==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้  (อ่าน 1080548 ครั้ง)

Bench

  • บุคคลทั่วไป
พี่คิงยังไม่นอนอีกเหรอคับ???  :o

ไม่รู้จะพิมพ์อะไร  มาแอบอ่านแล้วก็ให้กำลังใจแล้วกันคับ  :L2:

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
 :L2: ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วยนะครับ หนิง
พี่เห็นด้วยกับคิงเรื่องการรับปริญญา อย่างน้อยมันก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต คนเราจะมีโอกาสรับปริญญากันกี่ครั้งกัน
ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นคุณค่าของการที่ต้องเสียเวลานั่งก้นแฉะเป็นวัน ๆ เพื่อที่จะรับปริญญาจากพระหัตถ์แค่ 10 วินาที
แต่มันเป็น 10 วินาทีแห่งความทรงจำนะครับ เพราะท่านไม่ได้มามอบปริญญาให้เราได้ทุกครั้งที่เราต้องการ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพื่อการนี้ พี่ก็เข้าใจนะ เพราะมันก็ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ไหนจะค่าเสื้อครุย ค่ารองเท้า
ค่าชุด ค่าถ่ายรูป ที่สำคัญ สมัยนี้ จะรับปริญญาทั้งที ยังต้องเสียค่ารับเลย สมัยก่อนรับฟรี ไม่เสียตังค์สักบาท
เดี๋ยวนี้ อะไร ๆ มันก็เป็นธุรกิจไปหมดแล้ว  :เฮ้อ:

เรื่อง facebook พี่ก็เคยเล่นอยู่พักนึง หลัง ๆ ก็ไม่ค่อยเข้าไปเท่าไหร่ เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร
เพื่อน ๆ ก็ไม่เล่น บอกว่า เสียเวลา สู้ skype คุยกันไม่ได้ ได้เห็นหน้าค่าตากันเลย
ไอ้ครั้นจะไปคุยกับคนแปลกหน้า ก็ไม่สนิทใจอีก แล้วถ้าจะไปเล่นปลูกผัก กลับสเต็กส์ ในนั้นอย่างเดียว
ก็ไม่มีเวลาอีก สรุปคือ เลิกเล่นดีกว่า สงสัยว่า พี่คงจะเกินเกณฑ์ไปแล้วล่ะ 55555

ป.ล. เพลงเพราะดีนะครับ พี่ก็ชอบฟังเพลงลูกทุ่ง เพื่อชีวิต อะไรประมาณนี้แหละครับ
แฟนพี่เค้ายังค่อนให้บ่อย ๆ ว่า ฟังเพลงไม่สมกับหน้าตา 5555
ถึงหน้าไม่ให้ แต่ใจรักน่ะ จะทำไม จริงมะ  :teach:

chocolate

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ ไปไวมากกกก ตามอ่านไม่ทัน เด๋วขออ่านก่อนนะ 5555


@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วยคนครับ  :mc4:

รับไปเถอะครับ ปริญญาบัตร ในวันนั้น ถ้าเราเห็นหน้าตาเปี่ยมสุข ของพ่อแก่ ปู่ย่า ตายายเรา แล้วเราจะรู้ว่าท่านมีความสุขขนาดไหน เวลามองดูนัยตาของท่าน

ผมเอง คุณยาย อยู่รอจนผมรับปริญญา พอผมรับไปได้ประมาณ 3 เดือน ท่านก็ป่วยหนักแล้ว แล้วก็เสียไปไนที่สุด คิดถึงคุณยายจัง

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
:L2: ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วยนะครับ หนิง
พี่เห็นด้วยกับคิงเรื่องการรับปริญญา อย่างน้อยมันก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต คนเราจะมีโอกาสรับปริญญากันกี่ครั้งกัน
ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นคุณค่าของการที่ต้องเสียเวลานั่งก้นแฉะเป็นวัน ๆ เพื่อที่จะรับปริญญาจากพระหัตถ์แค่ 10 วินาที
แต่มันเป็น 10 วินาทีแห่งความทรงจำนะครับ เพราะท่านไม่ได้มามอบปริญญาให้เราได้ทุกครั้งที่เราต้องการ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพื่อการนี้ พี่ก็เข้าใจนะ เพราะมันก็ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ไหนจะค่าเสื้อครุย ค่ารองเท้า
ค่าชุด ค่าถ่ายรูป ที่สำคัญ สมัยนี้ จะรับปริญญาทั้งที ยังต้องเสียค่ารับเลย สมัยก่อนรับฟรี ไม่เสียตังค์สักบาท
เดี๋ยวนี้ อะไร ๆ มันก็เป็นธุรกิจไปหมดแล้ว  :เฮ้อ:

เรื่อง facebook พี่ก็เคยเล่นอยู่พักนึง หลัง ๆ ก็ไม่ค่อยเข้าไปเท่าไหร่ เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร
เพื่อน ๆ ก็ไม่เล่น บอกว่า เสียเวลา สู้ skype คุยกันไม่ได้ ได้เห็นหน้าค่าตากันเลย
ไอ้ครั้นจะไปคุยกับคนแปลกหน้า ก็ไม่สนิทใจอีก แล้วถ้าจะไปเล่นปลูกผัก กลับสเต็กส์ ในนั้นอย่างเดียว
ก็ไม่มีเวลาอีก สรุปคือ เลิกเล่นดีกว่า สงสัยว่า พี่คงจะเกินเกณฑ์ไปแล้วล่ะ 55555

ป.ล. เพลงเพราะดีนะครับ พี่ก็ชอบฟังเพลงลูกทุ่ง เพื่อชีวิต อะไรประมาณนี้แหละครับ
แฟนพี่เค้ายังค่อนให้บ่อย ๆ ว่า ฟังเพลงไม่สมกับหน้าตา 5555
ถึงหน้าไม่ให้ แต่ใจรักน่ะ จะทำไม จริงมะ  :teach:
^
^
^
จริงครับที่เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เป็นธุรกิจไปหมด จนบางครั้งผมก็รู้สึกว่าเฮ้ย...มันเยอะไปมั้ย แต่สุดท้ายก็ต้องเข้าใจว่าสังคมปัจจุบันมันเป็นแบบนี้เอง
ขืนอยู่นิ่งๆ แล้วไหลไปตามน้ำ คงได้จมน้ำตายก่อนพอดี

ส่วนเรื่องเพลง...อย่างเมื่อก่อนเนี่ยผมจะฟังแต่เพลงป๊อปอย่างเดียวเลย เพื่อนหรือแฟนคนไหนฟังลูกทุ่ง...ผมจะมองมันแบบเหยียดๆ ว่าไอ้นี่แม่งโลว่ะ (นิสัยผม...ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ ใช่มั้ยครับ 555) แต่เดี๋ยวนี้อาจจะเพราะผมโตขึ้น อาจจะมีความคิดมากขึ้นด้วย(รึปล่าว) ก็เลยคิดว่าเออ ของอย่างงี้มันเป็นความชอบส่วนตัวจริงๆ
แล้ว...พอได้ลองเปิดใจฟังดีๆ แต่ละแนวเพลงก็มีความเพราะของตัวเอง

อย่างลูกทุ่งจากที่เมื่อก่อนไม่มีอยู่ในมือถือของผมเลย...กลายเป็นว่าตอนนี้เพลงลูกทุ่งเพราะๆ หลายเพลงเข้ามาอยู่ในมือถือของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



พี่คิงยังไม่นอนอีกเหรอคับ???  :o

ไม่รู้จะพิมพ์อะไร  มาแอบอ่านแล้วก็ให้กำลังใจแล้วกันคับ  :L2:
^
^
^
ดูจากเวลาที่คริทเม้น พี่ว่าตอนนั้นพี่คงหลับไปแล้วอ่ะครับ (เพราะหลังจากเม้นล่าสุดพี่ก็หลับไปเลย :man1:)


ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วยคนครับ  :mc4:

รับไปเถอะครับ ปริญญาบัตร ในวันนั้น ถ้าเราเห็นหน้าตาเปี่ยมสุข ของพ่อแก่ ปู่ย่า ตายายเรา แล้วเราจะรู้ว่าท่านมีความสุขขนาดไหน เวลามองดูนัยตาของท่าน

ผมเอง คุณยาย อยู่รอจนผมรับปริญญา พอผมรับไปได้ประมาณ 3 เดือน ท่านก็ป่วยหนักแล้ว แล้วก็เสียไปไนที่สุด คิดถึงคุณยายจัง
^
^
^
จริงครับ บางเรื่องที่เราเห็นว่าอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับเรา แต่สำหรับท่านๆ (ผู้ซึ่งเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย)แล้ว นั่นคือความสุขครับ
เหมือนที่ผมยังจำแววตาของพ่อแม่ผมตอนที่ผมสอบได้ที่ 1 (ตอนช่วงประถม) แล้วดีใจจนไม่รู้จะอธิบายยังไงได้เลย


ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
ยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วย...2 คนนะครับพี่หนิง

เรื่องเฟสบุ๊คนี่ ผมเคยคิดอัพรูปของเราอยู่เหมือนกันครับ แต่ทีไม่ยอม แล้วพอผ่านไปสักพัก ผมก็คิดว่าทีคิดถูก
เฟสเลยมีประโยชน์แค่เล่นเกมจริงๆ

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
ลมเหมันต์ผันผ่านมาอีกคราหนึ่ง
ความคิดถึงยังตรึงแน่นมิจางหาย
หวังเคยวาดคาดไว้เคยมลาย
แหลกสลายโชยชายกับสายลม

บทกวีบทนี้แด่ทุกท่าน
ที่ร้าวรานหรือชื่นชู้คู่สุขสม
ให้ข้ามผ่านความเปลี่ยนแปรของสายลม
แม้ขื่นขมหรือยิ้มรื่นยืนหยัดไป

ทักทายทุกท่านด้วยบทกลอนลมหนาว  :กอด1:

ขอบคุณทุกคนนะครับ สำหรับทุกเม้นต์เกี่ยวกับการรับปริญญาของผม

ผมจะจดจำทุกๆเม้นต์ไว้ เพราะในวันงาน คงไม่ค่อยมีใครมา

(ผมเป็นคนเพื่อนน้อยอะครับ ที่เคยบอกว่าคาแรคเตอร์ผมเหมือนกับเงา ถ้านึกถึงการ์ตูนก็แบบว่า มีค้างคาวร้องแกว๊กๆ อยู่รอบตัวตลอดเวลาแบบนั้นเลย  :laugh: )

วันนี้ทุกคนเป็นไงมั่งครับ สบายดีหรือเปล่า

อากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อย คงหลับสบายกันดีนะครับ

ด้วยความห่วงใย จากนายเงา อิอิ

ปอลอ ไม่ว่างไปแต่งนิยายเลยวุ้ย

ปลลอลอ เฟสบุคสำหรับผม นอกจากประโยชน์ข้างต้นๆที่หลายๆคนกล่าวมา ผมยังใช้มันในการค้นหาเพื่อนเก่าสมัยดึกดำบรรพ์ (มอต้น ปวช ปวส) เพราะผมเปลี่ยนที่เรียนบ่อย ทำให้พอจะเริ่มสนิทกะใครก็ต้องย้ายอีกละ พอมีเฟสเราก็ไล่ไปตามลิสต์เพื่อนไปเรื่อยๆ สนุกดีครับ บางทีก็แบบแอบนั่งฮา เพื่อนสมัยเอ๊าะๆของเรา แสดงตนเป็นเก้งกวางกันเยอะเลย อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2010 12:53:45 โดย JkrR »

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
@ ตอบหนิง  เราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเยอะหรอกครับ แต่ขอให้มีแล้วทำตัวสมกับเป็นเพื่อนก็พอ
ส่วนใหญ่คนมักพูดเหมารวมกันไปหมดว่า "เพื่อน" ระหว่าง คนรู้จัก คนคุ้นเคย เพื่อน (ธรรมดา) เพื่อนสนิท เพื่อนพิเศษ ฯลฯ
พี่ก็จะจัดแบ่งประเภทเพื่อนที่ว่า ตามกลุ่มข้างต้นนี้แหละครับ เวลามีใครมาติดต่อขอให้ช่วยอะไร
ก็จะดูเป็นเรื่อง ๆ เป็นคน ๆ ไป เพราะพี่จะเจอมาเยอะ ประเภทขอใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อน เพื่อความเท่าเทียมกัน
ตัวอย่างเช่น พี่มีเพื่อนคนหนึ่งที่เขาประสบปัญหาทางธุรกิจ เป็นหนี้เป็นสินเยอะ บางครั้งก็หมุนเงินไม่ทัน จนทำให้ลูกเต้าเกือบไม่ได้เรียน
พี่ก็เข้าไปช่วยเรื่องค่าเทอมลูกเขาบ้างเป็นครั้งคราว พอเพื่อนอีกคนรุ้ ก็จะขอใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อน ด้วยการขอยืมเงินพี่บ้าง
ทั้ง ๆ ที่บ้านมันแม่งโคตรรวย พอไม่ให้ ก็มีการตัดพ้อต่อว่า หาว่าเราลำเอียง รักเพื่อนไม่เท่ากัน เป็นงั้นไป
ถ้าไม่ติดว่า คบกันมาตั้งแต่ประถม พี่คงตัดหางมันไปแล้ว

โดยส่วนตัว พี่เป็นคนที่มีคนรู้จักเยอะ หมายถึงในกลุ่มหรือแวดวงของพี่นะครับ แต่ถามว่า มีเพื่อนสนิทกี่คน
บอกได้เลยว่า คนที่พี่จัดเข้ากลุ่มเป็นเพื่อนนั้น มีไม่ถึง 5 คน แต่เป็น 5 คนที่มีคุณค่ามากสำหรับพี่
เพราะแบ่งปันรับรู้ทุกข์สุขของกันและกันมาตลอด และเป็น 5 คนที่พี่กล้าบอกเรื่องแฟนพี่ให้ทราบ
นอกเหนือจากคนในครอบครัว

@ King ตอบคำถามเรื่อง "ของขวัญ" ชิ้นแรกที่ได้รับจากแฟน
ต้องบอกก่อนว่า ปกติแฟนผมเค้าจะไม่ค่อยซื้ออะไรให้เป็นของขวัญสักเท่าไหร่ นาน ๆ ถึงจะให้ที
แต่ให้แต่ละที จะเป็นของชิ้นใหญ่หรือไม่ก็มีมูลค่าสูง เขาบอกว่า ให้บ่อย ๆ มันเฝือ และดูไม่มีคุณค่า
ด้วยความที่รับอยู่บ่อย ๆ คนรับก็อาจจะไม่รู้สึกซาบซึ้งและเห็นคุณค่าของสิ่งที่ให้เท่าที่ควร
ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ในการให้ น่าน! หลักการจ๋ามากเลยครับ แฟนผม
พอเขามีความคิดแบบนี้ ก็เลยไม่ค่อยจะซื้ออะไรให้ผมหรอกครับ

ถ้าเป็นของขวัญชิ้นแรก แฟนผมเค้าซื้อรถยนต์ให้เป็นของขวัญครับ
ตอนนั้นอยู่ด้วยกันมาร่วมสองปีแล้ว จำได้ว่า วันนั้น กำลังนอนเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียว ส่วนแฟนไปทำงาน
อยู่ ๆ ก็มีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน พอเปิดออกไป ก็เจอผู้ชายคนหนึ่ง และรถคันหนึ่ง (ขออนุญาตไม่บอกยี่ห้อนะครับ)
ตัวเองกำลังงง ๆ อยู่ว่า เขากดกริ่งผิดบ้านหรือเปล่า พอดีผู้ชายคนนั้นเขาถามว่า ใช่คุณ....หรือเปล่า
พอตอบว่า ใช่ เขาก็ยื่นกุญแจรถพร้อมเอกสารการส่งมอบมาให้เซ็น แล้วบอกว่า คุณ (ชื่อแฟน) แจ้งไว้ว่า ให้เอาส่งให้คุณในวันนี้ครับ
ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่รับ เพราะไม่รู้เรื่องมาก่อน จะโทรไปถามแฟน ก็ยังติดต่อไม่ได้ เพราะเวลาเขาทำงาน จะปิดมือถือไว้
จะติดต่อได้ก็ต่อเมื่อเขาโทรมาหาเอง

ช่วงที่ลังเลว่า จะเซ็นหรือไม่เซ็นดี ผู้ชายคนนั้นเขาก็บอกว่า รับไปเถอะครับ คุณ(แฟนผม)เขาจ่ายเงินสดไปหมดแล้ว เหลือแค่เซ็นชื่อเท่านั้น
พอดูเอกสารอะไรต่าง ๆ แล้ว ผมก็เลยยอมเซ็น คือ ถ้าสุ่มสี่สุมห้ารับไป กลัวถูกหาว่า รับของโจรน่ะครับ
หรือไม่ก็กลัวถูกกรรโชกทรัพย์ทีหลัง เหมือนอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวบ่อย ๆ

สุดท้าย พอแฟนโทรมา เขาก็ถามคำแรกเลยว่า ได้รถหรือยัง ผมก็อึ้ง+ตื้นตันไปพอสมควรครับ
เพราะไม่คิดว่า เขาจะลงทุนขนาดนี้ รถไม่ใช่ราคาบาทสองบาท
เขาบอกว่า เห็นลูบคลำอยู่นานแล้ว ก็ไม่ตัดสินใจซื้อซะที
แล้วพอกลับมาที่บ้าน ก็ยังพูดพร่ำถึงมันอยู่นั่นแหละ เขารำคาญ ก็เลยซื้อให้ซะเอง

คือ ก่อนหน้านั้น พวกผมได้ไปเดินดูรถที่งาน Motor Expo กันมาน่ะครับ
แล้วผมไปสนใจรถยี่ห้อนั้นเข้า แต่ติดที่ว่า ไอ้คันที่ใช้อยู่ตอนนั้น มันก็ยังใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร
ไปจด ๆ จ้อง ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่นานเหมือนกัน แล้วแฟนผมเขาก็เร่งผมให้ไปดูที่อื่นซะเหลือเกิน
สุดท้าย ก็เลยตัดใจไม่ซื้อ ผมก็เลยแปลกใจที่เขาซื้อรถให้ผม เพราะตอนนั้น เขาทำเหมือนไม่สนใจเลยครับ
ออกจะติดแนวรำคาญผมเสียด้วยซ้ำ เขามาบอกให้ฟังทีหลังว่า ตอนที่เขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เขาแอบกลับไปขอเบอร์เซลล์เอาไว้
เพื่อติดต่อเรื่องทีหลัง กะจะเซอร์ไพรส์ผมน่ะแหละ

นี่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักของเขาก็ได้มั้งครับ เพราะเขามักจะทำอะไรแบบนี้บ่อย ๆ
เหมือนหนังสือที่ต้องคอยติดตามอ่านตลอดเวลา 55555


ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
 :L2: ดอกไม้ให้บัณฑิตใหม่ ดีใจด้วยนะ หนิง
ถ่ายรูปกับครอบครัวให้มากดีที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปแล้วย้อนกลับมาดูนะ
จะมีความสุขมากที่สุดเลย เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนในครอบครัวของเรา
เด๋วนี้ มีจ่ายค่ารับด้วยหรือ แต่ก่อนไม่มีเลยนะ
แฟนปุ้มน่ารักเนอะ ดูเฉย ๆ แต่ถ้าจะว่าไปแล้ว มีความโรแมนติคใช้ได้เลยแหละ

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
@ ตอบหนิง  เราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเยอะหรอกครับ แต่ขอให้มีแล้วทำตัวสมกับเป็นเพื่อนก็พอ
ส่วนใหญ่คนมักพูดเหมารวมกันไปหมดว่า "เพื่อน" ระหว่าง คนรู้จัก คนคุ้นเคย เพื่อน (ธรรมดา) เพื่อนสนิท เพื่อนพิเศษ ฯลฯ
พี่ก็จะจัดแบ่งประเภทเพื่อนที่ว่า ตามกลุ่มข้างต้นนี้แหละครับ เวลามีใครมาติดต่อขอให้ช่วยอะไร
ก็จะดูเป็นเรื่อง ๆ เป็นคน ๆ ไป เพราะพี่จะเจอมาเยอะ ประเภทขอใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อน เพื่อความเท่าเทียมกัน
ตัวอย่างเช่น พี่มีเพื่อนคนหนึ่งที่เขาประสบปัญหาทางธุรกิจ เป็นหนี้เป็นสินเยอะ บางครั้งก็หมุนเงินไม่ทัน จนทำให้ลูกเต้าเกือบไม่ได้เรียน
พี่ก็เข้าไปช่วยเรื่องค่าเทอมลูกเขาบ้างเป็นครั้งคราว พอเพื่อนอีกคนรุ้ ก็จะขอใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อน ด้วยการขอยืมเงินพี่บ้าง
ทั้ง ๆ ที่บ้านมันแม่งโคตรรวย พอไม่ให้ ก็มีการตัดพ้อต่อว่า หาว่าเราลำเอียง รักเพื่อนไม่เท่ากัน เป็นงั้นไป
ถ้าไม่ติดว่า คบกันมาตั้งแต่ประถม พี่คงตัดหางมันไปแล้ว

โดยส่วนตัว พี่เป็นคนที่มีคนรู้จักเยอะ หมายถึงในกลุ่มหรือแวดวงของพี่นะครับ แต่ถามว่า มีเพื่อนสนิทกี่คน
บอกได้เลยว่า คนที่พี่จัดเข้ากลุ่มเป็นเพื่อนนั้น มีไม่ถึง 5 คน แต่เป็น 5 คนที่มีคุณค่ามากสำหรับพี่
เพราะแบ่งปันรับรู้ทุกข์สุขของกันและกันมาตลอด และเป็น 5 คนที่พี่กล้าบอกเรื่องแฟนพี่ให้ทราบ
นอกเหนือจากคนในครอบครัว

@ King ตอบคำถามเรื่อง "ของขวัญ" ชิ้นแรกที่ได้รับจากแฟน
ต้องบอกก่อนว่า ปกติแฟนผมเค้าจะไม่ค่อยซื้ออะไรให้เป็นของขวัญสักเท่าไหร่ นาน ๆ ถึงจะให้ที
แต่ให้แต่ละที จะเป็นของชิ้นใหญ่หรือไม่ก็มีมูลค่าสูง เขาบอกว่า ให้บ่อย ๆ มันเฝือ และดูไม่มีคุณค่า
ด้วยความที่รับอยู่บ่อย ๆ คนรับก็อาจจะไม่รู้สึกซาบซึ้งและเห็นคุณค่าของสิ่งที่ให้เท่าที่ควร
ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ในการให้ น่าน! หลักการจ๋ามากเลยครับ แฟนผม
พอเขามีความคิดแบบนี้ ก็เลยไม่ค่อยจะซื้ออะไรให้ผมหรอกครับ

ถ้าเป็นของขวัญชิ้นแรก แฟนผมเค้าซื้อรถยนต์ให้เป็นของขวัญครับ
ตอนนั้นอยู่ด้วยกันมาร่วมสองปีแล้ว จำได้ว่า วันนั้น กำลังนอนเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียว ส่วนแฟนไปทำงาน
อยู่ ๆ ก็มีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน พอเปิดออกไป ก็เจอผู้ชายคนหนึ่ง และรถคันหนึ่ง (ขออนุญาตไม่บอกยี่ห้อนะครับ)
ตัวเองกำลังงง ๆ อยู่ว่า เขากดกริ่งผิดบ้านหรือเปล่า พอดีผู้ชายคนนั้นเขาถามว่า ใช่คุณ....หรือเปล่า
พอตอบว่า ใช่ เขาก็ยื่นกุญแจรถพร้อมเอกสารการส่งมอบมาให้เซ็น แล้วบอกว่า คุณ (ชื่อแฟน) แจ้งไว้ว่า ให้เอาส่งให้คุณในวันนี้ครับ
ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่รับ เพราะไม่รู้เรื่องมาก่อน จะโทรไปถามแฟน ก็ยังติดต่อไม่ได้ เพราะเวลาเขาทำงาน จะปิดมือถือไว้
จะติดต่อได้ก็ต่อเมื่อเขาโทรมาหาเอง

ช่วงที่ลังเลว่า จะเซ็นหรือไม่เซ็นดี ผู้ชายคนนั้นเขาก็บอกว่า รับไปเถอะครับ คุณ(แฟนผม)เขาจ่ายเงินสดไปหมดแล้ว เหลือแค่เซ็นชื่อเท่านั้น
พอดูเอกสารอะไรต่าง ๆ แล้ว ผมก็เลยยอมเซ็น คือ ถ้าสุ่มสี่สุมห้ารับไป กลัวถูกหาว่า รับของโจรน่ะครับ
หรือไม่ก็กลัวถูกกรรโชกทรัพย์ทีหลัง เหมือนอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวบ่อย ๆ

สุดท้าย พอแฟนโทรมา เขาก็ถามคำแรกเลยว่า ได้รถหรือยัง ผมก็อึ้ง+ตื้นตันไปพอสมควรครับ
เพราะไม่คิดว่า เขาจะลงทุนขนาดนี้ รถไม่ใช่ราคาบาทสองบาท
เขาบอกว่า เห็นลูบคลำอยู่นานแล้ว ก็ไม่ตัดสินใจซื้อซะที
แล้วพอกลับมาที่บ้าน ก็ยังพูดพร่ำถึงมันอยู่นั่นแหละ เขารำคาญ ก็เลยซื้อให้ซะเอง

คือ ก่อนหน้านั้น พวกผมได้ไปเดินดูรถที่งาน Motor Expo กันมาน่ะครับ
แล้วผมไปสนใจรถยี่ห้อนั้นเข้า แต่ติดที่ว่า ไอ้คันที่ใช้อยู่ตอนนั้น มันก็ยังใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร
ไปจด ๆ จ้อง ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่นานเหมือนกัน แล้วแฟนผมเขาก็เร่งผมให้ไปดูที่อื่นซะเหลือเกิน
สุดท้าย ก็เลยตัดใจไม่ซื้อ ผมก็เลยแปลกใจที่เขาซื้อรถให้ผม เพราะตอนนั้น เขาทำเหมือนไม่สนใจเลยครับ
ออกจะติดแนวรำคาญผมเสียด้วยซ้ำ เขามาบอกให้ฟังทีหลังว่า ตอนที่เขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เขาแอบกลับไปขอเบอร์เซลล์เอาไว้
เพื่อติดต่อเรื่องทีหลัง กะจะเซอร์ไพรส์ผมน่ะแหละ

นี่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักของเขาก็ได้มั้งครับ เพราะเขามักจะทำอะไรแบบนี้บ่อย ๆ
เหมือนหนังสือที่ต้องคอยติดตามอ่านตลอดเวลา 55555



เอิ่มมม พี่ปุ้มครับ ที่พี่เล่ามาเนี่ยไม่ใช่สิ่งเล็กๆแล้วมั้งครับ  :z3:

 :impress2: อิจฉาๆ

ลืมเรื่องคำถามพี่คิงไปเลย งั้นขอเล่ามั่ง ก็อย่างเคย ของขวัญของผมก้อยังคงมืดมนเหมือนเดิม // ค้างคาวร้องแกว๊กๆ

ลอยกระทงปีที่แล้วเป็นคืนที่ก่อนที่ผมกะมันจะเลิกกันอะครับ

ก้ไปเดินเที่ยวงานกันที่เกาะลอยศรีราชา แล้วทีนี้มันมีร้านขายพวกสร้อยที่ทำจากข้าวเพ้นท์สี แล้วเขียนตัวอักษรลงบนเม้ดข้าวอะครับ

ผมก้เดินด้อมๆมองๆ อยู่นาน แบบว่า อยากได้ แต่ก็นะ พรุ่งนี้ก็จะจากกันแล้ว ถ้าซื้อไปจะมานั่งช้ำใจป่าวว้า

มันคงเห็นผมลังเลอะมั้ง เลยบอกผมว่า "เขียนคำว่าไรดีวะหนิง"

ผมก็เลย เออๆ ซื้อก็ซื้อวะ (ใจจริงแอบดีใจ นอกจากแหวนที่มันให้ ผมก็ไม่มีอะไรที่แสดงถึงการมีอยู่ระหว่างผมกับมันระความสัมพันธ์ระหว่างเราเลย)

คิดคำกันอยู่นาน ก็สรุปได้ว่า เขียนเป็นชื่อย่อของผมกับมัน คือ B & N

ได้มาคนละอัน เหมือนกัน ใช้ข้าวทาสีดำ เขียนคำด้วสีขาว ใส่ไว้ในกระบอกฟิวส์อัดซิลิโคน สวยดีครับ ผมเห็นแวบแรกยังชอบเลย

ขากลับ ผมฉุกคิดได้ถึงคำว่า B & N ที่เขียนไว้ที่สร้อยข้อมือของเรา เลยบอกมันไปว่า

" เบียร์ (นามสมมติ) วันพรุ่งนี้ ตัว N ที่สร้อยของมึง คงไม่ได้หมายความถึง หนิง แล้วสินะ แต่เป็น .... (ชื่อแฟนมัน) แทน"

มันนิ่งไม่ได้พูกอะไร แต่มันก็บอกผมตอนที่มาถึงห้องแล้ว

"แล้วมึงรู้มั้ย ว่าสำหรับกู มันไม่มีใครแทนใครได้หรอก"

มีเรื่องน่าตลกสำหรับสร้อยข้อมือเส้นนี้อยู่อีกอย่าง ตอนที่แฟนคนที่สองมันสารภาพ  :-[ กับผม ผมนึกถึงสร้อยเส้นนี้ขึ้นมา หลังจากไม่ได้ใส่มานาน (ใส่แล้วคิดถึงมัน  :sad4: ) ผมก็หยิบมาใส่ แล้วบอกกับแฟนคนที่สองว่า ขอบคุณนะ ที่ทำให้พี่รู้สึกดีขนาดนี้ จากนี้ไป B ในสร้อยเส้นนี้ จะเป็นเรานะบรีส (นามสมมติ) ซึ่งมันก็โอเค บอกว่า "พี่ผมไม่ได้ขอให้พี่ลืมใคร แต่ผมดีใจนะที่พี่รักผม"  :-[

เป็นเรื่องของเวรกรรมจริงๆ ที่ในเรื่องความรักของผมที่ผ่านมา มีแต่นาย B ทั้งนั้นเลย จำได้ว่า ตอนเม้าท์กับเพื่อนตอนนั้น ใช้คำนำหน้านายสองคนนี้ว่านาย B1 กับ B2  :laugh:

ส่วนในทุกวันนี้ นอกจากจะไม่มีซัก B แล้ว A ถึง Z ก็ไม่มีซักตัวเลยครับ  :sad4:

อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเล็กครับ อย่างซื้อรถให้เนี่ยไม่ไหวจริงๆ อิจฉา :fire:

หวังว่าคงไม่ดราม่านะครับ เล่าอย่างชิวๆ จริงจริ๊งง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2010 15:28:55 โดย JkrR »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Azygos

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: พี่ปุ้มล่ะก็

ปล. สวัสดีครับพี่คิงและทุกๆคนนะครับ ผมชื่ออ้นครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมได้รับการแนะนำกระทู้แห่งนี้ จากชายหนุ่มผู้ที่ทุกคนกำลังอิจฉาอย่างเป็นที่สุดอยู่ในตอนนี้ครับ ผมเองช่วงนี้กำลังยุ่งๆ อยู่ครับ เลยยังไม่สามารถอ่านและปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ แต่สัญญาว่าถ้าว่างแล้วจะกลับมาครับ

^_____^

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
ว่าด้วยเรื่อง ‘ของขวัญ’ ของผมบ้างละกันครับ

ถ้าพูดถึงของขวัญ............อืม..เนื่องจากผมมีแฟนมาแล้ว 3 คน เพราะงั้น...ของขวัญที่ผมได้จากเค้าและที่ให้เค้าไปจึงมีอะไรที่ให้จดจำอยู่เหมือนกัน....

เริ่มที่ ‘พี่ต้น’ แฟนคนแรกของผม...............สำหรับคนนี้...เนื่องจากว่าเค้าเป็นแฟน(ผู้ชาย)คนแรกของผม และสิ่งที่เค้าทำให้ผมในฐานะของผู้ชายที่ทำให้ผู้ชายเป็นอะไรที่ผมไม่เคยได้จากใครมาก่อน...เค้า...จึงทำให้ผมเพ้อคลั่งกับความรักในครั้งนั้นเอามากๆ เลยล่ะครับ

ผมยอมรับเลยว่าแม้ว่าตลอดเกือบปีที่คบกัน...แม้เราจะไม่มีอะไรกันเลย(นอกจากการนอนกอดกันและการหอมแก้มเท่านั้น) แต่ถ้าขืนคบกันต่อไปอีกซักพัก ผมว่าสถานภาพของผมตอนนั้นต้องเป็น ‘รับ’ ไปโดยละม่อมแน่ๆ เพราะอะไร? คงเพราะผมแคร์เค้ามากมั้งครับ เห็นอะไรก็คิดถึงเค้าตลอด ทั้งเสื้อผ้าสวยๆ (อย่างที่เค้าชอบใส่) หรือของต่างๆ ที่เค้าชอบ (อย่างโมเดลรถเป็นต้น) พอถึงวันสำคัญๆ ผมก็จะพยายามหาซื้อโน่นซื้อนี่อย่างที่เค้าชอบไปให้บ้าง เคยแม้กระทั่งนั่งหลังขดหลังแข็งประดิษฐ์อะไรบ้าๆ บอๆ ให้เค้า...ขนาดนั้นเลย 555

คิดแล้วก็.......อื้ม...กูก็ช่างทำไปได้เนาะ แต่ก็นั่นแหละครับรักครั้งแรกของเด็กบ๊องๆ อย่างผม ถือเป็นบทเรียนราคาแพงก็ว่าได้

เพราะอะไรผมถึงเรียกว่าบทเรียนราคาแพง? อาจจะเป็นเพราะกลายเป็นว่าหลายๆ ครั้งที่ผมเห็นของที่ผมทำให้กระจายไปอยู่กับคนอื่นบ้าง เก็บใส่ลิ้นชักในสภาพที่เหมือนไม่ใส่ใจบ้าง ผมก็เลย...พาลเซ็ง (แต่ก็เข้าใจเค้านิดนึงอ่ะนะเพราะเค้าบอกว่า...เค้าไม่อยากให้คนอื่นจับสังเกตได้ว่าผมดูจะใส่ใจเค้ามากเกินไป...........ก็...เค้าเป็นคริสตร์นี่ครับภาพลักษณ์ย่อมต้องมาก่อนอยู่แล้ว)

ส่วนของขวัญที่เค้าให้ผม....นอกจากพวกการ์ดต่างๆ ที่มีคำว่า ‘รัก’ ลงท้าย ผมก็จำไม่ได้ละครับว่ามีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง อาจจะไม่มี หรือเวลาอาจจะผ่านไปนานจนผมอาจจะลืมๆ ไปแล้ว ก็เลย.........สรุปใจความว่า ‘ไม่มี’ ของขวัญจากพี่ต้นละกันครับ


แต่ถ้าพูดถึงแฟนคนที่สองของผม ‘พี่น๊อต’ กับคนนี้.......ก็... ถ้าพูดถึงของขวัญชิ้นแรกที่เค้าให้ผม? จะบอกว่าเป็นแค่ ‘ยาดม’ หลอดนึง เพื่อนๆ จะหาว่าผมติงต๊องรึปล่าว แต่ก็...นั่นแหละครับเป็นแค่ยาดมหลอดนึงจรึงๆ

เรื่องของเรื่องคือวันนั้นแฟนผมคนนี้เค้าซนอ่ะครับ เค้าไปซ่าบ้าบอกับเพื่อนๆ จนแขนไปครูดกะขอบโต๊ะม้าหินอ่อนจนเลือดนอง ไอ้ผมที่เห็นเลือดไม่ได้ พอเห็นเข้าก็พาลจะเป็นลม เรื่องเลยกลายเป็นว่าแทนที่ทุกคนจะไปช่วยปฐมพยาบาลคนเจ็บ ก็ต้องมาปฐม พยาบาลผมซะเอง แล้วก็ไอ้คนเจ็บนั่นแหละครับที่วิ่งปรู๊ดไปซื้อยาดมมาให้ผม แล้วบอกให้ผมเก็บมันไว้ติดตัว จนผมกลายเป็นคนต้องพกยาดมไว้กับตัวจนถึงทุกวันนี้ (ไม่ได้ติดนะครับ แต่พกไว้แล้วก็อุ่นใจดี)

แต่ถ้าเป็นของขวัญชิ้นที่พิเศษสุด ยังไม่บอกละกันครับ เก็บไว้ก่อน 555


ส่วนโจ............ของขวัญที่เค้าให้ผมแล้วทำให้ผมรู้สึกดีและเก็บไว้จนถึงทุกวันนี้คือ ‘นาฬิกา’ ครับ เป็นนาฬิกาแบบที่เมื่อก่อนเค้าฮิตทำกันคือเอารูปที่ถ่ายคู่กันไปให้ที่ร้านทำให้

เค้าบอกว่าการบากหน้าเอารูปคู่ระหว่างผมกะเค้าไปให้ที่ร้านทำให้เนี่ยเป็นอะไรที่เค้าอายมาก(แต่ก็คุ้ม) เพราะเหมือนจะเป็นการเฉลยกลายๆ ว่าผู้ชายสองคนนี้แม่งไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแน่ๆ

แล้วก็....ได้ข่าวว่าโจเค้าเก็บเงินอยู่นานเหมือนกันครับกว่าจะได้นาฬิกาเรือนนั้นมา ซึ่ง...ไม่รู้สิครับ ผมว่ามันก็เป็นความพยายามของคนๆ นึงนะ

ทุกวันนี้นาฬิกาเรือนนั้นก็ยังตั้งอยู่ในห้องของผมอยู่เลย ทุกๆ ครั้งที่มองก็จะนึกถึงเค้าทุกครั้ง (แต่ก็มีความสุขทุกครั้งนะครับ 555)

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
:o8: พี่ปุ้มล่ะก็

ปล. สวัสดีครับพี่คิงและทุกๆคนนะครับ ผมชื่ออ้นครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมได้รับการแนะนำกระทู้แห่งนี้ จากชายหนุ่มผู้ที่ทุกคนกำลังอิจฉาอย่างเป็นที่สุดอยู่ในตอนนี้ครับ ผมเองช่วงนี้กำลังยุ่งๆ อยู่ครับ เลยยังไม่สามารถอ่านและปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ แต่สัญญาว่าถ้าว่างแล้วจะกลับมาครับ

^_____^
ยินดีที่ได้รู้จักอ้นครับ กระทู้นี้ไม่มีสาระอะไรหรอกครับ แต่...เรื่องบางเรื่อง(หรืออาจจะหลายๆ เรื่องจากประสบการณ์ของหลายๆ คน)อาจเอาไปปรับใช้กับตัวเองได้แน่นอน.....คอนเฟิร์มครับ!!!

ปล. เดี๋ยวผมโอนเงินค่าหาเด็กเข้ากระทู้ผมให้พี่ปุ้มนะครับ 555

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^

จิ้มตาลุงหื่น

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
5555 เปลี่ยนเป็นเล่าเรื่องประสบการณ์ครั้งแรกกับผู้ชายแทนดีกว่าครับ
แบบว่า อยากฟังเรื่องของชาวบ้านเขาบ้างอ่ะ เผื่อจะเอาไปปรับใช้ได้ อิอิ  o18

อ้นเค้านิสัยดี น่ารักนะครับ ไปกระทู้ไหน ก็เป็นตัวเรียกเรตติ้งเลยล่ะ
นี่ถ้าผมยังไม่มีแฟน คงจีบไปแล้วล่ะ
(5555 พี่ช่วยโฆษณาให้แล้วนะครับ น้องอ้น)


greenoak

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
เป็นความคิดที่ดีครับพี่ปุ้มในการช่วยเสนอหัวข้อในการพูดคุย

ช่วยคิดบ่อยๆ ก็ดีนะครับ เพราะ.....อย่างที่บอกอ่ะแหละว่าถ้าให้ผมจั่วหัวเอง...เกรงว่าจะออกแนวดราม่าอยู่เรื่อยๆ (ก็ความรักของผมมันไม่สมหวังหนิครับ :sad4:)



ถ้าถามถึงครั้งแรกของผมกะหนุ่ม...........555  :a2:อยากเล่าครับ แต่ขอไปอาบน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวถ้ายังไม่หลับ...จะมาเล่าให้ฟังครับผม
 :a11:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2010 08:36:52 โดย King_Arthur »

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
http://www.youtube.com/v/nFA6io5CDZs?fs=1&hl=en_US

เอาเพลงมาฝากครับ

นึกถึงยุค RS รุ่งเรือง

จั่วหัวแบบนี้ขอนั่งอ่านนะครับ เรื่องนี้ไม่ไหวจะเคลียร์ ฮ่าๆๆ

chocolate

  • บุคคลทั่วไป
พี่หนิง รับวันศุกร์นี้ที่ไบแทค ปะ 

Shin_i_chi

  • บุคคลทั่วไป
ขอตามมาอ่านด้วยคนคับ
เพื่อจะได้ข้อคิดอะไรดีๆกลับไปจากการอ่านทู้นี้

Bench

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มติดเรท

แต่ก็มารออ่าน  :z1:

พี่คิงอาบน้ำเสดยังคับเนี่ย???  :m22:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






greenoak

  • บุคคลทั่วไป
Re: ==> Leo Land (ดินแดนแห่งรักของผม)
«ตอบ #230 เมื่อ10-11-2010 08:33:27 »

ู^
^
^
เมื่อคืนหลับไปซะก่อนอ่ะครับ 555


http://www.youtube.com/v/RZreJB1Aof4&hl
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2010 08:37:52 โดย King_Arthur »

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
Re: ==> Leo Land (ดินแดนแห่งรักของผม)
«ตอบ #231 เมื่อ10-11-2010 09:10:36 »

เมื่อวานเพื่อนสนิท หรือ ภาษา Social Network เขาจะเรียกว่า Top Friends เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่งงาน ผมก็ไปร่วมงานมาครับ ไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ส่วนเจ้าสาวก็สวย น่ารัก นิสัยดี สมกันมาก พิธีหมั้นตอนเช้า เป็นพิธีไทยพุทธ (เจ้าบ่าวเพื่อนผมเป็นพุทธ) แห่ขันหมากมากว่าจะผ่านประตูเงินประตูทองไปได้ เหนื่อยมาก เจรจาต่อรองกันนานเดียว

ช่วงบ่าย ๆ ทำพิธีทางคาทอลิก เนื่องจากเจ้าสาวเป็น คาทอลิก ตอนเย็นเป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส

เมื่อวานนี้ ทั้งเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว และเจ้าบ่าวเจ้าสาว เต็มที่กัน เหนื่อย แต่สนุกและภูมิใจกับเพื่อนเรา

แล้วเพื่อนเจ้าบ่าว ก็หล่อเกินพิกัดขนาดนี้  :laugh:  :m20: สาว ๆ ทั้งหลายเลยเดินเข้ามาคุยด้วยเต็มเลย  :o8: แต่หนุ่ม ๆ ไม่ยักกะมีเลยแฮะ สงสัยเราจะแมนเกิน  :m29:

มีเรื่องจะเล่าใหัฟัง
เมื่อวานหลังเลิกงานเลี้ยง มีรุ่นน้องที่สนิทด้วยระดับหนึ่ง ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ตอนแรกมันก็ว่าจะกลับเลย ทำไปทำมา มันไม่กลับบอกจะกลับตอนเช้าวันนี้ ไม่อยากขับรถกลางคืนและมันก็กรึ่ม ๆ ด้วย เลยขอไปนอนค้างที่คอนโดผม ผมก็โอเคให้มันไปนอนพักด้วย โดยไม่ได้คิดอะไรหรอก เพราะสมัยเรียนก็เคยไปเที่ยวไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ แถมมันก็มีแฟนแล้วด้วย สวยเชียว

ตอนปิดไฟนอนไปแล้วนี่สิ ผมนอนคะแคงหันหลังให้มัน อยู่ดี ๆ มันก็เรียกผม ว่า "พี่แจ็ก ผมขอกอดพี่หน่อยได้ใหม ?" ผมก็งงสิครับ แต่ด้วยความที่เราเห็นมันเป็น้องก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นสมองผมกำลังคิดเรื่องงานที่จะประชุมช่วงบ่ายวันนี้ด้วย แล้วมันก็สวมกอดผมจากด้านหลัง เอาหน้ามาซุกตรงซอกคอผม เอ่อ... ผมนี่ร้อนวาบไปทั้งตัวเลย แล้วอยู่ดี ๆ มันก็ร้องไห้ ผมก็งงหนักเข้าไปอีก ก็เลยพลิกตัวกลับมา แล้วก็ดึงมันมากอดไว้ แล้วก็ถามว่ามีหรือเปล่า ร้องให้ทำไม มันบอกไม่มีอะไร แล้วก็เงียบไป ผมก็เงียบ สักพักมันก็ก็หลับไปในท่าที่เอาหัวมาซุกอยู่บนหน้าอกผมนั่นแหละ ... เมื่อเช้าตื่นขึ้นมา ก็ไม่เจอมันแล้ว มันเขียนโน๊ตทิ้งไว้บอกว่า เมื่อคืนขอบคุณมาก ๆ

เมื่อกี้ก็โทรไปหามัน ถามมันอีกว่าเมื่อคืนร้องไห้ รู้ตัวเปล่ามันบอกรู้ ... แล้วรู้เปล่าว่าเรานอนกอดพี่ด้วย มันก็บอกรู้ ... ก็ถามมันต่อว่า แล้วร้องไห้ทำไม มันก็บอกไม่มีอะไร ไม่ต้องสนใจหรอก ?

ผมชักเริ่มตะหงิด ๆ ว่ามันจะมาแอบชอบผมตอนนี้หรือเปล่า หรือ แอบชอบมานานแล้ว หรือ มันอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับผมก็ได้ ... ถ้ามันยังไม่มีแฟนนี่ จากเมื่อคืนผมอาจจะเริ่มเดินหน้าจีบมันก็ได้นะ แต่ ณ ปัจจุบันมันมีแฟนอยู่แล้ว เราไม่อยากเข้าไปยุ่ง เข้าไปเป็นมือที่ 3 ปล่อยเขาไปดีกว่า เราก็รอของเราไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
Re: ==> Leo Land (ดินแดนแห่งรักของผม)
«ตอบ #232 เมื่อ10-11-2010 09:21:16 »

^
^
^
อ่านตอนแรกผมกะจะเชียร์ให้แจ๊กหาทางจีบหนุ่มที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวซะเลย แต่.....พออ่านมาจนจบ...เอิ่ม...เอาเป็นว่าเคลียร์กะไอ้น้องที่ร้องไห้จนหลับคาอกไปดีกว่ามั้ยครับแจ๊ก???

ไม่แน่นะ เค้าอาจจะเป็นคนที่ 'ใช่' ของแจ๊กก็ได้


แต่ถ้าแจ๊กมีแฟน.....แล้วผมล่ะ????

กระทู้นี้ก็จะเหลือคนโสดน้อยลงอีกคนนึงแล้วดิ :z3: ไม่ยอม  :angry2: (ล้อเล้นคร้าบบบ เพื่อนมีความสุข...ผมก็ต้องสุขด้วยดิ)


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

แวะเข้ามาดู  ว่าเขาทำไรกัน อิอิ

อยากรู้อยากเห็น

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
ว่าด้วยเรื่องประสบการณ์ครั้งแรกกับหนุ่มใช่มั้ยครับ? ก็... :-[ เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะประทับใจอยู่เหมือนกันนะครับ ซึ่งก็...อย่างที่ผมบอกไปแหละว่าผมกับแฟนคนแรกนี่เราไม่ได้มีอะไรกัน (เพราะงั้นก็ตัดไอ้กิจกรรมทุกอย่าง...อย่างว่าไปได้เลย)

ผมมามีอะไรกับผู้ชายครั้งแรก(และคนแรก)ในระหว่างที่กำลังคบกับแฟนคนที่สองในฐานะเพื่อนอยู่น่ะครับ ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไรกะเค้า(แฟนคนที่สอง)มากกว่าที่เค้าเป็นพี่ที่นิสัยดีคนนึง หนึ่ง........อาจจะเพราะยังลืมแฟนคนแรกไม่ได้ด้วย และสอง.....เพราะนิสัยอยากเอาชนะ ก็เลยอยากจะประชดแฟนคนแรกด้วย...ช่วงนั้นผมก็เลยทำตัวให้หลุดกรอบนิดนึง

อะไรคือหลุดกรอบ? ก็...ช่วงที่ผมคบกะแฟนคนแรก ผมก็...ด้วยความที่รักเค้ามากก็เลยตามเค้าเข้าโบสถ์และเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสตร์ตามเค้าในเวลาหลังจากนั้นไม่ถึงสองเดือน(เวลาน่าจะไม่มากไม่น้อยกว่านี้)

ทีนี้อย่างที่หลายๆ คนน่าจะรู้ก็คือศาสนาคริสตร์จะเน้นในเรื่องของความคิดและการวางตัว เพราะงั้นช่วงที่ผมนับถือคริสตร์ผมจะทำตัวดีมาก เป็นบุคคลตัวอย่าง สุภาพ ฯลฯ แต่พอต้องเลิกกันเพราะคำว่า ‘ศาสนา’ และสิ่งที่คนในนั้นเรียกกันว่า ‘บาป’ ผมก็เลยเอาวะ....เต็มที่กะชีวิตซะที ประกอบกับช่วงนั้นมีคนมาชอบๆ ผมบ้าง ผมก็เลยโอเพ่นเต็มที่ ใครเข้ามาก็คุยด้วยหมด (แต่ก็แค่คุยเท่านั้นนะครับ)

ช่วงนั้นมีคุยๆ อยู่หลายคน แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะคบใครจริงจัง จนกระทั่งผมได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนในหอคนนึงผ่านเพื่อนอีกคนนึง (ไม่รู้ผมเล่าไปยังเรื่องของหนุ่มคนนี้...คนที่เป็นพ่อสื่อให้ผม) อาจจะด้วยเราคุยกันรู้เรื่องด้วย ชอบและไม่ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกันด้วย ก็เลยทำให้ผมรู้สึกดีกับเค้าประมาณนึง

จนวันนึงจู่ๆ เค้าก็บอกกับผมว่า

“คิงไม่รู้จริงดิว่าเราเองก็ชอบคิงเหมือนกัน......”

ผมก็.....เอ๋อไปพักนึงครับ

ที่เอ๋อนี่คือไม่รู้ไงครับว่าจะยังไงต่อดี แต่ด้วยความที่เค้าเป็นคนที่นิสัยดีมากๆ คนนึง พูดเพราะ และสุภาพกับผมมากๆ ทำให้ผมก็....ไม่คิดจะปิดกั้นอะไรถ้าเค้าอยากจะลองๆ คบกับผมดู

จริงๆ จะบอกว่าช่วงนั้นเนี่ยเราคุยกันทุกคืน คุยกันตั้งแต่สามสี่ทุ่มยันตีสามตีสี่ (โทรภายในหอ มันโทรฟรีอ่ะครับ แล้วก็แปลกที่เรามีอะไรคุยกันได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ) แต่บอกแล้วว่าผมบื้อไง ถ้าใครไม่บอกผมตรงๆ นี่ผมจะไม่รู้เลยว่าไอ้ที่ทำอยู่นั่นน่ะเรียกว่า 'จีบ' แล้วก็อีกอย่าง...การที่ผมรู้จักกับหนุ่มคนนี้...ก็อย่างที่ผมบอกแหละครับว่าเป็นการรู้จักกันผ่านเพื่อนอีกทีนึง แถมเป็นการรู้จักที่ไม่เห็นหน้าค่าตาซะด้วย คือมีอะไรก็โทรคุยกันอย่างเดียวเลย (ทั้งๆ ที่อยู่หอเดียวกันแท้ๆ)

ตอนนั้นผมก็เลยกึ่งๆ ครับว่าจะยังไงดี กลัวเรื่องหน้าตาเหมือนกันว่าจะไม่ใช่แบบที่ผมชอบรึปล่าว แต่สุดท้ายก็...ตัดสินใจที่จะนัดเจอกันครับ แต่ก่อนที่จะนัดเจอ ก็มีการส่งรูปของแต่ละฝ่ายให้ดูกันก่อน ซึ่ง...จากรูปที่เห็นก็ถือว่าเค้าเป็นคนหล่อทีเดียวครับ เมื่อเห็นรูปแล้วก็ถึงนัดเจอกันที่ห้องผม (เพราะผมอยู่คนเดียว...ส่วนเค้าอยู่กะเมทอีกสองคน)

ตอนที่เจอกันก็มีตื่นเต้นเหมือนกันครับว่าจะอะไรยังไงรึปล่าว รอจนเค้ามาเคาะประตูก็ได้เห็นตัวจริง ซึ่งก็หล่อครับ หน้าตาเหมือนในรูป ผมว่า...เค้าเป็นผู้ชายที่จัดว่าหล่อเลยแหละ โดยเฉพาะตาแววๆ และปากที่บางน่าจูบเอามากๆ (ผมชอบคนตาใสๆ อ่ะครับ 555)

พวกเชิญเค้าเข้ามาในห้องแล้วเราก็นั่งคุยกันครับ ซักพักเหมือนบรรยากาศจะเป็นใจ จำได้ว่าวันนั้นพระจันทร์นี่สว่างเชียว (ที่จำได้เพราะเตียงห้องผมจะมองออกไปเจอท้องฟ้าพอดี) จากนั้น...อะไรต่อมิอะไรก็เป็นไปตามธรรมชาติครับผม...... (ผู้ชายสองคนกับบรรยากาศที่เป็นใจซะขนาดนั้น...อะไรจะเหลือล่ะครับ...................)

ถามว่าครั้งแรกกับผู้ชาย...ผมรู้สึกยังไง? อืม...จริงๆ ผมจำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แล้วอ่ะครับ คิดว่าคงจะตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะเรื่องจูบ(ครั้งแรกกับผู้ชาย)ที่เค้าบอกว่าผมต้องพัฒนาเรื่องจูบอีกเยอะ.......ผมก็เฮ้ย! จริงดิ กูจูบแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่กูเคยจูบกะผู้หญิงมาก่อนนะเฟร้ย....ก็คิดในใจอ่ะครับ

ส่วนเรื่องเซ็ก? จะหื่นไปมั้ยครับ ถ้าผมจะบอกว่าผมไม่เคยรู้เลยว่าการที่มีผู้ชายมานั่งคุกเข่าตรงหน้าแล้วใช้ปากให้กับเรา....มันเป็นอะไรที่ได้อารมณ์สุดๆ 555

คืนนั้นทั้งคืนจนถึงสายๆ ของอีกวันผมก็เลย...เสร็จไปหลาย(รอบ)เหมือนกันครับ แล้วก็เล่นไปหลายท่าด้วย คิดแล้วก็...กูก็ช่างกล้าทำไปได้เนาะ 555 (แต่ผมก็ทำให้เค้าด้วยนะครับ...แต่อาจจะด้วยความที่ผมมือใหม่ด้วยและอาจจะไม่คิดมาก่อนด้วยว่าจะต้องทำคืนให้ด้วย ก็เลย...ผอืดผอมพอสมควรเวลาที่มีอะไรซักอย่างที่เป็นดุ้นๆ อุ่นๆ มาอยู่ในปาก)

ก็...สรุปก็คือว่าครั้งแรกของผมก็มีอะไรกันแค่ภายนอกครับ แต่ผมก็เล่นซะคุ้ม(จนสงสารคนทำให้)เชียว ทั้งบนเตียง ปลายเตียง หัวเตียง บนโต๊ะเครื่องแป้ง หรือ...ในห้องน้ำ (และคงเป็นเพราะครั้งแรกของผมถูกปรนเปรอด้วยการใช้ปากให้อย่างมือโปรนี่แหละครับ ผมก็เลยชอบ Oral Sex ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด..........555)





รอคำถามข้อต่อไปครับผม  :mc4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2010 00:29:43 โดย King_Arthur »

greenoak

  • บุคคลทั่วไป

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
ผมคงไม่เล่าอะไรมาก จะบอกแค่ว่า Sex ครั้งแรกกับผู้ชายของผม เป็นอะไรที่ ทุลักทุเลกันมาก เพราะต่างคนต่างไม่เคยกับผู้ชาย สุดท้ายครั้งแรกเป็นแค่ภายนอกเท่านั้น กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ผ่านไปหลายครั้ง จนสุดท้ายเราตกลงจะมีอะไรกันจริง ๆ ซักที ก็มีการเตรียมตัวกันพอสมควร และก็ผ่านไปด้วยดี ตั้งแต่นั้นมา ผมก็สวมบทเป็นผู้นำมาโดยตลอด  :m20:

JkrR

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
เข้ามาเก็บข้อมูลเผื่อจะมีแควนกะเค้ามั่ง  :pig4:

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด