Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪  (อ่าน 230769 ครั้ง)

mousou

  • บุคคลทั่วไป
Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
« เมื่อ08-05-2010 23:53:20 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



----------------



คำเตือน : ไ่ม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเคะอ่อนแอและรับเรื่องแปลกประหลาดมากนักไม่ได้

ที่จริงมันก็ไม่แปลกมากนักหรอก แต่อาจะมีบางส่วนที่หลายคนรับไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ



---------------


Title : Miracle 01


    เบื้องหลังบรรยากาศอันเงียบสงบของค่ำคืนในเมืองหลวง ลึกเข้าไปยังใจกลางความเจริญรุ่งเรืองซึ่งใครหลายคนภาคภูมิใจ อาคารสูงใหญ่ตั้งเด่นตระหง่านมองภายนอกดูแล้วเหมือนบริษัทขนาดใหญ่ธรรมดาทั่วไป ป้ายบริษัทสีทองสะท้อนกับแสงนีออนข้างทางเป็นประกาย กระนั้นชื่อบริษัทอันยาวเหยียดฟังดูสวยหรูยังไม่อาจเทียบเท่าได้กับ " SW " ตัวอักษรสองตัวที่สุดจะคาดเดาถึงความหมายของมันได้ แต่ในตลาดมืด ค้าของเถื่อนกลับเป็นชื่อที่ทุกคนคุ้นหู

    SW หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะองค์กรลับค้ายาทุกประเภท สิ่งเสพติดเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วสำหรับสังคมในยามค่ำคืน ทว่าสิ่งที่ต่างจากพ่อค้ารายอื่นซึ่งไม่มีใครเหมือนคือตัวยาพิเศษ ไม่อาจหาได้จากที่อื่นใดอีก เพียงคุณสั่งเราจะสรรหามาให้ สโลแกนสั้นกระชับฟังดูเกินจริงแต่ SW สามารถทำได้ดังคำกล่าวอ้าง

    เศรษฐีรายหนึ่งสั่งยารักษาโรคร้ายซึ่งการแพทย์แผนปัจจุบันไม่อาจช่วยเยียวยาได้ ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น สินค้าที่ต้องการถูกส่งตรงถึงมือพร้อมใบเสร็จเก็บเงินเรียกราคาสูงลิ่ว กระนั้นคุณสมบัติของตัวยาก็สมดังราคา ลูกค้ารายนั้นหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง ไม่เพียงแต่ยารักษาโรค ยาปลุกเซ็ก ยาเสน่ห์หรืออะไรตามแต่ผู้ว่าจ้างจะบัญชามา ขอเพียงเอ่ยปากและเสนอราคาอันน่าพึงพอใจ องค์กรลับชื่อดังยินดีสรรหามาให้โดยไม่เกี่ยงวิธีการ
 
    ทว่าไม่มีลูกค้ารายใดล่วงรู้ถึงกระบวนการผลิตยาอันแสนน่าทึ่งเหล่านั้น หนึ่งชีวิตของผู้ว่าจ้างที่ยืดยาวต่อไปได้ ชั่วเวลาแห่งความสุขสมอันเกิดจากการเสพยาแลกมาด้วยอีกกี่ชีวิตที่ต้องกลายเป็นหนูลองยา วิธีการสกปรกด้วยการกว้านซื้อเด็กกำพร้าจากสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยให้สินบนจำนวนมากที่ไม่ว่าใครก็ปฏิเสธไม่ลง แลกกับการคัดเด็กสุขภาพแข็งแรงทุกคนทั้งชายและหญิงส่งให้องค์กร เด็กน้อยเหล่านั้นจะถูกเลี้ยงดูอย่างดี จนกระทั่งเติบโตแข็งแรง และแน่ใจว่าไม่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงใดๆ

    เมื่ออายุครบ 14 ปีหนูทดลองที่สมบูรณ์แข็งแรงทุกคนจะถูกสลักหมายเลขลงยังโคนต้นคอข้างหลังด้านบน ชื่อที่เคยถูกเรียกขานมาตลอดได้เปลี่ยนเป็นหมายเลขประจำตัว นักวิทยาศาสตร์แต่ละโปรเจคจะคัดเลือกวัตถุดิบมนุษย์ซึ่งมีคุณสมบัติตรงกับการทดลองที่ได้รับมอบหมายไปจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งขั้นตอนการฟูมฟักและคัดเลือกสิ้นสุดลงการทดลองอันไร้มนุษยธรรมจึงเริ่มต้นขึ้น

    เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความทุกข์ทรมานเป็นสิ่งที่ทุกคนในองค์กรลับชินชาไปเสียแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการดิ้นรนขัดขืน แต่กระนั้นก็ไม่มีหนูทดลองรายใดหนีรอดไปได้ ไม่มีเด็กคนไหนกล้าปริปากถามเมื่อเห็นเพื่อนกลับมาในสภาพเนื้อตัวขึ้นสีประหลาดเป็นด่างดวงอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน หรือสภาพที่มีก้อนเนื้อคล้ายแขนงอกออกมาจากลำตัว ทั้งที่ตอนโดนจับแยกไปยังไม่มี ราวกับเมื่อเอ่ยปากพูดออกไปจะเป็นการตอกย้ำถึงโชคชะตาอันน่าสมเพชของตัวเองไปด้วย

    ล่ำลือกันว่าบอสแห่งองค์กรลับอันน่าโสมมผู้มีฉากหน้าเป็นนักธุรกิจหนุ่มอาภัพที่ต้องบริหารงานต่อจากพ่อแม่ซึ่งเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุอย่างกะทันหันนั้นช่างโหดร้ายนัก ทุกโปรเจคที่มีผู้เสนอเข้ามาขอแค่มีข้อตกลงอันเย้ายวนใจพอ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตหรือความทุกข์ทรมานของหนูทดลองมากเพียงใดก็ไม่เคยเหลียวแล ทุกคำที่หลุดออกมาล้วนแต่เป็นการถามถึงความคืบหน้าของแต่ละโปรเจคเท่านั้น สำหรับเขาแล้วหนูทดลองเป็นเพียงชีวิตไร้ค่าที่ถูกทอดทิ้งไม่มีผู้ใดต้องการ ราวกับเป็นขยะ การทดลองในโปรเจคเปรียบเหมือนการนำขยะเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่เรื่องเสียหายอันใดแม้แต่น้อย

    ในคืนนี้ก็เป็นเหมือนเช่นเคย ด้านหลังอาคารซึ่งเป็นฉากหน้าขององค์กรลับยังมีสิ่งก่อสร้างสูงไม่ต่างกันตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก สถานที่แห่งนั้นถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและมืดมิด แสงจากหลอดไฟนีออนซึ่งตั้งเว้นกันเป็นระยะไปตามแนวกำแพงเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้ที่แห่งนี้ยังพอมีแสงบ้าง หนุ่มฉกรรจ์หลายสิบคนนั่งจับกลุ่มคุยกันเพื่อเป็นการฆ่าเวลาระหว่างเฝ้ายามอยู่ตรงบริเวณใกล้กับทางเข้าตึก ชายหนุ่มคนหนึ่งปลีกตัวออกจากวงสนทนา หลบมายืนพิงกำแพงตึกก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบคล้ายจะเป็นการเพิ่มแสงสว่างไปในตัว

    เจ้าของมวนบุหรี่สูดดมกลุ่มควันสีเทาเข้าปอดและระบายลมหายใจออกมาช้า ๆ ก่อนจะทันสังเกตเห็นเงาดำที่วิ่งออกมาจากด้านในตึกมาหยุดอยู่ด้านหลังบานประตูกระจกใสที่ใช้เป็นที่สูบบุหรี่เป็นประจำ แสงอันน้อยนิดส่องมาจากด้านบนกำแพงเผยให้เห็นชุดเครื่องแบบสีเขียวไซส์ใหญ่กว่าเจ้าของ หมวกที่สวมอยู่ก็ใหญ่เกินความจำเป็นจนบดบังใบหน้าของอีกฝ่ายไปเกือบทั้งหมด ผู้อยู่ด้านนอกอาคารพยายามอ่านคำพูดที่เรียวปากสีซีดกำลังพยายามจะเอ่ยออกมาอย่างสุดความสามารถ

    " พูดให้มันดัง ๆ หน่อยสิ มัวแต่กระซิบอยู่ได้ " เมื่อเอ่ยตวาดไปเช่นนั้น ร่างของเพื่อนร่วมงานอีกฝากฝั่งของประตูก็สะท้านไหวเล็กน้อย

    " ทะ..ทำกุญแจหาย "

    " บอกอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง จะพูดเสียงเบาไปทำไมกันวะ "
    เสียงที่ดังไม่ต่างจากเมื่อครู่เท่าใดนักเอ่ยออกมาคล้ายกลัวใครจะมาได้ยินเข้า ทำให้คู่สนทนายิ่งหัวเสียหนักกว่าเดิม ก่อนจะคว้าคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าเสื้อทาบลงไปบนตัวเครื่องด้านข้างประตู ชั่วอึดใจกระจกใสสองบานก็เคลื่อนตัวแยกออกจากกันเปิดทางให้ผู้ที่อยู่ด้านในออกมาสู่ภายนอก

    " แกนี่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย เพิ่งมาใหม่เหรอไง ทำคีย์การ์ดหายซะด้วยระวังจะถูกหัวหน้าหมายหัว...เฮ้ย เดี๋ยวก่อนสิ! "
    ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค คนที่คาดว่าน่าจะยืนอยู่ตรงหน้ากลับออกวิ่งด้วยท่าทางผิดธรรมชาติหายลับไปยังประตูด้านหลัง การแอบออกเวรก่อนเวลาในคืนที่ทุกอย่างสงบเรียบร้อยเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ยามหนุ่มผู้นี้จึงไม่ได้ติดใจสงสัยนัก เขาหยิบบุหรี่มวนใหม่ขึ้นมาจุด ก่อนจะเดินกลับไปจับกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นอีกด้านหนึ่ง

    ถัดไปไม่ไกลนักจากตึกขององค์กรลับ เด็กหนุ่มร่างเล็กที่แสร้งตบตาเป็นหนึ่งในยามเมื่อครู่นี้กำลังออกวิ่งอย่างสุดแรงเท่าที่กำลังกายจะเอื้ออำนวย ด้วยท่วงท่าที่ผิดปกติเนื่องจากอาการเจ็บปวดทางกาย หมวกสีเขียวตกกระเด็นไปนานแล้ว เสื้อที่ใหญ่เกินขนาดตัวยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างยากลำบาก ลมหนาวกรีดผ่านร่างกายจนเสื้อแนบลู่ไปด้านหลังเผยให้เห็นเลขสลักหลังลำคอเพรียว


    ..23..

    " อึก.."

    ร่างผอมบางทรุดลงนั่งบนพื้นคอนกรีตข้างถนน อาการปวดร้าวบริเวณช่องท้องทวีขึ้นจนไม่อาจทรงตัวได้อีกต่อไป ริมฝีปากสีซีดขบเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาสีน้ำตาลที่เริ่มพร่ามัวทอดมองไปยังท้องถนนเบื้องหน้า สัมปชัญญะสุดท้ายกำลังจะถูกความเจ็บปวดคร่าไป ท่ามกลางสติที่พร่าเลือนเด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่ามีร่างเงาทาบทับอยู่บนร่าง กระนั้นกลับไม่มีแรงพอแม้จะลืมตาขึ้นมอง

    "..ช่วยผมด้วย.."

-------------------------------------

    ข่าวหนูทดลองหมายเลข 23 หลบหนีออกจากห้องทดลอง แพร่กระจายไปทั่วองค์กรทันทีที่แสงอาทิตย์แรกจับขอบฟ้า แม่บ้านคนหนึ่งนำอาหารเช้าเข้าไปให้และพบว่าห้องขังเดี่ยวว่างเปล่า มีร่างของยามหนุ่มคนหนึ่งสวมเพียงกางเกงในนอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น ข้างกันนั้นมีเหล็กแท่งเปื้อนเลือดตกอยู่

    ข่าวนี้ไปถึงหูบอสใหญ่อย่างรวดเร็ว เวลาต่อมาไม่นานนัก จากการเช็ครหัสประจำตัวของคีย์การ์ดที่ใช้เปิดประตู ก็สืบทราบได้ถึงผู้ที่บังอาจเปิดประตูให้หนูทดลองหลบหนีออกไปได้สำเร็จ ในวันเดียวกันนั้นเองบอสใหญ่ก็เดินทางมาถึงองค์กรลับ โทษที่ผู้กุมอำนาจสูงสุดหยิบยื่นให้ยามทั้งสองนายที่สะเพร่าถูกหนูทดลองลอบทำร้าย และโง่เง่าจนหลงเชื่ออุบายตื้น ๆ คือการลงมือสังหารด้วยมือของตนเอง

    " พวกแกใช่มั้ยที่ปล่อยให้หมายเลข 23 หนีไปได้ "
     สิ้นประโยคนี้ไม่มีถ้อยคำใดหลุดออกมาอีกเลย ไร้ซึ่งการฟังคำแก้ตัวอันใด ปากกระบอกปืนไล่เล็งไปยังอวัยวะที่สำคัญน้อยที่สุดของยามทั้งสองซึ่งถูกมัดเอาไว้ ไล่ยิงไปทีละส่วนให้ลิ้มรสความตายที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาทีละน้อย หยาดเลือดไหลนองพื้น กลิ่นคาวลอยฟุ้งไปในอากาศ เสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอชีวิตที่ฟังดูไร้ค่า จวบจนกระทั่งกระสุนสุดท้ายตัดขั้วหัวใจการลงโทษจึงจบลงในที่สุด

    หลังจากนั้นมีคำสั่งให้ออกตามหาหมายเลข 23 ทันที ทว่ายิ่งค้นหากลับยิ่งดูเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร แม้จะมีรอยสลักหลังต้นคอที่น่าจะเป็นจุดสังเกตให้ควานหาได้ง่ายก็ตามที ไม่มีผู้ใดรู้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของหนูที่ลอบหนีออกไป คำสั่งต่อมาจึงเป็นการล้มเลิกโปรเจคที่มีหมายเลข 23 เป็นตัวทดลองจนกว่าจะตามหาเจอ


    ทว่าผ่านไปหลายปีก็ยังไร้วี่แววใด ๆ เช่นเดิม.....

TBC

เพิ่งเคยโพสที่นี่เป็นครั้งแรก ฝากตัวด้วยนะคะ แฮ่~


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2011 05:11:24 โดย mousou »

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #1 เมื่อ09-05-2010 00:23:46 »

ไรเตอร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกกก

เราเคยอ่านเรื่องประมานนี้มาเรื่องหนึงเหมือนกาน

เจ๋งๆๆๆๆๆๆๆๆ  บอกได้คำเดียว

ไรเตอร์มาอัพเร็วๆนะ

เราชอบอารายแนวนอกกฏหมายมากเลย

เหอๆ  สู้ๆๆๆน่ะค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #2 เมื่อ09-05-2010 00:57:21 »

แหวกแนวดี น่าอ่านต่อ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #3 เมื่อ09-05-2010 01:05:02 »

หมายเลข23
และผู้ช่วยเหลือ

อยากรู้อยากเห็นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

kingphai

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #4 เมื่อ09-05-2010 01:09:59 »

โว้ววว

สุดยอดครับบ

สุดยอดจริงๆๆๆ

น่าติดตามมากก

จาติดตามต่อไปนะครับบบ

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #5 เมื่อ09-05-2010 01:12:01 »

แค่เริ่มก้อเข้มข้นเเล้ว...รอติดตามค๊าๆๆ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #6 เมื่อ09-05-2010 01:45:58 »

รออ่านต่อจ้า กำลังมันเลย  :L2:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #7 เมื่อ09-05-2010 07:45:20 »

+ เจาะไข่ให้จ้า

ชอบแนวนี้ๆๆๆ รออ่านต่อนะ

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 1]
«ตอบ #8 เมื่อ09-05-2010 08:24:51 »

ไอ้พวกเลวชาติชั่ว :angry2:...แค่คำว่า เด็กกำพร้า มันก็ตอกย้ำสิ่งที่เป็นมากพออยู่แล้ว ยังโดนจับมาทำเหมือนพวกเค้าไม่มีชีวิตหรือจิตใจของตนเองอีก ขอให้กรรมตามทันพวกแกด้วย :call: น่าสงสาร กระซิก ๆ :m15:

mousou

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 2]
«ตอบ #9 เมื่อ09-05-2010 14:17:53 »

Title : Miracle 02

    ..วันคืนเวียนผ่านไปเปรียบดั่งเวลาแห่งอิสรภาพที่ลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ เท่านั้น..

    " ยินดีต้อนรับค่ะ "
    ทันทีที่บานประตูกระจกเลื่อนเปิดออก พนักงานสาวก็ส่งยิ้มหวานให้ลูกค้าพร้อมคำกล่าวต้อนรับ กลิ่นเนยและครีมหอมอบอวลไปทั่วร้าน ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่แห่งนี้ก็มักจะแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรเสมอ แม้จะเพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปีแต่ด้วยคุณภาพสมราคา และรสชาติที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยากกลับมาลิ้มลองอีกครั้ง จึงทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่ว ไม่เพียงแต่ในหมู่ชาวโตเกียวด้วยกัน หากแต่ผู้ที่ดั้นด้นเดินทางมาจากต่างถิ่นก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ

    โทโต ฮาจิเมะเจ้าของร้านเค้กแห่งนี้เดิมเป็นชาวโอซาก้าผู้เดินทางมาตามหาความฝันในเมืองหลวง ความฝันของหนุ่มวัยใกล้เลขสามคนนี้คือการทำขนมเลิศรสเพื่อมอบความสุขให้ทุกคน มาสเตอร์ของร้านแห่งนี้มีความสุขทุกครั้งเมื่อเห็นชาวเมืองโตเกียวที่มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่เสมอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขยามได้กินของหวานฝีมือของตน ชาวโอซาก้าคนนี้จึงตั้งชื่อให้ร้านเค้กว่าสไมล์

    ..เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามามีแต่รอยยิ้มและความสุขกลับออกไป..

    ด้วยความเป็นคนโอบอ้อมอารี ไม่ยึดติดกับกฎระเบียบเท่าใดนัก ภายในร้านจึงมีพนักงานที่ตามกฎหมายแล้วรับเข้าทำงานไม่ได้อยู่ เห็นคนเดือดร้อนแล้วทนนิ่งดูดายไม่ได้ นั่นเป็นคำพูดติดปากของฮาจิเมะ ซึ่งทำให้เขาเป็นที่รักของพนักงานทุกคน

    " ฮิโรกิคุงเอาเค้กไปเสิร์ฟลูกค้าโต๊ะสี่ทีสิ "
    ชายหนุ่มเจ้าของชื่อขานรับคำสั่งนั้น เขาหยิบจานที่ถูกยื่นให้วางบนถาดเสิร์ฟ ก่อนนำไปให้ลูกค้าอย่างคล่องแคล่ว วันนี้ภายในร้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมหวาน ๆ ของครีมและเนยยังเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าเช่นเคย ไม่มีเวลาให้หยุดพักเลยตั้งแต่เช้า ฮิโรกิเดินกลับเข้ามายังเคาน์เตอร์ด้วยสภาพเหมือนถูกสูบวิญญาณออกไปจากร่าง
   
    " อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิฮิโรกิคุง " ฮาจิเมะวางมือจากการเขียนหน้าเค้ก หันไปพูดกับซากลูกจ้างซึ่งนอนฟุบหน้าหมดเรี่ยวแรงอยู่
     " ขอผมสั่งเสียอะไรก่อนตายได้มั้ยฮะมาสเตอร์ "
    " ฮ่า ๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นเอาเป็นว่าเธอไปพักก่อนก็แล้วกัน "

    เจ้าของเรือนผมสีทองเมื่อได้ยินคำอนุญาตก็เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาสีดำทอประกายระยับ แต่ไม่นานฮิโรกิกลับส่ายหน้าปฏิเสธ ในร้านตอนนี้หากไม่นับฮิโรมิผู้เป็นน้องสาวซึ่งทำหน้าที่พนักงานรับต้อนรับอยู่ มีเขาเพียงคนเดียวที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟ หากฉกฉวยโอกาสเอากับความใจดีของมาสเตอร์ในตอนที่ทุกคนพร้อมใจกันลาหยุดแบบนี้ได้ก็ถือว่าขาดความรับผิดชอบเต็มทน

    " ไม่เอาหรอก ถ้าผมพักใครจะช่วยดูร้านล่ะ "

    เส้นผมสีสว่างสะบัดไปมา หากจะให้พูดถึงความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา คงต้องพูดถึงฮิโรกิเด็กหนุ่มกำพร้าผู้ละทิ้งบ้านเกิดเดินทางเข้าโตเกียวพร้อมน้องสาวเพียงคนเดียว ด้วยแววตาที่มุ่งมั่นทำให้ฮาจิเมะตกลงรับเข้าทำงานทันทีแม้อายุจะไม่ถึง 18 ปี พร้อมแบ่งห้องว่างของร้านให้อยู่โดยไม่คิดค่าเช่า ตอนนี้ถึงฮิโรกิจะบรรลุนิติภาวะสามารถหางานอื่นที่ดีกว่าเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟในร้านเค้กแล้วก็ตาม แต่เจ้าตัวกลับไม่เลิกทำงานที่ร้านแห่งนี้

    " นาโอะคุงน่าจะทำงานหลังร้านเสร็จแล้ว เดี๋ยวให้มาช่วยแทนไปก่อนก็ได้ "
    " นาโอะน่ะเหรอ งั้นยิ่งไม่เอาใหญ่เลย เดี๋ยวเกิดหน้ามืดเดินหกล้มทำเค้กตกใส่ลูกค้าเข้าจะทำยังไง " ฮิโรกิมุ่ยหน้าลงทันทีที่ได้ยินว่าใครจะมาทำหน้าที่แทนตน
    " อย่าไปว่านาโอะุคุงเขาอย่างนั้นสิ "
     " ไม่ได้ว่าสักหน่อย ที่พูดเพราะเป็นห่วงต่างหาก ไม่สบายครั้งที่แล้วยังไม่หายดีแท้ ๆ ยังจะฝืนสังขารลงมาช่วยมาสเตอร์อีก "

    แม้จะฟังเหมือนต่อว่าผู้ที่ตกเป็นหัวข้อสนทนา กระนั้นแววตากลับแฝงไปด้วยความห่วงใยเพื่อนข้างห้องอีกคนที่มาสเตอร์รับอุปการะไว้ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานานหลายปี บทสนทนาทั้งหมดถูกขัดจากร่างผอมบางที่ชะโงกหน้าออกมาจากหลังร้าน เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนถูกรวบเก็บอยู่ใต้หมวกพ่อครัวทรงสูง ดวงตาสีเดียวกันหรี่มองเพื่อนร่วมงาน

    " ผมไม่ได้ขี้โรคขนาดนั้นสักหน่อย " นาโอะผู้สุภาพเรียบร้อยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายจะต่อว่า
    " ได้ยินไปถึงในครัวเลยเหรอ "
    " ไม่ใช่ได้ยินไปถึงในครัว แต่เสียงฮิโรกิดังลั่นร้านเลยต่างหาก "
    ร่างผอมบางเดินออกมายืนประจันหน้ากับคู่สนทนาด้านหลังตู้โชว์ขนม ความสูงที่ต่างกันทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณี


    อีกด้านหนึ่งของร้าน ฮิโรมิกำลังต้อนรับลูกค้ารายใหม่และพาเข้าไปนั่งด้านในสุดตามที่ลูกค้าเรียกร้องมา แม้ใบหน้าของฮิโรมิจะยิ้มแย้ม หากแต่เธอกลับคิดว่าชายสวมแว่นดำในชุดสูทผู้นี้เหมาะจะเดินเข้าผับมากกว่าร้่านเค้ก ไม่้รู้เพราะคิดไปเองหรือเปล่าหญิงสาวถึงได้รู้สึกกลัวเหลือเกิน ราวกับถูกดวงตาเบื้องหลังแว่นนั้นจ้องมองและบดขยี้ลงทีละน้อย สีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใด ลักษณะการก้าวเดินเปี่ยมไปด้วยความมาดมั่น เรือนผมสีดำสนิทกับสูทสีเดียวกันทั้งชุด ทำให้่บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองในร้านค่อย ๆ ถูกทำลายลงจากผู้แปลกแยกคนนี้

    ..แสงแดดอันอบอุ่นซึ่งสาดส่องอยู่ภายในร้านราวกับจะเลือนหายไปเมื่อคนผู้นี้ย่างกรายเข้ามา..

    " จะรับอะไรดีคะ "
    " กาแฟ " ชายหนุ่มตอบคำถามโดยไม่มองคู่สนทนา

    หลังจากได้ของที่สั่งแล้ว บริเวณที่ลูกค้าหน้าใหม่ใช้บริการด้านในสุดของร้านก็ราวกับกลายเป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งแสงใดก็ไม่อาจส่องถึง ไม่มีรอยยิ้ม หรือท่าทางเปี่ยมไมตรีให้ผู้ใด แต่เพราะในร้านวันนี้มีลูกค้ามาเยอะกว่าปกติ จึงสามารถกลบบรรยากาศอันมืดหม่นจากชายแปลกหน้าได้ ผู้เร้นกายอยู่ในมุมมืดจึงลอบมองทุกการเคลื่อนไหวภายในร้านได้โดยไม่มีผู้ใดสังเกต

    " พี่ฮิโรกิลูกค้าคนนั้นแปลกจัง " ฮิโรมิเดินเข้ามาหาเพื่อนคุยระบายความอึดอัดที่ได้รับ แต่ผู้เป็นพี่หาได้สนใจเธอไม่
    " กลับไปนอนพักเลยเจ้าเปี๊ยก "
    " ผมไม่ใช่เจ้าเปี๊ยก " คนถูกล้อเถียงกลับทันที นาโอะและฮิโรกิอายุเท่ากัน แต่ด้วยร่างกายผอมบางที่มักจะไม่สบายอยู่เป็นประจำ ทำให้ฮิโรกิมองเป็นเหมือนน้องชายอีกคนที่ต้องดูแลเสียมากกว่า

    ฮิโรกิจำได้ว่าในวันที่ย้ายเข้ามายังร้านสไมล์แห่งนี้ ห้องด้านข้างมีนาโอะและทารกน้อยวัยไม่ถึงปีซึ่งมาสเตอร์บอกว่าเป็นน้องชายของนาโอะอยู่ก่อนแล้ว เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่ภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนธรรมดาทั่วไปล้มป่วยบ่อย ผิดกับทารกน้อยที่แข็งแรงโตวันโตคืน ลำบากผู้มาใหม่ต้องดูแลคนป่วยและเด็กน้อยเป็นประจำ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบที่ทั้งสามคนสนิทสนมจนคุยกันได้แทบทุกเรื่อง ฮิโรมิถึงกับขอให้่นาโอะเป็นพี่ชายอีกคนของตน ซึ่งเจ้าของเรือนผมสีอ่อนก็ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ

    แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งที่สองพี่น้องคิดไปเองฝ่ายเดียว ภายใต้รอยยิ้มของเพื่อนข้างห้องผู้ขี้โรคมีบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าตัวเก็บงำเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ความระแวดระวังผิดปกติทุกครั้งที่ต้องเหยียบย่างออกไปภายนอก คำพูดสุภาพเรียบร้อยราวกับเจ้าตัวเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอยู่เสมอ ทำให้ฮิโรกิรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แต่เขาก็เลือกมองข้ามสิ่งเหล่านั้นมาตลอด

    ..ตราบเท่าที่นาโอะยังมีความสุขเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว..

    " มีอะไรเหรอฮิโรมิ " ร่างผอมบางถือโอกาสเปลี่ยนบทสนทนาให้ห่างไกลจากปมด้อยของตน ด้วยการทักผู้ที่ยืนทำหน้าบูดบึ้งอยู่นานแล้ว

    " ลูกค้าคนนั้นน่ะสิ แปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ "
    หญิงสาวพูดพลางทำหน้าบุ้ยใบ้ไปยังโต๊ะในมุมสุดของร้าน ชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทดำสนิทนั่งหันข้างให้ แว่นตาบดบังใบหน้าไปกว่าครึ่งทำให้มองเห็นได้ไม่ถนัดนัก กระนั้นใบหน้าขาวของนาโอะก็ซีดลง พร้อมฝ่ามือที่เปียกชื้นขึ้นมา ลำคอตีบตันราวกับลืมวิธีเปล่งเสียงไปเสียสิ้น

    ..ชุดสูทสีดำเหมือนกับคน ๆ นั้น..

    " แล้วไงล่ะฮิโรมิ แค่พนักงานบริษัททำเท่ใส่แว่นดำเข้าร้านเค้กมีอะไรแปลกนักเหรอไง " ฮิโรกิถามกลับด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก
    " แปลกสิ เอ๋ พี่นาโอะเป็นอะไรไป " ฮิโรมิเริ่มสังเกตได้ถึงอาการผิดปกติของคนที่อยู่ ๆ ก็เงียบไป
    " ปะ..เปล่า ไม่มีอะไร "
    " นายกลัวพนักงานบริษัทเหรอไง หน้าซีดเชียว "
    เจ้าของดวงตาสีอ่อนมักไม่พอใจทุกครั้งที่ฮิโรกิล้อเลียนตน แต่ครั้งนี้เขากลับนึกขอบคุณคำพูดเหล่านั้นเป็นครั้งแรกที่ช่วยเตือนสติเอาไว้ แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ก็ตาม

    ..แค่พนักงานบริษัทคนหนึ่งเท่านั้น เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ ชุดสูทสีดำไม่ว่าใครก็ใส่ได้ทั้งนั้นแหละ..


    " ถ้างั้นผมไปรับเทะซึโอะก่อนนะ "
    มือเรียวถอดหมวกทรงสูงและชุดผู้ช่วยออกวางบนเก้าอี้ คว้าหมวกใบโตได้ก็นำมาใส่ก่อนผลุนผลันออกจากร้านไปโดยไม่หันไปมองคู่สนทนา หรือลูกค้าแปลกประหลาดคนนั้นอีก เส้นผมสีอ่อนยาวประบ่าซึ่งถูกรวบไว้ไหวไปมาตามจังหวะการก้าวเดินที่รีบร้อน เขาไม่ต้องการเห็นอะไรก็ตามที่เชื่อมโยงถึงเรื่องนั้นมากไปกว่านี้อีก จึงเลือกที่จะเลี่ยงออกมา

    " พี่นาโอะรักเทะซึโอะคุงจังเลยน้า ตามไปรับไปส่งตลอดเลย "
    หญิงสาวพูดขึ้น พลางนึกไปถึงเด็กชายตัวน้อยน้องชายของนาโอะที่อยู่ในวัยกำลังซนเป็นที่รักของทุกคนในร้าน ปีนี้เทะซึโอะอายุครบ 5 ขวบและเพิ่งเข้าโรงเรียนอนุบาลได้ไม่นาน ผู้ที่ไปรับไปส่งตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิกทุกวันคือนาโอะผู้เป็นพี่ คนที่ทำให้นาโอะที่อิดออดไม่ยอมออกไปไหนมาไหนเท่าไหร่นัก ยอมไปปรากฏกายข้างนอกบ่อยครั้งขึ้นคงมีแต่เทะซึโอะคนเดียวเท่านั้น

    " อยากได้นาโอะมาเป็นพี่แท้ ๆ เหรอไงยัยฮิโรมิ "
    " แต่แปลกจัง วันนี้พี่นาโอะรวบผมออกไปข้างนอก "

    ฮิโรมิหาได้ใส่ใจคำถามแกมประชดนั้นไม่ ดวงตาดำสนิทเฉกเช่นเดียวกับผู้เป็นพี่มองตามร่างที่เดินอยู่ด้านนอกจนสุดสายตา ที่ผ่านมาไม่ว่ายังไงเมื่อต้องออกจากร้าน ทุกครั้งนาโอะจะสวมหมวกใบโตจนแทบมองไม่เห็นใบหน้า ไม่ว่าอากาศจะร้อนสักแค่ไหนก็จะปล่อยผมลงมาเสมอ หญิงสาวสรุปความเอาเองว่าพี่ชายต่างสายเลือดคนนี้คงรีบร้อนจนลืมทำสิ่งเหล่านั้นไป

    แสงแดดอันอบอุ่นสาดลงบนร่างที่ก้มหน้าก้มตาเดินอยู่ติดกระจกร้าน ทำให้ดวงตาภายใต้แว่นดำเห็นสิ่งที่พยายามจะสังเกตตั้งแต่วินาทีแรกที่นาโอะปรากฏกายออกมาจากหลังร้านหลังต้นบนต้นคอขาวได้อย่างชัดเจน


    ..รอยสักไม่มีวันลบเลือนดั่งอดีตซึ่งไม่อาจหลบเลี่ยงได้..


    " ในที่สุดก็เจอจนได้ หนูทดลองหมายเลข 23 "

TBC


หมดสต็อก ตอนต่อไปอาจจะดองเล็กน้อยค่ะ

เรื่องนี้ไม่ได้ออกแนวเครียด เลือดสาดอย่างที่คิดนะคะอย่าเพิ่งจิ้นกันไปไกล XD




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2011 20:51:42 โดย mousou »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Miracle [ตอนที่ 2]
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-05-2010 14:17:53 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #10 เมื่อ09-05-2010 14:36:54 »

จิ้มๆๆๆๆๆ อีป้าแก่ๆ ก็ต้องรอต่อไป +1 ค่ะ

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #11 เมื่อ09-05-2010 14:50:29 »

อ๊ากกก

ไรเตอร์อย่าดอง  ได้โปรดดด :z3: :z3:

เจอแล้วว  เจอกันแล้ววว

อ๊ากกก   ไรเตอร์เรากำลังจะบ้า

ชอบอ่าาา  เลวๆร้ายๆดี  ชอบบ :impress2:

ออฟไลน์ hpsky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1073
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-0
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #12 เมื่อ09-05-2010 15:10:36 »

มาให้กาลังใจไรเตอร์   อย่าดองนานนะ คนอ่านจะขาดจายยย

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #13 เมื่อ09-05-2010 16:20:27 »

เปิดเรื่องมาอ่านแล้วสงสารเด็กๆ เลย แต่ตอนนี้เอาใจช่วย 23 ก่อนดีกว่า ตามจนเจอแล้วอะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #14 เมื่อ09-05-2010 17:07:32 »

อย่าดองเลยน๊า และที่สำคัญอย่าเครียดเลือดสาดเลย เค๊ากล้วววว >.<

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #15 เมื่อ09-05-2010 21:12:07 »

ไอ้พวกคนเลว กัดไม่ปล่อยเหมือนหมาเลยนะ ไปตายให้หมดเลยไป๊ พวกคนเลว :angry2:

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #16 เมื่อ09-05-2010 23:33:10 »

รอติดตามๆๆนะค๊า..อย่าหายนานเน้ออ อิอิ

mousou

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
«ตอบ #17 เมื่อ10-05-2010 15:05:10 »

Miracle 03

    ..ใกล้จะได้เวลาจับหนูเลี้ยงไม่เชื่องกลับเข้ากรงแล้ว..

    ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำนั่งอยู่ในคันหรูเผยรอยยิ้มออกมา พลางจ้องมองไปยังร่างผอมบางที่ยืนคอยเวลาเลิกเรียนอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ฝ่ามือเรียวแกะหนังยางรัดผมออกขณะที่สีหน้ายังซีดเซียวไม่เปลี่ยน

    ..หากอยากหนีให้รอดจงอย่าประมาท..

    เซย์จิดับเครื่องยนต์แล้วนั่งเอนหลังพิงเบาะอย่างคนอารมณ์ดี ในที่สุดอดีตอันผิดพลาดที่คอยตามรบกวนอยู่ทุกค่ำคืนตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาก็ถึงเวลาสะสางเสียที ใครจะคิดว่าผู้ที่ตามหามาตลอดอยู่แค่ใต้จมูกนี่เอง สองวันก่ิอนมีสายรายงานมาว่าพบผู้ต้องสงสัย น่าจะเป็นหนูที่ลอบหนีออกไปเมื่อหลายปีที่แล้วอยู่ในร้านเค้กไม่ไกลจากที่ตั้งองค์กรนัก เพียงแค่เห็นรูปผู้ต้องสงสัย แม้จะพยายามอำพรางใบหน้าด้วยหมวกใบโต ทว่าร่างสูงโปร่งแต่กลับผอมบาง เรือนผมสีอ่อนตามธรรมชาติ และผิวขาวสะอาดตาไม่ต่างไปจากวันสุดท้ายที่เห็นในห้องขังเดี่ยว ทำให้เซย์จิมั่นใจว่าใช่ไม่ผิดแน่ 

 หากไม่ได้ลงมือจัดการด้วยตัวเองความอัปยศและคับแค้นใจที่ถูกหยามหน้า ซึ่งตามรังควานมาตลอดคงไม่หมดไปง่าย ๆ ด้วยเหตุนี้เซย์จิที่เป็นถึงบอสสูงสุดจึงตัดสินใจลงมาเล่นไล่จับหนูด้วยตัวเอง

    หนูตัวแรกผู้อาจหาญหลบหนีออกมา อาศัยอยู่ในเงามืดอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ
    และเป็นหนูตัวสุดท้ายที่ SW เลินเล่อพลาดท่าปล่อยให้มันฉกฉวยโอกาสเอากับช่องว่างจนหลุดออกไปได้

    " พี่นาโอะ "

 เด็กน้อยร่างเล็กคนหนึ่งวิ่งออกมาจากประตูโรงเรียนเป็นคนแรกได้ก็พุ่งตรงเข้ากอดนาโอะที่ยืนคอยอยู่ทันที ผู้เฝ้ามองจากอีกฝากฝั่งถนนหยัดกายขึ้นนั่งหลังตรงโดยไม่รู้ตัว จ้องมองไปยังเป้าหมาย เด็กชายตัวสูงเท่าสะโพกเพรียว สีตาและผมแม้จะไม่จางเท่านาโอะแต่ก็ถือว่าอ่อนเกินกว่าคนปกติทั่วไป ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเซย์จิก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเด็กคนนี้คือผลการทดลองที่ประสบผลสำเร็จของโปรเจค ซึ่งมีอันต้องล้มเลิกไปเพราะการหลบหนีของหมายเลข 23

    " วันนี้เป็นเด็กดีหรือเปล่าเทะซึจัง " นาโอะหยิบกระเป๋าเป้ของเทะซึโอะมาถือเอาไว้เอง
    " ครับ "
    " เรารีบกลับร้านกันเถอะ "
    " ทำไมล่ะครับ " เทะซึโอะเอียงคอถามด้วยความสงสัย

    ฝ่ามือที่กำลังจูงให้เทะซึโอะเดินตามกันมาหยุดค้างลงกะทันหัน ทั้งที่ปลอบตัวเองไปว่าชายสูทดำคนนั้นเป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดา ทว่าไม่ว่าจะทำยังไงก็สลัดความรู้สึกกระวนกระวายใจที่เข้าเกาะกุมจิตใจอย่างไม่ทราบสาเหตุออกได้เลย เหมือนเมื่อหลายปีที่แล้วที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง ไม่กล้าแม้แต่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง

    ..อยากจะกลับไปซ่อนตัวในที่ลับที่มีเพียงมาสเตอร์และสองพี่น้องคนสนิทเท่านั้นที่รู้..

    " มาสเตอร์ทำเค้กไว้ให้ บอกให้เทะซึจังรีบกลับไปกินเร็ว ๆ น่ะ " นาโอะแกล้งทำเป็นมองพื้นด้วยความรู้สึกผิดที่ต้องโกหกออกไป แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้สังเกต ดวงตาพราวระยับจ้องมองแล้วถามเสียงดัง
    " จริงเหรอฮะ! "
    " อื้ม รีบกลับกันเถอะ " ฝ่ามือที่จับจูงกันอยู่ถูกมือเล็ก ๆ กระตุกให้หลุดออกจากกัน ก่อนเทะซึโอะจะวิ่งนำออกไป

 " งั้นพี่นาโอะกับผมวิ่งแข่งกันไปให้ี้ถึงร้านเลยนะฮะ ใครแพ้อดกินเค้กด้วย " ขาสั้น ๆ พาเจ้าของร่างออกวิ่งเลี้ยวผ่านมุมถนนไป เพียงแค่นั้นก็ทำให้ใบหน้าขาวดูไร้สีเลือดยิ่งกว่าเดิม

    ..จะปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เด็ดขาด ถ้าคนพวกนั้นมาเจอเข้า..

    นาโอะไม่อยากจะจินตนาการถึงเรื่องราวต่อจากประโยคคาดเดาในหัวเลย เขาไม่ต้องการให้เด็กคนนี้ประสบชะตากรรมเดียวกับตน

    " เดี๋ยวก่อนเทะซึจัง! "
    เจ้าของเรือนผมสีอ่อนจำไม่ได้ว่าหลังวิ่งเลยมุมถนนไปแล้วเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง รู้แค่ว่าเห็นเทะซึโอะกำลังวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถบรรทุกซึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูง รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่กลางถนนในสภาพแผลถลอกเต็มจากการไถลตัวกับพื้นคอนกรีต โดยมีเทะซึโอะที่ไร้แม้รอยขีดข่วนอยู่ในอ้อมแขน กระนั้นเจ้าหนูก็แผดเสียงร้องไห้ด้วยความตกใจ

    แน่นอนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้หลุดรอดสายตาของผู้ที่เฝ้ามองอยู่ในรถเลยแม้แต่น้อย ฝ่ามือใหญ่กำแน่นอย่างสุดจะทนได้

    ..นายคิดจะทำอะไรกับผลการทดลองของฉัน!..

---------

    " จริง ๆ เลยเทะซึจัง วันหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรไป "
    ฮิโรมิบ่นกระปอดประแปดหันไปทำตาเขียวใส่ผู้ต้องหาที่นั่งก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ด้านข้าง ขณะที่สองมือกำลังยุ่งอยู่กับการทำแผลให้นาโอะ เมื่อเช็คจนแน่ใจว่าผ้าพันแผลพันแน่นเรียบร้อยการปฐมพยาบาลจึงสิ้นสุดลง
    
    " ขอโทษครับ " เด็กชายทำตัวลืบลงยิ่งกว่าเดิม เทะซึโอะลืมเรื่องเค้กไปเสียสนิท
    " คราวหลังก็ระวังด้วยล่ะ "
    หญิงสาวยังคงบ่นเป็นหมีกินผึ้งต่อไป ถ้าเรื่องไม่จบลงที่ทุกคนปลอดภัยดี แต่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไปเธอคงไม่รู้จะทำยังไงดี บรรยากาศในร้านจึงค่อนข้างอึมครึมด้วยความซึมเศร้าจากเด็กที่มักจะสร้างเสียงหัวเราะในร้าน กับอาการคล้ายภูเขาไฟใกล้ระเบิดจากฮิโรมิซึ่งหาดูได้ยาก

    " เทะซึจังมานี่สิ "
    นาโอะเรียกคนที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง เมื่อเจ้าตัวเดินมาถึงหาเขาก็จับตัวน้องชายสำรวจร่องรอยความเสียหายทันที อันที่จริงระหว่างเดินกลับมาที่ร้านได้ตรวจดูไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเห็นเทะซึเอะนั่งซึมก็อดคิดไม่ได้ว่ามีตรงไหนได้รับบาดเจ็บเข้าหรือเปล่า หลังสำรวจจนแน่ใจอีกครั้ง เรียวปากบางจึงวาดรอยยิ้มออกมา ถึงจะต้องเป็นอะไรมากกว่านี้ก็ยอม ขอแค่เทะซึโอะปลอดภัยก็พอแล้ว

    เมื่อย้อนคิดไปถึงชั่วขณะที่เผลอจินตนาการถึงร่างไร้วิญญาณนอนจมกองเลือดของน้องชาย นาโอะก็รู้สึกราวกับสูญเสียตัวตนอีกครึ่งนึงไป หากเป็นเช่นนั้นจริงจะทำยังไง แม้แต่ตัวเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้ แต่ดีแล้วที่คนสำคัญของเขายังอยู่ตรงหน้า ยังมีชีวิตและมอบรอยยิ้มอันอบอุ่นให้ แขนเพรียวโอบกอดเทะซึโอะเอาไว้แน่น ราวกับจะยืนยันถึงตัวตนที่ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน

    ..ต้องปกป้องชีวิตน้อย ๆ ที่เฝ้าเลี้ยงดูมาให้ได้ ให้เติบใหญ่อยู่ท่ามกลางแสงสว่าง ทดแทนในส่วนของเขาที่ถูกฉุดกระชากลงขุมนรกมาแล้วครั้งหนึ่ง..

------------------------------

    วันนี้เป็นวันหยุด ร้านสไมล์ก็หยุดทำการหนึ่งวัน ดังนั้นทุกคนจึงยังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอบอุ่นไม่ยอมตื่นง่าย ๆ  เว้นเสียแต่เด็กชายที่รอดชีวิตจากการถูกรถชนเมื่อวานได้อย่างหวุดหวิดตื่นเช้าก่อนใครเพื่อน เทะซึโอะตั้งใจจะมาช่วยรดน้ำต้นไม้หน้าร้านแทนฮิโรมิเพื่อชดเชยความผิดเมื่อวาน

    " พี่นาโอะบอกให้รดน้ำเยอะ ๆ คุณต้นไม้จะได้โตไว ๆ ออกดอกสวย ๆ "
    เทะซึโอะคุยกับตัวเอง พลางค่อย ๆ รดน้ำให้สิ่งมีชีวิตสีเขียวอย่างตั้งอกตั้งใจ จนไม่ทันได้รู้สึกถึงร่างสูงโปร่งที่มาหยุดยืนอยู่ด้านหลังนานแล้ว

    ..ราวกับเงาร้ายที่คืบคลานเข้าหาด้วยประสงค์ร้าย..

    " รดเสร็จทุกคนจะได้ชมว่าเทะซึจังเป็นเด็กดี...!! "
    ทุกอย่างพลันมืดลงเมื่อได้กลิ่นหอมหวานของอะไรบางอย่าง ไม่นานนักเด็กชายก็หมดสติลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเสียด้วยซ้ำ


    ..นั่นเป็นเช้าวันที่เทะซึโอะถูกพรากจากอ้อมกอดอันอบอุ่นของร้านสไมล์..

TBC

ตอนนี้อ่านแล้วไม่งงกันใช่มั้ยคะ OTL
แอบคิดว่าอาจจะมีคนไม่ชอบเรื่องแปลกๆแบบนี้บ้างแต่ก็แต่งมาแล้วล่ะค่ะ แต่งไปอายไป ฝากเนื้อฝากตัวกันอีกตอนนะคะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2011 20:54:33 โดย mousou »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #18 เมื่อ10-05-2010 17:39:38 »

เอ่อ  ยังจับประเด็นไม่ค่อยได้ว่าเป็นการทดลองเกี่ยวกับอะไร
เรื่องแหวกแนว  ลึกลับ  น่าตื่นเต้นดีค่ะ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #19 เมื่อ10-05-2010 17:41:26 »

น่าสนุกดีค่ะ แนวนี้ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่ แต่ชอบนะคะ
หมายเลข 23 กับผลการทดลอง อืม..อดคิดไม่ได้ว่าหนูน้อยเทะซึจังเนี่ย เป็นลูกของนาโอะรึป่าว
(ก้อเดากันไป หุหุ ) เอาเป็นว่าจะติดตามต่อไปนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
« ตอบ #19 เมื่อ: 10-05-2010 17:41:26 »





ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #20 เมื่อ10-05-2010 20:55:23 »

เป็นโคลนนิ่งเหรอ แล้วโดนอิตาโหดจับไปแล้ว ทำไงดีอ่า
+ ให้จ้า ชอบนะ แหวกแนวดีอ่ะ

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #21 เมื่อ10-05-2010 21:50:50 »

ไอ้พวกคนจัยร้ายยยยย พวกแกยังทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไม่เยอะพออีกหรอ :angry2:
อย่าทำอะไรเทะซึจังน๊า :m15: แล้วนาโอะจะเป็นยังไง จะเจ็บปวดแค่ไหนที่รู้ว่าเทะซึจังหายไป :m15: กระซิก ๆ :m15:

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #22 เมื่อ11-05-2010 01:20:05 »

เทะซึโดนจับไปแย้วๆๆๆๆ :serius2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #23 เมื่อ11-05-2010 12:58:30 »

เทะซึโอะ ม่ายยยยยยยยยย นะ  รีบๆไปช่วยเร็วเข้า :serius2:

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #24 เมื่อ11-05-2010 13:22:15 »

นาโอะกับเด็กน้อยเป็นพี่น้องกัน??

เด็กน้อยนั่นเป็นผลการทดลอง??

ทำไมไม่จับตัวนาโอะไปแทนละ?? ในเมื่อนาโอะเป็นหนูทดลอง??

งงงงงงงง :serius2: :serius2: :serius2:

mousou

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
«ตอบ #25 เมื่อ11-05-2010 21:17:50 »

Miracle 04


    ในระยะเวลาสามวันหลังจากเทะซึโอะหายตัวไป ทั้งนาโอะ ฮาจิเมะและสองพี่น้องพยายามออกตามหาจนทั่ว แต่ไม่ว่าจะค้นหาสักเท่าไหร่ หรือสอบถามคนรู้จักสักเพียงใด ก็ไม่มีใครพบร่องรอยอะไรเลย แต่พวกเขายังไม่เลิกล้มความตั้งใจ วันนี้ทุกคนให้นาโอะคอยอยู่ที่ร้าน เผื่อมีใครอ่านประกาศหาเด็กหายแล้วมาแจ้งเบาะแสบ้าง เพราะเป็นความคิดที่ดีนาโอะจึงยอมตกลง แต่ไม่นานนักก็ต้องนึกเสียใจที่ไม่ออกไปตามหาเหมือนเช่นทุกวัน ยิ่งอยู่เฉยก็ยิ่งกระวนกระวาย ยิ่งไม่มีใครอยู่ด้วยก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ความกังวลและห่วงหาเข้าเกาะกุมจิตใจดั่งเนื้อร้ายฝังรากลึก

    หากเป็นโจรเรียกค่าไถ่ก็น่าจะติดต่อกลับมาตั้งแต่วันแรกที่ลักพาตัวไป ความคิดนี้จึงถูกตัดทิ้งไป พอคิดว่าอาจไปเล่นซนจนประสบอุบัติเหตุที่ไหนเข้าก็ยิ่งไม่น่าใช่ใหญ่ เพราะสายยางรดน้ำต้นไม้ถูกวางทิ้งอยู่โดยที่ยังเปิดน้ำทิ้งเอาไว้ ราวกับเทะซึโอะซึ่งน่าจะใช้เป็นคนสุดท้ายได้สลายหายตัวเป็นอากาศธาตุไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าเทะซึโอะจะเกิดมาจากอะไร เด็กชายก็ยังเป็นคนธรรมดา ไม่ได้มีอะไรแปลกแตกต่างจากผู้อื่น ข้อสันนิษฐานนี้จึงไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย

    ถ้างั้นเด็กชายไปอยู่ที่ไหน ความคิดทั้งหมดทั้งมวลไปหยุดอยู่ที่ภาพชายสูทดำที่เห็นเมื่อหลายวันก่อน นาโอะไม่กล้าจินตนาการอะไรต่อไปอีกด้วยความกลัวที่ท่วมท้นขึ้นอย่างไม่อาจห้ามได้

    ในตอนที่เจ้าของเรือนผมสีอ่อนกำลังทบทวนคิดถึงที่ซึ่งเทะซึโอะน่าจะไป เบาะแสที่เฝ้าคอยก็มาเยือนดังหวัง ทว่ากลับเป็นเบาะแสที่นาโอะภาวนาจากก้นบึ้งให้เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะขอให้เกิดขึ้น บุรุษในชุดสูทดำหยุดยืนอยู่หน้าร้าน ฝ่ามือใหญ่ผลักประตูกระจกให้เปิดออกอย่างอุกอาจ โดยไม่คิดแม้แต่จะขออนุญาตผู้ที่อยู่ด้านใน ขายาวพาเจ้าของร่างไปหยุดยืนอยู่ต่อหน้าผู้ที่อยู่เพียงลำพังในร้าน ปากเรียวเหยียดยิ้มอย่างผู้ชนะขณะกล่าวทักทายนาโอะ

    " ไงหมายเลข 23 ยังจำฉันได้มั้ย "
    " เซย์จิซัง...." เสียงที่เปล่งออกไปแผ่วเบานัก ร่างทั้งร่างเหมือนถูกนัยน์ตาดำสนิทจับจ้องให้ตรึงอยู่กับที่ไม่สามารถขยับตัวได้
    " เก่งนี่ยังจำกันได้ด้วย ชีวิตข้างนอกสนุกมั้ยล่ะ "
    " ทำไมคุณถึง.."

    ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคเซย์จิก็เอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเนียนซึ่งตอนนี้ซีดจนไร้สีเลือด สัญชาติญาณสั่งให้รีบหนีโดยเร็ว แต่ร่างกายกลับอยู่เหนือการควบคุม ฝ่ามือทั้งสองข้างเย็นเฉียบราวกับเลือดในกายถูกดวงตาคมกริบที่จ้องลึกเข้ามาในดวงตาแช่แข็งเอาไว้ นาโอะทำไม่ได้แม้แต่จะหลบสายตา

    " ไม่ต้องทำท่าตื่นตกใจขนาดนั้นก็ได้ ยังไงซะเราก็เคยรู้จักกันมาก่อน ฉันไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย "
    ชายหนุ่มละมือออกจากแก้มเนียนก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง นาโอะจึงค่อยรู้สึกหายใจได้ขึ้นมาบ้าง แล้วรวบรวมสติที่กระจัดกระจายกลับคืนมาได้ในที่สุด ก่อนเริ่มใช้สมองประมวลข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ด้วยตำแหน่งและอาชีพของเซย์จิไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมาที่นี่ได้ คำถามเมื่อครู่น่าจะเปลี่ยนเป็นต้องการอะไรเสียมากกว่า

    " ผมไม่เคยอยากรู้จักคนอย่างคุณสักนิด " ร่างผอมถอยหลังออกมาคล้ายจะตั้งหลักก่อนรวบรวมความกล้ากล่าวออกมา

    ..นาโอะไม่เคยคิดอยากรู้จักคนที่ทำให้เขาต้องตกนรกทั้งเป็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว..


    เซย์จิเป็นบุคคลซึ่งเลวร้ายยิ่งกว่าซาตานที่เคยอ่านในหนังสือสมัยเด็กหลายเท่า จิตใจมืดดำยิ่งกว่าขุมนรกชั้นสุดท้าย นาโอะในอดีตเป็นเด็กชายสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด แต่เคราะห์ร้ายถูกผู้ให้กำเนิดทอดทิ้งตั้งแต่เด็กจนต้องเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โชคชะตายิ่งกลั่นแกล้งหนักกว่าเดิม เมื่อรู้ว่าพ่อแม่บุญธรรมที่เฝ้าฝันถึงมาตลอดมีฉากหลังเป็นองค์กรลับใต้ดิน SW ซึ่งกว้านซื้อเขามาพร้อมเพื่อนอีกจำนวนไม่น้อย เพื่อฟูมฟักให้เป็นหนูทดลองชั้นเลิศ

    นรกบนดินเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วันแรกที่เหยียบย่างเข้ามาในโลกเบื้องหลังแสงสว่าง นาโอะไม่รู้ว่าชายที่เดินสวนทางกันตอนกำลังถูกต้อนเข้าไปในห้องขังรวมเป็นใคร รู้แค่ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนพากันโค้งให้อย่างนอบน้อม ผิดกับการกระทำก้าวร้าวที่ปฏิบัติต่อเขาและเพื่อนยิ่งนัก ในคืนเดียวกันนั้นเองชายแปลกหน้าที่นาโอะไม่สนใจแม้แต่จะมองเรียกเข้าไปหาในยามดึก และแนะนำตัวว่าชื่อเซย์จิ เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ก่อตั้ง SW

    นาโอะในสมัยเด็กมีใบหน้าสวยหวานไม่แพ้หญิงสาวจึงไม่แปลกที่จะถูกใจเซย์จิ ซึ่งในสมัยนั้นเพียงเป็นหนุ่มน้อยอายุ 18 กำลังศึกษางานในโลกมืดและใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาคณะบริหารในโลกธรรมดา เพื่อสืบทอดกิจการทั้งหมดต่อจากผู้เป็นพ่อในอนาคต

    สิ้นคำทักทายการล่วงเกินอย่างจาบจ้วงจึงเริ่มต้นขึ้น เด็กน้อยนาโอะถูกข่มขืนอย่างไร้ความเมตตาตลอดทั้งคืนจากชายที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก ก่อนถูกพากลับห้องขังซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับเขาเพียงคนเดียว คืนต่อมาและคืนถัดไปนาโอะถูกย่ำยีอีกนับครั้งไม่ถ้วนจากเซย์จิ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะขัดขืนต่อต้านได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นชายร่างสูงใหญ่ซึ่งเติบโตเต็มวัยแล้ว ในขณะที่นาโอะเป็นเพียงเด็กอายุ 12 ซึ่งถึงจะเรียกได้ว่าแข็งแรงกว่าเด็กทั่วไป แต่ก็ไม่อาจสู้แรงผู้สูงวัยกว่าได้อยู่ดี

    สองปีผ่านไปสำหรับการถูกกระทำเยี่ยงเครื่องระบายอารมณ์ นรกขุมใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น หนึ่งเดือนก่อนถึงวันเกิดอายุครบ 14 ปีของนาโอะ เซย์จิเลิกเข้ามาข้องแวะด้วยอย่างสิ้นเชิง เป็นช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่นาโอะมีความสุขมากราวกับไม่เคยได้ลิ้มรสความสุขมาก่อนเลยในชีวิต จนกระทั่งมาตระหนักได้ว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาให้ร่างกายที่บอบช้ำได้พักฟื้น เพื่อเตรียมพร้อมเข้ารับการทดลองอันไร้มนุษยธรรม

    นาโอะไม่รู้ว่าการต้องดูเพื่อนร่วมทดลองถูกฉีดยาแปลกประหลาดเข้าร่างกาย และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งจนแทบเสียสติตามไปด้วย กับการถูกข่มขืนเกือบทุกค่ำคืนอย่างไหนมีความสุขกว่ากัน ทุกวันต้องเฝ้าดูร่างกายของเพื่อนถูกทำให้เปลี่ยนรูปไป บางคนหน้าท้องปูดบวมราวกับจะปริออก บางคนอาเจียนเป็นเลือดออกมาตลอดเวลา สุดท้ายทุกคนก็เสียชีวิตลงในฐานะหนูทดลองที่ประสบความล้มเหลว ดวงตาสีอ่อนได้แต่เฝ้ามองภาพเหล่านั้น แล้วนั่งนับวันถอยหลังที่การทดลองจะเวียนมาถึงตนอย่างสิ้นหวัง

    การทดลองทรมานกว่าที่จินตนาการไว้หลายร้อยเท่า จนอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย เพราะตัวนาโอะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารเคมีต่างจากหนูตัวอื่น หรือเหล่านักวิทยาศาสตร์เปลี่ยนวิธีก็ไม่อาจทราบได้ นาโอะจึงถูกทดลองด้วยกระบวนการต่าง ๆ มากมายถึงสามปีเต็ม สุขภาพที่เคยแข็งแรงอ่อนแอลงทุกวันจากผลข้างเคียงของตัวยาที่ฉีดเข้าไปภายในร่าง แทบจะกล่าวได้ว่าเด็กหนุ่มไม่ได้เจริญเติบโตตามมาตรฐานปกติเท่าใดนัก ร่างกายถึงได้ซูบผอม ผิวที่ขาวอยู่แล้วกลับยิ่งซีดลง

    นาโอะทั้งโกรธทั้งเกลียด และสาปแช่งทุกคนในองค์กรลับอยู่ทุกคืนวัน วันหนึ่งโอกาสก็มาถึงเมื่อได้ยินนักวิทยาศาสตร์คุยกันว่าเขาอาจเป็นหนูทดลองที่ประสบผลสำเร็จก็เป็นได้ นับจากนั้นเด็กหนุ่มจึงถูกแยกไปอยู่ห้องขังเดี่ยว ได้รับการฟูมฝักอย่างดี ร่างกายที่ทรุดโทรมลงค่อยฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่อาจกลับไปแข็งแรงดังเดิมได้อีก

    ขณะที่นาโอะเฝ้าสงสัยว่าการทดลองที่สำเร็จแล้วคืออะไรกันแน่ เซย์จิซึ่งในตอนนั้นกลายเป็นหัวหน้าสูงสุดขององค์กรจากการเสียชีวิตของบุพการีทั้งสองก็มาหาในคืนหนึ่ง แววตาที่ไร้ความเป็นมนุษย์ยิ่งกว่าเก่าเหยียดมองมาพร้อมรอยยิ้มพึงพอใจ

    " เสียใจด้วยนะหมายเลข 23 ที่ไม่ได้ตายอย่างที่หวังไว้สักที ขอต้อนรับสู่ขุมนรกตลอดกาล ฉันจะใช้นายให้คุ้มกับเงินที่ซื้อมาเลยล่ะ "

    ด้วยคำพูดนั้นนาโอะจึงตัดสินใจหลบหนีในอีกสองคืนถัดมา แม้ความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จแทบไม่มีเลยก็ตาม


    ..ไม่ว่าการทดลองที่พวกคุณกำลังพยายามทำอยู่จะเป็นอะไร ผมจะไม่ยอมให้พวกคุณได้มันไปเป็นอันขาด..

    หลังจากหนีออกมาสำเร็จ และได้รับการช่วยเหลือจากฮาจิเมะอย่างปาฏิหาริย์ ชาวโอซาก้าใจกว้างก็ตั้งใจฟังทุกอย่างที่นาโอะเล่าถึงอดีตทุกอย่างของตน พร้อมกับรับอุปการะนาโอะซึ่งไร้ที่พึ่งไว้โดยไม่เกรงกลัวอำนาจมืดแต่อย่างใด ไม่นานนักหน้าท้องที่มักจะปวดอย่างรุนแรงมาตลอดเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ คล้ายมีตัวอ่อนของอะไรสักอย่างเกาะฝังคอยดูดซึมชีวิตไปหล่อเลี้ยงตนเองอยู่ แต่นาโอะกลับไม่รู้สึกทรมานจากอาการปวดอีกต่อไป ราวกับร่างกายเริ่มปรับตัวรับสิ่งแปลกปลอมได้แล้ว

    เพราะอะไรบางอย่างในจิตใต้สำนึกคอยห้ามไว้อยู่ตลอด นาโอะจึงไม่กล้าจัดการกับก้อนเนื้อนั้นเสียที ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลัวในความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายก็เป็นได้ นาโอะเคยคิดว่าบางทีนี่อาจเป็นความผิดพลาดของนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น และตัวเขาก็เป็นอีกหนึ่งในความล้มเหลว หรือเป็นเพราะไม่ได้อยู่ในการดูแลของผู้ทำการทดลอง ผลงานที่ประสบความสำเร็จจึงไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นก็เป็นได้

    แต่ถึงต้องสูญเสียชีวิตที่สิ้นหวังมาตลอดไปก็ยอม ขอแค่ได้ขัดขวางไม่ให้คนพวกนั้นทำสำเร็จก็พอแล้ว


    ..นี่เป็นการแก้แค้นในรูปแบบของคนธรรมดาอย่างนาโอะ..

    ทุกอย่างกลับตาลปัตรจากที่คิดไว้เมื่ออาการปวดท้องอย่างรุนแรงกลับมาเยือนอีกครั้ง นาโอะทรมานแทบขาดใจตาย ฮาจิเมะจึงตามเพื่อนสนิทที่เป็นหมอมาช่วยดูอาการให้ถึงห้องพักบนร้าน เพื่อปกปิดการคงอยู่ของหนูทดลองที่ลอบหนีออกมาให้มิดชิดที่สุด แล้วทั้งสามก็ต้องตื่นตะลึงทันทีที่พบว่าสิ่งที่สร้างความทรมานให้เจ้าของเรือนผมสีอ่อนคือทารกเพศชายคนหนึ่ง

    สุดจะคาดเดาถึงสิ่งที่องค์กรไร้มนุษยธรรมคาดคิดอยู่ได้ นาโอะไม่รู้ว่าถูกทำอะไรบ้างตลอดการทดลองที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน จึงไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นมาอยู่ในร่างได้ยังไงและด้วยวิธีการอันใด

    ..แต่เขาก็ตัดสินใจเลี้ยงดูชีวิตลึกลับนั้นในฐานะน้องชาย.


    ความคิดหวนรำลึกถึงอดีตอันน่าอดสูถูกขัดขวางด้วยถ้อยคำที่ไม่อยากได้ยินที่สุด

    " นายไม่อยากรู้จักคนที่รู้ว่าเด็กนั่นอยู่ที่ไหนสินะ " ชายหนุ่มเหยียดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้ใจ ขณะจับตามองความเปลี่ยนแปลงของคู่สนทนาอย่างเพลิดเพลิน


    ..ฝันร้ายกลายเป็นจริง..


    นาโอะรู้สึกเหมือนหมดเรี่ยวแรงขึ้นมากะทันหัน ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนถูกสาป ครึ่งหนึ่งของชีวิตที่เฝ้าปกป้องมาตลอดถูกพรากไปอยู่ในเงื้อมมือสัตว์ร้าย ตัวเดียวกับที่เคยทำร้ายเขามาแล้วอย่างแสนสาหัส สิ่งที่เฝ้าภาวนาให้เกิดขึ้นเป็นอย่างสุดท้ายบนโลกใบนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว นาโอะรู้ดีหาก SW เจอตัวเทะซึโอะเข้าคงไม่พ้นถูกทดลองตรวจสอบมากมายในฐานะผลการทดลองเป็นแน่ เขายอมถูกกรีดเนื้อเถือหนังทั้งเป็นยังดีเสียกว่าให้ชีวิตเล็ก ๆ นั้นต้องเจอกับเรื่องที่ตนเคยประสบมาก่อน

    ลนลานจนแทบเสียความเป็นเหตุเป็นผลไป คือปฏิกิริยาลำดับถัดมาของนาโอะผู้ลืมสิ้นซึ่งความกลัวที่เคยมีตรงเข้าหาหมายจะทำร้ายร่างกาย แต่ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างกลับถูกมือใหญ่เพียงข้างเดียวจับกุมไว้โดยไร้ทางต่อต้านได้ เซย์จิเฝ้ามองผู้อยู่ในเงื้อมมือดิ้นรนและกรีดร้องด้วยความพึงใจ

    " คุณคิดจะทำอะไรกันแน่! คืนตัวเทะซึโอมาเดี๋ยวนี้! เอาคืนมา! "
    " เสียใจด้วยที่ทำให้ไม่ได้ "
    " หมายความว่ายังไง "
    " หมายความว่าฉันจะขอเอาผลการทดลองที่หายไปคืนน่ะสิ "

    ริมฝีปากเรียวบดขยี้ลงบนกลีบปากบางอย่างจาบจ้วงรุกรานด้วยความรุนแรง ราวกับจะระบายความโกรธเคืองทั้งหมดออกมาในคราวเดียว ก่อนผละออกมาเพื่อยื่นข้อเสนอบางอย่าง

    " แต่ไหน ๆ นายก็เคยเป็นคนโปรดของฉันมาก่อน ถ้ายอมทำตามที่พูดฉันอาจเปลี่ยนใจปล่อยเด็กนั่นก็ได้ "


    ..ฉันจะบีบให้นายยอมกลับลงนรกด้วยตัวเอง ให้นายต้องรับโทษทัณฑ์ที่บังอาจฉีกหน้าทำลายชื่อเสียงฉันคนนี้..


    " ตกลง "


    ..คำสัญญาของซาตานไหนเลยจะเชื่อได้..


TBC

ตอนที่แล้วมีคนบอกว่าอ่านแล้วงง อ่านตอนนี้แล้วยังงงกันอยู่มั้ยคะ ^^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2011 20:57:14 โดย mousou »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
«ตอบ #26 เมื่อ11-05-2010 21:54:55 »

ไม่งง แค่.......มึนตืบ.... 555

แต่มันก็สนุกดี ชวนให้อ่านอยู่เรื่อยๆ อะสิ

อีป้าแก่ๆ ชอบสะแล้วสิเรื่องนี้ +1 ค่ะ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
«ตอบ #27 เมื่อ11-05-2010 22:41:54 »

ดราม่ามากกกกกกกกกก :impress3:

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
«ตอบ #28 เมื่อ11-05-2010 22:52:05 »

แค้นมากก็เพราะรักมากชิมิค่ะ :m15:
เทะซึจังคือพยานรักของนาโอะกับเซจิชิมิค่ะ หวังว่าเซจิคงจะไม่ใจร้ายใจดำกับลูกของตัวเองหรอกนะค่ะ :m15:
เซจิทำร้ายนาโอะให้เจ็บปวดมากเท่าไหร่ คนที่จะเจ็บปวดยิ่งกว่าเป็นสองเท่าก็คือเซจิชิมิค่ะ :m15: เหลือทางรอดแห่งตัวตนและความเป็นมนุษย์ไว้ให้...นาโอะกับเทะซึจังที่ซื่อใสไร้เดียงสาแสนบริสุทธิ์...ด้วยนะค่ะ Writer :m15:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
«ตอบ #29 เมื่อ11-05-2010 23:26:42 »

ไม่อยากจะคิดถึงสิ่งที่นาโอะต้องเจอต่อไปเลย  :monkeysad:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด