ผมรู้สึกตัว พยายามลืมตามองห้องฝ่าความมืด คงตีสามแล้ว ผมรู้สึกหนักๆตัว เหมือนมีอะไรมาทับ พอหันไปมองข้างๆ ชัดเลย แขนไอ้ภูมิรัดตัวผมอยู่ ผมกำลังใช้สมองประมวลผลว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พอทุกอย่างที่เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆ แจ่มชัดในความคิด ผมก็อยากจะข่วนหน้าหล่อๆที่นอนหลับด้วยใบหน้าดูมีความสุขเหมือนกำลังฝันดี สาดดดดดด มีความสุขจังนะมึง ฮึ๋ย
แต่ตื่นมาเห็นมันหลับก็คงจะดีกว่าตื่นมาแล้วเห็นมันนั่งหันหลังให้ กำลังติดกระดุมเสื้อ หันมามองผมนิดๆวางเงินไว้ข้างโคมไฟ แล้วเดินจากไป ฮา ไม่ใช่ละครหลังข่าวนะเฟ้ย
ผมค่อยๆยกแขนภูมิออกจากตัว ควานหาชุดคลุมอาบน้ำมาใส่ ก่อนจะพาตัวเองเข้าห้องน้ำด้วยความทุลักทุเล
ผมยืนมองสภาพตัวเองในกระจกแล้วอยากเอาหัวโขกชักโครกตาย ผมก็ไม่ใช่คนขาวอะไรมากมายแต่ถ้าเทียบกับผู้ชายทั่วๆไปผมก็ถือว่าขาว แล้วเสือกเป็นคนที่ผิวเป็นรอยง่าย แม่งเอ๊ย จ้ำแดงเต็มตัว ทั้งรอยยจูบ ดูด รอยฟันตามเนินอก กูอยากจะบ้า เชี่ยภูมิ ไม่ออมมือเลยนะมึง สาดดดดดดดดดดด
ผมยืนจ้องตัวเองด้วยสายตาและหัวใจเหม่อลอยอยู่นาน พาตัวเองเดินออกมายืนรับลมที่ระเบียงตอนไหนยังแทบไม่รู้สึกตัว
ผมปล่อยความคิดให้ไหลผ่านสมอง มันก็จริงที่ผมเป็นผู้ชาย เสียหายก็คงไม่ท้อง
แต่อะไรบางอย่างก็ทำให้ผมรู้สึกหนักๆหน่วงๆในหัวใจ ทั้งที่ผมรู้ว่าภูมิมันรักผม และผมก็ไม่เถียงหรอกว่ารักมัน แต่ก็อดคิดไม่ได้ ไอ้ภูมิเป็นยังไงก็รู้ๆกันอยู่ ตำนานได้แล้วทิ้ง ไม่จริงจัง แล้วมันจะทิ้งกูมั้ยเนี่ย
“ร้องไห้ทำไม หื้ม” ผมสะดุ้งเพราะเสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นใกล้ใบหู แรงกอดรัดจากข้างหลังทำให้ร่างกายที่ยืนตากความหนาวของลมทะเลอยู่นานรู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที
“ร้องไห้ ใครร้อง มั่วแล้วมึง”
“แล้วน้ำตามาจากไหน” ผมลองเอามือจับแก้มตัวเอง คลำไปทั่วหน้า ก็ไม่มีอะไรชื้นๆแฉะๆนิ ได้ยินเสียงขำของไอ้คนที่มันกอดเอวผม แถมยังพาดคอมาหอมแก้มอีก ชักจะค้ากำไรเกินควรแล้วนะมึง
“เชี่ย หลอกกู”
“ก็กลัวมึงร้อง เสียใจหรอพีมที่เป็นของกู”
“………………....”
“………………....”
“ภูมิ…..มึงจะทิ้งกูมั้ย”
“กลัวกูฟันแล้วทิ้งหรอ หึหึ” แล้วมันก็หัวเราะไม่ลืมหูลืมตา
“ขำหาพ่อง ก็มึงมีประวัติยาวเป็นหางว่าว” มันหยุดหัวเราะและเพิ่มแรงกอดผมแน่นมากขึ้น
“มันอาจจะฟังดูเลว แต่มันคือความจริง กูไม่เคยมีอะไรกับใครเพราะรัก มึงจะเป็นคนแรกและคนเดียว” อาการหนักและหนาวในหัวใจของผมดูจะหายวับไปกับคำพูดของภูมิ คนใจง่ายอย่างผมไม่เรื่องมากหรอกแค่คำว่ารักเพียวๆมีกอดอุ่นๆเป็นมิกซ์เซอร์ก็พอแล้ว เฮ้อออ ทำไมผมต้องมาคิดมากด้วยวะเนี่ย ถึงจะถูกทิ้งกูไม่ท้องหรอก แต่ไม่ทิ้งดีกว่าเนอะ
“เออ ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน”
“กูทำได้อยู่แล้ว งั้นมาทำต่อนะ” ผมขมวดคิ้วงงๆกับคำพูดของมัน หันกลับไปมองไอ้ภูมิก็ทำตาวาวอยู่ มะ ไม่ นะ
“เฮ้ยยย ไม่ เชี่ยยยยภูมิ ปล่อยกู๊ มะ อื้อออ” แล้วมันยังมีหน้ามาบอกว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกของมัน มึงทำกับผู้ชายคนแรกของมึงแบบนี้หรอห๊ะ มึงก็เป็นผู้ชายคนแรกของกู แต่กูยังไม่ได้ทำมึงเลย
โลกนี้ไม่ยุติธรรมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ตื่นเช้ามาผมรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งผ่านการแข่งขันไตรกีฬาบวกสงครามคูเสด ทั้งเมื่อยตัว ปวดตัวตั้งแต่หัวจดตีน เพราะเมื่อคืนผมกับไอ้คนที่มันกำลังนอนกอดผม เราทำวิจัยเกือบเช้าเลยครับ สู้ยิบตาเรียกว่าดับเครื่องชนเอาให้ตายกันไปข้าง ดุเดือดเลือดพล่านยิ่งกว่าองค์บากภาคสาม
ผมทำใจไว้อาลัยให้กับร่างกายตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไอ้ภูมิที่นอนหลับพริ้มหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ฮึ่ย ผมอยากจะบีบจมูกโด่งๆนั้นที่เมื่อคืนดอมดมร่างกายผมจนแทบละลาย ปากบางๆสีชมพูที่ตีตราเป็นเจ้าของผมไปทุกส่วน
ผมอยากฆ่ามันให้ตายคามือเผื่อจะหายแค้น หรือเอามีดมาปาดคอมันตอนหลับซะดีมั้ย แม่ง ไม่คิดจะออมมือซักนิด ระหว่างการทำวิจัยครั้งที่เท่าไรผมก็ลืมนับ ผมดันหน้ามันออกก่อนจะถามมันว่า ”มึงเป็นไอร่อนแมนหรอวะ” เพราะมันทนทานมาก ไม่มีเหนื่อย
แต่ผมนี่สิจะตาย ต่อไปนี้ผมจะเรียกมันว่าไอ้ไอร่อนแมน ใส่ถ่าน ชาร์ตแบตแล้วสู้ต่อได้ คราวนี้มึงอาจจะชนะ แต่คราวหน้ากูจะประกาศศักดาดิ์โว้ยยยยยยย กูจะไปศึกษาวิชาให้แก่กล้า มึงเสร็จกูแน่ไอ้ภูมิ หึหึ หึหึหึ ฮ่าๆ ฮา แค่ก แค่ก สำลักน้ำลาย หัวเราะมากไปหน่อย
“อ๊ะ”
“มอร์นิ่งคิส” ผมตกใจที่ไอ้ไอร่อนแมนมันตื่นมาจูบผมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว “ขำอะไรคนเดียว หรือเสียตัวจนเสียสติไปแล้ว” จูบเบาๆของมันมาพร้อมกับเสียงกวนตีนล้อเลียนดังขึ้นบนหัว ผมเงยหน้ามองไอ้ภูมิที่กำลังยิ้มหน้าบานเป็นจานบิน
“ยังมีหน้ามาพูดนะมึง กูเป็นแบบนี้เพราะใครละ แม่ง กูมีแต่เสียกับเสีย”
“เราจะได้หรือนายจะเสีย ตอนนี้ก็ถือว่าเราเป็นผัวเมียกันอยู่ดีนั่นแหละ”
จบครับ ผมไปต่อไม่เป็นเลย สาดดดดดดดด พูดจาหมาๆ ใครเป็นเมียมึ้ง ผมปัดมือมันที่เริ่มไต่ไปตามหลังผมและเริ่มต่ำลงไปเรื่อยๆ จะทำวิจัยตอนเช้าอีกหรอวะ กูไม่ไหวแล้วนะเว้ยแค่นี้กูก็เห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสลับเหลืองแล้ว
ผมจ้องมันด้วยตาดุๆแต่เชี่ยภูมิก็เอาแต่ขำ มีอะไรตลกวะ มันยกตัวมาคร่อมผมและก้มลงมาจูบ ตอนแรกผมก็ทั้งดิ้นทั้งถีบทั้งผลักมัน ตอนหลังแทบจะล็อคท้ายทอยมันติดมือ แต่มันก็ทำแค่จูบ จูบต้อนรับคำว่าเราและคำว่ารัก
พวกผมอาบน้ำเสร็จ ก็ลงมาทานอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ วันนี้ผมกับมันมีแพลนจะไปเที่ยวกันหลายที่ แต่เมื่อคืนไม่เจียมบอดี้ไงครับ ไม่ถนอมร่างกายเลยกู แต่สุดท้ายไอ้ภูมิมันจะไปทุกที่ตามที่วางแผนไว้ ไอ้หมาภูมิมึงเคยคิดที่จะสงสารกูบ้างมั้ยห๊า
จากที่ไม่เอารถมาสุดท้ายก็ต้องเช่ารถขับอยู่ดี พวกผมเริ่มโปรแกรมแรกที่หมู่บ้านช้าง ไปให้อาหารช้าง แล้วก็ขี่ช้างด้วย อยากบอกว่ากูทรมานมาก แค่ลำพังจะเดินผมก็เจ็บ นี่มาขี่ช้าง ตอนนี้คำว่าระบมอาจจะฟังดูดีเกินไปสำหรับผม
แต่ก็ทนได้ครับเพราะมีคนดูแลดี หึหึ น้ำท่า ผ้าเย็นไม่เคยขาด(ไม่ขาดเพราะมาเต็มผืน แป้ก) อย่างกับพี่เลี้ยงเข้าน้ำนักมวย เออดี เมื่อวานขี้ม้า วันนี้ขี่ช้าง คงได้โชคได้ลาภก้อนยักษ์
จากนั้นก็ไปไหว้หลวงพ่อโต เห็นภูมิมันอธิฐานตั้งนานไม่รู้มันขออะไร ผมถามก็ไม่ตอบ บ่ายๆก็ไปกินข้าว ต่อด้วยไปเที่ยวสวนสัตว์(พาไอ้ภูมิกลับบ้าน ฮ่าๆ) ไปดูลิง ดูจระเข้ ญาติไอ้ภูมิ มันเป็น เหี้ย ฮ่าๆ ก่อนกลับผมก็แวะซื้อของฝากให้พวกพี่ๆที่ร้านกับพวกเพื่อนๆแต่ก็ซื้อไม่เยอะเพราะผมกลัวว่าจะถือกลับไม่ไหว
ผมกับภูมิโบกมือลาทะเลหัวหินในเวลาสองทุ่มกว่า ขากลับเรานั่งรถทัวร์เพราะผมไม่สามารถนั่งรถไฟได้ เหอๆ พวกผมหมดสภาพมากครับ เหนื่อยสัด นั่งหลับเอาหัวซุกกันตลอดทาง
มีเสียงเพลงรักเพราะๆจากไอพอดของผม ที่แบ่งหูฟังกันคนละข้าง กล่อมพวกเราให้หลับสบาย แต่ผมรู้สึกเหมือนจะไม่สบายเท่าไร เพราะเจ็บคอ แถมเมื่อยตัว คาดว่ากลับไปถึงบ้าน ไอ้เวรไข้ต้องมาเยี่ยมผมแน่นอน ฟันธง
ทริปของเรา ทริปของผมกับภูมิ การมาเที่ยวด้วยกัน ทั้งสนุก ประทับใจแม้จะเจ็บตัว(เจ็บตรงไหนและเพราะใครคงไม่ต้องบอกนะครับ) กลับไปผมอาจจะไม่สบาย แต่มันก็คุ้มค่าที่ผมกับภูมิได้มาสร้างความทรงจำดีๆด้วยกัน
การเดินทางมาเที่ยวหัวหินอาจจะจบลงแค่นี้ แต่การเดินทางชีวิตของผมกับภูมิยังอีกยาวไกล
แต่ไม่ว่าทางเส้นนี้มันจะไกลสักแค่ไหน ผมก็พร้อมจะก้าวไปพร้อมๆกับภูมิ
จะจับมือกัน ตราบใดที่มีมันก็จะมีผมอยู่ข้างๆเสมอ
TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
……………………………………………….
ลงนิยายเสร็จตาลแทบจะเก็บกระเป๋าหนีตามตัวเองไปเที่ยว ชิชะ อิจฉาคนมีแฟน(หล่อ) แอร๊ยยยยยยยย ปล่อยภูมิกับพีมมันไป มาคุยเรื่องของเราดีกว่า อย่าสงสัยว่าอิชั้นใช้คำว่าเรากับใคร ใครที่หลงเข้ามาอ่านก็มาใช้คำว่าเราให้หมด ฮ่าๆ
ตอนที่แล้วหลายคนเครียดกับคำว่ามาม่าของตาล อยากบอกว่า อย่าได้แคร์ อย่าได้เครียดคะ มันไม่มีอะไรหรืออาจจะมีบ้างคงนิดๆหน่อยๆพอกรุบกริบ? เพราะตาลไม่ถนัดทางนั้นอยู่แล้ว ถ้ารั่วๆไร้สาระก็ว่าไปอย่าง อิอิ ส่วนเรื่อง NC มันคืออะไรอ่ะคะ ไม่รู้จัก กร๊ากกกก อย่าว่าแต่เขียนเลยนะคะ ให้อ่านตาลยังไม่ค่อยกล้า มันเขินๆยังไงไม่รู้(ความจริง เขียนไม่เป็น ฮ่าๆ ได้เท่าที่เห็นนั่นแหละจ้า)
ใครที่อยากอ่าน nc อาจจะต้องผิดหวัง เพราะนิยายเรื่องนี้คงไม่มีเอ็นซีแน่นอนอ่ะคะ คนอ่านคงต้องใช้จิตอันเป็นกุศลจิ้นเอาเองนะคะ อิย๊ะ วันนี้พล่ามมาก เพราะคิดถึง สุดท้ายขาดไม่ได้ ต้องขอบคุณทุกคนที่ชอบนิยายเรื่องนี้นะคะ มีคนชมด้วย แอร๊ยยยยย(อาย ม้วนเข้าใต้เตียง) แต่ถ้ามีอะไรอยากแนะนำ อยากติก็บอกได้นะคะ เพราะตาลก็อยากจะปรับปรุงที่มันยังไม่ดีให้ดีๆกว่านี้เนอะ
อ่อ มีอิมเมจหนุ่มๆมาให้ดูด้วย จริงๆเรื่องอิมเมจตาลไม่ซีเรียสนะคะ คนอ่านอาจจะมีภาพของแต่ละคนต่างกันไปเนอะ เอาเป็นว่าดูเล่นๆเป็นอาหารตาก็แล้วกันนะจ๊ะ
Thanks: ฝากรูป ประกันภัยรถยนต์Thanks: ฝากรูป ประกันภัยรถยนต์