หลังจากที่ลงครบแล้ว ก็ได้เวลาของตอนใหม่ซักที ส่วนคนที่ 4 นี้ ไม่อาจจะบรรยายได้ เพราะน่ากลัวมั่กมาก
แล้วฉันจะชอบมันลงไปได้ยังไง (แต่ก็เผลอใจรักชักยุ่งล่ะสิ)
ไปต่อกันเลยดีกว่า
ตอนที่ 9 จะเป็นใครไปได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้คนไร้มารยาทที่เจอกันในร้านมินิมาร์ทนั่นน่ะ นายนั่นจอดรถแล้วก็เอาแต่จ้องหน้าฉัน โอ้ย จะบ้าตาย หน้าเมิงก็โหดพออยู่แล้ว ยังจะมาจ้องฉันอีก อยากจะวิ่งหนีแล้วร้องกรี๊ด ๆ ซะให้รู้แล้วรู้แรด
“ถามแล้วไม่พูด เป็นใบ้เหรอแก”
เริ่มขึ้นเสียงละฉัน (ก็มันกลัวนิ)
“....”
เงียบ ไม่มีเสียงพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากนายคนนั้นเลยซักแอะ
“ไปดีกว่าฉัน มัวเสียเวลาคุยกับคนบ้าอยู่ได้แฮะ”
ฉันเลยเดินต่อไปโดยไม่สนใจมันอีกแล้ว ก็จะถึงบ้านแล้วนี่ ส่วนนายคนนั้นก็ไม่ได้ขี่รถตามมา พอฉันหันไปมอง มันก็ยังมองมาเหมือนเดิม อึ๋ยยย ขนคอลุกเลยฉัน น่ากลัวชิบ
พอกลับมาถึงบ้านแล้ว ฉันก็รีบเข้าไปในบ้านทันที เห็นทุกคนกำลังนั่งดูทีวีอยู่เลย ว่าแต่ว่าของใครกันล่ะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ทีวีของใครเหรอ”
ฉันเดินไปนั่งกับเพื่อน ๆ แล้วก็เอาขนมที่ซื้อมาให้ทุกคนกินด้วย
“ของเราน่ะ ออกไปข้างนอกคนมาเหรอจืด”
ออมถามฉัน
“อืม น่ากลัวมากเลยอะ”
“น่ากลัว ทำไม เจออะไรมาเหรอ”
นายปุ้ยถามมั่ง
“ก็ เอ่อ... มันมืดน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
ฉันไม่กล้าบอกทุกคนไป เด๋วจะหาว่าตอแหลอีก ทำยังกะตัวเองสวยงั้นแหละ
“อ่อ นึกว่าอะไร ซื้อขนมมาเพียบเลยนะ”
“ก็เอาไว้เวลาหิว ๆ น่ะ กินด้วยกันนะ”
“ขอบใจจ้า อ้อ พี่มีเรื่องอยากจะถามทุกคนหน่อยน่ะ”
พี่แครงมีเรื่องอะไรนะ อยากรู้จัง
“เรื่องอะไรเหรอพี่”
“ก็เรื่องอาหารการกินน่ะ พี่ว่า พวกเราน่าจะซื้อของเข้ามาทำกินที่บ้านน่ะ ทุกคนว่ายังไงกันบ้าง”
“อืม จืดว่าก็ดีนะ แต่เราไม่มีอุปกรณ์ทำเลยนะ”
“ใครว่าไม่มีล่ะ พี่เอาหม้อหุงข้าวแล้วก็กระทะไฟฟ้ามาด้วยจ้ะ”
“งั้นก็ดีน่ะสิพี่ ทุกคนว่าไงล่ะ เรายังไงก็ได้”
“ก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องเดินออกไปไกล”
“เป็นอันว่าตกลงค่ะพี่ เด๋ววันอังคารกับวันศุกร์มันจะมีตลาดนัด พวกเราก็ค่อยออกไปซื้อของสดมาทำกันก็ได้”
ออมว่างั้น มีตลาดนัดด้วยเหรอเนี่ย ค่อยยังชั่วหน่อย
พวกเรานั่งดูทีวีกันจนละครเลิกแล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอนของใครของมัน ฉันเดินไปอาบน้ำพออาบเสร็จแล้วก็ออกมานั่งตากลมอยู่ที่หน้าระเบียงบ้านแป๊บนึง นายปุ้ยก็เดินตามออกมา ส่วนสองสาวคงจะเหนื่อยแล้วมั้ง
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“อีกสักพักน่ะ แล้วนายล่ะปุ้ย”
“เหมือนกัน งานนี้คงเหนื่อยน่าดู ว่ามั้ย”
“ก็คงงั้นแหละ ปวดตาชะมัด”
“ก็ลองไปหาซื้อที่ปิดตามาใช้ดูสิ น่าจะช่วยได้นะ”
ที่ปิดตาที่ว่า สงสัยจะหมายถึง ไอ้ของเหลวที่อยู่ในถุงไว้แช่เย็นแล้วนำมาปิดตาตัวเองล่ะสินะ
“จะไปหาซื้อที่ไหนล่ะ”
“ในโลตัส บิ๊กซีน่าจะมีนะ”
“เออ พูดถึงโลตัส พี่อัมบอกว่า ถ้าอยากจะไปก็ไปขอยืมรถแกได้นะ”
“จริงสิ ถ้างั้นเย็นพรุ่งนี้ไปกันมั้ย”
โอ้โห ไม่ค่อยจะรีบร้อนเลยนะนั่น สงสัยจะคันอยากไปกว่าฉันล่ะสิ
“ก็ได้ ๆ ตอนนี้ฉันง่วงแล้วล่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะ”
“อืม เราก็จะไปเหมือนกัน”
“เออ จริงสิ นอนข้างนอนเป็นยังไงบ้าง อากาศเย็นขนาดนั้น”
“ก็สบายดีนี่ ทำไมเหรอ”
“เปล่านี่ ไม่มีอะไรหรอก นอนกันเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
เราสองคนแยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเอง ฉันนอนไม่ค่อยหลับเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะภาพของนายเถื่อนคนนั้นยังติดตาฉันอยู่เลย ตอนที่มันจ้องมา ฉันยอมรับว่ากลัวนะ เค้ายิ่งว่ากันอยู่ว่าคนใต้ใจดำ แต่เท่าที่รู้จักก็ใจดีกันทั้งนั้นนี่นา
แต่เอาเถอะคงไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันก็ได้แต่หวังไว้ว่า ฉันคงจะไม่เจอกับคนแบบนั้นอีกแล้วนะ และก็หวังไว้อีกว่า นายนั่นคงไม่ได้ทำงานอยู่ในนี้เหมือนกัน เพราะถ้ามันไม่เป็นแบบนั้น ฉันก็ต้องเจอกับมันอีกน่ะสิ
แล้วเช้าวันต่อมา ฉันก็คิดผิดทุกอย่าง เพราะตอนที่ฉันเดินไปที่ทำงาน ก็พบกับนายคนนั้นอีกจนได้ เฮ่อ สาวสวยอย่างฉัน (สวยตรงไหนเนี่ย) จะต้องเจอกับเรื่องอะไรอีกบ้างล่ะเนี่ย คิดแล้วกลุ้มใจจริง ๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปล. การคุยกับผู้ชายสักคนทำไมมันลำบากจังเลยล่ะคะ