
ตามจิ้มทุกคน ณ ยามบ่าย

กอดสมาชิกทั้งเ่ก่าและใหม่ของบ้านทุกคนอีกที ไอ้หมีไวไวคืนชีพแล้ว!!

========================
บทที่ 16. คนป่วยที่หลับไปเพราะฤทธิ์ยาตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่บรรยากาศรอบตัวเข้าสู่ความมืด แสงที่ลอดเข้ามาเป็นแสงไฟจากนอกห้อง เพราะประตูไม่ได้ปิดเอาไว้และทั้งบ้านก็เงียบกริบเหมือนไม่มีคนอยู่ วายุลากสังขารลงจากเตียงอดคลี่ยิ้มให้กับผ้าห่มที่คลุมกายตัวเองไม่ได้ รู้สึกรักมันมากกว่าทุกวัน เพราะจำได้ว่าก่อนนอนไม่ได้หยิบขึ้นมาห่มเอง ถ้าจะมีใครซักคนคลุมให้คนนั้นก็คือคนสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันจนหลับไป
พอเดินออกมาจากห้อง ก็พบว่าประตูห้องข้างๆไม่ได้ปิดเอาไว้เช่นเดียวกัน แถมไฟก็ไม่ได้เปิดมีเพียงแสงจากด้านนอกที่ส่องเข้าไป เห็นร่างเจ้าของห้องนอนขดอยู่ ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอใบหน้าไร้กรอบแว่นหลับสนิท คนป่วยที่ย่องเข้ามาอย่างเงียบกริบย่อตัวลงนั่งที่พื้น วางแขนพาดไว้บนเตียงแล้ววางหัวตัวเองลงไปบนแขนอีกที สายตายังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าของคนหลับไม่ละไปไหน
.
.
ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดตรงแขนทำเอาคนที่เผลอหลับไปตอนที่ทิ้งตัวลงนอนลืมตาตื่น เพราะวันนี้ทางฝ่ายผลิตโทรมาบอกเรื่องจัดทำของไม่ตรงกับแบบที่ออก แถมลูกค้ายังมารอรับเองความวุ่นวายก็เลยเกิดเพราะไอ้คุณบอสใหญ่ไม่อยู่ ไปติดต่องานอีกที่ ก็เลยต้องขับรถวนจากโรงพยาบาลกลับไปที่ออฟฟิศอีกที เลยต้องฝากให้เพื่อนๆ พาเจ้าคนป่วยที่ยังคงนอนหลับเพราะฤทธิ์ยาไปส่งให้ที่บ้าน
พอไอ้หมีมันกลับมาถึงเท่านั้นแหละ..อย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด...หน้างอมาเลย แถมทำสะบัดสะบิ้งจนอยากตบกะโหลกซักทีติดที่ว่ามันเป็นคนป่วย แล้ว...ไอ้คนป่วยที่ว่า มันมานั่งหลับพับเพียบอะไรในห้องคนอื่น..
"ไอ้หมีป่วย!! มานอนอะไรตรงนี้..!!?" นายตุลขยับตัวลุกขึ้นนั่งพลางควานหาแว่นที่ถอดโยนไว้ แล้วเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากคนป่วยที่ขยับตัวแหงนหน้าขึ้นมามองพอดี
"ไม่ได้ตั้งใจ เห็นเฮียหลับก็เลยเลียนแบบ" ดูมันเถียง... เสียงก็แหบแห้งตัวก็ยังอุ่นยังจะมานั่งบนพื้นเย็นๆ
"เดี๋ยวอุ่นข้าวต้มให้ ไปรอที่โต๊ะไป กินเสร็จจะได้กินยา..."
"เฮีย...ทำไมวันนี้ไม่ไปรับล่ะ..?" ไอ้หมีโย่งเอ่ยถาม มือยังคงรั้งชายเสื้อเอาไว้ทั้งที่ก็ยอมเดินตามออกมาจากห้อง อาการไข้หวัดใหญ่มันทำให้คนกลับไปเป็นเด็กได้ด้วยรึไง!!
"แวะไปแล้ว ตอนเราหลับอยู่.." ทั้งที่บอกให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะ แต่ไอ้หมีไวไวมันก็ดันเดินตามหลังมาจนถึงในครัว รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษที่มีหมีตามมาคุม
"ผมอุตส่าห์หวังไว้ อยากตื่นมาแล้วเจอหน้าเฮียคนแรกเหมือนในหนัง" คนที่กำลังควานหากล่องข้าวต้มแบบสำเร็จรูปในตู้เย็นที่แวะซื้อมาเมื่อบ่าย หลุดหัวเราะออกมากับความคิดของคนป่วยเอาแต่ใจที่ได้ยิน ..ที่แท้ก็เพ้อเป็นเรื่องเป็นราว
"อยากเป็นพระเอกรึไง.." ไอ้หมีส่ายหน้าแทนคำตอบทันที จากที่เดินตามหลังจับชายเสื้อก็กลายเป็นทิ้งน้ำหนักตัวลงมา สอดแขนคล้องคอมาจากด้านหลังขยับเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงไอร้อนที่แผ่ออกมา
"ผมไม่อยากเป็นหรอก...พระเอกน่ะ..!!" คำพูดกึ่งประชดมาพร้อมกับหัวฟูๆที่วางลงบนไหล่ ...นายตุลเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่สลัดหรือเบี่ยงตัวหนี อาจเป็นเพราะกลัวจะโดนต่อว่า..ว่าใจร้ายกับคนป่วยล่ะมั้ง
"เออ!! หมีมันเป็นพระเอกไม่ได้ หึหึ" เสียงหัวเราะกึ่งเยาะเย้ยของคนที่กำลังเทข้าวต้มแบบสำเร็จรูปใส่ถ้วยให้ ทำเอาคนป่วยเหล่มองด้วยหางตา ว่าจะ ลด ละ เว้น เรื่องกวนๆช่วงที่ป่วยแล้วเชียว เนื่องจากกลัวจะหนีจากฝ่ามือฝ่าเท้าไอ้คุณเฮียไม่ทัน
"ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อยเหอะ!!" บุรุษพยาบาลจำเป็นเหล่มองเจ้าของหัวฟูๆ ที่ยังคงเดินตามติด แม้ว่ามันจะดูเหมือนเกะกะพันแข้งพันขา แต่ก็ไม่ยักจะรู้สึกว่ามันน่ารำคาญเลยปล่อยให้ไอ้หมีมันเดินต่อเป็นรถไฟอยู่แบบนั้น
"แล้วแบบไหน..?" จนกระทั่งมาถึงโต๊ะอาหารไอ้หมีป่วยมันถึงได้เดินทำหน้าบูดไปนั่งประจำตำแหน่ง... ทำไมรู้สึกเหมือนได้เด็กมาเลี้ยง!!
ไอ้หมีป่วยที่นั่งประจำตำแหน่งอยู่หน้าถ้วยข้าวต้มชำเลืองมองมาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์เหมือนทุกที เพียงแต่ครั้งนี้ลดระดับความกวนลงไปกว่าครึ่งคงเพราะเจ้าตัวมันกำลังป่วย ก่อนที่จะคว้าช้อนขึ้นมาถือไว้ในมือแล้วส่งเสียงกระแอมกระไอเหมือนนักร้องที่กำลังจะเทสไมค์ก่อนจะขึ้นเวทีจริง
"อะแฮ่ม!! แบบนี้ไง..
แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก แค่อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนเข้าใจ ช่วยเติมชีวิตที่ว่างเปล่า ช่วยเอาความรักมาให้ มีใครบ้างไหมสักคน..."(
กดฟังเพลง) ช้อนที่น่าจะเอาไว้ตักของกินเข้าปากกลับเอามาทำต่างไมค์ร้องเพลง ไอ้หมีหน้าป่วยทำเป็นส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ทั้งที่เสียงที่เปล่งออกมาแหบแห้งจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง..แต่มันก็ยังจะพยายามร้องให้จบท่อน..และความพยายามนั้นก็ทำให้คนฟังคลี่ยิ้มออกมาจนได้
"พอเหอะๆ ทำเพลงเค้าขายไม่ออกว่ะ น่าสงสารเจ้าของ ฮ่าๆ" คนป่วยที่กำลังแหกปากแหกคอร้องเพลงมันยังคงไม่สำนึก ทำท่าจะร้องต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็ฝืนสังขารไม่ไหว
"ทำมาเป็นหัวเราะ...เฮียชอบอ่ะดิ!!?" แกล้งหยอดไปหนึ่งดอก ทำเอาคนที่กำลังหัวเราะชะงักค้าง ทำกลบเกลื่อนด้วยการลุกเดินไปหยิบน้ำอุ่นมาให้คนป่วย
"กินข้าวกินยาแล้วไปนอนพัก เออ..ถ้าอยากอาบน้ำ ไปอาบน้ำอุ่นในห้องเฮียก็ได้" ต้องรีบเปลี่ยนแรื่องอย่างด่วน ก่อนที่ไอ้หมีมันจะรุกไล่วิ่งเข้าใส่แบบคราวที่แล้วอีก แต่ก็เปล่า..ไอ้ไวไวกำลังก้มหน้าก้มตาจัดการกับข้าวต้มในชามตัวเองอย่างเงียบๆ
น่าแปลกที่ในอกมันพองฟูตอนที่ได้ยินไอ้หมีกะล่อนมันร้องเพลงด้วยเสียงแหบๆทั้งที่ฟังดูกระท่อนกระแท่นไม่เป็นคำ แต่ก็ยังอยากฟังต่อไม่รู้ว่าทำไม...นึก...ทำนองเสียงร้องของต้นฉบับไม่ออกเสียแล้ว เพราะยังได้ยินทำนองเพี้ยนๆกับน้ำเสียงอู้อี้แบบคนป่วยเมื่อกี้ดังก้องอยู่ในหู
"เอาไว้....ให้หายก่อน.."
“..??...”ไอ้หมีป่วยเงยหน้าจากชามข้าวต้มมองหน้าคนพูดด้วยสายตางงจัด ที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มก็เพราะรู้สึกอับอายและเขินจัดที่ร้องเพลงออกไปเมื่อกี้ ...ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ ต้องใช้ความกล้ามากเหอะ
นายตุลเหลือบมองหน้ามึนๆของคนป่วย ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา เดาเอาว่าสมองของไอ้หมีไวไวมันคงจะเบลอเพราะพิษไข้ก็เลยไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มที่ถึงได้คิดตามไม่ทัน
“ก็เอาไว้หายป่วย จะลองฟังอีกที เพลงเมื่อกี้ แต่จะไม่ร้องก็ได้นะ ไม่ได้บังคับ...”
“ร้องๆ ผมจะร้องให้เฮียฟัง!!” ยังพูดไม่ทันจบไอ้หมีป่วยมันก็ยกมือขึ้น เหมือนขอขัดด้วยอาการตื่นเต้นออกนอกหน้านอกตา พร้อมกับรอยยิ้มกว้างเหมือนเคย แม้ว่าจะดูซูบซีดไปกว่าครึ่งก็ตาม
“อืม...” กลายเป็นคนทางนี้ที่ทำหน้าไม่ถูกแทน คล้ายจะยิ้มแต่ก็กลัวว่าตัวเองจะเสียฟอร์ม
วายุแทบจะโดดพุ่งเข้าไปกอดไอ้คุณเฮียแน่นๆ ฟัดแก้มหอมๆอีกซักสองสามฟอด(แม้ว่าจะเสี่ยงตายแค่ไหนก็ตาม) อาการขุ่นเคืองในใจเมื่อตอนกลางวันจางหายไปจนหมดไม่มีเหลือ ที่จริง...มันหายไปตั้งแต่ตอนตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังมีอาการน้อยใจเล็กๆตามประสาคนป่วยที่อยากให้มีคนคอยดูแล อยากให้คนที่ชอบมาทำดีด้วย..ยิ่งพอมาเจอไอ้คุณเฮียเวอร์ชั่นใจดีขี้อายแบบนี้...อดใจรอให้หายป่วยแทบไม่ไหว
“แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก...แค่กๆ” คราวนี้ไม่ใช่คำร้องทำนองเพลง แต่เป็นแค่ประโยคคำพูดที่มาพร้อมกับเสียงไอโขลกๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ยังคงคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งสายตาหวานซึ้งไปให้คนตรงหน้าได้โดยไม่ขาดระยะความหวาน
“ก็บอกว่ารอให้หายก่อน จะฝืนทำไม!!” ไอ้คุณเฮียยื่นแก้วน้ำอุ่นมาให้กลั้วคอ
“รู้งี้ฉีดยามาซักเข็มก็ดีหรอก จะได้หายเร็วๆ” ไวไวบ่นพึมพำกับตัวเอง เพราะรู้ว่า ณ ตอนนี้ตัวเองนั่งอยู่ที่บ้าน แสนจะห่างไกลจากโรงพยาบาลถึงได้กล้าพูดออกมา ทั้งที่ยังทำใจกล้าฉีดยาไม่ลงอยู่ดี
“เอาไหมล่ะ เดี๋ยวโทรเรียกไอ้หมอมา จัดซัก 2-3 เข็ม หึ หึ ” คนป่วยปากดีรีบส่ายหัวรัวทันที เพราะรู้ว่าระดับไอ้คุณเฮียจัดให้ได้ตามใจสั่งอยู่แล้ว เพียงแค่กดโทรศัพท์กริ๊งเดียว
“เฮีย...ขอนอนที่ห้องได้ไหม..?” เจ้าของห้องเหลือบมองมาเหมือนแปลกใจ เหมือนกับว่าตัวเองไปบังคับให้ไอ้คนป่วยไปนอนที่อื่นที่ไม่ใช่ในห้อง
“ในห้องตัวเอง..!! ก็นอนไปดิ ใครห้ามกัน!!?” นายตุลตอบกลับมาแบบไม่คิด แต่ไอ้หมีป่วยกลับส่ายหน้า แล้วส่งสายตาอ้อนๆมาให้
“ห้องเฮียนะ..ไม่ใช่ห้องผม..”
“ฝันเหอะ!!” ว่าแล้ว!!!...ยังไงก็ต้องโดนปฏิเสธ วายุแกล้งทำหน้าหงอยหนักกว่าเก่า วางช้อนที่กำลังตักข้าวต้มลง...เพื่อดำเนินการแผนสองที่ได้เตรียมเอาไว้
“ผมก็นึกว่า...ที่เฮียเปิดประตูห้องเอาไว้ เพราะเป็นห่วงผมซะอีก..?” วายุเหลือบมองไปทางประตูห้องที่อยู่ติดกัน ทั้งสองห้องยังคงเปิดประตูค้างเอาไว้
“ก็แค่ลืม...ลืมปิด!!” นายตุลเบือนหน้าไปอีกทาง รู้สึกเจ็บใจเล็กๆ ที่โดนรู้ทันว่าที่เปิดประตูทิ้งเอาไว้เพราะต้องการฟังความเคลื่อนไหวของคนป่วยที่นอนอยู่อีกห้อง เผื่อว่ามันจะตื่นขึ้นมาแล้วเกิดลื่นล้มหัวฟาดพื้นไปคงได้กลายเป็นผีไวไวเฝ้าห้อง
“จริงอ่ะ!!? เฮียลืมจริงๆเหรออออออออ...?” วายุแกล้งลากเสียงยาวแบบคนรู้ทัน แค่เห็นว่าหลบตาก็จับได้แล้วว่าไอ้คุณเฮียทำปากแข็งไปอย่างงั้น..พอรู้ว่าเป็นห่วง ก็แทบอยากจะป่วยต่ออีกซักสองสามวัน แต่ขืนทำแบบนั้นได้โดนไอ้คุณเฮียจัดชุดใหญ่มาให้จริงๆแน่
“อย่ามา ทำเป็นรู้มาก!! ชอบเดามั่ว...” ด่าไปก็เปล่าประโยชน์ในเมื่อไอ้หมีมันยังคงยิ้มส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาไม่เลิก นึกอยากจะเอื้อมไปเอานิ้วจิ้มให้ตาบอด
“นะ..ขอนอนห้องเฮียนะ ที่พื้นก็ได้..เฮียจะได้ไม่ต้องคอยห่วงไง...” ไอ้หมีใหญ่อธิบายเหตุผลที่พอจะฟังเข้าท่าที่สุด แต่เจ้าของห้องก็ดูเหมือนยังคงไม่ไว้ใจอยู่ดี
“ผมก็กำลังป่วย ไม่มีแรงแล้วด้วย เฮียไม่สงสารกันบ้างเหรอ..นะ..นะ” พอเห็นว่าไอ้คุณเฮียเงียบไป ไอ้หมีไวไวก็จำต้องรุกให้หนักแบบเข้าประชิดตัวให้ได้ก่อนที่เจ้าของห้องจะคิดออกว่าแท้ที่จริงเป็นเพียงแค่มารยาหมี
แล้วมัน..ก็ทำสำเร็จ ไอ้หมีได้เข้ามานอนบนเตียงครึ่งหนึ่งของห้องไอ้คุณเฮียจนได้ แม้ว่าจะมีหมอนข้างวางขั้นกลางเอาไว้ ‘ไม่อยากติดหวัด’ ข้ออ้างที่เจ้าของเตียงยกเอามาตอนที่เอาหมอนมาวางกั้นแขนกลางเตียง ไอ้ไวไวจำต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย โดยแลกกับการไม่ต้องลงไปนอนกลิ้งบนที่นอนปิกนิกบนพื้น...ก็ยังนับว่าคุ้มค่าเพราะอย่างน้อยๆก็ได้นอนมองหน้าเฮียในระดับเดียวกัน
“ยามันไม่ออกฤทธิ์รึไง นอนยิ้มอยู่ได้!! ไอ้เด็กนี่!!” แม้ว่าเจ้าของเตียงทำท่าจะเอานิ้วจิ้ม แต่ไอ้เด็กบ้าที่ว่ามันกลับไม่ยอมเอี้ยวตัวหลบ ไม่ยอมหลบสายตา ยังคงจ้องมองมานิ่งๆ และมันทำให้ไอ้คุณเฮียที่กำลังจะสวมโหมดโหดต้องชะงักค้าง...ไปต่อไม่เป็น
“ก็คนมันยังไม่ง่วง เฮียก็อย่ามามองผมสิ ไม่ต้องสนใจผมก็ได้” ไอ้ไวไวยังคงนอนห่อตัวอยู่ในผ้านวมลายหมีของตัวเอง ที่คลุมมิดมาจนถึงคอ พร้อมรอยยิ้มกวนประสาทไม่เลิก
ไม่ให้มองกลับรึ!!? ไม่ให้สนใจงั้นรึ!!? บ้าไปแล้วเจอสายตาแบบนี้ใครมันจะไปอยู่สุขได้ พยายามนอนหันหลังให้ก็แล้ว หลับซะที่ไหน!!...รู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งคอยจับจ้องมองมาตลอด แล้วพอหันกลับมา...มาเจอสายตากรุ้มกริ่มยิ้มหวานเชื่อม แทนที่จะได้หลับให้สบาย ใจมันก็พาลจะเต้นแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า...ไม่น่าจะไปหลงกลไอ้หมีมันเลย ให้มันนอนอยู่ที่ห้องก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ
“มันทำให้นอนไม่หลับโว้ยยยยย!!!” เดี๋ยวปั๊ดจับกรอกยาซะหรอก!!” เจ้าของเตียงกัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด ทั้งที่ไม่รู้ว่าทำไม
“ทำไมอ่ะ..ทำไมเฮียถึงนอนไม่หลับ เพราะผม...?” มันยังจะมีหน้ามาถาม...ไอ้หมีไวไว!! แล้วดูมันทำหน้าเข้า หาได้มีความสำนึกไม่ ไอ้รอยยิ้มกวนประสาทแบบนี้ใครเป็นคนสอนกันวะ!! มันน่า....!!
“เออ!! รู้แล้วก็หลับตาซะ ก่อนจะโดนจิ้มตาบอด!!” คำขู่ที่ว่าหาได้เป็นผลกับไอ้หมีโย่ง มันกลับยิ่งคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิมซิไม่ว่า แถมยังขยับตัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“เพราะเฮีย..รู้สึกว่าผมมองอยู่ก็เลยนอนไม่หลับ!!?” ไอ้หมีไวไวถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่แทนที่จะตอบเจ้าของเตียงกลับผลักหัวมันออกห่างด้วยความรำคาญปนหมั่นไส้ที่ยังเห็นมันยิ้มไม่เลิก
“เออ!!”
คำตอบห้วนๆที่ได้ยิน ทำเอาคนป่วยสุขใจจนแทบบ้า ไม่อยากทำให้เจ้าของเตียงรำคาญ แต่จะให้ทำไงได้ก็มันหยุดมอง หยุดจ้องไม่ได้ ใครเคยเป็นไหมล่ะ เวลาที่เห็นคนที่เราจ้องมองเค้าเขินอายเพราะสายตาของเรา มันก็ทำให้แทบจะละสายตาไปไหนไม่ได้ แม้ว่าจะโดนหงุดหงิดใส่ก็ตาม
“ก็...ก็เฮียอยากเขินทำไมล่ะ โอ๊ย!!” ฝ่ามือพิฆาตฟาดเข้าให้ที่หน้าผาก แม้ว่าจะไม่แรงนักก็ตาม ดูเอาเหอะ!! ขนาดกับคนป่วยยังไม่เว้นเลยไอ้คุณเฮียของผม
“ใครเขิน!!!!!?” ไอ้หมีป่วยมันยังไม่เข็ด เอามือที่ยกขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองชี้กลับมาทางคนถามได้อย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะถอยหนีไปจนตัวชิดติดกับกำแพง
“ผมหลับตาแล้วก็ได้ แต่...จะฝันถึง...!!” พูดจบก็รีบชิงหลับตาลงเสียก่อน ก่อนที่จะโดนไอ้คุณเฮียทำอะไรเอาอีก ยิ่งไม่มีแรงมาจับกดสู้รบปรบมืออยู่ด้วย
เจ้าของเตียงสุดโหดเงื้อมือค้างไว้บนอากาศ เพราะไอ้หมีป่วยเจ้าเล่ห์มันซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วปิดเปลือกตาสนิท มองดูคล้ายหมีจำศีลในฤดูหนาว ทำเอาคนที่เก๊กโหดแทบตายแทบหลุดขำออกมา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาไอ้หมีจำศีล ไม่รู้ตัวว่าสายตาของตัวเองจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของคนที่นอนหลับตาเนิ่นนาน ริมฝีปากที่คลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะเผลอหลับไปในที่สุด
========================
อยากเป็นคนที่ถูกร๊ากกกกกกกกกกก
(
ตื่น ๆ )
รักคนอ่านทุกคนแทนก็ได้เหอะ หึหึ
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม
ขอบคุณเพลงประกอบ คนที่ถูกรัก - Bodyslam
กอดทุกคนก่อนวิ่งไปปั่นงานเลี้ยงตัวเองต่อ 5555