WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE นิยายเปิดให้จองเเล้วค่ะ รายละเอียดหน้า 1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE นิยายเปิดให้จองเเล้วค่ะ รายละเอียดหน้า 1  (อ่าน 619194 ครั้ง)

Mercy

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #450 เมื่อ10-11-2010 09:25:50 »

 :mc4:  ฉลองๆๆๆๆ เย้ๆๆๆ ในที่สุด ก็  :-[ :-[

คุณภูผาใจร้อนจัง แต่ก็ชอบอะ ต้องงี้แหละเนอะ รวบหัวรวบหางซะเลย คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำหรอกจริงไหมคะ

เวลาที่นัสอยู่กับเด็กๆ แล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆ เลย
เหมือนนัสเป็นคุณแม่ คอยดูแลลูกๆ อิอิ น่ารักอะ


ขอบคุณนะคะ

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #451 เมื่อ10-11-2010 09:57:53 »

นายภูผามาหมัดมือชกกันแบบนี้น้องก็ตั้งตัวไม่ติดกันพอดี ดูแลความรู้สึกของน้องหน่อย ถ้าน้องเสียใจนายตายแน่....นายภูผา

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #452 เมื่อ10-11-2010 12:30:38 »

ในที่สุด ซีนที่เรารอคอยก็มาถึงแล้ว ฮิ้วววว

ว่าแต่ มัดมือชกใช่ย่อยเนอะ หุหุ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #453 เมื่อ10-11-2010 12:46:10 »

รัก ได้นุ่มนวลอ่อนโยนมากกกกกก
ไม่อยากให้ทั้งคู่มีอุปสรรคเลย เป็นคู่ที่น่ารัก เหมาะสมกันมากจริงๆ
 :กอด1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #454 เมื่อ10-11-2010 13:10:42 »

โดนไปแล้ว  โดนไปซะแล้ว  คุณหินก็ไม่ได้จะใจแข็งเป็นหินไปตลอดซักหน่อย
เอ  หรือเพราะรู้ว่าคุณภาคทำคะแนนนำไปแล้ว  เลยต้องทำคะแนนตามไปติด ๆ หว่า

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #455 เมื่อ10-11-2010 13:20:06 »

อ่านแล้ว รู้สึกว่า โดน อ่ะ   :o8:

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #456 เมื่อ10-11-2010 13:22:48 »

ได้กันแล้ว ฮิ้วววว~~~~~~

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #457 เมื่อ10-11-2010 13:24:07 »

โอ้ว...คอร์สระยะสั้น กระชับ รวดเร็ว ทันใจ
อารมณ์ประมาณว่า มาเร็ว เคลมเร็ว หุหุ

ป้าหยด อย่าคิดมากเลยนะ โลกเปลี่ยนไปแล้ว ^^

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #458 เมื่อ10-11-2010 14:24:35 »

ปากว่ามือถึงจริงๆคุณภูผา :z1:

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #459 เมื่อ10-11-2010 15:52:59 »

คิด และทำอย่างผู้ใหญ่จริง ๆ รวบหัวรวบหางก่อน ค่อยปล่อยเค้ากลับไปคิดถึงตัวเอง  o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2010 09:36:04 โดย หมวยลำเค็ญ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
« ตอบ #459 เมื่อ: 10-11-2010 15:52:59 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #460 เมื่อ10-11-2010 17:28:36 »

ได้เสียกันสักที อิอิ

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #461 เมื่อ10-11-2010 17:30:13 »

มัดมือชกจริง!!!
แต่แบบนี้เค้าก็เรียกสมยอมอ่ะเนอะ  :-[
แหม ถ้าไม่ทำแบบนี้นัสก็ยังเนียนไปตลอดกาลล่ะ!!

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #462 เมื่อ10-11-2010 18:09:12 »

 :z1: :z1: :z1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nidnoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 558
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #463 เมื่อ10-11-2010 18:28:27 »

โถ น้องนัส

อยู่ๆ ก็กลายเป็นคุณแม่ลูกสอง   :impress3:

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #464 เมื่อ10-11-2010 19:25:22 »

เอาน่าน้องนัส ยอมไปก่อนนะ
ค่อยเอาคืนทีหลัง

ด้วยการยึดตำแหน่งเจ้าของไร่ซะเลย ดีป่ะ

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #465 เมื่อ10-11-2010 19:26:18 »

+1 แทนคำขอบคุณ  คุณหินนอกจากจะรุกเร็วแล้วยังเป็นจอมเผด็จการ
ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่นึกถึงใจวนัสเลยว่าจะทนปากและสายตา
ชาวบ้านได้หรือเปล่า หากเรื่องเปิดเผยออกไป วนัสจะอยู่กับคุณหินได้
อย่างมีความสุขรึเปล่า เป็นห่วงจัง ....... :pig4:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #466 เมื่อ10-11-2010 22:22:38 »

อิๆๆๆๆเสร็จจนได้

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #467 เมื่อ10-11-2010 22:31:34 »

ยังมีอิครูบ้า กะ นังเมียเก่าอยู่ มาม่าแน่ๆงานนี้

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #468 เมื่อ10-11-2010 23:20:09 »

หลักสูตรรวบหัวรวบหางเนี่ยคุณหินกะคุณภาคคงจะได้ A กันอันดับต้นๆ ของคลาสชิมิ
รออ่านคู่นู๋ก้องกะคุณภาคต่อ :impress2:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #469 เมื่อ11-11-2010 21:26:17 »

 :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
« ตอบ #469 เมื่อ: 11-11-2010 21:26:17 »





ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #470 เมื่อ11-11-2010 21:44:57 »

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้นะคะ :impress2:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #471 เมื่อ11-11-2010 21:46:56 »

^
^
^
จิ้มๆ รับทราบค่ะ :m1:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #472 เมื่อ11-11-2010 21:50:09 »

"เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้นะคะ "


รับแซ่บ..........คะ :man1:

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #473 เมื่อ12-11-2010 14:11:48 »

เขิน ////

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #474 เมื่อ12-11-2010 20:59:36 »

 :m11:

ในที่สุดก็มิชชั่นคอมพลีทจนได้นะคุณภูผา
ให้เวลาวนัสปรับตัวซักพักละกันนะ

วนัส ไม่ต้องตกใจกลัวไป คุณป้าหยดแกไม่ว่าอะไรหรอก แกเป็นผู้ใหญ่ผ่านโลกมาเยอะ
อีกอย่าง ป้าหยดคงพอรู้อยู่ว่าภูผา เป็นยังไง
มั้ง?



ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #475 เมื่อ12-11-2010 21:03:28 »

:man1:
รอตอนต่อไปโลดขอรับ :a3:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #476 เมื่อ12-11-2010 21:13:10 »

Part 13


“ก้อง เพื่อนมาหาแน่ะลูก” มารดาของก้องภพซึ่งกำลังเตรียมตัวจะไปเปิดร้านอาหารตามเวลาปกติ คือประมาณเที่ยงวัน ตะโกนบอกลูกชายที่อยู่ในห้องนอนบนชั้นสองของบ้านปูนสองชั้น ในหมู่บ้านที่คนมีฐานะอันจะกินมาซื้อหาจับจองไว้อยู่อาศัย

ร่างผอมๆเดินเยี่ยมหน้าลงมาดูแขกผู้มาใหม่ ที่ยืนหันหลังคุยกับมารดาตนอย่างถูกคอ ก็เห็นหัวเราะกันร่วนเชียว เพียงเห็นแผ่นหลัง เขาก็อยากจะเดินกลับขึ้นห้อง ถ้าแม่ไม่เหลือบมาเห็นแล้วร้องเรียกไว้ซะก่อน

“ก้อง ถ้าจะออกไปไหนก็กำชับแม่บ้านให้ดูบ้านดีๆนะลูก วันก่อนแม่ได้ข่าวว่า บ้านในซอยข้างๆถูกขโมยขึ้นบ้าน แล้วก็ ค่ำๆแวะไปหาแม่ที่ร้านด้วยละ” ผู้เป็นมารดาสั่งบุตรชายฉับๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้แขก

ร้านอาหารที่แม่พูดจนติดปากคือ สวนอาหารขนาดใหญ่ มีที่จอดรถเป็นร้อยคันย่านบางขุนเทียน และยังมีสาขาอีกสองแห่งแถวติวานนท์ กับแถวหลักสี่ โดยมีพี่สาวกับพี่ชายคนโตช่วยกันดูแลอยู่


“ครับ” ก้องภพรับคำเนือยๆพลางเหล่ตามองร่างสูง มาทำไมไอ้คุณภาคภูมิ ไอ้มหาเลว

พอลับหลังมารดาออกจากบ้านไป ก้องภพก็เบ้หน้าหนีผู้มาเยือนทันที นี่ถ้าไม่เกรงใจแม่บ้านที่กำลังเดินถือน้ำมารับแขก เขาก็อยากจะไล่ตะเพิดไปให้พ้นๆบ้านเขา

“มาทำไม”

“ก็มาชวนคนตกงานไปกินข้าวนะสิ” ภาคภูมิยกยิ้มทำไม่รู้ไม่ชี้กับหน้าบูดๆของอีกฝ่าย

ก้องภพขึงตาใส่ร่างสูงจนลูกตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า

แล้วที่มันเป็นแบบนี้เพราะใคร! เพราะใครหือ!? กักตัวฉันไว้สองวันสองคืนแล้วค่อยพามาส่งบ้าน รู้มั้ยว่าฉันเครียดจนทำการทำงานอะไรไม่ได้เลย เพราะคิดแต่เรื่องบ้าๆที่นายทำกับฉัน จนฉันอดนอนไปทำงานไม่ไหว พอหัวหน้าที่ทำงานโทรมาถามไถ่ว่าเป็นอะไร ฉันก็ตอบไม่ได้ ไม่รู้จะโกหกอะไรออกไปดี เลยขอลาออกให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปซะเลย ตอนนี้ฉันเลยต้องอยู่ช่วยแม่ดูแลร้านอาหารไปพลางๆ เพราะนายคนเดียว ไอ้บ้า!

“กลับไปซะ”

“ไม่เอาน่าก้อง............เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนี่”

คุยกันรู้เรื่อง! พูดมาได้ น่าไม่อายนะแก มาข่มขืนฉันแล้วก็มาขอคบกับฉัน พอฉันไม่ตกลง นายก็ปู้ยี้ปู้ยำร่างกายฉันซะจนต้องยอมพยักหน้าตอบตกลงแบบขอไปที เพราะไม่งั้น คงได้ลงข่าวหน้าหนึ่งว่ามีคู่เกย์หัวใจวายตายคาอก ทุเรศตายชัก ทั้งฉันอุตส่าห์เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือก็แล้ว หลบหน้าหลบตาก็แล้ว นายก็ยังตามมาวอแวไม่เลิก แถมยังขู่ว่า ถ้าไม่ยอมมาคุยมาพบกันดีๆจะมาแสดงตัวรับผิดชอบที่ข่มขืนฉันกับแม่ฉันอีก แล้วนี่นะ! ที่ว่าคุยกันรู้เรื่องของนาย บ้าชัดๆ

“ฉันไม่คิดจะคบกับนาย นายไม่รู้เรื่องรึไง”

“ไม่รู้เรื่อง” คำตอบแบบกำปั้นทุบดินแทบจะทำให้ก้องภพลงไปนอนชักดิ้นชักงอ

“นายจะบ้าเรอะ ....................ตื้อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ถึงฉันจะตอบตกลงคบกับนายตอนนี้ แต่มันก็คงจะตะแบงไปได้ไม่นาน เราไปกันไม่ได้หรอก แล้วนายจะมาเสียเวลากับฉันทำไมกันห๊า!”

ภาคภูมิเดินเข้ามาประชิดตัวก้องภพ แล้วคว้าข้อมือเล็กมากุมไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะถอยหนี

“ก็ลองคบกันก่อนสิ หลังจากนั้นนายค่อยตัดสินใจว่า จะอยู่หรือจะไป แต่ฉันอยากให้ศึกษากัน พูดคุยกัน ก่อนจะตัดสินฉันแค่ภายนอก”

“นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฉันไม่เคยคิดจะชอบผู้ชายด้วยกัน”

“ก็ถึงบอกให้ลองคบ ลองพูดคุยกันก่อนไง” ภาคภูมิยังใจเย็นหว่านล้อมก้องภพที่หน้าตาแดงก่ำด้วยความโมโหด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“เอ๊ะ! นายนี่ พูดไม่รู้เรื่องรึไงนะ” ก้องภพตวัดเสียงในภาคภูมิด้วยสุดจะสงวนท่าทีต่อไปไหว

โอ๊ย..................อยากจะบ้าตาย อะไรมันดลจิตดลใจให้นายยึดติดกับฉันขนาดนี้ฟะ ฉันไม่แจ้งความจับนายก็น่าจะจบกันไปสิวะ ยังจะตามมาหลอกหลอนกันทำไม

“ฉันชอบคนตรงๆแบบนายนะก้อง คิดอะไรก็พูดออกมาแบบนั้น ถึงมันจะดูขวานผ่าซากก็ตามเถอะ แต่มันก็ดูจริงใจดี ฉันอยากจะรักคนแบบนี้ละ” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบกับร่างผอมบาง

พอถูกชมเข้าตรงๆใบหน้ากลมๆก็เก้อเขินไปได้เหมือนกัน ด้วยใบหน้าขาวคมคายส่งยิ้มอุ่นๆมาให้หัวใจก้องภพได้สั่นเล่น เจ้าหมอนี่มันมีหน้าเป็นอาวุธจริงๆ เห็นแล้วก็คิดไปถึงตอนที่ถูกร่างสูงสัมผัสก่ายกอดหลายต่อหลายครั้งจนอ่อนแรงซุกซบอกหนาหลับไปเลยก็มี สุดท้ายมันก็ไม่ได้ขยะแขยงอย่างที่รู้สึกในครั้งแรก เมื่ออีกฝ่ายปฏิบัติอย่างนุ่มนวล แต่.................

เขาไม่อยากเป็นเกย์ เพราะฉะนั้นต้องอยู่ห่างๆเจ้าหมอนี่ไว้ก่อนที่จิตใจเขาจะโอนเอียงไปกับคำชักชวนปั้นยอของอีกฝ่ายจะดีกว่า

“ปะ......ไปกินข้าวนอกบ้านกันเถอะ” เมื่อเห็นก้องภพเงียบไป ภาคภูมิจึงกระตุกมือชวน แต่ถูกอีกฝ่ายบิดข้อมือหนี

“บ้านฉันเป็นร้านอาหาร เรื่องอะไรจะไปกินร้านอื่น” ก้องภพเสบ่ายเบี่ยงคนชวน

“งั้นไปกินร้านนายก็ได้” ภาคภูมิยังต่อรองกับร่างบางต่อไป

“ไม่!” ก้องภพส่งสายตาเขียวๆให้ภาคภูมิ คนเขาจงใจปฏิเสธไม่รู้รึไง ปกติเห็นฉลาดเป็นกรด อย่ามาทำแกล้งโง่นะ

“งั้นไปสนามม้า” ภาคภูมิเปลี่ยนเรื่องมาหลอกล่อคนแก้มป่องใหม่

“..............” ก้องภพนิ่งเงียบจ้องมองคนพูดหลอกล่ออย่างลังเลเขม่ง พอนึกถึงม้าแล้วก็ให้อยากขี่อีกครั้งอะ อยากจะขี่ม้าเป็นจะได้ไม่ตกม้าให้อายอย่างคราวก่อนอีก อยากไปๆอะ แต่.........

“นายว่างนักรึไง งานการไม่มีทำเหรอ” ก้องภพข่มความอยากไว้ในใจ

“ทำสิ แต่ฉันตั้งใจจะให้เวลากับนายมากๆ เพราะฉะนั้นหลังเลิกงานหรือวันเสาร์อาทิตย์ ฉันยกให้นายหมดเลย ดีมั้ย” ร่างสูงย้อนถาม

มาถามกลับทำไมเล่า ฉันไม่ใช่เมียนายนะ จะได้คอยตามเช็คเวลาผัวน่ะ ใบหน้านวลแดงเรื่อขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด

เมื่อเห็นก้องภพลังเล ภาคภูมิก็ยิ่งพูดยั่วให้อีกฝ่ายเกิดอาการทนไม่ไหวอยากไปมากขึ้น

“ที่สโมสรที่ฉันเป็นสมาชิกอยู่เขามีม้าพันธุ์ดีให้เลือกขี่เยอะเลยละ แล้วยังมีครูฝึกเก่งๆอยู่หลายคนด้วย ใหม่ๆฉันก็ฝึกอยู่ที่นี่เหมือนกัน ไม่สนใจหรือ? คราวหน้าเวลาไปไร่ภูผาอีก ที่นี่ละ ขี่ป๋อแน่นอน ไปเถอะ” ไม่ชวนเปล่าแต่ภาคภูมิกลับควงแขนจูงร่างผอมที่ยังสองจิตสองใจไปยัดใส่รถคันโก้

เมื่อเข้าไปอยู่ในรถ ก้องภพก็ไม่คิดจะตะเกียกตะกายลง ปล่อยให้อีกฝ่ายพาไปสนามม้าตามที่บอก ด้วยคิดตื้นๆว่าอีกฝ่ายคงจะสำนึกอะไรบ้างกับการข่มเหงน้ำใจกันคราวนั้นถึงได้มาตามง้องอนอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้ารู้ว่าภาคภูมิเตรียมเปลี่ยนผ้าปูที่นอนไว้รอตอนรับหลังจากฝึกม้าเสร็จ เป็นต้องได้กระทืบเท้าเต้นเร่าๆแน่นอน

\\\\\\\\\\\\\


“มีอะไรรอย” วนัสเอ่ยทักหัวผลุบๆโผล่ๆคุ้นตาอยู่ริมหน้าต่างด้านนอกสำนักงาน เป็นที่สะดุดหางตา จนต้องละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หันมอง ก็พบคนงานหนุ่มยืนยิ้มเผล่

ทำหน้าตาพิลึกๆแบบนี้มีอยู่เรื่องเดียว

“อาทิตย์หน้าค่าแรงถึงจะออกเจ้ารอยเตอร์” เสียงแข็งๆ ของร่างโปร่งทำให้เจ้ารอยยิ้มแหยๆ

“โธ่.........คุณนัสก็.........นึกว่าช่วยส่งเสริมให้ไอ้รอยคนนี้ได้เมียซะทีเถอะครับ” เจ้ารอยพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน

วนัสหัวเราะกับสำบัดสำนวนของคนงานหนุ่ม ก็รู้ว่าเจ้ารอยจะมาเบิกเงินค่าแรงไปเลี้ยงสาวที่ตัวเองตามก้อล้อก้อติด ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตกลงปลงใจกับเจ้าคนที่ทำหน้าละห้อยคนนี้เสียที

ร่างโปร่งบางลุกขึ้นไปหาคนงานหนุ่ม มือเรียวเลื่อนหน้าต่างกระจกใสออก พลางล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบเงินส่งให้คนที่ทำหน้าชื่นตาบานรอรับ

เงินส่วนนี้เป็นเงินของวนัสเอง พอเงินเดือนเจ้ารอยออกเมื่อไร เจ้านี่ก็จะนำมาคืนเมื่อนั้นเป็นประจำ

รอยยัดเงินลงกระเป๋ากางเกงยีนส์เสร็จ ก็ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ทำกระซิบกระซาบเหมือนกลัวใครจะได้ยิน ทั้งๆที่เวลานี้วนัสอยู่ในสำนักงานคนเดียว

“เย็นนี้ผมจะพาน้องนุ่นไปกินข้าวในเมือง” เสียงเล่าดูระริกระรี้ ทั้งยังขยิบตาให้วนัสจนน่าหมันไส้ แต่ที่สำคัญ ชื่อน้องหนูคนใหม่ของเจ้ารอยนี่สิ มันไม่ใช่คนเดิมที่ร่างโปร่งเคยได้ยินบ่อยๆ

“ไอ้กะล่อน แล้วคนที่นายพร่ำส่งจดหมายให้เขาบ่อยๆไปไหนซะละ”

“โธ่........คุณนัส รักแท้แพ้ระยะทาง ไม่เคยได้ยินเหรอครับ”

“ไม่เคย เคยได้ยินแต่ รักแท้แพ้ใกล้ชิดน่ะ”

“ก็นั้นละครับ น้องนุ่นบ้านอยู่แค่นี้ๆ เห็นหน้ากันทุกวัน ผมก็เลยตกหลุมรักน้องเขาโดยไม่รู้ตัว” เจ้ารอยยิ้มเขินๆ

“เหรอ...........แล้วน้องนุ่นเขารับรักแล้วเรอะ ถึงได้จะพากันไปกินข้าวเนี่ย”

“แหม.......คุณนัส น้องเขาเป็นผู้หญิง เขาไม่เปิดเผยความรู้สึกกันหรอก มันไม่งามเดี๋ยวแม่ดุแย่”

“เหรอ..........” วนัสหรี่ตามองใบหน้าที่เหมือนจะละเมอของเจ้ารอยอย่างละเหี่ยใจ ลองมาอีหรอบนี้แห้วแหงๆ

“แล้วจะไปกี่โมงละ”

“ก็นี่ละครับ ผมจะมาขออนุญาตกลับก่อนเวลาซักชั่วโมงหน่อยครับ” เจ้ารอยทำหน้าอ้อนวอนวนัสอีกรอบ

ดูมันสิ มาขอเบิกเงินล่วงหน้ายังไม่พอ ยังจะขอกลับก่อนเวลาอีก แต่ก็นะ.........จะรีบไปเสริมหล่อละสิเจ้านี่ ปกติรอยจะขยันขันแข็ง วนัสจึงไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะอนุญาต อีกอย่างเวลาต้องการความช่วยเหลือจะดึกดื่นเที่ยงคืนขนาดไหนก็ไหว้วานได้โดยไม่เกี่ยงงอนซักนิด

“อืม จะไปไหนก็ไปเถอะ” สิ้นคำอนุญาต เจ้ารอยก็ยกมือไหว้ประหลกๆ แล้วหันหลังวิ่งปรื๋อออกไป ไม่ทันที่ร่างโปร่งบางจะหันหลังกลับไปทำงานต่อ เสียงใสๆของผู้หญิงคุ้นหูก็ดังขึ้น

“พี่นัส” ลูกสาวยายติ๋มขับมอเตอร์ไซด์มาจอดสนิทหน้าสำนักงาน แล้วรีบลงจากรถตรงดิ่งมาหาเขาด้วยใบหน้าบานแฉ่ง

“มาได้ยังไงครับ น้องดาว” วนัสเอ่ยทัก

“ดาวเอาของมาส่งคนงานที่สั่งมิสทีนไว้นะจ๊ะ” หญิงสาวตอบพลางชูถุงในมือให้เห็น

เครื่องสำอางน่ะเหรอ อืม.........ร้านยายติ๋มนี่นอกจากจะขายสากกระเบือยันเรือรบแล้วยังบริการส่งถึงที่อีกต่างหาก ร่างโปร่งบางมองถุงใบใหญ่ที่ดาวถือ

“ยังไม่เลิกงานเลยนะดาว คนงานเขายังไม่กลับที่พักกันหรอก” วนัสบอกเด็กสาว

“งั้นดาวขอนั่งรออยู่ที่นี่ได้มั้ยจ๊ะ”

เอาแล้วไง ไอ้หน้ายิ้มๆเป็นงานเป็นการแบบนั้นมันหมายความว่า ตั้งใจไว้แล้วละสิ แต่บ่ายๆอย่างนี้จะไล่ไปที่อื่นก็น่าสงสารอยู่ แดดออกร้อนเปรี้ยง

“เอาสิ”

ชายหนุ่มเดินมาเปิดประตูช่วยหญิงสาวหิ้วถุงบรรดาเครื่องสำอางทั้งหายเหล่เข้ามาเก็บในสำนักงาน ก่อนจะไปรินน้ำมาเสิร์ฟเด็กสาว แล้วจึงนั่งลงที่เก้าอี้ยาวสำหรับรับแขก

“พี่เพิ่งรู้นะว่าสาวๆที่ไร่นี้ใช้เครื่องสำอางกันเยอะแยะขนาดนี้” วนัสกวาดตามองสิ่งของทั้งหมด

“แหมพี่นัส ไม่เฉพาะผู้หญิงหรอกจ๊ะ ผู้ชายเขาก็สั่งนะ”

“หือ?.....เขาสั่งอะไรกันเหรอ” วนัสเลิกคิ้วถามแกมขบขัน ผู้ชายสั่งด้วยเหรอเนี่ย

“ก็พวกน้ำหอม สบู่ ลูกกลิ้ง อะไรพวกนี่ละจ๊ะ พี่นัสสนใจอะไรมั้ยละจ๊ะ” เด็กสาวรีบกุลีกุจอเอาแคตตาล๊อกออกมายัดเยียดให้ชายหนุ่มดูบรรดาสินค้าที่เธอเป็นสมาชิกขายอยู่

“ถ้าเป็นพี่นัส หนูไม่เอาเปอร์เซ็นต์เลยจ๊ะ”

วนัสหัวเราะในลำคอกับการคะยั้นคะยอของเด็กสาว ก่อนจะเปิดแคตตาล๊อกดูไม่ให้เสียน้ำใจ จะพูดไปเขาก็ไม่ใช้ของประทินโฉมพวกนี้มากนักหรอก เมื่อก่อนก็ใช้พวกน้ำหอมบ้าง แต่พอกลับมาอยู่บ้านทำไร่ที่นี่ก็ไม่ได้ใช้อีกเลย อาบน้ำเสร็จก็โปะแป้งเด็กตลอด สบายตัวดี จะใช้บ้างก็พวกครีมกันแดดกับครีมบำรุงผิว ซึ่งเขาก็มียี่ห้อที่ใช้ประจำอยู่แล้ว

“พี่มีหมดแล้วละดาว แถมที่มีอยู่ก็ไม่ค่อยได้ใช้อีกด้วย” ชายหนุ่มส่งแคตตาล๊อกคืนพร้อมกับยิ้มให้เด็กสาว

“ไม่เลยเหรอจ๊ะ แต่ดาวว่าพี่นัสน่าจะชอบน้ำหอมกลิ่นนี้นะ” เด็กสาวพยักหน้าให้ชายหนุ่มคล้อยตามสินค้าที่ตนแนะนำ แต่วนัสก็สายหน้าท่าเดียว

“แต่ดาวว่ามันเหมาะกันพี่นัสมากเลยนะจ๊ะ งั้นเดี๋ยวดาวซื้อให้พี่นัสดีกว่าน่ะ รับรองพี่นัสต้องชอบแน่ๆจ๊ะ” เด็กสาวยิ้มหน้าระรื่นมั่นใจในความคิดของตัวเอง จนวนัสนึกกลุ้มใจ

“ไม่ต้องๆดาว” วนัสรีบปฏิเสธทันควัน แต่เด็กสาวยังตะบึงตะบอนต่อไปจนชายหนุ่มเริ่มรู้สึกอึดอัด เขาไม่อยากให้เด็กสาวเอาเรื่องนี้เป็นข้ออ้างมาเจอเขาบ่อยๆจนดูไม่งามกับเด็กสาวเอง เขาก็ไม่อยากจะพูดอะไรรุนแรงนักหรอก แต่ขืนยังพูดกันไม่รู้เรื่องแบบนี้ก็คงต้องปรามกันบ้างละ

“น้องดาวครับ พี่เป็นผู้ชายนะ ถ้าน้องดาวมาซื้อของให้พี่แบบนี้ มันดูไม่ดีนะครับ เดี๋ยวใครๆเขาจะเอาไปนินทา น้องดาวจะเสียหายนะ” วนัสปราบท่าทางเกินงามของเด็กสาว

“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ใครอยากลือก็ลือไปสิ ดาวไม่เห็นจะแคร์เลย” เสียงเด็กสาวตอบฉาดฉานทำเอาวนัสอึ้งงง ถ้าเขามีน้องสาวแบบนี้เขาจะจับมาฟาดก้นอบรมกันยกใหญ่เชียว แต่นี่ญาติก็ไม่ใช่ ในเมื่อเตือนแล้วยังไม่รู้จักคิดก็คงไม่ต้องถนอมน้ำใจกันแล้วมั้ง

“ดาว พี่เห็นดาวเป็นน้องเป็นนุ่ง ไม่อยากให้ใครเอาดาวไปลือเสียๆหายๆ ดาวน่าจะคิดตรงนี้ให้มากๆนะ” น้ำเสียงราบเรียบของชายหนุ่มทำเอาเด็กสาวหน้าตึงกับคำประกาศชัดถึงความรู้สึกของตนต่อหญิงสาว

“แต่ดาว......ดาว..................”

“ดาว!” ไม่ทันให้เด็กสาวได้บอกความรู้สึกของตัวเอง วนัสก็ส่งเสียงปรามความคิดนั้นเสียก่อน ทำให้เด็กดาวหน้าเสียขึ้นมาทันที

ด้วยทั้งอับอายทั้งเสียหน้า ที่มาทอดสะพานถึงที่แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่เดินข้าม ใบหน้าที่ตกแต่งไว้งดงามจึงแดงก่ำด้วยแรงโทสะ ดวงตาแวววาวจะร้องแหล่มิร้องแหล่ ในที่สุดเด็กสาวก็ทนนั่งกับชายหนุ่มที่ไม่ได้คิดจะสนใจตัวเองได้อีกต่อไป จึงลุกขึ้นคว้าถุงหูหิ้วใบโตพะรุงพะรังเดินตึงๆออกจากสำนักงานไป

สักพักวนัสก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ดังขึ้นและค่อยๆห่างออกไป

“เฮ้อ................” จบเรื่อง ร่างโปร่งจึงกลับไปนั่งทำงานต่อ จนเย็นพวกพี่ๆที่ไปทำงานนอกสถานที่กลับเข้ามาเอากระเป๋าแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ คลิกอะไรบนหน้าจอไปมาอย่างใจจดใจจ่อ จนไม่รับรู้ว่ามีร่างสูงใหญ่ของภูผาเดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลังอย่างเงียบเชียบ

“อืม.....................เป็นแบบนี้เองเหรอ” วนัสพึมพำเมื่ออ่านบทความที่ตนเองค้นหาบนอินเตอร์เน็ต ‘มารู้จักเกย์อย่างถูกต้องกันเถอะ’

สายตาร่างโปร่งบางไล่อ่านไปตามบทความอย่างครุ่นคิด หลังจากผ่านเหตุการณ์ร่วมหลับนอนกับภูผา วนัสเองก็อดจะสงสัยในพฤติกรรมและสมองของตัวเองไม่ได้ ทำไมเขาถึงยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างผิดธรรมชาตินี้ได้โดยไม่รู้สึกรังเกียจสักนิด เขาผิดปกติตรงไหนรึเปล่า ด้วยไม่คิดจะปรึกษาหารือกับใครให้ได้อาย ทำให้วนัสหาเวลาอยู่คนเดียวแล้วเปิดอินเตอร์เน็ตค้นหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือไขข้อข้องใจของตน

“เกย์ไม่ใช่ความผิดปกติทางจิตใจอย่างที่ใครๆเข้าใจ แต่เป็นวิถีการดำเนินชีวิตรูปแบบหนึ่งที่คนๆหนึ่งเลือกจะดำเนิน ปัจจัยก็มีทั้งจากพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม ที่ทำให้เปลี่ยนแปลงไปได้” วนัสพยักหน้ารับรู้กับตัวเอง

อย่างน้อยๆสิ่งที่ได้รู้ตอนนี้ก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจไปเปาะหนึ่งละ เขาไม่ได้ผิดปกติ!

และผลพลอยได้จากการหาความรู้ในคราวนี้ก็คือ เขาได้รู้จักวิธีการร่วมรักเพื่อลดความเจ็บปวด และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับร่างกายตัวเองมากขึ้น ในเมื่อนี่คือร่างกายของเขา เขาก็น่าจะหาความรู้ในเรื่องนี้ประดับสมองไว้บ้าง ในเมื่อทุกอย่างมันเลยเถิดมาไกลจนหันหลังกลับไม่ได้แล้ว

“หือ.......มีเจลหล่อลื่นด้วยเหรอ” คิ้วได้รูปขมวดย่น แล้วจะไปซื้อที่ไหนฟะ แล้วไอ้ท่าร่วมรักลดความเจ็บปวดที่แนะนำนี่ก็น่าอายชะมัด ใครมันจะไปกล้าทำ.........ทำไมมันลำบากลำบนแบบนี้นะ

อาจเพราะรู้สึกถึงสายตาของใครบางคนทำให้วนัสหันหลังไปมอง ก็ต้องผงะตกใจสุดขีด

“คุณภูผา!”

ภูผาส่งยิ้มให้ร่างบางที่มีท่าทีตกใจสุดขีดก่อนจะก้มตัวลงเล็กน้อย สายตามองผ่านใบหน้ามนไปยังจอคอมพิวเตอร์

วนัสที่ตั้งสติได้ถึงกับลนลานรีบหันกลับไปปิดหน้าต่างโปรแกรมทันที ปิดเร็วๆสิ

เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นข้างหลังบ่งบอกให้รู้ว่า มันสายไปซะแล้ว ภูผาคงเห็นไปถึงไหนต่อไหน ทั้งมายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ โอ๊ย!.........ไม่กล้ามองหน้าเลยอะ ใบหน้านวลก้มต่ำลง ทำให้ภูผาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าแดงเรื่อรำไร

“เย็นแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะนัส” ร่างสูงไม่ทำให้วนัสเก้อเขิน แต่เลี่ยงเอ่ยชวนร่างบางไปทานข้าวเย็นแทน พลางเอื้อมมือไปช่วยปิดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แล้วใช้ปลายเท้าเขี่ยสับสวิซส์ไฟให้เสร็จสรรพ

“หิวไส้จะขาดแล้ววันนี้” ภูผายังคงชวนอีกฝ่ายคุย มือใหญ่ฉุดรั้งร่างบางลุกขึ้นเดินตามกันออกไป

“ไม่ได้กินข้าวกลางวันหรอกหรือครับ” วนัสที่สลัดความอายได้เงยหน้ามองคนเดินข้างๆเต็มตา

“กินไปได้ไม่ถึงครึ่งจาน ก็พอดีมีโทรศัพท์เข้ามา เลยไม่ได้กินต่อเลย” ภูผายังคงเล่าไปเรื่อยๆให้ร่างโปร่งฟัง

เส้นผมที่เคยตัดสั้นเมื่อครั้งพบเจอกันครั้งแรก มาตอนนี้ยาวจนละใบหน้าคมเข้มพลิ้วไหวตามแรงลม แลดูอ่อนกว่าวัย แผ่นหลังตั้งตรงเดินนำหน้าอย่างสง่าผ่าเผย เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึกเป็นที่อาศัยพักพิงหลบภัยแก่บรรดาสิ่งมีชีวิตเล็กๆได้อย่างมั่งคง และปลอดภัย แล้วยังมีอะไรต้องกลัวอีก วนัสรำพึงขึ้นในใจตัวเอง

เดินคุยสบายๆไปถึงบ้าน ก็พบว่าป้าหยดตั้งโต๊ะรอแล้ว พร้อมกับเจ้าลูกลิงสองตัวที่นั่งรอเอาช้อนกับส้อมฟันกันแทนดาบเป็นการฆ่าเวลา
“เอ๊าๆ..........หยุดเป็นขุนศึกกันได้แล้ว กินข้าว แล้วอย่าให้หกด้วยนะ” ผู้เป็นพ่อส่งเสียงบอก แล้วจึงลงมือกินข้าวไปฟังเสียงเจื้อยแจ้วของลูกแย่งชิงกันเล่าเรื่องที่โรงเรียนไป จนสองพี่น้องเริ่มเกิดอาการชิงดีชิงเด่นพูดข่มกันไปมา ภูผาจึงต้องปราบเป็นระยะๆ เพราะกลัวลูกจะสำลักข้าว เมื่ออิ่มนั้นละถึงได้เงียบหูลงหน่อยด้วยป้าหยดมารับช่วงต่อพาเด็กๆไปอาบน้ำ แล้วจึงขอตัวกลับบ้านตามปกติ

ภูผานั่งดูทีวีสบายๆหลังจากทานข้าวเสร็จ โดยมีร่างบางนั่งดูอยู่ด้วยพักหนึ่งก่อนจะขอตัวกลับ

“ผมกลับละครับคุณภูผา”

ภูผาละสายตาจากหน้าจอทีวีมองร่างโปร่งตั้งท่าจะกลับบ้าน

“ไม่ค้างหรือ เสื้อผ้าก็มีเปลี่ยนแล้วนี่” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยชวนอย่างใจคิด

“ไม่ละครับ ผมไม่อยากทิ้งบ้านไว้แบบนั้น” ใบหน้านวลส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกับส่งยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ไปให้ผู้ชายตัวโตที่แสดงท่าทางผิดหวังอย่างโจ่งแจ้ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะตบมือลงบนโซฟาข้างตัวให้ตนที่นั่งห่างออกไปเข้ามาใกล้ๆ

วนัสเองก็ไม่ได้อิดออดเขยิบตัวเข้าไปหา จนได้ระยะร่างสูงก็รวบเอวเล็กเข้าไปไว้ในอ้อมกอด

ถึงป้าหยดจะกลับไปแล้วก็เถอะ แต่เด็กๆก็ยังเล่นอยู่ในห้อง ทำให้วนัสขืนตัวกับร่างสูง

“เข้าไปคุยกันในห้องมั้ย” ภูผาที่รับรู้อาการพะว้าพะวงของวนัสเอ่ยถาม

เจ้าเล่ห์! สายตาของวนัสท้วงติงร่างสูงทันที ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มรับไม่กระดากอายที่ถูกจับไล่ทันความคิดเลยแม้แต่น้อย

วงแขนอบอุ่นคลายออกเล็กน้อยแต่ยังคงถ่ายทอดความรักความปรารถนาดีมาสู่ใจเล็กๆ จนต้องระบายลมหายใจออกมาอย่างอ่อนใจที่ต้องรับความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างท้วมท้น

“คุณภูผา บ้านที่ไม่มีคนอยู่มันก็เหมือนบ้านร้างนะครับ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น” วนัสมองดวงตาคู่คมกริบรับรู้ถึงสิ่งที่เขาจะสื่อ แล้ววงแขนใหญ่ก็โอบรั้งร่างบางเข้ามาแนบตัวเองอีกครั้ง สิ่งที่ภูผาแสดงออกคือการพยักหน้ารับรู้เงียบๆจนวนัสใจอ่อนซะเอง

“ไว้ผมจะมาค้างบ้างเป็นครั้งคราวนะครับ ให้ค้างทุกวันไม่ไหวหรอกครับ” ร่างบางกลั้นใจพูดด้วยความรู้สึกเขินอายสุดชีวิต

“อืม” ภูผารับคำ พลางนึกขำกับคำพูดที่พยายามรอมชอมเต็มที่ของร่างบางในอ้อมแขน

“ไม่เป็นไร วันไหนที่นัสกลับบ้าน ฉันก็จะเปลี่ยนไปนอนค้างที่โน้นบ้างก็ดีนะ..........อืม....... เข้าท่าๆ ไม่มีใครกวนด้วย” ภูผาคิดวางแผนเสร็จสรรพ

“นี่!” วนัสประท้วงขึ้นมาทันที

สรุปที่พูดมาตั้งนานนี่ไม่เข้าใจเลยใช่มั้ย วนัสคิดอย่างหัวเสียมองลึกในดวงตาคู่คมที่ดูจะกวนประสาทยี่ยวนเขาอยู่ตอนนี้

เข้าใจแต่ไม่ทำ!

ไม่ให้ร่างบางได้ต่อว่า ริมฝีปากได้รูปของภูผาก็เข้าประกบจูบดูดดึงคำต่อว่าต่อขานให้หายไปพร้อมกับแรงอารมณ์ที่เริ่มกระเพื่อมไหวทีละน้อยๆ

ให้กลับแน่ แต่ต้องหลังจากนี้นะ รึถ้าลุกไม่ไหวก็คงเปลี่ยนใจค้างเลยก็เป็นได้ ภูผาคิดอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ก็ให้นึกถึงสิ่งที่เห็นเมื่อตอนเย็น

“นัส เจ็บมากเลยเหรอ? ” ภูผากระซิบถามชิดริมฝีปากบางสีสด

วนัสดันใบหน้าอีกฝ่ายออกห่างเล็กน้อย พอเห็นแววตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายถามถึงเรื่องอะไร เหตุการณ์เมื่อตอนเย็นแล่นปราดเข้ามาในสมองน้อยๆจนใบหน้าขาวแดงก่ำอีกครั้ง ก่อนจะซบหน้าลงกับซอกคอหนาทันที

“นัส..............” ภูผาลูบหลังร่างบางเบาๆ เขาไม่ได้ต้องการจะทำให้อีกฝ่ายอาย แต่เพราะกังวลกลัวว่าจะเข็ดขยาดกับการร่วมรักคราวนั้นถึงได้ถามออกไป

เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาจะทำให้ตนเองต้องอับอาย และถ้าไม่ตอบอะไรออกไปก็คงจะเวียนกลับมาถามอีกแน่นอน ทำให้วนัสต้องกลั้นใจข่มความอายตอบแบบอึกๆอักๆ

“ก็..........ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แค่อยากรู้ไว้บ้างก็เท่านั้นเอง ......มั้งครับ” พูดไปก็ยิ่งซุกหน้ากับซอกคอหนามากขึ้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-11-2010 21:20:58 โดย jeaby@_@ »

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 12 (09/11/2010) Page 15
«ตอบ #477 เมื่อ12-11-2010 21:13:58 »



ภูผายิ้มให้กับร่างบางที่เอาแต่ซุกซบซอกคอตนอย่างเขินอายด้วยความรู้สึกรักใคร่ และตอนนี้ก็เกิดอาการหมันเขี้ยวอยากจะแกล้งร่างเล็กขึ้นมาเนื่องๆ

“ลองอีกครั้งมั้ย แล้วจะสอนว่าต้องทำยังไง ไม่ต้องไปอ่านอะไรแบบนั้นให้ยุ่งยากหรอก ฉันอยู่นี่ทั้งคน ถามฉันสิ” ร่างสูงยิ้มใส่ตาอีกฝ่ายที่ผงะตัวออก

“ทะลึ่ง!”

“หึๆ”

ก่อนที่ภูผาจะได้รุกคืบไปมากกว่านี้ เสียงรถมอเตอร์ไซด์ที่เข้ามาจอดหน้าบ้านทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกัน แล้วเดินออกไปดูชายหนุ่มที่ยืนตะโกนเรียกชื่อเจ้านายเสียงดัง

“มีอะไร ฉัตร” ภูผาร้องบอกก่อนจะเปิดประตูออกไปดูคนงานที่อาศัยอยู่ในบ้านพักของทางไร่ทำหน้าตาตื่น เดินตรงเข้ามาถึงบริเวณที่แสงไฟนีออนหน้าบ้านสาดส่องจนเห็นใบหน้าแขกผู้มาเยือนยามวิกาลชัดๆ แต่ก่อนที่จะได้เห็นหน้า ผู้เป็นเจ้าของไร่กลับเรียกชื่อคนงานที่มีอยู่เป็นร้อยๆได้อย่างแม่นยำ จนวนัสอดนึกนิยมชมชอบไม่ได้ เพราะนั้นหมายถึงความใส่ใจ

“ไอ้รอยครับ ไอ้รอยมันไปฉุดนังดาวมานอนที่บ้านพักคนงานแน่ะนาย แล้วยายติ๋มแม่นังดาวตามมาเจอก็โวยวายใหญ่เลย ตอนนี้ยายติ๋มจะลากไอ้รอยไปหาตำรวจแล้วละนาย” คนงานหนุ่มพูดเร็วๆให้เจ้านายรับรู้

รอยนะเหรอ.............วนัสคิดอย่างตกใจแกมสงสัย ขายาวก้าวตามร่างสูงเพื่อจะไปดูสถานการณ์ที่บ้านพักคนงานด้วย แต่ถูกภูผาห้ามไว้และขอให้อยู่เป็นเพื่อนลูกๆของตนที่บ้านจนกว่าเขาจะกลับมา วนัสจึงต้องจำใจเดินกลับไปนั่งดูทีวีรอฟังเหตุการณ์จากชายหนุ่มอย่างเงียบๆ

\\\\\\\\\\\\\\

“ใจเย็นๆน้าติ๋ม”

ภูผาเมื่อมาถึงก็พบคนงานกลุ่มใหญ่มุงกันอยู่บริเวณหน้าบ้านพักยาวเหยียดที่รอยอาศัยอยู่ และตอนนี้คนก่อเรื่องก็หน้าซีดเหลือ 2 นิ้ว พร้อมเด็กสาวคู่กรณีที่เกาะหลังมารดาร้องห่มร้องไห้หน้าตาแดงก่ำ โดยมารดายืนทำหน้ายักษ์ถมึงทึงรออยู่ก่อนแล้ว ก็น่าโมโหอยู่หรอกลูกสาวทั้งคน

“ใจเย็นเหรอ!..........คนงานคุณภูผามาฉุดลูกสาวน้าแบบนี้จะให้ใจเย็นไหวหรือคุณ!” ยายติ๋มแผดเสียงใส่ร่างสูงอย่างเหลืออด

“ครับๆ ผมเข้าใจนะน้า แต่ขอผมสอบถามก่อนได้มั้ยน้า รับรองถ้าไอ้รอยมันทำ ผมจะเอามันส่งตำรวจกับมือผมเองเลย อีกอย่างดาวก็อายุมากกว่าจะมาพรากผู้เยาว์แล้วนะครับ ยังไงคุยกันก่อนเถอะครับ” ชายหนุ่มเจ้าของไร่พยายามไกล่เกลี่ย

“คุณภูผาก็เห็นๆอยู่ น้านะเห็นว่านังดาวมันหายไปตั้งแต่บ่าย มันบอกว่าจะมาส่งของที่นี่ ก็มิสทงมิสทีนอะไรของมันนั่นละ แต่ส่งภาษาอะไร เย็นแล้วก็ยังไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง จนน้าปิดร้านมันก็ยังไม่กลับบ้าน ก็เลยออกมาตามมันที่นี่ละ น้าตามหาก็ไม่เห็นมัน ก็เลยให้คนงานช่วยๆกันถามหาดู น้ากลัวลูกน้ามันจะเป็นอะไร แล้วพอคนงานของคุณไปเคาะประตูถามหาที่ห้องไอ้รอย มันก็อย่างที่เห็นนี่ละ มันมาปู้ยี่ปู้ยำลูกน้า น้าจะลากคอมันส่งตำรวจ ให้มันติดคุกหัวโตเลย” เสียงยายติ๋มเล่าเป็นฉากๆจนเห็นภาพ แต่ก็สะดุดใจภูผาอยู่ไม่น้อย จนร่างสูงสั่งให้คนงานชายคุมตัวเจ้ารอยไว้ก่อน ส่วนตัวเองเดินเข้าไปดูสภาพภายในห้องพักของคนงานหนุ่มที่เป็นเรื่องอยู่ตอนนี้

ภายในห้องพักยังคงสภาพเหมือนห้องชายโสดทั่วๆไปคือ รก แต่ไม่มีร่องรอยความเสียหายจากการต่อสู้ขัดขืน ข้าวของทุกชิ้นยังคงสภาพปกติ จะมีก็แต่กองขวดเหล้าแม่โขง 2 กลมกับอีก 1แบน พร้อมโซดา กระติกน้ำแข็งเสร็จสรรพตั้งอยู่กลางห้องตำตา ถ้าจะยังไงๆอยู่นา....... แล้วจึงเดินกลับออกไป คนที่จะตอบคำถามเขาได้ดีที่สุดก็คือเด็กดาวนั้นละ

ระหว่างเดินออกมาจากห้อง ภูผาเหลือบมองเด็กสาวที่พยายามจะชวนแม่กลับบ้านอย่างร้อนรน ก็หัวเราะขึ้นจมูกออกมาทันที

คงไม่ต้องถึงตำรวจแล้วละงานนี้

\\\\\\\\\\\\\\

ภูผากลับเข้าบ้านเมื่อเลยเวลาเที่ยงคืนไปเล็กน้อย โดยมีวนัสออกมารับพร้อมอาการอยากรู้ประทับบนใบหน้า

“เป็นยังไงบ้างครับ”

“ขออาบน้ำก่อนนะ แล้วจะเล่าให้ฟัง” ร่างสูงปลดกระดุมเสื้อไปพลางๆ

“แต่...........” วนัสกังวลถึงเวลาที่ล่วงเลยจนดึกดื่นก็ยังไม่ได้กลับบ้าน เขาไม่อยากยื้อเวลาออกไปอีก ถึงแม้แถวนี้จะไม่เคยเกิดเหตุร้ายก็ตาม แต่การขับรถกลางคืนในทางเปลี่ยวๆมันก็ใจคอไม่ค่อยดีได้เหมือนกัน

“วันนี้ค้างที่นี่เถอะนะ มันดึกแล้ว” ภูผาเดินเข้ามาสวมกอดคนที่ทำตาค้อนเข้าให้

“คุณ........!”

“พรุ่งนี้จะไม่ห้ามเลย” ริมฝีปากได้รูปรีบกดแนบลงบนขมับร่างโปร่งราวกับจะเอาอกเอาใจ ว่าไม่ได้เจตนาจะให้เป็นแบบนี้ จนวนัสถอนหายใจกับคนเล่ห์เหลี่ยมจัดพลางพยักหน้าหงึกๆแบบไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไรนัก ให้คนตัวใหญ่ยิ้มอย่างได้ใจ

“งั้นอาบน้ำด้วยกันนะ”

“ห๋า!.........ไม่!” ได้คืบจะเอาศอกจริงๆเลย วนัสคิดอย่างฉุนๆ พลางเดินตัวปลิวเข้าไปในห้องนอนร่างสูง แต่ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำ ร่างโปร่งก็หันมาพูดกับเจ้าของบ้านที่เดินยิ้มกริ่มตามมา

“ถ้าเข้ามาในห้องน้ำจะฆ่าให้ตายเลย”

เสียงขู่ฟ่อๆทำให้ภูผาที่นั่งแหมะลงบนเตียงฉีกยิ้มกว้างขึ้นไปอีก รู้ทันจริงๆ

หลังวนัสผลุบเข้าไปในห้องน้ำ ภูผาก็หงายหลังล้มตัวนอนมองเพดานอย่างสุขใจ ฟังเสียงน้ำไหลรินไปเรื่อยๆจนเจ้าของร่างโปร่งบางเปิดประตูออกมา พร้อมกลิ่นหอมของแป้งเด็กที่เขามีติดห้องไว้ ภูผาลุกขึ้นเดินไปหาวนัสที่ยืนเช็ดผมลวกๆอยู่หน้าห้องน้ำ

“ดึกแล้วไม่น่าสระผมเลยน้า...........ที่เป่าผมอยู่หน้ากระจกนะ” มือใหญ่ยื่นมาช่วยวนัสซับหยดน้ำบนศีรษะทุยอย่างเบามือ จนร่างบางไล่ให้ไปอาบน้ำจึงไปผละจากไป พอออกมาก็พบวนัสนั่งรออยู่บนเตียง ผมนุ่มสลวยแห้งสนิทแล้ว และดวงตากลมดำก็กำลังมองมาอย่างบังคับกลายๆ

“เล่าได้รึยังครับ”

“หือ........ใจร้อนจริงๆ” ภูผาพาดผ้าเช็ดตัวกับพนักเก้าอี้ แล้วจึงเดินมานั่งบนเตียงพลางคว้าตัวร่างบางให้ล้มตัวนอนในอ้อมกอดของตน

“คุณ!...........”

“เล่าแล้วๆ” ภูผารีบบอกเพราะไม่อยากให้วนัสหัวเสียไปมากกว่านี้ ก็แค่อยากนอนกอดไปเล่าไปก็เท่านั้น อย่าขี้ฉุนนักเลย

“เจ้ารอยมันไม่ได้ไปข่มขืนเด็กดาวนั้นหรอก” ภูผาหยุดมองใบหน้าขาวนวลนิด แล้วประทับริมฝีปากบนเรือนผมหอมกลิ่นแชมพู ก่อนจะเล่าต่อ

“เจ้ารอยมันเสียใจที่น้องนุ่นอะไรของมันไม่ยอมรับรักมันวันนี้ ก็เลยซื้อเหล้ามากินย้อมใจในห้องของมัน แล้วช่วงที่นั่งดื่มอยู่คนเดียว เด็กดาวที่มาส่งของมิสทีนอะไรนั้นมาเห็นเข้า ก็ขอเข้ามาดื่มด้วย เห็นเจ้ารอยมันบอกว่า ดาวนั่งร้องห่มร้องไห้ ไม่รู้ไปเสียอกเสียใจที่ไหนมา พอเหล้าเข้าปากก็อย่างที่รู้นั้นละ คงปลอบกันไปปลอบกันมาก็เลยลงเอยแบบนั้น ก็นะ หนุ่มๆสาวๆ มันเหมือนน้ำมันกับไฟละนะ” ภูผามองคนที่นิ่งเงียบผิดปกติในวงแขน

“.............”

“มีอะไรรึเปล่า” ร่างสูงผงกศีรษะขึ้นมอง

วนัสเหลือบมาสบตาร่างสูง ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่คิดอยู่ในใจ

“ก็เมื่อบ่ายๆนะสิครับ ผมพูดว่าดาวไปหลายคำ แล้วดูเหมือนเขาจะโกรธผมมากอยู่ จะเพราะเรื่องนี้รึเปล่าก็ไม่รู้ที่ทำให้เขาไปกินเหล้าจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ร่างบางขมวดหัวคิ้วจนย่นติดกัน

“เด็กนั้นมาหานายด้วยรึ” ร่างสูงลงเสียงหนักถามอีกฝ่าย

“ครับ ดาวเขามาส่งของช่วงที่คนงานยังไม่เลิกงาน ก็เลยมารออยู่กับผม แล้วเกิดคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมเลยติงเขาไปหลายคำ”

”อืม..........จะใช่หรือไม่ใช่ มันก็เป็นเรื่องที่เราป้องกันอะไรไม่ได้หรอกนะ อย่าไปกังวลเลย” ดีแล้วที่เป็นเจ้ารอยไม่ใช่นาย ไม่งั้นฉันคงอกแตกตายแน่ อ้อมแขนใหญ่โอบรัดคนตัวเล็กกว่าแน่นขึ้นพลางลอบถอนหายใจยาว

“เฮ้อ.......แล้วยังไงต่อกันครับ”

“จะยังไง........พรุ่งนี้ฉันก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอเด็กดาวให้กับเจ้ารอยมันนะสิ”

“หือ..........” วนัสตาโตกับคำบอกเล่า เพราะยายติ๋มที่เขารู้จักอยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝากับคนมีเงิน แล้วเจ้ารอยมันรวยเสียเมื่อไรกันละ

“ไม่หือละ........เรื่องมันแดงขนาดนี้ น้าติ๋มแกก็เสียหน้ามากอยู่ เลยต้องจำใจรับเจ้ารอยเป็นลูกเขย ฉันก็คิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีนะ แล้วนี่ฉันว่าจะช่วยเรื่องสินสอดทองมั่นให้เจ้ารอยมันด้วย ถือซะว่าให้ทุนมันไปตั้งต้นชีวิตใหม่น่ะ”

วนัสรู้สึกถึงปลายนิ้วมือใหญ่กำลังพันเส้นผมของตนเล่นไปมา นี่คงเอ็นดูเจ้ารอยไม่น้อยเลย คิดไปก็นึกถึงหน้าคนต้นเหตุขึ้นมา

“ได้เมียสมใจเลยนะ” วนัสพึมพำอย่างขำๆ ก่อนจะผงะหน้าหนีอีกฝ่ายที่เคลื่อนเข้ามาใกล้

“ดึกแล้วเลิกคุยเรื่องคนอื่นเถอะนะ” ภูผาซุกไซร้ใบหน้ากับซอกคอขาวเป็นการตัดบท แล้วกดริมฝีปากบนผิวนุ่มหอมระเรื่อยจนถึงริมฝีปากบางที่เผยอรอให้เขาเข้าไปชิมความหวานซ่าน มือใหญ่ลูบคลำบั้นท้ายแน่นตึงไปมา ก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้เนื้อผ้าเพื่อลูบไล้ผิวเนื้ออุ่นลื่นมือ

“คะ...........คุณภูผา”

“อะไรฮึ” ร่างสูงส่งเสียงครางถาม ขณะยังเคล้าเคลียติงหูนิ่มไม่ห่าง

“ผม..........ขอ......นอนเฉยๆได้มั้ยครับ?”

“หือ?” ร่างสูงชะงัก คงเป็นคำถามที่ประหลาดที่สุดในความรู้สึกของภูผา ร่างสูงจึงได้ผละศีรษะออกห่าง มองลึกลงในดวงตาคู่อ่อนโยนจึงได้เห็นแววความหวาดหวั่นซุกซ่อนภายใต้ความสงบนิ่ง ก่อนจะยกยิ้มให้ร่างบางคลายความวิตกกังวล

“อืม....หอมทีนะ” ภูผากลั้นใจจูบลงบนหน้าผากมน แล้วจึงทรุดตัวลงนอนก่ายกอดร่างบางไว้แต่เพียงหลอมๆ

“หลับซะ ถ้าไม่หลับเดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ” ภูผาพูดหยอกเย้าเมื่อวนัสยังคงลืมตาแป๋วในความใจกว้างของตน

เขาไม่อยากจะหักหาญน้ำใจของร่างบางอีก เพราะตัววนัสเองก็มีปฏิกิริยาในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เพียงแต่ต้องให้เวลาในการปรับตัวปรับใจแก่อีกฝ่ายบ้างเท่านั้น

วนัสเพียงพยักหน้าในอ้อมแขนแข็งแรง พลางซ่อนรอยยิ้มโล่งใจไว้ เขาดีใจที่อีกฝ่ายคิดถึงความรู้สึกของเขา แล้วค่อยๆหลับตาลงในความอบอุ่นที่โอบล้อมรอบตัวอย่างสบายใจ

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\


“ตั้งเชียงใหม่เชียวนะพี่” วนัสคุยโทรศัพท์กับพี่สาวผ่านสมอล์ทอล์ก นิ้วมือเรียวยาวยังคงกดแป้นคีย์บอร์ดรัวเร็ว

“คิดถึงสิครับ คิดถึงเจ้าสองคนนั่นด้วย” ใบหน้าขาวใสดูอิ่มเอิบ เมื่อได้พูดคุยกับคนในครอบครัวที่เหลือเพียงคนเดียวในโลก แม้จะห่างไกล แต่พี่สาวของเขาก็ยังโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบอยู่แทบทุกวันไม่ได้ขาด

“โธ่พี่ก็........... เอางี้ เดี๋ยวผมขอถามเจ้านายก่อนว่าจะหยุดได้กี่วันนะ แล้วผมจะโทรไปบอก ฝากหวัดดีพี่ยศด้วยนะพี่” พอตัดสัญญาณโทรศัพท์ วนัสก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทอดสายตามองผ่านกระจกใสออกไปภายนอกที่เขียวชอุ่มไปด้วยต้นข้าวโพดอ่อนอายุไม่ถึงเดือน

เกือบปีแล้วสิ ที่ไม่ได้ขึ้นไปเยี่ยมพี่ที่เชียงใหม่ ก็ตั้งแต่ทำงานที่นี่ละนะ ปานนี้ลูกของพี่คงโตขึ้นเยอะเชียว แต่จะขอลาพักได้รึเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดไปก็เหลือบตามองพี่พิน พนักงานหญิงที่เคยเป็นพี่เลี้ยงสอนงานตอนเข้ามาใหม่ๆ นั่งรื้อค้นเอกสารอยู่มุมหนึ่งของสำนักงาน

“พี่พินครับ”

“อะไรหรือจ๊ะ” หญิงสาวขานรับโดยไม่หันหน้ามามอง ยังคงง่วนอยู่กับกองเอกสารตรงหน้า

“ที่นี่เขาให้ลาพักร้อนได้ใช่มั้ยครับ”

“จ๊ะ ปีหนึ่งก็ลาพักร้อนได้ 10 วัน เฉพาะพนักงานประจำอย่างเราๆนะจ๊ะ พวกคนงานรายวันรายเดือนไม่มีหรอก”

“เหรอครับ ถ้าผมจะลาก็ยืนใบลาที่คุณภูผาใช่มั้ยครับ”

“จ๊ะ.....แต่ว่าจะไปไหนเอ่ย” พี่พินหันมายิ้มแซว

“ว่าจะไปเยี่ยมพี่สาวที่เชียงใหม่นะครับ”

“แหม...พี่ก็นึกว่าจะแอบไปหาแฟนที่ไหนซะอีก”

“โธ่.........พี่พิน” วนัสหัวเราะกับคำกระเซ้าแหย่ของพี่พิน แล้วจึงเดินไปหยิบฟอร์มใบลามากรอก เขียนเสร็จก็เอาใส่แฟ้มเสนอเซ็นนำไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของภูผา รอให้เจ้าตัวมาเซ็นอนุญาต หรือไม่อนุญาตก็เท่านั้น

ภูผากลับเข้ามาที่ทำการไร่ภูผาเมื่อใกล้เลิกงาน แล้วก็อย่างที่วนัสคาดไว้ ร่างบางถูกเรียกตัวเข้าไปในห้องทำงานของภูผาทันทีที่ร่างสูงเห็นกระดาษภายในแฟ้มเสนอเซ็น

“จะไปไหนหรือนัส ลายาวเลยนะนี่” ภูผาก้มมองใบลาพักร้อนในมือที่กำหนดจำนวนวันลาไว้ถึง 7วันอีกครั้ง

“จะไปเยี่ยมพี่สาวที่เชียงใหม่นะครับ” วนัสตอบพลางใจเต้นตึกๆ เขาอยากให้ภูผาอนุญาตมากๆ

“อืม.........7 วัน” ร่างสูงพึมพำเบาๆ พร้อมกับอาการครุ่นคิดจนวนัสเกิดอาการเกรงใจขึ้นมา เนื่องจากก็รู้ว่าตนเองลาติดต่อกันหลายวันจะลำบากเพื่อนร่วมงานคำอื่นที่ต้องทำงานแทนด้วยเหมือนกัน

“มากไปหรือครับ งั้นผมไว้ลาติดช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์คราวหน้าก็ได้ครับ จะได้ไม่กินแรงเพื่อนร่วมงานด้วย”

“เปล่าหรอก” มือใหญ่ดึงปากกาที่เสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาเซ็นสองจึก แล้วปิดแฟ้มลงเหมือนเดิม

“เพียงแต่..............” ร่างสูงเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดตรงหน้าร่างบางก่อนจะก้มตัวหอมแก้มนวลเร็วๆ ไม่ทันให้อีกฝ่ายได้หลบทัน

“มันคิดถึงน่ะ”

“..................พูดเหมือนพวกเจ้าชู้ไปได้” วนัสบ่นอุบอิบกับกิริยาไม่ค่อยจะสำรวมเวลาอยู่นอกบ้านของร่างสูง แต่ภูผาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้พลางยิ้มใส่ตาเขาด้วยซ้ำ

“งั้นวันนี้ไปกินข้าวเย็นในเมืองกันมั้ย “

อยู่ๆภูผาก็เอ่ยชวนวนัสไปกินข้าวนอกบ้านอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้วนัสมองสบตาร่างสูงอย่างพินิจพิเคราะห์

“ข้าวฝีมือของป้าหยดก็อร่อยดีแล้วนี่ครับ” คำตอบแบบซื่อๆทำเอาภูผาต้องรวบร่างบางเข้ามากอดแน่นๆเสียทีหนึ่ง

“ไม่ใช่อย่างนั้น แค่อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยพาออกไปเที่ยวไหนเลย ฉันกลัวเธอจะเบื่อน่ะ”

คำพูดที่ดูเป็นห่วงเป็นใยของร่างสูงไม่ได้ทำให้วนัสรู้สึกตามนั้น เขาโตมากับที่นี่แล้วเขาจะคิดเบื่อได้ยังไง

“คุณภูผา...............ที่ผมลาไปเชียงใหม่นี่ผมไปเยี่ยมพี่สาวนะครับ ผมไม่ได้ไปเพราะเบื่อที่นี่ ผมคิดถึงพี่สาวผมเหมือนกันนะ” น้ำเสียงของวนัสเริ่มจะรวนๆ เพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายมองว่าเป็นพวกขี้เบื่อหลงแสงสี

“อย่าเพิ่งโกรธสินัส ฉันแค่อยากพาไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ทำงานทุกวันมันจะเครียดสะสมได้นะ” ภูผาก้มลงจูบศีรษะทุยหนักๆ “แล้วอีกอย่าง ประสบการณ์มันสอนให้ฉันไม่ควรละเลยเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ ฉันไม่อยากให้มันซ้ำรอยเดิมอีก นัสอาจจะมองว่าบางครั้งฉันจู้จี้จุกจิก หรือไม่ก็ดูเป็นห่วงจนเกิดเหตุ นั้นก็เพราะฉันอยากให้ความสำคัญกับคนที่ฉันรัก ฉันอยากให้นัสพอใจ และอยากอยู่กับฉันไปนานๆ อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป ฉันไม่อยากมองข้ามเรื่องพวกนี้จนวันหนึ่งมันอาจกลายเป็นปัญหาได้น่ะ”

วนัสยืนนิ่งรับฟังร่างสูงพูดจบก็ถอนหายใจออกมายาวๆ เขาเข้าใจละว่า ชีวิตครอบครัวของภูผาเคยล้มเหลวมาก่อน ทำให้ภูผาพยายามจะลดช่องว่างที่เคยพลาดพลั้งเหล่านั้น แต่คำว่าล้มเหลว มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนเพียงคนเดียว หากอีกฝ่ายเข้มแข็งและพร้อมจะอดทน ต่อสู้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปด้วยกัน ก็คงไม่จบแบบนี้ ถึงจะรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่แต่มันก็อดฉุนไม่ได้อยู่ดี

“ผมก็คือผม อย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับใคร ถ้าผมอยากจะไปเที่ยว ผมจะบอกคุณ แล้วถ้าคุณไม่ว่าง ผมก็ไปเองได้ เอาเด็กๆไปด้วยก็ได้ หายเบื่อผมก็จะกลับ..............กลับมาเองละ” วนัสพูดตะกุกตะกักในตอนท้าย ก่อนจะถูกภูผาประกบริมฝีปากดูดกลืนถ้อยคำที่เหลือไปสิ้น

“ไปแล้วรีบกลับมานะ”






TBC




 :z3: งานหนักมากกกก คลายเครียดด้วยนิยาย เฮ้อ สบายใจ
 


มาต่อให้เเล้วจ้า ขอตัวไปอ่านนิยายก่อนนะ บาย :bye2: ฝันดีกันทุกคนค่ะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #478 เมื่อ12-11-2010 21:15:37 »

 :L1: :L1:

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: ====WITH ALL MY HEART!!! BY SAKE=== Part 13 (12/11/2010) Page 16
«ตอบ #479 เมื่อ12-11-2010 21:36:52 »

เฮียภาค มีเมียเด็กต้องอดทน
ทั้งลูกขู่ลูกปลอบ และเอาม้าเข้าล่อ
ก้องเด็กน้อยก็ตามเข้าต้อยๆ  :-[
อยู่ห่างนัสตั้งหลายวันแบบนี้คุณหินคิดถึงแย่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด