" แต่ที่ผมไม่ฆ่าคุณตามคำเรียกร้องโง่ๆ เพราะยังไงคุณก็เป็นอาของผม และผมจะไม่มีวันใช้วิธีบ้าๆแบบที่คุณกำลังทำอยู่ !!! " ..ควันปืนและกลิ่นดินปืนอันเคยคุ้นลอยมาแตะจมูก คลาร์กจ้องมองใบหน้าของหลานชายคนสุดท้อง มองมันที่กำลังถือปืนลั่นจ่อขมับของเขาด้วยสีหน้าคั่งแค้น โกรธเคือง หากแต่ก็ปวดร้าวและสั่นไหวราวกับจะร้องไห้ ...ใบหูยังรับรู้ได้ถึงความร้อนที่พุ่งเฉียดเส้นผมไปยังพื้นพรมหนา..และ..คำพูดของมันที่ดังก้องในสมอง..
" คุณเอาแต่พล่ามว่าจะฆ่าคนนั้นคนนี้ ความตายมันเป็นทางออกของการแก้ปัญหาสินะ ? สมองอย่างคุณก็คิดได้แบบนี้งั้นสิ ...ลืมไปแล้วหรือไงว่าเพราะอะไรคุณต้องมา
ลืมไปแล้วหรือไงว่าเพราะอะไรพวกเราถึงได้เจ็บปวดและทุกข์ทรมารแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเราต้องเสียคนในครอบครัวไปด้วยฝีมือของคนที่เรารักรึไง ! "
ผลั่ก! " เชิญนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ในห้องนี้ซะ อย่าได้คิดจะหนี ..หน้าห้องมีคนเฝ่าอยู่รวมถึงหน้าต่างและทางอื่นๆด้วย ...อีกสามวันเราจะกลับอิตาลี แต่ผมจะไม่ปล่อยให้คุณออกมาวิ่งเพ่นพ่านที่นี่แน่นอน "
ร่างของแกเร็ตถูกผลักให้ทรุดตัวลงนั่งข้างกายคลาร์กที่ยังคงนิ่งงัน...เงียบไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย..ขณะที่คาวัลโลเม้มปากแน่น ใบหน้าของเขาเชิดขึ้นและยื่นปืนคืนให้อัลชาอ์ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ท่ามกลางการจับตามองของชีคแห่งเซเนียยาและบรรดาคนสนิทรวมถึงบอดี้การ์ดหลายสิบนาย..
อัลชาอ์ถอนหายใจพรู..ชีคหนุ่ม ยิ้มออกมาบางๆคล้ายโล่งใจกับเรื่องที่ผ่านไปได้ด้วยดี..และอาจจะรวมถึงดีใจ..ที่อย่างน้อยเจ้าแมวน้อยคาวัลโลก็กลับมากลายร่างเป็นไฮยีน่าตัวแสบเหมือนเดิม
..ต่อให้คาวัลโลจะยังร้องไห้ทุกข์ใจเมื่อเจอปัญหา แต่ก็ดีแล้ว...ดี...ที่เจ้าตัวลุกขึ้นมาและกลับเป็นคนเดิมได้โดยไม่ต้องมีใครมาบอก ไม่ต้องด่าว่า ตะคอกเรียกสติเหมือนที่แล้วมา..
ค่อยเติบโตขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ..พัฒนาขึ้นทั้งสมองและการควบคุมอารมณ์...แบบนี้ ไม่นานก็คงจะได้เป็น"บอส"ที่ยิ่งใหญ่ได้แน่ๆ
...แม้ว่า...จากนี้เขาจะไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของก็ตาม..
" ถุย..." นิ่งเงียบไปสักพัก คลาร์กหัวเราะขึ้นมาราวกับขบขันในคำพูดของหลานชาย ดวงตาคู่นั้นจ้องมองใบหน้าของคาวัลโล วาสกัส ที่ยืนจ้องมองตนอยู่ด้วยแววตาเปล่งประกายวาววับ...ราว...จะภูมิใจ ?!... แม้เสียงหัวเราะนั้นจะยังแฝงแววขบขันปนหยามเหยียด..
"...คบค้ากับพวกมาเฟียมันก็แบบนี้สินะ ชอบหลอกลวง สับปลับ ฉันมันพลาดเองที่นึกใจอ่อนขึ้นมา..ทำเอาแกมายำฉันแล้วพูดพล่ามอะไรออกมายังกับนักสังคมสงเคราะห์ " คลาร์ก โรเซนเบิร์ก มองหลานชายตนที่ยืนมองเขาด้วยสีหน้างวยงงอย่างเห็นได้ชัดแล้วแสยะยิ้มด้วยสีหน้าเยาะหยันเกินจะบรรยาย ชายหนุ่มสายเลือดอารยันกอดอก ใช้นัยน์ตาสีบรูเน็ตจ้องมองใบหน้าของคาวัลโลพร้อมกับพ่นลมหายใจช้าๆ
...ก่อนจะเอยคำพูด ที่เป็นดั่งคำประกาษิตชี้นำทุกอย่างในชีวิต
" เอาซี...จะเอายังไงก็เอา จะทำอะไรก็ทำ...แล้วฉันจะคอยดู ว่าน้ำหน้าบอสมาเฟียอย่างแก จะทำให้วาลกัสเดินไปทางไหน..." คาวัลโลชะงัก นิ่งไปครู่หนึ่งอย่างงงันไม่น้อยกับท่าทีเหยียดยิ้มทรนงองอาจและมั่นอกมั่นใจเหลือเกินของอาคลาร์กที่ไม่ได้เข้ากับบรรยากาศ หรือกระทั่งเรื่องที่พูดคุยกันสักนิด เขาขยับปากจะสถบด่าหรือต่อว่ากับคำพูดบ้าๆบอๆนั้น.. ทว่า..เมื่อได้มองสบนัยน์ตาสีบรูเน็ตที่เคยคุ้นและสีหน้าของคลาร์ก อีกเสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็แสยะยิ้ม ด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้างหากสดใสและเป็นประกายขึ้น..
...เพราะ...คลาร์กได้ให้การยอมรับเขาในฐานะบอสมาเฟียอีกหนึ่งคนแล้ว..
....มีมือซ้ายที่คอยทำตามคำสั่ง และมีมือขวาที่คอยชี้นำแนวทางอันชาญฉลาด..ครานี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..เขาก็จะผ่านมันไปได้แน่นอน..
" ขอบคุณ...." คาวัลโลพยักหน้ารับนัยน์ตาของเขาหรี่ลงน้อย ๆจ้องมองคลาร์กและคิดถึงเรื่องราวที่ชายคนนี้ทำมา เป็นไปได้ว่านั่นคือวิธีที่จะเรียกความมั่นใจของเขาหรือแม้แต่กระตุ้นให้เขากลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง...แน่นอนว่าเจตนาของมันคือความหวังดีแม้จะถูกเคลือบแฝงด้วยการกระทำร้ายๆจนแทบมองไม่ออก ..ทว่าอย่างไรก็คือความรักและความปราณีทั้งสิ้น
" แต่ผมไม่ปล่อยไปหรอกนะ "
....แต่ยังไงมันไม่เกี่ยวกับผลของการทำตัวบ้าบิ่นแบบนั้นอยู่ดี
" หา.... ไอ้...#$%$^&*()_^%$$% "
" ผมบอกคุณแล้ว วิธีบ้าบอแบบนี้มันโง่เง่า เอาปืนจ่อหัวเจ้าของประเทศ ไม่โดนส่งเข้าคุกก็ดีเท่าไหร่ คุณน่ะทำอะไรไม่คิด เหมือนเด็กไม่มีสมอง ....อย่ามาเตะผมนะ ! แล้วที่หัวนะยังมีแผลอยู่แลย ทำแผลเองซะ ! ผมไม่ยุ่ง "
" ว่าไงนะแก ไอ้แกเร็ต ไอ้เด็กเวร ไอ้ลูกหมา ไอ้.. @#$%&^(*)_ W "
" อย่ามาเรียกผมเป็นเด็ก!..ทั้งขนาดตัวหรืออายุสมองผมก็มีมากกว่าคุณทั้งนั้น !! "
ยามเมื่อคาวัลโลถอยหลังและประตูห้องนั้นถูกปิดพับลง เขายังมองเห็นสีหน้าบิดเบี้ยวของคลาร์กที่ดูท่าวิญญาณฝั่งบ้าๆบอๆนั้นจะกลับมาเข้าร่างอีกครั้งแล้วอย่างนึกระอา เสียงบ่นปนสถบสาบานเป็นภาษาเยอรมันดังแว่วๆ ไม่พอยังได้ยินเสียงเคร่งๆของแกเร็ตทุ่มเถียงสลับกับไปในประเด็นบ้าๆอีกอย่างน่าปวดหัวนัก..
ทว่า ความวุ่นวายนั้นอย่างน้อยก็ทำให้เขายิ้มได้...เพราะ...เช่นไรมันก็กลับมาเหมือนเดิม...
...ต่อให้ทะเลาะวิวาททำร้ายกับหรือเกือบจะฆ่ากันตาย...แต่เรา..ยังคงเป็นครอบครัวเช่นที่เคยเป็น
ริมฝีปากยกยิ้มได้เพียงไม่นาน ร่างสูงที่เดินทอดน่องผ่านหน้าเขาเพื่อกลับไปยังห้องพักของตนทำให้คาวัลโลชะงัก แล้วรอยยิ้มของเขาก็ค่อยจางลง....เหลือเพียงใบหน้าแสดงความกลัดกลุ้มและปวดใจเท่านั้น...
...ปัญหาทางคุณอาเรียบร้อย..แต่....เรื่องของเขากับอัลชาอ์เล่า...จะปล่อยให้มันจบแบบนี้หรือ?
"อัลชาอ์ !!!!! " ชีคหนุ่มพลันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อของเขาจากคนที่เคยคุ้น ชะงัก..นิ่ง...เงียบไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย. หลังจากเงียบงันไปด้วยเพราะคำพูดนั้น..ประโยคที่คาวัลโบอกว่าจะกลับไปนั่นเองที่ทำให้ร่างทั้งร่างนิ่งงันราวกับถูกสาป...
...จะกลับไป...จะไม่มีวันกลับมา...จะ...กลายเป็นเพียงความทรงจำเท่านั้น..
...ไม่มีสิทธิโอบกอด ไม่มีสิทธิห่วงหา ไม่มีทางจะได้คนๆนั้นมาไว้ในอ้อมกอดอีกแล้ว..
แผ่นหลังที่เคยตั้งอย่างทรนงองอาจกลับค่อยลู่ลงอย่างเชื่องช้า..แฝงไปดวยความเจ็บปวดและโศกเศร้า อัลชาอ์หันหลังกลับไปจ้องมองใบหน้าของคนที่ตนรักสุดหัวใจอีกครา ทว่าเมื่อเห็นว่าเจ้าของดวงตาคู่นั้น...คนที่เดินตามหลังเขามาด้วยสีหนึ่งเงียบนิ่งซึมเซายังมีท่าทีใดๆ ชีคหนุ่มก็ตัดสินใจหันหลัง..สืบเท้าเดินออกไปอย่างเงียบงัน..
....เพราะ...เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีกแล้ว...
เมื่อคิดจะให้เรื่องของเราจบลง จะมาพูดคุยหรือสนทนากันอีกได้อย่างไร?
"....ขอบคุณนะ...." คนที่เอื้อมมือแตะลงบนไหล่และยิ้มให้ด้วยสภาพถูกชกต่อยจนใบหน้าบวมช้ำอย่างน่าสงสาร ทว่านัยน์ตากลับสดใส..วาววับแปลกตานัก..
...ราวกับ...ได้อีกเสี้ยวหนึ่งของตัวตนที่แตกสลายไปเพราะความผิดหวังครานั้นกลับมาแล้ว..
..กลับ...มาเป็นคนๆเดิม ที่ไม่ใช่ของอัลชาอ์คนนี้อีกต่อไป
" ไม่เป็นไร " ใจความของประโยคที่ไร้ความอาลัยนั้นช่างแสนโหดร้าย..อัลชาอ์ทำได้เพียงยิ้มรับ...ยิ้มอย่างขื่นขม..
" ..ผม...ขอจัดการเรื่องนี้เองนะ..ที่อาของผมทำกับคุณแบบนี้...ขอโทษจริงๆ.." สีหน้าของคนพูดค่อยเหยเกด้วยความรู้สึกผิด
"...ผมยกให้..." ชีคหนุ่มถอนใจแรง นัยน์ตาตวัดมองยังด้านหน้าทางเดินที่สองพี่น้องเซฮามัคหันมามองด้วยสีหน้าร้อนรนไม่น้อย " ขอโทษด้วย...ผมต้องไปก่อน รามิลกับราเซย์มีเรื่องด่วนจะคุย "
" ผมขอฟังด้วยได้ไหม? "คาวัลโลเอ่ยปากเสนอตัว สีหน้าคาดหวัง
" ไม่...คุณจะกลับไปก็ควรจะเตรียมตัว ไม่ใช่......" ...ไม่ใช่มายุ่งกับผม และทำให้ผมตัดใจไม่ได้ และจะเจ็บปวดเพราะคุณมากขึ้นทุกที คำพูดนั้น อัลชาอ์นึกเอ่ยในใจ พร้อมจ้องหน้ามาเฟียหนุ่มอย่างรวดร้าว..
" ผมสัญญากับคุณแล้ว..! ผม มีเรื่องต้องทำอีก อย่างน้อยก็เรื่องเจ้ามาเฟียสองตัวข้างล่างนั่น ! " คาวัลโลจ้องหน้าอัลชาอ์เขม็ง ก่อนจะสูดหายใจลึก "ผม...ถึงจะกลับไป..."
" มันไม่เกี่ยวกับคุณ "อัลชาอ์ส่ายหน้าช้าๆ เตรียมตัวจะหันหลังกลับ
" พรรคพวกของเขาจะมาที่นี่เหมือนกับพวกของผม และเขาอาจจะทำเรื่องวุ่นวายมากกว่าที่คิด ผมจะช่วย ! คุณห้ามผมไม่ได้หรอก "
" คาวัลโล ..." อัลชาอ์ขมวดคิ้ว น้ำเสียงเริ่มเคืองขุ่น หงุดหงิดกับคนที่พอกลับมาเป็นไฮยีน่าตัวแสบก็เริ่มแผลงฤทธิ์...ดื้อดึง หัวเเข็ง ไม่เชื่อฟังใครทั้งนั้น
" คุณไม่พอใจผมก็ไม่สน! และเจ้าสองคนที่มาก่อความวุ่นวายนั่นก็ควรจะต้องรับผิดชอบด้วย พวกที่ก่อเรื่องที่ทัสคานีวันนี้ก็เป็นพวกของราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้ใช่ไหม? บอกผมมาซะและห้ามปิดบัง! ..." คาวัลโลจ้องมองชีคหนุ่มด้วยแววตาวาววับ รู้สึกไม่ดีเช่นกันที่จะมาทำวางอำนาจทั้งที่เขาก็ทำตัวแย่ๆมาแบบนี้..และ...มาทำตัวแบบเดิม ในตอนที่อัลชาอ์ออกปากตัดรอนเขาด้วย..
...แต่ เขาก็ยังยืนยันจะทำแบบนี้...เมื่อทางที่คาวัลโลตัดสินใจคือการเลือกทุกสิ่ง ทำทุกอย่าง ไม่ใช่เลือกแกงค์เลือกบ้านแล้วจะทิ้งอัลชาอ์ไป ไม่ใช่ !!
ใครที่บอกว่าได้อย่างต้องเสียอย่าง ใครที่บอกว่าต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ใครที่ว่าเขากับอัลชาอ์ไม่มีวันอยู่ด้วยกันได้ คาวัลโลจะทำให้มันรู้ ว่าคนอย่างเขา ถ้าอยากได้ก็ต้องได้อย่างไม่มีข้อยกเว้น !!
" คุณไม่มีทางห้ามผมได้ เหมือนที่ผมจะกลับไป...และผมจะกลับมา..." นั่น...คำพูดนั้นที่เหมือนจะไม่เกี่ยวกับคำขอ ทว่ามีอิทธิพลอย่างประหลาดทำให้ชีคหนุ่มส่ายหน้า ส่ายหัวกับคำพูดที่ไม่รู้มันจะเป็นจริงวันไหน.. มันจะจริงรึเปล่ายังไม่รู้..
" ..ผม..ไม่..."
"...ผมรู้...คุณไม่รอ.." คาวัลโลพยักหน้า เขาสุดหายใจลึกและมองหน้าคนพูดอย่างหนักแน่น แม้ประโยคนั้นจะเป็นบทสนทนาที่ไม่ต่างจากเดิม...ทว่าท่าทีบางอย่างของคนพูดนั้นกลับทำให้อัลชาอ์ต้องนิ่ง...เงียบฟัง..
" คุณไม่จำเป็นต้องรอผม...คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อผม จะหันไปชอบใครก็ได้จะไปรักใครอีกผมก็ไม่ว่า..แต่คุณจำไว้..ว่าผมจะกลับมา กลับมาและมาทวงทุกอย่างที่เป็นของผมคืน ..ผมจะไม่ยอมเสียอะไรไปทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือครอบครัวของผม ผมจะไม่เลือกเพราะมันไม่จำเป็นต้องเลือก...." ริมฝีปากของคนพูดเม้มแน่น เขาสูดหายใจลึกและพ่นออกมาช้าๆ สบมองดวงตาสีดำสนิทด้วยความมั่นใจและหนักแน่นที่สุดเท่าที่เคยทำ...
" คุณไม่เชื่อผมไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รักผม! ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่สักวัน...ผมจะทำให้มันเป็นจริง.. จำเอาไว้ "
"วันนี้ผมจะไป แล้วผมจะกลับมา เพราะคุณเป็นของผม ! ...แล้วถ้าคุณคิดจะไปมีคนรักใหม่หรือจะไปแต่งงานกับใครที่ไหน..บอกพวกนั้นให้ระวังตัวด้วยล่ะ ว่ามีคนคอยเชือดอยู่!! ..." " ........." นั่นมันเป็นคำสารภาพรักใช่หรือเปล่า? อัลชาอ์ไม่รู้จะติดตัดสินใจไปเช่นไร ชีคหนุ่มจ้องมองคนพูดที่ยืนชี้หน้าเขาอย่างองอาจและแสนจะมั่นใจ...หากแต่ท้ายประโยคที่เอ่ยมานั้นใบหน้าของคนพูดกลับค่อยแดงก่ำ...ราวกับจะตกใจที่เอ่ยปากพูดประโยคเหล่านออกมาเสียได้...
แม้มันไม่ใช่คำบอกรัก แต่คำพูดเหล่านี้นั้นช่างเหมาะเหลือเกินที่จะออกมาจากปากของอนาคตบอสมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ "คาวัลโล วาลกัส"
"...ผมเป็นของคุณ..? "ครู่หนึ่งทั้งนึกขบขันทั้งอาดูร..อัลชาอ์ขยับยิ้ม...เลิกคิ้วขึ้นคลายเอ็นดูนัก..
"...ชะ...ใช่...ทำไม? หรือคุณมีใครคนอื่นอยู่อีก !!" ท้ายประโยคนั้นแหวออกมาราวกับคนพูดจะเดินไปหาเรื่องชาวบ้านให้ทั่ว แล้วเค้นคอออกมาว่าใครที่ตนแอบสนใจหรือเมียงมองอยู่..อัลชาอ์ผ่อนลมหายใจลงช้าๆ...
ชีคหนุ่มได้รู้...รับรู้ว่าท่ามกลางความไร้หวัง..ก็ยังคงมีความหวังจุดเล็กๆอยู่..
เดิมพันของพวกเขาหมดลงแล้ว..ความเชื่อใจและการเฝ้ารอที่ไร้หวังถูกปัดออกไปอย่างไม่รีรอ..แต่ตอนนี้สิ่งที่มาแทน คือคำมั่นจากคนๆเดิม คำพูดที่ควรจะเลื่อนลอย ไร้ความน่าเชื่อถือเช่นเดิม แต่มันก็หนักแน่น...ทรงพลังยิ่ง..
...ครั้งนี้ไม่ใช่การเดิมพัน ไม่ใช่ความเชื่อใจ แต่เป็นการเริ่มใหม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง..
รักที่เขาเทหมดหน้าตักตั้งแต่แรก..แล้วคาวัลโลค่อยเผยมันมาทีละนิดนั้นทั้งสุขใจและชวนหวั่นไหว..แต่...รักที่เริ่มจากฝ่ายหนึ่งมีร้อยและอีกฝ่ายมีแต่เลขศูนย์ซึ่งไม่รู้จะเพิ่มหรือลดลงวันใดมันแตกต่างกันมากเกินไป
เพราะเหนื่อยเกินไปถึงได้หยุด เพราะอ่อนกำลังและปวดร้าวจึงขอจบลงแค่นั้น..นี่คือเหตุผลสำคัญที่อัลชาอ์"ไม่รอ"อีกต่อไป
...แต่ตอนนี้
" ผมยังไม่มี...แต่จากนี้ไม่แน่..." ชีคหนุ่มเผยยิ้มร้าย...ใบหน้าที่เคยโศกเศร้าสิ้นหวังค่อยแปรเปลี่ยน...นัยน์ตา..ที่แห้งผากคล้ายไร้กำลังใจแปรเป็นวาววับด้วยความพึงใจ..
ตอนนี้พวกเขากำลังก้าวมายังจุดเดิม..ไม่ใช่จุดที่หมายถึงความพ่ายแพ้ของตน หากแต่เป็นจุดที่เริ่มทุกอย่างจากเลขศูนย์และไร้ซึ่งความหวั่นไหวหรือกระทั่งความปวดร้าวจากรักที่ไม่มีผู้ใดตอบรับ
หากเป็นเกมส์ ที่ผ่านมาอัลชาอ์นั้นเสียเปรียบและเเทบจะพ่ายแพ้มาโดยตลอด แต่บัดนี้...คาวัลโลก็ก้าวมายืนยังจุดเดียวกันจนได้
ไม่มีความเชื่อใจ ไม่มีความหวังหรืออะไรมาเป็นแรงกระตุ้นให้เฝ้ารอหรือตอบรับ...ไม่มีอะไรมาเดิมพันและวางพนันกันอีกแล้ว
มีแต่พวกเขาสองคนและคำพูดที่ไม่ต่างกับการท้าทาย...ให้เกมส์...ที่ถูกล้มกระดานไปกลับมาเริ่มอีกหน..
จะยาวนานเพียงใดไม่รู้..จะเนิ่นนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจคาดหวังอัลชาอ์รู้เพียงว่าในเกมส์ที่พวกเขาต่างเริ่มพนันกันอีกคราโดยไร้คำพูดนั้น..แต้มของตนกลับเป็นฝ่ายนำบ้างแล้ว!!
" หึ.....คิดว่าทำได้ก็ลองดู.." คำพูดนั้นไม่ต่างกับภรรยาขี้หึงที่กล่าวคาดโทษสามีเลยสักนิด แต่คาวัลโลไม่สนเขายังคงจ้องมองชีคหนุ่มเเห่งเซเนียยาที่นัยน์ตาคู่นั้นฉายประกายเจ้าเล่ห์วาววับแบบที่ตนไม่นึกอยากจะเห็นแล้วเบ้หน้า..
บรรยากาศแบบนี้เหมือนกับว่าหมุนกลับไปยังช่วงที่ได้พบกันใหม่อีกครา..ราวกับ...พวกเขากำลัง"เริ่ม"ทุกอย่างใหม่อีกครั้ง..
...ก็ดี....เกมส์คราวนี้จะได้เสมอภาค ไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบอีกแล้ว..
" เดี๋ยวผมจะลงไปเชือดเจ้าราฟาเอลโร่กับฟิลิเป้ รับรองมันจะต้องตกใจจนสมองกลับแน่ถ้ารู้ว่าผมพาใครไปด้วย ..แล้วผมจะมาฟังเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณอีกที ! " เมื่อตกลงกันได้ด้วยคำประกาศท้าทายทางสายตา คาวัลโลจึงเอ่ยปากตัดสินใจรวดเร็ว ฝ่ามือของเจ้าตัวแสบตะปบเข้าที่ไหล่ ดึงอย่างว่องไวให้ร่างของอัลชาอ์ต้องเซลงและถูกริมฝีปากคู่นั้นแตะลงบนผิวแก้มทันควัน..
....เมื่อเริ่มเกมส์แล้ว...คนที่ทำแต้มก่อนก็ย่อมได้เปรียบ...ไม่ใช่หรือ?
คาวัลโลหมุนตัวกลับ วิ่งปร๋อไปหาพรรคพวกที่ถูกขังอยู่ เขาไม่หันกลับมามองแม้จะรู้ว่าดวงตาของอัลชาอ์ยังคงจ้องมองมายังร่างของตน มาเฟียหนุ่มปราดเข้าไปยังประตูห้องที่มียังมีเสียงโหวกเหวกลอดออกมาด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ...แม้แววตาจะยังแฝงรอยเศร้าจางๆ..ก็ตามที...
..เกมส์ที่เริ่มใหม่ไม่มีทางเหมือนเดิม..หรือจะต้องพลิกกลับไปพ่ายแพ้แทนที่จะชนะก็สุดจะรู้
...ทว่า....ชีวิตมันก็ต้องเป็นแบบนี้...
มีพลัดพราก มีพบเจอ ผิดหวัง โศกเศร้า เสียใจ ดีใจ มีความสุข..และ...อีกมากมาย..
แต่เมื่อเขาตัดสินใจทำอะไรแล้ว..ก็ควรจะพยายามมันให้ดีที่สุด..
มาเฟียหนุ่มสูดหายใจลึก..ฝ่ามือแตะลงบนลูกบิดประตู เขายิ้ม...ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจและภาคภูมิที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ตัวเอง สามารถ..เติบโตขึ้น ลุกขึ้นยืนและกลับไปเป็นคนเดิมที่ไม่เหมือนเดิมได้อย่างเต็มภาคภูมิ..
นัยน์ตาที่แดงก่ำด้วยหยาดน้ำตาและความอึดอัดตลอดหลายวันที่ผ่านถูกปาดเช็ดอีกครา...เช็ดมันออกด้วยตัวเองและด้วยความมั่นใจ โล่งใจอย่างที่สุด..
แกร๊ก... เสียงปลอดล็อคดังขึ้นเบาๆผสานกับเสียงทะเลาะวิวาทของคนสองคนในห้องนั้น คาวัลโลมองแสงจากหลอดไฟที่ลอดออกมาภายนอกห้องด้วยแววตาขบขัน..มองมันแล้วเขานึกถึงคำกล่าวของคนๆหนึ่งในยามที่นึกสิ้นหวัง..ในยามที่โลกของเขากลายเป็นสีเทา..และความรู้สึกอุ่นวาบที่เกิดขึ้นนั่นเองทำให้มาเฟียหนุ่มหันไปมองหน้าคนๆนั้นอีกครา..
ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว..แม้ห่างไกล ทว่ามันยังฉาบฉายด้วยความอบอุ่นและความรักใคร่เช่นที่เคยเป็น ริมฝีปากของคาวัลโลกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขานิ่งสบแววตาคู่นั้นก่อนจะผลักบานประตูเบื้องหน้าให้เปิดออกและก้าวเข้าไปด้านใน...
ชีคหนุ่มมองตามแผ่นหลังที่หายลับเข้าไปในห้องนั้น นัยน์ตาสีนิลหรุบลงอีกคราพร้อมกับถอนใจด้วยรอยยิ้ม..ยิ้มให้กับใบหน้าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความสุข...ยิ้ม...ให้กับเจ้าไฮยีน่าตัวแสบของเขา...
...ชั่วขณะหนึ่งคิดถึงคาวัลโล วาลกัสในยามที่ได้พบกันในครั้งแรก..
...คนที่ไม่ยอมแพ้ใคร คนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้โชคชะตาหรือกระทั่งคำสั่งประหาร..
..ดวงตาของคนที่จะคว้าทุกสิ่งมาในมือ..
อัลชาอ์หมุนกายเดินกลับห้อง...ทอดถอนใจด้วยสีหน้าลอยเหม่อ..ไม่รู้จะยิ้ม...ยิ้มหรือโศกเศร้าดี..
...ไม่ว่าอย่างไร คาวัลโล วาลกัสก็ยังร้ายกาจอยู่วันยังค่ำ..
..แม้จะร้องไห้เสียใจเมื่อถูกตัดรอน..แม้จะออกปากลาทำร้ายจิตใจกันถึงขนาดไหน...ทว่า...เพียงไม่ถึงชั่ววันเจ้าตัวก็หันมาประกาศก้อง ท้าทายและหลอกล่อ..ให้เขามีความหวัง..
ไม่เอ่ยให้คอยหรือให้รอ แต่แอบหว่านเมล็ดพันธ์ของความหวังเล็กๆไว้ในใจด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ..
....อัลชาอ์ถอนหายใจอีกครา..เดินเข้ามานั่งในห้อง สบตาสองพี่น้องเซฮามัคที่จ้องมองมาที่เขาอย่างเคร่งขรึม ก่อนดวงตาจะตวัดไปจ้องมองสร้อยกางเขนของอีกฝ่ายที่ยังคงถูกเก็บไว้อย่างดีบนโต๊ะของตนพลางคิดถึงเจ้าตัว..
ไม่เคยยอมใครมากขนาดนี้ ไม่เคยรักใครมากขนาดนี้ ไม่เคย...ต้องเจ็บปวดเพราะใครมามากมายขนาดนี้..
...และ..ไม่เคยเป็นสุขเพราะใครมากมายขนาดนี้เช่นเดียวกัน...
...เป้นราชสีห์มาตลอดชีวิต กลับกลายมาเป็นลูกหมาตัวเล็กๆทันทีที่สบตากับใครเข้า..
คำนี้ๆ มันคงหมายถึงตัวเขาจริงๆ..
ชีคหนุ่มถอนหายใจช้าๆแม้ความปวดหนับที่เกาะกินจิตใจอยู่จะยังไม่จางหาย..ทว่า..รอยยิ้มขอบใจและคำมั่นที่เป้นดั่งแสงสว่างที่สาดเข้ามาในหัวใจทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งค่อยคลายลง..ทั้งขบขัน ที่เจ้าตัวยังคงหาทางออกแม้ในยามที่มองอะไรไม่เห็น..ยังคงเป็นเจ้าตัวร้ายของเขาเช่นที่เคยเป็น
อย่างไรก็จะคว้าทุกสิ่งที่ต้องการและต้องได้มา...วิธีนี้..ความคิดแบบนี้...มันก็เหมาะสมกับคนแบบคาวัลโลที่สุดแล้ว
แล้วเขาจะคอยดู...ว่าเกมส์ที่เริ่มใหม่นี้..จะดำเนินไปเช่นใด
ทว่าก็มีสิ่งหนึ่งที่อัลชาอ์แน่ใจ ..เกมส์นี้ต่อให้จะเริ่มใหม่ แต่หัวใจของเขาก็ยังรักคนๆเดิม..
ชีคหนุ่มค่อยสูดหายใจลึก ประสานมือลงบนตักเก็บพับเรื่องราวความรักของตนเอาไว้เช่นเดียวกับสร้อยกางเขนที่ถูกโยนใส่ลิ้นชัก..จ้องมองใบหน้าของสองพี่น้องรามิลกับราเซยืด้วยแววตาเคร่งขรึม..ยามที่คนของตนต้องพบเจอกับอันตราย เรื่องเหล่านี้ก็ต้องถูกเก็บไว้ในใจ..
...ในภาวะคับขัน..ความอ่อนแอ จะแสดงออกมาไม่ได้
พยักหน้ารับสองพี่น้องเซฮามัคที่รอท่าอยู่ก่อนแล้ว รามิลและราเซย์หันมาสบตาเพียงครู่ ก่อนริมฝีปากของพวกเขาจะค่อยเอ่ยรายงานสถานการ์ณปัจจุบันของเมืองหลวงทัสคานีแห่งนี้ออกมาอย่างรวดเร็ว...
...และนั่นทำให้อัลชาอ์ได้รู้...มันยังมี"เรื่อง"ให้เขากับเจ้าตัวแสบนั้นทำร่วมกันอีกมากนัก...ก่อนจะจากกันไกล..
...............

ความจริงตอนนี้ยาวมาก ตัดมาโพสต์ต่ออีกครึ่งนึง อีกครึ่งเป็นของพวกพี่ๆที่ซิซิลี
เอาจริงๆชอบมากนะที่ตกลงกันแบบนี้ ฮ่าๆ ได้อารมณ์สองคนนี้ตอนเจอกันแรกๆ ดุดเด็ดเผ็ดมันส์หวานปนเค็ม เขียนแล้วรู้สึกสนุกมากๆ คาวี่แบบไฮยีน่ามันเหมาะกว่าแมวเหมียวจริงๆด้วยแหละ > < ส่วนที่ตกลงเริ่ม"เกมส์"กันใหม่นั้น จะเป็นยังไงต่อเราก็มาลองดูกัน

ตอนนี้คุณอาโดนตบเกรียน คุคุคุ

ความจริงชื่อตอนนี้คือ Return of the si...../ดาบเลเซอร์ฟาดหัว

นัยยะของชื่อตอนนี้คือคาวัลโลชำระแค้น

ปล.ตอน 41.2 พรุ่งนี้มาค่า
ของแถม...ตอนนี้อ่านจบแล้วฟังเพลงนี้ดู ได้อารมณ์มากๆ
http://www.youtube.com/watch?v=lrVIhwyM2HM&feature=BFa&list=AVGxdCwVVULXewrtwdiunJtobaBSQuvlKl&lf=list_related