พิมพ์หน้านี้ - Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: mousou ที่ 08-05-2010 23:53:20

หัวข้อ: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 08-05-2010 23:53:20
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



----------------



คำเตือน : ไ่ม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเคะอ่อนแอและรับเรื่องแปลกประหลาดมากนักไม่ได้

ที่จริงมันก็ไม่แปลกมากนักหรอก แต่อาจะมีบางส่วนที่หลายคนรับไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ



---------------


Title : Miracle 01


    เบื้องหลังบรรยากาศอันเงียบสงบของค่ำคืนในเมืองหลวง ลึกเข้าไปยังใจกลางความเจริญรุ่งเรืองซึ่งใครหลายคนภาคภูมิใจ อาคารสูงใหญ่ตั้งเด่นตระหง่านมองภายนอกดูแล้วเหมือนบริษัทขนาดใหญ่ธรรมดาทั่วไป ป้ายบริษัทสีทองสะท้อนกับแสงนีออนข้างทางเป็นประกาย กระนั้นชื่อบริษัทอันยาวเหยียดฟังดูสวยหรูยังไม่อาจเทียบเท่าได้กับ " SW " ตัวอักษรสองตัวที่สุดจะคาดเดาถึงความหมายของมันได้ แต่ในตลาดมืด ค้าของเถื่อนกลับเป็นชื่อที่ทุกคนคุ้นหู

    SW หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะองค์กรลับค้ายาทุกประเภท สิ่งเสพติดเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วสำหรับสังคมในยามค่ำคืน ทว่าสิ่งที่ต่างจากพ่อค้ารายอื่นซึ่งไม่มีใครเหมือนคือตัวยาพิเศษ ไม่อาจหาได้จากที่อื่นใดอีก เพียงคุณสั่งเราจะสรรหามาให้ สโลแกนสั้นกระชับฟังดูเกินจริงแต่ SW สามารถทำได้ดังคำกล่าวอ้าง

    เศรษฐีรายหนึ่งสั่งยารักษาโรคร้ายซึ่งการแพทย์แผนปัจจุบันไม่อาจช่วยเยียวยาได้ ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น สินค้าที่ต้องการถูกส่งตรงถึงมือพร้อมใบเสร็จเก็บเงินเรียกราคาสูงลิ่ว กระนั้นคุณสมบัติของตัวยาก็สมดังราคา ลูกค้ารายนั้นหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง ไม่เพียงแต่ยารักษาโรค ยาปลุกเซ็ก ยาเสน่ห์หรืออะไรตามแต่ผู้ว่าจ้างจะบัญชามา ขอเพียงเอ่ยปากและเสนอราคาอันน่าพึงพอใจ องค์กรลับชื่อดังยินดีสรรหามาให้โดยไม่เกี่ยงวิธีการ
 
    ทว่าไม่มีลูกค้ารายใดล่วงรู้ถึงกระบวนการผลิตยาอันแสนน่าทึ่งเหล่านั้น หนึ่งชีวิตของผู้ว่าจ้างที่ยืดยาวต่อไปได้ ชั่วเวลาแห่งความสุขสมอันเกิดจากการเสพยาแลกมาด้วยอีกกี่ชีวิตที่ต้องกลายเป็นหนูลองยา วิธีการสกปรกด้วยการกว้านซื้อเด็กกำพร้าจากสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยให้สินบนจำนวนมากที่ไม่ว่าใครก็ปฏิเสธไม่ลง แลกกับการคัดเด็กสุขภาพแข็งแรงทุกคนทั้งชายและหญิงส่งให้องค์กร เด็กน้อยเหล่านั้นจะถูกเลี้ยงดูอย่างดี จนกระทั่งเติบโตแข็งแรง และแน่ใจว่าไม่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงใดๆ

    เมื่ออายุครบ 14 ปีหนูทดลองที่สมบูรณ์แข็งแรงทุกคนจะถูกสลักหมายเลขลงยังโคนต้นคอข้างหลังด้านบน ชื่อที่เคยถูกเรียกขานมาตลอดได้เปลี่ยนเป็นหมายเลขประจำตัว นักวิทยาศาสตร์แต่ละโปรเจคจะคัดเลือกวัตถุดิบมนุษย์ซึ่งมีคุณสมบัติตรงกับการทดลองที่ได้รับมอบหมายไปจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งขั้นตอนการฟูมฟักและคัดเลือกสิ้นสุดลงการทดลองอันไร้มนุษยธรรมจึงเริ่มต้นขึ้น

    เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความทุกข์ทรมานเป็นสิ่งที่ทุกคนในองค์กรลับชินชาไปเสียแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการดิ้นรนขัดขืน แต่กระนั้นก็ไม่มีหนูทดลองรายใดหนีรอดไปได้ ไม่มีเด็กคนไหนกล้าปริปากถามเมื่อเห็นเพื่อนกลับมาในสภาพเนื้อตัวขึ้นสีประหลาดเป็นด่างดวงอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน หรือสภาพที่มีก้อนเนื้อคล้ายแขนงอกออกมาจากลำตัว ทั้งที่ตอนโดนจับแยกไปยังไม่มี ราวกับเมื่อเอ่ยปากพูดออกไปจะเป็นการตอกย้ำถึงโชคชะตาอันน่าสมเพชของตัวเองไปด้วย

    ล่ำลือกันว่าบอสแห่งองค์กรลับอันน่าโสมมผู้มีฉากหน้าเป็นนักธุรกิจหนุ่มอาภัพที่ต้องบริหารงานต่อจากพ่อแม่ซึ่งเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุอย่างกะทันหันนั้นช่างโหดร้ายนัก ทุกโปรเจคที่มีผู้เสนอเข้ามาขอแค่มีข้อตกลงอันเย้ายวนใจพอ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตหรือความทุกข์ทรมานของหนูทดลองมากเพียงใดก็ไม่เคยเหลียวแล ทุกคำที่หลุดออกมาล้วนแต่เป็นการถามถึงความคืบหน้าของแต่ละโปรเจคเท่านั้น สำหรับเขาแล้วหนูทดลองเป็นเพียงชีวิตไร้ค่าที่ถูกทอดทิ้งไม่มีผู้ใดต้องการ ราวกับเป็นขยะ การทดลองในโปรเจคเปรียบเหมือนการนำขยะเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่เรื่องเสียหายอันใดแม้แต่น้อย

    ในคืนนี้ก็เป็นเหมือนเช่นเคย ด้านหลังอาคารซึ่งเป็นฉากหน้าขององค์กรลับยังมีสิ่งก่อสร้างสูงไม่ต่างกันตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก สถานที่แห่งนั้นถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและมืดมิด แสงจากหลอดไฟนีออนซึ่งตั้งเว้นกันเป็นระยะไปตามแนวกำแพงเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้ที่แห่งนี้ยังพอมีแสงบ้าง หนุ่มฉกรรจ์หลายสิบคนนั่งจับกลุ่มคุยกันเพื่อเป็นการฆ่าเวลาระหว่างเฝ้ายามอยู่ตรงบริเวณใกล้กับทางเข้าตึก ชายหนุ่มคนหนึ่งปลีกตัวออกจากวงสนทนา หลบมายืนพิงกำแพงตึกก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบคล้ายจะเป็นการเพิ่มแสงสว่างไปในตัว

    เจ้าของมวนบุหรี่สูดดมกลุ่มควันสีเทาเข้าปอดและระบายลมหายใจออกมาช้า ๆ ก่อนจะทันสังเกตเห็นเงาดำที่วิ่งออกมาจากด้านในตึกมาหยุดอยู่ด้านหลังบานประตูกระจกใสที่ใช้เป็นที่สูบบุหรี่เป็นประจำ แสงอันน้อยนิดส่องมาจากด้านบนกำแพงเผยให้เห็นชุดเครื่องแบบสีเขียวไซส์ใหญ่กว่าเจ้าของ หมวกที่สวมอยู่ก็ใหญ่เกินความจำเป็นจนบดบังใบหน้าของอีกฝ่ายไปเกือบทั้งหมด ผู้อยู่ด้านนอกอาคารพยายามอ่านคำพูดที่เรียวปากสีซีดกำลังพยายามจะเอ่ยออกมาอย่างสุดความสามารถ

    " พูดให้มันดัง ๆ หน่อยสิ มัวแต่กระซิบอยู่ได้ " เมื่อเอ่ยตวาดไปเช่นนั้น ร่างของเพื่อนร่วมงานอีกฝากฝั่งของประตูก็สะท้านไหวเล็กน้อย

    " ทะ..ทำกุญแจหาย "

    " บอกอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง จะพูดเสียงเบาไปทำไมกันวะ "
    เสียงที่ดังไม่ต่างจากเมื่อครู่เท่าใดนักเอ่ยออกมาคล้ายกลัวใครจะมาได้ยินเข้า ทำให้คู่สนทนายิ่งหัวเสียหนักกว่าเดิม ก่อนจะคว้าคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าเสื้อทาบลงไปบนตัวเครื่องด้านข้างประตู ชั่วอึดใจกระจกใสสองบานก็เคลื่อนตัวแยกออกจากกันเปิดทางให้ผู้ที่อยู่ด้านในออกมาสู่ภายนอก

    " แกนี่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย เพิ่งมาใหม่เหรอไง ทำคีย์การ์ดหายซะด้วยระวังจะถูกหัวหน้าหมายหัว...เฮ้ย เดี๋ยวก่อนสิ! "
    ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค คนที่คาดว่าน่าจะยืนอยู่ตรงหน้ากลับออกวิ่งด้วยท่าทางผิดธรรมชาติหายลับไปยังประตูด้านหลัง การแอบออกเวรก่อนเวลาในคืนที่ทุกอย่างสงบเรียบร้อยเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ยามหนุ่มผู้นี้จึงไม่ได้ติดใจสงสัยนัก เขาหยิบบุหรี่มวนใหม่ขึ้นมาจุด ก่อนจะเดินกลับไปจับกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นอีกด้านหนึ่ง

    ถัดไปไม่ไกลนักจากตึกขององค์กรลับ เด็กหนุ่มร่างเล็กที่แสร้งตบตาเป็นหนึ่งในยามเมื่อครู่นี้กำลังออกวิ่งอย่างสุดแรงเท่าที่กำลังกายจะเอื้ออำนวย ด้วยท่วงท่าที่ผิดปกติเนื่องจากอาการเจ็บปวดทางกาย หมวกสีเขียวตกกระเด็นไปนานแล้ว เสื้อที่ใหญ่เกินขนาดตัวยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างยากลำบาก ลมหนาวกรีดผ่านร่างกายจนเสื้อแนบลู่ไปด้านหลังเผยให้เห็นเลขสลักหลังลำคอเพรียว


    ..23..

    " อึก.."

    ร่างผอมบางทรุดลงนั่งบนพื้นคอนกรีตข้างถนน อาการปวดร้าวบริเวณช่องท้องทวีขึ้นจนไม่อาจทรงตัวได้อีกต่อไป ริมฝีปากสีซีดขบเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาสีน้ำตาลที่เริ่มพร่ามัวทอดมองไปยังท้องถนนเบื้องหน้า สัมปชัญญะสุดท้ายกำลังจะถูกความเจ็บปวดคร่าไป ท่ามกลางสติที่พร่าเลือนเด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่ามีร่างเงาทาบทับอยู่บนร่าง กระนั้นกลับไม่มีแรงพอแม้จะลืมตาขึ้นมอง

    "..ช่วยผมด้วย.."

-------------------------------------

    ข่าวหนูทดลองหมายเลข 23 หลบหนีออกจากห้องทดลอง แพร่กระจายไปทั่วองค์กรทันทีที่แสงอาทิตย์แรกจับขอบฟ้า แม่บ้านคนหนึ่งนำอาหารเช้าเข้าไปให้และพบว่าห้องขังเดี่ยวว่างเปล่า มีร่างของยามหนุ่มคนหนึ่งสวมเพียงกางเกงในนอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น ข้างกันนั้นมีเหล็กแท่งเปื้อนเลือดตกอยู่

    ข่าวนี้ไปถึงหูบอสใหญ่อย่างรวดเร็ว เวลาต่อมาไม่นานนัก จากการเช็ครหัสประจำตัวของคีย์การ์ดที่ใช้เปิดประตู ก็สืบทราบได้ถึงผู้ที่บังอาจเปิดประตูให้หนูทดลองหลบหนีออกไปได้สำเร็จ ในวันเดียวกันนั้นเองบอสใหญ่ก็เดินทางมาถึงองค์กรลับ โทษที่ผู้กุมอำนาจสูงสุดหยิบยื่นให้ยามทั้งสองนายที่สะเพร่าถูกหนูทดลองลอบทำร้าย และโง่เง่าจนหลงเชื่ออุบายตื้น ๆ คือการลงมือสังหารด้วยมือของตนเอง

    " พวกแกใช่มั้ยที่ปล่อยให้หมายเลข 23 หนีไปได้ "
     สิ้นประโยคนี้ไม่มีถ้อยคำใดหลุดออกมาอีกเลย ไร้ซึ่งการฟังคำแก้ตัวอันใด ปากกระบอกปืนไล่เล็งไปยังอวัยวะที่สำคัญน้อยที่สุดของยามทั้งสองซึ่งถูกมัดเอาไว้ ไล่ยิงไปทีละส่วนให้ลิ้มรสความตายที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาทีละน้อย หยาดเลือดไหลนองพื้น กลิ่นคาวลอยฟุ้งไปในอากาศ เสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอชีวิตที่ฟังดูไร้ค่า จวบจนกระทั่งกระสุนสุดท้ายตัดขั้วหัวใจการลงโทษจึงจบลงในที่สุด

    หลังจากนั้นมีคำสั่งให้ออกตามหาหมายเลข 23 ทันที ทว่ายิ่งค้นหากลับยิ่งดูเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร แม้จะมีรอยสลักหลังต้นคอที่น่าจะเป็นจุดสังเกตให้ควานหาได้ง่ายก็ตามที ไม่มีผู้ใดรู้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของหนูที่ลอบหนีออกไป คำสั่งต่อมาจึงเป็นการล้มเลิกโปรเจคที่มีหมายเลข 23 เป็นตัวทดลองจนกว่าจะตามหาเจอ


    ทว่าผ่านไปหลายปีก็ยังไร้วี่แววใด ๆ เช่นเดิม.....

TBC

เพิ่งเคยโพสที่นี่เป็นครั้งแรก ฝากตัวด้วยนะคะ แฮ่~


หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 09-05-2010 00:23:46
ไรเตอร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกกก

เราเคยอ่านเรื่องประมานนี้มาเรื่องหนึงเหมือนกาน

เจ๋งๆๆๆๆๆๆๆๆ  บอกได้คำเดียว

ไรเตอร์มาอัพเร็วๆนะ

เราชอบอารายแนวนอกกฏหมายมากเลย

เหอๆ  สู้ๆๆๆน่ะค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 09-05-2010 00:57:21
แหวกแนวดี น่าอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 09-05-2010 01:05:02
หมายเลข23
และผู้ช่วยเหลือ

อยากรู้อยากเห็นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 09-05-2010 01:09:59
โว้ววว

สุดยอดครับบ

สุดยอดจริงๆๆๆ

น่าติดตามมากก

จาติดตามต่อไปนะครับบบ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 09-05-2010 01:12:01
แค่เริ่มก้อเข้มข้นเเล้ว...รอติดตามค๊าๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-05-2010 01:45:58
รออ่านต่อจ้า กำลังมันเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 09-05-2010 07:45:20
+ เจาะไข่ให้จ้า

ชอบแนวนี้ๆๆๆ รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 09-05-2010 08:24:51
ไอ้พวกเลวชาติชั่ว :angry2:...แค่คำว่า เด็กกำพร้า มันก็ตอกย้ำสิ่งที่เป็นมากพออยู่แล้ว ยังโดนจับมาทำเหมือนพวกเค้าไม่มีชีวิตหรือจิตใจของตนเองอีก ขอให้กรรมตามทันพวกแกด้วย :call: น่าสงสาร กระซิก ๆ :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 09-05-2010 14:17:53
Title : Miracle 02

    ..วันคืนเวียนผ่านไปเปรียบดั่งเวลาแห่งอิสรภาพที่ลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ เท่านั้น..

    " ยินดีต้อนรับค่ะ "
    ทันทีที่บานประตูกระจกเลื่อนเปิดออก พนักงานสาวก็ส่งยิ้มหวานให้ลูกค้าพร้อมคำกล่าวต้อนรับ กลิ่นเนยและครีมหอมอบอวลไปทั่วร้าน ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่แห่งนี้ก็มักจะแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรเสมอ แม้จะเพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปีแต่ด้วยคุณภาพสมราคา และรสชาติที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยากกลับมาลิ้มลองอีกครั้ง จึงทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่ว ไม่เพียงแต่ในหมู่ชาวโตเกียวด้วยกัน หากแต่ผู้ที่ดั้นด้นเดินทางมาจากต่างถิ่นก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ

    โทโต ฮาจิเมะเจ้าของร้านเค้กแห่งนี้เดิมเป็นชาวโอซาก้าผู้เดินทางมาตามหาความฝันในเมืองหลวง ความฝันของหนุ่มวัยใกล้เลขสามคนนี้คือการทำขนมเลิศรสเพื่อมอบความสุขให้ทุกคน มาสเตอร์ของร้านแห่งนี้มีความสุขทุกครั้งเมื่อเห็นชาวเมืองโตเกียวที่มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่เสมอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขยามได้กินของหวานฝีมือของตน ชาวโอซาก้าคนนี้จึงตั้งชื่อให้ร้านเค้กว่าสไมล์

    ..เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามามีแต่รอยยิ้มและความสุขกลับออกไป..

    ด้วยความเป็นคนโอบอ้อมอารี ไม่ยึดติดกับกฎระเบียบเท่าใดนัก ภายในร้านจึงมีพนักงานที่ตามกฎหมายแล้วรับเข้าทำงานไม่ได้อยู่ เห็นคนเดือดร้อนแล้วทนนิ่งดูดายไม่ได้ นั่นเป็นคำพูดติดปากของฮาจิเมะ ซึ่งทำให้เขาเป็นที่รักของพนักงานทุกคน

    " ฮิโรกิคุงเอาเค้กไปเสิร์ฟลูกค้าโต๊ะสี่ทีสิ "
    ชายหนุ่มเจ้าของชื่อขานรับคำสั่งนั้น เขาหยิบจานที่ถูกยื่นให้วางบนถาดเสิร์ฟ ก่อนนำไปให้ลูกค้าอย่างคล่องแคล่ว วันนี้ภายในร้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมหวาน ๆ ของครีมและเนยยังเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าเช่นเคย ไม่มีเวลาให้หยุดพักเลยตั้งแต่เช้า ฮิโรกิเดินกลับเข้ามายังเคาน์เตอร์ด้วยสภาพเหมือนถูกสูบวิญญาณออกไปจากร่าง
   
    " อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิฮิโรกิคุง " ฮาจิเมะวางมือจากการเขียนหน้าเค้ก หันไปพูดกับซากลูกจ้างซึ่งนอนฟุบหน้าหมดเรี่ยวแรงอยู่
     " ขอผมสั่งเสียอะไรก่อนตายได้มั้ยฮะมาสเตอร์ "
    " ฮ่า ๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นเอาเป็นว่าเธอไปพักก่อนก็แล้วกัน "

    เจ้าของเรือนผมสีทองเมื่อได้ยินคำอนุญาตก็เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาสีดำทอประกายระยับ แต่ไม่นานฮิโรกิกลับส่ายหน้าปฏิเสธ ในร้านตอนนี้หากไม่นับฮิโรมิผู้เป็นน้องสาวซึ่งทำหน้าที่พนักงานรับต้อนรับอยู่ มีเขาเพียงคนเดียวที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟ หากฉกฉวยโอกาสเอากับความใจดีของมาสเตอร์ในตอนที่ทุกคนพร้อมใจกันลาหยุดแบบนี้ได้ก็ถือว่าขาดความรับผิดชอบเต็มทน

    " ไม่เอาหรอก ถ้าผมพักใครจะช่วยดูร้านล่ะ "

    เส้นผมสีสว่างสะบัดไปมา หากจะให้พูดถึงความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา คงต้องพูดถึงฮิโรกิเด็กหนุ่มกำพร้าผู้ละทิ้งบ้านเกิดเดินทางเข้าโตเกียวพร้อมน้องสาวเพียงคนเดียว ด้วยแววตาที่มุ่งมั่นทำให้ฮาจิเมะตกลงรับเข้าทำงานทันทีแม้อายุจะไม่ถึง 18 ปี พร้อมแบ่งห้องว่างของร้านให้อยู่โดยไม่คิดค่าเช่า ตอนนี้ถึงฮิโรกิจะบรรลุนิติภาวะสามารถหางานอื่นที่ดีกว่าเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟในร้านเค้กแล้วก็ตาม แต่เจ้าตัวกลับไม่เลิกทำงานที่ร้านแห่งนี้

    " นาโอะคุงน่าจะทำงานหลังร้านเสร็จแล้ว เดี๋ยวให้มาช่วยแทนไปก่อนก็ได้ "
    " นาโอะน่ะเหรอ งั้นยิ่งไม่เอาใหญ่เลย เดี๋ยวเกิดหน้ามืดเดินหกล้มทำเค้กตกใส่ลูกค้าเข้าจะทำยังไง " ฮิโรกิมุ่ยหน้าลงทันทีที่ได้ยินว่าใครจะมาทำหน้าที่แทนตน
    " อย่าไปว่านาโอะุคุงเขาอย่างนั้นสิ "
     " ไม่ได้ว่าสักหน่อย ที่พูดเพราะเป็นห่วงต่างหาก ไม่สบายครั้งที่แล้วยังไม่หายดีแท้ ๆ ยังจะฝืนสังขารลงมาช่วยมาสเตอร์อีก "

    แม้จะฟังเหมือนต่อว่าผู้ที่ตกเป็นหัวข้อสนทนา กระนั้นแววตากลับแฝงไปด้วยความห่วงใยเพื่อนข้างห้องอีกคนที่มาสเตอร์รับอุปการะไว้ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานานหลายปี บทสนทนาทั้งหมดถูกขัดจากร่างผอมบางที่ชะโงกหน้าออกมาจากหลังร้าน เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนถูกรวบเก็บอยู่ใต้หมวกพ่อครัวทรงสูง ดวงตาสีเดียวกันหรี่มองเพื่อนร่วมงาน

    " ผมไม่ได้ขี้โรคขนาดนั้นสักหน่อย " นาโอะผู้สุภาพเรียบร้อยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายจะต่อว่า
    " ได้ยินไปถึงในครัวเลยเหรอ "
    " ไม่ใช่ได้ยินไปถึงในครัว แต่เสียงฮิโรกิดังลั่นร้านเลยต่างหาก "
    ร่างผอมบางเดินออกมายืนประจันหน้ากับคู่สนทนาด้านหลังตู้โชว์ขนม ความสูงที่ต่างกันทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณี


    อีกด้านหนึ่งของร้าน ฮิโรมิกำลังต้อนรับลูกค้ารายใหม่และพาเข้าไปนั่งด้านในสุดตามที่ลูกค้าเรียกร้องมา แม้ใบหน้าของฮิโรมิจะยิ้มแย้ม หากแต่เธอกลับคิดว่าชายสวมแว่นดำในชุดสูทผู้นี้เหมาะจะเดินเข้าผับมากกว่าร้่านเค้ก ไม่้รู้เพราะคิดไปเองหรือเปล่าหญิงสาวถึงได้รู้สึกกลัวเหลือเกิน ราวกับถูกดวงตาเบื้องหลังแว่นนั้นจ้องมองและบดขยี้ลงทีละน้อย สีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใด ลักษณะการก้าวเดินเปี่ยมไปด้วยความมาดมั่น เรือนผมสีดำสนิทกับสูทสีเดียวกันทั้งชุด ทำให้่บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองในร้านค่อย ๆ ถูกทำลายลงจากผู้แปลกแยกคนนี้

    ..แสงแดดอันอบอุ่นซึ่งสาดส่องอยู่ภายในร้านราวกับจะเลือนหายไปเมื่อคนผู้นี้ย่างกรายเข้ามา..

    " จะรับอะไรดีคะ "
    " กาแฟ " ชายหนุ่มตอบคำถามโดยไม่มองคู่สนทนา

    หลังจากได้ของที่สั่งแล้ว บริเวณที่ลูกค้าหน้าใหม่ใช้บริการด้านในสุดของร้านก็ราวกับกลายเป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งแสงใดก็ไม่อาจส่องถึง ไม่มีรอยยิ้ม หรือท่าทางเปี่ยมไมตรีให้ผู้ใด แต่เพราะในร้านวันนี้มีลูกค้ามาเยอะกว่าปกติ จึงสามารถกลบบรรยากาศอันมืดหม่นจากชายแปลกหน้าได้ ผู้เร้นกายอยู่ในมุมมืดจึงลอบมองทุกการเคลื่อนไหวภายในร้านได้โดยไม่มีผู้ใดสังเกต

    " พี่ฮิโรกิลูกค้าคนนั้นแปลกจัง " ฮิโรมิเดินเข้ามาหาเพื่อนคุยระบายความอึดอัดที่ได้รับ แต่ผู้เป็นพี่หาได้สนใจเธอไม่
    " กลับไปนอนพักเลยเจ้าเปี๊ยก "
    " ผมไม่ใช่เจ้าเปี๊ยก " คนถูกล้อเถียงกลับทันที นาโอะและฮิโรกิอายุเท่ากัน แต่ด้วยร่างกายผอมบางที่มักจะไม่สบายอยู่เป็นประจำ ทำให้ฮิโรกิมองเป็นเหมือนน้องชายอีกคนที่ต้องดูแลเสียมากกว่า

    ฮิโรกิจำได้ว่าในวันที่ย้ายเข้ามายังร้านสไมล์แห่งนี้ ห้องด้านข้างมีนาโอะและทารกน้อยวัยไม่ถึงปีซึ่งมาสเตอร์บอกว่าเป็นน้องชายของนาโอะอยู่ก่อนแล้ว เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่ภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนธรรมดาทั่วไปล้มป่วยบ่อย ผิดกับทารกน้อยที่แข็งแรงโตวันโตคืน ลำบากผู้มาใหม่ต้องดูแลคนป่วยและเด็กน้อยเป็นประจำ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบที่ทั้งสามคนสนิทสนมจนคุยกันได้แทบทุกเรื่อง ฮิโรมิถึงกับขอให้่นาโอะเป็นพี่ชายอีกคนของตน ซึ่งเจ้าของเรือนผมสีอ่อนก็ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ

    แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งที่สองพี่น้องคิดไปเองฝ่ายเดียว ภายใต้รอยยิ้มของเพื่อนข้างห้องผู้ขี้โรคมีบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าตัวเก็บงำเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ความระแวดระวังผิดปกติทุกครั้งที่ต้องเหยียบย่างออกไปภายนอก คำพูดสุภาพเรียบร้อยราวกับเจ้าตัวเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอยู่เสมอ ทำให้ฮิโรกิรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แต่เขาก็เลือกมองข้ามสิ่งเหล่านั้นมาตลอด

    ..ตราบเท่าที่นาโอะยังมีความสุขเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว..

    " มีอะไรเหรอฮิโรมิ " ร่างผอมบางถือโอกาสเปลี่ยนบทสนทนาให้ห่างไกลจากปมด้อยของตน ด้วยการทักผู้ที่ยืนทำหน้าบูดบึ้งอยู่นานแล้ว

    " ลูกค้าคนนั้นน่ะสิ แปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ "
    หญิงสาวพูดพลางทำหน้าบุ้ยใบ้ไปยังโต๊ะในมุมสุดของร้าน ชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทดำสนิทนั่งหันข้างให้ แว่นตาบดบังใบหน้าไปกว่าครึ่งทำให้มองเห็นได้ไม่ถนัดนัก กระนั้นใบหน้าขาวของนาโอะก็ซีดลง พร้อมฝ่ามือที่เปียกชื้นขึ้นมา ลำคอตีบตันราวกับลืมวิธีเปล่งเสียงไปเสียสิ้น

    ..ชุดสูทสีดำเหมือนกับคน ๆ นั้น..

    " แล้วไงล่ะฮิโรมิ แค่พนักงานบริษัททำเท่ใส่แว่นดำเข้าร้านเค้กมีอะไรแปลกนักเหรอไง " ฮิโรกิถามกลับด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก
    " แปลกสิ เอ๋ พี่นาโอะเป็นอะไรไป " ฮิโรมิเริ่มสังเกตได้ถึงอาการผิดปกติของคนที่อยู่ ๆ ก็เงียบไป
    " ปะ..เปล่า ไม่มีอะไร "
    " นายกลัวพนักงานบริษัทเหรอไง หน้าซีดเชียว "
    เจ้าของดวงตาสีอ่อนมักไม่พอใจทุกครั้งที่ฮิโรกิล้อเลียนตน แต่ครั้งนี้เขากลับนึกขอบคุณคำพูดเหล่านั้นเป็นครั้งแรกที่ช่วยเตือนสติเอาไว้ แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ก็ตาม

    ..แค่พนักงานบริษัทคนหนึ่งเท่านั้น เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ ชุดสูทสีดำไม่ว่าใครก็ใส่ได้ทั้งนั้นแหละ..


    " ถ้างั้นผมไปรับเทะซึโอะก่อนนะ "
    มือเรียวถอดหมวกทรงสูงและชุดผู้ช่วยออกวางบนเก้าอี้ คว้าหมวกใบโตได้ก็นำมาใส่ก่อนผลุนผลันออกจากร้านไปโดยไม่หันไปมองคู่สนทนา หรือลูกค้าแปลกประหลาดคนนั้นอีก เส้นผมสีอ่อนยาวประบ่าซึ่งถูกรวบไว้ไหวไปมาตามจังหวะการก้าวเดินที่รีบร้อน เขาไม่ต้องการเห็นอะไรก็ตามที่เชื่อมโยงถึงเรื่องนั้นมากไปกว่านี้อีก จึงเลือกที่จะเลี่ยงออกมา

    " พี่นาโอะรักเทะซึโอะคุงจังเลยน้า ตามไปรับไปส่งตลอดเลย "
    หญิงสาวพูดขึ้น พลางนึกไปถึงเด็กชายตัวน้อยน้องชายของนาโอะที่อยู่ในวัยกำลังซนเป็นที่รักของทุกคนในร้าน ปีนี้เทะซึโอะอายุครบ 5 ขวบและเพิ่งเข้าโรงเรียนอนุบาลได้ไม่นาน ผู้ที่ไปรับไปส่งตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิกทุกวันคือนาโอะผู้เป็นพี่ คนที่ทำให้นาโอะที่อิดออดไม่ยอมออกไปไหนมาไหนเท่าไหร่นัก ยอมไปปรากฏกายข้างนอกบ่อยครั้งขึ้นคงมีแต่เทะซึโอะคนเดียวเท่านั้น

    " อยากได้นาโอะมาเป็นพี่แท้ ๆ เหรอไงยัยฮิโรมิ "
    " แต่แปลกจัง วันนี้พี่นาโอะรวบผมออกไปข้างนอก "

    ฮิโรมิหาได้ใส่ใจคำถามแกมประชดนั้นไม่ ดวงตาดำสนิทเฉกเช่นเดียวกับผู้เป็นพี่มองตามร่างที่เดินอยู่ด้านนอกจนสุดสายตา ที่ผ่านมาไม่ว่ายังไงเมื่อต้องออกจากร้าน ทุกครั้งนาโอะจะสวมหมวกใบโตจนแทบมองไม่เห็นใบหน้า ไม่ว่าอากาศจะร้อนสักแค่ไหนก็จะปล่อยผมลงมาเสมอ หญิงสาวสรุปความเอาเองว่าพี่ชายต่างสายเลือดคนนี้คงรีบร้อนจนลืมทำสิ่งเหล่านั้นไป

    แสงแดดอันอบอุ่นสาดลงบนร่างที่ก้มหน้าก้มตาเดินอยู่ติดกระจกร้าน ทำให้ดวงตาภายใต้แว่นดำเห็นสิ่งที่พยายามจะสังเกตตั้งแต่วินาทีแรกที่นาโอะปรากฏกายออกมาจากหลังร้านหลังต้นบนต้นคอขาวได้อย่างชัดเจน


    ..รอยสักไม่มีวันลบเลือนดั่งอดีตซึ่งไม่อาจหลบเลี่ยงได้..


    " ในที่สุดก็เจอจนได้ หนูทดลองหมายเลข 23 "

TBC


หมดสต็อก ตอนต่อไปอาจจะดองเล็กน้อยค่ะ

เรื่องนี้ไม่ได้ออกแนวเครียด เลือดสาดอย่างที่คิดนะคะอย่าเพิ่งจิ้นกันไปไกล XD




หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 09-05-2010 14:36:54
จิ้มๆๆๆๆๆ อีป้าแก่ๆ ก็ต้องรอต่อไป +1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 09-05-2010 14:50:29
อ๊ากกก

ไรเตอร์อย่าดอง  ได้โปรดดด :z3: :z3:

เจอแล้วว  เจอกันแล้ววว

อ๊ากกก   ไรเตอร์เรากำลังจะบ้า

ชอบอ่าาา  เลวๆร้ายๆดี  ชอบบ :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 09-05-2010 15:10:36
มาให้กาลังใจไรเตอร์   อย่าดองนานนะ คนอ่านจะขาดจายยย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-05-2010 16:20:27
เปิดเรื่องมาอ่านแล้วสงสารเด็กๆ เลย แต่ตอนนี้เอาใจช่วย 23 ก่อนดีกว่า ตามจนเจอแล้วอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 09-05-2010 17:07:32
อย่าดองเลยน๊า และที่สำคัญอย่าเครียดเลือดสาดเลย เค๊ากล้วววว >.<
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 09-05-2010 21:12:07
ไอ้พวกคนเลว กัดไม่ปล่อยเหมือนหมาเลยนะ ไปตายให้หมดเลยไป๊ พวกคนเลว :angry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 09-05-2010 23:33:10
รอติดตามๆๆนะค๊า..อย่าหายนานเน้ออ อิอิ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 2] (09/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 10-05-2010 15:05:10
Miracle 03

    ..ใกล้จะได้เวลาจับหนูเลี้ยงไม่เชื่องกลับเข้ากรงแล้ว..

    ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำนั่งอยู่ในคันหรูเผยรอยยิ้มออกมา พลางจ้องมองไปยังร่างผอมบางที่ยืนคอยเวลาเลิกเรียนอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ฝ่ามือเรียวแกะหนังยางรัดผมออกขณะที่สีหน้ายังซีดเซียวไม่เปลี่ยน

    ..หากอยากหนีให้รอดจงอย่าประมาท..

    เซย์จิดับเครื่องยนต์แล้วนั่งเอนหลังพิงเบาะอย่างคนอารมณ์ดี ในที่สุดอดีตอันผิดพลาดที่คอยตามรบกวนอยู่ทุกค่ำคืนตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาก็ถึงเวลาสะสางเสียที ใครจะคิดว่าผู้ที่ตามหามาตลอดอยู่แค่ใต้จมูกนี่เอง สองวันก่ิอนมีสายรายงานมาว่าพบผู้ต้องสงสัย น่าจะเป็นหนูที่ลอบหนีออกไปเมื่อหลายปีที่แล้วอยู่ในร้านเค้กไม่ไกลจากที่ตั้งองค์กรนัก เพียงแค่เห็นรูปผู้ต้องสงสัย แม้จะพยายามอำพรางใบหน้าด้วยหมวกใบโต ทว่าร่างสูงโปร่งแต่กลับผอมบาง เรือนผมสีอ่อนตามธรรมชาติ และผิวขาวสะอาดตาไม่ต่างไปจากวันสุดท้ายที่เห็นในห้องขังเดี่ยว ทำให้เซย์จิมั่นใจว่าใช่ไม่ผิดแน่ 

 หากไม่ได้ลงมือจัดการด้วยตัวเองความอัปยศและคับแค้นใจที่ถูกหยามหน้า ซึ่งตามรังควานมาตลอดคงไม่หมดไปง่าย ๆ ด้วยเหตุนี้เซย์จิที่เป็นถึงบอสสูงสุดจึงตัดสินใจลงมาเล่นไล่จับหนูด้วยตัวเอง

    หนูตัวแรกผู้อาจหาญหลบหนีออกมา อาศัยอยู่ในเงามืดอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ
    และเป็นหนูตัวสุดท้ายที่ SW เลินเล่อพลาดท่าปล่อยให้มันฉกฉวยโอกาสเอากับช่องว่างจนหลุดออกไปได้

    " พี่นาโอะ "

 เด็กน้อยร่างเล็กคนหนึ่งวิ่งออกมาจากประตูโรงเรียนเป็นคนแรกได้ก็พุ่งตรงเข้ากอดนาโอะที่ยืนคอยอยู่ทันที ผู้เฝ้ามองจากอีกฝากฝั่งถนนหยัดกายขึ้นนั่งหลังตรงโดยไม่รู้ตัว จ้องมองไปยังเป้าหมาย เด็กชายตัวสูงเท่าสะโพกเพรียว สีตาและผมแม้จะไม่จางเท่านาโอะแต่ก็ถือว่าอ่อนเกินกว่าคนปกติทั่วไป ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเซย์จิก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเด็กคนนี้คือผลการทดลองที่ประสบผลสำเร็จของโปรเจค ซึ่งมีอันต้องล้มเลิกไปเพราะการหลบหนีของหมายเลข 23

    " วันนี้เป็นเด็กดีหรือเปล่าเทะซึจัง " นาโอะหยิบกระเป๋าเป้ของเทะซึโอะมาถือเอาไว้เอง
    " ครับ "
    " เรารีบกลับร้านกันเถอะ "
    " ทำไมล่ะครับ " เทะซึโอะเอียงคอถามด้วยความสงสัย

    ฝ่ามือที่กำลังจูงให้เทะซึโอะเดินตามกันมาหยุดค้างลงกะทันหัน ทั้งที่ปลอบตัวเองไปว่าชายสูทดำคนนั้นเป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดา ทว่าไม่ว่าจะทำยังไงก็สลัดความรู้สึกกระวนกระวายใจที่เข้าเกาะกุมจิตใจอย่างไม่ทราบสาเหตุออกได้เลย เหมือนเมื่อหลายปีที่แล้วที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง ไม่กล้าแม้แต่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง

    ..อยากจะกลับไปซ่อนตัวในที่ลับที่มีเพียงมาสเตอร์และสองพี่น้องคนสนิทเท่านั้นที่รู้..

    " มาสเตอร์ทำเค้กไว้ให้ บอกให้เทะซึจังรีบกลับไปกินเร็ว ๆ น่ะ " นาโอะแกล้งทำเป็นมองพื้นด้วยความรู้สึกผิดที่ต้องโกหกออกไป แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้สังเกต ดวงตาพราวระยับจ้องมองแล้วถามเสียงดัง
    " จริงเหรอฮะ! "
    " อื้ม รีบกลับกันเถอะ " ฝ่ามือที่จับจูงกันอยู่ถูกมือเล็ก ๆ กระตุกให้หลุดออกจากกัน ก่อนเทะซึโอะจะวิ่งนำออกไป

 " งั้นพี่นาโอะกับผมวิ่งแข่งกันไปให้ี้ถึงร้านเลยนะฮะ ใครแพ้อดกินเค้กด้วย " ขาสั้น ๆ พาเจ้าของร่างออกวิ่งเลี้ยวผ่านมุมถนนไป เพียงแค่นั้นก็ทำให้ใบหน้าขาวดูไร้สีเลือดยิ่งกว่าเดิม

    ..จะปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เด็ดขาด ถ้าคนพวกนั้นมาเจอเข้า..

    นาโอะไม่อยากจะจินตนาการถึงเรื่องราวต่อจากประโยคคาดเดาในหัวเลย เขาไม่ต้องการให้เด็กคนนี้ประสบชะตากรรมเดียวกับตน

    " เดี๋ยวก่อนเทะซึจัง! "
    เจ้าของเรือนผมสีอ่อนจำไม่ได้ว่าหลังวิ่งเลยมุมถนนไปแล้วเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง รู้แค่ว่าเห็นเทะซึโอะกำลังวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถบรรทุกซึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูง รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่กลางถนนในสภาพแผลถลอกเต็มจากการไถลตัวกับพื้นคอนกรีต โดยมีเทะซึโอะที่ไร้แม้รอยขีดข่วนอยู่ในอ้อมแขน กระนั้นเจ้าหนูก็แผดเสียงร้องไห้ด้วยความตกใจ

    แน่นอนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้หลุดรอดสายตาของผู้ที่เฝ้ามองอยู่ในรถเลยแม้แต่น้อย ฝ่ามือใหญ่กำแน่นอย่างสุดจะทนได้

    ..นายคิดจะทำอะไรกับผลการทดลองของฉัน!..

---------

    " จริง ๆ เลยเทะซึจัง วันหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรไป "
    ฮิโรมิบ่นกระปอดประแปดหันไปทำตาเขียวใส่ผู้ต้องหาที่นั่งก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ด้านข้าง ขณะที่สองมือกำลังยุ่งอยู่กับการทำแผลให้นาโอะ เมื่อเช็คจนแน่ใจว่าผ้าพันแผลพันแน่นเรียบร้อยการปฐมพยาบาลจึงสิ้นสุดลง
    
    " ขอโทษครับ " เด็กชายทำตัวลืบลงยิ่งกว่าเดิม เทะซึโอะลืมเรื่องเค้กไปเสียสนิท
    " คราวหลังก็ระวังด้วยล่ะ "
    หญิงสาวยังคงบ่นเป็นหมีกินผึ้งต่อไป ถ้าเรื่องไม่จบลงที่ทุกคนปลอดภัยดี แต่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไปเธอคงไม่รู้จะทำยังไงดี บรรยากาศในร้านจึงค่อนข้างอึมครึมด้วยความซึมเศร้าจากเด็กที่มักจะสร้างเสียงหัวเราะในร้าน กับอาการคล้ายภูเขาไฟใกล้ระเบิดจากฮิโรมิซึ่งหาดูได้ยาก

    " เทะซึจังมานี่สิ "
    นาโอะเรียกคนที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง เมื่อเจ้าตัวเดินมาถึงหาเขาก็จับตัวน้องชายสำรวจร่องรอยความเสียหายทันที อันที่จริงระหว่างเดินกลับมาที่ร้านได้ตรวจดูไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเห็นเทะซึเอะนั่งซึมก็อดคิดไม่ได้ว่ามีตรงไหนได้รับบาดเจ็บเข้าหรือเปล่า หลังสำรวจจนแน่ใจอีกครั้ง เรียวปากบางจึงวาดรอยยิ้มออกมา ถึงจะต้องเป็นอะไรมากกว่านี้ก็ยอม ขอแค่เทะซึโอะปลอดภัยก็พอแล้ว

    เมื่อย้อนคิดไปถึงชั่วขณะที่เผลอจินตนาการถึงร่างไร้วิญญาณนอนจมกองเลือดของน้องชาย นาโอะก็รู้สึกราวกับสูญเสียตัวตนอีกครึ่งนึงไป หากเป็นเช่นนั้นจริงจะทำยังไง แม้แต่ตัวเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้ แต่ดีแล้วที่คนสำคัญของเขายังอยู่ตรงหน้า ยังมีชีวิตและมอบรอยยิ้มอันอบอุ่นให้ แขนเพรียวโอบกอดเทะซึโอะเอาไว้แน่น ราวกับจะยืนยันถึงตัวตนที่ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน

    ..ต้องปกป้องชีวิตน้อย ๆ ที่เฝ้าเลี้ยงดูมาให้ได้ ให้เติบใหญ่อยู่ท่ามกลางแสงสว่าง ทดแทนในส่วนของเขาที่ถูกฉุดกระชากลงขุมนรกมาแล้วครั้งหนึ่ง..

------------------------------

    วันนี้เป็นวันหยุด ร้านสไมล์ก็หยุดทำการหนึ่งวัน ดังนั้นทุกคนจึงยังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอบอุ่นไม่ยอมตื่นง่าย ๆ  เว้นเสียแต่เด็กชายที่รอดชีวิตจากการถูกรถชนเมื่อวานได้อย่างหวุดหวิดตื่นเช้าก่อนใครเพื่อน เทะซึโอะตั้งใจจะมาช่วยรดน้ำต้นไม้หน้าร้านแทนฮิโรมิเพื่อชดเชยความผิดเมื่อวาน

    " พี่นาโอะบอกให้รดน้ำเยอะ ๆ คุณต้นไม้จะได้โตไว ๆ ออกดอกสวย ๆ "
    เทะซึโอะคุยกับตัวเอง พลางค่อย ๆ รดน้ำให้สิ่งมีชีวิตสีเขียวอย่างตั้งอกตั้งใจ จนไม่ทันได้รู้สึกถึงร่างสูงโปร่งที่มาหยุดยืนอยู่ด้านหลังนานแล้ว

    ..ราวกับเงาร้ายที่คืบคลานเข้าหาด้วยประสงค์ร้าย..

    " รดเสร็จทุกคนจะได้ชมว่าเทะซึจังเป็นเด็กดี...!! "
    ทุกอย่างพลันมืดลงเมื่อได้กลิ่นหอมหวานของอะไรบางอย่าง ไม่นานนักเด็กชายก็หมดสติลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเสียด้วยซ้ำ


    ..นั่นเป็นเช้าวันที่เทะซึโอะถูกพรากจากอ้อมกอดอันอบอุ่นของร้านสไมล์..

TBC

ตอนนี้อ่านแล้วไม่งงกันใช่มั้ยคะ OTL
แอบคิดว่าอาจจะมีคนไม่ชอบเรื่องแปลกๆแบบนี้บ้างแต่ก็แต่งมาแล้วล่ะค่ะ แต่งไปอายไป ฝากเนื้อฝากตัวกันอีกตอนนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-05-2010 17:39:38
เอ่อ  ยังจับประเด็นไม่ค่อยได้ว่าเป็นการทดลองเกี่ยวกับอะไร
เรื่องแหวกแนว  ลึกลับ  น่าตื่นเต้นดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 10-05-2010 17:41:26
น่าสนุกดีค่ะ แนวนี้ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่ แต่ชอบนะคะ
หมายเลข 23 กับผลการทดลอง อืม..อดคิดไม่ได้ว่าหนูน้อยเทะซึจังเนี่ย เป็นลูกของนาโอะรึป่าว
(ก้อเดากันไป หุหุ ) เอาเป็นว่าจะติดตามต่อไปนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 10-05-2010 20:55:23
เป็นโคลนนิ่งเหรอ แล้วโดนอิตาโหดจับไปแล้ว ทำไงดีอ่า
+ ให้จ้า ชอบนะ แหวกแนวดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 10-05-2010 21:50:50
ไอ้พวกคนจัยร้ายยยยย พวกแกยังทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไม่เยอะพออีกหรอ :angry2:
อย่าทำอะไรเทะซึจังน๊า :m15: แล้วนาโอะจะเป็นยังไง จะเจ็บปวดแค่ไหนที่รู้ว่าเทะซึจังหายไป :m15: กระซิก ๆ :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 11-05-2010 01:20:05
เทะซึโดนจับไปแย้วๆๆๆๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-05-2010 12:58:30
เทะซึโอะ ม่ายยยยยยยยยย นะ  รีบๆไปช่วยเร็วเข้า :serius2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 11-05-2010 13:22:15
นาโอะกับเด็กน้อยเป็นพี่น้องกัน??

เด็กน้อยนั่นเป็นผลการทดลอง??

ทำไมไม่จับตัวนาโอะไปแทนละ?? ในเมื่อนาโอะเป็นหนูทดลอง??

งงงงงงงง :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 3] (10/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 11-05-2010 21:17:50
Miracle 04


    ในระยะเวลาสามวันหลังจากเทะซึโอะหายตัวไป ทั้งนาโอะ ฮาจิเมะและสองพี่น้องพยายามออกตามหาจนทั่ว แต่ไม่ว่าจะค้นหาสักเท่าไหร่ หรือสอบถามคนรู้จักสักเพียงใด ก็ไม่มีใครพบร่องรอยอะไรเลย แต่พวกเขายังไม่เลิกล้มความตั้งใจ วันนี้ทุกคนให้นาโอะคอยอยู่ที่ร้าน เผื่อมีใครอ่านประกาศหาเด็กหายแล้วมาแจ้งเบาะแสบ้าง เพราะเป็นความคิดที่ดีนาโอะจึงยอมตกลง แต่ไม่นานนักก็ต้องนึกเสียใจที่ไม่ออกไปตามหาเหมือนเช่นทุกวัน ยิ่งอยู่เฉยก็ยิ่งกระวนกระวาย ยิ่งไม่มีใครอยู่ด้วยก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ความกังวลและห่วงหาเข้าเกาะกุมจิตใจดั่งเนื้อร้ายฝังรากลึก

    หากเป็นโจรเรียกค่าไถ่ก็น่าจะติดต่อกลับมาตั้งแต่วันแรกที่ลักพาตัวไป ความคิดนี้จึงถูกตัดทิ้งไป พอคิดว่าอาจไปเล่นซนจนประสบอุบัติเหตุที่ไหนเข้าก็ยิ่งไม่น่าใช่ใหญ่ เพราะสายยางรดน้ำต้นไม้ถูกวางทิ้งอยู่โดยที่ยังเปิดน้ำทิ้งเอาไว้ ราวกับเทะซึโอะซึ่งน่าจะใช้เป็นคนสุดท้ายได้สลายหายตัวเป็นอากาศธาตุไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าเทะซึโอะจะเกิดมาจากอะไร เด็กชายก็ยังเป็นคนธรรมดา ไม่ได้มีอะไรแปลกแตกต่างจากผู้อื่น ข้อสันนิษฐานนี้จึงไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย

    ถ้างั้นเด็กชายไปอยู่ที่ไหน ความคิดทั้งหมดทั้งมวลไปหยุดอยู่ที่ภาพชายสูทดำที่เห็นเมื่อหลายวันก่อน นาโอะไม่กล้าจินตนาการอะไรต่อไปอีกด้วยความกลัวที่ท่วมท้นขึ้นอย่างไม่อาจห้ามได้

    ในตอนที่เจ้าของเรือนผมสีอ่อนกำลังทบทวนคิดถึงที่ซึ่งเทะซึโอะน่าจะไป เบาะแสที่เฝ้าคอยก็มาเยือนดังหวัง ทว่ากลับเป็นเบาะแสที่นาโอะภาวนาจากก้นบึ้งให้เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะขอให้เกิดขึ้น บุรุษในชุดสูทดำหยุดยืนอยู่หน้าร้าน ฝ่ามือใหญ่ผลักประตูกระจกให้เปิดออกอย่างอุกอาจ โดยไม่คิดแม้แต่จะขออนุญาตผู้ที่อยู่ด้านใน ขายาวพาเจ้าของร่างไปหยุดยืนอยู่ต่อหน้าผู้ที่อยู่เพียงลำพังในร้าน ปากเรียวเหยียดยิ้มอย่างผู้ชนะขณะกล่าวทักทายนาโอะ

    " ไงหมายเลข 23 ยังจำฉันได้มั้ย "
    " เซย์จิซัง...." เสียงที่เปล่งออกไปแผ่วเบานัก ร่างทั้งร่างเหมือนถูกนัยน์ตาดำสนิทจับจ้องให้ตรึงอยู่กับที่ไม่สามารถขยับตัวได้
    " เก่งนี่ยังจำกันได้ด้วย ชีวิตข้างนอกสนุกมั้ยล่ะ "
    " ทำไมคุณถึง.."

    ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคเซย์จิก็เอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเนียนซึ่งตอนนี้ซีดจนไร้สีเลือด สัญชาติญาณสั่งให้รีบหนีโดยเร็ว แต่ร่างกายกลับอยู่เหนือการควบคุม ฝ่ามือทั้งสองข้างเย็นเฉียบราวกับเลือดในกายถูกดวงตาคมกริบที่จ้องลึกเข้ามาในดวงตาแช่แข็งเอาไว้ นาโอะทำไม่ได้แม้แต่จะหลบสายตา

    " ไม่ต้องทำท่าตื่นตกใจขนาดนั้นก็ได้ ยังไงซะเราก็เคยรู้จักกันมาก่อน ฉันไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย "
    ชายหนุ่มละมือออกจากแก้มเนียนก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง นาโอะจึงค่อยรู้สึกหายใจได้ขึ้นมาบ้าง แล้วรวบรวมสติที่กระจัดกระจายกลับคืนมาได้ในที่สุด ก่อนเริ่มใช้สมองประมวลข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ด้วยตำแหน่งและอาชีพของเซย์จิไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมาที่นี่ได้ คำถามเมื่อครู่น่าจะเปลี่ยนเป็นต้องการอะไรเสียมากกว่า

    " ผมไม่เคยอยากรู้จักคนอย่างคุณสักนิด " ร่างผอมถอยหลังออกมาคล้ายจะตั้งหลักก่อนรวบรวมความกล้ากล่าวออกมา

    ..นาโอะไม่เคยคิดอยากรู้จักคนที่ทำให้เขาต้องตกนรกทั้งเป็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว..


    เซย์จิเป็นบุคคลซึ่งเลวร้ายยิ่งกว่าซาตานที่เคยอ่านในหนังสือสมัยเด็กหลายเท่า จิตใจมืดดำยิ่งกว่าขุมนรกชั้นสุดท้าย นาโอะในอดีตเป็นเด็กชายสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด แต่เคราะห์ร้ายถูกผู้ให้กำเนิดทอดทิ้งตั้งแต่เด็กจนต้องเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โชคชะตายิ่งกลั่นแกล้งหนักกว่าเดิม เมื่อรู้ว่าพ่อแม่บุญธรรมที่เฝ้าฝันถึงมาตลอดมีฉากหลังเป็นองค์กรลับใต้ดิน SW ซึ่งกว้านซื้อเขามาพร้อมเพื่อนอีกจำนวนไม่น้อย เพื่อฟูมฟักให้เป็นหนูทดลองชั้นเลิศ

    นรกบนดินเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วันแรกที่เหยียบย่างเข้ามาในโลกเบื้องหลังแสงสว่าง นาโอะไม่รู้ว่าชายที่เดินสวนทางกันตอนกำลังถูกต้อนเข้าไปในห้องขังรวมเป็นใคร รู้แค่ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนพากันโค้งให้อย่างนอบน้อม ผิดกับการกระทำก้าวร้าวที่ปฏิบัติต่อเขาและเพื่อนยิ่งนัก ในคืนเดียวกันนั้นเองชายแปลกหน้าที่นาโอะไม่สนใจแม้แต่จะมองเรียกเข้าไปหาในยามดึก และแนะนำตัวว่าชื่อเซย์จิ เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ก่อตั้ง SW

    นาโอะในสมัยเด็กมีใบหน้าสวยหวานไม่แพ้หญิงสาวจึงไม่แปลกที่จะถูกใจเซย์จิ ซึ่งในสมัยนั้นเพียงเป็นหนุ่มน้อยอายุ 18 กำลังศึกษางานในโลกมืดและใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาคณะบริหารในโลกธรรมดา เพื่อสืบทอดกิจการทั้งหมดต่อจากผู้เป็นพ่อในอนาคต

    สิ้นคำทักทายการล่วงเกินอย่างจาบจ้วงจึงเริ่มต้นขึ้น เด็กน้อยนาโอะถูกข่มขืนอย่างไร้ความเมตตาตลอดทั้งคืนจากชายที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก ก่อนถูกพากลับห้องขังซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับเขาเพียงคนเดียว คืนต่อมาและคืนถัดไปนาโอะถูกย่ำยีอีกนับครั้งไม่ถ้วนจากเซย์จิ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะขัดขืนต่อต้านได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นชายร่างสูงใหญ่ซึ่งเติบโตเต็มวัยแล้ว ในขณะที่นาโอะเป็นเพียงเด็กอายุ 12 ซึ่งถึงจะเรียกได้ว่าแข็งแรงกว่าเด็กทั่วไป แต่ก็ไม่อาจสู้แรงผู้สูงวัยกว่าได้อยู่ดี

    สองปีผ่านไปสำหรับการถูกกระทำเยี่ยงเครื่องระบายอารมณ์ นรกขุมใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น หนึ่งเดือนก่อนถึงวันเกิดอายุครบ 14 ปีของนาโอะ เซย์จิเลิกเข้ามาข้องแวะด้วยอย่างสิ้นเชิง เป็นช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่นาโอะมีความสุขมากราวกับไม่เคยได้ลิ้มรสความสุขมาก่อนเลยในชีวิต จนกระทั่งมาตระหนักได้ว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาให้ร่างกายที่บอบช้ำได้พักฟื้น เพื่อเตรียมพร้อมเข้ารับการทดลองอันไร้มนุษยธรรม

    นาโอะไม่รู้ว่าการต้องดูเพื่อนร่วมทดลองถูกฉีดยาแปลกประหลาดเข้าร่างกาย และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งจนแทบเสียสติตามไปด้วย กับการถูกข่มขืนเกือบทุกค่ำคืนอย่างไหนมีความสุขกว่ากัน ทุกวันต้องเฝ้าดูร่างกายของเพื่อนถูกทำให้เปลี่ยนรูปไป บางคนหน้าท้องปูดบวมราวกับจะปริออก บางคนอาเจียนเป็นเลือดออกมาตลอดเวลา สุดท้ายทุกคนก็เสียชีวิตลงในฐานะหนูทดลองที่ประสบความล้มเหลว ดวงตาสีอ่อนได้แต่เฝ้ามองภาพเหล่านั้น แล้วนั่งนับวันถอยหลังที่การทดลองจะเวียนมาถึงตนอย่างสิ้นหวัง

    การทดลองทรมานกว่าที่จินตนาการไว้หลายร้อยเท่า จนอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย เพราะตัวนาโอะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารเคมีต่างจากหนูตัวอื่น หรือเหล่านักวิทยาศาสตร์เปลี่ยนวิธีก็ไม่อาจทราบได้ นาโอะจึงถูกทดลองด้วยกระบวนการต่าง ๆ มากมายถึงสามปีเต็ม สุขภาพที่เคยแข็งแรงอ่อนแอลงทุกวันจากผลข้างเคียงของตัวยาที่ฉีดเข้าไปภายในร่าง แทบจะกล่าวได้ว่าเด็กหนุ่มไม่ได้เจริญเติบโตตามมาตรฐานปกติเท่าใดนัก ร่างกายถึงได้ซูบผอม ผิวที่ขาวอยู่แล้วกลับยิ่งซีดลง

    นาโอะทั้งโกรธทั้งเกลียด และสาปแช่งทุกคนในองค์กรลับอยู่ทุกคืนวัน วันหนึ่งโอกาสก็มาถึงเมื่อได้ยินนักวิทยาศาสตร์คุยกันว่าเขาอาจเป็นหนูทดลองที่ประสบผลสำเร็จก็เป็นได้ นับจากนั้นเด็กหนุ่มจึงถูกแยกไปอยู่ห้องขังเดี่ยว ได้รับการฟูมฝักอย่างดี ร่างกายที่ทรุดโทรมลงค่อยฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่อาจกลับไปแข็งแรงดังเดิมได้อีก

    ขณะที่นาโอะเฝ้าสงสัยว่าการทดลองที่สำเร็จแล้วคืออะไรกันแน่ เซย์จิซึ่งในตอนนั้นกลายเป็นหัวหน้าสูงสุดขององค์กรจากการเสียชีวิตของบุพการีทั้งสองก็มาหาในคืนหนึ่ง แววตาที่ไร้ความเป็นมนุษย์ยิ่งกว่าเก่าเหยียดมองมาพร้อมรอยยิ้มพึงพอใจ

    " เสียใจด้วยนะหมายเลข 23 ที่ไม่ได้ตายอย่างที่หวังไว้สักที ขอต้อนรับสู่ขุมนรกตลอดกาล ฉันจะใช้นายให้คุ้มกับเงินที่ซื้อมาเลยล่ะ "

    ด้วยคำพูดนั้นนาโอะจึงตัดสินใจหลบหนีในอีกสองคืนถัดมา แม้ความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จแทบไม่มีเลยก็ตาม


    ..ไม่ว่าการทดลองที่พวกคุณกำลังพยายามทำอยู่จะเป็นอะไร ผมจะไม่ยอมให้พวกคุณได้มันไปเป็นอันขาด..

    หลังจากหนีออกมาสำเร็จ และได้รับการช่วยเหลือจากฮาจิเมะอย่างปาฏิหาริย์ ชาวโอซาก้าใจกว้างก็ตั้งใจฟังทุกอย่างที่นาโอะเล่าถึงอดีตทุกอย่างของตน พร้อมกับรับอุปการะนาโอะซึ่งไร้ที่พึ่งไว้โดยไม่เกรงกลัวอำนาจมืดแต่อย่างใด ไม่นานนักหน้าท้องที่มักจะปวดอย่างรุนแรงมาตลอดเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ คล้ายมีตัวอ่อนของอะไรสักอย่างเกาะฝังคอยดูดซึมชีวิตไปหล่อเลี้ยงตนเองอยู่ แต่นาโอะกลับไม่รู้สึกทรมานจากอาการปวดอีกต่อไป ราวกับร่างกายเริ่มปรับตัวรับสิ่งแปลกปลอมได้แล้ว

    เพราะอะไรบางอย่างในจิตใต้สำนึกคอยห้ามไว้อยู่ตลอด นาโอะจึงไม่กล้าจัดการกับก้อนเนื้อนั้นเสียที ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลัวในความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายก็เป็นได้ นาโอะเคยคิดว่าบางทีนี่อาจเป็นความผิดพลาดของนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น และตัวเขาก็เป็นอีกหนึ่งในความล้มเหลว หรือเป็นเพราะไม่ได้อยู่ในการดูแลของผู้ทำการทดลอง ผลงานที่ประสบความสำเร็จจึงไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นก็เป็นได้

    แต่ถึงต้องสูญเสียชีวิตที่สิ้นหวังมาตลอดไปก็ยอม ขอแค่ได้ขัดขวางไม่ให้คนพวกนั้นทำสำเร็จก็พอแล้ว


    ..นี่เป็นการแก้แค้นในรูปแบบของคนธรรมดาอย่างนาโอะ..

    ทุกอย่างกลับตาลปัตรจากที่คิดไว้เมื่ออาการปวดท้องอย่างรุนแรงกลับมาเยือนอีกครั้ง นาโอะทรมานแทบขาดใจตาย ฮาจิเมะจึงตามเพื่อนสนิทที่เป็นหมอมาช่วยดูอาการให้ถึงห้องพักบนร้าน เพื่อปกปิดการคงอยู่ของหนูทดลองที่ลอบหนีออกมาให้มิดชิดที่สุด แล้วทั้งสามก็ต้องตื่นตะลึงทันทีที่พบว่าสิ่งที่สร้างความทรมานให้เจ้าของเรือนผมสีอ่อนคือทารกเพศชายคนหนึ่ง

    สุดจะคาดเดาถึงสิ่งที่องค์กรไร้มนุษยธรรมคาดคิดอยู่ได้ นาโอะไม่รู้ว่าถูกทำอะไรบ้างตลอดการทดลองที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน จึงไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นมาอยู่ในร่างได้ยังไงและด้วยวิธีการอันใด

    ..แต่เขาก็ตัดสินใจเลี้ยงดูชีวิตลึกลับนั้นในฐานะน้องชาย.


    ความคิดหวนรำลึกถึงอดีตอันน่าอดสูถูกขัดขวางด้วยถ้อยคำที่ไม่อยากได้ยินที่สุด

    " นายไม่อยากรู้จักคนที่รู้ว่าเด็กนั่นอยู่ที่ไหนสินะ " ชายหนุ่มเหยียดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้ใจ ขณะจับตามองความเปลี่ยนแปลงของคู่สนทนาอย่างเพลิดเพลิน


    ..ฝันร้ายกลายเป็นจริง..


    นาโอะรู้สึกเหมือนหมดเรี่ยวแรงขึ้นมากะทันหัน ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนถูกสาป ครึ่งหนึ่งของชีวิตที่เฝ้าปกป้องมาตลอดถูกพรากไปอยู่ในเงื้อมมือสัตว์ร้าย ตัวเดียวกับที่เคยทำร้ายเขามาแล้วอย่างแสนสาหัส สิ่งที่เฝ้าภาวนาให้เกิดขึ้นเป็นอย่างสุดท้ายบนโลกใบนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว นาโอะรู้ดีหาก SW เจอตัวเทะซึโอะเข้าคงไม่พ้นถูกทดลองตรวจสอบมากมายในฐานะผลการทดลองเป็นแน่ เขายอมถูกกรีดเนื้อเถือหนังทั้งเป็นยังดีเสียกว่าให้ชีวิตเล็ก ๆ นั้นต้องเจอกับเรื่องที่ตนเคยประสบมาก่อน

    ลนลานจนแทบเสียความเป็นเหตุเป็นผลไป คือปฏิกิริยาลำดับถัดมาของนาโอะผู้ลืมสิ้นซึ่งความกลัวที่เคยมีตรงเข้าหาหมายจะทำร้ายร่างกาย แต่ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างกลับถูกมือใหญ่เพียงข้างเดียวจับกุมไว้โดยไร้ทางต่อต้านได้ เซย์จิเฝ้ามองผู้อยู่ในเงื้อมมือดิ้นรนและกรีดร้องด้วยความพึงใจ

    " คุณคิดจะทำอะไรกันแน่! คืนตัวเทะซึโอมาเดี๋ยวนี้! เอาคืนมา! "
    " เสียใจด้วยที่ทำให้ไม่ได้ "
    " หมายความว่ายังไง "
    " หมายความว่าฉันจะขอเอาผลการทดลองที่หายไปคืนน่ะสิ "

    ริมฝีปากเรียวบดขยี้ลงบนกลีบปากบางอย่างจาบจ้วงรุกรานด้วยความรุนแรง ราวกับจะระบายความโกรธเคืองทั้งหมดออกมาในคราวเดียว ก่อนผละออกมาเพื่อยื่นข้อเสนอบางอย่าง

    " แต่ไหน ๆ นายก็เคยเป็นคนโปรดของฉันมาก่อน ถ้ายอมทำตามที่พูดฉันอาจเปลี่ยนใจปล่อยเด็กนั่นก็ได้ "


    ..ฉันจะบีบให้นายยอมกลับลงนรกด้วยตัวเอง ให้นายต้องรับโทษทัณฑ์ที่บังอาจฉีกหน้าทำลายชื่อเสียงฉันคนนี้..


    " ตกลง "


    ..คำสัญญาของซาตานไหนเลยจะเชื่อได้..


TBC

ตอนที่แล้วมีคนบอกว่าอ่านแล้วงง อ่านตอนนี้แล้วยังงงกันอยู่มั้ยคะ ^^

หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 11-05-2010 21:54:55
ไม่งง แค่.......มึนตืบ.... 555

แต่มันก็สนุกดี ชวนให้อ่านอยู่เรื่อยๆ อะสิ

อีป้าแก่ๆ ชอบสะแล้วสิเรื่องนี้ +1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 11-05-2010 22:41:54
ดราม่ามากกกกกกกกกก :impress3:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 11-05-2010 22:52:05
แค้นมากก็เพราะรักมากชิมิค่ะ :m15:
เทะซึจังคือพยานรักของนาโอะกับเซจิชิมิค่ะ หวังว่าเซจิคงจะไม่ใจร้ายใจดำกับลูกของตัวเองหรอกนะค่ะ :m15:
เซจิทำร้ายนาโอะให้เจ็บปวดมากเท่าไหร่ คนที่จะเจ็บปวดยิ่งกว่าเป็นสองเท่าก็คือเซจิชิมิค่ะ :m15: เหลือทางรอดแห่งตัวตนและความเป็นมนุษย์ไว้ให้...นาโอะกับเทะซึจังที่ซื่อใสไร้เดียงสาแสนบริสุทธิ์...ด้วยนะค่ะ Writer :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 11-05-2010 23:26:42
ไม่อยากจะคิดถึงสิ่งที่นาโอะต้องเจอต่อไปเลย  :monkeysad:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 12-05-2010 00:24:13
อาร๊ายยย..จะเกิดขึ้นกะนาโอะอีก  :serius2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 12-05-2010 00:36:33
สงสารนาโอะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 12-05-2010 00:46:25
อ๊ากกกกกกกก

เด็กน้อยนั่นก็ต้องเป็นลูกของเซย์จิด้วยดิ

ใช่มะ????

อ๊ากกกก  เกิดอารายขึ้นเนี่ยยยย :m31: :m31:

ไรเตอร์มาต่อด่วน

WANT มากกกกกก :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 12-05-2010 01:35:08
5555 เอาอีกๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 4] (11/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 13-05-2010 19:28:56
อิเซย์จิเป็นซาตานโหดร้าย ฮือออ น่าสงสารทั้งนาโอะ เทะซึโอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] 
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 15-05-2010 21:38:33
Miracle 05


    " คิดดีแล้วเหรอนาโอะ "
    ฮาจิเมะกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด หลังฟังนาโอะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ตนออกไปตามหาเทะซึโอะให้ฟัง ตัวเขาเองใช่จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้ที่ตนรับอุปการะไว้เลย แต่เพราะรู้ทั้งหมดถึงได้ไม่กล้าเอ่ยห้ามอะไร  ข้อเรียกร้องที่เซย์จิเสนอมาดูไม่น่าไว้ใจมากก็จริง แต่หากไม่ใช่วิธีนี้ก็ไม่มีทางอื่นใดอีกที่จะสามารถช่วยเทะซึโอะได้ ในทางกลับกันหากรับข้อเสนอไปคนที่ตกอยู่ในอันตรายก็คือนาโอะเอง ไม่ว่าจะคิดในแง่ไหนก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ฮาจิเมะจึงปล่อยให้นาโอะผู้ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในโลกเบื้องหลังได้เป็นผู้ตัดสินใจเอง


    " ครับ ฝากบอกฮิโรกิกับฮิโรมิด้วยนะครับว่าผมไปหาญาติขอให้ทางนั้นช่วยตามหาเทะซึจัง "
    ฮาจิเมะสบมองแววตามุ่งมั่นของนาโอะ แล้วเหลือบมองไปยังบุรุษในชุดสูทดำที่ยืนคอยอยู่นอกร้านนานแล้ว ถึงลูกจ้างคนนี้จะพยายามแสดงออกว่าเข้มแข็ง แต่เขาก็รู้ได้จากฝ่ามือสั่นสะท้านว่าเจ้าตัวหวาดกลัวเพียงใด เจ้าของร้านเค้กกำมือแน่นอย่างคับแค้นใจ ก่อนจะย่อตัวลงกระซิบอะไรบางอย่างให้ได้ยินกันเพียงสองคน

    " ให้ฉันแจ้งตำรวจให้เอามั้ย ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะจับเซย์จิได้ "
    " ไม่ได้หรอกครับ เซย์จิซังไม่ใช่คนธรรมดา ตอนนี้ต้องพกปืนไว้กับตัวด้วยแน่ ๆ ถ้าตำรวจมาแล้วเกิดอะไรขึ้นร้านของมาสเตอร์จะเดือดร้อนนะครับ อีกอย่างผมไม่มั่นใจด้วยว่าตำรวจจะกล้าจับเซย์จิซังหรือเปล่า "

    จนซึ่งถ้อยคำจะกล่าวตอบออกไป ความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาทั่วไปกับผู้มีอำนาจเป็นดั่งตุ้มเหล็กกดทับจิตใจให้อึดอัดไปหมด ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบนานจนนาโอะตัดสินใจเอ่ยลาออกมา

    " ผมไปก่อนนะครับ "
    " ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เสมอเลยนะ ไม่ว่ายังไงที่นี่ก็ยินดีช่วยเธอเสมอ "
    " ขอบคุณมากครับ "
    เจ้าของเรือนผมสีอ่อนยิ้มรับต่อข้อเสนอของฮาจิเมะ ก่อนจะผินตัวหันหลังเดินออกจากร้านตรงไปหาผู้ที่เหยียดยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะ

    ..ถ้าผมมีโอกาสร้องขอความช่วยเหลือนะครับ..

------------------------

    ความทรงจำในอดีตเด่นชัดขึ้นทุกขณะที่เข้าใกล้ใจกลางตัวเมือง เมื่อรถคันหรูเลี้ยวเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่ง ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างก็ชื้นไปด้วยเหงื่อ รู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาด้วยสภาพอารมณ์ที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ร่างผอมบางเดินตามเซย์จิเข้าไปภายในผ่านสาวใช้มากมายที่โค้งตัวให้อย่างนอบน้อม

    บ้านหลังนี้มีอาณาบริเวณกว้างขวางที่หาได้ยากยิ่งในเมืองหลวงซึ่งราคาที่ดินแพงยิ่งกว่าทอง เจ้าของเคหสถานสวยงามพานาโอะมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องหนึ่งในชั้นสองจากบ้านที่มีด้วยกันทั้งหมดสามชั้น ก่อนเอ่ยปากพูดด้วยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหยื่อตัวน้อยยอมตกลงรับข้อเสนอ

    " ที่นี่คือห้องของนาย " เมื่อเห็นว่านาโอะพยักหน้ารับเซย์จิจึงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม เพื่อย้ำให้รู้ว่าเรื่องที่ตนกำลังพูดนั้นสำคัญ
    " จำไว้ว่าห้ามขึ้นไปบนชั้น 3 กับห้องนอนของฉันเป็นอันขาด นอกนั้นอยากจะไปที่ไหนก็ตามใจ "
    " เข้าใจแล้ว " ผู้ฟังรับคำอย่างขอไปที เขาไม่ใส่ใจว่าในห้องนอนหรือบนชั้นสามมีอะไรอยู่ ที่สนใจมีเพียงเทะซึโอะคนเดียว แต่เมื่อเห็นว่าเซย์จิกำลังจะเดินจากไปทันทีที่อธิบายเสร็จก็อดเรียกเอาไว้อย่างลืมตัวในสถานะของตนไม่ได้

    " เดี๋ยวก่อน แล้วเทะซึโอะ.."
    " นึกว่าอะไรที่แท้ก็เรื่องเด็กนั่นน่ะเอง นึกขึ้นมาได้พอดีว่าลืมบอกอะไรไปอย่าง "
    ดวงตาดำสนิทไหวระริกเหมือนเด็กกำลังเล่นสนุกอยู่ ชายหนุ่มก้าวเท้ารุกเข้าประชิดตัวร่างผอมบาง ก่อนจะเชยคางอีกฝ่ายขึ้นให้เห็นสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในแววตาสีอ่อนอย่างชัดเจน

    " ฉันบอกว่าให้ทำตามที่พูดก็จริง แต่ถ้าฉันไม่พอใจ ก็เลิกนึกถึงความปลอดภัยของเด็กนั่นได้เลย "
    เซย์จิก้มลงมองนาโอะที่ยืนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวอย่างยินดี ปฏิกิริยาแบบนี้แหละที่ต้องการ ดิ้นรนตะเกียกตะกายเข้าไปสิ ถ้าฉันสาแก่ใจก่อนนายอาจจะได้ของที่ต้องการกลับไปก็ได้

    " ถ้างั้นจะให้ทำอะ..!! "
    " หนูเจ้าเล่ห์อย่างนายไม่มีสิทธิ์ถาม เด็กนั่นไม่ตายง่าย ๆ หรอก "

    สิ้นถ้อยคำตวาดเสียงดังเซย์จิจึงเดินจากไป เหลือเพียงผู้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังที่เฝ้ามองจนลับสายตาด้วยแววตาเจ็บปวด เทะซึโอะไม่ตายง่าย ๆ แต่หากถูกทรมานเจียนตายล่ะ เพียงแค่คิดนาโอะก็แทบดิ้นพล่านเป็นหนูติดจั่น คืนนั้นเขาไม่อาจข่มตาหลับลงได้เลย เอาแต่เฝ้าคิดไปว่าหากต้องเจอกับการทดลองที่ตนเคยเจอมาแล้ว ดวงตาสดใสเป็นประกายจะเปื้อนหยาดน้ำตา และกรีดร้องร่ำไห้อย่างน่าสงสารสักเพียงใด

    พอผล็อยหลับไปได้นาโอะก็ไม่อาจพักผ่อนได้อย่างสงบนัก ด้วยฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนไม่เลิกรา

    " อย่าเข้ามานะ ขอร้องล่ะ " เด็กชายวัยสิบสองปีพยายามอ้อนวอน

    บุรุษในชุดสูทดำซ่อนใบหน้าไว้ในความมืดหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ หากแต่เป็นดั่งคมมีดกรีดลงบนทั่วทุกอนูของเป้าหมายให้ยิ่งตื่นกลัว แต่ก็ไร้ทางหนี แสงไฟลอดผ่านหน้าต่างส่องลงบนเนื้อผ้าสีดำ คล้ายจะย้ำเตือนถึงหนทางรอดของนาโอะซึ่งมืดสนิทเฉกเช่นผืนราตรีในคืนเดือนมืด

    " อึก....ผมเจ็บ.."
    หยาดน้ำตาไหลรินลงมาขณะที่ร่างกายถูกรุกรานอย่างกระหายอยาก เขาได้กลิ่นคาวเลือดไหลรินจากช่องทางที่ถูกใช้รองรับอารมณ์ใคร่ สายตาพร่ามัวด้วยน้ำตาจ้องมองไปยังอาภรณ์ดำสนิทบนกายผู้กำลังตักตวงความสุขอย่างไม่รู้จักพอ

    ..นาโอะเกลียดสีดำ สีผืนราตรีอันเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการมาเยือนของคนผู้นี้ สีของชุดที่คนไร้หัวใจมักสวมใส่ ทุกครั้งที่เห็นมีแต่จะนำพามาซึ่งความเจ็บปวด

-------------------

    ..ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดเพราะเจ้าหนูบ้านั่นแท้ ๆ..

    เซย์จิสบถถ้อยคำหยาบคายในใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้ พลางนั่งอ่านเอกสารซึ่งกองเต็มโต๊ะจนแทบไม่มีที่ว่าง ชายหนุ่มในโลกเบื้องหลังผู้ซึ่งกำลังสวมบทบาทเจ้าของธุรกิจชั้นนำของประเทศขมวดคิ้วมุ่น ขณะจรดปากกาลงเซ็นชื่อในกระดาษแผ่นหนึ่ง งานทั้งหมดตรงหน้าเป็นส่วนของเวลาหนึ่งสัปดาห์กว่าที่หยุดไปเพื่อไล่จับหนูที่ลอบหนีออกไป และเตรียมสถานที่สำหรับผลการทดลองตัวน้อย เมื่อกลับมาทำงานอีกครั้งเอกสารจึงกองเพิ่มพูนจนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เป็นเวลาหลายวันแล้ว

    ปกติเซย์จิจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยไม่ให้มีตกค้าง ที่ต้องยุ่งจนหัวปั่นแบบนี้ทั้งหมดเป็นเพราะตัวยุ่งยากอย่างนาโอะคนเดียว เซย์จิสบถออกมาเบา ๆ ทันใดนั้นเองบานประตูห้องทำงานก็เปิดออก ผู้บุกรุกยิ้มร่าทันทีที่เห็นเป้าหมายนั่งหงุดหงิดหัวเสียอยู่

    " ว่างรึเปล่าเซย์จิ~ " คำตอบที่ได้รับคือการมองตาขวาง ชายหนุ่มเจ้าของแววตาขี้เล่นกับเส้นผมสีสว่างหัวเราะชอบอกชอบใจ เดินเข้าไปนั่งท้าวคางมองหน้า
    " ไม่มีงานทำเหรอไงไดยะ "
    บอสใหญ่ของบริษัทถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง ไดยะเป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษในฐานะเพื่อนสนิทให้ล่วงล้ำเข้ามายังสถานที่ส่วนตัวได้ทุกเมื่อ เป็นคนเดียวที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา คงเป็นเพราะความขี้เล่น ไม่ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยด้วย เมื่อรู้ตัวอีกทีก็คบเพื่อนคนนี้มาเป็นเวลา 10 กว่าปีนับตั้งแต่ไดยะย้ายเข้ามาอยู่โรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยมปลาย

    เซย์ิจิไม่้รู้่ว่าเพื่อนคนนี้เรียนต่อคณะใดในมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ากำลังประกอบอาชีพใดอยู่ ไม่รู้แม้กระทั่งข้อมูลพื้นฐานอย่างเรื่องครอบครัวหรือพี่น้อง เพราะตัวเขาไม่ได้ใส่ใจคิดจะถาม ขอแค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็เพียงพอแล้ว

    ..เพื่อนที่เซย์จิสามารถคบได้อย่างสนิทใจ ไม่หวาดระแวงกลัวจะโดนหักหลังอย่างนี้คงหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว


    กระนั้นเจ้าของเรือนผมและดวงตาดำสนิทก็ไม่ต้องการเจอเพื่อนรักตอนนี้ ในขณะที่แม้แต่เวลากลับบ้านยังไม่มีมาร่วมอาทิตย์แล้วเช่นนี้
    " ก็เรื่อย ๆ ล่ะนะ " ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจคำถามแกมประชดและตอบกลับไป ยิ่งทำให้เซย์จิอารมณ์คุกรุ่นมากขึ้น
    " เจอหนูตัวนั้นแล้วใช่มั้ย "
    คำถามจุดประเด็นทำให้เซย์จิเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิทที่ยังแย้มยิ้มอยู่ดังเช่นทุกที คล้ายไม่ใส่ใจว่าได้พูดอะไรออกมา
    " รู้ได้ยังไง "
    " เดาถูกจริง ๆ ด้วย ก็นายเล่นหายหัวไม่เข้าบริษัทเป็นอาทิตย์ ๆ หลังเห็นรูปนั่น เป็นใครก็เดาได้ทั้งนั้นแหละ "
    " จะไปดูด้วยตาตัวเองมั้ยล่ะ "

    พลันคิดไปว่าได้ของที่หนีหายไปกลับคืนมาแล้ว ภายในใจของเซย์จิก็รู้สึกสงบลงยิ่งกว่าครั้งใดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

    " ไม่ล่ะ ฉันไม่สะดวก ไปก่อนนะแล้วเจอกันใหม่ "  ไดยะพาร่างตัวเองหายลับไปหลังบานประตูไม่หันกลับมามอง หรือถามไถ่อะไรอีก ทิ้งให้เซย์จิมองตามด้วยไม่เข้าใจในจุดประสงค์การมาครั้งนี้ แต่ก็หาได้ติดใจสงสัยอะไรนัก

    ไดยะเป็นดั่งสายลม
    เคลื่อนไหวอย่างอิสระ ไม่อาจคาดเดาได้
    แต่ก็ทำให้เย็นสบาย ผ่อนคลายลงได้เช่นกัน

--------------------------

    ..ทุกอย่างผิดจากที่คาดเอาไว้..

    เจ้าของใบหน้าบึ้งตึงก้มลงมองนาโอะที่เดินตรงเข้ามาหาทันทีที่เห็นเซย์จิกลับบ้าน หลังจากหายหน้าหายตาไปเป็นเวลาร่วมอาทิตย์ ดวงตาสีอ่อนฉายแววเด็ดเดี่ยวผิดกับแววตาตื่นกลัวคล้ายสัตว์ตัวน้อยซึ่งเอ่อล้นจนปิดไม่มิดที่ได้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย

    ราวกับว่าเวลาสัปดาห์กว่าที่ผ่านมาช่วยปลุกปลอบจิตใจนาโอะให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น จนสามารถเผชิญหน้ากับเซย์จิได้โดยไม่แสดงอาการหวาดกลัวใด ๆ ให้เห็น ซึ่งเขาไม่ชอบใจเอาเสียเลย เซย์จิทั้งเหนื่อยทั้งเพลียอยากจะกลับมาจัดการระบายความเหนื่อยทั้งหมดลงกับนาโอะ เมื่อเจอปฏิกิริยาเช่นนี้มันก็น่าหงุดหงิดเหลือเกิน

    " คุณหายไปไหนมาตั้งหลายวัน " เซย์จิรู้ดีถึงความนัยที่เจ้าของแววตามุ่งมั่นซึ่งจ้องมองมาต้องการจะสื่อ หาใช่ความห่วงใยในตัวเขาไม่ แต่เป็นเจ้าตัวน้อยที่เขาซุกซ่อนไว้ต่างหาก
    " มีอะไรเหรอไง "
    " คุณจะให้ผมทำอะไร " นาโอะตอบกลับมาแทบจะในทันที
    " หือ ? เรื่องนี้อีกแล้วเหรอ "
    " ผมไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่นักหรอก จะให้ทำอะไรก็รีบ ๆ บอกมาสักทีสิครับ "
    เสียงหวานพูดรัวเร็ว หากไม่รีบพูดออกไปเขาอาจทนแรงกดดันจากดวงตาคู่นั้นไม่ได้ก็เป็นได้ 

    " เพราะเด็กนั่นงั้นเหรอ "
    อาการนิ่งเงียบไปกะทันหันทำให้เซย์จิเริ่มรู้สึกพึงพอใจขึ้นมา ดูท่าว่าความพยายามปลุกปลอบใจตัวเองของนาโอะมีอันต้องแพ้ทางให้กับจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของตน นั่นก็คือเทะซึโอะ เมื่อถูกจี้ถามตรง ๆ จึงพูดอะไรไม่ออกขึ้นมาทันที

    เซย์จิพบเรื่องน่าสนใจเข้าให้เสียแล้ว..

    " ถ้าเสนอตัวมาขนาดนี้ก็จะรับไว้ไม่ให้เสียน้ำใจล่ะนะ "
    ชายหนุ่มกล่าวตอบด้วยถ้อยคำคล้ายเป็นฝ่ายถูกรบเร้าให้ลำบากใจ ขณะสาวเท้าเดินนำไปนั่งลงบนโซฟาตัวหนึ่งในห้องรับแขกโดยมีนาโอะเดินตามมา จังหวะที่เซย์จิหันแผ่นหลังกว้างให้ ดวงตาสีน้ำตาลพลันไหวระริกด้วยความหวาดหวั่น

    ยามดึกเงียบสงัด สาวใช้ทุกคนกำลังพักผ่อนเหลือเพียงนาโอะยืนเผชิญหน้ากับชายหนุ่มเจ้าของบ้านเพียงลำพัง

    " ถอดเสื้อผ้าออกสิ "
    " เอ๋ ? "
    " มีอะไรน่าสงสัยกัน คิดว่าคนอย่างนายจะทำอะไรให้ฉันพอใจได้นอกจากเรื่องนี้เหรอไง "
    ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากัน ฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่น สัปดาห์กว่าที่ผ่านมานาโอะพยายามคิดว่ามีสิ่งใดที่ตนจะทำให้เซย์จิพึงพอใจได้บ้าง หากต้องการทำการทดลองกับตัวเขาอีกน่าจะพาไปยังองค์กรลับมากกว่าบ้านตัวเอง นาโอะจึงยิ่งไม่เข้าใจในตัวเซย์จิ แต่มาถึงตอนนี้คำตอบที่สงสัยประจักษ์แจ้งให้เห็นแล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีชายหนุ่มมักมากผู้นี้ก็ไม่เปลี่ยนไปเลย

    " เข้าใจแล้วก็รีบ ๆ ถอดเร็วเข้า หรืออยากให้เด็กนั่นเป็นอะไรไปก่อน "

    ..น่ารังเกียจที่สุด..

TBC

ตอนที่แล้วเหมือนจะมีแต่คนสงสารนาโอะกันนะคะเนี่ย XD
เรื่องนี้ไม่ดาร์คอย่างที่คิดนะคะ เราไม่ชอบอะไรที่มันดราม่าไปน่ะค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัวกันอีกตอนค่ะ~


หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] (15/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 15-05-2010 21:48:02
ยังไงก็อยากจะรังแกแต่นาโอะสินะ
อืม.....แสดงว่าที่จริงก็มีความผูกพันทางใจด้วย
เริ่มจะเห็นทางไปต่อของทั้งนาโอะและเซย์จิแล้ว ไม่มืดมนเท่าตอนแรกๆแล้ว ขอบคุณค่ะไรท์เตอร์ ^o^
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] (15/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 15-05-2010 21:51:45
ไอ้คนเลว :m15: ไอ้คนชั่ว ไอ้คนไม่มีหัวใจ :beat: เอาเทะซึจังคืนมานะ :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] (15/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 15-05-2010 23:08:49
เทะซึโอะ เป็นลูกของนาโอะกับเซย์จิ ใช่ป่ะ
แล้วเซย์จิรู้ป่าวว่าเป็นลูกอ่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] (15/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 15-05-2010 23:30:45
เซย์จิก้อคล้ายๆจะรู้สึกพิเศษกับนาโอะเหมือนกันเนอะ แต่..ไม่ประมาทจะดีที่สุด  o18
ไม่ดราม่ามากก้อดีแล้วค่ะ เดี๋ยวคนอ่านหัวใจวายซะก่อน 555+
คิดถึงนู๋เทะซึ แล้วก้ออยากรู้จักไดยะมากกว่านี้ด้วย  :impress2:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] (15/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: White ที่ 16-05-2010 11:44:36
มาต่อเร็วๆนะค่ะ

ชอบเนื้อเรื่องมากลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] (15/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 16-05-2010 22:49:31
รอติดตามๆๆค่ะ o13
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 5] (15/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 18-05-2010 01:39:43
Miracle 06

    " อย่างนั้นแหละ เป็นเด็กดีว่าง่าย ๆ จะได้เจอเด็กนั่นเร็ว ๆ ไง "

    เจ้าของฝ่ามือเรียวที่ไล้ลูบไปทั่วผิวกายนิ่มกล่าวออกมาคล้ายกำลังล่อลวงให้เหยื่อตายใจ แววตาฉายชัดถึงอารมณ์ใคร่จ้องสำรวจร่างเปลือยเปล่าที่ไม่ได้เห็นถึงแปดปีเต็ม นับตั้งแต่วันสุดท้ายที่ตัดสินใจส่งตัวนาโอะไปเป็นหนูทดลอง ร่างที่ดูผอมบางยามมองผ่านเสื้อผ้าเมื่อไร้สิ่งใดบดบังดูราวปะติมากรรมชิ้นเอกงดงามอย่างที่คาดไว้ ผิวกายขาวกระจ่างจนอดไม่ได้ที่จะทิ้งรอยขบแดงช้ำเอาไว้ นาโอะตัวเล็กกว่าเซย์จินัก เมื่อถูกทาบทับไว้เช่นนี้จึงดูราวกับจะกลืนหายไปอ้อมอกแกร่ง

    ผู้ถูกรุกรานหลับตาแน่น ไม่ต้องการยอมรับสถานการณ์ที่ไม่อาจต่อกรได้ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้สัมผัสทางกายเด่นชัดขึ้น ยิ่งตอกย้ำว่าตนกำลังกลายเป็นเครื่องระบายอารมณ์เหมือนที่เคยเป็นมาก่อน ฟันคมขบเม้มสร้างรอยมากมายบนผิวขาว บางครั้งก็กัดฝังเขี้ยวลงไปแรง ๆ อย่างไม่อาจสะกดกลั้นต่อเสน่ห์เย้ายวนของร่างใต้อาณัติได้ เมื่อเชยชมสินค้าเสร็จสิ้น การจัดการอารมณ์ใคร่จึงเริ่มต้นขึ้น

    " ฮึก...."

    นาโอะกัดริมฝีปากแน่นทันทีที่ช่องทางคับแคบถูกรุกรานโดยไม่มีการเตรียมพร้อมก่อน หยาดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงจากหางตาหาใช่เพราะความเจ็บปวดทางกาย แต่เป็นเพราะรู้สึกอดสูต่อโชคชะตาของตน เซย์จิกระแทกกายหนักหน่วงตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น ไม่ใยดีต่อกลิ่นคาวเลือดจากช่องทางเบื้องล่าง ยิ่งนาโอะดิ้นพล่านก็ยิ่งรุกรานอย่างรุนแรง

    " ห้่ามกัดปาก ร้องออกมา ให้ฉันได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของนาย "
    ผู้ถูกสั่งจำต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ เรียวปากช้ำเลือดเผยอออกแล้วส่งเสียงร่ำไห้โดยไม่ปิดบังดังลั่นห้องรับแขก หวังเพียงว่าเสียงร้องของตนจะช่วยระบายความทุกข์ทรมานออกไปได้บ้าง คนใจร้ายจะได้พึงพอใจเสียที 

    " อย่ามาสำออย เมื่อก่อนฉันรุนแรงกว่านี้ยังไม่เห็นนายแสดงท่าทางอย่างนี้เลย "

    เซย์จิถากถางออกไปพลางลอบสังเกตปฏิกิริยาอีกฝ่าย นาโอะพยายามดิ้นรน หอบหายใจคล้ายคนจมน้ำขาดอากาศ ฝ่ามือเรียวจิกลงบนโซฟาแน่นจนเล็บเล็ก ๆ ขาวซีด เมื่อได้ยินคำสั่งจำต้องควบคุมอาการเอาตัวรอดตามสัญชาติญาณ พยายามบังคับร่างให้นอนนิ่งเพื่อให้เซย์จิสอดใส่ได้อย่างสะดวก ทั้งที่เจ็บเหลือจะกล่าว

    กามกิจอันปราศจากความรัก หวังเพียงปลดปล่อยความต้องการทางกายให้หมดไปไม่ต่างอะไรจากสัตว์ป่าที่บ้าคลั่ง

    " นายสมกับเป็นคนโปรดของฉันจริงๆหมายเลข 23 "

    ..ผมไม่ได้ชื่อหมายเลข 23!!..

    นาโอะสิ้นสติทันทีหลังจากเซย์จิโถมกายเข้าหาถี่เร็วและถึงจุดสิ้นสุดของอารมณ์ในที่สุด เรียกความแปลกใจให้ปรากฏบนใบหน้าคม
    " อย่ามาล้อเล่นนะ ทำเป็นไม่เคยไปได้วันนี้ฉันอ่อนโยนด้วย เพราะเห็นว่าห่างหายไปนานแล้วนะ "
    ฝ่ามือใหญ่ตบแก้มนิ่มเบา ๆ เพื่อเรียกสติหากแต่ไร้ผล เมื่อก่อนกว่านาโอะจะหมดสติไร้สิ้นเรี่ยวแรงอย่างนี้ก็ต้องครึ่งคืนผ่านไปแล้วเป็นอย่างน้อย คราวนี้แค่ครั้งเดียงถึงจะไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรก่อน แต่ก็ไม่น่าจะสิ้นสติง่ายอย่างนี้ เสียงร่ำไห้ปานจะขาดใจยังคงดังก้องอยู่ในหู

    ..แต่เอาเถอะ ฉันเองก็เหนื่อยมากเหมือนกัน เห็นแก่ที่ว่าง่ายจะยอมปล่อยไปสักครั้ง..

    เซย์จิยอมตัดใจอย่างง่ายดายเพราะความเมื่อยล้าทางกายร่ำร้องต้องการจะพักผ่อน เรียวปากบางจุดรอยยิ้มร้ายกาจขณะจินตนาการไปว่าจะสรรหาอะไรมาเล่นกับหนูตัวน้อยในครั้งต่อไปดี พลันสายตาเหลือบไปเห็นรอยผ่าตัดบนหน้าท้องแบนราบ ถึงแผลจะปิดสนิทแต่ก็ยังนูนขึ้นมาอยู่บ้างแม้ไม่เด่นนัก

    " เจ้านั่นออกมาจากทางนี้สินะ "

    ฝ่ามือใหญ่ลูบไปบนแผลเป็นอย่างสนอกสนใจ นาโอะเป็นผู้ชายคงไม่มีทางนำทารกออกมาตามวิธีธรรมชาติได้  ถ้าต้องผ่าตัดแล้วใครกันเป็นผู้จัดการเรื่องเหล่านี้ให้ โดยรอดพ้นสายตาขององค์กรลับที่คอยสอดส่ายตามหาหนูตัวนี้อยู่ตลอดเวลาได้ นั่นเป็นคำถามที่เซย์จิไม่ใคร่จะหาคำตอบนัก ในเมื่อได้กลับคืนมาแล้วที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไป

    ว่าไปถึงการทดลองที่นาโอะถูกใช้เป็นหนูลองยานั้น เป็นโปรเจคที่คู่รักร่วมเพศหลายคนใฝ่ฝันถึง การทดลองให้มนุษย์สามารถกำเนิดชีวิตใหม่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเพศตรงข้าม หากประสบความสำเร็จ ในขั้นแรกเซย์จิตั้งใจจะใช้เหล่าหนูทั้งหลายที่ล้มเหลวในโปรเจคต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็นซากมนุษย์ใช้การอะไรไม่ได้อีกมาให้กำเนิดหนูตัวใหม่ องค์กรจะได้ใช้ประโยชน์จากความผิดพลาด ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากในการกว้านซื้อเด็กกำพร้าให้เป็นที่สงสัยอีก ถือว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยก็ว่าได้ ในขั้นต่อไปเมื่อแน่ใจว่าตัวยาที่ได้มาปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงอันก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้จึงจะปล่อยขายในตลาดมืดด้วยราคาสูงลิ่ว

    ด้วยความมั่นใจในประสิทธิภาพของนักวิทยาศาสตร์ในองค์กรของตน เซย์จิจึงปล่อยข่าวเกี่ยวกับโปรเจคครั้งนี้ออกไปอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่มียาที่กำลังค้นคว้าอยู่กับน้ำเชื้อสำหรับคู่รักชายร่วมเพศ หรือตัวยานี้อีกเช่นกันกับหญิงสาวที่สุขภาพแข็งแรง นักวิทยาศาสตร์จะนำดีเอ็นเอของเธอทั้งคู่มาผสมกันแทนน้ำเชื้อ เพียงเท่านี้การให้กำเนิดทายาทในคู่รักร่วมเพศก็ไม่ใช่เพียงภาพฝันอีกต่อไป

    ทว่าทั้งหมดกลับต้องล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มตามแผนขั้นแรกเสียด้วยซ้ำ ชื่อเสียงเสียหายอย่างไม่เคยมีมาก่อน เมื่อหนูทดลองตัวแรกที่คาดว่าประสบความสำเร็จหลบหนีไปได้ ความเชื่อถือที่ลดลงทำให้เซย์จิจำต้องล้มเลิกโปรเจคทำเงินครั้งนี้ไปอย่างแสนเสียดาย แม้จะมีคนพร่ำบอกว่าหนูตัวนั้นอาจไม่รอดเนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอจากการลองยามากมาย แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่เคยเลิกค้นหาด้วยหวังว่าจะได้เห็นแม้ซากกระดูก และคิดไปว่าสิ่งเหล่านั้นจะช่วยบรรเทาความโกรธลงได้บ้าง

    ในตอนแรกเซย์จิมั่นใจว่าหากนาโอะรอดชีวิตไปได้ คงกำจัดผลการทดลองทิ้งด้วยความเคียดแค้นที่ฝังแน่นมาตลอดอย่างแน่นอน หากเป็นอย่างนั้นชายหนุ่มก็ตั้งใจจะลงมือสังหารนาโอะด้วยมือของตัวเอง แต่เมื่อไปพบทั้งนาโอะทั้งเด็กใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน โดยไม่ใส่ใจถึงความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นก็ให้แปลกใจเป็นอย่างมาก หนูทดลองนั่นไม่ได้แค้นเขาหรือเหตุผลอื่นใดกันแน่เซย์จิก็ตอบไม่ได้

    แต่หากจะพูดถึงความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดแล้วเซย์จิคงต้องเหมารวมตัวเองเข้าไปด้วย เพราะไดยะที่ไม่รู้นึกอะไรขึ้นมาถึงได้ยุยงให้ใช้น้ำเชื้อของเขาในการทดลองครั้งนี้ ด้วยทนแรงรบเร้าจากเพื่อนไม่ไหวจึงจำต้องยอมทำตาม แต่ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่เซย์จิรู้สึกเสียใจยามเห็นตัวอ่อนมนุษย์จากน้ำเชื้อของตนต้องตายไปด้วยความผิดปกติบางอย่างเสมอ

    ..ความสัมพันธ์อันผิดปกติ ระหว่างฉันกับนายมันก็คู่แค้นกัน ส่วนเจ้าเด็กนั่นสำหรับฉันเป็นแค่ผลการทดลองเท่านั้น..

    แล้วเทะซึโอะทราบถึงเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ให้เดาเซย์จิคงตอบว่าไม่รู้แน่นอน เพราะเด็กชายเอาแต่เรียกหานาโอะในฐานะพี่ชายเพียงคนเดียว หาใช่ในสถานะผู้ให้กำเนิดอย่างที่ควรจะเป็น

-----------------------------

    เช้าวันต่อมานาโอะป่วยหนักอย่างที่เซย์จิไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันเมื่อแปดปีที่แล้ว ชายหนุ่มเพียงแค่ปรายตามองร่างที่นอนหายใจด้วยพลังชีวิตอันแผ่วเบา แล้วเรียกสาวใช้มาดูแลเท่านั้น ส่วนตัวเองก็ออกไปทำงานในองค์กรโดยไร้ซึ่งความรู้สึกผิดใด ๆ

    สามวันให้หลังนาโอะจึงค่อยมีแรงลุกจากเตียงได้ ตลอดเวลาที่ป่วยหนักคนป่วยไม่เห็นหน้าเซย์จิเลย ซึ่งเขาก็ดีใจเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องเจอกับคนที่จะทำให้อาการทรุดหนักลง

    " ขอบคุณมากนะครับยูมิซัง " มือเรียวรับยาลดไข้กับน้ำจากสาวใช้คนหนึ่งที่คอยดูแลมาตลอดจนสนิทกันพอสมควร เธอยิ้มด้วยไมตรีจิตให้พลางจ้องมองใบหน้าขาวที่มีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างผิดจากวันแรกที่เห็น
    " ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เห็นนาโอะคุงดีขึ้นพี่ก็ดีใจ รีบกินยาแล้วนอนพักซะล่ะ "
    " ขอบคุณครับ " เด็กหนุ่มผู้สุภาพเรียบร้อยมักกล่าวขอบคุณยูมิอยู่เสมอ ที่ต้องลำบากมาดูแลโดยไม่ใส่ใจว่าเธอจะเป็นแค่สาวใช้ไร้การศึกษา อันที่จริงยูมิอาจจะมีความสุขกว่าตัวเขาที่เป็นได้แค่หนูทดลองก็เป็นได้

    ..นาโอะ ? เจ้านั่นชื่อนาโอะงั้นสินะ..

    ผู้ที่ตั้งใจเอารางวัลมาให้คนที่อดทนสนองตัณหาของตนจนล้มป่วยไปหยุดฝีเท้าลงขณะครุ่นคิดเกี่ยวกับชื่อที่ได้ยินเป็นครั้งแรก จึงมาคิดได้ว่าสองปีที่อยู่ด้วยกันเขาเอาแต่เรียกผู้อยู่ใต้อำนาจด้วยสรรพนามว่านายเสมอ ไม่คิดจะถามอะไรเลยสักอย่าง

    แต่จะชื่ออะไรก็ช่างประไร ขอแค่ยังว่าง่ายเหมือนวันนั้นก็พอแล้ว

    " ดีขึ้นก็ดี จะได้ไม่เสียแรงที่ฉันเอาของขวัญมาให้่ "

    เสียงทุ้มเอ่ยขัดจังหวะ ยูมิเห็นผู้เป็นนายก็รีบก้มหัวให้ก่อนออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งนาโอะที่รู้สึกเครียดเกร็งไปทั้งร่างขึ้นมาในทันทีไว้เพียงลำพัง เขาไม่คิดว่าของขวัญที่เซย์จิพูดถึงจะน่าอภิรมย์ดังว่าสักเท่าไหร่ แต่ก็รู้ทันทีว่่าคิดผิดไปเมื่อเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาจากหน้าประตูห้อง แล้วโถมตัวเข้าใส่สุดแรงจนล้มลงไปบนเตียงด้วยกันทั้งคู่

    " พี่นาโอะ!! " เด็กน้อยซุกหน้าลงบนแผ่นอกบางอย่างแสนจะคิดถึง
    " เทะซึจัง!? "
    " ฉันยังไม่บอกสักคำว่าให้เข้ามาได้ เจ้าเด็กไม่ได้เรื่องนี่ " เซย์จิสาวเท้าเข้าหา ดวงตาดำมืดอ่านความคิดใดไม่ได้ นาโอะจึงรีบกอดเด็กชายไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น แล้วตวาดใส่อีกฝ่ายทันที

    " อย่าแตะต้องเทะซึโอะนะ!! "

    คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างนึกแปลกใจ ทั้งที่เพิ่งหายไข้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้ยังพูดคุยกับสาวใช้ของเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาขึ้นเสียงใส่ได้ขนาดนี้ ดวงตาสีอำพันจ้องมองเซย์จิราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

    " ขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ ? คิดบ้างหรือเปล่าว่าพวกนายจะได้เจอกันครั้งต่อไปเมื่อไหร่ หรือแม้แต่ความปลอดภัยในชีวิตของด็กนี่ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเองน่ะ "

    เจ้าของแววตามาดร้ายกล่าวตักเตือนทางอ้อม เป็นอย่างที่คิดเมื่อใดก็ตามที่ยกเรื่องเทะซึโอะมาพูด ท่าทีแข็งกร้าวของนาโอะจะเปลี่ยนเป็นหนูตัวน้อยผู้หวาดระแวงและว่าง่ายขึ้นสมใจอยาก

    ..ความตื่นกลัวของนาโอะเป็นดั่งการเยียวยารอยแผลแห่งความแค้นเคือง..

    " อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะมาพาเด็กนี่กลับไป "
    กล่าวจบก็เดินออกจากห้องไปแต่ผู้ฟังหาได้ใส่ใจไม่ นาโอะต้องการใช้เวลาครึ่งชั่วโมงให้คุ้มค่าที่สุด

    " ไหนมาให้พี่ดูสิถูกใครรังแกบ้างหรือเปล่า "
    นาโอะสำรวจหารอยเข็มฉีดยาบนผิวกายของเทะซึโอะ เลิกเสื้อขึ้นหาร่องรอยแปลกประหลาดตามร่างกายจนเมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติจึงวางใจขึ้นมาได้ รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าที่ละม้ายคล้ายนาโอะยิ่งช่วยยืนยันความมั่นใจว่าเด็กชายยังไม่ถูกทำอะไร

    " ผมคิดถึงพี่นาโอะที่สุดเลย " เด็กชายกล่าวออดอ้อนซุกหน้าเข้าหาผู้เป็นพี่
    " พี่ก็เหมือนกัน " เขายิ้มกว้างก่อนลูบหัวเด็กชายด้วยความรักใคร่

    " ว่าแต่พี่นาโอะกับพี่ชายคนนั้นทะเลาะกันเหรอฮะ "

    ..ยิ่งกว่าทะเลาะกัน ยิ่งกว่าชังหน้่า แต่ใครเล่าจะกล้าเล่าเรื่องโสมมให้เด็กชายผู้บริสุทธิ์ดั่งผ้าขาวรับรู้ได้..

    " ทำไมเทะซึจังถึงคิดอย่างนั้นล่ะ "
    ชายหนุ่มพูดกับเทะซึโอะที่ปีนขึ้นมานั่งบนตักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นาโอะจึงนั่งพิงหลังกับหัวเตียงให้้เด็กชายนั่งได้สบายขึ้น และเพื่อจะได้ไม่ต้องเกร็งตัวให้เจ็บแผลจากช่องทางที่ใช้รองรับอารมณ์มากขึ้นด้วย

    " ก็เมื่อกี้พี่นาโอะตวาดใส่พี่ชายคนนั้นนี่ฮะ พี่นาโอะไม่เคยตวาดใส่ใครนี่ "
    ผู้ถูกถามนิ่งเงียบไปจนด้วยถ้อยคำใดจะกล่าวตอบ ทว่าเด็กชายก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร กลับพูดต่อด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วตามแบบฉบับเด็กร่าเริงช่างพูด

    " พี่ชายคนนั้นบอกว่าพี่นาโอะทำงานให้พี่เค้าอยู่ เลยงานยุ่งมาเจอเทะซึจังไม่ค่อยได้ พี่นาโอะตั้งใจทำงานเข้านะฮะ เทะซึจังจะเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซน ไม่ให้พี่นาโอะต้องเป็นห่วง "

    ผู้เป็นพี่อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ ถึงจะดื้อจะเอาแต่ใจไปบ้างในบางเวลา แต่เทะซึโอะก็ยังรู้ว่าควรถนอมเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดที่จะได้เจอกันด้วยการทำทุกอย่างให้นาโอะสบายใจ

    " เทะซึจังเนี่ยเป็นเด็กดีจังเลยน้า "

    เวลาครึ่งชั่วโมงแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย เซย์ิจิมารับเด็กชายตรงเวลาตามที่บอกเอาไว้ เจ้าตัวน้อยโผเข้ากอดพี่ชายเพียงคนเดียวแนบแน่นก่อนจะยอมกลับไปแต่โดยดี เจ้าของเรือนผมสีอ่อนมองส่งเทะซึโอะที่ยังสดใสร่าเริงด้วยความรู้สึกโล่งใจ ก่อนตัดสินใจกล่าวอะไรบางอย่างออกมา

    " ขอบคุณมากครับที่พาเทะซึโอะมาเจอผม "

    ผู้ที่กำลังจะก้าวเท้าข้ามธรณีประตูคลี่ยิ้มที่ดูไม่น่าไว้ใจออกมา โดยที่เจ้าของห้องไม่มีโอกาสได้เห็น


    ..แค่นี้นายก็จะเชื่องกับฉันมากขึ้น..

    แผนหลอกล่อให้เหยื่อตัวน้อยตายใจดูเหมือนจะได้ผลเกินกว่าที่คาดไว้

        เวลาฝึกสุนัขเขาทำกันยังไงนะ ?
        เขาจะสั่งสุนัขให้นั่งให้ยืนตามแต่จะต้องการ เมื่อมันทำตามจึงค่อยให้อาหาร
        แล้วเจ้าสุนัขตัวน้อยจะเรียนรู้ว่า หากต้องการอาหารจงทำตามที่นายสั่ง
   
        ไม่ต่างอะไรกับนาโอะที่ห่วงเทะซึโอะเป็นอย่างมากในตอนนี้..




TBC

คึกตอนดึกอยากตอบเม้นล่ะค่ะ XD

anajulia => ทางไปไม่มืดหม่นแต่หม่นหมองค่ะ~ (ล้อเล่นค่า) ขอบคุณที่เม้นเช่นกันค่ะ
Phelyra => ตอนนี้ได้เทะซึัจังคืนแล้วนะคะ(แค่แป๊ปนึง)
hpsky => อ่านตอนนี้คงรู้แล้่วนะคะว่าเซย์จิรู้มั้ย ^^
pattybluet => ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ยืนยันคำเดิมว่าไม่ดราม่าค่ะ ออกจะหวาน(แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้)ด้วยซ้ำไปค่ะ
White => ดีใจที่ชอบค่ะ~
vvivy => ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ!!~
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 18-05-2010 02:23:58
สงสารนาโอะอ่า~
ตกลงแล้วเซย์จิต้องการไรนจากนาโอะกันแน่เนี่ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 18-05-2010 04:49:34
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ ผิดคาดจากชื่อเรื่องไปมากโข

แต่ชอบมากๆเลนค่ะ เเนวแปลกๆเเหวกตลาดเเบบนี้

คอยลุ้นเอาใจช่วยนาโอะนะคะ

ขอให้ได้ขอให้โดนค่ะ

แอร๊ยยยยยย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 18-05-2010 09:45:30
ไอ้คนเลว...ลูกกับเมียตัวเองแท้ ๆ ยังทำได้ลง แกมีจิตใจของความเป็นคนบ้างรึเปล่าหาไอ้เซย์จิ :beat: สักวันแกจะต้องเสียใจอย่างตายทั้งเป็น ในสิ่งที่แกปล้นฆ่าช่วงชิงชีวิตคนอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นตัวเงิน ความเลวชั่วช้าที่แกทำมาโดยตลอด...สักวัน...มันจะส่งผล และขอให้วันนั้นมาเยี่ยมเยียนแกและบรรดาลูกน้องร่วมอุดมการณ์ความเลวอย่างเร็วที่สุด...ไอ้เซย์จิ :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ANUNTAYA ที่ 18-05-2010 16:02:04
สุดยอดดดดดดดดดดดดด



ขอบคุณไร้เตอร์คับ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 18-05-2010 16:26:14
แหมๆๆๆ ฝึกสุนัข แล้วอย่ามาหลงนาโอะกับนู๋เทะซึเหอะ ชริ!
นู๋เทะซึน่ารักอ่าาา ชอบเวลานาโอะกับเทะซึอยู่ด้วยกัน ดูแล้วน่าร๊ากกก น่ารัก :impress2:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 18-05-2010 16:47:54
อยากกอดเทะซึจังบ้าง คงดุ๊กดิ๊กๆน่ารักแน่เลย
นึกถึงเด็กนักเรียนอนุบาลญี่ปุ่นที่สะพายเป้สีฟ้าแล้วใส่หมวกสีเหลืองอ้ะ ^o^


นาโอะจังน่าสงสาร งื้ดๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 18-05-2010 18:47:50
+ ให้จ้า ไม่ DARK มาก็ดีเลย ชอบๆๆๆๆ

รออ่านต่อจ้า
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 18-05-2010 19:12:27
นาโอะน่าสงสาร
นู๋เทะซึ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 18-05-2010 20:03:34
เนื้อเรื่องน่าสนใจ+แปลกดี :teach:
ชอบนะ
หวังว่าคงไม่ DARK อย่างที่บอกไว้ o22
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-05-2010 20:17:47
สนุกจังเลยค่ะ ชอบๆๆ  :m3: ไม่รู้ทำไมถึงชอบพระเอกแบบโหด โฉด ชั่ว กร๊ากๆ :m20:
เทะซึจังน่ารัก เมื่อก่อนก็คลั่งน้องชายตัวเองที่ตัวอ้วนกลมดุ๊กดิ๊ก
แต่เดี๋ยวนี้ตัวบึ้กใหญ่ยักษ์ ไม่ตัวเล็กน่ารักเหมือนแต่ก่อนเลย เซ็ง :เฮ้อ: (แหม่ อย่างกะคนเราจะไม่โตเลยเนอะ 55+)
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-05-2010 21:27:52
เซย์จิ เป็นพระเอกใช่มั้ยค่ะเนี่ย มาแนวแบบใจร้ายดีนะ ต่อไปคงทำตัวน่ารักใช่มะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 19-05-2010 22:01:13

เข้ามานั่งรอตอนใหม่อย่างสงบเสงี่ยม

 :z13:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 6] (18/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 20-05-2010 00:13:16
Miracle 07

    วันนี้เป็นวันหยุดแรกในรอบหลายสัปดาห์ของเซย์จิ ชายหนุ่มตั้งใจจะใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับการเล่นอะไรสักอย่างกับหนูน้อยที่เพิ่งจับกลับมาได้ให้สมกับที่คอยมานาน ทว่าแผนการทั้งหมดกลับล้มเหลวไม่เป็นท่าเมื่อเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวนึกครึ้มอกครึ้มใจมาเยี่ยมถึงบ้าน ตอนนี้ทั้งคู่กำลังนั่งคุยกันไปพลางดูทีวีไปพลางอยู่ในห้องรับแขก ส่วนนาโอะทันทีที่รู้ว่าเซย์จิอยู่บ้านและกำลังต้อนรับแขกอยู่ ก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมาเลยตั้งแต่เช้า

    " ตกลงนายมาทำไมกันแน่ "
    เจ้าของเรือนผมดำขลับเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อน หลังจากที่ไดยะเอาแต่ดูทีวีอย่างใจจดใจจ่อราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องอะไรเลยที่ต้องเดินทางมาดูถึงที่นี่

    " อยากเจอเซย์จิคุงไง เราไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วนะ " ไดยะคลี่ยิ้มกว้างที่เซย์จิเห็นแล้วอยากจะต่อยเข้าให้สักที
    " อยากเจออะไรของนาย ไปหาฉันที่บริษัทแทบทุกอาทิตย์ยังจะอยากเจออะไรอีก "
    " สมกับเป็นเซย์ิจิ จับได้แล้วเหรอเนี่ย " ไดยะแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ทั้งที่ดวงตายังพราวระยับแฝงแววขี้เล่นไม่เปลี่ยน ก่อนหันมาหาเพื่อนสนิทแล้วพูดธุระที่แท้จริงออกมา
    " ที่จริงฉันอยากเจอหมายเลข 23 กับผลการทดลองน่ะ นายคงยอมใช่มั้ย " เซย์จิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับอาการเล่นตัวทำให้เสียเวลาอยู่นานของอีกฝ่าย

    " ทีหลังก็พูดตั้งแต่แรกสิ นั่งดูทีวีเปลืองค่าไฟอยู่ได้ "

    ชายหนุ่มกล่าวเหน็บแนมทีเล่นทีจริงอย่างสนิทสนม ไม่มีความลับหรือเรื่องปิดบังอะไรอยู่แล้ว สำหรับไดยะของแค่นี้มีหรือจะให้ไม่ได้ แค่เอาให้ดูไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย เจ้าของบ้านหยัดกายลุกขึ้นยืน เดินนำแขกขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้าน จากนั้นจึงหยุดยืนอยู่ตรงทางแยกของทางเดินบนชั้นสอง แล้วหันมาหาผู้ที่เดินตามมาด้านหลัง

    " อยากเจอใครก่อนล่ะ....หมายเลข 23 หรือผลการทดลอง "
    น้ำเสียงทุ้มชะงักไปกลางประโยคด้วยชื่อนาโอะที่เกือบเผลอหลุดปากออกมา

    " อืม..นั่นสินะ " ไดยะเหลือบมองทางเดินด้านซ้ายที่มีประตูห้องเรียงรายกันอยู่ 3 – 4 บาน ก่อนจะหันไปมองด้านขวา ประตูบานใหญ่เพียงบานเดียวซึ่งเขารู้ว่านั่นเป็นห้องนอนของเจ้าของบ้าน ถัดจากห้องนอนไปจึงเป็นบันไดขึ้นสู่ชั้นสามซึ่งอยู่ริมสุดติดกำแพง

    " นายไม่ได้พาผลการทดลองไปไว้ที่องค์กรเหรอ " แขกขี้สงสัยถามออกมาเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ เซย์จิผู้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอยู่ตลอดเวลาหลุบตามองพื้นทันที เป็นปฏิกิริยาที่แม้แต่เจ้าตัวก็ไม่ทันได้สังเกต

    " เปล่า ฉันเอามาไว้บนชั้นสามน่ะ "

    ..กระทั่งตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ..

    ในตอนแรกเซย์จิตั้งใจจะคอยให้เทะซึโอะอายุครบสิบสี่ปี ซึ่งถือว่าโตพอจะนำไปตรวจสอบหาข้อแตกต่างจากเด็กที่เกิดตามธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ แค่ห้าขวบยังเด็กเกินกว่าจะทำอะไรได้ทั้งนั้น แต่เขาก็ไม่ไว้ใจจะให้อยู่กับนาโอะได้ เหตุการณ์ที่เกือบต้องสูญเสียผลการทดลองอันแสนสำคัญไป เพราะอุบัติเหตุรถชนจากความเลินเล่อของนาโอะยังตราตรึงอยู่ไม่รู้ลืม ชายหนุ่มตัดสินใจได้ทันทีว่าผลการทดลองไม่ควรจะอยู่กับนาโอะอีกต่อไป ให้เขาเป็นคนดูแลและเอาไว้ขู่หนูตัวน้อยให้เสียขวัญระหว่างที่คอยให้เทะซึโอะโตพอยังสนุกกว่าเป็นไหน ๆ

    " งั้นขอดูหน้าหมายเลข 23 ของนายก่อนแล้วกัน "
    ไดยะที่ประสานมือทั้งสองข้างไว้หลังศีรษะด้วยท่าทางสบาย ๆ กล่าวตอบ เจ้าของบ้านพยักหน้ารับแล้วพาเดินไปทางด้านซ้ายตรงไปยังประตูบานแรกที่เห็น ทว่าผู้ที่เรียกร้องต้องการเจอหนูตัวน้อยกลับส่งเสียงอุทานออกมาเสียก่อน

    " โทษทีเซย์จิ ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระไว้คราวหลังแล้วกัน " เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลแดงทั้งศีรษะที่เพิ่งย้อมมาใหม่วิ่งหายลับลงบันไดบ้านไป ชนิดที่ไม่ปล่อยให้เซย์จิเอ่ยถามอะไรได้เลย เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มไม่เข้าใจในการกระทำของเพื่อนสนิทเท่าไหร่นัก

    ทั้งที่มารบกวนคนอื่นเขาได้ตั้งครึ่งค่อนวัน พอจะกลับก็ไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยสมกับเป็นนายจริง ๆ
    ดวงตาสีนิลมองประตูห้องนาโอะที่อยู่ด้านหน้า จากนั้นจึงผินกายหันหลังเดินไปยังอีกทิศทางหนึ่ง

    ..วันนี้ยังไม่ได้ไปดูสภาพเด็กนั่นเลย..

-----------------------------------------

    ทันทีที่ฝ่าเท้าเหยียบย่างไปบนชั้นสาม ชายฉกรรจ์สองคนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูซึ่งมีเพียงบานเดียวในชั้นก็โค้งคำนับให้เซย์ิจิอย่างรวดเร็ว กระนั้นกลับได้รับการใส่ใจไม่ ฝ่ามือใหญ่หมุนลูกบิดประตูเข้าไปภายในห้องกว้างด้วยความเคยชิน เนื่องจากต้องมาตรวจตราความเป็นอยู่ผลการทดลองตัวน้อยเป็นประจำ

    แดดอ่อน ๆ ยามบ่ายสาดส่องเข้ามายังบานหน้าต่างขนาดใหญ่หลายบาน ทำให้ห้องแลดูสว่างสดใสจนเซย์จิรู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะ เจ้าของดวงตาสีนิลเหลือบมองไปยังเตียงนอนที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบตรงมุมห้องติดประตูห้องน้ำ จากนั้นจึงไล่มองไปยังมุมหนังสือนิทานซึ่งก็ดูเรียบร้อยเป็นที่น่าพอใจ ทว่าเมื่อมองถัดไปยังกองของเล่นเกลื่อนกลาดบนพื้นคิ้วหนาก็ขมวดมุ่นขึ้นมา จนเมื่อเห็นร่างที่นอนหลับสนิทอยู่กลางซากของเล่นจึงเข้าใจว่าเด็กชายคงเล่นแล้วเผลอหลับไป

    " วันนี้เป็นยังไงบ้าง " ชายหนุ่มเอ่ยถามพี่เลี้ยงคนหนึ่งซึ่งนั่งห่างออกไปไม่ไกลนัก
    " ร่าเริงเป็นปกติดีค่ะ เจ้านายไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉันจะดูแลเด็กคนนี้เป็นอย่างดีเลย " หญิงสาวกล่าวประจบประแจงเกินกว่าที่ถามไป ริมฝีปากเรียวเคลือบลิปสติกซึ่งกำลังแย้มยิ้มหว่านเสน่ห์ให้ชายหนุ่มพลันหายไปเมื่อถูกตวาดเสียงดัง

    " เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามฉีดน้ำหอม เกิดเด็กนี่แพ้กลิ่นขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าไม่ฟังที่พูดเห็นทีคงต้องจ้างคนใหม่ "

    " ขอโทษค่ะ ขอประทานโทษค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ " เธอละล่ำละลักกล่าวขอโทษ กระนั้นแววตาโกรธเคืองดั่งเปลวเพลิงยังคงจับจ้องมาให้อึดอัด ชายหนุ่มตวัดตากลับไปมองเด็กชายที่นอนหลับอยู่บนพื้นแล้วจึงเริ่มต่อว่าพี่เลี้ยงคนเดิมอีกครั้ง

    " ทำไมไม่อุ้มไปนอนบนเตียง ปล่อยให้นอนบนพื้นถ้าไม่สบายไปจะทำยังไง " หญิงสาวที่ปราดเข้ามาทำตามสั่งด้วยเนื้อตัวสั่นเทาถูกตัดหน้าจากเซย์จิ ชายหนุ่มอุ้มเด็กชายไว้ในอ้อมแขนนำไปวางบนเตียง พร้อมกับห่มผ้าให้ถึงหัวไหล่

    " คงรู้นะว่าถ้ามีเรื่องอย่างนี้อีกจะเกิดอะไรขึ้น " น้ำเสียงที่ถูกกดให้ต่ำราวกับกำลังอดกลั้นต่ออารมณ์ที่พลุ่งพล่านกล่าวเตือน ก่อนจะเดินจากไป

    เหตุผลเดียวที่เซย์จิตอบตัวเองว่าเหตุใดต้องดูแลเอาใจใส่ถึงเพียงนี้ คงเพราะเทะซึโอะไม่เหมือนเด็กทั่วไปจึงต้องระวังเป็นพิเศษ และเพื่อที่จะได้เติบโตแข็งแรงเป็นผลการทดลองอันน่าชื่นชม จึงต้องจัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม ไม่ให้เด็กชายรู้สึกเหงาหรือเบื่อได้

    ..กระนั้นเพราะอะไรก็ไม่อาจทราบได้ ถึงไม่อาจทำใจนำตัวเทะซึโอะไปรวมกับเด็กกำพร้าคนอื่นได้ จึงได้แยกไว้ในสถานที่ซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษ..

    ทว่าเซย์จิคงลืมไปว่าไม่มีสิ่งใดจะสามารถทำให้มนุษย์มีความสุขได้ดี ไปกว่าความรักความใกล้ชิดจากคนสำคัญ

    ของนอกกายไม่อาจเติบเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในจิตใจได้ ดั่งเทะซึโอะที่ต้องอยู่ท่ามกลางความเพียบพร้อมซึ่งไร้ค่ายิ่งเมื่อไม่มีนาโอะอยู่ด้วย
    สักวันหนึ่งเด็กน้อยจะเลิกสนใจของเล่นและความสะดวกสบายที่ไม่เคยมีมาก่อน และเรียกหาสิ่งที่ตนต้องการอย่างแท้จริง

---------------------------------------

    ความหงุดหงิดทั้งมวลพลันหายไปเมื่อเซย์จิพบว่านาโอะยังว่าง่ายเหมือนเดิม ชายหนุ่มเหลือบมองร่างที่นั่งปรนเปรอความสุขให้อยู่แทบเท้าตรงหว่างขาของตน ด้วยยังไม่แน่ใจในร่างกายอันผิดไปจากที่เคยรู้จักเมื่อแปดปีก่อน ทั้งร่างผอมบางยังเพิ่งสร่างไข้ได้ไม่นานจึงได้เลือกเล่นกับหนูตัวน้อยด้วยวิธีอื่นแทน ยังไงซะแบบนี้เขาก็มีความสุขปลดปล่อยความต้องการได้เหมือนกัน

    " ไม่ได้เรื่้องเลยหมายเลข 23 พยายามให้มากกว่านี้หน่อยสิ "

    ฝ่ามือใหญ่กดศีรษะเล็กไว้ให้โลมเลียอวัยวะของเขาได้มากที่สุด ดวงตาสีน้ำตาลเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตา ใบหน้าแดงก่ำคล้ายหายใจไม่สะดวก ขณะพยายามขยับลิ้นมอบความสุขให้ร่างเบื้องหน้าตามแบบฉบับคนไม่ประสีประสาเรื่องโลกีย์อย่างสุดความสามารถ สิ่งที่ทั้งใหญ่ทั้งคับในปากทำให้เกือบสำลักออกมาอยู่หลายครั้ง กลิ่นคาวความใคร่โชยแตะจมูกบ่งบอกว่าภารกิจของนาโอะในวันนี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว

    ..ใบหน้าขาวเปื้อนน้ำตาช่างน่าหลงใหล ทั้งยังกระตุ้นอารมณ์ใคร่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ..

    " อื้ออ!! "
    เสียงหวานอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อของเหลวอุ่นร้อนถูกปลดปล่อยออกมาในโพรงปากโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างผอมสำลักออกมาจนของเหลวในปากไหลลงเปรอะเปื้อนใบหน้าและพื้นห้องนอน หยดน้ำใสยังคงไหลออกมาจากหางตาเมื่อหวนคิดไปว่าได้ทำเรื่องน่าอับอายอะไรลงไป

    " เช็ดให้สะอาดซะ " มือเรียวรีบคว้าทิชชู่บนหัวเตียงมาเช็ดทำความสะอาดตามคำสั่ง แต่กลับหยุดการกระทำทันทีที่เห็นเซย์ิจิซึ่งรูดซิปกางเกงเสร็จแล้วกำลังจะเดินออกจากห้องไป

    " เดี๋ยวก่อนสิครับ "
    " มีอะไรอีกล่ะ " ผู้ถูกรั้งเอาไว้ถามกลับโดยไม่หันมามอง เรียวปากคลี่ยิ้มอย่าสาแก่ใจ ท่าทางของนาโอะไม่ได้ต่างจากที่คาดไว้เท่าไหร่นัก
    " วันนี้ผมจะได้เจอเทะซึโอะมั้ย "
    เซย์จิหันหลังกลับสาวเท้าเข้าหาผู้ที่นั่งอยู่บนพื้นทีละก้าวช้า ๆ ก่อนก้มลงสบมองดวงตาซึ่งเปี่ยมไปด้วยความหวัง

    " ทำได้ห่วยแตกขนาดนี้ คิดว่าฉันจะยอมให้เจอเหรอไง "

    เซย์จิเป็นคนโกหก ทั้งที่เมื่อครู่แอบชมนาโอะอยู่ในใจที่แม้จะไม่ประสาในเรื่องพวกนี้ แต่ก็สร้างความสุขสมให้ได้ยิ่งกว่าคู่นอนมากประสบการณ์บางคนที่เคยเจอเสียอีก แต่ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะยอมรับความจริงข้อนี้ตามตรงแน่นอน เซย์จิต้องการให้นาโอะลิ้มรสชาติความผิดหวังเหมือนกับที่เขาต้องประสบกับตัวในวินาทีที่รู้ว่าโปรเจคที่เฝ้าฝันถึงต้องสูญสลายไป เพราะหนูทดลองแค่ตัวเดียว

    " ฉันบอกว่าถ้าฉันพอใจ ไม่ใช่ถ้านายทำตามที่บอก คงไม่ได้ลืมหรอกนะ "
    " ครับ "
    นาโอะตอบรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างสิ้นหวัง ขณะมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนลับสายตา

TBC
 
ตอบเม้นค่ะ
hpsky => ต้องการอะไรนั่นสินะคะ เดี๋ยวตอนหลังมีเฉลยค่ะ
Tifa => ชื่อเรื่องผิดคาดมากเลยเหรอคะ เราว่าพยายามหาคำที่มันสื่อที่สุดแล้วนะคะเนี่ย =3=
Phelyra => อ่านเม้นแล้วสยองแทนเซย์จิเลยล่ะค่ะ (ฮา)
ANUNTAYA => ขอบคุณที่เม้นเช่นกันค่า
pattybluet => ชอบตอนทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเหมือนกันค่ะ~
anajulia => ให้ยืมตัวเทะซึจังไปกอดได้ตามสบายเลยค่ะ!!
JJHJJH => มาต่อแล้วนะคะ ^^
vvivy => มีแต่คนสงสารนาโอะนะคะเนี่ย..
CipheR => ขอบคุณที่ชอบคะ สำหรับเราถ้ามองทั้งเรื่องเราว่ามันไม่ดาร์คเท่าไหร่น่ะค่ะ..
BeeRY => เพราะพระเอกโฉดเร้าใจหรือเปล่าคะ XD คนเราก็ต้องโตเป็นธรรมดาแหละค่ะ~
dahlia => ใ่ช่แล้วค่ะ เซย์จิเป็นพระเอก
tsuyu => มาต่อแล้วค่าา
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากเลยค่ะ~
ใกล้เปิดเทอมแล้วไม่รู้จะมาต่อได้เร็วๆอย่างนี้อีกถึงเมื่อไหร่ ตอนต่อๆไปอาจจะเว้นระยะห่างมากกว่านี้นะคะ ORZ

หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)(ตอนนี้ระวังหลังกันหน่อยก่อนอ่านนะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 20-05-2010 00:47:17
เค้าเห็นด้วยนะค่ะว่า สิ่งของนอกกายที่เราอยากได้ พอได้มามันให้ความสุขเราได้แค่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ไม่สามารถที่จะทดแทนหรือเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในจิตใจของคนเราได้ ไม่ว่าจะดีหรือเพียบพร้อมแค่ไหนมันก็ไร้ค่าและว่างเปล่าอยู่ดี แล้ววันนึงเราก็จะเลิกที่สนใจสิ่งของ หลีกหนีความสะดวกสบาย ความวุ่นวาย เพื่อตามหาสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง สงบและเรียบง่าย แม้ไม่สุขกายเท่าไหร่แต่ก็สบายใจ อิ่มใจมากกว่า :m1:
ไอ้เซย์จิ...อย่างน้อยแกก็ยังดีกับเทะซึจังบ้าง ไม่รุนแรงกับนาโอะด้วย งั้นวันนี้เค้าจะปล่อยแกไปก่อน เห็นมิว่าเค้าใจดีแค่ไหน :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 20-05-2010 01:43:58
เหมือนๆจะห่วงผลการทดลองเกินเหตุนะ..เซย์จิ
ยอมรับมาตรงๆดีกว่าว่าห่วงลูกน่ะ  :a14:
ยุให้นู๋เทะซึอาละวาด ว่ะฮ่าๆ

ตอนนี้นาโอะโดนแกล้งอีกแล้ว~~
แล้วไดยะก้อทำตัวน่าสงสัยอีกแล้วเช่นกัน!!

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 20-05-2010 04:05:09
เดาไม่ออกจริงๆค่ะว่าจะไปทางไหนต่อ จะรักกันมั้ย

เอ่อ ไม่อยากคิดเอง รออ่านเเล้วกัน คริๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 20-05-2010 05:59:15
ไดยะน่าสงสัยนะ

สิ่งที่เซจิย์ทำให้กับเทะซึจัง ก็เพราะว่าเป็นความผูกพันธ์ทางสายเลือดซินะ
ยังไงซะเทะซึก็เป็นลูก คนเป็นพ่ย่อมห่วงเป็นธรรมดา เพียงแต่ว่า
ทำไปโดยจิตใต้สำนึก และยังไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้น
กับนาโอะก็เหมือนกัน เพราะรู้ว่านาโอะป่ายเลยไม่ทำไรรุนแรง
แค่นี้ก็บอกได้แล้วหล่ะว่ารักว่าห่วงนาโอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 20-05-2010 08:23:14
ไดยะประหลาดจริงๆ ด้วย
สงสารเทะซึโอะอ่ะ -"-
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-05-2010 08:46:14
อือๆ ถีงจะโหดและโฉดแต่ก็ยังมีมุมอบอุ่นนะเซย์จิ :m1:
อยากให้นาโอะดื้อบ้างอ่ะ อยากรู้เซย์จิจอมปากแข็งจะเป็นไง
+1 ชอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 20-05-2010 12:10:22
ความผูกพันของพ่อกับลูกมั้ย เซย์จิ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 20-05-2010 12:30:24
นาโอะน่ารักอ้ะ ทำได้ทุกอย่างเพื่อเทะซึจัง งื้ดๆๆๆๆๆ


ไดยะมาแปลก สงสัยไดยะเสียแล้วว่ามีอะไรเคลือบแฝง o8
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: White ที่ 20-05-2010 19:09:40
ใจร้ายจังเลย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 20-05-2010 19:33:57
พูดได้คำเดียวว่า
 :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 21-05-2010 01:04:05
 :a5:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 21-05-2010 08:51:37
รอตอนต่อปายยยยยยยยยยย
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ANUNTAYA ที่ 21-05-2010 09:48:57
ความจริงน่าจะมีตอนที่นาโอะ  รุกคืบ


เอาให้คนบางคน


ตายคาอกไปเรยนะ  น่าจะีดี  อิอิ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 7] (20/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 21-05-2010 12:14:30
ไดยะนี่ไม่ค่อยเต็ม หรือว่าปกปิดตัวตนของตัวเองอย่างแนบเนียนจนน่ากลัวกันแน่? o22
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 21-05-2010 18:53:11
Miracle 08

    วันแรกที่เข้าบริษัทสลับกับไปดูงานในองค์กรลับอยู่หลายวัน คือวันที่เซย์จิหงุดหงิดที่สุดในรอบปี

    ในตอนที่ออกจากบ้านเซย์จิมั่นใจว่าเขาอารมณ์ดีมากทีเดียว ตลอดเวลาหลายคืนที่ผ่านมาไม่มีคืนไหนที่ชายหนุ่มจะไม่แวะเวียนไปหานาโอะถึงห้องนอน กระนั้นก็ปราศจากการร่วมเพศที่สมบูรณ์แบบ เซย์จิไม่อยากเสียเวลาคอยให้นาโอะหายป่วยหลังถูกครอบครองอย่างรุนแรง จึงตัดสินใจเล่นหมาหยอกไก่ไปเรื่อย ๆ สักพัก
 
    บางครั้งชายหนุ่มจะหยอกล้อเรือนร่างสวยงาม เพื่อปลุกปั่นอารมณ์ใคร่จนเกือบถึงที่สุดของความต้องการแล้วปล่อยให้ค้างคาไว้เช่นนั้น จากนั้นจึงสั่งให้หนูน้อยคลานเข้ามาอ้อนวอนแทบเท้า แน่นอนว่านาโอะไม่มีทางยอมแต่แค่ในช่วงแรกเท่านั้น เมื่อทนต่อความรุ่มร้อนที่กัดกินจิตใจไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องยอมทำตามที่สั่ง

    ในบางครั้งจะโจมตีส่วนอ่อนไหวทั่วร่างของนาโอะ ให้ต้องปลดปล่อยออกมานับครั้งไม่ถ้วนจนหมดสิ้นเรี่ยวแรง และในวันที่เหนื่อยมากเซย์จิจะสั่งให้ริมฝีปากเล็ก ๆ ปรนเปรอความสุขให้ตนแทน ทุกคืนเขาจะเฝ้าดูนาโอะอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเทา และถูกคาวโลกีย์ค่อย ๆ บ่อนทำลายศักดิ์ศรีทีละน้อยอย่างเป็นสุข

    เพลิดเพลินเสียจนไม่ได้แวะไปดูแลผลการทดลองเป็นเวลาหลายวัน เนื่องด้วยใจจดใจจ่ออยู่กับการเล่นสนุกเพียงอย่างเดียว ทว่ากลับไม่มีครั้งใดเลยที่จะยอมพาเทะซึโอะมาเจอ ตามที่นาโอะเฝ้าขอร้องอยู่ทุกค่ำคืนหลังเสร็จกิจ ความสุขอีกอย่างของเขาคือการเยาะเย้ยท่าทีผิดหวังของหนูตัวน้อยด้วยคำพูดถากถางว่านาโอะนั้นแย่มาก ไม่เคยทำให้พอใจได้เลยสักครั้งเดียว

    " เจ้านายครับ ถึงบริษัทแล้วครับ "
    คนขับรถเอ่ยเรียกสตินายเหนือหัว เมื่อเห็นว่าจอดรถที่หน้าบริษัทนานแล้วแต่เซย์จิยังคงตกอยู่ในภวังค์ ใบหน้าคมระบายยิ้มน้อย ๆ ตลอดเวลา ยามหวนคิดไปถึงเรือนร่างขาวสะอาดดิ้นพล่านเมื่อถูกสอดใส่แท่งพลาสติกเรียวยาวไปยังช่องทางด้านหลังในค่ำคืนที่ผ่านมา ดวงหน้าหวานเปรอะเปื้อนหยดน้ำตา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ปลุกอารมณ์ใคร่ให้เพิ่มขึ้นได้เสมอ

    " เข้าใจแล้ว "
    ทันทีที่ก้าวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องทำงาน เลขาสาวก็ปราดเข้ามาหาทันทีราวกับคอยอยู่นานแล้ว ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูเคร่งเครียดกว่าปกติ

    " มีงานด่วนอะไรเหรอไง "
    " ไม่ใช่งานด่วนค่ะ มีคนมาคอยเจ้านายอยู่หลายวันแล้วค่ะ บอกว่าจะมาทุกวันจนกว่าจะได้เจอ "
    " ใคร ? " คิ้วหนาขมวดมุ่นพลางไล่คิดไปถึงบุคคลที่หาญกล้าบุกมาพบโดยไม่ได้นัดหมาย ตัวเลือกเดียวที่คิดออกคือไดยะ แต่หากเป็นเพื่อนสนิทเลขาของเขาคงไม่มีท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนเช่นนี้แน่

    " ไม่ทราบค่ะ แขกไม่ยอมบอกชื่อ "
    " ถ้างั้นก็เรียกยามมาลากออกไปสิ "
    " ลองทำแล้วค่ะ แต่แขกบอกว่าถ้ากล้าให้คนมาลากออกไป จะแฉเบื้องหลังของเจ้านายให้เสื่อมเสีย " หญิงสาวทำท่าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ขณะรายงานเรื่องที่ตนต้องประสบในหลายวันที่ผ่านมาให้ฟัง
    " พาไปหาแขกที่ว่านั่นหน่อยสิ " เรียวปากบางเหยียดยิ้มด้วยความรู้สึกท้าทาย

    เมื่อรู้ว่าแขกที่สร้างความลำบากใจให้เลขาสาว เป็นเพียงเจ้าของร้านเค้กกับหนุ่มน้อยพนักงานในร้านเดียวกัน ความรู้สึกตื่นเต้นท้าทายที่จะได้เจอคู่แข่งทางการค้า ซึ่งชอบเอาเรื่องไร้สาระมาขู่ให้เซย์จิวางมือจากโลกธุรกิจพลันมอดดับลง

    " แค่แมลงสองตัวแค่นี้ทำไมไม่มีปัญญาจัดการ "

    การที่เซย์จิเมินหันไปต่อว่าเลขาสาวแทน ยิ่งทำให้ฮิโรกิสุดจะระงับความโกรธได้อีกต่อไป หลังจากที่นาโอะไม่ติดต่อส่งข่าวคราวกลับมาที่ร้านอีกเลยซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก ถึงเริ่มเอะใจสงสัยแล้วไปคาดคั้นเอาความจริงกับฮาจิเมะผู้ที่น่าจะรู้ทุกอย่างดีที่สุดจนได้รู้ความจริงทั้งหมด เขาก็ตั้งใจบุกมาจัดการเซย์จิด้วยตัวเอง นาโอะที่บอบบาง เพื่อนร่วมชายคาที่เฝ้าทะนุถนอมมาตลอดถูกใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาทำร้าย แค่คิดฮิโรกิก็โมโหจนแทบฆ่าเซย์จิได้อยู่แล้ว หลังจากที่ต้องคอยมาหลายวันสิ่งที่ได้รับคือการปรายตามองเพียงชั่วครู่ ยิ่งทำให้เพลิงแค้นถาโถมมากขึ้น

    " แก! " ฮิโรกิที่กำลังจะพุ่งเข้าทำร้ายร่างกายเซย์จิถูกฮาจิเมะคว้าแขนห้ามเอาไว้ได้ทัน
    " ปล่อยผมสิมาสเตอร์ ผมจะช่วยนาโอะ "
    " คิดเหรอว่าชกเขาแล้วจะได้นาโอะคุงกลับมา "
    ผู้มีสติกว่าเอ่ยท้วง ฮิโรกิจำต้องข่มใจแล้วยืนจ้องเซย์จิแทน ฮาจิเมะเห็นว่าหากปล่อยให้ลูกจ้างเลือดร้อนคนนี้จัดการ ที่ต้องคอยมาหลายวันคงสูญเปล่าจึงเป็นฝ่ายเริ่มเจรจาแทน

    " ช่วยคืนตัวนาโอะกับเทะซึโอะมาได้มั้ยครับ "
    " พูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ " คิ้วหนาเลิกขึ้นคล้ายได้ยินเรื่องประหลาดเข้าให้ก่อนจะกล่าวต่อ
    " ผลการทดลองคงคืนให้ไม่ได้หรอก เดิมทีเด็กนั่นเป็นผลผลิตขององค์กรฉันที่ถูกขโมยไป การจะเอากลับคืนมาเป็นเรื่องแปลกตรงไหน ส่วนไอ้หนูเจ้าเล่ห์นั่นฉันก็ไม่ได้ล่ามไว้สักหน่อย อยากกลับไปเมื่อไหร่ก็กลับได้ ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว "

    แววตาทรงอำนาจอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่าจับจ้องไปยังแขกทั้งสอง ขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย แต่ฮาจิเมะกลับรู้ึสึกเหมือนถูกกดดันอยู่ก็ไม่ปาน

    " แต่คุณยื่นข้อเสนอให้คนของเราว่า ถ้ายอมทำตามที่บอกจะปล่อยตัวเทะซึโอะ นาโอะคงไม่ยอมกลับถ้าไม่ได้ตัวเด็กกลับมาด้วยแน่ คุณก็น่าจะรู้นี่ครับ "
    เจ้าของร้านขายเค้กพยายามสงบสติอารมณ์แล้วกล่าวเกลี้ยกล่อมต่อ ทว่าถ้อยคำแสดงความเป็นเจ้าของกลับทำให้เซย์จิเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง นอกจากเขาใครหน้าไหนจะมาถือสิทธิในตัวหนูทดลองและผลการทดลองของเขาไม่ได้ทั้งนั้น

    " คนของพวกนายงั้นเหรอ ช่วยกรุณาพูดใหม่ด้วย เดิมทีหมายเลข 23 เป็นขององค์กรฉันแต่ดันหนีออกไป อย่ามาเรียกเจ้านั่นว่าคนของนาย ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่สองคนนั้นก็เป็นของ ๆ ฉัน "

       " แก๊งค์ทุเรศ ๆ ที่เอาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมาทำเหมือนเป็นผักปลาแบบนั้น ยังมีหน้ามาเรียกร้องเรื่องพวกนี้อีกเหรอไง " ฮิโรกิอดทนฟังอยู่เฉย ๆ ไม่ได้อีกต่อไป เขาด่ากราดออกมาเสียงดัง
    " มันเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง นายนี่เสียมารยาทจังนะ "
    " ธุรกิจของแกอยู่ไม่รอดแน่ถ้าฉันบอกเรื่องทั้งหมดให้ตำรวจรู้ เลือกเอาว่าจะยอมคืนคนของพวกฉันมา หรือจะยอมเสียธุรกิจเน่าเฟะของแกไป "
    ผู้ก้าวร้าวในสายตาเซย์จิงัดไม้ตายที่เตรียมไว้ออกมาในที่สุด ฮิโรกิลอบยิ้มขณะวาดหวังในชัยชนะที่กำลังจะได้รับ ทว่าผลที่ได้กลับไม่เป็นดังหวัง รอยยิ้มและแววตามาดร้ายยังปรากฏอยู่บนใบหน้าคมคายชวนให้โมโหไม่เปลี่ยน

    " ก็เอาสิ ถ้าคิดว่าจะทำอะไรฉันได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนตำรวจก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของฉันเหมือนกัน คิดดูเอาเองเถอะว่าฉันกับนายใครกันแน่ที่จะถูกจัดการ "

    เซย์จิฉีกไพ่ใบสุดท้ายของอีกฝ่ายทิ้งแบบไม่เหลือดี ก่อนเดินกระแทกเท้าจากไปโดยไม่หันกลับไปมองอีก

    ..พวกมดปลวกที่น่าหงุดหงิด..

    ถ้อยคำที่เหมือนจะบอกว่าทั้งนาโอะและเทะซึโอะไม่ใช่ของเซย์จิ เป็นดั่งเข็มเล่มเล็กคอยทิ่มแทงในใจให้รำคาญอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ได้กลับคืนมาแล้วเจ้าพวกนั้นยังกล้ามาบอกว่าไม่ใช่ของเขาอีก ชายหนุ่มเริ่มหัวเสียขึ้นมาบ้างแล้ว

------------------

    ในเมื่อความคิดที่จะเข้าไปสะสางงานในบริษัทถูกทำลายโดยแขกไม่ได้รับเชิญ ผู้บริหารใหญ่จึงตัดสินใจล้มเลิกแผนการทั้งหมดแล้วกลับบ้านแทน เวลาบ่ายกว่ายังเร็วเกินไปที่จะเพลิดเพลินไปกับเรือนร่างหอมหวาน เขาจึงเลือกขึ้นไปบนชั้นสามแทน ก่อนจะรำลึกได้ว่าหลายวันมาแล้วที่ไม่ได้แวะมาเลย

    ทุกอย่างในห้องเรียบร้อยเป็นที่น่าพึงพอใจ เว้นเสียแต่เด็กน้อยที่มีท่าทีดื้อดึงให้พี่เลี้ยงต้องลำบากใจอยู่ในตอนนี้ เทะซึโอะนั่งนิ่งก้มหน้าอยู่กับพื้นไม่ยอมขยับไปไหน ในขณะที่พี่เลี้ยงสาวกำลังพยายามเกลี้ยกล่อมอะไรบางอย่างอยู่

    " กินหน่อยเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ " เธอพยายามเอาไส้กรอกล่อให้เทะซึโอะหันมามองอาหารตรงหน้า แต่ดูเหมือนความพยายามจะไร้ผลเมื่อเด็กชายยังดื้อเงียบไม่สนใจท่าเดียว
   " เกิดอะไรขึ้น "
    เซย์จิเอ่ยออกมาเป็นดั่งระฆังช่วยชีวิตของพี่เลี้ยงสาวเลยก็ว่าได้ เธอรีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างรวดเร็ว

    " เด็กนี่ซึม ๆ มาสองสามวันแล้วค่ะ ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยยอมกินข้าวด้วย เอาแต่บอกอยากเจอคนชื่อนาโอะตลอดเลย "
    " แล้วทำไมไม่จัดการทำอะไรสักอย่าง " พอรู้ว่าต้องกลับมาเจอปัญหาที่บ้านอีก อาการหงุดหงิดที่มีมาตั้งแต่บริษัทก็ดูจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
    " ทั้งเอาของเล่นมาล่อ ทั้งพูดหว่านล้อมสารพัดแล้วก็ไม่ยอมท่าเดียว...."
    " พี่ชายพาผมไปหาพี่นาโอะอีกได้มั้ยฮะ "

    เด็กชายลุกขึ้นมากระตุกชายเสื้อเซย์จิเรียกร้องความสนใจก่อนขอร้องออกมา แต่สำหรับผู้ถูกร้องขอกลับเป็นการสร้างความรำคาญให้เสียมากกว่า ไม่ว่าอะไรก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ตั้งแต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญมาพูดทำนองว่าไม่มีสิทธิในตัวนาโอะและเทะซึโอะ ไหนจะเด็กชายที่เป็นเด็กดีสงบเรียบร้อยมาตลอดเกิดงอแงขึ้นมาจนเอาไม่อยู่อีก

    " นะฮะ ผมอยากเจอพี่นาโอะ ผมยอมเป็นเด็กดีไม่บอกพี่นาโอะว่าอยู่ที่นี่แล้ว เพราะงั้นพาผมไปเจอพี่นาโอะเถอะนะ "

    เด็กชายพยายามอ้อนอีกครั้ง เนื่องจากจำได้ว่าผู้ที่พาไปหานาโอะคราวก่อนคือเซย์จิ อีกทั้งตนยังทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอด แค่ไม่ได้เจอหน้าพี่ชายเพียงคนเดียวมานานเกินไปจนคิดถึงมากเท่านั้น เทะซึโอะน่าจะมีสิทธิเรียกร้องของรางวัลให้ตัวเองได้บ้าง แต่อาการรบเร้ามากจนน่ารำคาญกลับเป็นตัวกระตุ้นขีดความอดทนของเซย์จิให้ขาดสะบั้น

    ..จะใครหน้าไหนก็ทำตัวน่าโมโหทั้งนั้น..

    " นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องทำต่างหาก อย่าเอาเรื่องพวกนั้นมาเรียกร้องอะไรไปหน่อยเลย ทำตัวสงบ ๆ อยู่นิ่ง ๆอย่าขออะไรมากนักไม่ได้เหรอไง "

    ฝ่ามือใหญ่แกะมือเรียวเล็กที่เกาะกุมชายเสื้ออยู่ออก เซย์จิขึ้นเสียงใส่แม้จะไม่ดังมากนัก แต่ด้วยเนื้อความในประโยคซึ่งคล้ายจะดุด่าก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เด็กชายซึ่งถูกประคบประหงมเอาใจใส่ด้วยความรักมาตลอดเสียขวัญได้ และตระหนักได้ในที่สุดว่าที่นี่ต่างจากร้านสไลม์อันอบอุ่นเพียงใด

    " ฮึก..ทำไมล่ะ ผมเป็นเด็กไม่ดีเหรอ " เทะซึโอะสะอึกสะอื้นออกมา
    " เงียบซะ "
    " พี่ชายรำคาญผมเหรอ ถ้างั้น..ฮึก..พาผมกลับไปหามาสเตอร์สิฮะ.."

    ถึงตอนนี้ดวงตาสีนิลที่ฉายแววโกรธเกรี้ยวมาตลอดเริ่มหันมาจ้องเทะซึโอไม่วางตา เขานั่งลงในระดับเดียวกับเด็กชาย ฝ่ามือใหญ่จับตัวร่างน้อยให้หันมาเผชิญหน้า

    " เมื่อกี้ว่าอะไรนะ "
    "..ฮึก..พี่นาโอะ.."
    " ฉันถามว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร! " ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่นเสียจนเด็กชายสะดุ้งสุดตัว แต่ผู้ที่ถูกเพลิงแห่งความโกรธาเผาผลาญจิตใจอยู่ไหนเลยจะใส่ใจ

    " ผะ....ผมบอกว่า..จะกลับไปหามาสเตอร์.."
    หากไม่ได้เจอนาโอะอย่างน้อยขอกลับไปยังสถานที่ซึ่งมีผู้คอยให้ความรักกับตนก็ยังดี ไม่ใช่พี่สาวไม่คุ้นหน้าที่แค่ทำตามหน้าที่ของตนให้เสร็จ ๆ ไป กับพี่ชายตัวโตคาดเดาอารมณ์ไม่ได้และเพิ่งจะต่อว่าตนอย่างรุนแรง

    ..นาโอะเอาแต่เรียกหาเด็กเพื่อจะรีบพากลับไป ส่วนเจ้าเด็กนี่ก็เรียกร้องจะออกไปจากที่นี่ มดปลวกพวกนั้นยิ่งน่าโมโหเข้าไปใหญ่

    ไม่ว่าใครก็ช่างสรรหาเรื่องมาให้ได้ไม่หยุดหย่อน
    ไม่ว่าใครก็อยากจะหนีไปจากเขากันทั้งนั้น..

    " ห้ามพูดว่าจะออกไปจากที่นี่อีก!! ไอ้เด็กเรื่องมาก "

    เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อนุ่มดังลั่นห้องหลายครั้งติด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวด เซย์จิกระหน่ำตีลงบนร่างน้อยด้วยความหงุดหงิดใจที่สั่งสมมาทั้งวัน ไม่เฉลียวใจคิดว่าเทะซึโอะเป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ ไม่อาจทานทนได้ จวบจนกระทั่งได้ระบายความโกรธออกไปบ้างจึงค่อยสงบลงได้ แต่ก็สายไปเสียแล้วที่จะมานึกเสียใจในสิ่งที่กระทำลงไป เทะซึโอะทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น กรีดเสียงร่ำไห้ไม่สนใจสิ่งใดอีก

    " ฮืออ! ผมเจ็บ.."
    " หนวกหูน่า! หุบปากซะ "
    " พี่นาโอะ..ช่วยผม..ด้วย " เด็กชายยังคงร้องไห้จนหน้าแดงก่ำไปหมด พี่เลี้ยงสาวพยายามเข้ามาปลอบหวังจะเอาใจเจ้านายแต่ก็ไม่เป็นผลใด ๆ
    " โธ่เว๊ย! "

    ..เค้าลางแห่งความวุ่นวายเริ่มก่อตัวขึ้น..

----------------------------------

    ..ได้ยินเสียงเหมือนเทะซึโอะกำลังร้องไห้..

    นาโอะหยัดกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงหลังจากนอนกลางวันมาได้พักใหญ่ เสียงเด็กร้องไห้ที่ได้ยินจากที่ไกล ๆ จนไม่อาจข่มตานอนต่อไปได้ รู้สึกว้าวุ่นใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทันใดนั้นเองประตูห้องก็ถูกเปิดออก ก่อนจะมีบางสิ่งถูกโยนเข้ามาภายใน เมื่อมองดูจนรู้ว่าเป็นอะไรนาโอะก็ตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก

    " ทำให้เด็กนี่หยุดร้องให้ได้ เดี๋ยวฉันจะมารับกลับ "
    บานประตูถูกกระแทกปิดเสียงดังสนั่น แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ นาโอะรีบถลาเข้าไปหาร่างที่นอนสะอึกสะอื้นอยู่บนพื้นด้วยหัวใจที่เจ็บร้าวไปหมด ร่องรอยแดงช้ำมากมายบนท่อนแขนทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น นาโอะอยากจะร้องไห้ตามไปอีกคน เขาไม่เคยตีเทะซึโอะเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากดื้อก็จะตักเตือนด้วยเหตุผล ถ้ายังไม่ฟังอีกบทลงโทษอื่นอย่างงดของว่างจึงจะตามมา

    การกระทำป่าเถื่อนอย่างทำร้ายร่างกายน้องชายตัวน้อย ซึ่งรังแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลงเป็นสิ่งที่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่ทำโดยเด็ดขาด

    " เทะซึจัง พี่อยู่นี่แล้วไม่ร้องนะครับ "

    น้ำเสียงคุ้นหูกับอ้อมกอดอันอบอุ่นทำให้เด็กชายที่ร้องไห้จนลืมสิ้นทุกสิ่งรู้ตัวขึ้นมาบ้าง กระนั้นเทะซึโอะกลับยิ่งส่งเสียงสะอื้นดังกว่าเก่า นาโอะรู้สึกเหมือนเสียงร้องเหล่านั้นกำลังกรีดลึกลงในใจก็ไม่ปาน เขาไม่เคยเห็นเด็กชายมีท่าทางทรมานอย่างนี้มาก่อน

    ..ผมทำตามที่บอกมาตลอด แต่นี่คือสิ่งที่คุณตอบแทนกลับมางั้นเหรอ..

    " เทะซึจังเจ็บ ฮึกก "
    " ใครทำอะไรเทะซึจังบอกพี่มาสิ เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้.. " เจ้าของฝ่ามือที่คอยลูบตามเนื้อตัวเด็กน้อยด้วยความทะนุถนอมเอ่ยเสียงสั่น เพราะหัวใจที่แตกร้าวไปแล้ว
   " พี่นาโอะ..ฮืออ"
    " พี่อยู่นี่แล้ว " มือเรียวใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำมูกที่ไหลเปื้อนใบหน้าเทะซึโอะจนเละเทะไปหมดอย่างไม่นึกรังเกียจ
    " อึก..เทะซึจังเป็นเด็กไม่ดี..เหรอฮะ.."
    " เทะซึจังเป็นเด็กดีออก " 
    " ฮึก..ทั้งที่เทะซึจังไม่ดื้อ ทำตามที่พี่ชายคนนั้นบอก ไม่บอกพี่นาโอะด้วยว่าอยู่ชั้นบนสุดของบ้านหลังนี้..ฮึกก..เทะซึจังยังเป็นเด็กไม่ดีอีกเหรอฮะ ก็แค่อยากเจอ..พี่นาโอะ.. "

    ด้วยต้องการระบายสิ่งที่สงสัยอยู่ในใจเด็กชายจึงลืมข้อตกลงที่เคยรับปากกับเซย์จิไว้เสียสนิท ร่างผอมบางรับฟังสิ่งที่ได้ยินไม่มีตกหล่นสักคำ จนเมื่อเด็กชายหยุดสะอื้นนาโอะจึงเริ่มไล่ถามสิ่งที่เทะซึโอะหลุดปากออกมา

    " เมื่อกี้เทะซึจังบอกวาพี่ชายคนนั้นบอกอะไรเหรอ "
    " พี่ชายคนนั้นห้ามไม่ให้บอกพี่นาโอะว่าอยู่ชั้นบนสุดของที่นี่ " ร่างน้อยแนบแก้มเข้ากับแผ่นอกบาง มือเล็กขยำเสื้อของนาโอะแน่น
    " ชั้นบนสุดของที่นี่น่ะเหรอ "
    " ฮะ "
    เมื่อสงบใจลงได้ซ้ำยังได้อยู่ในอ้อมอกอบอุ่นที่ห่างหายไปนาน เด็กชายจึงเริ่มวางใจอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานาน แล้วเริ่มเล่าสภาพความเป็นอยู่ทุกอย่างให้นาโอะรับรู้

    พลันคิดไปถึงทางเดินอีกฝากซึ่งไม่เคยย่างกรายเข้าไปด้วยรู้ว่าเป็นห้องนอนของเซย์จิ นาโอะก็เดาต่อได้ไม่ยาก เหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ต่อกันเป็นรูปภาพขึ้นมา

    เทะซึโอะอยู่ใกล้แค่เอื้อมมาตลอด แต่กลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด..

    " พี่นาโอะ เทะซึจังเป็นเด็กไม่ดีเหรอฮะ ทำไมพี่ชายคนนั้นต้องตีผมด้วย "
    " เทะซึจังของพี่เป็นเด็กดีที่สุดในโลก อย่าไปเชื่อที่คนอื่นบอกนะ "
    ร่างผอมบางคลึงมือเล็กเบา ๆ ด้วยความรู้สึกโหยหา

    " เทะซึจังบอกว่าถูกตีเหรอ เจ็บตรงไหนบ้างให้พี่ดูสิ " ความกังวลที่แล่นขึ้นมาชั่วขณะ นึกกลัวไปว่าเด็กชายอาจเล่าไม่หมด และโดนลองยาไปแล้วจึงต้องขอสำรวจอีกที ใครจะรู้รอยแดงนี่อาจเป็นรอยโดนมัดกับเตียงก็เป็นได้

    " ตรงนี้ฮะ พี่นาโอะอย่าแตะนะเทะซึจังเจ็บ "
    นิ้วเล็ก ๆ ชี้ไปยังแผ่นหลังของตน นาโอะจึงเลิกเสื้อขึ้นดู สิ่งที่เห็นทำให้หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมาทันที ท่อนแขนแดงช้ำเทียบกับรอยช้ำสีม่วงอมเขียวไม่ได้เลยสักนิด เซย์จิเป็นคนตัวใหญ่ เมื่อลงมือตีเด็ก 5 ขวบตัวเล็ก ๆ จึงไม่น่าแปลกที่การตีครั้งนึงจะสัมผัสเนื้อนุ่มได้มากกว่าปกติ แต่ต้องฟาดสักกี่ครั้งถึงจะสร้างรอยกระจัดกระจายไปทั่วแบบนี้ได้กันนะ

    แม้แต่ตัวนาโอะเองที่โตเต็มวัยแล้วยังไม่อาจต้านทานกำลังของเซย์จิได้ แล้วกับเทะซึโอะเล่าจะต้องรับแรงฟาดหนักหน่วงขนาดไหนกัน เพราะอย่างนี้นี่เองเด็กชายถึงได้สะอื้นไห้ด้วยท่าทางทรมานถึงเพียงนั้น

    ..คุณมันใจร้ายเกินไปแล้ว..

    ครึ่งชั่วโมงให้หลังจากที่เด็กชายผล็อยหลับไปแล้วเซย์จิจึงกลับมา ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องยังไม่ัทันได้พูดอะไร นาโอะที่นั่งมองเด็กชายตัวน้อยหลับสนิทอยู่ก็ลุกขึ้นมาสาวเท้าเข้าหาประชิดตัว โดยที่เจ้าของบ้านไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นกำปั้นหลุน ๆ จึงพุ่งตรงมา ความสูงที่แตกต่างกันทำให้เป้าหมายคลาดเคลื่อนไปเป็นแนวคางได้รูปแทน แต่ก็ทำให้ผู้ถูกโจมตีถึงกับเซถอยหลังไปได้เหมือนกัน นาโอะไม่เคยทำร้ายใครมาก่อนแต่ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว หากไม่ได้ต่อยเซย์จิให้หายแค้นเขาคงทนไม่ไหว

    " นี่สำหรับที่คุณตีเทะซึโอะ "
    แววตาเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแม้จะลองยกเรื่องเทะซึโอะมาขู่สักแค่ไหนก็ตาม ทำให้ต้องชะงักไป วินาทีถัดมาจึงค่อยเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิด ที่แม้แต่นาโอะผู้ัว่าง่ายมาตลอดยังหันเขี้ยวเล็บเข้าหา

    ..วันนี้มันวันซวยแห่งปีเหรอไง..

    " กล้าดีนี่ "
    " กล้าตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าุคุณทำอะไรเทะซึโอะนั่นแหละ "
    เสียงหวานกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป
    " ฉันจะทำอะไรเด็กนั่นก็เรื่องของฉัน อย่าลืมสิว่าเป้าหมายที่พาผลการทดลองกลับมาคืออะไร หรือนายอยากจะลองกลับไปองค์กรลับด้วยอีกคนล่ะ"

    "..อึก.."
    ปฏิกิริยานิ่งเงียบกับดวงตาที่สั่นไหวทำให้เซย์จิกล่าวต่ออย่างย่ามใจ ความขุ่นมัวในใจตลอดทั้งวันเริ่มจางหายไปเมื่อได้เห็นท่าทางเหมือนคนไร้ทางสู้ของนาโอะ

    " ถึงนายจะโดนยามาเยอะ ก็น่าจะมีนักวิทยาศาสตร์สักคนรับเข้าไปร่วมโปรเจคแหละไม่ต้องเป็นห่วงไป แต่ร่างกายอย่างนายให้ใช้เป็นหนูลองยาปลุกเซ็กน่าจะเข้าท่าที่สุดนะ ว่าไงล่ะหมายเลข 23 "

    ความหวาดกลัวที่ฝังใจในอดีตไม่อาจทำให้นาโอะหวาดผวาได้ ในตอนนี้มีเพียงเทะซึโอะเท่านั้นที่สำคัญ แม้จะวางใจได้ระยะหนึ่งว่าตราบใดที่เซย์จิยังให้เทะซึโอะอยู่ในบ้านหลังนี้เด็กชายจะปลอดภัย แต่ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าคนผู้นี้จะส่งผลการทดลองไปองค์กรเมื่อใด หากเวลานั้นมาถึงจริงนาโอะผู้ถูกกดอยู่ใต้อาณัติคงไม่อาจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือได้เลย

    ถ้าเซย์จินำตัวเด็กชายไปทดลองจริง คงมีแต่ต้องกลั้นใจตายด้วยไม่อาจทนรับได้เป็นแน่แท้

    ความคิดต่ำช้าของเจ้าของบ้านหลังงามทำให้นาโอะรู้สึกขนลุกเกรียวด้วยความรังเกียจ
    สนุกมากมั้ยที่เอาเด็กมาขู่ผมได้ สะใจคุณหรือยังล่ะ ?
    ผมเกลียดคนไม่มีหัวใจอย่างคุณที่สุด


    โค้ดลับที่ใช้เรียกเฉพาะในองค์กรเป็นดั่งโซ่ตรวนผูกมัดให้ไม่อาจต้านทานได้
    กระนั้นนาโอะก็เฝ้าภาวนาขอให้ตรวนเหล่านั้นช่วยพันธนาการคนใจทรามไว้บ้าง
    ให้ต้องเจ็บปวดเสียใจเหมือนที่ทำกับผู้อื่นไว้

    ..ผมจะทำอะไรคนอย่างคุณได้บ้าง ?..

TBC

ตอบเม้นค่า~
Phelyra => อ่านตอนนี้แล้วจะกลับมาเกลียดเซย์จิเหมือนเิดิมมั้ยคะเนี่ย //เหงื่อตก
pattybluet => เอ่อ..เทะซึจังอาละวาดแล้วค่ะ แต่เซย์จิคงทำตัวไม่ตรงกับที่ต้องการเท่าไหร่ โมโหจนตีเทะซึจังไปแล้วน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ!
Tifa => รักกันสิค้าา เราไม่ชอบนิยายที่จบเศร้าน่ะค่ะ ที่จริงอยากเขียนให้ถึงฉากนั้นเร็วๆจะแย่อยู่แล้วค่ะ ORZ
hpsky => สรุปแล้วเซย์จิปากแข็งสินะคะ
JJHJJH => ไดยะน่าสงสัยเสมอแหละค่ะ~
BeeRY => เป็นคนขี้โมโหตีเทะซึจังค่ะ สัญญาว่าจะไม่ให้ตีอีกแล้วค่ะถ้าไม่จำเป็น TwT ขอบคุณสำหรับเม้นเช่นกันค่ะ
dahlia => คงจะเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ ^^
anajulia => ก็เค้ามีกันแค่สองคนนี่คะ~
White => ฮ่าๆ นั่นสินะคะ ใจร้ายมาก
BOOM_LOVE => พูดว่าอะไรเหรอค้าาา XD
vvivy => อ่านแล้วตกใจเหรอคะ =A=!
CipheR => มาต่อแล้วค่ะ
ANUNTAYA => จะให้นาโอะแก้แค้นบ้างสินะคะ..
Laxxeez => เราว่าทั้งสองอย่างรวมกันค่ะ~!!

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่า >.<

หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 21-05-2010 19:09:11
เซย์จินี่เป็นเด็กขาดความอบอุ่นชัดๆเลย
หนอยยย!! มาตีนู๋เทะซึได้ แล้วนาโอะจะทำไงล่ะทีนี้

รอลุ้นตอนหน้าค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 21-05-2010 19:14:09
สงสารเทะซึจัง แต่ก็ไม่เกลียดเซย์จิ

ที่แน่ๆ คนที่น่าสงสารที่สุดในตอนนี้สำหรับเราคือนาโอะ  :กอด1:โอ๋ๆนะคะนาโอะจัง
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 21-05-2010 20:13:28
สงสารเทะซึจัง แต่ก็ไม่เกลียดเซย์จิ

ที่แน่ๆ คนที่น่าสงสารที่สุดในตอนนี้สำหรับเราคือนาโอะ  :กอด1:โอ๋ๆนะคะนาโอะจัง
คิดเหมือนกันเลย
ทำไมไม่เกลียดเซย์จิน๊า :m28:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 21-05-2010 20:31:30
ไอ้ซุปเปอร์เชี่ยเซย์จิ...แกกล้าถึงขนาดทำร้ายเทะซึจังเลยหรอ เทะซึจังแค่ 5 ขวบเองนะ...ไอ้สัด ชาติชั่ว :angry2: เมิงมันโคตรเลวยิ่งกว่าเดรัจฉานอีก คนอย่างเมิงถ้าไม่มีเงินก็ไม่เหลืออะไร อำนาจที่แกมีมันมาจากเงินสกปรกของแกทั้งนั้นแหล่ะ จริง ๆ แล้วข้างกายแกไม่เคยมีใครและไม่มีวันที่จะมีใคร ขอให้มีคนทรยศหักหลังแก ขอให้อำนาจที่มีของแกโดนโค่นล้มล้างลง ขอให้แกเจ็บปวดยิ่งกว่าเหล่าหนูทดลองที่แกพรากชีวิตและหยิบยื่นแต่ความเจ็บปวดให้พวกเค้า ขอให้แค่ตายทั้งเป็นยังเป็นพรที่ดีเกินไปสำหรับแก :fire:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-05-2010 21:05:41
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด เซย์จิ แกตีเด็กทำไม ตีตัวเองเซ่ ไอ้บ้า  :m31:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 21-05-2010 21:33:16
เลวมาก ขอให้นาโอะหนีรอดไปได้ทีเถอะ

 :m31: :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 21-05-2010 21:37:32
ไอ้เลวทำกะเด็กได้ลงคอ มันน่า :z6:

 :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 21-05-2010 21:41:29
 :m22: เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้
พระเอก โหด โฉด สมคำล้ำลือจริงๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-05-2010 22:06:38
เซย์จิบ้าๆๆๆๆๆ...นี่แน่ะตบคืนให้เทะซึจัง :beat:
สงสารเทะซึจัง  เด็กตัวเล็กๆแบบนี้ กำลังจำฝังใจเลยนะนั่น :monkeysad:
ฝากนาโอะแก้แค้นให้เทซึจังด้วยนะ :m26: ว่าแต่จะทำได้มั้ยนั่น แพ้อิตาโหดมันตลอด T^T
ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 22-05-2010 00:19:34
สงสารเทะสึจัง :monkeysad:
แต่ไม่โกรธเซย์จินะ ที่ทำไปเพราะว่าหงุดหงิดที่มีแต่คนมาต่อว่า มีแต่คนมาทำให้รำคาญ :เฮ้อ:
แต่เซย์จิก็ผิดที่เอาอารมณืเป็นใหญ่เหนือเหตุผล เทะสึจังตัวนิดเดียวเองอ่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 22-05-2010 00:29:47
โห...ทำกับเด็ก 5 ขวบขนาดนี้เกินไปป่าวคับ ทำร้ายจิตใจไม่พอแถมทำร้ายร่างกายด้วย คนอย่างนายนี่น่าสงสารเน๊อะ คงทนเห็นคนรักกัน ห่วงใยกัน คิดถึงกันไม่ได้ล่ะซิ เพราะนายไม่เคยที่จะได้รับมันเลยสักครั้งในชีวิต อนาถดีนะ o22
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 22-05-2010 00:40:49
ไม่โกรธเซย์จินะ
แต่ว่าเกลียดมากกกกกกกกกกกกกกก
เหตุผลคงไม่ต้องบอก
แต่อยากอ่านต่อ
อยากรู้ว่าจะลงเอยกันยังไง
แต่บอกได้เลยนะ น้องนาโอะ
ผู้ชายเลวๆ อ่ะ อย่าไปเอาแม่งเลย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 8] (21/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 22-05-2010 02:10:42
เอาล่ะสิ ทำตัวร้ายซะเเบบนี้

จะให้รักได้ยังไง เฮ้อ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 22-05-2010 17:26:03
Miracle 09

    ..เซย์จิเพิ่งตระหนักได้ว่านาโอะเป็นคนที่แปลกมาก..

    " เซย์จิซัง ผมเองครับ เช้าแล้วถ้าไม่รีบตื่นจะไม่ทำงานสายนะครับ"
    เพิ่งจะเมื่อวานนี้เองที่ผู้อาศัยร่วมบ้านต่อยเขาอย่างไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด แต่เช้าวันต่อมากลับมายืนเคาะประตูห้องปลุกหน้าตาเฉยเหมือนเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้นทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ความเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึงทำให้เซย์จิที่ถึงแม้จะเปิดประตูห้องไปตามเสียงเรียกแล้วก็ยังไม่รู้จะตอบอะไรออกไปดี

    " ผมมาปลุกแทนยูมิซังครับ " เรียวปากบางคลี่ยิ้มหวานให้แล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง

    ..ก้อนเนื้อในอกเหมือนจะเต้นแรงขึ้นกับรอยยิ้มที่นาโอะหยิบยื่นให้เป็นครั้งแรก..

    ในตอนที่เดินลงมาข้างล่างเพื่อออกไปทำงาน ผู้ที่กำลังคุยเล่นอยู่กับสาวใช้ในบ้านอย่างสนิทสนมก็เดินเข้ามาหาทันที เซย์จิเพิ่งรู้ว่าในตอนที่ตนไม่อยู่บ้านนาโอะมักจะชวนคนอื่น ๆ ในบ้านคุยอยู่เสมอจึงดูสนิทกันขนาดนั้น ไม่เหมือนตอนที่เขาอยู่ซึ่งจะเอาแต่หลบอยู่ในห้อง
 
    " จะออกไปทำงานแล้วเหรอครับ "
    หลังจากได้อาบน้ำชำระความง่วงงุนออกไป สติจึงค่อยกลับมา เซย์จิเลือกตีความรอยยิ้มกระจ่างของนาโอะในแง่ลบไว้ก่อน ทั้งที่เมื่อวานโกรธจัดจนลงไม้ลงมือใส่ ไม่มีทางจะเปลี่ยนมาทำดีต่อกันได้เร็วอย่างนี้แน่นอน เจ้าหนูตัวน้อยคงมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่

    ทว่าหลายวันผ่านไปข้อสงสัยนั้นก็ไม่อยู่ในสมองอีก นาโอะยังมาเคาะประตูปลุกแต่เช้า คอยไปยืนส่งที่หน้าประตูบ้าน และนั่งคอยเวลาเจ้าของบ้านกลับอยู่ชั้นล่่่่างทุกวันไม่ได้ขาด ในบางคืนถึงกับเป็นฝ่ายเสนอตัวปรนเปรอความสุขให้เซย์จิด้วยตัวเองไม่มีท่าทีอิดออดแม้แต่น้อย ไม่มีการร้องไห้อ้อนวอน หรือเรียกร้องจะพบเทะซึโอะอีก

    เซย์จิชอบเหยียบย่ำนาโอะที่ผิดหวังเสียใจ หลงใหลใบหน้าเปื้อนน้ำตานั่น
    แต่แบบนี้ก็นับว่าไม่เลวเหมือนกัน เขาเริ่มติดใจรอยยิ้มสดใสที่มาพร้อมแสงแรกยามเช้าเข้าให้เสียแล้ว


    " อ๊าา! "
    เสียงครางหวานหูครั้งสุดท้ายดังขึ้น ผู้ที่เพิ่งปลดปล่อยความต้องการออกมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียง หอบหายใจรุนแรงจนหน้าแดงเรื่ออย่างน่าสงสาร ริมฝีปากเรียวเม้มแน่นขณะที่ฝ่ามือใหญ่ดึงแท่งพลาสติกสั่นได้ออกมาจากช่องทางด้านหลังในคราวเดียว ร่างผอมบางขยับตัวขึ้นไปนอนเกยบนหน้าตักแกร่งก่อนจะเริ่มรูดซิปกางเกงของเซย์จิลง

    " เด็กไม่ดี ฉันยังไม่ได้อนุญาตให้ทำเลย "
    เซย์จิจับฝ่ามือซุกซนทั้งสองข้างเอาไว้ แววตาเปี่ยมสุขกับท่าทีที่เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นนาโอะ ถึงจะอยากได้รับการปรนนิบัติก็จริง แต่วันนี้เขาอยากให้รางวัลกับเด็กว่าง่ายคนนี้เสียก่อน

    " ทำไมล่ะครับ เซย์จิซังเหนื่อยเหรอ จะว่าไปคุณกลับบ้านช้ามาหลายวันแล้วนี่ครับ "
    " ไม่ใช่หรอก นายไม่อยากเจอเด็กนั่นเหรอไง " นาโอะใจเต้นรัวกับคำถามสั้น ๆ ดวงตาพราวระยับน่ารักน่าชัง จากนั้นจึงตอบออกไปอย่างไม่ลังเล
    " อยากสิครับ! "
    " เห็นแก่ที่ทำตัวว่าง่ายไม่พูดจาขอร้องอะไรไร้สาระให้รำคาญเหมือนเมื่อก่อน เดี๋ยวจะไปพามาหาก็แล้วกัน "
    เนื่องจากกำลังรุกรานพวงแก้มใสชายหนุ่มจึงไม่ทันสังเกตเห็นดวงตาสีน้ำตาลไหวระริกอย่างเจ็บปวด

    คุณว่าการที่ผมอยากเจอเทะซึโอะเป็นเรื่องไร้สาระน่ารำคาญเหรอครับ
    คงเพราะคุณไม่เคยมีความรู้สึกอะไรกับใครเขาสินะครับ ถึงได้ดูถูกความสัมพันธ์ของพวกผมแบบนี้

    " อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะพาเด็กมาหา นายเองก็ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยซะล่ะ "
    เซย์จิกล่าวพลางหยิบเสื้อผ้าของนาโอะที่หล่นอยู่บนพื้นมาวางไว้ให้บนเตียง ผู้ฟังรู้ได้ทันทีว่าครึ่งชั่วโมงของเซย์จิคือการหลอกให้เขาคิดว่าไปพาตัวเทะซึโอะมาจากที่อื่น

    " ช่วยเก็บไอ้นั่นให้ด้วยได้มั้ยครับ ผมไม่อยากให้เทะซึโอะเห็น " ดวงตาสีน้ำตาลปรายมองไปยังอุปกรณ์ที่สอดใส่อยู่ในร่างของตนจนถึงเมื่อครู่ซึ่งถูกโยนทิ้งไปไว้บนพื้น
    " ได้สิ " 
    " ขอบคุณครับ "
    " เป็นเด็กดีว่าง่ายแบบนี้ได้ก็ดี จะได้เล่นด้วยได้นาน ๆ หน่อย "
    น้ำเสียงเจือไปด้วยความพออกพอใจขณะก้าวเดินออกไปนอกห้อง ชั่ววินาทีถัดมาหยดน้ำตาก็พร่างพรูออกมาจากดวงตาสีน้ำตาล ด้วยความรู้สึกเกลียดชังและหวาดกลัวที่ถาโถมเข้าใส่

    ..การเล่นละครครั้งนี้หนักหนามากเกินไปจริง ๆ..

    มนุษย์ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจได้ยากยิ่ง
    ทว่าความรู้สึกของมนุษย์กลับซับซ้อนยิ่งกว่า
    กระนั้นความซับซ้อนเหล่านั้นยังไม่อาจเทียบได้กับความรู้สึกรักและผูกพัน
    เพื่อผู้ที่รักยิ่ง มนุษย์สามารถทำทุกอย่างได้แม้กระทั่งสละชีพของตน

    อาจฟังดูน่าขันแต่เป็นความจริงซึ่งตรรกะใดก็ไม่อาจทำความเข้าใจได้

-----------------------


   " ไม่อยากเจอพี่เหรอไง "
    ครึ่งชั่วโมงให้หลังเซย์ิจิพาตัวเทะซึโอะลงมายังชั้นสอง ทว่าเด็กน้อยกลับเอาแต่ยืนเกาะราวบันไดแน่นไม่ยอมขยับเขยื้อน แววตาหวาดผวาเหมือนประจันหน้ากับสัตว์ร้ายจับจ้องมาไม่วางตา ราวกับหากละสายตา หรือเข้าไปใกล้จะถูกทำร้ายเอาได้

    " ..ยะ..อยาก.. "
    " ถ้างั้นก็มานี่สิ "
    เทะซึโอะถอยหลังติดบันไดเมื่อเซย์ิจิทำท่าจะเดินเข้ามาหา จนชายหนุ่มทอดถอนใจออกมา กว่าสิบนาทีแล้วที่เล่นไล่จับอยู่แบบนี้ เด็กชายยังคงไม่ให้เข้าใกล้เหมือนเดิม เพราะอารมณ์ดีมาหลายวันจึงไม่นึกหงุดหงิดใจเลยแม้แต่น้อย เซย์จิรู้อยู่แก่ใจถึงสาเหตุของอาการตื่นกลัวนี้

    ..เพราะเด็กนี่ดันพูดว่าจะออกไปจากที่นี่เอง มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ต้องสั่งสอนซะบ้าง..

    แต่วิธีสอนที่ไม่้ต้องลงไม้ลงมือก็มีอีกตั้งมากมายมิใช่หรือ
    ไยจึงปล่อยให้ขาดสติเช่นนั้นได้ ?

    " ช่วยไม่ได้.."
    เซย์จิส่ายหัวอย่างระอาขณะเดินตรงไปยังห้องนอนของนาโอะ ชะโงกหน้าเข้าไปดูจนแน่ใจว่าเจ้าของห้องจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วจึงพูดธุระของตน

    " เด็กนั่นไม่ยอมเข้าใกล้ฉัน มาเรียกเอาเองแล้วกัน "
    เขาชี้นิ้วบุ้ยใบ้ไปยังทางเดิน นาโอะจึงเดินออกจากห้องมาหาเทะซึโอะซึ่งถึงจะยอมเดินมาจนเลยห้องนอนของเซย์จิแล้ว แต่ก็ยังทิ้งระยะห่างกับเจ้าของบ้านไว้อยู่ เด็กชายยิ้มกว้างทันทีที่เห็นพี่ชายของตน ขาสั้น ๆ พาเจ้าของร่างวิ่งไปหานาโอะก่อนที่อีกฝ่ายจะมาถึงตัวเสียอีก

    " พี่นาโอะ! "

    " พี่คิดถึงเทะซึจังที่สุดเลย ยังเป็นเด็กดีอยู่หรือเปล่าเอ่ย ? " แขนเรียวตระหวัดอุ้มเด็กชายขึ้นมาไว้ทั้งตัว เจ้าตัวน้อยซุกตัวเข้าหาเจ้าของอ้อมกอด ก่อนจะหลับตาแน่นทันทีเมื่อเห็นว่านาโอะกำลังเดินผ่านเซย์จิซึ่งยืนมองอยู่ตลอด เจ้าของดวงตาสีอำพันสังเกตเห็นทุกอย่างก็รู้สึกสงสารน้องชายขึ้นมาจับจิต

    ..เด็กน้อยผู้สดใสร่าเริงได้รับบาดแผลทางจิตใจจนเกินเยียวยาเข้าให้แล้ว..

    " ในเมื่อเทะซึโอะไม่กล้าเข้าใกล้เซย์จิซัง แล้วพามาได้ยังไงเหรอครับ " นาโอะลองจี้ถามหมายจะจับผิดดู
    " คือ...." ก่อนจะได้ตอบอะไรออกไป เทะซึโอะก็รีบพูดรัวเร็วขึ้นขัด
    " เทะซึจังนั่งที่เบาะหลังฮะพี่นาโอะ ก็เลยไม่เป็นไร "
    ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบลงมองเจ้าของคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิดในอ้อมแขน ทั้งที่เว้นระยะห่างไม่เข้าใกล้ถึงขนาดนี้ ไม่มีทางที่เทะซึโอะจะยอมนั่งรถมาด้วยกันอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้อยากจะรู้ความจริงจากปากของเซย์ิจิเท่าไหร่นักอยู่แล้ว จึงไม่ใส่ใจจะคาดคั้นต่อ

    " อย่างงั้นเหรอ เทะซึจังยังเป็นเด็กดีจริง ๆ ด้วยเนอะ "
    คำว่าเด็กดีแฝงความนัยอะไรบางอย่างเอาไว้ กระนั้นเซย์จิซึ่งชะล่าใจด้วยท่าทีว่าง่ายของนาโอะมีหรือจะทันฉุกคิด
    " ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ "

---------------------

    " บ้านในฝันของเทะซึจังเป็นยังไงเหรอ "
    ผู้เป็นพี่ถามออกมากะทันหันเป็นการชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ขณะที่สองพี่น้องกำลังนอนคว่ำหน้าเคียงคู่กันอยู่บนเตียงนอนเดี่ยวแคบ ๆ เด็กน้อยกลอกตาไปมาพลางใช้สมองอย่างหนัก ก่อนจะถือโอกาสเอียงหัวมาซบไหล่ผอมบางแล้วพูดออดอ้อน

    " ถ้ามีพี่นาโอะอยู่ด้วยที่ไหนเทะซึจังก็อยู่ได้ทั้งนั้นแหละ "
    " ปากหวานนักนะเรา "
    " อื้อออ พี่นาโอะปล่อยสิ " เด็กชายครางอือเมื่อโดนมือเรียวดึงแก้มเข้าให้ด้วยความหมั่นเขี้ยว
    " แต่ถ้าเป็นไปได้เทะซึจังอยากได้บ้านที่มีสวนด้วย จะได้เอาไว้เตะบอล แล้วก็อยากเลี้ยงหมาด้วย "

    " ไหนบอกแค่มีพี่ก็พอไง "
    นาโอะพูดดักคออย่างรู้ทัน เด็กชายหัวเราะกลบเกลื่อนเมื่อถูกจับได้ เทะซึโอะเป็นเด็กขี้อ้อนถ้ามีโอกาสจะมาซุกมาวนเวียนอยู่รอบตัว และมักพูดเอาใจก่อนจะยอมคายสิ่งที่ต้องการออกมาเสมอ ซึ่งถือเป็นวิธีที่ชาญฉลาดมากเพราะนาโอะไม่เคยชนะไม้ตายนี้ได้เลย

    " แล้วพี่นาโอะล่ะฮะ "
   " พี่เหรอ ? "
    เทะซึโอะเอียงคอคอยฟังคำตอบ นาโอะจึงเลียนแบบเอียงหัวไปในทิศทางเดียวกันบ้าง จากนั้นจึงตอบออกไป
    " ขอแค่ไม่อยู่ในเมืองหลวงก็พอแล้วล่ะ แน่นอนว่าต้องมีเทะซึจังอยู่ด้วยนะ "

    ..เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้มีแต่สิ่งเสื่อมทรามมากเกินไปจนรู้สึกขยะแขยง..

    " พี่นาโอะตอบเลียนแบบเทะซึจังนี่ " เด็กชายทำปากยื่้น
    " งั้นบ้านในฝันของพี่ไม่มีเทะซึจังอยู่ด้วยก็ได้ "    
    " ไม่ได้นะฮะ พี่นาโอะต้องอยู่กับเทะซึจังสิ "
    " แต่เทะซึจังไม่ให้พี่เลียนแบบนี่ " เขาแสร้งทำเป็นส่ายหน้าอย่างเสียดายที่ต้องตัดคุณสมบัติบางข้อออกไป

    " งะ..งั้นเทะซึจังยอมให้ก็ได้ แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ "
    นาโอะอดหัวเราะออกมาไม่ได้กับความคิดตามภาษาเด็ก

    " ไว้พี่นาโอะทำงานให้พี่ชายคนนั้นเสร็จเมื่อไหร่เราไปอยู่ในบ้านในฝันของเรากัน ไม่ต้องรบกวนมาสเตอร์อีก เป็นครอบครัวที่มีแค่เราแค่สองคนนะฮะ "

    ร่างน้อยถูไถใบหน้าเข้ากับแขนเสื้อของนาโอะ บ้านในฝันที่ถูกถามถึงทำให้จินตนาการโลดแล่นไปไกล วาดฝันไปถึงที่ที่จะมีแต่พี่นาโอะคนสำคัญเพียงคนเดียว ฮิโรกิกับฮิโรมิสักวันก็ต้องแยกย้ายไปมีครอบครัวของตน ส่วนฮาจิเมะแม้จะมีบุญคุณอยู่มากแต่ก็ต่างสายเลือดกัน ครอบครัวสำหรับเทะซึโอะจึงมีแค่นาโอะเพียงคนเดียว

    ..ครอบครัวงั้นเหรอ ? บ้านในฝันงั้นเหรอ ?..

    ผู้ที่ยืนพิงผนังแอบฟังอยู่นอกห้องแค่นหัวเราะออกมา ไม่รู้ด้วยเหตุใดเซย์จิจึงอยากลองลอบฟังว่านาโอะและเทะซึโอะคุยอะไรกันบ้าง จึงทันได้ฟังเรื่องน่าขันตั้งแต่ต้นจนจบ

    ผู้ที่เชื่อมั่นในสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงมนุษย์ผู้อ่อนแอทนรับความจริงอันโหดร้ายไม่ได้ จึงเรียกร้องหาสิ่งปลอบประโลมจิตใจเท่านั้น เอาแต่กลบฝังตนอยู่ในโลกที่มีผู้คนห้อมล้อมดูแลเอาใจใส่ ไม่ยอมลืมตาขึ้นมองโลกที่แท้จริงว่าเป็นเช่นไร โลกมนุษย์ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง ยังมีความชั่วร้ายมากมายซุกซ่อนอยู่ ผู้ที่ยึดมั่นในคำว่าครอบครัวสุดท้ายแล้วก็จะทนรับแรงกดดันจากภายนอกไม่ไหวและตายไปอย่างน่าสมเพช

    ความรักในครอบครัวเป็นเพียงเรื่องลวงโลก แท้จริงแล้วหาได้จีรังยั่งยืนไม่ มนุษย์เราปากบอกว่ารักกันห่วงใยกัน แต่ยามภัยมาเยือนก็เลือกเอาตัวรอดไว้ก่อนทั้งนั้น เช่นนั้นแล้วยังจะเชื่อไปเพื่ออะไรกัน

    ตั้งแต่เกิดเซย์จิไม่เคยสัมผัสถึงคำว่าครอบครัวอันอบอุ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดูเหมือนบุพการีทั้งสองจะให้กำเนิดทายาทเพียงเพื่อสืบทอดกิจการทั้งหมดเท่านั้น จึงไม่เคยแม้แต่จะคุยเล่นด้วย แม่เอาแต่ออกงานสังคมทุกค่ำคืนแทบไม่อยู่ติดบ้าน ส่วนพ่อยิ่งแล้วใหญ่ เจ้าชู้ไม่เลือกหน้า ซ้ำยังละโมบไม่มีสิ้นสุด ถึงตนจะได้ครอบครองธุรกิจชั้นนำของประเทศไว้แล้ว ยังก่อตั้งองค์กรลับ SW ขึ้นมาอีก เพื่อกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าโดยใช้เพื่อมนุษย์ด้วยกันเป็นเครื่องมือ

    เด็กชายตัวน้อยซึ่งถูกหล่อหลอมให้เติบโตมากับโลกที่มากไปด้วยกิเลส ไม่น่าแปลกใจเลยที่ยามเติบใหญ่จะเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ เซย์จิถูกสอนสั่งมาว่าเงินตราคือสิ่งสำคัญ ยิ่งมีเท่าไหร่ยิ่งมากล้นด้วยอำนาจ เพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่จะทำให้อยู่รอดในสังคมมนุษย์ได้ จิตใจที่เคยว้าเหว่มาตลอดจึงเริ่มเข้มแข็งขึ้น เย็นชาขึ้นจนไร้ไมตรีจิตให้ผู้อื่น

    ในงานศพบุพการีเซย์จิเพียงแค่มองรูปคนทั้งสองโดยไร้ซึ่งความรู้สึกผูกพันใด ๆ พลางคิดถึงวันข้างหน้าที่จะยุ่งวุ่นวายจากการรับช่วงต่อกิจการทุกอย่างทั้งในโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลังเท่านั้น

    ..เซย์จิเป็นดั่งทะเลทรายที่แห้งผากขาดน้ำหล่อเลี้ยง..

TBC

ตอบเม้นค่า~
pattybluet => รู้สึกเหมือนถูกคอมเม้นเดาเนื้อเรื่องตอนต่อไปได้มาหลายรอบแล้วค่ะ XD เซย์จิเป็นเด็กขาดความอบอุ่นจริงๆด้วยนั่นแหละค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าา
anajulia => รู้สึกดีแทนน่าโอะที่มีคนโอ๋ล่ะค่ะ
CipheR => เพราะคำว่าเซย์จิเป็นพระเอกของเรื่องหรือเปล่าคะถึงได้ไม่โกรธ ฮาา
Phelyra => อ่านคอมเม้นของคุณPhelyraแล้วซีดแทนเซย์ิจิอีกแล้วล่ะค่ะ ว่าได้ออกรสชาติมาก XD
dahlia => ตีตัวเองเลยเหรอคะ ถ้าเซย์จิตีตัวเองจริงคงดูเหมือนกำลังเล่นตลกอยู่พิลึกเ้ลยล่ะค่ะ~
zemicolon => หนีรอดได้ก็จบเศร้านะสิค้าาา
vvivy => มันน่าเหยียบหัวกระทืบให้จมดินเหรอคะ ? - -+
jasmin => ยินดีต้อนรับค่าา
BeeRY => นั่นสินะคะจะทำได้มั้ยเนี่ย ขัดขืนทีไรแพ้ทุกที...
hpsky => ไม่โกรธเซย์จิเหรอคะเนี่ย น่าดีใจแทนเซย์จิจริงๆเลยค่ะ!~
Laxxeez => โดนคอมเม้นเดาเนื้อเรื่องตอนต่อไปอีกอันแล้วค่ะ XD
FsH[O] => ผู้ชายเลวๆอาจจะมีส่วนดีก็ได้นะค้าา
Tifa => ทุกปัญหามีทางออกค่ะ ยังไงก็รักกันได้ล่ะ่ค่ะ!
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ ^^


หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 22-05-2010 18:27:05
สงสารนาโอะ กะเด็กชายตัวน้อยๆจัง

เฮ้อ.....

 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-05-2010 18:48:29
เทะซึจัง...ซักวันฝันต้องเป็นจริงแน่นอนจ้ะ... :monkeysad:
ว่าแต่เมือ่ไหร่... :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-05-2010 18:56:35
อยากรู้ว่าแผนของนาดอะคืออะไร เซย์จิได้เจ็บแสบแน่ๆ เลย >.<
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 22-05-2010 19:23:43
ตอนนี้นอกจากไม่โกรธ
กลับสงสารเซย์จิ ที่ต้องโตมาแบบนั้น
ต้องอยู่แบบโดดเดี่ยว อ้างว้างมาตลอด
ทำให้รักใครไม่เป็น
ถ้ารู้ว่านาโอะแกล้งทำดีด้วย
ไม่รู้ว่าจะเกิดบ้าอะไรรึเปล่า :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 22-05-2010 19:56:46
หวังว่าส่วนดีนั้นมันจะมากพอ
มากพอที่จะทำให้นาโอะ ไม่คิดถึงส่วนเลวของเขาได้
เชื่อลึกๆ ว่าถ้าจะมีใครซักคนมาทำให้เซย์จิกลับตัวกลับใจ
ก็คงหนีไม่พ้นนาโอะ
เพราะว่าดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นคนอื่นไปได้
อีกคนก็อาจจะเป็นเพื่อนคนเดียวของเซย์จิคนนั้น
แต่ก็นะ ยังไงก็สงสารนาโอะ
หากมีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ ก็อย่าเอาผู้ชายคนนี้เลย

คนเราจะทนอยู่ แล้วรู้สึกรักกับคนที่ข่มขืนเรามาหลายปีได้หรือ??
คนที่เคยมองเราว่าเหมือนเป็นสิ่งของชิ้นนึง
ยามเขาเปลี่ยนใจมองเราเป็นที่รัก มันจะยั่งยืนไปนานสักแค่ไหน??
ใจคนเราเปลี่ยนง่าย ใครๆ ก็รู้
แต่ก็นะ... คนเรามักเจ็บแล้วไม่จำ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 22-05-2010 20:07:14
งานนี้สงสารหมดทุกคน
สงสารมากสุดคงเป็นนาโอะกับเทะซึจัง
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 22-05-2010 20:10:01
เซย์จิเอ้ยยย... เวลานาโอะยิ้มน่ะ น่ารักใช่มั้ยล่ะ~~
ทำเป็นมาขำเค้าเรื่องบ้านในฝัน ซักวันอย่ามาร้องขอเข้าไปอยู่บ้านเค้าละกัน :a14:
ว่าแต่.. นาโอะวางแผนอะไร แล้วไดยะล่ะ?

รอลุ้นต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zepher ที่ 22-05-2010 20:30:40
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ
เนื้อเรื่องน่าสนใจดี
สงสารนาโอะมากมาย :sad11:
ว่าแต่นาโอะรู้มั้ยว่าเทะซึจัง
เป็นลูกของตัวเองกับเซย์จิ
แต่ผมว่าน่าจะไม่รู้นะ :m21:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 22-05-2010 20:33:12
เด็กมีปัญหา หา หา~ ที่แท้ก็โตมาแบบนี้นี้เอง
น่าสงสารนะเนี่ย สิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดูก็ทำให้เด็กโตมาเป็นคนไม่ดีได้
แต่ไม่อยากให้เซย์จิเอาสิ่งเหล่านั้นมาโยนใส่เทะซึเลยอ่ะ
ปล. หลงนาโอะแล้วใช่ไหมล่ะ  ตอนยิ้มน่ารักกว่าตอนร้องไห้อีกเนาะๆ :-[
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 22-05-2010 22:36:46
เพราะสายใยรักและความผูกพันที่นาโอะมีให้กับสายเลือดเดียวกันอย่างเทะซึจัง นาโอะถึงกับยอมทุ่มทั้งชีวิต แลกทุกอย่างเพื่อให้เทะซึจังได้หลุดพ้นไปจากวงจรอุบาทว์ซึ่งเป็นอาณาจักรของเซย์จิเลยหรอค่ะ มันทั้งซาบซึ้ง เศร้า สะเทือนใจ รันทด ในชะตากรรมของผู้ที่ถูกซื้อมาเพียงเพื่อใช้สนองผลประโยชน์ในธุรกิจมืดแบบนี้ :m15: หวังว่าความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ที่นาโอะกับเทะซึจังมีให้กัน จะส่งผ่านเข้าไปถึงหัวใจที่เย็นชาและดำมืดของเซย์จิได้ในสักวันนะค่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 22-05-2010 22:44:21
เซย์จิ แกทำตัวดีๆกับเมียกับลูกมั่งดิว๊า เห็นว่าเป็นพระเอกนะเนี่ย :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 22-05-2010 22:47:51
เริ่มเข้าใจที่เซย์จิเป็นแบบนี้...แต่ก็ว่าหวังว่าความอ่อนโยน อบอุ่นของนาโอะจะเปลี่ยนแปลงเซย์จิได้ :เฮ้อ:

เป็นกำลังใจนะคะ..รอติดตามตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 9] (22/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-05-2010 22:52:55
มันจะยังพอเยียวยาได้มั้ยอะ ไอ้จิตใจที่แห้งแล้งหาความอ่อนโยนไม่เจอของเซย์จิเนี่ย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 23-05-2010 16:26:07
Miracle 10


    " วันนี้จะกลับช้าอีกหรือเปล่าครับ "
    เจ้าของคำถามจ้องหน้าชายหนุ่มคอยฟังคำตอบ เช้าวันนี้เซย์จิยังคงเพลิดเพลินไปกับแสงแดดอันอบอุ่น และรอยยิ้มน่าใคร่เหมือนเช่นเคย

    เซย์จิเคยถามตัวเองหลายต่อหลายครั้ง ทำไมกันนาโอะถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ข้อสงสัยที่ว่าร่างเพรียวกำลังวางแผนอะไรอยู่ถูกตัดทิ้งไปตั้งแต่เห็นรอยยิ้มเอาใจ กับท่าทางออดอ้อนอยู่ทุกค่ำคืนตั้งนานแล้ว เจ้าหนูน้อยคงไม่เก่งถึงขนาดเล่นละครตบตาได้แนบเนียนจนไม่เหลือร่องรอยความหวาดกลัวใด ๆ ให้เห็น

    ..แต่รอยแผลแห่งความโกรธแค้นที่สั่งสมมานานปี ไม่อาจลบเลือนได้ในเวลาเพียงคืนเดียว..

    ถ้าเช่นนั้นคงเพราะนาโอะฉลาดขึ้นจนเรียนรู้ได้แล้วว่า หากอยากอยู่รอดอย่าทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดมากนักจะดีที่สุด เซย์จิให้คำตอบตัวเองเช่นนั้น ท้ายที่สุดนาโอะก็เหมือนผู้อื่นที่เข้ามาประจบประแจงเอาใจ เพราะหวังอะไรสักอย่างจากผู้มีอำนาจกว่า ทั้งที่เขาเป็นผู้ที่บีบบังคับและสั่งสอนให้นาโอะกลายเป็นเช่นนี้เอง แต่บางครั้งเมื่อคิดไปว่าใบหน้าแย้มยิ้มนี้ไม่ได้มาจากใจจริงของเจ้าตัว ก็อดรู้สึกขมขื่นขึ้นมาไม่ได้

    เซย์จิต้องการให้คนเอาใจ อยากเห็นรอยยิ้มจากคนใกล้ตัวที่ไม่ใช่หยาดน้ำตาอย่างที่เคยคิดว่าต้องการเห็นมากที่สุด
    แต่ยามที่ได้มาดังหวังกลับไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
    เพราะอะไรกัน ?

    " ทำไมถึงต้องถามคำถามนี้ทุกวันด้วยล่ะ หรือว่าเหงา "
    นาโอะหลุบตาลงมองพื้นไม่ยอมสบตา ทำให้ชายหนุ่มหลงคิดไปเองว่าคู่สนทนาคงอายที่ถูกจับความรู้สึกได้

    " ครับ..เวลาคุณไม่อยู่..ผม...เหงามาก " ฝ่ามือเรียวที่จับประสานกันอยู่ข้างหลังบีบแน่นจนข้อขาวราวกับต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกลั้นใจตอบออกไป

    " ขอโทษด้วยนะ แต่วันนี้ฉันคงกลับไม่ได้ " เรียวปากจุมพิตลงบนหน้าผากมนคล้ายจะขอโทษ พลางนึกโทษกองเอกสารมากมายบนโต๊ะที่ต้องสะสาง จนพลาดโอกาสที่จะได้เล่นสนุกกับนาโอะไป แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ไม่ว่ายังไงก็ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาก่อนเป็นอันขาด นี่เป็นกฎพื้นฐานของผู้นำซึ่งเซย์จิเข้าใจเป็นอย่างดี

    " ผมจะคอยเซย์จิซังกลับมานะครับ "
    ในอกกำลังโลดเต้นด้วยความยินดี โอกาสที่เฝ้าคอยมาถึงแล้ว นาโอะแสร้งทำเป็นยิ้มหวานขณะกล่าวคำเท็จออกไปให้เซย์จิตายใจ

    การโกหกเป็นเรื่องผิด คนโบราณกล่าวไว้ว่าหากโกหกต้องกลืนเข็มพันเล่มบ้างล่ะ จะถูกตัดลิ้นบ้างล่ะ
    แต่บางครั้งก็จำต้องเอ่ยคำเท็จอย่างเลี่ยงไม่ได้

    ..จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด..

------------------------------------

    ..คืนนี้ฟ้ามืดไร้แสงใดสาดส่อง..

    " นาโอะุคุงนี่จ้ะน้ำส้มกับยานอนหลับ "

    ยูมิถือถาดวางเหยือกน้ำส้มมาหาผู้ที่นั่งเหม่ออยู่ในห้องรับแขก นาโอะส่งยิ้มให้พลางกล่าวขอบคุณขณะรับของมา แค่บอกว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่แล้วเหงาจนนอนไม่หลับ หญิงสาวก็รีบจัดหาของเหล่านี้มาให้ทันที รู้สึกผิดอยู่บ้างที่ต้องหลอกใช้ประโยชน์จากความมีน้ำใจของยูมิเช่นนี้ หากแต่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

    " ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมปิดบ้านให้เองพวกยูมิซังไปพักผ่อนเถอะครับ "
    " ถ้างั้นก็ฝากด้วยนะจ๊ะ "

    หญิงสาวกล่าวรับก่อนเดินไปเรียกเพื่อนสาวใช้ด้วยกันให้กลับไปยังที่พัก ดวงตาสีน้ำตาลมองไล่หลังไปจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ จึงเริ่มลงมือตามแผนที่วางไว้ ฝ่ามือเรียวหยิบเม็ดยาสีขาวในกระปุกยานอนหลับจำนวนมากมาผสมลงในน้ำส้ม ไม่จำเป็นต้องใส่เข้าไปเยอะขนาดนี้ก็จริงแต่เพื่อให้มั่นใจ นาโอะจึงไม่ใส่ใจว่าจะเกิดผลอะไรต่อผู้ดื่มหรือไม่

    ..ผู้ที่ดื่มเข้าไปอาจไม่ได้สติอยู่หลายวัน แต่หากเขาทำพลาดขึ้นมา นั่นหมายถึงชีวิตของเทะซึโอะที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย..

    มือสั่นระริกหยิบถาดมาถือเดินขึ้นบันได หัวใจเต้นรัวจนแทบจะกระดอนออกมา เสียงรถแล่นผ่านหน้าบ้านทำให้ตื่นตกใจอยู่หลายครั้ง หวังว่าเซย์จิคงไม่บ้าพลังรีบเคลียร์งานกลับมาเพราะคำโป้ปดของตนหรอกนะ

    ทุกย่างก้าวที่เหยียบขึ้นบนขั้นบันไดเปรียบเหมือนความหวาดหวั่นที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ จนมาหยุดยืนอยู่หน้าทางขึ้นไปสู่ชั้น 3 นาโอะสูดหายใจเข้าสุดปอดรวบรวมความกล้า แล้วก้าวเท้าขึ้นบันไดไปในที่สุด

    ..มาถึงขั้นนี้แล้วจะมัวลังเลอยู่ไม่ได้..

    " ขอโทษครับ ผมเอาน้ำส้มมาให้่น่ะครับ "

    มียามเฝ้าอยู่อย่างที่คิด ไม่เสียแรงที่เตรียมน้ำผสมยานอนหลับเอาไว้ด้วย นาโอะทำใจดีสู้เสื้อยื่นถาดที่ถือขึ้นมาด้วยให้ดู ด้วยความที่เป็นคนแปลกหน้าชายฉกรรจ์ทั้งสองจึงไม่รับสิ่งที่ถูกหยิบยื่นให้

    " แกเป็นใคร จากตรงนี้ไปห้ามผ่านไม่รู้เหรอไง " ชายคนหนึ่งกล่าวน้ำเสียงขึ้นจมูก
    " ผมเป็นคนรู้จักของเซย์จิซังมาพักอยู่ที่นี่ชั่วคราวน่ะครับ เห็นเซย์จิซังบอกว่าพวกคุณทำงานจนแทบไม่ได้นอนเลยรู้สึกห่วงขึ้นมา " เขาพยายามกดความตื่นเต้นในน้ำเสียงเอาไว้ให้แนบเนียนที่สุด
    " เจ้านายน่ะเหรอบอกอย่างนั้น " ชายอีกคนเลิกคิ้วมองคล้ายยังไม่เชื่อในตัวคนแปลกหน้า
    " ใช่ครับ ดื่มน้ำผลไม้นี่ไปก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่ครับ จะได้สดชื่นขึ้นด้วย "
    นาโอะรินน้ำสีส้มใส่แก้วสองใบจากสามใบที่เตรียมไว้ ไม่ใยดีต่อสายตาเคลือบแฝงความสงสัยซึ่งจ้องมองมา

    " นี่ครับ ดื่มสิครับ "
    รอยยิ้มหวานน่ารักน่าใคร่กับน้ำเสียงออดอ้อนราวกับมนต์สะกดให้ยามหนุ่มทั้งสองยื่นมือมารับแก้วน้ำโดยไม่รู้ตัว แล้วดื่มลงไปรวดเดียวจนหมด

    ใครว่าปีศาจใช้มนต์สะกดมนุษย์ได้ฝ่ายเดียว
    เทวดาตัวน้อยเองก็ทำเรื่องเหล่านั้นได้เช่นกัน
    ด้วยเสน่ห์ล้นเหลือไม่ว่ามนุษย์ผู้ใดก็ต้องตกหลุมพราง

    " ขอโทษด้วยนะครับ "
    ดวงตาสีอำพันเจือแววสำนึกผิดต่อการกระทำของตนมองไปยังชายทั้งสอง ซึ่งฟุบหลับไปในทันทีด้วยฤทธิ์ยาจำนวนมากที่ผสมลงไป

---------------------


    ..ผมเหงา..

    เทะซึโอะนั่งกอดเข่ามองไปยังประตูห้องน้ำที่พี่เลี้ยงเพิ่งเข้าไป ไม่ใช่ว่าต้องการให้เธออาบน้ำให้เสร็จแล้วออกมาเล่นด้วยโดยเร็ว แต่เพราะไม่รู้จะทำอะไรดีต่างหาก ยังไงเสียก็เหมือนต่างคนต่างอยู่อยู่แล้ว เธอจะพูดคุยกับเด็กชายก็ต่อเมื่อต้องทำหน้าที่อย่างป้อนข้าว อาบน้ำให้ หรือยามเซย์จิขึ้นมาตรวจความเรียบร้อยเท่านั้น นอกนั้นจะเอาแต่คุยโทรศัพท์กับแฟนหนุ่มตลอดเวลา


    " แกร๊ก "
    เด็กชายสะดุ้งกับเสียงบิดกลอนประตู ด้วยคิดว่าเซย์จิกำลังจะเข้ามา แต่เมื่อพบว่าเป็นนาโอะก็ให้ประหลาดใจ ความดีใจที่มีมากกว่า เทะซึโอะจึงรีบวิ่งเข้าไปหา เจ้าของใบหน้าเคร่งเครียดเอื้อมมือมาอุ้มร่างน้อยขึ้นไปกอดแนบอก

    " พี่นาโอ...."
    " ชู่ว ดึกแล้วเทะซึจังเป็นเด็กดีต้องไม่ส่งเสียงดังนะครับ "
    " คร้าบบ "
   " พี่นาโอะจะพาเทะซึจังไปไหนเหรอ "
    เมื่อเห็นว่านาโอะกอดตนเสียแน่นจนแทบหายใจไม่ออก แล้วเดินสาวเท้าอย่างรวดเร็วคล้ายกำลังหนีจากอะไรบางอย่าง ผิดจากทุกทีที่จะหยอกล้อคุยเล่นกันก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ เทะซึโอะมัวแต่มองหน้าพี่ชายจนไม่ทันได้เห็นผู้ที่นอนฟุบหลับอยู่บนพื้น

    " กลับบ้านของเราไงเทะซึจัง "
    " จริงเหรอครับ พี่นาโอะทำงานให้พี่ชายคนนั้นเสร็จแล้วเหรอ "
    " พี่ทำเสร็จแล้วล่ะ จะได้กลับกันสักที "
    นาโอะระบายยิ้มน้อย ๆ ก่อนตอบออกไป จริงอย่างที่เซย์จิบอกเด็กชาย หากงานเสร็จทั้งนาโอะทั้งเทะซึโอะจะได้กลับออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ตอนนี้หน้าที่เล่นละครตบตาเซย์จิเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่เพียงหนีออกไปให้ได้เท่านั้น
 
    แต่เจ้าหนูน้อยคงลืมความจริงบางข้อไป โทษทัณฑ์ที่บังอาจหยามหน้าเป็นครั้งที่สอง และหลอกลวงกันจะหนักหนายิ่งขึ้น หากต้องการอยู่รอด จงหลบซ่อนตัวให้มิดชิดกว่าเดิม ให้ไม่ว่าอำนาจใดก็เอื้อมไปไม่ถึง ไม่เช่นนั้นต่อให้หนีรอดไปได้สักกี่ครั้งก็ไร้ค่า

    เจ้าหนูเอ๋ยทำใจยอมรับชะตากรรมนี้ได้หรือยัง ?

    ..ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยดั่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้ว
    แต่เป็นไปได้หรือที่ทุกอย่างจะง่ายดายเหมือนเก่า..

TBC

นับถอยหลังหนึ่งอาทิตย์ก่อนเปิดเทอม เลยพยายามจะแต่งให้ได้มากที่สุดน่ะค่ะ ORZ
zemicolon => อีกหน่อยก็ไม่น่าสงสารแล้วล่ะค่ะ
BeeRY => เมื่อเซย์จิกลับใจล่ะมั้งคะ  XD
JJHJJH => แผนของนาโอะตามที่อ่านตอนนี้เลยค่าา
CipheR => เดี๋ยวตอนหน้าได้รู้แน่ค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้น
F[ i] sH[ O ] => อ่านเม้นนี้แล้วซีดเลยค่ะ จริงอย่างที่คุณว่าแหละค่ะ ทำเค้าไว้มากจะให้ยกโทษแล้วอยู่ด้วยกันคงเป็นไปไม่ได้ง่ายๆ เกือบเปลี่ยนพล็อตเป็นจบเศร้าเลยค่ะ แต่เราไม่ชอบจบเศร้าเพราะงั้นเอาไว้แบบเดิมแหละดีแล้ว เป็นเ้ม้นที่อ่านแล้วทำให้คิดอะไรได้เยอะแยะเลยล่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
iforgive => ที่จริงเรื่องนี้เป็นนิยายรันทดล่ะค่ะ รู้แล้วอย่าบอกใครนะคะ ฮาา (ล้อเล่นนะคะ)
pattybluet => ไดยะไปทำธุระอยู่ค่ะรายนี้เค้างานยุ่ง จะหายหน้าไปอีกหลายตอนเลยค่ะกว่าจะโผล่มาอีกครั้ง ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
Zepher => ยินดีต้อนรับค่าา นาโอะรู้ค่ะว่าเทะซึโอะเป็นลูกตัวเอง ก็ตัวเองเป็นคนท้องนี่คะ แต่ยังยืนยันจะให้เรียกว่าพี่ แล้วก็ไม่รู้ว่าเซย์จิเป็นพ่อเด็กค่ะ
jasmin => เราก็ว่าตอนยิ้มต้องน่ารักกว่าอยู่แล้วค่ะ ถ้าเซย์จิชอบตอนร้องไห้มากกว่าก็เป็นพวกซาดิสแล้วล่ะค่ะ ส่วนนาโอะคงต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นมาโซไปในที่สุด XD
Phelyra => ส่งผลแน่นอนค่ะ ไม่งั้นมันจะจบไม่ลง~! (ฺฮา)
hpsky => เราก็อยากให้ทำดีด้วยค่ะ อยากแต่งให้เลยฉากทารุณกรรมไปเร็วๆจะแย่อยู่แล้ว =3=
vvivy => น่าจะค่อยๆเปลี่ยนแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค้าาา
dahlia => เยียวยาได้แน่นอนค่ะ!! แต่อาจจะช้าหน่อย..
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ!!


หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 23-05-2010 16:28:43
^
^
จิ้มบวกระยะเผาขน
ไม่อยากคิดถึงชะตากรรมของนาโอะ กันเทะซึคุง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 23-05-2010 16:36:54
ถ้าถูกจับได้คงจะโดนเยอะเลยนะนั้น
งานนี้คงสร้างบาดแผลใหญ่โตให้ซย์จิเลยมั้ง
สงสารล่วงหน้าเลย  :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 23-05-2010 16:42:05
นาโอะกับเทะซึจังจะหนีรอดมั้ยเนี้ย
แต่เราว่าน่าจะไม่รอดนะ
เซย์จิเอาตายแน่ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-05-2010 16:47:16
ตอนท้ายทำไมทิ้งไว้แบบนี้ล่ะคะ...นาโอะจะโดนจับได้เหรอ o22
ไม่อาวววว...สงสารนาโอะกับเทะซึจัง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 23-05-2010 17:11:55
จะมีโศกนาฎกรรมความรักป่าวเนี่ย สงสารนาโอะที่สุด ไรเตอร์อย่าทารุณจิตใจคนอ่านนานนักนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 23-05-2010 19:01:30
อ่านตอนนี้แล้วลุ้นมากเลยค่ะ ตื่นเต้นไปกับนาโอะด้วย
ไรท์เตอร์ทิ้งท้ายได้น่ากลัวมาก แค่คิดว่าเซย์จิจะโกรธแค่ไหน ก้อ.. :sad3:
เพราะงั้นยังไงตอนนี้ขอให้นาโอะหนีได้สำเร็จแล้วกัน

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-05-2010 19:19:52
ถึงอยู่ก็ไม่มีความสุข  แต่ถ้าหนี  ต้องมั่นใจว่าหนีพ้นจริง ๆ
จะทำได้อย่างไร ....
คราวนี้ถ้าเซจิตามจับกลับมาได้  มีหวังหนักหนาสาหัสแน่
สงสารนาโอะ  ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้วจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 23-05-2010 19:24:17
หนีให้รอดนะนาโอะจัง  :a1:
เฮ้อ.....ใกล้จะผ่านดราม่ารึยังคะไรท์เตอร์ คนอ่านคนนี้แพ้ดราม่า หงิงๆๆ


ปล.เจอคำผิดนะคะ "โทษทัณฑ์" ต้องเป็น ณ เณรนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 23-05-2010 19:26:10
ขอให้...นาโอะกับเทะซึจัง...หนีรอดพ้นเงื้อมมือจากวงจรอุบาทว์ด้วยเถอะนะค่ะ :m15: :o12:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 23-05-2010 19:45:35
ไม่ว่าเลือกทางไหนก็ดูยากทั้งสองทาง นาโอะเลยต้องเลือกทางที่ดีสุดสำหรับเทะซึจัง ขอให้เป็นทางเลือกที่ถูก และขอให้นาโอะและเทะซึจังรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาด้วยนะคับ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 23-05-2010 20:03:27
โอยไม่อยากจะคิดตอนนาโอะถูกจับได้ :z3:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 23-05-2010 20:41:06
ตามอ่านจ้า รวเดียวบท10 เลย ชอบมากๆ สนุกตื่นเต้นงวดนี้จะหนีพ้นเหรอ ถ้าพ้น ความโกรธของเซย์จิน่ากลัวขนาดไหนเนี้ย

ลุ้นๆๆจ้า ป.ล. ดราม่าไงก็ได้ แต่จบอย่างมีความสุขนะๆๆ plssss
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 23-05-2010 21:25:25
โดนจับรอบนี้ อีหนูจ๋า สงสัยไม่รอด

โซ่ แส้ กุญเเจมือ เป็นเเน่เเท้ หุหุ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 23-05-2010 22:31:20
อ๊ากกกก

จะเกิดอะไรขึ้นกับนาโอะอีกเนี่ย???

อ๊ากกก  น่ากลัวอ่ะ

กลัวๆๆๆๆ  ขอร้องหละเซจิยังไงอย่าทำร้ายนาโอะได้มั๊ย

ขอร้องหละ :monkeysad: :monkeysad:  นาโอะเจ็บปวดมามากเกินไปแล้วนะ
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-05-2010 23:55:23
เซย์จิ จับได้ ท่าทางศพไม่สวยแน่ๆๆ มันยิ่งบ้าเข้าขั้นโคม่ารักษาไม่หายอยู่
สงสารเด็กน้อยอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 24-05-2010 00:32:50
เรื่องคงไม่จบง่าย ๆ ...เพราะยังไง เซย์จิก็จับนาโอะกลับมาได้อยู่แล้วล่ะ เพราะเรื่องคงไม่จบง่าย ๆ ไง 55
สนุกมากเลยอ่ะ
อยากให้ถึงวันนึงที่เซย์จิตามหานาโอะไม่เจอจริงจริ๊ง
คงสะใจคนอ่านอย่างเรา ๆ น่าดู 555
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 24-05-2010 03:55:01
อ่านจบรวดเดียว 10 ตอน
ใจเต้นระทึกเหมือนไปวิ่งมาสัก 10 รอบสนามบาส
สนุกมากกกกและลุ้นไปกับทุกตอนที่ได้อ่านค่ะ

นาโอะจะเป็นไงบ้างน้า อยากให้มี Miracle เกิดขึ้นเร็วๆจัง

ปล.ขอบคุณ คุณ BeeRY ที่แนะนำเรื่องนี้ไว้ที่กระทู้แนะนำนิยายด้วยนะคะ  ตามมาอ่านตามคำแนะนำ สนุกมากๆๆๆจริงๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 10] (23/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 24-05-2010 11:32:29
-*-  พูดอะไรไม่ออก
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 25-05-2010 03:53:12
Miracle 11

    ร้านสไมล์เคยสร้างรอยยิ้มให้ผู้คนมามากมาย แต่ตอนนี้กลับไม่อาจทำให้หนุ่มสาวทั้งสี่ซึ่งนั่งประจันหน้ากันอยู่รู้สึกผ่อนคลายลงได้ ฮิโรมิตาแดงเหมือนคนเพิ่งร้องไห้หนัก ฮิโรกิกัดปากนั่งเงียบคับแค้นใจจนพูดไม่ออก ส่วนฮาจิเมะและนาโอะนั่งก้มหน้าด้วยไม่รู้จะกล่าวอะไรดี

    " พี่ฮิโรมิเป็นอะไรไปฮะ "
    เด็กชายเดินเข้าไปหาคนโน้นคนนี้ทีก็ไม่มีใครพูดด้วย จึงลองชวนพี่สาวคุยดู แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งเป็นการกระตุ้นให้เธอปล่อยโฮออกมาเสียงดัง
   " หลีก! " ฮิโรกิเดินอ้อมโต๊ะมาหาน้องสาว ตวาดใส่เทะซึโอะซึ่งยืนขวางทางอยู่ แล้วเข้าไปปลอบฮิโรมิ

    ..พี่ชายคนเดิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป..

    ดวงตาสีน้ำตาลของเทะซึโอะมองแผ่นหลังของฮิโรกิด้วยความฉงนใจ หลังจากนาโอะบอกน้องชายว่าต้องกลับมาลาทุกคนที่ร้าน เด็กชายก็ดีใจเป็นอย่างมาก แต่ที่อยู่อันอบอุ่นและปลอดภัยได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะฮิโรกิ พี่ชายใจดีคนนั้นเพียงแค่ปรายตามองมายังด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้จะยังเป็นเด็กแต่เทะซึโอะก็สังเกตได้ บรรยากาศหนักอึ้งปกคลุมอยู่ภายในร้าน ทันทีที่นาโอะเล่าเรื่องราวระหว่างที่อยู่ในบ้านของเซย์จิให้ทุกคนฟังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    " พี่นาโอะรีบไปเถอะค่ะ " ฮิโรมิเอ่ยเร่ง นาโอะรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นดวงตาคลอน้ำใสบนดวงหน้าของหญิงสาว
    เขาไม่ควรกลับมาที่ร้านเลย ไม่ควรเล่าทุกอย่างให้ทุกคนเป็นห่วงอย่างนี้ และยิ่งไม่ควรชะล่าใจให้เงื้อมมือของอำนาจมืด ไม่มีเวลาพักสำหรับหนูน้อยที่หนีหัวซุกหัวซุนอยู่หรอก
 
    " ที่ผ่านมาขอบคุณมากครับ " นาโอะหันมากล่าวลาเมื่อเดินถึงหน้าร้าน
    " แล้วเทะซึจังจะกลับมาเยี่ยมทุกคนนะฮะ " เด็กน้อยยิ้มกว้างด้วยเข้าใจว่ากำลังจะได้ไปเที่ยวกับนาโอะเป็นครั้งแรก เรียกรอยยิ้มให้ผู้สูงวัยกว่าทุกคนได้เช่นเคย เว้นเพียงชายหนุ่มเรือนผมสีสว่างซึ่งสบถออกมาอย่างระอาเต็มทน
    " ไม่รู้อะไรเลยเหรอไงเทะซึโอะ "
    " ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ " นาโอะรีบกล่าวตัดบทสนทนา ด้วยเห็นว่าอยู่ที่ร้านสไมล์มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ถึงมั่นใจว่าความจะไม่แตกจนกว่าสาวใช้จะขึ้นมาดูความเรียบร้อยเมื่อแสงแรกของวันพรุ่งนี้มาเยือนก็ตาม

    ..แต่บอกแล้วยังไงล่ะ ไม่มีเวลาให้หยุดพักหรอกนะ..

    " พี่นาโอะช่วยผมด้วย! "
    เทะซึโอะแผดเสียงด้วยความตกใจเมื่อร่างทั้งร่างถูกชายชุดดำแปลกหน้าอุ้มขึ้นไปทั้งตัว ก่อนผู้ที่เดินตามมาด้านหลังชายชุดดำจะปรากฏกายออกมา ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่ยืนอยู่หน้าร้าน ดวงตาสีดำสนิทโชติช่วงไปด้วยเพลิงแห่งความโกรธแค้นมองไปยังผู้ที่หลบหนีออกมาเป็นครั้งที่สอง ราวกับจะแผดเผาให้ตายทั้งเป็น

    เด็กชายที่กำลังดิ้นพล่านปัดป่ายมือไปมาถูกผ้าขาวปิดจมูกและปาก วินาทีถัดมาการดิ้นรนทั้งหลายจึงหลุดลงด้วยฤทธิ์ยาสลบตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของนาโอะ หัวใจแทบแหลกสลายลงตรงนั้น เทะซึโอะถูกให้ดมยาอะไร ทำไมถึงได้นอนแน่นิ่งไป แล้วน้องชายตัวน้อยจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่

   " เทะซึจัง! "
    ฮิโรกิรั้งข้อมือเพรียวเอาไว้ได้ทันก่อนที่นาโอะจะพุ่งเข้าใส่ชายเหล่านั้น

    " อย่าไปนะนาโอะ "
    " แต่เทะซึจังกำลังจะถูกเอาตัวไปแล้วนะ " ยังไม่ทันขาดคำชายชุดดำก็นำร่างไม่ได้สติเดินหายลับไปยังมุมตึกที่คาดว่าเป็นที่จอดรถ

    เจ้าของรองเท้าหนังราคาแพงเหยียดยิ้มออกมา ทว่าในใจขมขื่นเหลือจะกล่าว เข้าใจแล้วว่าท่าทางว่าง่ายยอมโอนอ่อนผ่อนตามในทุกเรื่องเพียงเพื่อต้องการหนีออกมา หากไม่ใช่เพราะพี่เลี้ยงของเทะซึโอะโทรมาบอกด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่าเด็กชายหายตัวไป จนต้องคาดเดาถึงสถานที่แรกที่คนทั้งสองน่าจะไปแล้วมาดักไว้ได้ทัน ก็ไม่รู้ว่าคราวนี้ต้องเสียเวลาอีกกี่ปีถึงจะตามหาเจอ ถึงไม่ต้องถามเซย์จิก็เดาได้ว่าทำไมนาโอะถึงรู้ที่ซ่อนหนูทดลอง ในระหว่างโอกาสอันน้อยครั้งที่ทั้งสองได้เจอกัน คงมีครั้งใดครั้งหนึ่งที่เจ้าเด็กปากมากนั่นเผลอหลุดปากออกไปเป็นแน่

    ในอกรู้สึกวูบโหวงเหมือนสูญเสียของสำคัญไป หาใช่คับแค้นใจแต่อย่างเดียวดั่งที่เคยรู้สึกเมื่อห้าปีก่อนไม่ เซย์จิรู้สึกเหมือนสูญเสียของสำคัญไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าเช่นนั้นสิ่งใดคือของสำคัญที่ว่า
    ผลการทดลองน่ะเหรอ
    หนูเจ้าเล่ห์ที่ใช้ประโยชน์อันใดไม่ได้แล้วน่ะเหรอ
    หรือว่าทั้งสองอย่าง ?

    " จะเอายังไงล่ะหมายเลข 23 "
    นาโอะรู้ได้ในทันทีถึงความนัยของประโยคกำกวมนั้น หากทำให้เซย์จิไม่พอความปลอดภัยของเทะซึโอะจะลดลงตามไปด้วย ตัวเขาที่หาญกล้าถึงขนาดหลบหนีออกมาอีกครั้ง หากเซย์จิจะโกรธแค้นจนพาเทะซึโอะไปองค์กรลับเดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

    นาโอะคาดเดาถึงผลลัพธ์นี้เอาไว้บ้างแล้วในตอนวางแผนลอบหนีอีกครั้ง แต่ก็ยังอยากลองเสี่ยงดู ผลที่ได้คือความล้มเหลว ผู้พ่ายแพ้ในเกมไล่จับครั้งนี้หมดโอกาสแม้แต่จะร้องขอความเมตตาเสียด้วยซ้ำ

    แต่เขาก็ยังหวังในคำว่าปาฏิหาริย์อยู่ มีเพียงความเชื่อลม ๆ แล้ง ๆ นี้เท่านั้นที่เป็นดั่งแรงใจให้นาโอะเลือกเสี่ยงดูอีกสักครั้ง แต่บางทีปาฏิหาริย์อาจเกิดขึ้นตั้งแต่นานแล้วก็เป็นได้ หากแต่มนุษย์ผู้ขลาดเขลากลับตาฝ้าฟางด้วยความโกรธแค้นต่อกันจนไม่ทันได้สังเกต

    " แกเรียกใครว่าหมายเลข23 " ฮิโรกิกำหมัดแน่นหมายจะปราดเข้าทำร้ายเซย์จิ ทว่านาโอะกลับร้องห้ามเสียงดังขึ้นมาก่อน
    " ห้ามทำอะไรเซย์จิซังนะ ไม่อย่างนั้น.. ถ้าไม่อย่างนั้นเทะซึจังจะ....."
    ไม่อาจพูดได้จนจบประโยค ลำคอตีบตันไปหมด ภาพความทรงจำทั้งคำข่มขู่ และการกระทำโหดร้ายที่มีต่อเด็กชายฉายชัดอยู่ในสมอง
   " ฉลาดดีนี่ " เซย์จิกล่าวเยาะเย้ยทางอ้อม
   " ทุกคนขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้เป็นห่วง "

    ฮิโรมิถึงกับร้องไห้ออกมาอีกครั้ง สงสารนาโอะจับใจที่ไม่อาจขัดขืนเรียกร้องอิสรภาพอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานให้เทะซึโอะหรือแม้แต่ตนเองได้ ฮาจิเมะผู้ยืนนิ่งดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่นานพยายามคิดหาหนทางช่วยเหลือ แต่ไม่ว่าจะขบคิดสักเท่าไหร่ก็อับจนหนทาง อยากช่วยเด็กหนุ่มคนนี้ให้ตลอดรอดฝั่งแต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเซย์จิมากด้วยอำนาจถึงเพียงนี้ 

    ฮิโรกิทอดมองนาโอะเดินตามเซย์จิไปจนลับสายตา ไม่ว่านาโอะจะปิดบังสิ่งใดไว้อยู่เขาก็ไม่เคยใส่ใจ ตราบเท่าที่เพื่อนข้างห้องยังยิ้มได้เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

    แต่ในตอนนี้นาโอะไม่ความสุข ดวงตาสีน้ำตาลไม่ฉายแววสดใสดังเดิม จะให้เขาทนได้ยังไง..
    ฮิโรกิเกลียดเซย์จิ เกลียดมากจนอยากจะฉีกทึ้งออกเป็นชิ้น ๆให้สาแก่ใจ

    เซย์จิทำให้นาโอะต้องเจอเรื่องเลวร้ายดั่งตกนรกทั้งเป็น ส่วนเทะซึโอะเป็นต้นเหตุทำให้นาโอะที่หนีรอดมาได้แล้วต้องกลับไปเผชิญนรกนั้นอีก
    ฮิโรกิให้สัญญากับตัวเอง ไม่ว่าผู้ที่ทำให้รอยยิ้มอันสดใสหายไปจะเป็นผู้มีอำนาจคับฟ้าสักแค่ไหน ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครเกี่ยวข้องกับนาโอะยังไง เขาจะทำลายทุกอย่างให้เอง เพื่อทวงนาโอะคนเดิมกลับคืนมา

-----------------------------------

    เซย์จิออกคำสั่งให้ลูกน้องพานาโอะกลับมาที่บ้าน ส่วนตัวเองนั่งรถอีกคันที่มีร่างไร้สติของเทะซึโอะอยู่แยกไปที่อื่นก่อน นาโอะพยายามอ้อนวอนขอนั่งรถไปกับเซย์จิด้วย ร่างที่นอนแน่นิ่งทำให้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียเลย แต่ฝ่ามือหยาบกร้านของผู้อยู่เหนือกว่ากลับผลักเขาเข้ามาในรถอีกคันอย่างไม่ใยดี

    นานนับชั่วโมงที่ต้องคอย นาโอะเฝ้าถามตัวเอง ทำไมตนและเทะซึโอะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เพราะเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกซื้อมาอย่างนั้นเหรอ เพราะเทะซึโอะเป็นผลการทดลองที่ถูกกำหนดให้ไร้อิสรภาพ เป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาด้วยวิธีผิดธรรมชาติไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างคนทั่วไปอย่างนั้นเหรอ แล้วนาโอะที่ลอบหนีออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าจำต้องรับโทษ เพียงเพราะอยากจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วเหรอ

    ..โชคชะตาช่างโหดร้าย มีใครบางคนกำลังสนุกสนานที่เห็นเขาต้องทุกข์ตรมหรือ..

    " ว่าไงไอ้หนูเจ้าเล่ห์ "
    คำทักทายแดกดันเป็นดั่งเสียงระฆังลั่นเตือนให้รู้ว่าการลงทัณฑ์อันป่าเถื่อนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่ก่อนหน้านั้นนาโอะมีเรื่องอยากถามเซย์จิก่อน เขาลุกขึ้นจากเตียงสาวเท้าเข้าไปจ้องหน้าคู่สนทนา แววตารวดร้าวที่เซย์จิเฝ้าเย้ยหยันมาในตลอด ตอนนี้เขากลับไม่อยากเห็น ชายหนุ่มคิดถึงรอยยิ้มที่มาพร้อมแสงแดดยามเช้า แต่เมื่อหวนคิดได้ว่าใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเหล่านั้นเป็นเพียงการแสดง ก็โกรธจนแทบคลั่ง คลื่นอารมณ์มากมายทำให้ชายหนุ่มจวนเจียนจะหมดความอดทนเต็มที

    " ทำไมถึงต้องทำกับพวกผมแบบนี้ด้วย "
    " เพราะเงินยังไงล่ะ รู้มั้ยฉันต้องขาดทุนไปเท่าไหร่กับโปรเจคนั่น เสียหน้าไปมากแค่ไหน ผลการทดลองจะทำให้ฉันได้สิ่งที่เสียไปกลับมา เรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจเหรอไง " เซย์จินึกสนุกลองสงบอารมณ์ แล้วตอบคำถามออกไ
    " คุณยังรวยไม่พออีกเหรอครับเซย์จิซัง ต้องการของพวกนั้นไปทำไมตั้งมากมาย " ชั่วขณะหนึ่งที่ดวงตาสีน้ำตาลคล้ายจะสมเพชชายหนุ่ม

    นั่นใช่เหตุผลของการกระทำทั้งหมดจริงหรือ แน่ใจหรือว่าเก็บนาโอะไว้แล้วจะได้เงินมากขึ้น โครงการอะไรนั่นก็ล้มเลิกไปนานแล้ว แม้แต่เอกสารผลการทดลองก็ถูกเผาทำลายจนหมด ผลการทดลองสร้างเงินได้มากกว่าโปรเจคใหญ่อันอื่นที่ผ่านมาสักเท่าไหร่กัน

    แล้วไหนล่ะที่ว่าทำไปเพื่อเงิน ?

    " ถ้าเป็นเรื่องนั้น บอกจำนวนเงินมาสิผมสัญญาจะหามาใช้ให้ครบ แต่ปล่อยผมกับเทะซึโอะไปเถอะครับ พวกเราแค่อยากจะให้ชีวิตอย่างมีความสุขเท่านั้นเอง "
    ดวงตาสีน้ำตาลฉายชัดถึงเจตจำนงอันแรงกล้าว่าไม่ต้องการอยู่ด้วย เป็นสิ่งย้ำเตือนได้อย่างดีว่าทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นแค่ละครบทหนึ่งเท่านั้น เซย์จิสุดจะอดกลั้นอารมณ์โกรธได้อีก ฝ่ามือใหญ่ผลักนาโอะติดกำแพงก่อนลำคอเพรียวจะถูกบีบเอาไว้

    " นายกับเด็กนั่นเป็นของ ๆ ฉัน อย่าคิดหาทางไถ่ตัวไปหน่อยเลย "
    " อึก..!! "
    " ลองพูดอีกสิว่าจะหนีออกไป "
    " ปล่อย..ผม..กับ..เทะ..อึก!! " เซย์จิเพิ่มแรงบีบที่ลำคอให้มากขึ้น จนแม้แต่หายใจยังทำได้ยาก กระทั่งในยามเข้าใกล้ความตายเจ้าหนูน้อยยังไม่ล้มเลิกความคิดหลบหนี
    " พูดออกมาสิ! "
    "........"

    ชั่วขณะที่ราวกับสติพร่าเลือน ราวกับเป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิต ร่างทั้งร่างก็ถูกปล่อยลงกับพื้น ร่างผอมไอจนตัวโยน พยายามกอบโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ไม่นานนักจึงรู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็นเฉียบของโลหะที่ข้อเท้าข้างหนึ่ง เมื่อก้มลงดูก็พบโซ่เส้นหนึ่งล่ามขาของตนไว้กับปลายเตียงเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าหวานซีดลงทันตา

    " ฉันจะล่ามนายไว้จนกว่าจะเลิกคิดพาทั้งผลการทดลอง และตัวเองหนีไปจากฉันอีก "

    ..ถ้าถูกล่ามไว้แบบนี้แล้วใครจะเป็นผู้ช่วยเทะซึโอะออกมา ความหวังอันน้อยนิดไม่มีเหลือแล้ว ปาฏิหาริย์คงไม่มีจริง..

    รอยยิ้มอ่อนหวานกับท่าทางออดอ้อนเป็นกันเอง อาจไปกระตุ้นความรู้สึกที่ถูกเก็บมานานปีเข้าก็เป็นได้ ความเคียดแค้นทั้งหมดจึงเปลี่ยนไปเป็นความต้องการครอบครองโดยไม่รู้ตัว

    ..ความรู้สึกที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กละน้อยเหมือนไวน์ที่ต้องเพาะบ่มจึงจะเลิศรส..

----------------------------------

    เช้าวันต่อมาเป็นเช้าที่เงียบเหงาที่สุดตั้งแต่เกิดมาของเซย์ิจิ ชายหนุ่มถูกปลุกด้วยเสียงเรียกของสาวใช้คนเดิมซึ่งทำหน้าที่นี้มาตลอด แต่กลับรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพราะเธอปฏิบัติหน้าที่บกพร่องมาปลุกช้ากว่าเวลา แต่เป็นเพราะเสียงของเธอไม่น่าฟังเท่าผู้ที่คอยทำหน้าที่นี้จนถึงเมื่อวาน เพราะรอยยิ้มของเธอไม่น่ามองเท่ากลีบปากเรียวซึ่งแย้มยิ้มได้อย่างน่ารักน่าใคร่
 
    เมื่อเดินลงบันไดมาแล้วพบเพียงคนขับรถยืนคอยอยู่ ไร้เงาของร่างเพรียวดังเช่นทุกที ก็ให้ว้าเหว่เสียยิ่งกว่ายามต้องอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่สมัยเด็กเสียอีก ทั้งที่บทละครนั้นดำเนินไปได้ไม่ถึงเดือน หากแต่กลับซึมซับเข้ามาราวกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เซย์จิต้องอดทน จนกว่าเจ้าหนูน้อยจะเรียนรู้ได้ว่าห้ามคิดหนีไปไหนอีก

    ทั้งนาโอะและเทะซึโอะเป็นของเขา หากหลบหนีต้องจับล่าม หากทำผิดต้องสั่งสอน โทษที่บังอาจหลอกลวงและหลบหนีไปคงต้องสั่งสอนจนกว่าจะหลาบจำ เซย์จิผู้ขลาดเขลาเบาปัญญาคิดได้เพียงเท่านี้

    ..หากมั่นใจว่าเลือกเดินในหนทางที่ถูกที่ควรแล้วก็ทำไปเถิด..

    " นายฟังไม่ผิดหรอกไดยะ มันหนีไปอีกแล้ว "

    เซย์จิเพิ่งกลับมาจากทำงานในตอนเย็น วันนี้ถือเป็นวันที่แย่ที่สุดอีกวันหนึ่ง ไม่ว่าอะไรก็ดูขวางดูขวางตาไม่ได้ดั่งใจไปเสียหมด หากปล่อยให้สภาพอารมณ์เป็นแบบนี้ต่อไปสักวันคงส่งผลกระทบต่องานได้ คิดได้อย่างนั้นจึงคว้าอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ขึ้นมาโทรหาเพื่อนสนิท จิตใจที่งุ่นง่านจึงค่อยผ่อนคลายลงจากอารมณ์ขันมากมายของไดยะ เมื่อถูกซักไซ้ถามถึงต้นตอของอารมณ์ฉุนเฉียวถึงได้ยอมเปิดปากเล่าออกไปจนหมด

    " แต่ฉันจับกลับมาล่ามเอาไว้แล้ว คราวนี้คงหนีไปไหนอีกไม่ได้ "
    " ถึงกับล่ามเลยเหรอ ไม่มากไปหน่อยเหรอไง " น้ำเสียงปลายสายฟังดูตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
    " ทั้งเจ้านั่นทั้งผลการทดลองเป็นของฉันแท้ ๆ ยังคิดหนีไปอีก ไม่ลงโทษไม่ได้หรอก " คิ้วหนาขมวดย่นเข้าหากันอย่างคนไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ปลายสายเงียบไปนานเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะถามสิ่งที่ติดใจสงสัยออกมาในที่สุด

    " นี่เซย์จิ ถามตรง ๆ เถอะ ที่ทำแบบนี้ ที่เอาแต่บอกว่าทั้งสองคนเป็นของนาย ตกลงเพราะต้องการแก้แค้นจริง ๆ น่ะเหรอ "

    เขายังอยากแก้แค้นอยู่หรือเปล่า เซย์จิถามตัวเองเช่นนั้น

    จริงอย่างที่นาโอะว่า เงินแค่นั้นจนถึงตอนนี้ที่ผ่านมาถึงห้าปีมันก็ไม่มีค่าอะไรแล้ว ทั้งชื่อเสียงที่เสียหายไปก็ถูกกลบลบกับโปรเจคอื่นที่ทำเงินได้มากกว่าตั้งมากมาย บางทีเซย์จิอาจไม่สนใจเรื่องพวกนั้นไปนานแล้วก็เป็นได้

    ..เขาเพียงไม่ต้องการให้ทั้งสองหายไปจากสายตาคู่นี้อีก..

    ก่อนที่จะได้ตอบออกไปสาวใช้คนหนึ่งก็รีบตรงเข้ามาหาสีหน้าวิตกกังวลคล้ายมีเรื่องด่วนอะไร เซย์จิกล่าวตัดบทสนทนาแล้ววางสายไปด้วยความรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกบางอย่างพร่ำบอกว่าหากยังยื้อคุยกับไดยะต่อไป เขาอาจเผลอเปิดกล่องแพนโดร่าในจิตใจตนเข้าให้ก็ได้

    ..เซย์จิมั่นใจว่าหากกล่องนั้นเปิดออก ตัวเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป..

    " มีอะไรกันอีกล่ะ"
    " นาโอะคุงไม่ยอมกินข้าวเลยตั้งแต่เช้าค่ะ! " เพียงแค่ประโยคเดียวเซย์ิจิก็รีบรุดไปยังห้องบนชั้นสองโดยไม่สนใจฟังอะไรอีกทั้งนั้น

    นายคิดอะไรอยู่ กำลังวางแผนอะไรอีก!

    เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นผู้ที่อยู่ด้านใน เซย์จิก็รู้สึกเหมือนโดนอะไรสักอย่างฟาดเข้ากลางหลังอย่างจังให้เจ็บปวดไปทั้งร่าง นาโอะนั่งอยู่บนเตียงกว้างกำลังก้มหน้ามองฝ่ามือของตน มือข้างที่เคยสัมผัสกับมือเล็ก ๆ ของเทะซึโอะมาตลอด แดดยามเย็นสีส้มสาดส่องมาจากหน้าต่างตรงข้ามเตียง ยิ่งทำให้เหมือนนาโอะดูคล้ายจะสลายหายไปกับอากาศได้ทุกเมื่อ โลหะปลายเตียงสะท้อนแสงเป็นประกาย

    ..ผู้ที่ถูกลงโทษอยู่จะมีท่าทีดีใจได้ยังไงกัน เขาต้องใจแข็งให้มากกว่านี้ อย่าได้หลงไปกับท่าทางน่าสงสารนี้เชียว..
    " ได้ยินมาว่าไม่ยอมกินข้าว คราวนี้ตั้งใจจะทำอะไรอีกล่ะ "
    " คุณพาเทะซึโอะไปไว้ที่ไหน ขอให้ผมเจอเขาได้มั้ยครับ " เจ้าของดวงตาหม่นหมองอย่างคนสิ้นหวังเงยขึ้นมองหน้าเซย์จิ คำถามนั้นทำให้ผู้ฟังหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง

    " เจอแล้วจะทำอะไรล่ะ คิดจะหนีอีกเหรอไง "
    " ผมไม่ทำอีกแล้ว ได้โปรดให้ผมเห็นด้วยสายตาตัวเองว่าเทะซึโอะปลอดภัย แล้วจะให้ทำอะไรก็ได้ครับ  "
    ภาพร่างน้อยนอนแน่นิ่งหลังถูกให้ดมยากัดกร่อนจิตใจนาโอะตลอดหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวันเต็ม ให้กระวนกระวายไปหมด สภาพที่ถูกล่ามเหมือนนกปีกหักไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือเอาจากใครได้ นอกจากผู้ที่นาโอะทั้งเกลียดทั้งกลัวคนนี้

    ..เวลานี้วินาทีนี้นาโอะยอมหมดแล้วทุกอย่าง..

    " หลอกฉันมากี่ครั้งแล้วล่ะ คิดว่าฉันจะยอมเชื่อง่าย ๆ เหรอไง " ดวงตาสีดำสนิทกดลงมองผู้ที่นั่งอยู่บนเตียง
    " ผมสัญญาจะไม่โกหก ขอร้องล่ะครับ "
    ยิ่งนาโอะอ้อนวอนมากเท่าไหร่เซย์จิก็ยิ่งโมโหมากเท่านั้น ร่างเพรียวเคยร่ำร้องขอพบเทะซึโอะ พอยอมทำตามคำขอผลที่ได้คือภาพเหตุการณ์เดิมที่เกิดขึ้นอีกอย่างน่าแค้นใจกับความโง่งมโดนหลอกเอาได้อย่างง่ายดาย เขาจะไม่ยอมให้นาโอะเจอตัวเทะซึโอ ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าหากใจอ่อนขึ้นมาทั้งสองจะไม่หนีไปอีก

    " เลิกพูดแล้วกินข้าวได้แล้ว "
    ฝ่ามือใหญ่หยิบจานข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงมาส่งให้ สิ่งที่ได้รับคือการส่ายหน้าน้อย ๆ เป็นการปฏิเสธ คนสำคัญของตนเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ทราบ จะให้มัวมากินข้าวอยู่ได้ยังไง

    " จะกินมั้ย " น้ำเสียงทุ้มแหบต่ำคล้ายกำลังสะกดกลั้นอารมณ์ที่ใกล้ระเบิดเต็มที
    " ผมทานไม่ลง "
    สิ้นคำตอบซึ่งไม่ต่างจากที่เดาไว้นัก เซย์จิตักข้าวขึ้นมาคำหนึ่ง มืออีกข้างบีบสันคางเรียวไว้ให้ริมฝีปากอวบเปิดออก ก่อนจะยัดช้อนเข้าไป อากัปกิริยารวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันทำให้นาโอะสำลักข้าวคำนั้นออกมาจากหมด เมื่อมองจากระยะใกล้เช่นนี้รอยนิ้วมือที่ลำคอยิ่งเด่นชัด น่ากลัวว่าแม้แต่ตอนนี้คงยังไม่หายเจ็บ ยิ่งเจ้าของร่างสำลัก ไอและหอบจนร่างทั้งร่างสะท้าน ยิ่งเหมือนรอยช้ำนั้นสร้างความเจ็บปวดให้เป็นเท่าทวี

    เซย์จิยืนคอยจนนาโอะหยุดสำลักจึงเริ่มป้อนอาหารอีกครั้ง แน่นอนว่าหากไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของร่างมีหรือจะทำสำเร็จ กระนั้นชายหนุ่มยังฝืนดึงดันจะป้อนต่อไป เมื่อข้าวหมดจานใบหน้าขาวจึงแดงก่ำจากอาการสำลักรุนแรงหลายครั้ง อาหารตกถึงท้องไม่ถึงครึ่งของจาน ส่วนที่เหลือตกลงเปรอะเปื้อนที่นอนอย่างน่าเสียดาย และเซย์จิก็ไม่่ค่อยพอใจกับผลงานครั้งนี้เท่าไหร่นัก

    " ให้ผมเจอเทะซึจังเถอะนะครับ " ทันทีที่จังหวะการหายใจกลับมาเป็นปกติ นาโอะก็ขอร้องอีกครั้ง

    ..ทำไมถึงไม่หยุดพูดชื่อนี้สักที!..

    นามผู้ถูกเรียกหาเป็นเหมือนตัวกระตุ้นความทรงจำของเซย์ิจิ เมื่อใดก็ตามที่ชื่อนี้หลุดออกมาจากริมฝีปากเรียวเหมือนเป็นดั่งสัญญาณว่าเจ้าตัวยังไม่เลิกล้มความคิดที่จะหนีไป ช่างน่าหงุดหงิดเหลือเกิน

    " เลิกพูดชื่อนี้ได้แล้ว "
    " แต่เทะซึจัง...."

    เพี๊ยะ!!

    " ฉันบอกให้่หยุดพูดไง "

    ฝ่ามือใหญ่ตบลงบนแก้มเนียนที่เขาเคยชอบจุมพิตอย่างอ่อนโยนไม่ออมแรงแม้แต่น้อย รสเลือดเค็มปร่ากระจายไปทั่วโพรงปากและหยดลงตรงมุมปากเรียว ก่อนคนป่าเถื่อนจะเดินหายออกจากห้องไป โดยไม่ลืมเรียกสาวใช้เข้ามาทำความสะอาดเตียงซึ่งเต็มไปด้วยเม็ดข้าวจำนวนมากด้วย

    ในวันถัดมาทุก ๆ เย็น เซย์ิจิจะรีบกลับบ้านเพื่อบังคับให้นาโอะกินข้าว ซึ่งนาโอะยังไม่ยอมกินเหมือนเช่นเคยเอาแต่ร้องเรียกหาน้องชายเพียงอย่างเดียว แววตาสีน้ำตาลเปี่ยมล้นด้วยความห่วงหาในตัวเทะซึโอะ แม้จะถูกเซย์จิตบหน้าเอาทุกครั้งที่เอ่ยชื่อนี้ออกมาก็ยังไม่เข็ดหลาบ ร่างเพรียวผ่ายผอมลงทุกขณะด้วยสารอาหารที่ไม่เพียงพอ เรียวปากบางไม่แย้มยิ้มให้อีก นั่นเป็นเรื่องน่าเสียใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

    ..ยิ้มออกมาอีกสิเหมือนที่นายเคยทำ ฉันทำอะไรผิดพลาดไปตรงไหนเหรอไง ทุกอย่างถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้..

---------------------------------

    " มาสเตอร์ครับ เราจะอยู่เฉย ๆ อย่างนี้ไม่ได้นะครับ "
    ฮิโรกิครวญออกมาเหมือนที่ทำตลอดหลายวันที่ผ่านมา ตั้งแต่คืนที่นาโอะมาเพื่อลาก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อีก จนน่ากลัวว่าสองพี่น้องอาจไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว

    " แล้วพวกเราจะทำอะไรได้ล่ะฮิโรกิ "
    " พวกเรา..เอ่อ...."
    แม้แต่ตัวเองก็ยังตอบไม่ได้แล้วจะไปหวังคำตอบอะไรจากผู้ที่อยู่ในสถานะเดียวกัน เป็นอีกครั้งในรอบหลายวันที่ทั้งร้านถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายของความสิ้นหวัง

    ..แต่อย่าลืมสิทุกปัญญามีทางออกเสมอ..

    ฮาจิเมะลุกไปรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำลายบรรยากาศหดหู่ ชายหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าใครเป็นผู้โทรมา

    " หายหัวไปไหนมาตั้งนาน ทำไมเพิ่งโทรมาเอาป่านนี้ " ความยินดีที่เกิดขึ้นยามได้คุยกับคนสนิทที่ไม่ได้ข่าวคราวมานาน ทำให้อดจะหยอกล้อออกไปไม่ได้ แม้ในใจจะท้อแท้แค่ไหนก็ตาม

    " กำลังอยากได้ความช่วยเหลือใช่มั้ยล่ะฮาจิเมะ "
    คู่สนทนาผ่านโทรศัพท์กล่าวออกมา

    ..ความหวังบังเกิดขึ้นอีกครั้ง..

TBC
เลื่อนเปิดเทอมไปอีกหนึ่งอาทิตย์ เรากำัลังหวังลมๆแ้ล้งๆล่ะค่ะว่าจะแต่งให้จบทันก่อนเปิดเทอม OTL
JJHJJH => (สะดุ้งเพราะถูกจิ้ม XD) หวังหน่อยเถอะค่ะมันอาจจะไม่สิ้นหวังไปซะหมดก็ได้นี่คะ
jasmin => ก็โดนบีบคอ โดนล่าม โดนตบหน้าแล้วก็ไม่ให้เจอเทะซึโอะน่ะค่ะ (หน้าซีด)
CipheR => หนีไม่รอดอย่างที่เดาแหละค่ะ แต่ก็ยังไม่ตายน้า
BeeRY => อีกเดี๋ยวก็ไม่น่าสงสารแล้วล่ะค่ะ
hpsky => ไม่มีโศกนาฎกรรมหรอกค่า มันกำลังจะผ่านช่วงทารุณไปแล้ว~
pattybluet => นาโอะหนีไม่รอดล่ะค่ะ ถ้าหนีรอดก็วนเข้าลูปเดิมกับตอนแรกน่ะสิค้าา ขอบคุณสำหรับกำลังใจอีกเ่ช่นเคยค่ะ!
iforgive => สาหัสมากถึงมากที่สุดล่ะค่ะ นาโอะมีทางเลือกที่จะอยู่เฉยๆคอยให้เซย์ิจิแพ้ภัยตัวเองไงคะ ^^
anajulia => อีกประมาณ (นั่งนับนิ้ว) ไม่น่าจะเกิน4ตอนแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดค่ะ แต่ช่วงหลังที่เราว่าไม่ดราม่าไม่รู้จะดราม่าสำหรับคนอ่านหรือเปล่าเนี่ยสิคะ.. ขอบคุณที่เช็คคำผิดให้ด้วยนะคะ! >.<
Phelyra => อีกนิดนึงก็จะรอดแล้วค่ะ
Laxxeez =>รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกาแต่มาตายคาอ้อมอกเซย์จิแล้วกันนะคะ (ฮา)
vvivy => งั้นอ่านเอาจากในตอนนี้เลยแล้วกันนะคะ ^^
bigbeeboom => ยินดีต้อนรับค่า ยืนยันว่าจบไม่เศร้าแน่นอนค่ะ ไม่มีใครตายด้วย! เราทำใจรับตอนจบแบบนั้นไม่ได้เหมือนกันค่ะ แหะๆ
Tifa => ถูกตรงโซ่ล่ะค่ะ สองอย่างหลังขอไว้เถอะค่ะเดี๋ยวจะช้ำในตายกันซะก่อน XD
YELLOWSTAR => ขอโทษค่ะ!! เซย์ิจิทำร้ายอีกแ้ล้วล่ะค่ะ TTwTT
dahlia => บ้าอย่างนี้พาไปฉีดยาเลยดีมั้ยคะ ยาชื่อนาโอะน่ะค่ะ
different => ถ้ามีฉากหนีรอดจริงคงสะใจคนเขียนด้วยล่ะค่ะ หุๆ
aorpp => ยินดีต้อนรับค่า วิ่งรอบสนามเหนื่อยมั้ยคะ XD ตอนนี้ยังลุ้นอยู่หรือเปล่าคะเนี่ย เหมือนเริ่มเฉลยออกมาเลยไม่่ค่อยลุ้นแล้วยังไงไม่รู้เลยค่ะ..
zatamare => งั้นเปลี่ยนเป็นอ่านแทนแล้วกันค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 25-05-2010 08:08:07
จิ้มก่อน :z13:

 :monkeysad:นาโอะน่าสงสารที่สุด :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 25-05-2010 10:31:00
อยากบีบคอพระเอกเรื่องนี้จริงๆๆ เลย  :angry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 25-05-2010 11:09:14
ไดยะ  ใช่มั๊ยที่โทร.มา

เซจิเหมือนคนเถื่อนที่ไม่มีหัวใจ  ไม่เคยรักใคร  ไม่เคยมีใครรัก
ไม่รู้จักว่าความรักคืออะไร  แบบนั้นเลยจริง ๆ
เฮ้อออ  สงสารนาโอะจัง
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 25-05-2010 11:28:20
หวังว่าคนที่โทรมาจะเป็นไดยะนะคะ นาโอะจะได้หนีออกมาจากเซย์จิได้สักที T^T
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 25-05-2010 12:42:22
หวังว่าคนที่โทรมาหาฮาจิเมะคือไดยะ
ไดยะน่าจะเป็นคนที่ช่วยทำให้เรื่องทุกอย่างดีขึ้น
ใช่มะคนแต่ง  :a5:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 25-05-2010 12:44:17
555 คนแต่งกวน

เฮ้อ เซย์จิ เป็นพวกไม่ยอมรับหัวใจตัวเองสินะ คอยแต่จะหาเหตุผลมาหักล้างการกระทำของตน ว่าเกิดจากความแค้น ไม่ใช่ความต้องการจากใจ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 25-05-2010 13:08:43
นาโอะน่วมอีกแล้ว เซย์จิก้อหัดถนอมๆหน่อยจิ ปัดโธ่!!
ไปนั่งสำนึกผิดคนเดียวเลยป่ะ
ตอนท้ายๆนี่ จะเปิดตัวฮีโร่คนสำคัญรึป่าวคะ ขอเดาว่าเป็นไดยะด้วยคน หุหุ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
ปล.จริงๆเค้าอยากเห็นฉากสวีทของเซย์จิกับนาโอะนะ อยากรู้ว่าเซย์จิมันจะได้ขนาดไหน 555+


หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 25-05-2010 13:21:34
ถ้าเงินทองมากมายที่นายมี มันสร้างความสุขให้นายได้จริง ๆ นายจะมาไขว่คว้าหาอะไรจากคนอื่นอีกทำไม เพราะไม่มีใครเคยรักนาย และนายก็ไม่เคยรักใคร อยู่คนเดียวต่อไปเหมือนเดิมคงไม่แตกต่างจากที่เคย ในเมื่อนายไม่เคยรักใครแม้แต่ตัวเอง...เซย์จิ :fire:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 25-05-2010 16:12:40
ใครก็ได้เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยฉุดรั้งนาโอะกับเทะซึจังให้หลุดพ้นจากวังวนที่ดำมืดนี้ซะที ใครก็ได้...แค่สักคน มาช่วยทีเถอะค่ะ :monkeysad: :m15: :o12:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 25-05-2010 22:28:27
สนุกจริง ๆ นะเออ
เรื่องนี้น่ะ
เปิดอ่านเราก็ต้องอ่านทีละน้อย ๆ  ทำโน่นนี่นั่นไปด้วย ค่อยๆอ่าน
เดี๋ยวจบตอนเร็ว 555

เซย์จิเป็นบุคคลผู้มีความฉลาดทางอารมณ์ติดลบ ไม่สามารถอยู่ร่วมสังคมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
ยังจะมีหน้ามาถาม ...ทำผิดตรงไหน ? = ='
ค้าา ไม่ผิดเ้ล้ยยย นาโอะนั่นแหละผิดเนอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 25-05-2010 23:42:41
เข้มข้นมากเลยค่ะ ตอนนี้พ่อพระเอกเราหลงรักนาโอะไปแล้ว 100% แต่นาโอะจะทำใจรักเซย์จินี่คงยากน่าดู

ว่าแต่หนูน้องชายนี่จริงๆ แล้วคือโซ่ทองคล้องใจของทั้งสองคนน่ะสิ!!
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 25-05-2010 23:58:33
เซย์จิ communication skill อ่ะมีไหมห๊า
พูดทีตบทีแบบนี้ไม่ไหวนะ ไม่ปลื้มเลยอ่ะ :m31:



หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 26-05-2010 00:15:18
 :monkeysad: นู๋นาโอะไม่น่าลุย..กลับมาทรมานอีกแล้ว

เซย์จิพยายามคิดให้มากกว่านี้หน่อยก่อนจะสายไปๆๆ :m16:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 26-05-2010 00:15:25
ค่อนข้างเชื่อ
เหมือนหลายรีข้างบนว่า...
ไดยะ นั่นแหละ
ที่เป็นเพื่อนกับฮาจิเมะ
ส่วนเซย์จินั้น เชื่อได้ว่าความรักที่กำลังก่อตัวขึ้นโดยที่ไม่มีใครมองเห็นนั้น
มันเริ่มเกาะกินจิตใจเซย์จิทีละนิดๆ แล้ว
แต่ยังไงก็ดี... นาโอะ จะยอมรับเซย์จิได้หรือ??
นั่นก็ยังงต้องดูต่อไป
หรือว่าจะเอาแบบ Hades กับ Persephone เลยดีเอ่ย??
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 26-05-2010 03:17:20
Miracle 12


    ..จะต้องทำยังไงดี..

    เซย์จิถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาระหว่างทางกลับบ้าน วันนี้ต้องรีบกลับมาหาทางทำให้นาโอะกินข้าวอีกเช่นเคย แต่จนกลับถึงบ้านก็ยังคิดไม่ตก หากปล่อยไว้อย่างนี้นาโอะคงได้ล้มป่วยเข้าสักวัน ซึ่งเขายอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด ชายหนุ่มรู้อยู่แก่ใจดีถึงวิธีแก้ปัญหานี้ เพียงพาเทะซึโอะมาทุกอย่างจะเรียบร้อย นาโอะที่ท้อแท้สิ้นหวังเสียจนยอมสิ้นแล้วทุกอย่างแลดูน่าสงสาร แต่หากใจอ่อนแล้วปล่อยให้หลบหนีออกไปได้อีกล่ะจะทำยังไง

    " เทะซึโอะ.."
    ขาเรียวยาวชะงักหยุดอยู่กับที่เพราะเสียงคุ้นหูพร่ำเรียกชื่อคนสำคัญปานจะขาดใจ แม้ไม่เปิดประตูเข้าไปเซย์ิจิก็รู้ถึงสภาพผู้ที่อยู่ด้านใน สองวันที่ผ่านมานาโอะเอาแต่นอนอยู่บนเตียง ร่างกายซูบผอมลงมาก เมื่อไหร่ที่ตื่นมักถามถึงแต่น้องชายตัวน้อย ทั้งที่ยังไม่ได้บอกสักคำว่าเทะซึโอะเป็นอะไรไปแล้ว ไยต้องกลัดกลุ้มและทรมานตัวเองถึงเพียงนี้ด้วย

    ..ยอมให้เจอกันไม่ได้ แต่ก็ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ใช่เช่นกัน..

    เจ้าของบ้านตัดสินใจหนีปัญหาตรงหน้า เดินเลี่ยงไปยังชั้นสามซึ่งเป็นที่อยู่ของเทะซึโอะในตอนนี้ แผนนั่งรถคนละคันหลอกให้นาโอะเข้าใจผิดคิดว่าเด็กชายถูกพาไปที่อื่นสำเร็จลงด้วยดี ทว่าผลที่ออกมากลับไม่เป็นดังที่ต้องการ นาโอะต้องทำดีด้วยเหมือนเดิมสิ ไม่ใช่เอาแต่ทำร้ายตัวเองแบบนี้ ทุกคราที่เห็นแววตาหม่นหมองมองมา เซย์จิรู้สึกราวกับตนเองถูกทำร้ายไปด้วยอย่างไรอย่างนั้น

    เมื่อไหร่นายจะเลิกทำสายตาแบบนั้นสักที ?
    วินาทีที่เซย์ิจิหันหลังมุ่งตรงไปยังบันไดขึ้นชั้นสาม ผู้บุกรุกจากภายนอกก็บุกมาถึงหน้าต่างห้องนาโอะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    " นาโอะ "
    เจ้าของนามหันไปตามเสียงเรียก เพื่อเจอกับผู้ที่ไม่มีทางมายืนอยู่ตรงระเบียงห้องได้ นาโอะค่อย ๆ พยุงกายลุกขึ้นขณะมองเจ้าของเรือนผมสีสว่างเดินตรงมาหาพร้อมกระเป๋าสะพายใบใหญ่

    " ทำไมฮิโรกิถึงมาอยู่ที่นี่ได้ " นาโอะถามผู้ที่นั่งลงข้างเตียงแล้วเริ่มมองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตาสีดำลุกโชนด้วยเพลิงแห่งความโกรธมากกว่าเดิมเมื่อเห็นร่างผ่ายผอม รอยช้ำบนใบหน้ากับลำคอ และโซ่ล่ามข้อเท้าข้างหนึ่งเอาไว้

    " มันโหดร้ายกับนาโอะถึงขนาดนี้เลยเหรอ " เขาไม่สนใจคำถามของนาโอะ ด้วยความโกรธที่สุมในอก
    " เซย์จิซังบอกว่าเพราะผมหนีออกไปเลยต้องทำแบบนี้น่ะ " ลูกแก้วสีอำพันก้มลงมองฝ่ามือทั้งสองข้าง ทุกการกระทำทุกคำพูดของเซย์จิทำให้ยอมรับทุกอย่างได้แล้ว เพียงแค่ขอให้ได้เจอเทะซึโอะเท่านั้นก็พอ

    " นาโอะหนีออกไปกันเถอะ ไม่ต้องทนเจอเรื่องพวกนี้แล้ว " ไม่ต้องฟังต่อจนจบประโยคนาโอะก็ปฏิเสธเสียงแข็งทันที
    " แต่เทะซึจังยังอยู่กับเซย์จิซัง....."

    " เลิกพูดเรื่องนั้นได้แล้ว! ต้องให้ตัวเองทรมานจนตายไปก่อนเหรอไง "
    ฮิโรกิตวาดเสียงดังลั่น เขาหยิบอุปกรณ์ตัดโซ่ซึ่งเตรียมมาด้วยตามที่ผู้ให้ความช่วยเหลือแนะนำ นาโอะตื่นตกใจรีบจับมือฮิโรกิไว้ัทันที ถ้าเซย์จิมาเจอเข้าแล้วเข้าใจผิดว่าคิดหนีอีก คราวนี้ชีวิตของทั้งเขาและเทะซึโอะคงไม่้เหลือ

    " ไม่ได้นะฮิโรกิ "
    " ฉันรักนาโอะนะ หนีไปแล้วฉันจะดูแลนายเอง "

    คำบอกรักจากบุคคลที่คิดด้วยเพียงแค่เพื่อนทำให้เรี่ยวแรงขัดขืนหายไปจนหมด นาโอะไม่ต้องการให้เพื่อนข้างห้องมารักแบบคู่ชีวิต เขาต้องการแค่เพื่อนที่รู้ใจที่สุด นาโอะผู้ใจดีมัวแต่คิดว่าจะปฏิเสธออกไปยังไงไม่ให้อีกฝ่ายเสียใจ ทั้งที่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้เลย ระหว่างที่ผู้ถูกสารภาพรักอย่างไม่คาดฝันมัวแต่นั่งอึ้ง โลหะที่ล่ามไว้กับเตียงก็หลุดออก เจ้าของลำแขนเรียวถูกฉุดให้ลุกขึ้นยืนโดยไม่ยินยอม

    " ปล่อยสิฮิโรกิ!! "
    ผู้สิ้นไร้เรี่ยวแรงด้วยไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอ ซ้ำยังไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมีหรือจะสู้แรงได้

    ..โลหะขาดออกจากกันเหมือนดั่งหลักฐานยืนยันความผิดว่ากำลังจะหนีไปเป็นครั้งที่สาม..

-------------------------------

    เซย์จิแวะห้องนอนเพื่อหยิบรถยนต์บังคับที่บังเอิญไปเจอเข้าแล้วซื้อกลับมาด้วย แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่าจะซื้อมาทำไม ก่อนขึ้นไปบนชั้นสาม เสียงตะโกนแหลมหูที่ได้ยินทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป ทำให้รู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นมา หญิงสาวพี่เลี้ยงนั่งหันหลังให้อยู่จึงไม่รู้ว่าเจ้านายได้เดินเข้ามาข้างในแล้ว ที่อยู่ข้างหน้าเธอคงเป็นเทะซึโอะ

    " มัวแต่ยืนนิ่งอย่างนี้จะใส่เสื้อได้ยังไงล่ะ ยกแขนขึ้นมาสิ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งเล่นแต่งตัวกับแกอยู่ทั้งวันหรอกนะ "

    เธอตะคอกใส่เด็กชายที่ยืนสะอึกสะอื้นอยู่ ตั้งแต่กลับมาห้องนี้อีกครั้งพี่เลี้ยงปฏิบัติกับเขาแย่ยิ่งกว่าที่ผ่านมาเสียอีก คงเพราะเงินเดือนที่ถูกตัดลงเกือบครึ่งจากการปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ถึงได้มาระบายทุกอย่างลงกับเทะซึโอะ การอาบน้ำเมื่อกี้ไม่อาจเรียกว่าเป็นการทำความสะอาดร่างกายได้ด้วยซ้ำ หญิงสาวถูสบู่ให้ด้วยความรุนแรงจนผิวขาว ๆ แดงเรื่อ จากนั้นจึงสาดน้ำใส่ไม่สนใจเสียงที่บอกว่าแสบตา หรือเจ็บเลยสักนิด

    " มัวแต่ร้องไห้อยู่ได้ น่ารำคาญที่สุด ไปใส่เอาเองแล้วกัน " ฝ่ามือเล็กโยนชุดนอนเนื้อนุ่มใส่เด็กชาย
    " ถ้าลำบากมากนักก็กลับไปอยู่บ้านเลยแล้วกัน "
    น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลัง ใบหน้าเคลือบเครื่องสำอางถอดสีทันที ไม่ต้องหันไปมองเธอก็รู้ว่าใครยืนอยู่ หญิงสาวรีบเปลี่ยนท่าทีหันไปเอาอกเอาใจเทะซึโอะเร็วประหนึ่งจิ้งจกเปลี่ยนสี หากแต่สายไปเสียแล้ว

    " หนูน้อย ยกแขนขึ้นสิเดี๋ยวพี่ใส่เสื้อให้นะ "
    " ฮึก.."

    หยดน้ำตาที่รินไหลทำให้เซย์จิเลิกสะกดกลั้นความโกรธ มือกร้านจับไหล่พี่เลี้ยงแล้วเหวี่ยงไปด้านข้าง ส่งผลให้ร่างอรชรกระแทกกำแพงจนเกิดเสียงดัง ก่อนหยิบเสื้อผ้าตรงเข้าไปหาเด็กชายหมายจะใส่ให้ ทว่าปฏิกิริยาตอบกลับมาคือแววตาหวาดกลัว และอาการสะอื้นหนักกว่าเดิม

    " ฉันไล่เธอออก " เซย์จิหันไปไล่ต้นเหตุของอาการเกรี้ยวกราด เพื่อจะสงบสติอารมณ์ลงให้ได้ ถ้ายังเห็นพี่เลี้ยงสองหน้าคนนั้นอยู่ในห้องเขาไม่ั่มั่นใจว่าจะเผลอไปทำร้ายร่างกายเข้าให้อีกหรือเปล่า แล้วเทะซึโอะที่เห็นภาพเหล่านั้นคงกลัวพี่ชายตัวโตคนนี้ยิ่งกว่าเดิม

    นาโอะเอาแต่ซึมเศร้าจนบรรยากาศทั่วทั้งบ้านพลอยอับเฉาไปด้วย เซย์จิจึงไม่ต้องการถูกเด็กชายแสดงท่าทางหวาดกลัวใส่ด้วยอีกคน ไดยะเคยเล่าอวดหลานชายตัวน้อยให้ฟัง แล้วยังบอกอีกว่าเวลาหลานโกรธขึ้นมาเขาจะยอมอ่อนข้อเข้าไปพูดด้วยดี ๆ ถ้าให้ได้ผลกว่านั้นก็หาของเล่นมาล่อ เพียงเท่านี้ก็ได้คืนดีกันแล้ว ถ้าจะยืมวิธีเพื่อนสนิทมาใช้บ้างคงไม่เสียหายอะไร

    ..เด็กก็คือเด็ก อย่างไรเสียก็คิดแค้นอะไรกับใครเขาไม่เป็น
    ผ้าที่ยังขาวสะอาดหาได้เปรอะเปื้อนสกปรกเหมือนผ้าหลากสีที่อยู่มานานปีไม่

    " อย่าเข้ามาใกล้ผมนะ " เด็กน้อยถอยหลังติดประตูห้องน้ำ
    " พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก แค่จะใส่เสื้อผ้าให้เท่านั้น "  น้ำเสียงนุ่มนวลฟังดูอบอุ่นแม้แต่ผู้พูดยังอดแปลกใจไม่ได้ ท่าทางอ่อนโยนราวกับเป็นคนละคนกับผู้ที่เคยตีตนเองอย่างสาหัสทำให้เทะซึโอะยอมให้ใส่อย่างว่าง่าย กระทั่งเสียงสะอื้นก็หยุดลงด้วย
    " ขอบคุณครับ " รอยยิ้มกว้างวาดบนใบหน้าที่ละม้ายคล้ายนาโอะ ในอกของเซย์จิเอ่อล้นไปด้วยความอุ่นซ่านทันที

    เจ้าของชุดนอนสีเหลืองอ่อนเดินเตาะแตะไปนั่งบนเตียง ด้วยยังไม่วางใจในพี่ชายแปลกหน้าคนนี้มากนัก เทะซึโอะเป็นเด็กร่าเริงคุยง่ายก็จริง แต่เพราะคำสั่งสอนของนาโอะเด็กชายจึงไม่ค่อยคุยกับผู้ที่เพิ่งรู้จัก ความเงียบงันทำให้เซย์จิทำตัวไม่ถูก จนเมื่อหันไปเจอถุงของเล่นซึ่งถูกวางทิ้งไว้ตั้งแต่เห็นเด็กน้อยถูกรังแกนั่นแหละ

    ..เด็กนี่ชื่อเทะซึโอะใช่มั้ยนะ..

    ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้เซย์จิมักหงุดหงิดจนไม่คิดแม้แต่จะจำให้เสียอารมณ์ มาถึงตอนนี้จึงต้องใช้สมาธิอย่างมากในการทบทวนความทรงจำ ภาพที่ปรากฏขึ้นหลังนึกชื่อออก คือแววตารวดร้าวของผู้ที่โหยหาอยากเจอน้องชายมากที่สุด กับเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้า
 
    " เทะซึโอะ "

    ..การเรียกชื่อเป็นดั่งก้าวแรกในการสานสัมพันธ์..

    " ครับ " เด็กชายหันมองพี่ชายตัวโตที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางห้อง ดวงตาสีน้ำตาลพราวระยับด้วยความตื่นเต้นกับของเล่นแปลกใหม่ที่อยู่ในมือหนา

    " พี่ซื้อมาให้ อยากได้มั้ย "
    " ซื้อให้เทะซึจังเหรอครับ เทะซึจังเล่นได้เหรอ "
    ความไว้วางใจที่เพิ่มมากขึ้นเทะซึโอะจึงเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกตัวเอง ที่ว่ากันว่าเด็กลืมง่ายเห็นจะจริง เพราะเด็กน้อยมายืนอยู่หน้าเซย์จิ ลืมว่าชายผู้นี้เคยปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ทำร้ายตนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียสนิท

    เทะซึโอะไม่คุยกับคนแปลกหน้า แต่ถ้าเป็นพี่ชายท่าทางใจดีเอาของเล่นมาให้ก็เป็นอีกเรื่องนึง
    หากนาโอะรู้เข้าคงไม่พ้นโดนโกรธเป็นแน่

    " แน่นอนอยู่แล้ว พี่ซื้อมาให้เรานี่ " เซย์จิย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ไม่ให้เทะซึโอะรู้สึกอึดอัดหรือกลัวที่ต้องเงยหน้าคุยกับผู้ที่ตัวสูงกว่านาโอะมากนัก จากนั้นจึงยัดถุงของเล่นใส่มือขาว

    " ว้าว~! ขอบคุณครับ " เทะซึโอะโผเข้ากอดผู้ให้คล้ายจะออดอ้อน ทุกครั้งที่คนในร้านสไมล์ซื้ออะไรให้เด็กชายจะเข้าไปกอดขอบคุณเสมอจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สำหรับเซย์จิผู้ที่ไม่เคยได้กอดใครมาก่อนนอกจากตอนทำกิจกรรมบนเตียงแล้วถือเป็นสิ่งที่พิเศษ

    " แกะสิ "
    ไม่ต้องให้บอกมือเล็กก็จัดการชำแหละพลาสติกที่หุ้มของเล่นออกเป็นชิ้น ๆ แล้ว เรียวปากบางยิ้มกว้างเมื่อของเล่นชิ้นใหม่ออกมาอวดโฉมให้เห็นเต็มตา มันเป็นรถบังคับขนาดใหญ่ราคาแพงที่อยากได้มาตลอด แต่ด้วยรู้ว่าพี่ชายซึ่งเป็นเพียงผู้ช่วยพ่อครัวไม่ีมีทางหาซื้อมาให้ได้ จึงได้แต่นิ่งเงียบไม่ร้องขอให้ลำบากใจ

    " ถูกใจรึเปล่าล่ะ " เซย์จิอดยิ้มไปด้วยไม่ได้
    " ครับ!! " เจ้าของแววตาเป็นประกายตอบอย่างไม่ลังเล ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วหันไปถามเซย์จิ
    " ว่าแต่พี่ชายชื่ออะไรเหรอครับ เทะซึจังจะได้เรียกถูก "
    " เซย์จิ พี่ชื่อเซย์จิน่ะ "

    นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกยินดียิ่งนักที่จะบอกชื่อของตนออกไป

    เทะซึโอะเป็นคนสำคัญที่สุดของนาโอะ ทั้งยังน่าเอ็นดูช่างเอาใจถึงเพียงนี้ เพราะอย่างนี้นี่เองร่างเพรียวถึงได้ทำทุกวิถีทางไม่ให้เด็กน้อยคนนี้ต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายซึ่งจะทำลายความสดใสนี้ไปจนสิ้น เซย์ิจิคิดกับตัวเอง บางทีเขาอาจทำเกินไปที่เอาสิ่งมีค่ายิ่งของใครคนหนึ่งมาข่มขู่ได้หน้าตาเฉย

    เซย์ิจิเพิ่งตระหนักในวินาทีนี้เอง หากวันที่จับตัวเทะซึโอะมาเป็นครั้งแรก เขาถูกความละโมบและเคืองแค้นเข้าครอบงำส่งตัวเด็กชายไปองค์กรลับ ตัวเขาในตอนนี้คงต้องเสียใจไปจนวันตาย

TBC
ขอตัดตรงนี้ล่ะนะคะ ตอนหน้ากระชากอารมณ์เกินไปจนทำใจเขียนต่อกันไม่ได้ค่ะ TTwTT
hpsky => (แอ๊ฟ! ร้องเพราะถูกจิ้ม แฮ่~) สงสารนาโอะตลอดเลยนะคะเนี่ย
dahlia => อ่านตอนนี้ยังอยากบีบคอพระเอกอยู่อีกมั้ยค้าา
iforgive => ตอนนี้อาจจะรู้จักความรักขึ้นมาบ้างแล้วก็ได้นะคะ
panari => ถึงคนที่โทรมาจะใช่ไดยะจริงก็ไม่แน่ว่าจะหนีออกมาได้หรอกนะค้าาา
CipheR => คะ..คำถามสปอยชัดๆเลยค่ะ (ทรุด)
zatamare => เป็นพวกบื้อไม่ยอมคิดหาเหตุผลที่แท้จริงสักทีน่ะค่ะ ใช้ไม่ได้เลย
pattybluet => แอร๊ยๆ เซย์จิจะไ้ด้สักขนาดไหนดีล่ะค้าา อ่านเม้นนี้เล่นเอาเขินไปเลยนะคะเนี่ย ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ!
Laxxeez => เพราะไม่ยอมรับตัวเองสักทีด้วยแหละค่ะ
Phelyra => ส่งมาแ้ล้วค่ะ แต่จะทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลงก็ไม่รู้นะคะเนี่ย = =''
different => ฮ่าๆ ใช่ค่ะเซย์จิไม่ผิด เป็นพระเอกทำอะไรก็ไม่ผิด(ซะที่ไหนล่ะ!!) คนแต่งบางทีก็แ่ต่งไปด้วยทำโน่นทำนี่ไปด้วยเหมือนกันค่าา
viky_mama => แม่นแล้วค่า เทะซึโอะคือโซ่ทองคล้องใจน่ะเองค่ะ
jasmin => ของแบบนี้ต้องค่อยๆสร้างไปล่ะค่ะ - -''
vvivy => คงต้องเอาโอเมก้าใ้ห้กินหน่อยแล้วมั้งคะเนี่ยจะได้ึคิดได้สักที XD
F[ i ]sH[ O ] =>เอ่อ..Hades กับ Persephoneคืออะไรเหรอคะ orz นาโอะอาจจะไม่แน่แต่เทะซึโอะยอมรับไปเกือบทั้งหมดแล้วล่ะค่ะ~


หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 26-05-2010 03:38:35
โบก ฮิโรกิซะหนึ่งทีได้ม๊าย เซย์จิยิ่งเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่  อืม แต่บางทีก็อาจจะทำให้เซย์จิพอรู้ใจตัวเองได้บ้างอะนะ แต่ก็คง โง่เรื่องนี้อีกนั่นแหละ

ส่วนฮิโรกิจ๋า พรากคนที่ตัวเองรัก จากคนที่เค้ารัก ดังดวงใจ มันดีแล้วหรือ ถึงจะทำเพราะรัก ก็เธอนะ แต่คงรักไม่พอที่จะคิดถึงหัวใจของอีกฝ่าย ว่าจะรวดร้าเพียงใดกับการพากจาก แล้วหลงลืมอะไรไปหรือป่ว ว่าเด็กไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่ผู้ใหญ่ตังหาก ที่ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ จะแค้นเคือง ก็ให้มันมีสติสักนิดเถอะ(ตอนใครมันจะคิดได้ฟะ)
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 26-05-2010 07:28:14
ตอนต่อไปนาโอะต้องน่าสงสารอีกแน่ๆเลย
ที่จริงก็น่าสงสารทุกตอนนั้นแหละ ไรเตอร์ใจร้ายหนิเขียนให้นาโอะเจ็บตัวตลอดเลย :m16:
ฮิโรกิจะมาทำให้นาโอะเจ็บตัวอีกแล้วววว :เฮ้อ:
แต่ตอนนี้แอบมีน่ารักนะพ่อลูกกอดกัน กอดกัน :กอด1:
เทะซึจังน่ารัก :L2:

หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 26-05-2010 09:25:01
ฮิโรกิเอ๊ยยยย  ความรักของแกนี่ช่างเห็นแก่ตัวนัก
รู้ทั้งรู้ว่าถ้านาโอะหนีไป  จะเกิดอะไรขึ้นกับเทะซึจังก็ยังจะทำอีก
เขาแม่ลูกกันนะเฟ๊ยยย
ไม่อยากอ่านตอนต่อไปเล๊ยยยยย  กลัวจะทำใจไม่ได้
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 26-05-2010 09:48:20
เห็นป่าวไอ้เซย์จิ เทะซึจังออกจะน่ารัก :impress2:
ฮิโรกิ นายกำลังทำเรื่องให้มันยุ่งยากมากขึ้นไปอีกนะ แล้วก็ไม่ต้องมาโทษเทะซึจังด้วยว่าเป็นต้นเหตุให้นาโอะต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ เทะซึจังเค้าบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จะโกรธจะไม่พอใจอะไรไปลงที่พวกผู้ใหญ่เลว ๆ นู้น อย่ามามั่ว :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-05-2010 10:43:05
เฮ้ยงานนี้ นาโอะ ไม่เกี่ยวนะแก เซย์จิ อย่ามาลงกะนาโอะ   :angry2:

ปล. ยังอยากบีบคออยู่ แต่เบาลงนิดหน่อย ต้องรอดูตอนหน้าก่อนดีกว่าค่ะ  o18
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 26-05-2010 12:35:50
ฮิโรกิ นิสัย!!!!!! เห็นแก่ตัวที่สุดอ่ะ
เรื่องของครอบครัวเดียวกัน เดี๋ยวเค้าก็เคลียร์กันได้
ขอซะทีเหอะ ยุ่งดีนัก :z6:
ปล. เซย์จิก็มีมุมน่ารักๆกะเค้าด้วย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 26-05-2010 13:55:50
เรื่องเริ่มจะเข้มข้นทุกทีแล้วอ่ะ ถ้าเซย์จริงกลับมาแล้วเห็นว่านาโอะหายไปนี่ไม่อยากจะคิด สยอง

ปล ใส่วันที่ผิดอ่ะจ้า ผิด คศ ไปปีนึงนะ ตอนนี้ปี 10 ไม่ใช่ 09 น้า (ตอนแรกเราก็งง นึกว่าเรื่องนี้โดนดองซะอีก)
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 26-05-2010 18:17:09
ตอนนี้เซย์จิเริ่มจะน่ารักขึ้นมาหน่อย :impress2:
แต่ถ้ารู้ว่านาโอะหายไป
และคิดว่าหนีไปอีก
เทะซึจังจะเป็นอะไรมั้นน้า :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-05-2010 18:43:00
นาโอะอย่าหนีเลย พี่เซย์จิเค้ากำลังจะเปลี่ยนไปนิดนึง :laugh:
วันนี้เจอเด็กน่ารักมากเลย คิดถึงเทะซึจัง คงน่ารักเหมือนกัน :-[
ถึงตอนนี้จะตามอ่านทุกวันเหมือนเดิมไม่ไ้ด้ แต่จะติดตามตอนต่อไปน้าาา
+1 ขอบคุณค่าาา :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Zepher ที่ 26-05-2010 20:04:40
เทะซึจังออกจะน่ารัก :-[
ใจที่แข็งกระด้างของเซย์จิจะไม่อ่อนลงได้ไง
หวังว่าเทะซึจังจะเป็นตัวประสานใจของ
ทั้งเซย์จิและนาโอะน๊า o13
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 26-05-2010 20:17:49
 :เฮ้อ: ตอนนี้มีทั้งเรื่องดีเรื่องร้ายปน ๆ กัน จะความรู้สึกไหนดีนะเรา :serius2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 26-05-2010 20:57:41
 :serius2: ฮิโรกิทำเสียเรื่อง ครอบครัวเค้าจะสมานฉันท์กัน ไม่ได้รู้เรื่องเล้ยยยย...
รีบๆเอานาโอะมาคืนเดี๋ยวนี้นะ ก่อนที่เทะซึจะเดือดร้อน ฮ่วย !!!
งอนไดยะ... อุตส่าห์มอบตำแหน่งฮีโร่คนสำคัญให้แ้ล้วไม่ยอมทำหน้าที่ (ไรท์เตอร์ตัดเงินค่าตัวเลย  :a14:)

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมค่ะ ^ ^
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 26-05-2010 21:32:57
เรื่องกำลังจะไปด้วยดีแล้วเชียว ฮิโรกิแกมาทำม๊ายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 26-05-2010 23:07:03
ฮิโรกิรู้จักสำนวน love me , love my dog ม่ะ ?
ถ้าพานาโอะหนีไปได้จริง คนที่เดือดร้นคือเทะซึโอะ ที่ไม่ใช่หมา
แต่เป็นลูก..
เอานาโอะไปดูแลแล้วคิดว่าเค้าจะมีความสุขหรอ สิ่งสำคัญที่สุดของนาโอะคือเทะซึโอะต่างหากล่ะ
คิดถึงใจคนอื่นบ้างซิ ~
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 27-05-2010 00:39:01
รอบที่เเล้วโดนล่ามโซ่ รอบนี้โดนน้ำตาเทียนเเน่ๆ นาโอะ จ๋า คริๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 12] (26/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 27-05-2010 01:05:39
ฮิโรกิ๊!!!!!!!! ใช่เวลาม๊ายยยยยที่มาเอาตอนนี้..เรื่องกำลังจะไปได้ดีแล้ว :z3:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13] (27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 27-05-2010 22:50:39
Miracle 13


    " อยากจะตายวันนี้ใช่มั้ย "
    ลำกล้องปืนจ่อหน้าผากฮิโรกิซึ่งในตอนนี้ใบหน้าบวมช้ำสาหัส ดวงตาสีรัตติกาลก้มลงมองผู้ที่ทรุดนั่งอยู่เบื้องหน้า หลังปลิดชีวิตยามสะเพร่าที่ปล่อยให้นาโอะหลุดรอดไปได้เมื่อห้าปีก่อน เซย์จิก็ไม่เคยลงมือสังหารผู้ใดอีก แต่ตอนนี้เขากำลังโมโหจนแทบจะทำบาปมหันต์ได้อีกครั้งแล้ว

    เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาหลังปล่อยเทะซึโอะที่กำลังเห่อของเล่นใหม่ไว้เพียงลำพังโดยกำชับว่าให้รีบเข้านอน เซย์จิก็รีบกลับลงมายังชั้นสอง ด้วยอารมณ์ที่เบิกบานขึ้นกว่าปกติเซย์จิตั้งใจจะลองทำดีกับนาโอะดูบ้าง ทว่าภาพที่เห็นยามเปิดประตูห้องไปเจอกลับทำลายความตั้งใจนั้นไปเสียสิ้น ชายที่คุ้นหน้าว่าเป็นพนักงานร้านขายเค้กกำลังฉุดกระชากเจ้าของห้องไปยังระเบียง ซึ่งมีบันไดลิงวางพาดอยู่เพื่อใช้เป็นทางหนี

    เซย์จิไม่อาจตระหนักได้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าสัมปชัญญะ เขาปราดเข้าไปดึงตัวนาโอะออกมาโยนลงบนเตียง ก่อนระดมชกผู้ที่ไม่ทันตั้งตัวไม่ยั้งมือจนลงไปกองกับพื้น แล้วหยิบปืนพกขึ้นมาขู่อาฆาตด้วยอารมณ์ี่คุ้มคลั่งยากจะระงับ

    ..ไอ้หัวขโมย!..

    " เซย์จิซังอย่ายิงนะครับ " นาโอะถลาลงจากเตียงมาประคองฮิโรกิเอาไว้
    คำขอร้องให้หยุดยิงจากนาโอะเป็นสิ่งที่ห้ามเซย์จิเอาไว้ได้ ทว่าความรู้สึกอื่นกลับแล่นเข้ามาแทนที่อารมณ์อยากสังหารฮิโรกิแทน
    " หลีกไป ไว้จัดการไอ้หมอนี่เสร็จฉันจะมาคิดบัญชีกับนายทีหลัง " มือกร้านผลักนาโอะออกไปอีกทาง แล้วกระชากคอเสื้อผู้ถูกทำร้ายขึ้นมา
    " ..นาโอะรีบหนี..ไปสิ "
    " ยังมีแรงพูดอยู่อีกเหรอ "
    ด้ามปืนกระแทกศีรษะรุนแรง ก่อนจะลากฮิโรกิไปให้ยามจัดการต่อ เซย์ิจิต้องการทำโทษเจ้าหนูน้อยมากกว่าเสียเวลาละเลงเลือดหัวขโมยรายนี้ ดวงตาสีรัตติกาลมองโซ่ที่ถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยสลับกับใบหน้าซีดเผือดของนาโอะ

   " ผะ..ผมไม่ได้คิดจะหนีนะครับ ผมพยายามห้ามแล้ว เซย์จิซังเชื่อผมเถอะครับ " นาโอะละล่ำละลักกล่าวออกไป
    " ไม่ต้องแก้ตัวไปหรอก ยังไงหลักฐานก็เห็นคาตากันอยู่แล้ว "

    เซย์ิจิรู้ว่าคำแก้ตัวนั้นเป็นจริงทุกประการ ท่าทางขัดขืนดิ้นรนสุดชีวิตยามถูกชายหนุ่มเรือนผมสีสว่างยื้อยุดไปยังระเบียงเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี ทว่าอาการหงุดหงิดยิ่งกว่าครั้งไหน เมื่อนึกไปถึงภาพนาโอะเข้ามาช่วยฮิโรกิเอาไว้ไม่ให้ถูกยิง ทำให้เซย์จิเลือกพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิดออกไป

    ..นาโอะปกป้องคนอื่นนอกเหนือจากเทะซึโอะ..

    พลันคิดไปถึงความสัมพันธ์ของนาโอะและฮิโรกิ เซย์จิก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาจะลงโทษเจ้าหนูน้อยที่บังอาจยอมให้ผู้อื่นนอกจากเขามาเป็นเจ้าของได้ ความภาคภูมิใจที่ตนเป็นผู้ได้ครอบครองเรือนร่างสวยงามแต่เพียงผู้เดียวมาตลอดทั้งเมื่อก่อนและตอนนี้เริ่มสั่นคลอน

    " คงต้องลงโทษกันหน่อยแล้วล่ะ " เซย์ิจิรู้ดีว่าเขากำลังพาลไปทั่ว แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว

    ฝ่ามือหนากดร่างเพรียวลงบนเตียง ผ้าเนื้อบางถูกฉีกออกกลายเป็นเศษผ้าในพริบตา นาโอะพยายามต่อต้านสุดกำลังแต่เนื่องจากหมดสิ้นเรี่ยวแรงไปกับการขัดขืนฮิโรกิแล้ว ไม่นานข้อมือทั้งสองข้างจึงถูกเข็มขัดของผู้ที่เพิ่งถอดเสื้อผ้าออกหมดมัดเอาไว้ได้ แววตาสีน้ำตาลเจือความตื่นตระหนก นาโอะรู้ได้จากดวงตาอันเปี่ยมไปด้วยราคะของเซย์จิว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ อาจเป็นการร่วมรักอย่างรุนแรงที่สุดก็เป็นได้

    " เซย์จิซังผมไม่ได้คิดหนีจริง ๆ นะครับ อย่าทำอะไรผมเลย..."
    ชายหนุ่มฉีกเสื้อนาโอะออกมามัดปากเจ้าของเสื้อไว้

    ..เลิกพูดว่าไม่ได้คิดหนีแล้วบอกมาสักทีว่านายกับไอ้หมอนั่นเกี่ยวข้องกันยังไง..

    " อื้ออ! "
    ฟันคมขบกลีบปากแดงก่อนไล่ลงไปทิ้งรอยฟันไว้ทั่วร่างราวกับจะฉีกทึ้งเนื้อออกมากลืนกินเข้าไป เรียวขาเพรียวถูกรั้งขึ้นเตรียมรองรับการรุกราน ก่อนความแข็งขึงจะฝืนกดแทรกเข้าไป นิ้วเรียวกำแน่นเข้าหากันด้วยความเจ็บปวดที่แล่นริ้วขึ้นมา ช่องทางที่เดิมทีไม่ได้มีไว้เพื่อใช้ร่วมเพศ ทั้งยังไม่ได้รับการเตรียมพร้อมให้ผ่อนคลายลง และไม่มีการเล้าโลมให้เกิดอารมณ์ร่วมจึงเริ่มฉีกขาด ทว่าโลหิตที่รินไหนออกมากลับช่วยให้เซย์จิเคลื่อนไหวได้สะดวกยิ่งขึ้น ดั่งเยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด แต่แท้จริงแล้วมันคือสัญลักษณ์ของความทุกข์ทรมาน

    เมื่อปลดปล่อยออกไปครั้งแรก ครั้งถัดไปก็เริ่มต้นขึ้นโดยไม่ได้ถอนกายออกให้ผู้ถูกรุกรานได้พัก ฝ่ามือใหญ่บีบเฟ้นไปทั่วร่างขาวสะอาดตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นเกิดรอยช้ำมากมายไม่แพ้รอยฟันจำนวนมาก ข้อมือเรียวขูดสายเข็มขัดจากการพยายามดิ้นให้หลุดจนเกิดรอยถลอกแดงอย่างน่ากลัว

    ทว่าในยามที่ความเข้าใจผิดและความหึงหวงเป็นใหญ่เหนือเหตุผลทั้งปวง ความต้องการจึงยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย ผู้ที่กำลังหน้ามืดตามัวไม่ใยดีต่อหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา ใบหน้าซีดขาว หรืออาการดิ้นรนที่เริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ ร่างกายที่อ่อนแอมาหลายวันกำลังจะทานทนไม่ไหว เมื่อเซย์จิปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สามนาโอะก็หมดสติไปแล้ว

    " อย่าคิดว่าวิธีเดิมจะใช้ได้ผลนะ "
    เพียงคิดว่านาโอะและฮิโรกิจะร่วมรักกันแบบไหน จะบอกรักกันหวานหูสักเพียงใดก็แทบทนไม่ไหว เขาจะยืนยันสิทธิในตัวร่างนี้จนกว่าจะแน่ใจ เซย์จิหยิบแก้วน้ำข้างหัวเตียงมาเทรดใบหน้าซีดขาวพอให้รู้สึกตัว ก่อนจะเริ่มดันกายเข้าไปในช่องทางบวมช้ำอีกครั้ง

    ..ผมไม่ได้คิดหนีแล้ว ได้โปรดหยุดสักทีเถอะครับ ผม...กลัวคุณจะแย่อยู่แล้ว..

    ท่ามกลางสติอันพร่าเลือนนาโอะอ้อนวอนอยู่ในใจ รอยฉีกขาดถูกรุกรานให้อักเสบกว่าเดิมแต่ก็ไร้หนทางเอาตัวรอด ทุกครั้งที่สิ้นสติไปเซย์จิจะหาทางปลุกให้ตื่นขึ้นมารองรับอารมณ์ต่อเสมอ ผู้ถูกปรักปรำได้แต่อดทนต่อความเจ็บทั่วร่าง จวบจบกระทั่งรุ่งอรุณมาเยือนอารมณ์ใคร่อันป่าเถื่อนจึงจบสิ้นลง

    เรือนร่างงดงามมาในตอนนี้แทบดูไม่ได้ เลือดที่ยังไหลซึมออกมาและคราบขาวขุ่นเปรอะเปื้อนเต็มผ้าปูที่นอน ดวงตาสีน้ำตาลดูเลื่อนลอยเจ้าของร่างคงใกล้ถึงขีดสุดเต็มทน จังหวะการหายใจแผ่วเบาราวกับจะหมดลงได้ทุกเมื่อ รอยช้ำและรอยจูบกระจายไปทั่วตลอดร่างดูคล้ายการตีตราแสดงความเป็นเจ้าของซึ่งเซย์จิพอใจกับมันมาก ที่จริงเขาเองก็ใช่ว่ามีความสุขกับท่าทางดิ้นรนสุดแรงของนาโอะเท่าใดนัก แต่เพราะนี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะสลักตราประทับลงไปได้จึงเลือกที่จะทำ

    ..เซย์จิขืนใจนาโอะอย่างโหดร้ายที่สุดเท่าที่เคยกระทำมา..

    แต่ทำไมเขาต้องหวงนาโอะมากขนาดนี้ด้วย ?

    " ยังไม่หยุดไหลอีก "
    เจ้าของบ้านพูดเสียงเครียดหลังมีสติกลับเป็นปกติอีกครั้ง ขณะมองช่องทางที่ใช้รองรับอารมณ์ตลอดทั้งคืน เลือดยังไหลออกมาจากรอยแผลฉีกขาด แต่ชายหนุ่มก็ให้เหตุผลกับการกระทำทั้งหมดว่าเป็นเพราะนาโอะผิดที่ไปคบกับพนักงานร้านเค้กนั่นต่างหาก จำเป็นต้องลงโทษ

    ..แต่ความคิดไม่อาจสื่อถึงกันได้ หากไม่ผ่านถ้อยคำและการแสดงออกที่ชัดเจน..

    ฝ่ามือหนาหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาแพทย์ที่รู้จักกันให้รีบมาดูอาการ ทว่าเมื่อหมอและพยาบาลมาถึงกลับถูกปฏิเสธจากผู้ป่วย มือเรียวที่ดูอ่อนแรงพยายามปัดเครื่องมือทางการแพทย์ให้พ้นตัว ปากก็อ้อนวอนคล้ายคนเพ้อไข้

   " ขอร้องล่ะครับ ผมกลัวแล้ว "
    ดวงตาสีดำมองภาพนาโอะพยายามตะเกียกตะกายพาตัวเองให้พ้นมือที่ถืออุปกรณ์รักษาอย่างไม่คิดชีวิต ยิ่งกว่าตอนถูกขืนใจเมื่อคืนก็ให้สงสัยยิ่งนัก เซย์จิเดินเข้าไปหาบุรุษและพยาบาลชุดขาวซึ่งยืนล้อมรอบเตียงอยู่ ก่อนกระชากถามเสียงห้วน

    " ทำไมอะไรกับหมอนี่ "
    " คนป่วยพอเห็นพวกเราก็เอาแต่พูดแบบนี้ตลอดเลย "

    ระหว่างนั้นพยาบาลคนหนึ่งเอื้อมมือไปหมายจะจับนาโอะกดไว้กับเตียง ทว่าร่างเพรียวกลับกรีดร้องเสียงดังด้วยสายตาเหม่อลอย เซย์จิเห็นแล้วก็ให้สำนึกผิดขึ้นมาจับใจ เขาลืมนึกไปสนิทว่านาโอะที่ขาดอาหารมาหลายวันนั้นอ่อนแอเพียงใด แต่ก็ยังดึงดันจะำทำรุนแรงกับนาโอะอย่างไร้ความเมตตา

    " อย่าฉีดยาผมอีกเลยครับ ผมเจ็บ ฮึกก "
    ชายหนุ่มเพิ่งประจักษ์ได้จากประโยคสุดท้าย ว่าสิ่งที่นาโอะกลัวอยู่ไม่ใช่ภาพความทรงจำเมื่อคืนที่ถูกกระทำอย่างรุนแรง ไม่ใช่กลัวแพทย์คนใดจะทำร้ายเข้า แต่เพราะชุดเสื้อกราวนด์สีขาวซึ่งเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่เคยใช้นาโอะเป็นหนูทดลองต่างหาก อาการไข้กับสิ่งเชื่อมโยงถึงองค์กรลับคงทำให้ความทรงจำในอดีตซึ่งฝังแน่นอยู่ในจิตใจกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง

    ..นายมีท่าทีทุรนทุรายอย่างนี้ตลอดสามปีเลยเหรอ ?..

    เซย์จิไม่เคยไปดูการทดลองใดเลยสักครั้ง เมื่อมาเห็นท่าทางร้องขอชีวิตจากนาโอะในอกก็อดรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาไม่ได้

    ในขณะที่ทั้งแพทย์และทั้งเซย์จิไม่รู้จะทำอย่างไรกับอาการต่อต้านนี้ดี ผู้ที่ไม่คิดว่าจะมาในเวลาเช้าตรู่เช่นนี้ก็กระชากประตูเปิดด้วยความรีบร้อน ไดยะมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่สมกับนิสัยช่างพูดที่เคยเห็นมาตลอด ในมือถือกระเป๋าใบใหญ่มาด้วย

    " ถอยไป! " ชายหนุ่มตวาดใส่หมอที่ยืนหน้าถอดสีขวางทางอยู่ เขาวางกระเป๋าลงข้างเตียงแล้วประคองผู้ป่วยซึ่งพอเห็นไดยะก็สงบลงยอมให้จับตัวโดยไม่ขัดขืน

    " ไดยะซัง..ช่วยผมด้วย "


TBC
ตอนละนิดละหน่อยนะคะ แต่งฉากเรทตอนนี้ยากมากเราไม่ชอบแต่งฉากขืนใจเลยค่ะ orz
zatamare => บิงโกเลยค่ะ เซย์ิจิใกล้จะรู้ใจตัวเองแล้ว
hpsky => อีกหน่อยก็ไม่เจ็บตัวแล้วค่ะ *ก้มหน้าสำนึกผิด*
iforgive => อ่านแล้วโหดร้ายอย่างที่คิดมั้ยคะ TTwTT
Laxxeez => ปล่อยให้ผู้ใหญ่ชกกันแบบตอนนี้เลยแล้วกันค่ะ ฮี่ๆ
dahlia => ตอนนี้ยิ่งทำให้อยากเอามีดกระซวกเซย์จิหรือเปล่าคะเนี่ย
jasmin => ฮาา ท่ากระโดดทำมุมสวยมากค่ะ! XD
viky_mama => อ๊าา ขอบคุณที่เตือนค่าา เข้าปีมาตั้งเกือบ6เดือนเรายังโชว์ขายหน้าใส่ปีผิดอยู่ได้ตั้งหลายตอน..
CipheR => เทะซึจังไม่เป็นอะไรหรอกค่าา
BeeRY => ดีใจจังเลยค่ะที่เห็นอะไรแล้วคิดถึงนิยายของเรา ^^ ขอบคุณสำหรับการติดตามด้วยค่า
Zepher => วางใจเทะซึจังได้เลยค่ะ!
Phelyra => งั้นเปลี่ยนเป็นอ่านตอนนี้แล้วรู้สึกยังไงดีมั้ยคะ~
pattybluet => มิกล้าตัดเงินเืดือนไดยะเค้า เพราะตอนนี้เค้ามีบทแล้วค่ะ! XD ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าา
JJHJJH => มาทำให้เซย์จิโมโหหึงค่ะ~
different => เอาไปไม่ได้แ้ล้วล่ะค่าา นาโอะยังอยู่รอดปลอดภัย(??)ดีอยู่ค่ะ
Tifa => ที่จริงอยากให้นาโอะโดนแบบนี้ใช่มั้ยคะ! ฮาา
vvivy => เวลานี้แหละค่ะกำลังดี =3=
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่าา
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13] (27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 27-05-2010 23:03:21
จิ้มบวกไร้ท์เตอร์ สงสารนาโอะ สงสารได้อีกๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13] (27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 27-05-2010 23:14:02
อ้าว  ทำไมนาโอะรู้จักไดยะด้วยล่ะ
เอ๊  เราก็ไม่ได้อ่านพลาดตอนไหนนี่หว่า
สงสารนาโอะมากกกกกก  เซจิจะรู้ตัวรึยังนะว่ารักนาโอะเข้าให้แล้วน่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 27-05-2010 23:24:45
สงสารนาโอะ
หวังว่าคงไม่เป็นอะไรมากนะ :m15:
ส่วนเซย์จิ :z6:สักทีเถอะ
ไดยะนี่เป็นหมอที่รักษานาโอะ
ตอนที่หนีออกมาครั้งแรกใช่ป่ะ :m21:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 27-05-2010 23:28:33
อ้าววววว... หึงผิดคนซะแล้วเซย์จิ  o18
อ่านแล้วสงสารนาโอะเลยอ่ะ
ยิ่งอ่านแล้วยิ่งสงสัยว่านาโอะจะรักเซย์จิได้ยังไง ดูๆแล้วพฤติกรรมไม่ผ่านนะเนี่ย 555+

รอตอนหน้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอ ^ ^
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 27-05-2010 23:50:26
แกทำร้ายคนที่แกรัก คนที่แกห่วงถึงขนาดนี้เลยหรอ...ไอ้เซย์จิ :angry2: ถ้านาโอะต้องเสียสติ ต้องเป็นบ้า ต้องตายไปคงสมใจแกซินะ ผมก็หวังให้นาโอะกับเทะซึจังพ้นเวรพ้นกรรมจากเรื่องร้าย ๆ คราวนี้ไป ทั้งสองคนจะได้หมดเวรหมดกรรมกับคนอย่างแกซะทีไอ้เซย์จิ แกจะได้เจ็บปวดอยู่กับความผิดครั้งนี้ไปจนตาย...อย่างตายทั้งเป็นไปทั้งชีวิต :z4:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 28-05-2010 00:04:19
ใจร้ายยย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 28-05-2010 00:07:51
ไอ้เชี่ยเซย์จิ...นาโอะเค้าอยู่อย่างหวาดกลัว หวาดผวา ทุรนทุราย มาตลอดตั้งแต่ตอนเด็กที่โดนแกข่มขืนครั้งแรกจวบจนถึงวันนี้ต่างหากล่ะ ไอ้สัด :angry2: นึกว่านาโอะอยู่ข้างนอกอย่างสุขกายสบายใจหรือไง ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่เคยนอนหลับได้สนิทเลยสักคืน อดีตอันเลวร้ายมันคอยตามหลอกตามหลอนนาโอะมาตลอดแทบทุกคืน อดีตอันเลวร้ายทุกอย่างที่แกเป็นคนหยิบยื่นให้ ไอ้เชี่ยเซย์จิ :beat: พอมีเทะซึจัง นาโอะก็ยิ่งหวาดระแวงยิ่งกว่าเก่า กลัวแทนเทะซึจังไปเสียทุกอย่าง อยากให้เทะซึจังเจอแต่อนาคตที่ดี ๆ ไม่ต้องประสบพบเจอเรื่องราวอันเลวร้ายอย่างที่นาโอะเองต้องเจอและต้องทน แต่แก...แกก็เป็นคนไปกระชากนาโอะให้กลับมาลงนรกบนดินอีกครั้ง แถมยังพ่วงเทะซึจังเข้ามาร่วมด้วย แก้วตาดวงใจหนึ่งเดียวที่นาโอะยอมปกป้อง ยอมแลกด้วยชีวิตของตัวเอง :m15: ทุกครั้งที่แกทำร้ายนาโอะกับเทะซึจัง ความเจ็บปวดมันจะซึมเข้ามาในร่างกายและจิตใจแกทีละนิด มันจะค่อย ๆ กัดกร่อนหัวใจของแกให้ค่อย ๆ แหลกสลายลงไปพร้อมกับความเจ็บปวดที่จะเพิ่มมากขึ้น ๆ แล้ววันนึงความทรงจำและการกระทำอย่างสัตว์ที่แกทำกับนาโอะและเทซึจัง มันจะย้อนกลับมาทำร้ายทำลายชีวิตและความรู้สึกของตัวแกเอง ให้แกทนอยู่กับความเจ็บปวดนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไปจนตาย :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 28-05-2010 00:24:32
เซย์จิเป็นพวกเเสดงความรู้สึกไม่เป็น...แถมยังควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยจะได้ กว่าคู่นี้จะรักกัน นาโอะจะพิการไปก่อนป่าวคะ :laugh:

เอ๊ะ หรือจริงๆเเล้วนาโอะกะเซย์จิไม่ได้คู่กัน :m28:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 28-05-2010 00:49:47
ว่าไว้แล้ววววววว
บอกแล้วว่านาโอะอ่ะรู้จักไดยะแน่ๆ
เพราะว่าไดยะน่าจะเป็นคนทำคลอดเท็ตซึจังออกมา
และไดยะก็น่าจะเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของร้าน smile
แต่ก็นะ รอตอนหน้าคอนเฟิร์มอีกที

ส่วนเซย์จิก้อ... หลายรอบแระ
ไม่ไหวจะเคลียร์
เมิงอยากทำอะไรก้อทำไปแล้วกัน
นาโอะมันคงไม่ช้ำไปกว่านี้และ
หวังว่าจะคิดได้เร็วๆ นี้แล้วกัน
ท่าทางดูน่าจะใกล้วันนั้นแล้ว

ส่วนฮิโรกิ... จะรอดมั้ยวะ??

ปอลอ Hades คือเทพกรีก เป็นเทพแห่งความตายไงครับ
วีรกรรมเด็ดของพี่แกก็คือ
ไปแย่งตัวเทพ Persephone เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิมาไว้เป็นภรรเมียที่ยมโลก
จะเปรียบเทียบว่า ต้องให้เซย์จิไปเอานาโอะมาเป็นภรรยาเลยมั้ย
แบบว่าฉุดไปแต่งเลย ไม่สนว่านาโอะจะยอมรึป่าว อารมณ์นั้นครับ ^^
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 28-05-2010 01:29:49
ไดยะพ่อเทวดา?มาแล้ว
เซงอิตาซาตานเซย์จิแล้วอ่ะ
ก็เข้าใจว่ารักมากก็ต้องหึงมาก
แต่มากมายขนาดนี้ไม่ไหวนะเฟ้ย  :o211:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 28-05-2010 04:56:27
เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย ฉันทำอะไรให้คุณเคืองขุ่น ปรักปรำฉันเป็นจำเลยของคุณ นี่หรือพ่อนักบุญแท้จริงคุณคือคนบาป   ........ออกแนวโสรยา 555+
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 28-05-2010 09:01:40
อ้าวนาโอะกับไดยะไปรู้จักกันตอนไหนเนี่ย เรื่องเริ่มซับซ้อนขึ้นแล้วนะเนี่ย

นาโอะนี่ก็น่าสงสารจริงๆ ไอ้เซย์จิแกจะโรคจิตไปไหน

ปล เซย์จิเริ่มรักลูกแล้วใช่มั้ย >O< อยากเห็นภาพครอบครัวหรรสาอ่ะ จะมีวันนั้นมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-05-2010 10:09:33
อ้าว ไดยะกับนาโอะมี something wrong กันเหรอ O_O?
แต่นาโอะน่าสงสารไม่ไหวแล้ว เซย์จิอ่อนโยนหน่อยได้มะ :m16:
+1 ขอบคุณค่ะรออ่านตอนต่อไป ชักเข้มข้นขึ้นทุกที คิคิ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 28-05-2010 11:04:52
ไดยะขี่ม้าขาวมาช่วยแล้วววววววววววววววววว
 :กอด1:ไดยะซัง

(ไม่พูดถึงเซย์จิ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น โหดเกิ๊นนนนนนนนนนนนน)
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 28-05-2010 11:15:33
ก๊ากกกก ไดยะ นาโอะกับไดยะ ยังไงกันสองคนเน้
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 28-05-2010 12:19:00
ไดยะคือคุณหมอที่ทำคลอดเทะซึจังใช่มั้ย ? (เดาล้วน ๆ 55)

เซย์จิก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว ว่านาโอะร่างกายอ่อนแอขนาดไหน

นอกจากอีคิวจะต่ำแล้วไอคิวยังต่ำอีกนะคุณน่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Red_sister ที่ 28-05-2010 14:53:05
ดีคะ มาใหม่ยังก็ฝากตัวด้วยนะคะ  :-[

ฮึ่ยใช้ความรุนแรงกันจริงๆ เมื่อไรจะเลิกองค์กรอ่ะ สุดๆเลย :angry2:

ทำนาโอะได้ลงคอโหดร้ายที่สุด  :serius2: ต้องโดน  :z6: และ  :beat: ฮึ่ยๆ

บอกไปเร็วเดะว่าชอบเค้าอ่ะ เดี๋นวนาโอะช้ำตายกันพอดี

ปล. +1  :กอด1: เป็นกำลังใจให้น้า
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 28-05-2010 18:04:00
โอ๊ยยยย ตูอยากฆ่าพระเอกเรื่องนี้ทิ้งอะ  :angry2:  :fire:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 28-05-2010 20:05:07
Miracle 14


    ..การรอคอยมักยาวนานดั่งนิจนิรันดร์..

    เจ้าของบ้านหลังงามกระสับกระส่ายจนนั่งไม่ติดที่ หลังถูกเพื่อนสนิทไล่ออกมาจากห้องนอนของนาโอะพร้อมทีมแพทย์ ความสงสัยมากมายเข้าเกาะกุมจิตใจ แต่ผู้ที่ไขข้อสงสัยทั้งหมดได้ยังอยู่ในห้อง และห้ามผู้ใดเข้าไปก็ยิ่งให้กระวนกระวาย จึงทำได้เพียงเฝ้าคอยอยู่หน้าห้องเป็นนานสองนาน แววตาเอาจริงเอาจังผิดกับไดยะที่รู้จักมาตลอดทำให้เซย์จิไม่กล้าขัดคำสั่งเพื่อน

    บานประตูห้องเปิดออกพร้อมร่างของไดยะเดินออกมา สีหน้าตึงเครียดอย่างน่ากลัว ดวงตาสีดำสนิทมองร่างบนเตียงผ่านประตูที่เปิดอ้าอยู่ นาโอะหลับสนิท ได้รับการเปลี่ยนเสื้อผ้าทำความสะอาดร่างกายกับบาดแผลเป็นที่เรียบร้อย ที่แขนข้างหนึ่งมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ เซย์จิถึงเพิ่งรู้ว่าไดยะประกอบอาชีพหมอเป็นครั้งแรก ดูท่านาโอะคงปลอดภัยแล้ว

    " ไม่เห็นนายเคยบอกเลยว่าเป็นหมอ " เซย์จิค่อยคลายความกังวลได้แล้วถามออกไป ทว่าไดยะกลับยังมีท่าทีเคร่งเครียด

    " เพราะนายมันไม่เคยสนใจอะไรเลยไงล่ะ ไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าทำร้ายนาโอะไปตั้งเท่าไหร่แล้ว " ถ้อยคำต่อว่าเป็นดั่งจุดสิ้นสุดความอดทน กำปั้นหลุน ๆ ตรงเข้าทำร้ายเจ้าของบ้านจนเสียหลักล้มลงไปกับพื้น

    " ทำบ้าอะไรของนาย " หลังหยัดกายลุกขึ้นได้เซย์จิก็ขึ้นเสียงใส่ แทนคำตอบชายหนุ่มถูกเพื่อนสนิทชกอย่างไม่ออมแรงอีกครั้ง
    " ที่ต้องถามน่าจะเป็นฉันมากกว่าว่านายทำอะไรนาโอะ ไม่สิ ต้องเปลี่ยนเป็นคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำร้ายนาโอะซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่างหาก "
    " นายก็รู้มาตลอดว่าฉันทำอะไรอยู่ แล้วทำไมเพิ่งมาถามเอาตอนนี้ " เมื่อถูกสาดอารมณ์ใส่ เซย์จิก็ไม่ยอมแพ้ตอบกลับไปด้วยโทนเสียงห้วนกระชากในระดับเดียวกัน

    " เพราะฉันให้โอกาสนายมาตลอดไงล่ะ แต่นายกลับไม่เคยเห็นค่าของมันเลย " ไดยะสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน แล้วพร่างพรูความลับที่เก็บงำไว้ตลอดออกมา

    " นายรู้มั้ยฉันมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง เพื่อนคนนี้ของฉันเป็นมนุษย์ที่แข็งกระด้าง ไม่เคยได้สัมผัสความรักเลยสักครั้ง น่าสมเพชมากเลยใช่มั้ยล่ะ ฉันเลยตั้งใจจะสอนให้รู้จักเอง ถึงได้ยุยงให้ใช้น้ำเชื้อของเขาในการทดลองให้กำเนิดมนุษย์ โดยหวังว่าหากมีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับใครสักคนเขาคงอ่อนโยนขึ้นบ้าง นายรู้ใช่มั้ยว่าฉันหมายถึงใคร "

    ไม่ต้องถามเซย์จิก็รู้ได้ตั้งแต่ประโยคแรก เบื้องหลังรอยยิ้มและอารมณ์ขันมากมายแท้ที่จริงกลับวางแผนอะไรบางอย่างเอาไว้อย่างคาดไม่ถึง ไดยะเห็นเจ้าของบ้านนิ่งเงียบจึงเริ่มเล่าต่อ

    " ตอนที่รู้่ว่านาโอะ สำหรับนายคงเรียกว่าหมายเลข 23 สินะหนีไป ฉันก็ทำใจไว้แล้วว่าคงหมดหนทางเยียวยา แต่ไม่น่าเชื่อนะว่าโลกเราจะกลมขนาดนี้ วันหนึ่งเพื่อนสนิทตอนเด็กสมัยยังไม่ย้ายมาโตเกียวโทรขอความช่วยเหลือกับหมออย่างฉันว่าอยากให้ไปดูอาการของคนรู้จัก และขอให้เก็บเป็นความลับไม่ให้ใครรู้ ฉันดีใจแทบตายตอนรู้ว่าคนไข้คนนั้นคือนาโอะ แล้วคืนนั้นฉันก็ได้ผ่าคลอดเทะซึโอะด้วยมือของตัวเองในห้องเล็ก ๆ แคบ ๆ โอกาสผ่าตัดสำเร็จต่ำมาก แต่ทั้งนาโอะทั้งเทะซึโอะกลับรอดมาได้ "

    ปลายเสียงถูกกดให้ต่ำขณะปรายตามองเซย์จิซึ่งตั้งใจฟังเรื่องที่กำลังเล่าทุกคำไม่มีตกหล่น รวมไปถึงถ้อยคำประชดประชันด้วย

    ไดยะยังจำคืนวันเกิดเทะซึโอะได้ไม่รู้ลืม ทุกอย่างเป็นความลับ จึงไม่มีทางเลือกต้องผ่าตัดใหญ่ในสถานที่ซึ่งไม่เหมาะเลยแม้แต่น้อย ไม่สะอาดพอ ไม่มีแม้แต่ผู้ช่วยนอกจากฮาจิเมะที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์เลย ยิ่งไปกว่านั้นนาโอะยังสุขภาพย่ำแย่เต็มทน และนี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้วันนี้ไดยะชังหน้าเซย์จิจนสุดขั้วหัวใจ นาโอะที่อ่อนแอถูกรังแกอย่างทารุณเมื่อคืน โดยคนทำคือเพื่อนสนิทของเขาคนนี้

    " หลังการผ่าตัดเทะซึโอะปลอดภัยดี แต่นาโอะสภาพแย่มาก นายคงไม่รู้หรอกว่ายาที่พวกนักวิทยาศาสตร์ใช้มันแรงขนาดไหน พอเอาผลการทดลองออกจากร่าง ผลข้างเคียงของยาก็เล่นงานนาโอะทันที เขาอาเจียนเป็นเลือดเกือบทุกวัน ลุกไม่ขึ้นอยู่หลายเดือนจนฉันต้องหัวปั่นหาทางรักษาให้วุ่นวายไปหมด ถึงตอนนี้จะดีขึ้นมากแต่ภูมิต้านทานในตัวนาโอะก็ยังต่ำกว่าคนปกติอยู่ดี
    ในระหว่างนั้นฉันก็คิดนะทำไมคนธรรมดาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอย่างนาโอะ อย่างหนูทดลองคนอื่น ๆ ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ นายคิดว่าเพราะอะไรล่ะเซย์จิ "

    เจ้าของเรือนผมกัดสีหันไปมองใบหน้าไร้สีของเซย์จิ ความรู้สึกผิดมากมายกำลังเข้ากัดกุมจิตใจ เซย์จิรู้ดีทุกอย่างเป็นเพราะตัวเขาเองทีุ่ลุ่มหลงในเงินตรา ที่ไม่เคยให้ความสำคัญในชีวิตผู้ใดเลย เพียงคิดไปถึงอาการเสี่ยงตายของนาโอะในตอนนั้นก็แทบขาดใจตาย ถ้าตอนนี้นาโอะไม่อยู่บนโลกใบนี้ ถ้าสิ่งที่เจอหลังตามไล่ล่ามานานปีคือเถ้ากระดูก เขาคงไม่รู้สึกสาแก่ใจอย่างที่คิดว่าจะเป็นหรอก แต่เป็นทุกข์ทรมานจนแทบกระอักเลือดต่างหาก

    ..เพิ่งมารู้ตัวเอาก็เมื่อสายไปว่าเขารักนาโอะมากเพียงใด..

    นาโอะคือตัวตนที่เป็นดั่งอากาศสำหรับเซย์จิมาตลอด
    ต้องให้สูญเสีย ต้องให้ถูกพรากไปต่อหน้าต่อตาถึงจะเห็นค่า

    เมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ ถูกหว่านลงในจิตใจอันแห้งแล้งของเซย์จิ เมื่อสิบปีก่อนในวินาทีที่ได้เจอนาโอะเป็นครั้งแรก เพราะความลุ่มหลงในรูปกายภายนอก เด็กชายอ่อนวัยกว่าจึงน่าสนใจสำหรับเซย์จิมาก และยิ่งถูกใจกว่าเดิมเมื่อนาโอะไม่เคยประจบเอาใจเหมือนที่ใครคนอื่นมักทำทันทีที่เซย์จิแนะนำตัวเองเสร็จ สำหรับเซย์จิในวัยคะนองตามภาษาวัยรุ่นปฏิกิริยาที่แตกต่างจากผู้อื่น เป็นเพียงความตื่นเต้นท้าทายหมายจะสยบให้จงได้เท่านั้น ทว่าสองปีผ่านไปเมื่อรู้ัตัวอีกทีก็ถลำลึกจนยากจะถอนได้แล้ว กระนั้นเงินตรากลับสำคัญกว่าสุดท้ายนาโอะจึงมีชะตากรรมไม่ต่างกับหนูทดลองตัวอื่น

    รายงานที่ว่านาโอะคือผลการทดลองที่ประสบความสำเร็จทำให้ชายหนุ่มยินดีเป็นอย่างมาก เพียงเท่านี้นาโอะจะได้อยู่กับเขาไปตราบนานเท่านานในฐานะคนโปรดที่ถูกใจเป็นพิเศษ ปุ๋ยที่หว่านใส่ต้นอ่อนครั้งแรกในตอนนั้นคือความรู้สึกผูกมัดเป็นเจ้าของ หาใช่การสารภาพรักอย่างที่ควร

    เมื่อหนูทดลองตัวน้อยหลบหนี เพราะสำนึกความเป็นเจ้าของที่ฝังรากลึกลงไป ทุกอารมณ์ความรู้สึกทั้งมวลจึงเปลี่ยนรูปเป็นความโกรธแค้น ประหนึ่งนาโอะได้หักหลังทรยศไปก็ไม่ปาน นับจากนั้นสิ่งที่หล่อเลี้ยงต้นอ่อนมาตลอดคือความคับแค้นใจ จากต้นอ่อนเติบโตเป็นไม้ใหญ่ ทว่าใบของมันหาใช่สีเขียว หากแต่เป็นสีดำหม่นหมอง

    ผลของต้นไม้แห่งความรู้สึกที่เพาะบ่มมานานปีปรากฏรูปร่างให้เห็นแล้ว มันคือความรักที่บิดเบี้ยว เพราะผู้ปลูกไม่รู้จักวิธีดูแลรักษา คอยแต่ใส่ความแค้น ความชิงชังลงไปแทนการดูแลเอาใจใส่และทะนุถนอม

    เพราะชิงชังถึงได้ทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่ความจริงเพียงแค่อยากครอบครองเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
    เพราะเคียดแค้นถึงได้ใช้เพลิงแค้นนั้นทำลายล้างทุกอย่าง ทั้งที่ความจริงก็แค่หึงหวงไม่ต้องการให้ผู้ใดเข้าใกล้
    เพราะยิ่งรักมากหวงแหนมากจึงยิ่งเกลียดมาก

    ..จนเมื่อรู้ตัวก็ได้ทำร้ายนาโอะอย่างแสนสาหัสเข้าให้แล้ว..

    ที่ผ่านมาสำหรับเซย์ิจิยิ่งทำร้ายนาโอะรุนแรงมากเท่าไหร่ ยิ่งหมายถึงพิษรักที่ฝังรากลึกมากเท่านั้น เพราะจัดการกับต้นอ่อนของความรู้สึกผิดวิธี เจ้าต้นไม้น้อยถึงได้สาปแช่งให้เขาทำร้ายผู้ที่ตนรักมากที่สุดด้วยความไม่รู้ มาตอนนี้เขารู้แล้วว่าได้ทำเรื่องผิดมหันต์ลงไปเพียงใด

    นาโอะจะรับความรักที่บิดเบี้ยวผิดรูปร่างอันนี้หรือเปล่านะ ?..


    " ฉันถามว่านายคิดว่าทั้งหมดเป็นเพราะอะไรไง "  ไดยะตวาดเสียงดัง

    " เพราะ..ฉันเอง....."
    เซย์จิกล่าวเสียงแผ่วเบาราวกับกำลังสารภาพบาปอยู่ ความผิดนี้หนักหนายิ่งกว่าจะยืดอกยอมรับได้เหมือนผู้สำนึกผิดแล้วคนอื่น เงินจำนวนมากไม่อาจซื้อสิ่งที่หนูทดลองทุกคนสูญเสียไปได้ ไม่อาจเรียกความรู้สึกของนาโอะกลับมาได้ และยิ่งไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปแก้ไขเรื่องผิดพลาดได้เช่นกัน

    ความสุขอันตั้งอยู่บนความละโมบไม่รู้จักจบสิ้นในยามนี้ดูไร้สาระไร้ค่า ความสุขของเซย์จิในตอนนี้คือนาโอะที่เขาเพิ่งตระหนักได้ว่ามีค่าเพียงใด แต่กลับเป็นผู้ทำลายความสุขด้วยมือของตัวเองลงอย่างสมบูรณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

    " ฉันมันโง่เองที่ให้โอกาสตั้งหลายครั้ง ฉันยอมให้รูปและข้อมูลนาโอะกับสายสืบ เพื่อที่นายจะได้ตามหาตัวหนูทดลองเจอสักที แต่นายกลับทำร้ายเขา ทำร้ายสิ่งสำคัญของเขา ฉันยอมพาฮิโรกิเข้ามาหานาโอะตอนที่รู้ว่านายบ้าเลือดอาการหนักถึงขนาดล่ามนาโอะเอาไว้ เผื่อคนโง่บางคนจะฉลาดรู้ความรู้สึกของตัวเองสักที แต่นาโอะก็ยังถูกทำร้ายอีก ทั้งที่...ทั้งที่สภาพร่างกายของนาโอะตอนนี้อ่อนแอขนาดนั้น "

    ไดยะกำหมัดแน่นคล้ายกำลังห้ามตัวเองไม่ให้เผลอตัวทำร้ายเซย์จิเข้าให้อีก

    ในตอนที่หลอกล่อขอดูที่อยู่ของทั้งนาโอะและเทะซึโอะ เขาก็อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย ข้อสันนิษฐานที่ว่าเซย์ิจิอาจรักนาโอะเข้าก็ได้คงจะเป็นจริง จากการที่ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปีก็ยังคงตามหาไม่เลิกราเสียที เพราะไดยะรู้ว่าเซย์ิจิเป็นคนยังไงจึงไม่แปลกใจที่เพื่อนสนิทพร่ำบอกว่าโกรธแค้นหนูเจ้าเล่ห์อยู่ตลอด ทั้งที่ในใจปรารถนาอยากได้กลับคืนมายิ่งกว่าสิ่งใด แต่กลับไม่เคยรู้ใจจริงของตัวเองเสียที

    แต่จากนี้ไปไดยะจะไม่ให้โอกาสเซย์จิอีก หากใครต้องการโอกาสก็ไปไขว่คว้าหาเอาเองแล้วกัน..

    เมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา ถ้าฮาจิเมะไม่โทรมาบอกว่าฮิโรกิกลับร้านมาในสภาพบอบช้ำถูกทำร้ายอย่างหนัก ไดยะคงไม่เอะใจแล้วรีบเอาอุปกรณ์การแพทย์เท่าที่จะถือมาได้ติดมือมาหาเซย์จิ ป่านนี้นาโอะคงถูกอดีตอันโหดร้ายกัดกร่อนจิตใจยิ่งกว่านี้เป็นแน่

    " ฉันขอโทษ.."
    " เก็บคำขอโทษของนายไว้บอกกับคนที่ควรบอกเถอะ ฉันจะอยู่ที่นี่ดูอาการนาโอะสักพักไปจัดห้องให้ด้วย "

    ..เซย์จิสาบานกับตนเองนับจากนี้ไปเขาจะทำดีกับนาโอะให้มาก ชดเชยความผิดพลาดที่ผ่านมา
เพื่อที่สักวันนาโอะจะยอมรับผลของความรู้สึกที่ผิดเพี้ยนนี้ไป และมอบผลที่สุกปลั่งสวยงามของนาโอะตอบแทนกลับมา...

------------------

    ในตอนสายของวันเดียวกันนาโอะที่ยังไม่ได้สติถูกย้ายไปอยู่ห้องอื่นในชั้นเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าเตียงนอนเปื้อนเลือดถ้าจะเปลี่ยนทำความสะอาดคงไม่พ้นไปรบกวนผู้ป่วยเข้า อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญ คือเซย์จิกลัวนาโอะตื่นมาแล้วยังอยู่ในห้องเดิมที่ถูกขืนใจอย่างหนัก อาจจะหลอนขึ้นมาอย่างตอนที่เห็นเสื้อกราวนด์ของหมอเข้าก็ได้

    ห้องใหม่ของนาโอะกว้างกว่าห้องเดิมมาก มีแสงส่องลอดเข้ามาให้ความสว่างอยู่เสมอ ผู้เตรียมการทั้งหมดได้แต่หวังว่าสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นจะช่วยให้ผู้ป่วยแข็งแรงขึ้นโดยเร็ว

    ทว่ากลับมีสิ่งหนึ่งที่ห้องนี้ไม่เหมือนห้องอื่น นั่นคือกล้องวงจรปิดขนาดเล็กที่เซย์จิสั่งให้คนมาติดตั้งไว้ก่อนย้ายนาโอะเข้ามา เซย์จิต้องการเฝ้าดูคนรักตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาที่ตนไม่อยู่บ้าน เพื่อจะแน่ใจได้ว่านาโอะปลอดภัยดี

    ..และเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ถูกทิ้งไปอีก..

    ตอนนี้เจ้าของบ้านกำลังนั่งกุมฝ่ามือซูบซีดของคนป่วยอยู่ข้างเตียง หนึ่งวันเต็มที่นาโอะยังไม่ได้สติเซย์จิจึงไม่ไปทำงาน แล้วมานั่งเฝ้าด้วยตัวเองทั้งวัน

    " นาโอะฉันขอโทษ.. " น้ำเสียงทุ้มแผ่วเบาราวกับสายลมจนแทบไม่ได้ยิน

    ..นายจะยังให้อภัยฉันได้หรือเปล่า ?..


    การเรียกชื่อเปรียบเหมือนก้าวแรกในการสานสัมพันธ์
    ทว่าก้าวแรกสำหรับเขาและนาโอะ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนเทะซึโอะแน่นอน

TBC

ตอนละนิดละหน่อยเช่นเคยค่า
JJHJJH => ขอบคุณที่จิ้มบวกค่า >.<
iforgive => ไม่ได้อ่านพลาดหรอกค่ะ แต่ต้องอ่านตอนนี้ต่างหากถึงจะรู้
CipheR => บิงโก ทายถูกค่าา ไดยะเป็นหมอน่ะเอง
pattybluet => ให้โอกาสเซย์จิปรับปรุงตัวหน่อยนะคะ~ ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ!
Laxxeez => อ่านตอนนี้แล้วยังเกลียดเซย์จิขนาดนั้นอยู่มั้ยคะ คนแต่งซีดแทนเซย์จิเลย
atom_big => เซย์จิใจร้ายใ่ช่มั้ยคะ ไม่ใช่คนแต่งเนอะ แหะๆ
Phelyra => อ่านเม้นแล้วรู้สึกเหมือนถูกว่าแทนเซย์ิจิอยู่เลยค่ะ orz
vvivy => กว่าจะรักกันคงไม่พิการหรอกค่ะ เซย์จิเขากลับใจแล้วน้าา
F[ i ]sH[ O ] => ตรงตามที่เม้นไว้ทุกอย่างเลยล่ะค่ะ ส่วนเรื่องเทพของกรีกน่าสนนะคะแต่แค่นี้ก็เหมือนจะฉุดมาโดยปริยายแล้วก็เถอะค่ะ XD
jasmin => ไดยะเป็นเทวดาจริงๆด้วยค่ะ แต่งไปแล้วรู้สึกเหมือนมาเพื่อจัดการเซย์จิโดยเฉพาะเลยล่ะค่ะ
hpsky => เราไม่เคยดูเรื่องนี้นะคะ! =3=
viky_mama => มีครอบครัวหรรษาแน่นอนค่ะ! แต่คงอีกสักพัก
BeeRY => จากนี้ไปเซย์จิจะอ่อนโยนค่ะ พระเอกของเราจะไม่โหดแล้ว! XD
anajulia => เกลียดเซย์จิจนต้องเมินกันเลยเหรอค้าา
zatamare => อ่านตอนนี้แล้วจะเข้าใจค่าา
different => ถูกต้องนะค้าา ไดยะเป็นหมอที่ผ่าคลอดเทะซึโอะนั่นเอง~!
Red_sister => ยินดีต้อนรับค่า ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่า
dahlia => ฆ่าไม่ได้นะคะเดี๋ยวเทะซึจังกำพร้าพ่อ ฮาา
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ! ^^

หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 13](ระวังหลังตอนอ่านกันด้วยค่ะ)(27/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Lunaeve ที่ 28-05-2010 20:12:37
 o18
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 28-05-2010 20:26:08
ถ้ารู้ตัวว่าผิดและคิดที่จะกลับใจจริง ๆ ก็น่าให้โอกาสนะค่ะ อย่างน้อยเซย์จิก็รู้ใจตัวเองแล้วว่าต้องการอะไร แต่คงต้องดูพฤติกรรมของเซย์จิไปก่อนว่าจะบ้าขึ้นมาอีกมั๊ย o18 ถ้าอยากให้นาโอะฟื้นและหายเร็ว ๆ ยาที่ดีที่สุดสำหรับนาโอะก็คือ เทะซึจัง ดวงใจหนึ่งเดียวของนาโอะ ไปพาเทะซึจังมาหานาโอะซะค่ะ หายเร็ว ๆ นะค่ะนาโอะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-05-2010 20:27:15
สำนึกได้ซะทีนะยะเซย์จิ =_=
แต่กว่าจะเป็นผู้เป็นคนกับเค้านี่นาโอะแทบบ้าไปแระ :z6:
ยุให้นาโอะแก้แค้นคืนดีมั้ยนะ อยากเห็นเซย์จิหงอ เป็นโรคเกลียมัวอะไรอย่างนี้ 55
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาา :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 28-05-2010 20:28:45
ไดยะเนี่ยเจ้าแผนการจังคับ o13 หายเร็ว ๆ นะคับนาโอะ :3123: คิดถึงความฉลาด น่ารัก ขี้อ้อนของเทะซึจัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 28-05-2010 20:31:19
แง่วๆๆ

เซย์จิ  ตายยยยยยยย ย๊ากกกกกกกก   :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 28-05-2010 20:31:59
ไดยะจ๋าาา ...สมกับเป็นฮีโร่ของเราจริงๆ หุหุ  :impress2:
ในที่สุดก้อได้เห็นเซย์จิจ๋อย ฮ่าๆๆ ทั้งโดนด่า ทั้งโดนต่อย แบบว่า... เราแอบสมน้ำหน้าด้วยแหละ กร๊ากกกก
ต่อไปนี้หวังว่าคงได้เห็นเซย์จิเวอร์ชั่นใหม่ซะทีน๊าาา..

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 28-05-2010 20:36:07
อยากให้นาโอะหายเร็ว ๆ ก็ต้องพาเทะซึงจังมาหา
แต่ว่านาโอะจะยอมให้อภัยง่าย ๆ เหรอ  :o
น่าจะมีการลงโทษซะบ้าง
เดี๋ยวเซย์จิจะได้ใจ  o12
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 28-05-2010 20:54:24
เอาหล่ะ
แค่เริ่มก็ยากแล้ว...
เซย์จิสู้เค้าแล้วกัน
ทำความรักให้มันเป็นในแบบที่ควรจะเป็น
แต่ไอ้คำว่า "ควรจะเป็น" นี่มันเป็นแบบไหน อาจจะตอบยาก
แต่คงไม่ใช่แบบที่ผ่านมาแน่ๆ
ขอให้ไดยะกันนาโอะมากๆ ด้วยเหอะ
ให้เซย์จิได้อะไรมายากๆ ซะบ้าง
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 28-05-2010 20:57:04
ก๊ากกกๆๆๆๆๆๆ  ซะใจโว้ย เอาอีกๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 28-05-2010 21:01:49
อ่านแล้วเครียด นาโอะกับเซย์จิมันจะรักกันได้ยังไงเนี่ย นายเอกเราโดนเล่นมาสารพัด มันยากที่จะให้อภัยนะ

ปล น้องเทะซึโอจะรู้มั้ยว่าจริงๆ นาโอะเป็น 'แม่' แล้วเซย์จิเป็น 'พ่อ' อยากอ่าน >O<
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 28-05-2010 22:35:39
ใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจความรู้สึกตัวเอง...เซย์จิคงต้องใช้เวลานานพอกันที่จะทำให้นาโอะรู้สึกดีๆด้วย :เฮ้อ:

ปล.นาโอะรู้มั๊ยอ่ะคะว่าเทะซึเป็นลูกตัวเองๆ????

ปล2.รอติดตามค่า เป็นกำลังใจน๊า o13
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-05-2010 00:31:35
รอให้นาโอะฟื้นมาก่อนดีกว่า น่าสงสารจริงๆ
ยิ่งอ่านยิ่งโมโหเซย์จิ  :fire:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 29-05-2010 01:55:36
อย่างเซจิ  เขาเรียกว่าคนไม่มีหัวใจ
....
เฮ้อ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 29-05-2010 02:53:01
รอดูพัฒนาการที่ดีขึ้นของเซย์จินะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 29-05-2010 07:38:04
โว้ว ไดยะ พระเอกม๊ากกกกกกกก อิตาเซย์จิหลบไปใช้กรรมก่อนไปเลย
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 29-05-2010 08:35:47
เซย์จิเอ้ยยย กว่าจะรู้ใจตัวเอง :เฮ้อ:
เปลี่ยนไดยะให้เป็นพระเอกทันมะ :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 29-05-2010 13:56:26
เซย์จิ เพิ่งจะรู้ใจตัวเองหรอเนี่ย
ต้องโดนต่อยก่อนถึงจะสำนึกรึไงกัน
หวังว่าคงยอมรับการกระทำของตัวเอง แล้วดูแลนาโอะดีๆนะ
อย่ามาดีแตกล่ะ เอาใจช่วยๆ
ปล. ไดยะเป็นคนดีจริงๆเลยอ่ะ ปลื้มซะแล้ววววว
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 29-05-2010 17:40:32
ไดยะ คุณเป็นคีย์ของเรื่องเลยนะเนี่ย กอดไดยะดีกว่า ^o^

ทำดีกับนาโอะจังให้มากๆนะเซย์จิซัง เฮ้ออออออออออออออออออออ
จะใช้เวลาสักแค่ไหนก็ต้องพยายามรู้มั้ย เซย์จิซังทำร้ายคนที่รักไว้มากเองนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 14](28/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 29-05-2010 20:21:35
น่าสงสารนาโอะจัง


ในที่สุดก็รู้ตัวซะที


หวังว่าคงจะอ่อนโยนขึ้นน่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 30-05-2010 19:38:00
Miracle #เบื้องหลัง#


    " คัท! วันนี้พอแค่นี้ ขอบคุณทุกคนมากนะคะ! "
    สิ้นเสียงบอกเลิกกองใบหน้าของเซย์ิจิที่ตึงเครียดมาตลอดก็ผ่อนคลายลง ชายหนุ่มพิงหลังลงบนพนักพิงเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน สต๊าฟทุกคนเดินเข้ามาช่วยกันเก็บอุปกรณ์ประกอบฉาก เสียงโหวกเหวกตะโกนสั่งงานดังลั่นที่ผู้เหนื่อยล้าหาได้ใส่ใจไม่ แต่ไม่นานนักเปลือกตาแนบปิดสนิทก็ลืมขึ้นอีกครั้ง ใครบางคนกำลังเรียกชื่อเขาอยู่

    " เซย์จิซัง.... "
    ผู้ที่นอนทอดกายอยู่บนเตียงมีสีหน้าลำบากใจ แม้สายน้ำเกลือปลอมที่ใช้สำหรับถ่ายจะถูกนำออกไปแล้ว แต่นาโอะยังไม่ลุกขึ้นเสียที รอยยิ้มเจือจางวาดบนใบหน้าคมเป็นเชิงถามว่าอีกฝ่ายเรียกทำไม

    " ผมลุกไม่ขึ้น.."
    แทนคำตอบวงแขนแข็งแรงช้อนร่างผอมขึ้นมากอดไว้แนบอก แล้วเดินมุ่งตรงไปยังห้องน้ำ

    " ไปอาบน้ำกัน เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จ คนพวกนี้เก็บของกลับไปหมด แล้วเราค่อยไปนอนกันนะ "
    ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อ ใครจะคาดคิดฉากขืนใจที่ควรเป็นเพียงการแสดง ทว่าเซย์จิกลับเล่นจริงจนทิ้งคราบความใคร่เอาไว้ให้เหนอะหนะไม่สบายตัวไปหมด ยิ่งไปกว่านั้นผู้กำกับดูจะไม่พอใจเสียทีจึงสั่งถ่ายใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อรู้ตัวอีกทีนาโอะก็ลุกไม่ขึ้นเสียแล้ว

    " ฉากเมื่อกี้นายแสดงสีหน้าได้เจ็บปวด สมค่าตัวจริง ๆ เลยเซย์จิ "
    ผู้ที่ค่าตัวแพงที่สุดในกองรองจากเทะซึโอะเดินยิ้มร่าเข้ามาหา ในมือถือกุญแจรถเอาไว้ด้วย เซย์จิจึงเดาได้ว่าไดยะคงกำลังจะกลับบ้าน เมื่อเห็นว่าเลิกถ่ายพอดีจึงแวะมาทักทายเฉย ๆ รอยยิ้มอารมณ์ดีทำให้เซย์จิอดหมั่นไส้ลูกรักของผู้กำกับคนนี้ไม่ได้ ทั้งที่มีบทน้อยกว่าใครเพื่อน แต่พอออกมาทีกลับได้ค่าตัวแพงกว่าเขาที่มีบททุกตอนเสียอีก

    " ไดยะซังจะกลับแล้วเหรอครับ "
    " ใช่แล้ว เหนื่อยหน่อยนะนาโอะ แต่เดี๋ยวก็จะได้หยุดหลายวันแล้วนี่ พักให้เต็มที่เลยนะ " ไดยะยิ้มกว้างให้
    " ได้หยุดเหรอครับ ทำไมไม่เห็นมีคนบอกพวกผมเลยล่ะ "
    ร่างเพรียวพยายามขืนตัวจะลงมายืนคุยกับไดยะ แต่ในเมื่อไม่ได้ัรับความร่วมมือจากเจ้าของอ้อมแขนมีหรือจะสำเร็จ

    " ไม่มีคนบอกหรอกเหรอ เห็นว่าผู้กำกับเค้าติดเกมไม่ว่าง..เอ๊ย...เค้าอยากจะร่างพล็อตให้ละเอียดกว่านี้ เลยให้นักแสดงทุกคนหยุดน่ะ "
    ไดยะยิ้มหวานกลบเกลื่อนความจริงที่เผลอหลุดปากออกมา บอกไม่ได้เด็ดขาดถึงเหตุผลที่แท้จริงของวันหยุดยาวเป็นครั้งแรกนี้ ลำพังแค่เจรจาขอให้มาเป็นพระเอกก็ยากเย็นแสนเข็นแล้ว ถ้าไม่ได้นายเอกใจดีช่วยพูดให้คงไม่มีหวัง ขืนรู้ว่าต้องเสียเวลาถ่ายมากขึ้น ให้เอกสารบนโต๊ะทำงานของเซย์จิกองเพิ่มพูนมากกว่านี้ คงไม่พ้นถูกยกเลิกสัญญาเป็นแน่

    " อย่างงั้นเองเหรอครับ "
    " ถ้างั้นฉันกลับก่อนนะ "
    ฝ่ามือใหญ่ลูบเรือนผมสีอ่อนในอ้อมแขนแกร่งอย่างนึกเอ็นดู ความอดทนของเซย์จิจึงมาถึงจุดสิ้นสุด เขารีบอุ้มนาโอะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ แล้วใช้ฝ่าเท้ายันประตูปิดดังโครม ร่างเพรียวถูกวางลงในอ่างน้ำอย่างอ่อนโยน เรียวปากบางคลี่ยิ้มอย่างเป็นสุข น้ำอุ่นกำลังช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ ทั่วร่างคลายลง บรรเทาอาการปวดได้เป็นอย่างดี

    " นาโอะฉันขอโทษ ฉากเมื่อคืนเจ็บมากมั้ย ฉันเผลอตัวไปหน่อยน่ะ "
    ฝ่ามือกร้านคว้าครีมอาบน้ำมาชโลมลงบนผิวขาว ปากก็พร่ำขอโทษไปด้วย เวลาเห็นร่างสวยงามเปลือยเปล่าเขาไม่เคยห้ามอารมณ์ได้เลยสักครั้ง ถึงจะเตือนตัวเองอยู่เสมอว่านี่เป็นเพียงการแสดงก็ตามที ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงเหลือบมองผู้ที่นั่งอยู่ข้างอ่าง ข้อแก้ตัวเมื่อครู่ฟังดูไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด เผลอตัวที่ไหนกันรุนแรงจนแทบขาดใจตายประหนึ่งกำลังร่วมรักกันจริงก็ไม่ปาน

    " ทีฉากบีบคอผมไม่เห็นเซย์จิซังเอาจริงขนาดนี้เลยนี่ครับ ต้องถ่ายใหม่ตั้งหลายครั้ง " นาโอะบ่นงุ้งงิ้งไปตามภาษาคนหาเรื่องจับผิด

    " อย่าพูดถึงฉากนั่นอีกนะ ฉันโมโหยัยผู้กำกับแทบแย่ มีอย่างที่ไหนให้ฉันทำกับนายแบบนั้น ดีนะฉากกระทืบนายโดนตัดออกไปแล้ว ไม่งั้นอย่าหวังจะว่าไอ้ละครเรื่องนี้จะได้ถ่ายต่อเลย "

    ดวงตาดำสนิทแลดูน่ากลัวขึ้นขณะนึกไปถึงฉากที่เรียกได้ว่าค่อนข้างยากสำหรับเขาเลยทีเดียว แค่เห็นหน่วยตาสวยฉายแววเจ็บปวดเซย์จิก็ทนเพิ่มแรงบีบที่ลำคอเพรียวตามบทไม่ได้อีก เดือดร้อนถึงนาโอะต้องเข้ามาเกลี่ยกล่อมหลังต้องถ่ายใหม่เป็นรอบที่สิบ

    แล้วกองถ่ายนี่มันอะไรกัน ยากจนถึงกับไม่มีปัญญาจ้างนักแสดงแทนเลยเหรอไง ถึงต้องให้นาโอะเล่นบทเจ็บตัวด้วยตัวเองตลอด แต่เมื่อคิดไปว่าฉากร่วมรักต้องใช้คนแสดงแทนเซย์จิก็นึกขอบคุณความขัดสนด้านการเงินนี้เป็นครั้งแรก เขาไม่มีทางนอนกับใครนอกจากนาโอะได้ แม้จะเป็นเพียงแค่การแสดงก็ตาม ความคิดที่จะช่วยจ่ายเงินสนับสนุนการถ่ายทำจึงมีอันต้องพับเก็บไป

    " แต่ก็ได้หยุดแล้วนี่ครับ ไว้พรุ่งนี้เราไปเที่ยวด้วยกันกับเทะซึจังนะครับ "
    นาโอะยิ้มออดอ้อนหวังให้ชายหนุ่มใจเย็นลง เป็นไปตามคาดแววตาสีดำดูอ่อนโยนขึ้น เซย์จิโน้มใบหน้าลงไปหมายจะลิ้มชิมความหอมหวานจากแก้มเนียนนุ่ม แต่ทันใดนั้นเองเจ้าของค่าตัวแพงที่สุดในกองทั้งที่บทน้อยนิดก็เปิดประตูห้องน้ำเข้ามาขัดจังหวะได้พอดีราวกับกะเอาไว้

    " พี่นาโอะ พี่เซย์จิถ่ายเสร็จแล้วไปเล่นกันเถอะฮะ "
    เทะซึโอะชูรถยนต์บังคับคันโปรดในมือ พลางเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังรอบตัวเซย์ิจิ ทว่าคำตอบที่ได้กลับไปทำให้เด็กชายมุ่นคิ้วทันที

    " ไม่ได้หรอก พี่นาโอะเขาต้องพักผ่อน เทะซึโอะไปเล่นคนเดียวก่อนนะ "
    ถ้อยคำเกลี่ยกล่อมหวานหู ทว่านัยน์ตานั้นพราวระยับ จากนี้ไปเป็นเวลาส่วนตัวของคนสองคน ปราศจากกล้องคอยตามถ่าย ไม่จำเป็นต้องเล่นตามบท เวลาแสนมีค่าซึ่งเฝ้าคอยมานาน ฉะนั้นถึงเป็นเทะซึโอะก็ใช่จะยอมให้ได้ เซย์จิค่อย ๆ ดันแผ่นหลังเด็กชายออกไปนอกห้องน้ำ

    ทว่าเมื่อหันไปมองที่อ่างอาบน้ำ ร่างเพียวก็ผล็อยหลับไปเสียแล้ว การถ่ายทำสิบวันเต็มไม่มีพักไม่ว่าใครก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา ยอมปล่อยไปจนกว่าจะนอนพักเต็มที่ก็ได้ ระหว่างนั้นเขาเองก็มีเรื่องต้องจัดการเสียก่อนเช่นกัน ชายหนุ่มละสายตาจากนาโอะ หันกลับมาจ้องกล้องซึ่งคอยตามถ่ายอยู่ตลอดตั้งแต่เลิกกอง เจ้าของใบหน้าบึ้งตึงสาวเท้าเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงตวาดใส่ผู้กำกับสาวด้านหลังกล้อง

    " จะหยุดถ่ายหรือจะเอาตะกั่วไปกินเล่น "

    ภาพหน้าจอไม่ปรากฏสิ่งใดอีก ถ้าให้เดาผู้กำกับผู้หาญกล้าไปรบกวนเวลาส่วนตัวอาจได้ลูกตะกั่วไปกินเล่นจริงดั่งคำขู่แล้วก็เป็นได้..


TBC Chapter 15

เขียนเล่นๆเอามาลงคั้นเวลาค่ะ อ่านขำๆอย่าคิดจริงจังนะคะ!! XD
ยกยอดตอบเม้นไว้เป็นครั้งหน้าด้วยค่ะ TTwTT

หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 30-05-2010 19:50:32
สรุปที่มาต่อช้า
เพราะคนแต่งติดเกมใช่มั้ย :angry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 30-05-2010 19:53:24
คริคริ เค้าหวานกันจังเนอะนอกกองเนี่ย
อรั๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-05-2010 20:12:33
นี่คือเบื้องหลังที่คนอ่านอย่างเราอยากให้เป็นเบื้องหน้า
หวานดี  มีความสุข
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 30-05-2010 20:50:42
ไรเตอร์ติดเกมส์จริงๆๆใช่ม๊ายยย :z3:


ปล.เบื้องหน้าขอหวานๆแบบเบื้องหลังมั่งจิค๊า o18
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 30-05-2010 21:07:04
โห เราก็อยากได้เบื้องหน้าแบบนี้ด้วยคนอะ  :sad4:  เมื่อไรเซย์จิจะเลิกบ้าซะที

ปล. คนเราติดเกม  o18
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 30-05-2010 21:12:09
555 เบื้องหลังอารายกันเนี่ยยย...เอามาไว้หน้าฉากบ้างไรบ้าง
แต่คงได้เ็ห็นเซย์จิอ่อนโยนบ้างล่ะเนอะ...ความหวังอันสูงสุด :a1:
รออ่านอยู่น้าาา
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Red_sister ที่ 30-05-2010 22:03:16
 อย่าพูดถึงฉากนั่นอีกนะ ฉันโมโหยัยผู้กำกับแทบแย่

ยัยผู้กับกับ ==> ไรเดอร์ ? 5555

ล้อเล่นน้า 
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 30-05-2010 22:09:49
ไดยะเป็นลูกรักของไรทเตอร์หรอเนี่ย
เหอๆๆ ในเรื่องจริงจะเห็นเซย์จิอ่อนโยนแบบนี้ไหมน๊า
ลุ้น ระทึกเป็นอย่างยิ่ง
กลัวนาโอะจะไม่ยอมให้เข้าใกล้ล่ะสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 30-05-2010 22:10:41
ชีวิตดั่งละคร :teach:
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 30-05-2010 22:16:12
:angry2:


ไอ้เซย์จิเอ๊ยยย เพิ่งมารู้ตัวเอาป่านนี้หรอ
โธ่เว้ย นาโอะอย่าเป็นอะไรนะ
เอาละ ถ้าฟื้นนขึ้นมาคราวนี้ เอาเซย์จิให้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดเลยนะ
สู้ๆๆๆ   คนแต่งอย่ามัวเล่นเกมส์ !!!!



หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 30-05-2010 23:04:56
ให้ความผิดพลาดจากการกระทำครั้งนี้เป็นบทเรียนสอนใจนะค่ะเซย์จิ อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องกลับมาซ้ำรอยเดิมอีกนะค่ะ เพราะนาโอะอาจไม่ได้กลับมาเพื่อให้โอกาสแก้ตัวแก่เซย์จิอีกแล้วในครั้งต่อไปก็ได้นะค่ะ
เบื้องหลังดั่งภาพฝัน แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องเผชิญกับความจริงดั่งฝันร้ายอยู่ดี แต่อาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ที่แสงสว่างและความอบอุ่นเริ่มค่อย ๆ ส่องลงมาถึงฝันร้ายที่ดำมืด ให้ค่อย ๆ สว่างไสวและอบอุ่นในหัวใจขึ้นเรื่อย ๆ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 31-05-2010 00:02:38
สรุปที่มาต่อช้า
เพราะคนแต่งติดเกมใช่มั้ย :angry2:

นี่เองความจริง
มิน่าล่ะ
ว่าแต่ ละครเรื่องนี้เกิดจากอะไรเนี่ย ?
มีแบบครึ่งหน้าครึ่งหลังมั้ยค่ะ เอาหน้ากับหลังมารวมกัน (เอ๊ะ ยังไง 55)
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 31-05-2010 00:15:33
โอเค ตกลงคนแต่งติดเกม จบ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 31-05-2010 00:34:32
 :laugh: น่ารักดีๆ มีแอบหยอกไดยะด้วย "ลูกรักบทน้อยแต่ค่าตัวแพง"  

สุดท้าย...ผู้กำกับติดเกม  :sad4:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ รอเบื้องหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 31-05-2010 00:55:35
เพิ่งเข้ามาอ่านแต่ติดเรื่องนี้ซะแล้ว

ไม่รู้ทำไมอ่านมาตั้งแต่ตอนแรก แต่กลับไม่เกลียดเซย์จิเลยแฮะ หรือว่าเราจะซาดิสต์?  :laugh:

มารอตอนต่อไปค่ะ อย่าติดเกมให้มากนะเคอะ  o18
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 31-05-2010 01:23:48
คนแต่งคือผู้กำกัยป่ะ  ถ้าใช่แสดงว่าติดเกมส์อะสิ พักเกมส์ไว้ก่อนเร้ววว  มาต่อก่อน กิกิ
หัวข้อ: Re: Miracle [เบื้องหลังคั่นเวลา](30/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 31-05-2010 21:41:07
Miracle 15


    ..หากไม่มีก้าวแรก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คงไม่เห็นเส้นชัย..

    " จะนั่งเฝ้าไปถึงเมื่อไหร่ "
    ไดยะหันมาถามเพื่อนหลังเปลี่ยนขวดน้ำเกลือเสร็จ เวลาล่วงเลยมาจนถึงยามดึกของวันถัดไปผู้ป่วยยังไม่ฟื้นคืนสติ และคนเฝ้าไข้ก็ไม่ยอมละไปไหน ไดยะอยากสมน้ำหน้าเซย์จินัก ที่ผ่านมาทำร้ายมาตั้งเท่าไหร่ พอสำนึกผิดกลับมานั่งฝืนตัวเองไม่เข้าเรื่อง ทั้งที่นาโอะซึ่งยังไม่ได้สติไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย แต่เมื่อเห็นสีหน้าอิดโรยอย่างคนอดนอนของเซย์จิเขาก็ตัดสินใจเก็บคำเยาะเย้ยทั้งหมดเอาไว้

    " จนกว่าเขาจะฟื้น " ดวงตาสีรัตติกาลไม่ละจากใบหน้าสวยเลยแม้แต่น้อย
    " ที่ผ่านมานายคงไม่รู้จักคำว่าอ่อนโยน แต่จากนี้ไปนายต้องเรียนรู้มันให้มาก ฉันไม่แน่ใจว่าสภาพจิตใจนาโอะตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ถ้าขืนบุ่มบ่ามไปขู่มั่วซั่ว หรือทำอะไรรุนแรงอีก ฉันไม่รับประกันว่านาโอะจะเป็นอะไรไปอีกหรือเปล่า "

    แขกพิเศษของบ้านกล่าวเสียงเครียด ทั้งสีหน้าและแววตาก็ดูจริงจังไม่แพ้กัน เซย์จิทราบความนัยได้ในทันที ห้ามเอาเทะซึโอะมาขู่ให้สภาพจิตใจนาโอะย่ำแย่ลงกว่าเดิม ห้ามทำร้ายร่างกายให้ยิ่งหวาดกลัว นั่นเป็นคำเตือนจากเพื่อนสนิท

    ..นาโอะในตอนนี้เปรียบไปแล้วเหมือนแมวจรจัดหวาดระแวงมนุษย์
    หากอยากสัมผัสขนอุ่นนุ่มของเจ้าแมวน้อย มีแต่ต้องทำให้ได้รับความไว้วางใจเสียก่อน..

    " เข้าใจแล้ว "
    " นายเองก็ไปพักได้แล้ว ฉันไม่อยากเหนื่อยต้องมานั่งดูแลคนป่วยสองคนพร้อมกัน "

    เสียงปิดประตูห้องดังขึ้น ทว่าความกลัดกลุ้มของเซย์จิยังไม่จางหายไป ต้องทำยังไงภาพเซย์จิผู้เป็นดั่งปีศาจร้ายจึงจะหมดไปจากความคิดของนาโอะ ต้องทำยังไงถึงได้รับความไว้ใจ ไม่มีเวลาให้ขบคิดหาทางออกอีกแล้ว เมื่อเปลือกตาบางเผยอเปิดขึ้นทีละน้อย ความเจ็บปวดเข้าเล่นงานผู้ป่วยทันที ทั่วทั้งร่างปวดเมื่อยจากอาการไข้ ข้อมือทั้งสองข้างอักเสบหนักเพียงขยับก็เจ็บ ร่างกายท่อนล่างยิ่งไม่ต้องพูดถึง รอยแผลฉีกขาดไม่อาจเยียวยาให้หายสนิทได้ในเวลาเพียงคืนเดียว นาโอะคงลุกเดินไม่ได้อีกหลายวัน

    " ....อือ "
    สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานไม่คุ้นตา กับขวดน้ำเกลือซึ่งถูกแขวนไว้กลางอากาศ จากนั้นจึงได้ยินเสียงคุ้นหูที่ไม่น่าจะเรียกชื่อเขาดังอยู่ข้างเตียง ดวงตาแดงก่ำจากพิษไข้หันไปมองตามเสียงเรียก ภาพที่เห็นทำให้ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจอีกครั้ง ลำคอตีบตับไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา ด้วยกลัวจะถูกทำร้ายร่างกายเข้าอีก

    " นาโอะเป็นอะไรไป ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า "
    ดวงตาที่เอ่อล้นด้วยความหวาดผวาจนปิดไม่มิด เป็นสิ่งบั่นทอนกำลังใจของเซย์จิได้อย่างมากมาย แต่เขาก็เลือกที่จะอดทนแล้วเอ่ยถามออกไป หวังแต่คำพูดแสดงความห่วงใยเหล่านี้จะช่วยให้นาโอะวางใจลงได้ นี่เป็นผลของการกระทำที่ไม่อาจเลี่ยง

    "..อะ...."
    เจ้าของบ้านเอื้อมมือไปจะวัดไข้ ทว่าฝ่ามือกร้านที่ยื่นมาหาเรียกภาพคืนที่ถูกขืนใจกลับมาชัดเจนราวกับเกิดขึ้นอีกครั้ง มือคู่นี้เคยทารุณเขามากมาย มือคู่นี้น่ากลัวยิ่งนัก นาโอะหลับตาแน่น เฝ้ารอทัณฑ์ทรมานที่กำลังจะมาถึง  ความหวังของเซย์จิมอดดับไปกับท่าทางตื่นกลัวของนาโอะไม่เหลือดี

    เซย์จิเกลียดตัวเอง เกลียดที่หน้ามืดตามัวทำร้ายนาโอะได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
    สาแก่ใจแกแล้วใช่มั้ยล่ะ ?

    " ฉันไม่ทำอะไรหรอก " เซย์จิเลิกคิดแตะต้องตัวนาโอะอีก
    " ..ผะ...ผมไม่ได้..คิดหนีแล้วนะครับ "
    นาโอะรีบกล่าวแก้ตัว ด้วยกลัวว่าฝ่ามือคู่นั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายตนอีก หากมีคนเอามีดมาแทงเซย์จิมั่นใจว่าคงรู้สึกทรมานน้อยกว่าที่ต้องเห็นคนที่รักที่สุด แสดงท่าทางราวกับเขาเป็นสัตว์ร้ายจะมาคร่าชีวิตไปแน่นอน

    " เดี๋ยวจะให้ข้างล่างทำข้าวต้มขึ้นมาให้ นายกินแล้วจะได้กินยานะ "
    " ผมไม่หิว "
   หลายวันที่ผ่านมาหากถึงเวลาทานอาหารแล้วนาโอะปฏิเสธ เจ้าของบ้านจะตบหน้าทำโทษเขาเสมอ ครั้งนี้ก็คงอีกเช่นกัน ร่างเพรียวจึงนอนก้มหน้า แต่จนแล้วจนรอดเซย์จิก็ยังไม่ลงมือทำอะไร เพราะชายหนุ่มนั้นเจ็บปวดเหลือที่จะกล่าวออกมา คำขอโทษที่ตั้งใจพูดออกไปคงไม่สามารถสื่อถึงนาโอะในตอนนี้ได้แน่

    ..คำพูดเพียงไม่กี่คำไม่อาจเทียบเท่าการกระทำมากมาย..
    ที่ต้องทำคงไม่ใช่การเอ่ยขอโทษอย่างที่คิดไว้ตอนแรก หากแต่เป็นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ทั้งหมด

    " งั้นก็นอนพักซะ พรุ่งนี้ฉันจะมาหาใหม่ "
     สีหน้าคนป่วยดูคลายความตึงเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด นาโอะยินดีเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องทนอยู่กับเซย์จิอีก คิดได้แค่นั้นในอกก็ให้ปวดร้าวไปหมด

    เซย์จิกลับเข้าห้องมานั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดเพียงลำพัง ดูเหมือนนาโอะจะพยายามเอื้อมมือมาหยิบขวดน้ำบนโต๊ะข้างหัวเตียง สายน้ำเกลือเป็นอุปสรรคให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก ทั้งยังลุกไม่ไหวและข้อมือเจ็บ ทุกอย่างจึงดูขลุกขลักไปหมด ริ้วรอยความเจ็บปวดปรากฏบนดวงหน้าสวยเมื่อต้องออกแรงเปิดขวดน้ำรินใส่แก้ว เซย์จินึกโทษตัวเองเป็นอย่างมากที่สะเพร่าไม่รอบคอบลืมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ได้ และเขาไม่กล้ากลับไปให้่นาโอะรู้สึกเครียดจนไม่เป็นอันกินอันนอนแล้ว

    สิ่งที่ทำให้เซย์จิข่มตาหลับลงได้คือนาโอะที่ได้กินน้ำอย่างที่ต้องการ แล้วผล็อยหลับไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

    ..คืนนี้เซย์จิขอให้นาโอะฝันดี..

    อย่างน้อยหากคำอธิษฐานเล็ก ๆ นี้เป็นจริง นาโอะคงมีความสุขขึ้นบ้าง เท่านี้เขาก็พอใจแล้ว

------------------------

    ..ทุกอย่างดูสิ้นหวังไร้หนทางไปหมด..

    วันต่อมาเซย์จิตัดสินใจโดดงานอีกวัน กระนั้นกำลังใจเต็มเปี่ยมที่มาพร้อมแสงแรกอันอบอุ่น กลับเหือดแห้งไปตั้งแต่ดวงตะวันยังไม่ขึ้นตรงศีรษะ นาโอะไม่สบตาด้วย ถามอะไรก็ตอบกลับมาแทบนับคำได้ ทั้งยังหวาดกลัวทุกครั้งที่เซย์ิจิเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มไม่รู้ว่านาโอะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นเพราะเขาขืนใจ หรือเป็นมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว

    ..เซย์จิไม่เคยใส่ใจอะไรเลยอย่างที่ไดยะว่า จนเมื่อมาสังเกตได้ทุกอย่างก็สายเกินแก้เสียแล้ว..

    ในเมื่อนาโอะไม่ยอมรับอาหาร เซย์จิจึงไปพาตัวเทะซึโอะลงมาทั้งที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก เขากลัวนาโอะจะหนีไปอีก กลัวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของนาโอะต้องมาก่อน

    " พี่นาโอะไม่สบายอยู่ เทะซึโอะต้องไม่ไปกวนมากรู้มั้ย "
    เซย์จิย่อตัวลงนั่งอยู่ในระดับเดียวกับเด็กชาย ขณะเอ่ยกำชับเป็นครั้งสุดท้ายอยู่หน้าห้องนาโอะ เมื่อเทะซึโอะรับคำอย่างแข็งขันชายหนุ่มจึงเปิดประตูห้องให้ เจ้าของห้องนอนมองเพดานอย่างเหม่อลอยอยู่บนเตียง เสียงความเคลื่อนไหวไม่อาจเรียกความสนใจได้ ไม่รู้เพราะไข้สูงมากจนเบลอ หรือกำลังคิดถึงใครบางคนที่คงไม่พ้นน้องชายตัวน้อยอยู่กันแน่ แต่หากเป็นอย่างหลังนาโอะก็ได้สมหวังแล้ว

    " พี่นาโอะเป็นอะไรมากมั้ยฮะ "
    เจ้าของชื่อหันมองเทะซึโอะ ดวงตาเบิกกว้างคล้ายไม่เชื่อสายตา ก่อนหันไปมองเจ้าของบ้านซึ่งยืนพิงกรอบประตูห้องอยู่ เมื่อเห็นท่าทางพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตยืนยัน เซย์จิจึงได้เห็นรอยยิ้มกว้างที่ไม่ได้เห็นมาหลายวัน หากแต่ยาวนานราวกับนาโอะไม่เคยยิ้มต่อหน้าเขาเลย ทั้งยังลุกขึ้นนั่งได้อีกด้วย

    " ไม่เป็นไรแล้วล่ะ อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นสิ " กระแสเสียงฟังดูอ่อนโยน พลางเอ่ยปลอบเด็กชายที่ยืนทำตาแดงจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ

    " แล้วทำไมต้องให้น้ำเกลือด้วยล่ะ พี่นาโอะกำลังจะตายเหรอ "
    เทะซึโอะจำได้ในละครเวลาคนป่วยใกล้ตายมักมีสายน้ำเกลือ กับเครื่องอะไรไม่รู้ห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด พี่ชายของเขาเริ่มมีสายพวกนั้นแล้ว นั่นย่อมหมายถึงลางร้ายมิใช่เหรอ

    " อ้าว ทำไมมาแช่งพี่อย่างนั้นล่ะ "
    " ก็....ฮึก ๆ..พี่นาโอะห้ามตายนะ ฮืออ.. "
    กลายเป็นว่าคนป่วยต้องมาปลอบคนเยี่ยมไข้ขี้แยอยู่นานกว่าเทะซึโอะจะยอมสงบลง และเชื่อว่านาโอะไม่ตายจากไปในเร็ววันนี้แน่ เสียงหัวเราะจึงกลับคืนมาอีกครั้ง บรรยากาศอันอบอุ่นที่เซย์ิจิได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ

    ..ทั้งที่เทะซึโอะผูกพันกับนาโอะถึงเพียงนี้ เขามันใจร้ายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดที่พรากทั้งสองออกจากกัน..

    " ขอบใจมาก "
    เจ้าของบ้านหันไปรับถาดข้าวต้มจากสาวใช้คนหนึ่งที่นำขึ้นมาให้ตามคำสั่ง นาโอะได้เจอน้องชายสมดังหวังแล้วคงยอมกินอะไรบ้าง ถาดข้าวต้มถูกวางลงบนโต๊ะข้างเตียงพร้อมกันกับที่ร่างสูงใหญ่ทิ้งกายนั่งลงข้างเทะซึโอะ ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิดไม่มีผิดเพี้ยน ริมฝีปากเรียวที่ส่งเสียงหวานหูน่าฟังจนถึงเมื่อครู่เงียบเสียงลง แววตาอ่อนโยนถูกความหวาดกลัวกลบมิดไปเสียสิ้น

    ..แต่หากไม่ยื่นมือออกไป เจ้าแมวน้อยคงไม่มีวันรับรู้ถึงไมตรีจิตรที่มีให้..

    " นาย..เอ่อ....คงกินข้าวลงแล้วใช่มั้ย "
    เซย์จิเสียเวลาปล่อยให้ความเงียบเป็นใหญ่ในห้องอยู่นาน กว่าจะคิดหาคำพูดที่ไม่ทำให้นาโอะเข้าใจเจตนาของเขาผิดไปเป็นอื่นออก

    " พี่นาโอะไม่ยอมกินข้าวเหรอ "
    เด็กชายเทะซึโอะหันมาทำเสียงเข้มใส่พี่ชาย โดยไม่ได้ใส่ใจถึงเซย์จิที่เคยตีตนอย่างร้ายกาจ เจ้าหนูยังยิ้มร่าได้ราวกับเซย์จิไม่มีพิษภัยอะไร ซึ่งนั่นทำให้คนป่วยประหลาดใจมาก

   " กำลังจะกินน่ะ "
    นาโอะมีหรือจะปฏิเสธความหวังดีจากน้องชายได้ นอกจากนี้เมื่อได้เห็นว่าเทะซึโอะยังร่าเริงดีอยู่ก็เริ่มอยากอาหารขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน มือที่หยิบจานกระเบื้องขึ้นมาสั่นระริกจากอาการเจ็บ จนเซย์จิต้องคว้าจานไปถือไว้เอง เซย์จิทนเห็นนาโอะต้องฝืนตัวเองไม่ได้อีก จากนี้เป็นต้นไปถึงนาโอะไม่เต็มใจเขาก็จะฝืนบังคับให้รับความหวังดีของเขา ดีกว่าต้องมาทรมานตัวเองแล้วให้เซย์จิเจ็บตามไปด้วยแบบนี้

    " กินสิ "
    เซย์จิตักข้าวต้มไปจ่อป้อนให้ถึงปาก กระนั้นนาโอะกลับยังนั่งเฉย ในความคิดสับสนวุ่นวายไปหมด เซย์จิที่รู้จักไม่มีทางลดตัวมาทำเรื่องยุ่งยากแบบนี้แน่นอน บางทีอาจมีแผนการไม่ดีอะไรอยู่

    ช่างเป็นความรู้สึกซึ่งยากจะบรรยาย รสชาติข้าวต้มที่ถูกป้อนให้เมื่ออ้าปากรับจืดชืดไร้รส เมื่อคนป้อนคือผู้ที่นาโอะทั้งเกลียดและกลัว กระนั้นภาพน้องชายยิ้มร่าเฝ้ามองเขากินข้าวอย่างดีอกดีใจ กลับทำให้ในอกพองฟูด้วยความยินดี

    " กินให้หมดเลยนะ "
    ต้องเป็นเพราะแสงที่สว่างมากเกินไปจนตาพร่าแน่นอน นาโอะถึงเห็นเซย์จิระบายยิ้มน้อย ๆ ขณะตักข้าวป้อนคำแล้วคำเล่า เซย์จิคนนั้นหากไม่เหยียดยิ้มเย้ยหยันผู้อื่น ก็มีสีหน้าบึ้งตึงอยู่เสมอมิใช่เหรอ

    " พี่นาโอะป่วยงั้นก็ลาหยุดได้น่ะสิ งั้นเราลาหยุดกลับไปหาทุกคนที่ร้านกันเถอะ "
    เทะซึโอะนั่งท้าวคางมองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีเอ่ยออกมา มือใหญ่ที่กำลังคนข้าวต้มให้หายร้อนเพื่อจะตักคำต่อไปหยุดนิ่ง และใบหน้าขาวของนาโอะก็ซีดเผือดลงทันที คำว่ากลับย่อมหมายถึงคิดหนี และนั่นคือโทษร้ายแรงซึ่งนาโอะรู้ซึ้งเป็นอย่างดีจากทุกการกระทำทั้งหมดที่ได้รับมา

    " พี่เขายังไม่หายดี จะกลับได้ยังไง "
    เซย์จิกล่าวเสียงเรียบ พลางเหลือบมองร่างบนเตียง ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นสบมองมาอย่างเว้าวอน คล้ายจะย้ำถึงสิ่งที่เคยพร่ำบอกมาหลายครั้งหลายหนว่าตนไม่ได้คิดหนีอีกแล้ว ดังนั้นได้โปรดอย่าทำอะไรเทะซึโอะเลย คนที่ควรจะสำนึกผิดต้องเป็นเซย์จิสิ อย่ามองด้วยสายตาอย่างนั้น มันหมายความว่านายกลัวฉันยิ่งกว่าอะไร

    ..เขาต้องไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลได้อีก..

    " ใช่แล้วล่ะเทะซึจัง กลับไม่ได้ " น้ำเสียงฟังดูตื่นกลัวรีบห้ามน้องชายนั้นฟังดูน่าสงสารจับใจ
    " แต่เทะซึจังคิดถึงทุกคนนี่.."

    อยู่ด้วยกันที่นี่สิต้องไม่ไปไหนหรอก บ้านของพวกนายทั้งสองคนคือที่นี่นะ..

    ถ้อยคำที่ไม่อาจเอ่ยออกไปได้ เซย์จิรู้ดีผู้มีความผิดอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ไปเอ่ยรั้งทั้งสองคนเอาไว้ ถึงตั้งใจจะทำดีต่อนาโอะให้มาก แต่มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ยอมให้ไม่ได้ จึงได้แต่ทำตัวขี้ขลาดใช้เทะซึโอะมาเหนี่ยวรั้งนาโอะเอาไว้อยู่อย่างนี้

    " คุยอะไรกันอยู่น่ะ "
    " ไดยะซัง / ลุงไดยะ "
    คุณหมอประจำบ้านเดินยิ้มกว้างเข้ามาดึงจานออกไปจากมือของเซย์จิ ทางด้านนาโอะตกใจจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นไดยะเดินเข้ามา ซ้ำยังไม่มีท่าทีเกรงกลัวเซย์จิเลยแม้แต่น้อย ส่วนเทะซึโอะกลับปราดเข้าไปกอดขาไว้

    " ลุงไดยะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง รู้จักกับพี่เซย์จิด้วยเหรอ "
    " บอกแล้วไงเทะซึจังให้เรียกพี่ไม่ใช่ลุง "
    " ก็ลุงไดยะบอกว่าเทะซึจังเป็นหลาน ถ้าไม่เรียกลุงแล้วจะให้เรียกอะไรล่ะครับ "

    ไดยะดันหลังเซย์จิให้ลุกขึ้นโดยมีเทะซึโอะเดินตามหลังกลับมานั่งด้วย ผู้ที่หายไปทั้งวันพอโผล่หน้ามาอีกทีก็แสดงอำนาจเหนือเจ้าของบ้านอย่างน่าโมโหเหลือเกิน เซย์จิเข้าใจก็ตอนนี้เองว่าหลานที่ไดยะอวดถึงอยู่บ่อย ๆ คือเทะซึโอะ

    " จะตรวจคนไข้ นายกลับไปได้แล้วที่เหลือฉันทำเอง "
    สายตาที่มองมาไม่ว่าดูยังไงก็อ่านได้ว่ากำลังไล่เซย์จิอยู่

    " ถ้านาโอะไม่หายฉันเอานายตายแน่ "
    เซย์จิขู่ทีเล่นทีจริงแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งนาโอะที่ตกตะลึงกับความสัมพันธ์ของหมอผู้อารีกับเซย์จิผู้โหดร้าย ที่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่มีจุดใดเชื่อมโยงถึงกันเลยสักนิด

    เป็นอีกครั้งที่เซย์จิต้องล่าถอยกลับห้อง แล้วทำได้เพียงเฝ้ามองจากกล้องวงจรปิดเท่านั้น ความอิจฉาไดยะสุมอกจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี ดูเหมือนพี่น้องทั้งสองสนิทสนมกับไดยะมากพอสมควรทีเดียว ถ้าผู้ที่อยู่ท่ามกลางรอยยิ้มของทั้งคู่ในตอนนี้คือเขาหาใช่ไดยะคงดีไม่น้อย

    บทสนทนาหลังจากเซย์จิออกจากห้องแล้ว เป็นการบอกสองพี่น้องเพียงแค่ว่าไดยะเป็นเพื่อนสนิทของทั้งไดยะและฮาจิเมะโดยบังเอิญเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เป็นคนยุยงให้ใช้น้ำเชื้อเซย์จิในการทดลอง และเซย์จิคือพ่อของเทะซึโอะ เรื่องที่เป็นคนบอกที่อยู่นาโอะกับเซย์จิ หรือแม้แต่ลอบพาฮิโรกิเข้ามากลับถูกปิดเป็นความลับ เรียกได้ว่ารักษาภาพพจน์คุณหมอแสนดีไว้ได้อย่างแนบเนียนทีเดียว

    ..เซย์จิพบคนที่เจ้าเล่ห์ที่สุดในโลกแล้ว..

    หลังไขข้อข้องใจทั้งหมดลง ขั้นตอนการตรวจร่างกายจึงเริ่มต้นขึ้น เทะซึโอะต้องมาคอยอยู่นอกห้อง จากนั้นไดยะจึงดึงสายน้ำเกลือออก พร้อมบอกว่านาโอะทานข้าวได้แล้วไม่จำเป็นต้องให้อีก เซย์จิเชื่อว่าเขาตาไม่ฝาดแน่นอนที่เห็นไดยะเหลือบมองกล้องซึ่งถูกซ่อนอยู่ถึงจะเพียงแว่บเดียวก็ตาม ที่ผ่านมาเขาประเมินไดยะต่ำเกินไป

    " ขอตรวจแผลหน่อยนะนาโอะคุง " ไดยะพูดขณะปลดกระดุมเสื้อนอนไปด้วย ไม่ต้องถามว่าแผลตรงส่วนไหนนาโอะก็เข้าใจได้
    " ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว " เจ้าของร่างพยายามขืนตัวหลบ ใบหน้าขึ้นสีเรื่ออย่างน่าชังที่เซย์จิไม่เคยได้เห็นมาก่อน
    " ไม่ได้ เดี๋ยวอักเสบขึ้นมาอีก "
    " แต่ผม......"
    " ฉันเป็นหมอนะ ไม่ต้องอายไปหรอก " เสื้อนอนถูกถอดออกไปแล้ว ไดยะเลื่อนมือลงไปจับขอบกางเกงเอาไว้

    เซย์จิได้ยินเสียงอะไรสักอย่างขาดสะบั้น เขารีบออกจากห้องนอนมุ่งตรงไปยังอีกห้องหนึ่งที่นาโอะกำลังจะถูกลวนลาม ถึงเป็นเพื่อนสนิท ถึงมีบุญคุณช่วยเตือนสติ แต่จะยอมให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่านั้นไม่ได้เด็ดขาด บานประตูถูกกระชากเปิดออกเสียงดัง นาโอะตกใจจนสะดุ้ง ทว่าไดยะกลับหัวเราะขบขัน ก่อนเดินไปหาเซย์จิ

    " หึงเหรอไง ไอ้คนถ้ำมอง " เขากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน เซย์จิตกหลุมพรางง่ายกว่าที่คิดไว้เสียอีก

    ..น่าสนุกเหลือเกิน..

    " เมื่อคืนก่อนฉันเป็นคนทำแผล เช็ดตัวให้นาโอะนะ แถมยังเป็นคนผ่าคลอดให้เทะซึโอะด้วย ของแค่นี้เห็นมาหมดแล้ว อย่าลืมสิ " ดวงตาพราวระยับสนุกสนานเป็นอย่างยิ่งที่เซย์จิหัวปั่นดังที่คิดไว้ ดวงตาดำสนิทบอกไดยะว่าเซย์จิกำลังโดนพิษหึงหวงเล่นงานอย่างหนัก

    ถ้าเขาจะขอแก้แค้นแทนนาโอะบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง

    " ฉันเปลี่ยนใจแล้ว นาโอะคุงเอายาไปทาเองแล้วกัน ทำได้ใช่มั้ย "
    นาโอะรีบพยักหน้ารับอย่างโล่งอก ขณะเอื้อมมือไปรับหลอดยามาถือไว้ เมื่อไดยะออกไปทั้งห้องจึงเหลือเซย์จิและนาโอะเพียงลำพัง ความอึดอัดเข้ากดทับคนทั้งสอง นาโอะก้มหน้านิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหยิบเสื้อมาใส่

    " ฉันทาให้เอามั้ย "
    " ผม..ทำเองได้ครับ "
    เสียงตอบกลับแผ่วเบาราวกับสายลม ความพยายามในวันนี้ทั้งวันล่มเหลวไม่เป็นท่า เพียงก้าวแรกขวากหนามข้างทางก็คอยขัดขวางจนแทบหมดกำลังใจจะก้าวต่อไปแล้ว

    ..แล้วเมื่อไหร่เส้นชัยที่เฝ้าฝันหาจะมาถึง ?..


TBC Chapter 16
อ่านแ้ล้วงงกันมั้ยคะ ?? ไม่งงเนอะ..
ขอตอบเม้นตอนที่14นะคะ เบื้องหลังตอนที่แล้วขอไม่ตอบ แต่ไรเตอร์ไม่ได้ติดเกมนะค้าา!! แค่เผลอเล่นแล้วลืมตัวเท่านั้นเอง.. orz
Lunaeve => ถือมีดจะแทงคนแต่งเหรอคะ..
Phelyra => นั่นสินะคะ เซย์จิจะบ้าขึ้นมาอีกมั้ยน้า ♪
BeeRY => ไม่ต้องห่วงค่ะเ้ดี๋ยวมีคนยุนาโอะแน่นอน
Laxxeez => ตอนนี้เทะซึจังอ้อนพอเหรอยังค้า XD
atom_big => เอ่อ..ให้โอกาสเซย์จิหน่อยเถอะค่ะ..
pattybluet => ตอนแต่งก็แอบสะใจอยู่เหมือนกันค่ะ หุๆๆ เซย์จิเวอร์ชั่นใหม่ตอนนี้เหมือนที่คิดไว้มั้ยคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ!
CipheR => พามาหาแล้วค่าา เดี๋ยวนาโอะก็หาย~
F[ i ]sH[ O ] => กันที่ว่าคือแกล้งให้หึงอย่างนี้พอแทนกันได้มั้ยคะ แหะๆ
zatamare => สะใจที่เซย์จิโดนต่อยน่ะเหรอคะ XD
viky_mama => เทะซึจังไม่รู้อะไรเลยค่ะ รู้แต่ว่านาโอะเป็นพี่
vvivy => นาโอะรู้แต่ไม่แน่ใจค่ะว่าใช่หรือเปล่า เพราะรู้ตัวอีกทีเทะซึจังก็มาอยู่ในท้องแล้วน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ!
dahlia => อ่านตอนนี้แล้วยังโมโหเซย์จิอยู่อีกมั้ยคะ ^^
iforgive => หัวใจของเซย์จิกำลังก่อรูปสร้างร่างอยู่ค่าา
kittyfun => ตอนนี้ก็พัฒนาไปหน่อยแล้วล่ะค่ะ~
JJHJJH => งั้นเปลี่ยนบทพระเอกเลยดีมั้ยคะ (ฮา)
hpsky => เปลี่ยนบททันค่ะ แต่คงต้องหาทา่งฆ่าเซย์จิในเรื่องทิ้งก่อน ไม่งั้นอาละวาดอีกแน่นอน หุๆ
jasmin => ดีใจพี่ปลื้มค่า บทพระเอกเรื่องนี้มีไว้โดนเกลียด เพื่อนพระเอกมีใว้ให้คนชื่นชอบ!~
anajulia => ส่งไดยะให้กอดแต่โดยดีเลยค่ะ อย่าลืมส่งคืนนะคะ XD
fannan => อย่างตอนนี้เรียกว่าอ่อนโยนขึ้นหรือยังคะ ^^



หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 31-05-2010 21:49:39
เจ้มมมมมมมมมมมมมมมมม


ใช่สะใจเรืื่องนั้นแหละ แต่ถ้าให้ดี ตะกระโหลกเลยดีกว่า นะ



หึหึเซย์จิ เรื่องมันไม่ง่ายหรอก ที่จะทำให้คนที่มีความหวาดระเวงกลัวยอมเปิดใจ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 31-05-2010 22:04:56
เซย์จิพยายามหน่อยนะ o13
มันต้องใช้เวลา เพราะทำกับนาโอะไว้มากนิ
ใช้เทะซึจังมาช่วยสิ
เดี๋ยวนาโอะก็ใจอ่อนเอง
ปล.ตอนนี้ไดยะกวนได้น่ารักดี :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-05-2010 22:11:19
การ๊ากกกก...เซย์จิมันซึมเป็นด้วยอ่ะ OMG!!~
อ่านะ ถึงจะช้าไปหน่อย แต่ก็พยายามเข้านะ นาโอะคงหายดีซักวัน
เทะซึจังยังไงก็น่ารัก สมกับค่าตัวแพง 55
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 31-05-2010 22:13:28
จิ้ม + ให้จ้า
เซย์จิสู้ๆ พยายามเขานะ ไม่ยากเกินปัญญาและความอดทนที่มี อิอิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 31-05-2010 22:15:15
เซย์จิเวอร์ชั่นใหม่น่ารักดี 555+
ไดยะ o13   ยังไงฝากเสี้ยมนาโอะให้ป่วนเซย์จิมั่งจิ หุหุ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 31-05-2010 22:18:18
ขอบคุณที่ส่งไดยะให้กอดค่ะ ปลื้มไดยะและจะยังปลื้มต่อไป  :impress2:
เซย์จิซัง......เฮ้อ อยากจะสมน้ำหน้า แต่ก็ทำไม่ลง
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 31-05-2010 23:19:46
เซย์จิสู้ๆเอาชะใจนาโอะให้ได้ เพื่อเมียเพื่อลูก

เทะซึจังน่ารักอ่า~ ขอมาเป็นลูกเค้าแทนได้มะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 31-05-2010 23:30:05
นี่ละน้าเซย์จิ ง้อนาโอะ ให้สำเร็จแล้วกัน

ทำเค้าไว้เยอะช่วยมะล่าย


 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 31-05-2010 23:41:00
เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว  เซจิก็มีหัวใจเหมือนคนอื่น ๆ เหมือนกัน
ทุกอย่างก็ต้องมีการเริ่มต้น  เนาะ  หวังว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

ชอบตอนนี้จัง +1 ให้นะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 31-05-2010 23:47:33
อดทนต่อไปเน้อเซย์จิ...สักวันนาโอะจะเข้าใจ

ปล.รอตอนต่อไปค๊าบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 01-06-2010 00:04:25
ตามใจคนแต่งเลยครับ
แต่ว่า...
อย่าให้รักกันง่ายๆ แล้วกัน
เพราะว่า เรื่องมันจะได้ดูสมเหตุสมผลด้วย
ลองคิดดูว่าคนมาทำเราแทบตาย ข่มขืนเอยอะไรเอย
อยู่ๆ จะมารักกันง่ายๆ
ภายในวันสองวัน คงไม่ใช่แล้วแหละมั้ง

ส่วนการบรรยายความรู้สึกตัวละคร
ผมคิดว่าค่อนข้างเห็นภาพนะครับ
อันนี้ +1 ปายๆๆๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 01-06-2010 00:48:44
แง๊ว......เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
อ่านแรกๆก็ต้องยอมรับว่างงนิดหน่อย(ไม่นิดละตูสับสนชื่อตัวละครอยู่สี่ห้าตอน)
แต่อ่านไปอ่านมาก็ชักจะติดค่ะ

อ่านมาตั้งแต่สี่ทุ่ม จนนี่จะตีหนึ่งแล้วฮ่าๆ

ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านนะคะ
แล้วจะตั้งตารอตอนต่อไปค่ะ

ปล.นาโอะอย่าไปยอมมันง่ายนักนะลูก
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Lunaeve ที่ 01-06-2010 20:45:12
เค้าเอามาจิ้มเซจิ ตังหาก  ส่วนคนเขียน :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-06-2010 21:15:21
ชิชะ แค่ทำดีเล็กๆ น้อยๆ อย่าคิดว่า คนเขาจะเห็นใจ ไอ้ที่เคยทำมามันเยอะอยู่เหอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 01-06-2010 21:15:52
เทะซึจัง...สมกับที่เกิดมาเป็นโซ่ทองคล้องใจของเซย์จิกับนาโอะจริง ๆ คับ :กอด1: :m11:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 01-06-2010 21:37:05
เวลา ความอดทน ความรัก ความห่วงใย ความจริงใจ และเทซึจังเท่านั้น ถึงจะช่วยเยียวยานาโอะให้ค่อย ๆ ดีขึ้นได้ พยายามเข้านะค่ะเซย์จิ :3123:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 15](31/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 02-06-2010 02:46:38
เทะซึ ดาราที่ค่าตัวแพงที่สุดมาแล้ว
มาถึงบรรยากาศก็ดีขึ้น นิดนึงเลย
อย่างน้อยนาโอะก็กินข้าวได้
ปล. เซย์จิขี้หึงไปไหมคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/05/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 02-06-2010 03:29:28
Miracle 16


    " เพล้ง! "
    ความเงียบสงบยามค่ำคืนถูกทำลายลงด้วยเสียงคล้่ายกระเบื้องแตก ปลุกผู้หลับใหลอยู่ในชั้นเดียวกันให้ตื่นขึ้น เซย์จิรีบรุดมายังห้องนอนอีกฝั่งของบ้าน ในใจจินตนาการไปถึงเรื่องต่าง ๆ มากมาย พนักงานร้านเค้กนั่นกลับมาพาตัวนาโอะไปอีกบ้างล่ะ หรือคนป่วยเพ้อไข้จนเผลอปัดข้าวของตกแตกจนได้แผลบ้างล่ะ โดยลืมคิดไปเสียสนิทว่านาโอะคนนั้นได้รับการเยียวยาทางจิตใจจากยาชื่อเทะซึโอะแล้ว อีกไม่นานคงหายดี

    " นาโอะเกิดอะไรขึ้นน่ะ "
    เมื่อหลอดไฟทำงานให้แสงสว่างภายในห้องอีกครั้ง เซย์จิจึงได้เห็นแก้วน้ำ ขวดน้ำรวมถึงโคมไฟข้างเตียงตกแตกกระจัดกระจาย ผู้สร้างความเสียหายครั้งนี้ทรุดนั่งอยู่บนพื้นห้อง มือเรียวพยายามจับขอบเตียงพยุงตัวลุกขึ้น หากแต่ก็ล้มเหลว จนเมื่อเห็นเซย์จิใบหน้าสวยพลันซีดลง หลักฐานความผิดเห็นคาตาอยู่อย่างนี้ เจ้าของบ้านคงโมโหเป็นแน่

    " เป็นอะไรหรือเปล่า "
    " ผมขอโทษ.. " ดวงตาคล้ายเด็กทำความผิดแล้วถูกจับได้สบมองมา แบบเดียวกับที่ใช้อ้อนวอนตลอดทั้งคืนที่ถูกขืนใจ

    ..ฉันไม่ได้จะทำร้ายนาย ไม่ทำอีกต่อไปแล้ว เลิกมองมาด้วยสายตาแบบนั้นสักทีสิ..

    เซย์ิจิกดอารมณ์ขมขื่นไว้ในใจ ก่อนเดินเข้าไปหาหมายจะช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ทว่านาโอะกลับกระถดกายถอยหลังหนีด้วยมือทั้งสองข้าง ปากก็ร้องห้ามไปด้วย

    " ยะ..อย่า..จับนะ.."
    " ไม่ทำอะไรหรอก ฉันแค่จะช่วยพยุง " ชายหนุ่มนั่งลงตรงหน้านาโอะ พยายามเกลี้ยกล่อม กระนั้นผู้หวาดกลัวหาได้สงบลงไม่
    " ผมขอโทษ..ยะ..อย่าเข้ามานะ.." 
    แผ่นหลังบางชนเตียงด้านหลัง ไม่มีทางหนีอีกแล้ว ในตอนนั้นเองประตูห้องเปิดออกอีกครั้งจากผู้อาศัยอยู่ชั้นสองอีกคนหนึ่ง ภาพเซย์จิพยายามไล่ต้อน ในขณะที่คนป่วยผู้มีท่าทางตื่นกลัวร้องห้ามเสียงสั่น ไม่ว่าใครก็ตีความเหตุการณ์ตรงหน้าผิดไปได้ทั้งนั้น

    " ทำบ้าอะไรของนาย! " ไดยะพุ่งเข้ามาผลักเซย์จิออกไปอีกด้าน แล้วตรงเข้าไปประคองนาโอะซึ่งเจ้าตัวยินยอมโดยไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย

    " มันทำอะไรนาโอะคุงอีกเหรอ "
    "  ปะ..เปล่าครับ " นาโอะรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เขายังไม่ถูกทำอะไรเพราะไดยะเข้ามาได้ทันเวลาพอดี มือบางทั้งสองข้างจับแขนไดยะไว้แน่นคล้ายจะหาที่พึ่ง
    " ถ้าอย่างนั้นเกิดอะไรขึ้นล่ะ "
    " ผมจะไปแปรงฟันแล้วลุกไม่ไหว เลยเผลอปัดข้าวของตกเสียหายน่ะครับ....เซย์จิซังคงจะโกรธ "

    นาโอะเล่าความจริงทั้งหมดออกมาในที่สุด กระนั้นยังต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการเอ่ยชื่อเซย์จิไป ร่างเพรียวไม่กล้ามองไปทางเจ้าของบ้านอีก จึงไม่ทันได้เห็นร่างที่ทรุดนั่งลงบนพื้นหมดสิ้นเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก กระทั่งเพื่อนสนิทยังไม่เชื่อใจว่านาโอะจะไม่ถูกกระทำดั่งที่ผ่านมาอีก ผู้อาศัยร่วมบ้านทั้งสองพากันพยุงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ขณะที่เซย์จิไม่อาจสลัดภาพนาโอะที่หวาดกลัวแล้วเลือกไดยะมากกว่าเขาออกไปจากหัวได้เลย

    " ....ฉันไม่ได้โกรธอะไรนายสักหน่อย "
    เซย์จิผู้หมองหม่นกล่าวกับตัวเอง ก่อนเดินออกจากห้องไปเรียกคนมาทำความสะอาด ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ในห้องนี้อีกในเมื่อมีคุณหมอดีใจอยู่แล้วทั้งคน ไดยะที่ยืนพิงกรอบประตูห้องน้ำคอยนาโอะทำธุระส่วนตัวมองตามแผ่นหลังกว้างพร้อมดวงตาวาววับ เรียวปากเคลือบรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจ

    ..สำนึกผิดให้มากกว่านี้สิ เผื่อฉันใจอ่อนอาจจะช่วยนายก็ได้นะเซย์จิคุง..

------------------------

    วันคืนหมุนเวียนผ่านไปอาการของนาโอะดีขึ้นตามลำดับ ในระหว่างนั้นเซย์จิแวะเวียนไปเยี่ยมหลังเลิกงานเป็นประจำทุกวันเพื่อพาเทะซึโอะไปหา และเพื่อถูกสายตาตื่นกลัว กับน้ำเสียงแผ่วเบาตอกย้ำให้ยิ่งเสียใจต่อการกระทำของตน จนต้องกลับห้องปล่อยให้สองพี่น้องอยู่ด้วยกัน สิ่งที่เซย์จิทำได้มีเพียงเฝ้ามองคนสำคัญทั้งสองหัวเราะพูดคุย หยอกล้อกันอย่างสนิทสนมผ่านกล้องวงจรปิดเท่านั้น เมื่อได้เวลาพักผ่อนจึงไปพาตัวเทะซึโอะกลับห้อง

    ทุกภาพทุกการกระทำตอกย้ำว่าเซย์จิไม่มีทางได้รับไมตรีจิตรเช่นนั้นจากนาโอะได้อย่างน้องชายคนสำคัญ แม้จะอยากให้เจ้าของรอยยิ้มอ่อนโยนเลิกหวาดกลัว แล้วปฏิบัติด้วยอย่างน้อยแค่ในฐานะเพื่อนก็ยังดี ดูเหมือนเซย์จิคงต้องพยายามให้มากขึ้น

    วันนี้ต่างจากวันอื่น ๆ ไดยะบอกเซย์จิว่าผู้ป่วยหายดีแล้ว ทั้งแผลบนร่างกาย อาการไข้และสภาพจิตใจดีขึ้นมาก ไม่ต้องกินยาอีกต่อไป ถือเป็นข่าวดีอย่างหนึ่งสำหรับเซย์จิเลยก็ว่าได้ เขาจึงตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างเป็นของขวัญให้นาโอะ

    " พี่นาโอะ~ "
    เทะซึโอะถลาวิ่งเข้าไปกอดเอวพี่ชายที่นั่งห้อยขาอยู่ข้างเตียง นาโอะยิ้มเจือจางให้เด็กชาย ก่อนเหลือบมองเซย์จิคล้ายต้องการเช็คให้แน่ใจว่าชายหนุ่มออกไปแล้วหรือยัง ทว่าเมื่อเห็นเจ้าของบ้านเดินเข้ามาทิ้งกายนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งในห้อง ดวงตาสีอ่อนก็รีบหลุบลงมองน้องชายตามเดิม เซย์จิรู้ดีนาโอะไม่มีวันเอ่ยปากพูดด้วยก่อนจึงเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นเอง

    " ไดยะบอกว่านายหายดีแล้ว "
    เซย์จิมองคู่สนทนาไม่ละสายตา นาโอะแสร้งทำเป็นลูบหัวเทะซึโอะอยู่นานกว่าจะตอบรับเสียงแผ่วออกมา เจ้าตัวคงกลัวถูกทำอะไรอีกกระมังฝ่ามือถึงได้สั่นเทาเช่นนั้น

    " ....ครับ.."
    " งั้นก็ดีแล้วล่ะ คืนนี้ฉันให้เทะซึโอะนอนที่ห้องนี้ฉลองที่นายหายป่วยแล้วกัน "

    สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาคุ้มค่ากับการข่มใจต่อความหวาดระแวงกลัวสองพี่น้องจะหนีหายไปอีกยิ่งนัก ทั้งนาโอะและเทะซึโอะหันมองมาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แล้วมอบรอยยิ้มที่ดูละม้ายคล้ายกันให้ในอกเซย์จิคับแน่นด้วยความยินดี

    " จริงเหรอฮะ "
    ริมฝีปากบางของเด็กชายที่ยังคลี่ยิ้มน้อย ๆ ขณะเอ่ยถาม หากเซย์จิพูดจริงนี่จะเป็นคืนที่นาโอะจะได้อยู่กับเทะซึโอะเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนอันยาวนานดั่งล่วงเลยมาหลายปี

    " ฉันจะโกหกไปทำไมล่ะ "
    สิ้นคำตอบรับเทะซึโอะรีบปีนขึ้นไปจัดที่นอนของตัวเองบนเตียงนอนซึ่งกว้างเกินกว่าจะนอนคนเดียวได้ เด็กชายคว้าหมอนใบหนึ่งของนาโอะมาวางเคียงกัน หมายมั่นไว้ในใจว่าจะนอนกอดพี่ชายแทนหมอนข้างให้สมอยาก

    " พี่นาโอะนอนฝั่งนี้ เทะซึจังนอนตรงนี้ " มือเล็กตบหมอนแปะ ๆ แสดงความเป็นเจ้าของ
    " เทะซึจังจะนอนเลยเหรอ " นาโอะหันไปยิ้มละไมให้น้องชาย
    " เปล่าครับ เทะซึจังแค่จัดที่นอนเหมือนที่พี่นาโอะเคยบอกไง แต่เตียงนี้กว้างจัง พี่เซย์จิมานอนด้วยกันมั้ย " เทะซึโอะวาดมือไปยังที่ว่างข้างตัวอีกฝั่งของเตียง พลางชวนพี่ชายตัวโตที่เพิ่งรู้จัก ทว่านาโอะกลับเอ่ยห้่ามเสียงแข็ง

    " อย่าให้เซย์จิซังต้องมานอนเบียดกับพวกเราเลยเทะซึจัง รบกวนเขานะ "
    ภาพความทรงจำในคืนสุดท้ายที่ใช้เตียงนอนร่วมกันแล้วถูกขืนใจกลับมาเด่นชัดอีกครั้ง หากจะว่าไปแล้วทุกครั้งที่นอนร่วมเตียงกับเซย์จิไม่มีครั้งใดเลยที่นาโอะไม่ถูกล่วงเกิน ถ้าต้องให้เทะซึโอะมาเห็นเรื่องเสื่อมทรามเหล่านั้นนาโอะยอมกัดลิ้นตายเสียยังจะดีกว่า

    " แต่นอนด้วยกันหลายๆคนอุ่นดีออก เทะซึจังไม่ได้นอนกับใครมาตั้งนานแล้ว "
    ท้ายประโยคน้ำเสียงอันสดใสแผ่วลง ไม่ว่าใครฟังก็ทราบได้ในทันทีว่าเด็กชายต้องทนกับความเหงายามค่ำคืนเพียงลำพังมากสักเพียงใด ซึ่งเป็นข้อบกพร่องในความเพียบพร้อมมากมายที่เซย์จิมองข้ามไปและเพิ่งมาตระหนักได้

    " นอนกับพี่ยังไม่อุ่นพอเหรอ งั้นพี่ลองไปชวนไดยะซังเอามั้ย "
    " ห้ามชวนหมอนั่นเด็ดขาด นอนกันแค่สองคนก็พอแล้วนี่ "
    เซย์จิรีบเอ่ยห้ามเสียงดังจนใกล้เคียงกับการตวาด ด้วยอารมณ์อิจฉาคละหึงหวงอย่างไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เพียงสองคนก็พอแล้ว หากเขาไม่อาจเป็นส่วนหนึ่งในค่ำคืนอันอบอุ่นที่กำลังจะมาถึงได้ ก็ขอเห็นแก่ตัวขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นมายุ่งเกี่ยวได้ด้วยเช่นกัน

    " คะ...ครับ.."
    " เทะซึโอะยังไม่ได้อาบน้ำ ฝากจัดการด้วยแล้วกัน "

    นาโอะพยักหน้ารับคำเล็กน้อย ปกติเรื่องพวกนี้สาวใช้จะเป็นคนจัดการแทนพี่เลี้ยงที่โดนไล่ออกไป แต่ด้วยความรีบร้อนดีใจไปพาตัวเทะซึโอะลงมาจนไม่ได้ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเซย์จิจึงบอกอีกเรื่องที่ตั้งใจใช้เป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งนาโอะเอาไว้จนกว่าจะได้รับการให้อภัย

    " จากวันนี้ไปฉันให้นายเจอเทะซึโอะได้วันละ 2 ชั่วโมงตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงสองทุ่ม ถ้าวันไหนฉันยังไม่กลับขึ้นไปหาข้างบนห้องเองได้เลย เดี๋ยวจะบอกคนเฝ้าเอาไว้ให้ "

    " เทะซึโอะอยู่ที่่นี่เหรอครับ " ดวงตาสีอ่อนฉายแววพิศวงใจ นี่อาจเป็นประโยคแรกนับแต่คืนสำนึกผิดของเซย์จิที่นาโอะยอมเปิดปากพูดด้วยประโยคยาวขนาดนี้ ด้วยความดีใจที่ฝังกลบความตื่นกลัวไปชั่วขณะ คู่สนทนาปลาบปลื้มดีใจจนยอมย้ำความสงสัยนั้นโดยลืมความหวาดระแวงไปเสียสิ้น

    นี่ถือเป็นพัฒนาการที่ดีได้หรือไม่ ? เซย์จิจะคิดเข้าข้างตัวเองได้ใช่มั้ย ?

    " อยู่ที่เดิมนั่นแหละ แต่อย่าลืมนะแค่ 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่มเท่านั้น.."
    " ครับ.." นาโอะก้มหน้าหลบสายตาลงดังเดิม
    เซย์จิกลับออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกยินดีที่ได้เห็นรอยยิ้มนาโอะได้อีกครั้ง แต่ชายหนุ่มคงลืมสังเกตอะไรบางอย่างไป ไม่มีถ้อยคำเอ่ยขอบคุณดังเช่นครั้งแรกที่พาเทะซึโอะมาหา เพราะนาโอะสำนึกได้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องแสดงน้ำใจให้ผู้ที่ไม่มีความดีอันใดหลงเหลืออยู่ในตัวอย่างเซย์จิ

    ความเพียรพยายามของคนบาปกลับใจยังไม่มากพอจะส่งไปถึงนาโอะได้
    หนทางที่เห็นว่าหดสั้นลง แท้ที่จริงอาจยาวไกลจนชวนท้อใจก็เป็นได้

TBC Chapter 17
มาพร้อมความมึนอีกครั้งค่ะ ใกล้เปิดเทอมแล้วล่ะค่ะหมดหวังจะแต่งจบให้ทันเปิดเทอมไปแล้ว ตอนละนิดละหน่อยเหลือเกิน TTwTT
zatamare => ไม่ง่ายแต่ก็ไม่น่าจะยากเกินความพยายามหรอกค่ะ ^^
CipheR => ให้ใช้เด็กเป็นเครื่องมือว่างั้นเถอะนะคะ - -+
BeeRY => คนเค้าสำนึกแล้วก็ต้องซึมกันหน่อยสิค้าา
JJHJJH => ตั้งกองเชียร์เซย์จิเลยดีมั้ยคะเนี่ย ฮาา
pattybluet => นาโอะ่ป่วนได้แน่นอนถ้าเลิกเกลียดเลิกกลัวนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าาา
anajulia => เริ่มสงสารเซย์จิแล้วเหรอค้าา XD
hpsky => ขอได้ค่ะแต่ไปขอกับเซย์จินะคะ ไรเตอร์ไม่มีสิทธิ์ยกให้ใคร~
zemicolon => ช่วยไม่ได้จริงๆค่ะ คงต้องรับกรรมต่อไปอีกนาน..
iforgive => ดีใจที่ชอบค่ะ~ >w<
vvivy => วันที่เข้าใจคงไ่ม่ใช่วันนี้สินะคะ มาต่อแล้วนะค้าา
F[ i ]sH[ O ] => ดีใจจังค่ะที่มีคนอ่านแล้วไม่สับสน ตอนนี้ก็ยังไม่งงใช่มั้ยคะ XD
mahotsukai => ยินดีต้อนรับค่าา นับไปนับมามีตัวละครทั้งหมด7ตัวค่ะ orz อ่านตั้งแต่แรกเจอคำผิดเยอะมั้ยคะ ฮาา
Lunaeve => กอดเช่นกันค่าา
dahlia => แสดงว่ายังเกลียดเซย์จิอยู่ใช่มั้ยคะเนี่ย
Laxxeez => ก็เทะซึจังเป็นลูกนี่ค้า ต้องใช้ให้สมบทหน่อย~
Phelyra => นาโอะหายดีแล้วล่ะค่าา แ่ต่ยังเหมือนเดิมกับเซย์ิจิ....
jasmin => ขี้หึงไปเหรอค้าา เราว่ากำลังดีน้า คนกำลังโดนพิษรักเล่นงานก็อย่างนี้แหละค่ะ~




หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 02-06-2010 04:20:57
ทาเคชิสู้ๆ อะม่ายช้ายๆๆ เซย์จิคุงสู้ๆ


รับกรรมต่อไป ง้อนาโอะให้ได้แล้วกันนะ

หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-06-2010 04:45:52
อีกนานอ่ะ...ถ้าเค้าเป็นนาโอะ ก็อีกนานอ่ะ
แต่นี่ไม่ใช่ไง เพราะงั้นเข้าใจกันเร้วๆน้าาา :-[
อยากอ่านแบบสวีตๆ อิอิ :o8:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 02-06-2010 07:42:11
เซย์จิสู้ๆ ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวันที่เป็นของเรา สู้ๆ
ไดยะใจร้ายอ่ะ :a14:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 02-06-2010 07:51:04
ไม่รู้จะสงสารใครดี  นาโอะไม่เคยรู้สึกดีกับเซจิ
เพราะฉะนั้น  คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะใจอ่อน
ผิดกับเซจิที่หลงรักนาโอะข้างเดียว
แล้วนาโอะก็คงไม่รู้ตัว  จอตอบรับความรู้สึกนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 02-06-2010 09:04:07
หึหึ จะทำยังไงหละ แสดงความห่วงออกไป นาโอะก็คิดเป็นอีกอย่าง   


มันยังไม่มากพอทีจะส่งถึง แสดงออให้มากกว่านี้สิ ให้เขารับรู้ได้ หากแต่เมื่อรับรู้ได้แล้ว จิตใจที่บอบช้ำ ก็คงยังระเวงและไม่ไว้วางใจอยู่ดี ก็คงต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะอะนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 02-06-2010 14:28:08
นู๋เทะซึน่ารักอีกแล้ว  :m1:
ไดยะ ร้ายยยยย แต่เค้าชอบ  :impress2:
รอวันที่หนูน้อยจะป่วนเซย์จิ อิอิ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 02-06-2010 15:18:26
"ฉันอาจเป็นสายฝน เมื่อเธอร้อนใจ
 อบอุ่นเหมือนไฟ เมื่อเธอเหน็บหนาว
 อาจเป็นดนตรี กล่อมเธอเมื่อเหงา
 อาจเป็นแสงดาว เมื่อเธอแหงนมอง"
หวังว่าสักวันเซย์จิจะเป็นสิ่งเหล่านี้ให้นาโอะได้นะค่ะ :3123: เมื่อก่อนเซย์จิอาจใจร้ายทำไม่ดีกับนาโอะสารพัด แม้ตอนนี้จะสำนึกได้และอยากขอโอกาสแก้ตัว เราก็ไม่สน เราสนแค่ให้มีสิ่งดี ๆ ที่จะช่วยลบวันเวลาแห่งความหวาดกลัว สิ่งดี ๆ ที่จะสามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มชีวิตของนาโอะและเทะซึจังให้มีความสุขมากกว่าที่ผ่านมาก็เท่านั้นเอง :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 02-06-2010 15:50:15
ดูท่าว่าการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนาโอะกับเซย์จิครั้งนี้ งานหนักจะตกอยู่ที่พระเอกตัวจิ๋วอย่าง เทะซึจัง นะคับ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 02-06-2010 17:36:18
นาโอะใจแข็งจัง
เซย์จิต้องหาตัวช่วยอย่างเทะซึงจังกับไดยะ
เซย์จิสู้ สู้  :a2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 02-06-2010 19:14:26
เห็นใจนะ เพราะนาโอะเจ็บปวดมามากจริงๆ
เทะซึโอะน่าจะเป็นสะพานที่ดีที่สุดนะงานนี้
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 02-06-2010 19:25:40
เซย์จิซังงงงงงง สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะ


ก็ไม่ได้อยากเข้าข้างน้าคร้า แต่ๆๆ ยังไงๆเซย์จิซังก็ไม่มีทางปล่อยนาโอะไปแน่ๆ
เพราะงั้นลุ้นให้สองคนเค้ารักกันเร็วๆดีกว่า นาโอะจังจะได้มีความสุขเสียที :m1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-06-2010 21:12:20
ทำไมต้องแค่ 6 โมง ถึง 2 ทุ่มละ แล้วก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเซย์จิอยู่เลย กลัวอาการบ้ากำเริบ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 02-06-2010 21:33:56
เซย์จิซึมไปเลย แอบสะใจทำตัวเองทั้งนั้น
อ่านตอนนี้ก็สงสารนิดนึง แต่หักลบกับตอนแรกๆ
ให้ง้ออีกนิดดีกว่า โอกาสมาแล้วนาโอะ
เอาคืนให้เต็มที่  :laugh5:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 02-06-2010 22:25:07
คงเพราะบาปมาก ความพยายามแค่นี้ถึงยังไม่มากพอ
นอกจากนาโอะแล้ว ยังมีหนูทดลองคนอื่น ๆ อีกนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 02-06-2010 23:49:38
เซย์จิก้อใช้เจ้าตัวเล็ก(น้องเทะซึ)เป็นสะพานค่อยๆเชื่อมความสัมพันธ์กะนาโอะจิ  o18


ปล.จริงๆแล้วไดยะเป็นคนดีรึป่าวคะเนี่ย?
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 03-06-2010 02:52:29
ทำไมต้องแค่ 6 โมง ถึง 2 ทุ่มละ แล้วก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเซย์จิอยู่เลย กลัวอาการบ้ากำเริบ

จริงๆ ทำไมต้องเคอฟิวด้วยคะ ทำม้ายยยย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 03-06-2010 11:30:16
เฮ้อ ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 03-06-2010 19:59:16
ตามมาให้กำลังใจเซย์จิปรับปรุงตัว

ขอให้เอาชนะใจนาโอะได้นะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 16](02/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 04-06-2010 01:04:45
ตามอ่านทันแล้ว นั่งอ่านมาราทอน ตาลาย  :really2: :really2:
อ่านแล้วสงสารหนูนาโอะจัง  :m15:
ตอนหลังๆสะใจอีตาเซย์จิมากกกกกกกกกกกก ดัดหลังเยอะๆเลยนาโอะ ให้มันรู้ซะมั่งว่าเราก็คนไม่ใช่ตุ๊กตา :m15:
อร๊ายยยย หนูเทะซึน่าร้ากกกกกกกกกกกก มามะมาให้พี่สาวกอดที  :กอด1: :กอด1:
สุดท้ายเรื่องนี้ ป๋าได คือ ต้นเหตุทั้งหมด แต่หนูก็รักป๋านะเคอะ หลงรักป๋าได  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 04-06-2010 03:04:40
Miracle 17

    ..ความปรารถนาที่ไม่อาจสมหวังช่างขมขื่นนัก..

    กลุ่มควันสีเทาจางม้วนตัวลอยขึ้นไปบนอากาศ มือกร้านจรดบุหรี่ลงบนริมฝีปากอีกครั้ง สารนิโคตินจำนวนมากกำลังซึมเข้าสู่ร่างกายช่วยลดความเครียดสะสม ดวงตาสีนิลจ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมซึ่งฉายภาพผู้ร่วมอาศัยสองพี่น้องไม่วางตา รอยยิ้มงามจับใจที่ได้เห็นเมื่อหลายวันก่อนกลายเป็นเพียงภาพฝันสำหรับเซย์จิไปแล้ว วันรุ่งขึ้นนาโอะกลับมาหวาดกลัวดังเดิม ไม่ว่าจะลองชวนคุย หรือพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรสักเท่าไรก็ไร้ผล สิ่งที่มอบให้ไม่ส่งผลอันใดต่อจิตใจที่บอบช้ำมามากเลย

    ตามปกติแล้วเซย์จิไม่สูบบุหรี่ แต่วันนี้ถือเป็นข้อยกเว้น หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่มีสัญญาณใดบ่งบอกว่านาโอะเริ่มยอมรับในตัวเขาเลย จึงเพิ่งมาสำเหนียกได้ว่ารอยยิ้มและคำพูดที่เห็นทั้งหมด หาใช่พัฒนาการที่ดีดังที่คิดเข้าข้างตัวเองไม่ เซย์จิเริ่มชังคำว่าครับของนาโอะที่ได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน และเป็นเพียงคำเดียวที่ร่างโปร่งบางนั้นเปิดปากพูดด้วย

    เซย์จิเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า เปลือกตาทาบทับปิดสนิท ก่อนผ่อนลมหายใจพร้อมกลิ่นนิโคตินออกมาฟุ้งกระจายเต็มห้อง เข็มยาวบนหน้าปัดนาฬิกาชี้ไปยังเลข 8 ได้เวลาไปรับเทะซึโอะกลับห้อง ถึงเวลาไปเผชิญหน้ากับแววตาหวาดระแวงของนาโอะแล้ว กระนั้นเขายังปล่อยให้เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์

    ใจจริงแล้วเซย์จิไม่ต้องการพรากตัวเทะซึโอะออกจากนาโอะอีก แต่ด้วยความหวาดระแวงที่ท่วมท้นจึงไม่มีทางเลือก 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่มเป็นช่วงเวลาที่ผ่านการไตร่ตรองอย่างละเอียดแล้วว่าเหมาะสมที่สุด เจ้าของธุรกิจทั้งในโลกธรรมดาและโลกเบื้องหลังซึ่งยุ่งอยู่เสมอสามารถปลีกตัวกลับมาคอยเฝ้าได้ทัน ทั้งยังเป็นเวลาก่อนนอนของเทะซึโอะพอดีอีกด้วย และทันมาดูภาพบรรยากาศอับอบอุ่นที่คนนอกได้เพียงแค่มอง

    " สองทุ่มแล้วนะเซย์จิ "

    ไดยะที่ไม่รู้ว่าเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยขึ้น ดวงตาแฝงความขี้เล่นเฝ้าสังเกตทุกรายละเอียดของเพื่อนสนิท แม้ไม่ถามว่าเซย์จิสำนึกหรือยัง แต่จากการกระทำในหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันได้ในตัวเองอยู่แล้ว หลังเสพความสุขจากท่าทางทุกข์ทรมานของเซย์จิ จนคิดว่าเพียงพอที่จะหักล้างเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เซย์จิเคยกระทำมา ไดยะจึงตัดสินใจเป็นพ่อสื่ออีกครั้ง อันที่จริงเรื่องทั้งหมดส่วนหนึ่งเป็นความผิดที่เขาต้องร่วมรับผิดชอบด้วยเช่นกัน

    " ท้อแท้มากเลยเหรอไง ลองไปเล่นกับเทะซึจังดูสิ หลานฉันคนนี้ทำให้นายรู้สึกดีได้่แน่ " แนวฟันสวยเรียงตัวเป็นระเบียบให้เห็นยามหนุ่มขี้เล่นยิ้มกว้างพูดอวดหลานตัวน้อยอย่างภูมิอกภูมิใจ เซย์จิพ่นลมหายใจออกมากับประโยคนี้
    " หลานนายงั้นเหรอไอ้คนเจ้าแผนการ รู้ทุกอย่างมาตั้งแต่แรกยังกล้าหลอกฉันอีก "
    " แล้วถ้าฉันให้นายเจอสองคนนั้นตั้งแต่ตอนที่ฉันรู้ แน่ใจหรือว่านายจะไม่ทำอะไร "

    ไร้ซึ่งคำตอบใดกลับมา หากได้ตัวนาโอะกลับมาพร้อมทารกน้อย คงไม่พ้นถูกส่งตัวกลับองค์กรลับในทันทีเป็นแน่ 5 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่า ให้ความห่วงหาและความอาลัยอาวรณ์ต่อของสำคัญอันมีฉากหน้าเป็นความเคียดแค้นได้ฝังรากลึกจนไม่อาจถอนได้

    " เรื่องนั้นอย่าไปใส่ใจเลยน่า เอาเป็นว่าอย่าลืมไปเล่นกับหลานชายตัวน้อยของฉันนะ "
    ดวงตาดำสนิทเหลือบมองไดยะอย่างนึกหมั่นไส้กับรอยยิ้มที่หลอกเขามาตลอดหลายปี

    " อย่ามองอย่างนั้นสิ ไปพาเทะซึโอะขึ้นนอนได้แล้ว "
    เจ้าของใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอถือสิทธิ์ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงเซย์จิ แล้วโบกมือไล่เจ้าของห้อง ชายหนุ่มส่งเสียงขัดใจในลำคอก่อนทำตามคำพูดไดยะอย่างเลี่ยงไม่ได้

    " ฉันส่งตัวช่วยไปให้แล้ว พยายามทำอะไรสักอย่างเข้าล่ะ "
    ถ้อยประโยคซึ่งเซย์จิไม่ทันได้ยิน พร้อมรอยยิ้มพราวระยับ

-----------------------

    นับตั้งแต่ได้รับคำแนะนำจากไดยะ เกือบทุกวันหลังพาเด็กชายกลับมาจากชั้นสอง เซย์จิจะมาขลุกอยู่ด้วยจนเจ้าของห้องตัวน้อยหลับเสมอ ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับนาโอะ ความช่างพูดช่างคุยของเทะซึโอะช่วยทำให้สบายใจได้ตามไดยะบอก ทว่าเมื่อมารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองทำพลาดอย่างใหญ่หลวง

    " พี่เซย์จิวันนี้มีของฝากอีกมั้ยคร้าบบ~ "
    ร่างที่อาบน้ำปะแป้งจนตัวหอมฉุยวิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังทันทีที่ประตูห้องเปิดออก ดูเหมือนเด็กชายจะคุ้นชินกับเซย์จิแล้ว จึงเริ่มเข้ามาออดอ้อนประหนึ่งได้พี่ชายใจดีเพิ่มขึ้นอีกคน เด็กมักโกรธง่ายลืมง่าย ตอนนี้เทะซึโอะลืมไปแล้วว่าเซย์จิเคยทำอะไรกับตนไว้บ้าง

    " เด็กที่อยากได้ของฝากต้องทำยังไงเอ่ย "
    มือใหญ่ชูถุงบรรจุลูกกวาดให้เห็น เด็กชายได้ยินก็รีบปราดเข้าไปกอดขายาว ๆ ของเซย์ิจิไว้ทันที นี่เป็นการขอบคุณที่พี่ชายตัวโตและเด็กชายตัวน้อยช่วยกันคิดขึ้น เมื่ออยู่ในห้องนี้ทั้งบุคลิกสุุขุม หรือบุคลิกกราดเกรี้ยวอยู่เสมอพลันหายไป กลายเป็นเซย์จิผู้ชอบสปอยเด็กไปโดยปริยาย เซย์จิเสพติดรอยยิ้มน่าชัง และหลงรักผ้าขาวอันสดใสผืนนี้เข้าให้เสียแล้ว ทุกวันจึงมักมีขนมหรือของเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือกลับมาเป็นประจำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดใส่ใจ

    หลานชายไดยะทำให้เซย์จิปลอดโปร่งขึ้นได้จริง ๆ..

    " ว้าว พี่เซย์จิเหมามาหมดร้านเลยเหรอครับ "
    ลูกกวาดหลายสีอวดสีสันน่ากินอยู่ภายในถุงใบใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่ถุงเดียวเพราะยามหน้าห้องถือของฝากเข้ามาเพิ่มอีกหลายถุง เทะซึโอะไม่เคยจินตนาการถึงวันที่จะได้เป็นเจ้าของขนมหวานจำนวนมากขนาดนี้มาก่อน และไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย

    การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างมักค่อยเป็นค่อยไปทีละเล็กละน้อยเสมอ เซย์จิรู้ดีดังนั้นเขาจึงขอเลือกเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่ง่ายที่สุดอย่างเทะซึโอะ อย่างน้อยท่าทางเป็นมิตรนี้ก็ทำให้กำลังใจที่มอดดับไปกลับคืนมาอีกครั้ง

    " แล้วชอบรึเปล่าล่ะ "
    " ชอบครับ "
    ศีรษะเล็กพยักรับเร็ว ๆ จากนั้นจึงหยิบลูกกวาดขึ้นมากินพร้อมกันสองเม็ด เซย์จิยิ้มเศร้าให้เด็กชายที่มัวแต่สนใจลูกกวาด วันที่นาโอะจะปฏิบัติด้วยดั่งเพื่อนจะมาถึงเมื่อไหร่กัน เขาเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีบ้างที่ทำผิด มีบ้างที่ลุ่มหลงมัวเมาไปกับสิ่งยั่วยุ และสำนึกเสียใจเป็นเช่นเดียวกัน

    " แต่พี่เซย์จิห้ามบอกพี่นาโอะนะว่าเทะซึจังกินลูกกวาดเยอะขนาดนี้นะครับ " เทะซึโอะเงยหน้่าขึ้น แล้วหันมาพูดเสียงเครียดราวกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

    " เทะซึโอะจะโดนดุเหรอ "
    ชายหนุ่มที่กำลังเทขนมหวานหลากสีที่เหลือใส่ขวดแก้วเลิกคิ้วถาม ในอกกำลังโลดเต้นกับข้อมูลที่กำลังจะได้รู้ เซย์จิอยากรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับนาโอะ อยากรู้ว่าชอบอะไรเกลียดอะไร นอกจากใบหน้ายิ้มแย้มที่มีให้น้องชายเสมอ กับสีหน้าหวาดกลัวแล้ว ตอนโกรธเคืองเทะซึโอะก็คงน่ามองไปอีกแบบ

    " ไม่ดุหรอก พี่นาโอะบอกว่ากินขนมมากแล้วฟันผุให้กินได้แต่ไม่เยอะ ถ้าพี่นาโอะรู้เทะซึจังต้องโดนทำโทษแน่ๆ "
    ดวงตาสีน้ำตาลแวววาวมองขนมในมือที่เพิ่งหยิบขึ้นมาอีกสองเม็ด ดูท่าเทะซึโอะคงเมินคำสอนของพี่ชายไปเป็นที่เรียบร้อย

    " แล้วเวลาทำโทษ นาโอะทำยังไงบ้างล่ะ "
    เซย์จิวางขวดที่บรรจุลูกกวาดจนเต็มวางบนชั้นแล้วเดินกลับมาทรุดนั่งลงที่เดิมข้างเทะซึโอะ พลางหลอกถามไปเรื่อย ๆ

    " บางทีก็ไม่ให้กินขนมตั้งหลายวัน บางทีก็ไม่ยอมเล่นด้วยเลย แต่ก็ไม่นานหรอก พี่นาโอะใจอ่อนง่าย พอเทะซึจังไปอ้อนแป๊ปเดียวก็หายโกรธแล้ว "

    ..แล้วถ้าฉันที่ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับนาโอะเลยไปอ้อนบ้างนายจะยอมใจอ่อนมั้ย..

    ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าคำตอบคือไม่มีทาง เซย์จิแค่นยิ้มให้ตัวเองอย่างนึกสมเพช

    " พี่เซย์จิทำไมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นล่ะครับ ผมแบ่งให้ก็ได้ อย่าเศร้าสิครับ "
    มือเล็กเลื่อนถุงลูกกวาดด้านหน้ามาให้ สีหน้ากระวนกระวายใจอย่างไม่มีเสแสร้ง เซย์จิไม่อาจปล่อยตัวเองให้จมอยู่ในความท้อแท้จนทำให้เด็กชายพลอยกังวลไปด้วยได้ ใบหน้าคมจึงระบายรอยยิ้มออกมา

    " พี่ไม่ได้เสียใจอะไรหรอก ขอบใจนะเทะซึโอะ "

    ..เซย์จิชักไม่อยากเป็นแค่พี่เสียแล้ว..
    ชายหนุ่มพลาดท่าปล่อยให้ตนรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ระลึกขึ้นได้ว่าเขาและเด็กชายมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

    ..บางทีการเป็นพ่อของเด็กน้อยน่ารักอย่างนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน..

------------------------------

    ..เซย์จิเป็นคนความอดทนต่ำ..

    และความอดทนของเขาเป็นอันต้องขาดสะบั้นลงเพราะชื่อฮิโรกิจากปากของนาโอะ

    เซย์จิจำได้ว่าตนเองเดินเข้าบ้านมาด้วยอารมณ์เบิกบานพร้อมกล่องเค้กในมือ ที่ซื้อมาให้เทะซึโอะนำไปกินกับนาโอะ เวลาบ่ายแก่แดดสีส้มสาดทอไปทั่วบ้านหลังใหญ่ ท่ามกลางแสงนั้นเซย์จิเห็นร่างโปร่งบางกับเพื่อนสนิทนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก ทว่าบทสนทนาที่ทั้งสองคุยกันนั้นไม่รื่นหูเอาเสียเลย

    " ฮิโรกิยังปลอดภัยดีจริง ๆ เหรอครับไดยะซัง "
    " ยังอยู่ที่ร้านของฮาจิเมะเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่ต้องห่วงไปหรอก " ไดยะกล่าวตอบ
    เจ้าเค้กน่าสงสารหมดโอกาสทำหน้าที่ของมันแล้ว เพราะเซย์จิเหวี่ยงกล่องเค้กทิ้งลงพื้น เนื้อแป้งแหลกเลวไม่มีดี ก่อนสาวเท้าเข้าไปภายในห้อง แล้วคว้าข้อมือเรียวเอาไว้ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล

    " เรามีเรื่องต้องคุยกันนาโอะ "
    ทั้งหน้าตาและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด

    " เซย์จิซัง! "
    ท่ามกลางความตื่นตกใจกับท่าทางอันไม่คาดฝันของเซย์จิ นาโอะก็ถูกฉุดกระชากไปถึงบันไดชั้นสอง สีหน้าตื่นกลัวฉายชัด เรียวปากบางพยายามร้องห้ามด้วยความไม่เข้าใจ กว่าไดยะจะเรียกสติกลับคืนมาได้ เขาปราดไปหาเซย์จิแล้วตวาดด้วยเสียงอันดัง

    " จะปล่อยนาโอะ หรือจะให้ฉันพานาโอะกับเทะซึโอะกลับไป! "
    เซย์จิหันมองไดยะที่้จ้องมองมาด้วยท่าทางเอาจริง ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตนปล่อยให้อารมณ์เป็นใหญ่เหนือเหตุผลเข้าอีกครั้ง ทันทีที่ปล่อยมือนาโอะก็รีบวิ่งหายไปบนชั้นสองโดยไม่หันกลับมามองอีก หลังเสียงปิดประตูดังลั่นเซย์จิได้ยินเหมือนเสียงลงกลอนประตูตามมา

    ..เขาทำอะไรลงไป..

    " เกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ความพยายามของนายมีแค่นี้เองเหรอ "
    มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เลยในเมื่อเจ้าของนามฮิโรกิคนนั้นคือผู้ต้องสงสัยว่ากำลังคบกับนาโอะอยู่ ทั้งยังเคยใจกล้าบุกมาถึงบ้านหลังนี้อีกด้วย แม้จะลอบเข้ามาได้เพราะได้รับความช่วยเหลือจากไดยะก็ตาม ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าพนักงานร้านเค้กจะไม่พยายามช่วงชิงนาโอะไปจากเขาอีก

    " แต่ไอ้หมอนั่น...."
    " หมายถึงฮิโรกิน่ะเหรอ เอาสิ ถ้าโกรธที่ฮิโรกิลอบเข้ามาแล้วจะเอามาลงกับนาโอะก็ตามใจ " ถ้อยประโยคถากถางประหนึ่งสมเพชเซย์จิเสียเต็มประดา
    " ฉันไม่ได้โมโหเรื่องนั้น แต่ที่โมโหคือไอ้หมอนั่นมันคบกับนาโอะอยู่.."

    เซย์จิกำหมัดแน่นอย่างสุดจะทนได้ ที่ผ่านมามัวแต่มุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การทำให้นาโอะหายเกลียดเพียงอย่างเดียว จนลืมเลือนขวากหนามชิ้นใหญ่อย่างฮิโรกิไปเสียสิ้น กระนั้นท่าทางกระวนกระวายของเซย์จิกลับเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากไดยะผู้ซึ่งอารมณ์ขึ้นมาจนถึงเมื่อครู่ได้

    " ไม่อยากจะเชื่อ นายเหมือนพระเอกในละครน้ำเน่าที่เข้าใจผิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย "
    ไดยะทิ้งตัวนั่งลงบนขั้นบันได แล้วตั้งหน้าตั้งตาหัวเราะจนหน้าแดงก่ำไปหมด เซย์จิไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขากำลังว้าวุ่นใจจนอยู่ไม่เป็นสุข แต่เพื่อนคนนี้กลับเอาแต่หัวเราะ มือกร้านคว้าคอเสื้อเชิ้ตของไดยะให้เจ้าของเสื้อลุกขึ้นมาเผชิญหน้าอีกครั้ง

    " เรื่องเข้าใจผิดอะไร หมอนั่นเคยเข้ามาจะพานาโอะออกไปครั้งนึงแล้ว ถ้าไม่ใช่คนรักแล้วจะเป็นอะไรล่ะ "
    ผู้ถูกล่วงเกินปัดมือเซย์จิทิ้ง ก่อนยื่นหน้าเข้าไปจ้องดวงตาสีนิลใกล้ ๆ ราวกับจะจดจำภาพอันหาดูได้ยากยิ่ง แล้วเฉลยทุกอย่างให้ฟังด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

    " ไม่มีอะไรระหว่างสองคนนั้น อย่างน้อยก็นาโอะล่ะที่คิดว่าฮิโรกิเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น เข้าใจหรือยังไอ้ขี้หวง "
    " แต่....."
    " ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อที่พูดเหรอไง "

    เป็นอีกครั้งที่เซย์จิไม่รู้จะกล่าวอะไรตอบออกไปดีจึงได้แต่นิ่งเงียบ บางทีเขาคงต้องเชื่อใจผู้อื่นให้มากกว่านี้ หากต้องมาระแวงในทุกเรื่อง คงไม่พ้นเป็นได้แค่ผู้ขลาดเขาตกเป็นเหยื่อให้คนโน่นคนนี้ปั่นหัวเล่นไม่รู้จักจบจักสิ้น

    นาโอะที่ทั้งชีวิตมีเพียงเทะซึโอะจะเหลือความสนใจใดไว้ให้ผู้อื่นได้อีก..

    " เซย์จิวันนี้นายสอบตก ถ้าอยากชนะใจนาโอะต้องอดทนและใจกว้างให้มากกว่านี้ ไม่ใช่มีอะไรก็ใช้กำลังอย่างเดียว เป็นพวกใช้กล้ามเนื้อแทนสมองเหรอไง "

    ไดยะกล่าวสั่งสอนชุดใหญ่ แค่อ่อนโยนยังไม่พอ เพราะเมื่อใดที่เพลิงอารมณ์ลุกโชนความอ่อนโยนเหล่านั้นก็จะมอดไหม้ไปด้วย แต่ต้องใจกว้างยอมรับทุกสิ่งด้วยเหตุผล ต้องอดทนต่อทุกอย่างให้ได้ด้วย หาไม่แล้วไม่ว่าเมื่อไหร่ความฝันที่จะได้รับการให้อภัยคงไม่มีวันเป็นจริงได้

    " อดทนและใจกว้างงั้นเหรอ...." เซย์จิทวนคำขณะใช้ความคิดไปด้วย

    ..หากผูกมัดมากเกินไป เงื่อนนั้นอาจทำร้ายผู้ผูกให้ยิ่งทรมานกว่าหลายร้อยเท่าก็เป็นได้..

TBC Chapter 18
เอ่อ..มีใครคิดบ้างมั้ยคะว่าเนื้อเรื่องมันชักเหมือนพายเรือวนในอ่างเ้ลยค่ะ แต่กำลังพยายามเขียนให้ออกมหาสมุทรอยู่ล่ะค่ะ(??) อีกสองสามตอนจะมีอะไรคืบหน้าแล้วอย่าเ้พิ่งเบื่อกันไปก่อนนะคะ orz
zemicolon => รับกรรมต่อไปอีกนานเลยล่ะค่ะงานนี้..
BeeRY => อยากแต่งสวีทเหมือนกันค่ะ!! แต่คงอีกสักพักเลย TTwTT
hpsky => ไดยะใจร้ายตรงไหนเหรอค้าาา
iforgive => งั้นจะทำให้นาโอะรู้ความรู้สึกของเซย์จิเร็วๆแล้วกันนะคะ - -+
zatamare => ต้องพิสูจน์อีกสักพักเลยล่ะค่ะ
pattybluet => ฮาา แค่นี้ก็ใกล้ป่วนได้แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า
Phelyra => ก่อนจะเติมเต็มได้คงต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนแหละค่ะ..
Laxxeez => แสดงว่างานหนักแต่คนรับบทหนักตัวเล็กน่ะสิคะ XD
CipheR => แต่เราว่าไดยะเหมือนตัวป่วนมากกว่าจะช่วยยังไงไม่รู้ล่ะค่ะ..
JJHJJH => แน่นอนอยู่แ้ล้วค่ะ ก็เทะซึจังเป็นโซ่ทองนี่คะ~
anajulia => แอร๊ย ดีใจค่าา มีกองเชียร์เซย์จิเพิ่มอีกคนแล้วว
dahlia => คำตอบอยู่ในตอนนี้แล้วค่าาา
jasmin => ยังไม่สะใจพอสิ ต้องจัดให้หนักกว่านี้สินะคะ XD
different => หนูทดลองตัวอื่น..เป็นเรื่องที่เซย์จิต้องจัดการแหละค่ะ
vvivy => สำหรับเราไม่ค่อยดีนะคะ อารมณ์คนขี้แกล้งมากกว่า ^^
Tifa => ต้องเคอร์ฟิวเพราะเหตุการณ์ยังไ่ม่สงบค่ะ(ไม่ใช่ละ..) เหตุผลอยู่ในตอนนี้เลยค่าาา
river => สมน้ำหน้าให้สะใจก่อนแล้วค่อยสงสารก็ยังไม่สายนะคะ~
kittyfun => เอาชนะได้มั้ยต้องดูพฤติกรรมกันต่อไปค่าา
lazewcielo => ยินดีต้อนรับค่ะ นับถือความพยายามเลยค่ะ เราอยากไปอ่านทวนตั้งแต่แรกยังขี้เกียจสุดๆเลยค่ะ orz  ดีใจที่ชอบนะคะ ^^






หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 04-06-2010 04:19:33
..เซย์จิเป็นคนความอดททนต่ำ..(ท เกินค่ะ)
เสื้อเชิ๊ต (เชิ้ต)
ผู้ขลาดเขา (ตั้งใจรึเปล่าคะ? ถ้าคำว่าขลาดเขลา จะมี ล ลิง อีกตัวนะคะ)


ปล.ไม่เบื่อค่ะ จะติดตามต่อไป ^o^
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 04-06-2010 04:20:06
เซย์จิสู้ๆๆ

นาโอะหายกลัวเซย์จิคุงไวไวนะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 04-06-2010 08:10:48
จิตใจนาโอะบอบช้ำหนัก :เฮ้อ:
เซย์จิก็สู้ๆนะ :L2:


hpsky => ไดยะใจร้ายตรงไหนเหรอค้าาา

ก็ตรงที่ไม่ช่วยเซย์จิอ่า แล้วยังมายั่วโมโหอีก
แต่ตอนนี้ไม่ใจร้ายแล้ว 555+ความรู้สึกของคนอ่านเปลี่ยนไปทุกตอน :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-06-2010 13:58:37
ว่าแหละคนบ้าแม่งก็บ้าวันยังค่ำ น่าพาเทะซึจังออกมาห่างๆ นะนั่น เดี๋ยวบ้ากำเริบก็ได้โดนตีอีกหรอก  ตอนแรกว่าจะเชียร์ ไม่ชงไม่เชียร์แหละ :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 04-06-2010 14:12:30
คิดว่าถ้าเซย์จิยังเป็นมนุษย์ความอดทนต่ำเช่นนี้ คงอีกนานอ่ะกว่านาโอะจะเป็นเหมือนเดิม... :angry2:
เทะซึยังคงน่ารักเหมือนเดิม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-06-2010 14:47:16
พายเรือในอ่างเหรอ  ก็นิด ๆ นะ  เพราะตอนนี้รู้ความคิดของเซจิฝ่ายเดียว
ถ้าได้รู้ความคิดของนาโอะ  ก็คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในความคิด  ใช่มั๊ย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 04-06-2010 18:59:50
อย่าออกเลยหมาสมุทรอ่ะ ในอ่างนี่แหละดีละ เค้าคิดว่ามันคือ การย้อนคืนผลของการกระทำ ในทุกการกระทำ และให้เซย์จิรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้และไม่คิดจะทำความเข้าใจหนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 04-06-2010 19:04:22
เนื้อเรื่องกำลังเสนอความคิดของเซย์จิฝ่ายเดียวรึเปล่า
เลยทำให้คิดว่าเรื่องมันวนไปวนมมา
ก็นะ พี่ท่านคิดอะไรไม่ค่อยมาก
แอบสงงสารอยู่เหมือนกันนะ เหมือนโดนไดยะปั่นหัวเล่นอยู่เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 04-06-2010 19:26:34
เอาน่าเซย์จิ.. อย่างน้อยก็ยังมีนู๋น้อยเทะซึนะ

เซย์จิสู้ !!!  :a2:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 04-06-2010 21:32:22
เซย์จิพยามอดทนหน่อยเน้อ....นู๋เทะซึบอกเเล้วว่านาโอะใจอ่อนง่าย อ้อนหน่อยก้อหาย..เซย์จิเก๊าะไปอ้อนนาโอะมั่งจิ :-[

ปล.รอตอนต่อไปนะจ๊า...เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 04-06-2010 22:01:13
กร๊ากกกกก

เซย์จิหน้ามืดตามัว หึงหวงบ้าไปแล้ว  55555++
 :m20: :m20:

น่ารักจังเลย

เซย์จิสู้ๆๆๆๆๆน่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 17](04/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 04-06-2010 22:06:47
 :เฮ้อ: เซย์จิทำตัวเด็กกว่าเทะซึจังอีก ดีแต่ใช้กำลังแก้ปัญหา EQ ต่ำจริง ๆ ด้วย งั้นก็รับผลจากการกระทำที่เกิดจาก EQ ต่ำต่อไปอีกละกันคับ ทำตัวเองทั้งน้านนนนน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 05-06-2010 00:02:17
Miracle 18

    ..หากอยากรบชนะจงเก็บข้อมูลให้พร้อม..

    วันนี้ไดยะถูกทางโรงพยาบาลเรียกตัวไปผ่าตัดใหญ่ เซย์จิจึงโดดงานเพื่อทำอะไรบางอย่าง ทันทีที่ลืมตาตื่นภารกิจแรกในยามเช้าคือการเช็คดูว่านาโอะเป็นอย่างไรบ้าง ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือร่างผอมบางซุกตัวนอนขดหลับอย่างเป็นสุขอยู่ในผืนผ้าห่มอันอบอุ่นราวลูกแมวตัวน้อย เมื่อเฝ้ามองจนพึงพอใจแล้วจึงรีบลงมาสั่งทุกคนในบ้านให้บอกนาโอะว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ จากนั้นจึงกลับเข้าห้องไปอีกครั้ง เซย์จิเองก็อยากรู้ว่าแต่ละวันนาโอะทำอะไรบ้าง เพียงแค่การบอกเล่าของผู้อื่นไม่เพียงพอเท่าเห็นด้วยตาตนเอง ไดยะไม่อยู่เป็นตัวป่วน ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สังเกตเพื่อนร่วมบ้านผู้หวาดกลัว

    ว่าไปถึงไดยะแล้ว หัวคิ้วหนาก็กระตุกอย่างไม่สบอารมณ์ เซย์จิไม่เข้าใจเพื่อนคนนี้เลยสักนิด ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่ บางครั้งก็เหมือนจะช่วยเหลือให้ตนกับนาโอะรักกัน แต่บางครั้งกลับเข้ามาขัดขวางราวกับเล่นสนุก เมื่อคืนก็เช่นกันเซย์จิไปรับเทะซึโอะขึ้นนอน และหวังจะขอโทษนาโอะที่เผลอทำรุนแรงใส่ให้ตกใจด้วย ทว่าจังหวะที่รวบรวมความกล้าเรียกผู้ที่เอาแต่หลบตานั่งก้มหน้านิ่งออกไป ไดยะกลับเข้ามาชวนคุยดึงความสนใจจากนาโอะไปจนหมด ทั้งที่ดวงตาสีอ่อนกำลังจะหันมามองเขาแล้วแท้ ๆ

    กาแฟถ้วยที่สองหมดลงคือเวลาที่มีการเคลื่อนไหวจากบนเตียงหนานุ่มผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยม ดวงตาสีนิลเห็นเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง ตามด้วยเรืองร่างบางภายใต้ชุดนอนโปร่ง มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาอย่างเกียจคร้าน ราวกับไม่อยากพรากออกจากผืนผ้าห่มที่ให้ความอบอุ่นมาตลอดทั้งคืน นาโอะหันมองนาฬิกาบนฝาผนัง แล้วดวงตาสีอ่อนก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย จนเซย์จิอดหันมองเวลาตามไปด้วยไม่ได้ เข็มสั้นชี้ไปยังเลขเก้า สำหรับเซย์จิแล้วไม่ได้สายอะไรเลย หากนาโอะยังไม่อยากตื่น จะนอนต่ออีกสักหน่อยเขาก็ไม่ว่าอะไร

    " ตื่นสายขนาดนี้เพราะไดยะซังคนเดียวชวนคุยจนดึก "

    ทั้งที่บ่นกระปอดประแปดแต่ดวงหน้างามกลับเจือรอยยิ้มบางเบา การได้คุยกับคนรู้ใจเป็นเวลานานคงทำให้นาโอะอารมณ์ดีขึ้น ผู้เฝ้ามองพยายามกดอารมณ์อยากรู้อยากเห็นเอาไว้ไม่ให้ตัวเองทะยานไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อถามว่าคุยอะไรกับไดยะอยู่นานสองนานจนอดนอน จากนั้นจึงคาดโทษไว้ในใจ คอยเวลาไดยะกลับมาค่อยเค้นคอถามในภายหลังแทน เขาต้องอดทนให้มากเข้าไว้..

    บานประตูห้องน้ำเปิดออกอีกครั้งหลังเจ้าของห้องหายเข้าไปได้สักพัก ร่างที่สวมใส่ชุดนอนจนถึงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีขาวแขนยาวพอดีตัวกับ กางเกงขาสั้นเลยเข่าลงมา เผยให้เห็นเรียวขาขาวและเอวคอดที่แนบกับเนื้อผ้าจนไม่อาจละสายตา เซย์จิอยากหายตัวไปอยู่ด้านหลังแล้วรวบร่างผอมบางมากอดให้สมอยาก หลังอาบน้ำเสร็จนาโอะคงตัวหอมยิ่งกว่าปกติ แต่เขารู้ดีหากเปิดประตูห้องเข้าไปคงเป็นการทำลายความสงบสุขของนาโอะจนหมด

    ดูเหมือนนาโอะจะไม่ออกนอกห้องจนกว่าจะแน่ใจว่าเจ้าของบ้านผู้โหดร้ายไม่อยู่ ทันทีที่หลงเชื่อคำเท็จว่าเซย์จิไม่อยู่บ้าน และจะกลับมาในเวลาดึก ใบหน้างามก็กระจ่างด้วยรอยยิ้มทันที ช่างน่ายินดีระคนขมขื่นอย่างยากจะอธิบาย

-------------------------

    ..แค่ได้มองก็สุขใจ..

    เวลาเที่ยงตรงนาโอะลงมาทานข้าวในห้องอาหารตามที่เซย์จิสั่งให้สาวใช้คนหนึ่งตามลงมา นักธุรกิจหนุ่มผู้ผันตัวเองเป็นพวกถ้ำมองชั่วคราวยืนพิงราวบันไดอยู่บนบันไดขั้นบนสุด พลางมองร่างผอมบางรับประทานอาหารไปด้วย วิธีการกินของนาโอะนับว่าเรียบร้อยมากทีเดียว แทบไม่มีเสียงช้อนส้อมกระทบจานกระเบื้องให้ได้ยิน กระนั้นชายหนุ่มยังอดลอบสังเกตลิ้นเล็ก ๆ ยามที่เรียวปากบางอ้าเปิดออก หรือยามที่นาโอะเลียริมฝีปากด้วยความเคยชินไม่ได้ เขาอยากจูบนาโอะใจแทบขาด

    มะเขือเทศชิ้นเล็ก ๆ ถูกเขี่ยไปไว้ข้างจาน เซย์จิลอบอมยิ้มกับพฤติกรรมเหมือนเด็กเลือกกินนั่น เขายินดีกินส่วนที่เหลือนั้นให้อย่างเต็มใจ ถ้าเพียงนาโอะจะให้ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วย แล้วคิดขึ้นได้ว่าเทะซึโอะเองก็ไม่กินมะเขือเทศเช่นกัน จากการไปคลุกคลีอยู่ด้วยเป็นเวลาหลายวันทำให้ชายหนุ่มพอรู้นิสัยใจคอของเทะซึโอะมากขึ้น รวมไปถึงสิ่งที่ชอบและเกลียดด้วย ทว่าสำหรับนาโอะที่ไม่อาจสนิทสนมได้จึงมีแต่ต้องเฝ้ามอง และสังเกตเอาเองอยู่ห่าง ๆ เช่นนี้เท่านั้น

    การเล่นซ่อนแอบระหว่างเซย์จิและนาโอะดำเนินไปจนถึงยามบ่าย ทันทีที่นาโอะสาวเท้าออกนอกตัวบ้าน เซย์จิก็รีบกลับเข้าห้องไปเฝ้ามองจากระเบียงห้องนอน ซึ่งสามารถเห็นบริเวณทางเข้าจากประตูรั้วได้ทั้งหมด เรือนผมสีอ่อนสะท้อนแดดยามบ่ายเป็นประกาย ขณะเจ้าตัวเดินตรงดิ่งไปยังประตูรั้ว นอกรั้วนั้นสุนัขตัวโตสีดำสนิทกำลังยืนคอยนาโอะอยู่ ราวกับนัดแนะเวลากันไว้เป็นที่เรียบร้อย เซย์จิจำได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้านที่มักถูกปล่อยออกมาวิ่งเล่นตอนกลางวัน มันคงถูกใจนาโอะและแวะเวียนมาหาเป็นประจำ ถึงได้กระดิกหางดีใจประหนึ่งยินดีที่เจอเจ้านายอีกคน

    หลังหายป่วยไม่มีคำสั่งห้ามนาโอะออกไปข้างนอก เพราะเซย์จิมั่นใจว่าตราบเท่าที่เทะซึโอะยังอยู่ในกำมือของเขา นาโอะจะไม่ไปไหน กระนั้นในอกกลับอดรู้สึกวูบโหวงไม่ได้เมื่อมือเรียวลอดรั้วออกไปลูบเรือนขนของสุนัขด้านนอก เป็นอีกครั้งที่เขาต้องอดกลั้นต่อความหวาดระแวงภายในใจ

    สุนัขตัวโตส่งเสียงร้องครางคล้ายอ้อนขอให้นาโอะออกไปเล่นด้วยกัน เจ้าของดวงตาสีนิลมั่นใจว่าเห็นดวงหน้างามฉายแววว้าวุ่นใจอยู่นาน เมื่อมองซ้ายมองขวาจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีสายตาผู้ใดจับจ้องคอยนำเรื่องไปรายงานเจ้าของบ้าน นาโอะจึงตัดสินใจเปิดประตูรั้วออกไปนั่งเล่นกับเพื่อนสี่ขาตัวโตริมฟุตบาท

    ..นาโอะใจอ่อนง่ายดังที่เทะซึโอะว่า แม้ผู้นั้นจะเป็นเพียงสัตว์ก็ตาม..

    จนเมื่อแน่ใจแล้วว่านาโอะกลับเข้าบ้านเป็นที่เรียบร้อย เซย์จิจึงหันไปสนใจเอกสารที่นำกลับมาด้วย เขาไม่ปฏิเสธว่าครึ่งนึงของกระดาษจำนวนมากบนโต๊ะ เป็นรายงานความคืบหน้าของโปรเจคในองค์กรลับ ถึงจะรู้ตัวว่ารักนาโอะเข้าแล้ว แต่คงไม่สามารถล้มเลิกสิ่งที่รับช่วงต่อจากผู้เป็นพ่อ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเป็นเวลาหลายปีได้ ทั้งชื่อเสียงอันเลื่องลือด้วยแล้ว เซย์จิจึงตัดใจจากแหล่งทำเงินชิ้นนี้ไปไม่ได้เสียที

    เวลาล่วงเลยจนตะวันเคลื่อนคล้อยลาลับ เซย์จิกลับมานั่งอยู่หน้าจอสี่เหลี่ยมอีกครั้ง หกโมงเย็นแล้วหากแต่การแสร้งทำเป็นไม่อยู่บ้านยังไม่จบลง เขาต้องการให้นาโอะมั่นใจในสิ่งที่ตนเคยพูด การเหยียบย่างไปบนชั้นสามเป็นสิ่งต้องห้ามในความคิดของนาโอะ ด้วยอาจทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าคิดหลบหนีอีกได้ แม้จะได้รับคำอนุญาตแล้วก็ตาม อีกเหตุผลหนึ่งของบทละครฉากนี้นอกเหนือจากเฝ้าสังเกตนาโอะ คือการลบเลือนความหวาดระแวงให้เจ้าหนูน้อยไปทีละนิดด้วย

    ..นายจะทำยังไง ?..

     ดวงตาสีอ่อนมองนาฬิกาสลับกับประตูห้องอย่างกระวนกระวายใจ ก่อนลุกขึ้นตั้งท่าจะออกไปด้านนอก แต่แล้วก็กลับมานั่งบนเตียงดังเดิม เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้งทีเดียวกว่ามือเรียวจะหมุนลูกบิดประตูเปิดออก ใบหน้าคมระบายยิ้มกว้างก่อนหลับตาลงคอยฟังเสียงฝีเท้าด้านนอก เซย์จิได้ยินเสียงคล้ายคนเดินวนไปวนมาระหว่างบันไดขึ้นชั้นสามและหน้าห้องของเขาอยู่นาน

    " เทะซึโอะ.."

    สิ้นเสียงนั้นเซย์จิก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าอีก พอเปิดประตูออกไปลอบมองก็ได้เห็นแผ่นหลังบางหายลับขึ้นบันไดไป เมื่อลองเดินตามไปจึงทันได้เห็นสายตาโลมเลียของยามหนุ่มที่มองตามนาโอะซึ่งเดินเข้าไปในห้องแล้ว ดวงตาเหล่านั้นจาบจ้วงมองไปยังบั้นท้ายคอดเล็ก เซย์จิไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าพรุ่งนี้จะจ้างยามคนใหม่มาแทนที่พวกหื่นกระหายนี่อย่างแน่นอน แว่วเสียงคล้ายเทะซึโอะส่งเสียงร้องเรียกพี่ชาย ตามมาด้วยเสียงอุทานด้วยความตกใจของนาโอะ ขวดลูกกวาดจำนวนมากบนชั้นที่เซย์จิคอยซื้อมาเติมอยู่เสมอคงทำให้นาโอะตื่นตะลึงไม่น้อย

    ..อย่าโกรธที่ฉันตามใจเทะซึโอะในทางที่ผิดแบบนี้เลยนะ..

    เซย์จิกล่าวขอร้องอยู่เงียบ ๆ อย่างไม่จริงจังเท่าใดนัก อันที่จริงนาโอะอาจไม่ทันได้สังเกตเรื่องพวกนี้ก็เป็นได้ แต่จะยังไงก็ช่าง ขอแค่วันนี้นาโอะยอมก้าวข้ามความกลัวไปขั้นหนึ่งก็เพียงพอแล้ว เพื่อที่สักวันจะกลายเป็นความไว้วางใจได้ในที่สุด

    " แกร๊ก "
    สองทุ่มครึ่งนาโอะกลับเข้าห้องอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เบิกบาน เซย์จิเงยหน้าจากเอกสารในมือแล้วลอบยิ้มตามไปด้วย ถึงจะเกินเวลาที่ตกลงกันไว้ก็ช่างประไร

    นาโอะจะอยากได้จูบก่อนนอนให้หลับฝันดีจากเขาหรือเปล่านะ เซย์จิทำได้แค่เพียงคิดเล่นไปเองเท่านั้น ตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเอื้อมมือไปสัมผัสผิวกายอ่อนนุ่มนั้นเสียด้วยซ้ำ

    ภาพที่ปรากฏต่อไปทำให้เซย์จิเลิกคิ้วด้วยความสงสัย นาโอะที่เพิ่งกลับเข้ามาเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง ผู้อาศัยร่วมบ้านคิดจะทำอะไรในเวลาแบบนี้กัน ความสงสัยที่พุ่งทะยานขึ้นสูงทำให้เจ้าของบ้านออกไปหาคำตอบด้วยตาของตัวเอง ด้วยความรีบร้อนจึงไม่ทันได้กะเวลาให้นาโอะเดินหายไปจากชั้นสองเสียก่อน ทันทีที่เปิดประตูห้องออกไปเจ้าของบ้านและเจ้าหนูตัวน้อยจึงยืนประจันหน้ากันอย่างไม่คาดฝัน

    "....อะ.."
    ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองมาคล้ายจะถามว่าเหตุใดเซย์จิที่น่าจะยังทำงานอยู่ถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเซย์จิใบหน้าสวยไร้ร่องรอยของความสดใสที่มีให้เห็นทั้งวันอย่างสิ้นเชิง แม้แต่กับสุนัขตัวนั้นเซย์จิยังไม่อาจเทียบเท่าได้ แค่ตระหนักได้ในความจริงข้อนี้ก็ให้หดหู่ยิ่งนัก นาโอะที่ยืนอยู่กึ่งกลางบันไดถอยหลังไปจนติดราวบันได ฝ่ามือทั้งสองกำแน่นจนเล็บซีด

    " จะลงไปหาอะไรกินเหรอ "
    เซย์จิพยายามฝืนทนต่ออาการเจ็บร้าวในอกเพราะท่าทางของนาโอะ กระนั้นคู่สนทนาก็ไม่ยอมตอบคำถาม กลับยิ่งลนลานไม่รู้จะทำอย่างไรดี ราวกับกำลังจะถูกสังหารในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

    นักธุรกิจหนุ่มรู้ว่าเขาเป็นพวกความอดทนต่ำ แต่ก็พยายามปรับปรุงจุดบกพร่องนี้อยู่ ทว่าท่าทางตื่นตระหนกที่ไม่เคยพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเลยตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเสมือนตัวบั่นทอนกำลังใจมาโดยตลอด

    เขาเคยคิดว่าการไปคลุกคลีพูดคุยกับเทะซึโอะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น นาโอะและเทะซึโอะไม่ใช่คน ๆ เดียวกัน จริงอยู่ที่เซย์จิดีใจที่เด็กน้อยยอมเปิดใจรับเขาเข้าไปทั้งหมด แต่สำหรับนาโอะกลับตรงกันข้าม ยิ่งสนิทสนมกับเทะซึโอะมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้นกับความแตกต่างของความสัมพันธ์

    " นาโอะฉันจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ " เขาก้าวลงบันไดไปทีละขั้น น้ำเสียงแฝงไว้ซึ่งความสิ้นหวังอย่างไม่คิดจะปิดบัง
    " ยะ..อย่า เข้ามา..."
    " เมื่อไหร่นายถึงจะเลิกกลัวฉันสักที " ชายหนุ่มยังคงก้าวเดินเข้าไปหา
    "..อึก..."
    " ต้องทำยังไงนายถึงจะยอมเปิดใจสักที....."

    ดวงตาสีนิลเอ่อล้นด้วยความท้อแท้จ้องมองมา ผู้ถูกไล่ต้อนพยายามถอยหลังหนี บันไดชันและความตื่นกลัว ทั้งยังมัวแต่ระวังกลัวร่างสูงใหญ่จะทำอะไรเข้า จนไม่ทันได้คิดว่าบันไดถึงจะกว้างแต่ก็หาใช่ที่เหมาะสมสำหรับเล่นไล่จับกันอยู่แบบนี้ เมื่อนาโอะรู้ตัวอีกทีก็รู้สึกราวกับร่างทั้งร่างลอยอยู่กลางอากาศ ได้ยินเสียงใครสักคนร้องเรียกชื่อปานจะขาดใจ และอาการเจ็บระบมจากการเอาช่วงล่างกระแทกพื้น

    " นาโอะ! "

    เจ้าของชื่อกำลังมึนงงในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งยังเจ็บเป็นอย่างมาก จนเมื่อได้สติระลึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถูกเซย์จิช้อนตัวอุ้มทั้งร่างขึ้นมา แล้วเดินกลับขึ้นบันไดไป โดยไม่มีเวลาให้แม้แต่จะคิดหวาดกลัวเสียด้วยซ้ำ ใบหน้าเคร่งเครียดราวกับการตกบันไดของเขาเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ทำให้นาโอะเลือกนิ่งเฉยแทนการดิ้นรนขัดขืนที่คิดจะทำ

    ร่างเพรียวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงนอนในห้องของตัวเอง นาโอะรู้สึกราวกับดวงตาสีนิลของเซย์จิกำลังร่ำไห้อยู่ในใจ แต่เพราะอะไรกัน ที่ผ่านมาชายผู้นี้ต้องการเห็นเขาเจ็บปวดเสียใจมิใช่หรือ เพียงแค่ตกบันไดเทียบอะไรไม่ได้กับสิ่งที่เซย์จิกระทำด้วยในอดีตที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ แล้วจะมาแสดงสีหน้าแบบนี้ไปเพื่ออะไร

    " นายเจ็บตรงไหนบ้าง "
    น้ำเสียงอ่อนโยนเช่นนี้ช่างคล้ายฮาจิเมะและฮิโรกิยามเข้ามาดูแลนาโอะที่ป่วยหนักเหลือเกิน อีกทั้งใบหน้าที่เห็นเมื่อครู่ก็ดูไม่น่ากลัวอย่างที่เคยเห็นอยู่เสมอ ทำให้นาโอะยอมเปิดปากตอบออกไปแต่โดยดี

    " ข้อเท้า ข้อมือ แล้วก็สะโพก "

    เพราะก้าวพลาดจนเสียหลัก แม้จะใช้ข้อมือช่วยพยุงตัวตอนลงกระแทกพื้น แต่ส่วนอื่นในร่างกายก็ยังบอบช้ำไปด้วยอยู่ดี เมื่อฝ่ามือใหญ่สัมผัสลงบนส่วนที่เจ็บบริเวณข้อมือ นาโอะก็นิ่วหน้าลงทันที ก่อนที่จะได้กล่าวไปว่าตนไม่เป็นไรแล้ว เซย์จิก็เดินหายออกไปจากห้อง แล้วกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกล่องยาขนาดใหญ่

    " ไดยะยังไม่กลับ คงต้องทายาพวกนี้ไปก่อน " เซย์จิก้มหน้าก้มตาค้นหาอะไรบางอย่างในกล่องอยู่พักใหญ่ ก่อนเงยหน้าขึ้นมาพร้อมหลอดยาในมือ

    " ไม่ต้องหรอกครับ..."
    คำคัดค้านไปไม่ถึงผู้หวังดี เซย์จิทรุดตัวนั่งลงเบื้องหน้า ก่อนบรรจงชโลมตัวยาลงบนข้อเท้าของนาโอะ นิ้วเรียวทั้งสิบนวดคลึงให้เนื้อยาซึมลงไปอย่างใจเย็น ทุกครั้งที่ฝ่าเท้าเรียวเล็กกระตุกเกร็งด้วยความเจ็บปวดเซย์จิจะเอ่ยปลอบเสมอ ราวกับชายผู้นี้คือเซย์จิผู้ถูกอะไรสักอย่างเข้าสิง ไม่ใช่คนใจร้ายที่รู้จักมาตลอด

    " เรื่องเมื่อกี้ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายตกบันได "
    เซย์จิลุกขึ้นนั่งลงเคียงกันบนเตียง แล้วเอ่ยถ้อยประโยคที่ผู้ฟังไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เซย์จิคนนั้นพูดขอโทษใครเป็นด้วยหรือ

    ข้อมือเรียวได้รับการทายาอย่างอ่อนโยนเช่นเดียวกับข้อเท้า นาโอะรีบชักมือกลับในทันที และเมื่อเผลอไปสบมองดวงตาสีนิลเข้าเขาก็เห็นสิ่งที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน เพราะมัวแต่กลัวไม่กล้ามองเจ้าของบ้านใจทรามคนนี้ แววตาราวกับผู้ที่หมดสิ้นทุกอย่างในชีวิต แบบเดียวกับที่นาโอะเคยเป็นมาก่อน

    " เดี๋ยวไดยะกลับมาฉันจะบอกให้่มาดูอีกทีแล้วกัน ส่วนที่สะโพกนายคงไม่ยอมให้่ฉันทาให้ใช่มั้ยล่ะ เอาไปทาเองก็แล้วกัน " ชายหนุ่มยื่นหลอดยาส่งให้ เซย์จิต้องไม่ทำให้นาโอะหวาดกลัวกับท่าทางล่วงเกิน แม้จะอยากตรวจดูให้่แน่ใจว่าไม่เป็นอะไรมากก็ตามที

    " ครับ.."
    " เสร็จแล้วรีบนอนล่ะ " มือใหญ่หยิบกล่องยาขึ้นมาแล้วผินหลังเดินออกไป
    " ครับ.."
    นาโอะมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนประตูห้องถูกปิดลงด้วยความไม่เข้าใจ เซย์จิคิดอะไรอยู่กันแน่ วันก่อนก็มาฉุดกระชากอย่างร้ายกาจ พอมาวันนี้กลับทำดีด้วยราวกับคนละคน

    ..เซย์จิเป็นอะไรไปแล้ว ?..

TBC Chapter 19
ตั้งแต่ตอนนี้ไปคงมาต่อช้าลง(มาก)แล้วล่ะค่ะ จันทร์หน้าเราเปิดเทอมแล้วค่ะ ปกติจะเขียนเรื่องนี้หลัง4ทุ่ม แต่ถ้าเปิดเทอมเีรานอนดึกขนาดนั้นไม่ได้ น่าจะมาต่อได้อย่างมากอาทิตย์ละ2-3ตอนค่ะ อย่างเลวสุดก็เขียนต่อไม่ไ้ด้เลยสักพัก
ปล.มีใครรำคาญที่บรรยายเยอะๆบ้างมั้ยคะ เราเป็นพวกชอบบรรยายมากกว่าคิดบทพูดน่ะค่ะ..OTL

anajulia => ขอบคุณที่ช่วยดูคำผิดให้มากๆเลยค่ะ ยอมรับว่าเมื่อวานตอนโพสเราเบลอๆ orz ขอบคุณที่ติดตามค่า
zemicolon => แปะป้ายกองเชียร์เซย์จิให้ที่แขน ฮี่ๆ
hpsky => ความรู้สึกเปลี่ยนไปทุกตอนเลยเหรอคะ (หน้าซีด) อย่างนี้แปลว่านิยายเรื่องนี้ไม่อยู่กับร่องกับรอยหรือเปล่าคะเนี่ย..
dahlia => ไม่โดนหรอกค่าา คนเขาสำนึกผิดแล้ว ^^
lazewcielo => กำลังปรับปรุงตัวอยู่ค่ะ ต้องคอยดูกันต่อไป~
iforgive => ใช่แล้วค่ะ ที่ว่าพายเรือวนเพราะต้องบรรยายแต่ของเซย์จิมาตลอดด้วยแหละค่ะ
zatamare => สรุปคืออยากให้เซย์จิรู้สึกผิดให้มากกว่านี้สินะคะ XD
jasmin => ถูกต้องเลยค่ะ เพราะอย่างนี้ถึงได้เริ่มรู้สึกว่ามันวนๆแอบน่าเบื่อนิดๆล่ะค่ะ orz
pattybluet => แต่ยังไงเทะซึจังก็เลือกนาโอะนี่ค้าา สุดท้ายเซย์จิก็ไม่มีใครอยู่ดี(เอ๊ะ ยังไง ล้อเล่นนะค้าา) ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า~
vvivy => อ้อนตอนนี้ไปก็ไร้ผลค่ะ นาโอะยังไม่เลิกกลัวเลยค่ะ = ='' ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าาา
YELLOWSTAR => ชอบให้เซย์จิหึงมากๆสินะคะ - -+
Laxxeez => ได้รับผลกรรมนั้นเต็มๆแน่ค่ะ หุๆ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่า
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 05-06-2010 00:43:54
นานแค่ไหนก็รอจ้า
เซย์จิสู้ๆ

hpsky => ความรู้สึกเปลี่ยนไปทุกตอนเลยเหรอคะ (หน้าซีด) อย่างนี้แปลว่านิยายเรื่องนี้ไม่อยู่กับร่องกับรอยหรือเปล่าคะเนี่ย..

นิยายดีอยู่แล้วค่ะ แต่ไอ้คนอ่านมันอารมณ์แปรปรวน ไม่อยู่กับร่องกับรอยเอง :m23:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 05-06-2010 00:53:49
เอาจริงๆ เรื่องที่ว่าดูเหมือนเนื้อเรื่องไม่ไปไหน
ก็อาจจะจริงในส่วนนึง
แต่ก็ต้องเข้าใจว่ามันต้องใช้เวลา
กว่าเซย์จิจะง้อนาโอะได้ เพื่อความสมเหตุสมผล
ดังนั้นจะตัดให้มันสั้นๆ เร็วๆ มันก็จะดูแปลกๆ
ลองเขียนดูแล้วกันครับ
เพราะว่าเท่าที่อ่านมาคิดว่าโอเคมากๆ แล้ว  o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zatamare ที่ 05-06-2010 00:58:48
รอเธอเสมอ ทั้งคนแต่ง และวันที่ทั้งคู่เปิดใจให้กันและได้อย่างเต็มที่
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 05-06-2010 01:48:19
รอตอนต่อไปน๊า...ช้าได้แต่อย่าหายไปเลยเน้อ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 05-06-2010 03:11:34
เอาใจช่วยเซย์จิละกัน  แบบว่า..ชักจะสงสารผู้ใหญ่ขาดความอบอุ่นคนนี้ขึ้นมาซะแล้ว
อ้างไปงั้นแหละ.. จริงๆเค้าอยากเห็นเซย์จิทำหวานกับนาโอะ ฮ่าๆๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 05-06-2010 07:20:02
เซย์จิคุง นาโอะใจอ่อนนิดนึงแล้ว(มั้ง)


อิอิ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 05-06-2010 07:28:20
เซย์จิพัฒนาตัวเองขึ้นมาหน่อยแร้ว
นาโอะเริ่มจะรู้สึกอย่างอื่นนอกจากความกลัว
คิดว่าอีกไม่นานความพยายามของเซย์จิคงจะเห็นผล
เซย์จิสู้ สู้ o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-06-2010 07:37:56
เรื่องนี้มันต้องใช้เวลา แต่ก็อย่าเพิ่งท้อล่ะเซย์จิ :a2:
เป็นกำลังให้ไรเตอร์ค่าาา สู้ๆนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 05-06-2010 10:06:55
ไม่รำคาญคำบรรยายหรอกค่ะ  ไม่เยอะเกินไป
เพราะส่วนตัวแล้วจะไม่ชอบอ่านนิยายที่มีแต่คำพูด  คำสนทนา 
เคยอ่านแล้วไม่ได้อารมณ์อย่างแรง  แบบนี้แหละค่ะ  ดีแล้ว
...  นาโอะเริ่มแล้ว  เริ่มรู้สึกแล้วแหละ ถ้าไม่ได้เจอกัน  พัฒนาการทางความอารมณ์ก็ไม่เกิด
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 05-06-2010 15:42:06
สนุกมากเลยค่ะ o13

เป็นกำลังใจให้นะ :L2:

ไอว่าต่อไปนาโอะคงเริ่มสังเกตสิ่งผิดปกติ(ฮา)ในตัวเซย์จิซังแล้วล่ะ

อยากรู้จริงๆว่าเมื่อไหร่นาโอะกะเทะซึจังจะรู้ว่าเซย์จิเป็นสามี&พ่อสักทีนะ โฮะๆๆ~

แล้วจะได้มีโอกาสวางมือจากโลกมืดไหมหนออออออ :เฮ้อ:

ปล.ไดยะซังนี่แสบจริงๆ ก๊ากกกกกกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 05-06-2010 17:16:34
เชียร์เซจิต่อไป

ขอให้ทั้ง3คนกลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นซะที   :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 05-06-2010 20:51:42
อ่านจบ...เพลงก็เข้ามาในหัว 555
ฉันรู้ตัวดี ฉันคงได้เพียงแค่เก็บมันไว้ ไม่มีหวังได้พูดอะไรกับเธอ
กับความรักลึกซึ้งในใจ นับวันมันยิ่งล้นเอ่อ เธอไม่เคยจะรู้เลยใช่ไหม
ทั้งที่แววตาฉันเคยพูดคำต่าง ๆ ไปแล้ว บอกเธอแล้ว ฉันรักเธอมากแค่ไหน
สบตาฉัน แค่เสี้ยวนาที แค่เธอมองลึกลงไป เธอก็คงได้เห็นทุก ๆ อย่าง
เก็บคำว่ารักเอาไว้ โดยไม่มีทางออก บอกด้วยสายตากี่ครั้ง เธอก็ยังมองผ่าน
จะมีทางเหลือบ้างไหม ทำให้เธอสัมผัสรักจากฉัน รอเวลาสักวันให้เธอรู้
ถ้าฉันพอมีหนทาง ขอเธอสักอย่างเท่านั้น ให้มองฉันด้วยหัวใจเธอสักครั้ง
หากความหวังของฉันยังมี ฉันพร้อมยอมแลกทุกอย่าง เพียงให้เธอได้รู้ความในใจ
เซย์จิ...สู้ ๆ เพื่อลูก เพื่อเมีย เพื่อครอบครัวนะคับ :mc4: :laugh:

หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-06-2010 22:57:27
นั่น นาโอะ ตกบันไดอีก ดีๆสักเรื่องทำเป็นมะ  :m16:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 06-06-2010 00:28:24
ไม่น่าเบื่อหรอกนะ เซย์จิเป็นตัวละครปูพื้นด้วยความโหดร้าย เย็นชา
แต่พอเค้าได้อ่อนโยนกับใครซักคนขนาดนี้
มันเป็นเหมือนชัยชนะเล็กๆของนาโอะเลยอ่ะ
ที่เปลี่ยนคนคนนึงไปได้ขนาดนี้
และเป็นความสะใจเล็กๆของคนอ่านด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 06-06-2010 04:47:31
อ่านจบ...เพลงก็เข้ามาในหัว 555
ฉันรู้ตัวดี ฉันคงได้เพียงแค่เก็บมันไว้ ไม่มีหวังได้พูดอะไรกับเธอ
กับความรักลึกซึ้งในใจ นับวันมันยิ่งล้นเอ่อ เธอไม่เคยจะรู้เลยใช่ไหม
ทั้งที่แววตาฉันเคยพูดคำต่าง ๆ ไปแล้ว บอกเธอแล้ว ฉันรักเธอมากแค่ไหน
สบตาฉัน แค่เสี้ยวนาที แค่เธอมองลึกลงไป เธอก็คงได้เห็นทุก ๆ อย่าง
เก็บคำว่ารักเอาไว้ โดยไม่มีทางออก บอกด้วยสายตากี่ครั้ง เธอก็ยังมองผ่าน
จะมีทางเหลือบ้างไหม ทำให้เธอสัมผัสรักจากฉัน รอเวลาสักวันให้เธอรู้
ถ้าฉันพอมีหนทาง ขอเธอสักอย่างเท่านั้น ให้มองฉันด้วยหัวใจเธอสักครั้ง
หากความหวังของฉันยังมี ฉันพร้อมยอมแลกทุกอย่าง เพียงให้เธอได้รู้ความในใจ
เซย์จิ...สู้ ๆ เพื่อลูก เพื่อเมีย เพื่อครอบครัวนะคับ :mc4: :laugh:



เพลงนี้แอบบอกอายุนะคะ คริๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 06-06-2010 10:52:36
สู้เพื่อเมียนะเซย์จินะ...
แอบสะใจเล็กน้อย....ที่จำต้องดัดนิสัยเพื่อนาโอะ มีแววมาแต่ไกลว่ากลัวเมียรึเปล่า??  :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Natavishi ที่ 06-06-2010 12:06:06
เรื่องนี้สนุกดี คับ
กว่าจะอ่านจบ เ่ล่นซะ นานเลย
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 06-06-2010 12:20:29
เริ่มมองเห็นแล้ว กี๊ดๆๆๆ
เซย์จิซัง พยายามเข้านะคะ สงสารนาโอะ เข้าใจกันเมื่อไหร่จะได้มีความสุขสักที :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 06-06-2010 18:09:40
นาโอะ เปลี่ยนใจยอมรับเซย์จิได้แล้วน่ะ

สงสารเซย์จิอ่าาา

ถึงจะร้ายไปไม่หน่อยก็เหอะ
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-06-2010 21:17:39
วันนี้มามั้ยเอ่ย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 08-06-2010 18:29:47
มารอนาโอะครับ

งิงิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 08-06-2010 21:19:24
มาหรือยัง :3129:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 09-06-2010 22:05:22
เข้ามาดันทู้ค่ะ

 :ped149:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 09-06-2010 22:38:04
เข้ามารอและมาบอกคนเขียนว่ายังรอเรื่องนี้อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 10-06-2010 01:03:03
Miracle 19

    ..มนุษย์เรายังมีเรื่องที่ไม่อาจเข้าใจได้อยู่อีกมาก..

    เฉกเช่นเดียวกันนาโอะในเวลานี้ ดวงตาสีอ่อนเหม่อมองไปยังผ้ายางยืดบริเวณข้อมือ ทั้งที่ไม่ได้่ใส่ใจมันเลยแม้แต่น้อย ภายในห้องที่เงียบสงัดในยามเย็นแม้แต่เสียงเข็มวินาทียังได้ยินชัดเจน ราวกับผู้ที่อยู่ในห้องได้จมหายไปกับภวังค์ความคิดของตนแล้ว

    สำหรับนาโอะ เซย์จิกลายเป็นมนุษย์ที่ไม่อาจใช้หลักตรรกะใดทำความเข้าใจได้ไปเสียแล้ว หากเป็นในอดีตที่ผ่านมาทุกการกระทำ ทุกความคิดของเซย์จิเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ เนื่องด้วยคนผู้นั้นมักทำแต่เรื่องเลวทรามซ้ำเดิมครั้งแล้วครั้งเล่าจนคิดเป็นอื่นไม่ได้อีก นาโอะพอทราบอยู่แล้วว่าหากขัดขืน หากหลบหนีจากเซย์จิจะได้รับผลเช่นไร แต่ก็เลือกเสี่ยงอยู่เสมอ

    การเลือกท้าทายกับอำนาจของเซย์จิเพื่อเทะซึโอะและตนเองทุกครั้งได้รับผลลัพธ์ดังเดิมกลับมา แม้นาโอะจะตัดใจก้มหน้ายอมรับชะตากรรมอันอับจนไร้หนทางของตน เซย์จิก็ยังกระทำการรุนแรงด้วยไม่ต่างจากที่คิดไว้ นาโอะรู้ีดีทั้งหมดเป็นเพราะชายผู้ั้นี้เคียดแค้นที่เคยถูกหยามหน้าเอาไว้ ละโมบลุ่มหลงในอำนาจเงินตราหน้ามืดตามัวเกินเยียวยา และผู้อยู่ใต้อำนาจอย่างเขาไม่มีทางขัดขืนได้

    แต่เรื่องเข้าใจผิดอย่างฮิโรกิลอบเข้ามาพยายามพาตัวออกไป โดยผู้คิดหลบหนีครั้งแล้วครั้งเล่าก็ได้รับโทษเป็นการถูกขืนใจอย่างรุนแรงไปแล้ว ทว่าหลังจากนั้นชายผู้มีอิมเมจดั่งขุมนรกสำหรับนาโอะกลับเปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึง

    ในตอนแรกนาโอะไม่ทันสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ แต่เมื่อมาลองย้อนคิดดู ก็เห็นอะไรบางอย่างที่ต่างไปจากเดิม เซย์จิที่ป่าเถื่อนคนนั้นไม่เคยพูดจาข่มขู่ใส่อีกเลย หากไม่นับที่ฉุดกระชากออกมาระหว่างกำลังคุยกับไดยะอยู่ครั้งนั้น ทั้งยังยอมพาเทะซึโอะมาเจอหน้าทุกวัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยอมให้เจอแค่เพียงสามครั้งเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นชายผู้ที่ไม่น่าจะมีเศษเสี้ยวของความดีหลงเหลืออยู่กลับมาดูแลเอาใจใส่ป้อนข้าวให้เมื่อฟื้นไข้ กระทั่งน้ำเสียงที่พูดด้วยยังฟังนุ่มหูไม่แฝงแววดูแคลนผู้อื่นอยู่ตลอดอีก

    กระนั้นความหวาดกลัวที่หยั่งรากลึกมานานปีไม่อาจจางหายไปได้โดยง่าย แต่ด้วยความกลัวนี้เองทำให้นาโอะสังเกตเห็นสิ่งที่ไม่อยากเชื่อสายตาที่สุดได้ ยามใดก็ตามที่เผลอแสดงความหวาดหวั่นออกไปอย่างน่าสมเพชต่อหน้าเซย์จิ ดวงตาสีนิลซึ่งไม่เคยสะท้อนสิ่งใดจะระริกไหวคล้ายกำลังปรารถนาอะไรบางอย่างที่สุดจะคาดเดาได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่นาโอะเพิ่งตระหนักได้เมื่อไม่นานมานี้

    นาโอะทอดถอนใจออกมา หลังพยายามประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว แต่ไม่ว่าจะพยายามคิดสักเท่าไหร่ก็ไม่อาจเข้าใจมนุษย์ชื่อเซย์จิได้เลย คงเพราะตอนนี้นาโอะต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่บนเตียงอีกครั้ง ด้วยคำสั่งแพทย์ประจำตัวอย่างไดยะห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวมากจนกว่าอาการเคล็ดจะดีขึ้น หาไม่แล้วคงไม่ฟุ้งซ่านจนคิดถึงเรื่องของเซย์จิได้ถึงเพียงนี้อย่างแน่นอน

    ว่าไปถึงอุบัติเหตุตกบันไดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นาโอะยากจะลืมได้ น้ำเสียงตะโกนเรียกชื่อกับถ้อยคำฟังดูรวดร้าวราวกับเป็นคนเจ็บเสียเองยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท

    หากเปรียบเซย์จิในตอนนี้สำหรับนาโอะแล้วก็เหมือนกับเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่

    " แกร๊ก "
    เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจให้นาโอะหันไปมอง เด็กชายตัวน้อยยิ้มร่าเริงถลาวิ่งเข้ามาหา เจ้าของดวงตาสีอ่อนหันไปมองเข็มนาฬิกาที่จำได้ว่าเมื่อครู่ยังชี้ไปที่เลขสี่ แต่บัดนี้กลับย้ายตำแหน่งไปยังเลขหก จึงระลึกได้ว่าถึงเวลาแห่งความสุขประจำวันแล้ว ขณะที่หันไปส่งยิ้มตอบให้น้องชาย ก็แปลกใจตัวเองที่เผลอคิดถึงเรื่องเจ้าของบ้านที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่หน้าห้องได้นานขนาดนี้

    " พี่นาโอะนอนอยู่เหรอ "
    เทะซึโอะวิ่งมาเกาะเตียงเอียงคอถามพี่ชายที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ ดวงตาพราวระยับแลดูคล้ายลูกสุนัขตัวน้อยอยากวิ่งเล่นเต็มทีแล้ว

    " ไม่ได้นอนอยู่หรอก พี่แค่คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ เทะซึจังขึ้นมาบนเตียงด้วยกันมั้ย "
    มือเรียวตบที่นอนด้านข้างเป็นเชิงชักชวน แต่คู่สนทนากลับส่ายหัวเร็ว ๆ

    " เทะซึจังไม่อยากนอน พี่นาโอะอุ้มเทะซึจังหน่อยสิครับ "
    เด็กช่างอ้อนส่งสายตาเป็นประกายให้นาโอะ พร้อมชูมือสองข้างขึ้น แล้วมีหรือที่นาโอะปฏิเสธลง เขาเองก็ไม่ได้อุ้มน้องชายตัวน้อยมานานพอควรแล้ว ไม่รู้ป่านนี้จะหนักขึ้นบ้างหรือยัง ทว่าทันทีที่นาโอะขยับกายจะลุกขึ้นยืนบนพื้น ผู้ที่เฝ้ามองอยู่หน้าห้องซึ่งสองพี่น้องคิดว่าคงกลับไปอย่างเงียบเชียบเหมือนเช่นทุกครั้งกลับเอ่ยห้ามขึ้นมาทันที

    " อย่าเพิ่งให้พี่เขาอุ้มดีกว่าเทะซึโอะ นาโอะเจ็บขากับข้อมืออยู่นะ " ถ้อยประโยคนั้นทำให้นาโอะระลึกได้ว่าถูกไดยะสั่งห้ามอะไรไว้
    " เอ๋! พี่นาโอะเป็นอะไรไปเหรอฮะ "
    " พี่ไม่เป็นอะไรหรอกเดี๋ยวก็หาย งั้นเทะซึจัง....." ยังไม่ทันได้เสนอตัวเลือกอื่นแทน เซย์จิที่ยังยืนอยู่ที่เดิมก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน ด้วยประโยคที่ทำให้ร่างทั้งร่างของนาโอะสั่นสะท้านด้วยความกลัวขึ้นมา
    " ถ้าเทะซึโอะอยากให้อุ้ม มาให้พี่อุ้มแทนเอามั้ย "

    ภาพในความทรงจำย้ำเตือนให้รู้ว่าเซย์จิไม่เคยสัมผัสกายเทะซึโอะด้วยประสงค์ดีเลยสักครั้ง

    " ไม่ได้....."
    เป็นอีกครั้งที่ร่างผอมบางไม่อาจกล่าวจนจบประโยคได้ เมื่อเทะซึโอะผละไปจากเตียงแล้วถลาเข้ากอดเซย์จิซึ่งย่อตัวลงนั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว เทะซึโอะออกคำสั่งให้พี่ชายตัวโตลุกขึ้นยืน ก่อนปีนป่ายขึ้นไปขี่คอด้วยความซุกซนตามภาษาเด็ก ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง เครื่องหมายคำถามในหัวเพิ่มขึ้นอีกอัน

    ภาพเทะซึโอะขี่คอเล่นกับเซย์จิดูขัดตาไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก ด้วยอิมเมจของชายร่างสูงใหญ่ในความคิดซึ่งไม่มีวันมาทำเรื่องแบบนี้ได้แน่ เป็นดั่งเครื่องเตือนความจำให้นาโอะย้อนคิดไปถึงอีกหนึ่งเรื่องผิดปกติในตัวเซย์จิขึ้นมาได้

    เพราะอะไรเทะซึโอะจึงสนิทสนมกับเซย์จิราวกับยอมรับเป็นพี่ชายอีกคน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ชายคนนี้เคยทำร้ายร่างกายเด็กชายอย่างเลือดเย็นถึงเพียงนั้น แต่หากจะว่าไปถึงเรื่องของเทะซึโอะกับเซย์จิแล้ว นาโอะยังมีเรื่องไม่เข้าใจอยู่อีกไม่น้อย สภาพความเป็นอยู่ของน้องชายที่ได้เห็นเมื่อวานต่างกับสิ่งที่เคยจินตนาการไว้มาตลอดอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ต้องลนลานหลบหนีเหมือนครั้งแรกที่ขึ้นไปพาเทะซึโอะออกมา จึงมีสติพอสังเกตเห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง

    ห้องที่ใช้คุมขังนาโอะตลอดเวลา 2 ปีก่อนถูกส่งตัวไปยังองค์กรลับ มีเพียงเตียงนอนขนาดพอดีตัวอยู่หลังหนึ่งกับหน้าต่างอีกบาน ภายในห้องที่ค่อนข้างเล็กจึงดูมืดทึบอยู่ตลอดเวลา ห้องน้ำที่อยู่ติดกันก็เล็กและอับชื้น แต่ในกรณีของเทะซึโอะกลับตรงกันข้าม ห้องกว้างจนกินเนื้อที่เกือบทั้งชั้นสว่างไสวไปด้วยแสงจากภายนอก ยังไม่นับรวมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะคิดในแง่ใดก็ออกจะเกินไปสำหรับสถานะที่เป็นเพียงแค่ผลการทดลอง

    เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ดวงตาสีอ่อนก็มองไปยังเซย์จิและเทะซึโอะ ฝ่ามือใหญ่ที่กำลังสัมผัสร่างน้องชายทำให้นาโอะหวาดหวั่นขึ้นมา กลัวเหลือเกินว่าชายผู้นี้จะมาพรากเทะซึโอะไป มันไม่เกี่ยวว่าพฤติกรรมของเซย์จิจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่เป็นอำนาจมืดซึ่งเป็นดั่งเงาดำคอยติดตามไปทุกหนทุกแห่งต่างหาก ตราบใดที่เบื้องหลังยังมีองค์กรลับ ยังมีการทดลองอันจะเป็นอันตรายต่อเทะซึโอะ นาโอะก็ไม่อาจวางใจแล้วใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้

    " เทะซึจังมานี่ " นาโอะรีบเอ่ยเรียกน้องชายทันทีที่ระลึกได้ถึงสถานะของเจ้าของบ้าน
    " พี่นาโอะมีอะไรเหรอฮะ " เด็กชายทำหน้ามุ่ยด้วยยังอยากอยู่ในที่สูง ๆ อยู่
    " มานี่เร็วเข้า "

    น้ำเสียงหนักแน่นออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด จนเทะซึโอะยอมทำตามแม้จะอิดออดอยู่บ้าง ถึงไม่บอกออกมาตามตรงเซย์จิก็ทราบได้จากแววตาของนาโอะ มันกำลังบอกว่านาโอะไม่ต้องการให้คนสำคัญอยู่ใกลัตัวอันตรายอย่างเขา หากยังยื้อจะดันทุรังอยู่ดูสองพี่น้องหยอกล้อกันอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก คงรังแต่ทำให้เจ้าของห้องอึดอัดเสียเปล่า ๆ

    เซย์จิวางเทะซึโอะลงบนพื้นห้อง แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
    อับจนไร้หนทางเป็นอย่างไรเพิ่งได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันนี้เอง

----------------------------

    นักธุรกิจหนุ่้มโยนปึกเอกสารในมือลงบนโต๊ะเสียงดัง เบื้องหลังโต๊ะทำงานภายนอกกระจกบานใหญ่คือเมืองโตเกียวในยามค่ำคืนซึ่งไม่เคยหลับใหล แสงไฟนีออนจำนวนมากส่องประกายเย้ยหยันดวงจันทร์ที่เร้นกายอยู่หลังกลุ่มเมฆ ดูไปแล้วคล้ายผลงานศิลปะอย่างหนึ่ง ดวงตาสีนิลทอดมองไปยังพื้นโลกเบื้องล่างจากตึกสูง หนึ่งในความสว่างท่ามกลางคืนอันมืดมิดมาจากบ้านที่เซย์จิไม่ได้กลับมาหลายวันแล้ว

    ชายหนุ่มละสายตาจากเมืองในยามราตรีเบื้องหน้า แล้วเหลือบมองฝ่ามือทั้งสองข้าง ตอนนี้เขาเกลียดมือคู่นี้ยิ่งกว่าสิ่งใด มันเคยทำร้ายนาโอะมาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังไม่สามารถปกป้องใครได้อีกด้วย ในวันที่เกิดอุบัติเหตุตกบันไดทั้งที่คนสำคัญอยู่ใกล้เพียงเอื้อม แต่เซย์จิกลับคว้าเอาไว้ไม่ทัน ปลายนิ้วยังจดจำผิวกายที่สัมผัสได้แค่เสี้ยววินาทีก่อนนาโอะจะพลาดเสียหลักตกบันไดได้แม่นยำ

    ร่างสูงใหญ่เคลื่อนย้ายกายมาทรุดนั่งลงยังโซฟาที่อยู่อีกมุมหนึ่งในห้องทำงาน ก่อนเทน้ำสีอำพันจากขวดสีสวยรินใส่แก้วซึ่งวางเตรียมไว้พร้อมอยู่แล้ว หยดน้ำที่เกิดจากความเย็นไหลหยดลงบนโต๊ะเมื่อฝ่ามือใหญ่คว้าแก้วขึ้นยกดื่มรวดเดียวจนหมด กระนั้นความกลัดกลุ้มในใจยังไม่จางหายไปดังหวัง แก้วถัดไปแก้วแล้วแก้วเล่าจึงตามมา ไม่นานขวดเปล่าจำนวนหนึ่งก็กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น

    แอลกอฮอล์ซึมเข้าสู่ร่างกาย ทว่าสิ่งที่ต้องการลืมเลือนไปชั่วขณะกลับยิ่งเด่นชัดในสมอง ภาพที่ไม่ว่าจะโหมงานหนักสักเพียงใด ไม่ว่าจะลองหลบหน้าดูก็ไม่อาจสลัดออกไปได้ และเมื่อหลับตาลงก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เซย์จิเห็นนาโอะที่อ่อนโยน ที่รักเทะซึโอะยิ่งกว่าสิ่งใด ที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนสำคัญ และเห็นตัวเขากำลังทำลายชีวิตอันไร้มลทินนั้นให้แปดเปื้อน กับดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองมาด้วยแววตาสั่นสะท้านตื่นตระหนก พลันคิดมาถึงตรงนี้เซย์จิก็ลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยความเจ็บร้าวเกินทนรับได้

    น้ำสีอำพันซึ่งซีดจางลงจากน้ำแข็งที่ละลายเข้ามาปะปนถูกกระดกดื่มจนไม่เหลือ ก่อนเจ้าของบริษัทซึ่งเหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายจะคว้ากุญแจรถ แล้วเดินออกจากห้องไป

    เซย์จิคิดถึงนาโอะจนไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว ขอเพียงนิดเดียวให้ได้กลับไปเห็นหน้า

    ..อย่ากลัวฉันอีกเลยนะ..

----------------

    เสียงเครื่องยนต์ของยานพาหนะที่แล่นเข้ามากลางดึกปลุกผู้กำลังพักผ่อนให้ตื่นขึ้นมา ดวงตาสีอำพันหันมองนาฬิกาบนฝาผนัง ย่างเข้าวันใหม่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญในเมื่อผู้ที่เพิ่งกลับมา คือบุคคลที่แทบจะเรียกได้ว่าหายสาบสูญไปจากชีวิตของนาโอะเป็นเวลาหลายวัน เซย์จิทำตัวน่าสงสัยให้ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นอีกครั้ง

    พอพลิกตัวเปลี่ยนท่าหมายจะนอนต่อ ด้วยคร้านจะใส่ใจในความลึกลับเกินคาดเดาของเซย์จิในเวลาที่ความง่วงเข้าเป็นใหญ่เหนือสติ เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น ไดยะในชุดเสื้อเชิ้ตสุภาพเรียบร้อยคล้ายกำลังจะออกไปข้างนอกยืนส่งยิ้มกว้างให้อยู่หน้าห้อง

    " มีอะไรเหรอครับ "
    " ลงไปดูเซย์จิให้ทีสินาโอะคุง ฉันถูกเรียกไปดูคนไข้ฉุกเฉินไม่ว่างน่ะ "

    นาโอะหรี่ตาลงเนื่องจากยังปรับสายตาให้ชินกับแสงไฟที่ส่องสว่างตามทางเดินไม่ได้ ก่อนที่จะได้ตั้งตัวทันข้อมือที่เพิ่งหายเป็นปกติดีก็ถูกฉุดรั้งดึงให้เดินตามไปยังชั้นล่าง กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งในอากาศราวกับมีใครทำขวดเหล้าตกแตกในบ้าน

    " เดี๋ยวก่อนสิครับ เซย์จิซังเป็นอะไรไป ทำไมต้องให้ใครไปดูด้วยล่ะครับ "

    การพยายามขัดขืนให้หลุดพ้นการจับกุมเป็นผลสำเร็จ เมื่อไดยะลากนาโอะมาหยุดยืนอยู่ในห้องห้องรับแขกกลางบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้างหน้าคนทั้งสองเซย์จิทอดกายนอนอยู่ด้วยสภาพที่ดูไม่ค่อยดีนักบนโซฟา เสื้อตัวในของชุดสูทหลุดลุ่ยออกมานอกชายกางเกง นาโอะรู้สึกเหมือนเห็นเนคไทที่หายไปตกอยู่บริเวณหน้าประตูบ้านที่เดินผ่านมาเมื่อครู่ ท่อนขาที่เกินออกมาจากโซฟายังสวมใส่รองเท้าหนังอยู่ ซึ่งทำให้พื้นกระเบื้องสีขาวเปรอะเปื้อนตลอดทางที่เซย์จิพาตัวเองมาทิ้งตัวลงนอนในห้องนี้ ที่เลวร้ายที่สุดคือกลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเจ้าของบ้าน

    " ทำไมต้องกินเหล้าขนาดนี้ด้วย.. " ความง่วงงุนจางหายไปจนหมด นาโอะย่นหัวคิ้วให้กลิ่นอันไม่พึงปรารถนา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเซย์จิเมามายหนักขนาดนี้

    " บางทีคนเราก็มีเรื่องที่อยากบอกใครสักคน แต่ไม่กล้าจนต้องพึ่งของมึนเมาพวกนี้ล่ะนะ " ไดยะกล่าวเป็นนัยด้วยน้ำเสียงราวกับล่วงรู้ทุกอย่าง
    " เรื่องที่อยากบอกใครสักคนเหรอครับ "
    นาโอะไม่เข้าใจเลยสักนิด ทั้งเซย์จิทั้งคำพูดของไดยะล้วนแล้วแต่ยากจะหยั่งถึงได้

    " ก็อย่างที่เห็นแหละฝากด้วยนะนาโอะคุง " คุณหมอหนุ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างกะทันหัน
    " เอ๋!? เดี๋ยวก่อนสิครับทำไมต้องเป็นผมด้วย "
    " บอกแล้วไงฉันไม่ว่างต้องไปโรงพยาบาล "
    " งั้นก็ปล่อยให้นอนที่นี่ไปสิครับ แค่คืนเดียวคงไม่เป็นไรหรอก "

    ถึงจะพูดออกไปเช่นนั้น แต่ลมหนาวที่พัดผ่านผิวกายแม้ไม่ใช่ฤดูหนาวทำให้นาโอะเริ่มลังเล เขาไม่เคยคิดเห็นใจผู้ที่ร้ายต่อตัวเองมามาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะนิ่งดูดายปล่อยให้เป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาได้ โดยเฉพาะเมื่อเซย์จิมีท่าทีที่ดีขึ้น แม้จะไม่เข้าใจสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ตามที

    " ฉันไปก่อนนะ "
    สิ้นคำเจ้าของร่างก็ผินกายหันหลังจากไป ก่อนหยิบกุญแจรถในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาแกว่งเล่นพลางผิวปากไปด้วย

    ..กลับไปค้างที่บ้านสักคืนก็ไม่เลวเหมือนกัน~..

TBC Chapter 20

มาต่อแล้ว แหะๆ ขอโทษที่มาช้าค่ะ เทอมนี้เรียนหนักกว่าที่คิดไว้มาก แต่ไม่หนักเท่าที่ต้องเดินทางจนเหนื่อยหมดแรงทุกวัน อย่างที่บอกไปตอนที่แล้วแหละค่ะ เราคงมาต่อด้วยสปีดแบบตอนปิดเทอมไม่ได้แล้วค่ะ TTwTT
ปล.ขอไม่ตอบเม้นนะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 10-06-2010 01:17:14
^
^
^
จิ้ม ไรทเตอร์
ไดยะซัง น่ารักที่สุดดดดดดดดด
เปิดโอกาสให้ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้
สงสารเซย์จิล่ะสิ เหอๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Glico519 ที่ 10-06-2010 02:02:03
สงสารทุกคนเลยอะ :o12: :o12: :o12:

ไม่รู้จะพูดยังไงดี :monkeysad: :monkeysad:

รอตอนต่อไปจ้ะ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 10-06-2010 02:36:34
เพิ่งเห็นไดยะเป็นคนดีก็วันนี้นี่แหละ :o8:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 10-06-2010 02:49:55
เอาล่ะสิ.... อยากรู้จังว่านาโอะจะทำอะไรให้เซย์จิบ้าง :interest:


และ... หวังว่าเซย์จิคงมีสติพอที่จะไม่ทำอะไรๆให้นาโอะกลัวนะ  o18
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 10-06-2010 06:38:38
นาโอะใจอ่อนเถอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-06-2010 08:12:05
หวังว่านาโอะจะเข้าใจเซจิขึ้นมาบ้างนะ  เริ่มสงสารแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 10-06-2010 08:14:53
เซย์จิน่าสงสารอ่ะ :sad4:

((เมื่อก่อนสงสารนาโอะ เดี๋ยวนี้สงสารเซย์จิซะแล้ว :laugh:))
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 10-06-2010 09:07:23
เมาแล้วจะหลุดพูดอะไรออกมาบ้างหนอ.......
แล้วๆๆนาโอะจังจะเชื่อคำคนเมาได้แค่ไหนหนอ..........
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 10-06-2010 09:09:07
รอตอนหน้าๆ นาโอะสงสารเซย์จิเหอะนะ ตอนหน้าคนเมาทำอะไรอ้ะป่าว อิอิอิ  :-[
ลุยเลย เซย์จิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 18](05/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 10-06-2010 09:26:40
อ่านจบ...เพลงก็เข้ามาในหัว 555
ฉันรู้ตัวดี ฉันคงได้เพียงแค่เก็บมันไว้ ไม่มีหวังได้พูดอะไรกับเธอ
กับความรักลึกซึ้งในใจ นับวันมันยิ่งล้นเอ่อ เธอไม่เคยจะรู้เลยใช่ไหม
ทั้งที่แววตาฉันเคยพูดคำต่าง ๆ ไปแล้ว บอกเธอแล้ว ฉันรักเธอมากแค่ไหน
สบตาฉัน แค่เสี้ยวนาที แค่เธอมองลึกลงไป เธอก็คงได้เห็นทุก ๆ อย่าง
เก็บคำว่ารักเอาไว้ โดยไม่มีทางออก บอกด้วยสายตากี่ครั้ง เธอก็ยังมองผ่าน
จะมีทางเหลือบ้างไหม ทำให้เธอสัมผัสรักจากฉัน รอเวลาสักวันให้เธอรู้
ถ้าฉันพอมีหนทาง ขอเธอสักอย่างเท่านั้น ให้มองฉันด้วยหัวใจเธอสักครั้ง
หากความหวังของฉันยังมี ฉันพร้อมยอมแลกทุกอย่าง เพียงให้เธอได้รู้ความในใจ
เซย์จิ...สู้ ๆ เพื่อลูก เพื่อเมีย เพื่อครอบครัวนะคับ :mc4: :laugh:



เพลงนี้แอบบอกอายุนะคะ คริๆ
คงเข้าใจอะไรผิดแล้วมั๊งคับผม ผมเพิ่ง 15 ปีนี้ ม.4 ที่บ้านจะมีเพลงประมาณนี้ของคุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอาเยอะมากคละ ๆ กันไป ผมไปเอามาฟังบ่อย ๆ ชอบเพลงไหนก็ทำเป็น MP3 ไว้ฟังตลอด สมัยนี้แล้วเราฟังเพลงอะไรหรือจดจำเพลงไหนได้ไม่น่าจะเกี่ยวกับอายุนะคับ ออกงงหน่อย ๆ อ้อ...แล้วที่ช่วงนี้ที่ผมมาเม้นต์ได้เช้า ๆ ก็เพราะเนื่องจากไปโรงเรียนไม่ได้ อีสุกอีใสมันทำพิษอะคับ ปิดเทอมตั้งนานไม่เป็น เปิดเทอมมาดันมาแกล้งกันซะงั้น :m15:
คนเมาชอบเพ้อ เดี๋ยวมาดูกันว่าเซย์จิจะเพ้ออะไรออกมาให้นาโอะได้รู้บ้าง :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 10-06-2010 10:26:01
โห ปล่อยให้นอนแบบนั้นไปเหอะ ถึกๆๆอย่างเซย์จิไม่เป็นไรชัวร์ คนบ้าอะไม่ป่วยหรอก  :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 10-06-2010 10:29:46
 :sad3:
 :sad3:
 :sad3:
นาโอะลักหลับเซย์จิเรย งิงิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-06-2010 13:38:37
แอร๊ยยย คิดถึงเทะซึจังที่ซู้ดดดดดด...
นาโอะเริ่มแปลกไปเนอะ อิอิ ลุ้นๆๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 10-06-2010 17:37:36
นาโอะเริ่มหวั่นไหวแล้ว
เซย์จิพยายามต่อไปนะ o13
เมาแล้ว อ้อน ๆ นาโอะเข้าหน่อยล่ะกัน :m12:
ตอนนี้ไดยะน่ารัก  o18
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 10-06-2010 19:27:15
เซย์จิ สู้เค้าอย่าเพิ่งท้อ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 10-06-2010 19:30:21
สงสัยงานนี้คนเมาได้หลุดอะไรออกไปแน่ๆ  o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 19](10/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 10-06-2010 22:13:17
อ่านตอนนี้จบ ก็แอบลุ้นตอนหน้า
เผื่อมีฉากน่ารักๆอิ๊อ๊ะระหว่างนาโอะกับเซย์จิ  :impress2:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 13-06-2010 02:26:10

Chapter 20.5


    นาโอะกำลังตกที่นั่งลำบาก

    ดวงหน้าสวยฉายแววลำบากใจ พลางลอบมองผู้ที่นอนไม่ได้สติเป็นระยะ นาโอะยืนหันรีหันขวางอยู่นานแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนแรกเขาตั้งใจจะข่มความกลัวพยุงคนเมาขึ้นห้องนอน แต่เมื่อลองเทียบขนาดตัวที่ต่างกันมากแล้วก็ต้องตัดใจ ครั้นจะไปขอความช่วยเหลือยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ดึกดื่นค่ำคืนทุกคนนอนหลับกันหมด เขาไม่กล้าไปรบกวนผู้อื่นแม้จะเป็นเพียงสาวใช้ก็ตาม

    พอคิดไปถึงภาพเจ้าของบ้านจับไข้ล้มป่วยไป ความคิดที่จะปล่อยให้นอนอยู่แบบนี้ก็ถูกโยนทิ้งไปทันที นาโอะคงรู้สึกผิดหากเห็นเซย์ิจิไม่สบายเพราะตนขึ้นมา ถ้าคนผู้นี้จะเป็นอะไรไปจริงก็ขอให้ไม่มายุ่งเกี่ยวด้วย ไม่้มาให้เห็นเป็นดีที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วอย่างน้อยในฐานะเพื่อนร่วมโลก นาโอะคงอดไม่ได้ที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการช่วยเหลือเข้า

    นาโอะยืนกลอกตาไปมาใช้ความคิดอยู่นาน ก่อนวิ่งหายขึ้นไปยังชั้นสอง แล้วกลับลงมาพร้อมผ้าห่มผืนใหญ่ที่หยิบออกมาจากห้องนอน ผ้าห่มผืนหนาถูกห่มลงบนร่างเซย์จิตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงลำคออย่างมิดชิด ดวงตาสีอ่อนมองสำรวจให้แน่ใจว่าความหนาวเย็นใดจะไม่ไปรบกวนเวลาพักผ่อนของชายหนุ่มได้ เส้นผมสีดำสนิทซึ่งในยามปกติถูกเสยขึ้นไปจนหมดร่วงลงมาปรกหน้าผาก ทำให้ความดุดันบนใบหน้าคมดูลดน้อยลง หากว่ากันตามจริงแล้วรูปลักษณ์ของเซย์จิจัดว่าดูดีมากทีเดียว ทว่าด้้วยนิสัยเกรี้ยวกราดใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเสมอมา จึงไม่ค่อยมีผู้ใดมาข้องเกี่ยวด้วยอย่างที่พึงจะมี

    " คุณมันพวกดีแต่หน้าตาจริง ๆ "
    เจ้าของดวงตาสีอ่อนซึ่งเผลอปล่อยให้ความคิดเตลิดไปไกลกล่าวกับตัวเอง ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดให้กับความคิดเหลวไหลเหล่านั้น เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเซย์จิในยามนอน ซึ่งดูไร้พิษภัยต่างจากยามมีสติครบถ้วนราวกับคนละคน จึงอดอยากรู้อยากเห็นมองสำรวจไม่ได้ ทว่าในพริบตาที่จะหันหลังเดินกลับขึ้นห้องนอน ข้อมือเรียวกลับถูกรั้งดึงไว้จากผู้ที่คิดว่าโดนพิษสุราเล่นงานนอนไม่ได้สติอยู่มาโดยตลอด

    " หวา!! "
    ร่างผอมเซตามแรงดึงล้มลงบนตัวผู้ที่ตื่นเต็มตา และกำลังจ้องมองมาด้วยดวงตาแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ วงแขนแข็งแรงโอบรัดไว้จนดิ้นหนีไม่ได้ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของคนเมาที่นึกรังเกียจ เทียบไม่ได้กับแววตาที่นาโอะไม่อาจเข้าใจได้นับตั้งแต่หายป่วยซึ่งสบมองมาเลย มันแฝงความปรารถนาไว้อย่างลึกล้ำยิ่งกว่าครั้งใด ๆ ด้วยระยะห่างเพียงลมหายใจกั้น ผู้ถูกกักขังไว้ในอ้อมแขนจึงไม่อาจหลบเลี่ยงจากสายตาคู่นั้นได้

    " ..นาโอะ..นาโอะ "
    ในตอนแรกเจ้าของชื่อคิดเพียงว่าเซย์จิเมาจนเพ้อออกมาอย่างขาดสติเท่านั้น ด้วยไม่อาจสู้แรงได้จึงเลือกนอนอยู่นิ่งอยู่กับที่คอยให้คนเมาหมดสติไปเอง ทว่าในอึดใจต่อมาเจ้าของบ้านกลับพลิกตัวกดนาโอะลงไปนอนแทนที่ตน แล้วขึ้นคร่อมเอาไว้ทั้งตัว ก่อนพร่างพรูความในใจออกมา

    " นาโอะฉันขอโทษ "
    กลิ่นกายเฉพาะตัวของเซย์จิลอยมาตามอากาศอันหนาวเย็น พร้อมถ้อยคำที่ไม่น่าเชื่อหูที่สุด สายตาที่มองมาดูหนักแน่นหาได้เลื่อยลอยอย่างคนเมาสุราทั่วไปไม่

    " เอ๋ ? "
    " ที่ผ่านมาฉันขอโทษ ยกโทษให้ฉันนะ "
    ชายหนุ่มซบหน้าลงกับซอกคอขาว น้ำเสียงที่เปล่งฟังดูสั่นสะท้านอย่างคนไม่มั่นใจในตัวเอง ต่างจากปกติเหลือเกิน เขื่อนความอดทนพังทลายลง ความรู้สึกที่ถูกกักเก็บไว้จึงทะลักทลายออกมา โดยไม่เว้นช่องว่างให้ผู้อยู่ในอ้อมแขนได้ทันตั้งตัว

    " ขอร้องล่ะ ให้อภัยฉันเถอะ " 
    นาโอะงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ได้แต่ฟังน้ำเสียงทุ้มนุ่มหูกล่าวขอโทษพลางเรียกชื่อตนซ้ำไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า คำขอโทษพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์เป็นเพียงถ้อยประโยคที่ลอยมากับสายลมแล้วพัดผ่านไปเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนและมั่นใจได้่คือชายผู้นี้ไม่ได้น่าหวาดผวาเหมือนดังแต่ก่อนอีก

    ฤทธิ์สุราอาจทำให้คนพร่ำเพ้อเรื่องไร้สาระหรือโป้ปดออกมาได้มากมายอย่างคาดไม่ถึง ทว่าคงไม่อาจทำให้่ผู้ที่ไม่เคยก้มหัวให้ใครยอมลดทิฐิลง และพร่ำคำขอโทษหลายครั้งหลายหนเช่นนี้ได้แน่

    บางทีเขาอาจปล่อยให้ความทรงจำในอดีตมาบดบังจนดวงตาพร่าเลือนมองไม่เห็นความจริงมาตลอด

TBC
(ครึ่ง?)ตอนนี้สั้นจังเลยเนอะ แหะๆ
หลังไปเรียนจนครบทุกตัวเราก็เริ่มรู้ว่าถ้าคอยให้แต่งจนจบตอน กว่ามาต่อได้ทีคงเว้นช่วงไปเป็นอาทิตย์แน่เลยค่ะ เลยลองเอามาลงทีละฉากดู ถ้ายังมีกองงานสุมหัวเยอะอย่างนี้คงมาต่อแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่งนิยายคือการหนีความจริงชั่วคราวไปแล้วล่ะ่ค่ะ orz
ปล.อย่าเพิ่งคิดว่าสองคนนี้จะลงเอยกันภายในเร็ววันนี้นะคะ XDD
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 13-06-2010 04:47:42
เจี๊ยกก

รอง่ารอ นาโอะะะ รีบๆใจอ่อนน้า

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Glico519 ที่ 13-06-2010 04:50:49
รออ่านนะจ้ะ

อย่าลืมมาต่อนะ :call: :call:

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-06-2010 05:06:52
โหยยย รีบเบรกกันซะอย่างนั้น อุตส่าหแอบคิดว่าคืนนี้คงมีอะไรดีๆเกิดขึ้น :z1:
แต่นาโอะก็เริ่มคิดไปในทางที่ดีแล้วนะ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วกันนะเซย์จิ
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Shock_n2n ที่ 13-06-2010 08:18:54
อยู่ๆๆ ก็หายไป :angry2:

ทำไมถึงทำกันได้ลงคอ :call:

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-06-2010 09:43:01
มารอครึ่งหลังอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 13-06-2010 10:35:06
รออีกครึ่งๆๆๆๆ :z2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 13-06-2010 15:03:29
ถึงนาโอะจะรับรู้และสัมผัสถึงความเปลี่ยนไปของเซย์จิได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ยอมรับให้เซย์จิเข้ามาในชีวิต และก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ที่นาโอะจะนอนหลับได้สนิทอย่างสงบ โดยที่ไม่มีฝันร้ายจากอดีตเฝ้าตามมาหลอกหลอนยามค่ำคืนอีก คงต้องอาศัยเวลาช่วยเยียวยา เซย์จิเองก็ต้องพิสูจน์ตัวเองกันต่อไป อ่ะ...กำลังใจ :3123:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 13-06-2010 16:22:21
เง้ออออออออออออ สั้นไปม้ายยยยยยยยยยยยย
รอนะคะ รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 13-06-2010 16:55:17
ง่ะ...สั้น....
ว่าแต่เซย์จิ นี่ไม่ได้เนียนใช่มะ....
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-06-2010 18:29:41
ถึงจะยังไม่ดีกัน แต่อย่าให้เซย์จิบ้าขึ้นมาอีกก็พอแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 13-06-2010 18:44:01
นาโอะเริ่มจะชอบเซย์จิแล้วล่ะสิ o18
ฉะนั้น เซย์จิพยายามต่อไป o13
ปล. มาต่อสั้น ๆ ก็ยังดีน๊า ดีกว่าหายไปเลย :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 14-06-2010 21:20:50
ได้เวลาใจอ่อนแล้วม๊ายนาโอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 14-06-2010 22:27:10
คนเมาอ้อนขนาดนี้ น่าจะใจอ่อนเนาะนาโอะ
เริ่มมองเซย์จิในทางที่ดีแล้วสิ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อเร้ยยยย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 14-06-2010 23:38:37
ได้เวลา(สนุก)ของนาโอะแล้วซิๆ  :o9:
ถึงแม้ว่าฉากสวีทจะยังมาไม่ถึงในเร็ววัน แต่เราก็ยังแอบลุ้นนะเออ...

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20.5](13/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 17-06-2010 03:12:54
Chapter 20 [Complete]

    " ตกลงมื้อกลางวันนายเลี้ยงนะ ฉันจะได้ขับรถไปหาเดี๋ยวนี้เลย "
    เสียงที่มาตามสายโทรศัพท์ฟังดูคล้ายจะทวงบุญคุณ แต่เจ้าของอุปกรณ์สื่อสารสีดำหาได้ใส่ใจไม่
    " อย่าพูดมากนะไดยะ มาอยู่บ้านฉันเกือบเดือนไม่คิดค่าน้ำค่าไฟก็บุญแล้ว "

    " ขี้งกกับเพื่อนกับฝูงจังเลยน้าา "
    ปลายเสียงลากยาวอย่างคนอารมณ์ดี ทว่าเซย์จิกับขมวดคิ้วอย่างไม่ไว้่ใจเท่าใดนัก ก่อนทอดสายตามองไปยังตู้เอกสารขนาดใหญ่เบื้องหน้า ประมาณสิบนาทีก่อนหน้านี้ไดยะโทรมาชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่หยุด แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ยอมเผยจุดประสงค์ในการโทรมาเสียที ตอนนี้ประธานบริษัทซึ่งถูกเลขาสาวลาหยุดกะทันหันต้องการทำงานต่อเต็มทีแล้ว คงต้องหาทางวางสายเสียที

    " ไม่มีธุระจะพูดแล้วใช่มั้ย จะวางแล้ว "
    " เดี๋ยวก่อนสิ ยังไม่ได้ถามเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง " เซย์จิลอบถอนใจออกมา เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด ระยะหลังมานี้ชายหนุ่มเรียนรู้ที่จะอ่านพฤติกรรมของเพื่อนสนิทคนนี้อยู่เสมอ เมื่อเห็นว่าปลายสายไม่ยอมตอบไดยะจึงเริ่มร่ายยาวสั่งสอนอีกครั้ง

    " อย่าบอกนะว่าเมาพับไปจริง ๆ น่ะ ฉันอุตส่าห์พานาโอะไปให้ถึงที่ ตั้งใจจะให้ได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจสักทีแท้ ๆ "
    หัวคิ้วหนาขมวดมุ่น เมื่อคืนเขาเมามาก และตอนนี้ก็กำลังโดนอาการเมาค้างเล่นงานจนมึนศีรษะไปหมด ยิ่งมาเจอถ้อยประโยคราวกับจะสั่งโน่นสั่งนี่ยิ่งให้ฉุนเฉียวง่ายกว่าเดิม ดูท่าไดยะจะหวังดีผิดเวลาไปหน่อย

    ..ไม่ต้องให้บอกเรื่องพวกนี้ฉันก็รู้ดีอยู่แล้ว..

    " ฉันไม่ว่างแค่นี้ก่อนนะ "
    เซย์จิกดตัดสายแล้วเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ขณะหวนคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน ผืนผ้าห่มอันอบอุ่นมาพร้อมกับความอ่อนโยนของนาโอะ กับน้ำเสียงหวานหูเอ่ยเหน็บแนมที่ในยามมีสติครบถ้วนไม่เคยได้รับ ทำให้เซย์จิที่กำลังสะลึมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่นสร่างเมาฟื้นคืนสติได้ดียิ่งกว่าวิธีถอนอาการเมาใด ๆ ทั้งยังกล้าเอ่ยความในใจออกไปเป็นครั้งแรกอีกด้วย

    แต่หากถามถึงผลลัพธ์นั้น แม้แต่ตัวเซย์จิเองก็ไม่อาจให้คำตอบได้ ในระหว่างที่พร่ำกล่าวขอโทษสลับกับเรียกชื่อผู้อาศัยร่วมบ้านอย่างเพ้อคลั่ง กลับไร้ซึ่งถ้อยคำใดหลุดออกมาจากริมฝีปากสีสด รวมไปถึงอาการดิ้นรนขัดขืนด้วย จวบจนยามรุ่งสางมาเยือนจึงค่อยรู้ตัวว่าร่างในอ้อมแขนผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้

    สัมผัสอุ่นนุ่มจากเรือนร่างผอมบางยังติดตรึงอยู่ทุกอณูผิว เซย์จิรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นยามมีรักแรก ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากอะไร ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรบ้าง ไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง ซ้ำร้ายจุดเริ่มต้นของเขาหาใช่ศูนย์เหมือนคนอื่นทั่วไป หากแต่ติดลบไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเมื่อไหร่จะสามารถถมช่องว่างเหล่านั้นให้เพิ่มพูนจนกลายเป็นศูนย์ เป็นหนึ่ง แล้วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็มร้อยได้

    รักแรกของเซย์จิคือนาโอะ และยังคงดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลาสิบปี หาได้สูญสลายไปตามกาลเวลาไม่

    " แฟ้มงบประมาณเมื่อ 5 ปีที่แล้ว.."

    นักธุรกิจหนุ่มพยายามเบี่ยงความคิดทั้งหมดทั้งมวลในสมองกลับมายังกองแฟ้มมากมาย ซึ่งเรียงรายอัดแน่นอยู่ในตู้กระจก ปกติแล้วผู้ที่จัดเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดคือเลขาคู่ใจที่ทำงานด้วยกันมาหลายปี เมื่อเธอลาหยุดไปภาระหนักจึงตกอยู่กับเซย์จิผู้ไม่เคยสนใจเรื่องหยุมหยิมพวกนี้เลย

    เซย์จิไล่นิ้วไปตามสันแฟ้มเริ่มจากชั้นบนสุดเรื่อยลงมาจนถึงกลางตู้เก็บเอกสาร ก็ยังไม่เจอของที่ต้องการเสียที ในตอนนั้นเองที่สายตาเหลือบไปเห็นแฟ้มพลาสติกแข็งสีซีดจางผิดแผกจากแฟ้มสีเข้มทั้งหมดจนเด่นสะดุดตา แม้จะถูกเก็บไว้ในมุมล่างสุดก็ตาม เซย์จิหยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัย

    "..!!!!..."

    ภายในแฟ้มสีจางมีกระดาษอยู่เพียงใบเดียว มุมบนสุดของหน้ากระดาษแผ่นนั้นมีภาพเด็กชายร่างผอมบาง เส้นผมสีอ่อนซอยสั้น และเสื้อยืดสีขาวซึ่งซีดจนกลายเป็นสีเทาหม่นติดอยู่ เป็นภาพนาโอะในวันแรกที่ถูกพาตัวมายังองค์กรลับ แล้วถูกบังคับถ่ายรูปทำประวัติเอาไว้ ดวงตาสีอ่อนยังฉายประกายสดใสต่างกับทุกวันนี้ ด้านล่างเป็นข้อมูลรายละเอียดอันน้อยนิดของคนในรูปถ่าย

    นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ยังเหลือรอดจากการสั่งยกเลิกโปรเจคที่มีนาโอะเป็นหนูทดลอง และถูกเก็บลืมอยู่ในตู้นี้เป็นเวลานาน เซย์จิไล่สายตาผ่านตัวอักษรซึ่งไม่มีสิ่งใดน่าสนใจเป็นพิเศษ ทั้งน้ำหนักส่วนสูง หรือแม้กระทั่งตำหนิต่าง ๆ บนร่างกายเขาก็จำได้เป็นอย่างดีจากการกกกอดมานับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งไล่อ่านมาจนถึงตัวเลขในบรรทัดล่างสุด

    ข้อมูลวันเกิดที่ควรอยู่บนสุด ทว่าสำหรับองค์กรลับแล้ว ตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงการนับอายุหนูทดลองแต่ละคนจนกว่าจะมีอายุครบสิบสี่ปีบริบูรณ์เท่านั้น แต่ในตอนนี้กลับสำคัญสำหรับเซย์จิเป็นอย่างมาก

    ..อีกสามวันจะถึงวันเกิดครบรอบยี่สิบสองปีของนาโอะ
    วันที่ชีวิตอันสวยงามถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้..

------------------------------

     แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยส่องสว่างในคืนเดือนมืด กระดาษพับรูปนกดูมีหลากมิติมากขึ้นจากแสงไฟอันน้อยนิด เงาของมันราวกับวิหคกำลังจะโผบิน หากแต่ปีกอันบิดเบี้ยวทำให้เจ้านกน้อยทำได้เพียงแหงนลำคอมองฟ้าเบื้องบนเท่านั้น นกกระเรียนพับรูปร่างผิดปกติจากที่ควร แต่สำหรับนาโอะแล้วกลับมีค่ายิ่งด้วยเป็นสิ่งที่ได้มาจากเทะซึโอะ

    ' พี่เซย์จิบอกว่าถ้าพับนกกระเรียนครบพันตัวคำอธิษฐานจะเป็นจริงล่ะ เทะซึจังแบ่งให้พี่นาโอะตัวนึง '

    นาฬิกาทรงกลมบอกให้รู้ว่าเพิ่งล่วงเข้าวันใหม่มาได้ไม่นานนัก กระนั้นนาโอะกลับไม่อาจหลับตาลงนอนได้ ถัดจากการกระทำอันผิดปกติและคำขอโทษที่ไม่คาดฝัน คือการสอนเทะซึโอะพับกระดาษอย่างที่แม้แต่นาโอะเองยังไม่เคยทำมาก่อน

    ผ้าปูที่นอนยับย่นเมื่อเจ้าของเตียงพลิกตัวหันหลังไปอีกด้าน ถ้อยประโยคร้องขอการให้อภัยพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์ไม่ต่างอะไรกับคำพูดโป้ปดไว้ใจไม่ได้ นาโอะไม่อยากหลงเชื่อทุกสิ่งที่ได้ยินเมื่อสามวันก่อนเลย ทว่าทุกสิ่งที่เซย์จิยามมีสติสมบูรณ์ครบถ้วนกระทำ กลับยิ่งยืนยันถ้อยคำเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

    เพราะอะไร ทำไมกัน ?
    ..ไม่เหลือเชื่อเกินไปหน่อยหรือ ที่คนผู้นั้นจะสำนึกตัวได้ภายในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้..

    ในตอนที่เปลือกตาบางทาบทับปิดลง ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างเงียบกริบ โดยที่เจ้าของห้องไม่ทันรู้สึกถึงผู้บุกรุกรายนี้ ดวงตาของผู้บุกรุกมองฝ่าความมืดจนเห็นร่างบนเตียงที่นอนหันหลังให้ก็ลอบยิ้มออกมา ก่อนก้าวเดินราวแมวป่ารุกคืบเข้าไปยังเป้าหมาย กว่านาโอะจะรู้ตัวพื้นที่ของเตียงส่วนหนึ่งก็ถูกยึดครองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    " เซย์จิซัง..!! "

    ดวงตาสีอ่อนจับจ้องไปยังผู้บุกรุกซึ่งนั่งอยู่บนเตียงเดียวกับตน ทว่าไม่นานก็ต้องเบนความสนใจไปยังเค้กก้อนโตที่เซย์จิถือเข้ามาด้วย ตัวแป้งที่อบจนฟูถูกทาทับด้วยครีมสีชมพูกับสีขาว ผลสตอเบอร์รี่จำนวนมากประดับอยู่บริเวณขอบเป็นวงกลม ซึ่งล้อมรอบคำอวยพรวันเกิดที่แสนเรียบง่ายกับชื่อเจ้าของวันเกิดไปในตัวด้วย แสงเทียนเป็นประกายราวกับพยายามข่มแสงจากโคมไฟ

    " วันนี้วันเกิดใช่มั้ยล่ะ อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิ "
    "...." นาโอะขมวดคิ้ว นั่งนิ่งไม่ยอมทำตามที่ถูกบอก
    " ไม่รีบเป่าเดี๋ยวเทียนก็ละลายหมดหรอก "

    เซย์จิเอ่ยเร่งอีกครั้ง การที่กล้าเสี่ยงวางแผนจัดงานฉลองกันสองคนโดยไม่หวั่นจะถูกแสดงท่าทางหวาดกลัวใส่อีก คงเพราะตลอดสามวันที่ผ่านมานาโอะไม่แสดงท่าทางเหล่านั้นใส่แล้วก็เป็นได้ แม้แต่ตอนนี้ถึงนั่งอยู่บนเตียงเดียวกัน ก็ไม่ได้กระถดกายถอยหนีอย่างที่เคยทำมาตลอดแล้วด้วย

    " ขอพรแล้วเป่าเทียนสินาโอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปฉลองด้วยกันกับไดยะและเทะซึโอะอีกรอบ "
    " ทำไมถึงต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะครับ " เจ้าของห้องที่เงียบมาตลอดยอมเอ่ยปากพูดด้วยในที่สุด ความมืดในห้องทำให้เซย์จิมองไม่เห็นสีหน้าของคู่สนทนา
    " วันนี้วันเกิดนายก็ต้องฉลองเป็นธรรมดาอยู่แล้วนี่ "

    " ผมหมายถึงทั้งหมดที่คุณทำต่างหาก ที่ทำร้ายผมมาสารพัดแล้วอยู่ ๆ ก็มาทำดีด้วย คุณต้องการอะไรกันแน่! "
    กระแสเสียงคล้ายคนกำลังสับสนหลงทางไม่อาจหาทางออกได้ ฝ่ามือเรียวปัดเค้กที่ถูกยื่นจ่อมาตรงหน้าตกพื้นไม่เหลือดีด้วยความสงสัยจนอึดอัดซึ่งอัดแน่นอยู่ภายใน ดวงตาสีดำสนิทหันมองซากเค้กบนพื้น ก่อนสูดหายใจเข้าลึกรวบรวมกำลังใจ การกระทำอันปราศจากคำพูดคงไม่อาจสื่อความรู้สึกถึงกันได้

    " ต้องการให้นายยกโทษให้ไงล่ะ นาโอะอาจจะไม่เชื่อสิ่งที่ฉันบอกตอนเมา แต่มันคือความจริง ที่ผ่านมาฉันขอโทษ "
    " จะให้ผมเชื่อคำขอโทษของคุณน่ะเหรอครับ ทั้งที่คุณเคยขู่จะเอาชีวิตทั้งผมทั้งเทะซึโอะมาแล้ว....." ท้ายเสียงแผ่วหวิวด้วยภาพในอดีตที่เด่นชัดในความทรงจำ
    " ถ้างั้นก็เชื่อในความรักของฉันแทนสิ มันอาจจะดูเหลือเชื่อสำหรับนาย แล้วฉันเองก็เพิ่งรู้สึกตัว แต่ถ้าไม่มีนาโอะฉันก็อยู่ไม่ได้ "
    นาโอะเบิกตากว้างกับเหตุผลของความเปลี่ยนแปลงที่เฝ้าสงสัยมาตลอด จิ๊กซอว์ที่เว้าแหว่งมองไม่เห็นรูปร่างถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์ มันเป็นภาพเสือร้ายกลับใจ ทั้งยังหันมาลุ่มหลงกระต่ายป่าซึ่งตนเองล่าเป็นเหยื่อมาตลอด

    ไม่น่าขันไปหน่อยหรือ..

    ความเกลียดชังเข้าแทนที่ความหวาดกลัวที่เลือนหายไป คงง่ายเกินไปหากเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ต้องประสบมาเป็นเวลาเกือบสิบปีจะจบลงที่คำว่าขอโทษ นาโอะเป็นมนุษย์ที่เจ็บเป็น เสียใจเป็น ห่วงหาอาทรผู้ที่รักเช่นเดียวกับเซย์จิที่สำนึกผิด และต้องการทดแทนสิ่งที่นาโอะสูญเสียไป รวมทั้งรอยแผลมากมายที่เคยสร้างไว้ด้วยคำสั้น ๆ เพียงไม่กี่คำ เซย์จิช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกิน

    คงไม่แปลกอะไรหากความรักอันบิดเบี้ยวนี้ จะมีส่วนผสมของความเห็นแก่ัตัวต้องการยึดครองเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวมากจนเกินไป
    และคงไม่แปลกอะไร หากนาโอะเลือกจะบดขยี้ทำลายมันลงด้วยเช่นกัน

    " ถ้างั้นก็ตายให้ผมเห็นตรงนี้เลยสิครับ ผม..เกลียดคุณที่สุด "

TBC Chapter 21

มาต่อแล้วค่าาา~ ตอนนี้คงต้องงดตอบคอมเม้นไปอีกตอนล่ะค่ะ การบ้านกับสอบย่อยเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้ว....
แต่ก็ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ!! >w<
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 17-06-2010 03:20:38
แงะไมนาโอะแอบใจร้ายหว่า  ไม่ได้รักเซย์จิซังเรยหรอ


ม่ายน้าาาาาาาาาาาาาาาาาา


 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 17-06-2010 06:56:58
นาโอะเข้าโหมดโหดแทนละ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 17-06-2010 07:09:17
นาโอะโหดอ่ะ o22
สู้ๆนะเซย์จิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 17-06-2010 09:07:40
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จะทนเห็นเซย์จิซังตายต่อหน้าต่อตาได้จริงๆน่ะหรือนาโอะจัง

แต่ประโยคสุดท้ายนี่มันเชือดเฉือนหัวใจจริงๆ o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 17-06-2010 09:11:02
นาโอะใจร้ายๆๆๆ โป้งๆ  :serius2:
เซย์จิสู้ๆๆ ง้อทุกวันต้องใจอ่อนเองอ่ะ ไม่ก็ทำให้มีน้องอีกคนเลย อิอิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-06-2010 09:19:13
สู้ต่อไป  เซจิ  ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ว่าแต่นาโอะเลิกกลัวเซจิแล้วเหรอ  ถึงกล้าทำอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-06-2010 10:52:45
เอาเลยเซย์จิ จะมีดหรือปืนดีหละ กล้าๆ หน่อย  :m12:
Russian Roulette เลยดิ ให้นาโอะใส่กระสุนให้ ฮาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 17-06-2010 11:02:59
เง้อ...นาโอะในโหมดโหด o22
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 17-06-2010 15:28:43
เชือดใจกันจริงๆ o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 17-06-2010 17:08:16
โอ้ว หนูนาโอะแรงได้อีกกกกก  o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 17-06-2010 18:08:55
นาโอะ ใจเย็น ๆ เดี๋ยวเค้ากล้าทำขึ้นมา เรานะ จะเสียใจรู้ไม
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-06-2010 20:33:21
นาโอะเอาคืนแสบมั้ยล่ะเซย์จิ... :z3:
เป็นไงทีนี้ เจ็บจี๊ดดดดดเลย :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 17-06-2010 23:50:47
นาโอะแอบโหด 555+  เซย์จิก็สู้ๆละกันนะ เพื่ออนาคต !!!   :z1:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 21-06-2010 00:32:42
นาโอะแรงงงงงงงงงงงง
แต่ก็เข้าใจนาโอะแหละ
เหมือนกับคนโดนข่มขืนทุกวันมานานหลายปี
อยู่ๆ คนทำมาบอกว่าขอโทษนะ
กูผิดไปแล้ว กลับตัวกลับใจละ
แค่นี้มันไม่หายหรอก... ไม่ใช่เดินสะดุดเท้าอะไรอย่างงี้นะ
เซย์จิ... เมิงรอไปอีกนานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-06-2010 21:50:53
มาดันๆๆๆๆ
อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-06-2010 22:07:32
 :เฮ้อ: นึกว่านาโอะจะใจอ่อนกับเซย์จิบ้าง แต่...ไม่เลย :monkeysad: เป็นหน้าที่ของเทะซึจังแล้วนะค่ะ ที่จะทำให้คุณพ่อเซย์จิกับคุณแม่นาโอะคืนดีกัน เพื่อครอบครัว เทะซึจังสู้ ๆ นะค่ะ :mc3:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 22-06-2010 22:34:49
เจ็บนี้อีกนานนนนนนนน  :เฮ้อ:
ดูท่าจะโดนเกลียดแทนกลัวซะแล้ว
ไม่รู้ว่าระหว่างกลัวกะเกลลียดอะไรมันเจ็บมากกกว่ากัน
แต่ตอนนี้คนอ่านปวดตับคร้าบพี่น้อง
เอาไงๆ จะยอมตายบูชารักรึป่าว
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Shock_n2n ที่ 23-06-2010 18:48:13
มาเถิดมา โอม มาเถิดมา โอม

 :call: :call: :call: :call:
 :call: :call: :call: :call:
 :call: :call: :call: :call:

งุงิงุงิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 20 Complete](17/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 24-06-2010 18:18:52
ยังไม่มาอีกเหรอ
เซย์จิน้อยใจนาโอะ ฆ่าตัวตายไปแล้วมั้งเนี่ย  o22
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21 Complete](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 24-06-2010 23:25:43
Miracle 21

    มันเป็นวันเกิดที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา นาโอะกำลังยืนประจันหน้ากับผู้ที่ตนประกาศออกไปว่าเกลียดอย่างสุดหัวใจ หลังจากนั้นก็หนีไปนอนกับไดยะโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายพยายามเรียกสักเพียงใด หนึ่งคืนที่ผ่านมาเมื่อลองหวนคิดถึงเรื่องทั้งหมดนาโอะก็เริ่มตระหนักได้ว่าพูดแรงเกินไป

    เพราะภาพความทรงจำในอดีตที่ประดังประเดกันเข้ามา กับคำขอโทษทำให้สุดจะกลั้นอารมณ์ได้อีก คำเพียงสองพยางค์ไม่อาจทดแทนสิ่งที่เพื่อนหนูทดลองคนอื่นประสบได้ ไม่อาจชดใช้ให้ชีวิตอีกมากมายที่สูญเสียไปแล้วได้ หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาสิบปีอันเป็นดั่งขุมนรกสำหรับนาโอะ ทว่าก็ไม่อาจสามารถชดเชยทุกอย่างด้วยชีวิตของเซย์จิได้ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่นาโอะไม่คิดเสียใจที่ได้พูดออกไปคือคำว่าเกลียด

    เขาเกลียดเซย์จิยิ่งกว่าอะไรดี..

    บรรยากาศกดดันอันหนักอึ้ง ภายในห้องนอนของนาโอะที่เซย์จิบุกรุกเข้ามาอีกครั้งทันทีที่เห็นเจ้าของห้องกลับเข้ามานั้นเงียบกริบ ดวงตาสีอ่อนไม่หลบมองไปทางอื่นด้วยความกลัวอีก แต่จ้องมองมาโดยไม่ละไปไหน กระนั้นกลับไม่มีถ้อยคำใดหลุดออกมาจากกลีบปากบาง  เข็มวินาทีเคลื่อนคล้อยผ่านไปดั่งความอดทนกำลังลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ ผู้บุกรุกเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อนที่นาโอะจะหนีหายไปที่ไหนอีก

    " ฉันเอาของขวัญวันเกิดมาให้ "
    มือใหญ่ชูถุงกระดาษขึ้นให้ดู นาโอะเหลือบมองเพียงครู่ก่อนเอ่ยตอบเสียงห้วนในทันที

    " ผมไม่อยากได้ "
    " ทำไมนายไม่ลองแกะดูก่อนล่ะ "
    " ผมบอกว่าไม่จำเป็นไงครับ "
    นาโอะกล่าวตัดบท ทว่าในจังหวะที่จะผละออกจากห้อง ผู้ที่ยังไม่ละความพยายามกลับเอ่ยเรียกไว้อีกครั้ง

    " ถ้างั้นอยากได้อะไรล่ะ "
    เจ้าของเรือนผมสีอ่อนได้ยินเข้าก็แค่นยิ้มออกมา แล้วหันมาสบมองเข้าไปในดวงตาสีดำสนิท ก่อนเอ่ยออกมาชัดเจนในทุกถ้อยคำ

    " ที่ผมอยากได้มีแค่เทะซึโอะกับอิสรภาพของเราสองคนกลับคืนมา เซย์จิซังให้ได้มั้ยล่ะครับ "
    ความเงียบเข้าเป็นใหญ่ภายในห้องอีกครั้ง ไม่นานนักคำตอบซึ่งไม่ผิดจากที่คาดไว้ก็หลุดออกมา

    " ขอโทษนะนาโอะ แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันให้ไม่ได้.."
    แทนคำตอบรับดวงตาสีอ่อนผินมองไปทางอื่น นาโอะเมินหน้าหนีตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไป แต่เป็นอีกครั้งที่ถูกรั้งเอาไว้ ข้อมือบางถูกจับกุมไว้ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลไม่มีทางสะบัดหลุดได้เลย จากนั้นเซย์จิจึงยื่นข้อต่อรองให้คู่สนทนาพิจารณา

    " ถ้าฉันอยู่บ้านนายจะเจอเทะซึโอะเมื่อไหร่ก็ได้ อย่างนี้พอจะแทนกันได้มั้ย "
    ผู้ถูกเหนี่ยวรั้งไว้หันหน้ากลับมามอง นาโอะสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนเริ่มพร่างพรูความรู้สึกทั้งหมดออกมา ด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความชิงชังชายชื่อเซย์จิอย่างถึงที่สุด

    " คุณสำนึกผิดแล้วไม่ใช่เหรอไงครับ ถ้างั้นก็ปล่อยพวกผมไปสักทีสิ หรือที่คุณพูดทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก "
    " ฉันบอกด้วยนี่ว่าฉันรักนาย เพราะงั้นคงปล่อยไปไม่ได้หรอก "
    "....คนเห็นแก่ตัว "

    ดวงตาสองคู่ประสานกันไม่ละไปไหน นาโอะมองด้วยความเกลียดชัง รู้สึกขยะแขยงบริเวณข้อมือที่ถูกจับกุมไว้เหลือเกิน หากแต่เซย์จิกลับสำรวจทุกสิ่งทุกอย่างที่ก่อร่างรวมกันเป็นนาโอะขึ้นมา ราวกับจะสลักฝังมันลงไปในความทรงจำไม่รู้ลืม เขาจะปล่อยมือจากทั้งนาโอะและเทะซึโอะได้อย่างไร ในเมื่อคนทั้งสองกลายมาเป็นครอบครัว เป็นคนสำคัญยิ่งไปแล้ว

----------------------------

    หากอยากอยู่ร่วมกันจำเป็นต้องมีข้อตกลง

    สายลมพัดแผ่วเบากระดาษที่ฝ่ามือใหญ่ถืออยู่ปลิวไปตามแรงลม กระนั้นเซย์จิก็ยังอ่านเนื้อความที่ถูกเขียนเอาไว้ได้อย่างชัดเจน มันคือข้อตกลงที่นาโอะและเขาทำร่วมกันตามที่ผู้ร่วมอาศัยขอร้องเชิงคำสั่งมา ดูเหมือนนาโอะจะลดท่าทางเกร็งเครียดลงจนหมดเมื่อกฎการอยู่ร่วมกันร่างขึ้นเป็นที่เรียบร้อย

    ข้อห้ามแรกซึ่งสมกับเป็นนาโอะผู้รักน้องชายยิ่งกว่าสิ่งใด คือห้ามทำร้ายเทะซึโอะไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจอีก ไม่ใช่เรื่องยากลำบากเกินความสามารถของเซย์จิเลยแม้แต่น้อย หากพูดตามตรงแล้วกลับง่ายมากเสียด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับข้อตกลงที่เหลือ เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ชายหนุ่มจะปล่อยให้ขาดสติจนเผลอทำร้ายชีวิตน้อย ๆ นั้นได้

    ส่วนข้อห้ามอีกสองข้อที่เหลือนั่นยากยิ่งนัก ห้ามเข้าห้องโดยพลการ และห้ามแตะต้องตัวนาโอะ ชายหนุ่มเข้าใจถึงเหตุผลที่นาโอะต้องเรียกร้องสิ่งเหล่านี้ดี คงกลัวเซย์จิทำอะไรรุนแรงเหมือนดังแต่ก่อนอีก ทว่าเพียงแค่เข้าใจไม่อาจทำให้หักห้ามความต้องการของตัวเองได้ทั้งหมด แม้ไม่ได้กอดหรือจูบ แต่อย่างน้อยแค่ได้สัมผัสเรือนร่างนั้นบ้างก็ยังดี

    สิ่งเดียวที่ทำให้เซย์จิยอมอดทนกับข้อตกลงเหล่านี้ได้ คือความตั้งใจอันแรงกล้่าที่ต้องการให้อีกฝ่ายยอมรับคำขอโทษและให้อภัยความผิดพลาดทั้งหมดที่เคยมีมา

    นาโอะเป็นบุคคลร้ายกาจเหลือจะกล่าว ที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจทีละเล็กละน้อยผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน จนกัดกร่อนเซย์จิให้พ่ายแพ้ผู้ชายที่ไม่มีอะไร ที่ไร้พิษสงใดอย่างนาโอะจนหมดท่า

    ถ้าเช่นนั้นหากเซย์จิจะลองใช้วิธีเดียวกันนั้นกับนาโอะบ้างคงไม่ผิดอะไร..

    " มองกระดาษแล้วทำหน้าเครียดอะไรของนายอยู่ได้ "
    ไดยะที่บุกเข้ามาในห้องนอนอย่างกะทันหันฉวยกระดาษในมือเซย์จิขึ้นมาอ่าน แล้วคลี่ยิ้มคล้ายจะล้อเลียนเพื่อนสนิทอยู่ในที

    " ฉันต้องทำข้อตกลงพวกนี้กับนายด้วยหรือเปล่า "
    " พิเศษสำหรับนาโอะคนเดียว "
    เซย์จิตีสีหน้าไม่พอใจแล้วแย่งกระดาษกลับมาเก็บไว้ในลิ้นชักข้างหัวเตียง ผู้บุกรุกยังยิ้มพรายอยู่เช่นเดิม

    " น่าน้อยใจชะมัด ที่ผ่านมานายไม่เคยเห็นใครสำคัญกว่าฉันเลยแท้ ๆ "
    ไดยะบ่นไปตามเรื่องด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ขณะเปิดกระเป๋าใบใหญ่ที่ถือติดมือมาด้วย แล้วถือวิสาสะนำขวดยาจำนวนมากมาวางเรียงเต็มเตียง เจ้าของห้องลองหยิบขึ้นมาอ่านฉลากดูขวดหนึ่ง ก็พบว่าสรรพคุณมีเพียงแก้ปวดธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ลักษณะของเม็ดดูยังไงก็ต่างกับยาแก้ปวดที่เซย์จิเคยทานมาตลอด ยังไม่ทันได้ถามอะไรไดยะก็เฉลยออกมา
 
    " นี่เป็นยาพิเศษสำหรับนาโอะทั้งหมด "
    " ยาพิเศษ? หมายความว่ายังไง "

    " ลืมไปแล้วเหรอไงว่านาโอะเคยโดนยามาตั้งขนาดไหน คิดว่าจะไม่เกิดอาการต้านยาตัวอื่นขึ้นมาบ้างเลยเหรอไง เอาเป็นว่าจากนี้ถ้าเกิดป่วยเป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ให้กินยาพวกนี้ ห้ามพาไปหาหมอมั่วซั่วที่ไหนล่ะ ถ้าอาการหนักจริง ๆ ค่อยโทรมาหาฉัน "

    ใบหน้าคมซีดเซียวลงทันที เมื่อคิดไปถึงอาทิตย์แรกที่นาโอะมาอยู่บ้านหลังนี้ แล้วไม่สบายหนักจากการโดนขืนใจที่ห่างหายมานานถึงแปดปี ในวันนั้นเขาให้สาวใช้ในบ้านไปค้นยาแก้ไข้อะไรก็ตามที่เจอในกล่องยา ซึ่งไม่ได้ใช้งานมานานปีมาให้กินแก้ขัดเท่านั้น ไม่รู้ที่นาโอะป่วยหนักจนลุกไม่ขึ้นหลายวันในตอนนั้นเป็นเพราะเกิดแพ้ยาขึ้นมาหรือเปล่า เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นอีก เซย์จิจึงตั้งอกตั้งใจฟังสิ่งที่เพื่อนสนิทกำลังจะพูด แทนการต่อปากต่อคำด้วยเช่นทุกครั้ง

    " พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปอยู่บ้านตัวเองแล้ว นายเองก็ศึกษาวิธีใช้ยาพวกนี้ให้ได้ล่ะ "
    " เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้พูดว่าจะกลับไปอยู่บ้านตัวเองเหรอ "
    " ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ นี่ "
    " แล้วที่ว่าให้ศึกษาวิธีใช้ยาทั้งหมดเอง นายเป็นหมอแท้ ๆ ทำไมไม่อธิบายให้ฟังเองเลยล่ะ "
    เซย์จิขมวดคิ้วมุ่นอย่างคนไม่พอใจ ทั้งที่ตั้งใจรอฟังคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ แต่คุณหมอกลับบอกปัดง่าย ๆเสียอย่างนั้น

    " แค่อ่านฉลากก็รู้เรื่องแล้ว ไม่ต้องให้ถึงมือหมออย่างฉันหรอก "
    ไดยะก้มหน้าก้มตาจัดเก็บข้าวของในกระเป๋าให้เรียบร้อย คู่สนทนาจึงไม่ทันได้เห็นแววตาซึ่งเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เขาเชื่อว่าเซย์จิกลับตัวกลับใจแล้วจริง ๆ จากการทดสอบทั้งกลั่นแกล้ง การสร้างสถานการณ์ หรือแม้แต่ลอบสังเกตทุกอย่างด้วยตัวเองมานานเกือบเดือน

    และยิ่งไว้ใจมากขึ้น เมื่อนาโอะหลบมาหาในค่ำคืนที่ผ่านมา แล้วเล่าให้ฟังถึงพฤติกรรมแปลกประหลาดของเจ้าของบ้าน รวมไปถึงคำขอโทษที่ไม่น่าเชื่อหูด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณหมอจอมป่วนจะรามือไม่ยุ่งเกี่ยวกับสองคนนี้อีก

      เพราะไดยะเป็นดั่งสายลม เคลื่อนไหวตามใจนึกคิด
      และไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดาได้เลย


TBC Chapter 22

ขอโทษค่ะมาต่อช้าอีกแล้ว //ก้มหน้าสำนึกผิดแบบเซย์จิ ขอไม่ตอบคอมเม้นนะคะ ต้องรีบไปนอนแต่ก็ขอบคุณสำหรับทุกเม้นเช่นเคยนะค้าาา
ปล.มีคนถามว่านาโอะเลิกกลัวเซย์จิแล้วเหรอ เลิกกลัวแล้วค่ะ~ หรือเราบรรยายไม่ชัดเจนพอเลยอ่านแล้วงงกันคะเนี่ย จากนี้ไปจะปรับปรุงตัวค่ะ! TTwTT
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 25-06-2010 00:53:14
เริ่มสงสารเซย์จิแล้วสิ

นาโอะเมื่อไรจะใจอ่อนสักทีนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 25-06-2010 10:36:37
ไดยะจัง กอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ปลื้มไดยะที่สุดในเรื่อง กร้ากกกกกกกกกส์ :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 25-06-2010 11:30:21
รอวันนาโอะใจอ่อนนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 25-06-2010 11:40:25
สงสัยงานนี้ต้องเกิดการร่วมพลังกันระหว่าง ไดยะ กะ เทะซึโอะ แล้วมั้ง ไม่งั้นนะ อิเซย์จิ เน่าแน่ๆ เลย ต่อให้ชาติหน้าก็ยังทำไรไม่ได้เหมือนเดิม  :laugh:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 25-06-2010 15:26:17
เพิ่งตามมาอ่าน
ชอบไดยะอ่ะค้าบ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 25-06-2010 15:35:18
เศร้าแทนเซย์จิเลยค่ะช่วงนี้ :monkeysad:
ตัวแปรทั้งหมดน่าจะอยู่ที่ เทะซึจัง คนเดียว เทะซึจัง :กอด1: พยายามเข้านะค่ะ :m17:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 25-06-2010 17:01:08
คุณหมอไดยะ เป็นพระเอกไปเลยไหม
แหมๆๆ ออกมาทีไรแย่งซีนพระเอกตลอด
สงสารเซยืจิอย่างจริงจัง นาโอะใจแข็งเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Shock_n2n ที่ 25-06-2010 19:26:51
สงสารเหมือนกันนะ
ทุกคนเลยอ่ะ
มีเหตุผลที่ดทดกันไม่ลงจริง

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-06-2010 20:58:37
เซย์จิสู้ๆ ไรเตอร์ก็สู้ๆค่าาา :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 25-06-2010 22:15:03
มันเป็นช่วงเวลาเอาคืนให้สาสมของนาโอะแล้ว 555
นู๋น้อบเทะซึโอะน่าจะช่วยได้นะเซย์จิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 21](24/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 27-06-2010 09:37:11
เฮ้อ......... ดองไว้นานอ่านทันซะที   


แต่ความพยายามให้มันถูกต้องนี่ยากมากเลยนะคะ

พยายามต่อไป ใช้เวลาชดเชยความผิดของตัวเองซะที

ไอ้คนเห็นแก่ตัวเองเป็นใหญ่ คิดว่าวันนั้นคงมาถึงในเร็วๆนี้
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 27-06-2010 15:01:56
Miracle 22

    บ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงามาตอนนี้กลับแลดูสดใสขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมามีภาพสองพี่น้องปรากฏอยู่ทั่วทุกมุมของบ้านเสมอ พร้อมเสียงหัวเราะของเทะซึโอะคอยชวยคนโน้นคนนี้เล่นด้วยตามประสาเด็ก คงเพราะสาเหตุนี้กระมังเจ้าของบ้านที่มักจะออกไปทำงานในช่วงกลางวัน ถึงได้เปลี่ยนการใช้ชีวิตจากอยู่บริษัทและองค์กรลับเป็นหลัก ย้ายตัวเองมาทำงานที่บ้านเท่าที่จะทำได้แทน

    แต่วันนี้ต่างไปจากทุกวัน สองพี่น้องเลือกอยู่ในห้องนาโอะตามลำพังไม่ออกมาข้างนอกเหมือนเช่นเคย ห้องที่แม้แต่เซย์จิก็ไม่อาจเหยียบย่างเข้าไปได้หากเจ้าของห้องไม่อนุญาต

    " ทำอะไรน่ะเทะซึจัง "
    นาโอะมองน้องชายเดินไปทั่วห้องอยู่นานแล้วเปิดปากถามออกมา เทะซึโอะยังคงก้มหน้าก้มตาสำรวจห้องต่อไป ขณะกล่าวตอบโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา

    " เล่นหาสมบัติฮะ "
    เด็กชายวิ่งไปมารอบ ๆ ห้องจินตนาการไปว่ากำลังอยู่ในป่ากว้างที่มีสมบัติล้ำค่าซุกซ่อนอยู่ ถุงกระดาษสีน้ำตาลข้างโต๊ะเขียนหนังสือที่เต็มไปด้วยนกกระเรียนพับฝีมือเทะซึโอะ ล่อตาล่อใจเด็กน้อยจนต้องเอื้อมมือไปหยิบออกมาจากซอกโต๊ะ ตัวถุงยับย่นเนื่องจากถูกเจ้าของห้องเผลอปัดทิ้งลงบนพื้น แล้วคร้านจะเก็บขึ้นมาด้วยเป็นของที่ได้รับจากบุคคลอันไม่พึงปรารถนา มันจึงถูกทิ้งไว้บนพื้นอย่างไม่ใยดี

    " เจอสมบัติแล้ว! " มือเล็กชูสมบัติที่ว่าขึ้น นาโอะเพียงแค่มองน้องชายปีนกลับขึ้นมานั่งข้างกันบนเตียงโดยไม่พูดอะไร
    " พี่นาโอะแกะมั้ยครับ "
    " เทะซึจังเป็นคนเจอก็ต้องเป็นคนแกะสิ "

    สุดจะคาดเดาถึงจินตนาการอันโลดแล่นของเด็กได้ ว่าเพราะเหตุใดจึงมองถุงกระดาษธรรมดาเป็นกล่องสมบัติไปได้ แต่หากเทะซึโอะเพลิดเพลินไปกับสิ่งเหล่านี้นาโอะก็ไม่อยากขัดใจ ยังไงเสียเขาก็ไม่ได้สนใจของขวัญวันเกิดชิ้นนี้อยู่แล้ว

    " นาฬิกาล่ะพี่นาโอะ! "
    เทะซึโอะตะโกนเสียงดัง พลางชูของในถุงกระดาษอวดให้ดู นาฬิกาข้อมือหนังสีดำไม่มีลวดลายฉูดฉาด แต่หากสังเกตไปถึงความประณีตของตัวหนัง และยี่ห้อแล้วคงทราบได้ทันทีไม่ใช่ของธรรมดาที่คนทั่วไปจะหาซื้อได้ ทว่านาโอะหาได้ซาบซึ้งในน้ำใจของผู้ให้ไม่

    " ดีจังเลยเนอะ เทะซึจังเก็บไว้สิ "
    คำพูดต่อท้ายที่ว่าหากเก็บไว้ที่นี่คงมีโดนเก็บลืมจนผุพังไปตามกาลเวลาเท่านั้นถูกเก็บงำไว้ภายในใจ ขณะที่เทะซึโอะกำลังพลิกซ้ายพลิกขวาสำรวจสมบัติที่เพิ่งเจอในมือ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ดวงตาสีจางเหลือบมองไปยังต้นเสียงแล้วเมินมองไปทางอื่น อันเป็นความนัยที่ผู้อยู่อีกฟากฝั่งของประตูรู้ดี หากเคาะแล้วไม่เปิดเป็นสัญญาณว่านาโอะไม่ต้องการเห็นหน้าเจ้าของบ้านหนุ่ม และตลอดหนึ่งสัปดาห์มานี่ นาโอะไม่เคยเปิดประตูให้เซย์ิจิเลยแม้แต่ครั้งเดียว

    " พี่นาโอะมีคนมาเรียกน่ะ อาจจะเป็นพี่เซย์จิก็ได้ "
    " ไม่ต้องไปเปิดนะเทะซึจัง ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก "
    เสียงเคาะประตูห้องดังติดต่อกันอีกหลายครั้งนานผิดปกติ นาโอะมุ่นหัวคิ้วก่อนเดินไปเปิดประตูห้องออกอย่างเสียไม่ได้

    " มีธุระอะไรเหรอครับ "
    เจ้าของห้องกล่าวเสียงแข็งแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการพูดคุยกับเซย์จิ ทันทีที่เห็นเครื่องแต่งกายของอีกฝ่าย นาโอะก็ทราบคำตอบของคำถาม ชุดสูทสีดำสนิทเป็นทางการสำหรับออกไปทำงาน

    ถึงเวลาที่นาโอะต้องทำตามข้อจำกัดเพียงข้อเดียวในการใช้ชีวิตแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์อยู่กับเทะซึโอะหากเซย์จิไม่อยู่บ้าน ทั้งที่เหมือนกับตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา กระนั้นตอนนี้นาโอะกลับทำใจให้ยอมรับข้อจำกัดนี้ไม่ได้เลย

    " ฉันมารับเทะซึโอะกลับห้อง "
    ดวงตาสีน้ำตาลทอดมองไปยังน้องชายด้วยความอาลัยอาวรณ์ ทำให้ภายในอกราวร้านอย่างยากจะอธิบายได้ เซย์จิไม่ได้อยากทำเช่นนี้เลยสักนิด แต่เขากลัวเกินกว่าจะปล่อยให้สองพี่น้องอยู่ด้วยกันเพียงลำพังได้ กลัวว่าต้องเสียทั้งสองไป
    
    " ผมจะได้เจอน้องชายอีกเมื่อไหร่ "
    " ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้กลับกี่โมง "
    บทสนทนาสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้เมื่อนาโอะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เซย์จิจึงเข้าไปจูงมือเทะซึโอะให้เดินตามออกมาด้วยกัน เด็กชายรู้เพียงแค่หากพี่ชายตัวโตไปทำงาน พี่ชายของเขาก็ต้องตามไปทำงานด้วย เทะซึโอะต้องเป็นเด็กดีอยู่คอยอยู่ในห้องจนกว่าทั้งสองคนจะกลับมา

------------------------

    ทางเดินไปสู่บันไดขึ้นชั้นบนสุดดูราวทอดยาวไม่มีสิ้นสุด เซย์จิกำลังตัดสินใจเรื่องสำคัญบางอย่างอยู่ เขาไม่ต้องการเป็นคนนอก และยิ่งเกลียดวิธีพูดของนาโอะที่คล้ายกีดกันตนออกมาอยู่ตลอดเวลา เดิมทีชายหนุ่มตั้งใจปล่อยให้เวลาช่วยเยียวยาความผิดพลาดทุกอย่าง แต่เวลาที่ล่วงเลยผ่านไปเชื่องช้าไม่ทันใจ หากไม่รุกเข้าหาคงต้องคอยจนแก่ตายกว่านาโอะจะเห็นความจริงใจเป็นแน่

    เซย์จิเพิ่งตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาเอาแต่หงอกลัวโน่นกลัวนี่ไม่ยอมลงมืออย่างจริงจัง ไม่สมกับเป็นประธานบริษัทผู้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเอาเสียเลย ซ้ำยังโง่เขลามองข้ามเครื่องยืนยันถึงชัยชนะที่มีอยู่เกือบครึ่งอย่างเทะซึโอะไปได้ ที่เหลือมีเพียงเซย์จิจะพยายามได้มากแค่ไหน เพื่อให้ได้ชัยชนะอีกครึ่งที่เหลือมาเท่านั้น

    ฝ่ามือใหญ่ผลักปิดประตู จากนั้นจึงหันมองเด็กชายตัวน้อยด้วยสำนึกของผู้ให้กำเนิดอันแรงกล้ามากกว่าครั้งใด ชายหนุ่มจูงมือเทะซึโอะไปนั่งด้วยกันบนเตียง อุ้มร่างเล็กขึ้นมานั่งซ้อนตักอย่างที่นาโอะชอบทำเป็นประจำ ก่อนรั้งเข้ามากอดแนบแน่น

    ตัวเทะซึโอะอุ่นเหมือนนาโอะ ทั้งผิวพรรณก็เนียนใสเหมือนกัน สิ่งเดียวที่เหมือนเซย์จิคงมีเพียงคิ้วหนาดกดำเท่านั้น ทั้งหมดที่รวมกันเป็นเทะซึโอะขึ้นมาคือหลักฐานยืนยันสายสัมพันธ์ของคนทั้งสาม ความว้าเหว่ค่อย ๆ ถูกเติมเต็มขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัวจากความอบอุ่นที่ถ่ายทอดผ่านการสัมผัส

    ถึงต้องไปทำงานสายทำให้ลูกค้าหน้าไหนคอยก็ช่างประไร เรื่องที่จะทำต่อจากนี้สำคัญยิ่งกว่าเป็นไหน ๆ

    " เทะซึโอะยกโทษให้ป๊ะป๋านะ "
    " พี่เซย์จิพูดเรื่องอะไรอยู่เหรอครับ "
    เด็กชายเอียงคอสงสัยกับสรรพนามแทนตัวที่เปลี่ยนไปของพี่ชายตัวโต
    " ไม่ใช่พี่นะเทะซึโอะ ป๊ะป๋าต่างหากล่ะ "

    " แต่พี่นาโอะบอกว่า พี่นาโอะกับเทะซึจังเป็นเด็กกำพร้านี่ จะมีป๊ะป๋าได้ยังไง "
    เครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา ก่อนเซย์จิจะเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด คลี่คลายข้อสงสัยให้เด็กน้อยไปทีละอย่าง มันเป็นนิทานแสนเศร้าของชายผู้ไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง ชายที่รังแกผู้ที่ตัวเองรักมาเป็นเวลานานจนทุกอย่างสายเกินแก้ เซย์จิเล่าทุกอย่างให้เด็กชายฟังจนหมดไม่มีปิดบัง เรื่องราวซับซ้อนยุ่งเหยิงเกินความเข้าใจของเด็กห้าขวบ เทะซึโอะจึงต้องใช้เวลาประมวลข้อมูลที่เพิ่งได้รับอยู่นานพอสมควร

    " แสดงว่าที่พี่นาโอะ ไม่สิ! หมะม๊า..อาจจะไม่รู้ว่าเทะซึจังเป็นลูก เพราะผู้ชายสองคนตามปกติมีลูกด้วยกันไม่ได้ ระหว่างพวกเราเลยไม่เหมือนคนอื่น ไม่รู้ด้วยว่าป๊ะป๋าเป็นป๊ะป๋า แล้วตอนนี้ก็โกรธที่เคยถูกทำไม่ดีด้วยสินะครับ "
    เด็กชายถามยืนยันความเข้าใจของตน เซย์จิยิ้มบางเบาก่อนพยักหน้ารับ

    " ป๊ะป๋าเล่าความจริงให้ฟังไม่ได้เพราะหมะม๊าเอาแต่โกรธ ? "
    ศีรษะเล็กเอียงน้อย ๆ เพราะสาเหตุนี้เองพี่ชายที่ใจดีมาตลอดถึงไม่เคยอ่อนโยนกับเซย์จิอย่างที่กระทำกับทุกคนเลย เทะซึโอะเพิ่งเข้าใจทุกอย่างเอาก็วันนี้นี่เอง

    " ใช่แล้วล่ะ "
    " แล้วเพื่อไม่ให้หมะม๊าพาเทะซึจังหนีไปอีก เทะซึจังเลยต้องอยู่ในห้องนี้ตอนที่ป๊ะป๋าไปทำงาน "
    " เทะซึโอะเก่งมาก เข้าใจทุกอย่างหมดเลย โกรธป๊ะป๋าหรือเปล่าที่ทำแบบนี้ ยังโกรธที่ถูกตีไปวันนั้นหรือเปล่า "
    ฝ่ามือใหญ่ลูบหัวเด็กชายแทนรางวัล

    " แต่ป๊ะป๋าก็ผิดนี่ครับ รังแกมะม๊าตั้งนานสมควรที่จะโดนโกรธแล้ว แต่เทะซึจังไม่โกรธหรอก ก็ป๊ะป๋าสำนึกผิดแล้วนี่ "
    เซย์จิยิ้มให้ร่างที่นั่งอยู่บนตัก เด็กน้อยเป็นดั่งผ้าขาวจริงดังคำกล่าวที่คนโบราญชอบพูดกัน

    แต่คำว่าโกรธคงน้อยไปสำหรับความรู้สึกของนาโอะในตอนนี้

    " ป๊ะป๋าต้องการความช่วยเหลือจากเทะซึโอะ ไม่งั้นเดี๋ยวหมะม๊าก็โกรธจนหนีไปอีก เทะซึโอะอยากให้เป็นอย่างนั้นมั้ย "
    คำขู่เกินจริงไปบ้างได้ผลเกินคาด เทะซึโอะส่ายหน้ารัวเร็วทันที

    " ไม่เอาหรอก ป๊ะป๋าก็ยอมรับผิดแล้วด้วย อยากให้ช่วยอะไรเทะซึจังยอมร่วมมือเต็มที่เลย "
    ทั้งที่เชื่อมาตลอดว่าตนเองเป็นเด็กกำพร้า แล้ววันนึงก็มีทั้งพ่อทั้งแม่พร้อมหน้าอย่างที่เด็กทั่วไปปรารถนา จึงไม่แปลกที่เทะซึโอะจะกระตือรือร้นยอมให้ความช่วยเหลือแต่โดยดีถึงเพียงนี้

    " แต่ห้ามบอกใครเรื่องที่เราคุยกันวันนี้เด็ดขาด ไม่ว่าจะกับไดยะหรือนาโอะก็ตาม "
    " รับทราบครับ! " ฝ่ามือเล็กยกขึ้นตะเบ๊ะรับคำ
    " ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่้รู้อะไรทั้งนั้น เข้าใจนะ "
    " เทะซึจังสัญญาเลยล่ะครับ "
    " สัญญากันแล้วนะ " ในอกอุ่นซ่านขึ้นมาทันที สายสัมพันธ์ถักทอขึ้นทีละเล็กละน้อย

    เด็กห้าขวบจะช่วยได้มากแค่ไหนกันหนอ ?

-------------------------------------------

    " เอาไว้ใช้ เผื่อวันไหนกลับช้าฉันจะได้โทรบอก "
    นาโอะละสายตาจากหน้าจอทีวีในห้องรับแขก บนตักมีเทะซึโอะนอนหลับสนิทอยู่ ดวงตาสีอ่อนเหลือบมองโทรศัพท์มือถือขนาดกะทัดรัดที่ถูกยื่นส่งมาให้ ก่อนหันกลับไปให้ความสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมต่อ

    " ผมไม่อยากได้ "
    " นายจะได้ไม่ต้องนั่งคอยเวลาฉันมีงานด่วนกลับช้าไง รับไปเถอะ "
    เซย์จิทิ้งตัวลงนั่งข้างกันบนโซฟาที่ยังมีที่ว่างเหลืออยู่ แม้จะมีผู้จับจองพื้นที่ไปถึงสองคนแล้วก็ตาม นาโอะเพียงแค่เหลือบมองมาคล้ายจะย้ำเตือนถึงข้อตกลงสามข้อที่มีร่วมกันเท่านั้น

    " ผมคอยได้ไม่เป็นไรหรอก "
    " แล้วไม่อยากคุยกับคนอื่นตอนอยู่คนเดียวเหรอ " ถึงตอนนี้นาโอะหันมาจ้องเซย์ิจิไม่วางตา
    " เซย์จิซังไม่กลัวผมจะโทรขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเหรอไงครับ "

    ..รอยแผลแห่งความผิดพลาดในอดีตถูกกรีดซ้ำจนช้ำเลือดช้ำหนอง..

    " ถ้าไม่มีเทะซึโอะนายไม่หนีไปไหนหรอก ฉันพูดถูกใช่มั้ย "
    เซย์จิเป็นชายผู้มากพร้อมไปทุกสิ่ง กระันั้นกลับไม่มีปัญญาแม้แต่จะรั้งนาโอะเอาไว้ จนต้องเลือกใช้วิธีสกปรกขี้โกงเช่นนี้

    " นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลยนะครับ "
    " ปัญหาที่นาโอะพูดถึงคืออะไรล่ะ ปัญหาของฉันมีแค่ฉันขาดทั้งนายทั้งเทะซึโอะไปไม่ได้ั้ก็เท่านั้น "
    นาโอะนั่งเงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก หากแต่ในใจกลับให้คำตอบแก่คำถามนั้นอยู่เงียบ ๆ ปัญหาของนาโอะมีเพียงเซย์จิ ผู้ที่สารภาพผิดแต่กลับไม่ยอมยืนยันคำพูดนั้น เอาแต่ยกความรักบ้าบอมาอ้าง และไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปเสียที

    " นาโอะรับปากมาสิ ถ้าฉันยอมให้่เจอเทะซึโอะตลอดเวลานายจะไม่หนีไปไหนอีก ฉันขอแค่นี้ได้มั้ย "
    ดวงตาสีจางหันมองเซย์จิ แต่สิ่งที่สะท้อนอยู่ในนัยน์ตาหาใช่ชายร่างสูงใหญ่ผู้ที่กำลังเว้าวอนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่เป็นความดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังราวกับวิญญาณร้ายคอยติดตามไปทุกที่ วิญญาณร้ายที่ชื่อSW


    ..ความรักที่ผูกมัดไร้อิสรภาพมีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้กันทั้งสองฝ่ายเท่านั้น..

-----------------------------------------

    ท้ายที่สุดนาโอะก็ต้องรับโทรศัพท์มือถือมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วก็พบว่าคิดถูกแล้วที่ทำเช่นนั้น เบอร์ที่บันทึกไว้ในเครื่องเป็นเบอร์ของเซย์จิและไดยะ แน่นอนว่านาโอะเลือกโทรหาคุณหมอใจดีเพียงคนเดียวซึ่งทำให้คลายเหงาลงได้บ้าง ดังนั้นทุกครั้งที่เซย์จิไปข้างนอกและนาโอะไม่รู้จะทำอะไร อุปกรณ์สื่อสารเครื่องนี้จะถูกนำมาใช้งานเป็นประจำ

    มือถือเครื่องเล็กส่งเสียงร้องเรียกความสนใจจากนาโอะที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก ตัวอักษรที่ปรากฏบนหน้าจอ เป็นชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาเป็นครั้งที่สามของวัน โดยเว้นช่วงห่างกันครั้งละสองชั่วโมง ทว่าร่างผอมก็ไม่ได้กดรับเลยแม้แต่ครั้งเดียว นาโอะถอยหายใจอย่างหน่ายใจ ตอนที่รับโทรศัพท์เครื่องนี้มาเขาย้ำไปแล้ว ว่าจะเป็นฝ่ายโทรไปเองหากต้องการทราบเวลากลับของเซย์จิ ผู้ที่พูดไม่รู้เรื่องเอาแต่โทรมาสร้างความรบกวนอยู่แบบนี้ต้องพบความผิดหวังก็สมควรแล้ว

    " คุณว่างมากนักเหรอครับ "
    เรียวปากบางหลุดคำบ่นออกมาเมื่อเสียงโทรศัพท์เงียบลงแล้ว ก่อนคิดอะไรบางอย่างได้ ป่านนี้คนสามคนที่เคยต้องมาเดือดร้อนเพราะนาโอะเป็นยังไงบ้างนะ นาโอะคิดไปถึงใบหน้าห่วงใยของสมาชิกร้านสไมล์ทุกคนแล้วก็ให้กังวลขึ้นมา จึงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขที่จำได้ขึ้นใจ

    " ร้านสไมล์สวัสดีครับ "
    เสียงคุ้นหูของผู้ที่ด้วยกันมาหลายปี ทำให้นาโอะรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

    " ฮิโรกิเหรอ นี่ผมเองนะ " นาโอะกรอกเสียงลงไปด้วยความยินดี
    " นาโอะ ? "

    " ใช่ผมเอง ที่ร้านเป็นยังไงบ้าง "
    เจ้าของเรือนผมสีจางทิ้งตัวนั่งพิงหลังกับหัวเตียงด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ผู้อยู่ปลายสายกลับตรงกันข้าม ฮิโรกิเบียดตัวเข้ากับกำแพง พลางลอบสังเกตฮิโรมิที่ยุ่งอยู่กับการต้อนรับลูกค้า และฮาจิเมะที่เดินหายเข้าไปทำเค้กเพิ่มในครัว ไม่มีใครสังเกตเห็นถึงโทรศัพท์จากนาโอะตามที่ฮิโรกิต้องการ

    " ที่ร้านก็เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ยังจะมาถามถึงที่ร้านอีก ฉันสิต้องถามว่านาโอะเป็นยังไงบ้าง ยังปลอดภัยใช่มั้ย "
    พนักงานร้านสไมล์ลดเสียงพูดให้เบาลง

    " ไม่เป็นอะไรหรอก เทะซึจังก็ปลอดภัยดีด้วย "
    ชายหนุ่มปลายสายมุ่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ เขาไม่ต้องการรู้ว่าเด็กชายเป็นตายร้ายดีอย่างไรเสียหน่อย

    " นาโอะเดี๋ยวฉันจะไปช่วย นายรอฉันนะ "
    น้ำเสียงเคร่งเครียดลอดไรฟัน ทว่านาโอะกลับรีบห้ามเอาไว้ ภาพเพื่อนสนิทถูกทำร้ายอย่างไร้ความปราณีฉายชัดอยู่ในสมอง เขาไม่ต้องการให้ใครมาเดือดร้อนเพราะตนอีกต่อไป

    " อย่ามานะ ที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้วล่ะ "
    " หมายความว่ายังไง "
    ถึงตอนนี้ฮิโรกิรู้สึกราวกับตัวชาจนขยับไม่ได้ ไม่มีอะไรน่ากลัวอีกหรือจะหมายถึงนาโอะเต็มใจอยู่ที่นั่นไปชั่วชีวิตกัน ?

    เมื่อนาโอะเริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ฮิโรกิก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกตบไปทั้งตัว เซย์จินอกจากจะเป็นผู้ชายที่เลวทรามทำร้ายนาโอะที่เขารักแล้ว ยังขี้ขโมยอีก ไอ้หมอนั่นกำลังจะขโมยนาโอะที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตลอดไป

    ให้อภัยไม่ได้เป็นอันขาด..

    " ก็อย่างที่บอกนี่แหละ ฮิโรกิไม่ต้องมาที่นี่อีกหรอก ถ้าเซย์จิซังเห็นว่าฉันไม่มีทางตอบรับความรักของเขา เดี๋ยวก็คงเบื่อปล่อยตัวไปเองแหละ "

    " นาโอะแน่ใจนะว่าจะไม่ใจอ่อนกับคำขอโทษพวกนั้น " 
    ในอกที่ว้าวุ่นกระสับกระส่ายจนแทบอยู่ไม่ติดที่ จึงรีบถามย้ำเพื่อความสบายใจในระดับหนึ่ง ฮิโรกิรู้ดีนาโอะเป็นคนอ่อนโยนและมักใจอ่อนง่าย ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเซย์จิคนที่นาโอะเคยทั้งเกลียดทั้งกลัวก็ตาม เขาก็ยังไม่มีความมั่นใจอยู่ดี

    " ฮิโรกิพูดอะไรน่ะ ผมจะรักคนที่เคยทำเรื่องแบบนั้นกับผมกับเทะซึจังได้ยังไงล่ะ " นาโอะโคลงหัวอย่างนึกขัน
    " ห้ามรับคำขอโทษ หรือรักหมอนั่นเด็ดขาดเลยนะนาโอะ อย่าไปให้อภัยคนที่เคยทำร้ายนาโอะแบบนั้น "
    " ไม่ให้อภัยหรอก "
    นาโอะพยักหน้ารับคำนั้น จริงดังที่ฮิโรกิว่าทุกประการ เขาจะให้อภัยเซย์จิได้ยังไงกัน เวลานี้แค่อยู่ใกล้ก็ฝืนใจเต็มทนแล้ว

    " ใช่แล้ว ไม่ให้อภัย ต้องเกลียดให้่มากเข้าไว้ " ฮิโรกิกล่าวย้ำอีกครั้ง

    เกลียดให้่มากเข้า ให้สาสมกับความเจ็บปวดที่เคยได้รับมา เพื่อที่ความรักทั้งหมดของนาโอะจะได้ตกเป็นของฮิโรกิแต่เพียงผู้เดียว..


TBC Chapter 23
ตอบเม้นค่า~
ChiOln => เมื่อใกล้ถึงตอนจบมั้งคะ~
anajulia => กรั่กๆ ก็ไดยะลูกรักนี่คะ ต้องให้คนปลื้มกันเยอะๆ
iforgive => จะพยายามรีบเขียนให้ถึงตอนนั้นเร็วๆเช่นกันค่ะ!!
dahlia => เดี๋ยวก็รู้ค่ะว่าทำได้หรือไม่ไ้ด้ ฮี่ๆ -w-
uknowvry => ยินดีต้อนรับนะ้ค้าา~
Annetemis => ฮาา สรุปแล้วเทะซึจังคือพระเอกของเรื่องสินะคะ
jasmin => เพราะไดยะคือพระเอกของเรื่องค่ะส่วนเซย์จิคือพระรอง อีกหน่อยเคะ(หรือเมะ??)ของไดยะจะโผล่ออกมาน่ะึค่ะ ที่พูดมาทั้งหมดล้อเล่นนะคะ! XD
Shock_n2n => นั่นสินะคะ ทุกคนเองล้วนแต่มีเหตุผลของตัวเองกันทั้งนั้น..
BeeRY => ขอบคุณค่าาา >w<
JJHJJH => เอาคืนเลยเหรอคะ งั้นต้องเอาให้เซย์จิกระอักเลือดไปเลยสินะคะ~
PEENAT1972 => ก็คงต้องพยายามต่อไปนั่นแหละนะคะ ^^



หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-06-2010 15:11:56
ขอตบฮิโรกิซักสองที :beat: :beat:
อุตส่าห์มีปะป๊า หมะม๊า มีเทะซึจังด้วย จะมายุให้ครอบครัวเค้าร้าวฉานเรอะ :z6:
อีกนานมั้ยนี่ อยากให้รักกันเร็วๆๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 27-06-2010 15:23:54
เซจิฉลาดแฮะ  เข้าทางลูก  ตอนนี้เริ่มสงสารเซจิ  อยากให้นาโอะใจอ่อนลงซักนี๊ดดดดก็ยังดี
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 27-06-2010 15:35:41
กรรม ฮิโรกิซัง ไม่เอานะคะ อย่าทำตัวเป็นบ่างอย่างนั้น


เฮ้อ.........ตอนนี้เทะซึจังน่ารักสุดๆ ปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Shock_n2n ที่ 27-06-2010 15:37:39
อิอิอิ :o8:
อ่านตอนนี้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก 555+ :laugh:
มี ป๊ะป๋า กับ หมะม๊า ด้วยอ่ะ :impress2:
ชอบๆๆๆ ยังไงๆ :call: ก็เห็นแก่ลูกกันมั้งนะ
รักกันไวๆ :กอด1: ไห้ครอบครัวอบอุ่น :L1:

 :L2: :L2:  
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: นายTequila ที่ 27-06-2010 16:57:35
ทุกทีไม่ค่อยชอบเรื่องที่ตัวละครชื่อญี่ปุ่นเท่าไร

แต่เนื้อเรื่อง เรื่องนี้น่าสนใจทีเดี่ยว

เพราะไม่ใช้ความเปงญี่ป่นก้อคงไม่เข้ากลับตัวพระเอกเท่าไร

มาเฟีย องค์กรลับ...

จะติดตามต่อไปนะค๊าบ   o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 27-06-2010 17:23:18
ฮิโรกิมายุ่งอะไรเนี่ย :z6:

เทะซึโอะน่ารักจังเข้าใจปะป๊ะกะมะหม๊า :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 27-06-2010 18:05:28
ตัวป่วนมาอีกแล้วววว
ฮิโรกิเกี่ยวไรด้วยเนี่ย เห็นแก่ตัวที่สุดเลยเหอะ
ปล. จะหาคู่ให้ไดยะหรอ :impress:
ขอเป็นเมะ หื่นๆเจ้าเลห์ๆ นะ แอบหมั้นไส้มานานล่ะ
ชอบปั่นหัวเซย์จิ  :laugh5:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Lady-Rabbit ที่ 27-06-2010 18:32:06
ฮิโรกิแอบร้ายยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 27-06-2010 18:45:54
ถึงจะเพิ่งตามมาทัน...แต่คราวนี้ได้ตามตลอดละค้าบ
555
มาป๊ะป๊ง-ป๊ะป๊า...สักทีนะพ่อคุณ!!!
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-06-2010 21:51:11
ความรักทำให้คนเห็นแก่ตัวไปแล้ว เฮ้ออออ
ครั้งนี้ เดิมพันเซย์จิสูงนะเนี่ย ถ้านาโอะรู้ว่า เล่าทุกอย่างให้เทะซึโอะฟังละก็ ศพไม่สวยแน่เลย  :laugh:
มารอดูกามเทพสื่อรักตัวน้อย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 27-06-2010 22:33:35
ไม่นะ เจ้าฮิโรกิ

จะมาทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกรึไง

เทะซึโอะ ช่วยป๊ะป๋า ด่วนเลยคร้าบบ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 28-06-2010 00:44:17
เว้ๆๆๆๆๆ ฮิโรกิน่าตบจิงๆเชียว  :z6:
ท่าทางฮิโรกิจะไม่ชอบเทะสึจังใช่มะ
อย่ามาทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกนะ ไม่ยอมเด็ดขาด :beat:



ปล.ตอนที่แล้วไม่ได้เม้นเพราะเพิ่งเห็นอ่ะ อ่านทีเดียวสองตอนรวด
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 28-06-2010 15:44:23
เทะซึจังรีบคิดหาวิธีให้คุณพ่อคุณแม่คืนดีกันเร็ว ๆ นะค่ะ ตัวบ่อนทำลายครอบครัวคนอื่นมันโผล่มาแล้วค่ะ เทะซึจังต้องหาวิธีได้แน่ ๆ เลยค่ะคนเก่ง :กอด1:
คิดจะทำลายครอบครัวคนอื่นเพื่อตัวเอง เค้ารับไม่ได้นะค่ะ...ฮิโรกิ :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 28-06-2010 16:38:58
เซย์จิแทนตัวเองว่า ป๊ะป๋า น่ารักสุดๆ  :m1:
เอาใจช่วยป๊ะป๋าแล้วกัน หุหุ
ส่วนฮิโรกิ... ไม่ไหวๆ ยิ่งอ่านยิ่งน่า...  :fcuk:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 28-06-2010 18:17:22
อ้าว ฮิโรกิ งานร้าวฉานคือความต้องการของเราแล้วอ่ะดิ ตัวแสบๆ
เชียร์เซย์จิสุดจั๊กกะแร้จ้า อิอิอิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 28-06-2010 20:13:12
งั่มๆๆๆ แค่นี้ก็ใจแข็งจะแย่แล้ว ยังจะมีเพื่อน(สนิทคิดไม่ซื่อ)มาคอยยุอีก
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: nadyanarak ที่ 01-07-2010 02:42:09
ครอบครัวสุขสันต์.....
ให้ลูกเป็นกาวใจ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: heavenly**yaoi ที่ 02-07-2010 20:23:02
ถ้าความจริงถูกเปิดเผย  นาโอะต้องรับไม่ได้แหง
ถ้ารู้ว่า คนที่ตัวเองเกลียดชังนักหนา
เป็นพ่อของลูก

พึ่งเข้ามาครั้งแรก ชอบจัง
ไม่เคยอ่านเรื่องพล็อตแบบนี้มาก่อน
สนุกมากค่ะ

ไดยะ พ่อสื่อ ลึกลับจริงคนนี้
ว่าแต่
นาโอะเมื่อไหร่จะยอมใจอ่อนซะที
ปีศาจ ซาตานยอมกลับใจแล้ว

เท็จสึจัง ช่วยทำให้ป่ะป๊า กับ หม่าม๊า สมหวังกันเร็วๆน้า
พ่อเทพบุตรตัวน้อย^^

ว่าแต่
นาโอะจังสามารถมีลูกคนที่สองได้มั้ยเนี่ย
^^
mpreg^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22](27/06/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 03-07-2010 21:21:02

เข้ามาแจ้งข่าวค่ะ
ว่าจะหายไปยาวจนถึงประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ติดสอบกับงานที่กองท่วมหัวน่ะค่ะ เลยอาจจะไม่มีเวลาแต่งไปอีกสักพัก
พอคิดว่าจะหายไปยาวแล้วกลับมาอีกทีหลังสอบ เหมือนแต่งค้างไว้แล้วทิ้งไปยังไงไม่รู้ ก็เลยตัดสินใจเข้ามาบอกดีกว่าเพื่อความสบายใจ แหะๆ
เอาเป็นว่าเจอกันใหม่ปลา่ยเดือนค่ะ!! อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ(ฮา)
ตอนนั้นยังจะมีคนตามอ่านกันอยู่มั้ยคะเนี่ย orz
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 03-07-2010 23:02:15
รับทราบจร้า
ตั้งใจทำงาน+อ่านหนังสือสอบน๊า
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 03-07-2010 23:13:37
เข้ามารับทราบเหมือนกันค่ะ
คุณมูซู สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สู้เฟร้ยยยยยยยยยยยยนะคะ

แล้วจะรอนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 03-07-2010 23:23:03
รับแซบจ้า

ยังรออยู่เสมอนะคะ

สู้สู้
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Shock_n2n ที่ 03-07-2010 23:35:54
รับทราบ กระเจ้า

หุหุหุหุ

ยังรอคอย  :mc4:

 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 04-07-2010 08:03:37
รอจ้า ตั้งใจสอบน๊า
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-07-2010 08:07:12
เข้า้้ใจค่ะไรเตอร์ สู้ๆกับเรื่องงานและเรื่องสอบนะคะ
รออ่านเสมอค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: SUICIDE ที่ 05-07-2010 21:24:27
เพิ่งติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 05-07-2010 22:47:08
รับทราบค่ะ

ขอให้ได้คะแนนสอบสูงๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: heavenly**yaoi ที่ 08-07-2010 20:51:37
เราสิ สอบต้นเดือนสิงหา อ๊า อยากอ่าอ่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 10-07-2010 21:27:26
เหอะ !
คิดว่าแค่คำพูดของฮิโรกิจะกันนาโอะจากเซย์จิได้รึไง
รักแท้อาจจะไม่ได้แ้พ้ความใกล้ชิด แต่พอดีว่านาโอะไม่ได้ะรักฮิโรกิน่ะนะ
อยากอ่านตอนนาโอะสวีทกับเซย์จิจะแย่แล้วเนี่ย อีกนานแน่เลย
555
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 02-08-2010 16:41:44
คุณมูซูคะ เลยปลายเดือนมาขึ้นเดือนใหม่แล้วนะคะ
แค่แวะมาเคาะก๊อกๆเรียกเฉยๆ พร้อมบอกว่ายังรออยู่นะคะ ^o^
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 03-08-2010 23:02:42

ขอโทษจากใจจริงเลยค่ะ

แต่หลังสอบเราต้องส่งโปรเจคช่วงกลางเดือนเลยไม่มีเวลาแต่งต่อน่ะค่ะ T^T

ขอบคุณที่ยังคอยอ่านนะคะไว้ส่งโปรเจคแล้วจะรีบมาต่อแน่นอนค่ะ!!
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 22][แจ้งข่าวค่ะ~](03/07/10)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 03-08-2010 23:38:27
^
^
โอ๊ะโอว รับทราบค่ะ สู้ๆนะคะ
ขอให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น :กอด1:เพิ่มพลังงานค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23]
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 15-08-2010 03:08:22
Miracle 23

    วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ที่พิเศษยิ่งกว่าวันอื่น ๆ เทะซึโอะกำลังจะได้ไปโรงเรียนอนุบาลอีกครั้งหลังจากหยุดมานานหลายเดือน เซย์จิเป็นผู้เปิดประเด็นเรื่องการศึกษาของเด็กชายขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังไปเห็นเด็กอนุบาลกลุ่มใหญ่เดินจูงมือกันข้ามถนนเข้าโดยบังเอิญ ภาพนาโอะไปรับเทะซึโอะที่โรงเรียนอนุบาลก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ ก่อนความกังวลจะเข้าแทนที่ เมื่อตระหนักขึ้นมาได้ว่าเทะซึโอะขาดเรียนไปนานแค่ไหนแล้ว

    " ถ้าคุณไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไรแอบแฝงอยู่จริงอย่างที่ว่า ก็ช่วยจัดการให้ด้วยแล้วกันนะครับ "

    นานมากทีเดียวหลังเซย์จิพยายามโน้มน้าวให้นาโอะยอมตกลงใจมอบหมายหน้าที่หาโรงเรียนใหม่ รวมถึงจัดการเอกสารต่าง ๆ ในการย้ายสถานที่เรียนให้ตน กว่าที่นาโอะจะยอมอนุญาต คงเพราะนี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับเทะซึโอะกระมัง นาโอะจึงเลือกยอมรับข้อเสนอ แม้ใบหน้าสวยจะฉายแววเคร่งเครียดมากก็ตาม สามวันให้หลังทุกอย่างถูกจัดการเป็นที่เรียบร้อยเทะซึโอะได้ที่เรียนใหม่ห่างออกไปจากบ้านของเซย์จิไม่ไกลนัก

    บรรยากาศในเช้าวันเริ่มต้นทำงานวันแรกของสัปดาห์ดูอึมครึมอย่างยากจะอธิบายได้ ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำนั่งยิ้มมุมปากอย่างคนอารมณ์ดี พลางมองไปยังเพื่อนร่วมโต๊ะอีกสองคนที่เหลือ เทะซึโอะในชุดนักเรียนอนุบาลเสื้อสีฟ้ากางเกงสีเทาอ่อนวางแก้วนมที่เพิ่งดื่มจนหมดลงบนโต๊ะก่อนยิ้มกว้าง บรรยากาศอันสดใสสิ้นสุดลงที่เด็กชาย นาโอะที่นั่งอยู่ถัดไป มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ตั้งแต่เทะซึโอะไปเรียกให้ลงมาทานข้าวเช้าด้วยกันข้างล่าง

    " อิ่มหรือยังเทะซึโอะ "
    " ครับ " เด็กชายรับคำก่อนกระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งไปหยุดยืนอยู่หน้าเซย์จิ
    " งั้นไปกันเลยมั้ย " เด็กชายพยักหน้าเร็ว ๆ รับคำ มือเล็กกระชับสายกระเป๋าเป้ข้างหลัง ก่อนหันไปยังพี่ชายคนโปรดที่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว

    " พี่นาโอะไปส่งเทะซึจังหน่อยสิครับ "
    นาโอะที่กำลังมึนงงกับสถานการณ์เบื้องหน้าได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติมากเกินไป เทะซึโอะเชื่อฟังที่เซย์จิพูดทุกอย่าง มาถึงตอนนี้ยังไม่อิดออดที่จะไปโรงเรียนเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่วันแรกที่ต้องไปโรงเรียนเด็กชายทั้งร้องทั้งงอแงไม่ยอมท่าเดียว เมื่อถูกเรียกกะทันหันนาโอะจึงให้คำตอบกับข้อสงสัยทั้งหมดทั้งมวลเพียงแค่ว่าเทะซึโอะอาจเป็นเด็กติดคนง่ายเท่านั้น

    " ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ยังไงพี่ก็ต้องไปส่งเทะซึจังอยู่แล้วนี่ " ดวงตาสีอ่อนปรายมองไปยังเซย์จิอันแฝงไปด้วยความไม่ไว้วางใจ ซึ่งชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มบางตอบกลับเท่านั้น

    " ไปกันเถอะครับ~ " เด็กชายมองหน้าเซย์จิกับนาโอะสลับกัน แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง

---------------------------------

    ความไว้ใจเริ่มถักทอขึ้นทีละน้อยโดยการพิสูจน์ด้วยใจจริง จากการสังเกตดวงหน้าที่ผ่อนคลายลงของนาโอะ หลังมองส่งเทะซึโอะเดินหายเข้าไปในรั้วโรงเรียนพร้อมครูสาวทำให้เซย์จิคิดเช่นนั้น ตลอดทางที่นั่งรถมาส่งเทะซึโอะด้วยกัน ร่างเพรียวคอยแต่จะมองระแวดระวังกลัวน้องชายถูกพาไปยังสถานอันตราย มาถึงตอนนี้คงวางใจได้บ้างแล้วกระมัง

    " เดี๋ยวผมกลับไปที่บ้านคุณเอง " น้ำเสียงเฉยชาดังขึ้นก่อนเจ้าของร่างจะผินกายเดินไปอีกทาง ผู้ที่เตรียมไปส่งกลับบ้านรีบผลุนผลันออกจากรถมายืนขวางหน้าไว้ทันที

    " นายจะไปไหนน่ะ "
    " ผมจำเป็นต้องบอกคุณด้วยเหรอครับ "
    " จำเป็นสิ ไม่คิดบ้างเหรอว่าฉันเป็นห่วง " นาโอะมองลึกเข้าไปยังดวงตาสีเข้มที่ไม่ยอมละไปไหน ก่อนตอบคำถามนั้นรวดเร็วราวกับไม่ได้เสียเวลาไตร่ตรองเลย
    " ไม่คิดครับ "
    " บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะนาโอะ " คำตอบที่ได้รับเป็นสิ่งที่ไม่ผิดจากที่เซย์จิคาดไว้เท่าไหร่นัก ชายหนุ่มพยายามคาดคั้นเอาคำตอบต่อไป

    " คุณแค่บอกว่าไม่ให้ผมหนีไปอีก คงไม่ได้หมายถึงจำกัดอิสรภาพขั้นพื้นฐานผมหรอกใช่มั้ยครับ "
    " ฉันไม่ได้จะห้ามเรื่องพวกนั้น แค่ให้นายบอกมาว่ากำลังจะไปที่ไหน "
    " งั้นผมคงยิ่งบอกไม่ได้เลยล่ะครับ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน กรุณาเลิกละลาบละล้วงถามด้วยครับมันเสียมารยาท "

    เซย์จิทนเก็บความคิดที่จะบอกถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงเอาไว้ในใจ เขารู้ดีถึงบอกไปทุกอย่างคงไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพียงแค่ไม่ต้องการให้นาโอะคิดว่าเขาใช้ความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นเหล่านั้นมาผูกมัด ไว้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมนาโอะจะได้รู้ทุกอย่างเอง

    หากว่าเวลานั้นจะมาถึงจริงอย่างที่หวังไว้..
    ความสัมพันธ์ที่ถูกขีดคั้นไว้ที่คำว่าคนอื่น เซย์จิทำได้เพียงยอมรับมันเท่านั้น

    " งั้นก็รีบกลับด้วยล่ะ "

    นาโอะพยักหน้ารับคำโดยไม่ตอบอะไรอย่างขอไปที ว่ากันตามจริงแล้วเขายังไม่รู้ว่าตนจะไปที่ไหนในระหว่างที่ต้องคอยน้องชายเลิกเรียนดี แต่ขอแค่ไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่เป็นดั่งกรงขังมาตลอดหลายเดือนเท่านั้นก็พอ จนเมื่อเซย์จิกลับเข้าไปในรถคันหรู และขับออกไปความลังเลจึงเริ่มเข้ารุมเร้า ในชีวิตคนเรามีทางแยกให้ต้องตัดสินใจเลือกเดินมากมาย ทว่าทางเลือกสำหรับนาโอะมีเพียงแค่จะเลือกทนอยู่กับเซย์จิหรือหลบหนีไปอีกเท่านั้น นาโอะเลือกหลบหนีไปแล้วถึงสามครั้ง ตอนนี้โอกาสมาถึงอีกครั้งโดยไม่ได้คาดคิดเขาควรจะทำอย่างไรกับมันดี..

    ดวงตาสีอ่อนทอดมองไปยังกลุ่มเด็กนักเรียนตัวน้อยกำลังทำกายบริหารกันอยู่ ที่นี่ไม่ใช่บ้านที่มีคนของเซย์จิคอยจับตามองตลอดเวลา ขอเพียงแค่เข้าไปอ้างกับครูในโรงเรียนว่ามีธุระด่วน แล้วพาเทะซึโอะหนีไปด้วยง่ายยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เสียอีก ทว่านาโอะกลับลังเลใจเป็นอย่างมาก

    " เคร้ง "

    กระป๋องเปล่าบนพื้นถนนถูกนาโอะใช้เท้าเขี่ยคล้ายต้องการระบายอารมณ์อันสับสนว้าวุ่น ก่อนเจ้าตัวจะเดินสาวเท้าออกห่างจากโรงเรียนแห่งใหม่ของเทะซึโอะไปตามทางเท้าอย่างไร้จุดหมาย

--------------------------

    ..ฉันจะไปรับเทะซึโอะเอง..
    ..ครับ..

    ข้อความทีุ่เซย์จิส่งไปและได้รับคำตอบกลับมาเป็นถ้อยคำเชิงรับรู้สั้น ๆ ถูกอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะชายหนุ่มยืนคอยเวลาเลิกเรียนอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาล เนื่องจากหากไม่เป็นฝ่ายโทรมาเองนาโอะจะไม่ยอมรับสายจากเซย์จิ จึงลองเลือกใช้วิธีส่งข้อความดู สิ่งที่ได้ตอบกลับมาแม้จะเป็นเพียงการตอบกลับอย่างไร้เยื่อใย แต่เซย์จิก็อดระบายรอยยิ้มออกมาทุกครั้งที่ได้อ่านไม่ได้

    เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาบ่ายสามเซย์จิเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง จากนั้นจึงสาวเท้าไปหาครูอนุบาลที่เดินพากลุ่มนักเรียนตัวน้อยมาคอยผู้ปกครองยังบริเวณลานหน้าตึกเรียน ครูสาวคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานตามหน้าที่ทันที ทว่ายังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันร่างเล็ก ๆ ก็วิ่งออกมาจากกลุ่มเด็กนักเรียนพุ่งตรงเข้าหาเซย์จิอย่างรวดเร็ว

    " ป๊ะป๋า! "
    " วิ่งมาอย่างนี้เดี๋ยวก็หกล้มหรอกเทะซึโอะ " เซย์จิโน้มตัวลงไปรับเด็กชายเอาไว้
    " นี่ป๊ะป๋าเทะซึโอะคุงเหรอจ้ะ " ครูสาวถามขึ้นมา เนื่องจากเมื่อเช้าผู้ที่เดินมาส่งเทะซึโอะคือนาโอะ ดังนั้นเธอจึงไม่ทราบว่าเซย์จิเป็นผู้ปกครองของเด็กคนใด
    " ครับ! "
    " นาโอะซังเป็นพี่ชาย ส่วน...เอ่อ.."

    " เซย์จิครับ " ชายหนุ่มส่งยิ้มละมุนตามมารยาทให้ ยิ่งถลำลึกมากขึ้นเท่าไหร่เซย์จิก็ยิ่งรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เขาสงบขึ้นและเริ่มใช้เหตุผลแทนอารมณ์ในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เซย์จิแย้มยิ้มให้ผู้อื่นมากขึ้นจนคนรอบข้างแปลกใจ

    " เซย์จิซังเป็นป๊ะป๋าเทะซึโอะคุงสินะคะ แต่นาโอะซังกับเทะซึโอะคุงเป็นพี่น้องที่อายุห่างกันจังเลยนะคะ " เธอชวนคุยไปตามเรื่อง
    " นั่นสินะครับ แต่ห้ามจีบนาโอะนะครับคนนั้นผมหวง "

    ริมฝีปากเรียววาดรอยยิ้มอันแฝงความนัยถึงความลับบางอย่างที่ครูสาวไม่ทันได้สังเกต ก่อนก้มหัวน้อย ๆ เป็นเชิงกล่าวลา แล้วจูงมือเทะซึโอะมายังรถที่จอดทิ้งไว้ด้านหน้า

    " ที่โรงเรียนสนุกมั้ย "
    " สนุกฮะ เทะซึจังได้อยู่ห้องทานตะวันด้วยล่ะ " เด็กน้อยชูหมวกกระดาษรูปดอกทานตะวันขึ้นมาอวด
    " ดีจังเลยนะ ว่าแต่เทะซึโอะขากลับเราไปแวะหาของฝากให้หม่าม๊ากันหน่อยมั้ย " เมื่ออยู่กันตามลำพังไม่จำเป็นต้องเรียกนาโอะว่าพี่อีกต่อไป เด็กชายทราบถึงเรื่องนี้ดี
    " เอาสิฮะ " ดวงตาสีอ่อนแบบเดียวกับนาโอะวาวระยับด้วยความดีใจ
    " งั้นเดี๋ยวเราไปแวะที่อื่นกันเนอะ "

--------------------------

    ..แขกไม่ได้รับเชิญลอบบุกรุกมาในระหว่างที่เจ้าของบ้านไม่ทันได้ระวังตัว..

    " พี่ฮิโรกิ "
    เสียงเรียกชื่อผู้บุกรุกของเทะซึโอะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เซย์จิได้ยิน ก่อนคำถามมากมายจะประดังประเดกันเข้ามา ดวงตาสีรัตติกาลจับจ้องภาพอันไม่น่าเชื่อสายตาเบื้องหน้าไม่วางตา ชายผู้ที่เคยถูกจับโยนออกไปอย่างน่าสมเพชคนนั้นกำลังนั่งคุยอยู่กับนาโอะในบ้านของเขาเอง เซย์จิมั่นใจว่าเห็นผู้บุกรุกเหลือบมองมาก่อนเหยียดยิ้มให้คล้ายจะเยาะเย้ยอยู่ในที โดยที่คู่สนทนาหน้าหวานไม่ทันได้มอง

    ทำไมหมอนี่ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ ?

    คำถามนี้วนเวียนซ้ำไปมาอยู่ในห้วงความคิด ขณะเซย์จิสาวเท้าเข้าไปหาคนทั้งสอง โดยที่ฮิโรกิยังนั่งนิ่งแสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นถึงการมาของเจ้าของบ้าน ทั้งยังไม่มองไปยังเด็กชายที่เพิ่งตะโกนเรียกชื่อเมื่อครู่ด้วย จนเมื่อนาโอะเป็นฝ่ายเอ่ยทักผู้ที่เพิ่งกลับมาถึงนั่นแหละ

    " คุณไปโดนใครชกมาเหรอครับ "
    ริมฝีปากแตกช้ำ มีเลือดไหลซึมเล็กน้อยเรียกความสนใจนาโอะที่ถึงไม่จะไม่ชอบหน้าเซย์จิอยู่ให้อดถามออกมาไม่ได้ ใครกันกล้าทำร้ายชายผู้มากด้วยอำนาจคนนี้ได้

    " พระเจ้าลงโทษน่ะฮะพี่นาโอะ " เด็กชายที่เปลี่ยนเป้าหมายจากฮิโรกิเป็นพุ่งตรงไปซุกตักนาโอะเป็นผู้ตอบคำถามนั้นแทน
    " ทำไมพระเจ้าไม่ลงโทษให้หนักกว่านี้ก็ไม่รู้เนอะเทะซึจัง "
    " เทะซึจังก็ไม่รู้ครับ " เด็กชายทำหน้าซื่อตอบกลับ

    ร่างเพรียวตีความคำว่าพระเจ้าลงโทษไปเองว่า เซย์จิคงไปมีเรื่องกับนักเลงหัวไม้ที่ไหนเข้าระหว่างทางไปรับเทะซึโอะ หากแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่นัก จึงเลิกคิดจะซักไซ้ถามต่อ ที่ถามออกไปในตอนแรกก็เพราะตกใจเท่านั้น แต่ดูเหมือนความเฉยเมยของนาโอะจะไม่อยู่ในความสนใจของเซย์จิอีก

    " ทำไมหมอนี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ " เซย์จิปรายตามองไปยังผู้ที่นั่งเงียบอยู่

    " ฉันก็มาในฐานะแขกของนาโอะไงล่ะ นาโอะไปหาฉันที่ร้านแล้วชวนมาที่นี่ก็เท่านั้นเอง " ฮิโรกิเป็นฝ่ายตอบ ดวงตาที่มองมาราวกับประกาศชัดเจนว่าไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน

    " แต่ฉันไม่ใช่เชิญนายมา "
    " เซย์จิซังไม่เชิญแต่ผมเชิญ อย่าบอกนะครับว่าผมไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพาเพื่อนมาบ้าง "
    " จะทำอะไรฉันก็ไม่ว่าหรอก แต่ทำไมต้องเป็นหมอนี่ "

    " เพื่อนผมชื่อฮิโรกิช่วยเรียกให้ถูกด้วยครับ "  ทันทีที่นาโอะออกตัวปกป้องเพื่อนสนิท เรียวปากบางของฮิโรกิก็วาดรอยยิ้มที่น่าชังสำหรับเซย์จิให้่เห็นอีกครั้ง เขามั่นใจว่าชายคนนี้คงทราบเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างตนและนาโอะทั้งหมดแล้วเป็นแน่ หาไม่แล้วคงไม่สงบนิ่งถึงขนาดท้าทายด้วยการเล่นสงครามประสาทได้ เซย์จิสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนเค้นเสียงออกไปอีกครั้ง

    " ฉันไม่อยากให้นายพาฮิโรกิมาที่นี่ "
    " งั้นถ้าผมไปหาเองที่ร้านบ่อย ๆ คงได้สินะครับ "
    เพียงคิดว่าทั้งสองคนจะไปอยู่ในสถานที่ที่มองไม่เห็น ไม่อาจให้คนไปสอดส่องคอยดูความเคลื่อนไหวได้ เซย์จิขอเลือกฝืนใจให้พนักงานร้านเค้กมาบ้านได้ ตามที่นาโอะต้องการยังจะดีเสียกว่า

    " ไม่ได้! เอาเป็นว่านายอยากพาใครมาก็ตามใจ แต่อย่าลืมที่เราตกลงกันไว้ก็แล้วกัน "

    " ไม่หนักแน่นเอาซะเลย " ฮิโรกิกล่าวลอย ๆ เป็นเชิงเหน็บแนม เซย์จิทำได้เพียงเขม่นมองตอบกลับเท่านั้น เขาจะไม่แสดงกิริยาอันใด ที่จะเป็นการทำลายความตั้งใจอยากถนอมน้ำใจ และความรู้สึกของนาโอะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    " พี่ฮิโรกิหมายถึงอะไรเหรอครับ " เทะซึโอะมองคนโน้นคนนี้พูดคุยกันอยู่นาน แต่เนื่องด้วยยังเป็นเด็กจึงไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ถามออกมาในที่สุด

    " อย่าถามได้มั้ย "
    " เทะซึโอะไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่านะ "
    ถ้อยประโยคที่พูดแทรกขึ้นมาเกือบจะพร้อมกันของเซย์จิและฮิโรกิ ทำให้สองพี่น้องไม่ทันได้ยินคำพูดแกมต่อว่าของผู้บุกรุก

    " งั้นเดี๋ยวเทะซึจังมาหานะครับพี่นาโอะ " พี่ชายร่างเพรียวพยักหน้ารับคำ พร้อมยิ้มหวานให้เด็กชาย
    ดวงตาสีดำสนิทของฮิโรกิจับจ้องเซย์จิที่จูงเทะซึโอะเดินออกไปด้วยสายตาซึ่งยากจะคาดเดาถึงความคิดได้

    ..ผู้บุกรุกกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างย่ามใจ
    อีกไม่นานนาโอะจะเป็นของเขา..

TBC Chapter 24

มาต่อแล้วค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะที่มาช้าขนาดนี้!! T^T
ติดทั้งงานทั้งสอบ พอจะมาแต่งอีกทีอารมณ์เริ่มไม่ต่อถ้ามันแย่ลง หรืออ่านแล้วมึนงงยังไงติมาได้เต็มที่เลยค่ะ
ขอบคุณที่ยังตามอ่านกันอยู่นะคะ ^^

หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 15-08-2010 04:18:24
เย้ๆๆ นาโอะกะลังโดนล่อลวง เซย์จิจาทำไงนั่น
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 15-08-2010 09:36:42
สถานการณ์พลิกกลับแล้วเหรอครับ เรื่องนี้สุดจะคาดเดาจริงจริง ได้แต่หวังว่าจะจบลงด้วยดีนั่นแหละครับ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 15-08-2010 09:49:22
ฮิโรกิไปพ้นๆ ได้ไหมอ่า
เทะซึคุงช่วยป๊ะป๋าด้วยนะลูก
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 15-08-2010 10:35:54
ฮิโรกิจะทำอะไรน่ะ :angry2:
คิดว่านาโอะจะยอมทิ้งเทะซึจังไปเหรอ
ฝันไปเหอะ
เซย์จิก็อย่ายอมแพ้นะ o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 15-08-2010 11:09:01
เอาไงดี.......

งืมๆๆ ไดยะซังงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ไดยะซังมาเก็บฮิโรกิไปทีสิคะ พลีสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อิอิ เค้าสามคนพ่อแม่ลูกน่ารักออก ฮิโรกินี่อย่ามาทำตัวร้ายแถวนี้น้า
เรื่องนี้ทั้งเรื่องให้เซย์จิตอนยังง่าวเป็นคนร้ายคนเดียวพอ หงิงๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-08-2010 12:23:46
เรื่องกำลังจะไปได้ด้วยดีแล้วเชียว  บุคคลที่สามนี่ชอบทำให้มันปั่นป่วนซะจริง
ไม่คิดว่านาโอะจะหนักแน่นพอกับเรื่องนี้แน่นอน
เพราะนาโอะเจออะไรมามากเกินกว่าจะยอมรับเซจิได้ง่าย ๆ ซะแล้ว
ได้แต่หวังว่าเทะซึโอะจะช่วยได้บ้าง  และที่สุดของที่สุดไดยะมาจัดการกับฮิโรกิทีซิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Shock_n2n ที่ 15-08-2010 13:15:34
ในที่สุดก็กลับมา
แล้ว นาโอะ เนี่ยใจเเข็งดีจริงๆเลยนะ
แต่ยังไง ความเป็นครอบครัว คงจะอบอุ่นและรักกันอีกไม่นาน
แล้ว ฮิโรกิ เนี่ยมาทำให้เขาแตกกันทำไมเนี่ย :เฮ้อ:
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 15-08-2010 14:15:24
 :serius2: ตัวป่วน ใครก็ได้เอาฮิโรกิไปเก็บที
อย่ามาร้ายได้ป่ะ แค่นาโอะคนเดียวเซย์จิก็แย่แล้ว
ทั้งๆที่ทำตัวดีขึ้นมาตั้งเยอะอ่ะ
นาโอะใจอ่อนลงหน่อยสิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 15-08-2010 20:00:40
ว๊ากกกก

ไรเตอร์มาแล้ววว

คิดถึงจังเลยอ่าาา

เซจิสู้ๆๆๆๆๆน่ะ  เอาชนะใจนาโอะให้ได้น๊าา :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 15-08-2010 21:19:45
ไม่ชอบฮโรกิมากถึงมากที่สุดอ่ะ
เสแสร้ง !  - -+
แต่ก็นะ นาโอะก็ต้องมองฮโรกิดีกว่าเซย์จิอยู่แล้วล่ะ
การกรทะำที่ผ่านมาหลายปีมันก็ทำให้คิดแบบนั้น
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วไง
+++++++
เย้  ! ได้อ่านต่อแล้ว >3<
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 15-08-2010 21:55:09
ยิ่งอ่านยิ่งหมั่นไส้ฮิโรกิ คิดจะทำอะไรไม่ดีอีกล่ะซิ  :m16:
เซย์จิสู้เค้าน๊า !!!

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: heavenly**yaoi ที่ 16-08-2010 00:16:01
ฝันกลางวันไปเถอะฮิโรกิ
นาโอะ ต้องคู่กับเซจิเท่านั้น
 ตอนนี้ เซย์จิกลายเป็นเทพบุตรไปแล้ว
ซาตานคือฮิโรกิ

เทวดาตัวน้อยยังคงเป็น เทะซึจัง^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: heavenly**yaoi ที่ 16-08-2010 00:16:45
มาต่อเร็วๆนะคะ  เกือบจะลืมตอนเก่าๆไปแล้วนะเนี่ย เหอๆ=_+;;;
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 16-08-2010 00:49:08
นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว ดีใจๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-08-2010 00:19:41
รอตอนต่อไปนะคะ ว่าแต่ฮิโรกิเนี่ย ช่วยไปอยู่ที่ร้านเฉยๆบ้างได้ป่ะเนี่ย ยุ่งจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 21-08-2010 01:30:15
ไรเตอร์ยังไม่มาต่ออีกหรอ???

ยุ่งอยู่ใช่ไม๊อ่าาา

สู้ๆๆๆๆน๊าาาา
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-08-2010 08:48:12
ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยชอบฮิโรกิแล้ว ชิส์
นิสัยอะนิสัย จะทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกกันเหรอ
ขอบคุณนะคะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: *4_m3* ที่ 22-08-2010 01:42:17
เพิ่งได้เม้นอ่ะ มือถือเม้นไม่ติด
สุนกมากกกกกกกกก เอาอีกๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Rinze ที่ 22-08-2010 12:56:42
ทำครอบครัวแตกแยกน่ะเนี่ย ฮิโรกิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 22-08-2010 18:14:43
มารอค่าา
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 23-08-2010 14:15:15
ฮิโรกิท่าจะร้ายอะ เซจิจัดหนักซักให้ทีได้ไหม
 :pig4: writer คะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 23-08-2010 19:19:30
หุ หุ หุ อ่านทันแล้ว
สนุกดี ช๊อบบบบบบชอบอ่ะ
แต่..ไอ้ฮิโรกิมันเป็นอะไรมากป่ะเนี้ยยยยยยยยยยยย
ยุ่งเรื่องชาวบ้านเค้าจริ่งจริ๊งงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 23] มาต่อแล้วค่า~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 27-08-2010 09:27:23
น่าสงสารฮิโรกิเหมือนกัน

รักมากก็เลยจะเปลี่ยนมาเป็นแย่งชิง

ดูซิเซจิจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 28-08-2010 22:50:03
Miracle 24

    สงครามเย็นที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ดำเนินต่อเนื่องไปอีกนานหลายสัปดาห์ นับตั้งแต่ฮิโรกิกลายมาเป็นแขกประจำบ้าน ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทของนาโอะ เซย์จิจึงไม่มีสิทธิ์ห้ามไม่ให้พนักงานร้านเค้กแวะเวียนมาได้ แม้ในบางครั้งนาโอะจะไม่ได้เอ่ยปากชวนให้มาก็ตาม ฮิโรกิไม่เคยเอ่ยปากทักเซย์จิเลยสักครั้ง ในทางตรงกันข้ามเซย์จิเองก็ไม่ชวนฮิโรกิคุยด้วยเช่นกัน ทว่าก็ไม่เคยละสายตา

    ไม่ว่านาโอะและฮิโรกิจะไปอยู่ส่วนใดของบ้าน เซย์จิจะคอยบอกให้เทะซึโอะตามไปอยู่ด้วยเสมอ และหากเซย์จิไปทำงานซึ่งนั่นหมายความว่านาโอะจะไม่ได้อยู่กับน้องชายตัวน้อย เขาจะให้สาวใช้คนสนิทคอยเป็นหูเป็นตาให้แทน ซึ่งฮิโรกิเองก็ทราบเรื่องนี้ดี ทว่าผู้ถือไพ่เหนือกว่าดูจะไม่ยี่หระกับเรื่องนี้เท่าใดนัก

    เซย์จิแม้จะสำนึกผิดแล้วแต่ก็ไม่ใช่คนดีเท่าใดนัก แน่นอนว่าเขาเตือนตัวเองเสมอไม่ให้เผลอทำสิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนาโอะเข้า กระนั้นกลับไม่เคยห้ามจิตใจด้านมืดไม่ให้รู้สึกชิงชังแขกประจำบ้านได้เลย เขาไม่ชอบใจเมื่อเห็นนาโอะแย้มยิ้มขณะพูดคุยเรื่องสัพเพเหระต่อหน้าฮิโรกิ ชังรอยยิ้มเหยียดที่ถูกยัดเยียดให้ทุกครั้งยามร่างเพรียวเผลอไผล ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังมีท่าทีหมางเมินใส่เทะซึโอะอย่างไม่ทราบสาเหตุอีกด้วย ทั้งที่เซย์จิเคยได้ยินมาว่าฮิโรกิเป็นผู้ที่ช่วยเลี้ยงเด็กชายในตอนที่นาโอะไม่สบาย

    แม้ไม่นับที่ฮิโรกิเคยลักลอบเข้ามาพยายามพานาโอะหลบหนีออกไปและตอนนี้ยังเป็นศัตรูหัวใจ แต่เพียงแค่นั้นเขาก็มีเหตุผลเพียงพอในการไม่ชอบหน้าใครสักคนได้แล้ว หากแต่ความรู้สึกชิงชังทั้งหลายกลับถูกสะกดกลั้นเอาไว้ได้ เมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของนาโอะยามได้เจอเพื่อนสนิทคนนี้

    ขอเพียงจับตาดูไว้ให้ดีคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

    คำบอกเล่าของไดยะว่านาโอะไม่เคยคิดอะไรกับพนักงานร้านเค้กคนนั้นเกินเพื่อน ทำให้เซย์จิวางใจลงได้บ้าง แม้ไม่ใคร่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เขาก็เชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าชายคนนั้นคงไม่บุ่มบ่ามทำอะไรที่เป็นการฝืนใจนาโอะ

    แต่วางใจหรือชะล่าใจกันแน่หนอ..

------------------------------------

    แสงอาทิตย์สีส้มอ่อนสาดทอเข้ามายังบานกระจกใสสะท้อนลงบนเรือนผมสีอ่อนของเด็กชายที่นอนหลับสนิทอยู่ ถัดไปเป็นนาโอะผู้ถูกยึดเตียงนอนครึ่งหนึ่งชั่วคราว เขามองน้องชายที่หลับไปได้สักพักแล้ว กับแขกประจำที่ยังไม่กลับร้านสลับกันไปมา ขณะกำลังคุยเรื่องต่าง ๆ กันด้วยท่าทางผ่อนคลาย

    " เป็นอย่างนี้ดีแน่แล้วเหรอนาโอะ " ฮิโรกิเปลี่ยนเรื่้องสนทนาอย่างกะทันหันด้วยคำพูดกำกวม พลางลอบมองเด็กชายตัวน้อยที่ยังหลับอยู่
    " อย่างนี้ที่ว่าหมายถึงอะไรเหรอ "

    " ก็หมายถึงที่ต้องอยู่เหมือนโดนขังไม่มีอิสระไงล่ะ " น้ำเสียงของฮิโรกิดังขึ้นจนเกือบขึ้นเสียง นาโอะหลุบสายตามองเทะซึโอะอยู่นานพอควรกว่าจะตอบคำถามนั้น

    " จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกนักหรอกนะ ผมจะไปไหนมาไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ เพียงแค่....ไม่ค่อยได้เจอเทะซึจังเท่านั้นเอง "
    ปลายเสียงแผ่วลงในทันที ทุกเช้าหลังไปส่งเทะซึโอะที่โรงเรียนด้วยกันกับเซย์จิ นาโอะจะแยกไปที่อื่นเสมอโดยไม่บอกให้ทราบถึงสถานที่ที่จะไป ซึ่งเซย์จิก็ไม่เคยเอ่ยห้าม แต่กลับย้ำอยู่เสมอว่าจะเป็นผู้มารับเทะซึโอะกลับบ้านเอง นั่นเป็นคำพูดโดยนัยที่ทั้งสองทราบเป็นอย่างดีแม้ไม่เอ่ยออกมาตามตรง เทะซึโอะคือเครื่องพันธนาการไม่ให้ผู้เป็นพี่คิดหลบหนีได้

    " ไม่ค่อยได้เจอเทะซึโอะแล้วทำไมล่ะ " ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น
    " ผมยังไม่เคยบอกฮิโรกิเหรอ เซย์จิซังไม่ให้ผมเจอเทะซึโอะถ้าเขาไม่อยู่บ้าน.."

    " หมอนั่นยังใช้วิธีทุเรศ ๆ พวกนี้อยู่อีก " ดวงตาสีน้ำตาลของนาโอะคล้ายจะตัดพ้อในสิ่งที่ตนไม่สามารถทำอะไรได้เลย ซึ่งฮิโรกิเองก็สังเกตเห็น ดวงตาสีดำสนิทของเขาแฝงเร้นไว้ซึ่งความไม่พอใจ หากไม่มีเด็กชายนาโอะคงไม่ต้องทนอยู่ในที่แบบนี้

    " นาโอะไม่ต้องกังวลไปหรอก อดทนเข้าไว้สักวันฉันจะช่วยนายให้ออกไปจากที่นี่เอง " ฮิโรกิถือโอกาสคว้ามือเล็กมากุมไว้ข้างหนึ่ง ซึ่งนาโอะไม่ได้ขัดขืนอะไร เนื่องด้วยฉงนใจในสิ่งที่ได้ยิน

    " ฮิโรกิจะทำอะไรน่ะ " คำตอบที่ได้กลับมามีเพียงรอยยิ้มบางเบา นาโอะไม่ได้คาดคั้นถามมากไปกว่านั้น เพื่อนคนนี้อาจต้องการให้กำลังใจ เพียงแค่น้ำใจที่มีให้ก็ทำให้รู้สึกดีได้แล้ว เรียวปากบางจึงวาดรอยยิ้มออกมา
 
     พนักงานร้านขายเค้กไม่ได้ชวนคุยอะไรอีก เปลี่ยนเป็นมองสำรวจห้องนอนใหม่ของนาโอะ ซึ่งไม่ใช่ห้องที่เคยลอบเข้ามาไปเรื่อยดังที่เคยทำทุกครั้งที่มีโอกาสเข้ามา และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองแล้ว ขณะที่นาโอะกำลังครุ่นคิดไปถึงหัวข้อสนทนาเมื่อครู่

    ตลอดเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หากไม่รวมเรื่องโดนจำกัดเวลาเจอน้องชาย ทุกอย่างถือว่าสงบสุขจนแทบไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้นาโอะต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายเพียงใดบ้าง เซย์จิยังรักษาระยะห่างที่เคยตกลงกันไว้ได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด นาโอะจึงตอบแทนด้วยการไม่พาแขกของบ้านเข้ามาในห้องนอน ที่ซึ่งเซย์จิไม่สามารถเข้ามาได้เท่าที่จะทำได้ เพื่อความสบายใจของเจ้าของบ้าน

    แต่ทั้งหมดเป็นเพียงการกระทำซึ่งเกิดจากพื้นฐานนิสัยไม่ชอบเอารัดเอาเปรียบใครของเจ้าตัวเท่านั้น ทุกครั้งที่นาโอะถามตัวเอง ว่าหากวันใดเซย์จิเบื่อรักอันไร้ความหวังที่ต้องไล่ตาม ต้องฝืนเปลี่ยนตัวเองโดยไม่เต็มใจนี่ แล้วเอ่ยปากไล่นาโอะกับเทะซึโอะไปที่อื่นเขาจะทำยังไง จนถึงตอนนี้วินาทีนี้ที่ฮิโรกิเปิดประเด็นถึงเรื่องนี้ขึ้นมาให้นาโอะถามตัวเองเช่นนี้อีกครั้ง คำตอบก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงว่าเขายินดีไปอยู่ที่อื่นโดยไม่รอช้า

    เรื่องในอดีตเป็นดั่งรอยแผลที่ยังไม่หายสนิท เมื่อใดก็ตามที่หวนระลึกถึงก็ให้หวาดหวั่นทุกคราไป ชายกลับใจผู้นั้นไม่ว่าอย่างไรก็เป็นได้เพียงคนรู้จักสำหรับนาโอะเท่านั้น

    " นั่นอะไรน่ะนาโอะ " ฮิโรกิเรียกผู้เหม่อลอยให้่กลับมาสนใจอีกครั้ง
    " มีอะไรเหรอ "
    " ตรงนั้นอะไรน่ะ " เขาพูดพลางชี้นิ้วไปยังวัตถุสีดำต้องสงสัย ซึ่งถูกวางไว้ได้อย่างแนบเนียนกลมกลืนอยู่ด้านหลังโคมไฟติดผนังตรงข้ามเตียงนอน นาโอะพยายามเพ่งมองสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของโคมไฟมาโดยตลอด
    " ก็แค่โคมไฟเองนี่ "

    " ลองมองดี ๆ สิ ข้างหลังนั่นไง " เมื่อเห็นว่านาโอะไม่เอะใจสงสัยอะไรเลย ทั้งที่ด้านหลังโคมไฟมีอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมีอยู่ แต่นาโอะกลับมองข้ามมันไปแม้จะชี้บอกแล้วก็ตาม ด้วยความอยากรู้ฮิโรกิจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปมองใกล้ ๆ ด้วยตัวเอง ทันทีที่รู้แน่ชัดว่าวัตถุสีดำที่ดูผิดสังเกตคืออะไรรอยยิ้มพรายก็ปรากฏบนใบหน้า ก่อนกระชากมันออกจากสายไฟมาให้่เจ้าของห้องดูให้เต็มตา

    " นี่มัน....!? "
    " กล้องวงจรปิดไงล่ะ " สิ้นคำพูดสุดท้ายเจ้าของร่างเพรียวก็ผลุนผลันออกจากห้องไปในทันที เป้าหมายหาใช่อื่นใดที่ไหน แต่เป็นห้องของเซย์จิซึ่งเขาไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว

    เจ้าของห้องผู้กระทำความผิดคงรู้เรื่องทั้งหมดผ่านภาพสุดท้ายจากกล้องวงจรปิดแล้วกระมัง จึงได้มองมายังประตูห้องราวกับรอคอยการมาของใครสักคนอยู่ ผู้บุกรุกร่างบางสาวเท้าเข้าไปกระแทกวางหลักฐานความผิดลงบนโต๊ะที่มีหน้าจอสี่เหลี่ยม ที่เซย์ิจิใช้สอดแนมดูตนเองในห้องมาตลอดจนถึงเมื่อครู่

    " หมายความว่ายังไงครับ "

     เซย์จิมองใบหน้าหวานที่ฉายชัดถึงความโกรธเคือง ก่อนไล่สายตาไปยังแขกประจำบ้านซึ่งเดินตามหลังมาไม่ห่าง ทั้งสองประสานสายตากันโดยที่นาโอะไม่ทันได้สังเกต แววตาเย้ยหยันอย่างสมเพชเซย์จิทำให้ความคิดจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เข้าใจพลันมลายหายไปกับอากาศจนหมด

    เขาต้องการบอกให้นาโอะรู้ว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะห่วงอาการป่วยของนาโอะ ที่ในตอนแรกแทบไม่ยอมให้เข้าใกล้เลยมากเพียงใด เหตุผลอีกประการหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือความเห็นแก่ตัว ที่ต้องการจะเฝ้ามองคนที่รักอยู่ตลอดเวลา เพราะรักมากจึงยอมใช้วิธีคดโกงเล่นไม่ซื่อ สมควรแล้วที่ผู้ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจะโกรธถึงเพียงนี้

    นาโอะคงไม่เกลียดเขามากไปกว่านี้แล้ว..
 
    " ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ "
    ชายหนุ่มทนกล้ำกลืนความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ ก่อนเมินแขกไม่รับเชิญซึ่งมาหยุดยืนอยู่เคียงข้างนาโอะเป็นที่เรียบร้อย แล้วมองไปยังร่างเพรียวแต่เพียงผู้เดียว

    " ผมอุตส่าห์คิดว่านอกจากเรื่องเทะซึโอะคุณจะไม่ใช้วิธีสกปรก ๆ แล้ว " 
    " ฉันขอโทษ.. " ในเวลานี้วินาทีนี้เขาพูดได้เพียงเท่านี้
   " ผมเบื่อจะฟังคำขอโทษของคุณแล้วล่ะครับ "
    " อย่างนั้นก็แย่หน่อยนะ เพราะจะอีกกี่พันครั้งฉันก็จะูพูด "
    " ถ้าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกผมไม่อยากฟังครับ " เจ้าของแววตาขุ่นเคืองตอกกลับแทบจะในทันที
    " ฉันไม่ได้โกหก "
    " ไม่ได้โกหกเหรอครับ งั้นคุณทำไปเพื่ออะไรล่ะครับ ละลาบละล้วงชีวิตส่วนตัวของผมไปทำไม ทั้งที่เราตกลงกันไว้แล้วว่าคุณจะไม่เข้าไปในห้องนั้น "

    สายตาทิ่มแทงของบุคคลที่สามทำให้เซย์จิยิ่งกดดันมากขึ้น เขายอมสารภาพความผิดบาปทั้งหมดที่เคยทำมาให้ชาวโลกรับรู้ ยังดีเสียกว่าต้องมาเว้าวอนนาโอะ ต่อหน้าผู้ที่ประกาศตัวทางอ้อมมาโดยตลอดว่าเป็นศัตรูด้วยอย่างที่กำลังจะเป็นอยู่ในตอนนี้

    " คนที่ทำผิดมามากกลับใจไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะนาโอะ " ฮิโรกิถือโอกาสโอบไหล่บางคล้ายจะปลอบประโลมไปในตัว ขณะกล่าวออกมา เมื่อเข้าใจไปเองว่าเจ้าของบ้านจนซึ่งคำพูดใดจะแก้ตัว

    " เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย " เซย์จิกระชากเสียงห้วน
    " จะเกี่ยวกับใครบ้างไม่สำคัญหรอกครับ คุณทำผิดข้อตกลงช่วยปล่อยผมกับเทะซึโอะไปด้วยครับ " นาโอะข่มความรู้สึกอันเดือดพล่านไว้ในใจ ก่อนพูดจุดประสงค์ของการมาหาด้วยตัวเองครั้งนี้

    " เสียใจด้วยที่ทำให้ไม่ได้ กล้องนั่นมีมาก่อนหน้าที่จะทำข้อตกลงกับนายแล้ว ไม่ถือว่าฉันละเมิดข้อตกลง ที่สำคัญฉันยังไม่ได้เข้าไปในห้องนายด้วย "
    " แต่กล้อง....."
    " กล้องแล้วยังไงล่ะ ข้อตกลงคือห้ามเข้าห้องไม่ใช่เหรอนาโอะ " เซย์จิค้านก่อนคู่สนทนาจะพูดจนจบประโยค ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเขายอมเป็นคนเลวอีกครั้งเพื่อรั้งคนสำคัญเอาไว้

     " คุณวางแผนเรื่องทั้งหมดไว้อยู่แล้วสินะครับ ถ้างั้นผมขอยกเลิกข้อตกลง มันไม่มีค่าอะไรแล้วล่ะครับ "  ดวงตาสีอ่อนละจากใบหน้าคู่สนทนาเมินมองไปทางอื่น ราวกับเซย์จิเป็นความผิดพลาดที่น่าสิ้นหวังไม่อาจแก้ไขให้ดีขึ้นได้แล้ว

    " ..นาโอะ "
    " ผมเคยคิดว่าผมไม่เข้าใจคุณเลย แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว คุณเป็นพวกคิดแต่จะหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอย่างเดียวสินะครับ "

    ส่วนนึงของจิตใจที่เปิดรับเซย์จิเข้ามาทีละเล็กละน้อยถูกทำร้ายด้วยอาวุธที่เรียกว่าการหักหลังจนปิดตายลงอีกครั้ง นาโอะตระหนักได้แล้วเขาเป็นเพียงคนธรรมดา ที่เต้นอยู่บนเกมที่เซย์ิจิเป็นผู้วางหมากไว้ตั้งแต่แรกเท่านั้น บางทีคำว่ารักและคำขอโทษอาจเป็นส่วนหนึ่งในเกมด้วยเช่นกัน

    เขาเลิ่นเล่อมากเกินไปที่เผลอคิดไว้ใจชายผู้มากด้วยอำนาจคนนี้

    " นาโอะนักธุรกิจส่วนใหญ่ก็อย่างนี้ทั้งนั้นแหละ คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง " ฮิโรกิก้มหน้าลงไปกระซิบกระซาบกับนาโอะ
    " ฉันบอกว่้าไม่เกี่ยวกับนายไง " ความอดทนต่อผู้ไม่ประสงค์ดีใกล้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด เซย์จิกระชากคอเสื้อฮิโรกิขึ้นมาด้วยกำลังมหาศาล นาโอะที่ถูกฮิโรกิโอบไหล่อยู่พลอยเซถอยหลังไปด้วย ทว่าในตอนที่นาโอะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนั้นเอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากผู้ที่ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง

    " พวกพี่ ๆ กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอฮะ " เทะซึโอะเดินเตาะแตะเข้ามาหานาโอะก่อนเป็นคนแรก
    " ทำไมมาทางนี้ล่ะเทะซึจังไม่นอนต่อแล้วเหรอ " เขาก้มลงไปนั่งในระดับเดียวกับเด็กชาย จากนั้นจึงกอดไว้หลวม ๆ คล้ายกลัวใครมาลักพาไป

    " ผมไม่ง่วงแล้วล่ะ พี่เซย์จิกับพี่ฮิโรกิทะเลาะกันอยู่เหรอ "
    ดวงตาใสแป๋วมองเซย์จิกับฮิโรกิสลับกัน เซย์จิจึงได้สติขึ้นมาอีกครั้ง เขาพลาดปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือสติจนเกือบทำร้ายฮิโรกิให้นาโอะยิ่งชังหน้ามากกว่าเดิมเสียแล้ว มือหนาค่อย ๆ ปล่อยออกจากคอเสื้อของผู้ที่แม้จะตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ แต่กลับยังระบายรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างคนอารมณ์ดีได้อยู่

    เมื่อไหร่ความผิดพลาดในอดีตจะเลิกตามรังควานเขาเสียที..

    " ไม่มีอะไรหรอกเทะซึจัง ไปนอนกับพี่ต่อดีกว่านะ " ด้วยไม่อยากให้เด็กน้อยรับรู้เรื่องโสมม นาโอะจึงเอ่ยชวน พลางลุกขึ้นแล้วจูงมือเทะซึโอะขึ้นมา ทว่ากลับถูกสะบัดออกเป็นการปฏิเสธ ก่อนเจ้าของร่างจะสาวเท้าเข้าไปกระุตุกขากางเกงเซย์จิ

    " พี่เซย์จิทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ "
    " ไม่เป็นไรหรอกเทะซึโอะ "
    " แน่เหรอฮะ เทะซึจังเป็นห่วงนะ.." ป๊ะป๋าของเทะซึโอะมีท่าทางเคร่งเครียดยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยเห็น แล้วจะให้เด็กชายวางใจได้อย่างไร
    " ขอบใจที่เป็นห่วง กลับไปนอนกับนาโอะเถอะ " เซย์จิลูบศีรษะเด็กชายเบา ๆ ก่อนดันหลังให้กลับไปหานาโอะ ทันทีที่ทั้งสองเดินหายลับไปหลังบานประตู ฮิโรกิที่ยังรั้งรออยู่ก็เอ่ยเย้ยหยันขึ้นมา

    " แกแพ้แล้ว เลิกพยายามสักทีเถอะ มันเปล่าประโยชน์ " น้ำเสียงกลั้วหัวเราะที่น่ารังเกียจ ก่อนเจ้าตัวจะเดินหายไปโดยไม่สนใจปฏิกิริยาผู้แพ้ในความคิดของตนอีก เซย์จิทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้เมื่อเสียงปิดประตูห้องดังขึ้น เขามองกองเอกสารมากมายตรงหน้า ก่อนฝืนยิ้มออกมาเหมือนให้กำลังใจตนเอง

    " นายพูดผิดแล้วล่ะ ถ้าแค่นี้ยังตัดใจยอมแพ้ง่าย ๆ โลกนี้คงไม่มีคำว่าชนะ "

    ..สักวันฉันจะบอกความจริงให้นายฟังแน่นอนนาโอะ..

-----------------------------------

    หลายวันถัดไปไปบรรยากาศอึดอึดอันไม่พึงปรารถนาปกคลุมไปทั่วทั้งบ้าน นาโอะกลับไปพูดคำตอบคำกับเซย์จิอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้หาใช่เพราะหวาดกลัว หากแต่เป็นเพราะโกรธเคืองเป็นอย่างมาก จนไม่ใคร่จะข้องเกี่ยวด้วยเกินจำเป็น ผู้ที่คอยบ่อนทำลายความสัมพันธ์ลงจนเหลือศูนย์อีกครั้งยังคงแวะเวียนมาที่บ้านเป็นประจำไม่ขาด และเฝ้ามองทุกอย่างด้วยความพึงพอใจ

    ทว่าวันนี้กลับต่างจากทุกวันเมื่อไม่ฮิโรกิไม่มาอย่างที่เคย เซย์จินั้นหาได้ใส่ใจไม่้ สำหรับเขาตัวตนของฮิโรกิถือเป็นเพียงอากาศจะมีอยู่หรือไม่ก็ค่าเท่ากัน แต่เนื่องจากผู้คอยดึงความสนใจนาโอะไปจากน้องชายตัวน้อยไม่อยู่ ในตอนบ่ายหลังเลิกเรียนห้องรับแขกจึงถูกสองพี่น้องจับจองไปเป็นพื้นที่ส่วนตัว

    กระนั้นนาโอะกลับฉงนใจยิ่งนักเมื่อเซย์จิหอบหิ้วเอกสารกองโตลงมาแย่งพื้นที่ครึ่งนึงของโต๊ะ และโซฟาหน้าทีวีด้วย ในตอนแรกเขาตั้งใจบอกให้เลิกทำลายเวลาส่วนตัวของตนกับเทะซึโอะ และกลับไปนั่งทำงานในห้องเหมือนเดิม แต่เมื่อเด็กชายกล่าวเชื้อเชิญพี่ชายตัวโตด้วยตัวเองพร้อมใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เขาก็เอ่ยปากไล่ไม่ลงแม้จะรู้สึกอึดอัดมากก็ตาม

    " เขียนผิดแล้วเทะซึจัง ตัวเทะเขียนอย่างนี้ต่างหาก "
    เจ้าของน้ำเสียงนุ่มหูลงไปนั่งลงกับพื้นเคียงข้างเทะซึโอะที่นั่งคัดลายมืออยู่ก่อนแล้ว ก่อนจับมือน้องชายให้เขียนตัวอักษรที่ถูกต้องลงในสมุด

    " ต่อไปก็ตัวซึ เขียนยังไงเอ่ยเทะซึจัง "
    " ตัวซึ......" เด็กชายเอียงหัวไปทางซ้ายทีขวาทีขณะใช้ความคิด ก่อนลากดินสอลงบนหน้ากระดาษ
    " ลากเส้นผิดแล้วเทะซึจัง " นาโอะช่วยจับมือเขียนให้ใหม่อีกครั้งอย่างอ่อนโยน แล้วถือโอกาสเขียนตัวโอะตัวสุดท้ายของชื่อให้จนเสร็จ

    " ทีนี้เทะซึจังก็เขียนชื่อเป็นแล้วล่ะเนอะ "
    " ครับ พรุ่งนี้เทะซึจังจะคัดมาให้พี่นาโอะดูเยอะ ๆ เลย~ " เด็กชายยิ้มหวานก้มลงมองตัวอักษรที่ผสมผสานรวมกันเป็นชื่อเทะซึโอะ
    " แล้วพี่จะคอยดูนะ "

    ผู้อยู่นอกวงสนทนาอีกฝั่งของโซฟาแสร้งทำเป็นอ่านเอกสาร ขณะลอบมองผู้ร่วมห้องทั้งสองเป็นระยะ เมื่อสมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตัวอักษรในหน้ากระดาษจึงถูกอ่านแค่เพียงผ่านตาไม่ได้เข้าสู่กระบวนการคิดอย่างที่ควรเป็น

    มีบ้างที่นาโอะเหลือบมองมาราวกับระแวดระวังภัยอยู่ หากแต่ก็ไม่ทันเซย์จิซึ่งสังเกตเห็นก่อน แล้วทำเป็นอ่านเอกสารต่อได้อย่างแนบเนียนทุกครั้งไป จังหวะที่ดวงตาสีดำเหลือบมองไปยังนาโอะที่กำลังเผลอไผลอีกครั้งอยู่นั้นเอง เทะซึโอะก็เงยหน้าขึ้นจ้องเขม็งทันทีแล้วชวนคุยเสียงดัง

    " เทะซึจังเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว พี่เซย์จิล่ะฮะเขียนชื่อตัวเองได้หรือยัง " มือเล็กหอบสมุดกับดินสอเดินมาวางลงบนเอกสารจำนวนมากบนโต๊ะ
    " ชื่อเหรอ ? "
   " เมื่อกี้พี่นาโอะสอนผมเขียนชื่อด้วยล่ะฮะ " ดวงตาสีอ่อนพราวระยับหันไปหาผู้ที่ถูกพาดพิงถึง เซย์จิมองตามไป ก่อนยิ้มพรายที่มุมปากแล้วตอบคำถาม

    " พี่ก็เขียนชื่อตัวเองไม่เป็นเหมือนกัน แย่จังเลยเนอะ " ชายหนุ่มโกหกคำโตได้อย่างหน้าตาเฉย ขณะสบตากับเทะซึโอะด้วยสายตาที่เข้าใจกันเพียงสองคน

    " งั้นให้พี่นาโอะสอนให้สิครับ "
    " เทะซึจังพูดอะไรน่ะ!? " นาโอะตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินเป็นอย่างมาก
    " พี่นาโอะสอนพี่เซย์จิหน่อยสิครับ " เทะซึโอะเดินกลับไปนั่งที่เดิม โดยมีพี่ชายตัวโตเดินตามไปนั่งด้วย จึงกลายเป็นว่าทั้งสามนั่งเรียงกันโดยมีเด็กน้อยนั่งคั่นกลาง
    " แต่เซย์จิซังไม่มีทางจะเขียนไม่เป็นอยู่แล้วนี่ " เจ้าของน้ำเสียงห้วนหรี่ตามอง
    " ฉันเขียนไม่เป็นจริง ๆ " เขายังคงยืนกรานอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อไป

    " พี่นาโอะเคยสอนเทะซึจังว่าอย่าเป็นคนลำเอียง จะทำอะไรต้องเสมอภาคไม่ใช่เหรอครับ "
    ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำของเทะซึโอะทำให้นาโอะจนซึ่งข้อโต้แย้งในที่สุด เขาไม่คิดว่าเซย์จิจะรุกเข้าหาในรูปแบบนี้มาก่อน ซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้นน้องชายตัวน้อยยังช่วยไล่ต้อนให้่จนมุมเสียอีก ดวงตาสีอ่อนกรอกไปมาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก่อนถอยหายใจออกมายาวเหยียด แล้วคว้าดินสอขึ้นมาในที่สุด

    " ชื่อเซย์จิซังเขียนอย่างนี้ครับ "
    " อย่างไหนเหรอ " เซย์จิยื่นหน้าไปมองมือเรียวที่ลากเส้นขีดเขียนบนกระดาษให้ดูอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ยังไม่ทันได้เขียนจนเสร็จมือเล็ก ๆ ป้อม ๆ ก็แย่งกระดาษมาถือไว้เอง ก่อนลุกไปนั่งบนโซฟาเกิดช่องว่างระหว่างผู้ใหญ่สองคนขึ้นมา

    " เมื่อกี้พี่นาโอะไม่ได้สอนเทะซึจังแบบนี้นี่ครับ "
    " นั่นสิ เขียนให้ดูอย่างเดียวฉันจำไม่ได้หรอกนะว่าเขียนยังไง " ชายหนุ่มเขยิบเข้าไปใกล้จนต้นขาแนบสัมผัสกัน ดวงตาสีอ่อนหันมองด้วยความตกใจ ก่อนจ้องมองให้อีกฝ่ายเพื่อเตือนถึงสถานะระหว่างกัน ที่ในตอนนี้ไม่ได้เป็นแม้แต่คนรู้จัก

    " อย่าฉวยโอกาสให้มันมากนักเลยครับ " ร่างเพรียวกระถดหายถอยห่างออกมาเล็กน้อย แล้วกระซิบปรามด้วยเสียงแผ่วเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน กระนั้นผู้ถูกต่อว่าหาได้สะทกสะท้านไม่

    " เร็ว ๆ เข้าสิ "

    " พี่นาโอะจะไม่สอนพี่เซย์จิแล้วเหรอฮะ " ถูกเอ่ยเร่งพร้อมกันอย่างนี้นาโอะจำต้องยัดดินสอใส่มือใหญ่อย่างเสียไม่ได้ จากนั้นจึงวางฝ่ามือของตัวเองซ้อนทบลงไปด้านบน เล็บสีชมพูซีดขาวเมื่อนาโอะออกแรงกดให้ลูกศิษย์ตัวโตลากมือไปตามที่บังคับ ไออุ่นถ่ายทอดผ่านผิวสัมผัส ขณะเซย์จิมองใบหน้าขาวสะอาดที่ค่อนข้างบึ้งตึงได้ไม่รู้เบื่อ จนเมื่อรู้สึกตัวอีกทีฝ่ามือเรียวก็ผละออกไปอย่างน่าเสียดาย แท่งดินสอกลิ้งหล่นจากมือของเซย์จิทันที

    " จำได้แล้วใช่มั้ยครับ "
    น้ำเสียงหวานหูหากแต่ฟังดูไร้เยื่อใยเอ่ยถามขึ้น คล้ายไม่ต้องการให้้น้องชายประท้วงเรียกร้องหาความเท่าเทียมกันให้เซย์จิได้อีก

    " ถ้าฉันบอกว่ายังนายจะสอนใหม่เหรอ "
    " คุณนี่มัน...."

    เซย์จิรู้ดีถ้าเป็นคำขอร้องของน้องชายเพียงคนเดียวนาโอะไม่มีทางปฎิเสธได้ และเขายอมรับอย่างไร้ซึ่งคำแก้ตัวใด ๆ ว่ากำลังฉวยโอกาสจากจุดอ่อนนี้อยู่ ดวงตาสีดำสนิทเหลือบมองเด็กน้อยที่นั่งแกว่งขากอดหมอนอย่างอารมณ์ดีอยู่บนโซฟาด้านหลัง ริมฝีปากเรียวจึงระบายรอยยิ้มกว้างออกมาบ้าง บรรยากาศอันอบอวลไปด้วยความสุขแผ่ขยายไปทั่วทั้งห้องซึ่งนาโอะได้แต่ไม่เข้าใจว่ามาจากเหตุใด

    " ทำอะไรกันอยู่น่ะ "
    ผู้บุกรุกที่แอบมองทั้งสามคนอยู่นานพอควรตัดสินใจสาวเท้าเข้ามาในห้องรับแขก โดยไม่มีการขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อนเหมือนเช่นเคย รอยยิ้มเริงร่าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวปรากฏอยู่บนใบหน้า

    " ไดยะ!! "

    เซย์จิ นาโอะและเทะซึโอะเรียกชื่อผู้ที่ไม่ได้เจอมาเป็นเวลาแรมเดือนพร้อมกัน

TBC

ขอโทษด้วยค่ะคราวนี้ก็มาต่อช้าอีกแล้ว เข้าช่วงสุดท้ายของเทอมแล้วทั้งงานทั้งสอบกำลังดุเดือดเลยล่ะค่ะ (ฮา)
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นตอนที่แล้วทุกเม้นเลยค่ะ!! >w<


หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 28-08-2010 23:25:49
ไดยะจ๋าา เฮล์พเซย์จิพลีสสส !

ฮิโรกิเริ่มเลวขึ้นทุกวัน ๆ
ถ้าไม่มีฮิโรกิ ค.สัมพันธ์ก็น่าจะดีขึ้นเยอะแล้วแท้ ๆ
เ้ว้ยยย เกลียดมัน ๆ :m31:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 28-08-2010 23:32:26
ยังคงไม่เคลียร์ เฮ้ออออออออออออออออ

ไดยะซังงงงงงงงงงงงงง มาเก็บฮิโรกิไปคืนท่านเจ้าของร้านทีสิคร้า หงิงๆ
เซย์จิเนียนได้น่ารักมากอ้ะ แต่ก็นะ คนที่ทำร้ายไว้ขนาดนั้น
จะให้ใช้เวลาแค่นี้ทำความเข้าใจน่ะมันได้ แต่ให้ยอมรับเลยมันยากนินาโอะจังนิ

ขอร้องล่ะค่ะพระเจ้า ขอ miracle of love จงบังเกิด อย่าให้ต้องมีเรื่องร้ายๆอีกเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-08-2010 23:45:39
ฮิโรกิจะเลวไปถึงไหนฮะ  ความรักคือการแย่งชิงเหรอ
นาโอะก็นะ  ใจแข็งสุด ๆ ไปเลย
หวังว่าเทะซึโอะจะช่วยให้นาโอะเห็นความจริงใจของเซจิบ้างนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 29-08-2010 00:16:18
อัศวินม้าขาวมาช่วยแล้ววว

เอ๊ะ หรือมาขัดจังหวะล่ะเนี่ย

พยายามเข้าเซย์จิ มีตัวช่วยน่ารักอย่างเทะสึจังด้วย
ชนะเห็นๆ นะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 29-08-2010 00:53:37
เทะซึโอะ  เด็กเจ้าเล่ห์ :-[ :-[ :-[

น่ารักจังเลยอ่าาา

แล้วอย่างงี้เมื่อไหร่นาโอะจะใจอ่อนซักทีอ่าาาา

ไดยะนายมาแล้วก็ช่วยเซย์จิด้วยแล้วกันน่ะ  สู้ๆๆๆๆๆ  555++

โยนงานให้จังๆเลย  หุหุ

ไรเตอร์  งานยุ่งมากเลยใช่มั๊ย??  สู้ๆๆๆๆน่ะ  เราก็เยอะเหมือนกานนน  เซงชะมัด
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-08-2010 01:08:55
 :เฮ้อ:เรื่องยังยุ่งเหมือนเคย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 29-08-2010 09:15:16
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกใครก็ได้
ช่วยเอาไอ้ฮิโรกิไปเก็บหน่อย :angry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-08-2010 17:57:45
รำคาญฮิโรกิจริง ชิส์ เอาไปไกลๆหน่อยเซย์จิ :m16:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: *4_m3* ที่ 29-08-2010 18:31:47
ไดยะมาช่วยกู้คะแนนใ้ห้เซยืจิหน่อยสิคะ เก็บฮิโรกิกลับร้านไปเลยนะ
เอ๊ะ!!หรือเราจะเชียร์ให้ไดยะคู่กะฮิโรกิดีอ่ะจะได้หมดตัวปัญหา :oni3:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 29-08-2010 20:34:06
สนุกค่ะ

ตอนนี้สงสารเซย์จิอ่ะ


 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 29-08-2010 21:36:37
เห็นไดยะ เหมือนเห็นพระเอก  :laugh:

รอลุ้นสถานการณ์หน้าค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 20-09-2010 21:42:16
เอาไอ้ฮิโรกิบ้าบอคอแตกนั่นออกไปได้ม้ายยยยยยยยยยยย

เกลียดมันจังเลยอ่ะ

อ่า พระผู้เป็นเจ้าประทานไดยะมาสักที

ช่วยหน่อยเหอะไดยะคุง เซย์จิกำลังแย่ แฮ่

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 01-10-2010 07:50:52
คิดถึงเทะซึจังอ่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 01-10-2010 12:30:31
ไดยะซัง พระเอกของพระเอกของเรื่องนี้มาแล้วววว
ช่วยเซยจิหน่อยเร็ว โดนฮิโรกิทำแต้มห่างไปเยอะแล้ว
นานๆทีจะอยู่พร้อมแบบครอบครัวสุขสันต์
เทะซึน่ารักเหมือนเดิม  :-[
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 01-10-2010 22:00:15
คิดถึงเรื่องนี้ม๊ากกกกกกกกกกก อยากอ่านๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 09-10-2010 22:03:47
Miracle 25

    หากมีใครสักคนติดใจสงสัยว่าเหตุใดเซย์จิซึ่งไม่เคยผูกพันกับผู้ใด ถึงหลงใหลใครสักคนมากจนยอมเปลี่ยนตัวเองได้ถึงเพียงนี้ เขาคงตอบอย่างไม่ลังเล เพราะความซื่อตรงของนาโอะยังไงล่ะ และหากจะถามต่อไปว่าเจ้าของดวงตาสีอ่อนซื่อตรงอย่างไร เซย์จิเชื่อว่าถึงใช้เวลาทั้งวันก็คงพร่ำพรรณนาได้ไม่จบไม่สิ้น

    ความตรงไปตรงมาเหล่านั้นเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สัมผัสพูดคุยด้วย หลังจากส่งนาโอะไปองค์กรลับเมื่ออายุครบกำหนด เซย์จิเคยใช้หนูทดลองคนอื่นที่รูปร่างต้องตาต้องใจเป็นเครื่องระบายอารมณ์ใคร่เช่นเดียวกับที่ทำกับนาโอะ ทว่าทันทีที่แนะนำตัวพร้อมบอกสถานะของตน เหยื่อตัวน้อยเป็นต้องเข้ามาประจบเอาใจอย่างหวังผลทุกรายไป ไม่เคยมีผู้ใดเลยจะเป็นอย่างนาโอะที่ดิ้นรดขัดขืนอย่างไม่คิดชีวิต นั่นคงเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าของดวงตาสีอ่อนซึ่งแฝงไว้ด้วยความชิงชัง และหวาดกลัวยามมองมายังเซย์จิตลอดหลายปีที่โดนจองจำ ติดตรึงอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืมมาโดยตลอด

    แต่มาจนถึงตอนนี้ดวงตาคู่นั้นไม่ฉายแววหวาดหวั่นอีกต่อไป หากแต่กลับเต็มไปด้วยความหมางเมิน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยเมื่อคิดถึงสิ่งที่ตนกระทำต่อนาโอะในอดีต แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำใจยอมรับได้โดยง่ายด้วยเช่นกัน เหมือนดังเช่นตอนนี้ที่บรรยากาศในห้องรับแขกราวกับถูกเส้นบาง ๆ ขีดคั้นระหว่างเซย์จิและนาโอะกับเทะซึโอะเอาไว้ ซึ่งเจ้าของบ้านไม่ชอบใจบรรยากาศเช่นนี้เอาเสียเลย

    ความตึงเครียดเข้าครอบครองทุกอณูอากาศ หลังเจ้าของบ้านและผู้ร่วมชายคาร่างเพรียวมีปากเสียงกันเป็นเวลานาน อีกสองวันจะถึงวันเยี่ยมชมการเรียนการสอนที่โรงเรียนอนุบาลของเทะซึโอะ แน่นอนว่าผู้เป็นพี่ชายซึ่งถือเป็นผู้ปกครองเพียงคนเดียวต้องเข้าร่วมด้วย ทุกอย่างคงผ่านไปด้วยดี ถ้าเซย์จิไม่เอ่ยปากยืนกรานจะเข้าไปดูการเรียนการสอนด้วยกัน

    ยิ่งคิดเท่าไหร่นาโอะก็ยิ่งไม่เข้าใจ สิ่งที่ชายผู้นี้พร่ำบอกมีเพียงว่ารักเขาและสำนึกผิดแล้วเท่านั้น ทั้งที่น่าจะยอมวางมือจากเทะซึโอะที่เคยถูกมองเป็นเพียงผลการทดลองมาโดยตลอดไปแล้ว เหตุใดจึงแสดงท่าทีราวกับมีสิทธิ์ในตัวน้องชายของเขาอยู่อีก และยิ่งทำใจกว้างยอมรับสิ่งที่เซย์จิเรียกร้องมาไม่ได้เป็นอันขาด ในซอกหลืบของความรู้สึกอะไรบางอย่างพร่ำกระซิบเตือนนาโอะอยู่เสมอ ระวังไว้ให้ดีเถิดชายผู้นี้ เซย์จิผู้โหดร้ายจะพรากน้องชายคนสำคัญไป

    แต่แม้จะพร่ำบอกสักแค่ไหนว่าตนและเทะซึโอะจะไม่ฉวยโอกาสจากช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตามลำพังหนีไปอีก ผู้ที่อยู่ในสถานะเหนือกว่าอย่างเซย์จิก็ไม่ยอมอยู่ท่าเดียว จนในที่สุดนาโอะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เอ่ยปากตอบตกลงยอมให้นักธุรกิจหนุ่มเข้าร่วมชมการเรียนการสอน ในฐานะผู้ปกครองอีกคนหนึ่งของเทะซึโอะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะไม่เต็มใจเลยก็ตาม รอยยิ้มของน้องชายตัวน้อยยามที่รู้ว่าพี่ชายตัวโตจะเข้าร่วมงานวันนั้นด้วย เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้นาโอะรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง

    หลังได้คำตอบอย่างที่ต้องการ เซย์จิก็แทบไม่มีเวลาว่างมายุ่งเกี่ยวกับสองพี่น้องอีกเลย ยกเว้นเวลาไปรับไปส่งเทะซึโอะที่โรงเรียนอนุบาลเท่านั้น นอกจากนั้นจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องส่วนตัวตลอดเวลา ไม่สนใจไดยะที่แวะเวียนมาหา หรือแม้กระทั่งฮิโรกิที่คอยมาก่อกวนไม่เลิกรา เพราะวางแผนบางอย่างอยู่ หรือเพราะตื่นเต้นกับอะไรอยู่นาโอะก็สุดจะคาดเดาได้

-------------------

    เช้าวันเยี่ยมชมการเรียนการสอน ใบหน้าหวานที่ดูไม่สบอารมณ์นักแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวาน เมื่อเด็กชายตัวน้อยสะพายกระเป๋าวิ่งตรงเข้ามาหา ที่เดินตามมาไม่ห่างคือเจ้าของบ้านซึ่งปกติจะเห็นสวมแต่ชุดสูท มาวันนี้กลับใส่เพียงกางเกงยีนส์ และเสื้อยืดธรรมดาอย่างที่นาโอะไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะไม่ได้อยู่ในชุดเป็นทางการหรืออย่างไรไม่ทราบ เจ้าของดวงตาสีอ่อนที่ลอบมองไม่วางตาถึงรู้สึกราวกับชายผู้นี้เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาทั่วไป หาใช่ผู้ที่มีอีกครึ่งชีวิตอยู่ในโลกเบื้องหลังแสงสว่างที่มากด้วยอำนาจไม่

    ทว่านั้นเป็นแค่ก้อนความคิดที่ผุดขึ้นมา และสลายหายไปเหมือนฟองสบู่เท่านั้น สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความไม่เข้าใจในตัวชายร่างสูงคนนี้ แน่นอนข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดเซย์จิจึงต้องการไปร่วมงานวันนี้ด้วยยังคงอยู่ แต่อีกประเด็นที่เพิ่มมา คือนักธุรกิจระดับผู้นำที่น่าจะเป็นรู้มารยาททางสังคมเป็นอย่างดี มีเหตุผลอะไรถึงเลือกใส่ชุดลำลองเป็นกันเองอย่างนี้ไปงานเยี่ยมชมการสอน ที่ต้องพบเจอผู้ปกครองซึ่งอยู่ในสถานะทางสังคมที่หลากหลายของเด็กนักเรียนคนอื่น

    สิ่งที่นาโอะกังวลหาใช่ภาพลักษณ์ภายนอกที่จะถูกประเมินในทางที่แย่ลง หากแต่เป็นเรื่องที่เซย์จิกำลังวางแผนอยู่ต่างหาก ชายหนุ่มคิดว่าการเยี่ยมชมการสอนเป็นนัดไปปิกนิกที่สวนสาธารณะหรืออย่างไร ทั้งที่ตัวนาโอะเองมีเรื่องให้กลุ้มใจจนนอนไม่หลับอยู่มากมาย ทั้งกลัวคำถามละลาบละล้วงจากผู้ปกครองคนอื่นถึงสภาพครอบครัวของเทะซึโอะ ที่มีเพียงผู้ชายสองคนมาแทนที่พ่อและแม่อย่างที่ควรเป็น ซ้ำร้ายไปกว่านั้นหนึ่งในนั้นยังเป็นคนนอกที่ดันทุรังจะเข้าร่วมให้ได้ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย

    และเนื่องด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่นาโอะจะได้สัมผัสโลกภายนอกหลังจากต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ มานานหลายปี จึงยิ่งกลัวประหม่าจนเผลอทำเรื่องผิดพลาดอะไรเข้า และพลอยทำให้เด็กชายถูกเพื่อนล้อว่ามีพี่ชายไม่เอาไหนได้ นาโอะไม่รู้ว่าโลกภายนอกที่ถูกตัดขาดมาเป็นเวลาเกือบสิบปีเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ไม่รู้ว่าควรวางตัวยังไง เป็นธรรมดาที่จะกังวลอย่างไม่อาจห้ามได้ เมื่อมาเห็นเซย์จิแต่งกายราวกับไม่ใส่ใจอะไรมากนักก็อดหงุดหงิดใจขึ้นมาไม่ได้

    " ทำไมคุณถึงใส่ชุดแบบนี้ล่ะครับ "
    เจ้าของดวงตาขุ่นเคืองเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อนอย่างที่ไม่ค่อยมีนัก และมองคู่สนทนาตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นการย้ำคำถาม

    " หือ ? ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ ฉันใส่ชุดนี้แล้วดูไม่ดีเหรอ "
    เซย์จิยิ้มกว้าง ดูดีมากจนแทบสลัดภาพชายหนุ่มผู้โหดร้ายออกไปจากความทรงจำได้เลยทีเดียว กระนั้นนาโอะกลับยิ่งหงุดหงิดในการกระทำนี้มากขึ้น ตั้งแต่สารภาพรักอย่างคาดไม่ถึงชายผู้นี้ก็เปลี่ยนไป อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นคือกิริยาแนบเนียนเสียจนน่าหมั่นไส้ ระยะหลังมานี้เซย์จิหาได้มีท่าทีสำนึกผิดให้เห็นอีกต่อไป แต่กลับปฏิบัติด้วยราวกับระหว่างคนทั้งสองไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน

    นาโอะเคยเอาเรื่องทั้งหมดนี้ไปปรึกษากับฮิโรกิ และคำเฉลยจากเพื่อนสนิทก็ช่วยไขข้อข้องใจให้ได้ในระดับหนึ่ง เหตุผลที่เซย์จิแสดงท่าทีอย่างนี้ ต้องเป็นเพราะนักธุรกิจหนุ่มผู้นี้หาได้สำนึกผิดจากใจจริงไม่ ตอนนี้คงหน่ายที่ต้องแสดงท่าทางราวกับสำนึกผิดเจียนตายแล้ว จึงเปลี่ยนเป็นรุกเข้าหาในรูปแบบนี้ โดยเลิกคำนึงถึงสิ่งที่ตนเคยทำไว้อีกต่อไป หากปล่อยไปไว้เช่นนี้ต่อไปไม่นานชายผู้เหี้ยมโหดคนเดิมจะกลับมา

    ฮิโรกิเฝ้าย้ำเตือนเช่นนี้อยู่เสมอ อย่าได้เผลอวางใจชายผู้นี้เป็นอันขาด คำหวานหูโป้ปดนั่นทั้งหมดเป็นเพียงเกมแก้เบื่อเท่านั้น

    ในตอนแรกนาโอะยังลังเลไม่อยากปักใจเชื่อสิ่งที่ฮิโรกิพูดเท่าใดนัก แต่เมื่อพบกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันถึงความไม่จริงใจของเซย์จิ ฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดสะบั้นลง นับจากนั้นเป็นต้นมาเขาไม่เคยห้ามความหวาดกลัวที่เข้าเกาะกุมจิตใจอีกครั้งได้เลย กลัวทุกอย่างจะกลับไปเป็นแบบเดิมอีก

    แต่ในเมื่อเวลานี้ชายผู้โหดร้ายคนนั้นยังเพลิดเพลินกับการสวมหนังแกะหยอกล้อเหยื่อตัวน้อยอยู่ เจ้าเหยื่อก็ขอทำใจกล้าข่มความกลัวเล่นด้วยดูสักครั้งก่อนจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป ดังนั้นนาโอะจึงเลือกข่มความกลัวไว้ให้มิด และลองปฏิบัติกับผู้ที่เคยรังแกตนมาตลอดด้วยท่าทีที่แปลกไปบ้าง

    " เปล่าครับ "
    ร่างเพรียวเลือกปัดข้อสงสัยอันน่ารำคาญออกไปจนหมดชั่วคราว เปล่าประโยชน์ที่จะมาคิดหาคำตอบอะไรในเวลานี้

    " แน่ใจนะ ? มีอะไรก็บอกมาสิ "
    ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เจ้าของกลิ่นกายหอม แต่กลับถูกเมินด้วยการเดินผละไปอีกทาง

    " ไม่มีอะไรหรอกครับ "
    " ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว เรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันเวลา "
    คิ้วหนาเลิกขึ้นเป็นเชิงสงสัยในพฤติกรรมน่าสงสัยของนาโอะ ก่อนเอ่ยชวนแล้วคว้ามือเด็กชายที่ยืนมองคน โน้นคนนี้ทีอยู่จูงเดินออกไป

--------------------

    ทุกอย่างผิดไปจากที่คิดไว้อย่างสิ้นเชิง ไม่มีบรรยากาศตึงเครียดเหมือนที่คิดไว้ ไม่มีคำถามละลาบละล้วงใด ๆ ทั้งนั้น ห้องเรียนห้องเล็กถูกดัดแปลงเป็นสนามแข่งปั้นดินน้ำมัน เรื่องไร้สาระอย่างสถานะทางสังคม หรืออะไรทำนองนั้นจึงไม่อยู่ในความคิดของผู้ปกครองทุกคน ที่เริ่มหันมาสนใจกิจกรรมผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานกับลูกตัวน้อยอีกต่อไป

    โต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบไว้มุมหนึ่งของห้อง มีโต๊ะตั้งพื้นตัวเล็กหลายตัวครบจำนวนเด็กนักเรียนวางไว้แทนที่ แม้เทะซึโอะจะยังเป็นเด็กและนาโอะก็ตัวผอมบาง แต่เมื่อมีชายร่างสูงใหญ่อย่างเซย์จิเพิ่มเข้ามาด้วย พื้นที่ของโต๊ะตัวเล็ก ๆที่มีป้ายชื่อเทะซึโอะแปะอยู่จึงแคบลงถนัดตา

    ดวงตาสีอ่อนมองสำรวจไปรอบห้องเรียน ขณะปล่อยให้สองคนที่เหลือบีบนวดดินเหนียวหลากสีที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ กระดานหน้าห้องมีตารางแผนผังที่นั่งนักเรียนแต่ละคนถูกล้อมกรอบไว้ด้วยสติ๊กเกอร์รูปดาวจำนวนมาก ถัดไปเป็นหน้าต่างสีสันฉูดฉาดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผ้าม่านเรียงตามสีวันถูกแขวนไว้สลับกันตามบานหน้าต่าง

    ที่หลังห้องมีล็อคเกอร์ขนาดเล็กเรียงกันจำนวนมาก มีตัวอักษรเอียงโย้ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นักลงลายมือเขียนชื่อแสดงความเป็นเจ้าของไว้ด้านหน้า นาโอะเห็นลายมือที่คล้ายจะเป็นของเทะซึโอะ และรูปวาดเอียง ๆ เบี้ยว ๆ ที่เจ้าตัวพยายามวาดลงไปบนที่ว่างของกระดาษหน้าล็อคเกอร์อันหนึ่ง ทำให้ผู้เป็นพี่อดลอบยิ้มออกมาไม่ได้ ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ทำให้นาโอะสบายใจขึ้นมาได้บ้าง ว่าน้องชายตัวน้อยคงมีความสุขมากตอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้

    " พี่นาโอะขำอะไรน่ะฮะ "
    เด็กชายแสดงอาการร้อนตัวทันทีที่มองตามสายตาของนาโอะไป ใบหน้าขาวแดงเรื่อเพราะความอายด้วยเข้าใจว่าผลงานชิ้นเอกของตนดูน่าขันในสายตาผู้เป็นพี่

    " แล้วเราคิดว่าพี่ขำอะไรล่ะ "
    " ท..เทะซึจังไม่รู้หรอกฮะ! " เทะซึโอะสะบัดหน้าใส่

    " ไหนให้พี่ดูสิปั้นอะไรไปถึงไหนแล้ว "
    แค่เห็นน้องชายในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้เห็นพัฒนาการทางอารมณ์เช่นนี้ นาโอะก็ไม่อาจหยุดยิ้มได้เลย เด็กน้อยว่าง่ายของเขากำลังเติบโตขึ้นทีละเล็กละน้อย เขากล่าวเปลี่ยนเรื่องก่อนดึงความสนใจกลับมายังดินน้ำมันด้านหน้าอีกครั้ง

    " ปั้นยีราฟฮะ แต่พี่เซย์จิทำเสียไปตั้งหลายตัว "
    " อย่ามากล่าวหากันอย่างนั้นสิเทะซึโอะ ยังปั้นไม่เสร็จไม่ใช่ทำเสีย "
    นาโอะได้เห็นคนร้อนตัวอีกคน และทันทีที่เลื่อนสายตาไปยังซากดินน้ำมัน ซึ่งเหมือนจะเป็นชิ้นส่วนของอะไรสักอย่างที่ไม่อาจระบุได้ด้านหน้าเซย์จิ เขาก็ทนนั่งปั้นหน้านิ่งอีกต่อไปไม่ไหวต้องหลุดขำพรืดออกมา ให้เจ้าของผลงานที่เจ้าตัวอ้างว่ายังไม่เสร็จหน้าเสียยิ่งกว่าเดิม ก่อนเจ้าของรอยยิ้มตรึงใจจะรู้ตัวว่านี่เป็นครั้งแรกที่ตนหัวเราะออกมาจากใจจริงต่อหน้าเซย์จิ

    ต้องเป็นเพราะบรรยากาศผ่อนคลายลงกว่าปกติรอบตัวชายผู้นี้อย่างแน่นอน ที่ทำให้เผลอตัวลดความหวาดระแวงลงได้ถึงเพียงนี้ นาโอะแก้ตัวเช่นนั้นกับตัวเอง

    " หัวเราะอะไรน่ะ "
    เจ้าของฝ่ามือหนาขยำดินน้ำมันรวมกันเป็นก้อนกลมอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี นั่นยิ่งทำให้ดูน่าขันยิ่งขึ้น ตอนนี้นาโอะเริ่มคิดได้ใหม่ ดีแล้วที่เซย์จิเลือกใส่ชุดนี้มาในวันนี้ คงไม่น่าดูนัก หากชายหนุ่มในมาดธุรกิจดูภูมิฐานมีสีหน้าลำบากใจที่ปั้นดินน้ำมันไม่สำเร็จสักที ทว่าไม่นานนักแววตากระอักกระอ่วนของเซย์จิกลับเปลี่ยนเป็นวาววับอย่างไม่น่าไว้ใจขึ้นมา ก่อนยื่นดินเหนียวมาด้านหน้าผู้ที่ยังไม่ยอมตอบคำถามของตน

    " สอนฉันปั้นเหมือนที่เคยสอนเขียนหนังสือทีสิ "
    ร่างกายสูงใหญ่กระเถิบเข้ามายังโต๊ะฝั่งที่นาโอะนั่งอยู่มากขึ้น เรียวปากบางวาดรอยยิ้มหวานราวกับจะหลอกล่อให้เหยื่อติดกับก็ไม่ปาน ใบหน้าที่ยังมีร่องรอยของเสียงหัวเราะอยู่ส่ายพรืดทันที แล้วกระถดกายถอยหนีไปนั่งเบียดติดกับเด็กชายที่อยู่อีกฟากของโต๊ะ

    " ให้เทะซึจังสอนสิครับ ผมไม่ถนัดเรื่องพวกนี้ "

    " เทะซึโอะก็ไม่ถนัดเหมือนฉันนั่นแหละ ใช่มั้ยเทะซึโอะ "
    ดวงตาดำสนิทเหลือบมองผู้ที่ถูกพาดพิงถึงคล้ายจะหาผู้ช่วยพูดเกลี่ยกล่อมคนใจแข็ง ทว่าเมื่อเห็นดินเหนียวถูกปั้นแต่งเป็นรูปยีราฟอย่างสวยงามบนมือเล็ก ๆ ป้อม ๆ ก็รู้ทันทีว่าเขาไม่ควรใช้แผนเดิมเลย เรียวปากสีหวานจึงคลี่ยิ้มบางอย่างรู้ทันในความคิด

    ..ขอโทษฮะป๊ะป๋า..

    เทะซึโอะได้แต่ก้มหน้าก้มตาขณะกล่าวขอโทษอยู่ในใจ ท้ายที่สุดคนเจ้าแผนการก็ต้องนั่งปั้นดินน้ำมันกับเด็กชายเพียงลำพังสองคน โดยไม่ได้สัมผัสแม้แต่ปลายนิ้วบอบบางของผู้ที่คอยเฝ้าดูผลงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น เซย์จิในตอนนี้ดูไปแล้วคล้ายหมาป่ามากด้วยพิษสงที่กลายร่างเป็นสุนัขบ้านตัวโต และมันกำลังหงอยที่ไม่ได้ลิ้มรสอาหารจานโปรด

    การเยี่ยมชมการเรียนการสอนวันนั้นจบลงที่เทะซึโอะไม่ได้รางวัลอะไรจากครูประจำชั้นเลย เพราะเจ้าหมาหงอยตัวโตไม่มีกะจิตกะใจจะให้ความร่วมมือด้วย ซ้ำยังทำให้ยีราฟของเด็กชายเสียรูปร่างไปอีก ส่วนนาโอะเพียงแค่คลึงดินน้ำมันเล่นขณะเมินเซย์จิโดยสมบูรณ์แบบ และชวนน้องชายคุยไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น

    หากเซย์จิคนนั้นจะใช้กำลังช่วงชิงทุกอย่างไปจากนาโอะเหมือนที่เคยทำมาตลอดก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่กลับเลือกถนอมน้ำใจกันเช่นนี้ พอไม่ได้ดังหวังก็มีท่าทีเซื่องซึมอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่เป็นเกมที่ตัวเองเป็นผู้ได้เปรียบ กลับลงทุนเล่นละครได้เสียสมบทบาทถึงเพียงนี้ ไม่ให้รู้สึกขบขันอย่างไรไหว แต่ยังไงซะก็ดิ้นรนขัดขืนอะไรไม่ได้ หากจะลองตักตวงหาความสุขจากเกมนี้บ้างคงเสียหายอะไร

    ..ผมจะเล่นเกมกับคุณ จนกว่าคุณจะเบื่อเลยก็แล้วกันครับ..

    เมื่อเวลาที่เกมจบลงมาถึง นาโอะได้แต่หวังจากส่วนลึกว่าไดยะจะสามารถช่วยเกลี้ยกล่อมไม่ให้เซย์จิทำร้ายเด็กชายได้


---------------------------------
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 24] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 09-10-2010 22:06:05

    แสงแดดและลูกบอลคือสิ่งที่เด็กผู้ชายทุกคนต้องลิ้มลอง
    สนามฟุตบอลนี้เป็นของเรา!

    เวลาบ่ายแก่ในโรงเรียนอนุบาลหลังผู้ปกครองและเด็กนักเรียนคนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว สนามฟุตบอลขนาดเล็กของโรงเรียนจึงตกเป็นของสามชีวิตที่ยังเหลืออยู่ ทันทีที่ออกมาจากห้องเรียน เจ้าถิ่นอย่างเทะซึโอะก็รีบพุ่งตรงมายังสนามเด็กเล่น ก่อนชวนพี่ชายทั้งสองให้เป็นเพื่อนเล่นด้วย รอยยิ้มน่าชังไม่ว่าใครก็ปฏิเสธไม่ลง เวลาล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาลงเอยที่ลูกบอลกลม ๆ ที่มีผู้เล่นเพียงสามคนอยู่ในตอนนี้

    " พี่เซย์จิขายาวกว่าขี้โกงนี่ฮะ! "
    หลังถูกตีประตูนำไปถึงห้าแต้มเด็กชายก็ประท้วงทันที ทั้งที่ข้างตนมีนาโอะอยู่ด้วยและเซย์จิก็มีแค่คนเดียว แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตีเสมอไม่ได้เลย

    " อยากสูงกว่านี้ ขายาวกว่านี้ก็รีบโตให้ทันสิ "
    " พี่เซย์จิตัวสูงขนาดนี้ เมื่อไหร่เทะซึจังจะโตทันล่ะฮะ "
    " เดี๋ยวก็โตทันเองแหละ " ผมเส้นเล็กถูกฝ่ามือหนาขยี้จนฟูด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเด็กชายหน้ามุ่ย
    " พี่นาโอะยังสูงไม่ถึงเลย แล้วเทะซึจังจะสูงเท่าพี่เซย์จิหรือ......"

    เซย์จิยิ้มน้อย ๆ ให้คำบ่นกระปอดกระแปดเหล่านั้น พลางเหลือบมองผู้เล่นอีกคนยังอีกฝั่งสนาม มองเส้นผมสีอ่อนเข้มขึ้นเล็กน้อยเพราะชื้นเหงื่อ และสิ่งผิดปกติบางอย่างที่เขาเพิ่งทันได้สังเกตเห็น ร่างผอมบางกำลังหอบหายใจอย่างรุนแรงจนน่ากลัว ใบหน้าแดงจัดดูน่าสงสาร ขาเพรียวทั้งสองข้างสั่นระริกและกำลังจะทรงตัวยืนไม่อยู่

    " นาโอะ! "
    ชายหนุ่มรีบเข้าไปช้อนอุ้มร่างที่ทำท่าจะล้มพับลงไปไว้ได้ทัน ก่อนพาไปนอนราบบนม้านั่งไม่ไกลนัก เขานึกตำหนิตัวเองเป็นร้อยเป็นพันครั้งที่ลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิท นาโอะร่างกายอ่อนแอแค่ไหนตัวเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ กลับปล่อยให้วิ่งไล่ลูกบอลอย่างเอาเป็นเอาตายกับตนและเทะซึโอะเป็นเวลานาน 

    " พี่นาโอะเป็นอะไรไปเหรอฮะ " เด็กชายเลิกสนใจลูกบอลแล้ววิ่งเข้ามาหา
    " เป็นลมแดดน่ะ เทะซึโอะอยู่เฉย ๆ ก่อนนะ "
    " อึก..พี่นาโอะจะเป็นอะไรมั้ย......."
    มือเล็กกำชายเสื้อแน่นขณะพยายามกลั้นเสียงสะอื้น พี่ชายของเขาไม่สบายอีกแล้วเทะซึโอะไม่ชอบเลย เขาไม่อยากสูญเสียคนสำคัญไป

    " ไม่เป็นอะไรหรอก เทะซึโอะเป็นเด็กดีไม่ร้องไห้นะ "
    เซย์จิปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตบนร่างเพรียว และถอดรองเท้าออกให้ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลง ในใจพลุ่งพล่านด้วยความร้อนใจและเฝ้าแต่ต่อว่าตนเอง แม้จะปลอบเด็กชายไปอย่างนั้น แต่ตัวเขาเองกลับเป็นกังวลยิ่งกว่าใคร

    " นาโอะ..นาโอะ ตอบสิ "
    เขาเป็นแค่นักธุรกิจผู้หยาบกร้าน ไม่เคยใส่ใจแม้แต่จะจำวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น แค่รู้ว่าต้องคลายเสื้อผ้าออกก็นับว่าดีถมเถไปแล้ว ตอนนี้จึงได้เพียงลูบแก้มที่ร้อนผ่าว พลางร้องเรียกชื่ออย่างสิ้นหวังเท่านั้น ในช่วงวิกฤตินี้นี่เองสายลมที่มักปรากฏกายอย่างไม่คาดฝันเสมอก็พัดผ่านมาราวกับรู้ล่วงหน้า

    ..สายลมที่ชื่อไดยะ..

    " เรียกให้ตายก็ไม่ได้ผลหรอกนะ หลบไปสิ "
    ถ้อยคำแดกดันตามนิสัยที่เซย์จิทราบดีว่าจริงใจที่สุดดังขึ้น เขาหลีกทางให้เพื่อนสนิทโดยไม่ไต่ถามอะไรให้เสียเวลา ไม่นานนักหลังได้รับการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง สีหน้าของนาโอะจึงค่อยดูดีขึ้น กระนั้นความรู้สึกผิดในใจกลับไม่จางหายลงไปด้วย เขาทำพลาดอีกแล้ว

    " ถ้าฉันไม่เอะใจว่าทำไมพวกนายถึงกลับช้า แล้วลองแวะมาดูจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย "
    คุณหมอคนเก่งเปิดปากบ่นยาวเหยียดโดยไม่เว้นช่วงหายใจ

    " ฉันไม่ได้ตั้งใจ.."
    " เอาเหอะ แค่เป็นลมเท่านั้นเอง ใคร ๆ ก็เป็นกันได้ "
    พอเห็นเซย์จิที่เอาแต่กุมมือเรียวของผู้ที่ยังนอนหอบหายใจอยู่ไม่ปล่อย แล้วตอบรับคำบ่นของตนด้วยน้ำเสียงแผ่วราวกับโลกใบนี้มีเพียงนาโอะ ไดยะก็คร้านจะบ่นทีเล่นทีจริงอย่างที่ตั้งใจจะแกล้งตั้งแต่แรกอีก เขาอุ้มเทะซึโอะที่คลายอาการตกใจลงแล้ว แต่ยังไม่กล้าเข้าไปแทรกกลางระหว่างผู้ให้กำเนิดทั้งสองขึ้นมากอดไว้

    " ตอนบ่ายฉันแวะไปบ้านนายมา ฮิโรกิก็มาด้วยนะแต่ฉันบอกให้กลับไปแล้ว "
    ไดยะเปิดประเด็นสนทนาขึ้น ชื่อฮิโรกิทำให้เซย์จิหันมาสนใจได้อย่างที่คิดเอาไว้

    " ฉันรู้อยู่แล้วว่าหมอนั่นต้องมา "
    " อย่างที่คิดไว้เลย ระหว่างที่ฉันไม่อยู่เกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ ด้วย "
    น้ำเสียงที่ฟังดูขุ่นมัวของเซย์จิ กับสถานการณ์ตึงเครียดภายในบ้านทำให้ไดยะคาดเดาทุกอย่างได้ไม่ยากนัก

    " ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ ก็แค่มดปลวก "
    เจ้ามดมีพิษน่ารำคาญชอบเข้ามาเพ่นพ่านในบ้าน และไต่ตอมขนมหวานของเซย์จิอยู่เสมอ บางครั้งก็มักลอบกัดเจ้าของบ้านด้วยคำพูดเสียดสีเหน็บแนบ ครั้นจะบดขยี้ให้สิ้นเรื่องสิ้นราวก็ยากเต็มที ในเมื่อขนมหวานที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรของเขา ยินยอมให้เจ้ามดร้ายเข้าใกล้และตอดลิ้มชิมทีละน้อย

    ราวกับโดนน้ำหวานจากเจ้ามดมอมเมาอยู่ก็ไม่ปาน..

    " อย่างนั้นเหรอ "
    ไดยะลากเสียงยาวคล้ายไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน เขาวางฝ่ามือลงบนไหล่ของเซย์จิ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมผิดไปจากทุกที
    
    " นายต้องจัดการทำอะไรสักอย่างได้แล้วนะ "
    หลายปีที่ผ่านมาจากการลงไปคลุกคลีกับพนักงานร้านเค้กอยู่เป็นประจำ ทำให้ไดยะรู้ว่าฮิโรกิเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นจริงจังมากแค่ไหน จนบางครั้งนึกกลัวความคิดของหนุ่มน้อยคนนี้ ตอนที่ลักลอบพาฮิโรกิเข้ามาช่วยนาโอะ เขาบอกแค่ให้พยายามพานาโอะกลับมา เพื่อหวังกระตุ้นความรู้สึกของเซย์จิ ทว่าทุกอย่างกลับผิดคาดเมื่อนาโอะถูกบังคับฝืนใจให้หนีออกไปด้วยความรุนแรง

    ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาสังหรณ์ใจกลัวนาโอะจะเป็นเชื้อเพลิงแปรเปลี่ยนความมุ่งมั่นเหล่านั้น ให้กลายเป็นการกระทำบุ่มบ่ามขาดสติอีก

    พอนาโอะได้สติอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงในห้องนอนที่อาศัยมาเป็นเวลาหลายเดือน ท้องฟ้าสีส้มที่เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสติจะดับวูบถูกทาทาบด้วยสีรัตติกาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การมองเห็นที่พร่าเลือนค่อยแจ่มชัดขึ้น จนเห็นแววตาแฝงความห่วงใยจากเทะซึโอะจับจ้องมองมาประหนึ่งตนป่วยหนักอย่างไรอย่างนั้น ถัดไปบนเก้าอี้ข้างเตียงคือไดยะ

    " ทำไมผมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ " เขาพยุงกายลุกขึ้นนั่ง และรับร่างน้อยของเทะซึโอะที่พุ่งเข้ามากอดไว้อย่างเด็กขวัญเสีย
    " นายเป็นลมแล้วฉันบังเอิญไปเจอพอดี เลยช่วยไว้ได้ทัน "
    " ไดยะซังเป็นคนพาผมกลับมาที่นี่เหรอครับ "
    นาโอะพยักหน้ารับคำแล้วเอ่ยถามต่อ ขณะลูบหัวปลอบน้องชายที่เอาแต่ซุกหน้ากอดแน่นไม่พูดไม่จา

    " ไม่ใช่ฉันหรอก ใครบางคนคงไม่ยอมถ้าฉันแย่งทำหน้าที่นี้ซะเอง "
    " เหรอครับ " ใครบางคนที่ว่านั่นถึงไม่พูดชื่อออกมา นาโอะก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร
    " เห็นว่าวันนี้เซย์จิไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนของเทะซึโอะด้วยกันเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ "
    หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปกะทันหันอย่างแยบยล คู่สนทนานิ่งไปนานด้วยความรู้สึกและความคิดอันหลากหลาย ทั้งสับสน ไม่เข้าใจ และมีความสุขอย่างแปลกประหลาด

    " ก็สนุกดีครับ แต่ผมไม่เข้าใจเลยทำไมเซย์จิซังต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเทะซึโอะด้วย ทั้งที่เขา...เป็นคนนอก "
    เขาเลือกตอบคำถามนั้นไม่ให้แสดงความรู้สึกที่ว้าวุ่นใจของตนออกไปมากนัก จากนั้นจึงกลบเกลื่อนด้วยคำบ่นยาวเหยียดผิดวิสัยปกติ ไดยะยิ้มพรายอย่างสมใจที่เจ้าหนูน้อยตกหลุมพรางจนได้

    " อยากรู้มั้ยล่ะว่าทำไม "
    " ครับ ? "
    เจ้าของดวงตาสีอ่อนที่ฉายแววสงสัยใคร่รู้เอียงคอเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ไดยะรู้อะไรกำลังจะบอกอะไรให้เขารู้กันนะ คุณหมอขี้แกล้งจงใจเว้นช่วงอยู่นานกว่าจะตอบคำถามออกไป ทั้งที่จำบทสนทนาที่เพื่อนสนิทโทรมาปรึกษาเมื่อหลายวันก่อนได้เป็นอย่างดี
 
    " เพราะหมอนั่นตั้งใจไปกันไม่ให้คนอื่นมาจีบนายไงล่ะ "
    คำเฉลยที่ได้ยินทำให้เรียวปากบางคลี่ยิ้มบางอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนเหลือบตามองผู้ถูกนินทาที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมจานข้าวต้มในมือ

    เหตุผลเหมือนเด็ก ๆ ที่ว่าคุณกลัวคนอื่นมาจีบผมจะจำไปชั่วชีวิตเลยล่ะครับ
    ถึงทั้งหมดจะเป็นแค่เกมของคุณก็ตาม

-----------------------------------

    บานประตูห้องปิดลงปิดกั้นนาโอะจากโลกภายนอกอีกครั้ง ริมฝีปากเรียวบนใบหน้าหวานยังไม่คลายยิ้มลง แม้จะรู้ว่าทั้งหมดคือเกม แต่วันนี้เขามีความสุขมากจนแทบจะร้องเพลงออกมาได้เสียด้วยซ้ำ ทั้งได้รู้ว่าเทะซึโอะมีความสุขดีระหว่างอยู่ที่โรงเรียน ทั้งได้รู้เหตุผลของคนปากแข็งบางคนที่ดันทุรังจะเข้าร่วมงานวันนี้ โดยไม่ยอมอธิบายอะไรเลย จนมารู้เอาจากไดยะ

    ที่ดียิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมดคือของขวัญจากเซย์จิ ที่กระซิบบอกก่อนออกจากห้องไปเป็นคนสุดท้ายเมื่อครู่ คำอนุญาตยอมให้เขาเจอเทะซึโอะได้ทุกเวลาที่ต้องการโดยปราศจากข้อแม้ใด ๆ อีก ถัดมาคือคำขอโทษพร้อมอ้อมกอดอบอุ่นที่สั่นสะท้านจนรู้สึกได้ เซย์จิกอดแน่นจนรู้สึกเจ็บคล้ายต้องการยืนยันว่าเขายังมีชีวิต มีร่างกายอันอบอุ่นอยู่ เสียงกระซิบที่สั่นไหวไม่แพ้กันข้างใบหูทำให้นาโอะไม่กล้า แม้แต่จะผลักไสปฏิเสธอ้อมกอดของเจ้าของบ้านร่างสูง

    ..วันนี้ที่ฝืนร่างกายนายมากเกินไปฉันขอโทษด้วย..

    แค่เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้เทียบอะไรไม่ได้กับสิ่งที่เซย์จิเคยทำมาในอดีตเลย แต่การปฏิบัติด้วยราวกับเขาเป็นของล้ำค่า เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อยากสูญเสียไป รวมไปถึงการยกเลิกข้อจำกัดในการใช้ชีวิตทั้งหมดของนาโอะลง ยิ่งชวนให้คิดว่าเจ้าของบ้านเริ่มใส่ใจความรู้สึกของเขาขึ้นมาบ้างแล้ว มันทำให้หัวใจดวงน้อยพองโตได้เลยทีเดียว แม้ในใจจะปฏิเสธอยู่ลึก ๆ

    ..เซย์จิซังทำไมเกมเล่นสนุกของคุณ ถึงทำให้ผมมีความสุขจังเลยล่ะครับ

    บรรยากาศอวลไอสุขถูกทำลายเพราะเสียงจากอุปกรณ์สื่อสารที่นาโอะลืมทิ้งไว้ที่บ้านตลอดทั้งวัน เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามีเบอร์ไม่ได้รับขึ้นโชว์จำนวนมาก ทั้งหมดนั่นมาจากพนักงานร้านเค้กเพียงคนเดียว นาโอะรีบกดรับสายอย่างรวดเร็วด้วยคิดว่าอีกฝ่ายอาจมีเรื่องเร่งด่วนอะไร

    " วันนี้นาโอะหายไปไหนกับใครมา "
    ประโยคแรกที่ได้ยินไม่ใช่คำทักทายอย่างที่ควรเป็น แต่กลับเป็นคำถามซักไซ้เหมือนนาโอะเป็นเด็กแอบหนีผู้ปกครองไปเที่ยวแล้วถูกจับได้

    " ไปดูการเรียนการสอนที่โรงเรียนเทะซึจังไง ผมยังไม่ได้บอกฮิโรกิเหรอ "
    น้ำเสียงที่ใกล้เคียงกับการตะคอกจนนาโอะต้องลดลงระดับเสียงของโทรศัพท์มือถือให้เบาลง ก่อนตอบคำถามออกไป

    " หมอนั่นไปด้วยใช่มั้ย "
    " อืม.."
    " ไหนนาโอะบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนา แล้วทำไมถึงยอมให้มายุ่งกับเทะซึโอะได้ล่ะ "
    ปลายสายกระชากถามเสียงห้วนเหมือนไม่ต้องการจะกักเก็บอารมณ์ไว้อีก
    " ..ผม....." ขณะที่ในอกพองฟูด้วยความสุขจากชายผู้นั้น นาโอะก็ไม่อาจพูดคำว่าเกลียดออกไปได้เหมือนเช่นเคย
    " นายเกลียดหมอนั่นใช่มั้ยนาโอะ "
    " ......ใช่ "
    คำถามไล่ต้อนคาดคั้นไม่เลิกราจนนาโอะต้องตอบด้วยเสียงเบาหวิว เขาเกลียดเซย์จิ หรือจะพูดให้ถูกก็คือเขาต้องเกลียดชายคนนี้ ที่โกหกหลอกลวง ที่วางแผนมากมายเพื่อเล่นสนุกกับผู้อื่นอย่างเลือดเย็น รวมไปถึงที่คอยก่อกวนความรู้สึกและความคิดของเขาในวันนี้ด้วย

    " งั้นบอกมาสิ ทำไมวันนี้ถึงยอมให้หมอนั่นไปด้วย "
    นาโอะไม่เคยรู้สึกอึดอัดที่ต้องคุยกับเพื่อนคนนี้เท่าวินาทีนี้มาก่อน ทั้งน้ำเสียงเร่งเร้า หรือแม้แต่การจาบจ้วงถามความในใจ เขาอยากได้ฮิโรกิผู้ร่าเริงที่ชวยคุยสารพัดเรื่องได้ไม่รู้เบื่อมากกว่า

    " พ..เพราะเทะซึจังไม่ได้ว่าอะไร แถมยังทำท่าเหมือนอยากให้เซย์จิซังไปด้วย แล้วฉันก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไร ก็เลย.."
    " สรุปว่าเพราะเทะซึโอะอีกแล้วสินะ "
    ปลายสายแทรกขัดขึ้นมาก่อนจะได้พูดจนจบประโยค นาโอะจึงไม่ทันได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่โดนเจ้าของบ้านเอาแต่ใจพูดเกลี่ยกล่อมแกมบังคับจนต้องยอม
    " ถ้าเทะซึโอะไม่ยอมยังไงผมก็ไม่ยอมหรอก "
    " งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว " คราวนี้ฮิโรกิพูดด้วยเสียงเย็นเยียบผิดกับเมื่อครู่ราวกับคนละคน

    " วันนี้ฮิโรกิเป็นอะไรไปน่ะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า "
    ในที่สุดนาโอะก็ทนไม่ไหวต้องถามถึงสาเหตุของความผิดปกติในตัวเพื่อนสนิทออกไป ทว่ากลับถูกบอกปัดและวางสายใส่โดยไม่ทันได้ตั้งตัว

    " แค่นี้นะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะแวะไปหา "
    ฮิโรกิกดตัดสายทิ้ง มือที่ถือโทรศัพท์กำเข้าหากัน สันกรามขบกันแน่นพยายามสะกดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้

    ถ้าเทะซึโอะรังเกียจเซย์จิ นายจะไม่ยอมหมอนั่นใช่มั้ย
    ถ้าเทะซึโอะบอกอะไร นายจะทำตามหมดใช่มั้ย
    และถ้าเทะซึโอะหายไปจากโลกนี้ซะ นายจะเป็นอิสระทั้งจากหมอนั่นและเรื่องเลวร้ายทั้งหมด..ใช่มั้ย ??

TBC Chapter 26

คราวนี้ก็หายไปนานแถมไม่ได้บอกอะไรไว้ก่อน ขอโทษคนอ่านทุกคนด้วยค่ะ T^T
แต่ปิดเทอมแล้วล่ะค่ะ ตั้งใจจะต่อให้จบก่อนเปิดเทอมให้ได้เลย!! ใกล้จะจบแล้วด้วยอีกไม่น่าจะเกิด5-7ตอน
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอ่านอยู่นะคะ!! สัญญาจะไม่ดองแล้วค่ะ (ฮา)
ปล.เหมือนตอนนี้จะบรรยายเยอะมาก ไม่ได้แต่งมาเกือบเดือนแล้วด้วย ใครอ่านแล้วงงยังไงติมาได้เต็มที่เลยนะคะ!
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25] มาต่อแล้วค่าา~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 09-10-2010 22:15:31
กอดคุณมูซู คิดถึงนาโอะจังกะเทะซึจังมากมายค่ะ

แต่ๆๆ ที่คิดถึงที่สุดก็ต้อง ไดยะซังงงงงงงงงงงงงงงงงงงง คุณเป็นบุคคลทรงคุณค่าของเรื่องนี้ค่ะ พ่อพระเอกตัวจริง ^3^


(ฮิโรกิ ถ้าแกทำร้ายเทะซึจัง ชั้นจะส่งแกไปเข้าคุกแล้วให้อยุ่ในห้องมืดไม่ต้องเห็นแสงเดือนแสงตะวัน เทะซึจังเจ็บแค่ไหน แกต้องเจ็บกว่าร้อยเท่า เพี้ยงงงงงงงงงง!!)
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25] มาต่อแล้วค่าา~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 09-10-2010 22:48:42
หายไปนานเลยน๊า :กอด1:
ตอนนี้เฃย์จิทำคะแนนขึ้นมาได้หน่อย
และรู้สึกว่านาโอะเริ่มจะหวั่นไหวแล้ว :impress2:
ส่วนฮิโรกิคิดจะทำอะไรเทะซึจัง
ถ้าเทะซึจังเป็นอะไร แกตายแน่  :pigangry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25] มาต่อแล้วค่าา~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 10-10-2010 08:06:57
โอ้ว~ มาต่อแล้วววววว มาเงียบๆไม่ส่งเสียงเลยนะ เกือบไม่รู้อยู่แล้วเชียววววว ^^

ไอ้ฮิโรกินี่คิดจะทำอะไรของมัน คิดจะฆ่าเด็กน้อยน่ารักได้ลงคอเลยเรอะ!

ไม่เคยได้ยินเรอะ Love me Love my dog อ่ะ แต่กรณีนี้ต้องเป็น Love me Love my son แทน :t2:

เฮอะ! คิดว่าไปทำร้ายเทะซึจังแล้วนาโอะจะหันมามองแกเรอะ :m31:

ทำงั้นนาโอะคงจะเสียใจมากแหงๆ คนที่คิดว่าเป็นเพื่อนสนิทกลับทำแบบนี้ เทะซึจังก็มีแผลในใจแหงๆ :เฮ้อ:

อย่านะเฟ้ย! :angry2:

ไดยะซังนี่ฉลาดจริงๆ  o3  เซย์จิยังนิ่งนอนใจ ถึงเวลาเดวิลคงออกเองแหละ

เป็นกำลังใจให้นะคะคุณmousou :L2: มาต่อยาวๆแบบนี้อีกนะ แต่ขอช่วงเวลาติดๆกันหน่อยเหอะ ^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25] มาต่อแล้วค่าา~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-10-2010 08:10:41
 :L1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25] มาต่อแล้วค่าา~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 10-10-2010 08:17:21
บวกบวกไร้ท์เตอร์

มีโรคจิตเพิ่มมาอีกคนแล้วววววววววววว ไม่น๊าๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25] มาต่อแล้วค่าา~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 10-10-2010 10:48:12
มันบ้าไปแล้วผู้ชายคนนั้น
เอาไปเก็บทีเหอะ ริอาจจะมาทำร้ายเทะซึจัง
พ่อเทะซึดูแลลูกแบบ x 2 เลยนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26.5][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 13-10-2010 18:43:08
Miracle 26.5

    ก้อนความไม่เข้าใจแยกร่างแบ่งตัวราวกับสัตว์เซลล์เดียว

    หลังงานวันเยี่ยมชมการเรียนการสอนเป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์ นาโอะเจอหน้าเจ้าของบ้านแทบจะนับครั้งได้ ส่วนใหญ่เป็นตอนไปรับไปส่งเทะซึโอะที่โรงเรียนอนุบาลเท่านั้น นอกนั้นเซย์จิจะออกไปที่ไหนสักแห่งและกลับมาอีกทีในเวลากลางดึกที่ทุกคนในบ้านเข้านอนกันหมดแล้วเสมอ ทั้งที่ได้อยู่กับน้องชายคนสำคัญได้ตลอดเวลาเท่าที่ต้องการ ทั้งยังได้เจอฮิโรกิกับไดยะอยู่เกือบทุกวันให้ไม่ต้องเหงา ไม่ถูกข่มเหงรังแก ไม่ต้องเจอหน้าเซย์จิที่ตัวเองคิดว่าเกลียดนักเกลียดหนา กระนั้นกลับยังเอาแต่เฝ้าสงสัยในตัวชายผู้นี้เรื่อยไป

    นาโอะเคยครุ่นคิดถึงธุระและสถานที่ที่ทำให้เซย์จิเสียเวลามากมายถึงขนาดนี้ได้ นักธุรกิจจะงานยุ่งมากถึงขนาดนี้เชียวหรือ เขาเองเป็นแค่คนธรรมดาไม่ค่อยรู้ตื้นลึกหนาบางของคนในอาชีพนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็เคยเห็นนักธุรกิจชั้นนำไปร่วมงานเลี้ยงต่าง ๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือทีวีเป็นประจำ คนเหล่านั้นยังมีเวลาว่างมากพอไปออกงานสังคมได้อยู่บ่อย ๆ แล้วเซย์จิที่เขาไม่เคยเห็นตามงานพวกนี้จะไม่มีเวลาอยู่ติดบ้านเลยเชียวเหรอ

    อีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะเป็นได้ไปคือองค์กรลับ ที่ซึ่งนาโอะไม่ปรารถนาจะนึกถึง ทว่าความสงสัยอันท่วมท้นทำให้ต้องหวนคิดถึงมันเข้าจนได้ จากความทรงจำสีหม่นเขาจำได้ว่าทุกครั้งที่บอสใหญ่มาเยือน จะทำเพียงแค่ตรวจเช็คความคืบหน้าของแต่ละโปรเจค และตรวจสภาพทั่วไปขององค์กรเท่านั้น ไม่เคยต้องใช้เวลาเกินครึ่งค่อนวันเลยสักครั้ง ตัวเลือกนี้จึงยิ่งไม่ใช่คำตอบที่ต้องการ

    ถ้าเช่นนั้นเซย์จิหายหน้าหายตาไปไหนกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยู่ติดบ้านได้เกือบตลอดเวลา แม้จะอยู่แต่ในห้องก็ตามที เป็นอีกครั้งที่นาโอะสุดจะคาดเดาสิ่งที่ชายผู้นี้กำลังกระทำหรือวางแผนอยู่ได้

------------------------------

    เข็มนาฬิกาขยับย้ายไปยังเลขหนึ่งของวันใหม่ พร้อมกันกับที่ลูกบิดประตูบ้านถูกฝ่ามือใหญ่หมุนบิดให้เปิดออก ก่อนร่างสูงโปร่งจะแทรกกายเข้ามาด้วยสภาพไม่สู้ดีนัก เซย์จิไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอมาสักพักแล้ว เมื่อมาเห็นบ้านทั้งหลังปิดไฟมืดสนิทอย่างที่คาดไว้ ร่างกายอ่อนล้าจึงพลอยทำให้จิตใจห่อเหี่ยวตามไปด้วยอย่างง่ายดาย

    ชายหนุ่มพิงกายกับบานประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง เปลือกตาบางเคลื่อนปิดลง สิ่งที่จินตนาการถึงเป็นอันดับแรกหาใช่เตียงนอนอบอุ่น หากแต่เป็นคนสำคัญทั้งสองที่คงเข้านอนด้วยกันไปแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอสองพี่น้องคือเช้าสองวันก่อน หลังจากนั้นเขาก็มอบหมายให้ไดยะเป็นผู้ไปรับส่งเทะซึโอะแทนมาตลอด มาถึงตอนนี้เมื่อได้กลับบ้านอีกครั้งกลับเป็นเวลากลางดึก

    ในคืนนี้อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ เด็กชายตัวน้อยคงยิ่งเบียดซุกอ้อนพี่ชายคนโปรด ท่อนแขนเรียวของร่างผอมคงโอบกอดถ่ายทอดความอบอุ่นให้อย่างเต็มใจ ตอนแรกเซย์จิตั้งใจจะไม่ไปรบกวนห้วงนิทราอันแสนสุขของคนทั้งสอง แต่ในเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็ยิ่งให้คิดถึงรอยยิ้มน่ารักน่าชังของสองพี่น้อง ห่างกันไม่ถึงสามวันแต่เซย์จิกลับรู้สึกคล้ายคนติดยาเข้าไปทุกที

    คิดถึง..อยากเจอจนแทบทนไม่ไหวอยู่แล้ว!

    ไม่ีมีเหตุผลอะไรที่ต้องทนข่มความรู้สึกเอาไว้ เซย์จิพยุงกายอย่างไม่มั่นคงนักสาวเท้าขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของนาโอะ ที่ซึ่งเด็กชายประจำบ้านย้ายตัวเองมายึดเป็นเจ้าของร่วมนับตั้งแต่เขายกเลิกข้อจำกัดในการใช้ชีวิตของนาโอะจนหมด ขอแค่แง้มประตูเข้าไปดูหน้าเท่านั้น เขาสัญญาจะไม่ปลุกทั้งสองให้ตื่นขึ้นมา ร่างเพรียวจะซูบลงหรือมีเนื้อมีหนังขึ้นแค่ไหน ไม่ได้ถูกเจ้าพนักงานร้านเค้กนั่นรังแกเอาใช่ัมั้ย นายยังมีความสุขอยู่หรือเปล่า

    ความคิดทั้งหลายทั้งมวลพลันมลายหายไป เมื่อผู้ที่อยู่ในห้วงคำนึงเปิดประตูห้องนอนออกมาราวกับรู้ล่วงหน้า ดวงตาสีอ่อนมองเซย์จิตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับจะสำรวจหาสิ่งผิดปกติ มองใบหน้าซีดเซียวและท่าทางอ่อนล้าผิดไปจากทุกทีของเจ้าของบ้าน

    " นาโอะยังไม่นอนอีกเหรอ "
    " ผมจะนอนหรือยังไม่นอนไม่สำคัญหรอกครับ เซย์จิซังนั่นแหละครับทำไมถึงเพิ่งกลับมา "
    " ฉันไม่ว่างน่ะ " เขาตอบคำถามพลางลอบมองเข้าไปภายในห้อง

    ถึงจะเหนื่อยจนล้าเพียงใด แต่สายตาของเซย์จิก็ยังไม่พร่าเลือนขนาดมองไม่เห็นสภาพในห้องนอนด้านหลังร่างเพรียว โคมไฟหัวเตียงถูกเปิดทิ้งเอาไว้ บนเตียงนอนที่เด็กชายตัวน้อยนอนซุกผ้าห่มผืนหนาหลับสนิทอยู่ มีหนังสือถูกคั่นหน้าเอาไว้ลวก ๆ วางอยู่ คล้ายใครบางคนกำลังอ่านมันอยู่จนถึงเมื่อครู่และรีบร้อนไปทำอย่างอื่น ทว่าชายหนุ่มจำได้ดีตลอดเวลาที่ลอบสังเกตผ่านกล้องวงจรปิด ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่นาโอะจะอ่านหนังสือเพลินจนดึกดื่นป่านนี้

    " ไม่ว่างถึงขนาดไม่มีเวลากลับบ้าน ไม่มีเวลานอนเลยเหรอครับ " น้ำเสียงคล้ายจะต่อว่าอยู่ในที ทำให้เซย์จิรู้สึกคล้ายตัวเองกลายเป็นเทะซึโอะตอนทำความผิดอย่างไรอย่างนั้น นี่เขากำลังโดนนาโอะดุอยู่สินะ

    " ก็ทำนองนั้นแหละ ที่จริงฉันแวะมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยแวะมาดูพวกนายหน่อย อีกเดี๋ยวก็ต้องไปแล้วล่ะ "
    " เวลาแบบนี้ ด้วยสภาพแบบนี้เนี่ยนะครับ "
    " อืม นาโอะรีบนอนเถอะนะ "

    คิ้วเรียวขมวดเป็นปมคล้ายไม่พอใจในสิ่งที่ได้ยิน ธุรกิจร้อยล้านหรือโปรเจคลับพันล้านอะไรทำให้ชายหนุ่มผู้ไม่เคยทำงานหามรุ่งหามค่ำต้องโทรมลงถึงเพียงนี้ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เขาไม่เคยสนใจ หรือโปรเจคในองค์กรลับที่น่าขยะแขยงก็ช่างประไร ไม่ว่ายังไงตอนนี้นาโอะต้องจัดการคนเห็นแก่เงินไม่เข้าเรื่องให้ได้

    เป็นที่รู้กันดีระหว่างคนทั้งสอง นาโอะจะไม่รับโทรศัพท์จากเซย์จิ หากมีธุระจะเป็นฝ่ายโทรไปหาเอง ซึ่งทุกครั้งเป็นการถามไถ่ว่าจะไปรับเทะซึโอะเมื่อไหร่และจะถึงกี่โมงเท่านั้น ดังนั้นเซย์จิจึงเลิกล้มความตั้งใจที่จะโทรหาไปนานแล้ว และเลือกเป็นฝ่ายเฝ้าคอยเพียงอย่างเดียว หลายวันที่นักธุรกิจหนุ่มหายหน้าหายตาไปจากบ้าน และไดยะมารับหน้าที่รับส่งเด็กอนุบาลตัวน้อยแทน การติดต่อระหว่างกันจึงขาดหายไปโดยปริยาย และนั่นนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดของนาโอะ เพราะนับจากคืนแรกที่เซย์จิไม่กลับบ้าน เขาก็ตั้งตาคอยการกลับมาของอีกฝ่ายอย่างกระวนกระวายใจทุกค่ำคืน

    " ช่วยตามมาทางนี้ด้วยครับ "

    นาโอะรีบปิดประตูห้องให้เบาเสียงที่สุดไม่ให้ไปรบกวนผู้ที่กำลังพักผ่อนอยู่ด้านใน ก่อนสาวเท้าเดินนำไปยังห้องนอนของเซย์จิ โดยไม่ยอมให้ได้ทันเอ่ยปากถามอะไร ร่างเพรียวถือวิสาสะค้นตู้เสื้อผ้าก่อนหยิบผ้าเช็ดตัวออกมา

    " นายจะมาช่วยชั้นอาบน้ำเหรอ " เซย์จิเลิกคิ้วอย่างนึกแปลกใจ ก่อนเอ่ยถามทีเล่นทีจริง วินาทีถัดไปผ้าขนหนูก็ถูกยัดเยียดใส่มือพร้อมประโยคคำสั่งน้ำเสียงเฉียบขาด
    " อาบน้ำแล้วเข้านอนซะนะครับ "
    " ฉันมีเรื่องต้องทำอีก คงยังนอนตอนนี้ไม่ได้หรอก " เขาส่ายหัวปฏิเสธ ทว่าคู่สนทนากลับยิ่งหงุดหงิดใจ นาโอะดันแผ่นหลังกว้างเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นจึงส่งชุดนอนที่สุ่มหยิบได้จากในตู้ให้
    " ถ้าคุณไม่ยอมนอนผมจะโกรธนะครับ "

    ..ช่างเป็นคำขู่ที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้..

    เซย์จิกลั้นยิ้มขณะรับชุดนอนมาแล้วยอมทำตามคำสั่งนั้นอย่างว่าง่าย ขู่กันอย่างนี้ ทั้งหน้าตาทั้งน้ำเสียงจริงจัง ใครจะใจแข็งไม่ยอมทำตามได้ลง เวลานี้ต่อให้มีงานสำคัญขนาดไหนรออยู่เขาก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว

    พออาบน้ำเสร็จเซย์จิก็เห็นคนที่น่าจะกลับห้องตัวเองไปแล้ว กำลังดึงผ้าคลุมเตียงออกแล้วจัดแจงที่นอนให้เหมาะสำหรับพักผ่อนอยู่ด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง และทันทีที่หันมาเห็นเซย์จิเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างเพรียวก็รีบตรงเข้ามาดึงแขนไปยังเตียงนอน ก่อนย้ำคำสั่งเดิมซ้ำเป็นครั้งที่สอง

    " นอนได้แล้วครับ " กลีบปากสีสวยวาดรอยยิ้มบางเบา เมื่อเห็นว่าซากมนุษย์ที่ทำให้ต้องเป็นรำคาญใจอย่างไม่ทราบสาเหตุมีสภาพดูดีขึ้นมากแล้ว

    " ครับ ๆ ถ้่าไม่นอนจะโดนโกรธเอานี่เนอะ " ทั้งที่พูดเช่นนั้นแต่ชายหนุ่มกลับคว้ามือเรียวทั้งสองข้างขึ้นมากุมไว้ และเป็นฝ่ายมองสำรวจร่างตรงหน้าบ้าง ฝ่ามือที่เขากำลังสัมผัสอยู่อบอุ่น และบอบบางจนรวบจับไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว สายตาที่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้งทำให้นาโอะต้องหลุบตาลงมองพื้นด้วยกลัวจะเผลอใจอ่อนเข้า

    " นายสบายดีหรือเปล่า เทะซึโอะด้วย " เป็นอีกครั้งที่นาโอะรู้สึกราวกับถูกน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ไม่เคยได้ยินตลอดเวลาที่ถูกชายผู้นี้กดขี่ในอดีตสะกดให้ไม่อาจขัดขืนได้ ฝ่ามือที่ถูกยึดจับไว้ร้อนผ่าวเหมือนโดนไฟนาบ ทั้งที่เมื่อครู่เขายังกล้าออกคำสั่งใส่เจ้าของสายตาจาบจ้วงนี้อยู่ มาตอนนี้กลับไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง

    " ค..ครับ " เสียงที่แผ่วหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แต่กลับทำให้เจ้าของคำถามสบายใจขึ้นได้มาก ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองลดน้อยลง ลมหายใจอุ่นร้อนของผู้ล่วงล้ำเข้าใกล้รินรดใบหูบางให้ร่างทั้งร่างของนาโอะร้อนวาบขึ้นในทันที ก่อนเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา

    " ขอบใจที่เป็นห่วงนะ "
    เซย์จิปล่อยมือที่จับอยู่ออก สอดกายเข้าไปในผืนผ้าห่มแล้วหลับสนิทอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้นาโอะยืนมองอย่างมึนงงทำอะไรไม่ถูกอยู่เพียงลำพัง

    เป็นห่วงอย่างนั้นเหรอ ?
    เปล่าเลยมันไม่ใช่อย่างนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความห่วงใย
    หากแต่เป็นความเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น..

-------------------------------

ไม่ได้แต่งนานสปีดการเีขียนช้าลงมาก แต่ไม่อยากดองไว้นานเลยเอามาโพสก่อนแค่นี้น่ะค่ะ แหะๆ
อีกครึ่งนึงเดี๋ยวจะรีบเอามาต่อเลยค่ะ!! >w<
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นด้วยค่าา~

หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 13-10-2010 19:18:16
นาโอะน่ารักอ่ะ
ว่าแต่เซย์จิทำอะไรหนักหนาอ่า
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 13-10-2010 19:35:13
"ไม่ใช่ความห่วงใย แต่เป็นความเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น.."
จริง ๆ หรือนาโอะ  o18
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 13-10-2010 20:11:28
ไรเตอร์หายไปซะนานแสนนานเลยน๊าาาา  ขอบ่นหน่อยเหอะนะ

ไรเตอร์รู้มั๊ย  เรารอให้ไรเตอร์มาอัพนานแสนนานแค่ไหน

แต่ยังไงเราก็จะรอนะ   :L2:

ฮิโรกิคิดจะทำอะไรเทะซึโอะ??  อย่านะโว๊ยยยย :angry2: :angry2:

คนเค้ามีความสุขกันแบบครอบครัวแล้ว  ขอร้องอย่ามายุ่ง

นาโอะเริ่มใจอ่อนให้เซย์จิแล้วอ่ะ :-[ :-[ :-[  ดีใจจังเลยยย :m1: :m4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: akike ที่ 13-10-2010 20:54:56
คุณคนเขียนสู้ ๆ จ้า
กำลังจาหวานช่ายไหม  ครอบครัวกำลังจาอบอุ่นแล้วช่ายป่ะ
อย่าแกล้งพ่อพระเอกอีกเลย สงสารแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 13-10-2010 21:53:38
ขอบคุณไรเตอร์ที่มาต่อเรื่องนะคะ

เทะซึโอะน่ารักเหลือเกิน

ขอให้จบแบบมีความสุขนะคะ อย่าเกิดการพลัดพรากเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 14-10-2010 09:28:23
ว้าววววว เริ่มใจอ่อนแล้วสินะ เซย์จิซังสู้ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 14-10-2010 10:53:56
ฮิโรกินี่ ต้องรีบจัดการก่อนจะสร้างปัญหาใหญ่นะนั่น ไม่ไหวๆๆๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-10-2010 10:59:10
คริๆ น่ารักๆ นาโอะเริ่มมีพัฒนาการไปทางที่ดีแล้วแหละ น่าชื่นใจแทนเซย์จิของเราจริงๆ o13
แต่ไอ่เลวฮิโรกิ (อุ๊ย รุนแรงมากก) จะทำอะไรน่ะฮะ อย่าเอาเด็กเข้าไปเกี่ยวเช่ :angry2:
เดี๋ยวแม่จับถลกเนื้อเอาเกลือทาเลยนิ (อุ๊ย โหดดด)
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปนะค้าาา :man1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 14-10-2010 12:10:15
แอบม่ช่ววงหวานๆกับเค้าด้วย
ปล่อยให้เซย์จิคิดว่าเป็นห่วงอ่ะดีแล้ว
นานๆทีจะได้กำลังใจกะเค้าบ้าง สงสารเล็กน้อยถึงปานกลาง
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 14-10-2010 13:34:51
หวานเป็นเหมือนกันนะเนี่ยเซจิ นาโอะก็เริ่มจะใจอ่อนแล้ว
แต่กลัวฮิโรกิ จะมาทำให้เสียอีกปะเนี่ยต้องระวังให้ดีนะ
 :pig4: writer คะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 25][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 14-10-2010 15:26:53
บทหวานๆ

กรี๊ดดดดดดดดดดด

น่ารักที่ซู๊ดดด :impress2:

นาโอะใจอ่อนได้แล้ว เซย์จิยอมหมดแล้วน้า :L2:

ส่วนฮิโรกิ :z6: :beat:

โทษฐานที่ทำตัวเป็นบ่างช่างยุ ชอบให้คนอื่นเค้าแตกกัน

อย่าให้เกิดเรื่องร้ายอีกนะ อยากให้เข้าใจกันซะที
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26.5][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 15-10-2010 00:07:38
ดันๆๆ

ไรเตอร์ไม่มาอัพหรอวันนี้??
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26.5][13/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: 。◕rainfall◕。 ที่ 16-10-2010 03:46:10
มารออีกครึ่งนึงคะไรท์เตอร์

ฮิโรกินี่เลวจริงๆเกลียดมันๆๆ

ตอนนี้นาโอะน่ารักอะ แอบเป็นห่วงด้วยอิอิ

จะต้องไม่เกิดไรขึ้นกับเทะซึโอะนะ

แล้วก็นาโอะตาสว่างได้แล้วอย่าไปยุ่งกับฮิโรกิเลย

ไดยะมาอยู่ช่วยให้สำเร็จด้วยนะ


หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 17-10-2010 03:21:12
Miracle 26 (ครึ่งหลัง)

    ..แมวไม่อยู่หนูร่าเริง..

    เมื่อแมวเจ้าถิ่นออกไปที่อื่น เจ้าหนูสกปรกก็ย่ามใจทำตัวเป็นใหญ่ราวกับเป็นเจ้าถิ่นเสียเอง มันดูลาดเลาและวางแผนอยู่นาน จนกระทั่งได้รู้ว่า ตอนนี้เจ้าแมวมักหายหน้าหายตาไปเป็นเวลานาน โอกาสที่มันจะขโมยของรักของหวงของเจ้าแมวจึงมาถึง

    " นาโอะอยู่คนเดียวอีกแล้วเหรอ "
    เสียงเรียกของฮิโรกิดึงความสนใจของผู้อยู่ในห้วงภวังค์ให้หันไปมอง นาโอะส่งยิ้มทักทายก่อนตบที่นั่งข้างตัวเป็นเชิงชักชวนให้มานั่งด้วยกัน บ้านหลังใหญ่ในเวลาบ่ายที่ไม่มีผู้ใดอยู่ช่างน่าเบื่อ

    " เทะซึจังยังไม่กลับ ไดยะซังติดคนไข้ด่วนมาไม่ได้..ส่วนเซย์จิซัง......"
    
    " เรื่องของคน ๆ นั้นไม่ต้องบอกหรอกนาโอะ " คู่สนทนากล่าวตัดบทด้วยคร้านจะทนฟังได้ ตั้งแต่วันเยี่ยมชมการสอนไม่มีวันใดเลยที่ร่างเพรียวจะไม่พูดชื่อนี้ แม้ไม่ได้พูดถึงในทางที่ดีนัก แต่เขาก็ไม่้อยากฟัง ไม่ต้องการคิดไปเองว่าชายคนนั้นเริ่มเข้ามายึดครองพื้นที่ความคิดของนาโอะแล้ว

    " ฮะ ๆ นั่นสินะ ฮิโรกิคงไม่อยากได้ยินเท่าไหร่..ผมเองก็เหมือนกัน "

    เขาแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนคล้ายขบขันตัวเองที่เผอเรอลืมตัวไปได้ หลังเจอกันกลางดึกเมื่อหลายวันก่อนเซย์จิก็กลับบ้านเร็วขึ้นและบ่อยขึ้น ราวกับกลัวใครบางคนเป็นห่วง ราวกับเกรงในคำขู่ทีเล่นทีจริง นาโอะอยากบอกเล่าสิ่งเหล่านี้ให้ใครสักคนฟัง ให้ร่วมกันรับรู้ว่าเซย์จิก็ฟังคำพูดของผู้อื่นด้วยเช่นกัน และกำลังมีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น

    เซย์จิซังคนนั้นเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะต้องการเล่นสนุกมิใช่เหรอ
    เช่นนั้นแล้วใยต้องตื่นเต้นดีใจไปกับท่าทางที่ตนคิดว่าเสแสร้งด้วย

    " นาโอะฉันมีเรื่องจะขอร้อง " เจ้าหนูผู้ร้อนรนไม่ยอมปล่อยให้เสียเวลาอีก มันรีบเฉลยจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ก่อนจะพลาดโอกาสครั้งสำคัญไป

    " เรื่องอะไรเหรอครับ " ไม่มีแม้แต่เวลาให้นึกสงสัยกับน้ำเสียงเคร่งเครียดผิดไปจากทุกที ข้อมือเรียวถูกดึงอย่างป่าเถื่อน ก่อนฮิโรกิจะกระชากร่างเพรียวเข้าหาตัว
    " ให้่ฉันเป็นคนสำคัญของนายอีกคนนอกเหนือจากเทะซึโอะได้มั้ย "

    " ฮิโรกิก็เป็นเพื่อนที่สำคัญของผมอยู่แล้วนี่ แต่ปล่อยผมก่อนสิครับ! "
    นาโอะดันแผ่นอกด้านหน้าออกแต่ก็เปล่าประโยชน์ อ้อมกอดที่รัดแน่นจนหายใจไม่สะดวก และการใช้กำลังฝืนบังคับยิ่งเรียกความทรงจำคืนวันที่ฮิโรกิมาพาหนีให้เด่นชัดขึ้น เพื่อนสนิทที่แปลกไปจากทุกทีจนนึกกลัว

    " สำคัญเท่าเทะซึโอะหรือเปล่าล่ะ "
    " ปล่อยผมสิครับ แล้วค่อยมาคุยกันดี ๆ นะครับ " เขาพยายามพูดเกลี่ยกล่อม กระนั้นก็ยังไร้ผลเช่นเดิมจึงต้องยอมตัดใจ
    " นายก็ตอบฉันมาสิ "
    " ของอย่างนี้เอามาเทียบกันไม่ได้หรอก แต่ฮิโรกิก็สำคัญสำหรับผมมากนะครับ "
    " นี่นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ฉันกำลังสารภาพรักอยู่ ฉันรักนายนะนาโอะ " 

    เป็นอีกครั้งที่ภาพความทรงจำฉายชัดราวกับม้วนวีดีโอ คืนนั้นฮิโรกิก็สารภาพด้วยอารมณ์ที่อัดแน่นเฉกเช่นเดียวกับตอนนี้ หลังถูกข่มขืนอย่างโหดร้ายไม่มีผู้ใดอยากจดจำเหตุการณ์ที่เป็นดั่งยาพิษ เขาจึงลืมเลือนมันมาโดยตลอด ตอนนั้นไม่ได้ปฏิเสธออกไปอย่างหนักแน่นชัดเจน แต่ตอนนี้นาโอะจะขอแก้ตัวอีกครั้ง

    " ต..แต่ผมยังไม่พร้อมจะเริ่มความสัมพันธ์แบบนั้นกับใคร "
    " ทำไมล่ะนาโอะ " ฮิโรกิดันไหล่บางทั้งสองออก เพื่อสบมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลที่สั่นไหว
    " ผมมีแค่เทะซึจังคนเดียวก็พอแล้วครับ อีกอย่างผมไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบนั้น เราอยู่ในฐานะเพื่อนแบบนี้ตลอดไปไม่ได้เหรอครับ "
    ฮิโรกิไม่ต้องการคำว่าตลอดไป ทั้งยังไม่ต้องการความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ด้วย สิ่งที่เขาต้องการในวินาทีนี้หาใช่คำปลอบประโลมพวกนั้น หากแต่เป็นคำตอบรับเพียงอย่างเดียว

    " เทะซึโอะอีกแล้วงั้นเหรอ "

    " แต่เทะซึจังเป็น...." ผู้ที่ถูกคลื่นอารมณ์ซัดพาไม่หลงเหลือสัมปชัญญะมากพอจะฟังคำอธิบายใด ๆ ยิ่งเห็นท่าท่างหวั่งเกรงราวกับสัตว์ตัวน้อยเขายิ่งแทบทนไม่ไหว จึงขึ้นเสียงตะคอกใส่นาโอะด้วยแรงอารมณ์ที่ไม่อาจสะกดกลั้นไว้ได้อีก ก่อนบีบหัวไหล่เล็กแน่น

    " นี่นาโอะรู้มั้ยที่ผ่านมาฉันทุ่มเทความรู้สึกให้นายมากแค่ไหน ช่วยตอบรับความรู้สึกของฉันสักทีเถอะ "
    " ฮิโรกิผมเจ็บ..ปล่อยสิ " นาโอะมุ่นหัวคิ้วด้วยความเจ็บ
    " บอกสิว่านายก็รักฉันเหมือนกัน "
    " ผ..ผมไม่ได้รักฮิโรกิแบบนั้น "
    " นาโอะอย่าโกหกสิ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ "

    ฮิโรกิยังคงขึ้นเสียงสั่งแกมขู่บังคับให้คู่สนทนาตัวน้อยหวาดกลัวจนไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรดี บอกไปตามความรู้สึกที่แท้จริงแล้วไม่รับฟังเช่นนี้ จะให้โกหกเพื่อให้เพื่อนสนิทสงบลงอย่างนั้นหรือ นาโอะไม่มีทางทำได้เป็นอันขาด อย่างไรเสียเขาก็ไม่อาจโกหกความรู้สึกของตัวเองได้

    ในวินาทีนั้นเองที่สายลมพัดผ่านมาอีกครั้ง

    " จะทำอะไรน่ะ! "
    ไดยะปราดเข้ามากระชากไหล่ผู้ที่กำลังบ้าคลั่งออกให้นาโอะเป็นอิสระจากการจับกุม ก่อนเข้าไปดึงร่างผอมบางมากอดปลอบ และเหลือบมองฮิโรกิด้วยแววตาที่เคืองโกรธ หากคนไข้อาการแย่ลงจนเขาปลีกตัวมาไม่ได้ ก็ไม่รู้นาโอะจะถูกพนักงานร้านเค้กข่มขู่อะไรอีกบ้าง

    " นายทำบ้าอะไรอยู่น่ะ " ไดยะเค้นเสียงลอดไรฟันถามออกไป
    " เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับไดยะซัง ช่วยหลบไปด้วยครับ " เขาพุ่งไปหาคนทั้งสอง ทว่าไดยะกลับดึงนาโอะหลบไปอีกทาง
    " เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวไม่สำคัญ ตอนนี้นายต้องเลิกยัดเยียดความรู้สึกของตัวเองโดยที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจได้แล้ว "
    " ผมไปทำเรื่องแบบนั้นตอนไหนกัน นาโอะเต็มใจและกำลังจะรับรักผมอยู่แล้วนะครับ "

    " ลองมองดูใหม่ดีๆสิ นายไม่รู้จริงๆเหรอว่านาโอะรู้สึกยังไงอยู่ " ผู้ถูกพาดพิงถึงเบียดตัวเข้าหาไดยะทันทีที่ถูกสายตาคุกคามของฮิโรกิจับจ้องไม่วางตา
    " นาโอะบอกไดยะซังไปสิว่านายรักฉันน่ะ "

    "..ผ...ผม....." ดวงตาสีอ่อนก้มหลบไม่ยอมสบมองด้วย ทั้งฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างที่ขยำเสื้อเชิ้ตของไดยะอยู่ก็สั่นเทา จะให้นาโอะตอบอะไรออกไป ในเมื่อบอกไปแล้วอีกฝ่ายก็ไม่รับฟัง มิหนำซ้ำยังใช้กำลังบังคับขืนใจกัน นี่ไม่ใช่ฮิโรกิผู้ร่าเริงที่เขาเคยรู้จักมาตลอด

    " อย่าเงียบสินาโอะ! " เป็นอีกครั้งที่ฮิโรกิตวาดใส่ นั่นทำให้ความอดทนของไดยะสิ้นสุดลง
    " กลับไปซะฮิโรกิ ไปสงบสติอารมณ์ให้ได้ แล้วคิดดูเอาเองแล้วกันว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันถูกแน่แล้วเหรอ "
    " ผมไม่กลับจนกว่านาโอะจะบอกความจริงมา "

    ความจริงอันใดที่ฮิโรกิกล่าวถึงกันหนอ ที่กำลังขู่เข็ญบีบบังคับอยู่นี่เพราะปรารถนาคำลวงที่หลงงมงายว่ามันคือความจริงมิใช่หรือ

    " ฉันบอกให้กลับไปไงล่ะ " ไดยะเองก็เริ่มขึ้นเสียงบ้างแล้วเหมือนกัน หนุ่มน้อยผู้นี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควรอย่างที่เขาคาดไว้จริง ๆ
    " ผมบอกว่าผมไม่กลับไงครับ "
    " ฉันเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะฮิโรกิ "

    ถึงตอนนี้น้ำเสียงที่แผดดังเมื่อครู่เปลี่ยนมาเป็นสงบนิ่งราวกับผู้ถือไพ่เหนือกว่าก็ไม่ปาน ไดยะอาจไม่มีอำนาจมากพอจะไล่ฮิโรกิออกไปจากที่นี่ได้ อย่างเลวร้ายที่สุดคงถึงขั้นลงไม้ลงมือชกต่อยกัน ซึ่งเขาหาได้ใส่ใจไม่หากเรื่องราวจะบานปลายไปถึงขั้นนั้น ทว่าถ้าร่วมมือกับเซย์จิล่ะ หากชายผู้นั้นใช้อำนาจไล่บี้ กีดกันไม่ให้มาหานาโอะอีก เขาจะต้านทานอะไรได้ พนักงานร้านเค้กรู้ดีไดยะกำลังเตือนให้ทราบถึงเรื่องนี้อยู่ แม้เป็นเพียงคนธรรมดา แต่ฮิโรกิก็ฉลาดหลักแหลมพอจะไม่เผชิญหน้าโดยตรงในสถานภาพที่ตกเป็นรองเช่นนี้

    " ตกลง "
    ฮิโรกิผินกายหันหลังเดินออกจากบ้านไปในที่สุด วันนี้อาจต้องพ่ายแพ้กลับไป แต่ครั้งต่อไปจะไม่เป็นเช่นนี้อีก เขาจะไม่ให้นาโอะถูกใครมาข่มขู่ให้ต้องโกหกความรู้สึกที่มีต่อเขาอีกแล้ว

    นาโอะจะไม่รักเขาที่เป็นเพื่อนผู้รู้ใจที่สุดได้อย่างไรกัน คนที่คอยดูแลตลอดเวลาที่ผ่านมา คอยให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือในทุกเรื่อง และปลอบประโลมยามเศร้าคือเขาคนนี้ไม่ใช่หรือ นาโอะเพียงแค่ยึดติดกับหน้าที่จอมปลอมที่ถูกเซย์จิสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเล่นสนุกฆ่าเวลา ว่าต้องคอยดูแลปกป้องเทะซึโอะเท่านั้น ชายคนนั้นกำลังเพลิดเพลินที่เห็นนาโอะดิ้นรนต่อสู้อย่างไร้หนทาง เพื่อปกป้องเด็กที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองแม้แต่น้อย

    เซย์จิชายผู้นั้นช่างเลวทราม
    เด็กนั่นเองก็เป็นสิ่งผิดปกติ เกิดมาด้วยวิธีการอันผิดธรรมชาติ ไม่สมควรอยู่บนโลกใบนี้เสียด้วยซ้ำ

    ใช่แล้วล่ะ ไม่สมควรอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป
    ไม่สมควรทำให้นาโอะของเขาต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้อีก
    ขอเพียงไม่มีเทะซึโอะทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี

------------------------------------------------------

    เสียงเข็มนาฬิกาบอกเวลาที่เคลื่อนผ่านไปทุกวินาทีเหมือนเช่นเคยในตอนนี้เหมือนจะดังก้องไปทั่วทั้งห้องที่เงียบสงบ กระนั้นสัมปชัญญะในการฟังของนาโอะกลับไม่ได้รับรู้ถึงมันเลย ดวงตาสีอ่อนเพียงแค่เหม่อมองหน้าปัดเวลาทั้งที่ความคิดเตลิดไปถึงเรื่องอื่น เป็นเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว หลังจากฮิโรกิพยายามยัดเยียดความรู้สึกอันไม่พึงปรารถนาให้ และนับจากนั้นเป็นต้นมาเพื่อนสนิทคนสำคัญก็ขาดการติดต่อหายไปโดยสิ้นเชิง แม้จะลองเป็นฝ่ายโทรหาสักเท่าไหร่ก็ไร้ผล

    เวลานั้นนาโอะอาจหวาดผวาจนทำอะไรไม่ถูก ทว่าถึงอย่างไรก็ยังอดห่วงความรู้สึกของฮิโรกิไม่ได้อยู่ดี คงจะเสียใจผิดหวังมากทีเดียว อย่างน้อยเขาก็อยากจะขอโทษ เมื่อมาลองคิดดูอย่างถี่ถ้วน คนที่ผิดที่สุดอาจเป็นตัวเขาเองก็ได้ที่ไม่ยอมรู้สึกตัวเสียที จนกระทั่งปล่อยให้ความรู้สึกอันบิดเบี้ยวชอนไชหยั่งรากลึกไม่อาจถอนได้ นาโอะทำได้เพียงเฝ้าภาวนาขอให้ฮิโรกิคิดได้และตัดใจจากเขาไปเอง

    จะฮิโรกิก็ดี จะเซย์จิก็ดี ไม่ว่าจะเป็นความรักของใครนาโอะก็ไม่ต้องการทั้งนั้น
    หากไม่มีเทะซึโอะ แม้จะเป็นผลสุขงอมของความรักที่งดงามบริสุทธิ์สักเพียงใดก็ไร้ค่า

    ความสงบถูกทำลายลงจากผู้ที่กระชากเปิดประตูห้องนอนออก บานประตูที่ไม่ได้ถูกปิดกลับไปอย่างเดิมกระแทกกำแพงเสียงดัง ทว่าเซย์จิหาได้ใส่ใจมันไม่ เขาสาวเท้าอย่างรวดเร็วตรงเข้าหาเจ้าของห้องที่สะดุ้งจนตัวโยนด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ ในวินาทีแรกดูราวกับตื่นตกใจ แต่ถัดมาดวงตาดำสนิทกลับแฝงแววดุดันราวกับจะฉีกทึ้งใครสักคนให้ตายคามือได้ก็ไม่ปาน

    " มีอะไรเหรอครั.....!! "
    อ้อมกอดอันอบอุ่นถูกมอบให้เป็นอันดับแรก ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางคล้ายจะปลอบประโลมอะไรบางอย่าง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นาโอะค่อนข้างมั่นใจ ว่าเจ้าตัวกำลังพยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่นพร่าอย่างสุดความสามารถอยู่

    " นาโอะสงบใจไว้นะ "
    " ครับ ? "
    " ตั้งสติแล้วฟังที่ฉันกำลังจะบอกให้ดีนะ "
    "..ม...มีอะไรเหรอครับ " ลางสังหรณ์บางอย่างบอกเขาว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน ไม่เคยมีครั้งใดที่เซย์จิจะแสดงท่าทางหวาดหวั่นได้มากถึงเพียงนี้มาก่อน

    " เทะซึโอะหายตัวไป "

    โลกทั้งใบหยุดหมุนในวินาทีนี้นี่เอง นาโอะไม่อาจรับรู้สิ่งใดได้อีกต่อไปแล้ว


TBC Chapter 27

แหะๆ สปีดการเขียนลดลงจริงๆด้วยแหละค่ะ ทั้งที่อยากต่อให้เร็วกว่านี้แท้ๆ orz
แต่อีกไม่นานน่าจะจบแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ >w<
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: akike ที่ 17-10-2010 07:47:38
อ๊าง.........โลกทั้งใบหยุด

หยุดยังไง อ๊าย  ตัดกันแบบนี้

หมดเยื่อใยเลยนะคะตัว ค้างแบบว่า ยังไม่เสร็จก้อจากไปซะงั้นง่ะ มันค้าง ๆ คาๆ

แต่ไม่เป็นไร  รออย่างใจจดจ่อ...ครอบครัวอันจะสงบสุข หายไปอีกแร้ว

เทะซึจังของช้าน  หายไปไหน เซย์จิสู้ๆๆ

อย่ามาม่ามากนะ แค่นี้คุณแม่นาโอะก้อช้ำไปหมดแย้ว
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 17-10-2010 09:16:48
มัน เลวจริงๆ ไอ้ฮิโรกิเนี่ย ทำได้กับเด็กบริสุทธ์อ่ะ

+1 ไรท์เตอร์ค่ะ ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้เท่าไหร่
แต่ถูกใจภาษา และคำผิดแทบไม่ปรากฏให้เห็นเลย
อ่านได้ไม่มีสะดุด ชอบเทะซึจัง น่ารักที่สุดเลย :man1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 17-10-2010 09:37:09
อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือฮิโรกิ

ฮึ่มมมม
แก..ตายยยยยยยยยย
 :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 17-10-2010 09:59:30
ไอ้ฮิโรกิ :z6: :z6: :z6: :z6:

ทำไมต้องทำร้ายคนอื่นไปทั่วด้วยว๊าาาาาาาา

เซงงงงงโว๊ยยยยยย 

ทำอะไรไม่เข้าเรื่อง :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 17-10-2010 10:02:51
T_____________________T

คุณมูซู กลับมาน้าคร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา โฮวววววววววววววว

ไดยะซัง ช่วยด้วยค่ะ หงิงๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 17-10-2010 11:49:34
ไอ้ฮิโรกิ  :beat:
คิดเองเออเองอยู่คนเดียว
และยัดเยียดความรู้สึกของตัวเองให้นาโอะ
โดยไม่ยอมรับว่านาโอะไม่เต็มใจ
และถ้าทำอะไรเทะซึจังล่ะก็ แกตายแน่  :angry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 17-10-2010 13:36:38
ฮิโรกิหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ  :m16:

เซย์จิต้องช่วยเทะซึให้ได้น๊าาาา

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-10-2010 13:48:14
ฮิโรกิ  ถึงขนาดทำทุกอย่างเพื่อให้นาโอะรับรักเลยเชียวหรือ
เลวจริง ๆ หวังว่าเทะสึจังจะปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 17-10-2010 18:26:58
ฮิโรกิโรคจิตได้ที่เลยนะเนี่ย
คิดเข้าข้างตัวเองไม่พอยังยัดเยียดความรู้สึกตัวเองให้คนอื่นอีก
ไม่ไหวๆ เกินเยียวยา
อย่าทำร้ายเทะซึจังนะ  :fire:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 17-10-2010 23:43:31
ไอ้ฮิโรกิ แกอย่าทำไรบ้า ๆ นะ
เค้าไม่รักยังทำไรบ้า ๆ อีก แย่
 :pig4: writer คะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 19-10-2010 06:04:43
ปั้มไว้ก่อนนะ ^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 26 ครึ่งหลังค่ะ][17/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 19-10-2010 11:22:02
เทะซึโอะ อย่าเป็นอะไรไปนะ

เซย์จิ ต้องช่วยลูกชายให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรกค่ะ้][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 22-10-2010 17:32:25
Miracle 27 (ครึ่งแรก)


    ..ครูที่โรงเรียนบอกว่าคนที่เทะซึโอะเรียกว่าพี่ฮิโรกิมารับก่อนเวลา เห็นว่าเด็กรู้จักเลยยอมให้รับกลับไป..

    ถ้อยประโยคเดียวที่ดังก้องอยู่ในหูของนาโอะครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับไม่อาจรับรู้เรื่องใดได้อีกต่อไป เจ้าของเรือนผมดำสนิทผลีผลามไปที่อื่นหลังบอกเบาะแสที่มีอยู่ให้ทราบ โดยย้ำคำหนักแน่นและปลอบประโลมว่าจะรีบตามหาเด็กชายให้่เจออย่างแน่นอน กระนั้นน้ำเสียงที่สั่นพร่าของเซย์จิกลับยิ่งทำให้หวาดวิตกยิ่งขึ้น นาโอะไม่รู้ว่าเป็นเพราะชายหนุ่มยังตกใจอยู่ หรือเพราะกลัวว่าแม้แต่อิทธิพลของตนก็อาจช่วยเทะซึโอะไม่ได้กันแน่

    แต่จะด้วยสาเหตุใดกันแน่นั้นนาโอะไม่อาจใช้สติที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดคิดไตร่ตรองได้เลย ฝ่ามือเรียวขาวระริกไหวอย่างไม่อาจควบคุมได้ ตั้งแต่ได้ยินชื่อเพื่อนสนิทซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนี้ ในตอนแรกนาโอะหลงคิดไปเองว่าบางทีฮิโรกิอาจอยากพาเด็กชายไปเที่ยวเล่น ทว่าเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนแผ่นฟ้าถูกย้อมละเลงด้วยผืนราตรีก็ยังไม่มีการติดต่อใด ๆ เข้ามา ความเชื่อใจที่เคยมีต่อผู้ต้องสงสัยพลันลดหายลงจนหมด ยิ่งประกอบกับความเปลี่ยนแปลงที่เพิ่งได้ประสบด้วยตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งพาลให้คิดจินตนาการไปในทางไม่ดีต่างๆนานา

    เหตุการณ์เดิมกำลังเกิดขึ้นซ้ำสองเหมือนครั้งที่เซย์จิลักพาน้องชายคนสำคัญไป ทว่าครั้งนี้รอยแผลเดิมที่ถูกกรีดซ้ำกลับสร้างความเจ็บปวดให้ทวีขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า ด้วยน้ำมือของผู้ที่นาโอะเคยไว้ใจที่สุด เขาไม่อาจคาดคิดได้เลยว่าตลอดเวลาที่ต้องอยู่กับเซย์จิในบ้านหลังนี้เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนสนิท และยิ่งจนปัญญาคิดหาสาเหตุของการกระทำครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ฮิโรกิที่รู้จักไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้เป็นอันขาด

    ..เพื่อนสนิทกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนาโอะ..

    เป็นเวลานานหลายชั่วโมงหลังรับรู้เรื่องทั้งหมด ที่นาโอะเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องเดิมไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนสัมปชัญญะจะกลับมาครบถ้วน และตระหนักได้ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ความกังวลจึงยิ่งถาโถมเข้าใส่ และโกรธเคืองความเบาปัญญาของตนยิ่งกว่าสิ่งใด สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกใช่การมัวมาคร่ำครวญเสียใจผิดหวังในตัวฮิโรกิไม่ เรื่องในคราวนี้ไม่ได้เหมือนครั้งก่อน ผู้ต้องสงสัยเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไปหาใช่ผู้มีอำนาจที่ไม่อาจดิ้นรนต่อต้านได้ หากพยายามเร่งตามหาเข้าอาจพบตัวทั้งสองคนก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างที่ยังตั้งสติไม่ได้ ชายที่นาโอะคิดมาตลอดว่าเป็นเพียงคนนอกได้เริ่มลงมือทำอะไรสักอย่างไปแล้ว เขาเองก็ควรทำอะไรบ้างแล้วเหมือนกัน

    ทันใดนั้นเองนาโอะได้ยินเสียงคล้ายอะไรสักอย่างกระทบกันอย่างรุนแรงมาจากชั้นล่าง พอลองลงไปดูก็พบเซย์จิที่ออกจากบ้านไปเมื่อหลายชั่วโมง กำลังตวาดเสียงใส่โทรศัพท์มือถือด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเคร่งเครียด ประตูบ้านด้านหลังทางที่ชายหนุ่มเดินผ่านมาถูกเปิดทิ้งเอาไว้ ถัดไปเป็นเศษแจกันกระจัดกระจายน้ำไหลนองไปทั่วบริเวณ ชายเสื้อแขนยาวข้างหนึ่งที่เปียกน้ำทำให้ัสันนิษฐานได้ว่า เจ้าของบ้านคงเผลอปัดมือไปโดนแจกันตกแตกด้วยแรงอารมณ์จนเกิดเสียงดังเมื่อครู่

    " ฉันบอกให้หาให้เจอภายในคืนนี้ไงล่ะ "
    " จะวิธีไหนก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นแหละ! เลิกถามมากแล้วลงมือทำตามคำสั่งได้แล้ว "

    น้ำเสียงเฉียบขาดดึงนาโอะให้หันไปสนใจผู้ที่เดินวนไปวนมาอย่างกระวนกระวายใจอีกครั้ง ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าปลายสายต้องเป็นคนจากโลกเบื้องหลังที่อยู่ในการควบคุมของเซย์ิจิอย่างแน่นอน นักธุรกิจทั่วไปคงไม่สามารถใช้อำนาจสั่งการลูกน้องด้วยเหตุผลส่วนตัวในเวลาเช่นนี้ได้ ชายคนนี้กำลังใช้อำนาจอันมิถูกมิควรเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการอีกครั้ง ทั้งที่เคยนึกชิงชังมาตลอด หากแต่คราวนี้นาโอะกลับเห็นด้วยกับวิธีนี้ แม้ในใจจะรู้สึกขมขื่นจากภาพความทรงจำในอดีตก็ตาม กระนั้นฝ่ามือทั้งสองข้างกลับเย็บเฉียบ เหงื่อไหลซึมออกมา ร่างทั้งร่างราวกับถูกถ่วงไว้ยากจะเคลื่อนไหวได้

    วิญญาณร้ายกำลังสำแดงเดชดั่งที่เคยกระทำมาตลอด หากแต่ถ้านี่จะเป็นการช่วยเทะซึโอะได้ เขาก็ยินดีทนรับความเจ็บปวดจากรอยแผลเก่าเอาไว้ทั้งหมด อย่างน้อยยังดีกว่าทนห่วงหาน้องชายแทบขาดใจเหมือนที่กำลังเผชิญอยู่จนถึงเมื่อครู่

    " บัดซบที่สุด! "
    เซย์จิกดกระแทกนิ้วลงบนปุ่มวางสายอย่างหงุดหงิดหัวเสียเป็นที่สุด กว่าหลายชั่วโมงที่สั่งให้คนออกตามหาเด็กชาย รวมไปถึงตัวเขาที่ตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ รอบบริเวณโรงเรียนแต่ก็ไร้ผล

    "..เซย์จิซัง " เสียงแผ่วหวิวเอ่ยเรียกในที่สุด เจ้าของนัยน์ตาดำสนิทหันมองตามเสียงเรียกก็ให้ปวดใจยิ่งนัก เจ้าตัวอาจไม่รู้สึก แต่นาโอะในตอนนี้ดูน่าสงสารจับใจ ไม่ใช่มีสภาพน่าสมเพชเวทนา หากแต่เป็นแววตาเศร้าหมองคู่นั้นต่างหาก

    " นาโอะมีอะไรเหรอ " เซย์จิรีบตรงเข้าไปหาร่างเพรียวที่ดูราวกับขอนไม้แท่งเล็กใกล้หักเต็มที

    " เจอตัวเทะซึจังหรือยังครับ " ฝ่ามือเรียวคว้่าจับท่อนแขนแกร่งเอาไว้ ก่อนถามคำถามที่เซย์จิไม่อยากได้ยินมากที่สุด อิทธิพลและอำนาจล้นเหลือที่มีอยู่ช่างดูเปล่าประโยชน์ เขารู้ดีว่าต้องใช้เวลาในการค้นหา แต่เมื่อเห็นนาโอะในตอนนี้ความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดก็แทบจะหมดลงเต็มที

    "....ยัง " รู้สึกคล้ายลำคอตีบตันขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
    " ผมจะออกไปตามหาด้วย " ทันทีที่ได้ยินคำตอบนาโอะก็ตั้งท่าจะพุ่งออกนอกประตูบ้านไป ทว่ายังเร็วไม่พอเซย์จิที่ดึงมือไว้ได้ทัน

    " ไปตอนนี้ไม่ได้ มันมืดแล้วอันตราย นายอยู่ที่นี่แหละดีแล้ว "
    " ก็เพราะมันทั้งมืดทั้งอันตรายผมถึงต้องออกไปเองไง เทะซึจังยังเป็นเด็ก ไม่ยิ่งอันตรายกว่าเหรอครับ " นาโอะเถียงอย่างไม่ลดละ ขณะพยายามสะบัดมือที่ถูกจับกุมไว้ วงแขนแข็งแรงจึงโอบกอดร่างที่ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลังเอาไว้ก่อนเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง

    " เชื่อฉันแล้วอยู่ที่นี่เถอะนะ "

    " ..จะ..จะให้ผมทนอยู่เฉยได้ยังไง..กันล่ะครับ เทะซึจังจะเป็นยังไงบ้างแล้วก็ไม่รู้.."
    น้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมแรงขัดขืนที่อ่อนลงทุกขณะ ราวกับร่างนี้ใกล้หมดลมหายใจ แค่เวลาที่เสียไปกว่าจะตั้งสติได้อีกครั้งก็มากเกินพอแล้ว ตอนนี้แม้แต่เสี้ยววินาทีนาโอะก็ไม่อาจปล่อยให้ผ่านไปอย่างไร้ค่าได้อีกต่อไป แต่ในเมื่อเซย์จิยังควานหาคนทั้งสองไม่เจอ แล้วตัวเขาในตอนนี้จะทำอะไรได้

    "..นาโอะ "
    ไม่มีถ้อยคำใดหลุดออกมาจากเรียวปากบางอีก แต่เซย์จิรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นบนเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่อยู่ ไหล่บางในอ้อมแขนระริกไหว โดยไม่มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน เขาเคยเห็นนาโอะร้องไห้มาหลายต่อหลายครั้ง ดวงตาคู่สวยบวมช้ำกับหยาดน้ำตาที่พร่างพรูออกมาไม่ขาดสาย พร้อมถ้อยคำอ้อนวอนปนเสียงสะอื้นเป็นสิ่งที่เห็นจนชินตา ทว่าไม่มีครั้งใดที่นาโอะจะหลั่งน้ำตาเงียบ ๆ ราวกับเจ็บปวดใจจนไม่อาจเปล่งเสียงพูดออกมาได้เลย

    " ..ถ้ามันจะทำให้นายสบายใจขึ้นบ้าง ก็ร้องออกมาเถอะ "

    ฝ่ามือหนาลูบแผ่นหลังของนาโอะอีกครั้ง พร้อมกันกับที่เรียวแขนเล็กยกขึ้นกอดเซย์จิเอาไว้ แล้วซบหน้านิ่ง รอยเปียกแผ่ขยายเป็นวงกว้างบนเสื้อสีขาว ยิ่งพูดปลอบเท่าไหร่ฝ่ามือที่เกาะกุมอยู่ด้านหลังเสื้อก็ยิ่งกำแน่นมากขึ้นเท่านั้น ความอัดอั้นตันใจกำลังถูกระบายออกมาทีละน้อย นาโอะรู้ดีว่าไม่ควรเสียเวลาให้กับความอ่อนแออีก แต่แค่ตอนนี้เท่านั้น ขอซึมซับความอบอุ่นและกำลังใจจากเซย์จิให้มากพอจะทนรับกับอะไรก็ตามที่กำลังคอยอยู่ ให้มากพอจะเผชิญหน้ากับฮิโรกิได้อย่างเข้มแข็ง ดังนั้นไม่ว่าชายคนนี้จะเสแสร้งหรือไม่นาโอะก็ไม่ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว

    เมื่อเสียงนุ่มหูเรียกชื่อเจ้าของดวงตาแดงเรื่อก็เงยขึ้นมองอย่างว่าง่าย นิ้วเรียวบรรจงเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้ กลีบปากบางเผยอขึ้นคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับเม้มแน่นอีกครั้ง นาโอะในตอนนี้ดูอ่อนไหวราวกับจะสลายหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างไรอย่างนั้น

    " ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะตามหาเทะซึโอะให้เจอให้ได้ " เซย์ิจิแนบริมฝีปากลงบนดวงตาสีอ่อนของผู้ที่พยักหน้าช้า ๆ เป็นเชิงรับรู้ ก่อนไล่ลามไปยังพวงแก้ม เป้าหมายต่อไปคือกลีบปากสีสวย ทว่าในวินาทีถัดไปก่อนจะได้ลิ้มชิมรสหอมหวาน โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นคล้ายต้องการขัดจังหวะ

    " มีอะไร "
    เซย์จิกรอกเสียงลงไป ฝ่ามืออีกข้างลูบสัมผัสหลังของผู้ที่มองมาอย่างคาดหวังในข่าวสารที่กำลังจะได้รับ

    " อืม " เขารับคำสั้น ๆโดยไม่พูดอะไรมาก
    " เข้าใจแล้ว คอยดูไว้ให้ดูอย่าให้คลาดสายตา "
    ทันทีที่วางสายลงใบหน้าคมก็แลดูตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง

    " มีคนเห็นทั้งสองคนกำลังไปที่ทะเล " ชายหนุ่มหันมาพูดกับนาโอะ

    ..ทะเล สายน้ำและการพลัดพราก..

----------------------------------------

ครึ่งหลังอีกไม่เกินห้าัวัน(??)แน่นอนค่ะ ;__;
รู้สึกว่าตอนนี้แต่งยากจนเขียนต่อไม่ค่อยได้เลยล่ะค่ะ ขอโทษที่ดองด้วยนะคะ *โค้ง*
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 22-10-2010 18:08:27
จิ้มคุณ mousou  :z13:
สงสารนาโอะจัง :monkeysad: ต้องเข้มแข็งน๊า
เซย์จิก็ต้องคอยดูแลนาโอะด้วยล่ะ
และตามตัวเทะซึจังกลับมาให้ได้
ส่วนไอ้ฮิโรกิแกต้องตายสถานเดียว :fire:
ปล.มาต่อเร็ว ๆ น๊า :bye2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sa~waii ที่ 22-10-2010 19:05:20
สงสารนาโอะอ่าาาา

ความรักนี่ทำให้ฮิโรกิเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเนอะ

อีห้าวันจริงๆน้าาาา ตั้งตาเค้าท์ดาวเลยนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-10-2010 20:18:47
ดีแล้วค่ะที่ไปทะเล พอช่วยเทะซึจังได้แล้ว ก็จับฮิโรกิถ่วงทะเลไปเลยค่ะ
อยากนิสัยไม่ดีดีนัก :beat:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: akike ที่ 22-10-2010 20:46:00
เซย์จิ  ตอนนี้เราพักรบกับนายก่อนก้อได้
ตามหาลูกให้เจอนะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 22-10-2010 22:02:49
ไอ้ฮิโรกิ :z6: :z6: :z6: :z6:

ทำอย่างงี้ทำนาโอะได้ยังไง

ไหนบอกว่ารักนาโอะมาก

คนที่รักเค้าทำอย่างงี้หรอ??

เซย์จิ  ฆ่ามันไม่ตายไปเลยต่อให้นาโอะต้องโกรธอีกรอบก็เหอะ

คนอย่างงี้ไม่สมควรเก็บไว้ทำซากกกกก :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-10-2010 22:14:35
แงๆๆๆ ไอ้บ้านั่นจะบ้าเทะซึโอะไปลอยทะเลเหรอ เลวววววววววววมาก
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 23-10-2010 15:36:17
อย่าให้เทะซึโอะ เป็นไรไปเลย
สงสารเด็กอะไม่ได้รู้เรื่องไรเลย
เซจิย์ถ้าเจอตัวมันเมื่อไหร่อย่าเอาไว้นะจัดการเลย :m16:
 :pig4: writer คะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-10-2010 15:44:28
แวะมาอ่านขอรับ :a11:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 25-10-2010 07:30:35
อ้ากกกกกก รีบต่อนะคะ ขาดตอนมากมายค่ะ

ฮิโรกิ จะทำอะไรอีกเนี่ย เอานี่ไปกิน  :z6: อีกที  :z6: อีกที  :z6: และอีกที  :z6:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pigrabbit ที่ 25-10-2010 17:48:49
^^ ตามอ่านจนทันแล้วเย้!

สนุกมากเลยค่ะน่าติดตามสุดๆ
สงสารนาโอะจัง ฮิโรกิแย่สุดๆ :P
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-10-2010 11:00:24
โห ฮิโรกิ แกนี่นะ ตอนแรกๆอุตส่าห์เห็นใจ ชิชะ  :beat:  โดนเซย์จิจับถ่วงทะเลไปซะเลยหมดเรื่อง
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 29-10-2010 15:51:49
กร๊าซซซซซซซซซซซซซ :m31:

สติของไอ้ฮิโรกิมันไปอยู่ที่ไหนหมดฟระ โมเมว่าคนอื่นรักตัวเอง ซะไม่เห็นไม่มองอะไรเลย :angry2:

เทะซึจังจะโดนทำอะไรไปบ้างแล้วนะ นี่จะโดนเอาไปจับกดน้ำแล้วทิ้งลงทะเลรึเปล่าวะ :serius2:

 :sad4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-10-2010 16:43:57
เลย 5 วัน มาได้ 72 ชั่วโมงแล้วนะคะ  o18

ล้อเล่นน่า แค่แวะมาบอกว่า รออ่านอยู่นะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Rinze ที่ 29-10-2010 20:43:13
อ๊า!!!!!!!!
นี่สินะที่เรียกว่าลุ้นตัวโก่ง
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pigrabbit ที่ 27-11-2010 05:05:12
 :monkeysad: คนแต่งหายไปไหนค่ะ~ รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 27-11-2010 05:07:31
คนแต่งหายเป็นเดือนๆอีกแล้ววววววววววววว o18
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 30-11-2010 15:37:42
ฮิโรกิ มันพา เทะซึจัง ออกอ่าวไทยไปไกลแล้วมั้ง เซย์จิ ถึงถามไม่เจอสักที  มันทะเลแถวไหนฟ่ะ  :z3:  :z3:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 13-12-2010 20:31:09
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกดีครับ

ชอบเทะซึจัง สุดๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 ครึ่งแรก][22/10/10] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 13-12-2010 20:35:03
คิดถึงเรื่องนี้มากอ่า
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 15-01-2011 16:36:19
Miracle 27 ครึ่งหลัง (จบตอน)

    ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่ง เด็กชายไม่ได้สติ และผู้อับจนไร้หนทาง

    ไม่มีคำนิยามใดจะเหมาะสมกับบุคคลที่กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์กดดันในเวลานี้ได้มากไปกว่านี้แล้ว ทันทีที่ตามมาสมทบกับคนของเซย์จิที่ตามสะกดรอยฮิโรกิมาจนถึงทะเล นาโอะก็ตระหนักได้ว่าทุกอย่างเลวร้ายกว่าที่คาดไว้มาก น้องชายของเขาไม่ได้สติถูกพาดวางอยู่บนบ่าของฮิโรกิที่กำลังเดินลงทะเล ท้องฟ้าในคืนนี้มืดจนการมองเห็นพร่าเลือน ทว่าภาพเทะซึโอะกำลังจะถูกทิ้งลงน้ำกลับมองเห็นได้ชัดยิ่งกว่าสิ่งใด

    " ฮิโรกิ!! "  
    นาโอะตะเบ็งเสียงเรียกผู้ที่ยืนอยู่กลางทะเล คืนนี้ลมสงบแต่คลื่นที่ซัดสาดชายฝั่งดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก แม้ระดับน้ำจะสูงเพียงเอวฮิโรกิ หากแต่นั่นเป็นระดับที่สามารถคร่าชีวิตเด็กน้อยได้ ผู้ถูกเรียกเหลือบมองมาก่อนแค่นหัวเราะออกมาให้เสียดแทงประสาทสัมผัสจนรู้สึกเจ็บไปหมด โดยเฉพาะตรงหน้าอกด้านซ้ายที่ราวกับจะหยุดเต้นเสียให้ได้

    " ตามมาเจอจนได้สินะ "  
    ฮิโรกิจ้องมองไปยังนาโอะและเซย์จิที่ยืนอยู่ถัดไปไม่ไกลนัก กับชายชุดดำแปลกหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นคนของเซย์จิอีกกลุ่มหนึ่ง แต่เขาก็หาได้หวั่นเกรงกับจำนวนคนที่มากกว่าไม่ ตราบใดที่เทะซึโอะอยู่ในมือ ไม่มีทางที่คนพวกนั้นจะบุ่มบ่ามลงมือทำอะไรแน่นอน

    " ...ฮิโรกิ..ทำไม..ถึงทำเรื่องแบบนี้ล่ะ.... "
    น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามออกไป คำว่าเสียใจคงไม่พอกับความรู้สึกของนาโอะ คนที่โดนหักหลังคงเหมือนตัวเขาตอนนี้ ความไว้ใจที่เคยมีให้สูญสลายหายไปไม่มีค่าอันใดอีก ในเมื่อความจริงทุกอย่างปรากฏแก่สายตา ผู้ที่เคยไว้ใจที่สุดปองร้ายคนสำคัญที่สุดมาตลอด และตัวเขาก็ช่างโง่เขลาที่ไม่เฉลียวใจอะไรเลย

    " นาโอะไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะช่วยนายจากหมอนั่นเดี๋ยวนี้แหละ "
    ฮิโรกิหรี่ตามองร่างเด็กชายในอ้อมแขน สายตาทั้งคู่ประสงค์ร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย ทั่วทั้งร่างของนาโอะชาวาบไปเลยทีเดียว ก่อนรีบเอ่ยคัดค้านรัวเร็ว

    " ผมรู้ว่าฮิโรกิอยากช่วย แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเทะซึจัง คืนเทะซึจังให้ผมเถอะนะครับ "
    คู่สนทนาทำหูทวนลมกับคำขอร้องนั้น พลางเพลิดเพลินอยู่กับแววตาหวั่นวิตกของเซย์จิบุคคลที่ชังหน้าเป็นที่สุด ในที่สุดนี้เขาก็สามารถเล่นงานเซย์จิผู้ซึ่งทำร้ายนาโอะมาโดยตลอดได้  

    เดือดร้อนใจเป็นทุกข์ที่เทะซึโอะตกอยู่ในอันตรายอย่างนั้นสินะ ช่างสาแก่ใจดีเหลือเกิน ตอนแรกตั้งใจเพียงแค่กำจัดเด็กชายให้ได้ จึงเลือกใช้วิธีที่สะดวกที่สุดด้วยการล่อเหยื่อออกมา มอมยาให้สลบและพามาทิ้งลงทะเลในตอนกลางคืน เท่านี้ก็จะเป็นการกำจัดหลักฐานไปในตัวด้วย แต่เมื่อมาเห็นเช่นนี้ในใจก็กระสันอยากเอาคืนให้สาแก่ใจยิ่งขึ้น

    ..เพราะอะไรนายถึงห่วงผลการทดลองไร้ค่านี่นักนะ แต่เรื่องพรรค์นั้นคิดมากไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ ถ้านี่จะเป็นหนทางเล่นงานเซย์จิได้เท่านั้นก็พอแล้ว..

    " ทำไมจะไม่เกี่ยว ที่นายต้องทนอยู่ในสภาพนี้เพราะเด็กนี้ยังไงล่ะ "
    " เอ๋ ?.." นาโอะขมวดคิ้วให้กับคำตอบที่คาดไม่ถึง  
    " เอาแต่บอกว่าเพื่อเทะซึจังตลอดเวลา รู้มั้ยมันน่ารำคาญขนาดไหน ถ้าไม่มีเด็กนี่ซะคน นายก็ไม่ต้องอดทนเพื่อใครและทรมานแบบทุกวันนี้อีก ฉันกำลังจะช่วยนายไงล่ะ น่าจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำนะ "

    "..ม..ไม่ใช่อย่างนั้น...."
    " ถ้าไม่มีเด็กนี่สักคน นายก็จะรับรักฉันได้อย่างสบายใจไงนาโอะ "

    "..อะ.. " ผู้บ้าคลั่งพร่างพรูความในใจโดยไม่สนใจฟังผู้ใดแล้วทั้งนั้น
    " อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ ฉันรักนายนะนาโอะ เอาไว้จัดการตัวขัดขวางความรักของเราได้เมื่อไหร่ เราไปเริ่มชีวิตใหม่ด้วยกันสองคนนะ "
    "...หนอย....." เซย์จิขบกรามแน่นด้วยความเดือดดาลที่แล่นริ้วไปทั่ว ทว่าจะปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือสติไม่ได้เป็นอันขาด

    " อีกนิดเดียวทุกอย่างก็จะสำเร็จแล้ว นาโอะอดทนอีกนิดนะ "
    "  ..ดะ..เดี๋ยวก่อนสิ..หมายความว่ายังไง "
    ขาทั้งสองข้างคล้ายถูกตรึงไว้ ร่างทั้งร่างก็ดูเหมือนถูกสาปให้ไม่อาจขยับเขยื้อน ทำได้แค่ส่งพยายามห้ามปรามด้วยคำพูดเท่านั้น
 
    " ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วล่ะ ที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ของฉันเอง "
    เจ้าของเรียวปากที่กำลังแสยะยิ้มล้วงหยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกางใบมีดออกมา คมมีดสะท้อนแสงจากเสาไฟริมชายหาดเป็นประกายแวววาว ใบหน้าขาวซีดของนาโอะยิ่งไร้สีลงไปอีก ทุกอย่างที่ถาโถมเข้ามา ทุกความคิดของฮิโรกิ รวมถึงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ทำให้ในสมองขาวโพลน

    ภายใต้รอยยิ้มและหน้ากากของคำว่าเพื่อนสนิทที่ฮิโรกิสวมใส่อยู่ซุกซ่อนความคิดเหล่านี้เอาไว้เองหรอกเหรอ เขาไม่เคยสังเกตเลย จนกระทั่งทุกอย่างสายเกินแก้ ฮิโรกิถูกพิษรักกัดกร่อน ถูกความลุ่มหลงครอบงำยากถอนตัวได้
 
    " มีด!? "
    " อย่าเข้าไปนะนาโอะ "  

    นาโอะถลาเข้าไปหาคู่สนทนาที่ยังอยู่ยืนกลางน้ำทันทีที่อีกฝ่ายเงื้อมีดขึ้น ทว่าเซย์จิกลับเป็นฝ่ายเร็วกว่า พุ่งเข้าไปดึงร่างเพรียวเอาไว้และผลักล้มลงบนฝั่ง ก่อนเข้าไปปะทะกับฮิโรกิเสียเอง ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายที่มืดสนิท และเสียงน้ำกระเพื่อมระลอกแล้วระลอกเล่า นาโอะไม่อาจประมวลผลเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้เลย จนกระทั่งได้ยินเสียงคล้ายวัตถุหนักตกกระแทกพื้นน้ำ ชายคนหนึ่งเดินฝ่ากระแสน้ำกลับขึ้นมาบนฝั่ง ในอ้อมกอดมีร่างเด็กชายที่ยังไม่ได้สติตัวเปียกปอนด้วยกันทั้งคู่

    " เซย์จิซัง! "

    ในความมืดด้านหลัง นาโอะเห็นฮิโรกิใบหน้าบวมช้ำค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มตัวด้วยสภาพที่เปียกโชกไม่แพ้คู่กรณี ทันทีที่เซย์จิให้สัญญาณลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักก็เข้าไปรุมจับตัวฮิโรกิเอาไว้ ก่อนจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกทันที ดวงตากราดเกรี้ยวไล่มองทุกคนด้วยความแค้นเคือง พลางสบถกร่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายต่าง ๆ นานา

    ทั้งน่าสมเพช และดูไม่ได้เอาเสียเลย
    เขาต้องพ่ายแพ้ให้เซย์จิอีกแล้ว ชายผู้มีดีเพียงแค่อำนาจและกำลังคน ก็แค่นั้นเอง หากไร้ซึ่งอำนาจใดมีหรือที่เขาจะแพ้อย่างน่าสมเพชเช่นนี้

    เป็นอย่างนั้นจริงน่ะเหรอ ?  

    ดวงตาสีอ่อนฉายแววปวดร้าวผิดหวังในตัวเพื่อนสนิทอย่างไม่คิดจะปิดบัง ก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่นซึ่งก็คือเซย์จิที่ยืนอยู่ด้านหน้า นาโอะจิตใจอ่อนโยน แต่ก็ใช่จะให้อภัยได้ทุกเรื่อง เขาเจ็บและเสียใจยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ และคงไม่อาจมองฮิโรกิด้วยสายตาแบบเดิมได้อีกต่อไป
 
    เมื่อพิจารณาให้ละเอียดเซย์จิเองก็มีแผลฟกช้ำปรากฏตามตัวไม่น้อยทีเดียว ดวงตาสีอ่อนลอบสังเกตร่องรอยการต่อสู้เมื่อครู่บนร่างกายสูงใหญ่ โดยที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่ทันรู้ตัว ก่อนยื่นมือไปรับเทะซึโอะ

    " เทะซึโอะ.."
    ความกังวลใจพลันจางหายไปทันทีที่ได้กอดน้องชายไว้ในอ้อมแขน ได้สัมผัสไออุ่นและรับรู้ว่าเด็กชายปลอดภัยดี

    ..ติ๋ง..

    " เอ๋!? " นาโอะเงยหน้าขึ้นมองชายเบื้องหน้าอีกครั้ง รอยเลือดบนเชิ้ตขาวที่ถูกร่างของเทะซึโอะบังไว้เมื่อครู่นอกจากรอยช้ำตามใบหน้าปรากฏเด่นชัดขึ้นมา
    " เซย์จิซังโดนแทงด้วยเหรอครับ " เจ้าของชื่อก้มลงมองรอยเลือดก่อนยักไหล่น้อยๆ คล้ายไม่ใส่ใจเท่าใดนัก
    " แผลแค่นี้เองไม่้เป็นไรหรอก "  
    " แต่เลือดออกเยอะเลยนะครับ รีบไปโรงพยาบาลดีกว่า.... "
    น้ำเสียงกระวนกระวายถูกหยุดไว้ด้วยประโยคถัดมาของผู้ที่ระบายรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าตั้งแต่เมื่อครู่

    " บอกว่าไม่เป็นไรไงล่ะ นายรีบดูอาการเทะซึโอะดีกว่านะ "
    "..แต่........"
    " เชื่อฉันเถอะน่า"

    เซย์จิคนนี้ไม่ใช่เซย์จิที่นาโอะรู้จักมาตลอด
    หากจะว่ากันตามจริงอีกคนหนึ่งที่นาโอะไม่อาจมองด้วยสายตาแบบเดิมได้ไม่ได้มีแค่ฮิโรกิคนเดียว
 
    สมัยเพิ่งถูกพาตัวเข้าองค์กรลับ และต้องตกเป็นเครื่องระบายความใคร่ให้เซย์ิจิได้ไม่นาน นาโอะยังจำได้ดีถึงคำคืนที่ต้องดิ้นรนขัดขืนเพื่อความอยู่รอด ทั้งก่นด่าและใช้กำลังต่อต้านเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไร้ผลทุกครั้งไป จนกระทั่งความอัปยศอดสูโรมเร้าถึงขีดสุด จึงได้ตัดสินใจทำร้ายผู้อื่นเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยใช้โคมไฟฟาดเข้ากลางศีรษะเซย์จิหวังจะให้ถึงชีวิต เพื่อที่ทุกอย่างจะได้จบสิ้นเสียที

    ทว่าผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม เซย์จิที่มีฝีมือต่อสู้พอตัวหลบได้ทันเลยแค่หัวแตกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โทษของการขัดขืนครั้งนั้นนาโอะจำฝังใจไม่มีวันลืม เขาถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง จำกัดอาหารและถูกข่มขืนติดต่อกันเป็นเวลานานเกือบอาทิตย์จนแทบไม่เหลือสภาพ กับถ้อยคำข่มขู่ที่ว่าใครก็ตามที่บังอาจทำให้เซย์จิผู้นี้ได้รับบาดเจ็บอย่าหวังจะได้มีลมหายใจอยู่ต่อ เลือดหนึ่งหยดของเขามีค่ายิ่งกว่าชีวิตของหนูทดลองอย่างนาโอะหลายร้อยหลายพันเท่า

    นาโอะตระหนักได้ในทันทีว่าเซย์จิเป็นคนเห็นแก่ตัวและให้ความสำคัญตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใด นั่นเป็นอีกหนึ่งในด้านมืดของชายผู้นั้นที่เขาคิดว่าเป็นมาตลอด แต่มาตอนนี้คน ๆ นั้นกลับเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงอันตรายแทนเทะซึโอะ ทั้งยังไม่ใส่ใจบาดแผลกลับบอกให้ห่วงคนอื่นก่อนจะดีกว่าอย่างนี้ ไม่ใช่ชายหนุ่มที่รู้จักมาตลอด
 
    ไม่ว่าใครต่างก็เปลี่ยนไปในทางที่คาดไม่ถึงจนนาโอะมึนงงสับสนไปหมด ทว่าสิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้คือข้อติดใจสงสัยทั้งหลายที่มีมาตลอดได้มลายหายไปตั้งแต่วินาทีนี้แล้ว

    ..การกระทำเป็นสิ่งพิสูจน์ได้ดียิ่งกว่าคำพูดนับร้อยนับพัน..

    " นาโอะ! "
    น้ำเสียงคุกคามแผดดังมาจากฮิโรกิซึ่งตอนนี้ถูกกดตัวลงบนพื้นทราย และกำลังดิ้นรนอย่างสุดกำลังเพื่อสะบัดชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนที่กำลังกดร่างของเขาเอาไว้อยู่ เจ้าของชื่อหันไปตามเสียง อ้อมแขนทั้งสองข้างกอดกระชับเด็กชายในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นทันทีที่สบเข้ากับดวงตาอันลุกโชนไปด้วยความคับแค้นใจของฮิโรกิ ราวกับกลัวจะโดนพรากของสำคัญไปอีกก็ไม่ปาน

    " รับจัดการเด็กคนนั้นสิ! โอกาสอยู่ในมือนายแล้ว....."
    " เลิกพูดแบบนั้นซะทีเถอะครับ! " นาโอะเป็นฝ่ายตะโกนเสียงดังบ้าง หยาดน้ำตาไหลอาบสองข้างแก้มด้วยความขมขื่นยากจะบรรยายได
    " ..ผ..ผม...ผมน่ะ..ไม่ได้รักฮิโรกิหรอกครับ...อึก..."
    นาโอะกลั้นหายใจเพื่อหยุดเสียงสะอื้น ก่อนรวบรวมสติและความคิดให้ดีอีกครั้ง คราวนี้ต้องปฏิเสธให้ชัดเจน หนักแน่น ไม่ให้ใครเข้าใจผิดได้อีก

    " โกหกทั้งเพ " คู่สนทนาพูดต่อทันทีไม่ปล่อยให้ฮิโรกิพูดแทรกได้อีก

    " จริงอยู่ที่ฮิโรกิดูแลทั้งผมทั้งเทะซึโอะมาตลอด แต่ระหว่างเราเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น ได้โปรดเลิกเข้าใจผิดสักทีเถอะครับ ..ผะ..ผมคงทำใจรักคนที่คิดจะเอาชีวิตเทะซึโอะไม่ได้ด้วยครับ "  

    ภายในหัวราวกับเครื่องจักรทำงานเกินกำลังจนแทบเรียบเรียงความคิดไม่ถูก ปลายนิ้วชาวาบเมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา ผู้ที่คิดจะเอาชีวิตเทะซึโอะหาได้มีแค่ฮิโรกิคนเดียวไม่ กระนั้น..แต่ถึงกระนั้นก็ตาม..นาโอะกลับไม่นึกรังเกียจเดียจฉันชายใจร้ายคนนั้นอีก ภาพความทรงจำเลวร้ายที่ผ่านมากลับกลายเป็นสิ่งที่คล้ายภาพฝัน ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไร

    "..ผะ..ผมรักใครไม่ได้นอกจาก...ซ..เซย์ิจิซังแล้วด้วยครับ" ลำคอแห้งผากไปหมด
    " เพราะอย่างนั้นเทะซึโอะไม่ผิดอะไรหรอกครับ จะผิดก็ที่ตัวผมเองที่ดันหลงไปกับความอ่อนโยนของเซย์จิซัง ..ขอโทษด้วยนะครับ! "  
    นาโอะโค้งจนสุดตัวทั้งน้ำตานองหน้า เขากำลังทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น อย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย แม้คนผู้ั้นั้นจะเคยทำให้เสียใจแค่ไหนก็ตาม

    คำว่ารักหากได้เอ่ยไปครั้งนึงแล้วนาโอะก็เพิ่งมารู้สึกตัว ถึงความรู้สึกที่ก่อรูปสร้างร่างอยู่ในมุมมืดของจิตใจ มันคือผลผลิตที่เกิดจากความรักอันบิดเบี้ยว ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีมาโดยตลอด เมื่อเมฆหมอกดำมืดของคำว่าเกลียดชังจางหายไปจึงได้เห็นผลสุกปลั่งที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น

    จะว่าไปแล้วนาโอะได้สัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างของเซย์จิมาตลอดเกือบค่อนชีวิต ทั้งด้านที่ต่ำช้าที่สุด หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานจากความผิดที่เข้าเล่นงานมโนธรรมซึ่งเขาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นมาตลอด ตัวเขาเองนั่นแหละที่รู้จักเซย์จิดีที่สุด

    เวลานี้นาโอะไม่อาจปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้เลย

----------------------------------
 
 
    เป็นอีกครั้งที่ความเงียบเข้าเป็นใหญ่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ แสงแดดยามเช้าส่องประกายสะท้อนใบไม้สีเขียวด้านนอกหน้าต่าง ครึ่งค่อนคืนมาแล้วหลังเรื่องทุกอย่างจบลง ไดยะที่ตามมาสมทบทีหลังอาสาจะรับฮิโรกิไปจัดการต่อโดยรับปากจะทำให้เพื่อนสนิทคนเดิมของนาโอะกลับคืนมาให้ได้ แน่นอนว่าดวงตาแข็งกร้าวอันเปี่ยมด้วยความชิงชังไม่ได้ลดลงเลย แต่คงเพราะคำสารภาพที่คาดไม่ถึงจากปากของนาโอะทำให้เจ้าตัวตกใจจนทำอะไรไม่ถูกไปเสียแล้ว

    คุณหมอคนเก่งถูกขู่แกมบังคับให้ไปดูอาการเด็กชายที่ยังนอนไม่ได้สติ ก่อนสนใจรอยแผลบนหน้าท้องของผู้ขู่บังคับที่ถูกพันไว้ลวกๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตด้วยซ้ำ ทว่าวินาทีที่ได้ยินว่าเทะซึโอะปลอดภัยดีแค่ถูกวางยาสลบเท่านั้น เซย์จิกลับยืนกรานหนักแน่นจะพาสองพี่น้องกลับบ้านทันที โดยไม่คิดจะแวะโรงพยาบาลที่ไหน หรือแม้แต่จะให้ไดยะดูอาการ

    นาโอะจะต่อต้านดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นยามที่มองมาแล้วบอกว่า ต้องการให้เทะซึโอะได้พักผ่อนในที่ที่อบอุ่นและปลอดภัยโดยเร็วได้ยังไงกัน

    ..เอาเถอะ หากเซย์จิเป็นอะไรไปเขาจะเป็นคนดูแลเองก็แล้วกัน..

    แต่เมื่อมาถึงที่หมายนาโอะที่ร้อนใจเป็นห่วงเซย์จิ กลับต้องทำตามคำสั่งเจ้าของบ้าน เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องชายเสียก่อน จึงจะได้หันมาจัดการกับแผลซึ่งถึงจะไม่มีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี

    ระหว่างการทำแผลนาโอะรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เขาบอกรักไปแล้วถึงจะเพิ่งรู้ใจตัวเองก็เถอะ แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย ตอนแรกคงเพราะทุกอย่างวุ่นวายชุลมุนไปหมด แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลและได้อยู่กันตามลำพังแล้ว เซย์จิก็ยังคงไม่ปริปากพูดอะไรออกมา ทั้งที่จนถึงเมื่อครู่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการให้จัดการเรื่องของเทะซึโอะมาตลอดแท้ ๆ  นาโอะเองก็เต็มกลืนกับความอึดอัดที่กดทับอยู่รอบตัวหากแต่ก็ทำอะไรไม่ถูก

    บางที..นาโอะคิดกับตัวเอง บางทีคำพูดของตนอาจไม่น่าเชื่อถือพอ มาลองคิดดูแล้วก็สมควรอยู่หรอก ก่อนหน้านี้บอกว่าเกลียดนักเกลียดหนา ผ่านไปไม่ถึงข้ามคืนกลับมาบอกว่ารัก เป็นใครก็ต้องไม่เชื่อเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แม้แต่ตัวนาโอะเองยังแทบไม่อยากเชื่อ ว่าหลังคลี่คลายความเข้าใจผิดที่ตนมีมาตลอด จะพบความรู้สึกใหม่ที่แฝงเร้นอยู่ภายใต้จิตใจได้อย่างแนบเนียนขนาดนี้เข้าได้

    ตลอดเวลาเซย์จิเฝ้าตามขอโทษมาตลอด ตอนนี้ได้ฟังคำบอกรักที่ราวกับเป็นคำโกหกแบบนี้เข้าคงเสียใจจนไม่รู้จะพูดอะไรเลยกระมัง เจ้าของความคิดฟุ้งซ่านลอบถอนหายใจยาวเหยียด จนเผลอกดสำลีเข้ากับปากแผลเต็มแรง

    "..โอ๊ย! "
    " ข..ขอโทษครับ "
    นาโอะรีบก้มหัวขอโทษเป็นการใหญ่ ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงหัวเราะบางเบา เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเรียวปากบางของเซย์จิแย้มยิ้มหัวเราะราวกับมีเรื่องน่ายินดี ดวงตาสีอ่อนเหลือบมองมือข้างที่เผลอกดแผลและยังไม่ได้ดึงออกสลับกับเซย์จิไปมา วันนี้อะไร ๆ ก็ดูจะอยู่เหนือความคาดหมายไปเสียหมด

    " ..เซย์จิซัง ? " เจ้าของดวงตาฉงนใจเอียงคอมอง
    " ฉันเจ็บ แสดงว่านี่ไม่ใช่ความฝันสินะ " บทพูดที่แลดูคล้ายในละครที่เคยดูหลุดออกมาจากปากของผู้ที่ไม่น่าจะเคยได้ดูของเหล่านั้น
    " เอ๋ ? เป็นแผลก็ต้องเจ็บสิครับ "  

    " นั่นสินะ เป็นแผลก็ต้องเจ็บ "
    ชายหนุ่มรั้งร่างเพรียวที่นั่งอยู่บนพื้นเข้ามากอดแน่น ไม่ยี่หระต่อความเจ็บปวดทางกาย ผู้ที่กำลังมึนงงได้แต่ยินยอมด้วยไม่เข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเท่านั้น สำลีในมือหล่นลงบนพื้น ขวดแอลกอฮอล์ที่เปิดฝาทิ้งไว้ถูกปัดล้มจนหกอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    "..ค..ครับ.."
    " ในที่สุดนาโอะก็ใจตรงกับฉัน ไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่านี้แล้วล่ะ "
    อ้อมกอดยิ่งรัดแน่นมากขึ้น กระนั้นนาโอะกลับไม่ใส่ใจอีกต่อไป ก่อนยิ้มบางเบาและรับคำสั้น ๆ ที่แท้เซย์จิก็รู้สึกยินดีจนทำอะไรไม่ถูกนี่เอง บ้าเหลือเกินที่คิดมากไปเองขนาดนั้น

    " นาโอะรู้มั้ยฉันมีความลับจะบอกนายมาตลอด แต่ไม่กล้าเพราะกลัวนายจะยิ่งเกลียดฉันน่ะ "
    น้ำเสียงจริงจังจนน่าประหลาดใจอย่างที่ไม่ได้ยินได้บ่อยนัก จนร่างในอ้อมแขนแกร่งดันกายออกมานั่งข้างกันดี ๆ เพื่อตั้งใจฟัง ตอนนี้ที่ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ถึงเวลาต้องบอกเรื่องนั้นกับนายได้แล้วใช่มั้ย ?

    " เรื่องอะไรเหรอครับ ? "
    " ที่จริงเทะซึโอะไม่ใช่้น้องชายของนายหรอก " กลีบปากบางของนาโอะคลี่ยิ้มที่ไม่อาจตีความได้
    " เรื่องนั้นผมรู้อยู่แล้วล่ะครับ "
    " ฉันรู้ว่านาโอะรู้เรื่องนี้แล้ว แต่นายคงไม่รู้ว่าเทะซึโอะเป็นลูกของฉันกับนาย "

    " อะไรนะครับ ? "นักธุรกิจหนุ่มเอื้อมมือไปคว้าฝ่ามือที่เล็กกว่ามากขึ้นมาลูบเบา ๆ ก่อนเปิดปากเล่าทุกอย่างออกมาจนหมด

    ความจริงที่ปกปิดไว้มาตลอดถูกเปิดเผยอีกครั้งให้ผู้ที่ควรจะรู้ที่สุดได้ัฟัง ท่ามกลางความตื่นตะลึงของนาโอะที่เจ้าตัวแสดงออกมาเพียงพยักหน้ารับเป็นครั้งคราว ขณะตั้งใจฟังทุกรายละเอียดของความลับเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนเหนือธรรมชาติ แต่กลับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับ SW ที่ทำให้เขาไม่แปลกใจเท่าใดนัก พลางครุ่นคิดอะไรบางอย่างไปด้วย

    " ขอโทษที่ปิดบังมาตลอด " นาโอะส่ายหน้าช้า ๆ ให้กับคำขอโทษนั้น

    " ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงความจริงก็คือความจริง แต่ผมขอถามอะไรเซย์จิซังสักอย่างได้มั้ยครับ "
    เจ้าของดวงตาสีอ่อนเงยขึ้นมองคู่สนทนา ด้วยแววตาจริงจังไม่แพ้น้ำเสียงของเซย์จิที่เอ่ยปากเล่าทุกอย่างเมื่อครู่ และเป็นแววตาที่ไม่อาจคะเนความรู้สึกของเจ้าของได้เลย

    " ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พูดมาสิ " นาโอะสูดหายใจเข้าหนึ่งครั้งราวกับจะรวบรวมความกล้าที่กระจัดกระจายหายไปให้กลับมา ก่อนเอ่ยถามออกมาในที่สุด

    " คุณรู้ว่าเทะซึโอะมีความสัมพันธ์ยังไงด้วยมาตั้งแต่ต้นเลยสินะครับ "

    "....ใช่แล้วล่ะ "
    เขาเงียบไปนานก่อนตอบออกมา คล้ายกำลังสารภาพผิดอย่างไรอย่างนั้น แต่เมื่อร่างเพรียวพิงซบเซย์จิ พลางตอบรับเสียงแผ่วคล้ายหมดสิ้นเรี่ยวแรง ทำให้ความกังวลที่เริ่มก่อร่างในจิตใจอีกครั้งสลายหายไปจนไม่เหลือ

    " เหรอครับ "
    " นาโอะเรามาเริ่มกันใหม่นะ เราสามคนมาสร้างครอบครัวที่มีความสุขด้วยกันเถอะ "
    ชายหนุ่มจุมพิตลงบนกลุ่มผมเส้นเล็กของนาโอะ ก่อนโอบกระชับเอวบางเข้าประชิดตัว ทว่ากลับไม่ได้รับคำตอบรับใด มีเพียงเรียวแขนบางที่โอบกอดกลับมาเท่านั้น

    ..นาโอะไม่ได้ตอบรับคำขอนั้น..

    เซย์จิกับนาโอะต่างก็เหมือนกันตรงที่ไม่รู้ความรู้สึกตัวเองในตอนแรกจนทำพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า สร้างบาดแผลให้แก่กันและกันไปมากมาย
    แต่จะยังพอมีโอกาสให้แก้ตัวสำหรับผู้หลงเดินทางผิดหรือไม่ ?
    หรือหนทางข้างหน้าจะเป็นทางตันกันแน่นะ..


TBC Chapter 28

ดองไปนานมากอีกแล้วค่ะ
ไร้ข้อแก้ตัวเลยค่ะ เพราะตันแต่งไม่ออกด้วยแล้ว นานๆเข้าก็ไม่ว่างพอดีเลยหายไปนานอย่างที่เห็นเนี่ยแหละค่ะ T^T
แต่ถ้าไม่มีอะไรพลาดน่าจะอีก2-3ตอนก็จบแล้วล่ะค่ะ! >w<
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 15-01-2011 18:08:59
 :กอด1: ไรท์เตอร์ก่อน คิดถึงๆๆ
ในที่สุดฮิโรกิก้อโดนจัดการ  o13
แล้วนาโอะกับเซย์จิก้อแบบว่า...  :o8:
อยากอ่านซีนหวานๆของคู่นี้จังเลยค่ะ

รอตอนหน้านะคะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-01-2011 18:16:19
มาๆๆ มาจุ๊บทีนึง  :จุ๊บๆ: ในที่สุดก็มาต่อแล้ว
แต่ฮิโรกิมันบ้าไปแล้วจริงๆด้วย จับถ่วงทะเลหรือยังเซย์จิซัง :fire:
นาโอะอย่าคิดมากอีกเลย ที่ผ่านมาใช้สมองตัดสินทุกอย่าง เลยไม่มีความสุขไง
ลองใช้ใจตัดสินดูบ้าง รับรอง สามคนพ่อแม่ลูกแฮปปี้ดี๊ด๊า :m3:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 15-01-2011 18:35:33
โอย พุ่งเข้ากอดคุณมูซูค่ะ
คิดถึงๆๆๆ
คิดถึงไดยะซังมากด้วย(ก๊ากกกกกกกกกก)

ในที่สุดก็คลี่คลายเนอะ ทีนี้ก็เหลืออนาคตแล้วล่ะ
หวังว่าจะเป็นอนาคตที่เต็มไปด้วยความสุขของนาโอะจังและเทะซึจังนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 15-01-2011 18:37:46
เย้ๆๆๆๆ ดีใจจังเลย

นาโอะกับเซย์จิดีกันซักที

ผ่านพายุมาหลายลูก หวังว่าต่อไปนี้จะต่อสู้ไปด้วยกันน๊าาา

ไรเตอร์สู้ๆๆๆๆค่ะ ยังไงเราก็รอได้  แต่อย่างนานมากน่ะค่ะ ใจจะขาดเอา :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 15-01-2011 19:43:44
ดีใจจังที่ได่อ่านต่อ
ที่ดีใจที่สุด คือเทะซึโอะปลอดภัย

แต่คำทิ้งท้าย น่ากลัวจัง
อย่าเกิดเรื่องอีกเลยน้า

ขอบคุณมูซูนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 15-01-2011 21:26:36
มาต่อแล้ว :mc4:
ในที่สุดนาโอะก็ยอมรับใจตัวเองสักที
แต่จะมีเรื่องอะไรอีกมั้ยน๊า
รอตอนต่อไป คงไม่นานใช่ม่ะคุณ mousou  :try2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: arebaba ที่ 15-01-2011 22:19:47
พึ่งอ่านครั้งแรก พล็อตเรื่องแปลก

แต่สนุกมากๆค่ะ  อ่านแรกๆสงสารนาโอะมาก

ชีวิตนางเอกหนังไทยสุดๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 15-01-2011 22:46:28
อยู่เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ได้พอดีนะเนี่ย
คงไม่หักมุมจบมาม่านะค๊า >.<
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sakurazaka ที่ 15-01-2011 23:54:40
ในที่สุดนาโอะก็ยอมรับเซจิได้แล้ว เหลือแต่ให้ลูกมาเป็นกาวใจใช่ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 27 จบตอนแล้วค่ะ][15/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pigrabbit ที่ 16-01-2011 04:33:24
 :กอด1: :กอด1: คิดถึงไรท์เตอร์มากมาย~


 นาโอะต้องคิดดีๆนะ ความสุขทั้งชีวิตเลย , ขออย่าดราม่านะไรท์เตอร์:bye2:

หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28 ][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 23-01-2011 14:51:05
Miracle 28

    ตอนจบของนิทานไม่จำเป็นว่าเจ้าหญิงและเจ้าชายจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเสมอไป

    ..ติ๊ก ติ๊ก..

    เสียงเข็มวินาทีดังก้องภายในห้องมืดมิดที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องให้แสงสว่างเท่านั้น เจ้าของห้องร่างเพรียวนอนเหม่อลอยอย่างไร้สติอยู่นานแล้ว ทั้งที่รู้ดีว่ามืดแล้วสมควรแก่เวลาที่จะออกไปหาเจ้าของบ้าน และเด็กชายตัวน้อยที่คงกำลังคอยอยู่ได้แล้ว กระนั้นก้อนความคิดขมุกขมัวยากจะบรรยายได้กลับถ่วงให้ไม่อยากขยับไปไหน

    เกือบหนึ่งเดือนได้แล้วที่เรื่องทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีการขู่บังคับ เรื่องเข้าใจผิด หรือแม้แต่คราบน้ำตาในบ้านหลังนี้อีก เจ้าของบ้านร่างสูงดูแลเอาใจใส่สมาชิกในบ้านยิ่งกว่าที่ผ่านมาเสียอีก เทะซึโอะไม่ได้ไปโรงเรียนอนุบาลและไม่มีใครโต้แย้งอะไร เซย์จิไม่ได้ไปไหนเช่นกัน ทั้งสามคนขลุกอยู่ด้วยกันเกือบตลอดทั้งวัน ราวกับต้องการชดเชยในส่วนของช่วงเวลาที่ผ่านมา นาโอะเองก็มีความสุขดีกับสิ่งเหล่านี้ แต่กลับไม่สามารถยิ้มออกมาได้อย่างสนิทใจเลยสักครั้ง

    อันที่จริงนาโอะไม่ใช่พวกชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผู้อื่น แต่เมื่อนักธุรกิจหนุ่มที่เปลี่ยนมาอยู่ติดบ้านเกือบตลอดเวลา ในบางครั้งกลับนำเอกสารอะไรบางอย่างมาอ่านเป็นประจำในช่วงที่ใช้เวลาร่วมกัน ทำให้อดสงสัยจนต้องลอบมองแผ่นกระดาษพวกนั้นไม่ได้ วินาทีแรกที่เห็นสัญลักษณ์วงกลมที่ไม่ดูเด่นอะไรนัก กับตัวอักษรภาษาอังกฤษสองตัวข้างใน ร่างกายก็สะท้านไหวอย่างห้ามไม่อยู่ ตราประจำองค์กร SW แบบเดียวกับที่เห็นมาตลอดในอดีตบนชุดเสื้อกราวน์สีขาว ที่รุมล้อมบังคับฉีดสารแปลกประหลาดเข้าร่างของเขา นาโอะไม่มีทางลืมมันได้เป็นอันขาด

    จริงอยู่ที่เซย์จิเปลี่ยนไปแล้ว กระนั้นเงาร้ายที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในเงามืดหลังชายผู้นั้นกลับไม่สลายหายไปด้วย ราวกับมันล่องหนและเล่นซ่อนแอบด้วยอยู่ และหากเมื่อไหร่ก็ตามที่เผลอไผลประมาทขึ้นมา เจ้าเงาร้ายจะตรงเข้าคร่าชีวิตในทันที

    ..ติ๊ก ติ๊ก..

    เข็มวินาทีขยับเคลื่อนต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่นาโอะกลับอ่อนล้าเต็มที เขาเหนื่อยกับอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เหนื่อยที่แม้จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ หรือถึงแม้เทะซึโอะจะมีความสุขดีอย่างที่หวังมาตลอด แต่กลับยังต้องหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา เหนื่อยกับความขี้ขลาดของตนที่ไม่กล้านำเรื่องนี้ไปปรึกษาใคร

    ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่ลังเลเลยที่จะระบายทุกอย่างให้เพื่อนสนิทฟัง แต่ตอนนี้ฮิโรกิไม่ใช่ิฮิโรกิที่เคยรู้ัจักอีกแล้ว มีบ้างที่ไดยะโทรมาเพราะฮิโรกิต้องการขอโทษ หากแต่ก็โดนปฏิเสธกลับไปอย่างสุภาพทุกครั้งด้วยยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้าด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วนาโอะจึงมืดแปดด้านไม่รู้จะทำอย่างไรไปโดยปริยาย

    เป็นไปได้ที่หากบอกเรื่องนี้กับเซย์จิ ความกลัดกลุ้มใจทั้งหลายจะถูกปัดเป่าออกไปได้โดยง่าย แต่นาโอะจะนำความกล้าจากไหน มาเอ่ยปากขอให้ผู้นำสูงสุดที่เคยเห็นชีวิตผู้อื่นเป็นดั่งผักปลา ที่เอามาค้ากำไรได้ราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดากันล่ะ เขาหวาดหวั่น คิดมากไปต่าง ๆ นานา กลัวหากเผลอหลุดปากบอกออกไป ผู้เพาะบ่มเลี้ยงดูเจ้าเงาร้ายนั่นจะเกรี้ยวกราดและกลับกลายเป็นคนเดิมที่กลัวขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้นคืนวันแห่งความสุขที่ไม่รู้จะดำเนินต่อไปถึงเมื่อไหร่ อาจมลายหายไปต่อหน้าต่อตาก็เป็นได้

    ไม่ใช่ไม่เชื่อในคำว่ารักที่ชายผู้นั้นพร่ำบอกอยู่เสมอ แต่ไม่มั่นใจว่าความรักนั้นจะมากพอให้เสียสละธุรกิจ ที่เคยให้ความสำคัญนักหนา เพียงเพื่อความสบายใจของนาโอะได้หรือไม่ เจ้าของห้องพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากำแพงเพื่อหลบแสงจันทร์อันน่ารำคาญก่อนหลับตาลง บางทีหากตื่นขึ้นมาอีกครั้งทุกอย่างอาจจะดีขึ้น

    ..เขาทำได้แค่หวังลม ๆ แล้ง ๆ เช่นนี้ไปวัน ๆ เท่านั้น..


--------------------------------------------------------------------------

    " เห ? ยังหลับอยู่อีกเหรอ " 
    เจ้าของเสียงที่กล่าวอย่างฉงนใจหันไปมองเด็กชายที่เดินขยี้ตาตามเข้าห้องมาไม่ห่าง หลังจากคอยแล้วคอยเล่าคนที่ขอตัวขึ้นไปนอนตั้งแต่หลังมื้อเย็นก็ไม่ยอมลงมาเสียที ประกอบกับเทะซึโอะงอแงจะเข้านอน เซย์จิจึงเริ่มวิตกและตัดสินใจขึ้นมาปลุกด้วยตัวเอง พร้อมพาเด็กน้อยเข้านอนไปด้วยเลย เมื่อมาเห็นนาโอะหลับสนิทก็อดถอนหายใจยาวเหยียดออกมาไม่ได้

    " ขี้เซาจริง ๆ เลย "
    แสงไฟที่เซย์จิเพิ่งเปิดช่วยปลุกให้ร่างบนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกครั้ง ดวงตาสีอ่อนเบิกขึ้นเล็กน้อยอย่างนึกประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าตนกำลังถูกจับจ้องอยู่จากบุคคลทั้งสอง

    " มีอะไรกันเหรอครับ "
    " ยังจะมาถามแบบนี้อีก นี่เกือบสี่ทุ่มแล้วนะเทะซึโอะง่วงนอนแล้ว ว่าแต่นายไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า "
    น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามก่อนเซย์จิจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง แล้วโน้มตัวลงจุมพิตบนหน้าผากของผู้ที่กำลังพยุงตัวลุกขึ้นนั่งให้มุ่นคิ้วตกใจกับการกระทำกะทันหัน ตลอดหนึ่งเดือนนี้เจ้าของบ้านมักฉวยโอกาสกับนาโอะโดยไม่ทันให้ตั้งตัว ตอดเล็กตอดน้อยคล้ายปลาค่อย ๆ ลิ้มชิมขนมปังแสนอร่อยอยู่แบบนี้เสมอ ซึ่งเจ้าอาหารชิ้นน้อยไม่เคยชินกับเรื่องเหล่านี้เสียที

    " เปล่าครับ "
    " แน่ใจนะ นายนอนนานขนาดนี้ไม่ได้ปวดหรือเจ็บตรงไหนใช่มั้ย "
    นาโอะเบือนหน้าหนีแววตาและน้ำเสียงห่วงใยที่ไม่คุ้นชินเท่าไหร่นัก ไปทางเด็กชายตัวน้อยที่ถูกอุ้มขึ้นมาบนเตียง และเข้ามาซุกกอดเอวเอาไว้ ก่อนอ้อนด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

    " หม่าม้าฮะ เทะซึจังง่วงแล้ว "
    " เทะซึจังพี่บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนี้! "
     นาโอะดุอย่างจริงจัง ตั้งแต่ความลับเรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งสามถูกเปิดเผย เซย์จิก็เล่าให้ฟังต่อว่าเทะซึโอะรู้เรื่องทั้งหมดนานแล้ว ให้ร่างเพรียวคลายกังวลเรื่องปัญหาว่าจะบอกน้องชายยังไงดี ทว่าปัญหาถัดมาที่คาดไม่ถึงกลับเป็นตัวเขาเอง ที่ไม่ชินกับสรรพนามใหม่ซึ่งถูกยัดเยียดมาให้โดยไม่ถามความสมัครใจก่อน

    ยังไงซะเขาก็เป็นผู้ชาย จะให้ชินกับสรรพนามที่ไม่ได้มีไว้เพื่อเรียกบุรุษเพศคงเป็นไปไม่ได้ จะเรียกเซย์จิว่าอย่างไรนั้นนาโอะไม่คัดค้านอยู่แล้ว แต่แค่คำเรียกนี้เท่านั้นที่ยังไงก็ทำใจยอมรับไม่ได้เสียที อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมากคือ เขาไม่มั่นใจเลยว่าสถานภาพแบบนี้จะคงอยู่ไปจนถึงเมื่อไหร่ จะเผลอถลำตัวลงไปกับความสุขพวกนี้ไม่ได้เป็นอันขาด หากเสพติดเข้าไปแล้วคงยากจะถอนตัวได้

    ด้วยเหตุนี้ครั้งใดก็ตามที่ได้ยินเด็กชายเรียกเช่นนั้น จึงอดไม่ได้จนต้องเอ็ดใส่ทุกครั้งไป บ่อยครั้งเข้าก็ดูเหมือนเทะซึโอะจะเชื่อฟังดี เมื่อครู่คงเพราะครึ่งหลับครึ่งตื่นหรืออย่างไรก็ไม่อาจทราบได้จึงเผลอหลุดปากไปจนได้

    ".....ฮะ พะ..พี่นา.. " ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคดีเจ้าตัวก็ผล็อยหลับไปเป็นที่เรียบร้อย
    " นายอายเหรอ ? " คนที่กำลังห่มผ้าให้เทะซึโอะถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ นาโอะมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบคำถามออกไป

    " ไม่ใช่ครับ "
    " ถ้าไม่ใช่อายงั้นทำไมถึงไม่ให้เทะซึโอะเรียกอย่างนั้นล่ะ น่ารักดีออก " พูดจบชายหนุ่มก็จูบราตรีสวัสดิ์ให้เด็กชายตัวน้อย ก่อนฉวยโอกาสทำอย่างเดียวกันนั้นกับคนที่ยังไม่ลุกขึ้นจากเตียงอีกครั้ง

    " คุณพี่ชายจะเข้านอนตอนนี้เลยมั้ย "
    เป็นอีกครั้งที่เซย์จิยิ้มอย่างอารมณ์ดีพลางกล่าวล้อเล่น ทว่าผู้ฟังกลับยิ่งรู้สึกอึดอัดในอกมากขึ้น ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี จะยิ้มขำไปด้วยดีหรือไม่ หรือควรจะเมินหน้าหนีดี ยิ่งมีความสุขก็ยิ่งทรมานยิ่งทำตัวไม่ถูก นาโอะจึงเลือกส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนลุกขึ้นจากเตียงเดินหายออกจากห้องไป

    ..ผมอยากให้คุณเป็นอย่างนี้ตลอดไป แต่บางครั้งผมกลับเกลียดรอยยิ้มและน้ำเสียงแบบนี้ที่สุด..

-------------------------------

    ..ก๊อก ก๊อก..

    เจ้าของฝ่ามือเรียวที่กลายเป็นผู้บุกรุกจำเป็นเมื่อเคาะประตูห้องเซย์จิแล้วไม่มีปฏิกิริยาตอบรับกลับมา หมุนลูกบิดประตูให้เงียบเสียงที่สุด ก่อนชะโงกหน้าเข้าไปข้างใน ภายในห้องมีเพียงโน้ตบุ๊กเปิดทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะ กับเครื่องปรับอากาศที่ยังทำงานอยู่ แต่กลับไม่เห็นเจ้าของบ้านที่ควรอยู่ในห้องนี้ที่สุด

    คิ้วที่ขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจคลายออก เมื่อได้ยินเสียงฝักบัวจากห้องน้ำ ดึกแล้วชายหนุ่มคงเตรียมตัวเข้านอนอยู่กระมัง นาโอะโคลงหัวเบา ๆ ให้ตัวเองที่ไม่ทันคิดก่อนสาวเท้าเดินเข้าไปในห้อง

    หากจะถามว่าดึกดื่นป่านนี้นาโอะมีธุระอะไรกับเซย์จินั้น เจ้าตัวเองก็ตอบไม่ได้เช่นกัน เขาเพียงแค่ยังไม่ง่วง จะให้กลับห้องนอนตัวเองทั้งที่ยังตาสว่างอยู่ ก็กลัวจะไปทำเสียงดังจนปลุกเทะซึโอะให้ตื่นขึ้นมา ครั้นจะไปดูทีวีในห้องรับแขก หรือแม้แต่อ่านหนังสือก็จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนไม่มีสมาธิ ท้ายที่สุดเมื่อรู้ตัวอีกทีก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของเซย์จิแล้ว

    จะให้พูดว่าห้องของเซย์จิคนเดียวคงไม่ถูกนัก แต่ควรเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันเสียมากกว่า บ่อยครั้งที่หลังเทะซึโอะเข้านอนไปแล้วเขาจะถูกเจ้าของบ้านเกลี้ยกล่อมแกมบังคับให้มานอนด้วยกันที่ห้องนี้ ซึ่งเขาก็ไม่เคยปฏิเสธคำชวนจากเจ้าของอ้อมกอดอันอบอุ่นยามค่ำคืนเลยสักครั้ง

    " เพิ่งเข้าไปหรือไงนะ "
    นาโอะพูดกับตัวเองไปเรื่อยเปื่อย พลางตั้งท่าจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอน ทว่าสายตาพลันเหลือบไปเห็นกองเอกสารที่วางเกลื่อนกลาดอยู่ข้างโน้ตบุ๊กบนโต๊ะทำงานเข้าเสียก่อน นิสัยรักสะอาดก็ทำงาน เขาตรงเข้าไปหยิบกระดาษขึ้นมาหมายจะจัดเรียงให้เรียบร้อยทันที

    "...!!..."
    สัญลักษณ์วงกลมที่คุ้นตาบนแผ่นกระดาษ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือหน้าจอโน้ตบุ๊กที่มีภาพเด็กชายหลายคน และประวัติแนบอยู่ด้านข้าง เหมือนที่นาโอะเคยมีเมื่อหลายปีที่แล้ว ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของบ้านกำลังทำอะไรอยู่จนถึงเมื่อครู่ นี่เป็นอีกครั้งที่รอยแผลเก่าถูกเจ้าเงาร้ายกรีดซ้ำลงไป

    คน ๆ หนึ่งจะทนใช้ชีวิตอยู่โดยต้องฝืนกินน้ำตาลเคลือบยาพิษอย่างนี้ต่อไปได้นานแค่ไหน ?
    คงถึงเวลาต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเสียที

    ..ผมตัดสินใจได้แล้วล่ะครับ..

 
   " เด็กไม่ดีแอบมาค้นของป๊ะป๋าเหรอ "
    เจ้าของห้องในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว และน้ำหยดเลอะพื้นเป็นทางโน้มตัวลงกระซิบใกล้ใบหูของผู้บุกรุก นาโอะสะดุ้งตกใจจนเผลอทำแผ่นกระดาษในมือตกพื้น ซ้ำร้ายยังลืมตัวก้าวถอยหลังชนโต๊ะและเก้าอี้เกิดเสียงดังอีกด้วย

    " หวา! "
    " ชู่ว! อย่าส่งเสียงดังสิ เดี๋ยวน้องชายตื่นเสียเวลาป๊ะป๋าไปกล่อมนะ " เซย์จิยิ้มกรุ่มกริ่มกับท่าทางตื่นตกใจนั้น

    " ก็อย่าทำอะไรแบบนี้สิครับตกใจหมด ว่าแต่อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ " ใบหน้าขาวซีดลงเล็กน้อยขณะลอบสังเกตคู่สนทนา ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ใส่ใจนักว่านาโอะได้เห็นอะไรไปบ้าง
    " ป๊ะป๋าได้ยินเสียงเหมือนใครแอบเข้าห้องเลยรีบออกมาดูน่ะ " เขาท้าวแขนลงบนโต๊ะทำงานด้านหลังนาโอะ แล้วยื่นหน้าเข้าไปตอบคำถามใกล้ ๆ

    " เดี๋ยวนะครับ ทำไมเซย์จิซังถึงแทนตัวเองกับผมอย่างนั้นล่ะ "
    " ก็ใครบางคนอยากเป็นพี่ชายเทะซึโอะนี่ เท่ากับว่าป๊ะป๋าได้ลูกชายเพิ่มขึ้นอีกคน ถูกมั้ยล่ะ~♪  "
    ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองลดน้อยลงจนแทบไม่เหลือ เมื่อผู้ที่เฉลยข้อข้องใจกดริมฝีปากลงบนแก้มขาวแรง ๆ คล้ายจะลงโทษผู้บุกรุกอยู่ในที นาโอะครางในลำคอคล้ายจะประท้วงว่าตนไม่เข้าใจตรรกะที่อีกฝ่ายพูดเลยสักนิด

    " แล้วป๊ะป๋าที่ไหนทำแบบนี้กับลูกชายกันบ้างล่ะครับ " เจ้าของพวงแก้มที่ถูกรุกรานซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อกล่าวจับผิดออกมา กระนั้นเซย์จิกลับยังเผยรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่นักเหมือนเดิม

    " นาโอะเป็นพี่ชายคนโตนะ ต้องดูแลป๊ะป๋าได้มากกว่าที่น้องคนเล็กทำสิ " คุณพ่อเอาแต่ใจตอบคำถามอย่างไม่สะทกสะท้านต่อดวงตาสีอ่อนที่หรี่มองมา

    " หือ ? อย่างนั้นหรอกเหรอครับ ถ้างั้นป๊ะป๋าอยากให้ลูกชายคนนี้ปรนนิบัติยังไงบ้างล่ะครับ "
    เซย์จิเลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกประหลาดใจเมื่อลำแขนเพรียวทั้งสองข้างโอบรอบเอวของตน ก่อนเงยหน้าถามด้วยดวงตาที่ดูก็รู้ว่าแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร หลายคืนในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่นาโอะจะมีท่าทางโอนอ่อนผ่อนตามมากถึงขนาดนี้ จริงอยู่ที่ไม่ได้หวาดกลัวอะไรแล้ว แต่ก็แค่ตอบรับด้วยท่าทาคล้ายยังลังเลอะไรบางอย่างอยู่ ให้วิตกอยู่บ่อยครั้ง มาเห็นแบบนี้ใครบ้างจะไม่ติดใจสงสัย

    " ไม่เห็นต้องถามเลย " ร่างผอมบางถูกอุ้มขึ้นวางลงบนเตียงโดยไร้การขัดขืนใด ๆ

........
......
....
..


    " อึก.."
    กลีบปากบางถูกขบจนแดงช้ำขณะที่นาโอะพยายามสะกดกลั้นคลื่นอารมณ์ระลอกแล้วระลอกเล่าที่หมุนวนอยู่ภายในร่าง ปลายนิ้ว ริมฝีปากและปลายลิ้นของผู้คุมเกมกำลังหยอกเย้าไปทั่วร่างเพรียวให้ไม่อาจนอนอยู่เฉย ๆ ได้ ดวงตาดำสนิทลอบสังเกตผู้ตกเป็นรองอย่างเพลินใจ ก่อนโลมเลียลงบนยอดอกสีเรื่ออีกครั้ง พร้อมกันกับที่ปลายนิ้วที่ชำแรกลึกอยู่ภายในช่องทางคับแคบขยับหมุนวนสร้างความคุ้นเคยให้ แต่ก็ทำให้สะโพกเพรียวกระตุกได้เช่นกัน

    " เหมือนจะไม่สบายเลยนะ ให้ป๊ะป๋าช่วยมั้ย " เจ้าของเรียวนิ้วที่จงใจกดลงบนส่วนไวต่อความรู้สึกด้านใน แสร้งทำเป็นถามด้วยความเป็นห่วง

    "..ละ..เลิกเรียก...อะ..ตัวเองแบบนั้นสักที...อื้อ!....สิครับ "
    หยดน้ำตารินไหลออกมาจากหางตาทั้งสองข้างของคนที่แทบพูดไม่เป็นคำอยู่แล้ว จนถึงตอนนี้ทั่วทั้งร่างของเขาถูกสัมผัสมานับครั้งไม่ถ้วน เว้นเสียก็แต่ความปรารถนาอันร้อนรุ่มด้านหน้าที่มีหยดน้ำใสไหลออกมาเท่านั้น

    " ทำไมล่ะ ป๊ะป๋าเรียกอย่างนี้กับลูกชายตัวเองแล้วผิดตรงไหน "
    "..หะ..ห้ามพูด..นะครับ..! "

    มาใช้สรรพนามแทนตัวเองเช่นนี้ในเวลาแบบนี้ ดูราวกับพ่อลูกกำลังทำเรื่องผิดศีลธรรมก็ไม่ปาน เซย์จิเองก็รู้ทันความคิดนี้ของนาโอะจึงเพียงแค่หัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วรุกรานภายในช่องทางอ่อนนุ่มต่ออย่างไม่รู้เบื่อ พลางเฝ้ามองใบหน้าขาวแดงก่ำอย่างน่ารักน่าใคร่ มองผิวกายที่ดูเข้มขึ้นเล็กน้อยเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้ามาได้พักใหญ่แล้ว นาโอะหอบหายใจรุนแรง และจังหวะที่กำลังจะอ้าปากกอบโกยอากาศเข้าปอดก็ถูกคนใจร้ายช่วงชิงอากาศไปพร้อมกับขโมยลิ้มชิมรสหอมหวานจากกลีบปากบางด้วย เนิ่นนานจนนาโอะรู้สึกเหมือนจะขาดใจตายเสียให้ได้ ริมฝีปากขี้แกล้งจึงผละออกไปเล็กน้อย ก่อนถามคำถามที่เขาลำบากใจจะตอบเหลือเกิน

    " ข้างในนี้พร้อมจะให้ฉันเข้าไปหรือยัง " ชายหนุ่มกดปลายนิ้วเน้นย้ำลงบนที่เดิมเรียกเสียงครางหวานหูให้ได้ิยินอีกครั้ง คล้ายจะบอกให้รู้ว่าข้างในที่ว่าคือส่วนไหนกันแน่

    ".........." ร่างข้างใต้นอนหอบและหลับตาแน่นราวกับไม่ได้ยินคำถามนั้น
    " ถ้าไม่ตอบจะมาหาว่าฉันรังแกไม่ได้นะ "
    ฟันคมขบลงบนซอกคอขาวสร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้ ก่อนแทรกสิ่งที่ใหญ่โตกว่าเรียวนิ้วที่เพิ่งถูกถอนออกมาเข้าไปแทน นาโอะอาจเคยจับไข้ไม่ได้สติเพราะเรื่องแบบนี้ แต่ระยะนี้เซย์จิใช้ทั้งน้ำยาหล่อลื่น และสร้างความคุ้นชินให้ช่องทางที่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อใช้ร่วมรัก จนแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างจะปลอดภัย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องถามอะไรก็ได้แต่เขากลับอยากแกล้งคนขี้อายขึ้นมา

    เป็นเรื่องช่วยไม่ได้เลยที่นาโอะต้องอดทนต่อความอายทุกครั้งที่นอนกับเซย์จิมากกว่าเมื่อก่อนแบบนี้ เมื่อเห็นเรือนร่างสวยงามที่บิดเร้าด้วยแรงอารมณ์ เซย์จิก็ไม่เคยห้ามตัวเองไม่ให้พูดจาหยาบโลนได้เลย รวมไปถึงคำบอกรักหวานเลี่ยนด้วยเช่นกัน

    " ฉันรักนาโอะนะ ได้ยินมั้ย "
    "..อึก..อื้อ! "
    " นาโอะได้ยินหรือเปล่า ได้ยินที่ฉันบอกรักนายเมื่อกี้มั้ย " เจ้าของชื่อได้ยินหมดทุกถ้อยคำ หากแต่เพลิงปรารถนาแผดเผาจนไม่มีสติมากพอจะเรียบเรียงคำพูดตอบออกไปได้เสียแล้ว

    เสียงครางวาบหวิวอย่างไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไปดันก้องอยู่ภายในห้องที่ร้อนระอุ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ถูกเล้าโลมอย่างหนักหน่วง แต่ก็จะได้รับจุมพิตอ่อนโยนคล้ายปลอบประโลมอยู่ในทีตามมาเสมอ นาโอะโอบกอดแผ่นหลังกว้างแน่นไม่ปล่อยขณะทั้งสองขยับเคลื่อนกายตามความปรารถนา

    ..โอบกอดแนบแน่นราวกับนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ทำแบบนี้..

----------------------------------


    ' เรื่องเด็กโครงการ DR 150 ไปถึงไหนแล้ว '
    ' รีบจัดการให้เร็วที่สุดด้วยล่ะ '

    เสียงคุยโทรศัพท์ของเซย์จิดังมาจนถึงทางเดินห้องรับแขก นาโอะชะงักฝีเท้าลงก่อนสูดหายใจจนสุดปอดหนึ่งครั้ง วันนี้ก็เหมือนวันอื่น ๆ ที่เซย์จิอยู่ติดบ้าน และเหมือนทุกวันอีกเช่นกันที่เซย์จิจะปลีกตัววันละชั่วโมงสองชั่วโมงเพื่อจัดการอะไรบางอย่างเพียงลำพัง แต่มันกลับต่างจากทุกวันอย่างไม่อาจเทียบได้

    นับวันเจ้าเงาร้ายยิ่งปรากฏกายเด่นชัดขึ้นทุกที ตอนแรกเพียงแค่เห็นเอกสาร ถัดมาคือข้อมูลในโน้ตบุ๊ก และคราวนี้เป็นบทสนทนาที่ไม่ว่าจะฟังยังไงก็เป็นเรื่องของหนูทดลอง และโค้ดลับโครงการอะไรสักอย่างไม่ผิดแน่

    ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาอาจได้รับคำเชิญไปทัวร์องค์กร SW เข้าสักวัน นาโอะพยายามพูดติดตลกกับตัวเองให้จิตใจที่หม่นหมองได้สดใสขึ้นมาบ้าง เพื่อจะยิ้มออกมาต่อหน้าเซย์จิได้..เป็นครั้งสุดท้าย

    " เซย์จิซังว่างหรือเปล่าครับ " เขาตะโกนเสียงดังเรียกความสนใจจากผู้ที่เพิ่งกดวางสายโทรศัพท์
    " สำหรับนายต้องว่างอยู่แล้วสิ มีอะไรเหรอ "
    " ผมจะกลับไปร้านสไมล์หน่อยน่ะครับ เลยมาบอกเอาไว้ จะพาเทะซึจังไปด้วย "

    นาโอะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะบังคับไม่ให้เสียงสั่นจนถูกจับได้ คู่สนทนาที่เพิ่งลุกจากโซฟามาหาคลี่ยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าก่อนพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

    " เอาสิ ว่าแต่กินข้าวกลางวันหรือยังน่ะ " ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน กระนั้นนาโอะกลับยิ่งเจ็บปวดกว่าเดิม น้ำเสียงที่ตอบกลับไปจึงฟังดูแหบพร่าผิดปกติ จนเซย์จิขมวดคิ้วยุ่ง

    " กินแล้วครับ "
    " ท่าทางดูไม่ีดีเลย วันนี้ยังไม่ต้องไปหรอกไว้วันหลังแล้วกัน " เจ้าของบ้านโน้มตัวลงแนบหน้าผากกับนาโอะคล้ายต้องการจะวัดไข้

    " ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ "
    นาโอะยืนยันหนักแน่น จนผู้ฝังไม่กล้าขัดใจอีกแต่ก็ยังอดลอบสังเกตท่าทางไปด้วยไม่ได้ สีหน้าซีดลงกว่าปกติเล็กน้อยดูแล้วไม่น่าเป็นห่วง แต่น้ำเสียงแผ่วหวิวผิดไปจากทุกที เซย์จิไม่เคยลืมว่านาโอะป่วยง่ายเพียงใด บางทีเจ้าตัวอาจกำลังฝืนอาการเจ็บป่วยไม่ให้รู้ก็เป็นได้

    " ถ้ายืนยันอย่างนั้นก็ตามใจ เดี๋ยวฉันไม่ส่งแล้วกัน "
    " อย่าดีกว่าครับ เซย์จิซัง.....ทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอครับ แค่นี้เองผมไปเองได้ "
    คำว่าทำงานเมื่อพูดออกไปแล้วก็เหมือนคมมีดกรีดลงไปทั่วทั้งร่าง งานอะไรนั้นทั้งคู่น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่นาโอะทนปั้นหน้านิ่งพูดถึงมันเหมือนเป็นเรื่องปกติไม่ได้ จึงก้มหน้าลงมองพื้น

    " งั้นถ้ามีอะไรรีบโทรมาหาฉันเลยนะ เข้าใจมั้ย ? "
    " ครับ "

    ..ยิ่งคุณดีกับผม ผมก็ยิ่งเสียใจ ยิ่งรู้สึกผิดนะครับ..

    ดวงตาที่มองมาทำให้ฝ่ามือชื้นเหงื่อทั้งสองข้างสั่นขึ้นมา นาโอะกัดริมฝีปากแน่นอดกลั้นก้อนความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมา ก่อนเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางเบาให้คู่สนทนา แล้วหันหลังเดินจากไป ทว่าวินาทีที่กำลังจะก้าวออกจากห้องรับแขกก็กลับหยุดนิ่งอยู่กับที่

    " เซย์จิซังรักผมหรือเปล่าครับ " นาโอะถามโดยไม่หันไปมองคู่สนทนาที่กำลังมองส่งมา

    " ไม่เห็นต้องถามเลยนี่ ฉันรักนาโอะมากพอ ๆ กับที่นายรักเทะซึโอะนั่นแหละ " เขาตอบทันทีโดยไม่ลังเล กระนั้นนาโอะก็ยังไม่หันมามองอยู่ดี แต่ถามคำถามถัดมาด้วยน้ำเสียงจริงจังผิดปกติ

    " แล้วรักเทะซึจังหรือเปล่าครับ "

    " ทั้งนายทั้งเทะซึโอะสำคัญกับฉันยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น แต่ทำไมอยู่ ๆ ถึงถามอะไรแบบนี้ล่ะ "

    ชั่วขณะหนึ่งที่เซย์จิรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา แผ่นหลังบางดูอ่อนแอจนในอกสะท้านขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาอยากเข้าไปโอบกอด อยากปลอบประโลม และช่วยปกป้องชีวิตที่บอบบางจากอะไรก็ตามจะมาทำร้ายนาโอะ

    ..ฉันจะปล่อยนายที่เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง..

    ทว่าจังหวะที่กำลังจะเข้าไปคว้าข้อมือรั้งเอาไว้ นาโอะก็เอ่ยคำพูดที่เขาไม่อาจเข้าใจได้ออกมาอีกครั้ง  ก่อนสาวเท้าเดินหายออกไปอย่างรวดเร็วไม่เปิดโอกาสให้ใครได้เรียกไว้ได้

    " ขอบคุณครับ "

    ..แล้วก็ขอโทษด้วยครับ..

    นาโอะจะจดจำหนึ่งเดือนแห่งความสุข และคำบอกรักหวานหูนี้เอาไว้ เพื่อจะอดทนต่อคืนวันที่ไม่ได้อยู่กับเซย์จิต่อไปในอนาคตได้

---------------

    " เรากำลังจะไปไหนกันเหรอ " คำถามช่างสงสัยถูกถามจากเทะซึโอะที่นั่งอยู่ข้างนาโอะ บนรถไฟที่กำลังจะแล่นออกจากชานชาลา
    " ไปบ้านใหม่ไงเทะซึจัง ป๊ะป๋าบอกให้พวกเราไปคอยอยู่ที่นั่นน่ะ " เขาตอบคำถามโดยไม่สบตาคู่สนทนา
    " บ้านใหม่เหรอฮะ!? " เด็กน้อยทำตาโตด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่นานก็ต้องเอียงคอมองพี่ชายในนามที่เงียบไปนานแล้วด้วยความสงสัย
    ".............."
    " พี่นาโอะร้องไห้ทำไมฮะ "

    เทะซึโอะเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้ตามอยู่รอมร่อ พี่ชายของเขาร้องไห้เงียบ ๆ ราวกับเจ็บปวดเสียใจจนไม่อาจเปล่งเสียงอะไรออกมาได้ ทำได้เพียงปล่อยให้หยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาเท่านั้น

    เจ้าหญิงหนีออกจากปราสาทแสนสวยไปพร้อมของสำคัญ ไปยังที่ไกลแสนไกล
    และเจ้าชายไม่ได้พบเจ้าหญิงอีกเลย


TBC Chapter 29

มาต่อแล้วค่าาา! >w<
ตอนแรกตั้งใจจะแบ่งโพสต์เพราะเหมือนตอนนี้อารมณ์จะขัดกันจริงๆ แต่ขี้เกียจล่ะค่ะั แหะๆ =w=''
อีกสองตอนก็จะจบแล้ว ดีใจมากค่ะเพราะนี่เป็นนิยายเรื่องแรกเลยที่เขียน ถึงได้ออกมาหลุดๆอย่างนี้ล่ะค่ะ *หัวเราะแห้งๆ*

ตอบเ้ม้นค่า~!
pattybluet => คิดถึงเหมือนกันค่าา! เราก็อยากแต่งตอนหวานๆนะคะแต่มันออกมาเป็นหวานปนขมยังไงไม่รู้ล่ะค่ะ orz
BeeRY => นาโอะเป็นคนคิดมากน่ะค่ะ แต่ฮิโรกิยังไม่โดนจับถ่วงทะเลสักหน่อยค่ะ XDD
anajulia => คิดถึงเช่นกันค่ะ! >ww< อนาคตจะเป็นยังไงเดี๋ยวอีกสองตอนรู้กันค่ะ - -b
YELLOWSTAR => อุ..ไม่ดองแ้ล้วค่ะ จากนี้ไปก็จะพยายามไม่ดองแล้วด้วยค่ะ! ;w;
MaeMoo => ยะ..อย่างในตอนนี้เรียกว่าเกิดเรื่องได้หรือเปล่าคะเนี่ย *ซีด*
CipheR => หนึ่งอาทิตย์ไม่ถือว่านาน..ล่ะมั้งคะ ? แหะๆ orz
arebaba => ยินดีต้อนรับค่าา!! แต่เหมือนหนังไทยขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราไม่ค่อยได้ดูหนังไทยมานานมากแล้วน่ะค่ะ =w=''
JJHJJH => อีกสองตอนก็รู้ค่ะว่าหักมุมหรือเปล่า! >w<
sakurazaka => กาวใจแต่เหมือนจะไม่ได้ผลนะคะเนี่ย นาโอะหนีไปอีกแล้ว =w=''
★Sugar.B => คิดถึงคนอ่านเหมือนกันค่ะ! แต่อย่างตอนนี้เรียกว่าคิดดีได้หรือเปล่าคะเนี่ย

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ! >ww<
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-01-2011 19:30:16
สงสัยทำไมไม่ถาม  เซจิคงน่าจะยุบโครงการนี้มากกว่านะ  หวังว่านะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 23-01-2011 19:39:56
เพิ่งได้อ่านค่ะ ตอนแรกงงเต้กไปเลยเพราะโทนเรื่องต่างจากที่คิดเอาเองจากชื่อเรื่องมากมาย~
แต่เนื้อเรื่องน่าสนใจดีเลยเหมือนถูกดึงดูดให้อ่านต่อรวดเดียวจนตามทันเนี่ยแหละค่ะ
นาโอะน่าจะกล้าพูดกล้าถามหน่อยเนอะ
เผื่อที่เซย์จิทำอยู่ตอนนี้อาจจะเป็นไปเพื่อปิดฉากองค์กรมืดก็ได้
แต่ถึงไม่ใช่ก็น่าจะลองเสี่ยงพูดความกังวลในใจดูก่อน
ถ้ากล้าร้องขอสิ่งที่ปรารถนาตรงๆบางทีผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่กังวลไปเองคนเดียว
.........แต่ก็นะ ดูจากนิสัยของนาโอะ การตัดสินใจแบบนี้ก็ไม่แปลกอะไร
เพียงแค่สงสัยว่าเซย์จิจะทำไงถ้ารู้ว่าคนสองคนที่ตนคิดว่าเป็นครอบครัวได้จากไปแล้ว...เฮ้อออออ~
งั้นก็คงได้แต่รอลุ้นตอนต่อไปและตอนจบของเรื่องที่คนแต่งการันตีไว้ในตอนต้นว่าแฮปปี้เอ็นด์
ถ้าเป็นแฮปปี้เอ็นด์แบบครึ่งๆกลางๆรึแปลกประหลาดล่ะก็...จะแอบไปวางบึ้มถึงที่บ้านเลย คอยดู้~!!!(ล้อเล่นนะคะ เค้าป่าวเป็นพวกหัวรุนแรงเน้อ55+)
รออยู่นะคร้า~ (^3^)~3~3
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-01-2011 19:45:45
แง้ๆ ไปหลอกเทะซึจังแบบนี้ไม่ดีเลยนะนาโอะ แถมยังเหมือนหลอกตัวเองอีกด้วย :monkeysad:
เจ้าชายต้องได้อยู่กับเจ้าหญิง และพระโอรสสิ :o8:
ตามหาให้เจอเลยนะปะป๊าเซย์จิ :angry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 23-01-2011 19:59:42
เซย์จิอาจจะกำลังจัดการอะไรให้เรียบร้อยเพื่อยกเลิกองค์กรนั่นก็ได้

นาโอะมีอะไรก็น่าจะบอกเซย์จิไปน่ะ

เฮ้อออ ไรเตอร์จะมาต่อเมื่อไรเนี่ยย

ค้างค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 23-01-2011 20:25:49
นาโอะพาเทะซึจังหนีไปอย่างงี้
แล้วเซย์จิจะอยู่ยังไง
แล้วเทะซึจังล่ะจะเป็นยังไง :serius2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 23-01-2011 22:00:50
นาโอะเข้าใจผิดรึเป่า ทำไมไม่ถามไปตรงๆ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-01-2011 22:20:15
รอตอนต่อไปนะครับ :L1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 23-01-2011 22:30:36
 :monkeysad: นาโอะจัง...
ไรท์เตอร์จ๋า.. มันขมมากกว่าหวานจริงๆค่ะ
รอติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pigrabbit ที่ 23-01-2011 22:55:49
 :serius2: :serius2: ไม่จริง! แต่เป็นไปแล้ว
นาโอะอ่ะ ทำอะไรทำไมไม่ถามความจริงก่อนล่ะ
แล้วตัวเองก็มาเสียใจทีหลัง , ป๊ะป๋าก็เสียใจด้วย :sad4:



 :L2: เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ว่าแต่จบแล้ว มีตอนพิเศษหรือเปล่าเอ่ย ? ๕๕
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-01-2011 00:21:30
ดีกันได้ไม่นานเลยนะเนี่ย เศร้าได้อีก T^T
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: วิหคท่องนภา ที่ 24-01-2011 02:25:40
T_T ตอนนี้เศร้าจัง....... เหมือนเป็นตอนจบของนิทานเลยเนอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 24-01-2011 14:00:58
เข้ามาอ่านทีเดียว 2 ตอนแต่ทำไมมันคนละอารมณ์แบบนี้ละ
27 รู้สึกว่าทั้งคู่กำลังจะพบความสุขที่แม้จริงซักที แต่
28 ทำไมออกมาเป็นแบบนี้ละ มันเศร้านะที่รักกันแล้ว
แต่แค่ความไม่เข้าใจหรือไม่ได้คุยกันในบางเรื่องทำให้ต้องแยกจากกันอะ
แล้วที่บอกเจ้าชายกับเจ้าหญิงจะไม่ได้เจอกันอีก อย่าบองนักอ่านนะว่าเรื่องนี้จบเศร้า :m15:
ถ้าจะฝากความหวังกัน writer ว่าอย่าให้จบเศร้ายังจะทันไหมคะ :monkeysad:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 24-01-2011 15:09:14
 :z3:


ตามตั้งแต่ต้นจนตอนนี้
ขอบอกว่าพล็อตเรื่องตอนแรกแปลกแหวกดี
แต่ก็มีดราม่า นางเอ๊กกนางเอกบ้างประปราย  สนุกดีคับ
ส่วนตัวชอบมากที่มีลูกอ่ะ  ช๊อบชอบ
ตอนนี้ดีกันแล้ว แต่นาโอะก็หนีไปอีก
แต่ก็เข้าใจความรู้สึกนาโอะน่ะ

อยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ  ลุ้นกันต่อไป  (หวังว่าคงรอไม่นานนะไรเตอร์)
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-01-2011 16:07:35
ก็เข้าใจ นาโอะ นะ แต่ไม่อยากให้ เจ้าชาย ต้องอยู่คนเดียวนี้น่า มีเจ้าชายก็ต้องมีเจ้าหญิงอยู่ด้วยสิ พ่อ แม่ ลูก ไง  :z3:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-01-2011 16:18:06
เข้าใจนาโอะนะ กับปมที่ติดในใจหลายปี
กับเซย์จิที่เพิ่งเปลี่ยนไปไม่นาน  มันก็ยากที่ทำใจยอมรับได้
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 24-01-2011 20:16:48
หนีอีกแล้ว T T
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-01-2011 20:26:19
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :3123:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 28][23/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 27-01-2011 14:46:56
ชื่อเรื่องกับเนื้อหามันดึงดูดเลยลองเข้ามาอ่าน
เป็นไงหล่ะทีนี้ติดเลยสิ เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆ
แปลกดีด้วย อ่านไปก็สงสารนาโอะสุดๆชีวิตจะ
รันทดไปถึงไหนกันเนี้ย แต่ยอมรับเลยว่าเกลียด
เซย์จิสุดๆอ่ะพี่ท่านโหดและใจดำโคตรๆเลยอ่ะ
แต่มาหลังๆเริ่มทำตัวดีขึ้นมาหน่อย ไดยะก็เหมือน
ตัวคอยประสานคอยช่วยมันเลยดีขึ้นเรื่อยๆ
เทะซึจังจังสิน่ารักของจริงออกมาทีไรก็ทำให้ยิ้ม
ได้ตลอดเลยถึงจะเศร้าบ้างนิดหน่อยก็ตาม
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 28-01-2011 13:58:24
Miracle 29

    ..ชีวิตใหม่กับการเริ่มต้นใหม่..

    บ้านสองชั้นหลังย่อมทาสีขาวทั้งหลัง สนามหญ้าไม่ใหญ่ไม่เล็กนักในจังหวัดที่ห่างไกลเมืองหลวงอันโสมม และเพื่อนบ้านผู้อารีคือที่อยู่ใหม่ของนาโอะ อันที่จริงบ้านหลังนี้เป็นของฮาจิเมะ ที่เจ้าตัวเล่าว่าใช้กำไรจากกิจการเค้กเก็บเงินซื้อเอาไว้ แต่ทันทีที่ได้รับโทรศัพท์กล่าวลาจากนาโอะที่บอกว่าอาจจะไม่ได้เจอทุกคนที่ร้านแล้ว เจ้าของร้านเค้กก็เอ่ยปากแถมบังคับให้นาโอะไปหลบอยู่ที่บ้านของตนก่อน

    เหตุผลที่ฮาจิเมะยืนยันหนักแน่น คืออย่างน้อยก็อยากให้นาโอะที่อยู่ภายใต้การดูแลของตนมาตลอด ได้อยู่ในสถานที่ซึ่งเจ้าของร้านเค้กยังสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที ดีกว่าไม่รู้ไปเป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหน นาโอะจึงไม่อาจปฏิเสธน้ำใจอันมากล้นนี้ได้เลย

    ..กุญแจบ้านอยู่ในกระถางต้นไม้ด้านในสุด..

    นาโอะหยิบกุญแจในที่ซ่อนตามที่ฮาจิเมะบอกไว้ พอเปิดประตูบ้านสีน้ำตาลออกแล้วเดินเข้าไป ก็เห็นซองกระดาษสีน้ำตาลถูกวางไว้อย่างเด่นสะดุดตาบนชั้นวางรองเท้า ข้างในนั้นมีธนบัตรจำนวนมากใส่อยู่ พร้อมโน๊ตข้อความที่เขียนด้วยลายมือคุ้นตา ว่าเงินจำนวนนี้ให้นาโอะรับไว้ถือเป็นค่าจ้างก้อนสุดท้ายจากเจ้าของร้านเค้ก และเมื่อลองสำรวจภายในบ้านก็พบตู้เย็นที่มีของสดอยู่เต็มไปหมด  นาโอะเข้าใจได้ในทันที หลังได้รับโทรศัพท์ของตนฮาจิเมะคงรีบเดินทางมาเตรียมพร้อมทุกอย่างให้สองพี่้น้อง เพื่อไม่ให้ลำบากนัก

    ..เพียงแค่นี้นาโอะก็ไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณฮาจิเมะยังไงดีแล้ว..

    อีกคนหนึ่งที่ไม่รู้จะทดแทนให้อย่างไรดี คือคนที่นาโอะหนีมานั่นเอง ไม่อาจจินตนาการถึงภาพชายร่างสูงคนนั้นยามรู้ว่าโดนหักหลังเป็นครั้งที่สามได้เลย ได้แต่เฝ้ากล่าวโทษตัวเองอยู่เรื่อยมา..แต่ทั้งหมดนี่ก็เพื่อเทะซึโอะเอง

    จริงอยู่ที่เขาหวาดกลัวเจ้าเงาร้าย แต่หากเป็นแค่นาโอะตัวคนเดียว เขาอาจเลือกเผชิญหน้ากับมันเพื่อให้ได้อยู่กับเซย์จิก็เป็นได้ ตัวเขาเองจะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่แค่เทะซึโอะเท่านั้นที่จะให้เป็นอะไรไปไม่ได้เป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้เองนาโอะจึงยิ่งกลัวมากขึ้นกว่าที่ควรเป็นเท่าตัว

    ทั้งชีวิตของนาโอะรู้จักคนอยู่ไม่กี่คน สองคนในนั้นซึ่งเป็นอดีตเพื่อนสนิทกับอดีตคนที่เคยเกลียดที่สุด ทั้งสองคนลุ่มหลงในความรักและเปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึงมาแล้วทั้งนั้น

    น่ากลัวเกินไป..เขากลัวก้อนความรู้สึกนี้ กลัวจะทำให้ตัวเองเปลี่ยนไปเช่นกัน

    และเพราะนาโอะรู้จักเซย์จิดียิ่งกว่าใคร เงาร้ายยังแฝงตัวอยู่เบื้องหลังในทุกซอกมุมของบ้านหลังนั้น ความรู้สึกของเซย์จิก็บ้าคลั่งดั่งพายุ หากเผลอไผลเข้าวันใดความโหดร้ายเหล่านั้นอาจหวนกลับมา กลัวเซย์จิจะทำร้ายเทะซึโอะที่เป็นลูกของตัวเองได้ลงคออีก และยิ่งกลัวตัวเองจะเป็นต้นเหตุให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมยิ่งกว่าสิ่งใด

    เหตุผลเพียงเท่านี้ก็มากพอแล้วสำหรับการตัดสินใจ
    นาโอะเป็นคนขี้ขลาด
    จึงได้เลือกเดินหนีจากมันมา เพื่อตัวเองและเทะซึโอะ


    ความรักทำให้มนุษย์บ้าคลั่งทรมาน ทั้งที่เคยคิดว่ามันไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลยมาตลอด
    หากแต่ลึก ๆ แล้วกลับเรียกร้องมันจากใครสักคนมาตลอด

-----------------------------------

    ช่วงสัปดาห์แรกของชีวิตใหม่ นาโอะพยายามมองหาร่างสูงใหญ่ของชายผู้ที่มักจะส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน และเข้ามาจุมพิตเสมอเมื่อเห็นไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดในบ้านก็ตาม ชายผู้ที่หยอกล้อเล่นกับเทะซึโอะประหนึ่งเป็นเพื่อนวัยเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ชายผู้เป็นเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นและน้ำเสียงนุ่มหูยามค่ำคืน แต่ไม่ว่าจะมองหาสักเพียงใด นาโอะก็ไม่เจอชายคนนั้นในบ้านหลังใหม่นี้เลย

    " พี่นาโอะฮะ ตั้งหนึ่งอาทิตย์แล้วป๊ะป๋ายังไม่เสร็จธุระ แล้วมาหาพวกเราอีกเหรอฮะ "
    เด็กชายขมวดคิ้วมองพี่ชายในนาม ที่ตั้งแต่ย้ายมาบ้านใหม่ก็ซึมเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

    " เทะซึจังคิดถึงป๊ะป๋าเหรอ ? "
    " คิดถึงสิฮะ พี่นาโอะก็คิดถึงเหมือนกันใช่มั้ยฮะ "

    "......"
    นาโอะเผลอกำมือเข้าหากันแน่นโดยไม่รู้ตัว หากหลุดปากพูดออกไปว่าคิดถึง ความรู้สึกที่อดกลั้นมาตลอดคงล้นทะลักออกมาด้วย และตัวเขาคงไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป

    " พี่นาโอะอย่างทำหน้าอย่างนั้นสิ เดี๋ยวป๊ะป๋าก็มาแล้วล่ะมั้งฮะ "
    เด็กชายตัวน้อยทำหน้าเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก ตกใจที่เห็นตาแดงก่ำและหน่วยตาสวยคลอน้ำก่อนพยายามเอ่ยปลอบ ทั้งที่ตัวเทะซึโอะเองก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าเซย์จิจะมาหาดังที่นาโอะเคยบอกไว้เมื่อไหร่กันแน่

    " นั่นสิเนอะ..เดี๋ยวป๊ะป๋าก็มาหาพวกเราแล้ว " เทะซึโอะพยักหน้ารัวเร็วเห็นด้วยกับคำพูดนั้น
    " ถ้าป๊ะป๋ามาช้ากว่านี้ เทะซึจังจะโกรธ จะไม่พูดด้วยสักอาทิตย์นึงเลยคอยดูสิ! "

    " โกรธเยอะ ๆ เลยนะเทะซึจัง ป๊ะป๋าจะได้มาหาพวกเราเร็ว ๆ ไง "
    เขาอุ้มเด็กชายที่ยืนเกาะโซฟาคุยด้วยอยู่ขึ้นมากอดแน่น ทั้งที่เคยคิดว่าชีวิตนี้มีแค่เทะซึโอะเพียงคนเดียวก็พอแล้ว  ทั้งที่คิดเช่นนั้นมาตลอด มาตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตขาดหายไปก็ไม่ปาน

    แต่จะเห็นแก่ตัวเลือกทำตามใจต้องการไม่ได้เป็นอันขาด อย่างไรเสียเทะซึโอะที่สำคัญที่สุดก็ต้องมาก่อน นาโอะพร่ำบอกกับตัวเองเช่นนี้ จนถึงตอนนี้เด็กชายก็ยังสำคัญมากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จะยิ่งมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำเมื่อได้รู้ความจริงทั้งหมด แต่บางครั้งกลับขมขื่นเหลือเกิน

    ..ผมคิดถึงคุณ คิดถึงจนไม่เป็นอันกินอันนอน ผมควรจะทำยังไงดีครับเซย์จิซัง..
    คิดถึงจนเจียนขาดใจแต่ไม่อาจทำอย่างใจต้องการได้

-------------------

    ชีวิตที่หมองหม่นมีสีสันขึ้นมาได้เพราะเพื่อนบ้านผู้อารี ที่มาพร้อมรอยยิ้มละไมและลูกชายเพียงคนเดียว ช่วงบ่ายวันหนึ่งหลังย้ายไปอยู่บ้านใหม่ได้ 2 อาทิตย์ ขณะที่นาโอะกำลังอบขนมเค้กอยู่ในห้องครัวที่มีอุปกรณ์ทำขนมครบครัน สมกับเป็นบ้านเจ้าของร้านเค้กที่เขาใช้พักอาศัยชั่วคราวอยู่ เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น

    " ครับ ๆ มาแล้วครับ "

    ในตอนแรกนาโอะไม่กล้าแม้แต่จะแง้มตาแมวออกดูหน้าแขกที่อยู่อีกฟากฝั่งประตู จะเป็นฮาจิเมะหรือเปล่านะ ? แต่เจ้าของบ้านหลังนี้น่าจะมีกุญแจบ้านไม่จำเป็นต้องกดกริ่งให้เสียเวลา อีกตัวเลือกที่เหลืออยู่ในใจจึงเป็นชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลที่เฝ้าโหยหาถึงเท่านั้น 

    ไม่น่าแปลกใจอะไรเลยที่เซย์จิจะตามสืบจนทราบที่อยู่จนได้ คิดได้แค่นั้นมือทั้งสองข้างก็สั่นไหวด้วยความรู้สึกอันหลากหลายยากจะบรรยาย ทั้งหวาดหวั่นหากแต่ก็ยินดี ขณะเดียวกันก็สำนึกผิดเสียใจที่หักหลังผู้อื่นเช่นกัน จนไม่กล้าเอื้อมมือไปปลดล็อกประตูเสียที ทว่าความรู้สึกทั้งหมดพลันมลายหายไปเหมือนฟองอากาศแตก เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยเรียก

    " ฉันชื่อนานะจากบ้านข้าง ๆ น่ะค่ะ มีใครอยู่มั้ยคะ "

    ..ผู้ที่อยู่เบื้องหลังบานประตูหาใช่เซย์จิไม่..

    แต่เป็นหญิงสาวรูปร่างเล็ก ผมดำยาวสลวยถึงกลางหลังและรอยยิ้มเป็นมิตร เธอแนะนำตัวว่าชื่ออิชิคาวะ นานะ พร้อมแนะนำเคตะลูกชายวัย 12 ขวบ ที่ดูท่าทางสุขุมเรียบร้อยผิดวิสัยเด็กทั่วไปให้รู้จักด้วย และดูเหมือนเธอจะอายุมากกว่านาโอะไม่กี่ปี หลังได้รับคำเชื้อเชิญให้เข้าไปในบ้าน นานะจึงเริ่มเล่าว่าเธอเห็นนาโอะและเทะซึโอะตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอาศัยยังบ้านหลังนี้แล้ว แต่ก็หาจังหวะเหมาะ ๆ มาผูกมิตรด้วยไม่ได้เสียดี จนเมื่อหลายวันก่อนสามีนักการทูตที่ไม่ค่อยได้กลับบ้านบ่อยนักเดินทางกลับมาพอดี เธอจึงตั้งใจนำช็อกโกแลตที่สามีซื้อมาฝากเป็นของขวัญให้เพื่อนบ้านคนใหม่

    นาโอะไม่เคยเห็นใครพูดเก่งเท่าหญิงสาวตรงหน้ามาก่อน เกือบตลอดการสนทนาเขาทำได้เพียงพยักหน้ารับคำเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ไม่อาจหาช่องพูดแทรกได้เลย กระนั้นกลับไม่รู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย นานะช่างเหมือนแสงอาทิตย์เหลือเกิน ทั้งสดใสและร่าเริง

    หลังนาโอะเล่าเรื่องของตนที่ถูกปกปิดความจริงไว้บ้างส่วน ว่าตนและน้องชายย้ายมาจากโตเกียว และตั้งใจจะปักหลักอยู่ที่นี่ไปตลอด เพื่อนบ้านสาวก็แสดงท่าทางดีใจอย่างไม่มีเสแสร้งออกมาให้เห็น นาโอะคิดเอาเองว่าเธอคงเหงากระมังที่สามีไม่่ค่อยอยู่ด้วย เลยดีใจที่ได้เขามาเป็นเพื่อนบ้านใหม่

    และเมื่อรู้ว่าเทะซึโอะยังไม่ได้เข้าเรียนที่ไหน นานะก็ทำท่าตกใจ ก่อนรับปากทันทีว่าจะฝากเข้าโรงเรียนเดียวกับเคตะให้ในวันพรุ่งนี้ ราวกับกลัวเพื่อนบ้านคนใหม่ย้ายหนีไปอย่างไรอย่างนั้น นาโอะชักถูกชะตาหญิงสาวคนนี้เข้าให้เสียแล้ว คงเพราะเธอมีอะไรบางอย่างคล้ายเขา ไม่ว่าจะเป็นต้องอาศัยอยู่เพียงลำพังกับเด็กชายตัวน้อย หรือต้องอยู่ห่างไกลจากคนสำคัญ เหตุผลอีกประการหนึ่งคงเพราะดวงตาที่ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยกับผู้ใดเลยคู่นั้น

    
    " เทะซึจังเรียกว่าพี่เคตะได้มั้ยฮะ " เทะซึโอะกระโดดลงจากโซฟา เดินเตาะแตะเข้าไปหาเด็กชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างพี่สาวช่างพูด

    " ได้สิ นายชื่อเทะซึโอะสินะ "
    เด็กชายเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทลุกจากโซฟามามองสำรวจเทะซึโอะที่ตัวเล็กกว่ามากไม่วางตา เด็กชายอ่อนวัยกว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองตามร่างที่เดินวนรอบตนไปมา

    " เจ้าจิ๋วไม่ยอมกินผักใช่มั้ยถึงได้ตัวเตี้ยแบบนี้ "
    คำพูดตรงประเด็นไม่มีอ้อมค้อมผิดกับบุคลิกสุขุม ทำเอาทั้งนาโอะสะอึกไปเลยทีเดียว เป็นความผิดของเขาเองที่ตามใจน้องชายจนเกินไป

    " เทะซึโอะต่างหากไม่ใช่เจ้าจิ๋ว! " เด็กชายหน้าแดงก่ำรู้สึกอายที่โดนล้อเรื่องส่วนสูง ทว่าเมื่อถูกเคตะลูบหัวเบา ๆ ก็กลับยิ้มออกมาได้อีกครั้ง

    "  ที่โรงเรียนมีพวกชอบแกล้งเด็กตัวเล็ก ๆ อย่างนายเต็มไปหมด ถ้าไปโรงเรียนแล้วถูกแกล้งต้องรีบมาบอกพี่เลยนะ! "
    เคตะสวมบทบาทพี่ชายเต็มตัว ทั้งสรรพนามแทนตัวเองยังเปลี่ยนไปด้วย เด็กชายคงดีใจไม่น้อยที่มีน้องชายน่ารักคนใหม่อยู่ข้างบ้าน

    " ฮะ! " เทะซึโอะรับคำเสียงดังฟังชัด
    " ฮะๆ ใครมารังแกเทะซึจังซัดมันให้กระเด็นเลยนะลูก " นานะหัวเราะร่วนอย่างคนอารมณ์ดี จนนาโอะพลอยหัวเราะออกมาด้วยไม่ได้

    ..ชีวิตใหม่ใช่จะมีแต่เรื่องแย่เสมอไป..

----------------

    ชีวิตเรียบง่ายที่สงบสุขดำเนินต่อไปเกือบหนึ่งปีเต็ม แต่สำหรับนาโอะกลับยาวนานดั่งไม่มีสิ้นสุด เขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้าน ทั้งยังไม่อำพรางปกปิดใบหน้ายามออกไปภายนอกอย่างที่เคยทำ กระทั่งเทะซึโอะก็ให้เข้าโรงเรียนโดยไม่ปิดบังชื่อจริง ทั้งหมดนี่เพราะหวังจะให้เบาะแสสำหรับใครบางคน

    น่าแปลกทั้งที่เป็นฝ่ายหนีมาเอง กลับเฝ้าภาวนาให้เซย์จิตามหาเจออยู่ทุกคืนวัน สำหรับคนระดับเซย์จิการจะควานหาคนธรรมดาที่ไม่ได้หลบซ่อนตัวอะไรคงง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือแท้ ๆ แต่หนึ่งปีที่ผ่านมากลับไร้วี่แววใด ๆ

    ไม่มีวันใดที่จะไม่คิดถึงเซย์จิ ยิ่งนานวันความรู้สึกยิ่งหยั่งรากลึก และยิ่งเสียใจทุกครั้งที่คิดได้ว่าชายคนนั้นไม่รักคนทรยศอย่างนาโอะแล้ว

    ..เทะซึโอะมีความสุขดี ได้เติบโตอย่างสดใสแข็งแรงอย่างที่หวังมาตลอดแล้ว ไม่น่าดีใจหรอกเหรอ ?..

    " นาโอะไม่รีบเอาเค้กออกมาเดี๋ยวก็ไหม้หรอก "
    นานะเรียกผู้ที่ยืนเหม่อตีแป้ง แต่สายตากลับทอดมองไปยังถนนนอกกระจกร้าน คล้ายกำลังมองหาใครบางคนอย่างที่มักลืมตัวทำเป็นประจำ ทั้งที่รู้อยู่แก่้ใจว่าสิ่งที่หวังอยู่ในใจไม่มีทางเป็นจริง

    "..อะ..คะ..ครับ! " นาโอะลนลานรีบใส่ถุงมือ แล้วดึงถาดเค้กออกจากเตาอบ

    " ถ้าเค้กไหม้ พี่จะฟ้องเทะซึจังว่านาโอะไม่อยากให้เทะซึจังกินเค้กฝีมือตัวเองนะ " เธอพูดขู่ทีเล่นทีจริง

    แค่หนึ่งปีก็มากพอให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านทั้งสองพัฒนาจนหยอกล้อพูดเล่นได้อย่างสนิทใจ กระนั้นนาโอะก็ยังคงเป็นนาโอะที่พูดจาสุภาพเรียบร้อยอยู่เสมอ ราวกลับกลัวผู้ใดจะรุกล้ำเข้าไปยังจิตใจ ที่มีภาพชายเจ้าของรอยยิ้มละมุนอัดแน่นอยู่เต็มไปหมดได้

    " งั้นผมจะบอกให้เทะซึจังทานเค้กฝีมือนานะซังแทนนะครับ "
    " ไม่ต้องมาพูดดีเลย เค้กฝีมือพี่ไม่่อร่อยเท่าของนาโอะหรอก " เธอมุ่ยหน้าให้กับคำแก้ตัวนั้น แล้วลงมือช่วยนาโอะแต่งหน้าเค้กส่วนที่ต้องนำไปขายที่ร้านพรุ่งนี้

    นาโอะไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะได้ทำงานร้านเค้กที่เขาชอบอีก ทั้งยังเป็นถึงหุ้นส่วนครึ่งนึงอีกด้วย จะเรียกว่าบังเอิญก็คงได้ ที่ในวันแรกที่นานะไปทำความรู้จักด้วยเขาเพิ่งอบเค้กเสร็จพอดี หญิงสาวกล่าวชื่นชมเค้กอบใหม่รสเลิศของนาโอะ ที่ได้รับถ่ายทอดฝีมือมาจากฮาจิเมะไม่หยุดปาก ขณะเล่าว่าเธอเองฝันอยากเปิดร้านอะไรสักอย่างแก้เซ็งมาตลอดเช่นกัน นับแต่ั้นั้นมาบทสนทนาของคนทั้งสองส่วนใหญ่จะวกมาจบที่เรื่องของหวานต่าง ๆ เสมอ

    จนในวันหนึ่งเมื่อความสัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้น ไว้ใจกันมากขึ้น ทั้งคู่ก็ตัดสินใจร่วมหุ้นเช่าที่ในสถานีรถไฟใกล้บ้านเปิดร้านเค้กด้วยกันในที่สุด และหากจะพูดถึงเด็กทั้งสองคงต้องบอกว่าก้าวหน้ายิ่งกว่าที่นาโอะคาดเดาไว้เสียอีก เทะซึโอะติดพี่ชายคนใหม่ผู้สุขุมและรอบรู้ไปเสียทุกด้านมาก เคตะเป็นเด็กเรียนเก่งจึงมักมีเรื่องต่าง ๆ มาเล่าให้น้องชายข้างบ้านฟังได้ไม่รู้เบื่อ นานวันเข้าก็ติดกันแจจนไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ

    และเพราะเหตุนี้เองนาโอะจึงอยู่ตามลำพังบ่อยขึ้น มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น แต่ก็ไม่พ้นฟุ้งซ่านคิดถึงเรื่องของคน ๆ เดิมอยู่ร่ำไป ชายคนนั้นจะทำอะไรอยู่ ? จะออกตามหาพวกเขาอยู่หรือไม่ ? จะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า ? และอีกหลายร้อยคำถามที่ประดังประเดกันเข้ามาไม่หยุด

    มีอยู่ครั้งนึง แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่นาโอะไม่อาจหักห้ามใจได้จนเผลอโทรไปหาเซย์จิ คงสักสามสัปดาห์ก่อนได้ ที่ฝ่ามือเรียวกดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจด้วยไม่อาจทนฝืนความรู้สึกได้อีกต่อไป

    ' ฮัลโหล '
    ' ซะ..เซย์จิซัง..'
    '...........' 

    ชายหนุ่มปลายสายเงียบไปทันทีที่ได้ยินเสียงนาโอะ แล้ววางสายใส่อย่างไร้เยื่อใย

    นับแต่นั้นเป็นต้นมานาโอะก็เลิกหลอกตัวเองอีก เซย์ิจิคนนั้นได้มอบอิสระให้คนทรยศอย่างนาโอะแล้วโดยสมบูรณ์แบบ หนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี ทั้งเซย์จิและองค์กรลับจะไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสองพี่น้องอีก

    ชายคนนั้นหมดรักในตัวนาโอะและเทะซึโอะแล้วอย่างสิ้นเชิง
    นี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากเซย์จิ


TBC Last Chapter

มา่ต่อแล้วค่าาาา!
ตอนหน้าก็จะจบแล้ว เย้~! หลังจากเข็นแล้วเข็นอีกและดองมานาน
ตอนนี้ขอไม่ตอบเม้นนะคะ ถ้าตอบต้องเผลอสปอยเนื้อเรื่องที่เหลือ(แค่ตอนเดียวเนี่ยนะ!?)ไปแน่ๆเลยค่ะ
ปล. ขอบคุณสำหรับคอมเม้นตอนที่แล้ว แล้วก็ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ด้วยค่ะ ไรเตอร์รักคนอ่านทุกคนนะึึคะ!>w<
ปล2. ไหนๆก็จะจบแล้วนักอ่านเงารายงานตัวหน่อยสิค้าา (ฮาา)
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-01-2011 14:13:13
แล้วหนีมาทำไม  รักแล้วหนีมาเพื่ออะไร  นอกจากจะทำร้ายหัวใจตัวเองแล้ว
ยังทำร้ายหัวใจเทะสึจังด้วย  ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้ว  จะได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่าน๊อ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 28-01-2011 17:14:26
 :เฮ้อ:

รอตอนหน้าดีกว่า 555
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 28-01-2011 18:13:28
ต้องโทษตัวเองนะนาโอะ
เป็นคนหนีออกมาเอง
สงสารเซย์จิ
คงคิดว่านาโอะไม่รักจึงพยายามตัดใจ :sad11:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 28-01-2011 18:26:19
นาโอะถ้าคิดถึงเซย์จิก็ไปหาสิ
ดีกว่ามานั่งคิดมากน่ะแล้วคิดว่า
นาโอะต้ิองเข้าใจอะไรผิดมากกว่า
แต่เพื่อนข้างบ้านน่ารักดีเทะซึจัง
เลยมีเพื่อนเล่นใหม่ด้วย
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 28-01-2011 19:17:02
เซย์จิซังคงคิดว่านาโอะไม่อยากอยู่ด้วยแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 28-01-2011 19:49:06
อยากอ่านต่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: akike ที่ 28-01-2011 20:46:11
มันช่างแสนเศร้า

อิสรภาพที่ตามหา  แต่เมื่อได้มาราวกับว่าถูขังในกรงที่ไม่สามารถออกมาได้

เฮ้อ ๆ เทะซึจังรอป๊ะป๋ามาเปงปีละ เอาเข้าไป

สมหวังเถอะ สาธุ เจอกัน  ปิ๊ง ๆ มีลูกอีกสักคนน่าจะดีนะ

จบแล้วขอตอนพิเศษล่วงหน้าได้ไหมคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 28-01-2011 20:54:47
บวกให้จ้า
นาโอะใจร้าย ฮือออออออออ
รออ่านตอนจบจ้า
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sa~waii ที่ 28-01-2011 21:11:12
สงสารนาโอะอ่ะ รัก แต่ก็กลัวที่จะรัก ทรมานเนอะ

แต่ตอนนี้สงสารตัวเองมากกว่า ค้างอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

+1 เสมออออ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 29-01-2011 00:01:29
หวังว่า เซย์จิ จะพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อนาโอะ

ขอให้จบอย่างมีความสุขด้วยเถิด สาธุ  :call:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 29-01-2011 00:18:55
ไรเตอร์  กรอดดดดดด :fire: :fire: :fire: :fire: :m16: :m16:

ทำไมทำเราค้างอย่างงี้

อยากอ่านต่ออออ่าา

ทำไมเซย์จิถึงไม่มาตามหานาโอะอ่ะ   :m15: :m15: :m15: :m15:

รักมากไม่ใช่หรอ???  ทำไมถึงละทิ้งไปซะหละ

ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซิ  ธรรมดาจะไม่เป็นอย่างนี้ซิเซย์จิ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 29-01-2011 00:24:33
สงสารนาโอะอ่า... แต่ว่านะ.. นาโอะก้อไปเซอร์ไพรส์เซย์จิเลยซิ เซย์จิต้องรออยู่แน่ๆ(มั้งเนอะ :m21:)
อ่านแล้วลุ้นจนหยดสุดท้ายจริงๆเลยเรื่องนี้ o13
รอตอนหน้าค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 29-01-2011 08:17:09
    ภาษาสวยมาก บรรยายก็รื่น พล๊อตเรื่องเจ๋ง มีดราม่ามาให้ลุ้นหวานๆ โรมานซ์ตลอด
เพื่งเข้ามาอ่านปรากฎว่าต้องอ่านตั้งกะต้นเลย ติดหนึบ
แต่ อ่า... จะจบแล้วเหรอ-ความสุขช่างสั้น จะรอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-01-2011 09:26:30
นาโอะ  :monkeysad:
เทะซึจังจะมีคู่ตั้งแต่ยังเด็กอ๊ะป่าวเีนี่ย  :beat: ขอตบตัวเอง คิดไปไกล 555
เซย์จิมาตามลูกเมียกลับบ้านได้แล้ว :angry2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 29-01-2011 10:01:46
โอ้ววว ต่อเลยต่อเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pigrabbit ที่ 29-01-2011 18:18:57
 :monkeysad:สงสารเซย์จิซัง ถูกนาโอะทิ้งอีกล่ะ
 เรางอนนาโอะด้วย :sad11: ทิ้งเค้ามาแล้วก็คิดถึง~
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-01-2011 19:09:29
ไม่ตามหาไม่ถามไถ่ หมายความว่าไงอ่ะ งงๆๆๆๆๆๆๆ  นาโอะตัดใจเหอะโดนทิ้งแล้วละ หาใหม่ไปเลยนาโอะ :L1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sakurazaka ที่ 30-01-2011 00:56:54
สองตอนรวดนี่ ทำเอาน้ำตาหยดเลยนะคะ

ได้แต่หวังว่าตอนหน้าคงจะได้ร้องไห้ด้วยความสุขแทนนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-02-2011 23:08:32
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 09-02-2011 03:19:09
ไม่อยากให้จบ... แต่ก็อยากให้นาโอะเลิกหนีสักที :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-02-2011 08:29:11
 :L1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pigrabbit ที่ 23-02-2011 03:20:02
 :กอด1: แวะมาส่อง~
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 23-02-2011 05:06:52

Miracle Last Chapter


    ..ภาพลวงตามีไว้หลอกตนเอง
    ถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่ในความเป็นจริง..

    บานประตูอัตโนมัติร้านสะดวกซื้อเลื่อนเปิดออก นาโอะเดินออกจากร้านพร้อมถุงข้าวของจำนวนมากเต็มอ้อมแขน เขาก้มลงมองวัตถุดิบทำขนมเค้กในถุงพลางระบายยิ้มน้อย ๆ ในที่สุดก็ซื้อวัตถุดิบสำหรับทำเค้กทั้งสัปดาห์ที่ต้องการเสร็จเรียบร้อย ได้เวลากลับร้านไปหานานะเสียที จังหวะที่กำลังจะเดินเลี้ยวมุมกำแพงนั่นเอง นาโอะก็เห็นชายคนหนึ่งเดินสวนมาในทิศทางตรงกันข้าม ทุกอย่างน่าจะเป็นเหมือนปกติที่คนแปลกหน้าสองคนเดินสวนทางกัน เหมือนไม่รับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย ทว่าคราวนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

    ..!!!..

    เจ้าของดวงตาสีอ่อนหลุบตาลงมองพื้นเบือนหน้าหนีชายที่กำลังเดินสวนทางมา ด้วยร่างกายสูงโปร่งและเรือนผมดำสนิทจนชวนให้จำสับสนกับใครบางคนที่คอยรบกวนจิตใจตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมองด้านหน้าเหมือนปกติได้ ระยะหลังมานี้นอกจากยังคิดถึงเซย์จิเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน อีกอาการหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือนาโอะมักมองเห็นคนนู้นคนนี้เป็นคนใจร้ายที่ตัดสัมพันธ์ได้อย่างไร้เยื่อใยอยู่บ่อย ๆ

    ..ตึก ตึก..

    รองเท้าหนังที่ชายคนนั้นสวมใส่ส่งเสียงดังทุกครั้งที่ย่ำลงบนพื้นคอนกรีต ยิ่งเสียงนั้นเข้าใกล้มากขึ้นเท่าไหร่นาโอะก็ยิ่งใจเต้นรัวมากขึ้นเท่านั้น แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้าดวงตาทำให้ความสามารถในการมองเห็นพร่าเลือนไปชั่วขณะ มากถึงขนาดมองหน้าชายที่กำลังเดินสวนมาได้ไม่ชัดถนัดตา และมากพอให้เข้าใจผิดเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้

    แม้จะมั่นใจว่าภาพที่เห็นเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกสร้างขึ้นเพื่อปลอบประโลมตนเองเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ขาทั้งสองข้างกลับไม่ยอมก้าวไปข้างหน้าตามคำสั่ง คล้ายกลัวผิดหวังหากต้องถูกชายคนนั้นเมินใส่ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ ก็แค่รูปร่างคล้ายกันใยต้องประหม่าลนลานทำอะไรไม่ถูกถึงเพียงนี้ด้วย นาโอะไม่อาจตอบคำถามนั้นได้ จึงเลี่ยงเดินเข้าร้านหนังสือที่ใกล้ที่สุดเหมือนต้องการหลบหนีจากความจริง

    " ตาฝาดอีกแล้วจริง ๆ ด้วย "

    นาโอะพึมพำกับตัวเองขณะเพ่งสายตามองชายคนเมื่อครู่จากในร้านหนังสือ ส่วนสูงและลักษณะท่าทางคล้ายเซย์จิอยู่ก็จริง แต่เมื่อตั้งสติมองดูให้ดีก็รู้ได้ว่าคนละคนกัน เมื่อครั้งที่ลอบหนีออกมาครั้งแรกและต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ยังไม่เคยหวาดผวาถึงขั้นนี้เลยสักครั้ง นี่อาจเป็นเพราะในสมองเต็มไปด้วยภาพเงาของชายผู้นั้นจนเพี้ยนไปแล้วก็เป็นได้

    ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นความอดทนที่เหลืออยู่น้อยนิดคงหมดลงในไม่ช้า แต่เขาจะทำอะไรได้ ?
    นาโอะแค่นยิ้มกับตัวเองอย่างสิ้นหวัง
    หมาป่าที่หลอกล่ิอเหยื่อตัวน้อยจนพึงพอใจแล้ว มีหรือจะกลับมาสนใจอีก

    ดวงตาสีน้ำตาลไล่มองหนังสือบนชั้นเพื่อเบี่ยงความสนใจของตนเองออกจากเรื่องเดิม ๆ ซึ่งนั่นนับเป็นการกระทำที่ไม่ควรยิ่งนัก หนังสือที่วางเรียงกันอยู่ด้านหน้าหลากหลายประเภท ทว่านาโอะผู้ที่น่าจะสนใจคู่มือทำขนมหวานด้านหน้า กลับเอื้อมมือไปหยิบนิตยสารเกี่ยวกับวงการธุรกิจบนชั้นที่อยู่สูงขึ้นไป เพียงเพราะรูปหนึ่งบนหน้าปกที่แม้จะไม่ได้เด่นอะไรมากนัก แต่ผู้ที่กำลังหยิบหนังสือขึ้นมาด้วยฝ่ามืออันสั่นเทากลับมองเห็นภาพชายบนปกหนังสือคนนั้นได้อย่างชัดเจน

    เนื้อหาคำโปรยไม่มีอะไรมากไปกว่านักธุรกิจที่แทบไม่ปรากฏตัวตามสื่อที่ไหนเลย ออกมาประกาศเปิดตัวธุรกิจใหม่ที่เพิ่งวางโครงการเรียบร้อย กระนั้นนาโอะกลับไม่สนใจตัวอักษรเหล่านั้นเลย ดวงตาเหม่อลอยมองเจ้าของเรือนผมสีดำที่คุ้นตากับดวงตาเปี่ยมด้วยความมั่นใจ และริมฝีปากเรียวที่วาดรอยยิ้มตามมารยาทท่ามกลางแสงแฟลช

    ".....เซย์จิซัง "

    แผ่นกระดาษย่อมไม่อาจขานรับต่อเสียงเรียกได้ และเจ้าของชื่อตัวจริงยิ่งไม่อาจได้ยินด้วยเช่นกัน จึงเหลือเพียงน้ำเสียงแผ่วเบาที่เรียกชื่อบุคคลอันเป็นที่รักอีกครั้ง ก่อนเงียบหายไปโดยไม่มีผู้ใดทันได้ยิน

    กว่าหนึ่งปีที่ไม่ได้เห็นนักธุรกิจหนุ่มผู้นี้ ดูเหมือนเซย์ิจิจะยังสบายดีเหมือนเดิม ท่าทางมาดมั่นซึ่งถึงเป็นภาพนิ่งนาโอะก็ยังสัมผัสถึงสิ่้งที่เป็นดั่งเอกลักษณ์ของชายคนนี้ได้ สายตาเป็นผู้นำที่บางครั้งกลับวาววับไปด้วยความเจ้าเล่ห์ในยามที่อยู่กันตามลำพังได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ..เซย์จิสบายดี ใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีเขาและเทะซึโอะที่หนีมาได้อย่างมีความสุข ก็เป็นเรื่องที่สมควรเป็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?..

    ดีแล้วที่ชายคนนั้นลืมนาโอะไปได้ จะได้ไม่ต้องทนเผชิญกับก้อนความรู้สึกที่ค่อย ๆ กัดกินตัวตนไปทีละน้อย แบบเดียวกับที่นาโอะเป็นมาตลอด

    คิดถึงอยู่ทุกคืนวัน เฝ้าคิดถึงจนไม่เป็นอันทำอะไร แต่ก็ทำได้เพียงทนอยู่อย่างนั้น
    อย่างน่าสมเพช..

----------------------------------------------

    " นาโอะ! นี่ นาโอะ! จะเหม่อไปถึงไหนน่ะ "
    " อะ...ครับ!? " เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัวก่อนหันไปหาหญิงสาวที่เรียกชื่ออยู่

    " ยังจะมาครับอีก เอาแต่ยืนนิ่งอย่างนั้นเมื่อไหร่จะตีแป้งเสร็จล่ะ " นานะจิ้มนิ้วบนหน้าผากคนเหม่อช่วยเรียกสติให้ นาโอะหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนลูบหน้าผากตัวเองแก้เก้อ

    " ขอโทษครับ ผมเผลอคิดโน่นคิดนี่เพลินไปหน่อย "
    เขารีบขยับมือทำงานที่ค้างอยู่ทันที แต่นานะกลับยังไม่ยอมละสายตาไปไหน เธอลอบสังเกตคู่สนทนาอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจถามถึงสิ่งที่ติดใจสงสัยมาตลอดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

    " นาโอะมีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่หรือเปล่า หมู่นี้เห็นเหม่อบ่อย ๆ มีอะไรระบายให้พี่ฟังได้นะ "
    ไม่ผิดจากที่คิดไว้สักเท่าไหร่ เจ้าของฝ่ามือที่กำลังตีแป้งอยู่เร่งความเร็วมากขึ้นเหมือนต้องการกลบเกลื่อนความรู้สึกอะไรบางอย่างไม่ให้ใครได้รู้ ทั้งยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองนานะอีกเลยด้วย นานทีเดียวกว่าจะตอบคำถามออกมาได้

    " ผมสบายดี นานะซังไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ "
    " อย่าโกหกนะนาโอะ " เธอยังคงไม่ละความพยายาม
    " ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ นานะซังคิดมากไปแล้ว " นาโอะยังคงหลบสายตาอยู่เหมือนเดิม
    
    " ใช่เรื่องของใครสักคนในหนังสือเล่มนั้นหรือเปล่า "
    นานะเลิกอ้อมค้อมอีกต่อไป พลางเหลือบมองหนังสือที่ถูกวางทิ้งไว้บนเก้าอี้เป็นเชิงนัยว่าหมายถึงหนังสือเล่มใดกันแน่ ตั้งแต่รู้จักกันเธอรู้สึกว่าเพื่อนบ้านคนนี้มักวางตัวออกห่างจากผู้อื่นอยู่เสมอ และแววตาคู่นั้นมักไหวระริกคล้ายเศร้าใจกับอะไรบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้

    หลายวันก่อนนาโอะกลับมาจากซื้อของ พร้อมหนังสือที่ไม่ว่าจะดูยังไงก็ห่างไกลความสนใจของเพื่อนบ้านคนนี้อยู่มากทีเดียว เจ้าของหนังสือไม่เคยเปิดอ่านมันเลยสักครั้ง แต่กลับนั่งมองหน้าปกเพียงอย่างเดียว และบางครั้งก็นั่งเหม่อลอยอยู่นานนับชั่วโมง ดวงตาทอดมองไปนอกหน้าต่าง และเมื่อลองลอบสังเกตดูก็รู้ได้ว่าดวงตาคู่นั้นไม่ได้ฉายภาพที่อยู่เบื้องหน้าเลย

    แต่มองไปยังสถานที่ในความทรงจำที่อยู่ไกลแสนไกล..

    นานะถอนหายใจยาวเหยียด แม้ไม่บอกก็พอจะเดาได้ เพื่อนบ้านของเธอคงเป็นโรคทางใจอยู่ คิดแล้วก็น่าโมโหเหลือเกิน ใครกันกล้ามาทำให้นาโอะผู้สุภาพเรียบร้อยเสียใจได้นานถึงเพียงนี้ ถ้าให้เดาคงไม่พ้นใครคนใดคนหนึ่งบนหน้าปกนิตยสารเล่มนั้นเป็นแน่

    " ปะ..เปล่าครับ "
    นาโอะปฏิเสธความหวังดีที่ถูกหยิบยื่นให้อีกครั้ง หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างขัดใจ แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่ปริปากเล่าอะไร เธอก็จนปัญญาจะช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้เพื่อนบ้านผู้น่ารักคนนี้ ถ้าเป็นไปได้นานะอยากเจอตัวคนผู้นั้น แล้วต่อว่าให้หายหงุดหงิดสักทีเหมือนกัน ยังไม่ทันได้คาดคั้นถามต่อเสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านก็ดังขึ้นเสียก่อน ทั้งนาโอะและนานะหันมองผู้มาเยือนพร้อมกันทันที

    ลมหนาวด้านนอกพัดผ่านรอยแยกของประตูเข้ามาในร้าน
    หากสายลมที่หนาวเหน็บนั่นพัดพาความสุขเข้ามาบ้างคงดีไม่น้อย

    ฝ่ามือเรียวที่กำลังตีแป้งอยู่เย็นวาบขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นชายร่างสูงโปร่งสวมแว่นดำและหมวกจนแทบมองไม่เห็นใบหน้า กำลังสาวเท้าเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทางผ่อนคลาย ทุกอย่างคงดำเนินไปตามปกติเหมือนทุกวัน หากลูกค้าคนนั้นไม่จงใจส่งยิ้มเป็นกันเองให้นาโอะ และหากรอยยิ้มนั้นไม่บังเอิญคล้ายรอยยิ้มของใครบางคนราวกับพิมพ์เดียวกัน รอยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์ยามแกล้งนาโอะได้สำเร็จ ที่ทั้งน่าหงุดหงิดแต่ก็ทำให้ในอกอุ่นวาบขึ้นมาได้เช่นกัน

    นาโอะคิดถึงรอยยิ้มนั้นที่สุด..
    ทว่านี่ก็คงเป็นเพียงภาพหลอนที่คิดไปเองอีกเท่านั้น

    "  นานะซังช่วยไปดูลูกค้าให้ทีสิครับ " นาโอะเอ่ยขอร้องอย่างที่หาได้ยาก

     " เห ? "
    นานะเลิกคิ้วอย่างนึกแปลกใจ ทุกทีเมื่อมีลูกค้าเข้าร้าน ผู้ที่รีบออกไปต้อนรับจะเป็นนาโอะเสมอมิใช่เหรอ ทว่าเมื่อเห็นคู่สนทนาก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไรอีก และด้วยกลัวลูกค้าจะรอนานจึงรีบหยิบเมนูเดินออกไปหน้าร้าน โดยไม่ถามอะไรให้มากความอีก

    ลูกค้าหนุ่มเลือกนั่งบนโต๊ะที่สามารถมองเห็นทั้งร้านได้ การตกแต่งร้านให้คล้ายเมืองของเล่นตามไอเดียของเทะซึโอะและเคตะ ดูไม่เข้ากับรูปร่างสูงใหญ่ของลูกค้ารายนี้เท่าไหร่นัก ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านมักมากันเป็นครอบครัว หรือไม่ก็พาสมาชิกตัวน้อยมาด้วย จึงน่าแปลกสำหรับชายหนุ่มที่เดินเข้าร้านเพียงลำพังเช่นนี้

    " สวัสดีค่ะ จะรับอะไรดีคะ "
    นานะส่งเมนูให้พร้อมรอยยิ้มเป็นกันเอง ชายหนุ่มรับเมนูมาเปิดผ่าน ๆ ครู่หนึ่งก่อนส่งคืนให้ แล้วเหลือบมองคนที่ก้มหน้าก้มตาตีแป้งอยู่ในครัวด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดาได้

    " ขอเค้กทั้งหมดที่คุณผู้ชายเจ้าของร้านคนนั้นทำ ใส่กล่องทั้งหมดนะครับ"

    " ว่าอะไรนะคะ "
    เจ้าของร้านสาวชะงักไปกับออเดอร์ที่คาดไม่ถึง ทว่าชายหนุ่มกลับระบายยิ้มบนใบหน้าคล้ายยืนยันว่าเธอไม่ได้หูฝาดไป คำถามถัดมาจึงถูกเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

    " ทั้งหมดเลยเหรอคะ "
    " ใช่ครับ ทั้งหมดเลย "
    นานะขมวดคิ้วมุ่นพลางเหลือบมองขนมหวานที่วางเรียงอยู่ในตู้กระจก นาโอะเป็นผู้ทำเค้กเกือบทั้งหมดในร้าน คงต้องใช้เวลานานเป็นแน่กว่าจะจัดห่อลงกล่องได้หมด

     " ถ้าทั้งหมดคงต้องใช้เวลา...."
    " ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ " เขารีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน นานะยิ่งมุ่นหัวคิ้วมากกว่าเดิม

    ชายผู้นี้ไปฟังข่าวลืออะไรเกี่ยวกับเค้กที่ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้มากันแน่นะ ?

    นานะถามตัวเองเช่นนั้น แต่ก็จนปัญญาจะหาคำตอบ แม้จะนึกสงสัยอยู่บ้างแต่ถ้าขายเค้กได้เธอก็พอใจ พอเดินกลับเข้ามาในห้องครัวปัญหาใหม่ก็คอยท่าอยู่แล้ว หุ้นส่วนของร้านที่น่าจะกำลังเตรียมส่วนผสมเค้กอยู่ กลับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดลำลองธรรมดา ในมือถือกระเป๋าสะพายเตรียมตัวออกไปข้างนอก

    " นาโอะจะไปไหนเหรอ " เธอถามด้วยความสงสัย

    " ผมไม่สบายนิดหน่อย วันนี้ขอลาป่วยนะครับ "
    สีหน้าผู้พูดดูอ่อนล้าจริงอย่างว่า กระนั้นนานะก็สุดจะเดาได้่ว่าต้นตอของอาการป่วยครั้งนี้มาจากร่างกายหรือจิตใจกันแน่ แต่จะด้วยสาเหตุใดก็ตามสิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้คือนาโอะคงไม่ต้องการเจอหน้าใครตอนนี้ เธอจึงเก็บความคิดที่จะเล่าเรื่องลูกค้าแปลกประหลาดให้ฟังอย่างที่ตั้งใจไว้

    " ไม่สบายเหรอ ให้พี่ไปส่งมั้ย ? "
    " มีลูกค้าคอยอยู่อย่าดีกว่าครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาทำงานชดเชยที่ลาวันนี้แล้วกันนะครับ "
    นาโอะหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบนไหล่ ก่อนเดินไปผลักประตูครัวเปิดออก โดยพยายามเลี่ยงไม่มองไปทางลูกค้าเพียงคนเดียวในร้านตอนนี้

    " ลาวันนี้อะไรกัน นี่เย็นแล้วต้องเรียกว่ากลับก่อนถึงจะถูก "
    " นั่นสินะครับ "
    เรียวปากบางระบายยิ้มเจือจาง ขณะรีบสาวเท้าเดินไปให้ถึงประตูร้าน มีนานะเดินตามมาส่งด้วยความเป็นห่วง เธอหันไปก้มหัวเป็นเชิงขอโทษให้ลูกค้าที่นั่งคอยอยู่เล็กน้อย เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มส่งยิ้มให้อย่างไม่นึกถือโทษอะไรจึงค่อยวางใจลงได้บ้าง

    " เลิกพูดมากแล้วกลับไปพักได้แล้ว เดี๋ยวเทะซึจังเห็นพี่ชายป่วยหนักเข้าก็ร้องไห้หรอก "
    นานะโบกมือไล่ผู้ที่ยังมัวแต่คิดถึงมารยาทหันกลับมาก้มหัวลาอยู่หน้าร้าน ด้วยต้องการพูดคล้ายตำหนินาโอะอยู่ในที เสียงของเธอจึงค่อนข้างดัง ลูกค้าหนุ่มในร้านได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของคนทั้งสองอย่างเลี่ยงไม่ได้ สีหน้าที่ดูเป็นมิตรจนถึงเมื่อครู่แลดูเคร่งเครียดขึ้น ราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่างเป็นอย่างมาก
  
    นาโอะเดินจากไปแล้ว แต่นานะยังมองส่งไปจนลับสายตา ด้านหลังของเธอในร้านเค้กที่หอมอบอวลด้วยกลิ่นขนมหวาน ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีดำก็จับจ้องไปยังร่างเพรียวด้วยอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน และหากจะว่ากันตามจริงชายผู้นี้เฝ้ามองนาโอะอยู่ตลอด นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน

    " เค้กที่สั่งไว้เมื่อกี้ฝากไว้ก่อนได้มั้ยครับ "
    ลูกค้าหน้าใหม่ของร้านส่งเสียงทักผู้ที่ยังมองตามนาโอะไปอยู่ เมื่อหันไปตามเสียงก็พบผู้พูดมายืนประชิดตัวอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ เป็นอีกครั้งที่นานะไม่เข้าใจในตัวชายคนนี้

    " คะ ? "
    " เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ รบกวนช่วยฝากไว้ก่อนนะครับ " ฝ่ามือใหญ่ส่งเงินค่าเค้กที่สั่งมาให้ ก่อนเดินออกจากร้านไปโดยไม่คอยฟังคำตอบ

    นานะยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยความไม่เข้าใจ นอกจากนาโอะจะทำตัวผิดไปจากปกติแล้ว ลูกค้าหนุ่มรายนี้ยังทำตัวไม่เหมือนลูกค้าธรรมดาทั่วไปยากจะรับมืออีก เธอถอนหายใจยาวเหยียดก่อนหันหลังเดินกลับเข้าไปในร้าน

    " จะเหมาทั้งทีก็เหมาให้หมดทั้งร้านไปเลยสิ แปลกคนจริง ๆ "
    ผู้ถูกนินทาเดินจากไปแล้วและไม่ได้ยินสิ่งที่นานะพูด เขาถอดแว่นกันแดดออกเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วมองตามร่างเพรียวที่เดินหายไปจนลับสายตา ก่อนเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อนนัก

    ทุกอย่างอยู่ในแผนที่วางไว้ทั้งหมดแล้ว..

    กระทั่งไปสะดุดตาเข้ากับเด็กชายสองคนที่เดินจูงมือกันมาในทางตรงกันข้าม ใบหน้าที่ดูตึงเครียดจนถึงเมื่อครู่พลันยิ้มกว้างออกมาทันที

    " เทะซึจังบวกเลขเป็นแล้วล่ะฮะพี่เคตะ " เด็กชายตัวเล็กกว่าูพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดปาก พลางแกว่งมือที่เกาะเกี่ยวกันอยู่ไปมา
    " เห ? เจ้าจิ๋วทำได้ถึงขนาดนี้แล้วเหรอ "
    " อย่าเรียกว่าเจ้าจิ๋วสิ เดี๋ยวเทะซึจังก็โตทันพี่เคตะแล้ว " เด็กชายตัวโตกว่าเหลือบมองคู่สนทนาแล้วหัวเราะเสียงดังลั่น
    " ไม่มีทาง เจ้าจิ๋วตัวเล็กแค่นี้จะโตได้สักแค่ไหนกัน "

    " สักวันเทะซึจังจะโตให้มากกว่าพี่เคตะเลย คอยดูสิ! "
    เด็กชายพองแก้มป่องมองค้อนคู่สนทนาที่ชอบล้อเรื่องขนาดส่วนสูงซึ่งต่างกันมากเป็นประจำ ทั้งคู่เดินถกเถียงกันไปตามเรื่องตามราวโดยไม่สนใจคนรอบข้าง หรือแม้แต่ใครบางคนที่กำลังมองมาอยู่

    " เจ้าจิ๋วไม่ค่อยกินผักไม่มีทางสูงหรอก เป็นเจ้าจิ๋วตัวเล็ก ๆ อย่างนี้ไปตลอดชาติแน่ "
    ถ้อยคำฟังเหมือนเหน็บแนมประชดประชัน หากแต่ดวงตาผู้พูดที่มองไปยังเด็กชายตัวเล็กกว่ากลับแฝงไว้ด้วยความเอ็นดู เคตะชอบน้องชายตัวเล็กแบบนี้มากจนบางครั้งไม่อยากให้โตเลยทีเดียว

    " เรียกว่าเจ้าจิ๋วอีกแล้ว ผมชื่อเทะซึ....อุ๊บ! "
    ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคเทะซึโอะที่มัวแต่มองคู่สนทนาก็เดินชนกำแพงมนุษย์ ซึ่งยืนดักคอยอยู่แล้วเข้า

    " เดี๋ยวนี้พูดเก่งจนไม่มองทางเลยเหรอเทะซึโอะ "
    ฝ่ามือใหญ่คว้าข้อมือเด็กชายเอาไว้ได้ทันก่อนเสียหลักล้มลงบนพื้น แล้วอุ้มขึ้นมามองสำรวจโดยละเอียด น้ำเสียงคุ้นหูที่ไม่ได้ยินมานานทำให้เด็กชายเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเทะซึโอะก็ต้องฉีกยิ้มกว้างราวกับได้ลูกกวาดถุงใหญ่ เมื่อเห็นว่ากำแพงมนุษย์ด้านหน้าคือใคร

    สายลมพัดผ่านคนทั้งสาม
    พัดให้ความสุขหลั่งไหลเข้ามาทีละน้อย

    " ป๊ะ...."
    " ชู่ว อย่าส่งเสียงดังสิเทะซึโอะ เดี๋ยวพี่ชายก็ตกใจหรอก " ชายหนุ่มยกนิ้วชี้แนบลงบนริมฝีปากของเทะซึโอะห้ามไม่ให้ตะโกนเสียงดังลั่นถนน พลางหันไปมองเคตะที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

    " ฮะ! "
    " เป็นเด็กดีไปคอยที่ร้านก่อนนะ เดี๋ยวป๊ะป๋าไปรับ " เทะซึโอะพยักหน้ารัวเร็วรับคำ ชายหนุ่มจึงลูบหัวเด็กชายคล้ายจะให้รางวัล ก่อนวางลงบนพื้นแล้วหันหลังเดินจากไป

    " ป๊ะป๋างั้นเหรอ ? " เคตะขมวดคิ้วไม่เข้าใจเลยสักนิด
    " ใช่ฮะ ป๊ะป๋าของเทะซึจัง! " เทะซึโอะไม่สามารถหยุดยิ้มได้เลย

    หากความดีใจในตอนนี้เปรียบเหมือนลูกกวาด นี่คงเป็นลูกกวาดกองโตที่เทะซึโอะรอคอยมานานที่สุดในชีวิต

--------------------------------

    
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 23-02-2011 05:08:46


   ป่วยกายหรือจะสาหัสเท่าป่วยใจ ?

    นาโอะไม่ได้ป่วยหนักอะไรตรงไหน แต่ที่ต้องบกพร่องต่อหน้าที่เป็นครั้งแรก ก็เพราะอาการปวดหนึบที่หน้าอกด้านซ้ายจนดวงตาพร่าลายไปหมด แบบนี้คงเรียกว่าป่วยได้เหมือนกันล่ะมั้ง เพียงแค่นึกถึงเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทคนนั้น นึกถึงน้ำเสียงที่พร่ำบอกรักหวานหู เขาก็แทบทนไม่ไหว จริงอยู่ที่ดวงตาคู่นี้อาจมองคนโน้นคนนี้เป็นเซย์จิ ทว่านาโอะก็ทราบดีไม่มีใครเลยจะเหมือนคน ๆ นั้น และไม่มีผู้ใดมาแทนที่ได้ด้วยเช่นกัน แม้จะมองผิดไปสักกี่ครั้งนาโอะจะตระหนักได้เองในเวลาต่อมา ว่าทุกอย่างเป็นเพียงภาพเพ้อฝันของตนเท่านั้น

    ทว่าชายที่เห็นวันนี้กลับต่างไปอย่างสิ้นเชิง เสี้ยววินาทีแรกนาโอะไม่อาจละสายตาได้เลย เมื่อรอยยิ้มที่เข้าใจว่าเป็นยิ้มตามมารยาทถูกส่งมาให้ หัวใจที่แห้งเฉาก็ราวกับจะกลับมาสูบฉีดอีกครั้ง เหมือนกันมากเกินไปจนชวนให้โหยหายิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เจ็บปวดเหลือจะกล่าว

    แต่เซย์จิจะมาที่นี่ได้ยังไงกัน
    ในเมื่อชายคนนั้นลืมนาโอะไปจากใจแล้ว..

    " อึก..."

    ร่างเพรียวที่นอนคุดคู้อยู่บนโซฟาตัวเล็กในห้องนอนหลับตาทั้งสองข้างลง ก่อนยกมือขึ้นกุมหน้าอกด้านซ้ายของตน คล้ายต้องการกอบกุมความเจ็บปวดที่เอ่อล้นอยู่ข้างในออกมาบ้าง ต่อให้เจ้าหนูน้อยหนีไปไกลแสนไกล และซ่อนตัวได้แนบเนียนสักเพียงใด ก็ไม่อาจหนีจากความรู้สึกของมันได้พ้น

    ..บางทีคงใกล้ถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้ว..

    หลายต่อหลายครั้งที่นาโอะโทรไปหาฮาจิเมะเจ้าของร้านเค้กผู้อารีซึ่งรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี เพื่อหวังจะขอคำปรึกษา แต่คำพูดของคนนอกก็ไม่อาจช่วยแก้ไขอะไรได้มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นฮาจิเมะเพียงแค่บอกให้ทำตามที่ใจต้องการเท่านั้น ซึ่งคำตอบนั้นไม่อาจช่วยให้ผู้ที่จิตใจสับสนวุ่นวายหาทางออกพบได้เลย

    แต่หากพูดไปถึงเจ้าของร้านเค้กคนนั้น นาโอะก็นึกสงสัยในการกระทำอยู่หลายครั้ง ตลอดเวลาหนึ่งปีมานี้ฮาจิเมะไม่เคยเหยียบย่างมายังบ้านที่ให้สองพี่น้องอาศัยอยู่เลยแม้แต่ก้าวเดียว แม้แต่คำชักชวนของนาโอะก็ไม่เป็นผล จะบอกว่ามีน้ำใจก็ดูจะเกินปกติมากไปจนน่าแปลกใจ

    อย่างน้อยมาหากันสักครั้งสองครั้งก็ยังดี กับนานะถึงจะสนิทสนมกันสักเพียงใด แต่เขาก็ไม่กล้าพอจะเล่าทุกอย่างให้ฟังอยู่ดี เรื่องราวและความสัมพันธ์ที่เหลือเชื่อพรรค์นั้นใครกันจะเชื่อลง นาโอะอยากเจอและพูดระบายความในใจได้อย่างเปิดเผยกับใครสักคน บางทีหากทำเช่นนั้นความขมขื่นในใจอาจบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง

    ..หรือเขาควรเป็นฝ่ายไปหาเอง..

    กลับไปยังเมืองหลวงที่มีเซย์จิอยู่ คิดเพียงเท่านั้นนาโอะก็ต้องพับความคิดเก็บกลับเข้าที่เดิม หากย้อนกลับไปเขามั่นใจว่าที่แรกที่ไปคงไม่ใช่ร้านเค้กอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เป็นบ้านที่เคยทรมานตนมานานหลายเดือนเป็นแน่ บ้านที่มีคนผู้ั้นั้นอยู่ ถึงเซย์จิจะไม่ต้องการเจ้าหนูทดลองตัวน้อยนี้แล้วก็ตาม

    นาโอะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จะให้ความพยายามตลอดหนึ่งปีต้องสูญเปล่าไม่ได้เป็นอันขาด ถึงอย่างไรเขาก็ต้องปกป้องเทะซึโอะให้ถึงที่สุด จะต้องปกป้องน้องชายคนสำคัญให้ได้ แม้จิตใจและร่างกายนี้แหลกสลายลงก็ช่างประไร

    หนึ่งปีเต็มกับชีวิตที่มืดมนไร้ทางออก
    ถึงเวลาให้รางวัลกับความอดทนของเจ้าหนูน้อยตัวนี้ได้หรือยัง ?


---------------------


    ..กริ๊ก..

    ประตูบ้านที่ล็อคไว้อย่างแน่นหนาถูกไขเปิดออกทีละชั้น โดยที่ผู้ที่อยู่ด้านในไม่ทันได้รู้สึกตัว ผู้บุกรุกกวาดตามองไปทั่วบ้าน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาวางไว้บนชั้นวางของ ก่อนสาวเท้าเดินขึ้นไปยังชั้นสอง บนนั้นมีบานประตูปิดสนิทเรียงกันอยู่สามบาน กระนั้นผู้บุกรุกกลับไม่เดือดร้อนใจแม้แต่น้อย เขาเลือกตรงไปยังบานประตูในสุดอย่างไม่ลังเล

    ผ้าม่านข้างบันไดปลิวไหวไปตามสายลมที่พัดโชยเข้ามา
    ความสุขกำลังโบยบินเข้ามาด้วยหรือเปล่านะ ?

    ฝ่ามือใหญ่หมุนลูกบิดประตูอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอมองลอดช่องว่างที่ถูกแง้มเปิดออกเข้าไปกลับไม่เห็นผู้ที่น่าจะอยู่ข้างใน คิ้วหนาขมวดมุ่นอยู่ครู่หนึ่งก่อนคลายออกเมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบาคล้ายตัดพ้ออะไรบางอย่างดังมาจากโซฟาที่หันหลังให้ประตูห้อง เรียวปากบางจุดยิ้มอย่างยากจะห้ามได้ พลางสาวเท้าเข้าไปด้านในแล้วทรุดตัวลงนั่งหน้าโซฟา

    " เซย์จิซัง...ผมคิดถึงคุณจังเลยครับ "

    เจ้าของน้ำเสียงเบาหวิวที่นอนหลับตาอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง ไม่ได้รู้สึกถึงผู้ที่ย่ามใจบุกเข้าประชิดตัวจนแทบสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รินรดข้างแก้มเนียนเลยสักนิด ทันทีที่คำว่าเซย์จิหลุดรอดริมฝีปากแดงเรื่อออกมาอีกครั้ง ผู้บุกรุกก็ยกแขนขึ้นโอบกอดร่างบนโซฟาแนบแน่นก่อนเบียดตัวแทรกขึ้นไปนั่งด้านข้าง

    " หวา! อ..อะไรน่ะ!? " เจ้าหนูน้อยจอมเลินเล่อที่รู้ตัวช้าไปไม่อาจดิ้นรนขัดขืนได้เลย พอรู้ตัวร่างทั้งร่างก็ถูกรัดไว้ในอ้อมกอดแกร่งเสียแล้ว
    " ฉันก็คิดถึงนาโอะเหมือนกัน" ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้าที่นาโอะเฝ้าคิดถึงมาตลอด

    ..นี่จะเรียกว่าความสุขได้มั้ยนะ ?..

    " เซย์จิซัง!? ทำไม ? แล้วเข้ามาได้ยังไงครับ? "
    เจ้าของดวงตาสีอ่อนที่เบิกกว้างพูดรัวเร็วเหมือนคนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก คู่สนทนาเพียงแค่ยิ้มน้อย ๆ ให้กับท่าทางนั้น ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องผิดคาดอะไรเลย เจ้าหนูน้อยคงตกใจน่าดูที่อยู่ ๆ ผู้ที่น่าจะหายไปจากชีวิตแล้วกลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง หากแต่ครั้งนี้ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นหาใช่ความหวาดหวั่นดังเช่นครั้งก่อนไม่

    นาโอะพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอด แล้วเงยหน้ามองชายด้านหน้าให้เต็มตา แต่เซย์จิกลับไม่ยอมผ่อนแรงลงให้ทำอย่างต้องการได้เลย คำถามมากมายประดังประเดเข้าในมาหัวจนมึนงงไปหมดไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี

    " นายไม่สบายตรงไหนเหรอ ทำไมถึงกลับก่อนล่ะ "
    ผู้ที่ก้มลงมองสำรวจร่างในอ้อมแขนไม่วางตาเช่นกันถามด้วยน้ำเสียงจริงจังที่คู่สนทนาหาได้ใส่ใจมันไม่ แต่เมื่อเห็นนาโอะดูสบายดีแม้จะซึมเศร้าไปบ้างเขาก็คร้านจะถามหาคำตอบอีกต่อไป

    จริงสิ บางทีนี่อาจเป็นความฝันเหมือนอย่างที่นาโอะเคยฝันมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ควรทำคือซึบซัมความอบอุ่นที่ดูเหมือนจริงยิ่งกว่าครั้งใด เพื่อให้มีกำลังมากพอจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยามลืมตาตื่นขึ้นมาครั้งต่อไปสินะ หน่วยตาสวยช้อนขึ้นมองเซย์จิแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง คล้ายลูกแมวน้อยตัวเปียกปอนสั่นเทาต้องการความอบอุ่นก็ไม่ปาน

    " ...เซย์จิซัง "
    " หือ ? "
    " เซย์จิซังจริง ๆ เหรอครับ " ฝ่ามือเรียวกำเสื้อเจ้าของอ้อมกอดแน่น
    " จริงสิ ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครล่ะ "
    " เป็นเซย์จิซังตัวปลอมในความฝันของผมไงครับ "

    " พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ตรงไหนของฉันที่บอกว่าเป็นตัวปลอมเหรอ "
    ฝ่ามือใหญ่เชยคางนาโอะขึ้นมา ก่อนพรมจูบไปทั่วดวงหน้าสวย ทั้งหน้าผาก ข้างแก้ม ปลายคาง หรือแม้กระทั่งกลีบปากสวย ราวกับต้องการยืนยันตัวตนของตนเอง

    ตรงไหนที่บอกว่าชายผู้นี้เป็นตัวปลอมกัน นาโอะไม่อาจตอบได้เหมือนเช่นทุกครั้ง ไออุ่นและความอ่อนโยนนี้จะไม่ใช่ของจริงได้อย่างไรกัน ทุกอย่างเด่นชัดจนไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว

    " ...ผมไม่รู้ "
    นาโอะไม่รู้อะไรแล้วทั้งนั้น แขนเพรียวโอบรอบเอวหนาก่อนซบหน้าลงบนตัวเซย์จิอีกครั้ง ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เพียงแค่เซย์จิกลับมาหา แค่ดวงตาคู่ันั้นยังฉายภาพของเขาอยู่ก็เพียงพอแล้ว เซย์จิเองก็เงียบไปเช่นกัน ชายหนุ่มโอบกอดร่างผอมแนบแน่น ก่อนซุกหน้าลงบนเรือนผมสีอ่อน ราวกับต้องการเติมเต็มส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไปถึงหนึ่งปีเต็ม

    ถึงเป็นฝ่ายหนีมาเองแต่นาโอะก็ต้องการให้่เซย์จิออกตามหาตน และทั้งที่คิดอย่างนั้นแต่กลับไม่้ต้องการเผชิญหน้ากับความหวาดระแวงดังที่ผ่านมาอีกแล้ว เทะซึโอะต้องมาก่อน เขาไม่อาจเห็นแก่ตัวทำตามความต้องการของตัวเองได้ แต่ตอนนี้เมื่อผู้ที่เฝ้าคิดถึงมาตลอดปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า นาโอะก็กลายเป็นเด็กน้อยที่โยนเหตุผลทิ้งไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขากอดเซย์จิแน่นราวกับเด็กหวงของ ถ้าจะขอทำอย่างใจต้องการดูสักครั้งพระเจ้าจะลงโทษหรือไม่นะ

    ..อา เซย์จิซังมาหาแล้วจริง ๆ..

    " นาโอะใจร้ายทิ้งฉันไปได้ลงคอตั้งสามครั้ง "
    เจ้าของน้ำเสียงตัดพ้อไม่จริงจังนักเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อน หลังปล่อยให้ความเงียบเข้าเป็นใหญ่ในห้องจนอาทิตย์ลาลับขอบฟ้านาโอะก็ยังเอาแต่กอดเขาอยู่เงียบ ๆ ไม่ปริปากพูดหรือขยับไปไหนแม้แต่น้อย ทั้งที่เซย์จิมีเรื่องตั้งมากมายอยากบอกให้อีกฝ่ายได้รู้

    แต่เพราะเป็นนาโอะที่คิดถึงเทะซึโอะมากกว่าตัวเองจนหนีมาไม่ใช่หรอกเหรอเซย์จิถึงได้หลงรัก หากทันทีที่นาโอะยอมรับรัก แล้วแสดงออกว่าหลงใหลทรัพย์สินเงินทอง หรือมีท่าทีจะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกเบื้องหลังในฐานะคนรักของผู้นำสูงสุด อาจเป็นตัวเขาเองก็ได้ที่ถอยห่างออกมา

    นาโอะที่เป็นนาโอะแบบนี้น่ะดีที่สุดแล้ว

    " คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนี่ครับ ทิ้งผมกับเทะซึจังไว้ตั้งปีนึง ทั้งที่คนอย่างคุณแค่จะตามหาผมที่ไม่ได้ซ่อนตัวแบบเมื่อก่อน ไม่ใช่เรื่องยากอะไร......"

    ร่างในอ้อมแขนแกร่งพร่างพรูความในใจออกมา ก่อนหยุดชะงักที่ท้ายประโยค เมื่อย้อนคิดไปถึงช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาก็ปวดใจจนพูดต่อไปอีกไม่ออก เซย์ิจิจูบแก้มนาโอะอีกครั้งคล้ายจะปลอบประโลม

    " ขอโทษนะ ที่ฉันเสียเวลาจัดการอะไรหลาย ๆ อย่างไปตั้งปีนึง "
    จัดการอะไรนาโอะไม่สนใจแล้ว จะองค์กรใดหรือเรื่องเลวร้ายแค่ไหนก็ยิ่งไม่ใส่ใจ แค่ตอนนี้วินาทีนี้เท่านั้นที่จะขอเห็นแก่ตัวบ้าง ร่างเพรียวส่ายหน้าพรืดเป็นเชิงตอบรับว่าไม่เป็นไร ก่อนซบหน้าลงอีกครั้ง เซย์จิคลี่ยิ้มบางให้กับท่าทางเหล่านั้น ขณะที่ในอกคับแน่นด้วยความยินดี เขารู้ดีนาโอะไม่ต้องการพูดอะไรเกี่ยวกับชีวิตอีกด้านของตน แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นช่วงเวลาที่ต้องห่างกัน รวมถึงความเพียรพยายามก่อนหน้านั้นคงสูญเปล่า

    " ไม่มีองค์กร SW แล้วล่ะนาโอะ " น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดเน้นทีละคำข้างใบหูของนาโอะ ให้ได้ยินทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน
    " เอ๋!? "
    " ฉันบอกว่าไม่มีองค์กร SW แล้ว นาโอะได้ยินหรือยัง " ชายหนุ่มจุมพิตบนกกหูของผู้ที่เบิกตากว้าง แล้วย้ำทุกคำพูดอีกครั้งหนึ่ง
    " ...ไม่จริง "
    " ฉันกำลังพูดอยู่นี่ไงล่ะ จะว่าไม่จริงได้ยังไง "
    " แต่......"
    จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเซย์จิให้ความสำคัญกับมันถึงขนาดนั้น ถ้อยคำเหล่านั้นถูกกลืนหายไปจนหมดเมื่อเจ้าของดวงตาสีดำที่มองมาอย่างแน่วแน่พูดแทรกขึ้นมา

    " นาโอะไม่ชอบมันใช่มั้ยล่ะ "
    "......ครับ " เขาพยักหน้าช้า ๆ ด้วยไม่อาจปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้เลย
    " ฉันรู้นาโอะกลัวมันมาตลอด ถึงจะบอกรักแค่ไหนก็ยังกังวลอยู่ดี จริงมั้ย ? "
    " .....ครับ " นาโอะพยักหน้าอีกครั้ง

    " รู้มั้ย ฉันคิดมาตลอดว่าถ้า SW ยังอยู่ นาโอะคงไม่มีวันให้อภัย ก็เลยตัดสินใจทำลายมันซะ " เครื่องหมายคำถามล่องหนลอยอยู่เหนือใบหน้าสวยที่ขมวดคิ้วมุ่นเต็มไปหมด
    " ทำหน้าแบบนี้ไม่เชื่อกันเหรอไง " เซย์จิยิ้มกว้างก่อนฉวยโอกาสลวนลามพวงแก้มเนียนอีกครั้ง
    " ไม่เชื่อครับ " เจ้าของน้ำเสียงแผ่วหวิวตอบกลับแทบจะในทันที
    " อะไรกัน ความรักของฉันไม่มากพอให้นายเชื่อเลยเหรอ "
    " เปล่าครับ แต่ผมไม่เชื่อว่าตัวผมมีค่าพอให้คุณละทิ้งของสำคัญอย่างนั้นได้ต่างหาก "

    " เพราะคิดอย่างนี้สินะถึงได้หนีมา ตัวนายที่ยอมให้อภัยคนที่เคยทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นอย่างฉัน แล้วให้ความสำคัญกับเทะซึโอะมากกว่าตัวเอง แค่นี้ก็มีค่ามากพอจะให้ฉันทิ้งทุกอย่างได้แล้วล่ะ " อ้อมกอดแข็งแรงรัดแน่นขึ้นจนนาโอะรู้สึกอึดอัด

    ..ตัวเขาที่เป็นแค่หนูทดลองน่ะเหรอมีค่ามากถึงเพียงนั้น ?

    " แต่ไหนเซย์จิซังเคยบอกว่า......." ริมฝีปากบางที่คอยแต่จะค้านอยู่ตลอดถูกจุมพิตแผ่วเบาทาบทับให้เงียบเสียง
    " ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้วนี่ " ชายหนุ่มเหลือบมองนิตยสารที่มีตัวเองลงหน้าปก แล้วพูดต่อ

    " นาโอะเห็นข่าวนั้นแล้วใช่มั้ยล่ะ ธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวก็คือโรงพยาบาลน่ะ แต่โรงพยาบาลนี่เรียกว่าธุรกิจได้หรือเปล่านะ นักข่าวพวกนั้นพอได้ข่าวก็ตกใจมาขอสัมภาษณ์เอาไปลงหนังสือกันใหญ่ ฉันดูไม่เหมาะเป็นเจ้าของโรงพยาบาลขนาดนั้นเลยเหรอไง " เซย์ิจิหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

    " ...เจ้าของโรงพยาบาล ? " นาโอะขมวดคิ้วอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ โรงพยาบาลมีความเกี่ยวข้องอะไรกับ SW กันแน่นะ

    " ใช่แล้วล่ะ แล้วที่ที่ฉันใช้สร้างโรงพยาบาลก็คือที่ตั้งตึกองค์กร SW ที่ถูกทุบทิ้ง แต่ตอนนี้ฉันยกโรงพยาบาลนั่นให้ไดยะไปแล้ว " น้ำเสียงจริงจังเกินกว่าจะคิดได้ว่านี่เป็นเรื่องล้อเล่น จนนาโอะต้องยอมเชื่อแม้จะยังรู้สึกค้านอยู่ในใจก็ตาม

    " ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ "
    " อะไรตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ ? " เรียวปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยขณะถามกลับ เซย์จิไม่นึกเบื่อที่ต้องตอบคำถามมากมายของคนรักเลยสักนิด
    " คุณคิดจะวางมือจาก.....SW ตั้งแต่เมื่อไหร่ "
    ร่างเพรียวใช้เวลาอยู่พักใหญ่ทีเดียวกว่าชื่อองค์กรลับจะหลุดปากออกมาได้ จนถึงตอนนี้เมื่อหวนคิดถึงมันร่างทั้งร่างก็ยังสั่นสะท้านอยู่ดี

    " นั่นสินะ..ก็คงตั้งแต่วันที่ฉันเมากลับมาแล้วขอโทษนาโอะล่ะมั้ง ตอนนั้นมันสิ้นหวังมากเลยล่ะ ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว แต่อยู่ดี ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ บางทีถ้าฉันเปลี่ยนตัวเอง แล้วแสดงความจริงใจออกมาให้มากขึ้นนายอาจจะเลิกเกลียด เลิกกลัวก็ได้ ก็เลยตัดสินใจลบทุกอย่างทิ้งน่ะ หลังจากนั้นชีวิตฉันก็วุ่นวายขึ้นเยอะ ทั้งตามง้อใครบางคน ทั้งหาที่ทำงานให้พวกนักวิทยาศาสตร์กับบ้านใหม่ของเด็ก ๆ พวกนั้น เอ่อ..ฉันหมายถึงหนูทดลองน่ะ "

    เซย์จิพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ประหนึ่ง SW เป็นเหมือนสิ่งของในบ้านที่ถูกตั้งทิ้งไว้อย่างไร้ค่าคอยวันทิ้งอย่างไรอย่างนั้น เจ้าของเครื่องหมายคำถามล่องหนลองย้อนคิดกลับไปบ้าง วันนั้นเขายังไม่แม้แต่จะเลิกกลัวชายผู้นี้ด้วยซ้ำ แต่จะว่าไปแล้ว ระยะหลังของการใช้ชีวิตร่วมกัน หากเซย์จิไม่หายออกจากบ้านไปเป็นเวลาหลายวัน ก็จะเอาแต่อ่านเอกสารอะไรสักอย่างที่อยู่เสมอ นี่น่ะเองคือสาเหตุของพฤติกรรมแปลกประหลาดของเซย์จิที่เคยนึกสงสัยอยู่ช่วงหนึ่ง

    " เซย์จิซังจัดการหาที่อยู่ให้ทุกคนได้หมดแล้วสินะครับ "
    เมื่อเซย์จิพยักหน้าให้กับคำถามนั้น เรียวปากบางจึงระบายยิ้มออกมา ดีเหลือเกินที่ทุกคนมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องทนทรมานกันอีกต่อไปแล้ว
    " ตอนแรกฉันตั้งใจจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยบอกนาย แต่ก็เกิดอะไรหลาย ๆ อย่างขึ้นจนนาโอะยอมให้อภัยฉันจนได้ แต่นายก็ยังหนีไปอยู่ดี "
    " ขอโทษครับ..ที่หนีมา "
    " หืม ? จะขอโทษทำไมไม่ใช่ความผิดนายซะหน่อย แต่เพราะอย่างนี้ล่ะนะถึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่หมด " เขาโคลงหัวไปมา
    " แผนที่ว่าจะบอกผมหลังทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเหรอครับ " เซย์จิพยักหน้าเล็กน้อย

    " ที่จริงก็ตั้งใจจะบังคับให้่นายอยู่ด้วยไปเรื่อย ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็จะพานายไปดู SW ที่ไม่มีอยู่บนโลกนี้แล้ว จากนั้นนายก็จะยอมให้อภัยแล้วหลงรักฉันในที่สุด เป็นไงแผนนี้จบเหมือนนิทานเลยใช่มั้ยล่ะ "
    นาโอะหรี่ตามอง ก่อนพยักหน้าอย่างขอไปทีอย่างคนต้องการรู้เรื่องทุกอย่างเร็ว ๆ ดูเหมือนเซย์จิจะอารมณ์ดีเสียจนพูดติดตลกได้ไม่ขาด แต่นาโอะร้อนใจจะแย่แล้ว

    " แต่นายก็ดันรับรักฉันก่อน แถมอยู่ ๆ ยังหนีไปอีก ยอมรับเลย ตอนที่รู้ว่านายพาเทะซึโอะหนีไปอีกแล้วฉันสับสนแทบบ้า อุตส่าห์คิดว่าทุกอย่างน่าจะง่ายขึ้นแล้วแท้ ๆ "
    " แล้วทำไมตอนนั้นถึงไม่ตามหาล่ะครับ "
    หากบอกว่านาโอะดีใจเหลือเกินที่รู้ว่าเซย์จิกระวนกระวายกระวาย เป็นเดือดเป็นร้อนที่เขาหายไปจะผิดมั้ยนะ

    " ตามกลับมาให้นายหนีไปอีกน่ะเหรอ ฉันก็พอจะเดาได้ล่ะนะว่าถ้า SW ยังอยู่ คงไม่มีวันได้อยู่กับนายแล้วก็เทะซึโอะแน่ ๆ แต่ตอนนั้นทุกอย่างยังไม่เรียบร้อยนี่ ถึงต้องเปลี่ยนแผนแล้วให้ฮาจิเมะช่วยอีกแรง "

    ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ใช้ชีวิตร่วมกันเซย์จิสังเกตได้ถึงท่าทางหวาดกลัวอย่างไม่ทราบสาเหตุของนาโอะ แต่กลับมองข้ามมาโดยตลอด ด้วยมัวแต่วุ่นวายกับการหาพ่อแม่บุญธรรมที่ดีพร้อมพอจะดูแลหนูน้อยที่บอบช้ำจำนวนมาก ซ้ำยังไม่คาดคิดด้วยว่าท่าทีเหล่านั้นจะยิ่งเป็นการกดดันบีบบังคับนาโอะทางอ้อม

    " ฮาจิเมะซังเกี่ยวอะไรด้วยล่ะครับ " นาโอะเข้าใจทุกอย่างได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ภาพในหัวเหมือนตัวจิ๊กซอว์กระจัดกระจายที่ยังประกอบไม่เสร็จสมบูรณ์
    " นาโอะจำวันแรกที่เทะซึโอะไปโรงเรียน แล้วฉันไปรับกลับมาคนเดียวได้มั้ย "
    นาโอะปัดเศษชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ในความคิดทิ้งไปชั่วคราว แล้วเริ่มนึกย้อนอดีตอีกครั้ง แม้จะผ่านมาปีนึงแล้ว แต่ทุกภาพความทรงจำกลับเด่นชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เขาจึงยังจำรายละเอียดส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี

    " วันที่คุณได้แผลกลับมาเหมือนโดนใครชกน่ะเหรอครับ " ดวงตาสีอ่อนกรอกไปมาขณะใช้ความคิด เซย์จิจูบหน้าผากให้รางวัลคนที่ตอบถูกเสียหนึ่งที
    " ความจำดีนี่ คนที่ชกฉันคือฮาจิเมะน่ะ "
    " เอ๋!? เซย์จิซังไปก่อเรื่องอะไรเหรอครับ "
    เป็นอีกครั้งที่นาโอะเบิกตากว้างด้วยเรื่องไม่คาดฝัน ฮาจิเมะที่ทั้งใจดีและมีน้ำใจคนนั้นน่ะเหรอจะขาดสติจนทำร้ายร่างกายผู้อื่นเข้า ต้องเป็นเพราะนักธุรกิจหนุ่มไปทำตัวเกะกะระรานก่อนเป็นแน่

    " เอาแต่มองฉันในแง่ั้นั้นตลอดเลยนะนาโอะ ชักเสียใจแล้วสิ "
    คนเสียใจส่งยิ้มอ่อนโยนให้ แล้วฉวยโอกาสกดริมฝีปากลงกับแก้มนุ่มเหมือนเรียกร้องเอาของปลอบใจให้ตัวเอง นาโอะย่นหน้าก่อนเบี่ยงตัวหลบสัมผัสที่กำลังจะถูกหยิบยื่นให้อีกครั้ง แค่ไม่ถึงครึ่งวันเขาถูกลวนลามไปตั้งกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ ถึงจะไม่นึกรังเกียจแต่ก็อยากรู้เรื่องทุกอย่างมากกว่า

    " ไม่เห็นเหมือนคนเสียใจตรงไหนเลยครับ ตกลงไปทำอะไรให้โดนชกเหรอครับ" เซย์จิหัวเราะร่วนก่อนตอบคำถาม

    " ก็ไปก้มหัวขอโทษแล้วขอนาโอะกับทุกคนที่ร้านสไมล์มาไงล่ะ เพราะนายไม่ยอมให้อภัยซะทีเลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ตอนแรกก็ไม่มีใครยอมเชื่อหรอก ทั้งฮิโรมิทั้งฮาจิเมะเลย แต่พอฉันบอกว่าฉันรักนายจริง ๆ แล้วกำลังจัดการกับ SW อยู่เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงใจทุกคนเลยยอมยกนาโอะให้ แต่ก็ต้องพูดอยู่นานเลยเทะซึโอะก็ช่วยพูดด้วยนะ วันนั้นลูกชายของเราน่ารักสุด ๆ เลยล่ะ "

    เซย์จิยังจำได้ดี วันนั้นเขาไม่ต่างอะไรกับผู้ร้ายถูกตำรวจรุมสอบปากคำ ทั้งฮาจิเมะและฮิโรมิทำหน้าเหมือนไม่เชื่อตาตัวเอง หลังบทสนทนาที่เคร่งเครียดอย่างที่เซย์จิไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน พร้อมคำสารภาพยาวเหยียดถึงความรู้สึกอัดแน่นที่มีต่อนาโอะ รวมไปถึงบทพิสูจน์ตัวเองที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์อย่างการวางมือจากโลกเบื้องหลัง ก็ดูเหมือนนักธุรกิจหนุ่มจะผ่านด่านมาได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเด็กชายตัวน้อยที่ไม่แสดงท่าทางกลัวเซย์จิให้เห็น ซ้ำยังช่วยพูดเกลี้ยกล่อมทุกหนทาง สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันคำพูดของเซย์จิได้ในตัวเองอยู่แล้ว

    ..คุณเป็นคุณพ่อเห่อลูกชายเหรอไงครับ..
    ไม่รู้ทำไมนาโอะถึงอดรู้สึกหมั่นไส้คำว่าลูกชายที่เซย์จิพูด จนอดเหน็บแนมอยู่ในใจไม่ได้

    
หัวข้อ: Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 23-02-2011 05:10:10


    " แผลโดนชกวันนั้นแลกกับที่ฉันทำไม่ดีกับนายไว้ในอดีตน่ะ ฮาจิเมะบอกอย่างนั้น แล้วก็ชกฉันซะเต็มแรงเลย "
    นาโอะส่งเสียงครางในลำคอ ดูเหมือนเขาจะพลาดโอกาสเห็นอะไรดี ๆ ไปเสียแล้ว

    " เพราะอย่างนี้ช่วงหลัง ๆ ฮาจิเมะซังถึงคอยแต่จะไล่ผมกลับมาหาคุณตอนไปหาอยู่เรื่อย แถมฮิโรมิยังเห็นดีเห็นงามเออออตามกันตลอดสินะครับ คุณนี่มันเจ้าแผนการจริง ๆ เลย "
    หลังได้ฟังเรื่องคาดไม่ถึงมาหลายอย่าง ถึงตอนนี้นาโอะจึงเริ่มสงบสติลงได้บ้าง ความรู้สึกถัดมาที่ตีตื้นขึ้นมาคือความยินดีอย่างเหลือคณา ชายผู้นี้คิดทำอะไรตั้งมากมายเพื่อนาโอะขนาดนี้

    ..เขาคงเป็นคนสำคัญจริง ๆ สินะ..

    " น่าเสียดายวันที่ฉันไปฮิโรกิไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นเทะซึโอะคงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนั้นหรอก "
    ชื่อฮิโรกิที่ได้ยินทำให้ในอกปวดแปลบขึ้นมา เพราะอย่างนี้นี่เองฮิโรกิจึงเป็นคนเดียวที่ไม่เปลี่ยนท่าทีไปเลย วันนั้นนาโอะเป็นคนพาเพื่อนสนิทมาบ้านด้วยตัวเอง แต่หากฮิโรกิอยู่ที่ร้านด้วยคงไม่มีตัวเขาในตอนนี้

    " ถ้าไม่ใช่เพราะฮิโรกิผมคงไม่ยอมรับคุณหรอกครับ วันนั้นคุณยอมปกป้องเทะซึจังมากกว่าตัวเอง... " ดวงตาสีอำพันหลุบลงมองฝ่ามือใหญ่ที่ลูบท่อนแขนของตนอยู่ มือคู่นี้นอกจากจะทำร้ายเขามามากแล้วยังปกป้องคนสำคัญของเขาอีกด้วย

    " เห..จริงเหรอเนี่ย " คราวนี้ถึงตาเซย์จิเป็นฝ่ายตกใจกับความจริงที่เพิ่งได้รู้บ้าง
    " จริงสิครับ "

    ทำยังไงดี ? เซย์จิอาจจะรักนาโอะจนเสียสติไปแล้วก็เป็นได้ เพียงแค่ได้ฟังคำสารภาพจากปากคนรัก ว่านาโอะเองก็มองเห็นความดีที่มีอยู่น้อยนิดในตัวเขาแล้ว แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำก็ทำให้ร่างทั้งร่างอุ่นซ่านจากความสุขที่แทบล้นทะลักออกมาได้แล้ว ตัวเขาตอนนี้คงเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก

    " หวา! เลิกทำตัวรุ่มร่ามแล้วเล่าต่อได้แล้วครับ คุณแอบสมรู้ร่วมคิดกับฮาจิเมะซังลับหลังผมแล้วยังไงต่อครับ "
    ฝ่ามือบอบบางยกขึ้นดันใบหน้าคมคายที่ทำท่าจะเข้ามาช่วงชิงลมหายใจไป เซย์จิแสร้งเดาะลิ้นอย่างขัดใจ ก่อนสูดลมหายใจให้ไออุ่นความสุขเจือจางลงเพื่อจะได้มีสติมากขึ้น
    " แผนใหม่ของฉันหลังจากนาโอะหนีไปอีกก็ได้ฮาจิเมะเนี่ยแหละช่วยเหลือ " ชายหนุ่มดึงบทสนทนากลับมาประเด็นที่ยังเป็นปริศนาอยู่ซึ่งถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ
    " ช่วยอะไร แล้วเกี่ยวกันยังไงเหรอครับ "
    " ที่นาโอะมาอยู่บ้านหลังนี้ เป็นเพราะฉันบอกให้่ฮาจิเมะหาทางทำให้่นายมาหลบอยู่ที่นี่ให้ได้ไงล่ะ "
    " ทำไมถึงต้องเป็นบ้านของฮาจิเมะซังหลังนี้ด้วยล่ะครับ "
    นาโอะกลายเป็นเด็กน้อยช่างสงสัยเอาแต่ถามคำถามไม่หยุดตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว เจ้าของดวงตากลมโตที่จ้องมองไปยังเซย์จิเอียงศีรษะเล็กน้อย เป็นกริยาเดียวกับที่เทะซึโอะชอบทำตอนมีเรื่องไม่เข้าใจ

    " นาโอะพูดผิดแล้ว ไม่ใช่บ้านของฮาจิเมะแต่เป็นบ้านของเราต่างหาก ฉันเคยได้ยินนายคุยกับเทะซึโอะเรื่องบ้านในฝันน่ะ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือแอบฟังนั่นแหละ ทีนี้พอเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักนายเข้าเลยแอบมาสร้างไว้ไม่ให้ใครรู้ ยกเว้นฮาจิเมะไว้คนล่ะนะ หมอนั่นเอาแต่คาดคั้นถามโน่นนี่ว่าฉันจัดการทุกอย่างไปถึงไหนแล้ว จนเผลอหลุดปากเรื่องบ้านหลังนี้ไปจนได้ ตั้งใจว่าถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนายยอมรับรักจะบอกเป็นคนแรกแท้ ๆ แต่เพราะเผลอหลุดปากไปแล้ว ฉันเลยดึงมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดซะเลย "

    " บะ..บ้านในฝัน!? "
    " เรื่องที่นายพูดกับเทะซึโอะวันที่เทะซึโอะกลัวไม่ยอมเข้าใกล้ฉัน จนนายต้องมาพาเข้าห้องไปเองไง "
    คราวนี้นาโอะต้องย้อนคิดไปไกลกว่าเหตุการณ์วันที่เซย์จิโดนชก ย้อนไปไกลถึงบทสนทนาเรื่อยเปื่อยระหว่างเขาและเทะซึโอะสมัยเซย์จิยังไม่ตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเอง คิดเพียงต้องการเล่นงานเจ้าหนูน้อยอย่างเดียว ตอนนั้นนาโอะยอมทำตัวว่าง่ายหลอกล่อให้เซย์จิตายใจเพื่อจะหนีออกไป จนได้พบกับเทะซึโอะอีกครั้ง

    " ฉันเองก็อยากมีบ้านในฝัน อยากมีครอบครัวในฝันกับนายกับเทะซึโอะบ้างนี่นา ถูกใจหรือเปล่าล่ะ บ้านหลังเล็ก ๆ ห่างไกลเมืองหลวงแบบนี้น่ะ " ร่างเพรียวไม่อาจตอบได้ว่าถูกใจหรือไม่ ในหัวกำลังพยายามประมวลเรื่องราวทั้งหมดให้วุ่นวายไปหมด

    เซย์จิคนนั้นแอบสร้างบ้านเอาไว้ ทำลายเจ้าเงาร้ายอย่าง SW ที่เคยให้ความสำคัญมาตลอด ซ้ำยังจัดแจงหลอกล่อเขาให้มาอยู่ที่นี่ล่วงหน้าเสียอีก ไม่ต้องเสียเวลาถามนาโอะก็พอเดาได้ว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เซย์จิคงถามความเป็นอยู่ทุกอย่างของพวกเขาเอาจากฮาจิเมะเป็นแน่ ไม่ยุติธรรมเลยสักนิดที่มีแต่นาโอะที่ต้องเฝ้าเสียใจแทบเป็นแทบตายอยู่ฝ่ายเดียว ขณะที่อีกฝ่ายกลับเก็บงำทุกอย่างเป็นความลับได้แนบเนียนเหลือเกิน

    ..แต่เอาเถิด ใช่จะมีแต่นาโอะที่ต้องทนคิดถึงเสียหน่อย..

    ที่เขาว่ากันว่านักธุรกิจมักรอบคอบและวางแผนให้กับสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ นาโอะเพิ่งประจักษ์แจ้งแก้ตัวก็วันนี้เอง ไม่ว่าเขาจะหนีไปทางไหนก็หนีไม่พ้นอยู่ดี อย่างไรเสียก็ต้องตกหลุมพรางที่หวานล้ำของชายผู้นี้อย่างไม่มีทางขัดขืนได้

    " ถ้าบอกผมทุกอย่างตั้งแต่แรก ผมคงไม่หนีคุณมา ไม่ต้องเสียเวลาแบบนี้หรอกครับ "
    ทำอย่างไรนาโอะก็ไม่อาจตีหน้าบึ้งตึงอย่างที่อยากทำได้เลย จะต้องใช้เวลาและความคิดมากแค่ไหนกันถึงจะเตรียมการทั้งหมดได้ ทั้งหมดนี่ก็เพื่อนาโอะเพียงคนเดียว เพื่อคนสำคัญที่ไม่อาจหาได้ที่ไหนแล้วบนโลกใบนี้

    ผมเป็นคนสำคัญที่คุณอยากใช้ชีวิตด้วยจนลงทุนทำถึงขนาดนี้สินะครับ ตัวผมสำคัญสำหรับคุณใช่มั้ยครับ ?
    คุณเองก็สำคัญสำหรับผมเช่นกัน

    " บอกตอนที่ทุกอย่างยังไม่เสร็จก็เหมือนดีแต่พูดนั่นแหละ นาโอะอาจจะไม่เชื่อฉันก็ได้ "
    ดวงตาดำขลับวาววับอย่างนักธุรกิจจอมวางแผน หากไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ลงทุนไปจะได้ผลตอบแทนที่คู่ควรกลับมาก็จะไม่ยอมเสี่ยงเป็นอันขาด นี่แหละนิสัยที่นักธุรกิจเป็นกัน
    " แต่อย่างน้อยมาตามผมกลับไปก็ยังดีนี่ครับ ปล่อยให้ผมเข้าใจผิดว่าคุณไม่สนใจอยู่ได้ตั้งนาน "

    " ก็ถ้ายังเห็นนาโอะอยู่ใกล้ ๆ ฉันจะอดใจไม่ไหวเข้าไปทำอย่างนี้กับนายจนไม่เป็นอันทำอะไรน่ะสิ "
    สิ้นคำพูดเซย์จิก็ได้ลิ้มรสหอมหวานจากกลีบปากบางสมใจอยาก เขาฉวยโอกาสจูบนาโอะจนแทบขาดใจ ยืนยันคำพูดว่าอะไรคือความนัยของประโยคที่เพิ่งพูดจบไป เมื่อถอนริมฝีปากออกมาดวงหน้าขาวก็ซับสีเลือดไปทั้งหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของเสียงหัวเราะอารมณ์ดีลูบแก้มสีเรื่อก่อนเป็นฝ่ายบ่นกระเง้ากระงอดบ้าง
    
    " นาโอะเคยโทรมาหาฉันครั้งนึงใช่มั้ยล่ะ ตอนนั้นฉันต้องข่มใจแทบแย่ไม่ให้วางงานทุกอย่างแล้วพุ่งมาหาที่นี่น่ะ ทำแบบนั้นเหมือนจะทดสอบความอดทนกันเลยนะ "
    เซย์จิกอดร่างผอมแนบแน่นอีกครั้งนึงเหมือนจะยืนยันคำพูดตัวเอง ตอนนั้นเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่พร่ำขอโทษคนรักผ่านสายโทรศัพท์ หากหลุดปากออกไปคำนึงคงไม่พ้นโดนความคิดถึงเข้าเล่นงานจนต้องโยนทุกอย่างทิ้ง แล้วแล่นมาหาคนสำคัญทั้งสองถึงบ้านหลังนี้อย่างแน่นอน

    ขอโทษทีทิ้งเอาไว้ ขอโทษที่ละเลย และขอให้อดทนคอยต่อไป เพราะเขาเองก็จะอดทนเช่นกัน
    อดทนจนกว่าเจ้าเงาร้ายจะหายไป เพื่อที่จะสามารถบอกรักนาโอะได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

    " ผมเองก็ต้องทนเหมือนกันนะครับ " นาโอะเถียงกลับ
    " ฉันรู้ดี ตอนนี้ก็มาหาแล้วไงไม่ต้องอดทน ไม่ต้องเสียใจแล้วล่ะ " เซย์ิจิพูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะลูบกลุ่มผมสีอ่อน ความรักมากมายที่เซย์จิมอบให้จะช่วยเยียวยารอยแผลทั้งหมดให้หายดี นับจากวินาทีนี้ไม่ต้องเสียใจหรือทนทรมานอีกต่อไปแล้ว

    " ขอโทษที่หนีมา แล้วก็ขอบคุณนะครับที่รักผมถึงขนาดนี้ "
    ทั้งขอบคุณและขอโทษ แต่จะให้พูดสักกี่ครั้งนาโอะก็รู้สึกว่าไม่อาจตอบแทนความรู้สึกที่เซย์จิมีต่อเขาได้เลย

    " ฉันก็ต้องขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน ฉันสัญญาจะไม่ทำให้ทั้งนายทั้งเทะซึโอะเสียใจอีก จะไม่ทิ้งไว้แบบนี้แล้วด้วย "
    " ครับ "
    " จากนี้ไปเรามาเริ่มต้นกันใหม่เถอะนะ "
    " ครับ " นาโอะไม่อาจพูดอะไรได้นอกจากคำนี้อีกแล้ว

    เริ่มต้นกันใหม่ จากนี้และตลอดไปจะไม่พรากจากกันอีก
    หากนี่ไม่อาจเรียกว่าความสุขได้ นาโอะก็ไม่อาจเรียกสิ่งอื่นว่าความสุขได้อีกแล้ว

    ชีวิตคนเรามักมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นโดยที่ทุกคนไม่ทันสังเกตเสมอ สำหรับนาโอะการมีเทะซึโอะถือเป็นปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ในชีวิต และยิ่งเหลือเชื่อกว่านั้นเมื่อชีวิตเล็ก ๆ อย่างเขา สามารถทำให้ชีวิตใครบางคนเปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้

    คนบางคนอาจเลือกชังหน้ากันไปตลอดชีวิตเพราะเรื่องผิดใจเพียงเล็กน้อย
    คนบางคนอาจเลือกให้อภัยผู้ที่ทำร้ายตัวเองได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

    ทั้งเซย์จิและนาโอะเป็นทั้งสองประเภท พวกเขาเคยเกลียดชังกัน และให้อภัยซึ่งกันและกันได้ด้วยเช่นกัน นับจากนี้ไปคงมีเรื่องผิดใจและเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกมากมาย เพราะชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือพวกเขาจะเชื่อมั่น และให้อภัยในทุกข้อผิดพลาดของกันและกันได้อย่างแน่นอน

    เพื่อรักษาความสุขนี้เอาไว้ตราบนานเท่านาน


--THE END--

ตอนจบมาแล้วค่าาา ป่วยซะหนึ่งอาทิตย์ไม่ว่างอีกหนึ่งอาทิตย์เลยกลายเป็นมาช้าจนหยดสุดท้ายเลยล่ะค่ะ orz
สารภาพตามตรงว่าดีใจมากถึงมากทีุ่สุดที่เขียนนิยายจบเป็นเรื่องแรกจนได้ ออกจะเป็นพล็อตที่เอาแต่ใจแล้วก็น้ำเน่าไปบ้างแต่อยากเขียนเรื่องแบบนี้สักครั้งมานานแล้วล่ะค่ะ *หัวเราะ*
ที่จริงตั้งใจจะเขียนภาคอื่นด้วยค่ะ อาจจะเป็นภาคเทะซึโอะตอนโตหรือคนอื่นของเรื่อง แต่ยังคิดเนื้อเรื่องไม่ออกล่ะค่ะ แล้วก็ภาคพิเศษของเรื่องนี้ก็อยากเขียนค่ะ มีตอนพิเศษเยอะมากที่อยากจะเขียน ที่จริงแต่งเรื่องนี้เพราะอยากเีขียนตอนพิเศษเนี่ยแหละค่ะ >w<
ใครมีตอนพิเศษอะไรยังไงที่อยากอ่านก็บอกได้นะคะ!!  
หรืออ่านจนจบแล้วยังมึนๆงงๆไม่เข้าใจก็ติได้เต็มที่เช่นกันค่ะ!

ขอบคุณนักอ่านทุกคนทั้งนักอ่านเงาและคนที่เ้ม้นเป็นประจำมากๆเลยค่ะ ยอมรับว่าอ่านเม้นแล้วทำให้มีกำลังใจแต่งต่อเยอะเลยล่ะค่ะ ถึงจะดองซะส่วนใหญ่ก็เถอะ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ!! >w<
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pigrabbit ที่ 23-02-2011 06:03:58
 :mc3: :mc3: เย้~
 



ตอนจบตอนแรกเสียน้ำตาไปตั่งเยอะแหนะค่ะ :sad4: แต่เซย์จิซังแผนสูงจริงๆ ><
ไม่รู้ทนได้ยังไง แต่ก็ต้องชื่นชมว่าอดทนได้ดีมาก นาโอะดูจะอดทนลำบากสุดๆ  :เฮ้อ:


อยากอ่านตอนพิเศษแบบหวานๆจัง เพราะนาโอะเศร้ามาเกือบทั้งเรื่องแล้ว :o12: (แต่็ก็ชอบ- - )

ว่าแต่  o18จะมีเทะซึโอะตอนโตนี่ คู่เคตะป่าวค่ ><(เชียร์เองเลย ๕๕)
 


:L2: จบแล้วขอบคุณคนเขียนด้วยนะค่ะ ติดตามมานานมากๆ~ แต่ทำเราหลงรักนาโอะเลย♥
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 23-02-2011 07:13:40
บวกให้ค๊า
เซย์จิน่าร๊ากกกกจริงๆ เป็นครอบครัวสักทีนะ
อยากอ่านตอนพิเศษต่อจ้า ^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-02-2011 07:33:40
 :L1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 23-02-2011 07:56:41
อา... ในที่สุด ครอบครัวสุขสันต์ อย่างที่ฝันไว้
น่ารักค่อดดดดดดด ชอบบบบบบบมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: หนอนใบตอง by RakorN ตอนที่27: เปลี่ยนใจ หน้าที่ 68 [16.12.10]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 23-02-2011 08:31:41
สนุกๆๆ
ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 23-02-2011 08:50:17
ว๊าววววว..ดีใจจังจบลงแบบแฮปปี้

สนุกๆ น่ารักจังชอบมากๆเลย

อยากอ่านตอนพิเศษของเทะซึโอะตอนโตจังเลย ><
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 23-02-2011 09:47:11
ในที่สุด เฮ้ออออออออออออออออออ
หลังการถอนใจเมื่อได้อ่านหลายครั้งก็ขอถอนใจยาวๆปิดท้ายเสียหน่อยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนตอนพิเศษ

อิอิ ข้าพเจ้าอยากอ่านเรื่องของไดยะซังค่ะ
ถ้าจะไม่มีคู่ก็ได้ แต่อยากรู้ว่าไดยะซังจะเป็นยังไงต่อ แบบว่าเป็นตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องจริงๆ
รองมาก็เทะซึจังนี่แหละ

 :กอด1: ขอบคุณคุณมูซูนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-02-2011 10:00:42
จบได้ซึ้งดี  อยากได้ตอนพิเศษที่พ่อแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน  ทำกิจกรรมด้วยกันจัง
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 23-02-2011 10:06:35
จบแบบนี้คนอ่านก็มีความสุขแล้วคะ
ชอบบทบรรยายของ นักเขียนนะคะ
ต้องขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ คะ
ยังไงอย่าลืมเอานิยายดี ๆ มาให้อ่านกันอีกนะคะ
อ้อก่อนนิยายเรื่องใหม่ขอตอนพิเศษแบบหน้ารักทั้งครอบครัวก็ดีนะคะชอบคะ
หรือจะเอาแบบหวาน ๆ ของเซจิ และนาโอะก็ดีนะคะ :haun4:
 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 23-02-2011 10:22:56
 :mc4: :mc4: :mc4:
จบแว้วววววววววว  ตามอ่านมายาวนาน
ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วเหมือนจะน้ำเน่าบ้าง แต่ก็ชอบนะเออ :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 23-02-2011 10:56:53
จบแล้ว ในที่สุดก็เข้าใจกัน
ขอบคุณไรทเตอร์ เป็นเรื่องที่สนุกมาก
ปล. ชูมือสุดแขนเลย อยากอ่านตอนพิเศษ
อยากอ่านเรื่องของไดยะซังมั้งจังเลย
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 23-02-2011 11:32:16
ไรเตอร์ขอตอนพิเศษของเซย์จิซังกับนาโอะแบบหวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ+ :haun4:

5555++ เราจะหื่นไปไหนเนี่ยยย

ว้าววว เซย์จินี่เหลือเชื่อจิงๆ ทุกอย่างถูกวางแผนไว้หมดแล้ว

นี่คือนักธุระกิจชัดๆ  o13


มีความสุขกันตลอดไปน่ะค่ะ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: akike ที่ 23-02-2011 12:15:31
เฮ้ย ค้าง  ใครคิดเหมือนเราบ้าง

จบพ่อแม่  แต่ครอบครัวนี้ มี 3 คนนะ

ไหนจะเทสซึจังอีกล่ะ  อย่าลืมสิ

แล้วไหนจะคุณนานะอีกยังไม่เคลียนะตัวเธอ

แต่ก็นะ สำหรับคู่พระนายแล้วคงถือว่าสวยงาม แต่ว่านะ เรายังสงสัยว่าอีตาเซจิมันจะอยู่ในบ้านกับครอบครัวยังไง  แล้วบ้านหลังใหญ่อีกอ่ะ  ลูกน้องอีกโข
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-02-2011 12:43:46
จบแล้ว
อยากอ่านตอนพิเศษด้วยคน
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mousou ที่ 23-02-2011 14:20:10
เฮ้ย ค้าง  ใครคิดเหมือนเราบ้าง

จบพ่อแม่  แต่ครอบครัวนี้ มี 3 คนนะ

ไหนจะเทสซึจังอีกล่ะ  อย่าลืมสิ

แล้วไหนจะคุณนานะอีกยังไม่เคลียนะตัวเธอ

แต่ก็นะ สำหรับคู่พระนายแล้วคงถือว่าสวยงาม แต่ว่านะ เรายังสงสัยว่าอีตาเซจิมันจะอยู่ในบ้านกับครอบครัวยังไง  แล้วบ้านหลังใหญ่อีกอ่ะ  ลูกน้องอีกโข

เราก็คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะว่าตอนจบยังไม่เคลียร์ ถึงตั้งใจจะเขียนตอนพิเศษที่เป็นฉากต่อจากฉากจบค่ะ >w<
แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่โดยรวมจบแล้วล่ะค่ะ เหลือแค่ตอนพิเศษเก็บรายละเอียดที่ไม่ได้ใส่ไว้ในเนื้อเรื่องน่ะค่ะ

ปล.เนื้อเรื่องของเทะซึโอะคู่เคตะนั่นแหละค่าาา ไม่งั้นคงไม่ให้โผล่มาซะท้ายเรื่องเลย *หัวเราะ* ตอนพิเศษที่เทะซึัจังโตไม่มีค่าา ไว้ไปอ่านในเนื้อเรื่องหลักของเทะซึโอะเลยดีกว่าค่ะ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะได้เขียนเมื่อไหร่ orz orz
ปล2.ตอนพิเศษของไดยะก็คิดว่าจะเขียนเหมือนกันค่ะ แต่ไดยะเป็นตัวละครลึกลับที่แม้แต่ไรเตอร์เองบางทียังไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะ(?)! จะเขียนแน่นอนค่ะแต่ขอไปทำความเข้าใจกับไดยะซังก่อนนะคะ (ฮา)
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 23-02-2011 16:08:25
จบลงได้อย่างถูกใจมากเลยค่ะ
หวังว่าเซย์จิจะทำอะไรเพื่อนาโอะ ซึ่งก็ทำจริงซะด้วย

+1 ให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ สำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้

ปล.แอบคิดถึงเรื่องนี้มา 2-3 วัน สงสัยกระแสจิต
ส่งให้ได้อ่านตอนจบจริงๆ ขอบคุณนะคะ

มารอตอนพิเศษด้วยคนค่ะ จะได้เคลียร์ให้ครบคนไปเลยนะ
แต่ขอหวานๆของป๊ะป๋ากับมาม้าด้วยก็ดีนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 23-02-2011 16:41:13
มีความสุขกันแล้ว


เย้ๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cloundy ที่ 23-02-2011 17:44:24
ขอตอนพิเศษครับ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 23-02-2011 18:21:56
ในที่สุดก็สมหวังสักที :impress2:
ทุกอย่างที่ทำสมกับเป็นเซย์จิจริง ๆ
ขอบคุณคุณ mousou +1 สำหรับเรื่องดี ๆ แบบนี้
รอตอนพิเศษ จะมีของไดยะด้วยมั้ยน๊า :impress:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 23-02-2011 22:14:01
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดีมากเลยครับ อ่านรวเดียวจนจบ
มารอตอนพิเศษเช่นเดียวกันครับ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคจรับ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sakurazaka ที่ 24-02-2011 02:16:44
อ่านแล้วตอนแรกก็แอบดราม่าเล็กน้อย แต่พอเจอเหมาเฉพาะเค้กที่เจ้่าของร้านทำเนี่ย เล่นเอาขำไม่ออกเลย ทำไมไม่เหมาหมดเนี่ย

ส่วนตอนพิเศษ ก็อยากอ่านตอนหวานๆ ที่เป็นครอบครัว อาจจะเป็นตอนที่มาสู่ขอกัน จะได้หวานกันทั้งเทะสึโอะและเคตะ พร้อมกับป่าป๊าและหม่าม้าไปเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 06-03-2011 01:23:46
วิ่งมาจิ้มบวกให้ก่อน จบได้น่ารักมากกกกก
รอตอนพิเศษจ้าาาา
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 06-03-2011 18:57:14
แหะๆ อ่านตอนต้นๆแล้วมาอ่านตอนจบเลย แบบว่าท่าทางจะมาม่าเยอะ ไม่ถนัีด หุๆ แต่ happy ending นะ ชอบๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-03-2011 21:37:23
มีความสุขกับตอนจบที่สุดเลยค่าาาาาา :-[
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: cy55555 ที่ 12-04-2011 00:54:24
แฮปปี้ เอนดิ้ง  :กอด1:
แต่ยังคงหมั่นไส้ตาเซย์จิอยู่เลยค่ะ
นาโอะทำไมใจอ่อนเร็วจังเลย
น่าจะงอน และ เหวี่ยง อีกเยอะๆ
(มิใช่อะไร แค่หาเหตุอ่านตอนที่เขาง้อกัน  หุหุ)


หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 20-04-2011 00:08:40
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่มีครบทุกรสชาติ
อยากอ่านตอนพิเศษที่หวานๆจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 11-06-2011 10:06:25
อ่านจบแล้วค่ะ สนุกมาก เริ่มต้นก็แหกแหวกแนวมาเลย555
ผู้ชายก็ท้องได้ :o
ชอบฮาจิเมะซังมากมาย อร๊ายยยย ผู้ชายขายเค้ก อยากได้ๆ อิอิ
ไดยะกับเทะซึก็ชอบนะคะ แต่ตอนจบชอบเคตะที่ซู้ดดดด
ไม่ออยากจะคิดโตขึ้นจะเป็นผู้ชายแบบไหนเนี่ย เท่ห์ขรึมฉลาดแต่ข้างในต้องร้ายเจ้าเล่ห์น่าดู
คนแต่งคงยังไม่ลืมใช่มั้ยคะ สัญญาแล้วนะว่าจะมีตอนพิเศษ(แอบมัดมือชก)
อย่าลืมล่ะ คู่เด็กๆ น่ะจัดมาเลย อยากรู้ว่าเด็กๆ เค้าเล่นกันยังไง โฮะๆๆๆ
สุดท้ายต้องขอบคุณมากนะคะสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 12-06-2011 23:47:18
ดัน ดัน ดัน
ขอตอนพิเศษหน่อยนะ..
อยากตอนตอนหวานกันบ้างอารัยบ้าง..
ไม่ขอมากไปช่ายม่ายยยยยยยยยยยยยยยย
 :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 13-06-2011 13:51:33
จบแล้วจ้า แต่ไม่อยากให้จบเลยน่ะ
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้
ต้องผ่านอะไรมาตั้งเยอะ ขอฉากหวานๆ ของคู่รักหน่อยได้มั้ยค่ะ
ชีวิตนับจากนี้ ที่รักเข้าใจในรัก
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-10-2011 02:36:25
จบแล้ว!!!
อ่านไปนี่ก็ปวดตับไป นายเอกรันทดเหลือเกิน พระเอกก็ร้ายซะจนอยากจะฆ่าทิ้งซะให้ได้
แต่พออ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มเห็นอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวละครต่างๆ
ตอนจบคิดว่าจะแยกกันอยู่ซะแล้ว ใจเสียเลยตอนนั้น 55+
แต่พออ่านจนจบถึงรู้ว่าโดนหลอก =w=
จบได้ประทับใจ พระเอกยอมทำเพื่อความรักจริงๆ ^^
ขอบคุณคนเขียนมากจ้า
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 20-10-2011 18:58:23
สนุกมากค่ะ
ชอบคุณลูกเทะซึโอะจัง
เหมือนเป็นกามเทพตัวน้อยให้คุณพ่อคุณแม่รักกัน
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: shokung ที่ 30-10-2011 15:34:18
คุๆๆ ช่วงแรกเซย์จิร้ายได้ใจดีจริงๆ เสียดายตอนหลังไม่น่ากลับตัวเลยเนาะ เอ้ย ไม่ใช่ ดีละที่จบแบบแฮปปี้ ว่าแต่อยากให้มีภาคต่อจัง ถ้ามีต่อน่าจะสนุก
อย่างคู่ไดยะ*ฮาจิเมะก็ดูน่าสนใจดีนะครับ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 03-11-2011 21:46:23
ตามมมมมม กดดันนักเขียนเรื่อยๆ โฮะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: rubytears ที่ 23-11-2011 00:15:21
แอบโรแมนติคเล็กๆ โดนใจมากๆเลยอ่ะ อ่านแล้วไม่วางเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ วันเดียวที่มีความสุขมากก
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 25-01-2012 23:22:50
อ่านรวดเดียวจบเลยค่า แทบไม่เป็นอันทำไรเลยวันนี้  :z3:
ตอนต้นเรื่องนี่ทำเอาปวดตับมาก สงสารนาโอะ อิตาเซย์จินี่ก็ร้ายได้โล่
นี่ถ้าไม่ได้ไดยะกับหนูเทะซึจังช่วยล่ะก็ อย่าหวังว่านาโอะจะให้อภัยเลย
ปล.รออ่านตอนพิเศษค่า
ปลล.แอบอยากอ่านเรื่องของหนูเทะซึกับพี่เคตะด้วยจัง ท่าทางจะน่ารัก  :m1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 05-02-2012 23:22:58
อ่านแล้วก็รู้สึกดี
ว่าแต่เทะซึจังหายไปไหนล่ะ
มายินดีร่วมกับป๊ะป๊าและมะม๊าเร้วว
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: KanomPhing ที่ 13-03-2012 01:03:46
จบแล้ว เร็วมากเลยอะ

อยากให้มีตอนพิเศษจัง แบบตอนที่อยู่กันทั้งปะป๊ะ กับ มะม๊า

คงจะน่ารักน่าดูเนอะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 25-04-2012 01:32:13
กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้  เสียคำด่าเซย์จิไปเป็นโหลๆๆ 5555
นาโอะก็น่ารัก ใจอ่อนได้อีก
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 14-05-2012 04:15:30
กว่าจะอ่านจบ
น้ำตานองหน้าทั้งเรื่องจริงๆ

 :sad11:

หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 14-05-2012 12:15:07
 :z13:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: dark-soleil ที่ 14-05-2012 20:37:15
แฮปปี้เอ็นดิ้งงงงง  :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:


ไชโยโห่ฮิ้ววว รักเรื่องนี้จัง...อยากรู้ว่าหลังจากนั้นทั้งสามคนจะเป็นยังไงต่อ  :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: candynosugar+ ที่ 31-05-2012 04:51:59
อยากอ่านตอนพิเศษษษษษษษษษษ!!
เรื่องนี้น่ารักมาก ชอบมากๆๆๆๆ
อยากกล่าวปราศัย(ห๊ะ) มากกว่านี้อีกนานๆ
แต่ตอนนี้แหกขี้ตามาแอบอ่านจนจะตีสองละ :laugh:

รักคนเขียน รักเซย์จิ นาโอะ และเทตซึจังมากๆที่สูดดดด :-[

ชอบอีโมนี้อ่ะ มันจี้ดมาก 55555 >> :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Superstar ที่ 31-05-2012 09:02:11
ชอบจังคะ อยากอ่านตอนพิเศษจริงๆนะ

^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: taiyo_sora ที่ 31-05-2012 13:19:26
 :กอด1:
จะรอตอนพิเศษค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-06-2012 23:03:11
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 11-06-2012 23:37:29
แอบอ่านตอนจบ แหะๆ น่าจะมีตอนพิเศษแบบเน้นหวานๆบ้าง เดาว่าเรื่องนี้ความหวานน่าจะน้อย 555
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Atroce ที่ 27-09-2012 21:01:56
สนุกมากค่ะ เทะซึโอจัง ก็น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Yuki_Moji ที่ 01-10-2012 23:05:02
ขอบคุณสำหรับฟิคน่ารักเรื่องนี้นะคะ
มีความสุขมากกก

อยากให้มีตอนพิเศษ ^___^
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Narcissus ที่ 16-10-2012 20:02:57
อยากอ่านตอนพิเศษจังค่ะ
แต่คนเขียนก็หายไปปีกว่าแล้วนะเนี่ย T^T
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: honeystar ที่ 20-10-2012 14:31:33
จบได้น่ารักมาเลยค่า ชอบ ♥
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 30-11-2012 17:29:55
คุณพ่อคุณแม่ลืมคุณลูกไว้ที่ร้านซะแล้ววว มัวแต่นั่งคิดถึงกัน  :laugh:
อยากตอนพิเศษ >.<
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Lovecartoon1996 ที่ 01-12-2012 11:24:12
ถ้าไม่มีเทะซึโอะไม่รู้ว่าจะมีนาโอะจนจบไหม
นาโอะเข้มแข็งมากจริงๆผ่านอุปสรรคได้ด้วยดีแล้วนะ
ดีใจด้วย
เรื่องนี้สนุกมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 18-12-2012 22:04:09


จบแล้วสนุกมาก ๆ เลย

กว่าจะลงเอยกันได้ลุ้นแทบตาย....

หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 19-12-2012 05:06:18
ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันสักที รักนักเขียน จุ๊บๅ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 01-01-2013 23:19:07
อ่านจบจบในรอบเดียว น้ำตาคลอ  :monkeysad:

เรื่อนี้ครบรสจริงๆ แต่เหมือนจะหนักไปทางดราม่า

สุดท้ายนี้  :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 04-01-2013 13:37:46
ไม่ว่ามาม่า ไวไว ชูรส เ๕็ม หวาน มันดอง สำหรับเรื่องนี้
แต่เราชอบบบบบบบบบบบบบบบบ คนแต่ง o13มาก/ตอนพิเศษที่ว่า แต่งมาเหอะ เพราะยังไงก็สนุก
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 01-05-2013 18:21:00
ถึงแรกๆ จนถึงกลาง ค่อนๆ จะเกือบปลายเรื่อง อึมครึม ดราม่ากันไปหลายยก
กว่าจะลงเอยเป็นครอบครัวเดียวได้ ^^
แต่ก็เป็นเรื่องที่สนุกและน่าติดตามกันมาจนถึงตอนจบเลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 05-05-2013 12:25:55
ตอนแรกเศร้าๆ เซย์จิใจร้ายมากนึกว่าจะไม่สำนึกผิดซะอีก   :mew4: ว่าแล้วว่าเวลาหนึ่งปีต้องไปจัดการเรื่อง SW แน่ๆ ไม่มีทางที่เซย์จิจะทิ้งนาโอะกับเทะซึโอะไว้อย่างนี้แน่ คงต้องคอยตามดูทั้งสอง แต่ที่คาดไม่ถึงก็เรื่องที่ฮาจิเมะสมรู้ร่วมคิดมากขนาดนี่นั่นแหละ คิดแค่ว่าร่วมมือเล็กน้อย แต่นี่เรียกสมรู้ร่วมคิดเลยก็ว่าได้

ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆ นะคะ  :mew1:

ปล. อยากอ่านเรื่องของคุณหมอไดยะแสนเจ้าเล่ห์จังเลยค่
ปล2. จิ้นเทะซึโอะกับเคตะแฮะ ฮุฮุ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 15-07-2013 21:36:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 05-08-2013 13:34:20
สนุกมากค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 07-08-2013 23:31:07
ตอนแรกแอบหวั่นว่าตอนจบจะมาม่า
สนุกมากเลยค่ะ เขียนดีด้วย
อยากอ่านตอนพิเศษจัง :hao6:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 14-08-2013 19:30:04
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆอย่างนี้นะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 18-09-2013 19:55:02
อ่านแล้วอินนนนน

ชอบมากเลยค่าาา
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Dee15 ที่ 18-09-2013 21:49:16
 :pig4: สำหรับนิยาย ชอบมากๆๆๆๆๆๆ
แบบนี้ต้องมีภาคต่อ ของ เทะซึโอะ กับ พี่เคตะ สิเนาะ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 11-10-2013 19:46:48
เริ่มเรื่องนี่หน่วงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

กลางเรื่องก็ เอ๊ะ ยอมทำขนาดนั้นเลย มัจจุราชเปลี่ยนเป็นคนได้ด้วย ฮ่าๆ

ตอนจบนี่ปวดใจ คิดว่าจะจากกันเลยซะอีก แต่ก็ได้เจอกัน ฮี่ๆ

อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะ #แกมาอ่านงานเค้าช้าไป2ปีคงได้อ่าน

แต่เคตะกะเทะสึโอะ มีแวว แฮะๆ 55555555555555555555
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 18-10-2013 11:46:00
มาอ่านช้าไปมาก เรื่องจบลงแฮปปปี้ๆ คนอ่านยิ้มได้
ขอบคุณเรื่องราวสนุกๆ แต่ถ้าคนเขียนแวะผ่านมาเห็น
ยังนึกสนุกจะแต่งตอนพิเศษเพิ่ม ก็ยังมีคนรออ่านนะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 20-10-2013 01:59:53
พลาดเรื่องนี้ไปได้ไงนะเรา สนุก ครบรสมากค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 20-10-2013 03:48:42
 o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 27-10-2013 13:55:03
จบแล้วอิอิ
เรื่องน่ารักมากเลยคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 28-10-2013 14:50:12
พล็อตเรื่องสนุก น่าสนใจ อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ~^^
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: icetim ที่ 29-10-2013 22:23:23
อ่านสามวันถึงจบ  สนุก เครียด ยิ้มไปพร้อมๆกัน
แอบหมั่นไส้เซย์จิเล็ก อิอิ

สนุกมากค่ะเป็นกำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 07-11-2013 10:26:18
เป็นนิยายปวดตับจริงๆ สงสารนาโอะสุดติ่ง แต่หยุดอ่านก็ไม่ได้
แอบอยากอ่านตอนพิเศษแต่มันผ่านมานานแล้วคงไม่มีหวังแล้วแน่เลย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 08-11-2013 21:57:00
ถึงจะจบแบบแฮปปี้แต่ก็ยังรู้สึกสงสารนาโอะอยู่ดี
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 22-03-2014 15:38:14
ประทับใจมากอ่ะ เรื่องนี้ให้้ข้อคิดมากเลยน้ะ
ขอบคุณมากที่เเจ่งเรื่องนี้ขึ้นมา ชอบมากเลยอ่ะ
ชอบตัวละครทุกตัวเลยยยยยยน้ะ :hao5: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 24-03-2014 21:54:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 10-04-2014 16:25:47
กว่าทุกอย่างจะลงตัว กว่าจะเข้าใจ ซึ้งจริงๆ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 12-04-2014 02:00:20
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านงับ >/\<
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 16-04-2014 10:33:19
สนุกมากค่ะ :katai2-1:
ชอบไดยะมากเลย
ทั้งแกล้งทั้งช่วย
อยากให้ไดยะคู่กับฮาจิเมะจัง  :-[
คงเข้ากันมากแน่เลย
อยากอ่านตอนพิเศษเพิ่มจัง
แบบวันครอบครัวอย่างนี้
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 18-04-2014 14:41:53
เสียดายที่เพิ่งเจอ นิยาย เรื่องนี่ สนุกมากค่ะ

ดีใจที่ยังได้อ่าน
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: waris ที่ 08-05-2014 22:09:29
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ สนุกมาก คห ส่วนตัวรู้สึกขัดๆนิดหน่อยตอนพระเอกรู้ตัวว่าตัวเองรักนายเอก

เหมือนรู้สึกตัวง่ายไป~ 55555 แอบสารภาพนิดนึงว่าตอนแรกจิ้นพระเอกกับไดยะ ดูเชื่อฟังกันแปลกๆ :o8:

อยากให้มีตอนพิเศษจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 25-05-2014 10:39:19
:monkeysad: :monkeysad:


เลวร้าย และโหดร้ายอย่างมาก
ชีวิตคน หนึ่งชีวิต เพื่อ เม็ดเงินเท่านั้น

แต่ฟ้าหลังฝน ย่อม สวง่า และสวยสดใส มากมาย

กว่าจะรักกันได้
กว่าจะรู้ใจตัวเอง

ขอบคุณมากมายนะคับ

แค่ บทแรก ก้อยากทำใจจะอ่านแล้ว เพราะมันเลวร้ายสุดๆ
แต่พออ่าน กลับ หวาน มากมาย

 :hao6:

 o13

 :hao3:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 04-07-2014 07:14:47
 o13   o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 09-01-2015 01:00:41
โอ๊ย ชอบเรื่องนี้ อยากให้มีภาคต่อของไดยะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 10-03-2015 19:54:54
ขอบคุณนะคะ นิยายลุ้นตอนจบมากเลย จบด้วยดีจนได้ :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Storm_Dragon ที่ 05-04-2015 15:52:07
อ่านจบภายในสองวันค่ะ   :impress2:

ถือว่าสนุกเลยล่ะค่ะ เสียดายที่ตัวเนื้อเรื่องเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกจริงๆของแต่ล่ะคน เลยไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่

อาจจะเพราะเราชอบเสพมาม่าเป็นนิจด้วยล่ะค่ะ

ถือว่าอ่านเพลินเลยทีเดียว จนป่านนี้คงจะไม่มีตอนพิเศษมาแล้วสินะคะ เสียดายจัง   :hao5:

ยังไงก็ขอขอบคุณผู้เขียนนะคะ ที่สร้างสรรค์เรื่องนี้ออกมาให้ได้เสพได้อ่านกัน หากมีโอกาสก็อยากจะได้อ่านผลงานเรื่องอื่นๆนะคะ /ถ้ายังเขียนอยู่นะคะ /ฮา
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 08-04-2015 11:21:48
เครียดและกดดันดีจัง  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 22-07-2015 11:42:30
ในที่สุดก็ได้เป็นครอบครัวกันจริงๆซะที
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: pak_kikkok ที่ 29-08-2015 20:39:19
อ่านกันแบบไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว ฮ่ าา  ติดมาก สนุกมากเลยคะ
แอบชอบตอนเบื้องหลังการถ่ายทำ น่ารักอ่ะ
กว่าจะได้รักกันอยู่ด้วยกันขนาดนี้ ลุ้นแทบแย่พระเอกจะรู้ใจตัวเองตอนไหน  แต่ที่แน่ๆ ผู้มาแรงแซงทางโค้งล้ำหน้าพระเอกมาก
คือ ไดยะ นั้นเอง เป็นสายลมที่ค่อยช่วยเหลือพระเอกของเราจริงๆคะ คุณหมอคร่า  กราบงามๆ ไปสักที ที่ช่วยให้พระเอกรู้ตัวรู้ใจตัวเองสักที มาแรกๆ สงสารนาโอะมากเลย ถูกทดลอง ทนทุกข์ทรมานแท้ ลูกสาวววว ยังมาเจอพระเอกทำลายอีก โฮกกก ชีวิต
ถึงจะสงสารนาโอะแต่ก็แอบเชียร์เซย์จิตลอดเวลาให้นาโอะให้อภัยเร็วๆ ฮ่ าา  (เมนพระเอกตลอดกาล) ชอบเวลาเซย์จิแอบแกล้งให้นาโอะเขิล อั๊ยยย น่ารักจริงๆเลย  แอบมีเวลากุ๊กกิ้กกับแป็บเดียวเอง  อยากให้มีตอนพิเศษเพิ่มเลยคะ สนุกมากๆเลย แอบโลภมากขอคู่ให้ไดยะซังอีกสักคน พ่อสายลมของน้องงงง ฮ่ าา า

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 02-09-2015 21:49:01
ขอบคุณคนเขียนนมากค่า
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: boommerang ที่ 17-10-2015 13:15:35
ชอบเรื่องนี้นะครับ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 08-03-2016 21:43:15
ยินดีด้วยนะ ต่อไปก็มีความสุขมากๆน้านาโอะ

ขอบคุณคนเขียนด่วยค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 08-03-2016 22:40:04
เคยอ่านเรืองนี้เมื่อนานมากแล้ว
แต่อ่านไม่จบ คราวนี้กลับมาอ่านใหม่
รู้สึกดีที่ได้พักเบรคไปบ้าง คงเพราะเนื้อเรื่องทำนองนี้
มักจะเดาได้อยู่แล้วว่าจะจบแบบไหน
แต่เราชอบการดำเนินเรื่องอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะ
นาโอะไม่ได้ให้อภัยเซย์จิทันที
มันมีพัฒนาการของตัวละครหลายๆอย่างเพิ่มเข้ามา
นิยายที่ข่มขืน หรืออะไรก็ตาม ในชีวิตจริงคนเราอาจจะไม่ได้รักกัน
แต่นิยายก็คือนิยาย  ตราบใดที่เรายังแยกแยะได้
โลกของนิยายก็ยังมีความสวยงามอยู่เสมอ  o13
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-03-2016 17:48:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 25-03-2016 21:29:53
อ่านรวดเดียวจบเลยค่าาาา
แรกๆนี่สงสารนาโอะ กลางๆสงสารเซย์จิ ท้ายๆถึงจะแฮปปี้
ครบรสมากค่ะะะ น่ารักกกกกกกก
ต้องเป็นครอบครัวที่ดีมากแน่ๆเลยยยย
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 30-05-2016 19:09:58
เซย์จิถูกเลี้ยงมาแบบผิดๆ พอมีคนสำคัญเลยไม่รู้ตัวและแสดงออกไม่เป็น ส่วนนาโอะ หนีออกไปได้แต่กลับไปที่เก่า เอิ่มม :เฮ้อ:คิดอะไรน้อยจังเลยนาโอะ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 09-12-2016 15:47:54
เฮ้อ ........... กว่าจะรักกันได้อย่างมีความสุข

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: b02290 ที่ 22-12-2016 08:55:40
 :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 17-06-2017 05:56:47
กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ ครั้งนี้ต้องอ่านให้จบ อิอิ
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 13:15:42
 :oo1:
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 21-05-2018 18:17:37
 :-[
หัวข้อ: Re: Miracle [ตอนที่ 11] (25/05/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 01-03-2021 21:41:41
  ด้วยเห็นว่าอยู่ที่ร้านสไมล์มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
โง่ ประมาท
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 23-05-2021 17:52:38
จบแล้ว  จบแบบแฮปปี้
ยอมรับเลยว่าอ่านตอนแรกเกือบปิดทิ้งหลายรอบมาก
เพราะรับนิสัยพระเอกไม่ได้ คือแบบเอี้ยเกิ้น
แต่ทนอ่านไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าพระเอกต่าจะประบปรุงนิสัยตัวเอง
หัวข้อ: Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 24-05-2021 20:16:35
อ่านตอนแรกๆเจอดราม่า ว่าจะผ่าน แต่ก็ลองอ่านมาเรื่อยๆ กลับเริ่มสนุก สงสารนาโอะมากที่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ แต่ถือว่าได้เทะซึจังเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเซย์จิกับนาโอะสรุปจบคือแฮปปี้เอ็นดิ้ง ชอบมากค่ะ :pig4: