มาแล้วครับผม ตอนที่ 7ตอนที่7 ****************
ดึกมากพอควรแล้วแต่เราก็ยังคงนั่งกินกันอยู่ ผมชนแก้วกะมันไปหลายรอบ เรียกว่าชนแล้วชนอีก แต่ไม่ใช่ว่าผมคอทองแดงอะไรหรอกครับ แค่ของผมนี่หลังๆเป็นโค๊กเพียวๆน่ะครับ ไม่งั้นป่านนี้ก็คงจะนอนกองอยู่เหมือนกับมันตอนนี้
" หึ... เมามากแล้วมึงอ่ะ งั้นเดี๋ยวก็เก็บของกันก่อนแล้วไปนอน ดึกแล้วว่ะ" ผมบอกมันแล้วก็เริ่มเก็บข้าวของจะเอาไปล้าง
" อาราย..วะ เรื่องไรมึงมาว่ากูมาว..ววะ สาดดด...ด ก็มึงแม่งเอาเปรียบกูอ่ะ แดกโค๊กอย่างเดียวเลย แมร่ง...ง เอิ๊ก....ก" มันต่อว่าผม
" เอ๊า เชี่ยนี่ มึง ถ้าขืนเมากันทั้งคู่กูว่าก็คงจะได้นอนกองกันอยู่ตรงนี้ถึงเช้าพอดีอ่ะ มึงจะเอางั้นเหรอไง" ผมแก้ตัว จริงๆแล้วก็คือผมก็ไม่ได้ชอบกินเบียร์สักเท่าไหร่น่ะครับ แต่เห็นมันอยากกินก็กินเป็นเพื่อนมันแค่นั้น
" ไปๆ เมาแล้วก็ไปนอนดีกว่ามึง ลุกๆ เดี๋ยวกูจะเก็บของไปล้างเลย ไปเร็วมึง" ผมฉุดให้มันลุกขึ้น มันก็ลุกขึ้นมานั่งโงนเงนอยู่ สงสัยมันจะเมามากจริงๆ
" กูม่ายได้มาวว้อยย..ย เรื่องไรมาหาว่ากูมาว..วะ สาดด..ด" มันพูดซะยานคางเลย ตาก็ลืมจะไม่ขึ้นอยู่แล้ว นี่นะ ไม่เมาของมึง
" เออๆ ไม่เมาก็ไม่เมา ไปนอนได้แล้ว ไป...มึง" ผมบอกแล้วก็เลยหิ้วปีกมันเข้าไปในห้องแล้วโยนมันไว้บนเตียง
" เอ้า แล้วน้ำท่าจะอาบยังไงเนี่ยมึง งั้นทนนอนเน่าไปก่อนแล้วกันนะ"
" เฮ้ยๆ มึงไม่ต้อง เดี๋ยวกูไปอาบได้ ขอกูแป๊บนึงน่ะ" มันรีบบอกผมแล้วก็นอนต่ออีก ผมเลยไปอาบน้ำก่อนแล้วก็เตรียมผ้าชุบน้ำจะเอามาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้มันหน่อยครับ ขี้เกียจนอนข้างไอ้เน่าน่ะ
" เอ้า มา เดี๋ยวเช็ดตัวหน่อยแล้วกันมึง เหม็นเบียร์ชิบหาย" ผมบอกให้มันพลิกตัวมาให้ผมเช็ดหน้าและตามตัวมัน พอเสร็จผมก็เลยเดินไปปิดไฟแล้วมานอนข้างมัน
" ไอ่อิน..."
" หือ... " ผมหันไปมองมัน
" กูมีความสุขจริงๆเลยว่ะ วันนี้ มึงรู้มั๊ยวะ มีแต่เรื่องดีๆว่ะ"
" เออๆ รู้แล้ว... กูก็ดีใจและมีความสุขไปกะมึงด้วยแหละ แต่ว่าตอนนี้นะ นอนเหอะมึงอ่ะ กูง่วงแล้ว สาดดด...ด" ผมบอกให้มันนอนไปเพราะก็ง่วงแล้วจริงๆ แต่ก็ยิ้มไปกะมันนะครับ
" อ่ะๆ นอนก็นอน เอ้อ... เฮ้ย...ลืมไป"
" อะไรของมึงอีกวะ เชี่ยนี่ ไอ่ขี้เมา" ผมเลยด่ามัน ไม่รู้อะไรของมันอีกครับ
" ฮ่าๆ ไม่มีอะไร... กู้ดไนท์เว้ย"
" โห... สาดด... แม่ง มุขเดิมอีกละ นอนไปเลยมึง" ผมโวยมันไปทั้งที่ขำๆแล้วเราก็นอนหลับไป จนตอนเช้าผมก็กลับไปที่วัด
-
-
หลายวันผ่านไปไอ้เนก็มาบอกผมว่าแม่มันจะบินกลับมาพรุ่งนี้แล้วมันจะไปรับที่สนามบิน ผมเลยขอไปกับมันด้วย เพราะว่าผมอยากเจอแม่มันมากๆเลยครับ
พอเราไปถึงที่สนามบินกันก็ไปนั่งรออยู่พักนึงครับ ดูมันกระวนกระวายนิดหน่อยในขณะที่รออยู่ สงสัยคงจะอยากเจอแม่มันเต็มที แต่ตัวผมเองสิครับกลับรู้สึกยิ่งตื่นเต้นมากที่ว่าจะได้เจอแม่มันแล้ว ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ
หลังจากที่รออยู่อีกสักพักขณะที่ไอ้เนมันมองไปที่ทางเข้าผู้โดยสารนั้น มันก็รีบโบกมือให้แม่มันที่กำลังเดินมา แล้วก็รีบวิ่งไปกอดแม่มันใหญ่เลยครับ
ผมเห็นแล้วก็เลยวิ่งตามไป ตอนนั้นที่ผมเห็นไอ้เนกอดกับแม่ของมันนั้นทำให้ผมรู้สึกอึ้งๆไปนิดนึงครับ ในใจก็คิดไปว่าถ้าวันนี้เป็นแม่ผมกับตัวผมที่ได้มาเจอกันและกอดกันแบบนี้ ผมคงจะมีความสุขมากแน่ๆ อยากจะให้มันเป็นอย่างนั้นได้จริงๆครับ
" เฮ้ย ไอ่อิน มาดิ มัวจ้องอะไรอยู่วะ ตะลึงความสวยแม่กูเหรอ" เสียงเรียกของไอ้เนปลุกผมจากภวังค์ความคิดนั้น ผมเลยได้สติกลับมาแล้วรีบเข้าไปไหว้แม่ของมัน
" จ้า... ลูก แหม เจ้าเนมันชมเราให้แม่ฟังตลอดเลย แม่ขอบใจนะลูกที่ช่วยเปลี่ยนเจ้าตัวดีนี่ให้ แม่ดีใจมากเลยลูก ทีนี้จะได้เบาใจไปซะที ขอบใจจริงๆจ้ะ" แม่มันบอกผมแล้วก็กอดผมเลย
ในอ้อมกอดนั้นแม้ผมจะอึ้งๆ งงๆ ที่อยู่ๆแม่มันก็มากอดผมอย่างนี้ แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดีและอบอุ่นอย่างมากเลยนะ
" เอ่อ... ผมก็ไม่ได้ทำอะไรมากอ่ะครับ แค่เตือนๆมัน แล้วก็ช่วยกันติวแค่นั้นอ่ะครับแม่" ผมบอกกับแม่มัน
" ก็นั่นน่ะ ทีเมื่อก่อนแม่น่ะเคี่ยวเข็ญมันไม่รู้กี่ครั้งเคยสนใจซะที่ไหน ที่เพื่อนบอกล่ะก็เชื่อฟังนะ แกเนี่ย" แม่พูดแล้วก็หันไปทางมัน
" โธ่ แม่ ก็ตอนนั้นน่ะผมยังคิดไม่ได้อ่ะ แต่ตอนนี้คิดได้แล้ว เป็นเด็กดีแล้วคร้าบแม่" มันพูดแล้วก็ประสานมือ ทำตาปริบๆ เหมือนเทวดาน้อย ใส บริสุทธิ์ น่ารักตายล่ะมึง
" หึ พอแล้วย่ะ ชั้นเชื่อแกมาก..กเลยนะ เอาล่ะๆ ไปกันเถอะลูก กลับไปบ้านกันก่อนเถอะ เอ้อ แต่เดี๋ยวเราแวะกินอะไรกันก่อนดีกว่านะ ไปจ้ะ" แล้วแม่ก็จูงมือผมกับไอ้เนออกไปขึ้นแท๊กซี่ที่หน้าอาคารผู้โดยสาร
เราแวะกันที่ห้างแห่งหนึ่งแล้วเข้าไปกินกันในร้านๆนึง แม่บอกว่าเราอยากกินอะไรก็สั่งได้เลย ไอ้เนมันดูแฮปปี้มากๆเวลาที่มันอยู่กับแม่มันแบบนี้
ผมมองดูแม่ของมันแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าที่ผมคิดไว้คงไม่ผิด เพราะท่านก็ใจดีจริงๆแหละครับ และดูยังไม่ค่อยแก่เท่าไหร่ หน้าตาท่านก็อิ่มเอิบแจ่มใสดูมีสง่าราศรีมากครับ จนผมก็นึกเล่นๆไปว่าถ้าผมได้เป็นลูกอีกคนของท่านจริงๆก็คงจะดีมากๆเลย
" เดี๋ยวช่วงนี้แม่คงไม่ค่อยได้อยู่บ้านทุกวันนะลูก ต้องไปทำตั้งหลายอย่างเลยก่อนกลับไปน่ะ แล้วยังต้องไปช่วยน้าติ๋วเค้าที่ร้านด้วยลูกเฉพาะช่วงนี้น่ะ" แม่บอกกับไอ้เน ผมก็นั่งนิ่งฟังอยู่
หลังจากนั้นเราก็กินอาหารกันพอเสร็จก็นั่งรถกลับมาที่บ้าน แล้วผมก็เลยขอตัวกลับมาที่วัดก่อนเพราะวันนี้ยังมีงานรอผมอยู่อีกมากมายเลย ปล่อยให้แม่ลูกเค้าอยู่คุยกันให้หายคิดถึงดีกว่านะ
-
-
ผมกลับมาทำงานต่อที่วัดเพราะวันนี้ก็มีงานเหมือนเคยครับ ตอนทำงานไปก็ยังนึกถึงแม่ของมันนะ ความคิดที่ว่าผมอยากจะเป็นลูกอีกสักคนของท่านยังวนเวียนอยู่ในหัวผมอยู่ ซึ่งถ้าเป็นจริงได้ผมก็คงจะมีความสุขที่สุดเลยครับ
แต่ว่าทั้งหมดนั้นผมก็แค่คิดหวังไปเล่นๆเฉยๆน่ะครับ เพราะมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วล่ะ แต่อย่างน้อยผมก็จะขอแค่รักและนับถือแม่ของมันให้เหมือนแม่ของผมก็คงพอแล้วครับ
พอหลังจากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นผมเลยมาหามันที่บ้านแต่เช้า เมื่อมาถึงก็พบแม่ของมันพอดี
" อ้าว... อินน่ะเองลูก มาๆเข้ามาก่อนเลยจ้ะ เจ้าเนมันอยู่ในบ้าน แต่เดี๋ยวแม่ต้องรีบออกไปแล้วจ้ะ เดี๋ยวก็อยู่กับเจ้าเนมันแล้วกันนะ แม่ไปล่ะ" แม่มันสรุปอย่างรวดเร็วแล้วก็ขึ้นแท๊กซี่ออกจากบ้านไป ผมก็ไหว้แม่แล้วเดินเข้าไปในบ้าน
" แม่มึงเค้าไปไหนเหรอวะ เน" ผมเริ่มถามมัน
" อืม ก็เห็นว่าเค้าจะไปจัดการเรื่องโอนที่อะไรนี่อ่ะ เพิ่งขายที่ไปน่ะ"
" อ๋อ อืม แล้ววันนี้มึงจะไปไหนมั๊ยล่ะ ถ้าไม่ไปไหนก็ไปกะกูนะ อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่างานจ๊อบกูคืออะไรอ่ะ" ผมถามแล้วก็ลองชวนมันให้มันไปดูงานจ๊อบที่ผมทำ เพราะก่อนหน้านี้ผมได้ติดต่องานกับพี่ที่ผมเคยไปทำงานให้เค้าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เค้าก็บอกว่าวันนี้มีงานให้เราทำพอดีเลยครับ
" เออๆ ไปดิๆ กูอ่ะอยากรู้จะตายว่ามึงไปทำจ๊อบอะไรน่ะ เล่นมาปิดๆบังๆกูอยู่ได้อ่ะมึง"
" เออน่า.. เดี๋ยวมึงก็จะรู้แล้ว แต่ว่านะ พอได้รู้แล้วมึงต้องช่วยกูทำงานด้วยนะเว้ย"
" เอ๊ะ อะไรวะมึงนี่ แม่ง กูยังไม่ทันรู้เลยว่างานอะไรแล้วจะให้กูไปช่วยซะแล้ว อะไรของมึงวะ" มันเริ่มโวย
" เออ... งั้นเราไปกันเลย เดี๋ยวรู้เอง ฮ่าๆ" ผมยังคงแกล้งทิ้งท้ายไว้ให้มันสงสัยเล่น แล้วเราก็ไปกันที่ห้างแห่งนึง เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์จึงมีการจัดงาน Event หลายงานที่นี่ ใช่ครับ งานผมก็คือมาแต่งเป็นตัวมาสคอตการ์ตูนเพื่อช่วยเรียกลูกค้านั่นเองครับ
" มาแล้วครับ พี่อร วันนี้ผมพาเพื่อนมาช่วยด้วยครับ" ผมเดินเข้าไปไหว้พี่ๆทีมงานโดยมีไอ้เนเดินตามมาด้วย สีหน้าของมันดูตื่นๆคงเพราะว่ามีคนทำงานเยอะแยะเดินกันขวักไขว่ไปหมด และก่อนที่มันจะถามอะไรผมมากไปอีกผมเลยรีบยื่นชุดที่จะให้มันใส่ในงานนี้ให้มัน
" เอ้า นี่ชุดของมึงนะ เดี๋ยวมึงลองเปลี่ยนเลย" ผมบอกมัน พอมันเห็นชุดมันก็ทำหน้าเหวอหนักเข้าไปอีกครับ
" เฮ้ย อะไรวะ นี่มึงจะเล่นมัดมือชกกูเลยจริงๆเหรอวะเนี่ย สาดด..ด ให้กูทำใจหน่อยดิ" มันบ่นแต่ก็รับชุดไปดูโดยดี
" เอาน่า ไหนๆมึงก็หลวมตัวมาแล้วอ่ะนะ ฮ่าๆๆ" ผมขำท่าทางเหวอๆของมันแล้วก็ให้มันลองชุด
งานวันนี้เป็นงานโปรโมทพวกสินค้านมผงกับอาหารเสริม แล้วก็ผ้าอ้อมเด็กน่ะครับ เป็นงานใหญ่มีเวทีแสดงอยู่กลางบริเวณงาน ชุดที่จะเอามาใส่นี้ก็เป็นชุดตัวหมีการ์ตูนที่เป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าหนึ่งในนั้นน่ะครับ
มันลองชุดแล้วก็เดินออกมา ผมก็เลยแต่งหน้าใส่จมูกปลอมให้มันเพราะชุดนี้เป็นแค่ชุดผ้าธรรมดาที่มีหมวกเป็นหูหมีอยู่แล้ว ไม่ใช่ชุดที่เป็นหัวครอบใหญ่ๆ เพราะชุดแบบนั้นมันจะร้อนมากครับเวลาใส่ พอไอ่เนมันเห็นหน้าตัวเองในกระจก มันก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างมาก
" สาดด..ด นี่กูต้องออกไปอย่างงี้จริงๆเหรอวะ ยังกะหมีพูห์เลยกู โอย กูอายเค้าเว้ยย...ย" มันเริ่มงอแง เมื่อเห็นตัวเองในกระจก
" มึงนี่เรื่องมากจริงๆ กูก็อยู่ในสภาพเดียวกะมึงเนี่ย หมีพูห์ไม่ต่างกะมึงอ่ะ มึงจะคิดมากทำไมวะ มันก็แค่งาน งั้นก็ตามใจมึงอ่ะ จะไม่ทำก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปล้างหน้าแล้วกัน" ผมนึกฉุนๆมันบ้างเหมือนกันครับ ไม่คิดว่ามันจะเรื่องมากอย่างนี้
แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ถือสาอะไรมันหรอกนะครับ เพราะเราก็ไม่ได้บอกมันให้เตรียมใจก่อน จะไปว่ามันก็ไม่ได้
" เฮ้ยๆ โธ่เว้ย.. มึงนี่ก็ กูก็แค่ทำใจยังไม่ได้อ่ะ ไม่ได้ว่าจะไม่ทำนะ ไหนๆมึงก็ชวนกูมาอ่ะ เออๆ.. กูยอมละ มึงอย่าโกรธกูนะ แล้วจะให้กูไปทำไรต่ออ่ะ" มันบอกผมเสียงอ่อยๆ ผมก็เลยยิ้มให้มัน
" เอ้อ ก็แค่นั้น กูก็ไม่ได้จะโกรธมึงหรอก จริงๆมึงจะไม่ทำก็ได้ว่ะ กูแค่นึกสนุกอยากให้มึงลองมาทำอะไรที่มึงไม่เคยลองก็เท่านั้น แต่ก็ลืมไปว่ามึงอาจจะลำบากใจไง"
" เออ กูเข้าใจแล้วว่ะ ไม่เป็นไรเว้ยกูลองดูก็ได้ ว่าแต่ต้องไปทำอะไรมั่งน่ะ" มันกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ผมก็เลยบอกว่าเดี๋ยวไปยืนแถวหน้าทางเข้างานเพื่อช่วยเรียกลูกค้า มันก็ตามผมไปโดยดี
" เนี่ยแล้วเดี๋ยวมึงก็โบกมือเรียกคนที่เค้าผ่านไปมาให้มาในงาน แค่นั้นอ่ะ ทำท่าทางแบบเล่นๆ ดูน่ารักๆหน่อยก็ได้ว่ะ มันจะได้ดูเหมือนตัวการ์ตูนอ่ะ" ผมแนะนำมัน มันก็เลยไปยืนเก้ๆกังๆอยู่พักนึง แล้วก็ทำโบกมืออย่างเขินๆอยู่อย่างนั้น
" เชี่ยเอ๊ย... ขืนถ้าใครที่รร.มาเห็นกูนะ กูคงได้เอาปี๊บคลุมหัวไปรร.แหง" มันยังบ่นต่อ
" เออๆ งั้นมึงไปเอาลูกโป่งแจกเด็กๆในงานแล้วกัน ตรงแถวเวทีน่ะ แล้วก็เล่นๆกะเค้า ถ่ายรูปกะเค้าหน่อยแค่นั้นอ่ะ โอเคมั๊ย" ผมเสนออีกทางเลือกให้มัน มันก็เลยยิ้มรับแล้วเดินไปเอาลูกโป่งไปแจกเด็กๆตามที่ผมบอก
ผมมองเห็นมันตอนนี้แล้วก็ขำจริงๆด้วยครับ ไอ่เนสุดเท่ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นหมีพูห์ผู้น่ารักไปแล้วเนี่ย จนผมก็นึกอยากจะถ่ายรูปมันเก็บไว้เล่นๆ ยิ่งตอนที่มันยิ้ม หัวเราะเล่นกับเด็กๆอย่างมีความสุข ผมยิ่งรู้สึกว่าเป็นภาพที่น่าจะเก็บไว้จริงๆครับ
" เฮ้ยๆ สาด..ด มึงจะถ่ายรูปกูทำไมวะ เชี่ยนี่ จะเอามาแบล็คเมล์กูเหรอไง" มันโวยวายแล้วก็รีบวิ่งเข้ามายื้อแย่งโทรศัพท์ผมทันที
" โห.. ไอ้บ้า กูจะไปทำงั้นทำไม กูเห็นมึงในชุดนี้แล้วมันเหมาะกะมึงดีไง น่าร๊าก ฮ่าๆๆ" ผมบอกมัน แต่มันก็ยังคงมาแย่งจะเอาโทรศัพท์ผมไปทำลายหลักฐานให้ได้
" เฮ้ยย....ย สาดนี่ ยังไม่เลิก งั้นเอางี้ถ่ายคู่กะกูเลย จะทุเรศก็ทุเรศด้วยกัน โอเคป่ะ"
" เออ ก็ได้ว่ะ" มันตอบตกลง เราก็เลยถ่ายรูปคู่กันไปหลายรูป แล้วก็ให้มันไปทำงานต่อ ผมตั้งใจว่าจะเก็บรูปที่ถ่ายกับมันวันนี้ไว้ให้ดีเลยครับ เพราะก็เป็นรูปแรกๆที่เราได้ถ่ายด้วยกัน พอถึงตอนเย็นปิดงานแล้วเราก็เลยรับค่าแรงแล้วก็กลับบ้านกัน
" เฮ้ย วันนี้นะ กูสนุกจังว่ะ แถมยังได้ตังค์อีก" มันยิ้มบอกผมขณะที่นั่งรถกลับไปบ้านด้วยกัน
" เออ เป็นไง นี่แหละ งานจ๊อบกู ดีมั๊ยล่ะ"
" อืม ว่ะ โคตรจะดีเลยแหละ มึงรู้มั๊ยว่านี่น่ะ เป็นเงินก้อนแรกเลยนะที่กูหามาได้ด้วยตัวกูเองอ่ะ ดีใจชะมัดเลยว่ะ" มันบอกผมด้วยสีหน้าภูมิใจเต็มที่
" ดีแล้ว มึงคิดได้งี้ก็ดีแล้วอ่ะ ไว้แล้วถ้าเค้ามีงานอีกกูก็อาจจะชวนมึงไปอีกนะ"
" เออ ไปดิๆ งานดีๆยังงี้ กูเอาอยู่แล้วอ่ะ" มันรับคำผมอย่างตื่นเต้น
" อืม แต่ยังไม่หมดนะเว้ย จ๊อบกูสำหรับวันนี้อ่ะ มึงยังไปกะกูไหวมั๊ยล่ะ"
" เฮ้ย ยังมีอีกเหรอวะ เออ ไปดิ กูยังไม่เหนื่อยหรอกแค่นี้" มันรีบตกลงแล้วก็ยิ้มให้ผม
" โอเค งั้นเดี๋ยวกูขอไปเอาของที่วัดก่อนนะ แล้วค่อยไปกัน" ผมบอกกับมันแล้วก็รีบกลับไปที่วัดด้วยกันกับมัน แล้วก็เข้าไปเอากีต้าร์ใส่กระเป๋าสะพายออกมา
" เฮ้ยๆ แล้วนี่มึงจะเอาไปเล่นที่ไหนวะ" มันถามผมทันทีที่เห็น ดูท่าทางมันยิ้มและตื่นเต้นอยากรู้เต็มทีว่าผมจะไปทำอะไรที่ไหน
" เออ...อ ตามมาเหอะ เดี๋ยวก็รู้ ฮ่าๆๆ" ผมให้มันรีบตามมา ก็รู้สึกสนุกดีครับที่ได้ทำให้มันประหลาดใจอยู่อย่างนี้ แล้วเราสองคนก็เลยรีบขึ้นรถเมล์ไปยังจุดหมายปลายทางต่อไปของผมทันที นั่นก็คือ "ตรอกข้าวสาร" ครับ
ที่นี่จะมีพวกนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ ส่วนใหญ่ก็จะมาเที่ยวตามผับและร้านแถวนั้น โดยมากพวกนี้เค้าจะชอบดูการแสดงดนตรีอยู่แล้ว โดยเฉพาะพวกฝรั่ง
ผมได้เคยลองมาเล่นกีต้าร์ร้องเพลงที่นี่กับรุ่นพี่ของผมที่เป็นเด็กวัดด้วยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว จนตอนนี้ก็พอจะเริ่มเก่งและมั่นใจขึ้นแล้วเลยมาโชว์เดี่ยวเล่นแถวนี้ได้แล้วครับ
" อืม ตรงนี้แหละ แถวนี้มีคนผ่านเยอะเหมือนกัน แล้วก็ไม่มีใครมาไล่บ่อยๆ กูมาจองแถวนี้ประจำ" ผมบอกกับมัน แล้วก็รีบเปิดกระเป๋าหยิบกีต้าร์ออกมาแล้วก็วางกระเป๋ากีต้าร์เปิดเอาไว้ตรงหน้าไว้ให้คนที่เดินมาฟังเค้าโยนตังค์ใส่ให้
" โห แล้วมึงก็ยืนเล่นไปยังงี้เลยน่ะเหรอ" มันถามผมแล้วก็หันรีหันขวางไปมาดูผู้คนที่เดินผ่านแถวนั้น ผมว่ามันก็คงรู้สึกเขินๆและประหม่าหน่อยๆเหมือนผมตอนแรกที่ลองมาเล่นโชว์ที่นี่
" เออ ก็อย่างนี้เลยแหละ มึงไม่ต้องคิดมาก ก็เล่นเหมือนที่เราเล่นกันเองน่ะ ดูกูนะ" พูดจบผมก็เริ่มเล่นและร้องเพลงที่เตรียมตัวมาอย่างเคยชิน มันก็นั่งมองผมตาปริบๆคงคิดไม่ถึงมั๊งครับว่า เห็นผมนิ่งๆเฉยๆแล้วกล้ามาทำแบบนี้ได้ไง
แต่พอเล่นไปได้แป๊บนึงก็เริ่มมีคนมาหยุดดูบ้างแล้วครับ ไอ้เนมันก็มองดูคนที่มายืนดูแล้วก็ยิ้มๆ จนผมเล่นจบเพลงก็มีคนปรบมือและโยนเงินลงในกระเป๋าให้ผม ผมเลยโค้งคำนับขอบคุณ
" เฮ้ย มึง แม่ง เจ๋งจริงว่ะ แน่มากๆ ท่าทางใครๆเค้าก็ชอบที่มึงร้องว่ะ กูยังชอบเลย" มันมาสะกิดที่ไหล่แล้วบอกชมผมอย่างตื่นเต้น
" ก็เห็นมั๊ย มันไม่ได้ยากอะไรเลยมึง เออ เดี๋ยวกูเล่นต่อก่อนเว้ย มีคนเค้ารอฟังอยู่อีก" ผมบอกมันแล้วก็เล่นเพลงต่อไป มันยังคงนั่งดูผมต่อไปอย่างสนุก ผมก็เล่นเพลงไปอีกหลายเพลงแต่ว่าก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่แล้ว ก็เลยจะหยุดพักแป๊บนึง
" อืม วันนี้คนเดินผ่านแถวนี้น้อยว่ะ เดี๋ยวกูพักแป๊บนึงแล้วกัน แต่คราวหน้านะ มึงต้องเอากีต้าร์ที่บ้านมึงมาเล่นกะกูด้วยนะเว้ย โอเคป่ะ"
" เฮ้ย จริงเหรอวะ เออๆ เอาดิวะ แล้วมาแจมกันตรงนี้เลยนะเว้ย" มันรีบตกลงกับผมอย่างตื่นเต้น
" เออ แล้วก็แบ่งตังค์กันคนละครึ่งนะเว้ย แฟร์ๆอ่ะ โอเคนะ" ผมยื่นข้อเสนอให้มัน ในใจคิดว่าถ้ามันมาช่วยเล่นด้วยก็คงดีแหละครับ เพราะว่าเล่นสองคนมันจะช่วยดึงดูดผู้คนได้มากขึ้นอีก ซึ่งมันรีบตกลงกับผมอย่างเต็มใจทันที
" อืม งั้นเดี๋ยวกูจะเล่นไปอีกสัก 2-3 เพลงนะ แล้วเรากลับกันเลยเหอะ" ผมมองนาฬิกาแล้วบอกมันเพราะเห็นว่านี่ก็เริ่มดึกแล้ว จากนั้นผมก็เล่นเพลงต่อไป ผู้คนที่เดินไปมาก็เริ่มบางตาลงมาก
แต่พอสักพักก็มีนักท่องเที่ยวที่ดูคล้ายๆคนญี่ปุ่นเดินผ่านมาหลายคนเลยครับ ยังกะว่าทัวร์ลงเลย แล้วพอพวกเค้าเห็นผมก็พากันหยุดยืนดูผมเล่นเพลงกันใหญ่เลย ท่าทางเหมือนเค้าชอบมาก จนผมเริ่มเขินๆซะเองแล้วแต่ก็ยังร้องต่อไปครับ แต่อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงเดินมาที่ผม
" น้องครับๆ คือว่าพี่ขอถามหน่อยนะ ว่าน้องพอจะร้องเพลงอะไรที่เป็นภาษาญี่ปุ่นได้บ้างมั๊ยครับ พอดีลูกทัวร์ของพี่เค้าอยากฟังน่ะครับ เลยวานให้พี่มาขอเพลงน้อง เอ้อ ลืมบอกไปพี่เป็นไกด์ที่พาพวกเค้ามาน่ะครับ" ผมฟังแล้วก็ตะลึงไปหน่อยนึง แล้วก็หันไปมองพวกนักท่องเที่ยวที่ยืนยิ้มแล้วมองจ้องมาที่ผม
" โห สงสัยนี่เราจะต้องโชว์แบบอินเตอร์แล้วเหรอวะนี่" ผมนึกในใจ
" เอ้อ... ก็ได้ครับพี่ พอดีผมก็มีเพลงญี่ปุ่นที่พอร้องได้อยู่ 2-3 เพลง งั้นเดี๋ยวลองฟังนะครับ" ผมตอบตกลงพี่เค้าไปแล้วหันไปมองหน้าไอ้เนที่ทำหน้ารอลุ้นผมอยู่ ตัวผมเองก็เคยแกะเพลงญี่ปุ่นบางเพลงเล่นอยู่ เป็นเพลงง่ายๆและเป็นที่รู้จักทั่วไปคงพอเอามาเล่นให้พวกนี้เค้าฟังได้อยู่
" เฮ้ย มึงแน่ใจนา ว่าไหวอ่ะ" ไอ้เนเดินมาใกล้ๆแล้วถามผมด้วยสีหน้าหวั่นๆ ท่าทางมันดูจะประหม่าและไม่มั่นใจยิ่งกว่าผมซะอีก
" เออ...อ มึงไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูกู หึๆ" ผมบอกมันอย่างมั่นใจ คงเพราะท่าทางเหวอๆหวั่นๆของไอ้เนมันน่ะครับ ทำให้ผมนึกขำจนหายประหม่าไป แถมเรียกความมั่นใจกลับมาได้
แล้วผมก็ได้เริ่มเล่นเพลงแรกซึ่งก็เป็นเพลงที่ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นเค้าคงรู้จักกันดี เพราะเพลงนี้เป็นเพลงฮิตทีเดียวแม้จะเก่าแล้ว
พอเริ่มร้องไปผมก็เห็นสีหน้าของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นพวกนี้เค้าก็ยิ้มกันและมีท่าทางตื่นเต้นกันมาก บางคนก็เริ่มตบมือตามจังหวะกันอย่างสนุก ผมเห็นอย่างนี้แล้วก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจมากขึ้นไปอีกครับ ว่าเค้าคงจะพอใจมาก
พอผมเล่นจบพวกเค้าก็ยิ่งตบมือชอบใจ เป่าปากโห่ร้องกันใหญ่ ยังกะว่าดูคอนเสิร์ตใหญ่ๆเลยครับ ผมล่ะปลื้มเลย สงสัยเค้าก็คงประทับใจมั๊งที่นักดนตรีข้างถนนธรรมดาๆก็เล่นเพลงญี่ปุ่นให้เค้าฟังได้ เลยปลื้มผมกันซะขนาดนี้ ไอ้เนมันก็ยืนยิ้มอยู่ข้างหลังผม
" เฮ้ยๆ ดูดิ เค้าชอบมึงกันใหญ่เลยว่ะนั่น โห.. ทั้งตบมือ ทั้งกรี๊ดมึงเลยนะเนี่ย" มันบอกผมอย่างตื่นเต้น
" โห... น้อง เยี่ยมสุดๆเลยครับ ลูกทัวร์พี่อ่ะเค้าชอบมากเลยนะ ว่าน้องร้องดีมากๆ เค้าอยากขออีกสักเพลงจะได้มั๊ยครับ น้อง" พี่ไกด์ทัวร์รีบเดินมาบอกผม ท่าทางเค้าพอใจมาก
" อะเหรอครับ ก็พอได้ครับพี่ มีอีกเพลงที่ร้องได้อยู่ครับ เดี๋ยวลองฟังนะครับ" ผมเลยพลอยได้ใจสุดๆ เลยเล่นต่ออีกเพลงเลย เพลงที่เล่นต่อนี้ก็เป็นเพลงฮิตอีกครับ บางคนเค้าเลยร้องตามได้ด้วย ผมเห็นแล้วก็ยิ้มเลยครับ ท่าทางทุกคนเค้าจะแฮบปี้กันมาก ทั้งตบมือทั้งร้องตามกัน หลายๆคนก็ถ่ายรูปถ่ายวีดิโอกันใหญ่
ตอนนี้จากที่มีนักท่องเที่ยวกรุ๊ปนี้แค่สักสิบกว่าคน เลยกลายเป็นมีคนอื่นๆมามุงดูกันเป็นกลุ่มใหญ่เลยครับทีนี้ ตอนนั้นผมก็มีรู้สึกประหม่าขึ้นมาอีกหน่อยๆนะครับ ไม่เคยมีคนมามุงดูผมเยอะยังงี้มาก่อนเลย
พอผมหันไปมองไอ้เนมัน มันก็ทำท่าทางให้กำลังใจผมเต็มที่เลยครับ เลยทำให้มั่นใจขึ้นมาได้อีกเยอะเหมือนกัน
พอเพลงนี้จบลงทีนี้ก็เลยยิ่งมีเสียงตบมือ โห่ร้อง เป่าปากมากยิ่งกว่าเมื่อกี๊อีกครับ ดูทุกคนเค้าชอบกันมาก ไอ้เนมันก็ยิ้มให้ผมด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นเหมือนกับผม คนที่ยืนดูผมอยู่ตอนนั้นก็เยอะมากทั้งไทยและเทศกันเลย
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในกลุ่มนั้นบางคนก็เลยเข้ามาถ่ายรูปกะผม จับมือกับผมจนผมรู้สึกเหมือนเป็นดาราไปเลย แล้วก็เอาเงินที่ส่วนใหญ่เป็นแบงค์ร้อยใส่ในกระเป๋ากีต้าร์ให้ จนผมงี้ตกใจเลยครับ แทบทุกคนที่ยืนตรงนั้นให้เงินผมกันหมดเลย หันไปมองอีกทีก็เห็นเงินเต็มไปหมดเลยครับ
" โห เยี่ยมสุดๆไปเลยครับ น้อง ร้องดีจริงๆ ลูกทัวร์พี่เค้าบอกเลยว่าประทับใจมาก บางคนเค้าว่าน้องร้องได้ยังกะคนญี่ปุ่นร้องเองเลยนะ เค้าเลยประทับใจเป็นพิเศษน่ะ พี่ขอบคุณมากนะ แล้วปกติน้องมาร้องแถวนี้บ่อยมั๊ยล่ะ เผื่อพี่จะได้พาลูกทัวร์พี่มาแวะดูอีก เค้าจะได้แฮบปี้กันแบบนี้ไง" พี่ไกด์ทัวร์ยิ้มชมผมใหญ่ ผมก็บอกไปว่าจะมาเล่นบ่อยๆเพราะตอนนี้ยังปิดเทอม เค้าก็ยิ้มแล้วก็เดินพาลูกทัวร์ไปเข้าพักแถวนั้น ผมกับไอ้เนก็เลยหันมาดีใจกันใหญ่
" โห.... ไอ่เนมึงดูดิ ได้ตังค์โคตรเยอะเลยว่ะ เป็นพันๆเลยนะเนี่ย ไม่เคยได้เยอะยังงี้เลยว่ะกู" ผมตื่นเต้นมากๆขณะที่เก็บรวบรวมเงินจากในกระเป๋ากีต้าร์
" เออ ว่ะ เจ๋งๆๆ รวยเลยมึงวันนี้ ดีใจด้วยเว้ย ฮ่าๆๆ"
" อืม งั้นเดี๋ยวเรากลับกันเลยก็ได้ว่ะ ดึกแล้ว ไปเหอะ" ผมว่าแล้วก็เก็บข้าวของ มันก็ช่วยผมเก็บ เสร็จแล้วเราก็เลยนั่งรถกลับบ้านกัน ทั้งมันและผมก็นั่งยิ้มคุยกันไปตลอดทาง
วันนี้ผมโชคดีจริงๆครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนถึงผมจะโชคดีขนาดนี้ผมก็อาจจะไม่ได้ดีใจและเป็นสุขได้ขนาดนี้มั๊ง
แต่นี่เป็นเพราะผมมีมันอยู่ด้วยน่ะครับ ได้มีมันอยู่ร่วมยินดีไปกับผมอย่างนี้มันรู้สึกเลยว่าความสุขนั้นมันยิ่งมีค่ามีความหมายกับผมมากยิ่งขึ้นไปอีก
อยากขอบคุณมันจริงๆครับ
**************