“ใครเขาอยากให้คนอย่างแกมารับผิดชอบกัน เดี๋ยวฉันจะไปแจ้งตำรวจให้มาลากคอแกเข้าคุกเลย คอยดู!” ก้องภพพูดไปร้องไห้ไป ยิ่งทำให้ภาคภูมิอดรู้สึกเอ็นดูคนที่น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆไม่ได้ เจ็บแบบนี้ยังไม่คิดจะทิ้งความปากดีอีกนะ
“จะไปแจ้งความฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก ฉันยอมถูกจับเพราะฉันข่มขืนนายจริง ฉันไม่คิดจะแก้ตัวหรอกนะ ถ้านายต้องการแบบนั้นก็ทำเถอะ แต่ฉันต้องบอกนายให้รู้ไว้ก่อนนะว่า นายต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจและระบุในเอกสารว่านายถูกข่มขืนจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเอาฉันเข้าคุก ทนอายหน่อยละกัน”
พอได้ฟังเท่านั้นละ ก้องภพก็แทบลมจับเบิกตามองอีกฝ่ายเต็มๆตา และก็ไม่พบพิรุธการโกหก ทั้งจากการประมวลความคิดในหัวตอนนี้ก็ตอบตัวเองได้ทันทีว่า มันต้องทำอย่างที่ไอ้บ้ากามนี่บอกจริงๆด้วย ไม่เอา!.................เขาไม่อยากอายเป็นรอบสองหรอกนะ
“ฮือๆ...........ไอ้บ้า...........แก....แกนะแก” ก้องภพปล่อยโฮออกมาอีกรอบ เมื่อสิ่งที่คิด ตัวเองไม่สามารถทำได้
“ก้อง................ฉันไม่มีใคร ไหนๆเรื่องมันก็มาจนปานนี้แล้ว คบกับฉันนะ” ภาคภูมิกดริมฝีปากกับขมับชื้นเหงื่ออีกครั้ง และสิ่งที่หลุดออกมาจากปากร่างสูงทำให้ก้องภพอึ้งงงกับประโยคที่ไม่คาดคิดอีกครั้ง
ไอ้นี่มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ข่มขืนเขาไปหยกๆ แล้วมาขอคบกันนี่นะ!
“ไม่! เด็ดขาด” ก้องภพตะโกนออกไปสุดเสียงอย่างเหลืออด แต่ก็ถูกภาคภูมิโอบรัดซุกซอกคอเหมือนไม่ได้ฟังที่เขาปฏิเสธออกไป
“ไม่เป็นไร ตอนนี้จะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร ฉันแค่บอกนายไว้ก่อน” ร่างสูงบรรจงหอมเส้นผมนุ่มตัดสั่นอย่างช้าๆ
บอกทำไม ร่างบางทำหน้าสงสัยเต็มที่ ทำให้จุดรอยยิ้มบนใบหน้าร่างสูงขาว
“ฉันก็จะจีบนายนะสิ”
“ห๋า!..........ไม่เอา!” ก้องภพพยายามกระเถิบตัวหนีทันที แต่ปฏิเสธไปก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์อะไรบางอย่างในตัวมันบอกว่า ไม่พ้นแน่ ก็ยิ่งแหกปากร้องเข้าไปอีก จนสุดปัญญาให้ภาคภูมิจะปลอบไหว ได้แต่ไล่ตามองร่างเปลือยในอ้อมกอดไปมา
เขาเองก็ยังหนุ่มยังแน่น ให้มาอดทนกอดคนเปลือยโดยไม่รู้สึกอะไรมันก็แปลกละ แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ก้องภพตกใจตื่นกลัวมากไปกว่านี้ จึงขยับตัวอกห่างนิด ก่อนจะถามก้องภพด้วยน้ำเสียงกึ่งปลอบกึ่งดุ
“หยุดร้องไห้เถอะ แล้วฉันจะพาไปอาบน้ำ ขืนไม่หยุดร้องยังโป๊อยู่อย่างนี้ เดี๋ยวฉันก็ยั้งใจไม่อยู่กันพอดี จะเอาอย่างนั้นมั้ย”
“อะ...................อี๊!” ก้องภพสะบัดหน้าฟุบกับที่นอนแล้วปล่อยโฮเป็นท่อน้ำประปาแตก เมื่อฟังคำขู่แกมหยอกของร่างสูง ด้วยทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย แถมยังต้องมาเป็นฝ่ายถูกกินแบบนี้มันเสียมั้ย โอ๊ย! อยากจะบ้าตายจริงๆ
คุณภูผานะคุณภูผา ต่อไปผมจะไม่เชื่ออะไรที่คุณพูดมาอีกแล้ว ตอนสอนขี่ม้าคุณก็บอกว่า ถ้าเจ้านี่สอนแล้วผมจะไม่ตกม้าแน่นอน แล้วเป็นไงหนีหายไปเฉยเลยจนผมตกม้าจนได้ แล้วเมื่อตอนขากลับกรุงเทพ คุณก็บอกว่า กลับกับเจ้านี่จะปลอดภัยไร้กังวล แล้วนี่มันอะไรกันคุณภูผา บ้าที่สุดเลย
///////////////////////////////////////////
“เหนื่อยมั้ย” ภูผาเดินถือแก้วน้ำเย็นจากในครัวยื่นส่งให้ร่างบางหลังจากสอนพิเศษให้กลับลูกชายของเขาทั้งสองคนเสร็จ และปล่อยลิงทั้งสองตัวให้ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกได้พักใหญ่ๆแล้ว
“ไม่หรอกครับ สนุกดีเหมือนกัน แต่เดี๋ยวการเรียนการสอนเปลี่ยนไปจากสมัยที่ผมเรียนเยอะเลยนะครับ”
วนัสรับแก้วน้ำยกขึ้นดื่มเกือบครึ่งแก้ว แล้วจึงวางบนโต๊ะกระจก มองชายหนุ่มทรุดตัวนั่งบนโซฟาข้างๆตัวเอง
นายภูผาของเขาจัดสรรเวลาเสาร์อาทิตย์ไว้สำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ ชายหนุ่มจะอยู่คอยดูแลลูกๆพาไปเที่ยวบ้าง ไปดูคนงานทำไร่บ้าง บางทีก็บอกกับลูกว่าถ้าอยากได้ค่าขนมเพิ่ม หรืออยากได้อะไรพิเศษก็ให้ไปถอนหญ้าในแปลงเพาะกล้าต้นไม้แลกเงินค่าแรงตามแรงงานเด็กเลยทีเดียว
ก็ดีนะ เด็กเขาจะได้มีความรับผิดชอบและเห็นค่าของเงินติดตัวไปจนโต ตอนนี้เห็นไปฝึกขี่ลาขี่ล่อไปพลางๆก่อนจะได้รับอนุญาตให้ขี่ม้า ซึ่งก็คงอีกหลายปีกว่าเด็กทั้งคู่จะขี่ม้าได้
“แต่แย่จังเลยนะครับ” วนัสเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่ม
“อะไรหรือ”
“ก็ข่าวโครงการของรัฐบาลที่จะตั้งโรงงานไฟฟ้าถ่านหินตรงชายฝั่งทะเลที่จังหวัดข้างๆเราสิครับ เห็นประทั้งกันน่าดู แล้วนี่ที่ดินคุณภูผาบริเวณนั้นถูกเวณคืนบ้างรึเปล่าครับ”
อาณาเขตของไร่ภูผาคาบเกี่ยวกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในบางส่วน และยังมีส่วนที่กระจัดกระจายไปตามที่จังหวัดต่างๆอีกหลายแห่ง และส่วนหนึ่งก็อยู่ติดชายทะเลที่มีโครงการจะปรับปรุงทำรีสอร์ทขนาดเล็ก เน้นการพักผ่อนกับธรรมชาติ
“ไม่โดนหรอก แต่ก็ถูกติดต่อขอซื้อที่ดิน แถวๆนั้นเหมือนกัน”
“เหรอครับ”
“อืม..............แต่ถึงจะไม่ขายก็ยังน่าห่วงอยู่เหมือน”
“ทำไมหรือครับ”
“ก็ที่ข้างๆเขาขายกัน ก็ไม่รู้ว่าต่อไปที่แถวนั้นจะเป็นพื้นที่สำหรับทิ้งกากถ่านหินใช้แถวรึเปล่า แล้วมันจะส่งผลกระทบอะไรกับพื้นดินสิ่งแวดล้อมรึเปล่า ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”
“คุณภูผาคัดค้านโครงการนี้หรือครับ”
“ก็ไม่ได้ค้านนะ แต่ยังไม่เห็นรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโครงการนี้สักที เอาที่หน่อยงานกลางเป็นคนจัดทำนะ ไม่ใช่ฝ่ายสนับสนุนหรือคัดค้านเป็นคนทำ หึๆ”
“เอ๋?” วนัสเลิกคิ้วขึ้น
ภูผายิ้มกับกิริยาเอียงคอมองเขา ทำตาแป๊ว
“ฉันไม่คิดจะต่อต้านความเจริญหรอกนะ แต่มันต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยต่อคนต่อสิ่งแวดล้อมด้วย จะมาทำส่งๆโกงกินงบประมาณกัน ฉันไม่เห็นด้วยหรอก” ร่างสูงตอบไปยิ้มไป
“ก็จริงของคุณ บริษัทเขาทำประชาวิจารณ์กันเงียบๆ ชาวบ้านชาวช่องไม่ได้รู้เห็นด้วยเลย แล้วไอ้รายงานตัวนั้นมันออกมาได้ยังไงก็ไม่รู้นะครับ”
“ก็ไม่รู้อะไรมันบังตาบังใจกันอยู่ เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เห็นว่าฝ่ายคัดค้านการก่อสร้างถูกไล่ยิงจนต้องหนีไปอยู่ที่อื่น”
“คุณภูผาก็ระวังตัวด้วยนะครับ” ใบหน้านวลมองใบหน้าคมเข้มติดรอยยิ้มอย่างนึกกังวล ก็เจ้านายเขาเป็นคนกว้างขวางคนหนึ่งในแถบนี้ แล้วยังรู้จักกับกลุ่มต่อต้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้า แถมยังช่วยเหลือกลุ่มผู้ชุมนุมเวลาเขามาขอบริจาคข้าวปลาอาหารอีกต่างหาก จะว่าเป็นผู้คัดค้านด้วยคนหนึ่งก็ไม่เชิง แค่หยิบยื่นน้ำใจให้กับคนที่เขาเดือนร้อนเท่านั้น ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมองจะเห็นการกระทำนี้แล้วแปลเจตนาออกมาในรูปแบบใด แต่คนที่มันใจยักษ์ใจมารขนาดตามฆ่าไล่ยิงกันได้ มันคงไม่ใช่คนที่หวังดีต่อประเทศชาติเป็นแน่แท้ สิ่งที่พวกมันทำ กำลังจะทำให้บ้านเมืองแผ่นดินเกิดฉิบหายย่อยยับในรุ่นเรา รุ่นหลานเรานี่ละ
“เป็นห่วงฉันด้วยรึ”
ร่างสูงใหญ่ชะโงกเข้ามาใกล้อย่างที่ร่างบางคาดคิด จึงไม่ได้แปลกใจอะไรกับความใกล้ชิดแบบนี้บ่อยๆ
“ความเป็นความตายอย่าเอามาล้อเล่นสิครับ” แววตาแน่วนิ่งห่วงใยของร่างบางทำให้หัวใจร่างสูงพองโตจนคับอก อยากจะคว้าคนตรงหน้ามากอดให้หายคับอกคับใจเช่นทุกวันนี้
วนัสเมื่อไรเธอจะรับรู้สัญญาณที่ฉันส่งไปซะทีละ ฉันจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้วนะ รู้สึกตัวซะทีเถอะคนดีของฉัน
“โอเค ไม่ล้อเล่นละ แต่ไปในเมืองกันมั้ย ฉันจะพาเด็กๆไปซื้อรองเท้าเตะบอลน่ะ”
“ครับ ก็ดีเหมือนกัน ว่าจะซื้อพวกของแห้งส่งไปให้ก้องเขาหน่อย มาวันก่อนไม่ได้ฝากอะไรไปให้ป๋ากันม๊าเขาเลย”
“งั้น................ไอ้รอยโว้ย............. ไปตามลูกๆฉันกลับบ้านหน่อย จะออกไปข้างนอก” ภูผาหันไปตะโกนเรียกเจ้ารอยที่ถากหญ้าอยู่ใกล้ๆบ้าน
เงียบไปพักหนึ่งเจ้ารอยคนงานใกล้ชิดก็ขานรับเสียงดัง แล้วคว้าจักรยานคันแก่งปั่นไปตามทางแคบๆยังคอกม้า หายไปพักใหญ่เจ้ารอยผิวดำก็ปั่นจักรยานหน้าตาตื่นกลับมา
“อะไรนะ! หาลูกฉันไม่เจอ” ภูผาถามกลับเสียงดังเมื่อเจ้ารอยมารายงาน
TBC
หึหึ หุหุ น่าสงสารน้องก้องจังเลย ร้องไห้ กระซิกๆๆ
ส่วนสองคนนั้นมัวเเต่สวีท ลูกหายไปไหนละเนี่ย
ขอบคุณทุกคอมเมนท์เช่นเคยค่ะ
ว๊าย ทิ้งท้ายไว้แบบนี้ สงสัยตอนหน้าดีเปรสชั่นจะเข้าน้องก้องซะแล้วละมั้งเนี้ย คิก คิก
ขอจับน้องหนอนกับน้องถิงเป็นตัวประกันค่ะ
ถ้าคุณรกร มาต่อน้องหนอน เจี๊ยบก็จะต่อนิยายเรื่องนี้ ห้าๆๆๆๆๆ
ติดหนึบเลยค่ะ น้องหนอนของพี่เนตร