[[กู+มึง=มิตรภาพตลอดไป]] ถ้าอ่านจบแล้วติดตามภาคพิเศษต่อเลยนะครับ ตามลิ้งค์ที่หน้า10ครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [[กู+มึง=มิตรภาพตลอดไป]] ถ้าอ่านจบแล้วติดตามภาคพิเศษต่อเลยนะครับ ตามลิ้งค์ที่หน้า10ครับ  (อ่าน 93705 ครั้ง)

ออฟไลน์ August_lovers

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
ตามทันละครับ^___^
ว่าแต่นี่เปนนิยายหรือเรื่องจริงอ่ะครับพี่น๊อต???

ความรักแบบนี้ผมก้มีนะ สนิทกัน จนเกิดคำว่าเพื่อน แต่อิกฝากหนึ่งกลับไม่คิดอะไรเลย เจ็บปวดนะครับ T T

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ขอบคุณไอซ์กับเติ้ลนะครับ  ที่ติดตามตลอดเลย  
เรื่องเริ่มน่าติดตามขึ้นแล้ว  พยายามมาอัพเรื่อยๆ อย่าทิ้งนานนักนะครับ  เดี๋ยวแฟนๆ จะหายหมด
พี่ยังคอยเป็นกำลังใจให้นะครับ  :bye2:

ขอบคุณพี่อินนะครับ  ที่ติดตามมาให้กำลังใจตลอดเลยนะครับ  ก็เพราะยังงี้แหละ  ผมเลยยังอยากเขียนต่อนะ
มาต่อเร็วๆนะค้าฟ อิอิ
ตามทันละครับ^___^
ว่าแต่นี่เปนนิยายหรือเรื่องจริงอ่ะครับพี่น๊อต???

ความรักแบบนี้ผมก้มีนะ สนิทกัน จนเกิดคำว่าเพื่อน แต่อิกฝากหนึ่งกลับไม่คิดอะไรเลย เจ็บปวดนะครับ T T

แล้วก็ขอบคุณ คุณGu_Ton_Za กับ August_lovers ด้วยครับ   ที่แวะมาอ่าน  หวังว่าคงจะชอบและติดตามกันต่อไปนะครับ  


ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ
 :pig4: :pig4: :pig4:

spok1234

  • บุคคลทั่วไป

Shin_i_chi

  • บุคคลทั่วไป
แหงะ ทิ้งไว้ให้คิดเองอีกแล้วง่ะ พี่น้อต
ดีน้า ที่อินยังมีเพื่อนให้ระบายอะไรๆให้ฟังได้
ทีแรกอ่านๆไปเกือบจะนั่งน้ำตาซึมละคับ
แต่พออินเจอกะคิม เออ ค่อยยังชั่วหน่อย
อย่างน้อยก็มีเพื่อนที่เราคุยได้ทุกๆเรื่อง
รีบๆมาต่อนะค้าบบ พี่น้อต

ปอลิง ตอนนี้ ปิ๊งตามอ่านช้าไปหน่อยง่ะ เพราะไม่ได้เข้ามาเลย

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
 :z13: อิน กะคิม ดีใจที่มีเพื่อนที่เข้าใจกันเพิ่มมากขึ้น
นะ หัวอกเดียวกันย่อมเข้าใจกันมากขึ้น ดีไม่ดี อาจเป็นชนวนให้ เนกะบอลรู้ใจตัวเองก็ได้
กอดด น็อต มาต่อเร็ว ๆๆ นะ  :กอด1:
ปิ๊ง ปาดดดด

mintza124

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้มากเลยครับ เพราะมันคล้ายๆกับชีวิตผมจริงๆ ห้าๆๆ
เพียงแต่จนบัดนี้ 6 ปีแล้วผมยังไม่เคยบอกมันซักทีว่ารักมันมากขนาดไหน
ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมา แม้ว่าจะห่างๆกันบ้าง แต่ก็ยังเป็นเพื่อนรักกันเสมอครับ เข้าใจความรู้สึกโค่ดๆๆๆๆ
อีกอย่าง มันก้อถ่ายโฆษณาด้วยครับ ห่ะๆ แต่ผมไม่น้ะ หล่อไม่พอ 555555

ชอบเรื่องนี้ม้ากค๊าบบ แล้วจะรอติดตามน๊าา


ผมก็เขียนเรื่องของผมไว้เหมือนกานน๊า เพิ่งเริ่มเรื่องเหมือนกันค๊าบบ อิอิ ^^

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ตอนที่17            

                                 **************

         คืนนั้นผมก็นอนหลับไปได้อย่างปกติ    คิดว่าไอ่คิมเองมันก็คงจะเหมือนกันเพราะเรื่องหนักอกที่เราต้องทนมาตลอดได้ถูกระบายออกไปบ้างแล้ว     ตอนนี้ก็เลยรู้สึกว่าโล่งใจขึ้นพอควร   แต่ยังไงซะผมว่าตัวเองก็คงต้องทนรับอะไรอีกมากนัก   

         เพราะยังไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้ไปผมจะต้องเจออะไรบ้าง   ความเจ็บปวดมันคงยังรอผมอยู่ตรงนั้นอยู่ดีละมั๊ง...........

         พอรุ่งเช้าไอ่คิมมันก็เลยกลับบ้านมันไป    ผมก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูเห็นว่าไอ่เนมันโทรมาหลายมิสคอลอยู่    เลยลังเลนิดนึงแต่ก็ตัดใจโทรกลับไปหามันอยู่ดี

         " เฮ้ย  กูโทรไปตั้งหลายทีทำไรอยู่วะ   ว่าจะชวนไปดูหนังกันนะ   ไอ่คิมมันก็ไม่ว่าง  กูเลยไปดูกะแฟนกูแล้วก็ไอ่บอลเองอ่ะ"    มันโวยผมทันที

         " เออ......   พอดีเครื่องมันรวนอยู่เลยเอาไปให้เค้าซ่อมน่ะ   แล้วมึงมีอะไรรึเปล่าอะ"  ผมแก้ตัวไปอย่างงั้น   เพราะก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออก

         " ก็มีเด่ะ   เดี๋ยวตอนบ่ายๆมาหากูที่บ้านทีดิวะ....  นะๆ  อย่าลืมล่ะ"   มันบอกแล้วก็วางไปเลยโดยที่ผมไม่ทันจะพูดอะไรเลย   เลยได้แต่งงๆอยู่ครับเพราะอยากจะรู้ว่ามันเรียกผมไปทำไม

                     ----------------------------
      
         บ่ายวันนั้นผมก็เลยไปหามันที่บ้าน    พอไปถึงก็เปิดประตูเข้าไปเลย    ในบ้านเงียบมากผมเลยมองหามันว่าอยู่ไหน   

         แล้วอยู่ๆก็ได้ยินเสียงมันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์จากด้านหลัง   พอหันไปก็เห็นมันเดินถือเค๊กที่จุดเทียนไว้ออกมา      ผมเลยยิ้มออกมาเลยนะครับ     ดีใจที่มันไม่ได้ลืมวันเกิดผมไปจริงๆ   ถึงจะช้าไปวันนึงก็เหอะ

         " เอ้า  เป่าเลยๆ  อธิษฐานด้วยนะเว้ย"   มันเร่งผม   ทำให้ผมคิดไปว่าแล้วนี่ผมควรจะอธิษฐานอะไรดีล่ะ   เพราะสิ่งที่ผมต้องการตอนนี้คือ  ผมอยากตัดใจจากมัน     

         นี่ผมจะต้องอธิษฐานแบบนี้จริงๆเหรอ  จะโหดร้ายกับมันไปมั๊ย   ในเมื่อมันเป็นคนเตรียมทุกๆอย่างนี่ด้วยความตั้งใจให้ผมนะ   ซึ่งแสดงว่ามันก็ยังรักยังแคร์ผมมากอยู่จริงๆ   แต่ผมกลับกำลังจะต้องอธิษฐานว่าให้ตัดใจจากมันเนี่ยนะ   

         ผมก็เลยตั้งจิตอธิษฐานไปว่าอย่างน้อยผมขอให้อะไรๆมันดีขึ้นกว่านี้นะ    และขอให้ผมพบทางออกที่ดีสำหรับผมและมันด้วย   ขอแค่นั้นก็แล้วกันแล้วผมก็เป่าเทียนจนดับ

         " เอ้อ....  ดีๆ   กูขอโทษทีนะเว้ยที่ลืมวันเกิดมึงไปเลยเมื่อวานน่ะ   ไอ่บอลมันชวนไปดูหนัง   พอดีกูก็อยากดูเรื่องนี้จะตาย   เลยพลอยลืมไปเลยว่ะว่าเมื่อวานวันเกิดมึง    เลยมาขอแก้ตัววันนี้นะ   อย่าโกรธกูเลยนะเว้ย"    มันบอกแล้วก็ทำสายตาอ้อนวอนผมอยู่    ทำให้ผมมองไปที่สร้อยที่มันใส่อยู่ที่คอ    ซึ่งผมได้ให้มันไว้ตอนวันเกิดมันเหมือนกัน

         นี่มันก็ยังคงใส่ไว้ตลอดสินะ   ตามที่มันสัญญาว่าจะเก็บรักษาไว้อย่างดี    ผมเลยยิ่งรู้สึกได้ว่ายังไงมันก็ยังรักผมอยู่จริงๆ   ถึงตอนนี้มันจะมีแฟนแล้วแต่ระหว่างผมกับมันก็จะยังคงรักกันอย่างนี้ไปได้   ซึ่งผมว่าผมคิดได้แล้วล่ะ

         ผมคงจะค่อยๆทำใจไปอย่างนี้แล้วกัน   เพราะยังไงซะมันก็คือเพื่อนรักผมนี่นะ

         " เออ...   กูไม่โกรธหรอก   มึงก็ยังนึกได้อยู่ดีน่ะ   แค่นี้กูก็ดีใจแล้ว   ขอบใจนะเว้ย"

         " อืม...  แต่ว่าของขวัญน่ะกูติดไว้ก่อนนะ   แล้วกูจะให้มึงอีกทีว่ะ   นะเว้ย..  รับรองว่ามึงต้องถูกใจ"   มันยิ้มบอกแล้วก็มาโอบไหล่ผม   ผมเลยยิ่งอยากรู้นะว่ามันจะให้อะไรผมเนี่ย

                                       -

                                       -

         หลังจากนั้นสองวันมันก็โทรมาบอกให้ผมไปหามันที่บ้านอีกแล้วครับ    ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้นึกอะไรนะ   แต่พอไปถึงมันก็ใส่กางเกงในตัวเดียวที่มีโบว์ของขวัญติดอยู่ที่กางเกงในของมันออกมาหาผมซะงั้น    แล้วก็เปิดเพลงซะดังเลย    ผมเห็นแล้วก็ได้แต่ตกตะลึงจนอ้าปากค้างไป

         " เฮ้ย... นี่เชี่ยอะไรของมึงอีกเนี่ย  ไอ่บ้า   มึงใส่กางเกงในมาทำไม"   ผมเลยด่ามันไป    มันก็หัวเราะใหญ่เลยครับ

         " อ้าว... ก็นี่ไงของขวัญกู   กูมอบกายให้มึงเลยไง  ฮ่าๆ  เห็นป่ะ   มีโบว์ผูกเรียบร้อย    มารับไปดิ  ฮ่าๆๆ"   มันบอกแล้วก็ชี้ไปที่โบว์ที่ผูกอยู่แล้วก็ทำเต้นไปมาเหมือนพวกโชว์ในบาร์เลยครับ    ผมเลยระเบิดหัวเราะออกมาเพราะขำมันสุดๆ

         " โห....  ไอ่เชี่ยนี่  มึง..   คิดได้อีกนะ   แม่ง...  กูคงอยากได้มึงมากเลยนะ   แหม...   มอบกายให้   กูจะอ๊วก   มึงเก็บไว้ให้เมียมึงเหอะว่ะ   กูขอบใจมึงมากกก..ก   ฮะๆๆ"   ผมพูดไปก็ขำไปครับ   ที่มันคิดมุขมาแต่ละมุขนี่   สุดๆจริงๆ   คงไม่มีใครเค้ากล้าทำอ่ะ

         " อ่านะ  มึงทำมาเป็นปฏิเสธกู   หล่อๆเท่ๆอย่างกูอ่ะ   ใครๆเค้าก็อยากได้กันทั้งนั้นนะเว้ย  ฮ่าๆ   แล้วมึงจะเสียดายทีหลัง"   มันว่าแล้วก็อ้อมไปหลังเคาท์เตอร์แล้วก็หยิบกีต้าร์ใหม่เอี่ยมติดโบว์ของขวัญที่มันซ่อนไว้ออกมา

         " อ้ะ...  นี่ของขวัญกู   อันนี้ของจริงว่ะ  ฮ่าๆ  เซอร์ไพร์สมั๊ย   กูไปเดินดูอยู่นานเลย   พอไปเห็นอันนี้กูก็โดนใจว่ะ   รู้สึกมันเหมาะกะมึงมากก็เลยซื้อมา   สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังอีกทีนะเว้ยเพื่อน"   มันเฉลยบอกผม   ผมเห็นแล้วก็มัวอึ้งอยู่  พูดอะไรไม่ออกเลย

         ดีใจจริงๆนะครับตอนนั้น   ที่จริงกีต้าร์รุ่นนี้ผมก็อยากได้มากอยู่แล้ว   เพราะรู้สึกว่ามันจะเป็นรุ่นที่ดีที่สุดและเป็นของที่ประกอบด้วยมือไม่ใช่เครื่องจักร   เรื่องความไพเราะของเสียงนั้นไม่ต้องพูดถึง   มันสุดๆอยู่แล้วครับ   ผมเองก็เคยไปเดินดูที่ร้านอยู่หลายทีเหมือนกัน

         แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือความตั้งใจของมันต่างหากครับ    นี่มันเองก็คงตั้งใจมากๆและนึกถึงผมตลอดนะ  ไม่งั้นมันก็คงไม่ไปสรรหาอะไรที่ผมชอบอย่างนี้มาให้ผมได้   และมันแพงมาก......   ใช่...  มันแพงมากนะ   ผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้

         " เฮ้ย...  เดี๋ยวๆ  แล้วมึงซื้อมาเท่าไหร่เนี่ย   มันแพงจะตายห่านี่หว่ารุ่นนี้อ่ะ"  ผมรีบถามมันอย่างตกใจ   เพราะราคามันหลักหมื่นเลยนะครับ

         " อืม..  มึงไม่ต้องคิดมากน่ะ   ก็กูอยากให้มึงอ่ะ   รุ่นนี้มันเหมาะกะมึงจริงๆนะ   มึงคู่ควรแล้ว   เพราะว่ามันเป็นคุณค่าที่มึงคู่ควร  ฮ่าๆ"  มันบอกแล้วก็ทำท่าทางล้อเลียนผมด้วยสโลแกนโฆษณาของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนึง

         " เฮ้ย...   แต่...."  ผมกำลังจะอ้าปากบอกกับมัน   แต่มันก็ยกมือห้ามไว้ก่อน

         " เออ.... มึงไม่ต้องมาแต่แล้ว   สาด...ด    จะให้เป็นเรื่องไปทำไมวะ   ก็ซื้อมาแล้วอ่ะ   ไม่เห็นต้องคิดมากเลย    ไม่งั้นก็เอามาให้กูเล่นมั่งก็ได้ เอ้า......  มึงนี่   ผลัดกันเอามาเล่นแล้วกัน  ดีมั๊ยอ่ะ"  มันพูดแบบบ่นๆที่ผมเกรงใจมันอีกแล้ว    ผมมานึกดูแล้วก็จริง   ผมไม่ควรไปทำให้มันเสียความตั้งใจนะ   

         เพราะของแพงแบบนี้มันยังเต็มใจให้ผมได้    มันก็จะต้องรักและหวังดีกับผมจริงๆนะ 

         แล้วผมก็ยอมรับครับ   ว่าผมอยากได้กีต้าร์อันนี้มากจริงๆ    แค่เพราะว่ามันให้ผมนี่แหละ

         แต่ต่อให้มันเป็นของกระจอกสักแค่ไหน    ถ้ามันให้ผม   ผมก็ดีใจทั้งนั้นแหละครับ

         และผมก็เลยกอดมันแน่นเลย   ความรู้สึกที่ดีๆเหล่านั้นมันได้กลับมาอีกครั้งนะครับ    ว่าอย่างน้อยมันก็รักผมอย่างเพื่อนที่มันรักที่สุดอยู่ดี    โชคดีนะครับ  ผมว่าผมยังคงรักษามิตรภาพของเราไว้ได้อยู่นะ    โล่งใจไปที............

                                       -

                                       -

         แต่ทว่าหลังจากวันนั้นแล้ว   ผมก็ต้องกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงที่ว่ามันก็ใช้ชีวิตกับแฟนของมันไปอย่างมีความสุขดีอยู่แล้ว      และคงไม่มีที่ว่างสำหรับผมที่จะเข้าไปแทรกได้อีก

         ซึ่งผมก็ยังทำใจไม่ค่อยได้อยู่ดีนะ    แม้ว่ามันก็อยู่แค่ตรงนี้   ตรงหน้าผมนี่อ่ะ   แต่บางทีมันก็กลับกลายเป็นเหมือนว่าอยู่ห่างไกลกันไปซะจริงๆ

         และผมก็ยังต้องทำตัวให้เหมือนเดิมเป็นปกติไปเพื่อไม่ให้มันรู้     ซึ่งมันก็ดูจะยากสำหรับผมจริงๆ    เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผมต้องเห็นมันอยู่กับแฟนมัน   ผมก็ยังต้องทำเป็นเลี่ยงๆหลบๆไปโดยอ้างนั่นอ้างนี่ตามเคย   จนมีบางวันที่ผมหนีไปนั่งอยู่คนเดียวตามที่ต่างๆ    ซึ่งไอ่คิมก็ดูจะเป็นคนเดียวนะที่เข้าใจผมดีที่สุดในตอนนี้

                                       -

                                       -

         วันนี้ก็เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายแล้วครับ    ผมเดินออกจากห้องสอบด้วยความรู้สึกมึนไปหมด   เพราะว่าทำข้อสอบไม่ได้เอาเลย      ซึ่งที่ผ่านๆมาก็พยายามอ่านหนังสือและทำงานส่งอาจารย์มาตลอดนะ   แต่คะแนนมันก็ช่วยอะไรผมไม่ได้เท่าไหร่

         ถึงตอนนี้แล้วผมก็คงได้แต่โทษตัวเองนะครับ   ที่เราทำตัวเราเองแท้ๆ   ถ้าทำใจได้มากกว่านี้   อะไรๆมันก็คงไม่แย่ลงไปอย่างนี้    ผมผิดเองนั่นแหละ..............

         คงถึงเวลาที่ผมคงต้องหาทางสงบใจด้วยการไปอยู่คนเดียวสักพักนะ     นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมแล้วครับ     มันคงเป็นเวลาที่เหมาะที่จะถอยห่างออกมาจากชีวิตมันสักพักนึง    ผมอาจจะทำใจได้ง่ายกว่านะ

         " ห๊ะ....  มึงจะบวชเหรอวะ  ปิดเทอมนี้น่ะ    นึกไงวะ"   ไอ่เนมันพูดซะดังเลย  ทันทีที่ผมบอกมันว่าจะบวชภาคฤดูร้อน

         " แล้วมึงจะเสียงดังทำไมเนี่ย    กูจะบวชแค่นี้ทำไมต้องตกใจซะขนาดนี้    ก็กูจะบวชให้พ่อแม่กูน่ะ  ตั้งใจไว้นานแล้วไง"   ผมบอกเหตุผลมันไปตามความจริง   แต่ไม่ได้พูดต่อว่า  แค่ขอเวลาไปอยู่เงียบๆสักพักแค่ตัวคนเดียว  โดยไม่มีมันนะ...........

         " เออๆ  ก็ดีว่ะ  เฮ้ย  งั้นเอางี้   กูขอบวชด้วยคนดิวะ   ปิดเทอมเวลามันก็เยอะอ่ะ"   มันบอก   แต่ผมสิตกใจมากๆครับที่อยู่ๆมันก็บอกยังงี้      

         " เฮ้ย  มึงจะบ้าเหรอวะ  ไปบวชนะเว้ย   ไม่ใช่ไปเดินสยามกัน   จะได้ง่ายๆอ่ะ   ของยังงี้มันไม่ใช่ว่าอยากทำก็ทำนะเว้ย   มึงช่วยคิดก่อนสักนิดเหอะว่ะ"   ผมห้ามมันทันที    ตกใจนะครับ   ที่มันคิดจะมาบวชอยู่กะผมอีก   ไอ่นี่มันอะไรของมัน  นึกจะทำอะไรก็ทำ  ไม่ค่อยคิดทบทวนให้ดีก่อน   

         และอีกอย่างผมอุตส่าห์หาทางจะห่างๆจากมัน   แต่มันดันจะตามผมมาอีกเหรอนี่

         " เออ...  กูก็รู้ละน่า    แต่กูก็อยากบวชให้พ่อแม่กูมั่งดิวะ   พ่อแม่กูจะได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์ไง   ไม่ดีเหรอ   ทำไมวะคนอย่างกูจะกตัญญูมั่งไม่ได้รึไงวะ    นี่ถ้ากูบวชนะ   พ่อแม่กูน่ะคงดีใจโคตรๆเลย"    ผมเริ่มอึ้งๆไปนิดนึง   และกำลังคิดหาเหตุผลไปห้ามมันอยู่นะครับ

         " กูก็อยากทำเพื่อเค้าบ้างนะ   แล้วก็เผื่อว่าพ่อกูเค้าอาจจะได้เข้าใจกูซะทีอ่ะ   เป็นไง มึงว่าดีมั๊ยล่ะ"   มันบอกผมแล้วก็ยิ้มอย่างมีความหวังมากๆ     ผมเลยยิ่งต้องอึ้งไปอีก   

         จริงอยู่ผมก็ว่ามันคงจะดีมาก   ถ้ามันบวชแล้วพ่อมันก็อาจจะปลื้มใจจนกลับมารักและเข้าใจมันได้ซะที    แต่ว่านั่นก็เท่ากับว่าผมก็ต้องแลกกับความสงบสุขของผมนะ    เพราะมันคงต้องมาอยู่กับผมตลอดอีก

         ถ้าเป็นอย่างนั้นผมจะทำยังไงล่ะ    ผมจะต้องทนบวชอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีความสงบในใจเลยเหรอ....

                                       -

                                       -

         แล้วผมก็เลยต้องมาเตรียมงานบวชของตัวเองและของมันไปด้วย   ซึ่งก็ทำให้ผมยิ่งรู้สึกเหนื่อยใจกับสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตัวเองอยู่อย่างนี้     นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงจะดีใจและมีความสุขมากจริงๆ   ที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อมันอย่างตอนนี้นะ

         แต่ว่าตอนนี้มันกลับกลายเป็นความทุกข์ใจของผมไปซะแล้ว   ทำไมผมถึงโชคร้ายนักที่ไม่ว่าจะคิดทำอะไรก็ต้องเจอกับสภาพที่ไม่มีทางเลือกอยู่อย่างนี้ตลอดเลย     

         ครั้นจะไปห้ามมันก็ทำไม่ได้แล้ว    เพราะว่านี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วที่จะทำให้มันกับพ่อของมันกลับมาเข้าใจกันได้นะ    ผมจึงไม่เหลือเหตุผลอะไรที่จะไปห้ามมันอีกแล้วล่ะ

         เพราะงานนี้ผมดูแล้วว่า   มันตั้งใจมากจริงๆ     ซึ่งพ่อกับแม่ของมันถึงกับลงทุนทิ้งงานที่โน่นบินกลับมาร่วมงานนี้กันทั้งคู่เลยครับ       มันบอกผมว่าพ่อมันก็ดีใจมากๆ   ดังนั้นไม่ต้องไปพูดถึงแม่มันเลยครับว่าท่านจะดีใจแค่ไหน     

                                       -

                                       -

         วันที่พ่อกับแม่ของไอ่เนกลับมาถึงที่สนามบินนั้น    พวกเราสี่คน   มีผม ไอ่เน ไอ่คิมและไอ่บอลก็ไปรับท่านด้วยกันจนบรรยากาศคึกคักเลยครับ     พ่อกับแม่ท่าทางท่านก็ดีใจมาก   เพราะสีหน้าท่านยิ้มแย้มกันตลอดเวลา   

         และสิ่งที่ผมหวังจะได้เห็นมาตลอดผมก็ได้เห็นแล้ว   พ่อไอ้เนยืนสบตากับมันนิ่งๆอยู่นิดนึงก่อนที่จะยิ้มและกอดกับมันแน่น   ไอ่เนก็ร้องไห้ออกมาเลย   มันคงดีใจมากน่ะครับ   ผมเห็นแล้วก็ปลื้มใจไปด้วยนะ

         หลังจากที่งานทุกอย่างถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเราก็เลยมาทำการไหว้ลาบวชกับพ่อและแม่ของมันด้วยกันเลยที่บ้าน     แม่มันก็ปลื้มใจจนร้องไห้เหมือนที่คิดไว้   ส่วนพ่อของไอ่เนก็คงปลื้มมากครับ  แม้ท่านจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็รู้ได้จากสีหน้าและรอยยิ้มของท่านน่ะเองว่าตอนนี้ท่านคงมีความสุขที่สุดแล้วนะ

         แม้กระทั่งผมเองตอนนี้จากที่ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนัก   แต่พอมาเห็นมันและพ่อแม่ของมันมีความสุขอย่างนี้แล้ว   ผมก็พลอยรู้สึกดีไปด้วยเลยนะ    ก็ได้แต่หวังว่าอะไรๆมันก็คงจะจบลงอย่างมีความสุขได้ซะทีนะครับ

                                       -

                                       -

         ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่เราจะบวชกันแล้ว    ผมตื่นมาเตรียมตัวแต่เช้าแล้วออกมาที่ศาลาเพื่อเตรียมความเรียบร้อย   พอสักพักไอ่เนมันก็เดินมาหาผม    มันว่าเดี๋ยวพ่อกับแม่มันจะตามมาทีหลัง    เพราะเค้าจะไปดูเรื่องอาหารที่จะเอามาเลี้ยงพระเพล 

         พอใกล้ฤกษ์บวชของเรา   ผมกับไอ่เนก็เลยเปลี่ยนชุดเตรียมตัวสำหรับพิธีโกนผม   ไอ่คิมกับไอ่บอลมันก็มาด้วยกัน   แล้วก็มาช่วยถ่ายรูปแล้วก็ช่วยทำโน่นทำนี่ให้     งานนี้ก็มีญาติๆและคนสนิทของทางพ่อแม่ไอ่เนอีกแค่ไม่กี่คนครับ    เลยเป็นแค่งานเล็กๆเท่านั้น

         ท่าทางไอ่เนตอนนี้มันก็ยังดูตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ    เพราะตอนนี้เรามานั่งด้วยกันอยู่ที่หน้าศาลาเตรียมให้หลวงตาท่านโกนผมให้แล้วครับ

         " เฮ่ย   นิ่งๆ สำรวมไว้หน่อย   ตื่นเต้นเหรอวะ"   ผมหันไปบอกมัน   มันก็ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร   แล้วก็นั่งนิ่งๆพนมมือต่อไป

         ผมเลยมองไปที่พ่อแม่ของไอ่เนแล้วก็มองไปยังไอ่คิมกับไอ่บอล    ทุกคนก็ยิ้มแย้มกันเพราะชื่นชมยินดีไปกับพวกผมนะ    ผมเลยตั้งจิตนึกไปถึงดวงวิญญาณของพ่อกับแม่ผม   ขอให้ท่านได้รับรู้นะว่าวันนี้ผมได้บวชให้กับท่านแล้ว   และขอให้บุญกุศลทุกๆประการนี้จงทำให้ท่านเป็นสุขด้วยเถิด

         " เอ้า  ขอเชิญคุณพ่อคุณแม่มาตัดผมได้เลยนะโยม"    หลวงตาท่านกล่าวขึ้น     พ่อของไอ่เนก็เลยเดินมารับมีดจากหลวงตา    แล้วท่านก็ไปตัดผมของไอ่เนกระจุกหนึ่ง    ผมก็หันไปดูพ่อมันที่ตอนนี้หน้าตาท่านดูมีความสุขมากและมีน้ำตาคลออยู่    ยิ่งเห็นอย่างนี้แล้วผมก็ยิ่งมั่นใจจริงๆ    ว่าการที่ไอ่เนมันลงทุนบวชครั้งช่างคุ้มเกินคุ้มจริงๆ

         ก็เพราะสิ่งที่มันได้รับตอบแทนมาก็คือความรักและความเข้าใจจากพ่อของมันนี่แหละครับ

         จากนั้นพ่อมันก็มาตัดผมอีกกระจุกนึงให้ผมด้วย    ผมก็นั่งก้มหน้านิ่งๆ  ในใจตอนนั้นก็รู้สึกดีครับ   ว่าพ่อมันก็เหมือนพ่อผมนะ  ท่านคงเอ็นดูผมมากเหมือนกัน     จนผมก็รู้สึกได้ถึงความรักและอาทรนั้นเลย    ส่วนแม่มันก็เหมือนกัน    ท่านก็มาตัดผมให้เราทั้งคู่แล้วก็น้ำตาคลอตลอดด้วยความปลื้มใจไปแหละครับ    แต่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร

         ในขณะที่ไอ่เนนั้นมันยังคงนั่งนิ่งสนิท    น่าแปลกที่ผมรู้สึกเหมือนว่ามันเปลี่ยนไปเลยนะครับ   จากที่เมื่อกี๊มันยังดูตื่นเต้น   แต่ตอนนี้มันกลับสงบนิ่ง   สำรวมมากยิ่งกว่าผมซะอีกนะ 
         
         หลังจากที่หลวงตาท่านโกนผมให้เราแล้ว   ก็เลยเข้าไปทำพิธีต่อในโบสถ์จนเสร็จนะครับ    ระหว่างนั้นไอ่คิมกับไอ่บอลก็ช่วยถ่ายรูปพวกเราเก็บไว้เยอะเลย      มันก็คงดีใจไปกับเราด้วยน่ะครับ     

                              -

                              -
      
         พิธีในวันนี้ทั้งหมดจบลงแล้ว    ญาติโยมก็เลยพากันแยกย้ายกลับบ้านกัน    ขณะนี้ไอ่เน   ไม่ใช่สิครับ  ต้องเรียกว่าเณรแล้วนะ  กำลังเดินออกมาจากโบสถ์   ผมเองก็ไม่คิดนะว่า   คนเราจากที่เคยๆเห็นกันตามปกติก็ไม่รู้สึกอะไรนะ     แต่พอวันนี้ที่ได้เห็นในภาพของความเป็นเณรอย่างนี้แล้ว    กลับดูสำรวม  ดูดีมีสง่าราศรี   และน่าเลื่อมใสอย่างมากเลยนะครับ

         " เออ  เดี๋ยวเราต้องทำอะไรกันต่อล่ะ"   เณรใหม่ยิ้มแล้วเอ่ยถามผม

         " ก็ไม่มีอะไรมาก   เดี๋ยวไปดูสถานที่ก่อนนะ   ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง   กุฏิอยู่ทางโน้นนะ  ท่าน"    ผมกล่าว   แต่เณรก็ดันยิ้มทำหน้าเป็นขึ้นมาอีก

         " อ้าว  แล้วนี่ต้องเรียกท่านเลยเหรอวะ   เออๆ  ก็โอเคอ่ะ   เป็นธรรมเนียมใช่ปะ"   

         " ใช่แล้ว   ควรแทนตัวเองว่าเราด้วยนะ   มันจะได้ดูสำรวมด้วยน่ะ"   ผมอธิบาย

         " ได้ๆ  ตามนั้นนะ   สงสัยน่ากลัวต้องปรับตัวอีกนานเลย  เคยชินกับแบบเดิมๆน่ะ"   เณรใหม่บอกแล้วก็เดินตามผมไปยังกุฏิ    เพราะหลังจากวันนี้เราก็ต้องมานอนด้วยกันที่กุฏิหลังนี้ด้วยกัน     จากนั้นก็เดินไปดูสถานที่ต่างๆกัน   ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนยังไง   ต้องไปฉันท์กันที่ไหน   แล้วก็กลับมาพักกันที่กุฏิ

                        ----------------------

         คืนนั้นเราก็นอนกันในกุฏินั้น     แต่ผมเองนอนไม่หลับเลยครับอาจจะเพราะว่ายังหัวค่ำไม่ดึกเท่าไหร่นะ   แต่อีกสาเหตุนั้นก็เพราะผมยังคงคิดเรื่องของมันอยู่นะ

         ส่วนตัวมันเองก็คงนอนไม่หลับเหมือนกันครับ    ก็คงเพราะนอนดึกกันซะจนชินน่ะ   หรือไม่ก็คงเพราะมันแปลกที่ก็เป็นได้

         " นอนไม่หลับเหรอท่าน"   ผมหันไปถาม

         " อืมๆ  นิดนึง   สงสัยที่นอนมันแข็งน่ะ   เลยเจ็บๆตามตัว"   

         " อ๋อ...  พยายามทนไปก่อนนะ  อีกไม่กี่วันคงชินไปเองน่ะ   รีบนอนก่อนเหอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเลยนะ" 

         " โอเค...   เฮ้อ.... จะว่าไปวันนี้เราดีใจมากจริงๆนะ   ที่เห็นพ่อกับแม่มีความสุขได้ขนาดนั้น   ทำสำเร็จซะที   อุตส่าห์รอวันนี้มาตลอดเลยนะ"    มันยิ้ม

         " อืม  ก็ดีใจด้วยนะท่าน    วันนี้ท่านทำได้ดีมากจริงๆ   ไม่เสียทีที่ได้มาบวชกันนะ   ต่อไปนี้เราก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วล่ะ  ในเมื่อทุกๆอย่างที่ท่านหวังไว้มันก็สำเร็จทุกอย่างแล้วนะ"   ก็คงจะจริงนะครับ  ต่อไปนี้ภาระหน้าที่ที่ผมจะต้องทำให้มันเป็นคนดีให้ได้   ก็คงจบลงซะทีนะ

         " ก็นั่นแหละ    ไม่มีอะไรต้องห่วงก็จริง  แต่ต่อไปเราก็ขอให้ท่านกับเราน่ะ   เป็นเพื่อนรักกันอย่างนี้ตลอดไปเลยนะ    เพราะต่อให้เราจะมีความสุขมากแค่ไหน   แต่มันก็ไม่มีความหมายหรอกนะ   ถ้าไม่มีท่านอยู่กับเราน่ะ   เข้าใจมั๊ย"   มันพูดแล้วก็ยิ้มอย่างเป็นสุขพลางเอื้อมมือมาจับผมไว้   ผมก็หันไปมองสบตากับมัน 

         นี่มันคงไม่รู้ตัวหรอกนะ    ว่าสิ่งที่มันพูดนี้กำลังจะเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ผูกมัดผมไว้กับมันอีกแล้ว.........
   
                           ****************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2010 21:54:16 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ August_lovers

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
T T
หนีไม่พ้นจิงๆซินะ เจ็บแทนครับ

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
"ใน ทุก ๆ คำ พูด นั้น

แฝง ไป ด้วย อะ ไร หลาย อย่าง

ที่ มี ความ ห่วง ใย และ 'รัก' ไม่ เคย เปลี่ยน"

ได้ สงบ กัน สัก หน่อย เผื่อ อะ ไร ๆ จะ ดี ขึ้น ^^

veerapat19691

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Gu_Ton_Za

  • บุคคลทั่วไป
 :impress2:

ยิ่งอ่านยิ่งติดอ่ะ

มาลงไวไวนะค้าฟ ^^

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งนานแระ พอเข้ามาอ่านอีกที ก็อินไปกับเรื่องได้อีก
ถึงน้องน็อตจะเคยพูดออกตัวว่าเขียนไม่เก่ง
แต่ยังไงๆ ก็เป็นเรื่องเล่าที่น้องน็อตทำให้คนอ่านอินได้ก็แล้วกันแหละ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
^
^
^

ถูกต้องนะคร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาบ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ยิ่งแก้ ปมมันก็ยิ่งพัน คิดแล้วหนักใจแทนจริงๆ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ต้องขอบคุณทุกๆคนที่แวะมาอ่านมาให้กำลังใจกันตลอดเลยนะครับผม

โดยเฉพาะพี่แก้วกับเจ๊นัทนี่ต้องคารวะเลย  เพราะคอยมาช่วยแนะนำบ่อยๆนะครับ o1

นอกนั้นก็ต้องขอบคุณผู้อ่านทั้งเก่าและใหม่ทุกๆคนนะครับที่มาติดตามตลอดนะ
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณจริงๆครับผม

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
หลังจากที่ได้ติดตามกันมาเรื่อยๆนั้นผมก็ไม่แน่ใจนะครับ  ว่าเพื่อนๆพี่ๆที่ติดตามอยู่พออ่านมาถึงตอนที่แล้วนั้นจะรู้สึกยังไงบ้าง

ไม่รู้ว่าจะมีใครอินจนรู้สึกว่านอยด์ๆไปบ้างรึเปล่า   แต่ก็อย่างที่บอกนะ  ว่าอย่าคิดมากเลยครับ

แม้ว่าผมก็ไม่กล้าคิดหรอกว่าเราจะเขียนเก่งจนคนอินได้ขนาดนั้น  

แต่ก็ยังมีแอบห่วงนิดนึง  ก็อย่าไปคิดมากเลยนะครับ

เพราะไม่ว่านี่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่   ก็อย่าไปยึดกะมันเลยครับ  อ่านเล่นเฉยๆก็พอเนอะ o13

ตอนที่18
            
                                                              **********

         เช้าวันรุ่งขึ้นผมเลยรีบปลุกมัน   แต่มันก็งัวเงียอยู่เลยรอสักแป๊บมันก็ลุกขึ้นมาโดยดีแล้วเราก็เลยออกมาเตรียมตัวเพื่อออกไปบิณฑบาตกัน    ซึ่งตัวผมเองนั้นเคยชินกับการที่ได้ตามหลวงตาท่านไปบิณฑบาตอยู่เสมออยู่แล้ว   ผมก็เลยรู้ขั้นตอนต่างๆดี

         แต่สำหรับมันที่ยังไม่เคยเลย    แม้แต่แค่จะใส่บาตรมันอาจจะยังไม่รู้ขั้นตอนเลยด้วยมั๊งว่าต้องทำอะไรยังไงบ้างนะ    แต่ดูจากท่าทีมันผมว่ามันก็ตั้งใจดีมากๆอยู่แหละ  

         พอเราเดินออกไปกันก็ได้พบว่าพ่อกับแม่ของไอ่เนมายืนรออยู่แล้วตรงใกล้ๆกับตลาดซึ่งไม่ห่างจากวัดน่ะเองครับ   คงเพราะท่านต้องการมารอใส่บาตรอยู่แล้ว   ไอ่เนมันเลยหันมายิ้มกับผมนิดนึงแล้วก็เดินเข้าไปรับบาตรกัน    

         ตอนนั้นพ่อกับแม่ท่านคงดีใจมากนะครับ   ในที่สุดก็ได้ใส่บาตรให้ลูกชายแล้ว    จนผมก็คิดเอานะ   ว่าสำหรับคนเป็นพ่อแม่แล้วนี่ก็คงเป็นอีกวันที่จะปลื้มใจมากที่สุดแล้วน่ะ

                                                    -

                                                    -

         หลายวันผ่านไปเราก็ยังคงอยู่ด้วยกัน   ปฏิบัติธรรมกันไป   ผมเองได้เห็นความตั้งใจของมันแล้วก็รู้สึกดีครับ    ที่เราปล่อยให้มันมาบวชครั้งนี้นะ    และตอนนั้นเองผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนว่าวันเก่าๆมันได้ย้อนกลับมาอีก   ความรู้สึกที่ดีๆเพราะมีมันอยู่เคียงข้างเริ่มเกิดขึ้นกับผมอีกครั้ง     คงเพราะว่าผมได้อยู่กับมันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาเลยนั่นเอง

         แต่พอมาคิดว่าถ้าสึกออกไปแล้วมันก็คงต้องกลับไปมีชีวิตของมันเองเหมือนเดิมอยู่ดี     ก็เลยทำให้ผมรู้สึกว่าจิตใจมันไม่สงบเอาเลยนะครับ   ทั้งๆที่เราบวชอยู่อย่างนี้แท้ๆ  

         นี่ผมคงบาปนะ   ที่บวชอยู่แต่ตัดรักโลภโกรธหลงไม่ได้อย่างนี้    หรือว่านี่มันจะเป็นเวรกรรมของผมเองจริงๆนะ..........

                                           -

                                                              -
 
         ใกล้ครบกำหนดหนึ่งเดือนของการบวชแล้ว    ผมเองสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างนึงของมัน คือ มันจะดูนิ่งและใจเย็นลงมากนะครับ    จากที่เคยจะใจร้อน  โผงผาง   ไม่รอบคอบ   แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปเลย    ก็คงเพราะบทเรียนจากการบวชนี้นะครับ   ที่ช่วยทำให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไปอีกขั้นแล้ว

         คราวนี้ผมว่าผมก็คงหมดห่วงมันได้แล้วจริงๆน่ะ   เพราะต่อไปมันก็คงใช้ชีวิตของมันไปได้อย่างดีแล้ว   ในเมื่อครอบครัวของมันก็กลับมาอบอุ่นได้เหมือนเดิมแล้วด้วย

         และต่อไปนี้แม้มันจะไม่มีผมแต่ความรักจากพ่อแม่และแฟนของมัน    ก็คงแทนที่ผมได้เป็นอย่างดีแล้วล่ะ   เพียงเท่านี้บทบาทของเพื่อนอย่างผมมันก็คงจะจบลงซะทีนะ

         ถึงแม้ผมจะอดใจหายไม่ได้ที่ในใจมันตอนนี้คงไม่มีที่ว่างสำหรับผมอีกแล้ว   แต่ก็ไม่เป็นไรนะ   ผมก็หวังแค่อยากมองมันอยู่ไกลๆอย่างนี้แหละ   ในฐานะเพื่อนที่รักมันเสมอนะ  

         เพราะผมจะขอรักษาคำพูดของผมเสมอ     ว่าผมจะไม่มีวันทิ้งมันนะ..............................

                                                                  -

                                                                   -

         และแล้ววันลาสิกขาของพวกเราก็มาถึงตามฤกษ์ที่กำหนดไว้นะครับ     เราทำพิธีในโบสถ์กันช่วงเช้าแล้วก็มาเลี้ยงพระเพลคล้ายๆกับตอนที่เราบวชนะ   ซึ่งวันนี้ไอ่คิมกับไอ่บอลมันก็มาช่วยกันถ่ายรูปอีกครับ

         หลังจากที่ได้มีพิธีกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว   ผมเองกลับรู้สึกเหนื่อยๆยังไงไม่รู้ครับ   เลยแยกตัวกลับไปที่ห้องเดิมของผมที่กุฏิแล้วปิดห้องนั่งอยู่เงียบๆคนเดียว

         ใจผมนั้นรู้สึกล้าไปหมด   เหนื่อยที่ต้องทำตัวให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไร   ซึ่งมันขัดกับสิ่งที่ผมรู้สึกจริงๆ   แล้วนี่ผมยังต้องฝืนอย่างนี้ต่อไปอีกนะ   ผมจะทำยังไงดี  

         ขณะนั้นเองตาผมก็มองไปที่เสื้อที่มันเซ็นให้ผม    คำๆนั้นมันก็ตอกย้ำผมซะจริงๆ   ว่าก็เราคงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น    เพราะถึงวันนี้ผมรู้ตัวแล้วครับ   ว่ายังไงซะผมก็คงทำใจไม่ได้แน่ๆที่จะกลับไปเป็นแค่เพื่อนกับมัน    ในเมื่อผมรักมันจนเกินเลยไปขนาดนี้แล้ว

         มองไปที่รูปถ่ายของผมกับมัน    และกีต้าร์ที่มันอุตส่าห์ซื้อให้ผมทั้งๆที่แพงอย่างนั้น    สิ่งเหล่านี้ผมจะขอเก็บมันเอาไว้ตลอดไป   ผมจะไม่มีวันลืมเลย

         แล้วผมก็เก็บเสื้อกับรูปถ่ายเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า   แล้วก็เอากีต้าร์ของมันเก็บใส่กระเป๋ากีต้าร์ไว้แล้วเอาไปวางไว้ที่มุมด้านในของตู้เสื้อผ้านั้น

         ก็คิดนะครับ   ว่านี่ผมต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ    แต่ก็จะทำยังไงได้ละครับ   ในเมื่อตราบเท่าที่ต้องเห็นของเหล่านี้   มันก็ยิ่งตอกย้ำให้ผมเสียใจทุกครั้งไปจริงๆ    ผมล้ากับมันเต็มทีแล้วล่ะ

         แล้วผมก็ได้แต่ทรุดตัวลงนั่งที่เตียงนิ่งๆอยู่อย่างนั้นนานทีเดียว   ในใจก็คิดไปว่า  วันพรุ่งนี้ผมจะทำยังไงนะ   ผมจะหาทางห่างออกมาจากมันได้ยังไงโดยที่ไม่ให้มันรู้ว่าผมเปลี่ยนไปแล้ว   แล้วยังจะวันต่อๆไปอีก  

         ผมไม่อยากนั่งรอความเจ็บปวดที่จะมาหาผมในแต่ละวันอย่างนี้เลยนะครับ    เพราะผมก็ไม่รู้ว่าผมจะทนได้นานสักแค่ไหน

         ตอนนี้ผมอยากจะเข้มแข็งให้ได้อย่างไอ่คิมมันจริงๆครับ   รู้ซึ้งเลยนะว่ามันต้องเจ็บช้ำแค่ไหนที่ต้องทนอยู่อย่างนั้น

         นี่ขนาดผมแค่เริ่มผมยังแย่ขนาดนี้เลย   แต่ยังไงซะผมก็จะทำให้ได้แล้วกัน

         เพราะก็คงไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้แล้วนะ....................

                                                            -

                                                                -   

         วันนี้เปิดเทอมแล้วครับ   พวกเราทั้งสี่คนก็กลับไปเรียนกันตามปกติ   ปีนี้พวกเราก็เป็นรุ่นพี่ปีสองกันแล้วล่ะ   จะได้มีรุ่นน้องกับเค้าแล้วครับ   และที่ผ่านมาเกรดผมก็ไม่ดีจริงๆนั่นแหละ   เกือบตกไปหลายวิชาเลย  

         ทุกๆอย่างก็ดูเหมือนว่าจะกลับไปเป็นปกติเหมือนเดิมอีกครั้งนะครับ    เพียงแต่ว่าที่เปลี่ยนไปคือ  ไอ่เนมันไม่ค่อยได้ไปไหนกับแฟนมันอีกแล้วนะ   กลับมาขลุกอยู่แต่กับพวกผมตลอดเลย   ซึ่งหลังๆมานี้จะว่าไปผมก็ไม่ได้เห็นเค้ามากับมันอีกเลยด้วยซ้ำ

         จนวันนึงผมได้เห็นแฟนมันเดินมากับนักศึกษาชายอีกคนท่าทางก็สนิทสนมกันมากด้วย    แล้วเค้าก็พากันขึ้นรถไปด้วยกันแล้วขับออกไป     ซึ่งผมเห็นแล้วก็ได้แต่แปลกใจว่านี่มันยังไงกัน

         " เฮ้ย  ไอ่เน  ทำไมเดี๋ยวนี้กูไม่ค่อยเห็นเกตแฟนมึงเลยวะ   ทำยังกะเลิกกันไปแล้วงั้นแหละ"   ผมแกล้งถามมันไป  ใจนึงก็ไม่ค่อยแน่ใจจริงๆครับ   ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นแน่

         " ก็ เออ  เค้าเลิกกะกูแล้วล่ะ   มึงเข้าใจถูกแล้วว่ะ"   มันตอบผมด้วยน้ำเสียงที่เรียบมากเหมือนกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา   แต่ผมสิอึ้งไปเลย

         แวบนึงก็เหมือนดีใจครับ  ที่มันเลิกกับเค้าไปแล้ว   ในใจมันก็คงเหลือที่สำหรับผมได้    แต่ถ้ามันกลับมารักผมก็เท่ากับว่ามันต้องกลายเป็นเกย์ไปนะ    ผมจะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นเหรอ

         " เฮ่ย  เหม่ออะไรวะ   แค่กูว่าเลิกกันแล้วแค่นี้   ทำเป็นอึ้งเลย"  

         " อ๋อ   เออๆ  ก็กูตกใจน่ะ   ทำไมเลิกกันง่ายๆวะ   ไม่เห็นบอกอะไรกูเลย   นี่ถ้าไม่ถามกูก็คงยังไม่รู้อ่ะ"   ผมต่อว่ามัน

         " ก็กูก็กำลังจะบอกมึงแหละ   แต่มึงมาถามกูซะก่อนนะ"   มันพูดอย่างยิ้มๆ   ไม่ได้มีอาการของคนที่เพิ่งจะเลิกรากับคนรักเลย  

         " อ้าว  แล้วตกลงทำไมถึงเลิกกันอ่ะ"   ผมนึกสงสัยว่าจริงๆจะเพราะว่าแฟนมันไปมีคนอื่นรึเปล่านะ    เพราะไอ้ที่เราเห็นมันน่าจะเป็นอย่างนั้น    แต่แล้วแล้วคำตอบของมันก็ทำให้ผมประหลาดใจไปนิดนึง

         " อืม  ก็ไม่รู้นะ   กูเหมือนเบื่อๆว่ะ   ผู้หญิงนี่มักจะเอาแต่ใจเหรอวะ   นี่กูต้องคอยตามใจทุกอย่างเลยนะ   จะเอาอย่างนั้นอย่างนี้   ไม่ไหวมั๊งกู   คนอย่างกูอ่ะ   ชอบให้คนเอาใจแต่ไม่ชอบเอาใจใครหรอกว่ะ"

         " อืม ก็นั่นดิ   กูก็รู้แหละว่ามึงก็เป็นซะอย่างนี้อ่ะ   แต่.... แล้วนี่มึงไม่เสียใจอะไรเลยเหรอวะ    มึงเพิ่งเลิกกันนะเว้ย"   ใช่ครับ   ผมยังคงแปลกใจในท่าทีของมันอย่างนี้

         " ก็ไม่รู้อีกแหละว่ะ    สงสัยจริงๆแล้วกูคงไม่ได้รักเค้าจริงๆหรอกมั๊ง   ตอนแรกกูก็แค่คิดนะ   ว่าการที่กูไปชอบเค้าก็หมายความว่ากูคงไม่ได้เป็นเกย์แล้วจริงๆ   ซึ่งมันก็คงดีแล้ว   เพราะกูก็ไม่อยากให้มึงเป็นเกย์ไปกะกูด้วยน่ะ   เลยคิดว่าถ้ากูมีแฟนซะ   มันอาจจะเบรคไอ้ความรู้สึกที่เราเป็นกันอยู่ไปได้นะ"

         " ขอโทษนะเว้ยที่กูไม่ได้บอกมึงก่อน  กูก็แค่อยากลองดูน่ะ   แต่พอเอาจริงๆแล้ว   กูก็รู้แล้วล่ะว่าชีวิตนี้กูคงไม่มีใครรักและเข้าใจกูได้ดีเท่ามึงแล้วนะ"  มันบอกแล้วก็เอื้อมมือมากุมมือผมไว้   แววตาของมันก็ยังคงมีแต่ความรักที่มาต่อผมนะ  

         ที่จริงแล้วผมควรจะดีใจอย่างที่สุด   ที่ผ่านๆมาผมเข้าใจมันผิดไปเอง   แท้จริงแล้วมันก็รักผมถึงได้ทำเพื่อผมอย่างนั้น   มันก็คงไม่อยากให้ผมเป็นเกย์นั่นแหละ  ถึงได้หาทางที่จะหลีกออกไปเองทั้งที่ก็ยังรักผมเหมือนกัน

         แต่ตอนนี้ด้วยเหตุผลเดียวกันนั้น   ผมก็ทำให้มันเป็นเกย์ไม่ได้เหมือนกันแหละครับ    และผมไม่อาจจะรับรักมันได้เลย    ก็เพราะไม่ว่ายังไงเราก็จะกลับไปรักกันแบบนั้นไม่ได้อีกแล้วนะ

         ตอนนั้นผมอยากจะร้องตะโกนออกมาดังๆ  ว่าทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ  โชคชะตาต้องโหดร้ายกับผมอย่างนี้เลยเหรอ............

         ถ้างั้นผมเองก็คงต้องทำใจแล้วจริงๆนะ    ระหว่างเราไม่ว่ายังไงก็ต้องให้จบแค่ที่คำว่าเพื่อนแหละครับ   ผมไม่ต้องการให้มันเกินกว่านี้แล้วจริงๆ

         แล้วนี่ผมจะต้องทำยังไงกันล่ะ   ถึงจะให้มันเข้าใจได้ว่าผมอยากให้เรากลับมาเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ

         " เฮ้ย   อืม..... คืองี้นะ   กู...."  ผมบอกมันไปอย่างยากเย็นเพราะลังเลจริงๆนะครับ  ในใจก็คิดว่าผมจะหาเหตุผลอะไรมาบอกมันดีนะ

         แล้วตอนนั้นเองไอ่คิมมันก็กำลังเดินเข้ามาหาเราพอดีเลยครับ   แต่ไอ่เนมันคงยังไม่เห็นเพราะมันหันหลังอยู่

         " เอ่อ... คือ  ตอนนี้นะ   กู...  กูรักไอ่คิมมันน่ะ"   ผมอ้างเหตุผลที่เพิ่งนึกขึ้นมาได้อย่างไม่มั่นใจนัก   แต่ก็ดูจะเป็นสิ่งเดียวที่นึกได้ตอนนี้นะ    ซึ่งไอ่คิมมันก็เข้ามาได้ยินเข้าพอดีมันเลยยืนตัวแข็งอยู่ข้างๆนั่นเอง

         ส่วนไอ่เนมันมันก็คงตกตะลึงเลยจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น    แต่ผมก็ไม่รู้จะทำไงนะ   พูดออกไปแล้ว

         " คือว่า   กูมาคิดๆดูแล้ว   ตอนนี้กูชอบมันจริงๆว่ะ   ที่ผ่านๆมากูกับมึงคงเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบนึงของเรานะ    ถ้ามึงลองคิดดูดีๆมึงคงเห็นเองว่ายังไงจริงๆแล้วมึงก็ไม่ใช่เกย์นี่หว่าแล้วจะมารักกะกูแบบนี้ได้ไงล่ะ   แล้วยังพ่อกับแม่มึงอีกนะ   เค้าจะเสียใจนะเว้ย  ถ้ามึงจะเป็นเกย์น่ะ"  ผมยังคงอ้างเหตุผลบ้าๆที่พอจะนึกขึ้นมาตอนนั้นได้     แล้วก็มองตาไอ่คิมอย่างขอร้องให้มันรับสมอ้างไปก่อน    ซึ่งก็ดูเหมือนว่ามันจะเข้าใจดีและปล่อยให้ผมพูดต่อไป

         " เพราะงั้นมึงคงเข้าใจกูนะ   ต่อไปเราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะเว้ย  เหมือนที่เราสัญญากันอ่ะ   ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไง"  ผมยังคงพูดต่อไปแล้วก็ทำเป็นตบไล่มันเบาๆ  แต่ก็ไม่ไหวแล้วครับ   การต้องพูดอะไรที่มันฝืนใจที่สุดอย่างนี้มันทรมานจริงๆ

         ก็คงเหมือนมันตอนนี้ที่พูดอะไรไม่ออกแม้สักคำ   มันคงช๊อคมากๆที่ผมบอกมันไปแบบนี้    จนผมทนดูมันเสียใจต่อไปไม่ไหวแล้ว

         แต่ถึงตอนนี้ผมจะห่วงมันแค่ไหนผมก็คงต้องทำ   เพราะมันจะได้ตัดใจจากผมซะที    เพราะไม่อย่างนั้นมันก็คงต้องกลายเป็นเกย์ไปเพราะผมแน่ๆ     และวันนี้จะเป็นวันที่มันต้องเจ็บแต่มันคงจะจบลงไปแค่วันนี้แหละครับ

         เพราะหลังจากนี้คนที่จะต้องเจ็บต่อไปก็จะเป็นผมเองนะ   แต่ผมก็จะยอมทนเพื่อมัน.........

                                                                  -

                                                                  -

         แล้วผมก็ต้องรีบเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วก้าวขึ้นไปบนตึกเรียนพร้อมกับไอ่คิมเลย   โดยที่ทิ้งมันไว้อย่างนั้น   แม้จะรู้ดีครับว่าเป็นการทำร้ายมันอย่างแรงจริงๆ    จนผมก็ต้องบอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งหันกลับไปนะ

         เพราะถ้าหันกลับไปตอนนี้แม้แว่บเดียวผมก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน.............

         " เฮ้ย   นี่มึงทำอะไรของมึงวะ    ทำไมไปบอกมันยังงั้นล่ะ"   ไอ่คิมรีบถามผมทันทีที่เดินมาห่างพอสมควรแล้ว

         " เออ  กูขอโทษมึงด้วยว่ะ   ต้องดึงมึงมาเกี่ยวจนได้นะ   แต่กูไม่รู้จะทำไงแล้วน่ะ   เออ  เดี๋ยวนะ"  ผมบอกมันแล้วก็เดินออกไปมองไอ่เนมันที่ระเบียงตึก  

         มันก็ยังคงนั่งก้มหน้านิ่งเอามือกุมหัวอยู่ตรงนั้น   ผมได้แต่ภาวนาว่านั่นคงไม่ใช่ว่ามันร้องไห้นะ   ตอนนั้นผมก็เริ่มใจเสียไปหมดแล้ว  ว่านี่ผมทำอะไรลงไปนะ    

         แต่ขณะที่ผมกำลังจะเดินกลับลงไปหามันนั้น   ก็พอดีไอ่บอลมันเดินเข้าไปหาไอ่เนพอดีเลยครับ   เหมือนกับว่าโชคช่วยผมไว้จริงๆนะ   ผมเลยหยุดยืนดูมันสองคนอยู่ตรงนั้นกับไอ่คิม   และดูเหมือนกับว่าไอ่บอลมันกำลังพูดปลอบใจไอ่เนมันอยู่นะ   แล้วพอสักพักมันสองคนก็เดินออกไปด้วยกัน

         ผมเองเลยโล่งใจไปหน่อยนึง   แต่ในใจก็ยังกลัวแหละครับ   กลัวว่าถ้าไอ่เนมันเสียใจขนาดนี้มันอาจจะคิดทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้ง่ายๆ    แต่ถ้าตอนนี้ไอ่บอลอยู่กับมันแล้วก็คงจะไม่เป็นไร  เพราะไอ่บอลมันคงพอจะช่วยปลอบใจมันไปได้บ้างนะครับ

                                                                    -

                                                                  -

         บ่ายนั้นผมกับไอ่คิมก็ยังต้องไปเข้าเรียนกันต่ออีกครับ    ผมเองยังคงห่วงมันอยู่ก็เลยโทรไปย้ำไอ่บอลมันว่าให้ช่วยดูไอ่เนให้ด้วย  มันก็ได้แต่งงๆ  ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกที

         ทั้งชั่วโมงเรียนนั้นผมเรียนอะไรไม่รู้เรื่องเลย    เป็นห่วงมันไปต่างๆนาๆและเริ่มโทษตัวเองว่าไม่น่าทำแบบนี้เลยจริงๆ   ผมคิดผิดไปแล้วที่ไปทำร้ายมันอย่างนี้   จนตอนนี้ผมก็ทนไม่ไหวแล้วเลยต้องขออนุญาตอาจารย์ไปห้องน้ำหวังจะสงบสติอารมณ์ซะก่อน

         พอเดินเข้าไปในห้องน้ำผมก็รีบล้างหน้าเลยเพราะหวังว่ามันคงพอจะช่วยผมให้สดชื่นขึ้นมาได้มั่ง    แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย  ผมไม่ได้ดีขึ้นเลยสักนิด

         หนำซ้ำไอ้ความรู้สึกผิดนั้นมันยิ่งวิ่งไปมาในหัวผมจนผมสับสนไปหมดแล้ว..........

         มันเหมือนกับว่าความเจ็บปวดมากมายมันโหมประดังมาที่ผมจนผมก็ทนไม่ไหวอีกแล้วนะ   เลยค่อยๆทรุดตัวลงไปที่อ่างล้างหน้านั้นแล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะทนแล้วจริงๆ

         จะว่าไปแล้วคนเราแค่ตัวเองอกหักมามันก็น่าเสียใจมากพออยู่แล้ว     แต่ที่ผมได้ทำลงไปนั้นมันเท่ากับว่าผมหักอกทั้งมันและตัวผมเองไปพร้อมกันเลยนะ

         อย่างนี้แล้วคงไม่ต้องบรรยายความเสียใจของผมตอนนี้แล้วล่ะ................

                                                              -

                                                             -

         ผมยังคงนั่งกองอยู่กับพื้นอย่างนั้นโดยไม่ได้กลัวว่าใครจะมาเห็นเลย  แต่แล้วก็มีมือจากด้านหลังมาจับที่ไหล่ของผมไว้เบาๆผมเลยหันไปมอง  เป็นไอ่คิมน่ะเองครับ   ผมก็เลยโผกอดมันไว้แล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างมากมายเลยครับ   มันเลยนั่งลงข้างผมแล้วก็ลูบหลังและไหล่ผมไปอย่างนั้น

         " กูเห็นมึงออกมาก็เลยเป็นห่วงนะ   มึงร้องไห้ไปเหอะว่ะ   เผื่อจะดีขึ้นมั่ง   กูเข้าใจมึงดีนะ   และก็จะอยู่กะมึงนี่แหละ"   มันบอกผมที่ข้างหู   ผมก็เลยร้องไห้กับมันอยู่อย่างนั้นอีกแป๊บนึง  จนก็รู้สึกดีขึ้นมากที่ได้ระบายออกไปอย่างนี้นะ    แล้วมันก็ดึงมือให้ผมลุกขึ้นและกลับไปที่ห้องเรียนเพราะออกมากันนานแล้ว

         นี่ผมยังคิดนะว่ายังไงผมก็ยังโชคดีจริงๆที่มีไอ่คิมคอยอยู่เป็นเพื่อนผมอย่างนี้     นี่ถ้าผมต้องทนอยู่คนเดียวผมจะทำยังไงกัน   ป่านนี้ผมคงได้เตลิดไปถึงไหนๆแน่

         ก็ได้แต่นึกขอบคุณไอ่คิมมันนะครับ    ที่มันไม่เคยคิดจะทิ้งผมไปไหนเลย     แต่ผมสิ   ผมกลับผิดสัญญาของผมจนได้นะ  ที่ว่าผมจะไม่ทิ้งไอ่เนมันไปน่ะ

         พอคิดอย่างนี้แล้วแม้แต่ผมเองก็ยังรู้สึกเกลียดตัวเองเลยนะครับ................ผมไม่น่าทำอย่างนี้กับมันเลยจริงๆ

                           ****************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2010 13:46:12 โดย Goodfellas »

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ น่า พูด แบบ นี้ ไป เลย

เน อาจ จะ เข้า ใจ ความ รู้สึก ตัว เอง แล้ว หละ

เฮ้อ!!


veerapat19691

  • บุคคลทั่วไป
อินทำงี้กับเนได้ไง

ทำร้ายความรู้สึกของทั้งคู่เลย




รอๆๆๆๆตอนต่อไป

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

Gu_Ton_Za

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะยังติดตามต่อไปเช่นเดิมนะครับ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ความสับสน การคาดการณ์ไปต่างๆนาๆ ทำให้คนเสียคนมามากแล้ว อยู่กับปัจจุบันแล้วเปิดใจรับมันจะดีกว่าไหม

yayee2

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ August_lovers

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ต้นเหตุของความเสียใจ

คือไม่เข้าใจ

คิดเอาเองแต่เพียงฝ่ายเดียว

หนีอะไรก็หนีพ้น

แต่จะหรีหัวใจตัวเองได้จริง ๆหรือ

Shin_i_chi

  • บุคคลทั่วไป
T^T เศร้าง่ะ พี่น้อต ทำร้ายจิตใจปิ๊ง ฮือๆ
สงสารเนอ่ะ จริงๆแล้ว ที่เนพูดว่าเลิกกะแฟน แล้วบอกว่าไม่มีใครมาแทนอินได้น่ะ
หมายความว่า เนอยากจะอยู่กะอินตลอดไปรึเปล่าง่ะ
แต่อินก็หวัีงดีกับเน ยังไงๆก็ไม่น่าไปบอกแบบนั้นเลย

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1

Gu_Ton_Za

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
:เฮ้อ: อินคิดมากจริง ๆๆ


คิดมากเหมือนคนเขียนนี่แหละ  :laugh:


หลังๆจากนี้ก็คงมาลงนิยายอย่างเดียวดีกว่ามั๊ง

ไม่ประสบความสำเร็จกับการคุยกะใคร อิอิ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
มาละคร้าบทุกท่าน o14   ตอนนี้เป็นตอนรองสุดท้ายของทั้งหมดแล้วนะ

ดีใจกันมั๊ยครับ  ที่เรื่องราวก็ใกล้จบแล้วนะ

แต่ผมเองกลับยังไม่ค่อยอยากให้จบเลยอ่ะ  ไม่อยากให้เรื่องนี้ย้ายไปบอร์ดนิยายที่จบแล้วเลย

กลัวจะไม่มีใครตามไปอ่านแล้วอ้ะ   แต่พอมาคิดอีกทีก็รู้สึุกว่าอาจมีบางคนเค้าชอบอ่านนิยายจบแล้วมากกว่านะ

งั้นก็อดใจรออีกนิดนะครับ  ต่อจากตอนนี้ก็เป็นตอนจบของเรื่องแล้ว

รอลุ้นกันอยู่ใช่มั๊ยครับ..... :teach:

ตอนที่19            

                        *****************

         พอเย็นวันนั้นด้วยความที่ผมเป็นห่วงมันมากๆแต่ว่าตอนนี้ผมก็ไม่กล้าพอที่จะโทรไปหามันเลย   มันกลัวไปหมดไม่รู้จะพูดอะไรกับมันและไม่รู้ด้วยว่ามันจะโกรธผมมั๊ย  แต่ก็แน่ล่ะผมทำกับมันขนาดนี้ก็สมควรแล้วที่มันจะโกรธจะเกลียดผมนะ

         ผมก็เลยต้องโทรไปหาไอ่บอลมันแทน    เพราะไม่รู้จะทำยังไงแล้ว  แค่อยากรู้ว่าตอนนี้ไอ่เนมันทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ

         " เออๆ  เมื่อกี๊มันชวนกูไปบ้านมันน่ะ   ซื้อเบียร์ไปเพียบเลยสงสัยมันกะเมาเต็มที่   กูก็ว่าจะไปปรามๆมันว่าอย่ากินเยอะนะ   แต่แม่งอ่ะ  ไล่กูออกมาเลยแล้วบอกอยากอยู่คนเดียวว่ะ   กูเลยต้องถอยออกมาเนี่ย   ตกลงนี่มันอกหักเหรอวะ   เอ..  แต่กูว่ามันก็เลิกกะเค้ามาพักนึงแล้วนี่หว่า   ทำไมมันความรู้สึกช้าจังอ่ะ"   มันรายงานทุกอย่างให้ผมฟัง   ทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงมันเข้าไปอีก

         " โอเคๆ  ขอบใจว่ะไอ่บอล   งั้นเดี๋ยวกูจะไปดูมันเองนะ"   ผมว่าแล้วก็วางหูไป   จากนั้นก็รีบไปหามันที่บ้านเลยครับ

         พอผมไปถึงผมก็ไขกุญแจที่ผมมีอยู่เปิดประตูเข้าไปเลยครับ   หันไปมองจนทั่วก็เห็นมันนอนไม่ได้ใส่เสื้อสลบเหมือดอยู่ตรงระเบียงบ้านนั่นเองครับ     ผมตกใจมากๆเลยรีบวิ่งไปดูแล้วเรียกพลางเขย่าตัวมันไปมา   แต่ก็พบว่ามันแค่หลับไปเท่านั้น    มองรอบๆตัวมันก็เห็นมีกระป๋องเบียร์เปล่าวางอยู่ตั้งหลายกระป๋องเลย   เลยโล่งใจไปหน่อยว่านี่มันคงแค่เมาหลับไป

         แล้วผมก็พยายามแบกตัวมันอย่างทุลักทุเลเพราะตัวมันใหญ่กว่าผมและหนักมากๆ   แต่จนแล้วจนรอดผมก็ลากมันเข้ามานอนในห้องมันจนได้   แล้วผมก็เลยเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้ามัน

         เห็นมันตอนนี้แล้วผมก็สงสารมันจับใจเลย    ที่มันต้องตกอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะผมเองแท้ๆ   สิ่งที่ผมทำไปนั้นคงโหดร้ายกับมันมากไปจริงๆ    เพราะนั่นคือผมได้ผิดสัญญาที่ว่าผมจะไม่ทิ้งมันนะ   แต่ที่ผมทำไปนั่นเท่ากับว่าผมทิ้งมันไปอย่างไม่ใยดีเลยด้วยซ้ำ

         แม้ว่าจริงๆแล้วนั่นคือ  ผมหวังดีกับมันก็เถอะ............      

         " อือ........อ"   เสียงครางเบาๆของมันดังขึ้น   แล้วมันก็ขยับตัวลืมตาขึ้นมามองผม    แต่แล้วมันก็หลับตาแล้วพลิกตัวหันหลังให้ผมอีก   ผมก็ดีใจนะที่มันไม่เป็นไรแต่ก็คิดว่ามันคงโกรธผมมากอยู่

         " มึงจะมาทำไมวะ   ทำไมไม่ไปอยู่กับมันล่ะ   จะมาสนใจอะไรกูอีกทำไมวะ"   มันนอนหันหลังให้แล้วก็เริ่มตัดพ้อต่อว่าผม  

         " เออ  กูขอโทษนะ  กูก็นึกว่ามึงคงเข้าใจกู   ไม่นึกว่ามึงจะเสียใจมากขนาดนี้น่ะ"  

         " ก็แล้วไงอ่ะ   กูก็เข้าใจมึงแล้วไงว่ามึงไม่อยากให้กูเป็นเกย์   มึงถึงได้ทิ้งกูเหมือนหมาแบบนี้ไง  ฮือๆ..."   มันว่าแล้วก็ร้องไห้ออกมาจนตัวสั่นเลย    ผมก็เลยก้มลงไปกอดมันไว้อย่างนั้น  แล้วก็ร้องไห้ออกมาเหมือนกันอย่างรู้สึกผิดเต็มที

         " ไอ่เน   กูขอโทษมึงจริงๆนะ  กูก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้หรอก   แต่ก็อย่างที่กูบอกไง  กูไม่อยากให้เรารักกันแบบนี้จริงๆ   ถ้ามึงเป็นเกย์เพราะกูอ่ะ   พ่อแม่มึงจะว่าไงละ   กูยังเรียกเค้าว่าพ่อกับแม่ได้อีกเหรอวะ... ฮือๆๆ....."  

         " แล้วมึงก็เลยต้องทิ้งกูไปเหรอ   มึงเคยถามกูมั๊ยวะ   ว่ากูจะคิดยังไงรู้สึกยังไงน่ะ   อะไรๆมึงก็บอกแค่ว่าทำเพื่อกู   กูไม่ไหวแล้วอ่ะ...  กูไม่ต้องการหรอกนะ  ไอ้ความหวังดีของมึงน่ะ   ฮือๆ...  ถ้าเราจะรักกันนี่มันยากเย็นนัก   ก็พอเหอะ  กูไม่ไหวอีกแล้วจริงๆ"   แล้วมันก็ลุกพรวดจากที่นอน   ผลักตัวผมออกไปแต่ผมก็รีบคว้าตัวมันไว้แล้วกอดแผ่นหลังของมันแน่นเลย

         " เฮ้ย.... กูขอร้องนะ   มึงให้อภัยกูได้มั๊ยวะ   ต่อไปกูจะยอมอย่างที่มึงต้องการก็ได้นะ   กูผิดเองอ่ะ   ที่ไม่ได้เคยถามมึงเลย   ว่ามึงต้องการอะไรนะ   มัวแต่คิดเอาเองว่าอะไรมันดีกับมึงน่ะ   นะเว้ย....   กูยอมทุกอย่างแล้ว  ฮือๆ.....  เราจะเป็นเหมือนเดิมรักกันเหมือนเดิมก็ได้นะ.... ได้มั๊ย...  ฮือๆ... กูขอร้องล่ะ....กูยอมมึงแล้วจริงๆ.....  ให้อภัยกูนะ"   ผมร้องรำพันอยู่อย่างนั้นแล้วก็กอดหลังมันไว้แน่น

         แล้วมันก็เลยหันมาสบตากับผมนิ่งๆอยู่โดยไม่ได้พูดอะไร   จากนั้นก็เริ่มกอดจูบผมอย่างดูดดื่มเลย   ตอนนี้อารมณ์ของเราทั้งคู่ก็ไม่ต่างอะไรกับไฟที่ลุกโชนขึ้นมาจนยากที่จะดับลงไปได้    แม้ตัวผมเองนั้นอยากจะฝืนตัวเองไม่ให้ทำอย่างนี้นะ    แต่ผมก็ไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อีกแล้วครับ  

         เราจูบกันจนริมฝีปากเราถูกบดขยี้ด้วยอารมณ์ที่เตลิดไปของเราทั้งคู่   มันดูจะรุนแรง  แต่ทว่ามันช่างหอมหวานนักในความรู้สึกของผม  

         แล้วมันก็ดันตัวผมจนล้มลงบนเตียงนอนนั้น   ร่างหนาของมันก็กดลงมาทาบทับผมไว้    เสื้อยืดของผมถูกมันถอดออกไปอย่างง่ายดาย   จนขณะนี้อกล่ำๆของมันก็บดเบียดอยู่กับอกผมไปมาจนร้อนไปหมดแล้ว   ซึ่งนั่นก็คงจะยิ่งโหมไฟแห่งอารมณ์ของเราให้คุโชนจนแทบปะทุออกมาแล้วครับ

         มันระดมจูบผมไปทั่วใบหน้า   ไล่ลงมายังซอกคอจนผมต้องเผลอครางออกมาเบาๆ   และร่างกายผมตอนนี้มันรู้สึกว่าอ่อนแรงลงไปเลยครับ   แล้วมันก็ยังคงจูบไล่ไปตามไหล่ของผมอย่างโหยหา    จนความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผมต้องแอ่นตัวขึ้นรับสัมผัสจากจูบของมันอย่างลืมตัว

         และแล้วมันก็ขยับตัวให้ผมนอนคว่ำลงพลางจูบไปที่แผ่นหลังของผมจนทั่วแล้วก็มาหยุดที่บริเวณซอกหูของผม    จนผมรู้สึกเหมือนกับว่าลมหายใจของมันที่รดลงบนผิวเนื้อของผมนั้นร้อนระอุเหมือนไอน้ำเดือดเลยทีเดียว

         แม้ว่าเราจะยังไม่เคยมีสัมพันธ์แบบนี้กับใครมาก่อนเลย    แต่สัญชาติญาณของเราก็ทำให้มันและผมรู้ได้ว่าต้องทำอะไรบ้าง   จะต้องจูบแบบไหน   ต้องสัมผัสกันยังไงจึงจะปลดปล่อยและสนองอารมณ์ความต้องการของเราไปได้อย่างถึงที่สุด  

         เสียงครางเบาๆแต่หนักแน่นของมันดังขึ้นเรื่อยๆ    ในขณะที่ผมเกาะกุมส่วนนั้นของมันไว้จนมันเริ่มขยับช่วงเอวของมันสู้มือผม    แล้วผมก็บดขยี้จูบที่ริมฝีปากของมัน    ลิ้นนุ่มของเราสัมผัสกันและกันอย่างถวิลหาเต็มที่ราวกับว่าผมโหยหามันมานานแล้ว   แต่ที่ผ่านมาผมคงหลอกตัวเองไปว่าไม่ได้คิดแบบนี้กับมัน   ทั้งที่ใจจริงนั้นผมปรารถนาในตัวมันอย่างเหลือเกิน

         จนเมื่อมันเริ่มที่จะรุกเข้ามาในตัวผมนั้น    ผมก็รู้สึกเจ็บและคับแน่นไปหมด   จนเผลอร้องออกมาแต่ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งอารมณ์ปรารถนาของมันได้อีกแล้วครับ   มันยังคงกอดและยิ่งบดเบียดอกของมันกับแผ่นหลังของผมจนร้อนรุ่มไปหมดพลางจูบไล่ไปตามคอและหูของผมอยู่อย่างนั้น  

         และเมื่อมันเริ่มต้นขยับเข้าออกอย่างช้าๆนั้นผมก็ถึงกับต้องเกร็งจนขยำผ้าปูที่นอนนั้นจนยับเยินไปหมด    ลมหายใจร้อนของมันที่ยังคงราดรดมาที่คอของผมนั้น    ยิ่งโหมให้อารมณ์ของผมถึงขีดสุดแล้ว    

         ส่วนตัวมันเองก็เช่นกัน   ยิ่งมันขยับกระแทกเข้ามาเร็วขึ้นเท่าไหร่   มันก็ยิ่งส่งเสียงครางออกมาแทบจะไม่เป็นภาษาเลยทีเดียว  

         มันอาจจะดูเป็นอารมณ์ดิบๆเหมือนกับสัตว์ป่าก็จริง    แต่ในความดิบเถื่อนนั้นกลับมีความอ่อนหวานและอ่อนโยนอยู่ในที   ร่างกายของผมและมันแทบจะผสานกันเป็นร่างเดียวเมื่อมันพลิกตัวผมขึ้นมาและกอดผมก่อนที่จะกระแทกเอวของมันมาที่ผมอย่างไม่ยั้งตามอารมณ์ที่คุโชนอย่างถึงที่สุดของมันแล้ว  

         จนผมเองถึงกับต้องเกร็งและโอบรั้งคอกับไหล่ของมันไว้แน่นพร้อมๆกับปล่อยความสุขออกมาจนเนืองนองไปหมด    ขณะเดียวกับที่ตอนนี้มันก็เกร็งตัวเต็มที่เหมือนกันคงเพราะว่าอารมณ์ของมันก็ถึงจุดแล้ว  

         กล้ามเนื้อทุกส่วนของมันกระตุกเกร็งก่อนที่จะปล่อยความสุขนั้นผ่านเข้ามาในตัวผมอย่างรุนแรงเช่นกัน    แล้วมันก็ปล่อยตัวลงทาบทับผมอยู่อย่างนั้นพลางหายใจหอบอย่างรุนแรง   จนเสียงหัวใจที่เต้นถี่นั้นของเราก็เริ่มผ่อนคลายลงไปเหมือนไฟที่ค่อยๆมอดลงหลังจากที่ปะทุจนถึงที่สุดแล้ว

         ผมนอนกอดและมองสบตามันอยู่อย่างนั้นเงียบๆครู่หนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรเลย    มีเพียงแค่เสียงหายใจหอบของมันและผมที่ดังชัดเจนอยู่ในความเงียบนั้น    จากนั้นผมก็จูบกับมันอีกอย่างสาสมใจเลยแล้วเราก็ยิ้มให้กันราวกับว่ารับรู้ความในใจของกันและกันได้    ว่าทั้งผมและมันเข้าใจในทุกๆอย่างดีแล้ว

         " อืม  ลุกไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่าว่ะ"   ผมบอกมันแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปในห้องน้ำอย่างรู้สึกว่าเขินๆมันนิดนึง    โดยที่มันก็ลุกตามผมไป    แล้วผมก็ยืนเปิดฝักบัวอาบน้ำไปกับมัน    ตลกดีที่ตอนนี้ผมยิ่งรู้สึกเขินๆมันนะ   ส่วนมันก็คงจะเหมือนกันเพราะมันก็ยิ้มเหมือนอายๆผมนิดนึงอยู่  โดยที่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานะ

         แต่แล้วมันก็เริ่มมากอดและจูบผมอีกภายใต้ละอองน้ำจากฝักบัวนั้น   แล้วมันก็เอาหน้าผากของมันมาแตะอยู่กับหน้าผากผมไว้อย่างนั้น     ซึ่งผมมีความสุขจังเลยครับที่ได้ยืนกอดอยู่กับมันอย่างนี้

         " ขอบใจนะเว้ย  ไอ่เน ที่มึงไม่โกรธกูแล้ว  กูรักมึงมากนะเว้ย   รู้มั๊ยวะ  รักจนกูก็สับสนแล้วก็ได้แต่กลัวไปหมด   ว่าพ่อแม่มึงจะเสียใจถ้ารู้ว่าเราเป็นแบบนี้น่ะ"  

         " อืม  กูก็เข้าใจดีแล้วว่ะ   แต่กูอ่ะ  ยังคิดนะว่ากูคงคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจได้แหละ   อย่างน้อยตอนนี้กูก็ได้รู้แล้วว่าเค้ารักกูจริงๆ   แล้วเรื่องแค่นี้เค้าจะต้องเข้าใจได้ว่ะ   มึงไม่ต้องห่วงแล้ว  เชื่อกูนะ"   มันบอกแล้วก็มองสบตาผม

         " แล้วต่อไปถ้ามึงคิดอะไรยังไงเราก็ต้องคุยกันทุกเรื่องนะเว้ย   เพราะเราก็ไม่ใช่คนอื่นแล้วอีกต่อไปแล้ว   มึงเป็นเมียกูนะเว้ย   ฮ่าๆ"   มันว่าแล้วก็หัวเราะ   ผมก็ยิ้มแล้วทุบไหล่มันไปเบาๆทีหนึ่ง

         " ไอ่ห่า....  นี่พอกูยอมให้หน่อยล่ะได้ทีนะมึง   แล้วห้ามมึงไปพูดงี้ให้ใครเค้าได้ยินเลยนะ  สาด....ด  กูอายเค้าอ่ะ"   ผมแกล้งว่ามัน   แต่ก็ดีใจครับ   ที่เรากลับมาพูดล้อเล่นกันได้อย่างเดิมแล้ว

         " ฮ่าๆ  ทำมาอายนะมึง   เออๆ  กูไม่ไปบอกใครหรอก  นะจ๊ะที่รัก  เราจะรู้กันแค่สองคนนะ"  มันบอกแล้วก็จูบผมอีก  แม้ผมจะไม่ได้ตั้งตัวก่อน  แต่ก็เป็นสุขจริงๆ  ที่ได้กอดจูบมันอย่างที่อยากจะทำมาตั้งนานแล้ว

         ต่อไปเราก็คงได้รักกันจริงๆไปซะทีนะ   ผมคงไม่ต้องมาทนกับความรู้สึกกดดันเหล่านั้นอีกแล้ว   ในเมื่อมันเองที่จะเป็นคนกำหนดชีวิตของมันนะ   ไม่ใช่ผมที่ทำได้แค่อยากเลือกสิ่งดีๆให้มันโดยไม่ได้ดูเลยว่ามันจะต้องการมั๊ย

         และตอนนี้มันก็ได้เลือกผมแล้ว   เลือกที่จะรักผมในที่สุด   เหมือนกับที่ผมเลือกที่จะรักมันตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกัน

         ตั้งแต่แรกในวันที่ผมได้ช่วยชีวิตมัน      จนได้มาคุยกับมันดีๆเป็นครั้งแรกและสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไปนั่นแหละ.................

                                       -

                                       -

         แล้วคืนนั้นก็เป็นอีกคืนที่ผมได้อยู่กับมันอีก   แต่ว่านั่นมันคงเป็นคืนที่ผมคงจะมีความสุขที่สุดแล้วละมั๊ง   เพราะผมจะปล่อยใจให้รักมันได้เต็มที่โดยไม่ต้องมาหักห้ามใจตัวเองอีกแล้วนะ

         ฝันร้ายๆของผมมันคงจบลงไปแล้วจริงๆ   และจากนี้ไปก็จะเป็นวันของผมได้ซะที

         " เออ  ใช่  ไอ่เน  กูอยากบอกมึงเรื่องไอ่คิมว่ะ    ที่จริงกูเล่าให้มันฟังเรื่องเราแล้วเพราะตอนนั้นอยู่ๆมันก็มาถามกูเลย   ว่ากูกลุ้มใจเรื่องมึงใช่มั๊ย   กูยังงงเลยว่ามันรู้ได้ไง    แต่มันก็ว่ามันดูอาการกูก็รู้แล้วก็เลยต้องเล่าให้มันฟังไปน่ะ"  

         " อ้าว  เหรอ   แล้วมันไม่ได้ว่ามึงว่าเป็นเกย์หรือทำท่าทางรับไม่ได้อะไรเลยเหรอวะ   เออ   แปลกดีแฮะ   แม่งใจมากๆเลย   นับถือมันว่ะ   พวกเรานี่โชคดีที่มีเพื่อนดีอย่างมันนะ"  ไอ่เนพูดชมไอ่คิมแล้วมันก็ยิ้มกับผม  

         " ก็เออ  นั่นน่ะ   ช่วงนั้นถ้ากูไม่มีมันกูก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไงเลย    กูอาจจะทำใจไม่ได้แล้วเตลิดเปิดเปิงไปไหนๆก็ได้   ยังดีที่มีมันเข้าใจกูตลอด    ต้องขอบใจมันจริงๆว่ะ"   ผมเล่าไปแล้ว   ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่บอกไอ่เนเรื่องที่มันรักไอ่บอลตอนนี้คงดีกว่านะ    เพราะยังไงผมก็รับปากมันไว้แล้วว่าจะไม่บอกใครก่อน    เพราะงั้นถ้าใครสักคนจะรู้เรื่องนี้ได้ก็จะต้องเป็นจากปากมันเอง  ไม่ใช่ผมนะ

         " เอ๊ะ....  แล้วนี่ที่มึงบอกว่ามึงทำใจไม่ได้น่ะ   จริงๆแล้วมันเรื่องกู....    อ๋อ   เพราะกูไปคบกับเกตเค้าน่ะเหรอวะ   ก็ตอนนั้นเราคุยกันแล้วนี่หว่า   มึงก็บอกกูแล้วนี่ว่ามึงไม่ได้คิดอะไรน่ะ"   มันหันมาถามผมแล้ว   ผมก็อึกอักไปหน่อยนึง  แล้วก็ต้องสารภาพกับมัน

         " เออ..... ก็ตอนนั้นกูก็ไม่อยากไปห้ามอะไรมึงน่ะ    อยากให้มึงสบายใจนะ    แต่.... เออๆ   ช่างมันเหอะว่ะ   นะ.... มันผ่านไปแล้วล่ะ    กูก็แค่อยากให้มึงสบายใจกับทางที่มึงเลือกก็เท่านั้น"  

         " แล้วมึงก็เลยมานั่งทุกข์ใจอยู่คนเดียวน่ะเหรอ   โธ่เอ๊ย....  มึงมันก็ยังงี้ทุกทีอ่ะ   เฮ้อ....  แต่กูก็ผิดเองแหละนะ     ที่ไม่ได้นึกถึงใจมึงเลย   ขอโทษนะเว้ย"   มันว่าแล้วก็ซบหน้ามันลงมาใกล้จนหน้าผากมันชิดกับหน้าผากผมเหมือนอยากจะขอโทษ

         " เออๆ  มึงก็ไม่ได้ผิดหรอกนะ    กูก็ไม่ดีเองที่ไม่ได้บอกมึงตรงๆ   ชอบเก็บอะไรไว้คนเดียวเกินไป     แต่ตอนนี้ก็เข้าใจกันแล้วนะเว้ย   มึงไม่ต้องคิดมากแล้วล่ะ"  แล้วผมก็เลยจูบหน้าผากมันเบาๆ   มันก็ยิ้มให้ผม

         ในที่สุดผมกับมันก็ได้รักกันจริงๆจังๆซะที    ก็ดีใจมากเลยครับ  เหมือนกับว่านี่ผมฝันไปเลยนะ    ทุกๆอย่างมันเริ่มลงตัวในแบบของมันได้แล้ว     ต่อไปผมจะไม่ยอมให้ความกลัวของผมเองต้องมาทำลายความรักของผมกับมันอีกแล้วล่ะนะ    เพราะผมคงต้องเห็นแก่มันให้มากๆซะบ้างให้สมกับที่มันก็รักผมขนาดนี้    และผมจะไม่ทำให้มันต้องเสียใจเพราะผมอีกแน่    ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม

                                       -

                                       -

         วันรุ่งขึ้นนั้นพอผมกลับไปที่วัดแล้ว   ไอ่คิมมันก็เลยโทรเข้ามาหาผมเพื่อถามเรื่องไอ่เน   ผมก็บอกมันไปอย่างสบายใจว่าเคลียร์กันได้แล้ว    มันก็ยังว่ามันดีใจด้วย    ผมก็เลยว่าจะไปหามันแต่มันบอกว่าเดี๋ยวมันจะมาหาผมที่วัดเอง

         " เออ  ตกลงมึงก็เคลียร์กันได้แล้วใช่ปะ   อืมๆกูก็ดีใจด้วยแหละว่ะ   ก็อย่างที่กูคิดแหละว่ายังไงมันก็ยังรักมึงอยู่ดีน่ะ   ก็ดีแล้วล่ะ   โล่งใจไปที"  

         " มันก็จริงของมึงแหละ  ว่าแต่ว่าแล้วเรื่องของมึงล่ะ   กูเป็นห่วงมึงว่ะ   ยังไงซะกูก็ยังอยากให้มึงคุยกับไอ่บอลมันนะ   ลองดูอีกทีนึง   แล้วกูกับไอ่เนก็จะช่วยมึงด้วย"  

         " เฮ่ย   มันจะดีเหรอวะ   มึงจะช่วยยังไงเหรอ"   ไอ่คิมถามผมด้วยสายตาที่หวั่นๆ   มันก็คงไม่มั่นใจนะ

         " คือ... กูว่าจะลองๆดูท่าทีมันแล้วบอกมันเรื่องกูกับไอ่เนน่ะ   อยากดูว่ามันจะว่าไง   ถ้ามันรับได้เรื่องพวกกูมันก็น่าจะรับได้เรื่องที่มึงชอบมันเหมือนกัน  ไม่รู้ดิ   กูอยากลองดูว่ะ"  

         " อืม มันก็จริงของมึง   แต่ถ้ามันรับเรื่องพวกมึงไม่ได้แล้วเลิกคบกันไปเลยล่ะ   กูกลัวว่ะ  มันจะเสี่ยงไปนะนั่น"   มันบอกมาอย่างนี้ก็แสดงว่าจริงๆมันก็ห่วงผมกับไอ่เนนะว่าไอ่บอลมันจะพลอยรังเกียจเราไปด้วย
   
         " มึงไม่ต้องคิดมากหรอก    ก็อย่างที่มึงพูดไง    คนเราถ้ารับอะไรที่เพื่อนมันเป็นอยู่ไม่ได้    ก็เสียเวลาคบกันเปล่าๆว่ะ    เพราะงั้นถ้าไอ่บอลมันรับพวกกูไม่ได้ล่ะก็   กูว่าก็คงต้องปล่อยมันไปนะ   เพราะที่พวกกูเป็นอยู่เนี่ย   จะไปปิดมันตลอดไปก็คงไม่ได้    แล้วมึงเองก็เหมือนกันว่ะ   มึงทนกับสภาพนี้มานานแล้วนะ    กูไม่อยากเห็นมึงไม่มีความสุขแล้วว่ะ"   ผมสรุปสิ่งที่ผมคิดอยู่ให้มันฟัง

         " เออ.. ก็ใช่นะ   มันคงถึงเวลาแล้วมั๊งที่กูก็คงต้องหลุดพ้นไปจากไอ้ที่ต้องทนอยู่นี่ซะที    ในเมื่อกูเป็นคนพูดเองนี่นะ  ว่าเพื่อนกันก็ต้องรับกันได้ทุกอย่าง   แต่ถ้ามันรับไม่ได้   ก็คงไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ   ที่กูจะต้องรักษามิตรภาพของกูไว้นะ   ขอบใจมึงว่ะ   ที่ทำให้กูคิดได้ซะทีนะ   ถ้างั้นกูก็จะเป็นคนบอกมันเองเลย   มึงไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ"   มันยิ้มออกมาแล้วก็ตบไหล่ผมเบาๆทีนึงเป็นการขอบใจ    ท่าทางมันก็มั่นใจขึ้นมากเลย

         " อืม  ดีแล้วล่ะ   แต่ว่าให้กูบอกมันเรื่องกูกับไอ่เนก่อน   แล้วมึงค่อยบอกมันละกัน   เอาตามนี้นะเว้ย   ถึงกูจะไม่มั่นใจเลย   ว่ามันจะรับได้มั๊ย   แต่กูก็คิดว่านี่มันคงเป็นทางที่ดีที่สุดแล้วสำหรับมึงนะ   เพราะว่ามึงทนมาพอแล้วล่ะว่ะ"

         ตอนนี้ผมก็ได้แต่คิดเอาเองนะครับ   ว่าอยากให้มันเคลียร์ปัญหานี้ของมันให้จบไปเสียที   เพราะยิ่งนานๆไปมิตรภาพที่มันได้แค่รักษาไว้นั้นก็คงจะยิ่งหันมาทำร้ายมันมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว    ผมสงสารมันน่ะ

         พอหลังจากที่ผมเล่าให้ไอ่เนมันฟังเรื่องที่ไอ่คิมมันรักไอ่บอลแล้ว    ไอ่เนมันก็ตกใจมากเหมือนกันครับ  เพราะมันไม่นึกเหมือนกันว่าจริงๆแล้วมันรักกันอยู่   ดังนั้นเราก็เลยตกลงกันว่าต้องคุยกับไอ่บอลมันอย่างจริงๆจังๆซะทีนะ

         มันคงถึงเวลาแล้วล่ะ   ต้องให้ไอ่บอลมันได้รับรู้ทุกๆอย่างแล้ว   ไอ่คิมเองมันก็ทนแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นมานานเกินไปแล้วนะ   ต่อไปปัญหาเรื่องนี้มันจะได้จบ   ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม   แต่อย่างน้อยมันก็จะได้จบไปจริงๆซะที

                              ****************
ต่อหน้าถัดไปเลยครับ  อย่าเพิ่งค้างกันนะ อิอิ  คลิกหน้าต่อไปโลด :a1:  -------------------------------->
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2010 22:10:13 โดย Goodfellas »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด