ไฟรัก โดย Bboyseries
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไฟรัก โดย Bboyseries  (อ่าน 333377 ครั้ง)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ปรมินทร์ตามวิศรุตไปยังลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดิน คนนำหน้าเลือกที่จะหาที่หลบมุมเพื่อเคลียร์เรื่องคาใจของคนเดินตาม
“อะ มีอะไรจะโวยวายจะบ้าดีเดือดก็ระบายออกมาให้หมด”
หนุ่มใหญ่เอ่ยขึ้นเมื่อแน่ใจว่าพ้นสายตาผู้คนแล้ว
“เด็กนั่นเป็นใคร”
ปรมินทร์ถามถึงคนที่ทำให้เขาข้องใจจนพาลที่จะหึง
“อธิศร”
วิศรุตตอบอย่างเสียไม่ได้
“เขาเป็นอะไรกับพี่”
“ถามทำไม”
“มันเป็นสิทธิที่ผมต้องรู้ไม่ใช่เหรอครับ”
“สิทธิอะไร”
“สิทธิในการเป็นแฟนพี่ไง”
“นิสัยแบบนี้ยังจะคิดว่าตัวเองจะยังมีสิทธิอยู่หรือไง”
“พี่พูดแบบนี้พี่หมายความว่าไง”
“ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ คนไม่มีสติ ทำอะไรไม่รู้จักคิด พี่ไม่อยากที่จะยุ่งด้วยหรอกนะ”
“พี่วิชญ์ ทำไมพี่พูดกับผมแบบนี้”
“ก็มันจริงมั๊ยล่ะ ถ้าปักษ์ยังคิดว่าตัวเองเป็นแฟนพี่อยู่ ทำไมทำตัวไม่ให้เกียรติพี่บ้าง บอกตรงๆนะว่าที่ปักษ์ทำเมื่อกี้พี่รู้สึกไม่ดีเอามากๆ”
“แล้วที่พี่ทำ พี่คิดว่าผมรู้สึกดีนักหรือไง”
“ทำอะไร พี่ทำอะไร”
“ก็พี่ปฎิเสธที่จะออกมาเจอผม แต่พี่กลับมาทานข้าวหน้าระรื่นอยู่กับใครก็ไม่รู้ “
“แล้วไง เรื่องแค่นี้มันควรมั๊ยที่ปักษ์จะออกอาการวีนแตกกลางห้าง ให้ได้อับอายใครๆเค้า”
“ควรสิทำไมจะไม่ควร ที่แท้ที่พี่พยายามหลบหน้าผมมาตลอด เพราะสาเหตุนี้ใช่มั๊ย”
“คิดบ้าอะไรของนายเนี่ยปรมินทร์ เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยจับผิดขี้ระแวงแบบนี้ซะที พี่ไม่ได้ทำงานแบบเช้าไปเย็นกลับอย่างนายนะที่จะเอาเวลามาเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้”
“อ๋อ จะยังนั่งยันนอนยันงั้นสิ ว่านายอธิศรนั่นคือลูกค้าที่พี่บอกว่านัดทานข้าว”
“อาร์มจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่รู้ไว้เถอะ ว่าเขาวางตัวได้ดีกว่านายเยอะ”
“อย่างงั้นน่ะนะดี ไปออฟมาจากไหนล่ะครับท่านผู้บริหาร ดูยังไง ไอ้นั่นมันก็เด็กขายชัดๆ”
“หยุดเลยนะปรมินทร์ อาร์มไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด”
วิศรุตชี้หน้าตะคอกอย่างโมโหสุดขีดที่ปรมินทร์กล้ามองอธิศรไปในทางนั้น แถมถ้อยคำเมื่อครู่มันช่างดูถูกเขาอย่างร้ายกาจ หนุ่มใหญ่ไม่อยากจะเชื่อว่าปรมินทร์จะพาลได้ขนาดนี้
ปรมินทร์ปัดมือคนชี้หน้าออกอย่างโมโหสุดขีดเช่นกัน ทำไมล่ะ ทำไมเขาถึงแตะต้องไอ้หน้าอ่อนนั่นไม่ได้ ตกลงมันเป็นอะไรกับวิศรุตกันแน่
“ผมขอถามพี่อีกคำนะว่านายอธิศรนั่นเป็นอะไรกับพี่ พี่ถึงยอมโกหกผมเพื่อมาเจอมัน”
ชายหนุ่มถามเสียงสั่น ไม่ต่างอะไรกับร่างกายที่สั่นเทิ้มไปด้วยแรงโทสะ
“รับรองว่าซักวันนายได้รู้แน่ปรมินทร์ว่าอาร์มเป็นอะไรกับพี่”
วิศรุตทำใจเย็นตอบ ก่อนจะเบี่ยงตัวเพื่อเลี่ยงเดินหนี
“พี่จะไปไหน คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ”
ปรมินทร์รีบคว้าแขนหนุ่มใหญ่รั้งไว้ ก่อนจะตกใจเมื่อร่างทั้งร่างโดนเจ้าของแขนที่ออกแรงดึงผลักกลับสุดแรงจนเซถลาล้มคมำลงกับพื้น
“จำไว้ อย่ามาทำนิสัยเป็นเจ้าของกับพี่แบบนี้ หากนายอยากให้พี่มองเห็นค่านายอยู่”
คนผลักชี้หน้าบอกกำกับก่อนจะปัดไม้ปัดมือเดินหนีไปโดยไม่สนใจว่าคนข้างหลังกำลังนั่งอึ้งอย่างคนที่รับสถานการณ์ไม่ทัน มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่นิ้วนางของมือข้างขวาจึงได้ยกขึ้นมาดู
เลือดสีสดใหลเป็นทางย้อยจากปากแผลบนปลายสุดของนิ้วยาว มันคงจะโดนของมีคมอะไรซักอย่างที่เจ้าตัวไม่ใส่ใจที่จะหาสาเหตุ เพราะความเจ็บจากแผลตอนนี้มันเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บร้าวในใจ น้ำตาที่เอ่อล้นขอบตาตั้งแต่ต้นจึงพาลรินไหลออกมาอาบสองแก้ม
“อยู่ดีไม่ว่าดีนะคนเรา”
หนึ่งเสียงเอ่ยขึ้นเมื่อคนร้องให้พยายามยันกายลุกยืน ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนพูด เมื่อเห็นชัดว่าเป็นใคร ทำได้แค่เอ่ยครางชื่อเจ้าตัวออกมาเบาๆ
“อธิศร!!!”
.
.
.
“อือหึ ผมอธิศร เด็กขายจากบาร์ไหนดีล่ะ”
คนถูกเรียกชื่อย้อนกลับในสิ่งที่ได้ยินจากการสนทนาเมื่อครู่ เด็กหนุ่มมองต่ำลงที่มือของคนตรงหน้าที่เจ้าตัวพยายามซ่อนไว้ด้านหลัง
“ไม่น่าเชื่อนะว่าพี่วิชญ์จะรุนแรงได้ขนาดนี้ เฮ้อ คบกับเขาตั้งหลายปี ผมไม่เคยได้เลือดเลยซักหยด”
คนมองต่ำบอกกลายๆ คล้ายๆอวดว่าเขากับ..คนรุนแรง...มีสัมพันธ์กับตัวเองมาก่อนนานแค่ไหน
“นายเป็นอะไรกับพี่วิชญ์”
ปรมินทร์ฝีนใจถามเสียงนิ่ง ก้อนสะอื้นมันหลุดหายลงไปในลำคอตั้งแต่เจอหน้าเด็กหนุ่มแล้ว
“อยากรู้จริงๆเหรอ”
อธิศรตอบยิ้มๆ ยิ้มที่ไม่แสดงออกถึงการเป็นมิตร
“ถ้าไม่ได้อยากรู้ฉันจะถามนายหาพระแสงอะไรล่ะ”
ปรมินทร์ตอบกลับอยากหมดความอดทน ทำไมทั้งวิศรุตและอธิศรต้องยียวนกับเขานัก
“จริงๆผมก็อยากจะบอกคุณหรอกนะว่าผมกับพี่วิชญ์เป็นอะไรกัน แต่รอให้ผมแน่ใจอะไรๆก่อนแล้วผมจะบอกคุณ”
“แน่ใจอะไร”
“ก็แน่ใจว่าพี่วิชญ์ไม่ได้ลืมผมน่ะสิ ไม่ว่าจะมีใครวิ่งเข้าหาเขาอย่างคนบ้าคลั่งก็ตาม”
“นี่นายหมายความว่ายังไง นายนอธิศร”
“เรียกผมอาร์มก็ได้ครับ ท่าทางเราจะได้เจอกันยาว”
“ฉันไม่สนิทใจจะเรียกนายได้อย่างคนสนิทหรอกนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าตอนนี้คุณคงกำลังหึงพี่วิชญ์อยู่”
“นั่นมันไม่เกี่ยวกับนาย”
“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ ในเมื่อผมเป็นต้นเหตุ”
“ต้นเหตุอะไร อย่างนายมันก็แค่ของฉาบฉวย นึกเหรอว่าพี่วิชญ์จะคบกับเด็กอย่างนาย”
“เฮ้อ น่าสมเพชจัง ไม่รู้อะไรคุณก็อย่าเพิ่งดูถูกคนอื่นซิครับ คุณปรมินทร์ จะบอกให้นะครับ ว่าคนที่พี่วิชญ์จะไม่คบเดียวมีลักษณะยังไง”
“ทำยังกะนายรู้จักพี่วิชญ์ดีนักเชียว”
“จะให้ผมสาธยายมุมไหนของพี่วิชญ์ให้คุณฟังดีล่ะครับ ความใหญ่ ความยาว หรือว่าลีลาท่าทาง”
ปรมินทร์ถึงกับหน้าร้อนต่อปากต่อคำไม่ถูกเมื่ออธิศรเอ่ยมาทางนี้ ชายหนุ่มเผลอนึกจินตนาการไปต่างๆนาๆ ถึงภาพที่คนพูดสาธยาย ไม่สิ อธิศรคงไม่ได้สัมผัสกับวิศรุตขนาดนั้น
“ผั๊วะ”
เสียงฝ่ามือ เปื้อนเลือด ฟาดเข้ากระทบใบหน้าอธิศรจนเด็กหนุ่มหน้าหันไปตามแรงฟาด
“นายมันโรคจิต”
ปรมินทร์เอ่ยตามหลังเมื่อเห็นคนโดนฝ่ามือตัวเองเริ่มมีรอยนิ้วมือแดงตามใบหน้า คนโดนฝ่ามือยกมือลูบหน้าตัวเองช้าๆ กัดกรามแน่น ข่มอารมณ์โมโหที่กำลังจะปะทุ แต่ดูเหมือนจะข่มยากเต็มที ยิ่งรู้สึกถึง เลือดจากมือคนฟาดฝ่ามือ เปรอะอยู่บนใบหน้าก็ยิ่งเพิ่มอารมณืโกรธให้ถึงจุดเดือด
“ถือว่าฉันสั่งสอนเด็กแล้วกัน”
ปรมินทร์เอ่ยขึ้นอีกก่อนที่จะเบี่ยงตัวทำท่าจะเดินหนี แต่แล้วก็ต้องตกใจปนเจ็บปวดเมื่ออธิศรรีบคว้ามือข้างที่เจ็บขึ้นมาบีบสุดแรง ชายหนุ่มร้องโอ้ยเสียงดังเมื่อคนบีบใช้นิ้วมือจิกที่แผล
“จำความเจ็บครั้งนี้ไว้นะ ต่อไปมึงจะเจ็บกว่านี้หลายเท่า เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกับคนอย่างกู”
คนจิกปากแผลขู่อย่างหยาบคาย ปรมินทร์มองสบตาท้าทาย แม้จะเจ็บจนน้ำตาคลอ ก่อนจะรีบใช้มือข้างที่ว่างมากุมปิดปากแผลเพื่อห้ามเลือดเมื่อมือนั่นเป็นอิสระ
“โธ่เอ้ย นึกว่าจะแน่”
อิศรเอ่ยเยาะหยันเมื่อสะบัดมือคนเจ็บออกแล้ว ปรมินทร์มัวแต่ห้ามเลือดให้แผลที่เริ่มฉีกขาดมากกว่าเดิม จึงไม่ได้สนใจว่าคนยิ้มหยันเดินหนีไปตอนไหน มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งใกล้เข้ามา จึงหันไปมอง จึงรู้ว่าเป็น รปภ ห้าง
“ผมไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก”
ชายหนุ่มบอกเมื่อโดนถามไถ่อาการ ก่อนจะพามือโชกเลือดตัวเองเดินแกมวิ่งไปทางห้องน้ำ
“ปักษ์”
วิศรุตเอ่ยทักเมื่อเกือบจะชนเข้ากับร่างคนที่เดินก้มหน้ากุมมือผ่านหน้าระหว่างประตูทางเข้าห้องน้ำ เจ้าของชื่อ หยุดมองคนเรียกแค่แวบ ก่อนจะเดินผ่านเข้าไปจัดการล้างคราบเลือดบนอ่างล้างมือท่ามกลางสายตาคนมอง หนึ่งในนั้นมีวิศรุตรวมอยู่ด้วย หนุ่มใหญ่สับสนลังเลชั่วขณะ ทำท่าว่าจะเดินเข้าไปดูอาการแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีคนเข้าไปดูก่อน
“เป็นอะไรมาครับคุณ แผลลึกนะครับเนี่ย”
ปรมินทร์เงยหน้ามองคนถาม เป็นชายวัยน่าจะใกล้เคียงวิศรุต ชายหนุ่มไม่ตอบคำถาม แต่มองเลยไปยังคนของตัวเองที่มัวแต่ยืนนิ่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหนีออกไปอย่างคนสีหน้าไร้ความรู้สึก คนมองตามแทบเข่าอ่อน เขาเป็นขนาดนี้ ฝ่ายนั้นยังเฉยได้อย่างร้ายกาจ
“ท่าทางเลือดไหลไม่หยุดเลย อย่างนี้คงต้องเย็บแล้วนะครับ”
พลเมืองดีเอ่ยต่อ ปรมินทร์จึงหันมาสนใจเจ้าตัว แต่ก็ใช่ว่าชายหนุ่มจะซาบซึ้งใจ จากสายตาวิศรุตเมื่อครู่ทำให้ชายหนุ่มนึกพาลได้อย่างไม่เลือกหน้า
“แค่นี้ไม่ตายหรอก ไม่ต้องมายุ่งกับผม ขอบคุณที่แนะนำ”
พูดจบคนพาลก็ควักผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กของตัวเองกุมบาดแผลเดินออกจากห้องน้ำอย่างไม่สนใจใคร แน่ล่ะ คนที่เขากำลังสนใจ คงกำลังไปไหนได้ไม่ใกลหรอก
ภาพที่วิศรุตกำลังยื่นผ้าผืนเล็กให้อธิศรอยู่ไม่ใกลสายตา ทำให้คนมองเห็นแทบล้มทั้งยืน แต่พยายามพยุงสติตัวเองไว้ รวบรวมความกล้าตรงดิ่งเดินเข้าไปหา แต่
“หยุดเลยนะปักษ์ ไปกลับกับบ้านกะฉันเดี๋ยวนี้”
อานนท์นั่นเองที่เข้าห้ามกองทัพอารมณ์เดือด ปรมินทร์สบัดแขนให้หลุดจากการโดนรั้ง แต่ไม่เป็นผล เมื่อคนรั้งออกแรงดึงลากไปทางอื่น
“ปล่อยฉันนะอานนท์ แกจะพาฉันไปไหน ปล่อยฉัน”
คนโดนลากระเบิดเสียงออกมา อานนท์แม้จะอายแสนอาย แต่ก็ฝืนใจลากเพื่อนที่วีนเอาเรื่องไปยังที่ลับตาคนจนได้
“ปักษ์นี่”
วิศรุตได้ยินเสียงร้องเมื่อครู่หันไปมอง เห็นหลังไวไวว่าเป็นคนคุ้นตา จึงคิดจะเดินตามไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ปรมินทร์บ้าอะไรขึ้นมาอีก แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เข้าไปดูปรมินทร์ตรงอ่างล้างมือเดินออกมาดูและมองตามทางที่ปรมินทร์โดนลากไป
“ไปล้างหน้าล้างตาเถอะอาร์ม หนังจะฉายแล้ว”
หนุ่มใหญ่เปลี่ยนใจหันมาคุยกับคนข้างตัว เขายังไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับอธิศร แต่เห็นรอยนิ้วบนหน้าก็รู้ชัดว่าอธิศรคงโดนใครทำร้ายมา แต่ใครทำล่ะ หรือว่าจะเป็นปรมินทร์ ไม่สิ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงรับไม่ได้แน่ๆ หนุ่มใหญ่มัวแต่คิดถึงสาเหตุรอยนิ้วบนใบหน้าอดีตคนรักจนลืมนึกถึงหยดเลือดที่ออกมาจากปากแผลคนรักคนปัจจุบัน
.
.
.
.

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าเจ็บไปมากกว่านี้อีกเลย  :a6:  :a6:  :a6:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
แบบนี้มันต้องแก้แค้นแสบๆ  อย่าไปโวยวายละ
คุมสติไว้ เด๋วดีเอง คิกๆ
เอามันให้แสบกันอิพี่วิชญ์แล้วก็อิตาอาร์มนั่นแหละ
จะได้เข้ากับชื่อเรื่อง

รออ่านต่อหมูพูห์  :a2:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
คอยหาวิธีแก้แค้นเอาดีกว่า เหอๆ -.-

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แบบนี้ต้องปล่อยให้โง่โดนหลอกไปซะเลย แล้วค่อยจัดการทั้งคู่ (ตายและออกแนวจิตป่าวเนี่ย)

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่านแล้วใจเสียยังไงๆก็มะรู้

ปักต์อ่อนแอขี้โวยวายเกินไป

สมควรแล้วละที่จะโดนแบบนี้

ทำไรไม่มีสมอง เบื่อจังคนแบบนี้

คราวหน้าอาร์ม เอาให้ตายไปเลยนะ อิอิ

 :impress: :impress: :impress:


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

ตอนที่ 4

อานนท์จับปรมินทร์ยัดใส่ในรถเจ้าตัวจนได้ ก่อนจะคะยั้ยคะยอเอากุญแจเจ้าของรถมาเพื่อจะขับไปส่งเจ้าตัวเพื่อพาไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านแต่เจ้าตัวไม่ไห้ แถมยังโวยลั่นทั้งน้ำตา
“แกลากฉันมาทำไมอานนท์ ทำไมแกไม่ไห้ฉันไปจัดการพวกมัน”
“จัดการ จัดการยังไง แกมีสติหน่อยสิ แกเป็นอะไรไป แกกำลังจะเป็นบ้าเหรอปักษ์ ทำไมไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง ดูสภาพตัวแกซิน่ะ ได้เลือดได้แผล แถมร้องให้จนตาบวมอีก เพื่ออะไร แกเป็นแบบนี้เท่ากับแกฆ่าตัวตายชัดๆเลยนะ พี่วิชญ์เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว แกจะทำให้เขาสมเพชแกหรือไง”
คนโดนโวยใส่เป็นชุด ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเพื่อน แต่นี่มันที่สาธารณะ ปรมินทร์ทำให้เขาแทบแทรกแผ่นดินเพราะอายในเหตุการณ์เมื่อครู่
“แกพูดแกก็พูดได้อานนท์ แกไม่ได้เป็นฉันแกไม่รู้หรอก ว่าสิ่งที่พี่วิชญ์ทำกับฉันมันทำให้ฉันเจ็บขนาดไหน นี่แกเห็นมั๊ยนี่ว่ามันคืออะไร แผลนี้เขาเป็นคนทำฉันชัดๆ แล้วที่มันฉีกขาดขนาดนี้เพราะใครแกรู้มั๊ย เพราะไอ้เด็กนั่น เด็กที่พี่วิชญ์ยืนเอาอกเอาใจยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เลือดฉันไหลเป็นทางจะถามฉันซักคำว่าเป็นอะไรมาพี่วิชญ์ก็ไม่ถาม แต่ไอ้เด็กนั่น มันเป็นอะไรกับพี่วิชญ์กันแน่ ฉันอยากรู้ ฉันอยากรู้ อานนท์ฉันอยากรู้”
ร่างทั้งร่างทรุดลงร้องให้ฟูมฟายกับพื้นเมื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจจนหมด อานนท์เห็นสภาพเพื่อนแล้วอดสังเวชไม่ได้ นี่หรือเปล่าที่เขาเรีกกันว่าพิษรัก ปรมินทร์คนเก่าหายไปไหน คนที่เคยมั่นใจเฮไหนเฮนั่นกับเขา อยู่ไหนกัน
“ปักษ์ ฟังฉันนะ วันนี้ฉันว่าแกกลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านแกก่อนนะ ใจเย็นๆ นะเชื่อฉัน”
ชายหนุ่มนั่งลงปลอบเพื่อนที่สะอื้นจนตัวโยน ก่อนจะสะเทือนใจในคำพูดที่ได้ยิน
“อานนท์ แกคิดว่าพี่วิชญ์จะเกลียดฉันมั๊ย พี่วิชญ์จะเลิกรักฉันมั๊ย ฉันยังไม่อยากเลิกกับเขานะอานนท์ ฉันรักพี่วิชญ์ ฉันรักพี่วิชญ์”
“อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นเลยนะปักษ์ เอาเป็นว่าวันนี้แกกลับบ้านไปก่อน พรุ่งนี้แกอาจจะใจเย็นลง อย่างที่บอกพี่วิชญ์เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วพูดกับเขาต้องมีเหตุผลไม่ใช่ใช้อารมณ์ นะวันนี้กลับบ้านก่อน”
ปรมินทร์หยุดสะอื้น นึกทวนเหตุการณ์ที่ตัวเองทำวันนี้ ก่อนจะปาดน้ำตาลวกๆอย่างคนมีความหวัง ใช่สิ เขาต้องมีเหตุผล เขาต้องใจเย็น เขาต้องทำให้วิศรุตกลับมาสนใจเขาดังเดิม ดังคืนนั้น คืนที่เขาเคยได้ใจหนุ่มใหญ่มา
.
.
.
.
เสียงครางของความกระสันต์ของร่างสองร่างที่กอดกายกันอยู่บนเตียงกว้างดังประสานกันลั่นห้องเมื่อต่างฝ่ายต่างบรรเลงเพลงรักกันอย่างถึงรสถึงชาติ
“พี่วิชญ์ยังรักผมอยู่หรือเปล่าครับ”
อธิศรกระซิบกระซาบถามคนที่กอดรัดกายที่เปลือยเปล่าของเขาด้วยน้ำเสียงกระเส่า ไม่ต่างจากคนโดนถามที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวกัน
“รักซิครับ อาร์มทำให้พี่มีความสุขมากเลยรู้มั๊ย”
“อย่างงั้นเลยเหรอครับ”
“ครับ พี่ไม่มีความสุขอย่างนี้มานานแล้ว”
“ผมก็เหมือนกันครับ พี่วิชญ์ยังคงเก่งเหมือนเดิม ผมรักพี่วิชย์ครับ”
บทสนทนาขาดหายไปเมื่อต่างฝ่ายต่างบดขยี้ริมฝีปากเข้าหากันและกันอย่างเร่าร้อน ก่อนที่เพลงรักจะบรรเลงไปอย่างที่มันควรจะเป็น
.
.
.
.
.
.
ปรมินทร์นอนกระสับกระส่าย หลายครั้งที่ชายหนุ่มถึงกับใช้มือก่ายหน้าผาก ผุดลุกผุดนั่ง อย่างคนที่จิตใจไม่อยู่กับตัว หัวใจมันอยากรู้ว่าตอนนี้คนที่ตัวเองคิดจะขอโทษกำลังทำอะไรอยู่
วิศรุตจะกำลังคิดถึงเขาอยู่หรือเปล่านะ คิดสิ วิศรุตคงต้องกำลังนั่งคิดนอนคิดถึงเหตุการณ์วันนี้อยู่แน่ๆ ป่านนี้จะนอนหลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ เขานี่นะ ไม่น่าทำตัวไร้เหตุผลเลย ถ้าเขามีเหตุผลมากกว่านี้วิศรุตก็คงจะไม่พูดจาทำร้ายจิตใจเขาแน่ๆ และก็คงจะไม่เฉยชากับเขาแบบนี้ นายอธิศรนั่นก็อาจจะเป็นแค่เด็กที่วิศรุตอาจจะคบแค่ฉาบฉวย เขาไม่น่าลดค่าตัวเองไปใส่ใจกับมันเลยให้ตายสิ
คนคิดได้ค่อยๆเบาใจ ก่อนจะยอมให้ร่างกายหลับลงไปอย่างอ่อนเพลีย คิดว่าพรุ่งนี้อะไรๆคงจะดีขึ้น หากเขาจะทำตัวเป็นคนที่ไม่ขี้วีนอย่างเช่นเมื่อช่วงเย็น
เสียงโทรศัพท์มือถือที่เปิดทิ้งเอาไว้ ดังขึ้นในขณะที่หลับลงได้ไม่ทันไร ชายหนุ่มงัวเงียขึ้นมาเอื้อมมือหยิบมาดู อาการงีบง่วงหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อหน้าจอเรืองแสงที่สว่างวาบในความมืดโชว์ชื่อคนที่โทรเข้ามาแผ่หรา
“พี่วิชญ์โทรมา”
ปรมินทร์ครางออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ รอยยิ้มกว้างผุดเต็มใบหน้าชายหนุ่ม ฝ่ายนั้นคงคิดได้ว่าทำผิดอะไรกับเขาไว้แล้วซินะ นี่คงจะโทรมาขอโทษล่ะสิ
“สวัสดีครับพี่วิชญ์”
คนยิ้มกว้างกรอกเสียงใสไปตามสายเมื่อกดรับสัญญาณ ปลายสายเงียบไปอึดใจก่อนจะตามมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก
“พี่วิชญ์ครับ”
คนทักทักใหม่ก่อนที่รอยยิ้มจะเริ่มจางลง แล้วเปลี่ยนเป็นหุบลงในที่สุด เมื่อได้ยินเสียงปลายสายชัดขึ้นมาเรื่อยๆ มันไม่ใช่เสียงทักที่หวังจะได้ยิน แต่มันเป็นเสียงครางกระเส่าของคนสองคน และเสียงซี้ดส์ปากที่ต่างฝ่ายต่างร้องเรียกชื่อกันระงมระหว่าง
“พี่วิชญ์ เร่งอีกครับ ซี๊ดดดส์ ผม เสียวจังครับ พี่วิชญ์เสียวมั๊ยครับ”
“ครับ อาร์ม ซี๊ดดส์ พี่เสียวครับ อาวววว์ พี่รักอาร์มจัง”
“ผมก็รักพี่ครับ พี่วิชญ์ ซี๊ดดดดดดส์ พี่วิชญ์ สุดยอดเลยครับโอ้ยยย ผมจะเสร็จแล้วครับ”
..
..
..

nanao

  • บุคคลทั่วไป
เหอ ๆ  ร้ายกาจจริง ๆ  o12

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
โหยยย  อาร์มแกล้งอะดิ  ตบมานนนนนนนน :angry2:
คนแบบนี้มันไม่น่าที่จะรักแล้วนะ  หยุดรักเหอะ

รออ่านต่อน้า   หมูพูห์  :a2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อธิศร นายร้ายมากกกกกกกกกกกกกกกกก  :try2:  :try2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
..
..
ปรมินทร์ตัวชาวูบ หน้าร้อนผ่าว ก้อนสะอี้นไหลรื้นขึ้นจุกหน้าอก ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น ถ้อยคำสนทนาที่ปนมากับเสียงครางกระเส่า และเสียงกระแทกกระทั้นเนื้อกายใส่เนื้อกายทำเอาหัวใจเต้นรัวสั่นอย่างยากที่จะคุมอยู่ ชายหนุ่มฟาดโทรศัพท์เปรี้ยงใส่ฝาผนังห้องจนชิ้นส่วนแตกกระจุย ก่อนจะฟูมฟายร้องให้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง โคมไฟหัวเตียง นาฬิกาปลุก หรืออะไรก็ตามที่ใกล้มือถูกจับเหวี่ยงโยนกระแทกพี้น ฝาผนังอย่างคนเสียสติ ปากก็พร่ำเพ้อออกมาปนสะอื้น
“พี่วิชญ์ ทำไมพี่ทำกับผมได้ ทำไมพี่ทำกับผมแบนี้ ทำไม “
อาการบ้าคลั่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อคนคลั่งนึกถึงเสียงสนทนาเมื่อครู่ของคนสองคนที่คงกำลังเสพสวาทกันอย่างสุขสมก่อนที่อาการจะชงักลงเมื่อฝ่าเท้าเหยียบเข้ากับเศษแก้วเศษกระจกที่แตกเกลื่อนห้อง
ด้านนอกเสียงเคาะประตูห้องดังรัวติดกันยาว แต่คนในห้องไม่มีสติที่จะรับรู้หรือมีแรงที่จะพยุงตัวเองไปเปิดได้ เมื่อร่างทั้งร่างเริ่มชักกระตุกก่อนสติจะดับวูบลงไปในที่สุดพร้อมๆกับเลือดที่ใหลโชกเต็มฝ่าเท้า
.
.
.
.
.
“อาวว์ ผมมีความสุขที่สุดเลยครับพี่วิชญ์”
อธิศรนอนแผ่หราโชว์กายเปล่าเปลือยเมื่อบทรักร้อนแรงได้ผ่านพ้นไปอย่างสุขสม เด็กหนุ่มลอบยิ้มขณะคนข้างตัวหลับตาเพื่อไล่ความเพลีย วิศรุตมัวแต่ถาโถมโรมรันหลับหูหลับตากระแทกกระทั้นเนื้อกายใส่เขาจนไม่รู้ว่าเขาแอบทำสิ่งใดลงไปขณะที่เสียงครางกระสันต์กำลังได้ที่ ป่านนี้ปรมินทร์คงกำลังเจ็บปวดทุรนทุรายแล้วสินะ สาแก่ใจจริงๆ
.
.
.
.
อานนท์รุดเข้าเยี่ยมปรมินทร์ที่ถูกนำตัวเข้าโรงพยาบาลกลางดึก ชายหนุ่มรับรู้อาการจากหมอว่าเจ้าตัวเกิดอาการเครียดหนักจนถึงขั้นช็อคหมดสติ จากผลการตรวจร่างกายทุกอย่างโดยรวมปกติดีเว้นเสียแต่บาดแผลที่เกิดจากรอยบาดจากของมีคมที่ฝ่าเท้า และรอยปริแยกของแผลเก่าที่นิ้วมือ สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือสภาพจิตใจที่อ่อนแอของเจ้าตัว
“เกิดอะไรขึ้นปักษ์”
คนรุดเยี่ยมเอ่ยถาม เมื่อเห็นคนนอนบนเตียงลืมตาได้สติขึ้นมาแล้ว
“อานนท์ พี่วิชญ์ พี่วิชญ์”
ปรมินทร์ทำท่าจะฟูมฟายเมื่อเห็นหน้าเพื่อน ชายหนุ่มพยายามจะผุดนั่ง แต่ลำบากที่เข็มน้ำเกลือที่ทิ่มอยู่หลังมือ อานนท์เลยเอ่ยห้าม แต่เจ้าตัวไม่ฟัง รั้นที่จะลุกนั่ง คนห้ามจึงปล่อยเลยตามเลย ก่อนจะยืนรับฟังถ้อยคำที่คนรั้นระบายออกมาทั้งน้ำตาพลางฟูมฟาย คล้ายๆจะคลั่งขึ้นอีกรอบ
“ปักษ์ ฟังฉันนะ แกใจเย็นๆ ที่แกเป็นแบบนี้เพราะแกควบคุมตัวเองไม่อยู่นะ แกต้องเข้มแข็งสิ”
คนเห็นอาการตรงเข้าปลอบ ยอมรับว่าสะเทือนใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ปรมินทร์ก็น่าที่จะเข้มแข็งกว่านี้
“แกจะให้ฉันเย็นยังไงไหว สองคนนั่นไม่ได้นอนด้วยกันอย่างเดียว พวกมันยังบอกรักกันให้ฉันได้ยินอีก ฉันจะไปดูพวกมันอานนท์ ฉันอยากเห็นหน้าพวกมัน”
ปรมินทร์โวยวายพลางทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียงจริงๆ อานนท์จึงรีบเข้ารั้งตัวไว้ แต่ก็โดนสะบัดออก ชายหนุ่มจึงตวาด
“แกบ้าไปแล้วเหรอปักษ์ สภาพแกตอนนี้ดูได้ที่ไหน เข็มน้ำเกลือก็ทิ่มมืออยู่ แล้วฝ่าเท้าแกเป็นแผลเหวอะขนาดนี้แกจะไปไหนได้ยังไง”
“ถึงเดินไม่ได้ฉันก็จะคลานไปอานนท์ พี่วิชญ์ทำกับฉันขนาดนี้ ฉันต้องเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่อง”
“เคลียร์ยังไง แกรู้เหรอว่าสองคนนั่น เขา เอ่อ นอนด้วยกันอยู่ที่ไหน”
“บ้านพี่วิชญ์ไง ฉันคิดว่าพวกมันต้องอยู่กันที่นั่นวันนี้เป็นไงเป็นกันสิ ฉันจะต้องเคลียร์กับพี่วิชญ์ให้รู้เรื่อง”
“เลิกคิดบ้าๆ แล้วก็นอนพักผ่อนซะปักษ์ ฉันไม่ยอมให้แกไปไหนทั้งนั้น “
“แกห้ามฉันไม่ได้หรอกอานนท์ ยังไงคืนนี้ฉันต้องไปเคลียร์กับพี่วิชญ์ให้ได้”
“ฉันไม่ต้องออกแรงห้ามแกหรอก สภาพแกตอนนี้ แกไปไหนไม่ได้หรอก”
ปรมินทร์ก้มมองสำรวจสภาพตัวเอง นึกสมเพชปนเจ็บปวดกับร่างกายที่ต้องมานอนให้หมอทิ่มเข็มน้ำเกลือ ชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างปาดน้ำตาลวกๆ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะยอมนอนราบลงกับเตียง แต่ก็ไม่ลืมที่จะถามเพื่อนสนิทที่ยืนมองอยู่เมื่อสายตาเหลือบเห็นอะไรบางอย่างที่โผล่ออกมานอกกระเป๋ากางเกงด้านหน้าของเจ้าตัว
“คืนนี้แกจะนอนเป็นเพื่อนฉันมั๊ยอานนท์”
“ก็ต้องนอนสิ แกเป็นอย่างนี้ ฉันจะกล้าไปไหน”
คนโดนถามตอบพลางเดินเข้าไปใกล้คนถาม หวังจะขยับสายน้ำเกลือให่เข้าที่ แต่ต้องชงักเมื่อโดนถามใหม่
“แกจอดรถไว้ไหน”
“หน้าตึกแกถามทำไม”
“ก็แค่อยากรู้เผื่อพรุ่งนี้ฉันจะติดรถแกกลับบ้าน”
“แล้วไง”
“อ้าว ก็ฉันจะได้รู้ไงว่าฉันจะต้องเดินไปไหนยังไง แกก็เห็นนี่ว่าเท้าฉันเป็นยังไง”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย โรงพยาบาลที่นี่เขาคงไม่ปล่อยให้คนป่วยเดินกระโผกกระเผกไปขึ้นรถเองหรอก”
“ฉันเองก็คงไม่อยู่รอให้เขาเข็นฉันขึ้นรถหรอกอานนท์”
สิ้นคำ ปรมินทร์กัดฟันแน่น ตัดสินใจกระชากเข็มน้ำเกลือออกจากมือจนเลือดพุ่ง ชายหนุ่มร้องโอ้ยเมื่อพ้นพันธนาการ ก่อนออกแรงผลักอานนท์ให้ล้มลงโดยที่ไม่ลืมที่มือจะฉวยหยิบพวงกุญแจรถที่มองเห็นก่อนหน้า ร่างทั้งร่างผุดลุกจากเตียงวิ่งกระเผกๆออกไปด้านนอก โดยไม่รอให้คนที่ล้มลงที่พื้นตั้งตัว
“ปักษ์ แกจะไปไหน แกอย่าทำอะไรบ้าๆนะ”
อานนท์ลุกผลุนผลันเปิดประตูคิดจะวิ่งตาม แต่แล้วชายหนุ่มถึงกับเข่าอ่อนกับภาพที่เห็น ปรมินทร์วิ่งหลบหลีกการจับตัวทั้งๆที่ขายังกระแผกๆ รอยเลือดที่หยดตามทางทำชายหนุ่มอ่อนใจ พิษรักแรงหึงมันกำลังเล่นงานเพื่อนเขาซะแล้ว
ปรมินทร์พาตัวเองไปที่รถเพื่อนซี้จนได้อย่างเหนื่อยหอบ ชายหนุ่มขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับได้ ก็สตาร์ทเครื่องกระชากเกียร์ออกรถอย่างคนไม่นึกกลัวอะไร จิตใจที่ร้อนรุ่มตอนนี้มันนำหน้าไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้แล้ว
.
.
.
.

nanao

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ ทำไมถึงทำแบบน้อ

สติ ๆ ตั้งสติเข้าไว้  :a1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :try2:
ไฟรักเผาใจมอดไหม้ ทิ้งไว้เพียงซากเถ้าถ่าน
รักไม่สมหวังร้าวราน เผาผลาญวิญญาอาวรณ์

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เฮ้อคนเรา เป็นไปได้มากขนาดนี้เลยเหรอ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
 :m29:
ไฟรักของจริง
ร้อนซ้า

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
:try2:
ไฟรักเผาใจมอดไหม้ ทิ้งไว้เพียงซากเถ้าถ่าน
รักไม่สมหวังร้าวราน เผาผลาญวิญญาอาวรณ์

.............เห็นด้วยกะพี่ทิพย์.......... o7 o7

pueng1111

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อเร็วๆนะ

อยากอ่านต่อง่า :m5:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 5


เสียงออดหน้าบ้านดังยาวสลับกับการถูกกดย้ำเป็นช่วงๆ ทำเอาสองร่างที่กำลังตะกองกอดกันหลับอยู่อย่างมีความสุขต้องงัวเงียลุกขึ้น
“ใครมาดึกป่านนี้”
เจ้าของบ้านเอ่ยก่อนอย่างหัวเสีย นึกสงสัยว่าคงมีใครกดออดผิดบ้าน เพราะยามวิกาลเช่นนี้เขาไม่เคยได้ยินเสียงออดเลย
“ลงไปดูหน่อยสิครับพี่วิชญ์”
อธิศรเอ่ยแนะ พลางซ่อนยิ้มร้ายไว้ในความมืด เสียงออดที่ดังแบบนี้จะใครซะอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่เหยื่อวิ่งร่านมาให้เชือด
“อืม เดี๋ยวพี่ไปดูเอง อาร์มนอนต่อเถอะ”
วิศรุตบอก ก่อนจะลุกหยิบชุดคลุมสวมเดินออกจากห้อง คล้อยหลังคนถูกบอกให้นอนกระโดดลงจากเตียง จัดการสวมเสื้อผ้าเดินตามออกไปเช่นกัน
ไฟหน้าบ้านที่ถูกเปิดทิ้งไว้แสงของมันที่สาดเข้าร่างคนกดออดทำเอาวิศรุตชงักเมื่อมองเห็น ภาพที่เห็นคือปรมินทร์กำลังยืนเกาะประตูรั้วหน้าบ้านเขาอยู่ หนุ่มใหญ่แหงนมองขึ้นไปทางที่ตัวเองเดินลงมา เมื่อได้ยินเสียงฝีก้าวตามหลัง
“อะไรกันวะเนี่ย”
ชายหนุ่มสบถเมื่อสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ปรมินทร์มาหาเขาทำไมตอนนี้ ทั้งๆที่เขาเคยบอกแล้วว่าถ้าเขาไม่ชวนก็ห้ามมา และฝ่ายนั้นก็ปฎิบัติตามมาตลอด แล้วนี่มันยังไง
“ใครมาเหรอครับพี่วิชญ์”
อธิศรแสร้งถามเสียงดังเมื่อเดินมายืนคู่เจ้าของบ้านท้าสายตาคนที่ยืนเกาะรั้ว
ปรมินทร์แทบคลั่งเมื่อมองเห็นภาพบาดตาตรงหน้า ชายหนุ่มเขย่ารั้วตะโกนเสียงดัง
“เปิดประตูนะพี่วิชญ์ ผมต้องการเคลียร์กับพี่”
“นั่นปรมินทร์นี่ครับพี่วิชญ์ ยังไงครับนี่”
อธิศรแกล้งงง วิศรุตคิดว่าคนข้างกายกำลังวิตกงงงวยจริงๆ จึงรีบเอ่ย
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรยังไง”
พูดจบหนุ่มใหญ่จึงเดินออกไปเปิดประตูบ้านก่อนที่คนคลั่งข้างนอกจะเสียงดังให้ใครๆได้ยิน
ผั๊วะ !!! เสียงฝ่ามือฟาดกระทบใบหน้าคนเปิดประตู ทันทีที่คนข้างนอกผ่านพ้นเข้ามาข้างในได้
“นี่มันอะไรน่ะปักษ์ มาตบพี่ทำไมเนี่ย”
คนโดนตบตวาดถามอย่างโกรธจัด เริ่มรู้สึกชาที่ใบหน้า ก่อนจะกลายเป็นร้อนวูบวาบเมื่อคนตบต่อว่าเสียงดัง
“เลว สารเลวที่สุด พี่ทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างมั๊ย”
คนต่อว่าเงื้อมือจะตบซ้ำ แต่คราวนี้ต้องหน้าหงายซะเองเมื่อโดนฝ่ามือใหญ่ฟาดสวนกลับมาซะก่อน ตามด้วยเสียงตะคอก
“ออกไปจากบ้านพี่เลยนะปรมินทร์”
“นี่พี่ตบผมเหรอพี่วิชญ์”
คนโดนไล่หลังโดนฝ่ามือเอ่ยถามทั้งน้ำตา ฝ่ามือที่วิศรุตฟาดมามันรุนแรงซะจนชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าเลือดกำลังไหลซึมมุมปาก
วิศรุตนิ่งงันไปซักพัก เมื่อเริ่มสังเกตเห็นใบหน้าคนที่เขาฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าสุดแรงเกิดเพราะความโกรธกำลังเริ่มแดงช้ำ หนำซ้ำเลือดสีสดกำลังใหลซึมตรงมุมปาก
“เกิดอะไรขึ้นพี่วิชญ์”
อธิศรตรงเข้าหาคนทั้งคู่ แต่เลือกที่จะยินข้างเจ้าของบ้าน ถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปรมินทร์จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เด็กหนุ่มแทนการสู้สายตากับคนรัก
“เพราะนายคนเดียวพี่วิชญ์ถึงเปลี่ยนไปแบบนี้”
อธิศรเข้าหลบหลังวิศรุตทันทีที่เห็นว่าปรมินทร์กำลังจะพุ่งตรงมาที่ตัวเอง วิศรุตเองก็เห็นเช่นนั้น จึงเข้ารวบแขนรวบมือปรมินทร์ไว้
“ปล่อยผม พี่วิชญ์จะปกป้องมันไว้ทำไม พี่ลืมแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน”
คนโดนจับมือรวบแขนโวยวายฟูมฟาย พลางสะบัดดิ้นเพื่อที่ตัวเองจะได้หลุดจากพันธนาการ แต่ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นก็เหมือนว่าตัวเองจะโดนบีบมือแน่น
“โอ้ยยยยยยยยย”
คนดิ้นร้องโอ้ยลั่นเมื่อโดนคนจับออกแรงผลักจนตัวเซถลาล้มลงหลังครูดกับขอบรั้วจนรู้สึกเหมือนจะได้แผล
“พี่วิชญ์ ทำไมรุนแรงขนาดนี้ล่ะครับ”
อธิศรแสร้งเอ่ยทักเมื่อเห็นสภาพปรมินทร์นั่งสิ้นฤทธิ์ หน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดตามร่างกาย
วิศรุตมองคนที่นั่งหมอบที่พื้นชัดๆจึงเริ่มสังเกตเห็นว่าเนื้อตัวเจ้าตัวเปรอะไปด้วยเลือด ตั้งแต่ตามหลังมือ นิ้วมือลามไปถึงสื้อผ้าที่สวมมา ใช่สิ นั่นมันชุดโรงพลยาบาลนี่นา หนุ่มใหญ่มองไล่ตามตัวมาจนถึงฝ่าเท้าที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าที่ตอนนี้ชุ่มไปด้วสีแดงของเลือด
“ปักษ์ ปักษ์เป็นอะไรมา”
ชายหนุ่มเอ่ยปากถามไปโดยอัตโนมัติ คนโดนถามแหงนหน้าขึ้นมองสบตา
วิศรุตถึงกับสะท้านเมื่อได้เห็นแววตาที่ไม่เคยเห็นจากปรมินทร์ มันแข็งกร้าวอย่างน่ากลัว แม้ภายใต้แววตานั้นจะชุ่มไปด้วยน้ำตานักก็เถอะ
“ตายล่ะ จะฟันหักมั๊ยล่ะนั่น พี่วิชญ์ตบเขาซะเลือดกลบปากเชียว”
อธิศรรีบท้วงเมื่อเห็นวิศรุตนิ่งงันไป เขาจะปล่อยให้หนุ่มใหญ่หวั่นไหวไปกับแววตาของปรมินทร์ไม่ได้
คนถูกทักยกมือปาดลิ่มเลือดช้าๆ ค่อยๆพยุงตัวเองลุกยืน วิศรุตทำท่าจะเข้าพยุงแต่อธิศรรั้งแขนไว้พลางเอ่ย
“เขาอาจจะซ่อนอะไรไว้ข้างหลังเพื่อทำร้ายเราก็ได้นะพี่วิชญ์”
คนโดนรั้งหลงเชื่อ เพราะท่าทีและแววตาปรมินทร์ตอนนี้น่ากลัวเหลือเกิน หนุ่มใหญ่จึงยืนมองฝ่ายนั้นยันกายลุกยืนอย่างยากลำบาก ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยกับเขาทั้งน้ำตาเมื่อพยุงตัวเองได้สำเร็จ
“ในที่สุด ผมก็ได้รู้ซะทีว่าพี่หมดรักผมแล้วจริงๆ”
“ปักษ์”
วิศรุตครางชื่อคนพูดออกมาเมื่อรู้สึกตื้อจนพูดอะไรไม่ออก นี่เขาเป็นอะไรอยู่ หนุ่มใหญ่นึกสงสัยตัวเอง
“ขอโทษนะครับที่มารบกวน ต่อไปเราคงไม่เจอกันอีก”
ปรมินทร์กัดฟันพูดอีกทั้งน้ำตา ก่อนจะหันหลังเดินกะเผกๆออกไปนอกรั้วบ้าน
“โหเลือด”
อธิศรทักขึ้นอีกเมือเห็นเบื้องหลังคนกะเผกเดินชัดเจน เสื้อโรงพยาบาลขาดวิ่นตามด้วยรอยแผลที่ถูกกรีดด้วยอะไรบางอย่างเลือดโทรม วิศรุตถึงกับใจสั่นเมื่อมองเห็นอย่างที่อธิศรเห็น หนุ่มใหญ่โผตามไปฉุดมือคนเจ็บไว้ แล้วรีบเอ่ย
“ปักษ์ พี่ขอโทษ”
ปรมินทร์ฝืนยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่คนเห็นถึงกับสะท้าน ก่อนจะสะดุ้งหน้าหันเมื่อฝ่ามือเปื้อนเลือดฟาดตอบกลับมาแทนคำพูด ครั้งนี้มันแรงกว่าครั้งแรกหลายเท่าตัวอย่างที่รู้สึกได้จนเริ่มชาที่ปากและรู้สึกว่าตัวเองกำลังได้เลือดเช่นกัน
“นี่คุณ ทำร้ายคนอื่นอีกแล้วนะ”
อธิศรเหลืออดกับภาพที่เห็นจึงพุ่งตรงเข้าหา...คนทำร้ายคนอื่น... แต่เด็กหนุ่มยังไม่ทันที่จะทำอะไรก็ต้องหน้าหันไปอีกรายเมื่อคนที่ตรงพุ่งเข้าหาสวนฝ่ามือเปรี้ยงเข้าให้ซะก่อน
“อย่าคิดว่ากูจะยอมนะมึง”
คนโดนตบอีกราย โกรธจนหลุดคำหยาบพลางคิดที่จะเอาคืน แต่แล้วความต้องการกลับต้องชงักเมื่อมือที่เงื้อขึ้นถูกจับไว้จากคนกลาง
“ปล่อยผมนะพี่วิชญ์ ผมจะสั่งสอนมัน”
คนโดนจับมือคำรามลั่น คนจับจึงตวาดกลับเช่นกัน
“ที่เห็นอยู่ยังไม่พอใจอีกหรือไง”
คนโดนตวาดถึงกลับหน้าชาก่อนจะสะบัดแขนจนหลุดแล้วหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน
วิศรุตถอนหายใจมองตามแล้ว หันกลับมามองปรมินทร์
“ขอให้มีความสุขกับเขานะครับ ลาก่อน”
คนถูกมองเอ่ยเสียงนิ่ง ก่อนจะเดินหนีไปทั้งน้ำตาที่อาบไหลเต็มสองแก้ม
พอกันทีกับรักที่ต้องแลกด้วยเลือด

อธิศรเคียดแค้นในความมืดกับรอยเจ็บบนใบหน้า สองครั้งสองคราแล้วที่เขาต้องเจ็บตัวเพราะฝ่ามือของปรมินทร์ เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นด้วยจิตใจที่มาดร้าย ยังไงซะปริมนทร์ต้องโดนเขาเอาคืนอย่างถึงที่สุด
เขาเจ็บเท่าไหร่ มันต้องเจ็บกว่าหลายเท่า!!!
เสียงฝีเท้าเดินตามเข้ามา คนนึกแค้นรีบปรับสีหน้าและแววตาให้เป็นปกติ ทันกับที่เจ้าของฝีเท้าเดินเข้ามาถึงพอดี
วิศรุตมองอธิศรแค่แวบ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟจนสว่างเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรตามปรมินทร์ มันเป็นครั้งแรกที่เขาคิดห่วงฝ่ายนั้นขึ้นมาอย่างจริงใจ
หนุ่มใหญ่เผลอกดหาชื่อปรมินทร์ในหมวดข้อมูลการโทรออกล่าสุดด้วยความเคยชิน ก่อนจะรู้สึกผิดเมื่อนึกได้ว่าตัวเองขาดการติดต่อกับเจ้าของเบอร์นี้นานแล้วจนระบบไม่น่าที่จะเซฟเก็บข้อมูลไว้ได้ แต่แล้วความรู้สึกผิดกลับจางหายกลายเป็นความฉงน เมื่อเบอร์ที่คิดว่าน่าจะหายไปจากข้อมูลการใช้โชว์แผ่หราอยู่หน้าจอ เป็นข้อมูลการโทรออกล่าสุด วิศรุตนึกสงสัย เขาโทรหาปรมินทร์ตอนไหนกัน?
ชายหนุ่มไล่ดูเวลาที่โทรออก นิ่งงันไปชั่วขณะหนึ่งเมื่อนึกได้ว่าเวลาที่โชว์หน้าเครื่องน่าจะเป็นเวลาที่เขากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนที่กำลังนั่งมองหน้าเขาอยู่บนเตียง
“มองผมแปลกๆนะพี่วิชญ์”
อธิศรเอ่ยขึ้นเมื่อโดนสายตาวิศรุตมองมาอย่างแปลกๆ ความโกรธเมื่อครู่ทำให้เด็กหนุ่มลืมไปแม้กระทั่งว่าตัวเองทำอะไรลงไปก่อนหน้า จนเมื่อคนมองหน้าเอ่ยถามนั่นแหละถึงได้รู้ตัว
“อาร์มใช้เบอร์พี่โทรหาปักษ์หรือเปล่า”
“เปล่านี่ครับ”
คนโดนถามปฎิเสธทันควัน ใจเริ่มสั่น เมื่อนึกได้ว่าตัวเองทำอะไรไว้
“แน่ใจนะ”
วิศรุตถามเสียงเข้ม
“ก็แน่สิครับ ผมจะโทรหานายปรมินทร์นั่นทำไม”
อธิศรยังรั้นที่จะไม่ยอมรับ วิศรุตจึงถามเสียงจริงจัง
“ไม่ได้โทรแล้วข้อมูลการโทรออกเบอร์ของปักษ์มาอยู่ที่เครื่องพี่ได้ไง”
“ผมจะไปรู้เหรอ ถ้าพี่ไม่ได้โทรเอง ปุ่มมันก็อาจเผลอกดไปเองก็ได้”
“งี่เง่าน่ะสิ พี่ล็อคเครื่องไว้ปุ่มมันจะทำงานได้ไง”
หนุ่มใหญ๋ขึ้นเสียงเมื่อได้รับฟังเหตุผลโง่ๆ เจ้าของเหตุผลถึงกับลุกปึงขึ้นโวยลั่นเมื่อรู้สึกคล้ายโดนด่า
“เออ ผมยอมรับก็ได้ว่าผมโทร ทำไมเรื่องแค่นี้พี่วิชญ์ต้องว่าผมงี่เง่าด้วย”
“แล้วอาร์มโทรไปหาปัก์เขาทำไม”
อธิศรอึกอักเมื่อโดนต้อนถาม คนถามรู้คำตอบทันทีที่เห็นอาการนั่น
“อาร์มทำแบบนี้ทำไม”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม
“ก็แล้วทำไมพี่วิชญ์จะต้องซีเรียสด้วยล่ะครับ ไหนพี่วิชญ์บอกยังรักผมอยู่ไง ผมก็แค่อยากทำให้ปรมินทร์รับรู้เท่านั้นว่าเราเป็นอะไรกัน”
“เพื่ออะไร”
“เพื่อที่เขาจะได้เลิกวุ่นวายกับพี่ไง”
“เรื่องของพี่กับปักษ์ พี่จัดการเองได้ ทำไมอาร์มจะต้องคิดทำอะไรแบบนี้ด้วย”
“ก็ผมรักพี่ไง ผมหวงพี่นะพี่วิชญ์”
“เรื่องนี้เอาไว้เราค่อยคุยกันอาร์ม พี่ขอเคลียร์กับปักษ์ก่อน อาร์มไม่น่าทำให้ทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้เลย”
“แสดงว่าพี่ยังแคร์ปรมินทร์อยู่”
“เขาทำให้พี่ดีขึ้นได้ช่วงหนึ่งตอนที่อาร์มทิ้งพี่ไปนะ”
“ตกลงเรื่องนี้ผมเป็นคนผิดใช่มั๊ย”
“ถ้าจะผิดพี่ก็ผิดด้วย ปักษ์ไม่น่าที่จะโดนเราทำร้ายขนาดนี้”
“งั้นถ้าพี่วิชญ์ห่วงมันมาก ก็ตามมันไปซะเลยสิ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2007 09:36:50 โดย Junrai_Hyper »

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
อี๋.......เกลียดมันจังเลย  ไอ้อธิศร
เกลียดมันสุด ๆ แต่เกลียดมันน้อยกว่าวิศรุตหน่อยนึง

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ลาก่อน .... ดีมากปักษ์ ลาไปเลยคนแบบนี้   :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






nanao

  • บุคคลทั่วไป
เยี่ยมมาก  คนอย่างนี้ต้องโดนแบบนี้แหละ  :m14:

pueng1111

  • บุคคลทั่วไป
ทำอย่างนั้นถูกต้องแล้วปักษ์  ไม่ต้องไปตามง้อเขา

อ๊ากกกกกกกกก!! เกลียดนังอาร์มง๊า

ดูมันทำกับปักษ์สิ :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ถ้ามันตามมาขอโทษก็อย่าไปสนใจ หายดีแล้วค่อยมาเอาคืนมันทั้งสองคนเลยคับ

ออฟไลน์ Ferfa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-2
มารอคร้าบบบบบบบบ

เกลียดอาร์มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

ตอนที่ 6
“อาร์ม อย่าพาลอย่างคนไม่มีเหตุผลสิ”
“เออผมมันพาล ผมมันไม่ดี ถ้าสิ่งที่ผมทำไปเพราะรักพี่ หวงพี่แล้วมันผิด ผมก็ขอโทษ พี่จะให้ผมทำยังไงว่ามาเลย”
วิศรุตถึงกับถอนหายใจ ไม่คิดว่าอธิศรจะพาลได้ขนาดนี้ แถมยังท้าทายเขาอย่างไม่นึกเกรงอีก หนุ่มใหญ่จึงตัดสินใจบอก
“เรื่องของเรา พี่ขอเคลียร์กับปักษ์ก่อน ระหว่างนี้เราอย่าเพิ่งเจอกันเลยนะ”
อธิศรอึ้ง วิศรุตบอกออกมาอย่างนี้แล้วแผนการที่เขาคิดจะกอบโกยเงินก้อนโตล่ะ
“ทำไมต้องขนาดนั้นด้วยล่ะพี่วิชญ์ นายนั่นมันเลือกที่จะจากไปแล้ว จะไปใส่ใจกับมันอีกทำไม”
“พี่มีเหตุผลของพี่ อาร์มทำอย่างที่พี่บอกเถอะ ถือว่าพี่ขอร้อง”
สองหนุ่มต่างวัยมองสบตากัน อธิศรเคียดแค้นอย่างเหลือกำลังที่เหตุการณ์มันออกมาเป็นแบบนี้ เด็กหนุ่มจัดการแต่งตัวอย่างลวกๆ เดินออกจากห้องไปทันที
หลังอธิศรออกไปแล้ว วิศรุตนั่งเครียดจนถึงเช้า ชายหนุ่มไม่อาจข่มตาหลับลงได้เมื่อพยามติดต่อหาปรมินทร์แต่ไม่เป็นผล หนุ่มใหญ่ออกไปทำงานในสภาพที่อ่อนเพลียในตอนสาย
ทางด้านอธิศร เด็กหนุ่มหอบความเคียดแค้นชิงชังกับสิ่งที่เกิดขึ้นไประบายให้เพื่อนซี้อย่างกิตติกรฟัง สองหนุ่มเริ่มวิตกว่าหนทางซึ่งจะได้เงินก้อนโตมาเพื่อปลดหนี้การพนันบอลที่แทงไว้กับเสี่ยใหญ่จะยุ่งยากไม่เป็นไปตามแผน และคนที่ทั้งสองนึกคาดโทษไว้อย่างที่สุดคือ ปรมินทร์!!!
.
.
.
.
.
คนถูกคาดโทษหลบหลีกปัญหาของหัวใจไปพักผ่อนแถวทะเลทางใต้ ทะเลที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเอ่ยชวนว่าจะพาไปเยือนจากคนที่กรีดใจในวันนี้
“เดี๋ยวว่างๆเราไปทะเลกันนะปักษ์ ทะเลสวยๆทางใต้ พี่อยากพาปักษ์ไป”
ชายหนุ่มปาดน้ำตาให้พ้นแก้มเมื่อนึกถึงประโยคนี้ขึ้นมา ก่อนจะสะดุ้งหน่อยๆเมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวายจากชายหาดที่ไม่ใกลจากที่นั่งอยู่
“ช่วยด้วยจ้า คนจมน้ำ ช่วยด้วย”
เสียงนั้นเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ความโกลาหลจะเกิดให้เห็นในเบื้องหน้า ด้วยสัญชาติญาณชายหนุ่มจึงเดินแกมวิ่งไปดู
ร่างของชายร่างสูงที่เปียกปอนหมดสติกำลังถูกหิ้วขึ้นมาจากท้องทะเล ใบหน้าบวมเป่งกับเนื้อตัวที่ซีดขาวนั้นอยู่ไม่ไกลสายตานัก ปรมินทร์รับรู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าคุ้นๆกับเจ้าของร่างนั้นเหลือเกิน ด้วยอะไรไม่รู้ชายหนุ่มแสดงตัวเป็นคนรู้จักเจ้าของร่างนั้นทันทีที่การปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลชายหาดเริ่มต้นขึ้น เมื่อดูแล้วว่าคนตัวซีดน่าจะมาคนเดียว
.
.
.
.
ธนู ลืมตาขึ้นช้าๆ นึกสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้มานอนให้น้ำเกลือที่นี่ได้ เขาน่าจะตายอยู่ใต้ท้องทะเลอย่างที่เขาตั้งใจนี่นา เขาต้องไม่มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้ ใช่ ใช่ เขาต้องตายสิ เขาต้องตาย เขาจะอยู่อย่างหวาดระแวงและทรมานกับสิ่งที่เป็นได้ยังไง
“ไม่ ใครเอาผมมาที่นี่ ผมอยากตาย ผมไม่อยากอยู่ ใครเอาผมมาที่นี่ ผมไม่อยู่ ผมอยากตาย ผมอยากตาย”
หนุ่มใหญ่ตะโกนโวยวาย เรียกความสนใจจากบรรดาหมอและพยาบาลที่อยู่ด้านนอกเป๋นอย่างดี รวมทั้งคนที่แสดงตัวว่ารู้จักเขาด้วย
“เร็ว ช่วยกันหน่อยคนไข้ คลั่งใหญ่แล้ว”
หนึ่งนางพยาบาลสาวสำเนียงใต้ร้องเรียกเพื่อนร่วมอาชีพให้เข้ามาช่วยตนอย่างหน้าตาตื่น ปรมินทร์ตัดสินใจเข้าไปดูอาการคนคลั่งด้วยอีกคนรวมกับพยาบาลคนอื่นๆ
“ปล่อยผม ผมอยากตาย ปล่อยผม”
คนบนเตียงร้องให้ฟูมฟายพยายามดิ้นตัวเองให้หลุดจากพันธนาการ ปรมินทร์ยืนตัวแข็งทื่อมองภาพนั้นอย่างสะท้านใจ นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ก่อนจะพาตัวเองมาที่นี่
ตอนที่เขาดิ้นรนจะไปเคลียร์ปัญหากับวิศรุต เขาเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ
“ใจเย็นๆซิคะคุณ อย่าดิ้นค่ะ อย่าดิ้น เข็มน้ำเกลือจะหักแล้วนะคะ”
พยาบาลรอบเตียงพยายามปลอบหนึ่งในนั้นวิ่งออกไปตามหมอเมื่อทุกอย่างดูโกหลาหลเกินจะรับมือไหว
ปรมินทร์หลับตาปี๋เบือนหน้าหลบไปอีกทางเมื่อเห็นว่าเสาห้อยน้ำเกลือล้มระเนระนาด แรงที่ล้มลงของเสาดึงสายที่ห้อยโยงติดกับเข็มขาดผึงกระชากเข็มที่เสียบอยู่บนหลังมือหลุดลอย เสียงนางพยาบาลร้องกรี๊ดเมื่อเลือดคนไข้พุ่งเปรอะเปื้อนชุดขาว ก่อนทุกอย่างจะสงบนิ่งเมื่อคนเสียเลือดเริ่มหอบเหนื่อยและเลิกดิ้นกลายเป็นเหม่อลอยพร่ำเพ้ออย่างคนเสียสติ
“ผมไม่อยากอยู่บนโลกนี้ ผมไม่อยากอยู่”
ปรมินทร์สะเทือนใจกับภาพที่เห็น มันเหมือนเป็นเงาของกระจกที่ส่องสะท้อนตัวเอง หนุ่มใหญ่คนนี้เป็นอะไรมาหนอถึงได้คิดไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ทั้งๆที่วันนั้นยังดูดีปกติอยู่นี่นา ปกติขนาดที่ว่าแนะให้เขาไปเย็บแผลที่นิ้ว!!!
คนนึกคิดหลีกทางให้หมอที่เข้ามาสมทบในห้อง หมอวัยกลางคนฉีดสารบางอย่างเข้าไปในร่างกายคนเหม่อ ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะค่อยๆตาปรืออ่อนแรงแล้วหลับลงไปในที่สุด
“หมอขอคุยกับคุณหน่อยได้มั๊ยครับ”
ปรมินทร์สะดุ้งได้สติเมื่อหมอกลางคนหันมาพูดด้วย ชายหนุ่มพยักหน้ารับง่ายๆก่อนจะเดินตามหลัง คนขอคุย ออกไปจากห้อง ปล่อยให้ด้านหลังเป็นหน้าที่ของพยาบาลที่จะจัดการกับคนเพิ่งคลั่งต่อไป
.
.
.
.
.
เกือบสัปดาห์แล้วที่วิศรุตหาทางติดต่อปรมินทร์ไม่ได้หลังจากเกิดเรื่องคืนนั้น ชายหนุ่มรับรู้ว่าเจ้าตัวโดนพักงานก็เมื่อตัดสินใจติดต่อไปยังที่ทำงานของฝ่ายนั้นโดยตรง หนุ่มใหญ่นึกตำหนิตัวเองที่ไม่ใส่ใจ จนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับคนที่ตัวเองเข้าไปสานสัมพันธ์ด้วย
“ไปอยู่ไหนแล้วนะปักษ์”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเลื่อนลอย เมื่อรู้สึกห่วงหา..คนรัก…ขึ้นมาอย่างจับใจ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาไล่ให้ตื่นจากภวังค์ เจ้าของเครื่องมองดูชื่อคนที่โทรเข้ามา แปลกที่วันนี้เขารู้สึกเบื่อหน่ายที่จะรับ จึงปล่อยให้สัญญาณเรียกเข้าดังอยู่อย่างนั้นจนขาดหายไปในที่สุด
“เหี้……เอ้ย!! แม่งไม่รับสายว่ะ”
อิทธิศรสบถบอกเพื่อนซี้ที่นั่งกุมขมับอยู่ข้างๆ
“เอาไงดีวะ ตกลงกูจะพึ่งมึงได้มั๊ยเนี่ย”
กิติกรลุกขึ้นโวยวาย เมื่อเริ่มทุกข์ร้อนกับภัยมืดที่คุกคามเข้ามา อธิศรได้ยินเสียงเพื่อนโวยวายแล้วกุมขมับ เด็กหนุ่มคับแค้นใจที่หลังจากวันนั้นวิศรุตไม่ยอมให้เขาเจอหน้าได้อีกเลย บ้านที่เขาเคยเข้าออกอย่างสะดวกจู่ๆก็มีแม่บ้านเข้ามาดูแลซะอย่างนั้น แถมแม่บ้านยังบอกไว้อีกว่าห้ามใครเข้าไปในเขตบ้านก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากวิศรุตอย่างเด็ดขาด
“เพราะมึงคนเดียวไอ้ปรมินทร์”
คนกุมขมับคาดโทษจนเส้นเลือดปูด ภัยจากเสี่ยใหญ่ที่คุกคามเข้ามาทำให้เขาไม่กล้าแม้ที่จะรับงานใดๆพอที่จะมีรายได้เข้ามาปรนเปรอชีวิตที่ฟุ่งเฟ้อ เขาต้องเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในหอพักเน่าๆของเพื่อนที่พาชีวิตดำดิ่งลงเหวอย่างกิติกร นี่ถ้าที่บ้านเขามีฐานะดีอย่างวิศรุตเขาก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้ ใช่สินะ วิศรุตปกปิดสถานะตัวเองไว้กับทางบ้าน จนต้องแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้ ในเมื่อวิศรุตกล้าที่จะหลบหน้าเขา เขาก็กล้าที่จะบุกถึงรากฐานเจ้าตัวเหมือนกัน นี่ไงล่ะขออ้างที่จะทำให้ชีวิตกลับมาเป็นอิสระดังเดิม ขอแค่เขามีโอกาสได้ต่อรองกับเจ้าตัวเถอะ อะไรๆมันก็คงจะง่ายขึ้น
“มึงยิ้มอะไรไอ้อาร์ม”
กิติกรเอ่ยถามเมื่อเห็นอธิศรยิ้มเหี้ยม
“กูมีทางออกให้เกมนี้แล้วน่ะสิ”
คนยิ้มเหี้ยมตอบกลับ ก่อนประกายตาจะลุกโชนด้วยแผนร้าย!!!
.
.
.
.
.
“ปรมินทร์ยังไม่มาทำงานอีกเหรอครับ….ครับ..ครับ ขอบคุณครับ”
โทรศัพท์ถูกวางหูลงไปสู่ที่เดิม แต่คนวางรู้สึกห่อเหี่ยวแห้งผากในจิตใจ ระยะเวลาที่โดนพักงานหมดไปแล้วนี่นา แล้วทำไมปรมินทร์จึงไม่ยอมกลับมาทำงานอีก หรือฝ่ายนั้นต้องการหลบหน้าเขา จริงสิ เป็นใคร ใครก็ต้องหลบ เมื่อสิ่งที่เขาทำมันรุนแรงต่อจิตใจขนาดนั้น
วิศรุตตัดสินใจขับรถไปตามตัวปรมินทร์ถึงตึกที่ทำงานเพราะเชื่อว่าปรมินทร์คงบอกใครๆให้บอกเขาว่าเจ้าตัวไม่อยู่ แต่แล้วสิ่งที่หนุ่มใหญ่คาดคิดมันกลับไม่เป็นจริง เมื่อรับรู้จากบุคคลในตึกว่าปรมินทร์โดนบอกเลิกจ้างไปแล้ว ด้วยสาเหตุขาดงานติดต่อกันหลายวันด้วยเหตุไม่สมควร และไม่แจ้งให้บุคคลในสายงานทราบ
ห้องพักของปรมินทร์คืออีกหนึ่งที่ที่วิศรุตไปเพื่อที่จะเจอเจ้าของห้องหวังเพียงที่จะพูดคุยปรับความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งชายหนุ่มรับรู้ว่าเจ้าตัวโดนให้ออกจากงาน ความรู้สึกผิดยิ่งถาโถมในใจ จนอยากที่จะเจอเจ้าตัวเร็วๆเพื่อที่จะได้แสดงความห่วงใยเห็นใจในฐานะคนรักเสียที แต่ดูเหมือนหนุ่มใหญ่จะหมดหวังเมื่อไปถึงที่ ทุกอย่างเงียบงันปิดตาย คนดูแลห้องพักบอกปรมินทร์หายไปหลายวันแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวเข้าโรงพยาบาล
“ปรมินทร์เป็นอะไรครับ ถึงต้องเข้าโรงพยาบาล”
ชายหนุ่มได้โอกาสถามถึงสาเหตุที่ปรมินทร์ต้องสวมชุดโรงพยาบาลไปหาเขากลางดึกคืนนั้น
“ก็เขาช็อคโวยวายคลั่งน่ะค่ะ ข้าวของในห้องนี้กระจุยกระจาย จนตัวเองเหยียบเศษแก้วซะลึก จึงหมดสติไป”
คำตอบที่ได้ยินทำเอาคนฟังขอบตาร้อนผ่าว นึกสงสารคนของตัวเองขึ้นมาอย่างเหลือเกิน
“ถ้าปรมินทร์กลับมา ยังไงรบกวนบอกเขาให้ติดต่อผมด้วยนะครับ นี่ครับนามบัตร”
วิศรุตยื่นนามบัตรให้คนตรงหน้า ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะรับไป หนึ่งเสียงที่ดังขึ้นทำให้ทุกอย่างชะงักลง
“ฉีกเศษกระดาษเน่าๆของพี่ทิ้งไปเถอะครับ!!”
.
.
.
.
”ปักษ์”
วิศรุตเอ่ยชื่อคนพูดประโยคเมื่อครู่เบาๆ เมื่อหันไปมองเห็นเจ้าตัวยืนขรึมอยู่ทางด้านหลัง หนุ่มใหญ่เก็บนามบัตรตัวเองไว้กับตัวตามเดิม ก่อนใช้สายตาสำรวจคนเพิ่งมาอย่างพินิจ ร่างนั้น จากสีผิวที่เคยขาว คล้ำลงไปนิด ผมที่เคยถูกหวีเป็นทรงถูกปล่อยไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่งให้เจ้าตัวดูดีไปอีกแบบ เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูคนใส่จะไม่พิถีพิถันกับมันนัก ชุดนั่น เป็นเชิ๊ตแขนสั้นสีฟ้าอ่อนที่ปล่อยชายรับกับกางเกงขาสามส่วนสีขาว สายตาคนมองไล่พินิจร่างนั้นจนไปหยุดที่ปลายเท้าที่ข้างหนึ่งยังคงพันรอบด้วยผ้าขาว ไม่แปลกที่เจ้าตัวเลือกที่จะสวมรองเท้าแตะ
“ปักษ์ไปไหนมาเหรอ”
หลังสำรวจเสร็จวิศรุตเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่คล้ายจะอ่อนโยน หากแต่คนโดนถามไม่รู้สึกอย่างนั้น เจ้าตัวยิ้มหยันที่มุมปากเพียงนิดก่อนจะเอ่ยย้อน
“ถามทำไมเหรอครับ”
“ก็เห็นหายไปหลายวัน”
วิศรุตเอ่ยต่อ ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนย้อน
“รู้สึกด้วยเหรอว่าผมหายไป”
ฝ่ายถูกเดินเข้าหาตัดพ้อ ทำเอาคนได้ยินชะงักฝีเท้า หนุ่มใหญ่หันไปมองคนดูแลตึกที่กำลังสังเกตเหตุการณ์ เห็นฝ่ายนั้นก้มหน้างุดเมื่อสบตากับเขาจึงหันกลับมาเอ่ยกับคนที่ทำเขาชะงัก
“เราต้องคุยกันนะปักษ์”
ปรมินทร์พอจะเข้าใจความต้องการอีกฝ่ายว่าต้องการอยู่ในที่ลับตาคนกับเขาสองต่อสอง ชายหนุ่มจึงเดินนำไปทางลิฟท์ จากช่วงเวลาที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนใหม่ที่ทะเลทางใต้ ทำให้วันนี้เขาพร้อมที่จะเผชิญกับวิศรุตอย่างคนมีสติ สติที่จะทำให้วิศรุตสะเทือนกับสิ่งที่ได้ทำไว้กับเขา
“เท้ายังเจ็บอยู่เหรอ”
คนเดินตามเอ่ยถามเมื่อเห็นคนเดินนำหน้ายังเดินได้ไม่เต็มส้นนัก
“เย็บสิบกว่าเข็มคิดว่าจะหายภายในสัปดาห์มั๊ยล่ะครับ”
คนโดนถามตอบเน้นเสียง ก่อนจะจัดการกดเรียกลิฟท์เมื่อเห็นคนถามนิ่งไป
สองคนต่างไม่ยอมพูดกันจนลิฟท์ตัวที่เรียกเปิดออก ปรมินทร์ก้าวเข้าไปก่อน กดชั้นห้องที่ตัวเองพัก วิศรุตจึงก้าวตามเข้าไป
ประตูลิฟท์เลื่อนปิด ภายในลิฟท์มีแค่คนสองคนที่เคยคุ้นเคยกันดี แต่บัดนี้มันเหมือนมีกำแพงหนามากั้นกลาง วิศรุตเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงสแล็คเมื่อรู้สึกอึดอัดกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของคนที่ยืนข้างๆ บ่อยครั้งที่ชายหนุ่มลอบมองหวังเพียงที่จะให้เจ้าตัวหันมาสบตา หรือชวนคุยบ้าง ลำพังถ้าจะให้เขาเริ่มต้นก่อนก็เกิดประหม่าขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อรู้สึกผิดมากโขกับสิ่งที่ทำลงไปก่อนหน้า
ประตูลิฟท์เปิดออกอีกครั้ง ปรมินทร์ก้าวนำอีกเช่นเคย คนข้างหลังสูดลมหายใจให้เต็มปอดก่อนก้าวตามไป จนคนก้าวนำ พาไปหยุดอยู่หน้าห้อง ห้องที่เขาเคยอ้อนวอนขอที่จะมา และคราวนั้นเจ้าของห้องก็เต็มใจที่จะให้มา แต่คราวนี้ทำไมเหตุการณ์มันดูต่างกันเหลือเกิน
“ถ้าไม่สบายใจพี่กลับก็ได้นะ”
คนเทียบเหตุการณ์เอ่ยหยั่งเชิง ถ้าเจ้าของห้องยังแคร์เขาอยู่ เขาก็คงจะถูกรั้งไว้อย่างที่เคยเป็นมา แต่แล้วใบหน้าคมเข้มก็ต้องชาไปทั้งแถบเมื่อโดนเอ่ยตอบกลับมาจากเจ้าของห้องว่า
“น่าจะคิดได้ตั้งแต่อยู่ข้างล่าง”
“ทำไมพูดกับพี่แบบนี้ล่ะปักษ์”
คนหน้าชาเอ่ยถามเมื่อตั้งสติได้
“แล้วปกติผมต้องพูดกับพี่แบบไหนเหรอครับ”
คนถูกถามย้อนกลับอย่างท้าทาย ไม่มีอะไรที่มันจะต้องเสียไปมากกว่านี้อีกแล้ว ชายหนุ่มถึงกล้าย้อน เขาตัดสินใจเด็ดขาดตั้งแต่ตอนอยู่ทะเลแล้วว่า จะไถ่ถอนชีวิตคืนจากคนตรงหน้า ไม่ว่าจะยังไงเขาจะไม่ใจอ่อนอย่างเด็ดขาดกับลมปากพล่อยๆที่พัดออกมาจากปากคนสารเลวคนนี้
“พี่ไม่จำเป็นต้องบอกหรอก พี่ว่าปักษ์รู้ตัวดี ว่าเมื่อก่อนปักษ์ไม่ได้เป็นแบบนี้”
วิศรุตบอกเสียงเข้ม ปรมินทร์กำลังท้าทายเขาทั้งแววตาและคำพูด ไม่มีวันซะล่ะที่เขาจะยอมแพ้ง่ายๆ เป็นไงเป็นกันสิ เขาต้องได้ปรมินทร์คนเดิมกลับคืนมาให้ได้ ในเมื่อเขาก็พร้อมที่จะเป็นคนเดิมแล้ว ไม่รู้สิ เขารู้สึกหวงแหนคนๆนี้ขึ้นมาอย่างประหลาด หรือเพราะสัญชาติญาณมันบอกว่าเขากำลังจะสูญเสียคนที่รักเขาที่สุดไป หัวใจมันจึงรั้นที่จะไม่ยอมให้เจ้าตัวไป
“ถ้าพี่คิดจะเห็นปรมินทร์ที่งี่เง่า ที่หูเบา ที่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน พี่คิดผิดนะ พี่วิศรุต”
ปรมินทร์ตอบกลับเสียงนิ่งเช่นกัน มันเกินจะทนแล้วกับความสับสนเจ็บปวดที่กัดกร่อนในจิตใจมานานวัน ขอสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เถิด ว่าต่อไปนี้หัวใจจะเข้มแข็ง และพร้อมที่จะทำลายล้างอะไรก็ตามที่มันมารังควาญความสงบ รวมทั้งบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าณ.ตอนนี้ ไฟรักที่เคยมีให้ท่วมใจ ขอสุมเป็นไฟแค้นที่รอวันเผาผลาญ จนกว่ามันจะกลายเป็นผงธุลี!!
..

yayoy

  • บุคคลทั่วไป
 o12 o12 o12 o12

อ่านะ......คิดได้เมื่อสาย........คิดจะไขว่คว้าเมื่อรู้สึกว่าจะสูญเสีย

 :sad2: :sad2:

อ่านเรื่องของน้องบอยทีไร พี่โยยอินจัดทุกทีเยยยยยยยยยย!!  :o8: :o8:

ป่อล๋อ....มองซ้ายมองขวา ได้เจิมคนแรกแฮะ....อิอิอิ

jammy

  • บุคคลทั่วไป
หนุกดีมาต่อไวๆนะ :m11:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อะครับ ปักท์ต้องเข้มแข็งแบบนี้ซิครับ

ถึงจะต่อกลอนได้กับพวกที่ร้ายๆๆ อิอิ

สะใจดีครับผม เอาใจช่วยนะครับ สู้ๆๆ

จะติดตามต่อไป

 :impress: :impress: :impress:


alulugun

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะเติมชื่อเรื่องต่อท้ายอีกนิดนะ

ไฟรัก เพลิงริษยา

 :angry2: :angry2: :angry2: o12 o12 o12

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
สะใจ  ดีๆๆ  ไม่ชอบนายเอกยอมคน
เอาให้มันวายวอดกันไปเรยย  หึหึ  ให้มันรู้สำนึกซะบ้าง
 :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด