คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 176577 ครั้ง)

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #600 เมื่อ26-11-2007 18:17:00 »

ผมก็กลั้นใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรถึงนัทด้วยหัวใจที่สั่นระทึก

หุหุ พอได้คุยกัน ระวังช็อคไปเลยนา  :m14:  :m14:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #601 เมื่อ26-11-2007 18:40:23 »

แต่จะว่าไปคุณกั้งก็คิดมากเหมือนกันนา
จะโทรหาแฟนทั้งที  คิดมากทำไม  อย่ามีทิฐิต่อกันดิ
ทำไมต้องกลัวว่าเราจะเสียศักดิ์ศรีที่จะโทรหาด้วยอ่า

แต่ถ้าโทรหาหลายๆ ครั้งแล้วมันไม่เวิร์ก  เมื่อนั้นค่อย ตัดใจ ทำใจให้ไม่คิดถึงเค้า
มาคิดวนๆ เวียนๆ ไปมา  หาเหตุผลร้อยประการ  ปวดหมองมากๆๆเลย

รออ่านต่อ  :a2:  :a2:  :a2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #602 เมื่อ26-11-2007 19:48:00 »

เห็นด้วยกะพิมนะจ๊ะ  โทรหาแฟนนะ คิดถึงก็โทรเลยคิดไรมาก ไม่ได้โทรทุก 5 นาทีซะหน่อย

คุณกั๊งสู้ๆนะ ถ้ายังไม่คิดจะเลิกก็เป็นกำลังใจให้ต่อ เอาชนะให้ได้  :m4:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #603 เมื่อ26-11-2007 19:52:50 »

จะไม่ให้คิดมากได้ไงล่ะครับ.......โทรไปทีไรโดยโวยทุกทีเลย...... :m15:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #604 เมื่อ26-11-2007 20:39:26 »

 :m1: งั้นก็ต้องถามเค้าแหละว่ารักกันรึป่าว คิดถึงก็โทรหาไม่ได้

อย่างน้อยจะได้รู้ ยิ่งเป็นอย่างนี้ต่อไปคนช้ำคือคุณกั๊งเอง

คิดมากสุขภาพแย่เอง ถ้ารอให้เค้าคิดได้คุณมิแก่ไปกว่านี้หรอแล้วจะหาแฟนใหม่ยากนา คิดดูนะ เอาใจช่วยอีกที   :a2:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #605 เมื่อ04-12-2007 09:50:51 »

อากาศก็เย็นลงทุกที............อยู่กรุงเทพมาตั้งเจ็ดเดือนแล้วยังหาแฟนไม่ได้อีก............เฮ้อ ทำไมชีวิตมันช่างแสนจะน่าเบื่อขนาดนี้นะ.........หุหุ........... :sad2:




...
                        “ฮัลโหล.........มีอะไร” นัทรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเซ็งสุดขีด..............ผมชักโมโหขึ้นมาหน่อยๆเมื่อได้ยิน..............นี่ขนาดว่าผมไม่ได้โทรมาหาเค้าสองวันแล้วนะเนี่ย...........ผมเป็นคนน่าเบื่อมากขนาดนี้เลยหรือยังไง.............นี่เค้าเป็นบ้าอะไรของเค้ากันแน่ หรือว่าเป็นโรคกลัวโทรศัพท์.............ทีโทรคุยกับคนอื่นเห็นคุยเป็นคุ้งเป็นแควตั้งนานสองนานไม่มีบ่นสักคำ..............

                        “จะให้พี่ไปรับกี่โมง ไม่เห็นโทรมาบอกเลย”..........ผมถามกลับเสียงห้วน........เพราะตอนนี้ก็ชักจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน..............นี่มันธุระของเค้าไม่ใช่หรือ.............ตัวเองจะมาจัดฟัน จะให้ผมขับรถไปรับตั้งสองชั่วโมง.............ยังจะมีหน้ามาทำเสียงเบื่อหน่ายใส่อีกเหรอ.............

                        “ยังไม่รู้เลย..........วู้วววววววววว............ถามอยู่ได้ น่ารำคาญ.........จะกลับเมื่อไหร่เดี๋ยวก็โทรบอกเองนั่นแหล่ะ”..............เอ๋า.............แค่ถามแค่นี้มันน่ารำคาญตรงไหนวะ..........ผมทั้งรู้สึกงง และโมโห............มือที่กุมโทรศัพท์อยู่ สั่นระริกโดยไม่รู้สึกตัว........อยากจะด่ากลับให้สมแค้น แต่ตอนนี้สมองมันเต็มตื้นไปด้วยความน้อยใจจนพูดอะไรไม่ออก...........

                         “แล้วพี่ไม่มีสิทธิ์จะรู้อะไรเลยใช่มั้ย”..............ผมระเบิดเสียงใส่อย่างหมดความอดทน..........ตอนนี้ผมจะพูดอะไรก็ไม่ได้เลยสักอย่าง............จะทำอะไรก็ผิดไปหมด..............นี่เค้าเห็นผมอยู่ในฐานะอะไร.........ส่วนเกินของชีวิตของเค้าหรือยังไง..............

                          “ถ้าจะโทรมาหาเรื่องก็ไม่ต้องคุยกันเลยนะ...........แค่นี้นะ”...........นัททำท่าจะวางสาย.........แต่ตอนนี้ผมไม่ฟังเสียงอะไรแล้ว..........เค้าจะหนีหน้าผมด้วยวิธีนี้ไม่ได้.............อยากเลิกก็บอกมาตรงๆสิ........จะมาทำร้ายความรู้สึกกันต่อไปอีกทำไม...........คิดเหรอว่าผมจะอยากฝืนใจกับคนที่หมดรักกันแล้ว.............ผมไม่ใช่คนหน้าด้านแบบนั้นหรอกนะ.................ทำไมเค้าไม่พูดมันออกมาให้จบๆไปเลยล่ะ.........หรือคิดว่านี่เป็นการรักษาน้ำใจกันแล้วหรือยังไง...........เปล่าเลย..............มันเป็นการทำลายความรู้สึกที่ดีของผม ลงไปเรื่อยๆมากกว่า...........

                         “นี่..........พี่ยังพูดไม่จบนะ...........ห้ามวางสายนะ...........พี่ยังพูดไม่จบ”............ผมตะคอกใส่โทรศัพท์ด้วยความโมโหสุดขีด............ทำไมเค้าต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องทุกครั้งที่ผมโทรมา............นี่เค้าจะไม่ยอมคุยกับผมดีๆเลยใช่มั้ย.............มิหนำซ้ำยังมากล่าวหาว่าผมโทรมาหาเรื่องเค้าอีกต่างหาก..........คิดได้ยังไง............

                         “มีอะไรอีกล่ะ….ว่ามาสิ”.............นัทย้อนกลับมาอย่างเย็นชา...........แม้คำสั่งของผมยังใช้ได้ผลอยู่บ้าง..............แต่น้ำเสียงของเค้าแสดงความดูแคลนจนผมสะท้านไปทั้งใจ................


                          “ทำไมนัทจะพูดดีๆกับพี่บ้างไม่ได้หรือไง............พี่โทรมาทีไรนัทต้องคอยหาเรื่องตลอด............พี่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”..............ผมพยายามกระตุ้นสามัญสำนึกในการใช้เหตุผล...........รวมถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเค้า.............ถ้ามันยังคงหลงเหลืออยู่บ้างในตอนนี้............เค้าคงจะยอมคุยเปิดอกกับผมดีๆ..............ถึงแม้ว่าเค้าจะบอกเลิกกับผม ผมก็จะไม่เสียใจสักนิด..............แต่อย่ามาทำร้ายจิตใจกันด้วยวิธีการแบบนี้อีกเลย.............ผมเจ็บจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว............ยิ่งคิดถึงคำขอร้องในอดีตที่เค้าไม่ต้องการให้ผมทิ้งเค้าไป...........คิดถึงความพยายามของเค้าที่จะทัดทานผมเอาไว้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด........ผมไม่น่าใจอ่อนกับคนคนนี้เลย...........

                          “ก็พี่กั้งอ่ะโทรมาทีไรก็ถามแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆซาก..........ว่าจะกลับเมื่อไหร่............ทำไม............อะไร...........มันน่าเบื่อเข้าใจมั้ย”...........นัททำน้ำเสียงกระแนะกระแหนแดกดัน............มันช่างน่าอดสูใจเหลือเกินเมื่อได้ฟัง...............สาบานได้เลยว่าคู่รักที่ไหนๆ เค้าก็ต้องถามกันแบบนี้ทั้งนั้น..............ผมไปบีบคั้นกดดันเค้าที่ตรงไหน........เค้าจะไม่ให้ผมยุ่งกับเรื่องของเค้าเลยสักอย่างงั้นเหรอ............แล้วผมจะยังอยู่กับเค้าในฐานะอะไร...........แม้แต่คำว่าเพื่อนก็ยังจะดูดีเกินไปด้วยซ้ำสำหรับสิ่งที่เค้ากำลังทำกับผมตอนนี้...............

                          ผมนิ่งงันไปชั่วขณะกับคำพูดที่แสนร้ายกาจของนัทเมื่อครู่................เค้าช่างใจจืดใจดำกับผมได้ลงคอ.....เค้าไปขุดเอาคำพูดแดกดันที่แสนเจ็บแสบพวกนั้นมาจากไหน..............มันช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจคนที่ทั้งรักและเป็นห่วงเค้ายิ่งกว่าใคร อย่างผมได้อย่างเลือดเย็นยิ่งนัก.............

                          “ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย...........จะวางสายแล้วนะ”.........เมื่อเห็นผมนิ่งเงียบไป นัทก็วกกลับเข้ามาที่การขู่จะวางสายอีกรอบ..............ผมได้สติจึงรีบร้องห้ามเอาไว้

                          “อย่าเพิ่งสิ...........เรายังคุยกันไม่จบนะ”..................แต่สายเกินไปเสียแล้ว.............สัญญาณที่ปลายสายถูกตัดเงียบหายไปพร้อมๆกับสิ้นเสียงห้ามของผม............

                          ผมกระหน่ำกดโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ของนัทราวกับคนเสียสติ............ไม่มีเสียงตอบรับนอกจากสัญญาณที่ทิ้งเอาไว้ให้ฝากข้อความ...........เมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น ผมจึงหันกลับมานั่งจมจ่ออยู่กับความคิดวนเวียนซ้ำซากเพียงลำพัง.................เค้ามีเหตุผลอะไรของเค้ากันแน่ที่ทำแบบนี้............จะว่ามีคนใหม่............นัทก็ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น...........อีกอย่างเค้าก็เพิ่งจะไปได้แค่เดือนเดียว จะไปเจอใครได้ไวขนาดนั้น...........ยิ่งถ้าจะไปคบกับผู้ชายยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเค้ากลัวคนอื่นจะรู้ว่าเค้าเป็นเกย์ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด................

                         แม้จะเสียใจและน้อยใจอย่างเหลือประมาณ แต่ไม่มีน้ำตาสักหยดไหลออกมาพอให้ผมได้ผ่อนคลายความรู้สึกลง...........ตอนนี้สมองของผมปั่นป่วนไปหมด............คงเป็นกรรมที่ผมได้เคยทำกับเค้าเอาไว้ในชาติปางก่อน.........ตอนนี้คงถึงคราวที่เค้าจะมาเอาคืนบ้างกระมัง...........ผมเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาเปิดดื่มเพื่อดึงจังหวะความคิดให้ช้าลง...........ดื่มอีกสักหน่อยอาจจะทำให้หลับได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องคิดมากฟุ้งซ่านกับเรื่องรกสมองพวกนี้.............



                         ผมงัวเงี่ยตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่พร้อมกับเสียปลุกจากโทรศัพท์............คงเป็นนัทนั่นแหละ.........เค้ามักจะโทรมาง้อหลังจากที่ทำให้ผมเสียใจเสมอ.............

                         “ฮัลโหล...........เดี๋ยวมารับนัทสักเที่ยงนะ”...............ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกสำนึกผิดเจืออยู่ในน้ำเสียงของเค้า...........และผมก็รับคำด้วยความเคยชิน............เหมือนคนสิ้นแล้วซึ่งหัวใจ.............

                         เหลือบไปมองนาฬิกาที่วางบนหลังทีวีบอกเวลาแปดโมงเศษ............ผมลุกงัวเงียขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวอย่างอ่อนระโหย...........นึกแปลกใจเหลือเกินว่าทำไมตัวเองถึงอดทนได้มากขนาดนี้.........หากเป็นคนอื่นอย่าว่าแต่ตะคอกใส่เลย.............แค่เพียงไม่ถูกใจเล็กน้อยผมก็พร้อมที่จะจรลีไปอย่างไม่ใยดี............แต่ทำไมกับนัท ความคิดนี้มันไม่เคยแจ่มชัดในหัวสมองของผมเลย..........นอกจากจะแว๊บเข้ามาทักทายอย่างพร่าเลือนบ้างในบางทีเท่านั้น............

                         ผมพยายามแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเค้า...........ขับรถออกไปโดยไม่ได้ฝากข่าวสารเอาไว้กับใครทางนี้............ในใจอยากจะเดินทางไปให้ถึงไวๆเพื่ออะไรก็ไม่อาจทราบ...........แต่อย่างน้อยๆก็อยากให้ถึงที่นั่นราวๆเที่ยง................


                           ระยะทางเชียงใหม่ถึงแพร่เป็นเส้นทางขึ้นเขา สลับกับที่ราบบ้างเพียงช่วงสั้นๆ.............บรรยากาศสองข้างทางเขียวชะอุ่มเพราะอยู่ในช่วงต้นฤดูฝน.............ผมแวะปั๊มข้างทางเพื่อเติมน้ำมันเมื่อผ่านตัวเมืองลำปางมาได้เพียงเล็กน้อย............รู้สึกหิวขึ้นมาตะหงิดๆจึงเดินเกร่เข้าไปหาอะไรดื่มตรงร้านกาแฟที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างน่ารักใกล้ๆ.......

                         “ขับรถทะเบียนอุบล มาไกลเหมือนกันนะคะ”............แม่ค้าขายกาแฟทักทายเป็นภาษาเมืองอย่างคนมีอัธยาศัยดี............ผมยิ้มตอบก่อนจะรับกาแฟจากเธอมาวางไว้ที่โต๊ะเล็กๆด้านข้างเพื่อนั่งเปลี่ยนอิริยาบถ..........
“อ๋อ........ไม่หรอกครับ..........ผมเรียนอยู่ที่เชียงใหม่แค่นี้เอง..........ว่าจะไปแพร่นะครับ.........ว่าแต่ว่าอีกไกลมั้ยครับกว่าจะถึง”..............ผมเอ่ยถึงชื่ออำเภอที่นัทอยู่เป็นการหาเรื่องชวนคุยเพื่อตอบแทนอัธยาศัยอันดีของเธอ พลางควักบุหรี่จากกระเป๋าขึ้นมาสูบด้วยความเคยชิน............

                          “ไม่ไกลหรอกค่ะ...........ขับรถไปอีกไม่ถึงชั่วโมงก็คงถึง”.............หล่อนว่าพลางยกแก้วน้ำเปล่ามาเสริฟ............

                           “ไปหาเพื่อนเหรอคะ”..........คงเป็นคำถามชวนคุยเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อธรรมดา..............แต่มันกลับชนเข้าที่ใจผมอย่างแรง...............

                          “ไม่ครับ..........ผมไปรับแฟน”.............ผมตอบเบาๆแล้วแกล้งหันมองออกไปที่นอกร้าน...........หวังว่าหล่อนคงไม่สามารถมองทะลุแว่นกันแดดเข้ามาถึงดวงตาที่ว่างเปล่าของผมได้หรอกนะ..........หาไม่ หล่อนคงคิดว่าแววตาของผมมันช่างสวนทางกันเหลือกันกับประโยคคำตอบที่เพิ่งบอกออกไปเมื่อครู่.........

                         นัททำงานในโรงพยาบาลชุมชนในอำเภอเล็กๆ.............ผมขับรถหลงและโทรถามทางนัทหลายรอบจึงมาถึงที่หอพักในโรงพยาบาลได้..............

                         นัทออกยืนรอรับอยู่แล้วที่ระเบียงด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน............เมื่อผมนำรถเข้ามาจอดเค้าก็ผลุบหายเข้าไปในห้อง ปล่อยให้ผมเดินตามขึ้นไปเองเพียงลำพัง.............ทำแบบนี้อีกตามเคยสินะ.........ผมแอบนึกในใจ............

                        สภาพห้องของนัทเป็นเหมือนแฟลตที่พักทั่วไปของพนักงานในโรงพยาบาล.......แต่ก็โอ่โถงพอดูสำหรับคนเพียงคนเดียว............มีห้องรับแขก...........ครัว ห้องน้ำ..........และห้องนอนเล็กๆสองห้อง..........

                        ผมเดินตามนัทเข้าไปถึงห้องนอนก็พบว่าเค้ากลับขึ้นมานอนบนเตียงต่อ..............ท่าทางเค้าเหมือนเด็กที่เพิ่งจะทำผิดและโดนจับได้แต่ไม่ยอมรับผิด.........ไม่พูดไม่จา...........ทำเป็นซึมกระทือไม่ยอมสู้หน้า............ผมยืนมองเค้าด้วยความรู้สึกหลากใจ...............ไม่รู้สิ............ผมรู้แค่ว่าผมอภัยให้เค้าได้เสมอ...........นึกถึงสิ่งที่เค้าทำกับผมแล้วก็ชวนให้น้อยเนื้อต่ำใจยิ่งนัก...............แต่ความรักและความคิดถึงของผมที่มีต่อเค้านั้นมากกว่า............

                         นัทนอนหันหลังให้ผมและแกล้งทำเป็นนอนหลับต่อ...........แต่ผมสัมผัสได้ถึงความทุกข์ใจที่เค้ากำลังแบกมันเอาไว้............ผมรู้ว่าเค้ารักผม...........ผมรู้ว่าเค้ากดดันกับการพยายามเป็นในสิ่งที่เค้าไม่ได้อยากจะเป็น...........ผมไม่อยากให้เค้าเลือกทางที่ถูกต้องสำหรับศาสนา...........แต่ไม่ถูกต้องสำหรับความรู้สึกของผมและเค้า...........มันน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้.............แต่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร..............ทำมันเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเราด้วย..............หรือนี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการลงโทษมนุษย์ผู้เปื้อนด้วยบาปหนาเช่นเราสองคน.........

                         ผมเดินย่องเข้าไปที่เตียงของนัท แล้วก้าวเท้าขึ้นไปนอนกอดเค้าจากทางด้านหลังอย่างแผ่วเบา ผมรู้ว่าเค้าไม่ได้นอนหลับอย่างที่เค้ากำลังพยายามจะทำ............ผมอยากจะกอดเค้าเอาไว้แบบนี้นานๆก่อนที่ผมจะไม่มีโอกาสได้ทำมันอีกต่อไป............ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของเราสองคน.............มีเพียงแค่ความเงียบงันที่ชวนให้น่าหดหู่ใจ.............ผมซบใบหน้าเกลือกกลิ้งอยู่บนแผ่นหลังของนัทอย่างเป็นทุกข์..............ความรันทดใจทั้งหลายที่เคยแบกรับเอาไว้ ประดังประเดเข้ามาจนเกินจะต้านเอาไว้ได้............ผมจึงร้องไห้ออกมาเงียบๆ...............ผมรักเค้าเหลือเกิน.............ทำไมชีวิตของเราต้องเป็นแบบนี้ด้วย...........ทำไม.............

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #606 เมื่อ04-12-2007 10:21:06 »

 :sad2: :sad2: :sad2: เศร้า

 :o12: :o12: :o12: เสียใจ

 :undecided:  :undecided: :undecided:หาทางออกไม่ได้

รักกันไปเหอะ  มันก็มีเวลาที่น่าจดจำมากมายไม่ใช่เหรอ นะเอาใจช่วย :a2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #607 เมื่อ04-12-2007 11:07:49 »

พี่กั้งอะ  ชอบเอาแต่ใจตลอดเลย

รู้อยู่แล้วว่าไอ้นัทมันไม่ชอบให้ใครไปจู้จี้กะเรื่องของมัน  พี่ก็ยังไปเซ้าซี้ถามอยู่นั้นแหละ  น่ารำคาญอย่างที่นัทมันว่าจริงๆ ด้วย

น่าเบื่อสุดๆ  คำถามมีมากมายอีกร้อยแปดทำไมไม่ถาม  ถามอยู่ได้แต่คำถามเดิมๆ

แฟนนะ  ไม่ใช่แม่  จะเซ้าซี้หาพระแสงดาบของ้าวอะไรมิทราบเคอะ?

ก็น่าจะรู้ดีว่า  ไม่ต้องถามมาก  เดี๋ยวมันก็จะโทรมาบอกเองว่าจะกลับเมื่อไหร่  แล้วเห็นไหมว่ามันก็ทำตามที่มันบอกจริงๆ

น้องก็เข้าใจอยู่ว่าคนรอคอยมันต้องกระวนกระวาย  อยู่กับความไม่แน่นอนมันก็ทุกข์เป็นธรรมดา

แต่ในเมื่อ "คู่"  ของพี่มันเป็นอย่างนั้น  พี่ก็น่าจะหาวิธีจัดการกับมันได้นะ

ใช่ว่าจะมีพี่คนเดียวซะเมื่อไหร่ที่ทุกข์ใจกับ "เรื่องนี้"

 :เฮ้อ:

ปล. เม้นต์ยาว  เหนื่อย  เอาค่าเม้นต์มาด้วยนะ

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #608 เมื่อ04-12-2007 13:11:46 »

จะไปเข้าข้างเค้าทำไม...........เข้าข้างพี่เธอนี่ถึงจะถูก...........หุหุ :m16:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #609 เมื่อ05-12-2007 00:00:03 »

งานนี้เข้าข้างคุณกั้งอ่ะ ธุระของนัทนะ ทำไมไม่รู้จักรับผิดชอบ เกรงใจบ้างสิ  :m16:   :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #609 เมื่อ: 05-12-2007 00:00:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #610 เมื่อ05-12-2007 17:29:19 »

 :เฮ้อ:

อึดอัดจังเลยอ่ะ  อยากให้คุณกั้งทำไรให้มานเด็ดขาดไปเลยจริงๆ

 :m26:  ทิ้งนัทไปเลยไม่ได้เหรอ  (ขออภัย  อินไปหน่อย นึกว่าเป็นตัวเองซะงั้น)

ก็รู้นะว่าไม่ได้เจอกะตัวก็พูดได้   แต่ถ้าเจอกะตัวก็คงจนปัญญาเหมือนกัน

เป็นกำลังใจให้คุณกั้งละกันเนาะ      :a1:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #611 เมื่อ06-12-2007 09:18:08 »

ออกกำลังกาย พักผ่อนไปเที่ยวธรรมชาติ พบปะเพื่อนๆ
อาจจะทำให้สิ่งที่กำลังทำ ไม่วนเวียนอยู่ที่เดิม
และมองเห็นทางออกของปัญหาก่อนตัดสินใจอะไรลงไป
 :เฮ้อ:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #612 เมื่อ06-12-2007 10:01:08 »

ไม่อยากเลิกทั้งที่ยังไม่ชัดเจนในความคิดครับ............ผมไม่อยากมานั่งเสียใจกับการตัดสินใจพลาด.............รอให้มันถึงเวลาเอง...........ถึงตอนนั้นถ้าเลิกก็คงแค่เสียใจ..............แต่ไม่เสียดาย :m8:

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #613 เมื่อ06-12-2007 11:09:36 »

อ้างถึง
ไม่อยากเลิกทั้งที่ยังไม่ชัดเจนในความคิดครับ
อืมมม...คิดเหมือนกันเลย
ถ้าเป็นเราก็คงไม่เลิก...ปล่อยให้สถานการณ์มันไปเรื่อยๆเองดีกว่า
ถ้าไม่มีเรื่องมือที่3 เข้ามานะ


ก็เรายังรักเค้าอยู่นี่นา  แล้วเราว่านัทก็รักคุณกั้งนะ

เป็นแรงเชียร์ให้รักกันยืนยาวต่อไป :a2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #614 เมื่อ06-12-2007 20:41:48 »

อืมม  รักคนที่มีพื้นฐานไม่เหมือนกัน ก็คงต้องทำใจ
ที่ทำได้ก็คือ  อย่าคาดหวังมาก ทำให้ดีที่สุด  เค้าตอบรับเรามาได้แค่ไหนก็แค่นั้น
ให้รับรู้ว่าเค้าก็รักเราเหมือนกัน  ไม่ว่าเค้าจะแสดงออกยังไงให้เรามั่นใจในตัวเองว่าเค้ารักเรา (เป็นอินึกไป55)
คิดมากวนไปเวียนมา  วนในอ่าง เปลืองสมอง  อิอิ

รอพี่กั้งมาต่อน้า  :m3:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #615 เมื่อ11-12-2007 09:53:32 »

เอางั้นเลยเหรอจ้ะมูมู่น้อย........ประเดี๋ยวคนอื่นเค้าก็ว่าพี่มโนไปเองอ่ะดิ..........อิอิ..........แต่ก็เป็น positive thinking เนอะ เอาสบายใจเราไว้ก่อนก็น่าดีนะ อิอิ.............

...

                         หนึ่งเดือนอันแสนยาวนานกับการที่จะต้องอยู่ห่างไกลกันของเราสองคน มันช่างก่อความทุกข์ทรมานให้ผมอย่างแสนสาหัสอย่างที่ไม่เคยมีทุกข์ใดในชีวิตจะเทียบเท่าได้มาก่อน.............ผมเพิ่งแจ้งแก่ใจกับคำที่ว่า “ความรักคือบ่อเกิดของความทุกข์” ก็ในวันนี้นี่เอง..........วันที่ทุกอย่างดูเหมือนจะมืดมนไปซะทุกทาง........มืดสนิทจริงๆ....

                          ผมไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมถอดใจอะไรง่ายๆหรอก (ถ้าคุณอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นก็คงพอจะรู้)............ถ้าผมลองได้ตกลงปลงใจกับใครแล้ว จะดีจะชั่วยังไงผมก็ต้องอดทน............ทนจนกว่าเค้าจะไม่ต้องการผม..........หากถึงตอนนั้น ผมก็ยินดีที่จะเป็นฝ่ายไปเอง............สำหรับนัท........ผมอยากให้เวลาเค้าได้อยู่กับตัวเอง และคิดใคร่ครวญอะไรๆให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย..........ถ้าผมไม่มีความหมายอะไรต่อเค้าอีกแล้ว ผมก็คงไม่มีอะไรต้องพูดอีก......ดังนั้นตอนนี้ผมจึงจะต้องอดทน........แม้จะต้องแลกด้วยความทุกข์ทรมานใจมากแค่ไหนก็ตาม.............



                          นัทยังคงทำทีว่าหลับอยู่ในขณะที่ผมก็ยังคงนอนกอดเค้านิ่งแบบนั้นเนิ่นนาน............ในที่สุดนัทก็เป็นฝ่ายหมดความอดทนกับสงครามประสาทกลายๆของเรานี้.....โดยการขยับตัวลุกเดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความยุ่งยากใจเต็มที่...........

                         หลังจากที่เช็ดคราบน้ำตาจนแห้งสนิทดีแล้ว สักพักผมจึงเดินตามเค้าออกมาที่ห้องรับแขกโดยไม่ได้พูดจาอะไรอีก..........

                         “กับข้าว กับของสดอยู่ในตู้เย็นน่ะ........ทำอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยไปแล้วกัน”..........นัทออกคำสั่ง แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว..............

                         ผมมองตามหลังเค้าเงียบๆ.........ในภาวการณ์เช่นนี้ ผมทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากพยายามสงบปากสงบคำเอาไว้ และคอยทำตามคำสั่งของเค้าเท่านั้น............

                         ข้าวของในตู้เย็นและเครื่องครัวที่นัทมีอยู่ไม่มากนัก.............เค้าไม่ใช่คนพิถีพิถันอะไรมากมาย........ทุกอย่างล้วนเรียบง่ายและสมถะ (จะเรียกว่าขี้เหนียวได้ป่าวนะ) มีอาหารถุงอยู่สองสามอย่าง แต่เย็นชืดไม่น่ากินแล้ว..........ไส้อั่ว (แบบมี่ไม่มีหมู) ลูกชิ้น (ที่ไม่ใช่ลุกชิ้นหมู) และก็ผักอีกสองสามอย่าง

                         หลังจากที่สำรวจดูวัตถุดิบ และวางแผนการเอาไว้ในใจคร่าวๆว่าจะทำอะไรก่อนหลังดี.........ผมก็เดินออกมาจัดการหุงข้าวที่ห้องรับแขก...........ทำแกงจืดก็น่าจะดี.........มีอะไรปรุงสุกใหม่ๆให้นัทได้กินบ้าง..........เค้าอยู่ตัวคนเดียวคงไม่ค่อยได้ทำกับข้าวกินเองบ่อยๆ...........ลำพังตัวผมเองไม่หิวหรอก.......เค้าให้ทำอะไรก็ทำไปอย่างนั้นแหล่ะ...........ก็ผมเคยดูแลเค้ามาตลอดนี่...........

                         “พี่กั้งอย่าลืมอุ่นอาหารด้วยในถุงด้วยนะ จะไม่อยู่หลายวันเดี๋ยวมันจะบูดซะก่อน”..........เสียงนัทร้องบอกมาจากในห้องน้ำ.............ผมไม่โต้ตอบอะไรนอกจากแอบนึกเคืองอยู่ในใจ..............หึ............สั่งได้สั่งเอาเชียวนะ..........ตอนนี้เราสองคนดูเหมือนจะยังทำเป็นตึงๆใส่กันอยู่.............คงเพราะเรื่องที่เพิ่งมีปากเสียงกันไปเมื่อวาน.............นัทเองก็มีท่าทีว่าจะคอยตั้งป้อมปกป้องตัวเองเต็มที่............ผมเองก็คอยระวังตัวแจ ไม่อยากหาเรื่องให้ต้องได้ทะเลาะกันอีก..............ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าผม นัทก็ไม่ได้มีพิษสงอะไรมากนักหรอก จะมีร้ายกาจก็เฉพาะตอนคุยโทรศัพท์เท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน.........แต่ก็ช่างมันเถอะ........เดี๋ยวพออารมณ์ดีขึ้น ก็คงกลับไปเป็นเหมือนเดิมเองแหล่ะ..............

                             “กับข้าวเสร็จแล้วนะ”..........ผมร้องบอกนัทซึ่งตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการจัดข้าวของลงกระเป๋า........

                            “โหย ทำอะไรตั้งเยอะแยะ เดี๋ยวก็กินไม่หมดหรอก”...........นัทบ่นเมื่อเดินมานั่งประจำที่พร้อมจะลงมือกินข้าว.............หาเรื่องบ่นจนได้สิน่า............เชื่อเค้าเลย............

                            ผมแกล้งเป็นทำทีไม่สนใจกับคำพูดขอเค้า เสไปตักข้าวใส่จานแล้วยื่นให้.........จะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมาก็ไม่รู้.........หรือจะแกล้งทำเป็นหาเรื่องเราไว้ก่อน กลัวจะขุดเอาเรื่องเก่าขึ้นมาพูดหรือไง..........มันก็แค่ของเหลือในตู้เย็นทั้งนั้นอ่ะ..........ถ้าไม่ทำวันนี้กลับมาถึงวันอาทิตย์มันก็เน่าอยู่ในตู้เย็นอยู่ดี.......

                             นัทดูเหมือนไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เค้าได้พูดไปแล้ว........ลงมือกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย...........ในขณะที่ผมนั่งเขี่ยข้าวในจานเล่น แกล้งทำเป็นกินพอเป็นพิธีเวลาที่เค้ามองมา..........นัทเหลือบมามองด้วยท่าทีขัดใจ...........

                           “กินเยอะๆสิ”.........นัทตักใส่อั่วใส่จานให้ผมแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ............แม้ว่านี่จะเป็นเพียงท่าทีห่วงใยอาทรแค่เล็กๆน้อยๆ..........แต่ทว่าในตอนนี้ มันกลับมีค่ามหาศาล เสมือนหยดน้ำที่หล่นลงบนผืนทรายที่แห้งผาก............ผมน้ำตาซึมด้วยความน้อยใจเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา...........อยากตัดพ้อต่อว่าเค้าให้สมกับที่ทำเป็นใจจืดใจดำกับผมนัก...........แต่พูดไปก็ป่วยการเปล่า..........จึงได้แตสู้ทนกล้ำกลืนฝืนกินทั้งที่รู้สึกฝืดคอจนสุดประมาณ.............

                          เราไม่ได้สนทนากันมากนัก...........ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง................เมื่อนัทกินอิ่มแล้วผมก็จัดการเก็บกวาด ล้างจานเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย ในขณะที่นัทก็กลับไปเก็บกระเป๋าต่อจนเสร็จ..........


                         กว่าจะได้เวลาเดินทางออกจากแพร่ เวลาก็ล่วงเลยไปจนบ่ายคล้อย.............หลังจากที่รถวิ่งออกมาจนทิ้งแพร่เอาไว้ที่เบื้องหลังไกลลิบ นัทก็มีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น............เค้าหยิบยกเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเล่าให้ผมฟังมากมาย...........บางครั้งผมก็เผลอหัวเราะออกมาเมื่อได้ฟังสิ่งที่เค้าเล่า.........จนในที่สุดความรู้สึกของเราสองคนก็กลับมาแจ่มดังเดิม.............ผมสัมผัสได้ถึงอำนาจของการควบคุมที่กำลังจะกลับคืนมา.............แต่ก็เป็นเช่นนั้นได้ไม่นานนัก...........เมื่อนัทเอ่ยปากบอกถึงแผนการของเค้าที่ผมไม่เคยล่วงรู้มาก่อน............

                           “พรุ่งนี้นัทต้องกลับบ้านนะ”..........นัทพยายามคุมน้ำเสียงและสีหน้าให้ดูเป็นปกติ แต่เห็นได้ชัดว่าเค้ากำลังรอลุ้นอยู่ว่าผมจะเม้งแตกออกมาเมื่อไหร่..............

                           “อ้าว.........ไม่ได้เจอกันตั้งเดือน แทนที่จะอยู่กับพี่ก่อน”...........ผมบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดกึ่งตัดพ้อ...........

                          “ใจคอพี่กั้งจะไม่ให้นัทกลับบ้านเลยหรือไงล่ะ”.........นัทแย้งเสียงอ่อน...........ผมมีสีหน้าสลดลงวูบหนึ่ง...........แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะ.......การกักขังหมายถึงการเร่งให้เค้าดิ้นหนีจากไปไม่ใช่เหรอ...........

                           “แล้วจะกลับมาเชียงใหม่วันไหน”...........ผมโอดครวญอย่างคนหมดหนทางต่อรอง............นี่เค้าจะอยู่กับผมแค่คืนเดียว ทั้งๆที่เราไม่ได้เจอกันตั้งเป็นเดือนเนี่ยนะ..........แผนการสุดสัปดาห์ที่ผมแอบวาดฝันเอาไว้พังครืนไปต่อหน้า.......หรือว่าเค้ากำลังจะพยายามถอยห่างจากผมไปอย่างที่เค้าเคยบอกเอาไว้ว่า  “นัทไม่อยากหักดิบ”........เค้ากำลังจะพยายามถอนตัว พยายามจะตัดใจจากผมงั้นเหรอ...............หรือว่าผมจะคิดมากไปเองนะ.............แต่ไม่คิดมากก็ไม่ได้หรอก.........ก็เค้าเคยบอกเอาไว้แบบนั้นจริงๆนี่...........

                         “นัทจะกลับทางลำปางเลย ไม่ผ่านมาเชียงใหม่หรอก”..........นัทตอบอ้อมแอ้ม.........แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจเมื่อได้ฟัง.............

                         “กลับมาทางเชียงใหม่เถอะนะ..........เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งนัทก็ได้.............พี่อยากมีเวลาอยู่กับนัทบ้าง”........ผมพยายามอ้อนวอนขอความเห็นใจ..........นี่ใจคอเค้าจะไม่อยากอยู่กับผมเลยเชียวหรือ.......ช่างใจจืดใจดำจริงๆ

                         “นัทเกรงใจพี่กั้งอ่ะ.........ต้องขับรถไปส่งอีก”...........เอาอีกแล้ว........ผมเกลียดคำว่าเกรงใจที่สุด...........เกรงใจทั้งๆที่เราเป็นแฟนกัน...........เกรงใจทั้งๆที่ผมขันอาสาเองเนี่ยนะ.............ฟังไม่ขึ้นหรอก...........

                         “ไม่เป็นไรหรอก.......พี่เต็มใจ”...........ผมย้ำคำว่าเต็มใจอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นกว่าเก่า พลางจ้องหน้าเค้าเป็นเชิงยืนยันถึงความมุ่งมั่นว่าผมต้องการแบบนั้นจริงๆ.........

                        “เอาไว้เดี๋ยวนัทจะโทรมาบอกอีกทีก็แล้วกัน”...........นี่ก็เป็นคำที่ผมเกลียดมากที่สุดอีกคำหนึ่ง......เอาไว้จะโทรมา.........ผมไม่ชอบความไม่แน่นอน..........ผมต้องการความชัดเจน..........แต่น้อยครั้งมากที่นัทจะให้ความชัดเจนและแน่นอน................


                          เราสองคนนิ่งเงียบกันไปพักหนึ่ง...............จากนั้นนัทก็พยายามเปลี่ยนเรื่องสนทนาเป็นเรื่องอื่นๆแทน........แต่ตอนนี้ในใจผมเฝ้าครุ่นคิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมากับเรื่องที่เพิ่งได้ฟังเมื่อครู่........กลับบ้านเหรอ........ทำไมต้องเอามาเกี่ยวกันกับตอนมาเชียงใหม่ด้วยวะ..........ทำไมไม่กลับช่วงสุดสัปดาห์อื่นๆอีกสามสี่อาทิตย์ที่ผ่านมาอยู่ว่างๆไม่ใช่เหรอ..........ทำไม ทำไม และทำไม............โอย.........

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #616 เมื่อ11-12-2007 11:56:24 »

 :undecided: นั่นดิทำไม เป็นแบบนี้ล่ะ :monkeysad:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #617 เมื่อ11-12-2007 14:10:06 »

พี่ฉ้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

น่าสงสาร  o7

ช่วงเวลาที่สามีกำลังจะบอกเลิก  มันน่าเศร้ามากกว่าตอนที่บอกเลิกกันแล้วเสียอีก

ยิ่งคุณพี่เป้นคนที่ไม่ชอบความคลุมเครือด้วยแล้ว

แงๆๆๆๆๆ

ไอ้นัทบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #618 เมื่อ11-12-2007 14:43:57 »

มันไม่ใช่อารมณ์อยากเลิกกันง่ายๆอย่างนั้นนะสิจ้ะ..............ถ้าให้เดานะ เค้ายังอยากจะเก็บพี่ไว้แบบนี้ต่อไป แต่ก็ไม่อยากให้สิทธิพี่มากจนเกินไป.......อารมณ์ประมาณว่าเมียเก็บอ่ะ............ก็รออ่านต่อไปเรื่อยๆละกัน เดี๋ยวก็รู้เองแระ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #619 เมื่อ11-12-2007 15:32:53 »

หุหุ เป็นเรานี่เลิกกันไปหลายรอบแล้วนะเนี่ย  :a6:  :a6: :a6:
คิดอีกที นัทอาจจะสับสนกับตัวเอง ทั้งอยากเลิกและไม่อยากเลิก อย่างที่เคยอ่านเจอตอนต้น ๆ อ่ะ
 :เฮ้อ: สงสารก็แต่คุณกั้ง หวังว่าฟ้าหลังฝนคงจะสดใสนะ (ได้แต่หวัง)  :a10:  :a10:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #619 เมื่อ: 11-12-2007 15:32:53 »





ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #620 เมื่อ14-12-2007 16:14:02 »

ตามมาทันสักที  :เฮ้อ: ขอบครับ เศร้ามากเลยครับ o7

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #621 เมื่อ14-12-2007 17:18:25 »


เมื่อไหร่จะมาต่อคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

วันนี้งดเที่ยวนะเพ่  เด๋วเค้าจับ!

อิอิ  :m9:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #622 เมื่อ17-12-2007 09:47:24 »

                         ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปรกติอย่างที่มันเคยเป็นเมื่อเรากลับมาถึงเชียงใหม่.............หากไม่สังเกตดีๆ อาจจะไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่า ในตอนนี้มีอะไรบางอย่างเข้ามาคั่นกลางระหว่างผมกับนัทเสียแล้ว........

                         ผมพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกผิดหวังและขมขื่นใจเอาไว้ข้างในให้มิดชิดที่สุด............เคยปฏิบัติต่อเค้าอย่างไร ก็ทำอย่างเดิมไม่ให้บกพร่อง............การโวยวายตีโพตีพายคงไม่ช่วยทำให้อะไรต่ออะไรดีขึ้นมาได้หรอก...........เราสองคนต่างอยู่ในมุมของตัวเอง คอยคุมเชิงระวังระไวดูท่าทีของอีกฝ่าย.................ในเมื่อตอนนี้ต่างคนก็ต่างยังตัดสินใจอะไรที่แน่ชัดลงไปไม่ได้........บรรยากาศโดยรวมระหว่างเราจึงดูอึมครึม ขาดชีวิตชีวา ชวนให้รู้สึกคลื่นไส้พิกล................

                         การพบกันของเราในเวลานี้ มันช่างแตกต่างจากที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้อย่างลิบลับ............หลังจากที่ห่างเหินกันไปนานร่วมเดือน........เมื่อมีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ผมก็ย่อมอยากที่จะนอนกอดก่าย........อยากกระซิบรำพันถึงความรักความห่วงใยที่มีต่อเค้า ตลอดจนอยากจะมีเซ็กส์ดีๆตามอย่างที่คนรักกันพึงกระทำ..........แต่ทิฐิมานะภายในใจมันคอยค้ำคอเอาไว้ไม่ให้ผมแสดงความรู้สึกดังกล่าวออกมา.........มันน่าละอายอยู่ไม่ใช่หรือ.........ในเมื่อตอนนี้ เขาอาจจะไม่ไยดีในตัวผมอีกแล้วก็ได้.............เพราะฉะนั้นก็คอยดูท่าทีต่อไปก่อนก็แล้วกัน.........หากความอดทนของเค้าสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เค้าก็คงเอ่ยปากออกมาเอง...........และผมก็จะได้เป็นอิสระจากความรักบ้าๆนี่เสียที.........

                         “พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ไปจากนัท จนกว่านัทจะไม่ต้องการพี่แล้ว”..........นี่คือสัจจะวาจาที่ผมเคยพลั้งปากให้นัทเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว...........มันน่าภาคภูมิใจน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ ฟังดูช่างเสียสละซะไม่มี............หากแต่ในทางปฏิบัติ.........ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังอ่อนแรงลงเรื่อยๆ และอยากจะผละหนีออกไปเต็มที.........ถึงอย่างไรผมก็จะพยายามรักษาสัจจะนั้นเอาไว้ให้ถึงที่สุด.............ไม่ว่าจะเป็นเพราะความรักหรือเหตุผลงี่เง่าอะไรก็ตาม............



                          คืนอันยาวนานผ่านพ้นไปอย่างทุกข์ทรมาน...........ผมไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวนัททั้งที่อยากจะทำ...........เราต่างคนต่างนอนที่อีกฟากหนึ่งของเตียง..............ผมได้แต่นอนทอดอาลัยด้วยความน้อยใจในชะตากรรมของตัวเองจนกระทั่งรุ่งเช้า..............

                          “พี่กั้งไปส่งนัททำฟันเสร็จแล้วไม่ต้องรอนะ............เดี๋ยวนัทจะให้เพื่อนไปส่งขึ้นรถกลับบ้านเลย”........นัทเอ่ยออกมาเรียบๆระหว่างที่เรากำลังนั่งทานข้าวเช้าด้วยกัน.............
ผมชะงักจากการกินข้าวไปชั่วขณะ.............พลางจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง.............แต่ผมไม่เจออะไรเลยนอกจากแววตาที่ซ่อนความละอายและความไม่มั่นใจเอาไว้ข้างใน............เค้ารู้ว่าผมมองเค้าออกว่าเค้าคิดอะไรอยู่............แต่ผมเลือกที่จะไม่พูด............ผมรู้สึกว่านัทกำลังสับสนในสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่..........เค้าเป็นคนขี้ขลาด...........เค้าพร้อมที่จะทำร้ายผมเสมอเพื่อปกป้องตัวเอง............จะทิ้งก็เสียดาย แต่จะเอาไว้ก็คงทำไม่ได้งั้นสินะ...........ไม่แฟร์เลย...........

                            “อืม...........แล้ววันกลับล่ะจะเอายังไง”...........ถึงยังไงผมก็ยังอยากจะเจอเค้าอยู่ดี แม้จะต้องเหนื่อยกับการขับรถขึ้นเขาไปส่งเค้าถึงที่แพร่ก็ตาม..........การได้อยู่กับคนที่เรารักแค่สองชั่วโมงเศษๆระหว่างขับรถ แลกกับความลำบากเล็กๆน้อยๆก็นับว่าคุ้มแล้ว............อีกอย่างหนึ่ง ผมเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถึงแม้คนภายนอกจะมองว่าผมดูเหยาะแหยะปวกเปียกก็ตาม............แต่ตราบใดที่เกมส์นี้ยังไม่จบ ผมก็จะพยายามจนสุดความสามารถในแบบของผม.............หากเราจะต้องเลิกกันจริงๆ ผมจะทำทุกทางเพื่อให้เค้าต้องจดจำผมไปจนตายอย่างไม่มีวันลืมเลยล่ะ (ไม่ใช่การตามไปราวีหรืออะไรเทือกนั้นหรอกนะ แต่ผมหมายถึงทางจิตวิทยาน่ะ)........ไม่เชื่อก็คอยดูสิ.........

                             “เอาไว้นัทจะโทรมาบอกอีกที”............โทรมาบอกอีกทีสำหรับนัทหมายถึงตกลงตามนั้น.........แต่ยังไม่รับปาก........

                            ผมยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความพอใจในผลของการต่อรอง..........อย่างน้อยๆเค้าก็ยอมตามใจผม........ก็แค่วันกว่าๆเองจะเป็นไรไปเล่า.........ขนาดอดทนรอมาทั้งเดือนยังทนรอมาได้...........หากจะขาดใจตายเพราะต้องรออีกวันเดียวก็ให้มันรู้ไปสิ...............



                            นัทเดินผ่านประตูคณะทัตแพทย์เข้าไป เพื่อรับการจัดฟัน.........ในขณะที่ผมขับรถจากมาอย่างเงื่องหงอย...........ความรู้สึกสับสนปนเป ระคนกันระหว่างความรัก ความน้อยใจ และความแค้นใจ.........เค้าตอบแทนความรักของผมด้วยการพยายามจะกันผมให้ห่างออกไปจากชีวิตส่วนตัวของเค้า...........เค้าอยากจะมาหาผมเมื่อไหร่ก็จะมาและผมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดใด.........ถึงเค้าจะทำเป็นใจกว้างให้อิสระผมมองคนอื่นได้.............แต่เค้าก็น่าจะรู้จักนิสัยผมดี...........ใครมันจะบ้าทำไปได้ล่ะ ก็รู้อยู่แล้วว่าผมไม่ใช่คนแบบนั้น ตราบใดที่เค้ายังพันธนาการผมเอาไว้แบบนี้............ผมก็ไม่มีวันนอกใจไปมองคนอื่นได้หรอกหรอก..........เค้าแสดงให้เห็นว่าจะไม่ดูแลความรู้สึกอะไรของผมเลย............และผมต้องเป็นฝ่าย รอ รอ และก็รอ...........คิดแล้วมันช่างน่าอดสูเหลือเกิน...........ความรู้สึกในใจของผมเริ่มเดือดพล่าน............ตอนนี้อยากได้กาแฟเข้มๆสักแก้วและใครสักคนเพื่อระบายความอัดอั้นที่มี............ผมจึงควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าด้วยมืออันสั่นเทา..........

                         “เจเหรอ..........ว่างป่าว........เดี๋ยวพี่เข้าไปรับนะ”.........ผมวางสายและยิ้มออกมาอย่างสะใจ.........รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยๆที่ได้ทำอะไรแบบนี้...........มันเหมือนกับเป็นการแก้แค้นนัทเล็กๆ........แม้ว่าผมจะไม่รู้สึกยินดีในตัวเจเลยก็ตาม..........และผมรู้ดีว่านัทไม่ชอบให้ผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนๆนี้.........แต่ผมจะทำ มีอะไรมั้ย......


                         เจผู้น่าสงสารออกมายืนรอผมที่หน้าบ้านอยู่ก่อนแล้ว..........ตั้งแต่นัทจากไป ผมเจอกับเค้าถี่ขึ้นเรื่อยๆ (บางทีผมอาจจะกลับมาคบกับเค้าก็ได้หากต้องเลิกกับนัทจริงๆ)........ผมรู้ว่าการให้ความหวังกับเจเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ..........แต่คนไม่จริงใจอย่างเค้าก็สมควรจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้แล้วล่ะ..........ผมเคยชอบเค้าเมื่อนานมาแล้ว ก่อนหน้าที่นัทจะเข้ามาในชีวิตของผมด้วยซ้ำ.......แต่เค้าทำเป็นลวดลายลีลาคอยปั่นหัวผมเล่นมาตลอด...........เหตุก็เพราะเค้ายังมีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจมากกว่า.........ต่อเมื่อผมมาคบกับนัทแล้ว เค้าก็บังเกิดความเสียดายและพยายามใช้มารยาสารพัดเพื่อดึงผมคืน...........แต่ผมรู้เช่นเห็นชาติเค้าดีแล้วจึงไม่รู้สึกหวั่นไหวดังที่เคยเป็น.........ก็สมควรแล้วที่เค้าจะได้รับการเอาคืนอย่างเลือดเย็นแบบนี้บ้าง...........

                         “เป็นไรทำหน้าตาซึมกะทือเชียว”........เจแกล้งกระเซ้าเอาใจผมเมื่อขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว..........

                           “เปล่า........แค่เบื่อๆ”........ผมตอบพลางส่งยิ้มแบบฝืนๆ........ถึงไงผมก็ไม่โง่พอที่จะบอกเค้าหรอกว่าผมกำลังมีปัญหากับนัทอยู่..........แม้จะไม่ได้รักไม่ได้ชอบ แต่เค้าก็ยังเป็นเพื่อนแก้เหงาที่ดีใช้ได้ทีเดียว.......แล้วเรื่องอะไรผมจะต้องปากบอนตัดหนทางทำมาหากินของตัวเองด้วยล่ะ...........

                          “ไปดู Broke Black Mountain กันมะ”..........ผมเสนอชื่อหนังที่อยากจะดู..........เจรีบตอบตกลงทันที...........นี่ถ้าเป็นนัทคงต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ...........ลำพังแค่ไปดูหนังธรรมดายังแทบจะต้องปลอมตัวกันไปเลย...........ที่ไหนเลยจะยอมไปดูหนังเกย์กับผม...........

                        “นัทติดต่อมาบ้างป่าว”.........เจโพล่งถามออกมาหลังจากที่นิ่งเงียบไปนาน............
 
                         “เปล่า.......ก็ต่างคนต่างอยู่”...........ผมข่มน้ำเสียงให้ฟังดูปรกติ...........จะมาคอยเช็กทำไม.........ฉันไม่ได้เป็นแฟนกะนายสักหน่อย และก็ไม่มีวันจะเป็นด้วย อย่าฝันไปเลย.........เชอะ.........



                          ดูเผินๆความรักของแจ็คและแดเนียลก็คล้ายๆกับชีวิตรักของผมกับนัทในบางส่วน (แต่ก็คงคล้ายกับชีวิตรักของเกย์ในตอนจบทุกคู่นั่นแหล่ะ)...........ตอนท้ายของเรื่อง ความรักของคนทั้งคู่จบลงอย่างค่อนข้างน่าเศร้า (ทำไมความรักของเกย์จะจบลงด้วยดีมั่งไม่ได้หรือยังไงกัน.........นี่ถ้าผมมีโอกาสเป็นผู้กำกับบ้าง ผมจะเปลี่ยนให้ตอนจบของหนังจบลงแบบ happy ever after มีความสุขตราบชั่วฟ้าดินสลายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ให้ตายสิ)..........มีหลายตอนที่ดูแล้วชวนให้สะดุดใจอยู่ไม่น้อย (ไม่รวมตอนที่ทั้งคู่แก้ผ้าวิ่งไล่ปล้ำกันกลางทุ่งนะ)............ผมไม่อยากให้นัทต้องมานั่งเสียใจภายหลังเมื่อได้สูญเสียผมไปแล้ว.........แม้ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องตายจากกันจริงๆอย่างในหนังก็ตาม..........แต่หากเป็นความรักที่ผมมีต่อเค้าได้ตายไปจากใจของผมแล้ว ซึ่งนั่นอาจจะสร้างความเจ็บปวดได้มากยิ่งกว่าด้วยซ้ำ........

                           ผมมีทัศนะคติไม่แตกต่างไปจากแจ็คมากนัก ที่พร้อมจะทิ้งทุกอย่างในชีวิตเพื่อออกไปร่วมใช้ชีวิตคู่กับแดเนียล...........ในขณะที่แดเนียลก็ดูไม่แตกต่างจากนัทมากนัก...........ดูเค้าวาดกลัวในการใช้ชีวิตแบบเกย์ไปเสียหมดจนอดหมั่นไส้ไม่ได้..........และความเจ็บช้ำส่วนมากจึงต้องมาตกอยู่ที่แจ็ค อย่างไม่ต้องสงสัย (แดเนียลเองก็คงเจ็บอยู่เหมือนกัน แต่ในเมื่อเค้าใช้ความพยายามในการต่อสู้น้อยกว่า ก็ย่อมต้องผิดหวังและเจ็บน้อยกว่า)

                           “เวลาที่ผมคิดถึงคุณ บางครั้งมันทรมานมากจนแทบจะทนไม่ไหว”............เป็นคำพูดของแจ็คขณะที่ระบายความอัดอั้นภายในใจให้แดเนียลฟังด้วยความทุกข์ระทม........โดนใจอย่างแรง...........ผมรีบจดจำคำพูดเหล่านั้นเอาไว้ในใจ........ดีล่ะผมจะต้องนำเอามาใช้ประโยชน์ซะบ้างแล้ว.........นัทเองคงไม่กล้าไปดูหนังเรื่องนี้ถึงในโรงเป็นแน่ (แม้ว่าใจเค้าอยากจะดูมากแค่ไหนก็ตาม).........เดี๋ยวผมจะต้องเสาะหาแผ่นซีดีของหนังเรื่องนี้ แล้วจัดส่งไปให้เค้าถึงที่แพร่เพื่อตอกย้ำความเป็นเกย์ที่เค้าพยายามแกล้งทำเป็นลืมให้สาแก่ใจ..........หากเราจะต้องเลิกกัน ผมก็จะไม่ปล่อยให้เค้าลอยนวลไปโดยไม่มีบาดแผลในใจติดตัวไปหรอก.........ผมเจ็บเค้าก็ต้องเจ็บเหมือนกัน..............

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #623 เมื่อ17-12-2007 12:52:50 »


พี่ตู!!!

ยังเจ้าแผนการไม่เลิก

กับความรักน่ะ....แผนการมันใช้ได้ซะที่ไหนก๊านนนนนนนนนนนนนน  :เฮ้อ:


ปล. น้องส่ง paper ไปให้แล้วนะ  ส่งต่อให้น้องด้วย

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #624 เมื่อ17-12-2007 13:10:28 »

อือ ได้รับแล้ว เดี๋ยวจะรีบจัดการให้

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #625 เมื่อ17-12-2007 13:24:46 »

ลุ้นว่าจะเป็นยังไงต่อไป  :a1:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #626 เมื่อ17-12-2007 15:05:21 »

 :o11:  กลัวแต่ว่ากว่านัทจะรู้สึกเจ็บ
คุณกั้งก็ช้ำในแย่ไปแล้วอ่ะดิ
แล้วต้องทนไปถึงเมื่อไหร่กันนี่

ยิ่งอ่านไปนัทก็ยิ่งไม่แคร์ แล้วคุณกั้งก็นะ  ที่สุดของความอดทนจริงๆ
คนอ่านนี่อยากกลั้นใจตายซะให้รู้แล้วรู้รอดจริงจิ๊ง   :เฮ้อ:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #627 เมื่อ18-12-2007 08:59:37 »

ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย..........อิอิ :m15:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #628 เมื่อ18-12-2007 14:34:38 »

จริงนะคุณกั้ง ไม่ได้ล้อเล่นน้า   :m14:
เหมือนเราเป็นกองเชียร์อยู่ข้างสนามบอล แล้วนักเตะมานก็เล่นไม่ได้ดั่งใจไง   :m16:
อยากลงไปเตะเองอ่ะ  (ถ้าลงสนามไปจริงสงสัยวิ่งไม่ถึง15นาที มีหวังหอบซี่โครงบาน) 
ก็ได้แต่เชียร์แหล่ะ   ตอนไหนลุ้นว่าเราจะเสียประตู  ก็เสียวซะลืมหายใจเลย     :serius2:
เหมือนอ่านเรื่องคุณกั้งอ่ะ  จะมีไม๊น้อ ให้นัทมานมาง้อคุณกั้งบ้าง
สงสัยถ้ากลั้นใจไปลุ้นไป  ได้ตายจริงแหงๆ     :m15:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #629 เมื่อ18-12-2007 16:04:59 »

หุหุ.....พูดซะเห็นภาพเลย.......แค่มีคนเข้าใจและรับฟัง ผมก็รู้สึกดีแล้วล่ะ....ไหนๆเรื่องมันก็ผ่านมาตั้งเกือบสองปีแระ.....ถือซะว่าแชร์ประสบการณ์สู่กันฟังแบบพี่ๆน้องๆแล้วกันนะครับ.... อย่าเครียดน๊า o2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด