ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG  (อ่าน 314715 ครั้ง)

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
    หลังจากปิดภาคเรียนไปแล้ว เด็ก ๆ ที่ยังหาที่เรียนไม่ได้ ก็เข้าสู่สนามสอบโอเน็ท เอเน็ท หรือแอดมิดชั่นส่วนคนที่ได้ที่เรียนเป็นที่แน่นอนแล้ว ตั้งแต่ในรอบโควตา บ้างก็ไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง หางานพิเศษทำบ้าง เพื่อรอวันเปิดเรียนพร้อมกันในราวปลายเดือนพฤษภาคม
 
   ต้นข้าวดีใจเป็นพิเศษ เพราะเขาจะได้ ไปเที่ยวอเมริกาครั้งแรกกับสายฟ้าซึ่งจะเดินทางไปหามารดาที่ทำร้านอาหารไทยอยู่ที่ แอลเอ เป็นประจำอยู่ทุกปี

   สายฟ้าแอบชวนทิวไผ่ไปด้วย โดยไม่บอกให้เพื่อนรักของเขารู้ตามเคย แต่ว่าทิวไผ่ต้องทำงานพิเศษในช่วงปิดเทอม เลยต้องอดไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าทิวไผ่ไปได้จริง ๆ แล้วเจ้าตัวร้ายเพื่อนรักของเขาจะก่อความวุ่นวายขนาดไหน อาจจะไม่ยอมขึ้นเครื่องจนต้องติดอยู่ที่สนามบินไปตาม ๆ กันเสียมากกว่า

   ตลอด 2 เดือนเต็ม สองหนุ่มน้อยต่างสนุกสนานในต่างแดนกันอย่างเต็มที่ ในวันทำงานปกติ จันทร์ถึงเสาร์ พวกเขาจะช่วยทำงานในร้าน เป็นเด็กเดินออเดอร์รับเมนูและเสิร์ฟอาหารเครื่องดื่มตามที่ลูกค้าสั่ง ส่วนวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดพักผ่อน แม่ของสายฟ้าก็จะพาทั้งสองไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แต่ถึงจะสนุกสนานเพียงใด บางครั้งพวกเขาสอง คนก็รู้สึกเหงา ๆ อย่างบอกไม่ถูกเหมือนขาดอะไรอย่างหนึ่งไปในชีวิต จากที่เคยมีมาก่อน

   ทิวไผ่เองก็เหมือนกัน ระหว่างที่เขาว่างจากการทำเอกสารบนโรงพักที่ทำงานของพ่อก็ต้องมานั่งเหม่อลอย จนบางครั้งพี่ ๆ ตำรวจทั้งชายและหญิงแซวเล่นว่านั่งคิดถึงแฟนอยู่รึเปล่า จนหนุ่มหน้าเข้มต้องเขินอายหน้าแดงอยู่บ่อย ๆ

   ...


   และแล้ววันเปิดเรียนก็มาถึง วันที่พวกเขาจะต้องย่างก้าวเข้าสู่รั้วสถาบันเป็นเฟรชชี่นิสิตใหม่อย่างเต็มตัวจริง ๆ

ก่อนเปิดภาคเรียนประมาณ 1 สัปดาห์ นิสิตใหม่ทุกคนจะต้องเข้าหอพักให้เรียบร้อย ยกเว้นนิสิตใหม่ที่มีบ้านอยู่รอบมหาวิทยาลัยภายในรัศมี 7 กม. จึงไม่ต้องพักหอใน แต่บ้านของต้นข้าว สายฟ้าและทิวไผ่ ต่างอยู่ในเมืองซึ่งห่างจากในมหาวิทยาลัยเกือบ 20 กม. จึงต้องเข้าหอพักตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย พวกเขาขนของไปรอกันที่หน้าหอพักกันแต่ช่วงเช้า ในวันที่ทางมหาวิทยาลัยประกาศให้นิสิตใหม่ทุกคนเข้าหอ เพื่อรับกุญแจหมายเลขห้องของตน ซึ่งแต่ละตึกจะมี 4 ชั้น แบ่งเป็นชั้นละ 2 ฝั่ง ๆ ละ 11 ห้อง ตั้งอยู่ด้านหลังของมหาวิทยาลัย

“ถ้าเราได้อยู่ห้องเดียวกันก็ดีสินะ เฮ้อ...จะเจอใคร ก็ไม่รู้” ต้นข้าวพร่ำบ่นกับสายฟ้าอย่างวุ่นวายใจ

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ แต่ไม่รู้สินะ ว่าทาง ม. เค้ารันห้องกันยังไง” สายฟ้าตอบกลับต้นข้าวระหว่างเข้าคิวรอรับกุญแจห้องและบัตรประจำตัวหอพักอยู่ ซึ่งใจหนึ่งลึก ๆ แล้ว เขาก็อยากอยู่ห้องเดียวกับทิวไผ่ด้วยเหมือนกัน

“ฟ้า ๆ นายได้ห้องไหน” ต้นข้าววิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างตื่นเต้น

“11-411 น่ะ อาคาร 11 ชั้น 4 ห้อง 11” สายฟ้าตอบพร้อมกับยื่นกุญแจที่มีป้ายเลขห้องกำกับอยู่ให้ต้นข้าวดู

“ฮ้า...จริงดิ โหยดีใจจังเลยว่ะ” ต้นข้าวตื่นเต้นเมื่อทราบคำตอบ แล้วโผเข้ากอดสายฟ้าอย่างดีใจสุด ๆ จนหนุ่มตัวเล็ก ถึงกับทำหน้า งง ๆ

“นี่ เราได้อยู่ห้องเดียวกันจริง ๆ ด้วยรู้ไหม” ต้นข้าวเฉลยในสิ่งที่ทำให้สายฟ้าสงสัยและมึนงงอยู่เมื่อซักครู่ ก่อนจะมีสีหน้าเบิกบานอย่าดีใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะกลับเป็นเรียบเฉย และมองหาใครคนหนึ่งอยู่ด้วยความเป็นห่วง” แต่ก็ถูกต้นข้าวลากแขน ดึงขึ้นห้องไปก่อน

“ปะ เร็วฟ้า เราขึ้นห้องกันเถอะ จะได้รีบจ้องเตียงจองตู้กัน เพราะยังไม่รู้เลยว่า อีก 2 คนที่จะมาอยู่กับเราเป็นใครขึ้นห้องไปรึยังก็ไม่รู้
2 หนุ่มน้อย ลากกระเป๋าใบใหญ่ของตนขึ้นตึกไปอย่างถูลู่ถูกัง โดยเฉพาะกระเป๋าของต้นข้าวแล้วดูมันหนักมากเป็นพิเศษ

“โอย ไม่ไหวแล้ว ทำไมต้องได้อยู่ชั้นบนสุดงี้วะ โอ๊ย...เหนื่อย” ต้นข้าวสบถบ่นด้วยความหนักระหว่างปีนขึ้นบันไดไปได้แค่ชั้นที่ 3 เท่านั้น ทั้งที่มีสายฟ้าช่วยพยุงสายกระเป๋าอีกข้างหนึ่งไว้

“ก็นายขนอะไรมามากมายล่ะเนี่ย ยังกะจะย้ายบ้านถาวรงั้นแหละ ทำไมไม่รอให้พ่อขนมาส่งอีกทีตอนเอาคอมฯ มาล่ะ” สายฟ้าพูดประชดไปด้วยความหมั่นไส้

“แหะ ๆ ก็มันของจำเป็นทั้งนั้นนี่นา” ต้นข้าวตอบกลับมาอย่างหน้าแหย ๆ

“อ้าว ไผ่ อยู่ตึกนี้ด้วยหรือครับ” สายฟ้ากล่าวทักทายอย่างดีใจลึก ๆ เมื่อเห็นทิวไผ่ถือกระเป๋าเดินตามขึ้นมา
“ครับ อยู่ชั้นสี่น่ะ” ทิวไผ่ตอบ

“ชั้นเดียวกันด้วย ดีจัง” สายฟ้าตอบ แต่กับต้นข้าว มันดูเหมือนจะเป็นข่าวร้ายเสียมากกว่า

“เน่ะ มาหยุดยืนขวางทางชาวบ้านเค้าอยู่ได้รีบเดินไปสิ” เมื่อทักทายสายฟ้าเสร็จหนุ่มหน้าเข้มก็หันไปเล่นงานต้นข้าวต่อทันที

“ก็คนมันเหนื่อยนี่หว่า นายจะเดินไปก่อนก็ขึ้นไปสิ ใครห้ามไว้ล่ะ” ต้นข้าวตอบออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะแขวะกลับไปบ้าง

“แค่นี้น่ะนะ จะเป็นจะตาย แล้วหอบอะไรมาเยอะแยะกระเป๋าใบเท่าบ้านงี้ มานี่ถือให้ นายไปช่วยฟ้าถือใบนู้นไป” ทิวไผ่แขวะกลับ แต่ก็มีน้ำใจเสนอความช่วยเหลืออย่างสุภาพบุรุษจนสายฟ้าแอบเป็นปลื้ม

“ไม่ต้องมีปัญญาถือเองได้” อวดเก่งไปซะงั้น

“ก็ตามใจ ถ้าคิดว่าไหวก็เชิญ ไปล่ะ” ทิวไผ่หันหน้ากลับก้าวเดินไปอย่างไม่ยีหระ ในความอวดดีของหนุ่มหน้าใส

“โหย ใจดำโคตร คนไรวะ” ต้นข้าวตัดพ้อนิด ๆ

“ก็เล่นตัวอยู่ได้ส่งมาสิ จะถือให้” ต้นข้าวส่งกระเป๋าให้ทิวไผ่ถือให้ แล้วมาช่วยสายฟ้าถือกระเป๋าของสายฟ้าอีกใบแทน

“โห มิน่า หนักโคตร ๆ ขนมาหมดบ้านมั้งเนี่ย” ทิวไผ่บ่นเพราะสภาพกระเป๋าที่หนักอึ้ง ก่อนจะพยายามทั้งแบกทั้งลากขึ้นไปถึงชั้น 4 อย่างทุลักทุเล

“บ่นทำไม อยากช่วยเองไม่ใช่หรอ ถือไปสิ” ต้นข้าวกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างสะใจ พร้อมแอบขำนิด ๆ จนสายฟ้าแอบค้อน

“ไผ่เค้าอุตส่าห์มีน้ำใจ ไปว่าเค้า”

“ช่วยไม่ได้ อยากยุ่งเอง” 2 หนุ่มกระซิบกระซาบกันเบา ๆ ขณะเดินตามหลังทิวไผ่ขึ้นไป

“นายอยู่ห้องไหน” ทิวไผ่ถามหนุ่มหน้าใสเจ้าของกระเป๋าใบใหญ่ที่กำลังเดินตามขึ้นมา

“สิบแอ็ด” ต้นข้าวตอบมาขณะที่ทิวไผ่กำลังอึ้งนิด ๆ ก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปากเผยลักยิ้มให้เห็นอย่างมีเลศนัย แล้วลากกระเป๋าที่มีฐานล้อไปหยุดอยู่ตรงหน้าห้องหมายเลข 11 ตรงมุมสุดของชั้น 4

“ขอบใจ หมดธุระของนายแล้วนิ กลับไปห้องของนายสิ รึรอทริปค่าเดินกระเป๋า จะเอาเท่าไหร่” ต้นข้าวขอบคุณอย่างห้วน ๆ แล้วไล่คนตัวใหญ่หน้าคมเข้มที่ยืนหอบ นิด ๆ เหงื่อไหลโชกอยู่ ก่อนที่ต้นข้าวจะหันหลังไขกุญแจเปิดประตูเดินเข้าไป เขามองสำรวจภายในห้องที่กว้างขนาด 6x 7.5เมตร มีเตียงเดี่ยว 4 เตียง ตั้งอยู่ฝั่งละ 2 เตียง และตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเขียนหนังสือครบชุด อยู่หัวเตียงฝั่งละ 2 ชุด ถัดออกไปนอกระเบียง เป็นห้องน้ำ อยู่ด้านข้าง ครึ่งหนึ่งเป็นระเบียงห้อง เหนือประตูสู่ระเบียงมีเครื่องปรับอากาศ แขวนอยู่บนเพดานห้อง 1 เครื่อง

ถึงมันจะไม่กว้างขวางเท่าห้องส่วนตัวที่บ้านซึ่งเขาเคยอยู่ เพราะต้องอยู่กันถึง 4 คน แต่มันก็น่าอยู่ทีเดียว เพราะเป็นหอพักที่พึ่งสร้างใหม่เพื่อรองรับนิสิตในปีการศึกษานี้พอดี
ต้นข้าวก้าวเดินออกไปยืนรับลมที่ระเบียง มองออกไปรอบ ๆ เห็นท้องทุ่งสีเขียวขจี เต็มไปด้วยนาข้าว เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอดอย่างสดชื่น มันชั่งแตกต่างจากในเมืองที่วัน ๆ สูดดมแต่ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์มากมายที่วิ่งกันอย่างคลาคล่ำ

“ต้นนี่เสียมารยาทอีกแล้ว ฟ้าขอบโทษแทนต้นมันด้วยละกัน ครับไผ่ ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์มีน้ำใจช่วยพวกเรา” สายฟ้าต้องเข้ากู้หน้าตามหน้าที่เพื่อนที่ดีอีกตามเคย
“ฟ้าอยู่ห้องเดียวกับต้นนะ แล้วไผ่อยู่ห้องไหนครับ เนี่ย” ทิวไผ่อมยิ้มเผยให้เห็นลักยิ้มคู่สวยที่มุมปากก่อนจะ ส่งป้ายหมายเลขกุญแจให้สายฟ้าดู

“สิบแอ็ด - สี่ หนึ่ง หนึ่ง” สายฟ้าอ่านออกเสียงแล้วทวนคำอย่างช้า ๆ เพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่ตนเห็น ก่อนจะเงยหน้าส่งยิ้มหวานฉ่ำให้หนุ่มหน้าเข้มอย่างแฝงไว้ด้วยความดีใจสุดขีด ใจจริงนั้นอยากกระโจนเข้าสวมกอดหนุ่มหน้าเข้มที่ยืนอยู่ตรงหน้าไว้เลยด้วยซ้ำ

“นายเข้ามาในห้องเราทำไม ใครอนุญาต กลับห้องนายไปสิ” ต้นข้าวส่งเสียงมาอย่างไม่เป็นมิตรเช่นเคย เมื่อหันหลังกลับมาเห็นหนุ่มหน้าเข้มถือกระเป๋าเดินตามสายฟ้าเข้ามาในห้อง

“คุณชายครับ นี่แหละห้องผม คุณจะไล่ผมไปไหนไม่ทราบครับ” ทิวไผ่ทำหน้าเหรอหราไม่รู้ไม่ชี้ตอบกลับมาอย่างกวน ๆ

“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า...” ต้นข้าวอุทาน

“ใช่ต้น ไผ่เค้าอยู่ห้องเดียวกับเรา” สายฟ้าตอบเน้นในสิ่งที่ต้นข้าวเข้าใจ

“งั้นเราจะขอย้ายห้อง” พูดจบหนุ่มหน้าใสจอมวุ่นวายและเอาแต่ใจก็หุนหันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

“ต้น เดี๋ยว...” สายฟ้าต้องวิ่งตามออกไป ปล่อยให้ทิวไผ่ยืนมึนงงอยู่อย่างเดียวดาย

สายฟ้าต้องพูดเกลี้ยกล่อมอยู่นาน กว่าจะสามารถสยบอารมณ์คลั่งของเพื่อนรักลงได้อย่างยากเย็น โดยให้เหตุผลว่า มหาวิทยาลัยรันห้องตามรายชื่อผู้จองหอพักและพวกเขา 3 คน ลงชื่อจองพร้อมกันจึงได้อยู่ห้องเดียวกันและทางมหาวิทยาลัยก็คงไม่เปลี่ยนห้องพักให้นิสิตใหม่ง่าย ๆ เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้นได้ เดี๋ยวยังไงเทอมหน้าค่อยย้ายห้องเลือกเมทกันใหม่อีกที
 สายฟ้าเดินจูงมือต้นข้าว ซึ่งหน้าบูดบึ้งกลับเข้ามาในห้องอย่างขัดใจ

“นายไปอยู่เตียงฝั่งโน้นเลย เราจะนอนกับฟ้าฝั่งนี้” เมื่อกลับเข้าห้องมาได้ก็จัดแจงเจ้ากี้เจ้าการทันทีโดยเลือกเตียงมุมประตูฝั่งเดียวกันสายฟ้า ทิวไผ่หิ้วกระเป๋าไปยังเตียงฝั่งตรงข้ามมุมในติดทางเดินสู่ห้องน้ำและระเบียง เขากำลังจะจัดข้าวของเข้าที่ แต่

 “เฮ่ย... ไม่ ๆ ๆ นายมาอยู่เตียงเรานี่ เดี๋ยวเราจะไปอยู่เตียงนั้นเอง” ‘...จะให้นายนี่อยู่ใกล้ฟ้าไม่ได้ ไม่ดี ๆ...’ ทิวไผ่หิ้วกระเป๋ากลับมาเพราะไม่อยากมากเรื่อง

‘อ๊า...แบบนี้เวลานายนั่นเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนก็ต้องเดินผ่านเตียงเราดิ’
“ไม่เอา... เปลี่ยนใจแล้ว นายไปอยู่เตียงนั้นน่ะแหละ”

“อารายของนายเนี่ย” ทิวไผ่อุทานออกมาอย่างเซ็ง ๆ แต่ก็ยอมทำตาม ลากกระเป๋ากลับไปยังเตียงเดิม ต้นข้าวยิ้มพยักพะเยิบอย่างพออกพอใจ

‘แต่ว่า...ถ้าเราเข้าห้องน้ำล่ะ ก็ต้องเดินผ่านเตียงนายนั่น’
“........”

“หยุดเลย ไม่ต้องเรื่องมากแล้ว อยู่เตียงนั้นแหละนาย ไม่ต้องเจ้ากี้เจ้าการเปลี่ยนเตียงให้คนอื่นอีก เวียนหัวไปหมดแล้ว” สายฟ้าพูดสวนขึ้นมาก่อนที่ต้นข้าวจะได้ขยับปากพูด หลังจากยืนมองความงี่เง่าของต้นข้าวอยู่นานแล้ว
ทิวไผ่หันไปยิ้มเชิงขอบคุณกับหนุ่มร่างเล็ก ก่อนหันมายิ้มเยาะให้กับหนุ่มหน้าใสจอมเจ้ากี้เจ้าการ และลงมือจัดเก็บข้าวของเข้าตู้เสื้อผ้าอย่างไม่สนใจคนที่กำลังง้องแง้งอยู่
ต้นข้าวนั่งอยู่บนเตียง ฝั่งตรงข้าม สายตาจับจ้องไปที่ทิวไผ่ ซึ่งกำลังง่วนเก็บของเข้าที่อยู่ที่เตียงเยื้องไปอีกฝั่งหนึ่งของห้อง ขณะที่สายฟ้าก็เริ่มลงมือจัดเก็บข้าวของของตนเข้าที่บ้างแล้ว

“มาอยู่ร่วมห้องกับนายนี่ ซวยจริง ๆ เลย” ต้นข้าวสบถอย่างอารมณ์เสียเบา ๆ แต่มันไปเข้าหูหนุ่มหน้าเข้มเข้าจนได้

“พูดยังกับเราอยากอยู่ร่วมห้องกับนายยังงั้นแหละ” พูดไปงั้น แต่ใจจริงลึก ๆ แล้ว เขาก็แอบดีใจตั้งแต่แรกที่รู้ว่าอยู่ห้องเดียวกับจอมวุ่นวายนี่ตั้งแต่ขึ้นมาจากบันไดแล้ว และสะใจที่ได้แหย่หนุ่มหน้าใสเล่น มันทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก

“เรอะ.....ฟ้า นายระวังนายนั่นด้วยนะ ยิ่งนอนตรงข้ามกับเตียงนายอยู่” พูดพลางจิกหางตาไปยังคนที่กำลังจัดข้าวของเข้าเก็บในตู้และล็อกเกอร์อยู่ฝั่งตรงข้ามของห้อง

“ระวังอะไรหรอ” สายฟ้า งง ๆ ในคำพูดของเพื่อนรัก

“นั่นสิ กลัวอะไร รึว่ากลัว....” ทิวไผ่พูดเสริมขึ้นพร้อมกับส่งสายตาแวววาวมายังหนุ่มหน้าใส แต่ยังไม่ทันที่จะพูดจบต้นข้าวก็สวนขึ้นมาทันควัน อย่างรู้ทันว่า ทิวไผ่จะพูดอะไรต่อไป

“หุบปากไปเลยนะ ก็ลองดูสิ จะเจอดีมิใช่น้อย....เราไม่กลัวอะไรทั้งนั้นล่ะ ก็แค่บอกให้ฟ้าระวังคนนอนเสียงดังหนวกหูแค่นั้นล่ะ” ต้นข้าวพูดกลบเกลื่อนไปมา จนสายฟ้า งง แต่เป็นอันว่า เป็นที่เข้าใจของหนุ่มหน้าเข้ม ก่อนฝ่ายหลังจะยักคิ้วใส่อย่างเป็นต่อ

“อ่ะเหรอ เราไม่ใช่คนนอนกรนเสียงดังซักหน่อย แต่ระวังคนพูดมากจะโดนจิ้งจกตกลงมาใส่ตอนนอนหลับอยู่ล่ะ หึหึ” ทิวไผ่แหย่ต่อแล้วแสยะยิ้มที่มุมปาก

“ไอ้บ้า จิ้งจกที่ไหนไม่เห็นมีซักตัว” ต้นข้าวหน้าเจื่อนนิด ๆ ก่อนมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างค้นหา สองหนุ่มตอบโต้กันไปมาโดยไม่มีทีท่าว่าใครจะยอมกันจนสายฟ้าต้องเข้ามาสอดแทรก

“ต้น มาจัดของได้แล้ว สายแล้วหิวข้าวจะได้ลงไปหาอะไรกินกัน” สายฟ้าเรียกต้นข้าวลุกจากเตียงมาจัดของเข้าตู้และล็อกเกอร์ของตัวเอง

“โห อะไรเนี่ย” ทิวไผ่ร้องขึ้นขณะที่สายฟ้าก็ยังอึ้ง เมื่อต้นข้าวจัดแจงรื้อกระเป๋าของตนออกมาและพบกับกองเสื้อผ้ามากมาย น้ำหอมเครื่องสำอาง โฟมล้างหน้า โลชั่นต่าง ๆ มากมาย แม้แต่หมอนข้างใบโปรดคู่ใจของเขาก็โดนจับยัดมาในกระเป๋าด้วย ต้นข้าวดึงมันออกมาปัด ๆ สะบัดให้หายยับก่อนจะวางไว้ที่ข้างเตียงของเขา
ทิวไผ่และสายฟ้า จัดของเสร็จเรียบร้อยไปก่อนแล้ว  สายฟ้าจึงเข้ามาช่วยเพื่อนรักจัดของที่กองพะเนินอยู่ตรงหน้า หากให้ต้นข้าวจัดคนเดียวคงได้กินข้าวกลางวันตอนบ่ายแก่ ๆ กันพอดี

“นี่ขนอะไรมานักหนาก็ไม่รู้ ทำไมไม่เก็บไว้ที่บ้านบ้าง เหมือนกับจะไม่กลับบ้านเลยยังงั้นแหละ หรือ ยังไงค่อยให้คนที่บ้านขนมาให้วันหลังก็ได้นี่นา” สายฟ้าอดที่จะต้องบ่นไม่ได้

“อย่าบ่นน่า ก็เอามาแล้วนี่ ช่วย ๆ เก็บเหอะ” ต้นข้าวข่มเพื่อนรักที่กำลังนั่งบ่นอยู่ข้าง ๆ

“ธรรมดาล่ะครับฟ้า ลูกคุณหนูนี่นา ยังไงก็ต้องอู้ฟู่ไว้ก่อนล่ะ” ทิวไผ่ส่งเสียงสอดแทรกแขวะมาจนได้ และโดนหนุ่มหน้าใส ขว้างค้อนกลับเข้าให้ฉาดใหญ่

ก่อนที่จะได้ลงไปหาอะไรกินกันที่โรงอาหารหน้าหอหัก ก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่า โดยต้นข้าวงอแงอย่างขัดใจตามเคย ที่มีทิวไผ่ห้อยสอยตามไปด้วยอีกคน เขาอดที่จะนึกขำไม่ได้เมื่อเห็นหนุ่มหน้าใสทำตัวง้องแง้งเอาแต่ใจ กระฟัดกระเฟียดคล้ายกับเด็กถูกผู้ใหญ่ขัดใจอยู่ตลอดเวลา มองไปแล้วมันก็น่ารักไปอีกแบบ หนุ่มหล่อหน้าคมเข้มแอบยิ้มอย่างอารมณ์ดี

   หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ สายฟ้าก็ชวนต้นข้าวกับทิวไผ่ ไปสำรวจอาคารสถานที่ โดยนั่งรถไฟฟ้าที่แล่นวนอยู่รอบ มหาวิทยาลัย ไปตามคณะต่าง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสถานที่ที่กำลังจะกลายทั้งโรงเรียนและบ้านหลังใหญ่ของพวกเขา  แต่ทิวไผ่ขอตัวขึ้นไปจัดของและทำธุระบนห้องต่อ 2 หนุ่มเพื่อนรักเลยไปกัน 2 คน เป็นที่พอใจของต้นข้าวยิ่งนักที่ไม่มีคนไปคอยขวางหูขวางตาเขาตลอดเวลา

   ...

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ เริ่มเข้ากับชื่อเรื่องแล้ว เป็นรูมเมทกันนี่เอง  o8

ออฟไลน์ Daow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กรี๊ดดด นอนห้องเดียวกันซะด้วย... o13
แบบนี้มีย่องเข้าหาแน่แน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o8

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
น่าจะเป็นห้องนอนสองเตียงนะ แล้วต้นกะไผ่อยู่ห้องเดียวกัน แค่คิดก็เฉียวแว้ว o3

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
อยู่ห้องเดียวกันซะด้วย  :o8: :o8: :o8:

แค่คิดก็หนุกแล้ว
 o3 o3 o3 o3 o3

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

คิดถึงคนอ่าน คนแต่ง คนโพสต์นะเคอะ  :impress:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่สองคนนี้จะคุยกันดีๆน๊อ :onion_asleep:

ขอบคุณมากครับ :yeb:

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
   คืนนี้เป็นคืนแรก ที่นิสิตใหม่จะได้อยู่ร่วมกันในหอพักของการเริ่มต้นเข้าสู่การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
หลายคนสนุกสนานกับการได้พบปะเพื่อนใหม่ แต่หลายคนก็ยังไม่ชินกับวิถีชีวิตที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยอยู่บ้านกับครอบครัว กลับต้องแยกออกมาอยู่หอพักกับเพื่อนที่พึ่งรู้จักกัน มีเพียงวันเวลาเท่านั้น ที่จะช่วยให้ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางยิ่งขึ้น
   การอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยมีกฎอยู่ว่า จะต้องเข้าหอ ก่อน 5 ทุ่ม ไม่เช่นนั้น จะต้องเซ็นชื่อเข้า เพราะหอปิดแล้ว และจะมีการบันทึกประวัติไว้ด้วย

   ต้นข้าวอาบน้ำเสร็จ ทาโลชั่นบำรุงผิว แต่งตัวปะแป้งใส่ชุดนอนลายหมีพูห์ตัวเก่ง นอนอ่านหนังสือการ์ตูน อย่างสบายอารมณ์อยู่บนที่นอนของตน ส่วนสายฟ้าใส่เสื้อยืดกับกางเกงผ้าขาสามส่วน สบาย ๆ นั่งเขียนไดอารี่อยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือข้างเตียงของเขา

ทิวไผ่เปิดประตูห้องเข้ามาด้วยร่างกายเปลือกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อ หลังกลับมาจากไปเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อน ๆ

“อี๋ย์ เหม็นว่ะ เปิดแอร์แล้วนะ รีบไปอาบน้ำเลยนาย ชิ่ว ๆ” ต้นข้าวทำท่าปิดจมูกสูดลมหายใจฟุตฟิต ๆพลางอ้าปากพูดอู้อี้ ๆ ไล่หนุ่มหน้าเข้ม

“เวอร์ไปละ เดี๋ยวเอาเต่าให้ดมเลยนิ” ทิวไผ่พูดพร้อมกับถอดเสื้อกล้ามที่ชุ่มเหงื่อออก เผยให้เห็นแผงอกแกร่ง และมัดกล้ามสวยสมวัยที่เปียกเหงื่อสะท้อนแสงหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นประกาย

“ไอ้บ้า โรคจิต” ต้นข้าวสบถด่าเสียงต่ำเบา ๆ ก่อนจะรีบหันไปสนใจการ์ตูนที่ตนกำลังอ่านอยู่ทันทีที่เห็นทิวไผ่ถอดเสื้อและกางเกงบอลบอลโยนลงตะกร้า เหลือเพียงกางเกงในสีขาวห่อหุ้มส่วนสงวนเพียงตัวเดียวก่อนที่จะดึงผ้าเช็ดตัวมานุ่งปิดมันไว้อีกชั้นหนึ่ง

“ฟ้าทำอะไรอยู่ครับ” ทิวไผ่ทักทายเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่นั่งเขียนหนังสืออยู่ที่โต๊ะมุมห้อง ขณะที่เขาเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำ

“เขียนไดฯ อยู่ครับไผ่”

“ขยันจังเลยครับ ผมไม่ได้เขียนไดอารี่เลยอ่ะ ไม่ค่อยจะว่างเขียนเท่าไหร่เลย”

“ไม่ว่างหรือขี้เกียจกันแน่ะล่ะนาย” เสียงสอดแทรกดังมาจากเตียงมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเจ้าของเสียงยังคงก้มหน้าก้มตาสนใจหนังสือการ์ตูนของตนต่อไป

“แล้วนายล่ะ ขยันจ๊าง” ทิวไผ่สวนกลับอย่างยิ้มเยาะ

“เราก็เขียนนะเฟ้ย แต่ไม่ได้มานั่งเขียนทุกวันแบบไอ้ฟ้ามันนี่นา ไม่ใช่ไม่เขียนเลย อย่างนาย” ‘ชนะแล้วตรู เหอ ๆ’ ต้นข้าวเงยหน้าผละจากหนังสือการ์ตูนตอบมาอย่างผู้มีชัยบ้าง ซึ่งมันจะมีน้อยครั้งนักก็ตาม แต่เขาก็ชนะล่ะ ครั้งนี้

“จ้า พอคนขยัน ก็เรามันคนขี้เกียจนี่” ทิวไผ่ตอบอย่างประชดนิด ๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะมีเสียงน้ำไหลซู่จากฝักบัวตามมา

‘ประชดเป็นด้วยเว้ย’ ต้นข้าวพึมพำเบา ๆ

“เอ้อฟ้า ตกลงอีกคนที่จะมาอยู่ห้องเดียวกับเราเป็นใคร” ต้นข้าวถามเพื่อนรักอย่างสงสัย

“อ๋อ...เราถามพี่เจ้าหน้าที่ ที่กองกิจฯ มา เค้าว่านายคนนั่นสละสิทธิ์ไปแล้ว ห้องเราเลยเหลือแค่ 3 คนน่ะ” สายฟ้าตอบเพื่อคลายข้อสงสัยของเพื่อนรัก

 “เย้ ดีใจจัง คนน้อยลงไปอีกคน ก็ยังดีไม่วุ่นวายแต่ถ้าเหลือเรา 2 คน ก็ดีสิเนอะ” พูดพลางมองตาเขียวไปทางห้องน้ำที่หนุ่มหน้าเข้มกำลังอาบน้ำอยู่

“ลับหลังแป๊บ นินทาไร” ทิวไผ่อาบน้ำเสร็จเปิดห้องน้ำออกมาเจอกับสายตาและปากขมุบขมิบของหนุ่มหน้าใสเข้าอย่างจัง
 
“ป๊าว” ต้นข้าวทำทีเป็นสนใจหนังสือการ์ตูนของตนอย่างจดจ่อ

“อย่าให้รู้นะว่าแอบว่าอะไรเรา เดี๋ยวเจอดี” ทิวไผ่ขู่สำทับ ด้วยน้ำเสียงและสายตาแอบแฝงเลศนัยไว้ก่อนจะหันไปจัดแจงเช็ดตัวที่หน้าตู้เสื้อผ้าของเขา
สายฟ้ามองหน้า 2 หนุ่มสลับกันไปมา ก่อนจะกลับไปสนใจกับการเขียนบันทึกประจำวันของเขาในไดอารี่ต่อ

ทิวไผ่ใส่กางเกงบอลเพียงตัวเดียว ก่อนจะล้มตัวลงนอนฟังซาวนด์เบาท์ อ่านหนังสือพิมพ์กีฬาอยู่บนเตียงอีกฟากหนึ่งของห้อง อย่างสบายอารมณ์ โดยมีสายตาคนบนเตียงอีกด้านหนึ่งคอยมองมาด้วยหางตาเป็นระยะ จนเขารู้สึกได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำให้มากความ

เมื่อสายฟ้าเขียนไดอารี่เสร็จ ก็มานอนคุยกันกับต้นข้าวอยู่ที่เตียงของเขา โดยต้นข้าวนอนตะแคงโผล่หน้าหลบพ้นจากมุมตู้เสื้อผ้าที่คั่นระหว่างกลางของ 2 เตียงออกมา 2 หนุ่ม คุยกันถึงคณะ และกิจกรรมที่จะต้องทำ ก่อนเปิดภาคเรียน หนุ่มตัวเล็กพยายามที่จะชวนทิวไผ่คุยด้วย แต่เห็นหนุ่มหน้าเข้มกำลังสนใจอ่านหนังสือพิมพ์กีฬาอยู่เลยไม่อยากรบกวน

“ฟ้า ง่วงแล้วล่ะ เพลียจังเหนื่อยมาทั้งวัน นอนกันเถอะ หรี่แอร์หน่อยได้มั้ยอ่ะ มันหนาวไปนิด” ต้นข้าวพูดขึ้นเมื่อเหลือบดูนาฬิกาแขวนที่ผนังห้องบอกเวลา 5 ทุ่มเศษ ๆ เข้าไปแล้ว หลังจากคุยกันมาเสียยืดยาวราวกับคนพึ่งเจอกันครั้งแรก

“ได้ ๆ เดี๋ยวเราหรี่ลงซัก 27 องศา พอมั้ย” สายฟ้าลุกขึ้นไปปรับอุณหภูมิแอร์คอนดิชั่นที่ข้างคัตเอ๊าท์มุมห้อง

“โอเค กำลังสบาย นอนกันเถอะ” ต้นข้าวดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวและล้มตัวลงนอน ผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสบายตัว

“อืม อย่านอนดิ้นล่ะ เดี๋ยวตกเตียงเอา”

“เออน่า ไม่ตกหรอก” ต้นข้าวตอบกลับ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงด้วยความง่วง

‘อ้าว ไผ่หลับไปแต่เมื่อไหร่เนี่ย’ สายฟ้าพึมพำเบา ๆ เมื่อเห็นทิวไผ่ นอนหลับปุ๋ยทั้งที่ยังมีหูฟังครอบอยู่ที่ข้างหู และหนังสือพิมพ์วางพาดอยู่ที่หน้าออก สายฟ้าถอดหูฟังอย่างเบามือ และเก็บหนังสือพิมพ์ไปวางไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือของทิวไผ่ด้านหัวเตียง หน้าอกเปลือยเปล่าของหนุ่มหน้าเข้มสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจอย่างสม่ำเสมอ สายฟ้าจ้องมองใบหน้าคมเข้มมีเสน่ห์ชวนมอง อย่างหลงใหล ดวงตาที่หลับพริ้มเข้าสู่ห้วงนิทรา และริมฝีปากที่เผยอน้อย ๆ น่าทะนุถนอม และแอบยิ้มอย่างรักใคร่

“เสื้อก็ไม่ใส่ เดี๋ยวได้เป็นหวัดกันพอดี” สายฟ้าพูดพลางดึงผ้าห่มที่วางพาดอยู่ข้างเตียงขึ้นมาคลุมอกเปลือยของหนุ่มหน้าเข้มอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินไปปิดไฟ แล้วกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงของตน
สายฟ้านอนตะแคงมองใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาที่กำลังหลับสบายอยู่ในความมืดสลัวบนเตียงฝั่งตรงข้ามของเขาอย่างพึงพอใจ เสียงลมหายใจของต้นข้าวเริ่มดังมาอย่างแผ่วเบาสม่ำเสมอ สายฟ้าจึงปิดเปลือกตาลง และหลับผล็อยไปอย่างปริ่มเปรม

…………………………………………………………………………………………..

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
รู้สึกว่าสายฟ้าเริ่มชอบไผ่มากขึ้นเรื่อยแล้วนะเนี่ย o16 o16
แล้วถ้ารู้ว่าสองคนนี้(จะ)รักกัน(ในอนาคต)จะทำไงอ่ะ
น่าสงสารจริงๆ  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
สงสารสายฟ้าง่า  :sad4:  :sad4:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ฟ้าจ้าฟ้า อยากรู้ว่าขอบฟ้าเริ่มตรงที่ใด

ฟ้าจ้าฟ้า อยากรู้ว่าขอบฟ้าสิ้นสุดที่ใด

 :o11:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
สายฟ้าน่ารักจังเลยโนะ แสนดี้แสนดี

แต่เราไม่ชอบอ่า เราชอบแบบใช้ความรุนแรงอ่ะ :haun5:

nunyy

  • บุคคลทั่วไป
 :o ง่า งั้นก้เราอ้ะจิ  :impress: ชอบพูดจาเถื่อนๆอ่ะ

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
5555  ดีๆ ไม่ชอบค๊าบบ ขอเถื่อนๆ 
แต่เราชอบแบบเถื่อนด้วย ดีด้วยอะ   มีปะ  o3

รออ่านต่อจ้ากานต์  o15

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ฟ้าก็น่าสงสาร  :o11:

แต่ก็อยากให้ไผ่กะต้นรักกันสักที  o15

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อยู่ห้องเดียวกันแบบนี้ มีหวัง อิอิ  :o9:

แต่สงสารสายฟ้าจังเลยอ่ะคับ

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
2 วันต่อมา หลังจากมีการปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ของคณะนิติศาสตร์ที่ห้องสโลป ตึกคณะ ส่วนคณะแพทย์ ของสายฟ้า จะมีการปฐมนิเทศในวันถัดไป
หลังจากคณบดีและคณาจารย์ในคณะกล่าวต้อนรับนิสิตใหม่ของคณะและแนะนำวิธีการศึกษาเล่าเรียน ตลอดจนการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว รุ่นพี่ก็ได้นัดแนะให้น้อง ๆ ปี 1 เตรียมตัวมาเข้าค่ายบีกินนิ่งแคมป์ในอีก 2 วันถัดไป เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ที่ทางสภานิสิตจัดขึ้นทุกปี เพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่ เป็นการสานสัมพันธ์และปรับความคุ้นเคย ให้น้อง ๆ ทำความรู้จักกันระหว่างเพื่อนร่วมสถาบันในแต่ละคณะ ตลอดจนถึงการแนะนำการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
โดยจะจัดนิสิตใหม่คละกันทุกคณะ แบ่งออกเป็นบ้านต่าง ๆ ตั้งแต่บ้านหนึ่งถึงบ้านสิบ กระจายไปตามคณะต่าง ๆ มีพี่เลี้ยงชั้นปีที่ 2 และ 3 ที่เรียกว่าพี่บ้านคละไปเหมือนกับน้อง ๆ

เมื่อถึงวันเข้าค่าย นิสิตปี 1 ทุกคนต่างกุลีกุจอ แต่งตัวด้วยชุดลำลอง เสื้อเฟรชชี่คอปกสีเทาอ่อน ตัวเสื้อสีแสดอ่อน ๆ ออกจากหอแต่เช้าเพื่อไปรายงานตัวตามคณะที่เป็นที่ตั้งของแต่ละบ้าน

“อ้าวน้อง เอ่อ น้องสายฟ้า ใช่มั๊ยครับ” เสียงทุ้ม ๆ กล่าวทักทายอย่างตื่นเต้นลึก ๆ อยู่ในทีเมื่อเห็นหนุ่มน้อยหน้าใสเดินเข้าไปลงเชื่อรายงานตัวที่โต๊ะลงทะเบียนเพื่อรับป้ายชื่อ และสมุดบันทึก รวมถึงกำหนดการกิจกรรมต่าง ๆ ของบ้าน เอ ใต้ถุนตึกคณะศึกษาศาสตร์

“ใช่ครับ สวัสดีครับพี่ พี่จำชื่อผมได้ด้วย” สายฟ้าตอบกลับไปด้วยสีหน้าทึ่งนิด ๆ ไม่คิดว่ารุ่นพี่คนนี้ที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวตอนมาตรวจร่างกายจะยังจำชื่อเขาได้ เพราะวันที่มารายงานตัวที่คณะหรือปฐมนิเทศเขาก็ไม่เห็นหรือได้คุยกับรุ่นพี่คนนี้อีกเลย

“น้องจำพี่ได้มั้ยครับ เนี่ย”

“จำได้สิครับ อืม พี่น้ำใช่ไหมครับ แหม รุ่นพี่ในคณะตัวเองจำไม่ได้นี่ โดนไซโคลตายเลย” หนุ่มรุ่นน้องตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ดีใจจังที่จำพี่ได้ แต่พี่ไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิดหรอกนะครับ โดยเฉพาะคนน่ารัก ๆ แล้วล่ะก็...” สายชลชวนคุยด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

“ล่ะก็ ไรหรอ...ล่ะก็พี่รักตายเรยใช่ม๊า” เสียงใส ๆ ของเพื่อนสาวตัวดีที่เคยแซวในวันที่มาตรวจร่างกายดังสอดแทรกขึ้นมากลางวงสนทนา เล่นเอาหนุ่มรุ่นน้องถึงกลับยืนนิ่ง

“โหยไอ้บ้า น้องโว้ย แหมรุ่นพี่ก็ต้องเอ็นดูรุ่นน้องสิว้า” สายชลกลบเกลื่อนตอบโต้เพื่อนสาวกลับไปอย่างอาย ๆ เลือดลมสูบฉีดวิ่งพล่านไปทั่วใบหน้า

“ฮั่นแน่...เจงเร๊อ...เอ็นดูรึดูเอ็น แกนี่เห็นเด็กน่ารัก ๆ หน่อยไม่ได้นะเมิง หัวพญานาคโผล่เชียว” รุ่นพี่สาวยังไม่หยุด ยิ่งทำให้หนุ่มน้อยหน้าแดงก่ำเข้าไปใหญ่ที่ตกเป็นส่วนหนึ่งของเป้าโจมตีไปเสียแล้ว

‘เราโดนรุ่นพี่ผู้ชายจีบเหรอเนี่ย’ สายฟ้าครุ่นคิดอย่างมึนงงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า “พี่ครับเดี๋ยวผมขอตัวไปเข้ากลุ่มเพื่อนนะครับ”

“ครับ มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ”

สายฟ้าโล่งออกอย่างบอกไม่ถูกหลังจากพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาได้ ‘รุ่นพี่หนุ่มคนนี้ดู ๆ ไปก็น่ารักดีนะ เป็นกันเองด้วย สบาย ๆ ไม่ถือเนื้อถือตัว...ฟุ้งซ่านแระ บ้าป่าววะเรา...’

“เห็นมั๊ย แกมาทำให้ไก่ตื่นเลย แถมพูดจาสองแง่สองง่ามไอ้นี่นิ” สายชลตัดพ้อต่อว่าเพื่อนสาวคนสนิทที่กำลังแลบลิ้นปลิ้นตาล้อเลียนเขาอย่างสะใจ

สายชลไม่เคยปิดบังตัวเองในสิ่งที่เขาเป็น แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากมาย มีเพียงเพื่อนในกลุ่มที่เป็นที่รู้กัน และหยอกล้อกันสนุกสนานอยู่เป็นประจำ โดยที่เขาไม่ถือสาอะไร


...

‘อ๊ากกก...อารายวะเนี่ย เจอนายนี่อีกแล้ว โอ๊ย..... จะบ้าตาย.....’ ต้นข้าวตะโกนด้วยเสียงอันดังคับแน่นอยู่ในอก

“เฮ้อ...ซวยเจงเจ๊งงง ไม่รู้ทำบาปทำกรรมอะไรไว้นักหนาว้า” ต้นข้าวพูดเปรยขึ้นมาลอย ๆ แต่จงใจให้มันลอยไปกระทบหูของหนุ่มหน้าคมเข้มเข้าอย่างจัง

“เห็นเค้าว่า เกลียดอะไรมักจะเจออย่างนั้นนะ” ทิวไผ่ตอบกลับมาอย่างลอย ๆ เช่นกัน

“เออ ๆ จะพยายามเลิกเกลียดก็ได้วุ้ย แต่คงยากกว่าบังคับให้เราไปตายซะอีกล่ะ”

“เอ้อ งั้นอย่าเลย เกลียดเค้าต่อไปเหอะ เกลียดมาก ๆ ด้วย จะได้เจอกันทุกวินาทีเลยไง” ทิวไผ่พูดพลางยิ้มกรุ่มกริ่มอย่างพออกพอใจ

“โหย แค่เห็นหน้าไอ้บ้านั่นก่อนนอนทุกวันก็ฝันร้ายทุกคืนแล้ว”

“น่า เดี๋ยวฝันร้ายก็จะกลายเป็นดีเอง หึหึ” ใบหน้าหนุ่มหล่อเข้มยิ้มแย้มแฝงไว้ด้วยเลศนัย ส่วนหนุ่มร่างบางกับมีสีหน้าบึ้งตึงอย่างขุ่นเคืองใครมาเป็นสิบปีสิบชาติ

ดูเหมือนสองหนุ่มกำลังพูดคุยกัน แต่กลับไม่ยอมมองหน้ากันซะงั้น จนคนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ต่างมึนงงไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะพี่บ้านที่รับลงทะเบียนอยู่โต๊ะบ้าน ซี



วันแรกของการเข้าค่ายบิกินนิ่งแคมป์ในช่วงเช้าจะเป็นกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ เพื่อให้นิสิตทั้งใหม่และเก่า รุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จักสนิทสนมกัน จากนั้นช่วงบ่ายรุ่นพี่ประจำบ้านทุกบ้าน จะพาน้อง ๆ เข้าร่วมพีเปิดโครงการค่ายเตรียมความพร้อมสู่รั้วมหาวิทยาลัยจากอธิการบดีและรับการอบรมและฟังคำบรรยายจากวิทยากรรับเชิญผู้มีความรู้และทรงคุณวุฒิจากที่ต่าง ๆ ก่อนจะมีกิจกรรมสนุกสนานเฮฮาร่วมกัน แล้วแยกย้ายกันกับที่ตั้งของบ้านตนเอง เพื่อทำกิจกรรมประจำบ้านต่อไป
ในเวลาทุ่มเศษ ๆ ก่อนปล่อยกลับหอ พี่บ้านจะแนวนำและชี้แจงกิจกรรมและกำหนดการต่าง ๆ ในวันถัดไป
ในปีการศึกษานี้ นิสิตใหม่ที่เข้าค่ายไม่ต้องนอนค้างแรมกันเป็นกลุ่มเป็นบ้านเหมือนปีที่ผ่านมา โดยมีการปล่อยให้น้อง ๆ เฟรชชี่กลับไปนอนที่ห้องพักของตนเองได้

“ต้นกับไผ่เป็นไงบ้างบ้าน ซี สนุกไหม เราเจอรุ่นพี่คณะเราตอนที่เคยมาตรวจร่างกายด้วยล่ะ เค้าเป็นพี่บ้านนั้นด้วย” สายฟ้าถามไถ่เพื่อนร่วมห้อง

“อืม ไอ้สนุกมันก็สนุกนะ และจะสนุกมากกว่านี้ ถ้าไม่มี....” ต้นข้าวพูดพลางตวัดหางตาไปทางหนุ่มหน้าเข้มที่กำลังเตรียมตัวไปอาบน้ำ

“ก็สนุกดีครับฟ้า สาว ๆ สวย ๆ น่ารักเยอะแยะเลย” กลบเกลื่อนรึเปล่าไม่รู้ แต่ทิวไผ่รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ เขาชอบมองสาว ๆ สวย ๆ แต่พักหลังมานี้ ทำไมไม่รู้เขาถึงไม่พร้อมที่จะรับใครเข้ามาในห้องหัวใจ แม้เพียงเพื่อจะพิจารณาก็ตาม รึว่า หัวใจเขามีเจ้าของ ถูกจับจองจนเต็มห้องใจไปเสียแล้ว...? แล้วเค้าคนนั้นคือใครล่ะ?


วันที่ 2 ของค่าย ทุกคนต้องตื่นเช้ากว่าปกติ ตั้งแต่ตี 5 แต่งตัวชุดนิสิตปกติ กางเกงสแล็คสีดำ ผูกไทร์สีเทา ติดติ้งสมเด็จสีเงิน ต่างจากปีที่แล้วที่ใส่ชุดพิธีการกางเกงสแล็คสีเทา สามหนุ่มหันรีหันขวามองตัวเองในกระจกอย่างพินิจพิจารณา ก่อนลงไปพบรุ่นพี่ประจำบ้านของตัวเองที่มารอรับที่หน้าหอพัก เดินทางไปลานสมเด็จ เพื่อประกอบพิธีบวงสรวงสมเด็จ ของนิสิตใหม่ที่ปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทุก ๆ คนในรั้วสถาบันแห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงสอบแล้วเหล้าขาวจะขายดีเป็นพิเศษ
ช่วงสายก็เข้ารับการอบรมและฟังบรรยายร่วมกันที่อาคารอเนกประสงค์ หรือโดม และช่วงบ่ายก็มีการแยกย้ายกันตามบ้าน เพื่อนประกอบกิจกรรมนันทนาการ และซ้อมโชว์สปิริตบ้านในวันถัดไป

วันสุดท้ายทุกคนต้องตื่นแต่ไก่โห่เหมือนเช่นคืนแรกเพื่อร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งร่วมกันในช่วงเช้าที่ลานจอดรถข้างหอพัก ช่วงสายมีการโชว์สปิริตของแต่ละบ้าน ซึ่งทั้งรุ่นพี่ประจำบ้านและรุ่นน้องเฟรชชี่ต่างทุ่มเทกันอย่างสนุกสนานเฮฮากันดังลั่นจนเหมือนกับว่าโดมจะแตกออกเสียเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนมีพิธีปิดค่าย และปล่อยน้องปี 1 กลับหอพักกันก่อนช่วงบ่าย

เด็ก ๆ ต่างแยกย้ายกันกลับหอหลายคนพากันกลับบ้าน ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดทำการเรียนการสอนในภาคต้น อีก 2-3 วันข้างหน้า
สามหนุ่มเองก็เหมือนกัน หลังจากมาถึงห้องพักเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ชวนกันนั่งรถไฟฟ้ามารอขึ้นรถเมล์กลับบ้านในเมืองกันที่ป้ายรถเมล์หน้าร้าน 7-11

...

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ออออออ คิดว่า  ไผ่+ต้น จะได้นอนกัน 2คนซะอีก  :laugh3:

ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อิอิ น่ารักจังเลย ชอบๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
จะมีตอนไหนที่สองคนนี้เขาไม่ทะเลาะกันบ้างมั๊ยนี่  :o7:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
เมื่อไรจะรู้ใจตัวเองกันสักทีละสองหนุ่มเนี่ย o16 o16 o16

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
   วันเสาร์ หลังจากบีกินนิ่งแคมป์ผ่านพ้นไป กิจกรรมรับน้องของคณะก็ถูกจัดขึ้นที่อาคารอเนกประสงค์ เป็นกิจกรรมการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องภายในคณะ โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ร่วมกันทำอย่างสนุกสนาน กิจกรรมหลัก ๆ ได้ถูกแบ่งออกเป็น 10 ฐาน มีการแบ่งกลุ่มน้อง ๆ ออกเป็นบ้านคละกันไป 10 บ้าน หรือ 10 กลุ่ม มีพี่บ้านเป็นพี่เลี้ยงคอยร่วมหัวจมท้ายกับน้องในบ้าน หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้าร่วมกิจกรรมตามฐานต่าง ๆ โดยมีหลักอยู่ว่า น้องโดนอะไรพี่บ้านต้องโดนด้วย

   บุพเพอาละวาดไม่ยอมหยุดหย่อนลดละหรือความซวยที่เกลียดมากชังมากเลยเจอมากกันแน่ก็ไม่รู้ เมื่อ ทิวไผ่กับต้นข้าวจับฉลากแบ่งกลุ่มได้บ้านเดียวกันเช่นเคย
   เขาวงกตด่านแรกผ่านไปอย่างทุลักทุเล ทุกคนถูกแป้งมันผสมสีผสมอาหารแต่งแต้มบนใบหน้าจนกลายเป็นตัวตลกกันไปหมด แล้วถูกปิดตาด้วยผ้าดำ ก่อนจับมือกันเดินไปตามทางที่รุ่นพี่กำหนดให้ ผ่านบ่อโคลนสะพานไม้ ต่าง ๆ
   ต้นข้าวรู้สึกมีมือหนาแกร่งแข็งแรงมาเกาะกุมมือเขาไว้แน่น ด้วนประสาทสัมผัสมันบอกว่าใช่แน่ ๆ เป็นมือใครไปไม่ได้นอกเสียจาก... แต่ครั้นจะสะบัดแรง ๆ ให้หลุดก็กลัวผิดสังเกตของพี่ ๆ และเพื่อน ๆ เขาพยายามขืนมือดิ้นรนอยู่นานเพื่อให้หลุดก็ไม่เป็นผล แถมมีเสียงหัวเราะ หึหึ อย่างพอใจจากเจ้าของมือนั่น แล้วพวกเขาก็โดนต้อนเข้าเส้นทางเขาวงกตไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
   ตลอดเส้นทางอันดูลึกลับคดเคี้ยวและยากลำบาก ต้นข้าวกับรู้สึกอบอุ่นอย่างแปลก ๆ ดูเหมือนเจ้าของมือที่เกาะกุมแน่นนั้นจะคอยปกป้องและช่วยเหลือเขาอยู่ตลอดเวลา

   “คนอุตส่าห์ช่วยไม่ให้ตกบ่อโคลน ขอบคุณซักคำไม่มี” ทิวไผ่แกล้งพูดลอย ๆ อย่างตัดพ้อ เขาจำใจต้องปล่อยมือนุ่ม ๆ เมื่อถูกสะบัดจนหลุดหลังจากออกจากฐานมาแล้ว

   “ใครขอร้องนายไม่ทราบ” ต้นข้าวกระแทกเสียงพูดรอดไรฟัน ก่อนเดินแยกออกไปอย่างรวดเร็ว


   และแล้วด่านที่เป็นไฮไลท์ของงานก็มาถึง

   “เฮ่ย...พวกเมิงเดินแบบกันอยู่รึไง กรูรอนานแล้วนะโว้ย...” เสียงตวาดแว้ดดังมาจากซุ้มผ้าใต้โคนต้นจามจุรีต้นใหญ่ริมล่องน้ำหลังอาคารอเนกประสงค์

   “เร็ว ๆ น้องเจ้าแม่ลงแล้ว เดี๋ยวเจ้าแม่แช่งเอาอย่าขัดใจท่านล่ะ ท่านสั่งอะไรก็ต้องทำ เข้าใจไหม” พี่ประจำฐานคนหนึ่งพูดสำทับ

   “พวกเมิงนั่งลง...เร็ว ๆ อย่าชักช้า”

   “น้อง ๆ กราบเจ้าแม่ด้วย” พี่ฐานพูดแนะ

   “กรูชื่อเจ้าแม่อี๋ดี ตูมดี กินแตละที ดอโตโต” เสียงหัวเราะก๊าก ดังลั่นจากกลุ่มน้อง ๆ และพี่บ้านอย่างสุดขำ แต่ก็ต้องสงบลงอย่างรวดเร็วเมื่อโดนตวาดเข้าให้

   “ขำอะไร!....พวกเมิงกล้าหัวเราะชื่อกรูเหรอ” เจ้าแม่กรีดนิ้วชี้กวาดไปที่กลุ่มรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้า

   “น้อง ๆ อย่างหัวเราะชื่อเจ้าแม่นะครับ เดี๋ยวโดนเจ้าแม่สาปเอานะ” พี่ฐานพูดสำทับ

   “ลงมาจากนครเย็นตะละปุระ อาซ่าซะงะ บนสรวงสวรรค์ชั้นที่ 16 ครึ่ง แดนดึงส์ป่าหีมมะพาน เพื่อมาโปรดพวกเมิงในวันนี้”

 “เอ้านี่ ไอ้ลอยเมิงเอาธูปให้พวกมันคนละดอก แล้วพนมมือขึ้น”...” เสียงแหบห้าวของเจ้าแม่สาวเทียมร่างแกร่งที่แต่งตัวด้วยผ้าหลากสี สวมแว่นดำ ปะแป้งหน้าขาววอก ทาลิปสติกสีแดงแปร๊ด ร้องสั่งอย่างห้วน ๆ ดุดัน บรรยากาศเงียบกริบ และกดดันอย่างมาก
   
“พูดตามกรู.... โอมมมมมมมม โอมมมมมมมมม โอมมมมมมมม”
 
“เจ้าแม่จะโอมอีกนานมั้ยครับ” มีผู้กล้าเกิดขึ้นแล้ว

“บังอาจ เมิงอยากตายรึไง ถึงกล้าขัดพิธีศักดิ์สิทธิ์ของกรู”
“ว่าตามกรู.... โอมมมมมมม....ตะละขาโต อกโตนมโต อี๋โต” และแล้วก็มีเสียงหัวเราะคิกคักเกิดขึ้นอีกจนได้
“คราย!...ไอ้อีหน้าไหน” เสียงนั้นเงียบกริบอย่างฉับพลัน
“โอมมมมมมม....ตะละขาโต อกโต นมโต อี๋โต ….นอนแผ่หลาอ้าซ่าลมพัดใส่อี๋ตูมเย็นดี เย็นดี มีแฮง มีแฮง”
“โอมมมมมมม...ตะเละเขโต เคโต เหโต เคโต .....ยืนก็โด่ นั่งก็โด่ เวลานั้นก็โด่ โจ่งโจ๊ะโยกหน้าโยกหลัง มีแฮง มีแฮง”
“โอมมมมมมม...ตะละขอโต นมโต อี๋โต เคโต ....จ่างจ๊ะยกโย้ยกโย๋ ผลุบโผล่ ผลุบโผล่ มีแฮ้ง มีแฮง แต๊ว่า”
 “ผม/หนู...ใส่ชื่อของพวกเมิง เป็นนิสิตคณะนิติศาสตร์แล้ว จะรักกัน สามัคคีกัน ช่วยเหลือกัน จะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่แบ่งพรรคแบ่งฝ่ายกันเด็ดขาด ...ผม/หนู ขอสาบานว่า ถ้าทำไม่ได้ตามที่ให้วาจาไว้ ขอให้ F course เรียนไม่จบ โดนไทร์ สาธุ สาธุ สาธุ ....”

…………………………………………………………………………………………………………………….

   (ข้อความข้างต้นนี้ เป็นเพียงการแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงในเนื้อหาเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอ้างอิง เหตุการณ์จริง และไม่มีเจตนาพาดพิง หรือสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ผู้ใด หรือหน่วยงานใด แต่ประการใด / ผู้เขียน)
…………………………………………………………………………………………………………………….

   “เอ้า...เอากระถางธูป ไปให้พวกมันปัก เอาผ้าดำผูกตามันทุกคนด้วย”
   “พวกเมิง อธิษฐานกับกรูแล้ว ต้องกินของเซ่นสาบาน ไม่งั้นพวกเมิงจะผิดผี น้ำนี้คือน้ำอมฤต ของนี้คือของสวรรค์ พวกเมิงจงกินเข้าไป เร็ว!.....”

   ความเงียบครอบคลุม อย่างกดดัน มีเพียงเสียงตวาดอย่างหน้าเกรงขาม แต่ทันได้ก็มีเสียงเล็ก ๆ ขึ้นสอดแทรก เจ้าแม่

   “พี่คะ หนูอยากรู้ว่าอะไรที่พี่ให้พวกหนูกินน่ะค่ะ”
    
   “เอ๊ะ อีนี่ ไม่ต้องถาม เมิงกล้ารังเกียจ ของศักดิ์สิทธิ์ของกรูเหรอ และตอนนี้กรูเป็นเจ้าแม่ ไม่ใช่พี่พวกเมิง อย่าริบังอาจตีสนิทกรู ไอ้อีหน้าไหนคิดจะหือกับกรู เดี๋ยวเมิงจะเจอดี หึหึ” เจ้าแม่กำมะลอ ออกอาการฉุนกึก เมื่อมีรุ่นน้องสาวใจกล้า คิดจะลองดีด้วย
   
   “กิน ๆ ไปเถอะน้อง ของวิเศษเจ้าแม่ กินแล้วไม่ตายหรอก ถ้าเป็นไรขึ้นมา โรง’บาล ม. อยู่ใกล้แค่นี้เอง ถ้าตายจริง ๆ เลยหลัง ม. ไปนิด ก็มีวัด สวดฟรีด้วย เรามีพร้อมทุกอย่าง น้องไม่ต้องกลัว” รุ่นพี่ประจำฐานช่วยพูดผ่อนคลายความตึกเครียด หรือช่วยเพิ่มความกดดันกันแน่

   “ไอ้อีพี่บ้าน เมิงไม่ต้องแอบขำ กรูไม่ใช่ตลก ไอ้ลอย เมิงเอาของทิพย์ของกรูให้ไอ้อีพี่บ้าน 4 ตัวนั่น กินด้วย” กรรมของพี่บ้านโดนเข้าให้ เมื่อแอบขำอย่างกลั้นไม่อยู่ในความจริงจังของเจ้าแม่กำมะลอ เพื่อนของตน แต่ รุ่นน้องผู้ร่วมชะตากรรมดูจะซีเรียสเสียมากกว่า ทั้งพี่บ้านและน้อง ๆ ต่างต้องกล้ำกลืนฝืนกินของที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ลงคอไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

    “ไอ้เบี้ยว เมิงยืนขึ้นเดียวนี้ ทำไมเมิงยังไม่กิน แถมแอบเปิดผ้าดูหน้ากรูอีก แม่เมิงชื่ออะไร บอกกรูมา......”

   “.......” รุ่นน้องคนโดนแจ๊คพ็อต หน้าซีดเผือดทันทีที่เจ้าแม่จับได้

   “เร็ว....เมิงจะบอกไม่บอก เดี๋ยวกรูสาปแม่งติดเอฟ ทุกวิชา ตั้งแต่ เทอมแรกเลยนี่.....” เจ้าแม่จอมโหดคาดคั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย

   “...เอ่อ....อ้อย คับ...” สุดท้ายก็ต้องฝืนพูดออกไปเสียงอ่อย ๆ อย่างยากเย็น

   “ไม่ได้ยิน เอาใหม่....”

“อ้อย คับ....” ดังขึ้นมาอีกนิด

“ดังอีกกก....ตะโกนไปเลย กรูไม่ได้ยิน......”

“อ้อยยย ค้าบบบ...” เจ้าแม่หูตึงรึไงวะ

“....พวกเมิงทุกคน ด่าชื่อแม่มัน เร็ว....” เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบรับคำสั่งของท่าน

   “พวกเมิงอยากเอฟครอสกันทั้งเซค ใช่ไหม....ห๊า....”

   “เพื่อน ๆ พูดเถอะ ครับ ผมไม่ถือ...” รุ่นน้องคนเดิมหน้าเจื่อนพูดเสียงอ่อย ก่อนจะเริ่มมีเสียงอ่อย ๆ จากเพื่อน ๆ ดังอย่างแผ่วเบา จนเจ้าแม่ต้องตะคอกให้ตะโกนเสียงดัง ๆ ก่อนที่รุ่นน้องจะทำตาม และมีเสียงกล่าวขอโทษ ตามมา

   “ไอ้ไผ่ เมิงคนเดียวไม่ยอมด่าเชื่อแม่ไอ้เบี้ยว เมิงมานี่ มานั่งข้างกรูนี่ ไอ้ลอย จูงมือมันมาเดี๋ยวมันเหยียบคอเพื่อนมัน”
   “เออ...นั่งลง กอดกรู...” ทิวไผ่ตะลึงในคำสั่งแกมตวาดที่ได้ยิน มีเสียงซุบซิบจากกลุ่มเพื่อน ๆ (แม่งเจ้าแม่หาเศษหาเลยกับรุ่นน้อง)

   “กรูบอกให้กอดไง กอดสิ เร็ว ๆ แน่น ๆ ด้วย แล้วพวกเมิงซุบซิบไรกัน อิจฉากรูเหรอ หึหึ” ทิวไผ่เงอะงะ ก่อนจะสวมกอดเจ้าแม่ไว้จากด้านหลัง

   “ดีมาก...เด็กน้อย...” เจ้าแม่เอื้อมมือมาจับศีรษะทิวไปกดซบลงที่ต้นคอ แล้วลูบผมอย่างแผ่วเบา ทิวไผ่ ได้แต่ยิ้มแหย ๆ เจ้าแม่จอมหื่นเมื่อได้ไออุ่นจากร่างหนาแกร่งที่กอดซบแผ่นหลังแล้วดูจะเคลิบเคลิ้ม และเสียงอ่อนลงไปมาก แต่ก็ไม่วายสิ้นฤทธิ์ หันไปตวาดและเทศนารุ่นน้องในกลุ่มต่ออย่างยืดยาว

“เน่ะ ให้กอด ไม่ใช่ให้ลูบให้ล้วง มืออย่าซุกซนสิ ถ้าเจ้าแม่ปั่นป่วนขึ้นมานี่ จะรับผิดชอบไหวมั้ยเอ็ง แล้วไม่ต้องเอาหนวดถูไถซุกไซ้คอเจ้าแม่ด้วย เจ้าแม่สยิว เอ้ย...จั๊กกะเดียม” เจ้าแม่พูดปรามอย่างรักษาภาพพจน์สุดขีด ทั้งที่ใจนั้นชอบ ที่หนุ่มรุ่นน้องแกล้งแหย่เล่นอย่างนั้น
ต้นข้าวเกิดอาการหวิวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ว่าหนุ่มหน้าเข้มกำลังโดนรุ่นพี่เล่นงานอยู่ และหงุดหงิดนิด ๆ เมื่อหนุ่มหน้าเข้มแกล้งเล่นกันรุ่นพี่สาวเทียมนั่น
เพราอะไรกันแน่ ทำไมเขาถึงรู้สึกอย่างนี้นะ

“ไอ้ลอย เปิดตาไอ้เบี้ยวออก ...เอาของทิพย์ให้มันดู” หนุ่มรุ่นน้องชะเง้อมองถังน้ำกับอาหารทิพย์ ที่คนของเจ้าแม่ยกมาให้ดู
“เมิงเห็นอะไร บอกเพื่อน ๆ เมิงดัง ๆ”

“น้ำเฮลบลูบอยส์ แช่ผ้าอนามัย... กับ เส้นมาม่าต้มผสมกล้วยบด...” เบี้ยวยังไม่ทันพูดจบประโยค เพื่อน ๆ ที่นั่งมีผ้าปิดตาอยู่ก็ถึงกับคอแข็งพะอึดพะอม โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิงจะพากันอ้วกออกมาเสียให้ได้

   “หยุด อย่า!...นะ พวกเมิงอย่าอ้วกออกมาเด็ดขาดนะ ไม่งั้นกรูจะให้เลียกินของที่พวกเมิงสำรอกออกมาเข้าไปอีก” คำสั่งอาญาสวรรค์ (นรกชัด ๆ) สิ้นสุดลง พร้อมกับอาการปิดปากปิดจมูก ฝืนไว้อย่างสุดๆ ของรุ่นน้องผู้ถูกปู้ยี้ปู้ยำอย่างน่าสงสาร

   กว่าจะหลุดพ้นจาดฐานนรกนี้ได้เล่นเอาทุลักทุเล วิงเวียนศีรษะไปกับภาษาพ่อขุนบวกกับความเครียดเพราะแรงกดดันไปมากทีเดียว ก่อนจะมีการสรุปผล และกิจกรรมผูกข้อต่อแขนจากอาจารย์ในคณะ ปิดท้ายด้วยข้าวต้มรอบดึกก่อนปล่อยกลับหอ ในเวลาเกือบ 3 ทุ่ม

   “ไผ่ ต้น รับน้องสนุก ไหม”

   “สนุกมากเลยล่ะ ฟ้า โดยเฉพาะบางคนนะ ได้กอดสาวรุ่นพี่ด้วยล่ะ”

   “ก็สนุกดีครับฟ้า มีคนเกือบจะตกบ่อโคลนด้วยล่ะ ดีนะที่เราช่วยไว้ทัน”

   สองหนุ่มพูดแขวะกันไปมาให้สายฟ้าฟัง หนุ่มร่างเล็กมองหน้าเพื่อนสลับกันไปมา ในใจก็นึกอิจฉาเพื่อนรักที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับหนุ่มหน้าเข้มมากกว่าตน ถึงภายนอกจะแสดงออกว่าไม่ถูกกันเท่าไหร่ก็เถอะ

...
Comment by writer: แอบทราบมาว่าเจ้าแม่ตัวแสบจัดการเขมือบรุ่นน้องหนุ่ม ๆ น่ารัก ๆ ชนิดเตียนเรียบเสียทุกบ้านไม่มียกเว้น บ้านไหนหน้าตาดีหลายคนก็โดนกันทั่วทุกถ้วนหน้าไปตาม ๆ กัน (อิจฉามันว้อย....อิอิ) / ผู้เขียน /(คนโพสท์ขอแจมอิจฉาด้วยคน)  :laugh:
...

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อิอิ ต้นข้าวเริ่มใจหวิวๆแล้วละสิ อิอิ  :laugh3:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีกน๊า :try2:

ขอบคุณครับ :yeb:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ  มารอเป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ Daow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เว้ยๆๆๆๆ เริ่มมีหึงมีหวงเว้ย จะรู้ตัวมั้ยนั่นหนูไผ่เอ๋ยยยยย  o8

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
น้ำเฮลบลูบอยส์ แช่ผ้าอนามัย.

  :sad5:

ของผมเจอฟักทองบดใส่ที่ล้างโถส้วมก็ไม่ไหวแล้นนนนนนน

จาโอ้กกกกกกกกกกกก

 :oak:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 15:55:37 โดย หมูพูห์ »

Hie_KunG

  • บุคคลทั่วไป


 :o9:....หวัดดีทุกคนค้าบบ ดีใจ และขอบคุณทุกคนที่ติดตามให้กำลังใจฮะ (ตอนนี้ที่ ม. ก็กำลังมีค่ายบีกินนิ่งแคมป์อยู่ เหอๆ)....



 o18....ส่วนกรณี น้ำเฮลบลูบอยส์แช่ผ้าอนามัย เราแยกเป็นสองถังครับ คือ ถังที่ให้น้องกินก็เป็นน้ำเฮลบลูบอยส์ธรรมดา ส่วนอีกถังที่เอามาอำน้องจะใส่ผ้าอนามัย อิอิ / ผู้ขียน.... o3


....แอบไปเหล่เดะปี 1ต่อแระ บ๊ะบายค้าบบบบ.. :laugh3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด