22.
ชีต้าห์โดนคนในบ้านรุมซักโน่นนี่ สุดท้ายก็กลายเป็นว่าคุณนายแกเปิดโต๊ะนินทาลูกชายคนกลาง ส่วนลูกชายคนเล็กก็เข้ามาร่วมวงด้วย โดยการเปิดประเด็นนินทาคุณแฟนตัวเองบ้าง
"ทำยังไงถึงมาเจอพี่เค้าได้ล่ะลูก" คุณนายเริ่มซักประวัติลูกสะใภ้
"พ่อผมเปิดรีสอร์ทอยู่แถวนั้นครับ พอดีว่าผมกลับมาเที่ยวที่บ้านทุกปี" แค่ครั้งนี้มาเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย เพราะไม่อยากไปรบกวนคู่แต่งงานใหม่ งานนี้ไม่รู้ว่าด้วยเหตุบังเอิญนั่นรึเปล่าที่ทำให้คนสองคน ที่อยู่ไกลกันสุดขอบฟ้า ให้มาเจอกันได้
"ที่ว่า...กลับมาเยี่ยม..ชีต้าห์อยู่ที่ไหนหรือลูก..?" ชีต้าห์หันไปสบตาคุณนาย ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาก่อนตอบ
"ผมอยู่ที่ฟลอริด้ากับแม่ครับ.." คุณนายกับตัวป่วนหันมาสบตากัน แล้วมองกลับมาด้วยความสงสัย เพราะถ้าบอกว่ากลับมาเที่ยว..ก็แสดงว่าต้องกลับไป แล้วคนที่อยู่ทางนี้จะไม่ขาดใจตายไปเสียก่อนรึ
"งั้นก็ต้องกลับนะซิ" ตัวป่วนทำตาโต หันไปมองทางที่พี่ชายตัวเองนั่ง มองเลยไปที่ใบหน้าคุณแฟน แค่คิดว่าต้องอยู่ไกลกันแบบนั้นอีกครั้งก็เหมือนจะทนไม่ไหว.....เข้าใจเป็นอย่างดีเลยล่ะไอ้ความรู้สึกของการอยู่ห่างกับคนที่รัก
"ครับ..คงต้องกลับไปเรียน.." ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึก เวลาพูดเรื่องที่ต้องห่างกันทีไร ก็รู้สึกใจหาย ที่ทำเป็นยิ้ม แกล้งโน่นนี่อยู่ทุกวัน ก็เพื่อจะได้ลืมไปว่าเวลาในแต่ละวันที่อยู่ด้วยกัน มันผ่านไปรวดเร็วขนาดนี้
ตัวป่วนกับคุณนายแม่สบตากันอีกรอบ เมื่อเห็นว่าสมาชิกใหม่ของบ้าน กำลังนั่งก้มหน้าก้มตา เหมือนจะปกปิดความรู้สึกของตัวเอง สองคนนี้คงรู้อยู่แก่ใจว่าคงต้องนับเวลาถอยหลัง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะรักกัน คนที่เคยผ่านเวลาที่ไม่สามารถเอาชนะระยะทางได้อย่างตัวป่วน เอื้อมไปแตะมือของว่าที่พี่สะใภ้
"พี่ปุ่นนะ เมื่อก่อนตัวสูง แล้วก็ผอมมากเลยนะ เป็นแบบเด็กเอ๋อๆ หอบหนังสือไปไหนต่อไหนด้วย" ประโยคสนทนาเปลี่ยนไปจนแทบจะรับไม่ทัน ชีต้าห์หันไปมองคนที่โดนนินทา ก่อนจะหันกลับมามองคนที่ตั้งอกตั้งใจเล่าเรื่องเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
"เพิ่งจะมาฟิตเป็นสุดหล่อเมื่อไม่นานมานี่เอง" คุณนายนั่งมองหน้าเหวอๆ ของว่าที่ลูกสะใภ้อย่างขำๆ ยังนึกภาพของพี่หมอตอนที่เป็นเด็กเอ๋อไม่ออก
"อัลบั้มรูปอยู่บนชั้นหนังสือ ซ้ายมือสุด แถวที่สอง" คำกระซิบบอกตำแหน่งของหลักฐาน ทำเอาชีต้าห์หลุดหัวเราะพรืดออกมาจนได้ แม่ลูกบ้านนี้เค้าทำงานกันเป็นทีมจริงๆ กลายเป็นว่าเรื่องการพัฒนาการของคุณหมอเป็นประเด็นหลักในการสนทนาไปซะ เรียกเสียงหัวเราะไม่ขาดระยะ
ทางฝั่งสามหนุ่มน้อยบ้างไม่น้อยบ้าง ปลีกตัวมานั่งจิบกาแฟกัน เสียงหัวเราะดังให้ได้ยินเป็นระยะ โดยที่คุณผู้ชาย หมอปุ่น และพี่อากาศ ถูกกันออกมานั่งที่โต๊ะตรงระเบียงหน้าบ้าน ในรัศมีที่เอียงหูยังไงก็ไม่ได้ยิน..
"หมดกัน..อุตส่าห์สร้างภาพ โดนเผาเกรียมแน่" หมอปุ่นบ่นพึมพำ จะเข้าไปร่วมด้วยก็ไม่ได้ โดนทั้งแม่ทั้งน้องกันออกมา ..สงสัยจะเห่อของนอก ไอ้เสือก็เนียนกริบ ที่นั่งเงียบนั่นเพราะเก็บรายละเอียดนะนั่น
"ปุ่น.. พ่อถามจริงๆ ทำไมต้องเป็นผู้ชาย!!" แก้วกาแฟที่กำลังจะกระดกลงคอ ทำเอาหมอปุ่นสำลักแทบพุ่งของที่อยู่ในปากออกมา เมื่อโดนคำถามยิงตรงเข้ากลางใจ
"ถามแบบนี้ เอาค้อนทุบหัวผมเลยก็ได้พ่อ.." เหลือบมองไปทางทางเขยเล็กก็เห็นว่ากำลังนั่งอมยิ้มแบบขำๆ ...ไม่คิดจะช่วยกันเลย!!
"พ่อไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่..ก็เห็นว่าตอนเรียนปุ่นก็ออกจะดังในหมู่สาวๆ " คุณชายเอ่ยปากชมลูกตัวเอง แอบมีแปลกใจเล็กน้อย ที่เห็นเขยเล็กนั่งกลั้นหัวเราะเหมือนคนใกล้ขาดอากาศหายใจ..
ป๊อปในหมู่สาวๆ นะใช่ แต่ก่อนหน้านั้นมีผู้ชายมาตามจีบอีก ที่รู้ๆก็สองคน ไอ้พวกที่เหลือไม่นับ ช่างมัน..คิดซะว่าไม่รู้ก็ดีเหมือนกัน หมอปุ่นเหล่มองคุณเพื่อนหรือเขยเล็ก ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกตัวด้วยหางตา.. ถ้าคุณชายพ่อจะจับได้ ก็เพราะไอ้คุณน้องเขยนี่แหละ จับบีบคอซะดีมั้ง...ไม่น่าไปเผลอหลุดปากเล่าให้ฟังเลย
"ไม่ใช่ว่าต้องเป็นผู้ชาย แต่ต้องเป็นชีต้าห์เท่านั้นครับ กับคนอื่นผมก็เฉยๆ แต่กับคนนี้ไม่ใช่..." ถ้อยคำง่ายๆ ที่ทำให้คนฟังทั้งสองถึงกับอึ้ง เหลือบมองไปทางสมาชิกใหม่ของครอบครัวที่กำลังเดินมาทางนี้ พร้อมลูกชายคนเล็ก ก็พอจะเข้าใจขึ้นมา เด็กมันน่ารักขนาดนั้น...
