เสือไบ:the series (ตอน 79)
ตอนนี้ผมอยู่โรงพยาบาลพระมงกุฎ 1 ปีแล้ว ที่ผมมาที่นี่ บ่อยๆ...วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมมาตรวจตาซ้าย...หลังจากออกจากที่นี่เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว...ผมก็มาตรวจตาเกือบทุกเดือน แรกๆ ก็เดือนละสองถึงสี่ครั้ง หลังๆ เดือนละครั้ง จนหนึ่งปีผ่านไป ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว....
"คุณเอก....เชิญพบแพทย์ที่ห้อง....." พยาบาลหน้าห้องขานชื่อผมแล้ว...ผมเดินเข้าไป อ้าวเจอแพทย์หญิงคนที่ตรวจผมบ่อยๆ ตอนที่ผมมานอนพักรักษาตัวที่นี่..
"อ้าว คุณเอก เป็นไงบ้างคะ ไหนขอหมอดูตาหน่อยนะ" อะแน่จำผมได้ด้วย...ถ้าแกไม่มีแฟนผมจะจีบซะหน่อย...สวยๆ น่ารักแบบนี้... ผมเอาหน้าวางตรงเครื่องตรวจตา....หมอแกส่องดูตาผมด้วยกล้อง...สักพัก...
"แผลเป็นในตาหายแล้วค่ะ...ต่อไปไม่ต้องมาตรวจแล้วนะคะ...รอผ่าตัดอย่างเดียว ว่าแต่เดี่ยวหมอขอดูแฟ้มก่อนว่าวัดขนาดตาแล้วเหรอยัง" แกดูแฟ้มผมสักพัก
"โอเค ค่ะ รอผ่าตัด แต่หมอไม่รับรองนะคะ ว่าผ่าตัดครั้งแรกจะใช้ได้เลยเปล่า"
"ครับ อีกนานมั๊ยครับกว่าจะผ่าตัด"
"ไม่แน่ค่ะ แล้วแต่คิวการรอรับและคนบริจาค คงประมาณ สองปี หรือสามปี..."ผมได้แต่พยักหน้า ปลงๆ.....
"ครับ" ดีเหมือนกัน.... บอกตรงๆ นะครับ ผมไม่ชอบการผ่าตัดแบบนี้เลย เคยเห็นลุงคนหนึ่ง แกผ่าแบบผมนี่แหละ ตั้งห้าครั้ง โห....คนเหรอเปล่านี่ ทนได้ตั้งห้าครั้ง....
หลังจากตรวจเสร็จ....ผมก็ลงมาเดินเล่นแถวๆ นี้ เกือบเที่ยงแล้ว ผมไม่ต้องรีบไปทำงาน....ตอนนี้ผมนั่งลงตรงม้าหินที่เคยคุยกับมิสเตอร์เชนตอนที่ผมมานอนที่นี่สามอาทิตย์เมื่อปีที่แล้ว...เห็นคนป่วยเข้าออกที่นี่ผมรู้สึกปลง...เฮ้อ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมจริงๆ มีเกิด..แก่...เจ็บ....ตาย... ผมก็คงหนีไม่พ้นสัจจะธรรมข้อนี้...เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมยังมีแรง...ยังมีกำลัง...ผมควรหาความสุขใส่ตัวให้เต็มที่หน่อย...เกิดมาทั้งที...ไม่แน่ชาติหน้าจะได้เกิดอีกเหรอเปล่า..ฮ่าฮ่า....
ผมนั่งคิดอะไรเพลินเพลิน... ช่วงนี้ชีวิตผมค่อนข้างจะราบเรียบ...ไม่มีอะไรหวือหวา ความทรงจำเรื่องพี่นกมันจางๆ ลงแล้ว....
อาทิตย์ที่แล้วผมเพิ่งกลับมาจากภูเก็ต ไปทำงานกับมิสเตอร์เชน ช่วงปีใหม่ ปีนี้ก็เหมือนเดิม .........ไปตั้งแต่ หลังคริสมาส เค้าดาวน์ที่โน่น แล้วก็อยู่ต่อถึงวันที่ 2 มกกราคม แล้วก็กลับมาส่งแกขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง(ตอนไปเที่ยวกับมิสเตอร์เชนผมใส่คอนแทคเหมือนเดิมแต่มาที่โรงพยาบาลผมต้องใส่แว่นตาไม่งั้นโดนหมอด่าเละแน่เลย ฮ่าฮ่า) ปีนี้ผมได้โบนัสจากแกสามแสนเหมือนเดิม(ปีที่สอง) ผมได้เงินจากแกก้อนใหญ่แบบนี้ครั้งเดียว ส่วนที่เจอแกครั้งอื่นๆผมก็ไม่ค่อยได้ ได้ประมาณเงินที่เหลือจากการเที่ยว (ส่วนใหญ่แกจะให้ผมถือเงินตอนไปเที่ยว ไปแต่ละครั้งแกจะกะไว้ว่าจะใช้จ่ายเท่าไหร่ ค่าเที่ยวค่าโรงแรม ค่ากินอยู่ แกจะให้ไว้ทีเดียว ถ้าไม่พอขอใหม่ ถ้าเหลือ ส่วนใหญ่แกจะให้ผม ส่วนใหญ่ก็เหลือไม่มากหรอกครับ ประมาณหักพันถึงหมื่น....)
"เมื่อไหร่คุณจะรักผมบ้างนะ คุณเอก.." ผมนึกเหตุการณ์ตอนไปภูเก็ต....แกถามผม...ผมได้แต่ยิ้มๆ
"ผมเคยบอกคุณแล้วนะครับ ว่าความรักของผมมันต้องออกจากตรงนี้" ผมชี้ไปที่หัวใจ
"ผมรู้ แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่าคุณจะรักหรือไม่รักผม คุณก็เป็นเด็กน้อยของผม"
"ครับ...ถ้าคุณไม่พอใจ ก็ไม่ต้องจ้างผมก็ได้ครับ" แกเอามือปิดปากผม
"อย่าพูดแบบนั้นดิ ผมรู้สึกดีมากๆ ที่ได้อยู่กับคุณ ได้มาเที่ยวกับคุณ...คุณเป็นมากกว่า เพื่อน...คุณไม่เหมือนทุกคนที่ผมรู้จักมา"
"ครับ" ก็แหงอยู่แล้ว ผมทำทุกอย่างเลยนี่... ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ แต่ผมก็ทำด้วยความเต็มใจ..ผมถือว่ามันเป็นงานและอีกอย่างมิสเตอร์เชนก็มีพระคุณกับผม....เงินที่ผมได้มาจากแกผมก็เอามปิดหนี้สิน เอามาให้แม่ผมใช้....ผมถึงทำงานให้แกด้วยความเต็มใจ แม้งานที่ทำมันจะเหนื่อย แต่แค่นี้ผมทนได้......
ตื่ดๆ.....เสียงโทรศัพท์ผมดัง แหมกำลังซึ้งกับชีวิตอยู่เลย....ไอ้กายโทรมา....
"มีอะไรว่ามา บักหำ" ผมทักมันก่อน....
"มรึงอยู่ไหนนี่ "
"โรงบาล"
"เอ๊ยไปทำอะไรฟะ" มันถามอย่างตกใจ....
"เปล่า มาตรวจตาตามปกติ ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วแหละ รอผ่าตัดอีกไม่มีกำหนด มรึงมีอะไรว่ามา..."
"คืนนี้ มรึงว่างเปล่า กรูมีเรื่องสำคัญจะคุยธุระกับมรึง"
"ที่ไหนวะ สำคัญขนาดไหนเชียว"
"มาเถอะน่า ที่รูท 66 นะสองทุ่ม ยูมิก็อยู่" อาจ๊าก มันจะมาไม้ไหนนี่ ยูมิมาด้วย....สงสัยงานนี้มันคงจะสวีทกับสาวญี่ปุ่นแฟนมันอวดผมให้ผมอิจฉาตาร้อนเล่นแน่ๆ....
"เออ ได้ ทำไมต้องสองทุ่มวะ วันไปเปล่า"
"กรูอยากคุยธุระกับมรึงก่อน ถ้าดึกๆ เสียงมันดังคุยกันไม่รู้เรื่อง เข้าใจนะไอ้ฟาย...."
"เออ..สองทุ่มเจอกัน บาย"
คุยโทรศัพท์กับมันเสร็จผมก็กลับไปทำงาน ชีวิตราชการช่วงนี้ก็เรื่อยๆ แหละ ไม่มีอะไรตื่นเต้น..หรือว่าผมหมดไฟในการทำงานแล้วก็ไม่รู้.......
สองทุ่มผมไปถึงรูท 66 ช่วงนี้อาร์ซีเอกำลังบูม....บูมทั้งสามร้าน รูท 66 มอร์แกน เบบี้บลิ๊งค์ (ตอนนั้นร้านใหญ่ๆ ดังๆ ก็มีแค่นี้ไม่มีสลิม นะ) ผมมองไปรอบๆ อ้าวนั่งหัวโด่ กับแฟนมันอยู่นี่เอง....ผมเดินเข้าไปหาพวกมัน
"นั่งดิ " มันทักผมก่อน.....
"hi ยูมิ สบายดีเหรอ" ผมทักทายยูมิ แหมสวยวันสวยคืนเลยจริงๆ ถ้าไม่มาดูใกล้ๆ หรือฟังสำเนียงพูด ไม่รู้เลยนะครับ ว่าเป็นสาวประเภทสอง เฮ้อ เห็นแล้วน้ำลายหก นมเป็นนม ก้นเป็นก้น ...รูปร่างสัดส่วน เหมือนนางแบบอุดมคติเลยจริง ฝีมือหมอเดี่ยวนี้เค้าเก่งนะ ทำได้สวยมากๆ...ส่วนข้างในจะเป็นอย่างไง สวยแค่ไหนต้องถามไอ้กาย ผมว่าข้างในคงสวยแหละ ไม่งั้น เสืออย่างมันคงไม่หลงยูมิจังหัวปักหัวปำแบบนี้หรอก....อีกอย่างหนึ่งที่ไอ้กายมันหลงก็คือ ยูมิเค้าจะเป็นคนที่เอาใจเก่ง...ใส่ดูแลไอ้กายทุกเรื่อง..ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่....
"สบายดี จ้า แล้วคุณล่ะ" เธอพูดเป็นภาษาอังกฤษนะครับ....
"สบายดี เดี่ยวขอผมคุยธุระกับแฟนคุณก่อนนะ" ผมขออนุญาติยูมิเสร็จก็หันไปคุยกับไอ้กาย...
"ว่าธุระของมรึงมา... ให้เสร็จๆ กรูจะได้แดกเหล้า "
"กรูจะไปอยู่ญี่ปุ่น ไปตั้งรกรากที่โน่นเลย" โหผมฟังแล้วใจหายเหมือนกันแฮะ เพื่อนดีๆ จะจากผมไปอีกแล้ว...
"แน่ใจแล้วเหรอ" ผมถามย้ำมัน ...มันพยักหน้า
"เออ แน่ใจ กรูคิดดีแล้ว กรูเลือกแล้วที่จะใช้ชีวิตกับยูมิ กรูบอกไม่ถูกหว่ะ ช่วงเวลาที่เราคบหาดูใจกันหนึ่งปีมานี้ กรูบอกได้คำเดียวกรูขาดเค้าไม่ได้หว่ะ..แม้เค้าจะไม่ใช่แบบที่กรูเคยฝัน...เคยต้องการ" ผมเข้าใจความรู้สึกมัน ความรักก็แบบนี้แหละ บางครั้งมันไม่มีเหตุผลหรอกว่าทำไมเราถึงรักทำไมถึงต้องการเขา.....
"อือ แล้วมรึงจะไปเมื่อไหร่ล่ะ"
"เสาร์นี้ สามทุ่ม กรูจะขออะไรมรึงอย่างได้เปล่า เรื่องนี้มรึงอาจจะลำบากใจ" อาจ๊าก มันจะขออะไรผมล่ะนี่ ที่ทำให้ผมลำบากใจ หรือว่ามันจะขอ......โหไม่คิด...ไม่คิด เพื่อนกัน......
"กรูไม่อยากเป็นควีนนะโว๊ย" ทีแรกผมก็นึกว่ามันพูดเล่นๆ ผมก็เลยเล่นมุขนี้ไป...ป้าก โดนมันตบกบาลไปหนึ่งที...
"ไอ้สา.....ด กรูซีเรียสนะโว๊ย" เห็นหน้าตามันขึงขังผมก็เลย รับฟังมัน....
"ว่ามาดิ"
"กรูอยากฝากน้องชายกรู..คนหว่ะ ชีวิตมันน่าสงสารเหมือนๆ กรูแหละ มันมาอยู่กับกรูได้ สองอาทิตย์แล้ว กรูไม่อยากทิ้งมัน แต่กรูจำเป็นต้องไปหว่ะ..."
"ได้" ผมไม่ต้องคิดเลยครับ สำหรับไอ้กายแล้ว ผมกับมันเหมือนเป็นพี่น้องกันเหมือนเพื่อนตาย...และ เรื่องที่มันขอก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ....
"ดูๆ มันหน่อย คิดกับมันเหมือนน้องชายของมรึง มันมีปัญหาหลายอย่างหว่ะ เด็กวัยรุ่นก็แบบนี้แหละ กำลังคิด..กำลังสับสน นี่มันเพิ่งเลิกกับเมียมันมา เมียมันหนีไปมีใหม่ ที่สำคัญน้ากรูที่นั่น เค้าไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่มีเรื่องทะเลาะกันตลอด"
"อือ " ผมรับฟังด้วยความสงบ ชีวิตครอบครัวก็แบบนี้แหละ ปัญหาเยอะ ยิ่งมันไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ด้วย มันอยู่กับน้าสาว......ไอ้กายกับน้องมันกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็กแล้ว ไอ้กายมาอยู่กับน้าชายที่กรุงเทพ...น้องมันอยู่กับน้าสาวที่สัตหีบชลบุรี.....
"กรูไม่อยากไปเลยหว่ะ ห่วงมันหว่ะ ชีวิต มันเจอเรื่องร้ายๆ มาเยอะ กรูกลัวมันจะทำอะไรผิดๆ"
"โอเค กรูสัญญา กรูจะดูน้องมรึงให้" ผมยื่นมือไปจับมือมัน ผมทำแบบนี้บ่อยๆ เวลาให้คำมั่นสัญญากัน
"ขอบใจ หว่ะ เออ มันชื่อเกม เดี่ยวสี่ทุ่มมันเลิกงานเสร็จ...จะมาแจม "
"มันทำงานที่ไหนวะ"
"ที่เดียวกับกรูแหละ" ที่ทำงานมันอยู่ในสุขุมวิท 11 คับ ไม่บอกนะครับ ร้านนี้ดัง.....
"อือ "
หลังจากคุยธุระเสร็จ ผมก็สนุกกับการฟังเพลงดื่มเหล้า กับไอ้กาย และยูมิ...เฮ้อ นึกแล้วใจหายจริงๆ ตอนนี้เพื่อนๆ ที่สนิทๆ ของผม...ก็จากผมไปหาชีวิตที่ดีกว่ากันแล้ว....
สี่ทุ่มแล้ว ผมกำลังสนุกกับการดื่มการแดนซ์ การคุย ไม่มีประโยชน์ที่จะมาเศร้ากับการไปของไอ้กาย เพื่อนผมจะไปดีนี่ ผมต้องดีใจ ที่มันกำลังจะมีชีวิตครอบครัวใหม่ ที่ดี ที่อบอุ่น
"นั่น มันมาโน่นแล้ว" ไอ้กายชี้ให้ผมดู...
ผมหันไปดู โหเชื่อเหรอเปล่า แวบแรกที่ผมเห็นมัน มันเหมือนประมาณพระเอกหรือนางเอกเจอกันครั้งแรกในละครไทย เจอกันแล้วนะจังงัง...ผมอึ้งไปชั่วครู่แหละ...
"สวัดดีครับ พี่เอก ผมเกมนะพี่ พี่กายคุยเรื่องพี่ให้ผมฟังบ่อยๆ"
"เหรอครับ มันคุยเรื่องผมในเรื่องดีๆ หรือเรื่องแย่ๆล่ะ" ผมหันหน้าไปมองมัน ตอนนี้ ไม่ตะลึงแล้วครับ เดี่ยวไก่ตื่น อีกอย่างไอ้กายกับยูมิ อยู่ด้วย.
"ทั้งสองเรื่องแหละพี่เอก แต่เอส่วนใหญ่จะเรื่องแย่ๆ " ไอ้เกมหันไปมองหน้าไอ้กาย..
"จริงเปล่าครับ พี่กาย"
"เออ ตั้งแต่กรูคบไอ้เอกเป็นเพื่อน...กรูไม่เคยเห็นเรื่องดีๆ ของมันเลยหว่ะ เกม"
"สาด เออ กรูมันเลว" ผมบ่นๆ ยิ้มๆ
"มันจะมาช่วยดูแลมรึงตอนกรูไปนอก มีอะไรปรึกษามันได้นะ ไม่ว่าเรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องชีวิต แต่อย่าปรึกษามันเรื่องความรัก สาดนี่มันรักไม่เป็น"
"โห มรึงไม่ต้องโปรโมตกรูขนาดนั้น"
"จริงเหรอครับ พี่เอก งั้น เกมขอฝากเนื้อฝากตัวยนะครับ คิดว่าเกมเป็นน้องเป็นนุ่งนะครับ... ชนพี่" มันยื่นแก้วชนผม .....
ผ่านไปได้ไม่ถึงชั่วโมงครับ ผม เกม ยูมิ แดนซ์กันกระจายแล้ว ...เพลงช่วงนี้กำลังน่าแดนซ์มากๆ เลย...
"โห ไม่น่าเชื่อแฮะ เด็กสัตหีบ แดนซ์เก่งเหมือนกัน " ผมก่อหวอดก่อน...ผมชอบมองมันคับ ตอนมันแดนซ์ๆ ยิ้มๆ เห็นฟันขาวๆ บวกกับสายตาเศร้าๆ ของมันแล้ว เฮ้อ......
"แหม พี่ ผมไปเที่ยวพัทยาบ่อยนะพี่...เรื่องแดนซ์แบบนี้เรื่องเล็ก อีกอย่างมาเที่ยวเธคนะพี่...ไม่ใช้ร้านลาบเป็ดจะได้มานั่งบื้อ...."
"เออ กรูไม่รู้ แต่สาดมันมีสัตหีบนั่งบื้ออยู่เห็นเปล่า" ผมโบ้ยหน้าไปที่ไอ้กาย...ไอ้นี่ไม่ว่าสถานการณ์ไหนเที่ยวเธคทีไรนั่งดื่มเหล้าดูสาวๆ ทุกที...
"ปล่อยพี่กายเค้าไปเถอะ...เดี่ยวเค้าก็ไปดีแล้ว..."
"นินทาอะไรกรูวะ ไอ้เกม แหมเจอกันไม่ถึงชั่วโมงเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะมรึง"
"อ้าวได้ไง มรึงจะไปแล้วนี่ ไอ้เกม มันต้องหาคนที่มีตัวตนดิฟะ...."
"เออ...."
คืนนี้เราสี่คนเมากันสุดๆ จากที่นี่แล้วเราไปต่อกันที่ป.กุ้งเผารัชดา กินดื่มคุยกันจนถึงเช้า...ผมกับเกมตอนนี้สนิทกันแล้วครับ ไม่น่าเชื่อเพิ่งคบเพิ่งคุยกันวันแรก.......ผมชอบมองเวลาที่มันยิ้มมันหัวเราะ...แววตามันเศร้าๆ เฮ้อ...เห็นแล้วมันรู้สึกอยากมองไงไม่รู้...ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันเจออะไรมาบ้างทำไมตามันถึงเศร้าๆ ได้ตลอดเวลา.....
ฮ่าฮ่า ไม่อยากบอกเลยครับ นี่คือจุดเริ่มต้น ของผม กับ No.3 ของผม ผมประทับใจเกมครั้งแรกตั้งแต่แรกเห็น แรกรู้จัก....ตอนนั้นผมยังไม่คิดอะไร..รู้จักกันครั้งแรกแบบนี้...อีกอย่างหนึ่งมันเป็นน้องชายของไอ้กายด้วย ผมจะทำประเจิดประเจ้อ....รุ่มร่ามกับมันก็คงไม่ดี......