รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 580682 ครั้ง)

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
นิสัยกันต์เหมือนเด็กเลยเอาแต่ใจ แต่น่ารักดี :L2:

Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
 o18

พี่กันต์นี่บางทีก็ดูเป็นผู้ใหญ่นะ แต่พอถึงเวลาจะเอาแต่ใจนี่ก็สุดๆ เลยอ่ะ

แต่ก็ชอบนะ น่ารักดี แบบว่าเป็นตัวของตัวเอง 555+

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
พี่กันต์อินกับผลบอลมากมายอ่ะ...แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ นึง คริคริ

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ตลกและตาหลกจริงๆพี่กันต์นี่ ขนาดแค่เชียร์บอลนะยังเป็นไปด้าย นิสัยเด็กมากๆเลยดีนะมีคนเข้าใจไม่งั้นแย่เลย

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่กันต์กะน้องกรแล้วอ่ะ

เมื่อไหร่จะมานะ
:กอด1:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
พี่กันต์เซ็งเลยดิ  :laugh:

ตอนพิเศษน่ารักดีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 21 มือที่กุมไว้ [1/2]

แล้วก็วนมาถึงสัปดาห์แรกของเดือนอีกครั้ง สัปดาห์ที่ผมจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการประชุม โดยเริ่มต้นวันแรกด้วยการประชุมกับทีมงานของนิตยสาร Indeed ที่ออฟฟิศ สำหรับการประชุมในส่วนนี้ก็ยังคงผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนอย่างเคย จะมีเรื่องที่เน้นหนักๆ และให้คิดกันอยู่ไม่กี่เรื่อง โดยส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของการรักษาสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้คงอยู่และต้องไม่ละเลยที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นไปกว่าเดิม การสร้างและปรับแนวทางของนิตยสารในบางจุด ให้มีความสมดุลระหว่างคนทำ คนอ่าน และโฆษณา รวมถึงการวิเคราะห์และมองความเป็นไปได้ทางการตลาดในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพื่อขยายกลุ่มผู้อ่าน แต่ทั้งหมดนั้นต้องเป็นไปตามจุดยืนของนิตยสารที่เรากำหนดไว้



แต่การทำงานของผมมันยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะทั้งเมื่อวานและวันนี้ผมก็ต้องไปเผชิญกับสิ่งที่มันน่าจะเรียกได้ว่า เป็นการทำงานอย่างแท้จริง เป็นบทบาทที่ผมจะต้องรับ และทำมันให้ดีที่สุด ในฐานะประธานบริษัทฯ ผมต้องเตรียมตัวรับมือกับการขยายตัวของบริษัทฯ ที่มันกำลังจะโตขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการสร้างตัวเองให้เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเดียวที่ยากและหนักสำหรับผมในตอนนี้ แต่ผมก็เชื่อมั่นว่าผมจะทำมันสำเร็จในไม่ช้า
.
.
.

หลังจากการประชุมในช่วงเช้าของวันนี้ผ่านไป ผมก็มานั่งดูเอกสารและประเมินเนื้อหาการประชุมที่เพิ่งผ่านพ้นไปอยู่ในห้องทำงาน สำหรับการวางแผนงานที่จะทำต่อไป ซึ่งคงใช้เวลาอีกประมาณสองชั่วโมงก่อนจะออกจากที่นี่ และแวะกลับเข้าไปที่ออฟฟิศอีกครั้งเพื่อตรวจดูงานที่อาจจะค้างอยู่หลังจากที่ผมไม่ได้เข้าไปเมื่อวาน รวมถึงช่วงเช้าของวันนี้

“<<ไม่มีพรุ่งนี้ รักเราจะมีเพียงวันนี้รออยู่ ปล่อยวันพรุ่งนี้ ให้ฟ้านำทางต่อไป หน้าที่ของฉัน แค่เพียงรักเธอวันนี้ทั้งหัวใจ …>>” แล้วเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น ทำให้ผมต้องละมือจากแฟ้มที่กำลังเปิดอยู่ ไปเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมาเพื่อกดรับสาย



“ครับ”

“พี่กันต์ ประชุมเรียบร้อยดีไหมครับ แล้วเหนื่อยหรือเปล่า” เสียงจากปลายสายถามเข้ามา และมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมยิ้มออกมาได้หลังจากผ่านเรื่องเครียดๆ จากการทำงานมา

“ก็เรียบร้อยดี มีเหนื่อยบ้าง แล้วกรล่ะ” ผมตอบ แล้วก็ถามเขากลับไปบ้าง ซึ่งการถามความเป็นไปของอีกฝ่ายนั้น ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นนิสัยหรือความเคยชินของเราสองคนไปแล้วเวลาที่โทรคุยกันหรือเจอหน้ากันเมื่อกลับถึงบ้าน

“คุยมาแล้ว ก็เรียบร้อยดี” เขาตอบ

“อื้อ พี่กันต์ วันนี้กรกับเพื่อนจะพาน้องรหัสไปเลี้ยงที่ร้านพี่อาร์ คงกลับดึกๆ นะ” เสียงจากปลายสายบอกผม

“อืม แล้วจะขับรถไปหรือเปล่า” ผมถาม เพราะเท่าที่เห็นเขาจะไม่ค่อยเอารถไปเองเวลาออกไปเที่ยว ถ้าเป็นอย่างนั้นผมจะได้ออกไปรับ

“คงไม่ล่ะ เดี๋ยวกรเอารถกลับมาเก็บที่คอนโดฯ ก่อน แล้วนั่งแทกซี่ไปกลับเอา ทำตามนโยบายเมาไม่ขับไง” เขาบอกผม และก็เป็นตามที่ผมคิดเอาไว้

“อืม จะกลับตอนไหนก็โทรหาแล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปรับ ว่าจะแวะเอาหนังสือไปให้อาร์มันด้วย วันนี้ที่โรงพิมพ์เอาตัวอย่างที่พิมพ์เสร็จแล้วมาให้ ว่าจะเอาไปให้มันก่อนวางแผง”

“แล้วของกรล่ะ พี่เอามาให้ด้วยเปล่า” เสียงของกรที่รีบทวงถามขึ้นมา เมื่อฟังสิ่งที่ผมพูดจนจบแล้ว

“เปล่า” ผมแกล้งตอบไป ทั้งที่จริงๆ แล้วก็ตั้งใจเก็บไว้ให้เขาแล้วเหมือนกัน

“โห อะไรอ่ะ” แล้วเสียงประท้วงก็ตามมาทันที

“เออ เก็บไว้แล้วน่า” ผมบอกก่อนที่เขาจะพูดบ่นผมออกมาเสียยืดยาว

“ก็พูดไปงั้น ยังไงก็รู้อยู่แล้วแหละ ว่าแฟนกรอ่ะ เป็นคนดีที่สุด รักแฟนที่สุด เพราะฉะนั้นไม่มีทางไม่มีทางลืมกรได้อยู่แล้ว” เออนะ ไม่รู้จะพูดอะไรดีเลยผม

“หรอ เดี๋ยวยังไงแค่นี้ก่อนนะ พี่จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จ คืนนี้เจอกัน”  

“ครับ แล้วเจอกัน”




....................................................................


ผมกลับมาถึงออฟฟิศ และเริ่มเคลียร์งานตอนสี่โมงครึ่ง กว่าที่ผมจะเคลียร์งานจนเสร็จและได้ขับรถกลับคอนโดฯ ก็ตอนเกือบๆ สามทุ่ม ที่ผมกลับไปก็เพื่อที่จะกลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น ก่อนจะออกไปข้างนอกอีกครั้ง

และในเวลาไม่นานนักผมก็อยู่ในเชิ้ตสีดำขนาดพอดีตัว พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำสนิท คาดทับด้วยเข็มขัดแบรนด์ดังที่ได้มาตอนไปซื้อเสื้อผ้าพร้อมกับอีกคนเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา และสุดท้ายเครื่องประดับที่ขาดไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนนั่นก็คือ นาฬิกาข้อมือ และเรือนนี้ก็เป็นเรือนโปรดที่ผมมักจะหยิบขึ้นมาใส่ประจำเมื่อสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้ม แล้วผมก็คว้าโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์และกุญแจรถที่วางอยู่ด้วยกันก่อนจะออกจากห้องไป

ผมขับรถมาถึงที่ร้านประมาณสี่ทุ่มครึ่ง พอมาถึงผมก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อไปหาไอ้อาร์ ซึ่งชั้นสองนี้นอกจากส่วนที่เป็นพื้นที่สำหรับนักเที่ยว นักดื่ม หรือผู้คนที่มาสังสรรค์พบปะกันแล้ว ก็จะมีส่วนหนึ่งที่ถูกกั้นเป็นห้องทำงานและห้องควบคุมเรื่องระบบต่างๆ ภายในร้าน รวมถึงโทรทัศน์ที่ฉายภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเพื่อดูความเป็นไปภายในร้านและเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย

ผมก็เข้ามานั่งคุยกับไอ้อาร์มันไปเรื่อยๆ เรื่องหนังสือบ้าง เรื่องที่ร้านมันบ้าง และผมก็บอกมันแค่ว่า ผมแวะเอาหนังสือมาให้มันก่อนที่หนังสือจะวางแผงเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าผมมาทำอะไรนอกเหนือจากนั้น จนเวลาผ่านไปถึงห้าทุ่มกว่าๆ เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของผมก็ดังขึ้น



“ครับ”

“อื้ม ๆ” ผมรับสายและตอบรับคนปลายสายเพียงสั้นๆ เมื่อเขาโทรมาเพื่อบอกผมว่าเขาอยู่ที่ไหน เพื่อที่จะให้ผมตามไปเจอ ก่อนที่เราจะกลับคอนโดฯ ซึ่งเขาเองก็ยังอยู่ที่โต๊ะกับเพื่อน และที่ผมต้องไปหาเขาที่โต๊ะ ก็เพราะฟังจากเสียงของเขาแล้วคงกำลังเมาได้ที่ แล้วยังเสียงที่ดังอยู่รอบตัว แค่บอกว่าอยู่ตรงไหนได้ก็ดีแล้ว แต่จะให้คุยอะไรกันมากกว่านี้คงไม่รู้เรื่อง    

พอวางสายแล้วผมก็บอกกับอาร์ว่าจะกลับแล้ว และก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อไปหาอีกคนที่โต๊ะ
.
.
.


“กร” ผมเรียกคนที่นั่งอยู่ปลายสุดของโต๊ะ เมื่อเดินมาอยู่ข้างเขาแล้ว พอพวกเพื่อนมันเห็นผมก็ยังคงยกมือไหว้ทักทายกันตามปกติ จะมีพวกน้องรหัสที่พวกมันพามาเลี้ยงที่มองผมอย่างไม่แน่ใจว่าเป็นใคร และก็มีที่บางคนยกมือไหว้ตาม

สำหรับเพื่อนของกร เขาเองก็กลับมาเล่าให้ผมฟังว่า พวกนั้นรู้กันแล้วว่าเขากับผมกำลังคบกันแบบไหน และแต่ละคนก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรที่แสดงออกว่าไม่เห็นด้วย เพราะมันถือว่าเป็นการตัดสินใจของเขา แต่ผมก็บอกเขาไปว่าอย่าให้เรื่องของเรามีคนรับรู้มากนัก ซึ่งผมเองก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร แม้แต่กับเพื่อนที่สนิท จะมีก็แต่ไอ้ยุที่มันรู้เข้าโดยบังเอิญ มันไม่ใช่ว่าผมอายที่จะคบกับเขา แต่ด้วยหน้าตาทางสังคม และอะไรอีกหลายๆอย่าง ที่มันไม่ใช่ลำพังแค่ตัวผม แต่มันอาจจะไปถึงพ่อแม่ของผม และเป็นไปได้ที่จะมีผลกระทบด้านอื่นตามมา มันคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าถ้าเรื่องนี้จะมีคนรู้ให้น้อยที่สุด

และตอนนี้คนที่ผมมายืนเรียกเขาก็ยกแขนขึ้นมาคว้าเอวผมและรั้งให้เข้าไปยืนจนเกือบจะชิดกับเขา จนผมต้องยกมือขึ้นมาแกะแขนของเขาออก คือมันคงดูไม่ดีเท่าไหร่นัก ถ้าผมจะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ ซึ่งการกระทำมันคงไม่เป็นปัญหาหากเป็นเวลาที่เขากับผมอยู่กันตามลำพัง


“กร จะกลับเลยหรือเปล่า” ผมก้มลงไปและตะโกนถามเขา

“อื้อ” เขาพยักหน้าตอบ และพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็โงนเงนเสียหลักจนต้องกลับลงไปนั่งอีกครั้ง แล้วส่งมือมาคว้าเอวผมไปด้วย จนผมไปยืนแทรกอยู่ระหว่างขาของเขาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ผมเองก็พยายามจะดึงตัวเองออกอีกครั้ง

จริงๆ มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงผมจะมายืนอยู่ในท่าล่อแหลมแบบนี้ เพราะตอนนี้คนที่อยู่รอบข้างตัวผม ก็เบียดเสียดเสียจนแทบไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ยิ่งอยู่ภายใต้แสงสลัวแบบนี้ มันก็คงไม่เป็นที่สังเกตเท่าไรนัก แม้แต่พวกที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันตอนนี้ ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจอะไรกับพวกผมสองคน เพราะต่างคนก็ต่างสนุกสนานไปกับเสียงเพลงและให้ความสนใจกับเครื่องดื่มที่อยู่ในมือ

แล้วก็สมกับที่เขาเรียกกันว่าน้ำเปลี่ยนนิสัย เพราะตอนนี้มันได้เปลี่ยนคนที่อยู่ตรงหน้าผมให้กลายเป็นคนที่มีสายตาเจ้าชู้ กรุ้มกริ่มไปโดยที่เขาเองก็คงไม่รู้ตัว และนอกจากสายตาที่ดูเปลี่ยนไปแล้ว ผมก็รู้สึกได้ว่ามือของเขามันจะไวเกินไปแล้ว เดี๋ยวก็คว้าเอวผมเข้ามาชิดกับตัวเอง เดี๋ยวก็เอามือผมไปเล่น จะโวยวายหรือผลักไสอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะมันจะกลายเป็นที่สังเกต เลยได้แต่พยายามแกะมือปลาหมึกนั่นออก และฉุดประคองตัวเขาให้ลุกขึ้น เพื่อที่เราจะได้กลับกันเสียที ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เดย์มาบอกผมว่าเดี๋ยวมันค่อยไปเคลียร์กันเองทีหลังให้ผมพากรกลับไปได้เลย

และในจังหวะที่ผมประคองกรและหมุนตัวกลับหลังเพื่อที่จะเดินออกไป ผมก็พบกับใครคนหนึ่ง


“พี่กาวน์” ผมเรียกชื่อของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับมองเขาด้วยความตกใจปนประหลาดใจเพราะไม่คาดคิดว่าจะมาเจอเขาอยู่ที่นี่ตอนนี้ แต่เขาเองกลับทำเพียงแค่มองกลับมา และมองอยู่แบบนั้นก่อนจะพูดออกมา

“จะกลับเลยหรือเปล่า” พี่กาวน์ถาม ผมเองก็พยักหน้าตอบกลับไป จากนั้นพี่เขาก็เดินไปยืนอีกฝั่งของกร และช่วยผมประคองกรเดินออกไปนอกร้าน

พี่กาวน์เป็นลูกชายของอาพิม น้องสาวคนเดียวของพ่อผม เราสองคนต่างก็เป็นลูกคนเดียวของบ้าน ตอนเด็กๆ ก็ถูกเลี้ยงให้โตมาด้วยกัน เลยทำให้เราสนิทกันจนเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา จนมาถึงช่วงที่พี่เขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เขาเลือกที่จะไปเรียนในต่างประเทศ ตอนแรกผมเองก็คิดว่าจะตามไป แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ แล้วผมก็ได้ไปเจอกับพี่กาวน์อีกทีตอนไปเรียนโท ซึ่งผมก็ไปอยู่กับพี่กาวน์ซึ่งเลือกทำงานอยู่ที่นั่น แทนที่จะกลับมาทำที่บริษัทฯ ของตัวเอง


พอมาถึงรถผม ผมก็เปิดประตูฝั่งข้างคนขับ แล้วให้กรเข้าไปนั่งรอผมอยู่ในรถ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ กรเองก็เมามากพอสมควร เขาเองก็เลยได้แต่มองผมกับพี่กาวน์โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา จากนั้นผมจะหันกลับมาที่พี่กาวน์ที่ยังคงยืนอยู่ทางด้านหลัง



“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่มีใครบอกกันต์” ผมถาม เพราะปกติเวลาที่พี่เขากลับมาเมืองไทย ก็จะบอกผมก่อนทุกครั้งหรือไม่อย่างนั้นอาพิมก็จะเป็นฝ่ายโทรมาบอก

“เพิ่งกลับมาเมื่อคืน แล้วที่มาก็บริษัทฯ พามาก็เลยมา” พี่กาวน์ตอบ

“แล้วพี่จะกลับมาอยู่ที่นี่เลยหรือเปล่า”

“เปล่า พี่กลับมาดูงานที่นี่ อีกสามอาทิตย์ก็จะกลับ”

“แล้วเราล่ะมากับใคร” หลังจากที่ผมถามเรื่องเขาไปแล้ว ก็ถึงคราวที่เขาย้อนกลับมาถามเรื่องของผมบ้าง

“กร เป็นน้องที่มาช่วยงาน” ผมมักจะตอบออกไปแบบนี้เวลาที่มีใครถามคำถามนี้กับผม

“เราอย่าคิดว่าทำอะไรแล้วไม่มีคนเห็น ทีหลังก็หัดระวังตัวให้มันมากกว่านี้” พี่กาวน์พูดประโยคนี้ออกมา และมันก็ทำให้ผมอึ้งไปพอสมควร

“พี่กาวน์...” ผมได้แต่เอ่ยชื่อพี่เขาออกไป

“เดี๋ยวเรากับพี่คงมีเรื่องที่จะต้องคุยกัน วันนี้กลับไปนอนซะ พรุ่งนี้ยังต้องไปทำงาน” แล้วพี่กาวน์ก็พูดออกมาคล้ายจะสั่งผมอยู่ในที

“ครับ”

แล้วพี่กาวน์ก็ยืนอยู่ตรงนั้นรอจนผมออกรถไป และเมื่อมองกระจกหลังถึงเห็นว่าพี่กาวน์เดินกลับเข้าไปในร้านตอนผมขับรถออกมาแล้ว
.
.
.

พอขับรถออกมาได้สักพัก ผมก็หันไปมองคนที่อยู่ข้างผมซึ่งตอนนี้หลับไปแล้ว ผมยื่นมือข้างหนึ่งไปคว้ามือของเขาที่ตกอยู่ข้างตัวขึ้นมากุมเอาไว้และบีบเบาๆ ผมกุมมือเขาไว้แบบนั้นตลอดทางที่ผมขับรถกลับคอนโดฯ ไปอย่างไม่รีบร้อน



และผมก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่าการที่ปล่อยให้ตัวเองรับรู้เพียงว่า ผมกำลังกุมมือของเขาไว้

...................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2010 13:45:53 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:

จะดราม่าอีกแล้วใช่มั๊ยยยยย :serius2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สู้ ๆ ค่ะ  หวังว่าพี่กาวน์คงจะใจกว้างพอสมกับที่ไปอยู่เมืองนอกมานานนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
มาช่วยหรือมากดดันนะพี่ชายคนนี้ ลุ้นลุ้น :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
จะเป็นพี่ชายแบบไหนกันน้า พี่กาวน์

ดูเหมือนจะมีอะไรให้ลุ้นอีกแล้ว

 :call:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
:กอด1:
อุปสรรคมีไว้ให้ฝ่าฟันน้าาา ^^
ถ้าผ่านไปได้ ทุกอย่างก็ราบรื่น~

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ทำไงได้ ก็คนมันเมา  :laugh:
แต่.. พี่กันต์ไหวอยู่แล้วเนอะ  :a2:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
มาม่าชามโต รอคุณๆ ทั้ง หลายอยู่ค่ะ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นอีกแล้ว  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
กำลังหวานฉ่ำอยู่ดี ๆ  พี่กาวน์จะเป็นตัวขวาง หรือ ตัวดันกันแน่ มาลุ้นกัน
+1 เป็นกำลังใจให้นะครับ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เวลาที่เรามีเรื่องที่ไม่อยากบอกใคร จะต้องมีแขกไม่ได้รับเชิญร่วมแจมทุกทีสิน่า หรืออย่างที่เขาบอกกันว่า ความลับไม่มีในโลกนี้ มันคงจริง  o22

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
เอาแล้วๆ ดราม่ามาแล้ว ลุ้นๆ สนุกมากเลยอ่ะ ชอบๆๆ  o13

ไรเตอร์เก่งมากๆเลยจ้า สู้ๆนะ

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
สู้ สู้นะเป็นกำลังใจให้ไม่ให้ขาดเลยนิ ต้องผ่านพ้นไปได้ด้วยดีหน่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
เอาใจช่วยทั้งคู่กันต่อไป

 :กอด1:




ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
งานจะเข้าพี่กันต์ป่าวเนี่ยยย

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 21 มือที่กุมไว้ [2/2]

“กร ถึงแล้ว” ผมเอื้อมมือไปเขย่าตัวเพื่อปลุกเขา หลังจากผมขับรถเข้ามาจอดที่คอนโดฯ แล้ว

“อื้อ” เสียงครางงึมงำดังขึ้นตอบรับเสียงเรียกของผม จากนั้นเราทั้งคู่ก็เปิดประตูลงจากรถ โดยที่ผมลงจากรถมาก่อนและรีบเดินไปที่ประตูอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อช่วยประคองคนที่มีสติเหลืออยู่น้อยเต็มที สำหรับผมแล้วเรื่องแบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องที่น่ารำคาญหรือชวนหงุดหงิดอะไร เพราะผมเองก็มีบ้างที่กินที่เที่ยวจนมีสภาพไม่ต่างจากอีกคนในตอนนี้
.
.
.
แล้วผมก็ประคองเขามาถึงห้องจนได้ แต่กว่าจะมาถึงก็ทำเอาเสียแรงไปเยอะเหมือนกัน หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาไม่นานนัก เพื่อจัดการกับคนที่นอนหมดสภาพให้มาอยู่ในเสื้อยืดสีขาวและกางเกงขาสั้นสำหรับใส่นอนของเจ้าตัว ที่เขาบอกผมว่าใส่สบายนักหนาจะไม่สบายได้ยังไง ก็มันเปื่อยเสียขนาดนี้ หลังจากจัดการกับอีกคนไปแล้วก็ถึงเวลาที่ผมจะไปอาบน้ำ แล้วเข้านอนบ้าง    



และวันของผมก็หมดไปอีกหนึ่งวัน วันที่ผมยังได้กุมมือเขา ได้กอด และนอนหลับไปพร้อมกับเขา และวันพรุ่งนี้ผมจะตื่นขึ้นมาเจอกับเขา



…………………………………………………………


แล้วเช้าวันใหม่ของผมก็ตื่นขึ้นมา พร้อมกับคนข้างกายที่ตื่นขึ้นมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แต่ผมเป็นฝ่ายที่ลุกจากเตียงออกมาก่อน จากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว แต่ยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัว พอผมออกมาจากห้องน้ำ ก็ยังเห็นเขานั่งอยู่บนเตียง ท่าทางคงจะมึนๆ หัวอยู่ ผมเลยเดินออกจากห้องและตรงไปที่ครัว หยิบถ้วยมาสองใบเพื่อชงกาแฟสำหรับเราสองคน อาการเมาค้างแบบนั้น ได้กาแฟดำสักถ้วยคงจะช่วยให้ดีขึ้น

พอผมชงกาแฟเสร็จก็พอดีกับกรที่เดินเข้ามาในครัวพอดี ผมเลยยื่นถ้วยกาแฟไปให้เขารับเอาไว้ ก่อนที่เราจะเดินออกไปที่ระเบียงด้วยกัน


“ปวดหัวหรือเปล่า” ผมหันไปถามกรที่ตอนนี้ยืนจิบกาแฟอยู่ข้างผม แล้วเขาก็ส่ายหน้ากลับมาเป็นคำตอบ

“คนที่เจอเมื่อวานเป็นเพื่อนพี่หรอ กรไม่เคยเห็นมาก่อน” กรถามผมขึ้นมาบ้าง

“พี่ชาย”

“พี่มีพี่ชายด้วยหรอ” เขาถามพร้อมกับทำหน้าสงสัย เพราะเขารู้ว่าผมเป็นลูกคนเดียว

“เป็นลูกพี่ลูกน้อง เขาอยู่ต่างประเทศ นี่ก็กลับมาดูงาน” ผมตอบ

“อื้อ”

“พี่ไปแต่งตัวแล้วนะ” ผมบอกแล้วก็เดินกลับเขาห้อง แต่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยหันไปบอกเขา

“เอ่อ กร พี่เทน้ำส้มใส่แก้วเอาไว้ให้อยู่ในตู้เย็น อย่าลืมกินนะ”

“ครับ ขอบคุณครับ” เขารับคำแล้วก็ยิ้มให้ผม ผมเองก็ยิ้มบางๆ ตอบกลับไปให้เขา
.
.
.
พอผมอาบน้ำแต่งตัว อยู่ในชุดที่พร้อมจะออกไปทำงาน ก็ออกจากห้องนอน และเดินไปหาอีกคนที่นั่งดูข่าวภาคเช้าอยู่ที่โซฟา แล้วผมก็เห็นแก้วน้ำส้มที่ถูกดื่มไปจนหมดแล้ววางอยู่บนโต๊ะ

“เย็นนี้อยากกินอะไรจะได้แวะซื้อของเข้ามาทำ” ผมถามเมื่อมายืนอยู่ข้างๆ เขา

“อืม...” แล้วเขาก็ทำหน้าทำตาครุ่นคิดกับคำถามของผม

“กินอะไรดีอ่ะ” เขาถามผมกลับ ขณะที่ตัวเองก็ยังทำท่าคิดต่อไป

“กินพี่แทนได้ป่ะ” เขาก็ตอบพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ แล้วยื่นแขนสองข้างออกมาหวังจะคว้าตัวผม แต่ผมก็เร็วกว่าถอยหลบออกมาได้ก่อน ผมก็เลยได้เห็นคนนั่งทำหน้ามุ่ย

“หึหึ ตกลงจะกินอะไร” ผมถามอีกครั้ง

“ปลาทอด แล้วก็... หน่อไม้ฝรั่งผัดกุ้ง”

“อืม พี่ไปแล้วนะ” ผมรับคำ แล้วกำลังจะเดินออกไป แต่ก็ถูกเรียกเอาไว้ก่อน
.
.
.
“พี่กันต์ กรฝากซื้ออะไรหน่อยสิ” เขาเรียกผมไว้แล้วกวักมือเรียกให้เขาไปหา ผมเลยเดินกลับไปใหม่

“อะไร” ผมถาม ส่วนเขาก็ลุกขึ้นมายืน แล้วโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูผม

“......”

“ไปซื้อเองสิ” ผมบอก แล้วเตรียมจะหมุนตัวกลับเพื่อเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง ให้ซื้ออะไรไม่ซื้อ แถมบอกไซส์ บอกแบบมาเสียดิบดี ของแบบนั้นไปซื้อเอาเองเถอะ

“ก็วันนี้กรไม่ได้ออกไปไหนนี่ แล้วมันก็หมดแล้ว เดี๋ยวทำเลอะที่นอนพี่ก็บ่นอีกอ่ะ” เขาบอกแล้วก็ทำเสียงกระเง้ากระงอดค่อนขอดผม

“ไม่มีก็ไม่ต้องทำ” ผมตอบกลับไปบ้าง แล้วผมก็รู้สึกว่าเลือดมันกำลังขึ้นไปเลี้ยงที่หน้าผมมากจนรู้สึกได้ ไอ้บ้าเอ้ย!! ถ้าเมื่อก่อนผมเดินไปซื้อของแบบนั้นมันก็คงไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันเหมือนกันซะที่ไหน

“พี่หน้าแดงอ่ะ เป็นอะไรหรอ ไม่สบายหรือเปล่า” นี่มันถามเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าผมรู้สึกยังไงหรือตั้งใจจะแหย่ผมกันแน่

“เปล่า ไปล่ะเดี๋ยวสาย” ผมตอบแล้วก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ก็มิวายได้ยินสียงหัวเราะเบาๆ แว่วตามหลังมา

“ฮาๆๆ ขับรถดีๆ นะครับ เย็นนี้จะรอกินปลาทอดน้า” มันน่า... นักเชียว ฮึ่ย!!  



....................................................................
 

แล้วช่วงเช้าของการทำงานวันนี้คงเป็นการคุยกันเพื่อวางรูปแบบและธีมของหนังสือฉบับเดือนหน้า ว่าจะนำเสนอออกมาในรูปแบบไหน รวมถึงการหานายแบบหรือนางแบบมาลงปก พอวางแนวทางกันคร่าวๆ ได้แล้วค่อยแยกย้ายกันไปทำในแต่ละส่วนที่แต่ละคนรับผิดชอบ

ส่วนผมก็กลับมาดูงานของตัวเองที่กองอยู่เต็มโต๊ะ ทั้งงานฝั่งนี้แล้วก็ฝั่งโรงพิมพ์  จนใกล้เที่ยงเสียงโทรศัพท์ของผมที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น


“ครับแม่” ผมรับสาย

“อาทิยต์นี้กลับมาบ้านนะลูก วันเสาร์อาพิมเขาจะมากินข้าวที่บ้านเรา พี่กาวน์ก็มานะ”

“ครับ เมื่อคืนกันต์ก็เจอพี่เขา” ผมบอก ได้เจอแบบไม่ทันตั้งตัวเสียด้วย แถมมาเจอในจังหวะที่ไม่ควรจะเจอเสียอีก คิดแล้วก็ต้องแอบถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ  

“อ้าว เจอพี่เขาแล้วหรอ” แม่ผมถาม

“ครับ เจอกันเมื่อคืน”

“จ้ะ ถ้ายังไงเจอกันวันเสาร์นะลูก”

“ครับแม่” แล้วผมก็วางสายจากแม่


จากนั้นผมก็อดคิดถึงตอนที่จะต้องเจอกับพี่กาวน์ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ไม่ได้ จนสุดท้ายผมก็ได้แต่หวังว่าพี่กาวน์จะยังเป็นพี่กาวน์คนเดิม คนที่ผมไว้ใจและเข้าใจผมที่สุด

.
.
.

“พี่กาวน์ ๆ” เสียงของผมในวัยห้าขวบที่เดินเรียกหาพี่ชายคนเดียวไปรอบบ้านหลังใหญ่หลังจากตื่นขึ้นมาจากการนอนกลางวันแล้วไม่เจอใคร และผมในวัยนั้นก็รู้สึกว่าบ้านของตัวเองมันใหญ่เกินไป เพราะผมต้องเดินตามหาพี่ชายจนเหนื่อย แล้วตามเท่าไหร่ก็ไม่เจอเสียที ตอนเด็กๆ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์พี่กาวน์จะมาหาคุณย่าที่บ้าน แล้วก็มาเป็นเพื่อนเล่นกับผม จนมีอยู่หนึ่งอาทิตย์ที่พี่กาวน์ไม่สบายเลยไม่ได้มาที่บ้าน ผมก็ร้องไห้โยเยเสียจนสุดท้ายพ่อต้องพาผมไปหาพี่กาวน์ที่บ้าน แล้วผมก็พาลไม่สบายตามไปด้วยอีกคน

“ป้านิ่มคับ พี่กาวน์อยู่ไหน กันต์หาพี่ไม่เจอ” ผมถาม เมื่อเดินมาเจอกับป้านิ่มที่อยู่ในครัวกำลังเตรียมขนมไว้ให้ผม

“พี่กาวน์ให้ลุงนานพาไปร้านหนังสือค่ะ คงใกล้จะกลับมาแล้ว” ป้านิ่มตอบผม ผมจำได้ว่าผมไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่เดินออกมาจากห้องครัว แล้วกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง



>>แอ้ดดด...<<

แล้วเสียงเปิดประตูก็ทำให้ผม ซึ่งกำลังนอนคว่ำซบหน้ากับหมอนร้องไห้อยู่บนเตียง หันกลับไปมองตามเสียง

“พี่กลับมาแล้ว” คนที่อายุมากกว่าผมสามปีพูดแล้วเดินเข้ามาหาผม ส่วนผมแค่หันไปมองแล้วก็หันกลับมาซบหน้ากับหมอนเหมือนเดิม

“ฮึกๆ ๆ พี่กาวน์ทิ้งกันต์ พี่กาวน์ใจร้าย ฮึกๆ” เสียงพูดตัดพ้อปนเสียงสะอื้นถูกส่งไปยังคนตัวโตกว่าที่ขึ้นมาบนเตียงและมานั่งอยู่ข้างผม  

“พี่ขอโทษครับ แต่พี่มีอะไรมาให้ด้วยนะ” พี่กาวน์พูด ทำให้ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วพี่กาวน์ก็เอาถุงที่ซ่อนอยู่ด้านหลังออกมา แล้วก็เปิดถุงหยิบเอาของที่อยู่ข้างในออกมา

“นี่ไง!! สมุดระบายสีที่กันต์อยากได้ไง พี่ขอคุณย่าให้ลุงนานพาไปซื้อมาตอนที่กันต์หลับอยู่ ตื่นมาแล้วจะได้ระบายสีไง”

“มาระบายสีกันไม่ร้องนะ” แล้วพี่กาวน์ก็ยื่นสมุดระบายสีที่หน้าปกเป็นรูปตัวการ์ตูนอุลตร้าแมนมาให้ผม ผมก็ลุกขึ้นมานั่งทั้งที่ยังสะอื้นอยู่แล้วรับของจากมือพี่กาวน์

“นี่!! พี่มีสีกล่องใหม่ด้วย” พี่กาวน์พูดแล้วก็หยิบสีกล่องใหม่ที่อยู่ในถุงยื่นมาให้ผม

“พี่อย่าทิ้งกันต์ไปไหนอีกนะ” เมื่อผมหยุดสะอื้นแล้วก็พูดขึ้นมาบ้าง

“ถ้าพี่กาวน์จะไปไหนต้องให้กันต์ไปด้วย” ผมพูดคล้ายกับจะสั่งคนตรงหน้า

“ครับ”

“สัญญา” ผมพูด พร้อมกับยื่นนิ้วก้อยเล็กๆ ไปตรงหน้าพี่กาวน์

“สัญญาครับ” พี่กันต์พูดแล้วก็ยื่นนิ้วก้อยเล็กๆ ของตัวเองมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของผม แล้วยกแขนขึ้นลงเบาๆ เป็นการให้สัญญา


ผมนึกภาพของตัวเองในวัยเด็ก ก่อนที่ผมจะเก็บความทรงจำนั้นไว้ และลุกออกจากโต๊ะเพื่อจะลงไปกินข้าวกลางวันที่ให้แม่บ้านจัดไว้ให้

---------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2010 13:42:58 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
^
^
จิ้มๆค่ะ >.<

ตายละน้องกรขา...ฝากอะไรไม่ฝากเนาะ คิคิ
พี่กาวน์นี่ยังไม่รู้จุดประสงค์เนอะคะ ไม่รู้มาดีมั้ย...ถ้าเป็นพี่ชายที่เข้าใจน้องก็น่าจะยอมรับการตัดสินใจของน้องน้าา..
แต่ถ้าไอ้คำสัญญาที่ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แล้วมันดันมีเหตุผลที่ทำให้ไม่อยากทิ้งเพิ่มมาอีกนี่ก็...

รอคอยนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่าาา  :L2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
กรหื่นนะ  แหม ๆ ๆ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ก็ลุ้นพี่กาวน์อย่างเดียวเลย ว่าจะยังไง
ว่าแต่น้องกร ขนาดเมายังเมมดีอีกนะ ถามถึงพี่กาวน์ได้อีก หึหึ

เป็นกำลังใจให้นะคะ รอตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
พี่กาวน์..


จะมีอะไรมากกว่านั้นมั้ยนะ?

 :L2:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจนายกันต์
วันเสาร์ เฮ้อ!

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
พี่กาวน์ดูเป็นคนดีออกนะ ต้องเข้าใจกันต์สิ
แต่พี่กาวน์คนนี้คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้เนาะ
ยิ่งเคยสัญญาอะไรกันไว้อีก
แอบหวั่นวาจะได้กินมาม่าชามโต~

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ขี้เหงา แต่เด็ก แล้วไอ้สัญญานั้น จะทำไง เกิดพี่กาวน์ มาทวงสัญญาละ
เรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว
+1 เป็นกำลังใจให้ครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด