ไฟรัก โดย Bboyseries
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไฟรัก โดย Bboyseries  (อ่าน 333791 ครั้ง)

image_papa

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: :laugh: :laugh: สะใจมากๆ อธิศรกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง

รอมา3 วัน ได้อ่านแล้ว มาลงอีกไวไวนะครับ เป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่ง คนโพสท์เลย :m18: :m18: :m18:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
รีบมีความสุขซะให้พอ ก่อนที่จะไม่มีอีก อาร์มเอ๋ย  :laugh:

three

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้นะครับใครทำไรไว้สักวันเดี้ยวก็ต้องเจอกับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไปแน่ๆ(ขอให้โนไอ้เสี่ยนั้นรุมแทงดับยัดใส่ถังน้ำมันถ่วงทะเล :m16:)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เลวได้ใจจิงๆคนอะไรเนี่ย

แต่ดีน่ะที่ธนู......เป็นคนฉลาดไม่โง่เหมือน ฮึฮึ... o16

นางมารร้าย

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้อาร์ม โดนรุมโทรมจังเลย  เลวจริงๆ

เป็นกำลังใจให้คุณบอย คนเขียน และคุณพูร์คนโพสนะ

มาต่อไว ๆ นะคะ  มาแบบ 2 ตอนเลยก็ดีค่ะ   o15

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

ตอนที่ 11

เช้าวันรุ่งขึ้นธนูถูกคนของเสี่ยใหญ่เชิญตัวเขาให้ไปพบกับเสี่ยในโรงแรมแห่งหนึ่งในขณะที่เจ้าตัวงงกับกับถูกเชิญแต่ก็ยอมไปโดยดีเมื่อหนึ่งในคนที่มาหาเขาถึงที่ทำงาน เขาจำได้ดีว่าเป็นหนึ่งในสี่ชายฉกรรจ์เมื่อคืนนี้ที่เขายื่นนามบัตรให้เพื่อแลกกับอิสระของอธิศร
ขณะเดียวกันทางด้านวิศรุตหนุ่มใหญ่ถึงกับนอนซมอยู่บ้านเมื่อพิษจากแผลที่เย็บกว่ายี่สิบเข็มเริ่มออกฤทธิ์ งานที่กองพะเนินอยู่ที่บริษัทเจ้าตัวจึงใช้วิธีโทรไปสั่งลูกน้องที่เชื่อใจได้ทำแทนในส่วนที่ไม่รอการอนุมัติจากเขา แม้จะเคลียร์งานส่วนนั้นไปได้แต่หนุ่มใหญ่ถึงกับเกิดอาการเครียดเมื่อจำได้ว่ามีนัดกับบุคคลสำคัญไว้ช่วงบ่าย เขาไม่อาจที่จะบอกเลิกนัดครั้งนี้ได้เมื่อบุคคลคนนี้เขาใช้เวลาหมดไปหลายเดือนในการที่จะนัดหมายเพื่อพบเจอเจรจาการตกลงทำธุรกิจร่วมกัน ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทคาดหวังอย่างสูงที่จะให้บุคคลคนนี้เข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทอย่างถาวร หรือนานเท่าไรก็ได้เท่าที่ความสามารถของคนโน้มน้าวจะพึงมี ภาระนี้จึงตกเป็นของเขาในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ผ่านงานด้านการขายมาแล้วอย่างโชกโชนก่อนที่จะพาตัวเองมาถึงจุดนี้ ที่สำคัญเขามิอาจโยนภาระนี้ให้กับใครได้เมื่อมันเป็นคำสั่งจากผู้บริหารที่เป็นระดับประธานบริษัท เม็ดเงินก้อนมหาศาลก้อนนี้จึงตกเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องเอามันมาให้ได้ ใช่สินะ เขาต้องเอามันมาให้ได้ เพราะการประชุมบอร์ดผู้บริหารที่ผ่านมาเขาเป็นคนเดียวที่โดนเพ่งเล็งในแง่ลบ เขาต้องใช้โอกาสนี้เรียกเครดิตตัวเองกลับคืนมา
“จะไหวเหรอคะคุณวิชญ์ ท่าทางคุณอิดโรยมากเลยนะคะ”
แม่บ้านเอ่ยทักหนุ่มใหญ่ตอนที่เจ้าตัวบอกจะออกไปพบลูกค้า และตอนเย็นไม่รู้จะกลับกี่โมง ให้นางเข้านอนได้เลยไม่ต้องรอ
“ไหวไม่ไหวก็ต้องไปแหละป้าณี คงไม่เป็นไรมากหรอกมั้ง ทานยาแก้ปวดเดี๋ยวก็คงดีขึ้น”
เจ้าของบ้านบอกกับคนรับใช้หญิงวัยสี่สิบปลายๆ
“ก็เหมือนเดิมนะถ้ามีใครมาหาฉันที่บ้าน ถ้าฉันไม่โทรบอกก็ไม่ต้องให้เข้าไปในบ้าน เข้าใจนะ ฉันไปล่ะ”
หนุ่มใหญ่กำชับคำสั่งที่เคยสั่งไว้ก่อนจะเดินไปขึ้นรถขับออกไป ป้าณีแม่บ้านวัยทองมองตามอย่างนึกห่วง
.
.
.
.
.
.
.
.
ปรมินทร์โทรนัดเจออานนท์ในช่วงเย็น หลังจากรู้สึกเบื่อๆเซ็งๆกับการอยู่ติดห้องทั้งวัน คนถูกโทรนัดมาตามนัดอย่างคนว่าง่าย ก่อนจะต่อว่าต่อขานคนนัดไปยกสองยกเมื่อเจอหน้า เรื่องที่เจ้าตัวหายไปโดยไม่บอกข่าวหรือติดต่อกลับมา ก็ดูสิมันน่าน้อยใจมั๊ยล่ะ โผล่มาอีกทีก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เขาตามไม่ทัน
“แกจะเอาอะไรกะฉันล่ะอานนท์ ก็ช่วงนั้นฉันเป็นยังไงแกก็เห็นอยู่”
คนถูกต่อว่าออกตัว นึกถึงวันนั้นแล้วก็สมเพชตัวเองยังไม่หาย ดีที่สติสตังไม่เสียไปจนทำร้ายตัวเองรุนแรงกว่าที่เป็นอยู่ แต่ที่เป็นอยู่มันก็ใช่จะเล็กๆ แผลเย็บที่ฝ่าเท้ายังไม่ถึงกำหนดตัดไหมเลยด้วยซ้ำ
“แล้วเป็นไง ทุกวันนี้ดีขึ้นหรือยัง”
เพื่อนซี้ตรงหน้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอ่ยออกมาอย่างคนที่เหมือนจะดีขึ้น
“ก็ดี ทุกอย่างมันจบจนไม่เหลืออะไรให้คาราคาซังแล้วนี่”
“จบแล้วจริงๆเหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อว่ะ”
“ทำไมแกถึงไม่อยากเชื่อล่ะ”
“ก็ถามตัวแกเองสิ รักพี่วิชญ์จะเป็นจะตายขนาดนั้นบทจะจบก็จบซะดื้อๆ บอกใครใครจะเชื่อ”
“ไม่เห็นแปลก รักได้ก็เลิกได้”
“เออน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว กว่าจะตัดใจได้เสียเลือดไปเท่าไหร่ล่ะ”
“แกไม่ต้องมาพูดดีเลย แกเองไม่ใช่เหรอที่เคยบอกให้ฉันใจเย็น ให้เข้าใจความรักบ้าบอคอแตกนี้ให้มากเข้าไว้”
“นี่นี่ ไม่ต้องมาโทษกันเลยนะ ฉันบอกแล้วแกเคยฟังมั๊ยล่ะ นี่ถ้าฉันอัดวีดีโอตอนที่แกวีนเก็บไว้นะ ฉันจะเอาไปแฉตามเวปให้คนได้เห็นเลยว่าพิษรักแรงหึงของแท้น่ะมันเป็นยังไง”
“ทะลึ่งๆ ขืนแกทำแบบนั้นฉันฆ่าแกแน่”
อานนท์เพียงแค่ยิ้มให้กับคำขู่นั้น ชายหนุ่มนึกดีใจที่อย่างน้อยวันนี้ก็ได้เห็นรอยยิ้มเพื่อนที่ออกมาจากใจจริงๆได้เต็มตา
“เออ แล้วนี้แกจะเอายังไงต่อกับชีวิตแก งงงานนี่หาบ้างหรือยัง”
คนนึกดีใจถามต่อถึงความเป็นอยู่ในอนาคตของเพื่อน
“แกจะบ้าเหรอ ขาฉันกะเผกๆแบบนี้ ไปสมัครงานที่ไหนเขาจะรับ”
ปรมินทร์แว้ดใส่ ใช่ว่าเขาจะอยากที่จะว่างงานซะเมื่อไหร่ แต่ช่วงนี้แค่รอให้แผลที่ฝ่าเท้าหายดีเท่านั้นเอง อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
“เออ จริงด้วย ฉันลืมไปว่าแกมันพิกลพิการอยู่ แล้วแกจะเป็นอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่”
“ทำไมกลัวฉันอดตายเหรอ แกไม่ต้องห่วงหรอก ฉันยังมีปัญญาอยู่ได้เป็นปีว่างงานแค่เดือนสองเดือน ถือซะว่าฉันพักร้อนก็แล้วกัน”
“จ๊ะ พักร้อนเดือนสองเดือน เชิญแกสำราญไปคนเดียวเถอะ เป็นฉันเต้นเป็นเจ้าเข้าตั้งแต่รู้ว่าตัวเองโดนปลดออกแล้ว”
“นั่นมันแก ไม่ใช่ฉัน”
“อ่ะ แน่นอน คนอย่างฉันเรื่องงานเรื่องเงินน่ะเรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องหัวใจมันเรื่องเล็ก”
คนได้ฟังเพียงยิ้มให้สโลแกนของเพื่อนพลางอดที่จะนึกถึงตัวเองไม่ได้ที่ปล่อยให้เรื่องของหัวใจมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบ เฮ้อ ต่อไปนี้คงพอกันที กับเรื่องวุ่นวายปวดหัว
“ถ้าฉันได้งานใหม่นะฉันจะบ้ามันเหมือนอย่างแกเลยอานนท์ ชีวิตจะได้เลิกฟุ้งซ่าน และกลับมาเดินอยู่บนถนนอย่างคนปกติเสียที”
ปรมินทร์บอกอย่างปลงตก เมื่อเริ่มคิดว่าจะหันหลังให้กับไฟรักไฟแค้นทั้งปวงที่สุมอยู่ในอก หากวิศรุตกับอธิศรจะลงเอยกันเขาก็พร้อมที่จะยินดีด้วยใจ หรือหากว่าทั้งสองไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เขาก็เลิกแล้วต่อกันกับสิ่งที่เคยผ่านๆมา มันถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มต้นใหม่อย่างจริงๆจัง กับชีวิตที่เหลืออีกครึ่งทางก่อนที่วัยวันจะโรยรา
“แกคิดได้อย่างนี้มันก็ดี อะไรผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ในโลกนี้ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอก ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลบุญผลกรรมนั้นตอบแทนไม่ช้าก็เร็ว อย่าเอาจิตใจของเราไปตัดสินชะตาชีวิตใครคนใดเพราะอารมณ์ชั่ววูบเราจะดีกว่า”
สองคนยิ้มให้กันอย่างเข้าใจเมื่อคนมองโลกในแง่ดีเอ่ยจบ การสนทนาดำเนินไปอีกพักใหญ่ก่อนจะโดนขัดจังหวะเมื่อหนึ่งในคู่สนทนามีคนโทรเข้าหา
“สวัสดีครับคุณธนู”
ปรมินทร์เอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม แม้คนโทรหาจะไม่อาจเห็นรอยยิ้มกว้างนี่ แต่น้ำเสียงที่ถูกส่งไป ชายหนุ่มเชื่อว่าเขาต้องรับรู้ว่าตนอยู่ในอารมณ์ไหน
อานนท์แอบสังเกตพฤติกรรมเพื่อน ที่ดูท่าทางจะสนทนากับคนที่เขาได้ยินว่าชื่อ ธนู ได้อย่างคนอารมณ์ดี เอ นายธนูนี่เป็นใครกันนะ
“เฮ้ย อานนท์ พอดีฉันต้องไปคุยเรื่องสำคัญกับเพื่อนว่ะ แกจะไปด้วยกันมั๊ย”
คนถูกสังเกตพฤติกรรมแต่ไม่รู้ตัวเอ่ยชวนเพื่อนหลังจากที่คนโทรเข้ามาเอ่ยเข้าประเด็นว่าอยากเจอเขาเพราะมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา
คนถูกชวนทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยถามแทนการตอบรับหรือปฎิเสธการชวน
“เพื่อนที่ว่าของแกนี่ชื่อธนูใช่มั๊ย”
“อือฮึ คุณธนู”
ปรมินทร์ตอบรับอย่างง่ายๆ
“ใครวะ ฉันไม่เคยเห็นได้ยินชื่อหรือเคยรู้จักเลย”
อานนท์สงสัยเลยซักต่อ ปรมินทร์จึงอธิบาย
“เพื่อนเพิ่งคบกันน่ะ พอดี ไปเจอกันที่ใต้ตอนที่ฉันหายตัวไปน่ะแหละ แต่จริงๆ ฉันกับเขาเคยเจอกันก่อนหน้านี้แล้วนะ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าฉันจะทำตัวไม่ดีไปหน่อย”
คนอธิบายนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นในห้องน้ำที่ธนูเข้าไปดูแผลเขาที่เกิดจากการโดนของมีคมบาดและปากแผลเปิดกว้างจากฝีมืออธิศร
“โอ๊ะ โอ เพื่อนหรืออะไรกันแน่เนี่ย มันน่าสงสัยแฮะ”
อานนท์อดที่จะแซวหน้าบานไม่ได้เมื่อถึงบ้างอ้อ แต่ก็ต้องหน้าหดลงเมื่อได้ยินคำยืนยันความสัมพันธ์ที่คนถูกแซวเอ่ยบอก
“ฉันกับคุณธนูคบกันในฐานะเพื่อนพี่และน้องกันเท่านั้นแหละ เราเป็นอย่างอื่นกันไม่ได้หรอก”
“ทำไมเหรอ คุณธนูที่แกว่าเป็นชายแท้มีแม่ศรีภรรยาแล้วเหรอ”
“ไปกันใหญ่แล้วอานนท์ คุณธนูยังไม่มีพันธะผูกพันใดๆทั้งนั้นแหละ แต่เขากับฉันคบกันอย่างที่แกสงสัยไม่ได้เข้าใจหรือยัง”
“ทำไมวะ ตอนนี้แกก็โสด คุณธนูก็ไม่มีพันธะ แถมอยู่ต่างจังหวัดด้วยกันตั้งหลายวัน มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกันบ้างเหรอ”
“นี่นี่นี่ ฉันไม่ได้ไวไฟขนาดนั้นนะ คิดอะไรของแกเนี่ย”
“อ้าวจะไปรู้เหรอ เออว่าแต่แกคุณธนูนี่เข้าหาแกได้ไงวะ ให้ฉันนึกนะโว้ย ตอนที่แกหลบไปเลียแผลใจ หน้าแกต้องดุ ตาแกต้องบวม หัวหูผมเผ้าแกคงดูกระเซอะกระเซิงดูไม่ได้ ใคร๊ เขาอยากจะมองแก”
“แกไม่คิดบ้างเหรอว่าฉันจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเขาเอง”
“อ้าวก็ไหนแกบอกว่าแกไม่ไวไฟไงแกนี่”
“เออๆๆๆ ช่างมันเถอะ ใครเข้าหาใคร มันไม่ใช่ประเด็นหรอก แค่ตอนนี้ฉันกับเข้าเข้าใจกันและกันก็พอ”
“อู๊ยยยยยยหวานซะ แล้วอย่างนี้บอกไม่ใช่แฟน ฉันไม่โง่ที่จะเชื่อหรอกนะ เอางี้ วันนี้ฉันกับแกแยกกัน แกก็ไปหาแฟนใหม่ของแก ส่วนฉันก็จะไปส่วนของฉันโอเค๊”
ปรมินทร์หยุดคิด ก่อนจะตอบตกลง ฟังจากน้ำเสียงธนูเมื่อครู่หนุ่มใหญ่คงอยากที่จะเจอเขาตามลำพัง มีเรื่องอะไรให้กลุ้มใจกันนะธนู
อานนท์เดินแยกจากไปแล้ว ปรมินทร์จึงไปตามที่นัดหมายไว้กับธนู ในขณะที่ในอีกมุมหนึ่งของเมืองกรุง ใครบางคนกำลังนั่งทอดหายใจอยู่ในรถที่จอดอยู่ริมสวนสารธารณะ
วิศรุตไม่มีแรงที่จะขับรถกลับบ้านหลังจากที่การเจรจาการซื้อขายกับบุคคลคนสำคัญล้มเหลวเพราะความไม่เอาไหนของตัวเอง หนุ่มใหญ่เกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หูอื้อตาลาย ขณะกำลังนำเสนอเรื่องผลประโยชน์ผลกำไรที่ต่างฝ่ายต่างจะได้รับ หากมีการเซ็นสัญญาซื้อขายร่วมกัน ข้อมูลแน่นปึกที่เตรียมมามลายหายไปกับอาการทางร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการนำเสนอ อีกทั้งอาการเจ็บหนึบจากรอยแผลที่เย็บก็แล่นเข้าเล่นงานจนสมองหนักอึ้ง ส่งผลไปยังการพูดจาที่ตะกุกตะกัก ผลสุดท้ายการสนทนาถูกยกเลิกด้วยเหตุผลที่คู๋สนทนาบอกว่า ไม่ประทับใจกับข้อเสนอที่ติดๆขัดๆและฟังไม่รู้เรื่อง
ฟ้าเริ่มมืดลงอีกครา คนไร้เรี่ยวแรงฮึดร่างกายสตาทรถเตรียมที่จะแล่นกลับไปพักผ่อนที่บ้านให้เต็มที่ หนุ่มใหญ่เลิกที่จะคิดถึงวันพรุ่งนี้ที่เขาจะต้องรายงานผลการเจรจากับประธานบริษัท อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
รถหรูเคลื่อนตัวออกแล่นไปบนท้องถนนใหญ่อีกครั้ง
เสียงโทรศัพท์ที่วางไว้เบาะว่างข้างตัวดังขึ้น เจ้าของเครื่องเอื้อมมือหยิบมาดู แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นเป็นเบอร์ที่บ้านโทรเข้ามา คนที่บ้านไม่ค่อยที่จะติดต่อกับเขาเท่าไรนัก แล้ววันนี้มีอะไรเกิดขึ้นกัน
“อ้าว วีณาเองเหรอ ว่าไงที่บ้านมีอะไรหรือเปล่า”
หนุ่มใหญ่เอ่ยทักต้นสายเมื่อกดรับสัญญาณแล้วจำเสียงได้ว่าฝ่ายนั้นเป็นน้องสาวคนเล็กของที่บ้าน
“เฮียวิชญ์ กลับมาเคลียร์กับป๊ากับม๊าที่บ้านใหญ่เลยนะ”
น้ำเสียงน้องสาววีนกลับมาตามสาย คนได้ยินถึงกับนิ่วหน้า เรื่องงานยังเครียดจนหัวแทบแตก แล้วนี่ที่บ้านเกิดอะไรขึ้นอีก
“มีอะไรเหรอวีณา น้ำเสียงเราฟังดูไม่ดีเลย”
คนเครียดถามน้องสาว
“จะให้ดียังไงไหวล่ะ อยู่ดีๆมีใครก็ไม่รู้เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นคู่ขาเฮียวิชญ์ถึงในบ้าน ม๊าถึงกับเป็นลมเลยรู้หรือเปล่า”
วิศรุตตกใจตัวเย็นเฉียบ ใครกันทำบ้าบิ่นอย่างนั้น
“ล้อเล่นน่าวีณา เฮียมีคู่คงคู่ขาที่ไหนเล่า วันๆก็ทำแต่งาน ก็รู้ๆกันอยู่”
คนตัวเย็นออกตัวเรื่องงานไว้ก่อน ในสมองพยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด น้อยคนนักที่จะรู้จักบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวเขา หรือแทบจะไม่มีใครรู้จักเลยด้วยซ้ำในฐานะของคู่ขา
“ไม่รู้ล่ะ ป๊าให้นาโทรมาตามเฮียวิชญ์ให้เข้ามาเคลียร์เรื่องนี้ด่วนด้วย”
“อืม ไว้วันหลังได้มั๊ยล่ะ วันนี้เฮียเหนื่อยมากอยากนอนพัก”
วิศรุตรู้สึกล้าจริงๆกับเหตุการณ์ที่คิดว่าจะต้องปวดหัว กับการสาธยายสภาพความเป็นอยู่นอกบ้านของเขาให้กับทางพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฟัง ใครกันมาเล่นตลกกับเขา
“ไม่ได้ยังไงวันนี้เฮียต้องมา เหนื่อยนักก็นอนบ้านเราก็ได้นี่ ตอนนี้ไม่มีใครใจเย็นกับเรื่องของเฮียได้เลยนะ คู่ขาเฮียมันร้ายมันทรามมาก ขนาดป๊ากับม๊ายังเอามันไม่อยู่ รู้มั๊ยว่ามันวีนแตกขนาดไหนตอนที่พวกเราเชิญมันออกจากบ้าน”
“ไปกันใหญ่แล้ววีณา อำอะไรเฮียหรือเปล่าเนี่ย หรือวันนี้วันเกิดใคร ก็ไม่นะ ถ้าอยากให้เฮียกลับบ้านก็บอกกันดีๆสิ อย่าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อกัน”
“ใครเขาอยากเอาเรื่องแบบนี้มาล้อให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูลล่ะ อย่ามัวโอ้เอ้ เฮียรีบมาด่วนเลยนะ ก่อนม๊าจะอกแตกตาย เพราะนายปรมินทร์นั่นของเฮีย”
วิศรุตตัวชาพูดจาไม่ออก เมื่อซักครู่น้องสาวเขาเอ่ยชื่อใครกันนะ
“ว่าไงนะวีณา ตะกี้เราเอ่ยถึงใครนะ”
หนุ่มใหญ่รีบถามกลับเมื่อตั้งสติได้
“ก็คู่ขาทรามๆของเฮียไง นายปรมินทร์ มันเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นคนของเฮียและเพิ่งเลิกกะเฮีย มันมาขู่เรียกร้องค่าเสียหายที่เฮียทำมันบาดเจ็บ ไม่รู้มันเป็นพวกต้มตุ่นหรือเปล่า เดินกะเผกมาบอกเท้าตัวเองต้องเย็บไปกว่าสิบเข็มเพราะเฮีย แถมมือก็พันผ้ามาบอกเฮียเป็นคนทำให้มันได้เลือดที่นิ้ว มันบอกมันติดต่อคุยเรื่องนี้กับเฮียแล้ว แต่เฮียท้ามันให้มาหาเฮียที่บ้านนี้ถ้าอยากได้ค่าเสียหาย พวกเราพยายามโทรหาเฮียหลายรอบแล้วแต่เฮียปิดเครื่อง เนี่ยเพิ่งจะโทรติด ไม่รู้ล่ะ เฮียเข้ามาเคลียร์เรื่องนี้กับป๊ากับม๊าเองด้วย นาไม่ยุ่งด้วยแล้ว แค่ต่อปากต่อคำกับคู่ขาทรามๆของเฮียนาก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว แค่นี้นะ รีบมาด้วย”
วิศรุตวางสายลงไปอย่างคนเลื่อนลอย ปรมินทร์กล้าทำถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ หนุ่มใหญ่เชื่อว่าน้องสาวตัวเองไม่โกหกแน่นอน เรื่องนี้ยังไงเขาก็ต้องเคลียร์อย่างแน่นอน นี่มันอะไรกัน ทำไมชีวิตเขาต้องมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ด้วย ทำไมคนของเขาไม่แยกโลกส่วนของเขากับส่วนของคนทั่วไปไว้คนละใบกัน เอามันมารวมกันชีวิตเขาก็เท่ากับพังท่าเดียว หรือคนทำต้องการอย่างนั้น
“อะไรวะ เปลี่ยนเบอร์หรือไงเนี่ย”
โทรศัพท์ถูกเหวี่ยงลงบนเบาะที่เดิมพร้อมคำสบถของคนโทร เมื่อพยายามติดต่อเลขหมายปลายทางแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
“กล้าทำกับพี่จริงๆหรือปักษ์”
คนสบถเปลี่ยนมาพูดจาคล้ายๆพึมพำเมื่อนึกถึงแววตาและสีหน้าคาดโทษของคนเคยรักเขาแต่ตอนนี้เขาคิดว่ามันคงแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดไปแล้ว
.
.
.
.
.
.
TBC.

three

  • บุคคลทั่วไป
ทรีว่านายอาร์มแน่ๆอ่ะนิสัยไม่ดีเลยน่าจับแยกชิ้นส่วน :m16:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:
จะขาดใจจจจจ...ไอ้อาร์มอีกแล้ววววววววววววววว....เลวมากกกกกกกก
คิดแล้วกลุ้มมมม แหมมมมม มันทำซะเนียนนนนนพันขาพันแขน...... o9
ตายๆๆๆๆๆๆ ไอ้พี่วิชย์ยิ่งโง่ ๆ อยู่ด้วยยยยย หน้ามืดตามัวววว ไม่ตรวจไม่สอบมาอาละวาดกะน้องปักษ์แน่
สงสารก็สงสาร แต่ถ้ามาอาละวาด ต้องยุให้พี่ธนูต่อยซะให้ตายยยยยยย....  :m16:
 :a6::
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2007 14:56:14 โดย nartch »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............คนเลวคนนึง....กับคนโง่คนนึง

............ก็เหมาะสมกันดี....... :m29: :m29:

armani

  • บุคคลทั่วไป
เอาเลยๆๆๆ ตามไปจัดการปรมินทร์เลย..  :m26: เอาแบบให้ไม่ต้องคืนดีกันเลย
ปรมินทร์จะได้ตัดสินใจง่ายๆ  :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อาร์มนี่มันเลวได้โลห์เจรงๆๆ  o12
แบบนี้ต้องเอาคืนอย่างสาสม

รออ่านต่อหมูพูห์  :a2:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับเป็นอาร์มแน่ๆเลยครับ ที่มาทำอย่างนี้

เหอๆๆแล้วปักด์กับ พี่วิช จะทำไงต่อไปอะครับผม

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
โห............เนี่ยแหละ ควายร้อยตัวไม่มีวัวปนจิง ควายบริสุทธิ์มากๆเลยครับท่าน

hutsepsut

  • บุคคลทั่วไป
:m11: :m4:....กำลังสนุกเลย...มาต่อเร็วๆน้าครับ...อยากรู้อ่ะ..ว่านายร้ายจะร้ายได้ใจเลยรึเปล่า....ขอบคุณนะคร้าบ.... o14 o15

[attachment deleted by admin]

nanao

  • บุคคลทั่วไป
เลวได้ใจจริง ๆ เลยนายอาร์ม  :m16:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

ตอนที่ 12

ทางด้านคนถูกรำพันถึงกำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนใหม่ภายใต้แสงดาวบนดาดฟ้าของคอนโดหรูอย่างคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่าชื่อตัวเองถูกใครบางคนแอบนำไปแอบอ้างใช้ในเรื่องใด
“ปักษ์ ไม่โกรธผมแน่นะ”
ธนูเอ่ยถามคนข้างตัวที่นั่งรับลมอย่างคนไม่ติดใจอะไรในคำบอกเล่าของเขาถึงเหตุการณ์ที่เขาไปเผชิญมา
“จะโกรธทำไมล่ะครับ เงินก็เงินคุณธนู คุณธนูจะเอาไปใช้จ่ายยังไงก็สิทธิของคุณนี่ครับ”
ปรมินทร์ตอบจากใจจริง ถ้าเขารับรู้เรื่องที่ธนูยอมเสียเงินหลายแสนเพื่อปลดหนี้ให้อธิศรก่อนที่เขาจะได้พูดคุยกับอานนท์เมื่อช่วงเย็น เขาก็อาจจะมีเคืองบ้างนิดหน่อยกับสิ่งที่ธนูทำลงไป แต่เมื่อคิดที่จะปลงตกและเลิกแล้วต่อกันกับอธิศร เขาก็ควรจะเริ่มจากตรงนี้โดยเลือกที่จะไม่ร้อนรุ่มกับสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ชายหนุ่มเชื่อว่าธนูมีเหตุผลของตัวเอง แน่ล่ะนั่นคือการไม่ผิดคำพูดที่ได้ให้ไว้ตอนยื่นนามบัตรให้กับชายฉกรรจ์เมื่อคืนนั้น
“ผมไม่น่าเข้าไปยุ่งกับสองคนนั่นอย่างที่ปักษ์ได้เตือนไว้เลย”
ธนูบอกอย่างรู้สึกผิด ที่คืนนั้นไม่ยอมเดินหนีจากอธิศรไปกับคนข้างตัว ใช่ว่าหนุ่มใหญ่จะเสียดายเงินที่เสียไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาอาจจะเสียดายอย่างมากแต่ณ.ปัจจุบันนี้ ปัญหาที่เขาเผชิญอยู่ทำให้เขาปลงตกกับสิ่งของนอกกายไปเยอะ แต่ที่รู้สึกผิดคือเขาช่วยอธิศร ก็เหมือนช่วยเหลือศรัตรูหัวใจของปรมินทร์
“อย่าคิดมากเลยครับ ถือซะว่าคราวเคราะห์ คราวหลังผมบอกอะไรก็เชื่อผมแล้วกัน”
ปรมินทร์บอกยิ้มๆอย่างคนอารมณ์ดี เพราะไฟแค้นได้มอดไปแล้วตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ
ธนูยิ้มได้บ้าง และรับปากว่าต่อแต่นี้ไปจะเชื่อฟังปรมินทร์ทุกอย่าง ขอให้เจ้าตัวบอกเถอะ เขาพร้อมที่จะชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ การสนทนาพูดจาตามประสาเพื่อนที่ไม่มีกำแพงกั้นไม่ว่าอีกคนจะมีปมในใจดำเนินดำเนินไปอย่างราบรื่นท่ามกลางหมู่ดาวระยิบ และลมเย็นๆที่พัดโชยมาบนลานกว้างของดาดฟ้า
“คืนนี้ค้างกับผมนะปักษ์”
ธนุเอ่ยชวนในตอนท้ายของการสนทนาเมื่อคนมาหาเขาทำทีว่าจะขอตัวกลับ
ปรมินทร์หยุดคิด มองหน้าคนชวนพินิจ
“ผมไม่ทำอะไรปักษ์หรอก ผมสัญญา ผมทำร้ายปักษ์ไม่ลงหรอกครับ เราเจอกันช้าไปผมรู้ดี แค่คืนนี้ผมเหงาแค่นั้นเอง”
คนถูกมองหน้าอธิบายต่อถึงสาเหตุที่คืนนี้ อยากมีเพื่อนอยู่เคียงข้าง แม้จะหวั่นใจว่าจะโดนปฎิเสธก็ตาม แต่แล้วคำตอบจากคนตรงหน้าก็ทำเอาหัวใจเขาพองโต
“ก็ได้ ผมจะค้างกับคุณธนู เพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้พูดอะไรออกไปลอยๆเมื่อตอนที่เราอยู่ริมทะเลด้วยกัน”
.
.
.
.
.
.
เสียงหัวเราะดั่งคนสะใจดังก้องในห้อง ยิ่งมองเห็นเศษผ้าขาวที่กองอยู่ริมห้อง เด็กหนุ่มก็ยิ่งสะใจ จนอดที่จะเอ่ยออกมาไม่ได้กับอีกคนที่ร่วมหัวเราะดัวยอย่างคนมีความสุขเหลือล้น
“กูสะใจเป็นบ้าว่ะไอ้กิตที่บ้านไอ้แก่วิศรุตนั่นโดนกูปั่นหัวซะวุ่นกันไปหมด จนอีแก่แม่มันถึงกับเป็นลมเป็นแล้ง”
“ใครบอกว่ามึงปั่นหัวพวกมัน ไอ้ปรมินทร์ต่างหากล่ะที่ปั่นหัวพวกมัน ไหนมึงเล่ามาซิไอ้อาร์มว่าตอนที่มึงสวมวิญญานไอ้เกย์ขาวีนนั่น มึงทำท่าไหน”
กิติกรแย้งก่อนจะถามถึงสภาพที่เพื่อนลงทุนพันผ้าขาวที่เท้าที่มือ เพื่อหลอกตาคนที่บ้านวิศรุตว่าเจ้าตัวเป็นปรมินทร์ที่บุกเข้าไปวีนถึงในบ้าน ป่านนี้วิศรุตก็คงจะหลงเชื่อไปกับคำบอกเล่าของบรรดาญาติๆแล้วล่ะมั้งว่า คนที่บุกไปวีนแตกถึงบ้านจนทำให้หญิงวัยแก่คนหนึ่งเป็นอันสลบคือ ปรมินทร์ นึกแล้วมันสะใจแทนคนวางแผนเสียจริง อธิศรเพื่อนเขานี่มารยามันไม่ใช่เล่นๆ งานนี้ถ้าปรมินทร์ไม่โดนสอบสวนราวีจากวิศรุตก็ไม่รู้จะว่ายังไง แม้สุดท้ายความจริงมันจะเปิดเผยจนได้ก็เถอะ แต่แผนนี้ที่อธิศรทำลงไปต้องสร้างรอยแผล รอยหมางและรอยร้าวให้สองคนมองหน้ากันไม่ติดบ้างสิน่า
และก็เป็นจริงอย่างที่กิติกรคิดเมื่อทันทีที่วิศรุตไปถึงบ้าน หนุ่มใหญ่ฟังบรรดาญาติๆที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าเรื่องราวให้ฟัง แม้ไม่อยากจะเชื่อนักว่าคนที่บุกเข้าบ้านเขาคือปรมินทร์ แต่ชื่อที่เจ้าตัวกล่าวอ้างและรูปลักษณะที่เขาลองสอบถามดู คนบ้าบิ่นคนนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ปรมินทร์
“ร้ายกับพี่ได้ขนาดนี้พี่ก็จะเลวกับนายอย่างถึงที่สุดเหมือนกันปรมินทร์”
หนุ่มใหญ่เอ่ยคาดโทษอย่างคนโมโหสุดขีดเมื่อขับรถออกจากบ้านใหญ่ของครอบครัว หนุ่มใหญ่ไม่รอช้าที่จะตรงไปยังห้องพักของคนที่ตัวเองคาดโทษ คราวนี้เขาตั้งมั่นว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อ อ่อนแรงให้ฝ่ายนั้นได้ใจที่จะเหิมเกริมกับเขาได้อีก ปรมินทร์เคยเป็นรองเขายังไง วันนี้ทุกอย่างก็ต้องเป้นอย่างนั้น ขาดเป็นขาดกัน คนรักที่กลับกลายเป็นศรัตรูคงไม่ได้มีแค่คู่เขาคู่เดียว ช่วยไม่ได้ที่ผ่านมาเขาพยายามรอมชอมแล้วนี่ แต่ปรมินทร์ยังรั้นเอง ก็ดี อยากลองดีกับเขาเขาก็จะสนองให้สาสม!!
.
.
.
.
.
.
วิศรุตหงุดหงิดฉุนเฉียวเมื่อไปหาปรมินทร์ที่ห้องพักแต่ไม่เจอเจ้าตัว หนุ่มใหญ่จำใจขับรถกลับบ้านด้วยอาการร้อนรน พยายามโทรติดต่อคนไม่อยู่ติดห้องหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล คล้ายๆว่าเบอร์ที่เขาโทรหาไม่มีเจ้าของ
อธิศรออกไปเริงร่าท้าราตรีกับกิติกรเมื่อเพิ่งรับรู้ว่าพวกตนเป็นอิสระจากหนี้ก้อนโต หัวใจเด็กหนุ่มพองใหญ่คับอกเมื่อรู้ว่าหนี้ก้อนนี้ใครเป็นคนปลดให้
“กูว่าแล้วว่าพี่ธนูต้องสนใจกู”
เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างคนสมหวัง ทำไมอะไรๆมันช่างง่ายนัก สะใจดีแท้ๆเมื่อนึกถึงว่าจากนี้ต่อไปเขาจะได้ตามราวีจ้องล้างจองผลาญวิศรุตกับปรมินทร์ได้เต็มที่เต็มทาง วิศรุตหมดความสำคัญลงแล้วนี่ เขาจะแคร์อะไรอีกหากว่าคิดจะทำอะไรๆที่มันรุนแรงกว่าเข้าไปปั่นหัวที่บ้านเจ้าตัว หึๆ ก่อนอื่นขอจัดการกับอีแก่ที่กันท่าเขาไม่ให้เขาเข้าไปในบ้านที่เคยเข้าออกนั่นก่อนเถอะ เชื่อฟังเจ้านายดีนัก แก่ไม่แก่ไม่สนล่ะ เคยหักหน้าเขาไว้แบบนี้ หงอกมีกี่เส้นเขาจะกระชากถอนมันซะให้หมด
คนคิดแผนการทวงแค้นที่เคยโดนหักหน้ายิ้มเหี้ยมก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปสำรวจสถานการณ์ที่บ้านเป้าหมาย
“คุณวิชญ์ยังไม่กลับค่ะ ไม่ทราบจะฝากข้อความไว้มั๊ยคะ”
เสียงหญิงแก่ปลายสายตอบกลับมาเมื่อคนสำรวจสถานการณ์ทำทีถามถึงเจ้าของบ้าน
หึ ไอ้แก่นั่นยังไม่กลับบ้าน คงตะลอนๆตามไปราวีไอ้ปรมินทร์นั่นน่ะสิ ขอให้พวกมันฟาดฟันกันให้ถึงที่สุดเถอะ ส่วนอีแก่นี่ กูขอจัดการเอง
คนโทรเข้ามาวางสายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หญิงแก่แม่บ้านวิศรุตงุนงงนิดหน่อยที่ยังคุยอะไรไม่รู้เรื่องก็ถูกตัดการสนทนาด้วยการถูกวางหูใส่ แต่หญิงวัยทองก็ใช่ว่าจะใส่ใจมากนัก ดีซะอีกที่ไม่ต้องคุยยาวนี่ก็ดึกแล้ว นางจะได้เข้านอนซะที
“ไอ้กิต เลิกดื่มได้แล้ว เดี๋ยวคืนนี้เราไปหาอะไรสนุกๆทำเพื่อฉลองอิสระดีกว่า”
อธิศรคว้าแก้วเครื่องดื่มมึนเมาจากมือเพื่อนวางกระแทกลงบนโต๊ะ กิติกรแม้จะไม่ค่อยพอใจนัก แต่ประโยคที่ว่าหาอะไรสนุกๆทำของเพื่อนซี้ มันคงจะสนุกจริงๆ จึงยอมโดนลากตัวออกจากร้านอย่างว่าง่าย
จุดหมายที่อธิศรพามา กิติกรออกอาการงงนิดหน่อย บ้านหลังที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ เขาไม่เคยมา มันเป็นบ้านใครกัน
“มึงพากูมาที่นี่ทำไมวะอาร์ม”
คนสงสัยถามเพื่อน คนถูกถามยิ้มเหี้ยม ก่อนจะสาธยายแผนการที่ชวนคนถามมาที่นี่
“หา นี่มึงจะทำร้ายคนแก่ได้ลงคอเหรอไอ้อาร์ม”
กิติกรโพล่งปากถามเมื่อได้รับรู้ว่าอธิศรจะพาเขามาทำอะไร
“ก็เออน่ะสิ ทำไม มันไม่ใช่แม่กูซะหน่อย สั่งสอนนิดสั่งสอนหน่อยให้มันหลาบจำว่าไม่ควรจะถือดีกะกูมันจะเป็นไรไป”
อธิศรบอกอย่างจริงจัง นึกถึงวันนั้นแล้วก็ยังแค้นใจไม่จบ เด็กหนุ่มมองสำรวจรอบกายที่ไร้วี่แววผู้คน จึงคิดที่จะเดินไปกดออด เรียกเหยื่อให้ออกมาเพื่อเชือด แต่แล้วก็นึกอะไรได้จึงหยุด หันมองหน้าเพื่อนที่ยืนละล้าละลังอยู่ด้านหลัง
“มึงมีแผนอะไรมองหน้ากูแบบนี้”
คนถูกมองหน้าถามอย่างรู้แนวคนมอง อธิศรยังไม่ตอบคำถามนั่น เด็กหนุ่มยิ้มเพียงนิดก่อนจะเสี่ยงโทรศัพท์หาเจ้าของบ้านหลังที่ตัวเองกำลังจะเข้าไป
“ว่าไงอาร์ม โทรมาซะดึก มีอะไร”
วิศรุตถามเสียงห้วน เพราะยังอารมณ์ไม่ดีอยู่จากการพลาดเจอปรมินทร์
อธิศรแสยะปากให้น้ำเสียงที่คล้ายรำคาญของวิศรุต ใช่ว่าเขาอยากจะเจอหน้าวิศรุตตอนนี้ซะเมื่อไหร่ ไอ้แก่คนนี้มันหมดค่าลงแล้ว ต่อแต่นี้คือการทวงแค้นเท่านั้น
“พี่วิชญ์อยู่ที่ไหนครับ อยู่ที่บ้านหรือว่าอยู่กับปรมินทร์”
เด็กหนุ่มแกล้งถามในสิ่งที่ตัวเองคิดจะใช้ประกอบแผนการชั่วช้าครั้งนี้
“ไม่ได้อยู่ที่ไหนหรือกับใครทั้งนั้น”
วิศรุตตอบอย่างเสียไม่ได้
“หมายความว่าไงครับ”
อธิศรถามเพื่อให้แน่ใจ
“พี่กำลังขับรถอยู่ มีอะไรก็ว่ามาเลยดีกว่า พี่ไม่อยากคุยโทรศัพท์นานๆ ตอนขับรถ”
คนถูกถามตอบเป็นเชิงนำทางเพื่อตัดบท ในใจเขาต้อนนี้ร้อนรุ่มอยากจะเจอ คนร้ายกาจอย่างปรมินทร์เท่านั้น
“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมกำลังจะนอนพอดีคิดถึงพี่วิชญ์ก็เลยโทรมากู๊ดไนท์”
คนรู้ตัวว่าฝ่ายนั้นเอ่ยไล่ทางอ้อมเอ่ยหยอดด้วยคำหวานก่อนจะยอมวางสาย หันไปยิ้มพรายให้เพื่อนซี้ที่ยืนรอฟังแผนการ
“มึงนี่มันสุดยอดจริงๆ ไอ้อาร์ม มึงกะจะให้ไอ้แก่วิศรุตนั่นฟาดฟันกับไอ้ปรมินทร์ไม่จบไม่สิ้นเลยเหรอวะ”
กิติกรเอ่ยขึ้นมื่อฟังแผนปฎิบัติการป้ายความผิดให้ปรมินทร์ที่เนียบเนียนจากอธิศรจบ
“แน่นอน มึงทำตามที่กูสั่งก็แล้วกัน กูบอกแล้วไง ว่างานนี้ต้องสนุก”
คนวางแผนบอกก่อนจะมองมาดร้ายไปยังตัวบ้าน ส่งสัญญาณให้เพื่อนเริ่มเดินตามแผน
.
.
.
.
.
.
TBC.

three

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมอาร์มมเป็นคนนิสัยเลวร้ายแบบนี้ล่ะครับ เลวร้ายมากๆเลยทำไมต้องไปพาลกับคนอื่นๆอ่ะแย่มาก :sad2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
555 เลวแบบนี้ รางวัลตัวร้าย ไม่หนีไปไหนแน่ๆ

yayoy

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:

ไอ้อาร์ม แกมันเลวววววววววววววววววววววววววววววว!! สมแล้วที่มีแต่คนเสนอชื่อ

น้องบอย..ยอดเยี่ยมซาเหมอ...เรื่องนี้เน้อหาเข้มข้นมากเลย...
จะติดตามต่อไปนะคร๊าบบบบ

 o13 o13 o13


armani

  • บุคคลทั่วไป
เอาอีกๆๆๆๆ เอาให้ยายแก่นั่นเจ็บตัวไปเร้ยยยย :m4:

ปรมินทร์จะได้ไปกับนายธนูเร็วๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.............อนาคตนางร้ายละครหลังข่าวแน่เลย.......... :m16: :m16:

image_papa

  • บุคคลทั่วไป
 :m16: จะตามดูต่อไปว่าใครมันจะเจ็บมากกว่ากัน
   :angry2:  บังอาจมาจองล้างจองผลาญนายปักษ์ของผม  เด๋วได้เห็นดีกันแน่นายอาร์ม  :angry2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ เลวกว่านี้มีอีกมั๊ย  :a9:  :a9:  :a9:

hutsepsut

  • บุคคลทั่วไป
:sad2: o7.....โอ้ว...ครายมะรักมะเชียร์นายร้ายของไอ้กระพ้ม...ก็มิว่าอันไดหรอกขอรับ...แต่ที่ไอ้กระพ้มชอบเพราะคนเขียนเค้าแต่งได้ร้ายถึงใจตะหากขอรับ...ไงก็แอบเชียร์นายเอกปรมินทร์อยู่ดีนะขอรับ... o13 :give2: :m17:

[attachment deleted by admin]

nanao

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้จุดจบของอธิศร จริง ๆ  o12

nartch

  • บุคคลทั่วไป
  o22
ตายยยยยยทุกอย่างเกิดขึ้นโดยนายปักษ์ยังไม่รู้ตัวเลยซักนิดดดด ไม่อยากคิดเลยตอนเผชิญหน้ากับพี่วิชญ์
ธนูเอ๋ยธนู....ช่วยมันง่ายขนาดนี้....โอ้ยยยย ทำใจมะได้..... :m16:
รีบต่ออย่างเร่งด่วนนนนนนน ขัดใจมากกกกก.....
 :o

niph

  • บุคคลทั่วไป
 :m28:
อาร์มจะทำไรอ่ะ
 :m28:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

ตอนที่ 13

ขณะเลี้ยวรถเข้าจอด วิศรุตแปลกใจเมื่อเห็นในตัวบ้านเปิดไฟทิ้งไว้ เขาเคยสั่งแล้วนี่นาว่าถ้าจะนอนให้ปิดไฟทุกดวง ดึกดื่นป่านนี้เป็นไปไม่ได้หรอกที่แม่บ้านเขาจะยังไม่นอน เอ หรือนางลุกขึ้นมาทำอะไรกลางดึก
คนสงสัยเดินเข้าบ้านเมื่อจัดการจอดรถได้เป็นที่เป็นทางเรียบร้อย
“ประตูบ้านก็ไม่ล็อค เอา เอาเข้าไป”
หนุ่มใหญ่บ่นอย่างคนที่กำลังหงุดหงิด เมื่อเห็นประตูบานแรกของตัวบ้านเปิดแง้มทิ้งไว้
กลิ่นคาวบางอย่างโชยแตะจมูกเมื่อมือหนาผลักประตูออกกว้างขึ้นเพื่อแทรกตัวเข้าไป หนุ่มใหญ่ถึงกับผงะเมื่อสายตามองไปสะดุดร่างหญิงสูงวัยนอนจมลิ่มเลือดอยู่บนพื้นกลางห้องโถง
“ป้าณี เป็นอะไรไปน่ะ”
คนผงะวิ่งตรงเข้าช้อนร่างคนที่นอนจมลิ่มเลือดอย่างนึกเวทนาและใจเสีย ใครกันบุกมาทำร้ายคนแก่ในบ้านเขาได้ขนาดนี้
ร่างหญิงวัยทองในวงแขนบอบช้ำตามส่วนต่างๆ จ้ำเป็นรอยเขียวน่าจะเกิดจากการถูกทุบตีและเค้นบีบ เลือดสีเข้มไหลซึมออกทั้งทางปากและจมูก ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงรุงรัง เหมือนถูกจิกดึง มีบางกระจุกตกหล่นอยู่บนพื้นดูแล้ว น่าหดหู่ใจยิ่งนัก ร้ายไปกว่านั้น คือเจ้าของเส้นผมหมดสติสลบเหมือดไปอย่างน่าเวทนา
.
.
.
.
.
.
ในความสลัวของถนนเล็กในซอยามค่ำคืน อธิศรกอดคอเพื่อนซี้เดินกลับเข้าที่พักอย่างคนอารมณ์ดี แม้คนที่จัดการกับอีแก่แม่บ้านถือดีของวิศรุตจะไม่ใช่เขา แต่เขากลับสะใจยิ่งกว่าลงมือเอง เพราะอะไรน่ะเหรอ ถ้าเขาลดตัวไปลงมือกระชากหนังหัวตบตีจิกข่วน ชกต่อย บีบเค้น อีแก่นั่นเองกับมือ ก็เท่ากับเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางน่ะสิ ก็หน้าตาเขาอีแก่นั่นมันเคยเห็นนี่นา การที่เขาส่งกิติกรไปจัดการสั่งสอนนังนั่นก็เท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ตัวแรก อีแก่ถือดีนั่นบาดเจ็บสาหัส ตัวที่สอง ปรมินทร์กับวิศรุตคงจะญาติดีกันลำบาก เพราะการราวีครั้งนี้เขาให้กิติกรสวมหัวโขนปรมินทร์อย่างที่เขาเคยสวมมันตอนบุกไปปั่นหัวที่บ้านใหญ่ของวิศรุต อีแก่แม่บ้านไม่เคยเห็นหน้ากิติกร และมันก็คงจะไม่รู้จักปรมินทร์ เขาแค่ให้กิติกรแสดงตัวว่าเป็นไอ้เกย์ขีวีน แม่บ้านโง่ๆอย่างอีแก่หนังย่นนี่จะมีปัญญาคิดว่านี่คือแผนดึงแพะมารับบาปก็ให้มันรู้ไปสิ
“มึงคิดว่าอีแก่นั่นพอฟื้นขึ้นมามันจะไปแจ้งความมั๊ยวะ”
กิติกรเริ่มเป็นกังวลเมื่อนึกวาดอนาคตตัวเองไว้ว่าจะต้องโดนซิวแน่ๆ ตอนนั้นเพราะนึกคะนองแท้ถึงได้ทารุณศัตรูเพื่อนได้อย่างเหี้ยมโหด
“มึงจะกลัวอะไร คนที่เข้าไปจัดการอีแก่นั่นมันไอ้ปรมินทร์ไม่ใช่มึงซักหน่อยท่องเอาไว้สิ”
อธิศรบอก เขาลงมือคิดแผนเขาต้องมีทางออกที่ดีสิ
“แต่มึงก็รู้ว่าเรื่องจริงมันไม่ใช่ คนที่จัดการอีแก่นั่นจนสลบคาตีนคือกูไม่ใช่ไอ้ปรมินทร์”
กิติกรแย้ง คนถูกแย้งหยุดกึกหันหน้ามอง
“ถ้ามันไม่แจ้งความนะ ก็ไม่มีใครสืบเรื่องนี้หรอก อีแก่นั่นยังไงมันก็ปักใจเชื่อว่าคนที่ซัดมันจนหมอบคือไอ้ปรมินทร์”
“ก็กูถึงถามนี่ไงว่ามันจะแจ้งความมั๊ย”
“กูคิดว่ามันไม่แจ้ง เชื่อมือกูเถอะ กูจะทำให้คนที่ผิดคือไอ้ปรมินทร์ไม่ใช่มึง และคนที่จะเป็นศาลเตี้ยตัดสินคดีนี้คือ ไอ้วิศรุตคนเดียวเท่านั้น”
อธิศรยิ้มหยันมุมปากเมื่อวาดฝันไว้ในจิตนาการว่าจะได้เห็นวิศรุตจัดการกับแพะรับบาปอย่างปรมินทร์ยังไง สองคนนี่เขาจะทำให้พวกมันแตกร้าวชนิดที่ตายก็ไม่เผาผีกันเลยทีเดียว ไม่เชื่อก็คอยดู!!!!
.
.
.
.
.ปรมินทร์ออกจากคอนโดของธนูตั้งแต่เช้าตรู่ ชายหนุ่มตรงกลับห้องพักในทันที พอถึงที่หมายเจ้าตัวถึงกับแปลกใจปนตกใจเมื่อเห็นคนคุ้นเคยอย่างวิศรุตเดินวนเวียนอยู่หน้าห้อง เมื่อไม่มีทางเลี่ยงจึงจำใจเดินเข้าไปทัก
“เข้าใจผิดคิดว่าที่นี่เป็นออฟฟิสเหรอครับ”
วิศรุตที่เดินวนเวียนอยู่ในชุดที่พร้อมจะเข้าทำงานหยุดเดินหันมามองทางต้นเสียงเมื่อได้ยินประโยคทักเมื่อครู่ หนุ่มใหญ่ตรงเข้าหาคนพูดทันทีด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
ปรมินทร์ตกในกับท่าทีที่เห็นจนตั้งตัวไม่ทัน มารู้ตัวอีกทีแขนยาวก็โดนกระชากจากคนพุ่งเข้าหา
วิศรุตออกแรงดึงปรมินทร์ลากไปหน้าห้องเจ้าตัวพร้อมกับบอกให้ชายหนุ่มเปิดประตูห้อง บอกมีเรื่องจะต้องเคลียร์ ปรมินทร์สะบัดแขนจนหลุดหันมาตวาดถามคนออกคำสั่งในทันที
“นี่มันเรื่องอะไรกันพี่วิชญ์ พี่ทำเหมือนจะหาเรื่องผมนะ”
“พี่ไม่ได้หาเรื่องนาย แต่พี่จะเอาเรื่องนาย”
วิศรุตตวาดกลับเสียงดังไม่ต่างกัน พร้อมกับบอกให้คนเผชิญหน้ารีบเปิดประตูห้อง เพราะไม่อยากเสียงดังอยู่บริเวณทางที่ใครก็ได้อาจเดินผ่านมา แต่คนที่ถูกออกคำสั่งไม่ทำตาม
“ทำไมผมต้องทำตามที่พี่บอก มีอะไรพี่ก็พูดตรงนี้สิ อย่างลืมนะว่าตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว พี่ไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปภายในห้องผม”
“นึกเหรอว่าพี่อยากจะเข้า ที่พี่มานี่ก็ใช่ว่าพี่จะพิศวาสหรือตามง้อขอคืนดีกับคนทรามๆอย่างนายหรอกนะ”
วิศรุตโพล่งออกไปอย่างคนบันดาลโทสะ ก็ยอมรับล่ะว่ายังรู้สึกดีๆกับคนตรงหน้า แต่ความผิดสองกระทงที่เขาได้รับรู้ว่าเจ้าตัวเป็นคนทำ เป็นเหตุให้เขาต้องเอ่ยในสิ่งที่ไม่อยากเอ่ย
ปรมินทร์อึ้งกับคำว่า ทราม ที่หลุดออกมาจากปากของวิศรุต เขาไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้ เจ้าตัวภึงได้มายืนด่าเขาแบบนี้ หรือวิศรุตยังครุกรุ่นอยู่กับเรื่องคืนนั้น คืนที่เขาเข้าข้างธนู ชดใช้ค่าเสียหายให้กับร้านนั่นไปเท่าไหร่ล่ะ ถึงได้พาลเป็นหมาบ้าแบบนี้
“จะไปไหนก็ไปซะพี่วิชญ์ ผมไม่อยากทะเลาะกับพี่ ผมเหนื่อย เราต่างคนต่างอยู่เถอะ ให้ทุกอย่างมันจบอย่างที่ควรจะจบ หรือถ้าพี่เคืองใจในสิ่งที่ผมทำกับพี่ ไม่ว่าจะหัวแตก หรือชดใช้ค่าเสียหายให้กับร้านนั่น พี่ก็พูดกับผมด้วยเหตุผลดีกว่า ว่าจะเอายังไง อย่าเอาอารมณ์มาพาลกับผมแบบนี้ ผมไม่อยากมองพี่ในด้านไม่ดีมากไปกว่าที่เป็นอยู่”
ชายหนุ่มบอกเหตุผลยืดยาวเพื่อที่จะใช้มันดับอารมรมณ์ร้อนของอีกฝ่าย อารมณ์ร้อนที่เขาเองก็เคยเป็น แต่ตอนนี้นิสัยแบบนั้นเขาโยนทิ้งมันไปจากตัวแล้ว ตั้งแต่ได้พูดคุยเปิดใจ ไม่ว่าจะกับอานนท์ หรือ ธนู สองคนนี้ทำให้เขาเป็นผู้เป็นคน หัดมองเหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ แต่ช่างน่าตลกนัก พอเขาคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยทิ้งนิสัยน่าสมเพชนั่น คนที่เคยทำให้เขาแทบบ้าแทบคลั่งกับเป็นมันซะเอง
“ไม่น่าเชื่อนะว่าวันนี้พี่จะได้เห็นปรมินทร์คนใหม่ คนที่ไม่ยอมให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ก่อนจะสอนพี่ก็ช่วยกลับไปมองตัวเองเมือก่อนหน่อยนะคนเก่ง ว่าตัวเองเคยน่าทุเรศและน่าสมเพชแค่ไหน”
“หยุดนะพี่วิชญ์!!”
ปรมินทร์เอ่ยเสียงดังเมื่อรู้สึกเจ็บกับคำพุดที่คนข้างหน้าว่ากระทบกระทั่งได้อย่างร้ายกาจ ก็เพราะเจ้าตัวไม่ใช่หรอกเหรอที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนั้น แล้วนี่ยังไงอีก พอเขาหยุด เขาพัก แล้วจะตามมาราวีเขาอีกทำไม มีเวลาว่างเหลือเฟือทำไมไม่เอามันไปดูแลเอาใจใส่คนของตัวเองอย่าง อธิศร จะรู้บ้างไหม ว่านายนั่นเสียการพนันบอลไปกี่แสน หรือชีวิตนี้ไม่เคยรักใคร นอกจากรักตัวเอง คิดแล้วมันช่างน่าสมเพชนัก ชีวิตทั้งชีวิต หัวใจทั้งหัวใจ เคยเอาไปฝากไปแขวนไว้กับผู้ชายคนนี้ได้ยังไงนะ ถ้าย้อนเวลาได้ คืนนั้นจะไม่เอ่ย จะไม่คุย จะไม่ทัก จะไม่เดินเฉียดใกล้แม้ซักคืบเลยให้ตายสิ!!
“ผมขอถามพี่อีกคำนะพี่วิชญ์ พี่มาที่นี่แต่เช้า เพราะอะไร”
คนนึกเกลียดชังเอ่ยถามเมื่อเห็นฝ่ายนั้นนิ่งเงียบไปกับคำตวาดเมื่อครู่ของตัวเอง
วิศรุตประเมินคนถามด้วยสายตา ในสมองครุ่นคิด คนที่ลงมือทำชั่วจะตีหน้าเซ่อใสซื่อบริสุทธิ์ได้ถึงเพียงนี้เชียวเหรอ สีหน้าและแววตาที่เขากำลังจ้องมอง ดูเจ้าตัวจะไม่สะทกสะท้าน ถ้าคนที่ทำผิดจริง หากเจอหน้าคู่กรณีจะจะแบบนี้ แววตาคงมีพิรุธไปแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คู่กรณีโดยตรงเลยก็เถอะ แต่บุคคลที่ได้รับความเสียหาย ล้วนเกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับเขาทั้งนั้น
“เมือวานไปที่ไหน ทำอะไรกับใครมาบ้าง”
หนุ่มใหญ่เอ่ยถามเสียงเย็นลง เมื่อใช้สมองประมวลความคิดที่เริ่มจะเอนเอียงว่าสิ่งที่ได้ยินมา มันจริงซักแค่ไหน
แม่บ้านเขาที่เขาพาส่งโรงพยาบาล พอฟื้นขึ้นมาก็โวยวาย พร่ำเพ้อ ว่าจะเอาเรื่องคนที่ชื่อปรมินทร์ให้ถึงที่สุด พอเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น นางก็ตอบว่าโดนคนร้ายบุกเข้าทำร้ายร่างกายกลางดึก นางคิดว่าเป็นพวกขโมยขโจร จึงได้ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ มันจึงลงมือตบตี ชกต่อย จิกผมกระชากขู่ว่าคราวหน้าคราวหลังอย่าอวดดีกับเพื่อนมัน พอนางถามว่าเพื่อนมันเป็นใคร มันบอกไม่ต้องเสือกอยากจะรู้ แค่ให้นางรู้ไว้ก็พอว่าคนที่จิกกระชากผมนางอยู่ตอนนี้ คือ ปรมินทร์ มันบอกมันชื่อปรมินทร์ เสียงหัวเราะสะใจของมัน นางบอกนางยังจำได้แม่น ก่อนที่นางจะสลบไปเมื่อมันกระหน่ำตบตีอย่างบ้าคลั่ง
“ที่ถามไม่ได้ยินหรือไง”
วิศรุตตะคอกใหม่เมื่อเห็นคนที่ตนถามยืนนิ่งไป โดยที่ไม่รู้ว่าคนนิ่งกำลังคิดอยู่ว่าจะบอกหรือไม่บอกดีว่าเมื่อวานต้องแต่ตอนเย็นจนถึงเช้าวันนี้ เขาอยู่กับใคร
“จะรู้ไปทำไม”
ปรมินทร์เอ่ยถามย้อนกลับเมื่อสองจิตสองใจว่าจะบอกหรือไม่บอกดีว่าตลอดคืนทั้งคืนเขานอนอยู่กับธนู
“ถามก็ตอบมาสิ มันต้องมีเหตุผลล่ะ พี่ถึงต้องถาม”
หนุ่มใหญ่เค้นใหม่ อันที่จริง หน้าที่นี้น่าจะเป็นหน้าที่ของทางการ ที่จะตามจับตามสืบคนที่แม่บ้านเขากล่าวอ้างว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายนาง ตอนแรกหนุ่มใหญ่ก็คิดจะให้มันเป็นอย่างนั้น แต่คิดไปคิดมา เขามาจัดการเรื่องนี้เองน่าจะดีกว่า ปรมินทร์ผิดจริงหรือเปล่ายังไม่มีใครรู้หรือตัดสินได้ มันน่าผิดสังเกตอยู่น้อยซะเมื่อไหร่ คนอะไรจะเดินสายทำชั่วได้ขนาดนั้น เขาเพิ่งได้รับข่าวจากน้องสาวว่าคนนๆนี้บุกไปวีนแตกถึงที่บ้านจนมารดาเขาเป็นลมเป็นแล้ง แล้วเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเขาก็กลับมาเจอแม่บ้านโดนทำร้ายร่างกายจนสลบไปอีกราย โดยพอฟื้น นางก็อ้างว่าเป็นฝีมือปรมินทร์ ปรมินทร์ที่เขาเคยรู้จัก จะร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวเหรอ
แม้จะยังไม่ปักใจเชื่อ แต่พอปะติดปะต่อเรื่องราว ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ปรมินทร์ไปอยู่ที่ไหนกัน เขามาหาที่ห้องก็ไม่เจอ
ปรมินทร์ นายบอกสิ ว่านายไปอยู่ที่ไหนมา เรื่องมันจะได้กระจ่าง
“จะเงียบให้มันได้อะไรขึ้นมาปักษ์ บอกพี่สิว่าเมื่อคืนนายไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรกับใครมา บอกพี่สิ บอกพี่มา”
วิศรุตตรงเข้าจับร่างคนนิ่งเงียบเขย่าอย่างคนที่กำลังสับสน ถ้าปรมินทร์หาพยานยืนยันได้ว่าตอนที่แม่บ้านเขาโดนทำร้ายว่ากำลังทำอะไรอย่ากับใคร เขาก็พร้อมที่จะรับฟัง ขอแค่เจ้าตัวบอกเท่านั้น
“เมื่อคืนผมอยู่ที่ห้องคุณธนู พอใจหรือยังล่ะ และเราทำอะไรกัน ผมคงไม่ต้องบอกละเอียดขนาดนั้นใช่มั๊ย”
ปรมินทร์หลุดปากเอ่ยในสิ่งที่กำลังนึกช่างใจ เมื่อโดนคนตัวใหญ่จับร่างเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน
วิศรุตชะงัก หนุ่มใหญ่รู้สึกมึนไปชั่วขณะ เมื่อคืนปรมินทร์อยู่กับธนู ไม่จริง ไม่จริง ปรมินทร์คงไม่ส่ำส่อนขนาดนั้น ไม่จริงเป็นไปไม่ได้
“ไม่จริงใช่มั๊ย ปักษ์ ปักษ์โกหกพี่ใช่มั๊ย เมื่อคืนปักษ์ไปบ้านพี่ และไปทำร้ายแม่บ้านพี่ใช่มั๊ย ใช่มั๊ย”
หนุ่มใหญ่ออกแรงเขย่าใหม่เพื่อเค้นเอาความจริงที่แม้จะทำให้คนในอุ้งมือดูชั่วช้าที่ทำร้ายคนแก่ได้ลงคอ แต่เขาก็พอที่จะรับได้กว่าที่ความจริงที่ว่า เมื่อคืน คนๆนี้ทำอะไรกับใคร ที่ไหน
“เลิกบ้าได้แล้วพี่วิชญ์ พี่เป็นอะไรของพี่ ผมตอบ ผมพูดความจริงไปแล้วพี่ยังจะเอาอะไรกับอีก แล้วใคร ใครไปทำร้ายแม่บ้านพี่ พี่เลี้ยงใคร รับใคร เข้าบ้าน ผมยังไม่รู้ ผมจะไปทำอย่างนั้นได้ไง แล้วบอกไว้ก่อนนะ บ้านพี่ ชีวิตนี้ผมก็ไม่ไปขอเหยียบ ผมกับพี่ขาดกันไปแล้ว เลิกบ้า แล้วจะไปไหนก็ไป ผมรำคาญ”
ปรมินทร์ตวาดกลับพลางออกแรงผลักให้คนที่จับร่างเขย่าไปให้ห่างตัว ชายหนุ่มแปลกใจที่มันง่ายดายเสียจนอดคิดไม่ได้
เรี่ยวแรงมหาศาลที่วิศรุตจับเขาเขย่ามันหายไปไหนหมด ทำไมเขาออกแรงผลักแค่นี้ เจ้าตัวถึงได้ร่นถอยเหมือนคนหมดแรงไปแบบนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้ามันไม่ใช่
วิศรุตส่ายหน้าช้าๆอย่างคนที่ไม่อยากรับรู้สิ่งที่ออกจากปากคนผลักร่างเขา ความผิดใหญ่หลวงที่เขาคิดจะเคลียร์มลายหายไปสิ้นพร้อมกับความวูบไหวที่เกิดในใจเขา ปรมินทร์กับธนูเลยเถิดกันไปไกลเกินกว่าที่เขาคิด นี่หรือเปล่าเป็นสาเหตุให้คนๆนี้ดูใจเย็นจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“ขอโทษที่พี่มากวนแต่เช้า”
หนุ่มใหญ่เอ่ยออกมาเสียงแผ่ว ก่อนจะเดินถอยหนีจากคนที่ทำจิตใจเขาวูบไหวอย่างช้าๆ ปรมินทร์มองตามคนที่เดินหนีเขาอย่างคนหมดเรี่ยวหมดแรงจนร่างนั้นลับสายตาหายเข้าไปในลิฟท์
“มันจบแล้วปักษ์ มันจบแล้ว”
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะพาตัวเองหายเข้าไปในห้องพัก พยายามไม่สนใจว่าคนที่เดินจากไปเมื่อครู่จะจากไปด้วยความรู้สึกใด
.
.
.
.
.
TBC.

ออฟไลน์ bbboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นกำลังใจให้ครับ o13 :m1:

niph

  • บุคคลทั่วไป
 :m11: :m11: :m11:
วิศรุตจะทำไงต่อ

น่าจะรู้แล้วนะว่าปักษ์ไม่ได้ทำ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด