***** ตอนที่ 10 *****
“ตริง ติง ตริงๆ ติง “
เสียงนาฬิกาปลุกหรอ...ทำไมมันแปลกๆแบบนี้.... ผมมีนาฬิกาปลุกเสียงแบบนี้ด้วยหรอ
หึม.....แปลก...
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ สิ่งแรกที่เห็น คือใบหน้าสวยงามน่ารักของเบส
“หึมมมม นายตื่นแล้วหรอ”
“ใช่แล้วพ่อคนขี้เซา”
ผมหันไปดูนาฬิกา มันยังเพิ่ง 7โมงเอง วันนี้ผมมีเรียนตอน 9โมงครึ่ง ดังนั้น เลยไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เช้าขนาดนี้
แถมบ้านเช่านี้ก็อยู่ใกล้มหาลัยเสียด้วยซิ จะตื่นไวขนาดนี้ไปทำไม
“เบส..จะตื่นเช้าไปไหนเนี่ย.. นี่มันเพิ่ง 7โมงเองนะ ห้าวววว” ผมหาวใส่หน้าเบส
“ก็แหม่ เราตื่นเต้นนิ จะได้ไปมหาลัยใบสภาพใหม่แล้ว พอคิดยังงี้ ร่างกายมันก็ตื่นขึ้นมาเอง แถมไม่ง่วงเลยซักนิด
เราตื่นเต้นนะโต้ง ตื่นมาเป็นเพื่อนกันก่อนซิ เราควรทำไงต่อ นายบอกเราหน่อยดิ”
“ก่อนอื่นนะ นายก็ลงมานอนก่อน แล้วก็หลับซักอีกตื่น แล้วค่อยตื่นไปมหาลัยกัน นะ โอเคนะ นอนต่อละ “
“เห้ยยย ไม่ได้โต้ง ตื่นมาเป็นเพื่อนเราเลย”
จริงๆผมไม่ได้ง่วงขนาดนั้นหรอก แค่จะแหย่เบสเล่นเท่านั้นละ
“โอเคๆ ตื่นก็ได้ ห้าวววววว”
“เบสตื่นนานยังอะ”
“ก็ตั้งแต่ 6โมงครึ่งแล้วละ นอนไม่หลับ จะปลุกโต้งก็เกรงใจ เลยรอให้สายกว่านี้ ค่อยปลุกโต้งนะละ”
“สายมากเลย 7โมงเช้า หึๆ เอาละ ตื่นก็ได้ นายไปอาบน้ำ ล้างหน้าล้างตาก่อนซิ เดี๋ยวเราช่วยทำผมแต่งตัวให้”
“ไม่เอา โต้งเข้าห้องน้ำก่อนเลย เดียวถ้าเราเข้าก่อน โต้งต้องแอบหลับแน่เลย”
แนะๆ ดันรู้ทันเราซะอีก ฉลาดจริงๆเลย อาบก่อนก็ได้ฟะ ผมคิดในใจ
“โอเค ยอมแพ้ละ งั้นรอแป๊บ”
ผมแกล้งถ่วงเวลาอาบน้ำล้างหน้านานๆ คงเพราะลึกๆในใจผม ชักไม่อยากให้เบสในสภาพใหม่ไปมหาลัยแล้วซิ
ผมเริ่มหวง อยากเก็บเบสไว้กับผมคนเดียว เบสในสภาพน่ารัก ขี้อ้อน เห้อ......แต่อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดละนะ เดินหน้ามาขนาดนี้แล้ว คงถอยหลังไม่ได้แล้วละ
พอผมออกมาจากห้องน้ำ ก็โดนเบสบ่นยาวเหยียดเรื่องเข้าห้องน้ำนาน จากนั้นเจ้าตัวก็รีบไปเข้าห้องน้ำต่อจากผม
เบสวันนี้...อาบน้ำนานกว่าปกติ ผมแต่งตัวเสร็จแล้ว เบสยังไม่ออกจากห้องน้ำเลย
ผมกลัวเค้าจะเป็นลมในห้องน้ำจัง
“โทษที รอนานปะ เบสเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพคาดผ้าขนหนูผืนเดียว ผมเปียกๆ บนหัวเป็นลอนเล็กน้อย กลิ่นสบู่ลอยมาแตะจมูกผม
เบสเช้านี้ก็เซ็กซี่เย้ายวนใจอีกแล้ว
“เอาละ ไปแต่งตัวไป เดี๋ยวจะได้มานั่งทำผม ใส่เสื้อนักศึกษาใหม่ที่เราไปซื้อกันวันนั้นละ กางเกงด้วยนะ”
ผมไล่เบสไปแต่งตัว แต่ตัวเองยังนั่งมองเบสอยู่บนเตียง
สงสัยวันนี้เบสจะตื่นเต้นจนลืมอายเรื่องการแต่งตัวต่อหน้าผม หรือไม่ก็เค้าคงชินแล้วมั้ง
พอเบสแต่งตัวเสร็จ ผมก็เรียกให้มานั่งเก้าอี้คอม แล้วผมก็ไปเอาไดร์เป่าผม กับหวี แล้วก็แว็กซ์แต่งผม มาทำผมให้เบส
เอาละ ถึงผมจะไม่เก่งเท่าร้านทำผม แต่เรื่องแค่นี้ มันก็ไม่ได้ยากอะไรใช่ไหมละครับ
ซักประมาณ 8โมง กว่าๆ ผมก็ทำผมให้เบสเสร็จ
ผมเดินไปข้างหน้าเบส สั่งให้เบสยืนขึ้น แล้วก็มองเบสตั้งแต่หัวจรดเท้า..................
เบสในวันนี้ สุดยอดมาก หล่อน่ารักสุดๆ ผมไม่รู้จะอธิบายให้เห็นภาพยังไงดีแล้ว เอาเป็นว่า หล่อสุดๆ เลยละในสายตาผม (ใครจะว่าไม่หล่อก็ช่าง สำหรับผมเบสน่ารักที่สุดละ)
“เป็นไงบ้างโต้ง เราดูแปลกหรอ ทำไมมองยังงั้น”
“แปลก...ใช่ แปลกมาก”
“แปลกยังไงๆ บอกเราดิโต้ง ว่าแล้วต้องแปลก ไม่เข้ากับเราใช่ไหม เฮ้อ...เราก็ว่าแล้วละ เราไม่เหมาะกับแบบนี้หรอก.. เรากลับไปแต่งเหมือนเดิมดีกว่าใช่ไหม”
เบสพล่ามยาวเหยียด น้ำเสียงแสดงความผิดหวัง
“ที่บอกว่าแปลกนะ หมายถึง นายดูดีขึ้นมาก ไม่เหมือนเบสคนเดิมเลย หล่อที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมาเลย”
เบสพอได้ยินก็มีสีหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แก้มขาวๆ เริ่มแดงด้วยความเขินอายจากคำชมของผม
“เบสก็พูดเว่อร์ไป เราไม่ได้หล่ออะไรหรอก หน้าจืดๆแบบเราเนี่ยนะ ฮ่าๆ เอาเป็นว่า ไม่ดูแย่ก็โอเคแล้วละ”
“ไม่แย่ๆ นายดูดีขึ้นมากจริงๆ นะ แต่สำหรับเรา นายไม่ได้ดูดีแค่ภายนอก นายดูดีจากภายใน นั่นละทำให้เราบอกว่านายหล่อมากๆ”
“ขอบใจนะโต้ง นายเองก็หล่อจากภายในเหมือนกัน” เบสชมผมกลับ
“เอาละ พร้อมแล้วใช่ปะ ไปมหาลัยกันเถอะ เล็ทสะโก้” ผมชวนเบสไปมหาลัย พร้อมตบท้ายด้วยคำภาษาอังกฤษเห่ยๆของผม
กว่าเราจะได้ออกจากบ้านกันก็เป็นเวลา 8โมงครึ่ง จากบ้านเช่าผมไปมหาลัย ไม่ถึง10นาที เช้าวันจันทร์ ทั้งเบสและผมต่างก็มีเรียนด้วยกันทั้งคู่ตอน 9โมงครึ่ง
ทำให้พวกเรามีเวลาเหลืออีกเกือบ ชั่วโมง ผมเลยชวนเบสไปกินข้าวที่โรงอาหารกลาง ซึ่งเบสก็ยอมโดยดี
ระหว่างทางเดินไปโรงอาหาร ผมสังเกตว่า มีคนแอบมองเบสหลายคนเลย บางคนแอบซุบซิบกับเพื่อนแล้วมองมาทางนี้ ยิ่งไปกว่านั้น บางคนถึงกับชี้นิ้วมาเลย นี่มันจะอะไรกันนักหนา
เก็บๆ อาการกันหน่อยไม่ได้เหรอ แค่เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีแค่นี้
“เอ่อ....โต้ง เราว่า...เรารู้สึกเหมือนกำลังโดนมองอยู่นะ”
“เรื่องธรรมดาเบส ก็เพราะต้องการเป็นที่จับตามอง นายถึงได้พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ใช่เหรอ ”
“ไม่ใช่ยังงั้นโต้ง ที่เราอยากเปลี่ยนแปลง เพราะเราเกลียดตัวเองในสมัยก่อนมากกว่าที่ใครๆ ก็ว่าเฉิ่มว่าเชย เราไม่ได้ต้องการโดนคนมองเลยนะ”
“งั้นก็สายไปแล้วละเบส ตอนนี้นายดูดีมากจนคนอดมองไม่ได้ นายต้องชินกับสภาพแบบนี้ไวๆ”
พวกผมเดินไปซื้อข้าวด้วยกันที่ร้านข้าวแกงคุณป้าใจดี ร้านนี้อาหารอร่อย และตักให้เยอะ พวกเราเลยเรียกกันว่าป้าใจดี
ผมกับเบสยืนต่อคิวอยู่นานพอควรเพราะร้านนี้คนกินเยอะ พอถึงคิว ผมก็เลือกอาหาร 2อย่างราดข้าว
เบสเหมือนไม่มีสมาธิจะสั่ง เลยบอกเอาเหมือนผม
“น้องโต้ง เพื่อนน้องคนนี้ เด็กเข้าใหม่หรือค๊ะ ป้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน หล่อๆ แบบนี้ ถ้าเคยมากินร้านป้า ป้าต้องจำได้แน่ๆ นี่เป็นดาราหรือเปล่าค่ะ”
ป้าใจดีถามผมในตอนแรก และหันไปถามเบสในตอนท้ายประโยค
“โหย ไม่ใช่ป้า นี่รุ่นพี่ปี3 แล้วนะ เคยมากินร้านป้าบ่อยๆ ป้าจำไม่ได้เหรอ” ผมตอบแทนเบส
“ต๊าย จริงหรือค่ะ ทำไมป้าไม่คุ้นเลย ไปทำไรมาเนี่ย หล่อแบบนี้ ปกติ ป้าต้องจำได้ซิ”
“ป้า คนรอคิวเยอะแล้วนะ ของพวกผมได้ยัง” ผมรีบตัดบทป้าใจดีก่อน
“จ๊ะๆ ได้แล้ว แหม่ เร่งจริง นี่ให้น้องสุดหล่อ ป้าแถมไข่ดาวให้ฟองนะ แล้วมากินร้านป้าอีกนะค่ะ เด๋ียววันหลังแถมอย่างอื่นให้ “
คุณป้ารีบเรียกคะแนนจากเบสใหญ่เลย พวกเราขอบคุณป้าใจดีแล้วรีบเดินออกมาหาโต๊ะนั่งกินกัน
พวกเราได้ที่นั่งที่เป็นม้านั่งแถวยาวโต๊ะนึง ข้างๆโต๊ะม้านั่งนั้นมีกลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มนึง นั่งกินกันอยู่ก่อนแล้ว 5คน
พอพวกผมไปนั่ง เด็กผู้หญิงกลุ่มนั้นก็หันมามองพวกเราเป็นระยะๆ
“โต้ง...เราไม่คุ้นเลยอะ มีคนมองแบบนี้ แล้วเราจะกินข้าวลงได้ไง”
“กินๆ ไปเหอะ เดียวกินแล้วอย่าลืมส่งยิ้มไปให้ด้วยละ“ ผมแซวเบส
ตอนนี้ผมหมั่นใส้คนน่ารักตรงหน้าจัง อะไรจะสเน่ห์แรงขนาดนั้น...ชักไม่พอใจแล้วนะ
ผลที่ได้ มันดีมากกว่าที่ผมจะคิดไว้ซะอีก
ผมชวนเบสคุยเรื่อยเปื่อยระหว่างกินข้าว เพราะไม่อยากให้เบสเครียดมากไป
“ไงวะโต้ง มานั่งกินข้าวกับหนุ่มหล่อที่ไหนเนี่ย เด็กมึงเหรอ”
ปากหมาๆแบบนี้ ไอ้เก่งเพื่อนผมเอง มันเดินเข้ามาทักผม
“ปากหมาแต่เช้าเลยนะไอ้เก่ง มึงจำไม่ได้หรอ นี่พี่เบสไง ที่เคยขับรถเฉี่ยวกูเมื่อปีที่แล้ว มึงก็ยังเคยคุยกับพี่เค้าตั้งหลายครั้ง”
“เห้ย จริงงะ ...เอ่อ..ขอโทษครับพี่ ผมนึกว่าเพื่อนผมมันไปมีเด็กที่ไหน แล้ว.....นี่พี่ไปทำไรมา หล่อขึ้นจมเลย จนผมจำไม่ได้”
“ขอบใจนะเก่ง พี่ก็ได้โต้งเค้าช่วยนะละ เค้าพาพี่ไปทำหลายอย่างเลย และอีกอย่าง พี่ไม่ได้ดูดีขนาดนั้นหรอก ขอบใจนะที่ชม”
“แหม่ พี่ ถ้าแบบพี่ไม่เรียกว่าหล่อ พวกผมนี่คงโคตรขี้เหล่เลย” เก่งพยายามชะเลียพี่เบสเต็มที่
“พอเลยมึง กินข้าวมายังวะ“ ผมรีบตัดบทไม่ให้ไอ้เก่งทำให้เบสเครียดไปกว่านี้ แค่การโดนจับจ้องก็ทำให้เบสเครียดมากพอละ
“ยังเลยวะ หิวโคตร เดี๋ยวกูมานะ ไปซื้อข้าวก่อน”
พอเก่งแยกตัวออกไป ผมก็ชวนเบสคุยต่อ
“เออ เบส ต่อหน้าเพื่อนๆ เรายังเรียกเบสว่าพี่แล้วกัน เดี๋ยวเพื่อนๆเรามันจะลามปามกับเบส ถ้าเห็นเราเป็นเพื่อนกับเบสแล้ว ไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้อง”
“ยังไงก็ได้แล้วแต่โต้งละ” เบสยิ้มจริงใจมาทางผม
ซักพักไอ้เก่งก็มานั่งด้วย เราสามคน นั่งคุยกันพลางกินข้างกันไปพลาง
ผมกับเบสอิ่มก่อน แต่นั่งอยู่เป็นเพื่อนกับเก่งต่อ
“เออ ไอ้โต้ง มึงรู้ปะ วันหยุดที่ผ่านมา ไอ้ต่อมันไปไหน กูโทรหามันเรื่องจะยืมหนัง มันไม่รับสายกูวะ แล้วก็ไม่โทรกลับมาด้วย ช่วงนี้กูว่ามันแปลกๆวะ “
“กูไม่รู้เว้ย ไม่ได้เป็นเมียมันจะได้รู้ มันแปลกไงวะ กูไม่เห็นรู้สึกเลย”
“ก็มึงมันโง่ไง ขนาดกูกับหญิง ยังพูดเหมือนกันเลยว่าต่อมันแปลกๆช่วงนี้ ทำตัวยุ่ง มีธุระ ไม่ค่อยมาสุงสิงกับพวกเราเลย”
หญิงเป็นแฟนไอ้เก่งคนปัจจุบัน จริงๆ หญิงกับเก่งเคยคบกันแล้วเลิกกันไปแล้ว เพราะไอ้เก่งมันเจ้าชู้ คบๆ เลิกๆ กันมานี่รอบที่ 3แล้วที่กลับมาคบกัน เลยทำให้หญิงค่อนข้างสนิทกับพวกผม
“เออ มันอาจจะมีธุระอะไรของมันก็ได้ วันหลังมึงก็ถามมันซิ”
“ถ้าจะถาม กูถามไปนานละ จริงๆก็อยากถามละ แต่หญิงบอกว่า ไม่ควรไปก้าวก่ายเพื่อนมาก ถ้าเพื่อนอยากเล่าก็เล่าเองละ”
“เออ กูก็คิดแบบหญิงวะ มึงก็อย่าไปยุ่งกับมันมากเลย “ผมด่าไอ้เก่งมัน
“แต่..พี่ว่า ลองถามดูก็ดีนะ เพื่อต่อเค้ามีปัญหาอะไร เพื่อนอย่างเก่งกับโต้ง จะได้ช่วยเหลือได้มันไง”
----------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ตื่นสาย อ่านเรื่องอื่นในบอร์ดแล้วก็นั่งทำงาน นึกขึ้นได้อีกทีก็ วันนี้ยังไม่ได้ลงให้ เลยรีบเอามาลง พร้อมรูปที่คุณ Dream Come True พูดถึง
(crunchyroll)
Satoshi Tsumabuki รับบทเป็นโต้ง
(syjeqr)
Kamenashi Kazuya รับบทเป็นเบส
(จริงๆ ผมไม่ชอบคาเมะปัจจุบันอ่ะ รู้สึกว่าคนนี้ดูเจ้าเล่ห์ ไม่ค่อยเหมาะกับบทน่าสงสารหรือใสซื่อเลย แต่คุณดรีมว่ามา ผมก็ว่าตามครับ)