“แค่ชีต้าห์ที่พิเศษ..?” คุณผู้ชายยังคงมีข้อข้องใจ กับลูกชายคนเล็กก็ยังพอจะเข้าใจอยู่หรอก เกิดมาตัวเล็กหน้าก็ละม้ายคล้ายไปทางคุณนายเสียมาก ทำใจไว้นานแล้ว...ยังดีที่ได้ลูกเขยแสนดีมาคน.. แล้วก็กำลังจะได้ลูกสะใภ้เป็นผู้ชายหน้าตาน่ารักอีกคน
“ครับ..เป็นคนเดียวที่พิเศษกว่าใคร..” หมอปุ่นยอมรับหนักแน่น
"คุยอะไรกัน แอบนินทาผมรึเปล่า.." ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ ตัวป่วนก็เดินเข้ามาพร้อมกับทำหน้าย่นใส่ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คุณแฟนของตัวเอง
"ใครจะไปกล้าครับ.." พี่อากาศแกล้งแซวคุณแฟนตัวป่วน ตั้งแต่เข้ามาบ้าน มาจนป่านนี้ ตัวป่วนก็ยังเกาะติดว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเองไม่ยอมปล่อย ดูจะถูกอกถูกใจออกนอกหน้ากว่าใคร
"คืนนี้..ให้ชีต้าห์นอนห้องผมได้ไหม"
"ไม่ได้!! / ไม่เอา!!" สองหนุ่มที่กำลังนั่งจิบกาแฟสบายอารมณ์ แทบจะลุกขึ้นมาตะโกนตอบ
คุณผู้ชายรีบหลบฉากออกไปก่อน จะยังไงก็ตามเรื่องของเด็กๆ ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย ..แต่..เออ..บ้านไม้สองชั้นนะ มันจะมีเสียงเล็ดลอดเอา จะบอกเรื่องนี้ก็ไม่กล้า เดินหลบไปทางคุณนายที่ยืนกวักมือเรียกอยู่อีกทาง
"ตัวป่วนเค้าล้อเล่นหรอก ทำหน้าเหมือนจะโดนสั่งประหารงั้นแหละ" ไอ้เสือตัวแสบมันฟื้นคืนชีพแล้วตอนนี้ แต่ก็สองหนุ่มก็อดโล่งอกไม่ได้ สำหรับตัวป่วนแล้วการที่ไม่ได้เจอหน้าคุณแฟนมาเกือบเดือน อยากเอื้อมแขนไปกอดพี่อากาศของตัวเองแทบแย่แล้วนั่น
"พี่ฟ้าไปนอนห้องป่วน หรือจะกลับห้องตัวเอง.." ผละจากพี่ะใภ้ ตัวป่วนก็เข้าไปเกาะแขนคุณแฟน เริ่มจะเข้าโหมดโลกส่วนตัว หมอปุ่นก็เลยลากคอแฟนตัวแสบออกมา
"ไปดูห้องพี่หมอกัน.." หมอปุ่นไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของชีต้าห์ ส่งไปยังน้องชายตัวป่วน ที่กำลังยกนิ้วโป้งขึ้นมาชูให้ เหมือนจะรู้ความหมายกันสองคน
ห้องหมอปุ่นไม่ได้กว้างขวางมากมาย แต่ก็กว้างกว่าห้องที่บ้านพักหมอ อันดับแรกที่สายตาของชีต้าห์มองหา ก็คือชั้นหนังสือ พอเห็นสิ่งที่หมายไว้ ก็พุ่งไปหยิบเอาไว้ได้ โดยที่เจ้าของห้องยังไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่กลับออกไปเอากระเป๋าสัมภาระ
"เฮ่ย!! ทำไมซนจังนะเรา!" กระเป๋าในมือแทบจะโยนลงพื้นเลยก็ว่าได้ เมื่อเข้ามาในห้องตัวเองอีกรอบ พบว่าไอ้ตัวแสบกำลังนั่งดูรูปเก่าๆ แล้วหัวเราะคิก
"อะไรเล่า!! ขอผมดูหน่อย อย่าแย่งซิ!!" ชีต้าห์ใช้ความเร็ว กลิ้งไปอีกฝากหนึ่งของเตียง พร้อมกับอัลบั้มรูปในมือ แต่มีรึที่หมอปุ่นจะยอม ถิ่นใครก็ให้มันรู้ซะบ้าง
กลายเป็นว่าเข้าทางหมอปุ่นโดยไม่รู้ตัว เพราะสมรภูมิตอนนี้มันเป็นเตียง ไอ้คนที่ตั้งท่าว่าจะกลิ้งหลบโดนดึงข้อเท้าเอาไว้ ทำให้หน้าคว่ำลงไปกับเตียง ตามด้วยน้ำหนักตัวของหมอปุ่นที่ตามลงมา ทั้งอย่างนั้นก็ยังจะห่วงของในมือ ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะเสียเปรียบในไม่ช้า
"จะคืนไหม..?" ไอ้เด็กแสบส่ายหัวทันที ยังคงกอดของกลางในมือเอาไว้แน่น
"ไม่เอา!! ผมจะดู!!" อันที่จริงหมอปุ่นก็ไม่ได้คิดจะหวงมากมายขนาดนั้น แต่อารมณ์ตอนนี้มันนึกอยากจะแกล้งคนขึ้นมา แล้วอีกอย่าง... สถานการณ์มันก็เป็นใจซะแบบนี้
"ไม่คืนใช่ไหม.. อย่าหาว่าพี่ใจร้ายนะ!!" ชีต้าห์หมุนตัวกลับไปมองหน้าคนที่เอ่ยคำขู่ กรรม!! ไม่น่าหันมาเลย..แบบนี้ก็เท่ากับว่าเสียเปรียบทุกประตูเลยซิ แล้วไอ้แววตาระยิบระยับนั่นมันเกี่ยวอะไรกันด้วยเล่า
"ถะ...ถ้าพี่หมอทำอะไร ผมจะฟ้องคุณนาย..อุ๊บ!! ฮ่าๆ " พูดยังไม่ทันจบ นิ้วของไอ้พี่หมอก็จิ้มลงมาข้างซี่โครง ชีต้าห์เลยหลุดขำพรืดเพราะจุดอ่อนของตัวเองคือบ้าจี้ ไอ้คนจี้ก็ไม่ได้เกรงใจ จิ้มเอาๆ คนหัวเราะก็เหนื่อยหอบ ปวดแก้มจนหน้าแดง
"เป็นไงล่ะ ยอมรึยัง ดื้อดีนัก..!!" หมอปุ่นเหลือบมองใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสี ไอ้เด็กแสบยกมือปาดหางตาตัวเองเนื่องจากหัวเราะเกินพิกัด ขนาดว่าสภาพตัวเองเป็นแบบนั้น ก็ยังจะส่ายหัวไม่ยอมอีกนะคนเรา
"ไม่ยอมหรอก ไอ้พี่หมอบ้า ..เหนื่อยนะ!!" ตัวแสบยังไงก็ต้องไว้ลายบ้าง ไม่งั้นจะได้โดนแกล้งไปตลอดซิ สถานการณ์แบบนี้..ถ้าจะเอาคืนคงต้องเอาตัวเองออกไปจากอ้อมแขนพี่หมอให้ได้ก่อน คิดได้ดังนั้น แผนการอันแยบยลของชีต้าห์ก็ลงมือปฏิบัติการ..นั่นก็คือ
จุ๊บ~~ที่แก้มพี่หมอไปที เท่านั้นแหละ..เป็นใครก็ต้องอึ้งซิครับท่าน ก็อาศัยจังหวะนั้นกลิ้งออกมาทันทีทันใด
"ชีต้าห์!!" ไม่ต้องห่วงแล้วตอนนี้ เมื่อแผนการสำเร็จไปได้ด้วยดี ชีต้าห์ก็ลงไปยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างเตียงเรียบร้อย แต่ก็ต้องกระโดดหลบตอนที่พี่หมอทำท่าจะยื่นมือมาคว้าเอวเข้าไปหาอีกรอบ
"ฮ่าๆ พี่หมอหน้าตลกอ่ะ!!" หมอปุ่นกำลังนั่งมึน ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือจะดีใจดี ตรงแก้มข้างที่ไอ้เด็กแสบสัมผัสยังรู้สึกได้อยู่ ถ้าจะโมโหก็มีอยู่เรื่องเดียว...จะน่ารักไปถึงไหนนะ ไม่รู้ตัวเองซะบ้างเลย!
"ตัวแสบ!! มานี่เลยเรา!!" ไอ้ตัวแสบที่ว่ายังคงฉีกยิ้มทำลอยหน้าลอยตาอย่างไม่คิดจะสำนึก เปิดอัลบั้มในมือตัวเองดู พร้อมกับคอยระวังเอาไว้ จะวิ่งออกไปนอกห้องก็คาดว่าคงไม่รอด..รู้งี้ลากตัวป่วนมาด้วยกันก็ดีหรอก
"ขอผมดูหน่อยไม่ได้เหรอ.." ถ้าพี่ปุ่นโกรธต้องใช้ลูกอ้อน อ้อนเข้าไว้..ยังไงก็ใจอ่อน คำบอกเล่าของตัวป่วนยังวนเวียนอยู่ในหัว คิดว่ายังไงก็คงหนีไม่พ้นมือเจ้าของห้อง ชีต้าห์ก็เลยหันไปทำหน้าอ้อนสุดชีวิต ...น่าอายชะมัด ถ้าไม่ได้ผลนะจะให้ตัวป่วนรับผิดชอบล่ะ
"ดูนะได้.. มานั่งนี่เถอะ ไม่แกล้งแล้ว.." อ่อนใจทั้งคู่ ทั้งคนอ้อน และคนโดนอ้อน สุดท้ายคนที่ยอมแพ้ตลอดก็คือหมอปุ่น ที่กวักมือเรียกไอ้เสือตัวแสบให้ไปนั่งข้างๆ ยังมีการส่งสายตามาเหมือนจะไม่เชื่ออีกนะ ชีต้าห์เดินกลับมานั่งบนเตียง ตรงที่พี่หมอตบมือลง แต่พอจะหย่อนก้นลงนั่งก็โดนคว้าเอวลงไปนั่งเก้าอี้ชั้นเฟริสคลาสอย่างตักคุณหมอซะ
"ไหนว่าไม่แกล้งแล้วไง"
"ไม่ได้แกล้ง แค่เอาคืนต่างหาก!!" ไอ้เด็กแสบทำหน้าบูดชนิดที่ว่าไปโกรธใครมาซักชาติ ก่อนที่แก้มข้างซ้ายจะโดนคุณหมอหอมไปหลายที ด้วยความที่ว่าทำตัวน่าหมั่นเขี้ยวจัด
"พี่หมอ!! เดี๋ยวก็ช้ำกันพอดี" ชีต้าห์แกล้งต่อว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เอาคืนแบบนี้ก็ยังดีกว่าโดนจี้เอวเป็นไหนๆ กว่าจะได้เปิดดูรูปก็เถียงกันไปหลายรอบ
ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตถูกเปิดออกที่ละหน้า โดยมีเจ้าของเหตุการณ์นั่งอธิบายทุกคำถามที่คุณแฟนตัวแสบอยากรู้ ภาพเด็กนักเรียน ม.ปลายตัวสูง ผอม เรียกเสียงหัวเราะใสให้ดังขึ้นทุกครั้ง เพื่อนๆถูกไล่ถามชื่อ คนที่ยืนกอดคอกัน เด็กผู้หญิงที่ถ่ายรูปด้วย เหมือนตัวเองกำลังโดนหน่วย FBI สอบสวนยังไงก็ไม่รู้
"หายเครียดแล้วใช่ไหม พ่อกับแม่พี่หมอใจดีรึป่าว ยอมเป็นสมาชิกครอบครัวพี่ได้รึยัง" คำถามมาพร้อมกับคำเชิญชวน ใบหน้าหมอปุ่นซบลงบนไหล่เล็ก จะอ้อนก็ไม่เชิง..เหมือนจะลวนลามมากกว่าอีก...
"อือ..ผมต้องดูก่อน ลูกชายคนกลางชอบแกล้ง..." หมอปุ่นหัวเราะเสียงต่ำ ยอมมาทั้งตัวขนาดนี้ ขาดก็แค่หัวใจ...ซึ่งไม่น่าเป็นปัญหา
"ยอมเป็นหน่อยเถอะนะ...ที่เค้าชอบแกล้งก็เพราะรักหรอก.." คนโดนแกล้งหัวเราะคิกคัก สงสัยอยู่ว่าถ้าปล่อยให้มือไม้พี่หมอซุกซนอยู่แบบนี้ ..คาดว่าจะไม่รอด..
"ผมไม่ชอบคนขี้แกล้ง..อือ..อย่าซิ.." ปากก็บอกว่าไม่ แต่ทำไมตัวไม่ยอมผลักไส แถมยังหันมามองด้วยตาหวานฉ่ำ ...ไอ้เสือตัวจริงรึป่าวหว่า!!
"ไม่แกล้งก็ได้ งั้น!! เอาจริงเลยแล้วกัน..!!"
"เฮ่ย!! ไม่ใช่แล้ว ไอ้พี่หมอบ้า!!" มัวแต่แกล้งกันไปมา ไม่ทันได้ตั้งตัว ชีต้าห์ก็โดนหมอปุ่นรั้งลงไปนอนกอด แผนการแกล้งไอ้เสือยังมีอีกเยอะ ก็คนก็คนมันน่าแกล้งซะขนาดนี้ ปล่อยไปเฉยได้ไง
>
>
>
>
ณ อีกฟากห้อง..
"ไม่ได้ยินอะไรเลยพี่ฟ้า" ตัวป่วนพยายามทำตัวลีบติดไปกับกำแพง เอาหูแนบสนิทกับข้างฝา เพราะอีกฟากเป็นห้องของพี่ชาย ที่หายเงียบเข้าไปข้างในกับสมาชิกใหม่
"ไปยุ่งเรื่องอะไรของเค้านะเรา!!" พี่อากาศพยายามรั้งตัวคุณแฟนออกมาจากฝาผนังให้ได้
"ไม่ได้ยุ่ง แค่ลอง..เผื่อว่าจะได้ยินอะไร พี่ฟ้าก็มาด้วยสิ" คุณแฟนตัวเล็กกวักมือเรียกเหมือนเป็นเรื่องสนุก แทนที่จะห้ามพี่อากาศก็ดันยอมเอาหูแนบไปกับฝาผนังตามคำขอของตัวป่วนจนได้ มารู้ตัวอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงหัวเราะของคนข้างตัว...แบบนี้มันต้อง..
"อ้อ!! นี่ตั้งใจแกล้งพี่แต่แรกสินะ มานี่เลย!!!" สุดท้าย..เลยไม่รู้ว่าทั้งสองห้องที่กั้นกลางด้วยผนัง..ห้องไหน..จะดุเดือดกว่ากัน
(- -ll)
===================
จบตอนนี้ด้วยความวุ่นวาย เอาเถอะ..ใครอยู่้ใกล้แถวนั้นก็คงรู้เอง
ขอบคุณ'คุณนาย' ที่ให้ที่พักพิงอีกคืน (พร้อมแก้คำผิดให้) คึคึ
กอดแขกรับเชิญทุกคนที่น่ารัก
และ โอบกอดคนอ่านทุกท่าน
(มาลงช้าไปบ้างขออภัย แหะ แหะ)