ตอน เพราะว่าเราห่าง...ไกลกันเหลือเกิน
คนเราจะข้ามผ่านความห่วงหาอาทรและความผูกพันไปได้อย่างไร
ร้อยแปดเหตุผล หมื่นพันคำตอบ แต่ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจผ่อนคลายและเบาบางจากความรู้สึกที่บีบคั้นหัวใจอยู่ตลอดเวลาได้
ความผูกพันสร้างความทรมานให้หัวใจภายหลังมานักต่อนัก
เกิดขึ้นกับคนหลายคน
คำถามคือเราจะจัดการยังไงกับความผูกพัน
คำตอบไม่มี
แต่วิธีป้องกัน คืออย่าเริ่ม
เพราะถ้าเริ่มแล้ว นั่นแปลว่าจะต้องยอมรับผลจากการพลัดพรากจากของรักที่ผูกพันให้ได้ อยู่กับมันให้ได้ แบกรับมันให้ได้ เมื่อต้องพบกับการจากลา
แล้วถ้าเริ่มไปแล้ว และยอมรับผลของการลาจากไม่ได้ล่ะ จะทำยังไง
อาการซึมเศร้า
หงอย เหงา
และจิตตก
กำลังจะตามมาอยู่เป็นเพื่อน
นุชาผู้ผ่านสงครามกลางเมืองมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
กำลังตกอยู่ในสภาพมีเพื่อนที่ไม่ต้องการตามมาอยู่ด้วยอย่างไม่ตั้งใจ
“ครับ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่กลัว ได้ครับ อยู่ได้ สบาย ๆ ไม่ต้องห่วง หาข้าวกินอยู่ไม่ทำให้ตัวเองลำบากหรอก สัญญาครับ สัญญา”
โทรศัพท์สายเดียวที่ทำให้หัวใจอบอุ่นและระลึกได้ว่าไม่ว่ายังไงก็มีที่ให้กลับไปได้เสมอ
ความห่วงใย ที่ไร้ซึ่งผลประโยชน์ผูกมัด
ความห่วงหาอาทรที่คนจากครอบครัวมอบให้จากใจจริง
“รักแม่ครับ”
นั่นคงเป็นกำลังใจจากทางเดียวที่ทำให้นุชายังสามารถยิ้มเล็ก ๆ ได้
ในเวลาที่กำลังพยายามกับผลที่ตามมาจากการพยายามจะตัดใจจาก…………
“เฮ่ออออ”
สภาพหัวหู ยับยู่ยี่ เสื้อผ้าที่รีดจนเรียบกริบในช่วงเช้าไม่เหลือเค้าอยู่อีกต่อไป การใช้ชีวิต ในเมืองที่ไม่เคยอยู่ และเพิ่งเริ่มการใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวมาหนึ่งสัปดาห์เป็นเรื่องที่น่าเศร้า
แต่ก็เลือกเอง ไม่ได้มีใครบังคับ
ไม่จำเป็นที่จะต้องถ่อมาไกลถึงที่นี่ แต่ก็บ้าบอถ่อมาจนได้
และคิดอย่างโง่ ๆ ว่ามันเป็นหนทางเดียว ที่จะจัดการกับปัญหาบ้า ๆ ที่ยุ่งเหยิงและไม่จบไม่สิ้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งเลย
แต่การไม่ได้พบไม่ได้เจอน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งก็เป็นผลพวงมาจากการกระทำครั้งนี้ด้วย
ยิงนัดเดียว ได้นกสองตัว
แต่คนยิง......กำลังเจ็บแทบตาย ตอนที่ได้นกมา
บะหมี่น้ำร้อน ๆ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
มองไปทางไหนก็เจอผู้คนที่กำลังเดินกันขวักไขว่ แต่ไม่มีใครรู้จักกัน
มองไปที่โต๊ะข้าง ๆ มองไปรอบ ๆ ตัว
ท้องฟ้ากำลังมืดครึ้มในเวลาเกือบพลบค่ำ
นุชาหน้ามึนกลายเป็นนุชาหน้าเศร้า
อันที่จริงวันนี้เวลานี้ น่าจะต้องกำลังอยู่ภายในงานเลี้ยงของบริษัทด้วยซ้ำ
แต่....ไปไม่ได้เพราะ......
งานมันมีสัปดาห์หน้าไม่ใช่สัปดาห์นี้
โง่เง่าสิ้นดี
แทนที่จะได้ไปเจอน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งและผองเพื่อนหมู่คณะที่ชมรมนักวิ่ง
เวลานี้กลับต้องมานั่งเหงากินบะหมี่น้ำรสชาติจืดชืดอยู่คนเดียว
ในเมืองที่เพิ่งมาอยู่ใหม่
และไม่รู้จักใครเลยสักคน
อยากร้องไห้จริง ๆ เลยกู
อยากจะตัดใจก็อยาก อยากเจอก็อยาก
เลือกไม่ได้ว่าจะจัดการยังไงกับชีวิตตัวเองดี
ก็เลยต้อง.....
“คุณซ้งเหรอครับ เหงาจัง คิดถึงคุณซ้งมาก เลยต้องโทรมาหา”
นี่แหละสุดยอดของชีวิตในเวลานี้
“ประสาท”
เหมือนเดิมจริง ๆ รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
โทรปุ๊บ รับปั๊บ รับไม่รับเปล่า ยังมีการด่าต้อนรับให้หัวใจชุ่มชื่นเล่นซะด้วย
นุชาหน้ามึน กลายเป็นนุชาหน้ายิ้ม
จากซึมเศร้า ตอนนี้กำลังถือโทรศัพท์และเริ่มสนุกสนานกับการใช้ตะเกียบพันเส้นบะหมี่เล่นแต่ไม่ยอมคีบเข้าปาก พันเล่นไปมาอยู่อย่างนั้น
“เมื่อไหร่คุณซ้งจะใจอ่อน จะได้มาเป็นแฟนกัน”
ก็ใจมันเรียกร้อง
เลยต้องพูดออกไปอย่างนั้น
เชื่อเถอะ ถ้าไม่โดนด่า รับรองไม่ใช่คุณซ้งแน่นอน
“อั๊วไม่อยากมีแฟนติงต๊อง ปัญญาอ่อน”
อ่อ
เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง
มิน่าล่ะ
“เหอะ ต๊องก็รักจริงแหละวะ”
อันนี้จริงจัง เสียงเข้มด้วย
เป็นไงล่ะอึ้งล่ะสิ นี่มาแบบมาดไม่ติงต๊องนะ
แต่มาในมาดเข้ม นั่นไงล่ะ อึ้งไปเลย เงียบกริบเลย
ซึ้งใจล่ะเซ่
เอ่อ
อึ้งนานไปมั้ย
เงียบนานไปหรือเปล่า
มันชักจะนานไปนะ
หรือสัญญาณมันจะขาดหายไป
นุชารีบเอาโทรศัพท์ที่แนบหูออกและมองดูเวลาที่ยังเดินต่อไปเรื่อย ๆ
ก็ยังไม่โดนตัดนี่หว่า
แล้วทำไมถึง......
“คุณซ้ง ตายยัง”
ถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
และเหมือนได้ยินเสียงถอนหายใจยาว ๆ ของปลายสาย
อ่อ.....ยังไม่ตายและยังหายใจดีอยู่
ก็เลยถอนหายใจซะยาวเลย
“เอ่อ...รบกวนแค่นี้แหละครับคุณซ้ง สวัสดีครับ”
ชิ่งก่อนดีกว่า
เพราะดูท่าไม่ใช่คุณซ้งที่ไปไม่ถูก แต่เป็นกูนี่แหละที่ไปไม่ถูก
แบบว่ามันเงียบเกินไป
และไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
ไม่ด่าซักคำ เงียบกริบ ขนาดกดวางสายแล้ว ยังไม่มีการโทรกลับมาด่าเหมือนปกติซะด้วย แบบนี้มันเริ่มเข้าสู่ความไม่ปกติธรรมดาของน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งซะแล้ว
ถ้าใครสักคนจะหาเรื่องให้ตัวเองได้ตลอด
คน ๆนั้นย่อมเป็นนุชา
อยู่ดี ๆ ก็ช่วยให้ตัวเองมีเรื่องปวดหัวได้เรื่อย ๆ
คราวนี้จากนุชาซึมเศร้า กลายเป็นนุชาโคตรเศร้าไปแล้ว
ไม่น่าเลยกู ปากหนอปาก อยู่ดีไม่ว่าดีไปหาเรื่องให้ตัวเองซะอย่างนั้น
บะหมี่น้ำในชามกำลังอืดเต็มที่
และนุชาก็กำลังซึมเศร้าอย่างเต็มที่
ลุกขึ้นไปจ่ายค่าบะหมี่ และเดินหน้าออกจากร้านไปในสภาพ
ผู้ซึมเศร้าอย่างสมบูรณ์แบบในคืนวันศุกร์
โดยมีผู้ร่วมอุดมการณ์แบบไม่ได้ตั้งใจด้วยหนึ่งคน....
“มันพูดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ คำว่ารักเนี่ย....ไม่ได้มีไว้ให้คนที่รักจริง ๆ เหรอ
ไอ้คำว่ารักนี่มีไว้กวนประสาทและเอาไว้ล้อเล่นแค่นี้เองเหรอวะนุชา”
น้องแรงบันดาลใจซ้ง ผู้อยู่ในอาการสับสนและไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน
กำลังพยายามค้นหาคำตอบบางอย่างด้วยตัวเอง
แต่นอกจากจะไม่ได้คำตอบแล้ว
ยังได้รับความรู้สึกไหววูบในใจลึก ๆ มาเป็นของแถมด้วย
“นอกจากอาม่ากับแม่ เกิดมาอั๊วยังไม่เคยคิดจะพูดให้ใครฟังซะที ไอ้คำว่ารักเนี่ย สำหรับลื้อมันก็แค่คำพูดมักง่ายเอาไว้พูดเล่นให้สนุกสนานจริง ๆ สินะ นุชา”
TBC...