@ A MiRaClE wOrKeR ////ท้าเทวดา......ให้มาเดินดิน @
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @ A MiRaClE wOrKeR ////ท้าเทวดา......ให้มาเดินดิน @  (อ่าน 123989 ครั้ง)

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
สี่วันแล้วนาาาา

Sugar_Love

  • บุคคลทั่วไป
@ A MiRaClE  wOrKeR ////  ท้าเทวดา......ให้มาเดินดิน @   <<TrAcK 13>> 22/11/2010

   ในวันที่สองของโฮมสเตย์ จิตงาม ดูการเลี้ยงไหม โดยการช่วยการเก็บใบหม่อนหลังโรงเลี้ยงมาใช้ตัวไหมกิน โรงเลี้ยงหม่อนไหมทำเอาสาว ๆ ขนลุกขนชัน ตัวหนอนกระดืบยั๊วะเยี๊ยะเต็มไปหมด กัดกินใบหม่อนอย่างเอร็ดอร่อย ดูการสาวไหมและการถักทอผ้าไหมที่บรรจงอย่างประณีต ออกมางดงาม นี่แหละภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำทุกอย่างทุกขั้นตอนด้วยสองมือมีอุปกรณ์ช่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผ้าไหมชนิดต่าง ๆ ที่ย้อมและถักทอเสร็จแล้ว ถูกแขวนและวางเป็นระเบียบเรียบร้อย ยังมีงานฝีมือที่ทำด้วยไหมพรม  เช่น กระเป๋าใส่โทรศัพท์  กระเป๋านสะพาย  รวมถึงพวงกุญแจน่ารัก ๆ  บรรดาลูกทัวร์พากันหมดไปหลายตังค์ในการซื้อของฝาก  พาเที่ยวชมผักกางมุ้ง ที่ข้างในเป็นผักกาด และผักนานาชนิด ที่แทงหน่อ ชูช่อขึ้นมาจากพื้นดิน  และมีการเดินเยี่ยมชมตามบ้านที่มีอาชีพเสริมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการถักแห สานไซ แม้กระทั่งการหัดทำคันเบ็ดที่ใช้กันเมื่อวาน  ลูกทัวร์สนุกสนานกันเต็มที่เพราะชาวบ้านให้ความรู้ การแนะนำในด้านที่ตนถนัด และเป็นเรื่องที่บางครั้งคนมีความรู้สูงไม่รู้ เพราะเป็นภูมิปัญญาที่ชาวบ้านตกทอดกันมา

   การนำทัวร์ส่วนมากจะเป็นจีนที่เป็นคนแนะนำให้ความรู้ และมีร่างใหญ่เสริมบ้างตามที่รู้  โฮมสเตย์ที่มีแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม  ชาวบ้านที่ใจดี เป็นกันเอง วิธีชีวิตแบบชาวบ้านจริง ๆ หากินกับธรรมชาติ เกื้อกูลกัน ไม่ได้ทำลายอย่างเดียว

   ในเวลาไม่ถึง 3 เดือน หลังจากที่เปิดโฮมสเตย์ ข่าวท้องถิ่น และการเขียนบทความของลูกทัวร์ วิทยุชุมชน ลงข่าวและประชาสัมพันธ์กันอย่างหนาแน่น ทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องโฮมสเตย์ได้ไม่ยาก มีการสร้างเว็บไซต์เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติและแนะนำผลิตภัณฑ์ภายในหมู่บ้าน ทำให้มีรายได้กระจายในหมู่บ้านจิตงามมากขึ้น สินค้าถูกเพิ่มอัตราการผลิต โฮมสเตย์จิตงาม จึงเป็นแหล่งพักผ่อนที่ขึ้นชื่อในเวลาไม่นาน

   มือเรียวยาวหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กขึ้นมากดรับ หลังจากที่อิดออดอ้อนคนที่นั่งบนเก้าอี้หวายตัวยาว เด้งตัวลุกขึ้นจากตักนุ่ม

   “สวัสดีค่ะคุณอาท สบายดีเหรอคะ” เสียงใสของหญิงสาวทำให้อัครเทพต้องเดินห่างออกมาจากร่างบางที่นั่งดูทีวีพร้อมกับกำลังปลอกผลไม้อยู่

   “ครับ เอ่อ นี่ใครครับ”

   “แหมจำกันไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ  ญาเองค่ะ  ก็ญาคิดถึงคุณอาทนี่คะ”อัครเทพถึงกับชะงัก ไม่คิดไม่ฝันว่าวิรัญญาจะกล้าโทรมาหาเขา ทั้งที่เบอร์นี้เป็นเบอร์ส่วนตัว ตอนติดต่องานกันที่บริษัทก็เป็นเบอร์ของบริษัทที่เปิดสำหรับผู้บริหารแล้ววิรัญญาได้เบอร์นี้มาได้ยังไง

   “ครับ แล้วคุณได้เบอร์ผมมายังไงครับ”

   “ก็คุณแม่คุณให้ญามาค่ะบอกว่าให้ญาโทรหาคุณบ้าง แล้วนี่ได้ข่าวว่าเปิดโฮมสเตย์ เหรอคะ” ปลายสายที่พยายามเปิดบทสนทนา ร่างสูงหันไปมองคนที่นั่งปลอกฝรั่งที่พึ่งเก็บมาจากหลังบ้านก่อนหน้านั้น หันขึ้นมามองเขาแล้วส่งยิ้มให้ รอยยิ้มที่แทบจะลืมคนในสาย

   “คุณมีอะไรสำคัญรึเปล่าครับ พอดีผมไม่ว่างน่ะครับ” ไม่อยากคุยอะไรไปมากกว่านี้ ไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงที่มีจริตเต็มร้อย

   “นี่ญาอุตส่าห์เป็นห่วงนะคะ ไปอยู่บ้านนอกคอกนา บรรยากาศเหม็น ๆ จะอยู่ได้รึเปล่า” เสียงแวดตอบกลับจนอัครเทพต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่อยากโต้ตอบมาก เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นเพศแม่  เดินกลับไปนอนหนุนตักนุ่มทั้งที่มือยังถือโทรศัพท์
   
   “ผมสบายดี อยู่ได้ ที่นี่ไม่มีมลพิษอะไร ไม่มีกลิ่นเหม็น ๆ อย่างที่คุณว่า ผมว่าคุณวีรญาไม่ต้องโทรหาผมหรอกครับเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะตอนนี้ผมก็ไม่ได้ติดต่องานกับคุณแล้ว เราคงไม่มีเรื่องต้องคุยกัน” เสียงขรึมตอบกลับมองหน้าใส ๆ ของร่างบางที่ก้มมองหน้าเขาอยู่  คงเพราะได้ยินชื่อนั้น  อัครเทพซุกหน้าเข้าหาหน้าท้องนุ่มแล้วกอดเอวบางไว้ ยื่นโทรศัพท์ให้จีนรับแทน ...........เอาโทรศัพท์มาแนบหูอย่างเงอะงะ ยังงง ๆ ที่อยู่ดี ๆ ร่างสูงก็ยื่นโทรศัพท์มาให้

   “นี่คุณอาท คุณโดนของรึเปล่าคะ คุณหลงมันมากจนลืมคนทางนี้ ลืมญา ลืมเพื่อน ลืมครอบครัวเลยเหรอคะ มันน่าเกลียดจริง ๆ มันมีอะไรดี คุณอาทถึงติดใจนัก ญาอยากรู้นักเชียว” เสียงแหลมที่ได้ยินช่างไม่เหมาะกับรูปร่างหน้าตา ชาติตระกูลซักนิด วาจาที่ทำให้คนฟังถึงกับขุ่นใจ ก้มมองต้นเหตุที่ยังนอนหนุนตักหน้าซุกตัวเขาอยู่

   “พี่อาทไม่ได้โดนของหรอกครับ แต่โดนใจมากกว่าและถ้าไม่มีดีอย่างคุณว่าคงไม่ต้องลำบากคุณคอยโทรหาของ ๆ คนอื่นอย่างนี้ ส่วนครอบครัวกับเพื่อนผมคิดว่าพี่อาทไม่ลืมหรอกครับ ส่วนกับบางคน ผมว่าคงไม่ได้อยู่ในความทรงจำตั้งแต่ตอนแรกแล้วล่ะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็แค่นี้นะครับ” มือบางกดวางไม่สนใจว่าคูสายจะกรีดร้องยังไง พวกชะนีสารผสมที่บาร์บี้บอกว่าเกลียดยิ่งกว่าจิ้งจกกิ้งกือซะอีก................ ก้มมองคนที่ยังกอดไม่ปล่อย

   “คุณวีรญาโทรมามีธุระอะไรรึเปล่าครับ” เสียงเข้มขึ้นจนอัครเทพต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

   “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันเห็นว่าแม่ให้โทรมาถามข่าว” ตอบไปตามจริง มองหน้านวลที่ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกโบว์ ก็อดจะหัวเราะท่าทาง และยังคำพูดก่อนหน้านั้นอีก

   “พี่อาทหัวเราะอะไร นี่จีนไม่ใช่ตัวตลกนะ” ฟาดมือลงไปที่ต้นแขนแน่น อารมณ์เขากำลังกรุ่นอยู่แท้  ๆ กลับมาหัวเราะกันได้ ถึงจะรู้ว่าคนบนตักไม่ได้คิดอะไรแต่ก็อดหึงเล็ก ๆ ไม่ได้

   “พี่เจ็บนะเนี่ย ... แต่จีนรู้ได้ยังไงเนี่ยว่าโดนใจพี่” คำพูดและสีหน้าล้อเลียนทำให้คนที่ลืมตัวพูดออกไป ถึงกับหน้าแดงเรื่อ

   “จีนก็เดาเอา รึว่าไม่โดนก็ขอโทษละกันที่โมเม”

   “ใครว่าล่ะ พี่อ่ะโดนใจ แต่คนที่โดนของน่าจะเป็นจีนนะครับ” พูดแล้วมองหน้าคนที่ถลึงตาใส่อย่างน่ารัก อย่างนี้ไม่ต้องเสกของอะไรใส่หรอก แค่นี้ก็มัดใจเขาได้หมดทั้งนิสัยใจคอ รูปร่างหน้าตา มันพร้อมสรรพไปทุกอย่าง

   “นี่ก็จะครบกำหนดแล้วนะครับ สิ่งที่เราทำไปไม่รู้ว่าครอบครัวพี่จะพอใจรึเปล่า” คำพูดที่ออกจากปากเล็กและสีหน้ากังวล ทำให้ร่างสูงต้องจับมือเล็กที่พึ่งปล่อยโทรศัพท์ขึ้นมากระชับแล้วสูดความหอมจากมือนุ่มเบา ๆ

   “เราทำดีที่สุดแล้วนี่ครับ จีนอย่าพึ่งกังวล พี่เคยบอกแล้วไงว่าอย่าพึ่งกลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ยังไงพี่ก็ไม่มีวันทิ้งจีนเด็ดขาด”

   “ ไม่ได้หรอกครับพอถึงเวลาถ้าครอบครัวพี่อาทไม่พอใจ พี่ก็ต้องกลับไป จีนยังเคยคิดเลยว่าถ้าพวกท่านไม่ยอมรับจีน ทำให้ดียังไงท่านก็ไม่ยอมรับอยู่ดี” ยังจำคำพูดคำสัญญาที่เอ่ยไว้กับประธานบริษัท ถ้าถึงวันนั้นจริง ๆ จีนก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ไม่ใช่ไม่เตรียมใจแต่ยังไม่อยากคิดถึง

   “พ่อแม่พี่ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลนะ เชื่อพี่สิ ฮึ” เสียงทุ้มปลอบใจทำให้จีนรู้สึกใจชื้นและใจเย็นขึ้น คงต้องให้เป็นไปตามที่มันจะเป็นเพราะบังคับอะไรไม่ได้  แค่ตอนนี้ก็มีความสุขจนล้นขอกอบโกยให้มากที่สุดแล้วกัน

   *****************************************************************************

   “เอ เอาลูกฝั่งขวาด้วย” ตากลมมองลูกหว้าฝั่งขวามือของเพื่อนรัก แล้วบอกให้เพื่อนรู้ตำแหน่ง ต้นหว้าในสวนต้นไม่สูงมากแต่ก็ปีนกันได้ และตอนนี้ทั้งคู่ก็อยู่บนต้นหว้าทั้งคู่ เอหันไปทางทิศทางที่เพื่อนชี้นิ้วมา แล้วเอื้อมมือไปปลิดมาทั้งพวง  หันไปมองไอ้ตัวเล็กที่ขึ้นมาแต่ไม่กล้าไต่ ต้องนั่งอยู่บนกิ่งสามง่ามเฉย ๆ  บอกให้รอข้างล่างก็ไม่ยอมจะขึ้นมาด้วยลำบากต้องอุ้มส่งขึ้นมา ไม่พ้นตอนลงก็ต้องคอยรับลงอีก

   “เอลงเถอะได้เยอะแล้วเที่ยงกว่าแล้ว พี่จีนบอกว่ามีขนมจีนน้ำยาเขียวหวานด้วยนะ” พยักหน้าชวนเพื่อนตัวใหญ่ที่เอื้อมมือไปเด็ดเพิ่ม เอหันมามองแล้วพยักหน้า ไต่ลงไปจนกิ่งต่ำสุดกระโดดลงไปบนพื้นดินอย่างรวดเร็วปล่อยให้คนขี้กลัวค่อยกระดึบจับกิ่งนั้นนี้ให้วุ่นวาย กว่าจะถึงกิ่งต่ำก็เล่นซะขาสั่นกลัวแต่ไม่อยากอยู่ข้างล่างคนเดียว

   “โดดลงมาดิ” บอกคนที่นั่งหย่อนขาไม่ยอมกระโดด ซ้ำยังส่ายหัวดิกไม่ยอมกระโดดลงมา

   “งั้นอยู่นี่ ไม่ต้องกลับบ้านหรอก เดี๋ยวเอเอาข้าวเอาน้ำมาส่งนะ” พูดแล้วแกล้งหันหลังจะกลับ

   “เอ!! มารับจิวลงเดี๋ยวนี้นะ เอเป็นคนส่งจิวขึ้นมานะ” คำพูดที่ดูเหมือนมีเหตุผล แต่เป็นเหตุผลที่น่าหัวเราะชะมัด กลายเป็นคนผิดทั้ง ๆ ที่ทำตามทำออดอ้อน

   “อ้าว ก็จิวบอกว่าอยากขึ้นเอก็ส่งขึ้นไป อยากขึ้นไปเองก็ลงเองได้สิ”

   “เอ รับหน่อยสิไม่งั้นจิวจะกระโดดลงไปให้หาหักตาย แล้วจะไปหลอกเอเป็นคนแรกเลย” คำขู่แสนจะน่ากลัว

   “ขาหักไม่ถึงตายหรอก ถ้าคอหักไม่แน่” ยังไม่ยอมเข้าไปหา

   “เอ!!!” ร่างเล็กกางแขนกระโดดลงมา ทำเอาเอตกใจต้องถลาเข้าไปรับคนเล่นอะไรแผลง ๆ ทันได้โอบรัดร่างบางไว้แต่ก็ล้มกลิ้งไปด้วยกัน

   “จิวทำอะไรฮะ!!”ตวาดเสียงดังจนคนในอ้อมกอดตกใจ

   “ก็จิวอยากกลับบ้านแล้ว ทำไมเอไม่มารับจิวซักที” เสียงอ่อย รู้ว่าตัวเองทำมันไม่ถูก แต่เขารู้ว่ายังไงเพื่อนตัวใหญ่ก็ต้องรับเขาทัน

   “แล้วเป็นอะไรรึเปล่า” อดเป็นห่วงไม่ได้

   “เปล่าแล้วเอล่ะ เป็นยังไงบ้าง โกรธจิวรึเปล่า” เงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังค่อมตัวเองอยู่

   “เปล่า ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ”

   “จิวรักเอที่สุดเลย” ไม่พูดเปล่ายังเอาแขนวาดกอดคนตัวใหญ่ดึงลงไปทาบทับร่างเล็กที่นอนอยู่แล้วกอดซะสุดแรงจนแทบหายใจไม่ออก แต่อาการเริ่มจะไม่ดี เอรู้ตัวว่าตัวเองรู้สึกกับเพื่อนแบบแปลก ๆ หัวใจเต้นแทบจะทะลุ  ร่างนุ่มนิ่มที่จับกอดกันตั้งเท่าไหร่ แต่ร่างบางนี่จะรู้ไหมว่าเค้าเป็นเพื่อนที่คิดไม่ซื่อซะแล้ว

   “เอ่อ จิว เอหายใจไม่ออก ปล่อยก่อนสิ” ร่างเล็กยอมปล่อย แล้วดึงกันลุกขึ้น

   “ป่ะ กลับบ้านกัน” หันมายิ้มให้เพื่อนรักก่อนจะจูงมือกันเดิน

   “เอ จิวเมื่อยแล้วขี่หลังได้ป่ะ” หยุดเดินแล้วหันมาอ้อนเพื่อน ก็แค่อยากอ้อน

   “แล้วถ้าเอเมื่อย แล้วเอขี่หลังจิวได้เปล่าล่ะ”

   “ได้ยังไง จิวจะแบกเอได้ยังไงไหว ตัวเบ่อเร่อแน่ะ” ทำตาโตเหมือนกับร่างสูงจะขอขี่จริง ๆ

   “เอพูดเล่นน่ะ มาสิเร็ว ๆ ก่อนจะเปลี่ยนใจ” พูดพร้อมกับย่อลง  ร่างเล็กกอดคอเพื่อนแล้วขี่หลังเสร็จสรรพ

   “เอใจดีจัง นอกจากย่ากับพี่จีน จิวรักเอที่สุดเลย แล้วก็รักน้าอ้อย รักน้านงค์ รักทุกคนที่ดีกับจิว พี่จีน แล้วก็ย่า” พูดขณะที่ร่างสูงกำลังเดินไปเรื่อย  ๆ

   “แสดงว่ารักเอเท่าทุกคนน่ะสิ ไม่เห็นมากที่สุดเลย”

   “เปล่านะ ก็รักเอที่สุด แล้ว คนอื่นก็ค่อย ๆ ลดลงไปไง” รีบปฏิเสธกลัวเพื่อนรักน้อยใจ แล้วซบหน้าบนหลังใหญ่ แต่ทำให้คนตัวใหญ่แอบยิ้มดีใจ คนบนหลังจะรู้ไหมว่าเขาก็รักเพื่อนที่สุด แต่มันก็อาจจะคนละความหมาย พวกเขายังเด็กสำหรับเรื่องพวกนี้ ขอเวลาอีกหน่อย อาจจะรู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกยังไง

   “อ้าวจิวเป็นอะไรทำไมถึงมาอย่างนี้ล่ะ” เป็นย่าที่ทักขึ้นหลังจากที่ทาปูนแดงลงในใบพลู ทำให้จีนที่นั่งในบ้านออกมาดูด้วย

   “เป็นอะไรกันเหรอ” ถามออกไปที่เห็นน้องรักยิ้มเผล่ ขณะที่ยังเกาะอยู่บนหลังเพื่อนอยู่

   “เปล่าครับแค่จิวเมื่อยขี้เกลียดเดิน” พูดพร้อมกับลงจากหลังเพื่อนรัก

   “โห สบายไปเปล่าไอ้ตัวดี เอก็ตามใจกันเข้าไปเหนื่อยตัวเองเปล่า ๆ “ ตำหนิน้องกลาย ๆ แต่ก็เข้าใจดีว่าเอตามใจไอ้ตัวเล็กนี่เพราะอะไร

   “พี่จีนอ่ะ จิวหิวแล้วนะ ไหนอ่ะขนมจีนน้ำยาอ่ะ” รีบเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินมาอ้อนพี่ชาย มือเล็กกอดเอวซุกหน้าลงไปบนบ่าบาง

   “อยู่ในครัว ไปหามาแบ่งเอกินด้วย พี่กับย่ากินแล้ว เพราะย่าต้องกินยา” พูดแล้วลูบหัวน้องชายขี้อ้อนที่กอดเป็นลูกลิงไม่ยอมปล่อย

   “คร๊าบบบบบบบบ พี่สาว”

   “จิว!!” ยังไม่ทันจะได้ว่า น้องรักก็วิ่งหายไปในบ้าน

   “เอ พรุ่งนี้ทัวร์เข้านะ พี่รบกวนเรื่องเดิมนะ” หันมาพูดกับเพื่อนน้องที่เหมือนน้องชายอีกคน

   “ครับพี่จีน แล้วนี่พี่อาทล่ะครับยังไม่เห็นเลย” เอ่ยถาม เพราะยังไม่เห็นพี่ชายที่ตอนนี้สนิทกันมากขึ้น

   “ไปหาลุงทัศน์น่ะ คงเตรียมตัวกันนั่นแหละ ช่วงนี้กลุ่มทัวร์แทบนะเกือบทั้งอาทิตย์ว่าจะหากิจกรรมที่จะให้ลูกทัวร์ทำที่ทำให้พัฒนาหมู่บ้านเราด้วย”

   “ครับพี่  ช่วงนี้น้ำเริ่มแห้งแล้วคงใส่เบ็ดได้อีกไม่นาน”

   “อืม เห็นว่าจะประชุมชาวบ้านอีกทีว่าจะมีกิจกรรมอะไรเพิ่มเติมน่ะ” คงต้องปรับเปลี่ยนเรื่อย  ๆ ตามฤดูกาลและให้เหมาะสมที่สุด ไม่เดือดร้อนชาวบ้าน



   การรับทัวร์วันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น ตอนนี้เป็นช่วงที่ให้ลูกทัวร์พัก น้านงค์และน้าอ้อยเตรียมอาหารกันอยู่ ส่วนสองเพื่อนซี้ช่วยกันเตรียมต้นสมุนไพรที่จะให้ลูกทัวร์ช่วยกันปลูกเป็นอีกโครงการที่คิดขึ้นมาเพื่อเป็นการทำประโยชน์ให้หมู่บ้านด้วย

   “พี่จีน พี่อาท มีลูกทัวร์มาครับ บอกว่ามาแยกจากกลุ่มเมื่อครู่” จิววิ่งมาบอก อาทกับจีนที่กำลังเตรียมข้อมูลกันอยู่ต้องไปดูหน้าบ้าน บุคคลที่อยู่หน้าบ้านทำให้ทั้งคู่ถึงกับตกใจ

   “พ่อ แม่........”


*******************************************************

Sugar_Love

  • บุคคลทั่วไป
 :call: ต้องขอโทษสำหรับคนที่รออ่านเน้อ ลงหุ้นขายของงานลอยกระทงกับเพื่อน เตรียมตัวกันยาว ขับรถไปสำเพ็งง่วงหงาวหาวนอน แต่กำไรก็หายเหนื่อย อิอิอิอิ   ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณ คุณsamsoon@doll ที่เข้ามาทักทายกันแทบจะทุกวัน เรื่องนี้คงอีกไม่นาน และจะมีเรื่องใหม่เน้อออ หวังว่าจะติดตามกันต่อนะจ๊ะ เหอ ๆๆๆ.......................................... :กอด1: :กอด1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
จิวน่ารักจริงๆเชียว เอก็ช่างเอาใจ ว่าแต่นางชะนีญาอะไรนั้นจะตามมาป่วนด้วยไหมหละเนี้ย

ปล.ใกล้จบแล้วหรอคะเนี้ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2010 18:38:04 โดย samsoon@doll »

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
ดีจริง ที่ไปได้ดี กัวพวกอิจฉาอ่ะ
อีกอย่างนะ ญา นี่น่าตบมาก ขอสักที  :beat:
หมั่นไส้มากอ่ะ แล้ว พ่อ แม่ ที่พูดมานี่
พ่อแม่อาทมาหรอ รอตอนต่อไปจ้า
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
มาหาเรื่องอีกหรือเปล่า :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
ขอให้มีเรื่องดี ๆ ด้วยเหอะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกให้จ้า พ่อแม่ยอมรับได้แล้วใช่ม๊ายยยยยยยย เย่ๆๆๆ

ปล...แก้คำผิดนะจ๊า ขี้เกลียด ไม่มี มีแต่ ขี้เกียจ นะจ๊า

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
แย่แล้ว พ่อแม่คุณพี่อาทมา จีนทำไงดีเนี่ย จะพอใจหรือเปล่า

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
พ่้อ กับแม่คุณอาทมา

หวังว่าคงจะมาดีนะ แอบลุ้น  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






4life

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะเซ็ง มาทำไมอ่ะเนี่ย

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
งานจะเข้ามั๊ยเอ่ย
อยากอ่านต่อ
+1

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ลูกทัวร์คนสำคัญมา  o22
งานจะเข้าหรือเปล่า ต้องติดตามตอนต่อไป :z1:

Sugar_Love

  • บุคคลทั่วไป
@ A MiRaClE  wOrKeR ////  ท้าเทวดา......ให้มาเดินดิน @   <<TrAcK 14>> 23/11/2010

   

   “พ่อ แม่........”      ร่างสูงสง่าของประธานบริษัท และ ภรรยาทำให้จีนตัวเย็นวาบตั้งแต่หัวจดเท้าไหนจะหญิงเรียนสูงคนนั้นอีก และมีบาร์บี้ยืนยิ้มเจื่อน ๆ อยู่ข้าง ๆ ท่านประธาน ที่น่ะหรือลูกทัวร์ของพวกเขา ร่างสูงของอัครเทพเดินลงไปหากลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างล่างทำให้จีนต้องเดินลงไปด้วย

   “สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”ร่างสูงยกมือไหว้ พร้อมกับจีน ผู้สูงวัยรับไหว้แต่ท่าทางก็รู้แล้วว่าไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ มันยังไม่ถึงเวลาตามที่สัญญาไว้ หรือว่าอยากมาดูว่าทำอะไรกันอยู่ แต่ก็ไม่ผิด ก็พ่อแม่ยังไงก็ต้องห่วงลูกตัวเองเสมอ

   “คุณพ่อ คุณแม่ มายังไงครับ” ถามไถ่ผู้ให้กำเนิดพร้อมกับหันไปยิ้มให้เพื่อนรักที่หลบไปยืนคุยกับจีนอยู่โดยไม่สนใจผู้หญิงจริตที่มาด้วยซักนิด สร้างความไม่พอใจให้วิรัญญามากอยู่

   “ฉันก็มาทัวร์โฮมสเตย์ไง บังเอิญมาที่นี่ก็แค่นั้น” อิศราพูดธรรมดาไม่มีท่าทางอะไร จะมาไม้ไหนนะพ่อ แต่ก็ดีเหมือนกัน จะทำให้รู้ซักทีว่าสิ่งที่เขาอยู่มันดียังไง

   “เป็นยังไงบ้างลูก อาทผอมไปรึเปล่า แล้วทำไมดำอย่างนี้ ลำบากก็กลับบ้านเรานะ อย่ามาอยู่อย่างนี้เลย”คำพูดที่ทำให้ใจอีกคนสะเทือน และสั่นไหว คำพูดที่เหมือนจีนเป็นตัวต้นเหตุ

   “ผมไม่เป็นไรครับแม่ สบายดี อยู่ที่นี่สบายใจ ผมมีความสุขดีครับ แค่คิดถึงแม่กับ..พ่อน่ะครับ” ทำพูดลูกชายทำให้หัวอกแม่กลัดกลุ้ม สบายดีจริงรึเปล่าทำไมถึงหมองคล้ำไปอย่างนี้ พาลมองไปทางอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่ รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เข้ากับบ้านไร่บ้านนาทำ ทำไมถึงอยู่ที่แบบนี้

   อาทพากลุ่มทัวร์พิเศษนี้ไปพักกระท่อมที่เหลือสองหลัง ส่วนบาร์บี้คงต้องมานอนบนบ้านโดยให้จิวมานอนกับย่าและจัดที่หลับที่นอนให้ใหม่  เริ่มที่ข้าวกลางวันที่แสนอึดอัดเพราะเป็นอาหารพื้นบ้าน วิรัญญาติติงซะจนลูกทัวร์พากันมองหน้า  ตลอดบ่ายที่มีกิจกรรมวิรัญญาคอยตามติดอัครเทพตลอด ทำให้ทั้งจีนและร่างสูงไม่เป็นอันทำงาน  แต่อัครเทพก็อดที่จะสังเกตท่าทางผู้ให้กำเนิดไม่ได้ วิชุดาดูจะสนใจผ้าไหมเนื้องามอยู่มาก ลูบคลำและพูดคุยกันกับชาวบ้านได้อย่างไม่ขัดเขินรวมถึงอิศราที่มองดูผ้าไหมเหมือนกับคิดอะไรอยู่ จะดีไม่น้อยถ้าพ่อถูกใจ และรับวัสดุนี้ไปผลิต จะเป็นการสร้างรายได้มากโขเลยทีเดียว 

   การให้อาหารตัวไหมที่โรงเลี้ยง วิรัญญาเลือกที่จะไม่เข้าไป ผิดกับวิชุดาและอิศราที่เข้าถึงที่โดยมีบาร์บี้คอยดูและเดินตามวิชุดาอยู่ จีนเดินออกมาเพื่อจะโทรให้เอเตรียมต้นอ่อนสมุนไพรไว้ที่บ้าน คุยเสร็จก็ตกใจเมื่อหันมาเจอวิรัญญายืนจ้องหน้าตัวเองอยู่

   “ว่าไงจ๊ะแม่กระเทยบ้านนอก” จีนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำไมต้องจองเวรจองกรรมมาทำให้บรรยากาศบริสุทธิ์ที่นี่เสียด้วย

   “ผมไม่ใช่กระเทย” คำพูดที่พูดด้วยเสียงธรรมดาแต่กักเก็บอารมณ์ไม่น้อย

   “ไม่ใช่เหรอจ๊ะ แต่ทำไมถึงได้อ่อยผู้ชายมาถึงที่นี่ได้ล่ะจ๊ะ”

   “นี่คุณต้องการอะไรกันแน่ พูดสิ่งที่อยากพูดมาเลยดีกว่า ผมไม่มีเวลาพอที่จะคุยด้วย ผมมีงานที่ต้องทำ” อยากจะเดินหนีซะเดี๋ยวนี้

   “ฉันต้องการให้เธอปล่อยคุณอาทไป เขาไม่เหมาะกับที่นี่ซักนิด คุณอย่างคุณอาทจะมาอยู่ทนเหม็นกลิ่นโคลนสาบควายได้ยังไง” เสียงแว๊ดดังจนจิวที่อยู่ข้างโรงเลี้ยงต้องเดินออกมา และเดินมายืนข้าง ๆ จีน

   “ผมว่าคุณไม่ควรมาคุยเรื่องนี้กับผม ผมคืนแน่เมื่อถึงเวลา”

   “เธอควรจะรู้ตัวนะว่าไม่เหมาะกับคุณอาทเลย ตัวเองเป็นลูกตาสีตาสา กะเลกะราดพื้น ๆ ไม่น่าใฝ่สูงเลยนะ” คำพูดที่ดุเดือด โดยไม่รู้ว่ากลุ่มคนที่เดินออกมาจากโรงเลี้ยงยืนมองดูการสนทนาของทั้งคู่อยู่ 

   “งั้นคงคิดว่าเหมาะกับคุณสินะ”

   “แน่นอน คุณอาทเป็นลูกคนเดียว ฉันก็ลูกคนเดียว ถ้าเราเป็นทองแผ่นเดียวกัน เงินทองจะไปไหน ฉันเสียดายนะถ้าทุกอย่างจะตกเป็นของเธอ ถ้าพ่อแม่คุณอาทตาย” คำพูดร้ายกาจทำเอาคนฟังอึ้ง ทำไมถึงคิดอย่างนี้ได้

   “คุณไม่ควรจะพูดอย่างนี้ ไม่ควรจะแช่งท่านไม่ควรพูดเรื่องความตายกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่” ความตายเป็นสิ่งที่พรากคนที่เขารักไป พ่อ แม่ ความตายเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเดียวดาย

   “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้  คนแก่จะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ แล้วทุกอย่างก็จะเป็นของคุณอาทกับครอบครัว แกคงคิดอย่างฉันสินะ ถึงได้ยั่วยวน อ่อย ใช้มารยาจนได้คุณอาทมา” ทุกคนที่ได้ฟังถึงกับตัวชา โดยเฉพาะอิศราและวิชุดาที่เคยเห็นแต่ในด้วนของกุลสตรีและสาวทำงานของวิรัญญาไม่เคยคิดว่าหญิงสาวจะมีความคิดสกปรกอย่างนี้

   “หยุดนะ!! อย่าเอาคนอื่นไปเปรียบกับตัวเอง เพราะไม่มีใครคิดต่ำแบบคุณ และก็หยุดแช่งคนอื่นซะที คุณมันก็แค่คนที่โชคดีเกิดในที่ ๆ ดีกว่าคนอื่น มีวาสนาที่มีพร้อมทุกอย่างทั้งที่คนอื่นขวนขวาย แต่คุณกลับทำให้ตัวเองต่ำจนจมดิน น่าสงสารพ่อแม่คุณนะ ที่มีลูกแบบคุณ!! ” จีนตวาดจนวิรัญญาสะดุ้งและโกรธจัด

   “เพี๊ยะ!!” ฝ่ามือสวยกระทบแก้มใส จีนยกมือขึ้นลูบหน้าที่ชาและเจ็บขึ้นมา จิวตกใจจนถลาเข้าขวางพี่ชายไว้

   “หยุดนะ อย่าแตะพี่จีนอีก ยัยผู้หญิงใจร้าย ยัยแม่มด” คำด่าจากคนตัวเล็กอีกคนทำให้  วิรัญญาง้างมือจะฟาดลงมาจีนรีบกอดน้องชายไว้ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากมือเรียวของวิรัญญาถูกกำแน่นและกระชากจนตัวปลิวไปข้างหลัง

   “คุณอาท คือญา เอ่อ” พยายามจะแก้ตัวแต่ สายตาที่ส่งมาทำให้พูดไม่ออก และยังกลุ่มทัวร์ที่ยืนมองอยู่ ที่สำคัญพ่อกับแม่ของร่างสูงที่มองมา ทำให้วิรัญญาตกใจ ไม่รู้ว่าได้ยินตั้งแต่ตอนไหน แต่ก็ยังรีบถลาเข้าไปกอดแขนวิชุดาจนได้

   “คุณป้าขา มันรังแกญาน่ะค่ะ ญาป้องกันตัว” คำพูดปด ทำให้วิชุดาถึงกับอึ้ง ไม่พูดอะไรจนหญิงสาวเริ่มหน้าเสีย
อัครเทพเดินเข้ามาพร้อมกับประคองจีนมาด้วยแม้ไม่เป็นอะไรมากแต่ก็ตกใจไม่น้อยรอยนิ้วทั้งห้าชัดเจนบนแก้มใส

   “คุณจะทำอะไรก็แล้วแต่คุณนะ คุณวิรัญญา แต่อย่ามาระรานคนที่นี่ ทุกคนที่นี่เป็นคนดี จิตใจสะอาดไม่เคยคิดร้ายกับใคร” เสียงทุ้มตวาดดังจนวิรัญญาตัวชาไปหมด รีบหันไปหาคนสูงวัยแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร

   “กรี๊ดดดดดดดดด!!! ทำไมทุกคนต้องเห็นมันดีด้วย รู้ไหมว่ามันเป็นพวกผิดเพศ อ่อยผู้ชายจนหนีตามกันมาที่นี่ ชาวบ้านที่นี่รับกันได้ยังไงฮะ โง่ กันมากรึไง พวกอย่างนี้อยู่ที่ไหนก็วิปริตไปหมด พวกบ้า!!” ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นที่มาช่วยกันเพราะจะมีการปลูกต้นอ่อนสมุนไพรกันแถวนี้ พากันหันไปมองหน้ากัน จีนมองดูทุกคนแล้วใจหาย เขาไม่คิดปิดบังแต่มันยังไม่ถึงเวลา

   “เป็นยังไงอึ้งกันไปเลยล่ะสิ รู้รึยังว่าอีกระเทยนี่มันร้ายยังไง” ยิ้มเยาะเมื่อเห็นชาวบ้านเลิ่กลักไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองในเรื่องที่ได้ฟัง

   “พอที แม่หุ้นส่วน ฉันสุดทนแล้วคำก็กระเทย สองคำก็กระเทย เป็นกระเทยแล้วไปทำให้ไปทำให้หล่อนเดือดร้อนไหม เคยไประรานหล่อนไหม  ก็มีแต่หล่อนเที่ยวสร้างความหนักใจให้คนอื่น นี่ก็ไปฟ้องคุณป้าว่าอาทเดือดร้อนยังงั้นยังงี้จนต้องมาดูกันที่นี่ คุณป้า คุณลุงฮะ จะคิดยังไงก็ช่าง บาร์บี้ไม่ได้สนับสนุนใครแต่ถ้าเป็นแม่นี่นะ บาร์บี้จะลองอะไรที่มันว่าแปลก มันอาจดีกว่าชะนีไทยสารผสมนี่ล่ะ”

   “กรี๊ดดด!! หยุดนะ แกก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว ฉันอยากรู้นักว่าชาวบ้านที่นี่เขารู้ความจริงกันแล้วเขายังจะยอมรับแกได้อีกไหม อ๊ะ !!!” แค่แว๊บเดียวที่เห็น ตระกร้าใส่ขี้วัวแห้งถูกสาดโครมเข้ามาที่ร่างสวย สง่า แต่หมดราศีเพราะคำพูด

   “อ๊าย !! กรี๊ดดดดดดดดดดดด พวกบ้า อี๋!! แกทำอะไรฉัน ฮือ ๆ คุณป้าดูสิคะ แหวะ แค่ก ๆ พวกบ้านนอก อี๋ อือๆ”จิวเป็นคนเอาสิ่งที่ว่าสกปรกให้เท่าเทียมกับหญิงสาวที่ยืนเป็นคนบ้า แถมยังมาทำร้ายพี่ชายเขา โดยมีเอเป็นแนวร่วมยืนหัวเราะชอบใจ

   “หยุดเถอะคุณ  พวกเราไม่ต้อนรับคุณละกัน คุณกลับไปเถอะ พวกเราจะเป็นบ้านนอกในสายตาพวกคุณยังไงก็แล้วแต่ พวกเราก็อยู่กันอย่างมีความสุข พวกเราพอใจที่เป็นแบบนี้ พวกเราพอใจเท่าที่พวกเรามี เรื่องของจีนพวกเราไม่เคยคิดรังเกียจ ชีวิตของใคร ก็เลือกเดินเอา รู้แต่ว่าจีนเป็นเด็กดี มีความกตัญญู เป็นที่รักของทุกคน และเป็นหนึ่งในสมาชิกในหมู่บ้านจิตงามของเรา จีนไม่เคยทำให้พวกเราเดือดร้อน ตั้งแต่พ่ออาทเข้ามา ก็มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในหมู่บ้าน ก็มีแต่คุณที่แหละที่พวกเราจะนึกรังเกียจ รวยแต่จิตใจร้ายกาจ คุณไม่ควรเข้าในหมู่บ้านของเราด้วยซ้ำ”

   “กรี๊ดดดดดดดดดด พวกแก อ๊ายยย” หวีดร้องพร้อมกับวิ่งหนีไป คำพูดของน้าอ้อยทำให้จีนถึงกับร้องไห้ และเดินไปกอดน้าอ้อย

   “น้าอ้อย ฮึก ..อือ.. จีนขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเจอกับเรื่องพวกนี้ ฮึก..”

   “ไม่เป็นไรหรอกลูก จีนจะเป็นยังไงมันก็ไม่เลวร้ายเท่ากันคนที่ดูถูกคน โดยที่ไม่มองถึงแก่นจิตใจก่อนจะตัดสินใจว่าใครเป็นยังไงหรอกนะ” พูดพร้อมกับหันไปมองยังพ่อแม่อาทที่ยืนอยู่ทำให้วิชุดาถึงกับทำอะไรไม่ถูก เหมือนกับถูกว่าไปกลาย ๆ  ชาวบ้านค่อยเดินมารวมกันและช่วยกันปลอบคนที่ยิ่งร้องไห้โยเยไปใหญ่

   นี่คือภาพที่ประทับใจที่สุด นี่หรือคนบ้านนอก จิตใจไม่ได้ตกต่ำตามฐานะซักนิด ห้อมล้อมปลอบใจลูกหลานขี้แยทั้งที่เรื่องอย่างนี้มันรับกันได้ยากแต่ทุกคนเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อนำมาเทียบกับความดีที่เห็นกันอยู่ “จิตงาม” เป็นชื่อหมู่บ้านที่เข้ากับชาวบ้านที่นี่ได้เป็นอย่างดี

   ทุกคนดำเนินกิจกรรมตามปกติ ปลูกต้นสมุนไพรที่เตรียมไว้ให้คนละต้นที่ลานหมู่บ้าน และมีป้ายไม้ให้เขียนชื่อคนปลูก อิศราและวิชุดาเลือกที่จะปลูกต้นเดียว และเขียนสลักไว้บนป้าย “เทวะประทานชัย”

   การทานอาหารเย็นไม่เลวร้ายอะไร อย่างน้อยก็ไม่อึดอัดเท่ากับตอนเช้า วิรัญญาเก็บของกลับตั้งแต่เหตุการณ์ตอนนั้น เรื่องของจีนไม่มีชาวบ้านคนไหนพูดถึง ทำให้เป็นเรื่องปกติ เหมือนทุกคนจะยินดีที่จีนมีคนดูแลอย่างอาทเพราะทุกคนรักและสงสารในสิ่งที่จีนและครอบครัวเป็น อย่างน้อยก็เบาใจว่าจะมีคนปกป้องและยังเป็นคนดีด้วย

   “พี่จีนกับพี่อาทเป็นแฟนกันจิวรู้รึเปล่า” เอรีบถามเพื่อนตัวเล็กเมื่ออยู่กันสองคนตอนเก็บอุปกรณ์ จอบ เสียม

   “รู้ ทำไมอ่ะ เอไม่ชอบเหรอ” หันไปทำตาโตเหมือนกับว่าเพื่อนกำลังตั้งท่ารังเกียจพี่ชายตัวเอง

   “เปล่า แค่เอจะถามจิวว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเหรอ” อยากถามให้รู้ว่าเพี่อนรู้สึกยังไง

   “ไม่เห็นจะแปลก แค่คนรักกัน แค่จิวเสียดายที่ไม่ได้อุ้มหลาน แต่พี่อาทบอกว่าจะหาหลานมาให้อุ้มให้ได้  จิวแค่งงว่าจะหามายังไง ก็พี่จีนเป็นผู้ชาย พี่อาทก็ผู้ชาย มีลูกไม่ได้ซักหน่อย หรือพี่อาทจะไปทำใครท้องและเอาลูกมาเลี้ยง” อาการงุนงงกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของคนตัวเล็กทำเอาเออยากจะหัวเราะนัก พี่อาทคงหมายถึงหาเด็กมาเลี้ยงเป็นลูก แต่ไอ้เปี๊ยกนี่คิดไปนู่น แล้วถ้ารู้ว่าไม่มีลูกเป็นของตัวเองจะเป็นยังไงนะ

   “แล้วถ้าจิวไม่มีลูกอย่างพี่จีนล่ะ”

   “อือ...คงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง แต่เอถามทำไมล่ะ” หันไปถามคนที่ถามงง ๆ

   “เปล๊า !!  แค่ถามดูเฉย ๆ เดินเร็ว ๆ ไอ้ขาสั้น” พูดแล้ววิ่งหนีคนที่แบกจอบแค่ด้ามเดียว

   “อ่า  เอ รอด้วยยย” วิ่งตามเพื่อนรัก ทั้งที่ยังอยากรู้ว่าจะถามทำไม และต้องรู้ให้ได้

   เช้าตรู่อาการแจ่มใส จีนเลือกที่จะลุกมารดน้ำต้นไม้ ก่อนที่แดดจะร้อนกว่านี้ อากาศยามเช้าทำให้จิตใจที่หมองมัวปลอดโปร่ง ทุกคนที่รู้ความจริงยังเหมือนเดิมไม่มีใครทำท่ารังเกียจซักนิด มันทำให้เขาภูมิใจที่เกิดที่นี่และ ภูมิใจที่มีทุกคนเกิดมาร่วมกัน

   “ตื่นแต่เช้าเลยนะเรา” เสียงทุ้ม ทำให้จีนรีบหันไป  อิศราและวิชุดาเดินออกมาจากกระท่อม ใช่สินะ จีนมารดน้ำหลังที่เป็นที่พักของทั้งสองคน

   “เอ่อ ขอโทษครับ ทำให้ท่านตื่นรึเปล่า” คำพูดยังถ่อมตัวเสมอ

   “เปล่าหรอก ฉันกับคุณชุ อยากมาสูดอากาศเหมือนกัน ตอนเช้า ๆ อากาศดีนะ เธอว่าไหม” คำพูดของอิศรากับท่าทางที่สบาย ๆ ของทั้งคู่ทำให้จีนผ่อนคลายขึ้น

   “ครับ ชนบทก็อย่างนี้ล่ะครับไม่มีมลพิษอะไร ทุกอย่างคือธรรมชาติสร้าง แม้กระทั่งบ้านเรือนก็สร้างจากสิ่งที่มาจากธรรมชาติ ผมดีใจครับที่ท่านชอบ”

   “เหรอ แล้วทำไมเธอเลือกที่จะเข้าไปในเมืองล่ะ” เป็นวิชุดาที่เป็นคนถาม น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อยไม่ยอมรับแต่ทำให้จีนรู้ว่าพวกท่านไม่ได้ตั้งแง่อะไรมากมาย

   “เพื่อปากท้องครับ ถึงที่นี่จะมีสิ่งที่เป็นอาชีพ มีที่ทำมาหากิน แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ความถนัดของแต่ละคน เข้าไปทำงานแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งถิ่นฐาน ผมเกิดที่นี่ โตที่นี่ซักวันผมก็กลับมาที่นี่เหมือนเดิม” ถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมา ช่างเป็นสาระและน่าคิด ผู้สูงวัยดูจะพอใจในคำตอบ

   “แล้วเธอมั่นใจได้ยังไงว่า อาทเขาจะอยู่ที่นี่ได้ตอนที่เธอท้าฉัน” จีนหันไปมองบุคคลที่เป็นประธานบริษัทแล้วยิ้มให้น้อย ๆ

   “เปล่าหรอกครับ ผมไม่มีความมั่นใจว่าคุณอาทจะอยู่ได้ ผมแค่อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะอยู่กับสิ่งที่เขาเลือกได้รึเปล่า ถ้าอยู่ไม่ได้ผมก็พร้อมที่จะให้เขากลับไป แต่อย่างน้อยตอนนี้คุณอาทก็ทำให้ผมรู้ว่าความรักมันก็ทำให้คนมีความพยายาม และอดทน ถึงแม้คนอื่นมองไม่เห็น แต่ผมกับเขาก็รู้สึกได้ครับ” นี่น่ะเหรอคำพูดของเด็กบ้านนอกบ้านนา  พูดดึงดูดใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ

   “อืม ฉันจะรอจนครบกำหนดแล้วกัน อีกไม่นานหรอกนะ  เอาล่ะฉันกับคุณชุจะไปเดินเล่นแถวนี้ซักหน่อยช่วยนำทางหน่อยสิ “ ความดีใจและโล่งใจวิ่งริ้วเข้ามาอย่างทันที รอยยิ้มของทั้งสองท่านที่ส่งมาทำให้จีนใจชื้นขึ้นมากโข อย่างน้อยก็แค่รอเวลา ถ้าจะจากกัน ก็ทำให้รู้ว่าทุกอย่างมันไม่ได้เลวร้ายอะไร จีนเลือกที่จะพาเดินเรียบริมครองไป ผ่านกลางหมู่บ้านน้ำใส ๆ  ทำให้จิตใจชุ่มเย็น ชาวบ้านที่พบเจอก็ทักทาย และยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พาไปที่ท้ายหมู่บ้านที่ ๆ เป็นลานกว้างมีชิงช้าผูกที่ต้นไม้ วิชุดาเลือกที่จะนั่งลง และมองขอบท้องฟ้าที่พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาครึ่งดวงแสงสว่างที่ขอบฟ้าสีเหมือนจะร้อนแรงแต่มีประโยชน์ทำให้อบอุ่นและทำให้ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้

   “ฉันขอโทษนะที่เคยว่าเธอว่าบ้านนอก บ้านนา” วิชุดาพูดขณะที่ตายังจับจ้องที่เส้นขอบฟ้านั้น

   “ไม่หรอกครับ ถ้าต่อจากนี้จะเป็นยังไง แต่ก็ยังดีกว่าทุกอย่างยังอยู่บนการตัดสินใจโดยที่ไม่ได้พบเห็น อย่างน้อยท่านได้เห็นแล้วว่าที่นี่เป็นยังไง  ท่านจะคิดกันยังไงผมก็ห้ามไม่ได้อีกแล้ว”

   “อืม ฉันเห็นแล้วล่ะ ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง ตอนเช้า ๆ อากาศสดชื่นแค่ไหน เห็นแล้วว่าจิตใจคนที่นี่งดงามเพียงใด ฉันดีใจ ที่ได้มาที่นี่” หันกลับมามองเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่...............รู้สึกโล่งใจ ยามมืดมนไม่รู้จะเดินไปทางไหน คงต้องหยุดเดินแล้วคิดก่อน หรือถ้าทำอะไรไม่ได้คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องรอเวลาให้แสงอาทิตย์ โผล่มาส่องทางสว่าง ว่าทางไหนคือทางที่ถูกต้อง ทุกอย่างมีทางออก แค่จะใช้วิธีไหนแค่นั้นเอง ..... คงต้องรอเวลา............ช่วงนี้คงเหมือนเช้าตรู่ โพล้เพล้สินะ เห็นลำแสงส้มอ่อน ๆ แสงจากความหวังใหม่ ๆ ที่จะโผล่ขึ้นมา.................

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยจะยอมรับแล้วหล่ะ
แอบสะใจ ญา อ่ะ  :m20: :m20:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2010 19:27:03 โดย pinkky_kiku »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มเข้าใจกันแล้ว
+1 เป็นกำลังใจ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
+1สำหรับตอนเริ่ดๆ

ปล.เรื่องนี้จบจะคลอดเรื่องใหม่เลยไหมคะ อยากรู้ อิอิ 


อีกปล.อยากอ่านเอ-จิววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2010 19:25:47 โดย samsoon@doll »

littleFiNgeR

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วมันรู้สึกสะใจและดีใจในเวลาเดียวกัน ^_^

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
อยากให้เรื่องน่ารักอย่างนี้จนจากกันนะครับ  อยากอ่านไปแล้วยิ้มไปอย่างนี้
แต่  จิวกับเอทำไมน่ารักจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
สมน้ำหน้า ยัยวิรัญญา เธอเกิดมาเพื่อโดนอึ๊วัวจริงๆ :laugh:
คุณพ่อคุณแม่ใจอ่อนเร็วๆนะคะ ทุกคนจะได้รักกันๆมากขึ้นไง :o8:
+1 ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาา :impress2:

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
สมน้ำหน้า ยัยวิรัญญา เธอเกิดมาเพื่อโดนอึ๊วัวจริงๆ :laugh:
คุณพ่อคุณแม่ใจอ่อนเร็วๆนะคะ ทุกคนจะได้รักกันๆมากขึ้นไง :o8:
+1 ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาา :impress2:

สะจายกับประโยคแรกมากพี่
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
เยี่ยมเลยที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มจะเข้าใจ

//สะใจมาก วิรัญญาเปิดตูดกลับไปเลย 555

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
แลดูเหมือนคุณพ่อคุณแม่จะเริ่มยอมรับแล้วละมั้ง


วิรัญญาไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก สมน้ำหน้า แค่นี้มันยังน้อยไป  :laugh5:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
เย่ๆๆ ประสบความสำเร็จแล้ว
ขอบคุณในความเลวของวิรัญญา

4life

  • บุคคลทั่วไป
กร๊ากกกกกกก สมน้ำหน้ายัยเเม่มด ฮ่าๆๆๆๆ

Sugar_Love

  • บุคคลทั่วไป
@ A MiRaClE  wOrKeR ////  ท้าเทวดา......ให้มาเดินดิน @   <<TrAcK…..To CoMe To An EnD>> 24/11/2010


   2 ปี ต่อมา

   “มะมา..” มืออวบเล็กไขว่คว้าหาคนที่นอนกอดทั้งคืน กลับพบแต่ความว่างเปล่า

   “ฮึก..อือ แงง แงง มะมา แงงงมะมา” เสียงแผดร้อง ทำเอาคนที่กำลังชงนมอยู่อีกห้องวิ่งเข้ามาจนขาแทบจะพันกัน มือเรียวรีบคว้าเจ้าตัวอวบที่นอนร้องสะอึกสะอื้นในเตียงขึ้นมาแนบอก พร้อมกับโยกตัวกล่อมเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน

   “จีนลูกเป็นอะไรน่ะ” ร่างสูงที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหน้าตาตื่น เพื่อมาดูว่าทำไมไอ้ตัวเล็กถึงแผดร้องดังนักเป็นอะไรรึเปล่า

   “พอดีจีนเข้าไปชงนมรอแกตื่นน่ะ พอดีตื่นก่อนแล้วไม่เห็นใครเลยร้องใหญ่เลย” พูดแล้วมองดูเด็กตัวอวบน่ารักน่าชังในอ้อมกอด หยุดร้องแล้วมองหน้าคนที่เข้ามาใหม่ ยื่นไม้ยื่นมือหาทันที

   “ปา ป๊า” อีกคนที่ถูกเรียกรีบถลาเข้ามาแทบจะบินเมื่อลูกชายสุดที่รักเรียกหา พร้อมกับรับไปอุ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เด็กที่เอามาเลี้ยงตั้งแต่ 6 เดือน เป็นลูกของลูกสาวน้านงค์ที่ท้องแล้วแม่ตกเลือดมากจนเสียชีวิต สร้างความเศร้าสะเทือนใจกันอยู่พักใหญ่ เลยรับมาเลี้ยง ด้วยความยินยอมจากทุกฝ่าย

   จากวันนั้นพอครบกำหนดอิศราและวิชุดาก็เรียกไปคุยทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จนจีนคาดไม่ถึง

   “เอาเป็นว่าฉันยอมรับทุกอย่าง และอาทแกต้องกลับมาทำงานเหมือนเดิม ส่วนจีนก็มาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ถ้าห่วงย่ากับน้องก็เอามาอยู่ด้วย บ้านช่องใหญ่โต ห้องหับมากมาย”

   แต่ย่ากับน้องชายไม่มาแต่จะเทียวไปเทียวมาไม่ต้องห่วง ตอนนี้จิวก็อยู่ ม.5 แล้ว โตขึ้นเยอะ โฮมสเตย์ก็ยังเปิดทำการเหมือนเดิมภายใต้การดูแลของน้องที่มีความรับผิดชอบสูง จิว กับ เอ รับช่วงดูแลต่ออย่างเป็นทางการ ย่ายังแข็งแรงดีและมีน้านงค์ น้าอ้อย ผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล ตอนนี้ อาทก็ทำงานเป็นรองประธานบริษัทฯ แต่มีบทบาทค่อนข้างเต็มตัวเพราะอิศราเริ่มจะปล่อย จีนเรียนต่อปริญญาตรีอยู่และเลี้ยงลูกไปด้วยแต่ก็มีพี่เลี้ยงอีกคนช่วยดูแลตอนที่จีนไม่อยู่

   “ว่าไงครับคนเก่งของปะป๊า วันนี้ปะป๊าต้องไปทำงานนะอยู่กับมะม้านะลูกนะ” พูดคุยกับลูกชายราวกับจะรู้เรื่อง วันนี้วันเสาร์ แต่อาทก็ต้องเข้าไปบริษัทฯตอนบ่าย อยากจะโดดงานอยู่กับลูกเมียที่บ้านใจจะขาด แต่ก็โดนพ่อตราหน้าว่าห้ามเสียงาน จำใจต้องไปจนได้

   “มะมา แหมม ๆ “ เมื่อตื่นก็ต้องกินนม จีนรีบรับลูกมานอนลงบนที่นอนบนเตียงเหมือนเดิมและส่งขวดนมให้มืออวบถือไว้เอาไว้แต่ก็ช่วยประคองไว้ด้วย อาทมองดูภาพที่แสนจะน่ารัก นี่แหละคือสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน ทุกอย่างลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ พ่อกับแม่เอ็นดูจีนกับเจ้าตัวเล็กมาก ถึงขนาดว่าถ้าเขาทำให้เสียใจจะยกสมบัติทั้งหมดให้เมียและลูกให้หมด ยิ่งกับเจ้าตัวหน้าตาจิ้มลิ้มนี้ยังกับสวรรค์สร้าง หน้าตาละม้ายคล้ายเค้ากับจีนอย่างไม่น่าเชื่อ พ่อกับแม่หลงหลานเอามาก ๆ ไปไหนต้องโทรมา ให้ได้ยินเสียงอ้อแอ้ ก็ชื่นใจ

   “คุณแม่โทรมานะพี่อาทบอกว่าเย็นนี้จะกลับมาแล้ว จีนบอกให้เด็กเตรียมกับข้าวไว้รอ” ปากเล็กเอ่ยออกมาหลังจากได้รับโทรศัพท์จากแม่ของสามีว่าจะกลับจากสิงคโปร์ เย็นนี้

   “เหรอ ดีเนาะเดี๋ยวนี้ไม่โทรหาพี่เลยน่าน้อยใจชะมัด” ทำท่าเง้างอนพร้อมกับเดินเข้าไปกอดเอวบางหอมแก้มใสไปฟอดใหญ่

   “ปาปา มามา อู้ม ๆๆ” เสียงใสแทรกมาระหว่างพ่อแม่กำลังสวีททำเอาจีนหัวเราะ คนที่บึ้งคงจะเป็นพ่อ เวลาจะทำอะไรกันทีเหมือนเจ้าตัวเล็กนี่จะรู้ ชอบแกล้งพ่ออยู่เรื่อย

   “เอื๊ก ๆ เอิ๊ก ๆ” เสียงหัวเราะใสเมื่อปะป๊าตัวดีหมั่นไส้ลูกชาย อุ้มแล้วแกล้งเหวี่ยงเบา ๆ เจ้าตัวเล็กกลับชอบใจหัวเราะเอิ๊กอ๊ากใหญ่

   “พอแล้วพี่อาทเดี๋ยวลูกก็ได้ละเมอกันพอดี” รีบห้ามปรามสามีตามที่ย่าเคยบอกว่าถ้าเด็กหัวเราะสนุกมากไปนอนตอนกลางคืนจะละเมอ

   “อ่ะ น้องอาร์อยู่กับมาม๊าก่อนนะครับปะป๊าจะอาบน้ำไปทำงานแล้ว” พูดแล้วส่งเจ้าตัวอวบในอ้อมกอดส่งให้ภรรยาที่รออยู่แล้ว

   ตอนเย็นก็เป็นอาหารมื้อใหญ่ต้อนรับคู่สามมีภรรยาที่กลับจากเมืองนอก วิชุดาหอบของฝากลูกสะใภ้และหลานชายแต่กลับลืมของฝากลูกชายทำเอาร่างสูงนั่งปะหลับปะเหลือกอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่จริงจังอะไรตอนนี้อะไรคงไม่สำคัญไปกว่าคนที่กำลังรักกำลังหลง หลานชายตัวดีก็ช่างออเซาะ พอย่ามาก็เรียกหาเหมือนกับรอคอยมานานแล้วอย่างนี้จะไม่ให้หลงได้ยังไง

   “น้องอาร์ดูซิลูกย่าซื้ออะไรมาให้หนูชอบไหม อื้ม ฟอด!!”รับหลานชายจากอ้อมกอดร่างบางแล้วอุ้มไม่ยอมปล่อย

   “ยาจ๋า ยายา”เด็กอายุเกือบสองขวบ คำพูดคำจายังไม่ชัดเจนแต่กำลังหัดพูดตามที่คนสอน จีนพยายามทำให้ลูพูดชัดที่สุด

   “จ๋า หลานย่า น่ารักจังลูก ดูสิคุณหลานเรียกฉันด้วย” ดูจะภูมิใจในตัวหลานชายเหลือเกิน นี่แค่เรียก พูดฉอเลาะได้เมื่อไหร่ย่าคงไม่เป็นอันทำอะไรแน่

   “เมื่อไหร่จะเรียกปู่ล่ะลูก ไหนเรียกซิ ปู่  ปู่” นี่ก็ไม่น้อยหน้า ไม่ได้เลี้ยงหรือมีเด็กอ่อนมานานมาก เจอน่ารัก ๆ อย่างนี้เข้าทำเอาคนแก่เงยหน้าจากหน้าหลานไม่ขึ้น ยิ่งหน้าตาคล้ายลูกชายกับลูกสะใภ้ยังกับแก ทำไมจะไม่เชื่อล่ะว่าเป็นโชคชะตาที่จะต้องได้อยู่ด้วยกัน

   “พู ปูปู” หลานก็ช่างได้ใจนัก

   “ใช่ลูก ปู่ ฮะฮ่า ๆๆๆๆ” หลังอาหารเย็น ปู่ย่าขี้เห่อ ก็ทำให้จีนมีเวลาทำนู่นนี่ได้บ้าง เข้าใจหัวอกแม่ขึ้นมาบ้างว่าเป็นยังไงลำบากแค่ไหน นี่ไม่ใช่แค่คนแก่แถวนี้ ยังที่บ้านอีกน้องชายตัวดีก็โทรมาไม่เว้นแต่ละวันอยากคุยกับหลาน อยากเห็นหน้าหลาน อย่างนั้นอย่างนี้

   **********************************************************************************

   บรรยากาศสองข้างทางที่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักมันทำให้คิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ก็ผ่านไปด้วยดี หลังจากเหตุการณ์วันนั้นบริษัทของวิรัญญาก็ถอนหุ้นแต่ก็มีบริษัทอื่นที่เข้ามาขอร่วมหุ้นแทน การบริหารงานไม่ได้ต่ำกว่ากันเลย ส่วนเตชทัตก็หายเงียบไป แต่ได้ข่าวว่ายังทำงานที่เดิม ทุกอย่างดูลงตัวอย่างไม่คาดฝัน

   เก๋งคันสวยวิ่งเข้ามาภายในหมู่บ้านที่กำลังครึกครื้นเพราะมีงานลอยกระทงในหมู่บ้านเสียงมโหรี เสียงเพลงคึกคัก รถวิ่งเข้าไปจอดที่บ้านหลังเดิมที่คุ้นเคย ลงจากรถก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตึง ๆ บนบ้านพร้อมกับคนที่วิ่งชะโงกหน้าหวาน ๆ ออกมาส่องดู

   “พี่จีน พี่อาท น้องอาร์ น้องอาร์”อาการหลงหลานกำเริบอีกคน วิ่งเข้ามารับเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลี้มที่กำลังเป่าน้ำลายเล่นเป็นฟองฟอด จนต้องใช้ผ้าเช็ดเป็นระยะ

   “ขึ้นบ้านก่อนครับพี่อาท พี่จีน น้าอ้อยกับย่าอยู่ข้างบนกำลังทำกระทงกันอยู่ เดี๋ยวหัวค่ำไปลอยกันที่คลองใหญ่ที่วัดกัน” เด็กหนุ่มหน้าใส ที่หน้าคล้ายพี่ชายยิ่งนัก พอขึ้นบ้านก็ทักทายญาติผู้ใหญ่โผกอดกันอยู่นาน

   “พี่จีน พี่อาท สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มที่มาใหม่อีกคน ตัวโตขึ้นกว่าเก่าหน้าตาดูเป็นหนุ่มเต็มตัวหล่อเหลาพอตัว อย่างนี้สาว ๆ คงตรึมแน่

   “อ้าวเอ โหไม่เจอกันนานหล่อขึ้นเป็นกองเลยเรา” จีนแกล้งแซวน้องเล่น ทำเอาอีกฝ่ายหัวเราะชอบใจ

   “โหพี่จีนหล่อยังไงก็ไม่เท่าพี่อาทหรอกครับ รายนั้นเขาหล่อขั้นเทพแล้ว” พูดแล้วก็หัวเราะชอบใจกันมีเพียงคนเดียวที่ทำหน้าเหมือนอมลูกอมอยู่ จนคนเป็นพี่สังเกตได้

   “เป็นอะไรจิว ปวดท้องเหรอ”

   “โฮ่ พี่จีน ตั้งแต่เจอกันไม่เคยเห็นชมจิวเลยว่าหล่ออ่ะ เจอเอทีไรก็ชมทุกที” พูดแล้วก็ก้มหอมแก้มหลานอีกรอบ ไม่ทันได้หอมอีกก็มีมือดี ฉกไปอุ้มต่อ จนต้องมองกันตาเขียว

   “แล้วมีคนชมเปล่าล่ะ” ยังถามน้องชายต่อ เขาก็พอจะรู้อยู่ว่าเพราะอะไร แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่เคยมีคนชมว่าหล่อซักครั้ง แล้วน้องเขาก็หน้าตาไม่ได้ผิดกันเท่าไหร่เลย

   “ไม่มีน่ะสิ มีแต่เพื่อนที่โรงเรียนสิชมว่า น่ารัก ผู้หญิงน่ะจิวไม่ว่าเลย แต่มีผู้ชายด้วยนี่สิ จิวล่ะเครียดเลย” พูดแล้วทำหน้าตาคิดหนัก ยังเหมือนเดิม ไม่โตซักทีเรื่องแบบนี้

   “ก็น่ารักนิ” คำพูดลอย ๆ ของบางคนทำเอาจิวหันไปมองทำตาโต

   “เอ..... จิวบอกว่าไม่ให้พูดว่าน่ารัก” ไม่กลัวซ้ำยังหันมายักคิ้วให้ท้าทายคนตัวเล็กข้าง ๆ พร้อมกับหันไปหลานที่อุ้มอยู่

   “ใครว่า เอว่าน้องอาร์น่ารัก ต่างหาก” หันไปพูดทำหน้ามึน ๆ ใส่ทำเอาคนตัวเล็กยิ่งฮัดฮัดไปใหญ่

   “น้าอ้อยยยย” รีบเดินอ้อมไปกอดน้าแล้วอ้อนเหมือนหาคนช่วย

      “อะไรลูกฮึ ใครว่าน้องจิว” น้าก็เอาใจกันจนไม่รู้จักโต เอมองดูแม่โอ๋เพื่อนก็ยิ้มออก ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาสารภาพกับแม่ว่าชอบจิว ชอบแบบที่ไม่ใช่เพื่อน ชอบแบบที่อาทชอบพี่จีน แม่อึ้งไปพักใหญ่ เห็นขอบตารื้นด้วยน้ำตาก็ใจหาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร แค่บอกว่า ถ้าชอบแบบพี่อาทชอบพี่จีน ก็ทำตัวให้ได้เหมือนพี่เขาแม่ก็พอใจแล้ว ก็มีแต่ได้เปี๊ยกนี่แหละที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อย่างน้อยก็ไม่ยอมห่างเขาเลย ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาจีบ ทั้งหญิงและชาย หยุบหยับไปหมด แต่เจ้าตัวก็ไม่รับใครบอกว่าอยู่กับเอมีความสุขที่สุด พอเอแกล้งบอกว่าจะมีแฟนนะ ก็งอนไปหลายวันซ้ำยังไปร้องไห้ฟูมฟายกับแม่เขาว่า ใจร้าย อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่คุยด้วยเป็นเดือน จนต้องง้อต่าง ๆ นานา ถ้าจะคิดว่ามีใจแต่ไม่รู้ตัวจะผิดไหม หรือจะเป็นแค่ความใกล้ชิด แต่อีกไม่นานหรอกเขาก็จะรู้ให้ได้ว่ารู้สึกยังไงกันแน่

   ค่ำคืนพระจันทร์ดวงใหญ่เหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อม แสงนวลจากดวงจันทร์ส่องสว่างสองข้างทาง จีนและครอบครัวเดินกันไปเป็นกลุ่มถือกระทงคนละใบ แต่ของจีนกับอาทใบเดียวกัน ใบใหญ่หน่อย  เจ้าตัวเล็กดูจะดี้ด้าเป็นพิเศษ หันมองนู่นมองนี่ร้องอู้อ้าตลอดทาง ทางเดินไปวัด คนรู้จักก็ทักทายกันอย่างคุ้นเคย อบอุ่น ไม่ขาดอะไรเลย เติมเต็มได้หมดทุกอย่าง

   3 คน พ่อแม่ลูกจับกระทงใบเดียวกันแล้วอธิษฐานไม่ขออะไรอีกแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกนอกจากอยู่อย่างนี้ไปนานเท่านาน

   เพื่อนรักเดินเล่นซื้อของกินไปนั่งกินที่ริมสระน้ำหลังจากแยกจากพี่ชายที่พาลูกไปเล่นเครื่องเล่นที่มาตั้งภายใจวัดไม่ว่าจะเป็นชิงช้าสวรรค์และซุ้มของเล่นอีกมากมาย

   “ดีจังเลยเนาะ เห็นพี่จีนมีความสุข แล้วจิวดีใจจัง” พูดขณะจิ้มลูกชิ้นเข้าปาก

   “อืม แล้วจิวอยากเป็นแบบพี่จีนรึเปล่าล่ะ” ถามเพื่อนแล้วจ้องหน้าใสที่นวลสวยตรงหน้า

   “ก็ต้องอยากสิ มีครอบครัวที่มีความสุข ดีจะตาย” พูดออกไปอย่างเพ้อฝัน

   “แล้ว เอ่อ ...ถ้าจิวต้องมีแฟนเป็นผู้ชายแบบพี่จีนล่ะ” ถามอย่างไม่แน่ใจว่าเพื่อนตรงหน้าจะรู้สึกยังไงและจะเข้าใจสิ่งที่เขาพูดรึเปล่า   คนตัวเล็กชะงักขณะที่กำลังจะจิ้มลูกชิ้นต่อ

   “ทำไมล่ะ ทำไมเอถึงถามอย่างนั้นล่ะ” เงยหน้ามองเพื่อนรักที่มองตัวเองอยู่แล้ว แววตาที่สื่อออกมาทำเอาคนตัวเล็กรู้สึกเขิน ๆ อย่างบอกไม่ถูก พึ่งจะเคยเห็นแววตาแบบนี้

   “เอชอบจิวนะ….ชอบแบบที่พี่อาทชอบพี่จีน” คำสารภาพ ทำเอาลูกชิ้นหลุดจากไม้กลิ้งตกไปที่พื้น

   “เอว่ายังไงนะ” อาจจะฟังผิดก็ได้เพื่อนอาจจะพูดอย่างอื่น ไม่ใช่อย่างที่ได้ยิน

   “เอ ชอบ จิว....ได้ยินไหม” ย้ำทีละประโยคอย่างชัดเจน

   “เป็นแฟนเอนะ” ยิ่งย้ำคำต้องการทำเอาคนตัวเล็ก หน้าเหวอ ก้มหน้าก้มตาเช็ดเสื้อที่ลูกชิ้นกระเด็นถูก แต่ไม่ยอมเงยน้าขึ้นมาซักที

   “จิว ไม่ชอบเอ.....”

   “ไม่ใช่นะ” รีบเงยหน้าขึ้นมาส่ายหัวแทบหลุด แล้วนั่งนิ่งๆ พักใหญ่ แล้วเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนที่พึ่งจะขอเปลี่ยนสถานะเมื่อครู่

   “จิวแค่กลัว เอจะพูดเล่นอีก” พูดเสียงอ่อย

   “แสดงว่าจิว ตกลงใช่มั้ย” พูดถลาเข้ามาหาคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าอยู่

   “เอไมได้พูดเล่นเอพูดจริง....แล้วจิวล่ะชอบเอบ้างไหมฮึ” เอื้อมมือมาดึงมือคนตัวเล็กไปกุมไว้อย่างลืมตัว จนคนตัวเล็กทำหน้าแหย ๆ ถึงรู้ตัวปล่อยมือแต่ก็ยังแอบเอานิ้วเกี่ยวไว้เล็ก ๆ

   “ก็..ชอบ..นึกว่าจิวจะชอบเอฝ่ายเดียวซะอีก”เสียงเบา ๆ แต่ชัดเจน จริง ๆ ด้วยเขาไม่ได้คิดไปเอง เอยิ้มกว้างให้คนที่พึ่งเลื่อนสถานะเมื่อกี้ ทำเอาคนถูกมองก้มหน้างุด ถ้าเป็นตอนกลางวันคงได้เห็นหน้าแดงเห่อแล้วแน่ ๆ

   “เอ ดีใจจัง จิวรู้ไหมว่าแม่รู้แล้วว่าเอชอบจิว” คำบอกเล่าทำเอาคนฟังตาโต

   “แล้วน้าอ้อยว่าไงล่ะ “ถามเพื่อนเสียงดัง แข่งกับเสียงเพลง
   
   “แม่ไม่ว่า แค่บอกว่าให้ทำตัวให้ได้อย่างพี่อาทกับพี่จีน”

   “จริงอ่ะ ...แล้วพี่จีนล่ะ”

   “ฮึ เอว่าพี่จีนน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แล้วจิวชอบเอตั้งแต่เมื่อไหร่”

   “เฮ่อ ไปหาน้องอาร์ดีกว่า เนาะ” พูดแล้วลุกขึ้นเดินออกมาทำเอาแฟนหมาด ๆ ต้องวิ่งตามคนเฉไฉ แขนหนาโอบเอวบาง แล้วกอดแน่น ๆ ทีนึง แล้วแอบหอมแก้วฟอดใหญ่

   “ถามไม่ตอบนะ เดี๋ยวก็โดนดีหรอก” กระซิบข้างหูก่อนจะวิ่งทำหน้าไปปล่อยให้คนถูกลวนลาม ทำหน้าเหวอ ดีนะแถวนี้ไม่มีคนไม่งั้นได้งามหน้าแน่ ๆ

   “ปาปา แหมม ๆ” เกิดหิวขึ้นมาตอนอยู่บนชิงช้าสวรรค์โดยที่สำภาระทั้งหมดอยู่กับคนร่างบางข้างล่าง ที่นั่งเก้าอี้มองดูสองพ่อลูก บนชิงช้าแล้วก็ตลก ผู้ชายตัวเบ่อเร่อถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็คงไม่เห็นเด็กในอ้อมกอด

   “รอแป๊บนะลูก แหมม อยู่กับหม่าม๊าลูก” รีบปลอบลูกชายแล้วก้มลงหอมแก้วฟอดใหญ่

   “ปาปา ฮืก แหมม ๆ แหมม ฮือ ๆ “งานเข้าแล้วสิแล้วเมื่อไหร่ชิงช้าจะหยุดละเนี่ย เกิดมาก็ไม่เคยขึ้นหรอกชิงช้าสวรรค์แค่อยากพาลูกเล่นเท่านั้นเอง

   “โอ๋ ๆ คนเก่งอย่าร้องลูก”

   “มามา หมำ ๆ แงงงงง” เสียงแผดร้องทำให้จีนต้องรีบบอกให้ชิงช้าหยุดให้สองพ่อลูกแล้วรับลูกลงมาอย่างร้อนรนเป็นอะไรกัน

   “อะไรครับพี่อาท”

   “ก็ลูกร้องหิวน่ะ” พูดแล้วมองเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดที่ยังสะอื้นฮัก ๆ ไม่หยุด

   “กลับเถอะครับ ลูกคงง่วงแล้วก็เลยงอแง” เมื่อได้ยินก็รีบกุลีกุจอเก็บของและเดินตามคนรักกลับบ้าน

    กอดเอวบางไว้หลวม ๆ ลมหนาวพัดมาเป็นระยะ ๆ มองดูเจ้าตัวเล็กที่หลับในอ้อมกอดอุ่น  อยากอยู่อย่างนี้ มีกันและกัน มีความรักจากคนรอบข้าง ๆ มีสิ่งที่เรียกว่า ความสุข ตลอดไป ภาพครอบครัวที่เดินตามทางเดิน ที่มีแสงจันทร์สาดส่องเป็นทางสว่าง น่ามองยิ่งนัก แล้วยังมีอีกคู่ที่เดินจูงมือกันเดินตามหลังห่าง ๆ พูดถึงเรื่องราวที่ควรจะดำเนินไป พระจันทร์คืนนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาแสงนวลอบอุ่นท่ามกลางลมหนาวเอื่อย ๆ

   …..ถ้ารักก็ต้องทำให้ได้ในสิ่งที่ควร....เพื่อจะได้มา….

   .......ถ้าจะรัก ก็ต้องกล้าลบคำว่า.. ได้ ...ท่องจำไว้คำว่า เสียสละ...

   .......แค่มีกัน  แค่มีไออุ่น แค่มีรัก.....................

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

Sugar_Love

  • บุคคลทั่วไป
    ในที่สุดก็จบลงแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ลองแต่งลงบอร์ดดู จริง ๆ แล้วก็คิดไว้หลายแนว แต่ก็เลือกที่จะลงแนวเบา ๆ ก่อน ขอบคุณทุกคนที่ติดตามตั้งแต่ ตั้นจนจบ หรือ คนที่พึ่งอ่านแล้วติดตามจนจบ รวมถึงคนที่ติดตามตอนแรกแล้วหายไป ก็ไม่เป็นไร แค่รู้ว่ามีคนอ่านก็ดีใจแล้ว อาจจะไม่หวือหวาเหมือนเรื่องอื่น อาจไม่ได้เมนต์เยอะมากมาย แต่ก็มีเมนต์ที่เป็นแรงใจมากมาย

  เรื่องต่อไปคงอีกไม่นาน เพราะวางโครงเรื่องไว้แล้วถ้ายังไง หวังว่าจะติดตามกันต่อไปนะคะ ……ลูกตาล.... :กอด1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2010 19:15:57 โดย Sugar_Love »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้วแบบหวานๆครอบครัวอบอุ่น พ่อ แม่ ลูก 

ปล. ขอตอนพี่เศษ เอ-จิววววววววววด้วยน๊าาาาาาาา

อิอิ  และจะรอเรื่องต่อไปอีก ไม่รู้จะเม้นต์อะไรแต่อ่านแล้วมีความสุขมากไม่เครียดการดำเนินเรื่องง่ายๆแต่ก้กินใจดี  ยังไงก็จะตามไปอีกทุกเรื่องๆเลยค่ะสู้ๆ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด