ตอนพิเศษ 3
ลืมตาในเช้าวันใหม่ เสียงหายใจแรงของคนข้างเคียงช่วยเติมพลังให้หัวใจ
ไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มไทยธรรมดาๆคนนี้จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกับพ่อคนดังมาได้นานขนาดนี้
นึกถึงช่วงเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาแล้วมีความสุขชะมัด เขาน่ะไม่เคยเชื่อรักแท้ เพราะไม่ว่ายังไงคนเราย่อมผันใจไปหาเศษหาเลยที่อื่นจนได้ ...มันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ แต่ถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังไม่เห็นว่าดวงตาสีอ่อนคู่นี้จะหันไปมองที่อื่นสักที เกิดรักแท้มีจริงขึ้นมาล่ะก็ เขาคงเสียเซลฟ์แย่
เพชรไพลินจุ๊บแก้มสุดที่รักไปด้วยความหมั่นเขี้ยว นอนอ้าปากหวอน่าแกล้ง แต่ก็ทำไม่ลง
วันนี้หนุ่มไทยมีนัดกับเพื่อนสมัยมัธยมปลาย ว่าจะหาร้านอาหารทะเลอร่อยๆกินกัน ทิ้งแฟนไว้บ้านแม่ ขอเป็นคนโสดทั้งแก๊งค์สักวัน
.
.
"จะไปแล้วเหรอลูก แล้วอเล็กซ์ล่ะ?"
"ไม่ได้ไปอ่ะแม่ นอนหลับสนิทเลย"
"แปลกจัง ปกติตัวติดยังกะตังเม"
"เบื่อละ อยากโสด"
ลูกชายยักไหล่แกล้งพูดประชด
"แหม ระวังจะโสดจริงๆ"
"แม่อ่ะ! เพชรไปดีกว่า แม่อย่าบอกอเล็กซ์มันนะ อย่าพูดไทยด้วย ยิ่งพูดเก่งๆอยู่"
"จ้าๆ ไปดีมาดีนะลูกนะ"
"ครับ"
.................
อเล็กซานเดอร์หาวหวอดลงมาชั้นล่าง เวลาเกือบสี่โมงเย็น แทบไม่มีใครในบ้านเลย
น่าแปลก....ป่านนี้แล้วเพชรไพลินน่าจะกลับมาบ้าน ดาราหนุ่มเกาหัวแกรก เดินออกไปข้างนอก
“น่อง! เห็นมัม..ไม”
ทักษะภาษาไทยระดับเกือบดีออกมาจากปากเรียว เด็กหญิงขี้อายชี้ไปทางโรงงาน ซึ่งก็พอดีกับที่แม่แพรกับพ่อป้อมเดินตรงมา
“ตื่นแล้วเหรอลูก หิวข้าวมั้ย”
“เอมยังไมคัมแบ็คโฮม?”
“หืม? อะไรนะลูก ไปตั้งแต่ไก่โห่เลยนะเนี่ย พ่อลองโทรตามซิ”
คนเป็นแม่ย่อมตื่นตกใจยิ่งกว่าแฟนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน
อเล็กซ์หลุดขำกับความน่ารักนั้น เห็นแม่แพรแล้วทำให้นึกถึงแม่ตัวเองจริงๆ ส่วนพ่อที่จำความแทบไม่ได้ อเล็กซานเดอร์ไม่เคยแคร์ เพราะตอนนี้เขาก็ให้เพชรไพลินเรียกdaddyทั้งคืนน่ะนะ
“เพชรบอกใกล้จะกลับแล้ว”
พ่อป้อมพูดเสียงเรียบ หากแต่ในใจคงโมโหลูกชายที่มัวแต่เที่ยวจนลืมคนรักต่างชาติ
“จะ...กลับ เหรอครับ?”
อเล็กซ์เข้าใจประโยคนั้น แต่จำต้องประมวลผลหลายๆอย่าง เพชรไพลินคนตรงเวลาและไม่เคยเถลไถลเนี่ยนะบอกว่าจะกลับบ้าน หลังจากที่ออกเที่ยวตั้งเกือบสิบชั่วโมง
ให้ตายสิ
“ผมจะไปหา”
น้ำเสียงมุ่งมั่นปนความน้อยใจ อเล็กซ์พูดชัดถ้อยชัดคำก่อนจะขับรถออกมา
ตั้งแต่แต่งเป็นเขยไทย นายอเล็กซานเดอร์ก็มาเที่ยวที่นี่บ่อยครั้ง จึงไม่แปลกเลยที่เขาจะกล้าขับรถเลนขวา แล้วเหยียบคันเร่งมิดจนถึงชายหาดชื่อดังที่เพชรไพลินออกมาแฮงเอาท์กับเพื่อน
เขาโทรหาคนรักหลายสาย แต่ไม่มีการตอบกลับ
ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเพชรไพลินเพิ่งคุยกับพ่อป้อมไปเอง
ร่างสูงใหญ่เป็นที่จดจำได้ในหมู่วัยรุ่นไม่สนใจเสียงกรี๊ดเบาๆตามชายหาด เพียรโทรหาอีกหลายครั้งจนกระทั่งเพชรไพลินรับสาย
“มีอะไรหรือเปล่า โทรมาเยอะเลย”
“คนที่ต้องถามคือไอหรือเปล่า หายไปไหนตั้งนานฮะเอม แล้วนี่อยู่ไหนเนี่ย”
“พูดกันดีๆสิอเล็กซ์”
“ไออยู่ชายหาดนะ ยูอยู่ไหน”
คนกลัวเมียรีบปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง
“แถวเซเว่นอ่ะ งั้นเดี๋ยวไอไปหา รอที่นั่นนะที่รัก”
“จ้า ขับรถดีๆนะ”
อเล็กซ์ชอบจริงๆเวลาที่ตัวองมีความสุขแล้วยิ้มให้กับทุกอย่างตรงหน้า
เมื่อกี๊ยังโมโหอยู่แท้ๆ
บอกได้คำเดียวว่าเพชรไพลินก็คือยากล่อมประสาทชั้นดี
โครม!!!
ปากเรียวหุบยิ้มฉับ หันหน้าไปทางต้นเสียง
เหมือนฟ้าถล่ม ลมหายใจสะดุดไปชั่วขณะ
รถเก๋งสีดำฝั่งคนขับยุบไปทั้งแถบเพราะชนต้นไม้ เสียงคนโหวกเหวกฟังไม่ได้ศัพท์ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าทะเบียนรถนั้นเป็นของใคร!
...................
เวลาที่นายอเล็กซานเดอร์ดาราดังเล่นหนังที่มีฉากร้องไห้ เขามักพยายามเค้นน้ำตา นึกถึงแต่เรื่องสูญเสีย ก่อนจะได้เจอเพชรไพลิน เขาร้องไห้ง่ายกว่านี้ แค่ภาพแผ่นหลังพ่อที่เดินจากไป อเล็กซ์ก็สามารถมีหยดน้ำตาภายในไม่กี่นาที
แต่การได้เจอหนุ่มไทยผู้แสนมีสไตล์ มันก็ทำให้เขายิ้มได้ โลกหม่นๆสว่างขึ้น มีชีวิตชีวามากขึ้น ดังนั้นฉากร้องไห้จึงกลายเป็นฉากสุดหิน คิดว่าทำอย่างไรก็ไม่เพอร์เฟ็คต์สักที
แต่....แต่อีกแล้ว...
อเล็กซานเดอร์ไม่เคยเจอความทุกข์แสนสาหัสเท่าวันนี้ หยาดน้ำตาไหลอย่างควบคุมไม่ได้ มือสั่น ขาชา เวลาเดินเชื่องช้าราวกับกำลังฆ่าเขาทั้งเป็น
ใบหน้าคมเข้มหมองหม่น ดวงตาช้ำ จมูกแดงเรื่อ
แม่คนที่สองลูบหลังให้กำลังใจ แม้เธอก็เจ็บปวด
“เพชรจะต้องไม่เป็นไรลูก.....เพชรจะไม่เป็นไร”
.
.
.
.
ใบหน้าบวมช้ำจากแรงกระแทกถูกครอบด้วยเครื่องช่วยหายใจไปกว่าครึ่ง เพชรไพลินถูกส่งตัวมารักษาในกรุงเทพฯได้สองวันแล้ว เจ้าตัวสะลึมสะลือ ตื่นบ้าง ไม่ตื่นบ้าง แต่ทุกคนรู้ดีว่าเพชรไพลินจะยังไม่ดีขึ้นในเร็วๆนี้
แน่นอนงานทุกอย่างของอเล็กซ์ชะงักลง เพื่อนๆที่อเมริกาต่างทยอยกันมาเยี่ยม แม้แอบแฝงการมาเที่ยวประเทศไทย แต่อเล็กซ์ก็เศร้าเกินกว่าจะโวย
“เป็นไงบ้างล่ะ”
พี่เป้ที่เพิ่งเข้ามาเยี่ยมทักน้องเขย ริมฝีปากยกยิ้ม หากแต่ดวงตาหม่นหมอง
“หมอบอกทรงตัว แผลก็หายเร็วดี”
“อืม...ดี”
แผลข้างนอกหาย แต่ภายใน...อเล็กซ์คงไม่ยอมพูด
ผู้เป็นพี่ชายไม่ซักถามต่ออีก เพราะกลัวจะเห็นน้ำตาลูกผู้ชาย เขาอดทนเห็นมันมาทั้งอาทิตย์แล้ว และถ้าวันนี้เห็นอีก เขาคงร้องไห้ตามแน่
ความรู้สึกตื้อๆตันๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตตัวเอง....
คำที่ว่า “เราต้องทำใจ” มันควรใช้เวลานานแค่ไหน
“อยากกินอะไรมั้ย ว่าจะลงไปซื้อกาแฟ”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ”
พี่เป้แสนอึดอัด เขาแตะไหล่อเล็กซานเดอร์ สูดลมหายใจ
“ถ้านายเศร้า เพชรก็จะเศร้าไปด้วย ...แล้วยิ่งถ้านายขี้เหร่ เพชรก็คงไม่ชอบ ...เข้าใจมั้ยไอ้หล่อ”
“หึ....โอเค”
..
.
.
.
.
“อือ...”
เสียงครวญกลางดึกปลุกให้คนนอนเฝ้าตื่น คิ้วเรียวขมวดมุ่น น้ำตาไหลลงหมอน
“เอม...”
อเล็กซ์ได้แต่กุมมือให้กำลังใจ นอนมองคนรักที่ทรมานจากบาดแผลทั้งภายในและภายนอก เมื่อเย็นหมอเพิ่งบอกข่าวร้ายไปว่าอาการเพชรแย่ลงมาก อวัยวะภายในที่เพิ่งผ่าตัดอาการไม่ดีขึ้นเลย เพชรไพลินหายใจได้แย่ลง ถ้าหากพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้น ก็คงต้องเข้าไอซียูอีกรอบ
“เอม....ยูต้องเข้มแข็งนะที่รัก หลายอาทิตย์แล้วนะ รู้ไหมมีคนถามหาเยอะเลย เขาอยากดูหนังของเรา แฟนคลับถามหายูใหญ่เลยนะ”
“ฮึก...จ..เจ็บ”
เสียงแหบแห้งจนแทบไม่ได้ยินเอ่ย หัวใจของร่างสูงเหมือนถูกทึ้งด้วยกรงเล็บปีศาจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อดทนไว้นะ อดทนไว้”
“แม่ง”
เขาสบถ สบถเพราะกลัว
ถึงขนาดให้ยาแก้ปวดไปแล้ว แต่เพชรไพลินยังร้องครวญครางอยู่อย่างนี้ทุกคืน ...อเล็กซ์อยากเจ็บแทนจริงๆ
“อึก....”
