8.1
ตอนลงจากชิงช้าสวรรค์นี่แทบเดินกลับบ้านกันไม่เป็นเลยครับ ไม่ใช่ว่าอายที่โดนห่านป่านิสัยไม่ดีจูงมือกลับบ้าน แต่ตะคริวกิน!!
ก็บอกแล้วว่าไม่อยากทนนั่งในที่แคบแบบนั้นนานๆ ข่าวก็ออกกันให้ครึกโครมว่าบางทีชิงช้าสวรรค์ในงานวัดแบบนี้มักอันตรายกว่าตามสวนสนุก อยากตกลงมาหน้าแหกรึไงวะ แถมคนคุมชิงช้าก็เกิดใจดีผิดกับหนังหน้าขึ้นมากระทันหัน แม่งเปิดวนให้พวกผมนั่งสบตากันหวานซึ้งดูพระอาทิตย์ตกรอบแล้วรอบเล่า จนจากที่หวานๆ กลายเป็นเลี่ยนอยากขย้อนข้าวเที่ยงออกมาให้หน้าไอ้เหี้ยทีมอยู่แล้ว
ผมเดินหน่วงมากๆ เข้าสุดท้ายไอ้คุณชายห่านป่ามันก็ทนไม่ไหว อ้างแบบแมนๆ ว่ามันเองก็เพิ่งโดนตีนมา ร่างกายยังบอบช้ำอยู่เหมือนกัน เลยโบกเรียกรถสามล้อมานั่งตากลมหัวหูปลิวว่อนกันกลับบ้าน
บริเวณรอบตัวบ้านเริ่มมืดแล้ว ผมเหลือบดูนาฬิกาข้อมือก็บอกเวลาทุ่มเศษๆ เสียงเซ็กส์ซี่เห่าอย่างเมามันส์ดังออกมาจากในสวนตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดประตูบ้านด้วยซ้ำ ตอนแรกผมคิดว่าน้าอิ่มอาจจะออกไปทานข้าวข้างนอกกับพ่อของไอ้เหี้ยทีม แต่ดูเหมือนผมจะคาดการณ์ผิดไปหน่อย เพราะไฟในห้องนั่งเล่นเปิดสว่าง
“อ้าว กลับมากันแล้วเหรอ” ทันทีที่โผล่หน้าเข้าไป ลุงสินที่นั่งหันหน้ามาทางประตูก็ทักขึ้นมา ก่อนที่จะโวยวายเสียงดังเมื่อลูกชายตัวดีของลุงแกโผล่หน้าเยินๆ เข้ามาให้เห็น “ทีม พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามีเรื่อง!!”
ไม่ได้ยุนะ แต่ซ้ำมันเลย!
“โหยพ่อ ผมก็ไม่ได้อยากมี นี่ลูกหลงหรอก” ลูกหลงบ้านมึงหัวแตกเยินขนาดนี้เหรอวะ...
“จริงๆ เลยไอ้ลูกคนนี้ แล้วจะเป็นตัวอย่างที่ดีของน้องได้ยังไง” ลุงสินยังบ่นไม่เลิกครับ น้าอิ่มหันมายิ้มให้ผมแล้วโบกมือเรียกให้ไปนั่งด้วยกัน
“ทานข้าวมาหรือยัง” น้าอิ่มก็ยังเป็นน้าที่แสนดีคนเดิม ถามผม
“โหน้าอิ่ม ถ้าฝุ่นมันยังจะกินข้าวอีกนะ ต่อไปคงให้กินข้าววันละกะละมังแล้วล่ะ” แม่งเดี้ยงแล้วยังปากดีนะมึง
“เงียบไปเลยไป น้าอิ่มถามกูไม่ใช่มึง” ผมคว้าหมอนใกล้ๆ มือเขวี้ยงใส่มันเต็มแรง ไอ้เหี้ยทีมแม่งทำท่ากางขาเหมือนปูแล้ววิ่งไปมาเพื่อหลบวิถีหมอนของผม “เหี้ย อยู่เฉยๆ นะมึง”
ผมด่า แล้วหาเขวี้ยงไปอีกสองสามใบ ไอ้เหี้ยทีมยิ่งทำท่าล้อเลียนเดินย๊อกแย๊กๆ หลบ แสรดดด
“เอ้าๆ พอแล้วๆ มานั่งนี่เลยไอ้ลูกตัวดี” ลุงสินบอกทั้งรอยยิ้ม ไอ้ห่านป่าแม่งเลยยิ้มกว้างจนเห็นฟันเกือบครบทุกซี่แล้วนั่งลงข้างๆ พ่อมันบ้าง “พรุ่งนี้พ่อกับน้าอิ่มจะไปฮันนีมูนกันแล้วนะ”
“ก็ดี ผมจะได้รังแกฝุ่นได้โดยไม่มีใครห้าม” ความคิด....
“กูก็จะกระทืบมึงโดยไม่มีใครสน” ผมสวน ไอ้เหี้ยทีมเลยยิ่งยิ้มมากขึ้น...แต่สาบานได้ ผมว่าความนัยในประโยคแรกของมันน่ะทะแม่งๆ นะ...
“เอ๊ สองคนนี้นี่” น้าอิ่มหันมาตีผม
“หึหึ งั้นฝุ่นต้องสัญญากับลุงอย่างนึง”
“อะไรครับ”
“เอาให้ทีมมันเข็ดก็แล้วกัน” อยากจะหัวเราะให้โลกแตก ตกลงว่านี่พ่อมึงหรือผู้สนับสนุนของกูวะ ครึครึ
“โหยพ่ออะ ผมลูกพ่อนะ” ไอ้ทีมมันหงุงหงิงอยู่แป๊ปเดียว ลุงสินก็พูดเรื่องที่ค้างไว้ต่อ
“พ่อกับน้าเราเคลียร์งานได้ดีกว่าที่คิดไว้ เลยตัดสินใจเลื่อนเวลากลับออกไปจากประมาณกลางๆ เดือนก็คงกลับนู่นเลย ประมาณยี่สิบเมษา” ลุงสินพูดพลางยิ้มบางๆ ดูมีความสุขมาก
“ตกลงไปที่ไหนกันเหรอครับ” ผมถามขึ้นบ้าง น้าอิ่มหันมายิ้มกว้างให้ผม
“ไปทางตะวันออกกลางซักอาทิตย์นึงก่อน แล้วค่อยขึ้นไปทางเอเธนส์จ้ะ ก่อนกลับพ่อทีมเขาอยากแวะที่เยอรมันด้วย”
“ไปกันซักเดือนสองเดือนผมก็ไม่ว่าหรอก แต่อย่าลืมของฝากเยอะๆ นะครับ” ไอ้ทีมมันตอบพร้อมยักคิ้วให้ผม..เพื่อนเล่นเหรอ ห่านนี่
“เห็นแก่ของฝากจริงๆ ติดนิสัยใครมาเนี่ย” ลุงสินหันไปบ่นลูกชายตัวเอง
“ช่วงนี้อยู่แต่กับฝุ่น คงไม่ได้ติดนิสัยเซ็กส์ซี่มาหรอกครับ” ห่าน โยนความผิดให้กูซะงั้น
“ไปว่าน้องนะเรา” ลุงสินส่ายหน้าเบาๆ ปลงเถอะครับ นิสัยลูกชายลุงมันกลายเป็นสันดานไปแล้ว “ยังไงก็เถอะ ช่วงสามอาทิตย์ที่อยู่กันแค่สองคนก็ช่วยๆ กันดูแลบ้าน ทีมเองก็ดูแลน้องด้วย ฝุ่นก็อย่าดื้อกับพี่เขาล่ะ ป้าแจ่มจะมาทำอาหารให้ทุกเช้าเหมือนเดิม จะออกไปค้างคืนที่ไหนก็โทรบอกป้าแกด้วย เข้าใจไหม”
ประโยคหลังหันไปเอาคำตอบกับไอ้ห่านป่าที่แม่งทำท่าตะเบ๊ะใส่ พร้อมบอกเสียงดัง
“รับทราบครับผม!!”
“พรุ่งนี้ลุงกับน้าอิ่มจะไปสนามบินกันตั้งแต่เช้า ถ้าเราตื่นมากันแล้วไม่เจอก็อย่าตกใจกันล่ะ” ลุงสินแกบอกผมพลางยิ้มบางๆ แล้วออกปากไล่ให้ไปพักผ่อน “ไปๆ ขึ้นไปอาบน้ำ พักผ่อนได้แล้ว ถ้าหิวหรืออะไรก็ลงมาหาของกินในตู้เย็นกันเอาเองนะ” ลุงสินแกบอกอย่างนั้น ไอ้เหี้ยทีมเลยเดินมาดึงแขนผมให้ลุกตาม
“ห่าอะไรของมึง กูเดินเองได้”
“ดูหนังกัน”
“ไม่เอา กูจะอาบน้ำนอน”
“เอาน่า อาบน้ำสบายตัวแล้วเดี๋ยวก็อยากดูเอง ลุกมาเร็วๆ” แม่ง ถ้าโลกนี้มีการประกวดไอ้คนบ้าเอาแต่ใจไม่ฟังคนอื่นเนี่ย ไอ้ห่านป่าคงชนะขาดลอยทิ้งห่างผู้เข้าแข่งขันคนอื่นแน่ๆ
“แบกกูขึ้นหลังไปป่ะล่ะ ขี้เกียจเดินแล้ว” ผมบอกแล้วนั่งแผ่หลาทำตัวหนักไม่สนใจน้าอิ่มที่มองแล้วหัวเราะเบาๆ อยู่ข้างๆ
“ไม่เอาอะ มึงหนักขนาดนี้ กูเอาเซ็กส์ซี่มาช่วยแบกยังไม่ไหวเลย ลุกมาเร็วๆ”
อยากจะแจกนิ้วกลางฟรีให้ซักสี่นิ้ว แต่เกรงใจผู้ใหญ่อีกสองคนผมเลยได้แต่ลุกขึ้นแล้วขมุบขมิบปากด่ามันแทน แม่ง เดี๋ยวขึ้นห้องก่อน กูจะด่าให้บรรพบุรุษร้องไห้เลย
ผมเดินเนือยๆ ตามมันขึ้นไปชั้นสอง ไอ้ทีมฮัมเพลงอะไรไม่รู้ผมไม่ได้สนใจ แต่พอถึงหน้าห้องผมปุ๊บ แทนที่จะได้เข้าห้องคนเดียว ห่านป่าไม่ได้รับเชิญที่ไหนไม่ทราบก็เดินตามเข้ามาด้วย
“มึงจะตามกูไปไหนวะ”
“อ้าว ก็ห้องกูกับห้องมึงติดกัน ห้องกูก็เข้าทางนี้ได้ กูผิดตรงไหน”
“ห้องมึงก็มีประตูเข้าไม่ใช่รึไง” ผมเริ่มพูดเสียงดังอย่างติดจะอารมณ์เสียหน่อยๆ คงเพราะผมรู้สึกเหนื่อยกว่าทุกที วันนี้เองก็อากาศค่อนข้างร้อน แถมไอ้ห่านป่ายังลากผมให้เดินไปนั่นมานี่ด้วยตลอดทั้งช่วงบ่ายอีก กลัวว่าจะไม่สบายเหมือนกัน ทางที่ดีรีบสลัดมันแล้วหนีไปอาบน้ำนอนดีกว่า
“เอาน่า ไปอาบน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวไปนอนดูหนังแอร์เย็นๆ ที่ห้องกู”
“ไม่เอา กูอยากนอนแล้ว” ผมยังดื้อตอนที่ปล่อยให้ไอ้ทีมมันปิดประตูห้อง แล้วตามลูบหัวลูบหาง...แม่ง อยู่กันตามลำพังไม่ได้ เห็นกูไม่ว่าอะไรหน่อยเดียว ได้ใจนะมึง
“งั้นกูนอนเป็นเพื่อนเอามั้ย”
“กูจะนอนคนเดียว”
“เอ๊ะ ทำไมกูไม่เข้าใจภาษาไทยของมึง” ก็มึงเป็นห่านป่าไง “งั้นมึงไปอาบน้ำก่อนละกัน เดี๋ยวกูมานอนด้วย”
ว่าแล้วมันก็เดินออกไปทางประตูทางเชื่อม ผมเลยลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้าไปอาบน้ำ มึนๆ หัวด้วยครับ รีบอาบน้ำนอนดีกว่า
หลังจากเปิดฝักบัวแล้วปล่อยให้น้ำมันไหลผ่านหัวซักพัก ผมก็หยิบแชมพูที่วางอยู่ในตะกร้าติดผนังใกล้ๆ มาเทใส่มือแล้วเริ่มขยำๆ กับหัวตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมไม่ค่อยชอบอาบน้ำอุ่นเท่าไหร่ ผิวแห้งอย่างเดียวไม่พอ ผมว่ามันสดชื่นสู้น้ำเย็นไม่ได้ครับ จะสบายดีหรือป่วยไข้ยังไงก็ขออาบน้ำเย็นสบายๆ ไว้ก่อน
แกร๊ก...
“เฮ้ย!” ผมอุทานลั่น ไม่กล้าเปิดตาขึ้นมามอง เพราะตอนนี้ฟองจากแชมพูกำลังไหลลงจากหัวเลยครับ
“ตกใจอะไร” เจ้าของเสียงมันโอบผมเอาไว้จากด้านหลัง กระชับแรงกอดแน่นขึ้นเมื่อผมดิ้น ซุกหน้าลงมาแถวซอกคอพร้อมแรงจูบซับเบาๆ
ตกใจมึงนั่นแหละ ไอ้เหี้ย! นี่มึงไม่แสบตาใช่มั้ย!!
“มึง..มึงเข้ามาทำไม” ผมพูดไม่เป็นคำ ทั้งอายทั้งตกใจ กำลังจะเอื้อมมือไปคว้าฝักบัวมาล้างหน้าล้างตาก็โดนไอ้ห่านป่าที่ไหนไม่รู้เอื้อมปีกไปคว้าตัดหน้า
“เอามานะมึง กูแสบตา” เผลอเพยิบตาขึ้นนิดนึง ฟองเลยไหลเข้าตาซะงั้น แสบครับ
“กูล้างให้ หลับตานะ” มันไม่ว่าเปล่า กลับเอาฝักบัวที่ยังมีน้ำไหลตลอดเวลามาล้างฟองแชมพูออกจากผมให้หมด พักนึงกว่ามันจะบอกให้ผมลืมตาได้
“ตาแดงเลยฝุ่น”
“เพราะมึง” ผมรองน้ำจากฝักบัวมาล้างตาอีก แสบมากครับ
“ไหน กูดูหน่อย” มันบอกแล้วพยายามจะมองตาที่กำลังแสบขั้นสุด แต่ผมหันหน้าหลบแล้วพยายามขยี้ให้ฟองที่ยังเหลือออกมาให้หมด “อยู่เฉยๆ”
ไม่ว่าเปล่า ทีมมันจับคางผมให้หันกลับมา แล้วรองน้ำจากฝักบัวมาล้างตาให้อีกรอบ
“ดีขึ้นมั้ย”
แทนคำตอบ ผมหันไปชกแขนมันดังพลั่ก จนมันสำออยร้องโอ๊ยออกมาดังลั่น
“ออกไปนะมึง กูจะอาบน้ำ”
“อาบให้”
“กูจะอาบคนเดียว”
“ถ้าฝุ่นเป็นเด็กดื้อต้องโดนพี่ทีมลงโทษนะ”
“กูดื้อเหี้ยอะ...อื้อ!!” ไอ้ $#@#*&%!@# แอร๊ย! ไม่รู้จะด่ามันเป็นภาษาอะไรถึงจะสาสม อยู่ๆ ก็ก้มลงมาจูบกูแบบนี้ บ้านมึงสั่งสอนเหรอ!!
จูบอย่างเดียวยังพอทำเนา แต่มือน่ะ..ไม่อยู่สุกเกินไปมั้ยวะ
ผมว่าหลายๆ คนคงนึกสภาพผมในตอนนี้ออกนะ...ห้องน้ำไม่กว้างมาก ผมที่เปลือยเปล่าและกำลังเปียกไปทั้งตัว กับไอ้เหี้ยทีมที่ใส่แต่กางเกงผ้าขายาวไม่ใส่เสื้อ โชว์กล้ามเนื้อท้องแน่นของมัน แขนข้างนึงล็อคเอวผมไว้แน่น อีกข้างลูบไล้ตั้งแต่แผ่นหลังเรื่อยลงไปถึงสะโพกและเริ่ม...บีบเบาๆ
เอ๊ะ นี่ผมเล่าอะไรเนี่ย ไม่ๆ ตัดทิ้ง ไม่เล่าแล้ว....
น้องฝุ่นจะเล่าเรื่องรึเปล่า เจอกันตอน 8.2 จ้ะ
eiizes’s talk
กรี๊ดดดดดดดดด วันนี้ตื่นหกโมงครึ่ง(เช้า) เห็นพระอาทิตย์ขึ้นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
ปกติเห็นแต่พระอาทิตย์ตก ทำให้รู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นนี่สวยจริงๆ ค่ะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เล่นเน็ตเลย ระเริงกับรายการโทรทัศน์มากเกินไป รู้สึกคล้ายๆ เพิ่งกลับจากขั้วโลกที่ไม่มีทีวี
แอบเห็นมีคนอ่านใหม่ๆ เพียบเลย สวัสดีนะคะ ยินดีต้อนรับ เราจะสะกดจิตคุณให้หลงอยู่กับพี่ทีมและน้องฝุ่นนานๆ กร๊ากกกกกกก
คนอ่านที่ตามมาตั้งแต่ต้น ก็ขอบคุณทุกๆ กำลังใจนะคะ
แอบคิดว่า...ตอนที่แปดแล้ว ใกล้ดราม่าแล้ว...รึเปล่านะ อุคิ
ไม่สปอยดีกว่า
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
eiizes