยู่ดีดี..มันดันส่งบทหวาน..น้ำตาลอายเข้ามาซะงั้น..ก่อนหน้ากูจะระเบิดเละเหมือนหัวงู
ดึงความสนใจมันไปก่อนดีกว่า
“ นอกเหนือจากนี้..สิงห์โตคำราม..ทำอะไรได้อีก” อยากรู้อ่ะ!..พอเห็นกับตาเจอกับตัวแล้วอึ้งเลยง่ะ..
ไม่อยากเชื่อ..แฟนกูโครตเก่งเวอร์..ใช่น้อย..
“ที่จริง..มันสามารถทำอันตรายสิ่งมีชีวิตในระยะห้าสิบเมตร..ให้ถึงตายได้ โดยกระจายพลัง
เหมือนปาระเบิด..เรียกว่า..
‘สิงห์พิโรธ’ ต่างกันเพียงแค่มันทำร้ายสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
ไม่ทำอันตรายสิ่งที่อยู่ข้าง ๆ..และอยู่หลังคนใช้พลัง ลูกระเบิดมันทำลายเป็นวงกลม แต่สิงห์พิโรธ..
เป็นครึ่งวงกลม ถ้าระดับความดันโลหิต..ของสิ่งมีชีวิตสูงตามพลังที่ส่งไปกระแทก ก็จะระเบิดแตก
เป็นเสี่ยง ๆ..อย่างศพงูตะกี้ ทำให้รู้ว่างูตัวนั้นกำลังโกรธอยู่ จึงทำให้เลือดงูพุ่งทะลุจนหัวระเบิดออก
แต่ถ้ามีพลังต้าน..แรงกดกระแทกของสิงห์พิโรธ พลังก็ไม่สามารถทำอันตรายได้เลย ซึ่งพลังที่เป็น
คู่ปรับคือพลัง
‘ปิดทวาร’ สิงห์โตคำราม และสิงห์พิโรธ ก็ไม่ต่างกะเสียงดนตรีกล่อม
ให้ฟังธรรมดา ที่พี่ใช้เมื่อกี้..มันขั้นสูงสุดซึ่งร้อยปีมาแล้ว พี่ใช้ได้เป็นคนแรกคือ
สิงห์ธนู...
เป็นการบังคับพลังเป็นเส็นเดียว ทำให้เกิดแรงอัดมหาศาลเข้ากระแทกวัตถุ..ให้ระเบิดในทันที พลังที่ใช้
จะไม่ทำร้ายใครที่เราไม่ต้องการ ใครที่ได้ยินเสียงแต่พลังมันไม่กระจาย ก็เป็นแค่เสียงดังเหมือน
เสียงเพลงในเธคปกติ ดิซิเบลจะไม่แรงถึงขนาดทำลายแก้วหู..หรืออวัยวะภายในได้ นี่ตะหาก
ที่พี่ดีใจ..เพราะจู่ ๆ พี่ก็ก้าวข้ามสำเร็จได้ซะงั้น นอกจากสามารถบังคับพลังพุ่งใส่งูโดยตรงได้แล้ว
พี่ยังควบคุมพลังผ่านตะเกียง..โดยไม่ทำอันตรายถึงขั้นบาดเจ็บ..มีแค่อาฟเตอร์ช๊อค ซึ่งสามารถแก้ไขได้
ด้วยเคล็ดผนวกกลับ..ที่พี่ทำให้ไง ที่นี้เข้าใจหรือยัง..เกี่ยวกับพลังสิงห์โตคำราม?”
อ่าห่ะ..เข้าใจแล้ว..สิงห์โตคำราม..แบ่งเป็นสามขั้น ส่วนใหญ่ที่ฝึกได้คือสิงห์คำราม ใช้ขู่ตะคอก
ให้ชะงักค้าง..ตกใจไม่ถึงกับฆ่าให้ตายได้ ถ้าสูงขึ้นไปถึงขั้นทำอันตรายถึงชีวิตเรียก..สิงห์พิโรธ
แต่ขั้นสุดยอดแล้วคือ..สิงห์ธนู ซึ่งไอ้พี่โต๋มันเพิ่งฝึกสำเร็จตะกี้นี้เอง จะว่าเป็นความสำเร็จบนความซวย
ของไอ้ตะเกียงก็ว่าได้ เอาหล่ะ..ยังไม่หายสงสัย..งานนี้คุยวิชาสิงห์กันอีกสักสองสามคำถาม
ให้มันแตกฉานสำเร็จตั๊กม้อ..กันไปเลย
“แล้ว..พลังปิดทวาร..สามารถข่มสิงห์ธนูได้หรือไม่” นี่ไง..ที่กูสงสัย เมื่อพลังปิดทวารเป็นพลังข่ม
สิงห์โตคำราม..กับพลังสิงห์พิโรธ แล้วสิงห์ธนูล่ะ..จะถูกข่มหรือเปล่า
“พี่ว่าไม่นะ...เพราะพลังปิดทวาร บังคับธาตุลมปิดทวารทั้งเก้า..ไม่ให้พลังสิงห์โตคำราม..กับสิงห์พิโรธ
เข้าไปกดกระแทกระบบความดันโลหิตได้ แต่สิงห์ธนูเป็นพลังเส้นเดียวที่มีความแหลมคม..และรุนแรง
เหมือนลูกธนูที่ปล่อยออกจากคันศร สามารถพุ่งกระแทกหัวใจได้..โดยไม่ต้องผ่านทวารทั้งเก้า
พี่มั่นใจว่าพลังปิดทวารไม่น่าจะข่มได้.” อาห่ะ!...ฟังมีเหตุผล แต่ตอนนี้ไอ้ตะเกียงเป็นเจ้าหนูจามไม
ชวนทุกคนมาศึกษาเคล็ดวิชากันสักนิด เพื่อเป็นความรู้ประเทืองปัญญากันอีก
“แล้วพลังปิดทวาร มีคู่ปรับหรือเปล่า” ถามในสิ่งที่อยากรู้ ตามหลักวิชาเหนือฟ้ายังมีฟ้าไง
“มีสิ..ก็เคล็ดวิชา
‘วรเวทย์อัคนี’ ของตะเกียงไง ไม่รู้อีกหรือ...วรเวทย์อัคนี เป็นการสกัด
จุดลมปราณ..ไม่ว่าจะจุดชา..จุดสลบ..จุดเป็นจุดตาย นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วไงว่า..หากผู้ที่ใช้พลัง
ปิดทวารถูกสกัดจุดชา..ไม่สามารถบังคับธาตุลมปิดทวาร แล้วจะใช้พลังปิดทวารได้ยังไง..เข้าใจหรือยัง
ว่าทำไม..สิงห์โตคำราม..ถึงได้พึ่งวรเวทย์อัคนี” ความสัมพันธ์ของมันเป็นแบบนี้เองนะรึ
พ่อเกริกไม่ได้บอกลึกซึ้งอะไรกูมากนัก แค่นี้กูพอจะปะติดปะต่อได้แล้ว
“แสดงว่า..พ่อเกริกช่วยชีวิตพ่อสิงห์ไว้..เมื่อสิบแปดปีก่อน คงมาจากสาเหตุของพลังที่ข่มกันใช่หรือเปล่า”
“อืม..ใช่แล้ว ถ้าไม่ได้วรเวทย์อัคนีของพ่อตะเกียง..พ่อพี่ก็คงตายไปแล้ว เพราะไม่สามารถใช้พลัง
สิงห์โตพิโรธทำร้ายศรัตรูได้..เพราะเค้าข่มพลังของพ่อพี่ ด้วยเคล็ดวิชาปิดทวารไง..พ่อพี่ถึงได้
รับบาดเจ็บเจียนตาย..จังหวะพ่อเกริกแก้เคล็ดวิชากลับ..ทำให้พ่อพี่ใช้พลังเฮือกสุดท้ายทำร้ายพวก
ศรัตรูจนบาดเจ็บล้มตาย..แต่พ่อพี่ก็ไม่สามารถกลับมาใช้พลังได้อีก อย่างที่พี่บอกพ่อสามารถใช้ได้
ไม่เกินสี่สิบเปอร์เซ็น..ซึ่งมันทำร้ายใครถึงตายไม่ได้ นอกจากตะคอกสัตว์ใหญ่ให้ตกใจ
วิ่งหางจุกตูดเท่านั้น” นี่สินะ..ที่ทำให้พ่อสิงห์สาบานเป็นเพื่อนตายกับพ่อกู แต่มันน่าจะมีเหตุผล
อื่นอีกแน่ ๆ ที่ทำให้เกี่ยวพันมาถึงกูจนได้ แต่ไม่มีใครบอกรายละเอียด
“พี่ว่า..อยู่ดีดีงูเห่าจะหายตัวมาอยู่ล๊อคเกอร์ตะเกียงได้เองหรือเปล่า ทั้งที่ลูกกุญแจล๊อคอยู่ ตอนตะเกียง
เปิด..มันก็ยังล๊อคอยู่ แสดงว่ามีใครเจตนาเอามาใส่ และคนนั้นก็มีกุญแจล๊อคเกอร์ตะเกียงด้วย”
กูลองถามความคิดเห็นมัน อย่างที่กูสงสัย
“เจตนาจงใจทำนะ..คงมีใครวางแผนไว้ก่อน..ส่วนเรื่องกุญแจไม่สำคัญหรอก ว่ามันมีลูกกุญแจหรือไม่
เพราะมันสามารถเสดาะกุญแจได้..ถ้ามันมืออาชีพ แต่ความคิดฆ่าให้ตายโดยใช้งู..ถือว่าไม่ธรรมดา
เพราะหากตะเกียงเป็นอะไรไปแล้ว ไม่สามารถหาหลักฐานสาวถึงคนทำได้ ไม่รู้จะเอาหลักฐาน
มาพิสูจน์ยังไง..ฆาตกรคืองูเห่า ไม่ใช่อาวุธของมีคม..ที่พอจะพิสูจน์หาที่มาของต้นตอได้”
อืม..กูก็คิดเหมือนมึง..คนทำความคิดมันล้ำลึกใช่หยอก เห็นทีงานนี้ต้องระวังตัวเพิ่มขึ้น
ประมาทไม่ได้แล้ว..ศรัตรูอยู่ในที่มืด แต่เราอยู่ที่สว่างเสียเปรียบด้านยุทธศาสตร์
‘รู้เขารู้เรา..รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’ มีแต่รู้เรา..ไม่สามารถรู้เขา ทำให้กูต้องคิดหนัก
เพิ่งเข้าใจทำไม..ทั้งพ่อเกริกพ่อสิงห์ ย้ำนักย้ำหนาไม่ให้กูห่างไอ้พี่โต๋ เพราะวิชาเราสองตระกูล
เกื้อหนุนสัมพันธ์กันนี่เอง ขอบคุณโชคชะตาที่พาให้กูมาเจอกับมัน ถ้าวันนี้ไม่มีมันอยู่ด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่ากูจะรอดหรือเปล่า เข้าใจถ่องแท้แล้ว..
เหนือฟ้ายังมีฟ้า..เหนือไอ้ตะเกียง..
ยังมีงูเห่า..เหนืองูเห่า...ยังมีสิงห์โต๋..หึ..หึ..หึ.. แต่เอ้?...แล้วเหนือสิงห์โต๋มีใคร....อ้าห่ะ!..โง่ไปได้..
เหนือสิงห์โต..มีกูไง...กร๊ากกกกๆๆๆ....สะใจสุดๆ........ สะใจด้วยเหมือนกันเน่อะ.....จริงป่ะ?
Luk.