การประชุมระหว่างตัวแทนของบริษัททางญี่ปุ่นกับตัวแทนบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ระดับประเทศอย่างทินกฤตซึ่งทำโปรเจคนี้โดยใช้เม็ดเงินของครอบครัวตนและภรรยา ดังนั้น การมีตัวแทนของครอบครัวภรรยาอย่างจุนเจือ ซึ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานของบริษัทที่เข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่งจึงไม่แปลกอะไรนัก เนื่องจาก หลังจากที่เจนสุดาแต่งงานกับทินกฤตได้มีการถ่ายโอนหุ้นของบริษัทให้แก่ครอบครัว ซึ่งคุณพ่อของจุนเจือเองก็ได้มอบหุ้นนั้นให้เป็นทรัพย์สินของลูกชายคนเล็กด้วย
ล่ามสาวคนไทยที่แทบจะไม่แตกต่างอะไรกับสาวญี่ปุ่นทำหน้าที่แปลบทสนทนาของทั้งสองฝ่ายได้อย่างดี ทุกอย่างดูจะเรียบร้อย เห็นได้จาก ขนมญี่ปุ่นและชาเขียวชั้นดีที่นำมาเสิร์ฟในช่วงพักระหว่างการประชุมเป็นที่พึงพอใจของทั้งสองฝ่าย
ทะนะกะที่ดูจะได้หน้ามากในงานนี้ ก็เข้ามาพูดคุยกับทินกฤตระหว่างพักการประชุมเป็นเชิงหยอกล้อไปถึงเรื่องการร่วมมือในอนาคต หลังจากที่จะมีการนัดประชุมกันอีกครั้งเพื่อเซ็นต์สัญญาในการประชุมครั้งใหญ่ในอนาคต
ทินกฤตเองก็ดูจะพอใจไม่น้อยกับคำตอบของทางทีมงานของตนเองที่ได้กลับไปคิดทำการบ้าน และมีการติดต่อเพื่อปรึกษากับทางต้นสังกัดที่เมืองไทยได้อย่างทันท่วงที การประชุมจบลงในช่วงก่อนเที่ยง พร้อมด้วยรอยยิ้มในความยินดีของทั้งสองฝ่ายที่ได้ตกลง และจะร่วมงานกันต่อไปในอนาคต มีเสียงพูดชมกันอื้ออึงถึงการทำงานของประธานบริษัทคนใหม่ของทางเมืองไทย
ทินกฤตที่มีท่าทีผ่อนคลายลงไปมาก เดินเข้ามาตบไหล่ของจุนเจือ
"เป็นไง เบื่อไหมเรา..."
" เบื่อสิ..ถามได้ ผมน่ะเรียนวิศวะนะพี่ อันนี้มันเจรจาธุรกิจแล้ว "เด็กหนุ่มได้ทีบ่นเป็นชุด หลังจากอัดอัดกับภาษาญี่ปุ่นที่ไม่มีในโลกของเกมส์และการ์ตูน ที่ดูมาตลอด
"เหรอ ฮ่ะๆ ขอโทษทีนะ..." ทินกฤตหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางของอีกฝ่าย
"แต่เดี๋ยวคงชอบล่ะ เพราะนี่เดี๋ยวเขาจะพาไปเลี้ยง เลี้ยงเสร็จวันนี้ตอนเย็นเราก็ไปเที่ยวได้แล้ว พรุ่งนี้ก็จะพาไปเที่ยวรวดอีกสองคืนเลยล่ะ แช่น้ำพุร้อน นอนเรียวกัง สนใจไหม" ร่างสูงว่าพลางดึงตารางนัดหมายออกมายื่นให้อีกฝ่ายดู
"แหม่ คนจัดทริปนี้นี่เก่งจริงๆ" ไม่วายชมเข้าตัวเองอีกจนได้
ดวงตาคมหรี่ตามองอีกฝ่ายเล็กน้อย
" ....................... "
..หลงตัวเองได้อีก.."มองอะไรพี่แบบนั้นล่ะ...." เห็นสายตาที่อีกฝ่ายมองทินกฤตก็หัวเราะออกมาอีกรอบ
"ไปกินข้าวกันเถอะ หิวละ" มือแกร่งโอบไหล่ของเด็กหนุ่มพลางออกแรงดันเบาๆให้อีกฝ่ายเดินตามมา
++++++++++++++++
บรรยากาศร้านอาหารที่จัดเลี้ยงในตอนเที่ยงนั้นดูหรูหราและเป็นทางการอยู่ไม่น้อย แม้อาหารจะมากมายแต่ก็ทำให้จุนเจือไม่ค่อยสนุกกับการกินได้เหมือนอย่างทุกที จนมื้อเย็นก็เป็นมื้อเย็นแบบง่ายๆ ล่ามยังคงติดตามมาให้บริการรวมไปจนถึงบอกตารางเที่ยวที่จะพานั่งรถไปต่างจังหวัดให้อีกเสร็จสรรพ หนุ่มๆนักศีกษาฝึกงานดูจะเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางใบเล็ก (ตามที่ล่ามเป็นฝ่ายแนะนำ) กันอย่างตื่นเต้น ส่วนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของทุกคนนั้นจะฝากไว้ที่โรงแรม เพื่อจะแวะกลับมาเอาในวันสุดท้ายก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสนามบิน
"นี่ๆ เขาจะพาไปลงบ่อ อาบน้ำรวมเลยใช่ป่ะ" เก่งดูท่าจะตื่นเต้นมากกับคำว่า "อาบน้ำรวม"
" สาดดดดดดดดดดดด แล้วมึงจะตื่นเต้นเพื่อ?? รวมไปก็มีแต่ผู้ชาย .. เอ่อ แต่ถ้ามึงได้อาบกับไอ้จุนเจือ มึงอาจจะตื่นเต้นก็ได้นะเว้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าาาา " บาสโวยวายใส่เก่งเสียงดังก่อนจะหันไปแซวเพื่อนที่กลับมาซึมได้อีกรอบ
"...เฮ้ย อะไรเล่า ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย เฮ้ยย เจืออย่าเข้าใจกูผิดนะเว้ย ไม่ได้จะดูเลย" เก่งรีบปฏิเสธทันควันเพราะที่บาสทายออกมานั่นออกจะพลาดไปหน่อย แต่พอหันไปเห็นเพื่อนหน้าสวยนั่งนิ่งๆ ก็อดจะถามออกไปด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
"เป็นอะไรอีกวะ"
" หือ?..เปล่า กูไม่เป็นไรนี่ "
"เหรอออ....."เก่งลากเสียงยาว เพราะเห็นอีกฝ่ายไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาผิดปรกติมาซักพักใหญ่
"เอาเถอะ ไปเที่ยวให้มันสบายใจ...." ว่าพลางก็ยื่นมือไปตบไหล่เพื่อนดังป๊าบ
" เออ..เที่ยวส่งท้ายละกัน "
เพื่อนทั้งสองคนที่พยายามทำให้เขาสบายใจขึ้นมาตลอดหลายวันมานี้ ไม่มีการเซ้าซี้หรือถามเรื่องการประกวดให้ต้องเสียใจ เขาก็ไม่ควรจะทำหน้าเศร้าต่อไปให้เห็น เพื่อความสบายใจของทุกคน
++++++++++++++++
