วันนี้ภูมิมารับผมเร็วกว่าปกติ เพราะคืนนี้จะมีเทศกาลเมาที่ห้องมัน เลยต้องรีบกลับไปเตรียมของ
เราแวะซื้อเสบียงก่อนกลับคอนโด กลับมาถึงยังไม่ทันที่ผมจะจัดของเสร็จมันก็ลากผมเข้าห้อง ไปเปลี่ยนชุด แหนะๆ คิดอะไรกันเนี่ย ^^
“เฮ้ยภูมิ มึงสักลายด้วยเหรอ”
ผมถามด้วยความแปลกใจ มองภูมิที่หันหลังให้ มันถอดเสื้อนักศึกษาและกำลังรื้อหาเสื้อใส่ ทั้งที่แม่บ้านเค้าจัดไว้เป็นระเบียบเรียงตามสี มันก็รื้อซะเละเทะ ภูมิหันมามองผมที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียง มันขมวดคิ้วมุ่น หน้าตาเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง
“เพิ่งเห็นหรอ” มันถามเสียงนิ่งๆ
“อืม” งอนอะไรอีกละเนี่ย หรือ ไม่ชอบให้คนทักเรื่องรอยสัก
“ตอนที่มีอะไรกัน มึงไม่ได้ดูกูเลยเหรอ” สาดดดดดดดดดดดดด ถามห่านไรเนี่ย
“ก็….. ก็… ตอนนั้นมันมืด กูมองไม่เห็น” มันถอนหายใจส่ายหัว กลับไปรื้อตู้ต่อ สรุปว่าน้อยใจกูที่ไม่สังเกตมึงว่างั้น ก็…โว๊ะ ใครจะมีสติไปจำอะไรได้วะ
ผมมองหลังขาวๆเนียนๆของมันที่มีรอยสักที่สะบัก เท่ห์ดีวะ ผมเคยคิดที่จะสักเหมือนกัน แต่กลัวพ่อจะตัดออกจากกองมรดกเลยไม่กล้าทำ ไอ้ภูมิแม่งเท่ห์เกินคำบรรยายจริงๆ
“ขอดูใกล้ๆหน่อยสิ” มันหันมองหน้าผม มือที่กำลังจะสวมเสื้อก็หยุดค้าง และเดินมานั่งที่ขอบเตียง ผมกระเถิบไปดูใกล้ๆ อดที่จะลูบไล้ไม่ได้ นกอินทรีย์กำลังกางปีก ไม่ใช่ลายสักแบบไทย แต่เป็นกราฟฟิก ที่ดู มีพลัง มีอำนาจ
“สักนานรึยัง”
“ม.6”
“ไม่เสียดายหรอ ผิวมึงสวยมากเลยนะ เฮ้ย!!!” อยู่ๆแม่งก็ผลักผมลงกับเตียง อีกนิดเดียวหัวผมฟาดหัวเตียงแน่นอน แล้วมันก็ตามมาคล่อมผมไว้ พร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย
“ผิวมึงสวยกว่ากูอีกพีม มีตำหนิไม่กี่ที่เองมั้ง หึหึ” เกลียดเสียงหัวเราะแบบจิ้งจอกของมันจริงๆ
“สัด ลุก” ผมทั้งหนักทั้งอาย ใครจะไม่อายล่ะ ภูมิมันยังไม่ใส่เสื้อ ตัวมันก็มาแนบอยู่บนตัวผม ตาคมคู่นั้นมันจงใจทำให้หวานกว่าปกติ
“กูก็รุกแล้วไง”
“หมาภูมิ กูหมายถึงลุกออกไปจากตัวกู แล้วตำหนิเชี่ยไรวะ แม่ง กูหนัก” ผมดิ้นอยู่ใต้ร่างไอ้ภูมิ มันทับมาทั้งตัวแบบนี้ คิดว่าผมจะหนักมั้ยครับ
“หึ กูจำได้หมด ว่ามึงมีไฝอยู่ตรงไหนบ้าง ให้กูบอกมั้ย” มันยิ้มมุมปาก ใช้ตาคมๆ เจ้าชู้ของมันมองผม
“ไม่ต้อง เชี่ยภูมิแม่ง กูหนัก ลุกกกกกกกก” มันหัวเราะและยอมลุกออกไปใส่เสื้อ ผมมองมันด้วยความอาฆาต หอบหายใจ แต่ยังไม่ทันที่จะอ้าปากด่ามันก็กระโดดขึ้นมาทับผมบนเตียงอีกครั้ง ผมเตรียมจะโวยวาย แต่มันเอามือมาแตะหน้าผากซะก่อน อารมณ์แปรปรวนง่ายนะมึง
“ปวดหัวมั้ย” ผมส่ายหัวเมื่อภูมิใช้หลังมือวัดไข้ให้ มันไร้วี่แววการแกล้งหรือกวนตีน ผมเลยได้แต่นอนนิ่งๆให้มันกอด รอดูสถานการณ์ไปก่อนครับ ยังไม่ไว้ใจมันหรอก
“ขยับไปดิ กูอึดอัด เดี๋ยวติดไข้นะมึง” เสียงผมคงฟังดูงึมงำ เพราะถูกกดหน้าให้แนบกับอกของภูมิ กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม หอมอ่อนๆทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย
“ติดก็ติดสิ ถ้ามึงไม่เป็นไข้ รู้มั้ยว่ากูจะทำอะไร” มันถาม แต่ปากก็มาป้วนเปี้ยนแถวๆแก้มกับหน้าผากของผม แขนนี่ก็รัดแน่นได้อีก เป็นงูเหลือมรึไงวะ
“กูพอจะเดาออก” หน้าอย่างมันก็คิดอยู่เรื่องเดียวแหละ
“รู้ก็ดี งั้นก็รีบๆหาย เพราะกูคิดถึง” มันยกหัวมาจูบผมทันทีที่พูดจบ ทำเอาตัวกับใจผมอ่อนไปถึงไหนต่อไหน
กูมีภูมิคุ้มกันมึงต่ำมากรู้ตัวมั้ยภูมิ เสียงโวยวายทำให้ผมตื่น ไอ้พวกนั้นคงมาแล้ว แต่ไอ้คนที่มันกอดผมแน่นจนผมหลับคาอก มันหายหัวไปไหนวะ ผมเดินสลึมสลือแบบเบลอๆ นอนตอนหัวค่ำนี่ทำเอามึนหัวเลยแฮะ ออกมาพวกมันก็ตั้งวงกันเรียบร้อยแล้ว
“เขาว่าผู้หญิงที่เสียบริสุทธ์ จะดูมีทรวดทรงขึ้น ดูดีขึ้น สวยขึ้น พวกมึงว่าทฤษฎีนี้ใช้กับผู้ชายได้มั้ย” ทันทีที่ไอ้ปันมันเห็นหน้าผม มันก็รีบพูดเสียงดังลั่นห้อง
“ทำไมวะ” ไอ้เชนก็รีบถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนเกินจำเป็น ทั้งที่มันกำลังมองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มชั่วๆ
“กูว่าไอ้พีมมันดูมีน้ำมีนวลกว่าเดิม ดูเปล่งปลั่ง มันน่ารักขึ้นวะ”
“เชี่ยปัน แม่งพูดห่าไรวะ” ผมเดินเข้าไปตบหัวมันที่นอนเหยียดยาวบนโซฟา มีถุงเลย์วางอยู่บนพุง และแก้วเหล้าอยู่บนพื้น อภิสิทธิ์ชนจริงๆ คนอื่นเค้านั่งกินบนพื้น ห่านี่นอนแดกบนโซฟา
“หรือมึงจะเถียง” มันรีบกลืนขนมและรีบลุกขึ้นนั่ง “แม่งถ่อไปไกลถึงหัวหิน พวกมึงคงไม่ไปก่อเจดีย์ทรายเฉยๆหรอกมั้ง แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง กูจะพาไอ้ภูมิไปบวช ฮ่าๆ”
“เอาเต็มที่เลยปัน เมื่อวานพวกกูเล่นมันแล้ว” ไอ้แทนออกปากอนุญาต พวกมันพากันหัวเราะ แล้วหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างผมจะทำอะไรได้นอกจากหาตัวช่วย ผมเดินไปหาภูมิที่นั่งยิ้มจิบเหล้าอยู่ มันขยับและดึงมือผมให้นั่งลงข้างกัน
“ไอ้คิวละ” ผมถามถึงไอ้ตัวดี ที่ไม่มีแม้เงา
“มันมีแฟนก็ต้องไปอยู่กับแฟนสิ จะมาอยู่กับหนุ่มโสดอย่างเราทำไม” ไอ้เชนตอบและถูกไอ้ฟ่างด่าสวนกลับว่า โสดเฉพาะตอนลงจากเตียงล่ะสิมึง เรียกเสียงหัวเราะจากพวกผม ไอ้เชนมันยิ้มรับคำสรรเสริญพร้อมยื่นแก้วให้ผม
“เอามั้ยมึง”
“ไม่วะ เจ็บคอ กลัวเป็นไข้อีกรอบ”
“ดี งั้นมาชงเหล้าให้พวกกู” โห กูก็นึกว่าจะเป็นห่วง ส่วนไอ้คิวนี่ก็ไวจริงๆ เมื่อวานเพิ่งพามาเปิดตัวที่คณะยังบอกว่าเพื่อน ตกเย็นของอีกวันกลายเป็นแฟนกันซะแล้ว แต่เด็กมันสวยจริง ผมยังเผลอมองจนไอ้คิวมันด่า
“แล้วไอ้เต้ยกับไอ้แมทมันมารถจักรยานรึไงวะ แทนโทรตามน้องดิ”ไอ้ฟ่างสั่งแฟนมัน
“แม่งใช้กู”
“จะโทรไม่โทร” มีหรือที่แทนจะขัดฟ่างได้ ระหว่างที่ไอ้แทนโทรถามไอ้เต้ยว่าอยู่ไหน ไอ้ปันก็ลากคอไอ้มิคไปใกล้ๆ ทำท่าจะกระซิบแต่เสียงดังมาก
“ไอ้แทนเป็นโรคเกลียมัว”
“โรคเกลียมัวคืออะไรวะ มึงอธิบายซิสหาย” เออเว้นย คนไม่เต็มคุยกัน มันก็ดูดีไปอีกแบบ
“โรคเกลียมัวมันก็คล้ายๆโรคลูคิเมียแหละ แต่อาการหนักว่า มันดื้อยาแต่ไม่ดื้อกับเมีย รักษาไม่หาย อาจตายได้ถ้าดื้อมากๆ” แล้วมันก็หัวเราะกันคิกคักสองคน เลยโดนไอ้ฟ่างตบหัวไปคนละฉาด พวกผมก็พากันขำ สงสัยไอ้แทนจะเป็นโรคเกลียมัวระยะสุดท้ายวะ หึหึ
รอไม่นาน เสียงเคาะประตูรัวๆแบบกวนตีนก็ดังขึ้น กริ่งมีทำไมไม่กดวะ แบบนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ไอ้เบียร์ลุกไปเปิดประตู ไอ้แมทยิ้มหน้าบานหอบถุงของกินมาเต็มมือ ต่างจากไอ้เต้ยที่หน้าบึ้งเหมือนไปกัดกับหมามา
“โทษทีๆ พี่ รถติดน่ะ” ไอ้แมทนั่งลงข้างๆผม มันคงว๊อนมากคว้าแก้วเหล้าไปกระดกรวดเดียว หมดแก้ว ไปอดอยากมาจากไหนไอ้น้อง
“ติดไรวะ กูมาถนนยังโล่งอยู่เลย”ไอ้ฟ่างถาม
“ติดไฟแดงไงพี่ ฮ่าๆ”
“ไปตายซะ” ไอ้ฟ่างถีบไอ้แมท แต่มันหลบทัน
“แล้วไอ้ตัวนี้เป็นอะไร ซึมอะไรมึง” ไอ้เต้ยนั่งลงข้างๆไอ้เชน มันเอนหัวพิงไอ้เชน
“เต้ยจะเมา” พวกผมส่ายหัวกับนิสัยเด็กๆของไอ้เต้ย ดีนะที่ไอ้คิวไม่มา ไม่งั้นไอ้เต้ยคงประสาทเสียกว่านี้
ผู้ชายกับเหล้าคงเป็นมิตรแท้ต่อกัน ผมได้แต่นั่งเฝ้าพวกมัน ไม่ใช่ไม่อยากกิน แต่ไอ้ภูมิมันไม่ยอมให้แก้วเหล้าเฉียดเข้าใกล้ผมเลย เลยได้แต่นั่งชงให้พวกมัน น้ำลายผมคงหยดลงในแก้วหลายใบ เป็นโรคสุนัขบ้าแน่พวกมึง โดยเฉพาะไอ้เต้ย ผมชงให้แทบไม่ทัน
“มันต้องลองสถานที่ใหม่ๆเว้ยมึง เร้าใจค่อดๆ” ประเด็นตอนนี้คือสถานที่เมคเลิฟ ผู้เสนอไอเดียไม่พ้นไอ้ปัน
“ไอ้แทนกับไอ้ฟ่างแม่งทุกมุมห้องมั้งกูว่า” ไอ้เบียร์พูดบ้าง ผมหันไปมองหน้าไอ้ฟ่าง เพราะถ้าไม่หนักหนาสาหัสจริงๆไอ้เบียร์มันไม่พูดหรอก แต่แทนที่ไอ้ฟ่างมันจะอาย แม่งยักคิ้วยิ้มเลว ส่วนไอ้แทนยืดตัว ตบอกตัวเองเหมือนคิงคอง พวกมึงภูมิใจอะไรกันวะ
“เหลือแค่หลังตู้กับหลังทีวีที่ยังไม่เคยใช่มั้ยพี่” ไอ้น้องแมทออกความเห็น
“นั่นมันจิ้งจกแล้วสัด”
“แต่กูว่าน่าลองนะฟ่าง” ไอ้แทนนี่ก็บ้ายุ ทำตาหวานซบหน้าลงกับบ่าข้าวฟ่าง
“เชิญมึงไปลองคนเดียวเหอะ กว่าจะปีนขึ้นหลังตู้ได้กูหมดอารมณ์พอดี ดีไม่ดีตกลงมาคอหักตาย”
“นี่พวกมึงกะเอาจริง” ผมถามมันสองตัวผัวเมีย พวกมันพากันหัวเราะ ยิ่งดึกพวกมันก็เริ่มรั่วหนัก คนเมานี่ก็ตลก ชอบทำอะไรเพี้ยนๆ ไอ้ปันมันยืนคุยอะไรไม่รู้กับผนังห้องน้ำ ผมที่สติยังครบสมบูรณ์ต้องไปลากมันออกมา
ตอนนี้มันสลบไปแล้ว ไอ้แทนตามไปติดๆ ไอ้มิคก็อีกราย นอกนั้นยังสู้ได้อยู่ แต่ที่น่าเป็นห่วงสุดคือไอ้เต้ย ปกติมันไม่ดื่มหนักขนาดนี้ วันนี้มันไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยกวนตีนเหมือนทุกครั้ง
ถามว่าเป็นอะไรมันก็บอกว่าเปล่า และนับครั้งได้ที่ไอ้เต้ยจะสูบบุหรี่ แต่ตอนนี้มันไปนั่งสูบที่ระเบียงไม่รู้หมดไปกี่มวนแล้ว ไอ้เต้ยโหมดนี้ไม่ค่อยได้เห็นหรอกและพวกผมก็ไม่อยากเห็นมันเป็นแบบนี้ด้วย
“ฟ่าง กูว่าน้องมึงแปลกๆวะ” ผมมองไปที่ไอ้เต้ย ไอ้ฟ่างพยักหน้าเห็นด้วย
“มันอกหักหรอวะ” ไอ้เบียร์เดา
“อย่างมันหรอจะอกหัก เจ้าชู้น้องๆไอ้เชน ไม่มีทางอกหัก” ไอ้ฟ่างโยนขี้ให้ไอ้เชน
“อ้าว ทำไมมึงพูดแมวๆวะเชี่ยฟ่าง เออ ใครมันจะรักเดียวเสียวไม่เลือกอย่างมึงละครับ”
“พวกมึงอย่าเพิ่งกัดกันดิวะ ไอ้ภูมิถามไอ้แมทดิ ว่าเพื่อนมันเป็นอะไร” ไอ้เบียร์บอก ภูมิมันสะกิดไอ้แมทที่นั่งสัปหงกอยู่
“แมท ไอ้แมท”
“คร้าบเพ่” ไอ้แมทเสียงอ้อแอ้เต็มที่ จะไหวมั้ยวะ
“ทำไมไอ้เต้ยมันซึมๆ มันเป็นอะไร มึงรู้มั้ย” ภูมิล่อลวงถามไอ้แมทที่เมาไม่รู้เรื่อง มันสะอึกมองหน้าพวกผม และเริ่มชี้นิ้วมั่วๆ
“จะไม่ให้มันซึมได้ไงเพ่ คนมันเจ็บปวด เพื่อนผมมันเจบบบ”
“มึงพูดเบาๆสิแมท ไอ้เต้ยเจ็บเรื่องอะไร” ผมบอก เพราะเดี๋ยวไอ้เต้ยได้ยิน
“นี่พวกพี่แกล้งโง่ หรือโง่จริงๆห๊า”
“อ้าว ไอ้เชี่ยแมท”
“ไอ่ฟ่าง น้องมันเมา โง่อะไรหรอแมท บอกพี่หน่อย” ไอ้เชนเกลี่ยกล่อม
“ก็เจ็บที่เห็นพี่คิวควงสาวววว มางายย” พวกผมงงเป็นไก่ตาแตก มองหน้ากันเลิ่กลัก ไอ้คิวมากับแฟน แล้วทำไมไอ้เต้ยต้องเจ็บ ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกันตรงไหนนี่หว่า
“กูงง แล้วไอ้คิวมันเกี่ยวอะไรด้วยวะ” ไอ้เชนถามได้โดนใจกูมาก ไอ้แมทขมวดคิ้วใส่พวกผมหนักกว่าเดิม
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ไอ้เต้ยมันรักพี่คิว”OoO
>o<
UoU
“ห๊า!!!!” พวกผมแหกปากลั่นคอนโด ไอ้ปันที่หลับไปแล้วยังสะดุ้งตื่น ผมมองออกไปที่ระเบียงไอ้เต้ยยังคงเหม่ออยู่เหมือนเดิม
ไอ้เต้ย รัก ไอ้คิว เป็นไปได้ยังไงTBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
……………………………………………….
กรี๊ดดดดดดดดด น้องเต้ยรักไอ้พี่คิวหรือนี่
ตาลเพิ่งรู้ว่าที่มีคนใส่ +1 คือกดเพิ่มให้ตาล แอร๊ยยยย ขอบคุณทุกรีไพมากๆนะคะ
แล้วคะแนนของคนที่ให้จะลดลงใช่มั้ยคะถ้ากดให้ตาล ซึ้งงง
ปล เห็นมั้ย คลื่นไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด ก็แค่เพื่อนใหม่แค่นั้นเอง หึหึ
และนี่คือรอยสักเท่ห์ของภูมิคะ
Thanks: ฝากรูป