
.......ฉลองยอดโหวตตตตตตต 70 โหวต นะคร้าบบบบบบ.........
มาแบบเบาๆ ก่อนจะทะลุทะลวงใครบางคนแบบแรงๆ
......อืดดดๆ อึดดดๆ ใกล้จะจบแล้วไม่ต้องไล่กันนะ+5555 จบแน่นอน ช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่างของคนเขียน.....
......เพราะงานประจำก็หนัก พักผ่อนก็น้อย ช่วงนี้ผมโซสุดๆ

......รักกันชอบก็อย่าลืม บวกๆๆๆนะ......
88888888888888888888888888888888888888888888888888888888
มาต่อกันเลยนะครับ..
.
.
.
.
.
.
.
ปู่เอกำลังเดินวนเวียนรายรอบเก้าอี้ที่ยกให้หลานนั่งเด่น เป็นรอบที่ห้า ทั้งเขาแหละภรรยากำลังจับปุ๊บปั๊บขึ้นเขียงติวเข้ม เพื่อเรียนหลักสูตรไม้ตายยกแผง ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รักลูก ทอดทิ้งลูกแม้ว่าเขาจะสร้างปรากฏการณ์เหลวแหลกแห่งชาติหลายต่อหลายรอบก็ตาม
ปุ๊บปั๊บนั่งหน้าจ๋องเป็นลิงน้อยขี้สงสัย เขาทำอะไรผิดหรือเปล่านะ ทำไมปู่กับย่าถึงเรียกตัวเขากลับมาด่วน หรือว่าปู่กับย่าจะจับได้ว่าเขาขโมยกินรังนกที่อยู่ในกระเช้าที่ได้มาเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ก็ไม่น่าจะใช่ หรือว่าปู่กับย่าจะจับได้ว่าเขาขโมยเหรียญสิบสองอันไปหยอดใส่ออมสินกระต่ายหูตั้งในห้องตัวเอง หรือว่าปู่กับย่าจะจับได้ว่าเขาเข้าไปเล่นในห้องพระแล้วชนรูปปั้นหงษ์ทองตก แต่รูปนั้นก็ไม่ได้เสียหายอะไร แค่หางหงษ์หักไปนิดนึง แต่ก็ได้แอบเอากาวตราช้างไปแปะคืนแล้วนี่ ปู่กับย่าไม่น่าจะจับได้นะ เด็กน้อยเริ่มเครียดกับความคิดของตัวเอง เขาเริ่มกระสับกระส่าย กับสีหน้าตึงๆของผู้ใหญ่ทั้งสอง...
“หลานปู่..”เสียงเข้มทำให้เขาสะดุ้งโหยง
“ค้าบบบ...”ปุ๊บปั๊บไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากพื้น
“รู้หรือเปล่าว่าทำไม ปู่กับย่าถึงให้ปุ๊บปั๊บนั่งเป็นพระราชาตรงนี้”
“ม่ะรู้อ่ะคับ”หลานรักพยายามจะเอาขาสั้นเขี่ยพื้น เพื่อบรรเทาความสั่นให้น้อยลงไป แต่ขาสั้นเกินแกง จึงเขี่ยอากาศเล่นแทน ใครจะไปยอมรับล่ะ ว่าตัวเองทำอะไรผิดมา ของอย่างนี้มันต้องมีมุบมิบ การเอาตัวรอดคือยอดคน..
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละลูก เหมือนไปทำอะไรไม่งามมา”ย่าทัก เห็นหลานเอาแต่ก้มหน้าพูดกับพื้นไม่ยอมจ้องหน้าพวกตนซักที
“ปะ ปะเปล่าคับ ปุ๊บปั๊บแค่รู้สึกตาลาย ปวดหัวด้วยคับ”หลานยกมือจับหัว ก่อนจะโดนจับผิดได้ ต้องเฉไฉใช้เล่ห์เหลี่ยมที่พอได้เรียนรู้มาจากธรรมชาติเสี้ยมสอน หนีตายก่อน
“ไหนย่าดูซิ..”ย่ารีบ แตะตัว อังหน้าผาก หนำซ้ำจูบที่แก้มเพื่อสัมผัส หลานเจ็บป่วยได้ที่ไหน คนนี้รักสุดๆตามใจยิ่งกว่าลูกชายตอนเด็กๆซะอีก
“.ก็ปกติดีนี่พ่อ”
“.โกหกปู่กับย่าหรือเปล่าลูก..”
“เปล่าครับ ปุ๊บปั๊บ ป่วยจริงๆ..”หลานทำตาปริบๆให้เห็นใจ
“.สงสัยอยากจะอ้อนนะแม่”ปู่นึกไปถึงนั่น
“นั่นนะสิ...”
“..เอางี้ดีกว่า หลานปู่ เรามาเข้าเรื่องกันเลย”
“.....อี๋........”หลานทำหน้าจี๊ดด ความผิดคงได้เปิดเร็วนี้
ปู่จ้องการกระทำของหลานเขม็ง ย่าก็พลอยหยีหน้าสงสัยตามไปด้วย..
หลานกำลังระทึก กลัวตามประสาเด็กที่ทิ้งหลักฐานผิดๆไว้ไม่เนียน..
“ฟังปู่ให้ดีนะหลานปู่ ตอนนี้บ้านเรากำลังระส่ำหนัก”
“คืออะไรหรือครับ”
“.คือว่า น้าปาล์มจะไม่อยู่ที่นี่อีกแล้วนะ”ย่าโพล่งปากออกไป
ปุ๊บปั๊บรู้หน้าชาขึ้นมาเฉยๆ ทำไมเขายังไม่รู้ข่าวพาดหน้าหนึ่งของบ้านนี้ หรือว่าเขามัวแต่ตัวติดน้องชินจนลืมน้าคนสำคัญ..
“น้าปาล์มจะไหน ปุ๊บปั๊บไม่ให้ไปนะ ฮือ ฮือ น้าปาล์มอยู่ไหน ปุ๊บปั๊บจะไปหา”น้ำใสๆเม็ดเล็กผุดขึ้น จนย่าต้องเข้าไปปลอบโยน
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะหลานปู่ เฮ้ออ นี่พ่อสื่ออะไรผิดไปหรือเปล่านี่”
“พ่อทำให้หลานตกใจนะซิ..”เสียงภรรยาเอ็ดสามีขำๆ
“งั้นเอาใหม่...”ปู่คิดคำที่จะพูดกับหลาน
“ไม่ต้องลีลาหรอกพ่อ...”
“ฟังย่านะหลานรัก...”มืออุ่นลูบผมและเช็ดร่องน้ำตาออกจากใบหน้าเล็ก
“ถ้าหลานไม่อยากให้น้าปาล์มไปจากที่นี่ ปุ๊บปั๊บก็ต้องทำตามที่ปู่กับย่าสอนเข้าใจมั้ยคับ”
“.ทำอะไรหรือครับ”พอน้ำตาหยุดเลื้อย เขาก็ตั้งสติใหม่
“.ปุ๊บปั๊บ รักน้าปาล์มมั้ยครับ”
“.รักคับ ปุ๊บปั๊บรักน้าปาล์มสุดๆ รักจากก้นบึ้งหัวใจเลยคับ”พูดแค่นั้นดวงตาก็มีน้ำมาคลอ ให้ปู่กับย่าตื้นตันตาม
“จำมาจากละครเรื่องไหนล่ะนี่”ย่าแซว เพราะเขารู้ว่าปุ๊บปั๊บชอบ
“เปล่าครับ พูดจากใจน้อยๆจริงๆ”
“น่ารักจริงอะไรจริงเลยนะหลานปู่”
“มาต่อด้วยอีกคำถามหนึ่ง..”ปู่ฮึดใจขึ้นสู้ ไม่รู้ว่าหลานจะตอบคำไหนกับรูปนี้
“..หลานรักเก่งมั้ยลูก..”
“.เก่งเหรอคับ”หลานทำหน้าคิดหนัก
“.เก่งอยู่ไหน..”
“นั่นนะซิ เก่งอยู่ไหน”ย่าขำ
“ว่าแต่หลานย่าอยากให้เก่งกลับมารักน้าปาล์มและอยู่ที่บ้านหลังนี้ตลอดไปกับพวกเราหรือเปล่า”
“รักครับ เก่งชอบพาปุ๊บปั๊บไปเที่ยวที่แปลกๆ”
“ถ้าเก่งกลับมาที่นี่ หลานปู่ก็จะได้ไปเที่ยวอีก..”
“เย้ เย้ เย้”หลานชูแขนขึ้นด้วยความดีใจสุดลิ่ม
“..ถ้าอย่างนั้น พวกเราต้องร่วมมือกัน”ย่าจับแขนหลานไว้มั่น
“ทำยังไงหรือครับ”
“..เอียงหูมาซิ ปู่จะบอกวิธีให้..”
ปู่กับย่าขนาบหูหลานกันคนละข้าง เพื่อจะเป่าให้หลานร่วมมือร่วมใจยกขบวนพลังแห่งความรักทั้งมวล เพื่อดึงลูกชายคนเล็กกลับมาจากอ้อมอกหญิงพิมมี่ ก่อนที่ทุกสิ่งอย่าง จะสายเกินแกง และไม่สามารถเยียวยาเส้นรักบางๆของทั้งคู่ให้ ปะ สาน กันได้อีก อะไรจะเป็นยังไง คงต้องวัดพลังหัวใจกันดูซักตั้ง พวกเรายังเชื่อว่า เลือดข้นกว่าน้ำเสมอ...
พ่อขับเลียบถนนที่ติดแม่น้ำสายใหญ่ โดยมีผมกับไอ้เก่งนั่งกันอยู่ด้านหลัง พ่อขับเหมือนจะพาพวกเรามาเที่ยวมากกว่าจะดูมีสาระ ผมคิดอย่างนั้น เพราะว่าแม่ก็มัวแต่หวงสวยอยู่นั่นแหละ ส่วนพ่อก็นานๆจะพูดขึ้นมาซักคำ แต่ละคำที่พูดมันกระแทกใจคนฟังอย่างผมเสียจริง พูดแบบนี้เอาหอกมาทิ่มใจผมดีกว่ามั้ง
ส่วนไอ้ใบ้ที่หน้าตึงข้างผม (ก็มันไม่คุยกับพ่อแม่และผม) มันมัน มันเอนหัวแนบหูกับโทรศัพท์ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคุยกับใคร เพราะตะเบ็งชื่อจี๊ดออกมาจากเครื่องขนาดนั้น ทำลายสมาธิการท่องราตรีของผมให้หม่น..
“ปิดโทรศัพท์ซะ..”แม่ผมสั่งไอ้ใบ้
“ใช่ คุณลูกเขยครับ กรุณาให้เกียรติ สองหัวหงอกที่นั่งโด่ตรงนี้ด้วย”
“ใครหัวหงอกค่ะคุณปู ฉันยังดำสนิท หงอกคนเดียวไปเถอะ”นั่นแม่ของผม ไม่ยอมหยุดสวย
มันก็เชื่อนะ ละออกจากหู เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง แล้วกอดอก วางมาดพระเอกเต็มขั้น
“ปาล์มเห็นสายน้ำที่ไหลมั้ยลูก”
“ครับพ่อ....”
“สายน้ำไหล ไม่เคยย้อนกลับ”แม่ผมตั้งใจจะพูดมากกว่าจะพูดลอยๆ
“..เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาที เราไม่สามารถไปเก็บเอามารีมิกซ์ใหม่ได้”
“เอา แล้วละสิ......”ผมคิดในใจคนเดียว
พ่อกับแม่จะทำอะไรกันนี่ แล้วไอ้ใบ้มันก็ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนผมกลับเกร็งอั้นฉี่แทนซะเอง ก็มันแม่งๆ กลิ่นทะเม่งๆออกมาให้สูดแล้วซี มันหันออกนอกหน้าต่าง มองสิ่งที่อยู่รอบนอก ส่วนหูของมันไม่รู้จะฟังอะไรหรือเปล่ายากจะเดา
“แต่เอ๋ อะไรนั่น ๆๆ...”ผมพูดคนเดียว
มันทำปูไต่ นิ้วขยับเข้ามาจับมือผมที่วางไว้ตรงเบาะ แต่ผมกระชากมือหนี หลังจากนั้นมันก็เอาปูไต่ของมันกลับไปที่เดิมคือล้วงกระเป๋า
“สงสัยมันจะประสาทราชวัง โดนกดดันจากพ่อกับแม่ ยังจะมีอารมณ์เล่นอีก”333333333333333333333333333333
--สั้นไปนิด แต่แต่งสดๆนะครับ-