[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 486345 ครั้ง)

Namtarn

  • บุคคลทั่วไป
มารายงานตัวว่าแอบอ่านมานานแล้วค่ะ อัพต่อให้อีกนะคะ :man1:

nuewanda

  • บุคคลทั่วไป
พึ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน  แล้วอ่านรวดเดียว ตอนกลางคืนเสียด้วย เสียวสันหลังดีแท้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จะคอมเม้นต์ว่ากระไรดี พล็อตเรื่องน่าสนใจ เดินเรื่องได้น่าติดตาม ภาษาสวยมาก แล้วยังได้ความรู้ประวัติศาสตร์เป็นของแถมอีกต่างหาก
ขอบคุณไรท์เตอร์สำหรับงานเขียนดีๆ ชิ้นนี้นะคะ  :L2:
อดใจรอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วอ่า.....

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
 :z2: มาต่อแล้ว เย้ๆๆๆ  :pig4: คร๊าบ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
มาต่ออกีนะคะค้างๆๆๆ รอดันๆๆ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
แวะมาดันค่ะ

อยากอ่านต่อแล้วจ้า

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1

    เช้าวันที่สองของเส็งมาถึงอย่างรวดเร็ว เพียงหัวถึงหมอน เส็งก็หลับสบายตื่นมาอีกทีก็พบว่าแสงตะวันข้างนอกเริ่มส่องลอดหน้าต่างเข้ามาแล้ว เมื่อมองไปทางขวาก็พบว่า เพื่อนบ่าว นายมั่นยังคงนอบหลับอยู่หากแต่หนุ่มน้อยได้ยินเสียงคนอยู่ข้างนอก จึงลุกออกจากบริเวณที่นอน เลิกมุ้งขึ้น แล้วออกมาดูว่าเสียงคนที่คุยกันนั้นใครกันแน่
    พอออกจากหอนอน หนุ่มน้อยก็พบว่านอกชานเต็มไปด้วยบ่าวผู้หญิง นั่งร้อยมาลัยบ้าง ปอกผลไม้บ้างทั้งที่ฟ้ายังไม่ทันสว่างทั่ว หนุ่มน้อยเรียนรู้มาหลังจากนั้นว่า บ่าวผู้หญิงของบ้านนี้ มีหน้าที่ทำความสะอาด ทำกับข้าว ทำงานฝีมือไว้รับแขกหรือเพียงประดับข้าวของเครื่องใช้ให้คุณหลวงเท่านั้น ส่วนบ่าวผู้ชายก็ต้องทำสวน ทั้งสวนดอกไม้ในบริเวณตึกใหญ่ ทั้งสวนผลไม้ด้านหลังเรือนบ่าว รวมถึงผลัดเวรยามกันในตอนกลางคืน จึงเป็นสาเหตุที่ว่า บ่าวหญิงจะต้องตื่นมาทำกับข้าวเลี้ยงคนทั้งบ้าน แต่เช้าและได้รับอนุญาตให้นอนแต่หัวค่ำได้ ส่วนบ่าวชายต้องคอยอยู่เวรยามจนดึกค่ำ และต้องทำงานหนักมาทั้งวันจึงได้นอนช้ากว่าบ่าวผู้หญิง และก็ไม่มีใครว่าหากจะตื่นสายบ้าง
    บ่าวหนุ่มเดินออกมานอกชานก็พบมะลิ นั่งอยู่กับบ่าวสาวอีกคนกำลังพูดกันเรื่องคุณหลวงทำแผลให้เขา พอเห็นเส็งเดินออกมา บ่าวอีกคนก็กระแอมกระไอ ให้มะลิรู้ตัว บ่าวสาวก็หันมายิ้มให้เส็งอย่างกระดากอาย
    “อ้าว พ่อ ตื่นแล้วหรือ ทำไมตื่นเช้าอย่างนี้เล่า ผู้ชายคนอื่นยังไม่ตื่นกันมิใช่หรือ” สาวน้อยชวนคุย
    “จ้ะ เมื่อคืนฉันนอนเร็วก็เลยตื่นได้แต่เช้า” เส็งนั่งลงใกล้ๆ สาวทั้งสอง
   สองสาวหันมามองหน้ากัน
    “เอ้อ พ่อเส็งจ๊ะ นี่ นางชิด เพื่อนบ่าวด้วยกัน สนิทกันกับฉันจ้ะ”
   นางชิดยิ้มให้ฟันดำสวย ราวกับนิล เส็งก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่านางแก้วไม่เห็นฟันดำอย่างนี้เลย จะว่าไป คุณหลวงก็เหมือนกัน มิน่า เส็งจึงรู้สึกแปลกๆว่าสองคนที่พูดถึงนี้ หน้าซีดจางกันเกินไปไม่เหมือนคนอื่นที่เส็งเคยเห็น
    “แล้วพี่แก้วอยู่ไหนจ๊ะ เมื่อวานฉันเห็นเขาเดินปึงปังออกมาจากตึกใหญ่ ขัดใจอะไรหรือเปล่าไม่รู้” เส็งเปรย พลางมองหาคนที่กล่าวถึงเผื่อเจ้าหล่อนเดินออกมาจะได้เปลี่ยนเรื่องคุยได้ถูกจังหวะ
    “อู๊ย แม่คนนั้นกว่าจะตื่น รถพระอาทิตย์มาจอดอยู่กลางหัวก่อนเจ้าค่ะ”  มะลิกระแทกเสียงท้ายประโยคอย่างประชดประชัน
    “มะลิ เอ็งก็ว่าเกินไป แม่แก้วตื่นสายอย่างนั้นก็ตอนคุณหลวงไม่อยู่หรอก นี่คุณหลวงแกตื่นแต่เช้าอย่างนี้ แม่ต้องรีบมาขัดศรีฉวีวรรณให้สวยสด  แล้วยกสำรับไปให้เองถึงที่ด้วย”  นางชิดว่าอย่างสนุกปาก
    เส็งมองไปทางตึกใหญ่ก็เห็นคุณหลวงนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลา ชายหนุ่มอดยิ้มให้ตัวเองไม่ได้ ก่อนจะรู้ตัวว่าเงียบไปนานแล้วก็รีบหาเรื่องคุย
   “แหม พี่สองคนพูดเหมือนไม่ชอบพี่แก้วเลยนะจ๊ะ”
   สองสาว หันหน้ามองกันแล้วก็อดขำไม่ได้ บ่าวสาวคนอื่นแถวนั้นก็พากันหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินเส็งถาม
    “ใครจะชอบเขานอกจากพวกผู้ชายแล้วก็แม่เขาเล่า”
   ทั้งนอกชาน หัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนุกปาก จากสองคนกลายเป็นสามสี่ จนเกือบจะทุกคนต่างก็มาล้อมวง พูดเรื่องแก้วให้เส็งฟังอย่างสนุกสนานทำให้เส็งได้รู้เรื่องราวของผู้หญิงคนนี้มากขึ้นอีกเยอะทีเดียว
    แก้วเป็นลูกของยายนอม แม่ครัวใหญ่ของที่นี่ เป็นคนแก่นแก้วแสนซน อยู่กับบ้านไพรัชกิจมาตั้งแต่เด็กๆ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับมะลิ ชิด และ มั่น พอโตขึ้นกลับทำตัวมีจริตจก้าน ไปรักหนุ่มลิเกใกล้เรือนเก่าของเจ้าคุณไพรัช ถึงกลับหนีงานไปพลอดรักกันบ่อยๆ พอถูกยายนอมจับได้เฆี่ยนไปหลายสิบครั้งจนต้องเลิกรากันในที่สุด แต่จากนั้นแก้วก็ยังไม่เลิกนิสัยรักสนุกยังไปไหนมาไหนกับผู้ชายมากมาย กระทั่งหลวงพินิจกลับมาจากเมืองฝรั่ง เจ้าหล่อนก็ หลงรักคุณหลวง ใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของเรือนได้แต่งตัวสวยๆ มีหน้ามีตา มีสามีโก้เก๋จากเมืองฝรั่ง
   “อีแก้วมันสวย ใครๆเขาก็ชอบ มีคนมาขอมันหลายคน มันก็ไม่ปลงใจกับใคร มันบอกว่าคนงามอย่างมันวาสนาคู่กับคุณหลวงคนเดียว”
   พอคุณหลวงย้ายเรือนมาอยู่ที่นี่ ยายนอมเป็นผู้อาวุโสที่สุดในบ้าน แก้วก็ยิ่งวางตัวเป็นใหญ่เหนือใคร กับข้าวทุกชนิด หล่อนต้องได้เป็นคนยกไปเสิร์ฟคุณหลวง เวลาคุณหลวงลงมาอยู่ที่ศาลาริมสระ หรือที่ท่าน้ำหล่อนต้องร้อยดอกไม้ ไปให้ หรือไม่ก็คอยไปอยู่คอยให้คุณหลวงรับใช้
   “แต่คุณหลวงเคยหรือจะสนใจมัน ก็นั่งอ่านหนังสือฝรั่งของแกไปมันจะอยู่ตรงนั้นหรือไม่อยู่ก็ไม่ได้สำคัญเลยสำหรับคุณหลวง”
    “แต่มันก็ยังพูดไม่ใช่หรือพี่ ว่ามันน่ะ..”
    “เป็นคนโปรดของคุณหลวง” บ่าวผู้หญิงแทบทุกคนพูดออกมาพร้อมกันอย่างล้อเลียน เสียงดังจนเส็งอดหัวเราะไม่ได้ ก็พอดีแม่สาวเจ้าของเรื่อง เดินเข้ามาแถวนั้นเสียก่อน ทุกคนก็แยกย้ายก็ไปทำตามหน้าที่หล่อนเหมือนเดิม
   แก้วสวมผ้าคาดอก โจงกระเบนเหมือนเดิม ผมสีดำขลับยังดูเปียกหมาดๆ ด้วยความที่เจ้าหล่อนเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาไม่นาน สายตาที่เส็งว่าดูน่ารักจิ้มลิ้มนั้น มองปราดมาที่มะลิแบบร้ายกาจ ชนิดที่ว่าบ่าวสาวต้องคอยหลบตาไม่กล้ามองตรงๆ
   “ถ้าว่างกันมากคงลงไปช่วยแม่นอมทำกับข้าวโน่น มานั่งจับกลุ่มนินทาเจ้านาย ใช้ได้หรือพวกเอ็ง”
   “ฉันไม่ได้นินทาอะไรคุณหลวงนะพี่แก้ว... เราพูดกันเรื่อง...”
   “ถ้าไม่ใช่เรื่องคุณหลวง ก็เรื่องข้าอยู่ดี ก็เท่ากับเอ็งนินทานาย นั่นละ"
   เส็งเกือบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เกิดหัวเราะออกมาดังๆเสียแล้ว โชคดีที่แก้วแว้ดขึ้นมาอีกพอดี เส็งจึงไม่มีโอกาสได้หัวเราะ
   “แล้วเอ็งก็เหมือนกัน อาไร้ เพิ่งมาทำงานได้วันสองวัน มานั่งจับกลุ่มคุยแล้ว ไม่มีงานทำหรืออย่างไร ผลไม้ในสวนมีก็ไม่ช่วยเขาเก็บหรือยะ”
   “คุณหลวงให้ฉันมาช่วยทำกับข้าวจ้ะพี่” เส็งก้มหน้าตอบเบาๆ อย่างเกรงกลัว
    “แล้วที่เอ็งทำอยู่มันเรียกว่ากับข้าวหรือไง” แก้วตวาด “ถ้านั่งเฉยๆ แล้วกับข้าวมันโผล่ขึ้นมาได้ซี ถึงจะเรียกว่าทำกับข้าซ”
   เส็งหน้าถอดสี ไม่มีใครกล้าเถียงหรือพูดอะไรทั้งนั้น พอดีที่สตรีร่างท้วมสมบูรณ์คนหนึ่งเดินเข้ามาตรงนั้นพอดี แก้วก็เก็บอาการ กลายเป็นคนสงบเสงี่ยมขึ้นมาทันที
    “แม่ มีอะไรใช้ฉันหรือจ๊ะ”
   “มีแน่ละ อีแก้ว ข้าทอดปลา ผัดผัก แกงจืดเสร็จแล้ว เหลือของหวาน ไม่รู้จะทำอะไร ไปได้มะปรางมาก็ว่าจะให้เอ็งริ้วให้คุณหลวงเสียหน่อย นางชิด นางมะลิ ไปเตรียมของไว้ก่อน ให้แม่แก้วริ้วมะปรางให้คุณหลวง” บ่าวสาวสองคนได้ยินก็รีบออกไปเตรียมของในโรงครัวที่ใต้ถุน
   “แม่ ฉัน...” แก้ว พูดเบาๆ หากแต่เส็งก็ยังได้ยินทุกคำ “ฉันเจ็บนิ้ว ริ้วมะปรางไม่ได้หรอกจ้ะ”
   “อ้าว นางนี่ ไม่เห็นบอกเห็นกล่าว แม่เตรียมมะปรางไว้แล้ว เมื่อวานคุณหยาดเธอให้คนขับรถฝากมา คุณหลวงก็รู้แล้วว่ามีมะปรางไม่ริ้วไปให้รับ เดี๋ยวแกจะหาว่าเราเอาของแกมากินกันเอง”
   แก้วชักสีหน้า แต่เมื่อรู้ตัวก็ทำหน้าตาเฉยบอกแม่ไปว่า
    “ผลไม้คุณหยาด ก็ให้ริ้วเองซี”
   “เอ๊ะ แก้ว หล่อนนี่พูดจานะยะ เขาเป็นคู่หมั้นนายเรา ก็ถือว่าเป็นนายเราด้วยอีกคน ไปลามปามนายอย่างนั้น เดี๋ยวเหากินกบาลหรอก”
   แก้วทำหน้าเบ้ ก่อนที่จะพูดว่า
   “แม่หาคนทำแทนแล้วกัน ฉันเจ็บนิ้ว ไปละจะไปแต่งตัวเตรียมเอากับข้าวไปให้คุณหลวงรับ”
    “เอ้อ ยามนอมหรือจ๊ะ ฉันชื่อเส็งนะจ๊ะ เป็นบ่าวคนใหม่เพิ่งมาทำงานที่นี่” บ่าวหนุ่มกล่าวแนะนำตัว “ฉันได้ยินว่ายายนอมจะหาคนริ้วมะปราง ใช้ฉันก็ได้นะจ๊ะ ฉันริ้วมะปรางได้”
   ยามนอมเลิกคิ้วนิดๆ พิจารณว่าบ่าวหนุ่มพูดจริง หรือแกล้งแม่แก้ว ปกติแล้วงานฝีมือแบบนี้ เด็กผู้ชายมักทำกันไม่ได้เพราะเป็นเรื่องยากต้องใช้ความอดทน และสมาธิสูงมากทีเดียว
   “เอ็งน่ะหรืออ้ายเจ๊ก” นางแก้วว่า พลางมองแบบดูหมิ่น “เมื่อวานได้ข่าวว่าทำกระถางแตก วันนี้จะริ้วมะปราง ไม่ใช่ปั้นขนมเข่งนะยะ มันทำยากรู้ไว้ด้วย”
    เส็งกำมือแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้านิ่วรับฟังอะไรก็ตามที่สองแม่ลูกจะสรรหามากลั่นแกล้ง
   “เอ้า เอ็งริ้วเป็นจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นจริงจะขอดูฝีมือ”
   “เป็นจ้ะ เดี๋ยวฉันจะลองทำให้ดูก็ได้”
   “ลองทำน่ะ ลองลูกเดียวก็พอนะ ของไม่ได้มีมากถึงขนาดเอามาทำเสีย แล้วเททิ้ง เทขว้างรู้หรือเปล่า” แก้วสบประมาท

     แต่เส็งก็เลิกใส่ใจหล่อน แม้ว่าเจ้าหล่อนจะยังทำคอแข็ง หน้าเชิดราวกับไม่ใช่เพื่อนบ่าว แต่เป็นนายของเส็งด้วยอีกคน ก็ตาม แล้วจึงรีบเดินตามยายนอมเข้าโรงครัว ไปหยิบน้ำที่นางชิด ต้มกับน้ำตาลไว้เป็นน้ำเชื่อมแล้ว ไม่ลืมที่จะหยิบ เกลือติดตัวมาด้วยเล็กน้อย มาวางบนตั่งที่จะนั่งทำ จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบผ้าสีขาวมาชุบน้ำ แล้ววางไว้ใกล้ตัว นั่งลงลับมีดเล็กกับหินลับมีด สองสามที ก็ดูว่ามีดคมใช้ได้แล้ว เดินมีดได้สบาย สุดท้าย ก็เริ่มมองหามะปราง ที่น่าจะนำมาริ้วได้ดี คือ มะปรางที่ไม่สุก ไม่ห่าม จนเกินไป ผลรีสวยได้รูป และ ไม่มีรอยช้ำเลย มาเริ่มนิ้วมะปราง    
                ในที่สุดเมื่อเส็งเตรียมอุปกรณ์ครบแล้ว คือมีเกลือ น้ำเชื่อม มะปราง มีด และ น้ำลอยดอกไม้ไว้ล้างมะปรางเส็งก็ลงมือริ้วมะปรางได้สักที ชายหนุ่มหยิบมะปรางขึ้นมาตัดขั้วทิ้ง เขาจับมะปรางด้วยนิ้วมือข้างซ้าย สี่นิ้ว ระวังไม่ให้โดนแผลที่อุ้งมือโดยใช้แรงพอดีไม่หนักมือไปเพราะมะปรางช้ำง่ายมาก แต่ก็ไม่เบามือเกินไป จนมะปรางลื่นหลุดมือ เส็งจรดปลายมีดลงตรงบริเวณที่เพิ่งตัดขั้วไป มือขวาถือมีดไว้แน่นอยู่มือ แล้วหมุนข้อมือส่งให้ผลมะปรางโดน มีดแซะ ลงเป็นร่อง เพียงตื้นๆ และบางเบา วนจากรอยตัดตรงขั่วนั้น ผ่านจุดสีดำที่อีกฝั่งหนึ่งแล้ววนกลับมาที่เดิมเพื่อลอกเปลือกมะปรางออก
                พอลอกเปลือกมะปรางได้แล้ว เส็งก็เช็ดมีด กับผ้าชุบน้ำสีขาวนั้นเพื่อไม่ให้มียางติดที่มีดแล้วทำให้มีดทื่อ เพราะการริ้วมะปรางนั้น มีดจะต้องคมกริบ ไม่ทื่อและไม่ดำเด็ดขาดอาจจะทำให้เดินมีดเป็นลวดลายได้ลำบาก แล้วจะทำให้มะปรางลูกนั้นเสียไปเลย
    หลังจาก ปอกเปลือกมะปรางแล้ว เส็งก็นำมะปรางนั้นลงล้างในน้ำลอยดอกไม้ ที่ผสมเกลือนิดหน่อย ก่อนจะจัดแจง กรีดมีดไปตามลูกมะปราง เป็นริ้วสวย โดยทำเป็นลายเกลียวตรงกลางเดินมีดกินเนื้อเป็นริ้วใหญ่น้อย แล้วค่อยๆ ริ้วลายเล็กลงไปเรื่อยๆ จนริ้วลายค่อยๆ เรียงตัว จากเล็กไปใหญ่เรียงกันไป ครบรอบผล  เส็งใช้มืออย่างบางเบา กรีดมะปรางที่แสนจะช้ำง่ายนั้นให้เป็นลายที่สวยวิจิตรได้อย่างดี โดยไม่เกิดรอยช้ำบนตัวลูกมะปรางเลย
    ตอนแรกนั้น นางแก้วคาดการว่าคงแค่ปากดี จริงๆแล้วทำไม่ได้ ลูกแรกก็คงเละไม่เป็นท่า คงได้มีเรื่องให้ได้หัวเราะเยาะ ข่มคนตามนิสัยหล่อนอย่างแน่นอน แต่เมื่อยืนกอดอกมองเส็ง ทำมะปรางริ้วลายเกลียวได้แล้วหนึ่งลูก ก็ทำให้เปลี่ยนความคิดไปได้เปราะหนึ่ง หล่อนมั่นใจว่าที่เส็งจัดแจงริ้วมะปรางเสียได้ลูกหนึ่งนั้น คงเพราะโชคดีอย่างแน่นอน
                “เส็ง เอ็งทำเก่งเสียจริง ข้าเป็นหญิงยังทำไม่ได้อย่างเอ็งเลย” ชิดออกปากชม เมื่อเห็นมะปรางริ้วลูกแรก ออกมาได้อย่างสวยงาม
                “ตาย จริง” นางแก้วสอดขึ้นอย่างไม่ต้องรอ ใครบอก “เพียงลูกเดียว เอ็งก็เอ่ยปากชมแล้วหรือแม่ชิด พ่อเส็งยังไม่ทันได้แสดงฝีมือกระไร เท่าไหร่เลย รอทำเสร็จ คว้านเม็ดออกก่อนซี เอ็งค่อยชม พ่อเส็งเขาจะได้ภูมิใจว่าเก่งจริง”
                เส็งรู้ดีว่าที่แก้วจงใจเรียกเขาว่า “พ่อ” เสียขนาดนั้นไม่ใช่เพื่อพูดให้เกียรติ หรือชมแต่อย่างใด ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าหล่อนพูด “ประชดเขา” ได้อย่าง “น่าหมั่นไส้” ได้ขนาดไหน
                สองลูกก็แล้ว สามก็แล้ว จนหกลูก แม่แก้วก็อ้างต่อไปไม่ได้อีกว่า เส็งริ้วมะปรางได้เพราะโชคดี แต่ต้องยอมรับว่ามีฝีมือจริงๆ ยิ่งเมื่อริ้วมะปรางเสร็จแล้วทั้งหกลูกนั้น เส็งก็ยังคว้านเม็ดออกมาได้คล่องแคล่วเสียจนหล่อนนึกไปถึงเมื่อตอนที่ หล่อนริ้วมะปราง แล้วคว้านเมล็ดทีไร ก็มักจะถูกนางนอม ผู้เป็นแม่ว่า เสียทุกที
                “เงอะงะอยู่ได้ คว้านช้าๆ อย่างนี้มะปรางได้ช้ำหมดพอดี”
                แต่ นี่เส็งยังอุตส่าห์แทงมีดเล็กแหลมเหมือนเข็มนั้นลงได้ตรงตำแหน่งที่เป็น เมล็ดพอดี คว้านเอารอบเม็ดมะปราง แล้วยังใช้มีดแทงดันเม็ดออกทางก้น ได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่เร็วล่กไปหมด หรือ ช้าเสียจนมะปรางดำเหมือนที่หล่อนเคยทำอยู่บ่อยๆ เส็งนำมะปราง ชุบน้ำเชื่อมเพื่อไม่ให้แห้ง และจะได้ให้เห็นลายริ้วได้ชัด ก่อนจะจัดแจงเรียงมะปรางทั้งที่ริ้วเป็นลายแล้ว และแบบที่ไม่ได้ริ้ว สลับกันเป็นเหมือนกลีบดอกไม้ ลงในโถแก้วได้อย่างสวยงาม เหมือนดังที่มีปรากฏไว้ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

    “...หมากปรางนางปอกแล้ว
    ใส่โถแก้วแพรวพรายแสง
    ยามชื่นรื่นโรยแรง
        ปรางอิ่มอาบซาบนาสา...”
     แก้วมองผลงานของชายหนุ่มแบบไม่เต็มตา หล่อนไม่อยากทำใจให้เชื่อว่า ผลงานตรงหน้าเป็นฝีมือของหนุ่มน้อย มิใช่หญิงสาวสักคนแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยเพราะเห็นเต็มๆตาว่าเป็นฝีมือของหนุ่มน้อยไม่ผิดแน่แล้ว หล่อนจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากรับความจริง แต่จะให้เอ่ยปากชมใครอย่างนั้น นางแก้วทำไม่ได้ หล่อนเพียงค้อนประดักประเดิดแบบไม่มีใครเห็น ก่อนจะหันหน้าหนีจากหนุ่มน้อยหน้าจีน  ที่ถูกรายล้อมไปด้วยบรรดาบ่าวสาว ที่พากันชื่นชมฝีมือที่หาตัวจับได้ยากแบบเขา
    “ไหนละแม่ กับข้าวคุณหลวง จะสองโมงอยู่แล้ว คุณหลวงคงหิวแล้วละ” พอทำตัวไม่ถูกหญิงสาวจึงหันไปพูดกับยายนอม หญิงผู้เป็นแม่ทำหน้าระอาก่อนจะเดินกลับเข้าห้องครัวเพื่อยกสำรับออกมา เป็นเวลาเดียวกันกับที่ มั่นเดินลงจากเรือนมาพบเส็งเข้าพอดี
   “อ้าว เส็งอยู่นี่เองรึเอ็ง” บ่าวหนุ่มรุ่นพี่พูด หนุ่มน้อยอีกคนเพียงยิ้มแล้วพยักหน้าให้เพราะเข้าใจว่าที่พูดมาคงเป็นคล้ายคำทักทายเสียมากกว่าเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ “ทำอะไรอยู่ ...เอแล้วนี่ใครริ้วมะปราง สวยเทียว ยายนอมลงมือเองหรือวันนี้”    
    “ฉันริ้วเองจะพี่” เส็งยิ้ม พอดีกับที่ แก้วเดินถือถาดใส่สำรับอาหารออกมาพอดี เส็งสังเกตว่า ถาดไม้จักสานอันนี้ดูสวยงามมีขาตั้ง ราวขันโตกของชาวเหนือ เมื่อพิจารณาดูก็พบว่า ฝีมือจักสานประณีตมาก
    “สวยจริงเส็ง เอ็งนี่มีฝีมือจริงๆ”
    นางแก้วเดินมาถึงตั่งที่เส็งนั่งอยู่เมื่อมั่นพูดจบประโยค หล่อนก็กระแทกถาดไม้ลงที่ตั่ง จนอาหารเกือบหก
    เส็งจึงได้สังเกตว่าบนถาดมี ข้าวสวยใส่จานวางไว้ พร้อมช้อนส้อมแบบฝรั่ง ข้างๆ เป็นปลาทอด ตัวโตสวย และจานใส่ผัดผักหวาน แกงจืดฟักใส่ไก่ ทั้งหมดสามอย่าง หลังจากอยู่เรือนนี้ไปสักพักเส็งก็รู้ว่าคุณหลวงไม่รับอาหารเช้าเยอะอย่างนัก คือมีเนื้อสัตว์ มีอาหารประเภทผัด อย่างผัดผัก หรือ ผัดวุ้นเส้นแบบของจีน และแกงน้ำใสก็พอแล้ว อาจมีของหวานเป็นผลไม้ด้วยคุณหลวงก็โปรดนัก ส่วนแกงเผ็ด หากไม่ใช่มือเย็นคุณหลวงก็จะไม่รับ เพราะคุณหลวงไม่ถนัดอาหารเผ็ด ยิ่งน้ำพริก กับผักอย่างที่บรรดาบ่าวกินกันแล้ว อย่าได้หวังว่าคุณหลวงจะรับได้ นานๆครั้งเวลาที่คุณหลวงไปแถวบางรัก ก็จะซื้อนม ซื้อเนย ขนมปัง และแป้งมาตุนไว้ ปรุงอาหารฝรั่งกินเอง โดยที่บ่าวในบ้านไม่ต้องเตรียมสำรับให้ก็มี
    “เอ้า จะชมกันอีกนานไหม คุณหลวงไม่ได้กินพอดี” หล่อนว่าเสียงแหลม ไม่ได้สนใจมองว่าใครอยู่ตรงนั้นบ้าง ก่อนจะหยิบโถมะปรางออกจากมือเส็ง พร้อมยกไปให้คุณหลวงที่ศาลาท่าน้ำ “มะลิ เอ็งมายกสำรับ ข้าจะยกมะปรางริ้วไปให้คุณหลวงเอง”
    “เอ๊” มั่นรีบร้องออกมา “เส็งมันเป็นคนริ้ว ก็ให้มันถือไปให้ซี มันจะได้ได้หน้าบ้าง อย่าบอกเทียวนะ ว่าหล่อนจะถือไปให้คุณหลวงเอาหน้าว่าริ้วเอง น่ะแม่แก้ว”
    บ่าวสาวค้อนอย่างขัดใจที่ มั่นรู้ทัน ก่อนจะหยิบสำรับอาหาร เดินปึงปังออกไปจากบริเวณนั้น
    “เอ็งถือไปซีเส็ง คุณหลวงได้เห็นฝีมือว่าเอ็งเก่งเพียงใด” มั่นพยักเพยิด
    บ่าวหนุ่มจึงไม่มีทางเลือก ยกโถมะปรางออก ไป พร้อมขันใส่น้ำลอยมะลิให้คุณหลวงดื่มหลังรับประทานอาหารเสร็จ  
    หนุ่มน้อยประคอง มะปรางริ้วราวกับถือดวงใจของตน กลัวว่างานที่ทำมาลำบากลำบนจะหกหมดไม่ได้ทาน เมื่ออ้อมสระบัวมา หนุ่มน้อยเดินมาถึงศาลาช้ากว่าแก้วที่ป่านนั้น ก็จัดแจงวางสำรับ บนโต๊ะในศาลาแล้วเรียบร้อย พอเห็นเส็งคลานเข่าเข้ามา วางมะปรางริ้วและน้ำลอยดอกไม้ คุณหลวงก็วางหนังสือฝรั่งลงข้างตัวพลางหันมายิ้มให้บ่าวหนุ่ม
    ผู้ถูกมองเขินจนต้องก้มหน้าหลบตา
    “เอ็งนี่ชักช้าจริงอ้ายเส็ง คุณหลวงได้รอจนหิวพอดี”
    “อย่าไปดุมันเลย นางแก้ว” คุณหลวงหัวเราะลงลูกคอเบาๆ “เมื่อวานเพิ่งทำกระถางแตก วันนี้คงต้องระมัดระวังเสียทุกอย่าง ไม่ให้โถแก้วนี้แตกไปด้วยใช่ไหม”
    เส็งยิ้มกับพื้นศาลาด้วยไม่กล้าเงยหน้ามามองนายของตน
    “แล้วนี่ใครริ้วมะปราง ไม่ใช่เอ็งแน่นางแก้ว เอ็งริ้วทีไรมะปรางดำช้ำหมด” คุณหลวงถาม “ยายนอมลงมือเองหรือ”
    แก้วกัดฟันพลางส่งค้อนให้กับบ่าวหนุ่มที่หมอบอยู่ข้างๆ
    “เส็งมันริ้วเจ้าค่ะ คุณหลวง”
    “โอ้โฮ สวยจริงเส็ง” นายบ่าวยิ้ม “สวยกว่าของยายนอม ฝีมือเอ็งมากเหลือเกินนะ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้ชายที่ไหนทำงานฝีมือได้ประณีตปานนี้”
    หลวงพินิจราชอักษร จับโถแก้วหมุนซ้ายขวาดูมะปรางริ้วหกชิ้นข้างใน อย่างพินิจพิเคราะห์ “สวยเชียว ไม่เคยเห็นสวยขนาดนี้ ไม่มีรอยช้ำเลย มีบ้างก็ลูกเดียวเท่าที่ข้าเห็น ลูกแรกที่ริ้วหรือ”
    “ลูกสุดท้ายขอรับ บ่าวเกร็งฝ่ามือที่เป็นแผลจนเจ็บ ลูกสุดท้ายจึงออกมาช้ำขนาดนี้ บ่าวขอโทษขอรับ”
    “จะขอโทษทำไม สวยออก ช้ำนิดเดียวเท่านั้น” หลวงพินิจยิ้มให้ “เอ็งทำให้ข้าไม่อยากอาหารเลย อยากรีบทานอาหารให้หมดแล้วชิมมะปรางริ้วฝีมือเอ็ง”
    แก้วเห็นคุณหลวงไม่สนใจ ก็รีบพูดแทรกขึ้นกลัวจะน้อยหน้า
    “คุณหลวงรับอาหารเถิดเจ้าค่ะ จะเย็นเสียหมด บ่าวช่วยแม่นอมทำสุดฝีมือเทียวเจ้าค่ะ มีปลากระพงทอดอย่างดี แล้วก็แกงจืดฟักใส่ไก่ แล้วก็ผัดผักหวานเจ้าค่ะ”
    หลวงพินิจมองบ่าวสาว
    “ข้าดูออก ไม่เห็นต้องบอกข้าเลยนางแก้ว” หลวงพินิจส่ายหน้าอย่างขันๆ แกมระอา ก่อนจะตักผัดผักหวานเข้าปากตามด้วยข้าวหนึ่งคำ พอกลืนลงคอก็ชมว่าอร่อยก่อนจะว่าต่อไป
    “เอ็งชอบอ่านหนังสือใช่ไหมเส็ง แล้วเคยอ่านพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้านภาลัยหรือไม่ ในกาพย์เห่เครื่องคาวหวาน ทรงกล่าวถึงผัดผักหวานไว้ว่า ผักหวานซ่านทรวงใน...”
    “...ใคร่ครวญรักผักหวานนาง” เส็งต่อจนจบ ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้หลวงพินิจ
    “รู้จักด้วย เก่งเทียว เอาละ ข้าจะรีบรับอาหารให้เสร็จก่อน ได้ชิมมะปรางริ้วของเอ็ง” นายหนุ่มหน้าคมยิ้มให้บ่าว ก่อนจะลงมือกินข้าวเช้า  ความเงียบทำให้เส็งสังเกตว่า บ่าวสาวข้างๆ มองเขาอยู่ตาขวาง เห็นได้ชัดว่าอิจฉาที่คุณหลวงชวนเขาคุยอย่างสนอกสนใจ ในขณะที่ไม่ได้ไยดีในตัวหล่อนเลย
    ส่วนคุณหลวงหรือ ยามตักผัดผักหวานเข้าปากเข้าก็รู้สึก “หวานซ่านทรวงใน” ทุกครั้งที่ชำเลืองมองบ่าวหนุ่มน้อย ที่ผิวขาวเนียนไม่ต่างจากน้ำนมโคที่คุณหลวงชอบดื่ม ต่างกันตรงที่มันเจือสีชมพูนิดๆ ดูสวยงามแปลกตา ไม่ขาวเหลืองแบบคนไทยทั่วไป หรือเป็นสีน้ำตาลทองแบบผิวของเขา  ริมฝีปากสีชมพูใสดูบางสวย แต่เรียบเนียนแม้ไม่สีขี้ผึ้งลงแบบคุณหยาดคู่มั่น มีผมทรงหลักแจวของเส็งนั้นที่หลวงพินิจเห็นว่าดูขัดตาแบบไม่เคยชิน เพราะเท่าที่หลวงพินิจเคยเห็นชายหนุ่มในฝรั่งเศส หรือแม้แต่ที่อังกฤษเวลาเขา ข้ามฝั่งไปเที่ยว ก็ล้วนแต่ไว้ผมยาวแล้วมัดหางม้าบ้าง หรือ หากเป็นผมสั้นก็สั้นรองทรงแบบเขาบ้าง ไม่ใช่ทรงหลักแจวแบบนี้ หากมีโอกาส หลวงพินิจจะออกคำสั่งมิให้เส็งตัดผมแบบนี้อีก แล้วหันมาไว้ผมทรงเดียวกับเขาแทนให้รู้แล้วรู้รอด
    พอรับอาหารไปเพียงครึ่ง ไม่หมดจานดี หลวงพินิจก็จิบน้ำโอ่งเย็นสดชื่นลอยมะลิหอมในขันเงิน ล้างปากก่อนจะหยิบมะปรางริ้วขึ้นมากิน กัดไปได้หนึ่งคำก็พูดขึ้น “เอ็งทำให้ข้าประหลาดใจ ทั้งที่อร่อยแทบขาดใจ อยากจะกินให้หมดโถ ก็เสียดายที่มันสวยเหลือเกิน สวยเกินกว่าจะเอามากิน อยากตั้งประดับไว้เฉยๆที่บนบ้าน”
    แก้วยังทำตาขวาง นั่งเฉยๆไม่พูดจาอะไรแล้ว อึดอัดจนอยากลุกไปจากที่นั่นให้ได้จนแล้วจนรอด
    “ถ้าคุณหลวงโปรด บ่าวจะริ้วมาให้ทุกวันขอรับ”
    หลวงพินิจหัวเราะลงลูกคอเบาๆ
    “ไม่ต้องลำบากหรอก จะทำให้ข้านานๆทำทีก็พอแล้ว ลำบากทำให้บ่อยๆ จะเหนื่อยแย่” นายหน้าเข้ายิ้มอย่างอบอุ่นมาให้บ่าว กระนั้นก็ยังไม่หยุดกินมะปรางจนหมดโถ ตามด้วยดื่มน้ำลอยมะลิล้างปาก ล้างคอแล้ว ก็ชวนเส็งคุย
    “เอ็งจะทำแต่งานครัวก็ได้ข้าไม่ว่า ว่างๆก็มานั่งเล่นที่ห้องหนังสือ มีหนังสือเต็มไปหมด เอ็งเขียนหนังสือได้ไหม”
   “ได้บ้างขอรับ”
    “หนังสือจีนหรือหนังสือไทย”
   “ทั้งสองอย่างขอรับ”
   “ดี” หลวงพินิจยิ้มอย่างพอใจ “หากมีโอกาส และหากเอ็งสนใจข้าจะสอนภาษาฝรั่งเอ็ง”
    “จริงหรือขอรับ”
    “จริงซี”
    บ่าวหนุ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
    “ใครรู้คงอิจฉาบ่าว หากพูดภาษาฝรั่งเป็น”
    “ข้าเคยชวนนางแก้วแบบนี้ แต่ตอนนั้นมันตอบว่า... เอ็งตอบว่ากระไรนะแก้ว “บ่าวเป็นคนไทย จะพูดภาษาไทย กินอาหารไทยอย่างนี้ไปจนตายเจ้าค่ะ ให้ไปกิน ไปพูดแบบฝรั่งบ่าวไม่ยอมเจ้าค่ะ น่าละอาย” จริงหรือไม่เล่านางแก้ว”
    บ่าวสาวก้มหน้าด้วยความอาย จะเถียงก็ไม่ได้ ด้วยหล่อนก็พูดอย่างนั้นจริงๆ เสียด้วย คุยกันได้ไม่กี่ประโยค บ่าวสาวคนหนึ่งก็คลานเข้ามาในศาลา
    “คุณหลวงเจ้าขา นายเทิดมาเจ้าค่ะ”
    นายเทิดเป็นทนายหน้าหอของคุณหลวง นั่นเอง
   “เอ้าหรือ มีเรื่องอะไรแต่เช้า บอกให้มันมาหาข้าที่นี่ที อากาศเย็นสบายไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในเรือน” หลวงพินิจว่า
    “เจ้าค่ะ” บ่าวคนนั้นรับคำ แล้วก็คลานออกไป
    “เก็บสำรับไปเถิดนางแก้ว ให้อ้ายเส็งช่วยไปด้วย ข้าจะคุยธุระกับทนายข้า” คุณหลวงว่าเท่านั้น นางแก้วก็กุลีกุจอรีบเข้าไปหยิบจานใส่ตะกร้าเตรียมจะกลับเรือน แกล้งก้มๆเงยๆอยู่นาน จนเส็งเกรงว่าผ้าแถบคาดอกของหล่อนจะหล่นไปกองที่พื้นในที่สุด
    “เอ้อ นางแก้ว” คุณหลวงว่าก่อนที่แก้วจะลุกออกไป เจ้าหล่อนได้ยินดังนั้น ก็หันกลับมาด้วยความดีใจคิดว่าคุณหลวงจะขอบใจ หรือกล่าวชมหล่อน
    “วันหลัง นุ่งผ้าแถบสูงๆก็ได้ มัดต่ำอย่างนั้นจะหลุดออกมาแล้ว ข้าอุจาดตา” หลวงพินิจว่าแบบไม่ยินดียินร้าย แต่คนที่ได้ยินกลับอายจนหน้าชา หล่อนตั้งใจจะอวดนิดโชว์หน่อยให้คุณหลวงมองบ้าง กลับถูกตำหนิจนต้อง เดินปึงปังออกไปอย่ารวดเร็ว
    เส็งกำลังจะเดินตามไปคุณหลวงก็คว้าแขนเขาไว้ได้ทัน
    “เจ็บแผลหรือเปล่า” น้ำเสียงอ่อนนุ่มผ่านปากคุณหลวงออกมาราวกับการเปลี่ยนน้ำเสียงไปมาเวลาคุยกับแก้ว และเวลาคุยกับเขานั้นมันเปลี่ยนได้ง่ายดายเหลือเกิน เส็งถึงกับต้องก้มหน้าด้วยความเขินอาย เพราะสัมผัสที่แขนของเขานั้น มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ยิ่งน้ำเสียง และนัยน์ตาของคุณหลวงแล้ว หากเป็นสตรี หลายคนคงต้องละลาย แม้เป็นบุรุษเพศ เส็งยังอายม้วน แทบจะล้มทั้งยืนไปแล้ว
    “ไม่แล้วขอรับ”
    “ดีแล้ว คืนนี้มาหาข้าหน่อยนะ จะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ แล้วก็ช่วยมาอ่านหนังสือให้ฟังที ข้าอยากฟังเอ็งอ่านเหลือเกินว่าจะเพราะอย่างไร”
    บ่าวหนุ่มยิ้มก่อนจะพยักหน้า พอคุณหลวงปล่อยมือ เส็งก็รีบเดินออกไปจากตรงนั้น ก่อนจะทันได้แสดงความกระดากอายให้คุณหลวงเห็นมากกว่านี้ ก็พอดีสวนกับทนายหน้าหอของคุณหลวง
    หนุ่มอายุประมาณเกือบสามสิบที่เดินผ่านเขาไปสวมเสื้อกระดุมห้าเม็ด โจงกระเบนผ้าม่วงอย่างดี พอเดินเข้าไปในศาลาก็ได้ยินเสียงคุณหลวงทัก
    “เทิด มาหาแต่เช้ามีเรื่องอะไรหรือ”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2010 19:42:10 โดย Purple_Sky »

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ชอบครับ ชอบแบบบอกไม่ถูก
ชอบอ่านเรื่องนี้แล้วไปจินตนาการต่อว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้
แอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นตัวเอกด้วยนะ  555
ช่วงนี้มาบ่อยได้อ่านบ่อยๆ  ชอบครับ

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
 :z3:
โหย...ค้าง ต่อด่วน

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ว้าย อิชั้นละขวางคุณหลวง เล่นเกี้ยวนายเส็งเอาดื้อๆเลยนะคะนี่ หุหุ
๖๐ + ๑ = ๖๑
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


nuewanda

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย........อ่านแล้วม้วนอายแทนเส็งเลยอ่ะ

รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว...


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 8 ทั้งบท 19.33 - 5/10/10
« ตอบ #249 เมื่อ: 05-10-2010 20:47:22 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
อ่านแล้วได้บรรยากาศละมุนๆดีค่ะ เขิลแทนเส็ง  :m25:

KM

  • บุคคลทั่วไป
คุยเรื่องแต่งงานอ่ะป่ะ คุณทนาย ดรา่มา

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อู๊ยยย  ได้กลิ่นหวาน ๆ แบบโรแมนติกลอยมาแต่ไกล  จะแค่อ่านหนังสือจริงหรือเจ้าคะคุณหลวงงงงงงงงงง
บ่าวเกรงว่าจะต้องเตรียมผ้าไว้ซับน้ำลาย  เอ๊ย  น้ำหมากด้วยน่ะเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
รอคืนนี้ของคุณหลวงครับ  :)

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อร๊าย อ่านไปก็เขินแทนเส็งไป คุณหลวงนี่ปากหวานจริงๆ แถมใจดีอ่อนโยนกับเส็งอีกแล้วอย่างนี้เส็งจะไม่เขินไม่หลงรักได้ยังไง
ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบค่า ได้ลุ้นตลอดว่าต่อไปจะเป็นยังไงแล้วมาต่อบ่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อร๊าย อ่านไปก็เขินแทนเส็งไป คุณหลวงนี่ปากหวานจริงๆ แถมใจดีอ่อนโยนกับเส็งอีกแล้วอย่างนี้เส็งจะไม่เขินไม่หลงรักได้ยังไง
ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบค่า ได้ลุ้นตลอดว่าต่อไปจะเป็นยังไงแล้วมาต่อบ่อยๆนะคะ

tawan

  • บุคคลทั่วไป
คุณหลวงเริ่มรุกแล้ว

อย่าช้าเสียนะคุณหลวง

 :call:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยคุณหลงเจ้าขา   หวานเสียงนี่กะไรจริงๆเจ้าค่ะ

อ่านไปยิ้มไป อิอิ  แต่ต่อไปสงสัยจะหลวงจะมีมาม่าแน่ๆเชียว เฮ่ออออออออออออออออออ

ค้างแล้วรีบมาต่ออกีนะคะ

+1 ค่ะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ชอบบบ หวานมากคุุณหลวง

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป
 :-[
อ่านไปเขิลไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 8 ทั้งบท 19.33 - 5/10/10
« ตอบ #259 เมื่อ: 06-10-2010 13:22:37 »





ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
พ่อเส็งริ้วมะปรางเป็นด้วย :man1:พ่อยอดขมองอิ่มของป้าเอ้ย

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
คุณหลวงออกหน้าออกตามากเลยนะคะเนี่ย

อ่านไปเขินแทนเส็ง หวานเกิน  :o8:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ไม่รู้จักมะปรางริ้วเลยนะครับมารู้จากเรื่องนี้จริงๆก็เลยไปหาดูในกูเกิ้ล  น่ากินมาก สวยด้วย

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
รอพ่อเส็ง หนุ่มอะไรช่างมือเบาจริง
อยากได้สักคนจังเลย

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
 :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ขอบคุณครับ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แวะมาส่องบทที่ 9 อิอิ ยางมะมา

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
คุณหลวงท่าจะหลงเสน่ห์ของเส็งเข้าไปเต็มๆ

เส็งเองก็เก่งและน่ารัก จิตใจก็ดี

อ่านหวานๆ ไว้ปลอบใจเรื่องเศร้าๆ ได้บ้างนะคะ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย

น่าร๊ากกกกกกกกกกกก

ที่สู๊ดดดดดดดดดดดดดด

เลยยยยยยยยยยยยยยยยย

MM.Dog

  • บุคคลทั่วไป
คุณหลวงรักแรกพบเส็งรึเปล่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด