เบสแย้งขึ้นมา เบสกับต่อก็รู้จักกัน จริงๆแล้ว พ่อของต่อ กับพ่อของเบส เป็นคนรู้จักกันด้วยซ้ำ พวกคนมีตังค์ก็งี้ละ เวลาสมาคมกัน ก็เอาลูกๆ ไปอวด
“เห็นไหมไอ้โต้ง ไอ้ไม่มีหัวใจ พี่เบสเค้ายังเค้าข้างกูเลย”
“ไอ้เวรนี่ ได้ทีเอาใหญ่ พี่เบสก็ด้วย ไม่เข้าข้างผมเลย”
พวกเราคุยกันอย่างออกรส เบสเล่าให้เก่งฟังเรื่องผมพยายามช่วยเปลี่ยนเบส ช่วงนี้เบสเลยจะอยู่กับเรา
พออีก 15 นาทีจะถึงเวลาเข้าเรียน พวกเราก็ออกมาจากโรงอาหาร ผมกับเก่งเรียนด้วยกัน แต่ว่าผมให้เก่งไปจองที่ก่อน ส่วนผมจะเดินไปส่งเบสตึกข้างก่อนเดียวตามไป
“โต้งไม่ต้องลำบากเดินไปเป็นเพื่อนเราก็ได้นะ”
“ไม่ได้หรอก เบสยังไม่ชินกับตัวเองตอนนี้ เด๋ียวเงอะๆงะๆ จะทำตัวไม่ถูก เราไปด้วยละดีละ”
เบสมองมาทางผมด้วยสายตาขอบคุณ
ผมส่งเบสที่หน้าตึก ให้เค้าเดินเข้าไปเอง ระหว่างเดินไปตึก แน่นอนว่ามีคนมองพวกเราสองคนกันอย่างรู้สึกได้ชัดเจนเลย
“เด๋ียวเลิกเรียนตอนเที่ยงจะมารับไปกินข้าวนะ โอเคมะ”
“ได้โต้ง เดี๋ยวเจอกันตอนเที่ยงนะ”
หลังจากลาเบสแล้ว ผมก็รีบวิ่งกลับไปตึกตัวเอง สรุปผมเข้าสายไป10นาที โดนอาจารย์สั่งให้ทำรายงานเดี่ยวส่ง เป็นการทำโทษ.....................
...
เวลาพักเที่ยง
ผมรีบวิ่งไปหาเบสที่ตึกเรียนข้างๆ ผมนัดเบสไว้ตรงม้าหิน ข้างๆตัวตึก เบสนั่งรออยู่ก่อนแล้วตอนผมไปถึง
“วิ่งมาเลยหรือโต้ง ไม่ต้องวิ่งก็ได้ พักก่อนๆ” เบสพูดเมื่อเห็นผมเดินหอบเข้ามา
“เป็นไงบ้างเบส สำเร็จไหม” ผมรีบถามเบสก่อนเลยว่าเบสในสภาพใหม่เป็นไงบ้าง
เบสทำสีหน้าปลาบปลื้มแล้วตอบผมมาว่า
“ขอบใจโต้งจริงๆ เราเหมือนเปลี่ยนเป็นคนใหม่เลย จากที่ไม่เคยมีคนสนใจเราเลยนอกจากเวลาทำรายงาน พอเราเข้าห้องไป
ทุกคนก็มองมาทางเราใหญ่เลย เราตอนแรกอายมาก จนแทบไม่อยากเข้าห้องเรียน
ตอนแรกว่าจะหนีโดดเรียนแล้ว แต่พอดีอาจารย์เดินตามหลังเรามาเข้าห้องพอดี
เลยต้องเลยตามเลยไปนั่ง พอเรานั่งที่ประจำนะ เพื่อนเราก็เข้ามาถามกันใหญ่เลยว่า เราไปทำอะไรมา ทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้
ขนาดอาจารย์ยังถามย้ำเลยว่า เราใช่ตัวจริงหรือเปล่า หรือหาใครมาเข้าเรียนแทน
มันสำเร็จสุดๆเลยโต้ง” เบสเล่าให้ฟังอย่างกระตือรือล้น น้ำเสียงบ่งบอกว่า ดีใจมาก
“จริงๆ ตอนแรก เพื่อนเราก็ชวนเราไปกินข้าวละ ตั้งหลายคนเลยด้วย แต่เรานัดโต้งไว้ก่อนแล้ว เราเลยปฏิเสธไปหมดละ”
นั่นไง สิ่งที่ผมกลัวที่สุด พอเบสป๊อบขึ้นมา คนเข้าหาเบสก็จะเยอะ แล้ววันนึง เบสกับผมก็คงห่างกันไป หรือไม่ก็เบสซักวันนึง อาจจะมีแฟนไปก็ได้ นั่นมันคงทำให้ผมเศร้ามาก
“เค้าเรียกว่า เพชร ยังไงก็เป็นเพชร จะอยู่ที่ไหนก็เป็นเพชร เราไม่ได้ทำไรมากหรอก แค่ล้างโคลนออกจากตัวนายเองเท่านั้นละ” ผมถ่อมตัวกลับไป
“ไม่หรอก ถ้าไม่ได้กำลังใจจากโต้ง เราคงไม่กล้ามาถึงขนาดนี้หรอก” เบสยิ้มจริงใจมาให้ผม ยิ้มนั้น แทบทำให้ผมละลายทั้งยืนเลย มันน่ารักมากกกกกก
หลังจากนั้น เราสองคนก็ชวนกันออกไปกินข้าวกัน เนื่องจากเวลานี้โรงอาหารจะแน่น
ผมเลยชวนเบสออกไปกินร้านข้างหน้ามหาลัยกัน ระหว่างกินข้าวกับเบส เบสก็เล่าให้ผมฟังใหญ่ว่าเพื่อนคนไหนพูดอะไรกับเค้ายังไงบ้าง
หลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเราก็รีบกลับเข้ามาเพื่อเข้าเรียนวิชาต่อไป ตอนเลิกเรียน ผมก็นัดเจอเบสอีกรอบก่อนผมจะลาไปทำงานที่ร้านพี่เก๋
“นี่โต้ง...คาบบ่ายวันนี้ของเรา หนิงก็เข้าเรียนด้วยละ.....เราจะทำหน้ายังไงดี ตั้งแต่วันที่เราโดน...เอ่อ...หนิงเค้าแซว เราก็ไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยด้วยเลยละ”
“อะไรนะ โดนว่าขนาดนั้น ยังเรียกว่าโดนแซวอีกหรอ เบสนายจะใจดีไปละ นี่พอเจอหน้านะ ทำเชิดๆหยิ่งๆใส่ไปเลย ไม่ต้องสนใจ โอเคมะ จำไว้ไม่ต้องเข้าไปทักเค้าก่อน ถ้าเค้าทักมาก็ค่อยคุย ไม่ชวนคุยก็ไม่ต้องสน โอเคนะ”
“..อืม ...เราจะเชื่อโต้งนะ “
“อืม สู้ๆนะ “ ผมมองตาให้กำลังใจเบส เบสยิ้มกลับมาให้ผม
“สู้ๆ” เบสพูดตอบ
จากนั้นผมกับเบสก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง คือการเรียนหนังสือ
ตลอดคาบบ่าย ผมค่อนข้างกังวลมากๆ เป็นห่วง กลัวเบสจะเสียท่ายัยหนิงอีก ผมพยายามฝืนใจตัวเองให้นั่งเรียน พยายามจดจ่อกับสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนกำลังพูด ปกติวิชานี้ผมชอบมาก อาจารย์สอนสนุกและเข้าใจง่าย
แต่วันนี้ผมไม่เข้าใจเลยสิ่งที่อาจารย์กำลังพูด เหมือนสายลมพัดเข้าหูขวา ออกหูซ้าย
เมื่อสิ้นสุดเวลารอคอย ทันทีที่กริ่งสัญญาณดัง ผมก็รีบเก็บของ วิ่งไปยังจุดที่นัดพบเบส
“เห้ย ไอ้โต้ง จะรีบไปไหนวะ กูมีเรื่องจะคุยด้วย” ไอ้ต่อมันเรียกผมไว้
แต่ผมไม่ว่างจริงๆวันนี้
“ไว้ก่อนนะต่อ พรุ่งนี้เจอกัน วันนี้กูรีบ”
ผมวิ่งจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รอคำตอบจากต่อ
................................................................................
เมื่อไรจะมาน๊ะ ผมคิดในใจ ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าม้าหินที่เคยนัดเจอเบสเมื่อกลางวัน
ผมไม่รู้หรอกว่าเบส เรียนห้องไหน ไม่งั้นผมคงตามไปดูถึงหน้าห้องแล้ว
ผมยืนรออยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมงได้ เบสก็ยังไม่มา
“นี่มันเลยเวลาเลิกเรียนมา ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ทำไมยังไม่มา”
ผมรอแล้วรอเล่า
เกิดอะไรขึ้น เบสจะเป็นอะไรหรือเปล่า ปกติเบสไม่ใช่คนที่จะให้ใครรอแบบนี้
โดนแกล้งหรือเปล่านะ หรือว่าโดนหลอกไปทำมิดีมิร้าย
หรือว่าจะเกิดอุบัติเหต ไม่ๆๆ มันต้องไม่เป็นอย่างนั้น
หรือว่าเบสจะลืมนัดผม...... ไม่หรอก..เบสไม่ใช่คนอย่างนั้น....
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า..จนกระทั่ง 1ชั่วโมงผ่านไป เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น
ผมหยิบมันขึ้นมาดู หน้าจอเครื่องโชวว่าเป็นเบสโทรมา
“ฮัลโหล เบส นายหายไปไหนมา” ผมรีบกรอกคำพูด ไปอย่างร้อนรน ด้วยกลัวว่าเบสจะเป็นอะไร
“ฮัลโหล โต้ง ขอโทษที เราไม่มีเวลาจะโทรหานายเลย พอดีตะกี้ขับรถด้วย เลยไม่ได้โทรมา
คือ..เด๋ียวเราเล่าให้ฟังดีกว่าคืนนี้ เรื่องมันยาวนะ แต่ตอนนี้เราออกมาดูหนังกับหนิง นายกินข้าวก่อนเลยนะ อ้อ..ลืมไป
วันนี้นายทำงานพิเศษซินะ งั้นเดียวเจอกันที่บ้าน แค่นี้ก่อนนะ พอดีหนิงเค้าเข้าห้องน้ำออกมาแล้ว เด๋ียวพวกเราจะเข้าโรงหนังละ ไปก่อนละ”
เบสตอบกลับผมมายาวเหยียด ด้วยน้ำเสียงสดใส
พูดด้วยน้ำเสียงสดใสแบบนี้ ผมคงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้วซินะ เบสเค้าคงกำลังมีความสุข...
แต่ทำไม ผมถึงรู้สึกตัวเย็นเฉียบแบบนี้.... ลมหายใจเหมือนจะติดขัด
มันรู้สึกแน่นในอกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีก้อนอะไรจุกในอก
ผมพูดไม่ออก แม้แต่จะบอกลาเบส ก่อนวางสาย แต่เพื่อไม่ให้เบสเป็นห่วง ผมเลยตอบกลับไปว่า
“งั้นหรอ.... ดีจังที่คืนดีกันแล้ว โชคดีนะ พอดีเรากำลังรีบ เราไปทำงานละ บาย” ผมพยายามฝืนพูดด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าสดใสที่สุด
จากนั้นผมก็กดตัดสายไปทันทีโดยที่ไม่ได้ฟังว่าเบสจะพูดอะไรต่อ
ตอนนี้ผมอยากหลบไปหาที่เงียบๆคนเดียวแล้วร้องให้ มันแน่น มันจุกไปหมด สมองมึนเบลอ ผมพูดอะไรไม่ออก
คนที่ผมรัก กำลังมีความสุข ผมควรจะมีความสุขซิ ไหนเค้าว่า รักคือการเสียสละ
แต่ทำไม มันเจ็บแบบนี้
คนที่ผมพยายามเปลี่ยน ให้เค้ากลับมาดูดี ทุกอย่างมันกำลังไปได้ดีนิ ไม่ว่าใครก็สนใจเบส ไม่ว่าใครก็คงชอบเบส
คนที่ผมเป็นห่วงแทบเป็นแทบตาย ว่าจะโดนแกล้งอะไรหรือเปล่า ตอนนี้ เค้ากำลังมีความสุข
มีความสุขมากจนกระทั้ง ไม่แม้แต่จะโทรมาบอกผมตั้งแต่เมื่อชั่วโมงก่อน....ว่าเค้าจะไม่มาตามนัด
ว่าเค้าจะไปดูหนังกับคนที่เค้าชอบ........
ผมนั่งหมดแรงอยู่ที่ม้าหิน ยกนาฬิกาขึ้นมาดู อีก 20นาที ถ้าผมยังไม่ไปที่ร้าน ผมจะเข้างานสาย
ผมคิดว่า ถ้าหาอะไรทำยุ่งๆ อาจจะทำให้หายเจ็บก็ได้
คิดได้แบบนั้นผมก็รีบเดินจากไป ไปจากสถานที่ที่ทำให้ผมเจ็บใจ
..............................................................................
*************************************************
มาล่ะครับ