[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 526344 ครั้ง)

lovehyukjae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #330 เมื่อ21-10-2010 00:04:07 »

มารายงานตัวเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ค่ะ
หุหุ ชอบแนวย้อนยุคแบบนี้มากค่ะ
ตอนนี้หวานก็ไม่เป็นหรอก
หวานกำลังดี ซดคล่องคออยู่ อิอิ
รีบมาต่อเร็วนะค่ะ


พีเอสสึ.มีเกร็ดมาฝาก คือคำว่าโรแมนติกในภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เขียนแบบภาษาอังกฤษนะค่ะแต่จะเขียนแบบนี้
Romantique และวิธีอ่านก็จะไม่เหมือนกับภาษาอังกฤษด้วย อย่างคำนี้จะอ่านว่า
Romantique โค-มอง-ติ-เก้อะ
เพราะตัว R ในภาษา ฝรั่งเศส อ่านออกเสียงด้วย "ค.ควาย" ไม่ใช่ "ร.เรือ"ค่ะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2010 00:05:40 โดย lovehyukjae »

oattie

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #331 เมื่อ21-10-2010 06:50:58 »

ในที่สุกก็ตามทันแล้วค่ะ
หวานมาก
รออ่านตอนต่อไปค่ะ 

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #332 เมื่อ21-10-2010 07:05:12 »

เข้ามารอ อีก อิอิ อยากอ่านมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #333 เมื่อ21-10-2010 12:06:27 »

ชอบเรื่องนี้จังเลย อ่านรวดเดียวเลย 10 ตอน

ชอบมาก โดยเฉพาะตอนย้อนอดีต มันดูละมุนละไม มีเสน่ห์แบบไทยๆ ดีจัง  :impress2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #334 เมื่อ21-10-2010 16:48:44 »

แวะมาคิดถึงเส็ง

อยากอ่านต่อแล้ว ^^

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #335 เมื่อ21-10-2010 19:30:45 »

คิดถึงเส็งอีกแล้ว

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #336 เมื่อ21-10-2010 21:47:11 »

แค่นี้ก็ว๊านหวานนนน ตอนหน้ายังหวานกว่านี้อีก อู๊ยยยย :-[
คุณหลวงเอ็นดูเส็งมากๆนะเจ้าคะ อิอิ
รออ่านตอนต่อไปค่าาา :กอด1:

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 10 !!! 19.45 - 17/10/10
«ตอบ #337 เมื่อ21-10-2010 22:22:39 »

มีเรื่องต้องขออภัยอย่างแรงกล้าครับ
ระยะเวลาที่คุณหลวงจะแต่งกับหยาด*ตอนนั้นคือ "สิ้นปี" นะครับ ไม่ใช่ "สิ้นเดือนนนน" ผมพิมผิด+เข้าใจผิดไปเองเลยครับ ขอโทษด้วยยยยยนะคร้าบบให้อภัยผมเถอะ
ตอนแรกว่าจะเออออ ยอมให้เป็นสิ้นเดือนไป แต่ก็มีผลต่อพล็อตตอนหลัง ฉะนั้นเปลี่ยนเป็น "สิ้นปี = ประมาณ 3-4 เดือนนะครับ"

ไปต่อกันนะครับ

********************************************************************************************************
    “เส็ง อยู่ใกล้ๆเราก่อนได้ไหม” น้ำเสียงของหลวงพินิจแผ่วเบา เหนื่อยอ่อนอย่างคนมีเรื่องในใจ หากแต่เขาไม่อาจบอกใครได้ เพื่อนฝูงหรือก็ไปหาไม่ได้แล้วในเวลาค่ำขนาดนี้ เทิดก็กลับไปแล้ว มีเพียงเส็งเท่านั้นที่พอจะเป็นที่พึ่งทางใจของคุณหลวงหนุ่มได้
    น้ำเสียงและสายตา ทำให้เส็งเลื่อนตัวกลับมายังที่เดิม หลังพิงตั่งไม้ไว้เหมือนคุณหลวง ต้นแขนอิงกันอยู่อย่างโหยหาความอบอุ่น
    “เราไม่รู้จะพูดกับใคร พูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจ”
    เส็งไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดปลอบโยนอะไรหรือเปล่า จึงได้แต่นั่งนิ่ง มองหน้าคุณหลวงหนุ่มอย่างให้กำลังใจ แต่ไม่ได้กลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดเท่านั้น
     คุณหลวงเองก็นั่งมองหน้าเส็งอยู่นานจนเส็งกลัวว่าหลวงพินิจจะร้องไห้โฮออกมาให้เขาเห็นหรือไม่ แต่หลังจากมองหน้ากันในความเงียบเป็นเวลานาน หลวงพินิจก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
    “เส็ง เราขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”
    “ได้ขอรับ” เส็งตอบอย่างไม่หยุดคิดแม้แต่น้อย “หากเป็นความต้องการของคุณหลวง บ่าวทำได้ทุกอย่างขอรับ”
    “ขอบใจมากนะ เราขอให้เส็งช่วยอยู่เป็นเพื่อนเราได้ไหม”
    เส็งสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถาม
    “ขอรับ”
    “ขอบใจเอ็งมากนะ” หลวงพินิจบีบมือเส็งเบาๆ ทำเอาใจของบ่าวเต้นไม่เป็นจังหวะ หลวงพินิจลุกยืน เส็งจึงลุกตาม “อาบน้ำเสียที่นี่เถอะ เปลี่ยนผ้าของเราไปก่อน เอ้อ แล้วไม่ต้องบอกว่ามิบังอาจอีกนะ ถือว่าเป็นคำขอร้องของเรา ทำได้ไหม”
    “ขอรับ” เส็งอายจนหน้าแดง เมื่อหลวงพินิจเดินขึ้นบ้านไปชั้นสอง บ่าวหนุ่มก็ตามไป เข้าไปถึงในห้องนอนเหมือนที่เคยเข้ามาแล้วบ่อยๆ หากครั้งนี้ คุณหลวงหนุ่มเปิดประตูห้องน้ำให้บ่าวหนุ่มเข้าไปอาบ
    “หมุนตรงนี้ น้ำจะไหลมาตามท่อ เปลี่ยนผ้าของเราวางไว้ตรงนี้นะ ตามสบาย เรามีเรื่องอยากจะระบายเสียหน่อยหวังว่าเส็งจะไม่ขัดข้อง”
    “คุณหลวงขอรับ”
    “ว่าอย่างไร”
    เส็งอายเกินกว่าจะพูดออกมาตรงๆแต่ก็รวบรวมแรงใจ ก้มหน้าน้อยๆ พูดด้วยเสียงอายๆว่า “บ่าวไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่หากบ่าวจะช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของคุณหลวงมาได้ บ่าวก็เต็มใจขอรับ”
    หากหลวงพินิจทำได้ จะดึงตัวบ่าวหนุ่มน้อยมากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วซุกจมูกเข้าหอมแก้มเนียนนุ่ม กอดตระคองไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย อยากจะพูดขอบใจเส็งเป็นร้อยครั้ง ที่บรรเทาความหนักใจของเขาไปได้บ้างคุณหลวงหนุ่มได้แต่คิด ไม่อาจทำอย่างที่ใจคิดได้ ฐานะของเขาและเส็งต่างกันราวฟ้ากับดิน อีกทั้งยังเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ หลวงพินิจไม่อาจทำอย่างใจได้ อย่างดีที่สุด คือตักตวงความสุขเล็กๆน้อยๆนี้จากเส็งไปวันๆเท่านั้น จะให้บอกรักกันย่อมทำไม่ได้ ให้เป็นคู่รักอย่างเปิดเผยก็ย่อมไม่ได้อีกเช่นกันหลวงพินิจหนักใจ แม้ต้องการกำลังใจจากบ่าวหนุ่มแค่ไหน ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้
    อีกเพียงหนึ่งสี่เดือนเท่านั้นเขาจะต้องแต่งงานกับหยาด และจะไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับบ่าวหนุ่มอย่างนี้อีกแม้จะยังอยู่ในบ้านเดียวกันก็ตาม
    คงไม่ได้นั่งคุยกันในห้องนอนนานๆ คงไม่ได้ฟังเสียงอ่านหนังสือ หรือขับเสภาให้ฟังอีก อาหารการกินก็คงไม่ได้กินฝีมือเส็ง หากแม่หยาดได้เป็น “ภรรยา” ของเขาแล้ว หน้าที่ทั้งหมดนี้ย่อมตกเป็นของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว
    คุณหลวงหนุ่มส่งยิ้มให้เส็ง ก่อนจะบีบแขนบ่าวหนุ่มเบาๆ พร้อมพูดขอบใจเท่านั้น คุณหลวงก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ปล่อยให้เส็งอาบน้ำไป

    “หิวหรือเปล่า” หลวงพินิจถามเมื่อทั้งเส็งและตนอาบน้ำเสร็จแล้ว
    “บ่าวยังไม่ได้กินข้าวเย็นขอรับ”
    “จริงด้วย เราลืมไปเลยขอโทษนะเส็ง เดี๋ยวลงไปดูข้างล่างว่าพอมีอะไรให้กินหรือเปล่า ค่ำแล้วที่เรือนบ่าวคงไม่มีอะไรเหลือแล้วกระมัง” คุณหลวงว่าแล้วก็ออกจากห้องลงไปในห้องครัวแบบฝรั่งของตน กลับมาอีกครั้งพร้อม อาหารรูปร่างแปลกๆ คล้ายขนมปังหากแต่เป็นรูปรี เหมือนไข่ ใส่จานเล็กๆมาสามสี่ชิ้น และนมสดอีกแก้วโต
    คุณหลวงหนุ่มเคยให้เส็งดื่มนมโค ก็พบว่าบ่าวหนุ่มชอบเหลือเกิน ไม่บ่นว่าเหม็นเหมือนใครคนอื่น
    “ขนมฝรั่งกุฎีจีน  เมื่อกลางวันไปทำธุระแถวบางรัก ซื้อมากินบนเรือ เหลือมาไม่กี่ชิ้นก็เลยเก็บไว้เผื่อหิวดึกๆ หวังว่าจะกินได้นะเส็ง” หลวงพินิจวางอาหารไว้ที่โต๊ะหัวเตียง
    แล้วจึงขึ้นเตียงนอนเปลือยอก นอนอบนเตียงใหญ่นั้น บ่าวหนุ่มนั่งพับเพียบอยู่ริมหัวนอน ใบหน้าห่างกันเพียงไม่กี่คืบ แต่ใกล้กว่านั้นไม่ได้แล้ว ดื่มนมโคด้วยความกระหาย ก่อนจะชิมขนมฝรั่งที่ว่า
    “อร่อยขอรับ”
    “ดีแล้ว” หลวงพินิจหัวเราะ “ให้กินอะไรก็อร่อยไปหมด ไม่เคยเห็นบ่นว่าอะไรไม่อร่อยสักทีนะเส็ง”
    “บ่าวกินง่ายขอรับ อะไรก็อร่อยทั้งนั้น ตอนอยู่วัดหลวงตามีอะไรก้นบาตรก็ต้องกินอย่างนั้น เลือกมากก็อดตายขอรับ”
    หลวงพินิจ นั่งมองหน้าหนุ่มน้อยในแสงสลัวของโคมไฟ หากเส็งเป็นสตรี หลวงพินิจจะแต่งเป็นเมียแล้วเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีทีเดียว อาหารการกินอะไรว่าอร่อยจะหามาเลี้ยงให้สบาย จะพาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาให้สมกับความเป็นคนดี แต่ด้อยโอกาสอย่างเส็ง แต่เส็งเป็นชาย หลวงพินิจจึงทำอย่างนั้นไม่ได้ อย่างมากเท่าที่ทำให้ เส็งก็สบายกว่าบ่าวคนอื่นๆอยู่มากแล้ว
    “เราหนักอกเหลือเกินเส็ง” คุณหลวงรำพัน
    “คุณหลวงกรุณาเล่าให้บ่าวฟังเถิดขอรับ อย่างน้อยให้บ่าวได้แบ่งเบาความทุกข์ของคุณหลวง สมกับที่คุณหลวงเมตตาบ่าวมาตลอดด้วยเถิดขอรับ”
    หลวงพินิจ ถอนใจก่อนจะตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ในห้องอาหารหลังจากที่หนุ่มน้อยออกจากห้องมารอที่ห้องหนังสือให้เส็งฟัง บ่าวหนุ่มน้อยก็นั่งกินไปฟังไปอย่างเห็นใจ
     “เราไม่ได้รักแม่หยาดเลยแม้แต่น้อย” หลวงพินิจเปรยด้วยความอัดอั้นตันใจ “เจ้าคุณพ่อ กับคุณหญิงแม่เห็นดีเห็นงามให้เราแต่งงานกับคุณหยาดเพราะเจ้าคุณพ่อสนิทกันกับเจ้าคุณไพศาล อีกอย่างเรากับหยาดรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งเป็นข้ออ้างของคุณไพศาลที่อยากให้ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาไปเสีย จึงหมั้นเรากับแม่หยาดไว้”
    หลวงพินิจไม่ได้มองหน้าเส็งหากแต่จ้องมองเพดานห้องนอนราวกับว่ามันน่าสนใจเสียเหลือเกิน
    “สิ้นปีเราต้องเข้าพิธีแต่งงานแล้ว อีกหน่อยแม่หยาดคงมาอยู่ที่นี่” หลวงพินิจกลืนคำว่า อีกหน่อยคงไม่ได้อยู่ใกล้เส็งมากถึงเพียงนี้ ลงคอไปได้ทันก่อนได้พูดออกมา
    “ถึงคุณหลวงไม่ได้รักคุณหยาด บ่าวก็ไม่เห็นเป็นเรื่องไม่ดีตรงไหนนี่ขอรับถ้าคุณหลวงจะแต่งงานกับเขา นอกเสียจาก...” เส็งก้มหน้านิ่ง เกือบจะไม่กล้าพูดประโยคต่อไปนั้นออกมา “...นอกเสียจากคุณหลวงจะรักใครอยู่แล้ว”
    หลวงพินิจหันหน้ามามองบ่าวหนุ่มคล้ายจะให้ดวงตามองถึงความในใจ เสียงเงียบบางครั้งก็เป็นเสียงที่ไพเราะที่สุด หากความเงียบนั้นเกิดขึ้นจากความอุ่นใจของผู้สื่อและผู้รับ เนื่องด้วยสิ่งนั้นไม่อาจกลั่นออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว หลวงพินิจก็เอ่ยขึ้นเบาๆ
    “ก็คงเป็นอย่างนั้น”
    เส็งอยากจะเงียบ แต่บังเอิญปากกับใจทำงานไปก่อนสมอง บ่าวหนุ่มจึงโพล่งขึ้นมาว่า
    “ใครหรือขอรับ”
    หลวงพินิจราชอักษร ขวยเขินเกินกว่าจะมองหน้าบ่าวหนุ่มได้ เขาพลิกตัวหันหลังให้เส็งก่อนจะกล่าวเบาๆว่า “ข้าคิดว่าคนที่ข้ารักคงพอรู้ตัวอยู่บ้าง หากแต่เขาคงไม่มั่นใจ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ถาม”
    เงียบอีกครั้ง หากแต่ยาวกว่าครั้งแรก
    ที่ต่างฝ่ายต่างเงียบ เพราะต่างก็มีเรื่องอยู่ในใจ คุณหลวงกลัว กลัวว่าหากเส็งไม่คิดแบบตน จะพาลกลัวเสีย คิดว่าเขาเป็นพวกวิปริตหรือคิดล่วงเกินบ่าวไพร่ให้สนุกใจไปเท่านั้น ไม่ได้จริงจังกับเขาอย่างที่หลวงพินิจเป็น อีกคนหนึ่งกลับคิดเข้าข้างตัวเอง ดีใจเกือบจะถามขึ้นมาว่า “ใช่อ้ายเส็งคนนี้หรือเปล่าขอรับ” แต่ก็ได้แต่คิดเท่านั้นไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะอีกใจก็ยังกลัวอยู่ว่า ความสนิทสนมเอ็นดูที่คุณหลวงมีให้นั้นเป็นเพียงแบบ “ผู้ใหญ่ เอ็นดูเด็ก” เท่านั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยอย่างที่เขาคิด คนที่คุณหลวงพูดถึง อาจไม่ใช่เขาเลยก็ได้ หากวู่วามไปเส็งก็กลัวว่าหลวงพินิจจะเห็นเขาเป็นคนวิปริตผิดเพศ พาลไล่ออกไปจากบ้านเสีย เขาก็จะไม่มีที่อยู่เท่านั้น ซ้ำคงจะเสียใจไปจนตายอีกด้วย
     คนที่ทำลายความเงียบเป็นคนแรก ก็คือคุณหลวงอีกแล้ว เขาพลิกตัวช้าๆมาหาบ่าวหนุ่มก่อนจะถามว่า
    “อร่อยหรือเปล่า ขนมฝรั่งนี่”
    “ขอรับ” เส็งรับคำเบาๆ “คุณหลวงถามไปแล้ว บ่าวก็ตอบแล้วขอรับ”
    หลวงพินิจหัวเราะเบาๆ ดูเหมือนเส็งจะเป็นคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกหลายสิ่ง หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ขนาดนี้
    “จริงซีนะ พอพูดเรื่องแม่หยาดก็ลืมไป” คุณหลวงยกแขนขึ้นตั้ง แล้วเอาหัวหนุนมือไว้มองหน้าบ่าวหนุ่มด้วยความรัก และเอ็นดู “สัปดาห์หน้า เราจะออกหัวเมืองกับเจ้าคุณพ่อ คุณหญิงแม่ แล้วก็บ้านไพศาลเสนีย์ อยากให้เอ็งติดตามไปด้วย แต่เจ้าคุณพ่อไม่ยอม”
    หลวงพินิจนึกถึงตอนอยู่ในห้องอาหาร
    “สัปดาห์หน้า แขกฝรั่งจะเดินทางไปเที่ยวหัวหิน เราจะไปด้วยกันทั้งหมด ลูกจะต้องช่วยพูดภาษาฝรั่ง และดูแลพวกนั้นด้วย ให้เทิดมาบอกแล้ว คงไม่ขัดข้องกระมัง”
    “ไม่ขัดข้องขอรับคุณพ่อ”
    “ดีละ แม่หยาดไปด้วยก็จะได้ถึงว่าเที่ยวด้วยกันป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ต่างฝ่ายจะต่างไปเตรียมตัวสำหรับงานแต่ง”
    “งานแต่งหรือขอรับ” หลวงพินิจแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
    “ใช่” คราวนี้คุณหญิงไพรัชกิจเป็นคนเอ่ยขึ้น “แม่ไปหาฤกษ์ไว้แล้ว ได้สิ้นปีนี้พอดีจ้ะ”
    “แต่” หลวงพินิจรีบหาเรื่องบ่ายเบี่ยง ปัดให้วันแต่งเลื่อนออกไปอีก “เรือนหอล่ะขอรับคุณแม่ ลูกยังไม่ได้ให้สร้าง...”
    “จะต้องไปสร้างทำไม” พระยาไพศาลเสนีย์ว่า “ก็ตกแต่งที่นี่ให้เป็นเรือนหอเสียซี บ้านก็สวย เพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่ปี เราแต่งกันเพราะหวังให้ได้เป็นทองแผ่นเดียวกันทรัพย์ศฤงคาร ต่างก็มีกันอยู่แล้วไม่ได้ต้องการอะไรจากพ่อแสงอยู่แล้ว”
    “แต่ทางเราก็พร้อมให้เงินสินสอดทองหมั้นเต็มที่นะคะ” คุณหญิงว่า “ให้สมศักดิ์ศรีลูกสาวพระยาไพศาลเสนีย์ งานแต่งก็จัดให้ยิ่งใหญ่สมฐานะ เพียงแต่ไม่ปลูกเรือนหอใหม่เท่านั้น เอ เราก็เคยคุยกันแล้วนะลูก เพราะหนูหยาดเคยบอกว่า หนูชอบบ้านทรงฝรั่งแบบนี้ใช่ไหมจ๊ะ”    
    “เจ้าค่ะ บ้านนี้สวยจริงๆเจ้าค่ะ” หยาดก้มหน้าด้วยความเขินอาย จะด้วยเสแสร้งหรืออายจริงคุณหลวงก็ไม่อาจรู้ได้
    “ขอรับ” คุณหลวงก้มหน้ารับคำเงียบๆ “สัปดาห์หน้าเดินทางกันทางเรือหรือ...”
    “ไม่ละ เราไปรถไฟ” เจ้าคุณพ่อของเขาเป็นคนตอบ “แม่หยาดไม่เคยนั่ง คงตื่นเต้นวี้ดว้ายตามประสาผู้หญิง”
    หลวงพินิจไม่สบตาใคร แต่ก็พูดขึ้นว่า
   “คุณพ่อขอรับ ลูกขอให้เส็งติดตามไปด้วยได้หรือไม่ขอรับ”
    “ลูกคนนี้ ได้อย่างไรเล่า ลูกเจ๊กลูกจีน เอาไปรับหน้าแขกต่างชาติ กิริยามารยาทมันก็ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนเราคนสยาม ได้ขายหน้าเขาพอดี” คุณหญิงแม่ของเขาว่า
    “แต่เส็งมันมารยาทดีขอรับ บ่าวไม่เอาไปรับแขกแต่เอาไว้ใช้งานแบ่งเบาภาระขอรับ”
    “อ้ายเทิดก็ไปนี่ลูก จะเอาเส็งไปอีกทำไม” เจ้าคุณพ่อเป็นคนกล่าว “พ่อไม่เห็นความจำเป็นที่จะให้บ่าวคนนี้ไปด้วย ถึงมันจะมีฝีมือ หรือฉลาดแค่ไหน พ่อก็ว่าเทิดมีพร้อมสมบูรณ์กว่ามัน คล่องแคล่วกว่า ใช้งานได้ดีกว่า เอาไปก็เปลืองค่าที่พักเปล่าๆ”
    เป็นอันว่า ถ้าเจ้าคุณพ่อพูดอย่างไร ลูกก็คงต้องทำตามไปอย่างนั้น จะโต้เถียงด้วยไม่ได้เด็ดขาด

    “ไปหลายวันอยู่ คงไม่ได้เจอเส็งนานทีเดียว” หลวงพินิจว่า “อ้อ พรุ่งนี้จะไปทำธุระที่บางรักแต่เช้า งานการอะไรต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเดินทาง ไว้ซื้อกับข้าวฝรั่งเข้ามาแล้วสอนเส็งทำซุปดีไหม”
    “ขอรับ” เส็งตาโตเมื่อได้ยินคำว่ากับข้าวฝรั่ง รู้ถึงไหนได้อิจฉาถึงนั่น หากใครรู้ว่าเส็งทำกับข้าวฝรั่งเป็น “แต่ ซุปนี่มันอะไรหรือขอรับ”
    หลวงพินิจหัวเราะลงลูกคอเบาๆ
   “ซุปก็เหมือนแกงนั่นละเส็ง” นายบ่าว ลุกขึ้นนั่งเบื่อได้ยินเสียงระฆังดังบอกเวลา “สองยามแล้วหรือ เห็นจะต้องนอนละ เส็งนอนบนตึกใหญ่นี่แหละ เช้าค่อยกลับไปเรือนบ่าว เราอนุญาต”
    เส็งทำหน้าตกใจ
    “ไม่ดีกระมังขอรับ บ่าวคนอื่นจะหาว่าอ้ายเส็งหนีหายไปไหน”
    “ก็ใครลองมาหาว่าอะไรเส็งซี เราจะจัดการให้เอง” หลวงพินิจยิ้ม “นอนเสียที่นี่เถอะ ข้างนอกมืดมากแล้ว เดินกลับเรือนบ่าวไป กลัวงูเงี้ยวจะกัดเอา ไม่ได้เอาตะเกียงมาด้วยมิใช่หรือ”
    “ขอรับ”
    “นอนเสียเถอะ ถ้าเกรงใจก็ไปนอนที่ตั่งข้างนอกก็ได้ เราอนุญาต”
    “ขอรับ ขอบพระคุณคุณหลวงมากขอรับ” เส็งกล่าว “ถ้าอย่างนั้นบ่าวไปนอนแล้วนะขอรับ เดี๋ยวคุณหลวงจะตื่นไปแต่เช้าไม่ไหว จะให้บ่าวปลุกไหมขอรับ”
    “ถ้าเส็งตื่นก่อนเราก็ปลุกเถิด ถ้าไม่ตื่นก็ไม่ต้อง” เขาว่า ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ดึงผ้าแพรบางเบามาห่มให้พอสบายเนื้อสบายตัว มองบ่าวหนุ่มเดินออกจากห้องไป
 
    เส็งรักคุณหลวงแล้วหรือนี่ บ่าวหนุ่มพลิกตัวบนตั่งไม้ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่คุณหลวงก็จะรักอ้ายเส็งคนนี้เหมือนกัน หนุ่มน้อย นอนคิดฟุ้งซ่านจนไม่สามารถข่มตาให้นอนได้ เป็นไปไม่ได้เส็ง เขาเป็นนายเราเป็นบ่าว เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว เขาไม่ได้สนใจเราหรอก
    แล้วคำพูดที่มั่นเคยพูดถึงแก้วก็ดังก้องขึ้นในหัวของเขาราวกับเจ้าตัวมากระซิบบอกข้างๆอีกครั้ง “หงส์ทองหรือจะปองห่านดิน” หากคุณหลวงเป็นหงส์ทอง และแก้วเป็นห่านดิน เส็งเล่าจะเป็นอะไร ถ้ามิใช่ลูกเป็ดเดินต็อกแต็กไปมา ไม่ได้น่ามองแม้แต่น้อย
    ลูกเป็ดไม่ได้รู้เลยว่า หงส์ทองนั้นปองลูกเป็ดตัวนี้แต่ผู้เดียว จะเป็นห่านดิน หรือพญาอินทรีตัวใดก็ไม่มีความหมายใดสำหรับเขาเลย ลูกเป็ดไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลางดึกคืนนั้น หงส์ทองผู้สูงส่งเดินออกมาจากห้องแล้วเอาผ้าแพรผืนบางเบาสบายที่เขาให้ห่มทุกวันนั้น คลุมร่างที่นอนขดด้วยความหนาวสั่นของลูกเป็ดน้อยด้วยความรัก และห่วงใยเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ ก่อนจะเป็นฝ่ายกลับไปนอนหนาวสั่นในห้องนอนของตนเสียเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2010 01:09:23 โดย Purple_Sky »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #338 เมื่อ21-10-2010 22:28:48 »

จิ้มไรเตอร์ค่า

อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงง หว้านหวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


จะหวานไปอีกนานไหมหละหนอ  แล้วจะมีจ๊ะทิงจา ของเส็งกับคุณหลวงไหมคะ


5555555+ไม่หื่นเลยเรา

+1เป็นกำลังใจให้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2010 22:40:33 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #339 เมื่อ21-10-2010 22:43:21 »

มองไม่เห็นอนาคตของคู่นี้เลยอ่า ได้กลิ่นไร้ท์เตอร์ต้มมาม่า ฮืออออออออออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
« ตอบ #339 เมื่อ: 21-10-2010 22:43:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #340 เมื่อ21-10-2010 22:50:49 »

โชคดีจังที่วันนี้ได้อย่างอย่างรวดเร็ว อิอิ :z1:
เฮ้อออ ก็หวานกันไปตามอัตภาพ หงษ์ทองกับลูกเป็ด ใช่ว่าจะผสมข้ามพันธุ์ไม่ได้นี่คะ (?)
ความรักหนอ ไม่เลือกจริงๆว่าจะเกิดขึ้นกับใคร โอ๊ยยย ไปแอบต้มมาม่าซดก่อน เศร้าๆๆๆๆ :o12:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #341 เมื่อ22-10-2010 01:22:04 »


๗๓ + ๑ = ๗๔
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #342 เมื่อ22-10-2010 07:42:43 »

ดูท่าแล้วคงจะสมหวังได้ยากนะครับ

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #343 เมื่อ22-10-2010 10:45:44 »

เมื่อไร ถึงจะได้รู้ใจกันล่ะเนี่ย

และท่าทาง จะมีแต่อุปสรรค  :เฮ้อ:

เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะคะ

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #344 เมื่อ22-10-2010 11:20:33 »

 :o8:
อ่านละใจละลาย อยากได้หงส์ทองแบบนี้บ้างจัง  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #345 เมื่อ22-10-2010 12:09:37 »

 :monkeysad: ชีวิตรักที่รันทด

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #346 เมื่อ22-10-2010 16:34:58 »

ความหวานปนความเศร้า  :monkeysad:

รักครั้งนี้ช่างรันทดนัก สงสารเส็งกะคุณหลวงมากเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้ เส็ง คุณหลวง แล้วก็คนแต่งด้วยจ้า  :pig4:

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #347 เมื่อ22-10-2010 21:22:26 »

หวานละมุนละไมจังเลย

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #348 เมื่อ22-10-2010 21:27:23 »

หวานแต่ซ่อนขมมาแล้ว
ความรักที่ไม่สมหวังเหรอ  น่าสงสาร

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #349 เมื่อ23-10-2010 00:02:05 »

มันหวานปนเศร้าอย่างไรชอบกลนะ 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
« ตอบ #349 เมื่อ: 23-10-2010 00:02:05 »





tawan

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #350 เมื่อ23-10-2010 08:13:07 »

น่าสงสารคุณหลวง
น่าสงสารเส็งด้วย  :เฮ้อ
 :call:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #351 เมื่อ24-10-2010 11:41:20 »

มาตามหาเส็ง ไม่รู้ว่าวันนี้จะเจอป่าว

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #352 เมื่อ24-10-2010 14:52:55 »

ชอบนิยายแนวพีเรียดแบบนี้มากๆ เลยค่ะ การใช้ภาษาสวยมาก จะรอตอนต่อไปนะคะ  o13

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #353 เมื่อ24-10-2010 18:26:00 »

คุณหลวงเจ้าขาาาาาาา

หวานจริงๆนะเนี่ย อิอิ :o8:

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #354 เมื่อ24-10-2010 20:12:57 »

สนุกมากๆ ชอบ

แอบขนลุกหลายตอนเลย

ตอนในบ่อน้ำ

ตอนแอบดูห้องน้ำแล้วได้ยินเสียงสะอื้น

เขียนเก่งจริงๆ o13

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
Re: ปางบรรพ์ จบบทที่ 10 !!! 22.20 - 21/10/10
«ตอบ #355 เมื่อ24-10-2010 23:49:09 »

ไปต่อกันเถอะคร้าบบบบ อิอิ
เร็วๆนี้ทั้งคู่จะได้รู้ใจกันแล้ว อยากรู้ว่าคุณหลวงจะบอกรักเส็งอย่างไร ต้องติดตามนะครับ : ]

*********************************************************************************************************

๑๑

    ผ้าแพรสีขาวนวลเลื่อนออกจากใบหน้าของเส็ง แสงสีทองของรุ่งอรุณฉายลงบนดวงหน้าเรียบเนียนนุ่มของบ่าวหนุ่ม ทำเอาหนุ่มน้อยที่นอนหลับอยู่บนตั่งต้องหยีตา แล้วยกมือขึ้นป้องด้วยความที่ยังไม่อยากจะลุกขึ้นจากตั่งที่นอนอยู่นั้น แต่เมื่อแสงยิ่งจ้า และหนุ่มน้อยรู้สึกตัวมากขึ้น เขาก็ต้องลุกนั่งหย่อนเท้า พลางคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วตัวเขาอยู่ที่ไหนกันแน่ ใช้เวลาไม่ได้นานก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมานอนค้างที่บนตึกไม่ได้กลับไปนอนที่เรือนบ่าว จึงรีบลุกจากตั่ง พับผ้าที่ห่มร่างของเขาไว้ทั้งคืน
    แล้วผ้านี้มาจากไหนเล่า
    เส็งปรับสมองให้ตื่นแล้วก็จำได้ว่า ผ้าผืนนี้เป็นผ้าที่คุณหลวงใช้ห่มทุกคืน เหตุใดคืนนี้จึงมาอยู่บนตัวของเขาเล่า... ถ้าไม่ใช่หลวงพินิจเดินมาคลุมให้ ผ้าผืนนี้จะลอยมาเองได้หรือ เลือดสูบฉีดขึ้นหน้าของหนุ่มน้อย จนแดงก่ำไปหมด คำพูดของหลวงพินิจยังคงก้องอยู่ในหู “ข้าคิดว่าคนที่ข้ารักคงพอรู้ตัวอยู่บ้าง หากแต่เขาคงไม่มั่นใจ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ถาม”
    “คุณหลวงพูดประโยคนี้หลังจากเส็งถามว่าคุณหลวงรักใคร เป็นไปได้หรือไม่ขอรับว่า คนที่คุณหลวงพูดถึง จะเป็นอ้ายเส็งคนนี้เอง” หนุ่มน้อยรำพึงออกมาเป็นคำพูด เบาๆ หากแต่เปี่ยมด้วยอารมณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันในเวลาเดียว
    บ่าวหนุ่มสลัดความคิดออกไปจากหัว ก่อนจะพับผ้าไปวางบนเตียงของหลวงพินิจ แล้วรีบเดินลงบันไดไปชั้นล่างทันที
    เพราะเป็นเวลาเช้าแล้ว บ่าวไพร่จึงเดินจัดของตรงนั้นตรงนี้ เก็บกวาดในบริเวณเรือนเทากันอยู่หลายคน พอเส็งเดินลงมาจากตึก หลายคนก็มองด้วยความสนใจใคร่รู้ หลายคนเห็นก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากันเอง พากันซุบซิบอย่างไม่เกรงใจ จนเส็ง ร้อนๆหนาวๆ รีบไปจากตรงนั้น
    เดินตัดสนามหญ้า มามองที่ศาลาก็ไม่เห็นคุณหลวง นึกขึ้นได้ว่า เช้านี้หลวงพินิจราชอักษรจะต้องเดินทางไปทำธุระที่บางรัก อาจจะกลับมาสายๆกระมัง หรือไม่อย่างนั้นก็คงหลังเที่ยงไปแล้ว หนุ่มน้อยเดินขึ้นเรือนบ่าวอย่างไม่รู้จะทำอะไรก็เห็นแก้ว นั่งร้อยมาลัยอยู่ที่นอนชาน
    ทันทีที่เห็นหน้าเส็งหล่อนก็ลุกขึ้นยืน
    “เมื่อวานหลังจากที่ท่านเจ้าคุณ และคุณหญิงกลับไปแล้ว เอ็งไปอยู่ไหนมาหรืออ้ายเจ๊ก” หล่อนตวาดแหว พร้อมกันนั้นเอง ยายนอมก็ตะโกนขึ้นมาจากข้างล่าง
    “มันกลับมาแล้วหรือแก้ว ดีละได้คุยให้รู้เรื่องไป”    
    หญิงร่างใหญ่เดินขึ้นมาลงเรือน ปราดตามองหนุ่มน้อยแล้วก็ค้อนปะหลับปะเหลือก ราวกับหญิงสาวงอนชายหนุ่มอย่างไรอย่างนั้น
    “เมื่อคืนเอ็งหายไปไหนมาทั้งคืน”
    เส็งหลบตายายนอม ไม่รู้จะตอบอย่างไรได้ อันที่จริงหากเขาบริสุทธิ์ใจละก็ บอกเพียงว่าคุณหลวงให้อยู่เป็นเพื่อนบนเรือนเทา เท่านั้นก็คงได้ ใครๆก็คงไม่คิดอะไร แต่เมื่อเส็งรู้สึกพิเศษเกินเลยกับคุณหลวง จึงอดกลัวไม่ได้ว่าหากตอบหน้าตาเฉยอย่างนั้น จะทำให้ใครยิ่งคิดว่า เขารู้สึกอะไรพิเศษกับหลวงพินิจ และจะมีใคร คิดอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของบ่าวและนายคู่นี้ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่
    “ไม่ได้ไปไหนนี่จ๊ะ ฉัน...” เส็งนึกคำแก้ตัวไม่ทัน แก้วก็แทรกขึ้นมาก่อน
    “จะไม่ได้ไปไหน ได้อย่างไร เอ็งไม่ได้ตามข้าออกมาตอนที่ เจ้าคุณให้ออก เอ็งไปเสนอหน้าอยู่กับคุณหลวงละซี” เพราะเสียงดังของแก้วแท้ๆ มั่นที่อยู่หลังเรือนบ่าวจึงได้ยินว่ามีเรืองวิวาทกัน บ่าวหนุ่มร่างกำยำจึงเดินออกตัวเรือนขึ้นมายืนข้างเส็ง
    “พูดเรื่องอะไรกัน”
    “อ้ายเส็งมันไม่ได้กลับมานอนที่เรือนบ่าวเมื่อคืน” ยายนอมว่า “หนีเที่ยวหรืออย่างไรก็ไม่สารภาพ หากคุณหลวงรู้เข้าเอ็งจะโดนโบยหลังลายอ้ายมั่น ที่ไม่ดูแลบ่าวผู้ชายด้วยกัน ตามีก็จะโดนเสียอีกคน”
    เส็งยังคงไม่กล้าตอบ หากแต่มั่นคว้าแขนเล็กๆของเขาไว้แล้วบีบเบาๆ
    “บอกไปเถิดเส็ง ว่าเกิดอะไรขึ้นได้แก้ปัญหากันได้ถูก”
    บ่าวหนุ่มจึงตัดสินใจเอ่ยขึ้นเบาๆ แม้เรื่องที่พูดจะเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดแต่ด้วยท่าทางและน้ำเสียงทำให้เรื่องธรรมดาที่สุดนี้ ฟังเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดได้ทีเดียว   “เมื่อคืน ฉันนอนที่เรือนเทาจ้ะพี่มั่น”
    ราวฟ้าผ่าลงกลางใจของแก้ว หล่อนยกมือขึ้นกุมอก แม้ผู้อื่นไม่รู้สึกผิดแปลกกับคำพูดของเส็ง เพราะดูเป็นเรื่องธรรมดาหากจะมีบ่าวไพร่ไปนอนเฝ้ายามหลวงพินิจราชอักษรป่วย หรือ ไม่สบายใจ เทิดเองก็ทำอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับแก้ว กิริยาบิดเบือนไม่กล้าพูดความจริงของเส็งนี้แหละ เป็นหลักฐานอย่างดีที่จะชี้บอกให้คนอื่นเห็นกันโต้งๆว่า เส็งได้ไปทำอะไรผิดมา และหากการที่เส็งไปนอนที่เรือนเทา แล้วแสดงออกว่ารู้สึกผิดละก็ สิ่งเดียวที่แก้วพอนึกได้คือ อ้ายเส็งคงทำวิปริต ผิดเพศกับหลวงพินิจมาอย่างแน่นอน
    “อ้ายเจ๊ก เอ็งทำได้ถึงเพียงนี้เทียวหรือ” แก้วโพล่งออกมาในที่สุด “ข้าไม่นึกเลยว่าเอ็งเป็นพวกวิปริตได้เพียงนี้”
    “วิปริตอะไรแม่แก้ว เส็งขึ้นไปนอนกับคุณหลวงที่เรือนก็คงเป็นเพราะคุณหลวงอนุญาต” มั่นรีบเถียงแทนเส็ง “จะคิดอกุศลเหมือนเอ็ง ข้าว่าไม่น่าใช่”
    “พี่มั่นอย่ามาให้ท้ายมันหน่อยเลย” แก้วว่า “ตั้งแต่วันแรกที่ทำกระถางแตก อ้ายนี่ก็คงให้ท่าจนคุณหลวงต้องทำแผลให้ มันยังเสนอหน้าทำกับข้าวไปเอาใจอีกทุกวัน แล้วตอนค่ำก็หายไปในบ้านกันสองคน จนมาเมื่อคืนก็ไม่กลับมานอนที่เรือนบ่าว แต่ค้างที่เรือนเทา จะให้ฉันคิดอย่างไร”
    เสียงเงียบ บ่าวไพร่คนอื่นไม่กล้าแม้แต่จะพูดออกความเห็นกันเอง
    “ข้าทนรับเรื่องแบบนี้ไม่ไหว เอ็งจะแข่งกับข้าใช่ไหม คิดจะแย่งคุณหลวงไปจากข้าใช่ไหม อ้ายเจ๊ก”
    “พี่แก้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรอย่างที่พี่แก้วคิด” เส็งเถียงเป็นคำแรก หากแต่น้ำเสียงโกรธจัด จนสั่นสะท้านไปหมด บ่าวหนุ่มกำมือแน่น สะกดใจไม่ให้ทำอะไรรุนแรงมากไปกว่านี้
    “แล้วพวกบัณเฑาะก์อย่างเอ็งทำกันแบบไหนเล่า ข้าคิดไปได้ไม่ถึงดอก” แก้วตะเบ็งสุดเสียงด้วยความโกรธที่เส็งบังอาจมาเถียงหล่อน เสียงนั้นดังลั่นเรือนจนบ่าวไพร่ไม่เป็นอันทำอะไร ได้แต่นั่งฟังอย่างไม่กล้ามองตรงๆเพราะความกลัวอารมณ์โกรธของแก้วเป็นที่รู้กันว่า รุนแรงกว่าพายุพัดเสียอีก
    “พี่แก้ว” เส็งพูดทั้งน้ำตา เสียงสั่นคลออย่างห้ามไม่ได้อีก “พี่แก้วพูดถึงอย่างนี้ได้อย่างไร ฉันไม่ได้คิด ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง คุณหลวงใช้ฉัน ฉันก็ต้องทำตาม จะให้ขัดคำสั่งได้อย่างไร ฉันนั่งอยู่เป็นเพื่อนคุณหลวง พอดึกแล้วก็นอนเฝ้าอยู่หน้าห้อง ไม่ได้ทำอะไรวิปริตอย่างนั้น ไม่รู้ว่าคนที่คิดเรื่องนี้ได้อย่างพี่แก้วจะเป็นฝ่ายวิปริตเองหรือเปล่า”
    น้ำตาไหลเป็นทาง อาบแก้มขาวเนียน แต่เส็งก็ทำอะไรไม่ได้ไปกว่านั้น เขาไม่ทำร้ายผู้หญิง แม้คำว่า บัณเฑาะก์ จะฟังดูร้ายแรง เป็นการสบประมาทเขาเพียงใดแต่เส็งก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ยืนกำมือแน่น ใช้เพียงคำพูดเท่านั้นที่ทำร้ายแก้วได้
    ฝ่ายผู้ฟังหน้าซีดไม่คิดว่าใครจะกล้าต่อปากด้วย
    “เอ็งพูดถึงเพียงนี้ ไม่คิดถึงข้าวแดงแกงร้อน ไม่คิดถึงบุญคุณบ้างเลยหรือ” แก้วตวาดกลับ
    “พี่แก้วเสียมากกว่าที่ไม่คิดถึงบุญคุณคุณหลวง เธอเลี้ยงพี่มาดีแค่ไหนพี่กลับคิดอกุศลกับเธอแบบนี้ ใครกันแน่ควรถูกเรียกว่าอกตัญญู”
    ราวกับถูกตบหน้าไม่ปาน แก้วยืนหน้าชาทำอะไรไม่ถูก ส่วนเส็ง เสียใจก็เสียใจอยู่ แต่แค้นก็แค้นกว่าหลายเท่า จะให้ทนยืนฟังร้องไห้เป็นผู้หญิงนั้นเขาทำไม่ได้ หนุ่มน้อยปาดน้ำตาแล้วเดินเข้าหอนอน ไม่กลับออกมาอีก
     เสียงจากนอกหอนอนยังคงดังอยู่เป็นระยะ แม้เส็งจะนอนคว่ำหน้าเอาหมอนปิดหน้าอย่างไรก็ยังได้ยินเสียงแก้วและมั่นเถียงกันอยู่ไม่จบ
    “เอ็งพูดอย่างนั้นก็เกินไปแม่แก้ว ถูกอย่างเส็งว่า คุณหลวงมีบุญคุณกับเอ็งมาก เอ็งด่าเส็งก็เหมือนด่าคุณหลวงไปด้วย พูดได้อย่างไรว่าเส็งทำวิปริตกับคุณหลวง”
    “ฉันพูดหรือพี่มั่น ฉันไม่ได้พูดว่าคุณหลวงสักคำ ฉันว่าอ้ายเส็ง อ้ายคนนี้มันคิดไม่ซื่อไม่อย่างนั้นมันจะอิดออดไม่ยอมบอกความจริงกับเราหรือ”
    “เอ็งไม่ได้เห็นกับตาเอ็งจะรู้ได้อย่างไรว่าเส็งมันทำอะไร”
     “พี่มั่นก็ไม่ได้เห็นเหมือนกันไม่ใช่หรือว่ามันไม่ทำอะไร” แก้วว่า เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “พี่มั่นไม่เคยเห็นแววตาที่มันมองคุณหลวง ฉันละขนลุกทุกครั้งไป อ้ายนี่มันเป็นบัณเฑาะก์ มันคิดจะแย่งคุณหลวง”
    “ข้าไม่เชื่อว่าเส็งมันจะเป็นอย่างนั้น หรือว่ามันจะแย่งคุณหลวงเอาอะไรกับเอ็ง อย่าเอาคุณหลวงมาเกี่ยว อย่าคิดไปเองเลยแม่แก้วว่าตัวเป็นคนโปรดของคุณหลวงอะไรนั่น จะเป็นทุกข์เสียเองเปล่า” คราวนี้แก้วไม่เถียงแว้ดขึ้นอย่างที่เคยทำ “บางครั้งก็อาจมีคนธรรมดาๆ อยู่ใกล้ๆเอ็งที่เขารักและเป็นห่วงเอ็งมากกว่าที่เอ็งรู้สึกกับคุณหลวงก็ได้”
    แล้วก็เงียบ แก้วคงนั่งลงร้อยมาลัยเหมือนเดิม มั่นก็คงลงไปทำสวนเหมือนเดิม ทิ้งเส็งไว้ในความเงียบคนเดียว
    “บัณเฑาะก์” เป็นคำที่เจ็บปวด ใครๆก็รู้ว่าเป็นคำเรียกชายผิดเพศที่รักใคร่ในชายด้วยกัน พอๆกับที่ผู้หญิงเล่นเพื่อนนั่นแหละ แต่บัณเฑาะก์ถือเป็นคำรุนแรง ถือเป็นคำด่าที่แสบร้อน และเป็นการสบประมาทอย่างรุนแรง ในสมัยเส็งการ “เล่นเพื่อน” หรือ “เล่นผีผ้าห่ม” ของผู้หญิงมีให้ได้ยินกันบ่อยแล้วแต่ดูเหมือนเป็นเรื่องซุบซิบนินทาให้สนุกปากมากกว่า แต่ถ้าจะพูดว่าใครสักคนเป็น “บัณเฑาะก์” นั้นจะถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างมาก แม้ในพระไตรปิฎกก็ได้บันทึกพฤติกรรมของชายรักชายไว้แต่โบราณกาล ว่าห้ามบวชในพระพุทธศาสนาเลยด้วย
    จริงอยู่สิ่งที่แก้วพูดเป็นความจริงแม้มันยังไม่เกิดขึ้น เส็งรักหลวงพินิจ แม้อีกฝ่ายจะมีใจให้เขาหรือไม่ก็ตามแต่เส็งแน่ใจว่า ตนไม่ได้คิดกับคุณหลวงเหมือนบ่าวพึงคิดจงรักภักดีกับนาย แต่ไม่ถึงกับคิดยกตนขึ้นเทียบคุณหลวง อยากเป็นนายเหมือนที่แก้วคิด
    กระนั้นก็ยังเจ็บปวด ขนาดพวกบ่าวรู้ยังเป็นอย่างนี้ หากหลวงพินิจรู้แล้วเผอิญเขาไม่มีใจคิดแบบเดียวกับเส็งด้วย บ่าวหนุ่มจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มิต้องถูกไล่ออกจากบ้านนี้หรือ

tawan

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 11 !!! 23.45 - 24/10/10
«ตอบ #356 เมื่อ25-10-2010 00:16:56 »

เส็งน่าสงสารจริง ๆ เลย
คุณหลวงไปไหน :z3:
 :call:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 11 !!! 23.45 - 24/10/10
«ตอบ #357 เมื่อ25-10-2010 01:07:37 »

ขอหยาบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อยากจะจิกหัวอีแก้วนี้มาตบเสียจริงๆเห็นแล้วมันขัดหูขัดตา


แอร๊ยยยยยยยยยยยย



รอตอนหน้า..................................




+1จ่ะสำหรับตอนที่ทำให้อยากตบชะนีแก้ว อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2010 01:16:50 โดย samsoon@doll »

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 11 !!! 23.45 - 24/10/10
«ตอบ #358 เมื่อ25-10-2010 03:09:12 »

มาต่อแล้วเย้ :3123:


เส็งรู้จักเถียงกลับไปบ้างก็ดีแล้ว อยากอ่านตอนต่อไปจังงงงงงงงงงงง คุณหลวงจะรู้ไหมว่าเส็งถูกรังแก

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
Re: ปางบรรพ์ ขึ้นบทที่ 11 !!! 23.45 - 24/10/10
«ตอบ #359 เมื่อ25-10-2010 03:44:59 »

 :o12: คุณหลวงมาแก้สถานการณ์หน่อย
ตอนหน้าขอหวานๆนะจ๊ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด