พิมพ์หน้านี้ - Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: nanalonely ที่ 03-04-2010 09:13:20

หัวข้อ: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 03-04-2010 09:13:20
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวป ไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



♬ กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ♩  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)



ได้รับอนุญาตให้นำมาโพสเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากเรื่องนี้คุณเท็นยังแต่งไม่จบ เอาเป็นว่าง่ายๆเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องล่าสุดที่คุณเท็นกำลังแต่งอยู่แล้วกัน

แนนจะเอามาอัพให้ทันกับที่คุณเท็นแต่งนะคะ ตามอ่านได้เรื่อยๆ วันอัพไม่แน่นอน แล้วแต่ที่คุณเท็นจะอัพเลย ตามนนั้นนะคะ
 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 03-04-2010 09:22:34
ตอน วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ






ห้าโมงเย็น

โหยยยยยยย ห้าโมงเย็น ห้าโมงเย็น ห้าโมงเย็นอีกแล้ว
ใครคนหนึ่งลุกขึ้นจากเตียง อาการง่วงงุ่นยังไม่จางหาย อยากจะรีบ ๆ ทำให้ตัวเองสดชื่น
แต่ก็ไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

อ่า ไม่ไหวแล้ว ง่วงนอนโว้ยยยยยยยยยยยย ง่วง ง่วง ง่วง

อยากจะหลับตาลงอีกครั้ง แต่เมื่อเหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ทำได้แค่คิด
ปรือตาตื่นขึ้นและลากสังขารเข้าไปอาบน้ำด้วยความเร่งรีบ



สายอีกแล้ว สายแน่ ๆ

เร่งรีบ รีบเร่ง สวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว หันไปมองที่กระจกหนึ่งครั้งปัดผมไปมาให้มันเข้าที่เข้าทางก่อนจะคว้ากระเป๋า ที่มีรองเท้าและน้ำดื่มหนึ่งขวดแล้วรีบวิ่งออกจากที่พัก

สายแน่ ๆ แบบนี้ สายไปแล้ว ต้องรีบ ต้องรีบ ขืนไปช้าแย่แน่ ๆ

กระโดดขึ้นรถเมล์อย่างรวดเร็ว โชคยังดีที่รถมาจอดเทียบพอดีไม่อย่างนั้นคงจะยิ่งช้า

สิบสองนาทีของการเดินทาง

พาตัวเองมาถึงเก้าอี้ที่นั่งประจำข้างสระน้ำ ที่เก่าเวลาเดิม

บรรยากาศเหมือนเดิม โอโซนเพียบ ต้นไม้เพียบ เด็กเพียบ และ..........

ง่วงนอนอีกแล้ว

ไม่อยากวิ่งเลยว่ะ
สาเหตุเพราะว่าง่วง
สาเหตุเพราะเหนื่อย
สาเหตุเพราะเบื่อ

แต่ที่ต้องมาก็เพราะ........

ห้าโมงครึ่ง เป๊ะ ๆ ตรงต่อเวลามากๆ ใช้ได้นะเนี่ย

มองไปที่ใครบางคนที่ไปยืนอยู่ที่จุดสตาร์ทแล้วก็ต้องรีบคว้าถุงเท้ามาใส่และเตรียมสวมรองเท้า

มองรองเท้าที่ตัวเองซื้อแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

พันสอง กูนี่ก็บ้า ลงทุนเข้าไปได้

เกิดมาไม่เคยซื้อรองเท้าแพงขนาดนี้เลยนะเว้ยเฮ้ย แต่มันนุ่มและสบายเท้า ก็เอาวะ จำใจต้องซื้อ
ขืนยังลากผ้าใบคู่เก่า คงไม่ไหว นี่แหละรองเท้าสำหรับวิ่ง ของแท้แน่นอน ใส่แล้วก็วิ่งได้สบาย
มันจำเป็นนี่หว่า เพราะดูท่ายังต้องวิ่งอีกนาน อาจมากกว่าสองเดือน อาจไปถึงสามเดือน หรืออาจจะเลยไปถึงหนึ่งปี หรือสองปี

ต้องลงทุน ไม่งั้นวิ่งไปแล้วเดี้ยง สงสัยจะไม่คุ้มเท่าไหร่

เหลือบมองคนบางคนที่วันนี้ใส่เสื้อขาว กางเกงน้ำเงินกับรองเท้าสีฟ้าคู่เก่าที่แค่มองก็จำได้ว่าใคร

วันก่อนเสื้อสีส้ม
วันก่อนสีฟ้า
วันก่อนสีแดง
วันก่อนสีน้ำเงิน

มีเสื้อสีขาวตั้งแต่เมื่อไหร่วะ อ่อ สงสัยจะเพิ่งซื้อมาใหม่

ต่อให้ก่อนสองรอบ รอบละ 745 เมตร ถ้าวิ่งครบสองรอบแล้ว เดี๋ยวจะลงไปวิ่งด้วยคนนะจ๊ะ

แอบลอบยิ้มคนเดียวเงียบ ๆ และก้มหน้าก้มตามองเมินไปทางอื่น

นี่แหละว๊า แรงบันดาลใจของแท้

ลมเย็น ๆ พัดสบาย

แรงบันดาลใจวิ่งลิ่วๆ เหมือนไม่รู้สึกรู้สาไม่เหนื่อยล้ากับการที่ต้องวิ่งวนสองรอบในระยะทาง 745 เมตร สองรอบ

เป็นกิโลเลยนะนั่น แหม่ เก่ง ๆ ใช้ได้ ไม่มีอาการเหนื่อยหอบให้เห็นเลย

เก่งเจง ๆ เลยเว้ยเฮ้ยยยยยย แต่หน้าก็ยังนิ่งเหมือนเดิม เมื่อไหร่เลิกทำหน้าเฉยวะ ท่าทางจะน่ารักน่าดู แต่ท่าจะยาก

แล้วถ้าเมื่อไหร่วิ่งแล้วเหนื่อยวิ่งแล้วหอบบอกด้วย จะรู้สึกดีมาก ๆ

ยังคงเป็นคนบ้า คิดอะไรเพ้อเจ้อคนเดียวและเปลี่ยนเป็นเสียบหูฟังเข้าที่หู

เพื่อเลือกฟังเพลงที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้อีกสิบเท่า

“งึกงึก งัก งัก มันเป็นงึกงึก งัก งัก”

เฮ้ยยยยย ไม่ใช่ ไม่ใช่แระ อะไรวะ อะไรเนี่ยมันเพลงอะไร

โธ่พี่ปอยฝ้าย มาทำไมตอนนี้

เสียอารมณ์หมดเลยเว้ยยยยยย

คนกำลังจะบิ๊ว ใครมันช่างฟังวะ

อยากจะบิ๊วให้อารมณ์สุนทรีย์กับการที่จะได้วิ่งไปด้วยกันกับแรงบันดาลใจ แต่ดันมีเสียงเพลงระทึกให้เสียอารมณ์

หน้าหงิก ๆ งอ ๆ แล้วรีบหันขวับไปมองที่มาของเพลง

อ่า

“ฮาโหล ห๊า อะไรนะ เออกูรู้แล้ว ก็บอกว่ารู้แล้วไงวะ เออ ๆ แค่นี้นะ กูวิ่งอยู่”

เอ่อ
อ่า

จังซี่มันต้องถอนใช่มั้ย

ฟังเพลงได้เข้ากับหน้าดีนะ เอ่อ....แบบนี้ก็แปลว่าต้องไปโหลดมาเป็นเสียงเรียกเข้าเวลามีใครโทรมาใช่มั้ย

ได้.....

เพราะแรงบันดาลใจหรอกนะ ถึงจะฟัง เพราะแรงบันดาลใจแท้ ๆ

เริ่มก้าวขาวิ่งเหยาะ ๆ แล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวเข่า

เริ่มจากอาการรองเท้ากัดจนเล็บนิ้วก้อยที่เท้าเป็นแผล
เปลี่ยนเป็นอาการปวดที่ข้อเท้าเพราะการลงน้ำหนักมากเกินไป
แล้วก็มาถึงหน้าแข้งที่จะเจ็บแปลบ ๆ เวลาที่วิ่งเร็วเกินไป
และเวลานี้ไปถึงหัวเข่าด้วยอาการกล้ามเนื้ออักเสบ

ค่ารักษาคุ้มน่าดู

วิ่งเพื่อสุขภาพหรือวิ่งให้แข้งขามันแย่ลงกว่าเดิมกันแน่

เหอ เหอ เหอ

เจ็บมันก็เจ็บอยู่

แต่ที่ต้องมาก็เพราะสาเหตุเดียว.....คนที่วิ่งลิ่วๆ ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยและโน่นวิ่งเสื้อปลิวไปแล้ว
และนั่นคงเป็นรอบที่ห้า

แรงบันดาลใจสุดยอดเลยนะ

สักวันจะทำให้ได้แบบแรงบันดาลใจ

แต่วันนี้ แค่สองรอบให้รอดก่อนเหอะว่ะ

ก่อนจะไปคิดเทียบรุ่น และที่สำคัญกว่านั้น

ต้องรีบกลับไปเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์อย่างเร่งด่วน

“จังซี่มันต้องถอน”

เพลงอะไรวะ คลาสสิคเกินทน คนฟังบ้า คนร้องก็บ้า คนที่จะไปตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าก็ยิ่งบ้ากว่า

งึกงึก งัก งัก มันเป็นงึกงึก งัก งัก

“อ่า ปวดหัวเลย ปวดขาปวดเข่า ปวดโว้ยยยยยยยยยยยยย วิ่งก็ได้วะ จะรีบวิ่งเดี๋ยวนี้แหละ เมื่อไหร่จะหายเจ็บซะที จังซี่มันต้องถอนใช่มั้ย จังซี่มันต้องถอนนนนนนนนน”






TBC...

 


อัพตอนแรกให้ก่อน เดี๋ยวก่อนออกเดินทางจะอัพให้อีกตอนนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 03-04-2010 09:32:28
รับเรื่องใหม่   :mc4:

น้อง nana เรื่องเก่าจะมาต่อมั๊ย
รออ่าน หมอแคนกะนายกระชายอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 03-04-2010 10:59:35
แวะมาจิ้มค่ะ


อ่านตอนแรกยังจับอะไรไม่ได้เลย


สงสัยคงต้องรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 03-04-2010 11:11:06
รับเรื่องใหม่   :mc4:
น้อง nana เรื่องเก่าจะมาต่อมั๊ย
รออ่าน หมอแคนกะนายกระชายอ่ะ

เรื่องหมอแคนกับกระชายแนนไม่ได้โพสนะคะ
รู้สึกว่าจะเป็นพี่คามุยเป็นคนโพส
แต่เรื่องที่แนนยังโพสค้างเอาไว้
แนนจะอัพให้เท่าที่คุณเท็นลงเอาไว้เลยนะคะ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 03-04-2010 11:14:36
ตอน ช้านะ





"มึงวิ่งได้กี่รอบแล้ว"

อ่า ยังเลย ยังไม่ได้ลงสนามเลย เพิ่งจะพันหัวเข่าเสร็จเนี่ยแหละ
ดูเวลาก็ปาเข้าไป ก็ประมาณ เกือบหกโมงครึ่งแล้ว

ป่านนี้แล้วเหรอ ปกติไม่เคยเลทนี่หว่า


จะว่าไป มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ใครมันจะบ้ามาวิ่งได้ทุกวันเหมือนผมล่ะคร้าบบบบ
ถ้ามาทุกวันนี่ถือว่าแปลกมาก เหมือนพวกไม่มีอะไรทำ

พฤติกรรมคุ้น ๆ แฮะ เหมือนคนไม่มีอะไรทำ
มีนะเนี่ย ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรทำ แต่ที่ต้องมาก็เพราะเหตุผลเดียวนั่นแหละ


เอาไงดีว๊า เข่าก็เจ็บ แต่ว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว

"เหอะ มึงไม่ต้องวิ่งแล้ว ไปดูหนังเป็นเพื่อนกู เร็ว ๆ เลยวันนี้วันพุธ 60 บาทนะเว้ย"

ก็น่าสนอยู่
แต่แบบว่า ใจมันก็พะว้าพะวงอยู่จะให้ไปทันทีทันใดเลยเหรอ

"เดี๋ยวอีกห้านาทีโทรบอกแล้วกันว่ะ กูพันขาเสร็จแล้ว ขอสักรอบเหอะ"

ก็มาแล้ว ไหน ๆ ก็มาแล้ว จะให้ทำยังไงล่ะ ขาก็พันเสร็จแล้ว ไม่ลงวิ่งมันก็จะยังไงอยู่

อ่า งั้น เอาก็เอาวะ

เดินลงไปในสนาม แล้วก็เริ่มเดินเรื่อยเปื่อย ซ้ายสระน้ำ ขวา ต้นไม้ แล้วแรงบันดาลใจไปไหนหว่า

"เฮ้ย เป็นอะไรอีกล่ะนั่น วันก่อนไม่ได้พันตรงนี้นี่หว่า"

แหม่ แซวกูเจงงงงงงง ก็วันก่อนไม่ได้เจ็บตรงนี้นี่คร้าบบบบบ แต่วันนี้เปลี่ยนที่เจ็บแล้ว

หันไปยิ้มแหย ๆ ให้สมาคมคนชราที่มากันเป็นหมู่คณะที่มีกะใจร้องเพลงระหว่างวิ่งไปด้วยแล้วก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ

อาย........นะเนี่ย ไม่ใช่ไม่อาย

ลุง ๆ น้า ๆ อาอึ้มอาเจ็ก อายุอานามรวมกันปาเข้าไปเกือบพันแล้วมั้งนั่น
นับๆ รวมแล้วก็ได้ประมาณคนละเจ็ดแปดรอบกันเข้าไปแล้ว ตั้งแต่มาก็เห็นวิ่งกันก่อนหน้านั้นแล้ว

จะบอกว่ายอมแพ้คนแก่เหรอ ก็แบบว่า ...............

ก็ผมไม่เคยวิ่งนี่คร้าบบบบบ เข่ามันก็มีทรยศกันบ้าง ไหนจะหน้าแข้งอีกล่ะ เราต้องค่อยๆ เปลี่ยนสถานที่เจ็บไปเรื่อยๆ เด่ะ
จะมาเจ็บซ้ำที่เดิมมันก็ไม่ไหว ต้องเปลี่ยนที่เจ็บบ้าง

แล้วทำไมต้องแซวกันด้วยว๊า บอกตรง ๆ นะ..... อาย.....

"แรงบันดาลใจไม่มาแฮะ ไปไหนหว่า" บ่นพึมพำรำพัน แล้วเตรียมเสียบหูฟัง เปิดเพลงบรรเลงสุดไพเราะ

ตรงไหน

"ซงลงเซงเลง มันเป็นซงลงเซงเลง"

ก็ฟังได้นะ แต่ไม่ถึงขนาดต้องการจะฟังตลอดเวลา ขอเหอะพี่ปอยฝ้าย ขอเปลี่ยนเพลงหน่อยเหอะ
ไม่ไหวจริงๆ

แล้วนี่มันอะไรของมันอีกวะ มึงจะโทรกันเข้ามาทำไมนักหนาวะเนี่ย

"เฮ้ย เลยห้านาทีแล้ว ตกลงว่าไง กูจะได้ซื้อตั๋วเลย เอาไงว๊า น้องปอยของมึงไม่มาหรอก เชื่อกูเหอะ มาดูหนังกับกูเดี๋ยวเน๊ ฮ่า ฮ่า"

ขอบคุณ
สำหรับกำลังใจอันท่วมท้นล้นเหลือ
แต่กูไม่ต้องการเลย เก็บไว้เหอะ เกรงใจ

"เรื่องของกู"

กดตัดสาย แล้วก็จัดการเลือกเพลงที่ชอบ และเริ่มก้าวขาวิ่งเหยาะ ๆ

แรงบันดาลใจไปไหนหว่า มันมืดแล้วนะ สนามเขาก็เปิดไฟแล้วด้วย ไม่มาจริงๆ เหรอเนี่ย ถ้าแรงบันดาลใจไม่มาจะไปดูหนังแล้วนะ
เอาจริง ๆ นะเว้ย ถ้าขืนมาช้า พี่ไม่รอแล้วนะจ๊ะแรงบันดาลใจจ๋า

ละเมอเพ้อพก วิ่งสองสามก้าวด้วยความเร็วต่ำสุด แทบจะกลายเป็นเดิน พร้อมกับที่คณะสมาคมคนชรา ที่วิ่งมาเป็นหมู่คณะและร้องเพลงประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง

"สู้ไม่สู้ สู้ สู้ สู้ สู้แค่ไหน สู้ สู้ แค่ตาย"

เดี๋ยวได้ตายจริง ๆ เดี๋ยวก็ได้หามส่งโรงพยาบาลกันหรอกอาเจ็กอาอึ้ม จะมาสู้อะไรกันตอนนี้

ไม่ใช่ว่าไม่สู้นะ แค่เจ็บหัวเข่าแค่นั้นเอง ถึงต้องค่อย ๆ วิ่ง

"เฮ้ย อาตี๋ ลื้ออย่าเดินเกะกะขวางทางเซ่ วัยรุ่นใจร้อนจะรีบไป"

โห่ วัยรุ่น รุ่นไหนว๊า รุ่นไหนล่ะเนี่ย รุ่นแง้มฝาโลงชัด ๆ

ได้แต่ยิ้มแบบเจื่อน ๆ และหลีกทางให้สมาคมคนชรา ที่วิ่งนำหน้าลิ่ว ๆ ไปแล้ว
จะรอดมั้ยเนี่ยกู

เฮ่อ ยังไม่ถึงรอบเลย ได้ไปดูหนังซะล่ะมั้งแบบนี้ เห็นทีจะต้องไปแล้วล่ะ ยอมแพ้จริง ๆ งานนี้
กดโทรศัพท์โทรหาหมายเลขที่เพิ่งโทรเข้ามากวนประสาทเมื่อหลายนาทีก่อนและกรอกเสียงลงไป

ด้วยความรู้สึก โคตรเซ็ง

" เออ วิ่งเสร็จแล้ว เดี๋ยวกูไป....ซื้อตั๋วให้กูด้วย เออ แค่นี้แหละ"

กดวางสายเรียบร้อยและเปลี่ยนจากวิ่งเหยาะ ๆ เป็นเดิน ขืนวิ่งต่อก็คงไม่ไหว กลับไปก็ช้ำ
ยาทาสำหรับกล้ามเนื้อเอาไม่อยู่ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสำหรับเส้นเอ็นและข้อแล้ว

แต่ก็ยังเอาไม่อยู่

พอเปลี่ยนเป็นยากินแค่นั้นแหละ คืนเดียวอยู่ หายเป็นปลิดทิ้ง แต่พอหยุดยาก็จะกลับมาอาการเดิม ๆ อีกครั้ง

แล้ว

คุ้มมั้ยเนี่ย เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันมั้ยว๊า

เดินเรื่อยเปื่อยเพื่อออกจากสนาม เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง และเดินไปหยิบกระเป๋าใส่รองเท้าที่วางเอาไว้ด้วยหัวใจห่อเหี่ยว

ไม่เปลี่ยนมันแล้วรองท้งรองเท้า เอางี้เลยดีกว่าขาก็ขี้เกียจจะถอดผ้าที่พันเอาไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน โรงหนังอากาศเย็นแบบนี้แหละจะได้อุ่น ๆ

ก้าวขาเดินเรื่อย ๆ และต้องรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะเสียงเรียกเข้าชวนบาดใจ

"จังซี่มันต้องถอน จังซี่มันต้องถอน"

ตามกูเจงงงงงง ก็บอกว่ากำลังออกไปแล้วเนี่ย จะโทรตามไปถึงไหนว๊า

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วก็เตรียมกดรับสาย แต่ก็ไม่พบว่ามีใครโทรเข้ามาหา

" ห๊า ซื้อผักคะน้าด้วย ได้ ได้เดี๋ยวอีกพักหนึ่งแหละ"

หือ

ผักคะน้า เอาไปทำอะไร

ซื้อไปทำไม

ซื้อไปเพื่อ

เงยหน้ามองที่มาของเสียง และก็พบว่าใครคนหนึ่งเดินผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็วและไปยืนอยู่ที่จุดสตาร์ท

คุ้น ๆ นะ

วันนี้เสื้อสีส้ม มีเหมือนกันนะเสื้อสีส้มแต่วันนี้ไม่ได้ใส่มาแค่นั้นเอง

แล้วอีกอย่างนะ อยากบอกว่า นี่มันก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว จะมาทำไมป่านนี้

รู้มั้ยว่าโทรบอกเพื่อนให้ซื้อตั๋วหนังให้แล้ว ทำไมถึงเพิ่งมา

เห้อ เห้อ เห้อ ทำไมทำแบบนี้ ทำไมเป็นคนแบบเน๊ฟระ อยากจะกระโดดหอมแก้มซะให้หายข้องใจเจง เจงเลยเฟ้ยยย

ทำไมถึงทำกับฉานนนนด้ายยยย

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบและกดค้นหาหมายเลขอย่างเร่งด่วนก่อนจะกระแอมกระไอและกรอกเสียงลงไปด้วยน้ำเสียงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

"เออ กูป่วย ไปไม่ได้แล้ว มึงยังไม่ซื้อตั๋วหนังใช่ป่าว เออ แค่ก แค่ก แค่ก เนี่ยเพิ่งป่วยเมื่อกี้เลยสด ๆร้อน ๆ โหตัวร้อนมากเลยจริง ๆ นะเว้ยแค่นี้นะ"

กดตัดสายอย่างรวดเร็ว และมองไปที่แรงบันดาลใจที่วิ่งตัวปลิวแบบไม่มีคำว่าเหนื่อยให้เห็นแล้วก็เลยต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

"สู้ไม่สู้ สู้ไม่สู้ สู้ สู้"

อ่า ครับ ครับ สู้ก็สู้ ก็ได้วะ สู้ก็สู้

"ลีมาก ๆ อาตี๋ ลื้อต้องสู้ ๆ มาวิ่งกะอาม่านี่มา เร็ว ๆ เข้า"

คร้าบบบบบบ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ
วิ่งเหยาะ ๆ ก้าวเท้าตามสมาคมคนชราเข้าไปและรั้งอันดับท้ายสุด โดยมีพี่เลี้ยงเป็นอาม่าวัยใกล้ฝั่งคอยร้องเพลงให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ

"สู้ไม่สู้ ตี๋ สู้ป่าว"

อ่า ก็สู้ครับ สู้อยู่นี่ไหงล่ะม่า

ยิ้มแหย ๆ ให้อาม่าและก็วิ่งตามแบบช้าสุด ๆ ก่อนจะชะเง้อชะแง้มองไปที่แรงบันดาลใจที่วิ่งลิ่ว แบบไม่คิดจะสนใจกันบ้างเลย

"สู้คร้าบบบบ สู้ สู้"

สู้ไม่สู้ สู้สิคร้าบบบบ มาจนถึงขั้นนี้แล้ว จะไม่ให้สู้ได้ยังไง วิ่งต่อไปเพื่อแรงบันดาลใจคนเดียวล่ะก๊าบบบบบบ






TBC...

 


ตอนสุดท้ายของวันแล้วนะคะ เจอกันคืนพรุ่งนี้ดึกๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 03-04-2010 11:27:04
กรี๊ดดด

คุณซ้ง  กับ ตี๋ นุชา อาม่ากิม มาลง

ไทยบอยยแล้ววว ...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 03-04-2010 12:13:30
อยากมีน้องแรงบันดาลใจ เป็นของตัวเองบ้างจัง เอริ้กกกก ๆ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-04-2010 16:23:28
 :mc4:

มาต้อนรับเรื่องใหม่คุณเท็นรับ

ขอบคุณ นานา นะคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 03-04-2010 19:40:48
มาเจิมให้ค่า ^^  :mc4: :mc4:

ยังไม่ได้ไปเม้นให้เรื่องก่อนๆเลย แวะมาเม้นเรื่องนี้เป็นการทักทายละกันนะคะ

อยากอ่านเรื่องของพี่เวย์กับน้องสายด้วยนะ คิดถึง~
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 03-04-2010 20:00:41
เย้ เรื่องใหม่ :mc4:
เรื่องเก่าก็รออยู่น๊า :t3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 04-04-2010 23:18:31
สู้สู้ อ่า สู้ๆ ไอตี๋สู้ๆ

เหอะๆๆ

แรงบันดาลใจมาช้า งี้ก็แย่ ถ้ากลับไปก่อนทำไงอะ


ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 04-04-2010 23:45:20
ดีใจเจอนิยายใหม่คุณเท็น ขอบคุณนะคะคุณแนน  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: scouser ที่ 05-04-2010 12:43:32
ดีใจจัง
ได้อ่านเรื่องใหม่แล้ว
ว่าแต่ มาต่อเถอะนะ
รออยุจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 05-04-2010 12:44:34
แวะมาา


รักซ้งงง

รักต๋นุชาา
นุชาสู้ๆๆ


สมาคม ผู้สูงอายุวัยดึกน ่ารักโคตรร

อาม่ากิมน่ารักก

 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 05-04-2010 13:37:21
อยากมีแรงบันดาลใจแบบนี้บ้างจัง  :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † วิ่งเพื่อแรงบันดาลใจ+ช้านะ † o(>_<)o~> [03/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 05-04-2010 17:18:07
กร๊ากก ฮาอ่ะ วิ่งกะอาม่า55555555 ความพยายามสูงส่ง
ขอบคุณคุณแนนค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เด็ก มีปัญหา หา หา † o(>_<)o~> [05/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 05-04-2010 21:37:36
ตอน เด็ก มีปัญหา หา หา





ใส่ถุง เท้าอย่างเซ็ง ๆ
มองไปทั้งซ้ายและขวา ด้วยอาการง่วงเหงาเศร้าซึม
นั่งรอมาครึ่งชั่วโมง

แต่แรงบันดาลใจไม่มา

เลยต้องจำใจเตรียมตัวใส่รองเท้าแล้วรีบพันขาให้เข้าที่เพื่อจะได้วิ่ง
แบบเหงา ๆ

“เฮ้ย อาตี๋อ่ะ มาวิ่งกะม่านี่เร็ว ๆ เข้าช้าแล้วนาลื้อน่ะ”

ครับอาม่า
แทนที่จะได้กิ๊กกะแรงบันดาลใจ สงสัยจะได้กิ๊กกับอาม่าซะล่ะม้างงงง งานนี้

“แป๊บบบบบบบบบบบ นึงครับ เดี๋ยวไปเดี๋ยวไป”

ยิ้มแหย ๆ แล้วก็เริ่มลงมือพันหัวเข่าด้วยความเซ็ง
หน้ามุ่ยงอหงิกแล้วก็เงยหน้าขึ้นอีกรอบ หันซ้ายและขวา
แรงบันดาลใจชอบโผล่มาเวลาที่คิดว่าไม่มาแบบนี้แหละ

พอคิดว่าไม่มาปุ๊บ แรงบันดาลใจจะโผล่มาพร้อมกับเสียงเพลงอันสดใสของพี่ปอยฝ้ายปั๊บเลย

แบบนี้ต้องคิดว่าสงสัยแรงบันดาลใจไม่มาแน่แล้วชัวร์แล้วเดี๋ยวต้องโผล่ มาแน่ ๆ

คิดแล้วก็อมยิ้ม แล้วก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปิ๊งป่อง

นั่นไงลิบ ๆ มาแต่ไกลเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาแล้วนั่นไงแรงบันดาลใจจ๋า

อ่า

แรงบันดาลใจ

เขาคล้าย
แต่เขาไม่ใช่

ใครคนหนึ่งวิ่งผ่านหน้าไปแล้ว และไม่ได้หันมามองคนบ้านั่งพันเข่าเลยแม้แต่หางตา

แต่งตัวซะเหมือนแถมหุ่นยังคล้าย ๆ อีก
แบบนี้หมายความว่าไงฟระ ทำร้ายจิตใจกันเกินไปหน่อยแล้ว
เดี๋ยวร้องไห้ฟ้องอาม่าเลย โห่เอ้ย

หน้ายิ้มกลายเป็นหน้างอหงิก
ตั้งหน้าตั้งตาพันเข่าให้เรียบร้อยแล้วก็สวมรองเท้าสำหรับวิ่ง
หมุนเข่าไปมาสองสามทีแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

ทำไมถึงทำกันได้น้องแรงบันดาลใจ
ไม่มาแบบนี้รู้มั้ยว่าพี่เสียใจ
พี่ชอกช้ำ
พี่ทนไม่ได้
น้องแรงบันดาลใจทำไมทำกับพี่ได้ถึงขนาดนี้

ถ้าไม่น่ารักขนาดนี้ พี่คงไม่มีใจให้

น้องแรงบันดาลใจเป็นชายหนุ่มร่างสูงไม่มากแค่ 180 ซม. กว่า หน้าใส่กิ๊ง วิ่งลิ่วๆ ด้วยหน้าบูด ๆ เพียงหน้าเดียว

และไม่คิดจะเหลียวแลมองใครเลยสักนิด

น้องแรงบันดาลใจ ตั้งชื่อได้น่ารักแต่หน้าตาคนละเรื่องกับความน่ารักที่ใครคนหนึ่งพร่ำเพ้อ ละเมอหา

แล้วทำไมน้องแรงบันดาลใจไม่ยอมมา
ทำไมวะ ทำมายยยยยยยยยย

อยากจะร้องตะโกนบอกฟ้า ว่าชีวิตรักช่างแสนรันทด
แต่ก็ได้แต่แหงนหน้ามองฟ้าและน้ำตาเริ่มปริ่ม ๆ
ด้วยความเศร้าในโชคชะตาที่ต้องประสบพบเจอ

“เฮ้ย อาตี๋อ่า ลงมาไล่เลี้ยววววววว จะยืนไปทำมายยยย”

ฮือ ฮือ วิ่งก็ได้ ขอบคุณทุกความรู้สึกทุกความรักของอาม่าอาเจ็กอาอึ้ม และบรรดาสมาคมคนชราที่เป็นกำลังใจและติดตามผลงานการวิ่งอย่างทุลักทุเลด้วย ดีเสมอมา

ขอบคุณพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ๆ ที่ช่วยผลักดันให้ผมได้มีวันนี้

ขอบคุณมาก ๆ

เพ้อรำพัน ยืนนิ่งสงบไว้อาลัยให้กับความช้ำใจของตัวเองอยู่เพียงคนเดียว

พร้อมกับที่อาม่าต้องเดินมาลากแขนให้ลงไปในสนามด้วยกัน

ปลื้มใจในความสามารถขอตัวเอง คามเร็วของกู เร็วได้มากกว่าอาม่าแค่สองก้าวเองหรือนี่

มันน่าช้ำใจยิ่งนัก

“อากิม อาซ้งหลานชายลื้อไม่มาล่วยเหรอวันนี้”

อาม่ามีชื่อว่าอากิม
แหม่ชื่อช่างแสนจะไพเราะเพราะพริ้ง
สมัยก่อนคงจะขาวสวย หมวย เอ๊กซ์ไม่เบา
เพราะขนาดหง่อมได้ที่ขนาดนี้ ยังพอมองเห็นเค้าหน้าและมองรู้ว่าสมัยสาว ๆ อาม่าคงจะสวยไม่แพ้ใครแน่ ๆ

ใส่ถุง เท้าอย่างเซ็ง ๆ
มองไปทั้งซ้ายและขวา ด้วยอาการง่วงเหงาเศร้าซึม
นั่งรอมาครึ่งชั่วโมง

แต่แรงบันดาลใจไม่มา

เลยต้องจำใจเตรียมตัวใส่รองเท้าแล้วรีบพันขาให้เข้าที่เพื่อจะได้วิ่ง
แบบเหงา ๆ

“เฮ้ย อาตี๋อ่ะ มาวิ่งกะม่านี่เร็ว ๆ เข้าช้าแล้วนาลื้อน่ะ”

ครับอาม่า
แทนที่จะได้กิ๊กกะแรงบันดาลใจ สงสัยจะได้กิ๊กกับอาม่าซะล่ะม้างงงง งานนี้

“แป๊บบบบบบบบบบบ นึงครับ เดี๋ยวไปเดี๋ยวไป”

ยิ้มแหย ๆ แล้วก็เริ่มลงมือพันหัวเข่าด้วยความเซ็ง
หน้ามุ่ยงอหงิกแล้วก็เงยหน้าขึ้นอีกรอบ หันซ้ายและขวา
แรงบันดาลใจชอบโผล่มาเวลาที่คิดว่าไม่มาแบบนี้แหละ

พอคิดว่าไม่มาปุ๊บ แรงบันดาลใจจะโผล่มาพร้อมกับเสียงเพลงอันสดใสของพี่ปอยฝ้ายปั๊บเลย

แบบนี้ต้องคิดว่าสงสัยแรงบันดาลใจไม่มาแน่แล้วชัวร์แล้วเดี๋ยวต้องโผล่ มาแน่ ๆ

คิดแล้วก็อมยิ้ม แล้วก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปิ๊งป่อง

นั่นไงลิบ ๆ มาแต่ไกลเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาแล้วนั่นไงแรงบันดาลใจจ๋า

อ่า

แรงบันดาลใจ

เขาคล้าย
แต่เขาไม่ใช่

ใครคนหนึ่งวิ่งผ่านหน้าไปแล้ว และไม่ได้หันมามองคนบ้านั่งพันเข่าเลยแม้แต่หางตา

แต่งตัวซะเหมือนแถมหุ่นยังคล้าย ๆ อีก
แบบนี้หมายความว่าไงฟระ ทำร้ายจิตใจกันเกินไปหน่อยแล้ว
เดี๋ยวร้องไห้ฟ้องอาม่าเลย โห่เอ้ย

หน้ายิ้มกลายเป็นหน้างอหงิก
ตั้งหน้าตั้งตาพันเข่าให้เรียบร้อยแล้วก็สวมรองเท้าสำหรับวิ่ง
หมุนเข่าไปมาสองสามทีแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

ทำไมถึงทำกันได้น้องแรงบันดาลใจ
ไม่มาแบบนี้รู้มั้ยว่าพี่เสียใจ
พี่ชอกช้ำ
พี่ทนไม่ได้
น้องแรงบันดาลใจทำไมทำกับพี่ได้ถึงขนาดนี้

ถ้าไม่น่ารักขนาดนี้ พี่คงไม่มีใจให้

น้องแรงบันดาลใจเป็นชายหนุ่มร่างสูงไม่มากแค่ 180 ซม. กว่า หน้าใส่กิ๊ง วิ่งลิ่วๆ ด้วยหน้าบูด ๆ เพียงหน้าเดียว

และไม่คิดจะเหลียวแลมองใครเลยสักนิด

น้องแรงบันดาลใจ ตั้งชื่อได้น่ารักแต่หน้าตาคนละเรื่องกับความน่ารักที่ใครคนหนึ่งพร่ำเพ้อ ละเมอหา

แล้วทำไมน้องแรงบันดาลใจไม่ยอมมา
ทำไมวะ ทำมายยยยยยยยยย

อยากจะร้องตะโกนบอกฟ้า ว่าชีวิตรักช่างแสนรันทด
แต่ก็ได้แต่แหงนหน้ามองฟ้าและน้ำตาเริ่มปริ่ม ๆ
ด้วยความเศร้าในโชคชะตาที่ต้องประสบพบเจอ

“เฮ้ย อาตี๋อ่า ลงมาไล่เลี้ยววววววว จะยืนไปทำมายยยย”

ฮือ ฮือ วิ่งก็ได้ ขอบคุณทุกความรู้สึกทุกความรักของอาม่าอาเจ็กอาอึ้ม และบรรดาสมาคมคนชราที่เป็นกำลังใจและติดตามผลงานการวิ่งอย่างทุลักทุเลด้วย ดีเสมอมา

ขอบคุณพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ๆ ที่ช่วยผลักดันให้ผมได้มีวันนี้

ขอบคุณมาก ๆ

เพ้อรำพัน ยืนนิ่งสงบไว้อาลัยให้กับความช้ำใจของตัวเองอยู่เพียงคนเดียว

พร้อมกับที่อาม่าต้องเดินมาลากแขนให้ลงไปในสนามด้วยกัน

ปลื้มใจในความสามารถขอตัวเอง คามเร็วของกู เร็วได้มากกว่าอาม่าแค่สองก้าวเองหรือนี่

มันน่าช้ำใจยิ่งนัก

“อากิม อาซ้งหลานชายลื้อไม่มาล่วยเหรอวันนี้”

อาม่ามีชื่อว่าอากิม
แหม่ชื่อช่างแสนจะไพเราะเพราะพริ้ง
สมัยก่อนคงจะขาวสวย หมวย เอ๊กซ์ไม่เบา
เพราะขนาดหง่อมได้ที่ขนาดนี้ ยังพอมองเห็นเค้าหน้าและมองรู้ว่าสมัยสาว ๆ อาม่าคงจะสวยไม่แพ้ใครแน่ ๆ

ยิ้ม

และพร่ำเพ้ออยู่ในใจคนเดียว

แค่นี้แหละหนอที่ต้องการ ไม่อยากได้อะไรแล้ว นอกจากได้ชื่นชมน้องแรงบันดาลใจอยู่ไกล ๆ

น้องแรงบันดาลใจ ช่างแสนจะอดทนในการวิ่งอะไรขนาดนี้
อยากมอบพวงมาลัยติดแบงค์ยี่สิบซักสองพวงให้เป็นกำลังใจเหลือเกิน

คนบ้าวิ่งขากระเผลกแต่แทบจะตัวลอย ไม่ได้สนใจฟังอะไรเลยทั้งนั้น

ไม่สนใจแม้กระทั่งบทสนทนาสำคัญที่สุด ที่พลาดไปอย่างน่าเสียดาย

“ม่ายทักกันเหมืองเคย ลื้อนี่ก็แปลก ต่างคนต่างวิ่งม่ายทักทายกันประหลาดคน มิน่าอาซ้งถึงได้เป็นเด็กมีปัญหาขนาดนี้”

“อั๊วม่ายห้ายอีทักหรอก เดี๋ยวเสียสมาธิหมด ลื้อม่ายเข้าจาย เดี๋ยวใคร ๆ รู้ว่าอั๊วมีหลานชายตัวโตขนาดนี้ เดี๋ยวก็ไม่มีใครมาจีบกานพอลี”

ช่างเป็นความคิดที่พิลึกเข้าขั้น

อาม่ายังคงหัวเราะคิก ๆ คัก ๆ อย่างชอบใจ

แต่ไอ้หนุ่มขาเดี้ยงไม่ได้สนใจจะฟังหรือจะมองเพราะมีบางอย่างที่น่าสนใจ กว่าปัญหาครอบครัวของคนวัยดึก

สายตายังคงจับจ้องไปที่น้องแรงบันดาลไม่วางตา

สำหรับพี่ น้องแรงบันดาลใจเปรียบเสมือนปลากระป๋อง
หมาอย่างพี่ได้แต่มองเพราะถึงอยากกินปลากระป๋อง แต่ก็ได้แต่มองเพราะเปิดไม่ได้

น้องแรงบันดาลใจจ๋า

น้องแรงบันดาลใจ

โอ้ลันล้า น้องแรงบันดาลใจของพี่
น้องจะอยู่ในใจของพี่และเป็นที่หนึ่งในใจพี่ตลอดไป
อื้อหือ เสี่ยวได้อีก ขนาดคิดเองยังอยากจะอ้วกเองเลย


TBC...

 


พรุ่งนี้บ่ายๆ แนนจะมาอัพให้อีกตอนนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เด็ก มีปัญหา หา หา † o(>_<)o~> [05/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-04-2010 21:46:47
^^
^^
จิ้มน้องสาว มาเป็นกำลังใจให้กับเรื่องใหม่

เรื่องนี้พระเอกรั่วได้ใจจริง ๆ

+1 ให้เป็นน้ำใจอันกว้างใหญ่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เด็ก มีปัญหา หา หา † o(>_<)o~> [05/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2010 10:55:41
^^
^^
จิ้มน้องสาว มาเป็นกำลังใจให้กับเรื่องใหม่

เรื่องนี้พระเอกรั่วได้ใจจริง ๆ

+1 ให้เป็นน้ำใจอันกว้างใหญ่  :กอด1:

 :z13:

นานๆจะได้จิ้มซะที

ขอจิ้มหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เด็ก มีปัญหา หา หา † o(>_<)o~> [05/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 06-04-2010 11:26:24
 :กอด1:พี่แนน
เอาเรื่องน่ารักมาลงอีกแล้ว
 :pig4:ค้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เด็ก มีปัญหา หา หา † o(>_<)o~> [05/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 06-04-2010 12:57:17
เป็นเอามาก แต่ก็เป็นกำลังใจให้ตี๋

อยากรู้จักเด็กมีปัญหาไวๆ เดี๋ยวพี่เคลียร์ปัญหาให้นะจ๊ะ กิ้วๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เด็ก มีปัญหา หา หา † o(>_<)o~> [05/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 06-04-2010 16:04:58
อาตี๋เริ่มอาการหนัก... :laugh: :laugh:

แล้วเมื่อไหร่ 2 คนนี้จะรู้จักกันหล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เด็ก มีปัญหา หา หา † o(>_<)o~> [05/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 06-04-2010 16:54:24
สรุป อาตี๋ นี่พระเอกหรือนายเอกกันนะ

ก็น้องแรงบันดาลใจออกจะสูง(180+) แถมยังวิ่งตัวปลิวซะ

แต่อาตี๋ของเราเหมือนต้องการ การดูแลอีกเยอะเลย  :really2:

ยังรอเรื่องเก่าๆน้าค้าาา

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 09-04-2010 23:04:08
ตอน โคลสอัพใกล้ชิด





“เฮ้ย หลบหน่อยเป็นมั้ย”

หา

หลบหน่อย หลบ หลบ หลบไปไหนอ่า นี่ก็หลบแล้ว จริง ๆ นะหลบแล้ว
หลบแล้วจริง ๆ หลบจนจะตกเลนอยู่แล้ว ให้ทำไงอ่า

รีบกระเด้งหลบเหมือนลูกฟุตบอลจนแทบตกเลน แล้วก็ต้องรีบกระโดดกลับมาอยู่ในเลนวิ่งอย่างรวดเร็ว เมื่อเริ่มตั้งสติได้


ทำไมโหดจังว๊า แค่ลืมตัวแล้วไปวิ่งกลางเลนแบบเต่าคลานแค่เนี้ยะมาทำเสียงดุใส่ได้ไง

ไม่เห็นเหรอว่าคนขาเดี้ยงตั้งใจวิ่งอยู่ แทนที่จะให้กำลังใจ
ทำไมมาทำเสียงดุใส่กันได้ล่ะคร้าบบบบบบบบบ

น่าสงสารจะตาย

หรือว่าน้องแรงบันดาลใจไม่คิดงั้นล่ะจ๊ะ

ให้อภัยครับ

ด่าอีกก็ยิ้มอีก เคลิ้มมมมมมมมมมมม

วิ่งมาอีกสิบรอบไล่ให้หลบอีกสิบรอบก็จะไม่ว่าอะไรเลยจ่ะ น้องแรงบันดาลใจจ๋า

“อาตี๋ ลื้ออย่าไปวิ่งขวางทางอีเดี๋ยวอีจะกัดเอา ยางม่ายล่ายฉีดยา”

ดุ ยังไม่ได้ฉีดยา แต่หล่อและน่ารักมากกกกกกกกก ในสายตาผม

และถึงจะดุแค่ไหนก็เป็นแรงบันดาลใจของผมครับอาม่า

ผมให้อภัย

ตาเยิ้มและหัวเราะแหะ แหะ สองที ด้วยความเพลิดเพลินเจริญหัวใจ
มองหน้าอาม่ากิมแล้วก็ยังอมยิ้มหนักกว่าเดิม

“จิตใจลีเจง ๆ ขนาดหมาจะกัดยังยิ้มล่ายยยย เก่งมั่ก”

แน่ล่ะ ลองเป็นคนอื่นจะกระโดดเตะให้ถึงยอดหน้าและไม่ยอมให้มาว่ากันได้ง่าย ๆ หรอกแต่บังเอิญว่าเป็นคนโน้นนนนนนนนนนนนนนน

ไอ้ตี๋อารมณ์เพ้อ รีบหันขวับไปมองแรงบันดาลใจร่างสูงโย่งที่วิ่งลิ่วเหมือนเพิ่งไปกระชากสร้อย ใครมาแล้วก็ยิ้มจนตาแทบปิด

“เราต้องรักกันไว้ครับอาม่า”

รีบหันกลับมาตอบแล้วก็ยังอยู่ในอารมณ์เพ้อ ยิ้มไม่เลิก วิ่งสโลว ช้าเป็นเต่าคลานรั้งท้ายหมู่คณะสมาคมคนชราโดยมีอาม่ากิมเป็นเทรนเนอร์วัยดึก ให้ ช่างเป็นชีวิตที่น่าภาคภูมิใจ

“อ่า ลี ลี ม่าลูคนม่ายผิดเจงเจง”

ครับ

ไม่ผิด ไม่ผิดเลยสักนิดเดียว คนดี ๆ นิสัยดีแบบผมหายากมาก อาจต้องไปคุ้ยเขี่ยหา
แต่นี่มาปรากฏตัวให้เห็นแบบชัด ๆ กันไปเลย
เยี่ยมใช่มั้ยล่ะ งั้นก็ชื่นชมผมอีกสิ ผมชอบบบบบ


“เหงื่อไหลเลย มา มา ท่าจะเหนื่อย ม่าจะเช็ดหน้าให้”

ครับพ้ม

ถอยไปจนชิดเลนวิ่งและยืนสงบนิ่ง ก้มหน้าลงมาเล็กน้อย เพราะความสูงไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบห้า สูงกว่าอาม่ากิมไม่เท่าไหร่ ยืนอมยิ้มภาคภูมิใจในความสูงของตัวเองที่ได้สูงกว่าคนแก่ได้ไม่ถึงสองนาที แล้วก็ต้องผงะ เมื่อพบว่ามีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างหลังอาม่าและกำลังยืนนิ่งจ้องหน้าอย่าง เอาเป็นเอาตาย

สภาพคนยืนจ้อง หน้าใสกิ๊ง และสูงลิ่วจนต้องเงยหน้าขึ้นมอง

ระยะสองไม้บรรทัด
ใกล้ไปมั้ย

ชีวิต…..จะหาไม่ เพราะปรับลมหายใจไม่ทัน

น้องแรงบันดาลใจไม่ยิ้ม ไม่ทำหน้ามู่ทู่ แต่น้องแรงบันดาลใจทำหน้านิ่งเย็นชา
ก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นทำท่าปาดคอให้ดู

และวิ่งจากไปอย่างรวดเร็วแบบไม่รอเอาคำตอบ

แปลว่าไรว๊า

ไม่เข้าใจ

ยืนนิ่งสงบพร้อมกับทำหน้ามึนงง

“อ่า เรียบร้อยเลี้ยว ไป วิ่งกะม่าต่อดีกว่านะ อาตี๋”

ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกะเขาเลยเนอะ
เมื่อไม่กี่วินาทีนี้ผมแทบช็อค อาม่ารู้มั้ยครับ

เพราะว่าได้เห็นหน้าน้องแรงบันดาลใจในระยะโคลสอัพ วะ ฮะ ฮะ ฮ่า

อาม่าคงไม่เข้าใจล่ะสิ ว่าการได้เห็นน้องแรงบันดาลใจในระยะใกล้ชิดมันรู้สึกยังไง

มันก็รู้สึกอย่างนี้ไงล่ะครับอาม่า

“ยิ้มล่ายท้างงงวัน ยิ้มเก่งจริง ๆ”

ครับ ครับ ยิ้มเก่ง ยิ้มมาก ยิ้มได้ทั้งวัน ก็เพราะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่.........

เพราะคนโน้นนนนนนน ที่กำลังวิ่งรอบที่หก วิ่งเก่ง ขายาว วิ่งไว วิ่งได้วิ่งดี วิ่งกี่ที ท่าวิ่งก็ดูดีไปหมดเลย ใช่มั้ยครับอาม่า เห็นด้วยกับผมใช่มั้ย

“สักวันผมจะวิ่งให้เร็วกว่าอาม่าให้ได้ สู้ สู้”

หัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน ระหว่างชายหนุ่มขาเดี้ยง กะอาม่าวัยดึก ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเสียนี่กระไร

โดยมีสายตาเหี้ยม ๆ ของน้องแรงบันดาลใจที่ลอบมองอยู่อย่างเงียบ ๆ ระหว่างวิ่งวนรอบที่หนึ่งสอง สาม สี่ ห้า หก

ไม่ใช่คนที่ชอบวิ่งเร็ว ๆ แต่ต้องวิ่งให้เร็วก็เพื่อจะมาดูให้เห็นใกล้ ๆ ชัด ๆ ในทุก ๆ รอบว่าไอ้แกร็นขาเดี้ยงมันทำอะไร

“อยากตายนักใช่มั้ย ถ้ายังเจ๊าะแจ๊ะกะอาม่าอั๊วไม่เลิก ลื้อได้ตายสมใจแน่ตี๋ ฮึ่ม”
 


TBC...

 


พรุ่งนี้บ่ายๆ แนนจะมาอัพให้อีกตอนนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 09-04-2010 23:24:09
น่ารักมาก ๆ  :o8:
แค่โคลสอัพยังขนาดนี้ ..ถ้าได้คุยจะเพ้อขนาดไหนเนี่ย :jul3:
ขอบคุณสำหรับเรื่อง น่ารัก ๆ นะ.. :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-04-2010 23:42:57
รอต่อไป ขอบคุณคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 09-04-2010 23:53:24
นี่ๆๆ คุณน้องแรงบันดาลใจของเจ้าตี๋คะ
นี่คิดว่าอาตี๋แกจีบอาม่าจริงๆหรอ
 :m20: :m20: :m20: :m20:

โอ๊ยยย ไม่ไหวๆๆ  น่ารักมากกๆๆๆๆ
มาต่อเร็วๆๆน้า  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 10-04-2010 00:04:25
ตกลงอาตี๋จีบอาม่าหรือน้องแรงบันดาลใจกันแน่ :m12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 10-04-2010 01:16:40
อาม่ากิมน่ารักมากมาย  :กอด1:อาม่าค่ะ

ว่าแต่...ระยะโคลสอัพแล้ว อีกเดี๋ยวเขาสองคนก็จะได้รู้จักกันและกันแล้วสินะ ตื่นเต้นแทนอาตี๋แกร็นเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 10-04-2010 01:25:39
เป็นนายเอกอ่ะเปล่าอ่ะ
 :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 10-04-2010 19:48:56
น้องแรงบันดาลใจเข้าใจไปนั่น  :m20: :m20: :m20: :m20:

คิดว่าอาตี๋จะจีบอาม่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 10-04-2010 21:20:45
เข้ามารออาม่า :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 10-04-2010 21:23:31
อาตี๋เนี่ยนะจะไปทำอะไรอาม่าได้ห๊ะ

คุณแรงบันดาลใจ คิดไปนั่น :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: yuchan ที่ 10-04-2010 21:55:55
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด นิยายเรื่องใหม่ของคุณaoikyosuke

อ่านเมื่อไหร่ก็น่ารัก แค่เรื่องต้นก็ยิ้มจนกรามแทบค้างเช่นเคย

 o13     o13    น้องแรงบันดานใจหึงอาม่า หรืออาตี้หนอ อิอิ

มาต่อเร็วนะคะ กีสสสสส
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โคลสอัพใกล้ชิด † o(>_<)o~> [09/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 10-04-2010 22:04:41
น้องแรงบันดาลใจ หวงอาม่านี่เอง  :jul3:


อาตี๋ลื้อเข้าทางอาม๊า ใช่ไหม :m20:

วิ่งต่อไปนะ สู้ๆ ขอบคุณคราบ................
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 11-04-2010 13:47:07
ตอน ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ





“อาม่า อยู่แถวนี้เหรอครับ เจอทุกวันเลย”

อาตี๋ขาเดี้ยง ใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อและลงมานั่งอยู่บนพื้นหญ้าข้างสนาม โดยมีอาม่าวัยดึกและเหล่าหมู่คณะสมาชิกนักวิ่งวัยดึก ผู้รักการวิ่งเป็นจิตใจ กระจายกำลังกันนั่งพัก ซับเหงื่อและหาน้ำมาดื่มกันให้หายเหนื่อย

“อ๋อ ช่ายๆ ม่าอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้แหละ หลานชายมารับมาส่งทุกวัน”

หลานชาย หลานชายที่ว่า คือไอ้เด็กมีปัญหาที่หนีออกจากบ้านที่อาม่าพูดถึงเมื่อวันก่อนใช่หรือเปล่า
วันก่อนยังไม่ทันได้เห็นหน้าเลย ลืมนึกไปเลย มัวแต่มองน้องแรงบันดาลใจเพลินไปหน่อย ก็เลยไม่ทันได้มอง ว่าหลานชายอาม่าคนไหน

“อีชอบทะเลาะกะอาฮวย แล้วก็ชอบขี้งอน แล้วอีก็ขี้น้อยใจ แล้วอีก็ชอบดื้อ แต่ว่าอีเชื่อฟังอาม่านะ อีรักอาม่าคนเดียว”

เออเนอะ
เด็กติดอาม่า นึกภาพไม่ออกแฮะ คงจะเป็นพวกแปลก ๆ พิลึก

“อีชอบไปซิ่งรถด้วย ว่าง ๆ ม่าก็ไปดูอีแข่งโอ้ยยยย ขับกันฝุ่นตลบไปหมด ม่าก็เชียร์ ๆ มีชุดไปเชียร์ด้วยนะ ซาหนุกเจง ๆว่าง ๆ อาตี๋ต้องไปดูกะอาม่านา อาซ้งอีอย่างงี้เลย”

โห่ ม่า มีการยกนิ้วโป้งให้อีก
สงสัยจะเก่งมาก
เป็นเด็กแว้นซ์ว่างั้น

อะไรก็ดีหมดเลยนะ ซิ่งรถ ขี้ใจน้อย ขี้งอน ดื้อ ดูน่าคบหาเนอะ

ไว้โอกาสหน้าดีกว่าม้างงงง แบบว่า ไม่ค่อยชอบแนวนี้

แต่ชอบแนวโน้นนนนนนนนนนนน มากกว่า

หน้าใส ๆ กิ๊ง ๆ วิ่งเก่ง ๆ ตัวสูง ๆ ขายาว ๆ

อ่านั่นแหละ คนนั้นนนนนนนนน แหละใช่เลย

มีการแอบลอบปรายตาไปที่น้องแรงบันดาลใจที่อยู่ห่างออกไปไกลพอตัว
แต่ก็พอจะสังเกตเห็นได้

ก็คนมันตาดี อยู่ตรงไหนรู้หมด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็อยู่ในสายตาตลอด
ไม่ให้มองหาได้ยังไง แรงบันดาลใจทั้งคน จะทำเป็นไม่สนใจได้ยังไงล่ะ
น้องแรงบันดาลใจเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันใช่มั้ย
เนอะ

น้องแรงบันดาลใจ ก็ต้องมีคิดแบบนั้นเหมือนกันล่ะเนอ

พูดเอง เออเอง เข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพและนั่งอมยิ้มตาเยิ้มไม่เลิก

“อาซ้งคงเป็นคนน่าคบน่าดูเลยนะครับ เหอะ เหอะ เหอะ”

หัวเราะแบบฝืด ๆ เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท และชื่นชมในความสามารถขอ
หลานชายอาม่าเล็กน้อย

ว่าไงก็ว่าตามกันครับ

เทรนเนอร์ว่ายังไงลูกศิษย์ก็ว่าตามกันแบบนั้นล่ะคร้าบบบบ งานนี้

“แต่ว่าอีไม่ยอมมีแฟนน่ะสิ อาม่าหาให้อีก็ไม่อาวววว ไปไหนอีก็จะคอยตาม โอ้ยยย อาม่านะไม่อยากจะบอกเล้ยยย มีคนมาจีบอาม่าด้วยนะ จริงจริ๊ง แต่อีก็ไล่กระเจิงไปหมดเล้ยยยย”

ฮอทมากเลยนะ อาม่ากิม ฮอทไม่เบาเลย
เป็นผู้หญิงที่ฮอทสุด ๆแม้ในวัยนี้ก็ตามที

อาซ้งที่ว่าก็คงจะหวั่นใจในความฮอทของอาม่าตัวเอง ถึงได้ติดตามและดูแลอาม่าอย่างใกล้ชิดซะขนาดนั้น

แบบนี้เข้าขั้นไม่ปกติ เหอ เหอ เหอ ดูน่าคบหาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เลยเนอะ

“แล้วนี่เขาไม่คิดว่าผมมาจีบอาม่าเหรอครับเนี่ย”

พูดไปยิ้มไป พูดไปหัวเราะไป แต่รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ แบบไม่ทราบสาเหตุ

จะว่าไป วันนี้ก็คล้าย ๆ ว่าจะได้สบตากับน้องแรงบันดาลใจด้วยนะ
แบบแว่บ ๆ แต่ไม่กล้าสบตาจัง ๆ

แหม่

เขินแย่
ตาดุแล้วก็ขวางซะขนาดนั้น
มองตรง ๆ ไม่ได้ เดี๋ยวจะลืมหายใจ

แต่ก็เหมือนคิดไปเองคนเดียว ว่าวันนี้น้องแรงบันดาลใจพยายามจะสบตาด้วย

ไม่หรอก ม้างงงงง ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวซะหน่อย สงสัยจะคิดไปเองมากกว่า

แต่ว่า.....เอ๊ะ มันก็รู้สึกแปลก ๆ นะ เหมือนกำลังถูกจ้องอยู่

พอมองไปที่น้องแรงบันดาลใจ ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น แต่พออยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกจับตามอง หรือว่าจะคิดมากไปจริง ๆ

“แล้วอาตี๋ ไม่มีแฟนเหรอ นี่อาม่าจะยกอาซ้งให้เลยนา เอาไปดู ๆ หน่อย เผื่อจะแก้ไขไล่บ้างงงนา มีเพื่อนมีน้องก็แนะนำกันล่ายยย อีนิสัยดี อาม่าเลี้ยงมาเองกับมือ
ถึงอีจะดื้อไปบ้าง แต่รับรองว่าอีนิสัยดี น่ารักที่สุดดดดดดดด”

เยอะไปมั้ย

สรรพคุณของอาซ้งที่ว่า
ตั้งแต่นั่งพักไม่มีประโยคไหนที่อาม่ากิมไม่พูดถึงอาซ้งหลานชายเลย

ท่าทางจะเป็นคนดี ที่แปลก ๆ อยู่

“แล้ววันนี้เขาไม่มารับอาม่าเหรอครับ”

ถามออกไปแล้วก็เห็นอาม่าวัยดึกสะบัดหน้าเล็กน้อยทำเหมือนสาว ๆ แล้วก็ได้แต่อมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก เพราะท่าทางการงอนของอาม่าวัยดึก

“อย่าพูดไปนา อาม่าโกรธอี อีหนีออกจากบ้านไปหนึ่งวันแล้ว อาม่าเลยไม่พูดกับอี”

นะ

สรุปว่าทะเลาะด้วยแม้กระทั่งอาม่าตัวเองเหรอนี่
เด็กมีปัญหาของแท้เลยนี่หว่า

“แล้วอาม่าทำไงครับ”

“ไม่ทำรายยย อีก็มารับมาส่งเหมือนทุกวัน แต่อาม่าจะดัดนิสัย อาม่าเลยไม่พูดกับอี
อีจะได้เลิกดื้อ ลีม้ายยยย”

ก็ดีมั้งครับ ปัญหาครอบครัวคนวัยดึกคือเรื่องแบบนี้เองเหรอ ผมไม่เข้าใจหรอกแต่ผมขำครับอาม่า

ชักอยากจะเห็นหน้าขึ้นมาตงิด ๆ จริง ๆ นะเนี่ย

“งั้น วันนี้ผมกลับก่อนนะครับ มืดแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเจอกันอีกนะครับ”

ช่างเป็นการนัดพบที่แสนโรแมนติก ระหว่างหนุ่มวัยกระเตาะกับอาม่าวัยดึก

อาตี๋ขาเดี้ยง ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าใส่รองเท้าขึ้นมาสะพายพร้อมกับไหว้อำลาเหล่าอาเจ๊กอาซิ้ม อากง อาม่า คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่รวมกันและเตรียมตัวแยกย้ายกลับบ้าน

“ไปแล้วนะคร้าบบบบบ เจ๊กหวัดดีคร้าบบบบ กงหวัดดีคร้าบบบบ ซิ้มหวัดดีคร้าบบบ”

กว่าจะไหว้ครบก็เล่นเอาแทบเมื่อย แต่ก็ได้รับคำอวยพรกลับมามากมายท่วมท้น

“อาตี๋ เหลียวพรุ่งนี้ กงจะเอาสมุนไพรมาให้นา รับรองทาทีเดียวหายขาด วิ่งไล่ปร๋อออ เลย”

โห ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบ ขอบคุณมากคร้าบบบบบบบ

ไหว้อำลาทั่วทิศทั่วไทย แล้วก็เดินขากระเผลกยิ้มแฉ่งสะพายกระเป๋าออกมาตรงทางเดิน

ถ้าไม่คิดไปเอง ก็รู้สึกเหมือนมีใครกำลังเดินตาม

ไม่ได้คิดไปเองแน่ ๆ มีคนกำลังเดินตาม

รีบกลับหลังหันเพื่อมองหาคนที่เดินตาม และก็ปะทะกับใครคนหนึ่งที่หยุดเดินแบบกะทันหันจนทำให้เซถลาจนแทบจะตกทางเดิน

“หันกลับมาทำไมวะ บ้าหรือเปล่า”

โห นั่นมันคำพูดของผมไม่ใช่เรอะ แทนที่จะเป็นฝ่ายด่ากลับโดนด่าซะนี่ คุณเดินมาชนผมเองนะเนี่ย แทนที่จะขอโทษไม่มีเลยนะ

พูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ

แบบนี้หมายความว่า............

เอ่อ.....หมายความว่าไงนะ

“ขอโทษครับ แบบว่าผม ไม่ ไม่ระวังเอง ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ”

อ่อนน้อมถ่อมตนขึ้นมาแบบทันทีทันใด ตามองไปที่ใบหน้าของคนหน้าบูดบึ้งตรงหน้าแล้วก็ต้องรีบหันหลังกลับแทบไม่ทัน และเดินจ้ำอ้าวออกมาแบบไม่คิดชีวิต

ตาย

ตายแน่ ตาย ตาย

ตายแน่ ๆ ตายอย่างเดียว

ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว

ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ตื่นเต้น ตื่นเต้น ตื่นเต้น
หัวใจเต้นรัว จนเหมือนว่ากำลังจะกระเด้งออกมาจากอก

เพราะคนเพียงคนเดียว

น้องแรงบันดาลใจ

น้องแรงบันดาลใจในระยะใกล้ชิด สุด ๆ แบบเนื้อแนบเนื้อ ถึงเนื้อถึงตัว

โอย ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว ทำตัวไม่ถูก ทำหน้าไม่ถูก

ทำไงดี ทำไงดี

โอ้ยยยยยยยยยยยยยย ทำไงดีวะ ใครก็ได้ช่วยบอกที

ในขณะที่อาตี๋ขาเดี้ยง จ้ำอ้าวเดินลิ่วสุดชีวิต

น้องแรงบันดาลใจร่างสูงโย่งหน้าใสกิ๊ง กำลังยืนขมวดคิ้วมุ่นและจ้องมองตามหลังคนที่รีบเดินจากไปแล้ว จ้องและมองแบบชนิดที่ไม่ให้คลาดสายตา

ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นหนักกว่าเดิม และหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ ว่าจะทำบางอย่างถ้าหากแผนขั้นที่หนึ่งไม่ได้ผล

“ระวังตัวไว้ให้ดีเหอะตี๋ วันนี้ปล่อยไปก่อน ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่เลิกยุ่งกะอาม่าอั๊วล่ะก็
ได้คุยกันยาวแน่ ๆ”






TBC...

 


:กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 11-04-2010 17:23:34
^
^
^
^
^
จิ้มๆ 555

อ๊ายยยย อาม่าจ๊าบมาก!!!! เป็นสาวฮอทแห่งปี... :jul3:

อาตี๋...ลื้องานเข้าแล้ว น้องแรงบันดาลใจเข้าใจไปโน่นแล้ว  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 11-04-2010 18:23:24
กี๊ดดดดด อยากอ่านต่ออยากอ่านต่อๆๆๆๆคุณแนนนนน รีบมาลงเลยน้าาาา
ไม่ไหวละ สูงกว่าม่านิดเดียวทำเก่งเนอะ 55555555555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 11-04-2010 19:40:03
น่ารักมากก ..  :z2:
อาตี๋แย่แน่ โดนน้องแรงบันดาลใจหมายหัว.. :jul3:
เกือบหัวใจวายแล้วมั้ยล่ะ เจอน้องแรงบันดาลใจระยะประชิด..  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 11-04-2010 20:21:52
โอ๊ยยยย ไม่ไหวแล้ว อ่านเรื่องนี้แล้วยิ้มตลอดอ่า


ก็นะ อาตี๋ ช่างน่ารักน่าชังและที่สำคัญฮาได้ไม่มีใครเกิน โดนน้องแรงบันดาลใจหมายหัวแล้วนะนั้น ยังไปใจเต้นกับเค้าอีก  :laugh:


ส่วนน้องแรงบันดาลใจ ก็ ห่วงอ่ม่าเหลือเกิน โถ่ๆๆๆ อาตี๋ซ้ง ช่างคิดเนอะ   :m20:


ส่วนนี้ต้องมอบให้อาม่า คนดี กับคนโพสด้วย   :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 11-04-2010 21:20:45
อาตี๋ตลกดี  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 11-04-2010 21:32:28
จ๊าบทั้งอาม่าทั้งน้องแรงบันดาลใจ
อาตี๋ก็เขินซะ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 11-04-2010 21:34:34
กี๊ด อาตี๋อ้ะ ดันมาถามเอาวันที่อาม่ากิมโกรธกับน้องแรงบันดาลใจซะอีก
แล้วเมื่อไหร่จะรู้จักก๊านนนนนนนนนน โว้ว

แล้วทำไมยังไม่ทันได้รู้จักกัน ถึงอ่านแล้วเขินได้ละชั้น  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 11-04-2010 22:52:23
เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งฮา :jul3:

ระวังตัวนะ อาตี๋ โดยหมายหัวไม่รู้ตัว  :laugh:

ขอบคุณครับผม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 11-04-2010 23:06:14
ยิ่งอ่านิย่งฮ่าอ่ะเรื่องนี้   :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 11-04-2010 23:50:50
555+ สาวฮอต

คุณหลานก็ขี้หวง แถมเข้าใจผิด

อาตี๋ก็ขี้อาย 5555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 11-04-2010 23:53:44
:m20: :m20:
อาตี๋เอ๊ยยย ได้สมหวังแน่นอน น้องแรงบันดาลใจได้เข้ามาวนเวียนใกล้ๆแน่
อาม่าเธอฮอทจริงๆ
ชอบอะ ฮาได้ทุกตอนที่อ่าน
[/color]
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 12-04-2010 00:00:17
อย่างฮาค่ะ
ท่าทางคู่นี้จะน่ารักแบบต๊องๆหน่อย
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ่ง ใกล้ยิ่งมั่นใจ † o(>_<)o~> [11/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-04-2010 15:20:49
เหอเหอ

ลุ้นเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 12-04-2010 19:44:38
ตอน การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด





คำถาม….

จะทำยังไงเมื่อกำลังนั่งพันหัวเข่าอยู่แล้วมีใครคนหนึ่ง วิ่งผ่านหน้าไป คนที่ว่านั้น ใส่เสื้อกีฬาสีขาวกางเกงวอร์มขาสั้นและรองเท้าสำหรับวิ่งคู่เดิม

คนที่วิ่งผ่านหน้าไปคนที่ว่า หน้ายังนิ่งๆ เฉย ๆ บึ้ง ๆ เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

แตกต่างจากทุกวันบ้างตรงที่

มีการยกมือขึ้นเสยผมเล็กน้อย เพื่อไล่หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่ที่เส้นผม เหมือนผมจะเปียก แต่อาจจะแค่หมาด ๆ คาดว่าเพิ่งสระผมเสร็จก่อนออกมาวิ่ง

ได้ใจไปเต็ม ๆ

น้องแรงบันดาลใจจ๋า

จะทำหัวใจพี่ละลาย ละลาย ละล่องไปถึงไหน

ไม่ไหวแล้ว หัวใจมันเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ และหน้าก็พาลจะยิ้มระรื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

นี่แหละ น้องแรงบันดาลใจของแท้และดั้งเดิม

หน้าต้องนิ่ง แต่ใสกิ๊ง วิ่งต้องเร็ว และทำหน้าเหมือนไม่สนใจคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา

ประทับใจโคตร ๆ

อาตี๋เข่าเจ็บ นั่งใช้ผ้าพันเข่าไปแล้วน้ำลายก็แทบจะหยดแหมะ ๆ
เมื่อจับตามองการวิ่งอย่างเหนือเซียนของน้องแรงบันดาลใจหน้าใสกิ๊ง ที่วิ่งลิ่วๆ เหมือนไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย

ปลาบปลื้มประทับใจ ดีใจจนเกินปกติ และเตรียมตัวจะลงสนาม เมื่อพบว่าเหล่าคณะสมาคมผู้มีวัยวุฒิกว่าคนทั่วไป กำลังวิ่งไล่มาใกล้ ๆ พร้อมกับบทเพลงปลุกใจให้ฮึกเหิม

“สู้ไม่สู้ สู้ ๆ สู้แค่ไหน สู้มาก ๆ สู้ ๆ”

ยินดีด้วยกับความสำเร็จในครั้งนี้ที่ คาดว่านี่คงเป็นรอบที่สามแล้วสำหรับการวิ่ง

นี่สิน่าประทับใจมากกว่า

“อาตี๋เร็ว ๆ มาวิ่งไล่เลี้ยววว นี่มันรอบที่สามแล้วนา เร็ว ๆ มาวิ่งด้วยกัน”

อยากครับ

อยากจะลงไปวิ่งด้วยมาก ๆ

แต่วันนี้รู้สึกว่าเจ็บหัวเข่ามากกว่าทุกวัน

คาดว่าน่าจะเป็นผลจากการหักโหมมากจนเกินไป
น่าเสียดายที่สู้คนแก่ไม่ได้ แต่ว่าขอแค่ได้เดินๆ นิดหน่อยก็คงดีขึ้น ทั้งที่หมอบอกว่า
ต้องพักผ่อนบ้าง ให้งดวิ่งหนึ่งถึงสองสัปดาห์ แต่ก็ทำไม่ได้จริงๆ

อยากจะหยุดพัก แต่ใจมันมาแล้ว ก็เลยต้องพาร่างกายมาด้วย

“วันนี้คงค่อย ๆเดินครับ เจ็บมากจริงๆ”

ทำหน้าแหย และส่งยิ้มจืด ๆ ไปให้กับอาเจ็กหัวหน้าคณะโดยมีอาม่ากิม ที่หันมายิ้มให้เหมือนเป็นกำลังใจให้อีกทาง

“ม่ายเป็นไรน่อ เหลียวก็หาย สู้ไม่สู้”

“สู้สิครับม่า”

ยกนิ้วโป้งส่งให้และก็หัวเราะออกมาได้

กำลังใจท่วมท้น จนทำให้ต้องลุกขึ้นยืนหลังจากพันเข่าเสร็จ และค่อย ๆ ก้าวขาเดิน
ถึงจะกระเผลกไปบ้าง เดินไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่


แต่ไหน ๆ ก็มาแล้ว
แค่เดินสูดอากาศบริสุทธ์เข้าปอดก็ยังดี

และที่สำคัญ

เพราะ......

“สู้มาก ๆ ระวังตาย”

เหมือนได้ยินคำพูดบางอย่าง ชัด ๆ เต็มๆ จากผู้วิ่งผู้เป็นแรงบันดาลใจหมายเลขหนึ่งที่เพิ่งวิ่งผ่านหน้าไป

หูฝาดได้อีก

เฮ่ออ นี่ขาเจ็บแล้วก็ยังจะหูฝาดได้ยินอะไรไม่ชัดอีก

ที่สมควรจะได้ยินก็คือ

.......มาวิ่งด้วยกันสิครับ...มากกว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เห้อออออออออ เจ็บเข่าว่ะ

เดินกระโผลกกระเผลกด้วยความเจ็บ แล้วก็นิ่วหน้าเมื่อพบว่ายิ่งเดินเข่าก็ยิ่งตึงและเจ็บมากขึ้น

นี่กู เป็นพวกเดินแล้วลงน้ำหนักที่เข่าซ้ายมากกว่าเข่าขวาเหรอวะเนี่ย

ทำไมมันถึงได้เจ็บเข่าซ้ายมากกว่าเข่าขวาได้หว่า

สงสัย และขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเปลี่ยนแผนจากเดินช้า ๆ เป็นเดินไปนั่งที่พื้นหญ้าข้างสนามแทน

“อ้าว ม่ายเดินแล้วเหรอ เดินม่ายหวายแล้วเหรอ”

ก็น่าจะประมาณนั้นล่ะครับ ถ้าเดินไหวคงลงไปเดินแล้วก็วิ่งด้วยแล้ว แต่นี่มันเจ็บจริงๆ นะ ไม่ไหวจริงๆ ครับงานนี้ สงสัยจะต้องพักจริงๆ ซะแล้วล่ะ

“สงสัยจะแย่แล้วล่ะครับ”

สั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ใจความ แล้วเหล่าหมู่คณะสมาคมผู้สูงอายุ ก็มีอันต้องหยุดวิ่งกันทุกคน
และเปลี่ยนเป็นเดินเข้ามาหาคนที่นั่งชันเข่าอยู่ข้างสนาม

“อ้าว ไม่วิ่งกันแล้วเหรอครับ วิ่งกันต่อสิครับ เพิ่งจะได้สามรอบเอง”

อาตี๋ผู้มีอาการเจ็บหัวเข่า ทำหน้าเหรอหราเมื่อพบว่ากลายเป็นจุดสนใจของเหล่าบรรดาเพื่อนนักวิ่งวัยดึก ทุกคน

“ล่ายใส่ยาที่อากงให้หรือเปล่า”

ใส่ครับ

“แล้วอาตี๋ไม่ล่ายนวดยาเหรอ”

ก็นวดบ้างครับอาเจ็ค แต่แบบว่านวดแรงๆ แล้วมันจะปวดมากน่ะครับ

“นี่นะตอนมาใหม่ ๆ ก็เป็นเหมือนกันแหละ แต่เดี๋ยวนาน ๆ ไปก็หายนา”

ขอบคุณครับซิ้ม

“อาตี๋ของอาม่าเก่ง...เหลียวก็หาย”

นะ

เดี๋ยวก็หายสิครับ เป็นนาน ๆ แล้วใครจะมาชื่นชมน้องแรงบันดาลใจวิ่งล่ะ เดี๋ยวน้องแรงบันดาลใจเหงาแย่

ใช่มั้ยครับอาม่ากิม

คนละมือคนละไม้ น้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆ จากสมาคมนักวิ่งผู้สูงอายุ ที่ทำให้คนเจ็บขาถึงกับปลื้มใจจนหุบยิ้มไม่ลง

มิตรภาพ

แบบไม่น่าเชื่อ

ก็แค่คนที่เจ็บหัวเข่าจากการวิ่ง และมีเพื่อนๆ วัยห่างกันมาก มาช่วยดูแล และให้คำแนะนำเท่าที่ทุกคนจะสามารถพอช่วยเหลือกันได้

ไม่นึกว่า

การวิ่งแบบบ้า ๆ ที่ไม่มีจุดมุ่งหมาย จะได้บางอย่างกลับมามากมายขนาดนี้

“ผม.... ไม่เป็นแล้วล่ะครับ ขอบคุณทุกคนมากครับ”

ยกมือไหว้ทั่วทิศทั่วไทยไปที่เหล่าบรรดาเพื่อนนักวิ่งวัยทอง แล้วก็เลยยิ่งหุบยิ้มไม่ลง เพราะกำลังใจที่ได้รับกลับมามันช่างท่วมท้นหลายเท่า

“เอาอย่างนี้นา เดี๋ยวม่าเรียกอาซ้งให้ขับรถพาอาตี๋ไปส่งบ้านดีกว่า”

เกรงใจแย่

แต่ได้แบบนั้นก็ท่าจะดีครับ เพราะผมจะไม่ไหวแล้วจริงๆ เจ็บเกินทนแล้วล่ะครับ แต่อย่ารบกวนดีกว่ามั้ง ยังไหวอยู่

นิ่วหน้าด้วยความเจ็บแล้วก็ต้องรีบบอกห้ามอย่างเร่งด่วน

“ไม่เป็นไรครับ จะเป็นภาระกันเปล่าๆ เดี๋ยวผมกลับเองได้ ไม่เป็นไรจริง ๆ”

เอ่ยบอกออกไปแล้ว และเตรียมจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องรีบนั่งลงมาอีกครั้งเพราะความตึงและร้าวที่ หัวเข่า

“ม่ายล่ายแล้วล่ะแบบนี้ เหลียวม่าโทรเลยแล้วกัน อ้าวไม่ต้องแล้ว มานั่นพอดี อาซ้ง อาซ้งมานี่มานี่”

ง่า

อาซ้ง

อาซ้งที่ว่าคือเด็กมีปัญหาที่หนีออกจากบ้าน มานี่ก็แปลว่าอยู่ใกล้ ๆ

อ๋อออออออออออออออ

มีใครบางคนกำลังวิ่งมาใกล้ๆ และมองมาเหมือนสนใจว่าเกิดเหตุการณ์ระทึกอะไรขึ้นถึงได้มีการจับกลุ่มกัน หลายคนแทนที่จะไปวิ่งเหมือนคนอื่น ๆ

นี่ล่ะมั้ง อาซ้ง

แก่กว่าที่คิดอีกนะ น่าจะสามสิบกว่า ๆ ได้ แก่ขนาดนี้ยังหนีออกจากบ้านอีกเหรอ

อย่างฮาเลย แต่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวต้องอาศัยติดรถขอกลับบ้านด้วยแล้ว

งั้นต้องผูกมิตรสัมพันธ์เอาไว้

สวัสดีครับ เฮียซ้ง

เตรียมยกมือไหว้ แต่ก็ต้องไหว้เก้อ เมื่อพบว่าอาเฮียหน้าผากเถิกวัยเกือบสี่สิบวิ่งผ่านหน้าไปเฉย ๆ และไม่ได้แวะเข้ามาหา

ง่า....

มองตามแล้วก็หันกลับมาอีกรอบ เพื่อจะถามว่า นั่นไม่ใช่อาซ้งที่ว่าเหรอแล้วถ้าเกิดว่าไม่ใช่ แล้วอาซ้งที่ว่าอยู่ที่ไหนล่ะคร้าบบบบบ อาม่ากิม

“ม่ามีไร......จะกลับยัง”

อ่อนี่คงจะเป็นอาซ้ง

สวัสดีครับอาซ้ง

ขอรบกวนติดรถกลับบ้านด้วยคนนะ

ห๊า

อาซ้ง อาซ้ง เนี่ย เนี่ย เนี่ย เนี่ยคืออาซ้ง คนที่ยืนตัวสูงหน้าใสกิ๊งอยู่ตรงนี้เหรอคืออาซ้ง

อยากจะถามอาม่ากิมให้หายข้องใจ แต่สิ่งที่ทำได้คือทำหน้าเลิ่กลั่ก หันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาให้แน่ใจว่านี่คืออาซ้งที่ว่าจริง ๆ ใช่หรือไม่

อาซ้ง......

ง่า

“ปายส่งตี๋หน่อย อีเจ็บขามาก แล้วเหลียวกลับมารับอาม่าล่วยนา เร็ว ๆ”

เอ่อ

อาซ้ง

น้องแรงบันดาลใจ

นี่มันน้องแรงบันดาลใจชัด ๆ

อึ้ง และมึน และงง สิ่งที่ทำได้คืออ้าปากค้าง และกำลังเรียบเรียงสติให้กลับเข้าที่

อาซ้ง เด็กมีปัญหา ยังยืนทำหน้านิ่งเฉย ให้เห็นชัด ๆ แบบเต็ม ๆ สองลูกกะตา

แต่อาตี๋ขาเจ็บกำลังกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

พร้อมกับอาการหายใจติดขัด เพราะหัวใจกำลังเต้นระทึก และรู้สึกชาวูบที่ใบหน้าเพราะเริ่มจะทำตัวไม่ถูก

ใครก็ได้บอกทีว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ฝันไป

ใครก็ได้ช่วยบอกที ว่าน้องแรงบันดาลใจกำลังมายืนอยู่ตรงหน้า

อาม่ากิมครับ คนนี้ขอผมเถอะ ยกให้ผมนะ

แล้วจะให้ผมวิ่งแบบขาเดี้ยงๆ อีกสี่ห้าสิบรอบ ผมก็ยอม จริงๆ นะครับอาม่ากิม คนนี้ขอให้ผมเถอะ ผมขอจริงๆ





TBC...

 


ช่วงสงการนต์นี้แนนจะอัพให้ทุกวันนะค่ะ เวลาไม่แน่นนอน แล้วแต่ว่าแนนจะกลับเข้ามาตอนไหน
สวัสดีปีใหม่ไทยนะค่ะ
:กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 12-04-2010 19:51:16
555+
เป็นเอามากนะเนี่ย
แต่ก็ชอบนะ
 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 12-04-2010 19:56:10
อ่านไปฮาไป .. ทำไงล่ะทีนี้ยิ่งกว่าโคลสอัพอีก.. :jul3:
คราวนี้คงต้องตีซี๊อาม่ามากขึ้นแล้วสินะ.. :eiei1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 12-04-2010 20:11:50
ดีใจกับอาตี๋ด้วย ได้ใกล้ชิดน้องแรงบันดาลใจจนได้  o7 o7
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 12-04-2010 20:40:58


ตี๋เอ่ยยย อย่าให้โอกาสนี้หลุดลอยไปนะจ๊ะ


ทำความรู้จักกับน้องบันดาลใจซะ  :laugh:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 12-04-2010 20:47:51
กว่าจะได้ใกล้ชิดกันนี้ ล่อเอาซะรอเง็กเลยนะเนี่ย...

ในที่สุดอาตี๋ก็ทำสำเร็จ ได้ใกล้ชิดกับน้องแรงบันดาลใจแล้ว  o7

แต่อาตี๋เอ๊ย...ก่อนอื่นแก้ความเข้าใจผิดของน้องแรงบันดาลใจให้ถูกด้วยนะ ว่ามาจีบใคร  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 12-04-2010 20:57:52
 :pig4:ค้าบพี่แนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 12-04-2010 21:05:00
รู้จักกันแล้ว เอร๊ยยยยยยยยยยยย
น่ารักทั้งคู่เลยอ้ะ แต่อาตี๋น่ารักด้วยน่าขันด้วย โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อาม่าก็ยกยกให้ไปเถอะนะคะ หลานชายจะได้เพิ่มมาอีกคนไง ^__^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 12-04-2010 21:32:37
อาตี๋ มาสู่ขอจากอาม่าเลย :laugh:
แล้วจัดพิธียกน้ำชาให้เรียบร้อย

แต่จะรับมือเด็กมีปัญหา หนีออกจากบ้าน ขี้งอนไหวหรือ :jul3:


Thank a lot
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การวิ่งให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด † o(>_<)o~> [12/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 13-04-2010 01:46:55
สติหลุดไปดาวอังคารแล้วจ้ะตี๋ :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 13-04-2010 22:50:42
ตอน ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ





“อาซ้ง ช่วยพยุงอาตี๋หน่อยนา”

โห ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้เจ็บขนาดนั้น แบบว่าไงดี แบบว่า เดี๋ยวน้องแรงบันดาลใจจะเหนื่อย แล้วก็จะเป็นการเพิ่มภาระให้เปล่า ๆ ผมไม่ได้เจ็บขาขนาดนั้นครับ
รับรองได้จริงๆ อาม่า

“ม่าช่วยหิ้วกระเป๋าให้นา”

เอิ่ม ไม่เป็นไรครับอาม่า อันนี้ยิ่งไม่เป็นไร โคตรจะเกรงใจเลย อย่าให้เป็นภาระอาม่าเลยครับ แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่แล้ว

“ม่าไม่ต้อง อั๊วหิ้วให้มันเอง เอามานี่”

น้ำใจงาม หน้าตาดีด้วย แต่เสียงดุ หน้าบึ้งไปนิ้ดดดดดด
แล้ววิธีการช่วยถือกระเป๋า ด้วยการกระชากกระเป๋าไปต่อหน้าต่อตาเหมือนกลัวว่าจะไม่ยอมให้ช่วยถือกระเป๋า ให้นี่อีก ประทับใจเหลือเกิน แบบว่าช่างมีน้ำใจอะไรขนาดนี้นะ
คงจะกลัวว่าจะเกรงใจสินะถึงได้มีน้ำใจให้ขนาดนี้

น้องแรงบันดาลใจคร้าบบบบ ช่างเป็นคนที่จิตใจดีอะไรเช่นนี้หนอ
สมแล้วที่มาเพื่อให้ได้เห็นหน้าทุกวัน แค่ได้เห็นในระยะร้อยหลา ก็สุขใจ แล้วนี่ยิ่งได้เห็นหน้าใกล้ๆ หน้าขาว ๆ ใส ๆ ที่ได้เห็นมันจะทำให้หัวใจจะละลาย
โอวววววววววว จะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว

อาตี๋ขาเดี้ยง ยังคงทำหน้าเอ๋อ

ปลาบปลื้มสุด ๆ และแม้จะพยายามไม่ทำให้ตาเยิ้ม หน้ายิ้ม
แต่เมื่อเงยหน้ามองคนหน้าบึ้งเสียงดุตัวสูงแล้วก็ยิ่งเคลิบเคลิ้ม
ดวงตาเหม่อลอยจิตใจล่องลอย ลอยละล่องเหมือนฟองสบู่ จนแทบจะเดินไม่ตรงทาง

ไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บเลยสักนิด อาการเจ็บหัวเข่าหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่กลับเดินเป๋ไปเป๋มาเพราะแทบจะควบคุมสติไม่ได้ เพราะความตื่นเต้น
และหัวใจเต้นตึกตักจนแทบจะทะลุออกมาจากอก

“ลื้อชื่ออะไร”

โห นี่คือการชวนคุยหรือเปล่า
น้องแรงบันดาลใจถามได้ด้วยเหรอ เสียงนุ่มเนอะ ถึงจะฟังดูดุไปหน่อย
แต่ก็ให้อภัยได้ในทุกสิ่ง

“แรงบันดาลใจ”

ตอบออกไปแล้ว และก็เห็นว่าทั้งอาม่าและซ้ง ทำหน้าประหลาดใจกับคำตอบที่ได้รับ
และต้องถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ว่าสิ่งที่ได้ยินมันถูกต้อง

“คนห่าอะไรวะ ชื่อแรงบันดาลใจ”

ได้ยินเสียงบ่นงึมงำพึมพำของน้องแรงบันดาลใจหน้าหงิกแล้วแทบอยากเดินไป ซบหน้าลงที่ไหล่แล้วโน้มหน้าน้องแรงบันดาลใจมาจุ๊บแก้มสองสามที

เป็นคำสบถที่เร้าหัวใจซะเหลือเกิน สุดยอดไปเลย ไม่ใช่ผมหรอกครับ
คุณต่างหากที่ชื่อแรงบันดาลใจ ของพ้มมมมมมมมมมม

“อาซ้ง พูดม่ายเพราะเลยนา อย่าเรียกตี๋ว่ามัน ข้าวจายม้ายยยยยย ดูเซ่ ตี๋ตกใจหมดเลย ไม่ต้องกลัวนา ม่าเอ็ดให้แล้ว ใจเย็น ๆ นาอาตี๋”

หา

เปล่า ไม่ได้กลัว ไม่ได้ตกใจเลย กำลังเพ้อฝันอยู่ครับ จริงๆ นะอาม่า
ต่อให้จิกหัวด่า ก็ไม่ว่าสักคำหรอก เพราะน้องแรงบันดาลใจน่ารัก จึงให้อภัยได้

“ตกลงมันชื่อไรกันแน่ แรงบันดาลใจเหรอ ชื่อแรงไม่มีซะมากกว่า”

ซ้งผู้ปากคอเราะร้าย เบะหน้าด้วยความเซ็ง แล้วก็หันหน้าไปมองทางอื่น
เพราะไม่ชอบหน้าคนที่ทำเป็นสำออย ยิ่งเห็นหน้างง ๆ เอ๋อ ๆ มึน ๆของไอ้ตี๋นี่แล้วยิ่งอยากจะขย้ำให้ตาย
อย่างลื้อริจะมายุ่งกะอาม่าอั๊ว เร็วไปพันปีโว้ยยยย

อย่าให้เผลอนะ

เจอกันแน่ อย่านึกว่าจะรอด ระวังตัวเองไว้ให้ดีเถอะ

“ผมชื่อ นุชา ไม่ใช่ แรงบันดาลใจครับโทษที” หัวเราะแหะ ๆ สองทีแล้วก็เกาหัวไปมาไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่ยิ้มเก้อ ๆ แล้วก็เดินกระเผลกขาตามน้องแรงบันดาลใจไปขึ้นรถ
โดยมีอาม่าช่วยพยุงให้เดินตาม

อย่าเดินเร็วมากสิจ๊ะ น้องแรงบันดาลใจ ผมตามไม่ทันเลยครับ จริงๆ นะ

“อานุชา ชื่อเพราะลี ๆ น้า เดินม่ายหวายม่าช่วยนะ”

เพราะครับ เพราะมาก ๆ แต่อาจจะเพราะได้ไม่เท่ากับชื่อซ้งนะครับอาม่า

“นุชา หรือว่าหน้าจะชากันแน่”

ได้ยินเสียงพูดลอยมาตามลม แล้วก็เห็นว่าอาม่าฟาดหลังมือเข้าใส่ที่แขนของน้องแรงบันดาลใจอย่างแรงหนึ่ง ครั้ง จนน้องแรงบันดาลใจร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ

“ม่าตีซ้งทำไม ก็ซ้งได้ยินว่ามันชื่อหน้าชาจริง ๆ นี่”

น้องแรงบันดาลใจแค่ฟังผิด อาม่าอย่าไปตีเลยนะครับ ผมสงสารจนน้ำตาจะไหลอยู่แล้ว
ทำไมอาม่าต้องตีน้องแรงบันดาลใจด้วย มาตีผมแทนเถอะครับ อย่าทำร้ายน้องแรงบันดาลใจเลย

“อาซ้งนา ทำไมถึงล่ายชอบว่าอาตี๋นัก ไม่เห็นเหรอว่าอีเจ็บขา ยังจะว่าอีอยู่ล่ายปาว ๆ ม่าไม่ได้สอนให้ซ้งเป็นคนพูดจาไม่ดีแบบนี้นา”

อย่าไปว่าน้องแรงบันดาลใจเลยครับอาม่า
น้องแรงบันดาลใจแค่ไม่ชอบหน้าผมแค่นั้นเองครับอาม่า ก็เลยไม่อยากพูดด้วยดี ๆ
ผมชินแล้วล่ะครับ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ

ถึงผมจะชอบหน้าของน้องแรงบันดาลใจแต่ไม่ได้แปลว่าน้องแรงบันดาลใจจะต้อง ชอบผมกลับนี่ครับ

ถึงจะอยากให้ชอบแต่ไม่ว่ามองยังไง ก็รู้และเดาได้ว่า..........บางทีน้องแรงบันดาลใจคงเข้าขั้นเกลียดขี้หน้าผม เลยล่ะ อันนี้ผมโดนทำให้รู้สึกแบบนั้นบ่อยๆ ครับ ก็เลยเข้าใจได้ไม่ยากเท่าไหร่ ก็จะบอกว่ายังไงดี ใช้คำว่าชินคงจะถูกต้องที่สุดล่ะครับ เหอ เหอ เหอ….

จากหน้ายิ้ม ๆ ตาเยิ้ม ๆ กลายเป็นหน้าเศร้าแบบกะทันหัน เดินตามแล้วก็หัวเราะปลอบใจตัวเอง

เรื่องปกติ แอบชอบแอบมีใจให้ใครทีไร ก็โดนเกลียดซะทุกที
ก็ไปแสดงสีหน้าท่าทางให้เขารู้สึกหมั่นไส้และน่าโมโหซะขนาดนี้ เป็นใครเขาจะไปยอมรับได้ ก็สมควรโดนเกลียดอยู่หรอก

“อาม่าครับ ขอบคุณนะครับ คุณซ้งครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ”

ก้มหน้าก้มตายกมือไหว้ อาม่า ซ่อนสายตาเศร้า ๆ เอาไว้ แล้วก็เงยหน้าขึ้นยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำทุกอย่างให้เหมือนไม่รู้สึกอะไร

แต่ตอนนี้หัวใจพอง ๆ กำลังเหี่ยวแห้งลงอย่างช้า ๆ

“ผมคงต้องพักยาวเลย คงไม่ได้มาเจออาม่าพักใหญ่เลยล่ะครับ แย่จังเลยเนอะ”

ที่จริงแปลว่า

พักยาว ๆ แหละดี เพราะว่ายิ่งนานวันไป จะยิ่งสร้างความลำบากใจให้กับน้องแรงบันดาลใจเพิ่มมากขึ้น

เดี๋ยวจะยิ่งเกลียดไปมากกว่านี้ ทำไมจะไม่รู้ ทำไมจะไม่รับรู้ ถึงท่าทีที่แสดงออกมา
แต่แค่ไม่อยากเสียใจมาก ๆ เลยแกล้งกลบเกลื่อนด้วยการไปมองที่สิ่งอื่นทดแทนก็เท่านั้น

“คุณซ้งครับ รบกวนหน่อยนะครับ ไปส่งผมหน่อยนะ ถือซะว่าทำบุญกับคนขาเจ็บที่กลับบ้านลำบากนะครับ”

ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม

ยิ้มระรื่น

แต่นัยน์ตาเศร้า ๆ หมองๆ ก็ไปกระทบสายตาของซ้งเข้าอย่างจัง

“ไม่ได้คิดเรื่องทำบุญ แค่อาม่าวานให้เป็นส่ง ก็ไปส่งแค่นั้น ไม่ได้คิดอะไร”

เป็นคำตอบที่กระแทกหัวใจให้อาตี๋ขาเจ็บแทบน้ำตาร่วงเพราะอาการเจ็บร้าว ลึก ๆ ข้างในที่เสียดแทงขึ้นมาอย่างรุนแรง

แต่ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บปวดขนาดนั้น แต่ก็ยังปลื้มใจที่ได้พูดคุยด้วยแบบไม่คาดฝัน ได้เดินข้าง ๆ แบบไม่อยากจะเชื่อ แถมยังมีโอกาสได้นั่งรถไปคันเดียวกับน้องแรงบนดาลใจอีกด้วย แค่นี้ก็ไกลเกินไปแบบไม่น่าเชื่อแล้ว

เวลานี้กำลังตื่นเต้น หัวใจเต้นระทึกเสียงดังมาก ดังมากซะจนต้องรีบยกมือขึ้นแตะที่หน้าอกตัวเองเอาไว้
เพราะกลัวว่าเสียงหัวใจจะดังจนรบกวนหรือทำให้คนที่เดินนำหน้าต้องรำคาญ ใจ

อาตี๋ขาเจ็บเดินกระเผลกขา และทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะเอ่ยบอกออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบ นาบเซื่องซึมแล้วก็รีบก้มหน้าก้มตาเดินตามอย่างช้า ๆ

“ยังไงผมก็ขอบคุณมาก ๆ ครับคุณซ้ง ขอบคุณมากจริงๆ”



TBC...

 


อ่านบ้างเม้นท์บ้างนะค่ะ อย่ามัวแต่อยู่ในมุมมืิดกัน เดี๋ยวจะออสโมซิสแสงสีดำ จนตัวดำกันหมด ออกมารับแสงสว่างกันบ้างนะค่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 13-04-2010 22:58:45
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาตี๋อ้ะ อย่าถอดใจนะ
น้องแรงบันดาลใจเค้าไม่รู้นี่นาว่าจุดประสงค์ของอาตี๋อยู่ที่อี มิใช่ที่อาม่ากิม

เอาไงดีหว่า..อ่านไปก็เศร้า แต่พอเศร้าไปเศร้ามาก็ขันซะงั้น โธ่ตรูหนอตรู
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 13-04-2010 23:15:37
อย่าพึ่งเศร้าดิ เขาเข้าใจผิดอยู่นะ
สู้ๆดิ
 :a2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 13-04-2010 23:17:05
อาตี๋อย่าเพิ่งท้อนะ
ยังไงก็ยังมีอาม่าเป็นกำลังใจอยู่ :ped149:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 13-04-2010 23:27:54
กลัวดำ
ออกมาเชียร์อาตี๋ :ped149:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 13-04-2010 23:41:07
ง่ะ ตี๋จ๋าอย่าเพิ่งท้อสิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 13-04-2010 23:48:09
อาตี๋ ลื้ออย่าเพิ่งถอดใจซิ


สู้ๆๆๆๆๆ   น้องบันดาลใจแค่เข้าใจผิดเองอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: mira ที่ 14-04-2010 00:11:00
สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ คุณแนน คุณเท็น มีความสุขมาก ๆ นะคะ สุขภาพแข็งแรงค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 14-04-2010 00:17:36
สงสารอาตี๋.. :m15:
น้องแรงบันดาลใจ ..ใจร้าย.. :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 14-04-2010 01:15:20
อาตี๋ชาน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-04-2010 13:41:23
นุชา สู้ไม่สู้  สู้สู้
เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-04-2010 18:55:58
โอ้ยยยยย เศร้าแต่เริ่มเรื่องเลยเหรอคร้าบพี่น้อง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 14-04-2010 20:06:04
จ๊ากกก เศร้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: shine ที่ 14-04-2010 20:19:16
รู้สึกจะมีพลิกล๊อคสลับที่ระหว่างน้องแรงบันดาลใจ  กับอาตี๋ขาเดี้ยง  :m20:

แต่อาตี๋อย่าเพิ่งถอดใจอาม่าหนุนเต็มที่ สู้สู้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 14-04-2010 20:29:38
น้องแรงบันดาลใจ

น่ารักค่ะ

ทนหน่อยนะอาตี๋
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 14-04-2010 20:35:04
อาตี๋สู้สู้  :mc4: :mc4:
อย่างน้อย ก็ได้คุยกับน้องแรงบันดาลใจแล้วนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phing ที่ 14-04-2010 20:41:58
อาตี๋ อย่าพึ่งถอดใจน๊า
สู้ต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 14-04-2010 21:39:43
อาตี๋นี่ชอบคิดอะไรไปเอง จริงๆ น่าสงสาร :sad4:

อย่าเพิ่งน้อยใจ สู้ๆ หน่อยนะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่ได้เจ็บที่ขาแต่เจ็บที่ใจ † o(>_<)o~> [13/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 14-04-2010 21:42:52
โอ้วว
อาตี๋ ของอาม่าาา   :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 14-04-2010 22:28:12

ตอน ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ





“แล้วไป ทางไหนต่อ”

หา

ทางไหน อ๋อออออออออ ทางไหน หมายถึงบ้านผมเหรอ อ๋อไปทางนั้นไง ทางนั้น

“เลี้ยวซ้ายเลยครับคุณซ้ง”

บอกทางไปเรื่อย และมีแอบลองมองมือของน้องแรงบันดาลใจในระยะชิดใกล้
โหหหหหหหหหห มือ

นี่หรือมือของน้องแรงบันดาลใจ ได้เห็นชัด ๆ ก็วันนี้แหละ

และนั่นแขน และนี่ขา และมองเลยขึ้นไปก็เห็นหน้าได้เลยและนั่น.......เอ่อออออออ

แหะ แหะ โทษทีครับ มองเพลินไปหน่อย ตาดุเนอะ ไม่ต้องทำตาดุขนาดนั้นก็ด้ายยย
กลัวนะเนี่ย

“ยังเด็กอยู่ อนาคตยังอีกไกล อย่ามาคิดอะไรตื้น ๆ ด้วยการหลอกคนแก่ หวังสบาย”

อ่อ ครับ

“เข้าใจมั้ย อั๊วก็ว่าตี๋น่ะ น่าจะหาอะไรทำอย่างอื่นมากกว่ามาวิ่งในสนามแบบนี้ อยู่บ้านเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวอะไรไปก็ได้ ถ้าไม่จำเป็นอย่ามาอีกเลยยิ่งดี”

อ่อ ครับ อันนี้ก็เข้าใจอีกเช่นกันครับ

“ปล่อยให้อาม่าอั๊วอยู่กับเพื่อน ๆ ไป มันคงจะแปลกที่มีคนต่างวัยมาอยู่ในกลุ่ม ดูอย่างอั๊วสิขนาดวิ่ง ยังต้องไปวิ่งไกล ๆ เลย บางทีอาม่าอั๊วเขาก็คงไม่ได้อยากให้ตี๋มายุ่งวุ่นวายด้วยนักหรอก ตี๋ว่างั้นมั้ย”

อ่า ก็ว่าไงก็ว่าตามกัน

“คำตอบล่ะ”

โห มีทวงด้วย เออเนอะ เข้าใจคิด เข้าใจหว่านล้อม แล้วก็เข้าใจที่จะมัดมือชกกันง่าย ๆ เลย เข้าใจทำร้ายจิตใจเนอะ

“ไม่กล้ามาหรอกครับ คุณซ้งเล่นดักทางไว้หมดแบบนี้ แปลง่าย ๆ เลยคือว่าอย่ามาอีกผมจะกล้ามาเหรอ”

ตอบได้น่าต่อยปากมากไอ้ตี๋
แล้วไอ้หน้ายิ้ม ๆ ซื่อ ๆ เวลาตอบนี่มันยังไง อยากลองของว่างั้น

แล้วซ้งก็เลยเหยียบเบรกแบบรุนแรง จนคนขาเจ็บที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หัวทิ่ม และร้องออกมาด้วยความเจ็บ ยกมือแตะที่หน้าผากตัวเองและหันไปมองคนที่ตั้งใจเบรกรถแบบกะทันหันเหมือนกับ อยากจะถามว่าที่ทำแบบนี้ต้องการอะไร

“เป็ดตัดหน้า กลัวชน”

ตรงไหน เป็ดที่ว่ามันมีที่ไหน ไม่เห็นมี ไหนเป็ดที่ว่า แบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ

“อ๋อ ไม่ต้องมองหาหรอก เป็ดไม่มี แค่ข้ออ้างเบรกรถน่ะ”

น้องแรงบันดาลใจนี่ เป็นแรงบันดาลใจที่แรงมากกกกกกกกก มากจนแบบว่า

“พูดซะตรงแบบนั้น ผมจะไปว่าอะไรได้”

ก็ไม่ต้องว่า ไม่ต้องพูด ไม่ต้องแสดงความคิดเห็น นั่งเฉย ๆ ไปเลย หุบปากแล้วอยู่เงียบๆ ไปแหละดีที่สุดแล้ว

“จะสำคัญอะไร อีกอย่างตี๋ก็ไม่ได้ตั้งใจมาวิ่งนี่ ตั้งใจมาทำอะไรตั้งแต่แรก”

เป็นคำถามที่จะถามไปทำไมล่ะ
อยากรู้เหรอ ตอนแรกไม่ได้กะจะมาวิ่งทุกวัน แต่ที่มาเพราะมันใกล้บ้าน แค่มานั่งชมสวน แต่ใครไม่รู้ดันทำหน้าบึ้ง แล้วก็วิ่งลิ่วไม่มองใคร

วิ่งโคตรไวเลย

ตอนแรกไม่ได้กะจะมอง แต่มันบังเอิญเห็นทุกวัน อยู่ดี ๆ จากที่เห็นทุกวันกลายเป็นมานั่งรอทุกวัน ผ่านไปไม่นานกลายเป็นต้องหาอย่างอื่นทำมากกว่ามานั่งมอง เดี๋ยวจะกลายเป็นคนว่างงานจนเกินไป ก็เลยต้องจำใจวิ่งบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการจงใจนั่งมองมากเกิน จะให้ตอบตามตรงทั้งหมดเลยมั้ยล่ะ

“ก็ตั้งใจมานั่งมองคุณซ้ง เห็นคุณซ้ง วิ่งเร็วมากเลยประทับใจมาก”

อ่อ อย่างนั้นเองเหรอ วอนตายนะไอ้ตี๋ ตอบแบบนี้ท้าทาย อยากตายนักใช่มั้ย

“นอกจากเป็ดตัดหน้าแล้ว ลื้ออยากให้หมา หรือแมว หรือนกพิราบ หรืออะไรตัดหน้ารถอีกมั้ย เดี๋ยวอั๊วจะได้จัดการให้เดี๋ยวนี้เลย”

บอกไปจริงๆ ก็ไม่เชื่อ แล้วจะถามทำไมวะ น้องแรงบันดาลใจนี่เรื่องมากเหมือนกันนะ

“ไม่ต้องล่ะครับ ผมลงข้างหน้าเลยแล้วกัน เดี๋ยวผมตัดหน้าเองแล้วคุณซ้งจะเบรคหรือจะไม่เบรคก็ตามใจ”

ช่างต่อปากต่อคำนักนะไอ้ตี๋ แบบนี้ท่าจะได้คุยกันอีกยาวเลย

“สรุปง่าย ๆเลย ยังไงก็ยังจะไปวิ่งอยู่ ถึงอั๊วจะเตือนลื้อก็ไม่เชื่อ ใช่มั้ย”

ก็คงใช่มั้ง

ที่จริงแปลว่า ถ้าน้องแรงบันดาลใจไม่ไปวิ่ง ผมก็อาจจะไม่ไป แปลตามนั้นน่าจะง่ายกว่า อีกอย่างนะ ผมไม่ได้อายุน้อยกว่าน้องแรงบันดาลใจนะ แต่หน้ามันหลอกคนมาเยอะแล้ว บอกไปก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อ นี่คงจะเข้าใจผิดอีกคนแล้วล่ะสิ จะให้ยื่นบัตรประชนให้ดูก็คงจะแปลก อยากเข้าใจแบบนั้นก็ไม่ว่ากัน

“ครับ ใช่ ตามที่คุณซ้งบอกนั่นแหละ”

ไอ้ตี๋ ลื้อนี่มันร้ายไม่ใช่เล่น คิดจะประกาศสงครามกับอั๊วว่างั้น ใช่มั้ย
ไม้นวมไม่ชอบ ชอบให้เล่นไม้แข็ง ก็ได้นะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

“ก็ดี พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวเจอกันได้เลย”

แหม่ มันก็แน่อยู่แล้วล่ะ ไม่เจอน้องแรงบันดาลใจผมก็ขาดใจตายสิครับ
ออกจะคิดถึง และใฝ่ฝันหาซะขนาดนี้ ขืนไม่เจอล่ะก็ ผมจะกินจะนอน จะอยู่ยังไงล่ะ
เศร้าแย่เลย

“งั้นส่งผมแค่นี้แหละครับ ถึงบ้านผมพอดีเลย ขอบคุณมาก ๆ ครับคุณซ้ง คุณซ้งใจดีมากครับ ผมประทับใจคุณซ้งอีกแล้ว”

อั๊วก็ประทับใจลื้อมากเหมือนกันตี๋

ไม่นึกว่าลื้อจะกล้าพูดจาแบบนี้ เห็นหน้าใส ๆ ซื่อ ๆ นึกว่าจะจัดการไม่ยาก เพราะไม่น่าจะมีพิษสงอะไร แต่สงสัยจะคิดผิดไปหน่อย แต่นั่นก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

“เข้าบ้านดี ๆ นะตี๋ อั๊วเป็นห่วงความปลอดภัยของลื้อมาก ระวังตัวไว้บ้างก็ดี”

ส่งถึงหน้าบ้านอย่างปลอดภัยและยังมีกะใจช่วยหยิบกระเป๋าส่งให้อีกต่าง หาก
ใครจะมีน้ำใจไมตรีให้มากมายขนาดน้องแรงบันดาลใจนี่ไม่มีอีกแล้ว

ไม่เสียแรงที่แอบรักแอบหลง แอบประทับใจอยู่เงียบ ๆ

แต่คงต้องเก็บเงียบแบบเงียบงันเลยล่ะ เพราะสงสัยว่า.....ขืนบอกความรู้สึกจริงๆ ออกไปจากใจคงจะไม่ดีเท่าไหร่ เล่นแสดงออกซะชัดเจนว่าเกลียด ว่าไม่ชอบหน้ากันซะขนาดนี้

แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับผมหรอกนะน้องแรงบันดาลใจ เพราะว่าไม่ได้คาดหวังให้น้องแรงบันดาลใจมาชอบผมตั้งแต่แรกแล้วนี่ ถ้าจะไม่ชอบแล้วเปลี่ยนเป็นเกลียด ก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจอะไร ช่วยไม่ได้นี่ ก็น้องแรงบันดาลใจไม่ชอบผมเอง จะให้ไปบังคับให้ชอบก็คงไม่ได้

“คุณซ้งก็ขับรถดี ๆนะครับ กลับบ้านดี ๆ ล่ะ ผมเป็นห่วงมากเหมือนกัน”

อั๊วกลับบ้านดี ๆ แน่ล่ะ ลื้อไม่ต้องมาห่วงหรอก แล้วก็ไม่ต้องทำเป็นตีหน้าซื่อ แล้วก็ยิ้มหวานเชื่อมซะขนาดนั้นก็ได้

อั๊วไม่หลงเชื่อหน้าซื่อ ๆ ของลื้อง่าย ๆหรอก เก็บไว้หลอกคนอื่นเหอะคงง่ายกว่า

ซ้งขับรถจากไปแล้ว

ส่วนอาตี๋ขาเดี้ยง กำลังสะพายกระเป่าและเดินกระเผลกขาเข้าบ้าน
รอยยิ้มยังเจือจางอยู่ที่ใบหน้า เมื่อนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง

ใบหน้าของคน ๆ หนึ่งที่เพิ่งได้พบเจอและพูดจากันแบบไม่คาดฝันยังปรากฎชัดอยู่ในหัว

แต่สิ่งที่ทำได้ก็แค่ยิ้ม

อมยิ้ม

และเดินกระเผลกขาเข้าบ้าน นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แต่ก็ยังยิ้มต่อไปได้ไม่เลิก
ยิ้มให้กับความเศร้า ยิ้มให้กับความรู้สึกเจ็บร้าวในใจลึก ๆ ที่เริ่มปะทุและกำลังค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ

รำพึงรำพันออกมาคนเดียว และยังคงหยุดรอยยิ้มหมอง ๆ ของตัวเองไม่ได้

“โดนเกลียดซะแล้วเหรอว๊า แบบนี้ก็แย่ล่ะสิ แย่จริงๆ ด้วย ถ้าจะโดนเกลียดมันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละวะ”





TBC...

 


อ่านบ้างเม้นท์บ้างนะค่ะ อย่ามัวแต่อยู่ในมุมมืิดกัน เดี๋ยวจะออสโมซิสแสงสีดำ จนตัวดำกันหมด ออกมารับแสงสว่างกันบ้างนะค่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 14-04-2010 23:05:28
สงสารอาตี๋.. :sad11:
น้องแรงบันดาลใจอ่ะ ปากร้ายแถมยังทำอาตี๋เจ็บตัวด้วย..
เค้าพูดตรง ๆ ก็หาว่ากวน.. :m16:

แต่ ก็ชอบเรื่องนี้มากกก    :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 14-04-2010 23:10:26
สงสารอาตี๋  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 14-04-2010 23:12:42
น้องแรงบันดาลใจใจร้ายจัง
อาตี๋พูดตรง ๆ ก็ว่าเค้ากวน
สู้ต่อไปนะอาตี๋ :a2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 14-04-2010 23:21:01
เห้อ

นั่งอ่าน อมยิ้มแบบเศร้าๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 14-04-2010 23:59:06
 :confuse: อาตี๋ สรุป เสียใจ หรือดีใจเนี่ย

ถ้าจะสับสน มึนๆ เหมือนเรา  :laugh:


ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 15-04-2010 09:29:45
น่าสนุกขึ้นนะเนี่ย
 :impress:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 15-04-2010 13:47:28
นี่มันรักในสนามรบหรือเปล่าหว่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 15-04-2010 18:56:39
อาตี๋ กระซิกๆ มามะเค้า :กอด1:ปลอบ

อาซ้ง จะเข้าใจผิดไปดาวเหนือเลยมั้ยยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 15-04-2010 20:20:08
อาตี๋ ลื้ออย่าท้อน้า

แต่ว่าตอนนี้ไม่เศร้าเท่าตอนที่แล้ว

ไม่รู้เพราะว่าได้อ่านความคิดของอาซ้งด้วยรึเปล่า แบบว่าทำไมมันถึงได้ต่างกันสุดขั้วแบบนั้น :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-04-2010 23:42:33
ตี๋อย่าเศร้านะครับ

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 16-04-2010 08:01:03
หวา อ่านแล้วสงสารน้องชาเลยค่ะ  :monkeysad:
อาซ้งเอ๊ยยย ปากคอเราะร้ายอ่าเรา

สู้ๆนะน้องชา เอาชนะใจอาซ้งให้ได้ Fighting!!  :a2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ † o(>_<)o~> [14/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ygirl ที่ 16-04-2010 13:22:33
ลุ้นค่ะว่าจะเป็นยังไงต่อ

น้องแรงบันดาลใจนี่ปากคอร้ายนะ

ตี๋สู้ต่อไปทาเคชิ

สักวัน น้องแรงบันดาลใจจะต้องเห็น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 16-04-2010 20:21:42

ตอน อาม่าข้าใครอย่าแตะ





รู้แล้ว รู้แล้ว จะกดออดย้ำทำไมนักหนาวะ

รู้แล้วววววววว จะรีบไปเปิดประตูเดี๋ยวนี้แหละ โอ้ยยยยยย จะกดอะไรกันขนาดนั้นวะ
แค่นี้ก็รีบจะตายห่าแล้ว จะกดย้ำซ้ำซากทำไม โธ่เว้ย

“มาแล้ว มาแล้ว”

นุชาขาเดี้ยง เดินกระเผลกขาลงอย่างทุลักทุเล ก่อนจะชะเง้อชะแง้มองไปที่รั้วบ้านเพื่อมองหาว่าใครที่กดออดแบบไม่เกรงอก เกรงใจกันได้ถึงขนาดนี้

แล้วพอได้เห็น

จากที่รู้สึกหงุดหงิดในใจนิด ๆ กลับเปลี่ยนเป็นรู้สึกดีใจ จนต้องยิ้มออกมา

มีคนมากดออด กดแบบไม่เกรงอกเกรงใจ คนกอดออดยืนทำหน้าบึ้ง งอหงิกเหมือนไม่พอใจใครอยู่ที่หน้าบ้าน

จากที่รีบ ๆ คราวนี้นุชาเลยต้องแกล้งเดินลากขาให้ช้าลงเพื่อเดินไปหาคนที่มายืนรอ
รีบได้ไง
เดี๋ยวน้องแรงบันดาลใจรู้แกวว่าดีใจ แบบนี้เสียฟอร์มแย่

แล้วว่าแต่....
มายังไงล่ะ เล่นมาหากันถึงบ้านแบบนี้ก็ดีใจแย่เลยสิ

ยิ้มกว้าง ตาเยิ้ม แล้วก็มีอันต้องรีบยกมือตบเบา ๆ ที่แก้มของตัวเองสองทีเพื่อให้ตื่นจากอาการเพ้อฝัน

ไม่ได้ ไม่ได้ เดี๋ยวไปทำตาเยิ้มใส่น้องแรงบันดาลใจจะแย่

โคตรคิดถึงเลย บอกตรง ๆ มาหากันถึงบ้านแบบนี้ยิ่งกว่าดีใจอีก

ไม่ไหวแล้ว จะลอยซะให้ได้

ยิ้มจนตาเยิ้มแล้วก็ต้องนับหนึ่งถึงสามเพื่อหุบยิ้มและเดินลากขามาเปิด ประตูบ้าน

“เข้ามาก่อนครับ คุณซ้ง เชิญ ๆ”

แสดงน้ำใจไมตรีให้เห็น แต่น้องแรงบันดาลใจหน้าบึ้งกลับยืนเฉย

เป็นอะไรอีกล่ะ

ทำไมไม่เข้ามา

แล้ว แล้ว แล้ว จะเอายังไง จะให้ผมทำยังไงล่ะครับคุณชายซ้ง

“ไปชุดนี้ก็ได้มั้ง รองเท้าแตะ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา มารับจะไปหรือยัง”

อ้าว แล้วทำไมมายืนมอง ๆ พินิจพิจารณาสภาพเสื้อผ้าหน้าผมของผมแบบนี้ล่ะครับ
งงนะเนี่ย แล้วอะไร มารับ.....มารับเนี่ยนะ
พูดเป็นเล่น จะรับไปไหนอ่ะ งงนะเนี่ย

“ไปไหนเหรอคุณซ้ง” นุชาหน้างง ยืนเกาหัวตัวเองด้วยความมึน เงยหน้าถามคนหน้าบึ้งที่ทำเหมือนไม่สนใจคำถามแล้วยิ่งอยากจะดึงแก้มให้ยิ้ม มมมมมมมม กว้าง ๆ
ท่าทางคงจะน่าดูไม่น้อยเลยทีเดียว แต่คงยาก ช่างมันเถอะ ขนาดหน้าบึ้ง ๆ แค่เห็นก็ปลื้มใจจนน้ำลายแทบหยดแล้ว

“ไปสนามมั้ง เอ้า เร็ว ๆ สิ หรือว่าสำออย แค่นี้วิ่งไม่ได้แล้ว กลัวเจ็บ หรือยังไง”

โธ่ ใครเขาจะกล้าสำออย มีแต่เจ็บจริงๆ น่ะสิ ทำไมถึงได้มองผมในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะครับน้องแรงบันดาลใจ

ป่ะ ไปก็ไป ใครเขาจะกล้าไม่ไปล่ะคร้าบบบบบบบบ พร้อมเสมอล่ะถ้าต้องการจะให้พร้อม ให้ไปชุดนี้เลยก็ได้แต่ขอไปหยิบรองเท้าแป๊บบบบบบบบบบบ เดียว เดี๋ยวมา

“พูดกับผมดี ๆ ก็ด้ายยยยยย ทำไมต้องทำเสียงดุแบบนั้น ผมตกใจนะเนี่ย กลัวด้วย”

เหอะ ไอ้ตี๋ ตกใจ หน้าระรื่นแบบนี้เรียกตกใจเหรอ น้อยๆ หน่อยเหอะ
ถ้าแบบนี้เรียกตกใจ แล้วหน้าแบบไหนที่เรียกว่าดีใจ

“ใครสน”

ง่า

เออเว้ย ไม่สนก็ไม่สน ไม่สนก็ด้ายยยยยยครับ น้องแรงบันดาลใจ ทำไมถึงได้เป็นคนที่ปากคอเราะร้ายขนาดนี้หนอ จะมีมั้ยที่คิดจะพูดจากันให้ดี ๆ ใจคอจะตั้งแง่ไม่ชอบหน้ากันแบบนี้ตั้งแต่ต้นเลยหรือไง แบบนี้ ผมก็เฉาแย่เลยสิ โอกาสเหลือแค่ศูนย์เปอร์เซ็นต์เองเหรอเนี่ย เริ่มท้อใจนิด ๆ เหมือนกันนะครับ

“อาม่ากิมสน”

ชื่อนี้ที่เข้าข่ายต้องห้าม

แค่ชื่อก็ทำให้ซ้ง ถลึงตาใส่คนพูด และมองมาแบบแทบอยากจะกินเลือดกินเนื้อคนพูดไม่เข้าหู

แต่นุชากลับเดินยิ้มร่าหน้าระรื่นเข้าบ้านไปหยิบกระเป๋าใส่รองเท้าแล้ว และแกล้งทำเหมือนไม่เห็นสายตาของคนที่มองตามเลยสักนิด

ไอ้ตี๋ มันวอนตาย ท่าทางจะอยากตายมาก
อาม่าสน เหอะ เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว
ม่ากิมเขาไม่สนลื้อหรอก เขาสนแต่อั๊ว เพราะอั๊วเป็นหลานชายคนเล็ก ที่อาม่าเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโต

เพราะฉะนั้น ม่าก็รักอั๊วที่สุดแบบไม่ต้องสงสัย
ลื้อมาใหม่ ไม่ได้เป็นญาติกันด้วยซ้ำ อย่าคิดว่าจะทำคะแนนได้ง่าย ๆ
ไม่มีทาง

“มาแล้วคุณซ้ง เป็นไงผมมาไวใช่มั้ย นี่ขนาดว่าเจ็บขานะผมยังเดินไวขนาดนี้เลย คุณซ้งทึ่งเลยล่ะสิ ทำหน้าเครียดทำไมครับ คิ้วผูกโบว์เลย ไม่ต้องปลื้มใจขนาดนั้นหรอก แบบนี้ผมเขินแย่”

เหอะ ไอ้ตี๋นุชาหน้าระรื่นมันชมตัวมันเอง แล้วมันก็ดีใจเอง
คนแบบนี้ก็มีด้วย ถ้าไม่เรียกว่าบ้าจะเรียกว่าอะไร

“เพ้อเจ้อ”
เอ่ยบอกและแสยะยิ้มที่มุมปาก ท่าทางดูถูกแบบง่าย ๆ แต่ก็ทำให้นุชาที่พยายามยิ้มหน้าระรื่นมีอันต้องหัวเราะแห้ง ๆ

เออนะ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นึกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นซะอีก กลับแย่ลงกว่าเดิมอีก
โคตรจะตั้งแง่เลย แบบนี้ก็คงแห้วรับประทานอีกตามเคย

ช่างมัน ไม่เป็นไร แค่นี้ชินแล้ว

“ทำไมคุณ ซ้งมารับผมได้ล่ะ”

เปลี่ยนเรื่องคุย เพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น

แต่ซ้งกลับคิดไปคนละทาง

ถามโง่ ๆ ใครเขาจะมารับแบบไม่มีวัตถุประสงค์ ท่าทีที่แสดงออกก็ชัดเจนซะขนาดนี้
คิดเหรอว่า ที่มารับจะมาเพราะมีเจตนาดี คงไม่โง่จนถึงขนาดดูไม่ออกว่าที่ลงทุนมารับถึงบ้านแบบนี้คิดว่าจะมารับด้วย ความหวังดีหรือไง

“อยากเจอมาก ก็เลยมา ไง ถูกใจคำตอบหรือเปล่า”

อ่อ เป็นแบบนั้นเองเหรอ

ก็จะถูกใจมากหรอก ถ้าไม่ใช่มาจากการประชดประชัน น้องแรงบันดาลใจจะทำให้หายใจไม่ทันเพราะเศร้าทุก ๆ สองนาที เคำพูดแต่ละคำโหดร้ายชะมัด ไม่สงสารกันบ้างหรือไง

“ถูกใจมั้งครับ”

จะให้ตอบว่าไม่ถูกใจเหรอ ถูกใจที่ได้เจอ แต่ไม่ถูกใจตรงที่เจอแล้ว ก็ถูกทำเย็นชาใส่

ถามจริงๆ เถอะจะโกรธจะเกลียดอะไรกันนักหนาไม่ได้ทำอะไรให้ซะหน่อย เจอหน้าแค่ไม่นาน ก็เอาแต่ทำหน้าบึ้งใส่ พูดแต่ละทีก็ไม่เคยคิดจะมองหน้ากันเลยสักนิด คนแอบมีใจให้มันก็ชักจะท้อแล้วก็หมดกำลังใจลงไปทุกวันนะครับคุณซ้ง

ก็ได้แต่คิด

แต่ก็ยังเดินตามขึ้นรถไปอย่างว่าง่าย แล้วตลอดระยะเวลาของการเดินทาง

นุชาก็ได้เจอกับถนนสายนรกของแท้ที่ไม่อยากจะเจอ ทางไหนที่ว่าถนนแย่ แทนที่จะหลีกเลี่ยงการจราจรคุณซ้งหน้าหงิก ก็พาไปทัวร์ซะได้ เดี๋ยวก็เบรก เดี๋ยวก็เบรก
เบรกได้เบรกดี ไม่รู้จะเบรกอะไรกันนักหนา คนที่อาศัยมาด้วย ก็เลยต้องหาที่เกาะไม่ให้หัวทิ่ม

“คุณซ้ง จะแกล้งผมไปทำไมเนี่ย ตัวคุณซ้งเองก็เวียนหัวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”

ถามไปก็ไม่เห็นจะได้อะไร ถามไปก็เท่านั้น กลายเป็นเหมือนยิ่งยุ
แทนที่จะหยุดกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม

เอาเถอะอยากทำอะไรก็เอาเลย ตามใจตามสบายเลยครับ

แค่ได้เห็นหน้าบึ้ง ๆ แต่ใสกิ๊ง ๆ แบบชัดเจนในระยะไม่กี่ไม้บรรทัดแบบนี้ก็พอใจแล้วล่ะ

ทดแทนกันได้

มองไปมองมามองแล้วมองอีก ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้ใจระทึกได้ดีชะมัด

ยิ่งเวลา โดนรถปาดหน้าซ้ายขวา ดูเหมือนคุณซ้งจะยิ่งสำเริงสำราญใจ เพราะเห็นยิ้มที่มุมปากบ่อย ๆ เหมือนเป็นเรื่องสนุกสนานนักหนา

ไม่ทันตั้งตัว เผลอเมื่อไหร่หัวก็แทบจะทิ่มทุกที

สนุกมากมั้ยล่ะนั่น สงสัยจะสนุกมาก เห็นยิ้มอยู่หลายครั้ง แล้วก็มีการหันมามองหน้าด้วยความสะใจด้วย

สนุกเขาล่ะ เล่นกับพ่อคุณเถิด
แล้วกูก็บ้าตามเขามาง่าย ๆ ทำไมเนี่ย
ไอ้ทางนี้แหละที่ยิ่งประสาทกว่าเป็นสิบเท่า

ว่าง ๆ ขับรถให้นั่งแบบนี้อีกนะ เป็นเรื่องที่น่าดีใจมากกกกกกกกกก

ระยะทางไม่ไกล อีกไม่เท่าไหร่ก็ถึงสนาม แต่พอใกล้จะถึงสนาม ซ้งกลับเปลี่ยนเส้นทางอย่างรวดเร็วและไม่รอถามความคิดเห็นของผู้ร่วมทางเลย แม้แต่น้อย

สายตามองหาเส้นทางที่ถนนขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ เพื่อจะได้ทำให้คนที่นั่งมาด้วย
ต้องเวียนหัว คลื่นไส้ เพียงแค่นี้ก็รู้สึกดีมากที่ได้แกล้ง

“ถ้าผมเวียนหัวมาก ๆ ผมจะอ้วกใส่คุณซ้ง”

ก็ลองดูสิ นึกว่ากลัวหรือไง เรื่องแค่นี้

“ทนหน่อยตี๋ เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว ถือว่ามานั่งรถเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ นี่อุตส่าห์มารับมาส่งด้วยตัวเองเชียวนะ”

เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว

หมายความว่าไง ก็ไหนว่าจะรับไปวิ่งที่สนาม แล้วทำไมขับมาตั้งไกลจนเกือบถึงสนามแต่กลับเปลี่ยนเส้นทางเป็นเลี้ยวพากลับ บ้านซะได้

แบบนี้หมายความว่าไง

“แล้วสนาม”

สนามงั้นเหรอ

จริงสิ สนาม

อ่อ.....เข้าใจแล้ว......ไม่ต้องถามคงดีกว่า เพราะถึงถามไปก็เท่านั้น ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าไม่ได้พาไปสนาม แต่จะพาไปแกล้งไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นคงไม่แปลกอะไร

“ไปทำไมสนาม ขาเจ็บไม่ใช่เหรอ วิ่งได้ที่ไหนแบบนี้ เมื่อกี้นึกขึ้นได้ว่าเป็นห่วงลื้อ ก็เลยพากลับดีกว่า อ่ะ ใกล้ถึงบ้านตี๋แล้ว เดี๋ยวก็รีบลงไปสิ เข้าบ้านดี ๆ นะเป็นห่วง”

นั่นไงล่ะ ขับรถเพื่อจะมารับ รับไปไหนน่ะเหรอ รับไปเพื่อไปแกล้ง
แกล้งด้วยการพาไปผจญภัยบนถนน
เออสงสัยสนุกมากนะ ถึงได้ทำแบบนี้

นุชาได้แต่เมินมองออกไปนอกหน้าต่างรถ และทำได้แค่แอบถอนหายใจเงียบ ๆ
ก่อนจะหันไปมองหน้าของคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนว่าเรื่องที่ทำ อยู่เป็นเรื่องสนุกมาก

สนุกเขาล่ะ ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเหอะ ทำปายยยยยยยยยยย

รถเคลื่อนอย่างทุลักทุเลมาถึงหน้าบ้าน แล้วนุชาก็เลยหยิบกระเป๋าใส่รองเท้ามาถือเอาไว้
ค้นหาบางอย่างในกระเป๋า แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ จนคนพามาส่งชักจะเริ่มหงุดหงิดจนต้องถามออกมาด้วยความสงสัย

“หาอะไร อยู่ได้”

อะไรน่ะเหรอ
น้องแรงบันดาลใจจะอยากรู้ไปทำไมเหรอ ถึงยังไงก็ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว
จะอยากรู้ไปเพื่ออะไรกัน

“หาเหตุผลอยู่ครับ กำลังหาเหตุผลดี ๆ ว่าทำไมถึงได้ยอมให้คุณซ้งพาไปด้วยง่าย ๆ
แล้วก็อยากรู้เหตุผลดี ๆ ที่ทำให้คุณซ้งอยากพาผมไปนั่งรถเล่น แต่หาเหตุผลไม่เจอครับ สงสัยคงจะต้องหาอีกนานเหตุผลที่ว่าเนี่ย”

ไอ้ตี๋

ปากดีนักนะ

ซ้งอยากจะอ้าปากพูด อีกสักคำ แต่คนที่มาด้วย ก็เปิดประตูและก้าวขาลงไปจากรถเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับคำพูดกวน ๆ ที่ทำให้ซ้งหงุดหงิด แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่โมโหอยู่คนเดียว

จะไปมีได้ยังไงเหตุผล ก็แค่อยากแกล้งเล่น มีอะไรมั้ย

จะคิดไปทำไมให้ปวดหัวยุ่งยาก เรื่องแค่นี้

รถกำลังจะเคลื่อนออกจากรั้วบ้าน แต่ซ้งก็ต้องหันมามองอีกครั้งเพราะเสียงเคาะกระจกรถ

อะไรของมันอีกวะ อะไรของมันอีก

เปิดกระจกรถให้คนที่มาเคาะ
แล้วก็เห็นนุชายิ่งยิ้มกว้างมากกว่าเดิม ยิ้มอย่างมีความสุข ยิ้มจนตาเยิ้ม

“คุณซ้งฝากบอกอาม่ากิมด้วยนะครับ ว่าผมคิดถึงมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปหาอาม่ากิมนะครับ แล้วเจอกันครับคุณซ้ง”

ห๊า

อะไรนะ

มันพูดอะไรของมันวะ ไอ้ตี๋มันพูดบ้าอะไรของมัน
โมโหโว้ยยยยยยย

อยากจะเรียก อยากจะตะโกนด่า แต่คนขาเจ็บกลับเดินลิ่วเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็วเหมือนไม่เคยมีอาการเจ็บขา เลยสักนิด

“ไอ้ตี๋ ไอ้ตี๋นุชา เออ แล้วอั๊วจะคอยดู แล้วจะคอยดูว่าลื้อจะไปต่อได้อีกแค่ไหน
ฮึ่ม อาม่าข้าใครอย่าแตะโว้ยยยยย”





TBC...

 


อ่านบ้างเม้นท์บ้างนะค่ะ อย่ามัวแต่อยู่ในมุมมืิดกัน เดี๋ยวจะออสโมซิสแสงสีดำ จนตัวดำกันหมด ออกมารับแสงสว่างกันบ้างนะค่ะ :z2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 16-04-2010 21:16:33
อาซ้งอ้ะ หวงอาม่ากิมก็บอกตี๋มานไปตรงๆก็ได้ แกล้งอย่างนี้เดี๋ยวอาตี๋อีก็น้อยใจตายเข้าสักวัน
ทีนี้ล่ะ ไม่เหลือใครให้แกล้งแล้วจะเหงานาอาซ้งนา


((คุณแนน ลงเนื้อหาซ้ำในตอนรึเปล่าคะ? แบบว่าก๊อปปี้ เพสต์ แล้วเพสต์ซ้ำซ้อนไรงี้อ้ะค่ะ))
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 16-04-2010 21:18:27
น้องแรงบันดาลใจชอบแกล้ง..
สงสารอาตี๋จริง ๆ  เดี๋ยวให้อาม่าจัดการซะเลย.. :m16:
แต่ถึงจะชอบแกล้งก็ยังน่ารัก... :-[
ชอบเรื่องนี้จังเลยยยยยย ยย ยยย ...



ปล.  ดูเหมือนว่าจะมีบางส่วนที่ซ้ำนะคะ



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 16-04-2010 21:51:45
น้องแรงบันดาลใจชอบแกล้ง..
สงสารอาตี๋จริง ๆ  เดี๋ยวให้อาม่าจัดการซะเลย.. :m16:
แต่ถึงจะชอบแกล้งก็ยังน่ารัก... :-[
ชอบเรื่องนี้จังเลยยยยยย ยย ยยย ...
ปล.  ดูเหมือนว่าจะมีบางส่วนที่ซ้ำนะคะ



อาซ้งอ้ะ หวงอาม่ากิมก็บอกตี๋มานไปตรงๆก็ได้ แกล้งอย่างนี้เดี๋ยวอาตี๋อีก็น้อยใจตายเข้าสักวัน
ทีนี้ล่ะ ไม่เหลือใครให้แกล้งแล้วจะเหงานาอาซ้งนา

((คุณแนน ลงเนื้อหาซ้ำในตอนรึเปล่าคะ? แบบว่าก๊อปปี้ เพสต์ แล้วเพสต์ซ้ำซ้อนไรงี้อ้ะค่ะ))


:a5:อ๊ากก ขอโทษด้วยนะคะ แนนแก้ไขให้ใหม่แล้ว

ช่วงนี้แนนออกจะอึนๆนะคะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาบอกให้ ไม่งั้นก็ไม่รู้ตัวอีก :laugh:

น่าจะถูกหมดแล้วเนอะ คืนนี้หลับฝันดีนะค่ะทุกคน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 16-04-2010 21:58:24
อาซ้งก็น้า หึหึ แกล้งอาตี๋เข้าไป  :laugh:


ส่วนตี๋ก็น่ะ ยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลย

แต่ตอนนี้คิดถึงอาม่าจังเลยค่ะ

ไม่มีบทอาม่าเลย มีแค่ชื่อออกมานิดเดียว แต่ว่าทำเอาอาซ้งอี  :m31: เลยทีเดียว


 :กอด1: :กอด1:ให้พี่แนนคนเก่งค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 16-04-2010 22:14:55
อาม่าของเขาทั้งคน  ก็มันหวงอะ :sad4:


ถ้าทาง อาม่าจะเป็นสื่อรักให้หลานชายนะ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 16-04-2010 22:41:49
อาซ้งหวงอาม่ามากๆ
พาคุณนุชาไปแกล้งบ่อยๆด้วยนะคะ
คนอ่านอยากให้แกล้งไปแกล้งมา แล้วก็รักกันไปเลย!!!  :impress2:

55+
ออกมารับแสงสว่างแล้วค่ะ อยากทักทายมาเลยค่ะ แต่เพิ่งมาค่า
แบบว่าหลงทางไปมาระหว่างกูเกิ้ล และเด็กดี เลยพลัดหลงมาในบอร์ดเนี่ยล่ะค่ะ

เพิ่งจะได้มาปาดทันคุณแนน(ขออนุญาตนะคะ) ลงก่อนเรื่องจะจบจนได้
เห็นชื่อคนแต่งก็ตามมาโดยเร็วเลยค่ะ

ขอบคุณคุณแนนที่เอามาแบ่งกันอ่านนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 16-04-2010 22:55:51
อาซ้งหวงอาม่ามากๆ
พาคุณนุชาไปแกล้งบ่อยๆด้วยนะคะ
คนอ่านอยากให้แกล้งไปแกล้งมา แล้วก็รักกันไปเลย!!!  :impress2:

55+
ออกมารับแสงสว่างแล้วค่ะ อยากทักทายมาเลยค่ะ แต่เพิ่งมาค่า
แบบว่าหลงทางไปมาระหว่างกูเกิ้ล และเด็กดี เลยพลัดหลงมาในบอร์ดเนี่ยล่ะค่ะ

เพิ่งจะได้มาปาดทันคุณแนน(ขออนุญาตนะคะ) ลงก่อนเรื่องจะจบจนได้
เห็นชื่อคนแต่งก็ตามมาโดยเร็วเลยค่ะ

ขอบคุณคุณแนนที่เอามาแบ่งกันอ่านนะคะ  :กอด1:

^
^
^
เจาะไข่
แล้ว+1 :L2:

ต้อนรับน้องใหม่ที่กล้าออกมารับแสงสว่างค่ะ :กอด1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 16-04-2010 23:16:00
มาร่วมลุ้นให้อาตี๋พิชิตใจอาซ้ง  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 16-04-2010 23:38:51
อาซ้งอ่ะทำงี้อาตี๋ชีช้ำแย่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 17-04-2010 00:49:25
อาม่าอ่ะไม่แตะหรอก

แต่อยากให้หลานอาม่ามาแตะมากกว่าเน๊อะ (แตะนะ ไม่ใช่เต๊ะ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 17-04-2010 04:30:48
ท่าทางรักนี้จะอีกยาวไกล
เอาใจช่วยน้องชาค่ะ   :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 17-04-2010 09:31:03
+1 เป็นกำลังให้อาตี๋เอาชนะใจน้องแรงบันดาลให้ได้เร็วๆ  :-[ รัก aoikyosuke + นู๋แนนด้วยน๊ะจ๊ะที่เอาเรื่องน่ารักแบบนี้มาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-04-2010 11:55:13
ใจร้ายอะ แกล้งคนป่วย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อาม่าข้าใครอย่าแตะ † o(>_<)o~> [16/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 17-04-2010 13:12:52
อาซ้งเอ๊ยยย !!  ทำไมลื้อใจร้ายเยี่ยงนี้ สงสารอาตี๋เค้าหน่อยเส่ !   :angry2:
อาตี๋มาๆๆๆ  มาให้อั๊วะปลอบดีกว่า
ใครเขาอยากแตะอาม่ากันนน ที่อาตี๋แกอยากแตะหน่ะ
ลื้อต่างหากอาซ้ง !!!  :laugh: :laugh: :laugh:

มาต่อเร็วๆเน้อ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 18-04-2010 00:24:18


ตอน ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย





“หายลี แล้วเหรออาตี๋ วันเดียวก็หายแล้ว เก่งเจง ๆ”

ขอบคุณครับอาอี๊

“ยาที่ให้ล่ายทาบ่อย ๆ ม้าย นวดๆ สองทีก็หายแล้ว”

ครับ ๆ อากงผมนวดตามที่อากงบอกเลยครับ เกือบหายดีแล้ว อีกไม่กี่วันก็เดินได้ปกติแน่ ๆ ถ้าไม่ได้ยานวดของอากงผมคงแย่ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ

“ตี๋ม่ายมานะ มีแต่คนถามหากานทุ้กกกกกกก คนเลย”

แน่ล่ะ คนมันฮอต ไม่ถามหาก็แย่สิ
คิดถึงผมกันใช่มั้ยครับบรรดาแฟนคลับชมรมผู้สูงอายุ วันนี้นุชากลับมาแล้ว และเพียงแค่หนึ่งวันที่ไม่ได้พบกัน นุชาก็คิดถึงแฟนคลับทุกกกกกกกก คนเลยก๊าบบบบบบบบ

“ดีใจครับ นึกว่าไม่มีใครสนใจผมซะแล้ว”

อมยิ้มและไหว้รอบทิศสวัสดีทั่วไทย ไหว้แล้วก็ไหว้ แล้วก็ยกมือไหว้ไปทั่ว และพูดทักทายด้วยประโยคเดิม ๆ

สวัสดีคร้าบบบบบบบบ และขอบคุณครับ

แต่จะมีพิเศษหน่อยก็ตรงที่บุคคลสำคัญซึ่งเป็นเทรนเนอร์ให้ และอยู่ดูแลกันอย่างใกล้ชิดเสมอมา

“ม่ากิม ผมคิดถึงม่ากิมมากเลย”

ไหว้ไม่พอ ยังมีการคลอเคลียเล็กน้อย ยิ้มหวานๆ ทำหน้าใสซื่อแล้วก็หัวเราะเมื่ออาม่ากิมยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาแล้วก็ยิ้ม อยากชอบใจ

“มันช่างออดอ้อน ม่าก็คิดถึงตี๋นา แต่ว่าหน้าตี๋มันคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่หนาย
มันคุ้นเจง ๆ แต่ม่าก็นึกไม่ออก”

คุ้นสิ เราเจอกันบ่อยๆ นี่ครับ ไม่คุ้นคงแปลก หน้าผมโหลซะขนาดนี้

“แล้ววันนี้จาวิ่งหวายเหรอ”

ไม่ไหวล่ะคร้าบบบบ แต่มาเพื่อทำร้ายจิตใจใครบางคนที่ยืนมองตาขวางอยู่โน่นนนนนนน เห็นทำท่ากระฟัดกระเฟียด สะบัดแขนสะบัดขาวอร์มร่างกายไปมาอยู่ตั้งไกลแต่ก็ยังอุตส่าห์ส่งรังสีอำมหิต มาทักทายกันได้ถึงนี่

วันนี้ก็หน้าบูดแต่เร้าใจเหมือนเดิมเลยนะครับ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง

นุชา แอบหันไปมองคนที่ยืนอยู่ในระยะไกล และเข้ามาในระยะใกล้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

โดนกักบริเวณและแบ่งเขตพื้นที่กันชัดเจน

เพราะได้ข่าวมาว่า อาม่ากิมสั่งห้ามมายุ่มย่ามวุ่นวายเวลาอาม่าอยู่กับเพื่อน ๆ
สาเหตุก็ไม่ใช่อะไร

เพราะคุณซ้งหน้าบูด มักจะหวงอาม่าจนเกินเหตุและมักก่อให้เกิดความเวียนหัวกับเหล่าบรรดาสมาชิก ชมรมนักวิ่งวัยดึกอยู่บ่อยๆ
เลยถูกสั่งห้ามเด็ดขาดว่าถ้าหากมาด้วยกัน ต้องต่างคนต่างวิ่ง แอบมองกันได้
แต่ต้องแกล้งไม่รู้จักกัน

เป็นความคิดพิลึกพิลั่นที่แม้แต่นุชาเองยังงง

อาม่ากิมก็คิดได้เนอะ เออเข้าท่าดี แบบนี้แหละดี จะได้เห็นน้องแรงบันดาลใจหน้าบูดทำหน้าเหมือนคนใกล้ตาย คิดแล้วก็แอบลอบยิ้มด้วยความสะใจเล็ก ๆ

เรื่องชอบ กับเรื่องแกล้ง มันคนละเรื่องกัน
ชอบก็ส่วนชอบ หมั่นไส้ก็ส่วนหมั่นไส้

เกี่ยวกันตรงไหน
ใช่มั้ยครับคุณซ้งหน้าบูด

“เดินช้า ๆ คงพอไหวคร้าบ เดี๋ยวผมเดินรั้งท้ายก็ได้ ไม่เป็นไรครับ”

ก้าวขาออกเดิน และตอบออกไปแล้ว พร้อมกับที่เหล่าบรรดาสมาชิกชมรมเริ่มทยอยออกวิ่งนำหน้าพร้อมกับร้องเพลง ปลุกใจในยามเย็นที่มักจะได้ยินกันอยู่เสมอ

“สู้ม้ายยย อาตี๋ สู้ สู้นา สู้ สู้”

คร้าบบบ สู้สิครับ ไม่สู้จะมาได้ถึงนี่เหรอครับ จริงมั้ย

เดินช้า ๆ ก้าวยาว ๆ อาการปวดแปลบที่หน้าแข้งเป็นพัก ๆ ยังมาเยือนอยู่บ่อย ๆ แต่ก็พอเดินไหว เจ็บหน้าแข้งเดินได้ แต่ถ้าเจ็บหัวเข่าคงจะทรมานแย่

ถ้าก้าวเดินเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่เป็นไร
เดินสูดอากาศบริสุทธิ์ และแอบเหลือบมองหาคนหน้าบึ้งที่มองเห็นได้ลิบ ๆ และกำลังจะวิ่งเข้ามาใกล้ ๆ

ก้าวขาได้ยาวมาก และยังวิ่งเร็วเหมือนเดิม

น่ารักเหมือนเดิม
หน้าใสกิ๊งเหมือนเดิม
และหน้าก็ยังบูดบึ้งบู้บี้เหมือนเดิม

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ของแท้และดั้งเดิม และคงไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้นั้น ตัวจริงต้องกัดเจ็บ และพูดแต่ละทีต้องทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บและเสียดแทงหัวใจด้วย

คิดแล้วก็ได้แต่ขำ
และในเวลาไม่นานคนที่เพิ่งอยู่ในความคิดก็มาทักทายในระยะประชิด พร้อมกับเริ่มพูดบางอย่างที่ทำให้นุชากลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้แทบไม่อยู่

“หัดรู้ซะบ้างว่าอาม่าใคร ตายแน่ลื้อ คอยดู ลื้อต้องตายแน่”

ขู่จริงโว้ยยยย

ก็รู้ว่าอาม่าใคร

ก็ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าจะแย่ง คิดไปเองคนเดียวไม่ใช่เหรอ

แล้วดูน้องแรงบันดาลใจทำ มาพูดให้อมยิ้ม พูดเสร็จแล้วก็วิ่งลิ่วๆ ไปเป็นองครักษ์พิทักษ์ชมรมคนชราในระยะไกลซะแล้ว

ก็เหลืออยู่คนเดียวที่ต้องเดินเรื่อย ๆ และมองตามแผ่นหลังของคนที่วิ่งได้เร็วและไม่มีท่าทีเหนื่อยหอบให้เห็นเลยสัก นิด

เปล่ามาหลีอาม่า

แต่ว่ามาเพื่อมองหน้าใครคนหนึ่งเท่านั้น
ใครคนหนึ่งที่ว่า ก็เอาแต่คิดอะไรไม่เข้าเรื่องเข้าราว

นึกแล้วก็ยังขำไม่หาย
วันนี้ขับรถไปรับถึงหน้าบ้าน โดยมีอาม่ากิมนั่งประกบมาด้วย

จะขับรถแบบท้านรกเหมือนวันก่อนก็ไม่ได้ ลอบมองแล้วเห็นยิ่งทำหน้าบูดหน้าบึ้งและบ่นไปเรื่อยจนถูกอาม่าเอ็ดไปถึงได้ หยุด

แล้วอยู่ ดี ๆ ก็เปลี่ยนเวอชั่นจากแบบดุโหด งี่เง่ากลายเป็นหวานซึ้งแบบรวดเร็วทันใจและสร้างความงุนงงให้ไม่น้อย

“ลื้อ เอ้ย นุชามาเองได้ใช่มั้ย วันหลังซ้งไม่ต้องมารับนุชาหรอกใช่มั้ย”

พูดซะไพเราะเลย

แบบนี้ดีใจแย่ ดีใจแบบตลก ๆ
เออเอาเข้าไป ก็พูดได้เนอะ ซ้ง ซ้ง นุชา นุชา

วันดีคืนดีเวลาอาม่าเผลอ ก็กลายเป็นลื้อกับอั๊วเหมือนเดิม

เฮ่อ จะดุไปไหนคุณซ้ง แค่นี้ก็กลัวจะตายแล้วววววว

“ครับ แล้วแต่คุณซ้งจะพิจารณาและเมตตาคนเจ็บขา”

แกล้งพูดให้น่าสงสารและแอบลอบยิ้มเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าน้องแรงบันดาลใจหน้าบูดกำลังจะทำหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม

“ใช่แล้วซ้งมีเมตตาและใจดี อาม่าสอนเอาไว้ ซ้งมารับอาตี๋ทุกวันเลยนา ยางงายก็ต้องผ่านทางนี้เสียเงินเยอะแยะม่ายลี ใช่ม้ายอาตี๋”

ครับ

ใช่แล้วครับอาม่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ถึงกับพูดไม่ออกเลยล่ะเซ่ ถึงไม่อยากมาก็ต้องมาแล้วล่ะคร้าบบบ คุณซ้ง
มาเหอะ แค่ได้เห็นหน้าบูด ๆ ของคุณซ้งผมก็หายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง

“ใครอยากมาวะ ม่าก็เข้าข้างมัน ม่ารักซ้งมั้ย ทำไมม่าต้องเข้าข้างมันด้วย”

น่ารักซะไม่มี หน้าหงิกหน้างอ พูดจาเป็นเด็ก ๆ

ปลื้มมมมมชะมัด ทำไมน่ารักอย่างเน๊ คุณซ้ง

นุชาได้แต่นั่งอมยิ้มอยู่ในรถ และฟังบทสนทนาของอาม่ากับคุณหลานเจ้าปัญหาที่ทำท่ากระฟัดกระเฟียดไม่พอใจแต่ ก็ทำอะไรไม่ได้

กว่าจะมาถึงสนามก็ได้เห็นบางอย่างที่ทำให้ต้องเพิ่มคะแนนความน่ารักและ น่าสนใจให้กับน้องแรงบันดาลใจหน้าใสกิ๊งคนนี้ไปอีกสิบคะแนน

“คุณซ้งใจดีครับ ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจแทนอาม่าที่เลี้ยงดูให้คุณซ้งเติบโตมาเป็นคนที่ดีและ น่ายกย่องแบบนี้”

สรรเสริญเยินยอกันเข้าไป
ถึงแกล้งพูด แกล้งชม แต่ก็ทำให้น้องแรงบันดาลใจหน้าหงิก ยิ้มออกมาได้
และรีบรับคำชมนั้นเอาไว้อย่างรวดเร็ว

“ก็แน่ล่ะ คนดีแบบนี้หาได้ง่าย ๆ หรือไง”

“ใช่แล้ววววว น่านงาย งั้นซ้งก็มารับอาตี๋ทุกกกกกกกกวันเลยนา เข้าใจมั้ย”

“เข้าใจครับ”

ใช่แล้ว เข้าใจ และ………..

เอ่อ

หือ

ทำไมต้องมา

มารับไอ้ตี๋นุชาทุกวัน เพราะอะไรทำไม ทำไมต้องมาไม่เข้าใจมีเหตุผลอะไร

เหตุผลที่ต้องมา ก็เพราะว่าเป็นคนที่จิตใจดีและมีน้ำใจ
ลื้อจะมากไปแล้วนุชา หลอกกันแบบนี้ มันมากไปแล้ว
มาบ่อย ๆงั้นเหรอ ได้เลย งั้นจะมาให้บ่อย ๆ มามันทั้งเช้าทั้งเย็นเลยดีมั้ย

แบบนี้จะมาให้เห็นหน้าทั้งเช้าทั้งเย็นเลย
แล้วลื้อจะได้รู้สึกซาบซึ้งและประทับใจแบบไม่รู้ลืมเลย

คอยดูเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน

“แล้วนุชาจะประทับใจไม่รู้ลืมในความใจดีของซ้ง อย่าลืมบันทึกเอาไว้ด้วยนะว่าซ้งดีกับนุชามากแค่ไหน ห้ามลืมเด็ดขาดเลยนะนุชา”

นุชาเดินเรื่อยเปื่อยและยังขำกับประโยคที่ได้ยินอยู่ไม่หาย

นี่แหละที่ขำ ประโยคนี้แหละที่ทำให้ต้องอมยิ้มจนถึงตอนนี้
น้องแรงบันดาลใจซ้งนี่อาฆาตแรงชะมัด

งั้นเปลี่ยนให้ใหม่ก็ได้
เปลี่ยนเป็น

------คุณซ้งนั่นแหละที่จะประทับใจไม่รู้ลืม อย่าลืมบันทึกเอาไว้ด้วยนะว่าความรู้สึกโมโหหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้มันเป็น ยังไง ที่สำคัญกลับบ้านไปแล้วอย่าลืมนะขอแนะนำ ยาพาราหนึ่งแผงและดื่มน้ำตามมาก ๆ ด้วยจะได้หายปวดหัว อันนี้แหละที่เป็นห่วง

ด้วยความปรารถนาดี รัก และ ห่วงใยจากใจจริง-------

แบบนี้แหละที่ถูกต้องที่สุดแล้วเราจะได้เห็นกันใช้มั้ยครับ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง





TBC...

 


แห่ะๆๆ มาอัพช้าไปนิด แบบว่าแนนเพลียๆกลับมาถึงแล้วหลับเลย นี่ก็เพิ่งตื่นนอน เลยมาอัพรอบดึก  :laugh:


[/quote]
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 18-04-2010 00:53:20
^
^
^
 :z13:

นุชาหรือตี๋ของเราน่ารักดี เมื่อไหร่อาซ้งจะตกหลุม
ที่อาตี๋ของเราขุดไว้ซะทีน๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 18-04-2010 03:22:16
วู๊วววววว ไอ้คนหวงม่า  :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-04-2010 09:11:35
สู้ๆ คุณแนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 18-04-2010 09:42:47
อาตี๋สู้ๆ สู้มั้ยสู้ สู้ๆๆ

 :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 18-04-2010 13:39:32
ตี๋นุชาน่ารักอ่ะ


มีการแบ่งด้วยเนอะว่าชอบก็ส่วนชอบ หมั้นไส้ก็ส่วนหมั้นไส้ ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 18-04-2010 13:53:17
หึหึ  ไปหาอาตี๋ของอั๊วะทุกวันเดี๋ยวลื้อก็หลงรักหรอกอาซ้ง
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
อาตี๋ลื้อนี่น่ารักเจงๆ
 :o8:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 18-04-2010 14:17:28
หวงจริ๊งอาซ้งเอ๊ย :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 18-04-2010 16:30:26
55+
นุชาก็ใช่ย่อยนะค้าบ...  o18

ซ้งน่ารักอ่า โดนหลอกง่ายเชียว

เอ้า...มารับกันต่อไป
อาตี๋สู้ๆ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 18-04-2010 18:11:56
------คุณซ้งนั่นแหละที่จะ ประทับใจไม่รู้ลืม อย่าลืมบันทึกเอาไว้ด้วยนะว่าความรู้สึกโมโหหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้มันเป็น ยังไง ที่สำคัญกลับบ้านไปแล้วอย่าลืมนะขอแนะนำ ยาพาราหนึ่งแผงและดื่มน้ำตามมาก ๆ ด้วยจะได้หายปวดหัว อันนี้แหละที่เป็นห่วง

ด้วยความปรารถนาดี รัก และ ห่วงใยจากใจจริง-------

 :m20: :m20:

ฮาประโยคเนี้ย อาตี๋ ลื้อน่าจะไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ทิฟฟี่แผงสีเขียวนะ  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 18-04-2010 18:50:39
คุณซ้งนี่อายุกี่ขวบเนี่ย
555+
 :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 18-04-2010 21:26:01
นั่น...อาตี๋นุชายอมซะที่ไหน..  :m20:
คุณซ้งก็นะ .. ไม่รู้อะไรซะบ้างเล้ยยย  เค้าไม่ได้ชอบอาม่าซะหน่อย..  :eiei1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 18-04-2010 22:48:46
อาตี๋แอบร้ายนะเนี่ย :jul3:

คิดจะป่วนใจให้รักใช่ไหมเนี่ย??

 :pig4: ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 19-04-2010 15:35:51
เอาอีกๆ

อาซ้ง นุชา และสาวสวยอย่างอาม่ากิมมาต่ออีกน้าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 19-04-2010 16:25:47
แหม ช่างเชือดเฉือนกันอย่างนี้ แล้วจะรักกันยังไงนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ด้วยความปรารถนาดี รัก และห่วงใย† o(>_<)o~> [18/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 19-04-2010 19:58:10
 :laugh: :laugh: :laugh:

อาตี๋นุชาน่าร้ากกกกกกกกกกก 555

งานนี้อาซ้งได้หาพารามากินไม่ทันแหงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 19-04-2010 23:52:33


ตอน ช่วงที่ดีที่สุด





“ราวจะ เลี้ยงฉลองให้ในฐานะที่อากิมเป็นเลขาของชมรม ปายด้วยกานนาอาตี๋”

หา

ไปเลี้ยงฉลองในฐานะที่อาม่ากิมเป็นเลขาชมรม
เออเว้ย เข้าท่า ชมรมนี้เขามีแบบนี้กันด้วยเหรอ เยี่ยมจริง ๆ

“ไปชุดนี้เหรอครับ ไปได้เหรอครับ”

นุชาก้มลงดูสภาพของตัวเองแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองอากงที่เอ่ยปากชักชวน
โดยมีเหล่าหมู่คณะชมรมช่วยกันพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง

“ช่ายยยย ปายกังชุดนี้แหละ ไม่เห็งเป็งไรเลย เรามีตังค์ เราไปได้ อากิม อากิมมมมมทางเน๊ อาตี๋ตกลงไปแล้วนา”

เหอ เหอ เหอ เรามีตังค์ ครับ ถะ ถะ ถูก ถูกต้องคร้าบบบ ผมเห็นด้วยทุกประการเลย เราไปได้เพราะว่าเรามีตังค์ เนอะ

ยืนสงบนิ่งและตั้งสติ ก่อนจะหัวเราะแหะ แหะ สองทีแล้วก็หันไปมองอาม่ากิมที่เดินยิ้มมาแต่ไกล หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อย

โดยมี..........น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งเดินหน้าหงิกตามมาอย่างใกล้ชิด

นั่นแหละโฟกัสจุดใหญ่และเป็นจุดที่น่าสนใจสุด ๆ เลย

คุณซ้งเดินหน้ามุ่ยมู่ทู่มาเลย
ผมเปียก หน้าเปียกโชก แถมยังยกผ้าขนหนูขึ้นซับที่ใบหน้าอีก

ภาพแบบสโลโมชั่น เห็นแล้วแทบทนไม่ไหว อยากกระโดดกอด
น่ารักเกินห้ามใจจริง ๆ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งคร้าบบบบ

“อาตี๋ไปล่วยกันนา ซ้งจะล่ายมีเพื่อน”

ใครอยากได้ไอ้ตี๋หน้าเอ๋อนี่เป็นเพื่อนกันวะ ดูเพื่อนที่อาม่าหาให้แต่ละคน
เพื่อนอาม่างี้ ไอ้ตี๋หน้าเอ๋ออย่างงี้
มันเล็งอาม่าอยู่ ม่าไม่เห็นเหรอ ดูมันทำตาเหม่อลอย ล่องลอยไปถึงไหนแล้ว
มันคิดอะไรของมันอยู่ มีหรือซ้งจะไม่รู้

อาม่าอั๊ว อย่ามาแหยม เดี๋ยวตบหัวทิ่มเลย

“มัน เอ้ย นุชาเขาไม่ว่างหรอกม่า ขาก็เจ็บ ต้องรีบกลับบ้านใช่มั้ย”

ตอบมาว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ ลื้อตายแน่

“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากแสดงความยินดีที่อาม่าได้เป็นเลขาชมรม”

ตอบแบบนี้มึงตาย

“แต่ขาเจ็บมากนะ ต้องกลับบ้านไปพักผ่อนไม่ใช่เหรอ”

ช่วยให้มีทางหนีทีไล่แล้วนะตี๋ หรือว่าลื้ออยากจะเปิดประตูนรกกันล่ะ

“ไม่เจ็บมากครับ หายแล้ว”

ไอ้ตี๋นี่มันดื้อ แบบนี้ไม่ธรรมดาเลย ต้องเจอกันหน่อยแล้ว

“ลื้อไม่ว่าง แล้วก็เจ็บขามากกกกกกกก เข้าใจมั้ย กลับบ้านไปเลยไป๊”

ซ้งผู้อยู่ในอาการหัวเสีย หงุดหงิดไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ เดินเข้ามาหาคนที่กำลังยิ้มแฉ่งหน้าบานและขยันตอบคำถามไม่ให้เป็นที่น่าพอใจ ก้มหน้าลงเล็กน้อยและอมยิ้มก่อนจะกัดฟันและกระซิบบอกเสียงเบา

“ลิ้อไม่ว่างรีบตอบออกไป หรือถ้าอยากตายก็มา”

ขู่จริงโว้ยยยยยยยยยยยย
จะขู่ให้ได้อะไรขึ้นมาเนี่ย ขู่ให้ตายก็ยังจะไปอยู่ดี แล้วยังจะขู่ไปทำไม
แล้วดูทำเข้า

มายืนยิ้มหน้าใสกิ๊ง แล้วก็ก้มลงมากระซิบที่ข้างหูกันแบบนี้
เข้าใจมั้ยว่ามันจะละลายแล้วคร้าบบบบบบ

“แต่ผมว่างจริงๆ ครับ โทษทีคุณซ้งผมโกหกไม่เป็น”

นุชาอมยิ้มและกระซิบกระซาบตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว สายตายังจับจ้องมองที่แก้มขาว ๆ หน้าใส ๆของคนที่กัดฟันพูด

และในเวลานี้สายตาของนุชาก็เริ่มมองเลยไปที่จมูก แก้ม คาง และริมฝีปากตามลำดับ
มองแบบนิ่งๆ เหมือนอยากจะเก็บภาพทุกอย่างเอาไว้ในความทรงจำให้ติดตัวเอาไว้ตลอดไป

แค่ได้เห็นก็ชื่นใจชะมัด

ระยะประชิดอีกแล้ว เห็นแค่นี้ก็ดีใจแทบตาย

ปลื้มว่ะ คนอารายยยยยยย ทำไมน่ารักจัง
นี่ขนาดทำเสียงดุนะ เสียงยังเท่ห์เลย หล่อกระชากใจจริง ๆ เว้ยเฮ้ยยยย

“ผมตกลงจะไปครับ ผมอยากไป ขอผมไปด้วยนะครับอาม่า”

ห๊า

ขู่ก็แล้ว ปลอบก็แล้ว มันยังจะหน้าด้านตามไปอีกเหรอ

“ไอ้ตี๋ ม่าดูมันตอบเด่ะ มันกวนซ้ง”

อ้าว สู้ไม่ได้ ก็เลยหันไปฟ้องอาม่ากิมซะงั้น

โห คิดนานมั้ยครับคุณซ้ง

“ซ้งนา ทำไมเป็นคงงี้นะ อาตี๋เป็นสมาชิกชมรม อีต้องปายเซ่ ไม่ไปล่ายยางงาย”

ถูกครับ ต้องไปครับ ใช่แล้วครับอาม่ากิม นี่แหละใช่เลย

“ไป ไป ตี๋ปายกะม่านา เหลียวเราจะไปที่ร้านเดิม ร้านที่มีคาราโอเกะเสียงแจ่ม ๆ เหมือนเดิม”

อินเทรนส์น่าดู ร้านที่มีคาราโอเกะเสียงแจ่ม ๆ อาม่ากิมนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ แฮะ

แล้วนุชาหน้ายิ้มแฉ่งก็เลยเดินตามเหล่าหมู่คณะชมรมนักวิ่งวัยดึกไป
โดยมีอาม่ากิมและน้องแรงบันดาลใจหน้าหงิกเดินนำหน้าไปที่รถ

อาม่ากิม เดินควงแขนหลานชาย แต่หลานชายเจ้าปัญหาก็ยังมิวายจะหันมาแยกเขี้ยวและยกนิ้วขึ้นทำท่าปาดคอให้ ดูเป็นขวัญตาอีก

ทำได้ไม่เท่าไหร่ เห็นคุณซ้งหันกลับไปอีกที โดนอาม่ากิมมองเขม่นแล้วก็เลยจ๋อย
แต่ก็ยังมิวายหันมาทำหน้าดุใส่อีก

คนอารายวะ

โหดมาก น่ากลัวเหลือเกิน แต่ละอย่างที่ทำ น่ากลัวมาก
ขู่แล้วก็ขู่ แล้วก็ขู่ ดีแต่ทำเสียงโหดใส่ สู้ไม่ได้ก็ฟ้องอาม่า สุดยอดคนจริงๆ คิดได้ยังไง

เห็นแล้วก็พาลจะทำให้อมยิ้มวันละหลายๆ รอบ

ถามจริง ๆ เหอะ หน้าตาท่าทางนี่มันขัดกับสิ่งที่ทำอยู่หลายเท่าเลย น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งเคยรู้ตัวบ้างมั้ย

ว่าหน้าดุ ๆ เสียงเข้ม ๆ ที่ทำอยู่ทุกวัน มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด

อาจจะตกใจบ้างแรก ๆ แต่พอได้รู้จักได้พูดคุยกันมากขึ้น ก็รู้เลยว่าท่าทางแบบนั้น
มันเด็กเอาแต่ใจชัด ๆ ไม่ได้อย่างใจหรือถูกขัดใจ ก็จะงอแง หงุดหงิดแล้วก็ต่อต้านอยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างในเวลานี้ที่คุณซ้งกำลังทำอยู่

โตแต่ตัว

แต่ท่าทางที่แสดงออกให้เห็นแบบนั้น มันน่ารักชะมัด

“เฮ้ยยยย จะไปก็เดินเร็ว ๆ สิวะ มัวเดินลากขาอ้อยอิ่งอยู่ได้ เสียเวลาโว้ยยย”

ขอบคุณสำหรับข้อคิดและคำแนะนำดี ๆ ครับ ดีใจนะที่เป็นห่วงกัน
มีการลงมาเปิดประตูและตะโกนด่าแบบไม่ให้อาม่ากิมได้ยินซะด้วย

ฉลาดดีจริงๆ เลย

“รอคุณซ้งมาช่วยอุ้มครับ เดินเร็ว ๆ แล้วเจ็บขาจริงๆ”

ตอบออกไปและก็เห็นว่านอกจากไม่ได้รับการสนับสนุนในแนวคิดแล้ว
ยังโดนคุณซ้งหน้าหงิกที่ยืนอยู่ข้างรถด่าเอาซะกระเจิดกระเจิง

“เดี๋ยวอั๊วเรียกปอเต็กตึ้งให้ รับรองไม่แค่อุ้ม แต่ลื้อจะได้มีรถสำหรับนอนแบบสบายๆ ไม่ต้องนั่งให้เมื่อยขา”

ปากคอเราะร้าย เสียใจนะเนี่ย

ให้ปอเต็กตึ้งมารับเหรอ ช่างคิด และเป็นคำพูดถากถางที่ฟังแล้วอยากจะหัวเราะด้วยความขำให้ดัง ๆ

ก็คิดได้

“อยากนอนซบไหล่คุณซ้งครับ”

ไอ้ตี๋

โมโหโว้ยยย
มันพูดจาเพ้อเจ้ออะไรของมันวะ

พูดไปไอ้ตี๋มันก็ยิ้มไป พูดแล้วมันก็อมยิ้ม ทั้งล้อเลียนและพูดจาเพ้อเจ้อ
ขาเจ็บเดินขาลากอยู่แท้ ๆ แต่ไม่รู้จักสำนึก มันยังจะปากดี
ด่าไปแล้วไม่รู้จักเจ็บปวด อาม่าก็เข้าข้างมัน อยากรู้จริงๆ ไอ้ตี๋หน้าเอ๋อนี่มันมีดีตรงไหน

หน้าตาอย่างกะเด็กมัธยม ตัวกระเปี๊ยกแค่นี้
ขาวซีดเป็นไก่ต้ม วิ่งทีก็เหยาะแหยะ
แล้วยังจะปากดีพูดอะไรด่าอะไรไปก็ไม่รู้จักสำนึก

แบบนี้แล้ว ทำไมคนอื่น ๆ ถึงได้ชอบมันกันนักหนาวะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
อาม่าก็อีกคน เดี๋ยวก็อาตี๋นุชา อันนี้จะฝากอาตี๋นุชา นั่นก็จะฝากนี่ก็จะฝาก
พูดถึงอยู่ได้ มันมีอะไรดีตรงไหนวะ

“อาซ้งนะ ตี๋ก็ขาเจ็บ ซ้งก็เอาแต่ว่า ม่าไม่เห็นซ้งพูดกับนุชาดี ๆ เลยทำมายซ้งเป็นแบบนี้ ขึ้นรถล่ายเลี้ยวนะ คนอื่นๆ เขาไปกันหมดแล้ว”

ระฆังหมดยก

กรรมการห้ามมวยคืออาม่ากิม ที่เปิดกระจกลงมาด่าหลานชายที่ยืนหน้าหงิกและต้องรีบเดินขึ้นรถไปประจำที่ นั่งคนขับ

โดยมีผู้ขออาศัยติดรถไปด้วย และเปิดประตูเข้ามานั่งที่เบาะด้านหลังเรียบร้อย

“อาม่าอย่าว่าคุณซ้งเลยครับ เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กครับ”

เหมือนจะดี เป็นคำตอบที่น่ายกย่องนับถือ แต่ฟังยังไงก็รู้ว่าเป็นการด่าไปในตัว

ผู้ถูกพาดพิงหันมาอย่างว่องไวและรีบตอบออกไปอย่างไม่รอช้า

“แต่อั๊ว หน้าแก่กว่าลื้อโว้ยยยยย”

หา

อั๊วหน้าแก่กว่า

เอ่อ

น่าภาคภูมิใจมาก

เป็นสิ่งที่ควรภาคภูมิใจจริง ๆ ใช่มั้ย

แล้วคราวนี้ทั้งอาม่ากิมและนุชาก็เลยได้หัวเราะออกมาพร้อมกันด้วยความขำ

แต่น้องแรงบันดาลใจหน้าหงิกคงไม่ขำด้วยเพราะเสียฟอร์มอย่างแรง

อึ้งในคำตอบของตัวเองและรีบก้มหน้าก้มตาสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้าๆ เมื่อรู้ว่าพลาดไปแล้ว

“ม่า หัวเราะซ้ง ซ้งโกรธอาม่า ลื้อก็เงียบไปเลยนุชา หัวเราะอยู่ได้ อาศัยรถเขามาแท้ ๆ”

ครับ ครับ เงียบเดี๋ยวนี้แหละครับ สงบปากสงบคำอย่างว่องไวเลยครับ ไม่กล้าหัวเราะแล้ว

“มานขี้จายน้อยเหมือนครายว๊า โกรธม่าอีกแล้ว ม่ายอาวแล้วนา เลิกโกรธ เลิกโกรธม่าไม่หัวเราะแล้ว”

ดูอาม่ากิมกับหลานชายเขาพูดกันแล้วนุชาก็ได้แต่อมยิ้ม เหม่อมองออกไปนอกกระจกและพบว่า ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้ว

หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาดูและพบว่ามีหมายเลขโทรเข้ามาหลายสาย
รวมทั้งข้อความอีกนับไม่ถ้วน ที่ฝากเอาไว้

ปิดเครื่องและเอนหัวลงซบกับกระจกรถก่อนจะหรี่ตาหลับลงอย่างช้า ๆ

ในหัวเริ่มครุ่นคิดถึงเรื่องบางอย่างที่เหมือนจะจางหายไปแล้วแต่ก็กลับ เข้ามาอยู่ในหัวอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้

ปรือตาตื่นขึ้นและเหม่อมองที่อาม่ากิมและน้องแรงบันดาลใจหน้าหงิกที่ยัง คุยกันตามประสาแล้วก็ได้แต่ยิ้มเงียบๆ คนเดียวและหันกลับไปมองที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง

ถ้าเวลาหยุดเดินและได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแบบนี้ต่อไปนาน ๆ ก็คงดี

แต่เวลาก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ

ถ้าหากหยุดเวลาไม่ได้ งั้นในเวลานี้ขอแค่ได้เก็บความสุขเอาไว้กับตัวให้มากที่สุดก็เพียงพอแล้ว






TBC...

 


  :laugh:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 19-04-2010 23:56:51
^
^
^
:z13:

....
ตอนท้ายมันดูเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้ เมื่อไหร่น๊าซ้งจะหลงอาตี๋เราอย่างงมงายซะที  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 20-04-2010 00:03:58
เย้ยยยย อาตี๋ ลื้อเป็นอะไรไปเนี่ยะ?
ง่า ลื้ออย่าเศร้าไปเลยนา ยังมีอั๊วะ เอ๊ย ! อาซ้ง อยุ่ทั้งคนนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 20-04-2010 00:14:46
เออนะ แต่อั๊วหน้าแก่กว่าลื้อ น่าภาคภูมิมากจริงๆ :m20:


ว่าแต่ ตัดจบตอนแบบนี้แปลว่าอานุชาอีมีความหลังฝังใจล่ะสิ โถววววววววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 20-04-2010 00:20:46
ทำไมแลดูเศร้าๆแปลกๆ อาตี๋สู้ๆสิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 20-04-2010 00:40:43
เมื่อไหร่จะได้รักกันละเนี่ย
ฮือออออ ลุ้นตัวโก่งงงงง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 20-04-2010 00:49:41
ค้างงงงงสุดกำลัง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 20-04-2010 08:17:14
อาตี๋แอบมีความลับอะไรอยู่เนี่ย  :m12:
สองคนนี้คุยกันตลกดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 20-04-2010 16:26:44
อิอิ ตามมาอ่านเรื่องใหม่ของคุณเท็นค่ะ มาช้าไปหน่อย  :m23:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 20-04-2010 16:53:58
นุชามีความหลังอะไรหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 20-04-2010 19:15:49
มันคิดอะไรของมันอยู่ มีหรือซ้งจะไม่รู้


...
ก็คุณซ้งไม่รู้น่ะสิค้า... 555+   :-[
ถ้ารู้ สงสัยจะรีบวิ่งเข้าไปหาอาตี๋นุชา...

...
...

แล้วก็กระโดดกอดแรงๆสักกะที  :กอด1:

555+


ว่าแต่ ทำไมมือถือมีข้อความเยอะแยะ ดูเหมือนจะมีกลิ่นอายความหลัง
อย่าเศร้ามากก็แล้วกันค่ะ คนอ่านปวดใจ...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 20-04-2010 20:12:15
เข้มข้นขึ้น
555+
สนุกดี อ่านไปยิ้มไป
 o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 20-04-2010 20:36:04
ทำไมตอนท้ายมันมีกลิ่นแปลกๆ...ท่าทางไม่ค่อยดีหล่ะเนี่ย...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ช่วงที่ดีที่สุด † o(>_<)o~> [19/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 20-04-2010 21:30:21
อาตี๋นุชา..มีอะไรในใจน่ะ.. ลางไม่ดีรึเปล่า.. :z3:
คุณซ้งกับอาม่าน่ารักจริง ๆ .. :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 20-04-2010 22:44:39

ตอน ยิ้ม ๆ





“อาซ้งอี ม่ายมีแม่มาตั้งแต่เล็ก ๆ”

หือ

นุชาที่กำลังนั่งมองเหล่าบรรดาสมาชิกชมรมร้องเพลงและหัวเราะชอบใจรีบหัน กลับมาที่อาม่ากิมที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างรวดเร็ว

ได้ยินเรื่องราวบางอย่างของน้องแรงบันดาลใจซ้ง และขณะนี้คนที่ถูกพูดถึงก็ไปเข้าห้องน้ำถึงไหนไม่รู้ จนป่านนี้ก็ยังไม่กลับมา
ก่อนไปยังมีการว่ากระทบเล็ก ๆ ว่าถ้ากลับมาแล้วเห็นเจ๊าะแจ๊ะอาม่าล่ะก็น่าดู ใครเขาจะไปเจ๊าะแจ๊ะอาม่า เขามีแต่จะหาเรื่องเจ๊าะแจ๊ะคุณล่ะครับ คิดเข้าไปได้ยังไงแต่ละอย่าง

นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็ได้ยินเรื่องที่น่าสนใจที่สุดขึ้นมา

“พ่ออีก็ม่ายค่อยสนจายยยย พอไปอยู่ล่วยกันก็ทะเลาะกัน เดี๋ยวอาซ้งก็หนีโรงเรียน ไม่ยอมไปเรียนหนังสือแล้วก็เริ่มหนีเที่ยว ตอนหลัง ๆ โรงเรียนอีก็ม่ายยอมปาย ทะเลาะกันใหญ่โต ตัดพ่อตัดลูกกัน ม่าต้องเอาอีมาอยู่ล่วย ม่ายง้านอาซ้งจะเตลิดไปกันใหญ่ไม่เป็นผู้เป็นคน”

ครับ
อยู่ระหว่างอึ้งและกระพริบตาปริบ ๆ ตั้งใจฟังแบบมึน ๆ งง ๆ เล็กน้อย

“แต่ตอนนี้ให้ไปเรียนศึกษาผู้ใหญ่ เหลียวอีกปีอีก็จบ ม.6 เลี้ยวววนา อาซ้งอีเรียนเก่ง ไปเรียนศึกษาผู้ใหญ่ได้เกรดสี่ตลอดเลย”

เอ่อ
จะว่าเก่งก็เก่งจะว่าน่าทึ่งก็น่าทึ่ง
ไม่ได้รู้เบื้องหลังเบื้องลึกอะไรมาก รู้แค่ว่าหน้าใสกิ๊ง วิ่งเร็วโคตรและปากคอเราะร้ายพูดแต่ละคำ ทำให้อยากผูกคอตายวันละหลาย ๆ รอบ

“เพื่อนอีก็ม่ายอยากมี ให้ปายหนายอีก็ไม่ยอมปาย แต่ว่าตอนนี้อีไปแข่งรถนา ไปซ้อมแข่งรถ อาม่าก็ไปเชียร์ อีขับไปทางซ้ายทางขวาเก่งจนได้ถ้วยรางวัลล่วยนา”

อึ้งครับ ยอมรับเลยว่ากำลังอึ้ง แต่ก็ยังตั้งใจฟังและจิตใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ได้ยิน

“เป็นเพื่อนกับอาซ้งให้ม่าหน่อยนะนุชา อาซ้งอีไม่ใช่เด็กไม่ดี อีแค่ไม่ยอมให้ใครเห็นส่วนดี ๆ ที่มีแค่นั้น”

มีอันต้องนั่งเงียบเป็นใบ้

เมื่ออยู่ดี ๆ อาม่ากิมที่เดี๋ยวก็คีบบะหมี่ เดี๋ยวก็คีบนั่นคีบนี่ใส่จานให้พูดอะไรเรื่อย ๆ ที่ทำให้ต้องนิ่งเงียบและชะงักค้างก่อนจะหันไปสบตากับอาม่าที่นั่งอมยิ้ม น้อย ๆ อยู่ข้าง ๆ

“ผมเหรอครับ คุณซ้งเขาไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ครับผมว่าอาม่ากิมก็น่าจะพอดูออก”

ตอบกลับไปและอมยิ้มกับคำตอบของตัวเอง เมื่อนึกถึงหน้างอ ๆ หงิก ๆ และเสียงดุ ๆ ของน้องแรงบันดาลใจซ้งที่มักแสดงกิริยาท่าทางและคำพูดให้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่างชัดเจนว่าไม่ได้ชอบให้อยู่ใกล้ ๆ เท่าไหร่

“อาซ้งชอบอาตี๋ ม่ายง้านอีก็ไม่พูดด้วยหรอก อีเคยเล่นกับใครที่ไหนเคยโมโหเคยทำตัวเป็นเด็กใส่ครายที่ไหน เพิ่งมีอาตี๋คนแรกนา ที่เป็นเพื่อนเล่นกับอาซ้ง อีอยากเล่นกับอาตี๋นา เชื่ออาม่า”

ง่า

แบบนั้นเรียกว่าเล่นกันเหรอ

เดี๋ยวก็แกล้งเดี๋ยวก็โมโหใส่ เดี๋ยวก็ทำเสียงดุ เดี๋ยวก็ทำหน้าโหดใส่
แบบนี้ เรียกว่าอยากคุยอยากเล่นด้วยเหรอ เออเว้ย แปลกเกินไปหน่อยแล้ว

“ถ้าเป็นเพื่อนกับอีล่ายก็เป็นให้ม่าหน่อยนา แต่ถ้าไม่ล่าย ไม่เป็นไรจริง ๆ นาอาตี๋ ม่าแล้วแต่เวรแต่กรรม”


ผมกำลังอึ้งอยู่ครับอาม่า

คือจริง ๆ แล้วผมมั่นใจอยู่อย่างหนึ่งว่าคุณซ้งเขาเกลียดขี้หน้าผมแน่ ๆ ไม่มีทางที่จะเป็นมิตรได้
ผมก็เลยนึกสนุกอยากจะแกล้งแล้วก็แหย่เล่นให้หงุดหงิดด้วยความหมั่นไส้ เล็ก ๆ

แล้วผมก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมทั้งที่อาม่าก็เห็นว่าผมเป็นยังไง เดี๋ยวก็คอยแกล้งเดี๋ยวก็คอยกวนประสาท แต่อาม่ากลับไม่ห้าม แถมซ้ำรู้สึกเหมือนว่ายุอยู่กลาย ๆ ด้วยซ้ำ เคยแอบสงสัยเล็ก ๆ แต่ตอนนี้ชักเริ่มรู้แล้วว่าทำไม แค่เหตุผลมันดูแปลกไปหน่อยเท่านั้น ไม่ค่อยน่าเชื่อเลย

เป็นเพื่อนเหรอ ก็อยากเป็น แต่ทางนั้นไม่ได้อยากเป็นด้วยนี่ครับ
เห็นหน้าผมก็แทบจะกินหัวผมอยู่แล้วทุกวันนี้
อย่าว่าแค่เพื่อนเลย พูดกันดี ๆ ยังไม่เคยพูดด้วยซ้ำไปครับอาม่า.

“นุชา อานุชามาลูไมโครโฟนให้หน่อยมันเป็นอารายทำไมไม่ดัง”

อ้าว

กำลังพินิจพิเคราะห์พิจารณาใคร่ครวญถึงเหตุและผลก็พอดีกับได้ยินเสียง ตะโกนเรียกให้ไปช่วยดูว่าทำไมไมโครโฟนถึงไม่ดัง

นุชาก็เลยต้องขอตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

พลิกไปพลิกมาและลองเทสดู ก่อนจะพบว่าสาเหตุหลักมาจาก....

“อากงลืมเปิดไมค์ครับ ฮาโหล ฮาโหลนี่ไงดังแล้ว”

อมยิ้มเล็กน้อยและส่งไมโครโฟนให้อากงที่อยากร้องเพลงเถียนมีมี่เต็มแก่

กำลังจะเดินออกมาเพื่อขอเป็นผู้ชมผู้ฟัง แต่ก็ต้องถูกรั้งตัวเอาไว้ให้เป็นผู้ช่วยค้นหาเพลงที่เหล่าบรรดาหมู่คณะ สมาคมต้องการจะร้อง คราวนี้ก็เลยได้สนุกสนานเป็นที่ถูกอกถูกใจของอากง อาม่า อาซิ้ม อาเจ็คเป็นการใหญ่

นั่งอยู่ตรงนั้นเพื่อเป็นผู้ช่วยอยู่นาน
ฟังเพลงแล้วก็ปรบมือไปตามจังหวะอย่างเพลิดเพลิน

“ไอ๊หยา คราย ครายเอาเหล้าให้กิน แย่แล้วอ่า”

ได้ยินเสียงโหวกเหวกจากโต๊ะที่ห่างออกไปเล็กน้อย
แล้วก็เลยต้องลุกขึ้นยืนดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ชะเง้อชะแง้มองหาว่าเกิดเหตุการณ์ระทึกที่ว่าคืออะไร

มองแล้วก็ได้เห็นว่าอาม่ากิม ยืนเอามือทาบอกสีหน้าตกอกตกใจและก็เห็นว่าน้องแรงบันดาลใจซ้งที่นั่งอยู่บน เก้าอี้กำลังเงยหน้ามองอาม่าของตัวเอง

ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกตินี่หว่า

น้องแรงบันดาลใจซ้งก็ยังเป็นน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าหงิกเหมือนเดิม

เหมือนเดิม
เหมือนเดิม
คล้าย ๆ จะเหมือนเดิม

แน่เหรอ

ใครคนหนึ่งซึ่งเคยนั่งหน้าใสกิ๊ง และมักทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่เสมอกำลังยืนขึ้นและก้มลงเล็กน้อยก่อนจะโน้ม ตัวลงมาหาและกอดอาม่ากิมไว้แน่นและเริ่มพูดไปหัวเราะไปจนเหล่าหมู่คณะสมาคม พากันส่งเสียงเฮฮาเชียร์กันใหญ่

“ซ้งร้ากกกกกกกม่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซ้งรักม่าเจง ๆ คร้าบบบบบบ”

ง่า

ปกติอาม่ากับหลานชายคู่นี้เขาก็ดูรักกันดีนะ แต่ทำไมเวลานี้ดูรักกันเกินปกติแบบนี้ แถมซ้ำยัง.........

“รู้เลี้ยววววววววว ม่ายต้องรักม่ามากก็ล่าย ม่าจะหายใจไม่ออกเลี้ยววว”

เฮ้ยยยยยย

นุชาที่ยังงง มีอันต้องรีบเดินเข้าไปหาคนที่ยืนกอดอาม่าอยู่หลังห้องและต้องช่วยจัดการแยก น้องแรงบันดาลใจซ้งออกจากอาม่าอย่างรวดเร็ว
ท่าทางไม่ค่อยปกติแบบนั้น เมาหรือเปล่า

“มายอ่ะ ซ้งแค่รักม่าแค่นี้ไม่ได้เหรอ”

ได้นะ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่คำนึงเลยว่าอาม่าอายุมากแล้ว เดี๋ยวกระดูกหักหรือเป็นอะไรขึ้นมาไม่แย่หรือไง

“ครับ ครับ รักก็ดีครับ แต่ต้องรีบปล่อยอาม่านะครับคุณซ้งแบบนี้มันอันตรายเกินไปครับ”

รีบช่วยแยกและก็เห็นว่าคุณซ้งว่าง่ายผิดปกติลงมานั่งที่เก้าอี้อย่าง เรียบร้อยแถมซ้ำยังหันมายิ้มให้ด้วยอีกต่างหาก

เฮ้ยยยย เกิดไรขึ้นวะเนี่ย

“ทำมายครายเอาเหล้าให้อีกินเนี่ย ไอ๊หยา เมาเลี้ยวอีไม่เหมือนคนอื่นเขานา ลื้อใช่มั้ย อาโจววว”

เห็นอาม่าบ่นเสียงดังแล้วก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะลงนั่งที่ข้าง ๆ น้องแรงบันดาลใจที่ทั้งหน้าทั้งตัวแดงเถือกไปหมดแล้วก็เริ่มพอเข้าใจอะไร ลางๆ

“ร้อนม้าย อาซ้ง”

คำตอบคือการที่คนที่นั่งยิ้ม ส่ายหน้าและก็หัวเราะเสียงเบา
ปรบมือไปตามจังหวะเพลงแถมซ้ำยังมีการร้องตามเสียงดังหงุงหงิงอีกต่างหาก

เล่นเอานุชาถึงกับงง จนต้องยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ

“เป็นแบบ นี้บ่อยเหรอครับอาม่า”

เอ่ยถามแล้วก็เห็นอาม่าพยักหน้าตอบรับ และยังถามคำถามเดิม ๆ อีกหลายครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ร้อนม้าย อาซ้ง ม่าพัดให้เอาม้ายยย”

คำตอบคือการส่ายหน้าเหมือนเดิมและน้องแรงบันดาลใจที่เคยหน้าหงิกก็เอา แต่ยิ้มและหัวเราะและยังปรบมือพร้อมกับร้องเพลงเสียงดังหงุงหงิงไม่เลิก

น่ารักเป็นบ้า

ทำไมน่ารักขนาดนี้ว๊า คุณซ้ง

เห็นแล้วอยากจะกอดแน่น ๆ สองทีแบบนี้มันน่ากอดให้ชื่นใจ

ก็ได้แค่คิด

แล้วก็ค่อยๆ นั่งลงที่ข้าง ๆ

ไม่ด่าแฮะ ไม่หันมามองแล้วทำตาขวางใส่ด้วย

แค่หันมามองแว่บเดียว แล้วก็ยิ้มให้อีกต่างหาก
แปลก ๆ แต่โคตรได้ใจ

ทำไมน่ารักแบบเน๊ฟระคุณซ้ง

“นุชา”

หา อะไรครับ อะไร อะไร อยากพูดอะไรกับผมเหรอครับคุณซ้ง
เชิญพูดมาเลยครับ ยินดีจะรับฟังทุกประการเลยครับ เชิญว่ามาเลย

“อั๊วจาอ้วกกกก ว่ะ”

เฮ้ยยยยยยยยยย ตายห่าแล้ว อ้วกตรงนี้ไม่ได้ครับ อ้วกไม่ได้ อย่าเพิ่งอย่าเพิ่ง เดี๋ยวก่อน

“ม่าครับ อาม่าเดี๋ยวผมมา คุณซ้งจะอ้วก เดี๋ยวผมพาไปอ้วกก่อนครับ เดี๋ยวมา”

รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและฉุดแขนให้คนที่ทั้งตัวทั้งหน้าแดงไปหมดให้ ลุกขึ้นตาม ทั้งลากทั้งดึงเพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับถูกลากกลับ
พร้อมกับที่คุณซ้งหน้ายิ้มแฉ่ง ยืนหัวเราะชอบใจ

หัวเราะอะไรไม่รู้ แต่รู้ว่าหัวเราะแบบนี้ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่

“ไม่อ้วกแล้ว ปายนั่งตรงโน้นเหอะ ลมต้องเย็นแน่ ๆ เลย”

ไม่มีการรอให้ตอบรับหรือปฏิเสธ แล้วคนที่เดินเซ ๆ ไม่ค่อยตรงทางก็พาตัวเองเดินลิ่ว ๆ ไปนั่งที่เก้าอี้ยาว ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

แล้วทำไงล่ะ

เล่นไม่สนใจกันเลยแบบนี้ จะให้ทำยังไงได้ นอกจากต้องเดินตามแล้วไปนั่งอยู่ข้าง ๆ

ลมเย็นจริง ๆ นั่นแหละ

ลมเย็น ๆ พัดสบาย

แต่ที่น่าหวั่นใจคือคนที่นั่งอมยิ้มตาเยิ้มข้าง ๆ นี่แหละ ไม่รู้เป็นอะไรมากมั้ย

เดี๋ยวก็หันมายิ้มให้แล้วก็หันกลับไป เผลออีกนิดก็หันมามองแล้วก็ยิ้มให้อีก

“คุณซ้งเป็นอะไร ยิ้มมาก ๆ เดี๋ยวปั๊ดจูบเลย”

ปากดีพูดไปงั้น ไม่ทันได้คิดว่าคนที่นั่งข้างๆ ไม่ค่อยปกติในเวลาแบบนี้ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คนที่นั่งอมยิ้มตาหวานเยิ้มชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ๆ และแตะริมฝีปากอย่างรวดเร็วลงมาหาที่ข้างแก้ม และผละออกห่างอย่างรวดเร็ว

กลับไปนั่งอยู่ในท่าเดิม คือหันมายิ้มให้และหันกลับไปและไม่ยอมพูดยอมจา

นั่งยิ้มและหัวเราะคนเดียว ทั้งยิ้มและหัวเราะแบบไม่มีเหตุผล

แต่คนที่ควรจะมีเหตุผลในเวลานี้กำลังยกมือขึ้นแตะที่ข้างแก้มของตัวเอง
ตาเริ่มโตเป็นไข่ห่าน เมื่อรับรู้ได้ตลอดเวลาว่าเกิดอะไรขึ้น

หน้าเริ่มร้อน ๆ
ร้อนวูบ ๆ และเริ่มแดงแข่งกับคนเมา

หุบปากเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ลอบมองใบหน้าด้านข้างของน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งด้วยหัวใจที่เต้นระทึก ไม่เป็นส่ำ

เมา

คุณซ้งเมา
คุณซ้งเมาอย่างแรง ขั้นรุนแรง ตามเนื้อตามตัวแดงเถือกไปหมดไม่เห็นหรือไง

เมาของแท้
เมาแบบไม่มีข้อสงสัย

แต่ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายเมา ก็ยังจะอดใจเต้นระทึกไม่ได้

ขออย่าให้คุณซ้งจำได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เพราะถ้าจำได้ขึ้นมาเดี๋ยวจะโดนด่าจนเละเทะแน่ ๆ

ไม่อยากให้อีกฝ่ายจำ แต่อยากจะจดจำเอาไว้เอง
นั่งเงียบ ๆ และรับรู้ถึงสายลมเย็น ๆ ที่พัดผ่าน
เหลือบสายตามองไปที่คนที่นั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

คนเมาเขาคิดอะไร

เวลาคนเราเมา ๆ นี่คิดอะไรอยู่

แล้วในเวลานี้คุณซ้งกลังคิดอะไร

ทำไมถึงได้ยิ้มได้ขนาดนั้น อยากจะรู้จริงๆ ว่ากำลังคิดอะไร

คุณซ้งคิดอะไรไม่รู้

แต่สิ่งที่รู้ในเวลานี้คือนุชากำลังคิด

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ข้างเดียวมันจะพอเหรอครับ มาหอมแก้มอีกข้างสิ
อีกข้างยังว่างอยู่พอดีนะจ๊ะ

คิดแล้วก็ยกมือขึ้นลูบที่แก้มอีกข้างของตัวเองและก้มหน้าก้มตายิ้มแข่ง กับคนเมา

เออเว้ย

คุณซ้งเมาเหล้า งั้นกูเมารักก็ได้วะ

เมาเป็นเพื่อนกัน เหมือน ๆ กันแหละ

ยิ่งช่วงนี้กำลังกรึ่ม ๆ ได้ที่เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า อยากเมาแบบนี้บ่อยๆ จัง




TBC...

 


  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 20-04-2010 22:46:32
 :z13:

จิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวอ่าน

...

อ่านเเล้ว :-[ เขินเเทน อาซ้งตอนเมานี่น่ารักนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 20-04-2010 23:09:16
น่ารักมากกกก

อ่ะ :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 20-04-2010 23:10:01
อาซ้งเมาแล้วน่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 20-04-2010 23:11:22
อาซ้งตอนเมานี่น่ารักนะเนี่ย
ดีใจกับอาตี๋ด้วย ถูกอาซ้งจุ๊บแก้ม  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 20-04-2010 23:12:41
กรี๊ดดดดดดดดดดด คุณซ้งเมาเหล้า งั้นเราเมารักก็ได้
เอร๊ยยยยยยยย อาตี๋นุชาน่ารักมากมาย ขอบคุณคุณเท็นและคุณแนนนะคะ :impress2:

ปล.เมาบ่อยๆนะน้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 20-04-2010 23:24:42
กรี๊ดดดด ดดดด   รักคุณซ้ง ณ จุดนี้..น่ารักไม่ไหวแระ :m1:
อาตี๋นุชาขออย่าให้จำได้ แต่อยากให้จำได้อ่ะ ..สนุกแน่ ๆ   :jul3:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 20-04-2010 23:30:49
 :haun5: :haun5:
น่าร้ากกกก อั๊วะอยากให้อาซ้องเมาบ่อยๆจัง
 :laugh: :laugh: :laugh:
โอ๊ยย อาตี๋น่ารักสุดโค่ยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 20-04-2010 23:36:01
อิอิ เมาร้ากกกันเนอะนุชา  :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 20-04-2010 23:39:22
น้องแรงบันดาลใจ
น่าจะเมาบ่อยๆเนอะ
เมาแล้วน่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 20-04-2010 23:48:51
เรื่องนี้ยอ่งอ่านยิ่งฮ่า

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 21-04-2010 00:10:01
 :m13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-04-2010 00:29:00
ไม่มีอะไรทำ

 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 21-04-2010 01:23:20
 :z13:จิ้มคุณแนนซะ

อยากให้อาซ้งเมาทุกวันเลย ให้ตายสิน่ารักได้อีก :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-04-2010 02:03:12
ถ้ารู้ว่าเมาแล้วน่ารัก

จับคุณซ้งมอมเหล้าทุกวันดีกว่าเนอะ อาตี๋นุชา อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 21-04-2010 02:59:33
ตอนนี้น่ารัก
 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 21-04-2010 09:29:21
อร๊ากกกกกกกกกกกก
ตอนนี้น่ารักมากกก น่ารักไม่ไหวแล้ว
มีหอมแก้มๆ โอ๊ย เข้าใกล้เข้าไปอีกนิดแล้วนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 21-04-2010 11:44:00
น่ารักทั้งอาตี๋ทั้งน้องแรงบันดาลใจเลยอ่ะ

หุหุ เมาแล้วน่ารักแบบนี้ เดี๊ยวอาตี๋อีก็หลงไปมากกว่านี้หรอกค่ะซ้ง  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-04-2010 15:44:03
เหมือนจะเศร้าเลยนะเนี้ยะ

ได้หลิ่นทะแม่งๆ อะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 21-04-2010 19:40:29
อาซ้งเมาแล้วน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 21-04-2010 20:34:44
แอร๊ยยยย!!! คุณแนน....!!!

ตอนนี้มัน... น่าร้ากกกกกกก  :z2:
เมากันเข้าไป เมากันเยอะนะค้า

แต่กลิ่นตุเหม่ง...ตุเหม่ง ยังไม่หายไป -*-
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ยิ้ม ๆ † o(>_<)o~> [20/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 21-04-2010 22:30:33
เป็นงี้ มอมเหล้าทุกวันเลย ฮ่าๆๆ

ชื่นใจ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-04-2010 22:45:59

ตอน แล้วไป






“อา ม่าคร้าบบบ อาม่า”

โห อะไรมันจะอ้อนขนาดน้านนนนน ท่าทางจะไม่รู้เรื่องจริงๆ
เล่นนอนซบอาม่าแล้วก็หลับสบายเฉยเลย หลับไม่พอยังมีการบ่นพึมพำและกอดแขนอาม่ากิมแน่นอีก

ถามจริงเหอะน้อง ขาดความอบอุ่นเหรอ
ถ้าขาดมากขนาดนั้น ทำไมไม่บอก มากอดพี่ก็ได้ พี่พร้อมให้ความอบอุ่น รับรอง รวดเร็วทันใจ ไม่ทอดทิ้ง

นุชา อมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก และหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้านตามที่อาม่าบอกทางให้

กลายเป็นสารถีจำเป็น เพราะน้องแรงบันดาลใจซ้ง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเต็มร้อย ตาลอย และตาหวานเยิ้มขนาดนั้น ถามอะไรก็เอาแต่ยิ้ม ถามอีกก็เอาแต่หัวเราะ เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็หัวเราะ แล้วจะขับรถไหวได้ยังไง ก็เลยอาสาเป็นผู้ขับรถซะเอง

เหลือบมองที่กระจกแล้วก็ยังเห็นน้องแรงบันดาลใจซ้งยังบ่นพึมพำไม่เลิก โดยมีอาม่ากิมคอยลูบแขนลูบผมให้

“เหลียวก็ถึงบ้านแล้วนาอาซ้ง แป๊บเดียวนา ใจเย็น ๆ”

เออเว้ย คนเรา ก็เป็นไปได้เนอะ
นึกถึงเวลาปกติแล้วมันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว

น้องแรงบันดาลใจซ้งเวอร์ชั่นนี้ น่าทำร้ายร่างกายด้วยการกระหน่ำหอมแก้มซะให้ช้ำ แหม้ คนไรว๊า เชื่องอย่างกะลูกหมา น่ารักซะ

แบบนี้มันน่ามอมบ่อย ๆ
แย่หน่อยตรงที่ทั้งตัวจะแดงไปหมด น่าสงสารก็ตรงนี้แหละเลยไม่กล้าจะทำร้ายร่างกายและจิตใจ แต่คิดไปคิดมา นาน ๆ ทีแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

“เลี้ยวตรงโค้งข้างหน้าเลยหรือเปล่าครับอาม่า”

เอ่ยถามเมื่อเห็นทางแยกสองทางก็เลยต้องถามเพื่อความมั่นใจ

“อา ช่าย ๆ แล้วอาตี๋ เหลียวเลี้ยวตรงโค้งข้างหน้าแล้วขับตรงไป บ้านอาม่าอยู่หลังแรกเลย”

อ่อ ครับ ๆ ได้ ได้จัดให้ไปตามระเบียบ

“นี่ปกติคุณซ้งเป็นงี้ตลอดเลยเหรอครับ แบบนี้โดนมอมแล้วจะทำยังไง”

เอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัยแล้วก็ได้ยินคำตอบกลับมาที่ทำให้ต้องถอนหายใจ เฮือกใหญ่ด้วยความกลุ้ม

“โห่ อีกินม่ายล่ายเลยนา เคยเมาไม่รู้เรื่องหนักเลย ต้องส่งเข้าโรงพยาบาลเลยตัวอีแดงไปหมดเลย อาม่าตกใจแทบแย่ นึกว่าอีจะเป็นอะไรไปแล้ว”

โห ท่าทางจะหนักเลย แบบนี้ก็น่าคิดอยู่ ถ้าเกินลิมิตก็ต้องถึงขนาดไปนอนเล่นในโรงพยาบาล แบบนี้มันก็น่าคิด

งั้นถอนคำพูดไม่กล้าคิดจะมอมแล้วล่ะ
น่ารักมันก็น่ารักอยู่ แต่ถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลอันนั้นมันก็เกินไป

“อาตี๋ เหลียวจอดตรงข้างหน้าเลย จอดล่ายเลยนา”

ได้ครับอาม่า จอดข้างหน้านี้เลยนะครับ

จอดรถที่หน้ารั้วบ้านแล้วก็เห็นอาม่ากิม ปลุกให้น้องแรงบันดาลใจซ้งตื่น แต่ก็ไม่เห็นจะได้ผลเลยสักนิด เพราะนอกจากไม่ยอมตื่นแล้ว ยังงอแงพูดจาไม่รู้เรื่องอีก แบบนี้สงสัยต้องหาคนช่วยแหละครับอาม่าเดี๋ยวผมจัดการให้

“อาม่าเปิดประตูบ้านเลยครับ เดี๋ยวเข้าไปจอดในบ้านแล้วผมช่วยพาเข้าบ้านเอง”

เอ่ยบอกแล้วก็เห็นอาม่าพยักหน้าแล้วก็ลงจากรถไปเปิดประตูบ้านให้โดยมี น้องแรงบันดาลใจซ้งนอนหลับสนิทอยู่ที่เบาะด้านหลัง

รถเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านเรียบร้อย พร้อมกับเสียงเห่าต้อนรับของคณะผู้เฝ้าบ้าน ที่สั่นหางดุ๊กดิ๊กไปมาและมาต้อนรับเจ้าของบ้านกันอย่างพร้อมเพรียง

นึกออกแล้วว่าเจ้าของหมาที่หลับไม่รู้เรื่องมันน่ารักเหมือนใคร

ก็ไอ้เซนเบอร์นาร์ดตัวโต ที่เห่าอยู่นั่นไง

ถ้ารู้ ว่าที่บ้านเลี้ยงหมาน่ารักไว้ตั้งสามตัว คงจะขอมาเยี่ยมชมบ้านนานแล้ว

“มาครับอาม่าผมช่วย”

ดับเครื่องยนต์แล้วก็ลงมาช่วยประคองคนที่นอนหลับอยู่ที่เบาะหลังรถ
ที่เริ่มปรือตาตื่นขึ้นและขยับร่างกายไปมา

“ไม่ต้อง เดินเองได้”

อ้าวววววว รู้สึกตัวซะงั้น อยู่ดี ๆ ก็ทำตาดุใส่ แล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นอีก

เอ้า

ถ้าสร่างเมาแล้วก็น่าจะบอกกันหน่อย คนอุตส่าห์เป็นห่วง
อุตส่าห์จะช่วยประคอง นี่ดันตื่นขึ้นมาแล้วทำเสียงดุใส่อีก อะไรวะ
แบบนี้มันน่าจับมอมซะให้เข็ด เอาให้เมาไม่รู้เรื่องไปเลยเป็นไง

“อีมาววว เชื่ออาม่า ช่วยพาอีเข้าบ้านหน่อยนาอาตี๋”

เมาที่ไหนล่ะครับอาม่า สร่างแล้วแน่ ๆไม่งั้นคงไม่ตื่นขึ้นมาทำตาดุเสียงดุใส่ผมหรอก เชื่อเหอะครับ สร่างแล้วแน่ ๆ

เอ่อ

สร่าง

แล้วก็ลงไปหลับต่อเนี่ยนะ ไม่ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าบ้านล่ะ

นุชายืนเกาหัวด้วยความงง สุดท้ายเลยต้องทั้งลากทั้งดึงให้คนที่เหมือนจะสร่างเมาออกมาจากรถให้ได้

ปิดประตูรถเรียบร้อย

แล้วก็เห็นน้องแรงบันดาลใจซ้งลุกขึ้นยืนแล้วก็เดินได้เหมือนปกติ
แล้วยังไงเนี่ย

เอาไงเนี่ย งงนะบอกตรง ๆ

ยืนมองแล้วก็หันไปมองหน้าอาม่ากิมที่ยังยืนยันคำเดิมว่า

“อียังมาว เหลียวคอยดูนา”

คอยดู แล้วก็เห็นว่าจากที่เดินตรงๆ ก็เริ่มเป๋ เป๋แล้วก็เริ่มเซ

คราวนี้จากที่ยืนดูก็เลยต้องรีบวิ่งเข้าไปหาและช่วยประคองเข้าบ้าน

นึกว่าเก่ง ยังเมาอยู่นี่หว่า แล้วมาหลอกให้ตายใจนึกว่าสร่างแล้ว

“เหลียวอาม่าเปิดประตูให้ อานุชาพาอีเข้าไปนอนเลย ห้องแรกบนสุด”

ดีนะที่ขั้นบันไดไม่เยอะไม่อย่างนั้นคงได้พากันตกลงมาตาย
ตัวก็ไม่ใช่เบา ๆ เลย

นุชาพาคนตัวโตกว่าขึ้นมายืนที่หน้าห้องได้เป็นที่เรียบร้อย

ลำบากนิดหน่อยตอนที่คุณซ้งบอกว่าเดินเองได้ แต่พอจะปล่อยก็เป๋ทุกที

พากันขึ้นมายืนได้อย่างทุลักทุเล

โดยมีอาม่ากิมเดินนำหน้ามาเปิดประตูห้องและเปิดไฟให้
แค่เพียงเปิดประตูห้อง น้องแรงบันดาลใจซ้งตัวโตก็ยกแขนออกจากบ่าของคนที่ประคอง และหันมาส่งยิ้มให้

“นุชา ขอบใจนะ”

เฮ้ยยยยยยยยยยย มีขอบใจด้วย สุดยอด เล่นเอาตะลึงกันเลยทีเดียวกับคำพูดขอบคุณที่ไม่นึกว่าจะได้ยิน ขอบอกขอบใจเสร็จ แล้วก็เดินลิ่วไปล้มตัวลงนอนบนเตียงแบบไม่สนใจใครเลย

แบบนี้ก็มีด้วยเว้ยคนเรา

“อาม่าขอบใจอาตี๋นา ที่พามาส่งแล้วก็ยังเป็นภาระมาแบกอาซ้งอีก นี่ก็ดึกแล้วค้างที่นี่เลยนา แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ”

เอ่อ เกรงใจครับ ยังไงดีล่ะเนี่ย

“จะดีเหรอครับ เกรงใจแย่ เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่กลับเองก็ได้ครับอาม่า”

ส่งยิ้มให้กับอาม่ากิมที่มองที่น้องแรงบันดาลใจซ้งที่นอนหลับสนิทเป็น ระยะแล้วนุชาก็เลยต้องหันไปมองตาม

หลับไม่รู้เรื่องแล้ว

นอนได้นอนดีเลยนะนั่น

“อีไม่นอนดิ้น นอนกรน นอนอย่างงั้นอีก็นอนท่านั้นจนเช้า ค้างที่นี่ลีกว่านาแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับเชื่ออาม่า เหลียวใส่เสื้อผ้าอาซ้งก็ล่าย เหลียวอาม่าเอาผ้าขนหนูให้”

เฮ้ยยยย

ยังไม่ทันตอบตกลงเลยนะครับ อาม่า แล้วไง คือว่ายังไง แล้วน้องแรงบันดาลใจซ้งไม่ลุกขึ้นมาด่าผมแต่เช้าเหรอครับ

แบบว่า เห็นหน้าก็ด่าเลย แบบนี้ผมก็หลอนแย่เลยนะครับ

“เปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีหน่อยนา ช่วยอาม่าหน่อย”

เหยยยยยยยยยยย อันนี้แหละประเด็นหลักประเด็นใหญ่ประเด็นสำคัญ

เปลี่ยน เสื้อผ้า เปลี่ยนเสื้อผ้า

เปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องแรงบันดาลใจซ้ง

เปลี่ยนเสื้อผ้าให้

ง่า เปลี่ยนไงอ่ะ เดี๋ยวเปลี่ยน ๆ อยู่แล้วเกิดสร่างกระทันหันแล้วลุกขึ้นมาเตะผมแล้วผมทำไงครับอาม่า

แต่จะปฎิเสธยังไง ในเมื่อถูกขอร้องให้ช่วย

“อ่า ครับ ได้ครับอาม่า”

ตอบออกไปแล้วก็ต้องยืนขมวดคิ้วมุ่น
โห แล้วตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ เลยนะนั่น เอาไงดีวะ

อาม่ากิมเดินลิ่ว ๆ จากไปแล้ว ส่วนนุชากำลังก้าวเดินอย่างช้า ๆ ไปนั่งอยู่ที่ข้างเตียงของคนที่นอนเหยียดยาวแบบไม่สนใจว่าจะมีใครมานั่งทำ หน้ากลุ้มใจอยู่ข้าง ๆ

“คุณซ้ง คุณซ้ง เมื่อไหร่สร่าง”

ถามไปก็เท่านั้น จะรู้เรื่องมั้ย
เห็นแล้วก็กลุ้มใจชะมัด แล้วเอายังไงต่อดีวะ

กำลังจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือก เพราะมือของคนที่นอนอยู่บนเตียงคว้าข้อมือเอาไว้และคนที่นอนหลับตาก็เริ่ม ปรือตาตื่นขึ้น

ง่า อะไร จะเอาอะไรเหรอ
อยากได้อะไรบอกได้นะ เดี๋ยวจัดการหามาให้เลย ไม่ต้องห่วง รับรองเรียบร้อยไม่มีปัญหา

“นุชา....”

ขอบคุณนะ ที่ยังอุตส่าห์จำชื่อกันได้แม้ในยามหลับและยามตื่น ยามเมาและเหมือนจะเป็นยามที่ฟื้น ดีใจปลาบปลื้มจนน้ำตาแทบจะไหล

“ถ้าลื้อจีบอาม่าอั๊ว ลื้อตายแน่”

ห๊า

จีบอาม่า

จีบอาม่า

จีบอาม่ากิมเนี่ยนะ โหหหหหหหหหหหหหหหหหหห กูจะบ้า

นี่ตื่นขึ้นมาเพื่อบอกแค่นี้เนี่ยนะ

จับข้อมือเอาไว้ซะแน่น บอกเสร็จแล้ว ก็ปล่อยง่าย ๆ แล้วหลับต่อ

อยากจะบ้า อยากจะบีบคอน้องแรงบันดาลใจซ้งให้หายบ้า

“ผมมาจีบคุณคร้าบบบบบบบบ ไม่ใช่มาจีบอาม่าจะบ้าหรือไงวะ”

ได้ทีก็เลยเขย่าหัวของคนหลับด้วยความโมโห แต่ที่น่าโมโหกว่าคือได้ยินเสียงหัวเราะแว่ว ๆ ตอบกลับมาจากคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง
ฟังแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ฟังแล้วก็ยิ่งน่าโมโห

“แล้วไง เอองั้นก็แล้วไป”

แล้วไป แล้วไป แล้วไป แล้วไป แล้วไป ตอบแค่นี้เหรอ แล้วไปเนี่ยนะ

โมโหโว้ยยยยยยยยยยยยย โมโห คอยดูนะ คอยดู อย่านึกว่าจะได้นอนหลับอย่างสบายใจนะ คอยดูเห้อออออออออออ จะต้องแกล้งซะให้เข็ด
ไม่ถือโอกาสแกล้งตอนนี้จะไปแกล้งตอนไหนวะ
น้องแรงบันดาลใจซ้งแสบมาก ตื่นมาแล้วจะร้องไห้จนน้ำตานองหน้าแน่ ๆ คอยดูเหอะ คอยดูเอาไว้ให้ดี โมโหโว้ยยยยยยยยยยยยยยย





TBC...

 


   :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-04-2010 23:11:34
จิ้มๆ คุณแนน

ใกล้ได้กันแระ กรี้ดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 21-04-2010 23:14:02
น่ารักจริง ๆ  อ่านไปอมยิ้มไป.. :m1:
อาตี๋นุชาจะทำไรคุณซ้งได้เนี่ย..
จะแกล้งทั้งทีต้องรอจังหวะเค้าหลับก่อน.. :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-04-2010 23:19:42
คุณแนนคะ รบกวนมีรวมลิงค์นิยายของคุณ aoikyosuke ทั้งหมดในบอร์ดนี้มั้ยคะ?
ช่วยแปะให้หน่อยได้มั้ยคะ? เคยเห็นคุณแนนแปะไว้ที่ไหนซักที่ แต่หาไม่้เจอแล้วอ่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
แปะให้แล้วนะค่ะ ช้าไปนิดนึงเพราะต้องใช้เวลาหา
เพราะแนนก็จำไม่ได้ว่าแปะไว้ที่ไหนบ้าง :laugh:




ลิงค์นิยายคุณเท็น

ไก่-ธร จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาคไก่-ธร  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=10161.0)

น้ำแข็ง-บอย จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค น้ำแข็ง-บอย  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7873.0)

ตั้ม-ทัต จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ตั้ม-ทัต (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6921.0)

นก-เป้ จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค นก-เป้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6291.0)

อารยะ-อิท จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค อารยะ-อิท (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7023.0)

ขวด-น้องแว่นน่ารัก จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ขวด-น้องแว่นน่ารัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=8635.0)

เส่ง-เปา จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค เส่ง-เปา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5836.0)

ต้นสน - ภาคี จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ต้นสน - ภาคี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6189.0)

ปัง-ปอนด์ จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ปัง-ปอนด์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7329.0)

มังคุด-พันซ์ จากเรื่อง
ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค มังคุด-พันซ์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6762.0)

ปู-ฝน จากเรื่อง
 ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ปู-ฝน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2818.0)

ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค รวมมิตร (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=8500.0)

ยิ้ม-เหวง จากเรื่อง
 สวัสดี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=8912.0)

สาย-เวย์ จากเรื่อง
 เพราะรัก(แน่เหรอ)...ครับผม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7407.0)

เฮียก๋วย-รักชาติ จากเรื่อง
รักเกิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=4159.0)

สักวา-หยง จากเรื่อง
แด่เธอ... ผู้ทำให้รักมีมิติ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=3571.0)

วิน-แคป & ตาหวาน-ปลา
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7485.0)

ทาน-อ้อน จากเรื่อง
[fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1539.0)

โพด - หนุ่ม จากเรื่อง
 รักนี้ต้องลองดูหน่อย (โพด - หนุ่ม)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2527.0)

พัด-กอล์ฟ จากเรื่อง
  [fiction] เพื่อนสนิท (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2118.0)

ฮวย-เดียร์ จากเรื่อง
 เรื่องสั้นคั่นเวลา....ผู้ชายหยอกล้อกัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2531.0)

นะ-วี จากเรื่อง
 ยุ่งนัก...รักซะเลย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7658.0)

กระชาย-หมอแคน จากเรื่อง
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7568.0)

ส้ม-ขุนไกร จากเรื่อง
แล้วก็รักเข้าจนได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2146.0)
แล้วก็รักเข้าจนได้(ฉบับปรับปรุง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2146.0)


บิว-แดน-ต้อม จากเรื่อง
รักด้วยใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7424.0)

ถิง-เน่ จากเรื่อง
ขอแค่ฝันให้ฉันรักเธอ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7200.0)

เอ๋อ-เจง จากเรื่อง
รักแท้แพ้ทาง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7380.0)

ซ้ง-แรงบันดาลใจ จากเรื่อง
Running (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=14400.0)



ระหว่างที่รอนิยายของคุณเท็น
แนนเอาเวปที่สามารถโหลดนิยายของคุณเท็นมาฝากคะ
ใครที่เก็บเรื่องของคุณเท็นตามเข้าไปโหลดเก็บไว้ได้เลยนะคะ
แต่ตอนนี้อาจจะยังมีไม่ครบทุกเรื่องนะคะ
เพราะคุณเท็นกำลังจัดทำอยู่
แนนก็ยังค้นไฟล์นิยายให้คุณเท็นได้ไม่ครบทุกเรื่องด้วย
แต่จะรีบส่งไฟล์ให้คุณเท็นนะคะ
ยังไงอดใจรอกันหน่อยนะคะสำหรับเรื่องที่ขาดไป
คลิ๊กที่>>>เวปดาวโหลดนิยายคุณเท็นคะ (http://www.4shared.com/dir/8595461/63a558d8/Aoikyosuke.html)
   


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 21-04-2010 23:30:50
ตอนนี้ก็น่ารักอีกเช่นเคย

อ่านไปยิ้มไปยักกะคนบ้าเเนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 22-04-2010 00:07:12
แล้วไป แปลว่าเชิญจีบได้ตามสบายใช่มั้ยอาคุณซ้ง โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณนะคะคุณแนน คุณเท็น :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 22-04-2010 00:29:26
แล้วไป

หึหึ

ซ้งตื่นมาถ้าจำได้จะเอาไงต่อเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-04-2010 01:24:34
อาซ้งก็ยังคงความน่ารักได้อีก

นึกว่าจะตื่นมามีเรื่อง ที่แท้ก็แค่ละเมอ เห้อ..แล้วไป อิิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 22-04-2010 02:34:57
ตอนเมาอ่ะแล้วไป แต่ตอนตื่นล่ะอาซ้ง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 22-04-2010 03:10:09
อ่านนิยายคุณเท็นแล้วมันไงดีล่ะ เหมือนเข้าทางอ่ะครับ ชอบเป็นการส่วนตัว คาแรคเตอร์แปลกๆ การพูดเล่าแปลกๆ
คือมันมีตัวตนจริงๆนะครับตัวละครแบบนี้เนี่ย แต่คนเขียนนิยายมักไม่ค่อยจับมาเขียน ชอบครับ ชอบคุณเท็นมั่กมากกกกกก :กอด1:
.
.
.
ขอบคุณหนูแนนที่มาส่งต่อสิ่งดีๆให้ด้วยครับ :L2:

ปล.(เช็กตามลิ้งแล้วผมยังไม่ได้อ่านตั้งหนึ่งเรื่องแหนะ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 22-04-2010 03:39:37
ขอให้ตอนมีสติ พูดแบบนั้นบ้างนะ ซ้งเอ๊ยยยย

แล้วไปเนี่ย   :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-04-2010 07:02:27
ความกวนตี... กับ อาการแบบนี้ มันน่านัก.....

ปล. แอบเข้ามาแล้ว น้องสาว +1 ให้เป็นของฝาก

     เน็ต ยังเน่าอยู่เลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 22-04-2010 15:22:15
 :laugh: :laugh:

อย่างนี้ซ้งก้เปิดไฟเขียวให้อาตี๋นุชาจีบแล้วอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 22-04-2010 20:10:12
น้องซ้งเมาน่ารัก
แต่ตื่นมาอาละวาดแน่ๆ  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 22-04-2010 20:20:31
อยากรู้ตอนอาซ้งตื่นอ่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 22-04-2010 22:04:54
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว
555+
น่าสนุกแน่ๆ
 :laugh3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 22-04-2010 22:07:20
นุชาาาาาาาา นี่แหละคือโอกาส เอ๊ย ไม่ใช่ๆๆ จะบอกว่าอย่าทำอะไรน้องซ้งน้า น้องเค้าไม่รู้เรื่อง น้องเค้ามาวววววว  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 22-04-2010 22:59:19
น่ารักกันเข้าปายย...

อ่าฮะ...
แล้วไป

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วไป † o(>_<)o~> [21/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: orionstar ที่ 23-04-2010 17:57:56
 :jul3:  ขออาลัย ไห้ อาซ้ง ผู้น่ารักของอา นุชา

ตื่นมาจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ

เอ๊ะหรือว่าเดี๊ยวเกิดแล้ว

ติดตามผลงานของคุณเท็นมานาน แต่ส่วนมากจะได้เม้นท์หน้าสุดท้ายทุกทีเลยค่ะ

ก็มันจบไปนานแล้วทั้งนั้น

ตามทันเรื่องนี้ดีใจมากเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 23-04-2010 21:39:03
^
^
รีบน ดีใจด้วยนะคะที่ตามอ่านทันแล้ว ถ้าอ่านตามทันแล้วก็อ่านไปพร้อมๆกันนะคะ :n1:


ตอน ข้อสัญญา



จะยินยอม ทำตามที่ได้รับมอบหมายทุกประการ

ข้าพเจ้าได้อ่านข้อความครบถ้วนดีแล้วและยินดีจะปฎิบัติตามโดยไม่มี เงื่อนไขหรือข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น

ลงชื่อ ซ้ง


ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เสร็จเรียบร้อย ลงชื่อให้แล้วนะ ที่เหลือก็แค่ให้เซ็นต์ชื่อกำกับเอาไว้

นุชาผู้บ้าบอ กำลังอ่านข้อความย่อหน้าสุดท้ายของกระดาษที่ร่างข้อความเอาไว้ ในที่สุดก็เรียบร้อยซะที
อ่านอีกกี่รอบก็ทำให้ต้องอมยิ้มได้ทุกรอบ

หันไปมองคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องบนเตียงแล้วก็นึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ

เหอ เหอ เหอ เสร็จแน่งานนี้ ที่เหลือก็แค่ให้ลงชื่อ
ถ้าลงชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นอันเรียบร้อยสมบูรณ์ทุกขั้นตอน
แล้วดูซิว่าคราวนี้จะพูดจะทำอะไรได้ จะมีข้ออ้างมีข้อโต้แย้งอะไรมั้ย

เอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของคนที่นอนหลับแล้วก็ตีเบา ๆ ที่หน้าผากของอีกฝ่ายอย่างสะใจเล็ก ๆ

ตายแน่ ๆ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง

คิดว่าตัวเองเก่ง คิดว่าตัวเองแน่ ตบที่หน้าผากแล้วก็ตบเบา ๆ ที่ข้างแก้มของคนหลับสองสามทีเพื่อปลุกให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวแล้วก็เห็นว่า น้องแรงบันดาลใจซ้งปรือตาตื่นขึ้นมามองเหมือนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

“คุณซ้งเซ็นต์นี่ให้หน่อย มันคือสัญญาว่าจะไม่จีบอาม่าโดยเด็ดขาด โอเคมั้ย แค่เซ็นต์ตรงนี้นะ กริ๊กเดียวเรียบร้อยเลย”

ยื่นข้อเสนอกับคนที่สติยังไม่คืน และกำลังทำหน้างง ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยเมื่อมีใครบางคนยื่นบางสิ่งบางอย่างมาให้

อารายน๊อ กระดาษอะไรหว่า แต่แค่ได้ฟังคร่าว ๆ ว่าเป็นสัญญาว่าจะไม่จีบอาม่า แค่เพียงเท่านั้น ต่อให้หลับลึกหรือเมาแค่ไหน ก็ต้องรีบตะครุบและคว้าเอาไว้ด้วยความดีใจเป็นธรรมดา

อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง ครึ่งหลับครึ่งตื่น เหมือนยังไม่ฟื้นดี
มีปากกายื่นมาให้และยัดเยียดใส่ที่มือ เห็นมีนิ้วชี้ ๆ ว่าให้เซ็นชื่อก็เลยใส่ชื่อตัวเองลงไป ก่อนจะยิ้มจนหน้าบาน และหัวเราะเหมือนเด็ก ๆ ได้ของถูกใจ

“อาม่าครับ อาม่าอยู่กับซ้งนาน ๆ นะ ซ้งไม่อยากอยู่คนเดียว อืมมมมม”

เห็นคนที่ไม่รู้เรื่องลงชื่อให้ง่าย ๆ
ง่ายดายยิ่งกว่าปลอกกล้วย
เพียงเท่านี้ก็ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว

นุชานั่งมองลายมือชื่อที่ลงเอาไว้ ส่วนคนเมาก็หลับตาลงอีกครั้งและยังคงนอนอมยิ้มมีความสุขไม่รู้เรื่องรู้ราว อะไรเลย

อาม่าครับ......อยู่กับซ้งนาน ๆ นะ...
แล้ว.....ก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียวด้วยงั้นเหรอ

พูดแค่นี้เอง แล้วก็ยิ้ม แล้วก็ยอมลงชื่อง่าย ๆเลยเหรอ
มันควรจะต้องรู้สึกดีกว่านี้และควรจะดีใจมากกว่านี้ที่ได้แกล้ง แต่แปลกที่กลับสะท้อนอยู่ในใจลึก ๆ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ ของใครคนหนึ่งซึ่งเหมือนเด็ก ๆ ใสซื่อที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย

มันง่ายเหลือเกินกับคำพูดง่าย ๆ ซึ่งไม่มีอะไรมาแปลความหมายในข้อความได้ นอกจากความรู้สึก

แค่รอยยิ้มเล็ก ๆ และคำพูดแสนง่าย ดาย

“ไม่อยากอยู่คนเดียวทั้งที่มีผู้คนรอบกายเหมือนกัน”

นุชาบ่นพึมพำคนเดียวเงียบ ๆ แล้วก็หันไปจ้องมองใบหน้าของคนที่นอนหลับอย่างมีความสุขอีกครั้ง

ใจจริงยังอยากแกล้งอยู่ แต่เห็นแบบนี้แล้ว ก็เลยพับกระดาษแล้ววางทิ้งไว้บนหัวเตียง

ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วไปหยิบผ้าขนหนูมาถือเอาไว้

เดี๋ยวมาเช็ดตัวให้แล้วกัน

ขออาบน้ำให้ชื่นใจก่อนแล้วจะมาเช็ดตัวให้นะ

นุชายืนยิ้ม และเหลือบสายตามองไปที่คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงอีกครั้ง
ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบ ๆ

อาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อยและเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องน้ำ

แต่ต้องยืนชะงักค้างเพราะคนตัวโตที่ยืนขวางอยู่

“เฮ้ยยยยยย คุณซ้งมายืนทำอะไรตรงนี้”

ตกใจจนต้องเอ่ยถามและก็เห็นว่าน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้ามึน กำลังเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นเกาที่หัวสองที แล้วก็บ่นพึมพำ ฟังแทบไม่เป็นภาษา

“ซ้งปวดฉี่ อาม่าทำไมเข้าห้องน้ำนานจัง”

อาม่า
อาม่า
อาม่า

ห๊า อาม่าเนี่ยนะ
ผมชื่อนุชาครับ นี่นุชา
นุชา
นุชา

เข้าใจมั้ยว่านุชา ไม่ใช่อาม่า

ไม่ใช่อาม่า ไม่ใช่อาม่า ไม่ใช่อาม่า เข้าใจหรือเปล่าครับ

“อาม่า”

ยังจะอาม่าอีก บอกว่าไม่ใช่อาม่า
ผมไม่ใช่อาม่ากิมโว้ยยยยยยยยยย ทักมาได้ยังไงว่าเป็นอาม่า
ห๊า ทักมาได้ยังไง
หน้าผมไปเหมือนอาม่ากิมตอนไหน เ เหมือนตอนหนายยยยยยไม่ทราบครับ น้องแรงบันดาลใจซ้งนี่มันทำไมกวนประสาทกันได้ขนาดนี้

ขนาดเมายังกวนประสาทให้โมโหได้

เปลี่ยนใจแล้ว พรุ่งนี้จะเอาหนังสือสัญญาให้ดูแล้วจะหนาว แล้วจะไม่พูดจาน่าโมโหแบบนี้อีก

คอยดูเซ่ คอยดู

นุชายืนนิ่ง สมองกำลังประมวลผล โกรธเพราะถูกทักผิด
หงุดหงิดเพราะถูกทักเป็นใครไม่ว่า ดันมาหาว่าเป็นอาม่ากิมซะได้

เมื่อกี้น่าจะตบกบาลและหยิกแก้มให้หนัก ๆ เพื่อจะได้เอามาทดแทนกับความรู้สึกโมโหในเวลานี้

“ผมนุชาไม่ใช่อาม่าครับ เข้าใจมั้ย”

เงยหน้าขึ้นจ้องหน้าคนที่ยังยืนทำหน้ามึน แล้วก็เอ่ยบอกอีกครั้ง

แล้วก็เห็นว่าคนตัวโตที่ยืนทำหน้ามึนอยู่ตรงหน้ายังคงยิ้มต่อไปไม่เลิก

ยิ้มหวาน ๆ ยิ้มจนหวานเชื่อม และพยักหน้า

เออให้มันได้อย่างนี้ เข้าใจก็ดีแล้ว อย่าให้ต้องพูดมาก เดี๋ยวจะยิ่งโมโห

“อาม่าห้อมมมมมมมมม หอม ซ้งชอบ”

ง่า

หอมมากมั้ย ท่าทางจะหอมมาก

หอมมากเลยเนอะ

ก็เลยยื่นหน้าเข้ามาหอม ที่แก้มทั้งซ้ายและขวา

กดปลายจมูกหนักๆ ที่ข้างแก้มทั้งสองข้างอย่างรวดเร็วและก็ผละใบหน้าออก

และตามมาด้วยการคว้าตัวมากอดเอาไว้แน่น
กอดซะแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
ก่อนจะยอมปล่อยให้เป็นอิสระอย่างรวดเร็ว

แล้วก็ยังยิ้มไม่เลิก ยิ้มหวานๆ ยิ้มจนตาเยิ้ม ยิ้มจนตาหวานเชื่อม
ยิ้มจนนุชาที่ยืนอึ้งตาค้าง และกระพริบตาปริบ ๆ ต้องเงยหน้าขึ้นมอง

“แต่นุชาก็หอม”

อ่า ครับ

ครับ ครับ

ไม่มีคำพูดอะไรอีก นอกจากการที่คนตัวโต เดินเป๋ไปเป๋มาและเปิดประตูเดินเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อย ทิ้งให้ใครคนหนึ่ง ต้องยกมือขึ้นแตะเบา ๆ ที่แก้มของตัวเองด้วยความมึนงง สงสัย ไม่เข้าใจ

แกล้งใช่มั้ย

นี่แกล้งเมาใช่มั้ย

ชักจะไม่แน่ใจกับสิ่งที่ตาเห็น กำลังสงสัยอย่างหนัก สงสัยมาก ๆ จนต้องรีบเดินไปหยิบกระดาษที่มีข้อความที่เขียนเอาไว้และคลี่อ่านอีกครั้ง

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

ไม่พบความผิดปกติ

คราวนี้ก็เลยต้องหันไปมองที่ห้องน้ำอีกครั้ง

ตกลง เมาจริงหรือหลอกก็ไม่รู้

รู้แต่ว่าทำตัวเป็นเด็กดีได้น่ารักชะมัด

นุชาอมยิ้ม และพูดกับตัวเองเงียบ ๆ เสียงเบาอีกครั้ง

“แล้วถ้าวันหนึ่งคุณซ้งต้องการ ผมจะยินยอมทำตามที่ได้รับมอบหมายทุกประการและยินดีจะปฎิบัติตามโดยไม่มี เงื่อนไขหรือข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
เหมือนกันนะ”

พูดไปก็ยิ้มไป และหันไปที่ประตูห้องน้ำอีกครั้ง

จะทำให้ก็ได้ เพียงแค่ในเวลานี้ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงวันนั้นเหมือนกันแค่นั้นเอง





TBC...

 


   :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 23-04-2010 21:58:33
ต๊ายยยย... ดีใจ
ปาดได้เร็วทันใจตัวเองมากค่ะ 55+

โอ๊ย...หอมกันเข้าไป หอมซ้าย หอมขวา จากนั้นก็จุ๊บหน้าผาก แล้วก็จุ๊บปากกันด้วยนะคะ
คนอ่านจะได้ชื่นใจ

ขอบคุณคุณแนนมากเลยค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 23-04-2010 22:15:53
ซ้ง

ลือเมาๆหายๆน้าาาาา

อั๊วนี่อ่างไปยิ้งไปเลยยน้าาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-04-2010 22:42:43
 :really2: อาบน้ำแป๊บเดียว กลายร่างเป็นอาม่าไปแล้วตี๋นุชา

แต่หลานชายตัวดีก็หอมปลอบใจไปแล้ว ไม่เป็นไรเนาะ อาม่านุชา  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 23-04-2010 23:09:24
เฮ้ยอาซ้ง ตกลงหรือเมาหรือหลอนห๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 23-04-2010 23:11:36
น่าร๊ากกกกกก  :m1:

นุชาก็หอมเหรอ..ไปรู้เค้าได้ไงล่ะนั่น..แอบหอมเค้าไปทีเดียวจำแม่นนะ.. :m12:
ชักสงสัยเหมือนนุชา แกล้งเมาป่าวเนี่ยคุณซ้ง.. :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 24-04-2010 03:34:22
ไม่อยากให้อาซ้งสร่างเมาเลยแฮะ
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 24-04-2010 03:40:14
ซ้งเมาแล้วน่าจับมาเกาคางเชียว เชื๊องงงเชื่อง
.
.
.
.
มาต่อแล้วววว ดีใจกว่ารอดจากสีลมอีก 5555++
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 24-04-2010 05:31:34
 :o8:
อาตี๋กับอาซ้งน่ารัก น่าหยิกทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 24-04-2010 06:57:56
จะเข้าใจผิด หรือเข้าใจถูก ก็ช่าง ตอนนี้ก็อมยิ้มแล้วละครับ

+1 ให้น้องสาวแสนซน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Miyabi ที่ 24-04-2010 06:59:52
นุชาหลอกให้น้องซ้งเซนต์สัญญาอะไรเนี่ย
น้องซ้งรู้คงช็อค  :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 24-04-2010 07:51:11
ใช่ๆอยากรู้มากว่าสัญญาอะไร หุๆๆ
ว่าแต่ นุชาแก้มหอมเหมือนอาม่ากิมเลยเหรอ สงสัยเพราะบ้านนี้ห้องน้ำไหนๆก็ใช้สบู่ยี่ห้อเดียวกัน
นุชาออกจากห้องน้ำปุ๊บเลยมีกลิ่นแก้มแบบเดียวกับอาม่าเลย

นุชาอย่าลืมไปหาซื้อสบู่แบบนี้มาใช้เป็นประจำนะ อาซ้งอีหน้ามืดจะได้มาหอมบ่อยๆ :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 24-04-2010 08:31:38
อาตี๋หลอกให้เซ็นอะไรเนี่ย...อาซ้งตื่นมารู้ตัวเข้าตกใจแย่  :laugh: :laugh:

ว่าแต่ ดูอาตี๋นุชานี่จะมีปมในใจนะ...แต่ เรื่องนั้นช่างมันไปก่อน...

55555555 หอมแก้มซ้ายแก้มขวา อ๊ายยยย ไปซื้อสบู่ย่ห้อนั้นมาใช้เลย  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-04-2010 17:16:55
นุชาไม่น่าหลอกคนเมาเลยยยยยย
แล้วจะเสียจายยยยยยย
555555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 24-04-2010 23:23:14
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ข้อสัญญา † o(>_<)o~> [23/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-04-2010 00:17:49
นุชา นายแน่มาก

รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † นอกรอบของแนนเองไม่เกี่ยวกับนิยาย † o(>_<)o~> [25/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 25-04-2010 00:50:16

มาฝากประชาสัมพันธ์นิดนึงงงงงงงง :z2:


ขายฟิค TVXQ มือ2 สภาพหนังสือดีคะ ซื้อมาอ่านเอง

สนใจแวะเข้าไปดูรายละเอียดได้ตามลิงค์นะคะ

คลิ๊ก (http://writer.dek-d.com/nana_lonely/story/view.php?id=612767)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † นอกรอบของแนนเองไม่เกี่ยวกับนิยาย † o(>_<)o~> [25/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 25-04-2010 09:03:23
ชอบตอนนี้ที่สุดเลย
กด + ให้นะ
 o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † นอกรอบของแนนเองไม่เกี่ยวกับนิยาย † o(>_<)o~> [25/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 25-04-2010 10:40:02
ซ้งหอมเเก้มอาตี๋ของเราเเล้ว รับผิดชอบด้วยนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † นอกรอบของแนนเองไม่เกี่ยวกับนิยาย † o(>_<)o~> [25/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 27-04-2010 17:42:05
เรื่องใหม่ น่าัรักเหมือนเดิมเลยอ่าา..  :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 27-04-2010 22:54:15
 :m26:จะบอกว่า













สต้อคของนี้นิยายเรื่องนี้...











































หมดแล้ว o22





แบบว่าแนนอัพเพลินลืมดู  :try2:
มันหมดแบบไม่รู้ตัวเลยอ่ะ :m17:




เชื่อแนนมั๊ย :impress:




ตอนนี้ปูเสื่อนั่งรอกันอีกแล้ว








แต่รอกันได้เนอะ
แนนรู้ทุกคนรอได้ 5555++  :beat:
คุณเท็นอัพเมื่อไหร่
แนนก็มาอัพเมื่อนั้น :a11:







แล้วก็ย่องออกไป อิอิ
 :m7:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 27-04-2010 23:08:07
กร้ากกกกกกกกกกกกกกส์ ตรูว่าแร้น

เตรียมพร้อมทั้งเสื่อและเบาะรองก้น พร้อมหมอนและหมอนข้างค่ะ  :z2: เต้นรออย่างมีความสุข
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-04-2010 23:12:38
รอคร้าบบบบ

ปูเสื่อรอคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 27-04-2010 23:13:52
55+ เพิ่งไปเรื่อง สวัสดี มา...

กำลังคิดถึง เลยกดมาดู

ปรากฎว่า....







หมด




555+
รออย่างตั้งใจ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 27-04-2010 23:17:11
หมด

again


555 ซื้อฟูก :a12:รอ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 27-04-2010 23:20:14
แล้วก็รอกันต่อไป
เหมือนเรื่องก่อน ๆ :t3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 27-04-2010 23:43:13
รอค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 27-04-2010 23:46:32
รอ ร๊อ รอ

 :t3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-04-2010 00:15:32
 :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 28-04-2010 00:30:33
กร้ากกกกกกกกกกกกกกส์ ตรูว่าแร้น

เตรียมพร้อมทั้งเสื่อและเบาะรองก้น พร้อมหมอนและหมอนข้างค่ะ  :z2: เต้นรออย่างมีความสุข

 :laugh: พออ่านเจอบรรทัดนี้ขำออกมาเลย

แสดงว่าคนอ่านเรื่องคุณเท็นเตรียมพร้อมเสมอ :z2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 28-04-2010 08:23:16
รอ ร๊อ รอ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 28-04-2010 08:42:34
รับทราบค่ะคุณแนน  :กอด1:
ว่าแล้วก็ปูเสื่อนอนรอพร้อมหม่ำหนมไปพลางๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 28-04-2010 08:45:26
ปูเสื่อ
น้ำหนึ่งขวด
หมอนหนึ่งใบ
กล้วยหนึ่งหวี
นอนรอค้าบ :a9:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 28-04-2010 09:00:55
 :z3: รออีกแล้วววววววววววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 29-04-2010 13:12:37
อะ  รอต่อไป :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 29-04-2010 13:38:19
เข้ามารอด้วยคนค่าา..

เสื่อสาดเสบียงไม่เอามา กะว่าจะขอแบ่งจากคนข้างๆ อ่ะค่ะ เห็นแต่ละคนเตรียมมาซะพร้อม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 29-04-2010 13:43:03
 :a5: :a5:

โอเคๆ รอคะรอๆๆ
ปูเสื่อรอด้วยคน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 29-04-2010 22:02:34
มารอด้วยคน
คุณซ้งน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ToRMoR ที่ 01-05-2010 00:31:14
อย่าเศร้ามากเน้อกลัวน้ำตาไหล  คนที่โทรหา นุชา นี่คือใครกันเนอะ หลายๆสายที่ว่า นุชาดูจะมีเรื่องไม่สบายใจเยอะเชียว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 03-05-2010 17:48:03
เข้ามาบอกว่า ยังรออยู่ค่ะ

มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 04-05-2010 08:47:22
ปูเสื่อรอค่ะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 04-05-2010 14:22:59
น่ารักอะเรื่องนี้ :o8:
ซ่งหวงอาม่ามาก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 10-05-2010 11:54:08
รอน้าคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: orionstar ที่ 11-05-2010 16:44:16
 :really2:

อ่านได้ ใจเริ่ม กรึ่มๆ 

ไม่เอาเสื่อน่ะ ค่ะ

เอาเป็นที่นอนดี กว่า

นอนรอ อย่าง สบายยยยยย 

คุณเท็น หายยุ่งเมื่อไร แล้วพบกันค่ะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † มีอะไรจะบอกอ่ะ † o(>_<)o~> [27/04/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-05-2010 17:10:29
เข้ามาบอกว่า.......ยังรออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 23-05-2010 23:41:29
 :m22: หลับกันหมดหรือยัง แอบย่องมาลง


ตอน การบ้านต้องทำที่บ้าน



มันมาได้ ไง

น้องแรงบันดาลใจซ้งที่ยกน้ำแข็งประคบที่หัว เหลือบสายตามองคนที่มานั่งทำหน้านิ่งเฉยอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความสงสัย

แล้วก็เปลี่ยนเป็นก้มหน้าก้มตาเขียนคำตอบลงในสมุดการบ้านทั้งที่มีปัญหา คาใจอยู่ในหัวอีกหลายข้อ

แต่อาการปวดหัวมีมากกว่า และต้องรีบทำการบ้านไม่งั้นไม่มีส่ง
จะไปขอลอกใครก็ไม่ได้ เพราะคราวก่อนยืมการบ้านมาลอกแล้วทำหนังสือของเพื่อนในห้องเปียกน้ำ คราวนี้เลยไม่มีใครยอมให้เอามาลอกอีกเลย

เหลือบสายตาขึ้นมองอีกครั้ง และยังเห็นว่าไอ้ตี๋หน้าเอ๋อ ยังคงทำหน้านิ่งและนั่งกอดอกมองมา

จะมองทำไม

ก็แค่ใส่คำตอบเข้าไปตรงนี้ ง่ายจะตาย ใคร ๆ ก็ตอบแบบนี้กันทั้งนั้น

“มันผิดนะครับคุณซ้ง ข้อนั้นลองกลับไปดูที่หน้าอธิบายดีกว่ามั้ย”

รู้ตั้งนานแล้ว ทำไมต้องมาสอนด้วยวะ คนเราจะได้เรียน ม.6 กันกี่ครั้ง
นี่เพิ่งจะเรียน ม.6 ครั้งแรก แต่อายุเกินแล้วแค่นั้น ลื้อเรียน ม.6 ผ่านไปแล้วก็พูดได้สิ ไม่ลองมาเรียนพร้อมกันล่ะ รับรองไม่มีทางมาพูดแบบนี้ได้หรอก

“นุชาสอนอาซ้งหน่อยนา อาม่าสอนไม่เป็ง เห็นอีบ่นว่ายาก เลยอยากให้นุชาช่วยหน่อยนา”

อาม่า

ซ้งทำเองได้นะ มันไม่ยากขนาดต้องให้ไอ้ตี๋นี่มาสอนหรอก เขียน ๆ ตอบ ๆ ไปก็ได้
หัวซ้งไม่ดี แต่สติดี ไม่ได้เป็นบ้าขนาดต้องให้ใครมาสอนพิเศษให้หรอกจริงๆ นะ

“ครับอาม่า ก็พยายามอยู่ครับ แต่คุณซ้งดื้อมากครับ ไม่ค่อยยอมรับฟังเลย”

ไม่รับฟังตอนไหน รับฟังอยู่เนี่ย รับฟังอยู่ทำไมอาม่าต้องไปเชื่อมันด้วย
อาม่าไม่เห็นหรอกว่าไอ้ตี๋มันกำลังหัวเราะอยู่ ถึงมันนั่งทำหน้าเฉยก็เถอะ แต่จริง ๆ แล้วมันหัวเราะอยู่ในใจแน่ ๆ เชื่อซ้งสิ ซ้งเห็นเองกับตา

“ลื้อมันปิศาจชัด ๆ”

น้องแรงบันดาลใจซ้ง เอ่ยบอกเสียงรอดไรฟัน และก็ก้มหน้าก้มตายอมทำการบ้านแต่โดยดี โดยมีสายตาที่แสดงถึงความเคลิบเคลิ้มของนุชาที่มองมาอย่างเพลิดเพลิน

น้องแรงบันดาลใจซ้งเมื่อคืนน่ารักขาดใจ อ้อแอ้ งอแงเหมือนเด็ก ๆ มีการมาหอมแก้มซ้ายขวาอีก ถึงจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาม่าก็เถอะ แต่โคตรน่ารักเลย

ถึงจะน่าหมั่นไส้หลายอย่าง แต่เพราะสภาพผมยุ่งหน้าเยิน ตอนเช้าที่ได้เห็นยังติดตาไม่หาย สลัดหัวลบภาพหลายครั้งภาพก็ยังติดตา แต่ก่อนจะซาบซึ้งใจหลงใหลจนแอบลงไปฟัด ก็เลยต้องจำใจรีบลุกขึ้นจากเตียง มาอาบน้ำล้างหน้าช่วยอาม่าทำอาหารเช้าและทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นคนดีมีน้ำใจ มาพักอาศัยบ้านใคร ก็ช่วยเจ้าของบ้านทำงาน

และในเวลาไม่นานเมื่อน้องแรงบันดาลใจซ้งตื่นนอนและเดินลงมาพร้อมกับสมุด การบ้านหลายเล่ม คราวนี้ก็เลยได้เป็นครูพี่เลี้ยงแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ตั้งใจจะสอนให้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ทั้งนั้น อาจจะอ้างได้ว่าเป็นเพราะคำขอของอาม่าประกอบกับความอยากสอนเป็นการส่วนตัว ด้วยก็ได้

“แล้วลื้อมาอยู่บ้านอั๊วได้ไง แอบตามมาล่ะสิ อย่าหวังว่าจะคิดอะไรกับอาม่าอั๊วได้ง่าย ๆ นะ ถ้าอั๊วยังอยู่ลื้อไม่มีหวังหรอกรับรองได้”

เออเนอะ ก็คิดไปได้นะคนเรา

ผมมาชอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบ คุณซ้ง ดันคิดเป็นอื่นไปซะได้ จะให้ต้องบอกกี่คร้งถึงจะเข้าใจ

“ก็ยังผิดอยู่นะครับคุณซ้ง ข้อนั้นอีก โหหหห ข้อโน้น ก็ผิด นั่นอีก นี่อีก
ผิด ผิด ผิด หมดเลยนะเนี่ย”

อันนี้เว่อร์

“มากไป”

ได้เห็นสายตาที่มองมาแบบโมโหเล็ก ๆ ของน้องแรงบันดาลใจซ้งแล้วก็ต้องแอบลอบยิ้มเล็กน้อยด้วยความพอใจ

คนอาร๊ายยยยยย ขนาดหน้าบึ้ง ยังใสกิ๊ง โอยยยยยยย แสบตา

“เมื่อไหร่จะกลับซะที เกะกะบ้าน พื้นที่จะยืดขาก็ไม่มี”

แล้วทำไมต้องยืดขาซะขนาดนั้น ยืดไม่พอยังจะแกล้งเตะขากันอีก
หาเรื่องเหรอจ๊ะ

“น้องซ้ง อย่าทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาหน่อยเลย แบบนี้เรียกว่าเรียกร้องความสนใจนะรู้เปล่า”

น้องซ้ง น้องซ้ง
ใครเป็นน้องลื้อ อย่าให้มันมากนักนะ แค่จบ ม.6 ก่อนไม่กี่ปี ทำเป็นมาเรียกน้อง ดูซะมั่งว่าหน้าใครแก่กว่ากัน

เรียกร้องความสนใจงั้นเหรอ

เรียกร้องสิ งั้นขออีกซักทีเถอะนะ

“เด็กจริงๆ”

ใครเด็ก ลื้อผู้ใหญ่ตายเลยนะ ให้มันน้อยๆ หน่อย

“เด็กจริง จริ๊งงงงงงงงง”

พูดไม่พูดเปล่า ว่าแล้วนุชาที่โดนเตะขาไปสองสามทีก็ลุกขึ้นยืนและเอื้อมมือมาหยิกแก้มน้อง แรงบันดาลใจซ้งด้วยความรักและเอ็นดู

“เฮ้ยยยยยยย ลื้อทำแบบนี้ได้ยังไง ไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ”

อ่อ ไม่ใช่เพื่อนเล่น ไม่ใช่เพื่อนเล่นงั้นเหรอ งั้นก็ต้องหยิกอีกที

“ไม่ใช่เพื่อนเล่น ไม่ใช่เพื่อนเล่นเหรอ หนูน้อยเรียกร้องความสนใจ”

หยุดไปสองวินาที แล้วนุชาก็เลยกระหน่ำหยิกแก้มขาว ๆ ของน้องแรงบันดาลใจหน้าบู้บี้ด้วยความหมั่นเขี้ยว และหมั่นไส้ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ระทึกใจอะไรตามมาเลย

“ไอ้ตี๋”

โกรธ

พอทีนี้ทำเป็นโกรธ ทีเตะขากูล่ะไม่คิด โดนหยิกแค่นี้ยังน้อยไป
ทำไม หรืออยากให้ทำมากกว่านี้ อยากให้หอมแก้มหรือเปล่า

เดี๋ยวทำให้ ก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ว่าอยากให้หอมแก้ม จะได้ช่วย

“อารมณ์เสียแต่เช้า จะพาลทำให้ท้องผูก มิน่าล่ะ ทำหน้าเหมือนคนท้องผูกทุกวัน สงสัยอารมณ์เสียทุกเช้าแน่ ๆ เลย อย่าทำแบบนี้อีกนะไม่ดีนะครับคุณซ้ง”

“ไอ้ตี๋”

สองคำแล้ว

ด่าอย่างอื่นได้มั้ย เบื่อ มันไม่ตื่นเต้น คิดคำใหม่มาได้มั้ย ปวดหูนะ เอาแต่ตะโกนอยู่ได้

เอ้า แล้วใครโทรมาอีกล่ะเนี่ย

“เดี๋ยวขอเวลานอกห้านาทีนะคุณซ้ง เดี๋ยวมาเล่นด้วยใหม่”

รีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาดู เห็นเบอร์แล้วก็ต้องรีบกดวางสาย

ยืนมองโทรศัพท์ในมือนิ่ง ๆ แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันมาเจอกับเศษกระดาษที่ถูกปามากระทบเข้าที่หน้าผากอย่างจัง

“เฮ้ยยยย”

ไม่ได้เจ็บหรอก แต่แกล้งร้องให้เสียงดังเข้าไว้ ทำเหมือนเจ็บมาก
แล้วก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปหาน้องแรงบันดาลใจซ้ง ที่กำลังนั่งหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย

เออตลก

สนุกตายเลยเนอะ

อยู่อนุบาลสองว่างั้น สมองไม่พัฒนาเลยนะ

“สนุกจังนะ มีเพื่อนเล่น คนไม่มีเพื่อนก็แบบนี้แหละ พอมีเพื่อนเข้าหน่อยก็เลยได้ใจ แกล้งมาก ๆ เดี๋ยวจูบซะนี่”

ทำท่าจะยื่นหน้าเข้าไปหาจริง ๆ

แต่เจอน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าตาตื่น ที่ตาโตเท่าไข่ห่าน จ้องมองตาค้างและเหมือนกำลังตกตะลึง ก็เลยต้องชะงักค้าง

“เป็นอะไร”

เอ่ยถาม แล้วก็ไม่เห็นจะมีคำตอบกลับมา นอกจากการที่คนที่ทำตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อสองวินาทีก่อน รีบเก็บสมุดการบ้านสองสามเล่ม แล้วเดินลิ่วๆ ขึ้นชั้นบนไปอย่างรวดเร็ว แบบไม่มีการหันมามองหรือต่อปากต่อคำด้วยอีกเลย

“โกรธซะแล้ว”

มองตามแล้วก็เลยต้องบ่นกับตัวเองเงียบ ๆ
อมยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามอง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และตัดสินใจโทรออก

โดยไม่ทันได้มอง ว่าคนที่เดินลิ่วขึ้นไปบนชั้นสอง จะแอบชะโงกหน้ามามองหา และรีบกลับไปยืนที่เดิม
พร้อมกับยกมือขึ้นลูบที่ข้างแก้มที่เพิ่งโดนหยิกมาเบา ๆ
ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่

และอาการหน้าร้อนวูบ ๆ ที่กำลังตามมา

และเมื่อก้มลงมองที่มือของตัวเอง ก็พบว่ากำลังสั่น

มือกำลังสั่น

พร้อมกับที่หัวใจก็เริ่มสั่น

ชะโงกหน้ามามองหาคนที่กำลังคุยโทรศัพท์และกำลังทำหน้าเครียด
แล้วก็ต้องรีบเดินเข้าห้อง และวางสมุดสองสามเล่มเอาไว้บนโต๊ะ

ก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ บนเก้าอี้ และเริ่มเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

นานเกินไป จำไม่ได้ว่าหัวใจเคยเต้นแรง ๆ แบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
แต่ที่จำได้ในเวลานี้

เหมือนว่าอาการหัวใจเต้นถี่ และอาการหน้าร้อนผ่าว มือสั่น กำลังกลับมาอีกแล้ว

“เพ้อเจ้อ”

บ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบา แล้วน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าบูด ก็เปิดหนังสือและพยายามมุ่งมั่นกับการบ้านที่เหลืออีกไม่กี่ข้อ

ทั้งที่ในเวลานี้ ทั้งสมอง และหัวใจ ดูท่าจะทำงานไม่สัมพันธ์กันเอาซะเลย





TBC...

 


    :m7:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 23-05-2010 23:51:32
กรี๊ดดดด   ยังไม่หลับ.. ขอบคุณน๊า ที่เอามาลง
คิดถึงคุณซ้งกับอาตี๋นุชามากมาย.. :z2:
อาตี๋นุชาดูจะมีเรื่องไม่สบายใจเนอะ..
คุณซ้งแอบใจเต้น.. :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 23-05-2010 23:57:44
เอ่อ งงมานาน

อ่านมาแรกๆได้ฟีลเหมือนซ้งจะเป็นพระเอกเลยอ่ะครับ

แต่ตอนนี้ซ้งดู อ่อนไหวจัง อิอิ

แต่ยังไงก็ชอบบบบ

มาสักที เย้ๆๆๆๆ :mc4:

+1ที่มาต่อน้าคร้าบบบบบ

จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 24-05-2010 02:12:38
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เค้าเล่นกันถึงเนื้อถึงตัวดีเนอะ โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ที่แน่ๆ น้องแรงบันดาลใจของเราเริ่มมีอาการแล้วสิ สู้ๆเฟร้ยยยยยยยยยยนุชา :a1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 24-05-2010 07:35:12
+1 เป็นกำลังใจให้น้องซ้ง รู้ใจตัวเองเร็วๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 24-05-2010 09:16:10
แล้วเมื่อไหร่จะได้ทำการบ้านหละนั้น  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 24-05-2010 10:09:14
กรี๊ดดดดดดดดด.. แอบมาต่อแบบไม่รู้ตัว เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 24-05-2010 13:25:05
มีลุ้นแล้วนะเนี่ย
 :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 24-05-2010 20:12:41
น้องแรงบันดาลใจน่ารักได้อีกอ่า    :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 24-05-2010 20:20:22
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
น้องซ้งกะคุณนุชามาแล้วววว

ตอนนี้ปลื้มมากค่ะ น้องซ้งเริ่มหวั่นไหวแล้วสินะ
อร๊ากกกกกกกกกกกกก ชอบๆๆๆ น่ารักไม่ทน   :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 24-05-2010 20:45:42
เริ่มเอนเอียงเเละตกหลุมที่อาตี๋ขอลเราขุดไว้เเล้วอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 24-05-2010 21:23:11
คิดถึงทั้งคู่เลย ในที่สุดก็มาแล้ว  :mc4: :mc4:
แหมๆ ซ้งเริ่มตกหลุมรักซะแล้ว...หวั่นไหวจนได้...
ว่าแต่อาตี๋นุชานี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจอยู่แน่ๆเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 25-05-2010 10:38:10
อ๊าก!!!ซ้งเริ่มหวั่นไหวกะนุชาแล้วว!!
เป็นปลื้มมมม!!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 25-05-2010 10:52:47
ตามอ่านทันแระ    :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 25-05-2010 11:13:36
 :-[หวั่นไหวซะแล้ว อิ อิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-05-2010 16:27:38
โอย นุชา รุกฆาตตตตตต
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 25-05-2010 21:59:52
รออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ

T^T
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Maria_safe ที่ 26-05-2010 10:01:57
ตี๋นุชากล้าได้อีกนะ
หยิกแก้มซ้งซะเจาตัวแอบหวั่นไหวเลย
แต่ท่าทางตี๋จะมีงานเข้ามิใช่น้อย ทำหน้าเครียดด้วยนี่
แต่บทนี้ซ้งน่ารักมากๆเลยอ่ะคุณเท็น
จะรอตอนต่อไปนะเออ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: orionstar ที่ 26-05-2010 21:52:04
 :m32:

อาตี๋เอ๋ย เดี๊ยวโดนซ๊งเอาคืนหรอก น่ะจ๊ะ

ทีนี้ล่ะ ได้เฮ กันทั้งเล้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 29-05-2010 03:07:38
มารอด้วยคน

แบบว่าคุณเท็นยังไม่มาอัพอ่าา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 29-05-2010 03:11:00
มารอเหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-05-2010 07:00:32
มาต่อได้แล้วรออยูนะคุณซ้ง :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 29-05-2010 20:20:25
แหมๆ... แค่หยิกแก้มก็ทำเคลิ้มซะละ
หนูซ้งของอาตี๋นุชา

>w<

นุชาทำตัวมีกลิ่นตะหนุ่ยๆตลอดเวลา
มีเรื่องอะไรน่าเครียดนักหนาคะ?

รอต่อไป...
ขอบคุณคุณแนนค่ะ :)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 30-05-2010 13:31:43
อยากอ่านตอนต่อปายยยยยยยย

ปูเสื่อนอนรอค่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SUICIDE ที่ 30-05-2010 14:49:51
อ่านตาม ทันจนได้ค่ะ บอกได้คำเดียวว่า นุชาน่ารัก!!!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 30-05-2010 21:08:57
นิแค่หยิกแก้มน้องแรงบันดาลใจของนุชาก็ใจสั่นได้ขนาดนี้เชียวเรอะ แล้วถ้าทำมากกว่านี้จะเป็นยังไงน้า  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 08-06-2010 13:36:45
อานุชา ลื้อนี่เริ่มรุกหย่ายเลี้ยวน้าาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 08-06-2010 15:19:53
รออยู่นะคุณเท็น  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-06-2010 08:08:07
มาต่อได้แล้วนานแล้วน่า :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: SUICIDE ที่ 17-06-2010 20:45:36
เมื่อไหร่จะมาต่อจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: MM.Dog ที่ 21-06-2010 20:12:57
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกน่ารัก
น้องแรงบันดาลใจก็น่ารักซะ
อาตี๋นุชานี่ก็จีบออกหน้าออกตาเหลือเกิน
แถมอาม่าก็เป็นใจได้อีก
อะไรมันจะเหมาะสมขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 21-06-2010 20:33:50
มาปูเสื่อรอ น้องสาว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-06-2010 22:01:54
^
^
จิ้มพี่ชายด้วยความคิดถึง :กอด1:
ช่วงนี้ยุ่งมากเลยค่ะพี่
เมื่อเช้าไปทำงานสายนั่งมอ'ไซค์ไป
โดนรถขับตัดหน้า รถล้มหมดสภาพเลยอ่ะพี่ชาย
พรุ่งนี้หยุดนอนแอ้งแม้ง เพราะขาเดี้ยงT^T



เรื่องนี้คุณเท็นยังไม่อัพอ่ะ :m21:
ใครที่รอเรื่องของคุณเท็น
ไปอ่านเรื่องสวัสดีก่อนนะค่ะ
แนนเพิ่งอัพไปเมื่อวาน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: armchair2535 ที่ 21-06-2010 22:12:42
ชอบเรื่องนี้อ่ะ   น่ารัก   :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-06-2010 22:20:53
คิดถึงทั้งตัวละคร ทั้งคนแต่ง ทั้งคนโพสต์จ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: MM.Dog ที่ 28-06-2010 20:22:59
คิดถึงค่ะคิดถึง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: RanJeri ที่ 29-06-2010 04:04:10
ร๊ออออยู่น่ะค่ะ เรื่องนี้น่ารักมากเลย :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 04-07-2010 23:05:26
// เต้นพร้อม เสบียงพร้อม

แล้วมาต่อไวไวนะฮะ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: MM.Dog ที่ 12-07-2010 20:40:48
รอ...ร๊อ...รอ...
รอคุณเท็นกับน้องแนนมาอัพ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 19-07-2010 20:03:30
ปูเสื่อนอนรอต่อปาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 29-08-2010 21:32:22
รอคุณเท็น และคุณแนนมาอัพ...
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ
เราป่วย =.,=

คุณเท็น คุณแนน กะเพื่อนๆ ก็รักษาสุขภาพนะคะ :)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Wr@iTh ที่ 29-08-2010 23:16:14
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
ขอร้องดังๆหน่อยค่า  :m3: เจออีกเรื่องแล้ว เย้ๆๆๆ :L2:
รีบมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-09-2010 23:48:54
สีอักษรอ่านไม่สบายตาเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การบ้านต้องทำที่บ้าน † o(>_<)o~> [23/05/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kratai21 ที่ 02-09-2010 11:57:58
 :impress2: รออยู่นะค่ะ ว่าแต่ซ้งเริ่มหวั่นไหวแล้วชิมิ แล้วนุชามีเรื่องไรปิดบังอยู่กันแน่ รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เงียบ † o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 15-09-2010 01:57:55
 มาทีเดียว 3 ตอนรวดเลยนะค่ะ ขอโทานะค่ะที่มาอัพช้า ช่วงนี้แนนยุ่งๆกับที่ร้านอยู่นะค่ะ คิดถึงทุกคนเหมือนกันค่ะ


ตอน เงียบ



คนเรามีเรื่องให้คิดอยู่ตลอดเวลา เรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นรอบตัว
เรื่องอะไรมากมายอัดแน่นอยู่ในสมองเต็มไปหมด

เรื่องไร้สาระสำหรับเราแต่เป็นเรื่องมีสาระสำหรับคนอื่น เรื่องราวชวนปวดหัวหลายเรื่อง


เช่นเรื่องโง่ ๆ เรื่องนี้

นุชาถอนหายใจเฮือกใหญ่และยังคงยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมามองอีกครั้ง
ช่างหัวแม่งเหอะ คิดอะไรเยอะแยะวะ คิดไปก็มากความเสียเวลาซะเปล่า ๆ
ช่วงนี้สงสัยจะไปสนามบ่อย ๆ ไม่ได้แล้ว
ถ้าไม่ไปบ่อย ๆ แล้วแฟนคลับก็ต้องคิดถึงแย่แน่ ๆ คนมีแฟนคลับเยอะก็น่าอิจฉาแบบนี้ หายไปนานๆ ก็กลัวแฟนคลับจะน้อยใจ เสียใจที่ไม่ได้เห็นหน้า

แต่ถึงจะฮอทและมีแฟนคลับมากแค่ไหน ก็ยังมีหนึ่งเดียวในหัวใจอยู่ดี
ว่าแต่หนึ่งเดียวในใจ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งหายหัวไปไหนอีกแล้วหว่า
เมื่อกี้ยังทำหน้ากวนประสาท ทำท่าไม่พอใจอยู่เลย
หันมาอีกที เดินลิ่วหน้าหงิกขึ้นห้องไปแล้ว

น้อยอกน้อยใจอะไรนักหนา แค่โทรคุยธุระการงานนิดเดียวแค่นี้
ทำเป็นน้อยใจหนีขึ้นห้องไปได้

นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องทำตัวเป็นผู้อาศัยที่ดี จะตามไปแอบดูแล้วว่าทำอะไรอยู่
คนอะไร ใสกิ๊ง หน้าบึ้งตึงได้ประทับใจจริง ๆ เห็นแล้วบางทีจะหายใจไม่ออก

จะทำหน้าบึ้งกระชากใจไปไหนหรือครับ คุณซ้ง

“อาม่าครับ เดี๋ยวยังไงวันนี้ผมคงต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีธุระด่วนนะครับ”

นุชาที่อยู่ในอาการตาลอยชั่วขณะที่นึกถึงน้องแรงบันดาลใจซ้ง เดินเข้าไปยกมือไหว้อำลาอาม่าที่กำลังมุ่งมั่นกับการทำขนมจีบ อยู่ในครัว

ขนมจีบ

อาม่านี่ล่ะก็ ทำขนมเป็นมงคลซะด้วย อยากมอบให้กับน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าบึ้งซะจริง ๆ

“อ้าว ล่ายยางงายอ่า ม่าทำแล้วไม่มีครายกินแบบนี้อาม่าจะทำยังไงล่ะ งั้นห่อใส่กล่องกลับไปกินที่บ้านด้วยก็ได้นะอาตี๋ อาม่าทำไว้เยอะเลย”

โห เกรงใจแย่ครับอาม่า

แยกน้ำจิ้มใส่อีกกระปุกได้มั้ยครับ กลัวน้ำจิ้มกับหนมจีบมันจะไปกองอยู่รวมกันแล้วจะไม่อร่อย

“จะดีเหรอครับ”

ทำหน้าเกรงใจ แต่ตาลุกวาวเมื่อมองไปที่ขนมจีบที่เพิ่งนึ่งสุกใหม่ ๆ
โคตรน่ากินจริงๆ เลยว่ะ ไม่กินแล้วจะเสียใจไปจนตายมั้ยเนี่ย

“อ่า ลีเซ่ อาม่าใส่กระปุกให้เลย แล้วเอาไปกินนา ถ้าจะไปก็ไปพร้อมอาซ้งก็ล่าย อีจะออกไปเรียนหนังสือ ไปล่วยกันเลยนาเดี๋ยวอาม่าไปตามอีก่อน”

เฮ้ยยยยยยยยยยยยย ทำเป็นเล่นไป

อาม่า ไปตามคุณซ้งแบบนั้น
ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้แทะโลมคุณซ้งชัด ๆ

และเมื่อเปิดโอกาสให้แทะโลม ทั้งทางสายตาและวาจา รวมไปถึงการกระทำด้วย แบบนี้คุณซ้งเขาจะไม่ยิ่งเกลียดผมแย่เหรอครับอาม่า นี่มันเท่ากับหาเรื่องให้ตัวเองชัด ๆ

นุชายืนทำหน้ามึน และคิดไม่ตกว่าจะต้องทำยังไงดี
ไปพร้อมกันมันก็ดี ดูหน้าจ้องหน้า จ้องให้ตายกันไปข้างในระยะประชิดมันก็ดี

แต่จะใจละลายตายไปก่อนนี่สิ ปัญหาใหญ่เลย

เครียดจริงๆ

แบบนี้ยิ่งเครียด

ไม่ไหว เครียดมากขนาดนี้ ต้องลองชิมขนมจีบในกระปุกก่อนแก้หิว

ไม่ใช่อะไรหรอกนะ กินเอาเคล็ด ขนมจีบอร่อย แล้วก็กินเอาเคล็ดด้วย
เผื่อโชคดี จะได้แทะโลมน้องแรงบันใจคุณซ้ง แล้วไม่โดนทำตาขวางหน้าดุใส่
แต่ก็เท่านั้นแหละ หวังยาก

หล่อจัด แต่หน้าบึ้ง แบบนี้ไม่ไหว

ระทึกเกินไป ระทึกกลัวใจตัวเองว่าจะทำยังไงดี ถึงจะไม่ลืมตัวจนเผลอกระโดดกอดน้องแรงบันดาลใจซ้งด้วยความประทับใจ

คนอะไร มันกระชากใจ หน้าบึ้งใส่มาก ๆ รู้มั้ยทางนี้จะละลาย
เฮ่อ เครียด กินขนมจีบดับกลุ้มเลยดีกว่า

ไอ้ตี๋นี่มันจะกวนอีกนานมั้ย

เกรงใจเป็นมั้ย

สามัญสำนึกมีมั้ย

ให้อาศัยมาด้วย มันดันตั้งหน้าตั้งตากินขนมจีบอย่างมุ่งมั่นแล้วก็ไม่พูดไม่จา

แล้วนั่นมันก็ขนมจีบของอาม่าอั๊วด้วย ลื้อมีสิทธิ์อะไรเอาใส่กระปุกกลับมากิน
กินอยู่ได้ ให้อาศัยมาด้วยแล้วยังจะมากินขนมจีบแบบไม่เกรงใจอีก ถ้าไม่ติดว่าอาม่าอั๊วสงสารลื้อกลัวลื้อเดินขาลากก็เลยให้ลื้อติดรถมากับอั๊วด้วยล่ะก็ อย่าหวังจะมาลอยหน้าลอยตากินขนมจีบของอาม่าอั๊วในรถของอั๊วได้เลย

“ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี”

โหหหหหหหหหหหหหหหหหหห

มาแบบลอย ๆ แต่เข้าเป้าจัง ๆ ด่ากูตรง ๆ เลยดีกว่าครับ คุณซ้ง
ด่าแบบลอยลมแบบนี้ กูจะเจ็บหรือครับ

นุชาผู้พยายามหักห้ามใจตัวเอง ไม่ให้กระทำการลวนลามและแทะโลมคนที่ด่าฝากสายลมมา ด้วยการกินขนมจีบในกระปุก กินมาก ๆ ชักจะเอียน
แต่ก็ต้องเคี้ยวต่อไปอย่าได้หยุด ขืนหยุดเคี้ยว ไม่มีอะไรในปาก
ก็นั่งเงียบกันทั้งคู่ จะมาหวังให้คุณซ้งชวนคุย ฝันไปเถอะ ไม่เตะออกจากรถก็บุญเท่าไหร่แล้ว

แต่ก็อย่างว่า ประทับใจใบหน้าของคุณซ้งแล้ว ก็เลยอยากจะเห็นอยู่บ่อย ๆ
อยากสานสัมพันธ์ด้วยเหมือนกันนะเนี่ย แต่..........

อืมมมม เรื่องนั้นไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยคิด

คิดนี่ก่อนดีกว่า กินมาก ๆ อยากจะอ้วก ขนมจีบก็ขนมจีบเถอะ กินนาน ๆ อิ่มจนท้องจะแตกก็ชักไม่ไหวเหมือนกัน

นุชาปิดฝากระปุกของฝาก แล้วก็กลืนขนมจีบลงคอไปอย่างยากลำบาก
แล้วคราวนี้ก็นั่งนิ่งสงบเงียบเรียบร้อย ทำตัวให้สมกับเป็นผู้อาศัยรถมาด้วยซะหน่อย เดี๋ยวคุณซ้งจะมาประณามเอาได้ว่านอกจากไม่มีมารยาทแล้วยังหูตึงด้วย

“ห้ามมายุ่งกับอาม่าอั๊วอีก”

โธ่ ชีวิต

นี่ถามจริง ๆ เหอะครับ เราหยอกล้อ ออเซาะฉอเลาะ จุ๊บ ๆ กันไปแล้ว
ยังจะเข้าใจไปได้อีกเหรอ ว่ากูมาจีบอาม่าคุณซ้งน่ะครับ เอาอะไรมาคิด นานมั้ยกว่าจะคิดได้แบบนี้ เครียดว่ะ

“ห้ามมายุ่งกับอาม่าอั๊วอีก”

จะย้ำทำเพื่อ

ได้ยินแล้วครับ กูไม่ได้หูตึงครับ แต่คุณซ้งเวอร์ชั่นหน้าขรึมและขมวดคิ้วแบบนี้มันทำให้ผมอยากกระโดดกอด และป้อนขนมจีบให้กินซักคำ

“ห้ามยุ่งกับอาม่าอั๊วอีก”

จ่ะ

เข้าใจแล้วจ่ะ ไม่ได้ยุ่งเลยจ่ะ จะอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ แต่ขอยุ่งกับคุณซ้งได้มั้ยโคตรอยากยุ่งด้วยเลย นิดเดียวนะ อยากยุ่งด้วย นะ นะ

“มึงห้ามยุ่งกับอาม่ากูอีก เข้าใจมั้ย”

วาจาแสนเชือดเฉือน แล้วถามหน่อยกูเข้าใจมั้ย กูเข้าใจแล้วครับ
แต่จะห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับน้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง กูจะทำได้มั้ยครับ
ถ้าทำได้ ไม่ไปนั่งเฝ้าเช้าเย็น ขอแค่เห็นหน้าแค่แว่บเดียวหรอก

ถามอะไรแปลก ๆ เดี๋ยวก็ตอบแบบแปลก ๆ ซะเลยนี่

“กูเข้าใจแล้วครับ คุณซ้ง”

ตอบแบบนิ่งๆ และแอบเหลือบสายตามองใบหน้าของน้องแรงบันดาลใจซ้งเล็กน้อย พอให้รู้ว่าเข้าใจความหมายที่พูดดี

“กวนตีน”

เฮ้ยยยยย อยู่ดี ๆ มาว่ากันอย่างนี้ได้ไง จิตใจทำด้วยอะไร เสียใจมากรู้มั้ย
จะร้องไห้แล้วเนี่ย ถามหน่อยเถอะ กูเคยสำนึกมั้ยครับ

ถ้าเคยก็ว่าไปอย่าง
นี่ด่าให้ตายก็ไม่ได้สำนึก ก็ยังจะหน้าด้านด่าอยู่ได้

“กวนกับคนน่ารักเท่านั้นจ่ะ”

เป็นคำตอบที่ทำให้ซ้งต้องเหยียบเบรกจนหัวทิ่ม และหันมามองคนที่ตอบคำตอบให้เต็มตา

กวนตีนจริง ๆ นะมึง ด่าแล้วไม่สำนึก ไม่สำนึกยังไม่พอ
ยังจะยิ้มจนตาเยิ้มอีก สามัญสำนึกมึงมีบ้างมั้ย หรือต้องให้กูตบกบาลซะทีจะได้หายจากโรคกวนตีน

“โห คุณซ้ง นี่ผมอายุมากกว่านะเนี่ย ถ้าไม่เห็นแก่ขนมจีบในกล่องก็เห็นแก่คนที่อายุมากกว่าหน่อยเถอะครับ อย่าทำร้ายร่างกายและจิตใจกันเลย
ปล่อยให้ผมตายไปตามธรรมชาติเถอะ”

เดี๋ยวลื้อได้ตายตามธรรมชาติแน่ เดี๋ยวอั๊วจะดลบันดาลให้ธรรมชาติลงโทษ
ลื้อเอง

“แก่กว่าแต่ปัญญาอ่อน”

เออนะ แก่กว่าแต่ปัญญาอ่อน
อันนี้แรงของจริงว่ะ ก็ถ้าปัญญาไม่อ่อนใครเขาจะเป็นแบบนี้ คงไปทำอะไรมากกว่านี้ ไม่มาทำเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้หรอก มีแต่คนปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ได้ทุกวัน เจ็บขาก็ยังจะไป เออว่ะ กูมันปัญญาอ่อนอย่างที่คุณซ้งว่าจริงๆ นั่นแหละ

นุชาหน้ายิ้ม กลายเป็นนุชาหน้าเจื่อน หน้าเจื่อน ๆ ของนุชาเปลี่ยนเป็นหันไปมองข้างทาง และไม่รู้จะพูดอะไรอีก นอกจากนั่งเงียบไปตลอดทาง

จะมีใครสนใจอาการอึ้ง จนเงียบไม่รู้จะพูดอะไรอีกของนุชา มั้ย

คำตอบคือ.....ไม่มีใครสน
และยิ่งคนที่กำลังขับรถและทำหน้านิ่งเฉยด้วยแล้ว ยิ่งยากที่จะสนใจ
นุชานั่งเงียบ เงียบสนิท และไม่รู้ว่าตัวเองจะอยากมองหน้าน้องแรงบันดาลใจซ้งไปทำไม

ในขณะที่คนที่กำลังสะใจเล็ก ๆ ที่ได้ทำให้อีกฝ่ายปวดใจกำลังนึกกระหยิ่มยิ้มย่องที่ได้ทำให้อีกฝ่ายนิ่งเงียบ กลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่าง

ก็ดี เงียบไปเลยก็ดี

เงียบ ๆ แบบนี้ยิ่งดี

ถ้าเงียบได้แบบนี้ไปตลอดยิ่งจะดีมาก

แต่ทำไมในความรู้สึกที่คิดว่าดีแล้ว กลับมีความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ตามมาด้วย ผิดเล็ก ๆ จนต้องแอบลอบมองใบหน้านิ่งเฉย ของคนที่มองออกไปที่ข้างทาง

ก็ลื้อมายุ่งกับอาม่าอั๊วเอง อยู่ดีไม่ว่าดี อยากหาเรื่องทำไมล่ะ
อยู่ดีๆ อั๊วจะด่าลื้อมั้ย ใครใช้ให้ลื้อกวนตีน ตอบแบบคนทั่วไปไม่ได้เอง
ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ แล้วจะมาโทษอั๊วได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นความผิดของลื้อคนเดียว





TBC...

 


   :m7:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แต่ฉัน ฉัน ฉัน † o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 15-09-2010 02:01:42



ตอน แต่ฉัน ฉัน ฉัน




“แต่ฉัน ฉัน ฉัน ฉันอยากเห็นเธอทุกวัน เช้าสายบ่ายค่ำ”

ตาเหล่ เหล่ตา มองหน้าคนที่กำลังขับรถแล้วก็เริ่มร้องเพลงพึมพำเสียงเบา

เห็นน้องแรงบันดาลใจซ้งหันมามองหน้าแล้วก็ทำสายตาดูถูกใส่เล็กน้อย
ตั้งใจฟังหน่อยไม่ได้เหรอ คนอุตส่าห์ตั้งใจร้อง ทำเป็นไม่ชอบไปได้

“แต่ฉัน ฉัน ฉัน ฉัน ฉันอยากเห็นเธอทุกวัน เช้าสายบ่ายค่ำ”

เน้นเสียงหนัก ๆ อีกนิด แหม่ได้ผลเว้ย คราวนี้จากทำสายตาดูถูกใส่ คราวนี้ยังถลึงตาใส่ด้วย เออนะ เป็นนิมิตรหมายอันดีแท้ ๆ
น้องแรงบันดาลใจซ้งของแท้ ต้องมีตรายี่ห้อหน้าบึ้ง ขมวดคิ้วมุ่นเป็นโลโก้
นี่แหละของแท้ ถ้าหน้ายิ้ม นี่ไม่ใช่ อันนั้นของปลอม

“ปากก็หมา ระรานไม่หยุด แต่ฉัน ฉัน ฉัน ฉัน ฉันอยากเห็นเธอทุกวันเช้าสายบ่ายค่ำ”

อุตส่าห์ร้องเพลงให้ฟัง ทำไมต้องทำหน้าโหดใส่ด้วย กลัวววววววววววววว
ด่าให้เสียจริตไปนิดหน่อย แล้วยังมาทำหน้าดุใส่อีก เสียใจมากนะ
เดี๋ยวป้อนหนมจีบเลย เผื่ออารมณ์ดีนะ เอามั้ย คุณซ้ง
แล้วนั่นเป็นอะไร

“สิวก็ขึ้นที่คางไม่หยุด แต่ฉัน ฉัน ฉัน”

จากที่เงียบเมื่อหลายนาทีก่อน ในเวลานี้ นุชาผู้แกล้งมุ่งมั่นกับการฟังเพลง
แล้วก็แกล้งร้องเพลงให้เจ้าของรถที่อาศัยมาด้วยฟัง กำลังแอบลอบยิ้มเล็กน้อย

แกล้งซะหน่อย

นิดเดียวเอง

อย่าเพิ่งโกรธเลยน่า คนไม่ได้อยากอยู่ในโลกเงียบซะหน่อย
ไม่งั้นจะเอาหูฟังมาเสียบฟังเพลงทำไมล่ะ อยู่ในบรรยากาศอึมครึมแบบนั้น
ตายกันพอดี เดี๋ยวก็ชักตาตั้งเป็นลมช็อคสลบไปจะว่ายังไง

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ช่างสรรหาวิธีการมาสร้างความกดดันได้ตลอดเวลา

เรื่องอะไรต้องตามใจ

มันต้องร่าเริงแจ่มใสแบบนี้สิ หล่อขนาดนี้ ยิ้มให้ดูสองทีเป็นขวัญตาก่อนไม่ได้หรือไง เวลายิ้มนิด ๆ ยิ่งทำให้ประทับใจนะ ทำหน่อยเหอะน่า

จะหวงรอยยิ้มไปไหนครับ นิดเดียวไม่ได้หรือไง

“ติดตีดีติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด”

กำลังได้ฟิล แอบโยกหัวเล็กน้อย ซาบซึ้งกับบทเพลงที่ฟัง แล้วก็มีอันต้องหันไปมองคนที่ดึงหูฟังออก

อ้าว

ทำไมทำแบบนี้อ่ะ

ชอบอยู่เงียบ ๆ หรือไง อยู่ไปคนเดียวสิ แต่ทางนี้ไม่ชอบ เพราะฉะนั้นจะฟัง
เข้าใจเปล่า

นุชาดึงหูฟังกลับคืนและเริ่มการฟังเพลงอีกครั้ง

แต่ก็ถูกดึงหูฟังกลับคืน

อะไรของเขาวะ เนี่ย กำลังจีบอยู่ กำลังพยายามทำให้ยิ้ม
นอกจากไม่ยิ้มแล้วยังจะยิ่งทำหน้าบึ้งเข้าไปอีก อะไรมันจะเครียดได้ขนาดนั้น

“รำคาญ”

ก็รู้แล้วว่ารำคาญ ถ้าทำแล้วไม่รำคาญ จะทำไปทำไม ทำให้รำคาญ
เพื่อจะได้พูดคุยกันต่ออีกเล็กน้อยแค่นั้นแหละ

“อ้าว พูดได้ นึกว่าเป็นใบ้”

ได้ผลเว้ย จากหน้าบึ้งคราวนี้มีทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอด้วย เออมีพัฒนาการดีนะ

“รำคาญไม่นานหรอก เดี๋ยวก็ไม่อยู่ให้รำคาญแล้ว กำลังจะย้ายไปทำงานที่อื่น
เพราะฉะนั้นแล้ว ฉัน ฉัน ฉัน ก็เลยอยากเห็นเธอทุกวัน เช้า สายบ่ายค่ำ”

พูดแค่นั้น แล้วนุชาก็ดึงหูฟังกลับคืนมา

ร้องเพลงให้คนหน้าบึ้งฟังอีกรอบ แล้วก็ส่งยิ้มให้
ไม่นาน ไม่นาน
เดี๋ยวก็ไปแล้ว

ทนหน่อยน่า อยู่กันไปถึงไหนถึงกันไม่ได้ ก็อยู่ด้วยกันตอนนี้ไปก่อน

นะ นะ

เอ้า แล้วนั่นเป็นอะไรอีก

ยิ่งขมวดคิ้วเข้าไปใหญ่ ก็นี่ไง ก็จะได้ไม่มากวนประสาทอีก ไม่ดีใจเหรอ
ทำไมต้องทำตาค้างด้วย เป็นอะไร อย่าบอกนะว่าอาลัยอาวรณ์ ดีใจนะเนี่ย

“ดี”

เอ้อ ก็แค่เนี้ยะ

เซ็ง

นึกว่าจะอาลัยอาวรณ์บอกว่าอย่าไปเลยนะ

ที่ไหนได้ พูดซะ

ดูสิ กำลังใจถดถอยเลย ร้องไห้โชว์ซะดีมั้ง

“ดีอยู่แล้วแหละ เด็กติดอาม่า เด็กยังไงมันก็เด็กอยู่วันยังค่ำล่ะว๊า”

ไอ้ตี๋นี่มันมีปัญหาที่ช่องปากหรือไง
ทำไมถึงได้ปากหมา พูดจากวนตีนได้ตลอดเวลา

แม่งหาเรื่องกูได้ตลอด มายุ่งกะอาม่ากูแล้ว ยังจะมาพูดจากวนตีนอีก
ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจอาม่า ที่เอาแต่พูดถึงเรื่องมึงตลอดเวลา แถมยังชมอย่างนั้นอย่างนี้ล่ะก็ ได้เตะลงจากรถไปแล้ว ไม่ให้มาพูดจาพร่ำเพ้อแบบนี้ได้หรอก

ตั้งแต่มันหิ้วกระปุกหนมจีบขึ้นรถมาด้วยแล้ว

เอาของที่อาม่าทำมาด้วย แบบนี้หมายความว่าไง

ตีสนิทกับอาม่าจนได้ของมากินด้วย แค่ทุกวันนี้ ยังทำให้อาม่าพูดเรื่องมึงไม่พอหรือไง อยากย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านแล้วเป็นหลานอีกคนเลยมั๊ย

เอาเลยมั้ย

โคตรโล่งใจที่มันจะไม่อยู่ ทำไมไม่รีบไปตั้งแต่วันนี้เลยวะ

ถ้าไปวันนี้เลย จะได้รีบขับรถไปส่งถึงที่

มันจะได้ไม่ต้องกลับมาอีก ด่าไปก็ไม่รู้สึกยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้

“นิสัย”

หิอ...นิสัยอะไรอ่ะ นิสัยดีเหรอ

นิสัยดีล่ะสิ ถูกใจป่าวล่ะ ดีขนาดนี้

ถูกใจก็รีบ ๆ มาเป็นแฟนสิ จะได้ทำอะไรให้ถูกใจมากกว่านี้ไง
เดี๋ยวทำความดีทุกวันเลย ให้ทำอะไรก็จะทำนะเนี่ย ยอมตามใจทุกอย่างเลย

“อดทนคิดถึงผมหน่อยนะคุณซ้ง แล้วจะมาหาบ่อย ๆ อย่ากอดหมอนนอนร้องไห้แล้วเรียกหาแต่นุชา นุชาล่ะ เดี๋ยวคนเขารู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ยังไม่อยากเปิดตัวตอนนี้”

เป็นไงล่ะ อึ้งกิมกี่เลย หันมาทำตาขวางใสอีกรอบด้วย
โหหหหหหหหห เท่ห์จริง ๆ เลยเว้ยยยยยยยยย กระชากใจที่สุด

ขอเก็บใบหน้าบึ้งตึงของเธอไว้ในใจตลอดเวลาได้ป่าว

นุชาร่าเริ่ง กำลังยิ้ม ยิ้มจนตาหยี แล้วก็หัวเราะขำที่เห็นอีกฝ่ายทำอะไรไม่ได้
นอกจากทำท่าทางฮึดฮัดโมโหใส่

โกรธมาก ๆ โมโหมาก ๆ เดี๋ยวก็เส้นเลือดในสมองแตกตายหรอก

จะโกรธกันทำไม มารักกันเถอะน่า ได้ประโยชน์กว่าตั้งเยอะ

“คุณซ้ง อ่า เดี๋ยวแป๊บนึงนะ ใครโทรมาวะ”

เพราะอยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น นุชาก็เลยรีบหยิบขึ้นมาดู
เห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา แล้วก็ขมวดคิ้ว

กดวาง แล้วก็กดปิดเครื่องแบบทันทีทันใด

เงยหน้าขึ้นมามองน้องแรงบันดาลใจซ้งที่หันมามองเป็นระยะ ระยะ

สนใจล่ะสิ

อย่าสนใจเลยน่า เรื่องไร้สาระ ไม่มีอะไรหรอก

“มาจีบกันต่อ”

จากที่ทำคิ้วขมวดมุ่น พอเงยหน้าขึ้นมา นุชาก็ปั้นหน้ายิ้มอีกรอบแล้วก็พยายามจะหาเรื่องชวนคุย

“นี่นะคุณซ้ง ถ้าผมไม่อยู่นะคุณซ้งห้ามไปทำหน้าหล่อใส่ใครรู้เปล่า
เพราะถ้าคุณซ้งทำแบบนั้นผมต้องเสียใจมาก อีกอย่างนะ ต้องดูแลรักษาตัวเองดี ๆ อย่าไปทำหน้าโหดใส่ใครเขา แบบนั้นไม่ดีภาพพจน์เสียหมด”

ใครสนวะ

มึงพูดเองเออเองอยู่คนเดียว

“เฮ้ย เมื่อไหร่จะหุบปากมั่งเนี่ย พูดจาเพ้อเจ้ออยู่ได้น่ารำคาญ ผีเจาะปากมาพูดหรือไงวะ”

อ่า

นี่โกรธของจริงนี่หว่า ก็ได้ ก็ได้ จะหุบปากเดี๋ยวนี้แหละ

“จอดข้างทางก็ได้ครับ เดี๋ยวเดินต่อไปเอง”

เอ่ยบอกออกไป แล้วก็เตรียมตัวลงจากรถ เก็บโทรศัพท์เก็บหูฟังเรียบร้อย
แล้วก็หันมามองหน้าน้องแรงบันดาลใจซ้งอีกครั้ง

และสงสัยว่า ครั้งนี้จะได้มองเป็นครั้งสุดท้าย

ผมคิดไม่ซื่อกับคุณซ้งนะ คิดมาได้พักใหญ่แล้ว แล้วผมไม่ได้มาจีบอาม่าคุณซ้งด้วย อะไรทำให้เข้าใจผิดไปได้ขนาดนั้น ทั้งที่เวลามองหน้าคุณซ้งแล้วผมก็ทำตาเยิ้มใส่อยู่คนเดียว ไม่คิดว่าผมชอบคุณซ้งบ้างหรือไง

แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ

ก็

ไม่เป็นไรหรอก

“ฉันอยากเห็นเธอทุกวัน เช้าสาย บ่ายค่ำ”

ยังมีอารมณ์มาร้องเพลง ร้องแล้วก็หันไปยิ้มให้กับน้องแรงบันดาลใจซ้งอีกครั้ง

ถึงที่หมายแล้ว

ไปก่อนนะ

“ขนมจีบอร่อยมาก ฝากขอบคุณอาม่าด้วยนะครับ ดูแลตัวเองดี ๆ นะคุณซ้ง
เป็นห่วงจริง ๆ นี่พูดจากใจจริง ๆ ไม่ได้แกล้งล้อเล่นหรอก คราวนี้เชื่อได้”

นุชาหันมาเอ่ยบอกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถ


ลงมาแล้ว ก็มายืนสงบนิ่งและหันไปมองรถที่กำลังแล่นจากไปอย่างช้า ๆ โดยมีน้องแรงบันดาลใจซ้งเป็นคนขับ

โคตรเจ็บเลยว่ะ

มาไกลกว่าที่คิดเยอะเลย

จากมองอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ

ถึงตอนนี้ได้พูดได้บอกลาซะด้วย แบบนี้มันมาไกลจริง ๆ กว่าที่คิดเยอะ

ในขณะที่นุชากำลังนึกถึงเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้น

แต่ซ้งกำลังยิ้ม

โคตรโล่งใจเลย ไปซะได้ก็ดี จะได้ไม่ต้องหาทางไล่
ถ้าขืนไอ้ตี๋มันอยู่ต่อ อาม่าคงยิ่งรักยิ่งหลงมันมากกว่านี้แน่ ๆ
ดีนะที่จะได้ไม่ต้องเจอมันอีก

ไม่เจอมันอีก

คนเคยเจอกันบ่อยๆ ทะเลาะกันบ้าง หาเรื่องกันบ้าง แต่พอเวลาจะไม่ได้เจอ
มันก็รู้สึกใจหาย

ใจหาย

รู้สึกเหมือนใจหายยังไงชอบกล ดี ๆ ร้าย ๆ ก็ยังเห็นหน้ามันลอยไปลอยมาอยู่บ่อย ๆ งั้นถ้าไปสนามคราวนี้

คงไม่ต้องทนเห็นหน้ามันอีก

แบบนี้ก็โล่งใจสุด ๆ เลยว่ะ

โคตรจะโล่งใจเลย

แต่.....ทำไมในใจมันรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรมากด แล้วก็...ทำไมในอกมันรู้สึกหวิว ๆ ชอบกล

มันคงไม่เกี่ยวกับเรื่องไอ้ตี๋นุชาไม่อยู่หรอกมั๊ง เพราะถ้าใช่ คงจะหัวเราะแทบไม่ออกเลยล่ะ




TBC...

 


 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 15-09-2010 02:11:39

ตอนสุดท้ายของคืนนี้แล้วนะค่ะ เจอกันเมื่อคุณเท็นอัพอีกนะค่ะ ฝันดีนะค่ะ :bye2:


ตอน จะเอ่ยคำลาได้ยังไง




ชมรมนักวิ่งมากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
นับจำนวนสมาชิกแล้วก็ไม่ครบ

มันขาดใครไปหนึ่งคนหว่า

ไม่รวมอาตี๋ซ้งที่เป็นนักวิ่งผู้ไม่ประสงค์ออกนามในสมาคม
แล้วมันขาดไป

ขาดใครไปหนอ

“เอ อากิมทำไมสมาชิกเราไม่ครบ แบบนี้จะวิ่งยังไงล่ะ”

เพราะว่าเราไปไหนไปกัน
เราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน
และเพราะเป็นอย่างนั้น เมื่อนับจำนวนสมาชิกไม่ครบ ก็ต้องค้นหาตัวสมาชิกที่หายไป
วัยดึกเป็นไม้ใกล้ฝั่งกันขนาดนี้ จึงต้องคอยดูแลสมาชิกให้ดี ๆ
ถ้าขาดไปหนึ่งคน ต้องมีเหตุผลอันควร
เพราะป่วย
เพราะลูกหลานไม่พามา
เพราะมาไม่ได้
จะอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีเหตุผลมาชี้แจงกรณีมาไม่ได้

“อานุชายังม่ายมาเลย หรือว่าจะไม่สบาย หรือว่าขาอียังไม่หายเจ็บ”

อาม่ากิม ยืนมองหา แต่ก็ไร้วี่แววของนักวิ่งผู้เป็นขวัญใจมหาชน

อาซ้งไปส่งแค่วันเดียว ก็หายไปเลย แบบนี้มันน่าสงสัย หรือว่าไปทะเลาะกันระหว่างทางทำให้อาตี๋นุชาน้อยใจเสียใจ จนไม่มาวิ่งด้วยกันอีก

ต้องเรียกอาซ้งมาถามให้รู้เรื่อง

แล้วอาม่ากิม มองหาหลานชายที่ไปยืนอยู่ในระยะไกล และโบกไม้โบกมือให้ซ้งมาหาเพื่อจะถามให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“อาซ้ง ทำไมอานุชาไม่มา ไปทำอะไรให้อีร้องไห้เสียใจหรือเปล่า”

อ้าว

แล้วซ้งจะรู้เหรออาม่า ไอ้ตี๋มันไม่ได้บอกหรือไง ว่ามันจะไม่มาวิ่งอีกแล้ว
เพราะมันจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด

“โทรหาอานุชาให้อาม่าหน่อย ถามอีว่าเป็นอาราย สมาชิกคนอื่น ๆ เขาเป็นห่วง หรือว่าอีจะเจ็บขาจนมาไม่ไหว”

เจ็บขาอะไร มันไม่ได้เจ็บขาหรอก มันแค่จะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดเฉย ๆ

แล้วนี่มันอะไร อาม่ายื่นโทรศัพท์มาให้
......นุชา.....

โหหหหหหหห นี่แลกเบอร์มือถือกันเลยเหรอ ไปแลกกันตอนไหนวะ
ไอ้ตี๋นี่มันร้าย
มันฉวยจังหวะเผลอแลกเบอร์โทรศัพท์กับอาม่าเฉยเลย มันทำแบบนี้ได้ยังไงวะ
ต้องด่าให้หายแค้นแล้วแบบนี้ นี่กะว่าจะแอบโทรคุยกันเลยใช่มั้ย

เดี๋ยวมึงตายแน่ไอ้ตี๋นุชา

“อาม่าให้ซ้งโทรหามันใช่มั้ย เดี๋ยวซ้งตามให้เอง”

ตามให้เองของน้องแรงบันดาลใจซ้งคือการที่รับโทรศัพท์จากอาม่าแล้วเดินลิ่ว ๆ ออกมายืนห่าง ๆ เพื่อป้องกันคนอื่นได้ยิน โดยมีสายตาของอาม่าและเหล่าสมาชิกชมรมกำลังยืนลุ้นและมองมาเพราะอยากรู้คำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

โทรยากโทรเย็นจริงวะ ตั้งหลายวินาทีแล้วยังไม่เสือกรับสายอีก

มัวทำห่าอะไรอยู่ จะเล่นตัวไปถึงไหน

กดโทรออกครั้งที่หนึ่ง ไม่มีคนรับสาย กดโทรกระหน่ำซ้ำอีกครั้ง

คราวนี้ได้ยินเสียงเหมือนคนงัวเงียไม่ตื่นเต็มตาดังมาตามสาย

“เฮ้ย อั๊วเอง ไม่ได้บอกหรือไงว่าจะไม่มาแล้ว”

อั๊วเอง อั๊วไหนวะ นี่มันเบอร์อาม่ากิมชัด ๆ แล้วคนที่จะใช้เบอร์ของอาม่ากิมโทรมาได้
ก็มีอยู่คนเดียว คนที่ชอบทำหน้าบึ้ง แต่น่ารักกระชากใจ

น้องแรงบันดาลใจซ้งนั่นเอง

แล้วนุชาผู้อยู่ในอาการสะลึมสะลือก็ตื่นเต็มตา

แอบเผลอหลับไปช่วงบ่ายนิดเดียว แต่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์
ไม่อยากจะกดรับ แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของใครที่โทรมาก็เลยต้องรีบรับแทบไม่ทัน

นึกว่าอาม่ากิม ผู้มอบขนมจีบแสนอร่อยให้เป็นของขวัญซะอีก กำลังจะขอบคุณ
แต่ไม่ทันได้พูด เพราะเสียงของเจ้าของเบอร์ที่โทรมาไม่ใช่อาม่ากิม

แต่เป็นหลานชายอาม่ากิมที่แสนน่ารัก น้องแรงบันดาลใจซ้งนั่นเอง

“ไม่กล้าไปแล้วแหละ กลัวคุณซ้งถีบ เพราะว่าบอกว่าจะไม่ไปอีก จะไปทำงานที่ต่างจังหวัด ขืนไปก็ผิดคำพูดสิ”

ดูไอ้นุชามันตอบ

กลัวโดนถีบ แต่ไม่เกรงใจคนในชมรมเลย เห็นอาเจ็ค อากง อาม่า ที่เขารอเป็นอะไร
ไม่มีมารยาทไม่บอกลาซักคำ หัวคิดไม่มีเลยหรือไง หรือว่าคิดแค่มาวิ่งเล่นไปวัน ๆ แล้วก็ไม่สนใจว่าใครจะเป็นห่วงหรือคิดยังไง

“แล้วคนที่รอล่ะ”

เอ่อ คนที่รอ ก็คนที่รอ

“ก็ว่าจะบอกอยู่ แต่ยังไม่ทันได้บอก”

ตอบได้กวนตีนมากเลยนะมึง ถ้าคิดจะกวนตีนขนาดนั้นล่ะก็ เดี๋ยวจะไปลากมาเอง

“’งั้นลื้อก็รีบแต่งตัวเลย เดี๋ยวอั๊วจะไปรับตอนนี้เลย แค่นี้นะ”

โห เฮ้ย เอาจริงเด่ะ พวกเล่นแบบนี้เลยเหรอ ไม่มีการบอกกล่าวอารัมภบทเลยเหรอ
มันเล่นจะขับรถมารับกันตอนนี้เลยเหรอ

นุชาผู้อยู่ในอาการอ้าปากค้าง รีบลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบเร่งด่วน
ไม่ได้ ไม่ได้ น้องแรงบันดาลใจซ้งเป็นพวกตีนผี เหยียบคันเร่งทีสองที ก็มาจอดถึงหน้าบ้านได้แล้ว

ขืนช้า ได้โดนฆ่าตายแน่ ๆ
นุชารีบเร่งแต่งตัว แต่ซ้งกำลังโมโห แต่ก็พยายามปั้นหน้านิ่ง และเดินมาบอกเหล่าสมาชิกชมรม ที่ยืนชะเง้อชะแง้รอการมาของขวัญใจประชาชน

“นุชามันเผลอหลับไปครับ เลยยังไม่มา เดี๋ยวซ้งจะไปรับมันเอง”

บอกแค่นั้นแล้วก็คืนโทรศัพท์ให้อาม่ากิม ก่อนจะเดินลิ่ว ๆ ไปที่รถที่จอดอยู่ห่างออกไป

ไอ้นุชานะไอ้นุชา ทำให้อั๊วลำบาก เดี๋ยวเจอหน้าจะด่าซะหน่อย

อายุมากกว่าแล้วยังไง อายุมากกว่าแต่ไม่มีมารยาท เรื่องแค่นี้ต้องให้บอกต้องให้สอนหรือไง ไม่นึกถึงใจของคนแก่ที่รอตัวเองเลย อยากรู้นักว่าในหัวสมองกลวง ๆ ของมันคิดอะไรอยู่

เงียบเนอะ

อืม

เงียบจริง ๆ ด้วย

เงียบไปมั๊ย ต้องทำให้บรรยากาศเงียบ ๆ หายเงียบดีกว่ามั้ง ไม่งั้นจะยิ่งวังเวงเกินไป

“คือว่านะคุณซ้ง”

โอ้ เอ่อ แค่อ้าปากจะพูดนิดเดียวเอง

ทำไมต้องทำหน้าดุใส่กันขนาดนั้นด้วยล่ะ ก็สำนึกผิดแล้วนี่ไง
สำนึกผิดแล้วก็เลยจะไปขอโทษสมาชิกชมรมทุกคนแล้วนี่ไง

แล้วก็จะไปบอกว่าจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้วก็คงมาวิ่งด้วยไม่ได้แล้วนี่ไง

ก็นี่ไง กำลังจะไปบอกแล้ว ทำไมต้องโกรธถึงขนาดนั้นด้วย

น้องแรงบันดาลใจซ้งโคตรดุเลยว่ะ กลัวจริง ๆ นะเนี่ย

“คุณซ้ง นี่ผมมีสัญญาระหว่างเราด้วยนะ ว่าจะยอมทำตามทุกประการอ่ะ เขียนโดยคุณซ้งเองเลย อ่านหน่อยได้มั้ย ลูกผู้ชายคำไหนต้องคำนั้นไม่ใช่หรือไง”

ยังมีหน้ามาอ้างเอกสารสัญญา
สัญญาบ้าบออะไรไม่รู้ เขียนตอนเมา ใครจะไปบ้าทำตาม
ปัญญาอ่อนชัด ๆ
แล้วยังมีหน้าเอาสัญญาปัญญาอ่อนมาขู่อีก นี่สมองกลวงหรือยังไง
ในหัวมีแต่ขี้เลื่อยบรรจุไว้เต็มไปหมดใช่มั้ย จะได้ช่วยงัดแงะแคะมันออกมาบ้าง

“คุณซ้ง”

จะเรียกทำบ้าอะไร

“คุณซ้ง ขอโทษจริง ๆ นะคุณซ้ง ไม่ได้ตั้งใจ”

เก็บคำว่าไม่ได้ตั้งใจไว้ไปพูดกับสมาชิกชมรมดีกว่ามั้ง

“มีอะไรจะแก้ตัวอีกมั้ย”

โห แบบนี้คงไม่มีแล้วล่ะ หน้าดุ ๆ กลายเป็นหน้านิ่งๆ แล้ว
ยอมแพ้แล้วก็ได้ จะฆ่าจะแกงอะไรยังไงก็เชิญเลยครับ ผมยอมรับผิดทุกประการแล้วจริง ๆ

“ไม่มีแล้วครับ ขอโทษครับคุณซ้ง”

หน้าจ๋อย ๆ ของนุชา ที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง มันทำให้คนที่กำลังโมโหหายโมโหไปมากกว่าครึ่ง เหมือนจะสำนึกบ้างแล้วนะนั่น ก็ยังดีกว่ามันไม่คิดอะไรเลย

ตอนเดินออกมาก็เห็นขากระเผลก ๆ

ถ้าวิ่งก็คงไม่ไหว

ตอนที่มานั่งอยู่ในรถ ก็พูดอยู่ได้ พูดไม่ยอมหยุด พูดไปพูดมา สุดท้ายก็ยอมรับผิดจนได้ ยอมรับผิดตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง คงไม่โมโหมากขนาดนี้

แล้วไอ้หน้าจ๋อย ๆ เจื่อน ๆ นั่นอีก

มันก็น่าเห็นใจอยู่หรอก แต่แค่นิดเดียวเท่านั้น เพราะคนไม่รู้จักมารยาทและไม่รู้จักเห็นใจคนที่คอย ก็สมควรต้องโดนด่าแบบนี้

“ก็ไม่นึกว่าอากงอาม่าเขาจะเห็นว่าเราสำคัญ นึกว่าเขาเห็นว่าวิ่งคนเดียวไม่มีเพื่อนก็เลยให้มาวิ่งด้วย”

ถ้าลื้อรู้ว่า สมาชิกชมรมเขานึกถึงลื้อมากขนาดไหน คงไม่คิดแบบนี้หรอก

ดูอาม่าอั๊วเป็นตัวอย่าง ทั้งรักทั้งหลง พูดถึงแต่อานุชา อานุชาไม่ขาดปาก
แล้วไหนจะคนอื่น ๆ อีก อยากรู้จริงๆ ว่าไอ้ตี๋นุชา มันไปโปรยเสน่ห์อะไรใส่คนแก่นักหนา ถึงได้ทั้งรักทั้งหลงกันขนาดนั้น

“แล้วก็คุณซ้งเองก็ไม่ค่อยชอบหน้าด้วย หายไปแบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณซ้งไม่ต้องปวดหัว”

เออรู้ตัวก็ดีแล้ว

อั๊วไม่ชอบลื้อ

แต่แย่หน่อยที่เพื่อน ๆ อาม่าอั๊วรวมทั้งอาม่าอั๊วด้วย ดันชอบลื้อขนาดหนัก

ก็เลยต้องถ่อมารับให้ไปที่สนามนี่ไง ไม่งั้นอย่านึกอย่าฝันว่าคนอย่างอั๊วจะมารับลื้อได้

“ถึงแล้ว มีอะไรจะพูดก็ไปพูดเองแล้วกัน”

เออนะ บอกแล้วว่าคุณซ้งเป็นพวกตีนผี

เหยียบซะขนาดนี้ ห้านาทีก็ถึงแล้ว

รถจอดสนิท และนุชาก็เดินลงจากรถ
ที่จริงยังเจ็บขา แต่เพราะกลัวว่าจะถูกถามด้วยความเป็นห่วง ก็เลยต้องแข็งใจเดินให้ตรงทาง กลัวจะถูกตั้งคำถาม ว่าทำไมไม่หายซะที

“สวัสดีครับ มาช้าไปหน่อย เผลอหลับไปครับ”

มาถึงก็ยกมือไหว้รอบทิศ และยิ้มแหย ๆ เมื่อเห็นว่ามีคนรออยู่จริงๆ

อากง อาม่า อาเจ๊ก อาเจ๊ และอาม่ากิม ที่ยกมือรับไหว้และเอ่ยถามไม่ขาดปาก

“อานุชายังเจ็บขาอยู่เลย ไม่ต้องวิ่งก็ล่ายม้างงงง”

“อารายว๊า ยาที่ให้ทามันไม่ได้ผลเลยหรือไง ทำไมไม่หายดีซะที เป็น ๆ หาย ๆ อยู่เรื่อยเลย”

“สงสัยเมื่อคืนหนักไปหน่อย เลยไม่อยากตื่นช่ายม้ายล่า”

โห

จะไปแบบไม่บอกกล่าว

คิดแค่นั้นเอง

แต่พอมาโดนถามแบบนี้ จะให้เอ่ยปากบอกยังไงว่าต่อไปคงจะไม่ได้มาอีกแล้ว

หันไปมองหน้าน้องแรงบันดาลใจซ้ง ที่มองมาเหมือนเร่งให้พูด
แต่เจอแบบนี้ใครจะพูดออก
จะพูดยังไง จะบอกออกไปได้ยังไง ที่นุชาทำได้ก็แค่กระพริบตาปริบ ๆ สองสามทีและต้องจำใจวอร์มร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการวิ่ง

หันไปมองน้องแรงบันดาลใจซ้งที่นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังพร้อมซ้ำเติมอยู่ทุกนาทีก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

แบบนี้จะให้ทำยังไง

ความผิดของใคร มันก็ของคุณซ้งทั้งนั้น ถ้าไม่เพราะคุณซ้งใครมันจะทำเรื่องขอย้ายวะ

นุชาเดินไปหาคนที่ยืนกอดอกทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้สึกรู้สา แล้วก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ ช่วยไม่ได้นะ อยากใจร้ายใจดำกับเราเอง

“ผมจะบอกว่า ที่ผมต้องไปเพราะถูกคุณซ้งกดดัน ไม่อยากไปเลยสักนิดแต่ต้องจำใจจากไปแบบนี้คุณซ้งว่าเข้าท่ามั้ย”


ได้ผล จากทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ คราวนี้ซ้งรีบหันมามองคนที่ยืนยิ้มแบบมีเลศนัยเต็มตา

ไอ้ตี๋นุชา

ลื้อนี่มัน ลื้อนี่มัน
ลื้อนี่มันตัวอันตรายชัด ๆ
ทำแบบนี้ได้ยังไง ลื้อทำแบบนี้ไม่ได้นะ อาม่ากิมเล่นงานอั๊วตายแน่

กำลังจะพูด กำลังจะด่า แต่นุชาเดินอมยิ้มและจากไปแล้ว เพื่อเข้าไปวิ่งประจำที่ในตำแหน่งท้ายสุดของแถวนักวิ่งวัยดึก

โดยมีน้องแรงบันดาลใจซ้งมองมาเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ
และกำลังยืนทำท่าฮิดฮัดโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้

หน้าตอนโกรธนี่โดนใจชะมัด หล่อแบบดุ ๆ

ดุซะขนาดนี้ เอาใจไปเลยมั้ยครับ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งคนดีผู้เป็นเบอร์หนึ่งในหัวใจตลอดกาล



TBC...

 


ขอโทษด้วยนะค่ะทุกคน ที่แนนเลือกใช้สีตัวอักษรที่อ่านแล้วทำให้ไม่สบายตา แต่แนนคิดว่าการที่แนนเลือกสีมาใช้ มันเป็นวิธีการโพสแบบของแนน ถ้าไม่สะดวกก็ลองคลิ๊กขวาคลุมดำอ่านหรือไม่ก็คัดลอกไปใส่เวิร์ดอ่านเอานะค่ะ

เพราะแนนคงไม่เปลี่ยนวิธีการโพสของแนน ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะค่ะ
 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 15-09-2010 09:26:47
มาแล้วววววววววววววววววววววววววววว  :mc4: :mc4: ให้รอซะนานเลย~
คุณซ้งปากแข็งงงงงงงงงงงงงง
อาตี๋นุชาจะไม่อยู่แล้วนะ เชอะๆ
เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวสุดท้ายจะกลายเป็นฝ่ายตามหาซะเอง

+1 ให้นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 15-09-2010 11:35:31


:mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple๐Meow ที่ 15-09-2010 13:03:31
เป็นกำลังใจให้เสมอจ้า ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: kp ที่ 15-09-2010 13:23:04
เย้ๆๆ ในที่สุดก็ได้อ่าน น้องซ้งหน้าบูด
คนอาร๊าย หล่อแต่ชอบทำหน้าบูด
อย่างนี้เฮียนุชาก็ใจแป้วได้เหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Wr@iTh ที่ 15-09-2010 17:28:37
มาแล้วๆๆๆ :mc4:
ซ่งนี่ปากแข็งหรือเซ่อจนไม่รู้หว่า... :m16:
ก็จีบออกจะโจ่งแจ้งขนาดนี้แล้วน้าา :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 15-09-2010 19:26:27
ซื่อบื้อว่ะ สงสารนุชานะ
 :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-09-2010 20:40:35
 :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 15-09-2010 21:25:34
สงสารนุชานะ.. คุณซ้งชอบดุอ่ะ..
ต่อไปเค้าไม่อยู่แล้วจะคิดถึงนะ..
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: MM.Dog ที่ 15-09-2010 22:05:51
อ่ะ!  มาแร้วววววววววววววว
ดีใจจังค่ะ  ที่ได้อ่านเรื่องนี้ต่อ
สารภาพตามตรงว่าคอยแอบเข้ามาสอดส่องอยู่เรื่อย ๆ
แล้วก็แอบกลัวว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Abracadabra ที่ 15-09-2010 23:09:43
ไม่มีอะไรครับ
แอบมากอด   :กอด1: พี่แนน คิดถึง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 16-09-2010 19:35:20
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 16-09-2010 23:28:42
เห็นชื่อคนแต่งก็รีบเข้ามาอ่านแล้ว  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 17-09-2010 10:34:20
เดี๋ยว ๆ ไปจริง ๆ แล้วจะหนาว เมื่อไหร่จะรู้ตัวว่าเขาไม่ได้สนใจอาม่า เขาสนใจซ้ง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 21-09-2010 22:15:58
หยา!!!
ทำเรื่องย้ายเลยเหรอ นุชา??

ตี๋ซ้งความรู้สึกช้าชะมัด... อาการหงุดหงิดไม่เข้าเรื่องน่ะ เพราะว่าคิดว่านุชาไม่สนใจมากกว่า ...อิจฉาที่นุชาสนใจอาม่ากิมมากกว่าอะดิ 55+

อ่านแล้วอินจริง-จริ๊งงงง >w< /ดิ้นๆ

คุณแนน!!! ...ในที่สุด
ทำงานหนักก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ :)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 13-11-2010 23:11:03
เห็นชื่อคุณเท็นเลยรีบเข้ามาอ่าน น่ารัก ฮาๆ เหมือนเคย และก็ต้องรอเหมือนเคยเช่นกัน

มีตอนใหม่แล้ว คุณแนนอย่าลืมเข้ามาโพสนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-11-2010 22:48:39
คิดถึงนุชากะซ้งอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 22-11-2010 00:04:52
ซ้งใจร่มๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 20-01-2011 16:22:52
+1 ให้คุณแนน และ คุณซ้ง  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 20-01-2011 20:42:08
อ่า..รอตี๋นุชา
อาตี๋น่าร้ากกกกกก
อยากจะกดไลค์ๆๆๆ ให้ตี๋ทุกวันเลย
+1พี่แนนคร้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 23-01-2011 13:42:06
อาตี๋นุชา


อย่าย้ายเลย

เด๋วอาซ้งอีเหงาแย่นา



ชอบอาตี๋มากกกกกกกกกกกกก

นอนรอคุณเท็นด้วยความคิดถึง

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 05-02-2011 11:45:56
อ่านกี่รอบก็ยังน่ารัก
แต่จะน่ารักกว่านี้ถ้าได้อ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 05-02-2011 18:59:17
ไม่อยากให้ตี๋นุชาย้ายไปไหนเลยอ่าาาาา
คุณซ้งรีบห้ามอาตี๋นุชาเลยนะ รีบรู้ใจตัวเองได้แล้วคุณซ้ง
กำลังจะเสียอาตี๋นุชาไปอยู่แล้วนะ
อ่าาาาาาาาาา อยากอ่านตอนต่อไปจังเลยค่าาาาาา
คุณเท็นยังไม่อัพอีกหรือเนี่ย แง้้ๆๆ เรื่องนี้สนุกอ่ะ ชอบๆๆ
รอคุณเท็นและคุณแนนค่า~
คุณเท็น COME BACK !!! Pleaseๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 12-03-2011 01:10:21
ยังจะมีคนอ่านคิดถึงเรื่องนี้กันอยู่มั้ยค่ะ  :m22:


ตอน หมาป่าน้อยหมวกแดง



“นุชา”

เสียงของท่านช่างคุ้นหูของเราเสียนี่กระไร

ในเวลาตีสองโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่ระบุชื่อเอาไว้ ทำให้นึกโมโห
เสียงโทรศัพท์ดังซ้ำ ๆ อยู่หลายรอบ
อยากจะด่าจริง ๆ ว่าใครกันวะที่โทรมาไม่รู้จักเวล่ำเวลาไม่มีมารยาทเอาซะเลย

“สวัสดีครับ จากไหนครับ”

เสียงที่กรอกมาตามสาย บ่งบอกให้รู้ว่าคนที่รับโทรศัพท์กำลังนอนหลับและงัวเงียตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ในกลางดึก

จากไหน จากไหนเหรอ จะให้จากไหนล่ะ มันทำบ้าอะไรของมันวะ
แค่นี้ทำเป็นจำเสียงไม่ได้ว่าใคร

“อั๊วเอง”

อั๊วไหน อั๊วอะไร ที่ไหนอย่างไร ไม่รู้จักจริง ๆ ว่าอั๊วไหน

“อ๋อ ลื้อเองเหรอ โทรหาอั๊วถูกได้ยังไงอ่ะ เก่งจริง ๆ ”

ตามน้ำไปซะอย่างนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่โทรหาเป็นใคร แต่เพราะเจอคำว่าอั๊วเองเข้าไป ก็เลยต้องจำใจ เนียน ๆ คุยต่อ บ้าหรือเปล่าวะ โทรมาบอกว่าอั๊วเอง
อั๊วมีเป็นพันล้านคนอั๊ว กูจะไปรู้ได้ยังไงว่าอั๊วไหน ประสาทชัด ๆ

ใครจะไปรู้ว่าอั๊วที่ว่าเป็นใคร ทำไมไม่บอกชื่อบอกนาม แม่ง

“จะย้ายไปทำงานที่ชลบุรีเมื่อไหร่”

เอ่อ

กูไปบอกใครตอนไหนวะ ว่าจะไปอยู่ชลบุรี ไม่เห็นมีใครรู้เลย มีแต่กูนี่แหละที่รู้ อ่อออ นึกออกแล้วมีอีกคนที่รู้

“คุณซ้งงงงงงงงงงง”

ลุกพรวดพราดขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว และก็มีอันยิ้มแก้มปริแก้มป่องในกลางดึก

“จำได้ด้วยเหรอว่าจะไปอยู่ชลบุรี สนใจเค้าล่ะซี่ ฮี่ ฮี่”

กวนประสาทกันเข้าไป

แล้วผู้ที่โทรมาในเวลากลางดึกก็มีอันต้องเบะหน้า เพราะคิดว่าไอ้ตี๋หน้ามึนช่างเป็นพวกสติแตกและพูดจาเพ้อเจ้อเสียจริง

“มึงจะไปเมื่อไหร่ ชลบุรีอ่ะ”

โหหหหหหหหหหห มุกไม่เคยรับ แถมยังด่าซะอีก เดี๋ยวนี้ขึ้นมึงขึ้นกูเลยเหรอ นี่ถ้าไม่รักนะ จะด่าซะให้หายหน้าหงิกเลยน้องแรงบันดาลใจซ้ง

“ก็เนี่ยอยู่ชลบุรี ทำไมอ่ะ จะมารับเหรอ”

กวนประสาทได้อีก ลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็อมยิ้มเล็ก ๆ เพราะนึกออกว่าหน้าน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าหงิกในเวลาดึกดื่นป่านนี้ จะมีสภาพยังไง

“กวนตีนนะมึง”

ครับ ขอบคุณสำหรับคำชม ไม่ใช่คุณซ้งไม่ให้ด่าฟรีได้ขนาดนี้ สะใจคุณแล้วซิที่ด่าเราได้ เราขอเป็นกำลังใจให้คุณ ในการคิดคำด่าใหม่ ๆ มานำเสนอ

เวลาอยู่ต่อหน้าอาม่า เรียกว่านุชา แล้วแทนตัวว่าอั๊ว

แต่เวลาคุยกันสองคน

กูกะมึงซะงั้น เราสนิทกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย

ซึ้งเหลือเกิน

“กวนตีนเหมือนมึงแหละ”

อ้าว ไอ้นุชา ไอ้..... ปากแบบนี้ วอนตายชัด ๆ

“ถามดี ๆ อย่าเสือกตอบปัญญาอ่อน”

ปัญญาอ่อนตรงไหนวะ ถ้ากูปัญญาอ่อน มึงก็บ้าแหละวะ รู้มั๊ยว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ก็เพราะกูปัญญาอ่อนนี่ไง ถึงได้ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์มึงกลางดึกนี่ไงล่ะ ไอ้คุณน้องแรงบันดาลใจ ไอ้คุณซ้ง

“เสียใจมากนะ ด่ากันขนาดนี้ ไม่อยากคุยด้วยแล้ว”

แกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อย แล้วก็หัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงกำลังโมโหจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง

ล้อเล่นนิดเดียวทำเป็นโมโห
ทีพูดล่ะไม่คิด ทีอย่างนี้ล่ะมาทำเป็นโมโห

แล้วไปได้เบอร์มาจากไหนล่ะเนี่ย ถึงโทรมาดึกดื่นป่านนี้ ดีล่ะ เราต้องจัดการเมมเบอร์ของท่านเอาไว้ เวลาเหงา ๆ เราจะโทรหา และจีบท่านไปในตัว
เผื่อท่านจะใจอ่อน เลิกด่าว่าเราเสียที โอเคนะคุณซ้ง

ไม่ถาม ไม่รอเอาคำตอบ แล้วนุชาก็คิดชื่อเอาไว้ในใจ ว่าจะตั้งชื่อของน้องแรงบันดาลใจซ้งยังไง


“สรุปว่ายังไงคุณซ้ง โทรมาดึกขนาดนี้ คงไม่ได้โทรมาด่าแล้วก็วางหรอกมั๊ง
สรุปคือว่าให้ผมทำอะไรคุณซ้ง”

เลิกเล่นและเป็นงานเป็นการ

นั่งหน้าเครียดแล้วก็พยายามตั้งใจฟัง ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดต่อจากนี้คืออะไร

“อย่าบอกทุกคนว่าลื้อจะไม่มาวิ่งอีกแล้ว ลื้อต้องมาวิ่งที่สนามเย็นวันศุกร์ เสาร์ แล้วก็อาทิตย์ รวมทั้งวันนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดอื่น ๆ ด้วย”

อ้าว

นี่กะจะไม่ให้กูมีวันหยุดเลยหรือไง อยู่ไกลถึงนี่
ทีเมื่อก่อนล่ะ ไม่ยอมให้มา ทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้มา แล้วพอไม่มาจริงๆ
ก็ดั้นนนนนนนนนน จะให้มาซะอีก คุณซ้งนี่เป็นพวกเอาใจยากจริง ๆ

จะให้ไปวิ่งที่สนามในวันหยุด แล้วถ้าสัปดาห์ไหนไม่ได้กลับไปล่ะ จะทำยังไง

คุณซ้งนี่แม่งเอาแต่ใจได้อีกนะ เหลือเชื่อเลยว่ะ เล่นสั่งกันขนาดนี้เลยเหรอ
เห็นกูเป็นอะไรวะเนี่ย นึกจะมาออกคำสั่งมาบงการชีวิตขนาดไหน ก็ทำได้

เคยเห็นใจกันบ้างมั๊ยเนี่ย

“อ๋อออออออออ เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเลยคุณซ้ง อยากเห็นหน้าคุณซ้งจะตายไป
คิดถึงมากด้วย ใครไม่ไปวิ่งก็บ้าแล้ว เดี๋ยวเกิดคุณซ้งไปจีบอาเจ๊ที่ไหนเข้า
งี้ผมก็หัวใจสลายกันพอดี”

ก็ตอบไปตามที่หัวใจคิด ตอบไปตามหัวใจร่ำร้อง ไม่ผิดใช่มั๊ย
ที่ฉันมีความจริงจังและจริงใจกับเธอมากถึงขนาดนี้


“เออ ดี ว่าง่าย ๆ แบบนี้แหละดี อั๊วจะได้ไปนอนซะที”

อ้าว

ได้อย่างใจแล้วก็เลยจะไปนอนซะงั้น แล้วกูที่ลุกขึ้นมาฟังแล้วนั่งตาใสอยู่นี่จะทำยังไงวะ ไม่สนใจกันเลยเหรอ สนใจกันหน่อยสิครับ น้องแรงบันดาลใจซ้ง ไม่รักไม่ชอบ ใส่ใจกันหน่อยก็ยังดี

“คุณซ้งมีแฟนยัง”

หลุดปากถามออกไป เพราะความอยากรู้ อยากชวนคุย แล้วก็ได้ยินเหมือนเสียงของหล่นดังโครมคราม

ถามแค่นี้ ทำไมต้องขว้างปาสิ่งของประชดกันด้วย
ไม่พอใจกันขนาดนี้ทำไมไม่บอกกันตรง ๆ

“ถามอะไรวะ ปัญญาอ่อน”

เอ้า

คำก็ปัญญาอ่อน สองคำก็ปัญญาอ่อน เอ้อ ด่าได้คำเดียวเหรอเนี่ย
เจ็บมั๊ย ด่าแล้วเจ็บมั๊ย ด่าแล้วผมสำนึกหรือไงครับ น้องแรงบันดาลใจซ้ง

“ไม่ใช่อะไร ถ้ายังไม่มี จะได้จีบไง คนอะไรหน้าหงิกหน้างอ โคตรเท่ห์เลย ถูกใจสุด ๆ จีบได้ป่าว”

พูดเสร็จนุชาก็หัวเราะ หัวเราะเสียงดังลั่นด้วยความพอใจ

แล้วก็ได้ยินของหล่นอีกหลายอย่าง ดังสนั่นโครมคราม

โหหหหหหหหห จะขว้างปาสิ่งของด้วยความไม่พอใจไปถึงไหน

ถามแค่นี้ ทำเป็นโมโห โมโหมาก ๆเดี๋ยวเส้นเลือดในสมองก็แตกตายกันพอดี

นุชานั่งหัวเราะแล้วก็อมยิ้มกับสิ่งที่ได้ฟัง รู้สึกสนุก ที่ทำให้ซ้งประสาทกลับในยามดึกได้

แต่ซ้งถึงกับกำโทรศัพท์แน่นและกัดฟันกรอด ๆ
กำลังเก็บปากกาดินสอลงกล่อง ก็มีอันทำหล่นกระจัดกระจายเพราะตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
ตอบคำถามไม่ถูกได้แต่ทำหน้าหงิกด้วยความไม่พอใจกับคำถามที่ได้รับ

แล้วก็นึกโมโหเสียงหัวเราะแว่ว ๆ อย่างสะใจนั่นด้วย จะหัวเราะทำห่าอะไรวะ ขำตรงไหน

อั๊วไม่มีแฟนแล้วผิดหรือไง เอาเวลาที่ไหนไปมี แฟนที่ว่ามีแล้วไม่เห็นจะมีประโยชน์ แล้วจะมีไปทำไม ถามแต่คำถามไร้สาระเพ้อเจ้อ ไอ้นุชาหน้ามึนมันถามเรื่องบ้าบอคอแตกแบบนี้ได้ยังไง

“แค่นี้นะคุณซ้งนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นไปทำงาน”

หมดเวลาพูดคุย แกล้งแหย่ให้อีกฝ่ายโมโหหงุดหงิดจนพอใจ
แล้วนุชาก็ต้องบอกตัวเองว่าให้หยุดได้แล้ว เพราะขืนเล่นไปมากกว่านี้
จะกลายเป็นว่า ตัวเองนั่นแหละที่จะหยุดคุยไม่ได้

แล้วจะไปสร้างความน่ารำคาญให้คุณซ้งจนไม่อยากจะพูดจาด้วยอีก

ยิ่งชอบโมโหโวยวายใส่อยู่ด้วย

แค่นี้คุณซ้งก็เกลียดจะตายแล้ว ขืนกวนประสาทแล้วก็แกล้งล้อเล่นไปมากกว่านี้ คงยิ่งโดนเกลียดมากขึ้นไปใหญ่

เป็นฝ่ายกดวางสายแล้วก็อมยิ้มเล็ก ๆ ในความมืด เมื่อวางโทรศัพท์ไว้ข้างหมอนแล้วก็ล้มตัวลงนอน

มีสายเรียกเข้ามาอีกครั้ง

และคราวนี้นุชาก็เป็นฝ่ายหัวเราะออกมา เมื่อนึกได้ว่าคนที่โทรกลับมาน่าจะเป็นใคร
สงสัยโมโหมากที่โดนวางสายใส่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วจากหน้ายิ้ม ๆ ก็กลายเป็นใบหน้าเรียบเฉยขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าสายที่เรียกเข้ามาในเวลากลางดึกคือใคร

วางโทรศัพท์เอาไว้ข้างตัว แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

หลับตาลงแล้วยกหลังมือขึ้นก่ายหน้าผาก หัวคิ้วขมวดมุ่น

ก่อนจะค่อยหรี่ตาขึ้นในความมืดอีกครั้ง

และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูที่หน้าจอและค้นหาหมายเลขที่โทรเข้ามา
อมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่โทรมาหา

เบอร์นี้นะ เบอร์คุณซ้ง

ถ้าใส่ชื่อคุณซ้งไปเลย ก็คงเป็นการครีเอทไม่พอ เหมือนไม่ให้เกียรติกัน

ต้องใส่ชื่อที่เหมาะสมกับคุณซ้ง

“หมาป่าน้อยหมวกแดง”

เอ้อ ชื่อนี้แหละมันเหมาะสมที่สุด

คนอะไรใสซื่อซะจริง แต่ก็ยังดูดุแล้วก็โหดร้ายไปในตัว เดี๋ยวก็ขู่ เดี๋ยวก็ดุแต่เดี๋ยวซักพักก็เหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ หน้าใส ๆ ตาหยี ๆ แล้วก็หน้าหงิก ๆ งอ พูดจาติด ๆ ขัด ๆ เวลาไม่ได้อย่างใจ เวลาโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ขู่แล้วก็หาทางแกล้งด้วยวิธีแบบเด็ก ๆ ทุกวิถีทาง

ชอบชื่อนี้มั๊ยล่ะคุณซ้ง

อุตส่าห์ตั้งให้เลยนะ ดีใจมากล่ะสิ ถ้าดีใจแล้วก็ชอบใจขนาดนั้น

ก็มาเป็นแฟนกันเห้ออออออออ

เฮ่ออออออออ

พูดเหมือนเล่นแต่อยากให้เป็นจริง แต่ก็เท่านั้น สงสัยคงต้องรอชาติหน้าตอนบ่าย ๆ ถึงมีทางเป็นไปได้ แค่เวลานี้คุณซ้งไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ ก็น่าจะดีใจแล้ว

นุชาอมยิ้มกับชื่อใหม่ที่บันทึกเข้าไปในโทรศัพท์มือถือ แล้วก็นอนอมยิ้มทั้งคืน

หมาป่าน้อยหมวกแดง
หม่าป้าน้อยหมวกแดง

คุณซ้งหมาป่าน้อย จะดุไปถึงไหนกัน ดุมาก ๆ ยิ่งน่ารักมาก น่ารักมากขนาดนั้นเดี๋ยวก็รักตายกันพอดี


TBC...

 


คิดถึงจัง ไม่ได้แวะเข้ามานาน แต่ไม่รู้จะทักใคร :o11:
ขอบคุณนะคะที่แวะเวียนเข้ามาดูกัน พอมานั่งอ่านคอมเม้นท์แล้วดีใจ
ที่ทุกคนยังรออ่านเรื่องของคุณเท็นต่อ เรื่องอาจจะช้าหน่อยนะคะ
ขึ้นอยู่กับที่คุณเท็นอัพตามความสะดวกของคุณเท็น
รอกันนิดนึงนะคะ

กว่าจะหาเรื่องเจอตกไปอยู่หน้าท้ายๆเลย T^T

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † จะเอ่ยคำลาได้ยังไง † อัพ 3 ตอน o(>_<)o~> [15/09/10]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 12-03-2011 01:15:12
ไม่มีอะไรครับ
แอบมากอด   :กอด1: พี่แนน คิดถึง

 :กอด1:น้องเอ็ม
ขอบคุณที่คิดถึงจ้า
ยังมีคนจำแนนได้อีก
นึกว่าถูกลืมไปแล้ว
ไม่ได้คุยกันเลยเนอะ
ไม่ได้เข้ามานานมากกก
มีอะไรก็ทักได้นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 12-03-2011 01:40:45
คิดถึงจัง ในที่สุด นุชา ก็มา
 หมาป่าน้อยหมวกแดง ชื่อ น่ารักแบ๊ว มาก ห้าๆ
กด + ให้เลยจ้า
 o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Me_kame_nishi ที่ 12-03-2011 05:26:08
ชื่อเข้ากันเข้ากัน 555 หมาป่าน้อยหมวกแดง
ว่าแต่เมื่อไรนายพรานจะล่าได้ละนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 12-03-2011 09:45:18
 :-[ คิดถึงคุณซ้งกับนุชาม้ากกกกกกก ว่าแต่ไอ้สายหลังนี่มันใครอ่ะคะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 12-03-2011 11:03:02
ยังคิดถึงน้องแรงบันดาลใจกับนุชาเหมือนเดิมค่ะ
"หมาป่าน้อยหมวกแดง" น่าร้ากกกก  :impress2:

+1 ค่ะคุณแนน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 12-03-2011 12:02:55
หายไปนานเลยครับ
ดีใจที่มาต่อนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Ygirl ที่ 12-03-2011 13:23:47
รอคอนเธอมาแสนนานนนน 55+
คิดถึง คุณซ้ง นุชา
หมาป่าน้อยหมวกแดง น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 12-03-2011 14:52:07

 :mc4:

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ในที่สุดคุณเท็นก็ใจอ่อนแล้ว
คิดถึงน้องแรงบันดาลใจของนุชามากมายก่ายกองค่า

อ่านแล้วแอบสงสารนุชานิดๆ
ประมาณว่าพี่แกไม่ได้รับการเหลียวแลจากน้องซ้งเท่าไหร่ เหอะๆๆ

นอนรอตอนต่อไปของเรื่องนี้ และเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-03-2011 15:01:02
รออยู่นานแล้วนะครับ


ดีใจที่มาต่ออีกครั้ง :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Sornpattra ที่ 12-03-2011 16:39:44
ชอบค่ะ แต่พักหลังคุณเท็น
เหมือนจะเบื่อๆ แต่งนิยาย ยังไงก็ไม่รู้นะ
แนวการเขียนของคุณ เท็นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กี่เรื่อง กี่เรื่อง ก็น่ารัก มาก
ขอบคุณ คนโพสต์มาก มากจ้ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 12-03-2011 19:00:48
อร๊ายยยย คุณซ้งกับตี๋นุชากลับมาแล้ว
คุณซ้งนี่น่ารักจริงๆส่วนตี๋นุชาก็กวนตีนไม่เลิก 55+
ว่าแต่ตี๋นุชานี่มีความหลังอะไรรึปล่าวเนี่ย
อย่าเครียดนะคะ เดี๋ยวคุณซ้งไม่รักนะ  :laugh:
ขอบคุณคุณแนนนะเจ้าค๊า และ ยินดีต้อนรับคุณเท็นกลับมาค่า~
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 12-03-2011 20:44:36
มาแล้ววววววววววววววววววววววววววววว
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กระโดดต้นระบำรอบบ้าน 3 รอบ
หมาป่าน้อยหมวกแดง น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-03-2011 21:39:35
ขอบคุณคุณแนนมากเลยครับ

ตอนนี้น่ารักมากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 12-03-2011 22:02:35
คิดถึงมากมาย.. :L2:
ยังน่ารักเหมือนเดิม.. :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 12-03-2011 22:12:09
ในที่สุดก็ได้อ่านสมใจ รอมาตั้งนาน
ลุ้นให้รักกันซะที
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 12-03-2011 23:00:02
อ๊ากกกก..
นุชา กะ คุณซ้ง มาแล้วววว
ยังสนุก+น่ารักเหมือนเดิม
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 12-03-2011 23:35:13
เย้ๆๆ ได้อ่านต่อแล้ว :mc4:
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่านุชานี่..บ้าเนอะ :m20:
ปล คนที่โทรมาแล้วไม่รับนี่ใคร? ถึงทำให้นุชาเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนั้น
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 13-03-2011 01:16:19
มากอดด้วยคน // กอดแบบแน่นๆ
คิดถึงคุณซังกับ อาตี๋นุชา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 13-03-2011 08:44:12
ไอ้คุณหวานใจนายซ้ง มันพังห้องตัวเองไปกี่รอบแล้วหล่ะ
นุชาก็น๊า อยู่ด้วยกันเห็นหน้าได้แต่ยิ้มหวาน พอโทรคุยแค่นั้น...ทำเอาคนอ่านยิ้มไปเขินไปด้วยเลย
สนุกมาก มาต่อนะคุณเท็น รออยู่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 13-03-2011 12:10:11
อาซ้งงงง อานุชา


อั๊วคิดถึงงงง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: MM.Dog ที่ 14-03-2011 22:08:20
โอ้...แม่เจ้า!!!!!!!!!!

หายไปนาน  ในที่สุดก็กลับมาแล้ว
คิดถึงมากมายค่ะ

อ่านตอนนี้แล้วแอบคิด
คุณซ้งคิดถึงนุชาเองล่ะสิท่า  ถึงต้องโทร.มาสั่งให้ไปวิ่งทุกอาทิตย์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 14-03-2011 23:44:13
อ่านรวดเดียว 11 หน้า อ่านไปขำไป  :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: KOWPOON ที่ 14-03-2011 23:56:43
โอ้ว+++เหมือนจำได้ว่ารออ่านมากนานนนนนนนนนนนนน มากกกกกกกกกกกก 


พอมาเจอว่าอัพ ดีใจสุดชีวิต


ต้องย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนเพื่อทวนความจำกันเลยที่เดียว มาอัพปล่อยๆ นะ รอออออ

  :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 16-03-2011 21:35:17
เลื่อนไปมา เลยได้เจอกับเรื่องนี้อีกครั้ง

ขอบคุณที่เข้ามาโพสนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 17-03-2011 19:54:16
+1ฮะ สมกับที่รอคอย หมาป่าน้อยหมวกแดง เหมาะมากฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-03-2011 22:03:58
อ่านตอนแรก แทบมองไม่เห็นตัวหนังสือเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 18-03-2011 23:54:14
 :mc4:  มาอัพแล้ว  คิดถึงซ้งกะนุชหม้วกกกกกกกกกกก  ขอกอดให้หายคิดถึงแรงๆ :กอด1:
อย่าหายหน้าไปนานๆอีกนะคะ :m15:  คิดถึง :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 19-03-2011 02:16:55
มาต่อไวๆนะคะ คิดถึง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-03-2011 02:27:39
สงสารนุชา


แล้วคนที่โทรเข้ามาหาบ่อย ๆ  แต่ไม่รับอ่ะคือใคร
ท่าทางนุชาถึงได้ดู เหนื่อยหน่าย และคิดหนัก


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 20-03-2011 21:20:15
กรี๊ด!!!!!!!!
ดีใจค่ะ ไม่รู้อะไรดลใจให้แวะมาดูหน่อยว่าอัพรึยัง? 555

ปลื้มใจ แต่อยู่ไกลกันมันก็ไม่คืบหน้า คุณซ้งคงหงุดหงิดหัวใจ อารมณ์รักแล้วไม่รู้
เลยโทรหานุชา... โฮะๆ

เวลคัม ทู เดอะ คลับ นะคะ :P

ท้ายสุด ขอบคุณคุณแนนนะคะ ซึ้งใจ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 24-03-2011 08:19:09
คุณซ้ง+นุชากลัมมาแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-03-2011 11:27:17
แอรยยย มาต่อแล้ว คิดถึงซ้งกะนุชา ><
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 14-07-2011 17:45:42
สนุกมากเลย

รักนุชามากมาย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † หมาป่าน้อยหมวกแดง †o(>_<)o~> [12/03/11]
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 31-08-2011 02:38:29
แล้วจารักกันได้ไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ภาคพิเศษ นักเรียนห้องเดียวกัน † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 13:30:12
ยังจะมีคนอ่านคิดถึงเรื่องนี้กันอยู่มั้ยค่ะ  :m22:


ตอน ภาคพิเศษ นักเรียนห้องเดียวกัน



“เฮียสอนข้อนี้หน่อย ทำไม่ได้”

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ผู้เป็นนักเรียนที่น่าเอาเป็นแบบอย่างประจำห้อง มาเรียนตั้งแต่ไก่โห่ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อมาแก้โจทก์การบ้านที่ยังทำไม่สำเร็จ และขณะนี้กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อน ที่เก่าที่เดิม โดยมีใครอีกคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและเป็นนักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่งซึ่งมีความมุ่งมั่นทางการเรียนอย่างสุดยอด และมาเรียนตั้งแต่ไก่โห่ด้วยอีกคนเช่นกัน

น้องแรงบันดาลใจซ้งกางสมุดและเปิดกล่องดินสอเพื่อเตรียมรับการถ่ายทอดวิชาสำนักเส้าหลินจากศิษย์พี่อย่างมุ่งมั่น เปิดหนังสือประกอบการฝึกยุทธ์ และนั่งฟังคำอธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่เสียแรงที่ศิษย์พี่เป็นหัวหน้าห้อง พลังยุทธ์ของท่านช่างลึกล้ำยิ่งนัก
แค่ฟังเพียงครั้งเดียวเราก็เข้าใจได้ในทันที

“ข้อนี้นะ ซ้งต้องไล่มาจากตรงนี้ก่อน มันถึงจะเข้าใจที่มาที่ไป”

อ่ออออออออออออ

อ่านวนไปวนมาสิบแปดรอบ ก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่ามันต้องเริ่มอ่านจากตรงนี้

หนังสือที่เรียนยากไปหรือไม่ มันอาจไม่ยากสำหรับใคร แต่สำหรับคนที่ทิ้งการเรียนไปหลายปี และเพิ่งกลับมาเรียนเทียบเพื่อให้จบ ม.6 มันก็ดูยากเต็มที

การเรียนไม่ได้เข้มข้นเท่ากับคนที่เรียนมาโดยตรง มันยากที่จะเทียบกัน

แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ ไม่อยากทิ้งเวลาที่มีอยู่ให้เสียเปล่า ความตั้งใจและความพยายามเท่านั้นที่จะช่วยให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกันได้ อาจจะลำบากไปบ้าง หนึ่งสัปดาห์เรียนแค่วันอาทิตย์แค่หนึ่งวัน แต่ถ้าไม่ตั้งใจไม่มุ่งมั่นใบประกาศก็คงเป็นแค่กระดาษใบเดียวที่ไม่มีความหมาย แล้วจะเอาอะไรไปสู้คนที่เรียนมาโดยตรง ถ้าคิดหวังอยากจะเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยเหมือนคนอื่นบ้าง

แม้จะไม่ได้เรียนพร้อมเพื่อน ๆ แต่ก็อยากจะเรียน อยากให้รู้ว่าคนเราถ้าตั้งใจ
อะไรที่ว่ายาก ไม่น่าจะเป็นไปได้ มันก็ต้องเป็นไปได้

“อย่าลืมซ้ง เรามาเรียน ไม่ใช่เรียนไปวัน ๆ ให้จบ ๆ ไป แต่เราหวังไปไกลกว่านั้น
ถ้าเราไม่ฉกฉวยโอกาสตรงนี้ ตอนนี้ เราคงสู้กับคนอื่น ๆ ลำบาก”

น้องแรงบันดาลใจซ้งผู้แสนจะหน้าหงิกงออยู่เสมอ เมื่ออยู่ต่อหน้าใครบางคนแต่กับคนที่กำลังสอนให้เข้าใจคนนี้ หน้างอ ๆ หงิก ๆ ที่เคยแสดงออกกลับไม่มีหลงเหลือ
มีแต่ใบหน้าของคนที่มีความตั้งใจมุ่งมั่น และพยักหน้าทำความเข้าใจกับสิ่งที่ได้ฟัง

“เฮียก๋วย จบบทนี้แล้วเดี๋ยวอั๊วจะอ่านบทถัดไปมาล่วงหน้าแล้วมาให้เฮียอธิบายเพิ่มน่าจะเข้าใจมากขึ้น”

ปรึกษาและขอความช่วยเหลือ และก็เห็นว่าหัวหน้าห้องพยักหน้าและส่งยิ้มจาง ๆ มาให้

เราเป็นนักเรียนห้องเดียวกัน เรานั่งเรียนข้าง ๆ กัน
เรามักจับคู่กันทำรายงานเสมอ เมื่อได้รับมอบหมายและคะแนนของเราก็ค่อนข้างดี
เพราะเราทำงานส่งด้วยความตั้งใจ

เรามีหลาย ๆ อย่างคล้ายกัน
เราต่างกันแค่ช่วงอายุเท่านั้น

เฮียก๋วยเป็นหัวหน้าห้อง และน้องแรงบันดาลใจซ้งเป็นรองหัวหน้าห้อง

เป็นความภาคภูมิใจเล็ก ๆ ในพื้นที่เล็ก ๆ ที่ไม่เคยได้บอกใคร

“ซ้งกับเฮียเราไปเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันเถอะ”

ความใฝ่ฝันของคนที่เรียน กศน.
ความใฝ่ฝันของคนที่หวังว่าจะเรียนให้จบ ม.6 เพื่อมีสิทธิ์ได้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย

เรื่องง่าย ๆ ของใครหลายคน
แต่มันไม่ง่ายเลย สำหรับใครบางคน

“ต้องไปอยู่แล้วเฮีย มีเพื่อนเรียนด้วยนะ สบายยยยยยยยยยยย”

สำหรับเฮียก๋วย ซ้งคือน้องชาย
สำหรับซ้ง เฮียก๋วยคือพี่ชาย

เราไม่ใช่พี่น้อง แต่เราก็เป็นเหมือนพี่น้องกัน เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน

ความคิดบางอย่างของเราเหมือนกันจนน่าแปลกใจ

“อาซ้งนะ ลื้อนี่เป็นประเภทถ้ารักใครเข้าแล้ว ลื้อจะรักอย่างฝังจิตฝังใจ ปากร้ายปากหนักแต่รักจริงจัง”

โดนเข้าให้อีกแล้ว เรื่องนี้ เกี่ยวกับการเรียนตรงไหน
อยู่ดี ๆ วกมาเรื่องนี้เฉยเลยซะงั้น เฮียก๋วยนี่ชอบจริง ๆ นะการอ่านใจคนให้ทะลุเนี่ย

“โธ่ อย่างอั๊วเนี่ยนะ จะไปรักใคร แฟนยังหาไม่ได้เล้ยยยยยยย จะเอาที่ไหนมารักฝังจิตฝังใจอย่างที่เฮียว่า เฮียก็พูดไปเรื่อย”


มีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แต่เจ้าตัวดูท่าจะไม่ค่อยรับรู้ว่ามี นี่แค่เริ่ม อีกซักพักถ้าเริ่มระแคะระคายถึงความรู้สึก ถึงหัวใจตัวเองเมื่อไหร่ ท่าทางที่แสดงออกมันจะชัดเจนกว่านี้

“ถามตัวเองดีกว่าม๊างงงงงงงงงงง ว่าช่วงนี้ลื้อไปร้ายใส่ใครไว้หรือเปล่า ร้ายจนถึงขนาดต้องโทรหาเช้าหาเย็น โทรไปต่อว่าต่อขาน แล้วพอวางสายก็หัวเราะคิกคักชอบใจ”

เฮียพูดถึงใครวะ ตอนนี้คนที่ต้องโทรไปหาหลัก ๆ ก็มีอยู่คนเดียว ไอ้ตี๋นุชาหน้ามึน ที่มันมายุ่งวุ่นวายกับอาม่าอั๊วนั่นไง

“ไอ้นุชาหน้ามึนเหรอเฮีย มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ เฮียคิดดูนะ ที่อั๊วเคยเล่าให้ฟัง มันกวนประสาทมาก อยู่ดี ๆ ก็ไปอยู่ชลบุรี หนีหน้าไปซะงั้น พวกที่ชมรมวิ่งก็คอย ไหนจะอาม่าอั๊วอีก คอยยถามว่าเมื่อไหร่มันจะมา แล้วมันพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมือนจะประสาทไม่ค่อยดี สงสัยไม่ค่อยเต็มเต็ง วัน ๆ มันพูดอะไรเฮียรู้มั้ย มันจะจีบอั๊ว เฮียดูหน้าอั๊วสิ มันพูดมาได้ว่าจะจีบอั๊ว คนดี ๆ ที่ไหนเขาทำกัน อั๊วไม่จัดการให้หัวกบาลแยกก็ดีถมเถแล้ว แล้วอั๊วก็...........................”


น้องแรงบันดาลใจซ้งพูดไปขมวดคิ้วไป ทำหน้าหงุดหงิดไม่พอใจประกอบคำพูด
เล่าได้เป็นฉาก ๆ ทั้งฉากแรก ฉากรอง ฉากล่าสุด และเก็บทุกรายละเอียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยมีเฮียก๋วยหัวหน้าห้อง นั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจและอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก

ลื้อรู้ตัวมั๊ยเนี่ยอาซ้ง ว่าลื้อกำลังเล่าเรื่องราวของใครคนหนึ่งเป็นวรรคเป็นเวร เล่าได้ทุกฉากทุกตอน จำได้แม้แต่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะจำได้

น้องแรงบันดาลใจซ้งยังเล่าต่อไปไม่หยุด
แต่เฮียก๋วยกำลังอมยิ้ม

บางอย่างมันชัดเจนอยู่ในสมองตลอดเวลา ทุกเรื่องราวเกิดขึ้นวันไหนเวลาไหน มันแจ่มชัดอยู่เสมอและเฮียไม่เคยลืมเรื่องราวของเราเลย “รักชาติ”

อาซ้งมันคงยังไม่รู้ตัว ว่าใจมันเปิดรับเรื่องราวของใครบางคนเข้ามามากขนาดนั้น
มากขนาดที่จดจำได้แทบทั้งหมด ทุกช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน

“อาซ้ง ลื้อจำคำเฮียไว้ให้ดีนะ ลื้อมันเป็นพวกปากหนักปากร้าย แต่รักใครรักจริงจังรักมั่นคง”

เฮียก๋วยพูดแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่ก็ตอบออกไปเหมือนเดิม ว่าแฟนยังไม่มี
แล้วจะไปหาใครที่ไหนมาปากร้ายใส่แล้วค่อยจริงจังด้วย

ก็คนมันไม่มีจริง ๆ จะให้เข้าใจได้ยังไง ว่ารักแท้ปากหนักมันเป็นยังไง

“ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ะเฮีย เอาไว้อั๊วมีแล้วอั๊วจะมาปรึกษาเฮียอีกทีแล้วกัน”

ส่ายหัวแล้วเก็บหนังสือกับสมุดลงในกระเป๋า ลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินขึ้นห้องเรียน เมื่อมองที่นาฬิกาข้อมือแล้วพบว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้าและถึงเวลาต้องเข้าเรียนแล้ว

ซ้งเดินนำหน้าโดยมีเฮียก๋วยหัวหน้าห้องเดินตาม

“มีปัญญาแต่คิดช้าและไม่ค่อยเข้าใจอะไรง่าย ๆ”

ได้ยินเสียงเฮียก๋วยแว่ว ๆ ตามหลังมาแล้วก็หันไปมองคนที่เอ่ยบอก
หัวเราะชอบใจกับคำพูดที่ได้ยินก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อพยายามจะคิดตามคำพูดนั้น

“ชอบจริง ๆ คำนี้ขอยืมไปใช้หน่อยแล้วกันนะเฮีย”

มีปัญญา...แต่คิดช้า...และไม่เข้าใจอะไรง่าย ๆ งั้นเหรอ?????????
อย่างอั๊ว....เนี่ยนะจะไม่เข้าใจอะไรง่าย ๆ .......อั๊วก็พยายามอยู่นะ ไม่ว่าเรื่องอะไรอั๊วก็พยายามจะเข้าใจมันอยู่

แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่อั๊วก็พยายามจะเข้าใจแล้ว
หรือว่า.........มีเรื่องอื่นที่อั๊วยังไม่รู้และยังไม่เข้าใจอีก
ถ้ามี............แล้วเรื่องที่ว่านั่นมันเรื่องอะไรกันล่ะเฮีย



TBC...

 


คิดถึงจัง ไม่ได้แวะเข้ามานาน แต่ไม่รู้จะทักใคร :o11:
ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาดูกัน ช่วงที่ผ่านมายุ่งๆนะคะ
มาอัพทีเดียวรวดหลายตอน ได้อ่านกันจุใจ(ถ้าไม่ลืมกันไปซะก่อน :laugh3:)

ตอนนี้เรื่องตกไปอยู่ห้องโพสไม่จบ ใครจะตามหาไปค้นจากที่ห้องนี้เลยนะคะ T^T

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ห่างกันซักพัก † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 13:33:31
จัดเต็มกับอีก10ตอน :laugh:


ตอน ห่างกันซักพัก



“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้นะคุณซ้ง วันศุกร์นี้จะมีงานเลี้ยงของบริษัท
คุณซ้งเข้าใจใช่ป่ะ ว่ามันสำคัญมากสำหรับพนักงานต๊อกต๋อยอย่างผมที่ต้องเข้าร่วม ทีนี้เนี่ย ถ้าผมไม่ไปวิ่งที่สนาม ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียดใช่ป่าววว แบบว่ามีธุระจำเป็นจริง จริ๊งงงงง”


เสียงสูงท้ายประโยค

เพื่อให้สมจริงสมจังมากที่สุด หลังจากหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาแทบไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากน้องแรงบันดาลใจซ้งผู้หล่อเหลา ขาวใสกิ๊ง เห็นทีก็วิ๊งหัวใจจะละลาย ดีใจแทบตายที่ได้รับข้อความส่งมาว่า
…วันศุกร์นี้มีงานเลี้ยงชมรมนักวิ่ง......
เป็นอันรู้กัน ว่าต้องไป ถ้าไม่ไปก็คงไม่ด้ายยยยยยยย เพราะน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งผู้น่ารัก อุตส่าห์ส่งข้อความมาด้วยตัวเอง
และถ้าขืนไม่ไปจากคุณซ้งหน้าหงิกจะกลายเป็นคุณซ้งหน้าโคตรหงิกทันที และคงเตรียมการพร้อมอาละวาดแน่ ๆ

“ไม่ต้องมา”

คำเดียว

และเป็นคำพูดเรียบ ๆ ง่าย ๆ ที่แสนจะเย็นชา

นี่หรือคำพูดจากปากของคนที่คิดถึงนักหนามาตลอดหนึ่งสัปดาห์ จะออดอ้อนทำเสียงอ่อนเสียงหวานบอกว่า มาด้วยกันเถอะ ก็ไม่ได้ หน้าขาว ๆ ไม่น่าใจดำเล้ยยยยยยยย คุณซ้ง

“คิดถึงคุณซ้งอ่ะ”

นุชาผู้อยู่ในอาการซึมเศร้าเหงาหงอย เอ่ยบอกออกไปจากใจจริง

เมื่อก่อนไม่กล้าพูดจากหยอกล้อเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้พูดอะไรไปคุณซ้งก็ไม่รู้อยู่ดีว่าที่พูดออกไปน่ะ พูดจริง ๆ นะจ๊ะ จริงจังจากหัวใจดวงน้อยเลยด้วย สาบานได้ เอ่ยบอกออกไปแล้วก็ยังพูดซ้ำอีกหลาย ๆ รอบ

“คิดถึงคุณซ้ง อยากเจอคุณซ้ง อยากเจ้อออออออ อยากเจอ คิดถึงนะนี่”

เป็นคำพูดจากพร่ำพรรณนาบ้าบอที่น้องแรงบันดาลใจซ้งฟังแล้วก็ต้องเบะหน้าและรีบเอาโทรศัพท์ออกห่าง ๆ จากหู เพราะไม่อยากฟังคำพูดเพ้อเจ้อของนุชาหน้ามึน ที่ชอบพูดจาไม่มีแก่นสาร

เพ้อเจ้อที่หนึ่ง
พูดจากวนประสาทก็อันดับต้น ๆ

มันมีอะไรดีบ้างเนี่ย ไอ้ตี๋นุชา อะไรที่ว่าดี น่าสนใจจนคนทั้งชมรมเทใจให้หมดไม่เว้นแม้กระทั่งอาม่า ที่พูดถึงอยู่บ่อย ๆ

“ใบหน้างาม ๆ ไม่น่าใจดำเลยแก้วตา”

นั่นไง ดูความเพ้อเจ้อของมัน ละเมออะไรอยู่ ทำไมถึงได้พูดจาบ้าบอกวนประสาทได้ขนาดนี้

นุชาร้องเพลงด้วยน้ำเสียงท้อแท้ แต่ซ้งมองว่าเพ้อเจ้อ
ไม่กี่นาทีก่อนจากที่พูดจาฉะฉานชัดเจน ตอนนี้กลายเป็นห่อเหี่ยวละห้อยท้อแท้เพราะนอกจากน้องแรงบันดาลใจซ้งจะไม่ง้อแล้ว
ดูท่าจะดีใจมากด้วยซ้ำที่ไม่ไปร่วมงานเลี้ยง นึกว่าจะอาละวาด นึกว่าจะโมโห สำคัญตัวผิดไปนี่หว่า แบบนี้ก็เซ็งเลย

“ถ้าจะประสาทขนาดนั้นนะ อั๊วจะให้เจ๊หงส์คัดชื่อลื้อออกจากชมรมทันที”

นี่หรือคำพูดจากปากของคุณซ้งที่อยู่แสนไกล ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยยยย
ไม่ใช่แบบนั้นคร้าบบบบบบบบบบ คือผมแค่เรียกร้องความสนใจเฉยเฉ้ยยยยยย
จะมาคัดชื่อผมออกแบบนี้ได้ยางงายยยย คุณซ้ง

“คุณซ้งอยากให้ไป คุณซ้งก็มารับหน่อยดิ”

ไม่มีทาง อย่าแม้แต่จะคิด ชาติหน้าตอนบ่ายแก่ ๆ ก็อย่าได้หวัง

“เรื่องอะไรต้องไปรับ ไม่ต้องมาซะก็สิ้นเรื่อง”

เศร้าได้อีก
นี่สินะ หมดโอกาสของแท้ เกลียดกันขนาดนั้นเลยเหรอวะคนเรา

“ใบหน้างาม ๆ ทำไมใจดำจริงแก้วตา”

บทเพลงจากใจมอบแด่น้องแรงบันดาลใจซ้ง ผู้เป็นเบอร์หนึ่งในดวงใจเสมอ
ลาก่อนนนนนนนนนนนนนน เราคงได้พบกันอีกในวันเสาร์นี้ อย่าลืมกันนะคุณซ้ง สัญญาสิว่าจะไม่ลืมกัน

“หมดธุระแล้ว ไม่ต้องโทรมาอีก อั๊วรำคาญ”
อ่า

เยี่ยมไปเลย

กดวางสายกันไปดื้อ ๆแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
จะมีมั้ยคำอำลา รักนะจุ๊บ ๆ

สงสัยต้องเป็นชาติหน้าตอนบ่าย ๆ อย่างที่คุณซ้งว่าจริง ๆ เพราะดูท่าทางความหวังจะยิ่งริบหรี่ลงไปทุกที

เรื่องแบบนี้ถือเป็นปกติ
ความเหินห่างของระยะทาง ตัดขาดความสัมพันธ์ของคนเราออกจากกันได้
เพราะความห่าง เพราะระยะทาง แรก ๆ อาจไม่เคยชินแต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความรู้สึกชินชาจากการไม่ได้พบไม่ได้เห็นก็จะช่วยให้ไม่รู้สึกอะไรเลย

จากรุนแรงกลายเป็นเฉื่อยชา เชื่องช้า และเย็นชา สุดท้ายกลายเป็นไม่รู้สึกอะไรเลย.........จริงหรือ???????

นุชานั่งมองโทรศัพท์ในมือ ยิ้มกับตัวเองเศร้า ๆ
แรก ๆ ก็อาจลำบากแบบนี้ แต่ต่อไปที่ชมรมก็จะเริ่มชิน

มา ๆ หาย ๆ

แรก ๆ อาจยังมาอยู่อย่างสม่ำเสมอ
แต่หลัง ๆ เริ่มขาดหาย โดยมีร้อยแปดเหตุผลเป็นข้ออ้าง

สุดท้าย การหายไปตลอด ไม่ได้พบไม่ได้เจอ ก็จะพาความเคยชินมาสู่คนอื่น ๆ ในชมรมเอง

มาไกลกว่าที่คิด จากแค่แอบปลื้มเวลาที่ได้เห็นหน้า
แต่นี่ก้าวหน้าถึงขั้นมีหมายเลขโทรศัพท์สำหรับโทรหาได้

มันเหนือกว่าที่คิดเอาไว้มาก

แม้ความสัมพันธ์จะเป็นไปในลักษณะดิ่งลงเหวเรื่อย ๆ ก็ตาม

แต่.....ในความดิ่งลงเหว มันก็ได้เรียนรู้อะไรไปด้วยหลาย ๆ อย่าง

น้องแรงบันดาลใจซ้ง
- แพ้แอลกอฮอล์ เวลาที่แพ้ตัวจะแดงเถือกไปทั้งตัว
- เรียนไม่จบมัธยมปลาย เพราะเกเรหนีเที่ยว ตอนนี้ก็เลยต้องมาเริ่มเรียนใหม่อีกครั้ง และดูท่าทางตั้งอกตั้งใจสนใจเรียนดี
-ชอบฟังเพลงลูกทุ่งหรือหมอลำ ทั้งที่หน้าไม่ให้เลยสักนิด ช่วงนี้ตั้งเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เป็นเพลงต้องถอน ของปอยฝ้าย มาลัยพร ไม่รู้ไปติดใจอะไรตรงไหนถึงได้ถึงขนาดต้องเอามาตั้งเป็นเสียงโทรศัพท์
- มีความสามารถในการวิ่งอย่างล้นเหลือ วิ่งได้เป็นสิบรอบแบบไม่มีการหอบไม่มีการแสดงออกให้เห็นว่าเหนื่อย สุดยอดของความอึดและอดทน
-ไม่เก่งคำนวณอย่างแรง เวลาให้บวกลบคูณหาร จะทำหน้ามึนงง แต่ก็เห็นพยายามอย่างเต็มที่
-ทุก ๆ ครึ่งเดือนจะมาแข่งรถที่สนามที่พัทยา โดยมีอาม่ากิมเป็นกองเชียร์
-น้องแรงบันดาลใจซ้ง เข้ากับครอบครัวใหม่ไม่ได้ เลยไม่ยอมอยู่บ้านใหม่ แต่มาอยู่บ้านเก่าหลังเล็กที่อาม่ากิมอยู่ เรียกง่าย ๆ ว่าพยายามทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาก็ว่าได้

แย่แล้ว นี่จดจำข้อมูลของน้องแรงบันดาลใจซ้งได้มากขนาดนี้เลยเหรอ
ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ

นุชานั่งมองโทรศัพท์ในมือ ไล่ดูวันที่ที่มีการโทรเข้าโทรออกของผู้ที่ถูกบันทึกชื่อว่า …หมาป่าน้อยหมวกแดง......

น้อยมากเหลือเกิน ถ้าเทียบกับอีกหมายเลขหนึ่งที่โทรเข้าซ้ำ ๆ หลายสิบรอบแต่ไม่เคยมีการติดต่อกลับ

อีกไม่นานเราก็จะห่างกันไปเอง
คุณซ้งคงไม่รู้สึกอะไร แต่คนทางนี้โคตรจะรู้สึกเลยจริง ๆ ให้ตายเถอะ

โทรศัพท์ถูกหย่อนลงในกระเป๋าเสื้อ นุชาที่ปล่อยใจให้ล่องลอย
รีบดึงสติตัวเองให้กลับเข้ามาให้อยู่ในช่วงเวลาของการทำงาน

ก้มหน้าก้มตากับกองเอกสารที่ต้องเริ่มเรียนรู้
และหมดเวลาคิดเรื่องอื่น

สิ่งที่นุชาไม่เคยคาดคิดและไม่เคยรู้

น้องแรงบันดาลใจซ้งคนที่พูดจาแสนเย็นชาและทำได้หน้าเดียวคือหน้าหงิกงอเหมือนว่าไม่เคยสนใจอะไร
กำลังหงุดหงิดไม่พอใจตัวเองที่เปิดหนังสือค้างไว้หนึ่งหน้าแต่อ่านวนไปวนมาหลายรอบก็ไม่เข้าใจ ข้อความที่อ่านไม่เข้าหัวเอาซะเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังอ่านอะไรอยู่

ใช้ปากกาขีดคั่นหน้าข้อความที่คิดว่าสำคัญ

แต่จนแล้วจนรอดก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงไม่มีสมาธิในการอ่าน

สุดท้ายใช้กระดาษคั่นเอาไว้เพื่อจะมาอ่านต่อในภายหลัง

หันไปมองอาม่ากิมที่กำลังผนึกลมปราณรำไทเก็กตามช่องรายการโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งเอาไว้ แล้วก็เลยต้องลุกขึ้นยืนและไปฝึกพลังไทเก็กด้วยการผนึกลมปราณที่แตกซ่านให้เข้าที่เพื่อหยุดอาการฟุ้งซ่าน

“ม่ากิมครับ สมัยสาว ๆ กงมาจีบม่ากิมยังไงนะ เล่าอีกที ซ้งชอบฟัง”

ชอบฟังจริง ๆไม่ได้ล้อเล่น
ทุกครั้งที่อาม่าเล่าถึงอากงที่จากไปหลายสิบปี อาม่าจะยิ้มและมีความสุขทุกครั้ง ไม่เคยเบื่อที่จะเล่า และเหมือนว่ากล่องความทรงจำที่เก็บไว้ในลิ้นชักจะถูกเปิดขึ้นปัดฝุ่นใหม่ทุกครั้ง

น้องแรงบันดาลใจซ้ง รำมวยไทเก็กผนึกลมปราณ พร้อมกับฟังเรื่องราวความทรงจำของอาม่ากับอากงในวัยหนุ่มสาวอย่างเพลิดเพลิน

“ซ้งไม่เจอซะที คนที่จะมาเป็นครึ่งหนึ่งในชีวิตของซ้ง ม่ากิมเจออากง
แล้วซ้งจะได้เจอใคร สงสัยชาตินี้ซ้งคงหาไม่เจอ”



TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เพราะว่าเราห่าง...ไกลกันเหลือเกิน † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 13:37:35



ตอน เพราะว่าเราห่าง...ไกลกันเหลือเกิน



คนเราจะข้ามผ่านความห่วงหาอาทรและความผูกพันไปได้อย่างไร
ร้อยแปดเหตุผล หมื่นพันคำตอบ แต่ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจผ่อนคลายและเบาบางจากความรู้สึกที่บีบคั้นหัวใจอยู่ตลอดเวลาได้

ความผูกพันสร้างความทรมานให้หัวใจภายหลังมานักต่อนัก
เกิดขึ้นกับคนหลายคน

คำถามคือเราจะจัดการยังไงกับความผูกพัน

คำตอบไม่มี

แต่วิธีป้องกัน คืออย่าเริ่ม

เพราะถ้าเริ่มแล้ว นั่นแปลว่าจะต้องยอมรับผลจากการพลัดพรากจากของรักที่ผูกพันให้ได้ อยู่กับมันให้ได้ แบกรับมันให้ได้ เมื่อต้องพบกับการจากลา

แล้วถ้าเริ่มไปแล้ว และยอมรับผลของการลาจากไม่ได้ล่ะ จะทำยังไง

อาการซึมเศร้า
หงอย เหงา
และจิตตก

กำลังจะตามมาอยู่เป็นเพื่อน

นุชาผู้ผ่านสงครามกลางเมืองมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
กำลังตกอยู่ในสภาพมีเพื่อนที่ไม่ต้องการตามมาอยู่ด้วยอย่างไม่ตั้งใจ

“ครับ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่กลัว ได้ครับ อยู่ได้ สบาย ๆ ไม่ต้องห่วง หาข้าวกินอยู่ไม่ทำให้ตัวเองลำบากหรอก สัญญาครับ สัญญา”

โทรศัพท์สายเดียวที่ทำให้หัวใจอบอุ่นและระลึกได้ว่าไม่ว่ายังไงก็มีที่ให้กลับไปได้เสมอ
ความห่วงใย ที่ไร้ซึ่งผลประโยชน์ผูกมัด

ความห่วงหาอาทรที่คนจากครอบครัวมอบให้จากใจจริง

“รักแม่ครับ”

นั่นคงเป็นกำลังใจจากทางเดียวที่ทำให้นุชายังสามารถยิ้มเล็ก ๆ ได้
ในเวลาที่กำลังพยายามกับผลที่ตามมาจากการพยายามจะตัดใจจาก…………

“เฮ่ออออ”

สภาพหัวหู ยับยู่ยี่ เสื้อผ้าที่รีดจนเรียบกริบในช่วงเช้าไม่เหลือเค้าอยู่อีกต่อไป การใช้ชีวิต ในเมืองที่ไม่เคยอยู่ และเพิ่งเริ่มการใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวมาหนึ่งสัปดาห์เป็นเรื่องที่น่าเศร้า

แต่ก็เลือกเอง ไม่ได้มีใครบังคับ

ไม่จำเป็นที่จะต้องถ่อมาไกลถึงที่นี่ แต่ก็บ้าบอถ่อมาจนได้
และคิดอย่างโง่ ๆ ว่ามันเป็นหนทางเดียว ที่จะจัดการกับปัญหาบ้า ๆ ที่ยุ่งเหยิงและไม่จบไม่สิ้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งเลย

แต่การไม่ได้พบไม่ได้เจอน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งก็เป็นผลพวงมาจากการกระทำครั้งนี้ด้วย

ยิงนัดเดียว ได้นกสองตัว

แต่คนยิง......กำลังเจ็บแทบตาย ตอนที่ได้นกมา

บะหมี่น้ำร้อน ๆ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
มองไปทางไหนก็เจอผู้คนที่กำลังเดินกันขวักไขว่ แต่ไม่มีใครรู้จักกัน
มองไปที่โต๊ะข้าง ๆ มองไปรอบ ๆ ตัว

ท้องฟ้ากำลังมืดครึ้มในเวลาเกือบพลบค่ำ

นุชาหน้ามึนกลายเป็นนุชาหน้าเศร้า
อันที่จริงวันนี้เวลานี้ น่าจะต้องกำลังอยู่ภายในงานเลี้ยงของบริษัทด้วยซ้ำ
แต่....ไปไม่ได้เพราะ......

งานมันมีสัปดาห์หน้าไม่ใช่สัปดาห์นี้

โง่เง่าสิ้นดี

แทนที่จะได้ไปเจอน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งและผองเพื่อนหมู่คณะที่ชมรมนักวิ่ง
เวลานี้กลับต้องมานั่งเหงากินบะหมี่น้ำรสชาติจืดชืดอยู่คนเดียว

ในเมืองที่เพิ่งมาอยู่ใหม่
และไม่รู้จักใครเลยสักคน

อยากร้องไห้จริง ๆ เลยกู

อยากจะตัดใจก็อยาก อยากเจอก็อยาก
เลือกไม่ได้ว่าจะจัดการยังไงกับชีวิตตัวเองดี

ก็เลยต้อง.....

“คุณซ้งเหรอครับ เหงาจัง คิดถึงคุณซ้งมาก เลยต้องโทรมาหา”

นี่แหละสุดยอดของชีวิตในเวลานี้

“ประสาท”

เหมือนเดิมจริง ๆ รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

โทรปุ๊บ รับปั๊บ รับไม่รับเปล่า ยังมีการด่าต้อนรับให้หัวใจชุ่มชื่นเล่นซะด้วย

นุชาหน้ามึน กลายเป็นนุชาหน้ายิ้ม

จากซึมเศร้า ตอนนี้กำลังถือโทรศัพท์และเริ่มสนุกสนานกับการใช้ตะเกียบพันเส้นบะหมี่เล่นแต่ไม่ยอมคีบเข้าปาก พันเล่นไปมาอยู่อย่างนั้น

“เมื่อไหร่คุณซ้งจะใจอ่อน จะได้มาเป็นแฟนกัน”

ก็ใจมันเรียกร้อง
เลยต้องพูดออกไปอย่างนั้น
เชื่อเถอะ ถ้าไม่โดนด่า รับรองไม่ใช่คุณซ้งแน่นอน

“อั๊วไม่อยากมีแฟนติงต๊อง ปัญญาอ่อน”

อ่อ

เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง

มิน่าล่ะ

“เหอะ ต๊องก็รักจริงแหละวะ”

อันนี้จริงจัง เสียงเข้มด้วย
เป็นไงล่ะอึ้งล่ะสิ นี่มาแบบมาดไม่ติงต๊องนะ
แต่มาในมาดเข้ม นั่นไงล่ะ อึ้งไปเลย เงียบกริบเลย

ซึ้งใจล่ะเซ่

เอ่อ

อึ้งนานไปมั้ย

เงียบนานไปหรือเปล่า

มันชักจะนานไปนะ

หรือสัญญาณมันจะขาดหายไป

นุชารีบเอาโทรศัพท์ที่แนบหูออกและมองดูเวลาที่ยังเดินต่อไปเรื่อย ๆ

ก็ยังไม่โดนตัดนี่หว่า

แล้วทำไมถึง......

“คุณซ้ง ตายยัง”

ถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
และเหมือนได้ยินเสียงถอนหายใจยาว ๆ ของปลายสาย

อ่อ.....ยังไม่ตายและยังหายใจดีอยู่

ก็เลยถอนหายใจซะยาวเลย

“เอ่อ...รบกวนแค่นี้แหละครับคุณซ้ง สวัสดีครับ”

ชิ่งก่อนดีกว่า

เพราะดูท่าไม่ใช่คุณซ้งที่ไปไม่ถูก แต่เป็นกูนี่แหละที่ไปไม่ถูก
แบบว่ามันเงียบเกินไป

และไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

ไม่ด่าซักคำ เงียบกริบ ขนาดกดวางสายแล้ว ยังไม่มีการโทรกลับมาด่าเหมือนปกติซะด้วย แบบนี้มันเริ่มเข้าสู่ความไม่ปกติธรรมดาของน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งซะแล้ว

ถ้าใครสักคนจะหาเรื่องให้ตัวเองได้ตลอด

คน ๆนั้นย่อมเป็นนุชา

อยู่ดี ๆ ก็ช่วยให้ตัวเองมีเรื่องปวดหัวได้เรื่อย ๆ

คราวนี้จากนุชาซึมเศร้า กลายเป็นนุชาโคตรเศร้าไปแล้ว

ไม่น่าเลยกู ปากหนอปาก อยู่ดีไม่ว่าดีไปหาเรื่องให้ตัวเองซะอย่างนั้น

บะหมี่น้ำในชามกำลังอืดเต็มที่
และนุชาก็กำลังซึมเศร้าอย่างเต็มที่

ลุกขึ้นไปจ่ายค่าบะหมี่ และเดินหน้าออกจากร้านไปในสภาพ
ผู้ซึมเศร้าอย่างสมบูรณ์แบบในคืนวันศุกร์

โดยมีผู้ร่วมอุดมการณ์แบบไม่ได้ตั้งใจด้วยหนึ่งคน....

“มันพูดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ คำว่ารักเนี่ย....ไม่ได้มีไว้ให้คนที่รักจริง ๆ เหรอ
ไอ้คำว่ารักนี่มีไว้กวนประสาทและเอาไว้ล้อเล่นแค่นี้เองเหรอวะนุชา”

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ผู้อยู่ในอาการสับสนและไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน
กำลังพยายามค้นหาคำตอบบางอย่างด้วยตัวเอง

แต่นอกจากจะไม่ได้คำตอบแล้ว
ยังได้รับความรู้สึกไหววูบในใจลึก ๆ มาเป็นของแถมด้วย

“นอกจากอาม่ากับแม่ เกิดมาอั๊วยังไม่เคยคิดจะพูดให้ใครฟังซะที ไอ้คำว่ารักเนี่ย สำหรับลื้อมันก็แค่คำพูดมักง่ายเอาไว้พูดเล่นให้สนุกสนานจริง ๆ สินะ นุชา”


TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เมิน † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 13:39:54



ตอน เมิน



“คุณซ้งสบายดีเนอะ”

เงียบ

“สบายดีอยู่แล้ว หน้าตาบ่งบอกว่าสบายดีซะขนาดนี้”

เงียบ

“ถ้าไม่สบายก็ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลจะมานั่งทำหน้าหล่อให้ผมได้เห็นได้ยังไง จริงมั้ย.......เอ่อ ใช่หรือเปล่า หืออออออ”

เงียบสนิท

เงียบชนิดที่ว่าแทบจะได้ยินเสียงแมลงหวี่บิน

“งอนแบบนี้ เดี๋ยวใครเข้าใจผิดว่าผมเป็นแฟนคุณซ้งนะ”

ฉีกยิ้มให้หนึ่งที และแซวออกไปด้วยไมตรีจิต หวังจะได้รับคำด่าแต่ก็ไร้ผล

เย็นวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ณ สนามวิ่ง
หลังจากไม่ได้พบเจอกันเป็นเวลาสองสัปดาห์เต็ม

นุชา ก็มาตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

ชลบุรีใครว่าไกล
ใม่ใช่ปัญหาเลยสักนิดถ้าเสียงหัวใจมันร่ำร้องหาเธอ

อยากจะตัดใจให้ขาด แต่หน้าหล่อ ๆ ขาวใสปิ๊งของน้องแรงบันดาลใจซ้งก็ตามมาหลอกหลอน จนไม่ได้หลับได้นอน เพราะความคิดถึงอย่างท่วมท้น
รู้อย่างนี้ ไม่น่าหาเรื่องลำบากให้ตัวเองด้วยการหนีไปทำงานซะไกลเลย

แทนที่จะได้ตัดใจ
กลายเป็นคิดถึงมากกว่าเดิม

ในเวลานี้สมาคมนักวิ่งวัยดึก ออกสตาร์ทวิ่งกันไปมากกว่าสามรอบสนาม
ด้วยอัตราการวิ่ง เร็วสุด แทบจะเหมือนเต่าคลาน

มีผู้ที่อู้งานไม่ยอมวิ่ง อยู่สองคน

คือนุชา ผู้อยู่ในชุดทำงาน สภาพกระเซอะกระเซิงสุดขีด พร้อมด้วยเป้หนึ่งใบ
หลังจากพาตัวเองมาตามหาหัวใจ ด้วยการต่อรถมากกว่าสามต่อ เพื่อให้มาถึงสนามก่อนฟ้าจะมืด เพราะอยากเห็นหน้าน้องแรงบันดาลใจซ้งให้ชัด ๆ

แต่สิ่งที่ลืม คือชุดสำหรับใส่วิ่ง

สุดท้ายแม้กายใจพร้อม แต่เสื้อผ้าไม่พร้อม ก็เลยได้โอกาสมานั่งกระแซะหวานใจที่วันนี้ก็ไม่ยอมวิ่ง และอยู่ในชุดนักศึกษา เสื้อขาว กางเกงยีนส์ และนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ แต่ก็แสนจะหล่อเหลาดึงดูดใจสำหรับนุชาเหลือเกิน
“เงียบจริงจังเนอะ”

หันไปมองหน้าของน้องแรงบันดาลใจซ้งอีกครั้ง ตามด้วยการถอนหายใจเฮือกใหญ่

สุดยอดของความถือตัวเลยว่ะ

จะหยิ่งไปถึงไหน

จะเก็กหน้าไปถึงไหน

จะทำเฉยชาใส่ไปถึงไหน

เราใช่ว่าจะได้เจอกันบ่อย ๆ นะคุณซ้ง นาน ๆ จะได้เจอกันที
ก็รู้หรอกว่าน้องแรงบันดาลใจซ้งไม่อยากเจอหน้า แต่อย่างน้อย พูดกันสักคำให้ชื่นใจก็ยังดี จะด่าก็ได้นะ ไม่ว่ากัน แต่อย่าเมิน อย่านิ่ง อย่าเฉย

แบบนี้ปวดใจยิ่งกว่าโดนด่า

“โกรธอะไรขนาดนั้น ผมไม่ได้มาตามจีบอาม่ากิมหรอกน่า เชื่อกันบ้าง สาบานให้ฟ้าผ่าตายก็ได้”

พูดปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว เข้าใจบ้างมั้ยนี่ ว่าไม่ได้มาตามจีบอาม่ากิม
แค่อยากเป็นหลานอาม่ากิมอีกคนเท่านั้น แบบว่าเป็นหลานเป็นญาติมิตรกัน ผ่านทางคุณซ้งไง

ยังคงเงียบอย่างต่อเนื่อง

ไม่มีวิญญาณ ไม่มีความรู้สึกว่างั้น

โคตรเย็นชาเลยว่ะ นี่กูหลงรัก หลงชอบ หลงพิศวาสคนเย็นชาแบบคุณซ้งเข้าไปได้ยังไงวะ

มีอันต้องถอย

เพราะนอกจากไม่ทักไม่ทาย ไม่โมโหใส่ ไม่ด่า

คุณซ้งยังมีพฤติกรรมปิดช่องทางการสนทนาด้วยการหยิบหูฟังมาเสียบเข้าที่หู
แถมยังกดหาเพลงฟัง และเปิดเสียงดังสุด จนได้ยินเสียงออกมาถึงข้างนอก

ยอมแพ้แล้วครับ

ถ้าจะเมินกันขั้นสุดยอดขนาดนี้ กูยอมแพ้ครับ ยอมจริง ๆ

นุชาที่พยายามจะยิ้ม ยิ้มไม่ออกอีกแล้ว
จากนั่งยืดขาอย่างสบายอยู่ข้างสนาม

คราวนี้ก็มีอันต้องเปลี่ยนท่าเป็นนั่งกอดเข่า ตามองที่สมาคมนั่งวิ่งและโบกไม้โบกมือให้พร้อมกับยิ้มหวาน

สลับกับการหันมามองท่าทีเมินเฉยของน้องแรงบันดาลใจซ้ง
ที่ก้มหน้าก้มตาสนใจอยู่กับการฟังเพลง

ขอโทษครับ
ที่มารบกวนใจเธอ

ไอ้เรามันคนน่ารำคาญ รู้ตัวดี

ถ้าจะเมินกันแบบนี้ ก็ไม่มีปัญญาทำอะไรได้อยู่แล้ว

“กินขนมมั้ย มีท็อฟฟี่ด้วย เอาอันไหน”

หันไปค้นหาในกระเป๋าเป้ที่วางไว้ข้างตัว
แล้วก็ควานหาท็อฟฟี่หลากสีมาไว้ในมือ แบมือออกและส่งให้คนทำหน้าเฉย

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหุ่นยนต์หนุ่มหล่อที่ทำเหมือนโลกนี้มีเพียงฉันเพียงผู้เดียว

ทำร้ายจิตใจกันซะขนาดนี้

เกลียดไม่ว่า โกรธไม่ว่า จะด่าจะแกล้ง จะทำไม่ดีใส่แค่ไหน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทนได้หมด ขออย่างเดียวอย่าเฉย อย่าทำเหมือนไม่มีตัวตน

รู้มั้ยมันปวดใจ

นุชาหน้าเฉา เก็บท็อฟฟี่ลงกระเป๋าเป้ และนั่งเงียบ ก้มมองที่มือตัวเอง

มีคำถามผุดขึ้นในหัว

มาที่นี่ทำไม

คำตอบคือ มาเพื่อให้เจอน้องแรงบันดาลใจซ้ง
มาเพื่อมาทักทายอาม่ากิม อาเจ็ก อากง อาอึ้ม และเพื่อน ๆ สมาชิกในชมรม
มาเพื่อขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง

หายไปพักใหญ่ ก็เพื่อจะปรับตัวให้ชินกับสถานที่ใหม่ที่ไปทำงาน
ผิดที่แอบหนีไปแบบไม่บอกกล่าว รู้สึกผิดจนต้องมาขอโทษและจะไม่ทำตัวเหลวไหลให้สมาชิกชมรมที่รักและเอ็นดูเหมือนลูกหลานต้องเป็นห่วงอีก

วินาทีแรกที่ก้าวเท้ากลับมาที่สนามในสภาพกระเซอะกระเซิง

สายตารีบมองหาเหล่าสมาชิกชมรม ที่กำลังเตรียมตัวอยู่ข้างสนาม
ตรงดิ่งมาหาแทบจะวิ่ง

และเมื่อเหล่าสมาชิกชมรมหันมาเจอ ก็ยิ้มทักทายด้วยความดีใจ
บางคนลูบหลัง บางคน ถามไถ่ว่าหายไปไหนมา

อาม่ากิมแซวว่าหนีออกจากบ้านทำไมไม่มาอยู่บ้านอาม่า
หนีไปไหนมาทำไมไม่เจอกันพักใหญ่

มีเพียงคนเดียว ที่ไม่พูดไม่คุยไม่ทัก และพาตัวเองออกจากกลุ่มการสนทนาไปนั่งหน้าเฉยอยู่ข้างสนาม

หลังจากทักทายกันเสร็จสรรพนุชาก็เลยแกล้งเนียนมานั่งอยู่ข้าง ๆ น้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าหล่อ ที่วันนี้ไม่อยู่ในชุดฟอร์มนักกีฬา แต่เป็นชุดนักศึกษาที่นุชามองแล้ว ยิ่งบาดใจเหลือเกิน

แต่ก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะแม้จะพยายามพูดพยายามถามพยามคุย

แต่คุณซ้งก็ยังทำร้ายจิตใจคนมาเหนื่อย ๆ ได้ลงคอ

แล้วถ้าถูกเมินกันขนาดนี้ จะทนให้อีกฝ่ายเมินไปเพื่ออะไร

แรก ๆ ก็หลงแค่ที่ใบหน้า
แต่พอใกล้กันไม่นานเท่าไหร่ ได้พูดคุยได้แกล้งให้โมโห ได้เห็นมุมต่าง ๆ
จากหลงแค่หน้า คราวนี้เลยหลงอะไรบางอย่างที่มีแรงดึงดูดให้เข้าใกล้มากมายเหลือเกินของคุณซ้งไปแล้ว

คนเรานี่ก็แปลก รู้ว่าถูกเกลียดขี้หน้า แต่ก็ยังพาตัวเองเข้ามาอยู่ในสายตาของอีกฝ่ายให้ได้

โง่สิ้นดี

นั่งกอดเข่า อมยิ้มเล็ก ๆ ในความงี่เง่าบ้าบอของตัวเอง
ละสายตาจากน้องแรงบันดาลใจผู้แสนเมินเฉย ไปที่สนาม
มองเหล่าสมาชิกที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ แล้วก็ถึงเพิ่งนึกบางอย่างขึ้นมาได้

ใจมันไปอยู่ที่ใครบางคน
โดยลืมนึกไปว่า ยังมีคนอีกหลายคนที่แคร์

เราดูแลและให้ใจกับคนที่รักเรามากพอหรือยัง
หรือทำเหมือนเขาเป็นแค่ตัวประกอบในชีวิต

ที่ผ่านมา มัวเสียเวลาให้กับอะไร มัวทำอะไรอยู่ถึงไม่ได้หันมามองคนที่เขารักเรายิ่งกว่า สนใจเรายิ่งกว่า และเป็นห่วงเป็นใยเราอยู่เสมอ

ทอดสายตามองไปพร้อมกับการตั้งสติ และทบทวนความคิดของตัวเอง
คิดแล้วก็อมยิ้ม

ไม่ใช่รอยยิ้มแบบขมขื่นฝืนใจ แต่เป็นรอยยิ้มของคนที่เพิ่งสำนึกบางอย่างได้

บางอย่างที่แว่บเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว

เร็วมากซะจน ต้องเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเป้มาถือเอาไว้
และกดหาหมายเลขที่เคยโทรเข้ามาหาซ้ำ ๆ

คิดว่าตัวเองจะไม่มีวันรับสายนี้อีกเด็ดขาด
แต่วันนี้กลับเป็นฝ่ายโทรหาซะเอง

“ชาเอง......พี่.......เป็นยังไงบ้าง....ชาก็เรื่อย ๆ ไม่มีอะไร ชาเรียนจบแล้วนะ
เปลี่ยนงานมาสองที่แล้ว....อืมมมมม”

ถ้าจะมีอะไรที่หยุดอาการเมินเฉยของน้องแรงบันดาลใจซ้งได้
ก็คงจะเป็นท่าทางการคุยโทรศัพท์ของนุชา ที่เหมือนเคร่งเครียดในคราวแรก
แต่ในเวลานี้เริ่มผ่อนคลาย และพูดคุยบางอย่างยืดยาว จนน้องแรงบันดาลใจซ้งต้องหรี่เสียงเพลงของตัวเองลง

ไม่คิดจะสนใจในคราวแรก แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็นจึงทำบางอย่าง

ก็อั๊วไม่ได้แอบฟัง ไอ้นุชามันอยากมาคุยให้ได้ยินเองทำไม

แค่หรี่เสียงเพลงก็ได้ยินชัด

“เกลียดชามากเลยสิพี่ ชามันก็แบบนี้แหละ ชามันเย็นชาสมชื่อ
ตอนนี้ชาเจอกับตัวเองแล้ว โคตรเจ็บปวดจริง ๆเพิ่งจะรู้ว่า เวลาถูกเมินมันรู้สึกยังไงก็คราวนี้แหละ”

ยิ้มเยาะตัวเอง และหันไปมองหน้าน้องแรงบันดาลใจซ้ง
ที่ในเวลานี้กำลังจ้องมองนุชาอยู่

ดวงตาที่ได้สบกันด้วยความไม่ตั้งใจ

นุชาส่งยิ้มบาง ๆ ให้คนที่หันมาจ้องหน้ากัน เพียงไม่นานก็ต้องเบนหลบสายตาและหันมองไปอีกทาง เพราะเข้าใจสถานะของตัวเองดี

น้องแรงบันดาลใจซ้งถอดหูฟังออกอย่างรวดเร็ว
ทำให้รู้ทำให้เห็นว่ากำลังฟังอยู่ด้วย

ตั้งใจให้รับรู้ว่า ได้ยินทุกอย่างที่นุชาพูด

“ใครใช้ให้มา ช่วยไม่ได้ ไม่ได้ง้อ ไม่ได้ขอ อยากมาเอง แล้วจะมาบ่นมาตัดพ้อต่อว่าทำไม”

พูดเสร็จแล้วน้องแรงบันดาลใจซ้งผู้แสนทำร้ายจิตใจ ก็ลุกขึ้นเดินหนีไปดื้อ ๆ
ทิ้งให้คนที่มาตัดพ้อนั่งอยู่คนเดียว

จะอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ
ขอให้มันหลุด ๆ ออกไปจากหัวซะที

ขอให้มันหายไปจากสมองให้เร็วที่สุด
อะไรบ้า ๆ ที่มันผ่านเข้ามาในหัว

ตั้งแต่ไอ้ตี๋นุชาหน้ามึน เริ่มเข้ามาวนเวียนใกล้ ๆ มาพูดจาประหลาด ๆ
มาทำท่าทางแปลก ๆ ใส่ และยิ่งหนักหนาสาหัสมากขึ้นก็เมื่อสองอาทิตย์ก่อน
ที่มันหายไปดื้อ ๆ ไม่โทรมากวนประสาท เงียบหายเหมือนตายจาก

จนทำให้ต้องขับรถไปหาถึงหน้าบ้าน แม้จะรู้ว่านุชาไม่ได้อยู่บ้านก็ตาม

จะอะไรก็ตามช่างมันไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น ขอให้มันรีบ ๆ ผ่านไปซะที
อย่าให้ต้องทำอะไรเพ้อเจ้อไม่ควรทำอีก

เช่นว่า การกดโทรศัพท์ไปหาไอ้นุชาเมื่อหลายวันก่อน แล้วได้รู้ว่าไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่เรียก

กดซ้ำ ๆ อีกหลายวัน หลายครั้งหลายหน แต่ก็เป็นแบบเดิม คือติดต่อไม่ได้

อะไร มันคืออะไร ความรู้สึกหงุดหงิด ไม่พอใจ ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้าตาท่าทางของคนที่เงียบหายไปอีกครั้ง และฝ่ายนั้นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งรู้สึกถึงความไม่พอใจที่เพิ่มทวีคูณมากขึ้น

ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร

แต่เกลียดอาการที่กำลังเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง
เกลียด ไม่ชอบ

ไม่ชอบความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้เหลือเกิน



TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † รีบ † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 13:42:19



ตอน รีบ



“คุณซ้ง คุณซ้งอ่า คุณซ้งจ๊ะ คุณซ้งจ๋า คุณซ้งคนดี”

คนดี ๆ ที่ไหนเขาพูดจากันแบบนี้ ถ้าไม่ใช่มัน ไอ้นุชา

“ทำไมต้องโกรธ ทำไมชอบเมิน ทำไมถึงได้ทำท่าเย็นชาได้ถึงขนาดนี้ล่ะ แค่คุยโทรศัพท์กับกิ๊กเก่าแค่เนี้ยะ ทำเป็นหึงไปได้”

อยากตายมากนักใช่มั้ย ใจคอมันจะกวนประสาทให้ตายกันไปข้างเลยหรือไงวะ

“ไม่เห็นผิดตรงไหน ผมหน้าตาดีขนาดนี้ จะไม่มีใครมาสนใจได้ยังไงกันล่ะ ถูกมั้ยคุณซ้ง คุณซ้งจ๋า”

โว้ยยยยยยยยยยยยย ฆ่าให้ตายซะตรงนี้เลยดีมั้ย

“เป็นบ้าหรือไงวะ ไม่ได้กวนประสาทสักวันจะตายหรือไง”

โห
แรงงงงงส์

หึงดิ

หึงก็บอกมาเถอะว๊า จะทำท่าโมโหกลบเกลื่อนไปทำม้ายยยยย

“เอ้า ช่วยไม่ได้คุณซ้งอยากจิตอ่อนเอง นี่จะบอกอะไรให้ ผมอยู่ชลบุรีนะ นอนคิดถึงคุณซ้งทุกวันเลย รีบมาเลยนะเนี่ยคิดว่าคุณซ้งคงจะรู้สึกเช่นเดียวกันใช่มั้ยล่ะ”

มันช่างพูดจายอกย้อน โยกโย้ ได้น่าโมโหที่สุด

“นี่นุชา เป็นห่าอะไรไม่ทราบ จีบอาม่าอั๊วไม่ได้ ก็หันมาเล่นงานอั๊วแทนใช่มั้ย จะบอกให้นะ แค่นี้ทำอะไรอั๊วไม่ได้หรอก บอกไว้ตรงนี้เลย ว่ายังไงก็ไม่มีทางยกอาม่าให้ลื้อเด็ดขาด”

โห
ถามจริง ๆ
เอาอะไรคิด คิดเข้าไปได้เนอะคนเรา

จะมีใครคิดอะไรประหลาดได้เท่าน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งอีกมั้ยเนี่ย โคตรปวดใจเลยที่คิดได้แบบนี้ แล้วไอ้หน้าตาท่าทางขึงขังนี่มันอะไรกัน

น่ารักเน้อออออ

เหอ เหอ เหอ

“ด่าแบบนี้ค่อยใจชื้นหน่อย ถ้าทำตัวเงียบ ๆ อยู่แบบเงียบ ๆ จะขาดใจตาย ยิ่งคุณซ้งทำเป็นเมินด้วยนะ ยิ่งทนไม่ไหว เดาใจไม่ถูกหัวใจจะวายให้ได้เลย รู้หรือเปล่า”

คิดถึงจริงๆ ครับคุณซ้ง
เห็นหน้าคุณซ้งแล้วโคตรดีใจเลย
รู้มั้ยแค่เห็นแว่บแรกก็แทบอยากจะกระโดดกอดด้วยความคิดถึงแล้ว ได้ยินเสียงด่านิดเดียว หัวใจก็กระชุ่มกระชวย เหมือนใจทั้งดวงแทบจะหลุดลอยไปหาคุณซ้งแล้ว

เข้าใจมั้ย ว่าชอบมากขนาดไหน
ชอบ มาก มาก มากซะจนแทบไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะชอบได้ขนาดนี้

“คุณซ้ง”

นุชาหน้าระรื่น เปลี่ยนสภาพเป็นนุชาหน้าตาจริงจัง

หยุดยืนนิ่ง ๆ และยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก

จริง ๆ นะ ไม่เคยโกหกความรู้สึกตัวเองหรอก
รู้สึกคิดถึงจริง ๆ
คุณซ้งรู้มั้ยว่าเรื่องที่พยายามทำอยู่มันยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน
ยากจริงจังนะ การตัดใจ การตัดความรู้สึกคิดถึงของตัวเองออกไป

คุณซ้งไม่รู้แล้วก็ไม่เคยเข้าใจสินะ ว่าที่บอกว่ายาก มันยากแบบไหน

เพราะคุณซ้งไม่เคยรู้สึกอะไรเลย

แต่ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยการไปอยู่ซะไกล
คงพอช่วยอะไรได้บ้าง แม้ตอนนี้จะไม่สามารถหยุดความรู้สึกของตัวเองได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางคงทำให้หยุดตัวเองได้บ้าง แม้มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ในวันหนึ่งมันก็ต้องเป็นไปได้
วันที่หยุดความคิดถึง วันที่สมองจะหลงลืมเรื่องของคุณซ้งและตัดออกจากความรู้สึกไปจากใจให้หมด

วันที่ชินชากับการไม่ต้องพบเจอกัน

หรืออาจเป็นการไปพบใครคนใหม่ ที่น่าสนใจกว่า
บางทีมันคงจะช่วยดึงความรู้สึกให้หยุดได้ ไม่มากก็น้อย

“กินท็อฟฟี่เถอะนะ”

ค้นหาท็อฟฟี่ในกระเป๋า คว้ามาทั้งหมด และกำใส่ไว้ในมือ
เพื่อแบ่งให้กับคนที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง

น้องแรงบันดาลใจซ้งจะ ข้าพเจ้าไม่เคยล้อเล่น ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่เคยล้อเล่น ถึงหน้าตาจะเหมือนคนพูดอะไรจริงจังไม่เป็น แต่ใจ จริงจังตลอด แม้กระทั่งเวลานี้ก็จริงจัง

“อยากได้สีไหน”

เป็นคำถามที่กวนประสาทที่สุด เท่าที่เคยได้ยินมา

ไอ้นุชามันน่าฆ่า น่าบีบคอให้ตาย
มันวิ่งตามคนที่กำลังโมโห เพื่อจะมาหยอกล้อเล่น
มันทำอะไรของมัน เห็นมั้ยว่ารู้สึกยังไง
มันก็ยังจะตามมากวนประสาทจนได้
ปวดหัว บ้าบอ
เรื่องบ้าบอน่าปวดหัวนี่มันอะไรกัน

นุชาทำไมมันพูดอะไรง่าย ๆ แบบนี้
พูดจามักง่ายไม่รับผิดชอบคำพูดตัวเองเลย
คิดอยากจะพูดอะไรมันก็พูด อยากจะทำอะไรมันก็ทำ

ตั้งแต่แรก ตั้งแต่มันเข้ามาพัวพันในวันแรกจนถึงตอนนี้
มีแต่เรื่องน่าปวดหัว

“ไปห่าง ๆ ถอยไปยืนไกล ๆ จะกระแซะเข้ามาทำไม สภาพดูยังไงก็ไม่เหมือนคนดี ๆ เขาเป็นกัน”

แบ่งท็อฟฟี่ให้ก็ไม่เอา

แถมยังโดนว่าอีก รู้บ้างมั้ยว่าคนมันรีบ จะให้ดูดีขนาดไหนกัน ได้แค่นี้ก็บุญถมเถ หล่อซะอย่างกลัวอะไร คนหล่อทำอะไรไม่เห็นน่าเกลียด แนวดีด้วย คุณซ้งจะมาต่อว่าให้หมดกำลังใจไปทำไม

เคยรู้เคยเข้าใจเหตุผลบ้างหรือเปล่า
ขืนมาช้ากว่านี้ คุณซ้งหนีกลับบ้านไปจะทำยังไง
อดเห็นหน้ากันพอดี

“ดูไม่ได้ตรงไหนกัน ดูไม่ได้ก็ดูหน้าสิ หน้าออกจะหล่อ น่ารักสดใส ดูสิ ไม่ว่าตรงไหนก็น่ารักน่าสนใจไปหมดใช่มั้ยล่ะ”

นุชาเป็นพวกทำอะไรไม่รู้จักคิด
ยื่นหน้ายื่นตาเข้าไปใกล้ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ลอยหน้าลอยตาพูดโดยไม่มีความสำนึก ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ไม่มีใครที่ไหนเขาทำกัน

“หน้าก็มัน หัวก็ยุ่ง เสื้อผ้าก็ยับยู่ยี่”

ว่าเข้าไปเถ้อออออ หลงรักผมวันไหนขึ้นมา
หน้าตาแบบนี้ เสื้อผ้ายับยู่ยี่แบบนี้ หัวยุ่ง ๆ แบบนี้แหละ

จะทำให้คุณซ้งคิดถึงจนทนไม่ไหวเลยคอยดู

“เกลียดอะไรผมนักหนา ไปทำอะไรให้ตอนไหน อยากเป็นเพื่อนด้วยแค่นี้ทำไมต้องหยิ่ง”

แกล้งทำหน้าตาย ตีมึน พูดไปเรื่อย ๆ
ยิ่งน้องแรงบันดาลใจซ้งจะเดินหนี ก็ยิ่งต้องเดินไปลัดหน้าลัดหลัง คอยเดินตามเหมือนแกล้ง

แอบยิ้มเล็ก ๆ หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว
โดยมีน้องแรงบันดาลใจหน้าใสปิ๊งแต่บูดบู้บี้เป็นองค์กระกอบหลัก

“ไอ้นุชา”

โดนตะคอก และคนที่ตะคอกเสียงดังใส่ก็ยิ่งทำหน้าบูดบึ้งบู้บี้
ด้วยความหงุดหงิดโมโห

“จ๋า”

ยิ้มร่าหน้าระรื่น
ตอบรับไปแล้วก็ยังทำเริงร่า
ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็พอดีกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
จนต้องรีบคว้ามาดูว่าหมายเลขที่โทรเข้ามาเป็นใคร

อ่า

ว่าแล้ว

ว่าต้องใช่ กี่โมงแล้วเนี่ย

ยังไม่ทันถึงเวลานัดเลย

“ครับ....เดี๋ยวชาไป ออกจากที่นี่ก็ประมาณครึ่งชั่วโมง ชาเข้าบ้านเอาของไปเก็บก่อนได้หรือเปล่า งั้นถ้าชาไปถึงแล้วชาจะโทรบอกพี่แล้วกันนะ”

ผิดกันราวฟ้ากับเหว
การพูดจาดีมีมารยาท แถมซ้ำยังแทนชื่อตัวเองแบบที่ไม่เคยใช้คำแทนตัวกับใคร มันทำให้คนที่แม้ไม่อยากฟังแต่ยืนอยู่ด้วยกันและได้ยินชัดเจนถึงบทสนทนา เริ่มรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดที่ได้ยิน

คนพูดไม่ทันมองหน้าคนที่ยืนอยู่ด้วย

พูดคุยเหมือนเป็นเหตุการณ์ปกติ

แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ต้องฟังด้วยมันไม่ใช่

คุณซ้งกำลังรู้สึกถึงบางอย่างที่น่าหงุดหงิดโมโห

บางอย่างที่น่าโมโหยิ่งกว่าการถูกนุชากลั่นแกล้ง

ท่าทางการพูดคุยที่ดูผิดจากปกติ
ความรู้สึกบางอย่างที่รู้สึกได้ว่าดูยังไงฝ่ายนั้นก็ต้องเป็นคนที่สนิทสนมด้วย

“งั้นเดี๋ยวผมไปก่อนนะคุณซ้ง”

คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป
คิดจะจากไปก็จะจากอย่างง่ายดาย

ทั้งที่ก่อนหน้านี้เดินตามมาแกล้งถึงที่

แต่เวลานี้กำลังจะเดินผละจาก

ยังไม่ทันที่นุชาจะหันหลังเดินหนีก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้จากคนที่เริ่มแสดงท่าทางไม่พอใจ โดยที่เจ้าตัวเองไม่ทันรู้สึกตัวว่าเผลอแสดงความรู้สึกบางอย่างออกไป

“จะไปไหน”

เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ให้แน่ชัดถึงสถานที่ที่นุชากำลังจะไป

“ไปไหนล่ะ ไม่ได้ไป จะกลับบ้านนอนแล้ว เหนื่อยจะตาย”

พูดออกไปได้หน้าตาเฉย
เพราะไม่คิดว่าจะมีใครรู้สึกรู้สา แต่สิ่งที่นุชาคิด มันกำลังจะไม่เป็นอย่างที่เคยอีกต่อไปแล้ว

“ดี....งั้นไปกินข้าวด้วยกันก่อน มาเหนื่อย ๆ ก็ต้องหิวข้าว งั้นรีบขึ้นรถเดี๋ยวจะพาไปหาข้าวกิน ดึก ๆ ค่อยกลับบ้าน”

บ้าแล้ว

คุณซ้งบ้าไปแล้ว

ทำอะไรของท่านกันล่ะครับคุณซ้ง
ก็ได้ยินชัดไม่ใช่เหรอ ว่ามีนัด และกำลังจะไปตามนัด

ยังจะพาไปกินข้าวที่ไหน

จะแกล้งกลับคืนหรือยังไง
ไม่ได้หรอกครับ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ กำลังจะไปคุยเรื่องจริงจัง อย่าหาเรื่องให้ต้องปวดหัวเลย

“ไม่ได้หรอกคุณซ้ง วันนี้รีบ”

ข้ออ้างคงไม่ต้องหา เพราะก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าเพราะอะไรถึงต้องบอกว่ารีบ

“งั้นขอยืมโทรศัพท์หน่อย”

อ้าว

แล้วคุณซ้งไม่มีโทรศัพท์เหรอ ถึงต้องมายืมของผมใช้
จะเอาไปโทรหาใครกันล่ะ

ไม่ทันคิดก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบโทรศัพท์มายื่นให้กับคนที่เอ่ยปากยืม

คนตัวสูง หน้าใสปิ๊ง แต่ไม่เลิกทำหน้ายู่ยี่อย่างน้องแรงบันดาลใจซ้งกำลังทำอะไรบางอย่าง

รับโทรศัพท์มาถือเอาไว้ และจัดการปิดเครื่องเสร็จสรรพ
ก่อนจะพลิกไปด้านหลังของตัวเครื่องและดึงแบตเตอรี่ออก

คืนเฉพาะตัวเครื่องโทรศัพท์ให้กับนุชา แต่ไม่ยอมคืนแบตเตอรี่ให้

“เฮ้ยยยยยยย คุณซ้งงงงงงงงงงง ทำไมทำแบบนี้”

แหกปากโวยวายไปก็เท่านั้น

เพราะนอกจากจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว

ผู้ที่ทำการแยกชิ้นส่วนโทรศัพท์ออกจากกัน ยังอมยิ้มที่มุมปากเหมือนแกล้งเยาะเย้ย

ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะคุณซ้ง
ทำไมทำแบบนี้

“ถ้าไม่ให้แบตเตอรี่คืน นับหนึ่งถึงสิบจะโกรธจริง ๆ นะ”

เหรอ

โกรธไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ

ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว จะโกรธหรือไม่โกรธก็ไม่เห็นมีผลอะไรกับชีวิต

ไม่ต้องเดา นุชาก็รู้ผล
ไม่ต้องนับหนึ่ง สอง หรือสาม ก็รู้ว่าไม่ได้แบตโทรศัพท์คืน

ไม่ว่ายังไงคุณซ้ง ก็ต้องทำตามใจของตัวเอง

งั้นถ้าอยากได้ขนาดนั้น ก็ไม่ว่า

นุชาไม่ได้ขอแบตเตอรี่โทรศัพท์คืน

แต่จัดการยัดเยียดเครื่องโทรศัพท์ใส่มือคนแกล้งให้ถือเอาไว้

“...............”

ไม่มีคำพูด

ไม่อยากได้คำตอบ

ไม่มีคำถามที่อยากถาม

นุชาหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว

ไม่รอให้รั้ง

ไม่รอฟังอะไรทั้งนั้น

เดินลิ่ว ๆ จากไป ปล่อยให้น้องแรงบันดาลใจซ้งยืนนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้พบเจอ

เดินจากไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอนุชา
ทำแบบนั้น เรียกว่าโกรธจริง ๆ ใช่มั้ย

แล้วยังเอาโทรศัพท์มาทิ้งไว้ให้อีก
แบบนี้ไม่กลัวว่าจะมีใครโทรมาหรือยังไง

แล้วนั่น จากเดินกลายเป็นวิ่ง แล้วก็วิ่งลิ่ว ๆ จากไป แถมยังไปโบกมอร์เตอร์ไซด์วินและจากไปง่ายดายอย่างหน้าเฉย

ทำอะไร

ไอ้นุชามันกำลังทำอะไร

มันต้องการจะทำอะไร มันทำไปเพื่ออะไร
สิ่งที่มันทำตอนนี้คือ...................

ใช่สิ

คงสนุกมากนักใช่มั้ย สนุกที่ได้ปั่นหัวคนอื่นเล่นแบบนี้
คงจะคิดว่าสนุกมาก ถึงได้ทำ

ไอ้ตี๋นุชาหน้ามึน ทำไมถึงได้นิสัยเสียแบบนี้ ทำอะไรอย่างที่ตัวเองอยากทำ ทำอย่างที่ต้องการ เคยมีความคิดในหัวสักนิดบ้างมั้ย เคยคิดเคยแคร์บ้างมั้ยว่าคนที่ต้องรับผลจากการกระทำของมัน

กำลังรู้สึกยังไง



TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่เป็นไรนะ † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 13:51:11



ตอน ไม่เป็นไรนะ



22.30 น. ณ หน้าบ้านของนุชา

นุชา นุชา นุชา นุชา ไอ้นุชา ไอ้นุชา ไอ้นุชา

โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ผู้อยู่ในอาการของคนจิตใจร้อนรนอย่างรุนแรง
กำลังเดินวนไปวนมารอบ ๆ รถของตัวเองที่ขับมาจอดไว้ ณ สถานที่ ที่ไม่ควรมา

มาทำไม มาเพื่ออะไร มาหาใคร

ตอบไม่ได้

แต่หงุดหงิด

ขับมาจอดแล้วก็เดินวนไปวนมารอบรถสามสิบแปดตลบโดยมีโทรศัพท์เจ้าปัญหาที่ยังไม่ถูกประกอบให้เข้าที่เข้าทางอยู่ในมือ

พลัดพรากจากนุชาเมื่อช่วงเกือบหัวค่ำ
ร้อนรนจนทนไม่ไหว จนต้องมารอถึงหน้าบ้าน รออยู่นาน นานมาก นานซะจนทนไม่ไหวจนต้องไปกดกริ่งหน้าบ้าน เพื่อสอบถามหาไอ้ตัวปัญหาใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตูเลยสักคน

แถมบ้านยังปิดเงียบ เปิดทิ้งไว้แต่โคมไฟหน้าบ้าน

ไปไหนกันหมดวะ บ้านนี้

แล้วไอ้นุชามันไปไหนของมัน ให้รออยู่ได้ตั้งนานสองนาน

กลับไปบ้านมาสองรอบแล้ว

รอบแรกบอกอาม่าว่าจะไปซื้อบะหมี่กินที่หน้าปากซอย แล้วก็เลยถ่อมาถึงที่นี่

รออยู่นานจนทนไม่ไหว ขับรถกลับบ้านไปอีกหนึ่งรอบ และก็เดินวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่น ทำอะไรก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง รู้อย่างเดียว คืออาการร้อนรนจนอยู่ไม่ได้
ต้องหาเรื่องขับรถออกมาอีกรอบ โดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า
บะหมี่ที่ซื้อไปไม่ค่อยอร่อย ต้องออกมาซื้อโจ๊กไปกิน

และในเวลานี้

ถุงโจ๊กก็ยังอยู่ในรถ

แต่เจ้าของรถไม่ยอมกลับบ้านไปกินโจ๊กที่ซื้อ แต่มาเดินวนรอบรถตัวเอง
และสายตาคอยแต่จะมองหาว่าเมื่อไหร่จะมีใครมาเปิดประตูบ้านซะที

มันไปไหนของมันวะ
ไปตั้งแต่เย็น
ก็ไหนว่าจะกลับมาบ้านก่อน แต่ก็ไม่เห็นกลับมา

หงุดหงิด หงุดหงิด โมโห โมโห

อยากจะบีบคอไอ้นุชาตัวปัญหาให้ตาย ๆ ไปจริง ๆ โว้ยยยยยยยยยยยยย

ยิ่งคิดยิ่งไม่พอใจ หงุดหงิดงุ่นง่านเดินไปเดินมา และกลับมาอยู่ในสภาพเดิม
คือยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่

ทำไมทำแบบนี้วะ

อั๊วไม่เคยต้องมารอใครแบบนี้นะนุชา

หน้าตามึน ๆ ทำตัวเหมือนเด็ก ๆ โตกว่าแล้วยังไง ไม่เห็นทำตัวให้โตเป็นผู้ใหญ่สมอายุ นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะไปก็ไป
นึกอยากจะโทรมากวนประสาท มาทำท่าทางกวน ๆ ใส่ มันก็ทำ

มันอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจตัวเอง

คนที่ได้รับผลกระทบก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน ไม่รู้สึกสำนึกบ้างหรือไง “นุชา”

น้องแรงบันดาลใจซ้งผู้เคยมีมาดเคร่งขรึม และหน้าบูดบู้บี้อยู่เสมอ
เปลี่ยนสภาพกลายเป็น น้องแรงบันดาลใจผู้มีสภาพใบหน้าเหมือนคนเซ็งโลก

ยืนหูลู่ หางตก อยู่หน้าบ้านนุชา และยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอีกครั้ง

ปาเข้าไปจะห้าทุ่มแล้ว มันหายไปไหนของมันวะ

แล้วนี่อะไร เอามาทิ้งไว้ทำไม อย่าถามหามารยาทจากอั๊วนะ
ก็ลื้อยัดโทรศัพท์ใส่มืออั๊วมาเอง หลังจากมันอยู่อย่างผิดสภาพมานาน อั๊วจะประกอบร่างให้โทรศัพท์เดี๋ยวนี้แหละ

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ผู้สิ้นสุดการรอคอย
จัดการประกอบร่างให้โทรศัพท์ที่ถูกแยกส่วน และกดเปิดหน้าจอเพื่อดูข้อมูลบางอย่าง

มันติดต่อใครบ้างวะ

ทำอะไรบ้างวัน ๆ

มีรูปอะไรให้ดูบ้าง

สมองคิด แต่ยังไม่ทันได้ลงมือปฏิบัติ สำนึกบางอย่างกำลังผุดขึ้นในความสมองอย่างรวดเร็ว

ทำไมต้องอยากรู้ว่าวัน ๆ ไอ้นุชาทำอะไร

ทำไมต้องอยากรู้ ว่ามีรูปอะไรให้ดูบ้าง

ทำไมต้องอยากรู้อยากเห็น ทำไมต้องสนใจ ทำไมถึงได้มีความคิดแบบนี้อยู่ในหัว

ซ้ง ลื้อไม่ใช่คนแบบนี้
มันผิดจากที่ลื้อเป็น สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่นิสัยของลื้อ

ทำไมต้องมาหา
ทำไมต้องมาวน ๆ เวียน ๆ ไป ๆ กลับ ๆ
หาข้ออ้างสารพัดล้วนแล้วแต่เป็นข้ออ้างไร้สาระทั้งนั้น
แค่คืนโทรศัพท์ที่เจ้าของไม่ต้องการ ไม่ใช่ปัญหาคาใจที่จะต้องมาถึงที่นี่

แล้วยังจะมาทำไม

ทำไมถึงมา

ครุ่นคิดด้วยความแปลกใจ
มองโทรศัพท์ในมือและและจัดการแยกชิ้นส่วนโทรศัพท์ให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิมที่ได้รับมา

แบบนี้ไม่ใช่

ไม่เคยเป็นแบบนี้
ไม่เคยต้องตามใครแบบนี้
ไม่เคยร้อนรุ่น กระวนกระวายแบบนี้

ไม่เคยรู้สึกแปลก ๆ ไม่เคยรู้สึกอยากสนอกสนใจใครแบบนี้เลยสักครั้ง

แต่กำลังรู้สึกกับ ไอ้นุชาหน้ามึน

ไม่จริง

คงเป็นแค่ความรู้สึกคาใจ เหมือนมีอะไรค้างคาอยู่ข้างใน ไม่ทันได้เอ่ยไม่ทันได้ถาม
ก็เลยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เท่านั้นเอง

บอกตัวเอง ปลอบใจตัวเองไม่ให้คิดมาก

และหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋า

พยายามสลัดเรื่องแปลก ๆ ที่ผุดขึ้นในหัวออกไปให้หมด
ตั้งใจว่าจะไม่มีการหาเหตุผลโง่ ๆ มายืนรอนุชาอีกเป็นรอบที่สาม

กำลังจะก้าวเดินไปเปิดประตูรถ ก็พอดีกับที่มีรถแท็กซี่แล่นมาจอดที่หน้าประตูบ้านของนุชา หัวใจเต้นระทึก ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมายืนลุ้นอะไรที่ไม่ควรลุ้นแบบนี้

ยืนมอง เพ่งมอง และคิดในใจว่าขอให้ใช่คนที่กำลังรอคอยอยู่

มีใครบางคนกำลังก้าวขาลงมาจากรถ

“เฮ้ยยยยยยย นุชา”

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าใคร เพราะคนที่ก้าวขาลงมาอยู่ในสภาพกระเซอะกระเซิงยิ่งกว่าช่วงเย็นแถมยังสะพายเป้ใบเดิม

แปลได้ความว่า มันไม่ได้กลับมาที่บ้าน
แต่มันหายไปตั้งแต่ช่วงเย็น และเพิ่งกลับมาป่านนี้
ซึ่งกำลังจะห้าทุ่มแล้ว ไปไหนทำไมไม่รู้จักเวลา นี่มันดึกแล้ว รู้บ้างมั้ยวะ

และ.....

บ่นด้วยความไม่ใจ แต่...

แว่บแรกที่เห็น ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าคือไอ้นุชาหน้ามึนแน่ ๆ
แต่พอเดินเข้ามาใกล้ ๆ

คนตรงหน้าเหมือนไม่ใช่ไอ้นุชาหน้ามึน กวนประสาท ที่เคยได้รู้จักอยู่เสมอ

“นุชา”

เรียกชื่อ และกำลังรู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่างที่มาพร้อมกับคนที่มายืนก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้า

บอกได้ว่าไม่ใช่นุชาแน่ ๆ ไม่ใช่นุชาที่รู้จัก

“นุชา”

เรียกซ้ำอีกครั้ง และคราวนี้ นอกจากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่หันกลับมามองแล้ว ยังหันหนีไปอีกทาง และไปยืนไขกุญแจประตูบ้าน

ทำเหมือนไม่สนใจกันเลย

ไม่ใช่อาการเมินเฉย แต่เป็นการหลบหน้า

ทำไมหลบหน้ากันซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้

“อย่าทำตัวกวนประสาทอั๊วไม่ชอบ”

ว่าเข้าให้ด้วยประโยคทำร้ายจิตใจ แต่นอกจากคนฟังจะไม่สนใจแล้ว ยังไขกุญแจและเดินเข้าบ้านไปแบบไม่สนใจกันเลยสักนิด

“นุชา อย่ากวนประสาทเข้าใจมั้ย”

ไม่พอใจและไม่ชอบ คว้าข้อมือของคนที่เดินหนีเอาไว้ และรั้งให้หันมาเผชิญหน้ากัน
และก็ทันได้เห็นบางอย่าง

“จะไม่กวนจะไม่ทำให้โมโห จะไม่ยุ่งด้วยอีกแล้ว”

น้ำเสียงแผ่ว ๆ เบาจนแทบไม่ได้ยิน มาพร้อมกับการที่คนตรงหน้ายกหลังมือขึ้น
เช็ด.......หยดน้ำตา

ไม่ใช่นุชา

แบบนี้ไม่ใช่
“จะไม่ยุ่ง จะไม่ไปที่สนามอีกแล้ว”

น้ำเสียงแผ่วโหย และคนพูด พูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคนจะขาดใจ จนคนตัวสูงกว่า
ต้องยึดไหล่ของคนที่พูดไปก้มหน้าก้มตาไปให้หันมาคุยกันให้รู้เรื่อง

“อะไร พูดอะไรฟังไม่รู้เรื่อง พูดดี ๆ ไม่ได้หรือไง......นุชา”

จากที่เหมือนคนกำลังโกรธและแทบจะควบคุมความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ไม่อยู่
แต่พอได้เห็นหน้า ได้เห็นสภาพที่ไม่เคยได้เห็น

หัวใจที่เคยครุกรุ่นไปด้วยความโกรธก็มีอันหล่นวูบลง เพราะสภาพดวงตาที่แดงก่ำ
และการยกหลังมือขึ้นปาดปาดน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหลของนุชามันทำร้ายจิตใจมากเหลือเกิน

“สัญญา สาบานก็ได้ ยอมแพ้แล้ว ต่อไปจะไม่ไปให้คุณซ้งเห็นหน้าอีกตลอดชีวิตก็ได้”

ไม่เข้าใจ พูดเรื่องอะไร

อยู่ดี ๆ ก็พูด ลื้อพูดเรื่องแบบนี้กับอั๊วทำไม

“นุชา อั๊ว ไม่ใช่ว่า เอ่อ ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงได้.....มีใครว่า มีใครทำอะไรลื้อมาใช่มั้ย”

สงสาร

ไม่น่าใช่

เห็นใจ

ยิ่งไม่ใช่

แล้วในเวลานี้ความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันคืออะไร

คนหน้ามึน คนที่แกล้งให้ปวดหัว คนที่ไม่เคยชอบ และอยากจะเตะให้ไปไกล ๆ จากชีวิตอยู่ตลอดเวลา คน ๆ นั้นที่เคยรู้จัก

ผิดกับคน ๆ นี้ที่ยังก้มหน้าก้มตาร้องไห้ไม่ยอมหยุด

มีบางอย่างไม่ปกติ

ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทนถูกส่งผ่านมาพร้อมกับร่างกายที่กำลังสั่นไหวเพราะควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้

มีบางอย่างเกิดขึ้นจริง ๆ

บางอย่างที่นุชา ไม่ได้พูดออกมา

แต่มันเกี่ยวข้องอะไรกับการที่ นุชาที่ดื้อรั้นและดึงดันเอาแต่ใจตัวเองคนนั้น
เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงแบบนี้

สงสัยแต่ไม่ได้ตั้งคำถาม

จะหาว่าเป็นคนขี้สงสารหรือใจอ่อนก็ได้
แต่ในเวลานี้ สิ่งที่ทำได้ คือรั้งร่างของคน ๆ นั้นเข้ามาหา

กอดเอาไว้ และแตะเบา ๆ

ลูบไล้ไปมาที่เส้นผม และแผ่นหลัง ของคนที่มายืนร้องไห้ให้กอด
พูดถ้อยคำซ้ำ ๆ ที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะพูด แต่ก็พูดออกไปแล้วด้วยความรู้สึกจริง ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ทั้งหมด

“ไม่ร้องแล้วนุชา ร้องไห้ทำไม ไม่เป็นไรแล้วนะ มีอะไรค่อย ๆพูด ค่อย ๆ คิด ไม่ร้องแล้วนุชา อย่าร้องไห้เลย นุชาที่ซ้งรู้จักไม่ร้องไห้ง่าย ๆ หรอก ร้องไห้แบบนี้ไม่สมเป็นนุชาที่ซ้งเคยรู้จักเลยนะ รู้มั้ย”




TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † กลับมา † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 13:59:52



ตอน กลับมา



“น้ำฝนกำลังจะแต่งงาน....” น้ำเสียงแหบพร่าที่เอ่ยบอก ขาดหายไปเป็นช่วง คนที่เอ่ยบอกพยายามจะปรับน้ำเสียงให้นิ่งที่สุด แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เพียงพยายามพูดให้จบประโยคเท่านั้น

“ตลกดีนะ สุดท้ายทั้งพี่ทั้งน้ำฝนก็หนีไม่พ้น”

ได้ยินชัดเจน และรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเป็นไป


เราไม่ได้เจอหน้ากันสองปีเต็ม สองปีที่พยายามหลบเลี่ยงหนีหาย

พี่ฟ้ายังโทรมาหาอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นเวลาสองปี ที่ไม่เคยได้เห็นหน้ากันอีกเลย

อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่สิ่งที่ต่างฝ่ายต่างพยายามทำคือ

หนีห่างจากกันให้มากที่สุด

ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง บางครั้งที่ทำไม่ได้ อีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายช่วยด้วยการปิดโทรศัพท์หนีไปซะ หรือไม่ก็กดวางสาย เพื่อให้คนที่โทรมาได้สงบจิตสงบใจลงบ้าง

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถตัดใจจากกันได้




นุชาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
ก่อนจะค่อย ๆ ก้มหน้ากลับลงมาที่เดิม
จ้องมองที่ปลายนิ้วของตัวเอง และยิ้มออกมาอย่างเศร้า ๆ

เรื่องนั้นก็ถูกกำหนดไว้แล้วสินะ

“หนีไม่พ้นเหมือนพี่ฟ้าเลย” นิ่งคิด และเอ่ยตอบกลับไปเสียงเบา

ชะตากรรมของใครบางคนถูกกำหนดมาแล้ว และไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ แม้อยากจะหนีอยากจะฝืน แต่สุดท้าย สามัญสำนึกก็บอกให้กลับไปสู่ที่เดิม

ต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้น

ที่ถูกกำหนดไว้

เหมือนกับที่คนตรงหน้าเคยพยายาม เคยหนี เคยฝืน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้

“พี่ฟ้า....ที่พี่ทำอยู่ ถูกต้องที่สุดแล้วนะ ที่พี่ทำ ... สำหรับชามันคือสิ่งที่ถูกต้อง”

บางครั้งสิ่งที่ถูกต้อง ก็ต้องถูกแยกออกจากความรู้สึก

อย่าถามเลย ว่ายังรักเหมือนเดิมหรือเปล่า

ตอบได้ว่าไม่เคยเปลี่ยน แม้แต่ในเวลานี้ ความรู้สึกนั้นก็ยังอยู่
มันยังอยู่ตรงนี้เสมอ ไม่เคยลบเลือนลงไปเลยสักนิด

แม้จะแกล้งลืม แม้จะพยายามลืม แม้จะพยายามแค่ไหน แต่ไม่เคยมีสักวันที่ลืม

“ชาเหมือนคนเป็นอะไรหรือไง ตั้งสองปีแล้วนะ พี่ฟ้าสบายใจเถอะ ชาอยู่ได้”

แม้พยายามจะทำเสียงให้ร่าเริงแค่ไหน แต่ใจใจลึก ๆ ก็รู้ตัวเองดีว่าบาดแผลที่คิดว่าหายแล้ว มันกำลังปริออกและเหมือนมีหยดเลือดค่อย ๆ ไหลซึมออกมา

พี่ฟ้ายังเป็นพี่ฟ้าคนเดิม เป็นเหมือนเดิม

วันเวลาเก่า ๆ หมุนย้อนกลับมาอีกครั้ง วันเวลาที่พยายามจะลืม อยากจะลืม และตั้งใจจะลืมมันไปให้หมด

สิ่งที่ทำให้พี่ฟ้าให้ความรู้สึกต่างจากเดิมมีเพียงเล็กน้อย คือใบหน้าซีดเซียว และดูเหมือนจะผอมลงกว่าเดิมจากครั้งหลังสุดที่เจอกัน

พี่ฟ้า

ชารู้ว่าพี่ฟ้ายังสบายดี แค่รู้ว่ายังสบายดี แค่ชารู้......ว่าพี่ยังสบายดีอยู่

“แล้วพี่ล่ะชา ใจพี่ล่ะ ชาก็รู้ดีว่าจนถึงตอนนี้มันเป็นยังไง”

รู้สิพี่ฟ้า ชารู้ดีว่าใจพี่เป็นยังไง

ชารู้

แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อเราต่างก็รู้ดี ว่าวันเวลาของเรามันหมดลงไปตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว

ตั้งแต่วันที่.......พี่ฟ้าแต่งงาน

เจ็บปวดใช่เล่น

แต่มันก็เท่านั้น

เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เราหมุนเวลาของเรากลับไปไม่ได้
สิ่งที่เราต้องทำคือเดินไปข้างหน้า มุ่งตรงไปและอย่าหันกลับมามองข้างหลังอีก

“ชาสงสัยมาตลอดเลย ว่าทำไมชาถึงได้สะดุดตาเขา พี่ฟ้าเชื่อป่ะ ชามองเขาตลอด ทั้งที่เป็นแค่เด็กที่อายุน้อยกว่า แต่เพราะว่าเขาตัวสูง ๆ เหมือนพี่ฟ้า มองเผิน ๆ บางครั้งชาก็นึกว่ามองหน้าพี่ฟ้าอยู่”

นุชาเอ่ยบอกกับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า

เล่าเรื่องของน้องแรงบันดาลใจซ้ง เล่าให้คนตรงหน้าฟัง เล่าตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเจอเล่าให้ฟังจนถึงวันนี้ เวลานี้ เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่นาน

“เหมือนพี่ฟ้าหลายอย่างนะ เขาเหมือนพี่ฟ้าเมื่อสองปีก่อน ที่เราเคยเจอกัน
ปากก็ร้ายทั้งบ่นทั้งว่าชาตลอดเลย ทั้งที่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนใจดีมากเลยนะพี่ฟ้า”

พูดได้เพียงเท่านี้ และนุชาก็สำนึกได้ถึงความเลวของตัวเอง

เลวเหลือเชื่อ

ใช้ใครบางคนเป็นตัวแทนความรู้สึกที่หล่นหายไป
คนที่แม้คล้ายกันมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีทางใช่

“ชา.....”

ได้ยินเสียงเรียกแผ่ว ๆ แต่มันก็แสนห่างไกล

แม้คนตรงหน้าจะอยู่ใกล้แค่ไหน แต่ยิ่งมองก็ยิ่งลางเลือนและไกลออกไป

มันเป็นเรื่องเมื่อสองปีก่อน ที่เราได้เจอะเจอกัน
เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน

พี่ฟ้าเป็นรุ่นพี่

เป็นรุ่นพี่ที่ดุมากซะจนรุ่นน้องทุกคนพากันเข็ดขยาด
แม้แต่นุชาเองก็ไม่เคยคิดว่าจะสามารถเข้าหน้าติด แต่มันก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกของผู้ชายตัวโต ที่มีใบหน้าเคร่งขรึมอยู่เสมอ

ที่จริงแล้วพี่ฟ้าเป็นคนที่ใจดีมาก ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

โดยที่ไม่ทันได้คิด โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เราก็กลายเป็นคนรักกันไปซะแล้ว
รักกัน ทั้งที่รู้ว่า สุดท้ายพี่ฟ้าก็ไม่สามารถหนีจากครอบครัวพ้น

แม้พี่ฟ้าจะพยายามหนี แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ยังไงก็ไม่มีทางพ้น

“ใจพี่ฟ้า ยังอยู่ในนี้นะ มันยังอยู่ในนี้ของชาเสมอแหละพี่ฟ้า ไม่เคยไปไหนหรอก”

นุชาเงยหน้าขึ้นและแตะฝ่ามือของตัวเองที่อกข้างซ้ายของตัวเอง

เอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม เอ่ยบอกทุกความรู้สึกทั้งหมดที่ไม่เคยเปลี่ยน

“ชาหวังว่าสักวัน ชาจะเอากลับไปคืนให้พี่ฟ้า แต่มันก็ยังอยู่จนถึงตอนนี้จนได้”

เจ็บ

ปวด

ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้

แต่สิ่งที่ต้องทำคือพยายามตั้งสติให้มั่น

“พี่ฟ้าสัญญากับชาไว้ยังไง วันนี้ชาก็ยังทวงสัญญานั้นอยู่นะ พี่ฟ้าอย่าแม้แต่จะคิด อย่าทำ พี่ฟ้าอย่าหักหลังครอบครัว”

ในสายตาของฟ้า

นุชาเป็นคนเย็นชาอย่างร้ายกาจ
ทั้งที่รัก แต่แค่คำว่า ทำเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง นุชาก็พร้อมจะทำ

มันเป็นเวลาสองปี ที่ต้องทนทุกข์ทรมานและไม่อาจตัดใจได้

แต่นุชาก็ยังคงเป็นนุชา ไม่มีอะไรมาสั่นคลอนความตั้งใจของนุชาได้เลย

เป็นแค่เด็กขี้เล่น เรื่อยเปื่อย ดูเหมือนไม่จริงจังกับอะไร แต่ยึดมั่นในความถูกต้องอย่างไม่น่าเชื่อ

“คิดถึงชา ชาก็อนุญาตนะพี่ฟ้า แต่แค่ปีละครั้ง ชาจะมาดูหน้าพี่ฟ้าแค่ปีละครั้งเท่านั้นแหละ พี่ฟ้าอย่าหวังจะเรียกร้องอะไรให้มากกว่านี้เลย”

คำพูดที่เสียดแทงเข้าไปในหัวใจ ยอมรับว่าเจ็บปวด

แต่มันก็คือความจริง

“พี่ฟ้า....อย่าหักหลังครอบครัว”

เจ็บที่สุด

เหมือนหัวใจจะหลุดออกมาจากอก

เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ทุรนทุราย

แต่สิ่งที่ฟ้าทำได้คือ นั่งงัน ฟังทุกถ้อยคำของนุชา และตอกย้ำมันเข้าไปในสมอง มันคือความจริง ที่ต้องทำ

มันคือภาระ และหน้าที่ของชีวิต

“ชาไม่โกหกหรอก ชารักพี่ฟ้า ถึงตอนนี้ชาก็ยังรัก ชาจะเลิกรักไม่รู้ตั้งกี่รอบ แต่ทำไม่ได้ซะที แต่พี่ฟ้าก็รู้นิสัยชา ชามันเย็นชาเหมือนชื่อนั่นแหละ พี่ฟ้าก็เห็นใช่มั้ย ว่าตอนนี้ชาก็ไม่เห็นจะเป็นไร”

ถ้าจะมีใครใจร้ายได้มากที่สุด

คน ๆนั้นย่อมเป็นนุชา

ถ้าจะมีใครที่ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นได้มากที่สุด

คน ๆ นั้นย่อมเป็นนุชา

“ดึกแล้ว ชากลับก่อนนะพี่ฟ้า”

ไม่ต้องรอให้อีกฝ่าย ไม่ต้องรอให้ตั้งคำถาม ไม่มีการเหนี่ยวรั้ง นุชาส่งยิ้มให้กับคนตัวโตที่นั่งนิ่งเงียบอยู่ตรงหน้า

ทำเหมือนว่าไม่เป็นอะไร ทำเหมือนเข้มแข็ง

ทำเหมือนไม่รู้สึก

ก้าวขาเดินออกมา โดยไม่หันกลับไปมอง

เดินไปที่ถนนและโบกมือเรียกแท็กซี่ให้จอดรับ บอกที่หมายที่จะไป
และเข้ามาอยู่ในรถ

กอดกระเป๋าแน่น จิกปลายเล็บลงไป เพื่อระบายความรู้สึกทั้งหมด

พี่ฟ้า...........ชามันเลว ............. ชามันคนเห็นแก่ตัว.........

ชามันก็แค่ไอ้คนเห็นแก่ตัว

นุชาขบริมฝีปากตัวเองแน่น พยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้
บอกตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้จะไม่มีน้ำตา

วินาทีแรกที่สบตาของพี่ฟ้า ก็รู้แล้ว ว่าความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดที่พยายามลบมันกำลังย้อนกลับมา มันถาโถมเข้ามาในใจ ทะลักทลายเข้ามาอย่างห้ามไม่อยู่ กัดฟันฝืนทน และทำเหมือนเข้มแข็ง แต่ในใจมันกำลังจะระเบิดออกมา

ชากำลังจะตาย

แทบไม่อยากหายใจ ไม่อยากรู้สึก

ที่แย่ไปกว่านั้น คือสำนึกที่กำลังเกิดขึ้นในหัว

ขอโทษคุณซ้ง........ ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมถึงสะดุดตาคุณซ้งขนาดนั้น
ทำไมถึงอยากอยู่ใกล้ ๆ ทำไมถึงอยากแกล้ง อยากทำให้โมโห

แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไม

เลวที่หลอกตัวเองว่าย้อนเวลากลับไปในวันเวลาเก่า ๆ ได้
เลวที่หลอกให้คนอื่นย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลาเก่า ๆ โดยที่เจ้าตัวเขาไม่รู้เรื่องด้วยเลย

เลว......

ยิ่งรู้ว่าตัวเองเลว ยิ่งเหมือนไม่มีพื้นที่ให้ยืน

และเมื่อตั้งสติ ให้พาตัวเองกลับมายืนอยู่ที่หน้าบ้านได้ และได้เห็นว่าใครยืนรออยู่ตรงหน้า นุชาก็แทบอยากจะหนีไปให้พ้น ๆ

“เฮ้ย นุชา”

ได้ยินเสียงเรียก ได้ยินชัดเจน แต่พยายามหนี พยายามก้มหน้าหลบ
แต่ก็ไม่พ้น

ไม่เคยพ้น

ไม่ว่ายังไงก็หนีไม่เคยพ้น ไปไหนก็ไม่พ้น

ไม่รู้จะไปทางไหน ไม่มีที่ให้ไป ไม่มีทางให้หนี ไม่มีทางหลีกเลี่ยง

ไม่มีที่จะให้ไปได้อีกแล้ว

ไม่มี........


“อย่าทำตัวกวนประสาทอั๊วไม่ชอบ”


“นุชา อย่ากวนประสาทเข้าใจมั้ย”

นุชาแทบไม่ได้ยินด้วยซ้ำ ว่าคนตรงหน้าพูดอะไร จิตใจไม่ได้อยู่ที่คำพูดของคนตรงหน้าเลยสักนิด แต่สิ่งที่อยู่ในหัว คือจะไม่หาใครมาเป็นตัวแทนของพี่ฟ้าอีกแล้ว

“จะไม่กวนจะไม่ทำให้โมโห จะไม่ยุ่งด้วยอีกแล้ว”

น้ำเสียงแผ่ว ๆ เบาจนแทบไม่ได้ยิน มาพร้อมกับการที่นุชายกหลังมือขึ้น
เช็ด.......หยดน้ำตา
ที่แม้จะพยายามสะกดกลั้นแค่ไหน แต่ในเวลานี้ก็ไม่มีอะไรมาหยุดน้ำตาที่หลั่งรินหยดลงมาที่ข้างแก้มได้อีกแล้ว


“จะไม่ยุ่ง จะไม่ไปที่สนามอีกแล้ว”

น้ำเสียงแผ่วโหย และคนพูด พูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคนจะขาดใจ

“อะไร พูดอะไรฟังไม่รู้เรื่อง พูดดี ๆ ไม่ได้หรือไง......นุชา”

ไม่รู้ว่าได้ยินเสียงอะไรบ้าง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หัวใจกำลังจะหลุดลอยไปไกลแสนไกล และเอาแต่พร่ำพูดแต่คำพูดเดิม ๆ ไม่เลิก

“สัญญา สาบานก็ได้ ยอมแพ้แล้ว ต่อไปจะไม่ไปให้คุณซ้งเห็นหน้าอีกตลอดชีวิตก็ได้”

นุชารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหายใจไม่ออก กำลังจะขาดอากาศหายใจ
ไม่มีแม้แต่พื้นที่จะให้อยู่ ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง หัวใจที่เคยแข็งแกร่ง กำลังปริแตก มันค่อย ๆ ร้าว และเหมือนกำลังจะหล่นลงไปอยู่กับพื้น


“ไม่ร้องแล้วนุชา ร้องไห้ทำไม ไม่เป็นไรแล้วนะ มีอะไรค่อย ๆพูด ค่อย ๆ คิด ไม่ร้องแล้วนุชา อย่าร้องไห้เลย”

รู้สึกตัวอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของใครสักคน
ใครคนนั้นที่กำลังลูบไล้เส้นผม และเอ่ยถ้อยคำที่ฟังแทบไม่รู้เรื่องว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

แต่มันอุ่นวาบ และสัมผัสอุ่น ๆนั้น ซึมซาบเข้าไปภายในหัวใจของนุชาอย่างช้า ๆ สัมผัสแผ่วเบา ที่ดึงสติของนุชาให้กลับคืนมา

กลับมาในที่ ที่ควรอยู่

ใครกัน......ที่ดึงให้กลับมา

ใคร.......ที่ดึงหัวใจที่หลุดลอยให้กลับมา

“นุชาที่ซ้งรู้จักไม่ร้องไห้ง่าย ๆ หรอก ร้องไห้แบบนี้ไม่สมเป็นนุชาที่ซ้งเคยรู้จักเลยนะ รู้มั้ย”



TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ไม่เข้าใจ † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 14:10:14



ตอน ไม่เข้าใจ



“ซ้งไม่ยอมรักใครเลยตลอดชีวิตนี้อาม่าไม่ว่า
แต่ซ้งอย่าเป็นคนไม่มีหัวใจ อย่ากลายเป็นคนไร้หัวใจ”


คำสอนของอาม่ายังดังก้องอยู่ในหัวเสมอ

อย่าทำเหมือนทุกอย่างรอบตัวไม่มีอะไรน่าสนใจค้นหา
อย่าเมินเฉย ต่อความรู้สึกของคนรอบข้าง

เพราะการไม่ยอมรักใคร ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นคนเย็นชา

และเพราะไม่ใช่คนไร้หัวใจ ถึงทนไม่ได้เวลาเห็นคนกำลังเป็นทุกข์
เพราะไม่ใช่คนไร้หัวใจ ถึงทนไม่ได้เวลาเห็นคนร้องไห้เหมือนจะขาดใจอยู่ตรงหน้า

ถึงจะไม่เคยรักใครเท่าอาม่า แต่ก็ไม่อยากเป็นคนไร้หัวใจ

แม้คนนั้นจะเป็นนุชาหน้ามึนที่ชอบกวนประสาทและทำให้โมโหอยู่เสมอ

สิ่งที่เห็นในเวลานี้ นุชาไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนนุชาคนที่ปกติจะทำแค่หน้ามึน และชอบทำท่าทางกวนประสาท เวลานี้ที่ได้เห็นไม่ใช่นุชาคนนั้น แต่เป็นนุชาที่น่าสงสารมากซะจนทนไม่ได้ ต้องรั้งให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน กอดเอาไว้ และสัมผัสได้ถึงแรงสะอื้นไห้อย่างรุนแรง

ไม่ใช่แค่เพียงร่างกายที่กำลังไร้เรี่ยวแรงแต่รวมไปถึงหัวใจที่ดูเหมือนจะย่ำแย่ไม่ต่างกัน

“นุชา”

เอ่ยเรียกชื่อย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ หลายครั้งหลายหนเพื่อเรียกสติของคนในอ้อมแขนกลับมา ลูบไล้ฝ่ามือไปมาที่แผ่นหลังของคนที่ยืนให้กอดเพื่อหวังจะช่วยปลอบใจอยู่อย่างนั้นเป็นนาน

นุชายืนนิ่งในอ้อมแขนไม่ได้ผลักไสหนีห่าง

ในเวลาไม่นานเมื่อตั้งสติได้ ก็ค่อย ๆ ผละออกจากอ้อมแขนที่กอดเอาไว้อย่างช้า ๆ

ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล

“ไม่เป็นไรนะ”

เป็นคำพูดที่นุชาได้ฟังแล้วไม่คิดว่าตัวเองจะดีใจขนาดนี้
คำว่าไม่เป็นไร คำพูดง่าย ๆที่แฝงมากับน้ำเสียงที่เหมือนคนพูดอยากปลอบโยนจากใจจริง

ไม่เป็นไรงั้นเหรอ

ไม่เป็นไร

เคยไม่เป็นไร เคย.....

ทั้งที่มั่นใจอยู่เสมอว่าจะไม่เป็นไร และจะอยู่กับความรู้สึกเจ็บปวดนี้ให้ได้
แต่ทุกครั้งก็ไม่เคยทำได้จริง

วันนี้ไม่คิดว่าจะได้ยินถ้อยคำนี้จากคนตรงหน้า ไม่เคยคิดไม่เคยฝัน แต่ก็ได้ยิน

การที่มีใครสักคนมาปลอบใจ และบอกว่าไม่เป็นไร มันทำให้รู้สึกดีไม่น้อย

ดี

รู้สึกดีมาก รู้สึกดีมากกว่าเวลาที่ต้องปลอบตัวเองเพียงลำพัง

“……….” ไร้เสียงตอบกลับ แต่นุชาก็พยักหน้ารับ

แสดงความรู้สึกให้รู้ว่าได้ยินคำพูดที่เอ่ยออกมาจากปากของอีกฝ่ายชัดเจน

“โทรศัพท์ อั๊วเอามาคืน”

โทรศัพท์ที่ถูกแยกชิ้นส่วน ถูกยื่นส่งให้และนุชาก็ทำแค่เพียงนิ่งมอง

ไม่ได้รับมาถือเอาไว้ แต่มองแล้วแค่นยิ้มให้กับตัวเอง

ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วคุณซ้ง

สิ่งที่เคยยึดติด มันหลุดลอยไปตั้งนานแล้ว

ที่เอาแต่ทำเรื่องบ้า ๆ อยู่ทุกวัน
ก็เพราะหลอกตัวเอง และแอบหวังลึก ๆ ว่าช่วงเวลาที่ผ่านไปนานแล้วจะคืนกลับมา

เพราะนุชาไม่รับ

ซ้งก็เลยต้องคืนด้วยการยัดเยียดใส่มือให้

“นุชา ถึงลื้อจะกวนโมโห และแกล้งมึนใส่อั๊วบ่อย ๆ แต่อั๊วว่าอั๊วเกลียดนุชาคนนั้น น้อยกว่านุชาคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าอั๊วตอนนี้ว่ะ”

ถ้าใครสักคนจะปลอบใจได้น่าหมั่นไส้และน่าโมโหที่สุด

คน ๆ นั้นคงเป็นน้องแรงบันดาลใจซ้ง

ไม่ได้บอกว่าชอบ แต่ใช้วิธีการลำดับความเกลียดเพื่อปลอบใจ
น่าแปลกที่คำพูดนั้นใช้ได้ผล

นุชาที่คิดว่าความรู้สึกของตัวเองย่ำแย่จนไม่มีอะไรมาสามารถรั้งเอาไว้ได้
กลับปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ จุดขึ้นที่มุมปาก

เกลียดเหรอ

เกลียดสินะ

น้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าใสกิ๊ง ที่มักทำหน้าบูดบึ้งบู้บี้ใส่อยู่เสมอเวลาที่ทำให้ไม่พอใจ
กำลังพูดว่าเกลียด

เป็นครั้งแรกที่นุชาบอกตัวเอง ว่ารู้สึกชอบคำว่า “เกลียด” คำนี้มาก
แปลกใจที่ชอบ

เป็นเรื่องประหลาดที่คิดว่าตัวเองชอบคำว่าเกลียดคำนี้

คุณซ้ง.....

ขอบคุณจริง ๆ

อยากบอกว่าขอบคุณ

ขอบคุณจากหัวใจ

ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันในเวลาที่หัวใจหลุดลอยจากไปไกลแสนไกลและไขว่คว้ากลับคืนมาไม่ได้

นุชาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเป้ ควานหาท็อฟฟี่เม็ดเล็ก ๆ ที่ยังหลงเหลือติดกระเป๋าแบมือออกและยื่นส่งให้กับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“หมดนี่...ผมให้คุณซ้ง”

ซ้งไม่เข้าใจสิ่งที่นุชากำลังทำ

คนตัวสูง ขมวดคิ้วมุ่น แต่ยินยอมรับท็อฟฟี่หลากสีเอาไว้ในมือทั้งหมด

ไม่รู้สาเหตุที่นุชามอบท็อฟฟี่ให้

แต่เมื่อรับท็อฟฟี่หลายเม็ดมาไว้ในมือ และเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง กลับพบกับความรู้สึกบางอย่างที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

แม้จะมีน้ำตาคลอรินอยู่ที่หน่วยตา

แม้ว่านุชาจะยังไม่เลิกยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา

แม้ว่านุชาจะอยู่ในสภาพยับเยินกระเซอะกระเซิง ยุ่งเหยิงและดูน่าทุเรศแค่ไหน
แต่รอยยิ้มหมอง ๆ ที่ส่งผ่านมากับความรู้สึกขอบคุณจากใจจริงก็ทำให้ซ้งถึงกับชะงักนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น

“ซ้งไม่ยอมรักใครเลยตลอดชีวิตนี้อาม่าไม่ว่า
แต่ซ้งอย่าเป็นคนไม่มีหัวใจ อย่ากลายเป็นคนไร้หัวใจ”

คำพูดของอาม่ายังดังก้องไปก้องมาในหัว
ความมุ่งมั่นส่วนตัวที่จะไม่ยอมหลงรักใครให้ตัวเองต้องกลายเป็นคนโง่และเจ็บปวดหัวใจจนตาย เหมือนที่หม่าม๊ารักป๊าจนหมดหัวใจ และต้องตรอมใจตายเพราะไม่ว่าจะรักป๊ามากแค่ไหนแต่สุดท้ายป๊าก็ไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยให้หม่าม๊าต้องช้ำใจ และตรอมใจตายในที่สุด

เกิดมาไม่เคยรักใคร

สาบานและสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมรักใคร

ความมุ่งมั่นนั้นไม่เคยมีใครมาสั่นคลอนลงได้ จนถึงเดี๋ยวนี้

ไม่ว่าจะมีผู้คนผ่านเข้ามาในชีวิตมากมายแค่ไหน แต่ซ้งไม่เคยยอมรับหรือเปิดใจให้ใครเลยสักครั้ง

---------อย่ากลายเป็นคนไร้หัวใจงั้นเหรอ-------

ซ้งแตะฝ่ามือลงที่อกข้างซ้ายของตัวเอง และพบว่าหัวใจกำลังเต้นแรง
เร็วและแรงจนเหมือนมันกำลังจะหลุดออกมาจากอก

หัวใจยังอยู่ในนี้ ยังมีอยู่ในนี้เหมือนเดิม มันยังคงอยู่ที่เดิม

แต่.......

.......อาม่ากิมครับ.....

แล้วความรู้สึกที่กำลังโลดแล่นอยู่ภายในหัวใจตอนนี้ล่ะ

ความรู้สึกที่ว่าหัวใจกำลังฟูฟ่องและล่องลอย

ความรู้สึกนี้........เรียกว่าอะไร………….



TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เซ็งโลก † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 14:14:09



ตอน เซ็งโลก



“ซ้ง....โลกนี้ไม่ได้มีแค่เฮีย กับอาม่ากิม มันยังมีคนอื่น ๆ อีกตั้งมากมายในโลกใบนี้ด้วย”

เรื่องเดิมอีกแล้ว

เฮียเหวงพูดเรื่องนี้อีกแล้ว

รู้

ทำไมจะไม่รู้ว่าโลกนี้มีคนมากมายหลายร้อยหลายพันล้านคน

แล้วยังไง ต่อให้โลกนี้จะมีคนมากน้อยแค่ไหนก็ไม่เห็นจะเกี่ยว
เพราะไม่เคยคิดจะสนใจและไม่เห็นว่ามันจะสำคัญหรือจำเป็นกับชีวิตตรงไหน

“เปิดใจบ้างซ้ง.... อย่าปิดตายขังตัวเองแบบนี้”

ไม่ได้ปิดตาย

ไม่ได้ขัง

แต่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายด้วย
แล้วที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ดีตรงไหน ก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วทำไมจะต้องให้ใครเข้ามาในชีวิต เรื่องยุ่งยากวุ่นวายแบบนั้น
ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร

“รู้แล้ว”

ตอบออกไปแล้ว และซ้งก็เริ่มทำหน้าบึ้ง

ไม่ชอบเรื่องนี้
เฮียเหวงพูดเรื่องนี้อีกแล้ว พูดหลายรอบ พูดทุกครั้งที่เจอหน้ากัน

เรื่องเดิม ๆ
เรื่องเป็นคนไม่มีมนุษย์สัมพันธ์กับคนรอบข้าง
เรื่องที่ชอบทำเป็นนิ่งเฉยกับเรื่องราวรอบ ๆ ตัว
เรื่องที่ชอบทำเหมือนไม่สนใจใคร ๆ ทั้งหมดในโลกใบนี้

“เฮียก็กลับมาอยู่บ้านกับซ้งแล้วก็อาม่าสิ”

จนได้

หน้าแบบนี้ ไม่บอกก็รู้ว่าไอ้ซ้งมันคิดอะไร
หน้าแบบนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันกำลังน้อยใจ

แต่เรื่องที่บอกเรื่องที่สอนเรื่องการใช้ชีวิต มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ยอมกลับบ้าน มันคนละประเด็นคนละเรื่องกัน


ซ้งเอ้ยยยยยยยย

จะให้เฮียพูดจะให้เฮียอธิบายยังไงถึงจะเข้าใจวะ

เหวง ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

และนั่งมองหน้าน้องชายนิ่ง ๆ

ปัญหาใหญ่ของซ้งคือ การที่ไม่ยอมพูดยอมจากับคนรอบข้าง

ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ แทบจะไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกอะไรออกมา

พอใจก็เฉย ไม่พอใจก็นิ่ง

ไม่ว่าใครจะทำอะไร ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร ก็ทำได้อยู่หน้าเดียวคือหน้านิ่ง ๆ กับหน้าเรียบเฉย

เมินโลก

และไม่ยอมเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิต

เข้าใจว่าไม่ชอบให้ใครมายุ่งด้วย

เข้าใจว่าเรื่องหม่าม๊ามันฝังอยู่ในหัวของซ้งตลอดเวลา รู้ว่าไม่อยากเจ็บปวดไม่อยากเสียใจกับเรื่องของคนอื่น รู้ว่าไม่อยากเป็นแบบหม่าม๊า

แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็เกินไป

เล่นปิดตายตัวเองแบบนี้ มันก็ไม่ไหว

กลายเป็นว่า ไม่ยอมออกจากโลกของตัวเองมาพบเจอผู้คนบ้าง

อยู่คนเดียว และใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ ทุกวัน

ชีวิตแบบเดิม ๆ แบบที่ไม่ค่อยมีใครเขาใช้กัน

เฉพาะเพื่อนเรียกว่านับตัวกันได้ไม่ยาก

อยู่กับอาม่า ติดอาม่า จนไม่ยอมไปไหน
ไม่ยอมไปค้นหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับชีวิตบ้างเลย

“ถ้าเฮียอยากให้ซ้งไปเจออะไรบ้าง เฮียก็ต้องกลับมาอยู่กับซ้ง กับอาม่า
เฮียไม่เห็นต้องไปทำงานพิเศษหามรุ่งหามค่ำขนาดนั้น แค่เก็บค่าเช่าจากตึกแถวแล้วก็บ้านเช่าก็พอแล้ว เฮียจะไปอยู่ข้างนอกให้ลำบากทำไม”

มันไม่เกี่ยวเลย

เรื่องนั้นมันก็คนละเรื่องกับเรื่องที่กำลังคุยกัน

“นั่นมันของซ้งไม่ใช่ของเฮีย ซ้งดูแลอาม่ามากกว่าใครมันก็ต้องเป็นรายได้ของซ้งไม่ใช่ของเฮีย”

เถียงกันรอบที่ร้อย

และก็จะพาลโกรธกันเมื่อพูดเรื่องเดิม ๆ

“ก็นั่นแหละเฮีย ถึงซ้งไม่สนใจใคร แต่ซ้งมีหัวใจ เฮียไม่ต้องกลัวว่าซ้งจะเป็นพวกไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคนรอบข้างหรอก ซ้งไม่ใช่คนไร้หัวใจ”

ให้มันจริงอย่างปากพูด

พูดแบบนี้ แต่ไม่ว่ากี่ครั้งกี่หน ก็ไม่เคยเห็นจะแก้นิสัยนี้ได้ซะที

นิสัยเมินเฉย
และชอบเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่ยอมพูดไม่ยอมบอกใครว่ารู้สึกยังไง

นิสัยซ้งมันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร จนปัญญาจะพูด และไม่รู้จะแก้ไขยังไงจริง ๆ

“หรือเฮียจะให้ซ้งลองเก็บกระรอกมาเลี้ยงแบบเฮีย เผื่อจะดีขึ้น”

มันเข้าใจเปรียบ

เห็นกัดกันทุกครั้งที่เจอหน้า

ถ้าจะเลี้ยงกระรอกแบบไอ้คุณยิ้มมันก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร

แต่ต้องดูดี ๆ เพราะกระรอกที่เลี้ยงอยู่ กินเก่ง กินดุมาก ให้ข้าวให้ขนมกินเท่าไหร่ก็ไม่เคยอิ่ม ไม่เคยพอ วันดีคืนดีก็ทำให้มึนงงกับพฤติกรรมแปลก ๆ บางทีก็ได้แต่อึ้งกับความคิดประหลาด ๆ ที่ไม่รู้ว่ากระรอกที่เลี้ยงไว้มันคิดได้ยังไง แต่ถึงจะทำให้รำคาญใจเล็ก ๆ ในบางครั้ง

แต่กระรอกที่เลี้ยงเอาไว้ โคตรน่ารัก ชอบเวลาที่กระรอกยิ้มหวาน ๆ ชอบมองเวลาที่อ้อน ไม่รู้ว่ามันหลงมาจากไหน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้กลายเป็นคนเลี้ยงกระรอกไปแล้ว

“ซ้ง เลี้ยงกระรอกไม่ได้หรอก ถ้าเป็นกระต่าย เฮียว่าไม่แน่”

กระต่าย

กระต่ายที่ไหน

ไม่เคยเห็น

“กระต่ายตัวสีขาว ๆ ที่กระโดดไล่ตามซ้งในสนามบ่อย ๆ ตัวที่ขาเป๋ ๆ วิ่งช้า ๆ ถ้าจะลองเลี้ยงดู เพื่อทำให้มีมนุษย์สัมพันธ์ดีขึ้น เฮียก็ว่าไม่เลวนะ”

คิดได้ยังไงเฮีย

นั่นไม่ใช่กระต่าย

นั่นมันไอ้ตี๋นุชาหน้ามึน

มันชอบทำหน้ามึน และกวนประสาทให้โมโหอยู่บ่อย ๆ

“ เลี้ยงไม่ได้หรอกเฮีย มันกวนประสาท ชอบยั่วโมโห เดี๋ยวตีมันตาย เพราะความกวนประสาทของมัน”

เอ่ยบอกออกไปแล้ว และน้องแรงบันดาลใจซ้ง ก็ทำหน้าเซ็งโลกเมื่อนึกถึงหน้าของคนที่ชอบพูดจาวกวน และชอบทำเรื่องให้ปวดหัวและไม่พอใจอยู่บ่อย ครั้ง

“เฮียว่ากระต่ายตัวนี้มันเก่ง ..... มันทำให้ซ้งสนใจมันได้ ”

ทำให้สนใจ

ทำให้สนใจได้งั้นเหรอ

ทำให้สนใจได้………อย่างนั้นหรอกเหรอ

ทำให้สนใจได้.......แบบเมื่อคืนหรือเปล่า

แบบเมื่อคืนที่สนใจมัน.....จนต้องปลอบใจเพราะไม่อยากเห็นเวลาร้องไห้
ทำให้สนใจจนต้องคว้าเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมแขน เพราะไม่อยากให้เสียใจ

ทำให้สนใจ ทำให้ต้องนั่งมองนิ่ง ๆ อยู่เป็นเวลานาน
ทำให้รอว่าเมื่อไหร่จะหยุดร้องไห้
ทำให้ต้องพูดคำพูดแปลก ๆ ที่ไม่เคยพูดกับใคร

ทำให้.....สนใจ

ทำให้อยากดูแล อยากปลอบใจ อยากเห็นชัด ๆ อยากแน่ใจว่าในเวลานั้นก่อนที่จะกลับบ้าน นุชาหยุดร้องไห้ได้แล้วจริง ๆ

ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถสนใจใครได้มากขนาดนี้

แค่เพียงนิดเดียวก็ไม่เคยคิด

เฮียเหวง......เรื่องไม่ค่อยสนใจใครนั่นน่ะ ซ้งก็รู้ตัว

แต่ซ้งไม่ใช่คนไร้หัวใจหรอก
รู้หมดแหละว่าคนที่อยู่รอบข้างรู้สึกยังไง
แต่นิสัยซ้งมันเป็นแบบนี้ มันแก้ไม่หาย
นอกจากทำเป็นเฉย ๆ ใส่ซะ ซ้งก็ไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง จะให้เข้าไปคุยด้วย มันก็ไม่ใช่ เรื่องแบบนั้น ทำไม่เป็นหรอก

แต่นุชามันเป็นคนแปลก ๆ ที่ทำให้ซ้งรู้ว่า

จุดเริ่มต้นของคนเรา บางครั้งมันก็ไม่จำเป็นต้องมาจากการพูดคุยกันตั้งแต่แรก
บางทีมันอาจจะเป็นการไม่ถูกชะตากันก็ได้

บางที.....ซ้งอาจไม่ได้เกิดมาเพื่อรู้สึกรู้สากับใคร
และบางที....ซ้งอาจเกิดมาเพื่อรู้สึกบางอย่าง กับคนแค่บางคน

ยกตัวอย่างเช่น คนอย่างนุชา




TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † อมยิ้ม † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 14:16:44



ตอน อมยิ้ม


ปวดหัว

รู้สึกว่าอาการปวดหัว เริ่มตามมาเล่นงานตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวาน
หลังจากเลิกงานและนั่งรถทัวร์กลับมากรุงเทพ

คิดว่าจะแอบหลับสักนิด แต่ว่าตาค้าง เพราะหัวใจมันคิดถึงแต่หน้าของน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าใสกิ๊ง แต่ชอบทำหน้าบึ้ง และทำเป็นเมินเฉยไม่ยอมสนใจใคร

ทำไมไม่รู้ ไม่รู้จริง ๆ ว่าเพราะอะไร

ชอบว่ะ

โคตรชอบคุณซ้งเลย

น่ารัก

บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงมองว่าเป็นคนน่ารัก ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่เป็นอะไรบางอย่างที่รวมกันเป็นคุณซ้ง

ยอมรับว่ามีหลายครั้งที่มองหาใครบางคนในตัวคุณซ้ง
มองบ่อย ๆ คิดบ่อย ๆ และมักจะอมยิ้มทุกครั้งเวลาที่ได้เห็น

เจอทุกครั้งที่มองหา มีคนบางคนที่นึกถึงอยู่ตลอดเวลาอยู่ในนั้น

แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เพราะมีใครอีกคนอยู่ในนั้นด้วย มีใครบางคนที่ไม่ใช่คนที่นึกถึง

เป็นใครสักคน ที่ชอบนั่งนิ่ง ๆ เฉย ๆ ข้างสนามในบางครั้ง
คน ๆ นั้นมักจะกวาดสายตามองไปเรื่อยๆ รอบ ๆ บริเวณสนาม

นั่งนิ่ง ๆ คนเดียว เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ตัวสูง หน้าใสกิ๊ง มีบุคลิกประจำตัวที่ไม่เหมือนใครคือ
หลังจากวิ่งรอบสนามอย่างบ้าเลือด ชนิดที่น่าไปคัดตัวทีมชาติ วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย วิ่งโดยไม่มองใครใด ๆ ทั้งสิ้น

หลังจากวิ่งจนได้ที่ ก็จะมานั่งชันเข่าเหงื่อหยดอยู่ข้างสนาม โดยมีกระติกน้ำเล็ก ๆ วางอยู่ข้าง ๆ

เห็นอยู่บ่อย ๆ ที่นั่งมองอะไรไปเรื่อย มองผู้คนมองต้นไม้ใบหญ้า
แต่ไม่รู้ว่าระหว่างมอง คุณซ้งกำลังคิดอะไร

นุชายกหลังมือขึ้นขยี้ตา และพลิกตัวไปอีกทาง

สะดุ้งตื่นขึ้นมาในยามบ่าย

แสงแดดลอดเข้ามาระหว่างบานหน้าต่าง

ยังง่วงงุนจนไม่อยากจะลืมตา เพราะเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา สมองก็เริ่มคิด คิดไปเรื่อย ๆ เพราะหยุดความคิดของตัวเองไม่ได้

คิดถึงเรื่องคุณซ้ง

ไม่รู้ทำไมถึงได้คิดถึง ทั้งหน้าตา ทั้งน้ำเสียงเวลาพูด

ทั้ง..........อ้อมกอดอุ่น ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับ จากคุณซ้ง ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้

แต่ถึงไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว
น่าแปลกที่อ้อมแขนนั้น ให้ความอบอุ่นได้จริง ๆ และยังเรียกสติที่หลุดล่องลอยให้กลับคืนมาด้วย

ปกติเราไม่เคยพูดจากันดี ๆ ด้วยซ้ำ คุณซ้งปากจัดพูดมาแต่ละคำเจ็บปวดสุด ๆ แต่จะโทษก็ไม่ได้ ไปแหย่ไปแกล้งเอง ก็ต้องยอมรับสภาพ

ก็ถ้าไม่แกล้งก็ไม่ค่อยจะยอมพูดอะไรออกมาสักคำ

วัน ๆ เจอกันทีไร ก็เอาแต่วิ่ง ๆ ๆ ไม่สนใจจะมองกันบ้าง
จะยอมพูดยอมจาก็ตอนที่แกล้งไปกระแซะอาม่ากิมนั่นแหละ

อยู่ตรงไหนคุณซ้งก็วิ่งมาด่าเอาจนได้ หวงจริงจังมาก
ชนิดไม่ยอมให้อาม่ากิมคลาดสายตา

พฤติกรรมแบบนั้น มันน่ารักจริง ๆ แปลกที่มองยังไงก็ว่าน่ารัก

คุณซ้ง น่ารักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่า ถึงเราไม่เคยคุยกันดี ๆ
แต่.....คุณซ้งเป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลยนะ
ถ้าคืนก่อนคุณซ้งจะด่าจะว่าหรือไม่สนใจก็ได้ แต่คุณซ้งก็ไม่ทำ แถมยังดึงเข้าไปกอด และปลอบใจด้วย ทั้งที่ถ้าคนเราไม่ชอบหน้ากันขนาดนั้น น่าจะสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ

เป็นคนที่ดีจริง ๆ นะคุณซ้ง รับรู้และรู้สึกจากใจอยู่เสมอ ว่าคุณซ้งเป็นคนดีคนหนึ่งเลย

เป็นคนดี....เหมือนคนนั้น


อ่า.......อีกแล้ว เรื่องนั้นชอบผุดเข้ามาอยู่ในหัวเรื่อยเลย เป็นบ่อย ๆ จนเริ่มชิน
พักหลัง ๆ นี้หลังจากมีอะไรให้คิดให้ทำมาก ๆ เข้า ก็เริ่มเลือนหายไป

เรื่องเดิม ๆ ที่กำลังเริ่มเลือนหายไป....ไม่เหมือนเมื่อแรก ๆ ที่ชัดเจน
บางทีที่กลับมาคิดอีกครั้ง หลังจากเลิกคิดไปนาน คงเป็นเพราะเมื่อคืนได้เจอหน้ากัน หลังจากไม่ได้เห็นหน้ามานาน

ความรู้สึกมันก็ยังเหมือนเดิม
ต่างจากเดิมนิดหน่อย ตรงที่ทำใจได้มากขึ้น
ไม่ฟูมฟายไม่ร้องไห้เสียใจ ทำให้ตัวเองไม่แสดงกิริอาการอะไรออกไปได้แล้ว

ถ้าเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ก็คงจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

และ.....

เหี้ยเอ้ยยย กำลังคิดกำลังบิ๊วเพลิน ๆ ใครโทรมาวะ

นุชาลุกขึ้นจากเตียงในสภาพหัวยุ่ง น้ำท่าไม่ได้อาบตั้งแต่เช้า
ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ที่ประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกันเรียบร้อยแล้ว และได้เห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา

เอาจริงดิ

จริงจังนะนี่

คิดถึงผมเหรอค้าบบบบบบบบคุณซ้ง

ก็ถ้าคิดถึงกันขนาดนี้ ทำไมไม่รีบโทรมาเร็ว ๆ กำลังชมว่าน่ารักอยู่เชียว

“ครับ”

ตอบออกไปและยิ้มเล็ก ๆ เมื่อคิดได้ว่านาน ๆ ทีคุณซ้งจะเป็นฝ่ายโทรมาหา
ถึงจะโทรมาบ่นมาด่าก็เอาเถอะ แค่โทรมาก็ยินดีมากมายท่วมท้น

“นึกว่าตายแล้ว”

คิดถึงเสียงนี้จัง

เสียงเข้ม ๆ คำพูดประชดประชันอยู่ในที ตัวจริงเสียงจริงแหละนั่น ถ้าพูดดี ๆ คงไม่สมเป็นคุณซ้งหรอก และนี่แหละตัวจริงเสียงจริงของแท้ดั้งเดิม

“เกือบ ๆ แต่ยังไม่ตาย รอจีบคุณซ้งติดก่อน”

นุชายังเหมือนเดิม พูดจากวนประสาทได้เหมือนเดิม และเริ่มมีรอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปาก

ขอโทษจริง ๆ คุณซ้ง ขนาดรู้สึกว่าตัวเองกำลังแย่ขนาดนี้ แต่พอสติเข้าร่างก็อยากจะกวนคุณซ้งขึ้นมาทันที มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติจริง ๆ

“ไม่รีบตายไปวะ จะได้ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก”

โห่

ก็ว่าจะอยู่แหละ

แต่ก็อย่างที่บอก รอจีบคุณซ้งติดก่อน ค่อยตายไง จำไม่ได้เหรอ

“เป็นห่วงก็บอกมาเถอะ ฟอร์มเยอะจริงจริ๊งงงงง”

ได้ผลในทันที

ยังไม่ทันพูดจบ แล้วนุชาก็ต้องมานั่งขำอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะปลายสายชิงวางไปซะก่อนอย่างรวดเร็ว

ไม่ชอบจริง ๆ ด้วยสินะ คำพูดแบบนี้น่ะ

แกล้งแบบนี้ทีไร ได้หัวเราะทุกทีสิน่า

คุณซ้งน่ารัก แบบนั้นแหละที่ไม่เหมือนคนอื่น ไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียว
แม้จะคล้ายกันมาก แต่ก็ไม่มีทางเหมือน

คิดแล้วก็ปลง

ลุกขึ้นเดินไปคว้าผ้าขนหนูเตรียมจะเดินไปอาบน้ำ และหาข้าวกิน
เพราะรู้สึกถึงเสียงท้องร้อง

หิวข้าวชะมัด

นอนหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ

หลังจากผ่านการร้องไห้อย่างหนัก
เศร้าพอแล้ว ใจมันทุกข์พอแล้ว จะให้ทุกข์ต่อไปคงไม่ไหว
เดี๋ยวจะตายซะก่อนอย่างที่คุณซ้งว่า

นุชารวบรวมสติเข้าร่าง และเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น
ผิดกับอีกคนที่หลังจากกดวางโทรศัพท์แล้วก็เริ่มทำหน้ายุ่งเหยิง

วางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะด้วยความหงุดหงิดไม่ชอบใจ

เริ่มเปิดหนังสือหน้าถัดไปที่อ่านค้างเอาไว้
ใช้ปลายนิ้วควงปากกาเล่นแก้เซ็ง ดึงสติและสายตาให้มาจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือที่กำลังเปิดอ่าน

และ....

นึกถึงนุชา

ยังไม่ตาย และดูเหมือนว่าจะสนุกสนานร่าเริงได้เหมือนเดิม
ยังปากดีและกวนประสาทได้เหมือนเดิม

ถ้าทำได้ถึงขนาดนั้น มันก็คงยังไม่เป็นไร ยังไม่ตายง่าย ๆ
แม้ว่าสภาพเมื่อคืน จะดูไม่เหมือนผู้เหมือนคนเลยก็ตาม

เปิดหนังสือหน้าถัดไป และเริ่มอ่านไปอีกสองบรรทัด

แต่สมองก็ยังวนเวียนคิดถึงแต่เรื่องของนุชา นึกถึงแต่หน้าของนุชา

เห็นเป็นภาพ เห็นว่านุชายกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา
สัมผัสได้ถึงร่างกายที่สั่นสะท้านยามที่เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน
นุชามันไม่ใช่คนตัวสูง แต่ทำไมเวลากอดแล้วถึงได้รู้สึกว่าตัวเล็กนิดเดียว

และทำไมในเวลานั้นถึงรู้สึกว่าปล่อยเอาไว้แบบนั้นไม่ได้

แล้วยังคำพูดนั้นอีกล่ะ

“หมดนี่...ผมให้คุณซ้ง”

นึกขึ้นได้ และซ้งก็เลยลุกขึ้นเดินไปหยิบท็อฟฟี่หลากสีที่ได้รับมาเมื่อคืนและยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อที่ถอดทิ้งไว้ในตะกร้าผ้า ค้นหาและคว้าเอามาทั้งหมด
มาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ หนังสือที่กำลังเปิดอ่าน

คำขอบคุณแปลงค่าได้เท่ากับท็อฟฟี่หลากสีหลายเม็ด

แล้ว......ขอบคุณเรื่องอะไร เรื่องที่กอด เรื่องที่ปลอบ หรือเรื่องอะไร

“นุชา....นุ ชา ชา....ชา....นุชา...”

บ่นออกมาเป็นชื่อของคนที่ทำให้อยากค้นหาคำตอบของคำถาม
และจิตใจก็พาลไปนึกถึงคำพูดสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่คนกวนประสาทมันจะได้พูดจาเพ้อเจ้อต่อไปให้ยืดยาว

.......เป็นห่วงก็บอกมาเถอะ.......

ประสาท

คิดได้ยังไง ไม่ได้ห่วงเลยสักนิด

บ้าหรือเปล่า คิดไปเองหรือไง เรื่องอะไรจะต้องเป็นห่วง

หวังสูงไปหน่อยแล้วนุชา

สูงไปเยอะเลย

แต่ทั้งน้ำเสียงและคำพูดกวน ๆ ของนุชาที่ได้ยินก็ยังวน ๆ เวียน ๆ ในหัวของซ้งไม่เลิก

“เป็นห่วงก็บอกมาเถอะ ฟอร์มเยอะจริงจริ๊งงงงง”

“เป็นห่วงก็บอกมาเถอะ ฟอร์มเยอะจริงจริ๊งงงงง”

“เป็นห่วงก็บอกมาเถอะ ฟอร์มเยอะจริงจริ๊งงงงง”

คำพูดนั้นยังดังไปมา ท้ายประโยคยังแกล้งทำเสียงสูงใส่ให้โมโหได้อีก

นุชา นุชา นุชาเอ้ยยยยยยยยยยย นุชา

ซ้ง เหลือบสายตาขึ้นมองกองท็อฟฟี่ที่วางเอาไว้ข้างหนังสือและส่ายหน้าให้กับทุกคำพูดที่ได้ยินชัด

นึกขำ กับความกวนประสาทบ้าบอของอีกฝ่าย
แล้วก็ต้องหัวเราะออกมาคนเดียวเงียบ ๆเสียงเบา ก่อนจะเปิดหนังสือหน้าถัดไปและใช้ปากกาเมจิคขีดที่หัวข้อสำคัญเอาไว้

ขีดไปยิ้มไป ยิ่งขีดก็ยิ่งยิ้ม และส่ายหน้าไปมาหลายครั้ง โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าอาการทั้งหมดที่เป็นอยู่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้า
ไม่รู้สึกตัวเลยว่ากำลังอมยิ้มให้กับเรื่องบ้า ๆ ของนุชา




TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † โกรธทำไม † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 21-03-2012 14:21:14



ตอน โกรธทำไม


วันนี้เป็นวันดี วันที่ฤกษ์งามยามดีที่สุดแห่งปี

มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว

อยู่ดี ๆ คุณซ้ง ผู้เย็นชาและไม่ค่อยสนใจคนทั้งโลกกลับให้ความสนใจกันอย่างท่วมท้น

คิดถึงล่ะสิ ไม่ต้องทำเป็นอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ บอกมาเลยตรง ๆ ก็ได้
อย่าฟอร์มเยอะ เดี๋ยวฟอร์มเยอะกลับแล้วจะหนาว ฮี่ ฮี่

นุชาผู้อยู่ระหว่างปลอบใจตัวเองไม่ให้คิดมาก กำลังนั่งคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน คิดไปคิดมาแล้วก็นั่งอมยิ้มคนเดียว เรื่องที่โมเมเอาเองว่า น้องแรงบันดาลใจซ้งของชา โทรมาหาด้วยความรักใคร่ ห่วงใย และคิดถึง

แบบนี้แหละเขาถึงเรียกว่าฟ้ามีตา
เห็นความดีงามกันแล้วล่ะสิ ไม่เห็นวันนี้จะเห็นวันไหน คนมันน่ารักน่าใคร่ก็แบบนี้ ใครเห็นก็รักใครเห็นก็หลง ไม่งั้นจะได้รับตำแหน่งขวัญใจชมรมนักวิ่งวัยดึกเหรอ ใคร ๆ ทั้งชมรมหลงรักนุชาทุกคน เว้นไว้แค่คนเดียว

อย่างว่าแหละคนมันมีอะไรดี ก็แบบนี้

นุชาผู้น่าหมั่นไส้ นั่งยิ้มกับถ้วยจานชาม นั่งยิ้มกับตะเกียบที่ถือเอาไว้ในมือ
และคิดเข้าข้างตัวเองไปเรื่อย ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นและนั่งกดหารายชื่อที่โทรเข้ามา

คุณซ้ง โทรหากันบ่อยขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ

โทรมาแต่ละครั้ง ก็จะมีโทรมาด่า โทรมาประณาม โทรมาหยามเหยียด โทรมาพูดให้ช้ำใจเจ็บปวด

มีอะไรอีก

โทรมาแกล้ง โทรมากวน โทรมายั่วโมโห สารพัดว่าจะคิดอะไรได้

แต่ก็แปลก
ขนาดรู้ว่าโทรมาด้วยวัตถุประสงค์ที่เป็นมิตรซะขนาดนั้น

แต่พอได้ยินเสียงเข้ม ๆ ของปลายสายที่ชอบทำน้ำเสียงหงุดหงิดใส่อยู่ตลอด ไม่เคยจะออดอ้อนให้ดีใจเลย ทั้งที่รู้ว่าเป็นเสียงของคนที่ไม่ค่อยพอใจกัน

แต่ทำไมไม่รู้

ดีใจทุกครั้งที่คุณซ้งโทรมาหาทุกทีสิน่า

คุณซ้งหนอคุณซ้ง คุณซ้งผู้อารีแต่มีวาจาเชือดเฉือน
คุณหนูซ้ง
หน้าตาท่าทางคุณหนูซะขนาดนั้น

เคยเข้าใจอะไรบ้างมั้ย ว่าคนเขามาจีบ
แกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริง ๆ

โดยปกติมีใครที่ไหนเขาคิดได้ว่ามาจีบอาม่ากิม

ยอมรับว่าจีบเอาขำ รู้อยู่แล้วว่าไม่เล่นด้วย แต่ที่ทำก็เพื่อบรรเทาอาการหน้าหงิกและนิสัยที่ไม่ยอมรับคนทั้งโลกเข้ามาในความคิดนี่แหละ

เลยต้องทำให้พูดหรืองี่เง่าใส่กันซะบ้าง จะให้พูดจากันดี ๆ คงเป็นไปได้ยาก
เพราะดูเหมือนคุณซ้งไม่มีความคิดจะพูดจากับใครอยู่ในสมองเอาซะเลย
เรียกว่ามนุษย์สัมพันธ์ค่อนไปทางแย่

“ซ้งอีเป็นคนแบบนี้ อาม่าก็ไม่รู้จะทำยังไง นุชารุ่นราวคราวเดียวกัน น่าจะคุยกันรู้เรื่อง ม่าอยากให้อีมีเพื่อนเยอะ ๆ ถึงอีจะทำเป็นหงุดหงิดไม่ค่อยอยากพูดด้วย แต่ม่าว่าจริง ๆ แล้วอีดีใจที่มีเพื่อน”

นั่นคือการแสดงออกของคนที่ดีใจสินะ

ดีใจซะจน ทำให้น้ำตาตกในกันได้บ่อย ๆ เลยคุณซ้งครับ

พิจารณาข้อดีแล้วมีออกเยอะแยะ

หน้าตาดีมาก

ผิวขาว ๆ หน้าใส ๆ แต่ทำไมถึงได้เอาแต่ทำหน้าบึ้ง

อันที่จริงแค่ยิ้มซะหน่อย ใคร ๆ ก็อยากเข้าหาแล้ว นี่เล่นตั้งกำแพงเอาไว้ซะสูง ใครมันจะกล้าข้ามไปหา มันก็ต้องใช้วิธีกวนประสาทเข้าว่านี่แหละ

และดูท่าว่า จะได้ผลดีซะด้วย

คุณซ้งด่าได้สะใจมาก มีปฏิกิริยาตอบกลับคู่สนทนาด้วยการ
ทำหน้างี่เง่าประกอบการสนทนาเพิ่มขึ้นได้ด้วย เริ่มพัฒนาแล้วนะนั่น

เป็นการพัฒนาในด้านแย่ ดิ่งเหว ที่เข้าท่าซะจริง

จะมีใครคิดบวกได้ขนาดนี้ถ้าไม่ใช่นุชาที่กำลังไล่อ่านรายชื่อที่โทรเข้ามาหาและเห็นมีแต่เบอร์ของคุณซ้ง

เป็นทางนี้ซะอีก ที่ไม่ค่อยจะกล้าโทรกลับไปหา
แล้วใครจะกล้า

ถึงจะบอกว่าอยากกวนโมโห
แต่เวลาที่ไม่เห็นหน้า มันก็เดาอาการไม่ออก เดาหน้าตาไม่ค่อยได้
ว่าอีกฝ่ายทำหน้าแบบไหนเวลาพูด

ไม่เหมือนเวลาที่เจอหน้ากันตรง ๆ เพราะสามารถสังเกตได้จากแววตาและท่าทาง ที่จะคิดได้ว่าเริ่มโมโหจริง ๆ หรือแค่อยากด่าเล่น

เวลาไม่เห็นหน้ากันเวลาที่พูดคุย นอกจากจะเดาไม่ออกแล้ว
ยังมีอีกข้อที่คิดได้

คือ....

บางทีคุย ๆ ไปก็คิดถึงหน้าคนด่าขึ้นมา

คิดถึงจริงจัง ไม่ใช่คิดถึงแบบล้อกันเล่นเพื่ออยากให้งี่เง่าใส่กัน

มันช่วยไม่ได้ ก็รู้ดีว่าแกล้งทำเหมือนหยอกไปหยอกมาแบบนั้น เป็นใครก็คงไม่คิดหรอก ว่าที่จริงนั่นน่ะแสดงออกมาจากใจจริง ๆ นะ

ถึงจะหาข้ออ้างให้ตัวเองอยู่บ่อย ๆ เพื่อลดความละอายใจลงบ้าง

แต่ถ้ามองลงไปในใจลึก ๆ ก็ต้องยอมรับตัวเอง

ว่าคุณซ้ง เป็นคนน่าค้นหา น่าเข้าไปทำความรู้จัก อยากเข้าใจจริง ๆ ว่าในหัวกำลังคิดอะไรอยู่ อะไรที่ทำให้ต้องนั่งเฉย ๆ และมองผู้คนที่วิ่งอยู่ในสนามนิ่ง ๆ แบบนั้นทุกครั้งที่หยุดพักการวิ่ง จะว่าพักสายตามันก็ไม่น่าจะใช่

คุณซ้งคิดอะไรอยู่

บางทีก็จับสังเกตได้ถึงความหมองเศร้าในแววตาคู่นั้นที่มองไปที่ผู้คน
มันเป็นช่วงเวลาเดียว ที่จะสามารถสังเกตท่าทางที่ต่างออกไปจากทุกทีของคุณซ้งได้

โดยพื้นฐานแล้วคุณซ้งไม่ใช่คนนิสัยแย่หรอก

เป็นคนดีคนหนึ่งเลยล่ะ ใจจริง ๆ แล้วคุณซ้งไม่ใช่คนเมินโลก
ออกจะเป็นคนดีมีน้ำใจด้วยซ้ำ

เห็นบ่อย ๆ ว่าไม่ว่าอากงจะปวดเข่า อาม่าจะปวดหัว อาอึ้มจะเมื่อยแขนขา
ก็เห็นคุณซ้งผู้เมินโลกนี่แหละ ที่วัน ๆ ไม่เห็นจะค่อยพูดกับใครแต่พอเป็นแบบนั้นทีไร ก็เห็นเดินเข้าไปหาและบีบ ๆ นวด ๆ ให้เหล่าผู้สูงวัย แถมซ้ำยังขับรถไปส่งถึงบ้านแบบไม่ต้องรอให้ขอร้องด้วย

คนนิสัยแย่ที่ไหนเขาทำแบบนั้น

แล้วถ้าคิดกันจริง ๆ จะมีใครที่ไหน ทนมาวิ่งกับสมาคมนักวิ่งสูงวัยได้
ไม่เห็นมีลูกหลานอากงอาม่าคนไหน มาวิ่งเลยสักคน เห็นมีอยู่คนเดียว

คงไม่มีใครคิดหรอกว่าหนึ่งในสมาชิกของชมรม จะเป็นชายหนุ่มร่างสูง ที่หน้าใสกิ๊ง แต่ชอบทำหน้านิ่งและเหมือนเบื่อคนทั้งโลกอยู่

โดยปกติมีใครที่ไหนเขาทนได้ ที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไม่น่าจะเข้ากันได้

แต่น่าดีใจแทนคุณซ้งจริงๆ ที่เหล่าอากง อาม่า อาอึ้ม ดูเหมือนจะเข้าใจและรักใคร่เอ็นดูคุณซ้งอยู่ไม่น้อย

คนที่ผ่านโลกมาก่อน เข้าใจทุกอย่างจริง ๆ

และบางที สนามวิ่ง คงเป็นที่ที่คุณซ้งสบายใจที่จะอยู่ก็ได้
ถึงไม่ต้องพูด ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับใคร แต่ทุกคนก็อยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีการตั้งแง่ต่อกัน อยู่ด้วยกันแบบรักใคร่กลมเกลียว

แล้วเราจะไม่ลองมารักใคร่กันเหมือนคนอื่นบ้างหรือคุณซ้ง

เนอะคุณซ้งเนอะ

ใช่หรือเปล่า

เน้ออออออออออออออออ

“ประสาท”

นี่ขนาดไม่เห็นหน้า แต่ก็ยังมีเสียงมาให้คิดถึงได้นะ

คิดถึงจริง ๆ จนตามมาหลอนเลยหรือไง

“คร้าบบ....ประสาทก็ประสาทจ้า” ตอบกลับไปโดยอัตโนมัติ และคีบเส้นบะหมี่เข้าปากเคี้ยว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นทั้งที่เส้นบะหมี่ยังอยู่เต็มปาก

เมื่อเห็นว่ามีใครมายืนอยู่ตรงหน้าแถมยังลากเก้าอี้พลาสติกมานั่งด้วยอีก

“อะไร”

เปล่า ไม่มีอะไร

ที่ควรถามน่ะผมครับ ว่าคุณซ้งน่ะมีอะไร แล้ว......มายังไง

แถมซ้ำยังจะมานั่งทำหน้าเฉยใส่อีก

แล้ว....จะจ้องกันทำไมครับ คนกำลังกินบะหมี่ ไม่ได้ทำตัวไม่ดีนะ
ยังไม่ได้กวนเลย กินบะหมี่เฉย ๆ จริง ๆ

อย่ามองกันแบบนั้น

อย่าทำเป็นกระพริบตามองแบบนั้น อย่าเลยไปถึงยกมือขึ้นมานั่งท้าวคางมองหน้ากันแบบนั้น และอย่า.....

นุชาสำลักบะหมี่และรีบคว้าแก้วน้ำยกขึ้นดื่มแทบไม่ทัน

เมื่อเหลือบสายตามองหน้าคุณซ้งแล้วพบว่า มีรอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปากของอีกฝ่าย ยิ้มจริง ๆ แม้จะเหมือนทำหน้านิ่งเฉยอยู่ก็เถอะ

แต่ถ้าสังเกตกันแบบจริง ๆ จัง ๆ จะรู้ว่าคุณซ้งแอบยิ้ม

ยิ้มจริง ๆ นะ ไม่ได้ล้อเล่น

ตอนแรกไม่ทันได้เห็น แต่พอสายตามองไล่ไปที่ริมฝีปากคู่นั้น ที่กำลังอมยิ้มแบบไม่ยอมให้ใครสังเกตเห็นก็ทำให้นุชาสำลัก

“แอ่ก คุณซ้ง อ่า แค่ก ๆ แอ่ก”

กำมือและทุบเบา ๆ ที่อกตัวเอง และยิ่งเห็นชัดว่าคราวนี้ไม่ใช่แค่แอบอมยิ้ม
คราวนี้กลายเป็นยิ้มกว้างไปแล้ว

ถึงจะเป็นรอยยิ้มเพื่อแสดงอาการ...........สะใจ
แต่รอยยิ้มของคุณซ้งมันทำให้คนที่พบเห็นกำลังละลาย ยิ้มทั้งทีเหมือนจะแกล้งฆ่ากันให้ตาย

และนุชาก็กำลังจะตายเพราะสำลักบะหมี่จริง ๆ

คุณซ้งงงงงงงงงงงงงงงง แกล้งกันได้นะนี่

แกล้งกันได้ลงคอ แล้วนั่นทำอะไรอีกล่ะนั่น จะทำอะไรอีก

เทน้ำในขวดใส่แก้ว และยังเอามาวางไว้ให้ตรงหน้าอีก

ไม่ไหวนะคุณซ้ง อย่ามาทำแบบนี้ อย่ามาทำเป็นใจดี

อย่า อย่าขอร้อง อย่ามาทำหน้าตาหล่อบาดใจ อย่าทำแบบนี้ครับ

“ทำไม มองหน้าทำไม มีปัญหาหรือไง”

ยังไม่หยุดอีก ยังจะพูดไปยิ้มไปอีก
แน่ะ ยังจะหัวเราะอีก ยังจะหัวเราะแล้วส่ายหน้าอีก ยังจะ....

ยังจะทำแบบนั้นอยู่อีก ยังจะ……ยังจะ....ยังไม่ยอมเลิกทำหน้าแบบนั้นอีกนะ

นุชายังทุบอกตัวเองและยกแก้วน้ำที่ถูกยื่นมาให้ขึ้นดื่ม

แต่สายตากำลังจับจ้องและไล่ตามรอยยิ้มหวาน ๆ และท่าทางที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นจากคนตรงหน้า

พูดตอบออกไปว่าอะไรไม่รู้

รู้แค่ว่าหลังคำตอบนั้น คุณซ้งหน้ายิ้มหวานบาดใจ กลายเป็นคุณซ้งหน้านิ่งงอหงิกอีกแล้ว

และอยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นเดินหนีไปแบบไม่มีคำอำลา

โกรธทำไมล่ะ โมโหเรื่องอะไร

ไม่ได้พูดอะไรเลยสักนิด ไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้ขัดเคืองใจเลย แค่คิดแล้วก็พูดออกไปจากใจจริงเท่านั้น

มีอะไรที่ทำให้ไม่ชอบใจเหรอ ทำไมอยู่ดี ๆ กลายเป็นโกรธจริงจังขนาดนั้น

ยังไม่ได้ด่า ยังไม่ได้ว่า หรือตั้งใจทำให้โมโหเลยนะ

ก็แค่ตอบไปว่า

“คุณซ้งเวลายิ้มแล้วโคตรน่ารักเลยว่ะ”

ตอบออกไปแค่นี้เอง แล้วโกรธกันทำไม ทำไมถึงโกรธล่ะคุณซ้ง
กลับมาบอกก่อนสิว่าโกรธผมทำม้ายยยยยยยยยย




TBC...

 


ตอนนี้อัพทันเท่าที่เท็นแต่งเอาไว้แล้วนะคะ
ถ้าหายไปนานอีก มีอยู่2อย่าง คือ เท้นไม่อัพ หรือ แนนยุ่งเอง  :laugh:
แล้วเจอกันตอนหน้าคะ(เมื่อไหร่ไม่รู็้ อิอิ) :bye2:

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † โกรธทำไม † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 22-03-2012 11:00:52
ขอบคุณมาลงให้อ่าน
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † โกรธทำไม † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-03-2012 12:41:19
น้องแรงบันดาลไจน่ารัก!!
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † โกรธทำไม † [21/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: tender ที่ 22-03-2012 15:05:16
น่ารักสวดๆไปเลย น้องแรงบันดาลใจ :o8: :-[ :impress2:
ขอบคุณที่มาต่อค้า
รอๆๆๆตอนต่อไป o22
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † ขอโทษ † [23/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 23-03-2012 00:27:57



ตอน ขอโทษ



เพราะว่าอยู่ในระหว่างทำรายงานกลุ่ม และเฮียก๋วยบอกให้มาเอาเอกสารไปพิมพ์เพราะเฮียพิมพ์ดีดไม่เป็นแต่ร่างข้อความไว้ให้เรียบร้อยแล้ว หลังจากหาเอกสารประกอบรายงานได้ และจัดการกับหัวข้อใหญ่ในวิชาที่เรียนเรียบร้อย ซ้งจึงขับรถออกมารับเอกสารที่ร้านเฮียก๋วย

หาที่จอดรถเรียบร้อย และเดินลิ่วเข้ามาในร้าน เดินไปทักทายเจ้าของร้านและมองไปที่เฮียก๋วยหน้าโหด ที่กำลังปรุงเส้นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ลวกและเตรียมจะนำใส่ชามเพื่อเสริฟให้ลูกค้า

“รายงานวางไว้บนโต๊ะหลังร้าน เข้าไปดูก่อน หยิบไปได้เลยเฮียเรียงไว้หมดแล้ว ลวกเย็นตาโฟร์ใส่ถุงให้แล้วเดี๋ยวมาเอาได้เลย”

เห็นอยู่ว่ากำลังยุ่ง และไม่ได้รีบไปไหน
ซ้งหันซ้ายหันขวาและมองไปที่ด้านหลังของร้าน
มาบ่อย ๆ จนเป็นเรื่องปกติ เดินไปหาที่นั่งหลบมุมที่หลังร้าน ลากเก้าอี้ออกมานั่ง
และรวบรวมเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ

พลิกกระดาษที่มีข้อความเขียนจากลายมือ และอ่านงานร่างที่เขียนเอาไว้
จัดเอกสารใส่แฟ้มเรียบร้อย และเดินออกมาหาเจ้าของร้าน

“ขายดีมั้ยเฮีย นี่ผมมาอุดหนุนเฮียถึงที่เลยนะวันนี้” พูดคุยและหยิบธนบัตรในกระเป๋าออกมาจ่ายค่าเย็นตาโฟร์ที่ทำเสร็จใส่ถุงไว้เรียบร้อย

“เลี้ยง ๆ ไม่ต้องจ่ายนะ ถ้าจ่ายวันหลังไม่ต้องสั่ง ไม่ทำแล้ว”

อีกแล้ว
ก๋วยเตี๋ยวอร่อยสุดยอด อดใจไม่ไหวต้องสั่งซื้อกลับบ้าน
แต่เจ้าของร้านก็เป็นซะแบบนี้ ให้ตังค์ทีไรไม่เคยเอา
เกรงใจครับเฮีย

ซ้งยกมือไหว้และขอบคุณเฮียก๋วยที่ยิ้มและพยักหน้าให้เหมือนบอกว่าไม่เป็นไรกล่าวลาเจ้าของร้านและกำลังจะก้าวขาเดินออกจากร้าน

สายตาก็ไปสะดุดกับใครบางคน ที่กำลังถือตะเกียบคีบบะหมี่เข้าปาก

นุชา........

ซ้งยืนนิ่งอึ้ง กำลังจะอ้าปากทักทาย แต่คิดขึ้นได้ว่าแบบนี้มันไม่ปกติ
ทำหน้ายุ่ง ขมวดคิ้วมุ่น กำลังจะก้าวขาเดินจากไป แต่เมื่อคิดจะทำแบบนั้นจริง ๆ ขาก็พากลับมาที่ร้าน และใจก็พาให้ร่างกายเดินตรงดิ่งไปที่โต๊ะของคนที่กำลังคีบเส้นบะหมี่

บ้าไปแล้ว

คิดว่าตัวเองกำลังทำเรื่องบ้า ๆ อยู่

เห็นคนตรงหน้าชะงักมือที่กำลังถือตะเกียบคีบเส้นบะหมี่
ทำหน้าเหมือนตกใจกับอะไรบางอย่าง

ทำไมต้องตกใจ ทำไมต้องทำหน้ามึนใส่ จะแปลกตรงไหนที่เจอกัน
อยู่ชมรมเดียวกันแท้ ๆ ถ้าไม่เข้ามาทักทาย มันคงจะน่าเกลียดจนเกินไป

ซ้งกำลังคิดในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคิด หาเหตุผลมารองรับการกระทำของตัวเอง
และลากเก้าอี้พลาสติกมานั่งอยู่ตรงหน้าของนุชาเรียบร้อย

นั่งมองหน้าของคนที่กำลังกระพริบตาปริบ ๆ สังเกตกิริยาท่าทาง และนิ่งมองใบหน้าของนุชาอยู่นาน

อาการไม่ได้ดูย่ำแย่อะไรนัก ผิดจากที่คิด

แล้วยังนั่งกดโทรศัพท์เล่นอะไรสักอย่าง กดแล้วก็วางแล้วก็อมยิ้มกับโทรศัพท์อีก ไม่รู้ว่าจิตใจฝักใฝ่ถึงใครในโทรศัพท์นักหนา

“ประสาท”

ก็พูดแบบนี้ทุกที ไม่เห็นน่าแปลก ถ้าขืนถามไปว่า ---เป็นยังไงสบายดีมั้ย--- นุชามันคงช็อค ตกใจจนตกเก้าอี้

“คร้าบบ....ประสาทก็ประสาทจ้า” ดูสิ่งที่มันตอบ ลากเสียงยาวเหยียด ๆ ไม่รู้ว่าพูดแบบนี้เข้าไปได้ยังไง พูดเสร็จมันยังทำหน้ามึนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองพูดเลยสักนิด

“อะไร”

ถาม

และก็เห็นฝ่ายนั้นยักไหล่ ทำเป็นคีบบะหมี่เข้าปาก ทำเป็นไม่สนใจกันสักนิด

อุตส่าห์เดินเข้ามาทัก มารยาทมีมั้ย คีบบะหมี่กินอยู่นั่น

ผักชีติดที่ขอบปากแล้ว รู้มั้ยว่ามันตลก

มีผักชีติดอยู่ข้างริมฝีปากของนุชาด้วย เห็นแล้วก็ขำ ขำจนแทบจะหยุดขำไม่ได้

แต่ก็ไม่อยากเป็นคนไร้มารยาท จะบอกมันดีหรือเปล่า หรือไม่บอก

ให้ผักชีมันติดอยู่แบบนี้ก็ท่าจะดี

ซ้งยกแขนขึ้นมาท้าวคางและมองหน้านุชาที่กำลังกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย

ยิ่งมองก็ยิ่งอยากหัวเราะ กลั้นรอยยิ้มเอาไว้ และมองเลยไปที่ดวงตาของนุชาที่ยังมองไปที่บะหมี่ในชาม

แล้วนั่น..........

อะไรของมันนักหนา ....อยากจะขำให้ตาย ใครใช้ให้รีบกิน สำลักบะหมี่แล้วเป็นไง
สมน้ำหน้า อยากทำเมิน ทำเป็นไม่สนใจกันดีนักแต่เดี๋ยวจะหาว่าเป็นคนใจดำ เทน้ำในขวดใส่แก้วให้ก็แล้วกัน

“แอ่ก คุณซ้ง อ่า แค่ก ๆ แอ่ก”

ซ้งนั่งมองนุชาที่กำลังกำมือและทุบเบา ๆ ที่อกตัวเอง

ภาพที่ซ้งเห็นมันทำให้ยิ้มออกมา ยิ่งมองยิ่งขำ แถมซ้ำคนที่กำลังยกมือทุบอกตัวเอง ยังมีการทำหน้าหงิกใส่อีก นาน ๆ ทีจะเห็นทำอะไรตลก ๆ แบบนี้
คนอุตส่าห์ยกน้ำให้กิน ยังจะมองหน้ากันอีก ผิดหรือไงที่มีน้ำใจ

“ทำไม มองหน้าทำไม มีปัญหาหรือไง”

ซ้งเอ่ยถาม และยิ่งอมยิ้มไม่เลิก

นุชามันเป็นคนที่มองแล้วเพลินตาจริง ๆ ทำไมถึงคิดว่ายิ่งมองยิ่งเพลิน
ความเป็นธรรมชาติแบบนี้น่ะเหรอ ที่คนทั้งชมรมยกใจให้หมด
นุชา หน้ามึน ไอ้ตี๋นุชา ลื้อมันเป็นคนตลกดีนะ มองแล้วก็คิดว่าตลกดี

“คุณซ้งเวลายิ้มแล้วโคตรน่ารักเลยว่ะ”

เวลายิ้มแล้วโคตรน่ารัก

อะ อะ....ไร...อะไรใครน่ารัก ใครยิ้มแล้วน่ารัก นุชามันพูด....พูดบ้าอะไรของมัน

ซ้งกำลังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน หุบยิ้มแทบไม่ทัน และไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนกับสิ่งที่ได้ยินและรู้สึกว่ากำลังทำตัวไม่ถูก เริ่มมีทีท่าลุกลี้ลุกลน
กับคำชมที่ไม่เคยมีใครเคยพูดด้วย

ไม่เคยมีใครพูดจาแบบนี้ ไม่เคยมีใครพูดจาบ้อบอแบบนี้ใส่

ไม่เคยพบเคยเจอใครแบบนุชามาก่อน

ซ้งไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ไม่เข้าใจอะไรเลย

รีบลุกขึ้นเดินหนีออกมา เพราะกำลังทำตัวไม่ถูก

ไม่รู้ว่าทำไมต้องเดินหนี
แค่รู้สึกว่า กำลังไม่เป็นตัวของตัวเอง ความเป็นปกติอย่างที่เคยเป็นกำลังเลือนหายไปเรื่อย ๆ

อะไรบางอย่างผิดไปจากเดิม

นุชาที่เห็นไม่เหมือนนุชาคนก่อน

นุชาเป็นแค่คนกวนประสาทที่มายุ่งวุ่นวายกับสมาชิกในชมรม
นุชายิ้มให้กับทุกคนที่ชมรม อาอึ้ม อาม่า อาเจ้ ไม่ว่าใคร นุชาก็ยิ้มให้ไปซะหมด แถมยังพูดจากับคนรอบข้างได้อย่างไม่มีความเคอะเขิน

พูดคุยกับใคร ๆ ก็ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

มีแต่คนชอบ มีแต่คนถามถึงนุชา หายหน้าไปก็มีแต่คนคิดถึง มีแต่ถามไถ่หาอยู่ตลอดเวลา

นุชาชอบยิ้มเรื่อยเปื่อยให้กับทุกคน นุชาเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ดีเกินเหตุ
นุชาที่กำลังวิ่งบางครั้งก็เหม่อลอย เหมือนคิดอะไรอยู่

เหมือนกำลังพยายามทำอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครเข้าใจ

ถึงจะพูดคุยกับใครๆ รอบตัวได้อย่างราบรื่น มีคนรักมากมาย
แต่นุชาก็มีเส้นของตัวเองขีดเอาไว้ ไม่ให้ใครล้ำเข้าไปหา


สำหรับซ้งนุชาไม่เคยมีความน่าสนใจ ไม่เคยเลยสักนิด

แต่วันนี้มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ต้องเดินเข้าไปหา แต่เพียงไม่นานก็ต้องรีบผลักไสและเดินหนีออกมา

นุชาชอบยิ้มเรื่อยเปื่อยให้กับทุกคน
นุชาชอบพูดทุกอย่างตามใจตัวเอง โดยไม่เคยคิดถึงใจของคนฟังว่ารู้สึกยังไง

นุชา.........นุชา


โธ่โว้ยยยยยยยยย ไอ้ตี๋นุชา

ซ้งกำลังรู้สึกว่าในหัวของตัวเอง มีแต่ภาพของนุชา มีแต่เรื่องของนุชาอยู่เต็มหัว

ทำไมเป็นแบบนี้ ไอ้ตี๋นุชาชอบทำหน้ามึนคนนั้น มันหาเรื่องให้หงุดหงิดอีกแล้ว

นุชามันเป็นบ้า มันทำตัวน่าโมโห มันงี่เง่า มันปากพล่อย มันพูดจาไม่รู้จักคิด
มันชอบทำให้หงุดหงิด พูดออกมาได้ยังไง ว่ายิ้มแล้วน่ารัก เอาอะไรคิด ถึงได้พูดออกมา แล้วยังจะทำหน้าตาท่าทางแบบนั้นอีก

ทำไมต้องจ้อง ทำไมต้องทำหน้าเหมือนเห็นเรื่องประหลาด
ทำไมต้อง.......

ซ้งกำลังขมวดคิ้วมุ่น ไม่ชอบความรู้สึกแปลก ๆของตัวเองที่หาคำตอบไม่ได้

รีบเดินลิ่ว ๆมาขึ้นรถ หน้ากำลังงอหงิก รู้สึกว่าความเป็นตัวของตัวเองกำลังหายไป

แต่ไม่ได้รู้สึกแย่ กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำ

และเพิ่งคิดได้ว่าลืมหิ้วถุงเย็นตาโฟร์ออกมาด้วย

บ้าเอ้ยยยยยยยยยยย ทำไมถึงได้..........

หงุดหงิด และต้องรีบลงจากรถเดินลิ่ว ๆ กลับไปที่โต๊ะของคนที่ทำให้รู้สึกถึงอารมณ์ประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นและมันเพิ่งจะเริ่มเป็น ๆ หาย ๆ เมื่อไม่นาน

นุชาเงยหน้าขึ้นมองและอยู่ในท่าเดิม คือถือตะเกียบค้าง และอ้าปากจ้องมองคนมายืนอยู่ตรงหน้า

อะไรของมันจะมองทำไม

ก็คนมันลืมถุงเย็นตาโฟร์ เลยกลับมาเอา ทำเป็นมึน ทำเป็นเห็นของแปลกไปได้

อย่ามาทำให้ขัดใจ อย่ามาทำให้โมโห อย่ามาทำให้หงุดหงิดเพิ่มขึ้นได้มั้ยขอร้อง

“คุณซ้ง....ขอโทษครับ ไม่รู้ว่าทำอะไรให้คุณซ้งโกรธ...ไม่รู้จริง ๆ นะว่าทำอะไร แค่พูดไปตามที่คิด ไม่ได้มีเจตนาร้าย คุณซ้งจะโกรธก็ได้ แต่อย่าโกรธผมนานเลยนะ....ผมขอโทษจริง ๆ คุณซ้ง”

เอ่อ

เปล่า เปล่า คือว่า ไม่ได้โกรธ

ไม่ได้.....เอ่อ

รู้สึกผิด

ซ้งกำลังยืนนิ่งฟังคำพูดของอีกฝ่ายที่วางตะเกียบลงแล้วและเงยหน้าขึ้นมามองกันอีกครั้ง สายตาของคนมอง บ่งบอกว่ารู้สึกผิดจริง ๆ กับสิ่งที่ทำลงไปโดยไม่รู้ตัว

ซ้งกำลังยืนนิ่ง และถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

ไม่ได้บอกว่ายกโทษให้ แต่หยิบถุงเย็นตาโฟร์ที่วางอยู่บนโต๊ะมาถือไว้ และก้าวเดินออกมา โดยไม่ได้หันกลับไปมองคนที่กำลังมองตามมาอีก

ไร้มนุษย์สัมพันธ์ นิสัยแบบนี้ที่ใคร ๆ ก็บอกให้แก้ไข

รู้สึกตัว ว่าเป็นพวกไร้มนุษย์สัมพันธ์อย่างรุนแรง เพราะไม่ชินกับการต้องพูดคุยกับใคร ยิ่งได้ยินคำพูดขอโทษจากใจของนุชาแล้ว ยิ่งไม่รู้ว่าต้องตอบกลับไปยังไง

ใช้วิธีเดินหนีมาขึ้นรถ แต่ขับออกไปไม่ได้ นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ คนเดียวและกำลังเริ่มใช้ความคิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ควรจะมีปฏิกิริยายังไง ต้องทำยังไง

ควรบอกมั้ย ว่าไม่โกรธ ไม่ได้คิดอะไร ทั้งที่จริง ๆแล้วก็ไม่ชอบใจกับสิ่งที่นุชาพูดออกมาโดยไม่รับผิดชอบ

สิ่งที่ควรทำคืออะไร

ต้องทำอะไรต่อจากเหตุการณ์นั้น.....คิดแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น และนึกโมโหที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เป็นปกติ เวลาต้องพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับใคร

ยอมรับจริง ๆ ว่าเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์เข้าขั้นแย่มาก และไม่รู้ควรจะทำยังไง

ยกโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหาหมายเลขโทรศัพท์ของนุชา

กดโทรออกและรอสัญญาณให้อีกฝ่ายรับสาย

“ครับ”

เอ่อ......ควรพูดยังไง ต้องพูดอะไร ต้องทำยังไง

“ครับ คุณซ้ง....หายโกรธหรือยัง”

หายโกรธหรือยัง......ก็....หายโกรธมั้ยเหรอ....หายโกรธ

“อืม....” ตอบออกไปแล้ว และได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของคนที่รับสายก่อนที่เสียงถอนหายใจจะกลายเป็นเสียงหัวเราะเบา ๆ

“โห....ทำไมหายง่ายจัง”

อ่า.....ไอ้นุชา....ไอ้ตี๋นุชา มัน..... ซ้งกดตัดสายในทันทีและเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องงี่เง่าอยู่

นุชา นุชา นุชา มันกวนประสาท นุชา นุชา นุชา ชอบทำให้รู้สึกหงุดหงิดโมโหจนแทบจะตาย

นุชา นุชา

นุชามันบ้า มันกวน มันแกล้ง มันปากพล่อย มัน.........

คิด คิด คิด มีแต่เรื่องนุชาเต็มหัว

คิดแต่เรื่องงี่เง่าของนุชา

คิด ...และอาการไม่เป็นตัวของตัวเองก็กลับมาอีกครั้ง
อาการแปลก ๆ ที่มาพร้อมกับความหงุดหงิดไม่ชอบใจ

อาการประหลาด ที่ทำให้ต้องขมวดคิ้วมุ่น
อาการที่ว่า เกิดขึ้นทุกครั้งหลังการพูดคุยกับนุชา

ซ้ง แตะฝ่ามือที่อกข้างซ้ายและรู้สึกว่าหัวใจตัวเองยังเต้นในจังหวะปกติ
แต่ความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ภายในหัวใจกำลังผิดปกติ

อาการแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว

เกิดขึ้นได้ยังไง

ทำไมถึงได้คิด แต่ไม่มีคำตอบ

เพิ่งจะรู้สึกว่าอารมณ์และความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นไม่นานมันกำลังมีผลกับรอยยิ้มบนใบหน้า

ทั้งที่ไม่ควรยิ้มก็ยิ้ม
ทั้งที่ไม่ควรโกรธก็โกรธ ยิ้มทั้งที่รู้สึกโกรธ แบบนี้เหมือนคนบ้า
เป็นแบบนี้อีกแล้ว
คนที่ยิ้มทั้งที่โกรธก็คงใกล้จะบ้า

ซ้งยกมือขึ้นตบเบา ๆ ที่แก้มของตัวเองเพื่อเรียกสติกลับคืนมา
แต่แปลกตรงที่ว่า ในหัวมีแต่คำชมของนุชา ที่ชมว่ายิ้มแล้วน่ารัก

“น่ารักบ้าบออะไรวะ...ก็หน้าแบบนี้ทุกที”

บ่นและสะบัดหัวไล่ความคิดงี่เง่าของตัวเอง
สตาร์ทรถและขับกลับบ้าน โดยมีคำชมของนุชาดังก้องไปก้องมาตลอดเวลาที่ขับรถกลับบ้าน

“คุณซ้งเวลายิ้มแล้วโคตรน่ารักเลยว่ะ”


TBC...

 


อัพ2ตอนรวดนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † คืนวันเก่า ๆ † [23/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 23-03-2012 00:31:33



ตอน คืนวันเก่า ๆ



“ซ้งจะอยู่กับหม่าม๊าใช่มั้ยลูก ซ้งจะไม่ไปไหน ซ้งจะอยู่กับหม่าม๊านะลูกนะ”

เด็กชายวัยห้าขวบ ร่างกายแคระแกร็นผิดจากเด็กวัยเดียวกันกำลังยืนนิ่ง ๆ อยู่ในอ้อมแขนของแม่

ดวงตากลมโตดำสนิท ไร้สีสัน ไร้อารมณ์ความรู้สึก
เด็กชายเห็นภาพทุกอย่าง รับรู้ทุกอย่าง แต่ไม่สามารถพูดคุยหรือสื่อสารกับใครได้ว่ากำลังรู้สึกยังไงกับสิ่งที่ได้ยินได้เห็น

ซ้งมองหม่าม๊าที่เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด

สงสารหม่าม๊า ทุกคนทำให้หม่าม๊าทุกข์ใจอีกแล้ว ทำไมต้องบังคับหม่าม๊าของซ้งด้วย ทำไมต้องทำให้หม่าม๊าเสียใจ

หม่าม๊าร้องไห้และกอดซ้งเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้ไปไหน

“อายุจะเลยเกณฑ์เข้าเรียนแล้ว ยังไม่ยอมให้ไปโรงเรียนไม่ได้นะอาเหมยคิดถึงอนาคตของลูกบ้าง”

อาม่ากิม พยายามจะดึงแขนเด็กชายตัวเล็กออกจากอ้อมแขนของแม่ที่ยังร้องไห้ฟูมฟาย พูดจาไม่รู้เรื่อง

พูดดีก็แล้ว พูดร้ายก็แล้ว แต่อาเหมยก็ยังทำเหมือนคนไร้สติ
ฟูมฟายร้องไห้ กลัวว่าจะถูกพรากลูกไปจากอก

เด็กโตขึ้นทุกวัน ต้องไปโรงเรียน แต่อาเหมย ไม่ยอมให้ลูกไป
ไม่ยอมให้ลูกเล่นกับใคร ไม่ยอมให้ไปโรงเรียน ยึดลูกเอาไว้กับตัวเอง
ไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น

“เหวง ก็เอาไปส่งเข้าโรงเรียนประจำ นี่ยังจะเอาซ้งไปอีกคน อย่าคิดว่าจะพรากลูกเหมยไปได้นะ ไม่มีทาง ไม่มีทางเด็ดขาด เหมยไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว”

หญิงวัยกลางคนกำลังเกรี้ยวกราดโมโห ทั้งลากทั้งดึงให้ลูกชายตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน ไม่ยอมปล่อย ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อย และเริ่มพูดจาเหมือนคนไม่ได้สติ พร่ำเพ้อพรรณนาพูดแต่เรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านเลยมาแล้ว

“เอาไปเข้าโรงเรียน ไม่เรียนหนังสือไม่ได้ ซ้งมันโตขึ้นทุกวันจะให้อยู่กับลื้อตลอดเวลาได้ยังไงอาเหมย”

ให้เหตุผล ทั้งขู่ทั้งปลอบ แต่แม่ของซ้งก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับฟังเลยสักนิด
ยังคงร้องห่มร้องไห้ และยิ่งกอดรัดลูกชายเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้ใครมาแตะต้อง


“อย่ามาพรากลูกเหมย เฮียทิ้งเหมยไปแล้ว ทิ้งเหมยไปกับอีผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น แล้วยังจะเอาอะไรจากเหมยอีก อย่าเอาลูกเหมยไปไหน อย่าเอาไป ฮืออออ ฮือ”

เพราะหัวใจแตกสลาย จึงทำให้ควบคุมสติไม่อยู่ ไร้สติ พูดจาเลอะเลือน กอดลูกเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ร้องห่มร้องไห้ไม่ยอมหยุด เป็นอย่างนี้มานาน จนคนรอบข้างท้อใจ

ไม่ว่าจะทำยังไง เธอก็ไม่เคยเลิกด่าทอสามีที่ทอดทิ้ง และไม่ยอมปล่อยลูกชายคนเล็ก ไม่ว่าจะกินหรือนอน ก็ไม่ยอมให้ลูกห่างตัว

“ซ้งไม่ไปไหนใช่มั้ย ซ้งจะอยู่กับหม่าม๊าใช่มั้ยลูก ซ้งจะอยู่กับหม่าม๊าไปตลอดชีวิต ซ้งจะไม่รักใครเท่าหม่าม๊า ซ้งจะไม่เป็นเหมือนป่าป๊าใช่มั้ย ซ้งลูกแม่”

เด็กชายยืนนิ่ง ๆ มองภาพใบหน้าอาบน้ำตาของแม่ที่ไม่ว่าใครจะมองว่าเธอเหมือนคนเสียสติ แต่สำหรับซ้งในวัยห้าขวบมันไม่ใช่

หม่าม๊าเป็นทุกข์ เจ็บปวด ร้องไห้ทุกวัน

เพราะป่าป๊าไม่รักหม่าม๊าแล้ว

ซ้งจะรักหม่าม๊าคนเดียว ไม่รักใครมากกว่าหม่าม๊า
ทำไมหม่าม๊าต้องรักป่าป๊าด้วย ถ้าไม่รักก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้
หม่าม๊าคงไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องเสียใจ ไม่ทุกข์ทนทรมานขนาดนี้

ความรักน่ากลัว มันทำให้หม่าม๊าร้องไห้ทุกวันไม่ยอมหยุด

ซ้งจะไม่รักใคร

ซ้งไม่อยากร้องไห้ ถ้ารักใครแล้วต้องร้องไห้ เสียใจ ก็จะไม่รัก

“ซ้งจะไม่รักใคร สัญญากับหม่าม๊าสิ สัญญา ซ้งจะอยู่กับหม่าม๊าไปตลอด อย่าทิ้งหม่าม๊าไปเหมือนใคร ๆ อย่าทำอย่างนั้นกับหม่าม๊านะซ้ง สัญญากับหม่าม๊านะซ้ง สัญญา”

สัญญากับหม่าม๊าสัญญา

สัญญา

เด็กชายตัวเล็กร่างกายแคระแกร็น ยืนกระพริบตาปริบ ๆ
แม้ดวงตาจะเลื่อนลอย แต่จิตใจรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ซึมซับทั้งหมดเข้าในสมองและความรู้สึก

ปลายนิ้วเล็ก ๆ
เกลี่ยหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของแม่ที่พร่ำพูดแต่เรื่องเดิม ๆ ซ้ำซาก
และซบใบหน้าลงกับร่างเล็ก ๆ ของเด็กน้อยที่ยกแขนขึ้นโอบกอดร่างกายที่สั่นสะท้านของแม่เอาไว้ และแม้จะเป็นอ้อมแขนเล็ก ๆ แต่สิ่งที่เด็กห้าขวบทำได้ก็มีเพียงเท่านี้

การที่ซ้งไม่ยอมพูด ไม่ใช่พูดไม่ได้ แต่เป็นเพราะหม่าม๊าบอกว่าห้ามพูด ถ้าพูดแล้วจะไม่ได้อยู่กับหม่าม๊าไปตลอดชีวิต จะต้องไปโรงเรียน โรงเรียนคือสถานที่น่ากลัวไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ไม่อยากไป อยากอยู่กับหม่าม๊า

“สัญญานะซ้ง อย่ารักใคร สัญญาสิ”

สัญญาจะไม่รักใคร สัญญา สัญญา สัญญา

ซ้งสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกคืนหนึ่ง และพบว่าน้ำตากำลังหลั่งรินรดที่ข้างแก้ม หัวใจปวดร้าว รู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทนจนต้องร้องไห้สะอึกสะอื้น

ร้องไห้เหมือนคนจะขาดใจ

ร้องเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้

ขบริมฝีปากแน่น และซบใบหน้าลงกับหมอนเพื่อสะกดกลั้นความรู้สึกที่อยู่ภายในหัวใจ แต่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งพยายามจะหยุดความรู้สึกตัวเอง น้ำตาก็ยิ่งไม่ยอมหยุดไหล เหมือนว่าจะขาดใจตาย แต่ก็ทำได้แค่เพียงพยายามรวบรวมสติให้กลับมาโดยไว

“อาซ้ง อาซ้ง เปิดประตูให้อาม่าหน่อย”

ได้ยินเสียงเคาะที่หน้าประตูห้อง แล้วซ้งก็รีบลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที

“ร้องไห้อีกแล้ว ไม่เป็นไรน๊า อาม่าอยู่นี่ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”

ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งกำลังยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา และกอดร่างของอาม่ากิมเอาไว้แน่น ร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ เพราะเจ็บปวดหัวใจกับเรื่องราวในอดีตที่ไม่เคยลบเลือนหายไปจากความรู้สึก

“ม่ายเป็นไรนา ซ้ง อาม่าอยู่นี่แล้ว ไม่เป็งไร”

มือเล็ก ๆ มีแต่ร่องรอยเหี่ยวย่นของอาม่ากิม ลูบหลังลูบไหล่หลานชายที่กำลังพยายามรวบรวมสติให้กลับคืนมาให้ได้

“ซ้งไปนอนกับอาม่านะครับ คืนนี้ซ้งขอไปนอนกับอาม่าซ้งไม่อยากนอนคนเดียว”

น้ำเสียงสั่นไหว ร่างกายกำลังสั่นสะท้าน

อาม่ากิมได้แต่ถอนหายใจ และลูบไหล่ของหลานชายตัวโตที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ไม่เคยเปลี่ยน

แม้ร่างกาย รูปร่าง หน้าตาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ซ้งก็ยังเป็นหลานชายตัวเล็ก ๆ ของอาม่ากิมเสมอ

“ล่ายซิ ไป ไปนอนห้องอาม่ากานนะ ไม่เป็งไรแล้ว ไม่เป็งไร”

อาม่ากิมเดินนำหน้า โดยมีหลานชายตัวโตจูงมือเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเหมือนตอนเด็ก ๆ

ซ้งกำลังเดินตามอาม่ากิมเข้าไปในห้อง และล้มตัวลงนอนกอดอาม่าเอาไว้แน่น

น้ำตายังไม่ยอมหยุดไหล

แต่หัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำเมื่อหลายนาทีก่อน เริ่มกลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว

“อาม่าอยู่กับซ้งไปตลอดไม่ได้นา ถ้าอาม่าเป็นอารายไปแล้วซ้งจะทำยางงาย”

รับรู้ได้ถึงเรื่องนี้

ทุกครั้ง สมองรับรู้ แต่หัวใจไม่เคยยอมรับ

“ถ้าอาม่าตาย ซ้งก็ไม่อยากอยู่ อาม่าอย่าทิ้งซ้งไปแบบหม่าม๊านะ อาม่าอย่าทิ้งซ้งไปแบบหม่าม๊า”

ไม่มีใครรู้ ว่าหัวใจของคนที่ทำเป็นเมินเฉยต่อโลก ผ่านความทุกข์ใจอะไรมาบ้าง
ซ้งกลายเป็นเด็กชายตัวเล็กที่หวาดกลัวต่อโลกทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องเก่า ๆ

ความรู้สึกหวาดกลัวไม่เคยจางหายไป และเมื่อปล่อยใจให้ล่องลอย แม้แต่ในความฝันภาพวันเวลาเก่า ๆ ที่ฝังจิตฝังใจก็กลับมาหลอกหลอนให้ฝันถึงอยู่บ่อยครั้ง

“ความรักไม่น่ากลัวหรอกอาซ้ง เหมือนเรื่องอาม่ากับอากงที่ซ้งชอบฟังยังงายยย อาม่ารักอากง อาม่าก็มีความสุข มันม่ายล่ายมีแต่ความทุกข์หรอก เชื่ออาม่านะซ้ง”

อยากจะเชื่อ

อยากจะปล่อยหัวใจให้เชื่อดูสักครั้ง แต่ก็ไม่กล้า

ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า ไม่กล้าเข้าหาใคร ๆ ทั้งนั้น

ซ้งนอนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ฟังทุกคำพูดคำสอนของอาม่ากิม และยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา

ซ้งกลัวอาม่า ซ้งกลัวเป็นแบบหม่าม๊า

ถ้าซ้งไม่โชคดี แล้วซ้งจะทำยังไง

ความรักมันน่ากลัว มันทำให้หม่าม๊าร้องไห้ทุกวัน ทำให้หม่าม๊าไม่มีความสุข
และซ้งสัญญากับหม่าม๊าไว้แล้ว ว่าจะไม่มีความรัก

แล้วจะผิดคำพูดที่สัญญากับหม่าม๊าได้ยังไง

ไม่เป็นไร ซ้งจะไม่รักใครจะอยู่ไปอย่างนี้ตลอด
ทำได้แน่และจะไม่ยอมเป็นแบบหม่าม๊าเด็ดขาด

อาม่าครับ ซ้งอยากจะเป็นเหมือนคนอื่นๆ บ้างแต่ก็รู้ตัวเองว่าไม่มีทางทำได้

ถ้าต้องอยู่บนความไม่แน่นอน สู้อย่าเข้าไปหาตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง
ซ้งไม่มีทางทำให้ตัวเองเจ็บปวดเด็ดขาด

ซ้งจะทำให้ได้ เชื่อว่าจะต้องทำได้

สัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วครับอาม่า และซ้งจะทำให้ได้ตามสัญญา


TBC...

 


เจอกันเมื่อเท็นอัพนะคะ ฝันดีคะ   :bye2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คืนวันเก่า ๆ † [23/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-03-2012 23:54:15
ฝันดีเช่นกันค่ะ


อ่านแล้วนอนหลับสบาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † รอ † [27/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 27-03-2012 01:18:14



ตอน รอ



“นุ่น”

“จ๋า...”

นุชารีบตอบกลับโดยไว ขืนตอบช้ามีหวังโดนบ่นหูชาหาว่าไม่สนใจครอบครัว

“เอาปิ่นโตไปด้วย เอาไปกินระหว่างทางก็ได้”

ใครจะกินข้าวบนรถทัวร์ระหว่างทางกันล่ะแม่ โดนด่าเปิดเปิงกันพอดี
ห่วงไม่เข้าเรื่องเล้ยยยยย
แต่ไม่เอาไปก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็หาว่าไม่ใส่ใจอีก หาว่าไปอยู่ไกลแล้วทำเป็นเมิน

นุชากำลังอยู่ในสภาพรีบเร่ง สะพายเป้ และเตรียมไปรอรถในเวลาเกือบพลบค่ำ เพื่อกลับไปทำงานที่ชลบุรีให้ทันในเช้าวันถัดไป

วันหยุดทั้งที่ ตอนบ่ายเลยนอนเพลินไปหน่อย สะดุ้งตื่นอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็นแล้ว รีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว

ข้าวเย็นที่แม่ทำก็ไม่ทันได้กิน ต้องหิ้วใส่ปิ่นโตกลับไปกินด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวโดนบ่นไม่เลิก เดี๋ยวจะหาว่าชอบทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาทั้งที่ครอบครัวไม่เคยสร้างปัญหาให้

แม่บ่นยาวเหยียด แต่สุดท้ายพอใส่รองเท้าเสร็จเรียบร้อยก็ต้องเดินไปหอมแก้มก่อนไปทุกที ไม่งั้นคงจะโทรไปบ่นยาวแม้ว่าจะกลับไปถึงชลบุรีแล้วแต่ก็คงโทรตามไปบ่นได้เรื่อย ๆ

“นุ่นอยู่ทางโน้น อย่าปล่อยให้ตัวเองอดนะลูก ไม่สบายใจก็กลับบ้านเรานะ”

ก็ผมเลือกจะไปเองนี่ครับ ไม่สบายใจก็ไม่ได้แล้ว ขืนกลับมาก็เสียฟอร์มแย่สิ
ถึงช่วงแรก ๆ จะรู้สึกเหงา ๆ บ้างก็เถอะ แต่ตอนนี้ก็เริ่มชินแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงครับแม่สบายมาก

“แล้วก็อย่าปล่อยให้ห้องรก เวลาซักผ้าต้องแยกผ้าสีผ้าขาวออกจากกันเดี๋ยวสีตก รีดผ้าดี ๆ อย่ารีดแบบที่ใส่มาจีบเต็มไปหมด แม่บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าไป นุ่นก็ไม่เชื่อแม่ แล้วทีนี้เป็นยังไง แม่บอกไม่เคยฟัง”

ยาวแล้วงานนี้
ขืนอยู่ต่อคงจะยิ่งยาว

อารมณ์เหมือนดูหนัง หนังจบอารมณ์ไม่จบ
นี่ก็เหมือนกัน กำลังจะไปแล้ว แต่อารมณ์อยากบ่นก็ไม่เคยจบ แม้จะก้าวขาเดินออกจากบ้านไปแล้วก็สามารถโทรไปบ่นได้เช่นกัน

ขืนไม่รีบหนีตอนนี้ท่าทางจะไม่รอด
กลายเป็นเหยื่อสำหรับการบ่นของแม่แน่ ๆ

นุชารีบยกมือไหว้แม่ ก่อนจะพาตัวเองเดินลิ่ว ๆ ออกจากบ้านและยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา

เวร

เผลอแป๊บเดียว จะทุ่มอยู่แล้ว

รีบเดินออกจากซอยในหมู่บ้านด้วยความรีบเร่ง
จะโบกมอร์เตอร์ไซด์วินก็ไม่มีผ่านมา

ไม่น่านอนเพลินเลยจริง ๆ
ตอนแรกว่าจะไปที่สนามซะหน่อย เลยไม่ได้ไปเลย
เพราะมัวแต่บ้านอนนี่แหละ เลยอดเห็นหน้าคุณซ้งเลย

คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้ง จะกลับแล้วน๊า

ว่าแต่พักนี้ดูแปลก ๆ ไปเล็กน้อย จากเดิมที่เวลาอยู่ใกล้ ๆ กัน คุณซ้งชอบทำหน้าเครียดและไม่ยอมพูดยอมคุยด้วย

แกล้งแหย่ให้โมโหก็เห็นว่าทั้งโมโหและทั้งหงุดหงิดอย่างเอาเป็นเอาตาย
เข้าใกล้อาม่ากิมไม่ได้เลยสักนิด

แต่นั่นแหละเรื่องน่ารักของคุณซ้งเลย

โตขนาดนั้น มีใครที่ไหนเขาติดอาม่ากันอยู่บ้าง ทำเหมือนเด็ก ๆ ไปได้
แกล้งล้อไปก็ไม่เห็นมีปฏิกิริยาอะไร แถมยังด่ากลับให้เจ็บปวดหัวใจอีก
แบบนี้ไงก็เลยทำให้อยากแกล้ง

เวลาคุณซ้งทำหน้าหงิกหน้างอ เหมือนคิดคำด่าไม่ออก
มองแล้วยิ่งเพิ่มความน่ารักให้ผู้ชายตัวโต ๆ ขึ้นได้ทวีคูณ

พักนี้ เหมือนเราเริ่มรู้จักกันมากขึ้น ได้เห็นด้านต่าง ๆ ของคุณซ้งแล้ว

พูดกันตามจริง
คุณซ้งเป็นคนจิตใจดีนะ เป็นคนที่จิตใจดีมาก ถึงจะไม่ค่อยพูดและทำเหมือนไม่สนใจใคร แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนใส่ใจคนอื่นมาก
แม้จะไม่ค่อยแสดงออกมาให้เห็นบ่อย ๆ ก็เถอะ
แต่เวลาได้เห็นได้สัมผัส ก็รู้สึกซาบซึ้งใจจริง ๆ

เรื่องวันก่อนขอบคุณมากนะคุณซ้ง ถ้าวันนั้นไม่เจอคุณซ้งคงจะยิ่งเศร้า
แต่เพราะอ้อมแขนอุ่น ๆ นั่นแหละ ที่ทำให้สลัดความคิดโง่ ๆ ออกจากหัวไปได้อย่างรวดเร็ว

แล้วก็

พักนี้ได้เห็นคุ   ณซ้งยิ้มด้วยนะ ไม่เคยเห็นซะที แต่พอได้เห็นแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่นึกว่าภายใต้ใบหน้านิ่ง ๆ หงิก ๆ งอ ๆ มีหน้ายิ้มสดใสแบบนั้นแอบไว้ด้วย

อยากเห็นอีก

อยากเห็นด้านอื่น ๆ ที่หลากหลายกว่านี้ของคุณซ้งอีก
ทั้งที่อายุน้อยกว่าแท้ ๆ แต่ทำไมถึงเป็นคนน่าค้นหาขนาดนี้

น่าแปลกจริง ๆ

นุชาเดินมาถึงหน้าปากซอยและยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์

ใจคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของน้องแรงบันดาลใจซ้งไปเรื่อย ๆ
คิดถึงเรื่องราวต่างๆ คิดถึงรอยยิ้มหวาน ๆก็ติดอยู่ในความทรงจำตลอดเวลาที่นึกถึงหน้าของคนที่ทำให้นึกถึง

“คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้ง”

พูดเล่น ๆ เรียกเล่น ๆ พูดเบา ๆ กับตัวเองและอมยิ้มเมื่อนึกถึงหน้าเจ้าของชื่อ

คุณซ้ง.......

เรียกปุ๊บมาปั๊บ ถึงตัวไม่มา แต่ส่งเสียงมาให้ได้ยินทางโทรศัพท์ซะด้วย
พักนี้โทรหาผมบ่อยนะครับคุณซ้ง
คิดถึงล่ะเซ่ อย่าอ้อมค้อม คิดถึงก็บอกมาเล้ยยยยยยยย ตรง ๆ


“ครับ......”

ตอบออกไปด้วยใจร่าเริงสุดขีด
แต่เมื่อได้ยินเสียง จากหน้าดีใจสุดขีด กลายเป็นหน้าเครียดขึ้นมาทันที

“อ่า...คือว่าอย่างนี้นะคุณซ้ง”

ยังไงล่ะ จะให้อธิบายยังไง

จะให้พูดอะไร

รู้สึกเหมือนถูกโกรธอย่างจริงจัง ก็เล่นอยู่ดี ๆ โทรมาถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ เย็น ๆ ชวนขนหัวลุกขนาดนั้น

เลยไปไม่ถูกเลย

“ทำไมไม่มา”

ทำไมเหรอ ทำไมกันหว่า เอ้ออออออ นั่นสิทำไม ก็แบบว่านอนเพลินไปนิดเดียว ก็เลยตื่นไม่ทัน กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวออกมาได้นี่ก็ปาเข้าไปจะหนึ่งทุ่มแล้วนะคุณซ้ง ไม่ได้อู้ไม่ได้เหลวไหล

คิดถึงอยากเห็นหน้าคุณซ้งจะตาย แต่ถ้าไปหาที่สนาม พรุ่งนี้คงไปทำงานไม่ทัน ที่สำคัญ หลังหกโมงเย็นก็กลับบ้านกันหมดแล้ว จะไปหาใครล่ะ

ไม่มีใครอยู่แล้ว

คุณซ้งเองก็กลับบ้านแล้วเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ ตอนนี้ก็อยู่ที่บ้านล่ะสิ

ชัวร์....เลย เน้อออออออ

“ตื่นไม่ทันน่ะคุณซ้ง นี่ก็ยืนรอรถอยู่เหมือนกัน ป่านนี้แล้วยังไม่ได้ขึ้นรถทัวร์เลย ไม่รู้จะกลับไปถึงกี่ทุ่ม”

ตอบออกไปตามความจริง

และปลายสายก็รับฟังด้วยความนิ่งเงียบ
อะไรจะตั้งใจฟังขนาดนั้นวะ

ตั้งใจฟังคำอธิบายมากไปแล้ว เอ่อออออ แล้วไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ
นี่อธิบายจบนานแล้วนะ

คุณซ้งครับ คุณซ้ง คือว่าเล่าจบแล้วนะ

“อือ”

แค่เนี้ยะ ตอบกลับมาแค่นี้เหรอ ไม่สงสัยใคร่รู้อยากถามอะไรหน่อยเหรอจะได้มีเรื่องคุยกันยาว ๆ กว่านี้อีกนิด ทำไมตอบกลับแค่นี้ล่ะคร้าบบบบ

“รอผมเหรอ”

แกล้งถามและอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก
เดี๋ยวก็ได้เรื่องอีกแหละ คราวนี้คงทั้งบ่นทั้งด่า ทั้งหาว่าไม่มีมารยาท
อะไรอีกนะ ที่เป็นคำด่าเฉพาะตัวของคุณซ้ง อ๋อออออออออ ---ประสาท---
คำนี้มาแน่

“รอ”

อ่า

รอ....งั้นเหรอ
รอที่ไหน มันทุ่มแล้วนะคุณซ้ง รอได้ยังไง
มีอะไรในหัวผิดปกติอยู่หรือเปล่า รอผมเนี่ยเหรอ ไม่จริงหรอก
รอทำไม ปกติไม่คิดว่าจะรอ อย่างคุณซ้งเนี่ยนะ จะรอ

“รอใคร”

เอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่คำตอบที่ได้ เล่นเอานุชายิ้มกว้าง
ยิ้มจนตาหยีหลังจากได้ฟังคำตอบนั้น

“รอนุชา”

โหหหหหหหหหหหหหหหหหหห

ตาย ตาย งานนี้ตายแน่ พูดจาน่ารักที่สุดเลย รอผมจริงเร้ออออออ
คิดถึงจริงๆ ล่ะสิ งานนี้จริงจังนะ อย่ามาทำให้ดีใจแล้วเดินหนีกันง่ายๆ ล่ะ
รับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วยนะครับ

ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะตอบอะไร เป็นปลื้มไปซะหมด

แต่ความเงียบหลังคำตอบนั่นแหละ ที่มาพร้อมความกดดัน

เงียบซะจนน่ากลัว เหมือนโกรธจริง ๆ ที่ไม่ยอมไปให้เห็นหน้า

“กำลังจะกลับชลบุรีครับ”

ทำเสียงให้นิ่ง ๆ เข้าไว้ ระงับอาการดีใจเกินเหตุแทบไม่ได้
นุชาพยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้ตัวเองยิ้มไปมากกว่านี้

แต่อาการเดิมก็กลับมาอีก คือคุณซ้งไม่ตอบกลับ แถมยังวางสายกันไปดื้อ ๆ

อ้าวเฮ้ยยยย....อะไรวะ….ทำไมทำแบบนี้

โกรธจริงจังหรือนี่ โกรธอะไรวะ ก็คนกำลังจะกลับก็ต้องบอกไปตามความจริงว่าจะกลับแล้ว ทำไมต้องโกรธ ทำไมต้องทำแบบนี้ ตัดสายทิ้งอีกแล้วนะ

ทำเหมือนงอนกันไม่มีผิด

ทำแบบนี้ ทางนี้คิดนะครับคุณซ้ง

ทำแบบนี้มันน่าคิด

“งอนเหรอวะเนี่ย......อย่าบอกนะว่างอน...อะไรวะ แค่ไม่ไปแค่เนี้ยะต้องงอนกันด้วย มันน่ารักนะคุณซ้ง.....โคตรน่ารักเล้ยยยยยน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งเอ้ยยยยย”



TBC...

 


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † สาเหตุของความเครียด † [27/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 27-03-2012 01:20:30



ตอน  สาเหตุของความเครียด



ตื่นนอนตอนหกโมงเช้า

นั่งจิบโอวัลตินที่อาม่าชงให้ หรือไม่ก็ขี่มอร์เตอร์ไซด์ไปตลาดไปซื้อโจ๊กกับน้ำเต้าหู้ หรือน้ำขิงให้อาม่า

ดูรายการข่าว ทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย
วิ่งออกกำลังกายที่สนามหน้าบ้าน รดน้ำต้นไม้

สิบโมงพาอาม่ากิมไปเล่นไพ่นกกระจอกที่สมาคมแล้วก็ขับรถเลยไปที่อพาร์ทเม้นให้เช่า ตรวจเช็คเอกสาร ตรวจเช็คความเรียบร้อย

นั่งทำงานอยู่ที่อพาร์ทเม้นจนถึงสี่โมงครึ่ง ขับรถกลับมารับอาม่ากิมเพื่อเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปวิ่งออกกำลังกายที่สนามใกล้บ้าน

วันอาทิตย์ไปเรียนตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น
ระหว่างวัน บ้านโน้น จะมารับอาม่าไปอยู่ด้วยที่เลยไม่ต้องห่วงว่าอาม่าจะอยู่บ้านคนเดียว

ชีวิตเป็นแบบนี้ทุกวัน
สงบ เรียบเรื่อย เป็นไปอย่างที่ควรเป็น
ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่มีอะไรให้ดิ้นรนไขว่คว้า
หวังแค่เพียงให้เวลาทุกนาทีที่ผ่านไป ยังรับรู้ได้ว่ายังมีอาม่ากิมอยู่ข้าง ๆ
แค่เพียงทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ยังได้ใช้ชีวิตร่วมกับอาม่าในทุก ๆ วัน

เช้าวันจันทร์

น้องแรงบันดาลใจซ้ง ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ

เป่าที่ช้อนให้โจ๊กหายร้อน และตักเข้าปาก ตักโจ๊กใส่ปากไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เคี้ยว ค่อย ๆ กลืน นั่งกินอย่างเชื่องช้าอยู่ที่โต๊ะในสนามหญ้าหน้าบ้าน โดยมีอาม่ากิมกำลังรำไทเก็กตามรายการโทรทัศน์อยู่ในบ้าน และสามารถมองเห็นกันได้แม้อยู่ที่โต๊ะที่สนามหญ้า

นั่งมองผู้คนที่เดินผ่านหน้าบ้านที่กำลังรีบเร่งไปทำงานในเช้าวันจันทร์
แล้วก็พาลให้นึกถึงใครบางคน

วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ นุชาคงจะมีสภาพไม่ต่างจาดผู้คนที่พบเห็น คงกำลังรีบเร่งไปทำงานเหมือนคนอื่น ๆ

โทรไปหาเพราะเห็นว่าผิดเวลามากเกินไป วิ่งไปหลายรอบ ฟังเพลงก็แล้วหยุดพักดื่มน้ำก็แล้ว แถมซ้ำยังนั่งรออีกนานแต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะมา

หกโมงเย็นสมาชิกในชมรมก็สลายตัวเริ่มทยอยกลับกันไปหมดพร้อมกับรับรู้ได้ว่า วันนี้นุชาคงไม่มา

ไม่คิดว่าตัวเองจะเหลือบสายตาไปมองที่ประตูทางเข้าสนามบ่อยครั้ง

ทุกครั้งที่วิ่งถึงรอบที่ใกล้ประตูทางเข้าก็จะหยุดชะเง้อคอมองหา

แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา

รอ

ไม่ควรรอ ไม่เคยรอ แต่ครั้งนี้ความรู้สึกแตกต่างจากทุกวัน
จิตใจมันพะว้าพะวงคอยแต่นึกถึง

รู้สึกเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

มีบางคนคล้ายนุชาเดินเข้ามาที่ประตูทางเข้า หน้าก็ยิ้มระรื่นขึ้นมาทันที ดีใจแบบเก็บอาการไม่อยู่ แต่เมื่อเพ่งมองดี ๆ และเห็นว่าไม่ใช่ คราวนี้ก็เลยใจแป้วขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ไปไหนของมันวะ

สมควรจะมา ก็ไม่ยอมมา ทีแต่ก่อนไม่อยากเห็นไม่อยากเจอหน้า
เสือกมาได้มาดี

บ่นกับตัวเองและเพิ่มความเร็วในการวิ่งเพราะรู้สึกว่าเริ่มหงุดหงิดโมโห

สุดท้าย เมื่อเลยหกโมงเย็นถึงต้องยอมรับสภาพว่านุชาไม่มาจริง ๆ

ขับรถพาอาม่ากิมกลับบ้านด้วยจิตใจห่อเหี่ยว และหาเหตุออกมาที่สนามอีกรอบด้วยการอ้างว่าออกมาซื้อบะหมี่ สุดท้ายขับรถแวะวนมาดูอีกรอบจนได้
และก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่ปล่อยให้รอตั้งแต่ห้าโมงเย็น

นุชาไม่มาจริง ๆ

ป่านนี้คงกลับชลุบรีไปแล้ว

และก็เป็นจริงอย่างที่คิด
เพราะเมื่อโทรไปหา นุชามันยังกล้าทำเสียงระรื่น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถ้าจะเข้าใจสักนิดว่ามีคนรอ ก็ไม่น่าทำแบบนี้

แถมซ้ำยังมีการมาย้อนถามให้โมโหว่ารออยู่หรือเปล่า

แน่ล่ะ รออยู่แล้ว ถ้าไม่รอก็คงไม่ขับรถกลับมาที่สนามอีกรอบหรอก
ใครที่ไหนจะบ้ามา ถ้าไม่หวังว่าจะได้เจอ

แล้วยังมีการพูดจาเยาะเย้ยให้โมโหอีกว่า กำลังจะกลับชลบุรีแล้ว

คนรอก็รอไป

ไอ้คนไปไม่รอ ก็ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนที่กำลังรอเลยสักนิด
คนทั้งชมรมรอนุชากันทั้งนั้น
ที่โทรมาหาก็เพื่อจะถามเผื่อคนที่ชมรมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงจะได้ไม่ต้องถามถึงว่าวันนี้นุชาจะมาวิ่งหรือเปล่า

ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่นเจือปนสักนิด

ไม่มี

ไม่มีอะไรทั้งนั้น ก็แค่คนที่ชมรมเขารอนุชาเขาพูดถึงนุชากัน ถ้าไม่มาก็น่าจะบอกกันตั้งแต่แรก คนอื่นๆ จะได้ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเป็นห่วง

ซ้งเป่าโจ๊กร้อน ๆ ในชาม และนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

คิดไปเรื่อย และเริ่มรู้สึกหงุดหงิดโมโหกับพฤติกรรมไม่ดีของนุชา

แย่มาก

นุชามันแย่มาก จะไม่มาก็น่าจะโทรบอกกันสักคำ ทำไมทำเป็นเมินเฉยเหมือนคนที่ชมรมไม่มีความสำคัญกับมันเลยสักนิด

คงคิดว่าในชมรมมีแต่คนแก่ มีแต่อากง อาม่าอาอึ้มสินะ คงคิดว่าไม่น่าสนใจ
ถึงได้ทำอะไรง่าย ๆ แบบนี้

นุชา นุชา นุชา

เริ่มคิดก็เริ่มหงุดหงิด หาเรื่องมาต่อว่าพฤติกรรมของนุชาได้เรื่อย ๆ

เมื่อก่อนในสมองไม่เคยคิดเรื่องของนุชา แต่ตอนนี้เห็นทั้งภาพเห็นทั้งเสียง

“หน้ามึนเอ้ยยยย ทำไมชอบทำแบบนี้นักวะ”

บ่นกับตัวเอง และวางช้อนลง รู้สึกอิ่มและไม่อยากกินขึ้นมาแบบกะทันหัน
เพราะคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

“วันศุกร์นี้บ้านโน้นจัดงานแซยิดอาป๊าลื้อนา ซ้งต้องปาย ม่ายปายไม่ล่าย”

ทำไมจะไม่ได้ ป๊าก็ต้องให้คนบ้านโน้นมารับอาม่าอยู่แล้ว

แต่เรื่องอะไรต้องไป ไม่เคยแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ

เลี่ยงได้แค่ไหนยิ่งอยากจะเลี่ยง ยิ่งงานรวมญาติเยอะแยะมากมายแบบนั้นยิ่งไม่ไป
โทรถามเฮียเหวงแล้ว ก็เห็นว่าไม่ไปเหมือนกัน

ลูกทางโน้นก็มี ไม่ต้องมาสนใจลูกทางนี้หรอก
ไม่ต้องมาสนใจกัน ไม่เคยคิดจะให้สนใจอยู่แล้ว ตัดได้ยิ่งดี ตัดขาดกันไปเลยยิ่งดี

คิดแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น

พักนี้มีแต่เรื่องชวนหงุดหงิด รำคาญใจ
มีแต่เรื่องเยอะแยะมากมาย

ทั้งที่ก็ใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดาอยู่ทุกวัน ทำไมพักนี้จิตใจถึงได้แกว่ง ๆ พิกล

วันก่อนก็ด้วย เรื่องหม่าม๊าที่ไม่ได้ฝันถึงมานาน แต่อยู่ดี ๆ ก็ฝันถึงขึ้นมา

หลังจากนั้นก็นอนไม่ค่อยหลับ จิตใจมันพะว้าพะวงเหมือนมีเรื่องคาใจ
ปวดหัวจี๊ด ๆ อยู่ตลอดเวลา จนต้องไปหาหมอ

หมอบอกว่าน่าจะเกิดจากความเครียด เครียดโดยไม่รู้ตัวเลยส่งผลไปถึงร่างกาย
กำลังฝืนใจกับเรื่องบางอย่างอยู่หรือเปล่า ถึงได้ระบายออกมาด้วยการฝัน

พยายามเก็บ ยิ่งเหมือนกับจะเปิดออก

เรื่องที่กำลังฝืนอยู่มันเรื่องอะไรกัน คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก

เรื่องอะไรที่พยายามเก็บเอาไว้ แต่เหมือนกำลังฝืนใจตัวเองอย่างหนัก ฝืนและเก็บกดเอาไว้จนทำให้เครียดโดยไม่รู้ตัว

เรื่องป๊า ก็เป็นแบบนี้มานาน ถ้าจะเครียดคงเครียดไปนานแล้ว

มาคิด ๆ ดู ถ้าจะมีอะไรชวนให้ปวดหัวก็คงหนีไม่พ้นเรื่องบ้า ๆ ของไอ้ตี๋นุชาหน้ามึนคนนั้น ที่วันก่อนทำหน้าเศร้าดูน่าสงสารจนต้องรั้งเข้ามากอดเอาไว้

นุชา.....

นุชางั้นเหรอ

ทำไมถึงได้

ทำไมอั๊วนึกถึงแต่เรื่องของลื้อ และทำไมต้องเครียดเรื่องลื้อด้วย
ดูยังไงก็ไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลสมควรเลยสักนิด

ไม่จริงหรอก ใครมันจะบ้าให้ตัวเองเครียดเรื่องของไอ้คนหน้ามึนแบบนั้น

คิดยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้

ยิ่งคิด ยิ่งบอกได้คำเดียวว่าไม่มีทาง




TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † แล้วจะทำไม † [27/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 27-03-2012 01:22:42



ตอน  แล้วจะทำไม



วันศุกร์

วันเอ๋ยย วันศุกร์
เฮ่ออออออ วันศุกร์

นุชาใช้ปากกาเมจิคขีดกากบาทวันที่ในปฏิทินและถอนหายใจเฮือกใหญ่

ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เจอ ไม่ได้แกล้งไม่ได้หยอกให้โมโห
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วนะ คุณซ้งเอ้ยยยยยยยย

มาพูดให้ยิ้ม พูดให้รู้สึกดี แล้วก็เงียบหายแบบนี้เลยเหรอ
ไม่คิดจะโทรมาด่าเล่นแก้เหงาปากบ้างหรือไง

นุชาเหลือบสายตามองไปที่โทรศัพท์มือถือที่วางทิ้งไว้หลังโต๊ะทำงาน
เงียบสนิท ไม่มีสายเรียกเข้ามาตั้งแต่วันที่กลับมา

สิบโมงครึ่ง หลังจากลูกค้าคนก่อนหน้าลุกขึ้นเดินจากไปแล้ว
นุชาก็ดึงกระดาษทิชชู่มาพันรอบแก้วกาแฟเย็นแก้วที่สามที่ลูกค้าหิ้วมาฝากและในเวลานี้น้ำแข็งเริ่มละลายและน้ำกำลังนองอยู่บนโต๊ะ

เฮ่ออออ

คิดยังไงถึงหิ้วแต่กาแฟเย็นมาให้
ไม่กินก็ไม่ได้
ไม่กิน ลูกค้าก็คะยั้นคะยอให้กิน
ปาเข้าไปแก้วที่สามแล้วมีหวังคืนนี้คงได้นอนตาค้างกันบ้างล่ะ

นุชาเงยหน้าขึ้นมองที่หน้าเคาร์เตอร์ และยังเห็นลูกค้าต่อคิวยาวเหยียดเป็นหางว่าว

อีกนานกว่าจะเลิกงาน

ถอนหายใจอีกเฮือก แล้วก็กดคิวถัดไป เชิญลูกค้าให้นั่งลง และเริ่มรับฟังปัญหาการเงินของลูกค้า ตรวจสอบเอกสารที่แนบมาด้วย
ฟังการอธิบายเหตุผลของการขอสินเชื่อ

ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ

และพยักหน้ารับฟังสิ่งที่ลูกค้าพยายามนำเสนอ
พลิกเอกสารสำคัญที่แนบมา ซักถามข้อสงสัยเมื่ออยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม

ชีวิตคนทุกคนน่าสนใจเสมอ บางคนก็เหลือเชื่อ บางคนก็บ้าบอ

และสิ่งที่ไม่อยากได้ ก็กำลังถูกเสนอ

อีกแล้ว

กาแฟเย็นอีกแล้ว

นี่มันแก้วที่สี่แล้วนะ

อยากจะบ้า ของฝากอย่างอื่นไม่มีหรือไง

แล้วยังจะ……….โอยยยยยยย อยากจะเป็นบ้าจริงโว้ยยยย

“คุณนุชาครับ กาแฟเย็นซะหน่อยครับ เพิ่มความสดชื่น”

เหอ เหอ เหอ อยากบอกว่า ผมสดชื่นจนใจสั่นแล้วครับ

แก้วที่สี่แล้ว มีหวังคืนนี้ไม่ต้องนอนกันแล้วล่ะครับ

แม้จะคิด แต่นุชาก็ทำได้แค่ยิ้มแห้ง ๆ และแกล้งจิบ ๆ กาแฟเย็นแก้วที่สี่ที่ลูกค้าหิ้วมาฝาก

ถ้ามีแก้วที่ห้า กูตายแน่

ถึงจะคิดแต่ก็พูดไม่ได้
สาบานเลย จะเลิกกินกาแฟเย็นอีกพักใหญ่
แค่ได้กลิ่นก็เอียนเกินทน

เกลียดกาแฟเย็น เกลียดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แกล้งจิบแล้วก็ยิ้ม

ทั้งที่ในใจกำลังรำพึงรำพัน

แล้วใครจะเข้าใจและรับรู้ถึงชีวิตรันทดของกูบ้างวะนี่

เฮ่อออออออออ กลุ้ม

“นุชา วันนี้กินอะไรดี”

“อิ่มอยู่เลยครับพี่ เดี๋ยวนั่งเล่นก่อนแล้วกัน”

ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้นแหละ กาแฟเย็นสี่แก้ว กินจนแทบอ้วก
ยังจะให้กินอะไรได้อีก

พักแล้ว พักเที่ยงแล้ว และนี่มันเป็นเวลาที่จะได้พักสมองจากความเครียดบ้าง

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามอง และเริ่มบ่นพึมพำคนเดียว
ไม่ยอมโทรหากันเลยเนอะคุณซ้ง
อยากโทรมาด่าตอนนี้ก็ไม่ว่านะ

ยินดีอย่างมาก
อยากได้ยินเสียงจะตายแล้ว

ทำไมใจร้ายใจดำจริงว๊า ก็ไหนบอกว่ารอนุชา แล้วทำไมไม่โทรหานุชาเลยวะ
หลอกให้รักแล้วจากไป ฮือ ฮือ ฮือ

นุชากำลังพร่ำเพ้อรำพึงรำพันกับตัวเอง

นั่งท้าวคางมองโทรศัพท์ แล้วก็กดดูหมายเลขที่โทรเข้ามาบ่อย ๆ
และครั้งล่าสุดที่โทรเข้ามาคือเมื่อวันอาทิตย์แต่ขาดการติดต่อไปหลายวันแล้ว

อยากโทรหาอยู่หรอก
แต่มันก็ไม่เหมือนคุณซ้งโทรมา
เพราะถ้าคุณซ้งโทรมานั่นแปลว่าต้องอยากพูดคุยด้วย

แหย่ได้ แกล้งได้ แต่ถ้าไม่เห็นหน้าก็ไม่รู้ว่าอารมณ์ตอนนั้นเป็นยังไง
ไม่อยากรบกวนหรือสร้างความวุ่นวายให้รำคาญ

อยู่ตั้งไกล แทนที่ความรู้สึกหลงใหลได้ปลื้มจะหายไปบ้าง
ทำไมมันยิ่งดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมวะ

หรือว่าจะชอบคุณซ้งแบบจริง ๆ จัง ๆ กันล่ะนี่
คิดอะไรเพ้อเจ้อ และสะบัดหัวไล่ความคิดบ้า ๆ ออกไป

มองนาฬิกาและพบว่าเป็นเวลาเที่ยงตรง

ไปพักหาอะไรกินก่อนดีกว่า

ขืนนั่งอยู่อย่างนี้ต่อไปยิ่งจะพาลคิดอะไรเพ้อจ้อไม่ยอม.............หยุด

เฮ้ยยยยยยยยยย

รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูและกดรับแทบไม่ทัน เมื่อเห็นว่ามีสายเรียกเข้าจากใครบางคนที่กำลังบ่นถึง

“คร้าบบบบบ” ลากเสียงยาวเหยียด และหน้าก็เริ่มยิ้มไปตามเสียง

“เฮ้ยยยย เอาจริงเรอะคุณซ้ง ยังไงล่ะนั่น อ่า คือว่า...อ๋อ ยูเทิร์นมาได้
ขับมาไม่ไกล แล้วก็เลยปั้มน้ำมันมาหน่อย ใช่ ใช่ อย่าเลี้ยวเข้าซอยนั้น ขับตรงมาได้ อ่า....ก็เข้ามาได้เลย...บอกว่ามาพบนุชา”

อย่างกับพายุ ถามทางเสร็จเรียบร้อย
แล้วก็วางสายไปแบบไม่ต้องรอให้พูดจบ ไม่เคยผิดคอนเซ็ปเล้ยยยยยย
ถ้าไม่ได้วางสายก่อนมันจะเป็นอะไรหรือครับท่าน อยากทราบจริง ๆ

แม้จะบ่น แม้จะคิด แต่นุชาก็ห้ามรอยยิ้มตัวเองไม่ได้

อยู่ดี ๆ ก็ขับรถมาถึงชลบุรี
บอกด้วยว่าตั้งใจมาหาโดยเฉพาะ

อะไรมันจะคิดถึงกันขนาดน้านนนนนนนนนน
วันนี้วันศุกร์ยังไงตอนเย็นผมก็ต้องรีบกลับไปหาที่สนามอยู่แล้ว
ใจร้อนจริงจริ๊งงงงงงงง คิดถึงผมมากล่ะสิ เลยต้องมาหาถึงนี่

“นุชา มีลูกค้ามาหา”

เชิญครับ เชิญครับ เชิญเลยครับคุณลูกค้า

คุณลูกค้าเชิญนั่ง.....อ่า....เลย...ครับ

ชายหนุ่มร่างสูง หน้าใสปิ๊ง แต่งกายด้วยชุดลำลองธรรมดา
แต่หน้าหล่อน่ารักกระชากใจอย่างแรง

คุณลูกค้าที่น่ารัก ถอดแว่นกันแดดออกและมานั่งหน้าบู้บี้ ขมวดคิ้วมุ่นอยู่ตรงหน้า

คิดถึงอ่า

น้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง

“มีอะไรให้รับใช้ครับ ถึงได้มาถึงนี่เลย”

นุชาพยายามบังคับหน้าตัวเองให้หุบยิ้มเข้าไว้ และเอ่ยถามแบบเดียวกับที่ถามลูกค้า ได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอของน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งแล้วก็แทบจะหลุดขำออกมา

“ประสาท”

คิดถึงคำนี้จริง ไอ้คำนี้เลย คำพูดนี้เป๊ะ ๆ ออริจินัลต้องเป็นคุณซ้งพูดเท่านั้น
ถึงจะได้อารมณ์

“เอ้า.....แล้วจะให้เข้าใจว่ามาหาเพราะคิดถึงหรือไง แล้วใครเขาจะไปรู้กับคุณซ้งล่ะ”

แกล้งแหย่เข้าไปอีกนิด คราวนี้นอกจากเสียงจิ๊จ๊ะแล้วยังมีการหันหน้ามาจ้องหน้ากันด้วย อะไรวะ พูดอะไรผิดไปตรงไหน นี่เป็นข้อความจากใจเลยนะ

ไม่ชอบหรือไง คนปากตรงกับใจแบบผมหาไม่ได้ง่าย ๆ นะครับคุณซ้ง

“ง่วงนอน...จะไปนอนห้องนุชา”

บ้า

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

บ้าแล้ว

บ้าไปแล้ว

นี่มันยิ่งกว่าคิดถึงอีกนะเว้ยเฮ้ยยยย

“พูดเล่นนนนน”

เอ่ยถามเสียงสูง และมีปรัศนีขึ้นเต็มหัว

แต่ท่าทางคนบอกจะไม่ได้พูดเล่น เพราะคุณซ้งลุกขึ้นยืนและยังเรียกให้เดินตามอีก

“ป่ะ...”

บ้า

อย่ามาป่ะอะไรแถวนี้

แล้วนั่นจะไปไหนล่ะ เฮ้ยยยยยยย เอ้ย เดี๋ยวคุณซ้งงงงงงงงง คุณซ้ง รอก๊อนนน

“ทำไม อยู่กับแฟนหรือไง”

เปล่าไม่ได้อยู่กับแฟน แต่แฟนกำลังจะไปเยี่ยมก็เลยทำอะไรไม่ถูก

นุชารีบส่ายหัวเป็นการปฏิเสธและก็เห็นคุณซ้งยิ่งขมวดคิ้วมุ่น
อ้าวว แล้วไม่พอใจอะไรของคุณอีกล่ะครับ

“เออ ไม่ได้อยู่ก็ดี ป่ะ เร็ว ๆ”

เยี่ยมครับ

ไม่ต้องรอกันเลย เล่นเดินนำหน้ากันไปแบบนั้น
แล้วผมจะทำอะไรได้หรือครับคุณซ้ง

ก็ต้องเดินตามนั่นแหละ

และก็เดินตามมาอยู่บนรถเรียบร้อย บอกทางอย่างงง ๆ และแอบเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของคุณซ้งด้วยความมึนงงในพฤติกรรม

ถึงจะหน้าหงิกแค่ไหน ชอบทำอะไรแปลก ๆ แค่ไหน
แต่ไม่ว่ามองยังไงก็น่ารักได้อีก

หน้าแบบนี้ เสียงพูดแบบนี้ มองยังไงก็น่าร้ากกกกกก

“คิดถึงก็บอกมาเห้ออออ”

นุชาอมยิ้ม และแกล้งหันไปถามคนที่กำลังขับรถ และก็เห็นว่านอกจากไม่ตอบแล้ว คุณซ้ง ยังทำหน้างี่เง่าใส่อีก

อ้าว คิดถึงก็บอก ทำไมต้องหงุดหงิดใส่ด้วย ฟอร์มจัดจริงวะ

แบบนี้เขาเรียกพวกปากไม่ตรงกับใจ

“แล้วจะทำไม”

โหหหหหหหห เล่นตอบมาแบบนี้ ทำไมเหรอ
จะทำไมเหรอ ทำไมกันว๊า ทำไมล่ะ ทำไมกันหนอ

“ก็ถ้าคิดถึง....ก็จะได้ดีใจ”

อ้อมแอ้มตอบเสียงเบา และหันหน้าหนีไปอีกทาง ตอบแบบไม่เต็มเสียง
แต่คนฟังคำตอบก็พอได้ยิน แม้จะได้ยินแบบไม่ค่อยชัด

แต่ก็ได้ยิน

จากที่ไม่ค่อยพูดอะไร คราวนี้ซ้งยิ่งนิ่งเงียบมากกว่าเดิม

คิ้วยังขมวดอยู่ แต่หัวใจเริ่มเต้นแรง
รอยยิ้มเล็กๆ กำลังจุดขึ้นที่มุมปากโดยไม่ทันรู้ตัว

ให้ตอบว่าคิดถึง ก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจอาการที่ตัวเองเป็นอยู่
สิ่งที่ทำได้คือทำเหมือนเดิม พูดจาด้วยคำพูดเดิม ๆ และทำหน้างี่เง่าใส่เหมือนเดิม

ทั้งที่ความรู้สึกเริ่มไม่เหมือนเดิม

“ถามอะไรบ้าบออยู่ได้ ประสาทหรือไงนุชา”





TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † การคาดเดา † [27/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 27-03-2012 01:24:53



ตอน  การคาดเดา



หลับหรือนี่ มาเพื่อหลับจริง ๆ เหรอ นึกว่าพูดเล่น

แต่พอกลับมาแล้วพบว่ามีใครบางคนกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงจริง ๆ
ก็เลยได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเอง ด้วยความไม่เข้าใจ

เชื่อเลยว่ะ

เชื่อเลยว่าง่วงนอน และมาเพื่อนอนจริง ๆ

นุชากำลังยืนท้าวเอวมองร่างของคนที่นอนตะแคงกอดหมอนข้างอยู่บนเตียง

แอบไขกุญแจเข้ามาอย่างเงียบกริบ
และเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ถึงได้เห็นว่าคุณซ้งที่บอกว่าง่วงนอน
กำลังหลับอยู่บนเตียง

เชื่อแล้วล่ะครับ ว่าง่วงนอนแล้วก็ตั้งใจจะมาหาที่นอนจริงอย่างที่พูด

เที่ยงวันนี้มีโทรศัพท์เข้ามาหาจากหมายเลขของคนที่กำลังคิดถึง
ปลายสายบอกว่ากำลังขับรถมาหา

คิดว่าพูดเล่น แต่พอเห็นมายืนอยู่ตรงหน้าถึงเชื่อ และรู้ว่าคุณซ้งพูดจริง

มายืนทำหน้าบูดใส่ และลากให้พามาที่ห้อง

มาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าหมอนได้ ก็ลงไปนอนหน้าตาเฉย

เล่นเอานุชาถึงกับยืนงง

แค่หัวถึงหมอน ในเวลาไม่ถึงห้านาทีคุณซ้งก็หลับเป็นตาย
ไม่รู้ไปอดหลับอดนอนมาจากไหน

ยกข้อมือขึ้นมองที่นาฬิกา ก็เห็นเป็นเวลาเกือบบ่าย ต้องรีบกลับไปทำงาน
ล็อคห้องและเดินลงมาเรียกมอร์เตอร์ไซด์วิน ขับไปส่งที่ทำงาน

ทำงานด้วยใจพะว้าพะวง แถมซ้ำยังต้องมามึนงงกับพฤติกรรมของผู้มาเยือน

อยากจะรีบกลับให้เร็วที่สุด แต่ก็ติดลูกค้าที่คุยยาวจนปาเข้าไปหกโมงเย็น
เคลียร์เอกสารอีกเล็กน้อย และหอบแฟ้มเอกสารกลับมาทำต่อ

วางแฟ้มไว้บนโต๊ะเรียบร้อย ปลดกระดุมที่ปลายแขนเสื้อ และถอดเนคไทออก

ยืนมองและเพ่งพินิจพิจารณาคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง

นอนจริงจังมากไปแล้วคุณซ้ง

เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงมาหา มาตั้งไกลมาจนถึงที่นี่
ถ้าเป็นคุณซ้งในเวลาปกติ เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้

แต่เมื่อนิ่งมองใบหน้าซีด ๆ เซียว ๆ ของคนที่มาหาแล้ว ก็คิดได้ว่าคงไม่ใช่คุณซ้งในเวลาปกติแน่ ถึงแม้จะโต้กลับและเอาคืนได้ทุกประโยคคำพูดที่หยอกล้อ แต่ถ้ามองให้ดี
จะรู้ ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

นุชาเดินไปหยิบผ้าขนหนู และหาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน

หันไปมองใบหน้ายามหลับของคนที่ยังนอนกอดหมอนข้างแล้วก็อมยิ้ม

ไม่คิดว่าจะได้เห็นคุณซ้งที่กำลังนอนหลับแบบนี้อีกครั้ง

แต่ก็มาให้เห็น มาให้ดูแบบใกล้ชิดซะด้วยสิ

ยืนมอง มองด้วยความรู้สึกหลากหลาย และยังหยุดรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสดชื่น ให้สมองปลอดโปร่ง หลังจากวันทั้งวัน คร่ำเคร่งกับกองเอกสาร

และอยู่กับความสงสัยมึนงงเรื่องคุณซ้งมาตลอดทั้งบ่าย

“อือออออออออ”

ได้ยินเสียง แล้วนุชาก็หันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงด้านหลัง

มือยังถือปากกา แต่สายตาหันกลับไปมองคนที่กำลังยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจและยกหลังมือขึ้นขยี้ตา

สโลโมชั่นได้อีก ขนาดบิดขี้เกียจยังน่ารักเลยเว้ยคนเรา

นั่งรอตั้งนานกว่าจะตื่น

หกโมงครึ่งแล้วคุณซ้ง

หันกลับมาพิจารณาเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ และยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจตามคนที่เพิ่งตื่น ยกมือปิดปากหาวนอน และหันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง

อ่า....

อะไรของคุณซ้งวะ

นอนทำตาแป๋ว แล้วก็จ้องมองกันซะขนาดนั้น จะให้ทำยังไงต่อไปดี

“เอ่อ...หิว..หิวข้าวหรือเปล่า”

นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร ก็เลยเอ่ยถามออกไปทั้งที่เริ่มทำตัวไม่ถูก
ปกติไม่ใช่แบบนี้ แต่ว่าเห็นคุณซ้งเพิ่งตื่นนอนจะไปแกล้งตั้งแต่ตื่นก็ไม่ใช่เรื่อง

เห็นคุณซ้งขมวดคิ้วมุ่นและทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่เล็กน้อย
แล้วก็ได้คำตอบกลับมาว่า

“หิวมาก”

ไม่พูดเปล่า คนตอบยังทำหน้าเหมือนอยากบอกให้รู้ว่าหิวจริง ๆ อย่างที่พูด
แล้วคนที่ได้รับคำตอบก็แทบจะหลุดขำออกมา

รู้ตัวมั้ยครับ ว่าคุณซ้งที่เป็นแบบนี้น่ารักดี และน่ารักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนอยากเทคะแนนให้ร้อยเต็มสิบ

ถ้าหิวขนาดนั้น ก็....ไปหาข้าวกินกันก่อนก็ได้

“ล้างหน้าก่อนป่ะ” เอ่ยถามและคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลุกขึ้นนั่งในสภาพหัวยุ่งเหยิงและยกมือขึ้นลูบ ที่เส้นผมตัวเองสองสามที จัดสภาพหน้าตาและร่างกายให้เข้าที่

“อือ”

ตอบคำถาม แล้วซ้งก็ลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ

โดยมีสายตาของนุชาที่มองตามหลังและถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

เฮ่อออออออออออ

ไม่ไหวเว้ยยยยย คุณซ้งดูมึน ๆ แปลก ๆ ไม่เหมือนปกติที่แม้หน้าจะบูดบึ้งขนาดไหนแต่ก็รู้ว่าไม่ได้เป็นอะไร สามารถแกล้งหรือแหย่เล่นให้โมโหได้

แต่ในเวลานี้ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้ว่าไม่ใช่

เหมือนว่ามีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ แต่อย่าหวังว่าฝ่ายนั้นจะเล่าให้ฟัง
แค่อยู่ดี ๆ มาหากันถึงที่นี่ก็เหลือเชื่อแล้ว

ว่ากันตามจริงเราก็ใช่ว่าจะสนิทสนมกันถึงขนาดไปมาหาสู่กันด้วยซ้ำ

“วันนี้ก็คิดจะเบี้ยวไม่กลับอีกแล้วสินะ”

เฮ้ยยยยยยยยยย

ไม่ได้คิดเลยจริง ๆ งานมันเยอะ ไม่ได้เบี้ยวเลย งานกองท่วมหัวแล้วจะให้กลับยังไง

ละสายตาจากกองเอกสารและเงยหน้าขึ้นมองคนที่มายืนอยู่ตรงหน้า

หน้าเปียกหัวเปียก และยังคงคอนเซ็ปหน้าบึ้งไม่เลิก

คำพูดที่มาพร้อมกับหน้าบึ้ง ๆ นั่นทำให้นุชาต้องหรุบสายตาลง

ไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะหาว่าแก้ตัว เห็นยังไงก็เอาตามนั้น
แล้วแต่คุณซ้งจะพิจารณา

ไม่ได้พูด ไม่ได้ตอบ แต่ยังเปิดอ่านเอกสารที่แนบมาในแฟ้ม
แกล้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยิน และคราวนี้คุณซ้งก็เปลี่ยนจากยืนมานั่งหน้าเปียกอยู่ตรงหน้านุชาแทน

นั่งมอง

และทำเหมือนสนใจกับสิ่งที่นุชากำลังอ่านนักหนา

“ผ้าขนหนูไม่มีเหรอ”

มี

ผ้าขนหนูมีอีกผืน

ชี้นิ้วไปที่ผ้าขนหนูผืนเล็กที่แขวนไว้ที่ไม้แขวน และก็เห็นคุณซ้งลุกขึ้นเดินไปหยิบมาซับที่ใบหน้า ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเดินกลับมานั่งตรงหน้าเหมือนเดิม และยังใช้ผ้าขนหนูซับหน้าไปมาอีกหลายครั้ง เสร็จแล้วก็นั่งมองหน้าของคนที่ยังสนใจกับงาน

ไม่สนใจคนที่รอ

“หิว”

ครับ

“หิวข้าว”

จ่ะ

หิว....

ทำไมถึงได้ทำเสียงแบบนั้นล่ะ มันจะทำให้คนฟังขาดใจตายนะครับ

“กินเสร็จแล้วกลับเลยหรือเปล่าครับ แล้วนี่อาม่ากิมอยู่กับใครตอนนี้”

เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตอนนี้ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว
ขับรถกลับมืด ๆ ไม่ค่อยดี แต่ก็เป็นห่วงอาม่ากิม อยู่ ๆ คุณซ้งก็มาแบบนี้แล้วอาม่ากิมอยู่กับใคร ไม่ได้ไล่นะ แต่อยากรู้ว่าจะทำยังไงต่อไป

เห็นคุณซ้งทำหน้าลังเลใจอยู่เป็นพัก

อะไรล่ะคุณซ้ง ไม่ได้ถามคำถามยาก ๆ เลยนะ อยากตอบก็ตอบ ไม่อยากตอบก็ไม่ใช่ว่าจะบีบบังคับ

เห็นเงียบอยู่นานกว่าจะตอบ แค่ตอบแค่นี้ทำไมต้องคิดอะไรขนาดนั้นครับ

“ม่าไม่อยู่ไปแซยิดบ้านป๊า”

อ่อ

ก็เลยมาถึงนี่ ซึ่งจริง ๆแล้ว ก็ไม่น่าจะเกี่ยว ที่มีเยอะแยะ ทำไมถึงได้มาหาผมล่ะคุณซ้ง

ไม่ถาม เพราะรู้ว่าถามไปก็ไม่ได้คำตอบ
วางปากกาลงและลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์

“ป่ะ.....หิวแล้ว”

ครับ ๆ ก็กำลังจะไปอยู่นี่ไง

ใครมันจะไปคิด ว่าคุณซ้งจะทำเสียงเล็กเสียงน้อยได้น่ารักขนาดนี้
ขืนไม่รีบพาไปหาอะไรกิน เดี๋ยวได้หิวขาดใจตายไปก่อนพอดี

เดินออกจากห้อง โดยมีคนตัวโตเดินตามต้อย ๆ เหมือนเด็กน้อยลงทาง

“ที่นี่ คนเป็นแฟนกัน เขาต้องเดินจูงมือกันนะคุณซ้ง”

แกล้งพูด และคราวนี้ก็ได้เห็นว่าคุณซ้งเบะหน้าใส่ เล่นเอาหัวเราะไม่หยุด

ที่ไหน คนเป็นแฟนกันก็เดินจูงมือกันทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ที่นี่หรอก เราเป็นแฟนกัน รักกัน คิดถึงกัน มาหากันถึงนี่ เราก็ต้องเดินจูงมือกันเหมือนคนอื่นๆ ให้สมกับความรักที่เราสองมีให้กันหน่อยนะครับ

“ประสาท อย่ามาพูดอะไรเพ้อเจ้อ”

โถถถถถถถถ พ่อคุณเอ้ยยยยย
แบบนี้แหละมันน่านัก มันน่าแกล้งยิ่งขึ้นไปอีก

“ไม่ได้หรอก คุณซ้ง เราต้องเดินจูงมือกันนะ”

พูดบ้าอะไรอยู่ได้

ไม่มีทางเด็ดขาด

มันบ้าไปแล้ว

ไอ้ตี๋นุชาหน้ามึนมันเป็นบ้าไปแล้ว พูดจาเพ้อเจ้อ ใครจะไปทำอย่างที่มันพูด
แค่ขับรถเพลินจนเลยมาถึงนี่ แล้วไม่รู้จะไปไหนต่อก็เลยแวะมาทักทายตามประสาคนรู้จักกัน ก็ถือว่าเยอะแล้ว นี่ยังจะพูดจาเพ้อเจ้อใส่อีก มีมารยาทบ้างมั้ย

“คุณซ้งอ่ะ คุณซ้ง อยากจับมือ อยากจูงมือ นะ นะ นะ”

แกล้งทำเสียงออดอ้อน และแกล้งสะบัดขาไปมา เหมือนเด็กอ้อนอยากได้ของ
คราวนี้ฝ่ายที่ยืนตะลึงกลายเป็นซ้ง ที่กำลังอ้าปากค้าง ยืนนิ่งอึ้งกับพฤติกรรมแปลก ๆ ที่นุชากำลังทำ

“บ้า ลื้อเป็นบ้านุชา นึกว่าน่ารักตายเลยหรือไง ทำแบบนั้น”

เปล่า ไม่ได้นึกว่าน่ารัก แต่ทำแล้วมันสะใจ เวลาเห็นคุณซ้งทำหน้าเหวอ
ยิ่งหน้าเอ๋อ ๆ แบบเมื่อกี้ เห็นแล้วยิ่งขำ

“คุณซ้งงงงงงงงงงง จับมือ จับมือ”

พูดไม่พูดเปล่า คราวนี้คนพูดแกล้งดึงมือของคนที่เดินอยู่มาจับเอาไว้แน่น

แกล้งทำตาโตและกระพริบตาปริบ ๆ หลายที เหมือนกำลังอ้อนขอของ

ยิ่งเห็นซ้งสะบัดมือ นุชายิ่งจับมือของอีกฝ่ายแน่นไม่ยอมปล่อย

“อะไรวะ”

อะไรไม่รู้ รู้แต่สนุก

สนุกดีเวลาได้แกล้งได้แหย่ ได้เห็นเวลาคุณซ้งทำหน้างี่เง่า หงุดหงิดโมโหใส่

นุชากำลังหัวเราะและสนุกกับสิ่งที่คนตัวโตทำ

ทั้งดึงมือออก ทั้งสะบัด ยิ่งเห็นยิ่งขำ ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้งไม่ยอมหยุด

“โธ่โว้ยยยยยย”

อะไรวะ ทำไมพูดไม่เพราะ

แค่นี้ทำไมต้องหงุดหงิดกันด้วย

หัวเราะด้วยความขำ แล้วนุชาก็เลิกแกล้งคนที่ทั้งพยายามทั้งดึงทั้งสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุม

ปล่อยมือง่าย ๆ

และยังหัวเราะไม่ยอมหยุด กำลังจะก้าวเดิน แต่ก็ต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง
ปล่อยมือออกแล้ว แต่คราวนี้กลับถูกคว้ามือกลับไปอีกครั้ง
ทั้งที่ในคราวแรก ไม่ยอมให้จับ ทั้งสะบัดทั้งดึงมือหนีแท้ ๆ

แต่คราวนี้กลับเป็นฝ่ายยื้อให้กลับไปหาซะเอง

“เอ่อ....นุ...นุชาไม่..อ่า”

อะไร

ยังไง อะไรครับ ทำอะไรล่ะครับนั่น

อะไรล่ะคุณซ้ง

อยากจะพูดอะไรก็พูดมา ทำไมถึงไม่พูด

อยากจะถาม แต่เมื่อก้มมองที่มือของตัวเองที่ปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว
พร้อมกับที่คนที่คว้ามือกลับไปกุม หรุบสายตาลงต่ำ และทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คราวนี้นุชาก็เลยได้แต่นิ่งเงียบ

“ไปกินข้าว...เถอะ”

กินข้าว

ไปกินข้าว

ไปก็ไป ไปกินข้าวกัน

ก้าวขาเดินนำหน้าโดยมีคุณซ้งเดินตาม

คำถามที่เกิดขึ้นในหัวนุชามีเต็มไปหมด

ไอ้ที่ทำนั่นน่ะมันหมายความว่ายังไงครับ พักนี้ดูคุณซ้งยิ่งดูแปลก ๆ ไปด้วย
เหมือนมีอะไรในใจ อยากจะพูดแต่ไม่ยอมพูด

อย่าให้ต้องแปลอย่าให้ต้องเดาเลย

เดาไม่ออกจริง ๆ ว่าคิดอะไร หน้านิ่ง ๆ แบบนั้น พูดก็ไม่ค่อยพูด
ถ้าไม่แหย่ถ้าไม่แกล้ง ก็ไม่ยอมพูด ใครจะไปเข้าใจ ใครจะไปเดาความคิดได้

เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณซ้งทำ

เป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรอยากพูดก็พูดออกมาบ้าง
อย่าทำให้งง อย่าทำให้สงสัย เดี๋ยวคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป มันจะไม่ดีกับคุณนะครับ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งที่น่ารัก




TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † การคาดเดา † [27/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 27-03-2012 03:43:37
เดี๋ยวจะตามอ่านให้ทันฮ่ะ ชอบเรื่องของคุณ aoikyosuke ทุกเรื่องเลย
เป็นกำลังใจให้คนโพสด้วย  :L2:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † การคาดเดา † [27/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 28-03-2012 10:48:12
หลงรักคู่นี้อีกครั้ง....
หลังจากลืมเลือนไปพักนึง
พอได้กลับมานั่งอ่านใหม่ กับตอนใหม่ๆแล้วก็เกิดอาการนั่งยิ้มอยู่น่าคอม
คุณซ้งกับนุชาน่ารักมากๆ

ความรู้สึกมันท้วมท้นมากนะจุดนี้ ชอบอ่า   ฮา
เป็นกำลังใจให้ทั้งผู้แต่งและผู้โพสต์เลย
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † การคาดเดา † [27/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 30-03-2012 21:16:45
น่าร๊ากกก มากอะคู่นี้ ซ้งพ่อหนุ่มสุดซึน เริ่มรู้ใจตัวเองแล้วละเซ่
นุชาก็จีบได้น่ารักตลอด ความอดทนเป็นเลิศ
มาต่ออีกนะฮ่ะ ยังรอเสมอน้าาา  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † คำขอบคุณ † [30/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 30-03-2012 22:04:37




ตอน คำขอบคุณ



“ป๊าให้คนมารับอาม่าแล้วนะ”

สิบปีมันเร็วยิ่งกว่าเร็ว
เสียงที่ไม่เคยได้ยินอีกเลยตลอดสิบปี ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย เส้นขนานที่ไม่มีทางเชื่อมต่อกันได้ มันทำให้ซ้งนิ่งเงียบ เมื่อรับรู้ว่ากำลังพูดคุยอยู่กับใคร

มีโทรศัพท์โทรเข้ามาในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี ในขณะที่กำลังวุ่นอยู่กับการลงบัญชีรายได้ค่าเช่าจากอพาร์ทเม้นท์

ไม่คุ้นและไม่ชิน

ขมวดคิ้วมุ่น แปลกใจที่มีคนขอสาย

แต่แค่ได้ฟังคำพูดแรก ประโยคแรก ก็จำได้ดีว่าเสียงจากปลายสายเป็นใคร

ไม่เคยลืม
ให้ตายก็ไม่มีทางลืม

แต่ไม่รู้จะพูดหรือตอบอะไร ได้แต่นิ่งเงียบ และพยายามระงับความรู้สึกโกรธเกรี้ยวที่เคยอยู่ลึกสุดหัวใจ และตอนนี้มันกำลังประทุลุกโชนในใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

คิดว่าลืมความรู้สึกแบบนี้ไปแล้ว
แต่วันนี้ก็ทำให้รู้ว่า ไม่เคยลืม และไม่เคยมีสักวันที่ลืม

ไม่เคยพูดคุยกันตลอดสิบปี ทั้งที่บ้านก็อยู่ไม่ห่างกัน
และบ้านโน้นก็มารับอาม่ากิมทุกวันอาทิตย์

แล้วทำไมถึงเพิ่งโทรมาหา ทำไมถึงเพิ่งนึกได้ว่ามีลูกชายอยู่อีกคน

“อาซ้ง...พรุ่งนี้ป๊าจะเข้าไปหานะ”

อย่ามา

อย่ามายุ่ง อย่ามาข้องเกี่ยวกัน

อย่ามา ไม่อยากเห็นไม่อยากพบเจอ ไม่อยากรับรู้

เกลียดคนที่ทอดทิ้งหม่าม๊า เกลียดคนที่ทำให้หม่าม๊าเสียใจ เกลียดคนที่ทำให้หม่าม๊าเป็นทุกข์และร้องไห้ ที่หม่าม๊าตรอมใจตาย ก็เพราะป๊า เพราะป๊าทำให้หม่าม๊าต้องตาย ความผิดของป๊า ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดของป๊า เรื่องมันเป็นแบบนี้ก็เพราะป๊าคนเดียวเท่านั้น

“ไม่ต้องมา ผมไม่อยู่บ้าน”

พูดเพียงเท่านั้น

และซ้งก็รีบกดวางสายอย่างรวดเร็ว

พูดอะไรไม่ออก นิ่งมองโทรศัพท์ในมือ กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น มือกำลังสั่น และเริ่มรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ขอบตา น้ำตากำลังรื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ความรู้สึกอึดอัดกำลังก่อตัวขึ้นและมาจุกอยู่ที่อก ความสับสนว้าวุ่นตีกันอยู่ในสมอง

อย่ามา

อย่ามายุ่งกับผม

ป๊าทำให้หม่าม๊าเสียใจ ชีวิตผมไม่มีหม่าม๊า ก็เพราะป๊า

ทุกอย่างมันหยุดนิ่งตั้งแต่หม่าม๊าไม่อยู่

ลืมผมไปซะ อย่ามายุ่ง อย่าเข้ามาหา รีบ ๆ ลืมไปซะว่ามีผมอยู่ในโลกนี้

ซ้งกำลังคิดบางอย่างเงียบ ๆ

คืนนั้นทั้งคืนไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ภาพต่าง ๆ มันย้อนกลับไปกลับมาอยู่ในหัว ทั้งเรื่องหม่าม๊า เรื่องราวสมัยยังเป็นเด็กที่ล่วงเลยผ่านมาหลายปี แต่ความเจ็บปวดก็ไม่เคยจางหาย ทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำ แม้จะพลิกกายมาหลายครั้งก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้

ทุกอย่างมันกำลังย้อนกลับมา กำลังหมุนวนกลับมาที่เดิม

ไปทำงานและพยายามจะทำบัญชีรายได้ค่าเช่าต่อให้เสร็จ แต่ก็ทำไม่ได้
ไม่มีสมาธิ สมองไม่แล่น เพราะอดนอนมาทั้งคืน ร่างกายกำลังอ่อนล้า
และหัวใจกำลังหมดแรงไปตามร่างกาย

กลับบ้านไม่ได้ เพราะป๊าบอกว่าจะมาหา

ไม่รู้จะไปที่ไหน ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปที่ไหนดี

ขับรถออกมาตั้งแต่สิบโมง ขับไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังจะไปที่ไหน
รู้สึกตัวอีกที ก็พบว่าขับมาไกลและกำลังมุ่งหน้าไปชลบุรี

ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นชลบุรี

แต่เมื่อมองไปที่เม็ดท็อฟฟี่หลายเม็ดที่ได้รับมาจากใครบางคนก็ทำให้พอมีความหวังขึ้นมาบ้าง

วันนี้คงมีที่ให้ไป

นุชา....

ไปหานุชา.....

อยู่กับนุชาไม่เคยต้องคิดอะไร บางครั้งรู้สึกหงุดหงิดโมโหจากนิสัยบ้า ๆ ของนุชาแต่ก็รู้สึกสบายใจ ไม่ต้องเก็บงำความรู้สึก โมโหได้อย่างที่อยากจะโมโห หงุดหงิดได้อย่างที่อยากจะทำ พูดอะไรก็ได้อย่างที่อยากจะพูด ทำตัวเอาแต่ใจได้อย่างที่อยากจะเป็น ไม่ต้องคอยกังวล แม้ไม่ชอบ อยู่ใกล้กันมีหลายครั้งที่โมโห แต่ก็ไม่เคยอึดอัดใจ

นุชา

นุชาหน้ามึน ที่ทำให้หงุดหงิดหัวเสียอยู่บ่อยครั้ง

นุชา.....

“เฮ้ย คุณซ้งเป็นอะไร ตาลอยไปโน่นแล้ว ไปเก็บให้เอามั้ย”

สะดุ้ง และหันกลับมามองคนที่เดินอยู่เคียงข้าง

จิตใจล่องลอยไปถึงไหนไม่รู้ รู้แต่ว่ามือสองข้างกำลังหิ้วถุงแตงโมสองลูกใหญ่
หนักมาก และไม่รู้ว่าจะซื้อมาทำไมมากมาย
แต่นุชาบอกว่า จะได้เอามาแบ่งกันกิน ซื้อลูกเล็ก กินสองคนจะพอได้ยังไง

ห้ามแล้ว และไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะฟัง

ดึงดันจะซื้อมาให้ได้

จะซื้อมาทำไมมากมายนักหนาวะ รู้มั้ยว่าหนัก ไม่ช่วยถือเดี๋ยวก็จะหาว่าไม่มีน้ำใจ ร้อนก็ร้อน เหงื่อก็ออก ไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็นเบ๊ลื้อนะนุชา

“หิวน้ำ”

บ่น และมองไปที่คนที่เดินถือแก้วน้ำผลไม้และหมุนหลอดเล่นอย่างอารมณ์ดี

อั๊วหิ้วถุงแตงโมทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน แต่ไอ้ตี๋นุชา เดินตัวปลิวสบายใจเฉิบ แบบนี้มันหมายความว่ายังไงวะ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย

“หิวเหรอหนู อย่าร้องนะ เดินอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว”

ห๊า

หมายความว่ายังไง

มันจะตายใช่มั้ย ถ้าไม่ได้กวนประสาทกันสักห้านาทีมันจะลงแดงชักดิ้นชักงอตายหรือไงวะ

นุชา นุชา นุชา ไอ้...........โธ่โว้ยยยยยยยยยยย

“ใจน้อย น้อยใจอีก อ่ะ อ่ะ กิน กินอย่าเบะหน้าสิหนู โอ๋ โอ๋ อย่าร้องนะคนดีของพี่นุชา”

พูดไม่พูดเปล่า

มันยังเอาแก้วน้ำที่มันกำลังกินมายื่นใส่หน้าอีก แกล้งกันชัด ๆ
ยิ่งเห็นรอยยิ้มกวน ๆ นั่นยิ่งเริ่มโมโห

ตาบอดหรือไง มืออั๊วหิ้วถุงแตงโมของลื้ออยู่ไม่ใช่หรือไงวะ จะเอามือที่ไหนไปถือแก้วน้ำได้

หน้างอหงิก บูดบึ้งยิ่งกว่าเดิม

และซ้งก็พยักเพยิดหน้าให้รู้ว่ากินเองไม่ได้
พยายามยกถุงแตงโมที่หิ้วอยู่มาโชว์ให้เห็น

และคราวนี้นุชายิ่งหัวเราะชอบใจเข้าไปใหญ่

“มา มา ป้อน ป้อนกินซะนะหนูซ้ง”

หนูซ้ง ไอ้.......

อยากจะบ้า...อยากจะเป็นบ้าตาย มันขยันขุดหาคำพูดประหลาดแบบนี้มาจากไหนนักหนาวะ เป็นบ้าหรือไงไอ้หน้ามึนเอ้ยยยยยยยยยยย

อยากจะอ้าปากด่ากลับไป

แต่เพราะหลอดจากแก้วน้ำที่มาจ่อให้ถึงปาก ก็ทำให้ต้องเงียบเสียงลงและดูดน้ำในแก้วด้วยความกระหาย

ชื่นใจ และผละใบหน้าออกจากแก้วน้ำ

สงบสติลงได้บ้างเล็กน้อย

เดินเรื่อย ๆ

และหันไปมองคนที่ดึงแก้วน้ำกลับคืนไปแล้ว และยกหลอดขึ้นดูดอีกครั้ง
โดยไม่ได้หันมามองว่ามีใครกำลังแอบลอบมองอยู่

ไม่รู้ตัวจริง ๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่สนใจกันแน่

“....ขอบใจมากกกกกกกกกนะ......หนูนุ่น” ซ้งลากเสียงยาว ๆ และแอบลอบยิ้มในใจ เมื่อเห็นว่านุชารีบหันขวับกลับมามองและกำลังอ้าปากค้าง

นุ่น

ชื่อ........กู

เหี้ยยยยยยย........แล้วนี่เสือกรู้ชื่อเล่นกูได้ยังไงครับนี่

“นุ่นไหน ใครนุ่น”

นุชาทำหน้าเลิ่กลั่กหันซ้ายหันขวา ตีมึนในแบบฉบับดั้งเดิมที่ไม่มีใครเลียนแบบได้

ไม่รู้สิ ใครล่ะนุ่น จะไปรู้เหรอ มีกันอยู่สองคน ชื่อหมาข้างทางล่ะมั๊ง

“อะไรหนูซ้ง ใครนุ่น ไม่มีอ่ะ ใครนุ่น อย่ามา”

หนูซ้งเหรอ อ๋ออออออออออออ ได้ หนูซ้งใช่มั้ย หึ หึ หึ

“อะไรหนูนุ่น อะไร ทำไม จะทำไมหนูนุ่น” แกล้งกวนกลับ แล้วคราวนี้นุชาก็กำลังทำหน้าประหลาดให้ได้เห็น

ตลก

หน้าตาแบบนี้เห็นทีไรก็ตลก จนต้องขำ

“หนูนุ่น หนูนุ่น ชื่อน่ารักนะเรา....หนูนุ่นนนนนนนนนน”

ซ้งเดินหิ้วถุงแตงโมและหัวเราะร่า โดยมีใครอีกคนกำลังพยายามเอาคืนด้วยคำพูดในแบบเดียวกัน แต่ก็ไม่ทำให้สะทกสะท้านเลยสักนิด

“อะไรหนูซ้ง หนูซ้ง หนูซ้งงงงงงงงงงงง”

ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้ซ้งขำจนหยุดไม่อยู่

หัวเราะ ในเวลาที่ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะหัวเราะออกมาได้

หัวเราะ และยิ้ม ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะยิ้มหรือหัวเราะจากใจแบบนี้ได้อีก
หันกลับไปมองคนที่เดินตามและยังพยายามจะเรียกชื่อประหลาดไม่เลิก

เห็นแล้วยิ่งทำให้ต้องยิ้ม ยิ้มกว้างขึ้น รอยยิ้มจากใจ รอยยิ้มที่เป็นยิ้มครั้งแรกในรอบหลาย ๆ ปี

รอยยิ้มที่ซ้งเพิ่งรู้สึกตัวว่า ยังหัวเราะและยิ้มได้เหมือนคนอื่นๆ อยู่

มองคนที่เดินตามมา และส่งยิ้มจาง ๆ ให้
นิ่งมองคนที่กำลังหงุดหงิดหัวเสียไม่เลิก นิ่งมองและเพิ่งรู้สึกว่าในวันที่อ่อนล้า ยังมีบางอย่างที่ทำให้สามารถยิ้มออกมาได้

ขอบใจนะ ที่มาอยู่ด้วยกันในเวลาแบบนี้
ในเวลาที่ไม่รู้จะไปไหน ในเวลาที่ไม่มีที่ให้กลับไป

“ขอบใจมากนะ...ขอบใจจริง ๆ นุชา”




TBC...

 


อัพ3ตอนรวดนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † เพื่่อน † [30/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 30-03-2012 22:06:41



ตอน เพื่่อน



“ครับม่า ซ้งอยู่กับนุชาครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้กลับครับ ซ้งไม่เป็นไรครับ ม่าไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ ม่าคร้าบบบบ ซ้งไม่เป็นไรจริง ๆ คร้าบบบบ”

น่ารัก

พูดกับอาม่ากิมอย่างน่ารัก

ทีพูดกับผมทำไมไม่น่ารักแบบนี้บ้างครับคุณซ้งเช่นว่า
นุชาจ๊ะ นุชาจ๋า ซ้งอย่างนั้นซ้งอย่างนี้ แบบนี้เลยนะ ขอแบบนี้เลย อยากได้แบบเน๊ เจง เจง

นุชาใช้มีดหั่นแตงโมเป็นชิ้นและวางใส่ไว้ในจาน
นั่งมองคนที่คุยโทรศัพท์และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็ทำให้ต้องอมยิ้มตามไปด้วย

“อะไรนุชา มองทำไม มีปัญหาหรือไง”

เปล่าครับ

ไม่มีอะไร ไม่ได้มองทำอะไรด้วย เพราะถึงอยากทำอะไรก็ยังทำไม่ด้ายยยย
ดุซะขนาดนี้ ใครเขาจะกล้า

ใครเขาจะกล้ามีปัญหากับคุณซ้งล่ะคร้าบบบ

ไม่มีอาร๊ายยยยยยยยยย ไม่มีใครกล้ามีปัญหากับคุณซ้งหรอก
แล้วดูนั่น แค่ดุยังไม่พอ ยังจะหันมามองแล้วทำตาขวางใส่ด้วย กลัวครับ
อย่าดุมากนักได้มั้ย กลัวววววววว

“ไม่นอนดึกครับม่า เดี๋ยวก็นอนแล้ว ครับ ครับ หวัดดีครับ”

น่ารัก

น่าร้ากกกกกกกกกก

“ครับม่า หวาดดีคร้าบบบบ”

แกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อย แล้วก็เห็นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าถลึงตาใส่

อ้าว ทำไมล่ะ

คนเขารักเขาชอบเขาถึงหยอก ไม่งั้นใครเขาจะแหย่คุณซ้งได้ทุกวัน
ถ้าคนไม่สนใจใครเขาจะอยากยุ่งด้วย

“อะไรหนูนุ่น”

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยย

หยุดดดดดดดดด หยุดเรียกชื่อนี้ อย่าเรียก มันทุเรศ แล้วนี่ไปรู้มาจากไหนว่าที่บ้านเรียกว่านุ่น ใครบอก

อย่าบอกนะว่า เป็น....

แม่แน่ ๆมีคนเดียวที่รู้ชื่อนี้ แล้วก็มีเรียกอยู่คนเดียว
ไปรู้จักกันตอนไหน นี่รู้จักกันแล้วใช่มั้ย ทำไมถึงไม่บอกกันบ้าง
แถมยัง....

“ห้ามล้อเลียนผู้มีอาวุโสกว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง”

แกล้งตีหน้าขรึมใส่ และผ่าแตงโมออกเป็นสองส่วน หันเป็นชิ้นและเหลือบสายตาขึ้นมองหน้าของคนหล่อหน้าใสปิ๊ง ที่กำลังเลิกคิ้วขึ้นสูงทำหน้าเหมือนสงสัยสิ่งที่เพิ่งบอกไป

คราวนี้ก็เลยต้องย้ำให้ชัดเจนอีกครั้ง

“ห้ามล้อเลียนครับ เข้าใจนะ หนูซ้ง”

ไม่เข้าใจ

แล้วทีลื้อมาล้อเลียนอั๊ว ยังทำได้ ทำไมจะล้อกลับบ้างไม่ได้ ถ้าไม่อยากให้ล้อก็อย่ามากวนกันตั้งแต่แรก

ใครมันเริ่มก่อน แล้วยังจะมีหน้ามาห้าม ใครเชื่อก็บ้า

เห็นน้องแรงบันดาลใจซ้งทำเป็นเมินหน้าไปทางอื่น นุชาก็เลยวางมีดและยกปลายนิ้วขึ้นป้ายไปที่ปากของคนที่ทำเป็นเมิน

“เฮ้ยยยยยยยย เล่นอะไรวะ สกปรก”

เล่นอะไร ไม่ได้เล่น นี่เขาเรียกว่าสั่งสอนเด็กนิสัยไม่ดี ถ้าพูดจาไม่ดีหรือไม่ไพเราะต้องสั่งสอนให้หลาบจำ คราวหลังจะได้ไม่กล้าทำอีก

“ห้ามดื้อ ห้ามงอแง ต้องเชื่อฟัง เป็นเด็กหนีออกจากบ้านไม่ใช่เหรอเรา”

เด็กหนีออกจากบ้าน

อั๊วเนี่ยนะเด็กหนีออกจากบ้าน ไปเอามาจากไหนว่าหนีออกจากบ้าน
โตป่านนี้จะเป็นเด็กหนีออกจากบ้านได้ยังไง

ไอ้ตี๋นุชาหน้ามึนมันวอนตายแต่หัววัน ปากแบบนี้มันน่านัก

“โอ๋ โอ๋ คุณซ้ง อย่างอนเลยนะ อย่าโกรธเล้ยยย หน้างอไม่น่ารักนะ ดูสิหน้าบึ้งอีกแล้ว เวลายิ้มคุณซ้งน่ารักกว่าตั้งเยอะ อ่ะกินแตงโม กิน กิน จะได้ใจเย็น ๆ นะจ๊ะ”

ใช้ส้อมจิ้มแตงโมแล้วยื่นไปให้คนที่ทำหน้าหงิกและเริ่มทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ

แหย่ไปนิดเดียวเอ๊งงงงง เริ่มงอแงใส่อีกแล้ว

แบบนี้ต้องรีบเอาใจ เดี๋ยวหนีกลับบ้านไปเสียใจแย่

อุตส่าห์มาทำหน้าใสปิ๊ง ให้หัวใจละลายจนถึงนี่ ไม่รีบเอาใจคงไม่ได้
โอกาสใช่ว่าจะมีมาหาบ่อย ๆ

“ไม่กิน”

อะไรเนี่ย ทำไมเอาใจยากจัง ถือว่าหล่อเหรอ ถึงได้กล้าทำแบบนี้

“กิน เอ้า... อ้ำ อ้ำ”

พยักหน้าใส่ อ้อนให้กินแตงโมที่ยื่นมาให้ ทำเหมือนกำลังโอ๋เด็ก
คราวนี้ซ้งก็เลยยิ่งขมวดคิ้วมุ่น และทำหน้างี่เง่าใส่คนที่ยังหาเรื่องหยอกล้อไม่เลิก

ใครจะบ้าไปตามมัน นุชาหน้ามึนมันสติไม่ดี ถ้าใครบ้าตามมันก็คงเป็นบ้าไปด้วย

ซ้งไม่ได้กินแตงโมที่นุชายื่นส่งให้

แต่คว้าส้อมที่มีชิ้นแตงโมอยู่มาถือเอาไว้

มองหน้าของคนที่ยิ้มหวาน กระพริบตาปริบ ๆ และยกมือสองข้างขึ้นมาประกบกัน ทำเหมือนกำลังอ้อนวอนขอให้กิน

จะยิ้มก็ไม่กล้ายิ้ม ต้องพยายามทำหน้าขรึม
และกัดแตงโมไปหนึ่งคำ ก่อนจะเมินหน้าหนีไปทางอื่น เพราะไม่ชอบท่าทางประหลาดของนุชาที่มาทำให้เห็นอยู่บ่อย ๆ

“เด็กดีจริงจริ๊งงงงงงง แบบนี้สิถึงน่ารัก”

น่ารักบ้าอะไรของมัน

นุชามันเป็นบ้า ชอบแกล้ง ชอบทำหน้าตาท่าทางแปลก ๆ
แล้วยังพฤติกรรมประหลาดพวกนี้อีก อะไรของมันวะ ทำไปทำไม ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน คิดว่าดีหรือไงที่ทำแบบนี้

“ยกให้หมดจานเลย ยกนี่ให้ด้วย จะทำงานต่อแล้ว”

รีโมทโทรทัศน์มาวางอยู่ตรงหน้า และคนที่เอ่ยบอกกำลังหยิบแฟ้มเอกสารที่วางอยู่ห่างออกไปออกมาวางบนโต๊ะ เริ่มเปิดเอกสารที่อยู่ในแฟ้มดูทีละหน้า

อะไร

นุชามันกำลังทำอะไร

นี่มันสองทุ่มกว่าแล้ว ยังจะทำงานอีกเหรอ งานอะไรนักหนาไม่เสร็จซะที
เห็นทำตั้งแต่กลับมาแล้ว ป่านนี้ก็ยังจะทำอีกหรือไง ยุ่งอะไรนักหนาวะ
หน้าตาแบบนี้ทำงานเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ เห็นทำแต่หน้ามึนแล้วก็ชอบทำตาลอยพูดจาก็ไม่สมกับเป็นคนที่โตกว่าเลยสักนิด

แน่ใจนะว่าทำงานเป็นจริง ๆ

“คุณซ้งนอนดูทีวีไปก่อนนะ ง่วงแล้วนอนก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมนอนตรงนี้คุณซ้งนอนบนเตียงแล้วกันนะ”

ทำไม

ไม่ต้องก็ได้ ไม่ได้........เอ่อ

ที่จริงถ้าพูดกันตามตรงเป็นฝ่ายมารบกวนแท้ ๆ ไม่เห็นจะต้องทำให้ขนาดนี้ก็ได้

“นอนไม่ดิ้นหรอก......”

หือ

นอนไม่ดิ้น

แล้ว......

แล้วยังไงจะสื่อว่า....

เลิกคิ้วขึ้น และเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอ่ยบอก คำพูดแปลก ๆ ที่พูดให้ได้ยินนั่น หมายความว่ายังไง นอนไม่ดิ้น อืมมม นอนไม่ดิ้น

“แล้ว...........”

ก็ไม่แล้วไง นุชามันทำไมเข้าใจอะไรยากจังวะ จะต้องให้อธิบายอะไรมากมาย
เรื่องแค่นี้ มันไม่เข้าใจหรือไง

ก็....


“เตียงกว้าง....นอนด้วยกันก็ได้มั๊ง”

อ๋ออออออออออออออออออ

เหรอครับ เหรอครับ เหรอออออออออคร้าบบบบบบบ

นอนด้วยกันก็ได้

อยากนอนข้างๆ พี่นุชาทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะจ๊ะ

ดีใจนะนี่

กำลังรอประโยคนี้อยู่เลยนะครับ น่ารักมากคุณซ้ง เป็นเด็กที่ใจดีขนาดนี้ต้องให้รางวัล

“จ้า......นอนก็ได้ เห็นว่าหนูซ้งขอร้องเลยนะ เดี๋ยวพี่นุชาจะนอนเป็นเพื่อน”

พูดไม่พูดเปล่า คนพูดยังยื่นมือไปหยิกแก้มของเด็กดีมีน้ำใจด้วย

แก้มนิ่ม

เด็กชายหนูซ้งน่ารักที่สุด ไม่มีใครน่ารักเกินเด็กชายหนูซ้งของพี่นุชาได้หรอก

นุชากำลังหัวเราะชอบใจ และโดนปัดมือออกอย่างรวดเร็ว

คนปัดมือออก ทั้งทำหน้างี่เง่า ทั้งบ่น และกำลังหงุดหงิดโมโห
ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก มองยังไงก็น่ารักที่สุด

“หน้ามึนเอ้ยยยยยย ชอบทำแบบนี้ ระวังเถอะ นิสัยแบบนี้ระวังจะไม่ได้ตายดี”

แช่งกันอีก แค่นี้ทำไมต้องแช่งด้วย

ชอบสิ ไม่ชอบใครจะทำ นั่น อย่ามาพูดมากนะ หนีมาอาศัยห้องเขานอนแท้ ๆ ยังจะกล้าหืออีกเหรอ เดี๋ยวเถอะ

“ทำไมนิสัยแบบนี้วะ ทำไมชอบแกล้ง ทำไมชอบทำให้โมโห ลื้อเป็นบ้าหรือเป็นประสาทนุชา ไปหาหมอบ้างไป”

ไล่เราไปหาหมออีก

แค่คุณหมอน้องซ้งคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว ไม่ต้องไปไหนไกลหรอก

“งอน แค่นี้ทำเป็นงอน คนไม่ชอบที่ไหนเขาจะอยากแกล้งคุณซ้งกันล่ะ”

อ้อมแอ้มพูดเสียงเบา และแกล้งทำเป็นเปิดเอกสารหน้าถัดไป ยกปากกาขึ้นขีดข้อความและตีมึนทำหน้าเฉยเมย เหมือนกับว่าไม่ได้พูดอะไร

แอบเหลือบสายตามองไปที่คนที่หยิบรีโมทมากดดูรายการโทรทัศน์และยืดขาเหยียดยาว อยู่ในท่าทางสบาย ๆ แล้วก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองเงียบ ๆ

เห็นคุณซ้งใช้ส้อมจิ้มแตงโมมากินอีกหลายชิ้น ทั้งที่ตายังมองไปที่รายการโทรทัศน์ก็ยิ่งทำให้ยิ้มกว้างมากขึ้น

ไม่น่าเชื่อ ว่าเราจะสามารถพูดคุยกันได้อย่างสบาย ๆ แบบนี้

ไม่น่าเชื่อ ว่าคุณซ้งจะมานั่งอยู่ใกล้ ๆ และได้มีช่วงเวลาผ่อนคลายแบบนี้ด้วยกัน

บางที ถ้าเราได้รู้จักกันมากขึ้น ได้เห็นหน้า ได้พูดคุยกันมากขึ้นกว่านี้
เราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้

เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

เป็นเพื่อน.....

อืมมม เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

“กินป่ะ”

มีแตงโมหนึ่งชิ้นยื่นมาให้ระหว่างที่กำลังอ่านเอกสาร นุชาเหลือบสายตาขึ้นมองคนที่ทำหน้าเฉย แต่มีการพยักหน้าให้ เหมือนอยากจะบอกว่าให้กัดซักคำได้แล้ว

ไม่ได้รับส้อมมาถือเอาไว้

แต่กัดลงไปที่ชิ้นแตงโมที่ยื่นมาให้หนึ่งคำ

เงยหน้าขึ้นมองคนที่ดึงส้อมกลับไปและกินแตงโมต่อทั้งที่สายตายังมองไปที่รายการโทรทัศน์ไม่ได้สนใจจะมองหน้ากันสักนิด

ปากเคี้ยว แต่ในใจกำลังคิด

บางที......

ถ้าเราได้พูดคุยหรืออยู่ใกล้ชิดกัน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้เข้าใกล้กันมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

เราอาจเป็น.....มากกว่าเพื่อน

บางทีเราอาจเป็นได้มากกว่า

เพื่อนที่ดีต่อกัน




TBC...

 



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Running By aoikyosuke † คำพูดปลอบใจ † [30/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 30-03-2012 22:08:50



ตอน คำพูดปลอบใจ



“คุณซ้งไปอาบน้ำ ดึกแล้ว”

หันไปบอกคนที่นั่งเอาคางเกยเข่าอยู่ข้างเตียง และตากำลังปรือได้ที่

เออนั่น จะหลับอยู่แล้วแต่ก็ยังพยายามฝืนจะดูต่อให้ได้
สายตายังพยายามจ้องมองไปที่รายการโทรทัศน์ไม่ยอมเลิก
ง่วงขนาดนี้ รีบไปอาบน้ำนอนได้แล้วคุณซ้ง อย่าให้ต้องพูดหลายครั้ง

ติดพันกับการดูรายการอะไรนักหนา ก็แค่ช่องรายการ......การ์ตูน

เชื่อเลย

นั่งดูอยู่นานสองนาน ดูการ์ตูน

โธ่เอ้ยยย คุณซ้ง

“เดี๋ยวดูจบก่อน เอ่อ ไม่ได้ชอบดูหรอกนะ เปิดเจอเห็นสนุกดีก็เลยดู”

ครับ

สนุกดี

ก็ไม่ได้ว่าอะไร อธิบายแค่นี้ก็เข้าใจแล้ว

ไม่มีใครว่าอะไรเลยนะนั่น ถ้าอยากดูใครเขาจะไปห้าม เด็กมันก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำนั่นแหละว๊า การ์ตูนมันก็ต้องคู่กับเด็กก็ถูกต้องแล้ว

“แบ๊ว”

แกล้งพูด และนุชาก็อมยิ้ม ทั้งที่สายตายังมองไปที่เอกสารในแฟ้ม
แซวเล่น ๆ ไปเล็กน้อย

ดึกแล้วไม่กล้าแซวมาก เดี๋ยวคุณซ้งจะลุกขึ้นมาโมโหงี่เง่ากลางดึก แล้วมันจะขำจนทนไม่ไหว

“ใครแบ๊ว ไม่มีอ่ะ”

ใครแบ๊ว ถามมาได้ จะมีใคร ถ้าไม่ใช่คุณซ้งนั่นแหละครับ

แบ๊ว...... มีการดูการ์ตูนก่อนนอนซะด้วย
ถ้าจะแบ๊วขนาดนี้เดี๋ยวชงนมแล้วตบตูดให้นอนด้วยเลยเป็นไง
จะได้เข้ากับความแบ๊ว

“ไม่แบ๊วเล้ยยยยยย ซะขนาดนั้น”

ยิ่งหันไปมองก็ยิ่งขำ น่ารักจริงจังนะนั่นคุณซ้ง พอแซวหน่อยรีบหยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องไปดูรายการสารคดีทันที เกิดจะมาวิชาการอะไรดึกดื่นป่านนี้

“ผ้าขนหนูกับชุดสำหรับเปลี่ยนแขวนไว้ให้แล้วนะ แล้วก็....นี่”

นุชาเอื้อมมือไปที่ตู้เล็ก ๆ ข้างเตียงดึงลิ้นชักออกและหยิบแปรงสีฟันที่ยังไม่ได้แกะใช้มาวางไว้ให้คนที่ยังนั่งดูรายการโทรทัศน์ไม่เลิก

“ไม่รู้ว่าคุณซ้งใช้แปรงสีฟันแบบไหน ตอนซื้อก็ลืมถาม น่าจะแปรงได้อยู่นะ”

คนพูดไม่ได้คิดอะไร

แต่คนฟัง หยิบแปรงสีฟันขึ้นมาพลิกไปพลิกมาพิจารณาและอ่านข้อความที่ระบุไว้หน้าแพ็คใส่แปรงสีฟัน

ซื้อมาตอนไหน

ไปซื้อมาตอนไหน ทำไมไม่ทันสังเกตุ

ขากลับแวะร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อน้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวเล็กน้อย

ไม่นึกว่า....นุชาจะซื้อแปรงสีฟันติดมาให้ด้วย

จะบอกว่าลืมซื้อก็ใช่ และไม่นึกว่าจะมีใครใส่ใจหรือสนใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ยิ่งคนนั้นคือนุชาด้วยแล้ว ยิ่งไม่เคยคิด

ลุกขึ้นยืนและไปหยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิดออกและหยิบธนบัตรยื่นส่งให้คนที่นั่งอ่านเอกสาร

และก็เห็นว่านุชาเงยหน้าขึ้นมอง แต่ไม่ได้รับเงินยื่นส่งให้

“นี่...ถ้าน้ำใจมันมีค่าเท่ากับเงินแค่นั้น ก็อยากจะรับไว้หรอกนะ”

ขอโทษ

คือ เอ่อ คือว่า....

ไม่ได้จะหมายความอย่างนั้น แต่ว่ามารบกวนก็เกรงใจ แค่มาขอค้างด้วยก็ถือว่ามากพอแล้ว นี่ยังจะเป็นภาระในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อีก แบบนี้ไม่ว่าจะมองยังไงไงก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ขอกันกินมากกว่านี้น่าคุณซ้ง....”

เป็นคำปฏิเสธที่ทำให้ซ้ง ต้องนิ่งอึ้ง

ยืนนิ่งมองคนที่ยังสนใจกับเอกสาร และตั้งหน้าตั้งตาอ่านอย่างเต็มที่ไม่มีเว้นแม้บรรทัดเดียว

นุชา....เป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ เพี้ยน ๆ และชอบทำตัวแปลก ๆ ชอบหยอกชอบแกล้ง และชอบพูดจาประหลาด

แต่สิ่งที่ได้รับรู้ในเวลานี้คืออีกด้านที่ไม่เคยได้เห็น

นุชาเป็นคนมีน้ำใจ แม้จะชอบทำหน้ามึน และแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องบางอย่างบ่อย ๆ

แต่ในเวลานี้ เมื่อได้รู้จักกันเพิ่มขึ้น นุชาเป็นคนมีน้ำใจ และใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนอื่น แม้จะไม่ได้สนิทสนมกันมากมาย

“นุชา”

เรียกชื่อคนที่นั่งอยู่และเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมอง ซ้งก็ได้แต่พูดออกมาเสียงเบา

“เอ่อ ขอบ...ขอบคุณจริง ๆ นะ”

อืมมมมม

ไม่เป็นไรหรอกคุณซ้ง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะมาเกรงใจอะไรกับเรื่องแค่นี้
ไม่ได้สำคัญหรือใหญ่โตอะไรเลย ทำให้คุณซ้งนี่ ไม่ได้ทำให้ใคร ยังไงมันก็เป็นหน้าที่อยู่แล้ว

“ทำให้แฟนก็ต้องแบบนี้แหละ เรื่องปกติ”

ตอบกลับและยิ้มใส่หน้าคนที่ยืนอยู่และกำลังเก็บธนบัตรเข้ากระเป๋า

“น้ำใจลื้อมีค่าแค่ห้าสิบตังค์ ไม่เต็มบาท เอาไปเลย ว่าจะให้เยอะกว่านี้ แต่เอาไปแค่นี้พอ ขอคืนคำแล้วกัน ที่พูดไปเมื่อกี้ถือว่าไม่ได้พูด”

มีเศษเหรียญห้าสิบสตางค์วางอยู่บนโต๊ะที่นุชากำลังอ่านเอกสาร

คราวนี้คนที่ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินแค่ห้าสิบสตางค์ ถึงกับขำไม่ยอมหยุด เมื่อเห็นคุณซ้งเบะหน้าใส่ คาดว่ากำลังงอน และในเวลานี้กำลังเดินลิ่ว ๆ คว้าผ้าขนหนูที่แขวนไว้เดินเข้าห้องน้ำไป

นุชาก็เลยได้แต่ขำไม่ยอมหยุดอยู่คนเดียว

ไม่ชอบจริง ๆ นั่นแหละ

แกล้งหยอกแบบนี้ไปทีไร เห็นทำหน้าบูดหน้าบึ้งหน้าหงิกหน้างอขึ้นมาทันที

ก็ไม่ได้หวังอะไร แค่ขยับฐานะจากคนรู้จักมาเป็นเพื่อนกันแบบห่าง ๆ แบบนี้ก็ถือว่าพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว

ส่วนเรื่องที่แกล้งพูดไป แม้แต่คิดยังไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ
เรื่องแบบนั้นมันไกล เกินไป มันห่างไกลเกินไป ไกลจนเกินกว่าจะนึกถึง

ตีสองแล้ว แต่งานยังไม่เสร็จ

นุชาปิดปากหาวนอนและเงยหน้ามองที่หน้าจอโทรทัศน์ที่ยังมีรายการบันเทิงเปิดค้างเอาไว้

รายการอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อหันไปมองคนที่ขึ้นไปนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม

ไปซะแล้ว คุณซ้ง
หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าขนาดหลับมือยังกำรีโมทเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

ใครเขาจะแย่ง ยกให้แล้ว ก็ดูอยู่คนเดียว

ลุกขึ้นยืนและขยับร่างกายไปทางซ้ายและขวาเพื่อคลายจากความเมื่อยล้า
ปิดแฟ้มและลากโต๊ะพับเล็ก ๆ ให้ย้ายไปอยู่ที่หน้าโทรทัศน์เพื่อให้มีพื้นที่เหลือสำหรับเดินได้สะดวก ดึงรีโมทออกจากมือคนที่นอนหลับสนิทมาถือเอาไว้ และกดปิดรายการโทรทัศน์

กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ
ง่วงนอน เพ่งมองเอกสารจนล้าไปหมด อยากจะพักผ่อนเต็มที

เห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงนอนกอดอก และตะแคงคุ้ดคู้เหมือนรู้สึกหนาว ก็เลยต้องดึงผ้าห่มที่ตกอยู่ข้างเตียงมาคลุมให้คนที่นอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องแล้วก็ยืนมองอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น

ยืนมองนิ่ง ๆ และเริ่มครุ่นคิดพิจารณาบางอย่าง

เคยคิดว่าคล้าย

เคยคิดมาตลอด

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ได้เรียนรู้ได้สัมผัส ได้ใกล้ชิด ความคิดที่ว่าคล้ายเริ่มเลือนหายไปอย่างช้า ๆ

คุณซ้งก็คือคุณซ้ง

คุณซ้งไม่ใช่......คนนั้น

เคยหลอกตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว

บางอย่างของคนที่นอนหลับนิ่งสนิทอยู่ มันอบอุ่น แม้จะไม่ได้พูดคุยกันมากมาย แต่กลับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น

คนบางคน แม้จะไม่ได้พูดจากันดี ๆ หรือพูดคุยกันบ่อยครั้ง

แต่ทุกครั้งที่ได้เจอได้พูดคุยกัน กลับทำให้รู้สึกดีได้อย่างน่าประหลาด
เหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน มีบางอย่างที่เราต่อกันติด

แปลกที่เราเข้าใจกันยิ่งกว่าคนที่พูดคุยกันบ่อย ๆ บางคนด้วยซ้ำ
ทั้งที่ในระหว่างนั้น เรากำลังทะเลาะกัน

นุชายืนมองใบหน้ายามหลับใหลของคนที่นอนอยู่บนเตียงอยู่นาน
ก่อนจะก้าวขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูและเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ

ไม่ทันสังเกตว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มมีอาการกระสับกระส่ายและขมวดคิ้วมุ่น

พลิกร่างกายไปอีกทาง และเหมือนว่า ระหว่างการหลับนั้นกำลังเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น

“คุณซ้ง คุณซ้งเป็นอะไรคุณซ้ง”

มีบางอย่างไม่ปกติ

เรียกชื่อคนที่เหมือนนอนหลับสนิทแต่มีท่าทางกระสับกระส่าย และเริ่มพูดบางอย่างที่ได้ยินไม่ชัด

เข้าใจว่านอนละเมอ แต่ท่าทางแบบนี้เหมือนกำลังฝันอยู่
และไม่น่าจะฝันดี

ปลุกแล้วแต่ก็ไม่ยอมตื่น

“คุณซ้ง....คุณซ้ง”

เรียกอีกหลายครั้ง และเขย่าให้คนที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัว

“หม่าม๊า หม่าม๊า”

“ไม่ใช่หม่าม๊าคุณซ้ง นี่นุชา ไม่ใช่หม่าม๊า”

เห็นอาการผวา และปรือตาตื่นขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วของคุณซ้ง
คราวนี้นุชาก็เลยตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น

สายตาของคนที่สะดุ้งตื่นมองไปทั่ว ๆ ห้อง และเงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้าในเวลานี้

ไม่ได้พูด ไม่มีคำพูดออกมาสักคำ

นอกจากการที่อยู่ดี ๆ คุณซ้ง ก็เริ่มหันหน้าหนีไปอีกทาง
และ.....หยดน้ำมากมายเริ่มหลั่งรินลงมาที่ข้างแก้ม
คนตัวโตยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่รินไหลไม่ยอมหยุด

แต่คนที่เห็น ใจหายวูบ และถึงกับทำอะไรไม่ถูก

“คุณซ้ง...เป็นอะไร”

ละล่ำละลักถามและก้าวขาขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง พยายามจะแตะฝ่ามือไปที่ใบหน้าของคนที่หันหนีให้หันมาเผชิญหน้ากัน แต่คุณซ้งก็เอาแต่หันหนีและยกหลังมือขึ้นเช็ดหยดน้ำตาที่ยังเช็ดก็ยิ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล

“ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรนุชา ไม่เป็นไร”

ไม่เป็นได้ยังไง

ก็เห็นอยู่ว่าร้องไห้ ไม่เป็นได้ยังไงคุณซ้ง แล้ว....ทำไมตัวสั่นแบบนั้น
ทำไมถึงได้....

เห็นชัดเจน

อาการไม่เป็นตัวของตัวเอง บางอย่างที่เห็นชัด

แม้ว่าอีกฝ่ายจะหลบสายตาและยังยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาไม่หยุด แต่นุชาก็สัมผัสได้ถึงความปวดร้าวรุนแรงที่ส่งผ่านมากับเสียงสะอื้นในลำคอของคนที่พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ ไม่ยอมให้ได้รับรู้ให้ได้เห็น

“คุณซ้ง....”

นิ่งมอง และไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี สงสาร เห็นแล้วน่าสงสารจนทำเป็นเมินเฉยไม่ได้

ไม่ใช่คุณซ้ง....คนที่เห็นอยู่ในเวลานี้ไม่เหมือนคุณซ้ง

คนนี้ไม่ใช่คุณซ้ง แต่เป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่กำลังพยายามต่อสู้กับความรู้สึกบางอย่าง

ต่อสู้เพียงคนเดียวลำพัง
และไม่ยอมเอ่ยปากบอกใคร

บางทีมันอาจเป็นการต่อสู้เพียงลำพังที่ยาวนานเกินไป

“กลางคืนนา บางทีอีนอนคนเดียวม่ายล่าย น่าสงสาร บางทีร้องไห้ อาม่าก็ม่ายรู้จาทำยางงาย”

เคยได้ยิน แต่ไม่ค่อยเชื่อ

เคยได้ยิน แต่ไม่อยากเชื่อ

เคยได้ยิน แต่ในเวลานี้ แม้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

คุณซ้งตัวโตกว่าก็จริง แต่ตอนนี้คุณซ้งเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
ที่ไม่ว่าใครเห็น ก็ไม่มีทางจะปล่อยทิ้งเอาไว้แบบนี้ได้

เห็นคนบางคนเอาแต่หันหน้าหนี เป็นนุชาเองที่เป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้
และรั้งร่างของคนที่นั่งร้องไห้เงียบ ๆ เข้ามาโอบกอดเอาไว้

รู้สึกถึงการขืนตัวออก แต่เมื่อกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
คราวนี้กลายเป็นคนที่ไม่ยอมให้กอดในคราวแรก เป็นฝ่ายยกแขนขึ้นกอดตอบนุชาซะเอง

ฝ่ามือเรียวลูบไล้ไปที่แผ่นหลังของคนที่ยังสะอื้นไห้ไม่ยอมหยุด
และเอ่ยบอกเสียงเบา ๆ ซ้ำ ๆ

ความรู้สึกสงสารจับใจ ทำให้นุชาต้องทั้งกอด ทั้งพูดปลอบประโลมด้วยคำพูดเท่าที่สมองจะคิดได้ในเวลานั้น

“คุณซ้ง....คุณซ้ง....นุชานะคุณซ้ง นี่นุชาไม่ใช่หม่าม๊า ไม่เป็นไรคุณซ้ง
ถึงไม่มีหม่าม๊า แต่ตอนนี้มีนุชาอยู่นะ ไม่เป็นไรคุณซ้ง ไม่เป็นไร”





TBC...

 


:bye2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คำพูดปลอบใจ † [30/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 03-04-2012 00:03:24
หนูนุ่น กับหนูซ้ง น่าร๊ากกก หนูซ้งแอบไปรู้ชื่อเล่นหนูนุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ใครบอกกันนะ
ความใกล้ชิด ทำให้หนูซ้ง ยอมเปิดใจให้นุชาบ้างแล้วสินะ
นุชาเองก็ลืมแฟนเก่าไ้ด้แล้วนะ หนูซ้งออกจะน่าสงสาร
ลุ้นกับความซึนของหนูซ้งจริงๆ

อะ  :L2:  :L1:  ให้ คนโพส และคนเขียน
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คำพูดปลอบใจ † [30/03/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 05-04-2012 00:11:28
เพิ่งอ่านจบสด ๆ เรย ตามทันแล้ว แล้วก็อยากอ่านต่อกระทันหัน
คุณซ้งเริ่มเปิดใจให้นุชามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว คนอะไรปากแข็งชะมัด
เอาเข้าจริงจะรักนุชาก่อนที่นุชาจะรักคุณซ้งซะอีกแน่ะ นุชาอ่ะเห็นแบบนี้ดูจะใจแข็งนะ...
คุณซ้งน่ารัก...นุชาก็น่ารัก...อาม่ากิมก็น่ารัก...อยากให้เป็นครอบครัวเดียวกันที่ซู้ด

รอมาต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † มึน † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:13:59



ตอน มึน



ความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยคือการที่ยอมให้ใครบางคนเห็นความอ่อนแอได้ง่าย ๆ

ไม่ควรให้ใครเห็น ไม่ควรให้ใครรับรู้ด้วย

ไม่ควรเลย

แต่ก็ทำไปแล้ว บังคับตัวเองไม่ได้ เพราะว่าหัวใจมันอ่อนล้า
ทำยังไงก็ไม่สามารถสงบใจลงได้ พยายามฝืนพยายามบังคับตัวเองและตั้งสติแต่ไม่ว่ายังไงน้ำตาก็ไม่ยอมหยุดไหล

ร้องไห้ให้นุชาเห็น ทั้งที่ไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ ไม่ควรเป็นนุชาที่จะได้เห็น
ไม่ควรเลยจริง ๆ

ตื่นขึ้นมาและพบว่านอนหลับไปโดยมีอ้อมแขนของใครบางคนโอบกอดเอาไว้
ยอมรับว่าความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับ มันทำให้สงบใจลงได้ ทำให้ความปั่นป่วนสับสนในหัวคลี่คลายลง

ทั้งที่หวาดกลัว และรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้ง
แต่เมื่อได้รับอ้อมกอดจากใครบางคน ทั้งที่อยากจะผลักไส พยายามจะฝืนและขืนตัวออกห่าง แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนยันว่าไม่ยอมปล่อย และยังพยายามโอบกอดเอาไว้ ปลอบประโลมด้วยถ้อยคำง่าย ๆ แต่อุ่นวาบไปถึงหัวใจ เพียงเท่านั้นก็ยึดอ้อมแขนนั้นมาเป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ

หัวใจที่เคยแห้งผากและอ่อนล้ากลับชุ่มชื่นขึ้น และเหมือนกับว่ามีใครสักคนฉุดขึ้นมาจากความมืดมิดให้ได้พบกับแสงสว่างรำไร

แสงสว่างที่ไม่เคยพบเห็นมานาน
แสงสว่างเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกถึงความหวัง
รู้สึกถึงพลังบางอย่างที่จะช่วยให้สามารถก้าวขาเดินออกมาจากความมืดที่ลึกสุดในหัวใจ

รู้สึกตัวตื่นขึ้นและเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังนอนหลับอยู่ข้างกาย

นิ่งมองใบหน้าเนียนขาวนั้นชัด ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับสายตา อยากเห็นภาพตรงหน้าให้ชัดขึ้น ยิ่งจ้องมอง ยิ่งรู้สึกถึงความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้น
ภายในใจมันเคยสงบมานาน

นิ่งสงบและไม่เคยมีความรู้สึกใด ๆ นอกจากความหวาดกลัวลึก ๆ

นุชา .....
คนที่ทำให้สงบลงและหยุดร้องไห้ได้เมื่อคืนที่ผ่านมา
เป็นนุชาจริง ๆ

นุชาคนที่ชอบแกล้ง ชอบพูดจากวน ๆ ชอบทำให้หัวเสียอยู่บ่อย ๆ
แต่เมื่อรู้สึกว่าหัวใจกำลังจะทนไม่ไหว เหมือนมันจะระเบิดออกมาในวินาทีนั้น
บางอย่างที่กักเก็บไว้ภายในหัวใจ กำลังจะประทุออกมา
แต่ก็เป็นนุชา เพราะความอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ได้รับจากนุชา

ทั้งหมดที่ได้จากนุชา มันช่วยลดความเจ็บปวดภายในหัวใจได้

ไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้ แต่ในความรู้สึกดี ๆ กลับมีความรู้สึกบางอย่างเพิ่มขึ้นมาด้วย

ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ ว่าอาการไหววูบในอกทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิด
ทุกครั้งที่ได้มองหน้า ทุกครั้งที่ได้พูดคุย ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่รู้จริง ๆ ว่ามันคืออะไร อยากจะหาคำตอบ แต่ทุกครั้งที่พยายามจะหา สมองก็บอกให้เลิกคิด

ลืม พยายามลืม และความรู้สึกนั้นมันก็หายไปทุกครั้งที่พยายามลืม เป็น ๆ หาย ๆ กลับมาเป็นพัก ๆ ทุกครั้งที่ได้พบ ได้เห็นหน้านุชา

ไม่ได้รู้สึกแย่ แต่รู้สึกเป็นสุขเล็ก ๆ

ซ้ง ขยับร่างกายออกห่างคนที่ยังหลับใหล ลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ
นิ่งจ้องมองไปที่ใบหน้ายามหลับของคนที่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง

ห้ามตัวเองไม่ได้

ห้ามความรู้สึกไม่ได้

ปลายนิ้วแตะเบา ๆ ไปที่ข้างแก้มเนียนขาว เกลี่ยไล้เล่น

แต่ก็ต้องรีบดึงมือกลับทันที เมื่อรู้สึกถึงความเป็นตัวเองกำลังหายไป เหมือนถูกดึงให้เข้าไปหา และต้องเรียกสติให้กลับมาทุกครั้ง

“ทำบ้าอะไรอยู่วะ”

ด่าตัวเอง และรีบลุกขึ้นจากเตียง

ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสับสน คิดไม่ออกว่าความหวั่นไหวที่เป็นอยู่มันเกิดขึ้นเพราะอะไร

ขออย่าให้ใช่ อย่างที่เคยกลัว

อย่าให้เป็นอย่างที่เคยกลัวมาตลอด อย่าให้ความรู้สึกนี้คือสิ่งที่เคยเลี่ยงและพยายามวิ่งหนีมาตลอดชีวิต

ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย

เพราะถ้าหากเป็นแบบนั้น....

“คิดอะไรวะ ไม่มีทางหรอก หน้ามึน ๆ แบบนี้เหรอ ไม่มีทางแน่ ๆ”

สะบัดหัวไล่ความคิดบ้า ๆ ให้ออกไปจากหัว และเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น และหวังว่าเมื่อร่างกายสดชื่นแล้ว คงจะช่วยหยุดความคิดฟุ้งซ่าน และสลัดความรู้สึกบ้า ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นลงไปจากสมองได้บ้าง

“คุณซ้งลืมอะไรหรือเปล่า”

ลืม……

ลืมอะไร ไม่มีนะ ไม่ได้ลืม ไม่มีอะไรลืม ไม่น่าจะมี....คิดว่าคงไม่มี

หันไปมองคนที่เอ่ยถาม แล้วซ้งก็ส่ายหน้า
หลบสายตาของนุชาที่มองมา และรีบก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมพูดไม่ยอมคุย
เดินเรื่อย ๆ ลงมาข้างล่าง และเดินไปที่รถที่จอดเอาไว้

จะเปิดประตูรถ และเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ลืมกุญแจ

ให้มันได้อย่างนิ้สิวะ เป็นอะไรนักหนา ลืมนั่นลืมนี่ ลืมได้ลืมดี

“ไหนว่าไม่ลืม”

กุญแจรถถูกยื่นส่งให้ และซ้งก็แบมือรับกุญแจเอาไว้

ถือกุญแจที่ได้รับและเอาแต่นิ่งมองกุญแจในมือ

เงยหน้ามองคนที่ส่งกุญแจให้ สลับไปมากับการมองที่มือตัวเอง

ท่าทางเหม่อ ๆลอย ๆ นิ่งเงียบผิดปกติทำให้นุชาขมวดคิ้วมุ่น และรู้สึกไม่ไว้วางใจกับท่าทางที่ไม่ปกติของคนตรงหน้า

“ไหวมั้ยคุณซ้ง”

เอ่ยถาม แต่ไม่ได้คำตอบ เพราะคนที่ต้องตอบคำถาม ยังยืนนิ่งมองกุญแจในมือไม่ได้ฟัง ไม่ได้สนใจคนที่มายืนอยู่ด้วยว่ากำลังพูดอะไร

เหม่ออีกแล้ว

คิดอะไรอยู่

จิตใจล่องลอยไปถึงไหนแล้ว

สติมีหรือเปล่า ทำไมถึงได้นิ่งเฉย และทำเหมือนกับว่าอยู่ในโลกของตัวเองคนเดียวแบบนี้

“คุณซ้ง ไหวมั้ยถามจริง ๆ นอนไม่พอหรือไง หรือว่าตัวร้อน”

ยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของคนที่ยังยืนนิ่ง และคราวนี้เหมือนว่าคุณซ้งเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีใครยืนอยู่ด้วย

รีบถอยหนีออก ไม่ยอมให้แตะที่หน้าผาก ขมวดคิ้วและจ้องมองใบหน้าของนุชาด้วยความสับสน

“อะไรวะ ทีเมื่อคืนร้องไห้แง ๆ ให้เรากอด เช้ามาทำเป็นเมินเฉยห่างเหิน สามนาทีจาก ก็จะเป็นอื่นแล้วเหรอคุณซ้ง”

ไม่คิด

ไม่ทันคิด

ทำเหมือนทุกวัน หยอกล้อเหมือนทุกวัน แกล้งให้โมโหเหมือนทุกวัน

แต่วันนี้คนที่เคยด่า กลับยืนนิ่งเงียบ และรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง

อ้าว

ทำไมทำแบบนั้นล่ะ โกรธจริงๆ เหรอ
ปกติก็เห็นโกรธอยู่บ่อย ๆ แต่แปลกที่คราวนี้ไม่มีด่ากลับ

ขมวดคิ้ว ทำหน้าบึ้ง และไม่ยอมพูดด้วยเลยสักคำตั้งแต่เช้าถามอะไรก็ไม่ยอมพูด ชวนคุยก็ไม่ยอมคุย อาบน้ำเสร็จก็จะกลับบ้านอย่างเดียว

ชวนไปกินข้าวเช้าด้วยกันก็ไม่ยอมไป

เป็นอะไรของเขาวะ

จะว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน ก็ไม่น่าจะใช่.....

เรื่องเมื่อคืน.......เห็นแล้วก็ได้แต่คิด อะไรที่ทำให้คุณซ้งที่เมินเฉย ปากร้าย ร้องไห้ได้ถึงขนาดนั้น รู้สึกถึงความทุกข์ใจ ความเจ็บปวดที่มากับหยดน้ำตา

คุณซ้ง.....ถ้ามันทุกข์มากมายขนาดนั้น แบ่งมาบ้างก็ได้
ความทุกข์ใจนั้นน่ะ ถึงแม้จะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้าแบ่งมาทางนี้ได้บ้าง
ก็อยากให้ทำนะ อย่าเก็บมันไว้ในใจเลย ความเจ็บปวด ยิ่งเก็บมันก็ยิ่งเยอะ มันยิ่งเพิ่มขึ้นทุกนาที คนอื่นไม่ได้เจ็บปวดกับเราด้วย มีแต่เรานั่นแหละที่แบกเอาไว้คนเดียว เป็นทุกข์ใจ เสียใจร้องไห้อยู่คนเดียว โดยไม่มีใครมารับรู้ด้วย

ถ้าปล่อยมันไปไม่ได้ ก็พยายามอยู่กับมันอย่างเข้าใจเถอะ
อยู่กับมัน หรือถ้าอยากจะแบ่งมา ก็จะรับไว้ให้จริง ๆ นะคุณซ้ง

“คุณซ้ง....อย่างน้อยในเวลาแบบนี้คุณซ้งก็ไม่ได้ร้องไห้ไม่ใช่เหรอ ถ้าวันไหนฝันแล้วร้องไห้มันก็ไม่เป็นอะไรหรอก บางคนนะคุณซ้ง ร้องไห้ทั้งในความจริงทั้งความฝัน พยายามลืม ๆ มันไปบ้างแล้วแต่มันก็แวะเวียนมาทำให้ร้องไห้อยู่บ่อยๆ ไม่ชอบเลยเนอะ ความทุกข์ที่แบกเอาไว้ไม่ยอมวางเนี่ย”

เรื่องบางอย่าง คำพูดบางอย่าง ซ้งไม่เข้าใจ
แต่เมื่อหันกลับมามอง และพยายามจะเข้าใจกับสิ่งที่นุชาพูดก็ทำให้ต้องนิ่งคิดตาม

ดวงตาที่เคยสว่างไสวและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ กลายเป็นหมองเศร้าลงในทันที

แม้ในความจริงและความฝันก็ยังร้องไห้อยู่เหรอ

เรื่องแบบนั้นไม่เคยรู้หรอก แต่.....ก็อยากจะรู้ว่า....เรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจและร้องไห้ได้ทั้งในความจริงและความฝันของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันคือเรื่องอะไร

“คุณซ้งไม่ใช่คนเดียวในโลกที่ร้องไห้หรอก เพราะฉะนั้นเรื่องร้องไห้แค่นี้ เวลาเอามาล้อคุณซ้งมันไม่เห็นจะสะใจตรงไหน สู้หาเรื่องอื่นมาล้อน่าจะสนุกว่าตั้งเยอะเนอะ”

กวนประสาท และหาเรื่องให้ตายได้แต่เช้าจริง ๆ นะนุชา

แต่เพราะนิสัยแบบนี้ เพราะคำพูด เพราะท่าทางแบบนี้แหละ
เวลาที่ได้อยู่ด้วย แม้จะทะเลาะแม้จะโมโหใส่อยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยทำให้รู้สึกอึดอัดใจเลยสักครั้ง

“หาเรื่องตายนะลื้อนุชา แล้วเอ่อ วันนี้จะไปวิ่งที่สนาม....ด้วยกัน...มั้ย”

หือ

ไปวิ่งด้วยกันเหรอ

จะไปได้ยังไง วันนี้วันเสาร์แล้ว ถ้าไปแล้วพรุ่งนี้นั่งรถกลับมา ดูท่าจะไม่ไหว
อะไรก็ยังไม่ได้ทำ งานก็ยังไม่เสร็จ จะไปได้ยังไง

“ศุกร์หน้าถ้าเคลียร์งานเสร็จก็....อาจจะไป”

ตอบออกไปแล้ว และไม่ทันได้สังเกตสีหน้าและแววตาของคนที่รอคอยคำตอบ

“แต่ถ้างานไม่เสร็จก็คงจะยาวเลย”

ไม่มีความหวังให้กันเลยสักนิดหรือไงวะนุชา

นุชาตอบไปโดยไม่ทันคิด แต่คนฟัง เกิดอาการใจแป้วขึ้นอย่างกะทันหันแอบลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความผิดหวัง

“แล้วจะกลับเมื่อไหร่”

ถามอีกแล้ว
จะถามก็ไม่ว่าหรอก แต่ทำไมต้องทำเสียงดุขนาดนั้นด้วย

เมื่อไหร่เหรอเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ถามทำไมล่ะคุณซ้ง ปกติเห็นขับไล่ไสส่งสาปแช่งสารพัดให้ไปที่สนามไม่ได้ แล้ววันนี้เป็นอะไร เกิดจะอยากให้ไปขึ้นมาซะอย่างนั้น แปลกคนขึ้นทุกวัน

“ไม่รู้สิ แล้วแต่อารมณ์”

ตอบเสร็จแบบไร้ความคิด และต้องรีบเบิกตากว้าง
เมื่ออยู่ดี ๆ ข้อมือก็ถูกจับเอาไว้ และคนจับก็ทั้งลากทั้งดึงแบบไม่ทันให้ตั้งตัว เปิดประตูรถอีกฝั่งและใช้มือผลักเบา ๆ ให้เข้าไปนั่งอยู่ในรถ

มึน งง สงสัยและไม่เข้าใจ
แต่ก็เข้ามานั่งในรถเรียบร้อย โดยมีใครบางคนเดินอ้อมไปนั่งบนเบาะที่นั่งคนขับ สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งขับออกนอกถนนทันที โดยมีนุชาที่หันมามอง และอ้าปากค้าง และอยากจะถามว่ากำลังทำอะไร แต่ก็มีคนตอบคำถามให้เรียบร้อย

“ชลบุรีแค่นี้ ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็กลับด้วยกันนี่แหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็น ๆ ขับรถมาส่งก็ได้น่า ไม่เห็นจะยาก”

เฮ้ยยยยยยยยย

มันไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่ใช่ง่ายหรือยาก

แต่มัน.......ไม่ใช่แบบนี้

“กระเป๋าตังค์ก็เอามาแล้วนี่ กุญแจห้องก็มีแล้ว จะมาทำหน้างงทำไมกะอีแค่กลับด้วยกัน”

ไม่ใช่ คือแบบนี้มันไม่ใช่

คุณซ้ง คุณซ้ง เฮ้ยยยยยยยยยยย คุณซ้งงงงงงงงงง

“ใจดีใช่มั้ยล่ะ อยากขอบคุณก็รีบบอกมาเถอะ นาน ๆ ทีจะใจดีไม่ใช่ว่าจะใจดีแบบนี้บ่อย ๆ หรอกนะ สัญญาก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาส่ง เลิกทำหน้าตาเลิ่กลั่กแบบนั้นได้แล้ว”

ประเด็นไม่ใช่ใจดีหรือไม่ดี แต่ประเด็นคือคุณซ้งเป็นอะไร

ทำไมพักนี้ถึงมาหา แล้วยังจะโทรบ่อย ๆ แถมยังชอบพูดจาแปลก ๆ อีก
แล้วนี้เกิดใจดีอะไรขึ้นมาถึงได้อยากจะพากลับบ้านด้วย

หรือว่า............ แอบชอบผมอยู่หรือเปล่าคุณซ้ง

ทำแบบนี้มันน่าสงสัยนะ ถ้าชอบกันก็บอกมาตรง ๆ
อย่ามาทำวกไปวนมาแบบนี้ มันไม่ใจเลยรู้หรือเปล่า

ทำแบบนี้มันไม่ใจเลย รู้มั้ยคุณซ้ง ถ้าเกิดอ้อมโลกอยู่แบบนี้
แล้วเมื่อไหร่เราจะได้คบกันซะที
คิดจะจีบคิดจะทำอะไรก็บอกกันมาตรง ๆ เลยดีกว่า
อย่ามาทำตีมึน อย่ามาแกล้งทำเป็นงง อย่ามายืมพฤติกรรมของผมไปใช้แบบนี้
มันไม่ดีนะ ไม่ดี อาการตีมึนผมใช้ได้คนเดียวครับ คุณซ้งห้ามใช้
ห้ามเด็ดขาด เข้าใจมั้ย




TBC...

 


มารวดเดียว 8 ตอน อ่านกันให้เต็มอิ่มคะ :กอด1:

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ชื่อ † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:15:56




ตอน ชื่อ



มอง แล้วก็มอง มองเสร็จแล้วก็หันหน้าไปอีกทาง ผ่านไปไม่ทันไรมันก็หันกลับมามองอีก มองแล้วมันก็อมยิ้ม มันมีอะไรน่าทำให้ยิ้ม มีอะไรทำให้ขำขนาดนั้น วน ๆ เวียน ๆ เป็นแบบนี้มาพักใหญ่ ตั้งแต่ขับรถออกมาแล้ว

บางทีก็หันไปมองนอกกระจกรถ แล้วมันก็ยิ้ม ยิ้มอยู่คนเดียว อมยิ้มบ้าบออะไรอยู่ได้

ถามว่าเป็นอะไร เป็นบ้าหรือไง ก็ไม่ยอมตอบ

ไม่ตอบไม่พอ คราวนี้มันหันกลับมามองหน้า เลิกคิ้วขึ้นสูง แล้วหุบยิ้ม แต่ทำตาวิบ ๆ วับ ๆ และเหมือนพยายามกลั้นรอยยิ้มนั่นมันอะไรกัน

“นุชา”

ทำเสียงดุใส่ และพยายามปั้นหน้าให้ขรึมเข้าไว้
ทั้งที่ใกล้จะยิ้มตามคนแกล้งเข้าไปทุกที
เหมือนอีกฝ่ายจะเชื่อ เหมือนจะฟัง แต่ท่าทางแบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ

ทำอะไรของมันวะ นุชา หยุดทำหน้าแบบนี้ซะที

“ครับ”

“ครับ”

“ครับ มีอะไรให้รับใช้ ยินดีและเต็มใจบริการ ครับพ้ม”

จะขานรับทำไมมากมาย แล้วยังจะยกมือขึ้นมาทำท่าตะเป๊ะอีก
นี่มันเห็นเป็นอะไรวะ ความสำนึกมีบ้างมั้ย ใจคอจะแกล้งยั่วให้เป็นประสาทตายไปเลยหรือไงวะ

“โธ่โว้ยยย”

อ้าวววววววววว

คนอุตส่าห์เชื่อฟัง และยินดีรับคำสั่ง ทำไมถึงได้มาทำหงุดหงิดหัวเสียใส่กันแบบนั้นล่ะคุณซ้ง

ใครใช้ให้ทำหน้าหงิกหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลาล่ะ

ช่วยไม่ได้ อยากทำหน้าแบบนี้ก่อนทำไม
ยิ้มซะหน่อยไม่ได้หรือไง อุตส่าห์มีหน้าหล่อ ๆ เป็นของตัวเองแล้ว
จะทำให้ชื่นใจด้วยการยิ้มหวาน ๆ ให้เห็นบ่อย ๆ ไม่ได้เลยหรือ

“อะไรล่ะโว้ยยย”

เลียนแบบกิริยาอาการของคนที่กำลังทำหน้างอ ทั้งที่ตายังมองทาง
และเหมือนพยายามตั้งสมาธิให้อยู่กับการขับรถ

แล้วคราวนี้นุชาก็เลยยิ่งยิ้มร่ามากขึ้นกว่าเดิม

น่ารักจริงจังนะคุณซ้ง

งอนอะไร แหย่นิดแหย่หน่อย โมโหง่ายขนาดนี้ มันยิ่งน่าแกล้งไม่รู้บ้างหรือครับคุณซ้ง

“ชอบก็จีบเลย ชอบก็จีบเลยเซ่ ชูวับ ชูวับ”

เปล่า

ไม่ได้มีความหมายแฝงนะ แค่ร้องเพลงเฉย ๆ
เพลงมันน่ารัก ออกจะไพเราะเพราะพริ้ง ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องจีบ ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าชอบ......อย่าเก็ก อย่ามาทำเป็นกั๊ก ถ้าคิดจะกิ๊กกันก็รีบ ๆ
ช้าจะอด หมดใจไม่รู้ด้วยนะ

“นุชา”

เอ้า

อะไรวะ ร้องเพลงก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ ห้ามยิ้ม ห้ามชวนคุย ห้าม ห้าม ห้าม
ห้ามชอบด้วยเลยมั้ยล่ะ เดี๋ยวจะจัดให้

“ครับ ครับ ครับ”

ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง และคราวนี้หันไปนั่งจ้องหน้าคนที่กำลังขับรถ
เท่านั้นยังไม่พอ นุชายกแขนขึ้นมาท้าวคางและจ้องมองคนที่ชอบทำหน้ายุ่งอยู่ตลอดเวลา

กระพริบตาปริบ ๆ และเริ่มอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก

สังเกตใบหน้าและท่าทางที่เหมือนกำลังไม่เป็นตัวของตัวเองของคุณซ้งแล้วยิ่งอยากจะหัวเราะดัง ๆ

“ชอบก็บอก อย่ามาแกล้งมึน”

ไอ้.......

โธ่โว้ยยยยยยยยยยย คิดผิดจริง ๆ ที่บ้าพาไอ้ตี๋นุชาหน้ามึนมาด้วย
มันเห็นเป็นของเล่นสนุกหรือไง ถึงได้พูดจาบ้าบอเพ้อเจ้ออยู่ได้ตั้งแต่ออกมาแล้ว

แล้วนี่อะไร พยายามทำอะไรของมันอยู่ คิดจะทำให้เป็นโรคประสาทตามมันไปด้วยหรือไง

แล้วยังเพลงบ้า ๆ บอ ๆ พวกนั้นอีก

คิดอะไรของมันอยู่กันวะ จีบบ้าจีบบออะไร

หน้าตาแบบนี้ นิสัยแบบนี้ เพ้อเจ้ออะไรอยู่ ถ้าไม่ได้ทำให้ปวดหัวมันคงจะลงไปชักดิ้นชักงอตายสินะ

“ถ้าลื้อไม่หยุดพร่ำ ก็ลงไปเลย”

อ้าว

อะไรวะ ลากกูมาถึงนี่ จนจะถึงบ้านอยู่แล้ว พอทีนี้จะไล่ลงจากรถเฉยเลย
นี่กูขอมากับคุณหรือครับคุณซ้ง ลากผมมาเองไม่ใช่เรอะ

ความผิดกูหรือครับนี่
แกล้งหลับมันเลยดีกว่า แม่งงงงงงงงง

“นุชา”

ซ้งเรียกคนที่หันหน้าไปเอนซบกระจกรถและหันหนีไปอีกทาง

แกล้งหลับชัด ๆ แกล้งกันเห็น ๆ นี่ใจคอจะมึนกันต่อหน้าตาตาแบบนี้เลยใช่มั้ย

“ไม่ต้องเรียก หลับแล้ว ห้ามรบกวน”

อ่า

ไม่ต้องเรียก ห้ามรบกวนเหรอ

“นุชา”

บอกว่าไม่ต้องเรียก อย่าเรียก ไม่ต้องมาเรียก ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อย
ทีเมื่อกี้ยังดุได้ดุดี เอ็ดอยู่นั่น แล้วยังจะหาว่าพร่ำอีก

ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ

ก็เห็นทำหน้าหงิกอยู่ได้ อยากให้บรรยากาศมันดี ๆ หน่อย
นี่ก็พาแต่จะทำหน้าหงิกอยู่นั่น เออออออออ ไม่ชอบก็ไม่ว่า แต่อย่ามาทำเหมือนมีใจสิวะ คิดนะเนี่ย เข้าใจมั้ยว่าคิด

“นุ่น......”

เออออออออออออออ

เยี่ยมเลยยยย

เรียกเข้าไป ไอ้ชื่อทุเรศ ทุเรศนั่น เรียกเข้าไปสิวะ ไม่ชื่อนี้บ้างก็แล้วปายยยย

ใช่เซ่ ชื่อตลกนี่ ก็เลยเรียกได้เรียกดี เห็นเป็นจุดอ่อนเอาไว้ล้อ สนุกตายเลยใช่มั้ยล่ะ

“นุ่น นุ่น นุ่น”

เอาเล้ยยยยยยยยย
ตามสบ้ายยยยยยยยยยยยยย เรียกได้เรียกไป อย่าให้เล่นคืนบ้างแล้วกัน
แล้วจะร้องไม่ออก

“ถ้าเรียกชื่อนี้อีกคำเดียว โกรธจริงนะ”

น้ำเสียงนิ่ง ๆ เย็น ๆ และท่าทางนิ่งเงียบ
ทำให้ซ้ง ต้องหันกลับไปมองคนที่แกล้งหลับหัวพิงกับกระจกอีกครั้ง

โกรธ ถ้าเรียกอีกจะโกรธ

แค่โกรธ

มีอะไรน่าสน

ไม่เคยคิดจะสนใจ จะโกรธหรือไม่โกรธ หรืออยากจะทำอะไรก็ไม่มีผลอยู่แล้ว
แล้วทำไมต้อง...สนใจด้วย...

ทำไมต้อง....รู้สึกผิด รู้สึกไม่ดี ที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ชอบหรือไม่พอใจ

“นุชา”

เรียกชื่อรอบที่ร้อย แต่น้ำเสียงเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เรียก
นุชางั้นเหรอ นุชา......ทำไมถึงอยากเรียก ทำไมชื่อนี้ถึงแว่บเข้ามาในหัวเสมอ ๆ และเผลอพูดเผลอเรียกออกไปบ่อยๆ

“ครับ”

มีเสียงตอบกลับมา ทั้งที่คนตอบยังแกล้งหลับ

น่าแปลกที่เมื่อซ้งหันไปมองเจ้าของชื่อ กลับทำให้ต้องลอบยิ้มออกมา

กำลังขับรถ และสาตากำลังมองถนน

แต่ต้องรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เพราะกลัวว่าคนที่แกล้งหลับจะตื่นขึ้นมาและมานั่งท้าวคางจ้องหน้ากันเหมือนเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว

ทำไมล่ะ

ทั้งที่บอกว่าจะโกรธ ทั้งที่ไม่ชอบ แต่ก็ยังขานรับ เวลาที่เรียกชื่อ

ทำไม......

“เรียกอีกครั้งสิ”

หือ

เรียก...

เรียกใคร....เรียก....

ได้ยินชัดว่าคนที่แกล้งหลับพูดว่าอะไร
คราวนี้ซ้งเลยรีบหุบปากเงียบ และพยายามบังคับหน้าไม่ให้แสดงท่าทางแปลก ๆ ออกไป

เรียกอีกครั้ง

เรียกทำไม ทำไมต้องเรียก

ไม่เห็นต้องเรียก ไม่เห็นจำเป็น ไม่จำเป็นเลยสักนิด

“คุณซ้งงงงง คุณซ้ง”

เฮ้ยยยยยยย

อีกแล้ว นุชามันหาเรื่องให้โมโหอีกแล้ว คราวนี้มันลืมตาตื่นขึ้นและหันมามองหน้ากันตรงๆ อีกแล้ว มองแล้วมันก็ลากเสียงยาว ๆ แล้วยังมาเรียกกันด้วยน้ำเสียงชวนกวนประสาทแบบนี้อีกแล้ว

“ครับสิ ครับ ครับ ครับ ครับ อุตส่าห์เรียกแล้วคุณซ้งก็ต้องตอบว่าครับสิ”

ไม่

ไม่มีทาง อย่ามาทำอะไรเพ้อเจ้อแถวนี้ ไม่มีทางบ้าตามอยู่แล้ว
อย่ามาหาเรื่องให้โมโห ขอร้อง อย่ามาทำให้เป็นบ้ามากไปกว่านี้

“ชายังขานเลยนะ ตอนที่พี่เรียก”

ชา......

และพี่.....

พี่ที่ไหน ใครคือชา

นุชาที่อยู่ในอาการนิ่งตะลึงค้างกับสิ่งที่ตัวเองพูด
หัวใจกระตุกวูบ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรออกไป

พูดผิด

มีบางอย่างผิดปกติ
มีบางอย่างที่ไม่สมควรพูด

มีบางอย่างที่ไม่ควร

นิ่งอึ้ง
ไม่พูดไม่ล้อเล่น ไม่ทำเหมือนที่เคยทำ

พี่....ทำไมถึงยัง....

“ชา”

ได้ยินเสียงเรียกชื่อ

ไม่ใช่นุชาเหมือนทุกครั้ง แต่เป็นชื่อเล่นที่เคยมีคนเรียกเมื่อนานมาแล้ว
และเมื่อหันกลับไปมองคนที่เรียก ก็ได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังขมวดคิ้วมุ่น และหันกลับไปสนใจกับการขับรถอีกครั้ง

น้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ท่าทางนิ่งเงียบ และบรรยากาศชวนอึดอัดที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้นุชาต้องก้มหน้าลงมองที่มือของตัวเอง ที่เริ่มกำแน่น

ไม่ได้ขานรับ

ไม่ได้ตอบกลับ แต่นิ่งเงียบ

นุชาเงียบ
และซ้งเองก็ไม่ต่างกัน

มีบางอย่างที่ต่างฝ่ายต่างกำลังครุ่นคิด

นุชากำลังคิดเรื่องบางอย่างที่ผ่านเลยมาแล้ว และซ้งเองก็กำลังคิดเรื่องที่ไม่ควรคิด

“คุณซ้งจอดรถข้างหน้าก็ได้ เดี๋ยวผมนั่งรถเข้าไปเอง ไม่ต้องลำบากไปส่งถึงบ้านหรอก ไม่อยากรบกวนมากไปกว่านี้แล้ว”




TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ถาม † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:17:56



ตอน ถาม



“หิวข้าวมั้ย”

ไม่หิว

“แวะกินข้าวก่อนมั้ย”

ไม่แวะ

“นุ่น”

อย่าเรียก

“ไอ้นุ่นเน่า”

อย่าเรียก ไม่ชอบ

“เป็นห่าอะไรวะ เรื่องมากชิบ”

ได้ผล คราวนี้นุชาผู้นั่งเงียบ รีบหันขวับมามองคนที่ทั้งขมวดคิ้วมุ่นทั้งทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ

เออออออออ เรื่องมาก เรื่องมากสิวะ ไม่เรื่องมากได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณซ้ง

“จีบก็ไม่จีบ ชอบก็ไม่ชอบ มาทำเป็นมึน ๆ งง ๆ ใส่อยู่ได้ เรื่องเยอะเหมือนกันแหละวะ”

เฮ้ยยยยย เกี่ยวกันตรงไหน
ไม่ใช่แล้ว นี่มันหาเรื่องกันชัด ๆ

อั๊วก็ เห็นลื้อ... ลื้อเป็นเพื่อน เป็นแค่เพื่อนกัน เป็น.... เป็นคนรู้จักกันเฉย ๆ จะมาช่งมาชอบอะไร
แล้วไอ้เรื่องจีบ เรื่องชอบอะไรนั่นเลิกพูดไปซะ บ้าหรือไง อย่ามาพูดจาจริงจังแบบนั้น มันไม่ใช่ และไม่มีทางเป็นไปได้

“แล้วใครพี่ แล้วยังจะมาพูดอีก ชาอะไร ใครพี่ใครชา แฟนหรือไง พูดถึงกันนี่ทำเหมือนดีใจมากเลยนะ”

ไม่เกี่ยว

อย่าพูดถึง ทำไมต้องลากมาเกี่ยวด้วย
ไม่เกี่ยวกันแล้ว ถึงเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ตอนนี้เราก็ยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันอยู่ อย่าดึงมาเกี่ยวข้อง หยุดพูดไปซะที ผิดหรือไง ที่ลืมไม่ได้
ก็คุณซ้งไม่ทำให้ชัดเจน จะปล่อยให้มึนงงอยู่อย่างนี้อีกนานมั้ย จะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกันนะ

“คุณซ้ง”

เสียงแข็ง และหันขวับไปมองคนที่ขมวดคิ้วมุ่น และทำหน้าขรึมยิ่งกว่า

รู้ว่าคุณซ้งไม่พอใจ

รู้ว่าไม่ชอบหน้า

แต่ไม่มีสิทธิ์ว่ากันถึงขนาดนี้ ไม่ได้เป็นอะไรกัน อยากจะอยู่ในสถานะไหนก็ทำไป ไม่อยากจีบไม่อยากชอบ ไม่อยากทำอะไรให้ชัดเจนก็ไม่ว่า

แต่อย่าทำให้โกรธขึ้นมาบ้างแล้วกัน

จะหนีไปให้ไกลยิ่งกว่าชลบุรีอีก
เอาแบบไม่ต้องเจอกันอีกเลยชาตินี้ก็ยังได้

ก็เพราะคุณซ้งนั่นแหละ ทำให้หวั่นทำให้ไหว ทำให้คิด ทำให้หลง
ทำให้ชอบ ทำให้เพ้อ ทำให้เป็นบ้าแบบนี้

ก็ใช่ที่เคยมองว่าเหมือนใคร

ก็ใช่ที่เคยหลอกหัวใจตัวเอง

ใช่ที่ว่าอยากหนีอยากถอยให้ห่างออกมา ถึงได้พาตัวเองไปไกล ๆ จะได้ห่างๆ ซา ๆ ลงไปบ้าง เพื่อจะกลับมาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องทำตัวโง่ ๆ บ้าบอเพ้อเจ้อแบบนี้

สำหรับคุณซ้ง ก็แค่ปลื้ม แค่ชอบ
อยากหยอกล้อ อยากเล่นด้วยเท่านั้น

ไม่ได้มีสำคัญกับชีวิตขนาดที่ทนไม่ได้ อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณซ้ง

เชื่อว่า คุณซ้ง ก็คงคิดไม่ต่างกัน

เห็นเราเป็นอะไรวะ เป็นตัวก่อกวน เป็นตัวปัญหา เป็นคนมาวุ่นวายมาสร้างปัญหาให้หรือไง

เห็นเป็นคนบ้าบอ เห็นคนเพ้อเจ้อ เป็นคนน่ารำคาญ

เป็น...............

“รู้อย่างนี้ไม่มาตั้งแต่แรกก็ดี”

พูดตรง ๆ พูดใส่หน้าคนที่กำลังขับรถและนิ่งเงียบ
มองหน้าคนที่ขับรถไปโมโหไปแบบตรง ๆ

สิ่งที่นุชาพูดมันทำให้ซ้งโมโห

และนุชาก็รู้สึกไม่ต่างกัน

และมันยิ่งกำลังจะกลายเป็นมากกว่าความโมโห

“ก็ไม่ได้ชอบ จะให้ทำยังไง พูดจาบ้าบออยู่ได้น่ารำคาญ เลิกทำตัวเพี้ยนๆ แบบนี้ซะทีจะดีมาก หยุดทำอะไรบ้า ๆบอ ๆ ซะที”

สะท้านถึงขั้วหัวใจ

คำพูดร้าย ๆ คำพูดที่ร้ายกาจที่สุดตั้งแต่ได้รู้จักกันมา

นุชาเบิกตากว้าง และฟังทุกถ้อยคำทุกประโยคนั้นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

หัวใจมันเจ็บ

ทั้งเจ็บทั้งปวดทั้งชา

ชาวูบไปทั้งหน้า และแสบร้าวไปหมดจนถึงภายในใจ

ไม่ได้ชอบ ก็รู้ตั้งแต่แรก ไม่ได้คิดอะไรก็รู้ตั้งแต่แรก
แล้วดื้อด้าน คิดเข้าข้างตัวเอง ว่าอีกฝ่ายมีใจให้เพื่ออะไร

หลอกตัวเอง

คนไม่สมหวังในความรัก ชอบหลอกตัวเอง
หลอกว่าเมื่อได้รักหรือชอบใครอีกครั้ง จะสมหวัง

หลอกตัวเอง

หน้าโง่

นุชามันโง่ หน้าโง่ เพ้อจ้อ บ้าบอ มันเป็นคนแบบนี้ เป็นคนไม่ดี
เป็นคนแย่ แย่มากจนคุณซ้งชอบไม่ได้

“นุชา”

อย่าเรียก

พอแล้ว อย่าเรียกอีกเลย

อย่าทำแบบนี้ อย่าทำแบบนี้อีก อย่าทำให้คิดเข้าข้างตัวเองอีก
อย่าทำเหมือนมีใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คิดอะไร

อย่า.......

“ครับ”

ตอบกลับ แต่น้ำตาหยด

เสียงที่เอ่ยบอกไปมันมาพร้อมกับน้ำตาที่ค่อย ๆ หยดลงที่ข้างแก้ม

สายตาที่มองไปที่คนที่พูดจาทำร้ายกันอย่างรุนแรงมีแต่ความปวดร้าว

ร้าวไปถึงข้างใน

“อย่ามารับมาส่ง อย่ามาเรียก อย่าโทรมาคุย อย่ามาแกล้ง อย่าทำเหมือนมีใจ
อย่าทำให้คิดไปเอง ..... มันเจ็บนะคุณซ้ง โคตรเจ็บเลยว่ะ อย่าทำแบบนี้อีก ขอร้อง”

ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้

แค่โมโห

โมโห เพราะนุชาชอบทำให้โมโห
ชอบยั่วให้โมโห ชอบแกล้งให้โมโห
และเอาแต่พูดว่าให้รักให้ชอบ ให้จีบ หรือแม้กระทั่งเป็นแฟนกัน
คำพูดบ้าบอเพ้อเจ้อแบบนั้น

มันก็แค่การหยอกล้อ ล้อเล่นเพื่อความสนุก ล้อให้คนฟังโมโห

ทำให้โมโห....

“อย่าทำกับผมแบบนี้”

แต่นุชาร้องไห้

กำลังร้องไห้

พูดทั้งที่น้ำเสียงกำลังสั่น ใบหน้าที่หันมองมามีแต่ความรู้สึกเจ็บปวด
สายตาที่มองมามีแต่ความรวดร้าว

หลังมือที่ยกขึ้นปาดน้ำตา

ใบหน้าที่หันหนีไปอีกทาง หันไปมองที่นอกหน้าต่างรถ

ทำให้ซ้งต้องกลืนน้ำลายลงคอ หัวใจกระตุกวูบ และเพิ่งสำนึกได้ว่า
ทำเรื่องไม่ดีลงไปแล้ว เรื่องที่ไม่ควรทำอย่างรุนแรง

นุชา.....

“หิวข้าว แวะกินข้าวก่อนนะ”

น้ำเสียงที่แผ่วเบา ดวงตาไหวระริกเมื่อนิ่งมองคนที่นิ่งเงียบ และยังยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาเงียบ ๆ

สงสาร

อยากรั้งเข้ามากอด

อยากโอบไหล่ อยากถามว่าเป็นอะไร แต่ก็รู้ว่าสาเหตุทั้งหลายมาจากตัวเอง

“ครับ”

นุชาไม่เคยไม่ตอบ โกรธแค่ไหน โมโหมากขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยไม่ตอบถ้าถามอะไรออกไป

นุชาไม่ใช่คนน่ารำคาญ แต่นุชาเป็นคนที่ซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง
ที่บอกว่าชอบ.......นั่นมันอาจจะแปลว่าชอบจริง ๆ อย่างที่ปากพูด

มองหาร้านอาหารข้างทางที่พอจะจอดรถแวะได้

และเลี้ยวรถเข้าไป

หันไปมองคนที่พยายามเช็ดน้ำตาออกจากดวงตา ยิ่งใจหาย

“หยุดร้องไห้หรือยัง”

อืมมม

หยุดแล้ว

ถึงอยากร้อง แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร
ถ้าชอบ อย่าทำให้อีกฝ่ายเสียใจ อย่าทำให้เป็นทุกข์ อย่าทำให้เจ็บปวด ช่วงเวลาที่ได้ใช้ด้วยกันมันมีไม่นานนักหรอก

วันหนึ่งเมื่อเราไม่ได้เจอกันอีก จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ มาโทษตัวเอง

ว่าในวันหนึ่งเราไม่น่าเสียเวลาไปกับการโกรธหรือโมโหใส่กันเลย

อยากจดจำว่าในเวลานี้มีช่วงเวลาที่ดีด้วยกัน

ถึงจะโมโหกัน ถึงจะโกรธกันอยู่ แต่คุณซ้งก็พามากินข้าว
มันอาจจะเป็นการกินข้าวที่แย่ที่สุด

แต่เราก็ได้กินข้าวด้วยกัน ได้ใช้เวลาด้วยกัน

ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกัน

“นุชา...ชอบซ้งจริง ๆ หรือเปล่า”

เงยหน้าขึ้นมอง คนที่เอ่ยถาม และก็เห็นชัดถึงความกังวลในแววตาคู่นั้นที่มองมา

ชอบจริง ๆ หรือเปล่า
นั่นคือคำถามที่เคยถามคุณซ้งไม่ใช่เหรอ

เคยมีใครในใจ และเขายังอยู่ในใจเสมอ
แต่มันจะแย่แค่ไหน ถ้าปิดตายหัวใจตัวเองและจมอยู่กับความเจ็บปวด
ไม่ยอมให้ใครเข้ามาในชีวิต

มันจะน่าเศร้าแค่ไหน ถ้าพี่ฟ้ารู้ว่าไม่สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข
มันจะแย่ยิ่งกว่าแย่ขนาดไหน ถ้าหัวใจดวงนี้รักใครไม่ได้อีกแล้ว

ไม่มีทางหรอก

เรื่องอะไรจะปล่อยให้หัวใจของตัวเองด้านชาเพราะความเจ็บปวด
ถึงมันจะเจ็บมันจะปวดอีกกี่ครั้ง ก็ไม่เป็นไร มันจะได้เข้มแข็ง
มันจะได้ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องมีอะไรน่าหวาดกลัวอีก

ถ้าได้ใช้มันอย่างเต็มที่ ได้ใช้มันจนคุ้ม ก็ไม่มีอะไรน่าเสียใจอีก

หนีไปตั้งไกลแล้วนะคุณซ้ง....แต่หนีใจตัวเองไม่พ้น

ยิ่งรู้ว่าคุณซ้งเกลียด ยิ่งอยากจะตายซะตรงนี้...แต่ไม่เป็นไรหรอก..ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสียใจ แค่ร้องไห้มันไม่ตาย...ดีกว่าคนรักใครไม่เป็นอย่างคุณซ้ง...หัวใจของคุณซ้งมีไว้แค่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ไม่ได้มีไว้รักใคร....
แต่สำหรับผม หัวใจของผมมันมีอะไรให้ทำมากกว่าแค่สูบฉีดเลือด

ถ้าคุณซ้งไม่ยอมรับหรือเปิดใจ คนที่เสียใจก็จะกลายเป็นตัวคุณซ้งเอง

“คนเป็นแฟนกัน จะไม่ชอบกันได้ยังไง”

ยิ้มให้คนที่เอ่ยถาม

ยิ้มทั้งน้ำตา ยิ้มทั้งที่ยังร้องไห้

รอยยิ้มที่ได้เห็น มันทำให้ซ้ง นั่งนิ่ง และขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสับสนว้าวุ่นไม่รู้ว่าควรจัดการกับชีวิตและความรู้สึกของตัวเองต่อไปยังไงดี

“แต่ถ้าเราเลิกกันแล้ว.....ชอบหรือไม่ มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วคุณซ้ง”




TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † หอม † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:21:21
ตอน หอม



รู้สึกว่าพูดจาไม่ดี รู้สึกว่าพูดเรื่องไม่ดี และทำให้คนฟังเสียใจ

บางทีสิ่งที่กำลังทำอยู่อาจเรียกว่าง้อ การง้อ คือการทำให้คนที่เสียใจเพราะคำพูดที่ไม่ดี รู้สึกดีขึ้น
แต่ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดเพี้ยนไป
นอกจากจะไม่ดีขึ้นแล้ว การง้อยังเหมือนเป็นการสร้างความรู้สึกแย่ ๆ ให้คนที่ถูกง้อด้วย

กินข้าวด้วยกันแต่รู้สึกว่ากินไม่อร่อย เพราะนุชากินไปสองสามคำแล้วก็บอกว่าอิ่ม ไม่อยากกินแล้ว

ไม่ยอมเล่น ไม่ยอมพูดด้วย ถามคำตอบคำ ถามสิบคำ ก็ตอบแค่คำเดียว
แค่นี้ก็รู้แล้วว่านุชารู้สึกไม่ดี

แต่ทำไมต้องแคร์ ทำไมต้องสนใจ ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกัน

“ครับ กำลังกลับบ้านครับ อะไรนะครับ ให้ผมไปด้วยเหรอครับ อืมมม กี่ทุ่มครับ
ได้ครับ นาน ๆ จะได้เจอพวกพี่ซะที ยินดีครับ เจอกันคืนนี้ครับ”

มีสายเรียกเข้า และได้ยินสิ่งที่นุชาคุยกับปลายสาย
วางสายไปแล้ว แต่ยังทำหน้าพะว้าพะวงเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

จะไปไหน คิดจะไปไหน
ไม่ต้องแปลไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าคืนนี้ต้องไปไหนแน่ ๆ

ฟังแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดและพาลไม่ชอบใจ หันไปมองคนที่ทำหน้าเฉย และเมินมองไปนอกหน้าต่างรถก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจเพิ่มขึ้น

ไม่ชอบใจ

แต่เมื่อชำเลืองสายตามองอีกครั้งก็เห็นว่านุชายังเมินมองไปทางอื่นไม่ยอมหันมาสนใจกันอีกเลย

อดไม่ได้ ทนไม่ไหว อดรนทนไม่ไหว

“มีนัดไปวิ่งนะ อย่าลืม”

พูดลอย ๆ และก็เห็นคนที่นั่งเงียบหันกลับมามองและเลิกคิ้วขึ้นสูง
เหมือนกำลังตั้งคำถาม

แต่ไม่ยอมถามออกมาเป็นคำพูด

“แต่สี่ทุ่มไม่ต้องวิ่งแล้ว”

ไม่ได้วิ่งแต่ก็ควรกลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อน ไม่ใช่ไปเที่ยวกลางคืน
ทำแบบนี้มันสมควรหรือไงวะ แล้วจะเรียกว่าวิ่งเพื่อสุขภาพได้ยังไง

“แต่มันดึกแล้ว เป็นเวลานอน”

เวลานอนของคุณซ้งคนเดียว ไม่ใช่เวลานอนของคนอื่น คุณซ้งหลับแต่คนอื่นไม่เห็นจำเป็นต้องหลับด้วย เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ

“ไม่ได้ง่วง”

อ่อออ
ไม่ได้ง่วง ก็เลยไม่ยอมหลับยอมนอน ก็เลยจะไปเที่ยวเตร่ดึก ๆ ดื่น ๆ

“ไม่ง่วงก็กลับบ้านนอนได้”

อะไรครับ คุณซ้งจำทไมครับ แล้วทำไมต้องเชื่อ โตป่านนี้แล้ว แค่ไปดื่มไปเที่ยวกลางคืน มันเรื่องปกติด้วยซ้ำ ทำงานแล้ว มันก็ต้องมีบ้าง

ขนาดแม่ยังไม่ว่าเลย

แล้วคุณซ้งจะมาโมโหใส่ทำไม

“ถึงกลับบ้านแล้วใครจะไปนอนได้ คนเพิ่งอกหักต้องไปปาร์ตี้ให้หายซึมเศร้า”

เหตุผลบ้าบอ

ไปขุดเหตุผลบ้าบอแบบนี้มาจากไหน อกหัก
ปาร์ตี้คนอกหัก อยากไปให้หายซึมเศร้า จะบ้ากันไปใหญ่แล้วอกหักได้ยังไง
ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย จะรีบอกหักไปทำไม แบบนี้มันเหตุผลกวนประสาทชัด ๆ

“อกหักได้ยังไง ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน”

หงุดหงิด และขมวดคิ้วมุ่น ไม่ชอบคำพูดของนุชาแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว เมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่มองมา

“ก็ไม่ได้เป็น แล้วคุณซ้งจะมาเดือดร้อนมายุ่งอะไรด้วย จะนอนหลับไม่หลับ จะง่วงไม่ง่วงคุณซ้งจะใส่ใจทำไม”

ยอมแพ้กับคำตอบ อึ้ง และทำอะไรไม่ได้ เพราะสิ่งที่นุชาพูดคือความจริง

เพราะแบบนี้ไงถึงได้โมโหนัก

ทำอะไรไม่ได้ เพราะไอ้คำว่าไม่ได้เป็นอะไรกันคำเดียวนั่นแหละ

ทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่ไม่ชอบใจกับสิ่งที่นุชาทำอยู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน

“คุณซ้งไม่ต้องไปส่งหรอก จอดหน้าปากซอยก็ได้ เดี๋ยวเข้าบ้านเอง”

เพราะรถกำลังจะเลี้ยว เลยต้องรีบบอก
ถึงกำลังตีรวนคุณซ้งอยู่ แต่ก็รู้จักความเกรงใจ
ให้ไปส่งถึงหน้าบ้านทั้งที่ไม่ใช่ทางผ่านมันก็ไม่ดี อุตส่าห์พามาถึงที่นี่
อีกนิดเดียวก็เข้าบ้านแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรนั่งรถไปต่อเองได้

“อย่างี่เง่า บอกว่าจะไปส่งก็คือไปส่ง”

อะไรวะ

ไม่ได้งี่เง่า จะไปส่งก็ไม่ได้ว่า แต่ทำไมต้องหาว่างี่เง่า ไม่ได้งี่เง่าแต่เกรงใจ
เข้าใจคำว่าเกรงใจมั้ยวะ เกรงใจกับงี่เง่ามันคนละเรื่องกันโว้ยยย

“ตอนเย็นจะมารับไปสนามด้วยกัน ออกมารอที่หน้าบ้านด้วย”

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย

บังคับทำไมเนี่ย อะไรของคุณซ้งครับ

ไม่เข้าใจ เป็นอะไรวะ ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นแหละ คุณซ้งทำอะไรอีกแล้ว
ถามจริง ๆในสมองคิดจะทำอะไรกันแน่

“ทำแบบนี้เรียกว่าจีบนะ เรียกว่ามีใจด้วย ให้ความหวังนะรู้จักมั้ยคุณซ้ง คำว่าให้ความหวังน่ะ”

ไม่รู้
ให้ความหวังอะไร ยังไม่ได้ให้ อย่ามาเหมารวมคิดเอาเอง
ไม่ได้จีบ ไม่ได้มีใจ แล้วก็ไม่ได้ให้ความหวัง แค่จะมารับเฉย ๆ
ทำไมต้องมากเรื่อง ทำไมต้องแปลความหมายใหญ่โตไปถึงขั้นนั้น

“เกี่ยวอะไรนุชา มารับก็คือมารับ จะไปเกี่ยวกับให้ความหวังได้ยังไง”

มึน

สุดยอดความมึน
คุณซ้ง อย่ามาแกล้งมึนนะ แบบนี้มันแกล้งมีนชัด ๆ ทำแบบนี้เขาเรียกว่าแกล้งมึนครับ

“บอกว่าไปก็คือไป รับปากแล้วยังไงก็ต้องไป ไปเองได้ ไม่ต้องมารับโว้ย”

อะไรนุชา มากเรื่องอีกแล้ว ทำไมไม่ให้มารับวะ
ก็คนจะมารับ จะทำไม คิดจะขัดขวางเพื่ออะไร

“จะมา”

คนตอบลอยหน้าลอยตาตอบ กวนประสาทที่สุดเท่าที่นุชาเคยเห็นมา
คุณซ้งเป็นคนแบบนี้เหรอวะ เป็นคนแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่
ทำไมถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้

“คุณซ้ง”

เรียกแล้วก็เห็นว่าคนถูกเรียกหันมามองแว่บเดียวด้วยหางตา
และยังทำหน้าตาเฉยเมยแถมยังเรียกชื่อกลับด้วยคำพูดกวนประสาทสุด ๆ

“นุชา”

เออ

ชื่อนุชา แล้วจะทำไม จะเรียกทำไม เรียกคุณซ้งเพื่อให้คุณซ้งเลิกแกล้งมึนใส่ไม่ใช่ให้คุณซ้งมาเรียกชื่อผมกลับแบบนี้ครับ

“คืนนี้สี่ทุ่มใช่มั้ย ไม่มีปัญหา เดี๋ยวมารับ ให้แค่ อืมมมมม สองชั่วโมงก็เที่ยงคืน
ถ้าเลยเที่ยงคืนเดี๋ยวจะเดินเข้าไปตาม ผับไหนนะ รู้สึกว่าจะอยู่ใกล้ ๆ”

คุณซ้งงงงงงงงงงงงงง

คุณซ้งน่าโมโห คุณซ้งงงงงงงงง อะไรของคุณครับ อะไรของคุ๊ณณณณณณ คร้าบบ

“แต่คุณซ้งต้องอยู่เป็นเพื่อนอาม่ากิม มาไม่ได้”

แล้วยังไง
ทำไมจะมาไม่ได้ แซยิดบ้านโน้น แต่วันอาทิตย์ต้องไปเรียน อาม่าก็เลยค้างบ้านโน้นสามวันไม่งั้นจะมาเทียวรับเทียวส่ง เทียวแกล้งลื้อได้ยังไงนุชา

“มาได้ก็แล้วกัน”

ห๊า นี่คือคำตอบของคุณซ้งเหรอ ตอบได้ไร้ความรับผิดชอบที่สุด
ไม่มีความรับผิดชอบเอาซะเลย ทำไมตอบได้หน้าตาเฉยแบบนี้
คุณซ้ง เล่นเกมส์อยู่หรือไง นี่มันไม่ใช่เกมส์นะ อย่ามาแกล้งปั่นหัวเล่นกันหน่อยเลย

“อย่ามามึนขอร้อง”

เหรอ

แบบนี้เรียกว่ามึนเหรอ เห็นลื้อทำบ่อย ๆ นี่นุชา ก็เลยยืมมาใช้บ้าง
มันก็สนุกดีนะ มิน่าล่ะ ลื้อชอบทำแบบนี้ใส่อั๊วบ่อย ๆ มันสนุกแบบนี้นี่เอง

“ใครมันทำก่อนล่ะ”

ยอกย้อน โยกโย้ น่าโมโหที่สุด

ไม่ชอบ ไม่ได้จีบ ไม่ได้อะไรด้วย แล้วพาตัวเองมาอยู่ใกล้ๆ ทำไม อยากแกล้งให้บ้าตายกันไปข้างหนึ่งเลยหรือไง

ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าชอบ แสดงออกให้เห็นชัดเจนขนาดนี้ ว่าชอบคุณซ้งมาก
ก็เลยอยากแกล้งให้ทรมานเล่นใช่มั้ย

“ชอบผมหรือไง ทำเหมือนหึงหวง คอยตามเช็คอยู่ได้ แคร์ผมล่ะสิ”

เอาสิคุณซ้ง ถ้าอยากมึนขนาดนั้นก็ได้ อยากมึนก็มา

อยากมึนนักก็จะจัดให้หนัก ๆ

“ไม่ได้แคร์ ไม่ได้ชอบ ไม่ได้หึงหวง อยากไปขับรถเล่นเฉย ๆ”

อยากไปขับรถเล่นเฉย ๆ ขับรถเล่นกลางดึกเนี่ยนะ
รวยนักนี่ รถที่บ้านเติมน้ำแทนน้ำมันว่างั้น

“โหขับรถเล่น คิดนานมั้ย แต่ว่าไม่ได้จีบใช่มั้ย ไม่ได้ชอบด้วย งั้นเราก็โสด แถมอกหักด้วย แบบนี้ใครมีทีท่าก็เปิดใจได้เลยสิ เฮ่อออออออออ สบายยย”

เป็นการเอาคืนที่เจ็บแสบที่สุด

ซ้งรีบหันขวับกลับมามองคนที่ทำท่าเริงร่า ทั้งที่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ร้องไห้น้ำตาหยด เพราะถูกปฏิเสธ

แถมยังให้ง้อด้วยการพาไปกินข้าว
ขึ้นรถมาก็ทำเป็นนิ่งทำเป็นเฉย ทำให้อึดอัดหัวใจเล่น

แล้วดูสิ่งที่นุชามันทำเวลานี้ มันพูดออกมาฉอด ๆ พูดแต่ละคำยอกย้อนวกวนได้เหมือนคนไม่เป็นอะไรแล้ว แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องง้อแล้วสิ

ก็ดูท่าสบายอกสบายใจขนาดนี้แล้ว ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่

“กล้าก็ลอง”

อย่ามาพูดคุณซ้ง อย่านึกว่าไม่กล้า
แล้วทำไมจะไม่กล้า แฟนก็ไม่ใช่ ชอบก็ไม่ชอบ
เพราะฉะนั้นก็ไม่มีสิทธิ์

“แน่นอน กล้าอยู่แล้ว จีบคนเย็นชาไม่มีหัวใจอย่างคุณซ้งไม่สำเร็จ งั้นจะไปจีบคนมีหัวใจ นิสัยดีคนอื่นดู ถ้าสำเร็จก็ถือว่าโชคดี ว่ามั้ย”

นุชา

อีกแล้วนะ

เอาอีกแล้วนะ ทำแบบนี้ใช่มั้ย พูดแบบนี้ใช่มั้ย

“ถึงบ้านแล้ว ลงไปเลย”

ไม่ต้องรีบไล่ขนาดนั้นก็ได้ แค่นี้ก็บุญคุณล้นเหลือแล้ว
อุตส่าห์มาส่งถึงหน้าบ้าน ถึงจะทะเลาะกันมาตลอดทาง แต่ผมมันคนนิสัยดี
ถ้าไม่รู้จักขอบคุณ ไม่สำนึกบุญคุณคนก็เกินไป

“อืม ขอบคุณ....คุณ...เอ้ยยยย...คุณซ้งงงงง”

ผละใบหน้าออกห่างอย่างรวดเร็ว
จ้องมองคนที่ทำหน้าเฉยเมยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยความตกใจ

แน่ใจ ยิ่งกว่าแน่ใจ
มั่นใจยิ่งกว่ามั่นใจ

ตอนที่หันหน้ากลับมาเพื่อขอบคุณ ปลายจมูกของคนทำเป็นเฉยชากดหนัก ๆ ลงมาที่ข้างแก้ม มาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว แล้วก็ผละออกอย่างรวดเร็ว

ยกหลังมือขึ้นขัดไปมาที่ข้างแก้มของตัวเอง
ขบริมฝีปากแน่น พูดอะไรไม่ออกขึ้นมากะทันหัน

“อะไรนุชา ไม่รีบลงไปล่ะรออะไรอยู่”

ไม่ได้รอ ไม่ได้รออะไรทั้งนั้น

ไม่ได้รอ เปล่า ไม่ได้รออะไรเลย

นุชารีบเปิดประตูรถและก้าวขาลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว
ยืนมึนงงอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง ทั้งที่มือยังไม่เลิกขัดถูที่แก้ม

ไม่รู้ว่าควรหันกลับไปมองคนที่ขับรถออกไปแล้วหรือไม่

อึ้ง และกำลังยืนมึนงง กระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสับสน
อาการหน้าร้อนผ่าวกำลังมาเยือน

ยกหลังมือขัดถูไปมาที่ข้างแก้มอีกหลายครั้ง
และพบว่าความรู้สึกที่ควรจะจางหาย ยิ่งชัดเจนและแจ่มชัดเพิ่มขึ้น

ไม่เข้าใจความคิดของคนที่ทำให้รู้สึกได้ถึงขนาดนี้ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร

รู้แค่ว่า ที่เคยคิดเอาไว้ มันวกวนสับสนไปมาจนเกินจะเข้าใจ

ไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณซ้งเป็นคนแบบไหน

รู้แค่ว่า คุณซ้งเป็นคนที่มาหอมแก้มกันได้หน้าตาเฉย ทั้งที่ไม่ได้ชอบ ไม่ได้จีบ
ไม่ได้คิดอะไร

“แล้วจะเอายังไงวะ จะเอายังไงแน่ คุณซ้งงงง จะเอายังไงของคุณกันแน่ครับบบ”




TBC...

 


หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † เมพขิง ๆ † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:23:22
ตอน เมพขิง ๆ



“นุชา..ให้ไวให้ไว”

สั่งจริงเว้ยเฮ้ย ให้ไวอะไรครับ นี่ก็รีบจะตายห่าแล้วครับคุณ

นุชาเปิดประตูรั้วบ้าน และก็เห็นว่ามีใครบางคนชะโงกหน้าออกมาจากรถที่จอดอยู่หน้าบ้านในเวลาห้าโมงเย็น ตรงเวลาเป๊ะ

ตะโกนเรียก และทำหน้าหงิกใส่อีกต่างหาก
ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ต้องมารับ อยากมาเอง มาแล้วก็ยังจะมาทำหงุดหงิดใส่อีก

ผิดหรือครับ ผมผิดหรือครับคุณซ้ง

“เดินอ้อยอิ่งอยู่นั่น”

อ้อยอิ่งอะไรปิดประตูอยู่ ไม่ได้อ้อยอิ่งเลย นี่ใจคอจะหาเรื่องกันให้ได้จริง ๆ ใช่มั้ย

แล้วยัง....ทำอะไรของเขาวะนั่น

ชะโงกหน้ามาคงไม่สาแก่ใจ พี่ท่านเล่นเดินลงมาจากรถเฉยเลย
แล้วก็มายืนอยู่อีกด้านของประตูรถ......และนั่นดูสิ่งที่ท่านทำ

“เชิญคร้าบบบบบบบบบบ ช้าเหลือเกินครับ”

เปิดประตูรถให้ และยังทำหน้าเฉยเมย แต่คำพูดแต่ละคำที่หลุดออกมาจากปามันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

หาว่าช้า
หาว่าเดินอ้อยอิ่ง
บอกให้รีบ บอกให้เร็ว บอกให้ไว

ช้าเกิน ช้ามากไม่ทันใจ ช้าจนคุณซ้งผู้มีหน้าตาเมินเฉยและวาจาเชือดเฉือนเป็นอาวุธต้องลงมาเปิดประตูรถให้กันเลยหรือนี่

ไม่ได้มองหน้าของคนที่มาเปิดประตูรถให้ แต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจไม่มีปฏิกิริยากับวิธีการประชดประชันของอีกฝ่าย

คุณซ้งเดินอ้อมมาเปิดประตูรถด้านที่นั่งคนขับและขึ้นมาอยู่บนรถเรียบร้อย
เสียบกุญแจและสตาร์ทรถขับเหยียบคันเร่งและขับออกไปทันที
ทำเหมือนว่าไม่พอใจกันซะขนาดนี้ แล้วผมจะไปทำอะไรได้ครับ

ก็ได้แต่เงียบ แล้วก็มองไปนอกรถ

ทั้งที่มันเพิ่งจะมีอะไรเกิดขึ้น.....มี.....และเพิ่งมีตอนที่คุณซ้งมาส่งที่หน้าบ้านก่อนหน้านี้
ผ่านมาแค่ไม่เท่าไหร่ คงไม่ทำให้ลืมได้ง่าย ๆ

ลืมไม่ได้และแปลความหมายไม่ได้
เพราะคนที่รู้ความหมาย ก็ทำเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากจะถามแต่ถามไปก็คงได้คำตอบแบบเดิม

ไม่ได้ชอบ ไม่ได้จีบ บ้าหรือไง

ดี

ทำแบบนี้แหละดี ไม่ชอบแต่ทำ หมายความว่ายังไงไม่รู้ ไม่อยากถาม
เดี๋ยวจะเจอประโยคเจ็บปวดจากปากคุณซ้งเอาได้ง่าย ๆ

แล้วจะพาลร้องไห้น้ำตาหยดให้เสียฟอร์มกันอีกรอบ

เป็นการเดินทางที่เงียบที่สุด
มีเพียงความเงียบงันระหว่างคนสองคน

นุชาเมินหน้าไปมองนอกถนน

ซ้งขับรถ ตามองถนนนิ่ง ๆ ไม่มีการหันมามองคนที่นั่งข้างๆ เลยสักนิด

นุชา....
อย่าเมินใส่กันแบบนี้เลย
ทำตัวไม่ถูกแล้ว

ไม่กล้าชวนคุย ไม่กล้าพูดด้วย ได้แต่พยายามพูดจาอย่างที่เคยพูด
กลัวนุชาจะรู้ว่าตอนนี้อยากจะหันกลับไปมองหน้าของนุชาให้เต็มตา แต่ไม่กล้ามอง
ไม่กล้าถามไม่กล้าพูด กลัวจะรู้ความรู้สึกของนุชา

กลัวทำให้นุชาเสียใจ

อากาศร้อนอบอ้าวมาตั้งแต่ช่วงบ่าย
หยดฝนเม็ดเล็ก ๆ เริ่มหยดลงปรอย ๆ

“ฝนตก”

“ฝนตก”

พูดออกมาพร้อมกัน
พูดเหมือนกัน คิดในสิ่งที่เห็นเหมือนกัน
และต่างฝ่ายต่างหันมามองหน้ากัน

ชะงักนิ่ง

และทันได้สบสายตากันเล็กน้อย
ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างรีบเบือนหน้าหนีกลับไปในทิศทางของตัวเอง

“เริ่มตกหนักแล้ว”

พูดลอย ๆ และนุชาก็มองหยาดฝนที่เริ่มหนาเม็ดขึ้นเรื่อย ๆ
ฝนตกมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้องครืน ๆ
และในเวลาไม่นานจากปรอย ๆ ก็กลายเป็นเทลงมา
อยู่ในสภาพถูกขังอยู่ภายในรถ มองไปข้างทางเห็นรถข้าง ๆ ขยับได้ทีละน้อย

ไม่มีเสียงตอบรับจากคุณซ้ง
และนุชาก็ได้แต่แอบลอบถอนหายใจเงียบ ๆ คนเดียว

ฝนตกหนักแล้ว

กลับบ้านคงดีที่สุด

ถ้าไปส่งก็ดี แต่ถ้าไม่ไปส่งเลี้ยวข้างหน้าแล้วจอดก็ได้ เดี๋ยวกลับเอง

“ไปดูหนังกันมั้ย”

หือ

รีบหันกลับไปมองคนที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับในคราวแรก แต่ผ่านไปไม่นานหลังจากนั่งกันเงียบ ๆ แค่สองคนคราวนี้ก็ได้ยินคุณซ้งพูดอะไรบางอย่าง

ไปไหน

“จะดูเหรอ”

เอ่ยถาม และก็เห็นคนชวนเริ่มขมวดคิ้วมุ่น แถมยังทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
แสดงออกให้เห็นว่าเริ่มไม่พอใจกับคำถาม

นุชามันจะถามทำไมวะ

จะอยากรู้ไปทำไมว่าจะดูหรือเปล่า

ถ้าไม่ดู จะชวนทำไม ถามอะไรบ้า ๆ ไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้
จงใจจะกวนกันหรือยังไง

ทำเรื่องโง่ ๆ อยู่ ตอนนี้กำลังทำเรื่องโง่ ๆ
ทั้งที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะทำแบบนี้กับใครเลยสักครั้ง

และยิ่งบ้าบอ โง่เง่ายิ่งกว่าที่มาทำแบบนี้กับนุชา

นุชาที่ได้ชื่อว่าเป็นคนกวนประสาทและจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จะทำเรื่องแบบนี้ด้วย

แต่ก็ยังทำ

“ไม่อยากดู แต่จะพาไปดู ทำไม พาไปแต่ไม่อยากดูไม่ได้หรือไง”

เอ้า

ถ้าไม่อยากดู แล้วจะพาไปทำไม ผมไม่ได้อยากดูหนังครับ
คุณชวนผมแต่คุณไม่อยากดู แล้วก็มาบังคับให้ผมไปดูหนังเหรอ

คุณซ้งคิดอะไรวะ แบบนี้มีใครเขาทำกัน ใครที่ไหนเขาทำกันแบบนี้ครับ

“ถ้างั้นไม่ไปอ่ะ”

ทำไม
ทำไมถึงไม่ไป ชวนแล้วทำไมถึงไม่ไป อุตส่าห์ชวน ทำไมถึงได้เรื่องมากนักวะ

“เออไม่ไปก็ไม่ไป”

อ้าว

เมินหน้าหนีกันซะงั้นคุณซ้ง

แล้วมาโกรธผมทำไมวะ ชวนทั้งที่ไม่อยากไป แล้วพอไม่ไปด้วย ก็มางี่เง่าใส่
เป็นอะไรครับ นี่ถามจริงจังนะเป็นอะไรของคุณครับคุณซ้ง

ผมโดนคุณปั่นหัวอยู่ ผมต้องเป็นฝ่ายงี่เง่าหงุดหงิดหัวเสียนะครับไม่ใช่คุณ

นี่ยังไม่รวมเรื่องที่....อยู่ดี ๆ มา....ก็เอ่อ มาหอมแก้ม...กันเลยนะ

เห็นผมหน้าด้าน ๆ แบบนี้ แต่เจอมึนขั้นเทพแบบนั้นเข้า ก็ไปไม่เป็นเหมือนกันนะครับ

แล้วอะไรของเขาอีก แทนที่จะเลี้ยววนกลับเข้ามาอีกซอยจะได้เข้าบ้าน

คุณซ้งดันขับรถออกนอกถนนใหญ่ไปเฉยเลย

จะแกล้งกันหรือนี่ ถ้าจอดที่ศาลาผู้โดยสารไม่ได้ ก็หาที่จอดที่ผมจะไม่ต้องไปยืนเปียกฝนก็ได้นะ เพราะเดี๋ยวก็คงไล่ลงจากรถอีก

แต่ถ้าจะใจร้ายไล่ลงระหว่างทางทั้งที่ฝนตกหนักแบบนี้ก็ไม่ว่านะ
คุณซ้งอยู่แล้ว ทำอะไรร้าย ๆ แบบนี้ได้เสมอแหละ
ก็อย่างว่า

คนไม่ชอบจะให้ทำยังไง
ขนาดแค่คิดยังโคตรเจ็บปวดเลยว่ะ

“ผมลงตรงศาลาหน้าก็ได้ คุณซ้งจะได้ไม่ต้องวนรถ”

เตรียมพร้อมกลับบ้าน และชี้มือบอกทาง แต่แทนที่อีกฝ่ายจะฟัง
กลับไปพูดเรื่องอื่นแทน

“ไปดูหนังกัน”

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อะไรครับ
อะไรคุณซ้ง อะไรของคุณอีกครับ อะไรนักหนาวะ

“ห๊า”

นุชาขมวดคิ้วและหันไปมองหน้าของคนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถอย่างมุ่งมั่น
ให้มันได้อย่างนี้ ให้มันได้อย่างนี้เซ่

เออ เอาซะให้พอ

เล่นซะให้สาแก่ใจคุณเลยครับ ปั่นหัวกันให้พอ

“อืมมมม....มีเรื่องอะไรเข้าวะช่วงนี้”

จะรู้ได้ยังไง ไม่ได้ไปดูหนังชาติกว่าแล้ว อยู่ดี ๆ เล่นหันมาถาม
ถามเสร็จยังมีการทำหน้าครุ่นคิดอีก

เป็นอะไรมากมั้ย

ถามจริง ๆ เป็นอะไร

นุชากำลังจะอ้าปากถาม แต่เมื่อเห็นโทรศัพท์ของอีกฝ่ายที่ยื่นมาให้ก็เลยต้องเอื้อมมือรับเอาไว้ และสงสัยว่าอีกฝ่ายยื่นส่งมาให้ทำไม

“โทรไปถามที่บ็อกซิ มีอะไรดูบ้างเอาเรื่องที่สนุก ๆ นะเอารอบใกล้ ๆ นี่เลยไปถึงก็ดูได้ทันที”

บ้าแล้ว

บ้าไปแล้ว

แต่ที่บ้ากว่าคือนุชา ที่รับโทรศัพท์ของเทพมึนมาถือเอาไว้และยังทำหน้างงเป็นหมาหลงทาง

“เบอร์แรกเลยนั่นแหละโทรได้เลย”

อ่า

ให้มันได้อย่างนี้ กูก็บ้าเนอะ กดโทรไปถามให้ซะอีก

“เรื่อง.........ฉายกี่โมงครับ.....อืมมมห้าโมงครึ่ง นี่ใกล้สุดแล้วเรื่องนี้”

หันไปถามความคิดเห็นของคนที่ยังใช้ปลายนิ้วเคาะที่พวงมาลัยรถและก็เห็นคุณซ้งพยักหน้าให้ว่าให้เลือกเรื่องนี้

กดวางสายเรียบร้อยและคืนโทรศัพท์ให้คุณซ้งที่ยังทำได้หน้าเดียวคือหน้าเรียบเฉย

ถ้าใครเข้าใจพฤติกรรมแบบนี้คงบ้า
กูว่ากูมึนแล้วนะ เจอคุณซ้งนี่ตายเลย เทพมาจากไหนล่ะนั่น

“ดูหนังเสร็จก็พอดีแหละ ฝนหยุดตก หาข้าวกินแป๊บนึง แล้วก็แวะกลับมาบ้านนุชาใช่เปล่า แล้วก็รอไปส่งนุชาตอนสี่ทุ่มพอดี”

หึ หึ หึ

นี่สินะ ที่เขาเรียกมึนขั้นเทพ เทพแท้จริงได้มาจุติแล้ว
เล่นกับใครไม่เล่น ดันมาเล่นกับเทพคุณซ้ง

กำหนดการของท่าน ช่างยาวเป็นหางว่าว ถ้าไม่พูดก็คงไม่รู้ว่าสมองของท่านได้กำหนดช่วงเวลาเอาไว้แล้ว ว่ามีแผนจะทำอะไรบ้างในวันนี้

ให้มันได้อย่างนี้สิครับ ให้มันได้อย่างนี้เลยครับท่านเทพ

ให้มันได้อย่างนี้เลยสิโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

“ถามผมมั้ย”

เป็นการบ่นที่เลื่อนลอย นุชาได้แต่บ่นลอย ๆ ไปตามลม และก็เห็นรอยยิ้มกวน ๆ จุดขึ้นที่มุมปากของคุณซ้ง

พักนี้ชักยิ้มแบบนี้บ่อย ๆ
คุณซ้งเป็นคนแบบนี้เอง

เป็นคนแบบนี้สินะ

ปั่นหัวคนเล่นแล้วสนุกมากเลยเนอะ

“ถามทำไม ถามให้งี่เง่าใส่ เรื่องอะไรต้องถาม”

ดีเนอะ
ตอบได้สะใจมาก
ถ้าถามเดี๋ยวก็จะงี่เง่าใส่ ก็เลยไม่ถาม เลยกำหนดเอาเองตามใจชอบเลย

“เออสิ ผมมันคนงี่เง่า งี่เง่า งี่เง่า ที่หลงรักคนไม่มีหัวใจ ไม่มีหัวใจ ไม่มีหัวใจ อย่างผมจะไปทำอะไรได้ ก็ต้องยอมอ่อนข้อให้นั่นแหละวะ”

แกล้งพูดซ้ำ ๆ พูดย้ำ ๆ ที่ประโยคเดิม ๆ
พูดแล้วก็เบะหน้า แล้วก็หันหน้าหนีไปอีกทางเพราะทำอะไรไม่ได้จริง ๆ
ก็ใช่ไง ทำได้คงทำไปแล้ว นี่เพราะมันทำไม่ได้ ก็เลยวน ๆ เวียน ๆ วกวนกลายเป็นวัวพันหลักอยู่แบบนี้

“เมื่อไหร่จะมีคนให้จีบใหม่ซะทีวะ จะได้ไม่ต้องมาง้อคุณซ้ง”

ขุดหลุมฝังตัวเองของแท้

ปากพาจน และต้องรีบหันกลับไปหาคนที่อยู่ดี ๆ ก็เอามือมาแตะที่หัวและลูบผมของนุชาเล่น

ไม่ใช่หมา ทำไมอยู่ดี ๆ มาลูบหัว
เด็กกว่า อายุน้อยกว่า ทำแบบนี้กับผู้อาวุโสกว่า คิดว่ามันสุภาพหรือไง
มีใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้

“ไม่ใช่หมาโว้ย ลูบหัวนี่เห็นเป็นหมาใช่มั้ย”

ไม่ให้ลูบหัวเหรอ

อ่อ ไม่ให้ลูบหัว แถมยังปัดมืออีก

ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ ก็เลยโวยวายใส่ อืมมมมมม

“ก็เห็นเป็นนุชาก็เลยลูบ....ถ้าเห็นเป็นคนอื่นก็คงไม่ทำ”

พูดเสร็จแล้วคนที่เอื้อมมือมาลูบ ก็ทำหน้าเมินโลก ไม่สนใจนุชาที่อยากเอาหัวโขกกระจกรถตายไปให้รู้แล้วรู้รอด

ให้มันได้อย่างนี้

เออออออออออออ ให้มันได้อย่างนี้สิโว้ยยยยย อยากจะเป็นบ้า

“อีกอย่างนะ”

อะไร
อีกอย่างอะไรอีก จะเอาอะไรอีก จะมึนอะไรอีก
จะเอาอะไรอีกสักกี่อย่างครับ อยากจะพูดอะไรอีกครับเอาซะให้พอเลยโว้ยยยย

“นอกจากหัวก็มีแก้มที่น่าลูบ..เออใช่...ว่าจะบอกก็ลืม... แก้มนุ่น ก็นิ่มนุ่มดีเหมือนกันนะ”





TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คู่มือเด็กเรียน † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:25:43
ตอน คู่มือเด็กเรียน



“เฮ้ย”

นุชาถึงกับสะดุ้ง เมื่อมีขวดน้ำเย็น ๆ มาแตะที่ข้างแก้ม
ยกมือขึ้นลูบและก็เห็นคนแกล้งยืนทำหน้าเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สากับการกระทำของตัวเอง

“นิสัย...สนุกมากหรือไง”

อ่อ

เปล่า ไม่ได้สนุก แต่ว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยลองเอาขวดน้ำแนบแก้มนุชาดู เห็นทำหน้าเบื่อ ๆ และไม่ยอมพูดด้วย ก็เลยลองทดสอบว่ายังพูดได้อยู่มั้ย อืมมมม ผลการทดสอบสรุปได้ว่า ยังพูดได้อยู่

“นุ่น”

นุชารีบเงยหน้าขึ้นมอง เพราะได้ยินเสียงเรียก
อีกแล้ว เออ ให้มันได้อย่างนี้สิวะ มันจะประทับใจอะไรนักหนากับชื่อนี้ ชอบเหลือเกิน ทำแต่ละอย่างทำแต่เรื่องไม่ชอบทั้งนั้นนี่ เห็นไม่ชอบก็เลยเรียกได้เรียกดีว่างั้น

“อะไร”

มองคนที่หมุนหลอดดูดน้ำในขวดน้ำเล่น แล้วแทบทรุดลงไปกองกับพื้น

ไอ้ท่าทางลอยหน้าลอยตาแกล้งมองไปทางอื่น ฟอร์มจัดทำเหมือนเรียกแต่ไม่ได้เรียกนั่นมันอะไรกันวะ

แล้วนั่นมันอะไรอีก อะไรอีกวะนั่น
สาวนักศึกษาน่ารักสองคนที่ยืนบิดม้วนไปม้วนมา ซุบซิบกันอยู่สองคน
และหันมามองทางนี้บ่อย ๆ มองใครวะ มอง.....

“มองทำไมวะ เฮ้ยนุชา คนรู้จักเปล่า มองนุชาอยู่นั่น”

หึ หึ หึ

มองกูเนี่ยนะ ผิดแล้วแหละ มองคุณนั่นแหละครับ ไม่ได้มองกระผมเลยเว้ยยย

ก็เล่นทำหน้าหล่อใสกิ๊ง แต่เมินโลกใส่คนรอบข้างซะขนาดนี้
ไม่ให้มันสะดุดตาใครเลยก็บ้าเต็มทีแล้ว เป็นกู กูก็มองครับคุณซ้ง

และกูก็กำลังมองอยู่นี่ไงครับ

อืมมมม น่ารักเนอะ คนอะไรหล่อได้หล่อดี
ขนาดหน้าเฉย ยังน่ารักได้อีกเนอะคนเรา
และจะดีมากกว่านี้ถ้าเอามือปิดปากไว้ตลอดเวลา เพราะคำพูดแต่ละคำที่พูดออกมามันชวนให้ร้าวรานหัวใจวันละสามสิบแปดรอบ

“ป่ะ”

หมดเวลาปลาบปลื้มใจ เพราะคุณซ้งเรียกและเดินนำหน้าไปแล้วชนิดไม่รอกันเลย

นี่เรียกว่าไม่อยากดูสินะ ถ้าอยากดูคงจะยิ่งเดินเร็วกว่านี้

เข้ามานั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้ในตั๋ว

แค่ดูโฆษณาที่ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมง

แอร์เย็น ๆ มันชวนให้ง่วงนอนจริง ๆ
ถ้าหนังไม่สนุกคงได้หลับยาวกันเลยงานนี้

ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามา และนุชาก็ยกแขนขึ้นนั่งท้าวคางมองที่หน้าจอ

หูฟัง
ตามอง

และยืนทำความเคารพก่อนหนังจะฉาย

โชคดีที่หนังไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่กลัว ดูเพลินๆ ไม่ได้สนุกมากแต่ก็ไม่น่าเบื่อจนเกินไป ดูได้เรื่อย ๆ และมีมุกตลกสอดแทรกให้หัวเราะได้ในบางช่วงของหนัง

แต่มันชักไม่ตลกก็ตรงที่.....

เมื่อหันไปมองคนที่นั่งกอดอกอยู่ข้าง ๆ
แทนที่สายตาคุณซ้งจะไปจดจ่ออยู่กับการดูหนัง แต่กลับมาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของนุชา

มองนิ่ง ๆ มองจนตาไม่กระพริบ

หือ

อ้าว แล้วยังไง

อะไร มองอะไรวะ กูไม่ได้ผิดปกตินะนี่

เกิดอาการอึ้งและทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที รีบหันกลับมามองหนังที่กำลังฉายและก็เห็นว่าคุณซ้งรีบหลบตาหันไปมองที่หน้าจอแบบทันทีทันใดเหมือนกัน

บ้าแล้ว

อย่าคุณซ้ง อย่า อย่า เดี๋ยวได้คิดใหม่อีกรอบ ว่ามีใจให้นะ
เอายังไงนี่ จะมีใจก็รีบ ๆ มี จะกั๊กทำไมวะนั่น เอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำ
คิดว่าจะหาน้ำกินแก้เก้อ

แต่สิ่งที่ตามมามันทำให้หัวใจเต้นระทึก
นุชากำลังกลายเป็นนุชาคอแข็งและไม่กล้าหันไปมองคนที่ทำให้เหงื่อตก
ทั้งที่อากาศแสนจะเย็นยะเยือกจนแทบจะกลายเป็นหนาว

เยี่ยมเลย

ดีนะ

แอร์เย็น อากาศก็เย็น

หนาว ๆ แบบนี้ บางทีคนเราคงต้องการความอบอุ่น
คุณซ้งก็เลยคว้ามือนุชาเอาไปจับไว้แน่น

ทันใจดีจริง ๆ

มองหน้าเสร็จปุ๊บ คว้ามือไปจับปั๊บ ไม่จูบผมในโรงหนังเลยล่ะครับ
จะได้ครบสูตร เหมือนที่คนอื่นๆ เขาทำกัน

อย่าแม้แต่จะคิด

หน้าด้านขนาดนี้ แต่ก็ยังมีสามัญสำนึกไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อในที่สาธารณะครับ

หึ หึ หึ ให้มันได้อย่างนี้

หนังไม่ต้องดูกันเลยล่ะว่ะ

ตาดูหนังแต่ใจไปอยู่ที่มือเรียบร้อยแล้ว
หนึ่งชั่วโมงครึ่งแห่งการพลอดรักแบบมึนที่สุดในโลก

ทำให้นุชาเกิดอาการนั่งตัวเกร็ง และจำแทบไม่ได้ว่ากำลังดูหนังเรื่องอะไร

ตอนจบของเรื่อง ทำให้ต้องรีบขยับตัวออกห่างคนที่นั่งข้าง ๆ เล็กน้อย เพราะกลัวจะครบสูตรตามที่คิดเอาไว้

ฉากจบมาถึงเมื่อพระเอกนางเอกแสดงความรักต่อกันด้วยการจูบ

สุดยอดเลยครับ จูบกันดูดดื่มซะด้วย

เรามาทำกันแบบนั้นบ้างดีมั้ยครับคุณซ้ง เข้าท่าเนอะ แหมอยากทำแบบนั้นบ้างจัง

ลอบมองคนที่นั่งนิ่งด้วยหางตา และก็เห็นว่าคุณซ้งยังคงมีแค่หน้าเดียว
คือหน้าเฉยเมยเมินโลก

ให้มันได้อย่างนี้

ให้มันได้อย่างนี้สิวะ

ตัวอักษรปรากฏที่หน้าจอ และแสงไฟก็สว่างขึ้น
ฝ่ามือถูกคลายออกแล้ว และนุชาก็ลุกขึ้นยืน
เดินนำหน้าและมีใครบางคนก้าวขาเดินตามหลัง

หนังจบอารมณ์ไม่จบ
คนอื่น ๆ ที่เดินผ่านหน้าไป พากันวิจารณ์หนังที่เพิ่งดูจบ
แต่นุชาไม่รู้จะวิจารณ์อะไรเพราะแทบจะไม่ได้ดู

จะบอกว่าดูรู้เรื่องแค่ช่วงแรก แต่ช่วงท้าย ๆ สมองเบลอ ๆ เพราะดูก็เหมือนไม่ได้ดู สาเหตุหลักแบบไม่ต้องเดาก็เพราะน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งหน้าใสกิ๊งที่ทำหน้าเซ็งโลกตลอดเวลาคนนั้น

มึนได้อีกครับ

คุณซ้งมึนได้อีก

แกล้งมึนได้เนียนมาก
จนคิดว่า บางทีนิสัยตีมึนแบบนี้คงเป็นนิสัยที่แท้จริงของคุณซ้งแน่ ๆ

“กินอะไร”

ขอบคุณมากครับที่ยังมีน้ำใจไมตรีหันกลับมาถาม ยังดีที่เดินลิ่ว ๆ นำหน้าแต่ก็หยุดก้าวขาและมาเดินข้างกัน

อะไรก็กิน ๆ ไปเถอะ อารมณ์นี้ต่อให้พาไปกินบัวลอยน้ำขิงก็ดีใจจะตายห่าแล้วครับ

“อิ่ม”

อิ่ม อะไร

ยังไม่ได้กินอะไรเลย จะมาอิ่มได้ยังไงวะ

บ้าหรือเปล่า นุชามันตอบอะไรโง่ ๆ แบบนี้อีกแล้ว

“งั้นไม่ต้องกิน”

เรื่องมากนักไม่ต้องกินหรอก แค่ถามว่าจะกินอะไรก็ทำเป็นมีปัญหาอยู่ได้ นึกว่าอยากจะรู้หรือไงว่าจะกินหรือไม่กินอะไร

“ก็ว่างั้นแหละอย่ากินเลยเนอะคุณซ้ง แค่นี้ก็เลี่ยนจะตายอยู่แล้ว ก็เล่น หวานซะขนาดนี้”

หวานอะไร
ใครหวาน

เลี่ยนอะไร ไม่มี ไม่มีหวานไม่มีอะไรให้เลี่ยนทั้งนั้นแหละ
ยังไม่ได้กินอะไรจะมาเลี่ยนมาหวานได้ยังไง พูดจาเพ้อเจ้ออีกแล้ว

“ประสาท”

มันคือประโยคปิดท้ายที่ทำให้นุชา ถึงกับขำ
หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ และรีบยกมือขึ้นปิดปาก เพราะคำพูดออริจินัลดั้งเดิม ของผู้ที่เป็นต้นแบบของความงี่เง่าอย่างไร้เหตุผล

ตัวจริง เสียงจริง ต้องพูดแล้วทำหน้าเฉยด้วย
และตัวจริงเสียงจริงเจ้าของคำพูดนั้นก็ทำหน้าเฉยเมยจริง ๆ
สมแล้วที่เป็นคุณซ้ง เชื่อเลยครับ นี่แหละครับตัวจริงเสียงจริง

“เวลาหิวอย่างอแงนะ หนูซ้ง”

ประสาท
นุชามันประสาทอีกแล้ว ใครหิววะ ถ้าหิวก็ไปหาข้าวกินแล้วจะมาเดินให้มันพูดจาบ้าบอใส่อยู่แบบนี้ทำไม

“ในนี้ก็มีแต่ของไม่อร่อยทั้งนั้น เราไปแวะหาอะไรกินข้าง ๆ นี้ดีกว่านะ รับรองอร่อย คุณซ้งเลิกงอแงเลย เราไปกันเนอะ”

พยักหน้าและแกล้งทำตาโตใส่คนที่ยังทำหน้าหงิก
เห็นคุณซ้งหันมามองด้วยความสนใจ และทำเป็นเมินไปทางอื่น
แต่ก็เป็นอันรู้กัน ว่าตกลงตามนั้น

เดินมาที่รถที่จอดไว้ในลานจอดรถ
ก้าวขึ้นมานั่ง และนุชากำลังคาดเข็มขัดนิรภัย

แต่สายตาไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง

อันนี้มันอะไรวะ

คิดว่าเป็นหนังสือ หรือไม่ก็สมุด เป็นเล่มเล็ก ๆ เห็นเสียบเอาไว้ก็เลยหยิบมาดู

“เฮ้ยยยยยย เอามา อันนั้น ไม่ได้ เอามานี่”

อะไรวะ อะไร ตกใจอะไรขนาดนั้นคุณซ้ง กะอีแค่หนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มเดียว

แล้วเอื้อมมือมาคว้าไปทำไม แบบนี้ยิ่งน่าสงสัย ใครจะยอมให้ง่าย ๆ

“เฮ้ยยยยยยยยย นุชาปล่อย ปล่อยมือ ปล่อยเร็วสิวะ”

อะไรเนี่ย โมโหใส่อีก มันหนังสืออะไร ทำไมไม่ยอมให้ดู.
สำคัญอะไรนักหนาวะ ก็แค่.....

“เดทแรกแสนประทับใจ”

อ่านชื่อเรื่อง แล้วถึงกับชะงัก

คุณซ้งดึงหนังสือเล่มเล็ก ๆ กลับไปแล้ว และเอาไปยัดไว้ข้างตัวตรงด้านที่นั่งคนขับ

อะไร

ไม่เข้าใจ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น รู้แค่ว่า คุณซ้งหน้าเฉยเมยตลอดชีวิตมีอาการลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด แถมยังกลายเป็นคนพูดจาติด ๆ ขัด ๆ พูดไม่รู้เรื่องขึ้นมาอีก

“ไม่ใช่เดทแรกอะไรนะ ไม่ ไม่ ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ อะไรนุชามองหน้าทำไม ไหนร้าน จะไปร้านไหน รีบ ๆ บอกมา”

อืมมมม ครับ

อยากได้ยินอะไรมั้ยคุณซ้ง

เอาแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยนะ เอาแบบว่าโคตรจริงจัง

บอกเลยจริง ๆ
เอาแบบจริงจังจากใจชนิดที่เกิดมาไม่เคยจริงจังและจริงใจกับใครได้มากขนาดนี้
ตรง ๆ เลยนะครับคุณซ้ง ผมคิดว่าอันที่จริงแล้วน่ะ....

“มันน่าจะมีอีกเล่มนะ เอาไว้อ่านคู่กัน ตั้งชื่อเรื่องว่าจีบยังไงให้ประทับใจ”

คำแนะนำเรียบง่าย แต่คนได้รับคำแนะนำถึงกับอ้าปากค้างทำหน้าไม่ถูก
พูดอะไรไม่ออก ได้แต่นั่งนิ่ง หุบปากเงียบ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร โต้ตอบไม่ได้

และกำลังกลายเป็นคุณซ้งหน้าเอ๋อ

นุชาค่อย ๆ หันไปมองที่นอกหน้าต่างรถ
หยุดรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้ไม่ได้หลังจากที่ลอบมองท่าทางลุกลี้ลุกลน ของคนที่กำลังทำตัวไม่ถูกและทันได้เห็นว่าคุณซ้งที่เคยมีหน้าเดียวคือหน้าเซ็งโลก
กำลังกลายเป็นคุณซ้งหน้าแดงเถือก

ผิวขาว ๆ แบบนั้นยิ่งทำให้เห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่หน้า แต่ยังแดงไปถึงหูและลามลงมาจนถึงคอ

บางทีคุณซ้งอาจไม่รู้ตัว ว่าหน้าแบบนั้นมันน่ารักสุดยอด น่ารักที่สุดจนห้ามรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้ไม่ได้

ตายสิครับงานนี้

เอาจริงก็ไม่บอก

เห็นพูดออกมาปาว ๆ ว่าไม่ชอบ ไม่จีบ ไม่เคยรู้สึกอะไรด้วยเลย
ท่าทางมุ่งมั่นจริงจังขนาดนั้น ใครจะไปกล้าคิด
ก็นึกว่าไม่ได้ชอบจริง ๆ อย่างที่ปากพูด

แล้วดูสิ่งที่คุณซ้งทำ สวนทางกันได้ตลอดกับที่ปากพูดจริง ๆ

น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งครับ เล่นทำถึงขนาดนี้ แบบนี้ใครไม่ใจอ่อนก็เกินไปแล้ว
ก็ถ้าจะ.....ตั้งใจจีบและศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดีซะขนาดนั้น
ก็บอกกันมาเลยตรง ๆ จะได้ให้ความร่วมมือด้วย

รู้อย่างนี้ไม่กวนให้โมโหหรอก ยินดีให้ความร่วมมือ
และสัญญาจะไม่ทำให้คุณซ้งหงุดหงิดโมโห หรือยืนเก้ออย่างที่แล้ว ๆ มา

ชอบก็รีบ ๆ บอกมาเถอะครับ
อย่ามาแกล้งทำเป็นมึนต่อไปอีกเลย
ลุ้นนะครับคุณซ้ง ใจคอจะใจร้ายให้ลุ้นกันจนตายไปข้างเลยหรือไง





TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ของฝาก † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:27:41
ตอน ของฝาก



เป็นอะไรครับคุณซ้ง
คุณซ้งเป็นอะไรไม่รู้นะ รู้สึกจะเงียบผิดปกติ
ซึ่งปกติก็เงียบอยู่แล้ว ถ้าไม่แกล้งไม่แหย่ก็ไม่ค่อยจะอยากพูด

หน้าเฉย นั่งนิ่ง และหุบปากสนิท สงบเสงี่ยมเรียบร้อยจนเกินปกติ

“เคยกินมั้ย ลาบข้าวโพด”

เอ่ยถามและก็เห็นว่าฝ่ายนั้นส่ายหน้าเป็นคำตอบ
ทำไมทำหน้าไร้อารมณ์ได้ขนาดนั้น

ถามว่ากินมั้ย ก็เห็นบอกว่าอยากกินอะไรก็ให้สั่งมากินได้หมด

โกรธ หรืองอน หรือโมโห

ทำหน้าเฉยขนาดนี้ เงียบขนาดนี้ หมายความว่ายังไง
แซวแค่นิด ๆ หน่อย ๆ พอให้รู้ความรู้สึกกันบ้างแค่นั้น
แต่ไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณซ้งทำตัวไม่ถูก หรืออึดอัดใจแบบนี้

“นั่นน่ะ ไปซื้อนมแล้วก็ขนมในร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน เห็นมันขายอยู่ก็เลยหยิบมาอ่านเล่น ๆ ไม่ได้คิดอะไร”

อ๋อ

ครับ

ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่หยิบมาอ่านเล่น ก็แค่ซื้อมาอ่านเล่น หนังสืออ่านเล่นใคร ๆ เขาก็ซื้อมาอ่านกันทั้งนั้น ไม่แปลกหรอก ไม่มีอะไรแปลกเลยคุณซ้ง

“ครับ เข้าใจ”

นุชาพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรให้มากความ
ตักข้าวแบ่งใส่จานให้คุณซ้ง แล้วก็เห็นว่าคนที่บอกเหตุผลในการซื้อหนังสืออ่านเล่น ยังทำหน้าลำบากใจอยู่

ไม่เป็นไรคุณซ้ง
อะไรก็ได้ ยังไงก็ได้

สบาย ๆ อย่าคิดมาก
ไม่ได้จริงจังบังคับขู่เข็ญ แค่พูดคุยกันได้อย่างสบายใจก็เพียงพอแล้ว
มันก็มีบ้างที่แอบดีใจเล็ก ๆ ถึงจะเป็นอย่างที่คุณซ้งพูดจริง ๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร

จะยังไงก็แล้วแต่

ตอนนี้ผมก็นั่งกินข้าวอยู่กับคุณครับ ทั้งที่ก่อนหน้าโน้นนนนนนนน
ยังได้แค่แอบมอง และคิดว่าคุณซ้งเป็นคนที่มีใบหน้าน่ามองที่สุดคนหนึ่ง
จนอดใจไม่ไหวต้องหาเรื่องมามองหน้าคุณซ้งที่สนามทุกเย็น
นึกถึงวันแรกที่ได้พูดกันแล้วก็ยังจดจำได้ดี ซึ่งไม่คิดว่ามันจะน่าจดจำสำหรับคุณซ้งเท่าไหร่

มันผ่านมาแล้ว
และต่อจากนี้ไปจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เราก็กำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่

ผมมีความสุขดี ความสุขตามสมควร
ส่วนคุณซ้ง ผมไม่รู้ ว่ามีความสุขดีตามสมควรหรือเปล่า

อาจจะรู้สึกรำคาญตา หรืออาจจะรู้สึกไม่ชอบใจบ้าง
เวลาที่โดนแกล้งกวนประสาทใส่ ซึ่งอันนั้นผมก็ตั้งใจ
ถ้าให้เรานั่งคุยกันดี ๆ แบบคนอื่นก็คงไม่ใช่

เพราะคุณซ้งเป็นประเภทถามคำตอบคำ
และผมเป็นประเภทถามคำตอบได้หลายคำ คุณซ้งไม่เคยถาม แล้วจะให้ผมเอาอะไรมาตอบหลายคำ มันก็ยิ่งเงียบไปกันใหญ่

เพราะฉะนั้นก็เลยหาเรื่องตอแย หาเรื่องแกล้งคุณซ้งไปเรื่อย ๆ ให้ได้พูดคุยกันแบบสบาย ๆ ไม่ต้องอึดอัดใจ ไม่ต้องวางฟอร์มใส่กัน

ได้แหย่ได้แกล้งได้เห็นคุณซ้งทำหน้าหลากหลาย
มันก็ทำให้อมยิ้มได้
เพราะว่าผมจะเก็บเอาไว้นึกถึงเวลาที่เราไม่ค่อยได้เจอกัน
ใช่ว่าจะได้เจอคุณซ้งบ่อย ๆ เหมือนเมื่อก่อน นาน ๆ จะได้เจอกันที ก็ต้องทำแบบนี้

“เอ่อ...นุ..นุชา”

หือ

อะไร

นุชาเงยหน้าขึ้นมองคนที่เรียก แล้วก็เห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่าย
เหมือนกำลังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พูดไม่ออก เหมือนอึดอัดใจที่จะพูด

อะไรคุณซ้ง
เรียกแล้วทำหน้าลำบากใจขนาดนั้น ไม่ดีหรอกคุณซ้ง กินข้าวแบบอึดอัดใจ
ไม่มีความสุข ผมไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่

เพราะฉะนั้นระหว่างกินข้าว จะงดเว้นจากการแกล้งให้คุณซ้งโมโหนะ

“ไอ้เรื่องนั้นน่ะ ไม่ได้คิดอะไรนะ จีบบ้าบออะไรนั่น ไม่ได้คิดนะ อย่าเหมา”

อืม

เหรอ

ไม่ได้ว่าอะไร จีบหรือไม่จีบ ชอบหรือไม่ชอบ มันไม่สำคัญแล้ว
ตอนนี้เราก็นั่งกินข้าวด้วยกันอยู่
และผมมีความสุขตามสมควร ตามสถานะของตัวเอง

“รู้....เรื่อย ๆ คุณซ้ง อย่าคิดมากไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยมันหลุดไปจากความคิดบ้างเถอะ ถือว่าผมปากพล่อย พูดจาไม่คิดแล้วกันนะ”

รอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากของนุชา และก้มลงมาสนใจกับอาหารในจานต่อ
ทำให้ซ้งต้องนิ่งเงียบ และเขี่ยข้าวในจานไปมา

ไม่ใช่กับข้าวไม่อร่อย

แต่เหมือนหมดความรู้สึกอยากจะกิน

บอกไม่ถูก มันหงอย ๆ เหงา ๆ เศร้า ๆ พิกล ยิ่งมองคนที่บอกว่ารู้ และเข้าใจ ยิ่งพาให้หงอยเหงา

นุชาเข้าใจเหตุผลที่บอก ยอมรับฟังและเหมือนเข้าใจเป็นอย่างดี ไม่มีข้อโต้แย้ง
แต่แทนที่จะรู้สึกดี กลับรู้สึกแปลก ๆ

ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่อีกฝ่ายเข้าใจเหตุผลที่อธิบาย

แต่ทำไมไม่เห็นรู้สึกดี

ทำไมไม่รู้สึก

“อืมมม กลับยังคุณซ้ง”

กลับหรือยังเหรอ เงยหน้าขึ้นและมองออกไปนอกร้านอาหาร ข้างนอกมืดนานแล้ว หันมามองนุชาที่จ่ายเงินค่าอาหารเรียบร้อยก็เลยต้องรีบคว้ากระเป๋าสตางค์มาหยิบเงินส่งให้เป็นค่าอาหาร

“ไม่เป็นไร มารับมาส่งแล้วก็พาไปดูหนังแล้ว เพื่อนกัน อย่าคิดมาก”

เพื่อนกัน

และอย่าคิดมาก

เพื่อนกันเหรอ...เพื่อน

“คุณซ้งแยกกันตรงนี้ก็ได้นะ เดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่กลับเอง เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวผมมีนัดกับเพื่อน ๆ ตอนสี่ทุ่มอีก”

แยกกันตรงนี้

ไม่ได้

“ไม่ ไม่ สัญญาแล้ว ไปส่ง กลับด้วยกัน เดี๋ยวไปส่ง”

พูดแล้วคุณซ้งก็คว้ากุญแจรถ เดินนำหน้าไปที่รถที่จอดเอาไว้

แล้วนุชาก็เลยต้องลุกขึ้นเดินตาม

ไม่รู้ว่าไม่ชอบใจหรือไม่พอใจอะไร แต่ท่าทางแปลก ๆ ของคุณซ้งทำให้นุชาต้องขมวดคิ้ว และลอบมองใบหน้าของอีกฝ่ายเงียบ ๆ

ไม่ใช่ว่าไม่พอใจ แต่เหมือนคุณซ้งกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ในหัว
แต่ไม่ยอมพูดออกมาเท่านั้น

ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะคุณซ้งไม่ใช่คนช่างพูดจา ช่างเล่า ยิ่งมาเล่าให้นุชาฟังด้วยแล้ว
ยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่

แค่อยู่ข้าง ๆ กัน แค่ได้อยู่ข้าง ๆ แค่นี้ก็คงเพียงพอแล้ว

ไม่ได้คิด หรือคาดหวังอะไรให้มากกว่านี้

ไม่ได้คิด หรือคาดหวัง เลิกคิด
เพราะครั้งหนึ่งเคยคิดและเคยคาดหวังกับใครบางคนเอาไว้
เวลาที่ไม่เป็นไปอย่างที่หวัง มันเจ็บปวด
เพราะฉะนั้น จะไม่อยู่ด้วยความคาดหวังกับใครอีก

รถขับมาจอดที่หน้าบ้าน
และนุชาก็ก้าวขาลงจากรถ โดยมีซ้งเดินตามลงมาด้วย

“รอแป๊บเดียว อาบน้ำก่อน แม่ผมก็อยู่นะ เคยเจอกันยัง”

เคยเจอ

เจอบ่อย ๆ

เจอช่วงที่....นุชาไม่อยู่บ้าน

ซ้งเดินตามเข้ามาในบ้าน และเห็นว่านุชากำลังเรียกแม่ตัวเองที่ยังอยู่ในครัว

“แม่คร้าบบบบบบบ เพื่อนมา...แม่ผมคุณซ้ง ....”

เห็นคุณซ้งยกมือไหว้แม่และก็เห็นแม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและรับไหว้คุณซ้ง
แถมยังมีการพูดคุยกันเหมือนสนิทสนมกันมานาน นั่นทำให้นุชาแปลกใจ

“อ๋อออออออ ซ้ง....แม่ก็ลืม วันก่อนที่เอากะปิมาให้ แม่ว่าจะทำน้ำพริกกะปิแบ่งไว้ให้ก็ยังไม่ได้ทำแม่ก็ลืมไปเลย เดี๋ยววันไหนแม่ทำ แล้วโทรบอกมาเอานะ....ปลาหมึกแห้งยังกินไม่หมดเลย มันเยอะจัด”


อะไร

หมายความว่ายังไง

“นุ่นมันอย่างนี้แหละขี้เกียจหอบข้าวของ มันอยู่ชลบุรีไม่เคยเอาอะไรมาฝากที่บ้านเลยให้ซ้งหิ้วนั่นหิ้วนี่มาเรื่อย ฝากซ้งมาเคยให้ค่าน้ำมันรถค่าหิ้วเพื่อนบ้างเปล่าเรา”

ไม่เคยฝากนะ

ไม่เคยให้ช่วยหิ้วด้วย

ไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ

หมายความว่ายังไงคุณซ้ง

“ไม่เป็นไรครับ ซ้งไปชลบุรีบ่อยอยู่แล้ว วันนี้ก็ยังรับ...เอ่อนุ่น....กลับมาด้วยกัน”

ใช่ วันนี้กลับด้วยกันจริง แต่วันอื่น ๆ ไม่เคย
แล้วผมก็ไม่เคยฝากของมาให้แม่ด้วย เพราะผมไม่เคยเจอคุณซ้งแล้วจะฝากของมาให้แม่ได้ยังไง

“ยังไงคุณซ้ง....”

หันไปถามคนที่ทำหน้าเฉยแล้วหันไปทางอื่นก็เลยมีแต่คำถามเต็มไปหมด
อะไร
หมายความว่ายังไง
มันคืออะไร

“ไปอาบน้ำเหอะไป”

ไล่เหรอ

เออไล่ นี่รีบหรอกนะ ถึงยังไม่ถาม เดี๋ยวจะถามกลับมาถามว่ามันหมายความว่ายังไง

“แม่ เดี๋ยวไปข้างนอกนะ ดึกหน่อยวันนี้”

บอกแล้ว นุชาก็ก้าวขาเดินลิ่ว ๆ ขึ้นบันไดบ้านไปอาบน้ำ

“เพื่อนเยอะ....กลับบ้านทีเพื่อนคนนั้นก็ตามคนนี้ก็ตาม แล้วซ้งไปด้วยมั้ย ทำไมใส่ชุดนี้ไม่ได้ไปด้วยกันเหรอ”

“ไปส่งครับ เดี๋ยวรอรับกลับมาพร้อมกันเลย คงไม่เข้าไปด้วย เที่ยงคืนก็ว่าดึกแล้ว จะไม่ให้อยู่เพลินจนเลยเที่ยงคืนครับ”

เป็นการพูดคุยที่ดูจะสนิทสนมกันเกินปกติ
และนุชาที่เดินขึ้นบันไดไปแล้ว ยังหันมามองด้วยความไม่เข้าใจ

ไปสนิทกันตอนไหนวะนั่น มิน่าล่ะ ถึงได้รู้ชื่อ....แล้วคุณซ้งไปทำอะไรที่ชลบุรีบ่อย ๆ แถมยังหิ้วของมาฝากแม่อีก เขาทำอะไรของเขาวะ

คุณซ้งนี่ชอบทำอะไรแปลก ๆ มีลับลมคมในตลอดเวลา
ถามจริง ๆ อยากรู้มาก คุณกำลังทำอะไรของคุณอยู่กันแน่ครับ คุณซ้ง




TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คำถามยาก ๆ † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 06-04-2012 14:29:56

ตอน คำถามยาก ๆ



“ไปเถอะคุณซ้ง”

อาบน้ำแต่งตัวรวดเร็วใช้ได้นะ นึกว่าจะโอ้เอ้เอ้อระเหยซะอีก
เห็นบางทีเวลาทำอะไรก็เชื่องช้าเหลือเกิน

ซ้งคว้ากุญแจรถมาถือเอาไว้ และเงยหน้าขึ้นมองคนที่มายืนอยู่ข้าง ๆ
ไม่ได้คิดอะไร ไม่ทันได้คิด แต่พอเห็นหน้าของคนที่มายืนข้าง ๆ ก็ถึงกับชะงัก

มันผิดจากทุกทีที่เคยได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ
ทำไมถึงได้คิดตั้งแต่แว่บแรกที่เห็น ทำไมถึงคิดว่าในเวลานี้นุชาน่ามองกว่าที่เคย
ปกติก็เคยเห็นใส่ชุดกีฬา และชุดทำงาน แต่วันนี้เป็นชุดลำลองธรรมดา
มันแสนจะธรรมดามาก แต่มันดูน่ารักผิดหูผิดตาจากที่เคยเห็นกัน

นุ..ชา

ซ้งกำลังมอง

มองหน้าของนุชานิ่ง ๆ และก้มกลับลงมา
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง

“อะไรคุณซ้ง” คนถูกมองอยู่ในอาการงง และก้มลงมองสำรวจตัวเอง
มันก็ปกตินี่หว่า ไม่ได้แต่งตัวอะไรประหลาดผิดแปลกไปจากคนปกติเขาใส่กัน

ก็เสื้อเชิ้ตธรรมดา กางเกงยีนส์
มองอะไรของเขาวะ แปลก มีอะไรน่ามอง

“เอ่อ...เปล่า ไม่มีอะไร”

อะไรวะ เปล่าคือคำปฏิเสธแต่หน้านี่บ่งบอกมากว่ามีอะไรแน่
มองอย่างนี้มันต้องมีแน่ ทำไมไม่บอกกันดี ๆ

“ซ้งไปก่อนครับแม่เดี๋ยวดึก ๆ มาส่งนุชานะครับ”

ครับแม่ เดี๋ยวดึก ๆ มาส่ง โหหหหหหห สนิทกันเกินไปหรือเปล่า
นี่ก็อีกประเด็น ไปรู้จักกันตอนไหน ต้องถามให้รู้เรื่อง

เดินขึ้นมานั่งบนรถ และหันไปมองคนที่แกล้งทำเป็นเฉย
อย่ามาทำมึนครับ เล่ามา

“คุณซ้งสนิทกับแม่ผมดีนะ... ยังไง”

เอ่ยถามและเห็นคนที่กำลังสตาร์ทรถถึงกับชะงัก

เปล่า ไม่มีอะไร ไม่ได้....

“ไปส่งตรงไหนนะ ใกล้ ๆ แยกใช่มั้ยคนละเส้นกับทางไปสนามหรือเปล่า”

ไม่ใช่แล้ว
อย่ามามึน อย่าทำเป็นเฉไฉพูดเรื่องอื่น กำลังถาม และอยากรู้
ไม่ตอบไม่ว่า แต่อย่าเฉไฉ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวถามแม่ก็ได้ ไม่เห็นยาก”

อยากรู้แต่ไม่ยอมบอก ก็ต้องถามคนที่น่าจะรู้จริงและตอบคำถามได้ชัดเจนมากที่สุด

“อย่า อย่า เอ่อ พอดีว่า เอ่อ....”

พูดไม่ออก ทำหน้าไม่ถูก และไม่รู้ว่าควรตอบอะไรดี

ซ้งขบริมฝีปากตัวเอง และเริ่มขมวดคิ้วมุ่น
ถอนหายใจ และแอบเหลือบสายตามองคนที่จ้องหน้าอยากได้คำตอบ

“นุชาอย่าถามแม่ได้มั้ย”

ไม่ได้
ทำไมถึงไม่ให้ถาม

อะไรมีอะไร ทำหน้าลำบากใจอึดอัดใจแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงวะ
แบบนี้ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่

“ถ้า...ไม่ถามได้มั้ย”

ไม่ได้

“อยากรู้คุณซ้งกำลังทำอะไร จะเล่าหรือจะให้ถาม”

แบบนี้มันน่าสงสัยเกินไป

หรือว่า

“เฮ้ยยยยยยยยยย นี่จะจีบแม่ผมเหรอคุณซ้ง หยุดเลยนะ คุณซ้งเป็นคนแบบนี้เหรอ
หืออออออออ คุณซ้งงงงงง”

ตะโกนโวยวายและหันไปมองหน้าคนที่อ้าปากค้าง ทั้งที่สายตายังมองไปที่ถนน

“จะบ้าไปใหญ่แล้ว บ้าหรือไงนุชา บ้า คิดเข้าไปได้ยังไงวะ”

เอออออ
แล้วไป
อย่าให้รู้ว่าคุณซ้งคิดอะไรแปลก ๆ แล้วกัน

คุณซ้งก็คุณซ้งเหอะ เละแน่

“แล้วรู้จักแม่ผมได้ไง”

เอ่ยถามเสียงแข็งด้วยความหงุดหงิด ยิ่งเห็นสีหน้าท่าทางลำบากใจของคนที่ไม่ยอมพูดยิ่งพาลให้โมโห

“ก็ช่วงนุชาไม่อยู่บ้าน ก็แวะไปช่วยรดน้ำต้นไม้บ้าง ไปนั่งเล่นบ้างแค่นั้น”

แค่นั้น
ใช่มันแค่นั้น ประเด็นคือไม่ใช่อยากรู้แค่นั้น
ประเด็นคือทำไมถึงไปบ้านผมครับ

“ไปทำไม”

เอ่ยถาม และรอฟังคำตอบ คนที่สมควรตอบคำถาม ยิ่งทำหน้ายุ่งเหยิงเหมือนกำลังคิดคำตอบอยู่ ตอบให้มันดี ๆ ให้มันได้ใจความนะคุณซ้ง

“ไม่รู้...ก็ไปงั้น ๆ ไม่รู้จะไปไหนก็เลยไป...บ้านนุชา”

เออให้มันได้อย่างนี้

ไม่รู้จะไปไหนก็เลยไป
เป็นคำตอบที่ได้ใจความมาก แล้วทีตอนอยู่ทำไมไม่มา ทีไม่อยู่จะมาทำไม

“ทำไม”

เอ่ยถามแบบนิ่ง ๆ และจ้องหน้าคนที่ตอบคำถามได้เฉไฉที่สุดในโลก
ให้โอกาสครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ตอบ....หึ หึ หึ

“แค่นึกถึงเฉย ๆ ก็เลย...ไป..”

เยี่ยมครับ

ไม่มีใครเขาตอบแบบนี้กันหรอก
คนตอบ ตอบแบบอ้อมแอ้ม ไม่เต็มเสียง แถมยังหลบสายตาอีกต่างหาก

“คิดถึงก็บอกมาตรง ๆ อย่าอ้อมโลก”

เคยล้อเล่นและไม่เคยจริงจังกับคำพูดพวกนี้เพราะเป็นแค่การแหย่การแกล้ง
ให้คุณซ้งโมโห แต่ครั้งนี้เป็นการถามแบบจริงจัง ตั้งใจถาม อยากรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายให้แน่ชัด ทำไมวะ พูดว่าชอบมันจะตายมั้ย พูดว่าคิดถึงมันยากมากนักหรือไง

“เปล่า เปล่า ไม่ได้คิด...ไม่..ไม่.เคยคิด”

อีกแล้ว

เออดี

ให้มันได้อย่างนี้ คุณซ้งเป็นอะไรของเขาวะ คิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่
การกระทำและอะไรหลายๆ อย่างมันโจ่งแจ้งชัดเจนขนาดนี้
ยังจะบอกว่าไม่ได้คิดอะไรอีก ยังจะกล้าพูดแบบนี้อีกเหรอ

นุชาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
และนั่งกอดอกนิ่งเงียบ

ไม่อยากได้แล้วคำตอบ ถามอะไรไม่เคยตอบตรงคำถาม
ถ้าแค่ตอบไม่ตรงคำถามมันน่าหงุดหงิดไม่พอ ก็มีบางครั้งที่พูดให้หงุดหงิดโมโหเพิ่มขึ้นได้อีก

อยากทำอะไรเอาเลยเต็มที่ เบื่อกับความสับสนวกวนของคุณซ้งเต็มที
ทำไมมีอะไรไม่ทำให้ชัดเจน ไม่ชอบแล้วเข้ามาหาทำไม หนีไปตั้งไกลแล้วตามไปทำไม ถ้าไม่คิดอะไร ทำไมทุกครั้งที่คิดจะถอย คุณซ้งก็มักจะหาเหตุเข้ามาพัวพันได้บ่อย ๆ

จะบอกว่าบังเอิญ มันก็ไม่น่าใช่
น้อยมากที่จะโทรหาคุณซ้ง แต่ฝ่ายนั้นก็ยังหาเหตุโทรมาจนได้
โทรมาพูดจาแปลก ๆ โทรมาหงุดหงิดโมโหใส่

มันอะไรกันนักหนาวะ

ซ้งนิ่งเงียบ และเหลือบสายตามองคนที่ไม่ยอมพูดด้วย

กำลังทำอะไรไม่ถูก

ไม่รู้ควรทำยังไง

...อย่ารักใครอาซ้ง ซ้งรักได้แค่หม่าม๊าคนเดียว อย่าไปหลงรักใครมันจะเจ็บปวด จะเป็นเหมือนหม่าม๊า อย่าไปเผลอรักใครนะซ้ง…

มันจะเจ็บมันจะปวด

หม่าม๊าทรมาน ทุกคนกลัวหม่าม๊า หม่าม๊าร้องไห้ทุกวัน
กินก็ร้องไห้ นอนก็ร้อง มันเจ็บปวดไปหมดทั้งที่เป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ
แต่ก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่หม่าม๊าได้รับ และมันถ่ายทอดมาให้ทั้งหมด
จนอยู่ลึก และฝังอยู่ในใจ

แค่เพียงคิด
จะเครียดจนนอนไม่หลับ

กลัว

กลัวว่าจะเป็นอย่างที่หม่าม๊าเคยเป็น
บางครั้งที่นอนหลับไปแล้ว
กลางดึกยังสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความฝันจะตามมาหลอกหลอนเสมอ

ความรู้สึกแปลก ๆ ที่มีให้นุชามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนก็ตอบตัวเองไม่ได้
รู้แค่ว่า ตั้งแต่นุชาย้ายไปอยู่ชลบุรี ตั้งแต่เริ่มเห็นหน้านุชาน้อยลง
สนามมันก็กว้างกว่าปกติ

เคยวิ่งเพียงคนเดียวได้ และไม่เคยคิดจะใส่ใจกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว
สายตาเคยมองหานุชาที่คอยมาพัวพันกับอาม่าจนต้องโฉบเข้าไปกันท่าเสมอ

แต่เวลาที่นุชาไม่อยู่ อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหงา
เคยมองหา สายตาเคยไล่ตามและมองหา
แต่วันที่มองไปแล้วไม่เห็นนุชาอยู่ในที่ที่เคยอยู่ มันใจหาย

ครั้งแรกที่แวะมาที่บ้านนุชาเป็นเย็นวันศุกร์
หวังว่านุชาจะกลับบ้าน แต่ก็ไม่เห็น ผ่านไปวันเสาร์ก็ไม่มา
ที่สนามตอนเย็นก็ไม่เห็นมีสักวันที่แวะไป

ทุก ๆ เย็นวันศุกร์ จะขับรถมาที่บ้านนุชา
มารอ....
รอ....
เผื่อนุชาจะกลับมา
แต่ไม่กล้าโทร
เพราะไม่รู้จะโทรไปทำไม
ไม่มีเหตุผล หาเหตุผลไม่ได้

เห็นแม่ของนุชาอยู่บ่อย ๆ และกลัวว่าจะหวาดกลัวที่มีใครมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้านบ่อย ๆ ก็เลยต้องลงจากรถไปสวัสดี และถามข่าวคราวนุชาบ้าง

มันเริ่มจากตรงนั้น

แล้วก็เลยได้แวะเวียนมาเยี่ยมอยู่บ่อย ๆ เวลาที่นุชาไม่อยู่บ้าน
บางครั้งหลังจากเลิกเรียนในบ่ายวันอาทิตย์ก็จะขับรถไปชลบุรี
ไปทั้งที่ไม่รู้ว่านุชาอยู่ไหน

แต่ไปเพื่อให้รู้ว่าเราได้อยู่ในที่เดียวกัน แม้ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหน อยู่ตรงไหน
แต่อย่างน้อย ก็ได้รู้ว่าอยู่ไม่ห่างกัน

ได้พูดคุยกับแม่นุชา ได้รู้เรื่องของนุชา ทั้งเรื่องตั้งแต่เด็ก เรื่องตอนโต
เรื่องตลก ๆ เรื่องเครียด ได้รับรู้ทุก ๆ เรื่องของนุชา
สุดท้ายกลายเป็นสนิทกับแม่ของนุชาและซื้อขนม ของฝากจากชลบุรีมาฝากบ่อย ๆ
โดยอ้างว่าเป็นของนุชาฝากมาให้บ้าง ทั้งที่ไปแล้วไม่เคยได้เจอกัน

ทำอะไรบ้า ๆ
ทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ ยิ่งกว่าที่เคยว่านุชาไป

ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมถึงได้ทำอะไรโง่เง่า

ยิ่งวันที่ได้เจอหน้านุชาจริง ๆ
วันที่ไปหาที่ชลบุรีและได้พบหน้ากันจริง ๆ ยิ่งเหมือนความรู้สึกของตัวเอง
มันจะระเบิดออกมา
วันที่บอกตัวเองว่าไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว วันที่อยากร้องไห้ที่สุด

แต่แค่ได้เห็นหน้านุชา แค่ได้อยู่ข้าง ๆ ก็ทำให้จิตใจที่เคยว้าวุ่นสงบลงได้

ทำเรื่องโง่ ๆ อยู่บ่อยๆ โดยไม่มีใครรับรู้ด้วย

แค่แวะซื้อขนมและเห็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ก็ต้องมองซ้ายมองขวาเพราะกลัวคนจะรู้ว่าสนใจอยากอ่านแม้กระทั่งหนังสือหลอกเด็กไร้สาระ

แต่เพราะไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง นุชาถึงจะรู้สึกดี
แค่อยากตอบแทน ก็เลยซื้อมาอ่านและทำตาม

บางทีความรู้สึกที่เป็นอยู่มันอาจจะเลยขั้นของคำว่าชอบไปแล้ว
แต่จะให้ทำยังไง....ในเมื่อ

หัวใจก็คอยปฏิเสธและพยายามบังคับใจตัวเองให้หยุดคิดเรื่องนี้ตลอดเวลา

มันน่ากลัว

การรักใครสักคน...มันน่ากลัว

น่ากลัวมากเหลือเกิน

“นุชา....”

เรียกชื่อคนที่นั่งกอดอกเงียบ ๆ และได้เห็นว่านุชาขยับตัวเล็กน้อย
แต่ไม่ขานรับ ทำหน้านิ่ง และรับรู้ได้ว่ากำลังไม่พอใจ

รถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ ใกล้กับผับที่นุชาให้มาส่ง
คนที่ให้มาส่งเตรียมจะก้าวขาลงจากรถ แต่กลับถูกรั้งข้อมือเอาไว้

นุชามองที่ข้อมือของตัวเองและกลับเข้ามานั่งกอดอกอยู่ในรถเหมือนเดิม
มองหน้าของคนที่หันมาหาแล้วก็อยากจะรู้ว่าคุณซ้งอยากจะพูดอะไร

แต่ก็ไม่เห็นพูด

มีแต่มอง

มองนิ่ง ๆ จ้องนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น

อยากจะถามว่าทำไมยังไม่ให้ไป ก็พอดีกับปลายนิ้วของคุณซ้งยื่นมาแตะที่ข้างแก้ม

แตะเบา ๆ

และเกลี่ยไล้เล่น

สายตาที่มองมา มันผิดจากที่เคยเห็น
มีความอึดอัดกดดันอยู่ในแววตาคู่นั้น เหมือนกำลังพยายามเก็บกดความรู้สึกของตัวเอง แต่มันก็เหมือนจะเผยออกมาให้เห็นได้ชัด ๆ

ปลายนิ้วอุ่น ๆ เกลี่ยไล้ลงมาที่ข้างแก้มและหยุดนิ่งที่ริมฝีปาก
ก่อนที่เจ้าของมือ จะชะโงกหน้าเข้ามาหาและแตะริมฝีปากเบา ๆ ที่ข้างแก้ม
ผละออกห่าง และนิ่งมองสบตากับนุชาที่มองมาด้วยความตกตะลึง นิ่งงัน

ไม่เข้าใจ

ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร
ความสับสนวุ่นวาย และคำถามมากมายกำลังตีกันอยู่ในหัว

“ทำไม..อือ..”

อยากจะเอ่ยถามแต่เมื่อคนที่ควรตอบคำถามกลับก้มหน้าลงมาหาอีกครั้ง
ก็ทำให้ต้องหุบปากเงียบเมื่อริมฝีปากอุ่น ๆ ทาบทับลงมาที่ริมฝีปากบาง

อยากถาม
อยากรู้

แต่ความรู้สึกหวานๆ ที่มาพร้อมความสับสนงุนงง ที่บดเบียดเข้ามาที่ริมฝีปาก
ก็ทำให้ต้องนิ่งเงียบ และปล่อยให้คนที่มอบความรู้สึกมาให้ทำได้อย่างใจต้องการ

เป็นนานที่ความรู้สึกล่องลอยไปไกลแสนไกล
หลับตาลงและตอบรับทุกสัมผัสด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่อยากมอบให้
อยากให้รับรู้ว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน

มีความสุข

สุขจนกลัวว่าความสุขที่ได้รับจะจางหายไป
แม้อยากจะดื่มด่ำซึมซับความรู้สึกนี้เอาไว้ตลอดไป แต่ก็ต้องบอกตัวเองให้รู้จักคำว่าพอ
คำว่าพอดี พอควร

ผละใบหน้าออกห่างและเอ่ยเรียกคนที่เหมือนกำลังมึนเมาไม่ได้สติ
และดูเหมือนจะหยุดตัวเองเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป

“อือ...คุณ...คุณซ้ง..พอ..พอแล้ว”

แตะฝ่ามือที่อกของคนที่ใบหน้าอยู่ห่างกันแค่คืบ จนรู้สึกถึงลมหายใจ
และเหมือนฝ่ายนั้นจะเริ่มรู้สึกตัว ยอมผละออกห่างและกลับไปนั่งในที่ของตัวเองเรียบร้อย

“เอ่อ...นุชา..คือว่านะ”

ไม่ต้องอธิบาย
เวลาไม่อยากได้คำอธิบายอย่ามาอยากอธิบายตอนนี้

นุชานิ่งเงียบ

และซ้งเองก็ไม่ต่างกัน

ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ

หลุดเข้าไปอยู่ในความคิดของตัวเอง
และเริ่มรู้สึกถึงความอึดอัดที่กำลังถาโถมเข้ามา

“ให้แค่เที่ยงคืนใช่มั้ย...”

หันไปถามคนที่นั่งนิ่ง และก็เห็นว่าคุณซ้งพยักหน้าตอบรับ
นุชาก้มหน้าก้มตาปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย และจัดแต่งเสื้อผ้าให้เข้าที่

ก่อนจะรีบก้าวขาลงจากรถและเดินลิ่ว ๆ จากไปอย่างรวดเร็ว
ปล่อยให้ซ้งอยู่คนเดียวภายในรถ

และคนที่เหมือนเพิ่งสงบสติอารมณ์ได้ ก็ถึงกับต้องก้มหน้าลงซบลงกับพวงมาลัยรถ

อยากจะบีบคอตัวเองให้ตาย ๆ ไปซะ
เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเผลอทำอะไรลงไป

ทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร รู้สึกตัวอีกทีก็ทำลงไปแล้ว
เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เป็นเพราะจัดการความรู้สึกของตัวเองไม่ได้
จนเผลอทำเรื่องแปลก ๆ ลงไป และในเวลานี้แม้จะเพิ่งสำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปได้
ก็เหมือนจะสายเกินไปแล้ว

“บ้าเอ้ยยยยยยยยยย เป็นบ้าอะไรวะ....ทำไมถึงได้ทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้....ซ้งเอ้ยยยย ซ้งไอ้บ้าซ้งงงงทำบ้าอะไรอยู่วะ”


TBC...

 


:bye2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คำถามยาก ๆ † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 06-04-2012 14:32:56
 :z13:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คำถามยาก ๆ † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 07-04-2012 19:18:20
8 ตอนกับความหวานแบบขมๆ เดี๋ยวนี้หนูซ้งเค้ามีพัฒนาการ มองตา จับมือ หอมแก้ม แล้วก็จูบ
แต่ก็ยังอึมครึมอยู่ดี
หนูซ้งหลงรักหนูนุ่นเข้าแล้วเต็มๆ แต่ดันยึดติดฝังใจกับคำพูดแม่มาก แบบนี้เมื่อไหร่กำแพงหัวใจหนูซ้งจะพังเสียทีนะ
สงสารทั้งสองคน คงสับสนน่าดู

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คำถามยาก ๆ † [06/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 08-04-2012 12:29:31
มายาว ๆ เลย ขอบคุณนะคะ แต่อยากอ่านอีกมาก ๆ ตึบหนึบหนับมากเลย
ตั้งแต่อ่านนิยายมา ขอมอบรางวัลพระเอกซึนดีเด่นให้คุณซ้งเลยค่ะ ซึนได้น่ารักมากด้วย
แ่ต่มันหน่วงความรู้สึกมากเหมือนกันนะที่คุณซ้งขยันปิดตัวปิดใจซะขนาดนี้
แม้จะฮากับความคิดน่ารัก ๆ ของนุชา แต่บางทีก็กลัวนุชาจะทนไม่ไหวจะท้อจะล้าไป
ก่อนที่คุณซ้งจะยอมเปิดใจ...เปิดใจเถอะนะคุณซ้ง นุชาน่ารักจะตาย จะได้ไม่ต้องเป็นแค่เพื่อนไง

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คิด † [10/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 10-04-2012 02:03:39
ตอน คิด



เคาะกระจก และเห็นคนที่ซบหน้าอยู่ที่พวงมาลัยรถเงยหน้าขึ้นมองในสภาพสะลึมสะลือ
แล้วนุชาก็เลยโบกไม้โบกมือและส่งยิ้มให้

ประตูรถถูกปลดล็อคแล้วนุชาก็เปิดประตูรถก้าวขาเข้ามานั่งภายในรถได้

“เที่ยงคืนเป๊ะนะ ไม่ขาดไม่เกิน”

ซ้งก้มลงดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ และก็เห็นว่าไม่ขาดไม่เกินสักนาที
มองหน้าของคนที่เข้ามานั่งอยู่ในรถเรียบร้อย และเริ่มได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ มาจากลมหายใจของนุชา

“เมาเปล่าเนี่ย”

เอ่ยถามและเห็นนุชาพยักหน้าและทำหน้าแหยใส่
ก็เลยต้องอมยิ้มและส่ายหน้าด้วยความขำ

“เมาจริงคุณซ้ง โดนกรอกด้วย ไม่เจอกันนาน เดี๋ยวเติมเดี๋ยวเติมไม่กินก็ไม่ได้ ทั้งง่วงทั้งเมาเลยคุณซ้ง”

คนทำงาน มันก็ต้องมีบ้างแค่ควบคุมให้อยู่ในสถานะที่พอดีพอควรได้ก็พอ

“ซ้งกินแล้วแพ้ เวลาไปไหนก็อ้างได้ ไม่ค่อยมีใครว่าอะไร”

ดีมันก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี เพราะเห็นตอนคุณซ้งแพ้แอลกอฮอล์แล้วโคตรน่ากลัว
ตัวแดงไปหมด และเหมือนจะหายใจไม่ออกด้วย ขนาดอาม่ากิมยังบอกว่าเคยหามส่งโรงพยาบาลมาแล้ว แบบนั้นมันก็เกินไป

แต่....นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นมันอยู่ที่ประโยคบอกเล่านั่นต่างหาก

ซ้ง....
ซ้ง
ซ้ง
...ซ้งเหรอ

ไม่ใช่อั๊วแล้วเหรอ ปกติเห็นเรียกตัวเองว่าอั๊วตลอด บางทีก็เสียงสูงตอนที่ตะคอก
บางทีก็เสียงต่ำตอนที่โดนแหย่โดนแกล้งให้โมโห

เวลาเปลี่ยนจากอั๊วเป็นซ้งแล้ว.....มัน….ก็

“ซ้ง ซ้ง ซ้ง....คุณซ้ง....”

นุชาบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ และส่งยิ้มหวานเชื่อมให้คนที่กำลังขับรถ
เห็นคุณซ้งทำหน้าแปลก ๆ เหมือนจะยิ้มก็ยิ้มไม่ออก

จะขำก็ไม่ใช่

มองแล้วเหมือนคล้าย ๆ กำลังเขินมากกว่า

“อะไร...”

เปล่า ไม่มีอะไร แค่คิดว่า คุณซ้งน่ารักดี เวลางัวเงีย เวลาทำตาเบลอ ๆ เวลาหัวยุ่ง ๆ แล้วก็ทำหน้าเหมือนกำลังเขิน

เวลาขานรับทำไมต้องหันไปมองทางอื่นด้วย

ทำไมล่ะ ไม่อยากมองหน้ากันขนาดนั้นเลยเหรอคุณซ้ง หน้าผมไม่น่ามองขนาดนั้นเลยเหรอ ถนนน่ามองกว่าหรือยังไง

“คุณซ้ง ยืมหนังสืออ่านหน่อยสิ ไอ้ที่ซื้อมาอ่ะ”

อะไรนุชา หนังสืออะไร ไม่มี หนังสือหลอกเด็กแบบนั้นจะอยากอ่านไปทำไม

“กลับบ้าน กลับบ้าน เมาแล้วเพ้อเจ้อกว่าปกติอีกนะ”

เอ้า บ่นอีกแล้ว บ่นแล้วก็ทำท่าลุกลี้ลุกลน ทำไมล่ะคุณซ้ง ทำไม

“คุณซ้งงงงงงงงงงงงงงง คุณซ้ง ฮืออออออ อยากอ่าน อยากรู้ ขออ่านหน่อยนะ นะ นะ”

ลากเสียงยาว ๆ และทำหน้าออดอ้อน พยักหน้าสองสามทีและยกมือขึ้นประสานกันเพื่อขอหนังสือที่อยากอ่าน แต่ก็เห็นคนที่ตั้งใจขับรถเกินเหตุ หันมามองแว่บเดียวและส่ายหน้าแทนคำตอบ

“นะ นะ นะ คุณซ้งงงงงงงง น่า นิดเดียว นิดเดียวเนอะ คุณซ้งใจดี”

ไม่หลงกลง่าย ๆ หรอก
อย่ามาทำท่าทางแบบนี้
อย่ามาทำเสียงแบบนี้
แล้วก็ไม่ต้องมาทำหน้าออดอ้อนแบบนี้ มันไม่เข้ากับลื้อหรอกนุชา
มันดูตลก มันดูน่าขำมากกว่า....

มันไม่ได้ดู.........น่ารัก.....เลยสักนิด จริง ๆ นะ

ไม่ได้ดูแล้วทำให้คิดว่า แบบนี้ก็...น่ารักดี...

“เงียบ ๆ บ้างเป็นมั้ย”

แกล้งเอ็ด แกล้งทำเป็นหงุดหงิดใส่ และก็เห็นว่าฝ่ายที่ร้องขอ ทำหน้ามุ่ย และจ๋อยสนิท นั่งกอดอกแล้วหันหน้าไปมองนอกหน้าต่างรถอีกแล้ว

ทำเหมือน.....ไม่ถูกใจ ไม่ชอบใจ

ปกตินุชาจะทำแค่นิ่งเฉย ไม่พูด

แต่ครั้งนี้ มันมีการทำหน้างี่เง่าใส่ด้วย เป็นการทำหน้างี่เง่าที่ทำให้ใจของคนที่เห็นถึงกับสั่นจนควบควบแทบไม่อยู่ อยากจะเลี้ยวรถเข้าข้างทาง และทำอะไรบางอย่างให้รู้แล้วรู้รอดไป

“คุณซ้ง....คุณซ้ง”

อะไร
เรียกทำไม

เรียกแล้วก็เปลี่ยนจากทำหน้ามุ่ยเมินหน้าหนี กลายมาเป็นนั่งท้าวคางและมองจ้องกันอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนั้น

ถ้าแค่เรียกชื่อมันน้อยไป นุชายังมีการส่งยิ้มให้ด้วย
รอยยิ้มหวานๆ มาพร้อมกับตาโต ๆ ที่เริ่มหรี่ปรือปรอย
อาการที่บอกว่า เมา ของนุชาดูท่าจะจริงอย่างที่ปากพูด

เพราะว่านุชายิ้มมากกว่าปกติ
และทำท่าทางออดอ้อนออเซาะทั้งที่ไม่เคยทำให้เห็นมาก่อน

“จูบทำไมคุณซ้ง”

สติแทบจะหลุด และอยู่ในอาการพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

มันเมา

นุชามันเมา

ตั้งสติเอาไว้ อย่าไปสนใจคำถามให้มากนัก เดี๋ยวพอกลับบ้านนอน ตื่นมาอีกทีก็ลืมแล้ว

“ทำไมล่ะคุณซ้ง....จูบทำไม”

อะไรวะ

จะอยากรู้ไปทำไม ถามไปทำไม เรื่องอื่นมีเยอะแยะให้ถามทำไมไม่ถาม
มาถามเรื่องที่ไม่อยากตอบ เรื่องที่ตอบไม่ได้

ถามไม่ถามเปล่า ทั้งยิ้ม ทั้งจ้อง และทำหน้าเหมือนรอคอยจะให้ตอบให้ได้

“นุชา ไปนั่งให้ดี ๆ แล้วเงียบ ๆ บ้าง น่ารำคาญ”

โหหหหหหหหหหหห

จะให้ไปนั่งที่ไหน ก็นั่งอยู่ตรงนี้ นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ดีตรงไหน
แล้วก็ไม่ได้พูดมากอะไรเล้ยยยยยยย แค่ถามเรื่องที่อยากรู้

คุณซ้งก็แค่ตอบ
อย่าทำเป็นเมิน อย่าทำเป็นบ่น อย่าเฉไฉไปเรื่องอื่น
ขอแค่นั้นได้หรือเปล่าครับ

อยากได้แค่นั้นเอง

คำตอบอะไรก็ได้
อยากได้
อยากได้คำตอบอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกชัดเจน
แม้จะไม่ใช่คำว่า “ชอบ” หรือ “รัก” ก็ได้

การกระทำมันชัดเจนบ่งบอกความรู้สึกอยู่แล้ว
แต่บางครั้งก็งี่เง่าอยากจะได้ความชัดเจนบ้าง

ขอมากไปก็รู้ตัว
แต่ก็หวัง เพราะอยากได้

“ทำไมล่ะคุณซ้ง...ทำไมถึงทำ”

คนถามเลิกจ้องหน้าแล้ว และกลับไปนั่งในที่ของตัวเองเรียบร้อย
เรียบร้อย แบบน้อยใจ

ดูยังไงก็รู้

“นุชา...”

เรียกอีกแล้ว เรียกแล้วก็ไม่เห็นพูดอะไร

แต่ก็ยังอยากได้ยินเสียงเรียก
ชอบเสียงคุณซ้ง

เวลาพูด เวลาบ่น เวลาที่พูดบางอย่างแล้วทำให้เศร้าแต่ก็ยังชอบฟัง

ทำไมถึงชอบ เพราะอะไรทำไมถึงยังชอบ

ทั้งน้ำเสียงทั้งหน้าตา ทั้งวิธีการพูด ทุกสิ่งทุกอย่าง

แม้คุณซ้งจะชอบทำให้เสียใจกับคำพูดเชือดเฉือนที่ฟังทีไรก็รู้สึกเจ็บแปลบทุรนทุราย

แต่ก็ยังชอบ

ชอบคุณซ้ง
ชอบทุกอย่างที่รวมเป็นคุณซ้ง
ชอบเวลาที่โมโห เวลาโกรธ เวลาที่หงุดหงิด งี่เง่า เวลาที่เศร้า หรือแม้กระทั่งเวลาที่ยิ้ม

ชอบคุณซ้งจริง ๆ นะ
ทำไมมันถึงได้เพิ่มมากขึ้นขนาดนี้ล่ะ
และดูเหมือนมันจะเพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกวินาทีที่ได้นึกถึง

“คุณซ้งจูบทำไม...”

ได้ยินคำถามที่นุชาถามซ้ำ ๆแล้วซ้งก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

ตอบไม่ได้

ไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง

รู้แค่ว่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะจนใจจะหาคำอธิบายมาตอบได้
เอื้อมมือไปแตะที่เส้นผมของคนที่ถามคำถามซ้ำ ๆ และเหมือนกำลังบ่นพึมพำอะไรบางอย่างที่ฟังไม่รู้เรื่อง และก็ถึงกับชะงัก เมื่อถูกปัดมือออก

“นุชา”

แกล้งทำเสียงเข้มใส่ คนที่มีท่าทางโกรธเคือง
และก็เห็นนุชาเงยหน้าขึ้นมอง แค่เพียงแว่บเดียวแล้วก็ก้มกลับลงไปมองที่มือของตัวเองอีกครั้ง

เมินกันแบบสมบูรณ์แบบ

“ถ้างั้นมาทำกันอีกครั้ง....”

ทำกันอีกครั้งคืออะไร

ทำกันอีกครั้งหมายความว่ายังไง

“ทำกันอีกครั้งนะคุณซ้ง....”

เมาจริง ๆ แค่เห็นก็รู้ว่าเมา แค่คำพูดก็รู้แล้วว่าเมา
คนเมา ทำอะไรไปก็ไม่เคยจดจำ แล้วมันจะมีค่าอะไร จะทำไปเพื่ออะไร
ในเมื่อทำไปแล้วไม่มีความหมายอะไรอยู่ในความรู้สึกนั้น

“ถึงบ้านแล้วนุชา...เดี๋ยวพรุ่งนี้มารับ....ขึ้นบ้านแล้วอาบน้ำนอนได้แล้ว”

อืมมมม

ไม่อยากตอบจริง ๆ สินะ

ไม่อยากตอบจริง ๆ ด้วย ถ้าอยากโกหกก็ได้ แต่คุณซ้งก็ไม่ทำ
ไม่ตอบอะไรออกมาเลย

มันน่าเสียใจ มันน่าเสียใจจริง ๆ นั่นแหละ

นุชาหน้าซึมเศร้า กำลังจะก้าวขาลงจากรถ

ไม่เคยมีคำตอบ ไม่เคยมีความมั่นใจ ไม่เคยมีความหมายอะไรในการกระทำแต่ละอย่างของคุณซ้งเลย ไม่มีเลยจริง ๆ

“นุชา...”

ได้ยินเสียงเรียกแล้วนุชาก็หันกลับมามองหน้าของคนที่ขับรถมาส่งในเวลาดึกดื่น
ทันได้สบตากับสายตาที่จ้องนิ่งตรงมา ตั้งใจฟังคำพูดบางอย่างของคุณซ้ง
ตั้งใจฟัง และบอกตัวเองว่าอย่าคาดหวังกับคำพูดที่คุณซ้งพูด

ไม่กล้า

ไม่กล้าคิดอะไรให้มาก
ไม่กล้าแม้แต่จะคาดหวัง

“ที่ไม่พูด ไม่ได้แปลว่าไม่คิด แต่เพราะคิดแล้วถึงยังไม่พูด ถ้าแค่พูดเลื่อนลอยไม่รับผิดชอบ ก็คงพูดไปนานแล้ว สำหรับนุชา...คำพูดบางอย่างมันอาจไม่สำคัญสามารถพูดได้ง่าย ๆ แต่สำหรับซ้งคำพูดคำเดียวมันสำคัญกับชีวิตของซ้งมาก ถ้านุชาจะเกลียดหรือโกรธเพียงเพราะไม่พูดสิ่งที่นุชาอยากฟัง ซ้งก็ไม่ว่าอะไร”





TBC...

 


มาอีก4ตอนคะ^^
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † กำลังใจ † [10/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 10-04-2012 02:05:48
ตอน กำลังใจ



“ทานกาแฟเย็นหน่อยครับคุณนุชาจะได้ใจเย็น ๆ”

ครับ

วันเวลาเก่า ๆ ได้กลับคืนมาอีกแล้ว
กาแฟเย็น ชีวิตนี้เกลียดที่สุดคือกาแฟเย็น จะไม่ขอซื้อกินอีกตลอดชีวิต สาบานได้
ทำไมลูกค้าต้องซื้อกาแฟเย็นให้กินด้วย อะไรดลใจให้ซื้อนักหนา

กาแฟเย็น

เฮ่ออออ เห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ และจำใจยกแก้วขึ้นจิบเพื่อให้ไม่เป็นการเสียมารยาทที่ลูกค้าอุตส่าห์ปรารถนาดีซื้อมาฝาก

“คืออย่างนี้นะครับคุณนุชา ธุรกิจของผมเนี่ย.................”

พี่ท่านเล่าอย่างยาวเหยียด และเริ่มแจกแจงเอกสารที่แนบมาให้พิจารณาด้วย
นุชาอ่านเอกสารที่ถูกส่งให้อ่าน และตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกค้าพยายามเล่าและนำเสนอ

ปาเข้าไปบ่ายแก่ ๆ กว่าจะคุยกันรู้เรื่อง กว่าจะเข้าใจ
และนุชาก็รวบรวมเอกสารเพื่อทำเสนอพิจารณาหลังการพูดคุยกันจบ

เวลางานต้องตั้งใจทำงาน
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้จะพยายามบังคับใจให้จดจ่ออยู่กับงาน แต่ก็เผลอมองไปที่โทรศัพท์ที่วางเอาไว้

สี่วัน

สี่วันเลยนะครับ
กูทำอะไรผิดวะ
นี่มันสี่วันแล้วนะครับ
หลังจากที่รับฟังคำพูดโคตรโดนใจจากคุณซ้งวันนั้น นี่ก็ปาเข้าไปสี่วันแล้ว

บ่ายวันที่จะกลับบ้าน ไม่มีสายโทรเข้า ไม่มีการนัดพบ
และเมื่อรอจนถึงบ่ายสาม ก็มีข้อความส่งเข้ามาหา

…วันนี้มารับไม่ได้แล้ว....

แค่นี้
มีข้อความมาแค่นี้จริง ๆ

ไม่มีการบอกที่มาที่ไป ไม่มีการบอกเหตุผล ไม่มีการบอกอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น
และคนรอก็ถึงกับอึ้งกับข้อความที่ได้รับ

อยากจะโทรกลับไปถาม
แต่ก็ไม่ใช่นิสัย

ไม่ใช่คนงี่เง่า เซ้าซี้ ที่จะอ่านข้อความแล้วไม่เข้าใจ

ถ้าอยากโทรคงโทรมาแล้ว คงไม่ส่งแค่ข้อความมาให้
นี่คงไม่อยากคุยตอนนี้ ถึงได้ส่งข้อความที่อ่านแล้วปวดใจมาให้แทน

กูผิดตรงไหนวะ
กูทำอะไรผิดวะ

กำลังทำให้คุณซ้งหนักใจ อึดอัดใจใช่มั้ย บางทีมันอาจจะใช่
เอาแต่เร่ง เอาแต่หาเรื่องให้พูดคำที่อยากฟังโดยไม่สนใจจิตใจคนที่ต้องพูด ว่าบางทีอาจจะอยู่ในสภาพฝืนทน จำใจ

เพราะคิด...ก็เลยไม่ยอมพูด

ไม่ยอมพูด เพราะผ่านการคิดมาแล้วว่าบางที พูดไปคงไม่ดี

เงียบ และทำเป็นเฉยคงดีกว่า

มันคงจะดีกว่า

สำหรับคุณซ้งมันคงดีกว่าพูดออกมา....

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาหมายเลขโทรเข้าล่าสุด แล้วก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
ผ่านมาสี่วันแล้วและหลังจากนั้นไม่มีหมายเลขโทรเข้าจากคุณซ้งอีกเลย

ไม่มีเลยจริง ๆ

จะให้โทรไปหา ก็ไม่ทำอยู่แล้ว

เพราะถ้าคุณซ้งอยากคุย ต้องโทรมาเอง จะไม่ไปรบกวนหรือไปยุ่งวุ่นวายให้รำคาญใจเด็ดขาด

จะไม่ทำให้อึดอัด จะไม่ทำให้ปวดหัว เพราะไม่อยากถูกเกลียด

คุณซ้ง......

ตกลงแล้วเราไม่ได้เข้าใจกันหรอกเหรอ
ทั้งที่ดูเหมือนว่าจะเข้าใจบางอย่างที่คุณซ้งคิดตั้งมากมาย
แต่สุดท้าย จะให้แปลว่าไม่เข้าใจสิ่งที่คุณซ้งคิดเลยอย่างนั้นเหรอ

ที่จริงแล้ว กูไม่เข้าใจความคิดของน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งหน้าใสปิ๊งและชอบทำหน้าบึ้งอยู่เสมอ คนนั้นเลยหรือนี่

คุณซ้ง ยังอยู่ห่างไกลเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ได้รู้จักกันในช่วงแรก ๆ หรือไงวะ

แต่มันก็ไม่น่าจะใช่

ความรู้สึกอาจหลอกตัวเองได้
แต่การกระทำที่โคตรชัดเจนขนาดนั้น มันจะเรียกว่าหลอกตัวเองได้ยังไง

เพราะไม่ได้เป็นคนทำอะไรแล้วคิดไปเอง

แต่เป็นคุณไม่ใช่เหรอครับ ที่มาทำอะไรอย่างนั้นกับผม
คนไม่คิดไม่รู้สึกอะไรเลยจะทำแบบนั้นไปทำไม

ยิ่งคุณซ้งด้วยแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีทางเลย

แล้วการเงียบหายไปแบบนี้หมายความว่ายังไง

คิดจะทรมานใจกันให้ตายไปข้างเลยหรือยังไงคุณซ้ง

คนรอ ที่ไม่รู้กำหนดเวลา มันทรมานใจนะครับ

มันทรมานหัวใจ.....มากนะครับคุณซ้ง

“นุชา...เป็นอะไรหน้าเครียด ๆ เคสนี้มีอะไรลำบากใจหรือยังไง”

เปล่าครับพี่ ไม่มีอะไรลำบากใจ แค่ทำข้อมูลและนำเสนอเพื่อส่งพิจารณาไม่ใช่เรื่องยาก

ขอโทษที่อู้งาน
ขอโทษที่เอาเวลางานมาคิดเรื่องส่วนตัว

ผมจะเร่งทำงานเดี๋ยวนี้ครับ

“ก็นิดหน่อยครับ แต่ไม่มีอะไรมาก เดี๋ยววันนี้น่าจะทำเสนอได้เลย”

ตอบกลับรุ่นพี่ที่เดินผ่านมาทักทาย
และส่งยิ้มให้หลังฟังคำถามเรื่องความคืบหน้าของงาน

ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ทั้งที่ยังรอ และหวังว่าจะมีโทรศัพท์เข้ามา

รอ

รอสายเรียกเข้า

รอให้เจ้าของหมายเลขที่นึกถึงโทรเข้ามาหา

แต่ก็ไร้วี่แวว
ไม่มีแม้แต่ข้อความหรือคำอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้น

มีแต่ความเงียบ และการรอคอยของนุชา

คุณซ้ง ทำไมทำแบบนี้ ทำไมทำกันได้ถึงขนาดนี้วะ

จะเอายังไงก็น่าจะบอกกันบอก

ถ้าจะไม่คิด จะเลิกคิดแล้ว และจะไม่ยอมพูดอีก ก็ไม่ว่า
แต่อย่าปล่อยให้รอ อย่าปล่อยให้คอย

แค่บอกมาตรง ๆ จะไม่ดื้อด้านงี่เง่าทำให้ลำบากใจ

แค่เพียงพูดมาคำเดียวเท่านั้น ว่าให้หยุด และแค่พูดมาคำเดียวว่าจะเลิกพบเลิกเจอกัน

การเงียบแบบไร้คำอธิบายแบบนี้ มันทำให้คนรอคอย ทรมาน ทุรนทุราย

ทำไมถึงไม่บอกอะไรกันเลยคุณซ้ง
ทำไมถึงไม่บอกอะไรผมบ้างเลย


นุชาวางกระเป๋าเอกสารลงบนโต๊ะพับเล็ก ๆ
เปิดรายการโทรทัศน์ทิ้งไว้ ปลดเนคไทน์โยนทิ้งไว้บนเตียง และปลดกระดุมแขนเสื้อและกระดุมเสื้อเม็ดบนออกเพื่อให้คลายความอึดอัดลงบ้าง

นั่งเหยียดขา และเอนหลังพิงกับเตียงนอน

มองโทรศัพท์ที่วางเอาไว้ และถอนหายใจเฮือกใหญ่

ไม่โทรจริง ๆ สินะ

บางทีนี่คงเป็นคำตอบของการเงียบหาย ก็ดีนะ ไม่ต้องพูดให้มากความ
คุณซ้งไม่ใช่คนที่ถนัดจะพูดอะไรซะด้วย

การทำแบบนี้ก็ดูสมเป็นคุณซ้งดี

ทำแบบนี้มันก็ดู.....สมกับเป็นคุณซ้ง....ดีนะ

คิดแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงเบา
ไม่ใช่หัวเราะเพราะขบขันแต่เพราะเยาะหยันตัวเอง

ไม่เป็นไร ความผิดหวังเป็นเรื่องปกติที่คนเราต้องพบเจอ
ไม่สำคัญว่าจะผิดหวังมากแค่ไหน สำคัญคือเราจะจัดการกับความผิดหวังยังไง

อยู่อย่างทุรนทุรายเจ็บปวด หรืออยู่อย่างเข้าใจ และปล่อยมันให้เป็นไป

เราควบคุมความรู้สึกนึกคิดหรือการกระทำของคนทั้งโลกไม่ได้
เราแก้ไขคนอื่นให้เป็นอย่างใจเราไม่ได้ เพราะฉะนั้นที่เราต้องทำคือแก้ไขที่ตัวเองก่อน
ทำยังไงให้ตัวเองอยู่ต่อไปได้

ทำยังไงให้สามารถใช้ชีวิตอยู่กับความผิดหวังต่อไปได้

เสียใจ ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่จะทำยังไงหลังการเสียใจ จะทำยังไงถ้าเสียใจ

นุชานั่งอมยิ้ม และมองเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ

ก็....มันช่วยไม่ได้นี่นะ ที่คุณซ้ง....จะไม่ทำอะไรอย่างที่หวัง

ไม่พูดอย่างที่อยากฟัง ไม่ทำอย่างที่อยากให้เป็น
มันช่วยไม่ได้ เพราะมันช่วยไม่ได้จริง ๆ

แต่ว่า........แม่งโคตรเจ็บเลยว่ะ ทำไมมันเจ็บไปถึงหัวใจขนาดนี้วะเนี่ย
เจ็บจนอยากร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก

ไม่รู้จะร้องยังไง

ต้องทำยังไง.....

มันไม่เหมือนความทุกข์ใจอย่างคราวพี่ฟ้า มันต่างกัน
พี่ฟ้า....

ก็แปลกดี
ทั้งที่ตอนนี้ก็อยู่ในใจ ยังนึกถึง ยังคิดถึงอยู่

แต่ไม่เหมือนคุณซ้ง มันคนละความรู้สึกกัน
ความรู้สึกที่มีให้พี่ฟ้า มันเจือจางและไม่ได้รู้สึกแบบที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว

ไม่ได้รู้สึกโหยหาอยากได้มาครอบครอง
ไม่ได้รู้สึกต้องการอยากฉุดรั้งเอาไว้
ความรู้สึกชอบพอฉันท์ชู้สาวมันหมดลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่

มันหายไปและหมดลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

นุชาหยิบรีโมทโทรทัศน์มากดค้นหาช่องรายการโทรทัศน์ กดเล่นไปเรื่อย ๆไม่ได้คิดอยากจะดูแบบจริง ๆ จัง ๆ กดข้ามไปข้ามมา และต้องกดย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่อพบว่าช่องการ์ตูนกำลังฉายการ์ตูนเรื่องที่เคยเห็นคุณซ้งดู

นึกถึงขึ้นมาทันที

วันก่อนโน้นนนนนนน ยังได้ดูด้วยกันอยู่เลย ยังแซวไปว่า แอ๊บแบ๊ว ทำเป็นแบ๊วไปได้
แล้วคุณซ้งก็รีบเปลี่ยนไปดูรายการสารคดีทันที

เป็นคนที่น่ารักมาก ๆ จริง ๆ นั่นแหละ
คุณซ้งเป็นคนน่ารัก นิสัยใจคอหลายๆ อย่าง ยิ่งมองยิ่งได้เห็น ยิ่งได้อยู่ใกล้ยิ่งได้สัมผัส
ก็ทำให้รู้สึกและสัมผัสถึงอีกแง่มุมของคุณซ้ง ที่มีมากกว่าการทำหน้าเฉย
และทำหน้าเหมือนเกลียดคนทั้งโลก

มีบางอย่างที่ทำให้อยากค้นหา และอยากเข้าใกล้ในเวลาเดียวกัน

คุณซ้ง.....

คิดถึง.....

คิดถึงคุณซ้งจริง ๆ นะ

แบบนี้เรียกว่าคิดถึงแบบจริง ๆ จัง ๆ

จะทำยังไงล่ะ จะให้ทำยังไง
แม้จะคิดถึง แต่ก็ต้องหยุดความคิดแล้วใช่มั้ย เพราะคำตอบดูเหมือนจะชัดเจนขนาดนี้

นุชาหยิบโทรศัพท์มาค้นหาหมายเลขของคนที่ทำให้นึกถึง และเริ่มกดลบข้อความที่เคยมีเข้ามา ลบหมายเลขโทรเข้าของคุณซ้งที่เคยโทรเข้ามาหา

ลบไปเรื่อย ๆ ไล่ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มโทรเข้า
นั่งนิ่งมองหมายเลขโทรเข้าที่ถูกลบทิ้งออกไปเรื่อย ๆ

จนถึงวันสุดท้ายที่โทรเข้ามาเมื่อสี่วันก่อน

กำลังจะกดลบ แต่ก็มีหมายเลขโทรเข้า

เบอร์ของคนที่ทำให้นึกถึง หลังจากหายไปสี่วันเต็ม ๆ

“นุชาครับ”

กดรับสายและกรอกเสียงเข้าไปด้วยหัวใจเต้นระทึก จะด่า จะบ่น จะว่า หรือจะพูดอะไร
อยากฟัง อยากรู้ว่าคุณซ้งจะพูดว่ายังไงบ้าง

“คุณนุชานะครับ...เอ่อ ผมเหวงนะ...พี่ชายซ้ง”

แปลกใจ ที่คนที่โทรเข้ามาไม่ใช่คุณซ้งอย่างที่คิด แต่เป็นใครบางคนที่มีเสียงคล้ายกัน
คล้ายมากจนเกือบจะคิดว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน

“เอ่อครับ...คุณเหวงโทรหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”

สงสัยและประหลาดใจ ทำไมถึงเป็นพี่ชายคุณซ้งโทรมา ทำไมคุณซ้งไม่โทรมาเอง

“น้องชายผม ซ้งน่ะ มันไม่กินข้าวไม่หลับไม่นอนมาสามสี่วันแล้ว จะเป็นการรบกวนคุณนุชาเกินไปมั้ย ถ้าคุณจะช่วยพูดให้มันกินข้าวซักหน่อยก็ยังดี”

ไม่กินข้าว
ไม่หลับไม่นอนมาสามสี่วันแล้ว

เป็นอะไร ทำไมถึงได้

คุณซ้งเป็นอะไรทำไมถึง......

“คุณซ้งเป็นอะไรครับทำไมไม่ยอมกินข้าวไม่ยอมนอน มีอะไรหรือเปล่าครับ”

ร้อนใจ เหมือนจะทนไม่ไหวเมื่อได้รับรู้เรื่องราวของคนที่เงียบหายไป

“ผมอยู่โรงพยาบาลนะครับ เมื่อวันอาทิตย์น้าหงษ์กับน้องชายคนเล็กของผมขับรถมาส่งอาม่ากิมที่บ้าน แต่มีรถกะบะเสียหลัก พุ่งชน ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ในไอซียูมาสี่วันแล้ว”

มือเย็นเฉียบ

หัวใจหล่นวูบเมื่อได้ฟังสิ่งที่พี่ชายคุณซ้งเอ่ยบอก

อาม่ากิม อาม่า....

อยู่ในห้องไอซียูมาสี่วันแล้ว

ช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน ทั้งที่ไม่ใช่อาม่าของตัวเอง แต่แค่ได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น
นุชาก็ถึงกับน้ำตาคลอ และแตะฝ่ามือที่อกของตัวเอง

“อาม่า...จะ...จะเป็นอะไรมากมั้ยครับ”

เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง และขมวดคิ้วมุ่น กำโทรศัพท์ไว้แน่น
รอฟังด้วยใจเต้นระทึก

“หมอบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องรอดูอาการ ยังต้องอยู่ไอซียูก่อน
คนเจ็บก็ห่วงจะแย่แล้ว แต่คนที่ไม่เจ็บมันจะเป็นหนักกว่าคนเจ็บไปแล้ว…
อ้าวซ้งมาพอดี เฮียโทรหาคุณนุชาให้แล้ว คุยกะคุณนุชาหน่อย”

โทรศัพท์ถูกเปลี่ยนมือไปที่เจ้าของโทรศัพท์ และนุชาก็ได้ยินเสียงพูดของคนที่อยู่ปลายสาย

เฮียโทรทำไม....ผมบอกว่าอย่าโทร เฮีย....ผมไม่...เฮีย....

ได้ยินเสียงพูดแว่ว ๆ และคนที่บอกว่าไม่ต้องการโทรหา ก็เอ่ยทักทายนุชาเสียงเบา

“นุชา…เอ่อ...เอ่อซ้ง..เองนะ”

รู้แล้วว่าเป็นคุณซ้ง แต่ทำไมถึงไม่บอกกันสักคำ ว่าอาม่ากิมอยู่โรงพยาบาล
ใจร้ายมาก ทำไมถึงไม่โทรบอกกันบ้าง

“ทำไมไม่กินข้าว ทำไมไม่ยอมนอน ทำไมคุณซ้งไม่ห่วงตัวเองบ้าง คุณซ้งทำแบบนี้อยากให้ผมเป็นบ้าตายใช่มั้ย ทำไมไม่บอกว่าอาม่ากิมอยู่ไอซียู ทำไมคุณซ้งไม่บอกอะไรสักคำ ผม....มันไม่มีความสำคัญอะไรกับชีวิตคุณซ้ง ไม่จำเป็นต้องบอกอะไรให้รับรู้ก็ได้ใช่มั้ย”

แบบนี้มันหนักกว่าโดนเกลียดอีก

แค่บอกกันสักคำ เรื่องสำคัญ เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมถึงไม่บอกกันเลย
ทำไมทำแบบนี้

“นุชา...ซ้งไม่...ไม่อยาก...รบกวน..ไม่อยากให้นุชาเสียการเสียงาน”

ไม่อยากรบกวนไม่อยากให้เสียการเสียงาน แต่ทำไมไม่คิดบ้างว่าจะทำให้เสียใจ

“ไหวมั้ยคุณซ้ง....ตอนนี้...ใจคุณซ้ง..พอจะสู้ไหวมั้ย”

เอ่ยถาม และได้รับความนิ่งเงียบตอบกลับมา

นิ่งเงียบ

เงียบงัน

อยู่ในความเงียบแบบนั้น เป็นนาน

นานจนเริ่มได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ จากปลายสาย

“คุณซ้ง...ไหวมั้ย...ไม่เป็นไรคุณซ้ง...คุณซ้งสู้ไหวอยู่แล้วนะ อาม่ากิมไม่เป็นไรหรอกคุณซ้ง...คุณซ้งต้องกินข้าวแล้วก็ต้องนอนบ้าง ไม่อย่างนั้นอาม่ากิมจะเป็นห่วงมาก คุณซ้งเข้าใจใช่มั้ย...คุณซ้งเชื่อนุชาใช่มั้ย”

เอ่ยบอกและยิ่งเหมือนได้ยินเสียงสะอื้นหนักขึ้นของปลายสาย

ใจจะขาดให้ได้ แม้ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา แต่แค่รู้ว่าคนฟังกำลังร้องไห้
ก็รู้สึกเหมือนจะขาดใจ

รู้ว่าคนที่นิ่งเงียบกำลังร้องไห้
แล้วนุชาก็ต้องบังคับตัวเองไม่ให้ร้องตาม

ร้องไม่ได้ ถ้าขืนร้อง อีกฝ่ายคงยิ่งแย่

“เชื่อนุชาใช่มั้ยคุณซ้ง...เชื่อนุชานะ...ไม่เป็นไร ไม่มีอะไร คุณซ้งผ่านไปได้อยู่แล้ว”

ปลอบใจเท่าที่จะนึกได้ คิดหาคำพูดที่จะทำให้คนที่กำลังร้องไห้สบายใจขึ้นบ้าง

“ขี้แยจริง ไม่สมเป็นคุณซ้งเลย ลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก ถ้าคุณซ้งร้องอีกนุชาจะฟ้องอาม่ากิมนะ”

ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ทั้งที่ยังร้องไห้ของปลายสาย แล้วนุชาก็เริ่มยิ้มออกมาได้

คิดว่าตัวเองเป็นคนโง่เง่า คิดอะไรบ้าบอเพ้อเจ้อ เอาแต่ใจ
ทั้งที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าคนที่นิ่งเงียบไปกำลังทุกข์ใจมากแค่ไหน

ทำไมไม่พูด ทำไมไม่ถาม ทำไมถึงได้ปล่อยให้คุณซ้งเป็นทุกข์อยู่คนเดียวได้ตั้งนาน

“พรุ่งนี้นุชาจะไปหา คุณซ้งวันนี้ต้องกินข้าวนะ แล้วก็นอนหลับซักงีบก็ยังดี
ห้ามดื้อนะคุณซ้ง บอกแล้วต้องฟัง ต้องเชื่อนุชาเข้าใจมั้ย”

ไม่รู้ว่าเข้าใจหรือเปล่า

ไม่รู้ว่าจะทำตามอย่างที่บอกหรือเปล่า

แต่เมื่อได้ยินเสียงที่ตอบกลับมาก็ทำให้นุชาสบายใจขึ้นได้บ้าง

“จะ...จะเชื่อ..”

แค่บอกว่าจะเชื่อ....แค่เพียงเท่านั้น
ก็ทำให้คนนุชายิ้มออกมาได้ เมื่อได้รับรู้ว่าอย่างน้อยคุณซ้งก็ยังยอมรับฟังกันบ้าง
ไม่ได้ดื้อดึงหรือต่อต้าน

“คุณซ้ง....เป็นห่วงจริง ๆ นะ อย่าร้องไห้เลย จะร้องตามอยู่แล้ว”

เอ่ยบอก และได้ยินเสียงหัวเราะตอบกลับมา มันอาจไม่ใช่เสียงหัวเราะที่สดใสที่สุด
แต่เป็นเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ในเวลาที่ทุกข์ใจที่สุด

มันอาจไม่สดใส แต่ก็ทำให้มีความหวังขึ้นมาบ้าง ทำให้คนที่ต้องต่อสู้กับความกลัว
ความทุกข์ทรมานใจได้รู้ ว่าไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง ยังมีใครบางคนอยู่ข้าง ๆ
ยังมีใครบางคนคอยให้กำลังใจและยังคอยอยู่ข้าง ๆ เสมอไม่ได้หายไปไหน

“ขอบใจมาก....ขอบใจมากจริง ๆนะ...นุชา”




TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † พัก † [10/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 10-04-2012 02:07:11
ตอน พัก



คุณซ้ง....

..............

นุชาถึงกับรับไม่ได้กับสภาพของคนตรงหน้าที่ได้เห็น
ใครคนหนึ่งนั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้หน้าห้องผู้ป่วย ในสภาพที่คนเห็นสภาพแทบขาดใจ


เสื้อเชิตสีขาวยับย่นถูกพับขึ้นมาถึงข้อศอก
คุณซ้งยังคงนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ คนเดียว มันดูอ้างว้างโดดเดี่ยวเหลือเกินในสายตาของนุชา แค่เห็นก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่ส่งมาถึง

ยืนนิ่งจ้องมอง และก็เห็นคุณซ้งค่อย ๆ หันมามองอย่างช้า ๆ

หัวใจกระตุกวูบ แค่เห็นก็แทบทนไม่ไหว

แค่เห็นก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ดวงตายังแดงก่ำ คงทั้งร้องไห้ ทั้งอดนอน

ริมฝีปากแห้งผาก และความหม่นหมองที่ส่งผ่านมาทางสายตาเมื่อนุชาได้สบตาด้วย ใบหน้าหม่นหมองของคนที่หันมองมา

คุณซ้ง.....

นุชารีบก้าวเท้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนที่ยังนั่งนิ่ง

เห็นแล้วแทบอยากร้องไห้ อยากจะร้องไห้จริง ๆ

“อาม่ากิม...เป็นยังไงบ้างครับ”

เอ่ยถามทั้งที่สายตายังจ้องนิ่งที่ใบหน้าของคนที่ยังมีท่าทางเหม่อลอย

“อาม่า...อยู่ข้างใน...อยู่ในห้อง อาม่าไม่เป็นไรแล้ว....ใช่มั้ยนุชา”

คนที่ควรถาม กลายเป็นต้องตอบคำนี้ซะเอง
คำถามที่ทำให้นุชาถึงกับฟังแล้วสะอึก
คุณซ้งต้องการกำลังใจ และต้องการความมั่นใจในเวลาเดียวกัน
และนุชาก็รีบพยักหน้า รีบบอกให้คนที่รอคอยคำตอบมั่นใจ

“ไม่เป็นไร อาม่าไม่เป็นไรแล้ว คุณซ้ง”

เห็นรอยยิ้มน้อย ๆ จุดขึ้นที่มุมปากของคนถามแล้วนุชาก็ถึงกับนิ่วหน้า

ไม่รู้จะพูดอะไรดี
พูดไม่ออก

สงสาร
รู้สึกสงสารจับใจ

แตะฝ่ามือเบา ๆ ที่ข้างแก้มของคนที่มองมาทั้งที่ดวงตายังแดงก่ำ
และยังจ้องนิ่งไปที่ดวงตาหม่นหมองคู่นั้น

“ไหวมั้ย”

เอ่ยถาม และก็ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าอย่างช้า ๆ

“กินข้าวหรือยัง นอนบ้างหรือเปล่า”

ถาม
รีบถาม และจ้องหน้าเพราะอยากได้คำตอบ และก็เห็นคนตรงหน้าเหมือนกำลังคิดตามว่ากินข้าวหรือยัง แล้วนอนไปบ้างหรือเปล่า คิดอยู่นานก่อนตอบ

“กิน...ไปนิดหน่อย...นอนไปบ้างแล้ว”

แค่นิดหน่อยก็ยังดี แค่นิดเดียวก็ยังดีกว่าไม่กินไม่นอนเลย
นุชาเดินมานั่งข้าง ๆ คนที่นั่งนิ่งเฉย และจ้องหน้าของคุณซ้งที่หันมามอง

เป็นห่วง

เห็นสภาพคุณซ้งแล้วยิ่งน่าห่วง

“ผมช่วยอะไรคุณซ้งได้บ้างมั้ย”

อยากให้รู้ว่าจะอยู่ข้าง ๆ ไม่คิดจะทอดทิ้งให้ต้องต่อสู้เพียงลำพัง
อะไรก็ได้ อยากให้ช่วยอะไร แค่เพียงบอกมา แค่เพียงพูดมา

“ไม่เป็นไร....ไม่เป็นไรหรอกนุชา....ซ้งยังไหวอยู่”

ยังไหวอยู่ แต่สภาพเหมือนคนกำลังจะตาย แบบไหนที่ว่ายังไหว
แบบนี้เหรอที่เรียกว่ายังไหว

แบบนี้เหรอ.....แบบนี้หรือไงคุณซ้ง

ซ้งนิ่งจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้า อยากจะพูดอยากจะตอบ
แต่ลำคอแห้งผาก แทบไม่มีแรงจะตอบ

ไหวจริง ๆ นะนุชา
ตอนนี้ยังไหว

กลัว

ความหวาดกลัว กลัวที่จะสูญเสียคนสำคัญ กลัวสูญเสียคนที่รักที่สุดในชีวิตไป

มันน่ากลัว

อาม่านอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียง มีสายห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด
อาม่าที่ทุกทีต้องยิ้ม และค่อยบ่นเวลาที่ทำตัวไม่ดี เวลาที่ทำตัวแย่ ๆ เอาแต่ใจ

อาม่าที่คอยเป็นห่วงเป็นใย อยู่ใกล้ ๆ และ ดูแลมาตลอดชีวิต ตั้งแต่เล็กจนโต

มันปวดใจ แค่เห็นอาม่าในสภาพที่ไม่ควรเห็นและไม่คิดว่าจะได้เห็นแบบนั้นมันเหมือนจะขาดใจ

ทนไม่ได้

เกือบจะทนไม่ได้

ร้องไห้ และภาวนาขออย่าให้อาม่าเป็นอะไร

จมอยู่กับความทุกข์ทรมานมานานหลายวัน ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน ไม่อยากรับรู้เรื่องรอบตัว

ไม่อยากรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ รอบตัว
ทั้งสมองทั้งหัวใจ ตัดขาดคนรอบข้างออกไปจนหมด

มีเพียงอาม่าคนเดียว มีแค่เพียงเรื่องของอาม่ากิมคนเดียว
ไม่อยากเจ็บปวดอีก กลัว.....ถ้าต้องสูญเสียคนสำคัญที่สุดในชีวิตไปอีกคน

จะทำใจได้ยังไง จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปยังไง

คิดอะไรไม่ออก เจ็บปวด และหวาดกลัว

จมอยู่กับสภาพแบบนั้น
จนกระทั่งได้ยินเสียงนุชา

ความกลัวไม่ได้ทุเลาเบาบางลง
มันยังฝังลึกและยังแสดงให้เห็นให้รู้สึกอย่างชัดเจน

แต่การที่ได้รับรู้ว่าไม่ได้อยู่กับความกลัวเพียงลำพังก็ทำให้
ความความหนาวเหน็บที่หัวใจผ่อนคลายลงบ้าง

แค่เพียงได้เห็นหน้า
ได้เห็นแววตา
ได้รับรู้ว่ายังมีคนอีกคนที่คอยห่วงใย

แค่เพียงได้รู้ว่ายังมีนุชาอยู่....ใกล้ ๆ ในเวลานี้

แค่เพียงได้รู้

“คุณซ้ง....”

ได้ยินเสียงเรียก และนิ่งมองใบหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จนรู้สึกได้ถึงไออุ่นของร่างกายของคนที่เรียก มองและเห็นว่านุชาส่งยิ้มมาให้

กำลังใจเล็ก ๆ ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มนั้น มันทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความหวาดกลัวและความกดดันลงได้บ้าง

ก้มลงมองที่มือของตัวเอง ที่ถูกดึงไปกุมเอาไว้

ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะสัมผัสอย่างแผ่วเบา และลูบไล้เบา ๆที่หลังมือ

มันอุ่น

อบอุ่น

รับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่ใช่แค่ฝ่ามือ แต่ยังส่งไปถึงหัวใจ

ขยับร่างกายเพื่อให้ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า และค่อย ๆ เอนหัวแตะลงบนไหล่ของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

เหนื่อย

เพิ่งรู้ว่าเหนื่อย

เพิ่งรู้ว่าร่างกายกำลังทนแบกรับกับสภาพหนักหนาสาหัสที่ผ่านมาไม่ไหวแล้ว

เพิ่งรู้ว่าร่างกายทนไม่ไหว

หรี่ปรือตาลง และหลับตาลงได้ง่าย ๆ ทั้งที่ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้เลยตลอดสามสี่วันมานี้

หลับตา แค่เพียงได้หลับตาก็ทำให้หลับได้ไม่ยาก

นุชานั่งนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น

นั่งนิ่งให้คนที่อ่อนล้ามาตลอดหลายวันได้เป็นที่พักพิง

เป็นที่พึ่ง....

เป็นที่เดียว ที่รู้สึกไว้วางใจและสามารถหลับตาลงได้

“เฮ้ยซ้ง กิน...ข้าว...”

เสียงเรียกของใครบางคนทำให้นุชาต้องเงยหน้าขึ้นมอง

และถึงกับนิ่งอึ้ง เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่มายืนอยู่ตรงหน้า

คล้ายกันมาก

ใบหน้าที่คล้ายคลึงกับคนที่หลับตาลงซบอยู่ที่ไหล่

“นุชาครับ”

แนะนำตัวและส่งยิ้มแหย ๆ ให้กับคนที่ยืนนิ่งมองและพยักหน้าให้เหมือนเป็นอันรับรู้ว่าเคยได้พูดคุยกันบ้างแล้ว

“ซ้งมัน...ไม่ได้นอนมาหลายวันแล้วครับ...ขอโทษแทนน้องผมด้วย ...รบกวนหน่อยนะครับ”

แม้จะคล้ายกัน แต่ท่าทางและการพูดจาต่างกันอย่างลิบลับ

คุณเหวง ดูมีมนุษย์สัมพันธ์ดี ไม่ได้ดูนิ่งเงียบ และเมินเฉยแบบคุณซ้ง
ดูมีชีวิตชีวา และไม่ได้รู้สึกถึงความโดดเดี่ยวอ้างว้างแบบที่คุณซ้งเป็น

พี่น้องต่างกันได้มากขนาดนี้

“ผมเหวงพี่ชายซ้งมันนะครับคุณนุชา...เคยเห็นแต่ไกล ๆ ไม่นึกว่าจะได้เห็นชัด ๆ วันนี้”

เห็นไกล ๆ
แสดงว่าเราเคยเจอกันมาแล้ว

“มันบอกว่าอยากเห็นก็ให้โฉบไปที่สนาม....ผมก็อยากรู้นะครับ..ความอยากรู้อยากเห็นก็เลย.......อยากรู้ว่าคุณนุชาที่ไอ้ซ้งมันพูดถึงบ่อย ๆ เป็นยังไง ก็อย่างว่าแหละครับ อย่างมันนี่เคยพูดถึงใครที่ไหน ถ้ามันพูดก็แสดงว่าต้องไม่ธรรมดา ผมก็อยากเห็นคนไม่ธรรมดาของไอ้ซ้งมันนะครับ อย่าโกรธกันนะครับคุณนุชา”

อ่า

พูดเก่งกว่า

ยิ้มเก่งกว่า

และทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดใจ นุชาก็เลยยิ้มอย่างอาย ๆ ที่มีคนให้ความสนใจขนาดนี้ และต้นเหตุของความน่าสนใจที่เกิดขึ้นก็มาจากคำบอกเล่าของคนที่หลับอยู่ข้าง ๆ

“ถ้าเป็นคุณนุชา...ผมก็คิดว่าวางใจได้...”

จริงจัง

จากที่พูดไปยิ้มไปคราวนี้กลายเป็นคำพูดจริงจัง

นุชาเงยหน้าขึ้นมองคุณเหวงที่เอ่ยบอกบางอย่างที่ทำให้ต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ

“ฝากน้องชายผมด้วย.....ฝากดูแลมันหน่อย ดูแลในส่วนที่พี่ชายอย่างผมทำให้มันไม่ได้ ตรงนี้ของซ้งมัน”

มองตามและเห็นว่าคนตรงหน้าแตะฝ่ามือที่อกข้างซ้าย

ตำแหน่งของหัวใจ

“ถ้าคุณนุชาทำให้ซ้งมันเปิดใจได้แล้ว...ผมขอร้องอย่าทำให้มันเสียใจ
เพราะผมคงทนไม่ได้..ถ้าจะต้องเห็นน้องผมกลับไปเป็นแบบเดิม และอาจแย่กว่าเดิม”

มันคือคำขอร้อง

คำขอร้องให้กับคนสำคัญ

นุชานิ่งมองคนที่ร้องขอ
จริงจังที่สุดในชีวิต
จริงจังและไม่คิดจะล้อเล่นกับเรื่องสำคัญ

เอ่ยบอกออกมาเต็มเสียง ชัดถ้อยชัดคำ
ไม่ต้องรอไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มาก
ตอบออกไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มีให้ ความรู้สึกจริงจังมุ่งมั่นที่มาจากใจ

“ผมจะไม่มีวันทำให้คุณซ้งเสียใจ”




TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † กำลังพัฒนา † [10/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 10-04-2012 02:11:04
ตอน กำลังพัฒนา



“อาม่าครับ อาม่า อาม่าคร้าบบบบ”

เสียงอู้อี้ของคนที่จับมืออาม่ากิมไว้แน่นและทั้งหอมที่หลังมือและเอามาแนบที่แก้ม
ทำให้นุชาที่นั่งมองอยู่ถึงกับอมยิ้มกับภาพที่ได้เห็น

“อาม่า อาม่าคร้าบบบบ”

คุณซ้งยังเรียกอาม่ากิมเหมือนเด็ก แล้วก็ทำเสียงออดอ้อนเมื่อเห็นอาม่ากิมยิ้ม
และกระพริบตามองหลานชายตัวโตที่ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่ยอมโต

แตะฝ่ามือลงบนหัวของคนที่นั่งซบหน้าอยู่ข้างเตียงและลูบไล้แผ่วเบาด้วยความรัก

“อาซ้ง อ้อนอาม่าแบบนี้ไม่อายอานุชาบ้างหรืองาย”

แม้น้ำเสียงจะแผ่วเบา แต่ซ้งก็ได้ยินชัดเจน

ส่ายหน้าและทำหน้างอเหมือนเด็ก ๆ เมื่อหันไปมองนุชาที่นั่งอมยิ้มอยู่ที่โซฟาถัดออกไป

ไม่อาย เรื่องอะไรต้องอาย ไม่เห็นมีอะไรน่าอาย
นุชาจะคิดยังไงก็ช่าง แต่ซ้งไม่อายหรอกอาม่า
ซ้งรักอาม่า ซ้งดีใจที่เห็นอาม่าฟื้น ซ้งดีใจที่เห็นอาม่าปลอดภัย
ซ้งรักอาม่า อยากหอมมืออาม่าอยากให้อาม่าลูบผม ไม่เห็นมันจะน่าอายตรงไหน

“ซ้งไม่อายหรอก อายทำไม อายนุชาเหรอ ไม่มีทางหรอก
อาม่าเมื่อไหร่จะหาย....ซ้งอยากพาอาม่าไปวิ่งแล้ว อาม่ารีบหายเร็ว ๆ สิคร้าบบบ”

คงไม่มีอะไรที่ทำให้นุชายิ้มกว้างได้มากขนาดนี้อีกแล้ว
อะไรกัน

ทำไมต้องมาพาดพิงถึงด้วย แล้วยังจะทำหน้างอ และทำเสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนเด็กเอาแต่ใจแบบนั้นอีก

ยิ่งมอง ก็ยิ่งอมยิ้ม ยิ่งมองก็ทำให้รู้สึกดี

หลายวันมานี้ คุณซ้งรอคอยให้อาม่ากิมฟื้นด้วยความทุกข์ทรมานใจ

ไม่กินและไม่นอน

เห็นแล้วน่าสงสารจนไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
อยู่ด้วยกันเกือบตลอดสามสี่วัน และต้องคอยปลอบคอยพูดให้กำลังใจ พูดให้สบายใจ กว่าจะยอมกินข้าว กว่าจะยอมนอนหลับบ้างก็เล่นเอาแย่

แต่เมื่ออาม่ากิมถูกย้ายจากห้องไอซียูมาอยู่ในห้องคนไข้ธรรมดาและฟื้นขึ้นมาในเวลาไม่นาน ก็ทำให้คุณซ้งยิ้มได้ แม้อาม่าจะยังไม่สามารถเดินเหินได้เป็นปกติ และยิ่งมีสายระโยงระยางต็มไปหมด แต่ก็เริ่มพูดได้ แม้จะยังขยับร่างกายไม่ได้มากนักก็ตาม

อาม่ากิมอาการดีขึ้นมาก
แต่อีกสองคนยังอยู่ในห้องไอซียู และอาการยังน่าเป็นห่วง

“อานุชา”

ได้ยินเสียงเรียกของอาม่ากิม แล้วนุชาที่นั่งอยู่ที่โซฟาก็ลุกขึ้นมาหาอาม่ากิมที่ยังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

“ครับอาม่า”

มือของอาม่ากิมพยายามจะเอื้อมมาหานุชา และนุชาก็รีบคว้ามือของอาม่าเอาไว้ ตั้งใจฟังสิ่งที่อาม่ากิมพูด

ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อจะฟังให้ชัด

“อย่าตามใจอาซ้งมากนา...อย่าให้เอาแต่ใจ...ข้าวปลาม่ายกินไม่ล่าย
จัดการให้เด็ดขาด ถ้าอีม่ายเชื่อฟางงมาบอกอาม่า”

นุชาถึงกับหัวเราะออกมาเสียงเบา
ก่อนจะเหลือบสายตามองคนที่ถลึงตาใส่ และยิ่งทำหน้างี่เง่างอแงเข้าไปใหญ่

“อาม่า....อาม่าคร้าบบบ ทำไมอาม่าพูดแบบนี้ซ้งเคยไปเอาแต่ใจตอนไหนครับอาม่า”

งอแงและเริ่มบ่น

แล้วคุณซ้งก็ยกมือของอาม่ากิมขึ้นมาหอม และเอามาแนบไว้ข้างแก้มเหมือนเดิม

บ่น

และทำเสียงเหมือนไม่พอใจใส่อาม่ากิมที่อมยิ้มน้อย ๆ กับหลานชายตัวโตที่ทำยังไงก็ไม่ยอมโต

“อาม่าคร้าบบบบบ อาม่า อาม่า”

ขยันเรียกอาม่า เรียกแล้วก็ทำเหมือนเดิม
ทำแบบเดิม ซ้ำ ๆ คือซบหน้าลงที่ข้างเตียงและจับมือของอาม่ากิมไว้แน่น

คุณซ้ง
ดีใจที่เห็นคุณซ้งกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ดีใจจริง ๆ นะคุณซ้ง

ดีใจมาก

คุณซ้งที่เป็นแบบนี้ ดีกว่าคุณซ้งหน้าเศร้าตาเศร้า เห็นแล้วใจจะขาด
กลัวคุณซ้งจะเป็นอะไรไปอีกคน

ห่วงจริง ๆ นะ

เป็นห่วงจริง ๆ จากหัวใจ
อยากทำให้คลายความเศร้าลงบ้าง อยากให้คุณซ้งสบายใจ

“คุณซ้ง...แม่ทำข้าวเช้ามาให้ กินข้าวเถอะ เมื่อวานก็กินไปนิดเดียวเอง”

เดินไปหยิบปิ่นโต ที่หิ้วมาจากบ้าน และนำไปวางไว้ที่โต๊ะที่สามารถวางของได้ เรียกคนที่นั่งซบหน้าอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย แล้วก็เห็นคุณซ้งหันมามองและกลับไปซบหน้าอยู่เหมือนเดิม ไม่ยอมลุกขึ้นมากินข้าว

“หมอจะมาตรวจอาม่ากี่โมงนะนุชา”

เอ่ยถามคนที่เตรียมอาหารออกจากปิ่นโต แล้วก็เห็นนุชาเดินไปดูตารางนัดตรวจที่เสียบไว้ที่ปลายเตียง

“อืมมมม เก้าโมงครึ่ง นี่ก็เจ็ดโมงครึ่ง อีกซักพักแหละ”

ดูตารางเรียบร้อย และนุชาก็กลับมานั่งที่โซฟา และเตรียมอาหารออกมาสองสามอย่าง อาหารที่กินง่าย ๆ แค่ผัดผัก ต้มจืดและไข่เจียวกับข้าวสวย

“นุชาออกจากบ้านมาตั้งแต่กี่โมง”

กี่โมงเหรอ น่าจะประมาณ....

“หกโมงครึ่งนะนั่งรถแป๊บเดียว”

รถยังไม่ค่อยเยอะก็เลยไม่ต้องฝ่าการจราจร ถ้าออกสายกว่านี้คงเจอกับรถติดแน่

“คุณซ้งแปรงฟันหรือยัง ล้างหน้าแปรงฟันแล้วมากินข้าวเร็ว”

ข้าวโรงพยาบาลคือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุด เพราะมันทั้งจืดทั้งชืดหาความอร่อยแทบไม่ได้ ดีที่แม่ลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ในตอนเช้าเลยมีข้าวใส่ปิ่นโตมากิน

ไม่อย่างนั้นคงต้องฝืนทนกินข้าวกล่องไม่อร่อยแน่ ๆ
ซึ่งแน่นอนคุณซ้งที่ไม่อยากกินข้าว ก็คงยิ่งจะไม่ยอมกินเข้าไปใหญ่
ทำมาเองแบบนี้ ก็ยังมีข้ออ้างว่าทำมาแล้วไม่ยอมกิน คนที่ตื่นมาทำให้กินจะเสียใจ

“ซ้งเหมือนคนไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันหรือไงนุชา ดูดี ๆ นี่ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว”

อ่อเหรอ เป็นแบบนั้นเหรอ

“จะไปรู้เหรอ ก็เห็นทำหน้ามึน ๆ งง ๆ จะรู้ได้ยังไงว่าล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้วหรือยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

หาเรื่องใช่มั้ยนุชา คิดจะแกล้งกันใช่มั้ย

“ม่าคร้าบบบบ นุชาว่าซ้งอีกแล้ว”

อ้าว

ซวยอีก ไปว่าตอนไหนล่ะ ยังไม่ได้ว่าเลย

ยังไม่ได้ว่าเลยนะครับ ทำไมถึงไปฟ้องอาม่าแบบนั้นล่ะครับ คุณซ้ง

“ม่ายหวาย ไม่โตซ้ากกกที อานุชาเอาอีไปเลี้ยงหน่อย เลี้ยงยังไงก็ม่ายยยอมโต”

หึ หึ หึ

เป็นไงล่ะ โดนซะ

งอแงดีนัก ต้องเจออาม่ากิมแบบนี้แหละ คุณซ้งไม่กล้าออกฤทธิ์ สงบเสงี่ยมเรียบร้อยทันที

“อาม่า ทำไมอาม่าไม่เข้าข้างซ้งเลย อาม่าเข้าข้างนุชา อาม่าคร้าบบ อาม่า”

น่ารักเกินไปหรือเปล่าคุณซ้ง

น่ารักเกินไปแล้ว อ้อนได้ขนาดนั้น มันจะเกินไปแล้วคุณซ้ง

“อาซ้ง...ล่ายดูอาป๊าลื้อบ้างหรือเปล่า ซ้งมีความสุขดี แต่ดูอาป๊าหน่อยนะ อาม่ารู้ว่าซ้งคิดยังงาย แต่อาป๊าดูท่าจะแย่ ม่ายมีครายดูแลเลย เวลาแบบนี้ เรื่องไม่ดีลืมไปซักพักนะซ้ง”

เรื่องไม่ดีลืมไปซักพัก
ลืมไปซักพัก……

ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่ที่โรงพยาบาล ย่อมหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าไม่ได้
มันเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพูดกัน

แต่เพราะไม่เคยพูดคุยกันมานาน การพูดกันแต่ละครั้งถึงเป็นไปอย่างยากลำบาก

ในเวลานั้นแทบไม่คิดอะไรเลย ไม่สนใจใคร ไม่สนใจป๊า

คิดแต่เรื่องอาม่ากิมคนเดียว ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าป๊าอยู่ในสภาพที่เคร่งเครียดไม่ต่างกัน

“อาม่าม่ายเป็งไรแล้ว แต่อาหงส์ ยังแย่อยู่...แล้วยังอาเฟย.. ยังไงอีก็ถือเป็นน้องชายซ้งนะ อียังเด็ก อย่าเกลียดน้อง ถึงม่ายช่ายแม่เดียวกัน แต่อย่าเกลียดน้อง”

ซ้งรู้ครับอาม่า

ซ้งจะพยายามทำอย่างที่อาม่าบอก

ยังไงคนที่ดูแลเรื่องต่าง ๆ ก็ยังเป็นป๊า
คนที่ดูแลเรื่องความเรียบร้อยและจัดการเรื่องเล็ก ๆ ยิบย่อย เรื่องคดีความก็ยังเป็นป๊า

ทั้งที่ป๊าเอง ก็คงจะรู้สึกแย่ เพราะไม่ใช่แค่อาม่ากิมคนเดียวแต่ยังรวมไปถึงน้าหงส์ แล้วก็เฟย

น้องชายงั้นเหรอ

น้องชาย

ถึงไม่ได้สนิทสนมกัน นาน ๆ จะได้พูดกันสักครั้ง
แต่ถ้าให้พูดกันตามจริง น้าหงส์ก็มารับมาส่งอาม่าตลอดทุกวันที่ต้องไปเรียน ดูแลในฐานะสะใภ้ได้เป็นอย่างดี

เข้าใจและยอมรับได้

แต่ไม่สามารถสนิทสนมด้วยได้

เพราะไม่ใช่คนที่จะไปสนิทกับใครได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นก็ไม่พูดไม่คุย
เข้าใจและยอมรับได้ แต่ต่างคนต่างอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกัน

“อาซ้ง…เรื่องไม่ดีอย่าจำ...เลือกจำแต่เรื่องดี ๆ นะซ้ง”

ครับ

ซ้งพยายามอยู่ครับ เลือกจำแต่เรื่องดี ๆ เรื่องไม่ดี.....ซ้งพยายามอยู่
พยายามให้มันอยู่ข้างใน เก็บเอาไว้ลึก ๆ และพยายามไม่นึกถึงมันอยู่

“อะไรนุชา..นั่งเงียบเลย ตั้งใจฟังอะไรขนาดนั้น.. น้ำลายจะหยดแล้ว”

อ้าว

มาว่ากันซะงั้น

แล้วผมควรจะพูดอะไรล่ะครับ อยู่ดี ๆ ก็พูดแสดงความคิดเห็นขึ้นมาหรือยังไง
ใครจะไปทำแบบนั้นล่ะครับ คุณซ้งนี่ก็นะ

“หิวแล้ว...”

หิวก็มากินสิครับ บ่นอยู่ตรงนั้นแล้วจะได้กินมั้ย
นุชาแบ่งข้าวใส่ปิ่นโตแล้ววางช้อนใส่ไว้ให้ และคนที่บ่นก็ยอมลุกจากข้างเตียงคนป่วยมานั่งที่โซฟาด้วยกัน

หยิบช้อนมาถือเอาไว้ และเริ่มลงมือตักกับข้าวเข้าปาก

“กินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ หนูซ้ง”

หาเรื่องใช่มั้ยนุชา ปากดีนักนะ เห็นอ่อนแอหน่อยเดียว ทำเป็นมาแซว กล้ามากจริงนะ

“อะไรหนูนุ่น... ก็ยังดีกว่ากินแล้วไม่โตขึ้นกว่านี้แล้วแหละว๊า”

โคตรเจ็บปวด

เออใช่สิโตได้เต็มที่แค่นี้เอง

หายจากอาการซึมเศร้าแล้วนี่ ก็เลยปากดีได้
คิดจะล้อชื่อนี้ให้ได้ใช่มั้ย ถ้าคิดจะล้อกันขนาดนี้นะ ระวังตัวให้ดีเถอะ

“ทำเรื่องย้ายกลับมาที่นี่ได้แล้ว ถ่อไปก็ถ่อมา ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”

เหนื่อยมั้ยเหรอ

จะบอกว่าเหนื่อยก็เหนื่อยอยู่

แต่ทำยังไงได้ ขอย้ายไปเอง จะขอย้ายกลับมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
กว่าจะเข้าไปทำงานที่นี่ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย

จะทิ้งไปก็ใช่ที่

“รู้แล้ว....ถ้ามีโอกาสก็ว่าจะย้ายกลับมา”

คนที่กำลังนั่งกินข้าวชะงักมือ และหันไปมองหน้าของนุชาที่ทำหน้าเฉย
ไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดที่เอ่ยบอกเลยสักนิด แต่คนฟังเริ่มคิดบางอย่าง

“ถ้านุ่นไม่ย้ายกลับมา...ซ้งไปค้างที่โน่นวันที่นุ่นหยุดก็ได้ใช่มั้ย งั้นก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง”

หือ

อะไร

ไปค้างอะไร

จะไปค้างทำไม อะไร ยังไง โปรดอธิบาย
อยากฟังคำอธิบายเพิ่มเติม แต่เห็นคนที่หันกลับไปก้มหน้าก้มตากินข้าวหน้าตาเฉยแล้วนุชาก็เลยได้แต่ทำหน้างง กับคำพูดที่เพิ่งได้ยิน

อะไรของคุณซ้งวะ

พูดอะไร

คิดได้ยังไงจะไปค้าง อยู่ดี ๆ จะไปค้างได้ยังไง ไม่ได้เป็นอะไรกัน

ไม่ได้เป็นอะไรกันจะไปค้างทุกวันหยุดได้ยังไง

“ถ้า.....เอ่อ.....ไปหาบ่อย ๆ มันก็จะได้คุยกันบ่อยขึ้นเห็นหน้ากันบ่อยขึ้น ความสัมพันธ์มันก็น่าจะพัฒนาได้เร็วขึ้นใช่มั้ยล่ะ...คือว่า...หนังสือเขาบอกมาแบบนั้น….มันอยู่ช่วงที่บอกเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่มิตรภาพอันดี”

หนังสือบอกมาแบบนั้น บอกมาว่าแบบนั้นเหรอคุณซ้ง

คุณซ้งเอ้ยยยยยยยยยยย คุณซ้ง

หายซึมแล้วก็ยังมาแนวเดิม

อย่ามาทำเป็นตีมึนอ้างเรื่องหนังสืออะไรไปเรื่อย จะปั่นหัวกันเล่นอีกแล้วใช่มั้ย
นี่อยากให้กระโดดกอดต่อหน้าอาม่ากิมใช่มั้ย ถ้าอยากจะได้นักเดี๋ยวจะจัดให้

“พัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่มิตรภาพอันดีทำไม.....มิตรภาพเรามันแย่มากเลยต้องพัฒนาว่างั้น….แล้วพัฒนาเสร็จแล้วยังไง จะพัฒนาไปไหน จะเป็นยังไงอีก”

แกล้งถาม และก็เห็นคนที่อ้างเรื่องหนังสือก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป

ทั้งที่หน้าเริ่มแดง

และมันก็ชักจะแดงขึ้นเรื่อยๆ จนลามไปถึงหู

อะไรคุณซ้ง ถามแค่นี้ทำไมต้องหน้าแดงแบบนั้นด้วย
มีอะไรให้เขิน มีอะไรมากกว่าการพัฒนาไปสู่มิตรภาพอันดีหรือไง

“มันสามารถพัฒนาไปเป็นแฟนได้ป่ะ”

นุชาแกล้งก้มหน้าลงมาถามใกล้ๆ คนที่นั่งกินข้าว กระซิบถามเสียงเบา
และก็เห็นว่าคุณซ้งถือช้อนชะงักค้างนิ่งงัน ก่อนจะเริ่มเคี้ยวข้าว และพยักหน้า

“กำลังพัฒนาอยู่”

ตาย

แทบจะเป็นบ้าตายกับคำตอบที่ได้ยิน

แล้วนุชาก็อยู่ในอาการนิ่งเงียบ และมองหน้าคนที่เอ่ยบอกตาค้าง

พัฒนาที่ว่า

คือการพัฒนาไปเป็นแฟนนะ

อ่า...พัฒนาไปเป็นแฟน.....และกำลังพัฒนาอยู่

บางทีอาจมีบางคนมองว่านุชาเป็นบ้า บางคนก็มองว่านุชาเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ

แต่ใครจะรู้.....ในวันนั้นตั้งแต่เช้าจนถึงเข้านอน

คำว่า “กำลังพัฒนาอยู่” ยังก้องไปก้องมาในหูนุชาตลอดเวลา





TBC...

 


แล้วเจอกันใหม่นะคะ
ขอบคุณสำหรับคนที่ยังตามอ่านเรื่องของเท็นและยังไม่ทิ้งกันไปไหน :กอด1:

วันสงกรานต์ใครที่จะเดินทางไปเที่ยวก็เดินทางอย่างปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † กำลังพัฒนา † [10/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 10-04-2012 20:08:07
อาม่าประสบอุบัติเหตุน่ากลัวเชียว แ่ต่ก็ดีขึ้นแล้วดีใจจัง ไม่งั้นซ้งขาดใจตายแน่
นุชาน่ารักที่สุด ดูแลอย่างดี คราวนี้ละหวา อาซ้งไม่รอดแน่...หุๆๆๆ
มีการจะไปนอนกะเค้าด้วยไรด้วย ตีมึนที่สุดผู้ชายคนนี้

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † กำลังพัฒนา † [10/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 10-04-2012 22:32:25
เห้ย....หนูซ้งน่ารักอะไรจะขนาดนั้น!!!
เริ่มจะบ้าไปกับนุชาแล้วสิ เพ้อ...หนูซ้งน่ารัก

ตกใจตอนอาม่าประสบอุบัติเหตุมาก สงสัยจะอินจัดกับเรื่องไปแล้ว!
เห็นปลอดภัยก็โล่ง กลัวนุชาจะต้องมาปลอบหนูซ้งอีกยาวนาน เดี๋ยวน้ำตาลจะหาย ฮา

อ่านไปก็ยิ้มก็เขินไปอยู่คนเดียว หนูซ้ง หนูนุ่น
กำลังพัฒนา ติดสตั้นไปหลายวิแล้วก็ระเบิดหัวเราะออกมา
น่ารัก น่ารัก น่ารักมาก...
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ขอร้อง † [11/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 11-04-2012 00:25:33
ตอน ขอร้อง



“คุณซ้ง วันนี้ตอนเย็นผมต้องกลับแล้วนะ พรุ่งนี้ทำงาน”

นุชาเอ่ยบอกคนที่อาสาขับรถมาส่งที่บ้าน และก็เห็นคนที่นิ่งเงียบ เริ่มขมวดคิ้วมุ่นและหันหน้ามามองก่อนจะหันกลับไปและทำเหมือนกับจดจ่ออยู่กับการขับรถ

นุชาทำงานอยู่ไกล ไม่แปลกอะไรที่ต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ
วันหยุดกลับมาบ้าง แต่มีบางครั้งที่ไม่ยอมกลับมา ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา

สามวันที่เป็นวันหยุด นุชามาอยู่เป็นเพื่อน
มาหา...มาคอยดูแลเอาใจใส่ คอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ ๆ จนทำให้คนที่ไม่อยากคิดอะไร
ชักจะหยุดความคิดของตัวเองไม่ได้

ไม่อยากให้กลับ
แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

มันเป็นการรบกวน ถ้าคิดจะเอาแต่ใจตัวเองเรื่อยไป
นุชามีภาระหน้าที่การงาน ถ้ารั้งเอาไว้ก็เท่ากับเห็นแก่ตัว

ทั้งที่ภายในใจลึก ๆ ก็อยากจะเห็นแก่ อยากจะทำตัวไม่ดี
อยากจะห้าม อยากจะรั้ง ไม่อยากให้กลับไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ได้แต่นิ่งเงียบ และพยายามเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้

“คุณซ้ง”

ได้ยินเสียงเรียก และซ้งก็แกล้งทำทีเป็นนิ่งเฉย แกล้งไม่ฟัง แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

เผื่อว่า...
นุชาจะพูดผิดไป

เผื่อนุชาจะอยู่ต่อ ยังไม่กลับไปทำงาน
เผื่อว่า...

“คุณซ้งคร้าบบบบ”

หันมาตามเสียงเรียก และเห็นว่านุชากำลังจ้องหน้าอยู่
ได้ยินนานแล้ว แค่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
แค่แกล้ง....และเผื่อว่าจะเป็นไปอย่างที่หวัง

อยากอยู่ใกล้ ๆ นุชา

อยากให้นุชามาอยู่ใกล้ ๆ

“อะไรวะเรียกอยู่ได้ น่ารำคาญ”

บ่น และเมินหน้าหนี หวั่นใจ กลัวจะแสดงพิรุธออกไปให้อีกฝ่ายจับได้

เพราะไม่อยากให้กลับ แต่ทำอะไรไม่ได้
ทำได้แค่ที่เคยทำ คือแกล้งหงุดหงิดโมโหใส่ และทำเป็นงอแงงี่เง่า
เพื่อให้นุชาไปไกล ๆ ไปให้ห่าง จะได้ไม่ทำบางอย่างให้หนักใจ

ถ้าไม่รีบทำ ก็ไม่แน่ใจตัวเอง กลัวว่าจะหลุดปากรั้งเอาไว้
กลัวความเห็นแก่ตัวจะทำร้ายนุชา

ทั้งที่อยากเห็นหน้านุชา อยากได้ยินเสียง

ชอบเวลาที่นุชายิ้ม ชอบเวลาที่พูดคุย ชอบเวลาที่ทำท่าออดอ้อนขอร้อง
ชอบเวลาที่ทำหน้าเฉย ชอบเวลาที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์เวลาที่อยากจะแกล้ง
ชอบทุกอย่าง ชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมกันเป็นนุชา

ชอบ...นุชา

แบบนี้เรียกว่า...ชอบสินะ

“โห เรียกแค่นี้ทำไมต้องว่ากันด้วย จ๋าเป็นมั้ย คุณซ้ง จ๋าบ้าง พูดให้มันดี ๆหน่อย”

ไม่ได้

ถึงจะแอบขานรับอยู่ในใจ แต่ถ้าต้องพูดจะพูดออกไปได้ยังไง คำพูดบ้าบอทุเรศแบบนั้น ใครจะกล้าพูด....

ไม่กล้า....
ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถพูดจาแบบนั้นออกไปได้

“เอ้า เงียบเลยทีนี้ มีอะไรอยากพูดก็พูดมา ถ้ายังขืนเก็บเงียบเอาไว้ไม่ยอมพูดแบบนี้ระวังจะอกแตกตาย”

ไม่มีอะไรอยากพูดทั้งนั้น
ไม่คิดว่าจะอกแตกตายด้วย

ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากทำอะไร

และยิ่งไม่อยากให้นุชาไป

“เงียบของแท้ โกรธจริงจังหรือไงครับท่าน”

จะบอกว่าอย่างนั้นก็ได้ ความผิดของนุชาทั้งนั้น ทั้งหมดนั่นเป็นความผิดของนุชาคนเดียว

โยนความผิดทั้งหมดให้เป็นของนุชา แต่ซ้งก็ยังขมวดคิ้วมุ่นไม่เลิก
อะไรบางอย่างในใจมันเหมือนจะระเบิดออกมาจริงๆ อย่างที่นุชาพูด

อะไรบางอย่าง...
ความรู้สึกบางอย่าง
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันกำลังอัดแน่นอยู่ภายในใจ

อยากทำอะไรก็ทำไม่ได้อย่างใจ อยากคิดก็แทบไม่กล้าคิด
ถึงอยากพูดคำพูดบางอย่างมากแค่ไหน แต่ก็ทำไม่ได้

“อย่าโกรธนุชาเลยนะ คุณซ้ง อย่าโกรธเลย นะ นะ นะ”

สิ่งที่ซ้งพยายามหลีกเลี่ยงมากที่สุด คือการพยายามแกล้งทำเป็นไม่เห็นและไม่มองเวลาที่นุชาเริ่มอ้อน

วิธีการที่ทำให้คนที่ได้เห็น ไม่สามารถหยุดรอยยิ้มของตัวเองได้
ต้องหันหน้าหนี และแกล้งทำเป็นเมินเฉยให้มากที่สุดเพราะกลัวจะหลุดหัวเราะออกมาจนทำให้เสียฟอร์ม

“ไม่หายโกรธเหรอ ทำไมล่ะคุณซ้ง ทำไมล่ะ ทำไม ทำไม ทำไม”

อย่ามาทำเสียงเล็กเสียงน้อย อย่าขยับเข้ามาใกล้ อย่ายื่นหน้าเข้ามาหา
อย่าจ้อง และอย่ากระพริบตาแบบนั้น

อย่าทำ

“โอ้ยยยยยยย ไปห่างๆ ไป รำคาญ”

ออกปากไล่ แต่แทนที่นุชาจะเชื่อและขยับออกไปห่าง ๆ
คราวนี้ไม่แค่หน้าที่ยื่นมาใกล้ ยังมีการท้าวคางมอง และเริ่มอมยิ้ม

ยิ้มทำไม มองแล้วยิ้ม จะยิ้มทำไม ไม่มีอะไรน่าสนใจน่ามอง
จะยิ้มทำบ้าอะไรวะ

“คุณซ้งนี่ก็แปลกเนอะ เวลาเขินจะบ่นมากกว่าปกติ”

อะไรนะ

เวลาเขิน

ไม่จริง อั๊วไม่ได้เขิน ไม่ได้คิดอะไรด้วย ไม่ได้บ่นอะไรทั้งนั้น
ไม่ได้เขิน...ไม่ได้...

“คุณซ้งทำเป็นแต่หน้าเฉยกับหน้าเบื่อโลกเนอะ แบบนั้นก็เห็นจนชินแล้วนะ แต่ทำไมตอนนี้ต้องทำหน้าแดงด้วยวะ คิดอะไรอยู่คุณซ้ง”

ไม่จริง

อั๊วไม่ได้หน้าแดง ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นด้วย ไม่ได้เป็นอะไร
ไม่ได้เป็น….

แล้วก็เลิกวิจารณ์กันซึ่งหน้าแบบนี้ซะที คำว่ามารยาทสะกดไม่เป็นหรือไง

“นุชา”

น่านงายยยยยยยยย
ใช่จริง ๆ ด้วย
เคยสงสัยมานาน แต่ตอนนี้ชัดเลย

ภายใต้ใบหน้าเมินเฉยนั้นมันมีอะไรบางอย่างแฝงไว้อยู่จริง ๆ ด้วย
แต่ต้องจับสังเกตให้ดี ๆ คนไม่รู้ อาจนึกว่าบ่น อาจนึกว่าคุณซ้งไม่ชอบ
แต่จริง ๆแล้ว มันเป็นแบบนี้นี่เอง

เวลาที่โดนจับได้ ว่ากำลังรู้สึกยังไง คุณซ้งก็จะทำแบบนี้
เรียกชื่อแล้วทำเสียงเข้ม ๆ ดุ ๆ ใส่

วิธีการที่เห็นมานานแต่ไม่เคยคิดว่ามันแปลก
เพิ่งมาสังเกตจริง ๆ จัง ๆ ก็พักหลัง ๆ
และวันนี้ยิ่งเห็นชัด ชัดเจนเลยจริง ๆ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณซ้งนี่น่ารักจริง ๆ เนอะ โคตรน่ารักเลยเว้ยยยยยยยย”

บ้า

นุชามันบ้า

มันบ้าไปแล้วจริง ๆ

“ปากแข็งจริง ๆ คนเรา”

ไม่จริง ไม่ใช่ อย่ามาพูดเองเออเอง

อย่าคิด อย่ามาพูดใส่หน้า อย่ามาทำลายความตั้งใจให้สั่นคลอน

“หยุดพูดอะไรเพ้อเจ้อได้แล้ว”

อ๋ออออออออออออออ เหรอ

เพ้อเจ้อเหรอ อืมมมมมม

เพ้อเจ้อมากเลย เพ้อมากไปจนคุณซ้งรับฟังไม่ได้เลยเหรอ

คุณซ้งเอ้ยยยยยยยย มันไม่ใช่แค่หน้าหรอกนะ โน่นนนน มันแดงลามไปถึงคอถึงหูแล้ว

ถ้าไม่เห็นสีหน้า ไม่เห็นแววตา ไม่เห็นท่าทาง ไม่รู้จัก ไม่จับสังเกต
เป็นใครก็ต้องคิดว่าคุณซ้งโกรธแบบจริง ๆ จัง ๆ แต่ถ้าลองมองดี ๆ จะรู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่อย่างที่ตาเห็น

“ชอบคุณซ้ง...ชอบ..ชอบ...ชอบ”

นุชาพูดไปยิ้มไป พูดสิ่งที่คิด พูดสิ่งที่รู้สึกจากใจ แต่ยิ่งพูดคนฟังยิ่งขมวดคิ้ว
และยิ่งเมินหน้าหนีไปทางอื่นแถมยังพูดถ้อยคำบางอย่างที่ถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่นุชาได้ฟังคงเศร้าใจตาย

“รำคาญ”

อ๋อออออออออออ เหรอ

รำคาญ

รำคาญมากมั้ย สงสัยจะรำคาญมาก
ท่าทางแบบนี้ คงรำคาญมากสินะ

“ชอบคุณซ้ง..มาก มาก มากที่สุด...จะตั้งใจทำงานแล้วเจอกันวันศุกร์หน้านะ”

นุชากำลังอมยิ้มเล็ก ๆ และเอ่ยบอกคนที่เมินหน้าหนี
แต่แค่เพียงบอกว่าเจอกันวันศุกร์หน้า จากหันหน้าหนี คราวนี้คุณซ้งรีบหันขวับกลับมามองแบบเต็ม ๆ ตา

“วันศุกร์หน้าเลยเหรอ”

น้ำเสียงแผ่ว ๆ ที่เอ่ยถาม ทำให้นุชายิ่งพยายามไม่ให้ตัวเองยิ้มกว้างมากไปกว่านี้

“วันศุกร์หน้าเลยเหรอนุ่น”

ถามย้ำ ๆ ถามซ้ำ ๆ ด้วยคำถามเดิม ๆ
คนถาม ถามด้วยความรู้สึกแบบไหนไม่รู้ แต่คนฟัง แปลเอาว่าเหมือนไม่อยากให้ไป และอยากให้กลับมาเร็ว ๆ

“เดี๋ยวโทรหา โอเคเปล่า”

ไม่

ไม่โอเค

โทรหา ก็แค่แป๊บเดียว
นุชาไม่ชอบคุยโทรศัพท์ พูดแป๊บ ๆ ก็รีบวาง ไม่เคยมีครั้งไหนที่ได้พูดคุยกันยาว ๆ เลยสักครั้ง

แถมยังต้องเป็นฝ่ายโทรหาอยู่ฝ่ายเดียว
นุชาไม่เคยโทรมาหากันบ้างเลย แทบจะไม่เคย ทำไมถึงเป็นแบบนั้น
หรือว่าคำว่าชอบ มันไม่เชื่อมโยงกับคำว่าคิดถึงเลยหรือไง

“คุณซ้ง....ทำไมเงียบอีกแล้ว”

เอ่ยถาม และก็เห็นว่านอกจากนิ่งเงียบ คราวนี้มีท่าทีซึมเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
มันออกมาทางสีหน้า ออกมาทางแววตา ทางคำพูด

“คุณซ้งงงงงงงงครับ”

เรียกแล้วก็ไม่ตอบ เรียกแล้วก็ไม่ขาน ไม่ตอบแล้วยังทำหน้าแบบนี้อีกหมายความว่ายังไง

“จ๋าเป็นมั้ย ขานรับหน่อย พูดจาดี ๆ จะได้น่ารัก ๆ ทำเป็นมั้ยครับ”

เป็น

แค่พูดไม่ใช่เรื่องยาก แต่เพราะไม่กล้าพูด มันก็เลยเหมือนคนพูดไม่เป็น

“จ๋าเป็นมั้ย”

นุชาชอบพูดแบบนี้ ย้ำอยู่นั่น ไม่รู้ว่าจะพูดย้ำอะไรมากมาย

“เออ...รู้แล้ว”

รู้แล้วเหรอครับคุณซ้ง รู้แล้ว...แล้วยังไง แล้วคิดจะทำมั้ย คิดจะพูดมั้ย
ไม่คิดล่ะสิ และก็ไม่เคยทำด้วย หึ หึ หึ แกล้งคนมันสนุกแบบนี้นี่เอง

“คุณซ้ง..จ๋าเป็น....มั้....ย..”

พูดยังไม่ทันจบประโยค และเตรียมจะหัวเราะอีกรอบ เพราะเห็นสีหน้าลำบากใจของคนที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ยอมพูดจาหวาน ๆ ให้ได้ยินสักที

“เออ...จ๋า..”

หือ

อะไร.....แบบนั้นมันเรียกว่า....อะไรเหรอ
นั่นเรียกว่าคำพูดหวาน ๆ เหรอ
เสียงเข้มแบบนั้น ทำเสียงเหมือนดุเหมือนเอ็ดกันแบบนั้น
แบบนั้นเรียกว่าอะไรคุณซ้ง

“จ๋าแล้ว”

อ่า

เหรอ

จ๋าแล้วเหรอ.....ยอมพูดแล้วเหรอ

ยอมพูดแล้วสินะ.....ทำไมถึงยอมพูดล่ะ ทำไมถึงยอม
ไม่คิดว่ามันฟังดูตลก
ไม่คิดว่า.....กำลังถูกแกล้งอยู่เหรอ
รู้มั้ย เวลาที่พูดแล้วพยายามหันหน้าหนีไม่ยอมรับผิดชอบคำพูดของตัวเองน่ะ
คุณซ้งไม่รู้ตัวหรอก ว่าน่ารักมากขนาดไหน เวลาที่เขินมันน่ารักมาก

ไม่คิดว่าจะกล้าพูดนะ ไม่เคยคิดเลย แต่ก็ยอมพูด

ไม่คิดว่า....คุณซ้งจะยอมพูดแต่คุณซ้งก็ยอม

“ผมชอบคุณซ้งแน่ ๆ แล้วสินะ”

บอกตัวเอง และบอกคนที่กำลังพยายามทำบางอย่าง พยายามที่จะเปิดใจรับใครสักคนเข้ามา

“นุชาชอบซ้งแล้ว”

ได้ฟังคำพูดที่แสนมั่นอกมั่นใจของใครคนนั้นแล้วนุชาก็ถึงกับยิ้มกว้าง

เป็นแบบนั้นหรอกเหรอ

เป็นแบบนั้นไปแล้ว…..ใช่มั้ย

“แล้วเมื่อไหร่คุณซ้ง...จะชอบผมซะที”

เอ่ยถาม และไม่คิดอยากได้คำตอบอะไรอีก
เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันชัดเจนยิ่งกว่าชัดเจน ชัดมากจนไม่ต้องการคำพูดใด ๆมารับรองอีกต่อไปแล้ว

“พอเถอะ ไม่อยากฟังแล้ว”

อ่า

ครับ

สุดยอดครับ

สมเป็นคุณซ้งจริง ๆ

หนีไปได้ตลอดเลย ปฏิเสธได้แบบนี้ทุกที เลี่ยงได้ทุกครั้ง
เพราะเป็นคุณซ้ง ถึงได้เข้าใจ และไม่คิดโกรธเคืองอีกต่อไปแล้ว

ผมเข้าใจคุณซ้ง แล้วก็รอได้ เพราะไม่ได้รีบไปไหน ยังไงก็รอได้

เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นนะคุณซ้ง

“นุชาไม่ใช่คนเดียวที่รอหรอกนะ.....ซ้งเองก็รอ....รอนุชามาตั้งนานหลายปี
รอตั้งนานกว่าจะได้เจอ...อยู่ด้วยกันก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหน อย่าเพิ่งท้อซะก่อน
กับคนแบบนี้...รออีกหน่อย..รอซ้งอีกหน่อยได้มั้ย ขอร้องล่ะ รออีกหน่อย ได้มั้ยนุชา”




TBC...

 


แล้วเจอกันใหม่นะคะ
ขอบคุณสำหรับคนที่ยังตามอ่านเรื่องของเท็นและยังไม่ทิ้งกันไปไหน :กอด1:

วันสงกรานต์ใครที่จะเดินทางไปเที่ยวก็เดินทางอย่างปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะคะ :bye2:

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ขอร้อง † [11/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 11-04-2012 23:26:59
กีสสสสส  :impress2: :impress2: :impress2:
อยากอ่านอีกอ่ะค่ะ ทำไมน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ทั้งสองคนเลย...
จะบอกว่าคุณซ้งโชคดีจังที่มาเจอนุชา ก็นุชาอ่ะมองผ่านเปลือกของคุณซ้งไปแล้ว
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูออกรู้ทันไปหมด (แต่กว่าจะผ่านจุดนี้นุชาก็เสียใจไปเยอะเน้อ...)
แต่จะทำไงได้นี่ก็น่ารักสุดของคุณซ้งแล้วน้า จ๋าด้วยอะไรด้วย...ยิ่งประโยคตอนท้ายนั่น เอาใจไปค่ะ...
นุชาจ๋า อยากให้ย้ายกลับมาอยู่บ้านจังเล้ย จะได้ไม่ต้องห่างกันอีก สงสารคุณซ้ง
ชอบตอนนุชาจ้องคุณซ้งจนหูแดงมาก ๆ น่ารักอ๊า...คุณซ้งแพ้ทางตลอดนะคะนะคะ

ขอบคุณค่า...
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ขอร้อง † [11/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 12-04-2012 01:18:47
โอ้ มาอัพแบบยาวสะใจอีกแล้ว อ่านก่อนนะฮ่ะเดี๋ยวมาอีดิท
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ขอร้อง † [11/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 17-04-2012 22:31:23
กรี๊ดดดดดชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆ อ่านตามที่คุณ 2pmui แนะนำในนินายแนะนำ
(ขอบคุณคุณ 2pmui มาณที่นี้ด้วย ปล.เราก็ชอบลิงรั่ว2pmเหมือนกัน^^)

ตอนแรกก็อ่านเพลินๆ ซักพักหยุดไม่ได้อ่ะ อ่านรวดเดียวเลย ยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอยู่หลายตอน
น้ำตาหยดแหมะๆก็หลายฉาก โดยเฉพาะที่คุณซ้งพูดทำร้ายจิตใจนุชาอ่ะ ก็อกแตกเลย :m15:

พระเอก --> ขอมอบโล่ซึนและมึนขั้นเทพ จากน้องแรงบันดาลใจหน้าใสกิ๊ง อาซ้ง หนูซ้ง
และตอนนี้เป็นซ้งที่พยายามเปิดใจ พระเอกผู้มีปมน่าสงสาร แต่บทพ่อจะมึนก็อึนได้น่าถีบ
แต่หลังๆนี้น่ารักที่สวดดดดด โดนจับไต๋ได้แล้ว ไปไม่เป็นเลย :laugh:

นายเอก --> ขอมอบโล่อึดและทนขั้นเทพ จากอาตี๋ นุชา หนูนุ่น เป็นนุ่น(ชื่อน่าร๊าก ชอบเวลาที่ซ้งเรียกมาก)
ตอนพี่ฟ้าเนี๊ยน่าสงสารมาก ตอนโดนซ้งเมินนี่น่าสงสารที่สุด แต่ตอนนี้น่ารักน่าฟ้ด ไม่ไหวจะทน :man1:

อาม่ากิม --> สาวฮอท 555 อ่านแล้วรู้สึกผู้สูงอายุน่ารัก อบอุ่นมาก
 
สรุปชอบเรื่องนี้มาก คนแต่งเก่งมาก  o13 ใช้ภาษาง่ายๆแต่บรรยายให้เห็นภาพ เข้าใจตัวละครและอินไปด้วยมากๆ
เรื่องนี้ครบรสเลย ตลก ฮา น่ารัก เศร้า อบอุ่น ขอย้ำอีกทีชอบมากๆค่ะ
ขอบคุณคนแต่งคุณ aoikyosuke :L2: คนโพสคุณ nana lon€ly™ :กอด1: มากๆๆๆ รออ่านตอนต่อไปนะคะ
(กรี๊ดดดดดดดเม้นยาวมากตั้งแต่เคยเม้นมาเลยมั้งเนี๊ย)
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † คำขอโทษ † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:33:42
ตอน คำขอโทษ



“ซ้ง”

ได้ยินเสียงเรียกและซ้งก็เงยหน้าขึ้นมองคนเรียก
เห็นสีหน้าและแววตาของพี่ชายชัดเจน

รู้ว่าเฮียเหวงคิดอะไร
และไม่ต้องรอให้ถามซ้ำอีกครั้ง พยักหน้ารับทันทีแบบไม่ต้องคิด
และลุกขึ้นยืน

“ผ่าเลยใช่มั้ยเฮีย”

เอ่ยถามพี่ชาย และลุกขึ้นเดินตาม คนที่เดินนำหน้า

“ผ่าเลย….เลือดไม่พอแน่ ถ้าใช้เลือดซ้งกับเฮียน่าจะพอ”

ได้รับคำตอบชัดเจน และรีบเดินไปหน้าห้องไอซียู
ในสมองยังครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเลยไป

วันนี้อาการของเฟยทรุดหนัก
น้องชายคนเล็ก ที่ไม่เคยพูดคุยกัน
ไม่เคยมองหน้า ไม่เคยข้องเกี่ยวด้วย และพยายามหลีกเลี่ยงตลอดมา

แต่ในเวลานี้กลับรู้สึกบางอย่าง
เด็กคนนั้นนอนอยู่ในห้องไอซียู
สภาพที่มีบาดแผลเต็มตัว หัวถูกพันด้วยผ้าพันแผล และใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา

“น้องนะอาซ้ง...ยังไงอีก็เป็นน้อง”

อาม่าสอนอยู่เสมอ ว่าให้รักน้อง แม้จะไม่ได้เกิดจากแม่เดียวกัน

ไม่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงและไม่ยอมรับแค่ไหน
ความจริงก็คือความจริง
ความจริงที่ว่ายังไงเลือดในร่างกายของเราก็ยังเป็นแบบเดียวกัน
สิ่งยืนยัน ของคำว่าสายเลือดเดียวกันที่ชัดเจนที่สุด

“เฮียซ้งคร้าบบบ”

นานมาแล้ว ในวันหนึ่งที่ได้ยินเสียงเรียกและหันกลับไปมอง
เด็กผู้ชายตัวเล็กในชุดนักเรียนอนุบาล วิ่งเข้ามาหา และจับแขนเอาไว้
เขย่าแขนและเรียกชื่อที่ทำให้ต้องขมวดคิ้วมุ่น

“เฮียซ้งครับ”

ไม่รู้ว่าควรตอบออกไปยังไง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร รู้แค่ว่ายืนนิ่งและมองใบหน้าของเด็กชายแก้มยุ้ยตัวเล็กที่เขย่าแขนเรียก

“อาเฟย...มาหาหม่าม๊า...อย่ารบกวนคุณซ้ง ขอโทษค่ะน้าไม่รู้ว่าเฟยมาทำความเดือดร้อนรำคาญให้คุณซ้ง”

ท่าทีร้อนรนของน้าหงส์ที่รีบเดินมาดึงแขนของเด็กชายตัวเล็กออกไป ทำให้ซ้งต้องยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

นิ่งเงียบ และเมินเฉย ทำเหมือนไม่สนใจ
ทั้งที่ยังสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากฝ่ามือเล็ก ๆ ที่แตะที่แขน

น้องชายเหรอ

น้องชาย.....คนเล็กชื่อเฟย

รู้ รับรู้มาตลอด แต่พยายามหลีกเลี่ยง ไม่พูดคุยไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย
และใคร ๆ รอบตัวต่างก็รู้ว่าต้องทำยังไง

เพราะรู้และเข้าใจว่าซ้งไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านนั้น

ไม่ยุ่งเกี่ยวแม้กระทั่งป๊า ที่ฝังจิตฝังใจมาตลอดว่าทำให้หม่าม๊าตาย

แต่ในเวลานี้เด็กคนนั้นที่ครั้งหนึ่งเคยจ้องมองมาด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์
กำลังอยู่ในช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต

เคยคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกันมาตลอด แต่ก็ไม่เคยโกรธ เกลียด หรือไม่ชอบใจ

“อั๊วกับซ้ง...เลือดน่าจะพอนะป๊า ”

เดินมาหยุดยืนที่หน้าห้องไอซียู
ที่มีใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าห้องในสภาพย่ำแย่เต็มทน

ใบหน้าที่เคร่งเครียด แววตาที่มองมาทำให้ซ้งที่ยืนอยู่ข้างพี่ชายถึงกับชะงักนิ่งงัน

สบตานิ่ง ๆ กับดวงตาที่จ้องมองมาและรีบหรุบสายตาลง

ป๊า...

รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวในแววตาคู่นั้นของป๊า ดวงตาที่แดงก่ำ
ใบหน้าที่เคร่งเครียด

เรา

ไม่เคยพูดคุยกัน
เราต่างหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันมาตลอดชีวิต

ความรู้สึกต่าง ๆ ไม่เคยจางหาย ความรู้สึกฝังจิตฝังใจยังคงอยู่จนถึงตอนนี้

“ลืมมันไปบ้างอาซ้ง เรื่องไม่ดีอย่าจำ”

คำพูดของอาม่ายังดังก้องไปมาในหัว เรื่องไม่ดี....อย่าจำ
พยายามไม่จำ พยายามลืมแม้จะยากลำบาก แต่ถ้าทำแล้วทุกอย่างดีขึ้น
ก็อยากพยายาม

ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
ยืนนิ่งเงียบ และเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เมื่อใครบางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ลุกขึ้นยืน
และเดินมาหยุดที่ตรงหน้า

ดวงตาที่จับจ้องมองมาทำให้ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือป๊า

ป๊าที่ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากพูดคุยด้วย ป๊าที่พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันมาตลอดชีวิต

“อาซ้ง”

ได้ยินเสียงเรียก แต่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ยังก้มหน้านิ่งอยู่อย่างนั้น

ก้มหน้า เพราะไม่กล้าสบตา

พูดไม่ออก
ไม่รู้ว่าต้องขานรับ หรือต้องทำยังไง ยืนนิ่งเงียบ และขบริมฝีปากตัวเองแน่น

“ป๊าขอโทษ...”

คำพูดบางอย่างที่ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้ยิน ทำให้ซ้งที่ทำได้แค่เพียงนิ่งเงียบต้องเงยหน้าขึ้นมอง

ได้ยินชัดเจนถึงคำพูดคำนั้น

เสียงที่แทบจะไม่เคยได้ยินเลยตลอดชีวิตนี้
ใบหน้าของคนที่ไม่อยากพบเจอที่สุดที่มาให้ได้เห็นตรงหน้า

คำขอโทษที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้ยิน
คำขอโทษที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากป๊า

“ที่ผ่านมาป๊าไม่ดีเอง ที่ผ่านมาป๊าไม่ดี เพราะป๊าไม่มีหัวคิด ถึงได้ทำให้ซ้งกับอาเหมยเสียใจ”

น้ำเสียงที่สั่นสะท้าน คำพูดที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้ยิน
คนที่ครั้งหนึ่งซ้งเคยมองว่าสูงใหญ่จนต้องเงยหน้าขึ้นมอง
ในเวลานี้สูงเพียงแค่บ่า
และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแค่เพียงมองและไม่ต้องเงยหน้าอีกต่อไปแล้ว

“ป๊า...ขอโทษลื้อสองคน....ป๊าขอโทษ ยกโทษให้ป๊าด้วย”

หมดแล้ว ทิฐิตลอดชีวิตที่เคยมี

หมดแล้วความรู้สึกที่เคยบอกตัวเองมาตลอดว่าจะไม่มีวันลืม
ความเจ็บปวดรวดร้าวจากการถูกเมินเฉย

พอแล้ว

จบแล้ว….

วันนี้มันจบลงแล้ว

แค่ได้เห็นหน้าป๊า แค่ได้เห็นสายตาแห่งความเอื้ออาทรที่เคยมองผ่านมาตลอดชีวิต

ริมฝีปากแห้งผาก
ใบหน้าที่เคยเรียบเฉย เริ่มมีความรู้สึกปรากฏขึ้น

“ป๊า..ผมไม่..ผม...ซ้ง”

พูดไม่ออก เหมือนมีก้อนแข็ง ๆ จุกอยู่ที่คอ
นิ่งมองใบหน้าของคนที่ไม่เคยกล้ามองมาตลอดชีวิต ตั้งแต่เล็กจนโต
ไม่เคยมองตรง ๆ ได้แต่แอบมองอยู่ห่าง ๆ และเพิ่งได้เห็นชัด ๆ เต็มตาวันนี้

ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะลงที่ไหล่

ป๊าพยักหน้าให้และมองมา มองตรงมา

ช่องว่างตลอดชีวิตที่เคยคิดว่าไม่มีทางมาบรรจบได้อีก
มันหายไปในพริบตา เมื่อหัวใจเปิดรับคำขอโทษ

“ลื้อเป็นลูกชายป๊านะอาซ้ง ลื้อป็นลูกป๊า”

น้ำตาที่หยดลงที่ข้างแก้มไม่ใช่น้ำตาของความเจ็บปวด
แต่เป็นน้ำตาของความยินดี
ความยินดีตลอดชีวิตที่ไม่เคยได้พบได้เจอได้รู้สึก

“ป๊าครับ ป๊า ป๊า...ฮือ ป๊า”

อ้อมแขนที่เปิดกว้างรับลูกชายที่ไม่เคยกอดเลยตลอดชีวิต

มันอบอุ่น อ่อนโยน ฝ่ามือที่ลูบลงที่เส้นผม

ความอบอุ่นที่เคยโหยหามาตลอดชีวิต และวันนี้ก็เพิ่งได้รับ
ได้รับเอาไว้ทั้งหมด
เหมือนของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

เหวงยืนมองภาพนั้นนิ่ง ๆ และแตะมือลงบนไหล่ของน้องชาย

พอแล้วซ้ง

หัวใจเจ็บปวดมามากแล้ว ปล่อยมันไปได้แล้ว
ปล่อยมันไปซะ

“ป๊าไม่อยากเสียใครไป ไม่ว่าใครป๊าก็ไม่อยากเสียไปอีก ยกโทษให้ป๊าด้วย ยกโทษให้ป๊านะซ้ง”

ไม่พูด เพราะไม่มีอะไรต้องพูดอีก
การพยักหน้าคือคำตอบที่ดีที่สุด

ซ้งปล่อยให้น้ำตารินไหล
ปล่อยให้หัวใจรับรู้และสัมผัสความรู้สึกที่โหยหามาตลอดชีวิต

พอแล้ว

เหนื่อยแล้ว

ไม่อยากเมินเฉยต่อกันอีกแล้ว

“ป๊า..ครับ”

คำพูดที่ไม่เคยคิดจะพูด คำต้องห้ามที่เคยเก็บงำเอาไว้ตลอดชีวิต

“อย่าทิ้งซ้งไปอีกเลย...อย่าทิ้งซ้งไปอีกคน...ซ้งกลัว ซ้งทรมาน ซ้งไม่อยากเป็นแบบเดิมอีกแล้ว”

พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจมาตลอด ตั้งแต่เล็กจนโต
ไม่เคยยอมรับไม่อยากยอมรับว่าที่จริงแล้วความรู้สึกลึก ๆ ที่อยู่ในใจคืออะไร
มันคือความหวาดกลัว ความเหงาโดดเดี่ยวอ้างว้าง

ไม่อยากยอมรับ แต่ทำได้แค่เพียงแกล้งทำเป็นเมินเฉย เหมือนไม่คิดอะไร
ทั้งที่ในใจครุ่นคิดและโหยหาอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลานี้

“ป๊าขอโทษ...ซ้ง....ป๊าขอโทษ....ที่ผ่านมาป๊าขอโทษ...ป๊าจะไม่ทำให้ลื้อเป็นทุกข์อีกต่อไปแล้ว ป๊าขอโทษซ้ง...ยกโทษให้ป๊าด้วย ยกโทษให้ป๊านะซ้ง”



TBC...

 


ขอโทษที่หายไปหลายวัน อาทิตย์ที่ผ่านมาแนนค่อนข้างยุ่งนะคะ
ต้องเร่งส่งไฟล์นิยายเข้าพิมพ์ มารอบนี้โพสให้9ตอนรวดเลยนะคะ^^

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † เด็กอนามัย † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:35:42
ตอน เด็กอนามัย



“นุชา”

ว่ายังไงล่ะครับ มีอะไรให้รับใช้ครับท่าน

“เอ่อ..ไม่มีอะไร แค่นี้นะ”

เอ้า ทำไมทำแบบนี้
เหมือนจะพูด แต่ไม่พูด เหมือนอยากจะเล่าแต่ก็ไม่เล่า โทรมาแค่นี้เหรอ
มีอะไรก็พูดมา อยากเล่าอะไรก็เล่ามา

อยากฟัง

“วันนี้กินข้าวกับไก่ทอด”

อ่า

ไม่ใช่ซ้งที่เป็นฝ่ายบอก แต่เป็นนุชาที่พูดเรื่องไร้สาระของตัวเองขึ้นมา
ก่อนที่อีกฝ่ายจะรีบวางสายไปก่อน

“...เหรอ..แล้ว..แล้วทำอะไรอีก”

อยากคุยแต่ไม่รู้จะคุยอะไร เออนะคุณซ้งนี่ก็แปลกดี
แค่เห็นว่าโทรมาก็รู้แล้วว่าอยากคุย แต่เพราะเป็นคนแบบนี้
เข้ากับใครไม่ค่อยได้ เพราะพูดไม่เก่ง คุยไม่เป็น ก็เลยทำได้แค่นี้

“ก็ทำงาน คุณซ้งล่ะ ได้กินข้าวบ้างหรือเปล่า อาม่าใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่มั้ย”

ใช่

อีกไม่กี่วัน อาม่าก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

“ดีขึ้นเยอะแล้ว ถ้าไม่มีอะไรอีกสองสามวันก็คงได้กลับ วันนี้ที่ชมรมเขาก็มากันหมดนะ มานั่งกันอยู่ตั้งนาน ชวนอาม่าไปสนามด้วย แต่คงอีกซักพักใหญ่ แล้ว...วันศุกร์นุชาจะกลับมามั้ย”

กลับไม่ได้
งานเยอะ ต้องเคลียร์งานบางส่วนให้เสร็จก่อน
จะรีบทำให้เสร็จ เผื่อจะได้กลับ

ต้องดูพรุ่งนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าไม่มีอะไร บางทีคงได้กลับ

“เดี๋ยวขอดูก่อนแล้วกัน”

ขอดูก่อน คำว่าขอดูก่อนที่ไม่รู้ว่าดูอะไร
แปลได้ง่าย ๆ และมีคำตอบอยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว
แปลได้ว่า....คงไม่กลับ

ไม่กลับสินะ

“เหรอ...งั้นแค่นี้นะ”

อ้าว เวรแล้วมั้ยล่ะ เสียงอ่อย ๆ แบบนั้น ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา

งอนไปซะแล้ว

“คุณซ้ง”

เรียกและก็ได้รับเพียงความเงียบเป็นคำตอบ

เฮ่อออออ

ทีอยู่ใกล้ก็ไม่สนใจ ถ่อมาอยู่ซะไกล กลายเป็นสนใจกันขนาดนี้ไปซะอีก
คนเรานี่ก็นะ

“คิดถึงหรือเปล่า”

เอ่ยถาม และก็ได้รับเพียงความเงียบเป็นคำตอบเช่นเดิม

เมื่ออีกฝ่ายเป็นคนที่มีปัญหาทางด้านการมีปฎิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
สิ่งที่ต้องทำคือเข้าใจ
เข้าใจและไม่บีบบังคับกดดันให้รู้สึกอึดอัดใจ

“คิดถึงคุณซ้งนะ”

เอ่ยบอกและเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะน้อย ๆ จากปลายสาย

จริง ๆ
คิดถึงจริง ๆ
ไม่ได้ล้อเล่นหรือพูดเอาใจให้รู้สึกดีหรอก
แต่พูดเพราะอยากพูดอยากบอกจริง ๆ ก็เลยต้องรีบบอก

“อยากเล่าอะไรก็เล่า อยากพูดอะไรก็พูด อย่าเก็บไว้คนเดียว ไม่ได้ตัวคนเดียวแบบเมื่อก่อนแล้ว รู้หรือเปล่า”

เอ่ยบอกและเหมือนคนที่อยู่ปลายสายนิ่งเงียบรับฟังแต่โดยดี

คุณซ้งไม่ใช่คนดื้อรั้นที่จะไม่ฟังใคร แต่เป็นเงียบ ๆ ที่ตั้งใจฟังคนอื่นพูดอยู่เสมอ
ที่เงียบ ไม่ใช่ไม่สนใจ แต่สนใจมากถึงได้เงียบเพื่อตั้งใจฟัง

“ให้เลือดมา วันนี้ไปให้เลือดเฟยมา”

นั่นไงล่ะ ไม่ใช่เรื่องไร้สาระเรื่อยเปื่อยเลย เป็นเรื่องสำคัญที่น่าสนใจ
แต่ก็ไม่ยอมเล่าให้ฟัง

“แล้วก็ ป๊าบอกว่าขอโทษ”

สำคัญยิ่งกว่าให้เลือดอีก

เรื่องสำคัญขนาดนี้ ก็ยังจะไม่ยอมพูดไม่ยอมเล่าอีก ถ้าไม่ถามไม่ชวนคุยก็ไม่ยอมเล่า

ใช่มั้ย

“แล้วคุณซ้งยังโกรธป๊าอยู่หรือเปล่า”

เอ่ยถามและเหมือนคนที่เริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองครุ่นคิดคำตอบที่จะตอบ

คุณซ้งเป็นคนที่ไม่ถนัดการตอบคำถาม
และไม่ถนัดกับการแสดงความรู้สึกของตัวเองออกไปชัด ๆ คุณซ้งไม่ใช่คนที่ไม่รู้สึกอะไร แต่ที่จริงแล้ว คิดมากและคิดอยู่เสมอว่าจะต้องทำยังไง ทุกอย่างถึงจะผ่านไปได้ด้วยดี

“ไม่เป็นไรคุณซ้ง เรื่องยาก ๆ แบบนั้นจะให้ไม่รู้สึกอะไรเลยภายในวันสองวันมันเป็นไปไม่ได้หรอก”

เอ่ยบอกและคุณซ้งก็รับฟังเงียบ ๆ
คิดอะไรอีกแล้วสินะ

กำลังคิดอะไรอีกแล้วอยู่ล่ะสิ

“นี่...แล้วหนังสือนั่นน่ะ อ่านถึงไหนแล้ว ตกลงพัฒนาไปเป็นแฟนแล้วยังไงต่อ”

ถาม และคราวนี้นุชาก็ถึงกับหัวเราะชอบใจ เมื่อได้แหย่ได้แกล้งให้คนนิ่งเงียบกลายเป็นคนปากร้ายพูดจาโวยวายได้รวดเร็วทันใจ

“อะไรนุชา...ทิ้งไปตั้งนานแล้ว ของแบบนั้นไร้สาระ”

อ๋อ เหรอ

ไร้สาระเหรอ

“คุณซ้ง เป็นคนแบบนี้เหรอเนี่ย ใจร้ายว่ะ”

เงียบ

ฟังแล้วก็เงียบ

ตั้งใจฟังแต่เงียบ ไม่ยอมตอบ

“งั้นใช้ทฤษฎีของผมต่อไปก็ได้วะ ก็ต้องจีบคุณซ้งไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะใจอ่อนใช่มั้ย”

พูดแล้วนุชาก็อมยิ้ม เมื่อรู้สึกได้ถึงความลังเลของคนที่นิ่งฟัง

คุณซ้งเป็นคนแบบนี้ ถึงไม่พูดอะไรมาก
แต่บางครั้งถ้ารู้สึกอะไร คนรอบข้างก็เหมือนจะสัมผัสได้เสมอถึงความรู้สึกนั้น

“ไม่ต้องหรอก ไม่ได้บังคับ”

โหหหหหหหหห

กล้าพูด
กล้าพูดจริงนะคุณซ้ง
พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ใครจะยอม
ไม่ทันแล้ว มาถึงขั้นนี้แล้วใครจะยอมถอยง่าย ๆ
เคยชอบแค่หน้าตา แต่ตอนนี้มันรวมไปถึงนิสัยใจคอ
และทั้งหมดที่รวมกันเป็นคุณซ้งแล้ว

ขืนเลิกจีบตอนนี้ก็บ้ากันพอดี

เรื่องอะไรจะปล่อยคนดี ๆ น่ารัก ๆ แบบคุณซ้งไป
ปล่อยไปก็โง่เต็มที

“แล้วเมื่อไหร่จะจีบคืนบ้างล่ะ”

แกล้งถามให้ด่าเล่น แล้วก็ได้ยินเหมือนฝ่ายนั้นทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ
ทำเหมือนไม่พอใจ แต่แค่ได้ฟังก็ทำให้หัวเราะออกมา

ก็มันเป็นซะอย่างนี้

น่ารักซะขนาดนี้

แล้วใครมันจะกล้าเลิกจีบ ปล่อยไปให้คนอื่นก็แย่เต็มที
อุตส่าห์เข้าใกล้ได้ถึงขนาดนี้แล้ว หนีไม่พ้นแล้วคุณซ้ง
รอดยากแล้วไม่รู้ตัวบ้างเลยเหรอ

“คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้ง”

เรียกซ้ำ ๆ และเรียกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่
และก็ยิ่งได้ยินเหมือนฝ่ายนั้นทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ทำเหมือนไม่ชอบ ไม่พอใจ
แต่รู้ทันหรอก ชอบก็อย่าทำเป็นฟอร์มเล้ยยยย

“อะไร เรียกอยู่ได้”

ไม่เคยจำ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยจำ สอนเท่าไหร่ก็ไม่เคยเชื่อ บอกเท่าก็ไม่เคยทำตาม

“จ๋า...จ๋า....จ๋า...เวลาขานรับให้มันเพราะ ๆ หน่อย... จ๋าสิหนู พูดกับผู้ใหญ่ให้มันดี ๆ หน่อย เข้าใจมั้ย”

ไม่เข้าใจ

อย่ามาแกล้ง อย่ามาให้ทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้อีก

“พูดไม่ได้หรอกนุชา”

ก็ไม่ได้ว่าอะไร แกล้งไปงั้นแหละ เห็นคุณซ้งหงุดหงิดแล้วมันสบายใจ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ว่าแล้ว...อย่างนี้แหละ ชิน..เด็กดื้อสอนยาก ทำใจแล้ว”

หัวเราะชอบใจ เมื่อได้แกล้งหยอกล้อให้คุณซ้งหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่รู้ทำไมถึงได้ชอบทำแบบนี้

คุณซ้งน่าแกล้งที่สุด
เวลาที่งี่เง่างอแง และโมโห มันดูมีชีวิตชีวากว่านิ่งเฉย และเมินโลก
สนุกดีจะตาย เปลี่ยนคนเงียบ ๆ ให้กลายเป็นคนปากร้าย ช่างต่อปากต่อคำ

“นอนเหอะไป เด็กอนามัย”

แกล้งแซวแกล้งแหย่เล่น และคราวนี้คนที่อยู่ปลายสายยิ่งโมโหใส่ไม่เลิก

“ก็ยังดีกว่าคนที่รีบนอนไม่ได้ แล้วเช้ามาก็กลายเป็นหมีแพนด้าแหละวะ”

อ๋อ

เหรออออออออออ

เป็นหมีแพนด้าเหรอครับ ใช่สิเป็นหมีแพนด้า
หมีแพนด้าแล้วมันยังไงล่ะครับคุณซ้ง

“หมีแพนด้าแล้วไง น่ากลัวตรงไหน ยังไงคุณซ้งก็รักผมอยู่ดี”

นุชา

นุชา

นุชา

ลื้อนี่มัน......ลื้อนี่มันเป็นคนที่มึนที่สุดในโลกเลยโว้ยยยยยยยยยย

“ใช่เปล่าล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า รักแล้วไม่กล้าพูด ปากแข็งเอ้ยยยยย”

นุชาหัวเราะไม่เลิก และยังย้ำข้อความที่ทำให้ซ้งพูดอะไรไม่ออกได้อีก

ตลกยิ่งกว่าตลก ขำยิ่งกว่าขำ เมื่อยั่วให้อีกฝ่ายโมโหได้
และคุณซ้งก็รีบชิงวางสายไปซะก่อน เพราะไม่สามารถต้านทานกับความมึนระดับเซียนของนุชาได้

ขำและอมยิ้ม ก่อนจะหยิบเอกสารมานั่งอ่านและเริ่มลงมือพิมพ์ข้อความลงในคอมพิวเตอร์เพื่อใช้นำเสนอในวันถัดไป สายตายังไล่ไปมาที่ตัวอักษร

ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อพบว่ามีข้อความเข้ามา

“หมีแพนด้า รีบนอนได้แล้ว”

โถ พ่อคุณเอ้ยยยย มีใครเขาส่งข้อความแบบนี้กันบ้าง
มีแต่ส่งมาว่า ฝันดีนะ หรืออะไรทำนองนี้ต่างหากล่ะ

มีอยู่คนเดียวนี่แหละ ที่ส่งข้อความที่ไร้ความหวานแหววแบบนี้มาให้

แต่ก็สมเป็นคุณซ้งดี ถ้าขืนมีอะไรทำนองนั้นส่งมา โลกคงได้ถล่มทลายกันพอดี

หมีแพนด้างั้นเหรอ ..... หมีแพนด้า

อ่านแล้วก็อมยิ้ม และรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

คนที่กำลังจะเอนหลังลงนอนรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ส่งกลับมาให้
อ่านแล้วก็ยิ้ม อมยิ้มจนแทบจะหยุดรอยยิ้มเอาไว้ไม่ได้

.....ฝันดีครับ...เด็กอนามัย…



TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ความรู้สึกช้า † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:37:40
ตอน ความรู้สึกช้า



เจ็ดโมงครึ่ง
นุชาอาบน้ำแปรงฟันเรียบร้อยและอยู่ในชุดเสื้อยืดเก่า ๆ กับกางเกงขาสั้น
เริ่มลงมือเขียนรายงานการนำเสนอที่จะต้องส่งในวันจันทร์
และยกแก้วโกโก้อุ่น ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบเป็นครั้งคราว

ถึงแม้จะเป็นวันหยุด แต่ก็อยากทำงานให้เสร็จเรียบร้อย
ไม่ได้รีบไปไหน นั่งทำไปเรื่อยๆ อ่านแล้วก็พิมพ์ข้อมูลลงไปในคอมพิวเตอร์

ไม่ได้รู้สึกเคร่งเครียดหรือเบื่อหน่ายงานที่ทำ แต่รู้สึกชอบและเพลิดเพลิน

ทำงานที่ตัวเองชอบ ทำแค่ไหนก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกเบื่อ
กลัวก็แต่คนที่ไม่เข้าใจ จะหาว่าเป็นคนบ้างาน และจะพาลน้อยใจหาว่าไม่สนใจกัน

อยากทำงานให้สำเร็จลุล่วง
ถ้าเคลียร์งานหมดแล้วคิดจะลาพักร้อนหลาย ๆ วัน
มีหลายอย่างต้องทำ
รู้สึกเหมือนต้องชดเชยบางอย่างให้กับคนบางคนที่ไม่ค่อยยอมพูดคนนั้น
คนที่ชอบทำหน้าเรียบเฉย เมินโลก แต่น่ารักและน่าแกล้งที่สุด

คุณซ้งบอกว่าอีกไม่เกินสองวันอาม่ากิมก็จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

ดีใจมาก

แค่ฟังก็รู้แล้วว่ามีความสุขและดีใจ แม้จะชอบทำเสียงนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ราบเรียบไม่แสดงท่าทางตื่นเต้นออกมา แต่แค่ฟังก็รับรู้ความรู้สึกได้

คนบางคนชอบทำให้อมยิ้มได้ทั้งวัน
แค่นึกถึง แค่ได้คิดถึงก็มีความสุข
นุชามองที่นาฬิกาและหยิบรีโมทมากดเปิดรายการโทรทัศน์ช่องรายการการ์ตูนและเงยหน้าขึ้นมองเป็นพัก ๆ

มองแล้วก็อมยิ้ม

เปิดเสียงคลอเบา ๆ และก้มหน้าก้มตาทำงาน
ลงมือพิมพ์ข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ และละสายตาจากหน้าจอมามองที่รายการการ์ตูนที่กำลังออกอากาศ

มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ ดูไปก็เพลิน ๆ ดี

มิน่าล่ะ ถึงได้ชอบดู
แล้วป่านนี้ทำอะไรอยู่ ตื่นนอนหรือยัง เช้าขนาดนี้ จะโทรไปหาก็คงไม่ค่อยดี

นุชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดค้นหาข้อความที่ค้างอยู่ในเครื่อง

….ไอ้นุ่นเน่าเลิกงานแล้วหาข้าวกินด้วย....

อ่านแล้วก็ขำ ขำแล้วก็ส่ายหน้ากับข้อความแปลก ๆ ที่ถูกส่งเข้ามาบ่อย ๆ

....นุ่นหน้ามึนน่าเบื่อ...น่าเบื่อ...น่าเบื่อ...

อะไรของเขา ส่งมาทำไม ตอนที่เปิดอ่านถึงกับขำไม่หยุด ไม่รู้ว่าคนที่ส่งข้อความประหลาดแบบนี้มากำลังคิดอะไรอยู่

เวลาคุยด้วยก็ไม่ค่อยอยากจะพูด ต้องให้ถามนั่นถามนี่ถึงจะคิดตามแล้วกว่าจะตอบคำถามแต่ละอย่างออกมาได้ คิดแล้วก็คิดอีก บอกว่าอย่าคิดให้มากนัก
ก็ไม่ค่อยจะยอมเชื่อ

คุณซ้งเป็นคนพูดคุยไม่เก่ง แต่ปากจัดได้ใจ อย่ายั่วให้ด่า อย่าทำให้โมโห ไม่อย่างนั้น
จะงอแงงี่เง่า และงอนใส่

พฤติกรรมแบบนั้น มันยิ่งกว่าน่ารักอีก คุณซ้งเอ้ยยยยยยย

ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้ ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้นะ
ทำไมถึงได้....เฮ่อออออ คิดถึงว่ะคุณซ้ง ทำอะไรอยู่เนี่ย เช้า ๆ แบบนี้ ตื่นนอนหรือยัง

ตื่นได้แล้ว อยากคุยด้วยแล้ว รีบโทรมาหาซะที
หรือไม่ก็ส่งข้อความอะไรมาก็ได้ อยากอ่าน

เฮ่ออออออออ

คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้ง สอนไปตั้งมากมาย เมื่อไหร่จะจำ
เมื่อไหร่จะพูดเพราะ ๆ หวาน ๆ บ้าง เมื่อไหร่จะหัดทำตัวหวานแหววบ้าง
ทำไมถึงได้สอนยากสอนเย็นขนาดนี้ ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ

บ่นคนเดียว คิดอะไรเล่น ๆ แต่ไม่ได้รู้สึกจริงจังกับสิ่งที่ตัวเองคิด
บ่นไปเรื่อยเปื่อย
ทั้งที่รู้สึกชอบความดื้อเงียบของคนที่สอนเท่าไหร่ก็ไม่ยอมทำตามคนนั้น
ชอบความดื้อรั้นแบบแปลก ๆ แต่น่ารักมากเลยรู้ตัวมั้ยครับคุณซ้ง

ไม่พูดไม่เถียง แต่ก็ไม่ยอมทำตาม

น่ารักเกินไปแล้วคุณซ้งเอ้ยยยยยยยยยยย

“เฮ่อออ” ถอนหายใจยาวเหยียด และนุชาก็ส่ายหน้ากับความคิดไร้สาระของตัวเอง
ยกแก้วโกโก้อุ่น ๆ ขึ้นจิบ และเปิดเอกสารหน้าถัดไป
อ่านอย่างช้า ๆ ทำความเข้าใจ และพิมพ์ข้อความไปเรื่อย ๆ
นั่งทำเอกสารอยู่นาน ก่อนจะยิ้มออกมาได้ เมื่อพิมพ์ข้อความสุดท้ายจบลง

“เสร็จแล้วววววววว” ยกมือขึ้นสองข้าง เหยียดขาออก และเอนตัวไปซ้ายและขวาเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า เก็บรวมรวมเอกสารใส่ในกระเป๋าเอกสาร และปิดคอมพิวเตอร์

หยิบรีโมทมาเปิดเสียงรายการการ์ตูนและเอนหลังพิงกับเตียง
ชันเข่าขึ้นและนั่งดูไปเรื่อย ๆ

เพลิน

สนุกดี

สนุกจนอยากดูตอนต่อไป

แปดโมงกว่าแล้ว ตื่นนอนหรือยัง โทรไปหาได้หรือเปล่า
แต่... มันก็ยังดูเช้าเกินไป เดี๋ยวรออีกหน่อยก็ได้

หยิบโทรศัพท์ที่วางเอาไว้มากดดูหมายเลขที่ต้องโทรหา

คิดถึงว่ะคุณซ้ง

คิดถึง....คิดถึงมากนะเนี่ย ทำไมเป็นแบบนี้

เมื่อก่อนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พักหลังๆ ที่เริ่มคุยกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ มากขึ้น
ทำไมถึงได้รู้สึกคิดถึง และอยากเจอมาก
ไม่เหมือนช่วงแรกที่หลงใหลได้ปลื้มแค่หน้าตา
แต่ตอนนี้มันคือความรู้สึกบางอย่างที่มากกว่านั้น

อยากอยู่ข้าง ๆ อยากอยู่ใกล้ ๆ
ชอบเวลาที่เราได้แบ่งปันความรู้สึกต่าง ๆ กัน เรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจจนร้องไห้
และเรื่องที่ทำให้เรายิ้มได้

เรื่องที่ทำให้เรายิ้มออกมาได้พร้อมๆ กัน

ทั้งเรื่องดี ๆ หรือเรื่องราวแย่ ๆ ที่ผ่านเข้ามา อยากแบ่งปันให้รับรู้
ทำไมถึงได้รู้สึกกับคุณซ้งมากขนาดนี้

ทำไมวะ ทำไมเป็นเอามากขนาดนี้ อยากรู้มากเลยคุณซ้ง

แล้วคุณซ้งเป็นแบบนี้บ้างหรือเปล่า
แบบที่ว่าคิดถึงจนเหมือนจะทนไม่ไหวแต่ก็ต้องพยายามหักห้ามใจตัวเอง
ไม่ให้มากเกินไปจนมีผลกระทบกับงานและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

เป็นเหมือนกันหรือเปล่าคุณซ้ง

ตอนนี้ผมรู้สึกแบบนั้นอยู่นะ คุณซ้งจะรู้บ้างมั้ย

ที่ทำเหมือนแกล้ง เหมือนแหย่ ให้คุณซ้งโกรธ
ทุกครั้งที่ทำแบบนั้นแม้จะเป็นการหยอกล้อ แต่มันมีบางอย่างมากกว่านั้น
บางสิ่งบางอย่างที่อยากบอกให้คุณซ้งรับรู้

อยากบอกให้รับรู้เอาไว้

ชอบเวลาที่ได้เห็นคุณซ้งหน้าแดง บางครั้งก็บ่นบ้าง ด่าบ้าง

แต่แค่นั้นก็ทำให้ยิ้มได้ แม้จะไม่ยอมตอบกลับมา
แต่ท่าทางทั้งหมดที่ได้เห็นก็ทำให้รับรู้ได้ ว่าคุณซ้งเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

คิดถึงผมหมือนกันใช่มั้ยคุณซ้ง
ผมก็คิดถึงคุณซ้งเหมือนกัน

นั่งคิดอะไรเพ้อเจ้ออยู่คนเดียวเป็นนานสองนาน กว่าจะสำนึกได้ว่าปล่อยให้หัวใจล่องลอยไปไหนต่อไหน ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง

นุชาสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเองออก และลุกขึ้นยืน เก็บแก้วโกโก้ไปล้าง
เปิดวิทยุเครื่องเล็ก ๆ ค้นห้าสถานีเพลง และเลือกฟังเพลงที่ถูกใจ

มัดถุงขยะ และเตรียมจะเอาไปทิ้ง

แต่เมื่อเปิดประตูห้องออกมาก็ถึงกับยืนนิ่งอึ้ง เมื่อพบว่ามีใครบางคนยืนอยู่หน้าประตู

“คุณ...ซ้ง”

อึ้ง และเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ

มายังไง แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้ว....เอ่อ

“จะ...ไปทิ้งขยะเหรอ....”

ใช่ กำลังจะไปทิ้งขยะ แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญก็คือ....คุณซ้งมายังไง
มาตอนไหน แล้วมานานหรือยัง แล้ว..........

อยากจะถาม อยากจะอ้าปากพูด แต่คนที่เอื้อมมือมาคว้าถุงขยะไปถือเอาไว้และเดินลิ่ว ๆ เอาขยะไปทิ้งที่ถังขยะห่างออกไป กำลังทำให้นุชางง
คุณซ้งเดินกลับมายืนอยู่ตรงหน้า
และกำลังทำหน้าลำบากใจ เพราะคิดบทสนทนาต่อไม่ได้

ยังไง

อะไรคุณซ้ง

ที่นี่มันชลบุรี คิดว่ามันใกล้มากนักหรือไงถึงได้คิดจะมาจะไปแบบไม่ต้องบอกกันเลย

มายืนอยู่นานแค่ไหนแล้ว
ทำไมไม่เรียก ทำไมไม่โทรบอก ทำไมถึงได้.........

อยากจะถามด้วยความสงสัย แต่ความดีใจมีมากกว่า
มองหน้าของคนที่มองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่ก และเหมือนทำตัวไม่ถูกแล้วนุชาก็เริ่มอมยิ้ม

“คุณซ้ง...ดื่มโกโก้มั้ย เดี๋ยวชงให้”

โกโก้เหรอ

เช้า ๆ แบบนี้โกโก้อุ่นก็ดี ก็....คงจะดีมาก ถ้า...นุชาเป็นคนชงให้

นุชาเดินนำหน้าเข้ามาในห้อง โดยมีใครบางคนเดินตามเข้ามา
เดินไปเตรียมแก้วน้ำสำหรับรินน้ำอุ่นใส่ลงไป ชงโกโก้อุ่นหนึ่งแก้ว
และนำมายื่นส่งให้กับคนตรงหน้าที่ยังมีทีท่ามึงงง เหมือนไม่รู้จะทำยังไง

คุณซ้งรับแก้วมาถือเอาไว้ และนิ่งมองแก้วโกโก้อยู่นาน
ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ และเดินมาหาคนที่กำลังค้นหาบางอย่าง

“เดี๋ยวหาช้อนให้นะ เมื่อกี้ก็เห็นอยู่....ตรง เอ่อ...คุณซ้ง เดี๋ยวหาช้อน อ่า”

นุชาทำได้แค่ยืนนิ่ง ๆ เมื่ออยู่ดี ๆ คนที่ทำเหมือนมึนงงและทำอะไรไม่ถูกคนนั้น
ก็เดินเข้ามาหาและกอดเอาไว้

กอดแน่น

กอดเอาไว้ทั้งตัว

กอด...ด้วยความรู้สึกที่นุชารับรู้ได้ว่าคนกอดกำลังกอดด้วยความรู้สึกแบบไหน
อ้อมแขนอุ่น ๆ ที่โอบรัดรอบตัว

ใบหน้าที่ซบลงมา น้ำเสียงแผ่วเบาที่กระซิบที่ข้างหู

“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะนุชา ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้....”

ทำไมเหรอ

ทำไม

แค่ได้ฟังเสียงก็รู้สึกอุ่นวาบไปถึงหัวใจ
มันอบอุ่นและชวนให้เคลิบเคลิ้มกับความรู้สึกที่มากับคำพูดที่แปลความหมายไม่ได้

“ทำไมอยากเจอขนาดนี้ อยากเจอจนทนไม่ไหว ทำไมล่ะนุชา ทำไม”

อย่าถามเลย เพราะตอบไม่ได้จริง ๆ
ผมไม่รู้จริง ๆ ว่า คุณซ้งอยากเจอใคร
แล้วยิ่งไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงได้อยากเจอมากขนาดนี้
ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไม ผมตอบไม่ได้
แล้วทำไมล่ะ เพราะอะไร ทำไมถึงอยากเจอจนทนไม่ไหวล่ะคุณซ้ง
ทำไมถึงได้....อยากเจอจนทนไม่ไหว....

นุชายืนนิ่งเงียบ และซบหน้านิ่ง ๆ กับอกของคนที่กอดเอาไว้แน่น

คุณซ้งเองก็รู้สึกเหมือนกันใช่มั้ย

ความรู้สึกแบบนี้
เป็นเหมือนกันใช่มั้ย
มันอยู่ข้างใน มันอยู่ลึก ๆ ข้างในหัวใจ

“คิดถึงคุณซ้ง...อยากได้ยินเสียง อยากคุยด้วย อยากเจออยู่ตลอดเวลา
แต่ไม่กล้า ไม่กล้าโทรไปหาบ่อยๆ กลัวคุณซ้งรำคาญ กลัวมันจะมากเกินไป”

เอ่ยบอก ทั้งที่ยังซบใบหน้านิ่ง ๆ อยู่กับอกของคนที่ยังกอดแน่นไม่ยอมปล่อย

อย่ารำคาญผมเลย อย่าหาว่าผมงี่เง่า อย่าหาว่าผมบ้าบอเลยคุณซ้ง
ตอนนี้ กำลังรู้สึกแบบนี้จริง ๆ รู้สึกคิดถึงจนยอมเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ
ยอมเป็นคนพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระให้คุณซ้งต่อว่า

อ้อมแขนอุ่น ๆ ผละออกห่าง และคนตรงหน้าจับไหล่ของนุชาให้ยืนเผชิญหน้ากัน

สบตากันนิ่ง ๆ และเหมือนรู้สึกได้ถึงความรู้สึกมากมายท่วมท้นที่มีให้กัน

ปลายนิ้วอุ่น ๆ เกลี่ยไล้สัมผัสแผ่วเบาที่ข้างแก้มของนุชา

ดวงตาที่จ้องนิ่งตรงมา ทำให้นุชาหยุดรอยยิ้มของตัวเองไว้ไม่ได้
หรี่ปรือตาลง เมื่อใบหน้าที่โน้มเข้ามาหา ค่อย ๆ จรดปลายจมูกลงที่หน้าผาก

กดหนัก ๆ ก่อนจะผละออกห่างและปลายนิ้วยังคงเกลี่ยไล้เล่นที่ข้างแก้มอยู่อย่างนั้น

รู้สึกยังไง คงไม่ต้องบอก แค่มองตาก็รู้ว่าคุณซ้งรู้สึกยังไง

“คิดถึง...มั้ย”

ลังเลใจที่จะพูด แต่เมื่อถามแล้วคนถามก็ไม่เคยคิดอยากได้คำตอบ
การกระทำมันบอกทุกอย่างหมดแล้ว แต่แค่อยากจะล้อคนที่มาหาในเวลาเช้าขนาดนี้

เห็นสายตาที่หรุบลงต่ำ และเหมือนคนที่ฟังคำถามกำลังคิดบางอย่าง
คราวนี้นุชาก็ยิ่งยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

จะบ่นหรือจะด่าล่ะคุณซ้ง....จะว่าอะไรอีก
ก่อนจะพูดไม่ต้องหน้าแดงก็ได้นะ .... เป็นแบบนี้อีกแล้ว
ไม่รู้เหรอว่าผิวขาว ๆ ของคุณซ้งแค่แดงนิดเดียวก็เห็นชัดแล้ว

ไม่รู้บ้างหรือไง

“คิดถึงนุชามั้ย”

แกล้งถามย้ำ และอมยิ้ม เมื่อจ้องมองใบหน้าของคนที่ยังแกล้งทำเป็นนิ่งเฉย
ทั้งที่ความรู้สึกบางอย่างมันเผยออกมาหมดแล้ว แค่เพียงสบสายตาคู่นั้น

“มาก......”

คืออะไร มากที่ว่า คำว่ามากมีความหมายว่ายังไง

“อะไรมาก คิดถึงนุชามากหรือไง”

แกล้งถามและเอียงคอมองหน้าของคนที่ไม่ยอมพูด ทั้งที่ปลายนิ้วยังเกลี่ยไล้เล่นที่ข้างแก้มไม่เลิก

อย่าเฉไฉ อย่ามองไปทางอื่น มองมาตรงนี้ มองมาที่ตาคู่นี้
อย่าหลบสายตา อย่าเมินมองไปทางอื่น มองมาตรงนี้คุณซ้ง
มองตรงมา

“คิดถึง.....นุ่น.....มาก.....พอใจหรือยัง”

คนตอบ ตอบออกมาทั้งที่หน้างอ และตอบเหมือนถูกบังคับให้ตอบ

“อะไรนะ...พูดอะไรฟังไม่เห็นรู้เรื่อง”

แกล้งไม่ได้ยิน และอมยิ้ม เมื่อคนพูด พูดแล้วก็เอาแต่จะหลบสายตาไปทางอื่น
จนนุชาต้องจับแก้มเอาไว้ให้หันหน้ามาบอกกันดี ๆ

บังคับให้หันมองมาไม่ให้เมินมองไปทางอื่นได้อีก

“พูดใหม่...พูดว่าอะไร”

แกล้งทำเสียงดุ และก็เห็นว่าคุณซ้งกำลังมองนิ่งตรงมาจริง ๆ
คราวนี้ไม่หลบตา ไม่แกล้งเมินไปทางอื่นอีก

และเมื่อละมือออกจากข้างแก้มของคุณซ้ง
คราวนี้ฝ่ายนั้นยิ่งไม่ยอมหลบสายตาไม่เหมือนคราวแรกที่ทำยังไงก็ไม่ยอมพูด

“ซ้งคิดถึงนุ่นมาก...ชัดพอมั้ย”

ชัด

ชัดยิ่งกว่าชัด

ชัดเจน และโคตรเข้าใจ

พูดได้ดีมากคุณซ้ง พูดได้ดีและหน้าก็แดงจัด ชัดเจนพอ ๆ กับคำพูดด้วย

ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้

ถึงจะพูดไปเขินไป แต่แค่ยอมพูดออกมา ก็ทำให้คนฟังดีใจจนแทบบ้า

“ชัดแล้ว...นุ่นก็คิดถึงคุณซ้งมากเหมือนกันเป็นแฟนนุ่นเถอะนะ”

จะมีใครมึนได้มากเท่านุชา

ถามออกไปโดยไม่รอให้คนฟังตั้งตัว

เหรอ

เป็นแฟน...กันเถอะนะ...งั้นเหรอ

ทำไมถึง.....

ทำไมถึงเพิ่งมาถาม ทำไมถึงเพิ่งมาขอ ทำไมความรู้สึกช้าขนาดนี้

“เราคบกันมาพักใหญ่แล้ว อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ อย่าแกล้งมึนให้มากนักได้มั้ยนุชา”


TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † เอาคืน † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:39:36
ตอน เอาคืน



มีใครบางคนนั่งตาปรือคอเอียงอยู่บนโซฟา
กอดหมอนอิงเอาไว้และมองยังไงก็รู้ว่าง่วง แต่ไม่กล้านอน

นุชาก็เลยคว้าหมอนอีกใบมาวางเอาไว้ และแตะเบา ๆ ที่ไหล่ของคนที่กำลังนั่งหลับ

“ง่วงก็นอนซักพักเถอะคุณซ้ง เดี๋ยวปลุก”

บอก และเห็นคนที่หรี่ตาขึ้นมอง พยักหน้าให้ และเอนตัวลงนอนหนุนหมอนที่เตรียมไว้ให้อย่างว่าง่าย

เอนลงนอนตะแคงและกอดหมอนอิงเอาไว้

เพียงเวลาไม่นานลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอก็ทำให้นุชารู้ว่าคนที่นั่งง่วงมานาน หลับสนิทเรียบร้อยแล้ว

หลายวันมานี้มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย
และนั่นคงทำให้คุณซ้งทั้งเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียไม่น้อย ไม่มีเวลาได้พักผ่อน
เพราะต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเพื่อไปดูแลอาม่ากิม
แต่วันนี้ยังอุตส่าห์ขับรถทางไกลไปรับตั้งแต่เช้า

บอกว่าคิดถึงจนทนไม่ไหว อยากเจอจนทนไม่ไหวเลยต้องไปหา

ทำไมถึงทำตัวน่าหลงใหลให้หลงรักได้มากขนาดนี้ล่ะคุณซ้ง

ทำไม....

ทอดสายตามองร่างที่นอนหลับอยู่บนโซฟาแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม

เหนื่อยสินะ คงทั้งเหนื่อยทั้งล้า สุดท้ายร่างกายก็เลยทนไม่ไหว
ดีแล้วที่สามารถหลับตาลงได้อย่างสบายใจ
ไม่เหมือนหลายวันก่อนที่ทั้งไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมหลับยอมนอน
ดีแล้วที่คุณซ้งสบายใจขึ้น เป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้ว

ยืนมองนิ่ง ๆ อยู่นาน แล้วนุชาก็ก้าวขาเดินเข้าไปในครัว

กลับมาถึงบ้านโดยใช้เวลาเดินทางไม่นาน
คุณซ้งขับรถมาส่งถึงหน้าบ้านและยังเข้ามาทักทายแม่ที่ดูเหมือนจะดีอกดีใจจนออกนอกหน้าที่ได้เจอคุณซ้ง แล้วดีใจมั้ยเนี่ยที่เห็นหน้าลูก แถมยังบ่นไม่เลิก หาว่าถ้าคุณซ้งไม่ไปรับก็คงไม่ยอมกลับบ้าน

แม่นี่ก็บ่นไปเรื่อย ไม่ยอมหยุด

ไม่ใช่ไม่อยากกลับหรอก
งานมันยุ่งจริง ๆ ครับแม่
ไม่ใช่ว่าจะเลี่ยงไม่ยอมกลับบ้าน คิดถึงแม่จะแย่ ไม่ให้คิดถึงแม่แล้วจะให้ไปคิดถึงใคร

“แม่คร้าบบบบ”

เดินมากอดเอวแม่ที่ยังสาละวนอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวัน และก็โดนเขกหัวเข้าให้ เพราะวุ่นวายไม่ถูกเวลา

“เรานี่นะ เดี๋ยวก็โดนน้ำมันลวกกันพอดี”

บ่นได้อีก จะบ่นอะไรนักหนา ลูกมาแสดงความรักขนาดนี้ ยังจะว่ากันอีก
ลูกสุดที่รักเลยนะแม่ ทำไมแม่ต้องเขกหัวด้วย มันเจ็บนะครับ


“โห่ แม่นี่บ่นตลอด เป็นเครื่องบ่นหรือไงแม่ รู้งี้ไม่กลับก็ดี”

แกล้งทำเป็นงี่เง่า และเห็นแม่มองค้อนกลับมาแล้วก็เลยหัวเราะชอบใจ

“เรานี่นะ เจ้านุ่น หนีแม่ไปอยู่ไกล ๆ แล้วยังจะไม่ยอมกลับมาอีกถ้าเป็นเด็ก ๆ จะตีให้น่วมเลย ลูกคนนี้”

พูดเล่นหรอกแม่ ใครจะกล้า กำลังทำเรื่องย้ายกลับมาอยู่ ถ้าเกิดไม่ได้ ก็อาจจะลองหางานใหม่แล้ว ใจเย็น ๆ น่า อย่าบ่นเลยคร้าบบบบบบ

“แล้วปล่อยซ้งทิ้งไว้ไหนล่ะ ไม่ออกไปดูหน่อย”

ทิ้งไว้ไหนเหรอ ก็....ทิ้งไว้ที่เดิมแหละ นอนหลับไปแล้ว คงเหนื่อยมาก

“เอาเค้ามาแล้ว อย่าทิ้งขว้างนะลูก โตแล้วทำอะไรคิดหน้าคิดหลังให้ดี ๆ เราโตกว่าเค้า เราต้องมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่เรื่องความเป็นอยู่แบบทั่วไป แต่ให้รับผิดชอบหัวใจเค้า รับผิดชอบความรู้สึกเค้า อย่าทิ้งขว้าง ”

นุชากำลังยืนนิ่งอึ้งกับคำพูดที่ได้ยิน
แกล้งเดินเตร่ไปเด็ดผักในตะกร้า และนิ่งเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

“อย่าทำอะไรเล่น ๆ เป็นเด็ก ๆ เพราะเค้าดูจริงจังกับนุ่นมากนะลูก”

ฟังที่แม่พูด แล้วก็ได้แต่คิดตาม

แม่บอกว่าช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้าน คุณซ้งมักจะแวะมาหาบ่อย ๆ
มาช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ มารดน้ำต้นไม้ให้แล้วก็กลับ
บางครั้งก็มานั่งคุยเป็นเพื่อนพ่อ

แม้จะไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็ยังปลีกตัวมาหา มาอยู่เป็นเพื่อนและพูดคุยกันบ้าง

ได้พูดได้คุย ได้รู้เรื่องราวชีวิตของคุณซ้งแล้วยิ่งสงสารเห็นใจ

แม่ไม่เคยพูดอะไรจริงจังเป็นงานเป็นการเลยสักครั้ง
และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แม่พูด

“แม่เสียใจมั้ย ที่นุ่นเป็นแบบนี้” ก้มหน้าก้มตาเด็ดผัก และถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเอ่ยถามแม่ ที่ทำเหมือนกับง่วนอยู่กับการทำอาหารสำหรับมื้อกลางวัน

ครั้งนี้คือการพูดคุยกันแบบจริงจังที่สุด
แต่ทั้งแม่และนุชาต่างก็ทำเหมือนเป็นเรื่องสบาย ๆ พยายามให้รู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด

“แม่เลี้ยงนุ่นมา นุ่นไม่เคยทำให้แม่เสียใจ ไม่เคยทำให้แม่ทุกข์ ถ้านุ่นรักใครแม่ก็รักด้วย แล้วนุ่นจะให้แม่เสียใจเรื่องอะไร”

แม่ครับ

นุ่นโคตรรักแม่เลย

รักแม่มากที่สุดในโลกเลยครับ

“ซ้งเค้ารักนุ่น เค้าดีกับนุ่นเค้าดีกับครอบครัวของเรา นุ่นก็ควรจะดีกับเค้าดีกับครอบครัวของเค้าเหมือนกัน รู้มั้ยลูก”

ครับแม่

รู้แล้ว เข้าใจแล้ว

เข้าใจแล้วครับแม่ นุ่นเชื่อแม่นะ

แม่ครับ นุ่นคิดว่านุ่นเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่ครับ
ไม่ว่านุ่นจะเป็นอะไร พ่อแม่ก็ไม่เคยต่อว่า ไม่เคยพูดจาร้าย ๆ ใส่ให้เจ็บปวด
ขอแค่เป็นคนดีมีความรับผิดชอบไม่เบียดเบียนใคร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครก็พอ

“แล้ว....พ่อ...ว่ายังไงบ้าง”

ถาม และหันไปมองแม่ที่กำลังจะตักอาหารจากกะทะก็เลยรีบหาจานไปวางไว้ให้
และยืนดูผัดผักร้อน ๆ ที่ถูกตักใส่จาน

“พ่อเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เค้าก็บอกว่าค่อย ๆ เรียนรู้กันไป ให้อยู่เป็นเพื่อนกันดูแลกันไปเรื่อย ๆ”

นุ่นรักพ่อกับแม่ครับ

นุ่นโคตรโชคดีเลยที่มีพ่อกับแม่

“เดี๋ยวแม่จะแบ่งข้าวใส่กล่องให้เอาไปกินที่โรงพยาบาลนะ เราก็เหมือนกันไปเยี่ยมไปดูแลอย่าให้ขาดตกบกพร่อง อย่าให้เสียชื่อมาถึงแม่ เข้าใจมั้ย”

เข้าใจแล้วคร้าบบบบบบบบ

เข้าใจแล้ว

“นุ่นรักแม่ รักแม่ รักแม่…”

แล้วนุชาก็เดินไปกอดเอวแม่ และหอมแก้มทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะถูกเขกหัวอีกหนึ่งที โทษฐานทำอะไรไม่ดูกาลเทศะ

“เรานี่... มันก็เป็นซะแบบนี้เรื่อย ถ้าโดนน้ำมันกระเด็นใส่มันจะเป็นยังไง
ออกไปเลยนะ อย่ามาเกะกะแม่”

โดนบ่น แต่นุชาก็ยังหัวเราะได้ เดินลิ่ว ๆ ออกมาจากครัวโดยมีสายตาของแม่มองตาม

นุชาเป็นเด็กดี ร่าเริง และตั้งใจเรียน ไม่เคยสร้างปัญหา
ยิ่งรู้ว่าตัวเองมีข้อด้อยและแตกต่างจากคนอื่น ยิ่งพยายามมากขึ้น
พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ

ในเมื่อสิ่งที่ลูกเป็นอยู่มันเลือกไม่ได้
แล้วยังจะเอาอะไรจากลูกอีก แค่ได้เห็นว่าลูกมีความสุขดี
และทำอะไรอยู่ในกรอบ ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

เสียใจที่ไม่ได้อย่างใจ อาจจะใช่
แต่มันจะได้อะไรขึ้นมาถ้าทำให้ลูกเป็นทุกข์ ถ้าทำให้ลูกไม่มีความสุขเลยตลอดชีวิต
สู้เปิดใจให้กว้าง มองอยู่ห่าง ๆ และคอยประคับประคองยามที่ล้มลงดีกว่า

นุชานั่งอยู่บนโซฟาและหันไปมองแม่ที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว

มองแล้วก็ยิ้ม มองแล้วก็ได้แต่ยิ้มกับความสุขที่ได้รับ
ความสุขที่ไม่ต้องไปหาจากไหนไกล แค่ได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ได้พูดคุยกัน ได้แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้กันก็มากเกินพอแล้ว
แม่หันกลับไปเตรียมอาหารสำหรับมื้อกลางวันต่อแล้ว

แต่นุชายังคงนั่งอมยิ้มไม่เลิก

โชคดีจริง ๆ นั่นแหละ เรามันเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก
มีครอบครัวที่รักและเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา

ไปที่ไหนก็ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะรู้ว่าสุดท้ายแล้วจะมีที่ให้กลับมานอนหลับตาลงได้อย่างสบายใจ

นอนหลับตาลงได้อย่างสบายใจ......

เหมือนที่คนบางคนกำลังทำอยู่ตอนนี้หรือเปล่า

ที่ ที่สามารถนอนหลับตาลงได้อย่างสบายใจ
สัญญาเอาไว้แล้ว ว่าจะดูแลให้ดีและไม่ทำให้เสียใจ

เมื่อสัญญาแล้วก็อยากจะทำให้ได้ตามสัญญา
และจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะทำให้ได้

เพิ่งจะรู้ว่าในความคิดของคุณซ้ง เราคบกันมาได้ซักพักแล้ว
แล้วเมื่อไหร่ที่เราเริ่มคบหากันอย่างจริงจัง

มันเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่

สำหรับคุณซ้ง การคบกันของเรามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่
ทำไมถึงไม่ยอมพูด ทำไมถึงไม่ยอมบอกล่ะ
ถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมบอกไม่ยอมตอบ
เอาแต่เฉไฉหลบสายตาและหน้ามักจะแดงก่ำอยู่เสมอ เวลาที่แกล้งถามอะไรทำนองนี้

ทำเหมือนไม่ชอบ แต่จริง ๆ แล้วชอบให้จีบ
ชอบให้หยอกล้อ
ชอบให้อ้อน

ทำเป็นบ่นทำเป็นว่า ทั้งที่ชอบมาก แปลกคนจริง ๆ เลยนะคุณซ้ง

“อืออออ”

คนที่นอนหลับอยู่เริ่มขยับตัว และหรี่ปรือตาขึ้นมองนุชาที่มานั่งอยู่ใกล้ ๆ

“นอนอีกหน่อยก็ได้คุณซ้ง เพิ่งนอนไปแป๊บเดียวเอง”

บอก และแตะเบา ๆ ที่ไหล่ของคนที่ยกหลังมือขยี้ตา

“นุ่น”

หือ....

เรียกทำไม มีอะไรหรือเปล่า

เรียกทำไมเหรอ

“ไม่นอนด้วยกันเหรอ”

นอนด้วยกัน....นอนด้วย.........กัน
อืมมมมม คิดแล้วมันก็....

“อยากนอนกับผมเหรอคร้าบบบบ”

แกล้งถาม และหัวเราะร่วนเมื่อเห็นคนที่เอ่ยถามรีบลุกขึ้นนั่งแบบทันทีทันใด
และเริ่มบ่น

“อะไรนุชา....แปลแต่ละอย่างแปลเข้าไปได้ยังไง”

โหหหหหหหหห ก็แล้วใครมันพูดให้แปล พูดไม่คิดเอง นี่ก็ตอบแบบไม่คิดอะไรนะ

หรือว่าคุณซ้งคิด

“เอ้า...ทำไมต้องว่าด้วย ไม่อยากก็ไม่อยากสิ ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย”

ปากดีนักนะนุชา ปากดีนัก พูดแล้วยังลอยหน้าลอยตาใส่อีก มีอะไรน่าขำ
ตลกตรงไหน มีอะไรสนุกนักหรือไง ถึงได้ขำขนาดนี้

“ไม่อยากพูดด้วยแล้ว”

อ้าววววววววว ทำไมล่ะ ทำไมแบบนั้นล่ะ ทำอะไรผิดอีกหรือนี่
ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ทำไมงอนง่ายจัง

“คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้งอ่ะ”

อะไร ไม่ต้องเรียก ไม่ต้องทำเสียงแบบนี้ ไม่ต้องทำหน้าแบบนี้ หยุดอ้อนได้แล้ว

“นอนซะนะ อย่างอนเล้ยยยย เอ้า นอน ๆ นอนต่อ เดี๋ยวปลุกนะคร้าบบบ”

หัวเราะกับการทำหน้าเมินโลกของคุณซ้ง และรีบจัดหมอนให้เข้าที่ แตะ ๆ ไปสองที
และคนที่งอนก็ยอมล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

“เป็นเด็กวัยกำลังกินกำลังนอน ยังใช้งานไม่ได้ก็ต้องทำใจ รีบโตไว ๆ นะจ๊ะหนูซ้ง”

นุชา

อย่าท้า

อย่ามาท้าทาย อย่ามาพูดแบบนี้ อยากจะรับผิดชอบคำพูดตัวเองมั้ย จะได้ช่วย

“อยากรู้มั้ยว่าใช้ได้หรือไม่ได้ จะลองดูมั้ยล่ะ”

อ่า อะไรนะ....อยากรู้มั้ยเหรอ...อยากรู้มั้ย เหรอ อืมมมมม

“ลองมั้ย”

ถามย้ำทำไมสองครั้งสามครั้ง หูไม่ได้ตึงหรอกน่าคุณซ้ง
แล้วสายตาแบบนั้นมัน....เอาจริงเอาจังเกินไปแล้วนะนั่น…
ล้อเล่นนิดเดียวเอง เป็นจริงจังไปได้คุณซ้ง ผมล้อเล่นนะ อย่าจริงจัง
เราล้อกันเล่นเนอะคุณซ้งเนอะ ว่ามั้ย คิดเหมือนกันมั้ย ใช่มั้ยล่ะ

“เอ้ออออ...ช่วงนี้อากาศมันร้อนน่าดูเลยเนอะ...เอ้านอน ๆ คุณซ้ง เดี๋ยวไปปรับแอร์ให้เย็น ๆ จะได้นอนสบาย ๆ ....เนอะ”

นุชาลุกขึ้นยืนและเดินหารีโมทมาปรับระดับความเย็นของแอร์

เฉไฉ

หาเรื่องเฉไฉ และเปลี่ยนเรื่องไปเรื่องอื่นแบบหน้าตาเฉย เหมือนที่ซ้งมักทำอยู่บ่อย ๆ
และคราวนี้คนที่นอนอยู่ก็เลยได้ยิ้มออกมาบ้าง

แน่จริงไม่เล่นต่อล่ะนุชา ถ้าแน่จริงต้องเล่นต่อ ทำไมต้องเปลี่ยนเรื่องแล้วทำไมต้องเดินหนีด้วย แล้วคราวนี้รู้หรือยัง ว่าเวลาโดนแกล้งแบบนี้มันเขิน และพาลจะทำตัวไม่ถูก
รู้บ้างหรือยัง ว่าโดนแกล้งแบบนี้มันรู้สึกยังไง




TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † อย่าดีแต่พูด † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:41:30
ตอน อย่าดีแต่พูด



“วิ้ดวิ่ววว ......ว่าไงจ๊ะน้อง มาเป็นแฟนพี่เอามั้ย”

“น่ารักนะเรา ทำหน้าเมินโลกก็น่าร้ากกกกก”

“ทำหน้าแบบนี้เอาใจพี่ไปเลยดีกว่า”

และ........................

ซ้งหันไปมองหน้าของคนที่พูดจาบ้าบอเพ้อเจ้อ และหัวเราะคิกคักชอบใจกับคำพูดของตัวเองอยู่คนเดียว มองแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า แต่คนที่แกล้งแหย่แกล้งกวนประสาทยังพูดไม่เลิก พูดไปยิ้มไป และยังท้าวคางมองหน้าอีก

สนุกมาก..... ตรงไหนวะนั่น

“สวยจริงนะน้องสาว ผิวขาวเหมือนดั่งแม่แตงร่มใบ”

อืมมมมมม เอาซะให้พอ พอใจเมื่อไหร่ก็บอกกันด้วย แต่ดูท่าทางจะอีกนาน

“พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย คนสวยนี่หยิ่งแบบนี้ทุกคนเหรอจ๊ะ”

เล่นซะ เอาซะให้พอเลย นุชาเอ้ยยยยย

“ชื่ออะไรจ๊ะ....บ้านอยู่ไหน ขอเบอร์ได้เปล่า”

เหรอ
ใจคอจะเล่นแบบไม่หยุดเลยใช่มั้ย พูดไปขำไปคนเดียว
ไม่ได้สนใจเล้ยยย ว่าคนที่ต้องขับรถเสียสมาธิขนาดไหน

“สวย แล้วหยิ่งแบบนี้พี่ชอบบบบ”

กล้าเนอะ
ปากมันดีขนาดนี้ เวลาเอาเข้าจริง อยากรู้จะปากดีอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือเปล่า
แล้วนั่นพูดไปหัวเราะไป แล้วยังจะมองหน้าไม่เลิกอีก

อยากได้อะไรนุชา
ถ้าอยากได้ขนาดนั้น เดี๋ยวจัดให้ชุดใหญ่เอามั้ย จะได้รู้กันไป

“ปากดีไปเหอะ...พูดให้ตลอดแล้วกัน”

พูดเล่น ๆ ลอยตามลม แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
ฟังหูซ้ายแล้วก็ทะลุหูขวา แถมยังยิ้มกริ่ม ปลื้มกับคำด่าซะอีก

“อย่านะ อย่านะ อย่าทำอะไรเค้าเล้ยยยยยคุณซ้ง กลัวแล้ว กลัวแล้ว”

น่ารักตายล่ะ
ท่าทางสะดีดสะดิ้ง และแกล้งทำเป็นกลัวจนตัวสั่นแบบนั้นมันอะไรกัน
พูดแล้วคนพูดก็ยังยิ้มไม่หุบ สนุกสนานกับคำพูดของตัวเอง และคราวนี้จากพูดจาเพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อย นุชาก็เปลี่ยนเป็นท่าทางเป็นสงบนิ่งแทน

ทั้งที่ยังท้าวคางและอมยิ้มมองหน้าคนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ตลอดเวลา
ตั้งใจเกินไปแล้ว ทำไมไม่หันมาสนใจกันบ้าง อุตส่าห์แหย่อุตส่าห์แกล้งแล้วนะ

ไม่อยากเล่นด้วยกันหรือไงคุณซ้ง

“ไปทำเรื่องย้ายกลับมาเถอะ”

ได้ฟัง แต่ไม่ตอบ นุชานั่งฟังเงียบ ๆ
แต่สายตายังจ้องหน้าของคนที่เอ่ยบอกนิ่งอยู่อย่างนั้น
มองยังไงก็ไม่เบื่อ ชอบมองหน้าคุณซ้ง

มองเวลาทำหน้าเฉย เวลาตั้งใจทำอะไรก็มักจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น
ใบหน้าด้านข้าง ปลายจมูก ริมฝีปาก คิ้ว คาง ทุกสิ่งทุกอย่าง

“คุณซ้ง....”

อยากเรียก ชอบ อยากเรียกเยอะ ๆ อยากเรียกชื่อนี้ ชอบมาก
เรียกและก็ได้ยินเสียงขานรับ

“อือ...ว่าไงนุชา”

ว่าไงเหรอ ไม่ว่าไงหรอก ไม่รู้จะว่าไง แค่อยากเรียก อยากอยู่ใกล้ ๆ
อยากทำทุกอย่างร่วมกัน อยากเข้าใจ อยากเป็นคนสำคัญ

“ชอบ.....ผมป่ะ”
ถามและนิ่งมองหน้าของคนที่เหมือนชะงักไปเล็กน้อย และก็รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นจะไม่มีทางพูด หรือตอบอะไรออกมาแน่

ไม่ได้อยากได้คำตอบ
ไม่เคยอยากได้

แค่อยากถาม
อยากถาม อยากเห็นสีหน้า แววตา และความรู้สึกขัดเขินของคนที่ไม่เคยตอบคำถาม

และก็ได้เห็น ได้เห็นทุกครั้งที่อยากจะเห็น
ได้เห็นทุกครั้งที่เอ่ยถาม ไม่เคยสักครั้งที่คุณซ้งจะมีท่าทีเมินเฉยอย่างแท้จริง

ทุกครั้งที่ถามจะเห็นการพยายามแกล้งเมินเฉย ทั้งที่ลุกลี้ลุกลนทุกครั้งที่ถูกตั้งคำถาม
ท่าทางที่แสดงออกมาชัดเจน จนไม่ต้องจับสังเกตเหมือนครั้งแรก ๆ ที่เคยถามคำถามแบบนี้

“คุณซ้ง”

ไม่มีการขานรับ และนุชาก็ไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายพูด
แค่อยากนั่งมองไปแบบนี้ นาน ๆ

“ชอบคุณซ้งนะ... ต่อให้คุณซ้งไม่ยอมตอบเลยตลอดชีวิตก็ยังชอบ”

บอก และกลับมานั่งสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ไม่แกล้งไม่หยอกให้คนที่นิ่งเงียบต้องรำคาญใจอีก

เพราะอยู่ใกล้ชิดกัน ได้เรียนรู้นิสัยใจคอ เรียนรู้ความรู้สึกของกันและกัน
นุชารู้ว่าเล่นได้แค่ไหน จริงจังได้แค่ไหน

รู้ว่าเวลาไหนควรจริงจังและเวลาไหนควรล้อเล่น

เหมือนที่เวลานี้....คำพูดบางอย่างก็ต้องจริงจังและไม่ล้อเล่นเหมือนที่เคยทำ

“นุชา”

หันหน้าไปมองคนที่กำลังเลี้ยวรถเข้าไปจอดรถภายในโรงพยาบาล
และเห็นว่าคุณซ้งนิ่งเงียบลง มองไปรอบ ๆ บริเวณลานจอดรถและมองหาที่ว่างเพื่อจะวนหาที่จอดรถให้เรียบร้อย

รถจอดสนิท และนุชากำลังลงมือปลดเข็มขัดนิรภัยออก

“นุชา”

ครับ.....ว่าไงครับ

หันหน้าไปมองคนที่ขยับเข้ามาใกล้ ใกล้เข้ามาจนใบหน้าห่างกันจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว ที่เป่ารดอยู่ที่ปลายจมูก

ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะไล้เบา ๆ ที่ข้างแก้มและคนสองคนที่อยู่ใกล้ชิดกัน
กำลังสบสายตานิ่งจ้องมองกันเงียบ ๆ

“อยากรู้ใช่มั้ย ว่าทำไมตอนนั้นถึงจูบ”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มแผ่วเบา ที่เอ่ยถาม ทำให้นุชาต้องหรุบสายตาลงต่ำ
และเพิ่งรู้สึกว่าหัวใจกำลังเต้นแรง

คนบางคน ทำเป็นแต่หน้าเฉย หน้าหงุดหงิดงี่เง่า และหน้าเขิน
และไม่บ่อยนักที่จะทำหน้าแบบนี้ให้เห็น

ใบหน้าที่มีความรู้สึกร้อนแรงแฝงมากับน้ำเสียงและแววตา

คนที่ช่างเขินกับคำพูดหยอกล้อ บางครั้งก็ทำให้คนที่ไม่ค่อยรู้จักอาย
ใจเต้นแรงได้เหมือนกัน

“คุณซ้งใจเย็น ๆ นะ...เดี๋ยวผมขอเวลานอกสิบนาที”

หาเรื่องเฉไฉด้วยการพยายามผละออกห่าง และเริ่มรู้สึกว่ากำลังไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่เคย

“อยากรู้ไม่ใช่เหรอ....อยากรู้มั้ยว่าซ้งรู้สึกกับนุชายังไง”

ไม่

ก่อนหน้านี้เคยอยากรู้ แต่ตอนนี้ชักจะไม่อยากแล้ว

คุณซ้งปกติไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า แค่หยอกไปนิด หยอดไปหน่อยก็จะทำหน้าเขินและหน้าก็จะแดงจัด ไม่ใช่คุณซ้งแบบนี้ แบบที่เห็นและรู้สึกในเวลานี้

“เอาแต่คอยถาม เวลาจะตอบทำไมถึงไม่อยากรู้”

ก็มันไม่อยากรู้
อะไรล่ะคุณซ้ง เวลาแบบนี้มันใช่เวลามาตอบเหรอ

มันใช่เวลาที่ไหน

“นุชา”

ครับ ว่ายังไงเหรอ มีอะไรจ๊ะ คุณซ้ง

“จูบกัน”

เหรอ.... ก็....ก็ได้...

แต่แม่งเขินจริงจังนะนี่ อะไรว๊า อยู่ดี ๆ เกิดจะอยากจูบก็มาขอกันแบบนี้เลยเหรอ
คุณซ้งนี่ก็เป็นคนแปลก ๆ เหมือนกันนะ ที่แปลกกว่านั้นคือไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แต่ครั้งนี้ทำไมมันรู้สึกแปลก ๆ และขัดเขินจนชักจะทำตัวไม่ถูก

และ.....

กว่าจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปไกล ก็พอดีกับที่ปลายนิ้วแกร่งเชยคางของนุชาขึ้น
และจ้องนิ่งเข้าไปในดวงตาที่มีแต่ความหวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด

รอยยิ้มน้อย ๆ จุดขึ้นที่มุมปากของคนที่เหมือนแกล้งยิ้มล้อเลียนนุชา ที่เพิ่งจะทำท่าขัดเขินให้เห็นเป็นครั้งแรก

โน้มใบหน้าเข้าหา จ้องนิ่งเข้าไปในดวงตาคู่นั้นที่ค่อย ๆ หรี่ปรือลงและแตะริมฝีปากเบา ๆที่ข้างแก้ม เคล้าคลอแผ่วเบาและเคลื่อนมาหยุดที่ริมฝีปากของคนที่ยินดีรับสัมผัสแผ่วหวานนั้นเอาไว้ทั้งหมด

“อือออ”

เสียงครางแผ่วในลำคอ และนุชาโอบแขนรัดรอบคอของคนที่ยังมอบสัมผัสนั้นมาให้ ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดพัวพัน ส่งความรู้สึกถึงกันและแบ่งปันความรู้สึกให้

เป็นนาน ที่หลงใหลมัวเมาจนแทบไม่อยากลืมตาขึ้น
แต่ก็ต้องจำใจผละออกห่าง สัมผัสร้อนแรงแต่แผ่วหวาน ยังไม่จางหาย

นิ่งเงียบและสบสายตากันนิ่ง ๆ ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างก็รีบหรุบสายตาลงและค่อย ๆ ผละออกห่างจากกันอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ยังรู้สึกเสียดายสัมผัสอุ่น ๆ ที่เพิ่งมอบให้กัน

นุชากลับมาอยู่ในที่ของตัวเอง และรู้สึกว่าหน้ากำลังร้อนผ่าว
ยกมือขึ้นลูบผมตัวเอง เพื่อจัดให้เข้าทรงและจัดเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพปกติ

แอบเหลือบสายตามองคนที่นั่งข้าง ๆ แล้วยิ่งเห็นบางอย่างชัดเจนยิ่งกว่า

คุณซ้งงงงงงงงง อะไรล่ะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น มันน่ารักนะครับ

เอาวะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกครับที่เขิน

คุณซ้งท่าจะหนักกว่าเยอะ
หน้าแดงยิ่งกว่าผมอีกคร้าบบบบบ คุณซ้งเอ้ยยย คุณซ้ง
ช่วยไม่ได้นะ ผิวขาว ๆ แบบนั้น เวลาขึ้นสีมันเห็นชัดเกินไป

จะลงจากรถไปตอนนี้ก็ไม่ได้ซะด้วย

ขืนลงไปล่ะก็ ได้เป็นเรื่องแน่ ๆ ....ว่าแต่.......... คุณซ้งนี่ก็ใช่เล่นนะ

จูบเก่งใช้ได้......เห็นหงิม ๆ แบบนี้ เอาเรื่องเหมือนกันนะคุณซ้ง
เล่นซะเคลิ้มเลย

“คุณซ้ง”

เรียกและหันไปมองหน้าของคนที่กำลังพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติแต่แค่สายตาที่มองมาก็ทำให้นุชาถึงกับชะงักและรีบกลับมานั่งเงียบ ๆ สงบปากสงบคำทันที

อะไรครับ สายตาแบบนั้นมันอะไร
ไม่เหมือนแบบปกติที่เคยเห็น ไม่เหมือนแบบปกติที่เคยเป็น

ไม่เหมือนคุณซ้งหน้าเมินโลกคนนั้นเลย

“วันหลังอย่ามาทำอะไรกันในที่แบบนี้เลยดีกว่า...ว่ามั้ย”

ว่ามั้ยเหรอ....ยังไง...ไม่เข้าใจ...หมายความว่ายังไงวะ ว่ามั้ยแปลว่า....เข้าใจแล้ว
เป็นแบบนี้เอง ว่ามั้ยคงหมายถึงแบบนี้

“คุณซ้งคงรู้สึกแย่มากเลยเนอะ”

จากหน้าเขิน กลายเป็นหน้าจ๋อย และนุชาที่จัดแต่งเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เตรียมจะก้าวขาลงจากรถ แต่ก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ จนต้องหันกลับไปมองคนที่ไม่ยอมให้ลงจากรถ

เหมือนคุณซ้งอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็นิ่งเงียบและไม่ยอมพูด

“แย่จริงด้วย...ก็ยังดีที่บอกกันตรง ๆ”

ดีแล้วที่บอก ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามันไม่สมควร
และไม่น่าประทับใจสำหรับคุณซ้งเลย

“แย่สิ โคตรแย่เลย...พอรู้สึกอะไรมากกว่านั้น...อยากจะทำอะไรต่อก็ทำไม่ได้”

อะไรที่ว่ามากกว่านั้น อะไรที่อยากทำต่อ อะไรคือทำไม่ได้

รู้สึกอะไร.....หมายถึง....อะ.....ไร....หรือ....หมาย...ถึง...เรื่อง...นั้น

เฮ้ยยยยยยยยย อย่ามาพูดแบบนี้คุณซ้ง อย่า อย่า ขอร้อง อย่า
มันไม่ใช่คุณซ้งแล้วแบบนี้ อย่ามาสลับความคิด อย่ามาสลับคำพูดกับผมครับ
ขอร้องนะ ขอร้องจากใจจริง ขอร้อง ว่าอย่า.............ช้า....

“เฮ้ยยยย คุณซ้ง...อะไรเนี่ย...แล้วอยากทำอะไรต่อเหรอ อยากรู้ อยากรู้”

เหมือนจะโวยวาย เหมือนจะไม่เห็นด้วย แต่คราวนี้คนที่ทำเหมือนจะโวยวายรีบเกาะแขนของซ้งที่เมินหน้าไปทางอื่น และยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ยิ้มระรื่นทั้งที่หน้าแดงเรื่อ
แต่ต้องหาทางให้ตัวเองเขินน้อยลงด้วยการพยายามทำให้อีกฝ่ายเขินยิ่งกว่า

“อะไรเนี่ย อายบ้างมั้ยนุ่น ถามจริง ๆ อายเป็นมั้ย”

อายเป็นสิ
อายมากด้วย

โคตรอาย ตอนนี้อายแบบสุด ๆ เลย ด้วย

แต่คุณซ้งอายแล้วได้ใจกว่า....เห็นแล้วชอบบบบบบบบบบบ

“อยากทำอะไรจ๊ะ อยากทำอะไรเหรอน้องสาว อยากทำแต่ทำไม่ได้ น่าสงสาร”

ท้าทายและหาเรื่องใส่ตัว

“จะทำมั้ยล่ะ ถ้าจะทำจริง ๆ ทำไมจะทำไม่ได้”

อ้าว.....เวรแล้ว ซวยแล้วสิกู เรื่องขุดหลุมให้ตัวเองถนัดนัก
แล้วมือที่เอื้อมมาดึงแขนเพื่อจะให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดนั่นอีก

จริงจังไปแล้วคุณซ้ง อย่าจริงจังมากขนาดนี้ก็ได้

อย่าเลย อย่าทำเล้ยยยยยยยย ผมจะไม่ท้าและไม่กล้าว่าอะไรแล้ว ขอโทษคร้าบบบ

“ยอมแพ้แล้วคุณซ้ง....ยอมแล้ว...จะไม่ท้าอีก ยอมแพ้แล้ว”

พยายามขืนตัวหนี และคราวนี้ก็ได้เห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ของคนที่นาน ๆ จะยิ้มให้เห็น ยิ้มและเริ่มหัวเราะเสียงเบา

ยอมปล่อยง่าย ๆ และนุชาก็อยู่ในอาการมือไม้พันกัน และสำนึกได้ว่าไม่ควรทำแบบนี้อีก

นุชานี่บางครั้งก็ดูออกง่ายมากอย่างไม่น่าเชื่อ

คราวหน้าไม่ต้องท้าหรอก ทำเลยดีกว่า เบื่อพวกปากเก่งแต่เอาเข้าจริงไม่ได้เรื่อง พฤติกรรมเหมือนใครบางคนก็ไม่รู้ที่นั่งอยู่แถว ๆ นี้

“คนพูดไม่ทำ...คนจะทำเขาไม่มานั่งพูดกันหรอกนุ่น...นี่บอกไว้ล่วงหน้าแล้วนะถือว่าให้โอกาสเตรียมตัว....”



TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ณ โรงพยาบาล † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:43:25
ตอน ณ โรงพยาบาล



“นุชา……”

“ครับ” ขานรับเพราะได้ยินเสียงเรียก แต่คนที่เรียกแล้วเดินเรื่อย ๆ ไปตามทางเดินไม่ยอมพูด ทำให้นุชาต้องมองด้วยความสงสัย

เรียกแล้วไม่พูดจะเรียกทำไมวะคุณซ้ง นิสัยชอบแกล้งนี่มันติดมาจากใครครับ
ไปเอานิสัยแบบนี้มาจากไหน อยากรู้จริง

“คุณซ้ง.....” เพราะโดนแกล้ง นุชาก็เลยต้องเอาคืนบ้าง เรียกแล้วก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตาทำเหมือนไม่ได้เรียก

และคนที่กำลังเดินหันหน้ามามองและเลิกคิ้วขึ้นสูงเหมือนอยากถามว่ามีอะไร
แต่นุชาก็แค่อมยิ้ม และแกล้งยักคิ้วให้คนที่มองมา

เดี๋ยวนี้รู้จักแกล้งนะ ชักเก่งขึ้นทุกวันแล้วนะคุณซ้ง
เรียกแล้วก็ทำเป็นเงียบ ทำเป็นเฉย เอาคืนบ้างเป็นไงครับ

“นุชา....”

มาอีกแล้ว เรียกอีกแล้ว เรียกและไม่ยอมพูดอีก ปัญหาเยอะเหมือนกันนะนี่คุณซ้ง

“ครับ ครับ ครับพ้ม น้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง”

ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี และคราวนี้คนที่แกล้งเรียกชื่อหันกลับมามองอย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้วมุ่น เพราะไม่รู้ความหมายที่นุชาพูดออกมา

หมายความว่ายังไง

คืออะไร

“แรงบันดาลใจ.....อะไร”

สงสัย จนต้องเอ่ยถาม และก็เห็นนุชาอมยิ้ม และก้มหน้าก้มตาเดินไม่ยอมพูดยอมจา

เห็นแล้วยิ่งทำให้สงสัยเพิ่มขึ้น
อะไรวะ น้องแรงบันดาลใจอะไร แล้วทำไมต้องทำเหมือนเขิน
แล้วจะเขินทำไมกับคำว่า แรงบันดาลใจ แล้วใครเป็นแรงบันดาลใจที่ว่า....ใครวะ

“น้องแรงบันดาลใจอะไรนุชา”

อยากรู้ จนต้องถามซ้ำอีกครั้ง แต่คราวนี้นอกจากไม่ตอบแล้ว
นุชายังหัวเราะเสียงเบาและเงยหน้าขึ้นมอง มองแบบจ้องหน้า ไม่ได้หาเรื่อง
แต่มองแล้วยิ้ม ยิ้มจนตาหยี ทำไมต้องยิ้มขนาดนั้น หมายความว่ายังไง

“ชื่อคนแถวนี้....ก็เมื่อก่อนไม่รู้ว่าชื่ออะไร ก็เลยเรียกแบบนี้ไปก่อน”

ตอบคำถาม และนุชาก็ได้แต่นึกเขินกับความบ้าบอของตัวเอง
ชอบตั้งแต่แรกเห็นแล้ว หน้าแบบนี้ นิ่ง ๆ แบบนี้ ดุ ๆ แบบนี้แหละ
โคตรชอบเลย ก็เลยมีชื่อที่เอาไว้แอบเรียกคุณซ้งเงียบๆ โดยไม่ได้บอกใคร
รู้อยู่แค่คนเดียว

“ชื่อบ้าอะไร แรงบันดาลใจ ประหลาด ไม่เหมือนชื่อกระต่าย น่ารักกว่าตั้งเยอะ”

หือ กระต่าย
กระต่ายอะไร มันคืออะไร

“กระต่ายอะไรคุณซ้ง กระต่ายใคร กระต่ายอะไร”

ถามทำไมนุชา ไม่มีอะไรซะหน่อย ก็แค่เอาไว้เรียกคนบางคนแถว ๆ นี้แค่นั้น
ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก

“แอบชอบผมเหมือนกันล่ะสิ ชอบมานานแล้วก็บอกเหอะ ฟอร์มว่ะ”

อย่ามาปากดีนุชา ปากดีอีกแล้วนะ พอทีนี้ล่ะพูดเก่ง ทีก่อนหน้านี้ทำไมไม่กล้า
ถ้าพูดแบบนี้ตั้งแต่อยู่ในรถ คงได้เรื่องแน่ มาพูดตอนนี้ ตอนที่รอดตัวแล้ว
ใช้ได้นะ ถือว่าเอาตัวรอดได้ดี

“คุณซ้งเราเริ่มคบกันตอนไหน อยากรู้จริง ๆ นะ”

เดามาหลายรอบ และเห็นคนที่ทำหน้านิ่ง แต่คิ้วผูกโบว์ รีบหันหน้าหนีไปทางอื่น
อีกแล้ว หน้าแดงอีกแล้วคุณซ้ง ทำไมไม่เห็นตอบเลย จะเขินอะไรขนาดนั้น
หันมาเขินทางนี้เหอะ อยากรู้ ว่าทำไมถึงไม่ยอมบอก ทำไมล่ะคุณซ้ง ทำไม ทำไม

“ตอนไหนล่ะคุณซ้ง ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

เดาไม่ออก แล้วก็เลยเห็นคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ ยิ่งนิ่งเงียบกว่าเดิม

อะไร
นุชา ถามอะไร มาถามอะไรตอนนี้ โรงพยาบาลคนเยอะแยะไม่มีอะไรจะคุยหรือไง
ถึงได้มาถามแบบนี้

“เราไปคบกันตั้งแต่ตอนไหน ไม่เห็นรู้เรื่องเลยคุณซ้ง”

สงสัยและเอ่ยถามอีกหลายครั้ง แต่ไม่เห็นคุณซ้งยอมตอบ

เห็นคุณซ้งแตะ ๆ ไปที่กระเป๋าเสื้อ และเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างแล้วนุชาก็เลยต้องหยุดนิ่งมอง

หาอะไรเหรอ อะไรหายเหรอ ให้ช่วยมั้ย

“อะไรหายเหรอ ช่วยหา”

ถามและก็ยังมองคนที่ยังแตะมือไปตามกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกง

เห็นคุณซ้งชะงักนิ่งไปเล็กน้อย และทำหน้าเคร่งขรึม
มีอะไรเหรอ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้ทำหน้าตาท่าทางแบบนี้

“ใครไม่รู้มันทำแบบนี้ตอนที่มารับไปสนามช่วงแรก ๆ เห็นบอกว่าหาอะไรนะ
รู้สึกว่าจะ......หาเหตุผล โคตรเจ็บปวด ฟังครั้งแรกจุกมาก ปวดหัวเลย”

อะไรนะ

คุณซ้ง

นี่คุณซ้งจำได้ด้วยเหรอ อะไรเนี่ย จำได้ ได้ยังไง แล้วจำอะไรได้อีก

อย่าบอกนะว่าตั้งแต่ตอนนั้น

“ชอบผมทำไมไม่บอก โกงเหรอ ปล่อยให้ผมร้องไห้ทุกวันเลยนะ”

ร้องไห้ทุกวัน
นุชาร้องไห้ทุกวันทำไม ทางนี้ต่างหากที่อยากร้องไห้มากกว่า
“กวนมาก อยู่ดี ๆ มาทำให้โมโห อยากบีบคอให้ตาย คนอะไรกวนประสาทจนกลับบ้านไปต้องไปหายาแก้ปวดกินทุกวัน”

นี่ผมทำให้คุณซ้งต้องกินยาแก้ปวดเลยเหรอ เออ.....กูนี่ก็ใช้ได้เหมือนกันนะ
ก็ทดแทนกันไง ทีคุณซ้งยังทำให้เสียใจได้ทุกวันเลย ด่าผมซะไม่มีดี
ไม่รู้หรือไงว่าผมโคตรเสียใจเลยจริง ๆ

“ที่ย้ายไปไกลแบบนั้น....เพราะซ้งด้วยส่วนหนึ่งใช่มั้ย”

เคยคิดว่าอาจจะใช่ แต่ตอนนี้มั่นใจแล้ว ว่าใช่แน่

“ก็ด้วย.....ไม่ทั้งหมดหรอกคุณซ้ง ผมงี่เง่าด้วยส่วนหนึ่ง”

สรุปว่าใช่จริง ๆ สินะ

“คนนั้นยังโทรหานุ่นอยู่เปล่า คนที่โทรมาบ่อย ๆ แล้วนุ่นไม่ค่อยรับสาย”

นี่ก็อีกความสงสัย อยากรู้ และสังเกตมานาน เห็นโทรมาทีไร จากกำลังแกล้งกำลังกวน สีหน้าของนุชาจะเปลี่ยนไป กลายเป็นเงียบสนิททันที

ถ้าให้เดา

บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นุชาร้องไห้วันนั้นก็ได้

“พี่ฟ้า...”

พี่ฟ้าที่ว่า คงหมายถึงคนที่หลุดชื่อออกมาคราวก่อน
พี่ฟ้าที่ว่า ยังติดต่อกันอยู่หรือเปล่า นุชายังมีเยื่อใยให้คนนั้นอยู่มั้ย

“คุณซ้ง...ผมอยู่กับความเป็นจริง อยู่กับปัจจุบัน..ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกเลิกคิดไปได้เลย เห็นแบบนี้ผมตัดบัวไม่เหลือใยนะ”

เงยหน้าขึ้นมองคุณซ้งที่เริ่มขมวดคิ้วมุ่น
และเหมือนกำลังเริ่มไม่พอใจแล้วก็เลยตอบออกไปจากใจจริง

ไม่อยากปิดบัง
ไม่รู้จะทำแบบนั้นไปทำไม

บอกให้รับรู้ว่าจบไปแล้ว ดีกว่าให้อยู่อย่างค้างคาใจ

“นุชา”

ได้ยิน และนุชาก็เงยหน้าขึ้นมอง คนที่เรียก
มีคำถามมากมายในแววตาคู่นั้น เหมือนอยากถามแต่ไม่กล้า
ยังมีอะไรต้องกลัวอีกเหรอคุณซ้ง ถ้าไม่มั่นใจกันขนาดนั้น ผมก็ไม่พูดซ้ำให้รำคาญหรอกนะ

“ขอโทษนะ ที่ถามแบบนั้น อย่าโกรธเลย อะไรที่เคยทำไม่ดีไว้ ทำให้นุชาเสียใจ ทำให้ร้องไห้ ขอโทษนะ”

ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคุณซ้ง อยากรู้ก็ถาม ตอบได้ก็ตอบอยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าจะทำให้คุณซ้งคิดมากไปทำไม แบบนั้นมันไม่ดี คุณซ้งมีเรื่องให้คิดมากพอแล้ว อย่าต้องให้มานั่งคิดเรื่องของผมด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีเลย

ไม่ต้องขอโทษเรื่องก่อนหน้านั้นด้วย

ก็ตอนนั้นเราไม่รู้จักกัน ผมก็กวนประสาทจริง ๆ ทำให้คุณซ้งต้องกลับบ้านไปกินยาแก้ปวดทุกวันไม่ใช่เหรอ

“อยู่คนเดียวมันเหงา...เวลานุชาอยู่ด้วย...ทำไมมีความสุขมากก็ไม่รู้ มากจนบางทีก็กลัวว่าถ้าต้องกลับไปอยู่คนเดียวอีก จะทนได้เหรอ ตอนนี้ไม่คิดว่าจะทนได้อีกต่อไปแล้วนะ”

ผมรู้
ผมเข้าใจดี

ยิ่งเห็นในหลายๆ แง่มุม ได้เห็นเรื่องราวของคุณซ้งทั้งหมดแล้ว
ยิ่งไม่มีทางปล่อยให้คุณซ้งกลับไปอยู่คนเดียวแบบนั้นอีก

เวลาที่คนเราได้คุยกัน ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจกันเพิ่มขึ้นแบบนี้ มันก็ดีนะ
ดีมาก เพราะมันทำให้เราเติบโตไปด้วยกัน ได้พัฒนาความรู้สึกไปพร้อม ๆ กัน

“รักนุชานะ...”

นุชาถึงกับชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน และรีบหันขวับกลับมามองคนที่พูดบางสิ่งบางอย่างออกมาโดยไม่ให้ตั้งตัว

ว่าไงนะ

ที่นี่มันโรงพยาบาล คนเยอะแยะ บางทีหูอาจจะแว่ว

คุณซ้งไม่น่าจะพูดอะไรง่าย ๆ ในสถานที่แบบนี้ แล้วทำไมถึงได้

ชี้นิ้วที่ตัวเอง และเหมือนอยากถามว่า ที่พูดเมื่อกี้นี้พูดจริงหรือหูแว่วคิดไปเอง

ได้พูดออกมาจริงๆ หรือเปล่า พูดออกมาจริง ๆ ใช่มั้ย

“มาคิด ๆ ดู ถ้าไม่รีบพูด กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พูด ความไม่แน่นอนนั่นแหละคือความแน่นอน อาม่าเจ็บคราวนี้ ทำให้คิดได้หลายอย่าง....ถ้ารัก...ก็ต้องพูดออกมาบ้าง..
แบบนั้นหรือเปล่านุชา”

ใช่ แบบนั้นเลยคุณซ้ง เป๊ะเลย แบบนั้นแหละ แบบนั้น ใช่เลย ใช่ ใช่ ใช่

“ซ้ง...รักนุชา...ได้...ใช่มั้ย”

ได้ ได้ ไม่มีปัญหา รักได้ รักมาเหอะ รักได้ ไม่มีปัญหาอะไรใด ๆทั้งสิ้น ไม่ขัดข้องแต่ประการใด

“เสียดายนะ จูบก็ไม่ได้ .... แถมยังไม่ค่อยซึ้งด้วย..ทำได้แค่นี้แหละนุชา”

แค่นี้เหรอ

รู้มั้ยแค่นี้ของคุณซ้งมันแค่ไหน
คุณซ้งพูดออกมาทั้งที่หน้าแดง พูดแบบเขิน ๆ ถึงมันจะดูติด ๆ ขัด ๆแต่มันก็น่ารักที่สุด สายตาอ่อนโยนที่จ้องมองมา ความรู้สึกทั้งหมดที่ไม่เคยถูกเปิดเผย และครั้งนี้เพิ่งจะได้เห็นแบบชัด ๆ
ทั้งที่เหมือนกำลังอาย แต่ก็ยังมีความพยายามที่จะสบตาด้วย
การพยายามแสดงความจริงใจให้มากที่สุด ทั้งที่คุณซ้งไม่ถนัดจะแสดงความรู้สึกแบบนี้ รู้ตัวบ้างมั้ย..... รู้มั้ยว่าแค่นี้มันก็ทำให้ผมดีใจสุด ๆ รู้บ้างมั้ยครับคุณซ้ง

โรงพยาบาลก็โรงพยาบาลเถอะวะ ไม่ไหวแล้ววววววววววววววว
ขอกอดทีเถอะ ไม่กอดไม่ได้แล้วแบบนี้

“คุณซ้ง ผมโคตรรักคุณซ้งเลยจริง ๆ ทำไมคุณซ้งเป็นคนแบบนี้ คุณซ้งรู้มั้ยผมโคตรรักคุณซ้งเลยโว้ยยยยยยยยยยย”







TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † นี่หรือข้าวโพดกระป๋อง † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:45:28
ตอน ณ โรงพยาบาล



จะมีความสุขมากแค่ไหน ถ้าได้รู้ว่าคนที่ทำหน้าเรียบเฉยอยู่ข้าง ๆ
มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันมากมายท่วมท้นขนาดนี้

มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เราสองคนคบกันแบบจริงจัง
แต่ถึงไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเป็นไปแล้ว

ได้เรียนรู้นิสัยใจคอ ได้เห็นบางแง่มุมที่ไม่เคยได้เห็น
ได้เห็นวิธีการคิด วิธีการดำเนินชีวิต หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้เราสองคนเชื่อมโยงกันได้

น่าแปลกที่เราก้าวเดินมาด้วยกัน แม้จะไม่เป็นอย่างที่คิด ขัดใจกันบ้าง
และมีความไม่พอใจต่อกันในบางเรื่องตั้งแต่เริ่มต้น
แต่ในที่สุด ในเวลานี้เราก็ได้คบหากัน
วิถีชีวิตแตกต่าง ความคิดแตกต่าง แต่เราสามารถเชื่อมโยงจิตใจถึงกันได้

ความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้มากมายขนาดนี้ มันไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เป็นไปแล้วจริง ๆ

นุชากำลังพยายามปรับสีหน้าตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุด และพยายามบังคับใบหน้าไม่ให้เผลอยิ้มออกมา เวลาที่ได้เหลือบสายตามองคนที่เดินอยู่เคียงข้าง

อาม่ากิมออกจากโรงพยาบาลแล้วและอยู่ระหว่างพักฟื้น
ตอนนี้ต้องย้ายไปอยู่บ้านป๊าของคุณซ้ง เพื่อจะได้มีเวลาดูแลกันอย่างเต็มที่

คุณซ้งยังยืนยันว่าจะไม่เข้าไปอยู่ที่บ้านใหญ่
จะอยู่ที่บ้านหลังเล็กเหมือนที่เคยอยู่
แต่ก็ยังไปกลับระหว่างสองบ้านเกือบทุกวันเพื่อดูแลอาม่ากิม

ความสัมพันธ์ในครอบครัวกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ

แต่ความสัมพันธ์ของเราสองคน ยังไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป

“นุชากินนี่ป่ะ”

คุณซ้งที่กำลังเลือกผลไม้หันมาเอ่ยถามคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ
ขณะกำลังเข็นรถเข็นที่มีทั้งขนมและของกินของใช้อยู่เกือบเต็ม

องุ่นเหรอ ไม่ค่อยชอบ แล้วคุณซ้งจะกินหรือเปล่า ถ้ากินก็ซื้อ

“คุณซ้งกินด้วยป่ะล่ะ ถ้ากินซื้อเลย”

การพูดคุยด้วยความสนิทสนมกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ปกติสำหรับนุชาเลย
เพราะในเวลานี้สำหรับนุชาแล้วมันคือการพัฒนาความสัมพันธ์ไปในทิศทางที่ดี

กว่าคนสองคนจะสามารถพูดคุยกันได้แบบนี้ ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหากันอยู่นาน
เป็นนานกว่าจะสามารถเดินคุยกันได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องคิดมาก
หรือคอยเดาทางอีกฝ่ายว่ากำลังคิดอะไร

ก่อนหน้านี้ แม้จะรู้สึกชอบพอกันอยู่ในใจลึก ๆ แต่เวลาที่อยู่ใกล้กันก็ยังไม่รู้สึกสนิทใจที่จะพูดคุยกันด้วยความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนในเวลานี้

“นุชาไม่เห็นซื้ออะไรติดบ้านไว้เลย มาทีไรไม่เห็นมีอะไรกินซะที”

อ้าว
ก็คนมันอยู่คนเดียวจะซื้ออะไรไว้นักหนา
สุดสัปดาห์ก็ต้องกลับบ้านจะให้ซื้ออะไรไว้เยอะแยะมากมายครับ
ถ้าวันไหนคุณซ้งไม่มาก็ต้องกลับบ้านอยู่แล้ว
วันไหนมาก็หาข้าวกินข้างนอก ก็เลยไม่รู้จะซื้ออะไรไว้
เพราะไม่รู้จะกินอะไรเหมือนกัน ตัวคนเดียว หาอะไรกินง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
แต่ถ้าสองคนแบบในเวลานี้ก็ต้องหาอะไรกิน เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ใช่หรือ

“ครับ เดี๋ยววันหลังจะซื้อนมเก็บไว้กินก็ได้ครับคุณซ้ง”

แกล้งทำเป็นเมินหน้า และก็เห็นว่าคนที่กำลังยืนเลือกผลไม้
หันมามองและเริ่มขมวดคิ้วมุ่น

อะไรเหรออออออ เป็นอะไร ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าเป็นอะไร คุณซ้งเป็นอะไรเหรอครับ ขมวดคิ้วทำไม

แกล้งลอยหน้าลอยตา ทำเป็นฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
แกล้งแหย่ให้อีกฝ่ายหงุดหงิดเล่น
และก็เห็นว่าคุณซ้งมองหน้าแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

หยิบนมกล่องสองแพ็คใส่รถเข็น และยังหันมามองหน้าเหมือนอยากถามว่าต้องซื้อเท่าไหร่ถึงจะพอ

“กินไปมันก็ไม่โตแล้วคุณซ้ง สูงไล่ตามคุณซ้งไม่ทันแล้ว”

หันมามองและหยิบนมออกจากรถเข็น แต่ก็เห็นคุณซ้งหยิบกลับมาใส่รถเข็นเหมือนเดิม และเพิ่มเป็นสามแพ็ค

เหมือนแกล้ง และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก

“นุ่นจะไม่กินก็ได้ แต่ซ้งต้องกิน ซ้งต้องบำรุง เดี๋ยวโตไม่ทันใช้งาน
ไม่ถูกใจนุชาขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”

รับผิดชอบอะไรวะ บำรุงทำไมวะ ก็ดูสุขภาพแข็งแรงดี ไม่เห็นต้องมีใครรับผิดชอบเลย จะให้ใครมารับผิดชอบเรื่องอะไร หมายความว่ายังไง

เอียงคอมองหน้าคนที่พูดไปทำหน้าเฉยไป แล้วก็ได้แต่ครุ่นคิดสงสัย
เห็นคุณซ้งเหลือบสายตามามองและเมินสายตาไปทางอื่น แต่หน้าเริ่มแดงแล้วก็ยังไม่เข้าใจ

“อะไรคุณซ้ง ไม่ทันใช้งาน....เรื่อง...อะ...เฮ้ยยยยยยย”

แล้วนุชาก็เลยเพิ่งจะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

รู้แล้ว และยิ่งตกใจที่ได้รู้ความคิดของคนที่เอ่ยบอก
คุณซ้งยังทำหน้าเมินโลกเหมือนเคย แค่ผิดจากปกติตรงที่รีบก้มหน้าก้มตาเข็นรถเข็นเดินหนีกันไปต่อหน้าต่อตา

“คุณซ้ง ทำไมเนี่ย คิดแบบนี้เหรอ อะไรเนี่ย คิดแบบนี้ทำไมไม่บอก”

นุชากำลังยิ้มร่าและเดินตามคนที่เดินหนี และไม่ยอมหันมามองหน้ากัน
คอขาว ๆ ขึ้นสีแดงเรื่อชัดเจน เห็นแล้วก็ยิ่งอยากจะล้อ อยากจะแกล้งให้คุณซ้ง
ทำหน้าเมินโลกทั้งที่หน้าแดง

“คุณซ้ง คุณซ้ง คุณซ้งน่ารัก”

แกล้งเรียกเสียงอ่อนเสียงหวาน และเห็นคุณซ้งแค่เหลือบมองด้วยหางตา
และไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกเลย เข็นรถเข็นที่มีขนมนมเนยหนีไปทางอื่น
และแม้จะตามแกล้งตามแหย่ แต่คุณซ้งก็ยังแกล้งทำเป็นไม่สนใจกันสักนิด

“น่ารักเนอะ คุณซ้งนี่เป็นคนที่โคตรน่ารักเลยว่ะ บอกตรง ๆ”

บอกคนที่ทำหน้าเฉย แล้วนุชาก็ยิ้มร่า เมื่อมองใบหน้าด้านข้างของคนที่ขยันทำหน้าเฉยจนเป็นเรื่องปกติ

ทั้งที่ถ้าเดาจากท่าทางแล้ว ก็รู้ว่าคุณซ้งไม่ได้รู้สึกปกติเอาซะเลย

“น่ารักตรงไหนนุชา บ้าหรือเปล่า”

ไม่น่ารักได้ยังไง ก็เห็นอยู่ว่าน่ารัก
คุณซ้งน่ารักที่สุดแล้ว สุด ๆ สุดยอดไปเล้ยยย

“ทุกตรงเลยคุณซ้ง ตรงไหนก็น่ารัก”

ยิ้มจนตาหยี และเดินอยู่ข้าง ๆ คนที่กำลังเข็นรถ และแกล้งทำเป็นเลือกของ
หยิบนั่นหยิบนี่อ่านไปเรื่อย ทำเหมือนไม่สนใจ แต่รู้หรอกว่ากำลังตั้งใจฟัง

“มีที่ยังไม่เคยเห็นด้วย แต่อีกหน่อยก็ได้เห็นแล้ว คงได้ชอบหมดทุกตรงจริง ๆ ”

โหหหหหหหหหห ถ้าคิดจะพูดกันขนาดนี้ ก็ฆ่ากันซะเลยไม่ดีกว่าเหรอคุณซ้ง

คนขยันแกล้งขยันแซวอย่างนุชา มีอันต้องหุบปากเงียบและตีมึนด้วยการแกล้งเมิน
ทำเป็นไม่ได้ยิน

พอคุณซ้งเอาจริงเอาจังขึ้นมาทีไร ก็ทำตัวไม่ถูกซะที

รู้ว่าคุณซ้งเองก็เขินเวลาพูดอะไรทำนองนี้

รู้ว่าเขิน แต่ก็ยังกล้าพูดแถมยังมีการหันมามองหน้าอีก
มองแล้วก็ใช้สายตาในแบบที่นุชาไม่ค่อยจะเคยได้เห็น และพักหลังๆ ดูเหมือนยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ ก็เริ่มเห็นบ่อยขึ้น

ที่เคยแกล้งหยอกเย้าก็เลยมีอันต้องหยิบของบนชั้นวางมาพิจารณาดูส่วนผสม
และราคาแบบทันทีทันใด

เอ้ออออออออออ อันนี้มันใส่อะไรเข้าไปหนอ ดูน่าซื้อดีเหมือนกันนะ


“จะได้รู้ไว้ว่าข้าวโพดกระป๋องมันน่าสนใจกว่าการคุยกัน”

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไม่ใช่เลย เปล่านะ อย่าทำเสียงแบบนั้นสิ อย่าทำเป็นเมินแบบนั้นด้วย
ก็พอดีว่าตรงนี้มีข้าวโพดกระป๋องก็เลยหยิบมาดู เห็นมันน่ากินดี
ก็เลยอยากรู้ว่ามันผลิตที่ไหนก็แค่นั้นเอง จริง ๆ นะ

“เค้าขอโทษ คุณซ้งคนดี อย่าโกรธนุ่นเลย นะ นะ นะ”

ก็ถ้าคุณซ้งเล่นทำเสียงแบบนี้ แล้วใครจะไปกล้าทำอะไรได้
ข้าวโพดกระป๋องอะไรเนี่ย ไม่เห็นน่าสนใจตรงไหนเลย จะผลิตที่ไหน
หมดอายุเมื่อไหร่ก็ช่างมันเถอะ ไม่อยากรู้แล้ว

สนใจคุณซ้งก็ได้ สนใจแล้ว อย่างอนกันเลยนะคร้าบบบบ

“เออออออออออ ซ้งจะไปทำอะไรได้ ปากบอกว่าชอบ ๆ แต่ไม่เห็น
จะเคยสนใจกันจริง ๆ จัง ๆ ซะที นุ่นเห็นข้าวโพดกระป๋องมันดีกว่าซ้ง จะได้จำไว้”

อ้าวววววววววววว เฮ้ยยยยยยยยยย

ยาวเลยสิครับงานนี้

คุณซ้ง จะไปไหนค้าบบบบเดี๋ยวก่อน อย่าเดินหนีกันแบบนี้ ขอโทษ ขอโทษ
จะไม่แกล้งตีมึนแล้ว หายโกรธเถอะคร้าบบบบบ

“ซ้งมันปากแข็งนี่ พูดอะไรอย่างที่นุ่นอยากให้พูดก็ทำไม่ได้ นุ่นก็เลยเห็นข้าวโพดกระป๋องดีกว่า เอออออออ แค่นี้ก็รู้แล้ว จำเอาไว้ จำไว้เลยนะ”

ตายห่า

นี่แค่ข้าวโพดกระป๋องนะ ยังโกรธได้ขนาดนี้
อย่าทำแบบนี้สิครับ ขอโทษแล้ว ไม่ได้ตั้งใจทำให้โกรธหรือไม่พอใจจริง ๆ

“คุณซ้ง โกรธจริงจังป่าว”

นุชาเดินไปข้างหน้าและพยายามจะมองคนที่หันหน้าหนี และทำทีเป็นหยิบของมาพิจารณาดู

“หายโกรธเถอะ จะให้ทำยังไงถึงหายโกรธ”

ง้อ

และก็เห็นเหมือนแววไหวระริกในดวงตาคู่นั้น
เหมือนเห็นคุณซ้งอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก แต่ก็ไม่แน่ใจ
เพราะเมื่อจ้องมองกันชัด ๆ อีกครั้ง
ก็ยังเห็นคุณซ้งทำหน้าเฉยเมินโลกเหมือนเดิม

“อะไรก็ได้เหรอ”

อะไรก็ได้ ยอมหมด แต่อย่าโกรธ อย่าทำให้รู้สึกใจไม่ดี
อย่าทำเหมือนไม่สนใจกัน มันทรมาน

“อือ”

พยักหน้า และตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด และก็เห็นว่าคุณซ้งที่เคยทำหน้าเมินโลกเริ่มอมยิ้มน้อย ๆที่มุมปากจริง ๆ

ยิ้มจริง ๆ

คุณซ้งกำลังอมยิ้ม น้อยครั้งเหลือเกินที่จะได้เห็น และเมื่อได้เห็นนุชาก็แทบจะล่องลอยเพราะรอยยิ้มหวาน ๆ แบบนั้น

ตายเป็นตายวะ แค่เห็นคุณซ้งอมยิ้มก็โคตรละลายใจเลย คนอะไรวะ
ยิ้มได้น่ารักสุดยอด ยิ้มแล้วโลกสว่างไสวขึ้นในพริบตา

“นุ่น....เราก็คบกันมาพักหนึ่งแล้วเนอะ”

เออใช่

ก็น่าจะพักหนึ่งแล้ว

จะว่าพักใหญ่ ๆ เลยก็ว่าได้

เป็นพักใหญ่ที่ได้เห็นพัฒนาการทางสีหน้าและแววตาของคุณซ้งในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

พูดเก่งขึ้น

เปิดใจมากขึ้น

ยอมให้เข้าใกล้ และเริ่มพูดคุยอย่างสนิทใจ ไม่ต้องเกร็งหรือใช้ความคิดมากมายเวลาที่ได้พูดคุยกัน

รู้สึกดี รู้สึกใกล้ชิดกัน และรู้สึกว่านานวันความรู้สึกของเราที่มีให้กินก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ๆ

“นุ่นว่า...ซ้ง...อืมมมม”

อืมมม ครับ อะไรครับ อืมม ที่ว่าแล้วก็พยักหน้าแล้วก็ลากเสียงยาว ๆ
มันหมายความว่ายังไง แปลว่าอะไรครับ

“ก็.....”

ก็...ครับ ก็อะไรล่ะครับ ยังไง พูดมา อยากได้อะไร

“ให้เวลาเตรียมตัวนานแล้วนะ”

อ๋อออ

ครับ เป็นอย่างนั้นนี่เอง เอ้อ เนอะ ก็ไม่ยอมบอกกันตั้งแต่แรก
ทำหน้าอ้ำอึ้งเหมือนมีเรื่องอยากจะพูด

ให้เวลาเตรียมตัวนานแล้ว ก็เข้าใจ แล้ว......

“คุณซ้งข้าวโพดกระป๋องยี่ห้อนี้มันน่ากินเนอะ มันนำเข้าจากไหนเนี่ย ประเทศไทยก็มีไร่ข้าวโพดเยอะแยะ แล้ว....ก็นะ อันนี้อีกทำไมมันถึงได้ อ่า....”

ร่ายซะยาว และหยิบข้าวโพดกระป๋องขึ้นมาดูอีกครั้ง พิจารณาอย่างถ้วนถี่เพื่อหาสถานที่ผลิต และเริ่มหยิบข้าวของอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงขึ้นมาพิจารณา

“คืนนี้นะนุ่น”

อ่า....ข้าวโพดกระป๋องมันก็น่ากินเหมือนกันเอาไปใส่ในคอนซุปก็อร่อย
ต้องใส่เยอะ ๆ แล้วก็....

ตามองกระป๋องข้าวโพด แต่ใจคิดไปถึงไหน

เห็นคนที่ยืนอยู่ และเริ่มท้าวแขนไปบนรถเข็น สายตาร้อนแรงที่จ้องมองมาและอมยิ้มน้อย ๆ ทำให้นุชาที่คิดจะเล่นมุกตีมึน ต้องยอมจำนน และเงยหน้าขึ้นสบสายตากับคนที่กำลังจ้องมองและอมยิ้มน้อย ๆ

“ให้สนใจอย่างอื่นไปนะตอนนี้...ไม่ว่าแล้ว”

ก็แน่ล่ะ เล่นพูดกันซะขนาดนี้ แล้วจะไปทำอะไรได้

เก่งกล้ามากนะเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่รู้ใจตัวเอง อะไรที่อยากได้ก็จะเอาให้ได้
อยากจูบเมื่อไหร่ ก็หาเรื่องจูบกันจนได้

อยากจะกอด บางทีอยู่เฉย ๆ ก็คว้ามากอดแบบไม่ต้องบอกกล่าว

คราวนี้ก็คงเหมือนกันสินะ เก่งกล้าสามารถแล้ว ขนาดจ้องกลับก็ไม่ยอมหลบสายตาและทำหน้าแดงเหมือนเมื่อก่อน

รู้จักใช้สายตาแบบนั้นได้ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คุณซ้งแบบธรรมดาที่เคยหยอกล้อหรือแกล้งแหย่ให้โมโหได้ง่าย ๆ

“กะ...กลับบ้านกันเหอะคุณซ้ง”

นุชาเอ่ยบอกคนที่จ้องหน้าและกำลังยิ้ม
และคราวนี้ก็เห็นว่าจากที่แค่อมยิ้มน้อย ๆ กลายเป็นยิ้มกว้างอย่างพอใจกับคำตอบที่ได้รับ

นุชาเดินลิ่ว ๆ นำหน้าโดยมีคุณซ้งเข็นรถเข็นตามมาใกล้ ๆ

“นุชา”

อย่าเรียก อย่ามาเรียก กูเขินจะตายห่าแล้ว อย่ามาทำเป็นเรียก
ชักไม่กล้ามองหน้าคุณซ้งนาน ๆ แล้วนะรู้บ้างมั้ย ไม่ต้องเรียกเยอะแยะแล้วก็ไม่ต้องมาดึงแขน แล้วก็ไม่ต้องพูดอะไรอีกได้มั้ย

ไม่ต้องพูดให้ยิ่งอยากกลับบ้านเร็ว ๆ ตอนนี้เลยด้วย และอย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้และกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มอ่อนหวานแบบนี้ด้วย

“รู้ป่ะเวลานุ่นเขินแล้วแกล้งมึน....ดูน่ารักจัง เห็นแล้วบอกตรง ๆ นะว่าโคตรอยากได้เลย”





TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † สบายใจ.. † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:51:19
ตอน สบายใจ..



มันคงเป็นแค่คำขู่

เพราะว่าหลังจากจัดของเข้าชั้นวางและรื้อผลไม้ในถุงออกมาล้างและใส่จานเรียบร้อย

นุชาก็กลับเข้าสู่สภาพเดิม คือเปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มลงมือพิมพ์งานที่ค้างเอาไว้ โดยมีคุณซ้ง นั่งกดรีโมทเพื่อเปลี่ยนช่องรายการโทรทัศน์และเลือกหารายการที่สนใจอยู่ข้าง ๆ

ไม่ได้พูดอะไรกันมากมาย ต่างฝ่ายต่างกำลังอยู่ในโลกของตัวเอง

แต่ก็ไม่ใช่อยู่ในโลกของตัวเองแบบปิดกั้นโลกของอีกฝ่ายไม่ให้เข้ามามีบทบาทในชีวิต

ซ้งจับจ้องสายตาไปที่รายการโทรทัศน์จริง แต่หัวใจ ไปอยู่ที่ใครบางคนที่กำลังนั่งพิมพ์งาน และยังเปิดเอกสารหน้าถัดไป ใจจดใจจ่ออยู่กับการอ่านและมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่

“คุณซ้ง”

เห็นนุชาละสายตาจากข้อความที่กำลังอ่านและเรียกหา ซ้งก็เลยวางรีโมทและหันไปมองคนที่เรียก

“...จ๋า...ว่าไง”

เป็นนานกว่าจะขานรับ
คนที่ขานรับ มีสีหน้าครุ่นคิดและดูเหมือนลำบากใจเล็กน้อยกว่าจะเอ่ยคำพูดน่ารัก ๆ ออกมาได้

นุชาถึงกับอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

พัฒนาการแบบก้าวกระโดดของใครบางคน ที่ยอมพูดจาน่ารัก ๆ มากขึ้น
แม้จะดูฝืนใจไปบ้าง แต่เจ้าตัวก็พยายามทำ

เคยบอกว่าไม่ต้องทำก็ได้ เพราะอยากให้รู้สึกสบาย ๆ ผ่อนคลาย
ที่จริงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรือสำคัญอะไรที่จะต้องพยายามขนาดนั้น

แต่คุณซ้งก็ยังทำหน้ามุ่งมั่นและบอกว่าอยากทำ กำลังหัดอยู่ และจะพยายามไม่เขินให้มากนัก ทั้งที่ตอนนั้นที่พูดออกมา หน้าของคนที่บอกว่ากำลังพยายามยังแดงเรื่ออยู่เลย

ผิดกับตอนนี้ที่ถึงแม้จะยังไม่ค่อยชิน แต่ก็เริ่มเป็นตัวของตัวเองดี

“นุ่นอยากกินโกโก้เย็นมากครับ”

ขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ก่อนจะยกมือขึ้นมาประกบกันและแกล้งกระพริบตาปริบ ๆ คุณซ้งยังเป็นคนเดิม คือเห็นแล้วก็ยังทำหน้าเฉยเมินโลกและส่ายหน้า

ถึงจะทำเหมือนเอือมระอา แต่ก็เห็นอมยิ้มอยู่เหมือนกัน
ไม่ต้องให้รอนาน คุณซ้งก็ลุกขึ้นและไปจัดการชงโกโก้ให้ทันที

คุณซ้งเป็นคนเมินโลก ที่ขยันทำหน้าเฉย แต่ก็แสนจะใจดี

อยากเรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ อยากก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
อยากอยู่ด้วยกันด้วยความสนิทใจ อยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน อยากพูดคุยได้ในทุกเรื่องและแบ่งปันความสุขให้กันได้

ในเวลาไม่นาน มีแก้วโกโก้มาวางอยู่บนโต๊ะที่มีเอกสารวางกระจัดกระจาย

คุณซ้งไม่ได้สนใจจะกลับไปดูรายการโทรทัศน์แต่มานั่งอยู่ตรงหน้านุชาและรวบเอกสารที่วางระเกะระกะจัดวางจนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

“ใกล้สิ้นเดือน ช่วงนี้ต้องเคลียร์เงินค่าเช่า ไหนจะเรื่องยื่นภาษี แล้วยังเรื่องจ่ายเงินเดือนลูกน้องที่เขาช่วยดูแลตึก ยุ่งไปหมด เหนื่อยว่ะ”

เข้าใจ
รู้ว่าคุณซ้งเหนื่อย

งานทั้งหมดทำเองทุกอย่าง ตอนแรกคิดว่าไม่ได้ทำอะไรมากมาย
คิดว่ามีหน้าที่ดูแลอาม่ากิมและเรียนหนังสือ แต่เพิ่งรู้ว่าต้องไปทำงานทุกวัน ไปดูแลเรื่องตึกที่ให้เช่า เรื่องงานเอกสารจุกจิก จากที่เคยคิดว่าคุณซ้งอยู่อย่างสบาย ๆ ตอนนี้คิดผิดถนัด คุณซ้งก็มีเรื่องที่ต้องทำอยู่ทุกวันเหมือนกัน

ไหนจะเรื่องอาม่ากิม ที่ยังพักฟื้น และตอนนี้เห็นว่ากำลังยุ่งกับการเตรียมเข้าเรียนมหาวิทยาลัย

“คุณซ้งสู้ ๆ”

รอยยิ้มจาง ๆ และท่ากำมือขึ้นที่นุชาทำ สายตามุ่งมั่นและน้ำเสียงล้อเลียนของคนตรงหน้าทำให้ซ้งยิ้มออกมาได้
เห็นแล้วก็นึกหมั่นไส้คนที่อายุมากกว่า แต่มีบางครั้งที่ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ให้เห็น
เอื้อมมือไปขยี้เส้นผมของคนที่ให้กำลังใจด้วยท่าทางแบบเด็ก ๆ
และยิ้มออกมาอย่างสดชื่น ยิ้มได้แล้ว แม้จะเหนื่อย หรือเบื่อแค่ไหน
แต่ก็ยังพอจะยิ้มได้

“อาม่ากิมหายดีเมื่อไหร่ เราไปวิ่งกันอีกเถอะ หยุดมาพักใหญ่แล้ว คิดถึงสนามของเราเนอะ”

ก็คิดถึงอยู่ แต่ภาระยุ่งยากที่เกิดขึ้นทำให้ต้องห่างเหินไปนาน

“นุ่น...เมื่อไหร่จะย้ายกลับไปซะที”

เมื่อไหร่เหรอ ก็ไม่คิดว่าจะนานเท่าไหร่ น่าจะเร็ว ๆ นี้
สงสารคุณซ้งที่ต้องไป ๆ มา ๆ เรื่องงานและเรื่องส่วนตัวก็เหนื่อยพอแล้ว ยังต้องเหนื่อยขับรถอีก จะกลับไปเองงานก็ไม่ค่อยเสร็จซะที ต้องเคลียร์กันทุกสัปดาห์

นุชาหยุดมือที่กำลังพิมพ์งาน
ยืดขาออกและเอนหลังให้พิงกับเตียงและยกแขนขึ้นสองข้างเพื่อผ่อนคลายความเมื่อล้า ก่อนจะแตะเบา ๆ ที่หน้าขาของตัวเองสองสามครั้ง พยักหน้าเรียก และคุณซ้งก็ลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนและใช้ขาของนุชาหนุนแทนหมอน

“เหนื่อยมากเลยนุ่น”

บ่นออกมาเบา ๆ และนอนมองหน้าของคนที่ส่งยิ้มบาง ๆ มาให้
ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะเบา ๆ ที่เส้นผมของคนที่นอนหนุนตักและลูบไล้เล่น
เห็นนุชาพยักหน้าให้

รู้ดีว่าเข้าใจ แม้ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ก็รู้ว่ารับฟังอยู่เสมอ

มีบางครั้งที่เราหยอกล้อกัน
แหย่กันบ้างให้หงุดหงิดโมโห

แต่ในเวลาที่จริงจังแบบนี้ เราก็พยายามช่วยเหลือกันแม้จะไม่มากนัก
แค่เพียงได้พูดคุยในทุกเรื่อง พูดคุยกันได้เรื่อย ๆ ก็ทำให้สุขใจแล้ว.

“นุ่น...”

หือ...ว่าไงครับ เรียกแบบนี้และทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง

“เหมือนจะขาดนุ่นไม่ได้แล้วล่ะชีวิตนี้ คิดไม่ออกจริง ๆถ้าไม่มีนุ่นอยู่ด้วยซ้งจะอยู่ต่อไปยังไง”

คุณซ้งน่ารักขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ

ชอบพูดเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้บ่อย ๆ ซะจริง กว่าจะสามารถคุยกันได้ขนาดนี้
ต้องใช้เวลาศึกษานิสัยใจคอกันนานมาก แต่เมื่อเริ่มเปิดใจให้กันแล้ว อะไรที่ว่ายากก็กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ไปหมด

“รักคุณซ้งก็แบบนี้แหละ”

คนบางคนขยันพูดคำว่ารัก เพื่ออยากให้อีกฝ่ายรับรู้และเก็บสะสมเอาไว้ในหัวใจให้มาก ๆ อยากให้เก็บเอาไว้ทุกวัน ทุกวัน มากขึ้น และมากขึ้น

แต่คนอีกคน แม้ไม่ค่อยพูดอะไรมากมาย แต่การกระทำก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่ารู้สึกยังไง

คนสองคนที่แตกต่างกันแต่ช่วยเติมเต็มบางอย่างที่หายไปของอีกฝ่ายให้เต็มตื้นขึ้นมาได้

“นุชา....บ้าว่ะ”

อะไรคุณซ้ง อย่ามาทำเป็นว่า อย่ามาทำเป็นบ่นกันหน่อยเลย

รู้หรอกว่าชอบให้ทำแบบนี้

ชอบให้แซว ชอบให้จีบ ชอบให้อ้อน ชอบให้ทำอะไรหวาน ๆ ใส่

แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธที่จะทำแบบนี้บ้าง

และทั้งที่ชอบให้ทำแบบนี้ใส่มาก แต่ก็มักจะเฉไฉทำเหมือนไม่ชอบอยู่ดี

ความเขินไม่เคยลดระดับลงมาเลยนะครับคุณซ้ง

“นุชา...ก้มมาเนี่ย”

อย่าเล้ยยยยยย อย่ามาบิ๊ว

รู้หรอกว่าจะทำอะไร

แกล้งส่ายหน้าไม่ยอมก้มลงไปหา แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น
เพราะคนออกคำสั่งลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว และยื่นแขนเข้ามาหา และกอดนุชาเอาไว้ทั้งตัวก่อนจะทิ้งกายลงมาทั้งหมดจนนุชาต้องล้มตัวลงนอนเพราะน้ำหนักตัวของคนที่ทาบทับลงมาแบบไม่ให้โอกาสหนี

“นุ่นนนนนนนนนนน”

ได้ยินแล้ว

ชัดขนาดนี้ แถมใบหน้ายังอยู่ใกล้กันซะขนาดนี้ ไม่ต้องเรียกให้ดังมากนักก็ได้

ทำไมถึงได้ลากเสียงยาวขนาดนั้น แถมยังก้มหน้าเอาจมูกมาถูเล่นที่แก้มอีก ต้องการอะไรครับ อยากได้อะไรล่ะคร้าบบบบบบ คุณซ้งคนดี

“นะ”

เหรอ

อืมมมมม ก็คิดงั้นอยู่เหมือนกัน แล้วทำไมเวลาพูดต้องทำหน้าแบบนี้
ทำไมเวลาบอกต้องทำเสียงกระเส่าขนาดนี้

ทำไมต้องจ้องมองหน้ากันด้วยสายตาสายตาร้อนแรง อย่ามาแกล้งกันหน่อยเลยคุณซ้ง

“หน้าแดงแล้วนุ่น”

ใครว่า ไม่มีหรอก ที่หน้าแดงน่ะมันคุณซ้งไม่ใช่หรือไง หน้าแดงยังไม่พอ
ประกายตาวิบ ๆ วับ ๆ นั่นอีก หมายความว่ายังไงบอกมา

ใบหน้าที่โน้มลงมาหา ดวงตาที่สบกันนิ่งทำให้หัวใจสั่นไหวและเต้นระทึก

นุชาหรี่ปรือตาลงเพื่อรับสัมผัสเบา ๆ แผ่ว ๆ ที่แนบลงที่หน้าผาก
รับรู้ถึงความอุ่นที่แตะซ้ำ ๆ ลงมา ก่อนจะผละออกห่างและเพียงเวลาไม่นานก็กลับมาอีกครั้ง และคราวนี้ไม่ใช่แตะเล่นที่หน้าผากเหมือนทดลอง แต่กลายเป็นเคล้าคลึงและแนบลงมาที่ข้างแก้มด้วยความรู้สึกร้อนแรง ริมฝีปากร้อนรุ่มผละออกห่างเมื่อรู้ว่าหยุดความรู้สึกของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

“นุ่น”

หรี่ปรือตาขึ้นจ้องมองและได้เห็นใบหน้าของคนที่คุ้นเคยที่ในเวลานี้ ทั้งสีหน้าและแววตาถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกบางอย่าง

ใบหน้าขาว ๆ ใส ๆ ที่นุชามักชื่นชมอยู่เสมอ เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
และเพียงเท่านั้นก็ทำให้อยากจ้องมองให้มากขึ้นและมากขึ้น

คุณซ้งเวลามาแนวนี้แล้วแทบจะทำให้ลืมหายใจ ไม่เคยเห็นใครหน้าแดงได้ละลายใจเท่าคุณซ้งเลยจริง ๆ

“มองแบบนี้จะยั่วใช่มั้ย”

เฮ้ยยยยยย เปล่า ไม่ใช่จะยั่ว ไม่ได้ตั้งใจ ที่มองแบบนี้ก็แค่อยากเฉย ๆ
อยากกับยั่ว มันต่างกันนะ เอาอะไรมาพูดว่ายั่ว ไม่จริงเลยครับ เถียงขาดใจ

“คุณซ้ง....หยุดทำไม”

ถามทั้งที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเขิน
แต่ไม่คิดจะหลบเลี่ยงหรือหลบสายตาของคนที่จ้องมองมา

กลัวอะไรวะ
ผมเขิน คุณซ้งก็เขินเหมือนกันแหละว๊า อย่ามาทำเป็นวางมาดในเวลานี้หน่อยเลย

หน้าแดงขนาดนั้น เอาอะไรมาน่ากลัวล่ะครับคุณซ้งคนดี

“รู้แล้ว...ช้าหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ”

อย่ามาทำเสียงกระเส่าเซ็กซี่ขนาดนั้น
ไม่รู้เหรอว่าของแบบนี้ช้าไม่ได้ ช้านิดช้าหน่อย มันจะเสียเวลาจนเกินไป
จะทำอะไรก็รีบ ๆ ลงมือทำซะที

รู้มั้ยว่าอยากเห็นคุณซ้งในแบบที่ไม่เคยเห็น

อยากเห็นจะแย่แล้ว ได้เห็นแค่นี้ก็รู้สึกว่าสุดยอดมากและอยากกระชากลงมาบดปากด้วยเป็นที่สุด แต่ติดอยู่ว่าไม่ใช่ผู้ชำนาญการในด้านการแลกลิ้นก็เท่านั้น

ทุกวันนี้ก็ทำได้แค่ทำเป็นปากดีใจกล้า เพราะสถานะคนอายุมากกว่ามันค้ำคอ จะมาทำเป็นเงอะ ๆ งะ ๆ ไม่เป็นงานก็ทำไม่ได้ เดี๋ยวก็รู้กันพอดี ว่าที่ผ่านมาน่ะแค่ปากดี แต่เอาเข้าจริงทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง กลัวว่าเดี๋ยวจะเสียชื่อนุชาได้ง่าย ๆ

ก็เลยพยายามทำใจกล้าจนถึงเดี๋ยวนี้ ทั้งที่บอกตรง ๆ ว่าสั่นแทบตาย
และจะควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว

“นุชาปากดีเอ้ย”

ก็พอกันนั่นแหละ อย่ามาทำเป็นว่าผมเล้ยยยยยยย คุณซ้งก็ใช่ย่อยเหมือนกันแหละครับ
ทำแบบนี้ดิสเครดิตกันชัด ๆ ผมมีดีมากกว่าแค่ปากดีนะ จะลองดูก็ได้

“คนพูดไม่ค่อยกล้าทำ คนทำไม่ค่อยกล้าพูด อยากรู้เหมือนกันว่าคนไม่ค่อยกล้าพูดจะทำให้คนพูดมากอย่างผมหยุดพูดได้ยังไง”





TBC...

 



หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ขอมาจัดไป † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 24-04-2012 03:54:46
ตอน ขอมาจัดไป


การเล่นเกมส์จ้องตาเป็นเรื่องท้าทาย จำได้ว่าเล่นแล้วไม่เคยแพ้ใคร
ไม่เผลอยิ้มหรือหัวเราะ เพราะมีความสามารถจ้องจนอีกฝ่ายหลบตาหนีได้

แต่มันไม่ใช่เวลานี้

เวลาที่นอนนิ่ง ๆ แต่หอบหายใจหนักโดยมีร่างของใครบางคนทาบทับอยู่

เล่นเกมส์จ้องตาเป็นเรื่องท้าทาย เคยเล่นและชนะอยู่บ่อยครั้ง และคิดว่าครั้งนี้ก็จะเอาชนะให้ได้ เพราะเคยชนะมาตลอด

คุณซ้งชอบทำหน้าเฉย เวลาที่เล่นจ้องตากันจริง ๆ คุณซ้งเองที่เป็นฝ่ายหลบสายตาได้ตลอด แต่ในเวลานี้มันเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้....

ทำไมถึงไม่ยอมหลบสายตา เห็นว่าใบหน้าขาว ๆ ขึ้นสีแดงเรื่อ แต่ครั้งนี้ไม่ยอมหลบ

หมายความว่ายังไง และ.......

“ฮื้ออออออออออ อย่าเพิ่ง ค่อย ๆ เข้ามันเจ็บ”

มีบางอย่างกำลังรุกล้ำเข้ามาภายในร่างกาย ค่อย ๆ กดแทรกเข้ามา และหยุดชะงักอยู่อย่างนั้น เมื่อได้ยินเสียงประท้วงและนุชาก็ทิ้งตัวลงนอนนิ่ง ๆ
นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ และเห็นเหมือนคนที่เล่นเกมส์จ้องตาด้วย กำลังมีสีหน้าลำบากใจ

“นุ่น”

เข้าใจ รู้ว่ากังวล รู้ว่าเครียด แต่เดี๋ยวก่อน รออีกหน่อย ยังไม่ค่อยชิน
รออีกแป๊บเดียว เดี๋ยวค่อยกดเข้ามาใหม่ก็ได้

“เจ็บ....”

ร้องบอก และคุณซ้งก็ยอมหยุดให้ ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะลงที่เส้นผมของนุชาและแตะปลายจมูกลงไปที่ข้างแก้มของคนที่ยังนิ่วหน้า จูบซับที่ริมฝีปากเพื่อให้คลายความกังวลลงบ้าง

นุชากำลังพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ พยายามจะไม่เกร็ง
นิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นนานเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพยอมรับแก่นกายที่แทรกเข้ามาภายในร่างให้ได้ เป็นนานกว่าจะเริ่มชินและรู้สึกว่าหายใจได้บ้างแล้ว

หยัดกายลุกขึ้นอีกครั้งและพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อมองบางอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในเวลานี้ แค่ได้เห็นก็เข้าใจ เห็นแล้วก็แทบอยากลงไปนอนตายให้รู้แล้วรู้รอด

กูว่าแล้ว ทำไมมันเจ็บขนาดนี้ ก็เพราะแบบนี้ไง เพราะแบบนี้ไงละโว้ยยยยยย
เข้าไปได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าจะเข้าไปได้ แค่เห็นก็หัวใจจะวายแล้วให้ตายเถอะวะ คุณซ้งคร้าบบบบบ คุณซ้ง จะฆ่ากันทางอ้อมหรือไง

ได้มาเยอะเลยนะ ไม่สงสารกันบ้างเลยใช่มั้ย

แล้วก็....ยังจะ โอ้ยยยคุณซ้งเบาก่อน ช้าก่อน อย่าเพิ่งขยับสะโพก มันจะทนไม่ไหวครับ

“อื้อออ”

ร้องออกมาเมื่อรู้สึกว่าความแข็งแกร่งที่ได้เห็นเต็มตากดแทรกเข้ามาภายในร่างและเริ่มจมลึกดิ่งหายเข้าไปอีก

“คุณซ้ง…ช้า ๆ อื้อออออ อย่าเพิ่งนะ พักแป๊บนึง อ่ะอืมมม ช้า ๆ ”

จะให้ใจเย็นได้ยังไงนุชา แบบนี้จะให้เย็นยังไงไหว มันเย็นไม่อยู่ หยุดไม่อยู่ตั้งแต่เสื้อผ้าทั้งหมดหล่นลงไปกองอยู่บนพื้นแล้ว

แต่เห็นคนที่อยู่ใต้ร่างขบริมฝีปากแน่น และเกร็งไปหมดก็ทำได้แค่พยายามหยุดยั้งความต้องการของตัวเองเอาไว้

อยากได้ รู้สึกว่าอยากจะทำอะไรให้ได้อย่างใจ
อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว อยากจะทำอะไรบางอย่างตามใจตัวเองซะให้รู้แล้วรู้รอด

แต่ก็ทำไม่ได้ ทำไม่ลง เมื่อเห็นว่านุชาที่เคยปากดี กลายเป็นนุชาที่น่าสงสาร
กัดปากจนเลือดซิบแล้ว แบบนี้จะให้ทำต่อยังไงไหว

เซ็กส์ที่ทำแล้วอีกฝ่ายทุกข์ทรมาน จะมีความหมายอะไร

“พอเถอะ ซ้งไม่เก่ง ซ้งไม่ดี ทำนุ่นเจ็บ”

เห็นแล้วก็ได้แต่ถอดใจ พยายามแทรกร่างกายเข้าไปจนสัมผัสได้ถึงความตึงคับแน่นและบีบรัดจากภายใน รู้ว่าหัวใจเต้นแรง และอยากจะเข้าไปให้สุดทาง
แต่ในเวลานี้ คงต้องพยายามระงับจิตใจ

อยากจะถอนร่างกายออกแต่เพราะฝ่ามืออุ่น ๆ ที่ประคองที่ใบหน้าและมองมาเหมือนอยากขอร้อง ก็ทำให้ซ้งต้องนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น

หยดน้ำที่คลอรินที่หน่วยตา ใบหน้าแดงก่ำและลมหายใจที่ติดขัด ทำให้แทบหยุดหายใจ

นุชาในแบบที่ไม่เคยเห็น นุชาที่มีแต่ความทรมานแฝงมากับดวงตาคู่นั้น
ไม่ใช่แค่ความทรมานแต่เป็นความปรารถนาอย่างรุนแรง ความต้องการที่กำลังลุกโชน และทำให้ปั่นป่วนจนแทบจะทนไม่ไหว

“อื้อ คุณ...คุณซ้ง...ต่อ...ต่อเถอะ ไม่ไหวเดี๋ยว...เดี๋ยวบอกเอง”

ได้แน่เหรอ ได้แน่ใช่มั้ย

แม้จะกังวลแต่เมื่อสบสายตากับดวงตาที่ยังมีหยดน้ำคลอรินที่หน่วยตาและนิ่งมองมาก็ทำให้ต้องขบริมฝีปาก รู้ว่าในเวลานี้ความรู้สึกทั้งหมดคงแสดงออกชัดเจนทางสายตา

ใบหน้าที่ห่างกันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารด
ร่างกายที่ยังเกร็งไม่ยอมรับการตอบรับค่อย ๆ ผ่อนคลาย เปิดพื้นที่ให้ขยับร่างกายเข้าไปแนบชิดอีกทีละเล็กละน้อย กดเข้าไปเรื่อย ๆ จนเกือบจะสุดทาง

“ซี้ดดดดดดดส์...โอ้ยยยไม่ไหว..คุณซ้ง คุณซ้ง..”

เรียวแขนที่โอบรัดที่รอบรอบลำคอ และใบหน้าแดงก่ำที่สะบัดไปมา ทำให้คนที่ค่อย ๆ ขยับร่างกายต้องนิ่วหน้า และหลับตาแน่น

รู้สึกถึงความอุ่นร้อนภายใน เมื่อแก่นกายแทรกเข้าไปได้จนถึงส่วนในที่ลึกสุด

ทั้งคับทั้งตึงทั้งแน่น ทั้งอึดอัด สัมผัสได้ถึงความบีบรัดจากภายในและค่อย ๆ ผ่อนคลายลงในไม่ช้า ช่องทางอุ่น ๆ ที่ความแข็งแกร่งเข้าไปเสียดสีสัมผัสเริ่มตอบรับ คนที่ใช้ความพยายามอยู่นานในการเข้าไปสัมผัส รู้สึกปวดหนึบและรู้สึกถึงความร้อนรุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วท้องน้อย มันไหลวนอยู่อย่างนั้น และเมื่อเริ่มขยับร่างกายได้ แม้จะแค่เพียงเล็กน้อย แต่ ก็รู้ว่าคงหยุดความรู้สึกต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

“นุ่น...ซ้งจะพยายาม..อื้อออ ทำไมมันแน่นขนาดนี้ล่ะนุ่น ไม่ไหวแล้ว..โอ้ยยย”

พยายามอะไรไม่รู้แล้ว

จะพยายามอะไรก็พยายามเถอะ จะกดจะแทรก จะกระแทกกระทั้น จะทำอะไรก็ทำซะที นิ่งเฉยอยู่อย่างนี้มันเหมือนจะขาดใจตายครับคุณซ้ง

“คุณซ้ง...ทำเถอะนะ..ทำอะไรก็ได้..อยากทำอะไรก็ทำเถอะนะ นะคุณซ้ง ทำเถอะ”

ใครมันจะอ้อนและยั่วได้น่ารักมากเท่านุชาคงไม่มีอีกแล้ว

น้ำเสียงแผ่ว ๆ ใบหน้าที่แดงก่ำ คำพูดที่ร้องขอ ทำให้คนที่พยายามสงบจิตสงบใจต้องหรี่ตามอง และบดเบียดริมฝีปากลงมาหา แนบชิดสัมผัสกัน และสอดปลายลิ้นเข้าไปพัวพัน ดูดดุนปลายลิ้นร้อนชื้นที่อยู่ภายในและอีกฝ่ายก็ตอบสนองให้ไม่ต่างกัน

เพลิน

เคลิ้ม

หวาน

เซ็กส์กับคนรัก คนที่ผูกพัน คนที่มีใจให้กัน มันคือความสุข
การได้แนบชิดร่างกายเปลือยเปล่าเข้าหากัน ได้มอบไออุ่น มอบสัมผัสที่เกิดจากหัวใจให้ มันคือความสุข แม้จะทุลักทุเล แต่เมื่อเข้าใจกันและไม่เร่งรีบ ค่อย ๆ ประคับประคองและค่อยเป็นค่อยไป ทุกอย่างก็ราบรื่นได้ไม่ยากนัก

บางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในร่าง
เจ็บร้าว แต่ทุกครั้งที่ส่วนปลายแข็งแกร่งกดแทรกและชำแรกเข้าไปจนถึงในสุดและสัมผัสกับบางอย่างที่อยู่ลึกลงไปในช่องทางคับแคบนั้น ก็แทบทำให้คนที่ร้องบอกว่าเจ็บแทบลืมหายใจ

ร้อนไปหมด ภายในช่องท้องปั่นป่วน และเหมือนในหัวขาวโพลน
หยุดไม่อยู่ ไม่อยากให้หยุด อยากได้มากกว่านี้ อยากให้ลึกเข้าไปกว่านี้

อยากให้กดซ้ำและกระแทกกระทั้นเข้ามาให้รุนแรงกว่านี้

แม้จะเจ็บ แต่มันมีความรู้สึกอื่นแฝงมาด้วย ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายแต่ก็ทำให้มึนงงและหลงใหลกับรสสัมผัสที่มาพร้อมกับความเจ็บร้าวนั้น

ร่างกายกำลังรู้สึก และส่วนอ่อนไหวที่เคยไร้เรี่ยวแรง เริ่มแข็งแกร่งและตื่นตัวขึ้นแม้ไม่ได้แตะต้องมันก็ไหวระริก และฉ่ำเยิ้มไปด้วยความรู้สึก หยดน้ำใส ๆ ไหลซึมออกมาและนุชาก็ได้แต่หรี่ตาขึ้นมองร่างกายของตัวเองที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาตามจังหวะของร่างเบื้องบนที่กดแทรกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า

สบตาแต่ไม่กล้ามองเมิน

อยากเห็น

อยากเห็นใบหน้าแบบนี้ของคนที่เอาแต่ทำหน้าเฉยเมินโลก
ดวงตาคม ๆ ที่มีแววไหวระริก ริมฝีปากที่ขบเข้าหากันแน่น ใบหน้าที่เคยชื่นชมว่าทั้งขาวทั้งใสกำลังแดงเรื่อ และหยาดเหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาที่หน้าผาก

แยกขาออกกว้างขึ้นเพื่อให้รับกับสัมผัสที่ซัดสาดเข้ามาไม่ยั้ง

“นุ่น..อย่ามอง...”

ไม่ได้ ห้ามไม่ได้ ยิ่งห้ามยิ่งอยากมอง อยากเห็น อยากเห็นอีก อยากเห็นมากกว่านี้

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งบอกว่าอย่ามอง นุชายิ่งจ้อง
ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหน แต่รู้ว่าคงมีสภาพไม่ต่างกัน คงไม่ต่างจากที่ได้เห็นจากใบหน้าของคุณซ้งเท่าไหร่ สีหน้าและแววตาของคุณซ้งที่มองตรงมา และไม่ยอมหลบตาเหมือนที่เคยเป็น

ร้อนไปหมด

ร่างกายกำลังสั่นไหวไปตามจังหวะของการกระแทกกระทั้น
เคยคิดว่าเจ็บ แต่ตอนนี้ไม่ใช่

สองมือประคองใบหน้าของคนที่บอกว่าไม่ให้มองเอาไว้

เผยอริมฝีปาก ใช้สายตาเรียกร้องให้เข้ามาหา เรียกร้องให้ใบหน้าที่โน้มลงมาหาส่งปลายลิ้นมาให้ และดูดกลืนเอาไว้ทั้งหมด ไล้เลียที่ริมฝีปากของคนที่แสดงออกทางร่างกายให้รู้ว่ากำลังต้องการมาก

ต้องการอย่างถึงที่สุด

“อื้อ อื้อ อืมมมมส์”

เสียงร้องทุ้มนุ่มครางเครือในลำคอ มาพร้อมกับการความร้อนที่ตอดรัดอยู่ภายในที่เริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อถูดกดแทรกเข้าหาซ้ำ ๆ

อยากให้รู้ว่ามีความต้องการไม่ต่างกัน

อยากให้รู้ว่ากำลังจะทนไม่ไหว

อยากให้รู้ว่าใกล้จะไปแล้วเต็มที

“คุณซ้ง คุณซ้ง แรงอีกเถอะ เร็ว ๆ ฮื่อออออออ”

ช่วงเวลาที่ทั้งสมองและสติหลุดล่องลอยไปไกลแสนไกล แม้ความอายก็ไม่มีหลงเหลือ อยากให้เข้ามาให้ลึกที่สุด อยากให้เร่ง อยากให้รุนแรงอย่างที่อยากทำ อยากให้ทำอย่างที่ใจต้องการ

เสียงร่างกายที่กระทบเข้าหากันดังเป็นจังหวะ จากเคยช้ากลายเป็นรุนแรง

และแทบไม่ได้ยินเสียงใด ๆ รอบตัวอีก เมื่อกดแทรกซ้ำ ๆ ย้ำเข้าไปอีกครั้งและหลายครั้ง จนถึงที่สุด ถึงขีดสุดของความต้องการ

ลมหายใจหอบถี่ และกดแทรกเข้าไปและครั้งนี้ลึกที่สุด และทิ้งเอาไว้อย่างนั้นอยู่นาน

นุชาไม่มีสติจะคิดอะไรอีก

ไม่ไหวแล้วแบบนี้

รู้ว่าทนไม่ไหว ยิ่งถูกกระทำมากเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกว่ากำลังทนไม่ไหว

แตะฝ่ามือเข้ากับส่วนกึ่งกลางของร่างกายตัวเองและเหนี่ยวรั้งไปตามแรงกระแทกที่แทรกเข้ามาเป็นจังหวะ รูดรั้งเร็วขึ้นและแรงขึ้น ขยับฝ่ามือไปตามความต้องการที่เกิดขึ้น ภายในช่องท้องกำลังเกร็ง ความร้อนวูบวาบและปั่นป่วนอยู่ภายในท้องกำลังพุ่งขึ้นสูง สะบัดหน้าไปมา และรับรู้ถึงอารมณ์ของตัวเองที่หยุดไม่อยู่อีกแล้ว หรี่ปรือตาจ้องมองใบหน้าของคนที่กำลังมัวเมาอยู่กับสัมผัสร้อนแรงแล้วก็ได้แต่นิ่งมอง และเร่งจังหวะให้ทันกัน

ลมหายใจที่เคยหอบกระเส่า เริ่มสะดุดเป็นพัก ๆ พร้อมกับที่รู้สึกถึงความแก่นกายร้อนๆ ที่อยู่ภายในร่างกายกำลังกลั่นกรองหยาดหยดขุ่นข้นออกมาทั้งหมดและฉีดพ่นลึกเข้าไปภายในช่องทางที่ตอดรัด บีบแน่น จนทำให้เกร็งไปทั้งร่าง

“โอ้ยยยย นุ่น นุ่น...ไม่ไหวแล้ว ออกแล้ว...ออกหมดแล้ว”

น้ำเสียงที่แตกพร่า ใบหน้าที่แหงนเงยขึ้น หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นเข้าหากัน
พร้อมกับที่ริมฝีปากขบเข้าหากันแน่น ใบหน้าแดงก่ำ ค่อย ๆก้มลงมาอย่างช้า ๆ ทันได้สบสายตากับดวงตาที่คลอรื้นไปด้วยหยดน้ำที่หน่วยตา

รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายก็รู้สึกไม่ต่างกัน

ริมฝีปากบางกำลังเผยอขึ้นและคนปากเก่งที่กล้าท้าทายกำลังร้องครางเสียงสั่น

ความร้อนภายในร่างกำลังทะยานไปถึงขีดสุด และหยาดหยดทั้งหมดก็พวยพุ่งหลั่งรินออกมาจากส่วนปลายที่ถูกรูดรั้ง หยดน้ำขุ่นข้น พุ่งทะยานออกมาจนไม่มีหลงเหลือ พร้อมกับอาการแอ่นร่างขึ้นและเกร็งแน่น ในเวลาเพียงชั่วอึดใจ

“คุณซ้ง......อื้ออออ”

สองแขนที่ยื่นไปหาเพื่อขอให้กอดเอาไว้ ทำให้คนที่ถึงที่สุดของอารมณ์ทิ้งกายลงและซุกซบใบหน้าเข้าหาที่ซอกคอของคนที่ยังเหนื่อยหอบจนตัวโยน

“นุ่น...”

ได้ยินเสียงเรียก และนุชาก็ทำได้แค่หรี่ปรือตาลง และอมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก

บอกได้คำเดียวว่า

สุดยอดครับ

คุณซ้งเป็นมือใหม่ที่สุดยอดมาก

ทำทุกอย่างแบบไม่มีกั๊กกันเลยนะ รู้บ้างมั้ยว่าจะขาดใจตายก็เพราะหน้าแบบนี้น้ำเสียงแบบนี้ และท่าทางแบบนี้ของคุณซ้ง

“นุ่น”

อือออออ ได้ยินแล้ว ไม่ต้องเรียกแล้ว รู้แล้วครับรู้แล้ว รู้แล้วว่ารู้สึกยังไง

“ดีมั้ย..นุ่นรู้สึกดีมั้ย”

ป่านนี้แล้วจะถามอะไร จะให้ตอบมั้ยว่าดีมาก ดีสุด ๆ ดีจนไม่รู้จะพูดอะไร
แต่ถ้าอยากรู้มากนักจะให้บอกตามตรงเลยก็ได้

“โคตรมันส์เลยครับคุณซ้ง เอาง่ายๆ”

ตอบออกไปและก็ต้องหัวเราะน้อย ๆ เมื่อคนที่นอนนิ่งสงบอยู่บนร่างรีบยกตัวขึ้นและจ้องมองหน้ากันแบบตรง ๆ

“ไอ้นุ่นเน่าเอ้ยยยย”

อะไรคุณซ้ง คนอุตส่าห์ชมมาด่ากันได้ แล้วยังจะ......

“โอ้ยยยย พอแล้วมันเจ็บบบบบบบ”

เพิ่งจะมาสำนึกเอาก็ตอนที่ถูกคุณซ้งแกล้งขยับสะโพกไปมาและความแข็งแกร่งที่อ่อนแรงอยู่ภายในก็ขยับตามไปด้วย ถึงคราวนี้อยากจะปากดีอีกก็ทำไม่ไหว

“เอาของคุณซ้งออกได้แล้ว ข้างในมันเหนียวไปหมด อยากไปล้างตัวแล้ว”

ไม่...

ไม่ต้องไป อยู่แบบนี้แหละ อยู่แบบนี้ไปก่อน จะเหนียวจะเลอะจะอะไรก็ช่าง
อยู่แบบนี้ไปก่อนจะรีบร้อนไปไหน ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
งั้นก็ไม่ต้องรีบไป

“ยังอยากอยู่เลย....เดี๋ยวค่อยไปได้มั้ย”

ตายสิครับงานนี้

เล่นอ้อนกันขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องยอมตาย แล้วยังหยัดตัวขึ้นและมาทำหน้าเฉยเมินโลกแต่หน้าแดงเรื่อใส่อีก แบบนี้จะให้ทำยังไงล่ะคุณซ้ง พูดถึงขนาดนี้แล้วจะให้ทำยังไง

“จัดหนักไม่กลัว กลัวไม่ถึงใจ...ทำไมคุณซ้งไม่รีบทำซะที ช้าแบบนี้รู้มั้ยว่าขัดใจ”





TBC...

 


แล้วเจอกันอีกทีตอนหน้านะคะ คืนนี้ฝันดีคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ขอมาจัดไป † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: t_cus ที่ 24-04-2012 21:19:03
นุชา กวนได้อีก

อ่านตอนนี้แล้ว.... :m3:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ขอมาจัดไป † [24/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 25-04-2012 00:14:09
ดีใจที่มาต่อค่ะ คิดถึงมายมาย

นุชาเรียบร้อยโรงเรียนคุณซ้งแล้ว   :m25: :m25: :m25: หุๆๆ
สมใจคนอ่านยิ่งนัก นุชาย้ายกลับ กทม. เหอะเนอะ เดี๋ยวคุณซ้งจะคิดถึงจนขาดใจตายซะก่อน
ิยิ่งรักกันมากขนาดนี้แล้ว ไม่อยากให้ห่างกันเลย...คุณซ้งบทจะหวานนี่แบบหวานมาก นุชาไปไม่เป็นเลยเหอะ
ส่วนนุชาก็กวนได้น่ารักน่าชังเหลือเกิน คู่นี้เหมาะกันที่สุด ให้นุชามาช่วยงานคุณซ้งดีกว่ามั้ย ได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน
คุณซ้งคงมีความสุขเท่าโลก...คนปากแข็งเดี๋ยวนี้ปากไม่แข็งแล้วน้า มีแต่น่ารักๆๆๆ
ดีใจที่คุณซ้งกับพ่อเข้าใจกันแล้ว ส่วนครอบครัวนุชาก็น่ารักได้อีก...มีความสุขจริง ๆ เลย
แต่งงานกันเถอะคู่นี้ 

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke † ง้อ † [26/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 26-04-2012 01:56:02
ตอน ง้อ


“ฮื่ออออ”

แกล้งขู่ และขยับหนีห่างจากคนที่มานั่งกระแซะอยู่ข้าง ๆ
แต่คนที่มานั่งอยู่ด้วยดูท่าจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด แถมยังขยับเข้ามาเบียดยิ่งกว่าเดิมซะอีก

“ฮื่อออออออ”

คราวนี้เลยต้องลากเสียงยาว ๆ และหันไปมองคนที่ยังไม่ยอมขยับหนี
ถึงจะขู่ก็จริง แต่ไม่ได้จริงจังมากนัก เพราะเมื่อหันไปมองคนที่ทำหน้าเฉยแต่ยังไม่เลิกเบียดกายเข้ามาใกล้ แล้วก็ชักเห็นว่าคุณซ้งทำหน้าน่ารักกว่าทุกวัน

จะยิ้มก็ไม่ยอมยิ้ม
เหมือนพยายามฝืนไม่ยอมยิ้ม ทั้งที่อยากจะยิ้มมาก

เหมือนพยายามฝืนทำหน้าเฉย แต่ท่าทางดูสบายอารมณ์และมีความสุขมากเกินกว่าปกติ

หันไปมอง มองแล้วก็แกล้งเมิน
กำลังจะลงมือพิมพ์งาน แต่ก็ต้องหยุดนิ่ง
เพราะฝ่ามือถูกรั้งเอาไปกุมไว้ และคนที่ดึงมือไปกุมไว้แน่นก็ทำเหมือนสนใจกับการดูรายการโทรทัศน์นักหนา ทั้งที่จริง ๆ แล้ว อาจจะไม่ได้สนใจเลยก็ได้

จะเอายังไงครับ
ใจคอจะไม่ให้ทำงานต่อใช่มั้ย จะได้ไม่ทำ
เห็นนะ เดี๋ยวก็ขยับเข้ามาใกล้ เดี๋ยวก็แกล้งทำเป็นชะโงกหน้ามาดูว่ากำลังทำอะไร
ทั้งที่ก็เห็นอยู่แล้วว่ากำลังทำงาน แต่ก็ยังชะโงกหน้ามาหา

“คุณซ้ง” แกล้งเอ็ด แกล้งเรียกและทำเสียงดุใส่ และก็เห็นคนที่ทำหน้าเฉย อมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากและหันมามองหน้ากันตรง ๆ นิ่งสบสายตาด้วย
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นก้มหน้าก้มตาอมยิ้มแบบจริง ๆ จัง ๆ

แล้วนี่มันอะไรครับ ไม่ทำหน้าเฉยเมินโลกเหมือนเดิมแล้วหรือไง
เห็นปกติถนัดนัก เดี๋ยวนี้ชักจะยิ้มเก่งขึ้นนะ มากไปหรือเปล่า ยิ้มหวานขนาดนี้จะให้ละลายไปต่อหน้าต่อตาเลยหรือยังไง

“อะไร”

ยังจะมาถามอีกว่าอะไร ก็เนี่ย มือเนี่ย ที่มาจับกันไว้แบบนี้
มันหมายความว่ายังไงครับ อยากรู้มาก

นุชาเป็นคนที่ขยันถามคำถามที่ไม่ควรถาม ถามมาได้ว่าจับมือทำไม
ก็เพราะว่าอยากจับไง ถึงได้จับ จะถามทำไม ปัญหาเยอะจริง ๆ

ก็อยากจับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
อยากจับมือ อยากนั่งใกล้ ๆ อยากมองหน้า
อยากทำอะไรอีกตั้งเยอะแยะ แต่ติดอยู่ที่ว่า ไม่เคยทำ ถึงอยากทำแต่ก็ไม่เคยทำ
เขิน และรู้สึกไม่ค่อยชินที่จะทำอะไรอะไรแบบนี้

กลัวว่าถ้าทำอะไรมากเกินไป จะถูกมองว่าประหลาด กลัวถูกมองว่าทำอะไรแปลก ๆ ผิดปกตินิสัยที่เคยทำ

ก็เลยต้องทำแค่นี้ไปก่อน แล้วค่อย ๆ พัฒนาต่อไป เพื่อไม่ให้ถูกนุชาบ่นหรือด่า เดี๋ยวจะหาว่าเป็นพวกบ้า ชอบพัวพัน ชอบแตะเนื้อต้องตัว ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยทำ

แต่ตอนนี้ไม่ใช่

ไม่ใช่อีกแล้ว

ก็ตอนนั้นถึงอยากทำอะไรก็ทำไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงกับนุชากันแน่

แต่ตอนนี้รู้แล้ว รู้ความรู้สึกของตัวเองดีแล้ว รู้ว่าคิดกับนุชายังไง
อยากจะกอด อยากจะหอม อยากจะทำหมดทุกอย่าง
อะไรก็ได้ ที่ควรทำ อยากจะทำจริง ๆ

รู้สึกว่านุชา....น่ารัก...
รู้สึกว่า น่ารักกว่าทุกวัน

ทำไมถึงได้น่ารัก น่ากอด น่าหอม น่าเข้าใกล้ขนาดนี้ก็ไม่รู้

“คุณซ้ง...เป็นอะไรมากมั้ย”

เป็น

ก็เห็นอยู่ว่าเป็น เป็นมากด้วย แล้วจะถามทำไม
รู้อยู่แล้วว่าเป็น ก็ไม่เห็นต้องมาถามให้ยุ่งยากวุ่นวาย

“อะไรนุชา...พูดอะไรฟังไม่เห็นรู้เรื่อง”

หยุด

อย่ามาทำเป็นมึน อย่ามาทำลอยหน้าลอยตา อย่ามาทำเป็นเมิน
อย่ามาทำหน้าเมินโลกใส่ ทั้ง ๆที่ยังกุมมือเอาไว้
และยังจะลูบไล้หลังมือเล่นไม่ยอมเลิกอีก

“คุณซ้งอย่ามาเจ้าเล่ห์”

เปล่า

ใครเจ้าเล่ห์ ยังไม่ได้เจ้าเล่ห์เลย ก็แค่จับมือเฉย ๆ
จับไม่ได้หรือไง จับมือแค่นี้จะมีปัญหาอะไรมากมายวะ
ก็มือมันนิ่ม มือนุชาสวย เรียวดี ก็เลยอยากจับเล่น แค่นี้จะเป็นอะไรไป
จะหวงทำไม ไม่เห็นต้องหวงเลย จับแค่นี้เองนะ ทีอย่างอื่นทำมาหมดแล้วไม่เห็นจะหวง คราวนี้นึกยังไงจะมาหวงแค่มือ

“ไม่เห็นจะอยากจับเลย”

เออดี ไม่เห็นจะอยากจับ ตอบซะได้ใจ
แล้วทำไมไม่ยอมปล่อย แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยทำไมต้องเมินหน้าหนีไปทางอื่น ทำแบบนี้คิดอะไรอยู่ใช่มั้ย
คิดแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมต้องหันหน้าหนีด้วย คิดใช่มั้ย บอกมาว่าคิดอะไร

“คุณซ้งจ๋า”

อะไรนุชา

ไม่ต้องเรียก หยุดไปเลย แล้วไม่ต้องทำเสียงอ้อนด้วย ไม่ต้องยื่นหน้ามาใกล้ ๆ
หยุดเลยนุชาหยุดเลย

“คุณซ้งคนดี”

ขยันมาก พอรู้ทางว่าชอบ ก็เลยขยันแกล้ง ชอบเหลือเกินนะ
เล่นไม่เลิกเลยนุชา
อย่ามาทำเสียงอ้อน อย่ามามองหน้า หยุด ห้ามมอง ไม่ชอบ เข้าใจมั้ย

“คุณซ้งหน้าอย่างเอ็กซ์ว่ะ...สวดยอดดดดดดดดด”

ไอ้นุ่นเน่า...อยากตายมากนักหรือไง ถ้าอยากตายขนาดนั้นเดี๋ยวสงเคราะห์ให้

“แล้วไง”

หันไปถามคนที่นั่งอมยิ้ม และหัวเราะไม่เลิก

ยักคิ้วให้ ทำเหมือนไม่ได้คิดอะไร ทั้งที่ในเวลานี้กำลังคิด
ชอบเล่นนักเกมส์จ้องตา เมื่อก่อนอาจจะแพ้ เล่นเมื่อไหร่ก็ไม่กล้าสบตานุชาตรง ๆ แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่เริ่มเรียนรู้แล้วเหมือนกันว่านุชา ไม่ใช่สุดยอดนักจ้องตา

ถ้าหากจะเล่นงานกันจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อาศัยเทคนิคบางอย่างเล็กน้อย
ก็สามารถเอาชนะได้

“แล้วไงนุชา หน้าอย่างเอ็กซ์แล้วไง”

ไม่แล้วไงครับคุณซ้ง ไม่เห็นต้องแล้วไง ก็ชอบไง ถามมาได้

ชอบ รู้หรือเปล่าว่าชอบ โคตรชอบเลย คุณซ้งคร้าบบบบบ

“อีกซักทีดีมั้ย”

ดี...

อีกซักทีก็ได้ อีกซักทีก็ดีเหมือนกันนะครับคุณซ้ง น่าจะดีมากด้วยว่ามั้ย

“ก็....จัดมา”

ท้าทาย และก็เห็นคุณซ้งส่ายหน้าและคราวนี้จากหน้าเฉย กลายเป็นหัวเราะด้วยความขำ

อะไรวะ จะขำทำไมครับ ขำทำไมวะนั่น มีอะไรน่าขำ ตลกตรงไหนคนยิ่งจริงจังอยู่

“เหอะ... เจ็บไม่จริงนี่หว่า...เมื่อเช้าใครมันร้องว่าไม่เอาแล้ว แถมยังบอกให้พออีก ใครนุ่น...ใครมันร้องไห้ขอให้พอ”

นุ่นเองครับ

คนนั้นคือนุ่นเอง

ก็....มันเจ็บจริง ๆ นี่หว่า

ไม่อย่างนั้นคงไม่ร้องไห้
อยากทำอีก แต่ร่างกายมันไม่ยอมเป็นไปอย่างใจคิด

แล้วจะให้ทำยังไง

“ไม่ได้อยากเรื่องอย่างว่ามากมายหรอกคุณซ้งเอาจริง ๆ นะ แต่พอเป็นคุณซ้งแล้วมัน....รู้สึกอยากทำด้วย อยากอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลาเลย”

คนบางคน เวลาล้อเล่นก็น่าหมั่นไส้ น่ารำคาญ บางครั้งก็ชอบทำให้หงุดหงิดโมโห โกรธจริงบ้าง โกรธไม่จริงบ้าง

แต่คนบางคนที่ว่า ก็มีบ่อยครั้งที่พูดจาน่ารักน่าใคร่
เช่นในเวลานี้ ที่นุชาพูดไปก้มหน้าไป แล้วก็ยังถูมือตัวเองเล่นเหมือนไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เห็นแบบนี้แล้ว ยิ่งต้องยอมรับ ว่านุชาน่ารักกว่าทุกวัน

มองแล้วถึงสำนึกได้ว่าเพราะอะไร ถึงรู้สึกอยากกอด อยากหอม อยากอยู่ใกล้ นุชา

“แต่ซ้งอยากทำกับนุ่น....มากว่ะ”

อ่า

มิน่าล่ะ

โคตรเข้าใจเลย เห็นหน้าแค่นี้ก็รู้แล้ว ก้มหน้าก้มตาหลบ แล้วก็เมินไปทางอื่น แล้วหน้าขาว ๆ ใส ๆ ก็ขึ้นสีแดงเรื่อที่แก้มแถมยังหันหน้าหนีไปทางอื่นอีก
แค่เห็นก็โคตรจะเข้าใจแล้วคุณซ้งว่ากำลังคิดอะไร

“เป็นคนแบบนี้เองสินะ ที่แท้คุณซ้งก็เป็นคนแบบนี้ ร้ายกาจมาก ไอ้เราก็หลงเชื่อว่าจะหงิม ๆ เฉย ๆ ที่แท้ก็เป็นคนแบบนี้”

แกล้งล้อและแกล้งแซวคุณซ้งที่ชอบทำหน้าเมินโลก
แล้วก็เลยเห็นคุณซ้งนิ่งจ้องมองกันแบบตรง ๆ

ดวงตาคม ๆ ฉายแวววิบวับให้ได้เห็น ทั้งที่คนถูกแซวหน้าแดงแต่ก็ไม่เห็นจะยอมหลบสายตา กล้ามาก เดี๋ยวนี้ ชักจะเก่งกล้าใหญ่แล้ว

“เป็นคนแบบนี้แหละ เป็นนานแล้วด้วย อยากไม่รู้เอง ช่วยไม่ได้ อย่าคิดถอนตัวซะให้ยากไม่ทันแล้วนุ่น”

เหอะ

คนที่ห้ามถอนตัวนั่นมันคุณซ้งคร้าบบบบบ ไม่ใช่ทางนี้

อย่ามาคิดถอนตัวถอนใจซะให้ยากนั่นมันคุณ ไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนหรอกครับ
จีบยากจีบเย็น กว่าจะได้มาเรื่องง่ายซะที่ไหน กว่าจะทำให้ยอมเปิดใจ
ยอมคบด้วย ยากสุด ๆ

“น่ารักเนอะ คุณซ้งนี่โคตรน่ารักเลย เอาจริง ๆ”

ชื่นชมและส่งยิ้มหวาน ๆให้ และคุณซ้งที่ทำตาหวานเชื่อม ก็ก้มหน้าก้มตาหน้าแดงเหมือนเดิม ผิดจากเดิมตรงที่ไม่ได้นั่งอยู่เหมือนเดิม แต่เอนลงมาและใช้หน้าขาของนุชาหนุนหัวแทนหมอน

“นุ่นนนนนนนน”

เรียก แล้วก็ยังทำเป็นยิ้มอีก หมายความว่ายังไง เรียกทำไมครับ

“อารายยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

นุชาแกล้งลากเสียงยาว ๆ และแตะมือเล่นที่ข้างแก้มของคนที่นอนหนุนตัก

ที่จริงแล้วคุณซ้งอ้อนเก่งจะตาย

แถมยังเป็นพวกชอบให้อยู่ใกล้ ชอบให้เอาใจซะด้วย

“เมื่อไหร่หายเจ็บ”

อะไร หายเจ็บแล้วทำไมครับ ทำเหมือนเป็นห่วง แต่ไม่น่าจะใช่ทั้งหมด
แล้วจะยิ้มทำไม แล้วจะทำตาหวานทำไม อย่ามาเจ้าเล่ห์ขอร้อง อย่า อย่า หยุดไปเลย

“ไม่ทำแล้ว คุณซ้งรุนแรง ไม่ให้ทำแล้ว”

แกล้งพูด แกล้งว่า และเห็นคนที่ยิ้มหวานเมื่อไม่กี่นาทีก่อนกลายเป็นทำหน้าเซ็งโลกและขมวดคิ้วมุ่นทันที

“ก็ตอนนั้นมันหยุดไม่อยู่...แล้วนุ่นก็บอกให้แรง ๆ ด้วย ทำตามใจนุ่น ซ้งผิดหรือไง”

เอ้า ก็ไม่ได้ว่า ไม่ได้บอกว่าผิดซะหน่อย แค่นี้ทำเป็นงอนไปได้

“จ่ะ จ่ะ ผิดไปแล้ว จะทำแรงแค่ไหนก็เอาเลยจ่ะ ต่อไปจะไม่ว่าอีกแล้วนะจ๊ะ อย่างอนเล้ยยยยยย คุณซ้งจ๋า”

ก็เลยต้องง้อ เพราะคนบางคนชอบให้ง้อเวลางอน

แรก ๆ ไม่รู้ แต่อยู่ด้วยกันบ่อย ๆ ถึงเริ่มเข้าใจ
คุณซ้งถนัดเรียกร้องความสนใจ ด้วยการแกล้งทำเป็นเมิน

ต้องสังเกตดี ๆ ว่าจริงจังหรือกำลังงอนและอยากให้ง้ออยู่
ในกรณีแบบนี้ แปลได้ว่า “ง้อหน่อย อยากให้ง้อ”

ก็เลยต้องง้อ

“ไม่ได้โกรธ ไม่ได้คิดอะไรด้วย อะไรนุชาพูดอะไรไม่เห็นเข้าใจ”

แปลได้ว่า ดีใจนะเนี่ยที่มาง้อ อ่านง่ายไปหน่อยมั้ยคุณซ้ง

และยังทำหน้าระรื่นแบบนี้ใส่อีก

ใจคอจะให้รักจนขาดใจตายเลยใช่มั้ยครับ น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งคนดี
ตกลงจะทำให้รักขนาดนี้เลยใช่มั้ยครับคุณซ้ง






TBC...

 


มีน้องฝากประชาสัมพันธ์บอร์ดบอยเลิฟเปิดใหม่ ใครสนใจก็ตามเข้าไปนะัคะ http://www.facebook.com/MyNovel.k (http://www.facebook.com/MyNovel.k)
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ตอน ไปวิ่่งกัน (จบ) [26/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 26-04-2012 02:03:02
ตอน  ไปวิ่่งกัน (จบ)


ห่างเหินจากการวิ่งเพื่อแรงบันดาลใจมาเนิ่นนาน
หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งปี วันนี้นุชาก็ได้มีโอกาสแวะเวียนกลับมาเยือนที่สนามอีกครั้ง

อยากจะกลับมาแบบเต็มภาคภูมิ เป็นที่ชื่นชมศรัทธาของคนทั่วไป
อยากให้เหล่าสมาชิกตื่นตะลึงกับฝีเท้าระดับเทพ
อยากให้รู้ว่าที่หายหัวไปนานก็เพื่อไปฝึกวิชา

วิ่งได้แล้วนะ วิ่งได้สี่ห้ารอบ ความเร็วในระดับ เอาชนะเด็ก สตรี และคนชราได้แล้ว
อยากจะคุยโม้โอ้อวดมาก อยากจะโชว์ฝีมือให้เห็นกับตา แต่จะมีประโยชน์อะไร
ถ้าไอ้ทั้งหมดที่ฝึกซ้อมมา มันไม่สามารถเอามาแสดงให้โลกรับรู้ได้

การผูกเชือกรองเท้าแบบฟรีสไตล์คือสิ่งที่นุชาใช้เพื่อถ่วงเวลาเมื่อสมาคมนักวิ่งวัยดึกวิ่งผ่านหน้าไป โดยที่นุชายังไม่มีโอกาสจะได้ก้าวเดินลงสนาม

“อาตี๋ เร็ว ๆ เซ่ ทำมายยางไม่ลงมา เอ้าสู้แค่ไหน สู้แค่ไหน ตี๋เอ้ยยยย สู้แค่หนายยย”

สู้แค่ขาดใจครับ เพื่อน ๆ สู้แค่ขาดใจจริง ๆ นะ

ไม่ได้ปวดเข่า ไม่ได้ปวดฟัน ไม่ได้ปวดใจ แต่....สาเหตุที่ร่างกายไม่เป็นใจมันเป็นเพราะอะไร ไอ้คนที่ควรรู้ดีที่สุดก็น่าจะเป็นคนนั้น คนที่หน้าใสกิ๊ง และวิ่งลิ่ว ๆ เป็นรอบที่แปด

น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งที่น่ารักนั่นเอง

เห็นทำหน้าเมินโลก ตอนที่วิ่งผ่านหน้าไป
และนุชาก็ได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ และโบกไม้โบกมือให้และเหมือนเห็นคุณซ้งอมยิ้ม แล้วก็ส่ายหน้าเหมือนว่าเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานซะเต็มประดา แล้วจะ....หน้าแดงทำไมครับ ไม่เห็นมีอะไรที่ทำให้คุณซ้งต้องหน้าแดง

ไอ้ที่ต้องนั่งผูกเชือกรองเท้าเพื่อถ่วงเวลาและไม่สามารถวิ่งได้เหมือนชาวบ้านเขามันก็เพราะฝีมือคุณซ้งไม่ใช่หรือไงครับ ยังจะมาส่งยิ้มให้อีก แล้วทำหน้าแดงใส่อีก
ถ้าจะทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ วันหลังอย่ามาขอ งานนี้ตอบได้เลยว่ายากกกกกกกกกกส์

“อาตี๋น๊า มาวิ่งกะอาม่าก็ล่าย ครายมานแกล้งอาตี๋ คราย ๆ อย่าให้ม่ารู้นะจาจัดการให้”

อย่าเลยครับอาม่ากิม อย่าจัดการเลยครับ ส่วนหนึ่งของอาการบาดเจ็บมันมาจากหลานชายของอาม่าเป็นผู้กระทำร่วมด้วย ไม่ใช่ใครที่ไหนจริง ๆ และดูท่าเจ้าตัวเขาจะภาคภูมิใจกับผลงานชิ้นโบว์แดงนี้มากซะด้วย

“จะไปเดี๋ยวนี้ครับอาม่า”

ลุกขึ้นยืน และก้าวขาเดินลงสนามในสภาพเดินแทบไม่ตรงทาง
สาเหตุเพราะอาการเจ็บแปลบ ๆ จากด้านหลัง เพราะถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากไม่ได้เจอหน้าคุณซ้งมาหนึ่งสัปดาห์เต็ม

จัดได้หนักมาก

ขอบคุณครับที่จัดได้ถึงใจ แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าไม่ทำให้ร่างกายมีสภาพแบบนี้

โทษคุณซ้งก็ไม่ได้อีก เพราะถ้าไม่ร่วมด้วยช่วยกัน มันคงไม่ต้องมามีอาการแบบนี้
จะโทษก็โทษตัวเองด้วย โทษคุณซ้งคนเดียวมันก็ไม่ถูก

“อาตี๋ทำมายเดินอย่างน้านนนล่ะ คราวนี้เจ็บตรงไหนอีก เดี๋ยวอากงจะได้หายาให้ลื้อได้ถูกทำมาย มาวิ่งทีไรไม่เคยหายซะที ลื้อเป็นโรคอารายว๊า”

ขอบคุณที่ห่วงใย แต่มันคงไม่ต้องรบกวนใครหรอกครับงานนี้
ตอบยากจริง ๆ ไม่รู้จะพูดยังไงครับอากง

“อาตี๋อีม่ายเป็งไรหรอกนา อีแข็งแรง มา มา มาวิ่งกับอาม่านี่แหละ อาซ้งอีก็ทำเกินปายยยย ม่ายหวายนา รู้ว่าอาตี๋ไม่สบายก็ยังไปลากอาตี๋มาวิ่งอยู่ล่าย”

ครับใช่

จริงด้วย

อาม่ากิมเท่านั้นที่รักและเห็นใจผมอยู่ตลอด ยกให้เป็นผู้หญิงในอุดมคติเลยจริง ๆ

ได้แต่ยิ้มแหย ๆ และนุชาก็ก้าวขาวิ่งเหยาะ ๆ โดยได้รับการประคบประหงมจากเหล่าสมาชิกชมรมนักวิ่ง ประดุจดั่งไข่ในหิน มองแล้วเหมือนดาวล้อมเดือนก็ไม่ปาน

แล้วก็แซงไปอีกจนได้

รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าน้องแรงบันดาลใจคุณซ้ง ผู้มีฝีเท้าระดับเทพ วิ่งผ่านหน้าไปด้วยใบหน้าที่โชกไปด้วยเหงื่อไหลซึมหยดเป็นทาง

เอ็กซ์โคตร น่ายอมให้ทำร้ายร่างกายอีกซักรอบ ด้วยความสมัครใจ
และโน่นนนน วิ่งไปโน่นแล้ว แบบทิ้งห่างคู่ต่อสู้อย่างไม่เห็นฝุ่น

ไม่คิดจะเทียบรุ่นอีกแล้ว ชีวิตนี้
แค่สภาพร่างกายก็แพ้ตั้งแต่แรก ขาก็สั้นกว่าคุณซ้งอีก แค่คิดจะสู้ยังคิดผิดตั้งแต่เริ่มคิด

กูหนอกู เวรกรรมจริง ๆ

วิ่งเหยาะ ๆ ก้าวขาเหยาะ ๆ วิ่งเรื่อย ๆ กับสมาชิกในชมรมนักวิ่งวัยดึก คงจะเป็นสิ่งที่นุชาคู่ควรที่สุดแล้วในชีวิตนี้

“เอ้า สู้แค่หนายยยยย”

เพลงมาร์ชประจำชมรมของเรา ได้เริ่มต้นแล้ว

“อาตี๋สู้แค่หนาย ร้องซี ร้องเพลงกับอาม่าน๊า”

คร้าบบบบบ อาม่า จะมีใครรักและใส่ใจนุชาเท่ากับอาม่ามั้ย คงไม่มีอีกแล้วครับ
รักอาม่ากิมที่สุดเลย ที่คอยเข้าอกเข้าใจ เห็นใจ อยู่เสมอ และคอยอยู่ข้าง ๆ
แม้ในยามที่รู้สึกว่าตัวเองอาภัพและอับโชค เกินกว่าจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของคุณซ้งได้

“สู้แค่ขาดใจ ใช่มั้ยครับอาม่า”

ส่งยิ้มให้กับเทรนเนอร์ที่หายดีเป็นปลิดทิ้ง และแทบเดาไม่ออก ว่าครึ่งปีก่อนเคยเข้าไปนอนในห้องไอซียูเพราะประสบอุบัติ

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คนเราฟื้นตัวได้เร็วจริง ๆ แม้สังขารจะล่วงเลยไปขนาดนี้แล้วก็ตาม

ทุกคนรู้ว่าอาม่ากิมไม่เหมือนเดิม

ทุกคนรู้ และไม่เร่งฝีเท้าให้เร็วนัก เพื่อจะได้ให้อาม่ากิมวิ่งไปด้วยกัน
มันคือน้ำใจและการดูแลกันในช่วงวัยสุดท้ายของเหล่าสมาชิกชมรมคนชราที่รู้ว่าชีวิตตัวเองเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง


เลยไม่รู้ว่าจะเร่งรีบหรือก้าวขาเร็วขึ้นไปทำไม การวิ่งที่มีสภาพเหมือนเต่าคลานไม่ได้ทำให้นุชาหรือว่าเหล่าสมาชิกในชมรมหงุดหงิดหรือขัดใจ

แค่ได้วิ่งไปร้องเพลงไปยิ้มไปด้วยกันก็เกินพอแล้ว

“สู้แค่ขาดใจสิอาตี๋ สู้ สู้”

ครับ สู้ สู้ สู้

นุชาหัวเราะร่า และมีหน้าที่คอยประคองอาม่ากิม ถ้าเห็นว่าความเร็วในการวิ่งชักจะเร็วเกินไป โดยได้รับการฝากฝังมาจากน้องแรงบันดาลใจซ้งหน้าใสกิ๊ง ที่วิ่งลิ่ว ๆ แบบไม่เคยกลัวเหนื่อย และตอนนี้วิ่งเข้าไปรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

แต่รู้ว่ามองเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ

ไม่เคยเบื่อเลยจริง ๆ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้

ผิดกันแต่ว่า วันแรกที่วิ่ง คุณซ้งทำหน้าเมินโลกแบบไร้เยื่อใย ไม่มีความสนใจแม้แต่จะมองหน้ากันเลยสักนิด คนรอบข้างไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่ชายตาแล คุณซ้งยังไม่คิดจะทำ

แต่วันนี้ไม่ว่าคุณซ้งจะวิ่งผ่านหน้าไปกี่ครั้ง ก็ยังมีการส่งสายตามองมา แม้จะแกล้งทำเป็นเฉยเมินโลก แต่ก็รู้ว่าอยากจะส่งยิ้มให้ใจแทบขาด เพราะเห็นว่าแอบอมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากอยู่หลายครั้ง

“สู้เพื่ออาราย อาตี๋ สู้เพื่ออารายยยย สู้ สู้”

สู้เพื่ออะไรไม่รู้ แต่สู้เพื่อคนที่ทำให้หลงรักแบบสุดหัวใจคนนั้นตอบได้เลยว่าใช่

“สู้เพื่อแรงบันดาลใจคร้าบบบบบบบบ”

ตะโกนตอบออกไปเสียงลั่น และเห็นคนที่วิ่งผ่านหน้าไปก่อนหน้านั้น สะดุดเท้าตัวเองและถึงกับต้องหยุดวิ่งและหันมามองแบบทันทีทันใด

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า แรงบันดาลใจที่ว่าหมายถึงใคร

แรงบันดาลใจที่ว่า ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล คงเป็นคนที่วิ่งไปแบบไม่สนใจโลกคนนี้

แต่ตอนนี้บังคับตัวเองให้ไม่สนใจใครอีกไม่ได้แล้ว

นุชา.....เป็นคนที่เข้ามาในชีวิตแบบไม่บอกไม่กล่าว
เข้ามาวน ๆ เวียน ๆ อยู่ใกล้ ๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโดยไม่ทันให้ตั้งตัว

อยู่ใกล้ ๆ และทำให้เกลียดขี้หน้า อยู่ไปอยู่มา เริ่มขาดไม่ได้
ขาดนุชาไปแล้ว รู้สึกเหมือนว่าจะขาดใจ เพราะนุชามีอะไรดีมากว่าเป็นแค่อาตี๋นักวิ่งร่วมสนามที่ไม่เคยมีวันไหนไม่บาดเจ็บ

นุชา....

ซ้งถึงกับวิ่งไม่ออก ก้าวขาลงไปยืนอยู่ข้างสนาม และเหล่าสมาชิกชมรมนักวิ่งกำลังจะวิ่งผ่านหน้าไปช้า ๆ โดยมีนุชาเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรม ที่หันมายักคิ้วส่งให้

อยากจะชี้หน้าคาดโทษนัก แต่อาการวิ่งแบบไม่ตรงทางก็ทำให้ยิ้มออกมาได้และถึงกับส่ายหน้าเมื่อคนที่วิ่งผ่านไป เริ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวด คงเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ...ใช่มั้ย

“สู้ เพื่อใคร สู้เพื่อใคร สู้เพื่อครายยยยยยยย”

เพลงมาร์ชประจำชมรมนักวิ่ง ที่ไม่เคยตั้งใจฟัง แต่คราวนี้ทำให้ซ้งถึงกับยิ้มกว้างและรอฟังคำตอบของเพลงที่ทำให้นึกเขินจนหน้าแดงหลายครั้งในวันนี้

“สู้เพื่อแรงบันดาลใจ สู้เพื่อแรงบันดาลใจ สู้เพื่อแรงบันดาลจายยยยย”

อยากจะเดินไปกระชากคนที่ปากดีแซวกันซึ่งหน้ามาจูบโชว์ซะให้หนำใจแต่ก็ทำไม่ได้

มันน่าโมโหนัก สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้มีแค่ยืนอมยิ้มอยู่คนเดียว และรอเวลาให้นักวิ่งในชมรมวัยดึก วิ่งผ่านมาอีกรอบ จะได้ตอบกลับคนที่ขยันแซวให้ได้อายกลับไปซะบ้าง

ไอ้นุ่นเน่าเอ้ยยยยย เพราะแบบนี้ไงถึงได้รัก มันเป็นเพราะแบบนี้ไงถึงได้รักมากจนชีวิตนี้ขาดนุ่นต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

นุ่น....ซ้งอ่ะโคตรรักนุ่นเลยจริง ๆ ให้ตาย

น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งยืนอมยิ้มอยู่ข้างสนาม
ส่วนนุชาที่วิ่งผ่านหน้าไปก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองด้วยความสุข
สิ่งที่พอจะคิดได้ในเวลานี้ก็คือ

การวิ่งคือการออกกำลังกายที่สุดยอด ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม
วิธีการง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากแค่เพียงก้าวขา

สุขภาพดีเยี่ยมได้รับแน่นอนแบบไม่ต้องรอ

แต่มีบางอย่างที่ใครบางคนอาจได้รับมากกว่าสุขภาพกายที่ดีขึ้น

การวิ่ง........ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดจริง ๆ








Fin…








 


ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้ายแล้วนะคะ หวังว่าคงจะถูกใจกัน
ต้องขอบคุณ คุณเท็นที่แต่งเรื่องน่ารักๆมาให้อ่าน ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและเป็นกำลังใจให้นะคะ
ถ้ามีเรื่องผิดพลาดประการใดจากการโพสแนนขอน้อมรับนะคะ o(>_<)o[/color][/b]
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ตอน ไปวิ่่งกัน (จบ) [26/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: patta ที่ 26-04-2012 16:52:57
 :impress2:จบแล้ว สนุกมากเลยค่ะ  o13 จะมีตอนพิเศษมั้ยคะ ชอบมากกกก
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ตอน ไปวิ่่งกัน (จบ) [26/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 26-04-2012 19:53:42
หายไปนาน.....พอกลับมาฉันก็ลืมสิคะ กร๊ากกกกกกกกกกกกก
แต่ก็อ่านจนจบจนได้!! เฮ~~~~ \(>o<)/
ืน่ารักจังเลยน้องแรงบันดาลใจ~ 55555
นุ่นก็น่ารักเนอะ เอิ๊กๆ เหมือนจะไม่หวั่นในทุกสถานการณ์(?)
มึนได้โล่จริงๆ แต่เค้าดูชอบจะท้าทายตัวเองนะ
ร่างกายไม่ไหวแต่ใจไปไกลแล้วใช่ม้าาาาาา
อยากให้ร่างกายนุ่นไหวจริงๆเลย จะได้Ncอีก กร๊ากกกกก
ขอบคุณที่มาต่อจนจบค่ะ ชอบเรื่องนี้มากๆ เหมือนจะได้ข้อคิด(?)ด้วย ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ตอน ไปวิ่่งกัน (จบ) [26/04/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 26-04-2012 23:59:43
โฮ้ว อ่านจบแล้วอยากไปวิ่งค่ะ แต่ไม่รู้จะเจอแรงบันดาลใจแบบนุชารึป่าวอ่ะสิ...
น่ารักมากค่ะเรื่องนี้ น่ารักตั้งแต่ต้นจนจบ ขอบคุณผู้เขียนและผู้ลงนะคะ
คุณซ้งขาตั้งแต่ได้นุชาเป็นแฟนยิ่งน่ารัก ยิ่งยิ้มเยอะ และมีแอบหื่นเล็ก ๆ ฮ่าๆๆ
ชมรมวิ่งเค้าน่ารักกันมากเลยเนอะ ว่าแต่คุณซ้งจะทำร้ายนุชาก่อนมาวิ่งทำไมเนี่ย แกล้งกันนี่นา
เจอนุชาตะโกนให้เขินไปเลย อิอิน่ารักมากค่ะ

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภ่ึาคพิเศษ ตอน พูดอะไร [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 01-05-2012 17:38:44

ภ่ึาคพิเศษ ตอน พูดอะไร


“อันนี้อะไรอ่ะ ไม่เอาแล้วมั้งนุ่น หรือจะเก็บไว้”

นุชาหันมามองตามคนที่มาช่วยเก็บของ และก็เอื้อมมือมารับกระดาษที่กองเอาไว้
มาแยกดู เปิดไปเปิดมาหลายรอบ และก็พยักหน้าให้คุณซ้งเอาใส่ถุงดำใบใหญ่ได้

ส่วนตัวเองกำลังพับผ้าใส่กระเป๋าและเก็บของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ลงกล่อง
เพื่อเตรียมพร้อมย้ายของกลับบ้าน

“นุ่นมีของนิดเดียวเองอยู่ตั้งนานทำไมมีของแค่นี้”

ถ้าผมอยู่เอง มันจะยิ่งน้อยกว่านี้อีก มันคงมีแค่เสื้อผ้าแล้วก็ของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ที่มันเกินคำว่าแค่นี้ไปอีกนิดหน่อย ก็เพราะใครไม่รู้ที่ชอบคิดเอาเองว่าไม่มีแก้วน้ำ ไม่มีจานชาม ไม่มีโน่น ไม่มีนี่ แล้วก็ขนซื้อเข้ามาเรื่อย

ใครไม่รู้ แถว ๆ นี้ ที่กำลังใช้สก็อตเทปแปะลัง และยกไปวางไว้ที่มุมห้อง
เพื่อจะรอยกลงไปใส่รถ

“พูดถึงมันก็ไม่เยอะเนอะ นึกว่าจะเยอะกว่านี้”

แค่นี้ก็แบกกันเหนื่อยแล้ว ขืนเยอะแยะมากมายกว่านี้ คงแบกไม่ไหว
ทั้งยกทั้งแยกทั้งแบก คงเหนื่อยหอบตายกันพอดี

“เออนุ่น”

หือ อะไรเหรอ มีอะไรเหรอครับ เรียกทำไมครับ อยากได้อะไรหรือเปล่า
สก็อตเทปเพิ่มมั้ย จะได้หยิบให้

“ส่งท้ายกัน”

อะไร
ส่งท้ายอะไร ไม่เห็นเข้าใจที่คุณซ้งพูดเลย
อย่ามา คุณซ้ง อย่ามาทำเป็นพูดดี

แล้วก็ไม่ต้องมาทำเป็นอมยิ้มเขิน ๆ แบบนั้นด้วย อย่ามามองแล้วพยักหน้าให้ด้วยไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยขอร้อง

“อะไรคุณซ้ง”

แกล้งทำเป็นเมิน ทั้งที่นึกขำ และยังตั้งหน้าตั้งตาพับเสื้อผ้าลงกระเป๋าและแกล้งทำหน้าเฉยเมินโลกเหมือนที่คุณซ้งเคยทำบ้าง และก็เห็นคนที่ชวนถึงกับทำตาละห้อย และแกล้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้ได้ยิน

น้อยๆ หน่อยครับ เกินไปแล้วคุณซ้ง แบบนี้มันก็เกินไป

อะไรจะเสียดายขนาดนั้น เกินจริงไปหน่อยแล้วครับคุณ

“นุ่นอ่ะ”

เอ้า แล้วจะมานุ่นอ่ะทำไมครับ ทำไมต้องบ่น ทำไมต้องทำหน้าหงอยแบบนั้น ไม่ทำแล้วเหรอหน้าเมินโลก เห็นทำบ่อย เดี๋ยวนี้มีหน้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นเยอะเลยนะ เกินไปแล้ว แบบนี้มันชักจะมากเกินไปแล้ว

“นุ่นชอบขัดใจว่ะ”

แน่ล่ะ มันต้องขัดใจอยู่แล้ว รู้มั้ยว่าไปที่สนามกี่ครั้งก็มีแต่สมาชิกชมรมคอยถามว่าเป็นอะไร ทำไมถึงได้วิ่งเหมือนคนหมดแรงทุกครั้ง

อยากจะตอบไปซะจริง ว่าที่จริงแล้ววิ่งได้เร็วมากระดับเทียบฝีเท้ากับคุณซ้งได้แล้ว แต่ติดอยู่ที่ว่า คิดจะโชว์ฝีเท้าทีไร มันต้องมีเรื่องให้ได้เจ็บตัวทุกทีสิน่า

อยากรู้มั้ยครับ ว่าปัญหานี้มันเกิดขึ้นเพราะใคร

“ทำไมต้องส่งท้าย ขอเหตุผลสนับสนุนหน่อย”

อ่อนข้อให้เล็กน้อย และขอฟังเหตุผลดี ๆ ไม่ได้อยากขัดใจแต่แค่อยากแกล้งเล่น
เห็นคุณซ้งทำหน้าหงอยแล้วมันดูน่ารักดี น่ารักมาก
ก็ไอ้ท่าทางหงอย ๆ และชันเข่าขึ้นมาและเอาคางเกยไว้ที่เข่าตัวเองน่ะมันอะไร
เรียกร้องความสงสารเห็นใจมากเกินไปแล้วครับ

แล้วแค่บอกว่าขอเหตุผลหน่อย จากท่าทางหงอย ๆ มันกลายเป็นหน้าดีใจไปได้ยังไง ยิ้มใหญ่เลยนะ ทีนี้ล่ะทำเป็นยิ้มและรีบถลามากระแซะเลยทันที

“นุ่น”

ครับ อะไรครับ ไม่ต้องมานั่งซะใกล้แล้วเขย่าแขนแบบนั้นก็ได้
แล้วดวงตาทำไมต้องระยิบระยับขนาดนั้น จะดีใจอะไรขนาดนี้ เกินจริงไปหน่อยแล้วหรือเปล่า

“เรา.......กันเถอะ”

อะไรคุณซ้ง เสียงที่หายไประหว่างกันเถอะมันคืออะไร แปลว่าอะไรไม่เห็นเข้าใจ พูดแบบนี้ฟังไม่เห็นรู้เรื่อง แล้วไง แล้วอะไรคือคำพูดที่หายไป แปลว่าอะไรครับ

“คืออะไรคุณซ้งเราอะไรกันนะ”

แกล้งถาม และก็เห็นคนคุณซ้งยกมือขึ้นเกาหัว เหมือนไม่รู้จะพูดอะไรดี
เห็นพยายามจะพูดและก็กลายเป็นหุบปากเงียบ แล้วก็อ้าปากจะพูดอีก แต่ก็ไม่เห็นพูด

อะไรคุณซ้ง กล้า ๆหน่อย ไหน ๆก็ถึงขนาดนี้แล้ว กล้าขอแบบตรง ๆ หน่อยเหอะ

“ก็เนี่ย นุ่นย้ายกลับแล้วก็ไม่ได้มาที่นี่อีก มันคือความทรงจำเลยนะนุ่น ที่เราทำกันตอนแรกอ่ะ นุ่นจะไม่ส่งท้ายหน่อยเหรอ ว่างั้นมั้ย”

ครับ เข้าใจ แต่คาใจตรงคำว่า เรา.........กันเถอะนั่นแหละ
ไอ้คำที่หายไปมันคืออะไรครับ อยากรู้

“แล้วไงอ่ะแล้วส่งท้ายยังไง”

แกล้งกวนใส่ และก็เห็นคุณซ้งอ้าปากค้าง ก่อนจะหุบปากเงียบ และคราวนี้นุชาก็เลยแอบลอบยิ้มด้วยความพอใจ

แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่าแกล้งคุณซ้ง คนอะไรมันน่ารักน่าแกล้งจริง ๆ

“อะไรคุณซ้ง”

ถามย้ำอีกครั้ง และทำเป็นสนใจอยู่กับการแพ็คของใส่ลัง

“........กันเถอะ”

อะไรล่ะ กันเถอะที่ว่า มันคืออะไร ใครจะไปรู้ว่าคุณซ้งอยากได้อะไร
ไม่พูดให้ชัด ๆ ไม่เข้าใจหรอก

“นุ่น”

หือ อะไรครับ ทำไมต้องทำเสียงเข้มด้วย จะพูดอะไรก็พูดมาสิครับ

นุชาแกล้งทำตาโตใส่ ทำเหมือนตั้งใจฟังมาก แต่คนที่อยากจะพูดก็ยังยกมือขึ้นเกาหัวและถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ยอมพูดออกมา

เห็นคุณซ้งเหลือบสายตามามองกันอีกครั้ง และคราวนี้ก็ทำหน้างี่เง่าและพูดออกมาเสียงดัง พูดแบบชัดถ้อยชัดคำ เพื่อให้นุชาได้ฟังอย่างชัดเจน

“เอากันเถอะนุ่น.......เป็นไง..ชัดพอมั้ย เคลียร์มั้ย”

เหี้ยยยยยยยยยยยยย

โคตรชัดเลยครับคุณซ้ง สุดยอดมาก เป็นการขอที่สุดยอดจริง ๆ ครับ
ผ่าน ๆ แบบนี้ให้ผ่าน ไม่สงสัยแล้ว ให้ผ่านเลยครับคุณซ้งสำหรับความกล้าหาญ

นุชาถึงกับลงไปนอนหัวเราะด้วยความขำ เพราะคนที่ตะโกนพูดบางอย่างออกมา
ขำหน้าคุณซ้งมาก โคตรขำ ขำจนต้องหัวเราะจนน้ำตาไหล

“เอออออ ตลก ตลกมากนักนะ ทำไม จะให้เอามั้ยวะ”

โกรธอีก งอนซะงั้น อะไรกันล่ะคุณซ้ง ยังไม่ได้ห้ามเลยนี่ ออกจะยินดีด้วยซ้ำ

“ให้เอาสิครับ ไม่ให้ได้ไง ขอซะขนาดนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

หัวเราะไม่เลิก และยังขำกับท่าทางเอาจริงเอาจังของคุณซ้งมาก

มันก็ต้องให้ได้อยู่แล้วนี่ คุณซ้งเล่นพูดซะ ใครมันจะไปใจร้ายได้ลงคอ

เครียดไปหรือเปล่า หน้านิ่วคิ้วขมวดขนาดนี้ มันจะเครียดเกินไปแล้ว

คนมันจะทำอย่างว่าให้ได้ ก็หาเหตุผลไปเรื่อย
ยิ่งเหตุผลที่คุณซ้งยกมาด้วยแล้ว มันไม่ได้เป็นเหตุผลสนับสนุนที่ดีเท่าไหร่
แต่ไอ้คำขอนี่แหละที่มันโดนใจ แค่แกล้งหยอกให้คนที่เคยเอาแต่ทำหน้าเฉย ได้ทำอะไรแปลก ๆ ที่ไม่ใช่คุณซ้งดูบ้าง แต่ได้ผลเกินคาด

“เหตุผลอะไรของคุณซ้งไม่เห็นจะเข้าท่า แต่ไอ้อย่างหลังน่ะโคตรชอบเลย”

พูดแล้วก็ขำ ขำแล้วก็ต้องแอบเหลือบสายตามองคุณซ้งที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ

แกล้งทำเป็นเมินอีกครั้ง ปิดกระเป๋าเรียบร้อยและเตรียมจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกดึงแขนให้นั่งลง และคนที่หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะถูกแกล้ง ก็รีบพยักหน้าเหมือนขอร้อง

พยักหน้าทำไม

อ้อนเก่งนะ เดี๋ยวนี้อ้อนเก่งมาก

“ซ้ง...อยาก..จริง ๆ นะ”

เหอ เหอ เหอ เป็นคนแบบนี้จริง ๆ ด้วยสินะ เป็นคุณซ้งแบบที่ใครไม่เคยเห็นจริง ๆ ด้วย ร้ายมาก ร้ายเกินไปแล้ว กล้าขอขนาดนี้มีหรือจะไม่กล้าให้ โอเคตั้งนานแล้ว
ทำไมจะไม่ได้ ขืนไม่ให้ก็เสียชื่อนุชาหมดสิครับคุณซ้ง

“อาบน้ำก่อน”

ตอบออกไปแล้ว และก็ถึงกับหัวเราะกับท่าทางของคนอ้อน ที่จากหน้านิ่วคิ้วขมวดกลายเป็นหน้าดีใจเกินเหตุที่ได้รับตามที่ขอ นุชาถึงกับส่ายหน้าเพราะเห็นคุณซ้งยิ้มแฉ่ง

เดี๋ยวนี้แสดงความรู้สึกเก่งขึ้นเยอะ ไม่ทำหน้ามึนเมินโลกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

อะไรครับ มันน่าดีใจอะไรขนาดนั้น ก็ทำกันอยู่บ่อยๆ จะดีใจเกินไปหรือเปล่า

“อาบด้วย”

นั่นไงล่ะ ไม่ต้องให้รอเลยจริง ๆ แค่บอกว่าจะอาบน้ำ คุณซ้งรีบลุกขึ้นถอดเสื้อแล้วโยนลงพื้นทันที และกำลังจะตามด้วยกางเกง ก็เลยต้องรีบห้าม

“ยังเก็บของไม่เสร็จเลยคุณซ้ง เดี๋ยวก่อนก็ได้”

ทักท้วง แต่ไม่เห็นคุณซ้งจะใส่ใจ ถอดเสื้อตัวเองไม่พอ ยังจะก้มลงมาช่วยถอดเสื้อคนที่กำลังแพ็คของลงกล่องด้วย

“คุณซ้งงงงงงงงงงงง เดี๋ยวก่อนเซ่ ยังเก็บของไม่เสร็จค้าบบบบบ”

ก็ได้แต่พูด ได้แต่ท้วง ทำได้แค่นั้น เพราะคุณซ้งไม่ฟังเลยสักนิดแถมยังลงมานั่งอยู่ตรงหน้าและคว้ามากอดเอาไว้แน่น เท่านั้นคงยังไม่สาแก่ใจ
เพราะคุณซ้งเล่นกระหน่ำกดริมฝีปากลงมาที่ปากของนุชาซ้ำ ๆ หลายครั้งเหมือนแกล้งหยอกและผละออกห่าง

สบสายตากับนุชานิ่ง ๆ และหน้ายิ้มระรื่นเกินเหตุ มีความสุขเหลือเกินนะนั่น

“นุ่น...อาบน้ำเหอะ อาบน้ำกัน”

เออ รู้แล้ว รู้แล้วครับ ขัดใจไม่ได้ว่างั้น ขัดใจแล้วจะชักดิ้นชักงอตาย
เข้าใจแล้วครับ เข้าใจและซาบซึ้งมากจริง ๆ

“ไปเร็ว ลุกขึ้น”

เอออออออออ ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ก็คุณซ้งเล่นยืนขึ้นแล้วลากแขนให้ลุกขึ้นเดินตามซะขนาดนี้จะไปทำอะไรได้

นุชาถึงกับหัวเราะออกมาเสียงเบาเพราะความใจร้อนของคนที่ลากแขนเพื่อให้เข้าไปอาบน้ำพร้อมกัน

วันทั้งวันกว่าจะเก็บของเพื่อย้ายกลับบ้านเสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบพลบค่ำ
เพราะคนที่มาช่วยเก็บของ ไม่ได้อยากจะสนใจช่วยแพ็คของเท่าไหร่

ดูเหมือนจะมุ่งมั่นและฝักใฝ่อยู่กับการมาทำร้ายร่างกายของนุชาให้ไม่มีเรี่ยวแรงไปวิ่งที่สนามมากกว่า

แต่คนโดนทำร้ายก็ไม่น่าสงสารเลยสักนิด เพราะไม่คิดจะห้าม ยิ่งสนับสนุนและเปิดโอกาสให้คุณซ้งทำร้าย ยินยอมให้ทำร้ายร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้งด้วยความสมัครใจและไม่ได้ถูกขู่เข็ญแต่ประการใด








Fin…








 


[/color][/b]
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 01-05-2012 17:41:35
ภาคพิเศษ ตอน บ่น


“เลิกช้าเกือบทุกวัน ทำแต่งาน ไม่คิดสนใจกันบ้างเลย”

อ้าว บ่นอีก อะไรเนี่ย บ่นทำไมครับ บ่นอะไรนักหนา ขี้บ่นนะครับคุณซ้ง
ไปเอานิสัยช่างบ่นมาจากไหน บ่นแล้วทำหน้างอด้วยนี่แหละ มันน่านัก

น่ารัก และน่าทำให้หายงอน

“คุณซ้งจ๋า...ดีกันเถอะนะ นะ นะ นะ”

อย่านุชา อย่ามาทำเป็นยิ้มระรื่น แล้วไม่ต้องยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาแล้วมายิ้มขนาดนี้ด้วย
ไม่ชอบ ชไม่ต้องเอามือมาแตะไหล่ แล้วก็ไม่ต้องมาเขย่าแขนด้วย

อย่ามายุ่ง

“คุณซ้งงงงงงงงง เนี่ยก็ย้ายมาอยู่ใกล้ ๆ แล้วนี่ไง วันนี้ก็เลิกเร็วแล้ว คุณซ้งว่างก็ขับรถมาแวะรับบ้าง แล้วเราก็ไปกินข้าวกัน ไปดูหนังกัน ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เนอะ เนอะ”

ไม่

ไม่ดี ไม่ต้องมาอ้าง ไม่ต้องมาใช้เหตุผล
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราได้อยู่ใกล้กันหรือเปล่า แต่อยู่ที่ทำไมต้องทำงานเยอะแยะสารพัดขนาดนั้น ถ้าไม่ทำที่นี่ไม่ได้หรือไง ใช้อย่างกับทาสคุ้มเงินเกินไปหรือเปล่า

แค่มาทำบัญชีให้ที่อพาร์ทเม้นท์ที่เปิดให้เช่าไม่ต้องทำอะไรมากมาย ค่าจ้างให้ได้อยู่แล้ว ถ้ากลัวว่าจะถูกครหา ไม่ได้เกี่ยงค่าจ้างเลย
แต่นุชาไม่ยอมมาทำ

ยังยืนยันจะทำงานที่เดิม
ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เท่านั้นยังไม่พอ ยังจะต้องหอบแฟ้มงานกลับไปทำที่บ้านอีก
แบบนี้มันหมายความว่ายังไง

“คุณซ้ง งานที่ทำเงินมันอาจไม่ได้มากมาย แต่มันก็เหมือนได้ช่วยคนนะ ทำแล้วมีความสุข ให้ทำอะไรก็อยากทำ ไม่เกี่ยงหรอก ถึงใครจะมองว่าลำบากแต่มันก็เท่านั้น สุดท้ายแล้วเราสบายใจจะทำมันก็จบ”

ก็รู้นะ
แล้วก็เข้าใจด้วย
แต่เวลาเห็นนุชาทำหน้ายุ่ง ๆ และไปใส่ใจรายละเอียดของชีวิตคนอื่นมากกว่าซ้ง
บางทีมันก็น่าน้อยใจเหมือนกัน

“ไม่อยากให้นุ่นลำบาก ไม่อยากเห็นนุ่นเครียด”

คุณซ้งเป็นคนแบบนี้แหละ เป็นคนที่ดีนะ แม้ไม่ค่อยพูดอะไรมาก
แม้จะทำเหมือนไม่สนใจใคร แม้จะทำเป็นเมินโลก ไม่ค่อยมองไปที่คนรอบข้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณซ้งมองอยู่ตลอด และพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือทุกครั้ง

เพราะแบบนี้ ยิ่งนานวัน ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยิ่งรัก และผูกพัน
ขอบคุณครับที่ดูแลใส่ใจกันอยู่เสมอ ขอบคุณมากจริง ๆ นะคุณซ้ง

“น่ารักที่สุดแล้วคนนี้ น่ารักที่สุด น่ารักเนอะ ใช่มั้ยคุณซ้ง”

ไม่รู้

ไม่ใช่มั้ง

ไม่ต้องยื่นหน้ามาหาแล้วเอาจมูกมาถูที่แขนหรอก ไม่ชอบ รำคาญด้วย
อย่ามาทำแบบนี้หน่อยเลย

“นุ่นรักคุณซ้งนะคร้าบบบบบ อย่าโกรธนุ่นเลยนะครับคุณซ้งใจดี”

ไม่ให้โกรธได้ไง ก็เล่นทำงานซะขนาดนี้
เมื่อไหร่จะมีเวลา จะได้ไปเที่ยวที่ไกล ๆ ด้วยกัน

อยากไปเที่ยวด้วยกันแล้ว อยากไปเที่ยว

“นุชาอย่ามาทำมึนกลบเกลื่อน รักกับทำงานเยอะมันคนละเรื่องกัน”

จนได้ นั่นไงล่ะ ว่าแล้ว
คุณซ้งนี่รู้ทันตลอดเลย ทำไมฉลาดขนาดนี้ ยอม ๆ ให้หน่อยไม่ได้หรือไงครับ
ยอมหน่อยเถอะ อ่อนข้อให้นิดหน่อยเถอะนะ ขอร้อง

“แล้วคุณซ้งรักนุ่น กับนุ่นรักคุณซ้ง เรื่องเดียวกันป่ะ”

แกล้งพูด ทำหน้าซื่อตาใส และกระพริบตาปริบ ๆ จ้องหน้าของคนที่ขับรถมาส่งที่บ้าน แล้วก็เห็นคุณซ้งหันมามองหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจกับการมองทาง และทำท่าทางหงุดหงิดใส่

เหอะ

ทำไปก็เท่านั้น

เวลาทำหน้าโมโหมีใครที่ไหน หน้าแดงประกอบหน้าตาโมโหด้วย
เห็นมีอยู่คนเดียวนี่แหละที่ทำ ทำได้ทำไปสิ ไอ้หน้าเมินโลกเนี่ย ทำเก่งจริงนะ

“เรื่องเดียวกันป่ะ”

แกล้งถามย้ำ และคราวนี้คุณซ้งหันมามองและถอนหายใจใส่เฮือกใหญ่
และส่ายหน้าไปมา เหมือนไม่อยากตอบ

“ก็ด้ายยยยยยยยยย”

ช่วยไม่ได้นะ ก็อยากทำแบบนี้ก่อนทำไม
ก็เลยต้องแกล้งซะหน่อย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว แกล้งคุณซ้งเล่นนี่แหละสบายใจที่สุด

แกล้งลากเสียงยาว ๆ แล้วก็ทำเสียงสูง ก่อนจะทำเป็นนั่งกอดอก แล้วทำหน้าเฉยใส่เหมือนไม่พอใจมาก และคราวนี้คุณซ้งยิ่งทำหน้ายุ่งเหยิง ขมวดคิ้วมุ่น
แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่าคุณซ้งหรอก
คุณซ้งนี่แหละ หมายเลขหนึ่ง สุดยอดน่าแกล้ง

“เออ ไอ้เรื่องนั้นมันก็เรื่องเดียวกันแหละ”

เหรอออออออออออ

เรื่องเดียวกันเหรอ เรื่องไหนล่ะ เรื่องอะไร เรื่องทำงาน หรือเรื่องอะไร
ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย คุณซ้งไม่พูดให้เคลียร์ไม่พูดให้ชัด
จะไปเข้าใจคุณซ้งได้ยางงายยย คร้าบบบบบ

“เรื่องอะไร เรื่องนุ่นทำงานเยอะเหรอ หรือเรื่องหอบงานมาทำที่บ้าน”

แกล้งถาม แกล้งตีรวนแล้วก็แกล้งทำเป็นไม่พอใจใส่

แล้วคราวนี้คุณซ้งที่ไม่ค่อยยอมพูดหรือแสดงท่าทีอะไรก็เลยถอนหายใจเฮือกใหญ่ และดูเหมือนจะรู้ตัว ว่าถูกแกล้งอีกแล้ว

แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่านุชาทำหน้าจริงจังเกินไป

“ก็เรื่องที่ซ้งรักนุ่นนั่นแหละ”

อ๋อออออออออออ เรื่องนั้นหรอกเหรอ เรื่องนั้นนี่เอง
เพิ่งจะรู้ แหม เข้าใจสับสนตั้งนาน ถ้าคุณซ้งไม่บอกก็คงงงไปนานเลยเนอะ

“คุณซ้งรักใครนะ”

เอออ นุชา ให้มันได้อย่างนี้ ไอ้เรื่องทำเป็นไม่รู้เรื่องนี่ล่ะถนัดนัก
สนุกเหลือเกินนะเวลาที่ได้แกล้งเนี่ย สนุกมากนักใช่มั้ย

“รักนุ่น”

ตอบออกไปแล้ว และก็เห็นคนที่นั่งกอดอกและทำท่าไม่พอใจถึงกับยิ้มกว้างและหัวเราะออกมาเสียงเบา ท่าทางเหมือนถูกอกถูกใจกับคำตอบมาก

และซ้งก็เลยได้แต่ยิ้มตาม ยิ้มแบบเขิน ๆ และพยายามจะหันหน้าหนีไม่ให้นุชาเห็นว่ากำลังทำหน้ายังไง

“คุณซ้งงงงงง คุณซ้ง คุณซ้ง ชอบคุณซ้งที่สุด”

เอออ รู้แล้ว ไม่ต้องแสดงออกขนาดนั้นก็ได้ เกินจริงไปหน่อยแล้ว
ไม่ได้อยากรู้เลยสักนิด ว่าชอบหรือไม่ชอบ

ไม่ต้องให้มันมากขนาดนั้นก็ได้ นุชา

อันที่จริงก็...ไม่ใช่ไม่ชอบหรอกนะ....แต่ว่า...เขินเวลาได้ฟัง

“นุ่นจะทำตัวดี ๆ จะไม่ทำให้คุณซ้งบ่นอีกนะ จะพยายามไม่แกล้งคุณซ้งเยอะ”

เออดี ให้มันได้อย่างที่ปากพูด ไม่ใช่ของเล่นนะ แกล้งอยู่ได้ทุกวัน
อะไรนักหนาวะ สนุกมากนักหรือไง ที่ได้แกล้ง มีความสุขเหลือเกิน

“เดี๋ยวไปรับอาม่าก่อนจะได้แวะไปที่สนามเลย”

ครับผม เตรียมเสื้อผ้ามาเรียบร้อยแล้ว เอาชุดไปเปลี่ยนด้วยจะได้ไม่ต้องแวะกลับบ้าน

“แล้วก็เหลือเวลาก่อนไปสนามอีกเกือบสองชั่วโมง”

ครับ ๆ ก็ดีนะ อากาศไม่ร้อน รอเวลาอีกหน่อยค่อยไปก็ถือว่ากำลังดี
อาม่ากิมจะได้สูดอากาศบริสุทธ์สดชื่นยามเย็นด้วย

ลมเย็น ๆ กำลังสบายเลยล่ะ

“เหลือเวลาอีกสองชั่วโมงนะ”

ครับ ใช่ เหลืออีกสองชั่วโมง แล้ว ยังไง...ครับ

“อืมมม นี่ก็วันศุกร์แล้ว พรุ่งนี้นุ่นก็หยุดด้วยนะ”

ใช่ครับ พรุ่งนี้ได้หยุด ถูกต้องครับ

“อะไรคุณซ้ง”

ยังจะมาถามอีกว่าอะไร แล้วมันอะไรล่ะนุชา ก็อะไรล่ะ
ทำหน้าจริงจังขนาดนั้นทำไม
ก็น่าจะรู้ว่าอะไร ยังจะมาทำเป็นไม่รู้อยู่ได้ จะให้หมายถึงอะไร
ยุ่งมาทั้งสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มันก็วันศุกร์แล้วด้วย จะให้หมายถึงอะไร
หรือจะให้แปล อยากให้แปลมากนักหรือไง

“อารายคร้าบบบบ คุณซ้ง”

ไอ้คนหน้ามึน มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และเอนหัวซบที่แขนแถมยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก ให้มันได้อย่างนี้สินุชา ให้มันได้อย่างนี้

“ก็นี่แหละ ไม่รู้อะไรเหมือนกัน จะให้พูดอีกมั้ยว่าอะไร”

ไม่ต้องพูด ไม่ต้องให้ทำความเข้าใจเยอะ เพราะคุณซ้งทำร้ายจิตใจด้วยการดึงมือนุชาให้วางอยู่ที่เป้ากางเกง และคนที่ถูกดึงมือไปวางก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่ทำให้ต้องรู้สึกว่า คุณซ้งชักจะร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

เดี๋ยวนี้พัฒนาไกลไปถึงระดับโคตรเทพแล้ว
แค่เรื่องให้พูดอะไรแปลก ๆ มันง่ายเกินไป โคตรเทพอย่างคุณซ้งก็เลยเอาคืนให้นุชาได้อายกลับซะบ้าง แล้วนุชาก็ถึงกับหัวเราะและพยายามจะดึงมือกลับแต่คนที่ไม่ยอมให้ดึงกลับก็รั้งฝ่ามือเอาไว้

“เอ้า อยากรู้ว่าอะไรไม่ใช่เหรอ ก็เนี่ยจะได้รู้ไงว่าอะไร”

รู้แล้ว ชัดเจนซะขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้วนะนั่น
อารมณ์คุณซ้งเกินร้อยไปแล้ว แตะไปแค่นี้ทำไมจะไม่รู้

แต่หน้าคนพูดยังเมินโลกได้อีก แต่อาการหน้าแดงนี่ทำยังไงก็ไม่หาย

“สองชั่วโมงไม่พอ ต่อเวลาอีกซักหน่อยไม่ได้หรือไง อยากเหมือนกันอ่ะ”

ถ้าคิดว่าคุณซ้งทำร้ายจิตใจได้เหนือใครแล้ว
อย่าลืมว่ายังมีนุชาอีกคน ที่บ้าบอ และไม่ค่อยจะรู้สึกอายกับเรื่องนี้เท่าไหร่

พูดแล้วก็เห็นคุณซ้งหันมามองและถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำหน้าเหมือนไม่พอใจกันอีกแล้ว แต่ก็เห็นยังหน้าแดงอยู่ดี

“อายบ้างมั้ย อายไม่เป็นเลยใช่มั้ย ทำไมเป็นคนแบบนี้วะไอ้นุ่นเน่า”

อ้าว อายทำไมล่ะ ทีคุณซ้งยังไม่อายเลย แล้วจะให้อายอะไร จริงมั้ย
ใช่หรือเปล่า หรือว่าไม่ใช่กันล่ะคุณซ้ง

“ท้าอยู่ได้ เสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ วิ่งไม่ตรงทางอีกอย่ามาว่ากันทีหลังนะ”

จะว่าทำไม สมาชิกชมรมเขาชินกันหมดแล้ว
เขารู้ว่านุชาเป็นคนไม่แข็งแรงที่สุดในชมรม ป่วยตลอด ทุกคนเขาชินกันหมดแล้วจะกลัวอะไร ยังไงชาตินี้ก็คงไม่ได้โชว์ฝีเท้าระดับเทพอยู่ดี
จะโทษคุณซ้งก็คงไม่ได้หรอก เพราะเรียกร้องเอง

“เหอะ จัดมาเถอะน่า จัดอะไรก็จัดมา อยากให้จัด ขอหนัก ๆ นะครับคุณซ้งคนดีของนุ่นนนน”

อ้อนได้ใจ แล้วคุณซ้งก็เลยต้องยิ้มออกมาและเมินหน้าหนีคนที่มาเกาะแขนแล้วยังจะเอาหน้าซบลงมาที่ไหล่และถูจมูกเล่นที่แขนไม่เลิก

“เอออ ปากดี ปากดีนัก เดี๋ยวจะจัดให้หนักตามที่ต้องการเลย จะได้ถูกใจ เตือนแล้วนะอย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน ไอ้นุ่นเน่าเอ้ยยยยยย”








Fin…








 


[/color][/b]
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: imissyou ที่ 03-05-2012 04:28:35
หวานมาก อ่านไปยิ้มไปตลอด  :m1:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 13-05-2012 18:12:34
ตามอ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ นิยายคุณเทนไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ
ตอนแรกๆนี่แอบปวดตับกับนิสัยของคุณซ้งเหมือนกัน ปากแข็งซะ แถมชอบพูดจาให้นุชาเสียใจได้เรื่อยๆอีก กว่าจะเข้าใจกันได้ ลุ้นจนไม่รู้จะลุ้นยังไงละ
แต่พอเข้าใจกันแล้วก็เล่นหวานใส่กันซ๊าาา ทำเอาอ่านไปเขินไป ยิ้มแทบหุบไม่ลงทีเดียว
สรุปว่าหลงรักหนูซ้งกับหนูนุ่นเข้าเต็มเปาเลย  :กอด1:
ขอบคุณคุณเทนที่แต่งนิยายสนุกๆแบบนี้มาให้อ่านค่ะ ชอบมากก + ขอบคุณคุณ nana lon€ly™ ที่เอามาโพสด้วยค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 18-05-2012 21:10:31

เย้เย้ จบแล้ววว
คุณซ้งน่ารักมาก อ่านตอนแรกๆแล้วหงุดหงิดงุ่นงาน
อะไรมันจะน่าถีบขนาดนั้น แต่พอเริ่มรู้ใจตัวเอง
คุณซ้งแม่งโคตรน่ารักกกก  ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้ฟ่ะ
นุชาเหมือนมาเติมเต็มส่วนที่หายไปของคุณซ้งจริงๆ
หวานมากๆเลย และแอบหื่นเบาเบา
ฮ่าๆ นิยายคุณเท็นสนุกทุกเรื่องเหมือนเคย >,<

ปล. ตอนแรกไม่เห็นว่าเรื่องนี้จบแล้ว
มานึกถึงเรื่องนี้เพราะเห็นคุณ nana lon€ly™ โพสเรื่องใหม่
เลยแวบกลับเข้ามาอ่าน  รอติดตามเรื่องใหม่นะเจ้าคะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: tippy ที่ 24-05-2012 10:19:26
เลิกซึน กลายเป็นหื่นแทน ถูกใจไหมล่ะหนูนุ่น :impress2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 28-05-2012 01:13:02
อ่าจบแล้วจ๊าาา

โคตรน่ารักเลยให้ตายเถอะ

ไม่ว่าคุณ ซ้งจะเวอร์ชั่นไหนก็เถอะ

เงียบๆว่าน่ารักแล้วนะเวอร์ชั่นพูดมาก แต่เขินๆยิ่งน่ารักก่าา

ตอนหื่นน่ารักสุดด ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก

เขินแทนอ่ะ

นุชา เจ๋งอ่ะื เข้าใจคุณซ้งทุกอารมณ์เลยย

เป็นเบนบ้าตายย

โดนด่าตลอดทั้งเรื่อง

55555555555

ขอบคุณมากค่ะ

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 29-05-2012 17:49:36
น่ารักมว๊ากกกกกกกก

ตอนแรกๆแอบขัดใจเล็กๆ ไม่เข้าใจกันเลยยย

หลังๆนี้ อ่านไปมดกัดไป 555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: hand D ที่ 03-06-2012 23:31:17
น่ารักจังเลย ---> ไอ้นุ่นเน่าของน้องแรงบันดาลใจ :กอด1:
 ขอบคุณนะจ๊ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 06-06-2012 09:09:59
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 29-07-2012 11:35:15
น้องแรงบันดาลใจซ้งน่ารักมากกกกก
ตอนแรกๆนี่ซึนได้โล่  :laugh:
แต่หลังๆมานี่ ..  :-[
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 10-08-2012 23:25:47
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 13-08-2012 05:55:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: mamaNUT ที่ 14-08-2012 07:24:21
อยากไปวิ่ง..เผื่อพบแรงบันดาลใจมั้ง แหะ แหะ

แค่วิ่ง...ได้อะไรมากกว่าที่คิด  o13
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 15-08-2012 20:03:47
ชอบมาก นิยายคุณเท็นสนุกทุกเรื่องจริงๆ

หวานมากๆ ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ppaozz ที่ 16-08-2012 05:17:27
 :pig4:  อ่านรวดเดียวจบเลย รู้สึกอยากออกไปวิ่งบ้างจัง อยากเจอแรงบันดาลใจ  ฮ๋าๆ  ก็นุชากับซ้ง ชั่งน่ารักกันซะจริงๆ  อิอิ

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: AB^Ton^ ที่ 02-12-2012 16:11:57
นุชา กับอาซ้ง สุด  ๆๆ  ถ้าไม่มีอาม่ากิม แย่ แน่ แน่ คู่นี้
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 03-12-2012 00:49:37
แนนจ๋า คิดถึงแนน  :กอด1:
อ่านแรกๆ เจ็บปวดจัง ซ้งพูดจาทำร้ายจิตใจจัง...
หลายตอนที่อ่านๆ ไปก็มีแอบคิด โหย..เจอพูดแบบนี้ใส่ถ้าเป็นเราคงมีโดดชกกันแล้วละ...
หูย....เมินขนาดนี้ คงต้องตัดใจสถานเดียว อ่านไปเจ็บแทน..
อ่านไปอ่านมา โอ้วว ซ้งน่าสงสารง่ะ  :m15:
นุ่นก็น่าสงสารด้วย รักคนซึนร่างสุดยอดขนาดนี้ ต้องมีความช่างสังเกต เข้าอกเข้าใจระดับเทพเลยทีเดียว..
อย่างว่า ซ้งกับนุ่น เค้าเกิดมาเพื่อคู่กัน ต่างต้องรอ เพื่อจะได้มาเจอกัน มาพบเจอเรื่องราวมากมาย..
กว่าจะได้รัก ได้เข้าใจ ลุ้นตามน้ำตาไหลเป็นระยะ เอ่อ..บางตอนก็ไม่ใช่น้ำตาแต่เป็นน้ำลาย เอ้ย...ไม่ใช่  :-[
อ่านงานของคุณเท็นทุกครั้งมันอิ่ม อิ่มน้ำตา อิ่มความทุกข์ อิ่มความสุข อิ่มอารมณ์ ความรู้สึก..

ถึงจะหายหัวไปนาน แต่ก็กลับมาที่นี้ทุกครั้ง..
กลับมาแล้วดีใจมาก ได้ตามอ่านงานของคุณเท็นอีก ขอบคุณแนนมากๆ เลย  :กอด1:

ปล.ขอบคุณรีบนด้วยนะคะ ถ้าคุณไม่เม้นต์ตอบมา ก็ไม่รู้ว่าจะหาทู้นี้เจอเมื่อไหร่  :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 03-12-2012 22:34:52
กรี๊ดดดดดดด
ฟิน
ตาย
ทำอะไรไม่ถูก
น้องแรงบันดาลใจคุณซ้งเวอร์ชั่นหื่น โคตรน่ารักเลยอ่ะะ ... เขิลหวะะะ  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 03-12-2012 23:29:16
อ่านไปยิ้มไป น่ารักจริงๆเรื่องนี้ o13
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 04-12-2012 02:16:16
 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 05-12-2012 04:03:57
น่ารักแบบอึนๆมึนๆซึนๆมากเรื่องนี้ o18
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 05-12-2012 12:30:45
น่ารักกกกกก ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะ ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 05-12-2012 20:16:00
ตามมาอ่านรวดเดียวจบ เล่นเอาคนแก่มึนไปชั่วขนาด  :really2: :really2: :really2:

สนุกดีคนแ่ก่ชอบ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 o13 o13 o13 o13 o13

 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 05-12-2012 21:04:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 06-12-2012 01:42:02
น่ารักมากอะ เห็นชื่อแล้วนึกว่า เรื่องวิ่งสู้ฟัด เอาเข้าจริงก็นิยายรักแบบมึนๆๆ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 06-12-2012 12:34:01


สนุกมากเลย....

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: thevissss ที่ 07-12-2012 15:27:16
ชอบมากๆเลยค่ะ อยากได้ไฟล์มีให้โหลดมั้ยคะ
ของคุณเท็นทุกเรื่องยิ่งดี :impress2:
เข้าไปลิงค์เก่าเหมือนจะไม่ได้แล้ว
หรือยังไง
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 07-12-2012 20:52:20
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆนะฮ๊าฟฟฟ
อ่านแล้วมีความสุขมากมาย >///<
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 10-12-2012 15:31:15
ตอนเเรกกะครึ่งหลังร้องไห้เเทบตายสงสารนุ่น
ซ้งซึนมากๆ กว่าจะได้ยิ้มสองสามตอนสุดท้ายนู้น

อิอิพอซ้งได้ครอบครองก็หื่นเชียวเเต่หนูนุ่นชอบอิอิ :m25:

ขอบคุณค่ะ สนุกมากๆ เลยค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 10-12-2012 17:00:10
ชอบซ้งอ่า น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 16-12-2012 01:52:17
ขอบคุณมากคร๊าบบบบบ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 18-03-2013 19:45:37
ขอบคุณนะคะ ทั้งผู้โพสผู้เขียนเลย
อ่านจุใจมากๆ น่ารักจริงๆ มึนกันทั้งคู่555
คุณซ้งสุดยอดดด สุดซึน พอหวานก็หวานซะ
 o13 o13 o13

หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 19-03-2013 21:37:09
อ่านรวดเดียวจบ   เขิลไปด้วย  เกือบร้องไห้ก็มี
เป็นกำลังใจให้คนโพสต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Scream ที่ 20-03-2013 14:09:22
น่ารักไปนะคุณซ้งกับนุ่น  :กอด1:
สนุกกก น่ารักกกกกกมากกกกกจริงๆ
ดูแลกันต่อไปนะ โคตรชอบเลยนุ่น ได้ใจมาก 55555
เป็นกำลังใจให้คนโพสค่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: thehackzzi ที่ 17-04-2013 17:08:30
มีภาคต่อแล้วนะครับ จิ้มด้านล่างเลย

Running.....ภาคพิเศษ ไม่กินผัก (http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=aoikyosuke&topic=2733)

Running.....ภาคพิเศษ เมื่อซ้งงอน (http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=aoikyosuke&topic=2777)
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 10-10-2013 20:20:28
น้องนุ่นนนนนนนน วิ่งเข้าไปวิ่งๆๆๆ5555555555
สนุกมากค่ะ ชอบน้องซ้ง ซึนได้ซึนดี เขินนน :o8:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 29-10-2013 12:51:00
 :pig4:
ตอนแรกปวดตับ ต่อมาแน่นอก ตอนจบ>>ตื๊ดมาก  :laugh:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 24-02-2014 10:19:16
 อ๊ากกกก น่ารักอ่ะ 55555
ชอบเวลานุชาหยอดอ่ะ โคตรได้ใจ ช่างสรรหามุกเก่งเหลือเกินพ่อคุณ 5555555 :hao7:
ชอบมากเลย ขอบคุณมากค่ะ

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 13-04-2014 21:44:39
ตอนแรกๆหน่วงหัวใจมาก เกือบร้องไห้ตาม หลังๆมาหวานนนนน อิ้อิ้ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่านงับ ^^
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 25-08-2014 21:13:50
ขอบคุณค่ะ
นุชาโครตกวนอ่ะ ซ้งก็น่ารักมากกก ^^
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 24-01-2015 09:35:28
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  คุณซ้งน่าฮักขนาด
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 26-01-2015 16:58:31
สนุกมากครับเรื่องนี้ อ่านแล้วมียิ้มได้มีความสุข คุณซ้งนี่หลัง ๆ นี่หื่นใช้ได้เลย

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: sakura_sung ที่ 27-01-2015 21:55:01
 :-[ :impress2:ขอบคุณน้าาา :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 29-01-2015 11:17:52
แอบสงสัย คุณซ้งอายุเท่าไหร่นะคะ

อ่านรวดเดียวจบ อ่านถึงคู่มือเดท อมยิ้มเล็กๆ อ่านถึงคบกันมาสักพักแล้ว ร้องกรี๊ดเบาๆ อ่านถึงกระป๋องข้าวโพด ลุกขึ้นมาเต้นดีกว่านะเรา ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-05-2015 15:15:02
เราเห็นด้วยกับนุชาเลยค่ะเรื่องที่บอกว่า ' คุณซ้งน่าร๊ากกกก~ :m3: ' จริงแท้และแน่นอนสุดๆ ไปเลย มีคนธรรมดาที่ไหนกันเขาจะคิดว่าที่ถูกนุชาเข้ามาตีสนิทด้วยแบบนี้ เป็นเพราะจะจีบอาม่ากิมกันล่ะค้าา ฮ่าๆ คิดไปได้ยังงายยย (คุณซ้งแอบเล่นมุขแบบไม่รู้ตัวหรือเปล่าคะเนี่ย? >< ) แล้วนิสัยที่ชอบบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับความจริงนั่นอีกล่ะคะ แถมยังขี้อ้อนอีกต่างหากน้าา โอยยๆ อย่างนี้เขาเรียกว่า พกพาความน่ารักมาเต็มกระเป๋าแล้วนะคะเนี่ย..^^

ส่วนนุชาน่ารัก น่าเอ็นดูเป็นทุนเดิมอยู่แล้วล่ะค่ะ ดูซิ~ อุตส่าห์มานะบากบั่นลากสังขารอัน(เกือบจะ)ร่วงโรยมาที่สนามวิ่งได้ทุกวัน เพียงเพราะอยากเห็นหน้าของน้องแรงบันดาลใจคุณซ้งแบบนั้น สมควรได้รับถ้วยรางวัลความอดทนยอดเยี่ยมจริงๆ เลยค่าา ^^ เป็นนายเอกที่ทรหดอดทนตั้งแต่ต้นเรื่องถึงท้ายเรื่องเลยจริงๆ อย่างต้นเรื่อง..นุชาต้องอดทนให้คุณซ้งจิกกัดและขู่ฆ่า(?)เรื่องที่จะมาจีบอาม่ากิม แล้วกลางเรื่อง..ก็ต้องอดทนกับความซึนของคุณซ้งและต่อสู้กับจิตใจของตนเองอีกว่าจะสู้หรือว่าจะถอยกับความรักครั้งนี้ดี และอย่างสุดท้าย ท้ายเรื่อง..นุชาต้องอดทนควบคุมความหื่นของทั้งตัวเองและคุณซ้งไม่ให้มันมากจนเกินปายยย :laugh: (แต่รู้สึกจะไม่เป็นผลเนื่องจากความหื่นไม่ค่อยเข้าใครออกใครนี่เน้ออ~ นุชาเลยเคลิ้มตามคุณซ้งตลอดๆ)

สรุปได้ว่า..นุชาคือคนที่อ่อนแอที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้นะคะ (เพราะขนาดอากง อาม่า ฯลฯ ยังวิ่งแซงหน้านุชาเลยนี่น้าา >< ) เนื่องมาจากไม่เคยมีเรี่ยวแรงในการวิ่ง ทั้งๆ ที่มาสนามวิ่งทุกวันแท้ๆ เฮ้อ~ เป็นคนหนุ่มที่ไม่ค่อยจะมีแรงกับเขาเลยนะคะนุชาเนี่ย แต่ไม่เป็นไรหรอกนะคะ แค่นุชาเป็นกระต่ายตัวขาวที่วิ่งเขย่งขาข้างเดียวตามหลังคุณซ้งตลอดเวลาแบบนี้ก็น่ารักสุดๆ แล้วล่ะค่าา :กอด1:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ นะค้าา.. o1
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 12-07-2015 21:12:51
น่ารักอ้ะ ขอไปวิ่งแปป เผื่อเจอควาฟินบ้าง 55555
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 13-07-2015 00:47:19
น่ารักมากกกกกกกกกกกกก คิดถึงความมึนของตัวเองกับคนนั้นตินนี้เลยอ่ะ ผมอินมากเอาจริง ๆ 5555


ชอบ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 14-07-2015 21:55:56
ซึนมากกกกคุณซ้งงงง  :o8: นุ่นก็ขี้แกล้งอ่ะ เป็นคู่ที่ match กันได้ลงตัวจริงๆเลยนะ คนแบบคุณซ้งก็ต้องเจอคนบ้าๆบอๆแบบนี้แหละถึงจะเข้าใจกัน เราชอบที่นุ่นเข้าอกเข้าใจซ้งทุกอย่าง แล้วก็มีความอดทนมากก ไม่โกรธ ถ้าเป็นคนอื่นเจอปากคุณซ้งไปไม่น้ำตาร่วงก็ต้องมีหนีไปพักใจบ้างแหละ (อ้าว นุ่นมันก็หนีไปรอบนึงนี่ 55555) น่ารักค่ะ ม่ากิมก็น่ารัก ไม่แน่ใจว่ารู้ความสัมพันธ์ของหลานตัวเองกับอาตี๋บ้างรึเปล่านะ แต่คงรู้ๆบ้างแหละนะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: naja-kitase ที่ 11-06-2016 17:02:34
เคยอ่านเรื่องนี้เมื่อนานมากแล้ว แต่ตอนนั้นอ่านไม่จบ
เลยตาหาอ่านอีกรอบ
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น้ำตาหยดไปหลายหยดเลย กว่าจะรักกันได้นะคู่นี้
เป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านเวลาพระนายหวานๆ แต่ยกเว้นคู่นี้ คือชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักมากกกกก ทั้งคุณซ้งทั้งนุ่น ชอบมากจริงๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่าาาา  :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 12-06-2016 21:41:51
สนุกมาก ชอบชอบ
  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 15-07-2016 10:31:33
น่ารักจังงง
ตอนแรกๆนี่ว่านุชาน่ารักกนะ
ตื้อเก่ง มโนเลิศ หลงคุณน้องแรงบันดาลใจสุดด
แต่ทำไมพออ่านจนจบช่วงหลังๆ
คุณซ้งนี่น่ารักกว่ากันเยอะเลยย
น่ารักมากกกกเกินไปป
ดีต่อใจเหลือเกินน
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ap08572290 ที่ 06-09-2016 20:04:05
ฮือออ ทำไมถึงพลาดเรื่องนี้ไปนะ สนุกมากๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Running โดย aoikyosuke ภาคพิเศษ ตอน บ่น [01/05/12]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-07-2017 03:12:53
ตาม ๆ อ่านเรื่องของหลานคนแต่ง หลังจากไม่ได้แวะเวียนมาที่เวปนี้หลายปี สุดยอดจากเรื่องนี้  o13 o13