มาต่อให้อีก 1 ตอนสำคัญ โชคดีนะคะผู้อ่านทุกคน
ปล. คิดถึงน้องกิ้ฟกะน้องแนทเช่นกันจ้า
เมื่อฉันต้องเผชิญหน้ากับความจริง.......
ตอนที่ 85 พอกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาร์ทก็เดินไปส่งที่หอ ก่อนที่เค้าจะกลับห้องของตัวเองไป อีกไม่นานฉันก็จะต้องขึ้นเป็นนิสิตชั้นปีที่ 4 แล้ว เหอะ แก่ขึ้นอีกปี แย่จัง กำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ เสียงมือถือก็ดังขึ้นอีกและ
“ฮัลโหล ขอสายใครคะ” เบอร์แปลก ๆ
“ขอพูดกับคนชื่อจืดหน่อยค่ะ” หืม เสียงคุ้น ๆ แฮะ
“กำลังพูดอยู่ค่ะ”
“อ๋อ จำเราได้มั้ยคะ ที่เคยพูดกันเมื่อวานนี้น่ะค่ะ” อื๋อ ยัยคนนั้นนั่นเอง
“อ้อ จำได้แล้วค่ะ มีธุระอะไรเหรอคะ”
“ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับเบสเหรอคะ” หือ ถามมาแบบนี้
“แล้วคุณคิดว่าฉันกับเค้าเป็นอะไรกันล่ะ” ฉันเริ่มวางฟอร์ม
“มีคนบอกว่าคุณสองคนคบกัน จริงรึปล่าว” เสียงหล่อนเริ่มแข็งขึ้นแล้ว
“แล้วแต่คุณจะคิดนะ”
“คงจะคบกันสินะ แต่ช่างเถอะ ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ เพราะยังไงฉันกับเค้าก็เป็นแฟนกันแล้ว”
โห หล่อนพูดมา ทำเอาฉันพูดไม่ออกเลย ทำไมถึงกล้ามากขนาดนี้ล่ะคะ ไม่กลัวโดนฉันวีนเลยรึ
“คุณจะพูดอะไรมันก็เรื่องของคุณ ฉันคงไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยหรอก คุณอยากจะเป็นแฟนกับใครก็ตามใจคุณเถอะ ไม่ต้องมาบอกฉันหรอก”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเค้าเป็นแฟนคุณไม่ใช่เหรอ” น้ำเสียงนั่นดูเหยียด ๆ ในที
“คงงั้นมั้ง ขอโทษนะพอดีฉันมีธุระ แค่นี้ก่อนนะคะ”
ฉันกดสายทิ้ง ถ้ามีคนถามว่าตอนนั้นฉันพูดออกไปโดยไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ ฉันขอบอกว่า ฉันนั่งตัวสั่นด้วยความโกรธ โกรธมากกก แต่ฉันก็ต้องคุมอารมณ์ตัวเองอย่างหนักเพื่อที่จะไม่ให้ไก่ตื่น เพราะฉันต้องพิสูจน์อะไรบางอย่างก่อน
ฉันกะเอาไว้ว่า พรุ่งนี้แหละ ที่ฉันจะไปพิสูจน์ความจริงที่บ้านนายเบส ถ้าฉันพบยัยชะนีคนนั้นอยู่ที่บ้านหลังนั้นล่ะก็ ทุกอย่างระหว่างเราสองคน เป็นอันจบทันที ฉันถือว่า ฉันไม่คู่ควรกับเบส ฉันมันไม่ดีเอง ฉันผิดเอง ทุกอย่างคงจะโอเคตามนี้
“ฮัลโหล อิอั้ม อยู่ที่ห้องรึปล่าว” ฉันโทรหานังอั้มต่อ
“อยู่ย่ะ แหม กลับมาแล้วเหรอยะ ตัวดำน่าดูสิมรึง”
“อืม ดำทั้งตัวทั้งหน้าเลย เออ มรึงได้กลับบ้านเรามั่งปล่าววะ”
“ไม่ค่อยได้กลับเลยว่ะ”
“งั้นเหรอ ยังเหลือปิดเทอมอีกตั้งเกือบเดือนนึงแน่ะ กลับไปเที่ยวบ้านกันมั้ยอ่ะ”
“เออ ก็น่าสน อยากไปเที่ยวน้ำตกจัง” อีกและ น้ำตกทั้งปี
“พอเถอะ น้ำตกบ้าบออะไรของมรึง กรูอยากกลับไปหาพ่อแม่ ตกลงนะมรึง”
“เออ ๆ ยังไงก็โทรมาบอกกรูด้วยละกัน”
“โอเค แล้วเจอกันนะยะ บ้ายบายจ้ะ” พอวางสายไปแล้ว ฉันก็อาบน้ำอีกรอบก่อนที่จะเข้านอน
/////////////////////////////
เช้าวันต่อมา ฉันออกเดินทางไปยังบ้านนายเบสตอนสาย ๆ เพราะฉันรู้ว่า มันจะไม่ได้ออกไปไหนตอนช่วงนี้หรอก ฉันไม่ได้อยากไปดูตัวนายนั่น แค่อยากจะไปดูว่า จะมีคนอื่นอยู่ที่บ้านนั่นด้วยรึปล่าวแค่นั้นเอง
พอรถแท็กซี่ไปจอดอยู่ข้าง ๆ บ้านนายเบสแล้ว ฉันก็ลงจากรถไปยืนซุ่มดู พอมองลอดกำแพงเตี้ย ๆ เข้าไป ฉันก็พบว่า รถนายเบสไม่ได้จอดอยู่ที่บ้านนี่นา แสดงว่าเบสคงออกไปข้างนอก แล้ก็ยังไม่ได้กลับบ้านของตัวเองแน่ ๆ
ถ้างั้นเบสไปที่ไหนกันล่ะ เฮอะ เสียเที่ยวชะมัด ฉันก็เลยกะว่าจะกลับไปหาพวกนั้งอั้มต่อซะหน่อย แต่จะเชื่อหรือไม่ก็ต้องเชื่อล่ะงานนี้ เพราะฉันต้องแวะไปกดเงินที่เซ็นทรัลลาดพร้าวก่อน แล้วจึงค่อยไปเจอกับนังอั้มที่หมอชิตต่อ
พอไปถึงเซ็นทรัลแล้ว ฉันก็เดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มที่ชั้นใต้ดินตรงท็อปนั่นแหละ ตอนแรกก็กะว่าจะไปรอที่หมอชิตเลย แต่ดูเวลามันยังเหลืออีกตั้งเยอะแน่ะ ก็เลยไปเดินเล่นดีกว่า พอดีคิดถึงร้านหนังสือการ์ตูนอยู่ด้วย
ฉันโทรหานังอั้มเพื่อที่จะถามว่ามันออกมารึยัง
“ถึงไหนแล้วมรึง”
“กำลังแต่งตัวอยู่เลย มรึงล่ะถึงไหนแล้ว”
“ตอนนี้น่ะเหรอ กรูเดินเล่นอยู่ที่เซ็นทรัลย่ะ”
“อิดอก สบายใจเนาะมรึง”
“แหงอยู่แล้ว กรู...”
“อ้าว กรูอะไร ทำไมเงียบไปล่ะอินี่ มีอะไรรึปล่าว”
“อิจืด อิบ้า มรึงเป็นไรของมรึงยะ” เสียงนังอั้มยังคงโวยวายมา แต่มันคงไม่ได้เข้าหูของฉันเลยสักนิด ก็เพราะว่า....
ภาพที่ฉันเห็นอยู่อีกฟากนึงของห้าง ฉันอยู่ทางฝั่งร้านหนังสือแพร่ พอมองไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นร้านขายเสื้อผ้า ฉันก็เห็น เห็นภาพของผู้ชายคนนึงที่ชื่อเบส กับ ผู้หญิงสองคน ซึ่งคนนึงฉันรู้จักเป็นอย่างดี มันก็คือนังนิด แฟนเก่าอาร์ทไงล่ะ
ส่วนอีกคนนึง ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา มันก็คือคนที่โทรหาฉันเมื่อคืนนี้นั่นเอง และสิ่งที่ทำให้ฉันไม่อยากจะมองภาพนั้นเลย ก็คือ ทั้งสองคนจับมือเดินไปด้วยกัน ฉันมองตามสามคนนั้นไปจนลับตา ฉันไม่ได้วิ่งตามไปดู ไม่ได้วิ่งเข้าไปหาเพื่อถามความจริง ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะยืน และฉันอยากร้องไห้เหลือเกิน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++