รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 582407 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
Re: รักคือ... รัก >>> Merry Christmas p. 46 (29-12-10)
«ตอบ #1380 เมื่อ30-12-2010 16:30:17 »

 :z2: :z2: :z2:
รออ่านตอนหวานอยู่นะ
 :bye2:

Mafia Mania

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> Merry Christmas p. 46 (29-12-10)
«ตอบ #1381 เมื่อ31-12-2010 12:48:03 »

เห็นผู้ใหญ่มาอยู่พร้อมหน้ากันแบบนี้แล้วคงไม่ต้องห่วงว่าจะมีปัญหาอะไร
รออ่านตอนต่อไปดีกว่า คราวที่แล้วไปเที่ยวกันก็หวานซะ
คิดว่าครั้งนี้ก็ไม่น่าจะแพ้ครั้งก่อน

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: รักคือ... รัก >>> Merry Christmas p. 46 (29-12-10)
«ตอบ #1382 เมื่อ31-12-2010 22:39:16 »

ตอนที่ 48 ปีใหม่... ที่ไม่สงบสุข (ก่อนเดินทาง) [1/3]


“อือ” ผมเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังอยู่ข้างหัวเตียงและปรือตาขึ้นมาดูหน้าจอ เมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามาเลยตอบรับด้วยเสียงอือสั้นๆ ในลำคอ

[ตื่นยัง] เสียงจากปลายสายถามผม

“ยัง” ผมตอบกลับไป

[เอาดีๆ ดิวะ มึงตื่นยัง] คนปลายสายยังกวนผมไม่เลิก หรือบางทีอาจเป็นผมที่กวนมันก่อน แล้วเช้าขนาดนี้ใครเขาจะรีบตื่นขึ้นมาแบบมึง

“ไอ้ป่าน มึงมีอะไรรีบพูดมา ถ้าไม่พูดกูจะวาง” ผมตอบกลับปลายสายด้วยเสียงไม่ดังนัก ก่อนจะใช้หัวไหล่ช่วยหนีบโทรศัพท์แนบไว้กับหู เพื่อให้มีมือวางมายกแขนที่พาดอยู่บนตัวผม รวมถึงหัวของคนที่กำลังนอนหนุนแขนผมอีกข้างหนึ่งอยู่ออก เสร็จแล้วก็เลื่อนผ้าห่มให้พ้นตัว เพื่อลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกไปนอกห้อง เพราะเกรงว่าเสียงผมจะทำให้คนที่นอนอยู่ตื่นขึ้นมาด้วย

[มึงอ่ะ] แทนที่มันจะพูดเรื่องที่มันโทรมาหาผมตั้งแต่เช้ามืด แต่มันกลับทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ผมแทน ตอนนี้หน้าตากับเสียงมึงก็ช่วยอะไรมึงไม่ได้ว่ะ

“มึงไม่ต้องมาทำเสียงอย่างนั้น กูไม่พิศวาสมึงขึ้นมาหรอก มีอะไรก็พูดมา” ผมพูด แล้วเดินมาหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟา ก่อนเอนหลังพิงพนัก ส่วนเปลือกตาก็พร้อมจะปิดอยู่ทุกเมื่อ เพราะเมื่อคืนกว่าจะเก็บกระเป๋ากันเสร็จก็ดึกแล้ว นี่ยังโดนปลุกขึ้นมาอีก ตอนนี้นั่งคุยไปก็หาวไป

[มึงไปเชียงใหม่วันไหน] มันถาม อย่าบอกนะว่ามันโทรมาหาผมด้วยเรื่องแค่นี้

“มึงโทรมาหากูตั้งแต่เช้ามืด เพื่อถามกูเรื่องนี้” ผมถามมันอย่างที่ใจคิด

[มึงก็ตอบกูมาก่อนสิวะ] มันเร่งจะเอาคำตอบจากผม

“ตีสองคืนนี้” ผมตอบ

[กูไปด้วยดิ] ไอ้ป่านพูดเสียงเบาเหมือนอ้อน ถ้าให้นึกหน้ามันตอนนี้คงเหมือนกับลูกหมาตาดำๆ ที่ถูกจับใส่กล่องมาทิ้งริมถนน และกำลังแหงนหน้ามองคนที่เดินผ่านไปมา โดยหวังว่าจะมีใครสักคนที่เห็นแววตามันแล้วนึกสงสาร ยอมเก็บมันไปเลี้ยง แต่คนๆ นั้นไม่ใช่ผมแน่

“อะไรของมึง มาขออะไรกู ไปขอคนอื่นนู่นไป” ผมบอกมัน แล้วมันเรื่องอะไรที่ผมจะต้องรับมันไปด้วย คนเขาจะไปเที่ยวกันแค่สองคน

[ถ้าอย่างนั้นกูไปขอพี่กันต์ได้ใช่ไหม] ไอ้นี่ ดูมันๆ

“ไอ้ป่าน” ผมเรียกชื่อมันเสียงดัง จนมันบ่นงุ้งงิ้งกลับมาว่าทำไมผมต้องขึ้นเสียงใส่มัน แล้วมันน่าไหมล่ะ

[โห มึงอ่ะ กูไปด้วยดิ ก็กูไม่รู้จะไปเที่ยวไหนนี่หว่า นะนะ มึงจะทิ้งเพื่อนได้ลงคอหรอวะ] มันเริ่มอ้อนอีก

[ไปเที่ยวหลายๆ คนสนุกกว่านะ มึงเชื่อกู] ผมเงียบ ปล่อยให้มันพูดไปคนเดียว ไอ้นี่ทำตัวสมเป็นน้องคนเล็กจริงๆ อ้อนเก่ง บอกว่าไม่มันก็ยังตื้อได้ไม่เลิก แถมเอาความเป็นเพื่อนของผมกับมันมาอ้างอีก  

“ไปบอกสุดที่รักมึงนู่น อยากไปไหนก็ให้เขาพาไป จะมาอะไรกะกู” ผมพูด หวังว่าคราวนี้มันจะแถไปไหนอีกไม่ได้แล้วนะจากที่ง่วงๆ ตอนนี้เลยตื่นเต็มตาแล้วครับ

[อะไร ใคร ไม่มีเว้ย] เสียงมันโวยวายขึ้นมาทันทีเมื่อผมพูดถึงอีกคน

“ถ้าอย่างนั้นกูก็ไม่รู้จะช่วยมึงยังไงว่ะ อยู่เฝ้ากรุงเทพฯ ไปเหอะมึง” ผมพูด แล้วทำท่าจะตัดสายทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ตัดเพราะเสียงปลายสายมันเรียกไว้ก่อน ก่อนจะเปลี่ยนโหมดมาอ้อนกว่าเดิม กูไม่ใช่พี่ๆ ของมึง ไม่ต้องมาอ้อนกู แล้วอีกอย่างมึงก็ไม่ใช่พี่ชายมึง มันคนละคนกัน อย่างมึงอ้อนไปก็แค่นั้น ฮาๆ



แล้วคิดว่า ผมจะคุยกับมันจบแค่นั้นไหมครับ แน่นอนว่า “ไม่” คนอย่างไอ้ป่านมันไม่มีทางยอมแพ้หรอครับ พอคิดว่าขอผมไม่ได้แล้วแน่ๆ มันเลยยกเอาไม้ตายของมันออกมา จะอะไรเสียอีกล่ะครับ ก็กันต์ไงครับ มันบอกว่า ถ้าผมไม่ยอม มันไปขอพี่ชายมันก็ได้ รับรองว่าพี่ชายมันไม่มีทางปฏิเสธมันแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งผมก็คิดเหมือนกับมัน มีหรอกันต์จะไม่ยอมให้ไอ้ป่านมันไป แค่มันออกแรงตื้อหน่อยก็เรียบร้อย เอากับมันสิ สุดท้ายเลยได้แต่ย้ำให้มันไปบอกผู้ปกครองมันด้วย ผมขี้เกียจเปิดห้องรับคนหนีออกจากบ้านครับ ไม่ใช่อะไร
.
.
.

“ทำไมมานั่งอยู่นี่อ่ะ” เสียงกันต์ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องถามผมขึ้นมา ก่อนจะก้าวมาหาผมที่ยังนั่งอยู่บนโซฟา

“ออกมาคุยโทรศัพท์ ไอ้ป่านโทรมา แล้วทำไมตื่นเร็วจัง” ผมบอก ก่อนจะถามเขากลับ ตอนนี้คนที่เดินงัวเงียออกมา ทรุดตัวลงนั่งพิงไหล่ผมแล้ว และตั้งท่าจะหลับต่อ

“ตื่นมาเข้าห้องน้ำ แล้วไม่เห็นเลยออกมาดู แล้วป่านเป็นอะไรถึงโทรมาแต่เช้า” คนที่เอนตัวพิงผมอยู่พูดในขณะที่ปิดเปลือกตาไปแล้ว

“มันขอไปเชียงใหม่ด้วย ลุกไปนอนต่อในห้อง ไป” ผมพูด พร้อมฉุดมืออีกคนให้ลุกขึ้นตาม กันต์ก็ลุกตามผมแต่โดยดี

“แล้วตอบไปว่าไง”

“ก็ให้ไป ถึงกรไม่ให้มันไป มันก็คงมาขอกันต์ แล้วกันต์ก็ให้มันไปอยู่ดี” ผมบอก

“อื้อ แล้วพี่กาวน์ล่ะ” กันต์พยักหน้าตอบรับ แล้วถามถึงอีกคน

“ไม่รู้ ไม่ได้ถาม” ผมตอบ

“นอนเหอะ ตื่นแล้วค่อยคุย” ผมพูด พร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเราสองคน ก่อนจะหลับไปพร้อมกันอีกครั้ง  

............................................................................


แล้วช่วงสายของวันผมก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกเพราะเสียงโทรศัพท์ คราวนี้ไม่ใช่เสียงจากโทรศัพท์ของผม แต่เป็นของกันต์ครับ ส่วนไอ้คนที่โทรมาเป็นคนเดิมกับที่โทรมาปลุกผมเมื่อเช้า ปีใหม่นี้ผมจะได้อยู่แบบสงบสุขกับเขาไหม

“กร” เสียงคนที่นอนอยู่ข้างๆ เรียกผม หลังจากวางโทรศัพท์แล้ว

“ฮือ” ผมที่นอนตะแคงหันไปมองกันต์อยู่ก่อนแล้ว ส่งเสียงตอบรับ

“ป่านโทรมาบอกว่าพี่กาวน์ไปด้วย” นั่นไง เอาแล้ว คิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าพี่กาวน์ไม่ปล่อยไอ้ป่านมาคนเดียวหรอก หวงยังกับจงอางหวงไข่

ถึงตอนนี้หลายๆ เรื่องมันก็ยังไม่เคลียร์นะครับ พอจะพ้นเรื่องนั้นไป เรื่องใหม่ก็เข้ามาอีก บางทีผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงเหมือนกัน นั่นก็แฟน นั่นก็เพื่อน อีกคนก็เป็นพี่ชายทั้งของแฟนและของเพื่อน แถมจะกลายเป็นแฟนเพื่อนด้วย ดูวุ่นวายดีไหมครับ แล้วพักนี้ก็เจอหน้ากันบ่อยเสียเหลือเกิน อย่างเดียวที่ทำได้ตอนนี้คงไม่พ้น ทำใจ เดี๋ยวสักวันมันคงมีจุดที่ลงตัวได้ และผมหวังว่าวันนั้นจะมาถึงโดยเร็ว  

“กร ลำบากใจหรือเปล่า” กันต์ถาม พร้อมกับเอนตัวลงนอน ก่อนขยับมาซุกหน้าอยู่กับอกผม ส่วนผมก็ใช้แขนรวบตัวเขาให้มาชิดกับผมมากขึ้น

“กรไม่เป็นอะไรหรอก ว่าแต่กันต์เถอะ เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมตอบ สำหรับผมเรื่องนี้มันอาจจะเรียกว่า ช่วงที่ยังไม่ลงตัวแค่นั้น มันเลยเหมือนมีอะไรค้างๆ คาๆ กันอยู่ แต่ถ้าถามว่าลำบากใจไหม มันคงไม่ขนาดนั้น ส่วนคนที่น่าจะลำบากใจจริงๆ น่าจะเป็นกันต์มากกว่า แต่ผมว่าถึงตอนนี้แล้ว เขาก็ตั้งรับกับสิ่งที่เข้ามาได้ดีเลยทีเดียว

“ไม่แล้ว มาถึงขนาดนี้แล้วนิ จริงๆ พี่กาวน์ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เขาเป็นคนดี แล้วก็เป็นพี่ที่ดีมากๆ เสียอย่างเดียวเข้าใจยากไปหน่อย เรื่องมันถึงวุ่นวายแบบนี้” กันต์พูด ผมก็เชื่อนะถ้าฟังจากที่กันต์เคยเล่าเรื่องหลายๆ เรื่องของเขากับพี่กาวน์ รวมถึงไอ้ป่านให้ผมฟัง

“ก็ดีแล้ว กรเป็นห่วง” ผมบอกเขา ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว มีแต่ต้องเดินหน้าอย่างเดียว ไปเที่ยวให้สนุกดีกว่า

“หิว” เสียงคนที่นอนซุกผมอยู่ส่งเสียงขึ้นมาเบาๆ จนผมอดอมยิ้มไม่ได้ ให้ตายสิ ภาพพี่กันต์ที่นิ่งๆ ที่ผมเคยเห็นก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดนะ แต่เขาก็เป็นแบบนี้เฉพาะเวลาอยู่ที่บ้านนะครับ นอกบ้านยังดูนิ่งๆ เงียบๆ เหมือนเดิม แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะครับ ขืนยิ้มเก่ง แจกยิ้มให้คนไปทั่ว ผมคงไม่เป็นอันทำอะไร เพราะต้องคอยตามเฝ้าเขา มีเสน่ห์น้อยอยู่ที่ไหนล่ะ แฟนผม

“จะทำกับข้าวไหม” ผมถาม แต่คนที่บ่นหิวส่ายหน้ามาเป็นคำตอบ

“ออกไปกินข้างนอกดีกว่า ได้ซื้อกับข้าวเข้ามาเผื่อเย็นนี้ด้วย ของในตู้เย็นหมดแล้ว” กันต์พูด ก่อนจะผละตัวลุกขึ้น แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

……………………………………………………



“เดี๋ยวไปเปิดเอง” เสียงกันต์บอกผม ก่อนที่เขาจะเดินออกจากครัวไปเปิดประตูห้องหลังจากได้ยินเสียงกริ่ง แล้วหลังจากนั้นไม่ถึงนาทีบุคคลที่ป่วนแผนเที่ยวเชียงใหม่ของผมกับกันต์ก็มายืนทำหน้ากวนประสาทใส่ผม

ส่วนคนที่มากับมัน วันนี้ผมจะทักเขาก่อนครับ หลังจากทุกทีแค่ก้มหน้าทักทาย จะยกเรื่องปีใหม่มาอ้างก็ได้ครับว่า ใกล้จะปีใหม่แล้ว ผมควรเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ บ้าง แล้วถ้าพิจารณาถึงเรื่องที่เขาเคยทำไว้กับกันต์ เจตนามันไม่ได้มาจากการต้องการแย่งชิงกันเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่เขามีเหตุผลอื่น ที่ผมเองก็ไม่ได้อยากได้คำตอบ แต่เอาเป็นว่าจากนี้เราจะเริ่มต้นกันใหม่

“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักคนที่เดินตามหลังกันต์เข้ามา เขาก็ยิ้มตอบผมครับ ส่วนกันต์เองพอเห็นผมทำแบบนี้ เขาก็ส่งยิ้มมาให้ผม

“มีอะไรกินบ้างวะ” ไอ้ป่านมันชะโงกหน้าข้ามบาร์ในครัวมาถามผมที่กำลังเทกับข้าวที่ซื้อมาใส่จาน มื้อนี้ซื้อกับข้าวสำเร็จครับวันนี้จะได้ไม่ต้องเหนื่อย เดี๋ยวกินเสร็จจะได้แยกย้ายกันไปนอนเอาแรง

“สนแต่เรื่องกินนะมึง แล้วเป็นไงดีกันแล้วหรอวะ ถึงมาด้วยกันได้” ผมถามป่าน ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกับมันเรื่องนี้เลยถามสารทุกข์สุขดิบมันเสียหน่อย แล้วตอนนี้กันต์กับพี่ชายเขาก็เดินไปคุยกันที่ระเบียงแล้ว ผมกับป่านเลยคุยกันสะดวก  

“ก็ดีว่ะ แล้วมึงอ่ะ กินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่าวะ ถึงทักเขาได้” มันถามผมกลับบ้าง

“เปล่า แต่เป็นอย่างนี้กูก็อึดอัดว่ะ แล้วกูเด็กกว่าเขากูก็ควรเริ่มก่อน เพื่อบรรยากาศจะดีขึ้น กูไม่อยากให้กันต์กับมึงพลอยรู้สึกไม่ดีเพราะกูด้วย” ผมตอบ

“เออๆ ขอบใจว่ะ แต่มึงก็ไม่ต้องฝืนมากนะเว้ย กูไม่อยากเห็นมึงลำบากเหมือนกัน”

“ไม่ต้องห่วงกูหรอก มันไม่มีอะไรแล้วว่ะ ส่วนมึงก็ห่วงตัวมึงเองเหอะ เอายกนี่ไปวางที่โต๊ะด้วย อย่ากินแรงกู” ผมพูด ก่อนจะยกจานปลาสำลีทอดน้ำปลา พร้อมกับถ้วยใส่ยำมะม่วงให้ป่านรับไปวางที่โต๊ะกินข้าว

“วางเสร็จแล้วก็ไปตามแฟนกูกับแฟนมึงมากินข้าวด้วย” ผมสั่งมันต่อ

“ไม่ใช่แฟนกูโว้ย แม่ง กูบอกไม่เคยฟัง” มันโวยวายทันทีที่ผมพูดจบ ส่วนผมก็ขำๆ ครับ

“เออ ไม่ใช่ ก็ไม่ใช่ รีบไปตามมาได้แล้วมึง อย่าช้า” มันทำหน้ากวนผมอีกรอบ ก่อนจะยอมเดินไปแต่โดยดี

------------------------------------------------------    



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2010 23:43:41 โดย Angel_K »

Akamei

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ใช่แฟน แต่เป็นมากกว่าแฟน อ่ะป่าว ป่าน...........

HNY. นะค่ะ ไรเตอร์ มีความสุขมากๆนะค่ะ ^^

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
โฮ่ๆๆๆๆ เรื่องโน้นกึ่งๆแอบคุณพี่กาวน์หนีเที่ยว มานี่มาเปิดตัวเลยนะ  :-[
ต่างคนต่างก็รู้สึกๆในใจอยู่ละนิ

กรกับกันต์ สวีทคงมาตรฐานจริงๆ ชอบจริงๆเลย
 :m11:


 :กอด1: HNYเรื่องโน้นแล้วนะ เอาอีกที
สวัสดีปีใหม่ค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2010 23:43:32 โดย knightofbabylon »

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
วุ๊ย.. คนเค้าจะสวีทกันสองต่อสอง
แบบนี้ก้อเป็นสวีทคูณสองอ่ะจิ หุหุ

รอตอนหน้าค่ะ HNY 2011 นะคะ มีความสุขมากๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
ปากแข็งจริงจริ๊ง

RakorN

  • บุคคลทั่วไป
เห็นชื่อตอนตกใจหมดเลย ที่แท้ก็น้องป่านมาป่วนทริปด้วยนี่เอง แถมยังลากผู้หลักผู้ใหญ่มาเป็นศรีแก่ทริปด้วย :m20:

HAPPY NEW YEAR นะคะคุณ Angel_K  :กอด1:

ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2011 01:04:37 โดย Little Devil »

Na na

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยจะเป็นทริปที่ไม่สงบสุขจริงๆ แต่ไปหลายคนคงสนุกอย่างที่ป่านว่าแหล่ะน้า
บรรยากาศเวลาอยู่รวมกันก็ดีขึ้นเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นต้องเป็นทริปที่น่าติดตามแน่ๆ

ยิ่งคู่กันต์ กร ความหวานไม่มีตกเลยนะ  :impress2:

Happy New Year 2011

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Happy New Year 2011 จ้า
มีความสุขสมหวังสมปรารถนาตลอดปี  ร่ำรวยเงินทอง  สุขภาพแข็งแรงนะ

แง่ม  นึกว่าจะได้ไปกันสองคน เหอๆๆ  มีเพิ่มมาอีกคู่ด้วย

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
รอตอนต่อไป  หวังว่ากรกับกันต์คงสนุกนะ  ทริปนี้

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ทริปนี้จะพากันไปดูพลุที่เชียงใหม่หรือเปล่า
สองคู่ชู้ชื่น หรือพี่กาวน์กับป่านจะป่วนจนกรกับกันต์ต้องยันให้ตกดอย :laugh:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
ทริปนี้คงหวานจนน้ำตาลเรียกแม่แน่
อิ อิ :-[

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: กรเอ้ยโดนเพื่อนตัวแสบป่วนเข้าให้แล้ว
เอาน่าๆ เดีี๋ยวให้กันต์ปลอบใจ

Happy New Year ค่ะ

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยจริงว่าบนรถอาจจะได้สวีทสองคู่นะนี่ หึหึ
ดีแล้วหล่ะเห็นดีกันได้ อิอิ จะรอตอนต่อไปจ้า
Happy New Year นะคะทุกคน

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เรื่องนี้อ่านแล้วอบอุ่นจัง ดูกรกับกันต์เป็นคู้แท้ยังไงก็ไม่รู้ อยู่ด้วยกันทำแต่เรื่องดีๆสิ่งดีๆส่งเสริมกันไปในทางดีทั้งนั้น^^ ชอบมากค่ะ

ปล.ส่วนป่านกะกาวน์ท่าจะป่วนคู่รักรับปีใหม่แล้วม้างงง

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ..ถือซะว่าไป 4 ก็ครึกครื่้นดีนะ...คริคริ

Happy New  Year จ้า
ขอให้มีความสุขมากๆนะจ๊ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
อ่า นู๋กันต์ รออ่านอยู่นะ happy ปีใหม่แล้วกลับมาไวๆ

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :o8: :o8:

น่ารักทั้งสองคู่เลย

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ป่านปากแข็ง ...หรือว่าเขิน? คึคึ

Mafia Mania

  • บุคคลทั่วไป
รอตอนต่อไปด้วยคน ตามลุ้นทั้งสองคู่
อยากรู้ว่าคู่หนึ่งจะหวานกันได้ขนาดไหน
และอีกคู่หนึ่งคงต้องช่วยลุ้นเพื่อหาข้อสรุป ว่าตอนนี้คบกันแบบไหน

Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
ไปเที่ยวกันๆ คู่เพื่อนซี้นี่ก็ฮาดีนะ 55+

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
มีป่านไปด้วยยังไม่เท่าไร แต่มีอิพี่กาวน์พ่วงมาด้วยนี่ดิ มันจะกร่อยปะ  :m29:

ออฟไลน์ PeeYaR

  • >///<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ทริปนี้ดูท่าจะไม่หวานอย่างที่คิดซะแล้วแฮะ
555+

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
เข้ามาดัน 5555+


ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆ


เปิดเข้ามาดูทุกวันเลยว่าต่อรึยัง


ขอบคุณมากนะคะที่เขียนเรื่องน่ารักให้เราอ่าน  :L2:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
เดี๋ยวคืนนี้มาลงให้นะคะ ไม่ดึกเกินรอแน่นอน
 :pig4:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 48 ปีใหม่... ความสุขที่สัมผัสได้ [2/3]

“พี่กาวน์จะไปทางไหน จะไปทางกำแพงเพชรหรืออุตรดิตถ์” เสียงกันต์ถามตอนที่เรากำลังคุยเรื่องเส้นทางที่จะไปเชียงใหม่ หลังผ่านมื้อเย็นไปครึ่งทางแล้ว

ส่วนเรื่องที่โปรแกรมและที่พัก มีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อยเมื่อตอนกลางวันนี้เอง ป่านมันชวนไปเที่ยวเชียงราย แล้วนอนที่บ้านมัน อันนี้แม่มันเสนอไอเดียมาครับ บ้านป่านที่เชียงรายก็คล้ายๆ กับบ้านกันต์ที่หัวหินนั่นแหละครับ อยู่แต่คนดูแล เจ้าของบ้านนานๆ จะขึ้นไปที เห็นป่านมันเล่าว่าแม่มันขึ้นไปอย่างมากเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง พวกผมสองคนก็ตกลงจะไป เพราะกันต์เองเขาชอบบ้านป่านที่ชียงรายอยู่แล้ว

สรุปแล้วเราไปกันหกคืน จากเดิมที่ผมกับกันต์จะไปกันแค่ห้าคืน โดยคืนแรกจะนอนที่บ้านคุณย่า อีกสามคืนต่อมาจะไปพักที่รีสอร์ทในตำบลท่าศาลา ก็อยู่ในตัวเมืองนั่นแหละครับ สำหรับห้องของพี่กาวน์กันต์โทรไปจองให้เมื่อเช้านี้ ห้องยังมีว่างอยู่ครับแต่ต้องจ่ายเยอะเอาเรื่อง เพราะเหลือแต่ห้องพักที่แพงเป็นอันดับสองของรีสอร์ทเพียงหลังเดียว ส่วนพวกผมพักแบบรองลงมาหน่อย ผมยังคิดอยู่ว่าเงินจำนวนนั้นสามารถใช้บินไปเที่ยวยุโรปสองคนได้อย่างสบาย แต่กันต์เขาบอกผมครับว่า นั่นมันเงินพี่กาวน์นิ แค่นั้นเลยครับสั้นๆ ง่ายๆ แล้วสองคืนสุดท้ายก็ขึ้นไปนอนบ้านป่านที่เชียงรายกัน จากเดิมผมสองคนจะกลับไปนอนบ้านคุณย่าคืนหนึ่งเพื่อซื้อของและเที่ยวในเมือง

“พี่ว่าจะไปทางอุตรดิตถ์ ทางกำแพงเพชรถนนมันไม่ค่อยดี” เสียงพี่กาวน์ตอบ

“เพื่อนผมมันก็บอกให้ไปทางนั้น แต่ก่อนถึงอ. เด่นชัยมันทำถนนอยู่ประมาณสามสิบกิโลฯ แต่มันว่าดีกว่าไปทางกำแพงเพชร แล้วเราไปก่อนช่วงเขาหยุดกันรถคงไม่เยอะเท่าไหร่” ผมพูด ตามที่ไอ้ติ๊ดเพื่อนผมมันบอกมา เพราะมันเพิ่งไปเชียงใหม่มาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว

“แวะไปกินข้าวเช้าที่ลำปางแล้วกัน ถ้าออกตีสอง ไม่เกินแปดโมงคงถึง” พี่กาวน์เสนอต่อ

“ไปกินข้าวมันไก่ในตลาดกัน” อันนี้น่าจะรู้กันว่าเสียงใคร มีตัวเดียว เรื่องกินนะรีบเสนอเชียวนะมึง

“เดี๋ยวกูไปซื้อให้มึงเดี๋ยวนี้ก็ได้ ไปลำปางจะกินข้าวมันไก่” ผมบอกไอ้ป่าน

“ของชอบมึงไม่ใช่หรือไง มึงไม่รู้อะไรร้านนี้อร่อยจริง มึงกูพาไปกินแล้วจะติดใจไม่เชื่อมึงถามพี่กันต์” ไอ้ป่านพูด พร้อมหาคนสนับสนุนมัน

“เออ ๆ” ผมพูด ที่จริงก็พูดไปอย่างนั้น เพราะผมกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว แล้วข้าวมันไก่ผมเองก็ชอบกิน

“ป่านกับพี่กาวน์ไปนอนก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวกันต์เก็บจานเสร็จแล้วก็จะเข้านอน” กันต์พูด ตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าแล้วครับ  

“เดี๋ยวป่านช่วย” ไอ้ป่านรีบเสนอตัว ผมเลยมองมันอย่างรู้ทัน หน้าอย่างมึงใครก็ดูออก ส่วนพี่กาวน์พอพี่กันต์พูดจบก็ขอตัวเข้าห้องไปก่อน เพราะพี่แกบอกว่าเมื่อคืนนอนดึก

“ไม่อยากเดินตามเขาเข้าห้องสิมึง ไม่ต้องอายหรอกมีแค่กูกับกันต์” ผมพูดกับมันเบาๆ ตอนที่ช่วยกันเก็บจานบนโต๊ะ ส่วนกันต์ถือจานบางส่วนเข้าไปล้างในครัวก่อนแล้ว

“อายบ้านป๊ามึงสิ” มันด่าผมกลับมา แล้วผมก็ไม่ได้แซวมันต่อ ด้วยเกรงว่าคืนนี้เพื่อนผมมันจะย้ายตัวเองมานอนที่โซฟาเพราะไม่กล้าเข้าห้อง
 
“ไปแซวมัน” กันต์หันมาดุผม แต่ไม่จริงจังนัก ตอนผมยกจานไปให้เขา ส่วนไอ้ป่านเดินเข้าห้องไปแล้วครับ

“ได้ยิน” ผมถาม

“อยู่กันแค่นี้” เขาตอบผม

“มันก็เข้าไปแล้วไง” ผมพูด ก่อนจะถูกกันต์ไล่ให้ไปอาบน้ำ แล้วเข้านอน เพราะช่วงแรกผมจะเป็นคนขับรถ พอถึงนครสวรรค์ก็จะเปลี่ยนให้กันต์ขับต่อเพราะเขาชินทางมากกว่าผม ผมก็เลยเดินกลับเข้าห้องนอนมาก่อน พออาบน้ำเสร็จกันต์ก็เข้ามาอาบต่อพอดี

....................................................................



“กร… กร”

“อื้อ กี่โมงแล้ว” ผมถามเพราะเห็นว่ากันต์เขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ในเสื้อโปโลสีขาว กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำขนาดพอดีตัว มีสเวตเตอร์ไล่สีเทาจากสีอ่อนตรงช่วงกลางตัวไปจนถึงสีเข้มที่ชายเสื้อพาดอยู่ที่บ่า แล้วใช้แขนของเสื้อผูกไว้ที่ด้านหน้า กันต์ดูเด็กมากกับลุคนี้

“ตีหนึ่งครึ่ง ออกไปข้างนอกก่อนนะ” กันต์บอก ก่อนตั้งท่าลากกระเป๋าเดินทางหนึ่งในสองใบออกจากห้อง

“กรหิ้วใบนี้ออกไปเองก็ได้” ผมบอกกันต์ถึงกระเป๋าอีกใบที่ตั้งอยู่ กันต์เขาก็ตอบรับแล้วลากกระเป๋าออกจากห้อง

ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานครับ ส่วนเสื้อผ้าก็ง่ายๆ เลือกเสื้อโปโลสีดำ กับกางเกงยีนส์ แล้วก็หยิบสเวตเตอร์สีเทาเข้มที่กันต์เขาแขวนไว้ให้หน้าตู้เสื้อผ้าออกมาด้วย ก่อนจะลากกระเป๋าอีกใบออกจากห้อง

“ล็อคห้องยัง” กันต์ถามผม เมื่อผมเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งดื่มกาแฟกับพี่กาวน์ที่โต๊ะกินข้าว

“ล็อคแล้ว ไอ้ป่านอ่ะ” ผมถามเพราะไม่เห็นมันนั่งอยู่ด้วย

“ปิ้งขนมปังอยู่ในครัว เอากาแฟไหมเดี๋ยวชงให้” กันต์บอก ผมก็มองเข้าไปในครัวเห็นไอ้ป่านกำลังปิ้งขนมปังอยู่

“มาเอาไปดิ เสร็จแล้ว” พอมันเห็นผม มันก็เรียกให้ไปหยิบจานขนมปังที่ปิ้งเสร็จแล้วไป

“เดี๋ยวกรไปชงเองก็ได้” ผมพูด ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว แล้วเปิดตู้เย็นหยิบเนย และมายองเนสออกมา อย่างหลังนี่ของชอบผม ขนมปังปิ้งทามายองเนส  

“มึงกับพี่กาวน์จะทาอะไร แยมกูก็มี” ผมถามไอ้ป่านที่กำลังยืนชงโกโก้อยู่

“เอาเนยอย่างเดียวพอ” พอมันตอบผมก็ยกจานขนมปัง เนย แล้วมายองเนสไปตั้งที่โต๊ะ ก่อนกลับมาชงกาแฟให้ตัวเอง ก็ใช้เวลากินกันไม่นานครับ ไม่ถึงสิบนาที ออกเดินทางกันตามเวลาตอนตีสอง ไอ้ป่านให้ผมขับนำไป ส่วนมันก็ขับตาม  
.
.
.

ผมใช้เวลาขับรถประมาณสองชั่วโมงเศษก็ขับรถมาถึงนครสวรรค์ แล้วเปลี่ยนมาให้กันต์เขาขับแทน ตอนที่ขึ้นมานั่งบนรถตอนออกจากคอนโดฯ กันต์หาเพลงฟังอยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หลับ มาตื่นอีกทีตอนที่จอดแวะปั๊มกันแล้ว พอออกมานอกรถเจออากาศเย็นเลยครับ เลยเห็นกันต์ยืนกอดอกลูบแขน บอกให้ใส่เสื้อแขนยาวก็ไม่ยอมใส่นะครับ เขาบอกว่าขอสัมผัสอากาศเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวขึ้นรถก็ไม่หนาวแล้ว

“ครับแม่” ผมรับสายแม่ที่โทรเข้ามาหา ตอนนี้ยืนรอไอ้ป่านอยู่ครับ มันวิ่งเข้าไปซื้อของ

“ถึงนครสวรรค์แล้ว เดี๋ยวกันต์ขับต่อ” ผมตอบแม่ที่โทรเข้ามาถามว่าผมขับรถถึงไหนแล้ว

“ครับ” ผมตอบรับแม่ที่บอกว่าขอสายกันต์

“แม่จะคุยด้วย” ผมบอก ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้เขา แล้วก็ได้ยินแต่เสียง “ครับ” “ครับแม่” “ครับ ครับ” แค่นั้น ถ้าให้เดา แม่ผมต้องบอกว่า “ขับรถดีๆ” “อย่าขับรถเร็ว” แล้วสุดท้าย “ดูแลสุขภาพด้วย” เพราะแม่จะบอกอย่างนี้ทุกครั้งที่ผมขับรถไปไหนไกลๆ

“แม่ว่ายังไงบ้าง” ผมถามกันต์ เมื่อเห็นเขาวางโทรศัพท์แล้ว  
 
“แม่อวยพรให้เดินทางปลอดภัย อย่าขับรถเร็ว ให้ดูแลสุขภาพด้วย” กันต์ตอบ เป็นไงครับ เหมือนที่ผมบอกไหม

“อ่ะ ถุงนี้ของพี่กันต์กับมึง” ป่านมันเดินมายื่นถุงในมือมันให้ผม ส่วนในมือมันก็ยังมีอีกถุง ผมลองเปิดถุงแหวกๆ ดูก็เห็นชาเขียว นมจืด สาหร่าย ขนมปัง และขนมขบเขี้ยวอีกสามสี่อย่าง ซึ่งเป็นของที่กันต์กับผมชอบทั้งนั้น

“ขอบใจ แต่มึงซื้อมาทำไมเยอะแยะวะเนี่ย” ผมพูด เพราะมันเล่นซื้อของมาจนเต็มถุงใบใหญ่

“เออน่า นั่งรถมันหิวบ่อย” มันตอบ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งบนรถตัวเอง  

“พี่กาวน์ขับนำไปนะ” กันต์หันไปบอกพี่กาวน์ ก่อนจะเปิดประตูก้าวขึ้นรถตัวเองบ้าง ผมเองก็ทำตาม แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ

ช่วงที่กันต์ขับรถจากนครสวรรค์ไปลำปาง ผมก็หลับไปแค่ชั่วโมงแรก ก่อนจะตื่นมานั่งคุยกันไปตลอดทาง เรื่องที่คุยกันตอนนี้คงไม่พ้นเรื่องบ้านครับ มันเป็นเรื่องที่เรามักจะคุยกันเกือบตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แล้วก็เขามาถึงเรื่องที่แม่กันต์ชวนผมเข้าไปทำงานกับกันต์ เรื่องนี้กันต์ยกให้เป็นการตัดสินใจของผมทั้งหมด ซึ่งผมเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร กลับไปแล้วค่อยว่ากันอีกที

เจ็ดโมงกว่าๆ เกือบแปดโมงเราก็เข้ามาถึงตัวเมืองลำปาง แวะกินข้าวมันไก่ ตามที่ไอ้ป่านมันบอกไว้ตอนแรก อร่อยจริงอย่างที่มันว่า แถมยังให้เยอะมาก หลังจากผ่านมื้อเช้า ก็ขับรถมุ่งตรงสู่ตัวเมืองเชียงใหม่กันต่อ  

 ..............................................................


หลังจากแวะเข้าบ้านไปหาปู่กับย่ากันแล้ว ก็สรุปกันได้ว่าจะไปไหว้พระกันก่อน ตามคำแนะนำของปู่กับย่าครับ  แล้วค่อยหากินข้าวเที่ยงกินกันในเมือง ก่อนที่ช่วงบ่ายจะไปที่ปางช้างแม่สา

ตอนนี้เรากำลังนั่งดูการแสดงช้าง หลังจากดูช้างอาบน้ำในลำน้ำแม่สากันมาก่อนหน้านี้ ไม่น่าเชื่อนะครับว่าช้างตัวใหญ่ๆ จะถูกฝึกให้สามารถวาดรูป เก็บของ ปาลูกดอก ไปจนถึงเป่าหีบเพลงได้ ดูแล้วก็เพลินๆ ดีครับ ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปเก็บไว้บ้าง  

พอดูการแสดงจบ ก่อนไปนั่งช้างตามคำชวนของไอ้ป่าน ก็ไปถ่ายรูปกันครับ ดาราหน้ากล้องคู่กับช้างนี่ก็ไม่ใช่ใคร ไอ้ป่านกับกันต์ครับ กันต์นี่ยังเฉยๆ ไม่อะไรมาก ออกแนวถูกไอ้ป่านมันลากไปมากกว่า ส่วนพี่กาวน์รายนั้นเหมือนพี่ใหญ่คุมเด็กที่ต่อท้ายด้วยคำว่า “โข่ง”  

วันนี้จบที่ปางช้างแม่สาเป็นที่สุดท้ายครับ ขับรถนั่งรถกันมาหลายชั่วโมง เลยอยากกลับไปพักกันหมด ไม่มีใครอยากไปไหนต่อ กลับไปพักเอาแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้กันต่อ

...........................................................



เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากกินข้าวเช้าแล้วก็ออกจากบ้านย่าครับ มาเที่ยวนี้ใช้เวลาที่บ้านย่ากันน้อย ตอนอยู่ที่โต๊ะปู่ก็ถามเรื่องหลานสะใภ้ขึ้นมาอีกแล้วครับ เล่นเอาเงียบกริบกันทั้งโต๊ะ ก่อนที่สองพี่น้อง พี่กาวน์กับกันต์จะพร้อมใจกันยกเอาเหตุผลเดิมๆ ขึ้นมาอ้างครับ ว่างานยุ่ง ไม่มีเวลาไปหาสาวที่ไหน ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลนี้จะใช้อ้างกันไปได้ถึงเมื่อไหร่

ออกจากบ้านย่าเราก็มีแผนขึ้นไปดอยอินทนนท์กันครับ อยู่กันจนถึงช่วงบ่ายก็เข้ารีสอร์ท จากนั้นก็แยกย้ายกันเลย นัดเจอกันอีกทีพรุ่งนี้เช้า มื้อเย็นนี่ตัวใครตัวมัน ตอนแรกเหมือนไอ้ป่านมันจะติดสอยห้อยตามกันต์มาเล่นอยู่กับพวกผมด้วย แต่ถูกพี่กาวน์ลากไปก่อนครับ อยากจะขอบคุณพี่กาวน์ก็งานนี้

.
.
.

ตกกลางคืนกับบรรยากาศดีๆ บนศาลาทรงไทย ข้างสระน้ำขนาดเล็กภายในพื้นที่ของบ้านพักที่มีความเป็นส่วนตัว กอปรกับลมพัดเฉื่อยที่พาเอาความเย็นมาปะทะร่างสองร่างที่กึ่งนั่งกึ่งนอนแอบอิงกันอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ และความสุขที่อบอวลอยู่รอบตัว ช่างเป็นการเชื้อเชิญให้มอบสัมผัสที่แนบแน่นแก่กันมากกว่าที่เป็นอยู่

แล้วอีกอย่างเราไม่ได้บอกรักกันมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่าน ด้วยเหตุผลที่อีกคนต้องเคลียร์งานช่วงสิ้นปีกลับมาถึงห้องก็นอนสิ้นสภาพแล้ว จะไปกวนเขาก็ใช่ที่ แต่ได้มาพักผ่อนแบบนี้แล้ว คงต้องทวงสิทธิ์กันบ้าง แล้วคนที่จะให้สิทธิ์นั้น ก็มานั่งแนบชิดอยู่บนตักแล้วแบบนี้

ก้มลงซุกไซร้ละเลียดสูดกลิ่นหอมจากซอกคอของคนที่นั่งพิงอก และได้รับการตอบรับที่ดี โดยเอียงคอการเปิดทางให้ ก่อนปิดเปลือกตาลง ยิ่งขับให้เห็นขนตายาวหนาเป็นแพชัด อกกระเพื่อมขึ้นลงในจังหวะสม่ำเสมออย่างคนผ่อนคลาย แต่ร่างกายตอบสนองกับสัมผัสที่มอบให้เป็นอย่างดี

สองมือวางแนบลงทับบนหลังมือของผม เมื่อมือผมขยับไปในทิศทางใด มือที่เล็กกว่าจะแนบตามติดไปด้วย ฝ่ามืออุ่นข้างหนึ่งวางนิ่งโอบกระชับรอบเอว ส่วนอีกข้างเริ่มสอดลึกเข้าไปภายใต้เสื้อสองชั้นที่สวมทับให้ความอบอุ่น อีกไม่นานอุณหภูมิของร่างกายคงสูงพอ จนเนื้อผ้าหนาไร้ความสำคัญ

“เข้าห้องไหม” ผมถาม เมื่อสังเกตเห็นไรขนอ่อนที่แขนของอีกคนลุกชัน เพราะเสื้อที่สวมอยู่ถูกรั้งขึ้นจนหน้าท้องขาวถูกเผยออกมาสัมผัสกับอากาศเย็น

“อื้อ” เสียงครางฮือตอบรับดังกลับมาก่อนขยับตัวลุกจากอ้อมกอด แต่ไม่ยอมก้าวเดินไปไหน กลับหันมาประชิดติดตัว และส่งแขนสองข้างขึ้นมาโอบกระชับรอบคอ ก่อนกระซิบอ้อนเสียงเบาข้างใบหู จนคนฟังคล้ายตกไปอยู่ภวังค์ สูญเสียความคิดในการควบคุมร่างกาย ได้แต่เคลื่อนไปตามคำบอกของคนตรงหน้า สองมือขยับยกร่างเล็กกว่าขึ้นมาอุ้มไว้ เหมือนเป็นท่าอุ้มที่ลูกลิงตัวขาวจะพอใจ เมื่อตัวลอยขึ้นก็ซบหน้าลงกับบ่าทันที ก่อนถูกพาออกเดินไปยังจุดหมาย
.
.
.


เสื้อตัวหนาชั้นนอกถูกรั้งออกจากตัวไปพร้อมกับเสื้อยืดสีขาวด้านใน จนเผยผิวขาวเนียนแต่ไม่ซีดด้วยมีเลือดฝาดจนผิวอมชมพูอย่างคนสุขภาพดี ยิ่งกอปรกับแรงอารมณ์ที่ถูกขับให้สูงขึ้น ผิวนั้นก็ยิ่งดูเปล่งปลั่งดึงดูดให้รีบเข้าไปสัมผัส หน้าผาก จมูก คาง จนถึงริมฝีปากอิ่มแดงที่เผยอรอรับสัมผัสที่ลึกซึ้ง เรื่อยไปจนถึงแผ่นอกขาวที่มีกล้ามเนื้อสวย ลากสัมผัสไล้ไปจนถึงหน้าท้อง ดูดดุนจนเกิดรอยสีแดงสวยจนเป็นที่พอใจ ถึงย้อนกลับไปหาริมฝีปากแดงช่ำอีกครั้ง

ไม่ได้ตอบรับอย่างไร้เดียงสา แต่ร้ายเดียงสาเกินกว่าใครจะคาดคิด ถ้าไม่ลองเข้ามาสัมผัส จะไม่มีทางได้รู้ว่าคนตรงหน้านี้เปี่ยมเสน่ห์ขนาดไหน แต่ชาตินี้อย่าหวังว่าจะมีใครมาลิ้มลองได้อีกนอกจากเขา นายกวินท์กรคนนี้

บางอารมณ์ร่างที่เล็กกว่าช่างทำตัวคล้ายกับไร้เดียงสา น่าทะนุถนอม แต่บางครั้งก็เร้าร้อน เกินจะคาดคิด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเบื่อเมื่ออยู่ใกล้ ใช่แต่จะรักด้วยใจเพียงอย่างเดียว แต่เก็บไว้ไม่แสดงออก อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ทั้งใจและกายมันสัมพันธ์และรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งภาษากาย ภาษาใจ และคำพูด

ที่สำคัญคือ บอกกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีใครยอมใคร

ยามนี้เสื้อผ้าที่ติดกายถูกสลัดออกจนเหลือเพียงสองร่างที่เปลือยเปล่าที่กำลังบดเบียดให้ผิวได้สัมผัสถ่ายเทความอุ่นร้อนกันมากขึ้น    

“อื้อ อื้มมมม... อะ อึก” เสียงครางกระเส่าที่ถูกปล่อยให้ดังออกมาอย่างไม่คิดอาย เรียกความพอใจให้กับคนปรนเปรอ คล้ายมีคนมาเติมเชื้อไฟให้ จนไฟอารมณ์นั้นยิ่งโหมกระหน่ำ

ริมฝีปากที่มอบสัมผัสให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เพราะ “รัก” คำเดียว ถึงทำได้ทุกอย่าง รีดเค้นเอาทุกหยาดหยดที่ถูกปลดปล่อยจากร่างที่กำลังแอ่นตัวเกร็งจนแผ่นหลังไม่ติดที่นอนนุ่ม และรับทุกหยาดหยดนั้นเอาไว้ ก่อนถึงคราวที่ตัวเองจะได้ไปท่องเที่ยวในแดนสวรรค์บ้าง  

 “อ้ะ... อื้อ” เสียงครางดังลั่น ก่อนขยับตัวบิดหนีด้วยความเสียวซ่านเมื่อถูกเตรียมความพร้อมจากปลายลิ้นร้อน จนต้องใช้สองมือรั้งสะโพกไว้ไม่ให้ขยับหนี สองมือเรียวของคนถูกกระทำได้แต่กุมขยำผ้าและหมอนที่อยู่ข้างกายเป็นที่ยึดเหนี่ยวและระบาย

“พะ พอ พอแล้ว ไม่ไหว แล้ว” เสียงพูดปนหอบกระท่อนกระแท่นบอก ก่อนยกแผ่นหลังและสองมือขึ้นมาดึงตัวผมขึ้นมา จนใบหน้าอยู่เสมอกัน แล้วโอบกอดไว้จนแน่น ผมรับรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

ไม่รอช้าในเมื่อความต้องการของตัวเองก็มีมากจนเกือบจะล้น รีบตอบสนองสิ่งที่อีกฝ่ายเรียกร้องทันที

“ช้า ช้า... อื้ออออ” เสียงคนข้างใต้ร้องบอกก่อนปล่อยเสียงครางยาว เมื่อความต้องการของผมแทรกผ่านเข้าไปจนสุด ก่อนค้างไว้ให้อีกฝ่ายปรับตัว จนเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับก่อน ถึงได้ออกแรงขยับตาม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายกุมบังเหียนคุมจังหวะอารมณ์อีกครั้ง

“ลุกนะ” ผมบอกเมื่อหยุดขยับตัว ก่อนใช้แขนข้างหนึ่งช้อนใต้แผ่นหลังเนียนของอีกคนแล้วรั้งให้ยกตัวตามขึ้นมา

“อื้อ อึก” เสียงดังตามมาเป็นระยะทุกครั้งที่ขยับตัว จนเปลี่ยนให้ร่างขาวๆ มานั่งซ้อนหันหน้าเข้าหากันอยู่บนตัก ก่อนที่ผมจะยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาตามไรผม และหน้าผากให้ จากนั้นก็ขยับตัว พร้อมกับใช้สองมือช้อนสะโพกขาวขึ้นเล็กน้อยเป็นการกระตุ้นให้คนที่ถูกเปลี่ยนมาอยู่ด้านบนขยับตัวตาม ก่อนจะปล่อยให้เขานำพาผมไป

“ไม่ไหวแล้วหรอครับ ฮืม” ผมถาม เมื่อกันต์ซบหน้าลงมาบนบ่า แล้วกอดคอผมไว้ ก่อนจะหยุดขยับตัว โดยทิ้งให้ผมรับสัมผัสที่รัดแน่นจากตัวเขาจนแทบทนไม่ไหว คนถูกถามก็พยักหน้าที่ซบอยู่กับบ่า ผมเลยค่อยๆ ขยับพาแผ่นหลังเนียนให้สัมผัสลงกับที่นอนนุ่มอีกครั้ง ก่อนส่งมือข้างหนึ่งไปรูดรั้งช่วยปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาให้ พร้อมกับตัวเองที่ขยับเคลื่อนกายไปในจังหวะเดียวกัน แล้วค่อยๆ เร่งขึ้น จนถึงขีดสุดของอารมณ์และปลดปล่อยออกมาเกือบจะพร้อมกัน

“รักนะ” ผมไม่ลืมที่จะบอกคำๆ นี้ให้อีกคนได้ฟัง ก่อนจะปล่อยให้กันต์นอนซุกตัวอยู่กับอกผมสักพักเพื่อให้จังหวะการหายใจกลับมาเป็นปกติ ค่อยลุกไปจัดการอาบน้ำให้สบายตัว แล้วกลับมาซุกตัวหลับไปพร้อมกันจนเช้า  

---------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2011 00:33:39 โดย Angel_K »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด