เกลียดตุ๊ด พูดมาได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้  (อ่าน 556146 ครั้ง)

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
 :m13:ใครว่าหายากล่ะจ้ะ น้องกิ๊ฟ เพียบเลยแหละ อู้ย เจ๊นะ คันสุด ๆ อ้าย ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย

 อ้อ แล้วนายปุ้ยน่ะ แค่เพื่อนนะ ไม่ใช่ผู้ชายหมายเลข 4 ของเจ๊ซะหน่อย คุคุ

มันผู้นั้นจะปรากฏตัวเร็ว ๆ นี้แหละ  :a5:

 :bye2:เจ๊ไปก่อนนะ จะไปหาหนุ่มตาคล้าย ๆ มาริโอ้ในเมืองซะหน่อย ว่าแต่จะมีมั้ยน้อ

Givesza

  • บุคคลทั่วไป
เจ๊ข๋า


อยากหยิบหน้าตาเหมือนมาริโอ้ มาฝากซักคนนะคะ  กำลังเหงา  :laugh: :laugh:


 :m10: :m10: :m10:


ว่างๆเจ๊พาทัวร์รอบภูเก็ตหน่อยน้า...มิทราบว่ายังอยู่ภูเก็ตหรือเปล๊าน๋า

subaru

  • บุคคลทั่วไป
 :m5:ไปปฏิบัติธรรมเหรอคะ ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะดีจังเลย...

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
แล้วมาต่ออีกนะคับ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
รอผู้ชายหมายเลข 4 ปรากฏตัวน่ะ

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:ฮึ เศร้า ต้องมาลงใหม่อีกแล้วเหรอ


ตอนที่ 5


   มาวันแรกก็ต้องแอ๊บบอย เหอ ๆ พวกนั้นก็ดูกันไม่รู้เลยล่ะ แต่มีอยู่คนนึงที่รู้ดีกว่าใคร ก็แหงล่ะ นายปุ้ยน่ะเอง มันถึงไม่กล้านอนกับฉันไงล่ะ กลัวจะเป็นฝาระมีของฉานใช่ม้า คิคิ ฉันไม่เอาแกหรอกย่ะ เพราะในนี้มีหนุ่ม ๆ เพียบเลย (ตรงไหนเนี่ย)

“จืด เย็นนี้ออกไปหาข้าวกินกันมั้ย”

น่านไง ไม่มีเพื่อนก็ต้องมาหาอิจืด

“ไปดิ เด๋วอาบน้ำก่อนแล้วค่อยออกไป”

“อืม ๆ อาบก่อนแล้วกัน จะได้อาบต่อ”

แหม ไม่มาอาบด้วยกันซะเลยล่ะ คุคุ

   ส่วนอีกสองสาวพอจัดของตัวเองเสร็จแล้วก็เดินออกมานั่งคุยกันที่ระเบียงหน้าบ้านเหมือนเคย นายปุ้ยเลยออกไปชวนสองสาวไปกินข้าวเย็นด้วยกัน สรุปว่าสองคนนั้นก็ไปด้วย

“ปุ้ย จะอาบน้ำต่อรึเปล่า”

ฉันอาบเสร็จแล้ว ก็เลยเรียกมันให้เข้ามาอาบต่อ ต้องทำเวลากันหน่อยสิ

“โอเค ๆ เด๋วไป”

นายปุ้ยเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ส่วนฉันก็เข้าห้องนอนของตัวเอง เพื่อประทินผิวสักหน่อยด้วยซิตร้าโลชั่น ชอบกลิ่นมัน หอมดี

พอแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินออกมานั่งคุยกับพวกสาว ๆ ต่อ

“จืดกับปุ้ยเป็นเพื่อนมหาลัยเดียวกันเหรอ”

ออมถาม

“อืม เรียนคณะเดียวกันน่ะ ไม่นึกว่าจะได้มาทำงานที่เดียวกันด้วย”

“แหม ดีจัง เอ ตัวหอมจัง ใช้น้ำหอมด้วยเหรอ”

ยัยออมนี่ถามมากจังแฮะ

“ทาโลชั่นน่ะ”

แล้วชีก็ทำหน้าแปลก ๆ อ้ะ หรือว่า ชีจะจับผิดฉัน

“อ๋อ ถึงว่าสิ แล้วนี่จะไปกินข้าวที่ไหนกันล่ะ”

“ยังไม่รู้เลย ออมเป็นคนภูเก็ตนี่ พาไปหน่อยสิ”

“ได้ ๆ แต่ไม่รู้จะถูกปากรึปล่าวนะ อ้ะ ปุ้ยออกมาแล้ว พี่แครงจะอาบน้ำรึปล่าวคะ”

“ไม่ดีกว่า เด๋วพี่ค่อยกลับมาอาบละกัน”

“โอเคค่ะ เพราะออมก็คงจะกลับมาอาบทีหลังเหมือนกัน งั้นเด๋วเรารอปุ้ยแต่งตัวเสร็จก่อนนะ”

“อืม”

ฉันนั่งมองยัยออม ยัยนี่ดูท่าทางทันคนมาก แถมยังเป็นพวกที่ชอบสงสัยซะด้วย งานนี้ตัวตนที่แท้จริงของฉันจะถูกเปิดเผยรึเปล่านะ หุหุ แต่ทว่า…



   เย็นนั้นเราสี่คนเดินลงไปยังหน้าสถาบันฯกัน ระยะทางไม่ได้ไกลมาก เดินไปประมาณ 5 นาทีอย่างช้า อย่างเร็วก็แป๊บเดียว พอมาถึงหน้าทางเข้า ก็พบว่ามีรถเข็นออกมาขายอาหารกันเพียบ มีทั้งส้มตำไก่ย่าง ลาบ น้ำตก อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวก็มี งี้คงไม่อดตายแล้วล่ะ

“จะกินอะไรกันดีล่ะ”

นายปุ้ยถามพวกเรา

“ส้มตำมะ อยากกินอ่ะ”

ก็มันน่ากินด้วยนี่นา ไก่ย่างก็ท่าทางน่าอร่อยด้วยแหละ

“แล้วพี่แครงกับออมล่ะ”

“พี่ อะไรก็ได้”

“เราก็เหมือนกัน”

“งั้นก็ ส้มตำนี่แหละ”

“อ้า ดี ๆ สั่งเลยดีกว่า”

ไม่คันเลยนะนังจืด และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้มาร่วมกินเลี้ยงเล็ก ๆ กัน พี่คนขายเอาเสื่อมาปูให้พวกเรานั่งริมทางเดินบนเขื่อนนี่แหละ (เขื่อนนี้ไม่ใช่เขื่อนเก็บน้ำนะคะ แต่เป็นเขื่อนที่กันตามริมฝั่งแม่น้ำอะไรแบบนี้ แต่อันนี้ทำตรงริมชายหาดไว้เดินเล่น นั่งพักผ่อนกันน่ะ)



   ผ่านไปสักพักของกินก็มาเสิร์ฟถึงที่ อาส์ น่ากินทั้งนั้น ส้มตำปูม้า ปีกไก่ย่าง ซุปหน่อไม้ คอหมูย่าง ของโปรดทั้งนั้นเลย ฮึ มาวันแรกก็อิ่มหนำสำราญซะแล้ว แต่เชื่อเหอะว่าต่อไปต้องผอมแน่ ๆ เพราะแถวนี้มันต้องเดินไปเดินมา ไม่มีทางอ้วนหรอก

“นี่ ๆ พวกตัวเองรู้รึเปล่า ว่าเจ้านายของเราน่ะ เป็นคนญี่ปุ่นเชียวนะ”

ยัยออมรู้ดีกว่าชาวบ้านเพราะชีสนิทกับบอสใหญ่ของพวกเราที่เป็นคนรับเข้ามาทำงานที่นี่

“จริงดิ งั้นก็แสดงว่า งานนี้เป็นโปรเจคใหญ่ของชาวญี่ปุ่นสินะ”

“อืม ชื่อก็บอกอยู่แล้ว นางิซ่า โปรเจค”

“แล้วงานของเราต้องทำอะไรบ้างล่ะออม”

พี่แครงถามบ้าง

“ก็ซอร์ทติ้งแหละพี่แครง”

meiofauna sorting = การหาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูจึงจะพบ (แล้วคิดดูว่าส่องทุกวันมันจะปวดตาขนาดไหน ตาย ๆ)

“ตายละ งานนี้ตาเราจะบอดมั้ยเนี่ย”

อิฉันก็บ่นไปตามเรื่องตามราว

“ไม่หรอก ก็ดูไปพักไปสิ ถ้าดูตลอดก็ไม่แน่นะ”

แล้วชีก็หัวเราะร่วน แหม ช่างอารมณ์ขันซะจริงนะหล่อน แต่เอาเถอะ งานแค่นี้ไม่คณาตาเจ๊หร๊อก
คุคุ ว่าแล้วก็กินต่อไป

“จืด นี่เรียบร้อยดีเนอะ”

อยู่ ๆ ยัยออมก็พูดขึ้นมา เล่นเอาฉันสำลักไก่ย่างที่กำลังจะกลืนลงคอพอดี

“อะ... อะไรนะ” :m29:

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2016 เมื่อ03-12-2007 10:10:34 »

ขออภัยอย่างสูงครับ
อิอิ
หวังว่าคงมีไฟล์ครบนะครับ
 :m5:

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2017 เมื่อ03-12-2007 10:50:52 »

ก็เกือบไปแหละค่ะเฮีย แต่ของแบบนี้มันเหตุสุดวิสัยนี่นา  :a5:

ตอนที่ 6

   นายปุ้ยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แอบขำนิด ๆ เอากะเค้าสิ ส่วนยัยออม ฉันว่ายัยนี่น่าจะฉลาดน่าดู ส่วนพี่แครงน่ะเหรอ แกดูเงียบ ๆ เป็นผู้ใหญ่มากกว่า

“แหม ออมก็ เราก็เรียบร้อยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

เรียบร้อย (ร้อยอะไรล่ะคะ สำหรับเพื่อนสาวของฉัน ร้อยอะไรคงรู้กันนะ)

“ก็ดีนะ กินต่อกันดีกว่า”

“เฮ้ นั่นพี่อัมนี่ สงสัยจะมากับแฟนล่ะมั้ง”

ฉันทักออกไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็หันไปดูกัน พี่อัมซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์มากับคน ๆ หนึ่ง

“พี่อัม จะไปไหนคะ”

ออมถามพี่อัม

“กำลังจะเข้าเมืองน่ะจ้ะ”

“เอ แล้วไปกับใครเหรอจ้ะพี่”

ฉันถามบ้าง

“อ๋อ นี่แฟนพี่เองนะ ชื่อ พี่ธน”

“สวัสดีครับน้อง ๆ อัมเล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว ยินดีต้อนรับนะครับ”

“ค่ะ/ครับ”

“งั้นพี่ไปก่อนนะ แล้วค่อยเจอกันพรุ่งนี้จ้ะ”

แล้วพี่อัมกับแฟนก็ขับรถเข้าไปในเมืองเสียแล้ว แหม ฉันก็อยากจะไปเที่ยวเหมือนกันนะเนี่ย เห็นยัยออมบอกว่า ในเมืองจะมีจุดชมวิวตอนกลางคืนด้วย สวยเชียวแหละ อยู่บนเขารัง อยากไปชะมัด

   พอกินมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็พากันกลับบ้านพัก คืนนั้นเราต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน เพื่อเอาแรงไว้สำหรับงานพรุ่งนี้ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น อ้อ ฉันลืมบอกไป ว่า 3 วันแรกนี้ จะมีชาวญี่ปุ่นมาสอนงานก่อน 2 คน คนหนึ่งคือหัวหน้าโครงการนี้ ส่วนอีกคนก็เป็นผู้ช่วย ชื่อ ชิรายามา กับ คาโต้

   ชิรายามาถึงจะมีอายุแล้ว แต่ดูอบอุ่นมาก ฉันเคารพเขามาก ส่วนคาโต้ ยังหนุ่มอยู่ ดูเรียบร้อยขยันแล้วก็เอาการเอางานน่าดูเลย หุหุ น่ารักจริง ๆ (ฉันชอบคนญี่ปุ่นมาก รู้สึกผูกพันตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ยังคิดอยู่เลยว่า ตัวเองเคยเกิดเป็นคนญี่ปุ่นมาก่อนรึเปล่านะ อ้อ แล้วตัวเองก็ฝันเอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง จะต้องไปประเทศญี่ปุ่นให้ได้ แล้วตัวเองก็ได้ไปจริง ๆ ด้วย เป็นอะไรที่ประทับใจสุด ๆ เลย จะอยู่ในช่วงหลัง ๆ ของเรื่อง)

“จืด ตื่นได้แล้ว แปดโมงแล้วนะ”

อะไรอ่ะ เช้าแล้วเหรอเนี่ย คนกำลังนอนหลับสบายอยู่เลย

“ฮ้าววววว”

ฉันลุกขึ้นบิดตัวไปมา (แต่ดูจะแรงไปหน่อย) โอยยย กระดูกกระเดี้ยวจะหักแล้วตู

พอมองไปดูเวลาในมือถือก็พบว่า.....

“เฮ้ย แปดโมงแล้วเหรอเนี่ย ตายล่ะ ต้องเข้างานแปดโมงครึ่งนี่นา”

ฉันเด้งตัวขึ้นจากที่นอนแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวกับชุดรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ส่วนคนอื่น ๆ น่ะเหรอ เค้าอาบกันเสร็จเรียบร้อยแล้วจ้า

“ตื่นสายเชียว”

นายปุ้ยนั่งคนโจ๊กอยู่ที่โต๊ะอาหารแอบกัดฉัน (แอบตรงไหนเนี่ย)

“ก็... อากาศมันน่านอนนี่นา ทำไงได้ล่ะ”

แล้วฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไป สักพักก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ

“เออนี่ ออมกับพี่แครงล่ะ ไม่เห็นเลย”

“อ้อ สองคนนั้นน่ะเหรอ ไปก่อนหน้าที่นายจะตื่นซะอีก”

“โอ้โห ขยันชะมัด แล้วนายล่ะ ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ”

“ก็รอนายอยู่ไง”

“รอทำไม ไม่ต้อง ฉันไปเองถูก ไม่หลงหรอก”

“เฮ่อ คนละเรื่องเลย”

“แล้ว โจ๊กนั่นน่ะ หมดรึยัง มีอีกป่ะ”

อ่านะ มีแอบขอของคนอื่นเค้าอีกนะฉัน

“หมดแล้ว”

“อะไรนะ ซื้อมาทำไมเนี่ย แค่ถ้วยเดียว”

“ล้อเล่นน่า จะกินใช่มะ เอา... มีอยู่หลายรส เลือกเอา”

“หวาย ใจดีจัง ขอบใจนะ ไหน ๆ ขอดูหน่อยสิ”

เง้อ นังจืดเอ้ย หน้าด้านจริง ๆ เลยฉัน

   ฉันลืมบอกไปอย่างนึง นายปุ้ยกับฉัน เราสองคนไม่ได้สนิทกันมากหรอกนะ แค่คนรู้จักกันในคณะน่ะ อ้อ แล้วนายปุ้ยก็เป็นเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกับนายเต๋าด้วย ฉันน่ะได้คุยกับนายนี่แค่ครั้งสองครั้งเองมั้ง ส่วนนายเต๋าน่ะเหรอ ตั้งแต่ตอนที่ฉันห่างออกมา เราก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย จนกระทั่งฉันต้องเป็นฝ่ายไปขอโทษมันที่อยู่ ๆ ก็เย็นชาใส่ เราสองคนเลยได้กลับมาคุยกันอีก แต่ก็น้อยครั้ง

“อิ่มรึยัง จะแปดโมงครึ่งแล้วนะ”

“แป๊บนึงสิ ใกล้จะหมดแล้ว”

ที่ทำงานอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่รู้จะเร่งอะไรนักหนา ฉันเลยต้องรีบกวาดส่วนที่เหลือจนหมด

“หมดแล้ว ขอน้ำหน่อยสิ”

“จริง ๆ เล้ย เอ้า…”

“แหม ไหน ๆ ก็ทำให้ทุกอย่างแล้ว ขอบใจน้า… เอาล่ะ อิ่มแล้ว ไปทำงานกันเถอะ”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++


nunyy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2018 เมื่อ03-12-2007 10:52:06 »

ตอนที่ 7

   ฉันกับนายปุ้ยเดินมาทำงานด้วยกัน ใช้เวลาเดินมาที่ตึกก็แค่ 2 นาทีเอง อิอิ ใกล้จะตายไป พอเดินไปถึงห้องประชุมด้านล่างของตึกทำงานแล้ว ที่นี่แหละที่จะใช้เป็นที่ฝึกงานของพวกเราภายใน 3 วันนี้

“อ้าว ยังไม่มาอีกเหรอ”

ฉันถามหนึ่งในสองคนนั้น เพราะเมื่อไปถึงแล้วก็ยังไม่พบกับชิรากับคาโต้เลย

“เห็นว่าจะมาตอน 9 โมงเช้านะ”

“อ้าว ไหนใครบอกว่า 8 โมงครึ่งไงล่ะ”

“สงสัยจะสื่อสารผิดล่ะมั้ง เพราะเวลานั้นสำหรับคนที่มาทำงานปกติน่ะ พวกเรายังไม่ได้เริ่มงานจริง ๆ นะ แค่มาฝึกงานกันก่อนน่ะ”

“อ้อ ยังงี้นี่เอง”

ฉันหันไปมองหน้านายปุ้ย ตาบ้า ดันบอกมาได้แปดโมงครึ่ง ยังงี้มันแกล้งกันนี่หว่า ตอนนี้นายนั่นนั่งหันหน้าออกไปมองทะเลแล้ว ฮึ่ม...

“ว่าแต่ ทำไมพวกตัวเองออกมากันเร็วจังล่ะ”

ฉันถามออมต่อ

“ก็มันนอนไม่หลับน่ะ เลยชวนพี่เค้าออกไปหาอะไรกินกันข้างนอก แล้วก็เดินเข้ามาที่นี่แหละ”

“อ๋อ ส่วนเราสิ นอนหลับเป็นตายเลย”

“ขี้เซาน่ะสิ”

“อะไรนะ”

ดูนายปุ้ยว่าฉันสิ แบบนี้มันกัดกันนี่หว่า

“จวนจะได้เวลาแล้วนี่ เลือกที่นั่งกันก่อนดีกว่ามั้ย”

มันเฉไฉไปเรื่องอื่นแล้ว หลบเก่งจริง ๆ นะนายนี่

“พวกเราเลือกกันได้แล้วล่ะ เหลือแต่จืดกับปุ้ยนั่นแหละ”

“งั้นเหรอ ถ้างั้น เด๋วเราหาที่ก่อนละกัน”

   ในห้องประชุมจะมีโต๊ะตัวยาว ๆ ต่อกัน แล้วบนโต๊ะก็จะมีกล้องจุลทรรศน์ กล้องไมโคร-สโคป อุปกรณ์ช่วยในการแยกตัวอย่างสัตว์ทะเลขนาดเล็ก แล้วก็ตัวอย่างที่เก็บมาจากอ่าวพังงา ที่จะนำมาใช้ในการเทรนนิ่งในครั้งนี้

   แล้วฉันก็เลือกที่นั่งได้แล้ว ส่วนที่นั่งก็ได้ที่ติดกับนายปุ้ยอยู่แล้ว แหงล่ะ มันเหลืออยู่แค่สองที่นิ เพราะอีกสามที่ถูกเค้าจองไว้หมดแล้วอ้ะ

   สักพักชิรายามา คาโต้ กับหัวหน้าพวกเราก็เดินเข้ามาในห้อง หัวหน้าได้พูดอธิบายงานนี้คร่าว ๆ ให้เราฟังก่อน จากนั้นชิราก็มาพูดอธิบายอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษ อุแม่จ้าว ลืมบอกไปว่า การฝึกงานสามวันนี้ต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันล้วน ๆ ตายล่ะฉัน ไม่เก่งซะด้วยสิ ตายแน่ช้าน

   กว่าจะฟังภาษารู้เรื่องก็เล่นเอาฉันงงเป็นไก่ตาแตก ต้องคอยหันไปถามเพื่อนตลอด พอจะฟังเองก็อะไรนะ หา ไม่เข้าใจ ซะงั้นอ้ะ  ส่วนเรื่องการเทรนนิ่งของเขาก็ไม่มีอะไรมาก จะสอนวิธีการทำอุปกรณ์การซอร์ท วิธีซอร์ท แล้วก็เรื่องการแยกหมวดหมู่ของชนิดสัตว์ที่เราซอร์ท สนุกมากเลย จากนั้นก็สอนวิธีการเก็บตัวอย่าง เป็นอันจบการเทรนนิ่งในวันนี้

   อีกสองวันก็ต้องหัดให้ชำนาญเพราะหลังจากนี้ไปจะต้องทำงานให้ได้ยอดทะลุเป้าหมายทุกวัน แน่นอนว่า คนที่แอคทีฟสุด ๆ อย่างฉัน (ตรงไหน) ต้องทำยอดได้พุ่งทะลุเพดานแหง ๆ 555

“เฮ่อ ได้พักเหนื่อยกันซักที”

ฉันออกมานั่งบ่นที่ม้านั่งด้านหลังอควาเรี่ยมกับเพื่อนชาย

“เพิ่งวันแรก ก็เหนื่อยซะแล้วเหรอ”

“เอ้า ก็มันปวดตานี่นา ฉันยิ่งสายตาสั้นอยู่”

“ก็ไม่เห็นจะต้องดูขนาดนั้นก็ได้นี่ พักหน่อยจะเป็นไรไป”

“ไม่เอาหรอก เด๋วยอดจะตก”

“เฮ้อ เป็นงั้นไป”

ถอนหายใจทำไมยะ งานต้องมาที่หนึ่ง แต่ตัวเองก็ต้องไม่ลืมว่า ร่างกายมันก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกันนะ (ไม่ควรจะหักโหมมากนะคะ)

“อยากออกไปเที่ยวในเมืองเนอะ”

“นั่นสิ แต่จะออกไปยังไงล่ะ”

ฉันนั่งคิดสักพักนึง ตอนนี้ก็เย็นแล้ว รถออกไปก็คงหมดเที่ยวแล้ว จะไปหายืมรถมอไซด์คนอื่นก็ไม่กล้า เพราะเพิ่งจะมาเอง ยังไม่สนิทกับใครเลย

“สงสัยจะต้องออกไปวันหยุดแล้วล่ะมั้ง”

“โห งี้ก็อดเที่ยวตอนกลางคืนน่ะสิ”

“อะไร นี่เรามาทำงานกันนะ ไม่ได้มาเที่ยวสักหน่อย”

“เอ๋า ก็ไม่ได้เที่ยวแบบนั้นนี่ แค่อยากจะไปดูจุดชมวิวก็แค่นั้นเอง”

“อ๋อ อันนี้ก็ไม่รู้แฮะ”

ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งตรงนั้น แล้วก็บอกนายปุ้ยว่า จะออกไปซื้อขนมกินซะหน่อย

“ฉันไปคนเดียวก็ได้นะ นายน่ะจะกลับบ้านก่อนก็ได้”

“อืม แล้วอย่ากลับมืดล่ะ เด๋วโดน....”

“โดน โดนอะไรของนายฮะ”

“เปล่า พูดเล่นน่ะ กลับดีกว่า อยากนอนชะมัด”

แล้วนายปุ้ยก็เดินกลับขึ้นไปที่บ้านก่อน ปล่อยให้ฉันยืนงงอยู่คนเดียว เชอะ อย่างฉันน่ะ โดนอยู่อย่างเดียวแหละค่ะ โดนฉุดไงล่ะ (ฉุดไปตีน่ะเหรอ หุหุ)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


nunyy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2019 เมื่อ03-12-2007 10:56:05 »

ตอนที่ 8

   อ้อ ลืมบอกไปว่า ที่ทำงานน่ะฉันค่อนข้างจะสำรวมตัวเองอยู่พอสมควร แต่พอออกมาข้างนอกแล้ว ไม่มีจ้ะ สำรงสำรวมอะไรนั่น ฉันทำไม่ด้ายยย อิอิ

   ตอนนี้ฉันเดินออกมาจนถึงหน้าทางเข้าสถาบันแล้ว ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็นได้ล่ะมั้ง แดดยังจ้าอยู่เลย หน้าฉันจะแหกมั้ยเนี่ย อีกนานล่ะมั้งกว่าจะหมดแดด แต่อิฉันก็ไม่ยอมแพ้ ดำก็ดำสิยะ

   ฉันเดินเข้าไปในร้านมินิมาร์ท มีตั้งสองร้านแน่ะ ร้านนึงเป็นของโรงแรม แต่ฉันเข้าอีกร้านเพราะน่าจะถูกกว่า อิอิ พอเดินเข้าไปแล้ว ฉันก็เดินเลือกซื้อของกินที่ชอบ ส่วนใหญ่ก็ ขนมขบเคี้ยวซะส่วนใหญ่ แล้วก็ตบท้ายด้วยมาม่าเจ้าเก่า แหะ ๆ เด๋วมันจะหิวตอนดึกน่ะ

   และแล้วเหตุการณ์อันระทึกขวัญก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อฉันเดินไปอีกล๊อคนึง ก็พบกับหนุ่มน้อยหน้าตาดีโคตร ๆ หน้าใสสุด ๆ อุแม้จ้าว เกิดมายังไม่เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้ โอ้ย หัวใจของอิฉันจะละลายกลายเป็นดวงเดียวกับของเขา อ๋ายยยยย

   ฉันเลยแอ๊บทำเป็นเดินไปดูของใกล้ ๆ อาส์ กลิ่นกายช่างหอมยวนใจอะไรแบบนี้นะ ซู๊ดดดด (ดมนะนั่น หื่นจังเลยกรู) หนุ่มน้อยหันมามองแว่บนึง ตาต่อตาสบกัน แอร้ยยยยย ฉันจะเป็นลม ช่วยจับฉันทีค่ะ คุณขา (กลัวเค้าจะถีบหล่อนมากกว่าล่ะสิ)

   เขาหันกลับไปมองดูพวกโฟมล้างหน้าต่อ อะไรเนี่ย ไม่สนใจเราเลยเหรอ หรือว่าเราไม่สวย ไม่น่ารักพออ้ะ (หลงตัวเองจังนะ) ชิส์ ฉันออกจะแอ๊บแบ๊วขนาดนี้แล้ว ยังไม่หันมามองอีกนะ ในใจก็คิดว่า เล่นตัวจังนะ แหม ก็คนมันหล่อ ทำไงได้

   กำลังจิ้นอยู่ดี ๆ ก็มีเด็กหนุ่มอีกคนเดินเข้าหาเขา แต่ เอ ทะแม่ง ๆ นะ ไหงอีกคนสะดีดสะดิ้งจังล่ะ แถมตอนพูด ทำไมต้องเรียกสุดหล่อของฉานแบบนี้ด้วยล่ะ

“นี่หล่อน จะดูอีกนานมั้ยยะ กลัวหน้าสวยสู้ชั้นไม่ได้รึไง”

แบบเนี่ย มันคืออะไรเหรอ ฉันไม่เข้าใจ

“แหม ก็ฉันไม่ได้หน้าสวยเหมือนหล่อนนี่ ถึงจะได้ใช้อะไรก็ได้น่ะ”

เฮือก.... ฉันสะดุ้งสุดทีน พระเจ้าช่วยกล้วยชุบแป้งทอด เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ ฉันไปฝันไปใช่ม้าย

“แล้วได้รึยังล่ะ จะได้รีบไปต่อ”

“เออ ๆ ได้แล้ว เร่งจังนะหล่อนเนี่ย”

ฉันยืนกลืนน้ำลายเอื๊อก ๆ โอย ตายแล้วกรู ดันชอบเพศเดียวกันเข้าเสียแล้ว

“โอ้ย เครียด คืนนี้ฉันจะได้ผู้ชายมั้ยเนี่ย”

“สวยอย่างหล่อน คงจะได้น่ะนะ”

ฉันหูอื้อตาลาย คล้ายจะเป็นลม สงสัยจะช๊อคอย่างแรง ส่วนสองสาวก็เดินออกไปจ่ายเงินแล้ว ส่วนอิฉันก็ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้นไปพักใหญ่ ๆ เสียเซลฟ์หมดเลยตู

เวลาผ่านไปยังไม่ทันตดจะหาย........

พอเลือกซื้อของได้ครบแล้วฉันก็กำลังจะเดินไปจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ ปรากฎว่า มีผู้ชายคนนึง หน้าตาแบบว่า ก็งั้น ๆ อ้ะ ผมเผ้าก็กระเซอะกระเซิง หนวดเครานี่สิ เขียวครึ้มเชียว ดูเถื่อนชะมัด เดินมาชนไหล่ฉัน มีการมองหน้าเหยียด ๆ แล้วไม่ขอโทษด้วยนะ เออ เอาเข้าไป เจอแต่ละคน เครียดเลย

“มารยาททรามจริง ๆ” 

ฉันพูดแบบจงใจว่า ให้ได้ยินอ่ะ แล้วก็เดินเชิดไปจ่ายเงินต่อ

   ไอ้เถื่อนหันมามองหน้าแวบนึง แล้วก็เดินเลือกของต่อ พอฉันจ่ายเงินเสร็จก็เดินไปหาของกินริมเขื่อน โอ้ มากันเพียบเลย กินหมึกย่างดีกว่า น้ำจิ้มอร่อยมาก ๆ เลย (นึกแล้วอยากกินขึ้นมาซะแล้วสิเรา)

“น้องจืด ทำไมมานั่งอยู่เดียวล่ะ”

พี่อัมกะพี่ธนจะออกไปข้างอีกแหง ๆ อิจฉาจังเลยฉาน

“พอดีมันว่าง ๆ น่ะพี่ จะออกไปในเมืองอีกแล้วใช่ม้า”

“จ้า พอดีจะไปโลตัสน่ะ”

“ห๊า มีโลตัสด้วยเหรอ โห อย่ากไปจังเลยอ้ะ”

“ถ้าอยากไปวันไหน ก็บอกพี่สิ จะให้ยืมรถไป”

“เอ๋ ยืมได้เหรอพี่”

ฉันเริ่มมองเห็นความหวังลาง ๆ แล้วสิ

“ได้สิ คนกันเองทั้งนั้น พี่ไปก่อนนะ”

“จ้า โชคดีนะคะพี่”

อุ๊บ ตายล่ะฉัน เผลอหลุดออกไปซะแล้วเรา แต่ดูพี่สองคนนั้นจะรู้อยู่ก่อนแล้วล่ะ แกยิ้มให้ แล้วก็ขี่รถออกไปแล้ว ปล่อยให้ฉันนั่งเป็นสาวน้อยตกเบ็ดต่อไป (อ่อยเหยื่อล่ะสิ)

   พอหมึกย่างเสร็จแล้ว ฉันก็จ่ายเงินแล้วก็เดินกลับบ้านพักของตัวเอง หวาย ทำไมทางมันมืดแบบนี้ล่ะ น่ากลัวจังเลยอ้ะ นี่ฉันจะโดนลากไปอย่างว่ามั้ยเนี่ย (ค่ะ ลากไปยำน่ะเหรอ) ระหว่างทางเดินกลับนั่นเอง ฉันก็รู้สึกได้ว่า มีมอเตอร์ไซด์คันนึงขับตามมาช้า ๆ อุ้ยตายละ มาตามฉันทำไมเนี่ย น่ากลัวจัง....

   ฉันเดินเร่งขึ้นเรื่อย ๆ รถคันนั้นก็ขับตามมาอีก แมร่งจะตามกรูมาทำไมวะ ไม่แซงไปก่อนล่ะ อิเชี่ย กรูยิ่งกลัว ๆ อยู่ จนฉันเริ่มจะเหนื่อยแล้ว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย อยากจะตามก็ช่างหัวมัน ว่าแต่อยากจะเห็นหน้าจังว่าเป็นใคร ขอดูหน่อยเถอะ

   ฉันหยุดเดินกระทันหัน รถคันนั้นก็ขับเข้ามาถึงตัวฉันแล้วก็หยุด อ้าว มรึงจะหยุดทำไมคะ ไม่ไปต่อล่ะ ซวยแล้วมั้ยล่ะกรู มันจะทำอะไรฉานมั้ยเนี่ย ฉันกลัวจังเลยอ้ะ ฉันยังไม่อยากเสียตัวนะ อย่าทำอะไรฉันเลย แต่พอลองซูมหน้าผู้ต้องสงสัยชัด ๆ

“เฮ้ย... ตามฉันมาทำไมเนี่ย”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
« ตอบ #2019 เมื่อ: 03-12-2007 10:56:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nunyy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2020 เมื่อ03-12-2007 11:03:55 »

หลังจากที่ลงครบแล้ว ก็ได้เวลาของตอนใหม่ซักที ส่วนคนที่ 4 นี้ ไม่อาจจะบรรยายได้ เพราะน่ากลัวมั่กมาก

แล้วฉันจะชอบมันลงไปได้ยังไง (แต่ก็เผลอใจรักชักยุ่งล่ะสิ)  :m5: ไปต่อกันเลยดีกว่า


ตอนที่ 9

   จะเป็นใครไปได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้คนไร้มารยาทที่เจอกันในร้านมินิมาร์ทนั่นน่ะ นายนั่นจอดรถแล้วก็เอาแต่จ้องหน้าฉัน โอ้ย จะบ้าตาย หน้าเมิงก็โหดพออยู่แล้ว ยังจะมาจ้องฉันอีก อยากจะวิ่งหนีแล้วร้องกรี๊ด ๆ ซะให้รู้แล้วรู้แรด

“ถามแล้วไม่พูด เป็นใบ้เหรอแก”

เริ่มขึ้นเสียงละฉัน (ก็มันกลัวนิ)


“....”


เงียบ ไม่มีเสียงพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากนายคนนั้นเลยซักแอะ

“ไปดีกว่าฉัน มัวเสียเวลาคุยกับคนบ้าอยู่ได้แฮะ”

ฉันเลยเดินต่อไปโดยไม่สนใจมันอีกแล้ว ก็จะถึงบ้านแล้วนี่ ส่วนนายคนนั้นก็ไม่ได้ขี่รถตามมา พอฉันหันไปมอง มันก็ยังมองมาเหมือนเดิม อึ๋ยยย ขนคอลุกเลยฉัน น่ากลัวชิบ



   พอกลับมาถึงบ้านแล้ว ฉันก็รีบเข้าไปในบ้านทันที เห็นทุกคนกำลังนั่งดูทีวีอยู่เลย ว่าแต่ว่าของใครกันล่ะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่

“ทีวีของใครเหรอ”

ฉันเดินไปนั่งกับเพื่อน ๆ แล้วก็เอาขนมที่ซื้อมาให้ทุกคนกินด้วย

“ของเราน่ะ ออกไปข้างนอกคนมาเหรอจืด”

ออมถามฉัน

“อืม น่ากลัวมากเลยอะ”

“น่ากลัว ทำไม เจออะไรมาเหรอ”

นายปุ้ยถามมั่ง

“ก็ เอ่อ... มันมืดน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

ฉันไม่กล้าบอกทุกคนไป เด๋วจะหาว่าตอแหลอีก ทำยังกะตัวเองสวยงั้นแหละ :m13:

“อ่อ นึกว่าอะไร ซื้อขนมมาเพียบเลยนะ”

“ก็เอาไว้เวลาหิว ๆ น่ะ กินด้วยกันนะ”

“ขอบใจจ้า อ้อ พี่มีเรื่องอยากจะถามทุกคนหน่อยน่ะ”

พี่แครงมีเรื่องอะไรนะ อยากรู้จัง

“เรื่องอะไรเหรอพี่”

“ก็เรื่องอาหารการกินน่ะ พี่ว่า พวกเราน่าจะซื้อของเข้ามาทำกินที่บ้านน่ะ ทุกคนว่ายังไงกันบ้าง”

“อืม จืดว่าก็ดีนะ แต่เราไม่มีอุปกรณ์ทำเลยนะ”

“ใครว่าไม่มีล่ะ พี่เอาหม้อหุงข้าวแล้วก็กระทะไฟฟ้ามาด้วยจ้ะ”

“งั้นก็ดีน่ะสิพี่ ทุกคนว่าไงล่ะ เรายังไงก็ได้”

“ก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องเดินออกไปไกล”

“เป็นอันว่าตกลงค่ะพี่ เด๋ววันอังคารกับวันศุกร์มันจะมีตลาดนัด พวกเราก็ค่อยออกไปซื้อของสดมาทำกันก็ได้”

ออมว่างั้น มีตลาดนัดด้วยเหรอเนี่ย ค่อยยังชั่วหน่อย



   พวกเรานั่งดูทีวีกันจนละครเลิกแล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอนของใครของมัน ฉันเดินไปอาบน้ำพออาบเสร็จแล้วก็ออกมานั่งตากลมอยู่ที่หน้าระเบียงบ้านแป๊บนึง นายปุ้ยก็เดินตามออกมา ส่วนสองสาวคงจะเหนื่อยแล้วมั้ง

“ยังไม่นอนอีกเหรอ”

“อีกสักพักน่ะ แล้วนายล่ะปุ้ย”

“เหมือนกัน งานนี้คงเหนื่อยน่าดู ว่ามั้ย”

“ก็คงงั้นแหละ ปวดตาชะมัด”

“ก็ลองไปหาซื้อที่ปิดตามาใช้ดูสิ น่าจะช่วยได้นะ”

ที่ปิดตาที่ว่า สงสัยจะหมายถึง ไอ้ของเหลวที่อยู่ในถุงไว้แช่เย็นแล้วนำมาปิดตาตัวเองล่ะสินะ

“จะไปหาซื้อที่ไหนล่ะ”

“ในโลตัส บิ๊กซีน่าจะมีนะ”

“เออ พูดถึงโลตัส พี่อัมบอกว่า ถ้าอยากจะไปก็ไปขอยืมรถแกได้นะ”

“จริงสิ ถ้างั้นเย็นพรุ่งนี้ไปกันมั้ย”

โอ้โห ไม่ค่อยจะรีบร้อนเลยนะนั่น สงสัยจะคันอยากไปกว่าฉันล่ะสิ

“ก็ได้ ๆ ตอนนี้ฉันง่วงแล้วล่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะ”

“อืม เราก็จะไปเหมือนกัน”

“เออ จริงสิ นอนข้างนอนเป็นยังไงบ้าง อากาศเย็นขนาดนั้น”

“ก็สบายดีนี่ ทำไมเหรอ”

“เปล่านี่ ไม่มีอะไรหรอก นอนกันเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

เราสองคนแยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเอง ฉันนอนไม่ค่อยหลับเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะภาพของนายเถื่อนคนนั้นยังติดตาฉันอยู่เลย ตอนที่มันจ้องมา ฉันยอมรับว่ากลัวนะ เค้ายิ่งว่ากันอยู่ว่าคนใต้ใจดำ แต่เท่าที่รู้จักก็ใจดีกันทั้งนั้นนี่นา

แต่เอาเถอะคงไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันก็ได้แต่หวังไว้ว่า ฉันคงจะไม่เจอกับคนแบบนั้นอีกแล้วนะ และก็หวังไว้อีกว่า นายนั่นคงไม่ได้ทำงานอยู่ในนี้เหมือนกัน เพราะถ้ามันไม่เป็นแบบนั้น ฉันก็ต้องเจอกับมันอีกน่ะสิ

แล้วเช้าวันต่อมา ฉันก็คิดผิดทุกอย่าง เพราะตอนที่ฉันเดินไปที่ทำงาน ก็พบกับนายคนนั้นอีกจนได้ เฮ่อ สาวสวยอย่างฉัน (สวยตรงไหนเนี่ย) จะต้องเจอกับเรื่องอะไรอีกบ้างล่ะเนี่ย คิดแล้วกลุ้มใจจริง ๆ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ปล. การคุยกับผู้ชายสักคนทำไมมันลำบากจังเลยล่ะคะ  :m17:

wachara

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2021 เมื่อ03-12-2007 13:24:08 »

กลายเป็นไอเถื่อนของจืดไปซะแล้ว    พระเอกเรา    o7

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2022 เมื่อ03-12-2007 14:44:48 »

ดีใจที่จืดกลับมา (555 คุ้นๆๆมะ โฆษณาอะไรหว่า)

เรื่องตอนทำงานแล้วก็ให้ดวามรู้สึกไปอีกแบบดี  แบบเรื่องตอนเด็กนี่พี่นึกไม่ออกแล้วละ เหอ เหอ (แก่จริง)

ดูแลตัวเองดีๆนะน้อง คนป่วยเยอะจริง

ออฟไลน์ M@5teR I[K][K]I

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2023 เมื่อ03-12-2007 15:42:43 »

 :m30:            แหง่ะ!  จากหล่อใสๆ เป็น เถื่อนๆ เลย
อิอิ....หรือว่า    เข็ดกับคนหล่ออ่า..........            :m26:
คนพวกนี้.....(เถื่อนๆ).....ถ้าดีๆดีเลยนะ.....ถ้าเลวก็สุดขั้วเหมียนกาน.....          o21

ปล.รอให้ return กะ อาร์ท นะ......เชียร์ๆ           :a2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2007 15:50:49 โดย ikki »

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2024 เมื่อ03-12-2007 23:32:28 »

เย้ๆ...

ได้อ่านภาคทามงานต่อด้วย อิอิ

เป็นกำลังใจให้นะคับ

 :impress:   :impress:

Pal

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2025 เมื่อ04-12-2007 00:00:13 »

ในที่สุดก็อ่านมาได้จนจบ แฮ่กๆๆๆ  :เฮ้อ:
ตลก เศร้า ครบรสเลยครับ คุณจืด :m26:
ยังไง ๆ ก็ขอติดตามด้วยอีกคนนะคร๊าบบ  :m12:

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2026 เมื่อ04-12-2007 20:32:11 »

ตอนที่ 10

   ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินไปที่ห้องประชุมนั่นเอง นายคนเถื่อนนั่นก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ตามหลังมาตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร พอมันแซงหน้าฉันไปแล้วก็มีการหันมามองด้วย ไม่มองเฉย ๆ แต่กลับชูนิ้วกลางให้ฉันด้วย

“กรี๊ดดดดดด” ได้แต่ร้องในใจอ่ะนะ

ทำไมมันเลวแบบนี้ล่ะ หรือว่ามันจะโมโหฉันที่ไปด่ามัน แต่ว่าไปแค่นั้นเองนะ ไม่น่าจะเป็นขนาดนี้ (อ่ะเหรอ ด่าแรงเหมือนกันนะนั่น)

“ไอ้บ้าเอ้ย กะว่าชาตินี้คงไม่เจอไอ้พวกประเภทนี้แล้วนะเนี่ย”

ฉันเดินบ่นไปเรื่อย ๆ จนถึงห้องประชุมนั่นแหละ

“เป็นอะไรอีกล่ะ หน้าบูดมาเชียว”

นายปุ้ยถาม สงสัยหน้าฉันคงจะบูดจนเบี้ยวแล้วมั้ง

“เจอหมามันไล่กัดเอาน่ะ เซ็งสุด ๆ”

“หมาเหรอ ไม่เห็นมันจะไล่ฉันเลยล่ะ”

“อ้าว ก็นายหล่อมั้ง หมามันเลยไม่ไล่น่ะ”

“พูดไปเรื่อย”

ก็คนมันอารมณ์เสียนี่หว่า ทำไงได้ เจอหน้าแกอีก ยิ่งเสียใหญ่

“เย็นนี้ไปเดินโลตัสกัน”

นายปุ้ยมากระซิบที่ข้างหูฉัน

“หา ได้รถแล้วเหรอ”

“ได้แล้ว”

“เยี่ยมเลย ว่าจะไปซื้อของใช้อยู่พอดี”

“ออกค่าน้ำมันให้ด้วยนะ”

“อะไรนะ คนละครึ่งสิ”

งกสิฉัน เรื่องอะไรจะยอมออกคนเดียว มันก็ต้องออกด้วย ไปด้วยกันนี่ยะ

“ก็ได้ ๆ เลิกงานนะ”

“โอเค ว่าแต่ รู้เหรอว่าโลตัสไปทางไหนน่ะ”

เออแฮะ เพิ่งมาได้ไม่กี่วันแถมยังไม่เคยออกไปข้างนอกด้วย สงสัยต้องถามทางเค้าแล้วล่ะ

“ถามพี่อัมละกัน ช่วยกันจำหน่อย คงไม่หลงหรอก”

“หวังว่าคงงั้นนะ”

เหอ ๆ ฉันล่ะกลัวจริง ๆ ยิ่งกลับมืด ๆ ค่ำ ๆ น่ากลัวจะตายไป แต่ฉันก็มั่นค่ะ สู้ตายตลอดแหละ
แล้วการฝึกงานวันนี้ก็เหมือนเดิม เพราะต้องการให้เราชำนาญในการทำงานมากขึ้นนั่นเอง

   ช่วงพักกลางวัน พวกเรายังคงต้องออกไปทานข้าวข้างนอกกัน เนื่องจากยังไม่ได้ซื้อของกินเข้ามาไว้ในบ้านเลย พวกเราตัดสินใจเลือกร้านอาหารตรงทางขึ้นไปรีสอร์ทบนเขา แถบนี้มีร้านอาหาร ร้านจัดทัวร์ ร้านขายเสื้อผ้า ส่วนใหญ่จะเน้นแขกชาวต่างชาติมากกว่า

   อาหารที่นี่สำหรับคนไทยขายไม่แพงเลย ราคาก็ประมาณ 30 บาทอัพ ซึ่งก็ถือว่าถูกแล้วนะ ถ้าเป็นฝรั่งมากินก็คิดเป็นร้อยเลยล่ะ โชคดีของคนไทยไป อิอิ

“ข้าวผัดกุ้งค่ะ”

หุหุ ตอนนี้ฉันก็เป็นสาวสวยแล้วล่ะ เนื่องจากแอ๊บไม่ไหว

“เย็นนี้จะไปโลตัสกันเหรอปุ้ย”

ออมถาม ส่วนพี่แครงก็ดูจะสนใจเหมือนกัน

“อืม กะว่าจะไปดูของใช้สักหน่อย”

“ไปกับเราน่ะ”

ฉันเห็นยัยออมกำลังจะขยับปากถาม เลยชิงตอบซะก่อนเลย

“แหม รู้ทันอีกนะจืด”

“พี่ก็อยากไปเหมือนกัน แต่ขี่รถไม่เป็นนี่สิ”

“พี่แครง วันหยุดนี้ก็ไม่กับออมก็ได้ เด๋วให้พ่อมารับน่ะ”

“จะดีเหรอ พี่เกรงใจ”

“ไม่เป็นไร คนกันเองทั้งนั้น”

   ระหว่างที่นั่งรอเสิร์ฟอาหารอยู่นั่นเอง ก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน มีตั้ง 4 คนแน่ะ ไอ้ฉันก็คันไม่แพ้ เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้ ต้องรีบโฟกัสทันทีว่าใครหล่อบ้าง และแล้วฉันก็พบว่า มีน่ารักอยู่คนหนึ่ง ถึงจะอวบไปนิดแต่ก็น่ารักเชียว หุหุ

   แต่อมยิ้มได้แป๊บเดียวก็ต้องรีบหุบยิ้มทันที เพราะไอ้คนที่เดินตามหลังเข้ามาน่ะ มันอริตัวใหม่ของฉันน่ะสิ โฮ่ ฉันรีบหันหน้าหลบเอาเมนูอาหารขึ้นมาอ่านบังหน้า แต่มันคงจะปิดหมดอยู่หรอกนะ แผ่นนิดเดียว (ทำอะไรปัญญาอ่อนจริงฉัน)

“เป็นอะไรน่ะจืด”

ยัยออมถามซะเสียงดังเชียว นังนี่ มันหันมามองกันแล้ว

“เปล่านี่ ไม่มีอะไรหรอก”

“ข้าวผัดกุ้งมาแล้ว ไม่กินเหรอ”

“รอของพวกนายก่อนสิ”

เหอ ๆ จะหลบไปทำไม นายเถื่อนนั่นน่ะ เห็นฉันเข้าแล้ว หลบไปก็เท่านั้นแหละ

“ของนายเอาอะไรวะ”

ฉันได้ยินเสียงคนในกลุ่มนั้นถามมัน แล้วมันก็ตอบว่า “ยำรวมมิตร”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ M@5teR I[K][K]I

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2027 เมื่อ05-12-2007 00:25:57 »

หลังจากที่จืดพบกับหนุ่มใต้หน้าเข้มคนนั้น.....จืดพยายามที่จะไม่เจอ...นายคนนั้น

ต่อมาจืดต้องนั่งเรือไปวิจัยนอกเกาะร้างแห่งหนึ่ง....จู่ๆ ก็เกิดพายุขึ้น....          :laugh:

จืดซึ่งไปเก็บข้อมูลบนเกาะร้างที่ไปสำรวจแล้วแวะเดินเล่นจึงพลาดหลงกับกลุ่มเพื่อนๆ

ระหว่างที่เดินตามหาเพื่อนก็ไปพบกับหนุ่มคนนั้น.....จืดพยายามหนี......

นายคนนั้นโกรธที่โดนหลบหน้าจึงจับจืดไปขังเดียว......จากนั้น.....&^%+|_#......(อย่าคิดลึกน้า).....

จืดโดนจับขัง        :m13:

หลังผ่านการทรมานของหนุ่มใต้...ความผูกพันจึงเกิดขึ้น......หนุ่มใต้จึงสารภาพรักกับจืด......

จากนั้นทั้งสองก็ครองรักกันในเกาะร้างนั้น....

ปล.เผอิญนึกอารายหนุกๆ ออกเลยเข้ามาจิ้น...ก่อน....เจ้จืดม่ายว่า ป๋มน้า...อิอิ

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2028 เมื่อ05-12-2007 04:42:00 »

มาต่ออีกนะคับ

อยากรุ้จังเลยว่าจะลงเอยกันยังไง หุหุ

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
«ตอบ #2029 เมื่อ06-12-2007 09:20:43 »

ช่วงนี้ขอพักแค่ตอนที่ 10 พอนะ พอดีอยากจะลงตอนพิเศษน่ะ  :m17:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เกลียดตุ๊ด พูดมาได้ ปี 4 " Live in Phuket "
« ตอบ #2029 เมื่อ: 06-12-2007 09:20:43 »





nunyy

  • บุคคลทั่วไป
ตอนพิเศษ (วันเกิดที่รัก)

   ฉันนั่งลงโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านที่ยังคงตั้งอยู่เหมือนเดิม ในยามเย็ม สายลมที่พัดเอาความเย็นยะเยือกจากภาคเหนือลงมากระทบกับใบหน้าของฉัน อากาศเวลานี้เริ่มหนาวขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความคิดของฉันล่องลอยไปสู่อดีตที่ไม่มีวันลืม อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของฉันแล้ว กี่ปีกันแล้วนะที่ฉันไม่ได้เลี้ยงฉลองวันเกิดพร้อมกับคนที่ฉันรักเลย มันช่างดูเนิ่นนานมาแล้วเสียเหลือเกิน ถ้าหากสามารถย้อนเวลากลับไปได้ ฉันอยากจะย้อนกลับไปในวันเกิดของฉันเมื่อปีแรกก่อนที่เราจะตกลงคบกันตอนไปเที่ยวที่ภูกระดึงในช่วงวันปีใหม่

+++++++++++++++++++
   


                 ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ฉันกับอาร์ทยังเป็นเพื่อนกันอยู่ หวังว่าทุกคนยังคงจำกันได้ไม่ลืมเลือนนะ จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่อยากจะเขียนถึงสักเท่าไหร่ แต่มันคือความทรงจำที่นึกถึงเมื่อไหร่ก็รู้สึกสุขใจทุกครั้ง เวลาที่ได้คิดถึงอาจจะทำให้ทุกข์บ้าง เพราะอยากพบอยากคุยอีกครั้ง แต่มันก็ดูเลือนรางเสียเหลือเกิน  :undecided:

“เฮ้... อิจืด เป็นอะไรน่ะ นั่งหน้าเครียดเชียว”

นังเฉาก้วยเพื่อนยากมาสะกิดไหล่ฉันแรง ๆ (สะกิดตรงไหนวะเนี่ย)

“โอ้ะ... อิเวร ตกใจหมดเลย มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

“ก็มาตอนที่มรึงเห็นนี่แหละ เป็นเชี่ยอะไรอีกล่ะ”

นังเฉานี่มันดูคนเก่งแฮะ

“ก็เป็นกระเทยน่ะสิ อินี่ ถามแปลก ๆ”

“ดอก ตอบมาดี ๆ อย่ามาตอแหล”

“ย่ะ คือว่า กรูกำลังคิด เอ่อ... เรื่องทั่วๆไปอยู่น่ะ”

นังเฉานั่งลงข้าง ๆ ฉันทันที จะว่าไปอินี่ก็สนใจเรื่องคนอื่นเค้าเหมือนกันแฮะ

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจอีกล่ะ เล่าให้กรูฟังได้มั้ยล่ะ”

“อืม ก็ดีเหมือนกัน”

ฉันเลยตัดสินใจปรึกษานังเฉาก้วยไปเสียเลย

   เราสองคนนั่งคุยกันเกี่ยวกับเรื่องวันเกิดของฉันที่กำลังจะถึงนี้แล้ว ฉันกำลังกลุ้มใจอยู่ว่าจะไปเลี้ยงฉลองที่ไหนดี พอนังเฉาได้ฟังเท่านั้นแหละ มันก็วีนฉันเลย  :m30:

“อิจืด อิ... กรูจะด่ามรึงยังไงดีเนี่ย”

“ด่ากรูทำไมอ้ะ”

ฉันทำหน้าใสซื่อ แอ๊บแบ๊วไม่รู้เรื่อง

“อิดอกเอ้ย กรูนึกว่ามีเรื่องอะไรที่มันร้ายแรงกว่านี้ ที่แท้ก็เลี้ยงวันเกิด”

“ก็นั่นแหละ กรูไม่รู้นิว่าจะไปที่ไหนดี”

“กรูไปและ เชิญมรึงเครียดต่อไปเหอะ กรูไปชวนอิเจี๊ยบแดกส้มตำดีกว่า”

“อะไรนะ กินส้มตำเหรอ กรูไปด้วยดิ”

เหอ ๆ พอมีเรื่องกินเข้ามา อิฉันก็จะลืมเรื่องเดิมทันที ก็เป็นแบบเนี้ยทุกที ทำไงได้

“ก็ตามมาสิยะ เออ หารนะมรึง ไม่มีเลี้ยง”

“ย่ะ ทำเป็นงกไปได้”

จริง ๆ ตัวเองนั่นแหละที่งก แอบมีบ่นนิดนึง ตอนเดินไปหานังเจี๊ยบ

+++++++++++++++++++++++++++++++

   เราสองคนเดินไปหานังเพื่อนสาวที่หอประชุมอเนกประสงค์ เพราะเลิกเรียนแล้วชีมักจะมานั่งแรดอยู่แถวนี้แหละ อ้อ แล้วฉันน่ะมากับพวกนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ ก็วันนี้ตาอาร์ทไม่มาโรงเรียนน่ะสิ ไม่สบายนอนซมอยู่ที่บ้าน ฉันก็อยากจะไปเยี่ยมใจจะขาด  :m15:

“ว้าย กระเทยสองตัว กำลังจะไปไหนยะ”

อิดอกเจี๊ยบร้องซะดังลั่น อิห่า ฉันยิ่งอาย ๆ คนอื่นอยู่

“อิเวร จะร้องหาค-ยหรือไงยะ”

อิฉันเลยด่าสาดไปซะ ส่วนอิเฉาก็เดินสวยเริดเชิดหยิ่งไปนั่งลงที่โต๊ะเดียวกับมันนั่นแหละ

“ก็มาตามมรึงไปแดกส้มตำไงเจ๊น้อยไงล่ะ ไปปล่าวยะ”

อิเจี๊ยบทำตาโต อิดอก ไม่รู้เลยว่า อยากแดก

“จะพลาดเหรอมรึง แล้วอิจืดล่ะ วันนี้มาได้ไง ปกติเห็นตัวติดกับอาร์ทเป็นตังเมเลยไม่ใช่เรอะ”

ดูมัน กัดฉันซะไม่มีดี ฝากไว้ก่อนเหอะ

“มันป่วย กรูเลยเป็นไท”

“อ้าว นึกว่าเป็นลาวซะอีก”

“อิเฉาก้วย อิดำ อิเวร ชอบกัดกรูจริง ๆ นะมรึง”

“กรูพูดเรื่องจริง ผิดตรงไหนเนี่ย”

ว่าแล้วมันกะอิเจี๊ยบก็หัวเราะเยาะฉัน ฉุนค่ะฉุน ฝากไว้ก่อนรอบสองละกันพวกมรึง

“ตกลงไปร้านเจ๊น้อยนะ เด๋วกรูเก็บของลงกระเป๋าก่อน”

“ของอะไรยะมรึง”

อิเจี๊ยบโชว์ของให้พวกฉันดู แต่ละอย่างของมัน แป้งตลับ ลิปสติก หวี กระจก ฯลฯ

“สวยจริง ๆ”

“สวยลากไส้ ลากออกมาให้กากินนะ”

“อิเชี่ย จะกัดกรูอีกนานมะ ดอก ไปกันได้แล้ว”

   และแล้วสามสาวเซเลบม.ปลายชื่อดัง (กระฉ่อนเพราะไปตบชะนีเอาไว้ :laugh:) ก็เดินนวยนาดไปยังร้านส้มตำเจ้าเก่าที่สุดแสนจะอร่อย ฉันกินจนลืมตาอาร์ทไปเลย แหะ ๆ เอาไว้วันพรุ่งนี้จะไปเยี่ยมละกัน เพราะมันเป็นวันหยุดพอดีน่ะสิ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
พอกลับถึงบ้านตัวเองแล้ว ฉันก็รีบปั่นจักรยานไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อโทรหาตาอาร์ทนี่แหละ แล้วช่วงนั้นมันก็เริ่มมืดแล้วด้วยสิ เฮ้อ เมื่อไหร่น้าที่โทรศัพท์จะเข้าถึงบ้านฉันซะที  ยิ่งโดนพวกนั้นด่าว่าบ้านนอกอยู่เรื่อย  :m17:

   เสียงสัญญาณโทรศัพท์ทางนู้นดังอยู่สักพักก็มีคนมารับสาย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก

“อะ ฮัลโหล สวัสดีฮะ”

ฉันทักทายออกไปก่อน คาดว่าคงจะเป็นแม่อาร์ทมารับ

“สวัสดีค่ะ ต้องการพูดกับใครคะ”

“(ใช่จริง ๆ ด้วย) เอ่อ ขอสายอาร์ทหน่อยจ้ะแม่ จืดเองนะฮะแม่”

“อ้อ หนูจืดเหรอ อาร์ทอยู่บนห้องน่ะ เด๋วแม่เอาไปให้นะ รอแป๊บนึง”

อิอิ แม่อาร์ทจำฉันได้ด้วยแหละ (แหงล่ะ ไปตั้งกี่ครั้งล่ะ)

   ฉันได้ยินเสียงแม่ของอาร์ทเดินขึ้นบันไดไปบนบ้าน แล้วสักครู่นึงโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนคนรับสายแทน

“ฮัลโหล จืดเหรอ”

“อือ ฉันเองแหละ เป็นไงมั่งอาร์ท หายดีรึยัง”

“ยังเลยอ่ะ แค่ก ๆ”

เสียงอาร์ทยังดูเพลีย ๆ อยู่เลย สงสัยจะยังไม่หายจริง ๆ

“แล้วนี่แก กินยารึยัง”

“กินแล้วล่ะ จืด...”

“อะไรเหรอ” :m13:

“พรุ่งนี้ มาหาเราได้มั้ย”

ก็คิดไว้แล้วเหมือนกันแหละ ตอนฉันไม่สบายอาร์ทก็ยังมาเยี่ยมอยู่เลย แล้วทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ :o8:

“อืม ไปสิ แต่ว่า... พอไปถึงบ้านแกแล้ว ฉันจะเข้าไปยังไงล่ะ”

“ไม่เป็นไร เด๋วเราออกไปรับเอง”

“อ้าว ไหนบอกว่ายังไม่หายไงล่ะ”

“ก็... ก็ยังไม่หายสนิทน่ะ แต่พอลุกเดินไปไหนมาไหนได้เท่านั้นเอง”

เอ ชักจะยังไงอยู่นะตานี่ แต่เอาเถอะ ยังดีกว่าต้องเดินเข้าไปตั้งสองกิโลล่ะว้า

“โอเค ตกลงตามนั้นละกัน พรุ่งนี้เจอกันนะ”

“มาแต่เช้าเลยนะ เราคิดถึง”

หยึย หยอดคำหวานเรอะ นึกว่าจืดจะใจอ่อนรึไง :m19:

“จ้า จะรีบไปตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลยแหละ แค่นี้นะ บาย”

“บายครับ”

ฉันวางหูลงไปแล้ว ในใจของตัวเองยามนี้อยากแต่จะไปดูแลอาร์ท เป็นห่วงจริง ๆ นะเนี่ย แต่ว่าตอนนี้ห่วงตัวเองก่อนดีกว่ามั้ย นี่มันหน้าวัดนะ แถมยังมืดอีกตะหาก บรื๋ออออ ผีจะหลอกตูมั้ยเนี่ย o21 รีบเผ่นดีกว่าเรา....

+++++++++++++++++++++++++

christiyaturnm

  • บุคคลทั่วไป
เท่าๆที่อ่านมา
บางครั้งเราก็รู้สึกว่าวุฒิภาวะทางการตัดสินใจของจืดไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไรนัก
โตแต่ตัวว่างั้น
หลายครั้งที่เรามองว่าทำไปโยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล แล้วมานั่งเสียใจทีหลัง
ความคิดเด็กมาก
เราไม่ได้ว่านะ
แต่เราอยากให้จืดมีความหวังกะชีวิตมากกว่าตอกย้ำว่าตนเองเป็นแบบนี้ใครจะมาจริงจัง

อวยพรให้วันนึงจืดได้พบกับคนที่ใช่จริงๆซะทีนะคะ

อาการเห็นผู้ชายแล้วคันน่ะ เพลาๆหน่อย อายุเยอะแล้วเดี๋ยวเด็กมันจะว่าเอาได้

อิอิ :m12:

subaru

  • บุคคลทั่วไป
 :a3เข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณจืดคะ ลุ้นกะหนุ่มเถื่อน

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
 o8 จะพยายามนะ โดยเฉพาะเรื่องเหล่เด็ก ๆ เนี่ย แต่จริงๆ แล้วตัวจืดเองตอนนี้ก็เข้าใจนะว่าเราแก่แล้ว

แต่แปลก อย่างที่ตัวเองบอกวุฒิภาวะทางใจกลับไม่ยอมพัฒนาตามไปด้วย บางทีเราก็เหนื่อยนะ

ยิ่งช่วงนี้รู้สึกว่าอะไร ๆ ก็หดหู่ไปหมด หรือว่าเป็นเพราะสภาพอากาศกันนะ

ไม่รู้สิ จืดก็อยากจะให้เรื่องราวต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ ผ่านไปเร็ว ๆ เหมือนกัน

เผื่ออะไรมันจะดีขึ้นบ้าง  :m5:

++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันรุ่งขึ้นฉันรีบตื่นแต่เช้า ก็ราว ๆ เจ็ดโมงเช้านั่นแหละ เพราะปกติตัวเองจะรีบตื่นมาดูการ์ตูนน่ะสิ (ปัญญาอ่อนจริง ๆ) แต่วันนี้ปล่าวนะ เพราะวันนี้ฉันมีนัดตะหาก ไม่งั้นก็ยังไม่ตื่นหร๊อก

“จะไปไหนแต่เช้าน่ะ”

แม่ฉันถาม แกตื่นก่อนฉันซะอีก

“อ๋อ จะไปเยี่ยมเพื่อนหนูน่ะแม่ อาร์ทไง”

“แล้วจะกลับกี่โมงล่ะเรา”

“ก็คงกลับตอนบ่าย ๆ จ้ะแม่ เช้านี้มีอะไรกินบ้างเนี่ย”

ฉันเดินไปเปิดตู้กับข้าวดู ก็เห็นมีไข่เจียวกับต้มจืดวุ้นเส้นอยู่

“กินข้าวก่อนซะนะแล้วค่อยไป”

“จ้าแม่”

ฉันยกกับข้าวออกมาวงาบนโต๊ะแล้วก็เดินไปตักข้าวใส่จานมานั่งทานจนอิ่ม ก่อนที่จะขอร้องแม่ให้ไปส่งที่ศาลารอรถประจำทาง

“แล้วรีบกลับล่ะ อย่ามัวแต่เถลไถล ถ้าไม่กลับก็โทรมาบอกด้วยนะ”

“จ้ะ จ้ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

แม่ขับรถกลับบ้านไปแล้ว ส่วนฉันก็นั่งรอรถประจำทางต่อไป ประมาณ 5 นาที รถก็มา พอขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว ฉันก็คิดเรื่องที่จะไปฉลองวันเกิดตัวเองว่า จะไปที่ไหนดีนะ แต่งานนี้ฉันก็แอบคิดเหมือนกันนะว่าอยากไปกับตาอาร์ทแค่สองคนน่ะ (แต่สงสัยคงจะยากอ่ะนะ)

   หลังจากนั่งรถมาตั้งนานก็มาถึงปากทางเข้าบ้านอาร์ทจนได้ อ้อ ฉันน่ะโทรไปหาตั้งแต่ตอนที่ต่อรถมาบ้านของมันแล้วล่ะ เราก็กะเวลากันไว้พอดี พอไปถึงก็เห็นตาอาร์ทมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ฉันลงจากรถแล้วเดินไปเข้าไปหา

“รอนานมั้ยอ้ะ”

ฉันทักออกไปก่อน ใบหน้าของอาร์ทดูโทรมเชียว แสดงว่าเป็นหนัก

“ไม่นานหรอก แป๊บเดียวเอง”

เสียงก็แหบด้วย โถ น่าสงสารจัง

“ขับรถไหวแน่นะ”

“ไหวสิ ไม่งั้นเราคงขับออกมาไม่ถึงที่นี่หรอก”

ฉันก็ยิ้มแหย ๆ พลาดท่าจนได้สิเรา

“จ้ะ ๆ ไหวก็ไหว งั้นเรีบเข้าบ้านเถอะ เด๋วแกจะเป็นหนักกว่าเดิม”

“ขึ้นรถสิ กอดเอวเราไว้แน่น ๆ นะ เด๋วตก”

ฉันยิ้มขำ ๆ ก่อนที่จะตอบไปว่า

“ไม่กอดหรอก เด๋วติดเชื้อไข้มา จะทำไงล่ะ”

“ติดเชื้อไข้หรือติดใจเรากันแน่”

เวรกรรม ดูมันพูด แล้วฉันจะกล้ากอดมั้ยเนี่ย สรุปว่าฉันเลยไม่กล้านั่งใกล้มันเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านต่อคับ

รออ่านทุกตอนเรยคับบบ

อิอิ :m1:

subaru

  • บุคคลทั่วไป
 :m28:คุณจืดหายไปไหนเอ่ย รออยู่ รอ ร๊อ รอ  :a13: :a13: :a13: :a13:ขอให้มีความสุขนะคะ ขอให้เจอหนุ่มหล่อในฝัน

three

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่นะครับพี่จืด :amen:

subaru

  • บุคคลทั่วไป
 :m22:เข้ามาแอบดูคุณจืด หายไปไหนเอ่ย คิดถึงเด้อ :m21:

subaru

  • บุคคลทั่วไป
 :m22:ยังไม่มาอีกเหรอ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด