"นี่มัน?"
คราวนี้ไรอันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นของด้านใน น้ำเสียงที่บอกให้รู้ว่าแปลกใจจริงๆ ทำให้ณรงค์ค่อยยิ้มออกและหันกลับมาหา
"ชอบมั้ย? พอดีผมเห็นว่าช่วงนี้คุณต้องไปตีกอล์ฟกับพวกลูกค้าบ่อยๆ ก็เลยปรึกษาเจมส์ว่าจะให้ถุงมือกอล์ฟคุณเป็นของขวัญ เขาบอกว่าที่ออสเตรเลียมีถุงมือหนังจิงโจ้ที่คุณภาพดีกว่าที่อื่น ผมเลยขอให้เขาซื้อมาให้โหลนึงเลย"
ในกล่องทรงยาวบนตักของไรอันมีถุงมือข้างซ้ายอยู่ทั้งสิ้นสิบสองอันจริงๆ ทุกอันเป็นสีดำล้วนและทำจากหนังจิงโจ้ซึ่งเป็นยี่ห้อที่เขาเองก็รู้จักดี เขาหยิบถุงมืออันหนึ่งขึ้นมาสวมลงบนมือซ้ายซึ่งขนาดพอดีเป๊ะราวกับถูกวัดมาก่อน
"อ้อ..."
"หือ?"
ณรงค์ทำเสียงในคออย่างแปลกใจเมื่อไรอันทำเสียงพึมพำเหมือนนึกอะไรได้ แต่หนุ่มลูกครึ่งเพียงแต่ยิ้มแล้วส่ายหน้า เพราะเขาเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อต้นเดือนณรงค์เคยทำทีเป็นสนใจอุปกรณ์ตีกอล์ฟของเขาแล้วถามนั่นถามนี่ คงจะอาศัยช่วงนั้นแอบดูว่าเขาใส่ถุงมือเบอร์อะไรนี่เอง
"ขอบคุณนะ That's so sweet of you."
คำชมจากปากคนรักทำให้ณรงค์ยิ้มออก และรอยยิ้มนั้นยิ่งขยายกว้างขึ้นเมื่อคนพูดขยับตัวมานั่งคร่อมตักเขาพลางยกสองมือมากอดไหล่และแนบริมฝีปากลงบนแก้มเบาๆ แต่ณรงค์ไม่พอใจกับรางวัลเพียงเท่านั้น เขาใช้สองมือรั้งเอวไรอันเข้าหามากขึ้นพลางทำปากยื่น
"ผมขอมากกว่าหอมแก้มได้มั้ย ไอ้นี่น่ะกว่าผมจะขอให้เจมส์ช่วยซื้อให้ได้ก็ลำบากเหมือนกันนะ เกือบได้มาไม่ทันวันหยุดปีใหม่ด้วยซ้ำ"
ไรอันแทบหัวเราะพรืดเมื่อโดนอ้อน แต่ก็ยิ้มและโน้มตัวลงจูบริมฝีปากของคนขอโดยไม่อิดออด ทันทีที่กลีบปากฉ่ำนุ่มและหวานไปด้วยรสไวน์สัมผัสกับริมฝีปากตนเอง ณรงค์ก็รู้สึกราวกับความกระหายหิวที่อดรนทนเก็บไว้ได้รับการตอบสนองเสียที
"อืม..."
เสียงครางแผ่วดังในลำคอของทั้งคู่ขณะที่ลมหายใจคลุกเคล้าเป็นหนึ่งเดียว ณรงค์ดูดดุนรสหวานหอมจากช่องปากและปลายลิ้นอุ่นไปพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของไรอันจนหมดแผง จากนั้นก็ควานมือทั้งสองข้างไปทั่วผิวกายตึงแน่นและกล้ามท้องน้อยๆ ที่ชวนให้สัมผัสแล้วสัมผัสอีกไม่รู้เบื่อ ฝ่ายไรอันเองก็โยกกายบนตักแกร่งราวจะปลุกเร้าอารมณ์ของณรงค์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่แล้วให้เดือดมากขึ้นอีก ร่างสูงสมส่วนผละจากจูบที่ชวนให้มึนเมาเพื่อดึงเสื้อยืดของณรงค์ออก แต่แล้วเมื่อได้เห็นแผงอกอันเปลือยเปล่า หนุ่มลูกครึ่งก็ชะงักไปนิดหนึ่ง
"I'll be back. ...Wait here."
