--เหลืออีกตอนก็จะโบกมือลาแล้วนะ
--ไม่ได้ดองอะไรทั้งสิ้น มีเวลาเขียนเท่านี้จริงๆ
--ขอบคุณสำหรับบวก+++ จะไล่บวกคืนให้ทุกคน
--มาชมหมัดตายของปุ๊บปั๊บเลยนะ
333333333333333333333333333333333
เก่งมือสั่นกึกๆ ร่างของพิมมี่วิ่งมาตบโสตประสาทจั๋งหนึบ ความรู้สึกภายในกำลังขัดแย้งกันอย่างโกลาหล ระหว่างสองทางที่ต้องเลือก ผู้หญิงที่รัก กับครอบครัวใหญ่ มันกดดันเขารุนแรงไม่แพ้กัน หัวใจเขากำลังโดนบีบซ้ายทีขวาที จนช้ำรอบด้าน เขาเงยหน้าจ้องมองทุกคน ใบหน้าแต่ละคนจิกสายตาเหมือนรอคิวจะรู้คำตอบจากมือร้อนๆของเขา หัวสมองทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันโดนบีบเส้นทางเดิน..
ในอีกแง่มุมนึงที่เขาเห็น สายตาทุกคู่กำลังส่งมากดดันลงมายังมือขวา เพื่อให้เขาเขียน สิ่งที่ลูกบอก
“..พ่อเก่ง.”ปุบปั๊บร้องไห้
“... ปุ๊บปั๊บตัดสินใจ ฮือออ..”
“.เก่งไม่ต้องเขียนแล้ว พี่ไม่บังคับใครให้เขียนหรอก.”ลูกรักลุกขึ้นอย่างผิดหวัง
ทั้งปู่ทั้งย่าทั้งตาและยาย ต่างเผลอน้ำตาคลอเบ้าตามหลาน เพราะเสียงนั่นมันสะเทือนใจกับความเศร้า
“.พี่ปุ๊บปั๊บรู้แล้ว ว่าจะทำยังไง..”
เด็กน้อยพยายามกลืนน้ำลายลงคอ
“..ปุ๊บปั๊บจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ..”น้องชินเกือบจะร้องตาม เหมือนจะส่งบท
“หลานปู่จะทำยังไง..”ปู่เอเศร้ายกมือบีบขมับ ส่วนภรรยาชักโกรธลูก ที่ลังเล ทำให้ค้างคา
ปุ๊บปั๊บหันไปมองหน้าพ่อที่กำลังจ้องเขาอยู่เช่นกัน ปากกาด้ามนั้นไม่ขยับเขยื้อนไปไหน นั่นก็แสดงว่า พ่อเขาไม่ยอมทำในสิ่งที่เขาร้องขอ คงหมดเหตุผลที่เขาจะต้องการสิ้น...
“.พรุ่งนี้ ปุ๊บปั๊บ กับ น้าปาล์ม จะไปจากคุณปู่คุณย่า หึ..”
“..กลับไปอยู่กับตาและยายก็ดีนะลูก เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม สี่คนพวกเรา”คุณปูปาดน้ำตาทิ้งสงสารหลานจับใจ ไอ้ลูกเขยสุดห่วยมันคงเลือกของมันแล้ว
“.ใช่จ๊ะหลานยาย เราจะกลับไปอยู่เหมือนเมื่อก่อน มีความสุขกว่านี้ตั้งเยอะ ปุ๊บปั๊บไม่ต้องมีร๊อกพ่อที่ขาดจิตสำนึก ขาดความผิดรับชอบแบบนี้ เดี๋ยวยายไปซื้อตลาดนัดให้ก็ได้”ยายได้จังหวะใส่ใหญ่
“..ฮือ. และจะไม่กลับมาให้พ่อเห็นอีก เก่งใจร้าย เก่งไม่เคยรักลูก ทอดทิ้งปุ๊บปั๊บตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ใบปอไปอยู่กับคนอื่น ไม่เคยนึกถึงแม่ ปุ๊บปั๊บไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ทำไม ทำไม......”
“....ตอนนั้นถ้าแม่ใบปอไม่รักอีกคน ปุ๊บปั๊บก็คงไม่ต้องเกิดมาสมใจอย่างที่เก่งอยากให้เป็นใช่ม่า..”สายน้ำที่พรูออกมา บีบหัวใจคนเป็นพ่ออย่างหนัก
“.เมื่อเก่งเกลียดลูกคนนี้นัก ปุ๊บปั๊บก็จะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ พ่อกับเมียน้อยอีก”
หัวใจเล็กยิ่งบีบเค้น ตอนนี้เขาไม่ได้พูดตามสิ่งที่ได้ยินอีกแล้ว แต่เขากลั่นมันออกมาจากดวงใจเล็กๆ
ปุ๊บปั๊บปัดมือพ่อทิ้ง ใบหน้าเหงาหงอย แค้นเคือง ตาแข็งกร้าว เขาเดินออกจากวงนั้นช้าๆ ปาดน้ำตาไปด้วยความท้อแท้...
ทันใดนั้น.....
“ไอ้เก่ง มึงเห็นมั้ย ว่ามึงทำอะไร”หนึ่งกระโดดจะไปเตะน้องชายให้กลิ้งไปกับพื้น หากไม่มีมือของราเชนดึงไว้ เขาโมโหแทนหลาน เขาไม่รู้ว่าปุ๊บปั๊บไปขุดคำเหล่านี้มากจากไหน ใครเป็นคนป้อน แต่เขาเจ็บแทนมากมายแทบกระอัก
“..เก่ง เก่งจะใจร้าย ทิ้งลูกเพื่อผู้หญิงคนนั้นได้ลงคอหรือ ถ้าปุ๊บปั๊บพูดถึงขนาดนี้ แสดงว่าที่ผ่านมา เขารู้เรื่องราวมาตลอด แต่เขาเก็บงำมันไว้ เมื่อมันไม่ไหว เขาถึงได้ระเบิดมันออกมา”มารดาพาลร้องตามหลาน
“ผะ ผม.......”
“โฮ่.......”เก่งรำคาญตัวเอง
“...ผมมม.....”
เก่งขยับมือลงบนกระดาษ
ปู่ ย่า ตา ยาย ค่อยๆคลี่ยิ้ม
พี่ชายหนึ่งเดียวก็จับมือราเชนกำแน่น
เมื่อเห็นน้องชายบรรจงเขียนตัวหนังสือลงในกระดาษในที่มันมีคราบน้ำตาของลูกชายร่วงหยดใส่เป็นบางส่วน..
น้องชินรีบวิ่งตามคนขี้งอล...
“.ปุ๊บปั๊บ...”
“น้องชินมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ..”
ปุ๊บปั๊บมองเพื่อนที่กำลังยิ้มใหญ่
“..น้องชินจะเยาะเย้ยพี่ละสิ..”
“..เปล่า ไม่รู้ว่าพ่อเก่งเขียนอะไรอยู่ ปุ๊บปั๊บไปดูดิ..”
“พี่ปุ๊บปั๊บ ไม่เอาแล้วครับ พี่จะไปตามน้าปาล์ม”
“..ไปดูหน่อยน่า นะ...”
“.ไม่อ่ะ เก่งไม่รักพี่กับน้าปาล์มดูไปก็ไม่มีประโยชน์”เด็กน้อยสายตาเลื่อยลอย
“.ให้โอกาสเก่งอีกครั้งไม่ได้เหรอ”
“.โอกาส บางครั้งก็ต้องเลือกคน..”
“ชินขอนะ อย่าดื้อดิ เดี๋ยวไม่หล่อนะ”
“..........”ปุ๊บปั๊บใบหน้าเย็นชา
“ไปดูให้เห็นกับตาซินะ คิดถึงตอนที่เราทำผิด คนอื่นยังให้โอกาสแก้ตัว ชินว่าเราก็ต้องทำแบบนั้นบ้าง..”
ชินถูลากถูกังมือเพื่อนให้เดินกลับ ใจเต้นตึ๊กตั๊กแทน มันอาจจะเป็นข่าวดีก็ได้ เขาคิดอย่างนั้น ไม่งั้นทั้งพ่อราเชนและคนอื่นจะยิ้มแก้มตุ่ยกันขนาดนั้นเหรอ
..ใบหน้าปุ๊บปั๊บยังคงยิ้มไม่ออก เพราะยังอารมณ์ค้างจากเมื่อกี้ เก่งทำเหมือนลังเลในการตัดสินใจ นั่นคือสิ่งที่เขาไม่ชอบ แค่นั้นก็เข้าใจถึงแก่นแท้
“..หลานปู่ดูสิ พ่อเขาเขียนว่าอะไร..”
“..อ่านไม่ออกอ่ะครับ”
“.พ่อเก่งเขียนว่า..”
“ครอบครัวของพ่อ มีปุ๊บปั๊บ กับปาล์ม เราคือครอบครัวเดียวกัน แล้วเก่งจะดูแลสองคนนี้ไปตลอดชีวิตจะหาไม่ สัญญาจากใจของลูกผู้ชายที่ยังเหลือมีอยู่บ้างครับ...”
“วู๋ ว้าวววว...”
“ เปาะ ๆ...”ปุ๊บปั๊บตบมือน้องชินสองคน
“ไชโย ไชโย...”น้องชินร้องลิงโลด
“.ไชโย สำเร็จแล้ว อยากให้น้าปาล์มได้เห็นด้วย”
เด็กทั้งสองโดดกอดแสดงความดีใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะน้องชิน ร้องคอแทบแตก ถ้ามีพลุคงจุดเฉลิมฉลองสับเสร็จ
“..เย้ เย้...”ทั้งสองกอดกันกลมดิก
...หนึ่งหันไปยิ้มให้กับราเชนด้วยความเข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยคำไหน พลางยื่นแขนไปโอบเอว แต่ก็โดนกระทุ้งกลับเข้าให้ จนเขาต้องละแขนทิ้ง..
“..สำเร็จแล้วสิ..”ราเชนกระซิบข้าง
“.ผมไม่รู้มาก่อนนะว่า หลานผมจะจับมือพ่อชก เขียนสัญญาผูกมัดตัวเองซ้ำอีกรอบ”
“.แบบนี้ยิงกระสุนนัดเดียวได้พ่อคืนมากับสัญญาที่ไม่ต้องเขียนเอง.”
“นั่นนะซิ หรือว่า พ่อแบบไอ้เก่ง ต้องเจอลูกแบบปุ๊บปั๊บ”
“.มีลูกแบบนี้ก็น่ากลัวนะคุณ ลองคิดดีๆ..”
“..ก็เหมาะกับคนเจ้าชู้ คู่ควรแล้วละครับ”
“ฮึ..ฮึ...”
“...มาม่ะ ทุกคนมาเป็นพยานให้ปุ๊บปั๊บด้วยนะครับ..”ปุ๊บปั๊บกวักมือเรียกทุกคน
“เอาไงเอากันลูก...”
ปู่เออดชื่นชมหลานไม่ได้ ไม่เสียแรงเลี้ยงดูปูพรมอย่างกับไข่ในหิน ความคิดเหล่านี้เขากับภรรยาเป็นคนวางมันขึ้น และให้หลานเดินตามแผน สุดท้ายหลานรักก็ทำสำเร็จ ไม่เสียชื่อจริงๆ..
“..ปุ๊บปั๊บ ยังเขียนไม่ได้ งั้นต้องแปะโป้ง เป็นหลักฐานเก็บไว้ จริงมั้ยครับปู่ย่าตายาย..”
น้องชินปรบมือให้พี่ปุ๊บปั๊บ ทำให้คนอื่นตบตาม
“..สุโค่ยย พี่ปุ๊บปั๊บ...”ชินยกนิ้วให้
“ของมันแน่ ยิ่งกว่าแน่.”
ปุ๊บปั๊บเอานิ้วทั้งสิบแต้มหมึก โดยมีพ่อเก่งเป็นกำลังเสริมคอยจับนิ้วลูกให้กดลงบนแป้นหมึก หลังจากนั้น สัญญารักกระดาษก็ถูกประทับนิ้วเล็กจนครบสิบนิ้วน้อยๆ..
“..เก่งด้วยดิ..”ปุ๊บปั๊บท้วง
“.พ่อเซ็นให้แล้วไงครับ...”เก่งยิ้มตอบ
“ไม่พอครับ ต้องมีลายนิ้วมือด้วย.”
“ถ้าพ่อผิดสัญญาวันไหน เราได้เล่นโปลิศจับขโมยกันแน่..”
ปุ๊บปั๊บจับนิ้วพ่อมาแต้มหมึกบ้าง..
“..พ่อทำเองได้น่า...”
“จริงอ่ะ ต้องครบสิบนิ้วเหมือนพี่ปุ๊บปั๊บด้วยนะ”
“ต้องสิบนิ้วด้วยเหรอ..”
“งั้นสิ ไม่งั้นหลักฐานก็ไม่แน่นหนาสมบูรณ์ วันไหนที่เก่งทำให้ปุ๊บปั๊บเสียใจ ทำน้าปาล์มน้ำตาตก ปุ๊บปั๊บจะเป็นคนฉีกสัญญานี้กับมือ และจะพาน้าปาล์มหนีไปเมืองลับแล ไม่ให้มาเจอกันอีกเลย”
ปุ๊บปั๊บกอดอกพูด พลางเชิดหน้านิดๆ อย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า เขาพูดเป็นต่อยหอยจนผู้เป็นพ่อหน้าดำหน้าซีดอ้าปากค้าง..
“ไงเล่าคุณพ่อ ไม่ได้อยู่กับลูกมาพัก เจอรัวกระสุนใส่นี่ไปไม่เป็นเลยใช่ป่ะ”
“ก็เออ นะสิพี่ ไม่รู้ใครเสื้อมสอน ผมคิดว่ามันเป็นพ่อผมอีกคนด้วยซ้ำ..”
ทุกคนต่างหัวเราะครืน
“ปุ๊บปั๊บจะเอาหนังสือสัญญาไปถ่ายเอกสาร สำเนาเก่งเก็บเอาไว้หนึ่งฉบับ ส่วนตัวจริงพี่ปุ๊บปั๊บจะเก็บไว้ในเซฟ โดยมีคุณปู่กับคุณย่าเป็นผู้ดูแลแทน จนกว่าปุ๊บปั๊บจะบรรลุนิติภาวะครบห้าขวบ เอ้ยสิบขวบก็ได้กระทั่งสามารถดูแลเองได้”ปุ๊บปั๊บชูนิ้วทั้งและสิบประกอบ
เมื่อหลานพูดเป็นงานเป็นการ ทุกคนก็แทบสำลักกับคำพูด..
“..พี่หนึ่งช่วยผมหน่อยซิครับ ตอนนี้ผมโดนตัดสินจำคุกไปซะแล้ว..ฮ่า ฮ่า..”เก่งขำทั้งน้ำตา
“.ตามสบายละกัน โดนซะบ้าง.”พี่ชายละสายตาไปอีกทาง
ปู่กับย่ารู้ว่าคำพูดบางอย่างมันมาจากใคร... ก็ในเมื่อที่หมวกปุ๊บปั๊บมีลำโพงเล็กๆ เล็กจริงๆซ่อนไว้
“.เก่ง สัญญากับลูกแล้ว ห้ามปดสัญญากับลูกเด็ดขาด ไม่งั้นเสียเขาไปตลอดชีวิต พ่อกับแม่ก็จนปัญญาจะช่วยแล้วนะ”
“...ครับแม่....ครับพ่อ...”
“ปุ๊บปั๊บ เอาอันนี้ให้พ่อป่ะ...”ยายส่งสมุดบางอย่างใส่มือหลาน
ปุ๊บปั๊บรับหน้าที่ส่งต่อ เขายื่นไปให้พ่อ พร้อมกับยิ้มสดใส
“..นี่เป็นของน้าปาล์มเขียนถึงพ่อ เสียดายปุ๊บปั๊บยังอ่านไม่ออก เลยอดรู้เลยว่า น้าปาล์มนินทาอะไรปุ๊บปั๊บไว้หรือเปล่า ฝากพ่อเก่งมาบอกปุ๊บปั๊บหน่อยนะครับ”
“ของน้าปาล์มเหรอ ไดอารี่นี่..”
“ใช่ครับ น้าปาล์มเขียนถึงพ่อ ตั้งแต่ตอนที่แต่งงานกับพ่อ จนถึงวันที่พ่อทิ้งเราไป...”
“ตากับยายเป็นคนบอกนะ ปุ๊บปั๊บไม่ได้อ่านเลยนะ ได้แต่เปิดผ่านๆ เผื่อมีรูปหล่อๆของปุ๊บปั๊บ และสุดท้ายก็ปรากฎว่าไม่มี....”ลูกชายส่ายหัว..
“.....ขอบใจนะ...”
“..เมื่อไหร่ ปาล์มจะกลับมา...”เก่งถามแม่
“งานของพ่อกับแม่ยังเริ่มไม่ได้หรอกนะ ตราบใดที่ยังไม่มีปาล์ม แต่ว่าไม่ต้องไปตามหรอก เดี๋ยวเขาก็กลับมา”
“จริงนะครับแม่..”เก่งคลายความกังวล
“..อีกไม่เกินชั่วโมง ปาล์มก็น่าจะกลับ”
“ถ้างั้นผมขอดูสมุดเล่มนี้ก่อนแล้วกันนะครับ”
“อย่าๆไปไหนแล้วกัน ถ้าไม่มีเก่ง งานก็เริ่มไม่ไม่ได้เช่นกัน”
“ครับแม่...”
เมื่อลูกชายเดินหามุมสงบ ทุกคนก็เริ่มยิ้มให้กัน เมื่อทุกอย่างบรรลุเป้าหมาย..
เก่งจับการ์ดแต่งงานของตัวเองขึ้นมาสูดเพราะกลิ่นน้ำหอมวันนั้นยังไม่จาก กระดาษก็ยังไม่เปลี่ยนสี เหมือนมันได้รับการทะนุถนอมเป็นอย่างดี
เขาวางสายตาไปจับอยู่ที่ตัวอักษรทุกบรรทัดที่ปาล์มเขียนอย่างละเอียด...
“..เมื่อกูต้องแต่งงานกับผู้ชาย...”
นั่นเป็นการขึ้นหัวข้อ การเขียนไดอารี่เล่มนี้ แค่เริ่มต้นมาก็ทำให้เขาไม่ละไปไหน กลับสะดุ้งด้วยซ้ำ เขาเชื่อว่าในเล่มนี้มันคงมีเขาพัวพันธ์ไม่มากก็น้อย..
“..มึงทำให้กูคิด....”
เก่งพูดกับตัวเอง ปล่อยหัวใจไปตามสิ่งที่ปาล์มได้ระบายสีมันไว้ในเล่ม บางครั้งเขาก็อมยิ้มกับมุกที่โดนแต่งแต้มลงไปเพื่อบั่นทอนเนื้อหาที่หนักหน่วง แต่สิ่งที่เขารู้ก็คือ ปาล์มไม่เคยยินดีกับการได้แต่งงานกับเขา แต่ยอมเพราะรักพ่อกับแม่ แม่แต่เรื่องราวทรัพย์สินต่างๆในส่วนของเขา ปาล์มยังไม่เคยเข้าไปแตะต้องเอามาใช้ซักแดง เพราะปาล์มกับปุ๊บปั๊บมีค่าใช้จ่ายเป็นส่วนที่พ่อกับแม่จัดแจงให้เรียบร้อย เพราะปาล์มถือเป็นตัวแทนของใบปอเมียตัวจริงของเขา พอปาล์มมาอยู่ตรงนี้สิทธิที่ได้รับไม่ได้แตกต่างกันเลย...
“...ครั้งแรกที่กูได้ยินมันบอกว่ารัก กูหัวเราะดังลั่นกลบเกลือน เพราะกูรู้ว่ามันชอบมาแกล้งเวลาที่มันอารมณ์ดี แต่บางครั้ง กูก็อยากให้มันเป็นความรู้สึกจากหัวใจของมัน โอ้วววว ไม่ ไม่ บ้าน่า ไร้สาระสิ้นดี กูจะไปรักคนเหี้ยๆอย่างมันได้ไงวะ กูนี่สมองชักฟั่นเฟือนใหญ่...”นั่นเป็นข้อความส่วนหนึ่งที่เก่งอ่านเจอ
“...กูพูดครั้งแรก ตอนไหนวะ...”เก่งพยายามภาพนึกตาม แล้วก็อมยิ้ม
“.บางครั้งมองเผินๆ มึงก็ น่ารัก น่าเอา ไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะโว้ย มีหลายครั้งที่กูเกือบหลวมตัว เวลาที่มึงนอนหลับ หลายครั้งที่กูแอบจูบแก้มมึง รู้มั่งหรือเปล่าไอ้ขี้เซา..”
เก่งลูบปากตัวเองหืนๆ แล้วก็หัวเราะคนเดียวกับไดอารี่ตรงหน้า33333333333333333333333333333333