Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1006013 ครั้ง)

lolilo

  • บุคคลทั่วไป
คุณกริชจะต้องมีเรื่องต่อแน่นอน คิๆ

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
:m25: สุดยอดเลยจร้า เลือดแทบหมดตัว ฮ่าๆๆ
ท่านชีคกับคาวี่นี้ก็ยังหวานไม่เกรงใจใครจริงๆ มดขึ้น

คริสนี้มีเบื้องหลังยังไงน๊า น่าสนุกจริงๆ

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เราเชื่อว่าคริสเป็นคนดี ต้องมีการเข้าใจไรกันผิดแน่
ทั้งสามคนถึงมองว่าคริสร้ายกาจ ที่ร้ายอาจเพราะเพื่อตอบโต้
ที่ตนถูกกระทำก่อนรึเปล่า ว่าแต่เค้ามีเรื่องบาดหมสงใจอะไรกันนะ
แต่ไงก็เชื่อว่าคริสเป็นคนดี เพราะครืสเป็นคนไทย
ผู้แต่งคงไม่เขียนให่คนไทยเป็นคนไม่ดีหรอกเนอะ
แล้วก็รู้สึกคุ้นๆไงไม่รู้แฮะถ้าจำไม่ผิดนะ
ในตอนพิเศษเหมือนจะมีตัวละครตัวนึงที่เป็นชาวเอเชียอยู่
ซึ่งมากับสองพี่น้องเซฮามัค และดูเหมือนจะมีอิทธิพลต่อทั้งสองไม่น้อย
จะเป็นคนเดียวกันรึเปล่าน้าาาา...แล้วร๊อบล่ะจะเป็นยังไง
 คนๆนี้แท้จริงแล่วมีอะไรแอบแฝงไหม...ถ้าเป็นคนดีก็อยากให้มีคู่นะ
แล้วเซย์ก็น่าปลื้มมากมาย ชอบคำพูดที่พูดกับลุงเฟรดดี้มากเลย
แล้วก็เรื่องราวตอนนี้ซับซ้อนมากเลย ปมเก่าคลาย ผมใหม่ก็มาเลย
ลุ้นมากๆเลย คาโลกับอเล็กซานดราจะกลับมาร่วมช่วยศักนี้ไหมน้า...
 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ anuyasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โฮ๊ะ! อ่านแล้วใช่เลย! ไอ้อารมณ์ไต้หวันกับไทยเนี่ย -___-!!

จริงๆเรานึกว่าพวกยุโรปจะรู้จักไทยมากกว่านี้นะเนี่ย เพราะดูเหมือนไทยจะเป็นเมืองท่องเที่ยว
(ที่มีอะไรบางอย่างขายอยู่...เยอะนิดนึง =__=;;ได้ยินมาจากฝั่งนั้นเลยย)

เราเคยไปแลกเปลี่ยนอยู่ที่เมกาใต้ค่ะ โดนประจำ โดนทักว่าญี่ปุ่นไม่ก็จีน
(ทั้งๆที่หน้าเราก็ออกจากไทยแท้ = =!)
แถบนั้นเราว่าเค้าไม่ค่อยเจริญไปกว่าเราเท่าไหร่หรอก ดีไม่ดีเราจะเจริญกว่าอีก
เลยไม่ค่อยพอใจที่เค้าชอบบอกว่าเรามาจากไต้หวัน ๆ เพื่อนร่วมห้องกันแท้ ๆ ยังจะจำผิดอีก!!
เรื่องขี่ช้างขี่ม้าก็จริงอะ เราอ่ะอย่างโมโห เกือบจะตอกกลับไปว่าที่ไทยเจริญกว่าแถวนี้อีกย่ะ!

อ่านแล้วอารมณ์มาคุ 5555555 ชอบคริส หวังว่าไม่ใช่ตัวร้ายยย
คนไทย ยิ้มไทย ยิ้มสยามมมมม :))

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคะ อ่านตอนที่  29 เเล้วกรี๊ดดดดดดดดด ชอบมากท่านชีค น่ารักอะ ยิ๋วกิ้วมากเลยที่เรียก คาวี่ว่าคนดี อะ ฮี่ฮี่ฮี่ เเต่มีประโยคที่โดนใจนะเรื่องผลประโยชน์อะ เป็นอะไรที่ไว้ใจกันไม่ได้จริงๆ ตอนนี้โดนเยอะมากอะ คนเราน่ากลัว

ปล. ยังไม่ครึ่งเรื่องก็มิเป็นไร เราจะตามต่อไป อิอิ

อ่านตอนที่ 30 เเล้วค่ะ  :monkeysad: น้ำตาไหลตอนคุณพ่อเลยอะ สงสาร ไม่เป็นไรนะคะ ทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดี คุณพี่ชายต้องทำได้ค่ะ เซย์(ขอเเอบเรียก) ก็เป็นลูกมาเฟียนะคะ จะเเพ้ได้ไงจริงไม๊ล่ะั อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2011 01:20:07 โดย butajang »

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:  น้องเหมียวซ่า  .. :z1: :z1:


ชิส์ คนไทย มีจักรยานขี่เเล้วนะ


อ่านเเล้วมีเเวว เครียดมาเเต่ไกล   :เฮ้อ:

butajang

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันเเล้วนะคะ สรุปเเล้ว ปมเยอะอะ ไหนจะปัญหาที่บ้าน พีใหญ่จะพาตัวกลับ ไหนจะปัญหาที่ เซเนียยาอีก เเล้วตอนนี้ปัญหาใหม่อีก เเต่ชอบ คาวี่ กรี๊ดดดดดดดดด น้องเหมียว เลือดเเทบพุ่ง เเละ ชอบเซย์ค่ะ ถามได้ตรงประเด็นเเละโดนใจ ดูเล่นสงครามเน็นมากค่ะ เเต่ก็ยังงงกับ คริสนะคะ รอเฉลยค่ะ

ปล. รูปวาดสวยขึ้นนะคะ พัฒนาเยอะเลยน้า  ถ้าเเบบนี้ปกก็ไม่ต้องจ้างเเล้วสิคะ อิอิ

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ปมเยอะจนปวดหัว  -*- เอาทีละอย่างได้ไหมผูกไว้เยอะแก้ทีเดียวหมดสมองไม่ใช่
Core i7 นะเคอะจะได้ประมวลไวรู้เรื่อง


ดราม่ามาเยอะแหละ อย่ามีคนตายอีกเหล้ย- -*
เหมือนเป็นช่วงกำลังลุ้นอยู่แต่ปมมันเยอะเหลือเกิน  มีดราม่าอีกนี่คนอ่านเครียดกันระเบิดเถิดเทิงแน่ๆ

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
คาวี่...น้องเหมียวยั่ว :z1:

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ค้างได้อีก   :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
น่ารัก นึกภาพคาวี่เป็นแมวขี้หึงตามเลย 55555
ว่าแต่คุณกริชนี่เขาเป็นใครน้า
ท่าทางเรื่องจะบาวเพระาคนนี้หรือเปล่า

สงสารฝั่งแฝดจัง ซวยไม่จบสิ้น

l2ockyou_l3ody!

  • บุคคลทั่วไป
เซย์สู้ ๆ อดทนไว้พี่น้อง  :m15: :m15:

คาวี่นี่ ได้ทีเอาใหญ่เลยเน้อ.  :haun4:


หันมาทางด้าน รักหลายเส้า - - มาคุอีกละ  :z3: :z3:


 :pig4: :pig4:

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
เห็นลางยุ่งเหยิงมาแต่ไกลเลยแฮะ

ออฟไลน์ maple4120

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
คาวี่หื่นเกินคาดจริงๆค่ะ  :-[ ยิ่งกว่าชีคอีกนะเนี่ย มีมายั่วกันซะด้วย
แค่นี้ชีคก็ทั้งรักทั้งหลงจะแย่อยู่แล้วค่าา
แต่แบบนะ ชอบมาดคุณกริชจัง ยิ้มสยามของจริง 555
แอบห่วงอเล็กเซย์อ่ะ อย่าตายเชียวนะ  :o12:

รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ inhyung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
หวานกันปานจะกลืนกิน

ใกล้หมดเวลาหวานแล้วซี

ยังมีทั้งเรื่องของอัลชา และทั้งเรื่องของคาวี่

ผสมปนกันไปหมด และบางทีมันก็เกี่ยวข้องกันด้วยใช่มั้ย??

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
เหมียวน้อยคาวี่น่ารักมากเนอะท่านชีค อิจฉาอ่ะ

ปัญหามากมายที่หลายรอบ แก้ไขให้ผ่านพ้นไปด้วยดีเถอะ อย่าให้มีการสูญเสียเลย

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกันนนะ




คาวี่ จะเจออะไรอีก

????





แล้วไอ่คริสมันเป็นใคร

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
บั้งไฟพญานาคไทยก็เกือบไปดวงจันทร์เหมือนกันนะ

แต่ เจ้าเหมียวคาวี่นี่ไม่ไหว สงสัยถึงเจ็บก็ยอก ยั่วซ่ะ :pigha2:
สงสัยยังเจ็บตัวไม่พอ :laugh:

 :กอด1:

BallalistitThegto

  • บุคคลทั่วไป
งามจังหู้ :z2:

ออฟไลน์ หนอนเทพ

  • ลูกอ่อนตะบองพลำ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อยากตะโกนลั่นให้กระทู้ร้าว


ตามอ่านมาสามวัน ในที่สุดก็อ่านทันแล้วโว้ย   :m31:   555  5

จากตอนล่าสุด ลุ้นกับพี่กริชมาก ว่าเฮียแกจะจั่วดำ หรือจั่วขาว

และจากตอนก่อนล่าสุด แอบมีความคิดว่า ถ้าน้องหนูเซย์ตาย ก็ดราม่าดีเนอะ

สุดท้าย...อิจฉาเจ่เจ้วี่จังเลย มีหมอนข้างหล่อๆ ล่ำๆ นอนกอดทุกคืน


รักคนเขียนที่สุด
    :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






saya

  • บุคคลทั่วไป
แอบย่องมาหาหนูคาวี่   :กอด1:


ออฟไลน์ yakusa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
แวะเข้ามาดู แล้วจุดธูปวิงวอน :call:

ปล.  แอบคิดเหมือนกันนนนนน   
      ว่าถ้าอีหนูเซย์  อีม่องไป
      คงต้องหาอะไรที่ใหญ่กว่าผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตากันละมั้ง

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line 32  แค่ยอมรับ


     ฝนตก...ฟ้าครึ้ม ล่วงเลยมาเป็นวันที่สาม

        คาวัลโลเงยหน้ามองท้องฟ้าสีหม่นและหยาดฝนที่โปรยปรายมาไม่ขาดสายอย่างเริ่มจะเบื่อหน่าย นึกสงสัยมามากกว่าหนึ่งครั้งแล้วว่านี่มันเมืองทะเลทรายหรือเมืองที่ฝนตกตลอดปีตลอดชาติอย่างลอนดอนกันแน่ เขากำร่มในมือแน่นขึ้น ขณะที่ก้าวตามกลุ่มคนเบื้องหน้าไปยังสถานที่สำหรับก่อสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ กวาดตามองพื้นที่โล่งกว้างขนาดสี่ไร่ ณ ใจกลางเมืองซึ่งถูกเตรียมไว้สำหรับสร้างอาคารดังกล่าว ตามกำหนดการแล้ววันนี้จะเป็นวันที่ทุกคนมาดูพื้นที่จริงสำหรับก่อสร้าง และก็ต้องเป็นไปตามนั้นแม้ว่าฝนยังโปรยปรายไม่ขาดสาย ในกลุ่มที่เดินทางมาวันนี้ประกอบด้วย อัลชาอ์ ตัวเขา รามิล เซฮามัคในฐานะวิศวะกร ราเซย์ที่มันเสนอหน้ามาทำไมก็ไม่ทราบได้  กลุ่มคนของบริษัท ASC Accest กลุ่มคนงานที่มารอเฝ้า และกลุ่มขององค์รักษ์อีกจำนวนหนึ่ง

       คนประมาณครึ่งร้อยที่รอเกร่อกันอยู่แถวนี้ ทำให้คาวัลโลนึกได้ถึงข่าวลือที่อัลชาอ์พูดถึง เขากวาดตามองไปรอบกาย พลันก็ต้องเบือนหน้าหนี เสไปมองอย่างอื่นแทนลูกตาวาวๆบ่งชัดความไม่พอใจของคนเหล่านั้น ..

      อัลชาอ์ที่เดินอยู่ด้านหน้าเหมือนจะมีอะไรคุยด้วยจึงหันกลับมาหา นั่นยิ่งทำให้คาวัลโลก้าวถอยโดยอัตโนมัติ นิ่วหน้าให้แทนคำปฏิเสธ  ก่อนจะเดินไปหาราเซย์ที่อยู่แถวนั้น หมอนั่นมีสีหน้าประหลาดใจชั่วครู่ แต่เมื่อคาวัลโลทำหน้ายุ่งส่งซิกไปทางกลุ่มชาวเมืองที่อยู่โดยรอบ เขาก็เข้าใจได้โดยไม่ยาก และเป็นฝ่ายโบกมือให้สัญญาณอัลชาอ์รู้

       สีหน้าของชีคแห่งเซเนียยาฉายแววลำบากใจไม่น้อย ทว่าก็ยอมล่าถอยไปคุยกับวิลเลียม เซททิงตัน ผู้เป็นหัวหน้าคณะแต่โดยดี คาวัลโลเหลือบมองกลุ่มคนเหล่านั้นแล้วได้แต่ถอนใจ นี่ถ้าประชาชนไม่พอใจ ถ้าเป็นประเทศของเขาคงได้มีการยกป้ายประท้วง ตะโกนด่าว่ากันวุ่นวายแล้ว แต่เพราะที่นี่คือเซเนียยา....กฏหมายอิสลามมีกฏข้อบังคับที่รุนแรงและน่ากลัวเรื่องเหล่านี้จึงไม่เกิดขึ้น แต่ดวงตาวาววับของคนโดยรอบกับสีหน้าไม่สบายใจของอัลชาอ์ก็ทำให้เขาอดจะลำบากใจแทนไม่ได้

   ข่าวลือ....ยิ่งมีคนโหมกระพือก็ยิ่งไปอย่างรวดเร็วเสมอ และเมื่อเป็นข่าวแย่ๆเช่นนี้ด้วยแล้วมันยิ่งส่งผลเสียเป็นเท่าตัว

        "....นี่ยังน้อยไป " เสียงบ่นพึมพัมของราเซย์ที่อยู่ข้างกาย ทำให้เขาชะงัก คาวัลโลกระชับร่มในมือแน่นขึ้น มองเสี้ยวหน้าของชายหนุ่มข้างกายด้วยแววตากังขา

        " ....คิดว่าจะมีอะไรอีกหรือ? "

        " ไม่แน่ใจ....แต่ดูท่าพวกที่เข้ามาป่วนจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ "ราเซย์บ่นพึมพัมเบาๆ แล้วส่ายหัว "พรุ่งนี้ผมจะไปหาข่าวในเมืองดู...สายผมบอกว่ามีคนของฝ่ายนั้นเข้ามาสืบข่าว "

        " มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?  "คาวัลโลมองหน้าราเซย์ มุมปากของเขายกขึ้น ทว่าไม่ได้เป็นสัญลักษณ์เชิงขบขันแต่อย่างใด ตรงข้ามมันเป็นการเยาะหยันเสียมากกว่า

        " นั่นสินะ " ราเซย์ถอนหายใจพรู นัยน์ตามองร่างของกลุ่มคนที่กำลังทำงานวัดรังพื้นที่กันอยู่เบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด " ก็มีมานานแล้ว....เพราะใจอ่อนเกินไป รากฐานที่ง่อนแง่นเลยมีทางให้พวกมดปลวกมันมาทำรัง จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้"

        "......."

       " ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ " คำเตือนที่ได้มาทำให้คาวัลโลกรอกตามองท้องฟ้าสีหม่น ถอนหายใจเฮือกอีกรอบ

       " ก็บอกแล้วไงว่าผมเป็น...."

       " รู้แล้วว่าคุณเป็นมาเฟีย " ราเซย์เน้นเสียงหนัก...เข้มจ้องมองใบหน้าของมาเฟียหนุ่มเขม็ง " เป็นมาเฟียแล้วยังไง? คุณก็พลาดจนต้องมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ อย่ามาอวดอ้างกิตติศัพท์ให้ขำหน่อยเลย "

            วาจานั้นทำให้คนฟังชะงัก คาวัลโลมองหน้าราเซย์อย่างคาดไม่ถึง..เขาทำท่าจะอ้าปากเถียง ทว่าสุดท้ายก็ถอนหายใจเพียงแผ่วเบา...พยักหน้ารับอย่างจำยอม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาก็"พลาด"อย่างที่ราเซย์พูด เพราะฉะนั้น...ตอนนี้จึงไม่มีสิทธิโอ้อวดอีกแล้ว...

อีกทั้ง...ตอนนี้เขาก็ตั้งใจจะอยู่ที่นี่ อยู่ข้างๆอัลชาอ์จะมาพร่ำเพ้อเรื่อง"มาเฟีย"ไปอีกให้แทงใจตัวเองอีกทำไมกัน

        " แล้วก็อย่าไปยุ่งกกับหมอนั่นมากนักล่ะ " คำเตือนรอบที่สามผ่านหู เกี่ยวกับคนเดิมๆทำให้คาวัลโลอดจะถอนหายใจเฮือกไม่ได้ เขามองไปยังกลุ่มคนของบริษัทก่อสร้างที่กำลังคุยงานกับวิศวะกรและสถาปนิกทั้งสี่นายอยู่อย่างแข็งขัน มองฝ่าสายฝนไปยังร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มที่ใครๆก็ว่า"อันตราย"คนนั้น

         " มีอะไรนักหนา หมอนั่นมันสำคัญอะไรมากมายขนาดจะมาระแวงไม่ทราบ ก็แค่คนๆนึง ผ่านมาแป๊ปๆแล้วก็ไป " เขาว่าพลางจ้องหน้ารามิลเขม็ง " คนที่มีปัญหาน่ะ มันพวกคุณเสียมากกว่า จะย้ำคิดย้ำทำสนใจอะไรผู้ชายคนนั้นนัก หลงรักเหรอ? แฟนเก่าหรือไง? "

         แค่พูดประชด แต่คาวัลโลกลับต้องขมวดคิ้วเมื่อสีหน้าของราเซย์พลันเปลี่ยนวูบแสดงอาการพิรุธออกมาจนคนมองสังเกตได้ มาเฟียหนุ่มกระพริบตาช้าๆ มองหน้าของราเซย์ เซฮามัคนิ่ งก่อนจะหันไปมองหน้าสถาปนิกคริสอีกครั้ง สลับกันไปมาสองสามคราอย่างสงสัยไม่น้อย

        " เฮ้......จริงเหรอ? " เขาว่าด้วยสีหน้าสงสัยปนคาดไม่ถึง " คุณ...กับหมอนั่นเคย...."

       " เปล่า...." ราเซย์ส่ายหัวกับข้อสันนิษฐานน่าขัน ส่ายหน้าทันควัน " หมอนั่น...เป็นแฟนเก่าของร๊อบ...."

       " แล้วไง ?" คาวัลโลขมวดคิ้ว ชักจะนึกหมั่นไส้โรเบิร์ต ชอว์ตัน ขึ้นมาอีกครั้งหมอนี่มันสำคัญกับราเซย์และรามิลก็จริง ทว่าไอ้คำเตือนของอัลชาอ์นี่มันอะไรกัน มาเตือนให้ระวัง บอกว่าเขามีอันตรายเพียงเพราะว่าเป็นแฟนเก่าของโรเบอร์ต แค่นี้น่ะหรือ? บ้าไปรึเปล่า ?

  และที่สำคัญ....แค่ไอ้แฟนเก่ามาเจอกัน จะกังวล จะกลัว จะผวาแทนเจ้าหมอนั่นไปไหน? ไอ้คุณโรเบิร์ตคนนั้นมันมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ได้รึไง ถึงต้องมีคนคอยระวัง คอยพะเน้าพะนอตลอดเวลา

...แล้วนี่ถ้าบรรดากิ๊กเก่าของเขาวนเวียนมาเจอกันบ้าง จะมีใคร"กังวล"แบบนี้บ้างไหม จะมีใครมาพล่ามว่าอันตรายแบบนี้รึเปล่า? สำหรับคาวัลโล วาลกัส ไอ้ฟิลิเป้ที่จ้องจะจับเขาทำเมียจนตัวสั่นมันก็ยังนั่งแช่อยู่ในคุกใต้ดินอยู่เลย ไม่เห็นอัลชาอ์จะอ้าปากบอกว่าอันตราย สมควรอยู่ห่างๆสักคำ!

        " แค่เรื่องนี้น่ะหรือ ถึงได้ระเเวง...บ้ารึเปล่า? " คาวัลโลหน้าบึ้ง ส่ายหัวอย่างไม่พอใจ

        ".....อยากรู้อะไรมากกว่านั้นก็ถามชีคแล้วกัน  "ราเซย์ เซฮามัคตอบกลับสั้นๆ ตัดสินใจจะไม่ต่อบทสนทนานี้กับมาเฟียอิตาลีที่กำลังจ้องเขาเขม็งด้วยแววตา..เอ่อ...น่ากลัวปนรังเกียจรำคาญอะไรก็ไม่ทราบได้..แต่หารู้ไม่ว่าประโยคนั้นไม่ต่างกับการโยนระเบิดไปใส่มือท่านชีคแห่งเซเนียยาผู้น่าสงสารที่กำลังคุยงานอย่างแข็งขันเลยสักนิด  ยังผลให้อัลชาอ์รู้สึกเย็นวาบกับดวงตาสีเขียวน้ำทะเลที่จับจ้องมายังตนชนิดไม่กระพริบและไม่มีปี่มีขลุ่ยของคนรัก..

         "...บอกให้......"

บรึ้ม!!


        เสียงระเบิดที่แหวกขึ้นดังลั่นทำให้ผู้คนโดยรอบต่างสะดุ้งโหยง เสียงหวีดร้องด้วยความตกใจของผู้คนและปฏิกริยาที่ต่างก้มตัวหลบกันโดยอัตโนมัตินั้นปรากฏขึ้นทันที คาวัลโลสะดุ้งเฮือก เขาก้มตัวลงหมบแน่นิ่งกับพื้นมืดสองข้างยกกันศรีษะตัวเองในท่าเตรียมพร้อม ตาจ้องเขม็งมองเศษระเบิดของรถยนต์และเสียงระเบิดของมันที่มีมาตามเป็นระยะสายตากวาดไปยังบริเวณโดยรอบที่เกิดการโกลาหลขึ้นเขามองเห็นรถยนต์คันที่ว่าจอดอยู่ข้างอาคารพานิชย์ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ระยะห่างเพียงเส้นถนนคั่นและไกลจากขบวนรถของอัลชาอ์เพียงไม่กี่เมตรทำให้เขาเย็นวาบในหัวใจเพียงแค่คิด...ว่าหากมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อยจะเกิดอะไรขึ้น..

        องค์รักษ์ของอัลชาอ์กรูกันเข้าไปหาตัวผู้นำของตนอย่างรวดเร็ว ราเซย์ดึงแขนคาวัลโลแรงๆให้ลุกจากพื้น มาเฟียหนุ่มวิ่งตามแรงลากนั้นอย่างว่องไว หากนัยน์ตายังคงจ้องมองภาพรถยนต์ที่มีไฟลุกท่วมคันและควันดำที่ลอยโขมงอย่างไม่วางตา...

       สายตาของเขากวาดมองทั่วบริเวณ มองผู้คนที่สับสนวุ่นวาย มององค์รักษ์และตำรวจของที่นี่เริ่มเคลื่อนไหว กวาดสายตามองปฏิกริยาของผู้คนโดยรอบ จ้องเขม็งไปยังกลุ่มของอัลชาอ์ที่นำอยู่ไม่ไกล ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึงปนหวาดหวั่น..หากบางคนนั้น สงบนิ่งอย่างประหลาดชวนให้สงสัยเขามองหมายตาอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะตวัดสายตาไปยังร่างของชีคหนุ่มที่อยู่ท่ามกลางการคุ้มกัน สีหน้าเครียดเคร่งแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจอย่างลึกซึ้ง

      ถูกรุนหลังให้ก้าวเท้าขึ้นรถที่ถูกขับมาจอดอย่างเร่งร้อน โผนกายเข้าไปนั่งบนเบาะหลังข้างกายคนรัก ผู้ร่วมขบวนรายอื่นก็ตามมายังรถคันถัดไป ต่างแยกย้ายและกลับสู่ที่มั่นของตนอย่างรวดเร็ว คาวัลโลหันขวับไปมองหน้าอัลชาอ์ ชีคหนุ่มกำลังนั่งตัวตรงแผ่นหลังตึงเปรี๊ยะ สีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาคู่นั้นมองออกไปยังถนนด้านนอก ราวกับไม่สนใจจะมองภาพโกลาหลยังถนนเบื้องหลังเลยแม้แต่นิด

        แต่ความเงียบและฝ่ามือที่กำแน่นทำให้เขารู้...รู้ว่าอัลชาอ์กำลังโกรธ ...โกรธมากเสียด้วย...

    ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนหลังมือที่กำแน่น ไล้เบาๆแล้วค่อยกุมทับฝ่ามือหนานั้นไว้อย่างไร้คำพูดใด..ส่งผ่านความห่วงใยสู่บุรุษหนุ่มข้างกายอย่างอ่อนโยนและสิ่งที่เขาได้รับ คือปลายนิ้วที่คอยแยกออกและกุมมือสอดประสานกันไว้แนบแน่น...แม้ฝ่ามือที่เคยอุ่นร้อน บัดนี้จะเย็นชืดเพราะความเคร่งเครียดกังวลก็ตาม..

  คาวัลโลได้แต่นิ่งเงียบ เขาจ้องมองเสี้ยวหน้าของคนข้างกายอย่างห่วงใยก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

..การก่อกวน ก่อความไม่สงบ การเคลื่อนไหวที่เขากลัวว่าจะเกิด..ได้เริ่มขึ้นแล้ว

           รถเลี้ยวเข้าไปจอดยังส่วนรับรองด้านหน้าพระราชวังอย่างรวดเร็วร่างของอัลชาอ์ที่นั่งนิ่งไม่ปริปากใดๆก้าวเดินลงจากรถอย่างรวดเร็ว สาวเท้ายาวๆเข้าไปยังห้องโถงขนาดใหญ่ด้านหน้า ออกปากสั่งการบางอย่างด้วยสีหน้าเครียดเคร่งเป็นภาษาอารบิกยาวเหยียด คาวัลโลมองเห็นสีหน้ากังวลแตกตื่นของผู้คนรอบกาย และรับรู้ถึงความเครียดและความไม่พอใจของชายที่กำลังกำแขนเขาแน่น

         " อัลชาอ์....." ปลายนิ้วของเขาแตะลงที่ฝ่ามือหนา ซึ่งบีบแน่นเสียจนรู้สึกเจ็บ และในที่สุดอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวและหันมามองแขนของเขาซึ่งเริ่มปรากฏรอยแดงเด่นชัด ทำให้สีหน้าของอัลชาอ์ฉาบฉายด้วยความเสียใจ

         " ผมขอโทษ "ร่างสูงผ่อนลมหายใจลงช้าๆ จ้องมองแขนของเขาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด แต่คาวัลโลส่ายหัว

         " ไม่เป็นไร ไม่ได้เจ็บอะไรหรอก  " ยักไหล่และยิ้มให้อย่างไม่ใช่เรื่องที่อีกฝ่ายต้องกังวล อัลชาอ์ทาบฝ่ามือลงบนผิวแก้มของคนรักด้วยสีหน้าราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าเสียงคำรามของรถยนต์ที่ดังขึ้นมาทำให้ชีคหนุ่มจำต้องละมือลง และเป้นฝ่ายเดินออกไปต้อนรับอาคันตุกะและลูกจ้างจากต่างชาติของตนเสียก่อน

         "....ขอโทษด้วยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ มีใครบาดเจ็บรึเปล่า ? " คำถามนั้นถูกส่งไปยังบรรดาวิศวะกรและสถาปนิกทั้งสี่ ชายหนุ่มสี่คนที่ค่อยลงจากรถมามีท่าทีตระหนกพอควร จะออกอาการเสียขวัญหน้าซีดเผือกก็มีแต่นายวิลเลียมวิศวะกรใหญ่กับสถาปนิกหนุ่มละตินผิวเข้มรายนั้น หากโดยรวมแล้วก็ยังถือว่าปกติไม่มีใครเป็นอะไร

         " ...ไม่เป็นไรครับ " อิลาดอฟ หนุ่มรัสเซียเอ่ยปาก หลังจากผู้ร่วมคณะนิ่งเงียบอยู่นาน และสีหน้าของวิศวะกรใหญ่อย่างวิลเลียมก็ซีดเผือกท่าทางสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

         "....ท่าทางพวกคุณยังตกใจอยู่ เข้าไปนั่งพักกันก่อนเถอะครับ " อัลชาอ์ผายมือเชื้อเชิญยิ้มให้อย่างเข้าอกเข้าใจและปลอบประโลมในฐานะเจ้าบ้านที่ดี

         " นั่นสินะ...." คริสพึมพัมรับเบาๆ ขณะที่เบื้องหลังของตนคือร่างของหนุ่มสเปนร่างเล็ก ที่กำลังเกาะหลังเขาแน่นชนิดเเกะยังไงก็ไม่ออก

     เอี๊ยด...

          เสียงล้อรถบดถนนดังลั่นเรียกความสนใจให้ทุกคนหันขวับ รถพอร์ช คาเรร่า จีที สีดำสนิทราคาแพงลิ่วของรามิลปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างของสองพี่น้องตระกูลเซฮามัค  รามิลดีดตัวออกจากเบาะนั่งอย่างรวดเร็วไม่แพ้ผู้เป็นพี่ โยนกุญแจรถให้ทหารยามแถวนั้น ก้าวเท้าเดินเข้ามาคุยกับอัลชาอ์เป็นภาษาประจำชาติด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ต่างกับราเซย์ที่ออกอาการหงุดหงิดจนน่ากลัว ชายทั้งสามยืนคุยกันอย่างเร่งร้อนถกกันหน้าวังแบบไม่เกรงใจแขกเอาเสียเลย..

          แค่นั้นดูท่าจะวุ่นไม่พอ เจ้าเยอรมันเซพเพิร์ตตัวโคร่งกับร๊อตไวเลอร์หน้าดุที่ถูกจูงอยู่ในมือของทหารยามสองนายหน้าวังก็ยังเห่าแข่งกันเสียงขรมเสียอีก ดูวุ่นวายน่าปวดหัวมากขึ้นหลายขุม

        " เอ่อ......" คาวัลโลยิ้มค้าง นอกจากไม่รู้เรื่องที่ชาวบ้านพูดกันแล้ว ยังได้แต่ยืนนิ่งแบบนี้เสียด้วย อยากจะเอื้อมมือดึงแขนอัลชาอ์หรือตะโกนเรียกต่อหน้าต่อตาคนอื่นก็ดูท่าจะไม่สุภาพ มาเฟียหนุ่มจึงทำได้เพียงยิ้มเหย หันไปมองหน้าชายหนุ่มสี่รายที่ยืนรออยู่ อย่างพยายามจะรับมือกับสถานการณ์นี้เต็มที่

        "....เราเข้าไปข้างในกันก่อนมั้ยครับ? "เอ่ยถาม ทว่าไม่มีคำตอบกลับมา นัยน์ตาของทุกคนมองไปที่ชีคหนุ่มซึ่งกำลังพุดคุยกันอย่างเคร่งเครียดราวกับจะถามถึงคำอนุญาติ

        "...ชีคครับ!! ท่านชีค ! ท่านชีคอัลชาอ์ ครับ!! "ที่สุดแล้วจึงต้องเข้าไปร่วมวงสนทนานั้นด้วยจนได้ คาวัลโลเรียกชื่อคนรักหนักๆ นับแต่สรรพนามสั้นๆไปจนถึงเป็นทางการ จนกระทั่งอีกฝ่ายหันมามองนั่นล่ะ เขาถึงหยุดได้

       "...ผมขอพาแขกเข้าไปข้างใน " คาวัลโลโคลงศรีษะจ้องมองคนพูดเชิงขออนุญาติ" และเรื่องที่เกิดขึ้นนี่.."

       "....รบกวนด้วย คุณไปดูแลพวกเขา " อัลชาอ์พยักหน้ารับและชี้มือสั่งสำทับก่อนที่เขาจะได้ออกปากตามไปด้วยเสียอีก " ไม่ต้องตามผมมา ! "

        " แต่......" คาวัลโลส่ายหัวก้าวไปประชิดร่างของชีคหนุ่มอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าร้อนรน เรื่องที่เกิดขึ้นขนาดนี้แล้วจะไม่ให้สนได้ยังไง อย่างน้อยก็ต้องเข้าไปฟังรายงานบ้างก็ยังดีสิ

       "  นี่เป็นเรื่องของประเทศผม ! คนนอกไม่มีสิทธิ์ยุ่ง !!" ใบหน้าคมก้มมาหาสีหน้าเคร่งขรึม และคำพูดเบา หากนิ่ง เฉียบขาดทำให้คาวัลโลทำได้เพียงยืนนิ่ง ไม่มีอะไรจะ"ตรึง"เขามากไปกว่าคำว่า"คนนอก"นั่นอีกแล้ว...

       อัลชาอ์ออกปากสั่งการแล้วหันไปสั่งทหารองค์รักษ์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าวังด้วยท่าทีไม่หวั่นไหว นัยน์ตาคู่นั้นไม่เหลือบมามองมาเฟียหนุ่มที่ยืนนิ่ง มองตามแผ่นหลังของชีคหนุ่มราวกับคนไม่รู้จัก นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นเพียงปรายมองไปยังสองพี่น้องเซฮามัค และพากันเดินเข้าไปในวังอย่างรีบร้อน...ทิ้งให้คาวัลโล วาลกัส ต้องเผชิญกับแขกทั้งสี่ตามลำพังด้วยสภาพนิ่งอึ้ง..

        " ยังไงก็.....เชิญครับ " กระพริบตาปริบๆราวกับจะเรียกสติคืนกลับมา ได้แต่ยิ้มฝืดสบตาผู้คนรอบกายอย่างทื่อๆ แล้วผายมือไปยังโถงรับรองด้านหน้า ผ่านเจ้าหมาดมอาวุธสองตัวที่ยังคงเห่าแบบน่าเอาอะไรมายัดปากไปด้วยหัวคิ้วที่กระตุกถี่ แล้วพอทรุดตัวลงบนเก้าอี้บุนวมนุ่มๆได้ไม่เท่าไหร่ ร่างของโรเบิร์ต ชอว์ตันก็เดินหน้าตื่นมาหา

         "  คาวัลโล ผมได้ข่าวเรื่องระเบิด มีใครเป็นอะไรไหม? "

         " ไม่ครับ " ยิ้มให้กับคนที่เข้ามาห่วงใยน้อยๆแม้ความไม่พอใจจะยังคุกรุ่น มองโรเบิร์ตที่เดินมานั่งใกล้ตัวแล้วอยากจะบอกนักว่าเขาเลิกตื่นกลัวกันแล้วแต่จะกลับมาประสาทกินเพราะท่าทางแบบนี้นั่นล่ะ

         " ผมขอโทษด้วยจริงๆที่เกิดเรื่อง วันนี้เราเริ่มทำงานกันแท้ๆ " ต่อให้จะยังค้างคาใจและเคืองกับบางเรื่อง ทว่าตอนนี้เขาก็ต้องปัดมันออกจากสมองเพื่อทำหน้าที่"ที่ปรึกษา" คาวัลโลยิ้มบางๆมองหน้าชายหนุ่มทั้งสี่ที่กระจายตัวกันนั่งโดยรอบอย่างขอลุแก่โทษ

         "  ...ไม่เป็นไรครับ...ทางเราก็...ออกจะคุ้นเคยพอสมควร " วิลเลียมเอ่ยพลางหัวเราะออกมาเฝื่อนๆ ปากบอกว่าเจอมาบ้างแล้ว แต่หน้าตาก็ยังคงซีดเซียว
         "....จะว่าไป.....ตอนทริปอียิปต์หนักกว่านี้นะ...ทั้งจลาจล...ปิดสนามบิน จารกรรม เยอะแยะ "คริสเอ่ยพลางส่ายหัวช้าๆ ยิ้มแล้วสบตาเขาอย่างขบขันปนเหนื่อยหน่าย " แต่...แค่ไม่เคยเจอที่ไหนใกล้ตัวแบบนี้ ก็ขวัญหายกันบ้างเป็นธรรมดาแหละครับ ยังไงทางบริษัทก็ทำประกันชีวิตให้เราแล้ววงเงินตั้งสองแสนยูเอสแนะ .."
           โจ๊กฝืนๆที่หยอดมาในตอนท้ายเรียกเสียงหัวเราะหึในลำคอของอีกสามชีวิตที่อยู่ในทีมเดียวกัน ส่วนคาวัลโลก็ได้ยิ้มให้ ทว่าเขาก็รู้นัยยะประชดประชันในคำพูดนั้นอยู่ดี ต่อให้ได้เงินเป็นแสนเป็นล้านยูเอสดอลล่าห์...หากเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆก็เรียกชีวิตคนๆหนึ่งกลับมาไม่ได้หรอก ถ้ามีใครเป็นอะไรไปจริงๆ ก็คงไม่พ้นอัลชาอ์ต้องรับผิดชอบ

          " ไม่เอาน่า...ผมจะยังทำต่อนะหรือใครว่าไง? " หนุ่มสเปนนาม อันโตนิโอ้เอ่ยขึ้นมา กวาดนัยน์ตาสีเขียวของตนไปยังบรรดาผู้ร่วมโครงการ แน่นอนว่าเมื่อมีปัจจัยด้านความปลอดภัยบวกเพิ่มขึ้นมาความเสี่ยงด้านการทำงานก็ย่อมสูงขึ้นด้วย และมีโอกาสมากที่จะมีการทบทวนข้อตกลงใหม่

          " ก็ตามนั้น..อีกอย่างผมอยู่แค่อาทิตย์เดียว ไม่ซีเรียส " สถาปนิกหนุ่มที่ลอยลำไปแล้วอย่างคริสยักไหล่ พลางเอื้อมมือขอหูฟังจากเพื่อนชาวสเนปข้างกายมาฟังเพลงแก้เครียด

          " ...ถ้าทบทวนเรื่องค่าเสี่ยงภัยใหม่ " อิลาดอฟเอ่ยช้าๆ...หากริมฝีปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์

         " ถ้าดีต้องตีค่าความเสี่ยงด้วย "วิลเลียมที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกคราเมื่อได้ยินเรื่องเงินๆทองๆดีดนิ้วเป๊าะ นัยน์ตาประกายสดใส

          " เฮ้ๆ เขาก็บวกไว้แล้วไม่ใช่หรือไง...จะปรับเรทค่าจ้างขึ้นอีกเท่าไหร่กันครับคุณวิล " หนุ่มเอเชียสมาชิกอีกรายยกมือออกปากท้วงด้วยสีหน้ากึ่งล้อเลียนและขบขัน คาวัลโลยิ้มและหัวเราะรับอันเป็นที่รู้กันแล้วว่าต่างฝ่ายเริ่มหายเครียดจากเหตุการณ์ระเบิดสดๆร้อนๆที่เกิดขึ้น

            "...แล้วอัล...เอ่อ ชีคล่ะครับ? "โรเบิร์ตออกปากถาม คาวัลโลหันไปมองหน้า เขายักไหล่ขึงตาใส่คนพูดแว๊บนึงกับชื่อเรียกนั่น สุดท้ายจึงยอมเปิดปาก

           "...ประชุมครับ "

           " อ้อ....ผมนึกว่ามีใครเป็นอะไร " โรเบิร์ตยิ้มรับ พลางถอนหายใจ โล่งอก "รามิลกับราเซย์คงไม่เป็นไรด้วยใช่ไหมครับ แบบนี้ "

           " ไม่เป็นไรหรอกครับ....บางคนมัน"หนังหนา"จะตาย " คำตอบนั้นไม่ใช่จากปากของคาวัลโล แต่มาจากปากของคริสที่เอนตัวพิงเก้าอี้ตัวยาว แขนพาดลงบนพนักด้านหลังที่เป็นสีทองอร่าม มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มนัยน์ตาจ้องมองคนพูดไม่วางตา

           ".....ใช่ไหมครับ โรเบิร์ต ? "

           " ครับ....ค....คริส "  โรเบิร์ต ชอว์ตันรับคำตะกุกตะกักแล้วหลบตาวูบ หากแต่ผิวหน้าขึ้นสีวาบอย่างรวดเร็วจนสังเกตได้ คำพูดนั้นชวนให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น คาวัลโลมองสองหนุ่มอีกคราแล้วลอบถอนหายใจเบาๆ ด้วยความหน่ายระอากึ่งหนักใจ คิดแล้วก็เหลือบมองพ่อคนพูดอีกคราอย่างใคร่ครวญ

...ปากล่ะบอกว่าจบเรื่องบาดหมางกับรามิลและราเซย์ แต่ตั้งเป้าจะมารีเทิร์นกับโรเบิร์ตที่เป็นแฟนเก่าสิเนี่ย แล้วแบบนี้ มันต่างกับการเปิดสงครามกับพี่น้องนั่นตรงไหน?

        แล้วไอ้คนพูดจาแบบนี้จะโดนเจ้าสองคนนั่นจัดระเบิดส่งให้สักชุดจนไส้ไหลสักวันก็ไม่น่าแปลกหรอก ...รักจะหาเรื่องคนก็ต้องดูกำลังตัวเองต้องรู้จักประเมินความสามารถตนเองเสียบ้างสิ

มองสองหนุ่มแล้วคาวัลโลก็ถอนหายใจ เบือนหน้าหนีแล้วบอกตัวเองทันทีว่า....ช่าง....หัวพวกมัน....
.......

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8

    คาวัลโลถอนหายใจเบาๆเขานั่งเงียบอยู่ในห้องนอนของอัลชาอ์จ้องมองท้องฟ้าที่ฝนหยุดลงแล้วและแสงแดดก็เริ่มสาดจ้า  ริมฝีปากเม้มแน่นอย่างเผลอตัว เพราะความคิดว้าวุ่นที่ตีกันในสมอง

คำว่าคนนอกดังวนเวียนอยู่ในมองซ้ำไปซ้ำมาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องอย่างไรอย่างนั้น

       ไม่ได้น้อยใจหรือหงุดหงิดอะไรกับคำพูดของอัลชาอ์นักหรอก...เพียงแต่ว่า...  ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย ศักดิ์ศรีและสัญชาติญาติของผู้ชาย ย่อมพอใจที่จะเป็นผู้นำ พอใจที่จะยืดหยัดอยุ่ได้ด้วยตัวเองมากกว่าพึ่งพิงผู้อื่น

       และนิสัยเสียที่ยังไงก็แก้ไม่หายของคาวัลโล...ก็คือการคิดและมองอะไรในมุมมองของ"มาเฟียผู้กุมอำนาจ"อยุ่เสมอ ทั้งที่ตอนนี้ตนเองไม่ใช่แบบนั้น  เอาแต่คิดว่าตัวเอง"มี"ในสิ่งที่เสียไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ทำใจให้ชินชากับความสูญเสียไม่ได้ และมักจะเผลอไผล คิดว่ายังมีมันอยู่เสมอๆ

     แบบเดียวกับที่ราเซย์มันตอกหน้าเขาไว้เมื่อครู่ ตอกหน้าคนที่คอยเอาแต่พล่ามว่าตัวเองเป็นมาเฟีย พล่ามว่ามีความสามารถและยิ่งใหญ่นักหนาว่าตอนนี้"ไม่ใช่" และ "ไม่มี"มันอีกแล้ว

     และไม่ต่างกับที่อัลชาอ์บอกว่านี่คือประเทศของเขา และยังไง คาวัลโล วาลกัส ก็ยังถือเป็นคนนอกอยู่ดี

         อาจจะเป็นคนรักของอัลชาอ์ อาจจะเป็นคนที่เก่งหรือมีความสามารถอะไรล้านแปด แต่ว่า..ยังไงสำหรับที่นี่...สำหรับเซเนียยา สำหรับปัญหาของเซเนียยา สำหรับดินแดนแห่งนี้ ยังไงคาวัลโลก็เป็นเพียงคนนอก และค่าของความสามารถที่มีซึ่งสามารถใช้ได้ในตอนนี้คือ"ศูนย์" ค่อนไปทางติดลบเพราะข่าวเสียหายนั้นด้วยซ้ำ

     สามารถเข้าใกล้ สามารถจะ"ทำ"ทุกอย่างได้ก็แต่ในวังแห่งนี้เท่านั้น แต่ถึงยังไงเรื่องการทหาร การเมือง การปกครองอะไรทั้งหลาย อัลชาอ์ก็ไม่ให้เข้าไปก้าวก่ายเหมือนเดิม

      ต่อให้เป็นที่รักของอัลชาอ์ แต่ทว่าก็เป็นคนนอก คนต่างชาติตต่างศาสนาที่มาอยู่ที่นี่....และเมื่อมองที่มาของตัวเองและมองตามความจริง ตอนนี้สถานะก็ไม่ต่างอะไรกับ ผู้หญิงที่มีหน้าที่ระบายความใคร่ของคนๆหนึ่งเท่านั้น

    มันน่าสมเพช เขารู้ เพราะต่อให้มันเป็นเพราะ"ความรัก"แต่ในสายตาคนภายนอก ใน"นิยาม"ของคนอีกมากมายความหมายก็ยังเป็นเหมือนเดิม

เติมคำว่ารักเข้าไป ในสายตาของคนรอบข้างอาจจะดีขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปอยู่ดี

.     ..คาวัลโลคิด....ไม่ใช่ไม่คิด แต่ก็รู้ดีอยู่เสมอว่าตัวเองไม่มีทางเลือก ตอนนี้ทุกสิ่งมันหมดไปแล้ว มันไม่มีที่ยืนสำหรับตัวเอง มีแค่อ้อมกอดของอัลชาอ์เท่านั้นที่คอยดูแล คอยโอบประคองไว้ แต่ต่อให้ซาบซึ้งกับคำว่ารักแค่ไหน ในใจมันก็เหมือนมีเสี้ยนหนามเล็กๆคอยตำและทิ่มแทงอยู่เสมอ ยิ่งได้มองเห็นคนรอบกาย มองเห็นชีวิตและหน้าที่ของพวกเขา คำถามที่เสียดใจอยู่เนืองๆก็ยิ่งดังก้อง..

     ศักดิ์ศรีในฐานะคนๆหนึ่ง ความภาคภูมิใจในฐานะผู้ชายคนหนึ่งมันหายไปไหนหมด?

    แล้ว...จะต้องใช้ชีวิตที่กลวงเปล่า ไม่มีอะไรแบบนี้ อีกนานแค่ไหน?

      ผู้คนรอบกายมากมาย ทั้ง เจ้าชายฟาลซาอ์ ฮาซาน รามิลกับราเซย์ โรเบิร์ต หรือพวกวิศวะกรที่มาทำงานพวกนั้น

      ทุกคนยืนอยู่บนขาของตัวเอง ทุกคนมีจุดมุ่งหมาย มีเป้าหมายของตัวเอง มี"ชีวิต" เป็นของตัวเอง ไม่เห็นใครจะไร้"วิญญาณ"เหมือนตัวเขาสักคน

      ขนาดโรเบิร์ต คนที่เขามองว่าอ่อนแอเหลาะแหละต้องพึ่งคนอื่นอยู่เสมอ เขาคนนั้นก็ยังมีจุดมุ่งหมายของตัวเอง มีชีวิตเป็นของตัวเองไม่เหมือน คาวัลโล วาลกัสที่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรสักอย่าง

   ...จะใช้ชีวิตที่กลวงเปล่า วันๆทำได้เพียงแค่เกาะติดห้อยตามอัลชาอ์ไปมา ไม่มีสิทธิ์มีเสียง ไม่มีปากเสียง ทำตัวว่าง่าย และรอวันตายแบบนี้อีกนานเท่าไหร่

      พยายามคิดว่าดีแค่ไหนที่ยังเหลืออะไรให้คว้า แต่....สิ่งที่ได้มาก็เหมือนจะไม่พออยู่เสมอ

      บอกว่าจะพยายามรัก ก็หมายถึงจะพยายามจริงๆ ...แต่นอกเหนือจากนั้นล่ะ มันมีอะไรไหม? นอกจากอัลชาอ์และ"รัก"ที่อยู่ตรงหน้า มีอะไรให้เขาอีกรึเปล่า? หรือจะต้องใช้ชีวิตที่ไม่ต่างกับพวกนางในฮาเร็มแบบนี้ไปจนตาย...?

     ....จะมีความสุขกับชีวิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ถ้าหาก"ไร้ความภาคภูมิใจในตัวเอง"

      มันเป็นความจริงที่เริ่มตอกหน้าคนแบบ"คาวัลโล วาลกัส"ให้อยู่ไม่สุขมากขึ้นเรื่อยๆ รู้ดีว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่ตัวเอง ไม่ใช่วิถีชีวิตที่จะมีความสุขกับมันได้

      เกลียดความเงียบ เกลียดความสงบ ชอบกลิ่นควันปืนมากกว่ากลิ่นน้ำมันหอม ชอบรสชาติของความสนุกสนานตื่นเต้นมากกว่าความสงบ

      ความสุข ความสงบ ชีวิตที่ไร้เรื่องกังวลอาจจะทำให้ผ่อนคลายลงได้ แต่...ยังไงมันก็เป็นได้เพียงการพักผ่อนชั่วคราว ไม่ใช่จมอยู่กับชีวิตแบบนี้ตลอดไป ชีวิตที่วันๆเอาแต่อยู่กับที่ไม่ทำอะไร มัน....ไม่ใช่สิ่งที่เขารับได้

      ไม่ได้เสียใจที่กลายเป็นคนนอก ไม่ได้อยากจะร่ำไห้อาลัยอาวรณ์กับสิ่งที่หายไปแล้ว ไม่ได้อยากจะกลับไปคร่ำครวญหาตำแหน่งมาเฟีย...แต่...เขาต้องการแค่ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจที่จะใชีวิตต่อไปจากนี้สักนิด...

      ความรักของอัลชาอ์ที่มอบให้ไม่ใช่สิ่งไร้ค่า เขารับมาและดีใจกับมันเสียเหลือเกิน แต่ก็ยังเฝ้าถามตัวเอง ว่าจากนี้ล่ะ? จะมีอะไรที่เป็นของตัวเองอีกไหม ชีวิตนี้จะได้ทำอะไรอีกรึเปล่า นอกจากลอยไปวันๆแบบไร้จิตใจ

  ยิ่งเห็นคนรอบกายดิ้นรนเท่าไหร่ ก็ยิ่งสมเพช เวทนาตัวเองมากเท่านั้น..

          " เป็นอะไรไป ?" ฝ่ามือที่แตะลงบนไหล่และบีบเบาๆทำเอาสะดุ้งโหยง คาวัลโลเงยหน้าขึ้นมาจากพรม จ้องมองนัยน์ตาสีดำสนิทของคนรักที่เกลื่อนไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะกระแอมเบาๆเรียกสติตัวเอง

          " เปล่า" เขาส่ายหัว จ้องมองร่างของชีคแห่งเซเนียยาที่ยังคงจ้องมองมาที่ตนเขม็ง..

          " หรือไม่พอใจที่ผมดุ...." ฝ่ามือหนาทาบลงบนผิวแก้ม แล้วไล้มันเบาๆ " ผมขอโทษด้วย ตอนนั้นผมกำลังเครียด..."

          "...ไม่หรอก...ผมแค่...." เอื้อมมือจับมือหนาไว้ หากแต่ความอึดอัดที่ยังคงพลุ้งพล่านในใจก็กดดันให้เขาอ้าปากพูดอะไรออกมาจนได้ "อัลชาอ์ ของานให้ผมทำได้ไหม? "

          " หือ? งานอะไร ก็เป็น"ที่ปรึกษาหัวใจ"ผมอยู่แล้วนี่ "คนฟังยิ้มแล้วโน้มใบหน้ามาแตะจูบลงบนผิวแก้มอย่างรักใคร่ แต่คาวัลโลส่ายหน้า ไม่ใช่ไม่พอใจกับสิ่งที่ได้รับ เพียงแต่..

           " ไม่ใช่...ผมหมายถึงงานอย่างอื่น ...ให้ทำอะไรก็ได้ไม่มใช่ลอยชายไปวันๆ ผมอยาก...."

          " ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แค่เป็นคนรักของผม ให้ผมกอดคุณทุกวันก็พอแล้ว..." อ้าปากอธิบาย แต่ไม่ทันจบอัลชาอ์ก็สวนขึ้นมาด้วยรอยยิ้มหวานพร้อมกับอ้อมกอดแน่นๆ ทว่าใจความของมันทำให้คาวัลดลครางออกมาอย่างรันทดท้อ...เหนื่อยใจ...

           " ผมอยู่แบบนี้ไม่ได้หรอก " คำปฏิเสธนั้นทำให้ชีคหนุ่มตัวแข็ง ชะงักและหันมามองหน้าเขาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก คาวัลโลสบตาชีคหนุ่มแล้วถอนหายใจยาวๆ " ...ผมทนอยู่โดยไม่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ. อยู่แบบนี้นานเข้าผมอาจจะกลายเป็นบ้า มันไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่อยู่กับคุณ ขอแค่ให้ผมรู้สึกสักนิดว่าตัวเองยังทำอะไรได้มากกว่านั่งๆนอนๆหายใจทิ้งไปวันๆ"

           "..............." อัลชาอ์มองหน้าคนรัก สีหน้าของชีคหนุ่มเรียบนิ่งจนไม่อาจะบอกได้ว่ารู้สึกเช่นไร คาวัลโลรู้สึกกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าเขาสับปลับ ไม่ทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ทั้งที่ผ่านมาไม่กี่วัน เขาจ้องหน้าอัลชาอ์เขม็ง พยายามสื่อความจริงใจไปยังอีกฝ่าย ...บอกว่าเขาไม่ได้ต้องการจะจากไปไหน ไม่ได้ต้องการจะผิดสัญญา เพียงแต่ว่า...ขอ...ทำอะไรบ้างก็เท่านั้น

           "...คิดไว้อยู่แล้วล่ะ " สักพัก แต่นานนักในความรู้สึกของคนรอ อัลชาอ์ก็ถอนหายใจแล้วเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นจ้องมองใบหน้าที่ฉายแววฉงนของมาเฟียหนุ่มเขม็ง...ที่สุดจึงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน


           " งานของคุณ ยังคงเป็นการช่วยผม"รับมือ"กับแกงค์มาเฟียนะ คาวัลโล.."


           ".......หมายความว่ายังไง ? "คาวัลโลอ้าปากค้าง คำตอบของอีกฝ่ายผิดความคาดหมายของเขาไปมากโข และยิ่งคนพูดเป็นอัลชาอ์ด้วยแล้วด้วยแล้วมันยิ่งเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงไปกันใหญ่ " ผมไม่ได้ต้องการจะยุ่งกับพะ..."

          " ไม่ได้หมายความแบบนั้น...." ปลายนิ้วแตะลงบนริมฝีปากเบาๆ นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองดวงตาสีน้ำทะเลเขม็ง " ผมบอกแล้ว ว่าผมจะดูแลคุณ ความหมายของมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ "         

           " ผมรู้อยู่แล้ว ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ไม่นาน คาวัลโล " คำพูดอีกฝ่ายทั้งปลง...ทั้งหนักใจไปด้วยในคราเดียวกัน ทำให้มาเฟียหนุ่มอดจะขมวดคิ้วไม่ได้ " ผมรู้....รู้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน เข้าใจดีว่าผู้ชายคนหนึ่งหากจะต้องมาอยู่ในสถานะแบบนี้จะรู้สึกว่าตัวเองมันไร้ค่าแค่ไหน...แล้วยิ่งกับคุณ.....แต่ขอสารภาพ ผมอยากเห็นแก่ตัวให้เราอยู่แบบนี้อีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ไม่งั้นสักเดือนก็ยังดี แต่เห็นได้ชัดว่าสำหรับคุณ สามวันนี่ก็ดูท่าจะมากไปเสียแล้ว"

           " ถึงคุณจะบอกว่า "ไม่" แต่ไม่มีใครรู้ดีมากกว่าเราสองคนอีกแล้วว่าคุณจะทำ และคนอีกมากมายก็ยังคงต้องการทำร้ายคุณและประเทศของผมอยู่ดี" ฝ่ามือหนาดันร่างของมาเฟียหนุ่มให้เอนตัวลงบนเตียงนอนหนานุ่ม "...ตราบใดที่คุณยังชื่อ คาวัลโล วาลกัส คุณก็ไม่มีทางหนีไปจากมันได้ ไม่มีทางหนีจากชื่อ"วาลกัส"ไปได้ ต่อให้เป็นที่นี่ หรือที่ไหนๆ"

            "...ผมรู้ว่าคุณไม่ต้องการจะกลับไป แต่ศักดิ์ศรีของคุณที่ถูกพวกมันเหยียบย่ำ..ข่าวลือที่ออกมาทำให้คุณเสียเกียรติ ทุกสิ่ง...ทุกอย่างที่พวกมันทำกับคุณ ผมจะเอาคืนมาให้  " นัยน์ตาผู้พูดหรี่เล็กลงช้าๆอย่างครุ่นคิด หากแต่สีหน้าเครียดเคร่งและนัยน์ตาวาววับฉายแววเหี้ยมลึก ทำให้คนมองชะงัก

            "....แต่คุณ...." คาวัลโลส่ายหน้า เขาจ้องมองผู้ชายที่ทาบทับบนร่างของตนอย่างไม่เข้าใจ " แล้วคุณละ อัลชาอ์ ?"

            " ผม?...ผมก็ไม่อยากจะพูดให้คุณสมเพชเวทนาหรอกนะคาวัลโล แต่คุณก็เห็นชัดแล้วไม่ใช่หรือ ว่าผมและกองทัพของผม ยังไม่รู้จัก"มาเฟีย"และกลยุทธ์ของมาเฟียดีพอทีจะต่อกร โดยเฉพาะในสภาพที่มีประเทศของตัวเองเป็นประกันเช่นนี้ ""

            " คุณจะลากผมเข้าสู่สงคราม... "คาวัลโลลุกพรวดจากเตียง ออกแรงดันให้อีกฝ่ายให้ห่างจากร่างของตนแล้วส่งเสียงเคร่ง จ้องหน้าเขม็ง.. " ผมบอกแล้วไงว่าผมจะไม่ยุ่งกับเรื่องแบบนี้อีกแล้ว จะให้พวกมันสมน้ำหน้าผมรึไงที่ไม่มีคนต้องการ...บอกแล้วไงว่าผมจะไม่ยุ่งเกี่ยว ผมจะไม่ทำ ! "

            " คาวัลโล..." อัลชาอ์ครางเสียงอ่อน ชีคหนุ่มรั้งร่างอีกฝ่ายไว้ในอ้อมกอดแล้วส่ายหัว แม้จะงวยงงกับปฏิกริยารุนแรงของอีกฝ่ายแต่ก็เข้าใจดีว่าคาวัลโลคงแสลงใจไม่น้อย  " ผมไม่ได้ให้คุณกลับไป ผมไม่ได้บังคับ แต่ผมอยากจะขอ..คาวัลโล ผมอยากขอร้องให้คุณช่วยผมจะได้ไหม ?"

           " แต่....ทำไมล่ะ ผม......ทั้งที่คุณบอกว่าผมควรอยู่ห่างๆ พอผมออกมาแล้วจะให้ผมยุ่งกับมันอีกทำไม ถ้าผมคิดอยากจะกลับไปอีกล่ะ ถ้าผมทนที่ถูกหยามไม่ได้จนทำอะไรโง่ๆอีกล่ะ คุณจะทำยังไง?" คาวัลโลดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนหนา เขาส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ

            "  คาวัลโล คุณไม่ใช่คนสับปลับ ผมเชื่อใจคุณ...และคุณก็เชื่อใจผมไม่ใช่หรือ? ผมอยากจะให้คุณเข้ามาช่วย ไม่ได้อยากตอกย้ำ เพียงแต่ผมไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้อีกแล้ว " ชีคหนุ่มยิ้มในหน้า หากแววตาจริงจังบ่งชัดว่าไม่ขัน " ผมไม่ได้ตาบอดนะ ถึงจะไม่สังเกตเห็น คุณน่ะน่ารักและมีความสุขตอนอยุ่กับผมก็จริง..แต่คุณก็ลอบถอนใจอยู่บ่อยๆไม่ใช่เหรอ ผมเห็นนะคาวัลโล..ว่าสายตาคุณมันเป็นยังไง  ผมไม่ยอมให้คุณกลับไปอยู่แล้ว แต่หากถูกหยามศักดิ์ศรี คุณจะทนได้รึ  "

           " ผม... "...คาวัลโลนิ่งอึ้งเพราะคำพูดของอีกฝ่ายมันแทงใจ ใช่...ถึงจะมีความสุข แต่มันก็ยังมีเศษหนามเล็กๆที่คอยทิ่มแทงใจอยู่เสมอ สิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรีของเขานั่น..

....อย่างที่เขาคิด คิดในยามที่ออกปากของานทำ...เพียงเพื่อจะหาคุณค่าของตัวเอง

..แต่ ถ้าหาก...ถ้าหากเขาทิ้งอัลชาอ์ไปเล่า..

           "..อาจจะบอกว่านานไปจะเคยชินกับมัน..แต่บางครั้งเวลามันก็ช่วยอะไรไม่ได้ และสำหรับคุณ เวลาที่ว่ามันจะมีค่าแค่คอยทรมารคุณช้าๆ ให้กลายเป็นเพียงตุกตาไขลานอยู่ในอ้อมแขนของผม ถามว่าใครต้องการให้มันเป็นแบบนั้น? คุณหรือ? รึว่าผมที่อยากได้...คนที่ไม่มีชีวิตจิตใจ หายใจทิ้งไปวันๆ "  ชีคหนุ่มจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วถอนหายใจช้าๆ " เวลามันก็จะทำให้ความภาคภูมิใจในตัวเองของคุณเองลดลงไปด้วย หรือจะบอกว่าคุณไม่ละอายใจ ไม่แสลงใจ เวลามองผู้คนข้างนอกนั่น คนที่มีทางเดินเป็นของตัวเอง แต่คุณ...ไม่ "

           " หรือคุณบอกว่าตัวเองไม่อยากแก้แค้นใครก็ตามที่ทำให้คุณต้องเจอเรื่องบ้าๆ ถูกหยาม ถูกทำร้าย และคนๆนั้นก็กำลังเข้ามาทำลายประเทศของผม ที่เป็นบ้านหลังสุดท้ายของคุณ...คุณกลายเป็นคนขี้แพ้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงไม่อยากจะยืนหยัดลุกขึ้นสู้...ไม่ได้สู้ในฐานะมาเฟีย ไม่ได้สู้ในฐานะนางบำเรออย่างที่พวกมันกล่าวหา แต่สู้ในฐานะคนของผม สู้ในฐานะคนรักของอัลชาอ์ เพื่อที่นี่...เซเนียยาที่คุณจะอยู่กับผม.."

           " บ๊าเอ๊ย....คุณรู้จักผมดีเกินไปแล้ว "คาวัลโลยกมือขึ้นเสยผม ทั้งหงุดหงิดทั้งอ่อนอกอ่อนใจ เขาเงยหน้ามองคนพูด  "แล้วยังไง? คุณจะให้ผมทำหน้าที่สอบสวนเจ้ามาเฟียสองคนนั่น และจะช่วยสู้กับมาเฟียงี่เง่าที่กล้าแหย่ขามาแหยมกับประเทศของคุณ เพื่อศักดิ์ศรีของผม เพื่อความถาคภูมิใจของผม และเพื่อให้ผมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีอะไรอีกไหมที่คุณจะทำ  หา? "

           " มี....ล่ามคุณไว้เตียงสักสามสี่คืน แล้ว"ทำ"จนคุณต้องอ้อนวอนขอให้ผมหางานอะไรให้ทำอีกรอบ " อัลชาอ์เหยียดรอยยิ้มกลับมองอีกฝ่ายที่มีสีหน้าแสยงวูบแล้วส่ายหน้าขัน "  และถ้าการให้คุณได้มีแรงบันดาลใจสักเล็กสักน้อยในการทำงานเพื่อแลกกับคาวัลโลคนเดิมที่ต่อให้ไม่ว่าง่ายแต่ก็น่าหลงไหลแล้วล่ะก็...ผมก็ยอมนะ "

            ".....หืม....ไม่ชอบผมตอนที่เป็นแมวเหมียวอย่างทุกวันนี้รึไง  " คาวัลโลยกมือเสยผมที่เริ่มยาวขึ้นของตัวเอง แล้วมองหน้าชีคหนุ่มอย่างท้าทาย นึกแปลกใจที่วาจาห้วนๆที่หันใส่กัน มันชวนให้สบายใจไม่ต่างกับคำหวานหูสักนิด

           "....ก็ชอบ...แต่มันไม่ใช่ตัวคุณ เจ้าแมวของผมน่ะมันแมวขาบู๊..นานๆทีถึงจะออกมาออดอ้อนน่ารักแบบนี้บ้าง แต่ไม่เป็นไร เพราะคราวนี้ผมก็จะบู๊กับมันด้วย" อัลชาอ์เอื้อมมือรั้งร่างของมาเฟียหนุ่มมาไว้ในอ้อมแขน " ผมไม่ได้ทำเพราะอยากพาคุณเข้าสู่อันตราย ผมไม่ได้ลากคุณออกมาให้ช่วยเหลือผมหรือเพราะความอยู่รอดของตัวเอง แต่...ผมจะทำเพื่อทวงศักดิ์ศรีของคนที่ผมรักคืน...ให้พวกมันรู้ ว่าการทำร้ายคนรักของอัลชาอ์จะต้องเจอกับอะไร "

            ". ไหนบอกจะให้ผมคุมเอง.." สีหน้างวยงงและสับสนของคนฟังทำให้อัลชาอ์ส่ายหัวช้าๆ แล้วพ่นลมหายใจ

          " .. ใครจะให้คุณคุมเอง ผมแค่อยากให้คุณคอยวางกลยุทธ์ให้เท่านั้นเอง...ส่วนเรื่องจะออกไปรบไหม...ผมไม่อนุญาติ "

           " ไม่เอา...ผมจะไป "คาวัลโลส่ายหน้าพรืด ออกอาการแยกเขี้ยวใส่ทันควัน

           " ไม่ได้...เดี๋ยวคุณจะเป็นอันตราย อีกอย่างถ้าคุณคิดจะกลับไปจริงๆ ผมก็แย่สิ.."

                คำพูดนั้นนั้นทำให้คนรอฟังหน้ามุ่ย คาวัลโลจ้องมองใบหน้าคนพูดแล้วนึกฉุนปนขบขัน ปากบอกไม่หวั่นแต่ความจริงก็แอบกลัว แต่ยังไงอัลชาอ์ก็ยังเป็นอัลชาอ์ คนที่ทั้งดูแลเขาทั้งห่วงใยและหลงรักเขา  ห่วงความรู้สึกเขาและรับปากจะช่วยเขานำศักดิ์ศรีที่ถูกเหยียบย่ำกลับมาให้ และทั้งคอยหาทั้งโซ่ทั้งเชือกสารพัดแบบมามัดเขาให้ดิ้นหนีไปจากเจ้าตัวไม่ได้..เจ้าเล่ห์บวกงี่เง่า สมเป็นอัลชาอ์ของแท้..

           "..ผมไม่ไปหรอก " คาวัลโลเอื้อมมือสอดรัดบั้นเอวคนรักไว้แน่น เขาซบหน้าลงกับแผ่นอกอีกฝ่ายแล้วส่ายหัว "แต่ผมจะไปลุยกับพวกมันด้วย"

          " อันตราย ถ้าคุณเป็นอะไรไป " อัลชาอ์ถอนหายใจแผ่วเบา...

           " แค่สไนเปอร์ก็ยังดี " คาวัลโลส่ายหัว จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น

           " นั่นก็ยังอันตราย..." อัลชาอ์ถอนหายใจ "รู้ไหมคนดี.."

            " ผมจะไม่ทำให้ตัวเองอยู่ในอันตราย อย่างน้อย ก็ขอให้ได้คอยคุ้มกันคุณก็ยังดี.."

            "คุณจะดื้อไปถึงไหน? "อัลชาอ์ถอนหายใจ คล้ายไม่เข้าใจความคิดอีกฝ่าย แต่กระนั้น มันก็ยังแฝงไว้ด้วยความพึงพอใจ

            "...เปล่า แค่กลัวห่างสายตาแล้วจะมีไอ้บ้าที่ไหนมารอเป่าคุณอยู่อีกก็เท่านั้น "  ยักไหล่ ทำหน้าตาเหมือนไม่สน แต่ใจความนั้นทำให้อัลชาอ์ส่ายหัวกับนัยยะจิกๆกัดๆที่แฝงมา

           "...หลงรักผมแล้วล่ะสิ " ฝ่ามือหนาลูบเส้นผมนุ่มเบาๆอย่างหยอกล้อ

            "....หลงตัวเอง " คาวัลโลบ่น เขาผละจากอ้อมแขนของอัลชาอ์ สบตาอีกฝ่ายมองเห็นความหวาดหวั่นที่แฝงในแววตาคู่นั้นชัดเจน.. คงเพราะอีกฝ่ายก็รู้ไม่ต่างกัน ว่าหากยอมให้เขาจัดการเรื่องนี้ ยอมให้เขาทวงศักดิ์ศรีคืนก็ไม่ต่างกับการพาเขาไปสู่อันตรายและ...อาจจะทำให้เขาคิดหวนกลับไปอีกก็ได้...

            "... ผมบอกว่าจะอยู่ที่นี่กับคุณ...ผมก็จะอยู่ที่นี่กับคุณ...อัลชาอ์ "

จนกว่า...

               "....ถ้างั้น...ก็รอผมอยู่ที่นี่นะ? " ชีคหนุ่มออกปากถาม พลางยิ้มกล่อม

             " ไม่... " เจ้าเหมียวน้อยออกปากแล้วส่ายหัว ก่อนจะออกแรงผลักแผ่นอกหนาให้ชีคหนุ่มเอนกายนอนลงบนเตียงนุ่ม

             " นี่น่ะเป็นศึกทวงศักดิ์ศรีของผม เพราะฉะนั้นผมจะไม่ใจอ่อน ไม่ปล่อยให้พวกมันรอดไปได้ ผมจะไม่กลัวอันตรายเพราะคนอย่างผมไม่มีทางเป็นอะไรไปอยุ่แล้ว...และ...ผมจะไม่มีวันห่างจากคุณผมจะอยู่ข้างๆคุณ "

            " แน่ใจหรือ? " คำพูดคล้ายอ่อนใจหรือไม่ก็ลำบากใจทำให้ผู้ฟังนิ่วหน้า

             "....ผมจะปกป้องคุณเช่นเดียวกับที่คุณปกป้องผม...อย่าลืมว่าผมเป็นมาเฟีย...ไม่มีทางแพ้พวกหมาลอบกัดแบบนั้นหรอก " คำยืนยันหนักแน่นนั้นทำให้คนฟังถอนหายใจ ก่อนชีคหนุ่มจะเลิกคิ้วขึ้นช้าๆ มองหน้าอีกฝ่าย

             " ไหนบอกว่าไม่อยากทำ? "

             " เปลี่ยนใจแล้ว ! " นัยยะยั่วเย้านั้นทำให้คนฟังแยกเขี้ยวงุด ท้ายสุดก็ทำได้เพียงแยกเขี้ยวและประกาศหนักแน่น " ผมไม่ได้ต้องการกลับไป ผมทำเพื่อตัวเอง และเพื่อตัวคุณ ผมไม่มีทางให้ใครมาเหยียบย่ำที่นี่หรอก..."

             " แล้วตอนนี้....ผมไม่ใช่คนนอกอีกแล้วใช่ไหม?"

               " คุณเป็นประชาชนของเซเนียยาแล้ว " ชีคหนุ่มยิ้มรับ ก่อนจะกอดร่างที่ทับกายตนเองไว้แน่น "ชั้นดีที่เสียไปไม่ได้เลยด้วย "

                คาวัลโล หัวเราะรับคำพูดนั้นอย่างพึงใจ เขาเอื้อมมือดึงกระดุมบนโธปตัวโคร่งของอีกฝ่ายออก เผยให้เห็นแผ่นอกแกร่งภายใต้เสื้อตัวในสีเดียวกัน ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาเหล่มองนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้เที่ยง แค่เขาไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นเลียไล้ใบหูของอีกฝ่าย แล้วส่งเสียงกระซิบแผ่วเบา...

            "  งั้นช่วยยืนยันหน่อยสิครับ...ชีคของผม"

..............

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8

    " คูณคิดว่าการกระทำแบบไหนที่ให้อภัยไม่ได้มากที่สุด? "หลังจากทำ"กิจกรรมยืนยันความเป็นพลเมืองของประเทศเซเนียยา"กับอัลชาอ์ไปสองรอบ และเลยเวลาอาหารเที่ยงไปเรียบร้อยแล้วคำถามจากปากของชีคแห่งเซเนียยาทำให้คนฟังโคลงหัวอย่างไม่เข้าใจ คาวัลโลซุกตัวแนบใบหน้าซบแผ่นอกหนา ยังคงนอนระรื่นลอยชายแบบมีความสุขทั้งที่ทำให้อีกฝ่ายพลาดนัดรับประทานอาหารเที่ยงไปแล้ว ก็แล้วยังไง ใครจะสนในเมื่อเขาก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน

           " หมายถึงอะไร? " มาเฟียหนุ่มเงยหน้าไปมองคนพูดอย่างงๆ ก่อนจะยิ้มแสยะ" ผมถามถึงเรื่องโรเบิร์ตและเหตุผลที่หมายหัวว่าผู้ชายคนหนึ่งเป็นอันตรายนักหนา.. แล้วมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไม่ทราบ"

      แน่นอนคำถามในตอนต้นคือเรื่องที่ราเซย์ เซฮามัคเล่าให้ฟังเกี่ยวกับแฟนเก่าอดีตรักอันมากมายของโรเบิร์ต ชอว์ตัน สำทับให้ไปถามจากอัลชาอ์เอง...ความข้องใจมากพอดูที่เหมือนว่าท่านชีคจะรู้เรื่องอะไรมากมายของ"แฟนเก่า" จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้คาวัลโลออกปากถาม

          " นี่ก็เป็นคำตอบไง..." อัลชาอ์ยิ้มให้คนในอ้อมแขนแล้วถอนหายใจเบาๆ " นี่...ผมรู้ว่าคุณไม่พอใจ แต่โรเบิร์ตเขาไม่ใช่แค่แฟนเก่า คนรักคนแรก หรือ...อะไรแบบนั้น " อัลชาอ์ยิ้มกลบเกลื่อนเมื่อเจ้าแมวเหมียวตวัดสายตามามองขู่แบบเคืองๆ      

           " ตอนที่ผมเกิดมา ก็มีเรื่องทำให้ผมต้องไปอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็ก จนถึงสิบขวบถึงจะได้กลับมาเยี่ยมบ้าน...บ้าง..."อัลชาอ์เอ่ยพลางเขี่ยนจมูกคนฟังเล่นเบาๆ นัยน์ตาจ้องมองเพดานห้องเมื่อคิดถึงเรื่องราวความหลัง " อยู่ที่นี่ถึงจะเป็นกษัตริย์เป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ที่อังกฤษ ยังไงผมก็เป็นแค่คนธรรมดา เด็กเอเชียธรรมดาคนนึงที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์กับพ่อบ้าน...พ่อของฮาซานน่ะ.....เด็กพวกนั้นเรียกผมที่โรงเรียวว่ายังไงรู้ไหม? พวกลิงเหลืองสกปรก พวกเอเชียต่ำต้อยไม่ควรค่าจะมาอยู่ที่นี่ ดูถูกกันสารพัด แล้วผมก็ใช่จะยอมอยู่เฉยๆ ด่ากลับไปทันทีว่าพวกหมูขาว ก่อเรื่องชกต่อยวิวาทกันไม่เว้นแต่ละวัน แผลงี้ได้กลับมาทุกวัน พ่อของฮาซานส่งจดหมายเชิญผู้ปกครองไปให้พ่อผมแทบจะทุกๆเดือน โดนสั่งลงโทษแทบทุกครั้งที่ท่านมา ก่อเรื่องจนโดนขึ้นทะเบียนเป็นเด็กมีปัญหา ที่ไม่โดนไล่ออกก็เพราะเงินสนับสนุนที่พ่อผมจ่ายไปกับทางโรงเรียนทั้งนั้น.... แต่อยู่ที่นั่นผมไม่มีเพื่อน ไม่มีความสุข ...แถมยังเกลียดพวกยุโรปเข้ากระดูกดำ"

           " ...แล้ว....วันนึงผมถึงได้เจอโรเบิร์ต สำหรับคนที่ไม่มีเพื่อนและถูกมองด้วยสายตาดุถูกมาตลอดน่ะ รอยยิ้มและมือที่ยื่นมาหามันมีค่ามากเลยนะคาวัลโล เพราะฉะนั้นเขาถึงได้เป็นคนสำคัญ ไม่ได้มีค่าแค่คำว่าคนรักที่เลิกรากันไป แต่ยังไงเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอ ผมหวังดีต่อเขา และเขาก็หวังดีต่อผม..คำว่าเพื่อนแท้ เพื่อนรักที่ไม่ว่ายังไงก็อยู่เคียงข้างกันได้เสมอคุณก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือ ว่าสำหรับคนที่ไม่เคยมี สิ่งที่ได้รับมามันมีค่าเพียงใด "

           "..........." คาวัลโลไม่ตอบ เขาทำได้เพียงถอนหายใจยาวรับคำถามนั้น...ตอนนี้รู้และเข้าใจความรู้สึกอัลชาอ์ไม่น้อย และรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายคงลำบากใจไม่น้อยที่ตัวเขาเองชอบทำหน้าตาไม่พอใจเวลาพูดถึงโรเบิร์ตหรือมีท่าทีห่วงใยสนิทสนม

         คาวัลโลรู้ดีว่าเพื่อน...คำว่าเพื่อนที่อัลชาอ์พูดมันมีค่าแค่ไหน ในชีวิตของคนๆหนึ่ง ก็ย่อมมีบางคนที่สำคัญ บางคนที่แตะต้องไม่ได้ และบางคน..ที่ไม่ว่ายังไงก็ให้อภัย รัก และห่วงใยอยู่ตลอด จะมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าจะจัดเขาไว้ในส่วนใดของหัวใจ โรเบิร์ตไม่ได้เป็นแค่อดีตคนรัก แต่เป็นเพื่อน เป็นคนที่คอยเคียงข้างอัลชาอ์มาตลอด ก่อนที่จะมาเจอตัวเขา ก่อนจะได้มาที่นี่ ในช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็กน้อยและถูกรังเกียจจากผู้คนรอบข้าง มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ทั้งสองคนจะสนิทสนมและรู้ใจกันในเรื่องที่คาวัลโลไม่อาจจะแทรกเข้าไปได้..มันก็ไม่ต่างจากกรณีคนรักกับเพื่อนสนิท และไม่ต่างกับการกระทำงี่เง่ากลายๆของเขาที่บอกโต้งๆว่าให้เลือกระหว่างเพื่อนสนิทกับคนรัก ซึ่งเป็นการกระทำที่งี่เง่าดีแท้ๆ

       ไม่ต่างอะไรกับตัวเองที่มีคนๆหนึ่งเป็นเพื่อนรัก มีคนๆหนึ่งอยู่ในใจในฐานะเพื่อนคนสำคัญเสมอ แม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตาม คนที่เป็นอะไรหลายๆอย่าง..ทั้งแรงบันดาลใจ แรงผลักดัน ทั้งความสุขและความเศร้า

      เราสองคนต่างก็มีอดีตในหัวใจ จะแปลกอะไร หากเมื่อเวลาที่มาพบพานกันในช่วงหนึ่ง จะแอบรัก แอบคิดถึงคนๆนึงไว้บ้าง  

           "...แล้ว...คุณคิดว่าผมจะรู้สึกยังไง ถ้าวันนึงมีคนทำร้ายจิตใจเพื่อนรักของเรา จนเขาต้องฆ่าตัวตาย ผมจะไม่เกลียด ไม่โกรธ ไม่ระแวงเขาเลยเหรอ? "

           "....เอ๋? " ข้อความนั้นทำให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น คาวัลโลมองหน้าอัลชาอ์ ทบทวนคำพูดนั้น นึกถึงคำถามของตัวเองและบริบทก่อนหน้า...คิ้วยิ่งขมวดหนัก " หมายถึง....เชื่อไม่ได้ ไว้ใจไม่ได้ เพราะหมอนั่น...ทำแบบนั้นกับโรเบิร์ต "

           " ผมไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ละเอียดนักหรอกนะ มันเป็นช่วงเวลาที่ผมมาอยู่ที่นี่แล้ว..น่าจะประมาณเกือบๆสองปีก่อน" ชีคหนุ่มขมวดคิ้วถอนหายใจพรู "จากที่ถามรามิล ผู้ชายคนนั้นทำให้โรเบิร์ตหลงรัก ทั้งๆที่ตอนนั้นโรเบิร์ตกำลังคบอยู่กับราเซย์ เหมือนว่าราเซย์จะยอมแพ้ แต่พอราเซย์ยอมแพ้ถอยออกมา เขาก็......หักอกโรเบิร์ต ทันที  โรเบิร์ตรักและทุ่มเทกับความรักครั้งนี้มาก และเสียใจจนถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย.."

           " โอ......" ไม่คิดเหมือนกันว่าเรื่องราวมันจะเป็นแบบนี้ ทว่าคาวัลโลก็ยังไม่เข้าใจ สาเหตุเพียงแค่ว่าเพราะเป็นเพื่อน เป็นอดีตคนรัก และถูกทำร้ายจิตใจแบบนี้น่ะหรือถึงทำให้อัลชาอ์ไม่ไว้วางใจคริส

           "....และที่แย่กว่านั้น คือนั่นทำให้โรเบิร์ตป่วย ป่วยเป็นโรคที่เขาก็ยังรักษาไม่หาย โรคที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็น เขาเป็นโรคโหยหาความรัก โรคจิตชนิดหนึ่งจากผลของการถูกทำร้ายจิตใจแบบนั้น คุณไม่สังเกตหรือ? ทำไมเขาถึงได้เหมือนคนโลเลและต้องการความรักจากคนนั้นคนนี้ตลอดเวลา ทั้งกับผม ราเซย์ หรือกระทั่งตอนนี้ กับรามิล...เขาขาดความรักไม่ได้ ขาดคนรักคนที่คอยพึ่งพิงทางใจไม่ได้ ...เพราะอะไรเหรอ? ก็เพราะการกระทำของคนๆหนึ่งไง ที่ทำให้กลายเป็นแบบนี้ "

           สีหน้าของอัลชาอ์ฉาบฉายไปด้วยความไม่พอใจอย่างลึกซึ้งเมื่อเอ่ยออกมา และ....นั่นทำให้คาวัลโลนิ่งงันไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาเคยตีความเอาไว้ถึงความไม่ไว้วางใจที่ผู้คนมีต่อผู้ชายคนนั้น อาจจะเพราะมีประวัติอาชญากรรม เคยติดต่อกับพวกไม่ดี หรืออื่นๆ แต่ว่าไม่เคยคิดถึงในแง่นี้เอาเสียเลย กับเหตุผลที่แสนธรรมดาและเป็นอะไรที่ง่ายเสียจนคาดไม่ถึง แต่...ถึงกระนั้น มันก็เป็นเหตุผลที่เขารู้สึกว่าฟังขึ้นมากกว่าเสียอีก..

     กับโรเบิร์ต คนที่เขาเคยประนามเอาไว้ว่าอ่อนแอและเหมือนพวกบ้าที่ต้องโผเกาะคนนั้นคนนี้ตลอด...ใครจะรู้ ว่าเบื้องหลัง...เรื่องราวที่ทำให้ชายคนนั้นต้องเป็นอย่างทุกวันนี้มันจะน่าเศร้าถึงขนาดนี้ น่าสงสารเสียจนคาวัลโลเสียใจที่ตัวเองไปคิดดูถูกอีกฝ่ายเข้า

           " แล้วคุณไม่โต้ตอบ...." คาวัลโลถามกลับ นึกถึงตอนที่คนสำคัญของตนเองต้องเจอแบบนี้บ้าง อย่างไอ้คนที่เคยมาหลอกพี่สาวของเขาตอนหล่อนอยู่ไฮสคูลก็โดนพี่ชายเขาลากคอไปซัดเสียจนน่วมและถูกรังควานเสียจนมันไม่อาจจะอยุ่ในโรมได้อีก กับกรณีแบบนี้ จะปล่อยให้เกิดขึ้นแล้วไม่ทำอะไรเลย จะเป็นไปได้หรือ?

           " ใครว่าผมไม่ทำ " ชีคหนุ่มตอบทันควันอัลชาอ์เผยยิ้มร้ายพลางสบตาสีน้ำทะเลคู่สวย "ถ้าหากมันจะเป็นการเลิกรากันเพราะความรักที่จืดจาง ความไม่เข้าใจ หรืออย่างอื่นน่ะอาจจะพอรับได้ แต่มันชัดเจนว่าเขาทำไปเพียงเพื่อความสะใจของตัวเอง และทำร้ายจิตใจของเพื่อนผมมากมายเสียจนเขาทนไม่ไหว แต่การจะแก้แค้นประเภททำร้ายร่างกายน่ะมันน้อยไป...เขาหลอก เขาทำร้ายคนอื่นด้วยวิธีไหน ก็ต้องได้รับผลตอบแทนแบบนั้น  และมันต้องเจ็บปวดกว่าอีกร้อยเท่า "

          "...เรื่องพวกนั้นผมยกให้ราเซย์กับรามิลจัดการ ...สำหรับผม ก็แค่เล่นงานบริษัทของพ่อเขา ให้ล้มละลาย จนเขาต้องมาทำงานหาเงินงกๆแบบนี้ไงล่ะ "

          ".............." คราวนี้คาวัลโลเงียบไปอีกครั้ง และมองหน้าชีคหนุ่มด้วยสายตาที่ใคร่ครวญขึ้น มองแววตาที่ยังคงฉายรอยสาใจโดยไม่มีร่องรอยความรู้สึกผิดแม้สักเสี้ยวหนึ่งแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือก แอบปฏิญาณกับตัวเองเงียบๆว่าคราวหลังจะหาเรื่องอัลชาอ์ต้องคิดดีๆเสียหนึ่งรอบถ้วนก่อน  ขณะที่สมองก็ใคร่ครวญเงียบๆ

          " เพราะงั้นคราวนี้ คนที่เคยหักอกโรเบิร์ต และถูกคุณเล่นงานจนแทบง่อย มาปรากฏตัวขึ้นในเวลาที่กำลังเกิดเรื่อง มันก็น่าจะถูกจับตา และน่าสงสัย ใช่ไหม? "คาวัลโลเลิกคิ้ว ถามกลับ

           " เพิ่มอีกเรื่องด้วยก็ได้ ว่าหมอนั่นมันรู้แล้ว เรื่องผมเล่นงานบริษัทของพ่อเขา "โอ๊ะ โอ....คำตอบแบบนี้ยิ่งทำให้ปวดหัวจี๊ด คาวัลโลมองคนพูด พลางคิดถึงเจ้าคนที่เป็นต้นเหตุ..คิดถึงเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็ได้แต่บอกคำเดียวว่า "สมควร"

        เอาเข้าจริงๆการหลอกลวง หรือการทำแบบที่โรเบิร์ตโดนมันก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป ใช่ว่าจะเพิ่งเกิด คาวัลโลไม่ได้หมายความว่ามันไม่ร้ายแรงหรือน่าเห็นใจ เพราะต่อให้มันมีเรื่องแบบนี้ซ้ำซากมากมายแค่ไหน คนที่ถูกทำร้ายก็ปวดใจอยู่ดี เพียงแต่ว่าคริส..ผู้ชายคนนั้น มันโง่เองที่เลือกเล่นกับหัวใจของคนอื่น และคนอื่นที่ว่าก็ดันเป็นโรเบิร์ต ชอวตัน

 ดันไปเล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเพื่อนคนสำคัญของท่านชีคแห่งเซเนียยา  จะโดนเอาคืนอย่างสาสมแบบนี้ก็สมควรแล้ว

           "การกระทำที่ยังไงก็ให้อภัยไม่ได้ คือการหลอกลวง หลอกว่ารัก...แล้วหักหลัง นั่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด " อัลชาอ์เอ่ยช้าๆด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ชีคหนุ่มหันมาจ้องสบตาสีน้ำทะเลของคนรักแล้วถอนหายใจเบาๆ "เพราะฉะนั้น..นี่คือเหตุผลที่ผมระแวง และอยากให้คุณอยู่ห่างๆเขา ถึงผู้ชายคนนั้นจะทำหน้าเหมือนไม่มีอะไร ไม่คิดอะไรแล้ว แต่ว่าในใจเขาจะคิดเห็นยังไง เราไม่มีทางรู้ "

           " อืม...." รับคำอัลชาอ์เบาๆ สาเหตุที่ได้ฟังมาทั้งหมดก็ฟังขึ้นอยู่ว่าทำไมถึงได้เป็นเหตุให้ไม่ไว้วางใจ "แต่ว่านะ...ถ้าต้องมาระแวงแบบนี้ ก็ไม่ต้องรับเขาเข้ามาทำงานตั้งแต่แรกก็ได้นี่ "

           " เขาเป็นคนของบริษัทที่ผมจ้างมา..ผมไม่รู้หรอกว่าคนที่จะมาเป็นใคร เราเรียกร้องจ้างไป เขาก็คัดเอาคนที่เหมาะสม และ...ผมก็ดันไปถูกใจแบบของเขา มันเลยเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ " อัลชาอ์ตอบเบาๆ ชีคหนุ่มโคลงหัวช้าๆ สีหน้าครุ่นคิด "ที่สำคัญ เราก็สมควรจะเป็นผู้ใหญ่พอที่จะลืมเรื่องในอดีตและทำงาน กันอย่างมืออาชีพ"

         " แต่เห็นได้ชัดนี่ ว่าคุณก็ยังระแวง " คาวัลโลบ่น

         " มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อคนที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ ต้องมาพบกันอีกอย่างนี้ " คำตอบของคนรักทำให้มาเฟียหนุ่มพยักหน้าอย่างจำยอม...เพราะเท่าที่ดู โรเบิร์ต รามิล ราเซย์ อัลชาอ์ และคริส ก็มาอยู่กันพร้อม เหมือนกับกำลังเคาท์ดาวน์รอความวิบัติฉิบหายกันอีกรอบไม่มีผิด

      ...และ...คาวัลโลนิ่วหน้านิดๆเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนเองพบเห็น.. ท่าทางของคริสเมื่อเช้านี้ ...หมอนั่นต่อหน้ารามิลและราเซย์ทำเป็นเฉยก็จริง แต่ว่าพอพ้นสายตาพวกเขาปุ๊บ ท่าทางก็เปลี่ยนไปปั๊บ..แบบนั้น...มันน่าสงสัยเหมือนมีอะไรแอบแฝง

และยังจงใจจะมีความลับอะไรอีกชัดๆ...

          "...และอีกเรื่องที่ผมจะบอก..." อัลชาอ์เกริ่นขึ้นช้าๆ ทำให้คนฟังเลิกคิ้วงงๆ "พรุ่งนี้ เราจะไปจารเซกัน "

          " เอ๋? " คาวัลโลขมวดคิ้ว ครางออกมางงๆ " ทำไม? "

          "  มีบางเรื่อง ที่ผมต้องไปหาคำตอบเอง....ที่นั่น " ชีคหนุ่มตอบอย่างเคร่งขรึม ฝ่ามือหนาแตะลงบนผิวแก้มนิ่มแล้วลูบไล้เบาๆ " การเดินทางครั้งนี้อาจจะอันตรายกว่าครั้งก่อน...ถ้าคุณคิดว่าอยากจะอยู่ทีนี่..."

          " ไม่ "ตอบทันควันเสียงเขียว แทบไม่ต้องคิด เรียกเสียงหัวเราะพรืดจากปากชีคหนุ่ม หากแต่คาวัลโลใช้ตาวาวๆจ้องมองกลับอย่างไม่ยอมแพ้ "  คุยกันเรื่องรับมือกับพวกนั้นเมื่อกี้ก็ทีแล้วนะ อย่ามาอ้างว่าเป็นอันตรายหน่อยเลย ผมจะไป คิดจะทิ้งผมไว้ที่นี่เหรอฮึ ! "

          " ผมก็บอกแล้วไงว่า "ถ้า" ...If นะครับที่รัก If ...ถ้าคุณไม่อยากไป...แล้วไม่ได้ฟังที่ผมพูดว่า "เรา"จะไปด้วยกันรึไงหือ ? " ชีคหนุ่มยิ้มล้อเจ้าคนที่ยังคงนิสัยเดิมไม่เปลี่ยน คนที่ยังคงไม่ยอมหากจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง คนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็พร้อมจะยืนขึ้นและเผชิญอันตรายทุกเมื่อ

          "...ก็คุณพูดเหมือนจะไปเองนี่ ใครจะยอม " คาวัลโลหน้านิ่วเมื่อถูกหลอก แต่เขาก็ยังออกปากทักท้วงชนิดไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

         " ..ผมไม่ทิ้งคุณไปหรอกน่า...ไม่ทิ้งคุณไว้ที่นี่ให้คุณโมโหแล้วแล่นตามผมไป จนเราต้องทะเลากันอีกหรอก " เอ่ยถึงเรื่องราวครั้งที่เคยผ่าน...กับสาเหตุของการทะเลาะวิวาทด้วยสิ่งที่เรียกว่า"ความห่วงใย"  ทะเลาะกันเพียงเพราะห่วงมากไป ทุกข์ทรมารและปวดใจเพราะต่างก็ไม่เข้าใจกัน

...จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว กับคนที่กว่าจะได้มาก็ยากแสนยาก จะไม่ยอมปล่อยไป จะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นอีกแน่นอน..

          "....อืม....." คาวัลโลหรุบตาต่ำ มาเฟียหนุ่มเองก็รู้สึกผิดอยู่ลึกๆ...และดูจะนิ่งๆไปเอ่ยถึงเรื่องนี้ " ผมมาคิดดูดีๆแล้ว ผมมันก็ดื้อแล้วงี่เง่าเองด้วยส่วนหนึ่ง...ขอโทษด้วย"

          " ผมก็เหมือนกัน...ไปขังคุณไว้ไม่ยอมให้ออกไป ทั้งที่รู้อยุ่แแก่ใจว่ายังไงคุณก็ไม่ยอมแพ้...แล้วยังไปทำร้ายคุณต่อหน้าคนอื่นอีก...ผมเองก็ผิดเหมือนกัน  " คำขอโทษและกล่าวถึงความผิดของตัวเอง เมื่อพูดออกไป เมื่อได้เอ่ยปากก็ทุเลาความรู้สึกผิดลงไปได้มากโข และ...ยิ่งทำให้ประกายสดใสในดวงตาสีน้ำทะเลคู่นั้นวาววับขึ้นอย่างน่ามอง ดูแล้วชื่นใจนัก

          "...ก็เหมือนที่รามิลว่านั่นแหละ คนงี่เง่าสองคนทะเลากันเพราะคนนึงห่วงมากไปแล้วอีกคนก็หัวดื้อเกินไป คิดแล้วก็อายสองคนนั้นนะเนี่ย " คาวัลโลบ่นขึ้นมาอย่างขบขัน น่าแปลกที่ตอนทะเลาะกัน ศักดิ์ศรี เหตุผลโง่ๆและทิฐิที่ค้ำคออยู่มันทำให้คิดอยู่ตลอดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ อีกทั้งยังคิดว่าเรื่องนี้มันหนักหนามากมายจนยอมไม่ได้ ทั้งที่ความจริงมันก็แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องง่ายๆ ที่จะผ่านมันไปได้หากใช้สติ....แล้วดูสิมานึกถึงตอนนี้ที่ผ่านมันมากได้แล้ว เรื่องทะเลาะที่ว่าใหญ่นักหนาในวันวาน มันดูไร้สาระและปัญญาอ่อนเป็นบ้า

        "....พาผมไปดูดาวด้วยนะ..." คาวัลโลกระซิบ นั่นทำให้ชีคหนุ่มเลิกคิ้ว พยักหน้ารับก่อนจะยิ้มซุกซน

       " นอนกลางทรายสักคืนก็ยังได้ หรือว่าจะลอง...out door...อุ่ก..."

       " จะบ้าเรอะ ! สำลักทรายตายกันพอดี  "คาวัลโลบ่นพลางออกแรงซัดกำปั้นใส่แผ่นอกคนพูดแรงๆ แต่อัลชาอ์กลับยิ้มเจ้าเล่ห์

       "...ที่จริงก็สนใจใช่มั้ยล่ะ? "

        "...ไม่เอา...แต่ถ้าไม่มีทรายปลิวว่อนก็อีกเรื่อง
"
                คำตอบรับนั้นทำให้ชีคหนุ่มทำตาโต ส่วนคนพูดก็หัวเราะขบขัน สักพักอัลชาอ์จึงถอนหายใจ จ้องมองเสี้ยวหน้าของคนข้างกายอย่างใคร่ครวญ..

         "..แล้วตอนนี้ เราเข้าใจกัน...รึยัง? "  คำถามจากอัลชาอ์ ทำให้คนฟังกรอกตามองเพดานอย่างครุ่นคิด และยิ้มออกมาเมื่อได้คำตอบในทันที..คำถามถึงความเข้าใจกันในตอนนั้นดูจะยากเย็น...พอมาคิดถึงตอนนี้แล้วคำตอบที่ได้มันก็ช่าง...ง่ายดายเหลือเกิน

       *  "    we will conserve
        only what we love .
         we will love
        only what we understand
          we will understand
         only what we want
            to understand "

            " หืมมมมม...? " คนฟังครางรับ ยิ้มให้กับบทกวี for in the end ของAuther Unknown บทกวีหวานๆที่แฝงปรัชญาของความรักออกมาจากปากของคนที่พูดปาวๆว่าไม่ชอบเรื่องราวเพ้อฝัน อ่อนไหว ทำให้ต้องให้ความสนใจอย่างเต็มที่

          " เราจะถนอมเฉพาะสิ่งที่เรารัก เราจะรักเฉพาะสิ่งที่เราเข้าใจ เราจะเข้าใจ เฉพาะสิ่งที่เราต้องการจะเข้าใจ..ใช่ไหม? "ชีคหนุ่มเอ่ยเอื้อนถึงความหมายของมันออกมาแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย " มีคนบอกผม ว่าความรักสำคัญแค่ไหน ความเข้าใจก็สำคัญยิ่งกว่า คนเรามักมีความอดทนทำความเข้าใจได้ดีกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อมีความรักต่อสิ่งนั้น เมื่อคนรักกันพยายามทำความเข้าใจกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร...แต่คนเอาแต่ใจ..." ว่าแล้วลูกตาสีดำวาววับคู่นั้นก็ตวัดมองมายังนัยน์ตาสีน้ำทะเลอย่างหยอกเย้า ยั่วล้อจน"คนเอาแต่ใจ"ค้อนเสียจนตาคว่ำ

          " คนเอาแต่ใจมักจะคิดว่า "เธอไม่เข้าใจฉันก็ได้ ขอให้รักและตามใจฉันก็พอ" แต่บางครั้งมันก็ยังไม่พอ ไม่พอดี-ไม่ดีพอสำหรับสิ่งที่คนสองคนต้องการเสียที ความรักที่ไร้ความเข้าใจก็เหมือนฐานง่อนแง่นที่พร้อมจะพังได้ทุกเวลาเมื่อคนๆหนึ่งหมดความอดทน "

    ...ใช่ เหมือนในตอนที่อัลชาอ์ละความพยายามจากการต้องการเข้าใจคนๆหนึ่ง..รากฐานที่ง่อนแง่น มาจากความต้องการที่สวนทางกันเมื่อฝ่ายหนึ่งความพยายามอยู่ในขั้นที่เรียกว่าติดลบ ส่วนอีกฝ่ายกลับมีองศารุนแรงถึงร้อย ความ"ไม่พอดี"ในความต้องการนี้ทำให้สุดท้ายแล้ว แม้จะรักก็ไม่อาจจะอยู่ร่วมกันได้ แม้อยากจะเข้าใจ ก็ไม่อาจจะเข้าใจ เพราะเวลานั้นเขาสองคนต่างเฝ้าดึงดัน คิดไปในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อหันหน้าไปคนละฝั่ง ความเข้าใจ ความต้องการสุดโต่งไปคนละทาง ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่เหล้กสองขั้วที่ผลักดันกันอยู่เสมอ...ไม่อาจอยุ่ใกล้..

              " อืม....ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้ว.." คาวัลโลมีท่าทีครุ่นคิดกับคำพูดของอัลชาอ์เล็กน้อยก่อนจะยักไหล่แล้วยิ่มให้อีกฝ่าย " ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเข้าใจ หรือไม่เข้าใจที่เราเคยทะเลาะกัน ...รึคนเอาแต่ใจที่คุณว่าน่ะ คนเอาแต่ใจอย่างผม ทำให้ปวดหัว ปวดใจก็จริง แต่รู้อะไรไหม คนที่ชอบทำให้ปวดหัวใจนี่แหละ อาจสอนให้รู้ว่า มนุษย์น่ะสามารถยอมรับได้ ทั้งที่เราอาจจะไม่"เข้าใจ" เลยแม้แต่น้อย...."

             " ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ แค่ยอมรับได้ก็พอ ! "

             "........." วาจาเอาแต่ใจและแสนอวดดีจนน่าจับตีก้นแบบนี้มันเหมาะจะเป็นคำพูดของคาวัลโล วาลกัสเสียจริงๆ  ทว่าใจความของมันทำให้ชีคหนุ่มนิ่งไปอย่างครุ่นคิด อัลชาอ์ยิ้มออกมาแล้วสบตาอีกฝ่าย..อย่างเข้าใจ..ทั้งที่เขาไม่อาจจะเข้าใจแม้แต่น้อย..เช่นเดียวกัน

   ไม่จำเป็นต้อง"ปรับ"ทัศนะคติ เปลี่ยนตัวตน พยายามอะไรมากมายเพียงเพื่อจะ"เข้าใจ"คนหนึ่งคน

เปลี่ยนไปก็ไม่ใช่ตัวเอง ปรับเปลี่ยนตามใจคนนั้นคนนี้มากจนเกินพอดีก็อาจจะหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไม่พบ

อยากเปลี่ยนแปลงเพื่อตามใจ เพื่อเข้าใจคนอื่นมากเกินไป ก็ต้องเสียตัวตนของตัวเองไปอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่หากตามใจตัวเองมากเกินไป ก็อาจจะไม่เหลือใคร แม้แต่คนใจร้ายที่มาตำหนิติเตียน

ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร ไม่จำเป็นต้องฝืนใจ ...แต่เพียงแค่"ยอมรับ"ตัวตนนั้นได้ก็เท่านั้น

    ..หากยอมรับได้หนึ่งอย่างแล้วจากนี้ต่อไปก็จะค่อยๆเรียนรู้ที่จะยอมรับทุกสิ่งในตัวของคนๆนั้นมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจอะไรมากมาย บางครั้งเรายังไม่อาจจะเข้าใจตัวเอง แล้วเหตุใดจึงต้องไปคร่ำครวญคิดมากเรื่องการ"เข้าใจ"ผู้อื่น

ขอเพียงแค่ยอมรับ ค่อยๆยอมรับตัวตนของคนๆนั้น แล้วจะพบว่าระยะห่างที่แสนไกลได้ขยับเข้ามาชิดใกล้จนสามารถ"เข้าใจ"กันได้โดยไม่ต้องมีแม้คำพูดสักคำ!

            ...................................

     * มาจากหนังสือเรื่อง ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต ของคุณ'ปราย พันแสงคะ (ชอบงานแปลเล่มนี้ของเธอมาก)
สอบซัมเมอร์เพิ่งเสร็จคะขอโทาด้วยนะคะที่ไม่ได้แจ้ง :m5:
               ยอมรับแต่ไม่ต้องเข้าใจ ไม่ได้หมายความว่าอย่าเข้าใจกันนะคะ ประมาณว่าไม่ต้องเครียดหรอกจะมาเข้าจงเข้าใจอะไรกันมากมาย เรายังไม่เข้าใจตัวเองเลยนับและสาอะไรกับเข้าใจคนอื่น ขอแค่ยอมรับได้ ไม่นานก็จะเข้าใจเองล่ะ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา ว่าแล้วนึกไปถึงตอนที่สองคนนี้ทะเลาะกัน เพราะมัวซีเรียสเรื่องเข้าใจไม่เข้าใจสิ ถึงได้ปวดหัว(ใจ)กันอยู่หลายตอน

    ตอนนี้ยังไม่ได้อัพเดทฝั่งพี่ชาย....เพราะมันยาวไป (ฮ่าๆ)ตอนหน้าอาจจะจัดฝั่งอิตาลีเยอะหน่อย  เรื่องเริ่มวุ่นละ หุหุ ท่านชีคแงะคาวี่ออกจากโหมดแมวเหมียวไร้วิญญาณได้ในที่สุด เพราะเอาจริงๆแมวว่าง่ายมันไม่ใช่คาวี่อ่ะอย่างคาวัลโลต้องขาบู๊ 555+  และคาวี่ประกาศจะเอาคืนกันแล้วนะคะ ส่วนเรื่องคริส...เคลียร์ไปในระดับหนึ่ง แต่ต้องลุ้นต่อไป ว่าจะเกิดเรื่องอะไรอีกรึเปล่า

     - อาการของโรเบิร์ตเป็นโรคในกลุ่ม  โรคประสาท (neurosis) เรียกว่า ฮิสเทอริคัล นิวโรซิสค่ะ  บุคลิกภาพมีความเป็นเด็กสูง ชอบเรียกร้องความสนใจ จึงมีการแสดงออกทางอารมณ์ค่อนข้างมาก ที่เขาเป็นแบบนี้เพราะขาดความรักในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการความรักอย่างมาก เมื่อขาดความรักในช่วงนั้นจึงทำให้โหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา โรคนี้คล้ายๆฮิสทีเรีย แต่ผู้ชายก้เป็นได้นะคะและไม่ใด้ต้องการเรื่องเซ็กส์เสมอไป จะมีพฤติกรรมเป็นไม้เลื้อยเช่นโรเบิร์ตเป็นต้น

ปล. มีคำถามมาเยอะมาก สำหรับการค้นหาท่านชีคอัลชาอ์เวอร์ชั่นมนุษย์โลก ขอบอกสั้นๆว่าผู้ชายดีๆนี่มันแต่ในนิยาย(วาย) ค่ะ555+(เพราะตอนนี้นิยายรักทั่วไปเขากำลังนิยมพระเอกเลวๆกันอยู่555+)
ปล.2 กร๊าซซซ ยังไม่มีใครเดาออกอีกเหรอว่าคุณกริช(ที่รัก)เขาคือใคร 55+ ความจริงมันก็ตามที่หลายคนทักมาแหละ แล้วตอนนี้ก็เฉลยออกมาเยอะพอควรแล้ว...แต่ไม่ได้เกี่ยวกับดีหรือไม่ดีนะ ตัวเอกปุ้ยนิสัยดีจนน้ำตาไหลได้ทุกค๊นน(ดูพี่โต+พี่กันย์แห่งแดนสิบสองเป็นตัวอย่าง 555+)
...อัพแบดกายแล้วนะง้าบบบบ :a9:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2011 12:54:59 โดย Serin »

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
คาวี่น้อยฟื้นคืนชีพแล้ว ทีนี้ต่อไปก็ต้องมี ดุเด็ดเผ็ดมันส์ แล้วสินี่ ยังเดาคู่คุณกริชไม่ออกแหะๆ  :-[

*~LPCM~*

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: :z13: :z13: จิ้มๆๆๆ ไรเตอร์ค่ะ


มาต่ออีกแล้ววววววว ชอบๆๆ เป็นแฟนนิยายเรื่องมร๊ากกก แต่เพิ่งจะสอบเสร็จแล้วเพิ่งจะมาตามอ่านอ่ะค่ะ

ขอตัวไปอ่านให้ทันก่อนนะคะ แล้วจะมาจัดเต็มคอมเม้นนะคะ >_<

 :bye2: :mc4: :bye2: :mc4: :bye2:

ออฟไลน์ parakoparako

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
อัพเร็วจัง :-[
แมวน่ารักๆนานๆมาทีก็ดีนะ
มันชุ่มชื่นหัวใจ(ท่านชีค)ดีอ่ะจ้า

ออฟไลน์ inhyung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
มันอะไรกัน ตอนนี้เหมือนจะไม่หวาน
แต่ก็หวานนำ้ตาลเรียกพี่ ปรับความเข้าใจกันได้แล้ว
ทีนี้ก็ไปลุยโลด
หรือเราโรคจิตที่อยากจะเห็นแต่ฉากบู๊ ฉากต่อสู้ เลือดสาด

ชอบบบบบบ o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด