อืม...แค่ทิชชู่ก็พอซินะ...คาดการณ์ได้ถุกต้อง...555
แล้ว...วันนี้จะเป็น ดับเบิ้ลช็อต หรือ ทริปเปิ้ลช็อต กันละคร้าบ
ดับเบิ้ลช็อตแล้วกันนะจ๊ะ ตอนสั้นๆอีกตอนเนอะ------------------------------------------------------------------
Title : จอมไตรซีรี่ส์-คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ
Chapter : 15[/color]นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
.
.
.
.
............ผมมาถึงไร่ของพี่กุ้งพี่กั้ง กลับมาเจอคุณไม้นั่งจิบกาแฟชมนกชมไม้อยู่ที่นี้ก่อนแล้ว
“คุณมา.......”
“พี่กลอนนนนนนนนนน”
ยังไม่ทันได้ระเบิดอารมณ์ใส่ นางฟ้าตัวน้อยของผมก็วิ่งมาโถมตัวใส่ผมซะก่อน
“คิดถึงพี่กลอนจังคะ”
น้ำตาลหอมแก้มซ้ายขวาผม ทำเอาผมลืมเรื่องคุณไม้ไปซะสนิท มัวแต่กอดกันกับหลาน จนมองเห็นคนที่เดินตามน้ำตาลออกมานั่นแหละ
อาจารย์ห้องพยาบาล! มาได้ไง แล้วก็ตามมาอีกคน คุณอมฤต พี่ชายคนที่สองของคุณไม้ ลูกชายคนรองของบ้านจอมไตร ผมมองไปข้างหลัง นี่เขาจะแห่กันมาทั้งบ้านไหมเนี่ย แต่ก็มีแค่พี่กั้งพี่กุ้งกับครอบครัวเท่านั้นที่ตามออกมาไม่มีใครเพิ่มอีก
“สวัสดีครับ”
ยกมือไหว้พี่ชายทั้งสองและพี่สะใภ้
“กลอน ดีใจที่มานะ”
พี่กั้งยิ้มให้ ผมเลยรีบลากพี่กั้งออกมาคุยกันแค่สองคน
“พวกนั้นมาได้ไง”
“พี่ชวนเองแหละ ก็คราวที่แล้วพวกเขาช่วยดูแลกลอนตอนที่กลอนไม่สบายไง”
ดูท่าพี่กั้งจะไม่รู้สึกถึงบรรยากาศแย่ๆระหว่างผมกับคนพวกนั้นล่ะมั้ง
ผมกะจะมาพักผ่อนคลายเครียดแท้ๆ ไหงกลายมาเป็นเพิ่มความเครียดได้ล่ะ
.......................................
“ดีจังนะครับ น้ำตาลแกดูร่าเริงดี”
“ครับ”
อาจารย์ห้องพยาบาล หนึ่งในบุคคลที่ผมพยายามหลบเลี่ยงไม่พูดคุยด้วยมาโดยตลอด แต่วันนี้มันเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่พี่กั้งพี่กุ้งพามาเที่ยวน้ำตก และผมต้องรับกรรมมานั่งรถคันนี้กับพวกคุณไม้อย่างช่วยไม่ได้ ก็รถคันโน้นมันเต็มแล้วนิ่ ดีที่น้ำตาลมานั่งด้วย แกเลยเป็นผู้ผูกขาดการพูดคุยทั้งหมดไว้ แต่แล้ว พอแกพูดจนเหนื่อย ก็เลยหลับไป และมันก็ช่วยไม่ได้ที่บทสนทนาที่ผมไม่อยากให้เกิดมันต้องเกิดขึ้น
“อากาศก็ดี เหมาะกับเด็กด้วยนะครับ”
“ครับ”
ใช่สิอยู่ที่นี้อะไรก็ดี ดีกว่าอยู่กับผมอยู่แล้วนี่
“ดูคุณกลอนไม่ค่อยชอบผมเลยนะครับ”
“ครับ”
เฮ้ย !
“หมายถึงไม่ใช่นะครับ”
ผมรีบหันไปแก้ตัว แค่พูดว่าครับเพลินไปหน่อย หรือเป็นคำตอบจากสามัญสำนึกของผมกันแน่นะ ผมก็ชักไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน คนถามหันมายิ้มให้ผม นี่เขาเป็นอะไรมากรึเปล่านะ ปกติมันต้องไปพอใจสิ ไหงมายิ้มหวานให้ผมล่ะ
“ที่ไม่ชอบผมเนี่ย เพราะผมเกี่ยวข้องกับบ้านจอมไตร หรือเพราะผมเกี่ยวข้องกับไม้ครับ”
เอาล่ะสิ ทำไมเขาถึงได้ถามแปลกๆล่ะ ผมเหลือบตาไปมองข้างหน้า ผมมั่นใจนะว่าที่เราคุยกัน สองคนข้างหน้า คือคุณไม้กับพี่ชายเขาคงไม่ได้ยินเพราะสองคนนั้นคุยเรื่องธุรกิจกันอยู่ แต่เพื่อความแน่ใจ เลยขอมองหน่อย
“ผมไม่ได้ไม่ชอบคุณนี่ครับ”
ตอบตามมารยาทครับ แต่จะให้บอกว่าชอบก็พูดไม่ได้
“ผมน่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกับไม้เขาหรอกนะ”
แล้วเขามาบอกผมทำไม เอ๊ะ หรือว่า
“ผมเห็นคุณมองไม้เขามาตั้งแต่ตอนมหาวิทยาลัยแล้วล่ะ”
ผมอ้าปากหวอ ไม่น่าเชื่อว่านี่เขาจำผมได้ด้วย และยังจำเรื่องสมัยนั้นได้อีกต่างหาก ผมรีบหันไปมองคุณไม้ เห็นว่ายังคุยเรื่องธุรกิจกับพี่ชายอยู่ก็หันมาหาอาจารย์ห้องพยาบาลอีกที
“ไม้เขาไม่รู้หรอก”
พูดไปหัวเราะไป ท่าทางจะขำกับอาการของผมมาก
“ผมไม่ได้บอกเขาน่ะ”
เฮ้อ................ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่สิ เดี๋ยวก่อนสิ ยังโล่งไม่ได้นี่นา เขายังไม่ได้บอก ไม่ได้หมายความว่าจะไม่บอกไปตลอดนี่นา
“เออ......คือ ผมไม่ได้…”
กำลังจะปฏิเสธ อาจารย์ห้องพยาบาลก็โบกมือเป็นเชิงห้ามไว้ซะก่อน
“ผมความรู้สึกไวนะเวลามีคนมองมามันเลยรู้สึกตัว”
เจ้าตัวพูดยิ้มๆ แต่เป็นยิ้มที่ทำเอาผมออกจะเสียวสันหลัง
“รู้สึกได้ว่าสายตาที่มองมาไม่เป็นมิตร พอบ่อยๆเข้าก็รู้สาเหตุ”
ยังครับ เขายังยิ้มไม่เลิก
“แต่ผมออกจะชอบคุณกลอนนะ แบบว่า ดูน่ารักดี”
น่ารัก ผมเนี่ยนะ เขาใช้อะไรดู อาจารย์ดิ ผมว่าสวยออก ก็สมแล้วล่ะที่คุณไม้จะชอบ
“ผม...เอ่อ.....”
ยังไม่ทันได้ปฏิเสธเป็นเรื่องเป็นราว ข้างหน้าก็หันมาคุยกับอาจารย์ซะก่อน ผมนั่งกังวลใจไปตลอดทาง ในขณะที่อาจารย์ห้องพยาบาลดูจะสบายใจอย่างมาก
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่บอกไม้หรอกครับ”
คือคำพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะลงจากรถของคนๆนั้น
ช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากจริงๆ
-------------------------------------
ทั้งน้ำตาล ตากัน และน้องเกิ้ล (ลูกของพี่กั้งกับพี่กุ้ง)
สนุกมากกับการมาเที่ยวน้ำตกครั้งนี้ น้ำตาลฉุดผมให้ลงไปเล่นน้ำด้วย ผมไม่มีเสื้อเปลี่ยนเลยตั้งใจว่าจะถอดเสื้อเล่น แต่ว่ามันก็เปียกซะก่อนเพราะน้ำตาลแกล้งสาดน้ำใส่ ผมเลยลงเล่นทั้งอย่างนั้น
คุณไม้ทำท่าขำกับการที่ผมมาเล่นน้ำกับเด็กๆ ทำท่าอย่างกับผู้ใหญ่มองเด็ก ขอโทษคร๊าบ ผมอายุมากกว่าคุณนะครับ เผื่อคุณจะลืมไป ก็อยากบอกอยู่หรอก แต่ที่ทำก็คือหันกลับไปเล่นน้ำกับหลานๆต่อ ผมว่าเป็นการเลือกอย่างชาญฉลาดที่สุด เพราะหากอาจารย์ห้องพยาบาลเป็นคนที่ผมรับมือได้ยากแล้ว สำหรับคุณไม้ เขาคือคนที่ผมไม่สามารถหาทางรับมือได้เลย
“มาเที่ยวกับลูกๆหรือครับ”
ระหว่างที่แช่น้ำดูเด็กๆเล่นกันเพลินๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างตัว ผมหันไปมองเห็นว่าเป็นคนไม่คุ้นหน้า ท่าทางจะไม่รู้จักเลยหันหน้าหนี ไม่คุยด้วยต่อ ก็ผมมันคนนิสัยไม่ดีอ่ะ ไม่ค่อยมีมารยาทกับใครเขาอยู่แล้ว
“คนไหนลูกคุณครับ หรือว่าทั้งหมดเลย”
ยังครับ นายคนนี้ยังไม่เลิก ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่ชอบใจขึ้นมาตงิดๆ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผมต้องทำท่าไม่เป็นมิตรขนาดนี้ ก็แค่คนมาเที่ยวที่เดียวกันมาพูดคุยกัน เป็นเรื่องปกติจะตายไปสำหรับสังคมไทย
คำตอบง่ายๆ ก็ท่าทางคนๆนี้ไม่น่าไว้ใจไงครับ ขนาดไม่ได้เข้าใกล้ผมมากผมยังได้กลิ่นแอลกอล์ฮอลฟุ้งเชียว สายตาวาวๆ น่ารังเกียจที่มองมาก็บ่งบอกความไม่บริสุทธิ์ใจอย่างปิดไม่มิด
ไปไกลๆไม่ได้รึไงนะ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่
ผมเมินหน้าหนีและกำลังจะลุกขึ้นเพื่อเลี่ยงไป มือของคนแปลกหน้าก็มาจับแขนผมไว้ซะก่อน
“ถามก็ไม่ตอบ หยิ่งนักรึไง”
หนอย เมาแล้วหาเรื่องหรือ เดียวเจอดี ผมสะบัดแขนให้หลุดจากการจับกุม กำลังจะหันไปชกเล่นสักทีสองทีคลายอารมณ์ แต่กลับหันไปเจอกำแพงหลังของใครคนหนึ่งเข้าแทน
คุณไม้นั่นเองครับที่มาแทรกตรงกลางระหว่างผมกับนายขี้เมานั่น มาขวางทำไม กำลังจะได้หย่อนใจอยู่เชียว คนๆนี้ต้องมาขัดจังหวะเรื่องดีๆของผมทุกครั้งเลยรึไงนะ โอ๊ย...อยากมีเรื่องครับ อยากมีเรื่อง
อย่าครับ อย่าคิดว่าการที่คุณไม้เข้ามา เขามาขวางเพราะต้องการปกป้องผม เพราะที่เขาทำมันต่างไป
“เอ่อ ขอโทษครับ พอดีเขาไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้า”
คุณไม้พูดเสียงเรียบ ด้วยคำสุภาพ
“เอาเป็นว่าขอให้แล้วกันไปนะครับ”
“เฮ้ย มันจะง่ายไปมั้ง”
ทางคนเมาไม่ยอมครับ จะเอาเรื่องให้ได้ ก็เอาสิ ผมเองก็ไม่ยอมเหมือนกันแหละ โผล่หน้าออกไปหมายจะเอาเรื่องแต่ก็ถูกคุณไม้ดันหัวให้กลับมาอยู่ข้างหลังอย่างเก่า
“พอเถอะ เมาแล้วมานี่มา”
เพื่อนที่มาด้วยกันของทางโน้นคนหนึ่ง เดินมาฉุดนายขี้เมาคนนั้นกลับไป
“ขอโทษด้วยนะครับ”
ก่อนไปก็หันมาขอโทษแทนเพื่อน ดีมาก รู้จักมีสามัญสำนึกดี ช่างต่างจากเพื่อนเขาลิบลับ ไอ้ขี้เมาเอ่ย ด่าในใจ แสดงออกทางสีหน้า แต่คาดว่าไม่มีใครเห็น เพราะกำแพงหลังคุณไม้ที่บังอยู่จนมิด
“ผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ”
อ้าว แล้วคนข้างหน้าผมนี่ไปขอโทษเขาหาอะไร ทำตัวเป็นคนดีไปได้ ไงๆทางนั้นก็ผิดนะ ใครจะคิดยังไง
ผมไม่รู้ ไม่สน ผมไม่ผิด รู้แค่นี้แหละ
..............TBC...................