พอรุ่งเข้าก็มีรถบัสคันใหญ่มาจอดรอรับที่หน้าโรงแรม เพื่อที่จะพาคณะการศึกษาดูกิจการในครั้งนี้เดินทางออกไปยังเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำพุร้อน ตลอดทางล่ามก็คอยประสานงานกับไกด์ของรถทัวร์เพื่อให้ความรู้ เกี่ยวกับเมืองที่จะไปโดยตลอดและบอกว่า เมื่อไปถึงในคืนนี้แล้ว จะให้ทุกคนในลองใส่ชุดยูกะตะซึ่งเป็นชุดกิโมโนแบบบางเอาไว้ใส่ในตอนหน้าร้อนของชาวญี่ปุ่นและจะให้ออกไปเดินชมงานเทศกาลที่อยู่ใกล้ๆกับสถานที่พักอีกด้วย เรียกเสียงฮือฮาให้กับคณะทัวร์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ดูเหมือนคนที่คุ้นเคยมากกว่าใครเพื่อนและดูไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ก็คือจุนเจือ ส่วนบาสก็เที่ยวไปอวดคนนั้นคนนี้ว่าเขาใส่เป็นเพราะเคยใส่คอสเพลย์เล่นๆกับน้องสาวตามงานต่างๆมาแล้ว
++++++++++++++++
พอไปถึงที่พักซึ่งเป็นเรียวกัง หรือ บ้านพักแบบญี่ปุ่นก็ดูจะวุ่นวายกันเล็กน้อย เพราะต่างก็วิ่งเข้าห้องนั้นออกห้องนี้เพื่อถ่ายรูปกันจ้าล่ะหวั่น เพราะในแต่ละห้องก็จะมีวิวชมทิวทัศน์ป่าเขาที่โอบล้อมโดยรอบเห็นความงดงามของหน้าร้านในแบบของญี่ปุ่นแตกต่างกันไปบางห้องก็เห็นป่าไผ่ บางห้องก็เห็นแม่น้ำสายเล็กๆไหลเอื่อยๆ
ส่วนห้องของทินกฤตนั้นถูกแยกออกไปเป็นเรือนหลังเล็ก แม้จะพยายามถามกับล่ามแล้วว่าทำไมเขาถึงต้องโดนแยกมาไกลจากคนอื่นมากมายนัก แต่ล่ามก็ตอบได้เพียงแค่ว่า ทะนะกะซังเป็นคนจัดเอาไว้ให้ ประธานหนุ่มได้แต่เก็บความข้องใจเอาไว้ เขาไม่ได้บอกใครว่า ห้องของตัวเองนั้นถูกจัดแยกออกไปไม่เช่นนั้นคงได้มีกรณีนินทาเจ้านายกันลับหลังอีกเป็นแน่
เข้าห้องพักกันไปได้พักใหญ่ ก็มีพนักงานชาวญี่ปุ่นเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับนำชั้นเล็กๆมาจัดวาง ก่อนจะวางขุดยูกาตะสีสันสดใสสำหรับผู้หญิง และสีขรึมๆสำหรับผู้ชายมาให้เลือกใส่พร้อมทั้งสอนวิธีใส่ให้ เป็นที่ตื่นเต้นของคณะทัวร์ ทินกฤตเองก็มีคนเอาชุดยุกาตะมาใส่ให้เหมือนกันเป็นชุดสีเขียวขี้ม้ามีลวดลายทางตรงดูขรึมๆ ชายหนุ่มแทบจะยืนวนรอบตัวเองด้วยรู้สึกประหลาดกับชุดที่ได้ใส่
ส่วนห้องพักอื่นๆก็ได้จุนเจือกับบาสไปช่วยพวกเขาแต่งชุดยูคาตะเสียจนเรียบร้อย
" เหนื่อยเลย .. ร้อนด้วย เดี๋ยวกูอาบน้ำก่อนค่อยเปลี่ยนชุดละกัน มึงไปเดินชิลๆแถวนี้ก่อนละกัน "บาสบอกเพื่อนเสร็จสรรพแล้วกลับเข้าห้องไปเลย ไม่รอคำตอบอะไรเสียด้วย
" อ่าว...ทิ้งกูเฉยเลยนะมึง " จนเจือได้แต่บ่น ก่อนจะส่ายหน้าไปมา หนุ่มร่างบางในชุดลำลองสมัยใหม่ ต่างจากคนอื่นที่สวมยูคาตะเรียบร้อยแล้ว เดินไปตามทางเดินระหว่างห้องพักก่อนจะสะดุดตากับเรือนพักที่แยกออกไปต่างหาก สวนสวยและน้ำที่ไหลผ่านร่องไม้ไผ่แบบญี่ปุ่น ดึงความสนใจของเขาได้ไม่น้อย มันคงจะไม่เป็นไรหรอกกระมังถ้าเขาจะไปเดินดูเสียหน่อย เพราะคงอีกนานกว่าบาสจะใช้ห้องน้ำเสร็จ
++++++++++++++++
เด็กหนุ่มเดินไปใกล้กับสวนที่ทำเป็นคล้ายรั้วกั้นรอบขอบชิด แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเงาไหววูบของใครบางคนกำลังนั่งยองๆอยู่ที่สวนตรงใกล้ๆกับกระบอกไม้ไผ่รองน้ำแบบญี่ปุ่นที่กำลังจะกระดกลงมาตกกระทบกับหินส่งเป็นเสียงดังกังวาน
"อ้าว...เจือ" ร่างสูงในชุดยูกาตะสีเขียวขี้ม้าลายทางลุกขึ้นยืนแทบจะในทันที
" ห้องพี่เหรอ?..อ้าวทำไม? "ดวงตาคู่สวยมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจก่อนจะชี้ไปที่ชุดของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนหลวมๆหลุดๆพิกล
" ชุดเป็นแบบนั้นล่ะ? "
"เห เป็นแบบไหน" เมื่อเห็นอีกฝ่ายชี้มา คนใส่ที่ไม่ค่อยจะมั่นใจอยู่แล้วก็ก้มๆเงยๆ
จุนเจือหันไปมองซ้ายขวา ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายเข้าไปในห้อง
" ใครใส่ชุดให้พี่เนี่ย " บ่นไปก็ดันให้พี่เขยหันหลังให้ก่อนจะเอื้อมมือสอดเอวเข้าไปจัดสาบเสื้อให้ดีๆ
"เอ่อ ก็คุณป้าพนักงานเขามาใส่ให้ ตั้งนานแล้ว พี่เห็นยังไม่ถึงเวลานัดเลยยังไม่ได้ออก" ชายหนุ่มตอบกลับไปตามตรง ตกใจไม่น้อยกับการกระทำของอีกฝ่าย
" สงสัยป้าแกจะกลัวพี่เจ็บ แล้วก็หายใจไม่ออกน่ะ เลยพันโอบิหลวมไปหน่อย" ว่าพลางเอื้อมไปที่สายโอบิก่อนจะออกแรงดึงปมทั้งสองข้างให้แน่นขึ้นอีก
"อึก...." เพราะไม่ทันได้บอกกล่าวกันก่อน ทำเอาทินกฤตพูดไม่ออกกันเลยทีเดียวเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายก็ดึงผ้ารัดเอวเขาเสียจนแน่นขนาดนั้น
ดูท่าจุนเจือจะชอบใจไม่น้อยที่ได้แกล้งพี่เขย เด็กหนุ่มกลั้นเสียงหัวเราะก่อนจะผละออกมา
" เสร็จแล้วครับ "
"ขอบใจ..." ทินกฤตถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปมองหน้าอีกฝ่าย
"แล้วเราไม่ใส่เหรอ...นี่เดี๋ยวเขาจะออกไปดูงานเทศกาลอะไรกันแล้วนะ... "
" อื้ม..เดี๋ยวจะไปแล้วล่ะ รอไอ้บาสมันอาบน้ำอยู่ "ว่าแล้วก็ดูนาฬิกาข้อมือ
" คงเสร็จละ งั้นไว้เจอกันนะครับ "
ทินกฤตยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินออกไป นึกตื่นเต้นเล็กๆว่าถ้าอีกฝ่ายใส่ชุดยูกาตะอะไรแบบญี่ปุ่นนี่แล้วจะเป็นอย่างไร ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา แม้จะอยากถอนหายใจออกมาให้โล่งแต่ก็ทำได้ไม่ถึงใจเท่าไรนักเพราะผ้าคาดเอวหรือโอบิที่ใส่อยู่นั้นมันรัดแน่นเสียงเหลือเกิน
.....เสร็จไปอีกงาน.....
.....วันนี้ก็เดินเล่นให้สบายใจหน่อยละกัน.... คิดได้แบบนั้นก็เดินออกไปข้างนอกพร้อมด้วยรองเท้าแตะที่ทางโรงแรมจัดเตรียมเอาไว้ให้ เดินไม่ค่อยถนัดเท่าไรนัก แต่พอหัดเดินไปซักพักก็ สนุกดีไม่น้อย
++++++++++++++++
ที่ด้านนอก คณะดูงานทั้งหมดในชุดูคาตะหลากสีแปลกตากำลังจับกลุ่มพูดคุยกันท่าทางผ่อนคลาย
“พี่ศักดิ์ชัยทำอะไรครับ” เสียงดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาคนที่แยกตัวออกมาโทรศัพท์สะดุ้งเฮือก
“โธ่เอ้ย นายเก่งจะมาจะไปให้สุ้มให้เสียงหน่อยไม่ได้หรือไง” ชายหนุ่มใส่แว่นขมวดคิ้วหันไปมอง แต่ก็พบแต่ดวงตาคมแบบไทยๆของเก่งที่มองมา พร้อมกับรอยยิ้มเห็นฟันขาว
“พี่ยังไม่ได้ตอบผมเลยนี่ครับ...ว่ามาทำอะไร”
“โทรหาป๊ากับม๊า...พอใจรึยัง...นอกจากจะบ้างานยังช่างสงสัยนักนะเรา” ว่าพลางก็โบกโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายดูที่ห้อยโทรศัพท์มือถือเป็นรูปโคมไฟสีแดงสดจากวัดดังในโตเกียวสะบัดไปตามแรง
“ดีจังที่พี่ชอบ...เห็นเมื่อวานไม่ได้ไปเที่ยวด้วยเลยซื้อมาฝาก” เก่งว่าพลางชี้ไปที่โทรศัพท์ในมือของอีกฝ่าย
“อืม..ก็...ก็ขอบใจก็แล้วกัน โน่น เขาเรียกรวมตัวแล้ว ไปกันเถอะ...” ศักดิ์ชัยว่าพลางขยับแว่นตาขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง
++++++++++++++++
อีกด้านไกด์สาวพร้อมด้วยล่ามคนไทยก็เดินมาพร้อมกัน ทั้งสองก็สวมยูคาตะสำหรับผู้หญิงได้อย่างน่ารัก
"เดี๋ยวเราจะไปดูดอกไม้ไฟกันแล้วนะ ตอนนี้..เอ น้องจุนเจือยังไม่มานี่คะ " ล่ามสาวแปลตามที่ไกด์พูดแต่ก็ยังเพิ่มเติมเรื่องของจุนเจือ หญิงสาวว่าพลางมองซ้าย มองขวา หาเด็กหนุ่มร่างสูงหน้าสวยคนนั้น
"เอ่อ คุณล่าม...ช่วยบอกไกด์หน่อยว่า ให้ไปกันก่อนเลย ผม...จะรอจุนเจือเอง อ้อ อย่าลืมบอกคุณทะนะกะด้วยนะครับ"
ทินกฤตหันไปบอกกับล่ามคนไทย เสนอตัวว่าจะรอจุนเจือแล้วจะเดินตามไปทีหลัง
" ได้ค่ะ .. งั้นก็เป็นไปตามกำหนดการนะคะ ยังไงคุณทินกฤตกับน้องจุนเจือตามมานะคะ ทางทะนะกะซัง เตรียมที่นั่งดีๆเห็นดอกไม้ไฟชัดๆไว้แล้วนะคะ "ล่ามสาวก้มศีรษะลงเล็กน้อย ท่าทางไม่ต่างจากคนญี่ปุ่นเลย
++++++++++++++++
ทินกฤตยืนส่งทุกคนที่ด้านหน้าโรงแรม มองออกไปข้างนอกพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ อากาศก็เริ่มปราณีให้ได้เย็นสบายกันขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มยืนยิ้มน้อยๆกับบรรยากาศรอบข้างก่อนที่จะได้ยินเสียงรองเท้าเกี๊ยะเคาะพื้นดังเก๊าะแก๊กมาแต่ไกล
เด็กหนุ่มร่างสูงเพรียวในชุดยูคาตะสีขาวลายสีฟ้า กับผ้าคาดเอวสีน้ำเงินเข้มดูโดดเด่นไม่น้อย สีผมสีน้ำตาลแดงยิ่งทำให้ดูโดดเด่นยิ่งกว่าใคร
"รอนานแล้วๆ...."ทินกฤตเอ่ยแซวแม้ในตอนแรกจะรู้สึกเหมือนตัวเองจะขาดอากาศหายใจไปบ้างก็ตามที
" อ่าว เค้าไปกันแล้วเหรอพี่? " ใบหน้าสวยทำหน้าเหรอหราเมื่อไม่เห็นคณะดูงานคนอื่นๆแล้วนอกจากประธานบริษัท
"อืม ไปกันหมดแล้ว... เดี๋ยวเราเดินตามเขาไปก็คงทันมั้ง เดี๋ยวมีจุดพลุอะไรด้วย" ทินกฤตว่าพลางออกเดิน แต่ก็หยุดก่อนจะหันไปยื่นมือส่งไปให้กับเด็กหนุ่ม
"เอ้า มาซี่..."
"ผมเดินเองได้หรอก พี่นั่นแหละระวังจะสะดุด แล้วถ้าเอาหน้าลงนะ หมดหล่อแน่ๆ "จุนเจือไม่วายขู่ ทำปากเก่งได้ตลอดตอนที่อยู่กันสองคน
"โอเค งั้นก็เดินตามมาละกัน" ทินกฤตว่าพลางเดินนำไปก่อน ท่าทางสบายๆเมื่ออยู่นอกเวลางานแบบนี้ไม่ค่อยมีพนักงานคนไหนจะได้เห็นบ่อยนัก
++++++++++++++++
ทั้งสองคนเดินไปตามทางเดินเรียบไปกับถนนที่มีน้ำไหลเอื่อยๆจากแม่น้ำที่อยู่ติดกับถนนเส้นเล็กๆ ได้ยินเสียงเพลงพื้นบ้านแบบญี่ปุ่นดังลอยตามลมมาแต่ไกล บอกให้รู้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปถูกทิศทางที่มีงานเทศกาลแล้ว
เดินไปกันสองคนได้ซักพักก็เริ่มมีร้านขายแผงลอยขายของอยู่ข้างทาง มีผลไม้ชุบน้ำตาลวางขายอยู่ จุนเจือหันไปเห็นแอปเปิ้ลผลโตชุดน้ำตาลสีสดเสียบไม้ขายอยู่ก็มองตาเป็นมัน
"อยากกินก็ไปซื้อซี่" ทินกฤตเอ่ยพลางหัวเราะเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องผลไม้สีสวยนั่นเสียตาแทบไม่กระพริบ ก่อนจะดึงกระเป๋าสตางค์ออกมาจากในแขนเสื้อหยิบเอาแบงค์หมื่นเยนออกมาส่งให้
" แบงค์ใหญ่ขนาดนั้น แล้วลุงเค้าจะมีทอนไหมเนี่ย ..ผมจ่ายเองๆ "ว่าแล้วก็ดันมือของพี่เขยกลับไปก่อนจะรีบหยิบกระเป๋าเงินออกมาเปิดแล้วหยิบธนบัตรใบเล็กกว่ามาจ่ายค่าขนมหวาน
เมื่อคนขายยื่นแอปเปิ้ลชุบน้ำตาลให้ก็รับมาก่อนจะเดินหนีพี่เขยไปเสียเลย
ทินกฤตจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ก็ไม่ทันเสียแล้วเขาหันไปยิ้มแห้งๆให้กับลุงเจ้าของร้านก่อนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างตกอยู่ที่พื้น ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะหยิบขึ้นมาใส่กระเป๋าสตางค์ของตัวเองไว้แล้วรีบเดินตามจุนเจือไปก่อนที่จะหลงกัน
....ซุ่มซ่ามจริงเลย เจ้าตัวดี... "เจือ รอพี่ด้วยซี่" ร่างสูงรีบเดินตามไปเท่าทีสมรรถภาพในการเดินด้วยรองเท้าเกี๊ยะของเขาพึงจะมี
เสียงดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นบนท้องฟ้าที่เปิดไม่เห็นเมฆซักก้อนในค่ำคืนนี้ ละลานตาและหลากสีสันเต็มท้องฟ้า สมกับเป็นดอกไม้ไฟญี่ปุ่น เรียกเสียงร้องอย่างดีใจของคณะดูงานที่เหน็ดเหนื่อยกันมาตลอดหลายวัน รวมทั้งเด็กหนุ่มที่ถือไม้เสียบแอปเปิ้ลชุบน้ำตาลอยู่ก็เช่นกัน
ทินกฤตที่ได้ไปนั่งอยู่ข้างๆกับทะนะกะเหลือบมองใบหน้าที่ฉาบไปด้วยสีสันของดอกไม้ไฟและรอยยิ้มของเด็กหนุ่มคนนั้นอยู่เรื่อย พลางยิ้มออกมาในบางครั้ง ถ้าอีกฝ่ายยิ้มได้ในตอนนี้ ก็คงจะแปลว่าจุนเจือพอจะลืมเรื่องเศร้าที่แพ้การแข่งขันไปได้บ้างแล้วก็เป็นได้
จนกระทั่งดอกไม้ไฟลูกสุดท้ายสิ้นสุดไปจากท้องฟ้ายามค่ำคืน จึงเป็นสัญญาณบอกว่าเวลาแห่งความประทับใจนี้ได้หมดลงแล้ว โดยที่ทินกฤตเองก็ไม่มีโอกาสยืนดูดอกไม้ไฟกับน้องเมียที่เดินไปสมทบกับกลุ่มเด็กฝึกงานเลยแม้แต่น้อย ได้แต่นั่งมองอยู่ไกลๆเท่านั้นเอง
ทั้งคณะค่อยๆทยอยเดินกลับไปยังโรงแรม บ้างก็แวะซื้อขนมซื้ออาหารญี่ปุ่นแบบที่เคยเห็นในรายการโทรทัศน์กินบ้าง บาสดูจะเป็นเป้าหมายของพวกพนักงานสาวใหญ่สาวน้อยที่แวะเวียนมาหยอกเอินและกระเซ้าเย้าแหย่เรื่อง อาบน้ำรวม บางคนก็ชวนไปอาบน้ำด้วยกันยามดึก ซึ่งบาสก็รับมุกส่งมุกไม่ยอมแพ้สาวๆเหล่านั้นเลย...
++++++++++++
talk : ญี่ปุ่นหน้าร้อน~~ ก็ต้องยูคาตะสินะ! มีบรรยากาศเล็กๆมาให้ชมกันค่ะ รูปข้างล่างนี้เมื่อหลายปีก่อนละ
ส่วนนี่...ยูคาตะของสองหนุ่มค่า..นายเก่งถ่ายมาให้ดูกัน