“ใจเย็นไว้นะ ค่อยๆหายใจ ปวดฉี่มั้ย?”
เพชรไพลินพยักหน้าเล็กน้อย
“งั้นค่อยๆปล่อยออกมานะ อย่ารีบ ไม่ต้องกลัว”
“....เจ็บ”
“อ...ไออยู่ข้างๆ”
หยาดน้ำใสพร่างพรู อเล็กซ์หันหน้าหนี ไม่อยากให้เพชรไพลินเห็น แต่เผลอเขาก็สูดน้ำมูกเสียงดังอย่างกับเด็ก แล้วคนป่วยจะไม่รู้ได้อย่างไร
เขามันเด็กชะมัด
ทุเรศตัวเอง
“ฮือ...”
เพชรไพลินอ่อนแอ....อ่อนแอเหลือเกิน
เจ็บไปทั่วทั้งตัว
เจ็บแม้กระทั่งหายใจ
ทุเรศตัวเองเหมือนกัน
นอนร้องไห้อย่างน่าเวทนา
ทั้งทำให้คนรักเสียใจ
“ข..ขอโทษ”
ถ้าหากวันนั้นไม่ประมาท เขาก็คงไม่ต้องมานอนแบอยู่อย่างนี้ ไม่ต้องมาเป็นภาระให้กับคนที่กำลังรุ่งเรือง
แย่...เขามันแย่
“มันผ่านไปแล้วเอม ตอนนี้....ขอแค่ยูอยู่เพื่อไอนะ อย่ายอมแพ้ อย่าโทษตัวเอง...เรา
ต้องอยู่ด้วยกัน เราจะผ่านมันไป
ด้วยกัน”
.
.
.
.
กำลังใจก็คือยาวิเศษ ยากจะหายาชนิดใดเทียบ
เพชรไพลินอาการดีขึ้น ไม่ร้องครวญตอนกลางคืน และเริ่มยิ้มได้
หมอบอกว่าอาจได้ถอดเครื่องช่วยหายใจในวันสองวันนี้ ซึ่งพอคนเจ็บได้ฟังก็ร้องไห้ดีใจใหญ่ เพราะส่วนหนึ่งของความทรมานก็มาจากเครื่องช่วยหายใจนี่แหละ
แต่มีอยู่สองคนที่ดูเหมือนไม่ดีใจด้วย
อเล็กซ์สังเกตอากัปกิริยาของพ่อตาแม่ยายแล้วอดสงสัยไม่ได้ เมื่อทั้งสองท่านฟังหมอพูดจบก็เดินออกมาข้างนอก ซุบซิบประโยคภาษาไทยที่เขาไม่เข้าใจ
ดาราหนุ่มเก็บความสงสัยนั้นไว้ พอพวกท่านกลับไปจึงเอ่ยถามพี่เป้ที่ยังคุยเล่นอยู่กับน้องชาย
“พี่เป้ ไอขอคุยด้วยหน่อยสิ”
เป้ผละออกมาจากน้อง แววตาเหมือนรู้อยู่แล้ว
“ทำไมพ่อแม่ทำหน้าไม่ดีใจ”
“ก็แค่ความเชื่อเก่าๆน่ะ ว่าถ้าคนไข้ที่ป่วยหนักเกิดอาการดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์ขึ้นมา คนๆนั้นมักจะทรุดและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่วัน”
อเล็กซ์ทำท่าเหมือนคิดอะไรได้ เขาก็พอจะได้ยินมาบ้าง แต่เพราะเป็นคนไม่มีญาติเยอะขนาดนั้น จึงไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน
“แต่ยูไม่ต้องห่วงหรอก ไอว่าเพชรก็น่าจะหายจริงๆนั่นแหละ คนเฝ้าไข้หล่อขนาดนี้”
“นี่ยูไม่กังวลเลยเหรอ....?”
พี่เป้ได้แต่ยิ้มตอบ.....
“..@!#$ข้างหน้า@#@$%หายป่วย$^*&%”
สองคำ...ที่อเล็กซ์ฟังทันและเข้าใจ
แต่เพียงแค่นี้เขาก็หูผึ่งแล้ว
“..ไปไหว้@$$พวงมาลัย*&^$ไม่กี่วันก็หาย เดินปร๋อเลย”
ปร๋อ?
ปร๋อ คืออะไร...?
อเล็กซ์ไม่รู้ แต่ก็พอเดาได้จากสีหน้ายิ้มแย้มของป้าผมสั้นว่ามันต้องเป็นความหมายในด้านบวกแน่ๆ
จะว่าเขาบ้าก็ได้
หลังจากครุ่นคิดเรื่องคนรักมาทั้งวัน จนหมอในโรงพยาบาลขอถ่ายรูปจนครบ เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะปล่อยวางเรื่องนี้ได้อย่างไร
ที่พี่เป้พูดมามันก็ถูก ก็แค่ความเชื่อเก่าๆ และคนเราคิดไปเองกันทั้งนั้น
แต่ความเชื่อ ...มันก็เหมือนข้อมูลเชิงสถิติไม่ใช่เหรอ? ยิ่งเกิดขึ้นมาก ความเชื่อก็ยิ่งมีพลังมาก
อเล็กซ์ลุกขึ้นจากม้านั่ง หยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์พี่เป้ที่ตอนนี้จำได้ขึ้นใจ จะว่าไปตอนนี้อเล็กซานเดอร์น้องเขยน่ะสนิทกันยิ่งกว่าน้องแท้ๆเสียอีก
“ฮัลโหลพี่เป้ ไอมีเรื่องจะถาม”
[“ว่ามาสิ”]
“ได้ยินสาวสองคนคุยกันเรื่องข้างหน้าอะไรเนี่ยแหละ ถ้ามีพวงมาลัยไปไหว้ ...จะหาย”
อเล็กซ์ได้ยินเสียงลมหายใจสะดุดชัดเจนจากอีกฝั่ง
[“อเล็กซ์....มันก็แค่การบนบานต่อศาล ไม่รู้จะหายจริงหรือเปล่าด้วยซ้ำ”]
“ไอไม่เข้าใจยูเลยนะ ไม่ห่วงน้องตัวเองบ้างหรือไง”
[“ไอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเราจะเสียเวลาไปกับเรื่องพวกนี้ทำไม....อเล็กซ์..พี่พูดในฐานะที่เป็น
พี่นะ..นายควรพัก ไม่ได้นอนเต็มที่มากี่คืน? ไม่ได้ยิ้มมากี่วัน?]
“พี่เป้....เพชรไพลินคือรอยยิ้มของไอ...คือทั้งชีวิต...ถ้าเอมเป็นอะไรไป ไอจะยิ้มอย่างมีความสุขได้ยังไง? ตอนนี้ไอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เอมดีขึ้นแบบที่ไม่ต้องกังวล ต่อให้เป็นหนทางที่โง่ที่สุดอย่างที่ยูกำลังคิดอยู่ก็ตาม แล้วอีกอย่างนะ...ยูอย่ามาว่าว่าไองมงายเลย ติ่งแฮร์รี่ที่แอบโบกไม้กายสิทธิ์ทุกคืนก่อนนอนอย่างยูน่าจะเรียกว่าบรรลุการเป็นพ่อมดได้แล้วมั้ง”
[“.....หึ...ไอยอมเลยว่ะอเล็กซ์”]
“ถ้างั้นก็บอกรายละเอียดเรื่องการบนศาลอะไรนั่นมาเลย”
[“มึงแม่ง..มีอีกสักคนมั้ย ขอหน่อยเถอะ”]
.
.
.
.
“ถ้าเอมสุดที่รักของผมหายจากอาการบาดเจ็บนี้ได้ ผมสัญญา...ว่าจะทำหนังให้เมืองไทยสักเรื่อง นำเสนอด้านดีๆ วัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ และ...สอดแทรกความหลากหลายทางเพศให้มีชั้นเชิงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผมคงต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ เพราะมันน่าจะมาสเตอร์พีซพอสมควร แต่ที่แน่ๆ ท่านต้องช่วยแฟนผมนะ ไม่งั้นผมจะทำหนังด้านมืดเมืองไทยสักร้อยเรื่องเลย”
“นี่แหละ ถึงกับจดไว้ เพราะมันยาวมาก เผื่อจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำหนังในอนาคต”
“นี่ยูพูดไปแบบนั้นจริงๆเหรอ?!”
“ใช่ แปลกเหรอ?”
เป้ถึงกับกุมหัว
“โคตรๆเลยแหละ ไม่มีใครเขาขอไปด้วย ขู่ไปด้วยหรอกนะ”
“เฮ้อ....ไม่รู้สิ ไอก็แค่พยายามดักไว้ทุกทาง บอกตรงๆว่าไอใกล้จะบ้าแล้ว หมอจิตเวชของที่นี่ก็ดันพูดอังกฤษไม่คล่อง บ้าหรือเปล่านี่มันโรงพยาบาลเอกชนที่แพงมหาโหดเลยนะ”
“ลองไปหาจิตแพทย์แบบที่บ้านเลยมั้ยล่ะ ไอก็ไม่รู้ว่าเขาทำงานกันยังไง แต่เพื่อนน่าจะพอรู้ เดี๋ยวถามให้”
“ไม่หรอก...ไม่อยากห่างเอม จริงๆแล้วคุยกับพยาบาลที่นี่ก็สนุกดี”
“เดี๋ยวเจ้าเพชรมันก็หึงเอาหรอก”
“หึงสิดี จะได้รีบๆหายมาด่าไอ”
“....ได้ยินนะ”
จู่ๆเสียงระโหยโรยแรงก็ดังขึ้น
อเล็กซ์ที่คุยเพลินรีบกระวีกระวาดกดปุ่มเรียกพยาบาลให้มาหา หลังจากเพชรไพลินทรุดหนักเมื่อคืนอย่างที่คาดเดาไว้
“ตื่นแล้วเหรอเอมของผม”
“นอนไปกี่วัน”
“ใกล้วาเลนไทน์แล้วที่รัก”
อเล็กซ์ลูบผมฟูอย่างเบามือ ทะนุถนอมที่สุดราวกับกลัวว่าจะแตกสลาย
“อย่ามาใกล้สิ... เดี๋ยวเหม็นปาก”
เพชรไพลินพยายามยกแขนข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกขึ้นปิดปาก แต่ก็ถูกคนรักจับไว้
“อย่าเพิ่งขยับอะไร รอหมอดีกว่า”
“เมื่อไหร่จะได้..ถอด...ไอหายใจ....เองได้แล้ว”
“น่าจะวันนี้นะ ถ้าเพชรไม่ดื้อ”
พี่เป้เป็นฝ่ายคุยกับน้องชายบ้าง แววตาอบอุ่นส่งถึงน้องที่ปกติไม่ค่อยลงรอย ทว่าพอถึงเวลายากลำบาก ก็นึกถึงเป็นคนแรก
“เพชรเจ็บพี่เป้”
“อดทนไว้นะ หายเร็วๆ พี่เบื่อขี้หน้าน้องเขยจะแย่”
คนเจ็บยิ้ม
“หมอมาแล้ว”
เป็นวินาทีที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย
....................
“และวินาทีต่อไปนี้ เราก็จะทราบแล้วนะคะว่ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้จะเป็นของใคร
จากเหล่าคณะกรรมการและนักวิจารณ์ทุกท่านต่างเทคะแนนให้เป็นเอกฉันท์ ค่ะ...สำหรับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของปีนี้คือเรื่อง....เรื่อง! เรื่อง!
.....
.
.
.
.
Amethyst
....โดยอเล็กซานเดอร์ วิลสันค่า!!!”
เสียงปรบมือกระหึ่ม
ร่างสูงกระชับสูทสีดำขลับ ท่วงท่าการเดินแสนสมาร์ทสะกดทุกสายตาให้หันมอง ผู้กำกับอัจฉริยะก้าวขึ้นเวทีอย่างมั่นใจ หยิบรางวัลสีทองเลื่อมประกายตาขึ้นชูสุดแขน สายตามองไปยังจุดเดียว...
คนที่ทำให้มีวันนี้.....
Amethyst ...อัญมณีผู้เป็นที่รัก
………………
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย by แอดมินเพจAlexXAme
; Amethyst หรือมีชื่อไทยว่า อัญมณีผู้เป็นที่รัก ใครหลายคนอาจจะสงสัยนะคะว่ามันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องยังไงเนี่ย ไปดูมาสามสิบกว่ารอบยังหาจุดเชื่อมไม่เจอเลยค่า
กับกลุ่มแกงค์เพื่อนเก้งที่มุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเพื่องานสงกรานต์โดยเฉพาะ แต่เพื่อนตัวแสบคนหนึ่งดันนัดเจอแฟนทางทินเดอร์ ณ ต่างจังหวัดอันห่างไกลความเจริญ จึงบังเกิดเรื่องราวสนุกๆมากมาย และบทภาพยนตร์ที่พวกเราคาดไม่ถึง ทำเอาแอดมินร้องไห้ทุกสามสิบวิเลยค่ะ มันช่างตรง! ตรงกับชีวิตของเจ้และเพื่อนๆจริงๆค่ะ
เอาล่ะๆ กลับมาเรื่องเก่าว่าทำไมชื่อหนังมันดันได้ชื่อนี้
ก็ชื่อAmethystมันก็คือชื่อเต็มๆของAmeไงล่ะเจ้าคะ!
อเล็กซานเดอร์สุดที่รักของพวกเราเนี่ยโรแมนติกจังเลยน้า เพราะคนรักเป็นคนไทย เลยมีหนังที่เกี่ยวกับประเทศไทยขึ้นมา
ดังนั้นหนังรื่องนี้จึงมีค่ากับอเล็กซานเดอร์มาก เหมือนกับอัญมณีไงคะ
โอ๊ยยย เจ้พิมพ์ไปน้ำตาไหลพรากๆไปค่ะ ทำไมนะทำไม ไม่มีใครมารักเจ้บ้าง
อยากให้มีอเล็กซ์สักล้านๆคนเลยค่ะ โคลนนิ่งนอนมาเลย เจ้จะตะครุบไว้ไม่ให้ไปไหนเชียว
By UrPet แอดมินอาวุโส
.......................
ใครกันนะคือแอดมินเพจนี้55555
จบเรียบร้อยแล้วค่ะสำหรับเรื่องแฟนเป็นดาราฮอลลีวูด หวังว่าจะชอบและสนุกไปกับมันนะคะ
สไตล์เราเรื่อยๆมาเรียงๆ เลยกลัวจะเบื่อกันไว555 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอดจนจบมากๆ สุดยอดมากๆ
มีเรื่องสั้นเรื่องใหม่มานำเสนอค่ะ ออกแนวบ้านนอกแบบปัจจุบันเลยนะ ไม่ใช่แนวนิยายสมัยก่อน(อิงจากบ้านเราเอง) ตลกนิดๆ แต่ไม่มาก
รักแอบๆ