ใกล้จะถึงฉากที่สำคัญมาก ๆ แล้ว ไม่ค่อยอยากจะเขียนเลย กลัวตาแดง
แง่ว
ที่ทุกคนเคยถามว่ามันจะจบแบบแฮบปี้มั้ย ตอนนี้คงพอเดาออกกันแล้วล่ะมั้ง แต่ว่า.... มันก็ไม่แน่นะ
ตอนที่ 82 ฉันเล่นไปได้เกมส์สองเกมส์ก็เลิกเล่น แบบว่าถูกคนจ้องมองตลอด ต่อให้หน้าหนาขนาดไหนก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน ฉันเลยมาเป็นฝ่ายนั่งดูแทนดีกว่า งานนี้ฉันคงจะคิดไปเองก็ได้มั้ง นายเต๋าอาจจะมองคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันก็ได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะ....
“ทำไมเลิกเล่นเร็วจังล่ะ กำลังสนุกเลยนะ” นายเต๋าเดินมานั่งข้าง ๆ ฉันเหมือนเดิม แล้วก็คุยกับฉันโดยที่สายตายังมองไปที่สนามแข่ง (จำลอง) อยู่
“อ้อ พอดีฉันปวดแขนน่ะ เลยเล่นไม่ไหว” ฉันตอฯใส่มัน
“หืม ไหน ปวดตรงไหนเหรอ” มันก็มองมาที่แขนฉันใหญ่เลย กรรม ฉันโกหกนะเนี่ย
“ช่างเถอะ เด๋วก็หาย”
“ไปทายาก่อนเถอะ เด๋วฉันเอามาให้” ยังไม่ทันจะพูดอะไร มันก็วิ่งไปที่รถแล้วก็วิ่งกลับมาพร้อมกับยาทาแก้ปวด (ที่มันเย็น ๆ อ้ะ)
“ฉันไม่ได้ปวดมากขนาดนั้นหรอกน่า ไปเอามาทำไมน้า”
“เอาน่า ปวดตรงไหน ฉันทาให้” หา ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง
“ขอบใจนะ แต่ฉันทาเองดีกว่า” ว่าแล้วก็เอายาทามาจากมือของมัน ก่อนที่จะทาลงบนข้อศอกทางด้านขวามือ
“ช่วงบ่ายขอพี่เค้าพักก็ได้นะ ไม่ต้องลงไปหรอก” ฮึ ทำเหมือนเป็นห่วงฉันงั้นแหละ ไปห่วงแฟนแกเถอะนะ
“เด๋วก็หาย สบายมาก ฉันไม่อยากเอาเปรียบเพื่อนหรอก”
“ดื้อจริง ๆ เลยนะ” เหอ ๆ มาว่าฉันอีกนะ
“ก็ดื้อมาตั้งนานแล้วนี่หว่า” ฉันนั่งบ่นงึมงัม ๆ สักพักพี่ ๆ ก็เรียกให้ไปรวมตัวกัน
ฉันไม่ได้อู้นะคราวนี้ ถึงนายเต๋าจะรายงานพวกพี่ ๆ ไปแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ยืนยันที่จะลง เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย มีแต่มันน่ะแหละที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน ไม่รู้ว่าคิดยังไงกับฉันกันแน่ แต่ตอนนี้ฉันขอปฏิบัติภาระกิจให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนละกัน
/////////////////////////////
เย็นวันนั้นฉันเพลียมากก็เลยไม่ได้ไปตามที่นายเต๋าชวน พอกลับถึงบ้าน กินข้าวเย็นแล้วก็กินยาแก้ไข้ต่อ เพราะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวชอบกล จากนั้นก็นั่งเล่นไพ่แป๊บนึงก่อนที่จะเข้าห้องนอนไปสักประมาณช่วงสองทุ่ม
หลับยาวจนถึงเช้าวันต่อมาเลยทีเดียว และทุก ๆ วันต่อมา เรื่องระหว่างฉันกับนายเต๋าก็ยังไม่มีใครสงสัยหรือสนใจแต่อย่างใด ทุกคนยังคิดว่าเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนเดิม จนกระทั่งก่อนวันสุดท้ายของการฝึกงานจะมาถึง ก้มีการจัดเลี้ยงอำลากันที่ร้านคาราโอเกะในตัวเมืองกัน
อ้อ ระหว่างที่เข้าในเมืองซึ่งนาน ๆ ทีถึงจะได้ไป ฉันก็จะโทรหาเบสตลอด แต่อนิจจา โทรไปก็ไม่มีคนรับสายเลย บางทีก็เหมือนปิดเครื่อง ตอนนั้นฉันกระวนกระวายใจนะ ว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นรึปล่าว แต่อีกใจก็บอกว่า เบสคงไม่ได้อยู่ใกล้โทรศัพท์ก็ได้มั้ง หรือไม่ก็มีสัญญาณ
ฉันรู้ว่า ฉันกำลังปลอบใจตัวเองอยู่ ฉันไม่กล้าคิดเรื่องอื่นที่มันนอกเหนือจากนี้หรอก ฉันกลัว กลัวว่าตัวเองจะรับไม่ได้ ใช่แล้ว.... ถ้าเรื่องที่มันเกิดขึ้นกับฉันไปเกิดขึ้นกับเบสบ้างล่ะ มันจะเป็นยังไง ถ้ามันเกิดขึ้นจริง แต่เบสไม่ได้จริงจังอะไรก็แล้วไป แล้วถ้า..... เขารักกันล่ะ
/////////////////////////////
เย็นของวันที่พวกพี่ ๆ จะพาพวกเราไปเลี้ยงฉลองกันนั้น พวกฉันรู้สึกโล่งใจสุด ๆ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็งานสำรวจน่ะ สำเร็จเสร็จสิ้นไปด้วยดีแล้วน่ะสิ เหลือก็แค่กลับไปทำรายงานส่งมาให้พี่เค้าก็เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้คงต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวร้องเพลงกันก่อนแล้วล่ะ
พอไปถึงร้านคาราโอเกะแล้ว (จำชื่อไม่ได้นะ) ก็ตรงไปยังห้องที่จองเอาไว้แล้ว งานนี้ยกกันไปเกือบหมดกรมป่าไม้ทีเดียว เหอ ๆ ปาเข้าไปก็สิบกว่าคนได้มั้ง งานนี้ใครจะเป็นครองไมค์ก็ไม่รู้สินะ รู้แต่ว่าถ้านังเฉาก้วยมาด้วยล่ะก็ ทุกคนอดร้องเพลงแน่ ๆ อิอิ
ฉันนั่งจับจองที่ริมประตู แบบว่าพอปวดฉี่จะได้ออกไปเข้าห้องน้ำได้ง่าย ๆ หน่อย พวกพี่ ๆ ก็สั่งอาหาร เบียร์ เหล้ามาเพียบ กะว่าไม่เมาไม่เลิกว่างั้น งานนี้ฉันก็สู้ตายสิ ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งคอแข็ง (เหรอ เห็นพับไปยังไม่ถึงห้าแก้วเลย)
นายต๊อกเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาก ๆ แล้วขอบอกเลยว่า มันเสียงดีจริง ๆ นะ อ้อ มีอีกนะ นายต๊อกน่ะ เป็นน้องของตูนวงบอดี้แสลมด้วยเน้อ ถึงว่าเสียงดีมาก ๆ เสร็จจากมันแล้วก็มีคนต่อคิวร้องเพียบ แต่ฉันไม่เอาด้วยหรอก อายเสียงตัวเองอ่ะ มันไม่เพราะเท่าไหร่ หุหุ
หน้าที่ของฉันน่ะเหรอ ก็เป็นคนชงเหล้าน่ะสิ เหมาะที่สุดแล้วล่ะ ชงไปดริ้งไป หน้ามืดเป็นพัก ๆ อิอิ แต่ก็ยังสู้ตาย 5555 หลังจากที่เวลาผ่านไปได้สักสามชั่วโมง เร็วจริง ๆ นะ แบบว่าร้องเพลงตลอดจนลืมเวลาเลยไง
นายเต๋าก็คอแข็งได้ใจ แต่สุดท้ายก็ต้องน็อคเพราะฝีมือนังจืด ฮี่ ๆ หลับไปแล้วล่ะ ส่วนฉันก็แค่เบลอ ๆ เอง เหอ ๆ ยังไม่เมา (เหรอ) พวกพี่ ๆ บางคนก็กลับบ้านไปก่อนแล้ว เพราลูกเมียยังนอนหนาวรออยู่ที่บ้านกันนิ จนแทบจะไม่เหลือใครแล้ว มีคนขับแล้วก็พี่อีกสองคนเอง นอกนั้นก็เด็กฝึกงานทั้งน้าน
ระหว่างที่สาว ๆ ออกไปร้องเพลงกัน ฉันก็แอบชะแวบไปนั่งข้าง ๆ นายเต๋า ตอนหลับนี่ก็ดูน่ารักดีนะ หน้าออกตี๋ ๆ (เป็นคนอิสานนะนั่น) แต่ไหงเหมือนเด็กกรุงเทพฯจัง ไม่มีเค้าของถิ่นกำเนิดเลย ฉันเริ่มเอนหลังบ้าง แล้วฉันก็นอนมองมันตอนหลับ ก็แค่นั้นเอง จนพวกเพื่อน ๆ เริ่มแซวนั่นแหละ เป็นเรื่องเลยฉัน
“แน่ะ ๆ สองคนนั้นแอบสวีทกันอีกแล้วนะ” ยัยจ๋าดันประกาศออกไมค์มาได้ไง ฉันอายนะเว้ย
“บ้าหรอ ไม่ใช่ซะหน่อยแก” ฉันโวยวายใหญ่
“ไม่ใช่อะไรกัน เห็นมองตาเยิ้มขนาดนั้นอ้ะ” ชียังแซวไม่เลิก
“ไม่ช่ายน้า” ฉันเอามือปิดหน้าตัวเอง ประทานโทษค่ะ ตอนนั้นเมาจนหน้าแดงหรืออายก็ไม่รู้
“แน่ อายจนหน้าแดงใหญ่แล้ว แอบชอบไอ้ป๋าล่ะสิ” อ้าก ไอ้โป้ง พูดบ้าไรเนี่ย
“สงสัยจะชอบจริง ๆ ว่ะ” เวรกรรม ไอ้เพื่อนบ้า ฝากไว้ก่อนเหอะ
ฉันรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องก่อนที่จะโดนล้อไปมากกว่านี้ โชคดีที่นายเต๋าหลับไปซะก่อน ไม่งั้นมีหวังได้อายเป็นสองเท่า ทั้งมันและฉัน
ฉันยืนสูดหายใจเข้าลึก ๆ อยู่ที่หน้าห้องน้ำนั่นแหละ ในหัวของฉันมันก็เหมือนกับจะหมุนไปมาไม่หยุด ฉันไม่ได้ปวดฉี่แต่อย่างใด พอทำใจได้แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องต่อ แล้วฉันก็ต้องตกใจ เพราะว่า.... นายเต๋ากำลังนั่งมองออกมาที่ประตูพอดี
++++++++++++++++++++++++++++++++++++