ไรอันวางมือลงบนอกณรงค์แล้วเอ่ยสำทับเมื่อเห็นเขาทำหน้างุนงงและพยายามจะลุกตาม ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นขณะมองไรอันเดินหายเข้าไปในห้องนอน แม้จะไม่ค่อยชอบใจที่ถูกขัดอารมณ์หวานๆ แต่ก็นั่งรอตามที่โดนบอกแต่โดยดี ไม่นานนักหนุ่มลูกครึ่งก็เดินกลับออกมา เสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมทั้งแผงเผยโครงร่างที่ชวนให้คนเห็นหวั่นไหวไม่ว่าจะชายหรือหญิง
หนุ่มลูกครึ่งเอามือข้างหนึ่งซ่อนไว้ข้างหลังขณะเดินกลับมานั่งคร่อมตักณรงค์เหมือนเดิม แต่พอเขายื่นแขนไปเพื่อจะรั้งเจ้าตัวเข้าหา ไรอันกลับเอามืออีกข้างขึ้นมาปิดตาเขาไว้
"Close your eyes."
"เอ๊ะ?"
"เชื่อผมเถอะน่า หลับตาก่อน"
ณรงค์เม้มปากอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยอมวางมือทั้งสองข้างลงบนขาของไรอันแล้วหลับตานิ่งตามที่โดนบอก ไรอันโบกมือตรงหน้าอีกฝ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้แอบดูจริงๆ จากนั้นจึงยื่นมือไปคล้องรอบคอของณรงค์พร้อมกับของที่หยิบมาด้วย
สัมผัสเย็นๆ รอบลำคอทำให้ณรงค์ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขาสบตากับไรอันที่กำลังยิ้มให้ก่อนจะก้มลงมองสิ่งที่ห้อยอยู่กลางอก มือใหญ่หยิบจี้รูปเขี้ยวทรงเรียวแหลมขึ้นมา น้ำหนักของจี้บอกให้รู้ว่าไม่ใช่โลหะธรรมดาทั่วไป
"สร้อยเงินของ David Yurman ผมซื้อตอนไปประชุมที่ฮ่องกงคราวก่อน เหมาะกับคุณจริงๆ ด้วย"
ไรอันเลือกจะไม่อธิบายว่า David Yurman เป็นยี่ห้อเครื่องประดับหรูของอเมริกาที่ดาราฮอลลีวู้ดหลายรายเป็นลูกค้า และราคาเครื่องประดับแต่ละชิ้นนั้นไม่ใช่ว่าใครจะยอมควักเงินซื้อง่ายๆ แต่ณรงค์กลับไม่สะกิดใจกับชื่อยี่ห้อแปลกหูมากเท่ากับที่ได้ยินว่าไรอันซื้อสร้อยเส้นนี้ให้ตั้งแต่ทริปฮ่องกงครั้งล่าสุด
การเดินทางไปประชุมที่ฮ่องกงครั้งนั้นผ่านมาสองเดือนแล้ว หมายความว่าไรอันคิดถึงเทศกาลปีใหม่และเลือกซื้อของขวัญไว้ให้เขาตั้งแต่ตอนนั้น ทั้งที่เขาเพิ่งจะเริ่มหาซื้อของขวัญให้อีกฝ่ายเมื่อต้นเดือนนี่เอง...
ทำไมเขาถึงได้ซื่อบื้ออย่างนี้นะ
"...ผมรักคุณ"
ณรงค์พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำนั้น เขาไม่เคยเชื่อว่าตัวเองคิดผิดที่มอบหัวใจให้ไรอันทั้งที่การเริ่มต้นของทั้งคู่นั้นแสนจะลุ่มๆ ดอนๆ แถมกว่าหนุ่มลูกครึ่งจะเปิดใจให้ก็ทำเอาต้องแยกทางกันไปเป็นเดือน แต่ความเชื่อมั่นก็ทำให้เขาเลือกจะเดินตามหัวใจของตัวเองโดยย้อนกลับมาหาคนตรงหน้าอีกครั้ง และการได้ใช้ชีวิตด้วยกันทุกวันนี้คือหลักฐานสำคัญว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง
"I know. Me too."
ไรอันตอบพร้อมกับใช้สองมือประคองหน้าเขาเอาไว้และเคลื่อนใบหน้าเข้าหา มือซ้ายยังคงสวมถุงมือที่ณรงค์ให้เป็นของขวัญโดยไม่ได้ถอดออก เช่นเดียวกับณรงค์ที่สวมสร้อยซึ่งเพิ่งได้รับเช่นกัน
ร่างสูงใหญ่ดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจนพ้นเรือนร่างสมส่วน จากนั้นก็ดันตัวหนุ่มลูกครึ่งลงนอนหงายบนโซฟาและเข้าทาบทับ ชายหนุ่มพรมจูบไปทั่วลำคอและแผ่นอกขาวเนียนอย่างหิวกระหาย เมื่อริมฝีปากสัมผัสกับตุ่มเนื้อสีชมพูเข้ม เขาก็ขบเม้มแล้วดูดอย่างแรงจนหนุ่มลูกครึ่งแอ่นหลังขึ้นจากโซฟาและใช้สองมือจิกไหล่กว้างแน่น
ไรอันหอบหายใจแรงเมื่อถูกเล้าโลมอย่างไม่บันยะบันยัง ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำขณะที่ริมฝีปากเผยอเพื่อช่วยสูดอากาศเข้าปอด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงมองกลุ่มผมดำสนิทของคนที่กำลังคลอเคลียอยู่บนหน้าท้อง ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ว่าความเป็นชายของตนกำลังตื่นตัวมากขึ้นทุกที สัมผัสเย็นๆ จากจี้เงินบนคอของณรงค์ที่ห้อยลงมาโดนหน้าท้องยิ่งสร้างสัมผัสอันขัดแย้งกับปลายลิ้นอุ่นจนกระตุ้นให้อารมณ์เตลิดมากขึ้นไปอีก
"Hey..."
"หืม?"
ณรงค์ขานรับในคอเมื่อไรอันใช้สองมือประคองหน้าเขาให้เงยขึ้น นัยน์ตาสองคู่จึงสบประสานก่อนที่ไรอันจะเอ่ยยิ้มๆ โดยที่แก้มเรื่อสีเลือดฝาดและนัยน์ตาฉ่ำเยิ้มเป็นประกายวาว
"สร้อยนั่นน่ะ...มีชื่อด้วยนะ"
ร่างสูงใหญ่เลิกคิ้ว เขาค่อยๆ ยันตัวขึ้นจนกระทั่งสายตาอยู่ระดับเดียวกับไรอัน นัยน์ตายั่วยวนที่มองกลับมาทำเอาณรงค์อยากจะจูบปิดปากหนุ่มลูกครึ่งให้เลิกคุยเพื่อที่ทั้งคู่จะได้เริงรักกันจนเข้าวันใหม่เสียที แต่ก็พยายามข่มใจแล้วถามเสียงแหบพร่า
"ชื่ออะไรเหรอ?"
ไรอันเหลือบตาลงมองจี้เงินรูปเขี้ยวที่ห้อยอยู่ระหว่างทั้งคู่ จากนั้นก็ใช้มือซ้ายที่ยังสวมถุงมือหนังสีดำกุมจี้นั้นไว้แล้วดึงให้ณรงค์ก้มลงหาอย่างช้าๆ ลมหายใจหอมหวานเจือกลิ่นไวน์กรุ่นจากริมฝีปากบางเมื่อเขาเอ่ยเสียงเบา
"Predator. That's what you are."
ริมฝีปากสองคู่แนบประทับ จากนั้นก็ไม่มีเสียงพูดคุยอีกภายในห้องที่เงียบสนิทนอกเหนือจากเสียงหอบครางและเสียงเรียกชื่อกันและกันอย่างเร่งเร้า เครื่องปรับอากาศดูจะไม่ช่วยให้ความเย็นใดๆ แก่ร่างทั้งสองที่บดเบียดและเคลื่อนไหวด้วยจังหวะซึ่งมีเพียงณรงค์และไรอันเท่านั้นที่บรรเลงร่วมกันได้ ความโหยหิวในเรือนร่างของกันและกันถูกเติมเต็มคราแล้วคราเล่าเสมือนว่าความหมายของชีวิตคืออ้อมแขนของคนที่กำลังกอดรัดตนอยู่เท่านั้น จวบจนเวลาล่วงผ่านสู่วันใหม่และความเหนื่อยอ่อนมีอำนาจเหนือความต้องการทางกาย ณรงค์จึงยอมปล่อยให้คนที่ต้องรองรับความต้องการซึ่งไม่สิ้นสุดของเขาได้นอนพัก กระนั้นชายหนุ่มก็ยังคงกอดเอวอีกฝ่ายไว้พร้อมกับซุกใบหน้าลงตรงซอกคอชื้นเหงื่อ เขาค่อยหลับตาลงเมื่อได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอและสูดกลิ่นกายอันคุ้นเคยเพื่อให้หัวใจที่เต้นถี่สงบลง
ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้รักคุณ...
ณรงค์คิดขณะที่ความอ่อนเพลียเริ่มซึมซ่านไปตามกล้ามเนื้อจนชวนให้อยากหลับไหล ชั่วเสี้ยววินาทีก่อนที่จะดำดิ่งสู่ห้วงนิทราและไม่รับรู้อะไรอีก เขาคล้ายจะสัมผัสได้ถึงอ้อมแขนที่โอบเอวกลับและเสียงกระซิบแผ่วเบาหวานหูชวนให้ฝันดีว่า 'สวัสดีปีใหม่ ณรงค์'
++---End---++
A/N: เป็นตอนที่ปุบปับนึกได้ว่าอยากเขียนอะไรสักอย่างสำหรับปีใหม่ พอได้ไอเดียนี้ปุ๊บก็รีบเขียนให้จบในวันเดียวเลยค่ะ (เดี๋ยวนี้แม้แต่เรื่องสั้นยังใช้เวลาเขียนนานกว่า 1 วัน ถ้าเรื่องไหนเสร็จไวกว่านั้นได้จะ amazing สุดๆ *__*) ไอเดียตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เนื่องจากคนเขียนเองก็ไม่ได้ไปไหน ใช้เวลาปีใหม่อยู่กับบ้านเหมือนกัน เลยหามุกให้สองคนนี้ได้ฉลองกันทั้งที่ไม่ได้ออกไปไหนนี่ล่ะ ระหว่างเขียนตอนนี้ไปก็รู้สึกว่าณรงค์หื่นตลอดเวลา ส่วนไรอันนี่...เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเอ็นดู สงสัยเพราะว่าพอให้อยู่กับณรงค์นานเข้า นิสัยด้านน่ารักๆ เลยได้ออกมาเยอะขึ้นล่ะมั้ง
สำหรับเครื่องประดับยี่ห้อ David Yurman นี่มีจริงนะคะ เป็นแบรนด์ระดับ hi-end ของอเมริกา ตอนเขียนเรื่องนี้ก็ทำรีเสิร์ชประมาณหนึ่งว่าถ้าสองคนนี้จะซื้อของขวัญให้กันน่าจะเป็นของแบบไหน ส่วนถุงมือกอล์ฟหนังจิงโจ้ก็มีจริงๆ เจ้านายที่บริษัทเก่าเรามีธุรกิจเสริมนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าถุงมือนี่ด้วย ส่วนเวลาเล่นกอล์ฟนั้นคนเล่นจะใส่ถุงมือข้างเดียวคือข้างตรงข้ามกับมือที่ถนัด กรณีนี้ไรอันถนัดมือขวาก็เลยได้ถุงมือซ้าย และถุงมือนี่พอใช้ไปนานๆ มันจะมีอายุงานของมันเอง ณรงค์เลยซื้อยกโหลให้ซะเลยน่ะค่ะ ที่แน่ๆ ราคารวมกันแล้วก็ยังไม่เท่าสร้อยที่ไรอันซื้อให้ XD ความจริงสร้อยนี้มีต้นแบบจากของจริงของ David Yurman ด้วย แต่ชื่อจริงๆ ว่า Claw Amulet เรามาเปลี่ยนให้เป็น Predator จะได้รู้สึกเท่ๆ ประมาณว่า "ผู้ล่า" น่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ที่จะมีให้ณรงค์กับไรอันล่วงหน้า ขอถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วยนะคะ