โรงเรียนเปิดแล้วคร้าบบบ คดีรักพักร้อน ก็หมดเวลาพักร้อนล่ะ ตอนนี้เข้าเรื่องแล้วนะ
คดีรัก 2.75 (นับภาคเหมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เลยอ่ะนะ)
::: Introduction 1 :::
กษิดิษฐ์จอดรถหน้าคลับ hiSeven แล้วเดินตรงไปที่ประตูทางเข้า พนักงานในชุดสีชมพูอ่อนปรี่เข้ามาหาพร้อมกับทักทายด้วยความคุ้นเคยและบอกว่า "เพื่อนๆ" อยู่ที่ห้องวีไอพี Diamond แต่เมื่อพนักงานต้อนรับคนนั้นเปิดประตูผับ กษิดษฐ์ลังเลขึ้นมาทันใด วันนี้ การมาที่ผับ hiSeven คืนนี้ไม่เหมือนกับทุกคืนที่เขามาเพราะอยากมาเที่ยวหาความสนุก
คืนนี้ มีคนนัดให้เขามาเพราะมี 'ประชุม'
คนที่นัดคือศรุตซึ่งย้ำนักย้ำหนาว่าต้องมาให้ได้เพราะการชุมครั้งนี้สำคัญมากเพราะ...
เป็นการประชุมวางแผน 'โค่น' อนุภาพและ 'ลงโทษ' อธิคม และธงรบอาจจะโดนหางเลขไปด้วย
ความจริงเขาอยากเลิกใส่ใจเรื่องนี้เสียที อธิคมแสดงให้รู้อย่างชัดเจนว่าไม่ 'สน' เขาอีกแล้ว และเมื่ออธิคมตัดสัมพันธ์กับเขาอย่างเด็ดขาดภายหลังการเสียชีวิตของธนาภพซึ่งเป็นแฟนเก่าของอนุภาพ เขาคิดว่าตัวเองเพียงแต่ต้องการ 'เอาชนะ' เท่านั้น
...ยอมแพ้ไม่ได้นะกษิดิษฐ์ คราวนี้พี่คมกับอีตาธงรบจะต้องได้รับบทเรียนยิ่งกว่าคำว่าสาสม ถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือกันโจมตี รับรองว่ากระเจิงแน่...
เขาจำคำพูดของศรุตได้ เสียงของศรุตจากที่ได้ยินทางโทรศัฟท์ฟังดูโกรธแค้นอธิคมกับธงรบมากกว่าที่เขาคาดคิด เขานึกว่าศรุตจะไม่แคร์ เพระาเท่าที่เห็น ศรุตมีท่าทีเรียบนิ่ง ใจเย็น ไม่ 'ออกอาการ' เท่าไหร่นักเมื่อโดนอธิคมกับธงรบสลัดทิ้ง
...อธิคมรักกับอนุภาพมาจะสามปีแล้วซึ่งเป็นเวลานานกว่าใคร นานกว่าที่คบกับศรุต นานกว่าที่คบกับเขา ตอนนั้นเขาภูมิใจว่าตัวเองเป็นแฟนกับอธิคมนานกว่าคนอื่น นั่นคือสี่เดือนกว่าๆ...
...เขายังเคยไปเยาะเย้ยเด็กเก่าๆ ของอธิคมด้วยซ้ำ...
รวิญช์เป็นอีกคนที่ย้ำให้เขามา 'ร่วมวงไพบูลย์' ทั้งที่ไม่ค่อยชอบหน้ากัน ตอนที่รวิญช์โดนอธิคมทิ้ง เขายังเคยไปเยาะเย้ยรวิญช์หลายต่อหลายครั้ง
ในห้องพิเศษของคลับ hiSeven มีชายหนุ่มหน้าตาดีนั่งอยู่ 5 คน แต่ละคนแต่งตัวเนี้ยบ กษิดิษฐ์ผลักประตูกระจกเข้าไปช้าๆ สบตากับศรุตที่หันมามองก่อนเป็นคนแรก แต่รวิญช์ลุกขึ้นก่อนและเดินมาหากษิดิษฐ์พร้อมกับพูดว่า
"ยินดีต้อนรับ หัวหน้า"
"หัวหน้าอะไร" กษิดิษฐ์ถาม
"หัวหน้าขบวนการทำลายล้างผู้กองอธิคม" ศรุตแทรกขึ้น กษิดิษฐ์มองศรุตสลับกับรวิญช์แล้วหันไปมองเมธี นายแบบหนุ่มชื่อดัง พายุ ดาราหนุ่มช่อง 3 และอีกคนหนึ่งซึ่งเขาคุ้นหน้าว่าเป็นไฮโซแต่จำชื่อไม่ได้
"อีกสามคนกำลังมา พอครบเก้าคน เราก็จัดตั้งองค์กรได้" รวิญช์ยิ้มร้ายๆ "เก้าต่อสอง ให้มันรู้สิว่าพี่คมกับอนุภาพจะรับมือไหว"
"คนที่สิบ เราติดต่อแบงก์ นิตินัย แต่แบงก์ยังไม่โทรกลับ" เมธีเสริมขึ้นมา
"นี่อะไรกัน ล้อเล่นหรือเปล่า" กษิดิษฐ์เบิกตากว้าง
"กษิดิษฐ์ อย่าบอกนะว่ายูไปเข้าข้างพี่คม เปลี่ยนไปเห็นใจคนที่เคยทำกับพวกเราแบบนั้น"
"แบบไหน" กษิดิษฐ์เอียงหน้าถามศรุต
"ก็แบบไหนล่ะที่โดนมา" ศรุตเหยียดปาก ทำเครียด
"ถ้าไม่ต้องการร่วมวงก็กลับไปได้เลยนะกษิดิษฐ์" รวิญช์พูดขึ้น "แต่อย่าคิดจะแอบไปแย่งพี่คมกลับมาตามลำพังตัวคนเดียวนะ ไม่มีทางหรอก"
"ทำไมคิดว่าฉันจะทำไม่ได้" กษิดิษฐ์ขึ้นเสียง อารมณ์ฉุนเฉียวทันทีเมื่อโดนรวิญช์คู่ปรับเก่าปรามาส
"ได้ไม่ได้ไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่า หากคิดจะทำคนเดียว ก็ถือว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับกลุ่มเรา"
"นี่พอเถอะน่า ยังไม่ทันไรทะเลาะกันซะแล้ว" เมธีพูดแทรก "อย่าลืมจุดประสงค์ของการรวมตัวครั้งนี้สิ ไม่ใช่เพื่อเอาพี่คมกลับมานะ แต่เพื่อลงโทษที่คมต่างหาก เพื่อเหยียบแฟนที่คมให้จมดิน"
"นั่นสิ ถ้าได้พี่คมกลับมาจะแบ่งกันยังไงล่ะ ว่าไหม" พายุพูดขึ้นมาอีกคน
"เอาผู้กองธงรบมาด้วยสิ อย่างน้อยมีสองคม จะรุมทึ้งให้แหลกคาปากเลย คอยดูสิ" หนุ่มไฮโซหน้าตี๋ซึ่งกษิดิษฐ์จำชื่อไม่ได้พูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
"นี่แสดงว่าคุยกันไปก่อนแล้วงั้นสิ" กษิดิษฐ์กระแทกเสียง "งั้นจะรอผมทำไมล่ะ"
"แค่คุยนอกรอบเฉยๆ" ศรุตทำเสียงเคร่งขรึม ราวกับว่าจะเป็นกรรมการห้ามทัพ ไแต่เมื่อสมาชิกครบเราถึงจะคุยกันอย่างจริงจัง ว่าไงกษิดิษฐ์ จะเข้ากับพวกเราไหมล่ะ เราทุกคนมีมติให้ยูเป็นหัวหน้าด้วยนะ"
"ประธานชมรมคนแค้นผู้กองอธิคม" รวิญช์พูด
"รวมถึงผู้กองธงรบ" พายุเสริม
"นี่ถ้าเปิดรับสมัครสมาชิกแล้วเกิบเงินค่าสมัครด้วยคงได้เงินเยอะเป็นแสนๆ" ไฮโซสมองน้อยเสนอความคิดเห็นแล้วหัวเราะคนเดียว
กษิดิษฐ์ถอนหายใจ มองชายหนุ่มตรงหน้าทั้งห้าคนอย่างครุ่นคิด ภาพใบหน้าคมเข้มหล่อเหล่าและรูปร่างกำยำล่ำสันสุดเซ็กซี่ของอธิคมโผล่ขึ้นมาในความคิดพร้อมกับใบหน้าเยือกเย็นบุคลิกเรียบนิ่งปราศจากความรู้สึกของอนุภาพ
แต่ทันใด ภาพของสารวัตรอาวุธผู้เคร่งขรึมก็แทรกเข้ามาพร้อมกับที่ในใจเขาหวนคิดถึงแผนการงี่เง่าของอธิคมและธงรบที่มอมเหล้าเขากับอาวุธแล้วให้นอนด้วยกันเพื่อให้อาทิตย์เข้าใจผิด
นั่นเป็นโอกาสที่ทำให้เขารู้จักกับพันตำรวจโทอาวุธ ผู้ชายที่แตกต่างอธิคมกับธงรบโดยสิ้นเชิง
เขายอมรับว่าหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องของสารวัตรอาวุธบ่อยครั้ง
ตำรวจหนุ่มอนาคตไกล ลูกชายคนโตของรองผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งกำลังจะเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ อาวุธได้รับมอบหมายงานให้ไปทำงานสำคัญมากที่นิวยอร์ค เมื่อกลับมาก็มีความเป็นไปได้ว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง ความก้าวหน้าทางการงาน เหนือกว่าทุกคนที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน
รูปร่างหน้าตาก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าอธิคม
บางครั้งเขาแอบคิดด้วยซ้ำว่าอาวุธเร้าใจกว่า ภายใต้บุคลิบเงียบขรึม เก็บตัว บางครั้งดูเย็นชา มีความร้อนแรงแฝงอยู่
ผู้ชายมาดนุ่ม แต่เขากลับรู้สึกว่ามีความ 'เถื่อน' ซ่อนไว้ลึกๆ
"ผู้กองอธิคมถ้าไม่ตายตอนนี้แล้วจะตายตอนไหน" เสียงของรวิญช์ดังขึ้น
"คราวนี้ไม่รอมแน่" พายุเสริม
"โดนซะบ้าง จะได้รู้สึก" ศรุตเติม
"เวรกรรมมีจริง" เมธีเค้นเสียงออกมา
"จะกัดให้แหลกคาปากเลยคอยดูสิ" ไฮโซหนุ่มทำเสียงพูดอย่างดุดันให้สมกับคำพูดของตัวเอง
"กษิดิษฐ์" ศรุตเรียก "ว่าไง"
กษิดิษฐ์ถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินไปนั่งลงที่โซฟากลางห้อง
...ผู้กองอธิคม...
...ยังไงเขาก็ลืมอธิคมไม่ได้...
...ทำไม ทำไม ทำไม...
โปรแกมหน้า (โปรดติดตามนะคร้าบบบ)
::: Introduction 2 :::
::: Chapter 1 :::
พ.ต.ท. อาวุธละสายตาจากตึกสหประชาชาติแล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะมองตรงไปข้างหน้า สายตาจับอยู่ที่กระจกมองหลังของแท็กซี่ แล้วปรายตาไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองจุดเดิม
ตั้งแต่เดินทางออกจากสนามบินเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างอาวุธมองสองข้างทางอย่างตื่นตาตื่นใจ จนกระทั่งรถติดหนักขนาดไม่มีการขยับเลยเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาจึงหันหน้าเข้ามาในรถและสังเกตเห็นว่า ตลอดเวลาที่รถหยุดสนิทอยู่กลางถนน...
อาวุธนั่งนิ่ง มองไปยังจุดเดียวโดยไม่ละสายตาเป็นเวลาถึง30 นาที...
.............