*****ตอนที่ 12 *****
หลังจากนั้น ในวันถัดๆ มา ผมเริ่มที่จะพยายามไม่เข้าไปยุ่งกับชีวิตเบสมากนัก
พวกเรายังไปเรียนในตอนเช้าพร้อมกัน และผมก็ยังคงตื่นมาแต่งตัวทำผมให้เบสทุกเช้า แต่เวลาพักเที่ยง ผมเลี่ยงไม่ไปเจอเบส
ผมให้เหตุผลว่า ตอนนี้ เบสควรจะอยู่ด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่ควรจะพึ่งผมไปตลอด
ถ้าเค้าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เค้าต้องรับความกดดันจากการโดนมองของคนรอบข้างให้ได้
ผมยังแนะนำการวางตัวให้เบสไปอีกหน่อย แล้วก็ปล่อยให้เค้าอยู่กับเพื่อนๆของเค้าไป
ปกติ ผมทำงานพิเศษแค่ 4วัน คือวันจันทร์ อังคาร พฤหัส และศุกร์ บางอาทิตย์ถึงจะเข้างานวันอาทิตย์ด้วย แต่ก็นานๆที
วันอังคาร หลังจากผมแยกกับเบสในตอนเช้าแล้ว ถึงผมจะบอกว่า ผมจะปล่อยให้เค้าอยู่ด้วยตัวเอง แต่ลึกๆ ในใจผมห่วงเค้ามาก
เนื่องจากวันอังคารเช้า ผมไม่มีคาบเรียน เลยแอบไปด้อมๆ มองๆ เบสที่คณะ
เบสก็มีกลุ่มเพื่อนของเค้าอยู่ เป็นกลุ่มเด็กเรียน ทุกคนจัดอยู่ในขั้นเรียนดี แต่แน่นอนว่า คนที่ได้อันดับ 1 ของภาค คือเบส
ผมแอบมองเบสอยู่ห่างๆ เห็นเค้านั่งอยู่กับเพื่อนตอนก่อนเข้าเรียน ดูเพื่อนๆ เบสจะตื่นตาตื่นใจกันมากกับความเปลี่ยนแปลงของเบส มีคนเข้ามาคุยกับเบสหลายคนเลยทีเดียว
พอถึงเวลาที่จะเข้าเรียน ผมก็แอบไปตามไปห่างๆ ผมแอบมองจากด้านนอก
เบสมักจะนั่งด้านหน้าห้องเสมอ เวลาเรียน เบสจะดูตั้งใจมาก จดอะไรใส่สมุดเสมอ แต่เบสก็ไม่ใช่พวกลูกช่างจด เค้าจะจดก็ต่อเมื่อเห็นว่าเรื่องที่อาจารย์พูด เป็นประเด็นสำคัญเท่านั้น
ผมมองเบสอยู่แป๊บนึง ก็ว่าจะแยกตัวกลับไปที่คณะตัวเอง ขณะที่ผมหันหลังไป ก็บังเอิญมีคนกำลังเดินเข้ามาทางนี้ ผมเกือบจะชนคนที่เดินสวนมาละ
“อุ้ย!!” เราสองคนอุทานเบาๆพร้อมกัน
“ขอโทษนะครับ” ผมรีบกล่าวคำขอโทษก่อน เพราะผมผิดเองที่จู่ๆ จะหันหลังเดินกลับ ก็หันโดยไม่ระวังคนตามหลัง
“ไม่เป็นไรค่ะ ...เธอเรียนห้องนี้ด้วยหรอ หรือว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า” คนที่ถาม เป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักคนนึง
“อ้อ เปล่า เปล่าครับ ผมจำห้องผิดเฉยๆ ขอตัวก่อนนะครับ”
จากนั้นผมก็รีบหนีออกมา
..................................................
กลับมาถึงโต๊ะมาหิน ตัวประจำของกลุ่มผม ที่ใต้ต้นหางนกยูง
“ไปไหนมาวะ เมื่อเช้ากูว่าเห็นมึงแว๊บๆ” ไอ้เก่งทัก ตอนผมไปถึง เก่งกำลังนั่งคุยกับต่อ
“เออ กูไปธุระมา” ผมเดินมาที่โต๊ะ เห็นมีน้ำเขียววางอยู่ เลยคว้าไปดื่ม ผมรู้ว่าเพื่อนผมมันไม่เคยหวงของกับผมเลย และผมเองก็ด้วยไม่เคยหวงกับเพื่อน
“แล้วมึงคุยไรกันอยู่วะ” ผมถามต่อ
“ก็ไม่มีไร เรื่องทั่วไป” ต่อตอบกลับมา
“แล้วเมื่อวานมึงเรียกูไว้ มีอะไรจะถามกูหรอ”
“เออ ช่างเหอะ ไม่มีอะไรละ “ ต่อมันตอบกลับผมมาพร้อมกับยิ้มๆ
“กูก็กำลังซักมันนะละ ดูมันมีพิรุธวะไอ้โต้ง ไอ้ต่อแม่งแอบไปมีแฟนแล้วแหงมๆ“ เก่งกล่าวเสริม
“พอเลยๆ มึงก็เดาส่งเดช กูมีแฟนที่ไหนกัน “
ถ้าไม่มีแฟน แล้วทำไมตอนต่อพูด มันถึงต้องหน้าแดงๆ
จะว่าไป ไอ้ต่อมันก็น่ารักดีนะ ตี๊ๆ ขาวๆ ตัวไม่ใหญ่ไม่เล็ก ผอมบางน่ากอด นี่ถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนกันนะ ผมคงชอบมันไปแล้วละ
“แล้วทำไมมึงต้องอายหน้าแดงวะ แม่ง แอบไปชอบใครมาแน่เลย เห้ย บอกพวกกูได้ เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง กูนิละ จีบมาแล้วทุกประเภท ตั้งแต่เด็กหญิง ยันแม่ม่าย” ไอ้เก่งคุยสรรพคุณตัวเองใหญ่
“เห้ย กูบอกแล้วไม่ใช่ ไม่ต้องเดาแล้วพวกมึง กูไม่มีอะไร ปกติดีทุกอย่าง” ไอ้ต่อกลับมา พยายามปฏิเสธเต็มที่ แต่มันยิ่งทำให้ต่อดูน่าสงสัย
“ไอ้เก่ง มึงก็พอได้ละ ไอ้ต่อถ้าอยากเล่า มันก็เล่ามาเองละ มึงนี่เสือกจริงๆ” ผมปรามไอ้เก่งไปหน่อย ด้วยกลัวเพื่อนจะอาย
“เออ กูไม่ถามก็ได้ ไว้มึงอยากเล่า มึงก็เล่ามาละกัน เพื่อนกัน ยังไงก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว” เก่งยอมแพ้ ไม่ต่อปากต่อคำกับไอ้ต่ออีก
ผมรักพวกมันก็ตรงนี้ละ ทุกคนห่วงใยกัน ไม่ทิ้งกัน เพื่อน ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด เพื่อนแท้ ชีวิตนี้จะหาได้ซักกี่คน
ถึงผมจะคบกับพวกมันมาไม่นาน แต่ผมก็เชื่อจากสุดใจว่า พวกมันเป็นเพื่อนรักผม
หลังจากนั้นพวกเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อย จนเกือบเที่ยง ผมรีบชวนพวกมันไปกินข้าว เพราะตั้งใจจะแอบไปดูเบสตอนเที่ยง
ผมรีบกินข้างจนไอ้สองตัวนั้นยังสังเกตได้ ผมก็โกหกไปว่า จะไปทำธุระ อาจารย์ที่ปรึกษาวานให้ช่วยทำงาน
ซึ่งพอเป็นเรื่องช่วยงานอาจารย์ ไอ้สองคนก็เลิกสงสัย เพราะปกติ ผมก็ช่วยงานอาจารย์ที่ปรึกษาบ่อยๆ
ผมรีบกลับไปที่ตึกของเบส แล้วแอบรออยู่หน้าคณะ
ผมรู้ว่า พวกกลุ่มเบส มักจะไปนั่งกันตรงไหน เพราะผมเคยแวะไปหาเบสมาบ้าง ช่วงก่อนหน้านี้ที่เรารู้จักกัน
นั่นไง!! เบสเดินออกมาละ ตอนนี้เบสโดนห้อมล้อมอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ เบสเหมือนพระจันทร์ ที่รายล้อมไปด้วยหมู่ดาว ผมรู้สึกได้เลยว่า
เหมือนเพื่อนเบสจะมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เอ๊ะ มีใครด้วยนั่น เดินมาขนาบข้างเบส ทำท่าตีซี้เหลือเกิน
พวกกลุ่มเบสทำท่าจะเดินผ่านมาทางนี้ ผมรีบหลบอยู่หลังเสา แกล้งทำเป็นอ่านบอร์ดประกาศ
พอพวกเค้าเดินไปทางโรงอาหารคณะ ผมก็แอบตามไปเงียบๆ ตอนนี้บริเวณหน้าโรงอาหาร คนเยอะไปหมด ผมแอบเดินไปด้านหลังกลุ่มเบส ก็ไม่มีคนสนใจผม
สำหรับเพื่อนกลุ่มเบส ผมรู้จักเป็นส่วนใหญ่ เพราะเคยเจอหน้าทักทายกันมาบ้าง
“เบสอยากกินอะไรละค่ะ “
“ไม่รู้ซิ แล้วแต่เพื่อนๆ นะครับ ผมกินอะไรก็ได้”
ผมละอยากเขกกะบาลเบสจริงๆ สอนไปแล้วนะว่า ผู้ชายที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันดูไม่ดีในสายตาผู้หญิง สอนแล้วนะให้เค้าวางมาดมากกว่านี้
“งั้นหนิงก็กินเหมือนเบสละ เบสชอบกินอะไรบ้างค่ะปกติ”
พอผมได้ยินชื่อหนิง ก็หูผึ่งทันที นี่อะไร แค่สองวัน หนิงถึงกับเข้ามาเป็นคนในกลุ่มเบสไปแล้วหรอ ทำไมเปลี่ยนกันได้ง่ายขนาดนี้!!!
ผมค่อยๆเดินห่างๆออกมา ตอนนี้ผมชักไม่อยากเห็นภาพบาดตาแล้วซิ ผมไม่ได้เตรียมใจจะมาเห็นเบสกับหนิงสวีทกัน ผมคงทนไม่ได้แน่ๆ
ผมเดินห่างขึ้นๆ แอบมองเบสจากไกลๆ ดูเบสร่าเริงมีความสุขมาก มีคนล้อมหน้าล้อมหลัง บางทีก็เห็นเพื่อนจากโต๊ะอื่น เข้ามายืนคุยด้วย พลัดกันมาหมุนเวียนหลายกลุ่มเลย
เบสก็ดูมีความสุขที่ได้พูดคุยกับคนเหล่านั้น
ผมยิ้มแบบเศร้าๆให้ตัวเอง
ความรู้สึกของแม่นก ที่ลูกนกบินจากไป คงประมาณนี้ ผมสร้างเบสคนใหม่มา แต่ก็ต้องปล่อยเค้าไป ไม่สามารถครอบครองเค้าไว้ได้
“ดีแล้วละ ขอให้นายแฮปปี้แล้วกัน” ผมรำพึงกับตัวเอง แล้วก็เดินจากไป
วันนั้น หลังจากผมเลิกเรียนในตอนบ่าย ก็ไปทำงานตามปกติ
วันอังคารนี้ ลูกค้าไม่ค่อยเยอะ ผมทำงานได้เรื่อยๆ ไม่หนักอะไร
ขณะที่ผมกำลังรับออเดอร์โต๊ะที่เข้ามาใหม่
ประตูร้านก็เปิด เบสเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนอีก3คน และ หนิงคือ1ในนั้น
“ดีครับพี่เบส” ผมทักเบสไป
“เออ ยุ่งอยู่หรือเปล่าโต้ง เรา เอ่อ...พี่มากัน 4 คน มีโต๊ะไหม” เบสเกือบลืมว่า ต่อหน้าคนอื่น เราจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน
“ได้ครับพี่ โต๊ะหัวมุมนั้นเป็นไง เด๋ียวผมเอาเมนูไปให้นะ ไปนั่งรอก่อนเลย” ผมบอกเบสก่อนจะหันไปจดออเดอร์ข้างหน้าต่อ
วันนี้ เบสมากับเพื่อนในกลุ่ม 1คน หนิงและเพื่อนหนิงอีก 1คน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โธ่ คุณดรีมอ่ะ แวะเข้ามาไม่บอกกล่าว ไม่งั้นจะรีบเข้ามาพัดวีให้