Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪  (อ่าน 230907 ครั้ง)

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #510 เมื่อ28-01-2011 19:49:06 »

อยากอ่านต่ออ่ะ

akike

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #511 เมื่อ28-01-2011 20:46:11 »

มันช่างแสนเศร้า

อิสรภาพที่ตามหา  แต่เมื่อได้มาราวกับว่าถูขังในกรงที่ไม่สามารถออกมาได้

เฮ้อ ๆ เทะซึจังรอป๊ะป๋ามาเปงปีละ เอาเข้าไป

สมหวังเถอะ สาธุ เจอกัน  ปิ๊ง ๆ มีลูกอีกสักคนน่าจะดีนะ

จบแล้วขอตอนพิเศษล่วงหน้าได้ไหมคะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #512 เมื่อ28-01-2011 20:54:47 »

บวกให้จ้า
นาโอะใจร้าย ฮือออออออออ
รออ่านตอนจบจ้า

sa~waii

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #513 เมื่อ28-01-2011 21:11:12 »

สงสารนาโอะอ่ะ รัก แต่ก็กลัวที่จะรัก ทรมานเนอะ

แต่ตอนนี้สงสารตัวเองมากกว่า ค้างอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

+1 เสมออออ

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #514 เมื่อ29-01-2011 00:01:29 »

หวังว่า เซย์จิ จะพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อนาโอะ

ขอให้จบอย่างมีความสุขด้วยเถิด สาธุ  :call:

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #515 เมื่อ29-01-2011 00:18:55 »

ไรเตอร์  กรอดดดดดด :fire: :fire: :fire: :fire: :m16: :m16:

ทำไมทำเราค้างอย่างงี้

อยากอ่านต่ออออ่าา

ทำไมเซย์จิถึงไม่มาตามหานาโอะอ่ะ   :m15: :m15: :m15: :m15:

รักมากไม่ใช่หรอ???  ทำไมถึงละทิ้งไปซะหละ

ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซิ  ธรรมดาจะไม่เป็นอย่างนี้ซิเซย์จิ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #516 เมื่อ29-01-2011 00:24:33 »

สงสารนาโอะอ่า... แต่ว่านะ.. นาโอะก้อไปเซอร์ไพรส์เซย์จิเลยซิ เซย์จิต้องรออยู่แน่ๆ(มั้งเนอะ :m21:)
อ่านแล้วลุ้นจนหยดสุดท้ายจริงๆเลยเรื่องนี้ o13
รอตอนหน้าค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2011 00:26:56 โดย pattybluet »

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #517 เมื่อ29-01-2011 08:17:09 »

    ภาษาสวยมาก บรรยายก็รื่น พล๊อตเรื่องเจ๋ง มีดราม่ามาให้ลุ้นหวานๆ โรมานซ์ตลอด
เพื่งเข้ามาอ่านปรากฎว่าต้องอ่านตั้งกะต้นเลย ติดหนึบ
แต่ อ่า... จะจบแล้วเหรอ-ความสุขช่างสั้น จะรอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #518 เมื่อ29-01-2011 09:26:30 »

นาโอะ  :monkeysad:
เทะซึจังจะมีคู่ตั้งแต่ยังเด็กอ๊ะป่าวเีนี่ย  :beat: ขอตบตัวเอง คิดไปไกล 555
เซย์จิมาตามลูกเมียกลับบ้านได้แล้ว :angry2:

zemicolon

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #519 เมื่อ29-01-2011 10:01:46 »

โอ้ววว ต่อเลยต่อเลย อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
« ตอบ #519 เมื่อ: 29-01-2011 10:01:46 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






pigrabbit

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #520 เมื่อ29-01-2011 18:18:57 »

 :monkeysad:สงสารเซย์จิซัง ถูกนาโอะทิ้งอีกล่ะ
 เรางอนนาโอะด้วย :sad11: ทิ้งเค้ามาแล้วก็คิดถึง~

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #521 เมื่อ29-01-2011 19:09:29 »

ไม่ตามหาไม่ถามไถ่ หมายความว่าไงอ่ะ งงๆๆๆๆๆๆๆ  นาโอะตัดใจเหอะโดนทิ้งแล้วละ หาใหม่ไปเลยนาโอะ :L1:

sakurazaka

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #522 เมื่อ30-01-2011 00:56:54 »

สองตอนรวดนี่ ทำเอาน้ำตาหยดเลยนะคะ

ได้แต่หวังว่าตอนหน้าคงจะได้ร้องไห้ด้วยความสุขแทนนะคะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #523 เมื่อ04-02-2011 23:08:32 »

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #524 เมื่อ09-02-2011 03:19:09 »

ไม่อยากให้จบ... แต่ก็อยากให้นาโอะเลิกหนีสักที :เฮ้อ:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #525 เมื่อ13-02-2011 08:29:11 »

 :L1:

pigrabbit

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #526 เมื่อ23-02-2011 03:20:02 »

 :กอด1: แวะมาส่อง~

mousou

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #527 เมื่อ23-02-2011 05:06:52 »


Miracle Last Chapter


    ..ภาพลวงตามีไว้หลอกตนเอง
    ถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่ในความเป็นจริง..

    บานประตูอัตโนมัติร้านสะดวกซื้อเลื่อนเปิดออก นาโอะเดินออกจากร้านพร้อมถุงข้าวของจำนวนมากเต็มอ้อมแขน เขาก้มลงมองวัตถุดิบทำขนมเค้กในถุงพลางระบายยิ้มน้อย ๆ ในที่สุดก็ซื้อวัตถุดิบสำหรับทำเค้กทั้งสัปดาห์ที่ต้องการเสร็จเรียบร้อย ได้เวลากลับร้านไปหานานะเสียที จังหวะที่กำลังจะเดินเลี้ยวมุมกำแพงนั่นเอง นาโอะก็เห็นชายคนหนึ่งเดินสวนมาในทิศทางตรงกันข้าม ทุกอย่างน่าจะเป็นเหมือนปกติที่คนแปลกหน้าสองคนเดินสวนทางกัน เหมือนไม่รับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย ทว่าคราวนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

    ..!!!..

    เจ้าของดวงตาสีอ่อนหลุบตาลงมองพื้นเบือนหน้าหนีชายที่กำลังเดินสวนทางมา ด้วยร่างกายสูงโปร่งและเรือนผมดำสนิทจนชวนให้จำสับสนกับใครบางคนที่คอยรบกวนจิตใจตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมองด้านหน้าเหมือนปกติได้ ระยะหลังมานี้นอกจากยังคิดถึงเซย์จิเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน อีกอาการหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือนาโอะมักมองเห็นคนนู้นคนนี้เป็นคนใจร้ายที่ตัดสัมพันธ์ได้อย่างไร้เยื่อใยอยู่บ่อย ๆ

    ..ตึก ตึก..

    รองเท้าหนังที่ชายคนนั้นสวมใส่ส่งเสียงดังทุกครั้งที่ย่ำลงบนพื้นคอนกรีต ยิ่งเสียงนั้นเข้าใกล้มากขึ้นเท่าไหร่นาโอะก็ยิ่งใจเต้นรัวมากขึ้นเท่านั้น แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้าดวงตาทำให้ความสามารถในการมองเห็นพร่าเลือนไปชั่วขณะ มากถึงขนาดมองหน้าชายที่กำลังเดินสวนมาได้ไม่ชัดถนัดตา และมากพอให้เข้าใจผิดเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้

    แม้จะมั่นใจว่าภาพที่เห็นเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกสร้างขึ้นเพื่อปลอบประโลมตนเองเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ขาทั้งสองข้างกลับไม่ยอมก้าวไปข้างหน้าตามคำสั่ง คล้ายกลัวผิดหวังหากต้องถูกชายคนนั้นเมินใส่ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ ก็แค่รูปร่างคล้ายกันใยต้องประหม่าลนลานทำอะไรไม่ถูกถึงเพียงนี้ด้วย นาโอะไม่อาจตอบคำถามนั้นได้ จึงเลี่ยงเดินเข้าร้านหนังสือที่ใกล้ที่สุดเหมือนต้องการหลบหนีจากความจริง

    " ตาฝาดอีกแล้วจริง ๆ ด้วย "

    นาโอะพึมพำกับตัวเองขณะเพ่งสายตามองชายคนเมื่อครู่จากในร้านหนังสือ ส่วนสูงและลักษณะท่าทางคล้ายเซย์จิอยู่ก็จริง แต่เมื่อตั้งสติมองดูให้ดีก็รู้ได้ว่าคนละคนกัน เมื่อครั้งที่ลอบหนีออกมาครั้งแรกและต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ยังไม่เคยหวาดผวาถึงขั้นนี้เลยสักครั้ง นี่อาจเป็นเพราะในสมองเต็มไปด้วยภาพเงาของชายผู้นั้นจนเพี้ยนไปแล้วก็เป็นได้

    ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นความอดทนที่เหลืออยู่น้อยนิดคงหมดลงในไม่ช้า แต่เขาจะทำอะไรได้ ?
    นาโอะแค่นยิ้มกับตัวเองอย่างสิ้นหวัง
    หมาป่าที่หลอกล่ิอเหยื่อตัวน้อยจนพึงพอใจแล้ว มีหรือจะกลับมาสนใจอีก

    ดวงตาสีน้ำตาลไล่มองหนังสือบนชั้นเพื่อเบี่ยงความสนใจของตนเองออกจากเรื่องเดิม ๆ ซึ่งนั่นนับเป็นการกระทำที่ไม่ควรยิ่งนัก หนังสือที่วางเรียงกันอยู่ด้านหน้าหลากหลายประเภท ทว่านาโอะผู้ที่น่าจะสนใจคู่มือทำขนมหวานด้านหน้า กลับเอื้อมมือไปหยิบนิตยสารเกี่ยวกับวงการธุรกิจบนชั้นที่อยู่สูงขึ้นไป เพียงเพราะรูปหนึ่งบนหน้าปกที่แม้จะไม่ได้เด่นอะไรมากนัก แต่ผู้ที่กำลังหยิบหนังสือขึ้นมาด้วยฝ่ามืออันสั่นเทากลับมองเห็นภาพชายบนปกหนังสือคนนั้นได้อย่างชัดเจน

    เนื้อหาคำโปรยไม่มีอะไรมากไปกว่านักธุรกิจที่แทบไม่ปรากฏตัวตามสื่อที่ไหนเลย ออกมาประกาศเปิดตัวธุรกิจใหม่ที่เพิ่งวางโครงการเรียบร้อย กระนั้นนาโอะกลับไม่สนใจตัวอักษรเหล่านั้นเลย ดวงตาเหม่อลอยมองเจ้าของเรือนผมสีดำที่คุ้นตากับดวงตาเปี่ยมด้วยความมั่นใจ และริมฝีปากเรียวที่วาดรอยยิ้มตามมารยาทท่ามกลางแสงแฟลช

    ".....เซย์จิซัง "

    แผ่นกระดาษย่อมไม่อาจขานรับต่อเสียงเรียกได้ และเจ้าของชื่อตัวจริงยิ่งไม่อาจได้ยินด้วยเช่นกัน จึงเหลือเพียงน้ำเสียงแผ่วเบาที่เรียกชื่อบุคคลอันเป็นที่รักอีกครั้ง ก่อนเงียบหายไปโดยไม่มีผู้ใดทันได้ยิน

    กว่าหนึ่งปีที่ไม่ได้เห็นนักธุรกิจหนุ่มผู้นี้ ดูเหมือนเซย์ิจิจะยังสบายดีเหมือนเดิม ท่าทางมาดมั่นซึ่งถึงเป็นภาพนิ่งนาโอะก็ยังสัมผัสถึงสิ่้งที่เป็นดั่งเอกลักษณ์ของชายคนนี้ได้ สายตาเป็นผู้นำที่บางครั้งกลับวาววับไปด้วยความเจ้าเล่ห์ในยามที่อยู่กันตามลำพังได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ..เซย์จิสบายดี ใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีเขาและเทะซึโอะที่หนีมาได้อย่างมีความสุข ก็เป็นเรื่องที่สมควรเป็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?..

    ดีแล้วที่ชายคนนั้นลืมนาโอะไปได้ จะได้ไม่ต้องทนเผชิญกับก้อนความรู้สึกที่ค่อย ๆ กัดกินตัวตนไปทีละน้อย แบบเดียวกับที่นาโอะเป็นมาตลอด

    คิดถึงอยู่ทุกคืนวัน เฝ้าคิดถึงจนไม่เป็นอันทำอะไร แต่ก็ทำได้เพียงทนอยู่อย่างนั้น
    อย่างน่าสมเพช..

----------------------------------------------

    " นาโอะ! นี่ นาโอะ! จะเหม่อไปถึงไหนน่ะ "
    " อะ...ครับ!? " เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัวก่อนหันไปหาหญิงสาวที่เรียกชื่ออยู่

    " ยังจะมาครับอีก เอาแต่ยืนนิ่งอย่างนั้นเมื่อไหร่จะตีแป้งเสร็จล่ะ " นานะจิ้มนิ้วบนหน้าผากคนเหม่อช่วยเรียกสติให้ นาโอะหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนลูบหน้าผากตัวเองแก้เก้อ

    " ขอโทษครับ ผมเผลอคิดโน่นคิดนี่เพลินไปหน่อย "
    เขารีบขยับมือทำงานที่ค้างอยู่ทันที แต่นานะกลับยังไม่ยอมละสายตาไปไหน เธอลอบสังเกตคู่สนทนาอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจถามถึงสิ่งที่ติดใจสงสัยมาตลอดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

    " นาโอะมีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่หรือเปล่า หมู่นี้เห็นเหม่อบ่อย ๆ มีอะไรระบายให้พี่ฟังได้นะ "
    ไม่ผิดจากที่คิดไว้สักเท่าไหร่ เจ้าของฝ่ามือที่กำลังตีแป้งอยู่เร่งความเร็วมากขึ้นเหมือนต้องการกลบเกลื่อนความรู้สึกอะไรบางอย่างไม่ให้ใครได้รู้ ทั้งยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองนานะอีกเลยด้วย นานทีเดียวกว่าจะตอบคำถามออกมาได้

    " ผมสบายดี นานะซังไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ "
    " อย่าโกหกนะนาโอะ " เธอยังคงไม่ละความพยายาม
    " ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ นานะซังคิดมากไปแล้ว " นาโอะยังคงหลบสายตาอยู่เหมือนเดิม
    
    " ใช่เรื่องของใครสักคนในหนังสือเล่มนั้นหรือเปล่า "
    นานะเลิกอ้อมค้อมอีกต่อไป พลางเหลือบมองหนังสือที่ถูกวางทิ้งไว้บนเก้าอี้เป็นเชิงนัยว่าหมายถึงหนังสือเล่มใดกันแน่ ตั้งแต่รู้จักกันเธอรู้สึกว่าเพื่อนบ้านคนนี้มักวางตัวออกห่างจากผู้อื่นอยู่เสมอ และแววตาคู่นั้นมักไหวระริกคล้ายเศร้าใจกับอะไรบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้

    หลายวันก่อนนาโอะกลับมาจากซื้อของ พร้อมหนังสือที่ไม่ว่าจะดูยังไงก็ห่างไกลความสนใจของเพื่อนบ้านคนนี้อยู่มากทีเดียว เจ้าของหนังสือไม่เคยเปิดอ่านมันเลยสักครั้ง แต่กลับนั่งมองหน้าปกเพียงอย่างเดียว และบางครั้งก็นั่งเหม่อลอยอยู่นานนับชั่วโมง ดวงตาทอดมองไปนอกหน้าต่าง และเมื่อลองลอบสังเกตดูก็รู้ได้ว่าดวงตาคู่นั้นไม่ได้ฉายภาพที่อยู่เบื้องหน้าเลย

    แต่มองไปยังสถานที่ในความทรงจำที่อยู่ไกลแสนไกล..

    นานะถอนหายใจยาวเหยียด แม้ไม่บอกก็พอจะเดาได้ เพื่อนบ้านของเธอคงเป็นโรคทางใจอยู่ คิดแล้วก็น่าโมโหเหลือเกิน ใครกันกล้ามาทำให้นาโอะผู้สุภาพเรียบร้อยเสียใจได้นานถึงเพียงนี้ ถ้าให้เดาคงไม่พ้นใครคนใดคนหนึ่งบนหน้าปกนิตยสารเล่มนั้นเป็นแน่

    " ปะ..เปล่าครับ "
    นาโอะปฏิเสธความหวังดีที่ถูกหยิบยื่นให้อีกครั้ง หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างขัดใจ แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่ปริปากเล่าอะไร เธอก็จนปัญญาจะช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้เพื่อนบ้านผู้น่ารักคนนี้ ถ้าเป็นไปได้นานะอยากเจอตัวคนผู้นั้น แล้วต่อว่าให้หายหงุดหงิดสักทีเหมือนกัน ยังไม่ทันได้คาดคั้นถามต่อเสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านก็ดังขึ้นเสียก่อน ทั้งนาโอะและนานะหันมองผู้มาเยือนพร้อมกันทันที

    ลมหนาวด้านนอกพัดผ่านรอยแยกของประตูเข้ามาในร้าน
    หากสายลมที่หนาวเหน็บนั่นพัดพาความสุขเข้ามาบ้างคงดีไม่น้อย

    ฝ่ามือเรียวที่กำลังตีแป้งอยู่เย็นวาบขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นชายร่างสูงโปร่งสวมแว่นดำและหมวกจนแทบมองไม่เห็นใบหน้า กำลังสาวเท้าเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทางผ่อนคลาย ทุกอย่างคงดำเนินไปตามปกติเหมือนทุกวัน หากลูกค้าคนนั้นไม่จงใจส่งยิ้มเป็นกันเองให้นาโอะ และหากรอยยิ้มนั้นไม่บังเอิญคล้ายรอยยิ้มของใครบางคนราวกับพิมพ์เดียวกัน รอยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์ยามแกล้งนาโอะได้สำเร็จ ที่ทั้งน่าหงุดหงิดแต่ก็ทำให้ในอกอุ่นวาบขึ้นมาได้เช่นกัน

    นาโอะคิดถึงรอยยิ้มนั้นที่สุด..
    ทว่านี่ก็คงเป็นเพียงภาพหลอนที่คิดไปเองอีกเท่านั้น

    "  นานะซังช่วยไปดูลูกค้าให้ทีสิครับ " นาโอะเอ่ยขอร้องอย่างที่หาได้ยาก

     " เห ? "
    นานะเลิกคิ้วอย่างนึกแปลกใจ ทุกทีเมื่อมีลูกค้าเข้าร้าน ผู้ที่รีบออกไปต้อนรับจะเป็นนาโอะเสมอมิใช่เหรอ ทว่าเมื่อเห็นคู่สนทนาก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไรอีก และด้วยกลัวลูกค้าจะรอนานจึงรีบหยิบเมนูเดินออกไปหน้าร้าน โดยไม่ถามอะไรให้มากความอีก

    ลูกค้าหนุ่มเลือกนั่งบนโต๊ะที่สามารถมองเห็นทั้งร้านได้ การตกแต่งร้านให้คล้ายเมืองของเล่นตามไอเดียของเทะซึโอะและเคตะ ดูไม่เข้ากับรูปร่างสูงใหญ่ของลูกค้ารายนี้เท่าไหร่นัก ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านมักมากันเป็นครอบครัว หรือไม่ก็พาสมาชิกตัวน้อยมาด้วย จึงน่าแปลกสำหรับชายหนุ่มที่เดินเข้าร้านเพียงลำพังเช่นนี้

    " สวัสดีค่ะ จะรับอะไรดีคะ "
    นานะส่งเมนูให้พร้อมรอยยิ้มเป็นกันเอง ชายหนุ่มรับเมนูมาเปิดผ่าน ๆ ครู่หนึ่งก่อนส่งคืนให้ แล้วเหลือบมองคนที่ก้มหน้าก้มตาตีแป้งอยู่ในครัวด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดาได้

    " ขอเค้กทั้งหมดที่คุณผู้ชายเจ้าของร้านคนนั้นทำ ใส่กล่องทั้งหมดนะครับ"

    " ว่าอะไรนะคะ "
    เจ้าของร้านสาวชะงักไปกับออเดอร์ที่คาดไม่ถึง ทว่าชายหนุ่มกลับระบายยิ้มบนใบหน้าคล้ายยืนยันว่าเธอไม่ได้หูฝาดไป คำถามถัดมาจึงถูกเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

    " ทั้งหมดเลยเหรอคะ "
    " ใช่ครับ ทั้งหมดเลย "
    นานะขมวดคิ้วมุ่นพลางเหลือบมองขนมหวานที่วางเรียงอยู่ในตู้กระจก นาโอะเป็นผู้ทำเค้กเกือบทั้งหมดในร้าน คงต้องใช้เวลานานเป็นแน่กว่าจะจัดห่อลงกล่องได้หมด

     " ถ้าทั้งหมดคงต้องใช้เวลา...."
    " ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ " เขารีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน นานะยิ่งมุ่นหัวคิ้วมากกว่าเดิม

    ชายผู้นี้ไปฟังข่าวลืออะไรเกี่ยวกับเค้กที่ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้มากันแน่นะ ?

    นานะถามตัวเองเช่นนั้น แต่ก็จนปัญญาจะหาคำตอบ แม้จะนึกสงสัยอยู่บ้างแต่ถ้าขายเค้กได้เธอก็พอใจ พอเดินกลับเข้ามาในห้องครัวปัญหาใหม่ก็คอยท่าอยู่แล้ว หุ้นส่วนของร้านที่น่าจะกำลังเตรียมส่วนผสมเค้กอยู่ กลับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดลำลองธรรมดา ในมือถือกระเป๋าสะพายเตรียมตัวออกไปข้างนอก

    " นาโอะจะไปไหนเหรอ " เธอถามด้วยความสงสัย

    " ผมไม่สบายนิดหน่อย วันนี้ขอลาป่วยนะครับ "
    สีหน้าผู้พูดดูอ่อนล้าจริงอย่างว่า กระนั้นนานะก็สุดจะเดาได้่ว่าต้นตอของอาการป่วยครั้งนี้มาจากร่างกายหรือจิตใจกันแน่ แต่จะด้วยสาเหตุใดก็ตามสิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้คือนาโอะคงไม่ต้องการเจอหน้าใครตอนนี้ เธอจึงเก็บความคิดที่จะเล่าเรื่องลูกค้าแปลกประหลาดให้ฟังอย่างที่ตั้งใจไว้

    " ไม่สบายเหรอ ให้พี่ไปส่งมั้ย ? "
    " มีลูกค้าคอยอยู่อย่าดีกว่าครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาทำงานชดเชยที่ลาวันนี้แล้วกันนะครับ "
    นาโอะหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบนไหล่ ก่อนเดินไปผลักประตูครัวเปิดออก โดยพยายามเลี่ยงไม่มองไปทางลูกค้าเพียงคนเดียวในร้านตอนนี้

    " ลาวันนี้อะไรกัน นี่เย็นแล้วต้องเรียกว่ากลับก่อนถึงจะถูก "
    " นั่นสินะครับ "
    เรียวปากบางระบายยิ้มเจือจาง ขณะรีบสาวเท้าเดินไปให้ถึงประตูร้าน มีนานะเดินตามมาส่งด้วยความเป็นห่วง เธอหันไปก้มหัวเป็นเชิงขอโทษให้ลูกค้าที่นั่งคอยอยู่เล็กน้อย เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มส่งยิ้มให้อย่างไม่นึกถือโทษอะไรจึงค่อยวางใจลงได้บ้าง

    " เลิกพูดมากแล้วกลับไปพักได้แล้ว เดี๋ยวเทะซึจังเห็นพี่ชายป่วยหนักเข้าก็ร้องไห้หรอก "
    นานะโบกมือไล่ผู้ที่ยังมัวแต่คิดถึงมารยาทหันกลับมาก้มหัวลาอยู่หน้าร้าน ด้วยต้องการพูดคล้ายตำหนินาโอะอยู่ในที เสียงของเธอจึงค่อนข้างดัง ลูกค้าหนุ่มในร้านได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของคนทั้งสองอย่างเลี่ยงไม่ได้ สีหน้าที่ดูเป็นมิตรจนถึงเมื่อครู่แลดูเคร่งเครียดขึ้น ราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่างเป็นอย่างมาก
  
    นาโอะเดินจากไปแล้ว แต่นานะยังมองส่งไปจนลับสายตา ด้านหลังของเธอในร้านเค้กที่หอมอบอวลด้วยกลิ่นขนมหวาน ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีดำก็จับจ้องไปยังร่างเพรียวด้วยอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน และหากจะว่ากันตามจริงชายผู้นี้เฝ้ามองนาโอะอยู่ตลอด นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน

    " เค้กที่สั่งไว้เมื่อกี้ฝากไว้ก่อนได้มั้ยครับ "
    ลูกค้าหน้าใหม่ของร้านส่งเสียงทักผู้ที่ยังมองตามนาโอะไปอยู่ เมื่อหันไปตามเสียงก็พบผู้พูดมายืนประชิดตัวอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ เป็นอีกครั้งที่นานะไม่เข้าใจในตัวชายคนนี้

    " คะ ? "
    " เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ รบกวนช่วยฝากไว้ก่อนนะครับ " ฝ่ามือใหญ่ส่งเงินค่าเค้กที่สั่งมาให้ ก่อนเดินออกจากร้านไปโดยไม่คอยฟังคำตอบ

    นานะยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยความไม่เข้าใจ นอกจากนาโอะจะทำตัวผิดไปจากปกติแล้ว ลูกค้าหนุ่มรายนี้ยังทำตัวไม่เหมือนลูกค้าธรรมดาทั่วไปยากจะรับมืออีก เธอถอนหายใจยาวเหยียดก่อนหันหลังเดินกลับเข้าไปในร้าน

    " จะเหมาทั้งทีก็เหมาให้หมดทั้งร้านไปเลยสิ แปลกคนจริง ๆ "
    ผู้ถูกนินทาเดินจากไปแล้วและไม่ได้ยินสิ่งที่นานะพูด เขาถอดแว่นกันแดดออกเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วมองตามร่างเพรียวที่เดินหายไปจนลับสายตา ก่อนเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อนนัก

    ทุกอย่างอยู่ในแผนที่วางไว้ทั้งหมดแล้ว..

    กระทั่งไปสะดุดตาเข้ากับเด็กชายสองคนที่เดินจูงมือกันมาในทางตรงกันข้าม ใบหน้าที่ดูตึงเครียดจนถึงเมื่อครู่พลันยิ้มกว้างออกมาทันที

    " เทะซึจังบวกเลขเป็นแล้วล่ะฮะพี่เคตะ " เด็กชายตัวเล็กกว่าูพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดปาก พลางแกว่งมือที่เกาะเกี่ยวกันอยู่ไปมา
    " เห ? เจ้าจิ๋วทำได้ถึงขนาดนี้แล้วเหรอ "
    " อย่าเรียกว่าเจ้าจิ๋วสิ เดี๋ยวเทะซึจังก็โตทันพี่เคตะแล้ว " เด็กชายตัวโตกว่าเหลือบมองคู่สนทนาแล้วหัวเราะเสียงดังลั่น
    " ไม่มีทาง เจ้าจิ๋วตัวเล็กแค่นี้จะโตได้สักแค่ไหนกัน "

    " สักวันเทะซึจังจะโตให้มากกว่าพี่เคตะเลย คอยดูสิ! "
    เด็กชายพองแก้มป่องมองค้อนคู่สนทนาที่ชอบล้อเรื่องขนาดส่วนสูงซึ่งต่างกันมากเป็นประจำ ทั้งคู่เดินถกเถียงกันไปตามเรื่องตามราวโดยไม่สนใจคนรอบข้าง หรือแม้แต่ใครบางคนที่กำลังมองมาอยู่

    " เจ้าจิ๋วไม่ค่อยกินผักไม่มีทางสูงหรอก เป็นเจ้าจิ๋วตัวเล็ก ๆ อย่างนี้ไปตลอดชาติแน่ "
    ถ้อยคำฟังเหมือนเหน็บแนมประชดประชัน หากแต่ดวงตาผู้พูดที่มองไปยังเด็กชายตัวเล็กกว่ากลับแฝงไว้ด้วยความเอ็นดู เคตะชอบน้องชายตัวเล็กแบบนี้มากจนบางครั้งไม่อยากให้โตเลยทีเดียว

    " เรียกว่าเจ้าจิ๋วอีกแล้ว ผมชื่อเทะซึ....อุ๊บ! "
    ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคเทะซึโอะที่มัวแต่มองคู่สนทนาก็เดินชนกำแพงมนุษย์ ซึ่งยืนดักคอยอยู่แล้วเข้า

    " เดี๋ยวนี้พูดเก่งจนไม่มองทางเลยเหรอเทะซึโอะ "
    ฝ่ามือใหญ่คว้าข้อมือเด็กชายเอาไว้ได้ทันก่อนเสียหลักล้มลงบนพื้น แล้วอุ้มขึ้นมามองสำรวจโดยละเอียด น้ำเสียงคุ้นหูที่ไม่ได้ยินมานานทำให้เด็กชายเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเทะซึโอะก็ต้องฉีกยิ้มกว้างราวกับได้ลูกกวาดถุงใหญ่ เมื่อเห็นว่ากำแพงมนุษย์ด้านหน้าคือใคร

    สายลมพัดผ่านคนทั้งสาม
    พัดให้ความสุขหลั่งไหลเข้ามาทีละน้อย

    " ป๊ะ...."
    " ชู่ว อย่าส่งเสียงดังสิเทะซึโอะ เดี๋ยวพี่ชายก็ตกใจหรอก " ชายหนุ่มยกนิ้วชี้แนบลงบนริมฝีปากของเทะซึโอะห้ามไม่ให้ตะโกนเสียงดังลั่นถนน พลางหันไปมองเคตะที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

    " ฮะ! "
    " เป็นเด็กดีไปคอยที่ร้านก่อนนะ เดี๋ยวป๊ะป๋าไปรับ " เทะซึโอะพยักหน้ารัวเร็วรับคำ ชายหนุ่มจึงลูบหัวเด็กชายคล้ายจะให้รางวัล ก่อนวางลงบนพื้นแล้วหันหลังเดินจากไป

    " ป๊ะป๋างั้นเหรอ ? " เคตะขมวดคิ้วไม่เข้าใจเลยสักนิด
    " ใช่ฮะ ป๊ะป๋าของเทะซึจัง! " เทะซึโอะไม่สามารถหยุดยิ้มได้เลย

    หากความดีใจในตอนนี้เปรียบเหมือนลูกกวาด นี่คงเป็นลูกกวาดกองโตที่เทะซึโอะรอคอยมานานที่สุดในชีวิต

--------------------------------

    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2011 05:23:31 โดย mousou »

mousou

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #528 เมื่อ23-02-2011 05:08:46 »



   ป่วยกายหรือจะสาหัสเท่าป่วยใจ ?

    นาโอะไม่ได้ป่วยหนักอะไรตรงไหน แต่ที่ต้องบกพร่องต่อหน้าที่เป็นครั้งแรก ก็เพราะอาการปวดหนึบที่หน้าอกด้านซ้ายจนดวงตาพร่าลายไปหมด แบบนี้คงเรียกว่าป่วยได้เหมือนกันล่ะมั้ง เพียงแค่นึกถึงเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทคนนั้น นึกถึงน้ำเสียงที่พร่ำบอกรักหวานหู เขาก็แทบทนไม่ไหว จริงอยู่ที่ดวงตาคู่นี้อาจมองคนโน้นคนนี้เป็นเซย์จิ ทว่านาโอะก็ทราบดีไม่มีใครเลยจะเหมือนคน ๆ นั้น และไม่มีผู้ใดมาแทนที่ได้ด้วยเช่นกัน แม้จะมองผิดไปสักกี่ครั้งนาโอะจะตระหนักได้เองในเวลาต่อมา ว่าทุกอย่างเป็นเพียงภาพเพ้อฝันของตนเท่านั้น

    ทว่าชายที่เห็นวันนี้กลับต่างไปอย่างสิ้นเชิง เสี้ยววินาทีแรกนาโอะไม่อาจละสายตาได้เลย เมื่อรอยยิ้มที่เข้าใจว่าเป็นยิ้มตามมารยาทถูกส่งมาให้ หัวใจที่แห้งเฉาก็ราวกับจะกลับมาสูบฉีดอีกครั้ง เหมือนกันมากเกินไปจนชวนให้โหยหายิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เจ็บปวดเหลือจะกล่าว

    แต่เซย์จิจะมาที่นี่ได้ยังไงกัน
    ในเมื่อชายคนนั้นลืมนาโอะไปจากใจแล้ว..

    " อึก..."

    ร่างเพรียวที่นอนคุดคู้อยู่บนโซฟาตัวเล็กในห้องนอนหลับตาทั้งสองข้างลง ก่อนยกมือขึ้นกุมหน้าอกด้านซ้ายของตน คล้ายต้องการกอบกุมความเจ็บปวดที่เอ่อล้นอยู่ข้างในออกมาบ้าง ต่อให้เจ้าหนูน้อยหนีไปไกลแสนไกล และซ่อนตัวได้แนบเนียนสักเพียงใด ก็ไม่อาจหนีจากความรู้สึกของมันได้พ้น

    ..บางทีคงใกล้ถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้ว..

    หลายต่อหลายครั้งที่นาโอะโทรไปหาฮาจิเมะเจ้าของร้านเค้กผู้อารีซึ่งรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี เพื่อหวังจะขอคำปรึกษา แต่คำพูดของคนนอกก็ไม่อาจช่วยแก้ไขอะไรได้มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นฮาจิเมะเพียงแค่บอกให้ทำตามที่ใจต้องการเท่านั้น ซึ่งคำตอบนั้นไม่อาจช่วยให้ผู้ที่จิตใจสับสนวุ่นวายหาทางออกพบได้เลย

    แต่หากพูดไปถึงเจ้าของร้านเค้กคนนั้น นาโอะก็นึกสงสัยในการกระทำอยู่หลายครั้ง ตลอดเวลาหนึ่งปีมานี้ฮาจิเมะไม่เคยเหยียบย่างมายังบ้านที่ให้สองพี่น้องอาศัยอยู่เลยแม้แต่ก้าวเดียว แม้แต่คำชักชวนของนาโอะก็ไม่เป็นผล จะบอกว่ามีน้ำใจก็ดูจะเกินปกติมากไปจนน่าแปลกใจ

    อย่างน้อยมาหากันสักครั้งสองครั้งก็ยังดี กับนานะถึงจะสนิทสนมกันสักเพียงใด แต่เขาก็ไม่กล้าพอจะเล่าทุกอย่างให้ฟังอยู่ดี เรื่องราวและความสัมพันธ์ที่เหลือเชื่อพรรค์นั้นใครกันจะเชื่อลง นาโอะอยากเจอและพูดระบายความในใจได้อย่างเปิดเผยกับใครสักคน บางทีหากทำเช่นนั้นความขมขื่นในใจอาจบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง

    ..หรือเขาควรเป็นฝ่ายไปหาเอง..

    กลับไปยังเมืองหลวงที่มีเซย์จิอยู่ คิดเพียงเท่านั้นนาโอะก็ต้องพับความคิดเก็บกลับเข้าที่เดิม หากย้อนกลับไปเขามั่นใจว่าที่แรกที่ไปคงไม่ใช่ร้านเค้กอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เป็นบ้านที่เคยทรมานตนมานานหลายเดือนเป็นแน่ บ้านที่มีคนผู้ั้นั้นอยู่ ถึงเซย์จิจะไม่ต้องการเจ้าหนูทดลองตัวน้อยนี้แล้วก็ตาม

    นาโอะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จะให้ความพยายามตลอดหนึ่งปีต้องสูญเปล่าไม่ได้เป็นอันขาด ถึงอย่างไรเขาก็ต้องปกป้องเทะซึโอะให้ถึงที่สุด จะต้องปกป้องน้องชายคนสำคัญให้ได้ แม้จิตใจและร่างกายนี้แหลกสลายลงก็ช่างประไร

    หนึ่งปีเต็มกับชีวิตที่มืดมนไร้ทางออก
    ถึงเวลาให้รางวัลกับความอดทนของเจ้าหนูน้อยตัวนี้ได้หรือยัง ?


---------------------


    ..กริ๊ก..

    ประตูบ้านที่ล็อคไว้อย่างแน่นหนาถูกไขเปิดออกทีละชั้น โดยที่ผู้ที่อยู่ด้านในไม่ทันได้รู้สึกตัว ผู้บุกรุกกวาดตามองไปทั่วบ้าน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาวางไว้บนชั้นวางของ ก่อนสาวเท้าเดินขึ้นไปยังชั้นสอง บนนั้นมีบานประตูปิดสนิทเรียงกันอยู่สามบาน กระนั้นผู้บุกรุกกลับไม่เดือดร้อนใจแม้แต่น้อย เขาเลือกตรงไปยังบานประตูในสุดอย่างไม่ลังเล

    ผ้าม่านข้างบันไดปลิวไหวไปตามสายลมที่พัดโชยเข้ามา
    ความสุขกำลังโบยบินเข้ามาด้วยหรือเปล่านะ ?

    ฝ่ามือใหญ่หมุนลูกบิดประตูอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอมองลอดช่องว่างที่ถูกแง้มเปิดออกเข้าไปกลับไม่เห็นผู้ที่น่าจะอยู่ข้างใน คิ้วหนาขมวดมุ่นอยู่ครู่หนึ่งก่อนคลายออกเมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบาคล้ายตัดพ้ออะไรบางอย่างดังมาจากโซฟาที่หันหลังให้ประตูห้อง เรียวปากบางจุดยิ้มอย่างยากจะห้ามได้ พลางสาวเท้าเข้าไปด้านในแล้วทรุดตัวลงนั่งหน้าโซฟา

    " เซย์จิซัง...ผมคิดถึงคุณจังเลยครับ "

    เจ้าของน้ำเสียงเบาหวิวที่นอนหลับตาอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง ไม่ได้รู้สึกถึงผู้ที่ย่ามใจบุกเข้าประชิดตัวจนแทบสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รินรดข้างแก้มเนียนเลยสักนิด ทันทีที่คำว่าเซย์จิหลุดรอดริมฝีปากแดงเรื่อออกมาอีกครั้ง ผู้บุกรุกก็ยกแขนขึ้นโอบกอดร่างบนโซฟาแนบแน่นก่อนเบียดตัวแทรกขึ้นไปนั่งด้านข้าง

    " หวา! อ..อะไรน่ะ!? " เจ้าหนูน้อยจอมเลินเล่อที่รู้ตัวช้าไปไม่อาจดิ้นรนขัดขืนได้เลย พอรู้ตัวร่างทั้งร่างก็ถูกรัดไว้ในอ้อมกอดแกร่งเสียแล้ว
    " ฉันก็คิดถึงนาโอะเหมือนกัน" ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้าที่นาโอะเฝ้าคิดถึงมาตลอด

    ..นี่จะเรียกว่าความสุขได้มั้ยนะ ?..

    " เซย์จิซัง!? ทำไม ? แล้วเข้ามาได้ยังไงครับ? "
    เจ้าของดวงตาสีอ่อนที่เบิกกว้างพูดรัวเร็วเหมือนคนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก คู่สนทนาเพียงแค่ยิ้มน้อย ๆ ให้กับท่าทางนั้น ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องผิดคาดอะไรเลย เจ้าหนูน้อยคงตกใจน่าดูที่อยู่ ๆ ผู้ที่น่าจะหายไปจากชีวิตแล้วกลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง หากแต่ครั้งนี้ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นหาใช่ความหวาดหวั่นดังเช่นครั้งก่อนไม่

    นาโอะพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอด แล้วเงยหน้ามองชายด้านหน้าให้เต็มตา แต่เซย์จิกลับไม่ยอมผ่อนแรงลงให้ทำอย่างต้องการได้เลย คำถามมากมายประดังประเดเข้าในมาหัวจนมึนงงไปหมดไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี

    " นายไม่สบายตรงไหนเหรอ ทำไมถึงกลับก่อนล่ะ "
    ผู้ที่ก้มลงมองสำรวจร่างในอ้อมแขนไม่วางตาเช่นกันถามด้วยน้ำเสียงจริงจังที่คู่สนทนาหาได้ใส่ใจมันไม่ แต่เมื่อเห็นนาโอะดูสบายดีแม้จะซึมเศร้าไปบ้างเขาก็คร้านจะถามหาคำตอบอีกต่อไป

    จริงสิ บางทีนี่อาจเป็นความฝันเหมือนอย่างที่นาโอะเคยฝันมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ควรทำคือซึบซัมความอบอุ่นที่ดูเหมือนจริงยิ่งกว่าครั้งใด เพื่อให้มีกำลังมากพอจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยามลืมตาตื่นขึ้นมาครั้งต่อไปสินะ หน่วยตาสวยช้อนขึ้นมองเซย์จิแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง คล้ายลูกแมวน้อยตัวเปียกปอนสั่นเทาต้องการความอบอุ่นก็ไม่ปาน

    " ...เซย์จิซัง "
    " หือ ? "
    " เซย์จิซังจริง ๆ เหรอครับ " ฝ่ามือเรียวกำเสื้อเจ้าของอ้อมกอดแน่น
    " จริงสิ ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครล่ะ "
    " เป็นเซย์จิซังตัวปลอมในความฝันของผมไงครับ "

    " พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ตรงไหนของฉันที่บอกว่าเป็นตัวปลอมเหรอ "
    ฝ่ามือใหญ่เชยคางนาโอะขึ้นมา ก่อนพรมจูบไปทั่วดวงหน้าสวย ทั้งหน้าผาก ข้างแก้ม ปลายคาง หรือแม้กระทั่งกลีบปากสวย ราวกับต้องการยืนยันตัวตนของตนเอง

    ตรงไหนที่บอกว่าชายผู้นี้เป็นตัวปลอมกัน นาโอะไม่อาจตอบได้เหมือนเช่นทุกครั้ง ไออุ่นและความอ่อนโยนนี้จะไม่ใช่ของจริงได้อย่างไรกัน ทุกอย่างเด่นชัดจนไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว

    " ...ผมไม่รู้ "
    นาโอะไม่รู้อะไรแล้วทั้งนั้น แขนเพรียวโอบรอบเอวหนาก่อนซบหน้าลงบนตัวเซย์จิอีกครั้ง ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เพียงแค่เซย์จิกลับมาหา แค่ดวงตาคู่ันั้นยังฉายภาพของเขาอยู่ก็เพียงพอแล้ว เซย์จิเองก็เงียบไปเช่นกัน ชายหนุ่มโอบกอดร่างผอมแนบแน่น ก่อนซุกหน้าลงบนเรือนผมสีอ่อน ราวกับต้องการเติมเต็มส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไปถึงหนึ่งปีเต็ม

    ถึงเป็นฝ่ายหนีมาเองแต่นาโอะก็ต้องการให้่เซย์จิออกตามหาตน และทั้งที่คิดอย่างนั้นแต่กลับไม่้ต้องการเผชิญหน้ากับความหวาดระแวงดังที่ผ่านมาอีกแล้ว เทะซึโอะต้องมาก่อน เขาไม่อาจเห็นแก่ตัวทำตามความต้องการของตัวเองได้ แต่ตอนนี้เมื่อผู้ที่เฝ้าคิดถึงมาตลอดปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า นาโอะก็กลายเป็นเด็กน้อยที่โยนเหตุผลทิ้งไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขากอดเซย์จิแน่นราวกับเด็กหวงของ ถ้าจะขอทำอย่างใจต้องการดูสักครั้งพระเจ้าจะลงโทษหรือไม่นะ

    ..อา เซย์จิซังมาหาแล้วจริง ๆ..

    " นาโอะใจร้ายทิ้งฉันไปได้ลงคอตั้งสามครั้ง "
    เจ้าของน้ำเสียงตัดพ้อไม่จริงจังนักเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อน หลังปล่อยให้ความเงียบเข้าเป็นใหญ่ในห้องจนอาทิตย์ลาลับขอบฟ้านาโอะก็ยังเอาแต่กอดเขาอยู่เงียบ ๆ ไม่ปริปากพูดหรือขยับไปไหนแม้แต่น้อย ทั้งที่เซย์จิมีเรื่องตั้งมากมายอยากบอกให้อีกฝ่ายได้รู้

    แต่เพราะเป็นนาโอะที่คิดถึงเทะซึโอะมากกว่าตัวเองจนหนีมาไม่ใช่หรอกเหรอเซย์จิถึงได้หลงรัก หากทันทีที่นาโอะยอมรับรัก แล้วแสดงออกว่าหลงใหลทรัพย์สินเงินทอง หรือมีท่าทีจะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกเบื้องหลังในฐานะคนรักของผู้นำสูงสุด อาจเป็นตัวเขาเองก็ได้ที่ถอยห่างออกมา

    นาโอะที่เป็นนาโอะแบบนี้น่ะดีที่สุดแล้ว

    " คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนี่ครับ ทิ้งผมกับเทะซึจังไว้ตั้งปีนึง ทั้งที่คนอย่างคุณแค่จะตามหาผมที่ไม่ได้ซ่อนตัวแบบเมื่อก่อน ไม่ใช่เรื่องยากอะไร......"

    ร่างในอ้อมแขนแกร่งพร่างพรูความในใจออกมา ก่อนหยุดชะงักที่ท้ายประโยค เมื่อย้อนคิดไปถึงช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาก็ปวดใจจนพูดต่อไปอีกไม่ออก เซย์ิจิจูบแก้มนาโอะอีกครั้งคล้ายจะปลอบประโลม

    " ขอโทษนะ ที่ฉันเสียเวลาจัดการอะไรหลาย ๆ อย่างไปตั้งปีนึง "
    จัดการอะไรนาโอะไม่สนใจแล้ว จะองค์กรใดหรือเรื่องเลวร้ายแค่ไหนก็ยิ่งไม่ใส่ใจ แค่ตอนนี้วินาทีนี้เท่านั้นที่จะขอเห็นแก่ตัวบ้าง ร่างเพรียวส่ายหน้าพรืดเป็นเชิงตอบรับว่าไม่เป็นไร ก่อนซบหน้าลงอีกครั้ง เซย์จิคลี่ยิ้มบางให้กับท่าทางเหล่านั้น ขณะที่ในอกคับแน่นด้วยความยินดี เขารู้ดีนาโอะไม่ต้องการพูดอะไรเกี่ยวกับชีวิตอีกด้านของตน แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นช่วงเวลาที่ต้องห่างกัน รวมถึงความเพียรพยายามก่อนหน้านั้นคงสูญเปล่า

    " ไม่มีองค์กร SW แล้วล่ะนาโอะ " น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดเน้นทีละคำข้างใบหูของนาโอะ ให้ได้ยินทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน
    " เอ๋!? "
    " ฉันบอกว่าไม่มีองค์กร SW แล้ว นาโอะได้ยินหรือยัง " ชายหนุ่มจุมพิตบนกกหูของผู้ที่เบิกตากว้าง แล้วย้ำทุกคำพูดอีกครั้งหนึ่ง
    " ...ไม่จริง "
    " ฉันกำลังพูดอยู่นี่ไงล่ะ จะว่าไม่จริงได้ยังไง "
    " แต่......"
    จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเซย์จิให้ความสำคัญกับมันถึงขนาดนั้น ถ้อยคำเหล่านั้นถูกกลืนหายไปจนหมดเมื่อเจ้าของดวงตาสีดำที่มองมาอย่างแน่วแน่พูดแทรกขึ้นมา

    " นาโอะไม่ชอบมันใช่มั้ยล่ะ "
    "......ครับ " เขาพยักหน้าช้า ๆ ด้วยไม่อาจปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้เลย
    " ฉันรู้นาโอะกลัวมันมาตลอด ถึงจะบอกรักแค่ไหนก็ยังกังวลอยู่ดี จริงมั้ย ? "
    " .....ครับ " นาโอะพยักหน้าอีกครั้ง

    " รู้มั้ย ฉันคิดมาตลอดว่าถ้า SW ยังอยู่ นาโอะคงไม่มีวันให้อภัย ก็เลยตัดสินใจทำลายมันซะ " เครื่องหมายคำถามล่องหนลอยอยู่เหนือใบหน้าสวยที่ขมวดคิ้วมุ่นเต็มไปหมด
    " ทำหน้าแบบนี้ไม่เชื่อกันเหรอไง " เซย์จิยิ้มกว้างก่อนฉวยโอกาสลวนลามพวงแก้มเนียนอีกครั้ง
    " ไม่เชื่อครับ " เจ้าของน้ำเสียงแผ่วหวิวตอบกลับแทบจะในทันที
    " อะไรกัน ความรักของฉันไม่มากพอให้นายเชื่อเลยเหรอ "
    " เปล่าครับ แต่ผมไม่เชื่อว่าตัวผมมีค่าพอให้คุณละทิ้งของสำคัญอย่างนั้นได้ต่างหาก "

    " เพราะคิดอย่างนี้สินะถึงได้หนีมา ตัวนายที่ยอมให้อภัยคนที่เคยทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นอย่างฉัน แล้วให้ความสำคัญกับเทะซึโอะมากกว่าตัวเอง แค่นี้ก็มีค่ามากพอจะให้ฉันทิ้งทุกอย่างได้แล้วล่ะ " อ้อมกอดแข็งแรงรัดแน่นขึ้นจนนาโอะรู้สึกอึดอัด

    ..ตัวเขาที่เป็นแค่หนูทดลองน่ะเหรอมีค่ามากถึงเพียงนั้น ?

    " แต่ไหนเซย์จิซังเคยบอกว่า......." ริมฝีปากบางที่คอยแต่จะค้านอยู่ตลอดถูกจุมพิตแผ่วเบาทาบทับให้เงียบเสียง
    " ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้วนี่ " ชายหนุ่มเหลือบมองนิตยสารที่มีตัวเองลงหน้าปก แล้วพูดต่อ

    " นาโอะเห็นข่าวนั้นแล้วใช่มั้ยล่ะ ธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวก็คือโรงพยาบาลน่ะ แต่โรงพยาบาลนี่เรียกว่าธุรกิจได้หรือเปล่านะ นักข่าวพวกนั้นพอได้ข่าวก็ตกใจมาขอสัมภาษณ์เอาไปลงหนังสือกันใหญ่ ฉันดูไม่เหมาะเป็นเจ้าของโรงพยาบาลขนาดนั้นเลยเหรอไง " เซย์ิจิหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

    " ...เจ้าของโรงพยาบาล ? " นาโอะขมวดคิ้วอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ โรงพยาบาลมีความเกี่ยวข้องอะไรกับ SW กันแน่นะ

    " ใช่แล้วล่ะ แล้วที่ที่ฉันใช้สร้างโรงพยาบาลก็คือที่ตั้งตึกองค์กร SW ที่ถูกทุบทิ้ง แต่ตอนนี้ฉันยกโรงพยาบาลนั่นให้ไดยะไปแล้ว " น้ำเสียงจริงจังเกินกว่าจะคิดได้ว่านี่เป็นเรื่องล้อเล่น จนนาโอะต้องยอมเชื่อแม้จะยังรู้สึกค้านอยู่ในใจก็ตาม

    " ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ "
    " อะไรตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ ? " เรียวปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยขณะถามกลับ เซย์จิไม่นึกเบื่อที่ต้องตอบคำถามมากมายของคนรักเลยสักนิด
    " คุณคิดจะวางมือจาก.....SW ตั้งแต่เมื่อไหร่ "
    ร่างเพรียวใช้เวลาอยู่พักใหญ่ทีเดียวกว่าชื่อองค์กรลับจะหลุดปากออกมาได้ จนถึงตอนนี้เมื่อหวนคิดถึงมันร่างทั้งร่างก็ยังสั่นสะท้านอยู่ดี

    " นั่นสินะ..ก็คงตั้งแต่วันที่ฉันเมากลับมาแล้วขอโทษนาโอะล่ะมั้ง ตอนนั้นมันสิ้นหวังมากเลยล่ะ ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว แต่อยู่ดี ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ บางทีถ้าฉันเปลี่ยนตัวเอง แล้วแสดงความจริงใจออกมาให้มากขึ้นนายอาจจะเลิกเกลียด เลิกกลัวก็ได้ ก็เลยตัดสินใจลบทุกอย่างทิ้งน่ะ หลังจากนั้นชีวิตฉันก็วุ่นวายขึ้นเยอะ ทั้งตามง้อใครบางคน ทั้งหาที่ทำงานให้พวกนักวิทยาศาสตร์กับบ้านใหม่ของเด็ก ๆ พวกนั้น เอ่อ..ฉันหมายถึงหนูทดลองน่ะ "

    เซย์จิพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ประหนึ่ง SW เป็นเหมือนสิ่งของในบ้านที่ถูกตั้งทิ้งไว้อย่างไร้ค่าคอยวันทิ้งอย่างไรอย่างนั้น เจ้าของเครื่องหมายคำถามล่องหนลองย้อนคิดกลับไปบ้าง วันนั้นเขายังไม่แม้แต่จะเลิกกลัวชายผู้นี้ด้วยซ้ำ แต่จะว่าไปแล้ว ระยะหลังของการใช้ชีวิตร่วมกัน หากเซย์จิไม่หายออกจากบ้านไปเป็นเวลาหลายวัน ก็จะเอาแต่อ่านเอกสารอะไรสักอย่างที่อยู่เสมอ นี่น่ะเองคือสาเหตุของพฤติกรรมแปลกประหลาดของเซย์จิที่เคยนึกสงสัยอยู่ช่วงหนึ่ง

    " เซย์จิซังจัดการหาที่อยู่ให้ทุกคนได้หมดแล้วสินะครับ "
    เมื่อเซย์จิพยักหน้าให้กับคำถามนั้น เรียวปากบางจึงระบายยิ้มออกมา ดีเหลือเกินที่ทุกคนมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องทนทรมานกันอีกต่อไปแล้ว
    " ตอนแรกฉันตั้งใจจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยบอกนาย แต่ก็เกิดอะไรหลาย ๆ อย่างขึ้นจนนาโอะยอมให้อภัยฉันจนได้ แต่นายก็ยังหนีไปอยู่ดี "
    " ขอโทษครับ..ที่หนีมา "
    " หืม ? จะขอโทษทำไมไม่ใช่ความผิดนายซะหน่อย แต่เพราะอย่างนี้ล่ะนะถึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่หมด " เขาโคลงหัวไปมา
    " แผนที่ว่าจะบอกผมหลังทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเหรอครับ " เซย์จิพยักหน้าเล็กน้อย

    " ที่จริงก็ตั้งใจจะบังคับให้่นายอยู่ด้วยไปเรื่อย ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็จะพานายไปดู SW ที่ไม่มีอยู่บนโลกนี้แล้ว จากนั้นนายก็จะยอมให้อภัยแล้วหลงรักฉันในที่สุด เป็นไงแผนนี้จบเหมือนนิทานเลยใช่มั้ยล่ะ "
    นาโอะหรี่ตามอง ก่อนพยักหน้าอย่างขอไปทีอย่างคนต้องการรู้เรื่องทุกอย่างเร็ว ๆ ดูเหมือนเซย์จิจะอารมณ์ดีเสียจนพูดติดตลกได้ไม่ขาด แต่นาโอะร้อนใจจะแย่แล้ว

    " แต่นายก็ดันรับรักฉันก่อน แถมอยู่ ๆ ยังหนีไปอีก ยอมรับเลย ตอนที่รู้ว่านายพาเทะซึโอะหนีไปอีกแล้วฉันสับสนแทบบ้า อุตส่าห์คิดว่าทุกอย่างน่าจะง่ายขึ้นแล้วแท้ ๆ "
    " แล้วทำไมตอนนั้นถึงไม่ตามหาล่ะครับ "
    หากบอกว่านาโอะดีใจเหลือเกินที่รู้ว่าเซย์จิกระวนกระวายกระวาย เป็นเดือดเป็นร้อนที่เขาหายไปจะผิดมั้ยนะ

    " ตามกลับมาให้นายหนีไปอีกน่ะเหรอ ฉันก็พอจะเดาได้ล่ะนะว่าถ้า SW ยังอยู่ คงไม่มีวันได้อยู่กับนายแล้วก็เทะซึโอะแน่ ๆ แต่ตอนนั้นทุกอย่างยังไม่เรียบร้อยนี่ ถึงต้องเปลี่ยนแผนแล้วให้ฮาจิเมะช่วยอีกแรง "

    ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ใช้ชีวิตร่วมกันเซย์จิสังเกตได้ถึงท่าทางหวาดกลัวอย่างไม่ทราบสาเหตุของนาโอะ แต่กลับมองข้ามมาโดยตลอด ด้วยมัวแต่วุ่นวายกับการหาพ่อแม่บุญธรรมที่ดีพร้อมพอจะดูแลหนูน้อยที่บอบช้ำจำนวนมาก ซ้ำยังไม่คาดคิดด้วยว่าท่าทีเหล่านั้นจะยิ่งเป็นการกดดันบีบบังคับนาโอะทางอ้อม

    " ฮาจิเมะซังเกี่ยวอะไรด้วยล่ะครับ " นาโอะเข้าใจทุกอย่างได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ภาพในหัวเหมือนตัวจิ๊กซอว์กระจัดกระจายที่ยังประกอบไม่เสร็จสมบูรณ์
    " นาโอะจำวันแรกที่เทะซึโอะไปโรงเรียน แล้วฉันไปรับกลับมาคนเดียวได้มั้ย "
    นาโอะปัดเศษชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ในความคิดทิ้งไปชั่วคราว แล้วเริ่มนึกย้อนอดีตอีกครั้ง แม้จะผ่านมาปีนึงแล้ว แต่ทุกภาพความทรงจำกลับเด่นชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เขาจึงยังจำรายละเอียดส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี

    " วันที่คุณได้แผลกลับมาเหมือนโดนใครชกน่ะเหรอครับ " ดวงตาสีอ่อนกรอกไปมาขณะใช้ความคิด เซย์จิจูบหน้าผากให้รางวัลคนที่ตอบถูกเสียหนึ่งที
    " ความจำดีนี่ คนที่ชกฉันคือฮาจิเมะน่ะ "
    " เอ๋!? เซย์จิซังไปก่อเรื่องอะไรเหรอครับ "
    เป็นอีกครั้งที่นาโอะเบิกตากว้างด้วยเรื่องไม่คาดฝัน ฮาจิเมะที่ทั้งใจดีและมีน้ำใจคนนั้นน่ะเหรอจะขาดสติจนทำร้ายร่างกายผู้อื่นเข้า ต้องเป็นเพราะนักธุรกิจหนุ่มไปทำตัวเกะกะระรานก่อนเป็นแน่

    " เอาแต่มองฉันในแง่ั้นั้นตลอดเลยนะนาโอะ ชักเสียใจแล้วสิ "
    คนเสียใจส่งยิ้มอ่อนโยนให้ แล้วฉวยโอกาสกดริมฝีปากลงกับแก้มนุ่มเหมือนเรียกร้องเอาของปลอบใจให้ตัวเอง นาโอะย่นหน้าก่อนเบี่ยงตัวหลบสัมผัสที่กำลังจะถูกหยิบยื่นให้อีกครั้ง แค่ไม่ถึงครึ่งวันเขาถูกลวนลามไปตั้งกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ ถึงจะไม่นึกรังเกียจแต่ก็อยากรู้เรื่องทุกอย่างมากกว่า

    " ไม่เห็นเหมือนคนเสียใจตรงไหนเลยครับ ตกลงไปทำอะไรให้โดนชกเหรอครับ" เซย์จิหัวเราะร่วนก่อนตอบคำถาม

    " ก็ไปก้มหัวขอโทษแล้วขอนาโอะกับทุกคนที่ร้านสไมล์มาไงล่ะ เพราะนายไม่ยอมให้อภัยซะทีเลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ตอนแรกก็ไม่มีใครยอมเชื่อหรอก ทั้งฮิโรมิทั้งฮาจิเมะเลย แต่พอฉันบอกว่าฉันรักนายจริง ๆ แล้วกำลังจัดการกับ SW อยู่เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงใจทุกคนเลยยอมยกนาโอะให้ แต่ก็ต้องพูดอยู่นานเลยเทะซึโอะก็ช่วยพูดด้วยนะ วันนั้นลูกชายของเราน่ารักสุด ๆ เลยล่ะ "

    เซย์จิยังจำได้ดี วันนั้นเขาไม่ต่างอะไรกับผู้ร้ายถูกตำรวจรุมสอบปากคำ ทั้งฮาจิเมะและฮิโรมิทำหน้าเหมือนไม่เชื่อตาตัวเอง หลังบทสนทนาที่เคร่งเครียดอย่างที่เซย์จิไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน พร้อมคำสารภาพยาวเหยียดถึงความรู้สึกอัดแน่นที่มีต่อนาโอะ รวมไปถึงบทพิสูจน์ตัวเองที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์อย่างการวางมือจากโลกเบื้องหลัง ก็ดูเหมือนนักธุรกิจหนุ่มจะผ่านด่านมาได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเด็กชายตัวน้อยที่ไม่แสดงท่าทางกลัวเซย์จิให้เห็น ซ้ำยังช่วยพูดเกลี้ยกล่อมทุกหนทาง สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันคำพูดของเซย์จิได้ในตัวเองอยู่แล้ว

    ..คุณเป็นคุณพ่อเห่อลูกชายเหรอไงครับ..
    ไม่รู้ทำไมนาโอะถึงอดรู้สึกหมั่นไส้คำว่าลูกชายที่เซย์จิพูด จนอดเหน็บแนมอยู่ในใจไม่ได้

    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2011 05:25:15 โดย mousou »

mousou

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
«ตอบ #529 เมื่อ23-02-2011 05:10:10 »



    " แผลโดนชกวันนั้นแลกกับที่ฉันทำไม่ดีกับนายไว้ในอดีตน่ะ ฮาจิเมะบอกอย่างนั้น แล้วก็ชกฉันซะเต็มแรงเลย "
    นาโอะส่งเสียงครางในลำคอ ดูเหมือนเขาจะพลาดโอกาสเห็นอะไรดี ๆ ไปเสียแล้ว

    " เพราะอย่างนี้ช่วงหลัง ๆ ฮาจิเมะซังถึงคอยแต่จะไล่ผมกลับมาหาคุณตอนไปหาอยู่เรื่อย แถมฮิโรมิยังเห็นดีเห็นงามเออออตามกันตลอดสินะครับ คุณนี่มันเจ้าแผนการจริง ๆ เลย "
    หลังได้ฟังเรื่องคาดไม่ถึงมาหลายอย่าง ถึงตอนนี้นาโอะจึงเริ่มสงบสติลงได้บ้าง ความรู้สึกถัดมาที่ตีตื้นขึ้นมาคือความยินดีอย่างเหลือคณา ชายผู้นี้คิดทำอะไรตั้งมากมายเพื่อนาโอะขนาดนี้

    ..เขาคงเป็นคนสำคัญจริง ๆ สินะ..

    " น่าเสียดายวันที่ฉันไปฮิโรกิไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นเทะซึโอะคงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนั้นหรอก "
    ชื่อฮิโรกิที่ได้ยินทำให้ในอกปวดแปลบขึ้นมา เพราะอย่างนี้นี่เองฮิโรกิจึงเป็นคนเดียวที่ไม่เปลี่ยนท่าทีไปเลย วันนั้นนาโอะเป็นคนพาเพื่อนสนิทมาบ้านด้วยตัวเอง แต่หากฮิโรกิอยู่ที่ร้านด้วยคงไม่มีตัวเขาในตอนนี้

    " ถ้าไม่ใช่เพราะฮิโรกิผมคงไม่ยอมรับคุณหรอกครับ วันนั้นคุณยอมปกป้องเทะซึจังมากกว่าตัวเอง... " ดวงตาสีอำพันหลุบลงมองฝ่ามือใหญ่ที่ลูบท่อนแขนของตนอยู่ มือคู่นี้นอกจากจะทำร้ายเขามามากแล้วยังปกป้องคนสำคัญของเขาอีกด้วย

    " เห..จริงเหรอเนี่ย " คราวนี้ถึงตาเซย์จิเป็นฝ่ายตกใจกับความจริงที่เพิ่งได้รู้บ้าง
    " จริงสิครับ "

    ทำยังไงดี ? เซย์จิอาจจะรักนาโอะจนเสียสติไปแล้วก็เป็นได้ เพียงแค่ได้ฟังคำสารภาพจากปากคนรัก ว่านาโอะเองก็มองเห็นความดีที่มีอยู่น้อยนิดในตัวเขาแล้ว แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำก็ทำให้ร่างทั้งร่างอุ่นซ่านจากความสุขที่แทบล้นทะลักออกมาได้แล้ว ตัวเขาตอนนี้คงเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก

    " หวา! เลิกทำตัวรุ่มร่ามแล้วเล่าต่อได้แล้วครับ คุณแอบสมรู้ร่วมคิดกับฮาจิเมะซังลับหลังผมแล้วยังไงต่อครับ "
    ฝ่ามือบอบบางยกขึ้นดันใบหน้าคมคายที่ทำท่าจะเข้ามาช่วงชิงลมหายใจไป เซย์จิแสร้งเดาะลิ้นอย่างขัดใจ ก่อนสูดลมหายใจให้ไออุ่นความสุขเจือจางลงเพื่อจะได้มีสติมากขึ้น
    " แผนใหม่ของฉันหลังจากนาโอะหนีไปอีกก็ได้ฮาจิเมะเนี่ยแหละช่วยเหลือ " ชายหนุ่มดึงบทสนทนากลับมาประเด็นที่ยังเป็นปริศนาอยู่ซึ่งถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ
    " ช่วยอะไร แล้วเกี่ยวกันยังไงเหรอครับ "
    " ที่นาโอะมาอยู่บ้านหลังนี้ เป็นเพราะฉันบอกให้่ฮาจิเมะหาทางทำให้่นายมาหลบอยู่ที่นี่ให้ได้ไงล่ะ "
    " ทำไมถึงต้องเป็นบ้านของฮาจิเมะซังหลังนี้ด้วยล่ะครับ "
    นาโอะกลายเป็นเด็กน้อยช่างสงสัยเอาแต่ถามคำถามไม่หยุดตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว เจ้าของดวงตากลมโตที่จ้องมองไปยังเซย์จิเอียงศีรษะเล็กน้อย เป็นกริยาเดียวกับที่เทะซึโอะชอบทำตอนมีเรื่องไม่เข้าใจ

    " นาโอะพูดผิดแล้ว ไม่ใช่บ้านของฮาจิเมะแต่เป็นบ้านของเราต่างหาก ฉันเคยได้ยินนายคุยกับเทะซึโอะเรื่องบ้านในฝันน่ะ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือแอบฟังนั่นแหละ ทีนี้พอเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักนายเข้าเลยแอบมาสร้างไว้ไม่ให้ใครรู้ ยกเว้นฮาจิเมะไว้คนล่ะนะ หมอนั่นเอาแต่คาดคั้นถามโน่นนี่ว่าฉันจัดการทุกอย่างไปถึงไหนแล้ว จนเผลอหลุดปากเรื่องบ้านหลังนี้ไปจนได้ ตั้งใจว่าถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนายยอมรับรักจะบอกเป็นคนแรกแท้ ๆ แต่เพราะเผลอหลุดปากไปแล้ว ฉันเลยดึงมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดซะเลย "

    " บะ..บ้านในฝัน!? "
    " เรื่องที่นายพูดกับเทะซึโอะวันที่เทะซึโอะกลัวไม่ยอมเข้าใกล้ฉัน จนนายต้องมาพาเข้าห้องไปเองไง "
    คราวนี้นาโอะต้องย้อนคิดไปไกลกว่าเหตุการณ์วันที่เซย์จิโดนชก ย้อนไปไกลถึงบทสนทนาเรื่อยเปื่อยระหว่างเขาและเทะซึโอะสมัยเซย์จิยังไม่ตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเอง คิดเพียงต้องการเล่นงานเจ้าหนูน้อยอย่างเดียว ตอนนั้นนาโอะยอมทำตัวว่าง่ายหลอกล่อให้เซย์จิตายใจเพื่อจะหนีออกไป จนได้พบกับเทะซึโอะอีกครั้ง

    " ฉันเองก็อยากมีบ้านในฝัน อยากมีครอบครัวในฝันกับนายกับเทะซึโอะบ้างนี่นา ถูกใจหรือเปล่าล่ะ บ้านหลังเล็ก ๆ ห่างไกลเมืองหลวงแบบนี้น่ะ " ร่างเพรียวไม่อาจตอบได้ว่าถูกใจหรือไม่ ในหัวกำลังพยายามประมวลเรื่องราวทั้งหมดให้วุ่นวายไปหมด

    เซย์จิคนนั้นแอบสร้างบ้านเอาไว้ ทำลายเจ้าเงาร้ายอย่าง SW ที่เคยให้ความสำคัญมาตลอด ซ้ำยังจัดแจงหลอกล่อเขาให้มาอยู่ที่นี่ล่วงหน้าเสียอีก ไม่ต้องเสียเวลาถามนาโอะก็พอเดาได้ว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เซย์จิคงถามความเป็นอยู่ทุกอย่างของพวกเขาเอาจากฮาจิเมะเป็นแน่ ไม่ยุติธรรมเลยสักนิดที่มีแต่นาโอะที่ต้องเฝ้าเสียใจแทบเป็นแทบตายอยู่ฝ่ายเดียว ขณะที่อีกฝ่ายกลับเก็บงำทุกอย่างเป็นความลับได้แนบเนียนเหลือเกิน

    ..แต่เอาเถิด ใช่จะมีแต่นาโอะที่ต้องทนคิดถึงเสียหน่อย..

    ที่เขาว่ากันว่านักธุรกิจมักรอบคอบและวางแผนให้กับสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ นาโอะเพิ่งประจักษ์แจ้งแก้ตัวก็วันนี้เอง ไม่ว่าเขาจะหนีไปทางไหนก็หนีไม่พ้นอยู่ดี อย่างไรเสียก็ต้องตกหลุมพรางที่หวานล้ำของชายผู้นี้อย่างไม่มีทางขัดขืนได้

    " ถ้าบอกผมทุกอย่างตั้งแต่แรก ผมคงไม่หนีคุณมา ไม่ต้องเสียเวลาแบบนี้หรอกครับ "
    ทำอย่างไรนาโอะก็ไม่อาจตีหน้าบึ้งตึงอย่างที่อยากทำได้เลย จะต้องใช้เวลาและความคิดมากแค่ไหนกันถึงจะเตรียมการทั้งหมดได้ ทั้งหมดนี่ก็เพื่อนาโอะเพียงคนเดียว เพื่อคนสำคัญที่ไม่อาจหาได้ที่ไหนแล้วบนโลกใบนี้

    ผมเป็นคนสำคัญที่คุณอยากใช้ชีวิตด้วยจนลงทุนทำถึงขนาดนี้สินะครับ ตัวผมสำคัญสำหรับคุณใช่มั้ยครับ ?
    คุณเองก็สำคัญสำหรับผมเช่นกัน

    " บอกตอนที่ทุกอย่างยังไม่เสร็จก็เหมือนดีแต่พูดนั่นแหละ นาโอะอาจจะไม่เชื่อฉันก็ได้ "
    ดวงตาดำขลับวาววับอย่างนักธุรกิจจอมวางแผน หากไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ลงทุนไปจะได้ผลตอบแทนที่คู่ควรกลับมาก็จะไม่ยอมเสี่ยงเป็นอันขาด นี่แหละนิสัยที่นักธุรกิจเป็นกัน
    " แต่อย่างน้อยมาตามผมกลับไปก็ยังดีนี่ครับ ปล่อยให้ผมเข้าใจผิดว่าคุณไม่สนใจอยู่ได้ตั้งนาน "

    " ก็ถ้ายังเห็นนาโอะอยู่ใกล้ ๆ ฉันจะอดใจไม่ไหวเข้าไปทำอย่างนี้กับนายจนไม่เป็นอันทำอะไรน่ะสิ "
    สิ้นคำพูดเซย์จิก็ได้ลิ้มรสหอมหวานจากกลีบปากบางสมใจอยาก เขาฉวยโอกาสจูบนาโอะจนแทบขาดใจ ยืนยันคำพูดว่าอะไรคือความนัยของประโยคที่เพิ่งพูดจบไป เมื่อถอนริมฝีปากออกมาดวงหน้าขาวก็ซับสีเลือดไปทั้งหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของเสียงหัวเราะอารมณ์ดีลูบแก้มสีเรื่อก่อนเป็นฝ่ายบ่นกระเง้ากระงอดบ้าง
    
    " นาโอะเคยโทรมาหาฉันครั้งนึงใช่มั้ยล่ะ ตอนนั้นฉันต้องข่มใจแทบแย่ไม่ให้วางงานทุกอย่างแล้วพุ่งมาหาที่นี่น่ะ ทำแบบนั้นเหมือนจะทดสอบความอดทนกันเลยนะ "
    เซย์จิกอดร่างผอมแนบแน่นอีกครั้งนึงเหมือนจะยืนยันคำพูดตัวเอง ตอนนั้นเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่พร่ำขอโทษคนรักผ่านสายโทรศัพท์ หากหลุดปากออกไปคำนึงคงไม่พ้นโดนความคิดถึงเข้าเล่นงานจนต้องโยนทุกอย่างทิ้ง แล้วแล่นมาหาคนสำคัญทั้งสองถึงบ้านหลังนี้อย่างแน่นอน

    ขอโทษทีทิ้งเอาไว้ ขอโทษที่ละเลย และขอให้อดทนคอยต่อไป เพราะเขาเองก็จะอดทนเช่นกัน
    อดทนจนกว่าเจ้าเงาร้ายจะหายไป เพื่อที่จะสามารถบอกรักนาโอะได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

    " ผมเองก็ต้องทนเหมือนกันนะครับ " นาโอะเถียงกลับ
    " ฉันรู้ดี ตอนนี้ก็มาหาแล้วไงไม่ต้องอดทน ไม่ต้องเสียใจแล้วล่ะ " เซย์ิจิพูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะลูบกลุ่มผมสีอ่อน ความรักมากมายที่เซย์จิมอบให้จะช่วยเยียวยารอยแผลทั้งหมดให้หายดี นับจากวินาทีนี้ไม่ต้องเสียใจหรือทนทรมานอีกต่อไปแล้ว

    " ขอโทษที่หนีมา แล้วก็ขอบคุณนะครับที่รักผมถึงขนาดนี้ "
    ทั้งขอบคุณและขอโทษ แต่จะให้พูดสักกี่ครั้งนาโอะก็รู้สึกว่าไม่อาจตอบแทนความรู้สึกที่เซย์จิมีต่อเขาได้เลย

    " ฉันก็ต้องขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน ฉันสัญญาจะไม่ทำให้ทั้งนายทั้งเทะซึโอะเสียใจอีก จะไม่ทิ้งไว้แบบนี้แล้วด้วย "
    " ครับ "
    " จากนี้ไปเรามาเริ่มต้นกันใหม่เถอะนะ "
    " ครับ " นาโอะไม่อาจพูดอะไรได้นอกจากคำนี้อีกแล้ว

    เริ่มต้นกันใหม่ จากนี้และตลอดไปจะไม่พรากจากกันอีก
    หากนี่ไม่อาจเรียกว่าความสุขได้ นาโอะก็ไม่อาจเรียกสิ่งอื่นว่าความสุขได้อีกแล้ว

    ชีวิตคนเรามักมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นโดยที่ทุกคนไม่ทันสังเกตเสมอ สำหรับนาโอะการมีเทะซึโอะถือเป็นปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ในชีวิต และยิ่งเหลือเชื่อกว่านั้นเมื่อชีวิตเล็ก ๆ อย่างเขา สามารถทำให้ชีวิตใครบางคนเปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้

    คนบางคนอาจเลือกชังหน้ากันไปตลอดชีวิตเพราะเรื่องผิดใจเพียงเล็กน้อย
    คนบางคนอาจเลือกให้อภัยผู้ที่ทำร้ายตัวเองได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

    ทั้งเซย์จิและนาโอะเป็นทั้งสองประเภท พวกเขาเคยเกลียดชังกัน และให้อภัยซึ่งกันและกันได้ด้วยเช่นกัน นับจากนี้ไปคงมีเรื่องผิดใจและเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกมากมาย เพราะชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือพวกเขาจะเชื่อมั่น และให้อภัยในทุกข้อผิดพลาดของกันและกันได้อย่างแน่นอน

    เพื่อรักษาความสุขนี้เอาไว้ตราบนานเท่านาน


--THE END--

ตอนจบมาแล้วค่าาา ป่วยซะหนึ่งอาทิตย์ไม่ว่างอีกหนึ่งอาทิตย์เลยกลายเป็นมาช้าจนหยดสุดท้ายเลยล่ะค่ะ orz
สารภาพตามตรงว่าดีใจมากถึงมากทีุ่สุดที่เขียนนิยายจบเป็นเรื่องแรกจนได้ ออกจะเป็นพล็อตที่เอาแต่ใจแล้วก็น้ำเน่าไปบ้างแต่อยากเขียนเรื่องแบบนี้สักครั้งมานานแล้วล่ะค่ะ *หัวเราะ*
ที่จริงตั้งใจจะเขียนภาคอื่นด้วยค่ะ อาจจะเป็นภาคเทะซึโอะตอนโตหรือคนอื่นของเรื่อง แต่ยังคิดเนื้อเรื่องไม่ออกล่ะค่ะ แล้วก็ภาคพิเศษของเรื่องนี้ก็อยากเขียนค่ะ มีตอนพิเศษเยอะมากที่อยากจะเขียน ที่จริงแต่งเรื่องนี้เพราะอยากเีขียนตอนพิเศษเนี่ยแหละค่ะ >w<
ใครมีตอนพิเศษอะไรยังไงที่อยากอ่านก็บอกได้นะคะ!!  
หรืออ่านจนจบแล้วยังมึนๆงงๆไม่เข้าใจก็ติได้เต็มที่เช่นกันค่ะ!

ขอบคุณนักอ่านทุกคนทั้งนักอ่านเงาและคนที่เ้ม้นเป็นประจำมากๆเลยค่ะ ยอมรับว่าอ่านเม้นแล้วทำให้มีกำลังใจแต่งต่อเยอะเลยล่ะค่ะ ถึงจะดองซะส่วนใหญ่ก็เถอะ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ!! >w<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2011 05:26:36 โดย mousou »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Miracle [Chapter 29][28/01/11] ~♪♪
« ตอบ #529 เมื่อ: 23-02-2011 05:10:10 »





pigrabbit

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #530 เมื่อ23-02-2011 06:03:58 »

 :mc3: :mc3: เย้~
 



ตอนจบตอนแรกเสียน้ำตาไปตั่งเยอะแหนะค่ะ :sad4: แต่เซย์จิซังแผนสูงจริงๆ ><
ไม่รู้ทนได้ยังไง แต่ก็ต้องชื่นชมว่าอดทนได้ดีมาก นาโอะดูจะอดทนลำบากสุดๆ  :เฮ้อ:


อยากอ่านตอนพิเศษแบบหวานๆจัง เพราะนาโอะเศร้ามาเกือบทั้งเรื่องแล้ว :o12: (แต่็ก็ชอบ- - )

ว่าแต่  o18จะมีเทะซึโอะตอนโตนี่ คู่เคตะป่าวค่ ><(เชียร์เองเลย ๕๕)
 


:L2: จบแล้วขอบคุณคนเขียนด้วยนะค่ะ ติดตามมานานมากๆ~ แต่ทำเราหลงรักนาโอะเลย♥

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #531 เมื่อ23-02-2011 07:13:40 »

บวกให้ค๊า
เซย์จิน่าร๊ากกกกจริงๆ เป็นครอบครัวสักทีนะ
อยากอ่านตอนพิเศษต่อจ้า ^^

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #532 เมื่อ23-02-2011 07:33:40 »

 :L1:

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #533 เมื่อ23-02-2011 07:56:41 »

อา... ในที่สุด ครอบครัวสุขสันต์ อย่างที่ฝันไว้
น่ารักค่อดดดดดดด ชอบบบบบบบมากกกกกกก

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
สนุกๆๆ
ชอบๆๆ

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #535 เมื่อ23-02-2011 08:50:17 »

ว๊าววววว..ดีใจจังจบลงแบบแฮปปี้

สนุกๆ น่ารักจังชอบมากๆเลย

อยากอ่านตอนพิเศษของเทะซึโอะตอนโตจังเลย ><

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #536 เมื่อ23-02-2011 09:47:11 »

ในที่สุด เฮ้ออออออออออออออออออ
หลังการถอนใจเมื่อได้อ่านหลายครั้งก็ขอถอนใจยาวๆปิดท้ายเสียหน่อยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนตอนพิเศษ

อิอิ ข้าพเจ้าอยากอ่านเรื่องของไดยะซังค่ะ
ถ้าจะไม่มีคู่ก็ได้ แต่อยากรู้ว่าไดยะซังจะเป็นยังไงต่อ แบบว่าเป็นตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องจริงๆ
รองมาก็เทะซึจังนี่แหละ

 :กอด1: ขอบคุณคุณมูซูนะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #537 เมื่อ23-02-2011 10:00:42 »

จบได้ซึ้งดี  อยากได้ตอนพิเศษที่พ่อแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน  ทำกิจกรรมด้วยกันจัง

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #538 เมื่อ23-02-2011 10:06:35 »

จบแบบนี้คนอ่านก็มีความสุขแล้วคะ
ชอบบทบรรยายของ นักเขียนนะคะ
ต้องขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ คะ
ยังไงอย่าลืมเอานิยายดี ๆ มาให้อ่านกันอีกนะคะ
อ้อก่อนนิยายเรื่องใหม่ขอตอนพิเศษแบบหน้ารักทั้งครอบครัวก็ดีนะคะชอบคะ
หรือจะเอาแบบหวาน ๆ ของเซจิ และนาโอะก็ดีนะคะ :haun4:
 :pig4: คะ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: Miracle [Last Chapter][23/02/11] ~♪♪
«ตอบ #539 เมื่อ23-02-2011 10:22:56 »

 :mc4: :mc4: :mc4:
จบแว้วววววววววว  ตามอ่านมายาวนาน
ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วเหมือนจะน้ำเน่าบ้าง แต่ก็ชอบนะเออ :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด