[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 497230 ครั้ง)

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
ไปต่อกันเลยคร้าบบบ
*********************************************************************************
๑๖

    พาทิศหลับตา ปล่อยจิตเข้าสู่สมาธิ
    ฉับพลันเขาก็เห็นป้าจิตรานอนอยู่บนเตียงคนไข้ข้อมือพันผ้าไว้ ดูอ่อนแอเหมือนจะตายเสียแล้วตรงนั้น หล่อนมองออกนอกหน้าต่างอย่างทอดอาลัย กระทั่ง ใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา
    “จิตรา ผมได้ข่าวว่าคุณเป็นอะไรเสียมากก็เลยเข้ามาหาคุณ”
    ป้าจิตรานอนหันหลังไม่ยอมพูดอะไรกับชายหนุ่ม พาทิศสังเกตเห็นว่าแม้เขาจะไม่หล่อ ไม่ดูหล่อเหลาอย่างที่เป็นที่นิยมของหญิงสาว หากแต่เขาก็ดูดีงามสง่าในแบบของเขา ร่างกายสูงโปร่งแต่ไม่บึกบึนสมชายนัก สวมแว่นตาหนาเตอะอย่างที่จิตราเคยว่า เพราะเขาเป็นผู้หลงใหลในวรรณคดีวันๆอ่านอยู่แต่วรรณคดีเรื่องแล้วเรื่องเล่า ผมเผ้ายาว แต่เสยไว้ดูยุ่งเหยิงแบบคนไม่ดูแลตัวเอง กระนั้นการแต่งตัว และบุคลิกก็ทำให้พอดูออกว่าเป็นผู้ดีมีตระกูลอยู่เหมือนกัน
    “คุณจะไม่คุยกับผมหน่อยหรือ อย่างน้อยเราก็เคยเป็นคู่หมั้นกัน”
    “ดิฉันไม่เคยเห็นคุณเป็นคู่หมั้นค่ะคุณผ่านฟ้า” เสียงของจิตราแหบพร่า เป็นผลจากการกรีดร้อง ตวาดโวยวายอย่างไร้สติ ทำให้หล่อนดูน่ากลัวเสียเหลือเกิน “กลับไปเถอะค่ะ”
    “ผมมาเยี่ยม แต่หากคุณต้องการอย่างนั้นละก็ตามใจ” เขาวางกระเช้าของขวัญลงบนโต๊ะข้างเตียง “ผมมาบอกคุณว่า ผมจะไม่แต่งงานกับใครอีกทั้งนั้นหลังจากถอนหมั้นคุณแล้วผมตั้งใจอยู่ที่เรือนเทาของหลวงพินิจราชอักษรไปตลอด รอจนกว่าคุณจะยอมไปอยู่กับผมที่นั่น”
    คำว่าเรือนเทาทำให้จิตราพลิกตัวกลับมามองผ่านฟ้าเต็มตา คำคำนี้ดึงดูดความสนใจของจิตราได้มากพอๆ กับพาทิศหล่อนพูดด้วยเสียงแหบพร่านั้นอีกครั้งอย่างชัดถ้อยชัดคำดีทุกคำ
    “ดิฉันไม่มีวันไปที่นั่นอีก และแนะนำให้คุณออกมาจากที่นั่นเสีย”
    “คุณยังปักใจเชื่อของคุณอย่างนั้นหรือ”
    “ดิฉันบอกคุณแล้ว หากคุณไม่เชื่อ ดิฉันจะไปบังคับให้เชื่อได้หรือคะ อย่างไรดิฉันก็ยืนยันคำเดิมค่ะ”
    “เรื่องที่เขาลือกันบางครั้งมันก็อาจจะไม่จริงก็ได้” ผ่านฟ้าว่าเสียงเรียบๆ “ผมไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ และไม่เชื่อว่าหลวงพินิจราชอักษรยังคงอยู่ที่บ้านหลังนั้น”
    จิตราหลับตา ถอนใจแบบรำคาญเต็มแก่
    “ดิฉันบอกคุณแล้วหลายครั้งค่ะ แล้วก็จะย้ำครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่า สิ่ง ที่อยู่ที่บ้านหลังนั้นไม่ใช่วิญญาณ...”
    “...แต่เป็นจิตของผู้ตาย เป็นความทรงจำที่ฝังอยู่ที่นั่นไม่ยอมเสื่อมไปตามกาลเวลา” ฝ่ายฟ้าต่อประโยคจนจบ “ผมจำได้แม่นกว่าบทอาขยานเสียแล้วจิตรา แต่คุณจะเรียกมันว่าอย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่เชื่อ และไม่คิดว่าคนอื่นจะเชื่อด้วย โลกเราเปลี่ยนไปมากแล้วความเชื่อพวกนี้ควรจะหมดไปตั้งนานแล้วครับ”
    จิตราไม่ตอบโต้ ได้แต่ลืมตามองเพดาน
    “ผมจะทุบเรือนบ่าวที่ปล่อยร้างไว้นานเหลือเกิน แล้วจะสร้างโรงแรมบนพื้นที่นั้น สร้างคร่อมสระบัวของเดิม เปลี่ยนแปลงเป็นสระอโนดาต”
    “อย่าค่ะ ดิฉันขอห้าม” หล่อนตะเบ็งเสียสุดเสียงเท่าที่เสียงของหล่อนจะอนุญาต “คุณไม่ควรเปลี่ยนแปลงอะไรในบ้านหลังนั้น เจ้าของบ้านเขายังอยู่”
    ผ่านฟ้าไม่ฟัง เขายังพูดต่อไป    
    “อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย พูดเรื่องเราเถอะ ...คุณจะไม่เปลี่ยนใจจริงๆหรือ” ผ่านฟ้าเดินเข้ามา กุมมือของจิตราไว้ แต่หญิงสาวดึงมันออกช้าๆ ก่อนจะเอ่ยว่า
    “ดิฉันไม่เคยรักคุณ ไม่รัก และจะไม่มีวันรักด้วย” หล่อนว่าเสียงสั่นเครือ “และดิฉันก็จะไม่มีวันแต่งงานกับใครอีกค่ะ ถ้าหากคุณบอกว่ารักดิฉันจริง ดิฉันจะต้องขอร้องว่า ออกจากบ้านหลังนั้นเสียเถิดค่ะ”
    “ผมไม่เข้าใจ คุณมีเหตุผลอะไร ผมไม่โดนหักคอตายหรอก”
    “บ้านหลังนี้มีเจ้าของ และเจ้าของเขายังไม่ไปไหน คุณเข้าไปอยู่อย่างนี้ถือว่ารบกวนเขา บุกรุกไปอยู่ในที่ของเขาที่คุณไม่ควรอยู่” หล่อนว่าเสียงเข้มเท่าที่เสียงแหบๆของเธอจะทำได้
    “ผมเป็นทายาทของหลวงพินิจราชอักษร...”
    “คุณไม่ใช่ทายาทของหลวงพินิจราชอักษรค่ะ” จิตราเถียงในทันที
    “จิตรา” ผ่านฟ้าขึ้นเสียงเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจคุณ นามสกุลผมคือไพรัชกิจจาพันธุ์ และนั่นเป็นราชทินนามของเจ้าคุณพ่อของ หลวงพินิจราชอักษรสาแหรกตระกูลก็มีอยู่ เหตุใดคุณถึงบอกว่าไม่ใช่”
    “ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ค่ะ คนที่เขาจะต้องมารับรู้เรื่องนี้ยังไม่มาเกิด หากมาเกิดแล้ว ความจริงทั้งหมดคงกระจ่าง”
    ผ่านฟ้าคิดว่าจิตราคงเสียสติไปแล้ว เขาถอยห่างออกมาจากเตียงคนไข้
    “คุณผ่านฟ้าดิฉันขอคุณจริงๆ คนที่เฝ้าบ้านหลังนั้นยังอยู่ เจ้าของบ้านเขายังไม่ยอมทิ้งบ้าน คนที่อยู่บ้านนั้นมา ไม่มีใครตายอย่างเป็นธรรมชาติสักคนหากไม่ตายด้วยอุบัติเหตุ ก็เป็นโรคร้าย หรือไม่จริงคะ”
    พ่อของผ่านฟ้าตายด้วยโรคมะเร็งในสมอง ทั้งที่ไม่เคยมีอาการมาก่อน ปู่ของเขาประสบอุบัติเหตุจมน้ำตาย ก่อนหน้านั้นเขาไม่รู้ แต่ก็ว่ากันในครอบครัวเขาว่า ไม่ตายดี อย่างที่จิตราว่าจริงๆ
    “เพราะพวกคุณไม่ใช่เจ้าของบ้าน เขารัก เขาหวงบ้านของเขามาก คุณเองก็จะเป็นรายต่อไป”
    “จิตรา หลับเถิดนะคุณเพลียมากแล้ว คุณ... คุณคงป่วยมาก หลับเถิด ผมกลับก่อนก็แล้วกันครับ”
