(เรื่องสั้น)หน้า3 ยามเมื่อได้พบพาน:ปราบพยศ.ตอน5.100%หน้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น)หน้า3 ยามเมื่อได้พบพาน:ปราบพยศ.ตอน5.100%หน้า  (อ่าน 65757 ครั้ง)

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อ่อ ที่แท้ที่ฆ่าก็คือหุ่นกระบอกไม่ใช่คน งั้นคนก็ยังไม่ตายเอาไปอยู่ไหนเสียเล่า

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
อืมม จริงๆตู๋เสอเป็นพวกปากร้าย ใจดีเหรอ  o22

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
โห  แค่สนทนากันยังยาวขนาด

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ตู๋เสอ ใจดีแต่ไม่แสดงออกซินะ

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
ตู่เส๋อเราก็ใจดีนะเนี่ย

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ชื่นชมในความขยัน
เรื่องของไรท์เตอร์สนุกทุกเรื่องเลย
+1 ให้นะจ๊ะ

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
ตอนที่4.2

           "จื้อหนาน...พี่จื้อหนาน"  ม่อเจวียนส่ายใบหน้าช้าๆ ก่อนกล่าววาจาออกไป
           "ท่านยังคิดดื้อดึงไปไย...สู้เข้ากับข้า เราสองเคียงคู่ ยิ่งใหญ่ไปทั่วหล้า"
           ตู๋เสอฟังเช่นนั้น ก็ต้องให้ส่ายหน้าเช่นกันพลางกล่าววาจา
           "เราสองเคียงคู่ ยิ่งใหญ่ทั่วหล้าอันใด ในเมื่อเราสองมีจิตปณิธานแตกต่าง ข้านิยมถ้อยทีถ้อยอาศัย ร่วมกันอยู่ ร่วมกันกิน เจ้านิยมยิ่งใหญ่ ถือยึดไว้เป็นหนึ่ง มิคิดแบ่งปันผู้ใด"
           ม่อเจวียนฟังเช่นนั้นก็ให้นึกเคืองในหัวใจ ตอกกลับไปว่า
           "พี่จื้อหนาน  ท่านพูดได้...พูดอย่างไรก็ไม่มีอะไรแตกต่าง ข้ากับท่านก็มารร้ายไม่ต่างกัน เช่นนี้เหตุใดอยู่ร่วมกันมิได้"
           "มิได้....ข้าชมชอบสันโดดมิชอบให้ใครบงการควบคุม..พูดไปก็เปลืองวาจาเสียเปล่า เจวียนน้อย..เจ้ากลับไปเถอะ"  สุดท้ายตู๋เสอต้องเป็นผู้ตัดบทสนทนา เขาสะบัดเสียงเป็นเชิงให้เข้าใจว่า ไม่อยากต่อวาจาด้วยแล้ว เช่นนั้นม่อเจวียนก็เข้าใจแล้ว หากใช้ไม้อ่อนมิได้ผล  เหตุใดจะใช้ไม้แข็งมิได้
           "ดูว่าพี่จื้อหนาน จะไม่ยอมมอบคนๆนั้นแก่ข้า เช่นนั้นคงต้องล่วงเกินแล้ว"
           สิ้นเสียงม่อเจวียน บรรยายกาศโดยรอบก็เปลี่ยนแปลง ตอนนี้สภาวะตึงเครียดแผ่ขยาย การยืนคุมเชิงสังเกตการณ์ของแต่ละฝ่ายสิ้นสุดลงแล้ว เจ้าดำที่อยู่ระหว่างคนทั้งสอง ก็ล่วงรู้ถึงการณ์ต่อไป มันลุกขึ้นคำรามกู่ก้อง เตรียมกระโจนเข้าใส่ม่อเจวียนอีกครั้ง มิลังเลว่าเคยโดนสลัดออกมาจนสร้างความเจ็บปวดไปแล้วครั้งหนึ่ง
           ม่อเจวียนเห็นเจ้าดำแล้วให้รู้สึกรำคาญสายตา ใจหนึ่งอยากสะบัดฝ่าเท้าเตะออกไปให้มันตายคาที่ในครั้งเดียว แต่อีกใจยังเห็นแก่ตู๋เสอ หรือจื้อหนาน ที่ตนเองมีจิตปฏิพัทธ์รักใคร่ ด้วยเหล่าสุนัขป่าเป็นบริวารของตู๋เสอ เพียงแค่สุนัขสี่ตัวมิอาจต่อกรกับม่อเจวียนได้ หากยังคงให้อยู่เกะกะรกหูรกตา ก็คงถูกเขาเตะตายอย่างอนาจภายในฝ่าเท้าเดียว
           ม่อเจวียนจึงเอ่ยวาจาออกไป
           "เรียนพี่จื้อหนาน เห็นแก่เราเคยคบค้ากัน สุนัขเหล่านี้รกหูรกตาข้า ท่านไล่ไปได้หรือไม่"
           ตู๋เสอเห็นม่อเจวียนกล่าวเช่นนั้น ก็เข้าใจความต้องการของม่อเจวียน ตู๋เสอเองก็เห็นเช่นเดียวกัน สุนัขพวกนี้รังแต่จะเป็นภาระแก่เขา สุดท้ายถ้ายังดื้อดึงก็คงต้องตายภายใต้ฝ่าเท้าม่อเจวียนอย่างแน่นอน จึงตวาดเหล่าสุนัขทั้งสี่ออกไป
           "ไป!...พวกเจ้าจงไปซะ เรื่องวันนี้มิเกี่ยวกับเจ้า  หากยังดื้อดึงอยู่ต่อ ข้าจะถือว่าเรามิเคยสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน"
           มีหรือที่สุนัขทั้งสี่จะมิเข้าใจในคำบอกกล่าวของตู๋เสอ  สุนัขก็คือสุนัข มันจงรักภัคดีต่อผู้มีพระคุณ  แต่หากยังถือว่าเป็นนายเป็นผู้รับใช้กันอยู่ก็ต้องฟังสิ่งที่เจ้าของบอกกล่าว เพียงแต่เจ้าดำยังมิอาจตัดใจจากไปในทันที มันถอยหลังออกมาแล้ว แต่ยังคงขู่คำรามพร้อมที่จะกระโจนเข้าหาม่อเจวียน เหล่าสุนัขสามตัวที่เหลือ เมื่อเห็นจ่าฝูงของมันยังไม่ยอมละทิ้งเจ้านายไป พวกมันก็มิอาจจากไปด้วยเช่นกัน
           "ดูเถิด..พี่จื้อหนาน พวกมันจงรักภัคดีต่อพี่นัก ถึงขนาดมิยอมจากไปโดยง่าย"
           การพูดครั้งนี้ของม่อเจวียน มีความนัยแอบแฝง เพราะน้ำเสียงที่ติดเยาะเย้ย ย่อมหมายถึงว่า เหล่าสุนัขมิเชื่อฟังตู๋เสอนายของมัน ตู๋เสอช่างไร้น้ำยาเสียจริง
           ตู๋เสอเห็นดังนั้น สุดท้ายจึงตัดใจตวาดออกดังๆ ให้เหล่าสุนัขแตกกระเจิงไป แน่นอนการตวาดครั้งนั้นย่อมอัดแน่นไปด้วยพลังลมปราณ เมื่อเหล่าสุนัขยอมจากไป  สถานที่ตรงนั้นก็ได้กลายเป็นลานประหัตประหารอย่างสมบูรณ์แบบ
           ตู๋เสอยังยืนเอามือไพล่หลังไว้ เขายืนนิ่งมิเคลื่อนไหว หากแต่รอบกายคล้ายมีพลังหมุนวนบางประการหลั่งไหลเตรียมพร้อมเป็นสภาวะป้องกันและตั้งรับ ม่อเจวียนเห็นดังนั้นย่อมเข้าใจ ในเมื่ออีกฝ่ายคิดตั้งรับ เขาย่อมเป็นฝ่ายจู่โจม ใช่แล้ว..ม่อเจวียนครานี้มิเกรงกลัวอันใด อยากให้จู่โจม ก็จะจู่โจม
           ม่อเจวียนตวาดออกไป
           "พี่จื้อหนาน โปรดระวัง" เพียงสิ้นเสียง เสินเหม่ยที่แอบดูอยู่ ก็แทบมิอาจกระพริบตาได้ วิชาของม่อเจวียนที่ใช้เคลื่อนไหวนั้นช่างแปลกประหลาด คราแรกที่เห็นคล้ายเยื้องย่างดุจภูติพราย ล่องลอยสวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วการเคลื่อนไหวนั้นเพียงหลอกตาคู่ต่อสู้ว่าเชื่องช้า เพียงพริบตาเดียวกลับหมายถึงความตายที่จ่อเข้ามาจนมิอาจบดบังแก้ไข
           แต่ผู้ที่ประมือกับม่อเจวียนอยู่นั้น ตอนนี้คือตู๋เสอ ตู๋เสอมีวิชามิใช่ชั่ว เสินเหม่ยทราบข้อนั้นดี จึงวางใจแอบดูต่อไป และตอนนั้นเองเสินเหม่ยก็เห็นวิธีตั้งรับของตู๋เสอ เขามิเพียงคำนวณระยะเวลาที่แน่นอนในการเข้าหาม่อเจวียนได้ เขายังสามารถเบี่ยงตัวหลบด้วยท่วงท่าที่ยังสบาย หากแต่รวดเร็วจนมิอาจเข้าใจได้ว่าเขาก้าวเท้าเช่นไร เห็นเพียงแต่เมื่อม่อเจวียนซัดฝ่ามือออกไป ตู๋เสอก็สามารถเบี่ยงตัวหลบไปได้อย่างเฉียดฉิว ปล่อยให้ต้นไม้เบื้องหลังเป็นผู้รับชะตากรรมแทน ต้นไม้นั้นเมื่อโดนพลังฝ่ามือของม่อเจวียนก็ถึงกับหักสะบั้นลงในพริบตา สร้างความตะลึงแก่เสินเหม่ยยิ่งนัก
           ฉับพลันม่อเจวียนเมื่อรู้ว่าพลาดไปก็รีบเปลี่ยนท่วงท่า แต่ยังคงมิแตกตื่นลนลาน ครานี้ม่อเจวียนมิปล่อยให้โอกาสตู๋เสอหลบหลีกได้อีก เพราะฝ่ามือที่ฟาดออกประกอบด้วยเท้าที่ร่ายรำติดต่อกันทั้งยังมีสภาวะล่องลอย บางเบาเพียงแต่พลังฝ่ามือนั้นกลับตรงข้าม หนักแน่นและรุนแรงอัดแน่นไปด้วยพลังลมปราณ เพียงแค่เมื่อเห็นฝ่ามือนั้นถูกตู๋เสอปัดออกอย่างว่องไว พลังที่ล้นออกมาจากฝ่ามือของม่อเจวียนก็กระทบถูกกับสิ่งอื่นๆที่อยู่ในทิศทางนั้น สร้างความเสียหาย ขาดสะบั้นไปทั่ว โชคดีที่เสินเหม่ยแอบดูอยู่ในทิศทางที่อับไม่เหมาะแก่การห้ำหั่น เขาจึงไม่กระทบถูกพลังรุนแรงนั้น
            ตู๋เสอยามเมื่อขยับเท้านั้นกลับมั่นคงหนักแน่น หากแต่เคลื่อนไหวปราดเปรียวว่องไว ทั้งยังคำนวณทิศทางของม่อเจวียนได้ดุจดั่งเห็นการณ์ล่วงหน้า สีหน้าของตู๋เสอเองก็ราบเรียบมิแสดงอาการใดๆ ยากแก่การคาดเดาจิตใจภายในของเขาได้ ยามที่ปัดฝ่ามือของม่อเจวียน อีกมือหนึ่งจะคอยสอดเข้าไป หาจุดอ่อนและช่องว่าง หากม่อเจวียนเผลอไผล ย่อมถูกกรงเล็บของตู๋เสอเข้าขย้ำอย่างแน่นอน
            ทั้งสองยังคงร่ายรำกระบวนท่าออกไป แต่มีหรือที่มารร้ายอย่างม่อเจวียนจะยอมให้มันยืดเยื้อออกไปเช่นนี้ เขาเองไม่อาจทราบได้ นับแต่ที่จากกันฝีมือของตู๋เสอพัฒนาไปเท่าใด การมาครั้งนี้มิต้องการให้ถึงกับแตกหัก เพราะถ้าม่อเจวียนต่อสู้กับตู๋เสอจนบาดเจ็บ สุดท้ายพวกที่จ้องคอยซ้ำเติมย่อมต้องปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน ครั้งนี้หากมีเล่ห์เหลี่ยมอันใดสามารถหยิบออกมาใช้ได้ ม่อเจวียนย่อมต้องกระทำอย่างมิต้องรอคิดคำนวณอันใด
            เมื่อเป็นดังนั้น ม่อเจวียนก็แบ่งสมาธิสอดส่ายออกไปหาลู่ทางในการชนะตู๋เสอ แน่นอนถ้าไม่อยากเป็นผู้แพ้ ย่อมต้องหาจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม และครานั้น ขณะที่ตรวจตราหาลู่ทาง ม่อเจวียนก็พบกับเสียงหายใจของคนผู้หนึ่ง ใช่แล้ว..คิดไว้มิผิดเพี้ยน มีหรือที่คนรักญาติพี่น้องเช่นนั้นจะทนหลบซ่อนตัวอยู่ได้ ม่อเจวียนพบแล้ว เขาพบกับจุดอ่อนของตู๋เสอแล้ว
            เพียงเท่านั้นตู๋เสอก็จับได้ว่า จุดสนใจของม่อเจวียนเปลี่ยนไป ม่อเจียนผละออกจากตู๋เสอโดยมิทันที่ใครจะคาดคิด ม่อเจวียนดีดตัวด้วยความเร็วสุดหยั่งคาด ใช่แล้ว ทิศทางที่ม่อเจวียนพุ่งไป คือทิศทางที่เสินเหม่ยหลบซ่อนอยู่ เสินเหม่ยเบิกตาอยู่ในพุ่มไม้ด้วยความตกใจ เขามิคาดคิดว่าม่อเจวียนจะมีประสาทสัมผัสไวเช่นนี้ เพียงแต่ตอนนี้มิอาจหลบหนีได้เสียแล้ว ม่อเจวียนใกล้เข้ามาแล้ว
            และก่อนที่ฝ่ามือของม่อเจวียนจะมาถึงกลางกระหม่อมของเสินเหม่ย เสินเหม่ยก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกกระชากขึ้นโดยแรงจากคนด้านบน คนๆนั้นก็คือผู้เฒ่าเงานั่นเอง ผู้เฒ่าเงาแอบซุ่มอยู่นานแล้ว เขาย่อมมองเห็นพฤติกรรมของทุกคน ม่อเจวียนเจ็บใจเหลือแสน เสินเหม่ยถูกผู้เฒ่าเงากระชากออกไปจากจุดที่คาดการณ์ไว้ ทำให้การพุ่งพลังครั้งนี้เสียเปล่า
            หากมันก็ไม่น่าเสียดายซะทีเดียว เพราะระหว่างพุ่งตัวมาที่เสินเหม่ย ตู๋เสอเองก็ติดตามมาด้วย ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ม่อเจวียนผละออกมาจากตู๋เสอเอาเสียเฉยๆนั้น เป็นเวลาที่สั้นเพียงชั่วอึดใจ เช่นนั้นตู๋เสอที่ติดตามมาด้วยความเร็วเช่นกัน ย่อมมิอาจยั้งกายได้ทัน ม่อเจวียนจึงใช้เพียงเสี้ยวอึดใจนี้แหละพลิกท่วงท่าหันกลับ ขยับฝ่ามือเป็นกรงเล็บเข้าขยุ้มที่หัวไหล่ของตู๋เสอ ที่พุ่งตามติดมาถึงม่อเจวียนพอดี กรงเล็บของม่อเจวียนก็ขย้ำเข้าที่หัวไหล่ขวาของตู๋เสอทันที ใช่แล้ว ไหล่ขวาที่โดนคมเขี้ยวของเจ้าดำนั่นเอง
            ตู๋เสอยังรักษาใบหน้าเรียบเฉยไว้ แต่สภาวะการป้องกันถูม่อเจวียนทำลายจนหมดสิ้น ตอนนี้ตู๋เสอถูกกรงเล็บของม่อเจวียนกระชากลงมาที่พื้น คนทั้งสองยืนใกล้กันแค่ปลายจมูก หัวไหล่ขวาของตู๋เสอยังอยู่ภายในกรงเล็บของม่อเจวียน ส่วนเสินเหม่ยนั้นยืนอยู่เคียงข้างผู้เฒ่าเงาห่างออกไปอีกทาง คนทั้งสองจับจ้องไปที่ตู๋เสอที่ยังคงรักษามาดเคียงข้างกับม่อเจวียน ม่อเจวียนมีสีหน้ามาดร้าย เขายื่นใบหน้าเข้าใกล้ตู๋เสอมากขึ้น
            "อืม..พี่จื้อหนาน  พี่จื้อหนาน ท่านช่างปิดบังได้แนบเนียน หึ หึ ถ้าข้ารู้เช่นนี้แต่แรก คงไม่ต้องเปลืองแรงถึงเพียงนี้ อืม..ข้าได้กลิ่นเลือดท่านแล้ว เลือดที่กำลังหลั่งไหลที่หัวไหล่ขวาของท่าน"
            "หึ หึ เจวียนน้อยนั่นเป็นเพียงบาดแผลเก่า มิอาจสร้างความเสียหายใดๆแก่ข้า"
            " ฮา ฮา ท่านยังปากดีไม่หยุด ดูเถิดเสินเหม่ย ตู๋เสอของเจ้าใกล้สิ้นฤทธิ์แล้ว" ม่อเจวียนแกล้งหันไปยุยงเสินเหม่ย
            "เจ้า  เจ้าจะทำอันใดต่อตู๋เสอ  เจ้าฆ่าเขาไม่ได้หรอก"
            เสินเหม่ยตะโกนออกไป
            "ฮา ฮา ย่อมได้แน่นอน เพราะตอนนี้เขาอยู่ในกำมือของข้าแล้ว หากเจ้าไม่อยากให้เขาตายจงมากับข้าเสียโดยดี"
            ตู๋เสอเห็นดังนั้นก็คิดว่าผิดท่า เพราะม่อเจวียนกำลังยุยงเสินเหม่ย
            "หึ หึ เจ้าไม่มีทางทำได้หรอก เพราะเจ้าจะต้องจัดการข้าให้ได้เสียก่อน" ตู๋เสอกล่าวแก่ม่อเจวียน
            "ฮา ฮา เช่นนี้เป็นไร "ม่อเจวียนลงน้ำหนักไปที่กรงเล็บมากขึ้น
            "อึก.." ครานี้ตู๋เสอถึงกับแสดงอาการทางสีหน้า นั่นยิ่งทำให้เสินเหม่ยพลุ่งพล่านมากขึ้น
            "อย่า..อย่าทำเช่นนั้น..ข้า..ข้ายอมแล้ว..ข้าไปกับเจ้า"
            ตู๋เสอรีบตวาดออกไป
            "อย่าลองดีกับข้าเสินเหม่ย..อย่ายุ่ง.."
            "ฮา ฮา ดูเถิดเสินเหม่ย ตู๋เสอผู้เย็นชาคนนี้ ดูถ้าจะหลงเสน่ห์ของเจ้าเสียแล้ว" ไม่ว่าเปล่า ม่อเจวียนออกแรงที่กดที่หัวไหล่ตู๋เสอมากขึ้น
            "อึก อะ..อึก  เจวียนน้อย เจ้าได้คนผู้นี้ไปจะเป็นประโยชน์อันใด เคล็ดวิชานั่นก็ต้องใช้เวลาฝึกอีกนาน สู้เจ้าเอาข้าไปมิดีกว่าหรือ "ตู๋เสอลองใช้ไม้อ่อน
            "ฮา ฮา อย่าหลอกข้า ท่านกำลังล่อหลอกแก่ข้าใช่หรือไม่พี่จื้อหนาน"
            "ข้ามิได้ล่อหลอกเจ้า เพียงแต่ข้ากำลังเห็นความสนุกอีกข้อ บางทีอยู่กับเจ้าอาจจะดี มิต้องเจ็บตัวเพราะฟาดฟันกับเจ้า แต่ยังได้มีเรื่องสนุกๆทำไม่ต้องนั่งเหี่ยวเฉา"
            "ฮา ฮา ท่านช่างกลิ้งกลอกเอาตัวรอดดีแท้ ดี ดี เห็นว่าเคยคบกันมา เช่นนั้นเจ้าจะตอบแทนข้าด้วยวิธีอันใด"
            "ยอมอยู่ในอาณัติของเจ้าเป็นไรเล่า" ตู๋เสอเสนอแนะ
            "และมอบด้วยพลังปราณของข้าอีกครึ่ง ดีหรือไม่เล่า" ประการหลังถึงกับทำให้ม่อเจวียนตาวาว
            เสินเหม่ยมองตู๋เสอด้วยสาตายอาทร ด้วยรู้ว่าตู๋เสอกำลังยื่อข้อเสนอเพื่อชีวิตของเขา
            "พลังปราณของท่าน...อืม..ฟังดูน่าสนใจ พิสูจน์ให้แก่ข้าตอนนี้เลย จะได้หรือไม่เล่า"
            "ฮา ฮา ย่อมได้" หลังจากสิ้นเสียง ตู๋เสอก็ค่อยๆโน้มใบหน้าลงไป ริมฝีปากประทับกับริมฝีปากของม่อเจวียน นั่นคลับคล้ายกับการจุมพิตที่อ่อนหวาน หากแต่มันเป็นการจุมพิตที่กำลังมอบวิญญาณให้แก่ม่อเจวียน ม่อเจวียนดูดเอาพลังลมปราณที่ได้มาจากการฝึกยุทธของตู๋เสอออกไปทีละน้อย ใบหน้าของตู๋เสอเริ่มซีดเผือด ฉับพลันม่อเจวียนก็ต้องผลักตู๋เสอออกโดยแรง
            "ท่าน..ท่านถ่ายทอดพิษแก่ข้า" ม่อเจวียนรู้สึกหายใจติดขัด ร่างกายสั่นเทา เขาก้าวถอยห่างออกจากตู๋เสอ หากยังไม่ทันที่จะปัดป้องกรงเล็บที่พุ่งออกมาฉับพลันของตู๋เสอ ตู๋เสอกระชากหน้าอกของม่อเจวียนเข้ามาด้วยกรงเล็บ ฉับพลันก็เปลี่ยนท่าเป็นออกด้วยฝ่ามือ แน่นอนฝ่ามือนั้นอัดแน่นไปด้วยขุมพลังที่หล่อหลอมเข้ากับพิษร้ายในกายของตู๋เสอ ม่อเจวียนโดนฝ่ามือพิษของตู๋เสอกระแทกที่ทรวงอกจนกระเด็นออกไป  ม่อเจวียนกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ สูญเสียพลังไปเกือบแปดส่วน ต้องแอบลอบโคจรพลังปราณโดยเร็ว เพื่อมิให้ธาตุไฟเข้าแทรกจนลมปราณแตกซ่าน ฝ่ามือนี้ของตู๋เสอเป็นฝ่ามือสุดท้ายที่ตู๋เสอคิดปลิดชีวิตม่อเจวียนในครั้งเดียว แต่ด้วยม่อเจวียนมีพลังปราณสูงส่งจึงมิอาจทำได้โดยง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะยังสามารถสู้กับตู๋เสอต่อไปอย่างไร้กังวลได้ สุดท้ายม่อเจวียนจึงยอมล่าถอยไปด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวทั้งโกรธแค้นและเจ็บปวด ที่มุมปากยังมีโลหิตซึ่งได้กระอักออกมาหลายคำก่อนหน้านั้น การโดนฝ่ามือพิษของตู๋เสอครั้งนี้ คงทำให้ม่อเจวียนหายหน้าไปจากแผ่นดินอีกนาน
            เสินเหม่ยรีบวิ่งเข้ามาประคองตู๋เสอที่ทรุดลง ใบหน้าที่เคยหยิ่งผยองเย็นชาของตู๋เสอกลับกลายเป็นซีดเผือดและอ่อนแรง ดวงตาของตู๋เสอปรือด้วยความอ่อนเพลีย เขากำลังจะหมดสติลงด้วยความเจ็บปวดของบาดแผลที่หัวไหล่ขวา และการสูญเสียพลังจำนวนมากที่ใช้ออกไป







จบตอนเสียที มือของข้าน้อยหงิกไปหมดเลย ฮือ ฮือ
 :L1: :L2: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2011 19:20:26 โดย cancan »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
โอ๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มามะเดี๋ยวข้าจะนวดมือให้ท่านเอง พิมพ์จนมือหงิกเลยน่ารักเสียจริงๆ

Akad3ar

  • บุคคลทั่วไป
อือ...ทีนี้ทั้งสองก็จะรักกันใช่มั้ย

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
ตู๋เสอจะเป็นอะไรมากมั๊ยอ่ะ   :monkeysad:

สินเหม่ยดูแลตู๋เสอดีๆน่ะ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






imsingularfc

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:เป็นห่วงตู๋เสออ่ะ หายเร็วๆนะ

ออฟไลน์ นัตสึกิ

  • เป็ดตัวกระเปี๊ยก
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
อ่าวไม่จริ๊ง พี่ตู๋เสอเจ็บตัวได้ยังไง แล้วอย่างนี้เสินเหม่นจะทำไงอะ

ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
สินเหม่ยดูแลตู๋เสอดีดีนะ
หวังว่าตู๋เสอจะไม่เป็นอะไรมาก
รออ่านตอนต่อไปจ้า

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ครานี้คงพลิกผันใจเสินเหม่ยมิใช่น้อย

โชคดีที่ผู้เฒ่าเงาคอยลอบสังเกตการณ์ มิเช่นนั้น ทั้งตู๋เสอและเสินเหม่ยคงไม่รอด

สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

บวกไปอีก 1 แต้มจ้า  :3123: ขอบคุณนะจ๊ะ

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
เห้อ

น่าฉงฉาร ดีนะที่ผู้เฒ่าเงาช่วยทัน

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เสินเหม่ย จะละลายความใจแข็งของ ตู๋เสอ ได้ไหม

ต้องรีบทำคะแนนช่วงนี้ล่ะ


 :L2: :L2:

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
ตอนที่5

           หลังจากนั้นเสินเหม่ยและผู้เฒ่าเงา จึงช่วยกันหามร่างของตู๋เสอกลับมายังเคหะสถาน เมื่อจัดท่าทางของตู่เสอให้นอนลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว ผู้เฒ่าเงาจึงกลับไปห้องปลุงยาของตู๋เสอ เขาเป็นผู้รับหน้าที่ดูแลเรื่องการปรุงยาให้ตู๋เสอดื่มเพื่อบรรเทาบาดแผลที่หัวไหล่ เพราะเมื่อบาดแผลทุเทาลง ตู๋เสอก็จะสามารถกลับมาโคจรพลังปราณฟื้นฟูสภาพได้อีกครั้ง แต่ก่อน      หน้านั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของเสินเหม่ย เสินเหม่ยต้องคอยดูแลทำแผล ป้อนยาและซับความร้อนออกจากร่างตู๋เสอ เพื่อมิให้ไข้ขึ้นรุนแรง ตอนนี้ตู๋เสอร่างกายร้อนรุมไปด้วยพิษไข้จากบาดแผล
           อันตัวเสินเหม่ยนั้น จิตใจของเขาที่คิดแค้นเคืองต่อตู๋เสอได้อ่อนยวบมลายหายสิ้น หลงเหลือเพียงความห่วงอาทรและกังวลว่าตู๋เสอจะมีอาการหนักขึ้น ทั้งยังรู้สึกทราบซึ้งในบุญคุณที่ตู๋เสอกระทำให้ ถึงแม้ว่าเสินเหม่ยเองจะยังมิอาจทราบแน่ ว่าการที่ตู๋เสอปกป้องคนในหมู่บ้านเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของแผนการในการกลั่นแกล้งยั่วยุม่อเจวียนหรือไม่ แต่ถึงอย่างไร การกระทำนั้นก็ช่วยให้ญาติพี่น้องของเสินเหม่ยมิต้องสูญสิ้นชีวาวายไปกับความพยาบาทของม่อเจวียน
           เสินเหม่ยเฝ้าเพียรพยายามดูแลปรนนิบัติตู๋เสอ โดยมีผู้เฒ่าเงาสังเกตการณ์อย่าห่างๆ ผู้สูงวัยยังคงรับหน้าที่ปรุงยาให้ เสินเหม่ยดูแลตู๋เสออยู่ได้ไม่กี่วัน ตู๋เสอก็กลับมีอาอารดีขึ้น จนสามารถลุกขึ้นนั่งโคจรพลังบนเตียงได้ หลังจากนั้นหลายวัน ตู๋เสอยังคบเก็บตัวอยู่ในห้องเพื่อฟื้นฟูพลัง เขามิใครพบปะติดต่อกิจการอันใดกลับใคร มีเพียงเสินเหม่ยที่ยังคงเข้าๆออกๆห้องของตู๋เสอ เพื่อทำการเปลี่ยนผ้าพันบาดแผลให้ และท่านผู้เฒ่าสูงวัยยังคงรักษาหน้าที่ปรุงยาให้ตู๋เสอ
          ช่วงเวลาที่ตู๋เสออาการดีขึ้น เขาก็มีสีหน้าที่สดใส ใบหน้าเริ่มซับสีเลือดจางๆ แสดงว่าสุขภาพดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังคงต้องรับประทานยาของผู้เฒ่าเงาเป็นระยะๆ น่าแปลก เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของตู๋เสอและเสินเหม่ยยังมิได้คืบหน้าอันใด คนทั้งสองพูดคุยกันแทบจะนับคำได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องภารกิจต่างๆ คือตู๋เสอจะถามว่า เรื่องงานเรือนตรงไหนทำเรียบร้อยหรือยัง แค่นั้น ส่วนเสินเหม่ยก็จะถามแต่ว่า ยามื้อนั้นมื้อนี้รับประทานหรือยัง ทานข้าวหมดหรือเปล่า หรือมีอันใดที่รับประทานเข้าไปแล้วรู้สึกแสลง ช่างเป็นเรื่องที่ธรรมดาจำเจทั้งสิ้น
          เรื่องพวกนี้..เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ก็มิอาจหลุดรอดไปจากสายตาคมกล้าของผู้เฒ่าเงาไปได้  ใช่แล้ว เมื่ออยู่ในสถานะของผู้สังเกตการณ์ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เฒ่าสายตาแหลมคม ฉลาดหลักแหลมมีความคิดความอ่านกว้างไกล มีหรือที่ผู้เฒ่าเงาจะไม่รู้ว่าตู๋เสอคิดเช่นไรต่อเสินเหม่ย และเสินเหม่ยคิดเช่นไรต่อตู๋เสอ ผู้เฒ่าทราบว่า จริงๆแล้วสองคนนี้จิตใจชอบพอตรงกัน แต่คนหนึ่งก็หัวรั้น คนหนึ่งก็หยิ่งทรนง จึงยากที่จะเปิดใจออกมาตรงๆ เช่นนี้แล้วมีหรือที่ผู้เฒ่าเงาซึ่งภักดีต่อตู๋เสอจะยอมอยู่เฉยๆ
         เย็นวันหนึ่ง ยามที่อาทิตย์อัสดง ท้องฟ้าโพล้เพล้ เสินเหม่ยกำลังช่วยตู๋เสอพันบาดแผล ซึ่งตอนนี้ค่อยทุเลาลงแล้ว ปากบาดแผลปิดสนิทกันดี ตู๋เสอยังคงตัวรุมๆด้วยพิษไข้อยู่บ้าง แต่ถือว่าแค่นี้ก็สามารถเดินตัวตรงได้อย่างสบาย  หลังจากที่ตู่เสอเช็ดเนื้อเช็ดตัวเพื่อบรรเทาไข้ เสินเหม่ยก็ช่วยพันบาดแผลให้ ซึ่งตอนนี้ก็เรียบร้อย เสินเหม่ยเหลือภารกิจอีกเพียงอย่างเดียว คือ ส่งถ้วยยาที่ท่านผู้เฒ่าปรุงทิ้งไว้ให้ในห้องยาแก่ตู๋เสอ ซึ่งนั่งห้อยขาอยู่ที่เตียง ตู๋เสอรับยาถ้วยนั้นมาดื่มช้าๆจนหมด แล้วส่งถ้วยให้เสินเหม่ย ตู๋เสอกล่าวขึ้น
         "เรื่องคลี่คลายลงแล้ว ม่อเจวียนก็ท่าจะไม่กลับมาแล้ว รอสักพักเมื่ออาการข้าทุเลาลง ข้าจะปล่อยเจ้าเป็นอิสระ ต่อจากนั้นเรามิเกี่ยวข้องกัน ข้าจะบอกทางแก่เจ้าให้ ว่าคนของเจ้าตอนนี้อยู่ที่ใด "
         เสินเหม่ยฟังดังนั้น ก็มิได้ว่าอันใดกลับไป เพียงแต่แอบหน้ายุ่ง คิดค่อนขอดในใจ เขาน่ะหรือ มิเกี่ยวอันใด เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับตู๋เสอมานานหลายเดือน ก็มิใช่ตู๋เสอหรอกหรือที่รั้งเขาไว้ พอเป็นเช่นนี้แล้วจะขับไสไล่กันออกไป ได้ ถ้ามิอยากเกี่ยวกัน เสินเหม่ยเองก็มิอยากเกี่ยวด้วยหรอก เชิญหมกตัวเป็นเต่าโบราณคร่ำครึเช่นนี้ต่อไปเถิด
         แต่หลังจากนั้น..มิทันที่เสินเหม่ยจะเดินปั้นปึ่งออกมา เสินเหม่ยก็ได้ยินเสียงกัดฟันของตู๋เสอ เมื่อเสินเหม่ยหันไปดู ก็เห็นตู๋เสอนั่งตัวค้อมกุมท้องน้อยอยู่บนเตียง ตู๋เสอกัดฟันเอ่ยวาจาถามเสินเหม่ย
         "ครานี้ใช่ผู้เฒ่าเงาเป็นคนปรุงยาหรือไม่...อึก" ตู๋เสอกัดกรามจนขึ้นสัน เม็ดเหงื่อผุดออกตามใบหน้า
         "ย่อมใช่ มีอันใด?" เสินเหม่ยถามเสียงลนลาน พลางถลาเข้าไป
         "อยะ...อย่า เสินเหม่ย เจ้าห้ามเข้ามา"
         "อันใด...ท่านโดนพิษใช่หรือไม่?"
         "ย่อมเป็น...อึก..เช่นนั้น"
         "พิษอันใด..บอกมา..ข้าจะไปหายาถอนที่ห้องยา"  เสินเหม่ยแตกตื่น
         "มิได้..ยาถอนไม่อยู่แล้ว"  ตู๋เสอตอบเสียงเครียด
         "ไม่อยู่แล้ว แล้วมันไปอยู่ที่ใดเล่า?"
         "ผู้เฒ่าเงาเอาไปแล้ว"  ตู๋เสอตอบออกไปตามที่คาดการณ์
         เสินเหม่ยนั่งลงตรงพื้น เขย่าแขนทั้งสองข้างที่กุมท้องน้อยของตู๋เสอ ใบหน้าของเสินเหม่ยแทบชนกับใบหน้าของตู๋เสอที่ค้อมลงอย่างทรมาน
         "เหตุใดผู้เฒ่าต้องวางยาพิษแก่เจ้า...พิษอันใด..รีบบอกข้ามา"  เสินเหม่ยรบเร้า
         "พิษ..พิษแบบเดียวกับที่อยู่ในกายเจ้า"
         เพียงฟังได้เท่านั้น เสินเหม่ยก็ถึงกับกระดากอายใบหน้าแดงซับสีเลือด พูดอ้อมแอ้มออกไป
         "สะกดไว้ได้หรือไม่ หรือขับออกได้หรือไม่"
         "ไม่ได้..ข้ายังไม่ฟื้นฟูได้ถึงขนาดนั้น ถึงทำได้ก็มิอาจขับออกมาได้หมด ทั้งสะกดไว้ก็ไม่หมดเช่นกัน...อึก" ตู๋เสอกัดฟัดบอกออกไป แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยให้รู้สึกเจ็บปวดที่ตรงนั้นแล้ว
         "เช่นนี้..ควรทำอย่างไร" เสินเหม่ยเอ่ยถามเบาๆ ใบหน้าแดงฉาน
         "จงกลับออกไป..เจ้า..เข้าไปอยู่ที่ห้องของเจ้า ข้าจะลองเดินลมปราณขับมันออก เผื่อจะช่วยลดทอนได้บ้าง แต่ระหว่างนั้นจงไสหัวไป อย่าให้ข้าเห็นหน้า" ตู๋เสอเอ่ยวาจายืดยาวด้วยความอดทน
         เสินเหม่ยก้มหน้านิ่ง ก่อนค่อยๆลุกขึ้น เสินเหม่ยยืนต่อหน้าตู๋เสอ ห่างเพียงแค่ครึ่งก้าว
         "เช่นนี้แล้ว ท่านยังจะขับไล่ไสส่งผู้อื่นอีกหรือ?" ไม่ว่าเปล่า เสินเหม่ยค่อยๆคลายปมผ้าคาดเอวของตนเองออกช้าๆ ตู๋เสอตะลึงกับการกระทำของเสินเหม่ย
         "...เจ้า..อึก.." ตู๋เสอมิอาจพูดอันใดได้ ความเจ็บปวดจากการมิได้ปลดปล่อยเริ่มประดังเข้ามา
         เสินเหม่ยไม่สนใจคนถือดีอีกต่อไป เขาค่อยๆปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองออกจนหมดสิ้น เหลือเพียงเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวละออ ซึ่งกำลังซับสีชมพูไปทั่วทุกแห่ง ตู๋เสอมองเรือนร่างเบื้องหน้าตาค้าง ฉับพลันเขาก็ชักสีหน้าเครียดก่อนกล่าวเสียงสะบัด
        "ออกไปซะ...ทำเช่นนี้มีแต่เจ้าจะเสียใจ...อย่าทำเพื่อข้าขนาดนั้น ข้ามิใช่คนดีอะไร"
        เสินเหม่ยไม่ฟังคำพูดจาแดกดันอีกแล้ว เขาค่อยๆย่างเท้าเปล่าเข้าไป ก่อนยื่นแขนสองข้างสอดไว้ที่รอบลำคอของตู๋เสอ ตู๋เสอยืดตัวขึ้นด้วยความตกใจ
        "เจ้า.."
        เพียงแค่ชั่วเวลาที่ตู๋เสอยืดตัวตรง ก็เปิดโอกาสให้เสินเหม่ยสอดร่างเปลือยเปล่าของตัวเองเข้าไป เสินเหม่ยนั่งลงบนตักของตู๋เสอ ขาอ่อนสองข้างหนีบไว้ที่ลำตัวแกร่งของเขา สองแขนยังโอบเกี่ยวรอบลำคอแข็งแรง ปลายจมูกรั้นบนใบหน้านวลละออติดกับปลายจมูกโด่งเป็นสันของตู๋เสอ ดวงตาหวานเยิ้มของเสินเหม่ยจ้องลึกลงดวงตาคมที่ตื่นตระหนกของตู๋เสอ
บั้นท้ายเปลือยเปล่างามงอนขยับเบียดกับส่วนนั้นที่กำลังเคร่งเครียดของตู๋เสอ
        "ข้าจะไม่ฟังอันใดแล้ว..ข้าจะทำก็ต่อเมื่อข้าต้องการ..ไม่มีผู้ใดบังคับข้าได้ ตอนนี้ข้าต้องการท่าน และต่อไปก็เช่นกัน ตอบมา..ตอบข้ามาเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว ท่านต้องการข้า เช่นข้าต้องการท่านหรือไม่ หากท่านไม่ชมชอบข้า เช่นนั้นผู้อื่นก็จะไสหัวออกไป พร้อมกับดวงใจน้อยๆที่บอบช้ำ" เสินเหม่ยกระซิบเบาๆ น้ำตารื้นขึ้นรอบดวงตากลมสวย ใบหน้ายังคงเปล่งสีแดงเอียงอาย
        ตู๋เสอสีหน้าอ่อนลง ดวงตาฉายแววปรารถนาและกำลังเพิ่มพูนออกมา ตู๋เสอมิอาจกลั้นความปรารถนาทั้งมวลได้อีกแล้ว เขาใช้จมูกโ่ด่งเฉียดข้างใบหูของเสินเหม่ย กระซิบถ้อยคำแผ่วเบา
        
        "ข้า...ต้องการเจ้า..ต้องการแค่เจ้า..ตลอดไป เสินเหม่ย เทวดาน้อยๆของข้า"







ขอพักก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อนะ :L2:

          
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2011 05:49:46 โดย cancan »

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
:a5: ค้างอย่างแรง อ๊ากส์!!! :z3:

Akad3ar

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดด...อย่านานค่ะอย่านาน อิอิ มีความสุขจัง ต้องขอบคุณผู้เฒ่าเงาจริงๆงานนี้

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


แร๊งอ่ะค้างคา 555555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
แว๊กกกกกกก

ค้างได้ใจมากมาย

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก

ค้างๆๆๆๆๆๆ

แงๆๆ

ToT

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ไรท์เตอร์ใจร้าย
พิษในกายของคนอ่านยังค้างอยู่นะจ๊ะ
รีบมาถอนพิษให้ไว

ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
กด+ให้ท่านผู้เฒ่าค่า ทำได้ดีมาก

ว่าแต่มาต่อไวไวนะ คนอ่านจะคลั่งแทนแล้ว

mo-no

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเข้ามาอ่านตอนแรกไม่ได้แล้วอะ
ทำไงดี อยากอ่านมากกก
  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านตอนแรกไม่ได้แล้วอะ
ทำไงดี อยากอ่านมากกก
  :sad4: :sad4:
:pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2014 07:06:40 โดย cancan »

Akad3ar

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากก...ค้างกว่าเดิม สัญญาแล้วนะว่าจะจะมาลงตอนเช้า

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
^
^
เจ๊ยยย  มิใช่ตอนเช้าค่าา เดี๋ยวพรุ่งนี้ดึกๆล่ะเนอะ ขอโทษน้าา

ออฟไลน์ zitronen-tee

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
    • https://www.facebook.com/DaisyLetter

imsingularfc

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:ม่ายยยยยยยยยยยย

ค้างอย่างแรงส์

เสินเหม่ยจะโดนกินแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด