@ A MiRaClE wOrKeR //// ท้าเทวดา......ให้มาเดินดิน @ <<TrAcK 9>>
จีนมาทำงานเป็นผู้ช่วยคุณจิตตรา เลขาคนเก่งของอัครเทพ ได้ 3 วันหลังจากย้ายขึ้นมา เธอสอนทุกอย่างไม่หวงความรู้ นิสัยดี และเป็นกันเอง แว่วว่าเธอจะลาออกไปแต่งงานอาทิตย์หน้าและจะมีเลขาคนใหม่มาแทน ทำเอาจีนใจหายเหมือนกัน ถึงจะรู้จักกันแค่ช่วงวเวลาสั้น ๆ แต่จิตตราเป็นผู้หญิงอบอุ่น จนทำให้รู้สึกว่าอุ่นใจ ระยะเวลา 3 วัน เตชทัตหมั่นโทรมาชวนไปกินเข้าทุกวัน ถามสารทุกข์สุขดิบจนจีนรู้สึกรำคาญ.....จนต้องให้จิตตรารับและบอกว่าเขาไม่อยู่ ส่วนอัครเทพก็ไม่น้อยหน้ากันเดินเข้าออกห้อง สั่งกาแฟ สั่งขนม สั่งข้าว ทุกอย่างเขาต้องเอาเข้าไปประเคน จนไม่เป็นอันทำงาน จิตตราก็ได้แต่หัวเราะ หล่อนพอรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้น ก็ผู้ช่วยหล่อนเข้าไปทีไรเจ้านายต้องตามออกมาส่งถึงโต๊ะประมาณว่าร่ำลากันจนถึงที่ ช่วงนี้เจ้านายหล่อนอารมณ์ดี ออกตรวจงานก็ลากผู้ช่วยหล่อนไปด้วยซะทุกครั้ง
เสียงโทรศัพท์ดัง จีนจำเป็นต้องรับ เพราะจิตราไม่อยู่ที่โต๊ะ คงไม่โชคร้ายรับโทรศัพท์เตชทัตหรอกนะ
“จีนเหรอครับ ผมเตย์นะ” แต่โชคไม่เข้าข้างเลย
“ครับ คุณเตย์มีอะไรรึเปล่าครับ”
“เอ่อ..คือ เมื่อไหร่คุณจะทานข้าวกับผมซักที ล่ะจีน”
“จีนไม่ว่างครับ!!!.... คุณเตชทัต และตอนนี้ก็เวลางาน ไม่อนุญาตให้พนักงานใช้สายภายในคุย เรื่องส่วนตัว” เสียงทุ้มอีกเสียง ที่แทรกขึ้น ทำเอาจีนตกใจ.... อัครเทพ
“เอ่อ...ครับ งั้นแค่นี้นะครับจีน”
“ครับ คุณเตย์” ร่างบางตอบเตชทัตกลับแต่ยังไม่ได้วางหู
“คุณเข้ามาหาผมด้วย จีน” เสียงนุ่มธรรมดา แต่เหมือนจับผิด ......เข้าก็เข้าเขาไม่ผิดซักหน่อย เตชทัตเป็นคนโทรมาเอง และใครจะไปรู้ว่าวิศวกรคนเก่งจะพ่วงสายหมายเลขหน้าห้องเข้าไปในห้องตัวเองเพื่อดักฟัง ว่าใครโทรมาและคุยอะไรกัน
“ครับ คุณอาท” เคาะประตูเดินเข้าในห้อง ในที่ทำงานจีนจะเปลี่ยนสรรพนามการเรียกให้เป็นเหมือนเจ้านายกับลูกน้อง
“ไปกินข้าวกัน..” ผิดคาด ไม่มีคำถามและ ซักไซ้อะไร แถมยังยิ้มทำหน้าแป้นแล้นให้คนเห็นหมั่นไส้ นี่เหรอประธานบริษัทในอนาคต
“มันยังไม่เที่ยงนะครับ นี่เหลือตั้งครึ่งชั่วโมง บริษัทไม่อนุญาตให้เอาเวลางานไปทำเรื่องส่วนตัวนะครับ” คนฟังถึงกับเงยหน้าหรี่ตามองร่างบางตรงหน้า วาจายอกย้อน สีหน้าอมยิ้มอย่างสะใจ มันน่านัก ถ้าไม่ใช่ที่ทำงาน จะจัดหนัก ซักยกสองยก ให้ครางให้น่ารักไปเลย
“เหรอครับ คุณจิรชา...”พูด แล้วลุกขึ้นเดินเข้าหาคนที่กำลังถอยหลังกลับ มือแกร่งคว้าเอวบางไว้ ลำตัวเล็กแนบร่างแทบจะไม่มีช่องว่าง ก้มลงหอมแก้มใสหลายฟอดให้สะใจ คนเก่งแต่ปาก... เสียงหัวเราะคิกคักภายใจห้อง จิตตราที่มาทันได้ยินถึงกับอมยิ้มตาม แต่ก็ได้ไม่นาน
“ขอเข้าพบ คุณอัครเทพค่ะ” หุ้นส่วนสาวสวย ที่หมั่นเพียรมาหาเจ้านายหล่อนแทบจะทุกอาทิตย์ ทั้งที่โครงการ และแพลนงานทุกอย่างถูกวางไว้แล้วอย่างลงตัว และเข้าหาแต่ละครั้งมักไม่มีอะไรสำคัญ ซึ่งถ้าโทรหาหรือปรึกษาทางโทรศัพท์คงไม่น่าเกลียด
“คุณวิรัญญา รอซักครู่นะคะ”
“ฉันมีเรื่องด่วน แจ้งเจ้านายเธอด้วย ฉันไม่อยากรอนาน” .....จิตตราถึงกับอึ้งไม่เคยเห็นท่าทีกระด้างอย่างนี้ของแขกเจ้านาย สาวสวย ดูมีชาติตระกูล แต่วาจาไม่เหมาะสมซักนิด ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าหญิงสาวเย่อหยิ่งในสายตาหล่อนคนนี้ต้องการอะไร ในการมาแต่ละครั้ง
“ค่ะ คุณวิรัญญา”จำต้องรับคำและ กรอกเสียงผ่านลำโพงเล็กบนโทรศัพท์ เข้าหาเจ้านายที่กำลังคงมีความสุขอยู่แน่แท้
“คุณอัครเทพคะ คุณวิรัญญาขอเข้าพบ มีธุระด่วนค่ะ”
“ครับ คุณจิตร ให้รอซักครู่เดี๋ยวผมออกไปพบข้างนอกเอง” เสียงตอบกลับผ่านโทรศัพท์ที่เปิดสปีคโฟนไว้พอจะทำให้สาวสวยที่ยืนรออยู่ได้ยิน ใบหน้าสวยหวานแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ทำไมถึงไม่ให้หล่อนเข้าไปพบข้างใน ทำไมจะไม่ได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกนั่น ทั้งที่หล่อนเพียรมาตลอดแต่ ร่างสูงก็คุยเป็นการเป็นงานทุกครั้งไม่เคยซักครั้งที่จะชวนทานข้าว หรือ ยิ้ม หัวเราะ อย่างคนคุ้นเคย
“สวัสดีครับ คุณวิรัญญา”ร่างสูงเดินออกมาจากห้อง เขาไม่อยากอยู่กับหล่อนลำพังเท่าไหร่ ผ่านผู้หญิงมาก็เยอะ ผู้หญิงคนนี้คิดยังไงกับเขา ทำไมเขาจะไม่รู้ จีนกลับมานั่งที่เดิม ข้าง ๆ จิตตรา โดยมีสายตาคม ๆ ของวิรัญญามองตาม คิดว่าจะเป็นสาวสวยซะอีก เป็นผู้ชายแต่ดูดีน่ารักกว่าผู้หญิงบางคนอีก ทำไมถึงต้องรู้สึกไม่ชอบหน้าขึ้นมา เพราะเสียงหัวเราะที่มีความสุขของอัครเทพ ทำให้หล่อนอิจฉา คนที่ได้รับและพบเห็น
“สวัสดีค่ะ คุณอาท”ถือวิสาสะเรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนม ทั้งที่ไม่เคยเรียก
“คือ ญามีเรื่องปรึกษาน่ะค่ะ แล้วก็อยากเป็นการส่วนตัวด้วย” วางตัวได้อย่างไม่มีที่ติ จิตตรามองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อซักครู่หน้าตาท่าทางไม่เป็นอย่างนี้ ได้แต่หันไปมองผู้ช่วยหล่อนที่นั่งก้มหน้าก้มตา ไม่พูดไม่จา อ่านเอกสารแผ่นเดิมที่มีเนื้อหาแค่ครึ่งกระดาษ A4
“เอ่อ..ได้ครับ...จีนเอากาแฟเข้าไปให้คุณวิรัญญาด้วยนะ แล้วก็คอยไปจดรายละเอียดงานด้วย”
“แต่ คุณอาทคะคือญา อยาก..”
“จีน ผมเอาเหมือนเดิมนะ”ไม่ฟังคำทัดทาน จากสาวสวย ทิ้งทุ่นไว้แล้วเดินเข้าห้องไป วิรัญญาหันมาจ้องมองคนที่จะเข้าไปเป็นก้าง ก่อนจะเดินตามร่างสูงเข้าไป
“พี่จิตร จีนไม่อยากเข้าไปเลย..”หันมาขอความเห็นใจจากหัวหน้างาน แต่ได้รอยยิ้มกลับมา
“ไปเถอะจีน คุณอาท ไม่ปล่อยให้จีนลำบากหรอก” พูดให้กำลังใจผู้ช่วย ก่อนจะปล่อยให้ร่างบางไปชงกาแฟ เจ้านายหล่อนไม่ใช่คนโง่ ให้ไปจดรายละเอียดงาน แต่จริง ๆ ก็แค่อยากให้ไปรับรู้จะได้สบายใจว่าระหว่างคนสองคนนั้นไม่มีอะไรเกินเลย
จีนเดินถือกาแฟ เข้ามาในห้อง 2 ที่พร้อมเตรียมเอกสารในการจดรายละเอียดงานที่เจ้าตัวไม่รู้ซักนิด ว่าเรื่องอะไรและต้องจดอะไรบ้าง วางกาแฟเสร็จก็ยืนเตรียมตัวจดรายละเอียดตามที่เจ้านายบอก เพราะไม่รู้จะนั่งตรงไหน ไม่กล้าที่จะนั่งเก้าอี้รับแขกเสมอกับคนที่มองตัวเองด้วยหางตาแบบดูถูกแบบนั้น รู้สึกไม่ดี มองเหมือนเป็นส่วนเกิน ความรู้สึกกดดันมีจนต้องยืนตัวลีบนิ่ง ๆ ข้างโต๊ะตัวใหญ่
“คุณเอาเก้าอี้ตัวนั้นมานั่งข้าง ๆ ผมสิจีน ยืนเมื่อยเปล่า ๆ” พูดแล้วทอดสายมองด้วยความห่วงใย ทำเอาคนนั่งฝั่งตรงข้ามรู้สึกรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างมาก อะไรนักหนา กะอีแค่พนักงานธรรมดา ต้องยืนถูกแล้ว ถ้าจะดีออกจากตรงนี้ไปจะดีที่สุด
“ให้นั่งข้าง ๆ ญา ก็ได้นี่คะ”..... ทำไมต้องเอาไปนั่ง ข้าง ๆ กันด้วย
“ผมจะได้รู้ไงครับ ว่าจีนเขาจดรายละเอียดงานครบถ้วนหรือเปล่า” ว่าพลางลุกขึ้นมายกเก้าอี้ ไปตั้งข้าง ๆ เก้าอี้ตัวที่ตัวเองนั่งอยู่
“จีน” เรียกแล้วตบเก้าอี้เบา ๆ จีนรีบเดินมานั่งตามคำสั่งแต่ ใกล้ไปไหม นั่งนิ่งตัวตรง ไม่กล้าขยับเกรงสายตาคนตรงข้าม ก็ร่างสูงข้างเล่นพิงพนักตัวเองแล้ววาดแขนมาที่พนักเขามันคล้าย ๆ โอบกันชัด ๆ ทำเอาวิรัญญาเริ่มไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่จะเป็นไปได้ยังไง วิรัญญาตัดสินใจคุยเรื่องงานที่หล่อนเตรียมมา เป็นการจัดเลี้ยงระหว่าง 2 บริษัท
จัดเชิญลูกค้าคนสำคัญของทั้งสองมาร่วมงานเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนลูกค้า และโปรโมทสินค้าแบรนด์ใหม่ด้วย ตลอดเวลาที่คุยกัน ร่างสูงหมั่นก้มหน้ามาใกล้ร่างที่นั่งข้าง ๆ เหมือนตรวจดูรายละเอียดงานที่จดลงไป ทำเอาคนนั่งฝั่งตรงข้ามฮึดฮัดหงุดหงิดอยูไม่น้อย คนอึดอัดคงไม่พ้นคนที่ตั้งหน้าตั้งตาจดรายละเอียดทั้งสำคัญและไม่สำคัญ อัครเทพทำอย่างนี้มันสร้างศัตรูให้ร่างบางโดยไม่รู้ตัว
“เอ่อ...คุณอัครเทพว่างไหมคะ เที่ยงพอดีเลย คือญาจะชวนไปทานข้าวด้วยกันน่ะค่ะ” ตัดสินใจชวน ดูท่าแล้ว ถ้ารอร่างสูงชวนคงจะยาก
“อ่อ พอดีผมมีนัดแล้วน่ะครับ ขอโทษคุณวิรัญญาด้วยนะครับ เอาไว้คราวหน้าผมคงได้มีโอกาสได้เป็นเจ้ามือ” เสียงทุ้มตอบกลับปกติ และยิ้มให้อย่างจริงใจ แต่ในใจสาวสวยเดือดปุดขึ้นมา ต้องเก็บอาการไว้ หล่อนยังไม่อยากกรีดร้องต่อหน้าผู้ชายที่หมายตา ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าอัครเทพเจ้าชู้แค่ไหน วางฟอร์มไปอย่างนั้นรึเปล่า จะได้ซักกี่น้ำกัน
“ค่ะ งั้นญาขอตัวกลับนะคะ” เมื่อมั่นใจในสเน่ห์ตัวเอง ก็ใจชื้นขึ้น
“ครับ ผมไม่ส่งนะครับ”
“ค่ะ” ไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่ก็อดตวัดหางตามองเด็กหนุ่มที่ยกมือไหว้ตนก่อนจะสะบัดหน้าหนี แล้วก้าวขาออกไปอย่างเคืองใจ
“ไหน ได้อะไรบ้าง”มือแกร่งวาดรอบเอวบางดึงวืดเดียว ร่างเล็กก็ขึ้นไปนั่งบนตักหนา ก่อนจะก้มลงหอมแก้วนวลฟอดใหญ่ อยู่ใกล้ร่างบางนี่ทีไรเขาจะกลายเป็นคนบ้ากามขึ้นทุกที
“พี่อาท!!!” อุทานก่อนจะเด้งตัวออกทันที ทำอะไรไม่ระวังซักนิดถ้ามีคนเข้ามาตอนนี้จะเป็นยังไง
“ทำไมอ่ะ ก็อยากหอมนี่” ตอบหน้าตายพร้อมยังมาส่งสายตาออดอ้อนให้ หมดคราบขรึมเมื่อซักครู่โดยสิ้นเชิง
“ถ้าทำอย่างนี้อีก จีนจะไม่เข้ามาห้องนี่อีกเลย” พูดแล้วกอดอก ทำหน้าดุ แต่กลับกลายเป็นน่ารักในสายตาของคนที่นั่งมองอยู่
“พี่หิวข้าวแล้ว ไปกินข้าวกัน”พูดแล้วลุกขึ้นกอดเอวร่างที่เกร็งตัวนิดหน่อยแต่ก็ต้องยอมให้โอบไปถึงหน้าประตูและสะบัดแขนแกร่งออกก่อนเปิดประตู
“พี่จิตรไปทานข้าวด้วยกันนะครับ” ชวนหัวหน้างาน แต่เจ้าตัวส่งยิ้มให้
“เชิญเถอะจ๊ะ ทานให้อร่อยนะ” ก่อนจะส่งยิ้มไปล้อเลียนเจ้านาย หล่อนทำงานกับอัครเทพได้ช่วงนึงแล้วทำให้สนิทพอสมควร พอที่จะหยอกล้อเล่นกันได้
“เดี๋ยวจะทานเผื่อนะครับ” โดนล้อ ก็รับมุข โอบเอวร่างบางทำท่าจะเดินไปแต่ก็โดนศอกกลับ จนต้องนิ่วหน้าไม่ได้เจ็บมากมาย แค่ต้องการอ้อน ร่างบางส่งยิ้มแหย ๆ ให้หัวหน้างานที่นั่งหัวเราะอยู่ก่อนจะเดินนำออกไปโดยไม่สนใจคนที่แล้งกุมท้องอย่างเจ็บปวด
*************************************************************************************
จิตตราทำงานเมื่อวานเป็นวันสุดท้าย ล่ำลากันอยู่นาน และมีการเลี้ยงส่งที่ร้านอาหารหรู วันนี้จะมีผู้ช่วยคนใหม่ของอัครเทพมา เห็นเจ้าตัวบอกว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่เมืองนอก แต่ย้ายกลับมาไทยก่อน เพราะหนีตามผู้ชายกลับมา พอจีนถามว่าสวยไหม แต่เจ้าตัวบอกว่าก็ มันพยายามสวยอยู่ จนวันนี้ที่ผู้ช่วยคนใหม่มาจีนก็ถึงบางอ้อว่าพยายามสวยคืออะไร และหนีตามผู้ชายที่อัครเทพว่า จีนว่ามันแรงไปที่จะพูด แต่ก็ต้องเข้าใจว่าร่างสูงทำไมถึงกล้าพูด
“สวัสดีค่า คุณอาทขา...”ว่าแล้วก็โยกย้ายสะโพกเข้าไปกอดทักทายกับร่างสูงที่กำลังเบี่ยงตัวหนี
“เออ สวัสดี แต่แกไม่ต้องมากอดฉันหรอก ขนลุก”พูดแล้วส่งยิ้มแหย ๆ มาให้ร่างบางที่นั่งที่โต๊ะ
“แหม ก็ฉันคิดถึงแกนี่นา” พูดแล้วทำแก้มป่อง น่ารัก(ซะที่ไหน) ท่างอนที่มองแล้วชวนยิ้ม จนคนที่นั่งที่โต๊ะทำงานอดที่หัวเราะไม่ได้
“จีน นี่บารมี เรียก บาร์ก็ได้”แนะนะให้คนตัวเล็กรู้จัก จีนยกมือไหว้และยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ว้าย ตาบ้า พี่ชื่อ บาร์บี้ค่ะน้องจีนขา ต๊าย หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดี อุ๊ยนุ๊มนุ่ม”แนะนำตัวเองใหม่แล้วเดินไปวนรอบร่างที่กำลังงง แต่ก็ตลกดี นึกอยู่ว่าจะเข้ากันได้ไหม จะได้ไม่กดดันอะไรมากมาย เอามือลูบแก้มตัวเองที่โดนหยิกเมื่อครู่
“เฮ๊ย ไอ้บาร์แกทำอะไรจีน มากไป”พูดแล้วถลาเข้าดึงจีนออกจากคนที่หยิกแก้มแฟนเขาแล้วกำลังจับไม้จับมือขึ้นมาจับ กระเทยก็ผู้ชายล่ะวะ
“บาร์บี้ ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว แล้วนี่ตอนไปขอร้องฉันมาทำงานก็บอกว่าอยากได้อะไร ให้ทุกอย่างยกเว้นตัวแก แต่ฉันขอน้องจีนไปนอนกอดซักคืน ไม่ได้เหรอว๊า” จีบปากจีบคอพูด แต่ไม่จริงจังอะไรแค่แกล้งเพื่อน ระหว่างเขากับอัครเทพสนิทกันมาก ล่าสุดที่เลขาเพื่อนรักลาออก ก็ไปอ้อนวอนเขาที่เคยทำงานสายนี้มาก่อน แต่ลาออกให้สามีเลี้ยงอยู่บ้านไม่เดือดร้อนเงินทองอะไร มาทำงานให้ เพราะไม่อยากหาคนอื่น สัญญาว่าจะประเคนทุกอย่างให้ถ้ายอม ยกเว้นตัวเอง และเล่าเรื่องผู้ช่วยที่จะช่วยงานเขา รวมถึงความสัมพันธ์กับหนุ่มน่ารักตรงหน้าให้ฟังด้วย ตอนแรกก็แปลกใจว่าเพื่อนรักทำไมถึงเปลี่ยนแนวได้ ยังแซวว่าทำไมไม่เอาเขาตั้งแต่แรก แต่เมื่อมาเจอวันนี้ก็ไม่แปลกใจอะไรมากมาย
“ฉันขออีกคนนะ บาร์บี้” จีนพยายามแกะมือปลาหมึกของร่างสูงที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนรัก เหมือนว่าคนตรงหน้าจะรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว
“อืม ได้แต่ถ้าแกทำน้องจีนเสียใจเมื่อไหร่ ฉันจะหาสามีใหม่ให้น้อง ให้หล่อกว่า รวยกว่าแกด้วย” รู้สึกถูกชะตาเด็กตรงหน้า ไม่จัดจ้านเหมือนที่เค้าเคยเจอ ดูเรียบร้อย และขี้เกรงใจ
“น้องจีนมีอะไรบอกพี่บาร์บี้ได้นะ ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพี่บาร์บี้จัดการให้ พวกผู้ชายไว้ใจไม่ค่อยได้หรอก” พูดพลางดันเพื่อนรักให้ออกจากการเป็นตุ๊กแก พร้อมกับกอดเอวร่างเล็กที่ตัวเล็กกว่าตัวเอง ก็เขาตัวเล็กกว่าอัครเทพนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“มากไปเปล่า”ยืนไกล ๆ แล้วทำหน้าอ้อนใส่เพื่อนรักทำเอาจีนหลุดหัวเราะออกมา อัครเทพรู้ว่าเพื่อนรักเขาเป็นคนยังไง ทำงานเก่ง เล่นตัวที่สุด ที่ยอมมาทำงานก็เพราะเขาขอร้องให้มาช่วย เป็นคนที่วางใจได้ทุกเรื่อง ถูกใจใครก็จะเทคแคร์คอยช่วยเหลือใครแตะใครรังแกไม่ได้ เขาเลยค่อยโล่งใจที่บารมีเข้ากับจีนได้
ค่ำคืนเป็นการเลี้ยงต้อนรับผู้ช่วยใหม่เป็นการส่วนตัว แขกมีแค่ 4 คน คือ อัครเทพ บาร์บี้ จีน และภูมิพฤกษ์ที่จำต้องมาตามคำชวนของเพื่อนรักและเจ้านาย ตอนนี้เริ่มทำหน้าผะอืดพะอมอึดอัดกับผู้ช่วยคนใหม่ของอัครเทพ ที่ซบหน้าซบหลังตัวเองอยู่ เพื่อนรักก็เอาแต่หัวเราะ และจู่จี๋กับเจ้านาย อย่างน้อยภูมิพฤกษ์ก็เบาใจที่เป็นอัครเทพ ถึงแม้ว่าจะผิดไปบ้างแต่ในเมื่อรักและเขาก็รู้ว่าเพื่อนเขาก็รัก วางใจ เลิกห่วงได้ แต่ตอนนี้ห่วงตัวเองที่เริ่มจะถูกลวนลามหนักขึ้นเรื่อย จะโวยวายก็ไม่กล้าต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่
“บาร์...บาร์บี้เฮ่ยเบา ๆ หน่อยนั่นเพื่อนจีนเขา” หัวหน้างานก็พลอยพูดกลั้วหัวเราะไปด้วย ไม่มีใครยื่นความช่วยเหลือมา
“ฮึ่ย !! ขัดใจจริง เห็นแก่น้องจีน ไม่งั้นแม่จะจัดให้” พูดแล้วหันไปทำตาวาวใส่ภูมิพฤกษ์ ที่นั่งตัวลีบทันทีที่เขาผละออก
“สวัสดีค่ะ คุณอาท บังเอิญจังนะคะ” เสียงใส ดังขึ้นด้านหลัง และเดินมายืนสวยอยู่ข้างโต๊ะ ทำเอาสมาชิกร่วมโต๊ะ มองหน้ากัน มองคนที่ตั้งใจทักแค่อัครเทพโดยไม่สนใจที่จะมองดูคนอื่น
“คุณวิรัญญา มาทานข้าวเหรอครับ”
“ค่ะ คุณอาทเชิญที่โต๊ะญานะคะ ญาจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก”พูดไปสายตาอดที่จะมองคนที่นั่งข้างๆ ร่างสูงไม่ได้ ทำไมต้องเป็นคน ๆ นี้อีกมันยังไงกันแน่
“บาระ เอ่อ บาร์บี้ นี่คุณวิรัญญา หุ้นส่วนแบรนด์ใหม่”
“คุณวิรัญญาครับ บาร์บี้ผู้ช่วยคนใหม่ของผม” หญิงสาวหันมอง ชายหนุ่มที่นั่งมองหล่อนอยู่ แค่ชื่อและท่าทางก็รู้ว่าเป็นอะไร ก็แค่ผู้ช่วยจะให้ความสำคัญอะไรนักหนา
“คุณอาทไปที่โต๊ะญาดีกว่านะคะ เพื่อนญาอยากรู้จัก”หญิงสาวไม่สนใจคนที่ร่างสูงแนะนำให้รู้จักพูดแล้วจัดการดึงแขนให้ลุกขึ้นอย่างถือวิสาสะ อย่างน้อยก็อยากอวดเพื่อนว่ารู้จักและสนิทกับร่างสูงนี่ ลากแขนมาที่โต๊ะแล้วแนะนำเพื่อน ๆ ให้รู้จัก อัครเทพจึงต้องทำความรู้จักตามมารยาท จีนมองตามร่างที่ถูกดึงไปที่โต๊ะที่มีบรรดาสาวสวยไฮโซนั่งอยู่ สังเกตเห็นตอนแรกที่เข้ามาแต่ไม่เห็นวิรัญญาคงจะพึ่งมา มองแขนเรียวขาวกลมกลึงนั่นกอดที่แขนแกร่ง จงใจบดเบียดหน้าอกเย้ายวนให้เสียดสีต้นแขนใหญ่ และร่างสูงไม่มีท่าทางที่จะหลีกเลี่ยงซ้ำยังหัวเราะสนุกสนานอยู่นานสองนาน
“น้องจีน ทานข้าวดีกว่าจ๊ะ อย่าไปสนใจเลย.....ชะนีหาผัว”คำท้ายพูดเบา ๆ กับตัวเอง หมั่นไส้ไม่น้อย แอบมองหญิงสาวที่ตั้งใจยั่วยวนเพื่อนเขาอยู่ มีบางทีที่หันมาทางพวกเขาแล้วพากันหัวเราะเหมือนเป็นตัวตลก สายตาบาร์บี้ส่งไปทิ่มแทงสาว ๆ โต๊ะนั้นอยู่บ่อยครั้งเพื่อนตัวดีก็ไม่เดินกลับมาซักที ปล่อยให้น้องเขานั่งก้มหน้าก้มตาจนเพื่อนรักอย่างภูมิพฤกษ์ต้องไปนั่งใกล้ ๆ แล้วปลอบเบา ๆ
“กระเทยถึกชะมัด ฮะฮึๆๆๆ” เสียงแว่ว ๆ ทำเอาเส้นความอดทนขาดผึง บาร์บี้ตัดสินใจลุกขึ้นดึงมือจีน เดินตรงไปที่โต๊ะบรรดาชะนีหน้าหนา กำลังครวญครางหาผัวกันระงมจนเขาทนไม่ไหว เพราะหนึ่งในบรรดาผู้ชายที่ชะนีหน้าขาวพวกนี้กำลังจะงาบเป็นเพื่อนเขาและยังเป็นแฟนของหนุ่มน้อยน้องรักที่เขาจูงมือมาทั้งที่เจ้าตัวยังงง ๆ อยู่……….บรรดานาง ๆ ก็คงงงที่อยู่ดี ๆ เขาก็มายืนตรงนี้พร้อมจีน เสียงในโต๊ะเงียบกริบ
“บาร์บี้ จีน!!! คือ...” กำลังจะอธิบายแต่พูดไม่ถูก จะบอกยังไงว่าเกรงใจหุ้นส่วนและยังถูกหนีบแน่นขนาดนี้ขยับยังยาก จะหาจังหวะขอตัวกลับก็ไม่มีซักที ถูกชวนคุยจนไม่รู้จะตอบใครก่อน
“ว่ายังไงคะ คุณผู้ช่วย อยากร่วมวงด้วยเหรอคะ ก็ได้นะคะ แต่ตรงนี้มีแต่เพื่อน ๆ และคนสนิทของญาจริงไหมคะอาทขา” พูดเหน็บแนมแล้วหันไปออดอ้อนร่างสูงข้าง ๆ ที่พยายามแกะมือหญิงสาวออกพัลวัน
“ไม่หรอกค่า คุณหุ้นส่วนขา พอดีจะมาตามเจ้านายกลับน่ะค่ะ” พูดหน้านิ่ง ๆ แต่ในใจกำลังครุพร้อมระเบิด ร่างเล็กข้าง ๆ ก็กระตุกแขนเสื้อชวนกลับยิก ๆ จะยอมให้พวกชะนีไม่รู้กาลเทศะพวกนี้มันหยามได้ยังไง
“อ๋อ เหรอคะ แต่คุณอาทยังสนุกอยู่เลยนะคะ ดูสิ แล้วที่นี่มีแต่สาวแท้กับชายแท้ ไม่ต้อนรับกระเทยกับตุ๊ด”เพื่อนสาวของหุ้นส่วนสาวพูด และตั้งใจเบ้หน้าใส่บาร์บี้ และจีน ทำเอาคนถูกว่าอึ้งไม่คิดว่าจะดูถูกกันได้ขนาดนี้
“นั่นสิเนอะ ผู้หญิงก็ต้องคู่กับผู้ชาย พวกแบบนี้พ่อแม่กินอะไรผิดสำแดงรึเปล่านะ ลูกถึงเกิดมาพิกลพิการทางพันธุกรรม” ชะนีอีกนางพร่ามลอย ๆ ออกมา ทำท่าทางเหมือนคุยกับเพื่อน
“เหรอจ๊า.. ไม่เห็นมีผู้หญิงซักคน... ที่นั่งอยู่นี่ นี่ ๆๆๆ” พูดแล้วยกมือชี้ บรรดาสาว ๆ ที่นั่งอยู่รายตัวอย่างเน้น ๆ
“ชะนีทั้งนั้น ไม่พอนะจ๊ะ ชะนีที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมทางวิทยาศาสตร์ด้วยเพราะนิสัยอย่างนี้น่าจะฉีดสารผสมที่เรียกว่า สารแรด กับ สารร่าน น่ะค่า ฮะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” ทำเอาคนถูกด่าหน้าเหวอ คนมองกันทั้งร้านจนร่างสูงนึกอายขึ้นมาสะบัดมือหญิงสาวที่กำลังอึ้งกับคำด่าเพื่อนรัก แล้วเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ จีนและบาร์บี้เพื่อจะดึงเพื่อนรักและคนรักกลับ
“อีกระเทยไร้การศึกษา............ อีพวกผิดเพศพ่อแม่ไม่สั่งสอน” กรีดร้องด่าทั้งสองคน ทำให้คนที่นิ่งอยู่เริ่มเดือดขึ้นมาบ้าง พูดอะไรก็ได้แต่อย่าลามปามถึงครอบครัวเขา
“หยุดนะ!!!” เสียงตะโกนก้องทำให้เสียงที่ระงมกันอยู่เงียบกริบ
“แล้วคนที่พ่อแม่สั่งสอน เขากิริยามารยาทอย่างนี้เหรอครับ งั้นผมก็ดีใจที่พ่อแม่ไม่สอนอย่างพวกคุณ อย่างน้อยพ่อแม่ผมก็ไม่เคยสอนให้ดูถูกคน”
“แต่แกควรจะรู้มารยาทนะ ฉันคุยกับคุณอาทอยู่ แกมายุ่งกับพวกฉันทำไม แล้วบ้านแกได้สอนมารยาทเรื่องนี้รึเปล่าฮะ” วิรัญญาพูดแทรกขึ้นมา ไม่ทนแล้วเป็นไงเป็นกัน ยังไงซะอัครเทพก็ต้องสนใจหล่อนมากกว่าพวกเก้งกวางพวกนี้
“…แล้วคนที่พ่อแม่สั่งสอน.... เขาสอนรึเปล่ารึเปล่าล่ะครับ ....ว่าไม่ให้ยุ่งกับคนที่เขามีเจ้าของแล้ว...... ไม่งั้นจะได้ปีนต้นงิ้ว รึอาจจะถูกผีห่า ซาตาน รุมโทรมจนตายแล้วตายอีก ลองไหมครับ อาจจะสนุกก็ได้ แล้วเรื่องนี้พ่อแม่คุณเคยสอนไหมครับ” พูดเสียงธรรมดา แล้วเดินเข้าไปกอดแขนร่างใหญ่ที่ยืนอึ้งกับคำที่ออกจากปากเล็ก เมียเขาไม่ธรรมดาจริง ๆ ทำเอาสาว ๆ หน้าเอ๋อกันเป็นแถบ ก็เล่นพูดแล้วเดินมากอดเขาพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนจนเขาอดไม่ได้ ต้องวาดแขนแกร่งกอดเอวบาง ๆ นั่น ตามความเคยชินเหมือนโดนมนต์สะกด ดีเหมือนกันจะได้เคลียร์ ๆ กันไป แต่เรื่องที่ตามมานี่สิเป็นเรื่องใหญ่แน่ แต่จะเป็นไรในเมื่อเขาพร้อมที่จะเผชิญอยู่แล้ว แต่มันแค่มาถึงเร็วเกินไปแค่นั้นเอง
“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาบางคนยกมืออุดหูแต่จีนและบาร์บี้ไม่สนใจเดินกลับโดยมีร่างสูงกอดเอวบางไม่ห่ายทิ้งให้บรรดาชะนีโรบอท ส่งเสียงประสานกันต่อไป หันไปยิ้มมุมปากเยาะให้แล้วเดินกลับโต๊ะไป รู้จักจิรชาน้อยเกินไป อะไรก็ได้แต่อย่ามาว่าครอบครัวเขาเด็ดขาด ไม่งั้นเป็นไง เป็นกันและเขาไม่มีทางมาเสียใจทีหลังแน่นอน
“แสบจริงนะเรา ฮึๆๆ”ก้มลงกระซิบที่หูเล็กหลังจากเช็คบิล และกำลังเดินไปที่รถ โดยมีบาร์บี้เดินกอดแขนภูมิพฤกษ์หัวเราะสะใจตลอดทาง ถูกใจน้องรักคนนี้จริง ๆ
แต่จีนก็รู้ว่าจากนี้ไปต้องเจออะไรบ้าง นั่งนิ่งบนรถจนร่างสูงต้องเอื้อมมือมากอบกุมไว้ อุ่นใจ และพร้อมที่จะฝ่าฟันทุกอย่างที่ทำได้ ในเมื่อนี่คือสิ่งที่เขาเลือกทำไมจะไม่กล้าไขว่คว้า จนกว่าจะรู้ว่าได้หรือไม่ได้ เหมือนที่อัครเทพเคยบอกไว้
******************************************************************************
:กอด1:เอิ๊ก ๆๆๆๆ รักทุกคน ทุก รี ที่ให้กำลังใจ ขอบคุณคนดันทู้เน้อ