บทที่หนึ่งในความทรงจำ:Primeira Neve de Nós (26/12/2010)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่หนึ่งในความทรงจำ:Primeira Neve de Nós (26/12/2010)  (อ่าน 169693 ครั้ง)

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



สวัสดีทุกท่านที่เข้ามานะคะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ลองเขียนดู
เนื่องจากเมื่อคืนก่อนมีน้องคนนึงที่คุยกันบนหน้าแชทบอกว่าอยากอ่านเรื่องที่ตัวเอกเป็นแบบต่างชาติบ้าง
คนเขียนใจง่าย เลยลองๆมาคิดดูว่าพอจะเขียนออกมาได้แบบไหน เลยลองดูก็ออกมาเป็นแบบนี้ เรื่องนี้จะสั้นแน่นอนค่ะ
ไม่น่าเกินสิบตอนเพราะเวลาของทั้งเรื่องมันก็แค่สิบเอ็ดเดือนเท่านั้นเอง

ปล.เรื่องนี้ไม่หวานเลี่ยนแบบ "เรื่องรัก...ไม่กล้าบอก" ของตัวป่วนกับพี่อากาศนะคะ
.....................
.....................

บทที่หนึ่งในความทรงจำ


San Jose’, São Paulo
Brasil
มีนาคม ค.ศ. 2000


“Oi, ola!!!........... Bom dia, bonita”


ผม.......เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนครับ เพิ่งมาถึงที่นี่ได้แค่สองวัน แล้วก็ นี่ถึงวันเปิดเทอมแล้ว จะว่าผมไม่เตรียมตัวเลยก็ไม่ใช่ แต่คอร์สภาษาโปรตุกีสที่ลงไปแค่ 15 ชั่วโมงก่อนมา ไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจคนบราซิลสักเท่าไหร่
.....โดยเฉพาะภาษาโปรตุกีสในแถบบ้านนอกของบราซิลอย่างนี้ด้วย แต่เท่าที่จำได้ “bonita” ลงเสียงท้ายด้วยเสียง “อา” มันใช้กับผู้หญิง ดังนั้น...คนนั้นคงไม่ได้พูดกับผมหรอก..ผมคิดว่านะ?
................................
................................

“นักเรียนคะ ปีนี้เราจะมีเพื่อนใหม่มาเรียนด้วยคนนึง เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เดี๋ยวครูจะให้เพื่อนแนะนำตัว เท่าที่ทราบ เพื่อนใหม่ของเราพูดโปรตุกีสไม่ได้เลย นอกจากนับหนึ่งถึงสิบ ดังนั้น ใครอยากฝึกภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็คุยกับเพื่อนให้มากๆนะ”

“ฮิ้ววววววววววว........”
เอ่อ...ผมไม่ได้หูฝาดนะ แล้วสายตาของผมก็ไม่ได้หลอกตัวเองด้วย แต่พออาจารย์ยังสาวที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดด้วยกระโปรงยีนส์สั้นเหนือเข่ากับเสื้อแขนกุดคอถ่วงสีชมพูอ่อนพูดจบ ทั้งเสียงโห่ เสียงเคาะโต๊ะระรัวนั่นก็ดังขึ้นทั้งห้องเรียนทันที

“ผมชื่ออิส อิสรภาพ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
แน่ล่ะว่าประโยคแรกของผมกับห้องเรียนนี้ ผมพูดออกไปในภาษาอังกฤษ ทันทีที่ผมพูดจบ เสียงในห้องนั่นก็เงียบไปครู่หนึ่ง ครู่เดียวเท่านั้น แล้วในที่สุดก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นภาษาอังกฤษแปลกแปร่ง แปร่งเสียจนผมต้องใช้เวลาอีกเกือบนาทีที่ประโยคนั้นจบลงถึงจะพอเข้าใจว่าคนพูดตั้งใจจะบอกว่า

“Nice to meet you, too. I am Edu….Eduardo”

ผมเงยหน้ามองคนพูดถึงได้นึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนหนึ่งในกลุ่มที่ผมเดินผ่านก่อนเข้าประตูโรงเรียนมาเมื่อเช้า กลุ่มที่ส่งเสียงทักใครไม่รู้ว่า “bonita”  ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานผมถึงรู้ว่ามันหมายถึง “คนน่ารัก”

ผมส่งยิ้มไปให้เขาที่มีสีหน้าแปลกใจอยู่หน่อยๆ ก่อนที่จะกราดยิ้มส่งไปทั่วห้องซึ่งมีคนที่จะได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับผมในปีนี้อยู่ประมาณ20 คน  บางคนก็ส่งยิ้มตอบมา โดยเฉพาะสาวๆ
สวยครับ.....ผู้หญิงบ้านนี้เมืองนี้สวยแทบทุกคนเลย ตาโตคม จมูกโด่ง แล้วก็...ทุกคนดู โตกว่าวัย เทียบกับผู้หญิงไทยอายุเท่ากันที่ผมเจอมาน่ะเหรอ สัดส่วนต่างกันเยอะครับ

อาจารย์หันมาส่งภาษาอังกฤษที่แปร่งไม่แพ้ลูกศิษย์บอกกับผมว่าอาจารย์ชื่อ Rosa เป็นครูภาษาอังกฤษ แล้วก็เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของผมด้วย ถ้ามีปัญหาอะไรให้ปรึกษาได้ทุกเรื่อง แล้วก็ไล่ให้ผมเดินเข้าไปหาโต๊ะนั่งเอาเอง

ผมไม่ต้องหานานหรอกเพราะโต๊ะที่ว่างมีอยู่ตัวเดียวตรงด้านหลังเยื้องไปทางซ้ายของคนที่ชื่อเอดูนั่นแหละ
พอผมเดินตรงไปนั่งเขาก็หันมาส่งยิ้มให้ผมอีกที....เออ ผู้ชายคนนี้ยิ้มสวย ลักยิ้มที่แก้มซ้ายนั่นน่ามอง แล้วยังมีเขี้ยวโผล่ออกมาโชว์อีก

วิชาแรกผ่านไปโดยที่ผมได้แต่นั่งเบื่อ แล้วก็เต็มไปด้วยความง่วงงุน ก็โรงเรียนที่นี่ไม่มีเคารพธงชาติก็จริง แต่ต้องมาเข้าเรียนให้ทัน ไม่งั้นจะถูกเช็คสาย
แล้วเวลาเริ่มเรียนก็ทรมานใจเหลือเกินน่ะสิครับ เริ่มวิชาแรก 7.30 น.


วันนี้ผมมาทันเพราะพ่อที่เป็นโฮสท์ของผมขับรถมาส่ง โดยบังคับให้น้องสาว ก็น้องสาวโฮสท์นั่นแหละ ซึ่งเรียนโรงเรียนใกล้ๆต้องตื่นมาแต่เช้าด้วย ทั้งที่โรงเรียนของน้องเริ่มเรียนตอน 8.30 น.

ความจริงผมก็อยากจะปฏิเสธความช่วยเหลือแล้วเดินมาเรียนเองหรอกนะ เพราะระยะทางจากบ้านมาโรงเรียน ถ้าเดินเร่งหน่อยก็คงไม่เกินสิบห้านาที

แล้วเมื่อวานทั้งๆที่เป็นวันแรกที่มาถึง ผมก็ถูกผู้ดูแลที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยนประจำเมืองลากตัวมาโรงเรียนตั้งแต่สายๆ เขาพาผมมาติดต่อลงทะเบียนนู่นนี่นั่น ซื้อเครื่องแบบนักเรียนซึ่งก็คือเสื้อยืดสีขาวคอกลมมีสกรีนตราโรงเรียนอยู่ที่อกเบื้องซ้าย ใส่กับยีนส์ ซึ่งสารภาพว่าผมเอาติดมาจากเมืองไทยแค่สองตัว แต่ไม่เป็นไรหรอก ปกติผมก็ใส่ยีนส์ซ้ำๆได้เป็นหลายวันอยู่แล้ว

สาเหตุที่ผมรู้สึกง่วงได้ขนาดนี้คงเพราะเจ็ทแล็คแน่ๆ เฉพาะเวลานั่งเครื่องก็เกือบๆจะสามสิบชั่วโมงเข้าไปแล้ว

ผมขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง เปลี่ยนเครื่องที่นาริตะ จากนั้นนั่งข้ามแปซิฟิคไปลงที่ลอสแองเจลิส ได้พักบนพื้นดินไม่ถึงชั่วโมงก็ขึ้นเครื่องต่อไปไมอามี่ แล้วจากสนามบินสีสันสดใสเหมือนลูกกวาดนั่นผมถึงได้มาจนถึงที่นี่รัฐเซา เปาโล รัฐที่ได้ชื่อมีความเจริญทางเศรษฐกิจมากที่สุดรัฐหนึ่งในบราซิล

ใครจะคิดว่าผมจะถูกส่งมาอยู่ในเมืองที่เล็ก เล็กมากกว่ากรุงเทพหลายสิบเท่า ก็...ซาน โฮเซ่ ทั้งเมืองมีคนอาศัยแค่เจ็ดหมื่นกว่าคน เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดห่างออกไประยะทางรถวิ่งสองชั่วโมงกว่า

แต่เดี๋ยวผมก็จะได้เรียนรู้แล้วล่ะว่าเมืองเล็กๆนี้ มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิดเยอะ.....
และ จะทำให้ผมได้รู้จักกับบางอย่างที่ผมไม่เคยคิดถึงมาก่อน
บางอย่างที่จะมีอิทธิพลกับผมในอนาคต จากวันนี้ไปอีกนาน....อาจจะนานจนตลอดชีวิตเลยก็ได้
..........................
..........................


..โปรดติดตามตอนต่อไป..


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2010 18:54:06 โดย anajulia »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #1 เมื่อ18-05-2010 12:22:26 »

จิ้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าเพลินกะเรื่องใหม่ จนลืมต่อหนูป่วนนะนุ่น ^^

เดี๋ยวมาอ่าน


ดูจากปี คศ.แล้ว (คาดว่า)จะลากยาวใช่มั้ยฮับ ตอนแรกก็น่าสนใจแล้วววว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2010 12:26:10 โดย iamnan »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #2 เมื่อ18-05-2010 12:38:39 »

^
^
^
จิ้มแนน ไม่ลืมต่อตัวป่วนหรอก
บทต่อไปอยู่ในหัวหมดแล้ว แต่เพิ่งพิมพ์ไปได้แค่หน้ากว่าๆเอง

แล้วก็ เรื่องนี้ไม่ยาวนะ นักเรียนแลกเปลี่ยนนั่นได้อยู่บราซิลแค่สิบเอ็ดเดือนเอง ^o^

Mercy

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #3 เมื่อ18-05-2010 12:50:36 »

^
^
^
^
^
^
 :z13: จิ้มคุณนุ่น


เรื่องใหม่ น่าสนุกอะค่ะ...ชอบหนุ่มบราซิล...ชอบบอสซาโนว่า...ชอบบราซิลค่ะ


มาต่อบ่อยๆ นะคะคุณนุ่น...... o13

Classical

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #4 เมื่อ18-05-2010 12:56:28 »

 :z13: :z13: :z13: :z13:



ไอ่เบียร์ มาตามอ่านดัวะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #5 เมื่อ18-05-2010 13:05:18 »

พี่นุ่นทำไมเลือกบราซิลคะ...เค้าว่าผู้ชายเซ็กซี่ใช่ป่าว :-[
น่าติดตามมากค่ะ อยากรู้ว่าตอนกลับไทย อิสจะหนีบเอดูกลับไทยด้วยป่าว คริๆ :z1:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #6 เมื่อ18-05-2010 13:20:00 »

แหะๆ ได้กลิ่นอายแฟนฝรั่งเว้ย 55555555555
เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเพื่อความสำราญและอรรถรสในการอ่านเนอะคะ อิอิ

ให้กำลังใจนะคะ

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #7 เมื่อ18-05-2010 13:28:51 »

 :-[

ชอบแนวนักเรียนแลกเปลี่ยนจังเลยค่ะ~

หนุ่มบราซิล ฮิ้ว~

พี่นุ่นเคยไปบราซิลเหรอคะถึงได้เลือกมา O.O

bonita คนน่ารัก คิกๆ :o8:

 :กอด1:พี่นุ่นให้กำลังใจ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #8 เมื่อ18-05-2010 13:54:40 »

มาอ่านด้วยจ้า  เรื่องน่าสนใจมากๆ ท่าทางสนุกอ่ะ o13

ออฟไลน์ อนันตกาล

  • กาลเวลา ไม่อาจทำให้คนเปลี่ยน แต่ทำให้ความคิดเปลี่ยน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +931/-14
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #9 เมื่อ18-05-2010 13:58:36 »

กรี๊ดมาลงชื่อ อ่านแล้วอยากเขียนมั่ง กรี๊ดๆๆๆ
(มองไปที่3เรื่องยาวของตัวเองไว้ก่อนละกัน)
พี่นุ่นอะมาเขียนยั่วกาล 555+ บ้าจี้เอามั่งดีไหมเนี่ย   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-05-2010 13:58:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






posshiza

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #10 เมื่อ18-05-2010 14:02:33 »

แวะมาเป็นกำลังใจให้เรื่องใหม่คะ
คอมเสียไปหลายวันไม่ได้เข้ามาอ่านเลย
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ANUNTAYA

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #11 เมื่อ18-05-2010 14:13:21 »

มาต่อ ๆ นะนะ


น่าลุ้นมากกก


 :o8: :o8: :o8: :o8:

nine-poo

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #12 เมื่อ18-05-2010 14:21:45 »

โหยชีวิตเด็กไทยในต่างแดน  เสียดุลย์ให้ต่างแดนอีกแว้ววว

มาติดตามตอนต่อไปค้าบบบ ขอบคุณคับ
 :L2:

ออฟไลน์ tawanjantra

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #13 เมื่อ18-05-2010 14:40:56 »

รักต่างสัญชาติ รออ่านตอนต่อไป

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #14 เมื่อ18-05-2010 15:06:01 »

มาลงชื่ออ่านด้วยคนค่าาาา
มาตอนแรกก้อโดนเลย คนน่ารัก  :o8:

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #15 เมื่อ18-05-2010 15:59:51 »

 :L2:   เข้ามาให้กำลังใจค่ะ


และก็รออ่านอีกเรื่องด้วยนะค่ะ

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #16 เมื่อ18-05-2010 21:33:18 »

มาช่วยพี่นุ่นดันกระทู้ค่ะ

ตัวป่วนมันแฮบปี้ละมาแต่งอันนี้ก่อนค่ะ อิๆ

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #17 เมื่อ18-05-2010 21:46:00 »

ความทรงจำแห่งรักต่างเชื้อชาติ Romance :impress2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #18 เมื่อ18-05-2010 21:56:32 »

เสน่หหนุ่มน้อยจากเมืองไทยจะพิชิตใจหนุ่มต่างชาติต่างภาษาได้แค่ไหนเอ่ย  :mc4:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #19 เมื่อ18-05-2010 22:12:53 »

ช่วยเจิมเรื่องใหม่ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-05-2010 22:12:53 »





ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #20 เมื่อ18-05-2010 22:29:00 »

 :z13::กอด1:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: บทที่หนึ่งในความทรงจำ (18/05/2010)
«ตอบ #21 เมื่อ19-05-2010 04:11:53 »

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณมากๆสำหรับท่านที่เข้ามาเมนท์ให้กำลังใจนะคะ
เรื่องนี้จะเรื่อยๆนะคะ ไม่มีอะไรรุนแรง ถ้าเบื่อก็....ขอโทษล่วงหน้าแล้วกัน
อีกอย่าง คาดว่าจะไม่ได้อัพเพิ่มทุกวันนะคะ เพราะคนเขียนมีเรื่องยาวอีกเรื่องค้างอยู่ที่ติดจะอัพแทบทุกวันเป็นนิสัยไปแล้ว
ว่าแล้วก็.......มาอ่านตอนต่อไปกันเลยค่ะ ^o^

***********

บทที่หนึ่งในความทรงจำ
:เพื่อนคนแรก......

“อืม......”
ใครกันนะที่กำลังลูบผมผมอยู่ สบายดีจัง อย่าเพิ่งเลิกลูบเลยนะ ขอนอนให้สบายอีกนิดเถอะ


“หึๆๆ”
เอ๊ะ....แล้วใครมาหัวเราะใกล้ๆกันล่ะ อย่ามาส่งเสียงดังสิ คนกำลังนอนสบายไม่เห็นหรือไง
แล้วนั่นเสียงใครคุยกัน ทำไมต้องมาคุยกันใกล้ๆ
แล้ว.....พูดอะไร ทำไมฟังไม่รู้เรื่องเลยล่ะ


หืม???? ซวยแล้วไง
นี่ผมเผลอหลับไปได้ไง เอ่อ...สติผมกลับมาแล้วครับ จำได้แล้วว่ารู้ตัวครั้งสุดท้ายกำลังนั่งง่วงอยู่ในห้องเรียน
แล้ว...นี่ไม่แสดงว่าไอ้ที่รู้สึกว่ากำลังหลับสบายคือผมนั่งหลับในห้องเรียนตั้งแต่วันแรกคาบเรียนแรกเลยงั้นเหรอ

ทำไงดี แกล้งเนียนหลับต่อไป......หรือจะค่อยๆตื่นดี
ระหว่างที่ผมกำลังชั่งใจว่าจะทำไงถึงจะรักษาภาพลักษณ์ที่ไม่ทันไรก็ต้องมาเสียไปซะแล้วไว้ให้ดีที่สุดอยู่ ก็รู้สึกถึงสัมผัสบางอย่าง

มีใครบางคนใช้ปลายนิ้วลูบผ่านเปลือกตา ไม่สิแค่ขนตาของผมเบาๆ

“muita bonita….."
เสียงพึมพำอะไรหว่า ไม่รู้เรื่องเลย อึดอัดจัง ไอ้อาการสงสัยว่าคนอื่นกำลังพูดอะไร โดยที่แน่ใจว่าตัวเองต้องตกเป็นหัวข้อสนทนาแต่ไม่มีทางรู้นี่มันแย่มากจริงๆนะ

ว่าแต่....ไอ้เสียงพึมพำข้างหูแบบนี้ มันก็แปลว่าไอ้คนพึมพำมันต้องอยู่ใกล้มากแน่ๆเลยสิ
แล้วไอ้คำนี้มันแปลว่าอะไรกันแน่นะ โบนิต้า โบนิต้า ได้ยินมาสองครั้งแล้ว ก็จำได้ว่าถ้าลงท้ายเสียงอามันใช้กับผู้หญิงนี่นา

“Hey you! อิส Wake.”
มาอีกแล้วภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่ง เมื่อไหร่จะชินก็ไม่รู้ เอาวะ ทำเป็นเพิ่งรู้ตัวน่าจะเวิร์คสุด

ผมค่อยๆลืมตาขึ้น รอบโต๊ะที่ผมฟุบหลับถูกรุมล้อมไปด้วยเพื่อนใหม่ที่ผมยังไม่รู้จักชื่อสักคน
อ้อ..ยกเว้นอยู่หนึ่งคน คนที่พอผมเงยหน้าขึ้นมาปรับโฟกัสสายตาได้ก็เห็นกำลังเงยหน้าขึ้นไปพอดี....เอดู

“Oi.” โอเค ‘โอ๊ย’ แปลว่า สวัสดี คำนี้ผมจำได้แล้ว คงต้องตอบกลับไปบ้างมั้ง

“อืม หวัดดี” อ้าว ผมว่าผมก็ตอบไปถูกแล้วนี่นา หวัดดีมาผมก็หวัดดีตอบ แล้วพวกนี้มันหัวเราะอะไรกัน แล้วพูดอะไรอีกเนี่ย ผมฟังไม่รู้เรื่องหรอกนะ หรือเห็นว่าผมสวัสดีตอบเป็นภาษาเดียวกับพวกเขาได้แล้วจะแปลว่าผมเข้าใจทุกอย่างที่เขาพูดมาน่ะ

แล้วก็อย่าคิดเชียวว่าภาษาอังกฤษผมจะดีเลิศ เฮ้อ.....ตัดสินใจถูกรึเปล่านะที่สมัครมาที่นี่
“I don’t know what you’re talking.”

“Qué?”
ซวยแล้วไง พวกนี้ไม่เข้าใจว่าผมพูดอะไร แถมผมยังไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรด้วยเหมือนกัน แล้วไอ้ “เค้” นี่มันอะไรหว่า

ผมตัดสินใจหันไปหาคนที่ดูจะพูดกันรู้เรื่องที่สุด แล้วพยายามพูดให้ช้าและชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้
“What’s that mean?”

“What.” อ้าว ไอ้นี่ ก็ถามอยู่ว่าแปลว่าไอ้เค้นั่นแปลว่าอะไร ดันมาถามกลับอีก จะพึ่งได้แน่มั้ยเนี่ย

“Hmm?”

“Qué is ‘what’.”
อ๋อ เข้าใจแล้ว เอดูมันไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนหรือถามกลับ แต่มันจะบอกว่าไอ้คำที่ออกเสียง เค้ มันหมายถึง อะไร ต่างหาก

ผมคิดไปคิดมาเลยใช้ภาษาแรกของมนุษย์ ภาษาใบ้
ก็ไม่ยากนี่เนอะ ถ้าอยากรู้ชื่อก็ต้องบอกชื่อตัวเองก่อน เรื่องพื้นฐานแบบนี้ไม่เกินความสามารถของผมหรอกน่า ก็เมื่อวานตอนหิวผมยังใช้วิธีบอกคุณแม่บ้านที่บ้านด้วยการเอามือลูบพุงได้เลย


ผมเริ่มทำความรู้จักเพื่อนๆในอนาคตอันใกล้ด้วยการชี้เข้าหาตัวเองแล้วบอกชื่อซ้ำๆ
“อิส อิส........”

“เอดู”
ดูเหมือนนายแว่นลักยิ้มข้างเดียวคนนี้จะเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีพิเศษ แถมยังเข้าใจอะไรง่ายๆอีกด้วย เขาพูดชื่อตัวเองแล้วก็ชี้เข้าหาตัวบ้าง

“กี กีเลห์เม่”
นี่ก็อีกคนที่นั่งๆยืนๆอยู่ข้างรั้วเมื่อเช้า ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นคนนี้ที่ส่งเสียงโหวกเหวกตอนผมเดินผ่าน กีนี่ดูท่าทางเป็นคนขี้เล่น ผมสั้นๆนั่นสีบรอนซ์ทอง ตาของเขาเป็นสีฟ้า โห...พอผมถูกแดดยิ่งเป็นประกายเลย
ผมทวนชื่อเขาแล้วก็หันไปถามเอดูทันทีที่นึกออก

“What’s ‘bonita’ mean?”
ทันทีที่ผมหันไปถามเสียงคนอื่นๆที่ยังมุงอยู่รอบตัวก็ดังอื้ออึงขึ้นทันที แต่แน่ล่ะ ผมจับใจความอะไรไม่ได้สักนิด รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนต่างด้าวยังไงไม่รู้ แต่...ผมก็เป็นจริงๆนี่นะ

“Cute. It’s mean you’re cute”

“Bonita is for girl, isn’t it?”
เมื่อผมถามไปอย่างนั้น เอดูมันก็พยักหน้ารับว่าใช่ ผมเลยหันไปยิ้มให้ผู้หญิงที่อยู่ใกล้มากที่สุดแล้วบอกกับเธอว่า
“Bonita”

ผู้หญิงคนนั้นยิ้ม แล้วเธอก็เอื้อมมือมาลูบหัวผม แล้วก็พูดอะไรไม่รู้ยืดยาว ผมจับได้แค่ไม่กี่คำ โอเม็ง มูแลร์ อะไรก็ไม่รู้ แล้วเธอก็จิ้มแก้มผมอีกทีแล้วก็พูดคำเดียวที่ผมเข้าใจ ใช่ครับ.....โบนิต้า

เธอคนนี้ชื่อวาเนสซ่าครับ สูงพอๆกับผม คือ...ผมไม่ได้เตี้ยนะ เด็กม.6 อายุยังไม่เต็ม 17 ปี สูง 162 เซ็นต์ ง่า.....ก็ผมยังไม่ยี่สิบเลย ยังสูงได้อีกเยอะหรอก

วาเนสซ่าผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสีน้ำตาลอ่อน จมูกโด่งแหลมเปี๊ยว ขนตาหนางอน แต่คุณสมบัติจมูกโด่งแล้วก็ขนตาหนางอนนี่คงเป็นคุณสมบัติทั่วไปของคนบราซิลมั้งครับ ก็รอบๆตัวผมตอนนี้ทุกคนเป็นแบบที่ว่ากันหมดเลย

นายเอดูนี่ก็เหมือนกัน ขนาดที่มีแว่นกรอบดำบังอยู่ยังเห็นชัดเลยว่าขนตาทั้งหนาทั้งยาวนั่นงอนเช้ง ถ้าเอาไม้ขีดวางก็คงตั้งอยู่ได้สบายๆเลยแน่ๆ แล้วก็เท่าที่เห็น ผมว่าผู้ชายทุกคนในห้องนี้สูงกว่าผมหมดเลยด้วยสิ แย่จัง นี่คนทั้งโรงเรียนมาเห็นผมยืนอยู่กับพวกนี้ไม่เหมาคิดว่าคนไทยทุกคนตัวเปี๊ยกหมดเหรอ
.........................
.........................


นั่งส่งยิ้มและส่งภาษาใบ้ได้สักสิบนาทีอาจารย์คนต่อไปก็ดินเข้ามา วิชาฟิสิกส์ครับ แต่....อาจารย์สอนเป็นภาษาโปรตุกีส ดีนะที่เป็นเรื่องง่ายๆแค่แตกเวคเตอร์ คือ...ไม่อยากจะคิดถึงตอนสอบเลย เพราะผมต้องสอบเหมือนคนอื่นในห้องเรียน แล้วก็เก็บใบเกรดกลับบ้านไปด้วยเนี่ยสิ

เฮ้อ.......แค่คุยยังต้องใช้ภาษาใบ้ เขาว่าทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน การเขียนคือส่วนที่ยากที่สุด แล้วอีกนานแค่ไหนนะกว่าผมจะสามารถเขียนภาษาโปรตุกีสได้ จะทันสอบไฟนอลรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่เอาเหอะ ผมตัดสินใจจะมาเองนี่นา ถ้าผลการเรียนจากที่นี่มันใช้ไม่ได้เอาจริงๆ ผมจะยอมกลับไปเรียนม.6 อีกปีก็ได้ สอบเข้ามหาวิทยาลัยช้ากว่าเพื่อนๆแค่ปีเดียวไม่เป็นไรหรอก

น่าเบื่อ.....ทำไมที่นี่ฟิสิกส์ม.6 ถึงง่ายนักก็ไม่รู้ แต่ผมไม่ยอมเบื่อจนนั่งหลับอีกหรอก เลยจัดการเอาสมุดจดที่เตรียมมาเล่มเดียวนั่นมาเป็นสมุดวาดรูปเล่นเสียเลย

ผมเริ่มมองไปตามเพื่อนๆที่นั่งอยู่ เริ่มที่คนข้างหน้าก่อนนี่แหละ ถ้าจำไม่ผิดเธอชื่อ ฟลาวิอา ผิวขาว ผมหยักศกธรรมชาติสีน้ำตาลเข้มจัด กับตาสีฟ้าเหลือบเขียว สวย มีเสน่ห์ แถมยังพอจะกล้อมแกล้มพูดภาษาอังกฤษกับผมได้นิดหน่อยด้วย ที่สำคัญกว่านั้น ตัวเธอเล็กกว่าผมครับ ฮ่าๆๆๆ

สเก็ตช์ฟลาจากด้านหลังคร่าวๆพอให้ดูออกว่าเป็นใคร แล้วก็เลื่อนสายตามองไปทางซ้าย ทางขวา สเก็ตช์คนโน้นคนนี้ไปเรื่อย รวมทั้งเสี้ยวหน้าด้านข้างของเอดูด้วย ผมจมจ่อมอยู่กับการสเก็ตช์ภาพเพื่อนในห้อง รู้ตัวอีกทีก็มีมือใหญ่ๆมาดึงสมุดออกไปจากโต๊ะผมเสียแล้ว

“หึๆๆๆ”

“หัวเราะอะไร?”
ผมถามไอ้เอดูคนมือบอนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ อย่าได้คิดเชียวว่ามันจะเกิดบรรลุวิชาภาษาไทยกะทันหัน

“เก่งนี่ นี่เราใช่มั้ย?”
เออแฮะ เราก็มีฝีมือเหมือนกันนี่นา อย่างน้อยคนถูกแอบวาดก็รู้ว่าเป็นตัวเองล่ะ

“อืม”
พอผมรับว่าใช่ นายนั่นก็จัดการพลิกไปดูหน้าอื่น ยิ้มๆแล้วก็จัดการเรียกเพื่อนๆมามุงรอบโต๊ะผมอีกครั้ง แล้วก็จัดการถามคนนู้นคนนี้ว่านี่ใครๆไปทีละรูป ก็ไม่เยอะหรอกครับ สเก็ตช์คร่าวๆ ในเวลาคาบเดียว เห็นใครมุมไหนผมก็วาดๆไว้ สักสามสี่คน

“Quem é?”
ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอก ไอ้ “เคง แง” นี่มันแปลว่าอะไร แต่ก็ใช้สังเกตเอาน่ะว่า พอไอ้เอดูมันถามอย่างนี้แล้วชี้ไปที่รูปวาด เพื่อนๆก็เถียงๆกันแล้วก็ตอบมาเป็นชื่อของคนที่ผมวาดไว้ แหม...พวกนี้นี่ตาถึงนะครับ ดูออกด้วยว่าผมวาดใคร หุๆ

เอดูมันหันมาส่งยิ้มแก้มบุ๋มให้ผมอีกแล้ว ผมว่ามันคงตั้งใจจะช่วยผมแหละ คงจะอยากให้ผมมีเรื่องคุยกับเพื่อนๆได้เรื่อยๆ  คิดได้อย่างนั้นพออาจารย์คนต่อไปเดินเข้ามาในห้องและเพื่อนๆเริ่มสลายตัวไปจากโต๊ะผม ผมเลยหันไปขอบคุณมันเสียหน่อย

“Thanks, Edu.”

“Obrigado, you have to say ‘Obrigado’.”

“Ok, obrigado Edu.”

เอาล่ะผมจะจำไว้ เวลาขอบคุณต้องพูดว่าโอบริกาโด้ นี่ไง....ลงท้ายด้วยเสียงโอ คราวนี้ไม่ผิดแน่

“De nada….”

“De nada.”

ผมพูดตามไอ้คนตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนภาษาโปรตุเกสเหมือนนกแก้วนกขุนทอง แต่ให้เดาประโยคนี้คงไม่พ้นแปลแบบเดียวกับ You’re welcome

เอดูมันก็ยิ้มเหมือนจะขำกับท่าทางของผม พอมันหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ของตัวเองเรียบร้อย มันก็หันมาส่งเสียงกระซิบเบาๆอีกประโยค


“Eu já gostou de você.”  

“Eu já gostou de você.”
 
เอ....ไม่รู้ไอ้ประโยคสุดท้ายนี่มันแปลว่าอะไรนะ แต่ไอ้เอดูมันดูอารมณ์ดีแบบแปลกๆ
แต่.....ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้.........
จดเอาไว้ก่อนดีกว่าว่าพูดอะไรไปบ้าง จะได้รู้ด้วยว่าคำไหนจำได้
........................
........................


..โปรดติดตามตอนต่อไป..


**มาย้อนอ่านเองแล้วกลัวคนอ่านค้างค่ะ แต่ในเรื่องอิสมันยังไม่รู้เลยนะ
Eu já gostou de você แปลว่า ผมว่าผมชอบคุณซะแล้วล่ะ ^o^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2010 08:48:01 โดย anajulia »

Mercy

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^
^
 :z13:


คุณนุ่นนนนนนนนนน.....

น้องอิสมาแล้ว ดีใจ...

เอดูน่ารักอะ ใจดี แล้วก็ปากหวานด้วย อิอิ...


เป็นกำลังใจค่ะ...มาต่อทุกวันไม่ได้ไม่เป็นไร แต่อย่าลืมมาต่อเรื่อยๆ นะ ชอบเรื่องนี้จังค่ะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
นั่นไงๆๆ แอร๊ยยย ถ้าอิสรู้ว่าแปลว่าอะไรแล้วจะเป็นไงเนี่ย :-[
ไม่เ้ห็นว่าน้ำตาลจะน้อยกว่าตัวป่วนตรงไหนเลย น่ารักมากๆ :o8:
แต่จะเศร้าหรือเปล่าคะ ความรักของนักเรียนแลกเปลี่ยนมัน.... :monkeysad:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
อา.....ลูกค้าสองคนแรกมาแล้ว

..................

^
^
^
^
^
 :z13:


คุณนุ่นนนนนนนนนน.....

น้องอิสมาแล้ว ดีใจ...

เอดูน่ารักอะ ใจดี แล้วก็ปากหวานด้วย อิอิ...


เป็นกำลังใจค่ะ...มาต่อทุกวันไม่ได้ไม่เป็นไร แต่อย่าลืมมาต่อเรื่อยๆ นะ ชอบเรื่องนี้จังค่ะ
ช่ายเอดูตัวเป้นๆก็น่ารักใจดีอย่างนี้แหละค่ะ  :impress2: แต่ๆๆๆ อ่านๆต่อไปแล้วจะรู้ว่ามันไม่ใช่แค่น่ารัก ใจดี โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ

นั่นไงๆๆ แอร๊ยยย ถ้าอิสรู้ว่าแปลว่าอะไรแล้วจะเป็นไงเนี่ย :-[
ไม่เ้ห็นว่าน้ำตาลจะน้อยกว่าตัวป่วนตรงไหนเลย น่ารักมากๆ :o8:
แต่จะเศร้าหรือเปล่าคะ ความรักของนักเรียนแลกเปลี่ยนมัน.... :monkeysad:

จริงอ้ะ? หวานจริงอ้ะ ไม่อยากจะบอกว่าคำพูดทั้งหมดที่เขียนลงไปในทั้งสองตอนนี้เกิดขึ้นจริงนะคะ
แล้วก็เรื่อง...ตอนจบของความรักของนักเรียนแลกเปลี่ยน...น้องเบียร์ต้องรอลุ้นนะ เป็นตอนจบที่อุ่นมากเลย :กอด1:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เอดูเจ้าเล่ห์นะหลอกให้พูดตามกันซะอย่างงั้น 555

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
เปิดอากู๋เป็นตัวช่วยระหว่างอ่านไปด้วยจะได้อินไซด์เอดิชั่นทันเหตุการณ์~

อ๊ายๆๆๆๆ เอดูอ่ะ หลอกให้หนูอิสเค้าพูดอะไร -///-

พี่นุ่นจ๋า ปล่อยหนูป่วนไปก่อนได้ค่ะ เขาแฮบปี้กันแล้ว มาคู่นี้ดีกว่า~  (ยุขึ้นมั้ย? อิๆ)

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

wisa

  • บุคคลทั่วไป
ลงชื่ออ่านด้วยคนครับ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
คุณนุ่น เรื่องนี้มัน..ค่อดน่ารักเลยอ่ะ
อิสกับเอดู ตายแล้วๆๆๆ “Eu já gostou de você.”  :-[
อร๊ายยยย เดี๋ยวเค้าแอบจำไปใช้มั่ง 555+

เป็นกำลังใจให้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2010 21:33:26 โดย pattybluet »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด