Part 44
.
.
I wanna live with you
ปังงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!
ทางด้านลีโอ เมื่อเดินออกมาจาห้องประชุมก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดดูรับทันที ใบหน้าหล่อยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นชื่อว่าใครโทรมา
‘My wife’
แต่เมื่อร่างสูงกดรับ เสียงที่ได้ยินทำเอาใบหน้าคมเข้มซีดลงไปในถนัดตา โทรศัพท์เครื่องเล็กร่วงล่นลงจากมือ นิคและนิครอสที่เดินตามอยู่ด้านหลัง มองไปที่คนเป็นเพื่อนและพ่วงตำแหน่งเจ้านายด้วยความแปลกใจ
“ลีโอ นายเป็นอะไรหรือเปล่า” นิคถาม แล้วก้มลงเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาฟังอย่างสงสัย และเสียงที่ได้ยินก็ทำเอาเจ้าตัวตกใจไม่น้อย
ร่างสูงเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยทั้งสิ้น นอกจากเสียงปืนที่ดังมาจากโทรศัพท์เมื่อกี้ มันวนไปวนมาอยู่ในหัว
“อย่าเป็นอะไรนะน้ำซุป รอเจ้าพ่อก่อน” ร่างสูงวิ่งไปยังรถยนต์คู่ใจ กำลังจะกดเปิด แต่นิคและนิครอสก็วิ่งมาดักหน้าก่อน
“นายไม่ต้องขับ ขืนไปอย่างนี้มีหวังไม่ถึงคุณน้ำซุปพอดี” นิคจับลีโอยัดเข้าไปในเบาะหลังแล้วขึ้นไปนั่งข้างคนขับ โดยมีนิครอสสตาทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไปโรงบาล! ไอ้ฟานโทรมาบอกว่าน้ำซุปไปโรงบาลแล้ว” ร่างสูงพูดเสียงสั่น เกิดมายังไม่เคยใจสั่นขนาดนี้มาก่อน ตลอดทั้งชีวิตเผชิญลูกกระสุนนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ครั้งไหนที่กระชากหัวใจได้เท่ากับการที่ได้รับรู้ว่าคนที่ตัวเองรักนั้นกำลังอยู่ในเหตุการณ์อันตราย และเสี่ยงต่อชีวิต
‘ชีวิต’
ชีวิตอย่างนั้นเหรอ ชีวิตที่น้ำซุปที่ตอนนี้แขวนอยู่เป็นเส้นด้านระหว่างความเป็นกับความตาย และถ้าหากชีวิตหนึ่งดับสูญ แล้วอีกชีวิตหนึ่งจะอยู่ไปเพื่ออะไร!
“รอก่อนนะที่รัก รอลีโอก่อน อย่าเพิ่งจากไปไหนนะ รอก่อน................”
บ่าที่เคยตั้งตรงบัดนี้ลู่ลงอย่างน่าสังเวช น้ำตาที่ไม่เคยไหลออกมาง่ายๆ ตอนนี้มันกำลังเอ่อคลออยู่ในหน่วยตาของผู้ชายคนนี้ ศักดิ์ศรีที่อยู่บนบ่าเคยประกาศว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าลูกน้องเป็นอันขาด แต่ ณ เวลานี้ ลีโอ แอ็คซายน์ ผู้เข้มแข็ง ไม่เคยหวั่นไหวให้กับสิ่งใด กำลังก้มหน้าร้องไห้กับตัวเองอย่างน่าสงสาร
‘ถ้าน้ำซุปเป็นอะไรไป เจ้าพ่อจะเสียใจไหม’ คำพูดต่างๆ ในอดีตได้ไหลย้อนเข้าสู่หัวสมองของร่างสูง
‘พูดอะไรอย่างนั้น น้ำซุปของเจ้าพ่อไม่วันเป็นอะไรแน่นอน เพราะเจ้าพ่อจะเฝ้าดูแลทุกฝีก้าว ไม่ให้คลาดสายตา ใครหน้าไหนก็ทำอะไรน้ำซุปไม่ได้’
‘ลีโอ.................. ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ อย่าร้องไห้นะ สัญญาได้ไหม’
‘..................... สัญญาครับ’ ร่างสูงไม่ตอบ แต่ดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดแทน
‘ต้องเข้มแข็งนะ ถึงไม่มีน้ำซุปอยู่ ก็ต้องเข้มแข็ง’
ขอโทษที่ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ามันจะระบายออกมาได้เท่ากับการหลั่งน้ำตา เพื่อระบายความเจ็บปวดที่มันสุมแน่นอยู่ข้างใน มันอัดแน่นไปด้วยความรวดร้าว เจ็บจนเหมือนหัวใจมันจะขาดเป็นรอนๆ
ความเข้มแข็งเลือนหายไปจากร่างสูงอย่างช้าๆ คงเหลือก็แต่เพียงความเจ็บปวด ความอ่อนล้า
“คุณซุปจะต้องไม่เป็นอะไร” นิคหันมาพูดกับร่างสูงที่กำลังนั่งก้มหน้ามือประสานกัน
เมื่อรถยนต์คันหรูตีวงเข้าไปจอดหน้าโรงพยาบาลชื่อดังของกรุงเทพ ร่างสูงก็วิ่งไปทางห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว โดยมีนิค และนิครอสวิ่งตามอยู่ไม่ห่าง
“ไอ้ฟาน! ใครทำเมียกู” ร่างสูงเดินไปกระชากร่างของบอดี้การ์ดประจำตัวของร่างบางให้ลุกขึ้นแล้วขย้ำคอเสื้อคาดเค้นคำตอบอย่างโกรธเคือง
“ผมไม่รู้ครับนาย” ฟานซิสก้มหน้าลงอย่างยอมรับผิด ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น เขาผิดเองที่ปล่อยให้รถจักรยานยนตร์คันนั้นวิ่งขึ้นมาปาดหน้า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันหลังชีวิตของเมียเจ้านาย
ผลั๊วะ!!!!!!!!!!
“ถึงนายต่อยมันจนตาย มันก็ไม่รู้อยู่ดี” นิคดึงมือของลีโอเอาไว้
“ถ้าเมียกูเป็นอะไร พวกมึงเตรียมตัวตายได้เลย!” บอดี้การ์ดประจำตัวของร่างบางก้มหน้าอย่างยอมรับผิด ที่ไม่ตามไปคุ้มครองเมียของนาย จนเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขาบกพร่องต่อหน้าที่
“ลีโอ หนูไวน์..........อยูไหนลูก หนูไวน์ของแม่อยู่ไหน” ร่างสูงหันไปตามเสียงก็เห็นคุณหญิงแพรวเดินมาพร้อมกับฟองคลื่น โดยมารดาของตนนั้นมีน้องสาวพยุงไว้ไม่ห่างกาย
ร่างสูงไม่ตอบอะไร แต่เดินเข้าไปโอบกอดมารดาเอาไว้อย่างต้องการที่พักพิงในยามที่หัวใจมันรับไม่ไหว
ร่างสูงหลั่ง่น้ำตากับบ่าของมารดาอย่างเงียบๆ มือนุ่มของคุณหญิงแพรวลูบไหล่หนาของคนเป็นลูกชายอย่างปลอบประโลม
“เมียแกต้องปลอดภัยเชื่อ แม่ซิ”
ช่วงเวลาที่ทุกคนนั่งตรงหน้าห้อง I C U ช่างยาวนานเหลือเกิน มารดาของร่างบางมาถึงในไม่ช้า ท่านไม่ได้พูดกล่าวโทษใคร ลีโอเดินเข้าไปกราบที่เท้าของคุณหญิงอย่างไม่กลัวว่าจะเสียศักดิ์ศรี คุณหญิงย่อตัวดึงลูกเขยเข้ามากอดปลอบเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่กัน
“ไอ้นิคไปเอาตัวไอ้คนที่ยิงลูกสะใภ้ฉันมาให้ได้ จับเป็นเท่านั้น” ท่านดยุค แอ๊คซายน์ อดีตผู้พันประจำกองทัพในอเมริกา ผู้ผ่านสนามรับมานับไม่ถ้วน สั่งลูกน้องเสียงเฉียบขาด นิคและนิครอสก้มหน้าเล็กน้อยอย่างรับคำสั่งแล้วเดินออกไป เพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมาย และถ้าหากไม่สำเร็จ เขาสองคนคงจะน่วมไม่น้อย
ประตูห้อง ICU เปิดออก พร้อมกับร่างของพยาบาลสาวที่เดินออกมาทั้งชุดในหน้าที่ ร่างสูงลุกขึ้นเป็นคนแรก แล้วเดินเข้าไปหาอย่างรีบร้อน
“เมียผมปลอดภัยเปล่าครับ” รอบตัวของเธอเต็มไปด้วยญาติผู้ป่วยรายล่าสุด และหากเธอพูดความจริงออกไป บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ทุกสายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความหวังและความสะเทือนใจ
“ยังไม่พ้นขีดอันตรายค่ะ เพราะผู้ป่วยโดนยิงทั้งหมดสองแห่ง หน้าอก และท้อง บาดแผลสาหัสมาก ที่สำคัญเสียเลือดมากด้วยค่ะ ญาติทำใจนะคะ เข้าเยี่ยมได้นะคะ แต่อนุญาตให้เข้าได้แค่คนเดียว”
“ผมเอง ผมจะเข้าไป” ร่างสูงเดินตามร่างของพยาบาลสาวไปอย่างช้าๆ ทุกก้าวเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง เส้นทางจากประตูไปถึงเตียงมันก็ไม่ไกลนัก แต่ทำไมมันช่างยาวไกลและเนิ่นนานเหลือเกิน
ร่างกายบอบบางนอนหมดสติอยู่บนเตียง ใบหน้าอมชมพูบัดนี้ซีดเซียวอย่างน่าสงสาร รอบกายมีสายระโยงรยางค์เต็มไปหมด หน้ากากออกซิเจนถูกสวมอยู่บนดวงหน้าของน้ำซุป เพื่อต้องการยื้อชีวิตเมียเขาเอาไว้
มือหนากอบกุมมือบอบบางขึ้นมาแนบอก ดวงตาดุจเหยี่ยวของลีโอมองดวงหน้าของคนรักด้วยความรักทั้งหมดของหัวใจ
ริมฝีปากหนาจรดลง บน หลังมือของน้ำซุป เพื่อส่งความรักและความเข้มแข็งให้กับคนที่นอนอยู่ตรงหน้า
“อย่าทิ้งผมไปนะน้ำซุป อย่าทิ้งผมไป...................”
ติ๊ด ...................ติ๊ด ........................ติ๊ด.....................ติ๊ด
เครื่องวัดระดับการเต้นของหัวใจ แสดงคลื่นหัวใจอันแผ่วเบาของน้ำซุป ว่ามันใกล้จะหยุดเต้นแล้ว ทำเอาลีโอหลั่งน้ำตาอยู่ข้างเตียงอย่างอดสู อาดูร
“ตื่นมาอยู่ข้างกันนะ ถ้าไม่มีน้ำซุป ................ฮึก ......................ลีโอจะอยู่กับใคร”
หยาดหยดน้ำตาหลั่งรินออกมาจากดวงตาคมเข้มอย่างไม่ขาดสาย มีเพียงหนึ่งหยดที่ตกกระทบหลังมือของร่างบาง
“หมดเวลาเยี่ยมแล้วค่ะ” พยาบาลเดินมาออกใกล้ๆ แต่ร่างสูงก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของทีมแพทย์และพยาบาล ความรักและความสูญเสียวนเวียนอยู่ข้างในเต็มไปหมด ทุกการกระทำของผู้ชายตัวโตคนนี้สร้างความสะเทือนให้ให้กับผู้พบเห็นไม่น้อย
“ผมรักคุณนะที่รัก ......................... ผู้ชายคนนี้รักคุณ” ลีโอก้มลงจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนของน้ำซุป
มองดวงหน้าของคนรักและจดบันทึกทุกรายละเอียดลงบนหัวใจ หากครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของการได้พบเจอ ......
“ถ้าคุณเหนื่อย คุณก็ไปเถอะ............ ผมไม่รั้งคุณแล้ว ..........คุณหลับเถอะ ผมไม่อยากเห็นคุณเจ็บ.........”
“แต่ถ้ายังเห็นใจผู้ชายคนนี้ ช่วยตื่นมาได้ไหม.........ตื่นมาอยู่ข้างกันได้ไหม”
ลีโอ หันหลังกลับ แล้วเดินออกไปด้วยหัวใจอันรวดร้าว หน้าอกด้านซ้ายยังเต้นตามปรกติแต่ตอนนี้เหมือนกับมันเต้นแผ่วลงอย่างช้าๆ
“น้องเป็นอย่างไรบ้างลูก ...... ลูกชายแม่ยังไหวอยู่ใช่ไหม”
“แม่ครับ น้ำซุปเหนื่อยเหลือเกินครับ...... ปล่อยเขาไปเถอะครับ เข้าเหนื่อยพอแล้ว”
มารดาของร่างบางหมดสติทันทีเมื่อได้รับฟังประโยคของลีโอ จบ ลีโอพยุงร่างของแม่ยายไปยังห้องปฐมพยาบาล โดยมีคุณหญิงแพรว และฟองคลื่นเดินตามมาอย่างไม่ห่าง ท่านดยุค เดินออกไปสั่งงานอยู่หน้าห้อง ตอนนี้ทุกวินาทีผ่านไปอย่างเชื่องช้า พี่น้ำแกงเดินมาพร้อมกับลูกสาวและสามี ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เมื่อทราบข่าวว่าน้องตัวเอง อาการเป็นตายเท่ากัน
“พี่ลีโอ ฟองสงสารพี่ซุป ฮึก ....” ฟองคลื่นสะอึกสะอื้นในอกของพี่ชาย ในตอนนี้ใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยความเรียบนิ่ง แสดงให้ทุกคนให้เห็นว่าเขา กำลังทำใจยอมรับการสูญเสียครั้งนี้
น้าตาแห่งการสูญเสียหยุดไหลไปแล้ว หากแต่มันไหลกลับย้อนลงไปในอก ดวงตาแดงกร่ำ เรียวแขนหนากอดร่างน้องสาวแนบแน่น
“พี่บอกเขาว่า ถ้าเหนื่อยนักก็หลับไปซะ พักผ่อนให้เพียงพอ...................”
“...............ฮึกๆ ฮึก ..................”
“แต่ถ้าหากยังเห็นใจคนที่รออยู่ด้านหลัง ก็ให้สู้ อย่าเพิ่งยอมแพ้ ...”
“พี่ซุปไม่มีวันเหนื่อยเด็ดขาด พี่เชื่อฟองนะ พี่ซุปจะต้องกลับมาหาเรา”
ร่างสูงพยักหน้า แล้วเงยหน้าให้น้ำตามันไหลย้อนเข้าไปในอก เขาจะเข้มแข็งอย่างที่เคยให้สัญญากับน้ำซุปเอาไว้ ถึงแม้มันจะได้ยากเย็นก็ตามที
ย้อนรอย
.
.
.
.
.
.
‘อยากเห็นพระอาทิตย์ที่แหลมพรมเทพ’
‘เดี๋ยวเสร็จงานแล้ว ลีโอจะพาไป’
‘วันก่อนเห็นน้ำตกที่ภาคเหนือสวยมากเลยลีโอ พาไปเที่ยวนะ’
‘ติดสัมมนาที่ต่างประเทศน่ะน้ำซุป ไว้คราวหน้าจะพาไปแน่’
‘อยากเล่นน้ำ ทำไมมาถึงทะเลแล้วยังไม่ได้เล่นน้ำ’
‘ประชุมทั้งวันเลยน้ำซุป’
กี่ครั้งที่ปฏิเสธคนตรงหน้า
กี่ครั้งที่เคยรับปากอะไรหลาๆอย่างไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้
กี่ครั้งที่ น้ำซุป ร้องไห้เสียใจ เพราะไม่เคยเวลาให้กัน
แต่ก็ไม่เคยพูด ไม่เคยว่า มีเพียงแต่สายตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ
‘ง้อ’
คิดว่าเพียงแค่การกระทำออดอ้อน ก็เพียงพอให้ร่างบางหายงอนหายโกรธแล้ว
สำนึกก็เมื่อสาย สำนึกก็เมื่อคนที่จะไป ‘ง้อ’ จะไม่อยู่ข้างกายแล้ว
ใครที่นึกอิจฉาร่างบางที่ได้อยู่เคียงข้างน้ำซุป คุณคิดผิดแล้ว คุณรู้หรือเปล่า ว่าผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งต้องรับแรงกดดันมากมายมหาศาลแค่ไหน เหนื่อยแต่ก็ยังยิ้มให้เสมอ ท้อก็ไม่เคยบ่น คอยอยู่เคียงข้างกาย เป็นกำลังใจให้ผมเสมอ
“หมออยากบอกว่า ถ้าคืนนี้ไม่ดีขึ้น .............ทำใจนะครับ”
ร่างสูงพยักหน้ายอมรับ แล้วมองเลยเข้าไปยังห้องฉุกเฉิน ห้องที่คนสำคัญของเขากำลังนอนหายใจรวยรินอยู่
“เหนื่อยนัก ก็พักเถอะ คุณสู้มามากแล้ว”
อยากย้อนเวลาให้เดินกลับไป กลับไปแก้ในสิ่งที่เคยทำไม่ดีเอาไว้ ไม่ว่าน้ำซุปอยากได้อะไร อยากไปไหน สัญญาว่าผู้ชายคนนี้จะหามาให้หมดทุกอย่าง ขอเพียงอย่างเดียว ขอเพียงกลับมาอยู่ข้างกันดังเดิม กลับมาเป็นของกันและกัน............. เหมือนเก่า
I’m gonna wanna hold you in my arms when you cry
Tears In Haven
ถ้าคุณมีคนที่คุณรักตายจากคุณไปก่อนเวลาอันควร คุณเคยคิดสงสัยบ้างหรือไม่ว่า....
เขายังจะจำเราได้ไหมถ้าเราไปเจอเขาในโลกนั้น?
เขาจะคอยคิดถึงเราเหมือนที่เราคอยคิดถึงเขาบ้างไหมในใลกนั้น?
Would you know my name
if I saw you in heaven?
Would it be the same
if I saw you in heaven?
I must be strong and carry on
'Cause I know I don't belong here in heaven...
เธอจะรู้จักฉันไหม ถ้าฉันเห็นเธอในสรวงสวรรค์
เธอจะเป็นอย่างเดิมไหม ถ้าเห็นเธอในสรวงสวรรค์
ฉันต้องเข้มแข็งและมีชีวิตต่อไป
เพราะฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันยังไปอยู่บนสวรรค์ไม่ได้
Would you hold my hand
if I saw you in heaven?
Would you help me stand
if I saw you in heaven?
I'll find my way through night and day
'Cause I know I just can't stay here in heaven...
เธอจะจับมือฉันได้ไหม
ถ้าฉันเห็นเธอในสรวงสวรรค์
เธอจะพยุงฉันให้ยืนได้ไหม
ถ้าฉันเห็นเธอในสรวงสวรรค์
ฉันหาทางที่จะผ่านพ้นแต่ละคืนแต่ละวัน
เพราะฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันยังไม่สามารถไปเจอเธอที่บนสวรรค์ได้
Time can bring you down, time can bend your knees
Time can break your heart, have you begging please...begging please
เวลาสามารถทำให้เธอท้อ และหมดแรง
เวลาสามารถทำให้หัวใจเธอสลาย เธอจะร้องขอไหม ...ร้องขอไหม
Beyond the door there's peace I'm sure
And I know there'll be no more tears in heaven...
พ้นจากประตูนั่นไป เป็นที่ๆสงบซึ่งฉันแน่ใจ
และฉันรู้จะไม่มีน้ำตาอีกต่อไปบนสวรรค์
Would you know my name
if I saw you in heaven?
Would it be the same
if I saw you in heaven?
I must be strong and carry on
'Cause I know I don't belong here in heaven...
เธอจะรู้จักฉันไหม ถ้าฉันเห็นเธอในสรวงสวรรค์
เธอจะเป็นอย่างเดิมไหม ถ้าเห็นเธอในสรวงสวรรค์
ฉันต้องเข้มแข็งและมีชีวิตต่อไป
เพราะฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันยังไปอยู่บนสวรรค์ไม่ได้
แต่งเอง ร้องเอง สลด