    “คุณไม่เชื่อดิฉันหรอกค่ะ ดิฉันเข้าใจดี” จิตราหลับตาสนิท “ไปเถิดค่ะ ดิฉันเตือนคุณได้เท่านี้ ความไม่รู้บังตาคุณอยู่ ปัญญาคุณยังไม่เปิดรับ...”
    ผ่านฟ้ารีบเดินออกไปทันทีทั้งที่จิตรายังพูดไม่จบ เขากลัว เพราะผู้หญิงคนนี้มีสองร่าง ร่างหนึ่งเปรี้ยว ก๋ากั่นไม่ยอมสยบให้โลก ไม่กลัวใครทั้งสิ้น ร่างนั้นคือร่างที่หนีตามผู้ชายไปจนท้อง ส่วนอีกร่างหนึ่งคือเหมือนร่างคนทรงคือพูดจาเลื่อนลอยไปปกติ หลายครั้งร้องไห้ หรือผวาตกใจไปเองราวกับมีสัมผัสที่หก หากแต่ผ่านฟ้าไม่เชื่อในสัมผัสที่หก เขาจึงคิดเสมอว่าจิตราเป็นผู้ป่วยทางจิตคนหนึ่งเท่านั้น ถามว่าร่างไหนของจิตราน่ากลัวกว่ากัน เขาคงต้องบอกว่าทั้งคู่เพราะเขาไม่อาจเข้าใจ และตามทันความคิดของทั้งสองร่างของจิตราได้เลย
    ชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูก็ต้องผงะเมื่อพบเข้ากับจิตมาศน้องสาวของจิตรา “อ้าวน้อง มาพอดีพี่มาเยี่ยมจิตรากำลังจะกลับแล้ว ฝากดูแลด้วยเถอะนะ ขอโทษที่อยู่เสวนาด้วยไม่ได้ พี่มีธุระด่วนจ้ะ”
    “ค่ะ ดิฉันยังไม่ทันสวัสดีก็ต้องบอกว่า ลาก่อนไว้เจอกันใหม่เสียแล้ว” หล่อนยิ้มให้ผ่านฟ้า ก่อนจะเดินเข้ามากับแฟนหนุ่มคนล่าสุดของหล่อน
    “ครับไว้เจอกัน พี่ขอตัว” ผ่านฟ้าออกจากห้องไปในที่สุด
    จิตมาศเดินตรงเข้ามาหาพี่สาว ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร พาทิศก็เห็นลูกแก้วที่เป็นสัญญาณว่าเขาควรพาตัวเองออกจากนิมิตของป้าจิตราแล้วแม้ว่าเขาจะอยากรู้เพียงใดว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ความรับผิดชอบอยู่เหนือความอยากรู้ ในคราวนี้ลูกแก้วมาในรูปร่างของแหวนบนนิ้วของจิตมาศนั่นเอง เขาจึงรู้ว่านี่เป็นนิมิตไม่ใช่เหตุการณ์จริงที่เขากำลังเห็นและอยู่ดูต่อได้ เขาต้องออกไปจากนิมิตนี้
    พาทิศรวบรวมจิตใจ คิดถึงห้องพระในเวลาปัจจุบัน เขานั่งสมาธิอยู่ที่พื้นไม้ ป้าจิตรานั่งอยู่ทางขวา เยื้องไปด้านหน้าเล็กน้อย พอลืมตาขึ้น ชายหนุ่มก็เห็นตัวเองอยู่ในเวลาปัจจุบัน แน่นอนแล้ว ไม่ผิดพลาด
   “ยินดีด้วยค่ะที่กลับมาได้ แม้คุณจะอยากรู้แทบแย่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป” หล่อนยิ้มอย่างใจดี
    “คุณป้า คุณป้ารู้เรื่องเรือนเทาด้วยหรือครับ”
    “รู้ไม่หมดหรอกค่ะ แต่รู้บ้าง”
    “รู้บ้าง... หมายความว่าอย่างไรครับ”
    “ดิฉันสัมผัสจิตของเขาได้ค่ะ ตอนที่เคยไปที่นั่น” หล่อนหลับตาพูดอย่างใจเย็นตามแบบของหล่อน “อยากรู้หรือเปล่าคะว่า เกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากที่ดิฉันออกจากโรงพยาบาล”
    พาทิศพยักหน้า
    “ดิฉันเปลี่ยนไปเป็นอีกคนโดยสิ้นเชิง ดิฉันรู้ว่าดิฉันทำผิด ทำบาปกับคุณพ่อคุณแม่ และลูกที่ยังไม่มีโอกาสได้เกิดของดิฉันมามาก ดิฉันจึงตัดสินใจบวชค่ะ บวชชีอยู่หลายปีจนกระทั่งต้องสึกออกมาเพราะยิ่งอยู่นานไป จิตดิฉันยิ่งเข้มขึ้น ดิฉันจับความคิดคนได้ สัมผัสได้ถึงจิตของคนหลายคนทั้งที่เสียแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ ดิฉันอยู่ไปก็รู้ว่าตัวเองฟุ้งซ่าน เผลอทักโยม ทักสีกาหลายคนว่าเคยเป็นอะไรในอดีต และจะเป็นอะไรในอนาคตจนคิดว่าดิฉันควรหาทางดับทุกข์เพื่อบรรลุนิพพานหากจะเป็นชีต่อไป ไม่ใช่เอาตนมาเกี่ยวกับเรื่องทางโลก แต่ดิฉันก็ไม่สามารถทำจิตให้สงบได้ขนาดนั้น ดิฉันรู้ดีว่าบวชต่อไปก็จะเป็นนักบวชที่ดีในพระพุทธศาสนาไม่ได้ จึงสึกออกมาในที่สุดค่ะ
    ต่อมาดิฉันกลับมาอยู่บ้าน ก็เกือบสี่สิบแล้ว น้องสาวดิฉันก็แต่งงานกับผ่านฟ้า ดิฉันว่าผ่านฟ้าคงทำเพื่อประชด แต่สุดท้ายเขาสองคนก็มีลูกด้วยกัน”
    “คุณสร้อยฟ้า สร้อยสุวรรณ”
    “ค่ะ จิตมาศท้องสามสิบกว่าดิฉันคิดว่าลูกจะไม่สมบูรณ์ แต่เปล่ากลับสมบูรณ์ดี สุขภาพแข็งแรงทั้งสองคนก็คิดว่าปาฏิหารย์น่าจะเป็นคนที่รอมาเกิดเพื่อให้เรื่องที่เรือนเทาจบๆไป ดิฉันดูจากลักษณะคิดว่าเป็นสร้อยฟ้า จึงขอแบ่งเบาภาระจิตมาศ เอาสร้อยฟ้ามาเลี้ยง เขาอยู่กับแม่เขานั่นแหละที่เรือนเทา ไม่ได้พรากลูกจากแม่ แต่เอามา สอนกายาวิปัสสนาทุกอย่างตั้งแต่เล็กๆ แต่เสียดายสิ่งที่เขารับไปได้มีเพียงความเชื่อเล็กๆน้อยๆ อย่างคนโบราณเท่านั้น ไม่ได้มีจิตที่แข็งแกร่ง หรือมีสัมผัสที่หกอย่างดิฉัน ดิฉันก็แน่ใจว่าไม่ใช่แม่สร้อย
    ทีนี้แม่สร้อยเกิดหัวสมัยใหม่ในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ ก็เลยไม่ให้จิตมาศกับสร้อยสุวรรณอยู่ที่เรือนเทา ซื้อบ้านกันใหม่ย้ายออกมา เปิดเรือนเป็นพิพิธภัณฑ์บ้าง ให้เช่าบ้างก็ไม่มีใครอยู่ได้ เพราะ อย่างที่ดิฉันบอก ยังมีคนเขาเฝ้าบ้านอยู่ไม่ไปไหน”
    พาทิศขนลุกซู่
    “สุดท้าย ดิฉันตัดสินใจบอกแม่สร้อย แต่จะเชื่อหรือก็เปล่า กลับบอกดิฉันว่าถ้าเป็นปัญหาก็แบ่งบ้านเป็นสองซีกเสียเลย เอาฝั่งอาถรรพ์อะไรนั้นปิดไว้เฉยๆ อีกฝั่งก็ให้คนมาซื้ออยู่เสีย ลงทุนสร้างกำแพงขาวกั้นบ้านเป็นสองฝั่ง ฉาบปูนลงน้ำมนต์อย่างดี กันผีไม่ให้มาอีกฝั่งหนึ่ง ทีนี้ความจริงมันไม่ใช่อย่างที่คนเขาเชื่อกันใช่ไหมคะคุณพาทิศ สิ่งที่ยังอยู่นั้นเป็นจิตไม่ใช่วิญญาณเหมือนในหนังในละคร เขามาปรากฏให้ใครเห็นเวลาที่เขามีอารมณ์รุนแรงคิดถึงเรื่องอดีต เป็นรูปของความทรงจำที่ยังฝังอยู่กับสถานที่ คนก็ทึกทักไปว่าเป็นผีปรากฏเป็นตัวๆ เดินไปเดินมาได้ จริงๆไม่ใช่ค่ะ
    ทีนี้ไปสร้างกำแพงเข้า เขาจะทำลายได้หรือก็ไม่ เขาก็คือคนที่ตายไป เท่านั้นเอง ตอนอยู่เป็นอย่างไร ตอนตายก็เป็นอย่างนั้น ถ้าไม่มีอิทธิฤทธิ์อะไรตอนเป็น ตอนตายก็ไม่มีค่ะ ถ้าตอนเป็นเขาเคยเดินไปเดินมาเข้าประตูโน้นออกประตูนี้ได้ ตอนตายไปแล้วเขาก็ยังทำอยู่อย่างนั้น เพราะจิตเขาไม่ปล่อยวางไปเกิดในร่างใหม่ เขาก็เลยได้แต่วนเวียนอยู่ในฝั่งที่เขาตายเท่านั้น จะโผล่มาอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้ แม่สร้อยเลยคิดว่ากำแพงน้ำมนต์ได้ผลผีไม่มาโผล่อีกฝั่งหนึ่ง เลยประกาศขายเสียเลย
    แล้วคุณก็ไปซื้อบ้านหลังนั้นเข้าค่ะคุณพาทิศ ดิฉันเจอคุณที่งานเลี้ยงวันเกิดยายจิตมาศก็ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นคุณ แต่ตอนคุณสำลักน้ำเท่านั้นแหละ ดิฉันพบว่าจิตคุณไม่อยู่ในร่าง แต่ไปผูกกับอีกจิตหนึ่งที่ยังอยู่ตรงนั้น ก็เลยรู้ทันทีว่าคุณคือคนที่มาทำให้เรื่องจบ มาทำให้คนที่อยู่บ้านนั้นไม่ไปไหน ได้คลายจิตของตัวเองที่ผูกไว้กับบ้าน ไปเข้าร่างใหม่ หรือไปเกิดใหม่ในที่สุดนั่นเอง”
    “คุณป้าครับ ผมอยากรู้ว่าที่นั่นมีใครอยู่” พาทิศใจเต้นแรง รัวเร็วจน แทบอยากวิ่งกลับไปเรือนเทาของหลวงพินิจเสียเดี๋ยวนั้น เด็กหนุ่มที่เขาเห็น... เด็กหนุ่มตรงหน้าต่าง ร่างขาวสะอาดนวลเนียนคนนั้น เขารู้แล้วว่าเด็กหนุ่มคนนั้นคือใคร “คุณป้า... นั่นเส็งใช่ไหมครับ”
    จิตราไม่ว่าอะไร หล่อนไม่พยักหน้า ไม่ส่ายหน้า แต่ไม่ตอบอย่างนี้
พาทิศตีความได้อย่างเดียวว่ามันคือความจริง เขาตกใจ... ตกใจจนแทบเป็นบ้า เขาเห็นผี หรือ? ... ไม่ซี มันเป็นจิตของเส็งที่ยังไม่ยอมหายไปตามกาลเวลาซีนะ จิตของเขา สัมผัสกับจิตของเส็งได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหมายความว่า
    “คุณป้า” เขาถาม เสียงเบาสั่นเครือไม่แน่ใจว่าจะพูดออกไปดีหรือเปล่า “ผมคือหลวงพินิจราชอักษร กลับชาติมาเกิดหรือครับ”
    “ดิฉันไม่ทราบค่ะ” หล่อนตอบในที่สุด แต่ไม่สบตาพาทิศ แปลว่า ใช่อย่างนั้นหรือ
    “คุณป้าไม่ตอบ หมายถึงใช่หรือครับ”
    “หมายถึงอาจใช่ และ ไม่ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ทราบจริงๆ คุณต้องรู้ด้วยตัวเอง จะด้วยเขามาดลจิตคุณ หรือรู้เองโดยที่คุณระลึกได้เองก็แล้วแต่ ดิฉันไม่มีสิทธิ์ช่วยคุณค่ะ ถ้าอยากให้เรื่องที่คาราคาซังมากว่าร้อยปีจบลงแล้วละก็” จิตรานิ่งไปสักครู่ “เรื่องที่เล่ามาให้ฟังทั้งหมด ก็เพื่อให้คุณพาทิศเข้าใจว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรหลังจากหลวงพินิจราชอักษรเสีย นั่นคือเหตุการณ์ตอนปัจจุบันแล้วค่ะ แล้วคุณพาทิศก็รู้เหตุการณ์ในอดีตในตอนเริ่มเรื่องแล้ว...”
    “หลวงพินิจราชอักษรหมั้นกับคุณหยาด ซึ่งพาเส็งมาเป็นบ่าวที่เรือนเทา  เส็งกับคุณหลวงเกิดความผูกพันกันกระทั่ง สี่เดือนก่อนจะแต่งงานกับคุณหยาด หลวงพินิจก็ออกจากบ้านไปหัวหินซีนะครับ”
    “ค่ะ ทีนี้เหลือเหตุการณ์หลังจากนั้นคือ หลวงพินิจกลับมาจากหัวหินแล้ว เกิดอะไรขึ้นกระทั่งเขาตายนั่นละค่ะ ที่คุณพาทิศต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง พอรู้คำตอบ รู้เรื่องที่เกิดขึ้นโดยตลอดแล้วเราอาจรู้ได้ว่า จะแก้ปมของเรื่องที่มันเกิดแล้วไม่ยอมคลายลงกระทั่งล่วงเลยมากว่าร้อยปีนี้ได้อย่างไร”
    “แล้วผมจะทำได้อย่างไรครับ” เขาถาม “ผมคุมจิตเข้าออกนิมิตได้ตามที่คุณป้าดลใจผมแล้ว แต่ผมยังระลึกเหตุการณ์นั้นเองไม่ได้”
    “ค่ะ คุณต้องเพ่งเตโชกสิณ”
    “ถ้าผมไม่เพ่งล่ะครับ” เขาว่า จิตราเลิกคิ้วอย่างสงสัยแต่ยังไม่ทันพูดอะไรชายหนุ่มก็กล่าวต่อไปในสิ่งที่เขาคิด “ถ้าผมไม่รอให้ระลึกเองได้ แต่ไปให้เขาดลจิตผมให้เห็นนิมิตอีกก็ได้ใช่ไหมครับ ถ้าผมเห็นนิมิตได้อีกครั้งจริงๆ คราวนี้ผมจะดึงตัวเองออกจากนิมิตก็ได้ใช่ไหมครับ”
    “ดิฉันเห็นว่าได้ แต่คุณต้องมั่นใจว่าคุณจะดึงตัวเองออกมาจากนิมิตได้ในเวลาที่สมควร คือ หนึ่งคืนในการนอนหลับเท่านั้น”
    “ผมจะรู้ได้อย่างไรครับ” เขาถามอย่างตื่นเต้น เหงื่อผุดขึ้นบนหน้าเป็นเม็ดอย่างที่เขาไม่เข้าใจ เขาตื่นเต้นอยากรู้ความจริง อยากให้เรื่องมันจบลงในที่สุด เสียทีหลังจากอยู่กับมันมาเกือบสองเดือนแล้ว
    “กำหนดจิตก่อนเข้านิมิตค่ะคุณพาทิศ ดิฉันกำหนดให้คุณเห็นลูกแก้วในเวลาที่อยากให้คุณตื่น แต่ฝ่ายนั้นคงกำหนดให้คุณไม่ได้ เขาอยากให้คุณเห็นอะไรเขาก็เพียงแต่กำหนดจิตให้คุณเห็นเท่านั้น หน้าที่ของคุณคือ กำหนดเอาเองก่อนที่จะเข้าสภาวะไร้จิตสำนึกที่จะปล่อยให้เขาดลจิตคุณ เหมือนที่ดิฉันให้คุณฝึกกำหนดเวลาตื่นนอนทุกๆเช้าเท่านั้นค่ะ”
    “ครับ ถ้าผมกำหนดว่า ให้ตื่นหลังจากเห็นนิมิตไปสิบชั่วโมงอย่างนี้ก็ได้ใช่ไหมครับ เหมือนพอสวิดิโอไว้หลังจากดูไปสิบชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาดูใหม่อย่างนี้หรือครับ”
    “ค่ะ แต่ต้องมั่นใจว่าทำได้จริงๆ”
    “ผมทำได้ครับ” ชายหนุ่ม ลุกขึ้นจากพื้นไม้ จิตราก็ลุกตาม
    “คุณจะไปไหนคะ”
    “ผมจะขออนุญาตคุณป้ากลับไปนอนที่บ้าน เผื่อจะเกิดนิมิต ผมจะทำตามที่คุณป้าบอกทุกครั้งก่อนนอน และจะตื่นขึ้นมาทุกเช้า จะมาเล่าให้คุณป้าฟังว่าเห็นอะไรบ้างในแต่ละคืนจนกว่าจะหมดเรื่องนะครับ”
    จิตรามองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มจะทำได้จริงหรือไม่
    “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ แต่คุณพาทิศต้องอย่าลืมนะคะว่า เรื่องนี้มันร้ายแรงแค่ไหน ถ้าพลาดคุณจะหลับไปตลอด ไม่ตื่นมาอีกนะคะ”
    “ครับแน่ใจครับคุณป้า ถ้าอย่างนั้นผมลา” เขาไหว้จิตรา ก่อนจะกล่าวขอบคุณแล้วรีบวิ่งลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของแล้วออกไปเรียกรถแท็กซี่ เดินทางกลับเรือนเทาของหลวงพินิจราชอักษรเพื่อสะสางเรื่องที่เกิดขึ้นให้จบไปเสียที
    
    

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
พาทิศไม่รู้ตัวเลยว่า เขาใช้เวลานานแค่ไหนตอนที่ฝึกจิตกับจิตรา พอออกจากบ้านมาขึ้นแท๊กซี่ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงหัวค่ำแล้ว ยิ่งฝ่ารถติดมาเป็นชั่วโมงอีกพอเลี้ยวเข้าซอยบ้านเรือนเทาเท่านั้นฟ้าก็มืดเหลือเกินแล้ว แสงไฟจากเสาไฟฟ้าที่อยู่ไกลกันเป็นวาๆ ส่องแสงสลัวๆ ให้พอเห็นละเมาะไม้และยอดตึกแถว คอนโดเป็นระยะ ทุกครั้งที่รถแล่นผ่านเสาหนึ่งต้น ไฟก็จะสว่างวาบเข้าตาของชายหนุ่ม ทำให้เกิดบรรยากาศวังเวงแปลกๆกระทั่งรถจอดรถหน้าเรือนเทา พาทิศก็จ่ายเงินแล้วลงจากรถมายืนประจันหน้ากับบ้านหลังนี้อีกครั้ง
    มันยังเหมือนเมื่อครั้งที่เขาเห็นครั้งแรกก่อนตัดสินใจซื้อไม่ผิด
    หากแต่ครั้งนี้ พาทิศไม่ได้มองบ้านหลังนี้ด้วยความกลัว ไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่น่าอยู่ สยดสยองเกินจะทนอย่างคราวนั้น หรือแม้แต่จะมองว่ามันน่าเบื่อเหมือนตลอดเวลาที่เขามาอยู่ที่นี่ คราวนี้ เขารู้สึกว่าบ้านหลังนี้เป็นมากกว่าแค่ “บ้าน” แต่มันเป็นที่ที่อบอุ่นไปด้วยความรักความผูกพันระหว่างนายบ่าว ระหว่างชายสองคน ตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ... ความรักที่เกิดขึ้นแล้วแต่เขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้มันไม่จบลงแม้เวลาจะล่วงเลยมาเป็นศตวรรษ
    พาทิศกำลังจะก้าวเข้าไปไขกุญแจเปิดประตูรั้วซีกตะวันออกที่เป็นที่ที่เขามาซื้อไว้อาศัย เพื่อจะได้เข้านอนแล้วหลับฝันเห็นนิมิตที่เกิดจากการดลใจของใครบางคนที่ยังผูกพันอยู่กับบ้านหลังนี้
   แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ ...ถ้าหากเขาไม่ฝันเล่า พาทิศฉุกคิด ถ้าหากไม่เกิดการเห็นนิมิตนั้นอีก เขาก็จะไม่ได้รู้เรื่องในอดีตเกี่ยวกับตัวเขาอีกเลย ตอนนี้เขาอยากรู้เรื่องเต็มทีแล้ว เขาจะไม่รอให้มันเกิดขึ้นตามเวรตามกรรมอย่างที่มันเคยเป็นเด็ดขาด เขาจะเข้าไปในซีกตะวันตกของบ้านนี้ให้รู้ไปว่า “วิญญาณ” หรือ “จิต” ที่ยังผูกพันอยู่กับบ้านหลังนี้เป็นใครกันแน่ ทั้งที่เขาออกจะมั่นใจว่า จะต้องเป็นเส็งอย่างแน่นอน
    ชายหนุ่มจับลูกกรงแน่น ยกตัวขึ้นอย่างคล่องแคล่วสมเป็นผู้ที่ดูแลตัวเองอยู่เป็นประจำ ปีนขึ้นถึงยอดประตูเหล็กด้านหน้า แล้วกระโดดลงมายังพื้นหญ้าหน้าบ้าน รวดเร็วเพียงพริบตา บัดนี้ชายหนุ่มได้มาอยู่ในที่ที่ไม่มีใครคิดอยากอยู่ได้สำเร็จ เขาเข้ามายังเขตหวงห้ามของบ้านหลังนี้เรียบร้อยแล้ว
    บ้านซีกตะวันตกถูกปิดไว้ด้วยกลอนเหล็กที่ดูแน่นหนา หากแต่เก่าแก่เพราะไม่ได้เปิดมานาน กระนั้นพาทิศก็ยังมั่นใจว่า ถึงจะเก่าแก่อย่างไรแต่หากพังเข้าไปก็คงต้องใช้กำลังอย่างมาก จะปีนขึ้นหน้าต่างก็ปิดอยู่ แล้วจะเข้าบ้านได้อย่างไร ... ปิดอยู่หรือ หน้าต่างไม่ได้ปิดอยู่ มันเปิดแง้มไว้อย่างเชิญชวนให้เข้าไปเสียเหลือเกินต่างหาก!
     พาทิศจำได้ว่าหน้าต่างบานนั้นอยู่ตรงกับห้องนอนที่หลวงพินิจราชอักษรใช้เป็นห้องรับรองเวลาที่ เจ้าคุณพ่อและคุณหญิงแม่ของเขาเข้ามาพักไม่ผิดแน่
     ใบหน้าที่คุ้นตา ชะโงกลงมาจากหน้าต่าง เพียงชั่วเดียวที่หางตาจะกระหวัดไปเห็นได้ หน้าของบ่าวลูกจีน โผล่มาให้พาทิศเห็นอย่างชัดเจน เต็มตาจนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคนคนนั้นมาปรากฏตัวให้เห็นจริงๆ หนุ่มน้อยมองออกไปไกลๆ มีแววเศร้าเจืออยู่ในสายตา
    “เส็ง” พาทิศตะโกนลั่น “นั่นคุณหรือ”
    เขากำลังจะอ้าปากตะโดนชื่อนั้นอีก แต่เพียงกระพริบตาอีกครั้งเท่านั้น หน้าต่างก็กลับไปปิดสนิทอีกครั้งไม่มีแม้เงาของเด็กหนุ่มหน้าตี๋คนนั้นเลย
 พาทิศตะลึง เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นไปได้ เขาเห็นภาพหลอน หรือเขาตาฝาด หรือแท้จริงแล้วตรงนี้ไม่มีอะไรอยู่กันแน่
    ชายหนุ่มกำลังจะหันตัวกลับเพื่อปีนกำแพงกลับไปยังฝั่งที่ตนควรจะอยู่ ฉับพลันเขาก็เห็นอะไรบางอย่างที่อาจช่วยเขาเปิดประตูได้... จอบขนาดใหญ่วางพิงกำแพงขาวที่แบ่งบ้านหลังนี้เป็นสองส่วน อย่างไม่สำคัญอะไรนัก คล้ายๆว่าคนสวนคงวางลืมไว้เท่านั้นเอง พาทิศไม่ทันได้คิดทบทวนสิ่งที่เขาจะทำ ชายหนุ่มเดินคว้าจอบอันนั้นไว้มั่นในมือขวาแทบจะทันทีที่เห็นมัน ก้าวยาวๆอย่างมั่นคงกลับไปที่ประตูบ้าน ฟันจอบนั้นลงบนกลอนเหล็กนั้นด้วนแรงทั้งหมดเท่าที่เขามี
    กลอนหลุดออกเล็กน้อยเป็นสัญญาณที่ดีว่าสิ่งที่เขาพยายามจะเป็นผล พาทิศเงื้อจอบสุดแขนแล้วฟันลงอีก สองสาม ทีกลอนประตูก็กระเด็นหลุดออกมาทั้งหมด เขาโยนจอบเหล็กนั้นให้พ้นทาง ยกมือขึ้นผลักแรงๆ ประตูนั้นก็เปิดออกอย่างง่ายดาย เขาเข้ามาได้แล้วในที่สุด!
    พาทิศมองไปรอบๆ เขาเห็นบรรยากาศของบ้านไม่ชัดเจน เพราะไฟฟ้าไม่ได้เปิด ชายหนุ่มสองจิตสองใจ ถ้าเดินไปเปิดไฟฟ้าก็เท่ากับเปิดสัญญาณให้ลุงอิ่มรู้ว่าเขาบุกรุกเข้ามาในเขตที่หวงหนักหวงหนาของผู้เฝ้าบ้านชราแล้ว พาทิศหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นส่องไฟแทนไฟฉาย เขาขอสำรวจบ้านหน่อย สักพักเดียวก็ดี ที่แรกที่จะสำรวจหรือ... ก็หน้าต่างบานนั้นไงเล่า
    ชายหนุ่มรีบวิ่งขึ้นบันไดเวียน มองไปทางซ้ายมือก็เห็นตั่งไม้ตัวเดิมที่หลวงพินิจราชอักษรเคยเอนกายนอนให้บ่าวหนุ่มอ่านบทเห่กล่อมให้ฟัง มันอยู่ในสภาพเดิมชัดเจน กลิ่นของน้ำอบลอยเข้าจมูกหอมกรุ่นราวกับหลวงพินิจราชอักษรนอนอยู่ตรงนั้นจริงๆ ทำให้ลืมไปเสียสนิทว่าตั้งใจมาดูหน้าต่างเจ้าปัญหา
    “หลับเถิดหนายาหยีพี่จะกล่อม...” พาทิศหลุดปากพูดขึ้นทั้งที่กลอนบทนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตด้วยซ้ำ ชายหนุ่มเดินเข้าไปลูบตั่งนั้นเบาๆ สัมผัสได้ถึงความรักที่มันซาบซ่าน แฝงอยู่ระหว่างเนื้อไม้ก็อดสะเทือนใจไม่ได้
     “เส็ง... เหตุใดคุณถึงยังไม่ไปเกิดเสียที”
    เขาพาตัวเองเดินไปถึงห้องหนังสือ เพียงเปิดประตูไปก็เหมือนกับจะเห็นร่างของคุณหลวงหนุ่มกอดรัดบ่าวลูกจีนไว้แนบกายด้วยอารามตกใจว่าหนุ่มน้อยจะลื่นล้มได้รับบาดเจ็บเสีย เขาเดินไปลูบโต๊ะไม้กลางห้องด้วยความอาลัยตรงนี้เองที่เส็งยืนอ่านกลอนเพลงยาวที่คุณหลวงใช้บอกรัก ชายหนุ่มเดินเลยไปถึงหน้าต่าง มองออกไป เห็นเพียงด้านหลังของโรงแรม เกต ออฟพาราไดส์ แต่ก็มีภาพของเรือนบ่าว ศาลาไม้แปดเหลี่ยมสีขาวสะอาด และสระบัวขนาดใหญ่อยู่ตรงนั้นกับตา ตรงนี้ซีที่หลวงพินิจราชอักษรใช้มองความเคลื่อนไหวของบ่าวหนุ่ม ตรงนี้เองที่หลวงพินิจยืนทอดอาลัยไปถึงบ่าวคนรักของเขาก่อนจะเดินทางไปหัวหิน
    พาทิศรู้สึกสงสารเส็งจับใจ แม้ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์ต่อจากนั้นเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ที่แน่ๆ เส็งยังอยู่ตรงนี้ หากเป็นอย่างที่จิตราบอก จิตของเส็งยังผูกพันอยู่แต่ตรงนี้ ... เพราะอะไรไม่รู้ แต่พาทิศรู้ว่าหลวงพินิจราชอักษรก็มีส่วนในเรื่องนี้ด้วย
    แต่ เขายังไม่ลืมทีเดียวหรอกนะว่า ชาวบ้านแถวนี้เขาลือกันหนาหูเพียงใดว่าหลวงพินิจราชอักษรฆ่าตัวตายที่บ้านนี้ และไม่ไปผุดไปเกิด เช่นนั้นหมายความว่า บ้านหลังนี้มีทั้งเส็ง และคุณหลวงอยู่ในที่เดียวกัน เวลาเดียวกันนี้หรือ? แล้วเหตุใดทั้งคู่จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่ตนรักมากมายก็อยู่ที่นี่ด้วย เหตุใดจึงไม่ได้พบกันสักทีเล่า
    พาทิศเดินใจลอยมาถึงหน้าต่างที่เขามักจะเห็นเส็งอยู่ประจำ เขาสำรวจหน้าต่างดูก็พบว่า ฝุ่นหนาเตอะจับอยู่ทั่วมุมของหน้าต่างไม้ แม้ด้ามจับเหล็กรูปเถาไม้ ก็มีฝุ่นเกาะหนา มันคงไม่เคยเปิดมาก่อน แล้วเขาเห็นเส็งเปิดหน้าต่างนี้ออกมาได้อย่างไร
    หรือจิตของเขาเกิดไปตรงรอยกับเส็งเข้า จึงเห็นหนุ่มน้อยคนนั้นขึ้นมา
    “เส็ง” พาทิศพูดขึ้นเบาๆ ราวกับรำพันกับตัวเอง “หากคุณอยู่ตรงนี้ ช่วยปรากฏตัวขึ้นหน่อยได้ไหม”
    เงียบ สนิท ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา ไม่มีการเคลื่อนไหวใดเกิดขึ้นนอกจากทรวงอกของเขาขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจเท่านั้น เส็งไม่ปรากฏตัวขึ้นมาตามคำขอของเขา
    “ขอร้องละ หากคุณติดอยู่ที่นี่ ไม่ได้ไปผุดไปเกิดเพราะผมละก็ผมก็อยากจะช่วยคุณ” เขาว่า “ไม่อย่างนั้นคุณจะดลใจให้ผมเห็นนิมิตเรื่องของคุณกับหลวงพินิจไปทำไมใช่ไหม ผมต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ขอร้องเถอะ อย่างน้อยให้ผมเห็นนิมิต ให้ผมได้รู้เรื่องอะไรบางเถอะครับ”
    “ฟากนั้นของบ้าน ไม่ใช่ที่ที่ควรเข้าไป คุณไม่ควรแม้แต่จะพยายามเข้าไปยุ่งคุณพาทิศ ...ห้องฝั่งนั้น คือห้องลายคราม ใช้เก็บเครื่องลายครามที่เป็นสมบัติที่รักมากของคุณหลวง ...”
    เสียงของลุงอิ่มดังก้องในใจของชายหนุ่มอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
    เขาจำได้ดี เขาอยู่ที่ห้องหนังสือ พยายามจะเปิดเข้ามาในห้องที่อยู่ฝั่งนี้ แล้วลุงอิ่มก็ตวาดห้ามไว้ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีอะไรบางอย่างที่จะโยงเขาเข้าสู่นิมิตของเรื่องในอดีตได้อีก อยู่ในห้องนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลายคนเข้าไปในห้องนั้นแล้วก็เจอแต่เรื่องร้ายๆ ทนอยู่ไม่ได้สักคน เพราะเส็งหรือคุณหลวงต้องการรักษาสภาพห้องไว้ให้เขามาค้นพบ
    พาทิศรีบวิ่งลงบันไดมาหาห้องลายครามในที่สุด
ชายหนุ่มเดินตามทิศทางที่คิดว่าถูกต้อง กระทั่งพบห้องห้องหนึ่ง ขนาดเท่าห้องหนังสือของหลวงพินิจ ห้องนั้นจัดเรียบๆ มีที่ให้นั่งพักผ่อนพูดจาจิปาถะกันกลางห้อง รอบๆผนังมีตู้เก็บเครื่องลายครามวางโชว์อยู่มากมายเป็นสิบ... เป็นร้อย ชิ้นได้ หลวงพินิจคงโปรดมากกระมังจึงสะสมไว้เยอะเพียงนี้ เขาวาดมือถือให้ฉายแสงไปรอบๆเห็นเครื่องลายครายสีขาว ลายฟ้ากระทบแสงจากโทรศัพท์มือถือของพาทิศ เรียงกันอยู่บนชั้น มันดูแข็งกระด้าง ไม่สวยเท่าที่เขาคิดไว้ แล้วอะไรในห้องนี้เล่าที่จะทำให้เขารู้เรื่องในอดีตได้มากขึ้น
 ชายหนุ่มเริ่มค้นหาเบาะแสทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังหาอะไร รูปถ่าย กระดาษ จดหมาย หรืออะไรก็ไม่รู้เขามองหาอะไรที่ดูแตกต่าง ไม่ควรอยู่ที่นั่นแต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องหาอะไรกันแน่ เขาจึงลงท้ายด้วยการไม่พบอะไรเลย ห้องนี้แคบแถมมีฝุ่นเต็มไปหมด ยิ่งอยู่นานๆยิ่งหายใจไม่ออกเขาจึงเดินไปเปิดหน้าต่าง เพื่อสูดอากาศจากภายนอก เขาสูดหายใจจนเต็มปอดก็หันกลับมาเตรียมตัวจะกลับห้องนอนของเขาด้วยความผิดหวังที่เต็มเปี่ยมอยู่ในใจ
 แต่แสงจันทร์ที่ฉายไปยังตู้เครื่องลายครามฝั่งตรงข้ามกับหน้าต่างทำให้เขาหยุดชะงัก มันฉายลงกระทบผิวกระเบื้องลายฟ้า พื้นขาวไม่ต่างจากแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือของเขา หากแต่ให้ความรู้สึกสวยงาม ขลังต้องตาจนพาทิศอดเดินเข้าไปดูใกล้ๆไม่ได้
ประตูตู้จัดแสดง ไม่ได้ล็อก เขาจึงเปิดออกได้อย่างสบาย ในนั้นมีถ้วยโถโอชามเต็มไปหมด มีเพียงใบเดียวเท่านั้นที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่ตั้งอยู่แวดล้อม มันเป็นโถขนาดใหญ่คล้ายโถข้าวมีฝาปิดอยู่ มองดูแล้วลายก็เข้าชุดกับชามใกล้ๆ ไม่น่าสงสัยอะไร หากแต่อะไรบางอย่างกระซิบบอกข้างหูพาทิศให้เขาหยิบมันขึ้นแล้วเปิดดูข้างในอย่างลึกลับน่าพิศวง
 เขาคิดว่าเมื่อเปิดฝาออกเขาก็คงจะได้เห็นอะไรบางอย่างที่เขาไม่คิดว่าน่าจะได้เห็นในโถกระเบื้องที่สวยงามเช่นนี้ ตอนแรกเขาคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่น่ากลัวอย่างกระดูกหรือเครื่องประดับที่ใครมาซ่อนไว้
หากแต่ความจริงแล้ว เมื่อเปิดฝาออก สิ่งที่เขาเห็นนอนอยู่ใต้โถลายครามนั้นกลับเป็นเพียงเศษดินเผาสีน้ำตาลแก่เป็นชิ้นๆมีอะไรบางอย่างสีเข้มเปื้อนอยู่อย่างไม่สลักสำคัญอะไรเท่านั้น เพียงพาทิศหยิบมันขึ้นมาสัมผัส เขาก็รู้สึกแปลกๆ โหวงๆในท้องราวจะร้องไห้ออกมา มันคืออะไร มันคืออะไรกันแน่ เหตุใดจึงมาอยู่ตรงนี้
ฉับพลัน
 ชายหนุ่มก็เห็นภาพของเส็งเงยหน้าขึ้นจากที่ต่ำ สายตาราวกับจะวิงวอนขอร้องอะไรบางอย่าง แล้วเขาก็เห็นภาพของหยาด ในสีหน้าซีดเซียว หากแต่ตกใจกลัวจนแทบล้มลงเป็นลม และ ภาพของหลวงพินิจราชอักษรนอนอยู่บนเตียงสีหน้าหมดอาลัยในชีวิตพึมพำขยับปากราวกับจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
พาทิศดึงตัวเองออกมาจากภาพนิมิตที่เกิดขึ้นฉับพลันในตอนนั้น เขาออกวิ่ง วิ่งสุดฝีเท้า นี่แหละ นี่คือสิ่งที่จะทำให้เขารู้ว่าอดีตของเขาเป็นอย่างไร เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นอะไร แต่ต้องเป็นมันแน่ๆ เศษกระเบื้องดินเผานี้แหละที่จะเชื่อมโยงเขาสู่เหตุการณ์ในอดีต เหตุการณ์ที่ทำให้เส็งและคุณหลวงไม่ได้พบกันอีก จนถึงแก่ความตายด้วยกันทั้งคู่... มันคืออะไร  เศษกระเบื้องเหล่านี้คืออะไร สีน้ำตาลแก่ที่เปื้อนอยู่คืออะไร ใครเอามันมาเก็บซ่อนไว้ เขาต้องรู้ให้ได้ เขาไม่รู้ว่าเคยมีทายาทสักคนของบ้านหลังนี้ สร้อยฟ้า คุณผ่านฟ้า ป้าจิตรา จะมีที่เคยมาเห็นเจ้าสิ่งนี้มาก่อนหรือเปล่า
 แต่พิจารณาแล้ว ใครจะมาเห็นได้อย่างไร ในเมื่อโถลายครามนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเครื่องลายครามอื่นๆที่ประดับแสดงไว้ใกล้เคียง มองเผินๆใครจะรู้ว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน
 พาทิศอุ้มโหลลายคราม กระโดดขึ้นรถ เขาวางมันไว้บนที่นั่งข้างคนขับ ไม่ทันปิดประตูบ้าน ไม่ทันปิดประตูลูกกรงเหล็กหน้าบ้าน ไม่คิดหน้าคิดหลังอะไร แม้จะฝึกจิต ฝึกสมาธิมามากแค่ไหน แต่เมื่อเจอเรื่องอย่างนี้ พาทิศก็ตื่นเต้นเสียจนควบคุมสติไม่อยู่ เขาสตาร์ทรถ เร่งเครื่องขับออกไปอย่างรีบร้อน เขาจะไปหาป้าจิตรา จิตราอาจจะรู้ว่านี่คืออะไร จิตราอาจจะใช้สิ่งนี้พาเขากลับไปในอดีตได้
พาทิศบึ่งรถมาจนถึงสี่แยกก็พบว่าไฟสัญญาณกลายเป็นสีแดงอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โถกระเบื้องเลื่อนไหลลงจากที่นั่งข้างคนขับ พาทิศเห็นดังนั้นก็รีบก้มลงคว้าไว้ก่อนที่มันจะตกลงพื้นแตกกระจาย
ลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองขับรถอยู่
รถพุ่งเลยไฟแดงออกมามากแล้ว กว่าพาทิศจะเหยีบเบรก บังคับให้มันหยุดได้สนิท กว่าพาทิศจะลุกขึ้นนั่งตรงจับพวงมาลัยอีกครั้งก็สายไปที่จะทำอะไร เขาเห็นแสงสว่างจ้ามาจากฝั่งขวาเป็นสิ่งสุดท้าย ก่อนที่รถบรรทุกขนาดใหญ่จะพุ่งเข้าชนรถของเขา ตรงบริเวณที่เขานั่งพอดี แรงอัดกระแทกนำความเจ็บปวดมาสู่ร่างกายอย่างมากล้นเท่าที่เขาเคยเจ็บมาตลอดชีวิต พาทิศหมดสติไปทั้งที่มีโถลายครามนอนนิ่งอยู่ในมือซ้าย น่าแปลกที่ทั้งรถทั้งคนยับเยินไม่มีสิ้นดี
แต่โถลายครามนั้นกลับยังอยู่ในสภาพปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

*********************************************************************************

มีกำลังใจให้ผมล้นเหลือจริงๆนะครับ ขอบคุณทุกคนจากใจจริงครับ :)
ตอนนี้ยาวไปอีกแล้วต้องโพสต์เป็น 2 รีพลายนะคร้าบบบ

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
ดีแล้วหล่ะจ้า มายาวๆ จะได้หายคิดถึง
ผ่านไปไม่กี่วันก็คิดถึงแล้วค่า
แอบค้างนะคะเนี่ยะ รอดูต่อไปค่ะว่า
จะเป็นยังไง ลุ้นๆๆ
มาต่อไวๆนะคะ  :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2010 22:02:23 โดย pinkky_kiku »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อึ๊ยยย อ่านแล้วขลุกหนะ  แต่เสดดินเผ่านั้นคืออะไร แล้วที่เปื้อนคือเลือดหรอ กรี๊ดดดดดดอยากรู้ๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2010 22:36:34 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
อ๊าค อะไรกันเนี่ย อยากอ่านต่อค๊า

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
คุณหลวงฆ่าตัวตายเหรอ   รักที่ไม่สมหวัง  ไม่ได้รับการยอมรับ
เศร้ามาก ๆ  ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ  ภาษาสวย  เรื่องไม่จำเจ
+1

ออฟไลน์ Natavishi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อ่าาา  กำลัง  มัน เลย    มา ต่อ เร็ว ๆๆ น่ะ

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
พาทิศเริ่มเข้าใกล้ปมในอดีตแล้ว ว่าแต่โถลายครามนี้เกี่ยวข้องกับคุณหลวงและเส็งยังไงนะ ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้เรื่องในอดีต
แล้วพาทิศในอดีตเป็นใครกันล่ะ มาเฉลยไวไวนะคะ
+1 ให้เรื่องที่น่าติดตามและภาษาสวยๆค่า

ออฟไลน์ Lady-Rabbit

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านเรื่องนี้ในคืนวันเพ็ญลอยกระทงแล้วใจเต้นตุบตุบ
ขนลุกมากๆเลยค่ะ บรรยายได้ดีมาก ลุ้นสุดๆ

อย่างน้อยรอยเปื้อนนั่นอาจจะต้องเป็นหยดเลือดของใครซักคนแน่ๆเลย

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

• สิ่งที่เขาเห็นนอนอยู่ใต้โถลายครามนั้นกลับเป็นเพียงเศษดินเผาสีน้ำตาลแก่เป็นชิ้นๆมีอะไรบางอย่างสีเข้มเปื้อนอยู่
ว้าย เปื้อนเลือดรึคะ
เส็งโดนฆาตกรรมในสระรึคะ
คุณหลวงกรีดเลือดรึคะ
 :m22:
๙๒ + ๑ = ๙๓
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
อูยยยยยยย อ่านไปขนลุกไปซู่ๆ  :sad3:

มันส์จริงๆ ลุ้นมากกกกกกกกก

เส็งคือแม่แก้วหรือเปล่าหนอ   :z10:



+ ให้เลย คนแต่งเขียนเก่งมากกกกกก

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ชอบการดำเนินเรื่องมากเลย

หวังว่าดินสีน้ำตาลนั้นจะเลือดเส็งนะ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
อ่านแล้วขนลุกมากเลยค่ะ ลุ้นตลอดเวลาว่าจะเป็นยังไงต่อ

เอาใจช่วยพาทิศอยู่ตลอด

แล้วอะไรที่มันเปื้อนอยู่กันแน่

ปล. พาทิศอย่าเป็นอะไรน้า

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
รอลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
ฆาตรกรรมซ่อนเงื่อน...

รอการเปิดเผย...

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปลุ้นไปสุดๆ ดำเนินเรื่องสนุกมากค่ะ


อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆ แล้ว  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:



ปล.คิดถึงเส็งกับคุณหลวงมากค่ะ :call:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อ๊ากกก ตื่นเต้นสุดพลังงงง เหมือนกำลังดูละครอยู่เลยอ๊า :m3:
แล้วพาทิศจะเป็นไรมากมั้ยเนี่ย พังยับเยินนี่คงไม่ตายใช่มั้ยอ่า :monkeysad:
สู้ๆ อยากรู้ใจจะขาดแล้วว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง

Lesses

  • บุคคลทั่วไป
กำลังสนุกเลย มาต่อเร็วๆนะครับ ขอให้พาทิศปลอดภัย

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
มารอตอนต่อไปค่าาาาาาาาาาาาาาาา :call: :call: :call: :call: :call: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: ปางบรรพ์ อัพบท$
«ตอบ #530 เมื่อ25-11-2010 18:02:00 »

อ่านไปลุ้นไป กลัวไป
ครบทุกรสจริงๆเรื่องนี้
พาทิศจะเป็นอะไรมากไหมเนี่ย
ยังไม่ได้คลี่คลายปมเลยนะ สงสัยสุดๆอ่ะตอนนี้
รอตอนต่อไปอยู่น๊า

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
๑๗
[/color]

นานๆที สร้อยฟ้ากับสร้อยสุวรรณจะได้มีโอกาสมาเจอกันสักครั้งหนึ่ง วันนี้น้องสาวสุดสวย ของสร้อยฟ้าว่างตรงกันกับหล่อนพอดี ทั้งคู่จึงออกมาพบปะพูดคุยกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งย่านหลังสวน แม้เวลาจะมืดพอสมควรแล้วก็ตาม
สร้อยฟ้ารวบผมตึงเป็นหางม้าแบบทุกที ใส่เสื้อยืดคอวีสีขาว กางเกงยีนส์รัดรูปแบบธรรมดา รองเท้าส้นสูงแต่ดูลำลองแบบสบายๆ ส่วนอีกฝ่ายกลับ มาสวยราวกับเพิ่งลงจากรันเวย์ ถึงจะเพิ่งลงมาจากรันเวย์จริงๆก็เถอะ สร้อยสุวรรณสวมเสื้อกล้ามสีดำพอดีตัว กางเกงขาแคบสีเทาเข้มมีรอยขาดยาวพาดที่ขาทั้งสองข้าง รองเท้าส้นเข็มสูงปรี๊ดสีดำพื้นแดงดีไซน์หรู หล่อนไว้ผมซอยสั้นแนบลำคอสีน้ำตาลแก่ เปิดใบหน้าให้เห็นโครงหน้าสวยเด่นสมกับเป็นนางแบบ
 สร้อยสุวรรณสวยคม ได้มาจากฝั่งแม่เต็มๆ ตาคู่สวยดูดุเมื่อกรีดไว้ด้วยอายไลน์เนอร์สีดำเข้ม คิ้วโก่งสวยเป็นธรรมชาติดูเข้มรับกันกับตา และชุด ปากทาไว้เป็นสีแดงสด พร้อมจะวิ่งเข้าถ่ายโฟโต้ชูทให้นิตยสารทุกฉบับเมื่อใดก็ได้ พอเดินเข้าร้านกาแฟมา คนต่างก็ต้องหันมามองพี่น้องคู่นี้ คนหนึ่งสวยหวานเรียบร้อย อีกคนสวยดุเปรี้ยวเข็ดฟัน ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องย่อมเข้าใจสำนวน “รักพี่ เสียดายน้อง” ขึ้นมากันทุกคน
สองสาวสั่งกาแฟแล้วก็นั่งเสวนากันไปสักพัก พูดไปพูดมาก็วกกลับมาเรื่องของพาทิศ
“ไม่ได้เจอสักที เขาว่ากันว่าหล่อนี่” สร้อยสุวรรณว่า
“จะว่าหล่อก็หล่อ แต่หล่อแปลกๆ”
“ดูไม่มีเสน่ห์” หล่อนดูดกาแฟอย่างระมัดระวังมิให้ลิปสติกเปื้อนหลอด “อย่างพี่ละชอบคนคุยสนุก หล่อไม่หล่อเอาไว้ทีหลังใช่ไหมล่ะ”
“ก็ไม่ขนาดนั้น” หล่อนนิ่วหน้าใส่น้องสาว “เขาแปลกๆ เป็นพวกเดียวกับป้าจิตรา”
“มีซิกส์ เซ้นส์อย่างนั้นหรือ”
“ก็ทำนองนั้น”
สร้อยสุวรรณยกมือขึ้นดูนาฬิกาไม่คุยต่อแสดงว่าหมดความสนใจในตัวชายหนุ่มที่พี่สาวพูดถึงไปแล้ว
“ไหนล่ะคนที่นัดมาคุยเรื่องงานแฟชั่นอาทิตย์หน้า”
“เห็นว่ารถติดอยู่เพลินจิตนี่เอง อีกสักพักก็คงถึงแล้วล่ะ”
“พี่สนิทกับเขาหรือ”
“ก็พอสมควร เขาเป็นเพื่อนคุณพาทิศรู้จักกันก็เพราะเรื่องเขานี่แหละ” พี่สาวว่า หน้าแดงแต่ก็พยายามแสดงท่าทีกลบเกลื่อน หากแต่น้องสาวที่รู้จักพี่ตัวเองดี จับท่าทางได้ทัน จึงไม่ปล่อยให้พฤติกรรมน่าสงสัยนี้ หลุดลอยไปเสียง่ายๆ
 “เอ๊ะ พูดถึงแล้วก็หน้าแดง พี่ชอบเขาหรือไง”
 “จะบ้าหรือ จะชอบได้ไงล่ะ” หล่อนโวยวาย “เขาดูออกเป็นคู่เกย์กับคุณพาทิศ”
“อ้อ” สร้อยสุวรรณร้องออกมา “มิน่าถึงทำพวกงานศิลปะ พวกศิลปินน่ะนะ หาเป็นชายแท้ๆยากเต็มที”
 “แต่ก็ไม่แน่ เขาอาจจะแค่อารมณ์อ่อนไหวแบบศิลปินก็ได้”
 “คิดเข้าข้างตัวเองไปเถอะพี่น่ะ” หล่อนมองอย่างเจ้าเล่ห์ “ว่าแต่จะวาดภาพมาให้ได้แน่หรือ พี่หงวนเขาต้องการแบบอลังการนะ จัดบนรันเวย์ นางแบบจะเดินไป โพสต์อยู่หน้ากรอบรูป ต้องใหญ่พอนะ ขนาดต้องสูงกว่านางแบบอีก”
 สร้อยสุวรรณว่า หล่อนพูดถึงงานแฟชั่นที่จะจัดอาทิตย์หน้า หญิงสาวเคยเปรยๆกับพี่ว่าต้องการศิลปินมาวาดภาพใช้ประกอบฉากบนรันเวย์ พี่สาวก็แนะนำว่า ณัฐ เพื่อนของหล่อนน่าจะสนใจ จึงนัดออกมาคุยกันที่ร้านกาแฟนี้เอง
 “ก็คุยกับเขาเองซี ไม่งั้นจะนัดมาคุยกันทำไม” คนเป็นพี่ว่า
 “ค่า แต่นี่ ฉันยังไม่เคลียร์ สรุปพี่ชอบเขาจริงๆหรือ” สร้อยสุวรรณยังยิงคำถามต่อไปอย่างไม่สนใจว่า คนถูกยิงจะพรุนแล้วสักเพียงใด
 “ก็” สร้อยฟ้าอึกอัก “เขาก็น่ารัก คุยเก่งนิสัยดี เทคแคร์ดี แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมองพี่เป็นแค่เพื่อนหรือเปล่า บางครั้งเขาก็ดูเป็นผู้ชายแมนๆปกตินี่แหละ แต่พออยู่กับคุณพาทิศ จะชอบมองคุณพาทิศซึ้งๆหวานๆทุกครั้งเลย”
 “ต๊าย” น้องสาวร้องออกมาอย่างนึกสนุก “รักสามเส้าค่ะ เอ หรือคุณคนนี้เขาจะเป็นเสือไบพี่ หญิงก็ได้ ชายก็ดีอย่างนี้หรือเปล่า”
 “จะบ้าหรอ ชู่ว เงียบเขามาแล้ว” พี่สาวจุ๊ปาก มองไปทางประตู สร้อยสุวรรณก็หันไปมองด้วย เห็นผู้ชายที่กำลังเดินเข้าร้านมาอย่างรีบร้อน ข้างนอกฝนตกปรอยๆ ชายหนุ่มจึงเปียกฝนเล็กน้อย แต่กลับดูดีอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ เขามาในเสื้อแขนยาวคอวีสีขาวบาง กางเกงยีนส์สีเข้มรองเท้าผ้าใบแบบง่ายๆ ผมสีน้ำตาลดูชื้นเล็กน้อย แม้จะยาวปิดหน้า หากแต่ก็ยังเหลือที่ให้เห็นตากลมโตใส จมูกโด่ง ปากแดงเล็กบางคล้ายใบหน้าผู้หญิง หากแต่การแต่งตัวและรูปร่างของเขายังทำให้ดูสมชายอยู่บ้าง สร้อยสุวรรณอดนึกไม่ได้ว่า ผู้ชายที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้ซีนะที่เป็นที่ต้องการของผู้หญิงสมัยนี้
แต่ก็ผู้ชายแบบนี้แหละที่ไม่สนใจผู้หญิงคนใดเลยเหมือนกันไม่ใช่หรือ
“ขอโทษทีครับ พอดีรถติดไปหน่อย”แค่เสียงก็หวานขนาดนี้แล้ว สร้อยสุวรรณคิด พี่สาวหล่อนชอบผิดคนแล้วจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณณัฐ พวกเราก็เพิ่งมาถึงได้ไม่นานค่ะ” สร้อยฟ้ายิ้มหวาน “นี่ค่ะน้องสาวดิฉันสร้อยสุวรรณ ...สุ นี่คุณณัฐที่เคยเล่าให้ฟังไง”
 สร้อยสุวรรณยื่นมือมาเชคแฮนด์เขาอย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีค่ะ ได้ยินพี่สร้อยเขาพูดถึงอยู่ตลอดเพิ่งได้เจอตัวจริงวันนี้เองยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
 “เช่นกันครับ”
 “คุณณัฐสั่งอะไรไหมคะ ดิฉันแนะนำได้เดี๋ยวจะเดินไปที่บาร์เป็นเพื่อน” สร้อยฟ้าว่า น้องสาวนั่งกอดอกจ้องอยู่เขม็ง
 “ก็ดีครับ เอ๊ะขอโทษนะครับโทรศัพท์มา” ณัฐหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้า เพลงพิณ แม่ของพาทิศ เอ... แม่ของพาทิศจะโทรมาหาเขาทำไงละนี่ ชายหนุ่มกดรับโทรศัพท์ พูดได้เพียงคำว่าสวัสดี ก็ต้องนิ่งเงียบฟังสิ่งที่ปลายสายพูดด้วยความตกใจเป็นที่สุด สองสาวพี่น้องเห็นสีหน้าเขาอย่างนั้นก็หันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย
พอดีชายหนุ่มวางสายโทรศัพท์แล้วพูดเบาๆด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยขึ้นนั้นแหละ สองสาวจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“พาทิศ รถชน ตอนนี้อยู่ห้องไอซียู”

 กลายเป็นว่าคนที่มีสติที่สุดคือสร้อยฟ้า ทันทีที่รู้เรื่องทางโทรศัพท์ หล่อนก็รีบขับรถพาณัฐมาที่โรงพยาบาล เพราะหนุ่มน้อยร้องไห้หนักมากด้วยความเป็นห่วงเพื่อนหนุ่มที่ตนรัก เขาได้แต่นั่งหน้านิ่งน้ำตาไหลพรากเป็นทางไม่หยุด ส่วนสร้อยสุวรรณ สร้อยฟ้าก็ให้ไปรับป้าของทั้งสองมาที่โรงพยาบาล หล่อนมีสังหรณ์บางอย่างว่า เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเพราะเรื่องลึกลับ และอาถรรพ์ของเรือนเทา ยิ่งเหตุการณ์นี้เกิดในวันเดียวกับที่พาทิศออกมาจากบ้านหล่อนด้วยแล้วอย่างนี้สร้อยฟ้ายิ่งวิตกว่าป้าจิตราจะรู้เรื่องบางอย่าง
หน้าห้องไอซียู คุณนายเพลงพิณ สะอื้นไห้โฮ มีสามียืนปลอบใจอยู่ข้างๆ ส่วนณัฐนั่งร้องไห้เงียบๆอยู่กับสร้อยฟ้าที่ นั่งกุมมือเขาไว้อย่างเป็นห่วงเป็นใย สร้อยสุวรรณนั่งถัดจากพี่สาวนึกในใจว่าหล่อนเกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใจร้ายพอจะขอตัวกลับไปอย่างคนไม่รู้จักมารยาท
 ชมนาดป้าของพาทิศเดินเข้ามาบริเวณนั้นก็โผเข้าหาน้องสาว
 “พิณเอ๊ย ลูกมันไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็ดีนะมันต้องปลอดภัย หลังๆมันไปทำบุญอยู่กับจิตราคนมีบุญไม่ตายเร็วหรอกเธอ” หล่อนปลอบน้องสาวแม้ตัวเองจะเริ่มมีน้ำตาคลอบ้างแล้วก็ตาม
“โถ่คุณลูก ลูกชายไม่น่าเลย แม่ไม่น่าให้หนูไปอยู่บ้านผีสิงอะไรนั่นเลย” เพลงพิณร้องไห้โฮ อย่างขาดสติ
จิตรายืนนิ่งๆอย่างสงบอยู่ห่างจากคนเหล่านี้มาพอสมควร หล่อนประสานมือไว้ข้างหน้า ราวกับยืนนิ่งใช้ความคิดอะไรไปเรื่อย
 “จิตรา” ชมนาดร้องหาเพื่อน หล่อนเดินเข้ามาจูงเพื่อนหญิงไปหาน้องสาว “พาทิศหลานฉันจะไม่เปนอะไรใช่ไหม ไหนบอกซีว่าเขาจะปลอดภัย”
“เขาจะปลอดภัยค่ะ” หล่อนหลับตาพูดอย่างสงบ “ชะตาเขายังไม่ถึงฆาตง่ายๆหรอกค่ะเขาจะยังอยู่ต่อไปอีกนานค่ะ”
“พี่จิตรา พี่จะช่วยลูกของพิณได้บ้างไหมคะ” เพลงพิณจับมือจิตรากุมแน่นอย่างขอที่พึ่งทางใจ หญิงชราผมบ๊อบสั้นแค่คอหันหน้าหนีออกไป
“พี่ไม่ใช่แม่มดหมอผี จะช่วยได้อย่างไร ให้หมอเขาช่วยเถิดนี่ออกมาแล้วไงล่ะ” สิ้นเสียงจิตราทั้งหมดก็มองไปยังประตูห้องฉุกเฉิน ยังไม่มีหมอออกมา แต่อีกไม่ถึงอึดใจ นายแพทย์วัยกลางคนก็เปิดประตูออกมาในที่สุด
ทุกคนตรงนั้นแทบจะถลาเข้าไปหาหมอ ปากก็ถามไม่หยุดว่า พาทิศมีอาการอย่างไรบ้าง เพลงพิณยืดแขนของหมอไว้ พอๆกับที่ณัฐกุมมือเพลงพิณเอาไว้ราวกับตนเป็นลูกชายอีกคนของคุณนายคนนี้ กว่าเสียงคำถามจะเงียบพอให้นายแพทย์ผู้นั้นตอบได้ ก็กินเวลาอยู่พักหนึ่ง หากแต่เรื่องที่เขาพูดนี่ซีที่ทำให้หลายคนแปลกใจ และเกือบทุกคนต่างก็มองมาที่จิตราแต่เพียงผู้เดียว
 “อาการของคนไข้ไม่ค่อยน่าห่วงครับ ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเพราะตกใจและพิษจากบาดแผลเท่านั้น ส่วนอาการบาดเจ็บก็มีอยู่ครับ มีการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ กระดูกต้นขาร้าว และแขนหัก ตอนนี้ทางเรากำลังพยายามทำให้เขาฟื้นอยู่นะครับ”
“ลูกดิฉันจะรอดไหมคะ”
“รอดแน่นอนครับ คงไม่ถึงกับเสียชีวิตอย่างแย่ที่สุดก็เป็นเจ้าชายนิทราหรือเป็นอัมพาตเท่านั้นเอง” นายแพทย์หนุ่มกล่าวอย่างสุภาพ เรียบร้อยพยายามไม่ให้กระเทือนใจญาติผู้ป่วยที่สุด “แต่ว่า...”
เงียบ
“ตอนประสบอุบัติเหตุรถชน คุณพาทิศถือโถลายครามใบหนึ่งอยู่” ตอนนี้ทุกคนเริ่มหันมามองจิตรา ราวกับหญิงชรามีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วย “เราไม่สามารถแกะออกจากมือเขาได้ตอนที่นำเขาเข้าห้องฉุกเฉิน สันนิษฐานว่าคงเพราะความเครียดของร่างกาย แต่พอกล้ามเนื้อคลายตัวแล้ว ดึงโถใบนั้นออกจากมือได้เรากลับพบสิ่งที่ประหลาดกว่านั้นครับ
เมื่อไหร่ที่เรานำโถลายครามนี้ออกห่างจากตัวคุณพาทิศ อัตราการเต้นของหัวใจเขาจะต่ำลง จนเกือบหยุดเต้นไปเลย แต่พอเอาไปไว้ใกล้ๆ การเต้นของหัวใจกลับดีเกือบจะเป็นปกติ เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่เคยพบมาก่อนและไม่อาจวินิจฉัยตามทางแพทย์ได้เลยครับว่ามันเป็นอย่างนั้นเพราะอะไร”
ทุกคนมองหน้าจิตรา เหมือนรอให้หล่อนพูดอะไรบางอย่าง แต่หล่อนไม่พูดนายแพทย์คนนั้นจึงถือโอกาสพูดต่อ
“ญาติผู้ป่วยจะนำโหลนี้กลับไปเลยไหมครับ”
“ไม่ค่ะ” จิตราเป็นคนตอบแทบจะทันที เพลงพิณทำหน้าประหลาดใจ อันที่จริง ทุกคนนั่นละทำหน้าประหลาดใจอยากรู้เหลือเกินว่า นี่มันคืออะไรกันแน่ “ขอความกรุณา รบกวนคุณหมอช่วยวางโถนั้นไว้ใกล้พาทิศตลอดเวลาจะได้ไหมคะ ไม่ว่าจะอยู่ในห้องฉุกเฉินหรือจะย้ายเข้าห้องผู้ป่วยในก็ตาม ช่วยให้โถอยู่ใกล้ๆเขาจนกว่าเขาจะฟื้น หรือหากมันกีดขวางการทำงานของหมอ อย่างน้อยก็ให้มันแค่อยู่ในห้องนั้นด้วยจะได้ไหมคะ”
เป็นคำขอที่ประหลาดที่สุด แต่ก็ไม่มีใครคัดค้านอะไร แม้แต่ตัวหมอเอง เขามองจิตราอย่างประหลาด ซึ่งหญิงชราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาคงจำได้ว่าหล่อนเคยเป็นคนไข้ของเขา... คนไข้ที่เขาไม่อาจปลุกให้ตื่นได้เป็นเดือนๆ โดยไม่เจ็บป่วยหรือมีอาการบาดเจ็บอะไรเลย
  ในห้องฉุกเฉิน พาทิศนอนนิ่ง ราวกับหลับไปเท่านั้นเขาไม่เจ็บ เขาไม่ได้ยิน ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น เพราะดวงจิตของเขานั้นมันถอดออกมาจากร่างแล้วอย่างสมบูรณ์ย้อนไปในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีก่อนเพื่อตามหาความจริงเรื่องของเส็งและหลวงพินิจราชอักษร จากการดลใจของดวงจิตอีกดวง ที่สิงสถิตย์อยู่ในโถแก้วนั้นเอง
พาทิศไม่ได้มีเวลาพอที่จะกำหนดจิตให้ตัวเองฟื้นเมื่อใดตอนที่รถบรรทุกชนเขาเข้า นั่นหมายความว่า เขาจะต้องเห็นเหตุการณ์ในอดีตทั้งหมดจนกว่ามันจะจบไม่ว่าจะเป็นวัน เป็นเดือน หรือเป็นปีก็ตาม ไม่อย่างนั้นก็จนกว่าร่างกายเขาจะรับไม่ไหวอีกต่อไป แล้วดึงจิตเขากลับเข้าสู่ร่าง
หรืออย่างเลวร้ายที่สุด คือพาทิศจะหลับไป จมอยู่ในโลกอดีตและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย

*******************************************************************************************

มาต่อแล้วนะคร้าบบบ อิอิ
ใครรอเส็งอยู่ตอนหน้าจะมาแล้วคร้าบบบบ จุ๊บๆ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
สงสารพาทิศจังเลย แต่หลับไปสักพักใหญ่ๆ เถอะนะจ๊ะ เพราะคนอ่านอยากรู้เรื่องในอดีต แหะๆ
บวกให้นะจ๊า

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
โหดมากกกกกก

นี่ดลใจให้รถชนรึเปล่าหนอ จากดวงจิตในโถ

+1  :3123:

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2010 00:28:41 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
อะไรดลใจให้รถชนนะ

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สงสารณัฐนะ  สงสารเส็งกับคุณหลวงด้วยเหมือนกัน
หวังว่าพาทิศคงจะกลับมาได้  และช่วยปลดปล่อยทุกคนได้

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
อ๊างงง เริ่มอยากรู้ตอนต่อแล้วสิ แล้วดวงจิตใครอยู่ในโถเนี่ยะ
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด