ตอนที่ 3 แบรต▂ ▄ █
ผมนั่งเล่นเกมออนไลน์อยู่กับเนท ส่วนบีเจออกไปร้านการ์ตูนกับแกสตั้งแต่บ่าย ผมว่าแกสต้องลากลูกชายผมไปเอิร์ธคาเฟ่อีกแน่ๆ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเนท แกส และเจสันชอบไปที่นั่นเอามากๆ
“เรากำลังจะบุกเข้าป้อมอัทเซิล เนื่องจากงานนี้คงอีกยาวดังนั้นจงปัสสาวะให้เรียบร้อยซะสหาย” ผมบอกเนทกับคนอื่นๆในทีมทางไมโครโฟนที่ต่อกับแลปทอปของผม— สมาชิกในทีมนั่นหมายถึงเชลดอน แซค เนทและคาแบลท์
“แบรต ฉันต้องไปฉี่อีกรอบว่ะ” เชลดอนบอกกับผมผ่านไมโครโฟน
“เชลดอน เอาล่ะฉันยอมให้แกไปฉี่อีกรอบ แต่แกควรจะไปหาหมอได้แล้ว” ผมบอกเชลดอน
“ให้ตายสิ ทำไมผมต้องมานั่งเล่นเกมออนไลน์กับพี่ด้วยเนี่ย ผมมีอย่างอื่นต้องทำอีกเยอะนะ” เนทบ่นออกมา
“อย่างอื่นที่นายว่ามันหมายถึงการนอนกลางวัน นั่งกินพิซซ่าดูซีรี่ย์ยันบ่ายหรือมีเซกส์กับโอลิเวอร์หรือเปล่า
อีกอย่างตอนนี้ทีมของเราขาดคาลอสไปชั่วคราวเพราะฉะนั้นตำแหน่งหมอในการฮีลจึงตกเป็นของนาย อย่าลืมสินายคือหมอฟันจริงๆ นายก็ดูจะเหมาะกับหน้าที่นี้ที่สุดแล้ว ดีใจด้วย ฉันเลือกนาย” ผมบอกเนท
“โอวพระเจ้า น่าภูมิใจจริงๆที่นายเลือกฉัน” เนทบอกผมแล้วถอนหายใจ
“เนท นายลองมีเซ็กส์กับโอลิเวอร์ทุกห้องในบ้านหรือยัง” คาแบลท์เปลี่ยนประเด็นไปตามสไตล์ของเขา ไอ้เวรนี่จะสอนน้องผมทำบ้าอะไรอีกล่ะ
“เงียบเหอะน่าคาแบลท์ แกไม่ควรชักจูงน้องฉันนะว้อย” ผมบอกคาแบลท์
“ไม่ คาแบลท์ ไม่ อย่าบอกนะว่านายกับแกสทำแบบนั้นน่ะ?”
“ใช่ นายน่าจะลองนะเนท นั่นน่ะสุดยอดเลยล่ะ อ้อ! แกก็น่าจะลองนะแบรต ชีวิตแกจะได้มีสีสันบ้าง กับเจสันไง?” คาแบลท์หันมาแหย่ผมแทน ไอ้หมอนี่มันเพื่อนเวรจริงๆ
“ส้นมึงสิ” ผมสบถ
“เชลดอนกลับมาแล้ว” เสียสวรรค์ที่ช่วยตัดบทสนทนาบ้าบอนั่นออกช่วยผมเอาไว้
“เอาล่ะ เราลุยกันเลย” ผมสั่งคนในทีมอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนต้องหยุดไว้อีกรอบเมื่อได้ยินเสียงกุกกักหน้าห้อง
“เฮ้เพื่อน เดี๋ยวฉันมา” ผมบอกกับคนอื่นๆในทีม ผมถอดหูฟังและไมค์โดยไม่ฟังเสียงพวกมันร้องโหยหวนและเสียงพรรณนาถึงความล่าช้า
“เจสัน นายโอเคไหม” ผมเห็นเจสันยืนอุ้มถุุงกระดาษสีน้ำตาลใบโตที่บรรจุของไว้เต็มถุงส่วนมืออีกข้างกำลังเขย่าลูกบิดประตูซึ่งตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นถีบประตูแทน
“เจสัน ดูเหมือนนายจะเอากุญแจรถมาไขประตูห้องนะ นายรู้ตัวหรือปล่าว” ผมถามหมอนั่น แต่เขากลับค้อนใส่ผม
“ฉันรู้” เขาหันมาบอกผมเสียงเขียว
“งั้นก็แล้วไป” ผมเดินกลับเข้าห้องแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงโครมครามอีกรอบ เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นว่าถุงกระดาษของซุปเปอร์มาเก็ตร่วงลงมา ข้าวของต่างๆก็ร่วงออกมาจากถุง
“บ้าจริง บ้าจริง บ้าจริง” เจสันสบถอย่างหัวเสีย ผมจึงเดินไปดูใกล้ๆ
“เฮ้ นายช่วยเงียบๆหน่อยได้ไหม” ผมถามเขา คราวนี้เขาส่งสายตาอาฆาตให้ผมอีกรอบ
“ฉันเอากุญแจนี่ออกไม่ได้ๆๆ” เขาถอดเป้ที่สะพายหลังไว้แล้ววางมันลงพื้น จากนั้นก็เขย่าลูกบิดประตูอีกรอบ ผมว่าไอ้หมอนี่มันอารมณ์ร้ายจริงๆ แต่มันดูตลกมากกว่า
“ไม่น่าแปลกใจเลย ล็อคบอลด์วินที่ประตูนายใช้ร่องกุญแจแบบตัดขอบนอกดั้งเดิม ขณะที่กุญแจรถโฟล์คโบราณของนายใช้ระบบร่องตรงกลาง” ผมแหย่เขานิ่งๆ
ผมชอบเวลาหมอนี่หัวฟัดหัวเหวี่ยงมันดู.....ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าแหย่ให้เจสันโกรธดูจะเป็นกิจวัตรที่ผมทำเป็นประจำไปแล้วเหมือนกัน
“ขอบใจนะแบรต!” เขาหันมาตะโกนใส่ผม ตอนนี้หน้าเขายุ่งอย่างที่ผมคาดไว้
“ยินดีอยู่แล้วครับ” ผมจ้องเขายิ้มๆ
“นายหยุดยิ้มแบบนั้นซะทีเหอะน่า นายรู้ไหมวันนี้ฉันไปเทสหน้ากล้องมาพวกเขาบอกว่าหน้าฉันตะวันตกตอนกลางเกินไป ฉันออกไปอ่านเรื่องสั้นที่ฉันเขียนหน้าคลาสเรียน ทุกๆคนในห้องก็หัวเราะฉัน ดูฉันสิ! ฉันอยู่แอลเอมาสองปีหวังจะได้เป็นนักเขียน แล้วตอนนี้ ฉันเป็นแค่เด็กเสิร์ฟกับพี่เลี้ยงเด็กเนี่ยนะ!” เจสันปล่อยมือจากลูกบิดแล้วเปลี่ยนมาเก็บของที่กระจัดกระจายลงใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลแทน
“ฉันไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย...”เขายังบ่นของเขาต่อไป ส่วนผมก็ยืนมองเขาด้วยความขบขัน
“ทำงานก็ไม่เคยได้ขึ้นเงินเดือน แถมวันนี้ยังทะเลาะกับผู้จัดการร้านมาอีก..แม้แต่เซ็กส์ ฉันยังไม่เคยมีเลย พระเจ้า!” ใช่ โอวพระเจ้า! หมอนี่ยังบริสุทธิ์งั้นเหรอ...เยี่ยมสิ
“แล้วพอฉันเดินขึ้นบันได้มา แมลงวันดันบินเข้ามาในปากฉันและฉันยังกลืนมันเข้าไปอีก ฮือๆ ตอนนี้ฉันหายใจยังได้กลิ่นแมลงวันเลย” เจสันเริ่มครวญคราง ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก
“เอ่อ อันที่จริงแมลงก็เป็นอาหารในหลายๆประเทศนะ โปรตีนล้วนๆเลยนะ” ผมเขยิบไปยืนใกล้ๆเขายิ่งขึ้น หวังจะเข้าไปปลอบเขาจริงๆ
เจสันลุกขึ้นยืนอุ้มถุงกระดาษขึ้นมาหลังจากที่เขาเก็บของเสร็จแต่ พรวด! ก้นถุงกระดาษดันขาด ของทั้งหมดที่อยู่ในถุงจึงร่วงลงมาอีกรอบ
“โอ้ ให้ตายสิ!” เขาปาถุงดาษแล้วยืนเท้าสะเอวมองผมนิ่ง นั่นทำเอาผมทำอะไรไม่ถูก..ผมได้แต่คิดว่าถ้าได้เหล้าเข้าปาก ผมคงจะนึกอะไรออกที่ดีกว่าคำนี้
“เอ่อ..ดูเหมือนความชื้นจากอาหารของนายทำให้ถุงอ่อนปวกเปียกน่ะ” ผมว่าคำพูดผมงี่เง่าจริงๆ เจสันยิ่งจ้องผมตาขวางกว่าเดิม
“กลับมาที่เรื่องกุญแจ ฉันว่านายควรจะโทรหาช่างกุญแจนะ เขาจะได้มาเปิดประตูให้นาย” ผมบอกเขา
“ฉันโทรแล้วน่า เขาบอกว่ามาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”
“นายโมโหขนาดนี้เพราะเขาตอบกำกวมงั้นเหรอ” ให้ตายสิ! ผมอยู่ต่อหน้าเจสันทีไรผมมักจะหลุดคำพูดงี่เง่าออกมาเสมอ
“ปล่าว ฉันโมโหเพราะฉันล้มเหลวในทุกๆเรื่องๆ....” คราวนี้เจสันลงไปนั่งร้องไห้อยู่กับพื้นอีกรอบ ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ เขาแล้วลูบหลังปลอบเขาเบาๆ
“เอาล่ะ นายอยากนั่งรอในห้องฉันไหม”
“ไม่ล่ะแบรต ฉันอยากนั่งบนพื้นเย็นเจี๊ยบแล้วร้องไห้แบบเด็กสามขวบแบบนี้”
“งั้นก็ตามใจนาย”ผมก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันกลับเดินเข้าห้อง แต่หมอนั่นเร็วกว่า เขาคว้ากระเป๋าเป้ของเขาแล้วเดินตัดหน้าเข้าห้องผมไปเลย
“เห็นแก่พระเจ้าน่าแบรต นายหยุดยิ้มแบบนั้นซักทีเหอะ” เขาบอกผมตอนที่เรานั่งลงบนโซฟา
ผมนั่งลงบนโซฟา สวมหูฟังแล้ววางแลปทอปลงบนตัก ช่วงที่ผมนั่งเล่นเกมก็รู้สึกว่าเจสันได้ขยับเข้ามานั่งข้างผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนตัวเขาติดกับตัวผม
“นายยังเล่นเกมออนไลน์พวกนี้อีกเหรอ อ้อใช่! แล้วนายยังมีแอ็คชั่นฟิคเกอร์ในตู้อีก บีเจบอกฉันว่านั่นน่ะของนายไม่ใช่ของเขา นายโตขนาดนี้แล้วนะ” ผมหันมาจ้องเขาแวบนึง นั่นทำเอาผมเกือบได้จูบปากร้ายๆ นั่นแล้วแต่เขากลับหลบทันอย่างหวุดหวิด ผมจึงหันไปสนใจเกมของผมต่อ
“แบรต ฉันอยากลองบ้าง” เจสันบอกผมแล้วยิ้มเขินๆ
“หึหึ เอาสิ” ผมบอกทุกคนในทีมว่าผมต้องออกจากเกม เนทโวยวายตามประสาคนเพี้ยนๆ แบบเขา ส่วนคาแบลท์ แซคและเชลดอนถึงกับเหน็บผมซะจนผมหน้าชา
“เจสันอยากเล่นมันบ้าง” ผมบอกพวกนั้น
“นายตั้งใจสร้างความประทับใจให้หมอนั่นแล้วหวังจะได้ฟันหมอนั่นงั้นสิ ไอ้เวรเอ้ย!” คาแบลท์ยังคงเป็นเพื่อนที่รู้ทันเสมอ
“ปล่าว” ผมหันไปมองหน้าเจสันก่อนจะตอบหมอนั่นไป ถ้าให้ผมเดา..เจยังยังไม่ได้ยินคำพูดจากปากหมาๆของคาแบลท์เขาถึงยังจ้องมาที่ผมตาเป็นประกาย
“นายห้ามทำอะไรเจสันนะแบรต เขายังบริสุทธิ์เกินกว่าจะตกเป็นของนาย” คำพูดเพี้ยนๆย่อมมาจากคนเพี้ยนๆ อย่างน้องชายของผมไม่ต้องคาดเดา
“ถูกต้องแล้วเนท คนที่จะฟันหมอนั่นได้มีแต่ฉันคนเดียว”
“หุบปากสวะของนายไปซะแซค” ผมกดออกจากเกมทันทีทั้งๆ ที่กลุ่มของผมกำลังถูกโจมตี
ผมกินป๊อปคอร์นไป นั่งมองเจสันเล่นเกมไป แอบโอบเอวสำรวจรูปร่างเขาบ้างบางโอกาส ตอนนี้ผมอยากตะโกนให้ทุกคนรู้จริงๆเลยว่า ‘ผมโคตรมีความสุขเลย’
“คลิกที่บู๊ทวิเศษเพื่อใส่มันสิ” ผมเอื้อมมือไปชี้ตรงหน้าจอแล้วถือโอกาสโอบไหล่เจสันไปด้วย....อืม ผมว่าผมได้กลิ่นวนิลาจากตัวของเขานะ
“ไม่รู้สิ ขอเป็นสีอื่นได้มั้ยอ่ะ?” เจสันยังคงจ้องไปที่หน้าจอ
“คลิกไปเถอะน่า” ผมแกล้งบอกเขาอย่างรำคาญ
“ว้าวๆ แบรต ดูนี่สิ! ฉันเป็นนักรบเลเวลสามแล้ว” ผมยิ้มให้เขาแล้วลุกขึ้นกะจะไปหาไอศครีมมานั่งกิน แต่เจสันดึงมือผมไว้จนผมต้องหันกลับไปมอง แล้วยิ้มอย่างมีชัยให้ตัวเอง
“เดี๋ยวๆ นายจะไปไหนน่ะ” เขาส่งเสียงอ้อนๆให้ผม ผมว่าจะชนะหมอนี่น่ะไม่ยากอย่างที่คิดเลยล่ะ
“ฉันแค่จะไปหยิบไอศครีมให้นายไงล่ะ ฉลองให้กับนักรบเลเวลสาม ถ้านายเจอจระเข้ นายก็แค่เตะมันด้วยรองเท้าบู้ทเท่านั้นแหละ” เจสันบีบมือผมแล้วบอกว่า
“นายดีกับฉันจริงๆ” ผมพยักหน้าให้เขาแล้วเดินออกมา
เรื่องโดย SweetSacrifice...............................................................
ขอขอบคุณคำผิดจากคุณนุ่น น่ารักมาก