(เรื่องสั้น) "Secret of Love" By Sake แจ้งข่าวค่ะ หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) "Secret of Love" By Sake แจ้งข่าวค่ะ หน้า14  (อ่าน 238231 ครั้ง)

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
ตอนนี้น่ากลัวอ่า
แบบว่านึกภาพตามได้เป็นฉากๆ
บรื๋ออออออออออออออ
 :serius2:

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
ขำวาลย์มากกลัวผีแต่ได้หมอผีมาแทน :jul3: :m20:
ถ้าวาลย์รู้ความจริงว่าพี่ขรรค์เป็นหมอผีอะไรจะเกิดขึ้น บรืออออออออออหนาว :o
+1ให้กับค่าข้าวสารเสกของพี่ขรรค์ เชียร์พี่ขรรค์เต็มที่ o13

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
พี่ขรรค์คะ  ทีหลังอย่าร่วมทางไปกะ ไอ้น้องไม้ค่ะ

สวรรค์ล่มเลย :serius2:



+1  ให้เช่นกัน

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
น้อมรับข้าวสารเสกของพี่ขรรค์สุดเท่ห์ค่า เอาไว้ปาไล่ไอ่พี่ตรี ให้ไปไกล ๆ ชิ่ว ๆๆ 555

พี่ขรรค์ของอย่างนี้ต้องให้นู๋วาลย์เจอบ่อย ๆ จะได้ชิน อิอิ (นู๋วาลย์// ลองมาเจอเองดิ จะรู้สึก)

อ่อ เพื่อนไม้ฉันจะเอาข้าวสารมาไล่แกด้วย ดันมาขัดจังหวะ อารมณ์เสีย  :angry2:

ตอนหน้าจะหลอนกว่านี้ไหม  ติดตามๆๆๆ

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
เเจกข้าวสารเสกโดยพี่ขรรค์คนละ +1 ถุง หรือ ยาเสน่ห์โดยอิพี่ตรี +1 ขวด
เตรียมไว้ตอนหน้า ใครเชียร์ใครเลือกเลย
v
v
v
เอาข้าวสารเสก พี่ขรรค์ ปาใส่พี่ตรี แ้ล้วเอา ยาเสน่ห์จากพี่ตรี มาป้าย พี่ขรรค์ หุหุ....


ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ดีนะอ่านตอนเช้า
แอบฮาได้อีก

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
พี่ตรี-ยาเสน่ห์
เข้ากันมาก ๆ เลย มาดให้ได้ใจมาก
หมอเสน่ห์

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
แบบนี้แอบสยองเหมือนกันนะเนี่ย...ขอเป็นอีกคนที่ลาขาดจากเรื่องผีๆๆ กลัวมากมาย...

แต่เค้าเชียร์พี่ขรรค์สุดใจนะ อิอิ

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
 :a5: Oh my god!!!!!!!!!!!! :o ใช่สายสืบได้น่ากลัวมากอ่ะ

รับรู้ความเป็นไปได้ฉับไวกว่าโทรศัพท์แบบสามจีอีก

แต่มานนนนนนนนน่ากลัวน้าาาาาาาาาาาาาาาา o22

ถูกใจโค-ตะ-ระ มากมาย หมอผีกับคนกลัวผีขึ้นสมอง

อิอิอิแต่เหมาะกานดีออกเพราะมีคนมาปราบผีให้ไงค่ะ

มาปราบผี(ทะเล)ให้เจ้หน่อยได้ไหมค่ะ อิอิอิ

ออฟไลน์ Little_Devil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ไม่เอาข้าวสารเสก กับ ยาเสน่ห์ได้มั้ยอ่ะ
อยากได้น้องรักยมมากกว่า น่ารักกว่าเยอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
อ่านตอนที่แล้ว โอ๊ะ มีตรีศูลเพิ่มขึ้นมาอีกคนด้วย
แถมปล่อยพลังกันกลางมหาวิทยาลัยเลยอีกตะหาก
 :laugh:


วาลย์เอ๋ย รักไปแล้วก็ต้องอยู่กับพี่ขรรค์น่ะแหละ เดี๋ยวก็ชิน
คนเรามันต้องมีการปรับตัว ใช่มั้ย?


ชอบคุณพี่ขรรค์ล่ะ
ส่วนคุณพี่ตรี พี่ท่านคงไม่เลวร้าย โบ้ยไปประกบน้องกริชซะเลย  :m19:




 :L2:

ออฟไลน์ Kwawaic

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เฮ้อ
แล้วคืนนี้กรูจะกล้านอนมั้ยว่ะ


เห็นด้วยอย่างแรง ง่า

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
บรรยากาศหวานแบบสยองๆ ฮ่าๆ
น่ารักมากค่ะวาลย์

[Kim_SoMoNe]

  • บุคคลทั่วไป
ขรรค์เทพชื่อเท่ห์ได้อีกนะ   o13

เป็นเรื่องที่สนุกมากกกก ชอบๆ  :-[

ว่าแต่ มีหกตอนเองหรอออออออ  ม่ายยยยยยยยย  :serius2:

รักน้องรักกะน้องยมจัง  :impress2:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3

แฟนผมเป็นหมอผี!


“ไอ้กริชช่วยกูด้วย!”

ผมถลันวิ่งหน้าตั้งออกมาจากห้องน้ำในตึกเรียน มายืนเป็นหมาหอบแดดหน้าไอ้กริชซึ่งนั่งกินขนมปังปิ้งในสวนหย่อมกับเพื่อนๆระหว่างรอเรียนคาบต่อไป

“เป็นอะไรไอ้วาลย์ วิ่งตาเหลือกยังกับเจอผีมายังงั้นล่ะ”

ไอ้กริชชักขนมปังออกจากปากก่อนที่จะติดคอ มองผมหน้าตาเหร่อหรา ผมรีบเข้าไปทรุดนั่งตรงหน้าเพื่อน กระชากขนมปังในมือใหญ่ออก แล้วเอ่ยเสียงสั่น

“ในห้องน้ำมันต้องมีผีแน่เลยไอ้กริช!”

สิ้นเสียงผมเท่านั้นล่ะ ไอ้กริชหัวเราะก๊ากพลางกระชากขนมปังกลับคืน

“ผีบ้าผีบอที่ไหนจะโผล่มาตอนกลางวัน เมาค้างเปล่ามึง”

ไม่พูดเปล่า ไอ้กริชผลักหน้าผมออกห่าง แล้วส่ายหน้าเหมือนผมปัญญาอ่อนเสียเต็มประดา

“จริงๆนะมึง กูจะโกหกหาหอกอะไร เมื่อกี้ยืนฉี่อยู่ดีๆก็เหมือนได้ยินคนคุยกันในห้องส้วม กูเดินเข้าไปดูก็ไม่มีใคร แล้วมึงเชื่อมั้ยว่าในห้องน้ำจะมีลมพัดไปมาโคตรแรง ยังกับมีลมบ้าหมูเลย”

ผมจ้องหน้าไอ้กริช หวังจะให้มันเชื่อ แต่มันกลับจ้องหน้าผมพร้อมขยับนั่งให้เข้าที่เข้าทางก่อนยกมือมาอังหน้าผากผม

“ตัวก็ไม่ร้อน ละเมอเพ้ออะไรไอ้วาลย์ ไอ้ปอดแหก”

“ไม่เชื่อใช่มั้ย ไม่เชื่อไปด้วยกันเลย ปะ” ผมกระชากให้ไอ้กริชลุก

“ไม่ไปเว้ย ไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรเหมือนที่ผ่านมาล่ะ” ไอ้กริชจ้องตาผมเขม็ง “ถามจริง พักนี้มึงเป็นอะไร แหกปากร้องเจอผีทั้งวัน ยังกลับบ้านมึงปลูกทับป่าช้างั้นล่ะ”

“บ้านมึงสิ ไอ้เวร แช่งบ้านกู”

ผมปล่อยมือมันทิ้งทันที อาการหวาดผวาเมื่อครู่จางหายหลังจากได้ปล่อยหมาออกจากปาก

“ไอ้นี่ งั้นคราวหลังมึงก็ไปแหกปากอ้อนพี่ขงพี่ขรรค์มึงเลย ไม่ต้องมาร้องเอากับกู”

หนอย ไอ้เพื่อนเลว ไอ้เพื่อนกิน ขอปรับทุกข์หน่อยก็ไม่ได้

ผมด่าไอ้กริชในใจ จากนั้นจึงขยับก้นออกห่างพลางสอดส่ายสายตาไปรอบๆบริเวณ ท่ามกลางแสงแดดสว่างไสว ทว่ายังนึกระแวง ด้วยหลายวันที่ผ่านมา ผมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ใกล้ๆ บางครั้งได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นตัว และบ่อยครั้งเกิดลมบ้าหมูใกล้ตัวจนแทบลืมตาไม่ขึ้น

ผมไม่ได้บ้านะครับ แต่อยากจะบ้าแทน เพราะเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อ

และพักนี้ผมนอนละเมอบ่อยแบบไม่เลือกเวลา ไม่ว่าจะกลางวันกลางคืน แถมความจำยังขาดๆหายๆ หลับบนเตียงอยู่ดีๆ ตื่นมาอีกทีก็มานอนอยู่กับไอ้ตูบหน้าบ้านได้ ผมล่ะงงกับความเพี้ยนของตัวเองจริงๆ

“วันนี้เลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้านไปนอนเหอะไอ้วาลย์ มึงเล่นเกมยิงผีดิบหลังมอมากจนประสาทหลอนแล้ว” ไอ้กริชเตือนเสียงห้วน

“กูเปล่าหลอนนะมึง นั่นเกม ทำไมกูจะแยกไม่ออก”

“แล้วไอ้ที่แหกปากร้องว่าผีหลอกๆ นี่มันหมาที่ไหนวะ”

“ไอ้กริชมึง”

โกรธครับ ผมจ้องไอ้กริชตาแทบถลน ก่อนสะบัดตูดหนีหน้าตาขี้ริ้วของมัน ปกติก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันอยู่แล้ว พักนี้ยิ่งหนัก ปากยังกะกรรไกร ขี้งอนอีกต่างหาก อยากจะบอกมันเหลือเกินว่าไม่เข้ากับหน้ามันซักนิด

“วาลย์”

เสียงเรียกคุ้นหู ทำให้ผมชะลอฝีเท้าเหลียวมอง พี่ตรีนั้นเอง บัญชีเก่ายังไม่ได้คิดเลยนะมึง ยังเสนอหน้ามาให้เห็นอยู่ได้บ่อยๆ

เห็นแบบนี้ผมก็รักพี่ขรรค์คนเดียวนะ ไม่วอกแวกกับไอ้หน้าหล่อนี่เป็นอันขาด

“มีไรพี่”

ผมทักน้ำเสียงยานคาง ด้วยพี่ขรรค์สั่งไม่ให้คุยกับคนหล่อ เอ้ย ไม่ใช่ กับคนแปลกหน้า

“เป็นอะไรครับ ทำหน้ามุ่ยเชียว”

“เซ็งชีวิตพี่ แล้วพี่มีเรียนตึกนี้เหรอ”

“เปล่า พี่มาหาวาลย์นั่นล่ะ”

“พูดยังกับรู้ว่าจะหาผมเจอที่ไหน”

ผมเอียงคอมอง ในขณะที่อีกฝ่ายยักยิ้มเจ้าชู้ใส่

“ก็พี่อยากรู้จักวาลย์ ก็ต้องรู้สิว่าอยู่ที่ไหน”

“จะอ้วกพี่”

ผมตอกกลับไม่ไว้หน้า เพราะพี่ตรีก็จีบผมไม่ไว้หน้าพี่ขรรค์เช่นกัน ต่อหน้าต่อตายังปากว่ามือถึงจนผมพลอยซวยไปด้วยหลายรอบ อีกทั้งเวลาอยู่ใกล้พี่ตรีนานๆผมว่าความคิดความอ่านของผมมันจะเพี้ยนๆใจเต้นตึกตัก เคลิ้มคล้อยตามพี่เขาตลอด ทั้งๆที่พี่ขรรค์เตือนนักเตือนหนา

ทางที่ดีอยู่ห่างๆไว้หน่อยก็ดี

และดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ จึงลดอาการกรุ้มกริ่มลง

“พี่พูดจริงนะ แต่วาลย์จะรีบไปไหนหรือ”

“ไปเรียนพี่”

โกหก

สายตาพี่ตรีประณามผมโต้งๆแต่ผมไม่สนใจ จนอีกฝ่ายมีท่าทางล่าถอย

“งั้นไปเถอะ ไว้พี่จะหาโอกาสนั่งคุยกับวาลย์นานๆดูสักที วาลย์คงไม่ว่าอะไรนะ”

“ถ้าว่างนะพี่”

ผมเหลียวไปบอกพี่ตรี ก่อนวิ่งเข้าไปในตึกเรียน ไม่ทันเห็นสายตาแวววาวหมายมาด


“ว่างสิ ถ้าพี่บอกว่าว่างก็ต้องว่าง”

ตรีศูลหันมองความว่างเปล่าข้างๆ

“มีของดีคุ้มตัวหนาแน่นแบบนี้ ก็แสดงว่าของเขาดีจริง น่าลิ้มลองสักครั้ง จริงมั้ย?” ริมฝีปากหยักโค้งขึ้นอย่างมีเลศนัย

“เลิกเล่นกันเถอะ เจ้าของเขาหวงขนาดนี้ พลาดพลั้งไปเราจะอด”


ตอนเย็นผมกลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพจากการรับส่งของพี่ขรรค์เช่นปกติ เอ...ไม่ใช่ เข้มงวดกว่าปกติต่างหาก แต่ผมก็อุ่นใจด้วยเวลาอยู่ใกล้พี่ขรรค์ รอบตัวมันดูสงบเสงี่ยม ไม่มีลมบ้าหมู ไม่มีเสียงพูดคุยให้ผมหัวใจวายตายซะก่อนได้แอ้มพี่ขรรค์

“พี่ขรรค์อยู่กินข้าวเย็นกันก่อนนะ”

ผมชวนและพี่ขรรค์ก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนเดินตามผมเข้าบ้าน

วันนี้ยังไม่มีใครกลับ ในบ้านจึงเงียบกริบถ้าไม่นับเสียงเห่าหอนของไอ้ตูบหน้าบ้าน ผมเปลี่ยนเสื้อโยนทิ้งลงตะกร้า แล้วจึงเปิดตู้หยิบเสื้อยืดขึ้นมาสวม

สัมผัสอุ่นร้อนทาบทับด้านหลังทำให้ผมชะงัก หดคอลงด้วยจั๊กจี้ จากริมฝีปากนุ่มกดย้ำใบหูหยอกเอิน

“พี่ เดี๋ยวแม่ก็กลับมาแล้วนะ”

ผมเห็นพี่ขรรค์อมยิ้ม รู้สึกเก้อเขินขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ผมเปล่าเชิญชวนนา

“นิดหนึ่งนะ”

ไม่รอให้ผมบ่ายเบี่ยงก็ถูกจู่โจมรวดเร็ว ผมเปิดรับลิ้นอุ่นชุ่มชื้นเข้ามาในโพรงปากอย่างยินดีนิดๆเล่นตัวหน่อยๆ ก่อนถูกลงโทษขบริมฝีปากล่างให้เจ็บๆคันๆ

“พี่ขรรค์” ผมครางเสียงอ่อน

“วาลย์ พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำธุระ มารับส่งไม่ได้ ห้ามเถลไถลไปเล่นเกมหลังมอ รู้นะ” พี่ขรรค์บีบก้นผมสำทับ

“ครับ” ผมลากเสียงยางครางให้พี่ขรรค์ถลึงตาใส่

“พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ และยิ่งร้านนั้นยิ่งห้าม ถ้ารู้ว่าไปล่ะก็ น่าดู เหล้าก็ห้ามกิน สร้อยที่คอก็ห้ามถอด”

ผมสบแววตาคมไม่ต่างกับใบมีดโกน อยากจะเถียงใจแทบขาด แต่ก็กลัวเกินกว่าจะอ้าปาก ได้แต่พยักหน้ารับ

ดุชิบ

แล้วจึงตะบึงตะบอนหน้างอหน้าหงาย เอ่ยน้อยอกน้อยใจ

“พักนี้พี่ขรรค์ชอบดุวาลย์อยู่เรื่อย ห้ามนั่นห้ามนี่ จนวาลย์จะไม่มีใครคุยด้วยอยู่แล้ว”

“ก็มีแฟนเสน่ห์แรง เลยต้องหวงกันหน่อยสิ”

พี่ขรรค์จิ้มจมูกผมเบาๆ แต่ยิ่งทำให้ผมหน้างอหนักกว่าเดิม

“ไม่ต้องมาหาเรื่องเลย วาลย์รักพี่ขรรค์คนเดียว จะไปทำยังงั้นได้ยังไง” ผมแกะมือใหญ่ออกจากเอว

“จริงเหรอ”

“พี่ขรรค์!”

พอรู้ว่าถูกกวนประสาทให้บอกความรู้สึก ผมก็เต้นเป็นเจ้าเข้า ยื้อยุดฉุดกระชากกันครู่เดียวก็ล้มกลิ้งลงบนเตียงนอนนุ่ม

“พี่ก็รักวาลย์ อย่าโมโหเลยนะ”

พี่ขรรค์กอดผมแรงๆแล้วจึงปล่อย

และผมซึ่งแพ้หน้าตาหล่อเหลาของพี่ขรรค์เป็นทุนเดิม พยักหน้ารับคำง่ายๆจนคิดไปว่าน่าจะเล่นตัวอีกซักหน่อย เดี๋ยวไม่มีราคา

“วาลย์ ไว้มีวันหยุดยาวอีก เราไปเที่ยวไหนกันสองคนนะ”

คำพูดแฝงความนัยทำให้ผมหน้าแดง ซุกหน้ากับแผงอกอุ่น ส่ายศีรษะปฏิเสธลูกเดียว

ไม่ใช่ไม่อยาก แต่มันอายต่างหากเล่า!


==========================================


นาฬิกาปลุกเปล่งเสียงดังตรงตามเวลาที่ตั้งไว้ยามเช้า หากผมยื่นมือไปกดปิดเสียงแล้วทิ้งตัวนอนต่ออย่างมีความสุข

แว่วเสียงพูดคุยใกล้ๆทำให้ผมที่ยังสะลึมสะลือเงี่ยหูฟัง

“สายแล้ว พ่อเล็กยังไม่ยอมลุกอีก เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทัน วันนี้พ่อขรรค์ไม่มารับด้วย”

“ปลุกสิ ยิ่งฉลาดน้อยอยู่ แต่ถ้าซ้ำชั้นความรู้คงจะแน่นนะ”

“อย่าว่าพ่อเล็กนะ โป้งด้วย”

“เค้าพูดเรื่องจริงต่างหาก”

“จะฟ้องพ่อขรรค์”

“เชิญ”

“เชอะ ปลุกเองก็ได้”

ผมใจเต้นระทึก เสียงมันดังอยู่บนหัวนี่เอง แต่เตียงนอนผมติดผนังห้องนี่นา นอกจากคนพูดจะลอยได้เหมือนลูกโป่งเท่านั้นล่ะจึงจะสามารถทำได้ นอกเหนือจากนี้ก็ผีล้วนๆ

คิดแล้วให้ขนตั้งไปทั้งตัว

และก่อนที่จะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้ ก็รู้สึกว่ากำลังถูกใครเป่าลมใส่หู

“อ๊าก!”

ผมทะลึ่งพรวดลุกขึ้น ก่อนกระโจนออกจากเตียงจนล้มลุกคลุกคลานมายืนหอบ มองเตียงนอนยับย่น หมอนไปทางผ้าห่มไปทาง แต่ไม่มีใครซักคน

“ใครน่ะ! ออกมานะ ไม่ออกพ่อเตะลืมชื่อจริงๆด้วย”

ผมกลั้นใจขึ้นเสียงเข้ม ใจเต้นตุบๆ หากทุกอย่างยังคงอยู่ในความเงียบ ผมฝืนความกลัวกวาดตามองบนเตียงไล่ไปถึงใต้เตียง ใต้เตียงที่สูงพอจะให้คนเข้าไปซ่อนได้

ต้องมีไอ้น้องเวรคนไหนแกล้งแน่ๆ ผมสาวเท้าเข้าไปใกล้ จากนั้นจึงยื่นเท้าเข้าไปในเงามืดใต้เตียงนอน ตั้งใจจะถีบไอ้คนที่อยู่ใต้เตียงเต็มตีน แต่แล้วผมก็ชะงักชักเท้ากลับอย่างรวดเร็ว

เพราะเส้นสัญชาตญาณกลัวผีขึ้นสมองของผมกำลังสั่นระรัว

ทางที่ดีปล่อยให้คิดว่ามีไอ้น้องคนไหนแกล้งผมอยู่ใต้เตียงดีกว่า

ว่าแล้วผมก็รีบเผ่นแนบลงไปหาแม่ซึ่งเตรียมอาหารอยู่ชั้นล่าง หน้าตาก็ไม่ได้ล้าง


ผมมาเรียนแบบหัวหางกระเซิง ก่อนออกจากบ้านแม่หัวเราะผมยกใหญ่ เพราะผมไม่กล้าขึ้นไปบนห้องนอนอีก เลยขอความกรุณาท่านแม่ขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าอุปกรณ์ต่างๆนาๆลงมาให้ แถมยังถูกว่าๆขี้ขลาดยิ่งกว่าเด็กสามขวบ

เอาเถอะ จะประณามอะไรก็เอา แต่เรื่องผีๆสางๆผมไม่เอาด้วยหรอก

ไอ้กริชมองผมนั่งเรียนหน้ามุ่ยตลอดคาบ พอเลิกเรียนมันเลยตามติดคอยเซ้าซี้ถามจนน่ารำคาญ

“พอกูเล่ามึงก็ไม่เชื่อ แล้วจะถามหาสวรรค์วิมานอะไรวะ”

ไอ้กริชเบิกตากว้างก่อนทำท่ากลั้นหัวเราะจนน่าถีบ

“อย่าบอกนะว่าเรื่องผีๆสางๆอีกแล้วนะ คราวนี้ที่ไหนอีกล่ะ”

ผมถลึงตาใส่ไอ้กริชแทบจะหลุดออกจากเบ้า

“ที่บ้าน บนเตียง ได้ยินมั้ย หัวเราะพอรึยัง” ผมเดินเข้าไปเผชิญหน้า

“พอแล้ว”

อยู่ๆไอ้กริชก็หยุดหัวเราะกะทันหัน

“แล้วคืนนี้จะนอนได้เหรอมึง”

ไอ้คนรู้ทัน

ไอ้กริชมันรู้ครับว่าถ้าผมเจอเรื่องประหลาดๆแปลกๆที่ไหน ที่นั่นจะเป็นที่ๆผมจะไม่ไปเหยียบซ้ำสอง ดีนะที่มันไม่เกิดทุกห้องส้วมในมหาลัย ไม่งั้นผมคงหน้าเขียวหน้าเหลืองไปทั้งวัน

“นอนไม่ได้แล้วมึงจะให้กูไปนอนด้วยมั้ยล่ะ” ผมจ้องหน้ามันเขม็ง

เห็นมันอึ้งครับ มันอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนรีบพยักหน้า หน้าตาเหมือนเด็กได้อมยิ้ม

“เอาดิ กูยอมเสียสละเตียงให้มึงนอนเลย”

ไอ้กริชตอบตกลง แต่ความใจดีผิดปกติของมันทำให้ผมไม่ไว้ใจ แสยะปากใส่

“ขอบใจ แต่กูไม่ไปให้มึงมาแกล้งกูได้หรอกไอ้กริช อย่าได้มาอ่อยให้กูหลงกลเสียให้ยาก กูไปนอนกะพี่ขรรค์ซะยังดีกว่า”

มันโกรธครับ ผมเห็นมันตาโตเท่าไข่ห่าน ชี้นิ้วแทบจะจิ้มตาผมบอด

“มึง...”

“อะไร”

“แช่งให้ผีหลอกมึงไปเหอะ”

“ไอ้กริช!”

ผมขึ้นเสียงตวาด แต่ไม่ทันแล้วครับ ไอ้กริชมันวิ่งหนีตีนผมไปถึงไหนต่อไปแล้ว และก่อนจะพ้นสายตา มันยังชูนิ้วกลางให้ผมอีกด้วย

หงุดหงิดครับ เจอแช่งแบบนี้ก็ขนแขนแสตนด์อัพสิครับ วันนี้เรียนวิชาเดียวด้วย แม่ก็ยังไม่กลับบ้าน แล้วใครจะอยากกลับไปอยู่กับผีล่ะ

ว่าแล้วผมก็พาตัวเองไปยังร้านเกมหลังมหาลัย ลืมคำเตือนของพี่ขรรค์ไปเสียสนิท

มาถึงร้านเกมก็ทักทายคุณพี่เจ้าของร้าน แล้วจึงเดินไปจับจองมุมเดิม เริ่มเล่นเกมอย่างเมามัน แบบลืมวันลืมคืน จนรู้สึกคอแห้งจึงหยุดมือ พักเกมไว้ชั่วคราว ลุกเดินออกไปซื้อน้ำดื่มร้านข้างๆ ถึงได้รู้ว่าฟ้ามืดแล้ว

ผมสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น เล่นเอาจักกะจี้ไปถึงไหนต่อไหน แต่เห็นชื่อบนหน้าจอก็ทำให้ต้องรีบกดรับสาย

แม่โทรมาบอกว่าซื้อปลานึ่งมะนาวมาให้ ถ้าไม่รีบกลับไปกิน อดไม่รู้ด้วย

งั้นวันนี้พอแค่นี้ดีกว่า ผมคิดเมื่อวางสายจากแม่แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปในร้าน

ไม่ได้สนใจว่าตัวเองนั้นไปสะดุดตาใครเข้าพอดี

ผมกลับเข้ามานั่งก้นยังไม่ทันร้อน ก็เจอพี่ตรีศูลโผล่หน้าเข้ามาในร้านเกม แถมตรงดิ่งมาหาราวกับสนิทกันมาแต่ชาติปางก่อนอีกต่างหาก

“ไม่คิดว่าจะเจอวาลย์ คิดว่ากลับไปแล้วซะอีก”

พี่ตรียิ้มหล่อ ทำให้ผมที่เผลอสบตาหน้าแดง แล้วรีบหรุบตาหนี

“จะกลับแล้วล่ะพี่ เมื่อกี้แม่โทรมาตาม”

พี่ตรีเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง แล้วเขยิบมาเข้าใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น

“เดี๋ยวพี่ไปส่งให้ จะได้คุยกัน เราไม่ค่อยมีเวลาคุยกันนานๆเลยนะ ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันไปได้”

น้ำเสียงทุ้มรื่นหูทำให้ผมอยากใจอ่อนอยู่คุยกับพี่เขาสักนิด ถ้าไม่ติดคำสั่งเสียของพี่ขรรค์ที่ดังก้องในสมองขึ้นซะก่อน

“ขอบคุณพี่ แต่ไว้วันหลังดีกว่า ผมต้องกลับแล้วจริงๆ”

“ก็พี่ไปส่งให้ไง ไปต้องเบียดคนบนรถเมลล์ด้วย นะ”

“คือ...”

ผมอึกอัก ไม่อยากจะบอกเลยว่าถูกแฟนห้ามไว้ ยิ่งหูไวตาไว้อยู่ด้วย

“มีคนสั่งห้ามไว้หรือเปล่า”

“อ๊ะ! พี่รู้ได้ไง”

ผมเบิกตากว้าง เมื่อถูกอีกฝ่ายจับพิรุธได้ และขยับถอยหนีใบหน้าหล่อๆยื่นเข้ามาใกล้

“เรื่องของวาลย์พี่รู้หมดล่ะ”

เสียงกระซิบเบาๆฟังแล้วชวนเคลิบเคลิ้มใจเต้นระส่ำ จนทำอะไรไม่ถูก เอาแต่มองริมฝีปากอิ่มขยับขึ้นลงน่ามอง คนอะไรปากน่าจูบชะมัด

“โอ๊ย!”

ผมลูบต้นแขนตัวเองแรงๆเหมือนถูกแมลงต่อย พอก้มมองดูก็เห็นเป็นจ้ำแดงๆแต่ไม่เห็นแมลงซักตัว

“เจ็บรึเปล่า”

“ไม่ค่อยหรอกพี่ แค่คันๆ”

ผมเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ไม่สุข คิ้วขมวดยุ่ง สังหรณ์ในใจพิกล แต่พอเงยหน้าก็เห็นอีกฝ่ายกำลังยิ้มกริ่ม จนเผลอค้อนไปวงโต

“ดุจัง”

“ใครดุ?”

พี่ตรีส่ายหน้าไม่ตอบ ก่อนจะยื่นมือมาจับเส้นผม แล้วค่อยๆลูบเล่นเบาๆ

ผมตั้งท่าจะสะบัดศีรษะหนี แต่พอสบดวงตาคมทอประกายแสงวูบหนึ่ง ความคิดอันแรงกล้าก็อ่อนลงในฉับพลัน ในหูอื้ออึง เห็นเพียงริมฝีปากพี่ตรีกำลังขยับพึมพำอะไรบางอย่างยาวๆ

“ไปกันเถอะ คืนนี้พี่อยากคุยกับน้องวาลย์ทั้งคืนเลย เดี๋ยวเราแวะซื้อของแล้วค่อยไปบ้านพี่กันนะ”

ไปบ้านพี่ ทั้งคืน ผมทวนคำพี่ตรีในสมอง ก่อนส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ได้ๆเดี๋ยวพี่ขรรค์ดุเอา”

“ไม่หรอก เชื่อพี่”

“ไม่...”

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ผมเสียงอ่อนลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ยังพยายามเค้นสมองตั้งสติคิด ตอนนี้ผมนึกอยากให้มีอะไรมาตบหน้าผมแรงๆซักที จะได้รวบรวมสติที่กำลังกระจัดกระจายกลับตัว

และไม่ต้องขอนานครับ เพราะผมหน้าหงายเหมือนมีใครมากระชากเส้นผมจากด้านหลังอย่างแรง

ผมทะลึ่งพรวดลุกขึ้นจ้องหน้าพี่ตรีเขม็ง ดวงตาคู่คมที่ผมชมว่าสวยกลับดูเยือกเย็นน่าหวาดหวั่นขึ้นมาในใจ ผมรีบเอื้อมไปคว้ากระเป๋า หากถูกพี่ตรียึดแขนทั้งสองข้างไว้ พร้อมทั้งรั้งให้นั่งลงดังเดิม

โอม พาลี...

เสียงเย็นพึมพำข้างหู ผมเริ่มจมลึกลงไปในดวงตาสีดำสนิทลึกล้ำ ไม่ต่างกับคนจมน้ำที่พยายามตะเกียกตะกายขึ้นฝั่ง ในสมองฉายภาพคนตรงหน้ายกยิ้มมุมปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมกลับได้ยินเสียงอื้ออึงดังรอบตัว

เสียงเหมือนเด็กทะเลาะกัน

‘พ่อเล็กตั้งสติสิ โอ๊ย!’

‘สมน้ำหน้า อยากลองดีก็ต้องโดนแบบนี้”

‘พ่อเล็ก!...พ่อ ช่วยด้วย ไม่ไหวแล้ว’

เสียงร้องเล็กๆหายไปเมื่อผมถูกพาออกจากร้านเกม โดยที่ผมไม่คิดค้านพี่ตรีซักแอะ แถมยังอยากจะมองแต่หน้าพี่ตรี อยากอยู่กับพี่ตรี อยากสัมผัส อยากแตะต้องปากสวยๆนั่นที่เอาแต่พูดจาอะไรที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง

“วาลย์ ไปอยู่กับพี่นะ”

“คะ ครับ”

“เด็กดี”

พี่ตรีจูบขมับผมเบาๆแล้วค่อยๆเคลื่อนรถไปข้างหน้า ท่ามกลางรอยยิ้มยินดีเกลื่อนบนใบหน้าของผม

ในหัวไม่หลงเหลือภาพพี่ขรรค์ติดอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งแม้สักน้อย


ผมมานั่งบนเตียงอ่อนนุ่มในบ้านหลังงามสไตล์โมเดิร์น นัยน์ตากวาดมองไปรอบๆแต่ไร้ซึ่งความคิดอ่านอ่อนเชื่อม มองพี่ตรีรินน้ำสีทองมาประคับประคองให้ดื่มอึกใหญ่

“อีกมั้ย?”

ผมพยักหน้ารับ ของชอบจะตาย และดื่มจนหมดแก้วก่อนยิ้มหวานให้อีกฝ่าย

“ยิ้มแบบนี้พี่ก็แย่สิน้องวาลย์”

มือพี่ตรีเอื้อมมาบีบแก้มผมเล่นเบาๆ “นุ่มจัง” ดวงตาเยือกเย็นทอแสงเรืองรองก่อนก้มลงชิมริมฝีปากผมอย่างหยอกเอินราวผีเสื้อโฉบ

ชั่วพริบตาที่ผมออกแรงต้านทานโดยไม่รู้ตัว หลบอีกฝ่ายรวดเร็ว จนพี่ตรีเลิกคิ้วฉงน และยกมุมปากยิ้มหมายมาด

“สอนมาดีจริงๆ แบบนี้พี่ยิ่งชอบ รู้มั้ย” ปลายนิ้วเรียวเชยคางมนขึ้นมอง

ผมค่อยๆยื่นริมฝีปากตัวเองเข้าประกบจูบอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนเอ่ยน้ำเสียงอู้อี้

“อยากให้พี่ตรีสอนมากกว่า”

“ปากหวานจัง เดี๋ยวเจ้าตัวเขามาตาม แล้วจะกลับคำไม่ได้นะ” พี่ตรียักยิ้มเจ้าชู้ “รู้รึเปล่าว่าเขาน่ะชื่อดังในวงการเชียวล่ะ ดังจนน่าลองของ แถมมีรางวัลน่ารักน่าใคร่เสียด้วย”

ผมเอียงคอสงสัยในรอยยิ้มมีเล่ห์ แต่ก็ถูกอีกฝ่ายกดลงบนที่นอน และใช้ฝ่ามือลูบไล้แผ่นอกเรียบ จากนั้นจึงปลดกระดุมสอดมือเข้าไปสัมผัสผิวเนื้อให้ผมกระตุกวาบ แล้วถูกริมฝีปากอีกฝ่ายประกบปิด ดูดดุนลิ้นร้อนจนผมหายใจตามแทบไม่ทัน พี่ตรีค่อยๆขยับตัวขึ้นคร่อม แทรกกลางหว่างและบดเบียดลงมาให้ผมใจสั่นขนลุกไปทั้งตัว

“พี่ตรี...”

เสียงครางอ่อนยวบยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายเพิ่มแรงกดคลึงเคล้นหนัก จนผมต้องหลับตาปี๋ บีบต้นแขนแข็งแน่น กระทั่งทุกอย่างหยุดชะงักและได้ยินเสียงหัวเราะหึๆข้างใบหู ผมจึงลืมตามอง

“ไม่อยากจะเชื่อ เจ้านั่นมันตายด้านรึไง?” พี่ตรีก้มกัดริมฝีปากล่างผมเบาๆ ก่อนเอ่ย “ถ้าเจอ พี่คงต้องขอบใจมันหน่อยแล้ว”

ปัง!

“ไม่ต้องขอบใจหรอก เพราะฉันไม่รับของจากพวกใจบาปหยาบช้าอย่างนาย!”

เสียงพี่ขรรค์ดังขึ้นพร้อมๆกับหน้าต่างใกล้ตัวเปิดออกกระแทกผนังดังสนั่น ร่างเงาตะคุ่มค่อยๆชัดเจนขึ้นท่ามกลางแรงลมหวีดหวิวจนผมต้องหยีตามองคนตรงหน้าเหมือนคนไม่รู้จัก ก่อนขยับเข้าไปเบียดชิดพี่ตรี ด้วยอาการหวาดหวั่นกับเหตุการณ์ ทว่าหางตาผมเหมือนเห็นผู้บุกรุกกำลังหน้าเขียว เม้มปากแน่น จ้องผมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ยิ่งทำให้ผมซุกหน้ากับไหล่พี่ตรียิ่งขึ้น

“วาลย์! ลุกออกมาเดี๋ยวนี้”

เสียงตวาดสร้างความตื่นตระหนก ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธเร็ว มองคนตาแทบถลนออกจากเบ้ากระโดดข้ามหน้าต่างมายืนไม่ห่าง

“ดุแบบนี้ น้องเขาก็กลัวกันพอดี”

พี่ตรียิ้มกับผมก่อนหันไปมองผู้มาใหม่แววตาเยือกเย็นแข็งกระด้าง จากนั้นจึงค่อยๆลุกขึ้นไปเผชิญหน้า

“อยากคุยด้วยมานานแล้ว” พี่ตรีเดาะลิ้น

“ฉันไม่อยากคุย แต่จะมารับคนของฉันกลับ ถ้าไม่อยากให้เป็นเรื่องก็ส่งเขาคืนมา และเลิกทำอะไรต่ำทรามแบบนี้ซะที”

“พูดจาอวดดีเหลือเกิน แกไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในวงการนี้หรอกนะ อย่าได้ใจไปกับคำเยินยอนักเลย ฉันล่ะอยากสำรอก”

พี่ตรีประสานสายตากับอีกฝ่ายราวกับมีสายฟ้าแล่นปลาบแปลบรอบตัว ผมได้แต่ขดตัวคราง เพราะเริ่มเห็นเงาทะมึนที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างหน้าตาน่ากลัวรอบคนทั้งสอง และร่างของเด็กผมจุกฝั่งละสองตนกำลังทำหน้าตาเยาะเย้ยใส่กัน

“กุมารทอง พาวาลย์ออกไป ฉันไม่อยากให้ของขวัญชิ้นนี้บุบสลายก่อนจะได้ลิ้มชิมรสเสียก่อน”

ผมมองเด็กผมจุกลอยพุ่งมาหา แล้วฉุดให้ลุกขึ้นด้วยแรงมหาศาล

“รัก! พาพี่มาหาพ่อเร็ว ต้องถอนมนต์ให้พี่เขาได้สติ ไม่งั้นถูกพาไปไหนต่อไหนไม่รู้ตัวอีกแน่”

สิ้นเสียงสั่ง เด็กผมจุกอีกตนก็ทะยานเข้ามาหา พร้อมๆกับง้างเท้าถีบกุมารทองที่ลากผมอยู่เสียกระเด็น จากนั้นก็ลงมือตะลุมบอนกันนัวเนีย

ส่วนเงาทะมึนที่กลายร่างเป็นซากคล้ายมนุษย์ตรงเข้าหาพี่ขรรค์ จากการสั่งการของพี่ตรี ทว่าร่างน่าเกลียดน่ากลัวนั้นกลับเข้าใกล้เป้าหมายไม่ได้เลย เพราะผมมองเห็นพี่ขรรค์พนมมือกล่าวอะไรพึมพำ แล้วเกิดเป็นรัศมีสุกสว่างรอบกาย ทว่ากลับสร้างความเจ็บปวดให้ร่างที่ไม่ใช่มนุษย์ผงะถอยหลัง เป็นช่องว่างให้พี่ขรรค์เข้าประชิดตัวและออกหมัดชกพี่ตรีจนคว่ำในหมัดเดียว เลือดกบปาก

ผมมองชายหนุ่มที่ผมรู้สึกคุ้นเคยเข้ามาหาด้วยหน้าตาเหมือนโกรธใครมาสักสิบชาติ กระชากผมให้เข้าหา ฝ่ามือร้อนจัดจับต้นแขนผมไว้มั่นพลางเอ่ยวาจารื่นไหลเสนาะหู

นะโม...

‘วาลย์...วาลย์...’

เสียงเรียกแผ่วเบาดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมมองใบหน้าซึ่งซ่อนทับกันมากมายรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและกระจ่างในบัดดล

“พี่ขรรค์...”

ผมงึมงำเรียกอีกฝ่ายอย่างมึนงง หากคนตรงหน้ามีท่าทางคลายกังวลลงเล็กน้อย

“ไม่ต้องถามอะไร รีบตามยมออกไปข้างนอก”

ผมถูกรุนหลังพร้อมๆกับยกมืออุดปาก เพราะเด็กที่พี่ขรรค์เรียกว่ายม กำลังลอยมาหาผม ขอย้ำ! กำลังลอยมาครับ ไม่ใช่เดิน ผมหูตาเหลือกขาแข้งไม่ยอมก้าวไปข้างหน้า เหลียวมองพี่ขรรค์อย่างตื่นตระหนก พลางส่ายหน้าดิก

“พะ...พี่ขรรค์ อะ...อะไร นะ...นั่น...ผะ...ผี มะอาว ไม่น้าพี่ขรรค์!”

ผมกระโดดเกาะคอพี่เขาแน่น แหกปากร้องโวยวาย จนพี่ขรรค์ขมวดคิ้ว มีสีหน้าวิตกอย่างเห็นได้ชัด

พี่ก็กลัวใช่มั้ยล่ะ แล้วทำไมยังให้ผมไปกะไอ้นั่น!

“หย๋า! ลอยมาแล้ว ไม่เอา ออกไปนะ ออกไป!”

ผมไล่ส่งไอ้เด็กผมจุกที่ลอยมาอยู่ตรงหน้าไม่ยอมไปไหนอย่างรังเกียจสุดฤทธิ์ จนหน้าเล็กๆซีดๆหงอยลงไปถนัดใจ

“พ่อเล็กอะ พ่อเล็กไล่ผมเหรอ พ่อเล็กไม่รักยมเหรอ อะ...ฮื่อๆ”

เกิดมาผมเพิ่งเคยเห็นผีร้องไห้งอแงก็วันนี้ล่ะครับ แถมร้องได้น่าเอ็นดูซะด้วย เล่นเอาผมเอ๋อไปเลย หันมองหน้าพี่ขรรค์เลิ่กลั่ก ทว่าอีกฝ่ายที่ทำหน้าเคร่งเครียดดึงผมไปอยู่ข้างหลัง และมองพี่ตรีกำลังลุกขึ้นมายืนจังก้า ปาดเลือดจากมุมปากคล้ายไม่แยแส

“หมัดหนักดีนี่ แต่ไม่ง่ายหรอกถ้าจะกลับไป”

‘พี่ตรีทำไมพูดแมวๆยังงี้เล่า’ ผมย้อนคนเลือดกบปากในใจ หากในสมองกำลังทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกระท่อนกระแท่น สายตาก็กวาดมองไปรอบๆตัว ที่มีแต่ผีลอยอยู่ให้เต็มห้อง จนนึกอยากสลบไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่อาการตื่นตัวก็ทำให้เมฆหมองที่บดบังสติให้เลือนรางค่อยๆแจ่มชัด ถึงชัดแจ๋ว

ผมไม่ได้ลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมจำได้ จำได้ทุกอย่าง ผมถูกพี่ตรีชวนมาด้วย และผมก็ปฏิเสธ แต่พอพี่เขางึมงำอะไรซึ่งผมฟังไม่รู้เรื่อง ผมก็คล้อยตามพี่เขามาเฉยเลย

ตายห่าล่ะ ผมเป็นอะไรไป ทำไมผมใจง่ายขนาดนี้ แถมยังไปถึงไหนๆกะพี่ตรีไปตั้งเยอะแล้วด้วย ซวยหละ พี่ขรรค์!

ผมเหลือบมองซีกหน้าคนที่ยืนเป็นโล่กำบังทุกสิ่งให้อย่างหวาดๆ

จะโมโหมากมั้ยอะ

พอถึงเวลาคับขันผมเลือกกลัวพี่ขรรค์มากกว่าผีซะอีก

ก็แฟนประเสริฐแบบนี้ ชีวิตนี้ผมคงหาไม่ได้แล้วล่ะครับ

ถึงผมจะรู้สึกเป็นบุญท่วมหัว แต่ผมว่ามันตงิดๆยังไงไม่รู้ ก็พี่ขรรค์ไม่ออกอาการกลัวภูตผีปีศาจรอบตัวซักกะติ๊ด นิ่งสงบเป็นน้ำในตุ่ม

“พี่...ขรรค์ ผมกลัว” ผมดึงชายเสื้อพี่เขาไว้หวาดๆ

“วาลย์อยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหนจนกว่าพี่จะมารับ เข้าใจมั้ย”

พี่ขรรค์สั่งเสียงเข้มโดยไม่หันมามองหน้าผมแม้แต่น้อย ฉับพลันพื้นที่ผมยืนเกิดเป็นแสงเรืองรองโอบล้อมตัวผมไว้ ละอองสีทองไหลวนเป็นสาย ดังม่านขวางกั้นสิ่งชั่วร้ายไม่ให้มากล้ำกราย

ผมเข่าอ่อนลงไปกองกับพื้น นึกอยากวิ่งหนีก็ทำไม่ได้หรอกครับ ได้แต่มองพี่ขรรค์เดินไปประจัญหน้ากับพี่ตรีซึ่งยืนคอยท่า กำหนดจิตส่งภูตผีเข้ามารุมทึ้ง ผมเห็นพี่ขรรค์ล้วงบางสิ่งจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเป็นกำ แล้วสาดซัดใส่ภูตผีจนเกิดเป็นประกายไฟแดงวาบลามไปทั่งร่างจนค่อยๆสลายหายไปในอากาศ

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ พี่ตรีไม่รู้ไปปลุกซากศพมาจากไหน ถึงเดินทื่อเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังอีกหลายตน เหตุการณ์ชักไม่ดี เหมือนพี่ขรรค์กำลังเสียท่าหมาหมู่ ไม่ใช่สิ ผีรุมต่างหาก ผมได้แต่หันมองหาตัวช่วย กุมารทองของพี่ตรีกำลังเตะต่อยกับกุมารน้อยที่พี่ขรรค์เรียกว่ารักอยู่ หน้าตาปูดกันเลยทีเดียว และเจ้าเด็กจุกที่ว่างงานลอยอยู่ตรงหน้าผมอีกตน น่าจะชื่อยม

รัก-ยมเหรอ?

พี่ขรรค์เลี้ยงรัก-ยมด้วย!

แม้จะกลัว แต่ร่างเล็กๆลอยอยู่ตรงหน้าก็ไม่คิดจะทำร้ายหรือหลอกหลอนผมแต่อย่างใด กลับกำลังทำหน้าที่ปกป้องผมจากวิญญาณที่จ้องมาเอาตัวผมออกไปจากแสงเรืองรองอบอุ่น ที่ซึ่งพี่ขรรค์สร้างให้ แต่พี่ขรรค์กำลังจะแย่แล้ว

ผมตะโกนออกไปสุดเสียง เมื่อเห็นพี่ขรรค์ถูกซากศพจับได้ ขาจึงก้าวออกจากอาณาเขตปลอดภัยอัตโนมัติ

“ห้ามออกไปนะพ่อเล็ก!”

“แต่ว่า...”

“พ่อใหญ่เก่ง ไม่เป็นอะไรหรอก พ่อเล็กออกไปจะเป็นตัวถ่วงเปล่าๆ”

สะอึกครับ เจอภูตเด็กตอกหน้าหงายแบบนี้ แต่ไม่ยอมหรอก

“งั้นนายก็ไปช่วยพ่อใหญ่ของนายสิ!”

“แต่พ่อสั่งให้หนูคอยคุ้มครองพ่อเล็กนะ”

“โว๊ย! สั่งไว้แล้วไงเล่า ถ้าพ่อนายเป็นอะไร ก็ตายกันหมดนี่สิ ไปเร็ว ฉันไม่เป็นไรหรอก รับรอง ฉันไม่ออกไปนอกเส้นนี้แน่ ”

กุมารน้อยเม้มปากก่อนพยักหน้าแล้วพุ่งตัวไปช่วยพ่อใหญ่ให้หลุดจากการจับกุม พอสลัดตัวออกมาได้ พี่ขรรค์ก็ร่ายคาถายาว บังเกิดแสงวาบ พระขรรค์ลงอักขระปรากฏขึ้นในฝ่ามือ จากนั้นเข้าฟาดฟันซากศพขาดเป็นท่อนๆ เข้าถึงตัวพี่ตรีซึ่งยืนทำหน้าเคร่งเครียด ทว่าในแววตากลับมีรอยยิ้มเยือกเย็น

พี่ขรรค์ใช้ไหล่กระแทกอกอีกฝ่ายจนไปนอนกับพื้น จากนั้นปักพระขรรค์ลงเฉียดลำคอพี่ตรีไปเส้นยาแดงผ่าแปด

“แกร่ำเรียนวิชามาเพื่อสนองตัณหาตัวเอง ก็หวังว่าครูบาอาจารย์จะสอนแกอีกว่าหากทำผิดศีลเมื่อไร ของมันจะเข้าตัวแก”

สิ้นคำพูดพี่ขรรค์ ผมเห็นพี่ตรีกระอักเลือดออกมาเป็นลิ่มๆ หากคนถูกกดไว้กลับหัวเราะออกมาดังๆ

“ฉันก็หวังว่าแกที่แสนดีจะไม่หลงไปกับมนต์ตราของขลังพวกนี้เข้าสักวัน ไอ้ขรรค์เทพ!”

อยู่ๆบนพื้นห้องก็มีอสูรกายสูงใหญ่ผุดขึ้นมาจนพี่ขรรค์ต้องพลิกตัวออกห่าง เพียงชั่วหันหลัง พี่ตรีก็หายไปแล้ว หายไปยังกับหายตัวได้ ทิ้งไว้เพียงวิญญาณที่ถูกมนต์คาถาตรึงไว้ใช้งานล่องลอย ไปไหนไม่ได้

พี่ขรรค์เสยผมตัวเองหนักๆก่อนรวบรวมสมาธิพนมมือ แล้วกล่าวบทสวดถอนมนต์สะกดให้วิญญาณเหล่านี้ได้ไปตามยถากรรมที่เคยสร้างสมไว้

สายลมดังหวีดหวีวสงบลงจนเหลือเพียงความเย็นเบาบางล้อมรอบตัว

ผมก้มมองเป้ากางเกงตัวเองซึ่งยังไม่เปียก และคลำหัวตัวเอง ผมก็ยังไม่ตั้ง ไม่หลุด แต่ผมอยากเป็นลม

ละอองสีทองดังอาณาเขตหายไปแล้ว พี่ขรรค์เดินตัดข้ามห้องมาหา ประคองผมให้ลุกขึ้น แต่ผมเป็นง่อยไปเสียแล้วครับ พี่ขรรค์เลยอุ้มผมเหมือนอุ้มเด็กเล็กๆออกจากบ้านที่เมื่อครู่ยังเป็นสมรภูมิภูตผีไปวางในรถยนต์ โดยมีรัก-ยมลอยตามมาอยู่เบาะด้านหลังด้วย

ผมเอาแต่จ้องหน้าพี่ขรรค์ ไม่กล้าเอ่ยในสิ่งที่ตนเองคิด ด้วยกลัวคำตอบที่ได้รับ

พี่ขรรค์ไม่ได้แวะส่งผมที่บ้าน แต่เลยบ้านผมไปยังมุมหนึ่งของกรุงเทพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตำหนักพยากรณ์ศาสตร์

ผมมองป้ายหน้าเรือนไทยเขียนไว้ยังงี้จริงๆ

รถยนต์จอดสนิทหน้าเรือนไทยหลังใหญ่โต ท่ามกลางความมืดสนิทแลดูถมึงทึงน่าเกรงขามจนขาสั่นผับๆ พี่ขรรค์ไม่ยอมพูดอะไรตั้งแต่ออกมาจากบ้านพี่ตรี

พี่โกรธผมจนจะฆ่าหมกตำหนักเชียวรึพี่ ฮือๆ แค่นี้ผมก็อึ้งช็อกตาเหลือกจะแย่แล้ว

“ถึงบ้านพี่แล้ว”

บ้านพี่!?

ผมหันขวับมองคนนั่งข้างๆ และเหมือนจิ๊กซอชิ้นสุดท้ายวางลงในช่องว่างที่ขาดหาย สมองทำงานเต็มกำลังอย่างไม่เคยเป็น และทุกอย่างก็มาจ่ออยู่ที่คอหอย

พ่อพี่ขรรค์เป็นหมอดู แต่พี่ขรรค์ไล่ผีได้ บ้านตรงหน้าก็เป็นเรือนไทยโบราณ บวกกลิ่นธูปเทียนตลบอบอวล กุมารน้อยอีกสองตน ผีอีกเป็นโขยง

มะ...มันไม่ใช่ตำหนักหมอดูแล้วมั้งพี่

“พี่...พี่ขรรค์ ผมถาม...ถามตรงๆนะ พ่อพี่นอกจากจะเป็นหมอดูแล้ว ยังทำอาชีพเสริมเป็นหมอผีด้วยเปล่าพี่”

ผมเบิกตากว้างรอฟังคำตอบด้วยใจระส่ำ หากพี่ขรรค์พยักหน้ารับตั้งแต่ผมถามยังไม่ทันจบประโยค เพราะมัวแต่ติดอ่าง

“หมอผี!...แล้วพี่ล่ะ พี่เป็นรึ...รึเปล่า” ผมยกนิ้วชี้หน้าพี่ขรรค์สั่นๆ

“วาลย์” พี่ขรรค์ถอนใจยาว

“เป็นรึเปล่า!?” ผมไม่สนใจฟังพี่เขาอธิบาย ที่ผมสนใจตอนนี้คือคำตอบเท่านั้น

และพอพี่ขรรค์พยักหน้ารับเท่านั้นล่ะ ผมรู้สึกมีลมบ้าหมูพัดวนรอบศีรษะ หน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม

มิหน้าล่ะถึงไม่กลัวผีสางที่ไหน เพราะแบบนี้นี่เอง

“วาลย์...วาลย์เป็นอะไร วาลย์”

โลกตรงหน้าค่อยๆมืดสนิทลง วันนี้ผมช็อกมามากพอแล้วครับ ขอผมหลับให้หายเหนื่อยแล้วค่อยปลุกผมขึ้นมารับความจริงเถอะครับ ไม่งั้นผมได้ลาโลกไปก่อนได้กดพี่ขรรค์แน่ๆ



ขรรค์เทพจ้องมองคนรักเป็นลมหมดสติคอพับคออ่อนให้รู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย หากไม่คิดปล่อยมือ จึงบรรจงอุ้มคนจิตอ่อนเข้าไปยังเรือนพักของตนเอง

ร่างเล็กถูกวางลงบนที่นอนขาวสะอาด เสื้อผ้าบนตัวถูกขรรค์เทพถอดออกจนหมด สายตาคมกริบกวาดพินิจไปทุกตารางนิ้วบนผิวกาย ก่อนก้มลงชิดใบหน้านวล

“รัก-ยม ไปพักเถอะ วันนี้เหนื่อยมาเยอะแล้ว แล้วพรุ่งนี้พ่อจะถวายของชอบให้”

“จ้ะพ่อ แล้วพ่อเล็กล่ะจ๊ะ” กุมารน้อยชะเง้อมองเป็นห่วงพ่อเล็กที่นอนล่อนจ้อน ด้วยฝีมือพ่ออีกคน

“เดี๋ยวพ่อดูแลเอง แล้วก็คืนนี้ถ้าพ่อไม่เรียกก็ไม่ต้องออกมานะ”

กุมารน้อยมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนพยักหน้าแล้วหายวับไปจากสายตา ให้ขรรค์เทพกลับมาสนใจริมฝีปากอิ่มสีอ่อนอีกครั้ง

“ตื่นขึ้นมาแล้วพี่จะพิสูจน์ให้รู้ว่าพี่มีน้ำยารึเปล่า”

ชายหนุ่มยกยิ้มหมายมาด

“หลับให้สบายไปเถอะ”




........จบตอน......



พี่ขรรค์เท่โคดดดดดด กรี๊ดดดดดดดดด :sad4:


ตอนหน้าจะเป็นตอนต่อจากตอนนี้นะคะ เเละเป็นตอนจบด้วย

ขอบคุณทุกคอมเมนท์ค่ะ   :3123:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2010 09:53:06 โดย jeab_u »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
ตอนหน้า  ต้องเตรียมผ้ารอมั๊ยอ่ะ
พี่ขรรค์จะพิสูจน์ความแน่แล้วนี่

vita.Min

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยครับ อ่านไปก้กลัวไป 55

ออฟไลน์ ~MeiMeiZ@~

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนุกมากกกกกกกกกกกก
ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะค่ะ

 o13

ออฟไลน์ aeyja55

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วเหรอ ไม่อยากเลย ชอบพี่ขรรค์เท่มากกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ polartotty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อ๊ากกกก จะจบแล้วหรอออออ ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
ว่าแต่พี่ขรรค์จะเผด็จศึกแล้วชิมิคะ หุหุ อยากอ่านตอนพี่ขรรค์พิสูจน์น้ำยา

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
อ๊ากกกกกกกกกกกก พี่ขรรค์จะพิสูจน์น้ำยาแล้ว
สนุกมากเลย ยังไม่จบได้รึเปล่าค่ะ หรือมีตอนพิเศษไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ยังไม่อยากให้จบเลยอะ สนุกมากๆๆ (ขนาดกลัวผีพอๆกับวาลย์นะเนี่ย :try2:)
ตอนหน้าจะเตรียมทิชชู่มารอแถวหน้านะคะ :haun4:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
พี่ขรรค์ คือ N0.1 เท่านั้น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o13

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 :-[น้ำยาม่ายเอาอะ

เค้าชอบน้ำพริกอะ

b27072010

  • บุคคลทั่วไป
เค้าจะรอตอนที่พี่ขรรค์บอกความจริงกับวาลย์ทั้งหมด

ปล. รอ  NC  ด้วยนะคราวหน้าพี่ขรรค์ไม่พลาดแล้ว

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ตอนหน้าต้องเผด็จศึกนะ วาลย์ เอ๊ยย พี่ขรรค์

ออฟไลน์ CHIVAS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
ไอ่หย่า   จะจบแล้ววววววววววววววววววว
ตอนนี้สนุกมากเลยค่ะ ไม่เคยอ่านบทบู๊ ?  แบบนี้มาก่อน อิอิ  มีแต่คุณผีเต็มไปหมดเลย
(ดีนะที่อ่านตอนกลางวัน )
พี่ขรรค์เท่ห์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไอ้พี่ตรีนี่นะจับถ่วงน้ำเนาะ    :angry2:
น้องวาลย์เกือบแย่แล้ว  ดีนะที่พี่ขรรพ์มาทัน
แล้วน้องวาลย์จะรับได้มั๊ยนี่
แต่ตอนนี้จะได้พี่ขรรค์เผด็จศึกแล้วใช่ป่ะ  อิอิ

akike

  • บุคคลทั่วไป
น้องรักยมกวนโอ้ยได้ใจ  ขี้อ้อนซะด้วยนะเนี่ย

น่ารัก

พี่ขรรค์เท่เว่อร

[Kim_SoMoNe]

  • บุคคลทั่วไป
พี่ขรรค์จะเสกเด็กเข้าท้องวาลย์  :a5:

 :jul3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด