WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE นิยายเปิดให้จองเเล้วค่ะ รายละเอียดหน้า 1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE นิยายเปิดให้จองเเล้วค่ะ รายละเอียดหน้า 1  (อ่าน 619785 ครั้ง)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #480 เมื่อ12-11-2010 21:38:18 »

คุณหินน่ารักและหื่นตลอดเวจริงๆ
จะไหวมั้ยไม่เจอกันตั้ง 7 วันแน่ะ

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #481 เมื่อ12-11-2010 21:46:34 »

รอตอนต่อไปโลด  :man1:

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #482 เมื่อ12-11-2010 21:47:05 »

มดเต็มโต๊ะ =_=*
เจ้ารอยได้เมียสมใจอยากแล้วสิ
คุณหินน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย  กอดคนเขียน  :กอด1:

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #483 เมื่อ12-11-2010 21:48:28 »

กำลังจะไปนอนพอดีมาเปิดเจอ
โอ้ว ว  คลิกทันที55555



ตอนนี้กำลังลุ้นกับคู่ของก้องอยู่เลยค่ะ
ดูซิว่าจะใจอ่อนเมื่อไหร่55
ว่าแต่คนทำหื่นไปไมค่ะนั่น สองวันสองคืนเชียว
กร๊ากกกกกกกกกกกกก


ส่วนคุณหินยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่นเช่นเคยเลยนะคะเนี่ย
อ่านแล้วยิ้มเลย

สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #484 เมื่อ12-11-2010 21:51:27 »

คุณหิน หื่นตลอดเวลาจริง ๆ


ไปตั้ง 7 วันแน่ะ คุณหินไม่คิดถึงแย่เหรอเนี่ยน้องนัส

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #485 เมื่อ12-11-2010 21:58:58 »

คุณหินมีแววกลัวว่าที่ซะแล้ว
สงสารเจ้ารอย มาเจอน้องดาวแทน
+1

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #486 เมื่อ12-11-2010 22:06:41 »

อ่ะ อยากอ่านตอนของก้องภพต่อซักนิด  :o8: เค้าชอบให้ก้องไม่ทันภาคภูมิ คนอ่านจะได้เสียเลือด  :haun4:

ส่วนคู่น้องนัส ก็อบอุ่นอ่อนหวานเหมือนเดิม ชอบที่คุณภูผารักและเอาใจใส่นัสมากๆ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #487 เมื่อ12-11-2010 22:29:09 »

แหม่
คุณภาคของเรา
ได้ใจจริงๆ
 :haun4:

lasom

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #488 เมื่อ12-11-2010 22:38:24 »

เขิลมั้ยล่ะนั่นตอบเค้าไปแบบนั้น :o8:แต่คนแถวนี้เขิลแทนคุณไม้อ่ะ

ออฟไลน์ kboom

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 498
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #489 เมื่อ12-11-2010 22:39:37 »

น่ารักอ่ะ
คู่นี้ก็หวานกัน
เห็นแล้วอิจฉาอ่ะ
คริ ๆ ๆ ๆ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
« ตอบ #489 เมื่อ: 12-11-2010 22:39:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #490 เมื่อ12-11-2010 23:18:06 »

โอ้ย หวานนนนนนนนนนนนน  :impress2: มากคะ ทั้งสองคู่

ถึงคู่ก้องภาค จะหวานแบบแปลกๆ หละนะ  :pigha2: อิอิ

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #491 เมื่อ12-11-2010 23:46:45 »

กลัวอะไรคะคุณภูผา

ตามไปสิคะ เชียงใหม่ แค่นี้เอง

เปิดตัวกับพี่ภรรยาอีกต่างหาก

ไม่เหงาด้วย

ยิงปืนนัดเดียว ได้ผลเยอะเลยยย

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #492 เมื่อ12-11-2010 23:47:16 »

นึกว่าคุณหินจะพาเด็ก ๆ ไปพักผ่อนกับนัสด้วยซะอีก

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #493 เมื่อ12-11-2010 23:57:50 »

น่ารักทั้งสองคู่เลย แต่คนละแบบ  :-[

หรือคุณภูผาจะแอบย่องตามวนัสไปเยี่ยมพี่สาวด้วย?

minima

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #494 เมื่อ13-11-2010 00:22:17 »

ไอรอยเอ้ยยยย  o22


อ่านตอนนี้แล้วนั่งอมยิ้มหน้าจอคนเดียว
อิอิ :-[

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #495 เมื่อ13-11-2010 00:30:54 »

ลงเอยกันไปสองคู่ ถึงอีกคู่จะัลงเอยแบบไม่เต็มใจของก้อง แต่ติดใจของคุณภาคก็เหอะ  :laugh:

ว่าแต่ไปฮันนีมูนกันที่เชียงใหม่มั้ยนิ  :o8:

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #496 เมื่อ13-11-2010 00:31:21 »

แอร้ยยยยย พี่ภาคเปลี่ยนผ้าปูที่นอนรอนู๋ก้องเลยหรอคะ
อีกคู่ก้อหว้านหวานเนอะ :-[

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #497 เมื่อ13-11-2010 01:15:45 »

โอ้ยหวานใส่กันแหละ ชอบมากกกกกกกก

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #498 เมื่อ13-11-2010 01:18:38 »

น่ารักเชียวจริงๆๆแล้วคุณภูผาต้องอยากตามไปด้วยแน่ๆๆอ่ะ

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #499 เมื่อ13-11-2010 01:47:07 »

อีเจ้อิจฉาค่ะ ไม่ไหวแล้ว.......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
« ตอบ #499 เมื่อ: 13-11-2010 01:47:07 »





DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #500 เมื่อ13-11-2010 02:07:56 »

 :z2: :z2: :z2:

RakorN

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #501 เมื่อ13-11-2010 08:52:23 »

“ฉันชอบคนตรงๆแบบนายนะก้อง คิดอะไรก็พูดออกมาแบบนั้น ถึงมันจะดูขวานผ่าซากก็ตามเถอะ แต่มันก็ดูจริงใจดี ฉันอยากจะรักคนแบบนี้ละ”
กรี๊ดดดดด พี่ภาคค่ะ พี่สารภาพได้ตรงใจมากๆเขินไปกับน้องก้องด้วยเลยเนี้ย :-[
หลังจากลัดขั้นตอนได้ตัวมาแล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ภาคได้หัวใจน้องก้องมาไวๆนะคะ รักของทั้งคู่จะได้มีส่วนเติมเต็ม :กอด1:
น้องนัสไร้เดียงสาได้อีก แต่แนะนำว่าสงสัยอะไรไม่ต้องไปถามลุงเกิ้ลหรอกค่ะ พี่หินเนี้ยรู้ลึก รู้จริงค่ะ! :m20:
ว่าแต่พี่หินจะไม่ตามน้องนัสไปเชียงใหม่ด้วยจริงๆเหรอคะ? ^ ^

ออฟไลน์ ขนมหวาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +190/-2
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #502 เมื่อ13-11-2010 09:10:48 »

เฮียภาคมันเจ้าเล่ห์จริง ๆ หลอกล่อน้องก้องสำเร็จซะด้วย
คาดว่าไม่นาน น้องก้องคงใจอ่อน

ส่วนคู่หลัก ก็ค่อยเป็นค่อยไป ถึงจะลวนลามนัสได้เรื่อย ๆ
แต่ยังดีที่คอยรักษาน้ำใจ

7 วัน จะอดใจไม่ตามไปไหวมั้ยน๊า คุณพ่อหม้ายลูกสองเอ๊ย :z2:

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #503 เมื่อ13-11-2010 18:30:48 »

น้องนัสไปตั้ง 7 วัน พี่หินคิดถึงแย่เลย...

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #504 เมื่อ13-11-2010 18:40:21 »

ตามไปเลย

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #505 เมื่อ13-11-2010 19:26:42 »

พี่ภาคพยายามหว่านเสน่ห์พร้อมทั้งใช้ความเจ้าเล่ห์ทำให้ก้องมารัก :laugh:
คุณภูผามาแบบใจกล้าหน้าด้านทำให้ได้หวานกกับนัส :o8:

ออฟไลน์ Resonance

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #506 เมื่อ13-11-2010 22:44:59 »

ต้องหาเวลาอยู่เงียบๆทบทวนความรู้สึกตัวเองสินะ ไม้ ^^

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #507 เมื่อ14-11-2010 10:50:35 »

หินคงคิดถึงแน่ๆๆ ตานัสไปเลยดิ :o8:

 :call:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 14 (14/11/2010)
«ตอบ #508 เมื่อ14-11-2010 23:01:12 »

Part14


“มากินข้าวได้แล้วไม้”

เสียงพี่สาวของวนัสตะโกนเรียกชื่อเล่นของน้องชายด้วยความเบิกบานใจ จุดรอยยิ้มให้เจ้าของชื่อรีบปิดหนังสือที่กำลังอ่าน เดินมาเมียงมองข้าวกลางวันที่พี่สาวตระเตรียมคิดเมนูไว้ตั้งแต่เช้า ซึ่งแต่ละอย่างล้วนเป็นของโปรดของตนตลอดสามวันที่ผ่านมา

“ไม่ต้องยุ่งยากทำหรอกพี่ เหนื่อยเปล่าๆ” วนัสก้มมองอาหารกลางวัน วันนี้เป็นราดหน้าทะเลอย่างที่เขาชอบ วางอยู่บนโต๊ะพร้อมทาน

“เอาเถอะๆ พี่อยากทำให้กิน ไม่เหนื่อยหรอก เวลาเด็กๆไปโรงเรียนกันหมดแล้ว พี่ก็ว่างทำแต่งานบ้านเท่านั้นละ”

ร่างโปร่งทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้หวายแล้วตักเครื่องปรุงเติมใส่อีกเล็กน้อย ก่อนจะละเลียดกินเพราะยังร้อน

“อยู่คนเดียวเป็นไงบ้างละเรา”

วนารีมองรูปร่างสะโอดสะองขึ้นกว่าแต่ก่อนของน้องชาย จะเรียกว่าผอมก็ว่าได้ ความจำเป็นของชีวิตทำให้วนารีต้องติดตามสามีมาอยู่ที่เชียงใหม่ห่างไกลกับน้องชายเพียงคนเดียว ไม่มีโอกาสร่วมรับรู้สารทุกข์สุกดิบของน้องชาย จะเจ็บจะป่วยก็ทำได้แค่โทรศัพท์บอกให้ดูแลตัวเองให้ดีๆก็เท่านั้น คิดไปน้ำตาก็รื้นเรื่อขึ้นมา ใจอยากจะให้น้องขึ้นมาอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้ เพราะหากตนเลือกได้ก็ขอเลือกอยู่บ้านเกิดตัวเองเหมือนกัน

“ผมสบายดีนะพี่ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ” วนัสพูดหยอกเย้าพี่สาวที่ทำหน้าตาเหมือนอยากจะร้องไห้

“ก็มันอดห่วงไม่ได้นี่ ดูสิ ผอมเชียว” วนารีเดินเข้ามาจับแขนน้องชายอย่างชั่งน้ำหน้า

“หึๆ ก็ทำไร่นี่ครับ ถ้าอ้วนสิแปลกพี่ แต่ผมสุขสบายดีจริงๆนะ ที่ไร่ก็เข้าที่เข้าทางขึ้นเยอะเลยตอนนี้ ไว้พี่ว่างๆช่วงเด็กปิดเทอมก็ลงไปดูสิครับ”

“พี่ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ว่าไร่สวนก็ต้องดู แล้วยังไปทำงานกับคนอื่นอีก จะไหวหรือไม้ ไม่เหนื่อยหรือ ถ้าเงินไม่พอก็เอาเงินค่าเช่าห้องแถวไปใช้ก็ได้นี่ ไม่ต้องส่งให้พี่ทุกเดือนหรอก พี่น่ะมีกินมีใช้ไม่ได้เดือนร้อนอะไร” หญิงสาวพูดไปก็ทรุดตัวนั่งทานราดหน้าข้างน้องชาย

“เงินน่ะพอใช้ พี่ไม่ต้องห่วง ส่วนไร่สวนก็ได้คุณภูผาคอยช่วยดูให้อยู่ เลยไปได้สวย”

“เหรอจ๊ะ คุณภูผานี่เจ้านายที่ทำงานใช่มั้ย ดูสนิทกันดีนะ เห็นเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์บ่อยๆ”

“ก็...........ก็สนิทกันดีครับ” วนัสตอบเหมือนมีอะไรมาติดคอ สนิทสนมกันมากเลยละพี่ สนิทจนบอกพี่ไม่ได้นั้นละ ถ้าพี่รู้จะคิดยังไงบ้างก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อมจะให้พี่มารับรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ของตนเองกับภูผา คงต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะที่ควรดีกว่า

“ก็ดีแล้วจ๊ะ เจอคนดีก็ควรจะถนอมน้ำใจไมตรีกันไว้นานๆ เดี๋ยวนี้หายากนะ คนที่เขาจะคบกับเราแบบจริงใจไม่มีผลประโยชน์ติดสอยห้อยตามมาด้วย”

“โธ่พี่.........คุณภูผาเขารวยจะตาย ผมไม่มีประโยชน์อะไรจะให้เขาหาหรอก” วนัสพูดติดตลกให้พี่สาวค้อนขวับ

“เดี๋ยวนี้ผลประโยชน์มันไม่ใช่แค่เงินทองนะไม้ ไม่เห็นเหรอ ที่เขาโกงบ้านโกงเมืองกันตอนนี้นะ มันใช่แค่ตัวเงินซะที่ไหน”

“โฮ้.....พี่เรา เกาะติดสถานการณ์ซะด้วย”

“ยังจะมาล้ออีกแนะ” วนารีทำท่าจะเขกศีรษะน้องชาย จนวนัสต้องเอียงตัวหลบมะเหงกพี่สาวเป็นพัลวัน

สองพี่น้องกินอิ่มก็ยังนั่งคุยสัพเพเหระไปเรื่อย จนใกล้ได้เวลาลูกของพี่สาวทั้งสองคนเลิกเรียน จึงได้แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน วนัสกลับไปนั่งอ่านหนังสือต่อเพราะไม่มีอะไรจะทำด้วยพี่สาวไม่ยอมให้ทำนั่นละ

วนัสเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มเหมือนฝนจะตก ใจจึงกระหวัดนึกถึงถิ่นที่อยู่ที่ตนจากมาชั่วคราว ที่นั่นมักจะมีฝนตกอยู่สม่ำเสมอจนเป็นเรื่องปกติ

แล้วคนที่นั่นตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ทั้งๆที่เพิ่งจะคุยโทรศัพท์กันไปเมื่อคืนนี้เองแท้ๆ ก็ยัง.......................

“พรุ่งนี้ไปกาดสวนแก้วกับพี่นะ จะได้หาซื้อของฝากกลับไปด้วย”

เสียงพี่สาวตะโกนเตือนดังมาจากห้องครัวทำเหมือนวนัสยังเป็นเด็กเล็กๆ ต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแลตลอดเวลา ทำให้หัวใจของน้องชายอุ่นขึ้นมา ในสายตาของพี่ เขาก็ยังเป็นเด็กวันยังค่ำละ


แต่ยังมีอีกคนที่ทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นได้เหมือนกัน วนัสคิดอย่างเหม่อลอย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแรงๆ

ถ้าจะบ้าแฮะ เพิ่งห่างกันไม่กี่วันเองนะไอ้นัส คิดถึงเขาอยู่ได้ ถ้าเขารู้ได้ใจกันพอดี

วนัสลุกขึ้นเดินไปหน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงลูกของพี่สาวสองคนกลับมาจากโรงเรียน

“มาให้น้าหอมคนละทีเร็ว” วนัสยิ้มรับหลานสองคน ก่อนจะเดินไปโอบตัวเด็กทั้งสองเข้าบ้าน

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\



“พ่อ เมื่อไรน้าไม้จะกลับมาซักที”

ภูผาอมยิ้มก้มมองบุตรชายคนเล็กคลานขึ้นมานั่งบนตักมองตนตาแป๋ว

“อีกสามสี่วันก็น้าไม้ก็กลับมาแล้วลูก ทำไม........เดี๋ยวนี้รักน้าไม้มากกว่าพ่อแล้วเหรอ น่าน้อยใจจังน๊า................” ภูผาแกล้งทำแก้มตุ่ยงอนลูกชายตัวเอง

“เปล่าครับ........แต่น้าไม้บอกว่า ถ้ากลับมาแล้วจะไปช่วยสร้างบ้านให้เมฆ” เด็กชายทำปากยื่นมองนิ้วมือตัวเอง

บ้านที่ว่าก็คือฐานลับของพวกเด็กๆนั่นเอง โดยการเอาทางมะพร้าวแห้งมาปักล้อมเป็นกระโจมหลายๆชั้น จนหนาพอจะบังแดดบังลมและสายตาของใครต่อใครได้ เพราะเด็กๆวัยนี้จะเลียนแบบพ่อแม่ และรู้สึกจะอยากมีอะไรเป็นของๆตน มีอาณาเขตเป็นของตัวเองที่ไม่อยากให้ใครมารุกล้ำเท่าที่แรงและกำลังจะทำได้ในวัยนี้ ภูผาลอบมองบุตรชายทำหน้ามุ่ยแล้วให้รู้สึกสงสารแกมเอ็นดู

“ไว้พรุ่งนี้พ่อไปช่วยทำน่ะลูก” ร่างสูงพูดเอาใจลูกชาย ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบรีโมทกดปิดทีวี

“ไม่เอา! พ่ออย่ามาดูนะ” เจ้าตัวเล็กทำหน้าหวงฐานลับสุดฤทธิ์

นั่นไง ภูผาเลิกคิ้วเป็นเชิงแปลกใจชั่วขณะ ถึงวัยเริ่มมีความลับกับพ่อแม่แล้วหรือเนี่ย เฮ้อ....................

“งั้นลูกก็ต้องรอน้าไม้กลับมาก่อนแล้วละ แต่ตอนนี้ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปโรงเรียนสายนะ” ภูผาไม่พูดเปล่า พลางคว้าร่างเด็กน้อยที่ดิ้นรนหัวเราะคิกคักขึ้นแบกพาดบ่า พาวิ่งไปยังห้องนอนที่มีพี่ชายนั่งขีดๆเขียนๆบางอย่างอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ

“ทำอะไรน่ะอิฐ ดึกแล้ว นอนเถอะลูก” ภูผาวางลูกชายคนเล็กบนเตียง แล้วเดินมาหาลูกชายคนโต

“คุณครูให้วาดรูปบ้านของฉัน เป็นการบ้านครับ เสร็จแล้วด้วย พ่อดูสิ” เด็กชายชูอวดภาพที่ตนวาดให้พ่อดู

ภูผายื่นมือรับสมุดวาดเขียนจากบุตรชายมาพิจารณา แล้วชมเปาะ

“มีหัวนี่ลูก สวยๆ” ภูผาชมลูกชายที่ดูจะชื่นชอบทางด้านศิลปะมากเป็นพิเศษ “แล้วบ้านเรามีใครบ้างหึ ไหนชี้ให้พ่อดูซิลูก”

เด็กชายยื่นหัวชะโงกมาดูรูปในมือพ่อ ก่อนจะเอานิ้วจิ้มไล่บอกไปเรื่อยๆ

“นี่พ่อ....... นี่เมฆ ......นี่น้องอิฐ.......นี่น้าไม้........นี่ป้าหยด อยู่ในบ้านของเราครับ”

ภูผาก้มลงหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่ มองภาพในมืออีกครั้ง ก่อนจะชวนลูกชายเข้านอน แล้วตนเองจึงเดินออกมานั่งที่โซฟายาวห้องรับแขก พลางทอดสายตามองฝ่าความมืด ใจนึกถวิลหาร่างอุ่นนุ่มนวล ที่ไม่เคยห่างกันนานๆมาก่อนตั้งแต่พบเจอกันครั้งแรก

จะโทรไปหาบ่อยๆก็เกรงใจกลัวอีกฝ่ายจะรำคาญ เพราะก่อนไปก็ดูจะหงุดหงิดที่เขาคอยตามจู้จี้อยู่ด้วย

คิดถึง.................................

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\


“อย่านอนดึกนะไม้ พรุ่งนี้ต้องไปซื้อของ”

“ครับพี่” วนัสรับคำพี่สาวแต่ตายังมองจอทีวีอยู่จนจบรายการรอบดึก จึงได้เข้านอนในห้องที่พี่สาวจัดไว้ให้

ร่างบางนอนตะแคงมองแสงนวลลออของพระจันทร์ข้างขึ้น สาดส่องผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาทาทาบพื้นห้องอย่างเงียบๆ

ถึงจะรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ร่วมกับพี่น้องท้องเดียวคลานตามกันมา แต่ก็มีบางอย่างที่รู้สึกขาดหายไป มันโหวงๆอยู่ในอกจนบอกไม่ถูก

“คุณภูผา..........”

\\\\\\\\\\\\\\\\\



“ไม่ลืมอะไรนะไม้” เสียงกังวลของพี่สาวร้องเตือนดังมาจากในบ้าน วนัสจึงก้มลงสำรวจข้าวของตนเอง รวมทั้งของฝากที่ตั้งใจจะเอาไปฝากคนที่ไร่ ก่อนจะส่ายหน้าตอบแทน

“จะรีบกลับไปไหนละไม้ ลางานมาตั้งอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ” พี่เขยของวนัสทักขณะเช็ดกระจกรถเตรียมตัวไปส่งน้องภรรยาที่สนามบิน

“ผมจะแวะเยี่ยมก้องที่กรุงเทพด้วยนะครับพี่ยศ”

“เหรอ เป็นยังไงบ้างละเจ้านั่น”

พี่ยศเองก็รู้จักมักจี่กับเพื่อนของเขาดี ด้วยเวลาปิดเทอมก็ขึ้นมาเยี่ยมพี่สาวเขาด้วยกันบ่อยๆ “ตอนนี้ลาออกจากงานมาช่วยแม่ที่ร้านอาหารนั่นละครับ”

นี่ละ เป็นสาเหตุให้เขาต้องแวะเยี่ยมเพื่อสนิทก่อนกลับไร่ให้ได้ เพราะตอนได้ทำงานที่สำนักพิมพ์แห่งนี้ทั้งเขาและเพื่อนดีใจกันมาก แล้วทำไมอยู่ๆถึงบอกกับเขาว่า ลาออกแล้ว เลยต้องแวะไปดูเพื่อนเสียหน่อย

หลังจากขนข้าวของขึ้นรถรถเรียบร้อย พี่เขยก็พาวนัสไปส่งที่สนามบิน ซึ่งวันนี้ผู้คนไม่หนาตาเช่นวันที่มา ก่อนเขาจะขึ้นเครื่องพี่สาวก็น้ำตาคลอๆจนเขาต้องฝืนยิ้มเดินเข้าไปกอดพี่สาวเสียทีหนึ่ง แล้วเดินเข้าด้านตรวจไปทั้งๆที่ยังมีเวลา

\\\\\\\\\\\\\\\\



“เฮ้...........ทางนี้” ก้องภพส่งเสียงเรียกเพื่อนที่เหลียวซ้ายแลขวาหาคนมารับ

วนัสเดินลากกระเป๋ามาหาเพื่อนที่เดินยิ้มเข้ามาช่วยถือกระเป๋าสัมภาระให้

“พี่รีสบายดีมั้ย” พอขึ้นมานั่งในรถยนต์คันใหญ่เปิดแอร์เย็นฉ่ำยี่ห้อดาวดวงเดียว ก้องภพก็ถามสารทุกข์สุขดิบเพื่อน พลางเหลียวมองกระจกหลังแล้วค่อยๆออกรถไปเรื่อยๆ

“พี่รีสบายดี เลี้ยงลูกปวดหัวทั้งวันนั้นละ” วนัสหัวเราะเมื่อพูดถึงบรรดาลูกๆของพี่สาว “แต่ว่านายเปลี่ยนรถใหม่เหรอ” วนัสกวาดตามองความโอ่อ่าภายในรถนอกคันโตที่เพื่อนขับมารับ

“เปล๊า! ของแม่น่ะ ฉันกำลังตกงานนะ จะไปเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อรถนอกแบบนี้ อาศัยใบบุญแม่ไปก่อนละกัน” ร่างผอมหัวเราะขื่นๆ

ก้องภพขยับพวงมาลัยบังคับรถหลบเลี่ยงบรรดารถมอเตอร์ไซด์ที่เข้ามาโฉบเฉี่ยวใกล้รัศมีรถคันงามของมารดาโดยปากก็พูดคุยไปด้วย วนัสมองสภาพความวุ่นวายรีบร้อนรอบตัว หลังจากไม่ได้เห็นมาเกือบปีอย่างรู้สึกมึนๆ มันช่างต่างกันลิบลับกับบ้านไร่ของเขาจริงๆ อยู่เงียบๆมานาน มาเจอสภาพรถเยอะ คนเยอะ ก็ทำเอาตาลายได้ง่ายๆ

“แล้วที่บอกว่าออกจากงานแล้ว มีปัญหาอะไรเหรอก้อง?” วนัสเหลือบตามองเพื่อน

ร่างผอมบางจับพวงมาลัยแน่น ก่อนจะแสร้งทำทีสนใจกับรถบนถนนแล้วค่อยตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงธรรมดา

“เอาน่า..........ถึงบ้านแล้วจะเล่าให้ฟัง แต่มันไม่มีอะไรหรอก” ก้องภพตัดบท พลางชวนคุยเรื่องอื่นให้เพื่อนละความสนใจจากเรื่องนี้

มาถึงบ้านก้องภพ เจ้าของบ้านก็ช่วยหิ้วสัมภาระไปไว้ในห้องของตนตามปกติ เหมือนอย่างทุกครั้งที่วนัสมาค้างด้วย

“นั่งพักให้หายเหนื่อย แล้วเดี๋ยวจะพาไปกินข้าวเย็นที่ร้าน ปานนี้แม่เตรียมเมนูพิเศษไว้รับนายแล้วละ” ก้องภพบอกเพื่อนพลางเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่โยนให้เพื่อน

“ขอบใจๆ ขออาบน้ำก่อนละกัน”

\\\\\\\\\\\\\\\\



“สวัสดีครับแม่ สบายดีมั้ยครับ” วนัสยกมือไหว้มารดาก้องภพ

“ก็ปวดโน้นเจ็บนี้ตามประสาคนแก่ละลูก”

วนัสมาถึงสวนอาหารเวลาย่ำค่ำก็ตรงเข้าไปสวัสดีแม่เพื่อนในห้องทำงานด้วยความสนิทสนม หญิงร่างท้วมท่าทางคล่องแคล้วยิ้มรับเพื่อนบุตรชาย แล้วเดินเข้ามาลูบหัวลูบหลังอย่างเอ็นดู เพราะเมื่อก่อนสมัยที่เด็กหนุ่มยังเรียนหนังสือก็มาเล่นที่บ้านอยู่เรื่อยๆ ปากก็เรียกหาลูกจ้างในร้านให้ไปจัดโต๊ะที่ซุ้มริมน้ำเตรียมตั้งอาหารเลี้ยงต้อนรับหลายรายการ

อากาศเย็นๆยามพลบค่ำย่านชานเมือง ช่างต่างกับเมื่อกลางวันที่เขาต้องฝ่าด้านรถติดจอแจจากดอนเมืองมาแถวย่านบางขุนเทียนลิบลับ ถึงว่าคนทำงานในเมืองถึงได้สรรหาสถานที่กินข้าวนอกบ้านจนธุรกิจนี้เฟื่องฟู ทำงานมากก็เหนื่อยมาก ก็เอาเงินที่หามาได้นี่ละ มาซื้อความสุข ความสบาย ความอร่อย และก็กินกันอย่างไม่ยั้ง ในเมื่อฉันมีเงิน วินัยในการกินจึงไม่ค่อยจะอยู่ในสมองซักเท่าไร แล้วโรคอ้วนก็ถามหาคนจำพวกนี้มากที่สุด พวกตามใจปากและไม่ยอมออกกำลังกายไงละ

วนัสมองผู้คนเดินเข้าเดินออกในสวนอาหารอย่างนึกทึ่งในกิจการที่ดูจะเป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้า จนเข้ามาใช้บริการกันไม่ได้ขาด เด็กเสิร์ฟเดินส่งอาหารจนขาขวิดกันเป็นแถวๆ

“กิจการดีน่าดูเลยนี่ก้อง” วนัสเอ่ยชม

“อือ......ช่วงนี้ฉันมาช่วยแม่ทำบัญชี เห็นแล้วตาโตเหมือนกัน ฉันทำงานทั้งปียังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของรายได้ที่นี่เดือนเดียวเลย” ก้องภพตอบไปตักน้ำต้มยำซดไป

“เลยออกมาช่วยแม่ดูแลร้านงั้นสิ”

“...........................” มือผอมๆที่กำลังจิ้มกุ้งอบวุ้นเส้นชะงักไปนิด ก่อนจะแทงส้อมลงบนกุ้งตัวโตเสียงดัง ฉึก! แล้วเอามาใส่จานตัวเอง

“ไม่ใช่หรอก หึๆ แต่รู้สึกว่าตัวเองโง่ยังไงก็ไม่รู้ เลยคิดจะเรียนโทต่อน่ะ” ก้องภพตอบไป พลางส่งกุ้งเข้าปากแล้วเคี้ยวหนักๆจนเห็นกรามนูนเป็นสัน


“อ๋อ......” วนัสพนักหน้ารับด้วยความรู้สึกโล่งใจ กับสิ่งที่เพื่อนบอก ก่อนมาก็กังวลว่าเพื่อนมีปัญหาอะไรรึเปล่าถึงได้ลาออกจากงานที่ชื่นชอบแบบกะทันหัน พอรู้แบบนี้แล้วก็รู้สึกสบายใจ

“แล้วสนใจเรียนที่ไหนละ” วนัสถามต่อ

“ก็ดูไว้หลายที่ ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกเลย ดูก่อนว่าเรียนที่ไหนแล้วจะพ้นจาก............” ไอ้บ้านั้น “จากความจำเจน่ะ อยากเปลี่ยนสายนิดหน่อย” ก้องภพลงมือแกะกุ้งอีกตัวส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พลางเสมองต้นไม้ใบหญ้าด้านนอกร้านไปเรื่อยๆจน............. “เฮ้ย!....”

อาการลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าของก้องภพทำให้วนัสมองตาม

“คุณภาคนี่!” วนัสที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของคนทั้งคู่ ยกมือขึ้นโบกไหวๆให้ร่างสูงได้สังเกตเห็น แล้วเดินตรงมาหา

“นั่งก่อนครับ คุณภาค” วนัสเชื้อเชิญร่างสูงนั่งอย่างกุลีกุจอ ในขณะที่เจ้าของร้านยังนั่งเฉยทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ภาคภูมิเลือกนั่งลงข้างๆก้องภพ แทนที่จะเป็นเก้าอี้วางข้างวนัสที่เจ้าตัวขยับให้

“ขึ้นมาเที่ยวหรือครับ” ภาคภูมิหันไปเอ่ยทักคนรักของเพื่อน ไม่สนใจท่าทีปั่นปึ่งของคนข้างๆ

“ครับ พอดีไปเยี่ยมพี่สาวที่เชียงใหม่ ก่อนกลับไร่เลยแวะที่นี่ก่อน แล้วคุณภาคมาที่นี่บ่อยหรือครับ” วนัสที่คิดไปเองว่า เพื่อนคงจะแนะนำชักชวนภาคภูมิให้มาที่นี่เอ่ยถาม

“ครับ มาหลายครั้งแล้ว แต่ว่าไม่เห็นบอกกันบ้างเลยว่านัสจะขึ้นมา” ประโยคหลังภาคภูมิหันไปต่อว่าอย่างไม่จริงจังกับคนนั่งเงียบข้างๆ หวังจะชวนคุยว่างั้นเถอะ

ฝ่ายก้องภพที่กลัวเพื่อนจะผิดสังเกตจึงตอบไปอย่างเนือยๆ

“นี่เพื่อนฉันไม่ใช่เพื่อนนาย ทำไมฉันต้องรายงานนายด้วยละ”

“แต่ตอนนี้เรา................” ภาคภูมิชะงัก ด้วยมีมือผอมๆมาคว้าหมับเข้าที่ต้นขาใต้โต๊ะ แล้วบีบแรงๆ เหมือนจะให้เขาหยุดพูดต่อ ก่อนจะเหลือบมองคนนั่งข้างๆมีสีหน้าเผือกลง จึงเกิดอาการอยากแกล้งเล่นขึ้นมาตะหงิดๆ เพราะหลายวันที่ผ่านมาถูกอีกฝ่ายหลบหน้ามาตลอด ก็ตั้งแต่กลับมาจากการขี่ม้าแล้วเลยไปหยุดพักอาบน้ำที่คอนโดของเขานั้นละ..............แต่วันนั้นก็ดูโอนอ่อนลงไปเยอะแล้วนี่นา เกิดไปเดินกระแทกเสาสมองกลับไปตั้งแง่อีกรึไงก็ไม่รู้

“อ้าว..........ก้อง ดูพูดเข้า” วนัสงุนงงเล็กๆเพราะเมื่อครู่เพิ่งจะคิดว่าทั้งคู่คงจะสนิทสนมกันแล้ว แต่ปกติเพื่อนเขาคนนี้เป็นคนอารมณ์ดี แล้วทำไมกับคุณภาคภูมิถึงได้เขม่งกันแบบนี้ก็ไม่รู้ ดูๆแล้วเหมือนเด็กทะเลาะกันยังไงยังงั้นเลย

“ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนนัสเขาเหม็นหน้าอะไรผมนักหนา นี่ชวนไปไหนก็ไม่ไปนะ คนรู้จักกันก็อยากจะสนิทๆกันไว้ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน จริงมั้ยนัส” ภาคภูมิพยักหน้ากับร่างโปร่งเหมือนหาพวก

“ก็จริงครับ” วนัสตอบแบบยิ้มๆ แต่ก้องภพแทบจะกระโดดเข้าไปชกปากคนที่พูดจายกตัวได้รื่นไหลไม่อายปาก ตอแหลสุดๆ

วนัสหันไปชวนภาคภูมิคุยเมื่อผู้เป็นเพื่อนไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีนัก ก่อนจะขอตัวเข้าห้องน้ำ ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้อยู่กันตามลำพัง

เมื่อได้อยู่กันตามลำพัง ก้องภพก็ถือโอกาสระบายความหงุดหงิดที่เก็บกดไว้ใส่ร่างสูงขาวทันที

“นายจะพูดอะไรเมื่อกี้นี้ห๊า!”

“ก็พูดเรื่องจริง นัสเขาเป็นคนมีเหตุผลหรอกน่า........” ภาคภูมิส่งยิ้มให้คนหน้าตาแดงก่ำ



ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 14 (14/11/2010)
«ตอบ #509 เมื่อ14-11-2010 23:01:44 »

“นายจะบ้าเหรอ........ถ้านายพูดอะไรออกไป ฉันจะฆ่านาย” ก้องภพจ้องตาภาคภูมิเขม่ง ราวกับจะฉีกเนื้ออีกฝ่ายให้เป็นชิ้นๆถ้าทำได้

แต่ยังไม่ทันได้โต้เถียงกันต่อ วนัสก็กลับเข้ามาขัดตาทัพไว้ซะก่อน ทำให้ก้องภพจำต้องสงบปากกินข้าวต่อไปเงียบๆ

ภาคภูมิมองคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างขำๆ แต่ในเมื่อจับจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้แล้วจะปล่อยโอกาสนี้ไปก็ยังไงอยู่ ร่างสูงวางมือตนเองบนต้นขาเพรียวใต้โต๊ะ ให้ร่างผอมส่งสายตาเขียวๆพูดอะไรไม่ออกมาให้ เพราะมีเพื่อนนั่งอยู่ตรงข้าม ปลายนิ้วแข็งแรงค่อยๆลากเขียนตัวอักษรที่ละตัวๆ บนต้นขาก้องภพหนักๆ จนร่างผอมจับใจความในภาษานั้นได้

พรุ่ง.......นี้.......เจอ......กัน......ถ้า....ไม่.........ตก..........ลง.........ฉัน....จะ....บอก...........นัส..........ว่า..........เรา...........คบ..........กัน..............อยู่.........นัส.........คง..........ดี....ใจ........กับ............เรา

กว่าจะเขียนจนครบก็ทำเอาก้องภพแทบกลั้นใจตาย กับเนื้อหาใจความที่ภาคภูมิส่งถึง

ไอ้บ้า ก้องภพโกรธจนหน้าเขียว แต่ไม่สามารถลุกขึ้นไปบีบคอคนเจ้าเล่ห์ได้ จึงจำต้องเคี้ยวข้าวในปากแรงๆระบายอารมณ์โกรธ และภาคภูมิยังคงสะกิดต้นขาเบาๆขอคำตอบ ทำให้ก้องภพไม่อยากเสี่ยงวัดใจกับคนบ้า จึงส่งเสียงตอบลอดไรฟันออกไป แล้วแอบปัดมือใหญ่ออกจากต้นขาโดยเร็ว

“รู้แล้ว!”

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

“นัส”

“หือ?”

ร่างชายหนุ่มสองคนนอนคุยกันบนเตียงก่อนนอน เป็นเรื่องปกติของวนัสกับก้องภพเวลาที่อยู่ด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างเล่าเรื่องสัพเพเหระสู่กันฟังอย่างเพลิดเพลิน เมื่อก่อนเวลามีเรื่องอะไรอึดอัดคับข้องใจก็จะปรึกษาหารือกันตลอด ไม่เคยปิดบัง แต่ ณ วันนี้ทั้งคู่กลับมีความลับที่ไม่สามารถจะเล่าสู่กันฟังได้อย่างปกติ ความอึดอัด ต้องระวังคำพูดที่กลัวจะหลุดอะไรออกไปให้อีกฝ่ายล่วงรู้ ทำให้สองหนุ่มหลีกเลี่ยงการพูดเรื่องส่วนตัว

ฝ่ายวนัสเองอาจจะพยายามเพียงแค่เลี่ยงการพูดเรื่องส่วนตัวเท่านั้น เพราะตัวเองยังไม่พร้อมจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของตนกับภูผาให้เพื่อนรู้ตอนนี้ แต่สักวันเขาจะเล่าให้เพื่อนคนนี้ฟังแน่นอน แต่ฝ่ายก้องภพสิ ไหนจะต้องปกปิดเรื่องของตัวเองกับภาคภูมิแล้ว ยังจะคันปากอยากถามสิ่งที่เห็นก่อนกลับจากไร่ภูผาคราวก่อนอีกต่างหาก

วนัสคบหากับคุณภูผา คุณภูผาที่เป็นผู้ชายอะนะ สนิทสนมกันมาตั้งนานไม่เคยเห็นเพื่อนจะมีท่าทีชอบเพศเดียวกันเลย หรือว่าถูกบังคับอย่างเขาแล้วเลยตามเลย แต่คุณภูผาไม่เหมือนเจ้าภาคภูมิซะหน่อย คงไม่ทำนิสัยเสียอย่างนั้นหรอก อยากจะถามเพื่อนตรงๆก็กลัวเพื่อนจะรู้สึกไม่ดี แล้วจะทำยังไงดีละ

“มีอะไรหรือก้อง” วนัสถามเพื่อนที่จู่ก็เงียบไป”

“ก็.........ก็เป็นห่วง อยู่คนเดียวสบายดีแน่เหรอ ไม่ได้ฝืนทำอะไรอยู่ใช่มั้ย” ก้องภพลองเรียบเคียงถาม

“เปล่านี่..ฉันสบายดี พูดเป็นพี่สาวฉันไปได้” วนัสนอนมองฟ้ามืดๆนอกหน้าต่าง พลางอมยิ้มในความขี้ห่วงของเพื่อน

“แล้วคนรอบๆข้างเขาดีกันนายรึเปล่า”

“อืม”

“แล้วคุณภูผาเขาดีกับนายมั้ย เขาบังคับอะไรนายรึเปล่า”

“.................................” วนัสไม่ตอบในทีเดียว แต่หันกลับมามองเพื่อนพร้อมรอยยิ้ม

“รายนั้นน่ะนะ ดีจนฉันเกรงใจที่สุดเลยละ” น้ำเสียงแสดงความชื่นชมคนที่พูดถึงอย่างจริงใจ ทำให้ก้องภพที่คิดกังขาในความรู้สึกตนเอง ต้องยอมกลืนคำถามที่ยังสงสัยอื่นๆลงท้อง

ในเมื่อเพื่อนมีความสุขแล้วจะฟื้นฝอยให้เพื่อนกระอักกระอ่วนใจไปทำไม เรื่องแบบนี้เขาไม่มาพูดบอกกันสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก แต่ซักวันเมื่อเพื่อนพร้อม เพื่อนคงจะเล่าให้ฟัง

ก็ดูตัวเขาเองสิ ยังไม่กล้าจะปรึกษาเรื่องภาคภูมิกับเพื่อนเลย ก็มันไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนดี เจ้าบ้านั้นก็เร่งรัดทุกวี่ทุกวันจนเขาสับสน ร้อนรน คิดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้มันเลยตามเลยไปเรื่อยๆ แต่ ณ วันนี้ เขาพูดได้เลยว่า ไม่ได้รังเกียจภาคภูมิ แต่ทุกอย่างมันรวดเร็วจนเขาตั้งตัวไม่ทัน ไม่รู้ว่าควรจะเดินไปทางไหนถึงจะดี เขาอยากหาจุดยืนของตัวเองให้เจอจัง

“กังวลอะไรอยู่รึเปล่า” วนัสเอ่ยถามเพื่อนที่ดูเหมือนจะเหม่อคิดอะไรอยู่คนเดียว

ก้องภพหันมองหน้าเพื่อนในระยะใกล้ แล้วจึงส่ายหน้าช้าๆ

“กำลังคิดว่านายจะมีความสุขมั้ย อยู่แบบนั้น”

“หือ......ฉันว่าก้องห่วงตัวเองดีกว่า ตอนนี้ก้องดูเหมือนกังวลอะไรอยู่ก็ไม่รู้” วนัสหรี่ตามองคนที่ทำหน้าเนือยๆ

“ฉัน...........ดูเป็นยังงั้นเหรอ?”

“อืม”

“สงสัยคงจะว่างมาก ไม่มีอะไรจะทำเลยฟุ้งซ่านละมั้ง แต่ฉันสบายดีนะ ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก นายนั้นละอยู่คนเดียว ดูแลตัวเองให้ดีๆละ” ก้องภพเสหัวเราะเก้อๆ

“มีอะไรก็บอกนะก้อง” สัญชาตญาณในตัวมันบอกว่าเพื่อนยังคงมีเรื่องอะไรบางอย่างที่คิดไม่ตกอยู่ในใจแน่ จะเค้นถามก็คงจะเป็นการไปกดดันเพื่อน ซึ่งก็คงไม่ดีนัก ตอนนี้ทำได้ก็แค่รอให้เพื่อนเปิดใจพูดออกมาเองเท่านั้น

“แล้วพรุ่งนี้คุณภูผามารับรึเปล่า” ก้องภพเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อรู้สึกว่าเพื่อนยังแคลงใจในตัวเอง

“อืม.......... เห็นว่างั้น”

“งั้นนอนเถอะ พรุ่งนี้ได้นั่งรากงอกแน่” ก้องภพสะบัดผ้าห่มคลุมร่างตัวเองและเพื่อนก่อนจะพากันหลับใหลในที่สุด

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\


“ครับ ถึงเพชรบุรีแล้วครับ ไว้ใกล้ๆถึงแล้วผมจะโทรไปบอกนะครับ ครับ แล้วเจอกัน”

เสียงพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือแผ่วเบา เพราะอยู่ในรถทัวร์ที่บรรดาผู้โดยสารต่างหลับกันเป็นส่วนใหญ่ ภายในห้องโดยสารจึงเงียบสนิท ภูผาโทรมาเช็คเป็นระยะๆว่าวนัสถึงไหนแล้วจนร่างบางคิดว่า กว่าจะถึงชุมพรเขาคงต้องถือโทรศัพท์มือแข็งแน่ๆ เล่นโทรมาทุกชั่วโมง หลังจากวางสาย ร่างบางก็ปรับระดับพนักเก้าอี้เอนลงแล้วหลับตาด้วยความง่วง

พอถึงจุดหมายปลายทางวนัสก็พบร่างสูงใหญ่ของภูผามารอรับอยู่ก่อนแล้ว ร่างสูงมีสีหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นร่างโปร่งบางลงมาจากรถทัวร์ ร่างที่ไม่ได้เห็นมาเป็นอาทิตย์ ทำให้หัวใจร่างสูงเต้นรัว เหมือนเด็กหนุ่มเริ่มริรักไม่มีผิดจนอดขำตัวเองไม่ได้ ภูผาเดินเข้าไปช่วยวนัสถือข้าวของแล้วนำพาไปยังรถตนที่จอดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของสถานีขนส่ง

เหมือนช่วงเวลารอคอยสิ้นสุดลง ร่างโปร่งบางยิ้มให้ร่างสูงด้วยหัวใจแช่มชื่น ไม่คิดเลยว่าจะรู้สึกดีใจเมื่อได้เห็นหน้าชายหนุ่มลูกสองได้มากขนาดนี้ แม้เวลานี้เขาจะไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองรักผู้ชายคนนี้ก็ตาม แต่ความรู้สึกสุขใจนี้ มันคือความจริง

“หิวมั้ย ไปหาอะไรทานก่อนกลับไร่กันเถอะนะ” ภูผาพาวนัสไปร้านอาหารริมทะเล บรรยากาศเงียบๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ชวนให้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งรถเป็นเวลานานๆได้เหมือนกัน ร่างบางเลือกโต๊ะที่มองเห็นชายทะเลยามเย็นได้ถนัดๆ ก่อนจะสั่งอาหาร 3-4 อย่างมาทาน ส่วนร่างสูงก็ได้แต่พยักหน้าเห็นดีด้วยทุกอย่าง

วันหลังจะสั่งลาบเลือดมาให้กิน ดูสิ จะกินได้มั้ย วนัสคิดค่อนขอดอีกฝ่ายอยู่ในใจ เพราะรู้ว่าภูผาไม่ชอบกินของสุกๆดิบๆ

ตลอดเวลาที่ทานข้าว ภูผาได้แต่นั่งมองใบหน้าขาวๆ เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ จนอีกฝ่ายต้องก้มหน้าก้มตาตักข้าวอย่างเก้อเขิน หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารทะเลที่แสนอร่อย ภูผาจึงพาวนัสกลับบ้าน

รถแลนด์โรเวอร์ของภูผาไม่ได้พาวนัสกลับบ้าน แต่พาเลยไปยังไร่ภูผา ทำให้ร่างบางมองอีกฝ่ายฉงน

“มีอะไรหรือครับ” วนัสเอ่ยถามเมื่อรถแล่นเลยทางแยกเข้าบ้านตน

“อย่าอยู่คนเดียวเลยนะนัส วันนี้ไปให้เด็กๆเห็นหน้าที่บ้านฉันดีกว่า แล้วพรุ่งนี้ค่อยเอาของมาเก็บบ้านนะ”

วนัสไม่ต้องเสียเวลาตีความ ก็รู้ว่าร่างสูงปรารถนาจะอยู่กับตนในคืนนี้

ภูผาเหลือบมองใบหน้านวลมีสีเข้มขึ้นเล็กน้อย จึงเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กนุ่มขึ้นมากุมไว้หลวมๆ ให้ใจร่างบางเต้นโครมครามจนต้องเสมองออกไปนอนรถ ก่อนจะเอ่ยเตือนอีกฝ่าย

“อันตรายครับ” วนัสเตือนให้ภูผาปล่อยมือตน เพราะแม้จะชำนาญทางขนาดไหน แต่การขับรถมือเดียวมันประมาทเกินไป

พอมาถึงไร่ภูผา ลูกลิงสองตัวก็รีบโผเข้ามาเกาะหน้าเกาหลังปีนป่ายร่างโปร่งเป็นการใหญ่ด้วยความคิดถึง

“มากอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ น้าไม้มีของมาฝากด้วยนะ” วนัสถูกเด็กๆตามติดหนึบเลยต้องอยู่เล่นหกคะเมนตีลังกากันพักใหญ่ จนเจ้าทโมนทั้งสองเหนื่อยหลับคาตักต้องอุ้มเข้าไปนอนด้วยกันทั้งคู่ แล้วจึงได้เข้าไปจัดการกับเนื้อตัวตนเองบ้าง

“เป็นไง ถูกรุมซะเหนื่อยเลยสิ” ร่างสูงทักเมื่อวนัสก้าวเข้ามาในห้องนอนหลังจากกล่อมพวกเด็กๆหลับไปแล้ว มือใหญ่ปิดหนังสือในมือแล้วก้าวลงจากเตียงไปหาร่างบางที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“อาบน้ำเลยมั้ย”

“ครับ”

เพราะเปิดเพียงไฟหัวเตียงไว้เท่านั้น ภายในห้องจึงมีเพียงแสงสีนวลอ่อนสลัวอำพรางพวงแก้มนวลซับสีโลหิตจางๆไว้จากสายตาคมกริบ แต่น้ำเสียงแหบพร่าก็แสดงชัดถึงอารมณ์สั่นไหว วนัสจึงเลี่ยงเดินไปหยิบชุดนอนเพื่อผลัดเปลี่ยนหลังอาบน้ำ แต่กลับถูกมือใหญ่ยึดไว้พลางลงมือปลดกระดุมเสื้อให้อย่างช้าๆ จนวนัสต้องกลั้นหายใจตั้งรับกับท่าทีแสดงออกถึงความต้องการของร่างสูงที่มีต่อตน

ภูผาเพียงปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้ร่างโปร่งบาง แล้วจูงเข้าไปในห้องอาบน้ำ มือใหญ่ค่อยๆลูบไล้ไปตามผิวกายขาวนวลอย่างทะนุถนอม สายตาคู่คมตรึงร่างกายวนัสให้นิ่งงัน ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามที่ใจคิด มีเพียงสายตาเท่านั่นที่กลิ้งกลอกมองร่างสูงก้มๆเงยๆ ขัดถูผิวกายตัวเองโดยไม่เอื้อนเอ่ยใดๆออกมา

ผิวกายนุ่มเนียนซึมซับความอ่อนหวานที่ร่างสูงใหญ่ส่งสื่อมาให้ทั้งทางสายตา และสิ่งที่กระทำราวกับเขาเป็นแก้วบางใสที่ต้องคอยทะนุถนอมประคับประคองอย่างดี แล้วจะให้ปฏิเสธได้ลงคอยังไงกัน

สายน้ำเย็นฉ่ำชำระล้างฟองสบู่ขาวลื่นออกจากผิวกายเนียนเรียบจนหมดจด ริมฝีปากได้รูปโน้มแนบหน้าผากมนอย่างรักใคร่ พลางหยิบผ้าเช็ดตัวที่คล้องคอตนเองขึ้นซับหยดน้ำบนผิวกายร่างเล็ก

วนัสมองมือใหญ่ค่อยๆสัมผัสผิวกายตนอย่างนุ่มนวลด้วยอาการเต็มตื้อในหัวใจ ก่อนจะถูกจูงออกมานั่งบนเตียง โดยมีร่างสูงทรุดกายนั่งตรงข้ามแล้วโน้มตัวแนบริมฝีปากกับหน้าผากมนอีกครั้ง ก่อนจะเคลื่อนไปที่เปลือกตา พวงแก้ม แล้วกดแผ่วพลิ้วบนริมฝีปากสีสด ส่งปลายลิ้นอุ่นเข้าไปชิมรสสัมผัสหวาน ความสุขล้ำทำให้ร่างสูงกดย้ำดุนดันจนศีรษะทุยผงะหงายหลัง

“อืม.........คุณภูผา” วนัสครางเครือเมื่อหลังสัมผัสกับที่นอนนิ่ม

“คิดถึง” ภูผาเอ่ยย้ำข้างติงหูขาว

“อืม” เสียงตอบสั่นสะท้าน เมื่อมือใหญ่ลูบไล้หนักหน่วงจากชายโครงสู่กลางลำตัวที่อ่อนนุ่ม แรงอารมณ์พัดโหมเข้าใส่จนวนัสต้องยืนแขนเข้าโอบกอดลำคอหนาไว้แน่น ให้คนหน้าคมยกยิ้มเอ็นดู แล้วจึงค่อยๆขยับลูบรั้งแกนกายร่างบางจนแข็งชัน

“นัส.....แยกขาอีกนิด อย่าเกร็งนะไม่เจ็บหรอก” ร่างสูงพูดปลุกปลอบร่างเล็กที่พยายามหนีบต้นขาตนเองแน่น กันมือใหญ่ที่พยายามรุกคืบสู่เบื้องล่างอย่างขัดๆเขิน

ภูผาลูบต้นขาขาวช้าๆก่อนจะสอดมือแยกเรียวขาออกจากกัน แล้วแทรกปลายนิ้วไล้วนช่องทางแคบ นวดคลึงจนอ่อนนิ่ม ก่อนจะค่อยๆแทรกผ่านกลีบเนื้ออย่างค่อยเป็นค่อยไปให้ร่างบางคลายความกังวล

“นัส...........” เสียงเรียกชื่อสั่นกระเส่าจนดวงตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นมองภูผาขยับตัวขึ้นคร่อมร่างกายตนเองเต็มเนื้อเต็มตัว แล้วค่อยๆกดกายใหญ่เข้าช่องทางอุ่นร้อนอย่างช้าๆ

“อือ...............!” แม้จะไม่รู้สึกเจ็บแต่ความคับแน่นอึดอัดก็ทำให้สะโพกมนยกสูง พยายามปรับร่างกายตนเองให้สอดรับกับการสอดแทรกสิ่งใหญ่โตเข้ามาในตัว

“อย่าเกร็งนัส..............นั่นละ.......ดีมาก” เสียงภูผาพูดปลอบเบาๆใกล้ติงหูนิ่ม จนใบหน้านวลต้องขยับหนีปลายลิ้นอุ่นที่แทะเล็มซุกไซร้ จนเสียวสะท้านไปทั้งร่าง

“แฮกๆ...................อือ”

เสียงขยับเข้าออกซ้ำๆสะท้อนดังเข้าหู จนวนัสอยากจะหยิบผ้าห่มขึ้นมาปิดบังใบหน้าตัวเองตอนนี้เสียจริง มันคงแสดงออกให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาก็รู้สึกต้องการความสุขนี้มากมายเช่นกัน

“ยังงั้นละ” ภูผางึมงำเมื่อวนัสปรับร่างกายให้สอดรับไปกับจังหวะการสอดแทรกของตน ร่างสูงโถมกายเข้าหาร่างบางแนบแน่น เนิบนาบ เหมือนค่อยๆซึมซับความหวานรัญจวนเข้ามาในหัวใจ

ทำไมถึงรู้สึกได้ขนาดนี้นะ ร่างขาวบางสั่นสะท้านในวงแขนกำยำคิดวนอยู่ในใจ รู้สึกอยากจะกอดแผ่นหลังนี้ให้แน่นๆ จูบปลายคางสากปุ๋มที่เข้ามาคลอเคลียพวงแก้มให้แสบระคาย อยากจะทำทุกๆอย่างให้อีกฝ่ายพอใจ ความรู้สึกที่มันเอ่อล้นนี้ทำให้ร่างบางเพิ่มแรงโอบกอดแน่นขึ้น จนภูผาต้องผละหน้าจากซอกคอหอมกรุ่นมองใบหน้าเนียนที่หลับตาแน่นหอบหายใจแรง แล้วก้มจูบที่เปลือกตาบางหนักๆ

“ดีมั้ย.........นัส”

เสียงถามน่าอายพร้อมกับมือที่ไต่แตะบดบีบยอดอกสีเข้ม ทำให้คนที่พยายามสะกดกลั้นเสียง หันหน้าซุกหมอนเป็นการใหญ่ไม่คิดจะตอบคำถามอีกฝ่ายแน่นอน

เมื่อเห็นร่างเล็กหลบเลี่ยง ภูผาจึงถอนกายตนเองออกจากช่องทางอุ่น ทำให้วนัสลืมตามองร่างสูงด้วยความงุนงง

“อือ..........อา”

แกนกายร้อนผ่าวของร่างบางเข้าไปอยู่ในโพรงปากชุ่มชื้น ลิ้นอุ่นตวัดดูดกลืนขบเม้นปลายแกนกายเบาๆให้ร่างบางร้องคราง ต้นขาขาวสั่นสะท้านยกหยัดสะโพกเข้าหาริมฝีปากที่มอบความสุขสมมาให้ จนความรู้สึกพวยพุ่งสองมือเล็กจึงกดขยุ้มศีรษะร่างสูงไว้แน่นระบายความอึดอัด

“ชอบมั้ย”

บงการ! สายตาแวววาวตวัดค้อนร่างสูงที่เหลือบมองคอยคำตอบ จะให้ตอบให้ได้ใช่มั้ย เจ้าเล่ห์นักนะ

“อือ!” คำตอบห้วนสั้นติดฉุนๆจนภูผายิ้มขำ ก่อนจะผละริมฝีปากออกจากกายร้อนผ่าวแข็งชันพร้อมปลดปล่อย แล้วฝั่งกายตนลงสู่ช่องทางอุ่นแน่นอีกครั้ง

สะโพกแกร่งค่อยๆขยับเร็วขึ้นจนร่างเล็กครางไม่ได้ศัพท์ แขนเรียวสวมกอดไหล่หนาไว้แน่น ยึดร่างสูงเป็นหลักประคองตัวจากการโยกไหว

“รักนะ” คำบอกรักหนักหน่วงของร่างสูง วนัสทำได้แต่เพียงพยักหน้ารับรู้ ด้วยอารมณ์ใกล้ถึงจุดสูงสุด

“อ๊า..............”

เสียงครางกระเส่าเกร็งร่างทั้งร่าง ปลดปล่อยสายน้ำอุ่นขาวออกมาให้ร่างสูงรับรู้และกระแทกกายพาตัวเองถึงจุดสุดยอดตามร่างบางไปติดๆ แล้วทรุดกายกอดร่างเล็กไว้หลวมๆหอบหายใจยาว ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่ความเงียบอีกครั้ง

วนัสที่เหนื่อยอ่อนกำลังจะเคลิ้มหลับทั้งๆที่มีอีกฝ่ายค้างคาในร่าง ด้วยวันนี้เดินทางมาทั้งวันต้องรู้สึกสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อริมฝีปากของภูผาเข้ามาเคล้าเคลียประทับจูบดุนดันสอดลิ้นเข้ามาตวัดพันเกี่ยวลิ้นอุ่นของตนอีกครา

“คุณภูผา!?”

“ยัง..............ฉันยังต้องการนัสอีก ต้องการอีกหลายๆครั้ง”

“อือ!”


\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\




เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านภูผาในเวลาสาย แสงแดดที่เริ่มแรงกล้าไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มที่นอนหลับใหลรู้สึกตัวแม้แต่น้อย ยิ่งคนตัวบางไม่ต้องพูดถึง สลบสไลไปตั้งแต่ร่างสูงยังไม่ได้ถอนกายออกในครั้งหลังสุดด้วยซ้ำ

ป้าหยดที่มาทำงานบ้านแต่เช้าตามปกติได้ยินเสียงจึงเดินกลับมาจากสวนหลังบ้านที่ตนกำลังเด็ดพริกชี้ฟ้าเอาไปทำแกงเขียวหวานไก่ เมนูวันนี้ เดินเข้ามาทางประตูหลังบ้านเพื่อจะออกไปต้อนรับแขกที่หน้าบ้าน

“ใครมาแต่เช้าเชียว” ยังไม่ทันได้เดินไปถึงประตูหน้าบ้าน แค่เพียงก้าวเท้าเลยผ่านห้องครัวมองเลยไปทางประตูหน้าห้องนอนเจ้านายก็ต้องชะงักงัน เมื่อแขกผู้มาเยือนเข้ามาถึงในบ้านเสียแล้ว และที่สำคัญยังถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนของเจ้านายตนไปแล้ว

“คุณนรี!”






TBC





มาเเล้วๆ ขอบคุณทุกคอมเมนท์ :call:





 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด